แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1
รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) รหสั วชิ า ว23182 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ช่ือหนว่ ย เทคโนโลยีกบั ชีวิต เวลา 5 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ ง สาเหตหุ รือปจั จยั ท่ีสง่ ผลต่อการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี เวลา 2 ช่ัวโมง
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ครูผูส้ อน นายกรกฎ เกษมสนิ ธ์ุ
1. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
1.1 ตัวชว้ี ดั
ว 4.1 ม.3/1 วิเคราะหส์ าเหตุ หรอื ปัจจัยท่ีส่งผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ ่นื โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือ
คณิตศาสตร์ เพื่อเปน็ แนวทางการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายกระบวนการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยใี นดา้ นตา่ ง ๆ ได้ (K)
2. วเิ คราะหส์ าเหตุหรอื ปัจจยั ที่สง่ ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้ (K)
3. ยกตวั อย่างและอธบิ ายเกีย่ วกับการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ได้ (K)
4. สืบคน้ ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีท่ีพบในชวี ิตประจำวนั ได้ (P)
5. เหน็ ความสำคญั ของสาเหตหุ รือปัจจัยที่ส่งผลตอ่ การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน
สาระการเรียนรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
- เทคโนโลยีมกี ารเปล่ยี นแปลงตลอดเวลาต้ังแต่อดีต
จนถงึ ปจั จุบัน ซ่ึงมีสาเหตุหรือปจั จัยมาจากหลาย
ดา้ น เช่น ปัญหาหรอื ความต้องการของมนุษย์
ความกา้ วหน้าของศาสตรต์ า่ ง ๆ การเปลีย่ นแปลง
ทางดา้ นเศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรม สงิ่ แวดลอ้ ม
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ความต้องการของมนษุ ยก์ ็คอื ความอยากได้ ซึ่งเมื่อมนษุ ย์เกิดความอยากได้ จึงต้องพยายาม
ดน้ิ รนหาสิง่ ท่สี ามารถตอบสนองความต้องการนัน้ ๆ เมื่อรา่ งกายไดร้ ับการตอบสนองแลว้ กจ็ ะเกดิ
ความตอ้ งการใหม่ ๆ ขึน้ มาทดแทน ดังนนั้ ความต้องการของมนุษย์จึงเกดิ ขนึ้ อยู่ตลอดเวลา นอกจากน้นั
ความต้องการของมนุษยย์ งั ทำให้เกิดการเปลีย่ นแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ คอื การเปล่ียนแปลงด้านเศรษฐกิจ
การเปลี่ยนแปลงด้านสงั คม การเปลย่ี นแปลงดา้ นวัฒนธรรม และการเปลย่ี นแปลงด้านส่ิงแวดลอ้ ม
\
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ
- ทักษะการสอ่ื สาร 2. ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการคดิ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
- ทักษะการใหเ้ หตุผล
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทักษะการแกป้ ัญหา
- ทักษะการสังเกต
- ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
- ทักษะการทำงานรว่ มกนั
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทกั ษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วธิ กี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั นำ
ขัน้ ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง เทคโนโลยีกบั ชีวิต
2. ครูถามคำถามสำคัญประจำหัวขอ้ กับนักเรียนวา่ “ในชมุ ชนท่ีนกั เรยี นอาศัยอย่มู ีการเปลีย่ นแปลง
ของเทคโนโลยอี ย่างไร เพราะเหตุใด”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนขึน้ อย่กู ับดลุ ยพนิ ิจของครูผ้สู อน เชน่ การส่อื สารผ่านไปรษณีย์
อิเลก็ ทรอนิกส์ (E-mail) แทนการสง่ จดหมาย เน่ืองจากเทคโนโลยีมคี วามกา้ วหนา้ อย่างรวดเรว็
และตอบสนองต่อความตอ้ งการของมนษุ ย์)
ขนั้ สอน
ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสม เพ่ือสบื ค้นความหมายของคำว่า
“เทคโนโลยี” และยกตัวอย่างเทคโนโลยใี นด้านต่าง ๆ ท่ีนักเรียนพบในชวี ติ ประจำวัน
2. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอเก่ียวกับความหมายของเทคโนโลยี และ
ยกตวั อย่างเทคโนโลยีทีน่ กั เรยี นพบในชวี ิตประจำวันบรเิ วณหน้าชั้นเรียน พร้อมอภปิ ราย
ร่วมกบั เพ่ือนในชั้นเรียน
ขัน้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
3. นักเรียนศึกษาเนื้อหา เรื่อง ปัญหาหรือความต้องการของมนษุ ย์ จากหนังสือเรียนรายวิชา
พืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
เร่อื ง เทคโนโลยีกบั ชีวติ
4. นักเรียนสังเกตวัตถุดบิ ปรงุ อาหารในรูปแบบต่าง ๆ เพอื่ ตอบสนองความต้องการของมนุษย์
ท่ีแตกตา่ งกนั จากหนังสอื เรยี น
5. ครูอธิบายกับนักเรยี นวา่ “เม่ือมนุษย์มีความต้องการมากขึ้นจงึ เกดิ เทคโนโลยใี หม่
เพ่ือตอบสนองความต้องการของมนุษย์ตลอดเวลา และเป็นตัวผลกั ดันใหเ้ กิดการพัฒนา
เทคโนโลยีต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อช่วยแก้ปญั หาของมนุษย์ จนกว่าจะตอบสนองต่อความต้องการ
ของมนุษยไ์ ด้ครบถ้วนสมบรู ณ์”
6. นกั เรยี นสังเกตปัญหาทีเ่ กิดข้ึนกบั เกษตรกร วธิ ีแก้ปญั หา และผลลพั ธจ์ ากหนังสือเรียน
7. ครูอธบิ ายเกรด็ เสริมความรูท้ ี่เกีย่ วข้องกับเน้ือหา (Design Focus) เรื่อง ปัญหาของการใช้สินคา้
หรอื บริการ (Pain Point) จากหนังสอื เรียน
8. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามข้อสงสยั และครูให้ความรูเ้ พิ่มเตมิ ในสว่ นนั้น
ชว่ั โมงท่ี 2
ขน้ั สอน
ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
9. ครทู บทวนเนอ้ื หาการเรียนเม่ือชั่วโมงท่แี ลว้ พอสังเขป
10. นักเรยี นศกึ ษาเนื้อหา เรอ่ื ง ความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ต่าง ๆ จากหนังสือเรยี น
11. ครูอธบิ ายกบั นักเรยี นเพือ่ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจมากย่ิงขนึ้ ว่า “ความรู้ด้านวทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีทีส่ ง่ั สมมาตั้งแต่อดีตอย่างต่อเน่อื ง ทำให้เกิดการพฒั นาเทคโนโลยใี หม่ ๆ ท่ีสามารถ
พลิกรูปแบบวิถีการดำเนนิ ชวี ิตของผู้คนในสงั คมได้ อกี ท้ังยังมีความก้าวหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์
พ้ืนฐานแขนงใหม่ที่ช่วยในการหาคำตอบ”
12. นักเรียนศกึ ษาเนื้อหา เร่อื ง การเปลี่ยนแปลงดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นสงั คม ดา้ นวัฒนธรรม
และด้านส่งิ แวดลอ้ ม จากหนังสือเรยี น
13. ครอู ธบิ ายเกร็ดเสริมความรทู้ ี่เกี่ยวข้องกับเน้ือหา (Design Focus) เรอ่ื ง การแกป้ ญั หามลพษิ
สงิ่ แวดล้อมโลกจากหนังสือเรียน
14. เปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามข้อสงสัย และครใู หค้ วามรู้เพ่ิมเตมิ ในสว่ นน้นั
ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
15. ครมู อบหมายให้นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการคิด และทบทวนเนื้อหาอย่างครบถว้ น
ตามตวั ชีว้ ัดจากแบบฝกึ หัดรายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอื่ ง เทคโนโลยีกับชีวติ หน้า3-5
16. ครูสุ่มนักเรยี นออกมานำเสนอบริเวณหน้าชน้ั เรียน
ข้ันสรุป
ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถามและการนำเสนอผลงานของนักเรียน
2. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรุปความรู้เกยี่ วกับสาเหตุหรอื ปัจจัยท่ีสง่ ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ
เทคโนโลยี
7. การวัดและประเมนิ ผล
รายการวดั วธิ ีวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- แบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 กอ่ นเรยี น
เรอ่ื ง เทคโนโลยีกับชวี ติ
7.2 การประเมินระหว่างการ
จัดกจิ กรรม
1) สาเหตุหรอื ปจั จยั - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ท่สี ่งผลตอ่
การเปลยี่ นแปลง
ของเทคโนโลยี
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
รายบุคคล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
รายการวดั วิธีวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมิน
- แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
4) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกล่มุ ผ่านเกณฑ์
กลุ่ม การทำงานกลมุ่
5) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
อนั พงึ ประสงค์ ความรบั ผิดชอบ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มน่ั อนั พึงประสงค์
ในการทำงาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1
เร่อื ง เทคโนโลยกี บั ชวี ิต
2) แบบฝกึ หัดรายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
เรื่อง เทคโนโลยีกบั ชวี ิต
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอรเ์ น็ต
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ ง
ทตี่ รงกับระดบั คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ นื่
3 การทำงานตามหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย
4 ความมนี ำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............/.................../................
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ตี รงกบั ระดับคะแนน
การมี
ชื่อ–สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี สว่ นรว่ มใน รวม
ของนกั เรยี น ความ ฟังคนอ่นื ตามที่ไดร้ บั นำ้ ใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ลำดบั ที่ ปรบั ปรุง
ผลงานกลุ่ม
32132 32132 321
11
เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............./.................../...............
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรงุ
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
32
1 ความถูกต้องของเนื้อหา
2 ความคิดสร้างสรรค์
3 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน
4 การนำไปใชป้ ระโยชน์
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื ................................................... ผปู้ ระเมนิ
............/................./...................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คำช้ีแจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ีตรงกับระดับคะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 32 1
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้
กษตั รยิ ์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่
โรงเรยี น
1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามทีโ่ รงเรยี นจัดขึน้
2. ซ่อื สัตย์ สจุ ริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งทีถ่ ูกตอ้ ง
3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว
มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รูจ้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้
4.2 รจู้ กั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เช่ือฟงั คำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ตั้งใจเรียน
5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสงิ่ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด
5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและร้คู ุณคา่
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน
6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย
6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสำเร็จ
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน
8.2 ร้จู กั การดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละสิ่งแวดลอ้ มของห้องเรียนและ
โรงเรียน
ลงชอ่ื ..................................................ผ้ปู ระเมิน
............/.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
51–60 ดีมาก
พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 41–50 ดี
30–40 พอใช้
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2
รายวชิ า เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) รหัสวชิ า ว23182 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 ช่ือหน่วย เทคโนโลยีกับชวี ติ เวลา 5 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตรอ์ นื่ เวลา 2 ช่ัวโมง
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ครผู ูส้ อน นายกรกฎ เกษมสนิ ธ์ุ
1. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
1.1 ตัวชวี้ ัด
ว 4.1 ม.3/1 วเิ คราะห์สาเหตุ หรือปจั จยั ที่ส่งผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสมั พันธ์ของเทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ ่ืน โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ หรอื
คณิตศาสตร์ เพอ่ื เปน็ แนวทางการแกป้ ัญหาหรือพฒั นางาน
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความสัมพันธข์ องเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่นื ๆ ได้ (K)
2. ยกตัวอย่างเทคโนโลยที ่ีพบในชีวิตประจำวันตามศาสตรต์ ่าง ๆ ได้ (K)
3. สบื ค้นข้อมลู เก่ยี วกบั เทคโนโลยีในดา้ นต่าง ๆ ได้ (P)
4. เห็นประโยชนข์ องเทคโนโลยใี นศาสตรต์ า่ ง ๆ ได้ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
- เทคโนโลยมี ีความสมั พนั ธ์กับศาสตรอ์ น่ื โดยเฉพาะ
วิทยาศาสตร์ โดยวิทยาศาสตร์เปน็ พื้นฐานความรู้ที่
นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี และเทคโนโลยที ไี่ ด้
สามารถเป็นเครื่องมือเครอื่ งใชใ้ นการศึกษา ค้นควา้
เพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซ่งึ องค์ความรใู้ หม่
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
เทคโนโลยเี ปน็ วิทยาการทีเ่ กดิ ขึน้ จากการนำความร้ดู า้ นต่าง ๆ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์และ
คณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในทุกภาคสว่ น ดงั น้ัน
เทคโนโลยีจึงเกย่ี วขอ้ งกับการนำความรู้จากศาสตร์ตา่ ง ๆ มาประกอบกับความรู้ด้านวิทยาศาสตรแ์ ละ
คณิตศาสตร์ เพ่อื แกป้ ัญหาหรือพัฒนางานอาชีพต่าง ๆ ในชุมชนอย่างสร้างสรรค์
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ยั รับผดิ ชอบ
- ทักษะการสือ่ สาร 2. ใฝ่เรยี นรู้
2. ความสามารถในการคิด 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน
- ทักษะการให้เหตุผล
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทกั ษะการแกป้ ัญหา
- ทักษะการสงั เกต
- ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
- ทกั ษะการทำงานร่วมกัน
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วธิ ีการสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั นำ
ข้นั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามสำคัญประจำหัวขอ้ กบั นักเรียนว่า “นักเรียนเคยเห็นตัวอย่างการนำเทคโนโลยี
เข้าไปใช้แกป้ ัญหารว่ มกับศาสตร์ใดบา้ ง จงยกตวั อย่างพร้อมอธิบาย”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนข้ึนอยู่กับดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน เช่น การใช้เทคโนโลยีกบั
วทิ ยาศาสตรใ์ นด้านดาราศาสตร์ เช่น การถา่ ยภาพหลมุ ดำด้วยเครอื ขา่ ยกลอ้ งโทรทรรศน์
อีเวนต์ฮอไรซนั โดยใช้คลืน่ ความถส่ี ูงของหอดดู าวท้ัง 8 แห่งทั่วโลกมารวมกนั กำเนดิ เป็น
กล้องโทรทรรศนว์ ิทยุท่มี ีขนาดเทา่ กับเส้นผา่ นศูนย์กลางของโลก ทำให้สามารถถา่ ยภาพได้
พร้อมกนั เวลาเดียวกัน และตำแหน่งเดยี วกันได้ ภาพที่ได้จึงมคี วามละเอียดสงู มาก และ
นำข้อมลู มาประมวลผลดว้ ยคอมพวิ เตอร์จนเกิดภาพถ่ายหลุมดำ)
ขน้ั สอน
ข้ันที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพ่อื สืบค้นว่ามีเทคโนโลยีใดบา้ ง
ทนี่ ำเข้ามาประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน
2. ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานำเสนอบรเิ วณหน้าช้นั เรยี น
ขั้นที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
3. นกั เรียนศึกษาเนื้อหา เรื่อง ความสัมพันธข์ องเทคโนโลยกี ับวิทยาศาสตร์ จากหนงั สือเรียน
รายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1
เรอื่ ง เทคโนโลยีกับชีวิต
4. ครูอธิบายกับนักเรียนเพอื่ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจมากย่งิ ขึ้นวา่ “วิทยาศาสตร์ทน่ี ำไปประยกุ ตใ์ ช้ใน
การสรา้ งสงิ่ ประดิษฐท์ ่ตี อบสนองต่อความต้องการหรือการแกป้ ญั หาของมนุษย์ สามารถแบง่
ออกได้ 2 สาขา คือ วทิ ยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural Science) และวิทยาศาสตร์ประยุกต์
(Applied Science)”
5. เปดิ โอกาสให้นักเรยี นสบื คน้ ข้อมูลเกีย่ วกบั เทคโนโลยีท่ีเก่ยี วข้องกบั วิทยาศาสตร์
6. จากนน้ั ครเู ขียนคำว่า “เทคโนโลยกี ับวทิ ยาศาสตร์” ลงบนกระดานหน้าชั้นเรยี น พร้อมให้
นักเรยี นรว่ มกนั ยกตวั อย่างเทคโนโลยใี นชวี ติ ประจำวันที่เกย่ี วข้องกับวทิ ยาศาสตร์ โดยครู
คอยบันทึกคำตอบของนักเรียนลงบนกระดานหน้าชั้นเรยี น
7. นักเรียนศึกษาเน้ือหา เรือ่ ง ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยีกับคณิตศาสตรจ์ ากหนังสือเรยี น
8. ครูอธบิ ายกบั นักเรยี นเพ่ือให้นักเรยี นเข้าใจมากยงิ่ ขึ้นว่า “คณติ ศาสตรเ์ ป็นความรู้ด้านการคำนวณ
ท่เี ขา้ มาพิสจู น์สง่ิ ท่สี งั เกตไดจ้ ากวิทยาศาสตร์ เพอื่ อธบิ ายปรากฏการณท์ ่ีเกดิ ข้นึ ได้ และสามารถ
ทำนายผลลพั ธไ์ ด้อย่างแม่นยำ”
9. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสืบคน้ ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั คณติ ศาสตร์
10. จากนั้นครูเขยี นคำว่า “เทคโนโลยกี ับคณติ ศาสตร์” ลงบนกระดานหน้าช้นั เรียน พร้อมให้
นักเรียนร่วมกันยกตวั อยา่ งเทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวนั ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับคณิตศาสตร์ โดยครู
คอยบนั ทึกคำตอบของนักเรียนลงบนกระดานหนา้ ชน้ั เรยี น
11. เปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามขอ้ สงสัย และครใู หค้ วามรูเ้ พ่ิมเติมในส่วนนัน้
ชัว่ โมงที่ 2
ขนั้ สอน
ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
12. ครทู บทวนเนอ้ื หาการเรยี นเมื่อช่วั โมงทแ่ี ล้วพอสงั เขป
13. นกั เรยี นศกึ ษาเนื้อหา เร่อื ง ความสัมพันธข์ องเทคโนโลยกี ับมนษุ ยศาสตร์ จากหนังสอื เรียน
14. ครอู ธบิ ายกับนักเรียนเพือ่ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจมากยิ่งขึน้ วา่ “มนษุ ยศาสตร์ เปน็ การศกึ ษา
ทำความเข้าใจเกี่ยวกบั มนุษย์ ไดแ้ ก่ ความร้สู ึกนกึ คิด ความรู้สึกทางอารมณ์ จินตนาการ
ความฝนั คุณคา่ คุณธรรม และจริยธรรม”
15. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นสบื ค้นข้อมลู เกีย่ วกบั เทคโนโลยที ่ีเก่ียวขอ้ งกับมนุษยศาสตร์
16. จากน้ันครเู ขียนคำวา่ “เทคโนโลยีกับมนุษยศาสตร์” ลงบนกระดานหนา้ ช้นั เรยี น พร้อมให้
นกั เรยี นร่วมกันยกตวั อย่างเทคโนโลยใี นชีวติ ประจำวันท่ีเก่ียวข้องกบั วิทยาศาสตร์ โดยครู
คอยบนั ทึกคำตอบของนักเรียนลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน
17. นักเรียนศกึ ษาเน้ือหา เรอ่ื ง ความสมั พนั ธข์ องเทคโนโลยีกับสงั คมศาสตรจ์ ากหนังสือเรียน
18. ครูอธบิ ายกบั นักเรยี นเพ่อื ให้นักเรยี นเขา้ ใจมากย่งิ ขึ้นวา่ “สังคมศาสตร์ เป็นความรู้เกย่ี วกับ
มนษุ ย์และสังคม โดยใช้วธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์ที่พสิ ูจน์ได้แน่นอนดว้ ยประสาทสมั ผัส หรือ
ด้วยการใช้เคร่อื งมอื สำหรบั ทดลองและเก็บข้อมลู ที่มีความนา่ เชือ่ ถือ”
19. เปิดโอกาสให้นักเรยี นสืบคน้ ข้อมลู เกีย่ วกับเทคโนโลยีท่เี กี่ยวขอ้ งกบั สังคมศาสตร์
20. จากนัน้ ครเู ขยี นคำว่า “เทคโนโลยีกบั สังคมศาสตร์” ลงบนกระดานหนา้ ชั้นเรยี น พร้อมให้
นักเรียนรว่ มกนั ยกตวั อย่างเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันท่เี กีย่ วข้องกบั วทิ ยาศาสตร์ โดยครู
คอยบนั ทึกคำตอบของนักเรยี นลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน
ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
21. เปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถามขอ้ สงสัย และครใู ห้ความรเู้ พ่ิมเตมิ ในสว่ นน้นั
22. ครูมอบหมายให้นกั เรียนทำใบงานที่ 1.2.1 เรื่อง เทคโนโลยกี ับศาสตร์ต่าง ๆ
23. ครูสุม่ นักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าช้นั เรียน พร้อมกับอภปิ รายรว่ มกนั ในห้องเรยี น
ขั้นสรุป
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถามและการนำเสนอผลงานของนักเรียน
2. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานท่ี 1.2.1 เร่ือง เทคโนโลยีกับศาสตรต์ ่าง ๆ
3. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรปุ ความรูเ้ ก่ียวกบั ความสัมพันธข์ องเทคโนโลยีกับศาสตรอ์ ื่น
4. ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการคิด และทบทวนเนื้อหาอย่างครบถว้ น
ตามตวั ช้ีวัดหน้า6-7 และทำกิจกรรม High Oder Thinking ที่สอดคลอ้ งกับตวั ชี้วัดตามทักษะ
แหง่ ศตวรรษที่ 21 หนา้ 9-13 จากแบบฝึกหดั รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและ
เทคโนโลย)ี ม.3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรื่อง เทคโนโลยีกับชวี ิต เปน็ การบ้านและนำมาส่ง
ในชว่ั โมงถัดไป
7. การวดั และประเมินผล วธิ ีวัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน
รายการวัด
- ตรวจใบงานท่ี 1.2.1 - ใบงานที่ 1.2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
7.1 การประเมินระหว่างการ
จดั กิจกรรม - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
1) เทคโนโลยีกับศาสตร์
ตา่ ง ๆ - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
2) ความสมั พนั ธ์ของ ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
เทคโนโลยีกับ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
ศาสตรอ์ น่ื ๆ การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
3) การนำเสนอผลงาน
4) พฤติกรรมการทำงาน
รายบคุ คล
5) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
กล่มุ การทำงานกลมุ่
การทำงานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
6) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมวี ินัย - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
อนั พึงประสงค์ ความรบั ผิดชอบ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มัน่ อนั พงึ ประสงค์
ในการทำงาน
8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1
เร่ือง เทคโนโลยกี ับชีวติ
2) แบบฝึกหัดรายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1
เรื่อง เทคโนโลยีกบั ชวี ติ
3) ใบงานที่ 1.2.1 เร่อื ง เทคโนโลยีกับศาสตรต์ ่าง ๆ
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอร์เนต็
ใบงานท่ี 1.2.1
เรื่อง เทคโนโลยีกับศาสตรต์ า่ ง ๆ
คำชแี้ จง : ให้นักเรียนอธิบายความสัมพันธ์ของเทคโนโลยกี ับศาสตร์ตา่ ง ๆ ดงั ต่อไปน้ี
เทคโนโลยกี ับการเกษตร
เทคโนโลยีกบั การศึกษา
เทคโนโลยกี ับการแพทยแ์ ละสาธารณสุข
ใบงานท่ี 1.2.1 เฉลย
เร่ือง เทคโนโลยกี บั ศาสตร์ตา่ ง ๆ
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนอธิบายความสมั พนั ธข์ องเทคโนโลยกี ับศาสตร์ตา่ ง ๆ ดงั ต่อไปนี้
เทคโนโลยีกับการเกษตร
เทคโนโลยสี ามารถประยุกต์ใช้ในด้านการผลติ คิดคน้ เคร่ืองจักรกลทางการเกษตรและพัฒนากระบวนการผลิต
แทนการเกษตรแบบดั้งเดิมทใ่ี ช้กำลังคน เช่น การคัดเลือกพันธุ์ การปรบั ปรุงพนั ธุ์ การเพ่ิมผลผลิต การรดน้ำ
การฉีดยาฆ่าแมลงสง่ ผลให้เกษตรกรมีความเปน็ อยู่ทด่ี ขี ึ้น และยังชว่ ยเพิ่มรายได้ใหก้ ับเกษตรกรและประเทศชาติ
เทคโนโลยกี บั การศกึ ษา
เทคโนโลยีสามารถนำมาใชใ้ นดา้ นศกึ ษาได้หลายอยา่ ง เช่น การพฒั นาส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ การพัฒนาบทเรยี น
คอมพิวเตอรช์ ่วยสอน อกี ทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกท้ังผู้สอนและผูเ้ รยี น รวมถึงยงั ช่วยให้การเรียนรขู้ อง
ผเู้ รียนมีประสทิ ธิภาพมากยิง่ ข้ึน จึงทำใหเ้ กดิ ผลดีต่อการศึกษาเป็นอย่างมาก
เทคโนโลยีกบั การแพทยแ์ ละสาธารณสุข
เทคโนโลยสี ามารถนำมาประยกุ ต์ใช้ในทางการแพทย์และสาธารณสขุ โดยอาจจะนำไปใช้ในการวินจิ ฉยั โรค
การหาสาเหตุของการเกิดโรค และคิดคน้ วธิ ีการรักษาโรคที่รักษาได้ยากหรือไมส่ ามารถรักษาได้ในอดีต
เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกพฒั นา เชน่ กล้องจุลทรรศน์ในการผา่ ตัด กลอ้ งแคปซลู หรอื แสงเลเซอร์ ทำให้
ประชากรในประเทศมอี ายโุ ดยเฉลีย่ ทสี่ ูงข้ึน และทำให้การรกั ษาอาการเจบ็ ป่วยมปี ระสทิ ธิภาพมากย่งิ ขนึ้
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ ง
ทตี่ รงกับระดบั คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ นื่
3 การทำงานตามหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย
4 ความมนี ำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............/.................../................
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ตี รงกบั ระดับคะแนน
การมี
ชื่อ–สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี สว่ นรว่ มใน รวม
ของนกั เรยี น ความ ฟังคนอ่นื ตามที่ไดร้ บั นำ้ ใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ลำดบั ที่ ปรบั ปรุง
ผลงานกลุ่ม
32132 32132 321
11
เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............./.................../...............
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรงุ
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
32
1 ความถูกต้องของเนื้อหา
2 ความคิดสร้างสรรค์
3 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน
4 การนำไปใชป้ ระโยชน์
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื ................................................... ผปู้ ระเมนิ
............/................./...................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คำช้ีแจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ีตรงกับระดับคะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 32 1
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้
กษตั รยิ ์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่
โรงเรยี น
1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามทีโ่ รงเรยี นจัดขึน้
2. ซ่อื สัตย์ สจุ ริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งทีถ่ ูกตอ้ ง
3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว
มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รูจ้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้
4.2 รจู้ กั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เช่ือฟงั คำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ตั้งใจเรียน
5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสงิ่ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด
5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและร้คู ุณคา่
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน
6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย
6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสำเร็จ
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน
8.2 ร้จู กั การดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละสิ่งแวดลอ้ มของห้องเรียนและ
โรงเรียน
ลงชอ่ื ..................................................ผ้ปู ระเมิน
............/.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
51–60 ดีมาก
พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 41–50 ดี
30–40 พอใช้
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3
รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) รหสั วิชา ว23182 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ชือ่ หน่วย เทคโนโลยกี บั ชวี ติ เวลา 5 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง การนำเทคโนโลยไี ปสรา้ งนวัตกรรมใหม่ เวลา 1 ชั่วโมง
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ครูผสู้ อน นายกรกฎ เกษมสินธุ์
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
1.1 ตัวชี้วัด
ว 4.1 ม.3/1 วิเคราะห์สาเหตุ หรือปัจจัยท่ีสง่ ผลต่อการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสมั พนั ธข์ องเทคโนโลยีกับศาสตรอ์ ืน่ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรอื
คณิตศาสตร์ เพือ่ เปน็ แนวทางการแก้ปัญหาหรอื พฒั นางาน
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายความสำคัญของเทคโนโลยีได้ (K)
2. ยกตัวอยา่ งและอธิบายเกี่ยวกับเทคโนโลยที ก่ี ่อให้เกดิ นวตั กรรมใหม่ ๆ ได้ (P)
3. สบื ค้นข้อมลู เกย่ี วกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่พบได้ในชวี ิตประจำวนั (P)
4. เห็นประโยชนข์ องเทคโนโลยใี หมท่ พี่ บในชวี ติ ประจำวัน (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
- เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาต้งั แต่อดีต
จนถึงปจั จุบนั ซ่ึงมีสาเหตหุ รือปจั จยั มาจากหลาย
ด้าน เช่น ปัญหาหรือความต้องการของมนุษย์
ความก้าวหนา้ ของศาสตรต์ า่ ง ๆ การเปล่ียนแปลง
ทางดา้ นเศรษฐกจิ สังคม วฒั นธรรม ส่ิงแวดล้อม
- เทคโนโลยมี ีความสมั พนั ธ์กับศาสตร์อืน่ โดยเฉพาะ
วทิ ยาศาสตร์ โดยวทิ ยาศาสตร์เป็นพน้ื ฐานความรทู้ ่ี
นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี และเทคโนโลยที ไ่ี ด้
สามารถเปน็ เครื่องมือเครือ่ งใช้ในการศกึ ษา คน้ คว้า
เพ่อื ใหไ้ ดม้ าซึ่งองค์ความรใู้ หม่
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
เทคโนโลยที ่ไี ดจ้ ากการพฒั นาสามารถเป็นเคร่ืองมือท่ีใช้ในการศึกษาคน้ คว้า เพอื่ ให้ไดม้ าซึ่ง
องค์ความรใู้ หมแ่ ละนวัตกรรมใหม่อยา่ งมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ เพอ่ื ตอบสนองต่อตลาดแรงงาน โดยมงุ่
ส่งเสริมเทคโนโลยพี น้ื ฐาน 4 ด้าน ได้แก่ เทคโนโลยีชวี ภาพ นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีวสั ดศุ าสตร์
พลังงานและสิ่งแวดลอ้ ม และเทคโนโลยีสารสนเทศ การสือ่ สาร และดจิ ิทลั
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ
- ทกั ษะการส่อื สาร 2. ใฝ่เรียนรู้
2. ความสามารถในการคิด 3. มุง่ ม่ันในการทำงาน
- ทกั ษะการใหเ้ หตุผล
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทักษะการแก้ปญั หา
- ทักษะการสงั เกต
- ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
- ทกั ษะการทำงานร่วมกนั
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทกั ษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่วั โมงที่ 1
ข้ันนำ
ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครูถามคำถามสำคญั ประจำหัวขอ้ วา่ “นกั เรียนคดิ ว่า เทคโนโลยใี หมด่ ้านใด สามารถแก้ปญั หา
ในชุมชนหรือทอ้ งถิ่นของนักเรียนได้ เพราะอะไร”
(แนวตอบ : คำตอบของนักเรียนข้นึ อยู่กับดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน เช่น เทคโนโลยวี สั ดศุ าสตร์
พลังงานและสิง่ แวดล้อม เพราะช่วยใหผ้ ลติ อปุ กรณแ์ ละเครื่องมือทเี่ กี่ยวข้องกับการประกอบ
อาชีพภายในชุมชน ทำให้อุปกรณแ์ ละเคร่ืองมือที่ได้มีคุณภาพและความทนทานท่สี งู ขน้ึ
มีอายุการใชง้ านท่ียาวนานขนึ้ จึงทำให้คา่ ใช้จา่ ยในการลงทุนลดลงและเพ่ิมผลผลิตไดม้ ากขึ้น)
ข้นั สอน
ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสม เพอื่ สบื ค้นวา่ ปัจจบุ นั มีเทคโนโลยี
ใหม่ ๆ ประเภทใดบ้างท่นี ักเรียนสามารถพบในชีวติ ประจำวัน และเทคโนโลยีเหลา่ น้ันช่วยให้
เกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งไร
2. ครูสุ่มนักเรยี นออกมาตอบคำถามบริเวณหนา้ ชัน้ เรยี น พร้อมอภปิ รายร่วมกันภายในชน้ั เรียน
โดยครคู อยบันทึกคำตอบลงบนกระดานหนา้ ช้ันเรียน
ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
3. นักเรยี นศกึ ษาเนื้อหา เร่อื ง การนำเทคโนโลยไี ปสรา้ งนวัตกรรมใหมจ่ ากหนังสือเรยี นรายวิชา
พนื้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี เรอื่ ง เทคโนโลยี
กบั ชีวติ
4. ครอู ธบิ ายกับนักเรียนเพ่ือให้นักเรยี นเข้าใจมากย่งิ ข้นึ วา่ “เทคโนโลยีเกดิ จากการพฒั นาตา่ ง ๆ
จนได้เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการศึกษาค้นคว้า เพอื่ ให้ไดม้ าซึ่งองค์ความรูใ้ หมแ่ ละนวัตกรรมใหม่
อยา่ งมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อตอบสนองต่อตลาดแรงงาน โดยมงุ่ ส่งเสรมิ เทคโนโลยพี ้นื ฐาน
ทั้ง 4 ด้าน ซ่ึงเทคโนโลยีพ้นื ฐานดังกล่าวจะส่งผลใหเ้ กิดการพฒั นาเทคโนโลยีใหม่ ๆ
อีก 12 ด้าน”
ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
5. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามข้อสงสัย และครใู หค้ วามรูเ้ พ่ิมเติมในส่วนนั้น
6. ครูอธบิ ายเกรด็ เสริมความรทู้ เ่ี กีย่ วข้องกบั เนื้อหา (Design Focus) เรือ่ ง สตาร์ทอัพ และ
พลงั งานชีวมวล
7. ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมฝึกทกั ษะกระบวนการคิด และทบทวนเน้ือหาอย่างครบถ้วนตามตัวชีว้ ดั
หน้า8 และทำกจิ กรรม High Oder Thinking ท่ีสอดคล้องกับตัวช้ีวดั ตามทักษะแหง่ ศตวรรษ
ที่ 21 หน้า14-16 จากแบบฝึกหดั รายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
ม.3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง เทคโนโลยกี บั ชีวิต
8. ครสู ุ่มนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาตอบคำถามบรเิ วณหน้าชั้นเรียน
ขัน้ สรปุ
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมินผลโดยการสงั เกตการณ์ตอบคำถามและการนำเสนอผลงานของนักเรยี น
2. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้เกย่ี วกบั การนำเทคโนโลยีไปสร้างนวตั กรรมใหม่
3. นกั เรียนทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหา โดยใหผ้ ้เู รียนฝกึ ปฏบิ ัติเพ่อื พฒั นาความรู้และทักษะ
(Design Activity) จากหนงั สือเรยี นและบันทึกลงในสมดุ ประจำตัว
4 นกั เรยี นแต่ละคนทำแบบฝกึ หัด (Unit Activity) จากหนังสือเรียนเพ่ือทบทวนความรู้
ความเข้าใจ และพฒั นาทกั ษะการคดิ ของผูเ้ รียนโดยการตอบคำถามลงในสมุดประจำตัว
5. ครูใหน้ กั เรียนตรวจสอบระดับความสามารถของตนเองจากหนังสอื เรียน โดยพิจารณาขอ้ ความ
วา่ ถูกหรอื ผดิ หากนักเรียนพจิ ารณาข้อความไม่ถูกต้องใหน้ ักเรยี นกลับไปทบทวนเนื้อหา
ตามหัวข้อทก่ี ำหนดให้
6. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง เทคโนโลยีกับชวี ิต หรอื ทำ
แบบทดสอบ (Unit Test) จากแบบฝกึ หดั หนา้ 17-19 เพ่อื วัดความรูท้ ี่นกั เรียนไดร้ บั หลงั จาก
ผ่านการเรยี นรู้
7. นกั เรยี นทำชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่ือง เทคโนโลยีกับชีวติ และนำมาสง่ ในชว่ั โมงถัดไป
7. การวดั และประเมินผล วธิ วี ดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
รายการวดั
- ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
7.1 การประเมนิ ระหว่างการจดั
กิจกรรม - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
1) การนำเทคโนโลยี ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
ไปสรา้ งนวัตกรรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
2) การนำเสนอผลงาน การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
3) พฤติกรรมการทำงาน การทำงานกลมุ่ การทำงานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล - สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
4) พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ ม่ัน อันพึงประสงค์
ในการทำงาน
5) คุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
หลังเรยี น
7.2 การประเมินหลังเรียน
1) แบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจชิน้ งาน/ - แบบประเมินช้นิ งาน/ ระดับคุณภาพ 2
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1
เรอื่ ง เทคโนโลยีกับชวี ิต ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
2) การประเมนิ ชนิ้ งาน/
ภาระงาน (รวบยอด)
เร่อื ง เทคโนโลยีกบั ชีวติ
8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1
เรือ่ ง เทคโนโลยีกับชีวิต
2) แบบฝึกหดั รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1
เรอ่ื ง เทคโนโลยีกับชีวิต
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อินเทอร์เนต็
ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรอ่ื ง เทคโนโลยกี ับชีวิต
คำชแี้ จง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ใี หถ้ ูกต้อง
1. ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะหก์ ารเปล่ยี นแปลงดา้ นต่างๆ ตอ่ ไปนจี้ ากอดีตถึงปจั จบุ นั ว่ามกี ารเปลย่ี นแปลงอย่างไร
ด้าน อดีต ปจั จุบัน
ด้านเศรษฐกจิ
ด้านสงั คม
ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม
2. ในปจั จุบนั มีการนำโดรนเข้ามาช่วยในการทำกจิ กรรมหลาย ๆ ดา้ น โดยเฉพาะในดา้ นการเกษตร
ใหน้ ักเรียนอธบิ ายความสัมพันธ์ของเทคโนโลยกี ับศาสตร์อ่นื ๆ ท่นี ำมาใชใ้ นการสร้างโดรนมาพอสงั เขป
เทคโนโลยีกบั วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยกี ับคณิตศาสตร์
เทคโนโลยีกบั มนษุ ยศาสตร์ เทคโนโลยีกบั สงั คมศาสตร์
ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย
เรอื่ ง เทคโนโลยกี บั ชีวิต
คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ีให้ถกู ต้อง
1. ให้นักเรียนวิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงด้านตา่ งๆ ต่อไปน้ีจากอดตี ถึงปจั จุบันวา่ มีการเปลยี่ นแปลงอย่างไร
ด้าน อดตี ปจั จบุ ัน
ดา้ นเศรษฐกจิ - การค้าขายโดยการเปิดหน้าร้านและ - การนำเทคโนโลยีเข้ามาชว่ ยเหลือ
มีการขายของบริเวณรา้ นของตนเอง
ในการขายของ โดยขายของผ่านทาง
ออนไลน์ ไมจ่ ำเป็นตอ้ งมหี นา้ รา้ น
ดา้ นสงั คม - เปน็ สงั คมการเกษตร มอี าชีพเกย่ี วกบั - เป็นสังคมอุตสาหกรรม เนื่องจาก
การเพาะปลกู การใช้แรงงานมนุษย์ มกี ารนำเครื่องจักรตา่ ง ๆ เข้ามาทดแทน
เป็นหลัก แรงงานของมนุษย์
ด้านวัฒนธรรม - มีการแต่งกายตามขนบธรรมเนยี ม - นำการแตง่ กายของชาวต่างชาติเข้ามา
ดา้ นสิ่งแวดล้อม ประเพณไี ทย ประยกุ ต์
- มีการตดิ ต่อสื่อสารผา่ นทางจดหมาย
- สร้างบ้านโดยใชไ้ ม้ - ใชร้ ะบบอินเทอร์เน็ตในการติดตอ่ สอ่ื สาร
- สรา้ งบา้ นโดยใชอ้ ิฐ หรอื ปูน
- แม่นำ้ ลำคลองมคี วามสะอาด
สามารถนำมาอปุ โภคและบรโิ ภคได้ - แมน่ ้ำลำคลองเนา่ เสีย สง่ กล่ินเหม็น
- อากาศบรสิ ทุ ธ์ิ และไม่สามารถนำมาอุปโภคและบรโิ ภค
ได้
- มลพิษทางอากาศ
2. ในปจั จุบนั มีการนำโดรนเขา้ มาชว่ ยในการทำกจิ กรรมหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในด้านการเกษตร
ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายความสัมพนั ธข์ องเทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ น่ื ๆ ที่นำมาใชใ้ นการสร้างโดรนมาพอสงั เขป
เทคโนโลยีกับวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีกบั คณติ ศาสตร์
การประยุกต์ใช้หลักการทางวทิ ยาศาสตร์ - การคำนวณหาความเร็วในการเคล่อื นที่
เขา้ มาช่วยเหลือในการออกแบบ ของโดรน
โครงสร้าง - การคำนวณระยะเวลาเม่ือโดรนลอยตวั
และผลิตภณั ฑใ์ หส้ ามารถใช้งานไดง้ า่ ยข้นึ อย่บู นอากาศ
เทคโนโลยีกบั มนุษยศาสตร์ เทคโนโลยกี บั สังคมศาสตร์
สร้างโดรนข้ึนเพือ่ ทดแทนแรงงานของ การสำรวจพืน้ ที่และการวิเคราะห์ขอ้ มลู
มนษุ ย์ เม่ือต้องทำงานที่เสี่ยงอนั ตราย ในการหาแนวคดิ ทฤษฎี หรอื กฎเกณฑ์
หรือใชใ้ นกรณีท่ีมนุษย์ไมส่ ามารถเขา้ ถึง ในการสร้างโดรน
ได้บรเิ วณนัน้ ได้
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ ง
ทตี่ รงกับระดบั คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ นื่
3 การทำงานตามหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย
4 ความมนี ำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............/.................../................
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ตี รงกบั ระดับคะแนน
การมี
ชื่อ–สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี สว่ นรว่ มใน รวม
ของนกั เรยี น ความ ฟังคนอ่นื ตามที่ไดร้ บั นำ้ ใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ลำดบั ที่ ปรบั ปรุง
ผลงานกลุ่ม
32132 32132 321
11
เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............./.................../...............
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรงุ
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
32
1 ความถูกต้องของเนื้อหา
2 ความคิดสร้างสรรค์
3 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน
4 การนำไปใชป้ ระโยชน์
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื ................................................... ผปู้ ระเมนิ
............/................./...................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คำช้ีแจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ีตรงกับระดับคะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 32 1
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้
กษตั รยิ ์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่
โรงเรยี น
1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามทีโ่ รงเรยี นจัดขึน้
2. ซ่อื สัตย์ สจุ ริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งทีถ่ ูกตอ้ ง
3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว
มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รูจ้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้
4.2 รจู้ กั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เช่ือฟงั คำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ตั้งใจเรียน
5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสงิ่ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด
5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและร้คู ุณคา่
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน
6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย
6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสำเร็จ
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน
8.2 ร้จู กั การดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละสิ่งแวดลอ้ มของห้องเรียนและ
โรงเรียน
ลงชอ่ื ..................................................ผ้ปู ระเมิน
............/.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
51–60 ดีมาก
พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 41–50 ดี
30–40 พอใช้
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง
แบบประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ว.4.1 ม.3/1 วิเคราะหส์ าเหตุ หรอื ปัจจัยที่ส่งผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืน โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์
เพื่อเปน็ แนวทางการแก้ปญั หาหรือพัฒนางาน
รายการ เกณฑ์การประเมิน (ระดับคุณภาพ) ระดับ
คุณภาพ
ประเมิน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ดมี าก
1. การเปลยี่ นแปลง อธบิ ายการเปล่ยี นแปลง อธิบายการเปลี่ยนแปลง อธิบายการเปลย่ี นแปลง ไม่สามารถอธบิ าย
ดี
ของเทคโนโลยีใน ของเทคโนโลยีในดา้ น ของเทคโนโลยีในดา้ น ของเทคโนโลยีในดา้ น การเปลยี่ นแปลงของ
พอใช้
ดา้ นต่าง ๆ ตา่ ง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ งดมี าก ตา่ ง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ งดี ต่าง ๆ ได้ถกู ต้องพอใช้ เทคโนโลยใี นดา้ นตา่ ง ๆ
ปรบั ปรงุ
ได้
2. ความสัมพนั ธข์ อง บอกความสมั พันธข์ อง บอกความสัมพันธ์ของ บอกความสัมพนั ธ์ของ ไม่สามารถบอก
เทคโนโลยีกบั ศาสตร์อืน่ เทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ ่นื เทคโนโลยกี บั ศาสตรอ์ ่นื เทคโนโลยีกับศาสตร์อนื่ ความสัมพนั ธข์ อง
ได้ถูกต้องดมี าก ได้ถกู ต้องดี ไดถ้ กู ต้องพอใช้ เทคโนโลยีกับศาสตรอ์ น่ื
ได้
3. ความสมบรู ณ์ของ ผลงานของนักเรียน ผลงานของนกั เรียน ผลงานของนกั เรยี น ผลงานของนกั เรียน
ผลงาน มคี วามครบถว้ น มีความครบถว้ น มีความครบถ้วน มีความครบถ้วน
สมบูรณด์ มี าก สมบรู ณค์ อ่ นข้างดี สมบรู ณด์ เี ป็นบางส่วน สมบูรณน์ อ้ ย
4. สง่ งานตรงเวลา ส่งภาระงานภายในเวลา ส่งภาระงานชา้ กวา่ ส่งภาระงานชา้ กว่า ส่งภาระงานชา้ กวา่
ทีก่ ำหนด กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วนั กำหนดเกิน 3 วันข้ึนไป
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
14-16 ดมี าก
10-13 ดี
7-9 พอใช้
1-6 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 4
รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) รหสั วชิ า ว23182 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ชอ่ื หน่วย เทคโนโลยีกับการพฒั นางานอาชีพภายในชมุ ชนหรือท้องถ่นิ เวลา 4 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ ง ปัญหาหรือความต้องการภายในชุมชนหรือท้องถิน่ เวลา 2 ช่ัวโมง
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ครูผสู้ อน นายกรกฎ เกษมสินธุ์
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
1.1 ตัวช้ีวดั
ว 4.1 ม.3/2 ระบุปญั หาหรือความต้องการของชมุ ชนหรือท้องถิ่น เพ่ือพัฒนางานอาชพี
สรุปกรอบของปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมลู และแนวคดิ ทเี่ กยี่ วข้องกับปัญหา
โดยคำนงึ ถึงความถูกตอ้ งดา้ นทรพั ย์สนิ ทางปัญญา
2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกปัญหาหรือความต้องการภายในชมุ ชนหรือทอ้ งถิ่นได้ (K)
2. อธบิ ายวธิ กี ารสำรวจปัญหาภายในชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ ได้ (K)
3. สืบค้นขอ้ มลู เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาภายในชุมชนหรอื ทอ้ งถนิ่ ได้ (P)
4. ใชเ้ ทคโนโลยีแกไ้ ขปัญหาต่าง ๆ ภายในชุมชนหรอื ทอ้ งถ่ินได้ (P)
5. เห็นความสำคญั ของการแก้ปญั หาภายในชมุ ชนหรือท้องถน่ิ (A)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
- ปัญหาหรอื ความต้องการอาจพบได้ในงานอาชพี พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
ของชุมชนหรือทอ้ งถิน่ ซ่ึงอาจมีหลายด้าน เช่น
ดา้ นการเกษตร อาหาร พลงั งาน การขนส่ง
- การวเิ คราะหส์ ถานการณป์ ัญหาชว่ ยให้เข้าใจเงื่อนไข
และกรอบของปัญหาได้ชดั เจน จากนัน้ ดำเนนิ การ
สืบค้น รวบรวมขอ้ มลู ความรู้จากศาสตรต์ ่าง ๆ
ท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือนำไปสกู่ ารออกแบบแนวทาง
การแก้ปัญหา
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การสำรวจชมุ ชน หมายถึง การสำรวจและศกึ ษาข้อเท็จจรงิ เกี่ยวกับลักษณะและสภาพของสังคม
เศรษฐกจิ วัฒนธรรม ความต้องการ และปัญหาในชุมชน เพื่อใหท้ ราบลกั ษณะและขอบเขตของปญั หาต่างๆ
ที่มีอยู่ในชุมชน และเป็นพื้นฐานในการศึกษาหาสาเหตุของแต่ละปัญหา และหาแนวทางในการปรับปรุง
แก้ไข ซึ่งปัญหาหรอื ความตอ้ งการภายในชุมชนหรอื ท้องถิ่นน้ัน สามารถแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้ คือ
ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปญั หาดา้ นสงั คม ปญั หาดา้ นวฒั นธรรม และปญั หาด้านส่ิงแวดลอ้ ม
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินยั รบั ผิดชอบ
- ทักษะการสือ่ สาร 2. ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการคิด 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน
- ทักษะการใหเ้ หตผุ ล
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทักษะการแกป้ ญั หา
- ทกั ษะการสงั เกต
- ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
- ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
วิธีการสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)
ชั่วโมงที่ 1
ข้ันนำ
1. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรื่อง เทคโนโลยกี ับการพฒั นา
งานอาชพี ภายในชมุ ชนหรือท้องถิน่
2. ครูถามคำถามสำคัญประจำหัวขอ้ เพื่อกระตุน้ ความสนใจของนกั เรียนว่า“ในชมุ ชนทนี่ ักเรียน
อาศัยอยมู่ ีปัญหาหรือความต้องการในดา้ นใดเกิดข้นึ บ้าง เพราะอะไร”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนขนึ้ อยกู่ ับดุลยพินจิ ของครูผู้สอน เช่น ปญั หาการเกดิ ภยั แล้ง
ภายในชุมชน เพราะไดร้ ับผลกระทบจากปญั หาสงิ่ แวดล้อมท่ีส่งผลกับฤดูกาล จนทำให้
การเกษตรไดร้ บั ความเสยี หายและผลผลติ เจริญเติบโตไมด่ เี ทา่ ทีค่ วร)
3. ครูอธบิ ายกบั นักเรยี นเพ่ือเช่อื มโยงเขา้ สู่บทเรยี นว่า“ปญั หาหรือความต้องการภายในชุมชน
หรือท้องถ่ินอาจจะส่งผลต่อการประกอบอาชีพต่าง ๆ ท่ีมอี ยู่ภายในชมุ ชนหรือทอ้ งถิน่ ดังน้นั
การทจ่ี ะทราบถงึ ปญั หาหรอื ความตอ้ งการตา่ ง ๆ จะตอ้ งอาศยั วิธีการสำรวจ เพือ่ เก็บขอ้ มูล
ข้นั สอน ปัญหาจากผู้ท่เี ก่ียวขอ้ งมาวิเคราะหห์ าแนวทางการแก้ปัญหา”
ข้นั ที่ 1 กำหนดปญั หา
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสม
2. ครถู ามคำถามกระตนุ้ ความคิดของนักเรียนว่า“การสำรวจชมุ ชนหรอื ท้องถ่ินส่งผลอย่างไร
ต่อการแก้ปัญหาหรือความตอ้ งการภายในชมุ ชนหรือท้องถ่ิน”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนขน้ึ อยกู่ ับดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน)
3. ครูอธบิ ายกับนักเรยี นเกี่ยวกบั การสำรวจชมุ ชนหรือท้องถ่ินว่า“การสำรวจชมุ ชนหรือท้องถน่ิ
เป็นการศึกษาเกีย่ วกบั ข้อเทจ็ จรงิ และสภาพของสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความต้องการ
และปญั หาภายในชุมชนทำให้ทราบถึงสาเหตุของปัญหา และหาแนวทางในการปรับปรงุ แก้ไข
ดว้ ยความรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ยา่ งมรี ะบบ”
ขั้นท่ี 2 ทำความเข้าใจปัญหา
4. นกั เรยี นศึกษาเน้ือหาเกยี่ วกับวิธกี ารสำรวจปัญหาในชุมชนหรอื ท้องถนิ่ จากหนังสือเรียน
รายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2
เรอ่ื ง เทคโนโลยกี บั การพัฒนางานอาชีพภายในชมุ ชนหรือท้องถิน่
5. นักเรียนทำใบงานท่ี 2.1.1 เร่อื ง วธิ ีการสำรวจปัญหาในชุมชนหรือทอ้ งถ่นิ
6. ครสู มุ่ นักเรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอบริเวณหนา้ ช้ันเรียน พร้อมอภปิ รายร่วมกนั ภายใน
ชนั้ เรียน
ข้ันที่ 3 ดำเนินการศกึ ษาคน้ คว้า
7. ครมู อบหมายให้นกั เรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการคดิ และทบทวนเนอ้ื หาอย่าง
ครบถ้วนตามตวั ชวี้ ัดจากแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและ
เทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่อื ง เทคโนโลยกี บั การพัฒนางานอาชีพภายใน
ชมุ ชนหรือท้องถิ่น เปน็ การบ้านและนำมาส่งในชั่วโมงถดั ไป
ชวั่ โมงที่ 2
ขนั้ สอน
ขั้นท่ี 3 ดำเนินการศึกษาค้นคว้า
8. ครทู บทวนเน้ือหาการเรียนจากช่ัวโมงทแ่ี ล้วพอสงั เขป
9. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันบอกปญั หาในชมุ ชนหรอื ท้องถน่ิ ของตนเอง จากการทำกจิ กรรม
ฝึกทกั ษะในแบบฝกึ หดั โดยครคู อยบันทึกคำตอบลงบนกระดานหนา้ ชั้นเรยี น
10. ครูอธิบายกบั นักเรยี นวา่ “ปญั หาหรอื ความต้องการทีเ่ กิดขนึ้ ภายในชุมชนหรอื ทอ้ งถิน่ สามารถ
แบง่ เป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังน้ี
1) ปญั หาดา้ นเศรษฐกจิ
2) ปัญหาดา้ นสังคม
3) ปญั หาด้านวัฒนธรรม
4) ปญั หาดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม”
11. นกั เรียนศึกษาตวั อยา่ งเทคโนโลยีทชี่ ว่ ยแก้ปญั หาในดา้ นตา่ ง ๆ ภายในชุมชนหรอื ท้องถิ่นจาก
หนังสือเรียน
12. ครอู ธิบายเกร็ดเสริมความร้ทู ่ีเกยี่ วข้องกบั เน้ือหา (Design Focus) เร่อื ง ปัญหามลพิษ
ส่งิ แวดล้อมโลก
ขน้ั ท่ี 4 สังเคราะหค์ วามรู้
13. นกั เรียนและครูร่วมกันวิเคราะหค์ ำตอบบนกระดานหนา้ ช้ันเรียนวา่ จดั เป็นปัญหาตามประเภท
ใด โดยใช้ปากกาสตี ่าง ๆ วงกลมล้อมรอบคำตอบ ดังนี้
1) ปญั หาดา้ นเศรษฐกิจ ใช้ปากกาสแี ดง
2) ปัญหาด้านสงั คม ใช้ปากกาสีฟา้
3) ปญั หาด้านวัฒนธรรม ใชป้ ากกาสเี หลอื ง
4) ปัญหาด้านสง่ิ แวดล้อม ใชป้ ากกาสเี ขียว
14. จากนั้นนักเรยี นและครูรว่ มกันสรุปว่าปัญหาในชมุ ชนหรือท้องถ่นิ ท่อี ยู่บนกระดานหน้าช้นั เรยี น
เก่ยี วข้องกบั ประเภทใดมากท่ีสุด และใหน้ ักเรียนหยิบยกปัญหาในประเภทน้ีข้นึ มากลุ่มละ
1 ปญั หา
15. ใหน้ กั เรียนสืบคน้ ข้อมูลและเทคโนโลยใี หม่ ๆ เพ่อื หาแนวทางการแกป้ ญั หาในชมุ ชนหรือ
ทอ้ งถนิ่ จากอนิ เทอรเ์ น็ต
ขั้นที่ 5 สรุปและประเมนิ ค่าของคำตอบ
16. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันรวบรวมขอ้ มูลแนวทางการแก้ไขปญั หาตามที่ได้สบื คน้ จาก
อนิ เทอร์เน็ต
17. ครูทบทวนคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรยี นว่า “การสำรวจชมุ ชนหรือท้องถ่นิ ส่งผลอย่างไร
ตอ่ การแกป้ ญั หาหรือความต้องการภายในชมุ ชนหรอื ท้องถิ่น”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนข้ึนอยกู่ ับดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน เชน่ การสำรวจชมุ ชนหรอื
ท้องถิน่ ทำให้ทราบข้อเทจ็ จริงและปญั หาท่ีมภี ายในชุมชนหรือท้องถน่ิ อย่างแนช่ ดั รวมถึง
ทราบลักษณะและสภาพของสงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม และความต้องการภายในชุมชนหรือ
ทอ้ งถ่ิน)
ข้นั ที่ 6 นำเสนอและประเมินผลงาน
18. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอข้อมลู บรเิ วณหน้าช้ันเรยี น โดยครผู ู้สอน
ประเมินผลงานการนำเสนอของนกั เรียนแต่ละกลุ่ม
ขั้นสรุป
1. เปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามข้อสงสัย โดยครใู หค้ วามรเู้ พมิ่ เตมิ ตามความเหมาะสม
2. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม และการนำเสนอผลงานของนกั เรียน
3. นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกับการสำรวจปญั หาหรอื ความตอ้ งการภายในชุมชนหรือ
ทอ้ งถิ่น วธิ ีการสำรวจปญั หาหรอื ความต้องการของชมุ ชนหรือท้องถิ่น และประเภทของปัญหา
ภายในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถน่ิ
7. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีวดั เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ
รายการวดั ประเมินตามสภาพจรงิ
- ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น
7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น ก่อนเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบทดสอบก่อนเรยี น - ใบงานท่ี 2.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 - ตรวจใบงานที่ 2.1.1
เรื่อง เทคโนโลยีกบั การ - แบบฝึกหัด ระดับคุณภาพ 2
พัฒนางานอาชีพภายใน - ตรวจแบบฝกึ หดั ผ่านเกณฑ์
ชมุ ชนหรือท้องถิน่ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
- ประเมนิ การนำเสนอ การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการ ผลงาน - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
จัดกิจกรรม - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
1) วิธกี ารสำรวจปัญหา การทำงานรายบุค8] - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
ในชมุ ชนหรือท้องถ่นิ - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุม่ ผ่านเกณฑ์
2) ปญั หาหรอื การทำงานกลุ่ม - แบบประเมิน
ความต้องการภายใน - สงั เกตความมวี ินัย คุณลกั ษณะ
ชุมชนหรือท้องถน่ิ ความรบั ผิดชอบ อนั พงึ ประสงค์
3) การนำเสนอผลงาน ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั
ในการทำงาน
4) พฤติกรรมการทำงาน
รายบคุ คล
5) พฤติกรรมการทำงาน
กล่มุ
6) คุณลกั ษณะ
อันพึงประสงค์
8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2
เรื่อง เทคโนโลยีกับการพฒั นางานอาชีพภายในชมุ ชนหรือท้องถน่ิ
2) แบบฝกึ หัดรายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2
เรอ่ื ง เทคโนโลยีกบั การพฒั นางานอาชพี ภายในชุมชนหรือท้องถน่ิ
3) ใบงานที่ 2.1.1 เร่อื ง วธิ กี ารสำรวจปญั หาในชมุ ชนหรือท้องถิ่น
ใบงานท่ี 2.1.1
เรอื่ ง วิธกี ารสำรวจปัญหาในชมุ ชนหรือท้องถิ่น
คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนเปรียบเทยี บขอ้ ดี-ขอ้ เสียของวิธกี ารสำรวจปัญหาในชุมชนหรอื ท้องถน่ิ
วิธกี ารสำรวจ ข้อดี ข้อเสีย
วิธกี ารสำรวจ
จากเอกสาร ตำรา และฐานขอ้ มูล
วธิ ีการสำรวจ
จากการสงั เกต
วิธกี ารสำรวจ
จากการสมั ภาษณ์
วิธีการสำรวจ
จากแบบสอบถาม
ใบงานท่ี 2.1.1 เฉลย
เรอื่ ง วธิ กี ารสำรวจปญั หาในชมุ ชนหรือท้องถน่ิ
คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของวธิ ีการสำรวจปญั หาในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถิ่น
วธิ ีการสำรวจ ข้อดี ขอ้ เสยี
วธิ ีการสำรวจ - ข้อมูลท่ีได้มาจากเอกสาร - ขอ้ มูลในเอกสารอาจไม่
จากเอกสาร ตำรา และฐานข้อมูล หลักฐานโดยตรง สมบรู ณ์
- การตรวจสอบความเท่ียงตรง
วธิ กี ารสำรวจ - สามารถศึกษาข้อมลู หรือ
จากการสงั เกต เหตกุ ารณท์ ี่ผา่ นมาแล้วใน ของข้อมลู เป็นไปไดย้ าก
เนอื่ งจากเป็นข้อมูลหรือ
วธิ กี ารสำรวจ อดตี เหตุการณ์ท่ผี ่านมาแลว้ ใน
จากการสมั ภาษณ์ ได้ อดีต
- ไมเ่ หมาะสมแกก่ ารสงั เกตท่ีใช้
- ขอ้ มูลที่ได้มีความนา่ เช่ือถือ เวลานาน
- ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการสังเกตแบบ - ขอ้ มลู ท่ีได้อาจไม่ตรงกับความ
เป็นจรงิ
ไม่มีการเตรียมตัว
เปรียบเสมือน - ใชร้ ะยะเวลาเก็บข้อมูลนาน
- ผสู้ ัมภาษณอ์ าจจะคล้อยตาม
การทำแบบสอบถามและ
การสัมภาษณ์ ความคิดเห็นของผู้ถูก
- ข้อมลู ที่ได้เป็นข้อมูลท่ีมี สมั ภาษณ์
คณุ ภาพ
- เก็บข้อมูลจากสถานการณจ์ ริง
- สามารถสัมภาษณ์ข้อมูล
แบบเจาะลึกได้
วธิ ีการสำรวจ - ได้ข้อมลู ที่ต้องการเกบ็ - ผลการทำแบบสอบถามอาจ
จากแบบสอบถาม รวบรวม ไมต่ รงตามความต้องการ
เป็นจำนวนมาก - ความเชื่อถือน้อย
- ผู้ใหข้ อ้ มลู มีอิสระในการตอบ - คณุ ภาพของขอ้ มลู ค่อนข้าง
ตำ่
คำถาม
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ ง
ทตี่ รงกับระดบั คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ นื่
3 การทำงานตามหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย
4 ความมนี ำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............/.................../................
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ตี รงกบั ระดับคะแนน
การมี
ชื่อ–สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี สว่ นรว่ มใน รวม
ของนกั เรยี น ความ ฟังคนอ่นื ตามที่ไดร้ บั นำ้ ใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ลำดบั ที่ ปรบั ปรุง
ผลงานกลุ่ม
32132 32132 321
11
เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............./.................../...............
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรงุ
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
32
1 ความถูกต้องของเนื้อหา
2 ความคิดสร้างสรรค์
3 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน
4 การนำไปใชป้ ระโยชน์
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื ................................................... ผปู้ ระเมนิ
............/................./...................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คำช้ีแจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ีตรงกับระดับคะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 32 1
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้
กษตั รยิ ์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่
โรงเรยี น
1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามทีโ่ รงเรยี นจัดขึน้
2. ซ่อื สัตย์ สจุ ริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งทีถ่ ูกตอ้ ง
3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว
มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รูจ้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้
4.2 รจู้ กั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เช่ือฟงั คำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ตั้งใจเรียน
5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสงิ่ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด
5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและร้คู ุณคา่
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน
6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย
6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสำเร็จ
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน
8.2 ร้จู กั การดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละสิ่งแวดลอ้ มของห้องเรียนและ
โรงเรียน
ลงชอ่ื ..................................................ผ้ปู ระเมิน
............/.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
51–60 ดีมาก
พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 41–50 ดี
30–40 พอใช้
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 5
รายวชิ า เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) รหสั วชิ า ว23182 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ชื่อหนว่ ย เทคโนโลยีกบั การพฒั นางานอาชีพภายในชุมชนหรือท้องถ่ิน เวลา 4 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 เรอื่ ง การใช้เทคโนโลยีในการแกป้ ญั หา เวลา 2 ช่ัวโมง
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ครูผสู้ อน นายกรกฎ เกษมสินธ์ุ
1. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
1.1 ตวั ชี้วดั
ว 4.1 ม.3/2 ระบุปญั หาหรือความต้องการของชุมชนหรอื ท้องถิ่น เพ่ือพัฒนางานอาชีพ
สรปุ กรอบของปญั หา รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู และแนวคิดทเ่ี กี่ยวข้องกับปัญหา
โดยคำนึงถงึ ความถูกตอ้ งดา้ นทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา
ว 4.1 ม.3/3 ออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา โดยวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ และตัดสนิ ใจเลือกข้อมลู
ท่จี ำเป็นภายใตเ้ ง่ือนไขและทรพั ยากรท่ีมีอยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปญั หาให้ผู้อน่ื
เข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธกี ารที่หลากหลาย วางแผนข้ันตอนการทำงานและดำเนินการ
แก้ปัญหาอย่างเป็นขน้ั ตอน
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความแตกต่างของเทคโนโลยใี นระดบั ต่าง ๆ ได้ (K)
2. อธบิ ายปจั จยั ทีจ่ ำเป็นตอ้ งใช้ในการตัดสินใจเลอื กเทคโนโลยไี ด้ (K)
3. สบื ค้นข้อมูลเกย่ี วกับปัญหาและหาวธิ กี ารแกไ้ ขได้ (P)
4. เห็นประโยชน์ในการใชเ้ ทคโนโลยีมาแก้ปญั หาได้ (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถิน่
- ปัญหาหรอื ความต้องการอาจพบได้ในงานอาชีพ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
ของชมุ ชนหรอื ท้องถน่ิ ซ่งึ อาจมีหลายดา้ น เชน่
ด้านการเกษตร อาหาร พลังงาน การขนสง่
- การวิเคราะหส์ ถานการณป์ ัญหาชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจเงื่อนไข
และกรอบของปญั หาได้ชัดเจน จากน้ันดำเนนิ การ
สืบคน้ รวบรวมข้อมูล ความรู้จากศาสตร์ตา่ ง ๆ
ท่เี กยี่ วข้อง เพ่ือนำไปสูก่ ารออกแบบแนวทาง
การแก้ปัญหา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น
- การวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ และตดั สินใจเลือกข้อมลู
ที่จำเปน็ โดยคำนงึ ถึงทรัพยส์ ินทางปัญญา เงื่อนไข
และทรัพยากร เช่น งบประมาณ เวลา ข้อมูลและ
สารสนเทศ วสั ดุ เครื่องมือและอปุ กรณช์ ่วยให้ได้
แนวทางการแกป้ ญั หาทเ่ี หมาะสม
- การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาทำไดห้ ลากหลาย
วิธี เชน่ การร่างภาพ การเขียนแผนภาพ การเขยี น
ผังงาน
- เทคนคิ หรือวิธีการในการนำเสนอแนวทางการ
แกป้ ญั หามีหลากหลาย เชน่ การใชแ้ ผนภูมิ ตาราง
ภาพเคล่อื นไหว
- การกำหนดขน้ั ตอนและระยะเวลาในการทำงาน
สำเรจ็ ไดต้ ามเปา้ หมาย และลดข้อผิดพลาดของการ
ทำงานท่ีอาจเกดิ ขน้ึ
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
เทคโนโลยี เปน็ สิ่งท่มี นษุ ย์สร้างสรรค์ข้นึ มาใชเ้ พื่อการแก้ปัญหาพน้ื ฐานทีเ่ กิดข้ึนในการดำรงชีวติ
ตง้ั แต่สมยั โบราณ โดยมีการแบง่ ระดบั ของเทคโนโลยีท่ีใช้ในการแก้ปัญหาออกเป็น 3 ระดับ คือ 1) เทคโนโลยี
ระดับพ้ืนบา้ นหรือพื้นฐาน 2) เทคโนโลยีระดับกลาง และ 3) เทคโนโลยรี ะดับสงู โดยปัจจยั ท่ีใชใ้ นการตดั สนิ ใจ
เลือกเทคโนโลยี ได้แก่ 1) ทรพั ยากรทางเทคโนโลยี 2) ผลกระทบต่อมนุษย์ สงั คม เศรษฐกิจ และสง่ิ แวดล้อม
ในชุมชนหรือทอ้ งถิ่น 3) ความถกู ต้องด้านทรพั ย์สินทางปัญญา
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี ินัย รับผดิ ชอบ
- ทกั ษะการสอ่ื สาร 2. ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการคดิ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
- ทักษะการให้เหตุผล
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทักษะการแก้ปัญหา
- ทักษะการสังเกต
- ทักษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
- ทักษะการทำงานรว่ มกนั
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วธิ ีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั นำ
1. ครูถามคำถามสำคัญประจำหัวข้อเพ่ือกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี นวา่ “เราสามารถใช้
เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหา เพือ่ พัฒนางานอาชพี ภายในชมุ ชนหรือทอ้ งถ่ินได้อย่างไร”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนขึ้นอยกู่ ับดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน เชน่ การใชเ้ ทคโนโลยี
ที่เปน็ เคร่ืองทนุ่ แรงในการทำงานทางการเกษตร เพื่อชว่ ยลดความยากลำบากในการทำงาน
การใชเ้ ทคโนโลยีในการแปรรูปผลผลติ การถนอมอาหาร เพอื่ ยืดอายุการเก็บรักษาให้นานขึน้
ชะลอการเนา่ เสยี สำหรับการส่งออกสนิ ค้าไปต่างประเทศ)
2. ครอู ธบิ ายกับนักเรยี นเพอื่ เช่อื มโยงเขา้ สู่บทเรยี นวา่ “เทคโนโลยีในปจั จุบนั ถูกพัฒนาให้
มีประสทิ ธภิ าพมากขน้ึ จากหลายสาเหตุ เชน่ วทิ ยาการและองค์ความร้ตู า่ ง ๆ เมื่ออตั รา
ของประชากรเพม่ิ ข้ึน ปริมาณของทรพั ยากรธรรมชาติทม่ี จี ำนวนลดลง เทคโนโลยที มี่ อี ยู่
ในปจั จุบันจึงถกู คดิ คน้ ข้นึ มาโดยเนน้ ให้เกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สุด โดยเฉพาะในเร่อื งการใช้
พลงั งาน การกำจดั ขยะ การรักษาโรค และการอนรุ ักษ์สงิ่ แวดล้อม”
ขนั้ สอน
ขั้นท่ี 1 กำหนดปัญหา
1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม
2. ครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียนว่า“นักเรียนคดิ วา่ เทคโนโลยีมีผลกระทบ
ตอ่ ชวี ิตประจำวนั อยา่ งไรบา้ ง”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนข้ึนอยูก่ ับดลุ ยพนิ ิจของครูผูส้ อน)
ข้ันที่ 2 ทำความเขา้ ใจปญั หา
3. นักเรยี นศกึ ษาเน้ือหาเก่ยี วกบั ระดบั ของเทคโนโลยที ่ีใชใ้ นการแกป้ ญั หาจากหนงั สือเรียน
พ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง
เทคโนโลยีกับการพัฒนางานอาชีพภายในชุมชนหรอื ทอ้ งถิ่น โดยแบง่ ระดับของเทคโนโลยี
ออกเป็น 3 ระดบั ดังนี้
1) เทคโนโลยีระดับพื้นบ้านหรือพน้ื ฐาน
2) เทคโนโลยีระดับกลาง
3) เทคโนโลยีระดบั สูง
ขน้ั ที่ 3 ดำเนินการศกึ ษาคน้ คว้า
4. นักเรียนศกึ ษาตัวอยา่ งเทคโนโลยแี ต่ละระดบั จากหนงั สือเรียนหรอื สบื คน้ เพ่ิมเตมิ
จากอนิ เทอร์เน็ต
5. ครูมอบหมายให้นกั เรยี นทำกิจกรรม High Oder Thinking ทส่ี อดคลอ้ งกบั ตวั ชว้ี ัดตามทักษะ
แห่งศตวรรษที่ 21 จากแบบฝึกหดั รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและ
เทคโนโลย)ี ม.3 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เร่อื ง เทคโนโลยกี บั การพฒั นางานอาชพี ภายใน
ชุมชนหรือท้องถนิ่
6. ครูส่มุ นักเรยี น 2-3 คน ออกมาตอบคำถามบริเวณหน้าชั้นเรยี น
ชวั่ โมงท่ี 2
ข้นั สอน
ขั้นที่ 3 ดำเนนิ การศึกษาคน้ คว้า
7. ครูทบทวนการเรียนจากชั่วโมงท่ีแล้วพอสงั เขป
8. นกั เรยี นศึกษาเกย่ี วกบั ปจั จัยที่ใชใ้ นการตัดสนิ ใจเลือกเทคโนโลยีจากหนงั สอื เรยี นตามหวั ข้อ
ดงั น้ี
1) ทรพั ยากรทางเทคโนโลยี
2) ผลกระทบต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดลอ้ มในชุมชนหรอื ทอ้ งถ่นิ
3) ความถกู ต้องด้านทรัพย์สนิ ทางปัญญา
9. นักเรียนศึกษาตัวอย่างการประเมินผลกระทบต่อมนุษย์ สงั คม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดลอ้ ม
ในชมุ ชนก่อนการเลือกใชเ้ ทคโนโลยีในการแก้ปญั หา ตัวอย่างการทำรายงานการแก้ปัญหา
ชุมชนทเี่ กดิ จากการเผาตอซงั และฟางข้าวในนาขา้ ว และสแกน QR Code เร่ือง ข้นั ตอน
การจดทะเบียนสทิ ธิบัตร อนุสิทธบิ ตั ร จากหนังสือเรียน
10. ครอู ธิบายเกรด็ ความรทู้ ี่เกีย่ วขอ้ งกับเนือ้ หา (Design Focus) เร่อื ง การเขียนอา้ งองิ แบบ APA
ขั้นที่ 4 สังเคราะหค์ วามรู้
11. เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามข้อสงสัย โดยครใู หค้ วามรเู้ พิ่มเติมตามความเหมาะสม
12. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5-7 คน หรอื ตามความเหมาะสม