The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสร์2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anocha Utumsakulrat, 2020-12-13 05:34:13

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสร์2

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสร์2

 7. รักความเป็นไทย  8. มีจติ สาธารณะ

7. ด้านคณุ ลักษณะของผเู้ รยี นตามหลกั สตู รมาตรฐานสากล

 1. เป็นเลิศวิชาการ  2. สือ่ สารสองภาษา  3. ลำ้ หน้าทางความคดิ

 4. ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์  5. ร่วมกนั รับผิดชอบตอ่ สงั คมโลก
8. ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คอื การเรียนรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขยี นได้)  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )
 ทกั ษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปัญหา (Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) Understanding)
 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural

 ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and
Leadership)

 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและรู้เทา่ ทนั ส่ือ (Communications, Information, and Media Literacy)
 ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT
Literacy)

 ทักษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)
ความมีเมตตา (วนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม (Compassion)

9. บรู ณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชิกในกลุม่ ให้เหมาะสมกบั จำนวนสมาชิกในหอ้ งเรียนคอื
ประมาณกลุม่ ละ 4 – 6 คน

2. หลักความมเี หตผุ ล : ให้นกั เรยี นสรา้ งสรรค์ผลงานและเกิดทักษะการปฏบิ ตั ิ , นักเรยี นเกดิ ความ

ภาคภูมใิ จในผลงานของตนและสิง่ ท่เี รียนรู้

3. หลกั ภมู คิ ุ้มกนั : ใหน้ กั เรียนเกิดทักษะการทำงานกลมุ่ และกลา้ แสดงออก , นักเรียนรู้จกั การวาง

แผนการทำงานและมอบหมายงานให้สมาชกิ ภายในกลมุ่ ได้เหมาะสมกับความสามารถของแต่ละบคุ คล

4. เง่อื นไขความรู้ : การวางแผนงานท่ีจะทำก่อนแลว้ ค่อยลงมือทำอยา่ งระมัดระวงั

5. เงอ่ื นไขคุณธรรม : อดทนที่จะทำงาน และมีความขยันที่จะทำงานใหอ้ อกมาได้ดที ี่สุด , มวี ินยั ในการ

ทำงาน

10. ชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด

ตวั ชี้วดั ชนิ้ งาน ภาระงาน

ว.3.2 ม.1/3-5 - รายงานกจิ กรรมที่ 7 การพยากรณ์ - วิเคราะหข์ ้ันตอนการพยากรณ์อากาศ

อากาศทำได้อย่างไร - วเิ คราะห์และอธิบายคำพยากรณ์

- รายงานกจิ กรรมท่ี 8 คำพยากรณ์ อากาศมปี ระโยชนต์ อ่ การดำรงชีวติ ของ

อากาศมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร มนุษย์ในด้านต่าง ๆ

11. การวดั ประเมนิ ผล
11.1การวัดและประเมนิ ผลชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด
วธิ ีการ

86

1.การสงั เกตการณ์

2.การใช้ชดุ กิจกรรมวิทยาศาสตรร์ อ่ งรอยบ่งชี้ 3.การวัดประเมินการปฏิบตั ิ

เคร่อื งมือ

1. แบบสงั เกตการณ์

2. ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ 3. แบบวดั ประเมินการปฏิบัติ

เกณฑ์

1.การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)

2.การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผา่ น 1

รายการถือว่า ไมผ่ ่าน

11.2การวดั และประเมนิ ผลระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ประเมินจากแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง

หนว่ ยการเรียนรู้นี)้

สงิ่ ท่ตี ้องการวดั วิธวี ดั ผล เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรยี นได้คะแนน
1. ความรู้เกี่ยวกบั -การสอบถาม ซักถาม - แบบประเมินการ 12 คะแนนข้นึ ไป
- การพยากรณอ์ ากาศ หรือร้อยละ 80
ความคดิ เหน็ อธิบาย อภปิ รายแสดงความ ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
- นกั เรยี นไดค้ ะแนน
เกย่ี วกบั การพยากรณ์ คิดเห็น ประเมินผลงาน
13 คะแนนขนึ้ ไป
อากาศ - แบบประเมินการ หรอื ร้อยละ 80
ถือว่าผา่ นเกณฑ์
-การตรวจผลงาน ตรวจผลงานผ้เู รียน -นักเรียนได้คะแนน
12 คะแนนขึ้นไป
นกั เรียน หรือร้อยละ 80 ถอื ว่า
ผ่านเกณฑ์
2.ทักษะกระบวนการคิด และ - การอภปิ รายแสดง - แบบประเมนิ การ
- นักเรยี นได้คะแนน
ทักษะกระบวนการกลุม่ ความคดิ เหน็ ระบุ อภปิ รายแสดงความ ประเมนิ คุณลักษณะ
อันพงึ ประสงค์
ทักษะกระบวน คดิ เห็น 26 คะแนนขนึ้ ไป
หรอื ร้อยละ 80
การทางวิทยาศาสตร์ท่ี - แบบประเมิน ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
- นักเรียนได้คะแนน
ได้ปฏบิ ัติจากกจิ กรรม พฤติกรรมการ การประเมนิ สมรรถนะ
29 คะแนนขึ้นไป
- สงั เกตพฤติกรรมการ ทำงานกลุ่ม
87
ทำงานกล่มุ

3. คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ - สังเกตคา่ นยิ มในการ - แบบประเมิน

และสมรรถนะผ้เู รียน ทำงานร่วมกับผู้อื่น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ

- มวี ินัยในการทำงานกลมุ่ และการทำงานใน ประสงค์

- นักเรยี นเหน็ ความสำคัญ ระบบกลุม่ - แบบประเมนิ

ของการทำงานร่วมกับผ้อู ่ืนและ อภิปราย แสดงความ สมรรถนะผู้เรียน

การทำงานในระบบกลุ่ม คิดเห็นเกย่ี วกับผลการ

- ยอมรับความคิดเห็นซึง่ กัน ทดลอง

และกันมีความเสยี สละและ

อดทน

หรอื รอ้ ยละ 80
ถือว่าผา่ นเกณฑ์
12. กจิ กรรมการเรียนรู้
ชวั่ โมงที่ 1
1. ข้นั ตงั้ ประเดน็ ปัญหา/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)
1.1 สรา้ งความสนใจแกน่ ักเรยี นโดยการนำวีดิทัศน์ หรือรูปภาพหรือเล่าเหตุการณเ์ ก่ยี วกับการใช้
ประโยชน์ของการพยากรณ์อากาศในชวี ิตประจำวันมาให้นักเรียนพจิ ารณา เชน่ ในฤดูร้อนอากาศรอ้ นจัด กรม
อตุ ุนิยมวทิ ยาได้ออกประกาศเตอื นใหป้ ระชาชนระวงั ภัยจากการเปล่ียนแปลงอุณหภูมิอากาศอย่างรวดเรว็
จนอาจก่อให้เกิดอนั ตรายจากการเปน็ ลมแดด คำพยากรณ์อากาศดังกล่าวชว่ ยให้ประชาชนในพนื้ ท่ี
ปลอดภยั จากน้ัน ครูถามคำถามสรา้ งความสนใจว่าการพยากรณ์อากาศทำไดอ้ ย่างไร
1.2 นกั เรยี นทำกิจกรรมทบทวนความรู้กอ่ นเรยี น แล้วนำเสนอผลการทำกิจกรรม หากพบว่านักเรียนยงั
ทำกิจกรรมทบทวนความรกู้ ่อนเรียนไม่ถูกตอ้ ง ครูควรทบทวนหรอื แกไ้ ขความเข้าใจผิดของนกั เรยี น เพ่ือ
ใหม้ ีความรู้พืน้ ฐานท่ถี ูกต้องและเพยี งพอท่ีจะเรียนเรื่องการพยากรณ์อากาศต่อไป
ชั่วโมงท่ี 2
2. ข้นั สบื ค้นความรู้ (Searching for Information)
2.1 ให้ใหน้ ักเรียนอ่านวธิ ีดำเนนิ กิจกรรมในหนังสือเรยี น และรว่ มกนั อภปิ รายในประเดน็ ดงั ตอ่ ไปน้ี
• กิจกรรมน้เี ก่ียวกบั เรอื่ งอะไร (การพยากรณ์อากาศอย่างงา่ ย)
• กิจกรรมน้ีมจี ุดประสงค์อย่างไร (นกั เรียนตอบตามความคิดของตนเอง)
• วธิ ีดำเนนิ กจิ กรรมมีขนั้ ตอนโดยสรปุ อย่างไร (รวบรวมขอ้ มูลองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ จากนั้น
วเิ คราะหข์ ้อมลู เพอื่ พยากรณ์อากาศอย่างง่าย แล้วตรวจสอบความถกู ต้องของคำพยากรณก์ บั สิง่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จริง)
• กิจกรรมน้ีควรมขี ้นั ตอนในการทำเปน็ พิเศษอย่างไร (รวบรวมขอ้ มูลองคป์ ระกอบของลมฟ้าอากาศ
ลว่ งหนา้ จากแหลง่ ตา่ งๆ และจดั กระทำข้อมูลให้อยู่ในรูปท่ีสามารถนำไปประมวลผลได้)
2.2 เปดิ โอกาสให้นักเรียนทำกจิ กรรมทางเลือก ในการตรวจวดั อณุ หภมู ิ ความช้ืน ปริมาณเมฆ ตอ่ เน่ือง
กนั เองเพ่ือใช้ในการพยากรณ์ตามแนวทางขอ้ เสนอแนะในการทำกจิ กรรม
2.3 นักเรยี นตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรม จากนั้นนำเสนอ และอภปิ รายคำตอบร่วมกันเพ่ือให้ได้ข้อสรุปวา่
การพยากรณ์อากาศอย่างง่ายทำไดโ้ ดยรวบรวมข้อมูลและวิเคราะหแ์ นวโนม้ การเปลย่ี นแปลงของขอ้ มูล
องค์ประกอบลมฟ้าอากาศนนั้ ๆ
2.4 นกั เรียนอ่านขอ้ มลู เพมิ่ เติมในหนังสอื เรียน ตอบคำถามระหวา่ งเรยี นและร่วมกนั อภิปรายสรปุ
เก่ียวกบั แนวทางการพยากรณอ์ ากาศ เพอื่ ให้ได้ขอ้ สรปุ วา่ การพยากรณ์อากาศมีขนั้ ตอนคร่าว ๆ คอื การตรวจ
อากาศเพื่อรวบรวมข้อมลู องค์ประกอบของลมฟา้ อากาศ การสื่อสารเพื่อแลกเปลยี่ นข้อมูลใหไ้ ด้ครอบคลุม และ
การวเิ คราะห์ขอ้ มลู เพ่ือคาดหมายลกั ษณะอากาศและสร้างคำพยากรณ์ โดยการพยากรณ์อากาศต้องอาศยั
ขอ้ มลู ที่ถกู ต้อง จำนวนมากพอ และความรใู้ นการวิเคราะห์ จงึ จะช่วยใหค้ ำพยากรณม์ ีความแมน่ ยำ
2.5 นำเข้าสู่กิจกรรมท่ี 8 คำพยากรณอ์ ากาศมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร โดยใชค้ ำถามสรา้ งความสนใจวา่ เรา
สามารถจะนำคำพยากรณอ์ ากาศไปใช้ได้อย่างไร และบุคคลใดที่ได้รับประโยชนจ์ ากคำพยากรณ์อากาศมาก
ท่ีสดุ
ชั่วโมงที่ 3-5
3. ข้ันสรุปองคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)

88

3.1 ใหน้ ักเรียน วเิ คราะหค์ ำพยากรณ์อากาศหลายๆรปู แบบก่อนลงข้อสรปุ ว่า บทบาทสมมติที่

นักเรยี นเลือกจะไดร้ ับผลกระทบอยา่ งไร และจะวางแผนการดำรงชีวิตอยา่ งไร

3.2 ใหน้ กั เรยี นแสดงบทบาทสมมตติ ามบทบาททตี่ นเองเลือกไว้

3.2 นกั เรียนศึกษาข้อมูลเพ่ิมเติมในหนงั สอื เรียนและตอบคำถามระหวา่ งเรียน จากน้นั ครูและ

นักเรียนรว่ มกันอภิปรายและสรปุ สงิ่ ทไี่ ด้เรียนรู้ เพื่อให้ได้ข้อสรปุ ว่า คำพยากรณ์อากาศมีประโยชนใ์ นการวาง

แผนการดำรงชีวติ เพ่ือให้ดำรงชีวิตได้อย่างสะดวก ปลอดภัย การพยากรณ์อากาศทแ่ี ม่นยำ อาศัยข้อมูล

องคป์ ระกอบของลมฟา้ อากาศทคี่ รอบคลมุ และความรู้พน้ื ฐานเพ่อื การวเิ คราะห์แปลผล

4. ขน้ั การส่ือสารและนำเสนอ (Effective Communication)

4.1 นกั เรยี นร่วมกันสรุปหัวข้อเร่ืองลมฟา้ อากาศรอบตวั จากนนั้ นักเรยี นทำกิจกรรมตรวจสอบตนเอง

เพ่ือสรปุองค์ความรู้ท่ีได้เรียนรู้จากบทเรียน โดยการเขียนบรรยาย วาดภาพ หรือเขียนผังมโนทัศน์ ส่ิงท่ีได้

เรียนรูจ้ ากบทเรียนเร่อื งลมฟ้าอากาศรอบตัว

5. ขน้ั การบรกิ ารสังคมและสาธารณะ (Public Service)

5.1 นักเรียนนำเสนอสรุปองค์ความรู้ที่ได้จากบทเรียน โดยอาจออกแบบให้นักเรียนนำเสนอและ

อภิปรายภายในกลุ่ม หรืออภิปรายรว่ มกันในชั้นเรียน หรือติดแสดงผลงานบนผนังห้องเรียนเพ่ือให้นักเรียนชม

ผลงานและพิจารณาใหค้ วามเหน็ จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นอภปิ รายสรปุ องคค์ วามรู้ท่ไี ด้จากบทเรยี นร่วมกัน

5.2 นักเรียนทำกิจกรรมท้ายบท เฝ้าระวังและป้องกันอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ

อย่างฉบั พลนั ได้อย่างไร ตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรม

5.3 นกั เรียนตรวจสอบตนเองด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทไี่ ด้ทำในบทเรียนนี้ อา่ น

สรปุ ท้ายบท และทำแบบฝกึ หัดท้ายบท เช่อื มโยงไปส่บู ทเรียนตอ่ ไปวา่ การเปลยี่ นแปลงลมฟา้ อากาศบางครั้ง

เกิดขึน้ อย่างรุนแรง การเปล่ยี นแปลงดังกลา่ วเป็นอยา่ งไร และเราควรปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร

13. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้

13.1สอ่ื การเรยี นรู้

1) ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์ 2) หนังสอื แบบเรยี น 3) สือ่ เพาเวอรพ์ อยต์

13.2แหล่งเรยี นรู้

1) อนิ เตอร์เนต็ 2) หอ้ งสมุด

14. บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ รายละเอียด
ผลการสอน
......................................................................................
1. ดา้ นความรู้ : ......................................................................................
- การพยากรณ์อากาศ ......................................................................................
......................................................................................
2. ดา้ นกระบวนการ : ......................................................................................
- ทักษะกระบวนการคิด ......................................................................................
- ทกั ษะกระบวนการกลุม่
......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................

89

3. ดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นิยม ......................................................................................
อนั พึงประสงค์ : ......................................................................................
......................................................................................
- มีวินยั ......................................................................................
...............................................................................
- ใฝ่เรียนรู้ ......................................................................................
- อย่อู ย่างพอเพียง
- รกั ความเปน็ ไทย

4. ปญั หาการสอน
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................

5. วิธีแก้ปัญหา
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................

ลงชือ่ ........................................ครูผูส้ อน ลงชื่อ...........................................หวั หน้ากลุม่ สาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกลุ รตั น.์ .) (นายสุรจกั ร์ิ แก้วม่วง.)

ลงช่ือ........................................... ลงชอ่ื ...........................................
(..นายศิวาวฒุ ิ รตั นะ..) (..นางรพีพร คำบญุ มา..)
หัวหน้างานนิเทศ
รองผู้อำนวยการกลุม่ บรหิ ารวิชาการ

ลงชอ่ื ........................................................
(...นายจงจัด จันทบ...)

ผู้อำนวยการโรงเรียนสุวรรณารามวทิ ยาคม

90

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 15
หนว่ ยการเรยี นรู้ที…2…กระบวนการเปลยี่ นแปลงลมฟา้ อากาศ…เรื่อง….มนุษย์และการเปลย่ี นแปลงลมฟ้า

อากาศ(ตอนท่ี1)…..รายวชิ า….วทิ ยาศาสตร์……..2.......รหัสวชิ า…....ว 21102 .........ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่.ี ...1.....
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ปีการศึกษา... 2563...ภาคเรียนท่ี..2...เวลา...2..ชวั่ โมง……
ผู้สอน.........................นางสาวอโนชา...อุทุมสกลุ รัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ (รายวชิ าพ้ืนฐานมีท้งั มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชวี้ ัด
รายวชิ าเพม่ิ เติมมีเฉพาะมาตรฐานการเรียนรู้และผลการเรียนร)ู้

1.1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด
ว 3.2 ม.1/3

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (หลอมจากตัวชว้ี ดั ทีใ่ ชใ้ นหน่วยการเรยี นรนู้ ี้เขยี นเป็นแบบความเรียง)
ลมฟ้าอากาศมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเมื่อองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศมีการเปลี่ยนแปลง

ไป บางคร้ังการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศจะเกิดอย่างรุนแรงซึ่งส่งผลกระทบต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อมอย่าง
มาก สำหรับประเทศไทยพบการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศได้แก่ พายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน ซ่ึง
พายุท้ังสองมีกระบวนการเกิดและผลกระทบท้ังเหมือนและแตกต่างกัน ลมฟ้าอากาศเป็นสภาวะของอากาศที่
เกิดข้ึนในพ้ืนท่ีหนึ่ง ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง เกิดการเปล่ียนแปลงได้ดังที่กล่าวมา ภูมิอากาศเป็นลักษณะลมฟ้า
อากาศโดยเฉล่ียของพื้นที่หน่ึง ๆ ในแต่ละช่วงเวลา มีการเปล่ียนแปลงได้เช่นกัน ปัจจัยท่ีทำให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมีท้ังปัจจัยทางธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศแม้ไม่ได้
เกดิ ข้ึนอย่างรวดเร็วเหมอื นดงั การเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ แตก่ ็ส่งผลกระทบตอ่ สิ่งมชี วี ติ และสงิ่ แวดลอ้ ม
อย่างมาก มนุษย์จำเป็นต้องเรียนรู้สถานการณ์ ผลกระทบ และแนวทางในการปฏิบัติตนภายใต้การ
เปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ เพื่อให้มนุษย์และส่ิงแวดล้อมดำรงอยู่ได้อย่าง
ปลอดภัยและยั่งยืน
3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เติม (รายวชิ าเพ่ิมเติม)
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
• พายฝุ นฟ้าคะนอง เกดิ จากการท่อี ากาศที่มอี ุณหภูมิและความช้ืนสูงเคลอื่ นท่ขี ึ้นสู่ระดับ

ความสงู ที่มีอุณหภมู ิตำ่ ลง จนกระท่ังไอนำ้ ในอากาศเกิดการควบแน่นเป็นละอองน้ำ และเกิดต่อเนื่องเปน็ เมฆ
ขนาดใหญ่ พายุฝนฟา้ คะนองทำใหเ้ กดิ ฝนตกหนกั ลมกรรโชกแรง ฟา้ แลบฟ้าผ่า ซ่งึ อาจกอ่ ให้เกดิ อนั ตรายต่อ
ชีวิตและทรัพยส์ นิ

• พายหุ มุนเขตร้อนเกดิ เหนือมหาสมทุ รหรือทะเล ท่ีน้ำมีอุณหภมู ิสูงตั้งแต่ 26-27 องศาเซลเซยี ส ขึ้น
ไป ทำให้อากาศที่มอี ุณหภมู ิและความชืน้ สูงบริเวณนั้นเคล่ือนท่สี ูงข้ึนอย่างรวดเรว็ เป็นบริเวณกวา้ ง อากาศจาก
บริเวณอืน่ เคล่ือนเข้ามาแทนทแี่ ละพดั เวยี นเข้าหาศูนย์กลางของพายยุ ่งิ ใกลศ้ นู ย์กลาง อากาศจะเคลื่อนที่พัด
เวียนเกือบเป็นวงกลมและมอี ัตราเร็วสูงท่สี ดุ พายหุ มุนเขตร้อนทำให้เกดิ คลื่นพายุซัดฝั่ง ฝนตกหนกั ซึ่งอาจ
กอ่ ให้เกดิ อันตรายต่อชีวิตและทรพั ยส์ ิน จงึ ควรปฏิบตั ติ นให้ปลอดภยั โดยตดิ ตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศ
และไมเ่ ข้าไปอยู่ในพน้ื ท่ที ีเ่ ส่ียงภยั

3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ (ถ้าในคำอธบิ ายรายวิชาพดู ถงึ หลักสูตรท้องถนิ่ ให้ใสล่ งไปด้วย

...............................................................-...........................................................................................

91

4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. เปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ พายุฝนฟา้ คะนอง พายุหมนุ เขตรอ้ น (K)

2 สังเกตและบอกผลท่ีมีต่อสิ่งมชี ีวติ และส่ิงแวดล้อม (P)

3. ตัง้ ใจเรียนรูแ้ ละแสวงหาความรู้ (A)

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (เลือกเฉพาะข้อทเ่ี กิดในหนว่ ยการเรยี นรูน้ )ี้

 1. ความสามารถในการส่ือสาร  2. ความสามารถในการคิด
 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา  4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เลือกเฉพาะข้อที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้น้ี)

 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  2. ซ่อื สัตย์สจุ รติ

 3. มีวินยั  4. ใฝ่เรียนรู้
 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง  6. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

 7. รักความเปน็ ไทย  8. มีจติ สาธารณะ
7. ดา้ นคณุ ลกั ษณะของผเู้ รยี นตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล

 1. เป็นเลิศวิชาการ  2. สอ่ื สารสองภาษา  3. ลำ้ หน้าทางความคิด

 4. ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์  5. ร่วมกนั รับผิดชอบตอ่ สงั คมโลก
8. ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขยี นได)้  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเป็น)
 ทกั ษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปัญหา(Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)
 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทีมและภาวะผู้นำ(Collaboration, Teamwork and Leadership)
 ทักษะด้านการสอื่ สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information, and Media Literacy)
 ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT
Literacy)

 ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)
ความมเี มตตา (วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม (Compassion)

9. บรู ณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

1. หลกั ความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชิกในกลุ่มใหเ้ หมาะสมกบั จำนวนสมาชิกในห้องเรยี นคือ

ประมาณกลุ่มละ 4 – 6 คน

2. หลกั ความมเี หตุผล : ใหน้ กั เรียนสรา้ งสรรค์ผลงานและเกิดทักษะการปฏิบตั ิ , นักเรียนเกดิ ความ

ภาคภูมิใจในผลงานของตนและสิ่งทเ่ี รียนรู้

3. หลกั ภมู คิ ุม้ กนั : ใหน้ กั เรียนเกดิ ทักษะการทำงานกลุม่ และกล้าแสดงออก , นักเรยี นรู้จกั การวาง

แผนการทำงานและมอบหมายงานให้สมาชกิ ภายในกลมุ่ ได้เหมาะสมกับความสามารถของแต่ละบุคคล

4. เงอ่ื นไขความรู้ : การวางแผนงานทจี่ ะทำก่อนแลว้ ค่อยลงมือทำอย่างระมัดระวัง

5. เงอื่ นไขคณุ ธรรม : อดทนท่จี ะทำงาน และมคี วามขยันทจี่ ะทำงานให้ออกมาได้ดที ีส่ ดุ , มวี นิ ัยในการ

ทำงาน

92

10. ชน้ิ งาน/ภาระงานรวบยอด

ตวั ช้ีวัด ช้ินงาน ภาระงาน
- เปรยี บเทยี บกระบวนการเกิดพายุ ฝน
ว.3.2 ม.1/3 - รายงานกจิ กรรมที่ 9 พายุฝนฟา้ คะนอง
ฟา้ คะนองและพายุหมุนเขตร้อน และผล
และพายุหมุนเขตรอ้ นเกดิ ข้ึนไดอ้ ย่างไร ทมี่ ีตอ่ ส่ิงมีชีวติ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง
นำเสนอแนวทางการปฏบิ ัติตนให้
เหมาะสมและปลอดภยั

11. การวัดประเมนิ ผล

11.1การวัดและประเมนิ ผลช้ินงาน/ภาระงานรวบยอด

วิธีการ

1.การสงั เกตการณ์

2.การใชช้ ุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ร่องรอยบ่งชี้ 3.การวัดประเมินการปฏิบตั ิ

เครอ่ื งมอื

1. แบบสังเกตการณ์

2. ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ 3. แบบวดั ประเมินการปฏบิ ตั ิ

เกณฑ์

1.การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)

2.การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผา่ นตงั้ แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผา่ น 1

รายการถือว่า ไม่ผา่ น

11.2 การวดั และประเมินผลระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (ประเมนิ จากแผนการจดั การเรยี นรู้ของ

หน่วยการเรยี นรนู้ ้)ี

ส่ิงท่ีต้องการวดั วธิ ีวัดผล เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมนิ

1. ความร้เู กย่ี วกบั -การสอบถาม ซกั ถาม - แบบประเมินการ - นักเรียนได้คะแนน
- พายุ 12 คะแนนขึ้นไป
ความคิดเหน็ อธบิ าย อภปิ รายแสดงความ หรือรอ้ ยละ 80
ถือว่าผ่านเกณฑ์
เกี่ยวกับพายุ คดิ เห็น - นกั เรยี นได้คะแนน
ประเมินผลงาน
-การตรวจผลงาน - แบบประเมนิ การ 13 คะแนนขึ้นไป
หรอื รอ้ ยละ 80
นักเรียน ตรวจผลงานผู้เรยี น ถือว่าผ่านเกณฑ์

2.ทักษะกระบวนการคิด และ - การอภิปรายแสดง - แบบประเมินการ -นักเรยี นไดค้ ะแนน
12 คะแนนขนึ้ ไป
ทักษะกระบวนการกลมุ่ ความคิดเห็นระบุ อภิปรายแสดงความ หรอื รอ้ ยละ 80 ถือว่า

ทักษะกระบวน คิดเห็น

93

การทางวิทยาศาสตรท์ ่ี - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์

ได้ปฏบิ ตั ิจากกิจกรรม พฤติกรรมการ
- สงั เกตพฤติกรรมการ ทำงานกล่มุ
ทำงานกลมุ่

3. คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ - สงั เกตค่านิยมในการ - แบบประเมิน - นกั เรียนไดค้ ะแนน
ประเมินคุณลักษณะ
และสมรรถนะผู้เรียน ทำงานรว่ มกับผู้อนื่ คณุ ลักษณะอนั พงึ

- มวี นิ ยั ในการทำงานกลมุ่ และการทำงานใน ประสงค์ อนั พึงประสงค์
26 คะแนนขน้ึ ไป
- นกั เรียนเห็นความสำคญั ระบบกลุ่ม - แบบประเมิน หรือรอ้ ยละ 80

ของการทำงานร่วมกับผ้อู นื่ และ อภปิ ราย แสดงความ สมรรถนะผู้เรยี น

การทำงานในระบบกลุ่ม คิดเห็นเก่ยี วกบั ผลการ ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
- ยอมรบั ความคิดเหน็ ซ่ึงกัน ทดลอง - นักเรยี นได้คะแนน
และกันมีความเสียสละและ การประเมนิ สมรรถนะ

อดทน 29 คะแนนขนึ้ ไป
หรือรอ้ ยละ 80
ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

12. กิจกรรมการเรยี นรู้

ชว่ั โมงท่ี 1

1. ขนั้ ต้ังประเด็นปัญหา/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)
1.1 ครใู ชภ้ าพหรอื วดี ิทัศน์ท่ีแสดงปรากฏการณเ์ กี่ยวกบั พายุฝนฟ้าคะนอง และพายหุ มุนเขตร้อน ให้

นกั เรียนสงั เกต จากนัน้ ครถู ามคำถามสรา้ งความสนใจ เช่น พายทุ ัง้ สองมีความแตกต่างกันอยา่ งไร พายใุ ด

สร้างอนั ตรายต่อมนุษย์มากกว่ากนั
1.2 นกั เรยี นทำกจิ กรรมทบทวนความรูก้ อ่ นเรยี นแลว้ นำเสนอผลการทำกิจกรรม หากพบวา่ นักเรยี น

ยังทำกจิ กรรมทบทวนความรู้กอ่ นเรียนไม่ถูกต้องครูควรทบทวนหรอื แก้ไขความเข้าใจผิดของนักเรียน

เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้พ้ืนฐานท่ีถูกต้องและเพียงพอทจี่ ะเรียนเรื่องพายุต่อไป
1.3 นำเข้าสู่กจิ กรรมท่ี 9 พายุฝนฟ้าคะนองและพายหุ มนุ เขตร้อนเกิดขึน้ ได้อยา่ งไร โดยตั้งประเดน็ สร้าง

ความสนใจว่าพายุในประเทศไทยที่พบบ่อยคือพายุฝนฟ้าคะนอง และพายุหมนุ เขตร้อน ซ่ึงนกั เรียนจะไดเ้ รยี นรู้

เกี่ยวกับพายุทั้งสองในกิจกรรมตอ่ ไป
ช่ัวโมงที่ 2

2. ขน้ั สืบค้นความรู้ (Searching for Information)

2.1 ให้นกั เรยี นอ่านวธิ ีดำเนินกจิ กรรมในหนังสือเรียน และร่วมกนั อภปิ รายในประเด็นดังต่อไปนี้
• กิจกรรมน้ีเกีย่ วกับเรือ่ งอะไร (กระบวนการเกดิ และผลกระทบของพายฝุ นฟา้ คะนอง และพายุหมุน

เขตรอ้ น)

• กิจกรรมน้ีมจี ดุ ประสงค์อยา่ งไร (นักเรยี นตอบตามความคิดของตนเอง)
• การทำกจิ กรรมมขี น้ั ตอนโดยสรปุ อยา่ งไร (อ่านข้อความการเกิดพายุฝนฟา้ คะนอง วเิ คราะห์และ

วาดภาพอธิบายกระบวนการเกิด สงั เกตภาพพายุหมนุ เขตร้อน วิเคราะห์และเขยี นอธบิ ายกระบวนการเกดิ

รวบรวมขอ้ มลู กระบวนการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตรอ้ น จากนั้นนำเสนอ)
2.2 ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายกระบวนการเกดิ พายฝุ นฟ้าคะนอง และพายหุ มุนเขตรอ้ นจากข้อมูลท่ี

กำหนดให้ในชุดกจิ กรรม

94

2.3 นักเรียนรวบรวมข้อมูลกระบวนการเกิดพายุท้ังสองจากแหลง่ ขอ้ มูลทเี่ ช่อื ถือได้
2.4 อธบิ ายภาพประกอบในกิจกรรม เชน่ สีขาวคือกลุ่มของเมฆ สีของลูกศรแสดงอัตราเรว็ ของลมตาม
แถบสดี ้านข้างเพื่อชว่ ยในการวิเคราะหข์ ้อมลู

2.5 กระตนุ้ ให้นักเรยี นสืบค้น ขอ้ มูลจากแหลง่ ต่าง ๆ เพอ่ื ให้ไดข้ ้อมูลทีม่ ากพอ สำหรับการวเิ คราะห์
กระบวนการเกดิ พายุ

3. ข้ันสรปุ องคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)
3.1 นักเรยี นอ่านข้อมลู เพิม่ เตมิ ในหนังสือเรียน และตอบคำถามระหว่างเรียน จากนัน้ ครูและนักเรยี น

ร่วมกันอภิปรายและสรุปสิ่งที่ได้เรยี นรู้ เพ่ือใหไ้ ด้ข้อสรปุ วา่ กระบวนการเกดิ พายุฝนฟา้ คะนองเกิดจากอากาศมี
อุณหภูมิสูงขนึ้ ทำใหน้ ำ้ ระเหยเพ่ิมขึน้ และลอยสูงขึ้น ไอนำ้ ในอากาศเกิดการควบแนน่ เปน็ ละอองนำ้ เกิดเป็นเมฆ
ขนาดใหญ่จากนน้ั จะเกดิ ฝนตกหนกั ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า หรอื อาจเกดิ ลูกเห็บตก กระบวนการเกิดพายุหมุนเขตร้อน
เกดิ จากอณุ หภมู เิ หนือน้ำทะเลเพ่ิมสงู ข้ึนทำให้เกิดไอน้ำในปริมาณมากและเคลอ่ื นทีส่ ูงข้ึนอย่างรวดเรว็ ทำให้
อากาศบริเวณรอบ ๆ เคล่ือนเข้ามาแทนทีจ่ งึ เห็นเปน็ เกลยี วขนาดใหญ่ พายุฝนฟา้ คะนองและพายหุ มุนเขตร้อน
มผี ลกระทบต่อมนุษยแ์ ละส่ิงแวดล้อมท้ังด้านบวกและลบ เช่น เกิดฝนตกชว่ ยในการทำการเกษตร หรือ เกิดนำ้
ทว่ มสร้างความเสยี หายแกช่ วี ิตและทรัพย์สนิ เป็นจำนวนมาก

4. ขั้นการสือ่ สารและนำเสนอ (Effective Communication)
4.1 นักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อนมีกระบวนการเกิดและ

ผลกระทบเหมือนและแตกต่างกนั อยา่ งไร
5. ขน้ั การบริการสงั คมและสาธารณะ (Public Service)
5.1 นกั เรยี นนำเสนอสรุปองค์ความร้ทู ่ีได้จากบทเรียน โดยภาพวาดอธบิ ายการเกิดพายฝุ นฟา้ คะนอง

ติดแสดงผลงานบนผนงั ห้องเรยี นเพ่ือใหน้ ักเรยี นชมผลงานและพิจารณาให้ความเห็นจากน้นั ครูและนกั เรยี น
อภปิ รายสรปุ องค์ความร้ทู ่ีได้จากบทเรียนรว่ มกัน

5.2 นกั เรียนตอบคำถามท้ายกจิ กรรม

13. สอ่ื การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้ 2) หนังสอื แบบเรียน 3) สอื่ เพาเวอรพ์ อยต์
13.1สื่อการเรยี นรู้ 2) ห้องสมุด
1) ชดุ กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์
13.2แหลง่ เรยี นรู้
1) อนิ เตอร์เนต็

14. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ รายละเอยี ด

ผลการสอน ......................................................................................
......................................................................................
1. ดา้ นความรู้ : ......................................................................................
- พายฝุ นฟา้ คะนอง ......................................................................................
- พายุหมุนเขตร้อน ......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................

95

2. ด้านกระบวนการ : ......................................................................................
- ทกั ษะกระบวนการคิด ......................................................................................
- ทักษะกระบวนการกลุ่ม ......................................................................................
......................................................................................
3. ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นยิ ม ......................................................................................
อันพึงประสงค์ :
- มวี นิ ยั ......................................................................................
- ใฝ่เรียนรู้ ......................................................................................
- อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ......................................................................................
- รกั ความเป็นไทย ......................................................................................
...............................................................................
......................................................................................

4. ปัญหาการสอน
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................

5. วิธแี ก้ปัญหา
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................

ลงชือ่ ........................................ครูผสู้ อน ลงชือ่ ...........................................หวั หน้ากลุม่ สาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อุทุมสกุลรตั น.์ .) (นายสรุ จกั ริ์ แก้วม่วง.)

ลงชอื่ ........................................... ลงชอ่ื ...........................................
(..นายศิวาวุฒิ รตั นะ..) (..นางรพีพร คำบญุ มา..)
หัวหน้างานนิเทศ
รองผอู้ ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ

ลงชอื่ ........................................................
(...นายจงจดั จันทบ...)

ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นสวุ รรณารามวิทยาคม

96

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16
หนว่ ยการเรียนรู้ที…2…กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ…เรอื่ ง….มนษุ ยแ์ ละการเปลยี่ นแปลงลมฟ้า

อากาศ(ตอนท่ี2)…..รายวิชา….วทิ ยาศาสตร์……..2.......รหสั วชิ า…....ว 21102 .........ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี....1.....
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปกี ารศึกษา... 2563...ภาคเรยี นท่.ี .2...เวลา...5..ชวั่ โมง……
ผู้สอน.........................นางสาวอโนชา...อุทุมสกุลรัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ (รายวชิ าพ้ืนฐานมที ั้งมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วดั
รายวชิ าเพ่ิมเติมมีเฉพาะมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละผลการเรียนรู)้

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั ว 3.2 ม.1/6,7

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (หลอมจากตวั ช้วี ดั ทีใ่ ช้ในหนว่ ยการเรยี นรู้นี้เขยี นเป็นแบบความเรียง)
ลมฟ้าอากาศมีการเปล่ียนแปลงได้ตลอดเวลาเมื่อองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศมีการเปล่ียนแปลง

ไป บางครั้งการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศจะเกิดอย่างรุนแรงซึ่งส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอย่าง
มาก สำหรับประเทศไทยพบการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศได้แก่ พายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน ซึ่ง
พายุทั้งสองมีกระบวนการเกิดและผลกระทบทั้งเหมือนและแตกต่างกัน ลมฟ้าอากาศเป็นสภาวะของอากาศที่
เกิดขึ้นในพ้ืนที่หน่ึง ๆ ในช่วงเวลาหน่ึง เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ดังท่ีกล่าวมา ภูมิอากาศเป็นลักษณะลมฟ้า
อากาศโดยเฉล่ียของพ้ืนที่หน่ึง ๆ ในแต่ละช่วงเวลา มีการเปล่ียนแปลงได้เช่นกัน ปัจจัยที่ทำให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมีทั้งปัจจัยทางธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศแม้ไม่ได้
เกดิ ข้นึ อยา่ งรวดเร็วเหมือนดังการเปลีย่ นแปลงลมฟ้าอากาศ แต่กส็ ่งผลกระทบต่อส่ิงมีชวี ติ และสิง่ แวดลอ้ ม
อย่างมาก มนุษย์จำเป็นต้องเรียนรู้สถานการณ์ ผลกระทบ และแนวทางในการปฏิบัติตนภายใต้การ
เปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ เพ่ือให้มนุษย์และส่ิงแวดล้อมดำรงอยู่ได้อย่าง
ปลอดภัยและยั่งยนื
3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/สาระการเรียนร้เู พิม่ เติม (รายวชิ าเพม่ิ เติม)
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
• ภูมิอากาศโลกเกดิ การเปล่ยี นแปลงอยา่ งต่อเนื่องโดยปัจจัยทางธรรมชาติ แตป่ ัจจุบันการ

เปล่ียนแปลงภูมอิ ากาศเกิดข้ึนอย่างรวดเรว็ เนื่องจากกิจกรรมของมนษุ ยใ์ นการปลดปล่อยแกส๊ เรอื นกระจกสู่
บรรยากาศ แก๊สเรอื นกระจกทถี่ กู ปลดปล่อยมากทสี่ ุด ได้แก่ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดซ์ ่ึงหมนุ เวียนอยู่ในวฏั
จกั รคารบ์ อน

• การเปลยี่ นแปลงภมู อิ ากาศโลกก่อให้เกิดผลกระทบต่อสง่ิ มชี วี ิตและส่ิงแวดล้อม เช่นการหลอมเหลว
ของนำ้ แข็งขัว้ โลก การเพ่ิมขน้ึ ของระดับทะเล การเปลยี่ นแปลงวัฏจักรนำ้ การเกิดโรคอบุ ัตใิ หม่และอุบัตซิ ้ำ
และการเกดิ ภัยพบิ ัติทางธรรมชาตทิ ร่ี นุ แรงขน้ึ มนุษย์จงึ ควรเรยี นรู้แนวทางการปฏิบัติตนภายใตส้ ถานการณ์
ดังกล่าว ทงั้ แนวทางการปฏบิ ัตติ นให้เหมาะสมและแนวทางการลดกจิ กรรมที่ส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลง
ภูมอิ ากาศโลก

3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (ถา้ ในคำอธิบายรายวิชาพดู ถงึ หลักสูตรท้องถิน่ ให้ใสล่ งไปดว้ ย

...............................................................-...........................................................................................

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายสถานการณ์การเปล่ียนแปลงภมู ิอากาศโลก และยกตัวอยา่ งผลกระทบต่อส่ิงมีชีวิตและ

ส่ิงแวดล้อม (K)

97

2. เสนอแนวทางในการปฏิบตั ติ นใหเ้ หมาะสม ปลอดภัยจากพายฝุ นและการเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศ (P)

3. ตงั้ ใจเรยี นรแู้ ละแสวงหาความรู้ (A)

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน (เลือกเฉพาะข้อทเ่ี กดิ ในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ้ี)

 1. ความสามารถในการสื่อสาร  2. ความสามารถในการคิด
 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (เลือกเฉพาะข้อที่เกิดในหน่วยการเรียนรนู้ )้ี

 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  2. ซ่ือสัตยส์ จุ รติ

 3. มวี ินัย  4. ใฝเ่ รียนรู้
 5. อยอู่ ย่างพอเพียง  6. มุ่งม่ันในการทำงาน

 7. รักความเปน็ ไทย  8. มีจิตสาธารณะ
7. ด้านคณุ ลักษณะของผ้เู รียนตามหลกั สตู รมาตรฐานสากล

 1. เปน็ เลิศวิชาการ  2. ส่ือสารสองภาษา  3. ล้ำหน้าทางความคิด

 4. ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์  5. รว่ มกนั รบั ผดิ ชอบต่อสงั คมโลก
8. ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คอื การเรียนรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขยี นได้)  R3- (A) Rithmetics (คิดเลขเป็น)
 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)
 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and
Leadership)

 ทกั ษะดา้ นการสอ่ื สาร สารสนเทศและรู้เทา่ ทันส่ือ (Communications, Information, and Media Literacy)
 ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT
Literacy)

 ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)
ความมเี มตตา (วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม (Compassion)

9. บรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

1. หลกั ความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชกิ ในกล่มุ ให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในห้องเรยี นคอื

ประมาณกลุ่มละ 4 – 6 คน

2. หลักความมเี หตผุ ล : ให้นกั เรียนสร้างสรรคผ์ ลงานและเกิดทักษะการปฏิบตั ิ , นกั เรยี นเกดิ ความ

ภาคภูมใิ จในผลงานของตนและสง่ิ ทีเ่ รียนรู้

3. หลักภมู คิ ้มุ กัน : ให้นกั เรียนเกิดทักษะการทำงานกล่มุ และกลา้ แสดงออก , นกั เรยี นรู้จักการวาง

แผนการทำงานและมอบหมายงานใหส้ มาชิกภายในกล่มุ ได้เหมาะสมกับความสามารถของแตล่ ะบคุ คล

4. เงอ่ื นไขความรู้ : การวางแผนงานทจี่ ะทำก่อนแล้วคอ่ ยลงมือทำอยา่ งระมัดระวัง

5. เงอื่ นไขคุณธรรม : อดทนท่ีจะทำงาน และมคี วามขยนั ทจ่ี ะทำงานใหอ้ อกมาไดด้ ที ี่สดุ , มวี นิ ยั ในการ

ทำงาน

98

10. ช้ินงาน/ภาระงานรวบยอด ภาระงาน
ตวั ชว้ี ดั ชนิ้ งาน
- วิเคราะห์เปรียบเทยี บอธบิ าย
ว.3.2 ม.1/6,7 - รายงานกจิ กรรมที่ 10 ภูมอิ ากาศ สถานการณ์และผลกระทบการ
เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกจากขอ้ มลู ที่
เปล่ียนแปลงได้หรอื ไม่ รวบรวมได้
- นำเสนอแนวทางการปฏบิ ตั ิตนภายใต้
การเปล่ียนแปลงภมู อิ ากาศโลก

11. การวดั ประเมนิ ผล

11.1การวดั และประเมินผลชน้ิ งาน/ภาระงานรวบยอด

วิธกี าร

1.การสังเกตการณ์

2.การใช้ชดุ กจิ กรรมวทิ ยาศาสตรร์ อ่ งรอยบ่งช้ี 3.การวดั ประเมินการปฏบิ ัติ

เคร่ืองมือ

1. แบบสงั เกตการณ์

2. ชุดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ 3. แบบวดั ประเมินการปฏิบัติ

เกณฑ์

1.การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)

2.การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1

รายการถือว่า ไมผ่ า่ น

11.2 การวดั และประเมนิ ผลระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ประเมนิ จากแผนการจัดการเรยี นร้ขู อง

หนว่ ยการเรียนรู้นี้)

สง่ิ ที่ต้องการวดั วธิ ีวดั ผล เครื่องมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมิน

1. ความรเู้ ก่ียวกับ -การสอบถาม ซักถาม - แบบประเมินการ - นกั เรียนไดค้ ะแนน
- การเปลย่ี นแปลงภมู ิอากาศ 12 คะแนนขน้ึ ไป
โลก ความคดิ เหน็ อธิบาย อภิปรายแสดงความ หรือรอ้ ยละ 80
ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
เกี่ยวกับการเปล่ยี น คดิ เหน็ - นกั เรยี นไดค้ ะแนน
ประเมินผลงาน
แปลงภมู ิอากาศโลก - แบบประเมินการ 13 คะแนนขึน้ ไป
หรอื รอ้ ยละ 80
-การตรวจผลงาน ตรวจผลงานผู้เรยี น ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

นักเรียน -นักเรยี นไดค้ ะแนน
12 คะแนนขน้ึ ไป
2.ทกั ษะกระบวนการคิด และ - การอภิปรายแสดง - แบบประเมนิ การ หรอื รอ้ ยละ 80 ถือวา่
ผา่ นเกณฑ์
ทักษะกระบวนการกลุ่ม ความคดิ เหน็ ระบุ อภิปรายแสดงความ
99
ทักษะกระบวน คิดเห็น

การทางวิทยาศาสตร์ที่ - แบบประเมนิ

ได้ปฏิบตั ิจากกิจกรรม พฤติกรรมการ

- สงั เกตพฤติกรรมการ ทำงานกล่มุ
ทำงานกลมุ่

3. คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ - สงั เกตค่านิยมในการ - แบบประเมนิ - นักเรยี นได้คะแนน
ประเมินคุณลกั ษณะ
และสมรรถนะผู้เรยี น ทำงานร่วมกบั ผู้อื่น คุณลักษณะอนั พึง อนั พึงประสงค์

- มีวินยั ในการทำงานกลมุ่ และการทำงานใน ประสงค์

- นกั เรยี นเห็นความสำคญั ระบบกลมุ่ - แบบประเมิน 26 คะแนนข้ึนไป
หรอื รอ้ ยละ 80
ของการทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ื่นและ อภปิ ราย แสดงความ สมรรถนะผเู้ รยี น ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

การทำงานในระบบกล่มุ คดิ เห็นเกย่ี วกับผลการ

- ยอมรับความคิดเหน็ ซ่งึ กนั ทดลอง - นกั เรยี นได้คะแนน
และกันมีความเสียสละและ การประเมนิ สมรรถนะ
อดทน 29 คะแนนขน้ึ ไป

หรอื ร้อยละ 80
ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

12. กิจกรรมการเรียนรู้
ชว่ั โมงท่ี 1

1. ขน้ั ตงั้ ประเดน็ ปัญหา/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)

1.1 ครใู ช้ภาพหรอื วีดิทัศนแ์ สดงปรากฏการณท์ ี่เกี่ยวข้อง
กบั การเปล่ยี นแปลงภมู ิอากาศโลก เช่น ภาพนำ เรื่องเก่ียวกบั น้ำแข็งขว้ั โลกหลอมเหลวและผลกระทบตอ่

หมขี วั้ โลกเป็นตน้ ให้นกั เรียนสังเกต จากน้ันครูถามคำถามเพอื่ สรา้ งความสนใจดังนี้

• การเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศโลกคืออะไร ใครไดร้ ับผลกระทบบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ)
1.2 นกั เรยี นทำกจิ กรรมทบทวนความรกู้ ่อนเรียนแลว้ นำเสนอผลการทำกิจกรรม หากพบวา่ นักเรียน

ยงั ทำกิจกรรมทบทวนความรู้กอ่ นเรียนไมถ่ ูกต้องครูควรทบทวนหรือแก้ไขความเข้าใจผดิ ของนักเรียน

เพอื่ ให้มคี วามรู้พนื้ ฐานท่ีถกู ต้องและเพยี งพอทจี่ ะเรียนเร่ืองการเปลย่ี นแปลงภมู ิอากาศโลกต่อไป
1.3 นำเขา้ สกู่ ิจกรรมท่ี 10 ภูมิอากาศเปลย่ี นแปลงไดห้ รือไม่ โดยต้ังประเดน็ ให้นักเรียนหาคำตอบว่า ลม

ฟ้าอากาศมกี ารเปลยี่ นแปลงได้ทุกวัน สำหรับภูมิอากาศซึ่งเปน็ แบบรูปลมฟ้าอากาศของพน้ื ทหี่ น่งึ ๆ สามารถ

เปลีย่ นแปลงได้หรอื ไม่
ช่วั โมงท่ี 2-3

2. ข้นั สืบค้นความรู้ (Searching for Information)

2.1 ใหน้ ักเรยี นอ่านวิธีดำเนินกิจกรรมในหนงั สือเรยี น และร่วมกนั อภปิ รายในประเด็นดังตอ่ ไปนี้
• กจิ กรรมนเ้ี ก่ียวกับเร่อื งอะไร (สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก)

• กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อยา่ งไร (นกั เรียนตอบตามความคิดของตนเอง)

• วธิ ีดำเนินกิจกรรมมีขัน้ ตอนโดยสรปุ อยา่ งไร (วิเคราะหส์ ถานการณ์การเปลยี่ นแปลงภมู อิ ากาศโลก
จากข้อมูลที่กำหนดและอธบิ ายว่าภูมิอากาศโลกมกี ารเปลยี่ นแปลงหรอื ไม่และสถานการณด์ ังกลา่ วส่งผลต่อ

สง่ิ มีชีวิตและส่ิงแวดลอ้ มอย่างไร)ครูควรอธิบายเพิ่มเติมในประเดน็ ท่ีนักเรยี นยงั ตอบได้ไม่ครบถ้วน

2.2 แบ่งกลุม่ นักเรยี นทำกิจกรรมโดยเลอื กวิเคราะห์ข้อมลู จากกราฟท่สี นใจ
2.3 ให้คำแนะนำ ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากกราฟ ความหมายของคำว่าคา่ ผิดปกตขิ องอุณหภูมอิ ากาศ

และค่าความผดิ ปกติของปรมิ าณหยาดนำ้ ฟ้า ทใี่ ชใ้ นกราฟ

100

ช่วั โมงท่ี 4-5
3. ขน้ั สรปุ องคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)

3.1 ให้นกั เรียนตอบคำถามท้ายกิจกรรม จากนน้ั นำเสนอ และอภปิ รายคำตอบรว่ มกันเพอ่ื ให้ได้
ขอ้ สรปุ ว่า ภูมอิ ากาศมกี ารเปลย่ี นแปลงและส่งผลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์

4. ขนั้ การส่ือสารและนำเสนอ (Effective Communication)

4.1 นักเรียนอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศโลกจากหนังสือเรียน และตอบ
คำถามระหว่างเรียนครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนทำกิจกรรมเสริม จากนนั้ อภิปรายคำตอบของคำถามระหว่างเรยี น
รว่ มกนั

5. ขน้ั การบรกิ ารสงั คมและสาธารณะ (Public Service)
5.1 สรปุ ส่ิงท่ไี ด้เรยี นรู้ เพือ่ ให้ไดข้ ้อสรปุ ว่า ภูมิอากาศโลกกำลงั เปล่ียนแปลง และส่งผลกระทบต่อ

ส่งิ มชี วี ติ และส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งมาก กจิ กรรมของมนุษย์ได้เร่งใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศโลกดงั กล่าว

5.2 สรุปหวั ข้อเรอ่ื งในบทเรยี น มนษุ ย์และการเปลีย่ นแปลงลมฟ้าอากาศ จากนน้ั ครูใหน้ กั เรียนทำ
กจิ กรรมตรวจสอบตนเอง เพื่อสรปุ องค์ความรทู้ ี่ไดเ้ รยี นร้จู ากบทเรียน โดยการเขยี นบรรยาย วาดภาพ หรือ
เขียนผังมโนทศั น์สิง่ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้จากบทเรียน

5.3 นกั เรยี นนำเสนอผลงาน โดยนำเสนอและอภิปรายภายในกลมุ่ หรอื อภิปรายร่วมกนั ในช้ันเรียน
หรือติดแสดงผลงานบนผนงั ห้องเรียนเพื่อให้นักเรยี นพิจารณาและแสดงให้ความคดิ เหน็ จากนั้นครูและ
นักเรยี นอภิปรายสรุปองคค์ วามร้ทู ่ีได้จากบทเรียนรว่ มกันนักเรยี นตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรม

5.4 ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมท้ายบท ปฏิบัตติ นอย่างไรเพื่อรับมอื กับการเปล่ียนแปลงภมู ิอากาศโลกใน
อนาคต ตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรม
13. สือ่ การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้

13.1สอื่ การเรียนรู้ 2) หนงั สอื แบบเรียน 3) ส่ือเพาเวอร์พอยต์
1) ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์

13.2 แหล่งเรียนรู้

1) อนิ เตอรเ์ นต็ 2) ห้องสมดุ
14. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้

ผลการสอน รายละเอยี ด

1. ดา้ นความรู้ : ......................................................................................

- การเปลย่ี นแปลงภูมอิ ากาศโลก ......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................

2. ด้านกระบวนการ : ......................................................................................
- ทกั ษะกระบวนการคิด ......................................................................................

- ทักษะกระบวนการกลุ่ม ......................................................................................

101

......................................................................................

3. ด้านคุณธรรมจริยธรรมและคา่ นยิ ม ......................................................................................

อนั พึงประสงค์ : ......................................................................................

- มีวินัย ......................................................................................

- ใฝเ่ รียนรู้ ......................................................................................

- อยู่อย่างพอเพยี ง ......................................................................................

- รกั ความเปน็ ไทย ......................................................................................

4. ปัญหาการสอน

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

5. วิธแี กป้ ัญหา

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

ลงชอ่ื ........................................ครผู ู้สอน ลงชอ่ื ...........................................หัวหนา้ กลุ่มสาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อุทมุ สกลุ รตั น์..) (นายสุรจักร์ิ แกว้ มว่ ง.)

ลงชอื่ ........................................... ลงชือ่ ...........................................
(..นายศิวาวุฒิ รัตนะ..) (..นางรพพี ร คำบญุ มา..)
หวั หน้างานนิเทศ
รองผ้อู ำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ

ลงชื่อ ........................................................
(...นายจงจดั จนั ทบ...)

ผู้อำนวยการโรงเรียนสวุ รรณารามวิทยาคม

102

แบบประเมินการอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็
วิชา .......................................................................................................... ชนั้ ………………………………
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ..............................กจิ กรรม ……………………………………………………………………….…

คำชแี้ จง : ให้ประเมินจากการสังเกตการรว่ มอภิปรายในระหว่างเรียน และการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม

โดยให้ระดับคะแนนลงในตารางทต่ี รงกับพฤตกิ รรมของผเู้ รยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรับปรงุ

รายการประเมิน รวม สรปุ ผลการ
15 ประเมิน

คะแนน

เลขท่ี ชอ่ื -นามสกุล การแสดงความ คะแนน ไม่
คิดเห็น ท่ีทำได้ ผ่าน
ยอมรับ ัฟงความ ผ่าน
คิดเห็นของผู้ ่ือน
ตรงประเด็น
สมเห ุตสมผล
มีความเชื่อมั่นใน
การแสดงออก

ลงชอ่ื ................................................................................. ผู้ประเมิน
เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรยี นไดค้ ะแนน 12 คะแนนขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

103

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

คำชี้แจง : ให้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รง
กบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ รายการที่ประเมิน ระดบั คะแนน
ประสงคด์ า้ น 321
3.1 ตรงตอ่ เวลา
1. มีวนิ ยั 3.2 ปฏบิ ัติงานเรยี บร้อยเหมาะสม
3.3 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง
4.1 กระตือรือร้นในการแสวงหาขอ้ มลู

2. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ

3. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 4.3 สรุปความร้ไู ด้อยา่ งมีเหตุผล
5.1 ใชว้ ัสดุ ส่ิงของ เครอื่ งใช้ อย่างประหยดั
5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า
5.3 ใช้จา่ ยอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออม

4. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย
7.2 เหน็ คุณค่าและปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย

ลงชื่อ ................................................................................. ผูป้ ระเมิน
/ /......................... ......................... .............................

เกณฑก์ ารให้คะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติชดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมท่ปี ฏิบัติบางครั้ง

104

แบบประเมนิ ผลงานผู้เรียน

ช่ือ - นามสกุล .................................................................................. ชนั้ …………………........
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ................................ กิจกรรม ……………….………………......................

คำชีแ้ จง: ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ขดี ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

ประเดน็ ทป่ี ระเมนิ ผปู้ ระเมนิ

ตนเอง เพ่ือน ครู

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 21

1. ตรงจุดประสงคท์ ี่กำหนด

2. มีความถูกต้องสมบรู ณ์

3. มีความคดิ สรา้ งสรรค์

4. มีความเปน็ ระเบียบ

รวม
รวมทกุ รายการ

เฉลย่ี

ผูป้ ระเมิน (ตนเอง)........................................................... ผปู้ ระเมนิ .......................................................... (เพื่อน)

ผ้ปู ระเมนิ ................................................................ (คร)ู

105

เกณฑก์ ารให้คะแนนผลงาน

ประเดน็ ท่ีประเมนิ 4 คะแนน 1

1. ผลงานตรงกับ ผลงานสอดคลอ้ ง 32 ผลงานไม่
จุดประสงค์ทกี่ ำหนด กบั จุดประสงค์ สอดคล้องกบั
ทุกประเดน็ ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง จดุ ประสงค์
2. ผลงานมีความถูกต้อง กับจดุ ประสงค์ กับจดุ ประสงค์ เนอ้ื หาสาระของ
สมบรู ณ์ เนื้อหาสาระของ เปน็ ส่วนใหญ่ บางประเด็น ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง
ผลงานถูกต้อง เนือ้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เปน็ สว่ นใหญ่
3. ผลงานมคี วามคิด ครบถว้ น ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานไมแ่ สดง
สร้างสรรค์ เป็นสว่ นใหญ่ บางประเด็น แนวคิดใหม่
ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมคี วาม
4. ผลงานมีความเป็น ถึงความคิด แปลกใหมแ่ ต่ยงั นา่ สนใจ แตย่ ัง ไม่ ผลงานสว่ นใหญ่
ระเบียบ สร้างสรรค์ ไมเ่ ปน็ ระบบ มแี นวคดิ แปลก ไม่เปน็ ระเบยี บ
แปลกใหม่ และมขี ้อ
และเป็นระบบ ใหม่ บกพร่องมาก

ผลงานมคี วามเป็น ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมคี วาม
ระเบยี บแสดงออก
ถงึ ความประณตี ความเป็น เปน็ ระเบยี บแต่มี

ระเบยี บแตย่ ังมี ขอ้ บกพร่อง

ข้อบกพร่อง บางสว่ น

เลก็ นอ้ ย

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

นกั เรยี นไดค้ ะแนน 13 คะแนนขน้ึ ไป หรอื ร้อยละ 80 ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

106

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทำงานกลุม่

กลมุ่ ..........................................................................................................

สมาชกิ ในกลุ่ม 1. 2....................................................................... ......................................................................

3. 4....................................................................... ......................................................................

5. 6....................................................................... ......................................................................

คำชี้แจง: ใหน้ ักเรยี นทำเครือ่ งหมาย ✓ ในช่องท่ีตรงกบั ความเปน็ จรงิ

พฤติกรรมทสี่ ังเกต คะแนน 1
32

1. มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเหน็
2. มคี วามกระตือรอื ร้นในการทำงาน
3. รับผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย
4. มีข้ันตอนในการทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ
5. ใช้เวลาในการทำงานอยา่ งเหมาะสม

รวม

เกณฑ์การให้คะแนน พฤตกิ รรมทท่ี ำเปน็ ประจำ ให้ 3 คะแนน
เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤตกิ รรมที่ทำเปน็ บางครง้ั ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ที ำนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
13-15 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ

107

แบบประเมินสมรรถนะผู้เรียน 5 ดา้ น

คำชแ้ี จง : ใหส้ งั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ตี รง
กบั ระดับคะแนน

สมรรถนะท่ีประเมิน ระดบั คะแนน
321
1. ความสามารถในการส่ือสาร
1.1 มคี วามสามารถในการรบั – สง่ สาร
1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของตนเอง
โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
1.3 ใช้วิธกี ารส่อื สารทเ่ี หมาะสม

2. ความสามารถในการคดิ
2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ เพื่อการสรา้ งองค์ความรู้
2.2 มีความสามารถในการคดิ เป็นระบบ เพื่อการสรา้ งองคค์ วามรู้

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.1 แกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ล
3.2 แสวงหาความรูม้ าใช้ในการแก้ปัญหา
3.3 ตัดสนิ ใจโดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
4.1 ทำงานและอยู่รว่ มกับผู้อ่ืนดว้ ยความสมั พันธอ์ นั ดี
4.2 มีวิธแี ก้ไขความขดั แย้งอย่างเหมาะสม

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.1 เลือกใชข้ ้อมลู ในการพัฒนาตนเองอย่างเหมาะสม
5.2 เลือกใช้ข้อมลู ในการทำงานและอยู่รว่ มกับผู้อ่ืนอยา่ งเหมาะสม

ลงช่ือ ................................................................................. ผู้ประเมนิ
/ /........................ ......................... .............................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมท่ีปฏิบัติชดั เจนและบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างคร้งั

108


Click to View FlipBook Version