#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
อีกตัวอย่างนึงจากข ้างบนค่ะ
✖今日の午後、先生教えますか。
Kyou no gogo, sensei oshiemasu ka.
บ่ายวันนี อาจารย์ “จะ” สอนมั้ยครบ
้
ั
〇 今日の午後、先生は授業ありますか。
Kyou no gogo, sensei wa jugyou arimasu ka.
่
บ่ายวันนี อาจารย์มีชัวโมงสอนมั้ยครบ
ั
้
>>เช่นเดียวกันค่ะ ถ ้าถามด ้วย 教える oshieru จะฟงเหมือนกับว่า อาจารย์นีช่างเอาแต่ใจตัวเอง จะเปด
ั
ิ
้
ั
็
สอนหรือไม่สอนก็ได ้แล ้วแต่อารมณ์วันน้น ควรใช ้ เป็น 授業がある jugyou ga aru เปนการแสดงสภาพ
อย่างเปนกลางๆ ดีกว่าค่ะ
็
่
่
็
คาว่า 授業 jugyou ส่วนใหญ่แล ้ว เรามักจะนึกถึงว่าแปลว่า “ชัวโมงเรียน” ซึงเปนการมองจากมุมมองของ
ํ
่
ผู้เรียน แต่จริงๆ แล ้วมันสามารถแปลว่า “ชัวโมงสอนของอาจารย์” ได ้เช่นเดียวกันค่ะ
อ ้อ ขอแถมอีกประโยคนึงค่ะ “อยากเรียนกับอาจารย์...” จะไม่ใช ้ ว่า ...先生と勉強したいで
ั
่
็
す。 ...sensei to benkyou shitai desu. นะคะ เพราะนนแปลว่า อาจารย์กมาร่วมเรียนด ้วยกันค่ะ ><
ให ้ใช ้ ว่า
〇...先生の授業を受けたいです。
....sensei no jugyou o uketai desu.
อยากเข ้าเรียนชัวโมงสอนของอาจารย์....
่
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 45
ื
่
ิ
ิ
#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
ํ
ยูกิเซนเซวันนี้ขอหยิบยกคาว่า 集める atsumeru มาพูดอธิบายค่ะ เราทุกคนคงเคยเรียนกันมาตั้งแต่
็
์
่
ํ
ชั้นต ้นๆ ทีพูดถึงงานอดิเรก แล ้วมีคาว่า 切手を集める kitte o atsumeru สะสมแสตมป เรากเลยรู้สึกว่า
่
ั
ํ
ํ
คาว่า 集める atsumeru แปลว่า สะสม แต่ในความจริงแล ้ว นยของทั้งสองคาแตกต่างกันอยูค่ะ กล่าวคือ
คาว่า “สะสม” ในภาษาไทย มักจะเน้นความหมายไปทีการ “เก็บและทาให ้เพิ่มพูนขึ้นทีละเล็กละน้อย”
ํ
่
ํ
่
ในขณะทีคําว่า 集める atsumeru จะเน้นไปทีการ “เกบรวบรวมจากหลายๆ ทีมาไว ้ทีเดียว” มากกว่าค่ะ
่
่
่
็
ี
็
ในกรณของการสะสมแสตมป มีทั้งความหมายของการเกบรวบรวมจากหลายๆ ทีมาไว ้ทีเดียว และการเกบ
์
่
่
็
็
ั
้
เพิ่มขึ้นทีละเลกละน้อย จึงไม่มีปญหาอะไร แต่ในบางคําดังต่อไปนีจะเกิดปญหาขึนในการแปลค่ะ
ั
้
คากลุมแรกเลย คือ คาว่า “เกบสะสมเงิน” และ “เกบสะสมแต ้ม” อันนี้จะไม่ใช ้ ว่า お金を集める okane o
่
็
็
ํ
ํ
ํ
atsumeru / ポイントを集める pointo o atsumeru ค่ะ เพราะว่าเน้นความหมายไปที่การเก็บและทา
่
่
ี
ให ้เพิมพูนทีละเลกละน้อย ไม่ได ้เน้นไปทีการหาเงินหรือหาแต ้มมาจากทีต่างๆ ค่ะ กรณแบบนี้ เราจะใช ้
่
็
ํ
คากริยา 貯める tameru ค่ะ โดยคาว่า เก็บออมเงิน จะใช ้ คาว่า 貯金する chokin suru ไปเลยก็ได ้ค่ะ
ํ
ํ
ํ
็
หากเราใช ้ คาว่า お金を集める okane o atsumeru จะหมายถึง การเกบรวบรวมเงินจากหลายๆ คนค่ะ
้
่
ั
้
เช่น ในห ้องเรียน มีการเก็บรวบรวมเงินจากนกเรียนทุกคนเพือไปซือขนมมาจดงานปาร์ตี เปนต ้น
ั
็
ํ
่
่
ั
ั
่
่
อีกคานึงทียูกิเซนเซบอกว่าเคยเจอนกเรียนใช ้ คาว่า 集める atsumeru แต่ญีปุนไม่ใช ้ กัน นนคือคําว่า
ํ
็
“สะสมประสบการณ์” ค่ะ จะไม่ใช ้ ว่า 経験を集める keiken o atsumeru แต่จะใช ้ เปนสํานวนว่า 経験を
積む keiken o tsumu ค่ะ คากริยา 積む tsumu นีเปนสกรรมกริยาคูกับคาว่า 積もる tsumoru ที่มัก
็
่
ํ
้
ํ
็
่
็
็
ใช ้ กับการที่หิมะทับถมกันนะค่ะ นอกจาก 経験 keiken ประสบการณ์ แล ้ว กจะเหนใช ้ เปนสํานวน 徳を積
ึ
ํ
็
่
ํ
む toku o tsumu ทาบุญ, 練習を積む ฝกฝนซํ้าๆ ค่ะ จะเห็นได ้ว่ามักจะใช ้ กับการกระทาทีเปนนามธรรม
็
่
ไม่ได ้ใช ้ กับการเก็บสะสมสิงของทีเปนรูปธรรมไว ้กับตัวจริงๆ
่
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 46
ิ
่
ิ
ื
#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
ิ
้
็
ํ
ั
ช่วงนีเปนช่วงแข่งกีฬาโอลิมปก อาจารย์เจอประโยคคาถามทีอาจารย์ฟงแล ้วรู้สึกแปลกๆ มาเล่าสู่กันฟงค่ะ
ั
่
็
มาคิดไปพร ้อมๆ กันนะคะ ว่าถ ้าเปนเราจะถามว่าอะไร
่
่
สถานการณ์ที 1 ถ ้าเราเหน/รู้ว่าเพือนคนญี่ปุนกําลังดูถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลอยู เราอยากรู้
่
่
็
ว่าทีมไหนแข่งกับทีมไหน เราจะถามว่าอะไรดีคะ
a. だれとだれ?Dare to dare? ใครกับใคร?
b. どことどこ? Doko to doko? ที่ไหนกับที่ไหน?
c. どっちとどっち? Dotchi to dotchi? ฝงไหนกับฝงไหน?
ั
ั
่
่
d. どれとどれ? Dore to dore? ทีมไหนกับทีมไหน?
.
.
.
เฉลยค่ะ b. どことどこ? Doko to doko? ที่ไหนกับที่ไหน?
อาจารย์บอกว่า คนไทยมักจะถามว่า a. だれとだれ?Dare to dare? ซึ่งคงเพราะคล ้ายกับภาษาไทย
็
็
่
ั
ที่มักจะถามว่า “ใครแข่งกับใคร” แต่คนญี่ปุนฟงแล ้วงงค่ะ เพราะว่าบาสเกตบอลเปนกีฬาที่เล่นเปนทีม ถาม
่
ว่า “ใคร” ซึงหมายถึงคนหนึงคน เขาเลยไม่รู้จะตอบเปนชือใครนะค่ะ อย่างในการแข่งโอลิมปกนีเปนการ
็
้
็
่
่
ิ
่
่
ํ
็
แข่งระหว่างประเทศกับประเทศ เขาจึงไม่ถามว่า “ใคร” แต่จะถามว่า “ที่ไหน” และต ้องการคาตอบเปนชือ
็
ประเทศ แม ้ว่าจะเปนกีฬาที่เล่นคนเดียวก็ตาม ก็ยังคงใช ้ ถามด ้วย どことどこ? Doko to doko? ที่ไหน
กับที่ไหน? และต ้องการคําตอบเปนชือประเทศเหมือนกันค่ะ ยกเว ้นเสียก็แต่เปนนกกีฬาทีมีชือเสียงมาก
่
็
ั
่
่
็
็
หรือทั้งคนถามและคนตอบรู้เรืองกีฬาประเภทน้นเปนอย่างดี ก็อาจจะถามและตอบเป็น “ใคร” และตอบเปน
็
ั
่
ชือคนก็ได ้ค่ะ
่
่
สถานการณ์ที 2 เมือเพือนดูการแข่งขันจบแล ้ว เราอยากรู้ว่าทีมไหนชนะ เราจะถามว่าอะไรดีคะ
่
่
a. だれが勝った?Dare ga katta? ใครชนะ?
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 47
ิ
ิ
ื
่
#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
่
b. どこが勝った? Doko ga katta? ทีไหนชนะ?
c. どっちが勝った? Dotchi ga katta? ฝงไหนชนะ?
ั
่
d. どれが勝った? Dore ga katta? ทีมไหนชนะ?
.
.
.
เฉลยค่ะ c. どっちが勝った? Dotchi ga katta? ฝงไหนชนะ?
ั
่
็
ถ ้าเปนตามปกติ เราคงใช ้ ตามภาษาไทยว่า a. だれが勝った?Dare ga katta? ใครชนะ? ซึงตาม
่
ํ
่
่
เหตุผลข ้อด ้านบน คนญีปุนก็จะไม่ถามด ้วยคาว่า “ใคร”
ถ ้าคิดตามเหตุผลด ้านบน กควรถามว่า b. どこが勝った? Doko ga katta? ทีไหนชนะ? ใช่มั้ยคะ แต่
่
็
ํ
้
ั่
ํ
อาจารย์บอกว่า ในสถานการณ์นีไม่ใช ้ คาว่า “ที่ไหน” แต่จะใช ้ คาว่า どっち Dotchi ฝงไหน แทน เพราะ
การแข่งขันบาสเกตบอล เปนการแข่งระหว่าง 2 ทีมเท่าน้น การถามโดยมีตัวเลือกแค่ 2 ตัวเท่าน้นในการ
ั
ั
็
ํ
ตอบ จะใช ้ คาถามว่า どっち Dotchi ค่ะ
็
ํ
เรืองคาแสดงคาถาม どっち dotchi กับ どれ dore นี้ก็เปนอะไรที่คนไทยมักจะผิดกันบ่อยค่ะ อาจารย์
่
ํ
บอกว่า คนญีปุนฟงแล ้วจะงงมากค่ะ โดยเฉพาะถ ้ามีตัวเลือกหลายตัว (ตั้งแต่ 3 ขึนไป) แต่กลับโดนถาม
้
่
่
ั
ด ้วยคาว่า どっち dotchi เช่น สมมติว่าไปร ้านไอศกรีมด ้วยกัน ตรงหน้ามีไอศกรีมให ้เลือกมากมายหลาย
ํ
รส แต่คนไทยถามว่า
どっちにしますか。
Dotchi ni shimasu ka.
เอาอันไหน?
>> คนญี่ปุนจะงงทันทีค่ะว่า เอ๊ะ ให ้เลือกระหว่างรสไหนกับรสไหนเนี่ย?
่
หวังว่าจะเชียร์กีฬาโอลิมปกและคุยกับเพื่อนญี่ปุนอย่างสนกสนานนะคะ ^^
ิ
ุ
่
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 48
่
ิ
ิ
ื
#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
ิ
วันนี้ขอเปดประเด็นด ้วยคําถามที่วันก่อนผู้เขียนโดนยูกิเซนเซถามมานะคะ ทุกคนคิดว่ายังไงคะ ^^
.
.
.
.
็
่
เฉลยค่ะ ในเซนส์ของคนญี่ปุน คําว่า 速い hayai เรวกว่า 結構速い kekkou hayai ค่ะ มีใครตอบถูกบ ้าง
คะ อาจารย์บอกว่าส่วนมากคนไทยจะเข ้าใจผิด คิดว่า 結構速い kekkou เร็วกว่า 速い hayai
ํ
คาว่า 結構 kekkou มีการพัฒนาการของความหมายค่อนข ้างมาก แรกเริ่มเดิมที มีการใช ้ คํานี้เปน adj.
็
หมายความว่า ยิงใหญ่อลังการ ทีญีปุนมีคาพูดชืนชมความงามของศาลเจ ้า 東照宮 Toushouguu ที่ 日光
่
่
่
ํ
่
่
Nikkou ว่า
日光を見ずして結構と言うな。
Nikkou o mizu shite kekkou to iu na.
หากยังไม่เคยเห็นนิกโค จงอย่าพูดว่า 結構 Kekkou
แต่ในปจจุบัน คาว่า 結構 Kekkou ที่เปนคําคุณศัพท์ จะมีความหมายในเชิงปฏิเสธ หมายถึง พอแล ้ว, ไม่
ํ
ั
็
เอาแล ้ว โดยเฉพาะเวลามีคนชวนหรือเสนออะไรบางอย่างให ้ แล ้วเราไม่ต ้องการ
ํ
็
ํ
ในส่วนของการพัฒนามาเปนคาวิเศษณ์ขยายคาคุณศัพท์ทั้งหลาย จะให ้ความหมายว่า ...พอสมควร เช่น 結
ั
่
่
็
構速い kekkou hayai เรวพอสมควร ให ้ความรู้สึกว่า กเรวกว่ามาตรฐานทัวไป อยูในเกณฑ์ทียอมรบได ้
็
่
็
ั
แต่ก็ไม่มากนกค่ะ อาจจะแค่พอๆ กันหรือมากกว่า まあまあ maamaa + adj. นิดหนอยเท่าน้นเองค่ะ
ั
่
ในขณะที่ 速い hayai คําคุณศัพท์เดี่ยวๆ น้น ให ้ความรู้สึกว่า เปนเช่นน้นโดยไม่มีข ้อแม ้หรือเงือนไขค่ะ
ั
่
็
ั
เช่น お、速い!O, hayai! เร็วจง! ดังน้น จึงให ้ความรู้สึกว่า เรวกว่า 結構速い kekkou hayai เร็ว
ั
ั
็
พอสมควรค่ะ
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 49
่
ิ
ิ
ื
#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
ํ
คาว่า 皆さん ทุกคนอ่านคานีว่าอะไรคะ
้
ํ
a.mina-san
b.minna-san
c.ถูกทั้งสองข ้อ
.
.
.
ั
เฉลยค่ะ a. อ่านว่า 〇mina-san เท่าน้นค่ะ ไม่สามารถอ่านว่า ✖minna-san ได ้ค่ะ ทั้งๆ ที่คําว่า 皆
็
ั
เฉยๆ สามารถอ่านได ้ทั้ง mina และ minna แถมชื่อหนงสือเรียนที่เปนที่รู้จักกันดี みんなの日本語 ก็
่
็
่
่
เขียนชือเปนภาษาไทยชัดๆ ว่า “มินนะ โนะ นิฮงโกะ” จึงคาดว่านาจะมีคนไทยจานวนมาก ทีอ่านหรือพูดคํา
ํ
ว่า 皆さん โดยออกเสียงว่า minna-san คือ แบบมีตัวสะกด –n ด ้วย ซึงถือว่าผิดค่ะ
่
ํ
็
่
้
การออกเสียงผิดอันนี ไม่ได ้เกิดจากการทีคาว่า mina-san ออกเสียงยากแต่อย่างใด แต่นาจะเปนความไม่
่
รู้หรือเข ้าใจผิดมากกว่า เพราะฉะน้นนาจะแก ้ได ้ไม่ยากค่ะ เริมจากเพจเราก่อนเลยนะคะ
่
่
ั
皆さん Mina-san ทราบแล ้ว-เปลียน! (วิธีอ่านออกเสียงกันค่ะ) ^^
่
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 50
ื
่
ิ
ิ
#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
้
ิ
ํ
ยูกิเซนเซเปดประเด็นนี้โดยการก็อปปหน้าจอผลการค ้นหาการใช ้ คาว่า でしょう deshou ในแชทมาให ้ดู
ี
ค่ะว่า มีแต่ผู้เขียนที่ใช ้ คํานี้ ในขณะทียูกิเซนเซเองไม่เคยใช ้ เลยแม ้แต่คร้งเดียว!!
ั
่
่
ํ
ก่อนอืน ขอพูดถึงความหมายของคาว่า でしょう deshou ก่อนนะคะ จริงๆ แล ้วคําว่า でしょう deshou
มีความหมายและการใช ้ 2 แบบค่ะ แบบแรกจะเปนแบบทีเราเคยเรียนกันมา คือ เปนการคาดคะเน โดยมี
็
่
็
ความมันใจประมาณ 50% แปลเปนไทยก็จะได ้ประมาณ คงจะ ค่ะ เช่น
่
็
来週、学校が始まるから、道がまた込むでしょうね。
Raishuu, gakkou ga hajimaru kara, michi ga mata komu deshou ne.
สัปดาห์หน้า โรงเรียนเปดแล ้ว รถคงจะติดอีกแล ้วนะคะ
ิ
่
็
ั
ส่วนแบบทีสอง จะใช ้ ลงท ้ายประโยคเพื่อแสดงความมันใจของผู้พูดว่าเปนอย่างน้น และคาดหวังว่าผู้ฟง
่
ั
็
่
่
็
่
จะต ้องเหนด ้วยอย่างแนนอนด ้วยค่ะ แปลเปนไทยนาจะประมาณ ใช่มั้ยล่ะ มักจะใช ้ ในภาษาพูดทีไม่เปน
็
ั
็
ทางการนก เช่น พูดกับเพื่อน เปนต ้น โดยในรูปแบบนี้จะมีทั้งแบบที่ทํานองเสียง (intonation) ท ้าย
ประโยคขึ้นสูง และลงตํ่าด ้วยค่ะ เช่น
้
え、また食べるの?さっき食べたばかりでしょう?(ขึนเสียงสูง)
E, mata taberu no? Sakki tabeta bakari deshou?
เอ๊ะ จะกินอีกแล ้วเหรอ? เมือกีเพิงกินไปไม่ใช่เหรอ?
้
่
่
そんな顔して、何かいいことあったでしょう。(ลงเสียงต่า)
ํ
Sonna kao shite, nanka ii koto atta deshou.
ทาหน้าแบบน้น มีเรื่องอะไรดีๆ ใช่มั้ยล่ะ
ั
ํ
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 51
่
ิ
ิ
ื
#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
อ ้าว ก็เห็นในประโยคตัวอย่างใช ้ ได ้นี่นา แล ้วตกลงประโยคหัวข ้อของเราวันนี 明日は雨でしょう。
้
Ashita wa ame deshou. พรุ่งนี้ฝนคงจะตก มันผิดตรงไหน??
ใบ ้ให ้นิดนึงค่ะ อยู่ตรงข ้างหลังคาว่า でしょう deshou
ํ
.
.
.
ั
ี
เฉลยค่ะ กรณที่ใช ้ でしょう deshou ในความหมายแรก คือ การคาดคะเน หากหลังจากน้นจบประโยคไป
็
ั
่
ั
เลย ประโยคน้นจะฟงดูแข็งๆ ค่ะ เหมือนผู้ประกาศข่าวอ่านข่าวอยู (ไม่เหมือนการสนทนา แต่เปนการอ่าน)
่
ั
่
นนเองค่ะ ในการสนทนากันทั่วไป คนญี่ปุนจึงมักจะไม่จบห ้วนๆ ด ้วยคําว่า でしょう。deshou. แต่จะเติม
ั
คําลงท ้าย เช่น ね ne ลงไป หรือไม่ก็ต่อด ้วย から kara แล ้วตามด ้วยผลที่เกิดขึ้น เพื่อให ้ประโยคฟงดู
่
ุ
ั
็
นมนวลและฟงเปนบทสนทนามากขึนค่ะ
้
来週、道が込むでしょうから、早く家を出たほうがいいですよ。
Raishuu, michi ga komu deshou kara, hayaku uchi o deta hou ga ii desu yo.
็
่
สัปดาห์หน้า รถคงจะติด ฉะน้นออกจากบ ้านเรวหนอยดีกว่านะครบ
ั
ั
่
่
่
ส่วนในความหมายทีค่อนข ้างมันใจและคาดหวังให ้อีกฝายเหนด ้วย ส่วนมากแล ้ว ในภาษาพูดมักจะพูดเสียง
็
็
สั้นลงค่ะ เปน でしょ。desho. でしょ?desho? มากกว่าค่ะ ตรงนี้ระวังนิดนึงค่ะ สําหรับผู้หญิงเรา
่
แม ้ว่าคาว่า でしょう deshou จะมีรูปไม่สุภาพเปน だろう darou แต่ในความหมายมันใจและคาดหวัง
็
ํ
็
่
็
่
ให ้อีกฝายเหนด ้วยน้น ผู้หญิงเราจะต ้องใช ้ でしょ(?) desho(?) เหมือนเดิมนะคะ ไม่เปลียนเปน だろ(?)
ั
daro(?) ค่ะ เพราะนนเปนภาษาผู้ชายค่ะ
็
ั
่
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 52
ื
่
ิ
ิ
#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
่
่
้
ํ
่
วันนีมาด ้วยเรืองคาว่า 暇 hima ว่าง ค่ะ พอดีเมือวานเขียนประโยคตัวอย่างถามเพือนว่าว่างหรือเปล่า โดย
ใช ้ คาว่า 空いている aiteiru แล ้วเลยนึกถึงคาว่า 暇 hima ขึนมาค่ะ
้
ํ
ํ
ั
็
ํ
คาว่า 暇 hima เปนคําคุณศัพท์ -na แปลว่า ว่าง กจริง แต่ด ้วยความหมายแฝงของคานีอาจทาให ้คนฟง
็
ํ
ํ
้
ํ
หลายคนไม่พอใจค่ะ เนืองจากคาว่า 暇 hima มีความหมายว่า ว่าง “ไม่มีอะไรทา” เมือเราถามว่า 明日、
่
่
ํ
暇ですか。 Ashita hima desuka? พรุ่งนี้ว่างมั้ยคะ? ผู้ฟงจึงรู้สึกเหมือนว่าเราถามเขาว่า “คุณไม่มีอะไร
ั
ั่
่
ทาอยูใช่มั้ย นงว่างๆ อยู่เฉยๆ ใช่มั้ย” ประมาณน้นค่ะ โดยเฉพาะส่วนมากแล ้วการถามว่าเขามีเวลาหรือไม่
ํ
ั
่
ํ
่
ั
้
ั
่
ส่วนมากจะเปนการเกรินเพือชักชวนหรือขอร ้องให ้ผู้ฟงทาอะไรซักอย่าง ผู้ฟงก็จะยิงรู้สึกไม่พอใจมากขึน
็
ั
เหมือนกับว่า “ยังไงคุณก็นงอยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทาอยู่แล ้ว มากับฉนก็แล ้วกัน / มาช่วยฉนก็แล ้วกัน” คน
ั่
ํ
ั
ทัวไป ถึงแม ้ว่าจะไม่มีธุระหรือนดกับใคร แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีอะไรทาค่ะ จึงไม่ควรใช ้ คํานี้ถามผู้อื่นค่ะ โดยเฉพาะ
ั
ํ
่
่
กับผู้ทีอาวุโสกว่านะคะ
ถ ้าอย่างน้น เราควรถามว่าอะไรดี? ให ้ถามว่า “มีเวลา / ธุระหรือเปล่า” แทนค่ะ เช่น
ั
明日、ちょっと(お)時間ありますか。
Ashita, chotto (o) jikan arimasu ka.
พรุ่งนี้ มีเวลาซักนิดมั้ยคะ
明日、何か(ご)予定ありますか。
Ashita, nanika (go) yotei arimasu ka.
พรุ่งนี้มีกําหนดการทําอะไรบ ้างหรือเปล่าคะ
ส่วนคาว่า 空いている aite iru ว่าง แม ้จะแปลว่า ว่าง เหมือนกับ 暇 hima แต่ความหมายแฝงต่างกัน
ํ
ํ
ตรงที่ 空いている aite iru หมายถึง ว่างจากกาหนดการต่างๆ คือ ไม่มีนด ไม่มีแผน/กําหนดการ ทีจะทา
่
ั
ํ
ํ
ั
อะไรชัดเจน แต่ไม่ใช่ไม่มีอะไรทาค่ะ ดังน้นจึงยังสามารถใช ้ ถามคูสนทนาว่า 明日、空いてますか。
่
Ashita, aitemasu ka. ได ้ค่ะ แต่อาจไม่เปนทางการนกค่ะ
็
ั
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 53
ิ
ื
่
ิ
#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
้
ํ
วันนีมาว่ากันด ้วยเรื่องการออกเสียงกันค่ะ พอดีวันก่อนยูกิเซนเซพูดถึงว่า คนไทยหลายคนออกเสียงคาว่า
ざっし zasshi ทีแปลว่านิตยสาร แปลกๆ แล ้วหลังจากน้นบังเอิญได ้ดูคลิปสอนการออกเสียง っ (tsu
่
ั
เล็ก) ในภาษาญีปุนโดยคนไทยอยูคลิปนึง และมียกตัวอย่างคานีด ้วย แต่คนสอนกลับออกเสียงผิด ผู้เขียน
ํ
่
่
้
่
ั
เลยคิดว่า อาจมีคนไทยหลายคนเข ้าใจผิดและออกเสียงผิดอยู เลยมาขอเล่าสู่กันฟงในวันนี้ค่ะ
่
ั
็
็
เสียง っ (tsu เลก) หลายคร้งจะได ้ยินเรียกกันว่า เสียงกัก คล ้ายเปนการเพิ่มตัวสะกดให ้พยางค์แรก โดยใช ้
็
เสียงของพยัญชนะต ้นของพยางค์ถัดไปมาเปนตัวสะกด แต่เว ้นจงหวะเสียงให ้ยาวนิดนึง เสมือนเปนอีก 1
็
ั
ั
พยางค์ กล่าวคือ ภาษาญีปุนจะนบเสียง っ (tsu เล็ก) เปน 1 จังหวะด ้วยค่ะ เช่น
็
่
่
็
ํ
คาว่า きって kitte มี 3 จังหวะ (拍 haku) ได ้แก่ ki - t – te โดยตัว っ (tsu เล็ก) ก็ออกเสียงเปน
ตัวสะกด t แต่หยุดทีเสียงตัวสะกด t น้นนานนิดนึงค่ะ ก่อนจะออกเสียง te ถดไป
ั
่
ั
หากเสียงพยัญชนะต ้นของพยางค์ถัดไปเปนเสียง t, p, k ก็ไม่ค่อยมีปญหาอะไรเท่าไหร่นก เพราะ
ั
ั
็
ภาษาไทยเรามีเสียงตัวสะกดแม่กด (t), แม่กบ (p), แม่ กก (k) เพียงแต่ต ้องระวังเว ้นจงหวะให ้ดีเท่า
ั
ั
น้นเอง
แต่เสียงทีอาจจะมีปญหาคือเสียง s และ sh ค่ะ เนืองจากในภาษาไทยไม่มีเสียงตัวสะกด 2 ตัวดังกล่าว
่
่
ั
็
็
่
ํ
เวลาคนไทยออกเสียงคาทับศัพท์ภาษาอังกฤษทีมีตัวสะกดเปน s หรือ sh เรามักรวบเปนเสียงตัวสะกดแม่
กด (t) เหมือนกันหมด เช่น รถบัส เราก็อาจออกเสียงว่า รด-บด, แฟลช เราก็อาจออกเสียงว่า แฝล็ด เป็น
ั๊
ํ
ต ้น ดังน้น เมื่อเจอคาภาษาญี่ปุน เช่น いっそ isso ก็อาจจะออกเสียงเปน it-so, いっしょ issho ก็
็
ั
่
อาจจะออกเสียงเปน it-sho เปนต ้น แต่ในภาษาญีปุน ทีถูกต ้องจะต ้องออกเสียง s หรือ sh ลากยาวค่ะ
่
่
่
็
็
ํ
ดังน้น คาว่า ざっし zasshi วิธีออกเสียงทีถูกต ้อง ต ้องเปน za-sh-shi ค่ะ
่
ั
็
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 54
ิ
ิ
่
ื
#ยูกิเซนเซขอแกหนอยนะ
่
็
่
ั
่
ั
วันนี้มาดูกันเรื่องคําทักทายค่ะ เพิงสังเกตเหนว่านกเรียนไทยเวลาทีหมดชัวโมงเรียน แล ้วบอกนกเรียนไปว่า
ั
ั
じゃ、また明日。Ja, mata ashita. ง้นพบกันพรุ่งนี้ มีนกเรียนหลายคนจะตอบกลับมาว่า また明日で
す! Mata ashita desu! แล ้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ
็
ํ
็
คาทักทาย また明日。Mata ashita. เปนการพูดย่อๆ ของประโยคเตมๆ ว่า また明日会いましょう。
ั
้
Mata ashita aimashou. ทีนีคาดว่านกเรียนหลายคนคงรู้สึกว่ามันสั้นๆ ห ้วนๆ ไป ถ ้าจะพูดกับคุณครู ก็
่
เลยเติม です。 desu. มาให ้เพือความสุภาพ ซึงผู้เขียนก็ว่านารกดี แต่.....คนญีปุนไม่ใช ้ กันค่ะ
่
่
่
่
ั
่
ํ
ํ
ั
็
คาว่า です。desu. เปนคําสุภาพก็จริง และแม ้ว่าในภาษาญี่ปุน หลายคร้งเราสามารถละคากริยาแล ้วพูด
เหลือแค่ です desu ได ้ อย่างทีเคยโพสต์ไว ้เรืองโครงสร ้างประโยคแบบประโยคปลาไหล (ภาษาญีปุน
่
่
่
่
เรียกว่า ウナギ文 unagi bun เนืองจากประโยคตัวอย่างทียกมานาเสนอโครงสร ้างประโยคแบบนีคือ ぼく
้
่
ํ
่
็
はウナギだ。Boku wa unagi da. ซึงเขาอธิบายว่า ไม่ได ้แปลว่า ผมเปนปลาไหล แต่เปนการละ
่
็
่
คากริยาว่า “ขอ(เอา)” เอาไว ้ โดยประโยคนี้หมายถึงว่า “ผมขอสังปลาไหล” นนเองค่ะ) แต่การใช ้ です。
ั่
ํ
่
็
่
desu. ก็มีความหมายแฝงถึงการบอกข ้อเทจจริงหรืออะไรทีตัดสินใจแนนอนแล ้ว (คือไม่ใช่การราพึง, คาด
ํ
็
่
็
ั
เดา, ขอร ้อง, ชักชวน เปนต ้น) ดังน้น จึงฟงดูแปลกๆ ทีจะเอามาย่อจากประโยคเตมทีเปนเหมือนรูปชักชวน
็
ั
่
นะค่ะ
่
็
็
ุ
เอ แล ้วจะตอบคุณครูว่ายังไงดีให ้ดูสุภาพล่ะ ลองไปสังเกตคนญี่ปุนดู ถ ้าเปนเดกเลกๆ เช่น เดกอนบาลหรือ
็
่
็
็
ประถม ก็จะตอบว่า また明日。Mata ashita. ได ้ค่ะ แต่ถ ้าโตแล ้ว เช่น เดก ม.ปลายหรือนกศึกษา
ั
มหาวิทยาลัย ส่วนมากจะตอบว่า 失礼します。Shitsurei shimasu. มากกว่าค่ะ ลองถามยูกิเซนเซ เซน
เซบอกว่า ถ ้าจะพูด また明日。Mata ashita. กับคุณครู ก็จะพูดเสียงเบาๆ หนอยค่ะ จะไม่พูดแบบเสียง
่
ั
ั
ดังฟงชัด เพราะจะฟงดูแข็งกร ้าวเกินไปค่ะ
แม่ยุก-ยูตะ / ยูกเซนเซ | ภาค 2 อนๆ 55
ิ
ิ
่
ื