หลักสูตรระดบั ช้ันเรียน
โรงเรียนองค์การบรหิ ารส่วนจังหวัดเชยี งราย
พุทธศักราช ๒๕6๓
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน
พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
รายวชิ า ว๓๓๒๘๑ (เทคโนโลยี ๕)
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖
ช่ือครูผ้สู อน
นางอมรรัตน์ ปญั ญาช่วย
สานักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
องคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดเชียงราย
กรมส่งเสรมิ การปกครองท้องถิน่
กระทรวงมหาดไทย
บนั ทึกขอ้ ความ
สว่ นราชการ งานวิชาการ โรงเรียนองค์การบรหิ ารส่วนจังหวัดเชยี งราย
ที่ ชร. ๕๐๐๑.๑/ วันที่ ………./………............…../ ๒๕๖๓
เรอื่ ง ขออนญุ าตใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้
เรียน ผู้อานวยการโรงเรยี นองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัดเชยี งราย
ด้วยข้าพเจ้า นางอมรรัตน์ ปัญญาช่วย ตาแหน่ง ครู ค.ศ.๒ เอกคอมพิวเตอร์ ได้รับมอบหมายให้จัดการเรียนรู้วิชา
โครงงานคอมพิวเตอร์ รหัส ง๓๓๒๒๑ ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ระหว่างวันที่ ๑๓
พฤษภาคม ๒๕๖๓ ถงึ วนั ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ น้นั
ในการน้ี จึงขออนุญาตดาเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ ซ่ึงข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอนโดยการวิเคราะห์
หลักสตู ร โครงสร้างรายวชิ า กาหนดการสอนในส่วนทรี่ บั ผิดชอบดังเอกสารที่แนบมาทา้ ยน้ี
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดพิจารณา
(นางอมรรตั น์ ปัญญาชว่ ย)
ครู ค.ศ.๒ เอกคอมพิวเตอร์
ได้ตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรแู้ ลว้ ปรากฏวา่
ครบและครอบคลุมสอดคลอ้ งตามหัวข้อเนื้อหาตัวชีว้ ดั และจดุ ประสงค์ท่ตี ั้งไว้
ไมค่ รบ ขาด ควรปรับปรงุ เพม่ิ เติม ดังน้ี
..........................................................................................
..........................................................................................
(นายวีระยุทธ คีลาวงค)์
รองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ
ไดต้ รวจสอบแผนการจัดการเรยี นรแู้ ลว้ ปรากฏวา่
ครบและครอบคลุมสอดคล้องตามหัวข้อเน้ือหาตัวชี้วดั และจุดประสงค์ทตี่ ัง้ ไว้
ไมค่ รบ ขาด ควรปรับปรงุ เพ่ิมเติม ดงั น้ี
..........................................................................................
..........................................................................................
(นายศราวุธ สุตะวงค)์
ผ้อู านวยการโรงเรยี นองค์การบริหารส่วนจงั หวัดเชียงราย
คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ว33281 เทคโนโลยี 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต
ศึกษาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนอและแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และวิเคราะห์การเปล่ียนแปลง
เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีมีผลต่อการดาเนินชีวิต อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม ศึกษาการสร้างสิ่งของเครื่องใช้ หรือวิธีการตามกระบวนการ
เทคโนโลยแี ละความรทู้ ่เี กีย่ วข้อง การเลือกใช้สงิ่ ของท่ีเป็นมติ รกับชวี ิต สงั คมและสิ่งแวดล้อม ผลกระทบด้านสงั คมและสงิ่ แวดล้อมทเ่ี กดิ จากงาน
ทสี่ รา้ งขน้ึ เพื่อหาแนวทางปรับปรงุ พัฒนา
โดยใช้กระบวนการคิด ความรู้ ความสามารถพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ตามขั้นตอนและใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างชิ้นงานหรือ
โครงงาน และใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศช่วยนาเสนอผลงาน
ทาให้ผู้เรียนทางานอยา่ งเป็นระบบ เลอื กใชส้ ิ่งของเครื่องใชอ้ ยา่ งสร้างสรรคแ์ ละเหมาะสมกับงาน
ผลการเรียนรู้
1. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการนาเสนอและแบง่ ปนั ข้อมูลอยา่ งปลอดภยั มีจริยธรรม และวิเคราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยี
สารสนเทศท่ีมผี ลต่อการดาเนินชวี ิต อาชีพ สงั คม และวัฒนธรรม
2. สรา้ งและพฒั นาส่ิงของเครอื่ งใชห้ รือวธิ ีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยอี ย่างปลอดภยั โดยถา่ ยทอดความคิดเปน็ ภาพฉายและ
แบบจาลองเพอื่ นาไปสกู่ ารสร้างชน้ิ งาน หรือถ่ายทอดความคดิ ของวธิ ีการเปน็ แบบจาลองความคิดและการรายงานผลโดยใช้ซอฟทแ์ วร์
ชว่ ยในการออกแบบหรือนาเสนอผลงาน
3. แกป้ ัญหาดว้ ยกระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมปี ระสิทธิภาพ
4. สามารถพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอรไ์ ด้
5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศนาเสนองานในรูปแบบทเี่ หมาะสม ตรงตามวัตถุประสงค์ของงาน
6. ใช้คอมพิวเตอร์ชว่ ยสรา้ งชน้ิ งานหรือโครงงานอยา่ งมจี ติ สานกึ และความรบั ผดิ ชอบ
รวมทงั้ สิ้น 6 ผลการเรยี นรู้
โครงสรา้ งรายวิชาเพิ่มเติม
รายวชิ า ว33281 เทคโนโลยี 5
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 เวลา 40 ชั่วโมงจานวน 1.0 หน่วยกติ
อตั ราส่วนคะแนน 80 : 20
หน่วยท่ี หนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา คะแนน ภาระงาน/
ชิ้นงาน
1 หลกั การทา ขอ้ ที่ 1 (ช่ัวโมง)
โครงงานเบ้ืองต้น ข้อท่ี 2 15 เคร่อื งมือการ
- ความหมายและความสาคญั และ 12 สอนคดิ
2 การพัฒนา ข้อท่ี 2 แนวโนม้ การเปลยี่ นแปลงของ 20
โครงงาน ข้อที่ 3 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 45 เครื่องมอื การ
คอมพวิ เตอร์ ข้อท่ี 4 สอนคิด
- ความสาคญั และประเภทของโครงงาน
คอมพิวเตอร์
- ขน้ั ตอนการพฒั นาโครงงาน
คอมพวิ เตอร์
- คณุ ลักษณะโครงงานคอมพิวเตอรท์ ีด่ ี
- การกาหนดหัวข้อโครงงาน
- การนาเสนอหวั ข้อโครงงาน
คอมพิวเตอร์
- เตรยี มพรอ้ มพฒั นาโครงงาน
คอมพิวเตอร์
- การพัฒนาโครงงาน1
- การพฒั นาโครงงาน2
- การพฒั นาโครงงาน3
- การพัฒนาโครงงาน4
- การพฒั นาโครงงาน5
- การทดสอบโครงงานคอมพิวเตอร1์
- การทดสอบโครงงานคอมพวิ เตอร2์
- การศกึ ษาผลกระทบโครงงาน
3 การนาเสนอ ข้อท่ี 1 คอมพิวเตอร์ 6 10 เครื่องมอื การ
โครงงาน ข้อท่ี 5 - การเขยี นรายงานโครงงาน สอนคดิ
คอมพวิ เตอร์ ข้อท่ี 6
คอมพวิ เตอร์1
- การเขยี นรายงานโครงงาน
คอมพิวเตอร์2
- การนาเสนอโครงงานคอมพิวเตอร1์
- การนาเสนอโครงงานคอมพวิ เตอร2์
- นทิ รรศการโครงงานคอมพิวเตอร์
รวม 38 80
ปลายปี 2 20
รวม 40 100
- ความหมายและความสาคัญ และแนวโนม้ การ - การพฒั นาโครงงาน1
เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ - การพฒั นาโครงงาน2
- การพัฒนาโครงงาน3
- ความสาคญั และประเภทของโครงงาน - การพฒั นาโครงงาน4
คอมพิวเตอร์ - การพัฒนาโครงงาน5
- การทดสอบโครงงานคอมพิวเตอร1์
- ขนั้ ตอนการพัฒนาโครงงานคอมพวิ เตอร์ - การทดสอบโครงงานคอมพวิ เตอร2์
- คุณลักษณะโครงงานคอมพิวเตอรท์ ีด่ ี - การศกึ ษาผลกระทบโครงงานคอมพวิ เตอร์
- การกาหนดหวั ข้อโครงงาน - การเขยี นรายงานโครงงานคอมพวิ เตอร์1
- การนาเสนอหัวข้อโครงงานคอมพวิ เตอร์ การเขยี นรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2
หลกั การทาโครงงานเบ้อื งตน้ การพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์
ว33281 เทคโนโลยี 5
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 6
เวลา40 ช่ัวโมง1.0 หนว่ ยกิต
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3
การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
- การนาเสนอโครงงานคอมพวิ เตอร1์
- การนาเสนอโครงงานคอมพวิ เตอร2์
- นทิ รรศการโครงงานคอมพวิ เตอร์
โครงการสอน (Course Outline)
สาระการเรียนรรู้ ายวิชาเทคโนโลยี 5 รหสั ง33281
ครผู สู้ อน นางอมรรัตน์ ปัญญาช่วย
ระดบั ช้ัน
ประถมศกึ ษาปีท่ี ……. มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 / 2563
ลักษณะวิชา
สาระพ้ืนฐาน สาระเพ่มิ เติม กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน อื่น ๆ
1) คาอธบิ ายรายวิชา (ภาคเรยี นท่ี 1)
ศึกษาใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนอและแบง่ ปนั ข้อมูลอย่างปลอดภยั มีจริยธรรม และวิเคราะห์การ
เปลยี่ นแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศท่มี ผี ลต่อการดาเนนิ ชวี ติ อาชพี สงั คม และวฒั นธรรม
โดยใช้ทกั ษะกระบวนการคิด การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล และการอภิปรายเพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ
ความเขา้ ใจ
สามารถนาไปใช้ในการตัดสนิ ใจ เหน็ คณุ ค่าของการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม
และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม
2) ผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวงั รายภาค (ภาคเรยี นที่ 1)
ผลการเรยี นรู้ ความ
สอดคล้องกบั
ผลการเรยี นรู้
1. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนอและแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภยั มีจริยธรรม และ 1
วเิ คราะหก์ ารเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศท่มี ีผลต่อการดาเนนิ ชีวติ อาชพี สงั คม และ
วัฒนธรรม 2
2.อธบิ ายองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ 3
3.อธิบายองค์ประกอบและหลักการทางานของคอมพวิ เตอร์ 4
4.สามารถใชฮ้ าร์ดแวร์และซอฟตแ์ วรใ์ ห้เหมาะสมกบั งาน 5
5.ใชค้ อมพิวเตอร์ช่วยสรา้ งชิน้ งานหรอื โครงงานอยา่ งมจี ติ สานึกและความรบั ผิดชอบ 6
6.บอกข้อควรปฏิบตั สิ าหรบั ผู้ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
3) เน้อื หาวิชา เนื้อหาการสอน
ภาคเรยี นที่ 2
ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ
ระยะเวลา
-เทคโนโลยที ีเ่ หมาะสมกับชีวติ ประจาวัน
เนอ้ื หาการเรียนกอ่ นสอบกลางภาค– สอบกลางภาค
-เทคโนโลยีกับศาสตรอ์ ืน่ ๆ
เน้ือหาการเรยี นหลงั สอบกลางภาค – สอบปลายภาค
-ระบบเทคโนโลยี
-องคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศ
-องคป์ ระกอบและหลักการทางานของคอมพวิ เตอร์
การส่อื สารขอ้ มูล
-เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์
-รูปแบบการติดต่อสือ่ สารบนเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์
-การตดิ ตอ่ สื่อสารบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ใชฮ้ ารด์ แวรแ์ ละซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับงาน
-รู้จักกบั งานกราฟิก
-การแก้ไขจดุ บกพร่องบนภาพ
-การใชง้ าน Layers
-การออกแบบตัวอกั ษร
-การออกแบบเว็บเพจ
-การสรา้ งเว็บเพจ
-การสร้างจดุ เช่ือมโยง
-การนาเสนอเว็บเพจ
คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้งานเทคโนโลยี
สารสนเทศ
-กฎหมาย ICT
-จริยธรรมและความปลอดภัยในการใช้งานอนิ เตอรเ์ นต็
-อาชญากรรมคอมพวิ เตอร์และแนวทางการป้องกัน
4) วิธีการวัดผลประเมนิ ผล
สดั สว่ นคะแนนการวดั ผลประเมนิ ผล = คะแนนประเมนิ ตามสภาพจรงิ
( 80 คะแนน ) : คะแนนสอบ ( 20 คะแนน )
ผลการเรียนรู้ รายภาค
ภาคเรียนที่ ผลการเรยี นรู้
รายภาคทตี่ ้องการวัด (ข้อท่ี)
1 1,2,3,4,5,6
5) รายละเอียดการเกบ็ คะแนน
ภาคเรียนที่ 1
การเก็บคะแนนก่อนสอบกลางภาค (ประเมนิ ตามสภาพจริง) : 30 คะแนน
ผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวัง วิธีการวดั คะแนน
รายภาคทต่ี ้องการวดั
ใบงาน KWL เทคโนโลยีที่ 5
(ข้อท่)ี เหมาะสมกบั ชีวติ ประจาวัน 5
1 ใบงาน Mind Mapping เรื่อง 5
2 เทคโนโลยกี บั ศาสตร์อ่นื ๆ 5
3 ใบงาน KWL เร่ือง ระบบ
4 เทคโนโลยี 5
ใบงาน Mind Mapping
5 เร่ือง องค์ประกอบของระบบ 5
สารสนเทศ 5
6 ใบงาน Mind Mapping
เรอ่ื ง องค์ประกอบและหลักการ
ทางานของคอมพิวเตอร์
-ใบงาน KWL เรือ่ งเครือขา่ ย
คอมพวิ เตอร์
-ใบงาน KWL เร่ืองรปู แบบการ
ตดิ ต่อสอื่ สารบนเครอื ขา่ ย 5
คอมพวิ เตอร์
-ใบงานPMIเร่อื งขอ้ ดขี อ้ เสยี ของการ คะแนน
ติดต่อส่ือสารบนเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ 5
5
การเกบ็ คะแนนสอบกลางภาค (ประเมินตามสภาพจรงิ ) : 10 คะแนน
คะแนน
ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง วธิ กี ารวัด 3
รายภาคทต่ี ้องการวัด 3
-แบบทดสอบเรื่อง เครือขา่ ย 3
(ข้อท)่ี คอมพิวเตอร์ 3
6 -แบบทดสอบเรื่อง รปู แบบการ 3
ตดิ ตอ่ สือ่ สารบนเครือขา่ ย
คอมพิวเตอร์
การเก็บคะแนนหลงั สอบกลางภาค (ประเมินตามสภาพจริง) : 40 คะแนน
ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวงั วิธีการวดั
รายภาคที่ตอ้ งการวดั
-ใบงาน Mind Mapping
(ข้อท)ี่ เรอ่ื ง กราฟกิ ในจิตนาการของฉนั
7 -ใบงาน Compare and Contrast
การแก้ไขจดุ บกพร่องบนภาพ
8 -ใบงาน KWL เร่ือง Layers
-ใบงาน KWL เรื่อง การออกแบบ
ตวั อกั ษร
-ใบงาน KWL เรอื่ ง การออกแบบ
เวบ็ เพจ
-ใบงาน PMI เรอ่ื ง ข้อดขี ้อเสียของ 3
การใช้งานเว็บเพจ 3
-ใบงาน cause and effect เรอ่ื ง 4
ถา้ ไม่มเี ว็บเพจจะเป็นอย่างไร
-ใบงาน Ranking เรือ่ ง เว็บเพจท่ดี ี 5
ท่สี ดุ 5
5
9 -ใบงาน KWL เร่อื ง กฎหมาย ICT
-ใบงาน Compare and Contrast คะแนน
เร่ือง อาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ 20
และแนวทางการป้องกนั
-ใบงาน PMI เรือ่ ง ข้อดขี ้อเสียของ
กฎหมาย ICT
การเก็บคะแนนสอบปลายภาค (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) : 20 คะแนน
ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวัง วิธกี ารวัด
รายภาคท่ตี ้องการวัด
-แบบทดสอบจริยธรรมและความ
(ข้อท่)ี ปลอดภัยในการใช้งานอินเตอร์เนต็
9
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 หนว่ ยย่อยท่ี 1
เวลา 2 ชว่ั โมง
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ หลักการทางานโครงงานเบื้องตน้ ผูส้ อน ครอู มรรตั น์ ปญั ญาชว่ ย
เรอื่ ง ความหมายและความสาคญั และแนวโนม้ การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ
วนั ทที่ าการสอน
1. สาระสาคญั 2. ผลการเรยี นรู้
วิเคราะหก์ ารเปล่ียนแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศ มีผลตอ่ การ ข้อที่ 1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนาเสนอและแบง่ ปนั ข้อมลู
ดาเนนิ ชวี ติ อาชีพ สังคม และวฒั นธรรม เพื่อเราจะไดเ้ รยี นรู้แนว อยา่ งปลอดภยั มีจรยิ ธรรม และวิเคราะห์การเปลย่ี นแปลง
ทางการปรบั ตัวเองตามความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีมผี ลตอ่ การดาเนินชวี ติ อาชีพ สังคม และ
วัฒนธรรม
3. เนื้อหา/สาระการเรียนรู้ 4. ชิน้ งาน/ภาระงาน
ความหมายและความสาคัญ และแนวโน้มการ - ใบงาน Cause and Effect หากไม่มเี ทคโนโลยี จะ
เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นอยา่ งไร
5. เครอื่ งมือการสอนคิด
Cause and Effect
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันของกจิ กรรม 7. สอ่ื 8. วิธีวดั ผล
Do Now(3 นาท)ี
บอกบุคคลทเ่ี ป็นกาลงั ใจในการดาเนินชวี ติ ของนกั เรยี นมา 1 คน -ใบงาน Cause ประเมินจากใบงาน
Purpose(1 นาที) and Effect หาก Cause and Effect
เราจะเรยี นเร่อื ง ความหมายและความสาคญั และแนวโนม้ การเปล่ยี นแปลง ไม่มีเทคโนโลยี จะ หากไม่มีเทคโนโลยี
ของเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือให้นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายและ เปน็ อย่างไร จะเปน็ อยา่ งไร
ความสาคญั และแนวโนม้ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศได้ -บทเรยี นออนไลน์
เร่ืองความหมาย
Work mode(110 นาที) และความสาคัญ
1. นกั เรียนใช้เคร่อื งมอื การคิดแบบ Cause and Effect หากไม่มีเทคโนโลยี และแนวโนม้ การ
จะเป็นอยา่ งไร โดยให้นักเรียนระดมความคิดในกลมุ่ (20 นาที) เปลย่ี นแปลงของ
เทคโนโลยี
สารสนเทศ
2. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอความคิด Cause and Effect หากไม่
มเี ทคโนโลยี จะเปน็ อยา่ งไร หนา้ ชั้นเรยี น (30 นาที)
3. นกั เรียนและครสู รุปความคิด Cause and Effect หากไม่มีเทคโนโลยี
จะเปน็ อย่างไร (20 นาที)
4. นักเรียนเข้ากลุ่มเพ่ือคน้ คว้าหาขอ้ มูลเพิ่มเติม เกย่ี วกับความหมายและ
ความสาคญั และแนวโน้มการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ
(พอเพยี ง3 การมภี มู ิค้มุ กันท่ีดีในตัว)
(30 นาที)
6. นักเรียนและครูสรุปความหมายและความสาคญั และแนวโน้มการ
เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ (10 นาที)
Reflective Thinking(6 นาที)
บอกความรู้เกย่ี วกับความหมายและความสาคญั และแนวโน้มการ
เปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ขอ้ สอบวชิ าเทคโนโลยี 5 จานวน 1 ข้อ
ข้อสอบ
วิชา เทคโนโลยี 5
1.ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศจะไม่เกิดผลกระทบใด ๆ ทัง้ สิ้น
ข. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจะสง่ ผลกระทบทางด้านลบเท่าน้ัน
ค. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจะส่งผลกระทบทางดา้ นบวกเทา่ นน้ั
ง. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจะสง่ ผลกระทบทั้งทางดา้ นบวกและดา้ นลบ
Cause and Effect
Cause and Effect
หากไม่มเี ทคโนโลยี จะเป็นอยา่ งไร
Effect Effect Effect
แบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกาหนดตามตาราง
แนบท้ายแบบประเมินใบงาน Cause and Effect
ลาดับท่ี ช่อื -สกลุ การแสดง เนื้อหา นาเสนอ ความ ตรงตอ่ เวลา รวม สรปุ ผลการ
ของผรู้ ับการ ความ สวยงาม 20 คะแนน ประเมิน ผ่าน/
คิดเหน็
ประเมิน ไม่ผา่ น
ลงชื่อ ....................................................ผู้ประเมนิ
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นกั เรียนได้ระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ข้ึนไปถอื วา่ ผา่ น
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
เกณฑ์การ ระดบั การประเมนิ
ประเมนิ
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
ความ - - แสดงความคิดเห็น
คดิ เห็น - แสดงความคิดเห็น - แสดงความคดิ เหน็ - แสดงความคดิ เหน็
ผลกระทบของปัญหา/
ผลกระทบของปัญหา/เหตุ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ เหตุการณ์ได้ น้อยกว่า
6 ข้อ
การฌ์ได้ 10 ข้อขึ้นไป เหตุการณ์ได้ 8-9 ข้อ เหตุการณ์ได้ 6-7 ข้อ
เนื้อหา - เน้ือหาครบถว้ นตามสาระที่ - เน้ือหาถูกต้องตามสาระ - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระ - เนอื้ หาถกู ต้องตามสาระ
กาหนด 100% ท่กี าหนด 80-99% ที่กาหนด 60-79% ทก่ี าหนดตา่ วา่ 59%
การนาเสนอ - เขยี นถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขยี นถกู ต้องตามหลกั
100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตา่ วา่ 59%
ความ - ลาดบั หวั ข้อเนื้อหาชดั เจน - ลาดับหัวขอ้ เนือ้ หา - มกี ารสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ไม่
สวยงาม - มีการสรปุ ได้อยา่ ง ชัดเจน สมเหตุสมผล 60-79% สมเหตสุ มผลต่าว่า
การตรงต่อ สมเหตุสมผล 100% - มีการสรปุ ได้อยา่ ง 59%
เวลา สมเหตสุ มผล 80-99% - การพูดเหมาะสม
- พดู ชัดเจนเสียงดงั ฟังชัด - พดู ชัดเจนเสยี งดังฟังชดั - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - สามารถพูดนาเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง ตามอักขระ60-79% - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง
อกั ขระ100% ตามอักขระ80-99% - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม ตามอักขระต่าว่า 59%
- บคุ ลิกภาพดีและมคี วาม - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
มนั่ ใจ - ความพรอ้ มในการ - ใชส้ ีสนั สวยงามและมี
- มีการใช้ส่อื ประกอบการ นาเสนอได้บางสว่ น ความสะอาด - ใช้สีสนั สวยงามหรอื
นาเสนอ เป็นไปตามเกณฑอ์ ย่าง
- ความพรอ้ มในการนาเสนอ - ใชส้ ีสันสวยงาม ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ า้ ใดอยา่ งหนึ่ง
- ใช้สีสนั สวยงาม - มีความสะอาด กวา่ เวลาที่กาหนด 10
- มีความสะอาด - มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ นาที ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ กวา่ เวลาท่ีกาหนด 15
- ความเป็นระเบยี บอ่านงา่ ย ส่งผลงานครบถว้ น แต่ช้า นาที
สง่ ผลงานครบถ้วน ตรงตาม กว่าเวลาทก่ี าหนด 5
เวลาที่กาหนด นาที
ผลการสอน ปญั หาการสอน
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ ………………………………………………….. ครผู สู้ อน
(นางอมรรัตน์ ปญั ญาชว่ ย)
ความคดิ เห็นของผู้ตรวจ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ ………………………………………………….. ผตู้ รวจ
(นางสาวศรญั ธร พลสวสั ดกิ ุล)
ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ (กอ่ นการนาแผนการจัดการเรยี นรู้ไปใช)้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ………………………………………………….. หวั หน้ากล่มุ สาระ
(นางสาววรรณศริ ิ ฮ้อรอด)
ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระ (หลังการนาแผนการจัดการเรียนรไู้ ปใช้)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ ………………………………………………….. หวั หนา้ กลมุ่ สาระ
(นางสาววรรณศิริ ฮอ้ รอด)
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2
ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หนว่ ยย่อยท่ี 2
เร่ือง แนวโนม้ การเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 2 ช่ัวโมง
วนั ท่ีทาการสอน ผู้สอน ครอู มรรตั น์ ปัญญาชว่ ย
1. สาระสาคญั 2. ผลการเรียนรู้
แนวโนม้ การเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยี ผลการเรยี นรขู้ อ้ ที่ 2 แนวโนม้ การเปลี่ยนแปลงทาง
เทคโนโลยสี ารสนเทศ
สารสนเทศมีการเปล่ยี นแปลงไปอย่างรวดเรว็ มาก
ดงั น้ันเราควรเรียนรู้วิธกี ารรับมอื การเปลย่ี นแปลงของ
เทคโนโลยี
3. เนอื้ หา/สาระการเรยี นรู้ 4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
แนวโนม้ การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ - ใบงาน Compare and Contrast เรื่อง แนวโน้มการ
เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 6. เครือ่ งมือการสอนคิด
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี Compare and Contrast
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั ของกจิ กรรม 7. สอ่ื 8. วธิ ีวดั ผล
Do Now (3 นาท)ี
จงบอกสงิ่ ทน่ี กั เรยี นคดิ วา่ เทคโนโลยสี ามารถทาใหเ้ กดิ ขึ้นได้ คนละ 1 - งานนาเสนอ เรือ่ ง -ประเมนิ ใบงาน
อยา่ ง แนวโนม้ การ Compare and
เปลีย่ นแปลงทาง Contrast เร่ือง
Purpose (1 นาท)ี เทคโนโลยี แนวโน้มการ
เราจะเรียนเรื่องแนวโน้มการเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือให้ สารสนเทศ เปลยี่ นแปลงทาง
นักเรียนอธบิ ายแนวโนม้ การเปล่ยี นแปลงทางเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ - ใบงาน Compare เทคโนโลยี
Work mode(110 นาท)ี and Contrast เรอื่ ง สารสนเทศ
แนวโนม้ การ
1.นกั เรยี นและครรู ว่ มกันระดมความคดิ เกยี่ วกบั ความกา้ วหนา้ ทาง เปลี่ยนแปลงทาง
เทคโนโลยี ในด้านตา่ งของประเทศไทยในปจั จุบนั (20 นาที) เทคโนโลยี
2.นกั เรียนและครรู ่วมกันเช่ือมโยงความรู้เร่ืองแนวโนม้ การเปล่ียนแปลงทาง สารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศรว่ มกัน(คดิ 10 คิดบรู ณาการ)(20 นาท)ี -ขอ้ สอบ PISA เรอ่ื ง
3.นกั เรียนฟังการอธบิ ายความร้ใู นหวั ข้อ แนวโน้มการเปลีย่ นแปลงทาง แนวโนม้ การ
เทคโนโลยสี ารสนเทศโดยใชโ้ ปรแกรมนาเสนอ (15 นาที) เปล่ยี นแปลงทาง
4. นกั เรยี นค้นคว้าข้อมลู เพ่มิ เตมิ จากบทเรียนออนไลน์ เร่ืองแนวโน้มการ เทคโนโลยี
เปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยสี ารสนเทศผา่ นเครือข่ายอนิ เตอร์เนต็ (พอเพยี ง สารสนเทศ
3 การมภี มู ิคุมกันในตัว) (15 นาท)ี -บทเรียนออนไลน์
5. นกั เรียนทากิจกรรมใบงาน Compare and Contrast เรือ่ ง แนวโนม้ เร่ือง แนวโน้มการ
การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (20 นาท)ี เปลีย่ นแปลงทาง
6.นักเรียนและครรู ่วมกับรวบรวมความรูค้ วามเข้าใจเก่ยี วกับแนวโนม้ การ เทคโนโลยี
เปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ (คดิ 6 คิดสงั เคราะห)์ (20 นาที) สารสนเทศ
Reflective Thinking(6 นาที)
บอกแนวโนม้ การเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ
ข้อสอบ PISA เรื่อง แนวโนม้ การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ
จานวน 1 ข้อ
ข้อสอบ PISA
เรื่อง แนวโน้มการเปล่ยี นแปลงทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ
อา่ นบทความ เร่อื ง และตอบคาถามขอ้ ที่ 1
ในปัจจบุ ัน เทคโนโลยสี ารสนเทศ เปน็ รู้จกั กันมากในหมวู่ ยั รุ่น ซง่ึ คนไทยรจู้ ักกันกค็ ือ เทคโนโลยี
สารสนเทศ นน่ั เอง ไมค่ ่อยนิยมเรยี กกันมากนัก ส่วนใหญ่มักจะเรียกกนั วา่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ
เทคโนโลยีสารเทศ คือ เทคโนโลยีในการนาคอมพิวเตอรม์ าใชง้ านจดั การกับข้อมลู ข่าวสาร หรือทเ่ี รยี กว่าสารสนเทศ
ศาสตรด์ า้ นเทคโนโลยีสนเทศเปน็ ศาสตรท์ ี่ใหม่มาก และมีความสาคัญมากในสงั คมปจั จบุ ัน และถอื วา่ เป็นหน่ึงในสามศาสตร์
หลกั (เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีนาโน เทคโนโลยชี วี ภาพ) ที่ถูกกล่าววา่ จะมผี ลตอ่ สงั คมในอนาคตมากทส่ี ดุ โดย
ปัจจุบันมีผ้กู ล่าวถึง เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งกว้างขวาง โดยเราจะรจู้ กั กันท่ัวไปในชื่อส้ันๆว่า ไอที( IT ) รฐั บาลไทยก็เลง็ เหน็
ความสาคญั ดา้ นนี้มาก จงึ มีการจดั ตัง้ กระทรวงใหม่ทีเ่ กย่ี วกับงานทางดา้ นน้ีขึ้น ชือ่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการ
ส่ือสารหรอื เรยี กย่อๆวา่ กระทรวงไอซีที
เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นมีลกั ษณะเด่นคือมีการเปล่ยี นแปลงทร่ี วดเร็วมาก เทคโนโลยีใหมๆ่ ทีท่ ันสมัยเกดิ ขน้ึ มา
เร่อื ยๆ ทกุ วนั เช่น เราจะเห็นวา่ มกี ารใช้อนิ เตอรเ์ นต็ กนั อย่างแพรห่ ลาย มีการส่งอเี มล์ มกี ารทอ่ งเวบ็ ตา่ งๆ มีการส่งข้อมูลผ่าน
เว็บ มีการเล่นเกมออนไลนผ์ ่านอนิ เตอรเ์ น็ต นอกจากอินเตอรเ์ น็ตแลว้ ยังมเี ทคโนโลยสี ารสนเทศทเ่ี กย่ี วกับมือถือ เชน่ มีการ
สง่ ข้อมลู ผ่านทางมือถือ มกี ารดาวโหลดข้อมลู ตา่ งๆ รวมทั้งเพลงผ่านมอื ถือมกี ารสบื คน้ ข้อมูลหรือเล่นเกมผ่านมือถอื เป็น
ตน้ ในทางอุตสาหกรรมก็มกี ารนาระบบสารสนเทศเข้าไปช่วยเพม่ิ ผลผลิตในโรงงาน ช่วยควบคุมดูแลเครือ่ งจักรเพ่ือผลิตสินค้า
อย่างมีประสทิ ธิภาพ และทาใหก้ ระบวนการผลติ เปน็ แบบอัตโนมัติ นอกจากนี้มีการนาสารสนเทศไปใช้ในงานดา้ นธุรกจิ เพอ่ื ทา
ใหก้ ารบริหารงานมีประสิทธิภาพ โดยสามารถดูข้อมลู ต่างๆ ไดท้ นั ทีทงั้ ข้อมูลที่เปน็ รายละเอยี ดและข้อมลู สรปุ และชว่ ยในการ
สนับสนนุ การตดั สนิ บริษัทที่ทันสมยั ทุกบริษัทต้องมีระบบสารสนเทศภายในองคก์ ร ในยุคตอ่ ไป คอมพวิ เตอรจ์ ะมีขนาดเล็กลง
มีความเร็วสงู ข้ึน และมีหน่วยความจามากข้นึ และทีส่ าคญั ราคาของคอมพวิ เตอรจ์ ะถูกลงมาก ดังน้ันคอมพิวเตอร์จะเข้ามามี
บทบาทในสังคมของเรามากขึ้น โดยเราจะเรยี กสังคมนวี้ ่าสงั คมยูบิควิ ตัส ( Ubiquitous) คือคอมพวิ เตอร์อยู่ทุกหนทุก
แห่ง ดังนนั้ การจัดการข้อมลู สารสนเทศทเี่ กิดจากคอมพิวเตอร์เหลา่ น้ี จงึ เป็นสงิ่ สาคญั มาก นอกจากนก้ี ารบรหิ ารจดั การ
เทคโนโลยสี ารสนเทศภายในบรษิ ัทกเ็ ป็นสิ่งสาคญั อกี อย่างหนง่ึ จะเห็นไดว้ ่าบรษิ ัทหรอื องคก์ รใหญจ่ าเปน็ ต้องมีหนว่ ยงานด้าน
การจัดการระบบสารสนเทศ ปัจจบุ นั ในโลกของธรุ กจิ มีธุรกจิ ทีเ่ กย่ี วกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศมากมาย ซึ่ง นักธุรกจิ ท่รี ่ารวย
ท่ีสุดกค็ ือ นกั ธรุ กจิ ดา้ นไอที ซึ่งความจริงน้ีแสดงใหเ้ หน็ วา่ ไอทไี ด้เป็นศาสตร์ทีร่ บั ความสนใจและมีความสาคญั มากในสงั คม
ปจั จบุ นั และต่อไปในอนาคต
ทีม่ า: https://www.gotoknow.org/posts/427332
คาถามที่ 1 3 คะแนน
จากถ้อยความข้างต้น ข้อความใดต่อไปน้ี เปน็ ความจริง หรอื ไมเ่ ปน็ ความจรงิ ใช่
X
ข้อความ เปน็ ความจรงิ จงเขียน X ในช่อง “ใช่” X
X
ขอ้ ความ ไม่เปน็ ความจรงิ จงเขียน X ในช่อง “ไม่ใช่”
ที่ ข้อความ ไมใ่ ช่
1 เทคโนโลยีสารสนเทศมผี ลต่อสังคมในอนาคต X
X
2 เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยควบคมุ ดแู ลเคร่ืองจักรให้ผลิตสินคา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
3 ICT คือชอื่ ย่อของกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศ
4 บรษิ ัทจาเปน็ ต้องมีระบบการจดั การเทคโนโลยสี ารสนเทศขององค์กร
5 เทคโนโลยีสารสนเทศทาใหม้ นษุ ยม์ ีความเป็นอยู่ทีดีขึ้น
ชื่อ........................................สกลุ ................................
Compare
ในการเปรยี บเทยี บก
ภาพกราฟกิ แบบ 2D
.......ชัน้ ......................................เลขท.่ี ....................................
e and Contrast
การใชค้ อมพวิ เตอร์กราฟิก
ภาพกราฟกิ แบบ 3D
แบบประเมนิ ใบงาน
คาชแี้ จงให้ทาเครื่องหมาย / ลงในช่องรายการประเมินท่กี าหนด
รายการสงั เกต
สกุล
321321321321
เลขท่ี ชื่อ ความถูก ้ตอง
ครอบค ุลมเนื้อหา
ความสะอาด
เ ีรยบร้อย
่สงตรงเวลา
รวม
สรุปผลการประเมิน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานดสี มบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานปานกลางมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 1 คะแนน
ผลงานควรปรบั ปรุงมีขอ้ บกพรอ่ งมาก
เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมิน
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
9 - 12 ดมี าก
6 - 8 ดี
3 - 5 พอใช้
ตา่ กว่า 3 ปรับปรุง
ลงชื่อ..........................................................ผู้ประเมนิ
................./.................../................
ผลการสอน ปัญหาการสอน
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
แนวทางการแก้ไขปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ………………………………………………….. ครผู ู้สอน
(นางอมรรตั น์ ปญั ญาชว่ ย)
ความคดิ เหน็ ของผ้ตู รวจ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ ………………………………………………….. ผตู้ รวจ
(นางสาวศรัญธร พลสวสั ดิกลุ )
ความคดิ เห็นของหัวหน้ากลมุ่ สาระ (กอ่ นการนาแผนการจัดการเรยี นร้ไู ปใช)้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………………….. หัวหน้ากลมุ่ สาระ
(นางสาววรรณศิริ ฮอ้ รอด)
ความคดิ เหน็ ของหัวหน้ากลุม่ สาระ (หลังการนาแผนการจดั การเรยี นรไู้ ปใช้)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………………….. หัวหน้ากลุ่มสาระ
(นางสาววรรณศิริ ฮ้อรอด)
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3
ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หน่วยยอ่ ยท่ี 3
เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศท่เี หมาะสมกบั ชีวิตประจาวัน เวลา 2 ช่ัวโมง
วันทีท่ าการสอน ผู้สอน ครอู มรรตั น์ ปญั ญาช่วย
1. สาระสาคญั 2. ผลการเรียนรู้
การเลอื กใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมกับ ผลการเรยี นร้ขู ้อที่ 2 อธบิ ายองค์ประกอบของระบบ
ชีวติ ประจาวนั เปน็ การเลือกใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศให้ เทคโนโลยีสารสนเทศ
เกิดประโยชนส์ งู สุดในการดาเนนิ ชวี ิต
3. เนือ้ หา/สาระการเรยี นรู้ 4. ชิน้ งาน/ภาระงาน
เทคโนโลยสี ารสนเทศทเี่ หมาะสมกบั ชวี ิตประจาวัน - ใบงาน PMI เร่ือง เทคโนโลยีกับชวี ิตประจาวนั
5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น 6. เครื่องมือการสอนคดิ
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - PMI
7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 7. สอ่ื 8. วิธีวดั ผล
ข้นั ของกิจกรรม -งานนาเสนอเร่ือง -ประเมินใบงาน
เทคโนโลยี PMI เทคโนโลยี
Do Now(3 นาท)ี สารสนเทศที่ กับชวี ติ ประจาวนั
จงเขยี นชื่อของเทคโนโลยีทีไ่ ด้พบเห็นให้มากท่สี ดุ เหมาะสมกบั
ชีวิตประจาวัน
Purpose(1 นาท)ี -ใบงาน PMI เรอ่ื ง
เราจะเรยี นเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศทเี่ หมาะสมกบั ชีวิตประจาวัน เทคโนโลยีกับ
เพ่ือใหน้ กั เรียนสามารถอธบิ ายองคป์ ระกอบของระบบเทคโนโลยี ชีวติ ประจาวนั
สารสนเทศท่ีเหมาะสมกับชีวติ ประจาวนั ได้ -ข้อสอบ PISA เรอ่ื ง
เทคโนโลยี
Work mode(110 นาที)
1.นักเรยี นตอบคาถามเกย่ี วกับความรอบรู้เทคโนโลยีสารสนเทศใน
ชีวติ ประจาวนั ของตนเอง (พอเพียง4 เงื่อนไชความร)ู้ (20 นาที)
2. นกั เรียนรับฟังการบรรยายด้วยงานนาเสนอเรือ่ ง เทคโนโลยีสารสนเทศ สารสนเทศท่ี
เหมาะสมกบั
ท่เี หมาะสมกับชวี ิตประจาวนั (15 นาท)ี ชวี ิตประจาวนั
-บทเรยี นออนไลน์
3. นักเรยี นทากจิ กรรมใบงานโดยใช้เครอื่ งมือการคดิ PMI เร่อื ง ข้อดี เรื่อง เทคโนโลยี
ขอ้ เสยี และข้อเสนอแนะของเทคโนโลยีกบั ชวี ติ ประจาวนั (30นาท)ี สารสนเทศท่ี
4. นกั เรียนเข้ากลุ่ม ช่วยกนั ระดมความคดิ ในกลุ่มเรื่องเทคโนโลยี เหมาะสมกับ
สารสนเทศทเ่ี หมาะสมกบั ชีวิตประจาวัน และคัดเลือกใบงาน PMI ของ ชวี ติ ประจาวนั
เพือ่ นท่ดี ีทส่ี ุด และนกั เรยี นที่ไดร้ บั การคดั เลือกออกมานาเสนอใบงานหน้า
ชั้นเรยี น (25 นาท)ี
5. นักเรยี นและครรู ่วมกบั รวบรวมความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับเทคโนโลยี
สารสนเทศที่เหมาะสมกับชวี ติ ประจาวัน (คิด6 คดิ สังเคราะห์) (20นาที)
Reflective Thinking (6 นาที)
บอกความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยสี ารสนเทศที่เหมาะสมกับ
ชีวติ ประจาวัน
ข้อสอบ PISA เรอื่ ง เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเหมาะสมกับชวี ิตประจาวนั
จานวน 1 ขอ้
ข้อสอบ PISA
เรือ่ ง เทคโนโลยสี ารสนเทศท่เี หมาะสมกบั ชีวติ ประจาวนั
อ่านบทความ เรอ่ื ง และตอบคาถามข้อที่ 1
ในปัจจุบนั เทคโนโลยีสารสนเทศ เปน็ รู้จักกนั มากในหมวู่ ัยรนุ่ ซึง่ คนไทยรจู้ ักกนั ก็คือ เทคโนโลยี
สารสนเทศ นน่ั เอง ไม่ค่อยนิยมเรยี กกนั มากนัก สว่ นใหญม่ ักจะเรยี กกันว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยสี ารเทศ คอื เทคโนโลยใี นการนาคอมพิวเตอรม์ าใชง้ านจดั การกบั ข้อมูล ข่าวสาร หรอื ทเ่ี รียกว่า
สารสนเทศศาสตรด์ า้ นเทคโนโลยีสนเทศเปน็ ศาสตรท์ ใี่ หม่มาก และมีความสาคัญมากในสังคมปัจจุบนั และถอื ว่าเป็นหน่ึง
ในสามศาสตร์หลกั (เทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยนี าโน เทคโนโลยชี วี ภาพ) ท่ีถูกกลา่ วว่าจะมีผลตอ่ สงั คมในอนาคต
มากท่ีสุด โดยปัจจุบันมีผู้กล่าวถึง เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างกว้างขวาง โดยเราจะรูจ้ ักกันทัว่ ไปในชื่อส้ันๆว่า ไอที( IT )
รฐั บาลไทยกเ็ ลง็ เหน็ ความสาคญั ด้านนี้มาก จงึ มีการจดั ต้ังกระทรวงใหมท่ เี่ กี่ยวกับงานทางด้านนีข้ น้ึ ชือ่ กระทรวงเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสอื่ สารหรือเรยี กย่อๆว่า กระทรวงไอซที ี
เทคโนโลยีสารสนเทศน้ันมีลกั ษณะเดน่ คือมีการเปลีย่ นแปลงที่รวดเร็วมาก เทคโนโลยีใหม่ๆ ทท่ี ันสมัยเกดิ ข้ึนมา
เร่ือยๆ ทุกวัน เชน่ เราจะเหน็ ว่ามกี ารใชอ้ นิ เตอรเ์ นต็ กันอย่างแพร่หลาย มีการสง่ อเี มล์ มีการทอ่ งเวบ็ ต่างๆ มีการสง่ ข้อมูล
ผา่ นเว็บ มกี ารเล่นเกมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต นอกจากอินเตอร์เน็ตแล้ว ยังมเี ทคโนโลยสี ารสนเทศที่เกย่ี วกบั มือถือ
เช่น มีการส่งขอ้ มูลผ่านทางมือถือ มกี ารดาวโหลดข้อมลู ต่างๆ รวมทัง้ เพลงผา่ นมอื ถือมีการสืบคน้ ข้อมลู หรือเลน่ เกมผา่ นมือ
ถอื เปน็ ตน้ ในทางอตุ สาหกรรมก็มีการนาระบบสารสนเทศเขา้ ไปช่วยเพ่ิมผลผลติ ในโรงงาน ชว่ ยควบคมุ ดแู ลเครอ่ื งจักรเพอื่
ผลติ สนิ ค้าอย่างมปี ระสิทธภิ าพ และทาให้กระบวนการผลิตเป็นแบบอตั โนมตั ิ นอกจากนี้มีการนาสารสนเทศไปใช้ในงาน
ด้านธรุ กิจเพ่ือทาให้การบริหารงานมปี ระสิทธิภาพ โดยสามารถดูข้อมลู ตา่ งๆ ได้ทนั ทที ัง้ ข้อมูลที่เป็นรายละเอียดและขอ้ มูล
สรปุ และชว่ ยในการสนับสนนุ การตัดสินบรษิ ทั ท่ที ันสมัยทกุ บริษัทตอ้ งมีระบบสารสนเทศภายในองค์กร ในยคุ
ต่อไป คอมพิวเตอรจ์ ะมีขนาดเล็กลง มคี วามเรว็ สูงขนึ้ และมีหน่วยความจามากขน้ึ และทีส่ าคัญ ราคาของคอมพวิ เตอรจ์ ะ
ถูกลงมาก ดังน้นั คอมพวิ เตอร์จะเขา้ มามีบทบาทในสังคมของเรามากขึน้ โดยเราจะเรียกสังคมน้วี ่าสังคมยูบคิ ิวตสั
( Ubiquitous) คอื คอมพิวเตอร์อยทู่ ุกหนทุกแห่ง ดังนน้ั การจดั การข้อมูลสารสนเทศทเี่ กิดจากคอมพวิ เตอร์เหลา่ นี้ จงึ เปน็
สง่ิ สาคญั มาก นอกจากนี้การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศภายในบริษัทกเ็ ป็นส่งิ สาคัญอีกอย่างหน่ึง จะเห็นไดว้ า่
บรษิ ัทหรอื องค์กรใหญจ่ าเป็นต้องมีหน่วยงานด้านการจดั การระบบสารสนเทศ ปจั จุบนั ในโลกของธุรกจิ มีธรุ กิจทีเ่ ก่ียวกับ
เทคโนโลยีสารสนเทศมากมาย ซงึ่ นกั ธุรกิจท่รี า่ รวยทส่ี ดุ ก็คอื นกั ธุรกิจด้านไอที ซงึ่ ความจรงิ นี้แสดงให้เห็นว่า ไอทไี ด้เป็น
ศาสตร์ที่รับความสนใจและมีความสาคญั มากในสังคมปจั จุบันและตอ่ ไปในอนาคต
ทมี่ า: https://www.gotoknow.org/posts/427332
คาถามท่ี 1 2 คะแนน
จากคาตอบต่อไปน้ี ใหน้ ักเรยี นบอกเหตผุ ล โดยใช้ขอ้ มูลจากเนือ้ เรื่องทส่ี นับสนุนคาตอบ
ท่ี ข้อความ
1 เทคโนโลยสี ารสนเทศมคี วามสาคัญอยา่ งไร
เพราะ มนุษย์ เพอื่ ใช้ในการศกึ ษา คน้ คว้า สบื คน้ รบั สง่ ข้อมลู ความบันเทงิ
ภาคอตุ สาหกรรม เพื่อการผลิตและควบคุมผลผลิตทม่ี คี ุณภาพ กระบวนการผลิตอัติโนมตั ิ
ภาคธรุ กจิ เพ่อื บริหารจัดการระบบสารสนเทศในองค์กร
2 ให้นกั เรยี นบอกเหตผุ ลเราตอ้ งใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
เพราะ ใช้เพื่อการศกึ ษาค้นคว้า สืบคน้ และส่งเสรมิ การเรียนรู้
ชอ่ื ........................................สกลุ ......................................ชั้น......................................เลขที่.....................................
P M I
ผลกระทบทางด้านบวกของ ผลกระทบทางด้านลบของ ควรมีการใชเ้ ทคโนโลยีกบั
เทคโนโลยกี บั ชีวติ ประจาวัน เทคโนโลยีกบั ชีวิตประจาวนั ชีวิตประจาวนั อย่างไร
สรุป
แบบประเมนิ ใบงาน
คาชแี้ จงใหท้ าเครื่องหมาย / ลงในช่องรายการประเมินท่กี าหนด
รายการสังเกต
สกุล
เลขท่ี ชื่อ ความถูกต้อง
ครอบค ุลม
เ ืน้อหา
ความสะอาด
เ ีรยบ ้รอย
่สงตรงเวลา
รวม
ส ุรปผลการประเมิน
321321321321
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานดสี มบรู ณช์ ดั เจน
ผลงานปานกลางมขี อ้ บกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 2 คะแนน
ผลงานควรปรบั ปรุงมีขอ้ บกพรอ่ งมาก
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
9 - 12 ดมี าก
6 - 8 ดี
3 - 5 พอใช้
ตา่ กวา่ 3 ปรบั ปรุง
ลงช่ือ..........................................................ผปู้ ระเมิน
................./.................../................
ผลการสอน ปัญหาการสอน
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
แนวทางการแก้ไขปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………………….. ครูผสู้ อน
(นางอมรรตั น์ ปัญญาช่วย)
ความคิดเห็นของผู้ตรวจ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ………………………………………………….. ผูต้ รวจ
(นางสาวศรัญธร พลสวสั ดิกุล)
ความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ (กอ่ นการนาแผนการจดั การเรยี นรูไ้ ปใช)้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ ………………………………………………….. หวั หนา้ กลุ่มสาระ
(นางสาววรรณศริ ิ ฮอ้ รอด)
ความคดิ เห็นของหวั หน้ากลุม่ สาระ (หลังการนาแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………………….. หวั หนา้ กลมุ่ สาระ
(นางสาววรรณศิริ ฮอ้ รอด)
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ หนว่ ยท่ี 4
เรือ่ ง ระบบคอมพิวเตอร์ เวลา 2 ชวั่ โมง
วันท่ีทาการสอน……………………………………..………………………………… ผสู้ อน นางสาวอมรรตั น์ เทพอุดร
1. สาระสาคญั 2. ผลการเรียนรู้
ระบบคอมพวิ เตอร์มี 5 สว่ นคอื ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ ผลการเรยี นร้ขู ้อท่ี 3 อธิบายองคป์ ระกอบและหลักการ
ข้อมลู บุคลากรและขั้นตอนการปฏบิ ัติงาน ทางานของคอมพิวเตอร์
3. เนือ้ หา/สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
ระบบคอมพิวเตอร์ - ใบงาน Compare and Contrast
เรอ่ื ง ระบบคอมพิวเตอร์
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 6. ช้ินงาน/ภาระงาน
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี Compare and Contrast
7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 7. สอ่ื 8. วธิ ีวดั ผล
ขัน้ ของกิจกรรม
- เกมเซยี นระบบ - ประเมนิ ใบงาน
Do Now(3 นาที) คอมพิวเตอร์ Compare and
บอกชอื่ บุคคลที่ช่ือเสยี งทางด้านเทคโนโลยมี าคนละ 1 ชื่อ - ใบงาน Compare Contrast เรอ่ื ง
and Contrast ระบบคอมพิวเตอร์
Purpose(1 นาที) เรอ่ื ง ระบบ
เราจะเรียนเร่อื งระบบคอมพิวเตอร์เพ่ือใหน้ ักเรยี นสามารถอธบิ ายระบบ คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ได้ -บทเรยี นออนไลน์
เรอ่ื ง ระบบ
Work mode(110 นาท)ี คอมพิวเตอร์
1. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ออกเปน็ 2 กลุ่ม จากนน้ั ใหน้ ักเรียนศกึ ษาข้อมูลเกย่ี วกับ
ระบบคอมพิวเตอร์ให้ได้มากที่สุด (พอเพียง3 การมภี มู ิคุม้ กันท่ีดีในตัว) (30
นาที)
2. นักเรียนเลน่ เกม “เซียนองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์” เป็นการถาม
และใหน้ ักเรียนเขียนคาตอบให้มากท่สี ดุ ในข้อไหนกลุม่ ไหนไดค้ าตอบมาก
ทส่ี ุด จะได้แตม้ ของขอ้ นน้ั ๆ (40 นาท)ี
3. นักเรยี นและครรู ว่ มสรุปเนื้อหาระบบคอมพิวเตอร์ (15นาท)ี
4. นักเรียนทาใบงาน Compare and Contrast เรอื่ ง ระบบคอมพิวเตอร์
(คิด9 คิดเชิงมโนทัศน์) (25นาที)
Reflective Thinking(6 นาที)
บอกความรู้เกย่ี วกับระบบคอมพวิ เตอร์
ข้อสอบ O-net วิชาการงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้ัน ม.6 ปี 2553
จานวน 1 ขอ้
ข้อสอบ O-net
วชิ าการงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ ม.6 ปี 2553
ขอ้ ที่ 1 ข้อใดเป็นการนาระบบสารสนเทศและการสอื่ สารข้อมูลมาใช้ในงานทใ่ี ห้ผลตอบแทนน้อยท่สี ดุ
1. ใช้ทาบัญชรี ายรับรายจา่ ยส่วนบคุ คล
2. ใชใ้ นการปลกู ผักในแปลงเกษตรโรงเรยี น
3. ใช้ในการควบคมุ ผลติ ผลไม้กระป๋องส่งออก
4. ใชใ้ นการควบคุมการผลิตและจาหนา่ ยช้ินสว่ นรถยนตข์ องโรงงาน
ชอ่ื .................................................สกลุ ............................
Compare
ในการเปรยี บเท
....................................................
..................ชน้ั ม.6./....................เลขที.่ ....................................
e and Contrast
ทียบระบบคอมพวิ เตอร์
...........................................................
ผลการสอน ปัญหาการสอน
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
แนวทางการแกไ้ ขปญั หา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ………………………………………………….. ครูผสู้ อน
(นางอมรรัตน์ ปัญญาช่วย)
ความคิดเห็นของผตู้ รวจ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………………….. ผูต้ รวจ
(นางสาวศรญั ธร พลสวัสดิกุล)
ความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลุม่ สาระ (ก่อนการนาแผนการจัดการเรยี นรู้ไปใช)้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………………….. หวั หน้ากลุม่ สาระ
(นางสาววรรณศริ ิ ฮ้อรอด)
ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลุ่มสาระ (หลังการนาแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………………….. หัวหนา้ กลมุ่ สาระ
(นางสาววรรณศริ ิ ฮอ้ รอด)
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 5
ชื่อห\ น่วยการเรียนรู้ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ หน่วยท่ี 5
เรอ่ื ง หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ เวลา 2 ชัว่ โมง
วันที่ทาการสอน……………………………………..………………………………… ผ้สู อน ครอู มรรัตน์ ปญั ญาช่วย
1. สาระสาคญั 2. ผลการเรียนรู้
คอมพวิ เตอร์มีกระบวนการทางานอยา่ งมลี าดบั ขนั้ ตอน ผลการเรยี นรขู้ ้อท่ี 3 อธบิ ายองคป์ ระกอบและหลกั การ
ทางานของคอมพิวเตอร์
โดยมกี ล่มุ ของอปุ กรณท์ ท่ี างานประสานกนั เปน็ หนว่ ยงาน
ต่างๆ ทท่ี างานรบั สง่ ข้อมลู รว่ มกนั ระหว่างหนว่ ยอ่ืนๆ ทอ่ี ยใู่ น 4. ชิน้ งาน/ภาระงาน
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ - ใบงาน Cause and Effect เร่อื ง หากไม่มีคอมพิวเตอร์
จะเป็นอย่างไร
3. เน้อื หา/สาระการเรยี นรู้ 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน
หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ Cause and Effect
5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 7. สอ่ื 8. วธิ วี ัดผล
ขัน้ ของกจิ กรรม
- งานนาเสนอเรื่อง ประเมินใบงาน
Do Now(3นาที) หลักการทางานของ Cause and Effect
บอกส่ิงที่คอมพิวเตอร์ทาไม่ได้คนละ 1 อยา่ ง ไม่ซา้ กัน คอมพวิ เตอร์ เรอื่ ง หากไมม่ ี
- ใบงาน Cause and คอมพิวเตอร์จะเป็น
Purpose(1นาที) Effect เรอื่ ง หากไม่มี อย่างไร
เราจะเรียนเร่ือง หลักการทางานของคอมพวิ เตอร์ เพื่อนกั เรียนสามารถอธิบาย คอมพวิ เตอรจ์ ะเปน็
หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ได้ อย่างไร
-บทเรยี นออนไลน์
Work mode(110 นาท)ี เรอ่ื ง หลักการทางาน
1.นกั เรยี นตอบคาถามเกยี่ วกับความรอบรู้องคป์ ระกอบและหลักการทางาน ของคอมพวิ เตอร์
ของคอมพวิ เตอร์ (พอเพยี ง4 เง่อื นไชความร)ู้ (15 นาที)
2. นักเรียนแบง่ กล่มุ 2 กลุ่ม(เลขคู่,เลขค)ี่ ทากิจกรรมเล่นเกม เรารจู้ กั
คอมพิวเตอร์มากแค่ไหนนะ(35 นาท)ี
3.นักเรยี นรับฟังการบรรยายดว้ ยงานนาเสนอเร่ือง หลักการทางานของ
คอมพิวเตอร์ (10 นาที)
4. นกั เรียนทากจิ กรรมใบงานโดยใช้เครอื่ งมือการคิด Cause and Effect เรอื่ ง
หากไม่มีคอมพวิ เตอร์จะเป็นอย่างไร (30นาที)
5. นักเรียนและครูรว่ มกับรวบรวมความร้คู วามเข้าใจเกีย่ วกับหลกั การทางาน
ของคอมพวิ เตอร์ (คดิ 6 คิดสังเคราะห)์ (20นาที)
Reflective Thinking(6 นาที)
บอกความรู้เกี่ยวกับหลักการทางานของคอมพวิ เตอร์
ขอ้ สอบ O-net วิชาการงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้ัน ม.6
ปี 2553 จานวน 1 ข้อ
ขอ้ สอบ O-net
วชิ าการงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ ม.6 ปี 2553
ขอ้ ท่ี 1 กระบวนงานในข้อใดเกิดขนึ้ เป็นสงิ่ แรกเมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร.์
1. เชค็ สถานของระบบปฏิบัติการ
2. เชค็ สถานของแป้นพมิ พ์ เมาสแ์ ละจอแสดงผล
3. หน่วยประมวลผลกลางประมวลชดุ คาส่งั ในหน่วยความจาหลักแบบแก้ไขได้ (RAM)
4. หนว่ ยประมวลผลกลางประมวลชุดคาสงั่ ในหนว่ ยความจาหลกั แบบอ่านได้อยา่ งเดยี ว
เฉลยข้อ 3
ชือ่ -สกุล........................................................................ชน้ั ม.6/.................... เลขที่...........................
Cause and Effect
Cause and Effect
ถ้าไมม่ ี คอมพิวเตอร์ จะเปน็ อย่างไร
Effect Effect Effect
สรุป
ผลการสอน ปญั หาการสอน
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………………….. ครผู สู้ อน
(นางอมรรัตน์ ปญั ญาชว่ ย)
ความคิดเห็นของผตู้ รวจ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ ………………………………………………….. ผูต้ รวจ
(นางสาวศรัญธร พลสวัสดิกลุ )
ความคดิ เห็นของหวั หน้ากล่มุ สาระ (กอ่ นการนาแผนการจดั การเรยี นรู้ไปใช)้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ ………………………………………………….. หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาววรรณศริ ิ ฮ้อรอด)
ความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุม่ สาระ (หลังการนาแผนการจัดการเรียนรไู้ ปใช)้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ………………………………………………….. หวั หน้ากล่มุ สาระ
(นางสาววรรณศิริ ฮอ้ รอด)
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6
ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ใชฮ้ ารด์ แวร์และซอฟตแ์ วร์ให้เหมาะสมกับงาน หนว่ ยยอ่ ยท่ี 1
เรอื่ ง ร้จู กั งานกราฟิก เวลา 2 ชัว่ โมง
วนั ที่ทาการสอน ผู้สอน ครูอมรรตั น์ ปัญญาช่วย
1. สาระสาคญั 2. ผลการเรยี นรู้
การใช้ฮารด์ แวร์และซอฟตแ์ วร์ใหเ้ หมาะสมกบั งาน ผลการเรยี นรู้ขอ้ ท่ี 4 สามารถใช้ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์
ให้เหมาะสมกับงาน
เปน็ สิง่ ท่ีควรคานงึ ถงึ ในการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. เน้ือหา/สาระการเรยี นรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
รู้จักงานกราฟกิ - ใบงาน KWL เร่อื ง รู้จกั งานกราฟิก
5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 6. ชิน้ งาน/ภาระงาน
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี KWL
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ของกิจกรรม 7. สอ่ื 8. วิธวี ัดผล
Do Now (3 นาที)
จงเขยี นประโยชนข์ องการใช้งานกราฟิกใหม้ ากทส่ี ดุ -งานนาเสนอ ประเมนิ ใบงาน
เรอ่ื ง รู้จกั งาน KWL รจู้ กั งาน
Purpose(1 นาท)ี กราฟิก กราฟิก
เราจะเรียนเรอื่ งรู้จักงานกราฟิก เพื่อให้นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมาย -ใบงาน KWL เร่ือง
ของงานกราฟกิ ได้ ร้จู กั งานกราฟิก
-บทเรียนออนไลน์
Work mode (108 นาที) เร่ือง รู้จักงาน
1. นกั เรียนและครรู ่วมกันคดิ ถงึ สถานท่ีที่มีงานป้ายโฆษณาทไี่ ด้พบเห็นใน กราฟิก
ชีวติ ประจาวนั (พอเพยี ง8 สงิ่ แวดลอ้ ม)(15 นาท)ี
2. นักเรียนทากจิ กรรมโดยใชเ้ ครอ่ื งมือการคิดแบบ KWL โดยบอกส่ิงท่ีรู้
เกี่ยวกบั งานกราฟิกเครื่องมือ K (10 นาท)ี
3. นักเรียนบอกส่งิ ท่นี กั เรียนอยากรเู้ พิ่มเติมเกี่ยวกบั งานกราฟิก
ด้วยเครอื่ งมือ W (10 นาที) - ข้อสอบ PISA เรือ่ ง
4.นักเรยี นฟงั การอธิบายดว้ ยงานนาเสนอเรอื่ ง ร้จู ักงานกราฟิก รู้จกั งานกราฟกิ
(15นาที)
5. นักเรยี นบอกสิง่ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้เพิ่มเติมเกีย่ วกบั เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ ด้วย
เครอื่ งมือตัว L (15 นาที)
6. ตัวแทนนักเรยี น 5 คน ออกมานาเสนอใบงานร้จู ักงานกราฟกิ โดยใช้
เคร่ืองมอื การคิดแบบ KWL นาเสนอ (33 นาที)
7. นักเรยี นและครรู ่วมกบั รวบรวมความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับร้จู ักงาน
กราฟิก(คิด6 คิดสังเคราะห์)(15 นาท)ี
Reflective Thinking(8 นาที)
บอกความรู้เก่ยี วกับรู้จักงานกราฟกิ
ขอ้ สอบ PISA เรอื่ ง รู้จักงานกราฟกิ จานวน 1 ขอ้
ข้อสอบ PISA เร่ือง รู้จักงานกราฟิก
คาถามท่ี 1 1 คะแนน
ข้อความใด เป็นใจความสาคัญของรปู ภาพดังกลา่ ว
1. การจดั การรปู ภาพด้วยโปรแกรม Photoshop
2. การเรยี นรูเ้ คร่ืองมือของโปรแกรม Photoshop
3. หนา้ ตาของโปรแกรม Photoshop
4. ความสาคญั ของการใช้งานโปรแกรม Photoshop
ช่อื ........................................สกลุ ......................................ชั้น ม.6/...............................เลขท.ี่ ....................................
K W L
บอกความรทู้ ่ีเก่ยี วกับ บอกส่ิงที่ต้องการรเู้ พิม่ เติมเกี่ยวกับ บอกส่ิงที่ได้รเู้ พิม่ เติมจากการ
งานกราฟิก งานกราฟิก เรยี นรู้เรอ่ื งงานกราฟิก
สรปุ
แบบประเมนิ ใบงาน KWL
คาช้แี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมิน
กาหนดตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน KWL
ช่ือ-สกลุ การ เนอื้ หา นาเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผลการ
ลาดับที่ ของผรู้ ับการ แสดง สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมนิ ผ่าน/
ความ
ประเมนิ คดิ เหน็ ไมผ่ า่ น