โครงสรา้ งหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 3 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
ค 1.1 ป.3/8 หาผลลัพธ์การบวก ลบคณู หารระคน ของ จานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 และ 0
ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขนั้ ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
หน่วยการ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ / แผนการจดั การเรยี นรู้ เวลา
เรยี นรทู้ ี่ (ชั่วโมง)
การบวก ลบ คูณ หารระคน 1
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง การเตรยี มความพรอ้ ม 1
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื ง การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คณู หารระคน (1) 1
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง การหาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน (2) 1
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คณู หารระคน (3) 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง ความรสู้ กึ เชิงจานวนเกยี่ วกบั การบวก ลบ คูณ หารระคน 1
13 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 6 เร่อื ง สถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ข้นั ตอน (1) 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 เรอ่ื ง สถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขน้ั ตอน (2) 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ข้นั ตอน (1) 1
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 เรื่อง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขนั้ ตอน (2) 1
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 เรอื่ ง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน (3) 1
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 11 เร่ือง การสร้างโจทย์ปญั หา 2 ข้นั ตอน 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 12 เรอ่ื ง กิจกรรม ขยะสรา้ งรายได้ 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 13 เรอ่ื ง แบบทดสอบท้ายบท 1
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 13 เร่ือง การบวก ลบ คณู หารระคน
เร่อื ง การเตรียมความพร้อม เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
สอนวนั ท่ี_________เดอื น________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน
ผลที่เกิดขน้ึ จาก การดาเนนิ การ สมบตั ิของ การดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชี้วัด : -
ความรหู้ รือทกั ษะพนื้ ฐานของนักเรยี น
1. การบวก การลบ การคูณ และการหาร ของจานวนนบั ไม่เกิน 100,000
2. การบวก ลบ คูณ หารระคน ของจานวนนบั ไม่เกนิ 1,000
3. สถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ข้ันตอน ของจานวนนบั ไม่เกนิ 1,000
4. โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขั้นตอน ของจานวนนับไม่เกนิ 1,000
คาสาคญั
ผลลพั ธ์ การบวก ลบ คณู หารระคน สถานการณก์ ารบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน
โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน
สาระการเรยี นรู้
1.ความรู้
การบวก ลบ คณู หารระคน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1. ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์
2. การเช่ือมโยง
3.คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ใชข้ ้อมูลในหนงั สือเรียนหน้าเปิดบท เพื่อนา เขา้ สบู่ ทเรยี นเกยี่ วกับการบวก ลบ คูณ หารระคน
โดยใชค้ าถาม เช่น
− ภาพหน้าเปิดบทเป็นภาพเก่ียวกบั อะไร (นักเรียนแยกขยะแล้วนา ขยะมาช่งั ขาย)
− แยกขยะเปน็ อะไรบา้ ง (ขวด กระดาษ กระป๋อง โฟม)
− ราคาขยะแต่ละชนิดที่พอ่ ค้ารบั ซือ้ เทา่ กันหรอื ไม่ (ไม่เท่ากนั )
− พอ่ คา้ รบั ซ้อื ขยะแตล่ ะชนิดเทา่ ไรบา้ ง (ขวดพลาสติกกโิ ลกรมั ละ 9 บาท กระป๋องกิโลกรมั ละ
3 บาท กระดาษกโิ ลกรมั ละ 7 บาท)
− ถ้าชั่งขยะหลายชนิดขายพร้อมกัน จะหาจานวนเงนิ ท่ีขายขยะท้ังหมดไดอ้ ยา่ งไร นกั เรยี นบางคน
อาจตอบคาถามไดว้ า่ สามารถหาคา ตอบได้โดยนา นา้ หนักของขยะแตล่ ะชนิดคูณกบั ราคาทพ่ี ่อค้ารับซอ้ื แล้ว
นา เงินที่ได้มาบวกกัน ครูแนะนา วา่ การหาคา ตอบทีละขั้นตอนในลักษณะนเี้ ปน็ การหาคา ตอบของโจทย์
ปัญหา 2 ข้นั ตอน ซ่ึงตอ้ งหาคา ตอบทลี ะขนั้ ตอนก่อน จากน้ันครนู า เข้าสู่บทเรียนวา่ ในบทเรียนนนี้ กั เรียนจะ
ได้เรียนเกีย่ วกบั การบวก ลบ คณู หารระคน โจทย์ปัญหาการบวก การลบการคูณ และการหาร 2 ข้ันตอน ซงึ่
นักเรยี นจะต้องมีความร้พู ้ืนฐานเก่ียวกับการบวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และการบวก
การลบ การคูณ และการหาร ของจานวนนบั ไม่เกิน 100,000
2. กอ่ นเรียนเรอ่ื งการบวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 ครูควรตรวจสอบ
ความรู้พนื้ ฐานของนักเรียนเร่ืองการบวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนนับไมเ่ กิน 1,000 ก่อน โดยให้นักเรยี น
ทา กิจกรรม
เตรยี มความพรอ้ มตามหนังสือเรยี นหน้า 250 ซงึ่ แบง่ เป็น 2 ตอน ตอนแรกนักเรยี นจะได้ ทบทวนเรื่องการบวก
ลบ คูณ หาร ของจานวนนับไม่เกนิ 100 โดยใชเ้ กม 24 ทีน่ ักเรียนค้นุ เคยโดยนา จานวนทง้ั 4 จานวน ท่ี
ปรากฏอยใู่ นบัตรเกม มาบวก ลบ คณู หรือหารกันให้ได้ผลลัพธเ์ ทา่ กับ 24 ซึง่ ในเกมนีค้ รูตอ้ งถาม นกั เรียนด้วย
วา่ หาคา ตอบได้อยา่ งไรเพ่ือให้นกั เรียนในห้องได้คดิ ตามไปดว้ ยและนักเรยี นคนอื่นอาจจะคดิ วิธหี าคาตอบได้
แตกตา่ งกัน ครคู วรให้นักเรยี นได้มีโอกาสในการนา เสนอวิธคี ิดที่แตกต่างกนั นี้ดว้ ย ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรียนทุกคน
ทบทวนการบวก ลบ คูณ หารระคน ของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 โดยใหห้ าผลลพั ธใ์ นใบกจิ กรรมเป็น
รายบุคคล จากน้นั สุ่มนักเรียนออกมานา เสนอผลลพั ธห์ น้าห้องทีละข้อถา้ มีนักเรยี นคนใดทา ผิดให้แก้ไขให้
ถูกต้อง แล้วใหเ้ พื่อนท่ีทา ถกู ตอ้ งอธบิ ายวธิ คี ดิ โดยครคู วรเนน้ ยา้ เร่อื งการหาผลลพั ธ์ท่ีอยู่ในวงเลบ็ ก่อน ถา้
นกั เรียนส่วนใหญ่ในหอ้ งหาผลลัพธ์ไมถ่ ูกตอ้ งครูอาจให้นักเรียนทา โจทยก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนเพม่ิ เติม
เพ่ือให้นักเรียนได้ทบทวนมากขึน้
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
จดุ ประสงค์การ วธิ ีวัด เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ
เรียนรู้ กจิ กรรม บวก ลบ คณู 50% ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
หาร แสนสนกุ การประเมนิ
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจกิจกรรม บวก ลบ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดับ
ด้านทักษะ คณุ ภาพดีขึน้ ไป
คูณ หาร แสนสนุก กระบวนการ
แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั
2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน ด้านคณุ ลกั ษณะ คณุ ภาพดีข้นึ ไป
ทีพ่ งึ ประสงค์
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน
ท่พี ึงประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน
ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถกู ต้องของ
เนอ้ื หา 4 3 21
2. รูปแบบ
เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ
3. ความเป็นระเบียบ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถกู ต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกบั
สถานการณ์
ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ
เปน็ ระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดับ 1
เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทางาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ีปรากฏใหเ้ หน็
4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตุผล
3 : ดี มีการอ้างอิงท่ถี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ
มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ
1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ปรากฏให้เห็น
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปญั หาได้สาเรจ็ อย่างมีประสิทธภิ าพ อธบิ ายถงึ เหตผุ ล
หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปญั หาได้เข้าใจชดั เจนนามาซง่ึ คาตอบที่ถูกต้อง
3 : ดี ใช้กระบวนการแก้ปัญหาได้สาเร็จ แตน่ ่าจะอธิบายถงึ เหตุผล
หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดกี ว่านี้
2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สาเร็จเพยี งบางส่วน อธบิ ายถงึ เหตผุ ล
หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้บางส่วน
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เริ่มคดิ ใช้เหตุผล หลกั การและขน้ั ตอน
ในการแก้ปัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ าเรจ็
ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรปุ องค์ความรู้
คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
นาความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
4 : ดมี าก หรือกิจกรรมทตี่ ้องใช้องคค์ วามรู้ทเ่ี รยี นได้ถูกต้องทุกกิจกรรมเพ่ือช่วยในการแกป้ ัญหา
หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรอื กิจกรรมทตี่ ้องใชอ้ งค์ความรทู้ เ่ี รยี นไดเ้ ป็นส่วนใหญ่
เพือ่ ชว่ ยในการแกป้ ญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างสว่ น
2 : พอใช้ นาความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรอื
กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งคค์ วามรทู้ ี่เรยี นได้บางส่วน
1 : ควรปรับปรงุ นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรุป
แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รยี นรู้
คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ ห็น
คณุ ภาพ
3 : ดีมาก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเป็นบางครัง้
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตงั้ ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมคี วามมงุ่ มัน่ ในการทางาน
คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็
คุณภาพ
3 : ดมี าก - สง่ งานกอ่ นหรือตรงกาหนดเวลานัดหมาย
- รบั ผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนิสัย
2 : ดี - ส่งงานช้ากวา่ กาหนด แต่ได้มกี ารตดิ ต่อชีแ้ จงผ้สู อน มีเหตุผลทีร่ บั ฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเปน็ นิสยั
1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด
- ปฏบิ ตั ิงานโดยตอ้ งอาศยั การชแี้ นะ แนะนา ตักเตือนหรือใหก้ าลังใจ
บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรยี นการสอน
1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน
ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ............... คน คิดเป็นร้อยละ ………………………….
ไดแ้ ก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นกั เรียนมีควำมสำมำรถพิเศษไดแ้ ก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรียนมีควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมคี วำมรู้เกิดทักษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรียนมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรอื น)
ตำแหน่ง ครผู ู้สอน
ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หวั หนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อุคต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรยี นบ้ำนศรีทองสำมคั คี
กจิ กรรม บวก ลบ คูณ หาร แสนสนกุ
อปุ กรณ์
ใบกิจกรรมและบัตรเกม 24 จานวน 3 บัตร
วธิ จี ดั กิจกรรม
1. ครใู หน้ กั เรียนจบั คู่ เพื่อชว่ ยกันหาคาตอบ
2. ครูชูบตั รเกม 24 ทีละบัตร ให้นักเรียนนาจานวนทัง้ 4 จานวนในบตั ร บวก ลบ คูณ หารกนั ให้
ได้ผลลพั ธเ์ ท่ากบั 24 นักเรียนคู่ใดคดิ ไดแ้ ลว้ ให้ยกมือ เมื่อนักเรยี น ยกมือครบทุกคู่ ครูให้คแู่ รกท่ียกมือนาเสนอ
วธิ คี ิด เพ่ือน ๆ ชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความถูกต้อง จากนัน้ ครูถามคู่อ่ืนที่มีวิธีคดิ ต่างจากนีค้ รูจดั กิจกรรมทานอง
เดียวกันนจ้ี นครบ 3 บัตร
3.ครแู จกใบกจิ กรรมให้นักเรียนแต่ละคนหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคนและชว่ ยกนั
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2
กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 13 เร่ือง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เรื่อง การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน (1) เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
สอนวนั ท่ี_________เดือน________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลท่ี
เกดิ ขน้ึ จาก การดาเนนิ การ สมบัตขิ อง การดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ช้วี ัด : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธ์การบวก ลบคูณ หารระคน ของ จานวนนบั ไม่เกิน 100,000 และ 0
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้สูต่ วั ชี้วดั
1. บอกวธิ ีหาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนไม่เกิน 100,000 (K)
2. หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน ของจานวนไมเ่ กนิ 100,000 (P)
3. นักเรียนมีความมุ่งในการทางานและสามารถนาความร้ทู ่ีไดไ้ ปต่อยอดในการเรียนเรอ่ื งตอ่ ไป (A)
สาระสาคญั
การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนใหห้ าผลลพั ธใ์ นวงเลบ็ ก่อนแล้วจึงหาผลลัพธส์ ุดท้าย
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน
2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1.ความสามารถในการสือ่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเช่ือมโยง
3.คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งม่ันในการทางาน
ชน้ิ งานหรือภาระงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
1.ครจู ดั กจิ กรรมดังน้คี รตู ดิ บัตรโจทย์
2,389 + (71,754 − 9,685) = แล้วถามนักเรยี นวา่ จะหาผลลพั ธ์ของสองจานวนใดกอ่ น
นักเรียนควรจะตอบไดว้ า่ ตอ้ งหาผลลัพธ์ของสองจานวน
ทอี่ ยู่ในวงเลบ็ ก่อน คือต้องหาผลลพั ธ์ของ71,754 − 9,685 ก่อน ในการผลลพั ธน์ ้ีอาจใช้วิธีตง้ั ลบ
โดยเขยี นจานวนทอ่ี ยู่ในหลกั เดยี วกันให้ตรงกันแล้วนา จานวนทอ่ี ย่ใู นหลกั เดยี วกนั มาลบกันถ้าจานวนทเ่ี ปน็ ตัว
ตั้งนอ้ ยกว่าตวั ลบต้องกระจายจานวนทีอ่ ยู่ในหลกั ถัดไปทางซา้ ยหรอื อาจจะอธบิ ายตามหนังสอื เรียนหนา้ 251
ซ่ึงจะแบง่ การหาผลลพั ธ์ของ 2,389 + (71,754 − 9,685) ออกเปน็ 2 ขั้นตอน คอื
ขนั้ ท่ี 1 หาผลลบของ 71,754 − 9,685 ได้62,069 เขียนแสดงวิธหี าผลลบไดด้ ังน้ี
ขั้นท่ี 2 นาผลลบทไ่ี ด้ไปบวกกบั 2,389 และได้ผลลพั ธ์สุดท้ายเป็น 64,458 เขียนแสดงการหาผลลพั ธ์
สดุ ท้ายไดด้ งั นี้
ดงั นั้น 2,389 + (71,754 − 9,685) = 64,458
ซ่ึงในการหาผลลัพธ์แตล่ ะขน้ั ตอนครูต้องอธบิ ายวธิ หี าผลลพั ธโ์ ดยการตง้ั ลบและการตั้งบวกเพอื่ ให้
นักเรยี นเขา้ ใจมากข้นึ และให้สังเกตการตั้งบวกและการตง้ั ลบว่าจานวนใดเปน็ ตวั ตงั้ จานวนใดเปน็ ตวั ลบโดย
ให้เขยี นตามลา ดบั ของจานวนท่ีโจทย์กาหนด ซง่ึ การหาผลบวกโดยการตัง้ บวกและการหาผลลบโดยการตัง้ ลบ
นัน้ เป็นวธิ ีคดิ หาผลลพั ธจ์ ากน้นั ครแู นะนา การเขียนแสดงวิธีหาผลลัพธด์ งั น้ี
จากน้ันใหน้ กั เรียนชว่ ยกันเขยี นแสดงวิธหี าผลลัพธข์ องโจทย์การบวก ลบระคนในกรอบทา้ ย
หนังสือเรียนหน้า 251 ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง เม่ือนกั เรยี นเขา้ ใจวิธกี ารดีแล้ว
ใหน้ กั เรียนทา แบบฝึกหดั 13.1.1 หนา้ 180 – 181 จากน้ันให้ทาใบงานเพม่ิ เติม
สอ่ื การเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.3
2. ใบงานท่ี 2 เร่ือง การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
จุดประสงค์การ วธิ ีวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมิน
เรียนรู้ 60% ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน นกั เรียนได้คะแนนระดับ
คณุ ภาพดีข้ึนไป
2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ ดา้ นทกั ษะ นักเรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ คุณภาพดีขึ้นไป
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม
ทพ่ี งึ ประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ด้านคุณลักษณะ
ท่พี งึ ประสงค์
เกณฑก์ ารประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเด็นการประเมนิ ระดับคุณภาพ
1. 1.ความถูกต้องของ
เนอื้ หา 4 3 21
2. รปู แบบ
เน้ือหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เน้ือหาสาระของ
3. ความเปน็ ระเบียบ
ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง
ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถกู ต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
นา่ สนใจและ เป็นสว่ นใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไมม่ ีความ
เป็นระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เปน็ ระเบียบ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑ์ประเมินคุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง ระดับ 1
เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทางาน
ทักษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลที่ปรากฏให้เห็น
4 : ดมี าก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจอยา่ งมีเหตุผล
3 : ดี มกี ารอ้างอิงทถ่ี ูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ
1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาที่ปรากฏให้เห็น
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปัญหาได้สาเรจ็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ อธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลกั การและขนั้ ตอนในการแกป้ ัญหาได้เข้าใจชดั เจนนามาซึ่งคาตอบท่ถี ูกต้อง
ใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาได้สาเร็จ แตน่ ่าจะอธบิ ายถึงเหตุผล
3 : ดี หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้ดกี ว่านี้
2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สาเร็จเพียงบางสว่ น อธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลักการและข้นั ตอนในการแกป้ ญั หาได้บางสว่ น
1 : ควรปรับปรุงแก้ไข มรี ่องรอยการแกป้ ญั หาบางส่วน เริม่ คดิ ใช้เหตุผล หลกั การและขน้ั ตอน
ในการแกป้ ัญหา แล้วหยุด อธบิ ายตอ่ ไม่ได้ แก้ปญั หาไม่สาเร็จ
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเชื่อมโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชื่อมโยงที่ปรากฏใหเ้ หน็
คุณภาพ
นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเช่ือมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์
4 : ดีมาก หรือกิจกรรมทีต่ ้องใชอ้ งค์ความรูท้ ีเ่ รียนได้ถูกต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วยในการแก้ปญั หา
หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม
นาความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรือกิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งคค์ วามรู้ท่ีเรยี นไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่
เพื่อช่วยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างสว่ น
2 : พอใช้ นาความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ไปเช่ือมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์หรือ
กจิ กรรมท่ีตอ้ งใชอ้ งคค์ วามรู้ท่ีเรียนไดบ้ างส่วน
1 : ควรปรับปรงุ นาความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ
แกไ้ ข องค์ความรู้ที่ได้
เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : นกั เรยี นใฝ่เรียนรู้
คะแนน : ระดับ คณุ ลักษณะทีป่ รากฏให้เห็น
คุณภาพ
3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเปน็ บางคร้งั
1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความตั้งใจในระยะเวลาสัน้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรยี นมีความม่งุ ม่นั ในการทางาน
คะแนน : ระดับ คณุ ลักษณะท่ีปรากฏใหเ้ ห็น
คุณภาพ
3 : ดีมาก - ส่งงานก่อนหรอื ตรงกาหนดเวลานดั หมาย
- รับผดิ ชอบในงานที่ได้รบั มอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนิสัย
2 : ดี - สง่ งานช้ากวา่ กาหนด แตไ่ ด้มีการตดิ ต่อชี้แจงผสู้ อน มเี หตุผลท่ีรับฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานที่ไดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ัติตนเองจนเป็นนสิ ัย
1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กาหนด
- ปฏิบตั งิ านโดยต้องอาศัยการช้แี นะ แนะนา ตักเตือนหรอื ใหก้ าลงั ใจ
บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรยี นการสอน
1. นักเรียนจำนวน ................................................... คน
ผ่ำนจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ................... คน คิดเป็นร้อยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ............... คน คดิ เป็นร้อยละ ………………………….
ได้แก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นักเรยี นมีควำมสำมำรถพิเศษได้แก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรยี นมคี วำมรคู้ วำมเข้ำใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมคี วำมร้เู กิดทกั ษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรยี นมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรือน)
ตำแหนง่ ครูผูส้ อน
ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หวั หน้ำฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อุคต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผู้อำนวนกำรโรงเรยี นบำ้ นศรีทองสำมัคคี
ใบงานท่ี 2 เรื่อง การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน
แสดงวิธหี าผลลัพธ์
1. 40,671 + (5,023 − 3,987) =
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
2. (10,234 + 26,568) − 9,925 =
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
3. 84,235 − (29,009 + 7,643) =
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 13 เร่อื ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เร่ือง การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน (2) เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
สอนวนั ท่ี_________เดือน________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลที่
เกดิ ขน้ึ จาก การดาเนินการ สมบตั ขิ อง การดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ชว้ี ดั : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธก์ ารบวก ลบคณู หารระคน ของ จานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้สู ู่ตวั ชี้วัด
1. บอกวธิ ีหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน ของจานวนไม่เกนิ 100,000 (K)
2. หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนไม่เกิน 100,000 (P)
3. นกั เรียนมคี วามมุ่งในการทางานและสามารถนาความรู้ท่ีได้ไปต่อยอดในการเรยี นเร่ืองต่อไป (A)
สาระสาคัญ
การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนให้หาผลลัพธ์ในวงเล็บกอ่ นแลว้ จงึ หาผลลพั ธ์สุดท้าย
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1.ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเช่อื มโยง
3.คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทางาน
ชนิ้ งานหรือภาระงาน
ใบงานที่ 3 เร่ือง การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน
กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
1.ครจู ดั กจิ กรรมการสอนดังนี้ครูติดบัตรโจทย์ 31 × (275 ÷ 5) =
แลว้ ถามนักเรียนวา่ จะหาผลลพั ธ์ของสองจานวนใดก่อน นักเรียนควรตอบไดว้ ่า หาผลลพั ธข์ อง
สองจานวนท่อี ยู่ในวงเลบ็ กอ่ น ในที่น้ตี อ้ งหาผลหารของ 275 ÷ 5 กอ่ น แล้วนา ผลหารที่ไดไ้ ปคณู กบั 31
ตามที่อธิบายไวใ้ นหนังสอื เรียนหนา้ 252 ซง่ึ แบง่ วิธหี าผลลัพธไ์ ว้ 2 ขั้นตอนคือ
ขั้นที่ 1 หาผลหาร 275 ÷ 5 นักเรยี นใช้การหารสั้นหรือการหารยาวขึ้นอย่กู ับความถนดั ของนักเรยี น
ในหนงั สือเรยี นนาเสนอเป็นการหารสนั้ เพราะนักเรยี นได้ฝึกการหารส้ันมาแลว้ ในบทท่ี 8 ดังน้ันนาการหารสนั้
นน้ั มาใชใ้ นเนือ้ หานี้เพื่อเป็นการฝึกทบทวนการหารสั้นอกี ครง้ั ดว้ ยและผลหารที่ได้คอื 55 เขียนแสดงวิธีหา
ผลหาร ได้ดังน้ี
ขนั้ ท่ี 2 นา 55 มาคูณกับ 31 ซึ่งเป็นการหาผลคูณของจานวนสองหลกั กับจานวนสองหลัก นกั เรยี น
ตอ้ งหาผลคณู โดยการตงั้ คูณ อาจจะมีนกั เรียนบางคนที่ฝึกทกั ษะการคณู มายงั ไมเ่ พยี งพอ ครูอาจจะอธบิ ายการ
คูณในขนั้ ตอนน้ีให้ชดั เจนว่า ต้องคูณทีละหลัก โดยคณู ในหลักหนว่ ยกอ่ นแลว้ คูณในหลกั สิบ แลว้ นา ผลคณู ที่
ได้มาบวกกัน ผลคณู จึงไดเ้ ป็น 1,705 เขยี นแสดงการหาผลลพั ธ์สดุ ทา้ ยได้ ดงั นี้
หากมนี ักเรียนไม่เขา้ ใจครูอาจยกตวั อยา่ งเพมิ่ เติม ซ่ึงการหาผลหารโดยการหารสั้นและการหาผลคณู
โดยการตัง้ คูณน้นั เป็นวธิ คี ิดหาผลลัพธจ์ ากนั้นครแู นะนา การเขยี นแสดงวิธหี าผลลัพธ์
แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั เขียนแสดงวิธหี าผลลัพธก์ ารคูณ หารระคน ในกรอบท้ายหนังสือเรียนหนา้ 252
ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง แลว้ ให้ฝึกทักษะการคูณ หารระคน ในแบบฝกึ หดั 13.1.2
หน้า 182 – 183 จากนั้นให้ทาใบงานเพ่ิมเตมิ
สื่อการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3
2. ใบงานที่ 3 เร่ือง การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
จดุ ประสงคก์ าร วธิ วี ัด เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
เรียนรู้ ใบงาน 60% ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
การประเมิน
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
ดา้ นทักษะ คณุ ภาพดีขนึ้ ไป
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน กระบวนการ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
ดา้ นคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น ท่ีพึงประสงค์
ท่ีพึงประสงค์ (A) คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
เกณฑก์ ารประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเด็นการประเมนิ ระดับคุณภาพ
1. 1.ความถูกต้องของ
เนือ้ หา 4 3 21
2. รปู แบบ
เนือ้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ
3. ความเป็นระเบยี บ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง
ครบถ้วน ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถูกต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
นา่ สนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เปน็ ไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ
เปน็ ระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เป็นระเบยี บ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑ์ประเมินคุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านทักษะและกระบวนการทางาน
ทักษะและกระบวนการ: การใหเ้ หตุผล
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลท่ีปรากฏให้เหน็
4 : ดีมาก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมีเหตุผล
3 : ดี มกี ารอ้างอิงทีถ่ ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตดั สินใจ
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาท่ปี รากฏให้เห็น
4 : ดมี าก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ าเรจ็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล
หลักการและขนั้ ตอนในการแก้ปัญหาได้เข้าใจชัดเจนนามาซ่ึงคาตอบที่ถูกต้อง
ใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาได้สาเร็จ แต่น่าจะอธบิ ายถึงเหตุผล
3 : ดี หลกั การและขัน้ ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดีกว่านี้
2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สาเรจ็ เพียงบางส่วน อธบิ ายถงึ เหตุผล
หลกั การและขน้ั ตอนในการแก้ปัญหาได้บางส่วน
1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มรี ่องรอยการแกป้ ัญหาบางสว่ น เร่มิ คดิ ใช้เหตผุ ล หลกั การและขั้นตอน
ในการแกป้ ญั หา แล้วหยุด อธบิ ายตอ่ ไม่ได้ แก้ปัญหาไมส่ าเรจ็
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเช่ือมโยง สรปุ องค์ความรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชอื่ มโยงทีป่ รากฏใหเ้ หน็
คณุ ภาพ
นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชอื่ มโยงกับสาระคณิตศาสตร์
4 : ดีมาก หรอื กจิ กรรมทต่ี ้องใชอ้ งค์ความร้ทู ี่เรียนได้ถูกต้องทุกกจิ กรรมเพื่อชว่ ยในการแกป้ ัญหา
หรือประยุกตใ์ ช้ได้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นาความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์
3 : ดี หรอื กจิ กรรมทีต่ ้องใช้องคค์ วามรู้ที่เรียนไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่
เพอ่ื ช่วยในการแกป้ ญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างสว่ น
2 : พอใช้ นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชอ่ื มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์หรือ
กจิ กรรมท่ีตอ้ งใช้องคค์ วามรทู้ ี่เรยี นไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรับปรุง นาความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ
แก้ไข องค์ความรูท้ ่ีได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : นกั เรยี นใฝเ่ รียนรู้
คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ ห็น
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มีความสนใจ / ความตงั้ ใจเปน็ บางคร้งั
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความต้ังใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมคี วามมุ่งม่ันในการทางาน
คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะท่ปี รากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - ส่งงานกอ่ นหรือตรงกาหนดเวลานดั หมาย
- รับผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ัติตนเองจนเป็นนสิ ยั
2 : ดี - สง่ งานชา้ กว่ากาหนด แตไ่ ด้มกี ารตดิ ต่อชแี้ จงผูส้ อน มเี หตุผลทร่ี บั ฟงั ได้
- รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมายและปฏบิ ตั ิตนเองจนเปน็ นสิ ัย
1 : พอใช้ - ส่งงานช้ากว่ากาหนด
- ปฏิบตั งิ านโดยต้องอาศัยการชีแ้ นะ แนะนา ตักเตือนหรอื ใหก้ าลังใจ
บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรยี นการสอน
1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน
ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ............... คน คิดเป็นร้อยละ ………………………….
ไดแ้ ก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นกั เรียนมีควำมสำมำรถพิเศษไดแ้ ก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรียนมีควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมคี วำมรู้เกิดทักษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรียนมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรือน)
ตำแหนง่ ครูผูส้ อน
ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หวั หนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงช่อื ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อุคต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรยี นบ้ำนศรีทองสำมคั คี
ใบงานที่ 3 เรอื่ ง การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน
แสดงวธิ ีหาผลลัพธ์
1. 29 × (2,080 − 1,998) =
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
2. 70,861 − (987 ÷ 3) =
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
4. (3,521 ÷ 7) + 89,053 =
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 4
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 13 เรอ่ื ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เรอื่ ง การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน (3) เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
สอนวันที่_________เดือน________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลที่
เกิดข้ึนจาก การดาเนนิ การ สมบัติของ การดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชวี้ ัด : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธก์ ารบวก ลบคูณ หารระคน ของ จานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0
จุดประสงค์การเรียนร้สู ่ตู ัวชี้วดั
1. บอกวิธีหาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนไมเ่ กนิ 100,000 (K)
2. หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนไม่เกิน 100,000 (P)
3. นักเรยี นมีความมุ่งในการทางานและสามารถนาความร้ทู ่ีไดไ้ ปต่อยอดในการเรยี นเร่อื งตอ่ ไป (A)
สาระสาคัญ
การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนใหห้ าผลลพั ธ์ในวงเล็บกอ่ นแล้วจึงหาผลลัพธ์สุดทา้ ย
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1.ความสามารถในการสือ่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเชื่อมโยง
3.คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทางาน
ชิ้นงานหรือภาระงาน
ใบงานที่ 4 เรอ่ื ง การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน
กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้
1.ครจู ดั กิจกรรมการสอนดังนี้
ครูตดิ บัตรโจทย3์ ,021 − (791 ÷ 7) = แลว้ ถามนักเรียนว่าจะหาผลลพั ธไ์ ดอ้ ย่างไร นกั เรยี น
ควรตอบไดว้ ่าหาผลลัพธ์ที่อยู่ในวงเลบ็ กอ่ น นัน่ คือ 791 ÷ 7 = 113 แลว้ นา 113 ไปลบออกจาก 3,021 จะได้
คา ตอบเป็น 2,908 ครูอาจใหน้ ักเรียนหาผลหารโดยการหารส้ันและหาผลลบโดยการตง้ั ลบซงึ่ เปน็ วิธคี ิดหา
ผลลัพธจ์ ากน้ันครใู หน้ กั เรยี นออกมาเขียนแสดงวิธหี าผลลัพธ์ดังนี้
จากน้นั ให้นักเรยี นช่วยกนั เขียนแสดงวิธีหาผลลพั ธ์ในหนงั สอื เรียนหน้า 253 ถ้าเปน็ ไปได้ครอู าจให้
นักเรยี นจบั คู่กนั แล้วให้ช่วยกนั เขยี นแสดงวธิ ีหาผลลพั ธ์จากน้นั ร่วมกนั เฉลยทลี ะข้อพรอ้ มกนั โดยสุ่มนกั เรยี น
ออกมานาเสนอเป็นคู่ จนครบทุกคู่ ในขณะท่ีออกมานา เสนอทหี่ น้ากระดาน ครูอาจให้นักเรยี นอธบิ ายวิธหี า
ผลลพั ธ์ตามท่คี ตู่ นเองไดท้ า ไวใ้ ห้เพ่อื นในห้องฟงั ถ้าโจทยใ์ นหนังสอื เรียนไม่เพียงพอ ครูสามารถนา โจทย์ใน
หนังสือแบบฝกึ หดั มาใหน้ กั เรียนทา เพิ่มเติมได้อยา่ งไรก็ตามถา้ นกั เรยี นสามารถทา โจทย์ในหนงั สือเรยี นได้
ถกู ต้องทุกข้อ แสดงว่านกั เรียนเกดิ ความเขา้ ใจแล้ว ครูอาจไม่จาเปน็ ต้องนา โจทย์เพ่มิ เติมมาจากหนงั สือ
แบบฝึกหัดก็ไดท้ ้งั นี้ขน้ึ อยู่กบั ความสามารถของผเู้ รยี น
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นเป็นรายบุคคลโดยใหน้ กั เรียนหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คณู หาร
ระคน ตามหนังสือเรียนหน้า 254 ถา้ มีนักเรียนทยี่ ังไม่สามารถหาผลลพั ธ์ได้ครูอาจมโี จทย์ฝกึ เพ่ิมเติมให้
นักเรยี นทาเป็นรายบุคคลก่อน ครูอาจสงั เกตจากการทาแบบฝึกหดั ว่านกั เรียนมีความบกพร่องในเร่ืองการบวก
การลบ การคูณ หรือการหารจากนนั้ ให้ทา แบบฝึกหัดเพ่ิมเตมิ ในส่วนท่นี กั เรยี นบกพร่องเพราะถา้ ไม่แก้ไข
นกั เรียนจะทาโจทย์ท่ีเปน็ การบวก ลบ คณู หารระคนไม่ได้จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบ
ความถูกต้องและสรุปสิง่ ที่ไดเ้ รยี นรู้ การหาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ให้หาผลลพั ธ์ในวงเล็บกอ่ นแลว้
จงึ หาผลลัพธ์สุดทา้ ย จากน้ันใหน้ กั เรียนทา แบบฝกึ หัด 13.1.3 หน้า 184 - 185 จากน้นั ใหท้ าใบงานเพม่ิ เตมิ
ส่อื การเรยี นรู้
1. หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.3
2. ใบงานท่ี 4 เรื่อง การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
จดุ ประสงคก์ าร วธิ วี ัด เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
เรียนรู้ ใบงาน 60% ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
การประเมิน
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
ดา้ นทักษะ คณุ ภาพดีขนึ้ ไป
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน กระบวนการ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
ดา้ นคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น ท่ีพึงประสงค์
ท่ีพึงประสงค์ (A) คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
เกณฑก์ ารประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเด็นการประเมนิ ระดับคุณภาพ
1. 1.ความถูกต้องของ
เนือ้ หา 4 3 21
2. รปู แบบ
เนือ้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ
3. ความเป็นระเบยี บ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง
ครบถ้วน ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถูกต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
นา่ สนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เปน็ ไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ
เปน็ ระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เป็นระเบยี บ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑ์ประเมินคุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านทักษะและกระบวนการทางาน
ทักษะและกระบวนการ: การใหเ้ หตุผล
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการให้เหตผุ ลที่ปรากฏใหเ้ ห็น
4 : ดีมาก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล
3 : ดี มกี ารอ้างอิงทีถ่ ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแกป้ ัญหาท่ปี รากฏให้เห็น
4 : ดมี าก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ าเรจ็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ อธิบายถงึ เหตุผล
หลักการและขนั้ ตอนในการแก้ปญั หาได้เข้าใจชัดเจนนามาซง่ึ คาตอบทีถ่ ูกต้อง
ใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาได้สาเรจ็ แต่น่าจะอธบิ ายถงึ เหตุผล
3 : ดี หลกั การและขัน้ ตอนในการแก้ปัญหาได้ดีกวา่ น้ี
2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สาเรจ็ เพียงบางส่วน อธิบายถึงเหตผุ ล
หลกั การและขน้ั ตอนในการแก้ปญั หาได้บางส่วน
1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มรี ่องรอยการแกป้ ัญหาบางสว่ น เริม่ คิดใช้เหตุผล หลกั การและขน้ั ตอน
ในการแกป้ ญั หา แล้วหยุด อธิบายตอ่ ไม่ได้ แก้ปัญหาไมส่ าเร็จ
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเช่ือมโยง สรปุ องค์ความรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเช่อื มโยงทีป่ รากฏใหเ้ ห็น
คณุ ภาพ
นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
4 : ดีมาก หรอื กจิ กรรมทต่ี ้องใชอ้ งค์ความร้ทู ่ีเรยี นได้ถกู ต้องทุกกจิ กรรมเพื่อชว่ ยในการแกป้ ญั หา
หรือประยุกตใ์ ช้ได้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นาความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์
3 : ดี หรอื กจิ กรรมทีต่ ้องใช้องคค์ วามรู้ท่ีเรียนไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่
เพอ่ื ช่วยในการแกป้ ญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างส่วน
2 : พอใช้ นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชอ่ื มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์หรือ
กจิ กรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามรู้ที่เรยี นไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรับปรุง นาความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ
แก้ไข องค์ความรูท้ ่ีได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : นกั เรยี นใฝเ่ รียนรู้
คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มีความสนใจ / ความตัง้ ใจเปน็ บางครงั้
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมีความมุ่งม่ันในการทางาน
คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ หน็
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - ส่งงานกอ่ นหรือตรงกาหนดเวลานดั หมาย
- รับผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ัติตนเองจนเป็นนสิ ยั
2 : ดี - สง่ งานชา้ กว่ากาหนด แตไ่ ด้มกี ารติดต่อช้ีแจงผูส้ อน มเี หตุผลทร่ี บั ฟงั ได้
- รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมายและปฏบิ ตั ิตนเองจนเปน็ นสิ ัย
1 : พอใช้ - ส่งงานช้ากว่ากาหนด
- ปฏิบตั งิ านโดยต้องอาศัยการชีแ้ นะ แนะนา ตักเตือนหรอื ให้กาลังใจ
บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรยี นการสอน
1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน
ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ............... คน คดิ เป็นร้อยละ ………………………….
ได้แก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นกั เรียนมีควำมสำมำรถพิเศษได้แก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรียนมีควำมร้คู วำมเข้ำใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมคี วำมรู้เกดิ ทักษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรียนมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรอื น)
ตำแหนง่ ครูผูส้ อน
ความคิดเหน็ ของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หัวหนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไมเ่ หมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อคุ ต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรียนบ้ำนศรที องสำมัคคี
ใบงานท่ี 4 เรือ่ ง การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน
แสดงวธิ หี าผลลัพธ์
1. 70,962 − (8,921 + 9,032) =
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
2. 70,861 − (987 ÷ 3) =
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
3. (3,521 ÷ 7) + 89,053 =
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 5
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 13 เรอื่ ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เร่อื ง การพฒั นาความรู้สึกเชิงจานวนเก่ยี วกับการบวก ลบ คณู หารระคน เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง
สอนวนั ท่ี_________เดอื น________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลท่ี
เกิดข้ึนจาก การดาเนนิ การ สมบตั ิของ การดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวชี้วดั : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลัพธก์ ารบวก ลบคณู หารระคน ของ จานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 และ 0
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ส่ตู วั ช้ีวัด
1. บอกได้ว่าผลลพั ธ์ใดมากกว่า น้อยกวา่ หรือเท่ากนั โดยไมต่ ้องคานวณ (K)
2. เขียนคาตอบได้ว่าผลลพั ธใ์ ดมากกว่า นอ้ ยกว่า หรือเท่ากัน โดยไม่ต้องคานวณ (P)
3. นกั เรยี นมคี วามมุ่งในการทางานและสามารถนาความรู้ท่ีไดไ้ ปต่อยอดในการเรียนเรือ่ งต่อไป (A)
สาระสาคัญ
การเปรยี บเทียบผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคนวา่ ผลลพั ธ์ใดมากกวา่ น้อยกวา่ หรอื เทา่ กันอาจ
เปรยี บเทียบไดโ้ ดยไม่ต้องคานวณ
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
ความรสู้ กึ เชงิ จานวนเก่ยี วกบั การบวก ลบ คณู หารระคน
2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1.ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเชอื่ มโยง
3. การใหเ้ หตุผล
3.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุง่ มัน่ ในการทางาน
ชนิ้ งานหรือภาระงาน
ใบงานที่ 5 เร่ือง ความรสู้ กึ เชิงจานวนเกี่ยวกับการบวก ลบ คูณ หารระคน
กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ครตู ดิ บัตรโจทย์แรก (400 − 172) + 394 และบตั รโจทย์ท่ีสอง (385 − 172) + 394 บนกระดาน
แล้วถามนักเรียนวา่ บัตรโจทยใ์ ดมีผลลัพธม์ ากกว่า ครูใหน้ ักเรียนสังเกตจานวนสามจานวนท่อี ยใู่ นบตั รโจทยแ์ ต่
ละใบ แล้วใชค้ าถามชี้แนะว่า บัตรโจทยส์ องใบนี้มีอะไรที่เหมือนกนั และมีอะไร ทไี่ มเ่ หมือนกนั นักเรียนควร
ตอบไดว้ ่าท้งั สองบตั ร มจี านวนสามจานวนเท่ากันเคร่ืองหมายเหมอื นกนั ตาแหน่งของวงเล็บเหมอื นกนั ยกเวน้
400 กบั 385 ทบ่ี ตั รโจทย์สองใบมไี ม่เหมือนกนั ใบแรกเป็น 400 ใบทีส่ องเป็น 385 ครูถามตอ่ วา่ 400 กับ 385
จานวนใดมากกว่า (400 มากกว่า) และถามต่อไปว่า ตอบได้หรอื ไมว่ ่าบัตรโจทย์ใดมผี ลลพั ธ์มากกวา่ นักเรียน
ควรจะตอบได้ว่า บตั รโจทยแ์ รกมผี ลลพั ธ์มากกว่า หากนกั เรียนยงั ไม่เข้าใจวา่ บตั รโจทย์แรกมผี ลลพั ธ์มากกวา่
ได้อย่างไร
2. เมอื่ นกั เรียนสรุปคาตอบเรยี บร้อยแล้ว ครูยกตัวอยา่ งตอ่ ไป โดยการติดบตั รโจทยใ์ หม่เปน็ บัตรโจทย์
(1,000 - 5) - 100 และบตั รโจทย์ (1,000 x 5) - 100 บนกระดาน แล้วถามนักเรียนวา่ บัตรโจทยใ์ ดมีผลลัพธ์
มากกวา่ ครูใหน้ กั เรียนสังเกตวา่ บัตรโจทย์ทั้งสองบัตรมีอะไรท่ีเหมอื นกัน และตา่ งกัน ครูอธบิ ายวา่ จดุ ที่ตา่ งกนั
คอื (1,000 + 5) กบั (1,000 x 5) ครูถามนักเรียนต่อไปวา่ ผลลัพธใ์ ดมากกว่า นักเรียนควรตอบได้วา่ 1,000 x
5) มผี ลลัพธ์มากกวา่ จะได้ 1,000 - 5) มีผลลัพธน์ ้อยกว่า ดังนัน้ (1,000 - 5) - 100 จึงมีผลลัพธน์ ้อยกว่า ถ้ามี
นักเรยี นท่ไี ม่สามารถ บอกได้วา่ 1,000 x 5 มผี ลลัพธ์มากว่า 1,000 - 5 ครอู าจอธบิ ายโดยใชค้ วามหมายของ
การคณู และความหมายของการหาร เพื่อใหน้ กั เรยี นเข้าใจได้ว่า เพราะเหตใุ ด 1,000 - 5 จงึ มีคา่ นอ้ ยกวา่
1,000 x 5 เมอื่ นกั เรยี นเข้าใจตวั อยา่ งทง้ั สองตวั อย่างดแี ลว้ ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกันเตมิ เครื่องหมาย > หรือ <
ในกรอบทา้ ยหนงั สือเรียนหน้า 256 พรอ้ มทั้งใหน้ กั เรยี นอธิบายเหตุผลด้วย ครูอาจให้นักเรียนจบั คกู่ นั เพื่อจะได้
ช่วยกันคดิ ช่วยกนั ทา ท้ังนคี้ รูสามารถให้คาแนะนาเพิ่มเติม ในบางข้อได้ เชน่ ข้อ 2 8,000 - (600 + 254)
8,000 - (600 + 138) จะมีลกั ษณะทตี่ า่ งไปจากตัวอย่างที่สอนมาข้างตน้ แต่นักเรียนสามารถนาความรู้มา
ประยุกต์ใช้ ในขอ้ น้ีได้ ถือว่าไมไ่ ด้ใช้ความรู้เกนิ กวา่ จากท่สี อนมา เนื่องจากเป็นการลบออกด้วยจานวนท่ีไม่
เทา่ กัน และตัวตงั้ เท่ากนั ครอู าจถามให้นักเรยี นคดิ ว่า ถา้ ตวั ตั้งเท่ากนั ลบออกด้วยจานวนท่ีนอ้ ยกบั ลบออก
ด้วยจานวนทม่ี าก จะได้ผลลบเปน็ อยา่ งไร ครูอาจใชส้ อ่ื ตัวนับ เช่น แบ่งตวั นบั ออกเป็นสองกล่มุ เท่า ๆ กนั แล้ว
หยิบตัวนับออกจากกองแรกมากกว่ากองท่ีสอง จะเหลือตัวนับกองใดมากกวา่ นกั เรยี นควรตอบ ไดว้ า่ จะเหลือ
ตัวนับกองท่สี องมากกวา่ เพราะหยบิ ออกไปน้อยกวา่ กองแรก จากนัน้ ครูและนกั เรียน รว่ มกนั ตรวจสอบความ
ถกู ต้อง
3. ครตู ดิ บัตรโจทย์ (3 x 541) - 279 และบัตรโจทย์ (541 x 3) – 279 บนกระดาน แล้วถามนกั เรยี น
วา่ บัตรโจทย์ใดมผี ลลัพธ์มากกวา่ ครอู าจใชค้ าถามชี้แนะวา่ บัตรโจทยส์ องใบน้ี มีอะไรท่เี หมือนกนั และมีอะไร
ท่ีต่างกนั นักเรยี นควรตอบได้วา่ บัตรโจทย์สองใบนี้มี (3 x 541) เหมือนกนั แต่ตา่ งกนั ท่ตี าแหน่ง มีเคร่ืองหมาย
เหมอื นกันทง้ั สองใบ และมี 279 เหมือนกัน ครถู ามต่อไปว่า (3 x 541) กับ (541 x 3) มีผลคณู เท่ากนั หรือไม่
นักเรยี นควรตอบได้วา่ มผี ลคูณเทา่ กนั หากนักเรยี นตอบไม่ได้วา่ มผี ลคณู เท่ากัน ครูอาจยกตวั อย่าง การสลบั ที่
การคณู ของจานวนงา่ ย ๆ เชน่ 2 x 3 เทา่ กับ 3 x 2 หรือไม่ เมื่อนักเรยี นตอบได้แลว้ ครูโยงมาสคู่ าถามว่า (3 x
541) กบั (541 x 3) มผี ลคูณเท่ากันหรือไม่ แล้วถาม ตอ่ ไปวา่ (3 x 541) - 279 กับ (541 x 3) - 279 มี
ผลลัพธ์ เท่ากนั หรือไม่ นักเรยี นควรตอบไดว้ ่ามผี ลลัพธเ์ ทา่ กัน หากนกั เรยี นตอบไมไ่ ด้ ครูอาจใชต้ ัวนับแสดง
เปน็ กอง สองกองท่ีเทา่ กันแล้วหยบิ ตวั นับออกจากกองแรกกับ กองที่สองด้วยจานวนทเี่ ท่ากนั ดงั นัน้ จะเหลือ
ตัวนับเทา่ กนั ท้งั สองกอง จากน้ันครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกันเตมิ เครือ่ งหมาย > < หรอื = ในกรอบท้ายหนังสือเรียน
หนา้ 257 นกั เรยี น อาจตอบได้อยา่ งรวดเรว็ บางคนอาจจะยังตอบไม่ได้ ครอู าจให้นกั เรยี นในห้องช่วยกนั
อธบิ ายเหตผุ ล
เพือ่ ให้นักเรยี นคนอนื่ เข้าใจไปพร้อมกนั หรือครูอาจลุ่มนักเรียนทีไ่ ม่ค่อยตอบให้ออกมาเขียนอธิบาย
ความคิดหนา้ ห้องเรยี น หากยังไม่ไดก้ ็ใหเ้ พื่อนในห้องเรียนช่วยกนั อธิบาย เปน็ ต้น หากนักเรยี นสว่ นใหญ่ ใน
ห้องเรยี นตอบไม่ได้ ครูอาจใช้คาถามนาเพ่ือใหน้ ักเรยี นคดิ ตามทลี ะขั้นตอนตามท่ีได้เสนอไว้ ในการสอนตาม
หนงั สือเรยี นหน้า 256 เชน่ ข้อ 1 (435 + 219) – 400 (435 + 219) – 500 ครูถามนักเรยี นวา่ จะเติม
เคร่ืองหมายอะไร ถา้ มีนกั เรยี นคนใดตอบได้ ครูใหน้ ักเรยี นคนนนั้ อธิบายเหตุผล ถ้านักเรียนส่วนใหญ่ตอบไม่ได้
ครูใช้คาถามชี้แนะวา่ จานวนที่อยูท่ างซา้ ยกับจานวนทอ่ี ยู่ทางขวา เหมือนกนั หรือไม่ มจี านวนใดบา้ งที่
เหมอื นกัน มีจานวนใดบ้างท่ีต่างกนั จานวนทีต่ า่ งกันนั้นจานวนใด มากกวา่ จานวนใดน้อยกวา่ มีเครื่องหมาย
เหมือนกันหรือตา่ งกัน ตาแหน่งของเคร่ืองหมาย อยู่ตาแหน่งเดียวกนั หรอื ไม่ เม่ือนักเรียนตอบคาถามไดแ้ ละคดิ
ตามนกั เรยี นจะสามารถสรปุ ได้ ด้วยตนเองวา่ ควรจะเตมิ เครอื่ งหมาย > < หรือ = เปน็ ตน้ จากนนั้ ครูและ
นักเรยี นร่วมกัน ตรวจสอบความถกู ต้อง
4.ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนเปน็ รายบคุ คลโดยครูติดบตั รโจทยต์ ามหนังสอื เรียนหนา้ 258
แล้วใหน้ ักเรยี นแต่ละคนเตมิ เครอ่ื งหมาย > < หรอื = โดยไม่ตอ้ งคานวณพร้อมบอกเหตผุ ล ครูอาจสมุ่ นักเรียน
ใหบ้ อกเหตผุ ล นกั เรียนอาจบอกเหตผุ ลทแ่ี ตกต่างกนั แล้วถามนกั เรยี นวา่ มีใครให้เหตผุ ลต่างจากนี้และไม่จา
เปน็ ตอ้ งเขียนแสดงเหตุผลซึ่งในการบอกเหตุผลของนกั เรียนน้ันครใู หข้ ้อสงั เกตเก่ยี วกับสมบตั ติ า่ ง ๆ ของ
การดา เนินการของจานวน เช่น การบวก การคณู เป็นต้น ครูไม่ควรให้นักเรียนท่องจาครใู ห้นกั เรยี นสงั เกตแลว้
สรุป จากน้นั ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้
การเปรยี บเทยี บผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคนวา่ ผลลัพธ์ใดมากกว่า น้อยกวา่ หรือเท่ากนั อาจ
เปรียบเทียบไดโ้ ดยไมต่ ้องคานวณ
จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นทา แบบฝกึ หัด 13.2 หน้า 186 จากนน้ั ใหท้ าใบงานเพ่มิ เติม
ส่อื การเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.3
2. ใบงานท่ี 5เรอื่ ง ความรสู้ ึกเชงิ จานวนเกี่ยวกับการบวก ลบ คณู หารระคน
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
จุดประสงคก์ าร วธิ วี ัด เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน
เรยี นรู้
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ คุณภาพดีข้นึ ไป
กระบวนการ
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ
ทพ่ี งึ ประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ ด้านคุณลกั ษณะ คุณภาพดีขน้ึ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์
เกณฑก์ ารประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถูกต้องของ
เนือ้ หา 4 3 21
2. รปู แบบ
เน้อื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
3. ความเป็นระเบยี บ
ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้องเปน็ ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถูกตอ้ ง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถกู ต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
นา่ สนใจและ เปน็ สว่ นใหญ่ ถูกต้องบางสว่ น เปน็ ไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกบั
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ
เปน็ ระเบยี บ ข้อบกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ
เล็กน้อย บางสว่ น
เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง ระดบั 1
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านทักษะและกระบวนการทางาน
ทักษะและกระบวนการ: การใหเ้ หตุผล
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการให้เหตผุ ลท่ีปรากฏให้เหน็
4 : ดมี าก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมีเหตุผล
3 : ดี มกี ารอ้างอิงทีถ่ ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตดั สินใจ
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาทป่ี รากฏให้เห็น
4 : ดีมาก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ าเรจ็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ อธิบายถึงเหตผุ ล
หลักการและขนั้ ตอนในการแกป้ ัญหาได้เข้าใจชดั เจนนามาซ่ึงคาตอบท่ถี ูกต้อง
ใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาได้สาเรจ็ แต่นา่ จะอธิบายถึงเหตุผล
3 : ดี หลกั การและขัน้ ตอนในการแกป้ ญั หาได้ดีกวา่ นี้
2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สาเรจ็ เพียงบางส่วน อธิบายถงึ เหตุผล
หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้บางสว่ น
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มรี ่องรอยการแกป้ ัญหาบางสว่ น เริม่ คดิ ใช้เหตุผล หลกั การและขั้นตอน
ในการแกป้ ญั หา แล้วหยุด อธิบายตอ่ ไม่ได้ แก้ปัญหาไมส่ าเรจ็
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเช่ือมโยง สรปุ องค์ความรู้
คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชื่อมโยงทีป่ รากฏใหเ้ หน็
คุณภาพ
นาความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
4 : ดีมาก หรอื กจิ กรรมทต่ี ้องใชอ้ งค์ความร้ทู ่ีเรยี นได้ถูกต้องทุกกจิ กรรมเพื่อชว่ ยในการแกป้ ญั หา
หรือประยุกตใ์ ช้ได้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นาความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรอื กจิ กรรมทีต่ ้องใช้องคค์ วามรู้ที่เรียนไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่
เพอ่ื ช่วยในการแกป้ ญั หาหรอื ประยุกต์ใช้ได้บางส่วน
2 : พอใช้ นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชอ่ื มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์หรือ
กจิ กรรมท่ีตอ้ งใช้องคค์ วามรู้ที่เรยี นไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรับปรุง นาความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ
แก้ไข องค์ความรูท้ ่ีได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : นกั เรยี นใฝเ่ รียนรู้
คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มีความสนใจ / ความตัง้ ใจเปน็ บางคร้งั
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมีความมุ่งม่ันในการทางาน
คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะท่ปี รากฏใหเ้ ห็น
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - ส่งงานกอ่ นหรือตรงกาหนดเวลานดั หมาย
- รับผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ัติตนเองจนเป็นนสิ ยั
2 : ดี - สง่ งานชา้ กว่ากาหนด แตไ่ ด้มกี ารติดต่อชแี้ จงผูส้ อน มีเหตุผลทร่ี บั ฟงั ได้
- รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมายและปฏบิ ตั ิตนเองจนเปน็ นสิ ัย
1 : พอใช้ - ส่งงานช้ากว่ากาหนด
- ปฏิบตั งิ านโดยต้องอาศัยการชีแ้ นะ แนะนา ตักเตือนหรอื ใหก้ าลังใจ
บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรยี นการสอน
1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน
ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ............... คน คิดเป็นร้อยละ ………………………….
ได้แก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นกั เรียนมีควำมสำมำรถพิเศษไดแ้ ก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรียนมีควำมร้คู วำมเข้ำใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมคี วำมรู้เกดิ ทักษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรียนมคี ณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรอื น)
ตำแหนง่ ครูผูส้ อน
ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หวั หนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อุคต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรยี นบ้ำนศรีทองสำมัคคี
ใบงานที่ 5 เรื่อง ความรสู้ กึ เชิงจานวนเกย่ี วกับการบวก ลบ คณู หารระคน
เติมเคร่อื งหมาย > < หรอื = พรอ้ มบอกเหตุผล
1. (5,023 − 500) ÷ 2 (5,023 − 300) ÷ 2
2 .(312 × 6) − 53 (6 × 312) – 53
3 3 × (456 + 732) 12 × (456 + 732)
4 1 × (3,459 + 63) 0 + (63 + 3,459)
5 (100 × 10) − 10 (100 ÷ 10) – 10
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13 เรือ่ ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เรือ่ ง สถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขนั้ ตอน (1) เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
สอนวันที่_________เดอื น________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลท่ี
เกิดข้นึ จาก การดาเนินการ สมบัตขิ อง การดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชว้ี ัด : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธ์การบวก ลบคณู หารระคน ของ จานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0
จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ช้ีวัด
1. บอกวิธีเขียนประโยคสญั ลักษณจ์ ากสถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขั้นตอน (K)
2. เขยี นประโยคสัญลกั ษณจ์ ากสถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน (P)
3. นักเรยี นมีความมุ่งในการทางานและสามารถนาความรูท้ ี่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรยี นเร่ืองต่อไป (A)
สาระสาคญั
เร่ืองราวหรือสถานการณ์ทแ่ี สดงใหเ้ ห็นถึงการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขน้ั ตอนสามารถเขยี นแสดง
ไดด้ ้วยประโยคสญั ลักษณ์โดยใช้วงเลบ็ เพือ่ ระบวุ า่ ตอ้ งหาผลบวก ผลลบ ผลคณู หรอื ผลหารของสองจานวนใด
ก่อน
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
สถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขน้ั ตอน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1. ความสามารถในการส่อื สารความหมายทางคณิตศาสตร์
2. การเชอ่ื มโยง
3. การใหเ้ หตุผล
3.คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทางาน
ชิน้ งานหรือภาระงาน
ใบงานท่ี 6 เร่อื ง สถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอน
กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ครูติดบัตรภาพสถานการณ์ตามหนังสอื เรยี นหน้า 259 แล้วใช้การถาม – ตอบ เกย่ี วกับรปู ภาพวา่
เป็นรปู ภาพเกีย่ วกับอะไรมีใครพดู อะไรบ้าง และคา พูดของแตล่ ะคนบอกอะไรบา้ ง จากน้ันครนู า ข้อความคา
พดู ของแต่ละคนมาเรียงต่อกันให้เปน็ บัตรโจทย์แล้วถามนักเรียนวา่ แต่ละข้อความเขยี นเปน็ ประโยคทาง
คณิตศาสตร์ได้อย่างไร แล้วครเู ขียนประโยคทางคณติ ศาสตร์นน้ั ไปคู่กับขอ้ ความเพื่อให้นักเรียนเหน็ ความ
สอดคล้องกนั ระหว่างข้อความกบั ประโยคทางคณติ ศาสตร์จากนั้นครแู นะนา การใสเ่ คร่ืองหมายวงเลบ็ เพอื่ ให้
ทราบว่าต้องหาผลลพั ธท์ ่ีอยใู่ นวงเลบ็ ก่อนและอธิบายการหาคา ตอบทีละขั้นตอน ดงั น้ี
จากน้ันครเู ขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณ์พรอ้ มคา ตอบ ดังน้ี
การเขยี นแสดงดว้ ยประโยคสัญลกั ษณ์อาจไมจ่ า เปน็ ต้องเขียนออกมาให้ได้ตรงกนั แต่ครูควรแนะนา
ให้นักเรยี นเขยี นใหส้ อดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุดเพ่อื เป็นประโยชน์ในการนา ไปใชว้ เิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหา 2
ขน้ั ตอน เพ่ือให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้น ครูอาจยกตวั อยา่ งเพ่ิมเตมิ จากท่ีกาหนดไว้ในหนังสือเรยี น หรือจะใช้
สถานการณ์ทอ่ี ยู่ในกรอบท้ายหนังสือเรียนหน้า 259 นา มาเปน็ ตัวอย่างเพม่ิ เติม แล้วให้นักเรยี นแต่ละคน
ช่วยกันคดิ ว่าจะเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ใหส้ อดคล้องไดอ้ ยา่ งไรโดยครูชแี้ นะทีละขน้ั ตอน ทลี ะประโยค จน
นกั เรยี นสามารถทา เองได้จากน้ันครใู ห้นกั เรยี นแบง่ กลุม่ ทา ข้อท่ีเหลืออีก 2 ข้อ ครูและนักเรียนรว่ มกัน
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
2.เมอ่ื นักเรยี นเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ2์ ขัน้ ตอนท่ีเป็นสถานการณง์ ่าย ๆ
แลว้ ครูตดิ บัตรโจทยส์ ถานการณ์ตามหนังสอื เรยี นหน้า 260 โดยตดิ ทีละข้อความแลว้ เขียนประโยคทาง
คณติ ศาสตร์ให้สอดคลอ้ งกบั ข้อความนัน้ ไปทลี ะขนั้ ตอน เช่น ครูติดบัตรข้อความออมสินมีเงนิ 234 บาท
แก้วตามเี งินน้อยกวา่ ออมสนิ 30 บาทแลว้ ครเู ขียนประโยคทางคณิตศาสตรแ์ กว้ ตามเี งนิ 234 − 30 บาทครู
อธบิ ายท่มี าของประโยค แก้วตามีเงนิ 234 − 30 บาท โดยใช้bar model ชว่ ยในการอธิบาย ดงั น้ี
จาก bar model ครถู ามนักเรยี นวา่ แก้วตามเี งินกบี่ าท คิดได้อย่างไร นักเรียนควรตอบไดว้ ่า
แกว้ ตามีเงิน 234 − 30 บาท จากนั้นครูตดิ บตั รข้อความ ออมสนิ และแกว้ ตามีเงินรวมกัน เขียน
ประโยคทางคณิตศาสตร์ได้เป็น 234 + (234 − 30) พร้อมกบั อธิบายการใสเ่ ครื่องหมายวงเล็บว่า เป็นเงินของ
แกว้ ตาและครตู ิดบตั รข้อความ ออมสินและแกว้ ตามีเงินรวมกัน 438 บาท เขียนประโยคสัญลักษณ์ทาง
คณิตศาสตร์ไดเ้ ปน็ 234 + (234 − 30) = 438ครูอธบิ ายการเขียนประโยคสัญลักษณ์
ท่สี อดคล้องกับสถานการณว์ ่า ไม่ใชก่ ารเขยี นเพ่ือหาคา ตอบของโจทย์ปญั หา เนอื่ งจากสถานการณ์ที่
ยกตัวอยา่ งนี้ไมใ่ ช่โจทย์ปัญหาจงึ ไม่ไดเ้ ขยี นประโยคสญั ลักษณ์ในลกั ษณะของการหาค่า
ของตวั ไม่ทราบค่า จากนั้นครูตดิ ประโยค พ่อเก็บข้าวโพดได1้ 83 ฝัก ทา เป็นมัด มดั ละ 3 ฝกั ไดข้ ้าวโพด
.............. 183 ÷ 3........... มัด แลว้ สุม่ นักเรยี นออกมาเขียนประโยคทางคณิตศาสตร์
เตมิ ในชอ่ งวา่ ง ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง และครตู ดิ ประโยค
นา ข้าวโพด ............. 183 ÷ 3 ............ มดั ขายมัดละ 20 บาท ไดเ้ งนิ ท้ังหมด 1,220 บาท
ครูใหน้ กั เรียนเขียนประโยคทางคณติ ศาสตรเ์ ดิมในชอ่ งวา่ ง เมื่อนักเรยี นเข้าใจสถานการณ์
ท้ัง 2 ขน้ั ตอนแลว้ ครูสรปุ เขียนเป็นประโยคสญั ลกั ษณไ์ ด้เป็น (183 ÷ 3) × 20 = 1,220 พรอ้ มอธบิ ายการใส่
วงเลบ็ เพอ่ื ใหห้ าผลลัพธ์ในวงเลบ็ กอ่ น ในท่นี ี้คอื ใหห้ าจานวนมดั ของข้าวโพดก่อนแล้วนา ไปคูณกบั ราคาขายก็
จะไดจ้ านวนเงนิ ทั้งหมด คือ 1,220 บาท ครใู หน้ ักเรยี นจบั คู่ช่วยกันเขียนประโยคสญั ลกั ษณใ์ ห้สอดคล้องกบั
สถานการณ์ในกรอบท้ายหนังสือเรยี นหน้า 260 ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนน้ั ให้
นักเรยี นทาแบบฝึกหัด 13.3.1 หนา้ 187 จากนั้นใหท้ าใบงานเพ่มิ เติม
สื่อการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.3
2. ใบงานท่ี 6 เรอื่ ง สถานการณก์ ารบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขน้ั ตอน
การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
จดุ ประสงค์การ วิธวี ัด เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ
เรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ข้นึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
การประเมนิ
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ คณุ ภาพดีขึน้ ไป
กระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ
ทีพ่ ึงประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ คุณภาพดีขึน้ ไป
ท่พี ึงประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน
ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถกู ต้องของ
เนอ้ื หา 4 3 21
2. รูปแบบ
เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ
3. ความเป็นระเบียบ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถกู ต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกบั
สถานการณ์
ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ
เปน็ ระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดับ 1
เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทางาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ีปรากฏใหเ้ หน็
4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตุผล
3 : ดี มีการอ้างอิงท่ถี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ
มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ
1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ปรากฏให้เห็น
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปญั หาได้สาเรจ็ อย่างมีประสิทธภิ าพ อธบิ ายถงึ เหตผุ ล
หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปญั หาได้เข้าใจชดั เจนนามาซง่ึ คาตอบที่ถูกต้อง
3 : ดี ใช้กระบวนการแก้ปัญหาได้สาเร็จ แตน่ ่าจะอธิบายถงึ เหตุผล
หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดกี ว่านี้
2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สาเร็จเพยี งบางส่วน อธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้บางส่วน
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เริ่มคดิ ใช้เหตุผล หลกั การและขน้ั ตอน
ในการแก้ปัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ าเรจ็
ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
นาความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
4 : ดมี าก หรือกิจกรรมทตี่ ้องใช้องคค์ วามรู้ทเ่ี รยี นได้ถูกต้องทุกกิจกรรมเพ่ือช่วยในการแกป้ ัญหา
หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรอื กิจกรรมทตี่ ้องใชอ้ งค์ความรทู้ เ่ี รยี นไดเ้ ป็นส่วนใหญ่
เพือ่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างสว่ น
2 : พอใช้ นาความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์หรอื
กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งคค์ วามรทู้ ี่เรยี นได้บางส่วน
1 : ควรปรับปรงุ นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรุป
แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รยี นรู้
คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ ห็น
คณุ ภาพ
3 : ดีมาก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเป็นบางครัง้
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตงั้ ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมคี วามมงุ่ มัน่ ในการทางาน
คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็
คุณภาพ
3 : ดมี าก - สง่ งานกอ่ นหรือตรงกาหนดเวลานัดหมาย
- รบั ผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนิสัย
2 : ดี - ส่งงานช้ากวา่ กาหนด แต่ได้มกี ารตดิ ต่อชีแ้ จงผ้สู อน มีเหตุผลทีร่ บั ฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเปน็ นิสยั
1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด
- ปฏบิ ตั ิงานโดยตอ้ งอาศยั การชแี้ นะ แนะนา ตักเตือนหรือใหก้ าลังใจ