The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา ประจำปีการศึกษา 2561

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Prapaluck Piama, 2019-06-26 22:39:51

SAR ประจำปีการศึกษา 2561

รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา ประจำปีการศึกษา 2561

Keywords: SAR2561

๒. ผลการพฒั นา
นักเรียนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจ มีวิธีกำรป้องกันตนเองจำกกำรล่อลวง ข่มเหง มีผลกำรพัฒนำผ่ำนเกณฑ์

การประเมินรอ้ ยละ 80.07 อยใู่ นระดบั คุณภาพ 3 ดี

แผนภูมิแสดงผลการประเมินนักเรยี นด้านความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
ช้นั ม.๑-ม.๖ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๐-๒๕๖๑

๑๐๐.๐๐

๘๐.๐๐

๖๐.๐๐

๔๐.๐๐

๒๐.๐๐

๐.๐๐ ดีเย่ียม ดี ผำ่ น ไมผ่ ่ำน
ปี ๒๕๖๑ ๘๐.๐๗ ๗.๒๒ ๐.๔๐ ๑๒.๓๒

๓. จดุ เดน่ -
๔. จุดควรพฒั นา -

ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔ ผ้เู รียนไมเ่ พิกเฉยตอ่ กำรกระทำส่งิ ทไี่ มถ่ กู ต้อง และอยูร่ ว่ มกันดว้ ยดีในครอบครัว ชมุ ชนและสังคม

๑. กระบวนการพัฒนา
โรงเรียนดำเนินกำรสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน และมกี ำรสอดแทรกคุณธรรมต่ำง ๆ เพื่อให้นักเรียนมีควำม

ตระหนักถึงกำรกระทำท่ีไม่ถูกต้อง ให้นักเรียนทำงำนร่วมกับผู้อ่ืนทั้งที่บ้ำนและท่ีโรงเรียน สังเกตได้จำกกำรจัดกำร
เรียนกำรสอนวิชำสุขศึกษำและพลศึกษำ จัดให้นักเรียนมีกำรพัฒนำสุขภำพของตนเองและครอบครัวควบคู่กันไป
ส่งเสริมให้นักเรียนร่วมกันพัฒนำสุขภำพทำงสังคม ในชุมชนของตนเอง จัดกิจกรรมเย่ียมบ้ำนนักเรียน กิจกรรม
เครือข่ำยผู้ปกครอง กิจกรรม Cover Dance เยำวชนห่ำงไกลยำเสพติด และกิจกรรมรณรงค์ต่อต้ำนยำเสพติดและ
อบำยมุข

๙๘ | หนา้

๒. ผลการพัฒนา
นักเรียนปฏิบัติตนอย่ำงเหมำะสม ไม่เพิกเฉยต่อกำรกระทำที่ไม่ถูกต้อง และอยู่ร่วมกันด้วยดีในครอบครัว

ชมุ ชนและสงั คม มีผลกำรพฒั นำผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ ร้อยละ 7๗.01 อยใู่ นระดบั คณุ ภาพ 2 ปานกลาง

แผนภูมิแสดงผลการประเมนิ พฤตกิ รรมนักเรยี นช้ัน ม.๑-ม.๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๐-๒๕๖๑ ร
๐.๒๙
๕๐.๐๐
๔๕.๐๐
๔๐.๐๐
๓๕.๐๐
๓๐.๐๐
๒๕.๐๐
๒๐.๐๐
๑๕.๐๐
๑๐.๐๐
๕.๐๐
๐.๐๐ ๔.๐๐ ๓.๕๐ ๓.๐๐ ๒.๕๐ ๒.๐๐ ๑.๕๐ ๑.๐๐ ๐.๐๐

ปี ๒๕๖๑ ๔๕.๑๐ ๑๗.๑๙ ๑๔.๗๓ ๙.๒๓ ๕.๙๔ ๒.๒๙ ๓.๙๐ ๑.๓๒

๓. จุดเด่น
โรงเรยี นดำเนินกิจกรรมทดสอบสมรรถภำพเพื่อสุขภำพของนักเรียนทุกระดับช้ัน จัดกิจกรรมออกกำลังกำย

อยำ่ งสม่ำเสมอในวันพุธ ชว่ งเวลำเชำ้ กจิ กรรมกำรแข่งขันกีฬำระหว่ำงคณะ ผู้เรียนเรียนรู้และมีทักษะในกำรป้องกัน
ตนเองจำกกำรลอ่ ลวง ขม่ เหง รงั แก และผเู้ รียนปฏบิ ตั ิตำมกฎระเบียบ และให้ควำมร่วมมือต่อสถำนศึกษำ ครอบครัว
ชุมและสังคม

๔. จดุ ควรพัฒนา
ควรนำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เหมำะสมเข้ำมำช่วยในกำรพัฒนำสุขภำวะทำงด้ำนร่ำงกำยและลักษณะจิตสังคม

ของนักเรียน และแสดงผล เพือ่ ให้นักเรยี นนำขอ้ มูลไปใช้ในกำรพัฒนำตอ่ ไป

๙๙ | หนา้

ผู้บริหำรมีภำวะผู้นำกำรเปลี่ยนแปลง มีวิสัยทัศน์ โดยใช้หลักกำรบริหำรแบบมีส่วนร่วม ใช้ข้อมูลผลกำร
ประเมินหรือผลกำรวิจัยเป็นฐำนควำมคิดทำงด้ำนกำรบริหำรจัดกำร ใช้กระบวนกำรบริหำรแบบ PDCA เพ่ือให้กำร
บรหิ ำรเป็นไปตำมแผนกลยุทธ์ เป็นไปตำมลำดับขั้นตอน ตอบสนองนโยบำย ผู้บริหำรเป็นผู้มีควำมรู้ ควำมสำมำรถ มี
ประสบกำรณ์ด้ำนกำรบริหำร มีภำวะผู้นำ เป็นนักวชิ ำกำรและนกั กำรศกึ ษำ มีวสิ ัยทัศน์และมีควำมคิดริเริ่มสร้ำงสรรค์
ในกำรพัฒนำให้เท่ำทันกำรเปลี่ยนแปลงสู่สังคมยุคศตวรรษท่ี ๒๑ ที่มีกำรเปล่ียนแปลงอย่ำงเข้มงวด โดยใช้รูปแบบ
กำรบริหำรและวธิ ีกำรเชิงระบบอย่ำงเหมำะสมและสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ให้ควำมสำคัญกับกำรบริหำรใน
ทุก ๆ ด้ำน ด้ำนกำรบริหำรวิชำกำร ให้ควำมสำคัญกับกำรพัฒนำหลักสูตรเพ่ือให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลำง
กำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน สอดคล้องกับบริบทของสถำนศึกษำ ควำมต้องกำรของชุมชน และมีกำรจัดกำรศึกษำเพื่อ
ส่งเสริมกำรมีงำนทำท่ีมีประสิทธิผล ให้ควำมสำคัญในกำรพัฒนำกระบวนกำรเรียนกำรสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
จัดกำรเรียนรู้ผ่ำนกระบวนกำรคิดและปฏิบัตจิ ริงสำมำรถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวันได้ เนน้ กระบวนกำรพัฒนำ
ครูสง่ เสรมิ กิจกรรมชุมชนแห่งกำรเรียนรทู้ ำงวิชำชีพ (PLC) ในทุกกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ กำรพัฒนำแหล่งกำรเรียนรู้และ
สอ่ื นวัตกรรมทำงกำรศึกษำ กำรยกระดับผลสัมฤทธิ์ทำงกำรศึกษำ ด้ำนกำรบริหำรงำนบุคคล ให้ควำมสำคัญกับกำร
ขำนรับและขับเคลื่อนตำมนโยบำย ในเร่ืองค่ำนิยม ๑๒ ประกำร ของคนไทยให้เกิดกับผู้เรียนควบคู่กับกำรปลูกฝัง
คุณธรรมจริยธรรม มีกำรบริหำรงำนแบบธรรมำภิบำล ส่งเสริมให้ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำมีส่วนร่วมในกำร
กำหนดทศิ ทำงแผนกำรปฏบิ ตั ิงำน กำรมอบหมำยงำนตำมหน้ำที่รับผิดชอบ มีกำรจัดประชุมครูและบุคลำกรทำงกำร
ศึกษำ ให้ได้ร่วมคิดและรับฟังแนวนโยบำยต่ำง ๆ เพ่ือสร้ำงควำมตระหนักและรับรู้ร่วมกันในองค์กร มีกำรส่งเสริม
พัฒนำวชิ ำชีพครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ให้ครไู ด้รบั กำรพัฒนำตำมโครงกำรพัฒนำครูรปู แบบครบวงจร (คูปองครู)
รอ้ ยละ 100 ของจำนวนครูทั้งหมดในโรงเรียน ด้ำนกำรบรหิ ำรงบประมำณ ให้ควำมสำคัญทำงด้ำนกำรใช้งบประมำณ
ตำมแผนปฏบิ ัติกำรประจำปี มีแผนปฏบิ ัตกิ ำรประจำปสี อดคลอ้ ง ครอบคลมุ แหลง่ เงินทุกประเภท มีกำรติดตำมกำรใช้
งบประมำณ แสดงให้เห็นถึงกำรใช้งบประมำณอยำ่ งคุม้ คำ่

ผู้บริหำรเป็นผู้อุทิศตนให้กับงำนในหน้ำท่ีรำชกำรและงำนของชุมชน ช่วยเหลือเก้ือกูล ให้ควำมร่วมมือกับ
หน่วยงำน เครือข่ำยอ่ืน ๆ เพ่ือร่วมกันพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของสถำนศึกษำ โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนถึงพร้อม
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เปน็ ทน่ี ่ำเชือ่ ถือและไดร้ บั กำรยอมรับจำกผปู้ กครองและชุมชน จำกกำรดำเนินงำนดังกล่ำว
ส่งผลให้โรงเรียนมผี ลกำรประเมินคณุ ภำพภำยในของสถำนศกึ ษำในมำตรฐำนที่ ๒ กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำร
อย่ใู นระดับ ดีเลิศ ดงั มีรำยละเอียดผลกำรประเมินดังต่อไปน้ี

๑๐๐ | หน้า

มาตรฐาน / ประเด็นพจิ ารณา ร่องรอย/หลักฐาน/ความพยายาม

มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ  แผนปฏบิ ัตกิ ำรประจำปี

๒.๑ มีเปำ้ หมำยวิสัยทศั นแ์ ละพันธกิจทส่ี ถำนศึกษำกำหนด  แผนกลยุทธ์ /แผนพฒั นำคุณภำพ

ชัดเจน กำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ
 หลักสตู รสถำนศกึ ษำ
๒.๒ มรี ะบบบรหิ ำรจดั กำรคุณภำพของสถำนศกึ ษำ
๒.๒.๑ สถำนศกึ ษำมแี ผนและดำเนนิ งำนพฒั นำคณุ ภำพกำร  โครงสรำ้ งหลักสตู รสถำนศกึ ษำ
 กำรติดตำมประเมินผลกำรใชห้ ลักสูตร
บริหำรและกำรจัดกำรศึกษำที่มคี วำมเหมำะสม
๒.๒.๒ มกี ำรติดตำมตรวจสอบประเมนิ ผลและปรับปรงุ  งำนหอ้ งเรยี นพเิ ศษ (Smart Program)
 สำรสนเทศโรงเรียน
พัฒนำอยำ่ งต่อเนอ่ื ง

๒.๒.๓ มกี ำรบรหิ ำรอตั รำกำลงั ทรัพยำกรทำงกำรศึกษำ  T-SAR/SAR สถำนศกึ ษำ
 สถิติกำรใชบ้ รกิ ำรหอ้ งสมุด/แหล่งเรยี นรู้ต่ำง ๆ
และระบบดูแลช่วยเหลือนักเรยี นอยำ่ งเปน็ ระบบ

๒.๒.๔ มีระบบนิเทศภำยในและนำข้อมลู มำใชใ้ นกำรพฒั นำ  ประกำศ/คำส่ังแตง่ ตง้ั
๒.๒.๕ กำรมีสว่ นร่วมของผ้เู ก่ียวข้องทกุ ฝ่ำย และกำรรว่ ม  รำยงำนผลกำรดำเนนิ กิจกรรม/โครงกำร

รบั ผดิ ชอบตอ่ ผลกำรจดั กำรศกึ ษำให้มคี ุณภำพและได้

มำตรฐำน

๒.๓ ดำเนนิ งำนพฒั นำวิชำกำรทเี่ นน้ คณุ ภำพผู้เรยี นรอบด้ำนตำม

หลักสูตรสถำนศึกษำ และทกุ กลมุ่ เปำ้ หมำย

๒.๔ พัฒนำครูและบคุ ลำกรให้มีควำมเชย่ี วชำญทำงวิชำชพี

๒.๕ จดั สภำพแวดลอ้ มทำงกำยภำพและสงั คมที่เอ้ือตอ่ กำร

จดั กำรเรยี นร้อู ย่ำงมคี ณุ ภำพ

๒.๖ จดั ระบบเทคโนโลยสี ำรสนเทศเพ่ือสนบั สนนุ กำรบริหำร

จดั กำรและ กำรจัดกำรเรยี นรู้

สรปุ ระดับคุณภาพ มาตรฐานที่ 2 ระดับดีเลศิ

๑๐๑ | หน้า

๒.๑ มเี ป้าหมายวสิ ยั ทัศน์และพันธกจิ ทสี่ ถานศกึ ษากาหนดชดั เจน

ตัวชวี้ ัด โรงเรยี นมีกระบวนกำรกำหนดวสิ ยั ทศั น์ พันธกจิ ของสถำนศึกษำท่ีชัดเจน
๑. กระบวนการดาเนนิ งาน

วเิ คราะห์สภาพปัญหาของโรงเรยี น วิสัยทศั น์
ปจั จัยภายใน และปัจจยั ภายนอก ดว้ ยเทคนคิ SWOT พันธกิจ
เป้าประสงค์
กลยทุ ธ

รายงานการประเมินตนเองของครผู สู้ อน(T-SAR) แผนปฏิบตั กิ ารประจาปี แผนพัฒนา
การศกึ ษา
รายงานประจาปีของสถานศึกษา (SAR)

โรงเรียนดำเนินกำรบริหำรจัดกำรศึกษำโดยใช้หลักธรรมำภิบำล และใช้โรงเรียนเป็นฐำน (School Based
Management) ใชก้ ระบวนกำรบรหิ ำรแบบ PDCA กำหนดโครงสรำ้ งบริหำรงำนเป็น ๔ กล่มุ คือ กลุม่ บริหำรวิชำกำร
กลมุ่ บรหิ ำรงบประมำณ กลุม่ บริหำรงำนบคุ คล กล่มุ บรหิ ำรทวั่ ไป วำงแผนกำรจัดกำรศึกษำดำเนนิ กำรวิเครำะห์ปัญหำ
บริบทของโรงเรียน จำกกำรมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ำย ได้แก่ กรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน สมำคมศิษย์
เก่ำฯ ผู้ปกครอง ผู้แทนครู และฝ่ำยบริหำรของโรงเรียน ประชุมร่วมกัน วิเครำะห์สภำพปัจจัยภำยในและปัจจัย
ภำยนอก โดยใช้เทคนิค SWOT (SWOT Analysis) กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ กลยุทธ์ ในกำรกำหนด
วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ แผนงำน โครงงำน กิจกรรมที่สอดคล้องกับนโยบำยรัฐบำล นโยบำยต้นสังกัด ชุมชนและ
ท้องถิ่น จดั ทำแผนพฒั นำกำรศกึ ษำ ระยะ 3 ปี (2561-2563) แผนปฏิบัติกำรประจำปี จำกกำรมีส่วนร่วมของผู้ที่
เก่ียวข้องทุกฝ่ำย ได้แก่ ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ หัวหน้ำกลุ่มสำระทั้ง ๘ กลุ่มสำระ หัวหน้ำงำน และผ่ำนควำม
เห็นชอบของคณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำข้ันพนื้ ฐำนของโรงเรียน ผู้อำนวยกำรส่อื สำรให้บคุ ลำกรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ของโรงเรยี นทุกคนรับทรำบและถือปฏิบัติร่วมกัน โดยกำรประชุมผู้เกี่ยวข้อง ติดตำมกำรดำเนินงำนตำมแผนปฏิบัติ
กำรประจำปเี มอ่ื สน้ิ ปีงบประมำณ เพ่ือให้กำรดำเนนิ งำนบรรลวุ ัตถปุ ระสงคท์ ีก่ ำหนด จัดทำรำยงำนผลกำร

๑๐๒ | หนา้

ดำเนินงำนทกุ ภำคเรียน รำยงำนประจำปีของสถำนศึกษำ และรำยงำนกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ ทุกปีกำรศึกษำ
นำข้อมูลผลกำรดำเนินงำนในปีที่ผ่ำนมำมำทบทวนวัตถุประสงค์ เป้ำหมำย เพื่อปรับแผนปฏิบัติกำรประจำปี
ให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ พันธกิจ และวิสัยทัศน์ท่ีกำหนด พร้อมรำยงำนคณะกรรมกำร
สถำนศึกษำข้ันพื้นฐำนและหน่วยงำนต้นสังกัด และดำเนินกำรทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ เพ่ือปรับ
แผนพฒั นำกำรศึกษำใหส้ อดคล้องกบั สภำพปญั หำบรบิ ทของโรงเรียนระยะ 3 ปี
๒. ผลการดาเนนิ งาน

บุคลำกรผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโรงเรียนทุกคนทรำบถือปฏิบัติ และนำข้อมูลผลกำรดำเนินงำนมำทำกำร
ทบทวนวัตถุประสงค์ เป้ำหมำย จัดทำแผนปฏิบัติกำรประจำปีงบประมำณอย่ำงเป็นระบบ พร้อมรำยงำน
คณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้ันพ้ืนฐำนและหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง เผยแพร่แผนพัฒนำกำรศึกษำของโรงเรียน
ใหบ้ คุ ลำกรผรู้ ับผดิ ชอบถอื ปฏิบตั ิ โรงเรียนกำกับ ติดตำมผลกำรดำเนินงำน กิจกรรมให้บรรลุตำมเป้ำหมำยที่กำหนด
มีกำรแต่งต้ังคณะกรรมกำร ประกอบด้วยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโรงเรียน ดำเนินกำรร่วมวิเครำะห์สภำพบริบทของ
โรงเรียนด้วยเทคนิค SWOT Analysis โดยผู้บริหำร หัวหน้ำงำน และหัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ร่วมกันวิเครำะห์
ปัจจัยภำยในและปัจจัยภำยนอกของหน่วยงำนตนเอง แล้วกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ กรอบกลยุทธ์
ทีส่ อดคล้องกับเปำ้ หมำยของโรงเรียน จัดทำแผนพัฒนำกำรศึกษำของโรงเรียน แผนปฏิบัติกำรประจำปีงบประมำณ
โดยผำ่ นควำมคดิ เหน็ ชอบของคณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำขัน้ พ้นื ฐำน และจดั ทำรำยงำนผลกำรดำเนินงำนทุกภำคเรียน
จัดทำรำยงำนประจำปีของโรงเรียนทุกปีกำรศึกษำ ดำเนินกำรทบทวนวัตถุประสงค์เป้ำหมำยของแผนปฏิบัติกำร
ประจำปีงบประมำณทุกปี และทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ กลยุทธ์ แผนพัฒนำกำรศึกษำของโรงเรียน
ทกุ 3 ปี เผยแพร่ให้ผู้มสี ว่ นไดส้ ่วนเสยี ของโรงเรยี นไดร้ บั ทรำบและถือปฏิบัติร่วมกัน มีผลการดาเนินงานโดยรวมอยู่
ในระดับคณุ ภาพ ๔ ดีเลศิ
๓. จดุ เดน่ -
๔. จุดควรพฒั นา

กำรสร้ำงเครือข่ำยควำมรว่ มมอื ของผมู้ ีสว่ นเกยี่ วข้องในกำรจดั กำรศึกษำของโรงเรยี นให้มีควำมเข้มแข็ง มสี ว่ น
รว่ มรับผดิ ชอบตอ่ ผลกำรจัดกำรศึกษำ และกำรขับเคล่อื นคุณภำพกำรจดั กำรศกึ ษำ

๑๐๓ | หน้า

๒.๒ มรี ะบบบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศกึ ษา

ตัวชวี้ ดั ที่ ๑ สถำนศกึ ษำมแี ผนและดำเนนิ งำนพฒั นำคณุ ภำพกำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำที่มคี วำม
เหมำะสม

๑. กระบวนการดาเนนิ งาน

หลกั สตู รสถำนศึกษำ นโยบำย/กฎหมำย/ยุทธศำสตร์ ประกันคณุ ภำพกำรศึกษำ
พฒั นำบคุ ลำกร
แผนพฒั นำกำรศกึ ษำ ระยะ ๓ ปี
แผนกลยุทธและกรอบงบประมำณ

มำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำ

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ แผนปฏบิ ตั กิ ำรประจำปี

ผู้เรยี น

รำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน SAR /T-SAR

โรงเรียนดำเนินกำรแต่งต้ังคณะกรรมกำร ท่ีประกอบด้วยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ำย ได้แก่ ผู้อำนวยกำร
โรงเรียน หัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ หัวหน้ำงำนต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนปฏิบัติกำรประจำปี ๒๕๖๑
ดำเนินกำรทบทวนวัตถุประสงค์ เป้ำหมำยของแผนปฏิบัติกำรประจำปีงบประมำณ และทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ
เป้ำประสงค์ กลยทุ ธ์ เพอ่ื จัดทำแผนพฒั นำกำรศึกษำของโรงเรียนทุก 3 ปี แล้วนำเสนอต่อผู้ที่เก่ียวข้องให้ได้รับควำม
เห็นชอบของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ โดยมีโครงกำร และกิจกรรมอย่ำงหลำกหลำย ท่ีสนับสนุน ส่งเสริม และ
พัฒนำสถำนศึกษำให้บรรลุตำมเป้ำหมำย วิสัยทัศน์ ปรัชญำ และจุดเน้นของสถำนศึกษำ แต่ละโครงกำรจะมีกำร
ดำเนินงำนอย่ำงเปน็ ระบบ (PDCA) ทำให้กำรดำเนนิ งำนมีประสิทธภิ ำพและประสทิ ธผิ ลบรรลุตำมเปำ้ หมำย

๑๐๔ | หนา้

๒. ผลการดาเนินงาน
โรงเรียนบริหำรจัดกำรดำ้ นงบประมำณได้อย่ำงเปน็ ระบบ จึงไม่เกิดปัญหำเกี่ยวกับกำรบริหำรกำรเงิน อำศัย

กำรวำงแผนงบประมำณเตรยี มกำรระดมทรพั ยำกรใหเ้ พยี งพอตอ่ กำรจัดทำแผนปฏบิ ัตกิ ำร ทั้งกำรวำงแผน กำรกำกับ
ติดตำมและประเมินผลกำรเบิกจำ่ ยเงนิ ตำมระเบยี บรำชกำรกำหนด ผลจำกกำรใช้ระบบวงจรคุณภำพ (PDCA) ในกำร
ดำเนินงำนทุกระบบและทุกกำรทำงำน ส่งผลให้กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนเป็นไปตำมเป้ำหมำยที่สถำนศึกษำ
ตง้ั ไว้ ด้ำนกำรบริหำรงำนบุคคล โรงเรียนมีวัฒนธรรมองค์กรในกำรทำงำนร่วมกันโดยช่วยเหลือเก้ือกูลกัน มีกำรจัด
อบรมพัฒนำบคุ ลำกรใหส้ อดรับกับนโยบำยของตน้ สงั กัดในกำรจดั กำรเรยี นรู้ สนับสนุนกำรผลิตสอ่ื นวตั กรรมกำรเรียน
กำรสอน สนับสนนุ ให้เข้ำรบั กำรอบรมพฒั นำควำมรูอ้ ยำ่ งต่อเน่อื ง

โรงเรียนจดั ทำแผนพัฒนำคณุ ภำพกำรจัดกำรศึกษำ แผนปฏิบัติกำรประจำปี สอดคล้องกับกำรพัฒนำผู้เรียน
ทุกกลุ่มเปำ้ หมำย มีกำรพัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำใหม้ คี วำมรคู้ วำมเชย่ี วชำญ ตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ข้อมูล
สำรสนเทศมคี วำมถูกต้อง ครบถ้วน นำไปประยุกต์ใชไ้ ด้ ดำเนินกำรอย่ำงเป็นระบบ และมีกิจกรรมจัดสภำพแวดล้อม
ทำงกำยภำพและสังคมท่ีกระตนุ้ ผ้เู รยี นใหใ้ ฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น มกี ำรปรับแผนพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ แผนปฏิบัติกำร
ประจำปี ให้สอดคล้องกับสภำพปัญหำ ควำมต้องกำรพัฒนำ และนโยบำยกำรปฏิรปู กำรศกึ ษำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมี
สว่ นร่วมในกำรพฒั นำและร่วมรบั ผดิ ชอบ ผู้เก่ยี วขอ้ งทกุ ฝ่ำย และเครือข่ำยกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำ มีส่วนร่วม
ในกำรร่วมวำงแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ และรบั ทรำบ รับผิดชอบตอ่ ผลกำรจัดกำรศกึ ษำ สง่ ผลให้การดาเนินงาน
โดยรวมอยใู่ นระดับคณุ ภาพ ๔ ดเี ลศิ

๓. จดุ เดน่
โรงเรียนมีบุคลำกรรุ่นใหมท่ ม่ี ีควำมรู้ควำมสำมำรถและพรอ้ มท่จี ะพัฒนำตนเอง ครูทุกคนมีกำรจัดทำรำยงำน

กำรประเมินตนเองของครูผู้สอน (T-SAR) อีกทง้ั โรงเรียนมีกำรจัดทำแผนพฒั นำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ แผนปฏิบัติ
กำรประจำปี สอดคล้องกับกำรพัฒนำผู้เรยี นทุกกลุ่มเปำ้ หมำย

โรงเรียนมีกำรวำงแผนกำรทำงำนอย่ำงเป็นระบบ มีกำรจัดโครงสร้ำงกำรบริหำรให้เอ้ือต่อกำรดำเนินงำน
ทุกคนมีส่วนรว่ มและมกี ำรประชำสัมพันธก์ บั ทุกฝำ่ ยท่ีเกย่ี วข้อง แตง่ ตงั้ คณะกรรมกำรเพ่อื กำหนดแนวทำงใหค้ วำมเห็น
และข้อเสนอแนะ และแต่งตั้งคณะบคุ คลทำกำรตรวจสอบ ทบทวน กำกับติดตำมกำรดำเนนิ งำนอยำ่ งต่อเนื่องให้บรรลุ
เปำ้ หมำยตำมแผนพัฒนำคุณภำพสถำนศกึ ษำทกี่ ำหนดไว้ โดยจดั ทำแผนปฏบิ ัตกิ ำรประจำปีทช่ี ัดเจน ครอบคลุม

โรงเรยี นเปิดโอกำสให้ผเู้ ก่ยี วขอ้ งทุกฝ่ำยมสี ่วนร่วมและร่วมรับผดิ ชอบตอ่ ผลกำรจัดกำรศึกษำให้มีคุณภำพและ
ได้มำตรฐำน เช่ือมโยงกำรบริหำรแบบมสี ว่ นร่วม เป็นไปตำมกฎหมำย ขอ้ บงั คับตำ่ ง ๆ ยดึ มนั่ ในควำมถูกต้อง

๔. จุดควรพฒั นา
โรงเรียนมคี รูและบุคลำกรรนุ่ ใหมท่ ย่ี งั ไม่มปี ระสบกำรณ์ในกำรทำงำน จึงควรจัดให้มีกำรพัฒนำบุคลำกรกลุ่ม

ดังกลำ่ ว

๑๐๕ | หนา้

ตัวชวี้ ดั ท่ี ๒ มีกำรตดิ ตำมตรวจสอบประเมินผลและปรับปรงุ พัฒนำอยำ่ งตอ่ เน่อื ง

๑. กระบวนการดาเนนิ งาน
โรงเรียนมีกำรกำกับ ตรวจสอบ และรำยงำน เป็นกระบวนกำรท่ีโรงเรียนต้องดำเนินกำรอย่ำงต่อเน่ือง ด้วย

กำรติดตำมประเมนิ ผล เพ่อื แกป้ ญั หำพัฒนำใหม้ ปี ระสทิ ธิภำพอันก่อให้เกดิ ประสทิ ธิผลทด่ี ีโดยมขี นั้ ตอนดังน้ี
๑. กำรกำกับ (Monitoring) โรงเรียนจัดระบบกำกับ ติดตำมกำรปฏิบัติงำนตำมแผนกำรปฏิบัติกำร

โครงกำร กิจกรรม ในเร่อื งขนั้ ตอนวธิ ีกำร ระยะเวลำ งบประมำณและผลที่ได้รับ ตำมรูปแบบที่โรงเรียนกำหนด และ
จดั ใหผ้ ู้รับผดิ ชอบ รำยงำนผลกำรปฏบิ ตั ิงำน ตลอดทัง้ ควำมกำ้ วหน้ำ อปุ สรรค แนวทำงในกำรแกป้ ัญหำ

๒. กำรตรวจสอบ (Auditing)
การตรวจสอบภายใน โรงเรียนจัดให้มีคณะกรรมกำรควบคุมภำยใน มีหน้ำที่ตรวจสอบ ควบคุมกำรดำเนิน
กิจกรรมภำยในโรงเรยี น ศึกษำควำมเสีย่ ง จดั ทำรำยงำน สรปุ ผล พร้อมข้อเสนอแนะในกำรดำเนินงำน โรงเรียนจัดให้
มีคณะกรรมกำรตรวจสอบคุณภำพและประเมินภำยใน โดยโรงเรียนมีบทบำทในกำรประเมินตนเอง เป็นกำร
ตรวจสอบกำรปฏิบัตงิ ำนทกุ ข้นั ตอนตั้งแตก่ ำรวำงแผน กำรจัดองค์กร กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน งบประมำณ
บคุ ลำกร เพื่อนำขอ้ มลู มำจัดทำสำรสนเทศสำหรับใชป้ ระกอบในกำรวำงแผนและแกป้ ัญหำ พฒั นำกำรดำเนินงำน และ
จดั ทำรำยงำนกำรประเมนิ ผลกำรดำเนินงำนของแต่ละกจิ กรรม เพ่อื นำไปสกู่ ำรประเมินโดยรวมท้ังระบบของโรงเรียน
เพ่ือจัดทำรำยงำนประจำปีของสถำนศึกษำ ตำมมำตรฐำนคุณภำพกำรศึกษำภำยในสถำนศึกษำ ๓ มำตรฐำน ๒๑
ประเดน็ พจิ ำรณำ หรือตำมท่กี ระทรวงศึกษำธกิ ำรกำหนด สำหรับรำยงำนผ้เู ก่ียวข้องตอ่ ไป
การตรวจสอบภายนอก โรงเรียนตอ้ งพร้อมรับกำรตรวจสอบติดตำมจำกหน่วยงำนต้นสังกัด และหน่วยงำน
ตรวจสอบภำยนอก (สมศ.) ที่มีบทบำทหนำ้ ทใ่ี นกำรตรวจประเมิน รับรองคุณภำพกำรศึกษำตำมมำตรฐำนกำรศึกษำ
และแนวทำงกำรประเมินคุณภำพภำยนอกรอบสี่ (พ.ศ.๒๕๕๙-๒๕๖๓) กำรบริหำรจัดกำรในระยะเช่ือมต่อกำร
ประเมินมำตรฐำนคณุ ภำพกำรศึกษำ พ.ศ.๒๕๖๑ จำนวน ๓ มำตรฐำน คือ ๑.ผลกำรจัดกำรศึกษำ ๒.กำรบริหำรจัด
กำรศึกษำ และ ๓.กำรจดั กำรเรียนกำรสอนที่เนน้ ผ้เู รียนเป็นสำคญั
๓. กำรรำยงำน (Reporting) ผู้รับผิดชอบ กำรปฏิบัติงำนที่ได้รับมอบหมำย จัดทำรำยงำน สรุปผลกำร
ดำเนินงำนเม่ือเสร็จส้ินโครงกำร หรือตำมระยะเวลำท่ีกำหนด หรือเมื่อส้ินสุดในแต่ละภำคเรียนทุกปีกำรศึกษำ
โรงเรยี นจดั ทำรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำนแต่ละภำคเรียน และรำยงำนประจำปขี องสถำนศึกษำเสนอต่อหน่วยงำนและ
ผเู้ กีย่ วขอ้ งและเผยแพรต่ ่อสำธำรณชน

๒. ผลการดาเนนิ งาน
โรงเรียนมีกระบวนกำรกำกับ ติดตำม ประเมินผลกำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำอย่ำงเป็นระบบ มีกำร

แต่งต้ังคณะกรรมกำรตรวจสอบกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำตำมระบบประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ ในกำร
กำกับ ติดตำม ประเมินผลกำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำให้เป็นไปตำมมำตรฐำนกำรศึกษำที่กำหนด และจัดทำ
รำยงำนผลกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรศกึ ษำทกุ ปีกำรศกึ ษำ มีผลการประเมินโดยภาพรวมอยูใ่ นระดับคุณภาพ ๔ ดีเลศิ

๑๐๖ | หนา้

๓. จุดเดน่ -
๔. จุดควรพัฒนา -

ตวั ชว้ี ดั ที่ ๓ มกี ำรบรหิ ำรอตั รำกำลงั ทรพั ยำกรทำงกำรศึกษำและระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นอยำ่ งเป็นระบบ

๑. กระบวนการดาเนนิ งาน
โรงเรยี นมีกำรจดั กำรบรหิ ำรอัตรำกำลัง ให้เหมำะสมและเพียงพอต่อควำมต้องกำรของผู้เรียน และตรงตำม

ศักยภำพและควำมสำมำรถในกำรสอน มีทรัพยำกรทำงกำรศึกษำท่ีเพียงพอเอ้ือและสนับสนุนกำรเรียนกำรสอน
มีระบบดแู ลช่วยเหลือนักเรียนอย่ำงเป็นระบบ โดยจัดกิจกรรมเย่ียมบ้ำนนักเรียน กิจกรรมคัดกรองนักเรียน รวมท้ัง
มีกำรประเมินกำรดำเนินงำนระบบกำรดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพ่ือให้กำรดำเนินงำนดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นไป
อย่ำงมีระบบและมีประสิทธิภำพ โดยผ่ำนกระบวนกำรทำงำนท่ีชัดเจน มีร่องรอยหลักฐำนกำรปฏิบัติงำน สำมำรถ
ตรวจสอบและประเมินผลได้
๒. ผลการดาเนนิ งาน

โรงเรยี นมีกำรจดั กำรบริหำรอัตรำกำลัง ให้เหมำะสมและเพียงพอต่อควำมต้องกำรของผู้เรียน และตรงตำม
ศักยภำพและควำมสำมำรถในกำรสอน มีทรัพยำกรทำงกำรศึกษำท่ีเพียงพอ เอื้อและสนับสนุนกำรเรียนกำรสอน
มีระบบดแู ลช่วยเหลือนักเรยี นอยำ่ งเป็นระบบ โดยจัดกิจกรรมเย่ียมบำ้ นนกั เรยี น กิจกรรมคัดกรองนักเรียน โดยได้รับ
ควำมรว่ มมอื จำกคณุ ครทู ่ีปรกึ ษำในกำรประเมินกำรดำเนินงำนระบบดแู ลช่วยเหลอื นักเรียนคิดเป็นร้อยละ 100 มีผล
การประเมินโดยรวมอยู่ในระดับคุณภาพ 5 ยอดเยยี่ ม
๓. จุดเด่น -
๔. จุดควรพัฒนา -

ตัวช้วี ดั ท่ี ๔ มีระบบนิเทศภำยในและนำข้อมลู มำใชใ้ นกำรพัฒนำ

๑. กระบวนการดาเนินงาน
โรงเรียนมีกำรแต่งต้ังคณะกรรมกำรนิเทศภำยในท่ีชัดเจน ประชุมวำงแผน ดำเนินกำรนิเทศติดตำมกำรใช้

หลักสูตรตำมกรอบเวลำ ประชุมสรุปผลกำรประเมินและรำยงำนผลกำรนิเทศภำยในทุกภำคเรียน กลุ่มสำระกำร
เรียนรู้นำผลกำรนิเทศมำประชุมวำงแผนปรบั ปรงุ กำรจดั กำรเรียนรู้ของครู และนำผลกำรนิเทศมำปรับปรุงพัฒนำกำร
จดั กำรเรียนรู้ของตนเอง

๑๐๗ | หนา้

๒. ผลการดาเนนิ งาน
โรงเรยี นมแี ผนงำน โครงกำรกจิ กรรมกำรนิเทศภำยในสถำนศกึ ษำทม่ี ุ่งส่งเสรมิ กำรพฒั นำกำรจัดกำรเรียนกำร

สอน คณะกรรมกำรนิเทศภำยใน ประชมุ วำงแผน ดำเนินกำรกำรนเิ ทศติดตำมกำรใชห้ ลกั สูตรตำมกรอบเวลำท่ีกำหนด
คณะกรรมกำรกำรประชุมสรปุ ผลกำรประเมนิ และรำยงำนผลกำรนเิ ทศภำยในทกุ ภำคเรยี น กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้นำผล
กำรนเิ ทศมำประชมุ วำงแผนปรบั ปรงุ กำรจดั กำรเรยี นร้ขู องครู มีผลการประเมินโดยรวมร้อยละ 89.42 อยู่ในระดับ
คุณภาพ 3 ดี

กราฟสรปุ ผลการนเิ ทศการเรยี นการสอน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2561

ภำษำตำ่ งประเทศ ๙๐.๑๕
กำรงำนอำชพี และ… ๘๘.๒๔
๗๗.๘๑
ศลิ ปะ ๗๘.๔๓
สุขศึกษำและพลศกึ ษำ ๗๖.๔๒
สังคมศึกษำ ศำสนำและ… ๘๗.๕๓

วทิ ยำศำสตร์ ๙๒.๒๔
คณิตศำสตร์ ๙๐.๑๑

ภำษำไทย

กราฟสรปุ ผลการนิเทศการเรียนการสอน ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2561

ภำษำต่ำงประเทศ ๙๖.๙๒
กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ๙๒.๘๙
๙๔.๒๕
ศลิ ปะ ๙๐.๘๖
สุขศึกษำและพลศึกษำ ๙๔.๖๓
สงั คมศึกษำ ศำสนำและ… ๙๒.๘๐
๙๒.๗๕
วทิ ยำศำสตร์ ๙๔.๖๗
คณติ ศำสตร์

ภำษำไทย

๑๐๘ | หน้า

๓. จดุ เดน่ -

๔. จุดควรพฒั นา -

ตวั ชว้ี ัดท่ี ๕ กำรมีสว่ นร่วมของผู้เกย่ี วข้องทกุ ฝ่ำย และกำรรว่ มรบั ผดิ ชอบตอ่ ผลกำรจัดกำรศึกษำให้มี
คุณภำพและไดม้ ำตรฐำน

๑. กระบวนการดาเนินงาน
โรงเรียนกำหนดโครงสร้ำงกำรบริหำรเป็น ๔ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบริหำรวิชำกำร กลุ่มบริหำรงบประมำณ กลุ่ม

บริหำรงำนบคุ คล กลมุ่ บรหิ ำรงำนทั่วไป และมกี ลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ๘ กลุ่มสำระ ซึ่งแต่ละกลุ่มงำนและกลุ่มสำระกำร
เรยี นรู้ ดำเนนิ กำรวิเครำะห์สภำพแวดล้อมบริบทของกลุ่มงำนของตน ด้วยเทคนิคกำรวำงแผนงำน SWOT Analysis
แล้วกำหนดวิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ เป้ำประสงค์ กลยทุ ธ์ กรอบกลยุทธ์ท่ีสอดคล้องกับนโยบำยของต้นสังกัด ควำมต้องกำร
ของชุมชน ท้องถ่นิ และเปำ้ หมำยของโรงเรยี น กลมุ่ งำนกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ประชมุ วำงแผนกำหนดกิจกรรม โครงกำร
เพอ่ื เสนอของบประมำณดำเนนิ กจิ กรรมพฒั นำกำรจัดกำรศึกษำของโรงเรียน โดยกำรสนับสนุนจำกหน่วยงำน องค์กร
สมำคม มูลนิธิ ทีเ่ ก่ียวข้องกับโรงเรยี น และผ่ำนควำมเหน็ ชอบของคณะกรรมกำรกำรศึกษำขน้ั พ้นฐำนของสถำนศึกษำ
ซงึ่ มบี ทบำทหนำ้ ทกี่ ำกบั ติดตำมกำรดำเนินงำนของโรงเรียน และมีส่วนร่วมรับผิดชอบในกำรจัดกำรศึกษำ กิจกรรม
พัฒนำผ้เู รยี น แผนงบประมำณ

นอกจำกน้ียงั มีเครือข่ำยควำมร่วมมือทำงกำรศึกษำ อำทิเช่น สมำคมผู้ปกครองและครูฯ เครือข่ำยผู้ปกครอง
สมำคมศิษย์เก่ำ ได้เข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำกำรศึกษำและแก้ปัญหำในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน โดยหำทุน
สนับสนนุ และจดั กิจกรรมท่สี ่งเสริมเกย่ี วกับกำรศกึ ษำเพ่อื พัฒนำผู้เรยี นใหม้ ีคณุ ภำพไดม้ ำตรฐำน

๒. ผลการดาเนนิ งาน
ผูม้ ีสว่ นเกีย่ วข้องทุกฝ่ำยของโรงเรียนมีส่วนร่วมในกำรวำงแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของโรงเรียน และมี

เครือข่ำยควำมร่วมมือในกำรร่วมรับผิดชอบต่อผลกำรจัดกำรศึกษำให้มีคุณภำพและได้มำตรฐำน มีผลกำรประเมิน
ควำมพึงพอใจต่อกำรพัฒนำกำรศกึ ษำอยูใ่ นระดบั ดี ผลการประเมนิ โดยภาพรวมอยู่ในระดบั คุณภาพ ๕ ยอดเยี่ยม

๓. จดุ เดน่ -

๔. จดุ ควรพฒั นา -

๑๐๙ | หนา้

๒.๓ ดาเนินงานพฒั นาวิชาการที่เน้นคุณภาพผ้เู รยี นรอบดา้ นตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา และทุกกล่มุ เป้าหมาย
ตัวช้วี ดั ที่ ๑ หลักสตู รสถำนศกึ ษำเหมำะสมและสอดคล้องกบั ควำมรู้ ควำมสำมำรถและควำมตอ้ งกำรของผู้เรยี น

๑. กระบวนการดาเนนิ งาน
โรงเรยี นดำเนนิ กำรแตง่ ตัง้ คณะกรรมกำร จัดทำและพัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำที่มีโครงสร้ำง องค์ประกอบ

ของหลกั สูตรครบถว้ น สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแผนกำรศึกษำชำติ หลักสูตรกำรศึกษำแกนกลำงกำรศึกษำข้ัน
พ้ืนฐำน พ.ศ.๒๕๕๑ สอดคลอ้ งกบั ควำมตอ้ งกำรของชุมชน ตอบสนองวิสัยทัศน์ พันธกิจ และจุดเน้นของสถำนศึกษำ
ผ่ำนควำมเห็นชอบของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้ันพื้นฐำนของโรงเรียน และนำไปสู่กำรปฏิบัติโดยครูนำไปจัดทำ
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชี้วัด ลำดับเน้ือหำสำระตำมกระบวนกำรเรียนรู้ บูรณำกำรสภำพปัญหำ และควำมต้องกำร
ท้องถน่ิ ในรำยวิชำพืน้ ฐำน และหรือรำยวชิ ำเพ่ิมเติมอยำ่ งเหมำะสม ออกแบบหนว่ ยกำรเรียนรู้อิงมำตรฐำน หลักสูตรมี
ควำมหลำกหลำยตอบสนองต่อควำมต้องกำร และมีกำรติดตำม ประเมินผลกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำ นำข้อมูลผล
กำรประเมนิ ไปทบทวน ปรับปรงุ พัฒนำหลักสตู ร
๒. ผลการดาเนินงาน

โรงเรียนมีหลกั สูตรสถำนศึกษำ ที่ประกอบด้วยโครงสร้ำงองค์ประกอบของหลักสูตรครบถ้วน สอดคล้องกับ
วัตถุประสงค์ของแผนกำรศึกษำชำติ หลักสูตรกำรศึกษำแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน พ.ศ.๒๕๕๑ สอดคล้องกับ
ควำมต้องกำรของชุมชน ตอบสนองวิสัยทัศน์ พันธกิจ และจุดเน้นของสถำนศึกษำ กำหนดเวลำเรียนเหมำะสมกับ
ระดับชน้ั และครนู ำไปจัดทำมำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตวั ชว้ี ัด ลำดับเน้ือหำสำระตำมกระบวนกำรเรียนรู้ บูรณำกำรสภำพ
ปัญหำ และควำมต้องกำรท้องถ่ินในรำยวิชำพื้นฐำน และหรือรำยวิชำเพิ่มเติมอย่ำงเหมำะสม ออกแบบหน่วยกำร
เรียนรู้อิงมำตรฐำน หลักสูตรมีควำมหลำกหลำยตอบสนองต่อควำมต้องกำร และมีกำรติดตำม ประเมินผลกำรใช้
หลักสูตรสถำนศึกษำ นำข้อมูลผลกำรประเมินไปทบทวน ปรับปรุงพัฒนำหลักสูตร ผลการประเมินโดยรวมอยู่ใน
ระดบั คุณภาพ 3 ดี

๑๑๐ | หนา้

ตารางแสดงผลการประเมินหลกั สตู รสถานศกึ ษาของนักเรียนระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3

โครงสร้าง การจัด สอ่ื ในการ การวดั และ ภาพรวม

เน้ือหาวชิ าที่ใช้ใน กจิ กรรม จดั การเรยี น ประเมนิ ผลการ

การจดั การเรียน การสอน เรยี นรู้

การเรยี นการสอน การสอน

1 วิทยำศำสตร์ 3.82 3.78 3.66 3.83 3.77

2 คณิตศำสตร์ 3.84 3.75 3.62 3.75 3.74

3 ภำษำไทย 4.14 4.05 3.88 4.02 4.02

4 ภำษำตำ่ งประเทศ 3.79 3.72 3.72 3.76 3.75

5 สังคมศกึ ษำ ศำสนำและ 4.03 3.89 3.83 3.89 3.91

วฒั นธรรม

6 สุขศกึ ษำและพลศึกษำ 4.09 4.03 4.00 4.04 4.04

7 ศิลปะ 4.14 4.01 3.99 4.01 4.04

8 กำรงำนอำชพี และ 4.22 4.15 4.15 4.15 4.17

เทคโนโลยี

9 กิจกรรมพฒั นำผเู้ รยี น 3.80 3.78 3.77 3.81 3.79

(กิจกรรมรักษำดินแดน/

ชมรม/แนะแนว)

ตารางแสดงผลการประเมินหลักสตู รสถานศึกษาของนกั เรียนระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6

โครงสรา้ ง การจัด สอื่ ในการ การวดั และ ภาพรวม

เน้อื หาวชิ าท่ใี ชใ้ น กิจกรรม จดั การเรียน ประเมนิ ผลการ

การจดั การเรียน การสอน เรยี นรู้

การเรียนการสอน การสอน

1 วทิ ยำศำสตร์ 4.08 3.97 3.91 4.00 3.99

2 คณติ ศำสตร์ 4.11 3.95 3.89 4.03 4.00

3 ภำษำไทย 4.08 4.03 3.98 4.09 4.05

4 ภำษำต่ำงประเทศ 4.02 4.01 3.99 3.99 4.00

5 สงั คมศึกษำ ศำสนำและ 4.16 4.05 4.05 4.02 4.07
วฒั นธรรม

6 สุขศกึ ษำและพลศึกษำ 4.07 4.07 4.03 4.13 4.08

7 ศิลปะ 4.25 4.18 4.21 4.21 4.21

8 กำรงำนอำชพี และ 4.16 4.02 4.09 4.05 4.08
เทคโนโลยี

9 กิจกรรมพฒั นำผู้เรยี น

(กิจกรรมรกั ษำดินแดน/ 3.98 3.93 3.85 3.94 3.93

ชมรม/แนะแนว)

๑๑๑ | หนา้

๓. จุดเดน่
โรงเรียนมีหลักสูตรสถำนศึกษำท่ีหลำกหลำย ส่งเสริมพัฒนำนักเรียนให้มีควำมรู้ ควำมสำมำรถตำมควำม

ตอ้ งกำรของนักเรียน ครนู ำไปจดั ทำมำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ตัวชี้วัด ลำดับเนอื้ หำสำระตำมกระบวนกำรเรียนรู้ บูรณำกำร
สภำพปัญหำ และควำมต้องกำรท้องถ่ินในรำยวิชำพื้นฐำน และหรือรำยวิชำเพ่ิมเติม ออกแบบหน่วยกำรเรียนรู้อิง
มำตรฐำนไดเ้ หมำะสมกบั ควำมสำมำรถ และควำมตอ้ งกำรของนกั เรยี น

๔. จุดควรพัฒนา -

ตวั ชีว้ ดั ที่ ๒ กำรจดั รำยวิชำเพม่ิ เติมและกิจกรรมพัฒนำผู้เรยี นท่หี ลำกหลำยตอบสนองควำมต้องกำรควำมถนดั
ควำมสำมำรถ และควำมสนใจของผ้เู รียนทุกกลุ่มเปำ้ หมำย

๑. กระบวนการดาเนนิ งาน
โรงเรียนดำเนินกำรแตง่ ตงั้ คณะกรรมกำรบรหิ ำรวิชำกำร ร่วมวเิ ครำะห์กำหนด รำยวิชำเพ่ิมเติมและกิจกรรม

พัฒนำผู้เรียนที่มีเนื้อหำ สำระกำรเรียนรู้ กิจกรรมที่เหมำะสมตำมโครงสร้ำงหลักสูตรสถำนศึกษำของนักเรียน ทุก
ระดับช้ัน อย่ำงหลำกหลำย เพยี งพอตอ่ ควำมต้องกำร ควำมถนัดและควำมสนใจของนกั เรียน

๒. ผลการดาเนนิ งาน
นักเรียนได้เรียนในรำยวิชำเพ่ิมเติมและกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ตำมควำมต้องกำร ควำมถนัดและควำมสนใจ

สรำ้ งผลงำนหรือเข้ำร่วมกิจกรรมตำมจุดประสงค์ของรำยวิชำเพิ่มเติมหรือกิจกรรมพัฒนำผู้เรียนท่ีตนเองเลือก มีผล
การประเมินโดยภาพรวมอย่ใู นระดบั คุณภาพ ๕ ยอดเยย่ี ม

๓. จุดเด่น
โรงเรียนจัดรำยวิชำเพ่ิมเติมและกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ที่หลำกหลำยตอบสนองควำมต้องกำร ควำมถนัด

ควำมสนใจและควำมสำมำรถของนกั เรียนทุกระดับชั้น และครูจัดกระบวนกำรเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงจน
สรปุ ควำมรูไ้ ดด้ ้วยตนเอง ไดแ้ ก่ รำยวิชำ IS กจิ กรรมชมรม

๔. จดุ ควรพฒั นา -

ตัวชว้ี ดั ที่ ๓ สนบั สนนุ ใหค้ รูจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ใหผ้ ู้เรียนไดล้ งมอื ปฏิบัตจิ รงิ จนสรปุ ควำมรไู้ ด้ด้วยตนเอง

๑. กระบวนการดาเนินงาน
โรงเรยี นมีกำรวำงแผนกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนกำรสอนโดย
1. ครูมีกำรวิเครำะหห์ ลักสตู ร มำตรฐำน ตวั ชี้วัด จดั ทำคำอธบิ ำยรำยวชิ ำโครงสรำ้ ง
2. ครูมแี ผนกำรจัดกำรเรียนรู้
3. ครูมกี ำรจดั กำรเรียนกำรสอนดว้ ยวธิ ที หี่ ลำกหลำย มสี อ่ื กำรสอนที่ทนั สมัย น่ำสนใจ
4. มีกจิ กรรมเสริมหลกั สตู รตำมสำขำวิชำ เพ่อื ส่งเสรมิ ศกั ยภำพของนกั เรยี น

๑๑๒ | หน้า

5. มกี ำรนิเทศภำยในโดยฝำ่ ยบรหิ ำรของโรงเรียน หัวหนำ้ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ และครใู นกล่มุ สำระกำรเรียนรู้
6. ส่งเสรมิ กำรศึกษำดงู ำนเพ่อื พัฒนำศกั ยภำพของครู
7. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ให้มชี ุมชนแหง่ กำรเรยี นรู้ (PLC) ของครูในกลุ่มสำระฯ และนอกกลุ่มสำระฯ เพ่ือแก้ปัญหำ
ท่ีเกดิ จำกกำรจดั กำรเรียนกำรสอน
8. มกี ำรทำวิจยั ในชั้นเรียนเพื่อพฒั นำผู้เรียน

๒. ผลการดาเนนิ งาน
1. ครูมีกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ในวิชำท่ีตนรับผิดชอบ และพัฒนำคุณภำพกำรสอนอย่ำงต่อเนื่อง
สอดคลอ้ งกับกำรเปล่ียนแปลง
1) ครูมีสือ่ กำรเรยี นกำรสอนท่หี ลำกหลำยมำกขนึ้
2) ครูจัดกำรเรียนรไู้ ด้ตรงตำมตัวชว้ี ัดในแตล่ ะระดบั ชั้น
3) ครูมแี ผนพัฒนำตนเอง (ID-PLAN)
4) ครมู ีแนวคิดในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนหลำกหลำยมำกย่ิงขึ้น
2. ครูมกี ำรแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กับเพ่อื นครแู ละเรยี นรจู้ ำกผู้ชำนำญกำรจำกแหลง่ เรียนร้ทู ห่ี ลำกหลำย
3. ครูทุกคนไดเ้ ข้ำร่วมอบรม สมั มนำ จำกหนว่ ยงำนภำยนอก และได้รับกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้จำกกำรนิเทศ

ภำยในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้
4. กลุม่ สำระกำรเรียนร้ไู ดด้ ำเนนิ โครงกำรศึกษำดูงำน ณ แหล่งเรียนรู้ต่ำง ๆ และสำมำรถนำควำมรู้กลับมำ

ขยำยผลกบั นักเรยี น เพ่ือพัฒนำกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนให้ดยี ่ิงขน้ึ
5. นกั เรยี นได้รบั รำงวัลจำกกำรประกวดแขง่ ขนั รำยกำรตำ่ ง ๆ ทัง้ ระดบั เขตและระดบั ประเทศ

มผี ลการประเมนิ โดยภาพรวมอยใู่ นระดับคณุ ภาพ ๕ ยอดเย่ยี ม

๓. จดุ เดน่
1. โรงเรียนมีกระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนท้ังทำงด้ำนควำมรู้ในด้ำนวิชำกำร ทักษะกระบวนกำร

คุณธรรม จรยิ ธรรม และพฒั นำสมรรถนะของผู้เรียนตำ่ ง ๆ ได้อย่ำงมคี ณุ ภำพ
2. โรงเรยี นมกี ำรจดั กิจกรรมท่ีเสรมิ สรำ้ งคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคใ์ นทุกดำ้ นอยำ่ งมีคณุ ภำพ
3. โรงเรยี นมกี ำรใหข้ ้อมลู ย้อนกลับแก่ผูเ้ รยี นอย่ำงเป็นระบบสมำ่ เสมอ เพอ่ื ให้นักเรียนได้ทรำบและพัฒนำใน

สว่ นท่ีต้องแก้ไข

๔. จดุ ควรพฒั นา
1. โรงเรียนจดั ทำระบบกำรตรวจสอบผล 0 ร มส มผ บริเวณห้องทะเบียนวัดผล เพื่อเพ่ิมควำมสะดวกและ

รวดเรว็ ในกำรติดตำมและแกไ้ ขผลกำรเรียน เพ่ือใหน้ ักเรยี นจบพรอ้ มรนุ่
2. ครูผู้นิเทศ และรับกำรนิเทศ ควรมีระบบติดตำมผลของกำรนิเทศเพื่อกำรพัฒนำงำน ทั้งน้ีเน่ืองจำกครูมี

ภำระงำนค่อนขำ้ งมำก สง่ ผลใหก้ ำรนิเทศและกำรพัฒนำขำดควำมต่อเนอ่ื ง
3. มีกำรให้ควำมร้คู รใู นด้ำนกำรวจิ ัยเพอ่ื ให้ครูมีงำนวจิ ัยเชิงพฒั นำทม่ี ีคณุ ภำพ

๑๑๓ | หน้า

4. ส่งเสริม สนับสนุนให้โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ PLC ที่มีคุณภำพ มีกำรบูรณำกำรด้ำนต่ำง ๆ
รว่ มกนั ทกุ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้

๒.๔ พัฒนาครแู ละบุคลากรใหม้ ีความเชยี่ วชาญทางวิชาชีพ

ตัวชี้วัด วำงแผนและดำเนินงำนพฒั นำครแู ละบุคลำกรให้มคี วำมเช่ียวชำญทำงวชิ ำชพี มีควำมรู้
ควำมสำมำรถและทักษะตำมมำตรฐำนตำแหน่ง

๑. กระบวนการดาเนนิ งาน
โรงเรยี นมแี ผนงำน โครงกำรและกิจกรรม ท่สี ง่ เสรมิ พัฒนำศกั ยภำพครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำด้ำนควำมรู้

ควำมสำมำรถและทกั ษะตำมมำตรฐำนตำแหน่งทั้ง ๓ ด้ำน โดยใช้กระบวนกำร PLC ด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำย ได้แก่
กำรอบรมสมั มนำ กำรนิเทศ กำรจดั กจิ กรรมศึกษำดูงำนครูและบคุ ลำกร กจิ กรรมอบรมพัฒนำครูและบุคลำกรภำยใน
และภำยนอกสถำนศึกษำ มีพัฒนำกำรด้ำนผลงำนทำงวชิ ำกำรของครู

๒. ผลการดาเนนิ งาน
ครูและบุคลำกรได้รับกำรพัฒนำให้มีศักยภำพด้ำนควำมรู้ ควำมสำมำรถและทักษะตำมมำตรฐำนตำแหน่ง

ดว้ ยวธิ กี ำรทหี่ ลำกหลำย ทง้ั ภำยในและจำกหน่วยงำนภำยนอก ครูและบุคลำกรเขำ้ รับกำรพัฒนำตนเองอย่ำงต่อเนื่อง
อบรมคูปองครไู ม่น้อยกวำ่ ๒๐ ชว่ั โมง มพี ฒั นำกำรด้ำนผลงำนทำงวิชำกำรของครู ผลการประเมินโดยภาพรวม อยใู่ น
ระดับคณุ ภาพ ๕ ยอดเยีย่ ม

ผลการอบรมโครงการพฒั นาครูรปู แบบครบวงจร (คูปองคร)ู

ภาษาไทย จานวนครูทเ่ี ข้ารับการอบรม
คณติ ศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ 11
สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 16
สุขศกึ ษาและพละศึกษา 17
ศลิ ปะ 15
การงานอาชีพและเทคโนโลยี 7
8
ภาษาต่างประเทศ 19
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 13
4
รวม 111

๓. จดุ เดน่
3.1 ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำทุกคนไดร้ บั กำรพฒั นำและส่งเสรมิ ตำมควำมถนดั
3.2 ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำมคี วำมพงึ พอใจและรักในวชิ ำชีพ

๑๑๔ | หน้า

๔. จุดควรพัฒนา
ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำควรรำยงำนผลกำรพัฒนำตนเองอยำ่ งตอ่ เนือ่ งเป็นประจำทกุ ปี และมีรปู แบบ

กระบวนกำรติดตำมกำรพฒั นำตนเองของครูภำยหลงั ไดร้ บั กำรอบรมพฒั นำแล้วอย่ำงชัดเจน

๒.๕ จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอ้ือตอ่ การจัดการเรียนรอู้ ยา่ งมีคณุ ภาพ

ตัวช้ีวดั วำงแผนและจดั สภำพแวดล้อมทำงกำยภำพและสังคมท่เี อ้ือตอ่ กำรจัดกำรเรยี นร้ทู ั้งภำยใน
และภำยนอกห้องเรียนอย่ำงมีคุณภำพ

๑. กระบวนการดาเนินงาน
โรงเรียนมีแผนงำน โครงกำร กิจกรรมพัฒนำอำคำรสถำนที่ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติกำร ห้องน้ำ โรงอำหำร

หอประชุม อำคำรประกอบ ทุกแห่งมีควำมสะอำด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีควำมม่ันคงแข็งแรง และปลอดภัย จัด
สภำพภำยนอกห้องเรียนให้สวยงำมร่มรื่น ภำยในห้องเรียนมีสิ่งอำนวยควำมสะดวกในกำรเรียนรู้ ได้แก่ สื่อ วัสดุ
อปุ กรณต์ ่ำง ๆ จัดสงิ่ อำนวยควำมสะดวกในกำรเรียนรู้อย่ำงพอเพียงกับผู้เรียน และอยู่ในสภำพท่ีใช้งำนได้ดี มีแหล่ง
กำรเรยี นรู้ภำยในครบทุกกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ พัฒนำแหลง่ กำรเรยี นรภู้ ำยในให้มีระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศเพียงพอ
และสะดวกต่อกำรใชง้ ำน ผู้เรยี นได้ศึกษำค้นคว้ำ จำกแหล่งข้อมูลทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศได้สะดวก รวดเร็วทันต่อ
เหตกุ ำรณ์ ท้งั ในและนอกหอ้ งเรียน

๒. ผลการดาเนินงาน
โรงเรียนมีแผนงำน โครงกำร กิจกรรมพัฒนำอำคำรสถำนที่ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติกำร ห้องน้ำ โรงอำหำร

หอประชุม อำคำรประกอบ ทุกแห่งมีควำมสะอำด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีควำมมั่นคงแข็งแรง และปลอดภัย
จดั สภำพภำยนอกห้องเรียนให้สวยงำมร่มรื่น ภำยในห้องเรียนมีสิ่งอำนวยควำมสะดวกในกำรเรียนรู้ ได้แก่ สื่อ วัสดุ
อปุ กรณ์ตำ่ ง ๆ จัดส่งิ อำนวยควำมสะดวกในกำรเรียนรู้อย่ำงพอเพียงกับผู้เรียน และอยู่ในสภำพท่ีใช้งำนได้ดี มีแหล่ง
กำรเรยี นรู้ภำยในครบทุกกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ พฒั นำแหล่งกำรเรียนร้ภู ำยในให้มีระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศเพียงพอ
และสะดวกตอ่ กำรใช้งำน ผ้เู รยี นไดศ้ ึกษำค้นคว้ำ จำกแหล่งข้อมูลทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศได้สะดวก รวดเร็วทันต่อ
เหตุกำรณ์ ท้งั ในและนอกหอ้ งเรยี น มีผลการประเมินโดยภาพรวม อยู่ในระดบั คุณภาพ ๕ ยอดเย่ียม

๓. จุดเด่น
โรงเรยี นไดด้ ำเนินกำรจดั สภำพแวดลอ้ มและบริกำรท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียน บุคลำกร ได้พัฒนำเต็มตำมศักยภำพ

เอือ้ ตอ่ กำรจัดกำรเรยี นรู้ หอ้ งเรยี น หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำร ห้องสมุด อำคำรเรียน อำคำรประกอบ แหลง่ เรยี นรู้ มีควำมมั่นคง
แข็งแรง มีคณุ ภำพ และมีควำมปลอดภัย มีสิง่ อำนวยควำมสะดวกในกำรเรียนรเู้ พียงพอ ใชก้ ำรได้ดี นำไปสู่กำรพัฒนำ
ผู้เรียนทุกด้ำน มีแหล่งเรียนรู้ภำยนอกห้องเรียน ทั้งแหล่งเรียนรู้ท่ีเป็นธรรมชำติ สวนหย่อมต่ำง ๆ เป็นห้องเรียน
ธรรมชำตใิ หน้ ักเรยี นไดเ้ รยี นรนู้ อกหอ้ งเรียน นำไปสูก่ ำรพัฒนำผ้เู รยี นทกุ ดำ้ น ใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถเรียนรู้ด้วยตนเองและ
หรือเรยี นรแู้ บบมสี ว่ นรว่ ม

๑๑๕ | หน้า

๔. จดุ ควรพัฒนา
พัฒนำอำคำรเรยี น หอ้ งเรยี น ห้องปฏิบตั ิกำร ปรับปรุง ดแู ล ซ่อมบำรุงใหม้ ีควำมมนั่ คง แขง็ แรง ปลอดภัย

สะอำดเรียบรอ้ ย สวยงำม

๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื สนบั สนนุ การบรหิ ารจัดการและ การจดั การเรยี นรู้

ตวั ชีว้ ัด มีกำรบริหำรจัดกำรขอ้ มลู สำรสนเทศท่ีสำคญั ของสถำนศึกษำอยำ่ งเปน็ ระบบ

๑. กระบวนการดาเนินงาน
โรงเรียนกำหนดผู้รับผดิ ชอบจดั ทำระบบสำรสนเทศของโรงเรียน ดำเนนิ กำรกำหนดหมวดหมู่ข้อมูลให้ถูกต้อง

ครอบคลุม ทนั สมัย และพรอ้ มใช้ กลุม่ งำนทุกกลุ่มกำหนดผู้รบั ผดิ ชอบจดั ทำระบบสำรสนเทศ ดำเนนิ กำรจัดกำรข้อมูล
สำคัญให้ครอบคลุมภำรกิจทั้ง ๔ กลุ่มงำน และกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ทั้ง ๘ กลุ่มสำระ แต่งตั้งคณะกรรมกำรงำน
สำรสนเทศจำกทุกกลุ่มงำนที่เก่ียวข้อง มีกำรแจ้งผู้รับผิดชอบของแต่ละกลุ่มบริหำร กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ในกำร
รำยงำนข้อมลู ดำเนนิ กำรจดั กำรขอ้ มูลท่ีสำคัญของหน่วยงำนตนใหเ้ ปน็ ปัจจุบัน นำสำรสนเทศไปใชใ้ นกำรวำงแผนกำร
จดั กำรศกึ ษำทค่ี รอบคลมุ ภำรกจิ ท้งั ๔ กลุ่มงำน ๘ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ จัดทำและให้บริกำรข้อมูลสำรสนเทศท่ีระบบ
แก่ผู้ต้องกำรใช้ทุกฝ่ำย บุคลำกรทุกคนสำมำรถเข้ำถึงข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว เป็นปัจจุบัน นำเสนอข้อมูลย้อนหลัง
สำคญั ๓ ปี ใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในกำรทบทวนปรับปรุงพฒั นำงำน

๒. ผลการดาเนนิ งาน
ผรู้ บั ผิดชอบจัดทำระบบสำรสนเทศของโรงเรียน ดำเนินกำรตำมกำหนด หมวดหมูข่ อ้ มลู ใหถ้ กู ต้อง ครอบคลุม

กลมุ่ งำนทุกกล่มุ กำหนดผ้รู ับผดิ ชอบจัดทำระบบสำรสนเทศ ดำเนินกำรจัดกำรข้อมูลสำคัญให้ครอบคลุมภำรกิจทั้ง ๔
กลมุ่ งำน และกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ท้ัง ๘ กลุ่มสำระ แต่งตั้งคณะกรรมกำรงำนสำรสนเทศจำกทุกกลุ่มงำนท่ีเก่ียวข้อง
มีกำรประชุมคณะกรรมกำรเพื่อวำงแผนในกำรดำเนินกำรเก็บข้อมูล กำหนดเวลำ แจ้งผู้รับผิดชอบของแต่ละกลุ่ม
บริหำร กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ในกำรรำยงำนข้อมูล ดำเนินกำรจัดกำรข้อมูลท่ีสำคัญของหน่วยงำนตนให้เป็นปัจจุบัน
นำสำรสนเทศไปใช้ในกำรวำงแผนกำรจดั กำรศึกษำท่ีครอบคลุมภำรกิจท้ัง ๔ กลุ่มงำน ๘ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ จัดทำ
และให้บริกำรข้อมูลสำรสนเทศที่ระบบแก่ผู้ต้องกำรใช้ทุกฝ่ำย บุคลำกรทุกคนสำมำรถเข้ำถึงข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว
เป็นปัจจบุ นั นำเสนอขอ้ มลู ย้อนหลังสำคัญ ๓ ปี ใช้เป็นข้อมูลในกำรทบทวนปรับปรุงพัฒนำงำน ผลการประเมินโดย
ภาพรวมอยู่ในระดบั คณุ ภาพ 4 ดเี ลิศ

๓. จดุ เด่น
3.1 โรงเรยี นจัดให้มรี ะบบเครอื ขำ่ ยคอมพิวเตอร์ทรี่ องรับกำรเชอ่ื มตอ่ แบบใชส้ ำยสญั ญำณและกำรเชือ่ มต่อ

แบบไรส้ ำยครอบคลุมพืน้ ทส่ี ถำนศึกษำ

๑๑๖ | หน้า

3.2 โรงเรยี นเชำ่ สัญญำณอินเทอร์เน็ตควำมเร็ว 500/500 Mbps จำนวน 4 วงจร โดยจัดสรรเพื่อให้บริกำร
สัญญำณอินเทอร์เน็ตให้แก่ครู นักเรียน บุคลำกรภำยในโรงเรียน และผู้ท่ีมำติดต่อรำชกำร ท้ังกำรเชื่อมต่อแบบใช้
สำยสญั ญำณและกำรเชื่อมตอ่ แบบไร้สำยครอบคลมุ พ้ืนที่ สถำนศึกษำอยำ่ งทั่วถงึ และเท่ำเทียมกนั
๔. จดุ ควรพฒั นา

กำรดูแลให้นักเรียนเข้ำถึงสื่อ เว็บไซต์ท่ีเหมำะสมกับกำรเรียนรู้ ช่วงวัย และวุฒิภำวะ กำรสื่อสำรข้อมูล
สำรสนเทศทีส่ ำคัญใหท้ ั่วถึงทุกหน่วยงำน บุคลำกรที่เก่ียวข้องของโรงเรียน ควรมีกำรบริหำรจัดกำรข้อมูลให้ทันสมัย
เป็นปัจจบุ นั

๑๑๗ | หน้า

สถำนศึกษำได้ส่งเสริมให้ครูพัฒนำศักยภำพอย่ำงต่อเน่ือง มีกำรพัฒนำสื่อกำรเรียนรู้เทคโนโลยี (ICT) และ
แหล่งกำรเรียนรู้รวมทั้งภูมิปัญญำท้องถ่ินที่เอื้อต่อกำรเรียนรู้มำใช้ในกำรจัดกำรเรียนรู้ โดยสร้ำงโอกำสให้ผู้เรียนได้
แสวงหำควำมรู้ด้วยตนเองจำกส่ือท่ีหลำกหลำย ครูมีกำรบริหำรจัดกำรช้ันเรียนในเชิงบวก มีกำรตรวจสอบและ
ประเมนิ คณุ ภำพผูเ้ รยี นอยำ่ งเป็นระบบ มขี นั้ ตอน โดยใชเ้ ครื่องมือ และวิธีวัดและประเมินผลที่เหมำะสมกับเป้ำหมำย
ในกำรจัดกำรเรยี นรู้ และให้ข้อมลู ย้อนกลบั แก่ผู้เรียน ส่งเสริมให้ครูทำกิจกรรมชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ เพ่ือ
สง่ ผลดตี ่อคุณภำพของผ้เู รียน ให้ครจู ัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ มีวิจัยในชั้นเรียน กิจกรรมนิเทศภำยใน มีกำรอบรม
กับหน่วยงำนทั้งภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำ สนับสนุนให้ครูเข้ำร่วมโครงกำรพัฒนำครูรูปแบบครบวงจร
(Training OBEC) กจิ กรรมศกึ ษำดงู ำน พฒั นำครรู ุ่นใหมใ่ ห้มีควำมเขม้ แขง็ ทำงวิชำกำรและจรรยำบรรณวิชำชีพครู ครู
มีกำรพัฒนำหรอื ร่วมพฒั นำ ส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คุณธรรม จริยธรรม จิตสำนึก และในส่วนของควำม
ภำคภูมิใจและอนรุ กั ษท์ อ้ งถ่ิน วฒั นธรรมควำมเป็นไทย ดว้ ยวิธีกำร กจิ กรรมท่ีหลำกหลำยตำมบทบำทหน้ำที่ควำมเป็น
ครแู ละรำยวชิ ำทไี่ ดร้ ับมอบหมำย

ครูปฏบิ ตั ิหนำ้ ท่ดี ้วยควำมมุ่งม่ัน อุทิศตน ทุ่มเทแรงกำยแรงใจในกำรปฏิบัติกำรสอนและงำนท่ีได้รับมอบหมำย
ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ครูมีควำมรู้ควำมเข้ำใจเป้ำหมำยหลักกำรจัดกำรศึกษำ ครูมีกำรวิเครำะห์ผู้เรียนเป็นรำยบุคคล
มีกำรจดั ทำแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ครูทุกคนมีวิจัยในช้ันเรียนภำคเรียนละ ๑ เร่ือง และมีกำรนิเทศภำยในกลุ่มสำระกำร
เรียนรู้ มีกำรส่งเสริมให้ครูสำมำรถผลิตส่ือ (ICT) ที่ทันสมัยให้กับผู้เรียนและมีกำรพัฒนำตนเองอยู่เสมอ ครูมีกำรนำ
ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของผู้เรียนมำวิเครำะห์เพ่ือปรับปรุงวิธีกำรสอนและเนื้อหำต่ำง ๆ ให้เข้ำกับศักยภำพ
ควำมสำมำรถและควำมแตกตำ่ งของผู้เรียน สง่ ผลให้กำรประเมินคุณภำพตำมมำตรฐำนที่ ๓ อยู่ในระดับยอดเยยี่ ม

๑๑๘ | หน้า

มาตรฐาน / ประเด็นพิจารณา รอ่ งรอย/หลักฐาน/ความพยายาม

มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจดั การเรียนการสอนทเ่ี น้น  แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้
 รำยงำนกำรประเมนิ ตนเองของครูผสู้ อน/ T-SAR
ผเู้ รียนเปน็ สาคญั

๓.๑ จัดกำรเรียนรผู้ ่ำนกระบวนกำรคิดและปฏิบตั ิจริงและ  นิเทศกำรสอน

สำมำรถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตได้  PLC กลมุ่ สำระฯ และ PLC รำยบคุ คล

๓.๒ ใชส้ ื่อ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ทีเ่ อื้อตอ่  รำยงำนผลกำรจดั กจิ กรรมสร้ำงชุมชนกำรเรยี นรู้

การเรยี นรู้ วิชำชีพ (PLC)

๓.๓ มีการบรหิ ารจดั การชัน้ เรยี นเชงิ บวก  กิจกรรมชมรม
 กจิ กรรมลกู เสอื -เนตรนำรี
๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรยี นอย่างเป็นระบบ และนาผล  กิจกรรมคำ่ ยวิชำกำรของกลุ่มสำระกำร
มาพัฒนาผเู้ รยี น
เรยี นรตู้ ่ำง ๆ
๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพ่ือ  ผลกำรวจิ ัยในช้นั เรียน
พัฒนาและปรับปรงุ การจัดการเรียนรู้
 ผลกำรวเิ ครำะห์ผู้เรียนรำยบคุ คลของครู
 ผลกำรจดั กำรเรียนรู้ทกุ รำยวิชำของครู
 บันทึกกำรเยี่ยมบำ้ น

 บันทกึ โฮมรูม

 บนั ทึก/เกยี รติบตั รกำรอบรมและพัฒนำ

 กจิ กรรมศกึ ษำดูงำนครู

 ประชมุ ประจำเดือน

 สื่อ นวตั กรรมเทคโนโลยี
 แฟม้ ประวตั ินักเรยี นทปี่ รึกษำ

สรุประดับคุณภาพ มาตรฐานท่ี 3 ระดบั ยอดเยย่ี ม

๑๑๙ | หน้า

๓.๑ จดั การเรียนรูผ้ ่านกระบวนการคิดและปฏิบตั ิจรงิ และสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ได้

ตัวชว้ี ดั จดั กำรเรยี นรู้ผำ่ นกระบวนกำรคดิ และปฏิบัติจริง และสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตได้

๑. กระบวนการพัฒนา
โรงเรียนกำหนดให้ครูผู้สอนในทุกรำยวิชำ ดำเนินกำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ โดยผ่ำนกระบวนกำร

วิเครำะห์ตัวช้ีวัด มำตรฐำนกำรเรียนรู้ เพ่ือให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน และหลักสูตร
สถำนศึกษำ และนำผลกำรวิเครำะห์มำออกแบบกิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ีเน้นกระบวนกำรคิดและปฏิบัติได้จริง อีกท้ัง
โรงเรียนยังมีโครงกำรนิเทศกำรจัดกำรเรียนรู้ ในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้และต่ำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ เพื่อแลกเปลี่ยน
เรียนร้วู ธิ ีกำรและเทคนคิ กำรสอน เพือ่ นำมำปรับใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในรำยวิชำของตนเอง ครูผู้สอนนำผล
กำรนเิ ทศไปปรับปรงุ คุณภำพกำรเรยี นกำรสอน ซง่ึ จะส่งผลใหก้ ำรจัดกำรเรยี นกำรสอนมีคุณภำพ ส่งผลดีต่อผู้เรียนใน
ลำดับตอ่ ไป

๒. ผลการพฒั นา
ครูจดั ทำแผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ี่เนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคญั เนน้ กระบวนกำรคิด วเิ ครำะห์ กำรกำหนดจุดประสงค์

ครบถ้วน ทั้งด้ำนควำมรู้ ทักษะและกำรปฏิบัติ และด้ำนเจตคติ มีกำรส่งแผนกำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้เช่ียวชำญ
ตรวจสอบควำมถูกตอ้ ง โดยใช้วธิ ีกำรวดั และประเมนิ ผลผเู้ รียนตำมสภำพจริง เชงิ ประจกั ษ์จริง ส่งผลให้ผู้เรียนมีทักษะ
กำรคิด กล้ำแสดงออก แสดงควำมคิดเห็น สรุปองค์ควำมรู้ และนำเสนอผลงำน สำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้
นอกจำกนี้ผู้เรียนได้ค้นพบจุดแข็ง จุดอ่อน ควำมสำมำรถ และตระหนักในศักยภำพของตน พร้อมพัฒนำต่อยอด
ควำมรแู้ ละทกั ษะของตน ให้ผ้เู รยี นมคี วำมสขุ เก่งเรยี นรู้รอบด้ำนตำมวิสัยทศั นข์ องสถำนศึกษำ ผลการประเมินอยู่ใน
ระดับคุณภาพ ๕ ยอดเย่ยี ม

๓. จดุ เดน่
ครูมีกำรจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีสำมำรถนำไปจัดกิจกรรมได้จริง มีกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ตำม

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ และตวั ชว้ี ดั ของหลักสูตรสถำนศึกษำ ครูต้ังใจ มุ่งม่ันพัฒนำผู้เรียนโดยมุ่งเน้นออกแบบกิจกรรม
โครงกำร ตลอดจนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนที่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ฝกึ ทกั ษะกำรคดิ และได้ปฏิบัติจริงอย่ำงเหมำะสม
เป็นไปตำมมำตรฐำนและตวั ชี้วดั ของหลกั สูตร

๑๒๐ | หนา้

๔. จดุ ควรพฒั นา
ครทู ุกคนควรได้รบั กำรอบรมกำรพัฒนำศักยภำพเรื่องกำรสร้ำงสื่อนวัตกรรมเพื่อพัฒนำคุณภำพด้ำนเทคนิค

และวิธีกำรจัดกระบวนกำรเรียนกำรสอนให้เหมำะสม ตอบสนองผู้เรียนอย่ำงหลำกหลำย สำมำรถประยุกต์ใช้ส่ือ
นวตั กรรมให้เกดิ ประโยชนต์ ่อผู้เรียนสงู สดุ พร้อมทง้ั เรยี นรกู้ ระบวนกำรเผยแพรส่ ่อื นวตั กรรมในกำรจัดกำรเรียนรู้ เพื่อ
รบั ข้อมลู ย้อนกลับและนำไปพัฒนำส่อื นวตั กรรมของตนต่อไป

๓.๒ ใชส้ อ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศและแหลง่ เรียนรูท้ ่ีเอือ้ ตอ่ การเรยี นรู้

ตัวชี้วดั ครูใชส้ อ่ื เทคโนโลยีสำรสนเทศ ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน

๑. กระบวนการพัฒนา
ครใู ช้ส่ือและเทคโนโลยสี ำรสนเทศท่ชี ่วยพัฒนำกำรเรียนรู้ของนักเรียน ตอบสนองควำมต้องกำรของนักเรียน

โดยนำสื่อมำประกอบกิจกรรมกำรเรียนรู้ให้ผู้เรียนเข้ำใจได้ง่ำย ชัดเจน และสำมำรถดึงดูดควำมสนใจ ซ่ึงเป็นส่วน
สนับสนนุ ใหผ้ เู้ รยี นเรยี นรู้อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพมำกยง่ิ ขึ้น

โรงเรียนสนับสนุนให้ครูผู้สอนใช้สื่อกำรเรียนรู้ตำมโครงกำรกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำด้วยเทคโนโลยี
สำรสนเทศ (DLIT) ในกำรจัดกำรเรียนรู้ เช่น ผลิตส่ือกำรเรียนรู้เพื่อใช้จัดกำรเรียนรู้ พัฒนำเว็บไซต์ DLIT เพ่ือเป็น
ทำงเลือกให้แก่ครูเพื่อใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน โดยสำมำรถนำไปใช้เป็นช่องทำงให้ครูมอบหมำยงำน ติดตำม
ภำระงำน เปน็ ชอ่ งทำงในกำรสื่อสำรระหว่ำงครูกับนักเรียน นักเรียนกับนักเรียน ในประเด็นต่ำง ๆ ซึ่งเป็นกำรสร้ำง
สงั คมแหง่ กำรเรยี นรโู้ ดยใชเ้ ทคโนโลยีเปน็ ส่ือ

๒. ผลการพฒั นา
ใช้สือ่ เทคโนโลยีสำรสนเทศและแหลง่ เรียนรู้ท่ีเอื้อต่อกำรเรยี นรู้
1. ครูและนกั เรยี นมีสือ่ และแหล่งเรยี นรูต้ รงตำมมำตรฐำนและตัวช้วี ัด ตรงตำมกลุ่มสำระกำรเรียนรู้
2. ครูและนักเรียนมีส่ือและแหล่งเรียนรู้เพ่ิมข้ึนและได้เห็นควำมแตกต่ำงในกำรจัดกำรศึกษำของไทยและ

ต่ำงประเทศ
3. ครูมีสื่อหลำกหลำยสำมำรถนำมำจัดกำรเรียนกำรสอนโดยเลือกใช้ให้เหมำะกับนักเรียนแต่ละห้องหรือ

แต่ละบุคคล ในกำรสอนสำระเดียวกัน สอ่ื กำรสอนบำงเร่ืองนักเรียนสำมำรถทบทวนได้ด้วยตนเองหรือสำมำรถศึกษำ
ไดห้ ลำยๆครั้งจนเกิดทักษะ เกดิ ควำมเข้ำใจจนสรำ้ งองคค์ วำมรู้ได้

4. ทำใหท้ รำบระดับควำมพึงพอใจของนกั เรียน ที่เรยี นโดยใช้สือ่ น้นั ๆ ในแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้
5. มีสอ่ื ที่ดสี ำมำรถนำมำใช้จัดกำรเรยี นกำรสอนได้
6. ไดพ้ ฒั นำสื่อใหม้ ีคุณภำพสูงขึ้นและนำไปเผยแพรไ่ ด้ ทรำบขอ้ ดี ขอ้ ควรพัฒนำ เกดิ กลั ยำณมิตรระหวำ่ งครู
จากผลการพฒั นาดงั กลา่ ว ส่งผลให้ผลการดาเนนิ งานอยู่ในระดับคุณภาพ ๔ ดีเลิศ

๑๒๑ | หน้า

๓. จดุ เดน่
โรงเรียนตง้ั อยู่ในเมืองหลวงของประเทศ ใกล้ชิดแหล่งควำมเจริญและแหล่งอำรยธรรมของประเทศมำกมำย

สำมำรถนำนักเรยี นไปศึกษำค้นควำ้ ไดส้ ะดวก อกี ทง้ั โรงเรียนยงั มกี ำรนำเทคโนโลยมี ำใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน

๔. จดุ ควรพัฒนา
4.1 จดั หอ้ งเรียนทีส่ ำมำรถใชเ้ ทคโนโลยีให้ทกุ กล่มุ สำระกำรเรียนสำมำรถใชจ้ ัดกำรเรียนกำรสอนได้ทุกระดบั ชน้ั
4.2 จัดอบรมครูให้มคี วำมรอบรู้ในกำรใชส้ ือ่ อปุ กรณท์ ่ีโรงเรยี นมีอยใู่ ห้ได้ครบทุกท่ำน

๓.๓ การบรหิ ารจดั การชนั้ เรียนเชงิ บวก

ตัวชวี้ ดั ครมู กี ำรจัดกำรบรหิ ำรช้ันเรยี นเชิงบวก /มีควำมสำมัคคี

๑. กระบวนการพฒั นา
ตำมพระรำชดำรัสของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกำรท่ี ๙ กล่ำวว่ำ ๓ หัวใจของ

กำรศึกษำ คือ “ให้ครูรักเด็ก และเด็กรักครู ให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจต่อเพื่อน” ทำให้กำรจัดกำรเรียนรู้ในปัจจุบัน
จำเปน็ ตอ้ งมกี ำรบริหำรจัดกำรชัน้ เรยี นอย่ำงเป็นระบบเพอื่ ให้ผู้เรยี นสำมำรถเรียนรู้ร่วมกันกับครูผู้สอนและเพ่ือนร่วมชั้น
เรยี นไดอ้ ย่ำงมคี วำมสขุ โดยกระบวนกำรเหล่ำน้ันสอดคล้องกับกำรจัดกำรเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยปัจจุบัน
เรียกวำ่ กำรเรียนกำรสอน Active Learning ปรบั เปลย่ี นบทบำทของครูจำกผู้สอน ผู้ถ่ำยทอดควำมรู้ เป็นผู้อำนวยควำม
สะดวกและเรียนรู้ไปพร้อมกับผเู้ รียน

กำรน้ี โรงเรียนมีโครงกำร นิเทศกำรจัดกำรเรียนรู้ในกลุ่มสำระฯ และนอกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ เพ่ือ
พัฒนำกำรจัดกำรเรียนกำรสอนให้สำมำรถจัดกำรชั้นเรียน บริหำรช้ันเรียน จัดกระบวนกำรเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมให้
นกั เรียนได้คิดอย่ำงเป็นระบบ สำมำรถปฏิบัติได้อย่ำงถูกต้อง มีกำรจัดบรรยำกำศกำรเรียนจัดกำรเรียนรู้ในช้ันเรียน
และนอกชัน้ เรียนอยำ่ งมคี วำมสุข มีควำมศรทั ธำในผู้สอน รักทจี่ ะเรียนรูแ้ ละรักทจ่ี ะเรยี นรู้ร่วมกันกับผูอ้ ื่นได้

๒. ผลการพฒั นา ผลการพฒั นา
วธิ กี ารพัฒนา

1. ดา้ นการจัดการช้ันเรียนเชิงบวกทางกายภาพ - โรงเรียนมหี ้องเรียนบรรยำกำศนำ่ เรียนรู้
1.1 กำรพัฒนำอำคำร สถำนท่ี และอุปกรณ์ ส่ือกำร
และมอี ปุ กรณ์ ส่อื กำรสอนเพียงพอต่อกำร
ส อ น ใ ห้ เ ห ม ำ ะ ส ม เ อื้ อ ต่ อ ก ำ ร จั ด ก ำ ร เ รี ย น รู้ จดั กำรเรยี นกำรสอน
(ผรู้ ับผิดชอบกลมุ่ บริหำรทวั่ ไป) - มีห้องโสตทศั นศกึ ษำและหอ้ งประชุมที่
1.2 กำรจัดกิจกรรม Big Cleaning Day ให้นักเรียน
เพยี งพอต่อกำรจดั กิจกรรมตำ่ ง ๆ ของ
ชว่ ยกนั รกั ษำควำมสะอำดของอำคำร สถำนที่ใน โรงเรยี น
โรงเรียน
- ชัน้ เรียนสะอำดเหมำะสม เออ้ื ตอ่ กำร
จัดกำรเรียนรู้

๑๒๒ | หนา้

วธิ กี ารพัฒนา ผลการพัฒนา

2. ดา้ นการจดั การช้นั เรียนเชงิ บวก ในเชิงจติ วิทยา - จัดประชุมผปู้ กครอง ส่งเสริมควำมสัมพันธ์
อนั ดขี องครกู บั ผู้ปกครองและนกั เรยี น
2.1 กำรพฒั นำควำมสัมพันธท์ ีด่ รี ะหว่ำงครกู ับ
นักเรยี น - กำรมอบเกยี รติบตั รครรู ะบบดแู ล

2.2 กำรสง่ เสรมิ บทบำทกำรเปน็ ผ้นู ำ ลักษณะผูน้ ำเชงิ ช่วยเหลอื นักเรยี น และกำรยกยอ่ ง
ประชำธิปไตย ตัวอย่ำงครูดศี รีบำงมด เพือ่ เปน็ ขวญั
กำลังใจของบุคลำกร
2.3 กระบวนกำรจัดกำรเรียนรใู้ นช้นั เรียน กำรสรำ้ ง
- นักเรียนมีควำมเป็นผู้นำ ยอมรับในระบบ
แรงจูงใจในชน้ั เรียน กำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ ประชำธปิ ไตย
หลำกหลำย และกำรจัดกจิ กรรมให้เหมำะสม
- นกั เรียนได้เรียนรู้ผ่ำนกระบวนกำรเรียนรู้
สอดคล้องตอ่ ผเู้ รยี น ทห่ี ลำกหลำย เหมำะสมตอ่ นกั เรียน
2.4 กำรวำงกฎระเบียบร่วมกันระหว่ำงครูและผู้เรยี น
2.5 กำรสื่อสำรด้ำนบวกกับผเู้ รียน - นักเรียนได้รับควำมรู้และมีควำมรู้สึกเชิง

บวกตอ่ ครู

3. ดา้ นการส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียนมกี ารเรยี นรูอ้ ย่างมีความสุข - นกั เรียนมกี ิจกรรมทที่ ำร่วมกนั อย่ำง
และอย่รู ว่ มกนั อยา่ งมีความสุข โดยผา่ นกิจกรรม ตอ่ เนอื่ งสนุกสนำน ฝกึ กระบวนกำร
ทำงำนอย่ำงเป็นระบบ และควำมสำมัคคี

๓. จดุ เด่น
1. ด้ำนกำยภำพ มคี วำมพรอ้ มเออ้ื ต่อกำรเรียนรู้ เช่น กำรปูกระเบื้อง สีสันสวยงำม อุปกรณ์ในห้องเรียนบำง

หอ้ งมีควำมทันสมัย เหมำะสมเอ้ือตอ่ กำรเรียนรู้ เช่น เครื่องฉำยภำพ ทวี ี คอมพิวเตอรเ์ ครือ่ งปรบั อำกำศ ห้องโสตทัศน
ศกึ ษำ และห้องประชมุ ท่มี ขี นำดใหญ่รองรบั กำรจัดกิจกรรมไดอ้ ย่ำงหลำกหลำย

2. ด้ำนจิตวิทยำ มีกำรสื่อสำรทำงบวกต่อนักเรียนและผู้ปกครอง กำรยกย่องเชิงชูบุคคลำกรดีเด่นด้ำนกำร
ดแู ลช่วยเหลือ กิจกรรมกำรสื่อสำรเชิงบวกในแต่ละระดับช้ันในคำบประชุมระดับ กำรส่งเสริมกิจกรรมที่หลำกหลำย
กบั นกั เรยี นเหมำะสม

3. ด้ำนกำรส่งเสริมให้ผู้เรยี นมกี ำรเรียนรู้อย่ำงมีควำมสุข และอยู่ร่วมกันอย่ำงมีควำมสุข โดยผ่ำนกิจกรรมท่ี
หลำกหลำย เชน่ กิจกรรมกีฬำสภี ำยใน กำรทำบุญตักบำตร

๔. จดุ ควรพฒั นา
1. ด้ำนกำยภำพ ห้องเรียนบำงส่วนยังมีลักษณะที่ไม่เอ้ือต่อกำรจัดกำรเรียนรู้ เช่น ขำดเครื่องฉำย ควำมไม่

เหมำะสมของแสง และอณุ หภูมิในห้องเรยี น
2. ด้ำนจิตวทิ ยำ ควรมกี ำรยกยอ่ งส่งเสรมิ ครูทจี่ ัดกำรชน้ั เรียนเชงิ บวกดเี ดน่ เช่น กำรประกวดแผนกำรเรียนรู้

ครูดใี นดวงใจของนกั เรียน เป็นตน้

๑๒๓ | หน้า

3. ดำ้ นกำรส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนมกี ำรเรยี นรู้อย่ำงมีควำมสขุ และอยู่ร่วมกันอย่ำงมีควำมสขุ โรงเรียนควรส่งเสริม
กิจกรรมพด่ี ูแลนอ้ ง และกิจกรรมอืน่ ๆ ทสี่ ่งเสรมิ ให้ผ้เู รียนทำงำนรว่ มกนั ท้งั ในระดับชน้ั เดียวและตำ่ งชนั้ เพ่ือให้ผู้เรียน
เรยี นจำกสภำพจริงและมีควำมสุข

๓.๔ ตรวจสอบและประเมนิ ผู้เรียนอย่างเปน็ ระบบและนาผลมาพฒั นาผู้เรียน

ตวั ช้วี ดั ครตู รวจสอบผูเ้ รียนโดยใชเ้ คร่ืองมือ/วิธีวัดท่เี หมำะสมกบั เป้ำหมำย

๑. กระบวนการพฒั นา
โรงเรียนกำหนดให้ครูทุกคนจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ มีกระบวนกำรตรวจสอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้

นเิ ทศกำรสอนของครูทุกคน ทกุ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ ครอู อกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ตำมธรรมชำติของวิชำ เพื่อพัฒนำ
ควำมรู้ ทกั ษะและควำมสำมำรถด้ำนต่ำง ๆ ของผู้เรียนด้วยกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำย ใช้สื่อกำรสอนและแหล่ง
กำรเรียนรู้ทั้งภำยในและภำยนอกโรงเรียน และมีกระบวนกำรประเมินผลกำรเรียนตำมสภำพจริง เช่น กำรสังเกต
พฤติกรรมกำรเรียนรู้ภำยในช้ันเรียน กำรตรวจใบงำน ช้ินงำนหรือภำระงำนที่ได้รับมอบหมำย ผลงำนต่ำงๆ ของ
นักเรยี น กำรทดสอบควำมรูโ้ ดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน มีกำรกำหนดผู้เช่ียวชำญในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้
ต่ำงๆ เพ่ือตรวจสอบกำรออกข้อสอบให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ ตัวชี้วัดกำรเรียนรู้ และมีรูปแบบที่เหมำะสม เพ่ือ
ใหผ้ ลกำรทดสอบสะทอ้ นควำมรู้ควำมสำมำรถทำงด้ำนกำรคิด วเิ ครำะห์ และกำรแกป้ ญั หำของนกั เรยี นได้อย่ำงแทจ้ รงิ

๒. ผลการพัฒนา
ครูทุกคนจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้อย่ำงน้อย ๑ รำยวิชำ มีกำรวิเครำะห์หลักสูตร มำตรฐำนกำรเรียนรู้

ตัวช้ีวัดของหลักสูตรสถำนศึกษำ เป็นกำรเตรียมควำมพร้อมก่อนสอนและทำให้เกิดกำรพัฒนำกำรสอนของครูให้มี
คุณภำพ และโรงเรียนมีกำรนิเทศกำรสอนเพื่อพัฒนำ ปรับปรุงกำรจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กำรประเมินผลกำร
เรียนรูใ้ หเ้ หมำะสมกบั เปำ้ หมำยในกำรจดั กำรเรียนรู้ โดยครทู ุกคนไดม้ ีกำรแลกเปลย่ี นควำมคิดเห็นเกี่ยวกับกำรจัดกำร
เรียนรู้ในช้ันเรียนกับครูผู้นิเทศกำรสอน ส่งเสริมให้เกิดกำรพัฒนำควำมรู้และทักษะ กำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้
ของครูทกุ คน มีกำรประเมนิ ผเู้ รียนดว้ ยเครื่องมอื และวิธกี ำรวัดและประเมนิ ผลทหี่ ลำกหลำย เหมำะสมกับเป้ำหมำยใน
กำรจัดกำรเรียนรู้ของแต่ละรำยวิชำ ผลการประเมินร้อยละ ๑๐๐.๐๐ คุณภาพอยใู่ นระดับคุณภาพ ๕ ยอดเยีย่ ม

๓. จดุ เดน่
ครูทุกคนจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้อย่ำงน้อย ๑ รำยวิชำ มีกำรวิเครำะห์หลักสูตร มำตรฐำนกำรเรียนรู้

ตวั ชี้วดั ของหลกั สูตรสถำนศกึ ษำ

๔. จดุ ควรพฒั นา
โรงเรยี นยังควรปรบั ปรงุ ในเรื่องของกำรใหผ้ ลยอ้ นกลบั ผ้เู รยี น และนำผลยอ้ นกลับไปพัฒนำนักเรยี น

๑๒๔ | หนา้

๓.๕ มีการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้และใหข้ อ้ มูลสะทอ้ นกลบั เพอ่ื พฒั นาและปรับปรุงการจัดการเรยี นรู้
ตัวชีว้ ดั มกี ำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพฒั นำและปรับปรุงกำรจดั กำรเรยี นรู้

๑. กระบวนการพัฒนา
โรงเรียนได้ส่งเสรมิ ให้ครไู ดแ้ ลกเปลี่ยนเรียนรซู้ ึง่ กนั และกันโดยผ่ำนโครงกำรหรือกิจกรรมตำ่ ง ๆ อำทิเช่น งำน

นเิ ทศกำรสอน กจิ กรรมชมุ นมุ แห่งกำรเรยี นร้ทู ำงวชิ ำชีพ (PLC) กำรนำเสนอผลงำนดเี ดน่ ของกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ต่ำง
ๆ (Best practice) ในงำนนิทรรศกำรและกิจกรรมแข่งขันทักษะทำงวิชำกำร “เปิดโลกกำรเรียนรู้ Welcome to
Bangmod 4.0” และโรงเรียนมกี ำรประเมนิ กำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนของครทู กุ คนโดยนกั เรียน
๒. ผลการพัฒนา

ครทู กุ คนได้รบั กำรนเิ ทศกำรกำรสอนจำกครใู นกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ของตน และครูนอกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้
ส่งผลใหเ้ กิดกำรพฒั นำควำมรู้ ทกั ษะกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้เข้ำร่วมกิจกรรมชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ (PLC) โดยร่วม
ประชมุ หำรือเพอ่ื พฒั นำกำรเรียนกำรสอนในรำยวิชำที่สอนร่วมกัน เกิดกำรแลกเปล่ียนปัญหำท่ีเกิดขึ้นในกำรจัดกำร
เรยี นกำรสอนของตนเอง ผลการประเมนิ ร้อยละ ๑๐๐.๐๐ คุณภาพอยใู่ นระดบั คณุ ภาพ ๕ ยอดเยี่ยม
๓. จุดเดน่

ในปกี ำรศึกษำ ๒๕๖๑ มีกำรเข้ำรว่ มกิจกรรมชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ (PLC) ร้อยละ ๑๐๐ และนำผลกำรประชุม
มำหำรือเพื่อพฒั นำกำรเรยี นกำรสอนในรำยวชิ ำท่ีสอนร่วมกัน เกิดกำรแลกเปล่ียนปัญหำที่เกิดขึ้นในกำรจัดกำรเรียน
กำรสอน
๔. จุดควรพฒั นา

ทุกกลุม่ สำระฯ ควรบนั ทึกกำรแลกเปลี่ยนเรียนรแู้ ละกำรใหข้ อ้ มลู สะทอ้ นกลบั อย่ำงสมำ่ เสมอและเป็นปัจจบุ นั

๑๒๕ | หน้า

ผลกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำถือเป็นข้อมูลสำรสนเทศสำคัญท่ีสถำนศึกษำ จะต้องนำไปวิเครำะห์
สังเครำะห์เพ่ือสรปุ นำไปส่กู ำรเช่อื มโยงหรอื สะท้อนภำพควำมสำเร็จ กับแผนพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำของสถำนศึกษำ
และนำไปไขใ้ นกำรวำงแผนพัฒนำ คุณภำพกำรศึกษำของสถำนศึกษำ ดังนั้น จำกผลกำรดำเนินงำนของสถำนศึกษำ
สำมำรถสรปุ ผลกำรประเมินในภำพรวมของจุดเด่น จุดควรพัฒนำของแตล่ ะมำตรฐำน พร้อมท้ังแนวทำงกำรพัฒนำใน
อนำคตและควำมตอ้ งกำรกำรชว่ ยเหลอื ไดด้ งั นี้

จดุ เด่น จดุ ทค่ี วรพัฒนา

 ดา้ นคณุ ภาพของผเู้ รยี น  ด้านคณุ ภาพผ้เู รียน

1. ผู้เรียนมีควำมสำมำรถในกำรอ่ำนเขียนกำรส่ือสำร 1. นวัตกรรมท่ีนักเรียนสร้ำงสรรค์ขึ้นบำง

และกำรคดิ คำนวณ อ่ำนเอกสำรหรือสื่อต่ำงๆ แล้วนำเนื้อหำ นวัตกรรม ไม่ได้นำไปใช้หรือเผยแพร่สู่สังคม

สำระที่อ่ำนมำคิดวิเครำะห์ นำไปสู่กำรแสดงควำมคิดเห็น เน่ืองจำกคณุ ภำพของนวัตกรรมไม่เพียงพอ หรือไม่

กำรสงั เครำะห์หรอื กำรสรำ้ งสรรคก์ ำรแก้ปญั หำ และถ่ำยทอด น่ำสนใจ หรือไม่สำมำรถนำไปใช้ได้จริง หรือขำด

ควำมคิดด้วยกำรเขียนทม่ี สี ำนวนภำษำถูกต้อง มีเหตุผล และ โอกำสในกำรนำไปเผยแพร่

นำเสนอตำมลำดับขั้นตอนได้อย่ำงชัดเจนสำมำรถใช้ 2. ผู้เรียนควรได้รับกำรพัฒนำควำมสำมำรถ

เทคโนโลยีในกำรแสวงหำควำมรู้ได้ด้วยตนเอง ส่งผลให้ ในกำรคดิ คำนวณให้อยู่ในระดบั ทีด่ ีข้ึน เพ่ือส่งเสริม

ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของนักเรียน และมีกำรพัฒนำอย่ำง ให้ผู้เรียนมีทักษะกำรคิดคำนวณอันเป็นเคร่ืองมือ

ต่อเน่ือง นักเรียนกล้ำแสดงออก ร่ำเริงแจ่มใส สุขภำพกำย สำคัญในกำรเรียนรู้รำยวิชำอ่นื ตอ่ ไป

แข็งแรง มสี มรรถภำพทำงกำยและน้ำหนักส่วนสูงตำมเกณฑ์ 3. ควรมีแบบทดสอบหรือแบบประเมิน เพ่ือวัด

มรี ะเบยี บวินัย สรรค์สรำ้ งสังคม ตำมอตั ลกั ษณ์ของสถำนศึกษำ และประเมินทักษะกำรอ่ำน กำรเขียน กำรส่ือสำร

จัดกิจกรรมส่งเสริมควำมถนัดและควำมสำมำรถของผู้เรียน และกำรคิดคำนวณอย่ำงชัดเจน เพื่อกำรประเมิน

ในทุกด้ำน ได้แก่ กิจกรรมทำงด้ำนวิชำกำร ศิลปะ ดนตรี ทีเ่ ป็นรูปธรรม

กีฬำ กิจกรรมพัฒนำ ผู้เรียน ผลกำรแข่งขันทักษะทำง

วิชำกำรพฒั นำข้ึนอย่ำงตอ่ เน่ืองเปน็ ท่ียอมรับของสังคม

2. ผู้เรียนมีควำมรู้ ควำมสำมำรถและทักษะในระดับ

สำกลท่ีจำเป็นสำหรับศตวรรษท่ี 21 มีควำมคิดสร้ำงสรรค์

และกำรสร้ำงนวัตกรรม

3. ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมตำมที่สถำนศึกษำ

กำหนดรู้จักเสียสละและบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม มีสุข

นิสัยท่ีดีด้วยกำรเข้ำร่วมกิจกรรมท่ีหลำกหลำย รวมท้ังเกิด

จิตสำนึก ควำมภำคภูมิใจ และตระหนักถึงคุณค่ำของกำร

อนรุ กั ษ์ สบื สำนภมู ิปญั ญำไทย ขนบธรรมเนียม ประเพณีไทย

๑๒๖ | หนา้

จุดเดน่ จุดทีค่ วรพฒั นา

 ด้านกระบวนการบรหิ ารและการจัดการ  ดา้ นกระบวนการบริหารและการจดั การ

1. สถำนศึกษำมีเป้ำหมำย วิสัยทัศน์และพันธกิจท่ี 1. ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำควรรำยงำน
กำหนดไว้ตรงกับวัตถุประสงค์ของแผนกำรศึกษำชำติ และ ผลกำรพัฒนำตนเองอย่ำงตอ่ เนื่องเป็นประจำทุกปี
สอดคล้องกับสภำพปัญหำควำมต้องกำรพัฒนำของ 2. ควรมีกำรให้ควำมรู้ครูในด้ำนกำรวิจัย

สถำนศึกษำและควำมต้องกำรของชุมชนชัดเจน มีแผนพัฒนำ เพือ่ ใหค้ รูมงี ำนวิจยั เชงิ พัฒนำทม่ี คี ณุ ภำพ
คุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ และแผนปฏิบัติกำรประจำปีที่ 3. ส่งเสริม และสนับสนุนให้โรงเรียนเป็น

สอดคล้องกบั กำรพฒั นำ ผเู้ รียนทุกกลุ่มเป้ำหมำย มีแผนและ ชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ PLC ท่ีมีคุณภำพ มีกำร
ดำเนินงำนพัฒนำคุณภำพกำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำ บูรณำกำร ด้ำนต่ำง ๆ ร่วมกันทุกกลุ่มสำระกำร
ของสถำนศึกษำจัดให้มีแผนและดำเนินงำนพัฒนำ คุณภำพ เรียนรู้

กำรบริหำรและจัดกำรศึกษำที่เหมำะสม ครอบคลุมกำร
พัฒนำวิชำกำรทเี่ น้นผเู้ รยี นทกุ กลมุ่ เปำ้ หมำย

2. ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำทุกคนได้รบั กำรพัฒนำ
และส่งเสริมตำมควำมถนัดครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำมี
ควำมพึงพอใจและรกั ในวชิ ำชีพ

3. โรงเรียนได้ดำเนินกำรจัดสภำพแวดล้อมและบริกำร
ทสี่ ง่ เสรมิ ให้ผู้เรียน บุคลำกร ได้พัฒนำเต็มตำมศักยภำพเอ้ือ

ต่อกำรจัดกำรเรียนรู้ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติกำร ห้องสมุด
อำคำรเรียน อำคำรประกอบ แหล่งเรียนรู้ มีควำมม่ันคง
แข็งแรง มีคุณภำพ และมีควำมปลอดภัย มีส่ิงอำนวยควำม

สะดวกในกำรเรียนรู้เพียงพอ ใช้กำรได้ดี นำไปสู่กำรพัฒนำ
ผูเ้ รยี นทกุ ด้ำน

๑๒๗ | หน้า

จุดเดน่ จดุ ที่ควรพฒั นา
 ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็น  ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้น
สาคญั ผู้เรยี นเป็นสาคญั

1. ครูตั้งใจ มุ่งมั่นพัฒนำผู้เรียนโดยมุ่งเน้นออกแบบ 1. ครูทุกคนควรได้รับกำรอบรมกำรพัฒนำ
กิจกรรม/โครงกำร ตลอดจนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนท่ีเน้น ศักยภำพเรื่องกำรสร้ำงสื่อนวัตกรรมเพื่อพัฒนำ
ผู้เรียนเป็นสำคัญ ฝึกทักษะกำรคิด และได้ปฏิบัติจริงอย่ำง คุณภำพด้ำนเทคนิคและวิธีกำรจัดกระบวนกำร
เหมำะสม เป็นไปตำมมำตรฐำนและตัวชว้ี ดั ของหลกั สูตร เรียนกำรสอนให้เหมำะสม ตอบสนองผู้เรียนอย่ำง

2. มีกำรประเมินผู้เรียนอย่ำงเป็นระบบ เป็นข้ันตอน หลำกหลำย สำมำรถประยุกต์ใช้ส่ือนวัตกรรมให้
โดยเร่ิมจำกกำรวำงแผนกำรประเมินให้เป็นไปในทิศทำง เกิดประโยชน์ตอ่ ผเู้ รยี นสูงสดุ
เดียวกัน มีกำรทดสอบก่อนเรียนเพื่อแบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็น3 2. ควรปรบั ปรุงในเรื่องของกำรให้ผลย้อนกลับ
ระดบั ในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนเสริมเพ่อื พฒั นำผู้เรียน และ ผ้เู รยี น และนำผลย้อนกลับไปพฒั นำนกั เรยี น
มีกำรให้ข้อมูลย้อนกับแก่นักเรียนเป็นระยะเพื่อให้นักเรี ยน
สำมำรถพัฒนำตนเองได้

๑๒๘ | หนา้

กำรกำหนดแนวทำงกำรพัฒนำในอนำคตต้องอำศัยวิสัยทัศน์ ข้อมูลจำกสำรสนเทศ ผลกำรประเมินงำน/โครงกำร/
กิจกรรม ข้อเสนอแนะจำกผู้รับผิดชอบ บริบทของโรงเรียน และกำรแก้ไขปัญหำตำมสภำวกำรณ์ นำมำบูรณำกำรเป็นแนว
ทำงกำรพัฒนำให้สอดคล้องกับแผนกำรศึกษำของโรงเรียน และบรรลุตำมวิสัยทัศน์ท่ีได้กำหนดไว้ แนวทำงกำรพัฒนำ
โรงเรียนบำงมดวิทยำ “สีสกุ หวำดจวนอปุ ถัมภ์” มดี งั น้ี

1. กำรพัฒนำคณุ ธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตำมวิสัยทัศน์ของโรงเรียน คือ ลูกบำงมด มีวินัย น้ำใจงำม
จะส่งเสริมด้วยกิจกรรมท้ังในและนอกห้องเรียนในทุกระดับช้ัน จัดกิจกรรมส่งเสริมกำรมีระเบียบวินัยและควำม
รบั ผิดชอบ กจิ กรรมยกย่องสง่ เสริมใหข้ วัญกำลงั ใจผู้ทำดี โดยครูและบุคลำกรทุกคนของโรงเรียนเป็นผู้ร่วมกันขับเคล่ือน
และปฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอยำ่ งที่ดี

2. พัฒนำครูให้มีควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่เน้นกำรพัฒนำผู้เรียนเป็นสำคัญ
โดยรปู แบบกระบวนกำรทห่ี ลำกหลำยมีประสทิ ธิภำพ

3. กำรพัฒนำบุคลำกรโดยส่งเข้ำรับกำรอบรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในงำนท่ีได้รับมอบหมำย ติดตำมผลกำร
นำไปใช้และผลท่เี กิดกบั ผเู้ รยี นอยำ่ งตอ่ เน่อื ง

งบประมำณในกำรดำเนนิ งำนในด้ำนตำ่ งๆ

๑๒๙ | หน้า

130 | หนา้

131 | หนา้

132 | หนา้

133 | หนา้

134 | หนา้

135 | หนา้

136 | หนา้

137 | หนา้

138 | หนา้

139 | หนา้

140 | หนา้

141 | หนา้

142 | หนา้

143 | หนา้

144 | หนา้

145 | หนา้

146 | หนา้

147 | หนา้


Click to View FlipBook Version