The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wipawee.s2519, 2022-07-28 01:25:52

ภาษาญี่ปุ่นนอกตำรา ตอนยูกิเซนเซขอแก้หน่อยนะ

#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ




จากหน้าเพจส่หน้าหนังสอ E-book





จากจุดเรมตนเมอ 3 ปกอนทอยากจะรเรมการถายทอดความรและประสบการณเกยวกับภาษาญปุนทตัวเองม ี





















ให้กับทุกๆ คน จนมาถึงวันน้ทมผูติดตามเพจมากกว่า 5 พันคน ขอขอบคุณทุกกาลังใจทมใหเสมอมา

ี่


















วันน้ กาวต่อไปของเราคอ การรวบรวมโพสตความรต่างๆ แลวจัดทาเปน E-book ขึ้น รวมถงอาจนาไปสูการตพิมพ ์




ื่



เปนหนังสอในขั้นถัดไป ทั้งน้เพอใหท่านผูอ่านสามารถยอนกลับมาเปดอ่านไดง่ายๆ และคนหาสิ่งทสงสัยไดง่ายขึ้น




ี่




เพอใหเปนประโยชนต่อผูคนในวงกวาง

ื่










กาวเล็กๆ กาวน้ขอเรมดวยคอลัมน #ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ ซึ่งรวบรวมสิ่งทคนไทยมักจะผิด ไม่ว่าจะเปนดาน


ี่


ไวยากรณ การใชคําศัพท หรอดานวัฒนธรรม จากประสบการณจรงของยูกเซนเซทไดสังเกตเหนมา หนังสอเล่มน้ ี














ี่


แบ่งเปน 2 ภาค ไดแก่ ภาค 1 ผิดตรงไหน? เปนการหยบยกประเด็นทคนไทยไม่เคยรว่าใชผิดมาโดยตลอดมา








อธบายใหเขาใจอย่างง่ายๆ พรอมทั้งยกตัวอย่างประโยค และรปแบบการใชมาประกอบการอธบาย ส่วนภาค 2



ื่








อนๆ เปนเกรดเล็กเกรดนอยทยูกเซนเซพบว่าคนไทยมักสับสน เปนเสมอนเสยงเตอนจากเซนเซทมากระซิบอยู ่








ี่
ขางๆ ในเวลาททุกคนใชภาษาญปุน
ี่



สุดทาย ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านทไดรวมทาบุญในเดอนเกดของพวกเรา ขอใหผลบุญทไดทารวมกันช่วยใหทุก









ี่
ี่
ท่านประสบแต่สิ่งทดงามในชวิตดวยเทอญ


ี่


สิงหาคม 2565
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ


แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | คานํา A




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ



ภาค 1 ผิดตรงไหน? หนา

1. 今日遅く起きて、授業に遅れました。 1



Kyou osoku okite, jugyou ni okuremashita.

วันนี้ตื่นสาย เลยเข ้าเรียนสาย --ผิดตรงไหน?


2. 探しにくい sagashi nikui หายาก --ผิดตรงไหน? 3


3. A ちゃんの足が長いから、モデルみたい。 6


A-chan no ashi ga nagai kara, moderu mitai.



ขาของ A ยาวจง เหมือนนางแบบเลย --ผิดตรงไหน?

4. タイではコロナが流行っていて、怖そうです。 8


Tai dewa korona ga hayatteite, kowasou desu.






ทีเมืองไทย ไวรสโคโรนากําลังระบาด นากลัว --ผิดตรงไหน?
5. いつものように元気ないね。 11

Itsumo no you ni genki nai ne.


ไม่ร่าเริงเหมือนทุกทีเลยนะ --ผิดตรงไหน?

6. 本を読む時間がなくて、あまり試験できなかった。 13



Hon o yomu jikan ga nakute, amari shiken dekinakatta.




ไม่มีเวลาอ่านหนงสือ เลยทาข ้อสอบไม่ค่อยได ้ --ผิดตรงไหน?
7. テストで 50 点しか取らなかった。 15



Tesuto de 50-ten shika toranakatta.


ได ้คะแนนสอบแค่ 50 คะแนน --ผิดตรงไหน?

8. 今まで日本語がまだ下手です。 17



แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | สารบัญ B



#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


Ima made nihongo ga mada heta desu.



ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เก่งภาษาญี่ปุนเลย --ผิดตรงไหน?
9. 今日の試験の 3 番、答え間違えちゃった。 19



Kyou no shiken no san-ban, kotae-machigaechatta.


ข ้อ 3 ของข ้อสอบวันนี เราดันตอบผิด --ผิดตรงไหน?

10. 日本語が上手になりたいから、どうやって勉強すればいい? 22


Nihongo ga jouzu ni naritai kara, dou yatte benkyou sureba ii?




อยากเก่งภาษาญีปุน ดังน้นต ้องเรียนยังไงดี? --ผิดตรงไหน?

11. 日本語について働きたい・仕事したい 24


Nihongo nitsuite hatarakitai / shigoto shitai




อยากทางานเกียวกับภาษาญีปุน --ผิดตรงไหน?


12. 疲れそうな顔をしていますね。 26

Tsukaresou na kao o shite imasu ne.


ดูท่าทางหน้าตาเหนือยจงนะคะ --ผิดตรงไหน?


13. 1 階では、家族で一緒にいろいろな活動をします 。 28


Ikkai dewa, kazoku de isshoni iroirona katsudou o shimasu.



ที่ชั้น 1 ครอบครัวจะทากิจกรรมต่างๆ ด ้วยกัน --ผิดตรงไหน?

14. 家は学校に近いです。歩いて 5 分ぐらいかかります。 30


Uchi wa gakkou ni chikai desu. Aruite 5-fun gurai kakarimasu.


บ ้านอยูใกล ้โรงเรียน ใช ้ เวลาเดินประมาณ 5 นาที --ผิดตรงไหน?

15. อาจารย์「宿題はメールで送ってくれる?Shukudai wa meeru de okutte 32




แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | สารบัญ C



#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


kureru? การบ ้านช่วยส่งมาทางอีเมลได ้มั้ย?」




นกเรียน「いいですよ。Ii desu yo. ได ้ครบ/ค่ะ」--ผิดตรงไหน?

16. 何かあったら、私に言ってもいいよ。 34


Nanika attara, watashi ni ittemo ii yo.


ถ ้ามีอะไร บอกฉนได ้นะ.....ผิดตรงไหน?




ภาค 2 อื่นๆ



17. 私は Watashi wa ฉัน --จริงๆ แล ้วคนญีปุนไม่ค่อยใช ้ กันนะ! 36


18. もらう morau ได ้, ได ้รบ --บางคร้งก็ไม่ใช ้ นะ 37
19. ข ้อสอบเก่า ไม่ใช่ 古い試験問題 furui shikenmondai นะ!! 39




20. คาว่า ~語 go ภาษา... จะพูดย่อๆ โดยตัด~語 go ภาษา ทิงไม่ได ้นะ! 41

21. จาไม่ได ้ ใช ้ คาไหนดี? 覚えない oboenai, 覚えていない oboeteinai, 覚えられな 42


い oboerarenai






22. พูดกับอาจารย์ ใช ้ คาว่า 授業 jugyou ชัวโมงเรียน/ชัวโมงสอน แทนคาว่า 教える 44

oshieru สอน เถอะนะ PLEASE!
23. 集める atsumeru ไม่เท่ากับ “สะสม” เสมอไปนะ 46


24. だれ dare?どこ doko?どっち dotchi?どれ dore? 47



คาแสดงคาถามทีชวนมึน ในช่วงดูแข่งกีฬาโอลิมปก




25. 速い hayai กับ 結構速い kekkou hayai อันไหนเรวกว่ากัน? 49
26. 皆さん ไม่ได ้ออกเสียงว่า minna-san นะ 50




27. 明日は雨でしょう。 Ashita wa ame deshou. พรุ่งนีฝนคงจะตก ....ผิดตรงไหน?? 51

ทาไมคนญีปุนถึงไม่ใช ้ พูดกันในบทสนทนาทัวไป



แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | สารบัญ D



#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ






28. 明日、暇ですか。 Ashita hima desuka. พรุ่งนี้ว่างมั้ย ....ทาไมคนญีปุนฟงแล ้วต ้องโกรธ 53
ด ้วย?
29. ざっし zasshi นิตยสาร ออกเสียง っ (tsu เลก) ยังไงดี? 54




30. また明日です! Mata ashita desu! แล ้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ/ครบ...ความนารักของนกเรียน 55

ไทย




































































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | สารบัญ E



#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ














ประโยคข ้างบนนี้ ฟังดูแล ้วกไม่นาจะผิด แต่ว่าคนญีปุนฟงแล ้วรู้สึกแปลกๆ ว่า “เอ๊ะ ตั้งใจตืนสายเหรอ?”








ทาไมจึงเปนเช่นน้น






คําคุณศัพท์ 遅い osoi ช ้ า, สาย / 速い hayai เร็ว เมือทาเปนคากริยาวิเศษณ์ (adv.) เพือขยายกริยา


แล ้ว จะให ้ความหมายของความตั้งใจด ้วย จึงฟังแล ้วรู้สึกแปลกๆ นนเอง หากต ้องการจะพูดแสดงเหตุการณ์

ทีเกิดขึนเฉยๆ ว่า ตืนสาย โดยไม่ได ้ตั้งใจทีจะตืนสาย ต ้องใช ้ เปน 起きるのが遅くて、... okiru no ga






osokute,....

ในทานองเดียวกัน เวลาจะพูดว่า นอนดึก ก็เช่นเดียวกัน

✖宿題が多くて、遅く寝ました。Shukudai ga ookute, osoku nemashita.
〇宿題が多くて、寝るのが遅かったです。 Shukudai ga ookute, neru no ga osokatta desu.
การบ ้านเยอะ เลยนอนดึก





>>ประโยคนีก็เช่นเดียวกัน ต ้องการพูดถึงเหตุการณ์ทีเกิดขึน ไม่ได ้มีนยยะของความตั้งใจ จึงควรใช ้ เปน
寝るのが遅かったです。 Neru no ga osokatta desu. นอนดึก

ถ ้าจะใช ้ เปน 遅く osoku จะเปนการใช ้ ในประโยคแบบข ้างล่างนี ้


明日休みだから、今日遅く寝ても大丈夫だ。
Ashita yasumi dakara, kyou osoku netemo daijoubu da.
พรุ่งนี้เปนวันหยุด วันนี้นอนดึกก็ไม่เปนไร


明日休みだから、遅く起きても大丈夫だ。
Ashita yasumi dakara, osoku okitemo daijoubu da.
พรุ่งนี้เปนวันหยุด ตื่นสายกไม่เปนไร



>>จะสังเกตเห็นว่า ทั้งสองประโยคนี้เปนการตั้งใจตื่นสาย คิดไว ้ล่วงหน้าแล ้วว่าจะตื่นสาย


ลองมาดูประโยคตัวอย่างของ 速い hayai เรว กันบ ้าง

✖JLPT のリスニング、速く話したから、全然できなかった。

JLPT no risuningu, hayaku hanashita kara, zenzen dekinakatta.



แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 1




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


〇 JLPT のリスニング、速くて、全然できなかった。

JLPT no risuningu, hayakute, zenzen dekinakatta.


สอบฟงของ JLPT พูดเรว ทาไม่ได ้เลย


>>พูดแสดงสภาพเฉยๆ ไม่มีความหมายของความตั้งใจ จึงใช ้ แค่ 速い hayai ในรูปของคาคุณศัพท์

(adj.) ไม่ใช่ 速く hayaku ที่เปนคําวิเศษณ์ (adv.)


私は走るのが遅いから、速く走ろうと思っても、無理だ。
Watashi wa hashiru no ga osoi kara, hayaku hashirou to omottemo, muri da.



ฉนวิ่งช ้ า ถึงจะคิดจะวิ่งให ้เรวยังไง ก็ไม่มีทาง
>>ในวรรคแรก พูดถึงลักษณะปกติในการวิง จึงใช ้ เปน 速い hayai ในรูปของคาคุณศัพท์ (adj.) แต่วรรค








ทีสอง เปนการตั้งใจวิงให ้เรว จึงใช ้ 速く hayaku ที่เปนคําวิเศษณ์ (adv.)

สุดท ้ายขอฝากตัวอย่างประโยคทียูกิเซนเซบอกว่า เข ้ากับเมืองไทยม ้ากมาก (55 หัวเราะแบบเจบๆ)


✖タイは遅く道路を工事します。(เขาตั้งใจทาช ้ า??)

Tai wa osoku douro o kouji shimasu.
〇タイは道路の工事が遅いです。
Tai wa douro no kouji ga osoi desu.
ทีเมืองไทย ก่อสร ้างถนนช ้ า



































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 2




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ











วันนีมาพูดถึงคาว่า 探しにくい sagashi nikui หายาก กันค่ะ เอ.. คานี้ผิดยังไง กริยา 探し sagashi หา

+ ~にくい nikui ยาก แปลว่า หายาก ก็นาจะถูกอยูแล ้ว มาฟังยูกิเซนเซอธิบายกันดู





ก่อนอืน เรามาดูความหมายของคาว่า 探す sagasu ค ้นหา กันก่อนค่ะ คาว่า 探す sagasu ค ้นหา นี้



หมายถึงกริยาการค ้นหาค่ะ ไม่เกียวกับว่าจะหาเจอหรือไม่เจอ เพราะฉะน้น ถ ้าพูดว่า 探しにくい sagashi





nikui สิงทีปรากฏเปนภาพในหัวกคือ เช่น การค ้นหาของในห ้องทีรกมากๆ ของวางซ ้ อนทับกันจนแทบไม่มีที ่

จะเหยียบเท ้าเข ้าไป แบบนีคือ 探しにくい sagashi nikui ค่ะ

แต่คาว่า หายาก ของภาษาไทย หมายถึง สามารถมีได ้ยาก, เจอได ้ยาก ไม่ใช่การบอกว่า สภาพการณ์มัน

ยากต่อการค ้นหา ดังน้น จึงไม่ใช ้ คาว่า 探しにくい sagashi nikui ค่ะ



ถ ้าอย่างน้น คาว่า หายาก ในภาษาไทย หากจะพูดเปนภาษาญีปุน จะพูดยังไงดี?







รูป ~にくい nikui นี มักใช ้ กับกริยาทีแสดงการกระทา เปนการบอกว่า ทากริยาน้นได ้ยาก แต่ไม่ค่อยนิยม







ใช ้ กับกริยาทีบอกผลหรือแสดงสภาพอย่างใดอย่างหนึง เช่น คําว่า 見つかる mitsukaru หาเจอ เปนกริยา
ทีแสดงผลการหาว่า หาเจอ กริยาแบบนี้มักจะใช ้ เปนรูป なかなか nakanaka+V.ปฏิเสธ ค่ะ ดังน้น หายาก




จะได ้เปน なかなか見つからない nakanaka mitsukaranai


ตัวอย่างคําอื่นๆ ที่เปนลักษณะแบบนี้
✖受かりにくい ukari nikui
〇なかなか受からない nakanaka ukaranai
สอบผ่านยาก

✖手に入りにくい te ni hairi nikui
〇なかなか手に入らない nakanaka te ni hairanai
หามีได ้ยาก

>>คําว่า หายาก ในภาษาไทย บางทีจะเข ้าข่ายกรณีนี้ คือ หามาไว ้ในครอบครองได ้ยาก ซึ่งภาษาญี่ปุนจะ
ใช ้ คาว่า なかなか手に入らない nakanaka te ni hairanai ค่ะ


✖速すぎて、聞きにくい hayasugite, kiki nikui
〇速すぎて、聞き取れない hayasugite, kikitorenai

พูดเรวมาก ฟงไม่ทัน (ฟงไม่ออก)


แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 3




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ






>>คําว่า ฟงยาก ในภาษาไทยในที่นี้ หมายถึง ฟงได ้ยิน แต่จับใจความไม่ได ้ ไม่ใช่ว่า การฟงน้นมีอุปสรรค

ทีทาให ้ไม่ได ้ยิน จึงไม่ใช ้ 聞きにくい kiki nikui แต่ให ้อธิบายแทนว่า เราฟงแล ้วจบใจความไม่ได ้ค่ะ




✖この漢字は書きにくい Kono kanji wa kakinikui
〇この漢字は難しい Kono kanji wa muzukashii



>>คาว่า 書きにくい kakinikui ในภาษาญีปุนจะหมายถึง เขียนลาบากเพราะปากกา หรือกระดาษ หรือ


โต๊ะไม่ดี แต่ไม่ใช่ว่า ตัวคันจิมีเส ้ นเยอะ แบบน้นคือ คันจิมันยาก 難しい muzukashii เฉยๆ หรือถ ้าอยาก
อธิบายเพิมว่า มันยาก เลยเขียนได ้ไม่สวย 難しくて、きれいに書けない muzukashikute, kirei ni

kakenai ก็ได ้



นอกจากนี ยังมีรูปคํากริยา + づらい zurai ทีความหมายคล ้ายๆ กันกับ ~にくい nikui อยู่เหมือนกัน บาง
คนอาจจะสับสนได ้ จึงขออธิบายไว ้ด ้วยเลยนะคะ
ความแตกต่างจะอยูที ~にくい nikui มักจะใช ้ ในความหมายเชิงกายภาพ ในขณะที่ ~づらい zurai จะใช ้


ในความหมายด ้านจิตใจ ทางสังคม หรืออืนๆ ค่ะ ลองมาคิดดูจากตัวอย่างต่อไปนีกันค่ะ






คาว่า 七時 shichiji เจดโมงน้น สําหรบคนไทยแล ้วพูดยากมาก ถามว่า พูดยากในที่นี้ ใช ้ 言いにくい ii
nikui หรือ 言いづらい ii zurai ดีคะ?
.
.
.





เฉลยค่ะ ใช ้ ว่า 言いにくい ii nikui เพราะว่าเปนคาทีออกเสียงยาก เปนเรืองทางกายภาพนนเองค่ะ




ในทางตรงกันข ้าม เวลาจะบอกรกคนทีเราชอบเนีย บางทีมันกยากใช่มั้ยคะ พูดยากในกรณนีใช ้ คาไหนดีคะ







言いにくい ii nikui หรือ 言いづらい ii zurai ดีคะ? ติกต่อก ติกต่อก....


ใช่แล ้วค่ะ กรณนีเปนเหตุผลทางความรู้สึก ไม่ใช่ว่าออกเสียงพูดคําว่า “รัก” ยาก แต่ว่าด ้วยความเขินอาย จึง




ทาให ้พูดยาก ก็ย่อมต ้องใช ้ 言いづらい ii zurai นนเองค่ะ บางทีเราอาจจะแปลเปนไทยว่า “ไม่กล ้า....” ก็


จะทาให ้แยกได ้ง่ายขึนค่ะ


ตัวอย่างคําอื่นๆ ที่ใช ้ ~づらい zurai ก็อย่างเช่น
頼みづらい tanomi zurai ไม่กล ้าขอร ้อง
断りづらい kotowari zurai ไม่กล ้าปฏิเสธ


อย่างไรกตาม หากเปนคากริยาทีความยากง่ายมักมีแต่ทางด ้านกายภาพ จะใช ้ ~にくい nikui หรือ ~づら


い zurai ก็ได ้ค่ะ ความหมายเหมือนกัน เช่น
字が小さくて、見にくい・見づらい。
Ji ga chiisakute, minikui / mizurai.
ตัวอักษรเลกมาก ดูยาก

この説明、わかりにくい・わかりづらい。
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 4




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


Kono setsumei, wakari nikui / wakari zurai.


คาอธิบายนีเข ้าใจยาก

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล ้ว ยูกิเซนเซแถมการใช ้ แบบนี้มาด ้วยค่ะ คากริยา + がたい gatai คล ้ายๆ กับ ~づらい




zurai คือ จะไม่ได ้ใช ้ พูดถึงความยากในเชิงกายภาพ แต่มักจะใช ้ กับคากริยาทีเกิดขึนในใจโดยเปนปฏิกิริยา

ที่มีต่อสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ เช่น


信じがたい shinji gatai เชือไม่ลง


理解しがたい rikai shigatai เข ้าใจไม่ได ้ (คิดทาแบบนีได ้ยังไง)
受け入れがたい ukeire gatai ทาใจยอมรบไม่ได ้


許しがたい yurushi gatai ทาใจให ้อภัยไม่ได ้

想像しがたい souzou shigatai จินตนาการภาพไม่ออกเลย

























































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 5




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ














ประโยคข ้างต ้น ฟงภาษาไทยแล ้วก็ดูโอเคนะคะ แต่ว่าคนญีปุนบอกว่ามันแปลกๆ ค่ะ



ในที่นี้ ในภาษาญี่ปุนเขามองว่า กําลังพูดถึง A อยู โดยบอกสิงทีเปนส่วนหนึงของ A นนก็คือ ขา ว่า ขายาว





ั่

และพูดต่อไปว่า การมีขายาวน้น เหมือนนางแบบเลย การพูดถึงหัวข ้อใดหัวข ้อหนึง และพูดบรรยายว่าส่วน



หนึงของหัวข ้อน้นมีลักษณะเปนอย่างไร ภาษาญีปุนจะใช ้ โครงสร ้าง ~は~が ...wa...ga... ค่ะ





A ちゃんは足が長いから、モデルみたい。
A-chan wa ashi ga nagai kara, moderu mitai.
A ขายาวจง เหมือนนางแบบเลย



>>ในภาษาไทย จะพูดว่า “A ขายาวจง” หรือจะเป็น “ขาของ A ยาวจง” ก็ไม่รู้สึกแปลกแต่อย่างใด
ความหมายเหมือนกัน แต่ในภาษาญีปุนจะใช ้ ~は~が ...wa...ga... ค่ะ ถ ้าพูดว่า A ちゃんの足が A-



channo ashi ga... จะนึกถึงภาพ “ขาของ A" ลอยเด่นออกมา คือไม่ได ้มาทั้งตัวนะค่ะ มีแต่ขาเด่นออกมา

ลองดูประโยคอืนในลักษณะเดียวกันบ ้างค่ะ

東京は人が多いです。
Tokyou wa hito ga ooi desu.
โตเกียวมีคนเยอะ




ประโยคนี้เข ้าใจง่ายค่ะ เพราะถ ้าใช ้ เปน ~の~が ...no...ga... แทนทีจะเปน ~は~が ...wa...ga...

จะได ้อีกความหมายนึงไปเลย
東京の人が多いです。

Tokyou no hito ga ooi desu.
มีคนโตเกียวเยอะ


>>ประโยคนี้อาจจะเปนในสถานการณ์งานอีเว ้นต์ที่ไหนซักแห่ง ที่มีคนที่อาศัยอยู่ในโตเกียวมาร่วมงานเปน
จานวนมาก ก็ได ้ค่ะ



แม ้ว่าโครงสร ้าง ~は~が ...wa...ga... เราจะได ้เรียนมาตั้งแต่ไวยากรณ์ชั้นต ้น แต่หลายครั้งเราจะติดว่า
ในภาษาไทยพูดว่า ...ของ... ก็ได ้ จึงมักจะใช ้ ผิดค่ะ

แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 6




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ




ลองฝกใช ้ เปน ~は~が ...wa...ga... ดูนะคะ ข ้างล่างนีขอยกตัวอย่างประโยคมาให ้ได ้ดูกันค่ะ

〇象は鼻が長い。Zou wa hana ga nagai.
✖象の鼻が長い。 Zou no hana ga nagai.

ช ้ างงวงยาว (x งวงของช ้ างยาว)



〇オレは足が短い。 Ore wa ashi ga mijikai.

✖オレの足が短い。Ore no ashi ga mijikai.
ผมขาสั้น (x ขาของผมสั้น)



〇オレの彼女は顔がかわいい。Ore no kanojo wa kao ga kawaii.

✖オレの彼女の顔がかわいい。Ore no kanojo no kao ga kawaii.

แฟนผมหน้าตานารก (x หน้าตาของแฟนผมนารก)





〇私は足が痛い。Watashi wa ashi ga itai.
✖私の足が痛い。Watashi no ashi ga itai.




ฉันขาเจบ (x ขาของฉนเจบ)

〇この店は雰囲気がいい。 Kono mise wa fun’iki ga ii.

✖この店の雰囲気がいい。Kono mise no fun’iki ga ii.



ร ้านนีบรรยากาศดี (x บรรยากาศของร ้านนีดี)


〇BTS は料金が高い。BTS wa ryoukin ga takai.
✖BTS の料金が高い。BTS no ryoukin ga takai.

BTS ค่าโดยสารแพง (x ค่าโดยสารของ BTS แพง)

















แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 7




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ















วันนี้มาดูวิธีการใช ้ คําคุณศัพท์ + そう sou ดูนา... กันค่ะ ประโยค タイではコロナが流行っていて、怖

そうです。Tai dewa korona ga hayatteite, kowasou desu. ที่เมืองไทย ไวรัสโคโรนากําลังระบาด นา

กลัว ผิดตรงไหน??









ก่อนอืน การเติม そう sou เข ้าไปด ้านหลังคาคุณศัพท์เพือทาให ้มีความหมายว่า ดูนา... น้น หมายถึง ผู้พูด

ยังไม่ได ้มีประสบการณ์กับสิงทีพูดถึงโดยตรง แต่เห็นจากท่าทาง หรือได ้ยินจากเรื่องที่เล่า แล ้วก็ให ้







ความเหนว่า ดูนา... นนเองค่ะ เช่น おいしそう oishisou นาอร่อย เปนต ้น



ทีนี้คําว่า 怖い kowai น้นแปลเปนไทยได ้สองอย่างค่ะ นนคือ กลัว และ นากลัว กล่าวคือ เปนการบอกว่าสิง





ที่พูดถึงน้นนากลัว ซึ่งก็เท่ากับว่าผู้พูดกลัวสิ่งน้น นนเอง หากเราเติม そう sou เข ้าไปด ้านหลัง กลายเปน

ั่





怖そう kowasou จะให ้ความหมายว่า ดูท่าทางนากลัว หรือไม่กฟงเรืองแล ้วดูนากลัว โดยทีผู้พูดไม่ได ้เปน







ผู้มีประสบการณ์กับสิงทีพูดถึงโดยตรง

ดังน้นในประโยคตัวอย่าง タイではコロナが流行っていて、怖そうです。Tai dewa korona ga

hayatteite, kowasou desu. ที่เมืองไทย ไวรสโคโรนากําลังระบาด นากลัว จึงให ้ความรู้สึกว่า ผู้พูดไม่ได ้







อยูทีเมืองไทย ไม่ได ้เดือดร ้อนด ้วย แค่ฟงเรืองราวในเมืองไทย และรู้สึกว่ามันดูนากลัวเท่าน้นเอง ค่ะ



(เหมือนไม่มีความรู้สึกร่วมนะค่ะ)







นอกจากนีเนืองจากคาว่า 怖い kowai มีความหมายว่า นากลัว อยูแล ้ว เมือเติม そう sou เข ้าไปอีก จึง




เหมือนกับบอกกลายๆ ว่า เปนแค่ท่าทางดูนากลัว แต่จริงๆ แล ้วไม่นากลัวนะค่ะ (怖そうで怖くない


kowasou de kowakunai ดูนากลัว แต่จริงๆ ไม่นากลัว)



ดังน้น ประโยคทีถูกต ้องจึงควรจะเปน

แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 8




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


タイではコロナが流行っていて、怖いです。


Tai dewa korona ga hayatteite, kowai desu.






ทีเมืองไทย ไวรสโคโรนากําลังระบาด นากลัวจง

ลองดูประโยคอืนๆ ทีมักจะผิดในทานองเดียวกันกันบ ้างค่ะ



✖顔色が悪そうですね。大丈夫ですか。

Kaoiro ga warusou desu ne. Daijoubu desu ka.

〇顔色が悪いですね。大丈夫ですか。


Kaoiro ga warui desu ne. Daijoubu desu ka.


สีหน้าดูแย่นะคะ เปนอะไรรึเปล่าคะ


>>สีหน้าดีหรือไม่ดี เปนสิงทีเกิดจากการทีเราเหนหน้าเขา และตัดสินว่าสีหน้าไม่ดี จึงควรใช ้ 顔色が悪い




です。Kaoiro ga warui desu. ไปเลยค่ะ ไม่ต ้องเติม そう sou เพราะจะเหมือนว่า เราคาดการณ์ไปโดย


ไม่ได ้เหนสีหน้าเขานะค่ะ



✖久しぶり!元気だね。

Hisashiburi! Genki dane.


〇久しぶり!元気そうだね。


Hisashiburi! Genkisou dane.

ไม่ได ้เจอกันตั้งนาน ดูท่าทางสบายดีนะ









>>อันนีเปนในทางตรงกันข ้ามค่ะ คาว่า 元気 genki สบายดี ของอีกฝายหนึงน้น ไม่ใช่สิงทีเราตัดสินได ้ เรา
แค่ได ้แต่สังเกตและคาดการณ์ เราจะไม่สามารถจะพูดว่า 元気 genki เฉยๆ ได ้ ต ้องเติม そう sou เข ้าไป
ด ้วยค่ะ

A : この映画、こないだ予告を見たけど、面白そうだね。



แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 9




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


Kono eiga, konaida yokoku o mita kedo, omoshirosou dane.








หนงเรืองนี วันก่อนดูตัวอย่างหนง นาสนกดีนะ
B : あー、これ?私見た。めっちゃ面白かったよ。
Aa, kore? Watashi mita. Metcha omoshirokatta yo.
อ๋อ เรื่องนี้เหรอ? ฉนดูแล ้วล่ะ สนกมากเลย



>> A ยังไม่เคยดูหนงเรื่องนี้ ดูแต่ตัวอย่างและคาดการณ์ว่าสนก จึงต ้องเติม そう sou ด ้วย แต่ B ดูแล ้ว จึง

ใช ้ เพียง 面白い omoshiroi ค่ะ





























































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 10




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ














ประโยควันนี้ หลายคนนาจะงงเหมือนกันใช่มั้ยคะว่า มันผิดตรงไหน? ยูกิเซนเซอธิบายดังนี้ค่ะ

ก่อนอื่น คําว่า いつものように itsumo no you ni หรือ いつもみたいに itsumo mitai ni (ภาษา





พูดไม่เปนทางการ) ทีแปลว่าเหมือนปกติ /ทุกที ส่วนมากแล ้วจะใช ้ กับคากริยาค่ะ เพือบอกความหมายว่า


ทากริยาน้นเหมือนทุกที เช่น
いつもみたいに元気出してよ!
Itsumo mitai ni genki dashite yo!

ทาตัวร่าเริงเหมือนทีเคยสิ!


ひどく責められても、彼はいつものように笑顔を見せてくれました。

Hidoku semeraretemo, kare wa itsumo no you ni egao o misete kuremashita.


ถึงแม ้จะถูกต่อว่าอย่างหนก เขากยังคงยิมให ้เหมือนทุกคร้ง




แต่ถ ้าด ้านหลังเปนคําคุณศัพท์ ซึ่งเปนคําแสดงลักษณะหรือสภาพของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นิยมใช ้ เปน いつもど


おり itsumo doori ตามเดิม, いつもと同じで itsumo to onaji de เหมือนเดิม, 相変わらず
aikawarazu ไม่เปลี่ยน, いつもと変わらず itsumo to kawarazu ไม่ต่างจากเดิม มากกว่าค่ะ จะ
สังเกตได ้ว่าทั้งหมดจะใช ้ ในความหมายที่ว่า สิ่งที่พูดถึงด ้านหลังน้น เปนเช่นน้นอยู่เสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง



เช่น

10 年ぶりにこの店に来たけど、いつもと変わらずおいしいね。
Juu-nen buri ni kono mise ni kita kedo, itsumo to kawarazu oishii ne.

ไม่ได ้มาที่ร ้านนี้เปน 10 ปแล ้ว แต่ยังอร่อยไม่ต่างจากเดิมเลย




あの子、いつもどおりしゃべらないね。

Ano ko, itsumo doori shaberanai ne.
เดกคนน้น ไม่คุยด ้วย เหมือนเดิมเลย (ปกติก็ไม่คุย)



>> ข ้างหลังเปนรูปปฏิเสธ คือ ไม่คุย กแปลว่า ปกติไม่คุย วันนี้ก็ไม่คุย เหมือนกับปกติ ค่ะ


แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 11




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ



คราวนีหันกลับมาดูประโยคตั้งต ้นของเรากันบ ้างค่ะ “ไม่ร่าเริงเหมือนทุกที” เรามาแปลไทยเปนไทยกันก่อน


ค่ะ ประโยคนี้แปลว่า ทุกทีร่าเริงมั้ยคะ.... ใช่ค่ะ ในภาษาไทย เราแปลว่า ทุกทีนะร่าเริง แต่วันนี้ไม่ร่าเริง ไม่

เหมือนกับทุกที ใช่มั้ยคะ ซึงจะต่างจากการใช ้ พวก いつもどおり itsumo doori ทั้งหลายด ้านบน ดังน้น




จึงไม่ควรใช ้ คาจาพวกข ้างบนค่ะ เพราะจะทําให ้ผู้ฟงงงว่า ตกลงปกติเปนยังไงกันแน เพราะรูปประโยคบอก


ว่า “เหมือนปกติ” แต่จากสถานการณ์นาจะหมายความว่า “ต่างจากปกติ”


ถ ้าอย่างน้นควรพูดว่ายังไงดี กรณทีไม่เหมือนกับทุกที ให ้ใช ้ คาว่า いつもと違って itsumo to chigatte




ต่างจากทุกที ค่ะ จะได ้เปน

いつもと違って元気ないね。
Itsumo to chigatte genki nai ne.
ไม่ร่าเริงเลย ต่างจากทุกที

สุดท ้าย ผู้เขียนขอถามเองค่ะว่า
今日の話も相変わらず面白いですか。

Kyou no hanashi mo aikawarazu omoshiroi desuka.

เรื่องวันนี้ก็สนกเหมือนทุกทีมั้ยคะ ^^













































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 12




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
























วันนี้เปนเรื่องของการใช ้ คําค่ะ คาว่าอ่านหนงสือสอบหรือดูหนงสือสอบ ในภาษาญีปุนจะไม่ได ้ใช ้ คาว่า 本を

読む hon o yomu หรือ 本を見る hon o miru นะคะ แต่จะใช ้ คาว่า 勉強する benkyou suru หรือถ ้าจะ
พูดให ้เฉพาะเจาะจงก็เปน 試験勉強をする shiken benkyou o suru ค่ะ








本を読む hon o yomu ในภาษาญีปุนจะหมายถึง การอ่านหนงสือประเภทอืนๆ ทีไม่ใช่ตาราเรียนทางด ้าน
วิชาการ ในขณะที่คําว่า 勉強する benkyou suru จะหมายถึงการเรียนด ้านวิชาการ แต่ไม่จาเป็นต ้องเป็น



การเรียนกับคุณครูที่โรงเรียนเท่าน้น การนงอยู่บ ้านอ่านหนงสือเอง หรือฝกทาแบบฝกหัดเหล่านีก็ถือเปน 勉







強する benkyou suru ทั้งหมดค่ะ


ดังน้น 本を読む時間がなくて、あまり試験できなかった。Hon o yomu jikan ga nakute, amari




shiken dekinakatta. ไม่มีเวลาอ่านหนงสือ เลยทาข ้อสอบไม่ค่อยได ้ คนญีปุนฟงแล ้วกจะงงๆ หนอยว่า



ทาไมตอนจะสอบ ไม่ 勉強する benkyou suru แต่กลับไปอ่านหนงสืออะไรอยูอีก?





ผู้เขียนเองสมัยเรียนก็เคยใช ้ คานีผิดค่ะ โดยแปลตรงตัวเลยว่า 試験の本を見る shiken no hon o miru ดู-

หนงสือ-สอบ โดนอาจารย์หัวเราะเลยค่ะ ประมาณว่า ไปนงดูมันทาไม ไม่เรียนล่ะ? 55







ไหนๆ พูดเรืองเรียนแล ้ว ขอแถมเรืองความแตกต่างระหว่าง 勉強する benkyou suru、習う narau、学
ぶ manabu ด ้วยเลยนะคะ

勉強する benkyou suru เปนการเรียนด ้านวิชาการต่างๆ ค่ะ เช่น วิชาเลข, วิชาภาษาอังกฤษ, วิชา


วิทยาศาสตร์ เปนต ้นค่ะ ส่วนมากเปนการเรียนแบบนงโต๊ะเรียน ไม่ใช่เปนการเรียนแบบลงมือทา มีคนสอน









แบบเรียนทีโรงเรียน หรือนงอ่านหนงสืออยูบ ้านคนเดียวกได ้ค่ะ



習う narau เปนการเรียนทีต ้องมีคนสอนค่ะ (แปลว่าฝกทาเองคนเดียวไม่เรียกว่า 習う narau) ไม่เฉพาะ




ด ้านวิชาการเท่าน้น เช่น ดนตรี, ศิลปะ, ทาอาหาร ถ ้าไปเรียนแบบมีคนสอนก็เรียกว่า 習う narau ได ้ค่ะ


เดกๆ ตั้งแต่ชั้นอนบาลถึง ม.ต ้น ผู้ปกครองนิยมให ้ไปเรียนเพิมเติมไม่ว่าจะเปนด ้านวิชาการ หรือดนตรี, กีฬา,




ศิลปะ เหล่านี้เรียกรวมๆ กันว่า 習い事 narai goto ค่ะ

แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 13




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ










学ぶ manabu เปนคาทีฟงดูค่อนข ้างเปนทางการ ไม่นิยมใช ้ ในภาษาพูดทัวไป อาจใช ้ เปนชือหนงสือเรียน,


คาโฆษณา เปนต ้น หากใช ้ ในภาษาพูดทัวไป มักใช ้ ในความหมายถึงการเรียนรู้ทักษะชีวิต เช่น เรียนรู้จาก


ข ้อผิดพลาด 間違いから学ぶ machigai kara manabu เปนต ้นค่ะ




































































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 14




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ

















ประโยคด ้านบนนีผิดตรงไหน? อุตส่าห์ทาเปน しか shika + รูปปฏิเสธ ให ้ด ้วย เพือแสดงความหมายว่า

“แค่...” (=น้อยกว่าทีตั้งใจหรือคาดหวังไว ้)








ยูกิเซนเซบอกว่า แปลกตรงคากริยาทีใช ้ ค่ะ เนืองจากคากริยา 取る toru หยิบ, ได ้ เปนกริยาที่แสดงความ



ตั้งใจ ดังน้นพอนามาใช ้ กับเนื้อหาที่แสดงผลลัพธ์ที่ไม่ได ้ดังที่ตั้งใจ จึงฟงดูแปลกๆ ค่ะ เพราะเหมือนกับ
ตั้งใจทีจะทาคะแนนแค่ 50 คะแนน นะค่ะ







ในกรณนีจึงควรใช ้ เปนรูปสามารถว่า
テストで 50 点しか取れなかった。
Tesuto de 50-ten shika torenakatta.
ได ้คะแนนสอบแค่ 50 คะแนน

เพือให ้เหนชัดเจนขึน มาดูประโยคตัวอย่างข ้างล่างนีกันค่ะ




今回のテストで 100 点満点取ろうと思ったけど、50 点しか取れなかった。
Konkai no tesuto de 100-ten manten torou to omotta kedo, 50-ten shika torenakatta.


สอบคร้งนีคิดว่าจะทาให ้ได ้ 100 คะแนนเตม แต่ได ้แค่ 50 คะแนน



>> ความตั้งใจคือ “ได ้ 100 คะแนนเตม” ในส่วนด ้านหน้าจึงใช ้ กริยา 取る toru ในขณะที่ผลลัพธ์คือ

“ทาได ้แค่ 50 คะแนน” ไม่ได ้อย่างทีตั้งใจไว ้ จึงใช ้ เปนรูปสามารถว่า 取れなかった torenakatta ในส่วน



ด ้านหลังค่ะ





คากริยาทีแสดงความตั้งใจ แต่สามารถนามาใช ้ กับผลลัพธ์ในด ้านลบทีเกิดขึนโดยไม่ได ้ตั้งใจได ้ ส่วนมากจะ


เปนคากริยาทีเกียวกับการบาดเจบ เช่น 腕を折った ude o otta แขนหัก, 指を切った yubi o kitta





มีดบาดนิ้ว เปนต ้น และคําว่า 落とした otoshita ทาตก, なくした nakushita ทาหาย, 割った watta




ทาแตก ค่ะ เช่น
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 15




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


事故で腕を折っちゃった。

Jiko de ude o otchatta.

แขนหักจากอุบัติเหตุ
彼女が気に入ったコップを割っちゃって、めっちゃ怒られた。

Kanojo ga ki ni itta koppu o watchatte, metcha okorareta.



ทาแก ้วทีแฟนชอบมากแตก โดนโกรธใหญ่เลย



ไหนๆ พูดเรืองคะแนนสอบแล ้ว จริงๆ แล ้วเวลาจะพูดว่าคะแนนสอบดี-ไม่ดี สามารถพูดโดยใช ้ คาคุณศัพท์
เปนภาคแสดงได ้เลยนะคะ ไม่ต ้องใช ้ คากริยาก็ได ้ค่ะ และคําคุณศัพท์ที่ใช ้ กับคะแนนสอบ เราจะใช ้ いい ii


ดี、悪い warui ไม่ดี หรือไม่ก็ 高い takai สูง、低い hikui ต่า นะคะ จะไม่ใช ้ 多い ooi มาก、少ない

sukunai น้อย เช่น

今回のテスト、点数が良かった/悪かった。


Konkai no tesuto, tensuu ga yokatta / warukatta.
สอบคร้งนี้ ได ้คะแนนดี / ไม่ดี













































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 16




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ















ประโยคในวันนี้เป็นตัวอย่างการใช ้ คาทีคนไทยผิดกันเยอะมาก เซนเซส่งประโยคตัวอย่างมาอย่างเยอะเลย
ค่ะ มาดูกันค่ะว่าผิดตรงไหน ยังไง

ก่อนอื่น มาดูความหมายที่ตั้งใจจะสื่อกันก่อนนะคะ 今まで日本語がまだ下手です。Ima made nihongo




ga mada heta desu. เปนประโยคเพือแสดงว่า ในอดีตไม่เก่งภาษาญีปุน ปจจุบันก็ยังคงไม่เก่งภาษาญี่ปุน





เหมือนเดิม โดยต ้องการจะสือความหมายว่า เวลาผ่านมานานแล ้ว แต่กยังคงไม่เก่งอยูดี



คราวนีมาดูคาว่า まで made บ ้างค่ะ คาว่า まで made แสดงจุดสินสุดของกริยาหรือช่วงเวลา เช่น



[บอกคนขับแทกซี]

駅までお願いします。
Eki made onegai shimasu.
ช่วยไปส่งที่สถานีด ้วยครับ/ค่ะ

昨日疲れて、昼までずっと寝ていました。
Kinou tsukarete, hiru made zutto nete imashita.



เมือวานนีเหนือยมาก จนนอนตลอดจนถึงกลางวันเลย



ดังน้น เมื่อใช ้ เปน 今まで ima made จึงจะมีความหมายว่า กริยาน้นจบลงแล ้ว ไม่ต่อเนืองไปยังอนาคต


เช่น
今までありがとうございました。
Ima made arigatou gozaimashita.


ขอบคุณสําหรบทุกอย่างทีผ่านมาค่ะ



>>ถ ้าได ้ยินแบบนี ให ้สังหรณ์ใจไว ้ก่อนเลยค่ะ เปนคาบอกลา เพราะใช ้ คําว่า 今まで ima made
หมายความว่า ต่อจากนีนาจะไม่ได ้มีบุญคุณใดๆ ต่อกันอีกแล ้ว



ทีนีกลับมาเทียบกับประโยคตั้งต ้นของเราในวันนีค่ะ 今まで日本語がまだ下手です。Ima made


nihongo ga mada heta desu. พอใช ้ คาว่า 今まで ima made ก็จะให ้ความหมายว่า จนถึงตอนนี้ไม่เก่ง



(แต่ต่อจากนี้ไป จะเก่ง) จึงค่อนข ้างจะต่างจากความหมายทีต ้องการจะสือค่ะ










คาว่า “ถึงตอนนี” ในภาษาไทย ในทีนีไม่ได ้หมายถึง จุดสินสุดของเวลา แต่นาจะเปนการเน้นเนือหาขัดแย ้ง





กล่าวคือ “ถึงแม ้ว่า”จะเปนตอนนี้ (ซึ่งผ่านมานานแล ้ว) แต่ก็ยังไม่เก่ง มากกว่าค่ะ ซึงแปลเปนภาษาญีปุนจะ
ได ้ว่า
今でも/今になっても日本語がまだ下手です。
Ima demo / ima ni nattemo nihongo ga mada heta desu.
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 17




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ





ถึงแม ้ว่าจะเปนตอนนี้ ภาษาญี่ปุนกยังไม่เก่งเลย

มาลองดูประโยคอื่นๆ ที่คล ้ายๆ กันบ ้างนะคะ
そのプレゼントは〔✖今まで→〇今でも/今になっても〕まだ/未だに 私の部屋にあります。

Sono purezento wa 〔✖ima made→〇ima demo / ima ni nattemo〕mada / imada ni watashi no
heya ni arimasu.





ของขวัญชิ้นน้น จนถึงตอนนี้ (ถึงแม ้จะเปนตอนนี) กยังอยูในห ้องของฉน








>>ต่อจากนีก็คงยังเก็บรกษาของขวัญน้นไว ้อย่างดี ตอนนีไม่ใช่จุดสินสุดของเวลา ดังน้นจึงต ้องใช ้ คาพวก

今でも ima demo ถึงแม ้จะเปนตอนนี้ แทนค่ะ หากต ้องการเน้น หรือไม่ก็ใช ้ แต่ まだ mada หรือ 未だに
imada ni ก็ได ้ค่ะ

たくさん本を買ったけど、読む時間がなくて、〔✖今まで→〇今でも/今になっても〕 まだ/
未だに 読んでいない。
Takusan hon o katta kedo, yomu jikan ga nakute, 〔✖ima made →〇ima demo / ima ni
nattemo〕 mada / imada ni yonde inai.


ซื้อหนงสือมาเยอะ แต่ไม่มีเวลาอ่าน จนถึงตอนนี้ (ถึงแม ้ว่าจะเปนตอนนี้) ก็ยังไม่ได ้อ่านเลย


>>ต่อจากนี ก็ยังไม่รู้ว่าจะได ้อ่านเมือไหร่ ตอนนีไม่ใช่จุดสินสุดของการไม่ได ้อ่าน จึงไม่ใช ้ 今まで ima


made ค่ะ







































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 18




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


















วันนี้เปนเรื่องของคําว่า “....ผิด” ค่ะ ในภาษาไทยเรา เราใช ้ คาว่า ผิด ต่อท ้ายคากริยาต่างๆ เพือบอกว่า เรา



ทาอะไรผิด แต่ในภาษาญีปุนไม่นิยมแบบน้นค่ะ










ในภาษาญี่ปุน คําว่า 間違える machigaeru ทาผิด เปนคากริยา สามารถนาไปต่อท ้ายคากริยาอืนเพือ



แสดงว่าทาอะไรผิดได ้เหมือนกันก็จริง แต่...มีคากริยาทีทาแบบน้นได ้อยูแค่ไม่กีตัวเองค่ะ เท่าที่ช่วยกันนึก





กับยูกิเซนเซออกมาได ้ประมาณนีค่ะ

言い間違える ii-machigaeru พูดผิด
聞き間違える kiki-machigaeru ฟังผิด
読み間違える yomi-machigaeru อ่านผิด
書き間違える kaki-machigaeru เขียนผิด
打ち間違える uchi-machigaeru พิมพ์ผิด
見間違える mi-machigaeru ดูผิด/มองผิด



ถ ้าอย่างน้น คากริยาอืนๆ ล่ะ ควรพูดว่ายังไงดี?

.
.
.



มีอยู 2 วิธีด ้วยกันค่ะ วิธีแรกคือ การใช ้ คากริยา 間違える machigaeru เพียงคาเดียว ใช ้ ในกรณที่มีกรรม


หรือส่วนขยายทีทาให ้รู้อยู่แล ้วว่าคากริยาน้นคืออะไร เช่นในประโยคตั้งต ้นของเราในวันนีค่ะ ในภาษาญีปุน






จะพูดแค่ว่า
今日の試験の 3 番、間違えてしまった。
Kyou no shiken no san-ban, machigaete shimatta.
ข ้อสอบวันนี้ทําข ้อ3 ผิด







>>ในการทาข ้อสอบ เปนทีรู้กันอยุแล ้วว่า “ทาผิด” ย่อมหมายถึง ตอบข ้อสอบผิด ไม่ต ้องใช ้ คูกับคากริยา
答える kotaeru อีกค่ะ

แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 19




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ




หรือกรณที่มีสองสิ่งที่คล ้ายๆ กันแล ้วเลือกผิด หยิบผิด ใช ้ สลับกัน จาสลับกัน แบบนี้ก็สามารถใช ้ คํากริยา 間
違える machigaeru ตัวเดียวเลยค่ะ เช่น
A : お姉さんとよく似てますね。

Oneesan to yoku nitemasu ne.

B : ええ、小さい頃、よく間違えられていました。

Ee, chiisai koro, yoku machigaerarete imashita.




>>กรณของพีน้องทีหน้าตาคล ้ายกันมาก “ถูกจาสลับกัน” ใช ้ คากริยา 間違える machigaeru ตัวเดียว


เลยค่ะ

リンスとシャンプーを間違えちゃった!
Rinsu to shanpuu o machigaechatta!
ใช ้ แชมพูกับครีมนวดผมสลับกัน!

>>แชมพูกับครีมนวดผมคล ้ายๆ กัน วางไว ้ใกล ้ๆ กัน “หยิบผิด” ใช ้ แค่คาว่า 間違える machigaeru ตัว
เดียว ค่ะ





วิธีทีสอง คือกรณทีต ้องการอธิบายเพิมเติมว่าผิดยังไง หรือจาเปนต ้องใส่คากริยา ไม่เช่นน้นแล ้วจะไม่เข ้าใจ




ก็จะใช ้ เปนรูปประโยค 間違って、V.~てしまった。 machigatte, V.-te shimatta. ค่ะ เช่น


間違って、女子トイレに入っちゃった!
Machigatte, joshi toire ni haitchatta!
เข ้าผิด ไปเข ้าห ้องนาหญิงล่ะ (OMG!)
ํ้

今日は結婚式なのに、間違っていつも通りの服を着てしまった。

Kyou wa kekkonshiki nanoni, machigatte itsumo doori no fuku o kite shimatta.

วันนีมีงานแต่งงาน แต่ใส่ชุดผิด ใส่ชุดธรรมดาเหมือนทุกทีมา


จะสังเกตได ้ว่า ในที่นี้จะไม่ใช ้ คํากริยาว่า 間違える machigaeru (สกรรมกริยา) แต่จะใช ้ รูป te ของ



คากริยา 間違う machigau (อกรรมกริยา) ซึ่งจะให ้ความหมายว่า ผิดจากที่สิ่งที่ควรจะทา และไม่ใช่สิ่งที่


ตั้งใจให ้เกิด เปนความผิดพลาด จึงไม่นิยมใช ้ รูปสกรรมกริยา ทีเหมือนกับว่าเราตั้งใจทาสิงน้นค่ะ ถ ้าเปน








ภาษาทีเปนทางการขึนมาหนอย อาจใช ้ คําว่า 誤って ayamatte แทน 間違って machigatte ก็ได ้ค่ะ
หรือไม่ก็อาจใช ้ เปน 違う+N.+V.~てしまった。chigau+N.+V.-te shimatta. ค่ะ

違うバスに乗ってしまった。
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 20




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


Chigau basu ni notte shimatta.

ขึนรถเมล์ผิด








นอกจากนียังมีบางคาทีคนญีปุนนิยมพูดในรูปของคานามมากกว่าค่ะ เช่น
<A กับ B คุยกันอยู B มีสายเรียกเข ้า เมื่อ B วางสายลงพร ้อมทาหน้าแปลกๆ>


A : どうしたの?今の電話、だれから?
Doushita no? Ima no denwa, dare kara?


เปนอะไรไปเหรอ? โทรศัพท์เมื่อกี้ ใครโทร.มานะ
B : ううん、間違い電話。
Uun, machigai denwa.

ไม่มีอะไร โทร.ผิดนะ


<A เห็นคนคนหนึ่ง นึกว่าเพื่อน จึงเดินเข ้าไปทัก ปรากฏว่าไม่ใช่>

A : すみません、人違いでした。

Sumimasen, hitochigai deshita.
ขอโทษค่ะ ผิดคน (จาคนผิด)

นี่ก็เช่นเดียวกันค่ะ จะใช ้ เปนคํานาม 間違い machigai / 違い chigai จะไม่ใช ้ คานาม 間違え




machigae ค่ะ เพราะไม่ได ้เกิดจากความตั้งใจ จึงไม่นิยมใช ้ รูปสกรรมกริยา นนเองค่ะ





































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 21




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ

















วันนีมาด ้วยเรืองของคาแสดงเหตุผล から kara ค่ะ ข ้างต ้นเปนประโยคทีผู้เรียนชาวไทยพยายามให ้เหมือน

คนญีปุน ด ้วยการใส่ から kara เข ้าไป แต่กลับผิดค่ะ ผิดยังไง ไปดูกันค่ะ


から kara มักใช ้ แสดงเหตุผลในมุมมองของผู้พูดเอง และมักใช ้ ตามด ้วยประโยคแสดงความตั้งใจ, ขอร ้อง,



คําสั่ง, ชักชวน, ห ้าม เปนต ้น แต่แทบจะไม่ใช ้ กับประโยคคาถามทีแสดงการปรึกษาหารือ (คือไม่ใช่ประโยค

คาถามแบบชักชวน ~ませんか masen ka. หรือแบบขอร ้อง ~てくれない? -te kurenai?) เลยค่ะ

ยกเว ้นแต่เปนการถามว่าทีทาไปด ้วยเหตุผลด ้านหน้าใช่มั้ย เช่น



〇暑いから、エアコンをつけない?
Atsui kara, eakon o tsukenai?


ร ้อนจง เปดแอร์มั้ย? (ชักชวน)






>> รูปประโยคเปนประโยคคําถามก็จริง แต่เปนการชักชวนให ้อีกฝายเหนด ้วยทีจะเปดแอร์ จึงสามารถใช ้ か
ら kara ได ้

✖暑いから、どうすればいい?
Atsuikara, dousureba ii?

ร ้อนจง ทายังไงดี?

>> เปนประโยคคาถามแบบปรึกษา ถามความเหน โดยให ้อีกฝายเปนคนตัดสินใจ แบบนี้ในภาษาญี่ปุนใช ้







から kara จะฟงดูแปลกๆ ค่ะ

〇本当に暑いから、 エアコンをつけたかったの?外がうるさいからじゃなくて?
Hontouni atsuikara, eakon o tsuketakatta no? Soto ga urusai kara janakute?

เพราะว่าร ้อนจริงๆ เหรอ เลยอยากเปดแอร์นะ? ไม่ใช่ว่าเพราะข ้างนอกหนวกหูเหรอ?






>> เปนประโยคคาถามเพือดูว่าเหตุผลของการอยากเปดแอร์น้น เปนเพราะเหตุผลใด จึงสามารถใช ้ から

kara ได ้ค่ะ



ดังน้น ประโยคตั้งต ้นของเรา ด ้านหลังเปนประโยคคาถามเชิงปรึกษา ขอความเห็นของอีกฝายหนึง แบบนี ้




ในภาษาญีปุนจะไม่ใช ้ から kara ค่ะ แต่จะใช ้ คําพวก けど kedo แทนค่ะ เหมือนกับเปนการเกริ่นบอก



สถานการณ์ให ้ฟง แล ้วถาม(ปรึกษา)ว่าจะทายังไงดี



日本語が上手になりたい(✖から・〇けど)、どうやって勉強すればいい?
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 22




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


Nihongo ga jouzu ni naritai (✖kara・〇kedo), dou yatte benkyou sureba ii?


อยากเก่งภาษาญีปุน ต ้องเรียนยังไงดี?

今日雨降るらしい(✖から・〇けど)、遠足どうする?

Kyou ame furu rashii (✖kara・〇kedo), ensoku dou suru?

วันนีเขาว่าฝนจะตก การไปทัศนศึกษาจะเอายังไงดี?






































































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 23




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ





















หลายคนทีเรียนภาษาญีปุนนาจะอยากทางานทีเกียวข ้องกับภาษาญีปุนใช่มั้ยคะ มีใครเคยพูดเปน


ภาษาญี่ปุนแบบประโยคข ้างต ้นมั้ยคะ ยูกิเซนเซบอกว่ามันแปลกค่ะ แปลกยังไง ผิดตรงไหน ไปดูกันค่ะ






ก่อนอืนคากริยา 働く hataraku ทางาน และ 仕事する shigoto suru น้นเปนอกรรมกริยา คือ เปนกริยา


ทีไม่ต ้องการกรรม ในขณะที่ について nitsuite ในที่นี้ทําหน้าที่แทนคําช่วย を o ซึ่งเปนคําช่วยชี้กรรมค่ะ


เราสามารถพูดได ้ว่า

日本で働きたい・仕事したい
Nihon de hatarakitai / shigoto shitai
อยากทํางานที่ญี่ปุน


โดย 日本で Nihon de เปนส่วนขยายคากริยา 働く hataraku ・仕事する shigoto suru ทางาน



แต่ไม่สามารถพูดได ้ว่า
日本語を働きたい・仕事したい
Nihongo o hatarakitai / shigoto shitai
อยากทางานภาษาญีปุน??




เพราะจะไม่เข ้าใจว่า ภาษาญี่ปุนเปนกรรมของกริยา ทํางาน ไปได ้ยังไงนะค่ะ กล่าวคือ จะงงๆ ว่า ทํางาน






ภาษาญี่ปุนคือต ้องทายังไงกับภาษาญี่ปุนนะค่ะ ซึงจะต่างจากกริยา 勉強する benkyou suru เรียน, 話






す พูด เปนต ้น ทีสามารถใช ้ ภาษาญีปุนมาเปนกรรมได ้ จะได ้ความหมายว่า เรียนภาษาญีปุน, พูดภาษาญีปุน





ค่ะ

อ ้าว อย่างนีแล ้วถ ้าอยากพูดว่าทางานอะไร จะต ้องพูดยังไงล่ะ? ในกรณแบบนีให ้ใช ้ คากริยา 仕事をする







shigoto o suru ทางาน ดีกว่าค่ะ เพราะว่าเปนการแยก 仕事 shigoto เปนกรรม และ する suru ทา




เปนคํากริยา จากน้นจึงหาส่วนขยายว่างานประเภทไหนมาขยาย 仕事 shigoto อีกทีนึงค่ะ เช่น
ホテルの仕事をしたい Hoteru no shigoto o shitai อยากทางานการโรงแรม



หากจะเติมคําว่า เกี่ยวกับ ก็มีหลายคําให ้เลือกค่ะ จะได ้เปน
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 24




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


ホテル についての・関係の・に関する・に関わる 仕事

Hoteru nitsuite no / kankei no / ni kansuru / ni kakawaru shigoto
งานที่เกี่ยวกับ / เกี่ยวข ้องกับ / สัมพันธ์กับ การโรงแรม



ขอให ้สังเกตนะคะว่า ใช ้ ~についての nitsuite no มาขยายคาว่า 仕事 shigoto ไม่ใช่ใช ้ について
nitsuite มาขยายคากริยา 仕事する shigoto suru แบบในประโยคตั้งต ้นหัวข ้อของเราในวันนีค่ะ



แต่....ยังไม่จบค่ะ การพูดว่า 日本語についての仕事をしたい Nihongo nitsuite no shigoto o







shitai อยากทางานทีเกียวกับภาษาญีปุน ก็ยังแปลกอยูดีค่ะ... อ ้าว!

อันนีคือมีปญหาตรงความหมายค่ะ “งานที่เกี่ยวกับภาษาญี่ปุน” ทุกคนนึกถึงอาชีพอะไรคะ ถ ้าในเซ ้ นส์ของ






คนญี่ปุน จะหมายถึง “งานวิชาการวิจยด ้านภาษาญีปุน” ค่ะ ซึงนาจะไม่ใช่ความหมายทีทุกคนอยากจะบอก




ใช่มั้ยคะ






ถ ้าคาว่า “งานที่เกี่ยวกับภาษาญี่ปุน” ของเราหมายถึง “งานทีใช ้ ภาษาญีปุน” กให ้ใช ้ เปน 日本語を使う仕


事 Nihongo o tsukau shigoto ไปเลยค่ะ








ฉะน้น ถ ้าอยากบอกคนญีปุนว่า “อยากทางานทีใช ้ ภาษาญีปุน” กให ้พูดว่า

日本語を使う仕事をしたい
Nihongo o tsukau shigoto o shitai



อยากทางานทีใช ้ ภาษาญีปุน















แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 25




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
















วันนี้ยูกิเซนเซขอพูดถึงการใช ้ ~そう sou กับคากริยาบ ้างค่ะ ประโยคตั้งต ้นหัวข ้อของเราในวันนีฟงดูก ็

โอเคนะคะ ถ ้าอย่างน้นมันผิดตรงไหน ไปดูกันค่ะ





คาว่า ~そう sou นีมีวิธีการใช ้ หลายรูปแบบ หลายความหมาย ทาให ้ผู้เรียนสับสนกันอยูบ ้าง วันนี้จะพูดถึง
เฉพาะรูปที่แปลว่า “ดูท่าทาง...” นะคะ เช่น

おいしそうです。 Oishisou desu. ดูท่าทางนาอร่อย

雨が降りそうです。Ame ga furisou desu. ดูท่าทางฝนจะตก




ประโยคแรก จะใช ้ ในสถานการณ์ทีผู้พูดยังไม่ได ้กินอาหารน้น แต่เหนอาหารน้นแล ้ว เช่น พนกงาน


ร ้านอาหารยกอาหารมาเสิร์ฟให ้ เปนต ้นค่ะ


ในขณะที่ประโยคที่สอง จะใช ้ ในสถานการณ์ที่ฝนยังไม่ตก แต่อาจจะท ้องฟามืดครึ้ม ฟาแล่บ ฟาร ้อง ลมแรง





เปนต ้น ทาให ้คาดการณ์ว่า ฝนกําลังจะตก เปนต ้นค่ะ





ให ้สังเกตว่า ทั้งสองกรณ เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้นจริง กล่าวคือ ยังไม่ได ้กินจริง เพราะฉะน้นยังไม่รู้แนชัดว่า
อร่อยจริงมั้ย ส่วนประโยคทีสอง ฝนก็ยังไม่ได ้ตกลงมาจริงๆ แค่คาดการณ์ว่ากําลังจะตกในอนาคตอันใกล ้





จึงเปนทีมาว่าทาไมประโยคตั้งต ้นหัวข ้อวันนี 疲れそうな顔をしていますね。Tsukaresou na kao o
shite imasu ne. ดูท่าทางหน้าตาเหนื่อยจังนะคะ จึงฟังดูแปลกๆ เนืองจากว่า “ดูท่าทางเหนือย” ในที่นี้


หมายถึงผู้พูดคาดการณ์ว่า คูสนทนากาลังเหนือยอยู ไม่ใช่ว่ากําลังจะเหนือยในอนาคตอันใกล ้ จึงใช ้ รูป ~





そう sou ไม่ได ้ค่ะ



ถ ้าอย่างน้น พูดว่ายังไงดี เซนเซนาเสนอมาหลายประโยคมากค่ะ
疲れてるみたいですね。 Tsukareteru mitai desu ne.
疲れてる顏をしてますね。Tsukareteru kao o shitemasu ne.
顔が疲れてますね。Kao ga tsukaretemasu ne.
何か疲れてますね。Nanka tsukaretemasu ne.
何か疲れてそうですね。Nanka tsukaretesou desu ne.


โดยหลักใหญ่ใจความอยู่ตรงทีว่าคําว่าเหนือยต ้องเปนรูป ~ている teiru เพื่อแสดงสภาพว่า เหนื่อยอยู่ ค่ะ



แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 26




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ





คาว่า 疲れる tsukareru เปนคากริยา หากนามาต่อด ้วยคาว่า ~そう sou เลย จะให ้ความหมายว่า ตอนนี ้




ยังไม่เหนื่อย แต่คาดการณ์ว่านาจะเหนือยในอนาคตอันใกล ้ค่ะ ขอยกตัวอย่างประโยคทีใช ้ 疲れそう

tsukaresou มาให ้ดูนะคะ

A : 新しい企画が始まったから、この 2-3 か月は毎日残業だろうなあ。
Atarashii kikaku ga hajimatta kara, kono ni-san kagetsu wa mainichi zangyou darou naa.



โปรเจกต์ใหม่เริมแล ้ว สงสัย 2-3 เดือนนีต ้องอยู่ทาโอทีทุกวันแนเลย


B : えーっ!?疲れそうだね。
Ee!? Tsukaresou dane.
โห ดูท่านาจะเหนื่อยนาดูเลยนะ




























































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 27




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ















วันนี้ยูกิเซนเซขอพูดถึงคําว่า 活動 katsudou กิจกรรม ค่ะ คํานี้ในภาษาญี่ปุน จะหมายถึง การทาสิ่งใดสิ่ง

หนึ่งเปนพิเศษเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะ ภาพลักษณ์จะเปนประเภทกิจกรรมกลางแจ ้ง



(野外活動 yagai katsudou) มากกว่านะค่ะ ไม่ใช่การดูหนง ฟงเพลง เล่นเกม พูดคุย พักผ่อนตามปกติ


ธรรมดานะค่ะ เซนเซบอกว่า เห็นประโยคข ้างต ้นแล ้ว นึกภาพว่า ที่บ ้านจัดกิจกรรมเข ้าค่ายลูกเสืออะไร
ประมาณน้นค่ะ ^^ เพราะฉะน้น ในกรณีที่ทําสิ่งที่สัพเพเหระด ้วยกัน ใช ้ แค่คําว่า こと koto ก็พอแล ้วค่ะ



1 階では、家族で一緒にいろいろなことをします 。
Ikkai dewa, kazoku de isshoni iroirona koto o shimasu.

ที่ชั้น 1 ครอบครัวจะทาสิ่งต่างๆ ด ้วยกัน



ในทานองเดียวกัน ถ ้าเราจะพูด/เขียนถึง “กิจกรรมยามว่าง” ก็จะไม่ใช ้ คําศัพท์ว่า 活動 katsudou แต่ใช ้

แค่คาว่า こと koto ก็พอค่ะ

暇な時にする/やること

Hima na toki ni suru / yaru koto
กิจกรรมยามว่าง





ั่
พูดถึง 活動 katsudou ขอพูดถึงคาศัพท์ทีต่อท ้ายด ้วย 活動 katsudou 2 คําที่นาสนใจไว ้ด ้วยค่ะ นนคือ


คาว่า 就職活動 shuushoku katsudou กิจกรรมการหางาน (หรือพูดย่อๆ ว่า 就活 shuukatsu) และ


結婚活動 kekkon katsudou กิจกรรมการหาคู (หรือพูดย่อๆ ว่า 婚活 konkatsu) ค่ะ ที่นาสนใจ




เพราะว่า ที่ญี่ปุนมีการทาทั้งสองสิ่งนี้อย่างเปนกิจจะลักษณะและเปนงานเปนการอย่างมาก






โดย 就活 shuukatsu กิจกรรมการหางาน จะเริมกันตั้งแต่นกศึกษาขึนชั้นป 4 (ล่วงหน้าก่อนจบ 1 ปี)


บริษทต่างๆ ในญี่ปุนจะเริ่มประกาศจัด 説明会 setsumeikai งานอธิบายบริษทของตัวเอง เพือรบสมัคร





พนกงานใหม่สําหรบปหน้า นกศึกษาจะไปร่วมงาน 説明会 setsumeikai ดังกล่าว หากสนใจกยืนใบสมัคร





ไว ้ และหากผ่านการคัดเลือกรอบเอกสาร ก็เข ้าสู่การสอบสัมภาษณ์ ซึงอาจจะมีหลายรอบด ้วยกัน จนกว่าจะ
ได ้งานค่ะ

แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 28




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


ส่วน 婚活 konkatsu การหาคู่น้น สมัยนี้ส่วนมากก็จะพึ่งพาแอพพลิเคชัน โดยลงทะเบียนประวัติ รูปถ่าย




ความสนใจ ของตัวเองไว ้ แล ้วโปรแกรมก็จะจดคูมาให ้ ถ ้าเราสนใจคนไหนก็ติดต่อไป หรือบางบริษทที ่



ไม่ได ้ใช ้ แอพฯ ก็จะจดงาน Matching ให ้ทุกคนทีสมัครไปงาน ได ้พบพูดคุยกับอีกฝายหนึงคนละ 5-10


นาทีวนไป ในระหว่างคุย ถ ้าอยากสานสัมพันธ์กับใครก็แลกเบอร์ติดต่อกันไว ้ ประมาณน้นค่ะ






































































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 29




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ















วันนี้มาพูดถึงคาว่า かかる kakaru กันค่ะ คาว่า かかる kakaru นี เราเรียนกันมาว่าสามารถใช ้ กับ

เวลา และ เงิน ได ้ เพือพูดว่า ใช ้ เวลา/ใช ้ เงิน ไปเท่าไหร่ในการซือของหรือเดินทาง แต่จริงๆ แล ้วมันมี




ความหมายแฝงด ้วยค่ะ นนคือความหมายแฝงว่า ใช ้ เวลา”นาน” / ใช ้ เงิน”มาก” =แพง) ค่ะ อย่างน้อยก็คือผู้
พูดรู้สึกว่า “นาน” หรือ “แพง” นนเองค่ะ





ดังน้น เราจึงไม่สามารถใช ้ คาว่า かかる kakaru กับระยะทางทีผู้พูดคิดว่าใกล ้ หรือของทีผู้พูดคิดว่าราคา


ถูกได ้ค่ะ ประโยคข ้างบนจึงควรแก ้เปน


家は学校に近いです。歩いて 5 分ぐらいです。
Uchi wa gakkou ni chikai desu. Aruite 5-fun gurai desu.
บ ้านอยู่ใกล ้โรงเรียน เดินประมาณ 5 นาที




หรืออาจจะใช ้ คาช่วย で de ทีใช ้ แสดงขอบเขต มาช่วยก็ได ้ เพือบอกว่า ในขอบเขตระยะเวลา 5 นาทีกจะ

เดินถึง
家は学校に近いです。歩いて 5 分で着きます。
Uchi wa gakkou ni chikai desu. Aruite 5-fun de tsukimasu.


บ ้านอยูใกล ้โรงเรียน เดิน 5 นาทีกถึง

หากจะใช ้ かかる kakaru จะต ้องใช ้ ในรูปปฏิเสธ もかからない mo kakaranai ใช ้ เวลาไม่ถึง.... ค่ะ
家は学校に近いです。歩いて 5 分もかかりません。
Uchi wa gakkou ni chikai desu. Aruite 5-fun mo kakarimasen.
บ ้านอยูใกล ้โรงเรียน เดินใช ้ เวลาไม่ถึง 5 นาที


ด ้วยความหมายแฝงว่า นาน/แพง ดังกล่าว แค่เราพูดว่า 時間がかかる jikan ga kakaru หรือ お金がか
かる okane ga kakaru โดยไม่ต ้องบอกระยะเวลาหรือจานวนเงิน ก็จะมีความหมายว่า ใช ้ เวลานาน / ใช ้

เงินเยอะ ไปโดยปริยายค่ะ เช่น

ワクチンの開発をするには有効性・安全性の確認など様々なプロセスがあるため、時間がかか

る。
Wakuchin no kaihatsu o suru niwa yuukousei / anzensei no kakunin nado samazama na
purosesu ga aru tame, jikan ga kakaru.
ในการพัฒนาวัคซีนมีกระบวนการต่างๆ หลายขั้นตอน เช่น การตรวจสอบประสิทธิผล/ความปลอดภัย ดังน้น

จึงใช ้ เวลานาน

แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 30




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


A : 日本に留学したいけど、お金かかるから、無理かな。
Nihon ni ryuugaku shitai kedo, okane kakaru kara, muri kana.


อยากไปเรียนที่ญี่ปุน แต่ว่าใช ้ เงินเยอะเลย นาจะไม่ไหว
B : 奨学金あるらしいよ。調べてみな。
Shougakukin aru rashii yo. Shirabete mina.
เขามีทุนเรียนให ้นะ ลองไปหาดูสิ






































































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 31




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
















ประโยคในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องของไวยากรณ์แต่อย่างใด แต่เปนการเลือกใช ้ คา/ประโยคกับผู้ทีอาวุโสกว่าค่ะ



ประโยคว่า 「いいですよ。Ii desu yo. ได ้ครบ/ค่ะ」ลงท ้ายด ้วย です。desu. เปนประโยคสุภาพก็จริง
แต่ก็ยังไม่เหมาะที่จะใช ้ กับผู้ที่อาวุโสกว่าค่ะ ทั้งนี้เนื่องจากประโยคนี้ให ้ความหมายของการอนญาต จึงให ้


ความรู้สึกว่าผู้พูดอาวุโสกว่าผู้ฟงค่ะ



ถ ้าอย่างน้นควรจะใช ้ คาว่าอะไรดีล่ะ? ให ้ใช ้ ประโยคเหล่านี้แทนค่ะ


はい、わかりました。Hai, wakarimashita. เข ้าใจแล ้ว(รบทราบ)ครบ/ค่ะ



はい、大丈夫です。Hai, daijoubu desu. ได ้ครบ/ค่ะ
はい、もちろんです。Hai, mochiron desu. ได ้แนนอนครบ/ค่ะ





ในทานองเดียวกันค่ะ ลองดูประโยคต่อไปนีดู

อาจารย์ : これから聞き取りします。いいですか。

Korekara kikitori shimasu. Ii desuka.

จากนี้ไปจะ dictation (เขียนตามคาบอก) พร ้อมมั้ย

นกเรียน : はい、いいです。✖

Hai, ii desu.

ครบ/ค่ะ






>>อย่างทีบอกข ้างต ้นว่า いいです。Ii desu. น้น ให ้ความหมายของการอนญาต ทาให ้กลายเปนว่า
อาจารย์ขออนญาตจะทา dictation และนกเรียนอนญาตให ้อาจารย์ทาค่ะ ทาให ้อาจารย์ฟงแล ้วรู้สึกแปลกๆ









เปนอย่างมากนนเองค่ะ ควรตอบแค่ はい。Hai. อย่างเดียวก็พอค่ะ


อีกประโยคหนึ่งที่ยูกิเซนเซฝากมาค่ะ นนคือ การถามผู้ทีอาวุโสกว่าว่า “ทา....แล ้วหรือยัง” เช่น




นกเรียน : 先生、先週の作文はもうチェックしましたか。

แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 32




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ


Sensei, senshuu no sakubun wa mou chekku shimashita ka.



อาจารย์ครบ/คะ ตรวจเรียงความของอาทิตย์ทีแล ้วหรือยังครบ/คะ

อาจารย์ : #!%




การถามแบบนีเหมือนกับเปนการเร่งอาจารย์ ซึงดูเปนการเสียมารยาทค่ะ ถ ้าหากว่าผ่านไปนานแล ้วจริงๆ




หรือมีเหตุจาเปนทีจะต ้องถามจริงๆ อาจถามแบบพูดไม่จบประโยคแบบข ้างล่างนีค่ะ
先生、先週の作文なんですが......
Sensei, senshuu no sakubun nan desu ga......


อาจารย์ครบ/คะ เรียงความของอาทิตย์ทีแล ้วนะค่ะ.....


หรือจะใช ้ รูปประโยค ~ていただけましたか。-te itadakemashita ka. ก็ได ้ค่ะ
先生、先週の作文はもうチェックしていただけましたか。

Sensei, senshuu no sakubun wa mou chekku shite itadakemashitaka.




อาจารย์ครบ/คะ ตรวจเรียงความของอาทิตย์ทีแล ้วให ้แล ้วหรือยังครบ/คะ






แนนอนค่ะว่า ถ ้าเปนเรืองอืนๆ คือไม่ใช่เรืองทีฟงดูเหมือนไปเร่งผู้ทีอาวุโสกว่า กสามารถถามได ้ตามปกตินะ




คะ เช่น
先生はもうお昼ご飯食べましたか。
Sensei wa mou ohirugohan tabemashitaka.

อาจารย์ทานข ้าวกลางวันแล ้วหรือยังครบ/คะ






























แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 33




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ















วันนี้เปนคล ้ายๆ ภาคต่อของ いいですよ。Ii desu yo. ได ้สิ ในบทความก่อนนะคะ ในบทก่อนเราพูดกัน



ว่า いいですよ。Ii desu yo. ได ้สิ น้นมีความหมายของการอนญาตแฝงอยู จึงไม่ควรใช ้ ตอบกลับ



ประโยคขอร ้องหรือขออนญาตของผู้ทีอาวุโสกว่า วันนีมาดูในบริบทพูดกับเพือนกันค่ะ



ประโยคตัวอย่างทียกมา เปนสถานการณ์ที่เพือนกําลังมีปญหา และผู้พูดอยากจะช่วยเพือน จึงบอกไปว่า 何





かあったら、私に言ってもいいよ。Nanika attara, watashi ni ittemo ii yo. ถ ้ามีอะไร บอกฉน
ได ้นะ ในภาษาไทย ประโยคนีฟงดูไม่มีปญหาแต่อย่างใด แต่ในภาษาญี่ปุน คนญี่ปุนฟงแล ้วรู้สึกแปลกๆ ค่ะ









เหมือนกับผู้พูดอยูเหนือกว่าผู้ฟง ยูกิเซนเซใช ้ คําว่า 上の目線 ue no mesen มองด ้วยสายตาของผู้ทีอยู ่






ข ้างบน (เหนือกว่า) เพราะเปนรูปประโยคอนญาตนนเองค่ะ แทนทีจะใช ้ รูปประโยคอนญาต ควรใช ้ เปนรูป

ขอร ้องมากกว่าค่ะ

何かあったら、私に言ってね。
Nanika attara, watashi ni itte ne.
ถ ้ามีอะไร บอกฉนนะ


คล ้ายๆ กันกับตัวอย่างข ้างต ้น และคนไทยมักใช ้ กันคือ ในตอนแนะนาตัวค่ะ เนื่องจากชื่อและนามสกุลของ







ไทยเรายาวและหลายคร้งก็ยากสําหรบคนญีปุน เราจึงมักจะบอกชือเล่นด ้วย เพื่อให ้คนญีปุนเรียกง่ายๆ โดย


เราจะพูดว่า ......と呼んでもいいです。......to yondemo ii desu. เรียกว่า.......ก็ได ้ครบ/ค่ะ คนไทย




เราพูดด ้วยความรู้สึกว่าให ้สิทธิคนฟงเปนผู้เลือกว่าจะเรียกแบบไหน ฟงดูใจดีกว่าบังคับผู้ฟงให ้เรียกเราแบบ




น้นแบบนีเสียอีก แต่คนญีปุนกลับฟงแล ้วรู้สึกตรงกันข ้ามค่ะ คนญีปุนจะรู้สึกไม่พอใจนิดหนอยว่า “ไม่ได ้ขอ







อนญาตเรียกแบบน้นซักหนอย มาอนญาตทาไม” ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ควรใช ้ เปนรูปขอร ้องค่ะ




......と呼んでください。
......to yonde kudasai.
เรียกว่า.......นะครบ/นะคะ





นาสนใจดีนะคะ รูปประโยคเดียวกันแท ้ๆ (~てもいい temo ii ...ก็ได ้) แต่ในภาษาไทยกับญีปุนกลับให ้

ความรู้สึกต่างกันได ้ขนาดนี

แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 34




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ






อนึง ขอตั้งข ้อสังเกตไว ้ว่า ในภาษาญีปุนน้น รูปประโยค ~てもいいです。temo ii desu. มักใช ้ เป็น



คาถามเพือขออนญาตค่ะ ไม่ค่อยใช ้ เปนประโยคบอกเล่าขึนมาลอยๆ รวมทั้งตอบรบการขออนญาตก็ไม่นิยม




ใช ้ ค่ะ เช่น

ทีโรงอาหาร ทีนงข ้างๆ เราว่าง มีคนเดินหาที่นงอยู่ เราจึงบอกเขาว่านงตรงนีก็ได ้

ั่






✖ここに座ってもいいですよ。
Koko ni suwattemo ii desu yo.
ั่
นงตรงนี้ก็ได ้นะครับ/คะ
〇もしよかったら、ここどうぞ。
Moshi yokattara, koko douzo.
ถ ้าไม่รังเกียจ เชิญตรงนี้ครับ/ค่ะ

>>ไม่ใช ้ คาว่า ~てもいいです。temo ii desu. แต่ใช ้ どうぞ douzo แทนค่ะ

กรณคล ้ายๆ กัน ที่โรงอาหาร ที่นงข ้างๆ เราว่าง มีคนเดินหาที่นงอยู่และถามว่านงตรงนี้ได ้มั้ย
ั่
ั่
ั่

ここに座ってもいいですか。
Koko ni suwattemo ii desuka.

นงตรงนีได ้มั้ยครบ/คะ



✖はい、(座っても)いいです。
Hai, (suwattemo) ii desu.
ครับ/ค่ะ นงได ้ครับ/ค่ะ
ั่
〇はい、どうぞ。
Hai, douzo.

เชิญครบ/ค่ะ
>>แม ้จะเปนการตอบรบการขออนญาต ก็ไม่นิยมใช ้ ~てもいいです。temo ii desu. อยูดีค่ะ ขนาด





ในบริบทเพือนกัน ใช ้ ~てもいい temo ii ในรูปบอกเล่า ก็ยังรู้สึกแปลกๆ แนนอนเลยค่ะว่า ไม่ควรใช ้ กับผู้

ทีอาวุโสกว่านะคะ



















แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 1 ผดตรงไหน? 35




#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ









วันนี้ได ้คุยกับยูกิเซนเซ แล ้วก็ได ้เจอกับเรื่องที่คนไทยมักจะผิดกันโดยอาจจะไม่รู้ตัว นนคือ การใช ้ คาว่า 私



は Watashi wa บ่อยมากเกินไปค่ะ





เราคงได ้เรียนกันมาใช่มั้ยคะว่า ในภาษาญีปุนน้น เราสามารถละประธานได ้ โดยเฉพาะเมือตัวผู้พูดเองเปน

ประธานในประโยค ในภาษาไทยเอง ก็มีลักษณะคล ้ายๆ กัน คือสามารถละประธานได ้ ไม่ต ้องพูดคาว่า “ฉัน”


ไปซะทุกประโยค ดังน้นเราจึงอาจจะรู้สึกว่าสามารถใช ้ ได ้ตามเซ ้ นส์แบบภาษาไทย แต่จริงๆ แล ้วมันมีความ

ต่างอยูค่ะ


หลายคร้งทีคนไทยพูด 私は Watashi wa ฉน... นาหน้าประโยค คนญีปุนฟงแล ้วจะรู้สึกแปลกๆ ค่ะ










เนืองจากว่าโดยปกติแล ้ว กรณทีรู้อยูแล ้วว่าประธานในประโยคคือใคร คนญีปุนจะละไว ้ไม่พูด ถ ้าพูดว่า 私は



Watashi wa ออกมาด ้วย ก็แปลว่า ต ้องการเน้นเปนพิเศษ อาจจะเพื่อเปรียบเทียบว่า หมายถึงฉนนะ ไม่ใช่


คนอื่น





อย่างเช่น กรณแนะนาตัว ทุกคนคงเคยเรียนกันมาว่า 私は (ชือ) です。Watashi wa (ชือ) desu. ฉนชือ...



ใช่มั้ยคะ แต่ถ ้าใครไปลองสังเกตเวลาคนญี่ปุนแนะนาตัวกัน จะเหนได ้ว่าไม่มีใครพูดว่า 私は Watashi wa


(รวมถึงสรรพนามอื่นๆ ที่ใช ้ เรียกตัวเองด ้วย) เลย แต่จะพูดชือ .....です。desu. ไปเลยค่ะ เพราะใน




สถานการณ์แนะนาตัวเอง แม ้จะมีคนอยูหลายคนก็ตาม ทุกคนก็คงแนะนาตัวเองกันทั้งน้น คงไม่มีใครพูด






แนะนาชื่อคนอื่นหรอก ดังน้นเมื่อเราพูดว่า 私は (ชือ) です。Watashi wa (ชือ) desu. ฉนชือ... คนญีปุน



จึงรู้สึกแปลกๆ ค่ะว่า ทาไมต ้องมาเน้นว่าเปน “ฉัน” ด ้วย การแนะนาตัว มันก็ต ้องเปน “ฉัน” อยู่แล ้วนี่นา ไม่




เห็นต ้องมาเน้นเลย


ยูกิเซนเซยกตัวอย่าง 2 ประโยคทีนกเรียนไทยมักจะใช ้ เวลาส่งไลน์ติดต่ออาจารย์มา และอาจารย์รู้สึก

แปลกๆ เปนอย่างมากมาฝากกันค่ะ







หนึงในน้นกคือ 私は (ชือ) です。Watashi wa (ชือ) desu. หน/ผมชือ... นี่แหละค่ะ



อีกประโยคนึงก็คือ 私は質問があります。Watashi wa shitsumon ga arimasu. หน/ผมมีคาถาม



อาจารย์บอกว่า ฟงแล ้วมักจะนึกว่า “ก็นาจะเปนอย่างน้นแหละ หนคงไม่เอาคาถามของเพือนมาถามหรอก






ใช่มั้ย” นะค่ะ ^^;


ทุกคนลองไปสังเกตและปรบใช ้ ดูนะคะ


แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 36





#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ











แม ้ว่าคาว่า もらう morau จะแปลว่า ได ้, ได ้รับ แต่ในหลายกรณ คนญี่ปุนจะไม่ใช ้ คํานี้กัน







กรณแรกสุดเลย ทีในภาษาญีปุนจะไม่ใช ้ คาว่า もらう morau นนคือ กรณของการได ้สิงทีเปนไปในทาง








ลบ หรือสิงที่ไม่ปรารถนาค่ะ ในภาษาไทยเรา เราสามารถพูดได ้ว่า สอบคร้งนี “ได ้” คะแนนน้อย แต่ใน


ภาษาญีปุนจะไม่สามารถพูดว่า

✖今回の試験、低い点数をもらった。
Konkai no shiken, hikui tensuu o moratta.


>> คนญีปุนฟงแล ้วจะงงค่ะว่า “เอ๋ ตกลงอยากได ้คะแนนน้อยเหรอ??”




ในกรณนี คนญีปุนจะพูดว่า


〇今回の試験、点数が低かった。
Konkai no shiken, tensuu ga hikukatta.
สอบคร้งนี คะแนนน้อย




นอกจากนี คําว่า “ได ้รบความรู้” “ได ้รบประสบการณ์” แม ้จะเปนเรื่องในทางบวก แต่ในภาษาญี่ปุนก็ไม่นิยม




ใช ้ もらう morau กันค่ะ

คาว่า 知識 chishiki ความรู้ ภาษาญีปุนมักใช ้ คูกับคาว่า 持っている motteiru มี(ความรู้) มากกว่า ถ ้าจะ





พูดว่า “ได ้รบความรู้จากอาจารย์คนน้นมากมาย” ภาษาญี่ปุนจะพูดว่า




あの先生からたくさんのことを教わった。
Ano sensei kara takusan no koto o osowatta.
ได ้รบการสอนหลายอย่างจากอาจารย์คนน้น



หรือ
あの先生からたくさんのことを学んだ
Ano sensei kara takusan no koto o mananda.
ได ้เรียนหลายอย่างจากอาจารย์คนน้น


แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 37





#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ





ส่วน 経験 keiken ประสบการณ์ ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะรับมอบกันค่ะ แต่เปนสิ่งที่ต ้องทําหรือสั่งสมเอง ภาษาญี่ปุน



ใช ้ คาว่า 経験をする keiken o suru ได ้มีประสบการณ์ หรือ 経験を積む keiken o tsumu สังสม
ประสบการณ์ ดังน้น ถ ้าจะพูดว่า “ได ้รบประสบการณ์มากมายจากการฝกงานในคร้งนี” ภาษาญี่ปุนจะพูดว่า






今回のインターンで、いろいろな経験ができた。
Konkai no intaan de, iroiro na keiken ga dekita.


ได ้มีประสบการณ์ทีหลากหลายจากการฝกงานในครั้งนี






























































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 38





#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ










วันนี้เปนเรื่องของคําศัพท์ “เก่า” ค่ะ คําว่า เก่า คือคําว่า 古い furui กจริง แต่ถ ้าพูดว่า 古い試験問題
ื่




furui shikenmondai สิ่งที่คนญี่ปุนนึกถึงจะเปน ข ้อสอบที่เก่าคร่าคร่าแบบกระดาษจะเปอยอยู่แล ้วนะค่ะ




ไม่ใช่ข ้อสอบทีเคยออกในอดีตค่ะ อาจารย์ญี่ปุนคงจะงงๆ ปนขําๆ ถ ้านกเรียนไทยทีแสนขยันไปขอดู 古い
試験問題 furui shikenmondai เพื่อเตรียมตัวสอบ ^^


คาว่า ข ้อสอบทีเคยออกในอดีต ภาษาญีปุนจะใช ้ คาว่า 過去の試験問題 kako no shikenmondai หรือ




จะย่อเหลือ 過去の問題 kako no mondai หรือจะย่ออีกเหลือเพียง 過去問 kakomon ก็ได ้ค่ะ

เช่นเดียวกันค่ะ ถ ้าจะพูดถึงคนทีเปนอดีตไปแล ้ว เช่น แฟนเก่า ภรรยาเก่า กจะไม่ใช ้ 古い furui นะคะ แต่



จะใช ้ 元 moto เช่น 元彼女 motokanojo (วัยรุ่นอาจย่อเปน 元カノ motokano ) อดีตแฟนสาว, 元




彼氏 motokareshi (อาจย่อเปน 元カレ motokare ก็ได ้) อดีตแฟนหนม, 元妻 mototsuma อดีต
ภรรยา เปนต ้นค่ะ ถ้าถูกเรียกเปน 古い彼女 furui kanojo นาจะมีโกรธกันบ ้างนะคะ









หรือทีง่ายกว่าน้นก็คือคาว่า 前の mae no ค่ะ ซึงใช ้ ได ้กับทั้งคนและสิงของเลยค่ะ แต่จะหมายถึง คนหรือ

สิ่งของอันสุดท ้ายก่อนหน้าปจจุบันนี้เท่าน้นนะคะ สมมติว่า เคยมีแฟนมาแล ้วหลายคน 前の彼女 mae no


kanojo จะหมายถึง แฟนคนล่าสุดก่อนหน้าคนปจจุบัน ค่ะ ต่างจาก 元彼女 motokanojo ที่จะ

หมายความโดยรวมถึงอดีตแฟนทุกคน หรืออดีตแฟนคนใดคนหนึงโดยไม่เฉพาะเจาะจงว่าเปนคนล่าสุดก่อน

ปจจุบันค่ะ เช่น


今になっても前の彼女のことをまだ忘れられない。
Ima ni nattemo mae no kanojo no koto o mada wasurerarenai.
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถลืมเรื่องของแฟนเก่า (แฟนคนก่อนหน้านี้) ได ้

前のスマホのほうが使いやすかったなあ。

Mae no sumaho no hou ga tsukaiyasukatta naa.

สมาร์ทโฟนเครื่องเก่า (เครืองก่อนหน้าเครืองปจจุบัน) ใช ้ ง่ายกว่าแฮะ





พูดถึงเรืองข ้อสอบ ขอแถมนิดนึงค่ะว่า คาว่า โจทย์หรือคาถามในข ้อสอบ หรือในรายการเกมโชว์ต่างๆ นี ้




ภาษาญี่ปุนจะใช ้ คําว่า 問題 mondai ไม่ใช ้ คาว่า 質問 shitsumon ค่ะ เคยมีคนญี่ปุนแยกวิธีใช ้ ให ้ฟงว่า


แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 39





#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ









ถ ้าเปนคาถามทีคนถามรู้คาตอบอยูแล ้ว เช่น ครูผู้ออกข ้อสอบคิดคาถามมาถาม แบบนีให ้ใช ้ 問題 mondai





แต่ถ ้าเปนคาถามทีผู้ถามเองไม่รู้คาตอบ และต ้องการให ้ผู้ฟงช่วยตอบให ้ จะใช ้ 質問 shitsumon ค่ะ
ฉะน้น สมมติไปพรีเซนต์ในที่ประชุมซักที่นึง พรีเซนต์จบแล ้วจะบอกว่า มีคาถามอะไรมั้ยคะ ต ้องถามว่า



何か質問がありますか。
Nanika shitsumon ga arimasuka.
มีคาถามอะไรมั้ยคะ





ไม่ใช ้ 問題 mondai นะคะ เพราะจะกลายเปน “มีปญหาอะไรมั้ยคะ” ไป เนืองจากคาว่า 問題 mondai







นอกจากจะแปลว่า โจทย์คาถาม แล ้วก็แปลว่า ปญหา ได ้อีกด ้วย เขาจะฟงเปนคาถามหาเรืองชวนทะเลาะ
กันไปเปล่าๆ ค่ะ ^^;















































แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 40





#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ













ยูกิเซนเซได ้ตั้งข ้อสังเกตไว ้ว่า ในภาษาไทย เราสามารถพูดถึงภาษาต่างๆ โดยละคาว่า “ภาษา” ไว ้ได ้ เช่น



พูดไทยชัดจง เรากเข ้าใจได ้ว่าพูดถึงภาษาไทย ไม่ใช่ประเทศไทย แต่ในภาษาญี่ปุนละคําว่า ~語 go

ภาษา ไม่ได ้ค่ะ แม ้ว่าจะเปนการตอบคาถามทีเปนทีรู้กันอยูแล ้วว่าพูดถึงเรืองภาษากตาม เช่น









A : 日本語お上手ですね。
Nihongo ojouzu desune.

พูดภาษาญี่ปุนเก่งจังเลยนะคะ
B : 語学は私の趣味です。いろんな言葉で話すのが楽しいです。
Gogaku wa watashi no shumi desu. Ironna kotoba de hanasu no ga tanoshii desu.



การเรียนภาษาเปนงานอดิเรกของฉนค่ะ การได ้พูดภาษาต่างๆ มันสนกดี
A : へえ、すごいですね。今は何語を勉強してるんですか。
Hee, sugoi desune. Ima wa nanigo o benkyou shiterun desuka.

โอ ้ เยี่ยมไปเลยนะคะ แล ้วตอนนีกําลังเรียนภาษาอะไรอยูเหรอคะ

B : 最近、韓国「語」を勉強しています。
Saikin, kankoku “go” o benkyoushite imasu.

ช่วงนี้ กําลังเรียน “ภาษา” เกาหลีค่ะ

>>จะสังเกตเห็นว่า แม ้ว่าจะรู้อยู่แล ้วว่าพูดถึงเรื่องภาษา B กไม่สามารถละคาว่า 語 go ในคาว่า 韓国語



kankokugo ในการตอบคาถามได ้ค่ะ



ยูกิเซนเซเล่าว่า เคยถามนกศึกษาว่าเพือนของเขาเรียนอยูภาควิชาอะไร แล ้วนกศึกษาตอบว่า イギリスで




す。Igirisu desu. อังกฤษ อาจารย์ก็งงไปซักพักว่ามีภาควิชาทีสอนเกียวกับประเทศอังกฤษด ้วยเหรอเนีย


... แล ้วค่อยนึกออกว่า あー、英語学科ですね。Aa, Eigo gakka desu ne. ภาควิชาภาษาอังกฤษ
นี่เอง ^^











แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 41





#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
















วันนีมาด ้วยเรืองของคาว่า จาไม่ได ้ ค่ะ จะผันกริยาเปนรูปอะไรดี? ยูกิเซนเซอธิบายมาดังนี้ค่ะ




ก่อนอืน คาว่า จาไม่ได ้ ถ ้าแยกตามแนวคิดของภาษาญีปุนจะได ้ 2 แบบค่ะ ได ้แก่ a.แสดงสภาพว่า ณ




ขณะนี้จาไม่ได ้ b. แสดงความสามารถว่า ไม่สามารถจาได ้ ใครตอบได ้บ ้างคะว่าแต่ละแบบใช ้ การผันเปนรูป


ไหน?
.
.
.





เฉลยค่ะ a. ในการแสดงสภาพปจจุบันว่า จาไม่ได ้ น้น ให ้ใช ้ รูป 覚えていない oboeteinai ค่ะ แต่ถ ้าเปน


b. การพูดถึงความสามารถว่า ไม่สามารถจาได ้ อาจจะด ้วยเหตุผลว่าสิงทีต ้องจาน้นมันยากหรือเยอะ หรือ








ด ้วยเหตุผลว่าเปนคนความจาไม่ดีก็ได ้ กรณแบบนีให ้ใช ้ เปน 覚えられない oboerarenai ค่ะ ยกตัวอย่าง
เช่น
先生 : 昨日習った漢字、もう覚えましたか。テストしましょう。
Sensei : Kinou naratta kanji, mou oboemashita ka. Tesuto shimashou.
ครู : คันจิที่เรียนไปเมื่อวานนี้ จาได ้แล ้วรึยัง เดียวเรามาทดสอบกัน


学生 A: えっ!?まだ覚えていません。
Gakusei A : E!? Mada oboete imasen.
นกเรียน A : ยังจาไม่ได ้ค่ะ


学生 B: 先生、20 個もありますから、すぐ覚えられませんよ。
Gakusei B : Sensei, nijuk-ko mo arimasu kara, sugu oboeraremasen yo.


นกเรียน B : คุณครูคะ มีตั้ง 20 ตัว จาไม่ได ้ทันทีหรอกค่ะ


>>นกเรียน A เพียงแค่บอกสภาพปจจุบันของตัวเองว่า ยังจาคันจิไม่ได ้ จึงใช ้ เปน 覚えていない oboete



inai ในขณะที่นกเรียน B บอกว่า คันจิเยอะมาก ไม่สามารถจาได ้ทั้งหมดในเวลาอันสั้น จึงใช ้ เปน 覚えられ


ない oboerarenai




แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 42





#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ





ส่วน 覚えない น้นค่อนข ้างต่างออกไปค่ะ เพราะหมายความว่า จะไม่จา เปนการแสดงความตั้งใจว่า จะไม่

จา ค่ะ เช่น
この漢字は常用漢字じゃないから、覚えなくてもいいです。
Kono kanji wa jouyou kanji janai kara, oboenakutemo ii desu.


คันจิตัวนี้ไม่ใช่คันจิที่ใช ้ ในชีวิตประจาวัน ฉะน้นไม่ต ้องจาก็ได ้ค่ะ





>>อันนีไม่ได ้พูดถึงความสามารถ และไม่ได ้พูดถึงสภาพว่าขณะนีจาได ้หรือไม่ แต่บอกว่า ไม่จาเปนต ้อง


พยายามจาก็ได ้ จึงใช ้ 覚えない oboenai ค่ะ



ั่

เหนว่าไหนๆ ก็พูดเกี่ยวกับคําว่า จาไม่ได ้ เซนเซเลยแถมมาอีก 2 คําค่ะ นนคือ 思い出さない

omoidasanai、思い出せない omoidasenai นึกไม่ออก ค่ะ คาแรก 思い出さない omoidasanai

จะให ้ความรู้สึกของความตั้งใจรวมอยูด ้วย “ไม่พยายามนึก” ในขณะที่ 思い出せない omoidasenai จะ
ให ้ความหมายว่า ไม่สามารถนึกออกได ้ (ทั้งๆ ที่พยายามนึก) ค่ะ

มาดูตัวอย่างการใช ้ โดยรวมกันนะคะ
警察:犯人の顔、覚えていますか。どんな顔ですか。

Keisatsu : hannin no kao, oboete imasu ka. Donna kao desuka.




ตารวจ : จาหน้าคนร ้ายได ้มั้ยครบ หน้าตาเปนยังไงครบ

被害者:覚えていません。思い出そうとしたら、頭が痛くて...。すみませんが、思い出せない
んです。
Higaisha : Oboete imasen. Omoidasou to shitara, atama ga itakute... Sumimasenga,

omoidasenain desu.
ผู้เสียหาย : จาไม่ได ้ค่ะ พอพยายามจะนึก ก็ปวดหัวมาก... ขอโทษค่ะ นึกไม่ออกเลยค่ะ

警察:あ、じゃ、まだ無理に思い出さないほうがいいかもしれませんね。

Keisatsu : A, ja, mada muri ni omoidasanai hou ga ii kamoshiremasen ne.
ตํารวจ : อ๊ะ ถ ้าอย่างน้น อย่าเพิ่งพยายามฝืนนึกอาจจะดีกว่านะครบ



>> เริมด ้วยตารวจถามถึงสภาพปจจุบันของผู้เสียหายว่า จาหน้าคนร ้ายได ้หรือไม่ และผู้เสียหายก็ตอบถึง



สภาพว่า จาไม่ได ้ และพูดต่อไปว่า พยายามจะนึก (思い出す omoidasu) แต่ก็นึกไม่ออก (ไม่สามารถนึก

ออกมาได ้) จึงใช ้ ว่า 思い出せない omoidasenai ค่ะ และสุดท ้ายตารวจบอกว่า ยังไม่ต ้องพยายามนึก (

思い出さない omoidasanai)










แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 43





#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
















ยูกิเซนเซบอกว่านกเรียน/นกศึกษาถามเซนเซเกียวกับชัวโมงสอนของอาจารย์ โดยใช ้ คาว่า 教える

oshieru ที่แปลว่าสอน มากเกินไป!! อ ้าว แล ้วมันผิดตรงไหน ยกตัวอย่างเช่น
先生は2年生も教えますか。
Sensei wa 2-nensei mo oshiemasu ka.


อาจารย์สอนป 2 ด ้วยมั้ยคะ


今日の午後、先生教えますか。相談したいことがありますが。
Kyou no gogo, sensei oshiemasu ka. Soudan shitai koto ga arimasu ga.

บ่ายวันนี อาจารย์สอนมั้ยครบ ผมมีเรื่องอยากปรึกษาอาจารย์ครบ





เซนเซอธิบายเหตุผลอย่างนี้ค่ะ คากริยาว่า 教える oshieru สอน เปนกริยาทีมีความหมายของความตั้งใจ






แฝงอยู่ด ้วย กล่าวคือ ต ้องตั้งใจและสมองสั่งให ้ทา ถึงจะทากริยานี้ได ้ ต่างจากกริยาทีเปนปฏิกิริยาอัตโนมัติ
หรือแสดงสภาพหรือความรู้สึก เช่น せきが出る seki ga deru ไอ, ある aru มี, 怒る okoru โกรธ


เปนต ้น ยิงนามาใช ้ กับรูปประโยคไม่อดีต ~ます masu กยิงเพิมนาหนกของความหมายแฝงว่า “(ตั้งใจ)







จะ”ทากริยาน้นเข ้าไปอีก ดังน้น เวลาถูกถามว่า



先生は2年生も教えますか。
Sensei wa 2-nensei mo oshiemasu ka.




อาจารย์ญีปุนจะฟงเหมือนกับถูกถามว่า “อาจารย์ตั้งใจจะสอนป 2 ด ้วยมั้ย” บางคนอาจจะคิดว่า “เอ๊ะ มา



ถามความตั้งใจของเราทาไม มันเปนเรืองทีทางภาควิชาฯ กาหนดไว ้ไม่ใช่เหรอ หรือเขารู้สึกว่าเราจะไม่







ตั้งใจสอน? หรือเขารู้สึกว่าเราจะตั้งใจสอนป 2 มากกว่าสอนเขา?” คือเขารู้สึกว่าเปนคาถามทีมีนยยะอะไร




ซักอย่างแฝงอยูนะค่ะ ดังน้นควรใช ้ คาว่า 授業がある jugyou ga aru มีชัวโมงเรียน/สอน แทน เพราะ


เปนคํากริยาแสดงสภาพ ไม่ได ้มีความหมายของความตั้งใจแฝงอยูค่ะ อาจารย์ญีปุนจะได ้ไม่คิดมากนะคะ




^^
〇 先生は2年生の授業もありますか。
Sensei wa 2-nensei no jugyou mo arimasu ka.


อาจารย์มีชัวโมงสอนนกศึกษาป 2 ด ้วยมั้ยคะ

แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 44




Click to View FlipBook Version