บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรยี นการสอน
1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน
ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ................... คน คดิ เป็นร้อยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ............... คน คิดเปน็ ร้อยละ ………………………….
ไดแ้ ก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นกั เรียนมีควำมสำมำรถพิเศษไดแ้ ก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรียนมีควำมรคู้ วำมเข้ำใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมคี วำมรู้เกิดทักษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรียนมคี ณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรอื น)
ตำแหนง่ ครูผูส้ อน
ความคิดเหน็ ของฝ่ายวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หวั หน้ำฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคิดเหน็ ของผู้อานวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อุคต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรยี นบ้ำนศรีทองสำมคั คี
ใบงานที่ 6 เร่ือง สถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้ันตอน
เขยี นประโยคสญั ลักษณ์จากสถานการณ์
1.รา้ นค้ามีไขเ่ ค็ม 108 ฟอง นามาบรรจกุ ล่อง กล่องละ 4 ฟอง ขายไปกล่องละ 35 บาท ร้านคา้
ขายไขเ่ คม็ ได้เงินทงั้ หมด 945 บาท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………….………………………...........................................................
2.เม่อื วานน้ีพ่อขายฝรงั่ ไดเ้ งิน 3,210 บาท วนั นข้ี ายฝรัง่ ได3้ 4 กโิ ลกรัม ราคากิโลกรมั ละ 45 บาท
เม่ือวานนี้พ่อขายฝรัง่ ได้มากกวา่ วันน้ี1,680 บาท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………….………………………...........................................................
3.พอ่ เกบ็ ส้มโอได้312 ผล นาไปขาย 300 ผล ทีเ่ หลอื แบง่ ใหเ้ พอ่ื นบ้าน 6 คน คนละ เท่า ๆ กนั
เพ่อื นบ้านได้สม้ โอคนละ 2 ผล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
4.แมค่ ้าขายสม้ 57 กิโลกรัม ราคากิโลกรมั ละ 60 บาท นาเงนิ ไปซอื้ อุปกรณก์ ารเรยี นให้ลกู 1,200
บาท แมค่ า้ เหลือเงนิ 2,220 บาท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
5.ชาวสวนเพาะต้นมะม่วง 35 ต้น เพาะต้นฝรั่งมากกว่าต้นมะมว่ ง 10 ตน้ ขายต้นฝรัง่ ตน้ ละ 50
บาท ขายตน้ ฝร่ังทัง้ หมดได้เงนิ 2,250 บาท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………….………………………...........................................................
6.ครพู ลอยใสมขี นมช้ัน 20 ชน้ิ ซื้อมาเพ่ิมอกี 30 ชิน้ นามาแบ่งใหเ้ ด็ก 5 คน คนละเท่า ๆ กนั เด็ก
แต่ละคนได้ขนมคนละ 10 ชิ้น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13 เรือ่ ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เรือ่ ง สถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขนั้ ตอน (2) เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
สอนวันที่_________เดอื น________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลท่ี
เกิดข้นึ จาก การดาเนินการ สมบัตขิ อง การดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชว้ี ัด : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธ์การบวก ลบคณู หารระคน ของ จานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0
จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ช้ีวัด
1. บอกวิธีเขียนประโยคสญั ลักษณจ์ ากสถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขั้นตอน (K)
2. เขยี นประโยคสัญลกั ษณจ์ ากสถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขนั้ ตอน (P)
3. นักเรยี นมีความมุ่งในการทางานและสามารถนาความรูท้ ี่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรยี นเร่อื งต่อไป (A)
สาระสาคญั
เรอื่ งราวหรือสถานการณ์ทแ่ี สดงใหเ้ ห็นถึงการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขน้ั ตอนสามารถเขยี นแสดง
ไดด้ ้วยประโยคสญั ลักษณ์โดยใช้วงเลบ็ เพือ่ ระบวุ า่ ตอ้ งหาผลบวก ผลลบ ผลคูณหรอื ผลหารของสองจานวนใด
ก่อน
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
สถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขน้ั ตอน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1. ความสามารถในการส่อื สารความหมายทางคณิตศาสตร์
2. การเชอ่ื มโยง
3. การใหเ้ หตุผล
3.คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทางาน
ชิน้ งานหรือภาระงาน
ใบงานท่ี 7 เร่อื ง สถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอน
กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
1.ครใู หน้ ักเรียนแบง่ เปน็ 6 กลมุ่ ชว่ ยกันเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ใหส้ อดคล้องกับสถานการณ์ กล่มุ ละ 1
สถานการณ์ไมซ่ ้ากนั ตามหนังสือเรียนหนา้ 261 กอ่ นทแี่ ต่ละกลุ่มจะทากิจกรรม ครูยกตัวอย่างการเขยี น
ประโยคสญั ลกั ษณท์ ส่ี อดคล้องกบั สถานการณโ์ ดยตดิ บตั รโจทยบ์ นกระดาษ แล้วเขียนประโยคสญั ลักษณ์ โดย
ใชก้ ารถาม - ตอบ เชน่
− ชนั้ ป.3 มีนกั เรยี นก่ีคน (210 คน)
− ช้ัน ป.4 มนี กั เรียนนอ้ ยกว่าชน้ั ป.3 ก่คี น (25 คน)
− แสดงวา่ ช้นั ป.4 มนี ักเรียนกคี่ น (210 − 25 คน)
− ชนั้ ป.3 และช้ัน ป.4 มีนกั เรยี นรวมกันก่คี น (395 คน)
− เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ท่สี อดคล้องกบั สถานการณ์ได้อย่างไร
(210 + (210 − 25 = 395)
จากน้ันครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันเขียนประโยคสญั ลักษณ์ใหส้ อดคล้องกบั สถานการณท์ ่ีกาหนดให้
เมอื่ แตล่ ะกลุ่มเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์เสร็จแลว้ ครูสุ่มตวั แทนแตล่ ะกลุ่มออกมาเขยี นประโยคสญั ลักษณ์
บนกระดานหน้าห้องเรียน แล้วให้เพ่ือนช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง ถา้ พบว่ากลมุ่ ใดเขียนประโยค
สญั ลักษณ์ไม่ถูกต้อง ครูอธบิ ายชี้แนะเพ่ิมเตมิ จนนักเรยี นกลุม่ นัน้ แก้ไขถูกตอ้ ง ครูให้นกั เรียน
แตล่ ะคนเขียนประโยคสญั ลักษณ์ของแต่ละข้อท่ีถกู ต้องลงในสมดุ
2. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเปน็ รายบุคคลโดยให้นักเรียนแตล่ ะคนเขียนประโยคสญั ลักษณ์
ใหส้ อดคล้องกบั สถานการณต์ ามหนังสอื เรียนหน้า 262 โดยครอู าจใชค้ า ถามช้แี นะเพื่อให้นกั เรียนสามารถ
เขยี นประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างถกู ต้อง และเพื่อช่วยให้นักเรยี นเขา้ ใจสถานการณ์การบวก การลบ การคูณ
และการหาร 2 ขัน้ ตอนได้ดยี ่ิงขน้ึ เชน่ โจทย์ขอ้ 1 ครูอาจถามคา ถามชี้แนะว่า ใช้วิธีคานวณอยา่ งไรถงึ จะร้วู ่า
ชาวสวนเกบ็ ส้มไดก้ ี่ลังใสว่ งเล็บอยา่ งไร ขายไปแลว้ ยงั เหลอื สม้ อยู่น่าจะใช้วธิ ใี ดในการคานวณ เขียนประโยค
สญั ลักษณ์ไดอ้ ย่างไร
โจทย์ข้อ 2 ครูอาจถามคา ถามชี้แนะว่าใช้วธิ คี านวณอย่างไรถงึ จะรู้วา่ แม่ค้ามีเงาะทั้งหมดเทา่ ไร ใส่
วงเล็บอยา่ งไร ขายไปแล้วได้เงนิ น่าจะใชว้ ิธใี ดในการคานวณ เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ได้อยา่ งไร
จากน้นั ครูและนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและร่วมกนั สรปุ ส่งิ ท่ีเรียนรู้
สอื่ การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.3
2. ใบงานท่ี 7 เรื่อง สถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ข้ันตอน
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
จดุ ประสงคก์ าร วธิ วี ัด เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
เรียนรู้ ใบงาน 60% ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
การประเมิน
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
ดา้ นทักษะ คณุ ภาพดีขนึ้ ไป
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน กระบวนการ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
ดา้ นคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น ท่ีพึงประสงค์
ท่ีพึงประสงค์ (A) คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
เกณฑก์ ารประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเด็นการประเมนิ ระดับคุณภาพ
1. 1.ความถูกต้องของ
เนือ้ หา 4 3 21
2. รปู แบบ
เนือ้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ
3. ความเป็นระเบยี บ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง
ครบถ้วน ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถูกต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
นา่ สนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เปน็ ไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ
เปน็ ระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เป็นระเบยี บ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑ์ประเมินคุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1
เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทางาน
ทักษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลท่ีปรากฏใหเ้ หน็
4 : ดมี าก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจอยา่ งมีเหตุผล
3 : ดี มกี ารอ้างอิงทถ่ี ูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ
1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาที่ปรากฏให้เห็น
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปัญหาได้สาเรจ็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล
หลกั การและขนั้ ตอนในการแกป้ ัญหาได้เข้าใจชดั เจนนามาซ่ึงคาตอบทถี่ ูกต้อง
ใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาได้สาเร็จ แตน่ ่าจะอธบิ ายถึงเหตุผล
3 : ดี หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้ดกี วา่ นี้
2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สาเร็จเพียงบางสว่ น อธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลักการและข้นั ตอนในการแกป้ ญั หาได้บางสว่ น
1 : ควรปรับปรุงแก้ไข มรี ่องรอยการแกป้ ญั หาบางส่วน เริม่ คิดใช้เหตุผล หลักการและขน้ั ตอน
ในการแกป้ ัญหา แล้วหยุด อธบิ ายตอ่ ไม่ได้ แก้ปญั หาไม่สาเร็จ
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเช่ือมโยงที่ปรากฏให้เห็น
คุณภาพ
นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
4 : ดีมาก หรือกิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรทู้ เ่ี รียนได้ถูกต้องทุกกิจกรรมเพ่ือช่วยในการแกป้ ัญหา
หรอื ประยุกต์ใช้ได้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรือกิจกรรมที่ต้องใชอ้ งคค์ วามร้ทู ่เี รียนได้เปน็ สว่ นใหญ่
เพื่อช่วยในการแกป้ ัญหาหรือประยกุ ต์ใช้ไดบ้ างส่วน
2 : พอใช้ นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชอื่ มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์หรือ
กจิ กรรมท่ีต้องใช้องค์ความรู้ที่เรยี นไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรับปรงุ นาความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ
แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้
เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนใฝเ่ รียนรู้
คะแนน : ระดับ คุณลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็
คุณภาพ
3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตงั้ ใจเป็นบางครั้ง
1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความตั้งใจในระยะเวลาสน้ั ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรียนมีความมุ่งมนั่ ในการทางาน
คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะท่ปี รากฏให้เห็น
คุณภาพ
3 : ดีมาก - ส่งงานก่อนหรือตรงกาหนดเวลานัดหมาย
- รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นิสยั
2 : ดี - สง่ งานชา้ กว่ากาหนด แต่ได้มีการติดต่อชี้แจงผูส้ อน มีเหตผุ ลที่รบั ฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานท่ไี ดร้ บั มอบหมายและปฏบิ ตั ิตนเองจนเป็นนิสยั
1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากว่ากาหนด
- ปฏิบตั งิ านโดยตอ้ งอาศยั การชีแ้ นะ แนะนา ตักเตือนหรือให้กาลงั ใจ
บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรยี นการสอน
1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน
ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ............... คน คดิ เป็นร้อยละ ………………………….
ได้แก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นกั เรียนมีควำมสำมำรถพิเศษไดแ้ ก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรียนมีควำมร้คู วำมเขำ้ ใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมคี วำมรู้เกดิ ทักษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรียนมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรอื น)
ตำแหนง่ ครูผสู้ อน
ความคิดเหน็ ของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หัวหนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไมเ่ หมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อคุ ต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรียนบ้ำนศรที องสำมัคคี
ใบงานท่ี 7 เรื่อง สถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขัน้ ตอน
เขยี นประโยคสัญลักษณจ์ ากสถานการณ์
1. ชาวสวนเกบ็ ส้มได้1,200 กิโลกรัม นามาจดั ใส่ลัง ลงั ละ 5 กโิ ลกรัม ขายไป 200 ลงั
ชาวสวนเหลือสม้ 40 ลัง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………….………………………...........................................................
2.เมื่อวานน้พี อ่ ขายฝรงั่ ไดเ้ งิน 3,210 บาท วันนีข้ ายฝร่งั ได้34 กโิ ลกรัม ราคากิโลกรมั ละ 45 บาท
เม่อื วานนีพ้ ่อขายฝรัง่ ได้มากกว่าวันน้ี1,680 บาท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………….………………………...........................................................
3.พอ่ เกบ็ ส้มโอได3้ 12 ผล นาไปขาย 300 ผล ทเ่ี หลือแบง่ ให้เพือ่ นบ้าน 6 คน คนละ เทา่ ๆ กัน
เพ่ือนบา้ นได้สม้ โอคนละ 2 ผล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
4.แม่ค้าขายส้ม 57 กิโลกรัม ราคากิโลกรมั ละ 60 บาท นาเงนิ ไปซ้ืออุปกรณก์ ารเรียนใหล้ ูก 1,200
บาท แมค่ ้าเหลือเงนิ 2,220 บาท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
5.ชาวสวนเพาะต้นมะมว่ ง 35 ต้น เพาะต้นฝรงั่ มากกว่าตน้ มะม่วง 10 ต้น ขายตน้ ฝรงั่ ตน้ ละ 50
บาท ขายต้นฝร่ังทง้ั หมดไดเ้ งนิ 2,250 บาท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………….………………………...........................................................
6.ครพู ลอยใสมขี นมช้นั 20 ช้นิ ซอื้ มาเพิ่มอีก 30 ช้ิน นามาแบ่งให้เดก็ 5 คน คนละเท่า ๆ กัน เดก็
แต่ละคนได้ขนมคนละ 10 ชนิ้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 8
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13 เรือ่ ง การบวก ลบ คณู หารระคน
เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ข้ันตอน (1) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง
สอนวันที่_________เดือน________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลท่ี
เกิดขนึ้ จาก การดาเนินการ สมบตั ิของ การดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวช้วี ัด : : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขน้ั ตอนของจานวนนบั ไม่เกิน 100,000 และ
0
จุดประสงค์การเรียนรู้ส่ตู วั ชี้วดั
1. บอกวธิ ีแสดงวิธีหาคา ตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้ันตอน (K)
2. แสดงวิธีหาคา ตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ข้นั ตอน (P)
3. นกั เรียนมคี วามมุ่งในการทางานและสามารถนาความรทู้ ี่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรยี นเรือ่ งตอ่ ไป (A)
สาระสาคัญ
การแก้โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคณู หรอื การหาร 2 ขน้ั ตอน ทา ได้โดยอ่านทา ความเข้าใจปัญหา
วางแผนแกป้ ัญหา หาคา ตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคา ตอบ
สาระการเรยี นรู้
1.ความรู้
โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้ันตอน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1. ความสามารถในการสอ่ื สารความหมายทางคณิตศาสตร์
2. การเชอ่ื มโยง
3. การให้เหตุผล
3.คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มั่นในการทางาน
ช้นิ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานที่ 8 เรอ่ื ง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขัน้ ตอน
กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
1. ครนู าเข้าสบู่ ทเรยี นดว้ ยการทบทวนการเขียนประโยคสัญลักษณ์ใหส้ อดคล้องกับสถานการณ์
จากนัน้ ครูติดบัตรโจทยป์ ัญหาเพื่อใหน้ ักเรยี นเหน็ ความแตกต่างระหว่างสถานการณ์และโจทยป์ ัญหาท่จี ะตอ้ ง
เรยี นในบทเรยี นย่อยน้ีซงึ่ สง่ิ ที่ตา่ งกันคือ โจทย์ปญั หาจะมีส่วนท่โี จทย์ถามและส่วนที่โจทย์บอกดังนน้ั เวลาเขยี น
ประโยคสัญลักษณ์จะมีตวั ไม่ทราบค่าปรากฏอยู่ เชน่
ครยู กตวั อย่าง สถานการณแ์ มค่ ้ามดี อกบัว 120 ดอก จัดเปน็ กา กา ละ 3 ดอก ขายกา ละ 25 บาทขาย
ดอกบัวหมดแมค่ ้าจะได้เงิน 1,000 บาท
เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณ์ได้เป็น(120 ÷ 3) × 25 = 1,000 แตเ่ ม่ือปรบั สถานการณ์ให้เปน็ โจทย์ปัญหา
จะไดแ้ มค่ า้ มีดอกบัว 120 ดอก จัดเป็นกา กา ละ 3 ดอก ขายกา ละ 25 บาท ขายดอกบัวหมดแมค่ า้ จะได้เงนิ
เท่าไร เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์ได้เปน็ (120 ÷ 3) × 25 = ในการวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หานนั้ วเิ คราะห์
เชน่ เดียวกับสถานการณ์คอื การวิเคราะห์ว่า จะหาผลลพั ธข์ องสองจานวนใดก่อน แล้วจึงหาผลลัพธส์ ุดทา้ ย
เมื่อนกั เรยี นเขา้ ใจ เก่ียวกบั โจทยป์ ัญหา 2 ข้นั ตอนแล้ว ครูอธบิ ายเก่ยี วกับการเขียนแสดงวิธีหาคา ตอบของ
โจทย์ปัญหา 2 ขนั้ ตอน ดงั น้ี
ครูตดิ บัตรโจทย์บนกระดาน แมค่ ้ามีดอกบัว 120 ดอก จดั เปน็ กา กา ละ 3 ดอก ขายกา ละ 25 บาท
ขายดอกบวั หมดแมค่ ้าจะไดเ้ งินเท่าไร ครใู ช้การถาม - ตอบ ประกอบการเขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบ
เช่น
− ส่วนท่โี จทยบ์ อกสว่ นแรกคืออะไร (แมค่ ้ามีดอกบัว 120 ดอก)
− สว่ นทีโ่ จทยบ์ อกส่วนท่ีสองคอื อะไร (จัดเป็นกา กา ละ 3 ดอก)
− หาผลลพั ธจ์ ากสองจานวนแรกคือจะต้องรูอ้ ะไรก่อน (จดั ดอกบัวได้กกี่ า )
− หาจานวนกา ของดอกบัวได้อย่างไร (120 ÷ 3)
− ได้คา ตอบเทา่ ไร (40)
− โจทยก์ าหนดให้ทา อะไรต่อ (ขายกา ละ 25 บาท)
− โจทยถ์ ามอะไร (ขายดอกบัวหมดแม่ค้าจะได้เงินเท่าไร)
− หาคา ตอบได้อยา่ งไร (40 × 25)
− คา ตอบคือเท่าไร (1,000 บาท)
− สรุปคาตอบได้อยา่ งไร (ขายดอกบัวหมดแมค่ ้าจะไดเ้ งิน 1,000 บาท) ครูและนักเรียนร่วมกนั เขยี นประโยค
สญั ลักษณแ์ ละเขยี นแสดงวธิ ีหาคาตอบได้ดงั น้ี
จากนนั้ ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคา ตอบโดยพิจารณาจากจานวนท่ีงา่ ย ๆ เช่น
ถา้ ขายกา ละ 20 บาท 40 กา จะได้เงิน 40 × 20 = 800 บาท แตข่ ายกา ละ 25 บาท40 กา คา ตอบต้อง
มากกว่า 800 บาท ดงั นั้น 1,000 บาท จงึ เปน็ คา ตอบทส่ี มเหตุสมผล
ครอู ธิบายเพ่ิมเติมวา่ ในการตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคา ตอบนนั้ อาจทา ไดห้ ลายวธิ ี
ขน้ึ อยู่กับการกาหนดจานวนท่ีจะนา มาอ้างอิง และจานวนน้ันส่วนมากจะเป็นจานวนที่หาผลคูณ
ไดง้ ่าย เชน่ 40 กา กา ละ 30 บาท จะได้เงนิ 40 × 30 = 1,200 บาท แตข่ ายกา ละ 25 บาท 40 กา
คา ตอบต้องน้อยกว่า 1,200 บาท ดงั นน้ั 1,000 บาท จงึ เป็นคา ตอบทสี่ มเหตสุ มผลจากน้ันครูใหน้ กั เรียนฝึก
เขยี นแสดงวธิ หี าคา ตอบลงในสมุดเพ่ือเป็นการฝึกเขยี นให้คลอ่ ง
2. ครยู กตวั อย่างโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน ตามหนังสือเรยี นหนา้ 264โดยตดิ บัตรโจทยบ์ นกระดาน ลุงซอื้ โต๊ะ 6
ตวั ราคาตัวละ 199 บาท ให้เงินไป 1,500 บาทลุงจะไดร้ บั เงนิ ทอนเทา่ ไร แลว้ ใหน้ กั เรียนใชค้ วามร้เู กยี่ วกบั
การเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ให้สอดคลอ้ งกับสถานการณ์ซง่ึ การเขยี นประโยคสัญลักษณ์ครอู าจชแ้ี นะว่าต้องหา
ผลลพั ธข์ องสองจานวนใดก่อน หาคา ตอบโดยวิธใี ดจนนา ไปส่กู ารเขยี นประโยคสญั ลักษณท์ ถี่ ูกต้อง ดงั น้ี
1,500 − (6 × 199) = เมอ่ื ได้ประโยคสญั ลักษณแ์ ล้วครูอาจทวนความหมายจากประโยคสัญลักษณ์ไปสู่
โจทย์ปัญหาเพือ่ ใหน้ กั เรียนได้ตรวจสอบวา่ ประโยคสัญลกั ษณ์ที่เขียนนั้นถกู ต้องหรือไม่ จากนั้นครูอธิบาย
เก่ียวกบั การเขียนแสดงวิธีหาคา ตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขนั้ ตอนโดยใช้การถาม - ตอบประกอบการเขยี นแสดง
วิธีหาคาตอบ ดังนี้
− ส่วนท่ีโจทย์บอกสว่ นแรกคืออะไร (ลุงซือ้ โต๊ะ 6 ตวั )
− ส่วนทีโ่ จทยบ์ อกสว่ นท่สี องคืออะไร (ราคาตัวละ 199 บาท)
− หาผลลัพธจ์ ากสองจานวนแรกคอื จะต้องรู้อะไรก่อน (ลุงต้องจ่ายเงนิ เท่าไร)
− หาจานวนเงนิ ทล่ี ุงตอ้ งจา่ ยได้อย่างไร (6 × 199)
− ได้คา ตอบเทา่ ไร (1,194 บาท)
− โจทยก์ าหนดให้ทา อะไรต่อ (ลงุ ให้เงนิ ไป 1,500 บาท)
− โจทยถ์ ามอะไร (ลงุ จะไดร้ บั เงนิ ทอนเท่าไร)
− หาคา ตอบได้อยา่ งไร (1,500 − 1,194)
− คา ตอบคือเทา่ ไร (306 บาท)
− สรุปคาตอบได้อยา่ งไร (ลงุ จะได้รบั เงินทอน 306 บาท) ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เขยี นประโยคสัญลักษณ์และ
เขยี นแสดงวิธีหาคา ตอบไดด้ ังนี้
จากนั้นครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคา ตอบโดยพิจารณาจากจานวนที่งา่ ย ๆ
เช่น ถา้ โต๊ะตัวละ 200 บาท ซื้อ 6 ตัว ลุงต้องจ่ายเงนิ 6 × 200 = 1,200 บาทได้เงินทอน
1,500 − 1,200 = 300 บาท แต่โตะ๊ แตล่ ะตวั ราคาน้อยกวา่ 200 บาทลงุ ต้องไดร้ บั เงนิ ทอนมากกว่า 300 บาท
ดังนน้ั 306 บาท จงึ เปน็ คา ตอบท่สี มเหตสุ มผลจากนนั้ ครูใหน้ ักเรียนฝกึ เขียนแสดงวิธหี าคา ตอบลงในสมดุ เพื่อ
เป็นการฝึกเขยี นใหค้ ลอ่ ง จากนน้ั ให้ทาใบงานเพมิ่ เตมิ
ครยู กตัวอย่างโจทยป์ ญั หา 2 ข้ันตอน ตามหนังสอื เรยี นหน้า 265 ครูตดิ บตั รโจทย์ บนกระดาน พ่อเก็บไข่เป็ด
ได้1,892 ฟอง จัดใส่กล่อง กล่องละ 4 ฟอง ขายไป 470 กล่อง พ่อเหลอื ไข่เป็ดกก่ี ล่อง แล้วให้นกั เรียนใช้
ความรเู้ ก่ยี วกับการเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ใหส้ อดคลอ้ ง กับสถานการณ์ซึ่งการเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ครอู าจ
ชแ้ี นะวา่ ต้องหาผลลพั ธ์ของสองจานวนใดก่อน หาคา ตอบโดยวิธใี ด จนนา ไปสกู่ ารเขียนประโยคสญั ลักษณท์ ี่
ถูกต้อง ดงั น(้ี 1,892 ÷ 4) − 470 = เมอื่ ได้ประโยคสัญลักษณ์แล้ว ครอู าจทวนความหมาย จากประโยค
สัญลกั ษณ์ไปส่โู จทยป์ ัญหา เพ่ือให้นักเรยี น ได้ตรวจสอบว่าประโยคสญั ลักษณท์ ่เี ขยี นน้นั ถกู ต้องหรือไม่ ครู
อธิบายเก่ยี วกบั การเขียนแสดงวธิ ีหาคา ตอบ ของโจทย์ปญั หา 2 ขน้ั ตอน โดยการถาม - ตอบ ดังนี้
− สว่ นที่โจทยบ์ อกสว่ นแรกคืออะไร (พ่อเกบ็ ไขเ่ ปด็ ได้1,892 ฟอง)
− สว่ นท่ีโจทย์บอกส่วนทีส่ องคืออะไร (จัดใส่กล่องกลอ่ งละ 4 ฟอง)
− หาผลลัพธ์จากสองจานวนแรกคอื จะต้องร้อู ะไรก่อน (ได้ไขเ่ ป็ดทง้ั หมดก่ีกลอ่ ง)
หาจานวนกล่องไข่เป็ดท่ีจัดแลว้ ได้อยา่ งไร (1,892 ÷ 4)
− ไดค้ าตอบเทา่ ไร (473 กล่อง)
− โจทยก์ าหนดให้ทา อะไรต่อ (ขายไป 470 กลอ่ ง)
− โจทยถ์ ามอะไร (พ่อเหลือไขเ่ ป็ดกี่กล่อง)
− หาคา ตอบได้อยา่ งไร (473 − 470)
− คา ตอบคือเท่าไร (3 กล่อง)
− สรุปคาตอบได้อย่างไร (พอ่ เหลือไข่เป็ด 3 กลอ่ ง)
ครสู มุ่ ให้นกั เรียนบางคนออกมาเขียนประโยคสัญลกั ษณ์และสมุ่ นกั เรยี นอกี คนออกมาเขียนแสดงวธิ หี าคาตอบ
บนกระดาน โดยให้เพ่อื นในห้องช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง ซ่งึ ควรเขยี น
ประโยคสัญลักษณ์และเขียนแสดงวิธีหาคาตอบได้ดังนี้
ครูอธิบายวธิ ตี รวจสอบความเหตุสมผลของคา ตอบอาจเทียบกับ 2,000 ÷ 4 เนื่องจาก 1,892 ÷ 4
นอ้ ยกว่า 2,000 ÷ 4 ดงั น้นั (1,892 ÷ 4) − 470 จงึ ควรได้คา ตอบน้อยกวา่ (2,000 ÷ 4) − 470 = 30ดงั นั้น
3 จึงเป็นคา ตอบที่สมเหตุสมผล จากนัน้ ครูให้นกั เรียนฝกึ เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์และเขียนแสดงวิธหี าคา
ตอบลงในสมุดเพ่ือฝกึ เขยี นให้คลอ่ ง แลว้ แบง่ นักเรียนเปน็ 5 กลุม่ ให้แตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั เขียนแสดงวธิ หี าคา
ตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขัน้ ตอนในกรอบท้ายหนังสอื เรียนหนา้ 265 กลมุ่ ละ 1 ข้อครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่ม
ออกมานา เสนอหน้าช้ันเรยี นจนครบทกุ ข้อ ครูและนกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง แลว้ ให้นักเรียนแต่
ละคนทาแบบฝึกหัด 13.4.1 หน้า 189 – 190
สอื่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.3
2. ใบงานท่ี 8 เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน
การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
จดุ ประสงค์การ วธิ วี ัด เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน
เรียนรู้
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
การประเมิน
2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ด้านทักษะ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
กระบวนการ
3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดบั
ที่พึงประสงค์ (A) คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ด้านคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดีข้ึนไป
ทพ่ี ึงประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถูกต้องของ
เนอ้ื หา 4 3 21
2. รปู แบบ
เน้ือหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ
3. ความเป็นระเบียบ
ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถูกต้อง
ครบถ้วน สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถูกต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
น่าสนใจและ เป็นสว่ นใหญ่ ถกู ต้องบางสว่ น เปน็ ไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกบั
สถานการณ์
ผลงานมคี วาม ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ
เป็นระเบยี บ ข้อบกพร่อง ข้อบกพร่อง เปน็ ระเบยี บ
เลก็ นอ้ ย บางส่วน
เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดบั 1
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทางาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การใหเ้ หตุผล
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการให้เหตุผลท่ีปรากฏใหเ้ ห็น
4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล
3 : ดี มกี ารอ้างอิงท่ีถูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตดั สินใจ
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ
ทักษะและกระบวนการ : การแกป้ ัญหา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแกป้ ัญหาที่ปรากฏให้เหน็
4 : ดมี าก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาได้สาเรจ็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ อธบิ ายถึงเหตุผล
หลักการและขนั้ ตอนในการแก้ปัญหาได้เข้าใจชัดเจนนามาซ่ึงคาตอบท่ีถูกต้อง
3 : ดี ใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาได้สาเร็จ แต่นา่ จะอธิบายถึงเหตุผล
หลักการและขน้ั ตอนในการแกป้ ญั หาได้ดีกว่านี้
2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สาเร็จเพยี งบางส่วน อธบิ ายถงึ เหตุผล
หลักการและข้นั ตอนในการแกป้ ัญหาได้บางสว่ น
1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใชเ้ หตผุ ล หลกั การและขนั้ ตอน
ในการแก้ปัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ าเรจ็
ทักษะ และกระบวนการ: การเชื่อมโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเช่ือมโยงท่ปี รากฏใหเ้ หน็
คณุ ภาพ
นาความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
4 : ดีมาก หรอื กิจกรรมท่ตี ้องใช้องค์ความรทู้ เ่ี รยี นได้ถูกต้องทุกกจิ กรรมเพื่อชว่ ยในการแก้ปัญหา
หรือประยุกตใ์ ชไ้ ด้อย่างสอดคล้องและเหมาะสม
นาความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรือกจิ กรรมท่ตี ้องใช้องค์ความรูท้ เี่ รียนได้เป็นส่วนใหญ่
เพ่อื ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกต์ใช้ไดบ้ างส่วน
2 : พอใช้ นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชอ่ื มโยงกับสาระคณิตศาสตรห์ รือ
กจิ กรรมท่ีตอ้ งใชอ้ งค์ความรู้ท่ีเรียนได้บางส่วน
1 : ควรปรับปรงุ นาความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอื่ มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรุป
แกไ้ ข องค์ความรู้ท่ีได้
เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นกั เรียนใฝ่เรยี นรู้
คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะท่ปี รากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - มีความสนใจ / ความต้ังใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มีความสนใจ / ความต้ังใจเปน็ บางครง้ั
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ : นกั เรียนมคี วามมงุ่ มั่นในการทางาน
คะแนน : ระดบั คณุ ลักษณะท่ปี รากฏให้เหน็
คุณภาพ
3 : ดีมาก - ส่งงานก่อนหรอื ตรงกาหนดเวลานดั หมาย
- รบั ผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมายและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นสิ ยั
2 : ดี - ส่งงานช้ากว่ากาหนด แต่ได้มกี ารตดิ ต่อชีแ้ จงผสู้ อน มเี หตผุ ลท่รี ับฟงั ได้
- รับผิดชอบในงานทไ่ี ด้รบั มอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเปน็ นสิ ัย
1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กาหนด
- ปฏบิ ัตงิ านโดยตอ้ งอาศยั การชี้แนะ แนะนา ตักเตือนหรอื ใหก้ าลงั ใจ
บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรยี นการสอน
1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน
ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ............... คน คิดเปน็ ร้อยละ ………………………….
ได้แก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นกั เรียนมีควำมสำมำรถพิเศษไดแ้ ก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรียนมีควำมร้คู วำมเข้ำใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมคี วำมรู้เกดิ ทักษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรียนมคี ณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุน่ เรือน)
ตำแหนง่ ครผู ู้สอน
ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หวั หนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อุคต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรยี นบ้ำนศรีทองสำมัคคี
ใบงานท่ี 8 เรอ่ื ง โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขนั้ ตอน
1.ครพู ลอยใสมีคกุ กี้12 ถุง ถุงละ 6 ชิน้ แบง่ คุกกี้ท้ังหมดใหเ้ ดก็ 9 คน คนละเท่า ๆ กนั เด็กจะไดค้ กุ ก้คี นละ
กีช่ นิ้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
2.ขนุ ขายเครอ่ื งดื่ม 42 แกว้ ราคาแกว้ ละ 15 บาท นาเงินไปซอ้ื เสือ้ 600 บาท ขุนเหลอื เงนิ กีบ่ าท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….………………………................................................................................................................
3.ครูมีเงิน 4,897 บาท ซ้ือหนังสอื 4,797 บาท เงนิ ท่เี หลอื นาไปซอื้ ลูกช้ินไม้ละ 5 บาท ครูไดล้ กู ชิ้นทงั้ หมดกี่ไม้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….………………………................................................................................. ................................
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 9
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 13 เรือ่ ง การบวก ลบ คณู หารระคน
เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขนั้ ตอน (2) เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
สอนวันที่_________เดือน________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลท่ี
เกิดขนึ้ จาก การดาเนินการ สมบตั ิของ การดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวช้วี ัด : : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอนของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ
0
จุดประสงค์การเรียนรู้ส่ตู วั ชี้วดั
1. บอกวธิ ีแสดงวิธหี าคา ตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน (K)
2. แสดงวิธีหาคา ตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน (P)
3. นกั เรียนมคี วามมุ่งในการทางานและสามารถนาความร้ทู ี่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรยี นเรอื่ งต่อไป (A)
สาระสาคัญ
การแก้โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคณู หรอื การหาร 2 ขนั้ ตอน ทา ได้โดยอ่านทา ความเข้าใจปญั หา
วางแผนแกป้ ัญหา หาคา ตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคา ตอบ
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขัน้ ตอน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1. ความสามารถในการสอ่ื สารความหมายทางคณิตศาสตร์
2. การเชอ่ื มโยง
3. การใหเ้ หตุผล
3.คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มั่นในการทางาน
ช้นิ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานที่ 9 เรอ่ื ง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ข้ันตอน
กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้
1. ครยู กตวั อยา่ งโจทย์ปญั หา 2 ข้ันตอนทมี่ ีความซบั ซ้อนมากขน้ึ ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 266 ครู
อธิบายว่าเม่ือโจทย์ปญั หา 2 ขั้นตอนมีความซับซอ้ นมากข้ึน สามารถใช้bar model มาชว่ ยในการวิเคราะห์
โจทย์กอ่ นว่าจะใชว้ ธิ ีใดในการหาคา ตอบดังนี้ครตู ดิ บัตรโจทยบ์ นกระดาน ขุนมเี งนิ 450 บาทแก้วตามเี งนิ น้อย
กวา่ ขุน 20 บาท ขนุ และแกว้ ตามเี งนิ รวมกันก่บี าท ครอู ธิบายเกย่ี วกบั การเขียนแสดงวธิ ีหาคา ตอบของโจทย์
ปัญหา 2 ข้ันตอน โดยใช้การถาม - ตอบ ดงั น้ี
− ส่วนทโี่ จทยบ์ อกสว่ นแรกคืออะไร (ขนุ มเี งิน 450 บาท)
− ส่วนท่ีโจทย์บอกสว่ นทสี่ องคืออะไร (แกว้ ตามเี งนิ น้อยกว่าขุน 20 บาท)
− หาผลลพั ธ์จากสองจานวนแรกคอื จะต้องรอู้ ะไรก่อน (แก้วตามเี งินกี่บาท)
การหาคาตอบของสว่ นนีค้ รูอาจใช้ bar model ชว่ ยแสดงดังน้ี
− หาจานวนเงนิ ของแกว้ ตาได้อยา่ งไร (450 − 20)
− ไดค้ าตอบเท่าไร (430 บาท)
− โจทย์กาหนดให้ทา อะไรต่อ (ขุนและแก้วตามีเงินรวมกัน)
− โจทย์ถามอะไร (ขนุ และแก้วตามเี งนิ รวมกนั ก่ีบาท)
− หาคาตอบได้อย่างไร (450 + 430)
− คาตอบคือเทา่ ไร (880 บาท)
− สรปุ คาตอบได้อยา่ งไร (ขนุ และแก้วตามเี งินรวมกนั 880 บาท)
ครูให้นกั เรียนช่วยกันเขยี นประโยคสญั ลักษณแ์ ละเขียนแสดงวิธีหาคา ตอบบนกระดาน ดังน้ี
จากน้ันครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความความสมเหตสุ มผลของคาตอบ ครอู ธิบายการตรวจสอบ ความ
สมเหตสุ มผลของคาตอบวา่ 880 บาทเปน็ คาตอบท่สี มเหตุสมผลเพราะจานวนเงินของท้ังแก้วตา และจานวน
เงนิ ของขุนน้อยกวา่ 500 บาท เมอื่ นามารวมกันย่อมไดผ้ ลรวมน้อยกว่า 1,000 ดังนนั้ 880 บาทจงึ เปน็ คาตอบ
ท่สี มเหตุสมผล หรือครูอาจแสดงการตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ ตามหนงั สือเรียนหนา้ 266 ดังนี้
ส่ือการเรยี นรู้
1. หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.3
2. ใบงานที่ 9 เร่ือง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขั้นตอน
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
จดุ ประสงค์การ วธิ วี ดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ
เรยี นรู้
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
การประเมิน
2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขึ้นไป
กระบวนการ
3. ด้านคุณลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดับ
ทีพ่ ึงประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ ดา้ นคุณลกั ษณะ คุณภาพดีขนึ้ ไป
ที่พึงประสงค์
เกณฑ์การประเมนิ แบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเด็นการประเมิน ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถูกต้องของ
เน้อื หา 4 3 21
2. รปู แบบ
เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ
3. ความเปน็ ระเบยี บ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถกู ต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
นา่ สนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ
เป็นระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดับ 1
เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทางาน
ทักษะและกระบวนการ: การใหเ้ หตผุ ล
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ีปรากฏใหเ้ หน็
4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตุผล
3 : ดี มกี ารอ้างอิงท่ถี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ปรากฏให้เห็น
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปญั หาได้สาเรจ็ อย่างมีประสิทธภิ าพ อธบิ ายถงึ เหตผุ ล
หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปญั หาได้เข้าใจชดั เจนนามาซง่ึ คาตอบที่ถูกต้อง
3 : ดี ใช้กระบวนการแก้ปัญหาได้สาเร็จ แตน่ ่าจะอธิบายถงึ เหตุผล
หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดกี ว่านี้
2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สาเร็จเพยี งบางส่วน อธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้บางส่วน
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เริ่มคดิ ใช้เหตุผล หลกั การและขน้ั ตอน
ในการแก้ปัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ าเรจ็
ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
นาความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
4 : ดมี าก หรือกิจกรรมทตี่ ้องใช้องคค์ วามรู้ทเ่ี รยี นได้ถูกต้องทุกกิจกรรมเพ่ือช่วยในการแกป้ ัญหา
หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรอื กิจกรรมทตี่ ้องใชอ้ งค์ความรทู้ เ่ี รยี นไดเ้ ป็นส่วนใหญ่
เพือ่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างสว่ น
2 : พอใช้ นาความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์หรอื
กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งคค์ วามรทู้ ี่เรยี นได้บางส่วน
1 : ควรปรับปรงุ นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรุป
แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้
เกณฑ์การให้คะแนนด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นักเรียนใฝ่เรยี นรู้
คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะท่ีปรากฏให้เหน็
คุณภาพ
3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความต้ังใจเปน็ บางครง้ั
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความต้ังใจในระยะเวลาสน้ั ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรยี นมคี วามมุ่งมัน่ ในการทางาน
คะแนน : ระดับ คณุ ลักษณะท่ีปรากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
3 : ดีมาก - ส่งงานกอ่ นหรอื ตรงกาหนดเวลานดั หมาย
- รบั ผิดชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเปน็ นสิ ัย
2 : ดี - สง่ งานชา้ กวา่ กาหนด แตไ่ ด้มีการตดิ ต่อชี้แจงผ้สู อน มีเหตุผลที่รบั ฟังได้
- รบั ผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนิสัย
1 : พอใช้ - ส่งงานช้ากวา่ กาหนด
- ปฏิบัติงานโดยต้องอาศัยการช้ีแนะ แนะนา ตักเตือนหรือให้กาลังใจ
บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรียนการสอน
1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน
ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ ............... คน คิดเป็นร้อยละ ………………………….
ได้แก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นกั เรียนมีควำมสำมำรถพเิ ศษไดแ้ ก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรียนมีควำมรคู้ วำมเข้ำใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมีควำมรู้เกิดทกั ษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรียนมีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรอื น)
ตำแหนง่ ครูผ้สู อน
ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ .......................................................... หวั หนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วชิ ช์ อุคต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรยี นบำ้ นศรีทองสำมัคคี
ใบงานท่ี 9 เร่ือง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขัน้ ตอน
1.ครูพลอยใสมีเกา้ อ้ี 42 ตัว นักเรยี นเอามาเพม่ิ อกี 35 ตัว จัดเกา้ อเี้ ปน็ แถว แถวละ 7 ตวั
ครูพลอยใสจะจัดเกา้ อไ้ี ด้ท้งั หมดกแ่ี ถว
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
2.ชาวสวนเพาะต้นฝรัง่ 164 ตน้ เพาะตน้ ฝรงั่ มากกวา่ ตน้ มะมว่ ง 20 ตน้ ชาวสวน ขายต้นมะม่วงตน้ ละ
35 บาท ชาวสวนขายตน้ มะม่วงทงั้ หมดได้เงินกบี่ าท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….………………………................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….………………………................................................................................................................
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13 เร่ือง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เรอ่ื ง โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขั้นตอน (3) เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
สอนวนั ที่_________เดอื น________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชีว้ ดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลที่
เกิดข้ึนจาก การดาเนนิ การ สมบัตขิ อง การดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตวั ชว้ี ัด : : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนของจานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 และ
0
จุดประสงคก์ ารเรียนร้สู ู่ตวั ช้ีวัด
1. บอกวธิ ีแสดงวธิ หี าคา ตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขั้นตอน (K)
2. แสดงวธิ ีหาคา ตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขนั้ ตอน (P)
3. นักเรยี นมคี วามมุ่งในการทางานและสามารถนาความรทู้ ่ีไดไ้ ปต่อยอดในการเรียนเรอ่ื งต่อไป (A)
สาระสาคญั
การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู หรือการหาร 2 ข้นั ตอน ทา ได้โดยอา่ นทา ความเขา้ ใจปญั หา
วางแผนแกป้ ัญหา หาคา ตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคา ตอบ
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขัน้ ตอน
2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1. ความสามารถในการสอ่ื สารความหมายทางคณิตศาสตร์
2. การเชอื่ มโยง
3. การให้เหตุผล
3.คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานท่ี 10 เรื่อง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขนั้ ตอน
กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
1. ครยู กตวั อยา่ งโจทย์ปญั หา 2 ขั้นตอน ตามหนังสือเรยี นหน้า 267 โดยตดิ บัตรโจทย์บนกระดาน
โรงเรียนแห่งหนึ่งมีนักเรยี นชาย 210 คน มนี กั เรียนหญิงมากกวา่ นกั เรียนชาย 12 คนโรงเรยี นน้ีมี
นักเรยี นทง้ั หมดกี่คน ครูอธบิ ายเก่ียวกบั การเขียนแสดงวิธีหาคา ตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขัน้ ตอน โดย
ใชก้ ารถาม - ตอบ ดงั น้ี
− ส่วนทโี่ จทยบ์ อกส่วนแรกคืออะไร (โรงเรียนแห่งหน่งึ มนี ักเรยี นชาย 210 คน)
− ส่วนที่โจทยบ์ อกสว่ นท่ีสองคอื อะไร (มีนักเรยี นหญงิ มากกว่านักเรยี นชาย 12 คน)
− หาผลลพั ธ์จากสองจานวนแรกคอื จะต้องรูอ้ ะไรก่อน (โรงเรยี นนมี้ นี ักเรยี นหญงิ กค่ี น)
การหาคา ตอบของส่วนนีค้ รอู าจใช้bar model ชว่ ยอธิบายดังนี้
− หาจานวนนกั เรียนหญิงได้อยา่ งไร (210 + 12)
− ได้คาตอบเท่าไร (222 คน)
− โจทย์กาหนดใหท้ า อะไรต่อ (หาจานวนนกั เรยี นทั้งหมดในโรงเรยี นน)้ี
− โจทยถ์ ามอะไร (โรงเรยี นน้ีมนี กั เรยี นท้ังหมดก่ีคน)
− หาคาตอบไดอ้ ย่างไร (210 + 222)
− คาตอบคือเทา่ ไร (432 คน)
− สรุปคาตอบได้อย่างไร (โรงเรียนนม้ี นี กั เรยี นท้ังหมด 432 คน)
ครใู หน้ กั เรียนช่วยกันเขยี นประโยคสญั ลักษณ์และเขยี นแสดงวิธีหาคา ตอบบนกระดาน ดังนี้
ครูถามนักเรยี นว่าคา ตอบที่ไดส้ มเหตุสมผลหรือไม่ ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคา
ตอบโดยพจิ ารณาจาก นักเรยี นชาย 210 คน ถา้ มีนักเรียนหญงิ 210 คนเทา่ กนั จะมีนกั เรียนทง้ั หมด 210 +
210 = 420 คน แต่เน่อื งจากมนี กั เรียนหญิงมากกวา่ นักเรยี นชาย นักเรียนทั้งหมดจงึ ควรมากกวา่ 420 คน
ดังนัน้ 432 คน จงึ เป็นคา ตอบท่สี มเหตุสมผล จากน้ันครแู บ่งนกั เรียนเปน็ 5 กลุม่ ให้แต่ละกลุ่มช่วยกนั เขียน
ประโยคสัญลกั ษณ์และเขียนแสดงวิธีหาคา ตอบพร้อมกบั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคา ตอบท่ีไดข้ อง
โจทย์ปัญหา 2 ขนั้ ตอน ตามหนังสือเรยี นหนา้ 267 กลุม่ ละ 1 ขอ้ ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอหน้า
ชัน้ เรยี นจนครบทุกข้อ ครแู ละนักเรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง
3.ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเปน็ รายบุคคลโดยใหน้ ักเรียนเขียนประโยคสญั ลักษณ์และเขียนแสดงวธิ ี
หาคาตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขน้ั ตอน ตามหนงั สือเรียนหน้า 268 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความ
ถูกต้องและสรปุ สงิ่ ที่ไดเ้ รยี นรู้ถา้ มนี กั เรยี นคนใดที่เขียนประโยคสญั ลักษณ์และเขยี นแสดงวิธหี าคา ตอบไม่
ถกู ต้องครูอาจฝกึ เพิ่มเติมเปน็ รายบคุ คล การแกโ้ จทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ หรือการหาร 2 ขัน้ ตอน
ทา ได้โดยอา่ นทา ความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคา ตอบ และตรวจสอบ ความสมเหตุสมผลของคา
ตอบ จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นทา แบบฝกึ หดั 13.4.2 หนา้ 191 – 192 จากนัน้ ให้ทาใบงานเพ่ิมเตมิ
ส่อื การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.3
2. ใบงานท่ี 10 เรือ่ ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ข้ันตอน
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
จดุ ประสงค์การ วธิ วี ดั เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ
เรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
การประเมิน
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ ด้านทกั ษะ คณุ ภาพดีขึ้นไป
กระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
ทีพ่ ึงประสงค์ (A) คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ ด้านคุณลกั ษณะ คุณภาพดีข้นึ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์
เกณฑ์การประเมนิ แบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเด็นการประเมิน ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถูกต้องของ
เน้อื หา 4 3 21
2. รปู แบบ
เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ
3. ความเปน็ ระเบยี บ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถกู ต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
นา่ สนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ
เป็นระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดับ 1
เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทางาน
ทักษะและกระบวนการ: การใหเ้ หตผุ ล
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ีปรากฏใหเ้ หน็
4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตุผล
3 : ดี มกี ารอ้างอิงท่ถี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการแกป้ ัญหาที่ปรากฏใหเ้ ห็น
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปญั หาได้สาเร็จ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ อธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปัญหาได้เข้าใจชดั เจนนามาซ่ึงคาตอบที่ถูกต้อง
3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ญั หาได้สาเร็จ แตน่ ่าจะอธิบายถึงเหตุผล
หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดีกว่านี้
2 : พอใช้ มีกระบวนการแก้ปัญหา สาเร็จเพียงบางสว่ น อธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้บางสว่ น
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปญั หาบางสว่ น เริ่มคดิ ใช้เหตุผล หลักการและขน้ั ตอน
ในการแก้ปัญหา แลว้ หยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ าเรจ็
ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
4 : ดมี าก หรือกิจกรรมทตี่ ้องใชอ้ งคค์ วามรู้ทเี่ รียนได้ถูกต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วยในการแกป้ ัญหา
หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นาความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรอื กิจกรรมทตี่ ้องใชอ้ งค์ความรทู้ เี่ รียนไดเ้ ป็นส่วนใหญ่
เพือ่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างสว่ น
2 : พอใช้ นาความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรอื
กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ี่เรยี นได้บางส่วน
1 : ควรปรับปรงุ นาความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงยงั ไมเ่ หมาะสม สรุป
แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้
เกณฑ์การให้คะแนนด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นักเรียนใฝ่เรยี นรู้
คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะท่ีปรากฏให้เหน็
คุณภาพ
3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความต้ังใจเปน็ บางครง้ั
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความต้ังใจในระยะเวลาสน้ั ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรยี นมคี วามมุ่งมัน่ ในการทางาน
คะแนน : ระดับ คณุ ลักษณะท่ีปรากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
3 : ดีมาก - ส่งงานกอ่ นหรอื ตรงกาหนดเวลานดั หมาย
- รบั ผิดชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเปน็ นสิ ัย
2 : ดี - สง่ งานชา้ กวา่ กาหนด แตไ่ ด้มีการตดิ ต่อชี้แจงผ้สู อน มีเหตุผลที่รบั ฟังได้
- รบั ผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนิสัย
1 : พอใช้ - ส่งงานช้ากวา่ กาหนด
- ปฏิบัติงานโดยต้องอาศัยการช้ีแนะ แนะนา ตักเตือนหรือให้กาลังใจ
บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรียนการสอน
1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน
ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ ............... คน คิดเป็นร้อยละ ………………………….
ได้แก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นกั เรียนมีควำมสำมำรถพเิ ศษไดแ้ ก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรียนมีควำมรคู้ วำมเข้ำใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมีควำมรู้เกิดทกั ษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรียนมีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรอื น)
ตำแหนง่ ครูผ้สู อน
ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ .......................................................... หวั หนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วชิ ช์ อุคต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรยี นบำ้ นศรีทองสำมัคคี
ใบงานที่ 10 เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้ันตอน
1.ครพู ลอยใสมเี ก้าอ้ี 42 ตวั นักเรยี นเอามาเพ่ิมอีก 35 ตัว จัดเกา้ อเ้ี ป็นแถว แถวละ 7 ตวั
ครพู ลอยใสจะจัดเกา้ อ้ไี ดท้ งั้ หมดกีแ่ ถว
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….………………………................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….………………………................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 11
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 13 เรอ่ื ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เรอื่ ง การสร้างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
สอนวันที่_________เดอื น________________พ.ศ.256_
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลาย ของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลที่
เกิดขึ้นจาก การดาเนนิ การ สมบตั ขิ อง การดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ชีว้ ดั : : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขัน้ ตอนของจานวนนับไมเ่ กิน 100,000 และ
0
จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ตู่ วั ช้ีวดั
1. บอกวิธีสรา้ งโจทยป์ ญั หา 2 ข้นั ตอนจากประโยคสัญลักษณ์ (K)
2. แสดงวิธีหาสร้างโจทยป์ ญั หา 2 ขน้ั ตอนจากประโยคสญั ลกั ษณ์ (P)
3. นักเรยี นมคี วามมุ่งในการทางานและสามารถนาความร้ทู ี่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรียนเรอื่ งตอ่ ไป (A)
สาระสาคัญ
การสรา้ งโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ตอ้ งมีทง้ั สว่ นท่โี จทยบ์ อกและสว่ นที่โจทยถ์ าม นอกจากนี้
โจทยป์ ญั หาทีส่ รา้ งตอ้ งมคี วามเปน็ ไปได้
สาระการเรยี นรู้
1.ความรู้
การสรา้ งโจทย์ปญั หา 2 ขนั้ ตอน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1. ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์
2. การเชอื่ มโยง
3. การคดิ สร้างสรรค์
3.คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ ม่ันในการทางาน
ช้นิ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานท่ี 11 เรื่อง การสร้างโจทย์ปญั หา 2 ข้นั ตอน
กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
1. ครูทบทวนการสรา้ งโจทยป์ ัญหา การบวก หรอื โจทย์ปญั หาการลบ หรือ โจทย์ปัญหาการคูณ
หรือโจทยป์ ญั หาการหาร ทีเ่ ป็นโจทยป์ ญั หาขั้นตอนเดียว พร้อมกบั ให้เขียนประโยคสญั ลักษณ์
เพือ่ ตรวจสอบ โจทย์ปัญหาที่สร้างวา่ มคี วามถูกต้องหรือไม่ โดยตดิ บตั รโจทยแ์ ละบตั รประโยค
สญั ลักษณ์ บนกระดานหลาย ๆ โจทย์แลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั จับคบู่ ัตรโจทยแ์ ละบตั รประโยค
สญั ลักษณท์ ่ีสอดคล้องกัน เช่น − พ่อมเี งิน 5,000 บาท แมม่ ีเงนิ 4,000 บาท พ่อและแม่มีเงนิ
ทงั้ หมดเทา่ ไร ประโยคสัญลักษณ์5,000 + 4,000 = − พอ่ ค้าขายมังคุดได้เงนิ 8,000 บาท ขาย
ทุเรียนไดเ้ งิน 19,500 บาท พ่อคา้ ขายมงั คุด ไดเ้ งนิ น้อยกว่าขายทเุ รยี นเท่าไร ประโยคสัญลกั ษณ์
19,500 − 8,000 = − ระยะทาง 1 กโิ ลเมตรเทา่ กับระยะทาง 1,000 เมตร ขนุ ว่ิงไดร้ ะยะทาง 5
กิโลเมตร คดิ เปน็ ก่ีเมตร ประโยคสญั ลกั ษณ์5 × 1,000 = − น้า หนกั 1 กิโลกรมั เท่ากับนา้ หนกั
10 ขีด แม่คา้ มีทุเรยี น 6,890 ขีด แม่ค้ามีทุเรยี นกก่ี ิโลกรัม ประโยคสญั ลกั ษณ์6,890 ÷ 10 = เมือ่
นกั เรียนจบั คู่บัตรโจทยป์ ัญหากับบัตรประโยคสัญลักษณเ์ รยี บรอ้ ยแล้วครูใหน้ กั เรยี นอ่านโจทย์
ปัญหา กบั ประโยคสัญลักษณ์ท่ีคู่กันอีกคร้ังเพ่ือทบทวนประโยคสญั ลักษณ์กับโจทย์ปัญหาที่
สอดคล้องกัน จากนั้นครูอธบิ ายวา่ ตัวอย่างโจทยป์ ญั หาและประโยคสัญลักษณ์ที่อยบู่ นกระดานน้ี
เป็นโจทย์ปญั หา การบวก โจทยป์ ญั หาการลบ โจทยป์ ัญหาการคณู และโจทย์ปัญหาการหาร
ข้ันตอนเดยี วซ่ึงโจทย์ปัญหาแต่ละโจทย์ปัญหาจะประกอบด้วยสว่ นทโ่ี จทยถ์ ามและส่วนที่โจทย์
บอก จากน้ันครูนา บัตรโจทย์ปญั หาทตี่ ดิ อยบู่ นกระดานนน้ั แยกเป็นบตั รข้อความ 2 บตั ร บตั ร
สว่ นทโี่ จทยถ์ าม และบัตรส่วนทีโ่ จทย์บอก หรืออาจใช้การถามตอบ ถามนักเรียนว่า จากโจทย์
ปญั หาท่ีติดอยู่ ส่วนทีโ่ จทยบ์ อกคอื อะไร ส่วนที่โจทยถ์ ามคืออะไร เม่ือนักเรยี นตอบได้ครบทกุ
โจทย์ปัญหาแล้ว ครนู า เข้าสู่บทเรียนยอ่ ยน้โี ดยอธบิ ายวา่ บทเรียนย่อยนจ้ี ะเรยี นเกี่ยวกับการ
สรา้ งโจทย์ปญั หา 2 ขน้ั ตอน ครยู กตัวอย่างโจทยป์ ญั หา 2 ขน้ั ตอน จากเนอื้ หาทเี่ รียนในช่วั โมงท่ี
แล้ว ดังน้ี แม่คา้ มดี อกบวั 120 ดอก จัดเป็นกา กา ละ 3 ดอก ขายกา ละ 25 บาท ขายดอกบัว
หมด แม่คา้ จะไดเ้ งินเท่าไร ครูติดบตั รโจทย์น้บี นกระดาน แล้วใหน้ ักเรยี นเปรยี บเทยี บว่า โจทย์
ปัญหา ขัน้ ตอนเดยี วกบั โจทย์ปญั หา 2 ขน้ั ตอนนัน้ เหมือนหรอื ตา่ งกันอย่างไร ครแู ละนกั เรยี น
ร่วมกัน อภปิ รายว่า โจทย์ปญั หาขนั้ ตอนเดียวกบั โจทยป์ ัญหา 2 ข้ันตอน ประกอบดว้ ย 2 สว่ น
เหมอื นกนั คือ สว่ นท่โี จทย์ถามและสว่ นทีโ่ จทย์บอก แตต่ ่างกนั คือ โจทย์ปัญหาขน้ั ตอนเดยี วมี
ส่วนทโ่ี จทย์บอก เกย่ี วขอ้ งกบั จานวนสองจานวนเท่านนั้ แต่โจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอน มสี ว่ นท่โี จทย์
บอกเกย่ี วขอ้ งกับ จานวนหลายจานวน ครอู ธิบายวา่ เน่ืองจากโจทยป์ ัญหา 2 ข้นั ตอน เกี่ยวขอ้ ง
กบั จานวนหลายจานวน จงึ ต้องกาหนดก่อนว่าจะหาผลลัพธ์ของสองจานวนใดก่อน โดยการใส่
วงเล็บ ดงั น้นั การใส่วงเลบ็ ในประโยคสญั ลักษณจ์ งึ เปน็ การกาหนดใหร้ ู้ว่าตอ้ งหาผลลพั ธ์ท่ีอยใู่ น
วงเลบ็ ก่อน การสรา้ งโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอน ใหส้ อดคล้องกบั ประโยคสัญลักษณ์น้นั จึงต้องเขยี น
ส่วนท่ีโจทย์บอกให้สอดคลอ้ งกบั จานวน ท่ีอยใู่ นวงเลบ็ ก่อนด้วยเชน่ กัน ดงั นี้ จากบัตรโจทย์แม่ค้า
มดี อกบวั 120 ดอก จดั เป็นกา กา ละ 3 ดอก ขายกา ละ 25 บาท ขายดอกบวั หมดแมค่ า้ จะได้
เงนิ เท่าไร และบตั รประโยคสญั ลักษณ์ (120 ÷ 3) × 25 = แยกบัตรโจทย์และบตั รประโยค
สญั ลกั ษณโ์ ดยครูติดบตั รข้อความที่แยกออกมาจากบตั รโจทยข์ า้ งตน้ ใหต้ รงกบั ประโยคทาง
คณติ ศาสตรด์ ังรูป
ครอู ธิบายวา่ ดงั นัน้ การสร้างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน จึงเป็นการเขียนส่วนทีโ่ จทยบ์ อกสองส่วน สว่ น
แรกเขียนใหส้ อดคล้องกบั จานวนสองจานวนท่ีอยู่ในวงเล็บที่ปรากฏในประโยคสัญลกั ษณ์ และส่วนท่สี องเขียน
ใหส้ อดคล้องกบั จานวนที่อยนู่ อกวงเล็บ และเขียนส่วนทโ่ี จทยถ์ าม เม่ือนักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับสว่ นประกอบตา่ ง
ๆ ของโจทย์ปญั หา 2 ขั้นตอนแล้ว ครูตดิ บตั รภาพ ทเี่ ก่ียวกับสถานการณต์ ่าง ๆ ที่เกดิ ข้ึนในชวี ติ จรงิ ท่ีสามารถ
นามาสร้างโจทย์ปัญหา 2 ขัน้ ตอนได้ ตามหนังสอื เรยี นหน้า 269 ดังน้ี
ครใู ห้นักเรยี นพจิ ารณาภาพและถามนักเรยี นว่า สร้างโจทยป์ ญั หา 2 ขั้นตอน จากภาพน้ีได้อย่างไรโดย
ครูยงั ไม่กาหนดประโยคสญั ลักษณ์ครูใหน้ กั เรยี นใช้ข้อความที่ปรากฏในภาพนา มาสร้างโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอน
โดยโจทยป์ ญั หาต้องมสี ่วนที่โจทย์ถามและสว่ นท่โี จทยบ์ อก ส่วนท่ีโจทย์บอกของโจทยป์ ัญหา 2 ข้นั ตอน มี2
ส่วน ส่วนแรกเปน็ สว่ นที่อยใู่ นวงเลบ็ ครูถามนักเรียนวา่ จากข้อความทอ่ี ยู่ในภาพ สว่ นแรกท่อี ยู่ในวงเลบ็ ควร
เป็นขอ้ ความใด (มโี ดนัทรสชอ็ กโกแลต 12 ชนิ้ มีโดนทั รสสตรอว์เบอร์รี16 ชน้ิ ) ส่วนท่ีสองคอื ข้อความใด (พวก
เราม7ี คน) โจทย์ข้อนีค้ วรถามวา่ อยา่ งไร (พวกเราแตล่ ะคนจะไดโ้ ดนทั คนละกช่ี ้ิน) ถ้านักเรยี นตอบไม่ได้ครูอาจ
ใชค้ าถามทเี่ ป็นคา ถามชแี้ นะก่อนจนกวา่ นักเรยี นจะคดิ ไดว้ า่ ตอ้ งถามคา ถามวา่ อย่างไร หรอื ครูอาจเขยี น
ประโยคสญั ลกั ษณ์ใหน้ ักเรยี นเหน็ ก่อน แลว้ ให้เขียนขอ้ ความที่อยู่ในภาพใหต้ รงกบั ประโยคสญั ลกั ษณ์นักเรียน
จะสามารถสรา้ งโจทย์ปัญหาได้ง่ายข้นึ ทัง้ นเ้ี ปน็ ทางเลือกสุดท้ายท่ีนกั เรียนคดิ ไม่ได้จริง ๆ วา่
จะถามคาถามวา่ อย่างไร เมื่อนกั เรียนสรา้ งโจทยป์ ญั หาได้แลว้ ครูให้นักเรียนออกมาเขยี นโจทย์ปญั หา
ท่สี รา้ งบนกระดาน ดงั น้มี โี ดนัทรสช็อกโกแลต 12 ชนิ้ มโี ดนทั รสสตรอว์เบอร์ร1ี 6 ช้นิ พวกเรามี7 คน พวกเรา
แต่ละคนจะได้โดนัทคนละกีช่ ้นิ ครเู ขยี นโจทยป์ ญั หาให้กระชับมากขน้ึ ดงั น้ี ครูมีโดนัทรสช็อกโกแลต 12 ชน้ิ มี
โดนัทรสสตรอว์เบอร์รี16 ช้นิ แบง่ ให้นักเรยี น 7 คน คนละเทา่ ๆ กนั นักเรียนจะไดโ้ ดนทั คนละก่ีช้นิ
ครูใชก้ ารถาม - ตอบ ดงั น้ีจากโจทย์ปัญหาที่สร้าง ส่วนทีโ่ จทย์บอกส่วนแรกคืออะไร (ครูมีโดนทั รสช็อกโกแลต 12
ชิ้น มีโดนทั รสสตรอวเ์ บอรร์ ี16 ชน้ิ ) ส่วนที่โจทย์บอกสว่ นท่ีสองคืออะไร (แบ่งให้นักเรียน 7 คน คนละเท่า ๆ
กัน)ส่วนท่ีโจทย์ถามคืออะไร (นักเรยี นจะไดโ้ ดนัทคนละก่ีช้ิน) เขียนเปน็ ประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร
((12 + 16) ÷ 7 = ) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ว่า การสรา้ งโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอนประกอบดว้ ย ส่วนท่ีโจทย์
บอกและสว่ นทีโ่ จทย์ถาม สว่ นท่โี จทยบ์ อกมสี องสว่ น สว่ นแรกเป็นสว่ นที่สอดคล้องกับจานวนท่อี ย่ใู นวงเล็บ
ส่วนท่สี องเป็นส่วนทส่ี อดคล้องกบั จานวนทอี่ ยูน่ อกวงเลบ็
2.ครยู กตวั อยา่ งการสรา้ งโจทยป์ ัญหา 2 ข้นั ตอน จากประโยคสญั ลักษณ์ (50 ÷ 5) × 10 = ตามหนังสอื เรียน
หน้า 270 โดยใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาว่า จากประโยคสัญลักษณ์ สามารถสรา้ งโจทยป์ ัญหาได้อยา่ งไรบ้างโดยไม่ใช้
ภาพประกอบ นักเรียนอาจสร้างโจทย์ปัญหา ได้หลากหลายข้ึนอย่กู ับจินตนาการของนกั เรยี น ครอู าจใชค้ า
ถามนา เช่น − การสรา้ งโจทย์ปญั หาต้องประกอบด้วย สองส่วนอะไรบ้าง (ส่วนทีโ่ จทยถ์ ามและ ส่วนทีโ่ จทย์
บอก) − ส่วนทโ่ี จทย์บอกมีกสี่ ว่ น สอดคลอ้ งกับ จานวนใดบ้างในประโยคสญั ลักษณ์(สองส่วน ส่วนแรก
สอดคลอ้ งกับ 50 ÷ 5 สว่ นทีส่ อง สอดคล้องกับ × 10) จากนัน้ ครูใหน้ ักเรียน สรา้ งประโยคขอ้ ความของโจทย์
ปญั หา พร้อมระบสุ ว่ นทโ่ี จทย์ถามและส่วนทีโ่ จทยบ์ อก โดยให้ระบสุ ่วนทโี่ จทย์บอกเป็นส่วนแรกและส่วนทส่ี อง
ดังนี้ − แม่คา้ มลี ูกชิน้ 50 ลกู เสียบลูกช้นิ ไม้ละ 5 ลกู นา ลูกชิ้นไปขายไมล้ ะ 10 บาท ขายลกู ช้นิ หมดแม่คา้ จะ
ไดเ้ งินก่ีบาท สว่ นทโี่ จทย์ถาม (ขายลกู ช้นิ หมดแม่คา้ จะได้เงินกบ่ี าท) ส่วนทโี่ จทย์บอกสว่ นแรก (แม่คา้ มีลูกชิ้น
50 ลูก เสยี บลูกชน้ิ ไม้ละ 5 ลกู ) สว่ นท่โี จทยบ์ อกส่วนท่สี อง (นา ลกู ช้นิ ไปขายไมล้ ะ 10 บาท) − ใบบวั มเี งนิ 50
บาท ซือ้ ลูกอมถุงละ 5 บาท แต่ละถุงมลี ูกอม 10 เมด็ ใบบัวได้ลกู อม ทง้ั หมดก่เี ม็ด ส่วนทโี่ จทย์ถาม (ใบบัวได้
ลกู อมทงั้ หมดกี่เม็ด) สว่ นท่โี จทยบ์ อกสว่ นแรก (ใบบวั มีเงนิ 50 บาท ซือ้ ลูกอมถงุ ละ 5 บาท) ส่วนท่โี จทย์บอก
ส่วนทส่ี อง (แตล่ ะถุงมลี ูกอม 10 เม็ด) − ครูมนี ้า ดม่ื 50 ลติ ร แบ่งใสถ่ งั ถงั ละ 5 ลติ ร แต่ละถงั เทน้า ดม่ื ใสข่ วด
ได้10 ขวด ครมู ีน้า ดืม่ ทั้งหมดกีข่ วด สว่ นทโ่ี จทย์ถาม (ครูมนี ้า ดืม่ ทั้งหมดกี่ขวด) ส่วนทโ่ี จทย์บอกสว่ นแรก (ครู
มนี ้า ดืม่ 50 ลิตร แบง่ ใสถ่ งั ถังละ 5 ลิตร) ส่วนทีโ่ จทย์บอกส่วนท่ีสอง (แต่ละถังเทน้า ด่ืมใส่ขวดได้10 ขวด)
ครเู ขียนโจทย์ปญั หาท่สี ร้างบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนตรวจสอบว่าโจทย์ปัญหาท่ีสรา้ ง สอดคล้องกบั ประโยค
สญั ลักษณท์ ่ีกาหนดให้ หรอื ไม่ โดยให้นักเรียนอา่ นโจทยป์ ัญหาท่ีสร้าง เขยี นประโยคสัญลักษณ์และพจิ ารณาว่า
ประโยคสัญลกั ษณ์ทีเ่ ขียนจากโจทย์ปญั หานนั้ ตรงกับประโยคสัญลักษณ์ท่กี าหนดใหห้ รือไม่ จากน้ันครใู ห้
นักเรียนช่วยกนั หาคา ตอบ จากโจทย์ปัญหาทีส่ รา้ ง เมื่อได้คา ตอบแลว้ ครู ถามนกั เรียนว่า จากประโยค
สญั ลักษณท์ ี่กาหนดให้ เปน็ ประโยคสัญลักษณท์ ี่มีวงเลบ็ ใช่หรือไม่ (ใช่) ดังนั้นในการสร้างโจทย์ปญั หาในสว่ นท่ี
โจทย์บอก ตอ้ งสอดคล้องกบั จานวนทอ่ี ยูใ่ นวงเลบ็ ใช่หรอื ไม่ (ใช)่ ครูให้นกั เรยี นสงั เกตว่าในวงเลบ็ ท่กี าหนดไว้
คือ 50 ÷ 5 ดงั นั้นสว่ นที่โจทย์บอกสว่ นแรก ต้องเขียนใหส้ อดคล้องกบั 50 ÷ 5 เชน่ ครูมนี า้ ดม่ื 50 ลติ ร แบง่
ใสถ่ ัง ถังละ 5 ลิตร จากน้ันครูใหน้ ักเรยี นสงั เกตจานวนต่อไปในประโยคสญั ลกั ษณ์คือ × 10 ใหเ้ ขยี นส่วนที่
โจทย์บอกให้ สอดคล้องกับ × 10 เช่น แตล่ ะถังเทนา้ ด่ืมใส่ขวดได้10 ขวด สว่ นสุดทา้ ยคือส่วนทโ่ี จทยถ์ าม
เป็นเรอ่ื งยากทน่ี ักเรยี นจะเขยี นสว่ นท่ีโจทยถ์ ามได้ถูกต้อง แม้ว่าจะกาหนดประโยคสัญลกั ษณ์ ใหแ้ ล้วกต็ าม ครู
อาจให้นักเรียนสงั เกตจากโจทยป์ ญั หาทุกโจทยป์ ญั หาที่สร้างมานนั้ วา่ คา ถาม ควรจะเขียนให้เก่ยี วข้องกบั สว่ น
ใดของส่วนทโี่ จทย์บอก ดังน้ี 1. แม่คา้ มลี กู ชนิ้ 50 ลกู เสยี บลูกช้ินไมล้ ะ 5 ลกู นา ลูกช้ินไปขายไมล้ ะ 10 บาท
ขายลูกชน้ิ หมด แม่ค้าจะไดเ้ งินก่บี าท 2. ใบบวั มีเงิน 50 บาท ซือ้ ลูกอมถุงละ 5 บาท แต่ละถุงมีลูกอม 10 เม็ด
ใบบัวไดล้ ูกอมท้งั หมดกเ่ี ม็ด 3. ครูมีน้า ดื่ม 50 ลิตร แบ่งใสถ่ ัง ถงั ละ 5 ลติ ร แตล่ ะถงั เทน้า ดื่มใสข่ วดได้10
ขวด ครมู นี ้า ดื่ม ท้ังหมดกี่ขวด ครใู ห้นกั เรียนสงั เกตสว่ นที่โจทยถ์ ามของทุกโจทย์ปัญหาที่สร้างมาแล้วข้างตน้
จะเหน็ ว่า สว่ นทโี่ จทยถ์ ามนั้นจะเกี่ยวข้องกับสว่ นท่ีโจทย์บอกสว่ นท่สี องทั้งส้ิน เชน่ โจทย์ปญั หาขอ้ 1 สว่ นที่
โจทยถ์ าม ขายลกู ชิ้นหมดแม่คา้ จะได้เงนิ กี่บาท สว่ นที่โจทย์บอกสว่ นท่ีสอง นา ลกู ชน้ิ ไปขายไมล้ ะ 10 บาท
โจทยป์ ญั หาขอ้ 2 สว่ นทโี่ จทยถ์ าม ใบบัวไดล้ ูกอมท้ังหมดกี่เมด็ ส่วนทโี่ จทยบ์ อกส่วนที่สอง แตล่ ะถุงมีลกู อม 10
เมอื่ โจทย์ปญั หาขอ้ 3 สว่ นทโ่ี จทย์ถาม ครูมีนา้ ดมื่ ท้งั หมดก่ีขวด
สว่ นทโี่ จทย์บอกส่วนทส่ี อง แต่ละถังเทนา้ ด่มื ใส่ขวดได้10 ขวด
3. เม่อื นักเรียนไดข้ ้อสังเกตแล้ว ครแู บ่งนักเรยี นเป็นกลุ่ม ให้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั สรา้ ง
โจทย์ปญั หา 2 ขน้ั ตอนจากประโยคสญั ลักษณท์ ีก่ าหนดให้ตามหนังสือเรยี นหน้า 271 แลว้ ให้นักเรียน
แต่ละกลุม่ ออกมานา เสนอโจทย์ปัญหาที่สร้างข้ึน โดยระบุสว่ นทีโ่ จทยบ์ อกสว่ นแรก สว่ นท่โี จทยบ์ อก
ส่วนท่ีสอง และส่วนที่โจทย์ถาม เขียนประโยคสัญลักษณจ์ ากโจทยป์ ัญหาทสี่ ร้างวา่ สอดคลอ้ งกบั
ประโยคสัญลกั ษณ์ที่กาหนดให้หรือไม่ พรอ้ มหาคา ตอบ ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ครูอาจใหน้ ักเรยี นสังเกตประโยคสัญลกั ษณ์ทกี่ าหนดใหว้ ่า สว่ นท่โี จทย์บอกสว่ นแรกสอดคลอ้ งกับ
จานวนในวงเล็บหรือไม่ สว่ นท่ีโจทย์บอกสว่ นทส่ี องสอดคล้องกบั จานวนท่ีอยู่นอกวงเล็บหรือไม่
ส่วนทโี่ จทย์ถามเกี่ยวข้องกับสว่ นทโ่ี จทย์บอกสว่ นท่สี องหรือไม
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล โดยให้นกั เรียนแต่ละคนสร้างโจทย์ปญั หา 2
ข้นั ตอน จากประโยคสัญลักษณ์ท่กี าหนด ตามหนังสอื เรยี นหน้า 272 ครูควรใหน้ กั เรยี นสร้างโจทยป์ ัญหาดว้ ย
ตนเองทุกคน จากนนั้ ครใู ห้นักเรยี นช่วยกนั พจิ ารณาความเป็นไปได้ของโจทยป์ ัญหา 2 ข้นั ตอนทนี่ ักเรียนสรา้ ง
ขึน้ วา่ มคี วามสอดคล้องกับประโยคสญั ลกั ษณ์ที่กาหนดให้หรือไม่แล้วร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ
สิ่งที่ได้เรียนรถู้ า้ พบว่า มีนักเรียนท่สี ร้างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนจากประโยคสญั ลกั ษณไ์ ม่ถูกต้อง ครูควรให้
นักเรยี นฝกึ สร้างโจทยป์ ัญหา 2 ข้ันตอนจากประโยคสัญลักษณ์เพ่ิมเติม โดยอาจใชภ้ าพประกอบ
การสรา้ งโจทยป์ ญั หา 2 ขั้นตอน ต้องมที ั้งสว่ นทีโ่ จทยบ์ อกและส่วนทีโ่ จทยถ์ าม นอกจากนโี้ จทย์ปัญหาท่สี รา้ ง
ตอ้ งมีความเปน็ ไปได้
จากนั้นใหน้ กั เรียนทา แบบฝกึ หดั 13.5 หนา้ 193
ส่อื การเรียนรู้
1. หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.3
2. ใบงานที่ 11 เรอ่ื ง โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขน้ั ตอน
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
จดุ ประสงคก์ าร วิธวี ดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
เรยี นรู้
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
การประเมิน
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขนึ้ ไป
กระบวนการ
3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ
ท่พี งึ ประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ คณุ ภาพดีขนึ้ ไป
ทีพ่ งึ ประสงค์
เกณฑ์การประเมนิ แบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเดน็ การประเมิน ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถูกต้องของ
เนื้อหา 4 3 21
2. รปู แบบ
เน้อื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ
3. ความเป็นระเบยี บ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่
การนาเสนอ การนาเสนอถูกต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่
นา่ สนใจและ เป็นสว่ นใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมคี วาม ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไมม่ ีความ
เปน็ ระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เปน็ ระเบยี บ
เลก็ น้อย บางสว่ น
เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1
เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทางาน
ทักษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลที่ปรากฏใหเ้ หน็
4 : ดีมาก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล
3 : ดี มีการอ้างอิงทถ่ี ูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ
1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ
ทักษะและกระบวนการ : การแกป้ ัญหา
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาที่ปรากฏใหเ้ หน็
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปญั หาไดส้ าเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล
หลกั การและขน้ั ตอนในการแก้ปญั หาได้เขา้ ใจชดั เจนนามาซึ่งคาตอบท่ีถูกต้อง
3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ าเร็จ แตน่ า่ จะอธบิ ายถึงเหตุผล
หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้ดีกว่าน้ี
2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สาเร็จเพยี งบางสว่ น อธิบายถงึ เหตุผล
หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น
1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มรี ่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใชเ้ หตุผล หลกั การและขั้นตอน
ในการแกป้ ัญหา แลว้ หยดุ อธิบายตอ่ ไม่ได้ แกป้ ญั หาไมส่ าเรจ็
ทักษะ และกระบวนการ: การเชื่อมโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชือ่ มโยงทีป่ รากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
นาความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ในการเชอื่ มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์
4 : ดมี าก หรอื กิจกรรมทต่ี ้องใชอ้ งคค์ วามรทู้ ่ีเรยี นได้ถกู ต้องทุกกิจกรรมเพ่ือชว่ ยในการแกป้ ัญหา
หรอื ประยุกต์ใช้ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงกับสาระคณิตศาสตร์
3 : ดี หรือกจิ กรรมทีต่ ้องใช้องค์ความรูท้ ี่เรียนได้เป็นส่วนใหญ่
เพือ่ ช่วยในการแก้ปัญหาหรือประยกุ ต์ใช้ได้บางสว่ น
2 : พอใช้ นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเช่ือมโยงกับสาระคณติ ศาสตร์หรือ
กิจกรรมที่ตอ้ งใชอ้ งคค์ วามรทู้ ่ีเรยี นได้บางสว่ น
1 : ควรปรับปรุง นาความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงยังไมเ่ หมาะสม สรุป
แก้ไข องค์ความรูท้ ่ีได้
เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นกั เรียนใฝ่เรยี นรู้
คะแนน : ระดบั คณุ ลักษณะท่ีปรากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเป็นบางครัง้
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความต้ังใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นกั เรยี นมคี วามมุ่งมั่นในการทางาน
คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ ห็น
คุณภาพ
3 : ดีมาก - ส่งงานกอ่ นหรอื ตรงกาหนดเวลานดั หมาย
- รบั ผิดชอบในงานทไี่ ด้รับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนสิ ยั
2 : ดี - สง่ งานช้ากว่ากาหนด แตไ่ ด้มีการติดต่อช้แี จงผู้สอน มีเหตุผลท่ีรบั ฟังได้
- รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นิสัย
1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากว่ากาหนด
- ปฏบิ ัติงานโดยต้องอาศัยการชีแ้ นะ แนะนา ตักเตือนหรือใหก้ าลังใจ
บนั ทกึ หลังการสอน
สรปุ ผลการเรยี นการสอน
1. นักเรียนจำนวน ................................................... คน
ผ่ำนจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ................... คน คิดเป็นร้อยละ ...............................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ............... คน คดิ เป็นร้อยละ ………………………….
ได้แก่
1. ……………………………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………………………….
นักเรยี นมีควำมสำมำรถพิเศษได้แก่
1. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรยี นมคี วำมรคู้ วำมเข้ำใจ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นกั เรียนมคี วำมร้เู กิดทกั ษะ (P)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรยี นมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรือน)
ตำแหนง่ ครูผูส้ อน
ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หวั หน้ำฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)
ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการ
เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................
ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อุคต)
รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผู้อำนวนกำรโรงเรยี นบำ้ นศรีทองสำมัคคี