คมู่อื
ประเมนิพฤติกรรมบง่ช้เีชิงบวก
(คณุธรรมอัตลกัษณ์)
โรงเรยีนอนุบาลตาก
สํานักงานเขตพืนทีการศกึษาประถมศกึษาตากเขต1
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
แนวทางการประเมนิ พฤตกิ รรมบง่ ชเ้ี ชงิ บวก (คณุ ธรรมอตั ลกั ษณ)์
ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ โรงเรยี นอนบุ าลตาก
ดา้ นท่ี ๑ ความมวี นิ ัย พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชวี้ ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้ ๑.๑.๑ ปฏบิ ตั ติ น ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ขอ้ บังคับ ของครอบครวั โรงเรยี นและสังคม
ตวั ชว้ี ดั ไมล่ ะเมดิ สิทธขิ องผอู้ ่ืน
๑.๑ ปฏบิ ตั ิตาม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ
ข้อบงั คับ ของครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม ๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ
ในชีวติ ประจำวนั และรับผิดชอบในการทำงาน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๑)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏบิ ัตติ นตาม ขอ้ ตกลง ไม่ปฏิบตั ติ นตาม ปฏิบตั ิตนตาม ปฏิบัตติ ามข้อตกลง ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง
กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ครอบครวั โรงเรียนและสังคม ระเบยี บ ข้อบงั คบั ระเบียบ ข้อบังคบั ข้อบงั คับของ ขอ้ บงั คับของ
ไม่ละเมดิ สิทธิของผอู้ ่ืน ของครอบครัวและ ของครอบครวั และ ครอบครัวและ ครอบครัวและ
โรงเรียนโดยตอ้ งมี
โรงเรยี น โรงเรยี น โรงเรียนโดยตอ้ งมี การเตือนเปน็
การเตือนเปน็ สว่ น
ใหญ่ บางคร้ังได้ด้วย
ตนเอง
๑.๑.๒ ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิ ไมต่ รงต่อเวลาใน ตรงตอ่ เวลาในการ ตรงต่อเวลาในการ ตรงตอ่ เวลาในการ
กิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวนั การปฏิบัติกิจกรรม ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ปฏิบตั ิกิจกรรม ปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง
และรบั ผิดชอบในการทำงาน ตา่ ง ๆ ใน ตา่ ง ๆ ใน ตา่ ง ๆ ใน ๆ ในชวี ิตประจำวัน
ชีวิตประจำวัน ชวี ติ ประจำวัน ชวี ิตประจำวนั และ และรับผดิ ชอบใน
และรับผิดชอบใน และรับผิดชอบใน รับผดิ ชอบในการ การทำงานโดยต้อง
การทำงาน การทำงาน ทำงานโดยตอ้ งมกี าร มีการเตือนเป็น
เตอื นเปน็ ส่วนใหญ่ บางครั้งไดด้ ้วย
ตนเอง
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ดา้ นท่ี ๒ ความซอื่ สตั ย์
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
๒.๑ ประพฤติตรงตามความเป็นจริงตอ่ ตนเอง
๒.๑.๑ ให้ข้อมลู ทถ่ี ูกต้องและเป็นจริง
ทั้งทางกาย วาจา ใจ ๒.๑.๒ ปฏิบตั ิตนโดยคำนึงถงึ ความถูกตอ้ งละอาย
๒.๒ ประพฤติตรงตาม ความเปน็ จริงตอ่ ผู้อ่นื และเกรงกลัวต่อการกระทำผดิ
ทงั้ ทางกายวาจา ใจ ๒.๑.๓ ปฏบิ ตั ติ ามคำมัน่ สญั ญา
๒.๒.๑ ไมถ่ ือเอาสง่ิ ของหรือผลงานของผู้อน่ื
มาเปน็ ของตนเอง
๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผู้อื่นดว้ ยความซอ่ื ตรง
๒.๒.๓ ไม่หาประโยชนใ์ นทางท่ไี ม่ถกู ต้อง
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๑)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ให้ข้อมูลทถี่ ูกต้อง
๒.๑.๑ ให้ข้อมูลทถ่ี กู ต้องและเปน็ ไม่ใหข้ ้อมูลที่ ให้ขอ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ ปฏิบตั ิ ให้ข้อมูลที่ถูกตอ้ ง
ในสิ่งที่ และเป็นจริง ปฏิบตั ิ
จรงิ ถกู ต้องและเป็นจริง และเป็นจรงิ ถูกต้อง ในสงิ่ ที่ถกู ตอ้ ง ทำ
ตามสญั ญาท่ตี นให้
๒.๑.๒ ปฏบิ ัตติ นโดย คำนงึ ถงึ ไมป่ ฏบิ ตั ิตนโดย ปฏิบัติตนโดย ปฏิบัตติ นโดย ไวก้ บั พ่อแม่ หรือ
ความถกู ตอ้ ง ละอายและเกรงกลัว คำนงึ ถึงความถูก คำนงึ ถึงความถูก คำนึงถงึ ความถูก ผูป้ กครองและครู
ต่อการกระทำผดิ ต้อง ละอายและ ตอ้ ง ละอายและ ต้อง ละอายและ
เกรงกลัวต่อการ เกรงกลัวต่อการ เกรงกลวั ตอ่ การ ปฏิบตั ิตนโดย
กระทำผดิ กระทำผิด กระทำผิดทำตาม คำนงึ ถงึ ความถูก
สญั ญาทีต่ นให้ไว้กับ ต้อง ละอายและ
๒.๑.๓ ปฏิบตั ติ ามคำม่นั สัญญา ไมป่ ฏบิ ัติตามคำมั่น ปฏิบัตติ ามคำม่นั พอ่ แม่ หรือ เกรงกลัวต่อการ
สญั ญา สัญญา ผ้ปู กครอง กระทำผิดทำตาม
ปฏบิ ตั ติ ามคำมั่น สัญญาทต่ี นให้ไวก้ บั
สญั ญาตนให้ไว้กับ พอ่ แม่ หรือ
พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครองและครู
ผปู้ กครอง
ปฏบิ ตั ติ ามคำมัน่
สญั ญาตนใหไ้ วก้ บั
พอ่ แม่ หรือ
ผปู้ กครองและครู
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ผอู้ นื่ ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๒.๒.๑ ไมน่ ำสงิ่ ของหรอื ผลงาน นำสิง่ ของของคน ไมน่ ำส่งิ ของของ ไมน่ ำสิ่งของของ ไม่นำสิง่ ของ และ
ของผู้อ่ืนมาเป็นของตนเอง อ่ืนมาเปน็ ของตน ผู้อน่ื มาเป็นของ ผู้อืน่ มาเปน็ ของ ผลงานของผู้อน่ื มา
ตนเอง ตนเอง เป็นของตนเอง
๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผ้อู ่นื ดว้ ยความ ไมป่ ฏบิ ตั ติ นต่อ ปฏบิ ัติตนตอ่ ผอู้ ่นื ปฏิบตั ติ นตอ่ ผูอ้ ่ืน ปฏิบตั ติ นต่อผู้อนื่
ซ่ือตรง ผู้อ่ืนด้วยความ ดว้ ยความซือ่ ตรง ด้วยความซื่อตรงไม่ ด้วยความซื่อตรงไม่
ซอ่ื ตรง บ้างครั้ง นำส่งิ ของของผอู้ ืน่ นำสงิ่ ของและ
มาเปน็ ของตนเอง ผลงานของผู้อื่นมา
เปน็ ของตนเอง
๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชน์ในทางท่ี หาประโยชนใ์ นทาง ไม่หาประโยชน์ ไม่หาประโยชน์ ไมห่ าประโยชน์จาก
ไมถ่ ูกตอ้ ง ทไี่ ม่ถูกต้อง ในทางที่ไม่ถกู ต้อง จากผู้อน่ื ในทางท่ี ผอู้ ่ืนและเอา
ไมถ่ ูกต้อง ผลงานของผู้อื่นมา
ใช้ในทางที่ไม่
ถูกต้อง
โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
ดา้ นท่ี ๓ ความรบั ผดิ ชอบ
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชวี้ ดั ๓.๑.๑ ตั้งใจเรียน
๓.๑ ตง้ั ใจ เพยี รพยายาม ในการเรียน ๓.๑.๒ เอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้
๓.๑.๓ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ
และเข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้
๓.๒.๑ ศึกษาคน้ ควา้ หาความรูจ้ ากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์
๓.๒ แสวงหาความรู้จากทง้ั ภายใน ส่ือเทคโนโลยตี ่าง ๆ แหล่งเรยี นรูท้ งั้ ภายในและ
และภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการ ภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้สือ่ ได้อย่างเหมาะสม
เลือกใชส้ อื่ อยา่ งเหมาะสม สรปุ
เปน็ องค์ความรู้ และสามารถ ๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วเิ คราะหต์ รวจสอบ จากสงิ่ ทเี่ รยี นรู้
นำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ สรุปเป็นองค์ความรู้
๓.๒.๓ แลกเปลย่ี นความรู้ ดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และนำไปใช้
ในชีวติ ประจำวนั
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๑)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓.๑ ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ ม กจิ กรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๑.๑ ตั้งใจเรยี น ไม่ตัง้ ใจเรียน ตั้งใจเรยี น ตง้ั ใจเรียน โดย ตงั้ ใจเรียน โดย
ตอ้ งมีการเตือน ต้องมีการเตือน
เปน็ ส่วนใหญ่ เปน็ บางครง้ั ไดด้ ้วย
ตนเอง
๓.๑.๒ เอาใจใส่และมคี วามเพียร ไมเ่ อาใจใส่และมี เอาใจใส่และมี เอาใจใส่และมี เอาใจใสแ่ ละมี
พยายาม ในการเรียนรู้ ความเพยี ร ความเพียร
พยายาม ในการ พยายาม ในการ ความเพียร ความเพียร
เรียนรู้ เรียนรู้
พยายาม ในการ พยายาม ในการ
เรียนรู้ตอ้ งมีการ เรียนร้ตู อ้ งมีการ
เตอื นเปน็ สว่ นใหญ่ เตือนเปน็ บางคร้งั
ได้ดว้ ยตนเอง
๓.๑.๓ สนใจเขา้ รว่ ม กจิ กรรม ไมส่ นใจเข้าร่วม สนใจเข้าร่วม สนใจเขา้ รว่ ม สนใจเขา้ รว่ ม
การเรียนรู้ตา่ งๆ
กจิ กรรม กิจกรรม กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้
การเรยี นรู้ต่าง ๆ การเรียนรู้ต่าง ๆ ตา่ ง ๆต้องมีการ ตา่ ง ๆต้องมีการ
เตอื นเป็นสว่ นใหญ่ เตอื นเป็นบางครง้ั
ไดด้ ้วยตนเอง
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อื่ อยา่ ง
เหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ศกึ ษาค้นคว้า ศกึ ษาค้นควา้ หา
๓.๒.๑ ศึกษาค้นคว้าหา ความรู้ ไมศ่ ึกษาค้นควา้ หาความรู้ จาก ความรู้ จาก ศึกษาค้นคว้าหา
จากหนังสอื เอกสาร สิง่ พิมพ์ สอ่ื หาความรู้ หนงั สือ หนังสือ เอกสาร ความรู้จากหนงั สือ
เทคโนโลยตี า่ งๆแหลง่ เรียนรูท้ ้ัง สิ่งพิมพ์ สอื่ เอกสารสง่ิ พิมพ์
ภายในและภายนอกโรงเรยี น และ บนั ทึกความรู้ เทคโนโลยี สอื่ เทคโนโลยี
เลอื กใช้ส่อื ได้ อย่างเหมาะสม วิเคราะห์ แหล่งเรียนรูอ้ ื่น แหลง่ เรยี นรู้อืน่
ข้อมูลจากสง่ิ ที่ และมีการบนั ทึก
๓.๒.๒ บันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ไมบ่ ันทึกความรู้ เรียนรู้ บันทกึ ความรู้ ความรู้
ขอ้ มลู จากส่ิงท่เี รยี นรู้ สรุปเป็น วิเคราะห์ วเิ คราะห์
องค์ความรู้ ข้อมูลจากสง่ิ ที่ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ข้อมลู จากส่ิงที่ บนั ทกึ ความรู้
เรยี นรู้ ด้วยวิธีการต่างๆ เรยี นรู้และสรุป วิเคราะห์
องค์ความรู้เป็น ขอ้ มลู จากสง่ิ ท่ี
๓.๒.๓ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้วย ไมแ่ ลกเปล่ียน บางครง้ั เรียนรู้และสรุป
วิธีการต่างๆและนำไปใชใ้ น เรยี นรู้ ด้วย แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ องค์ความรู้อยา่ ง
ชวี ติ ประจำวัน วิธกี ารตา่ งๆ ด้วยวิธกี ารตา่ งๆ สมำ่ เสมอ
และนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวันเป็น แลกเปล่ยี นเรียนรู้
บางคร้งั ด้วยวิธกี ารต่างๆ
และนำไปใช้ใน
ชวี ิตประจำวันเป็น
อย่างสม่ำเสมอ
ดา้ นที่ ๔ ความกตญั ญู โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี
พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั ๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธบิ ายความหมายของเพลง
๔.๑ เปน็ พลเมืองดขี องชาติ ชาติไดถ้ กู ตอ้ ง
๔.๑.๒ ปฏิบัติตนตามสิทธิและ หนา้ ท่ีพลเมอื งดีของชาติ
๔.๒ ธำรงไวซ้ ง่ึ ความเปน็ ชาติ ๔.๑.๓ มีความสามัคคี ปรองดอง
ไทย ๔.๒.๑ เข้ารว่ ม สง่ เสรมิ สนบั สนนุ กิจกรรมทสี่ รา้ งความสามัคคี ปรองดอง
ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชุมชนและสังคม
๔.๓ ศรัทธา ยดึ มั่นและปฏบิ ัติ ๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกยอ่ งความเปน็ ชาติไทย
ตนตามหลกั ของศาสนา ๔.๓.๑ เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ
๔.๓.๒ ปฏิบตั ติ นตามหลักของศาสนาท่ตี นนบั ถอื
๔.๔ เคารพเทิดทนู สถาบัน ๔.๓.๓ เป็นแบบอยา่ งทด่ี ีของศาสนกิ ชน
พระมหากษัตรยิ ์ ๔.๔.๑ เขา้ ร่วมและมีสว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมที่เกยี่ วกบั สถาบัน
พระมหากษัตริย์
๔.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธคิ ณุ ของพระมหากษัตรยิ ์
๔.๔.๓ แสดงออกซ่งึ ความจงรักภักดตี ่อสถาบันพระมหากษัตรยิ ์
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๑)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๑ เปน็ พลเมอื งดขี องชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ยืนตรงเคารพธง
๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ไม่ยนื ตรงเคารพธง ชาติ ยืนตรงเมอ่ื ได้ยนิ ยนื ตรงเมอ่ื ได้ยนิ
ร้องเพลง ชาติ และอธบิ าย ชาติ ปฏบิ ัตติ นตามสทิ ธิ เพลงชาติ รอ้ งเพลง เพลงชาติ ร้อง
หนา้ ท่ี
ความหมาย ของเพลงชาติ พลเมอื งดี ชาตไิ ด้ เพลงชาติได้ และ
ได้ถูกตอ้ ง ทะเลาะกบั เพ่อื น บอกความหมาย
ในหอ้ งเรยี นเปน็
บางคร้ัง ของเพลงชาตไิ ด้
ถูกต้อง
๔.๑.๒ ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธิหนา้ ที่ ไมป่ ฏิบตั ติ นตาม ปฏิบตั ติ นตามสทิ ธิ ปฏิบัตติ นตามสทิ ธิ
พลเมอื งดีของชาติ สทิ ธหิ นา้ ที่
พลเมืองดี และหนา้ ทข่ี อง ของนักเรียนตาม
นกั เรยี นบางครั้ง สทิ ธหิ น้าท่ี
พลเมืองดสี มำ่ เสมอ
๔.๑.๓ มีความสามคั คีปรองดอง ทะเลาะกบั เพื่อน มคี วามรว่ มมือใน ให้ความร่วมมือ
ในห้องเรยี นเปน็
ประจำ การทำงานร่วมกัน รว่ มใจในการ
ในชนั้ เรียน ทำงานกบั สมาชิก
ในช้นั เรยี น
โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๔.๒ ธำรงไวซ้ ่งึ ความเปน็ ชาตไิ ทย
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
เข้าร่วมกจิ กรรมท่ี เข้ารว่ มกิจกรรมที่
๔.๒.๑ เข้าร่วมสง่ เสรมิ สนับสนุน ไมเ่ ขา้ รว่ มกิจกรรม สร้างความสามคั คี สรา้ งความสามัคคี เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ี
ปรองดองและเปน็ สรา้ งความสามคั คี
กิจกรรม ที่สรา้ งความสามัคคี ทีส่ ร้างความ หวงแหน ปกปอ้ ง ประโยชนต์ ่อ ปรองดอง และเป็น
ปรองดอง ทีเ่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ สามคั คี ความเป็นชาติไทย โรงเรียน ชมุ ชน ประโยชนต์ ่อ
โรงเรยี น ชุมชน และสงั คม โรงเรียน ชุมชน
หวงแหน ปกป้อง และสงั คม
๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกย่อง ไมห่ วงแหน ยกยอ่ ง ความเปน็
ชาติไทยเป็น หวงแหน ปกปอ้ ง
ความเป็นชาตไิ ทย ปกปอ้ ง ความเป็น บางคร้งั ยกยอ่ ง ความเปน็
ชาตไิ ทยสม่ำเสมอ
ชาตไิ ทย
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๓ ศรทั ธา ยดึ มนั่ และปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๔.๓.๑ เข้าร่วมกจิ กรรมทาง ไมเ่ ขา้ รว่ มกจิ กรรม เข้ารว่ มกิจกรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ี
ศาสนาท่ตี นนบั ถือ ทางศาสนาที่ตน ทางศาสนาที่ตน ตนนบั ถือและ ตนนบั ถอื และ
นับถือ นบั ถือ ปฏิบัติตนตามหลัก ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั
ศาสนาตามโอกาส ศาสนาอย่าง
บางครง้ั สม่ำเสมอ
๔.๓.๒ ปฏิบตั ิตนตามหลักของ ไมป่ ฏบิ ัตติ นตาม ปฏบิ ัติตนตามหลกั ปฏิบตั ติ นตามหลัก ปฏิบตั ติ นตามหลกั
ศาสนาทตี่ นนับถือ หลกั ของศาสนา ของศาสนา ของศาสนาทต่ี นนบั ของศาสนาท่ตี นนบั
ถอื บางครัง้ ถือสมำ่ เสมอ
๔.๓.๓ เป็นแบบอยา่ งท่ดี ีของ ไม่เปน็ แบบอย่างที่ เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี เปน็ แบบอย่างที่ดี เป็นแบบอย่างทด่ี ี
ศาสนกิ ชน ดขี องศาสนิกชน ของศาสนิกชน ของศาสนิกชน ของศาสนกิ ชน
นานๆ ครงั้ บางครัง้ สม่ำเสมอ
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๔.๔.๑ เขา้ ร่วมและมีสว่ นรว่ ม ไมเ่ ขา้ ร่วมกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรมที่ เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี เข้าร่วมกจิ กรรม และ
ในการจัดกิจกรรมท่เี กี่ยวกบั ทเี่ ก่ยี วข้องกับ เกย่ี วข้องกับ เก่ยี วขอ้ งกับ มีสว่ นร่วมในการจัด
สถาบนั พระมหากษัตริย์ สถาบนั สถาบัน สถาบัน กจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วกบั
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์ สถาบนั
ตามทโ่ี รงเรียนจดั พระมหากษัตริย์
ขึ้น ตามท่ีโรงเรยี นและ
ชุมชนจดั ข้ึน
๔.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระ ไมเ่ ขา้ รว่ มกจิ กรรม เข้าร่วมกจิ กรรมท่ี เข้าร่วมกิจกรรมท่ี เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี
มหากรณุ าธคิ ุณของ ทแ่ี สดงความสำนึก แสดงความสำนกึ แสดงความสำนึก แสดงความสำนกึ
พระมหากษัตรยิ ์ มหากรณุ าธคิ ุณของ มหากรณุ าธคิ ุณ มหากรณุ าธิคุณของ มหากรณุ าธคิ ุณของ
พระมหากษัตริย์ ของ พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์
พระมหากษัตริย์ ตามที่โรงเรียนจัด ตามที่โรงเรยี นและ
ขน้ึ ชมุ ชนจัดข้นึ
๔.๔.๓ แสดงออกซง่ึ ความ ไม่เข้ารว่ มกิจกรรม เข้ารว่ มกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกจิ กรรมที่
จงรกั ภกั ดี ต่อสถาบัน ทแ่ี สดงออกถึง แสดงออกถึง แสดงออกถึงความ แสดงออกถึงความ
พระมหากษัตริย์ ความจงรักภกั ดตี ่อ ความจงรักภกั ดี จงรักภกั ดีต่อ จงรักภกั ดี ตอ่ สถาบนั
สถาบนั ต่อสถาบนั สถาบนั พระมหากษัตริย์
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตรยิ ์ ตามท่โี รงเรียนจัดขน้ึ
ตามท่ีโรงเรยี นจดั และชมุ ชนจดั ข้ึน
ขึ้น
ด้านที่ ๕ ความพอเพยี ง โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั ๕.๑.๑ ใช้ทรพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ เงนิ ส่ิงของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ
๕.๑ ดำเนนิ ชวี ิตอย่าง พอประมาณมี อยา่ งประหยัด คมุ้ คา่ และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี รวมท้ังการใช้
เหตผุ ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม เวลาอยา่ งเหมาะสม
๕.๑.๒ ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยัด คมุ้ ค่าและเกบ็
๕.๒ มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี ปรับตัว รักษาดูแลอย่างดี
เพื่ออยูใ่ น สังคมได้อยา่ งมีความสุข ๕.๑.๓ ปฏิบัติตนและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล
๕.๑.๔ ไม่เอาเปรียบผู้อ่นื และไม่ทำใหผ้ อู้ ืน่ เดือดร้อน พรอ้ มให้
อภยั เมื่อผู้อื่น กระทำผิดพลาด
๕.๒.๑ วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ วี ติ ประจำวัน
บนพนื้ ฐานของความรู้ ข้อมลู ข่าวสาร
๕.๒.๒ รูเ้ ทา่ ทนั การเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม
ยอมรับและ ปรับตวั เพ่อื อยู่ร่วมกับผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งมีความสุข
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๑)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๕.๑ ดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ุณธรรม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
ใชเ้ งนิ ของใช้
๕.๑.๑ ใช้ทรพั ย์สินของตนเอง ใชเ้ งินและของใช้ ใชเ้ งนิ และของใช้ ส่วนตวั และของ ใชเ้ งนิ ของใช้
สว่ นรวมอยา่ ง สว่ นตัว และของ
เชน่ เงนิ ส่ิงของ เครื่องใช้ สว่ นตัวอยา่ งไม่ สว่ นตัวอย่าง ประหยดั และ ส่วนรวมอย่าง
เกบ็ รกั ษา ดูแล ประหยัด คุม้ ค่า
ฯลฯ อยา่ งประหยัด คุม้ ค่าและเก็บ ประหยดั ประหยดั อยา่ งดตี ดั สินใจ เกบ็ รกั ษาดูแล
อย่างมีเหตุผล อย่างดี ตัดสินใจ
รักษาดูแลอย่างดีรวมทั้งการใช้เวลา อย่างมเี หตุผลไม่
ใช้ทรพั ยากรของ เอาเปรียบผอู้ ่ืน
อยา่ งเหมาะสม ส่วนรวมอย่าง
ประหยดั และ ใชท้ รัพยากรของ
๕.๑.๒ ใช้ทรพั ยากรของสว่ นรวม ไมใ่ ชท้ รัพยากร ใชท้ รพั ยากรของ คมุ้ คา่ โดยต้องมี สว่ นรวมอยา่ ง
อยา่ งประหยดั ค้มุ ค่า ของสว่ นรวม ส่วนรวมอยา่ ง การเตอื นเป็นส่วน ประหยัดและ
อยา่ งประหยัด ประหยัด ใหญ่ ค้มุ ค่าโยต้องมีการ
เตือนเปน็ บางครง้ั
๕.๑.๓ ปฏบิ ตั ิตนและตดั สนิ ใจด้วย ไมป่ ฏบิ ัติตนและ ปฏบิ ตั ิตนและ ปฏิบัตติ นและ ปฏิบตั ิตนและ
ความรอบคอบมีเหตผุ ล ตัดสนิ ใจด้วยความ ตัดสนิ ใจดว้ ยความ ตดั สินใจด้วยความ ตัดสินใจดว้ ยความ
รอบคอบ รอบคอบ รอบคอบมเี หตุผล รอบคอบมีเหตุผล
๕.๑.๔ ไม่เอาเปรยี บผอู้ นื่ และไม่ เปน็ บางคร้งั อย่างสมำ่ เสมอ
ทำใหผ้ อู้ ่ืน เดือดรอ้ นพร้อมให้อภัย เอาเปรยี บผ้อู ่นื ไมเ่ อาเปรียบผู้อ่นื
เมือ่ ผู้อนื่ กระทำผดิ พลาด ไมเ่ อาเปรยี บผ้อู ่ืน ไมเ่ อาเปรียบผอู้ น่ื
และไม่ทำใหผ้ ู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อน่ื
เดือดร้อน เดือดรอ้ นพร้อมให้
อภยั เมือ่ ผู้อนื่
กระทำผิดพลาด
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๕.๒ มภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ที่ดี ปรบั ตวั เพอ่ื อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ใช้ความรู้ ข้อมูล
๕.๒.๑ วางแผนการเรียนการ ไม่วางแผนการ วางแผนการเรยี น ข่าวสารใหเ้ ปน็ ใช้ความรู้ ขอ้ มูล
ประโยชนต์ อ่ ข่าวสารให้เปน็
ทำงานและการใช้ชีวติ ประจำวนั บน เรยี น และการใช้ และการใช้ การเรียน ประโยชน์ตอ่
พ้นื ฐานของความรู้ขอ้ มูลขา่ วสาร ชวี ิตประจำวนั ชวี ิตประจำวัน การเรยี นและใช้ใน
รเู้ ทา่ ทนั การ ชวี ติ ประจำวนั
๕.๒.๒ รู้เท่าทนั การ เปล่ียนแปลง ไมร่ ู้เทา่ ทันการ รเู้ ทา่ ทันการ เปล่ยี นแปลงของ
ของสงั คม และสภาพ แวดลอ้ ม เปล่ยี นแปลงของ เปลี่ยนแปลงของ สังคม และสภาพ รู้เทา่ ทนั การ
ยอมรบั และปรับตวั เพ่ืออยู่ ร่วมกับ สังคม สังคม แวดล้อมยอมรับ เปลย่ี นแปลงของ
ผูอ้ ื่นได้อย่างมีความสขุ สงั คม และสภาพ
แวดล้อมยอมรับ
และปรบั ตวั เพ่ืออยู่
ร่วมกบั ผ้อู ่นื ได้
อยา่ งมีความสขุ
โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
แนวทางการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชเ้ี ชงิ บวก (คุณธรรมอตั ลกั ษณ)์
ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ โรงเรยี นอนบุ าลตาก
ด้านท่ี ๑ ความมวี นิ ัย พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชวี้ ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี ๑.๑.๑ ปฏบิ ตั ติ น ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ข้อบงั คับ ของครอบครัวโรงเรยี นและสังคม
ตวั ชวี้ ดั ไม่ละเมิดสิทธิของผูอ้ ื่น
๑.๑ ปฏิบัตติ าม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ข้อบังคับ ของครอบครัว โรงเรยี น และสังคม ๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ
ในชีวิตประจำวนั และรับผดิ ชอบในการทำงาน
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๒)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๑.๑ ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏบิ ัตติ นตาม ข้อตกลง ไม่ปฏิบัติตนตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏบิ ัตติ นตาม ปฏิบัตติ นตาม
กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ข้อตกลงกฎเกณฑ์
ครอบครัว โรงเรียนและสังคม ระเบียบ ข้อบังคับ ระเบยี บ ข้อบงั คับ ระเบยี บ ข้อบงั คับ ระเบยี บ ข้อบงั คบั
ไมล่ ะเมิดสิทธิของผู้อื่น ของครอบครัว ของครอบครวั ของครอบครัว ของครอบครวั
และโรงเรียน
และโรงเรยี นเป็น โรงเรยี นและ โรงเรยี นและ
บางคร้ัง สงั คม ไมล่ ะเมิด สังคม ไมล่ ะเมดิ
สิทธิของผู้อ่ืนเปน็ สทิ ธิของผู้อน่ื
บอ่ ยคร้ัง อยา่ งสม่ำเสมอ
๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ ไมต่ รงต่อเวลาใน ตรงตอ่ เวลาในการ เข้ารว่ มกิจกรรม ตรงต่อเวลาในการ
กจิ กรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน การปฏิบตั ิ ปฏิบตั ิกิจกรรม ตรงต่อเวลาในการ ปฏบิ ตั ิกิจกรรม
และรับผดิ ชอบในการทำงาน กิจกรรมต่าง ๆ ใน ตา่ ง ๆ ใน ปฏิบตั กิ จิ กรรม ตา่ ง ๆ ใน
ชวี ิตประจำวัน ชีวติ ประจำวัน ตา่ ง ๆ ใน ชวี ิตประจำวนั
และไมร่ ับผิดชอบ และรบั ผิดชอบใน ชีวติ ประจำวัน และรับผดิ ชอบใน
ในการทำงาน การทำงานเป็น และรบั ผิดชอบใน การทำงานท่ีได้รบั
บางครง้ั การทำงานอยา่ ง มอบหมายอยา่ ง
บ่อยครัง้ สม่ำเสมอ
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ด้านท่ี ๒ ความซอ่ื สตั ย์
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชวี้ ดั พฤตกิ รรมบง่ ชี้
๒.๑ ประพฤติตรงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเอง
๒.๑.๑ ให้ขอ้ มลู ที่ถูกต้องและเปน็ จรงิ
ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ ๒.๑.๒ ปฏิบัตติ นโดยคำนงึ ถึงความถกู ต้องละอาย
๒.๒ ประพฤตติ รงตาม ความเป็นจรงิ ตอ่ ผู้อื่น และเกรงกลัวตอ่ การกระทำผดิ
ทง้ั ทางกายวาจา ใจ ๒.๑.๓ ปฏบิ ัตติ ามคำมน่ั สัญญา
๒.๒.๑ ไมถ่ ือเอาสง่ิ ของหรือผลงานของผู้อ่นื
มาเปน็ ของตนเอง
๒.๒.๒ ปฏบิ ัติตนต่อผอู้ นื่ ด้วยความซอ่ื ตรง
๒.๒.๓ ไม่หาประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถูกต้อง
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๒)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๒.๑.๑ ให้ขอ้ มลู ที่ถกู ต้องและเป็น ไม่ใหข้ ้อมูลที่ ให้ขอ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง ให้ข้อมูลทถ่ี ูกต้อง ใหข้ ้อมลู ที่ถูกตอ้ ง
และเป็นจริง และเป็นจรงิ
จริง ถกู ต้องและเปน็ และเปน็ จริง ปฏิบตั ิในส่ิงท่ี ปฏบิ ัติในสิ่งที่
ถกู ต้อง ถูกต้อง ทำตาม
จริง สญั ญาท่ีตนให้ไว้
กบั พ่อแม่ หรือ
๒.๑.๒ ปฏบิ ัตติ นโดย คำนงึ ถงึ ไมป่ ฏบิ ตั ติ น ไม่ ปฏบิ ัตติ น โดย เขา้ ร่วมกจิ กรรม ผปู้ กครองและครู
คำนงึ ถึงความ ปฏิบัติตน โดย
ความถกู ตอ้ ง ละอายและเกรงกลวั คำนงึ ถึงความ ถกู ต้องเป็นบางคร้งั คำนึงถึงความ ปฏิบัตติ น โดย
คำนึงถึงความ
ต่อการกระทำผดิ ถูกต้อง ถูกต้องอย่าง ถกู ต้องไมท่ ำผิด
บอ่ ยครั้ง กฎระเบยี บไม่
ทำลายชอื่ เสียงของ
๒.๑.๓ ปฏิบตั ิตามคำมนั่ สัญญา ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามคำมั่น ปฏิบตั ติ ามคำมน่ั ปฏิบตั ิตนเป็น โรงเรียนอยา่ ง
สญั ญา สญั ญาเป็นบางครงั้ ประโยชน์ตอ่ การ สม่ำเสมอ
ปฏบิ ตั ติ ามคำม่นั ปฏบิ ตั ิตนเป็น
สัญญาบอ่ ยครั้ง ประโยชนต์ ่อการ
ปฏบิ ัติตามคำมั่น
สัญญาอย่าง
สมำ่ เสมอ
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ผอู้ นื่ ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๒.๒.๑ ไม่นำสิง่ ของหรือผลงาน นำสิง่ ของของคน ไม่นำสิง่ ของของ ไม่นำสิง่ ของ ไมน่ ำสงิ่ ของ และ
ผลงานของผู้อ่นื มา
ของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง อืน่ มาเปน็ ของตน ผูอ้ นื่ มาเป็นของ ของผู้อน่ื มา เป็นของตนเอง
ตนเองเป็นบางครั้ง เป็นของตนเอง อยา่ งสม่ำเสมอ
บ่อยครั้ง
ปฏบิ ัติตนตอ่ ผ้อู ืน่
๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ิตนต่อผอู้ ่ืนด้วยความ ไมป่ ฏบิ ัติตนต่อ ปฏบิ ัติตนตอ่ ผ้อู ื่น ปฏิบตั ติ นต่อผูอ้ น่ื ดว้ ยความซื่อตรง
ซือ่ ตรง ผอู้ ื่นดว้ ยความ ด้วยความซอื่ ตรง ดว้ ยความซือ่ ตรง ไม่นำสิ่งของทไ่ี ม่ใช่
ของตนเองมาเป็น
ซือ่ ตรง เปน็ บางคร้ัง บ่อยครั้ง ของเรา ปฏบิ ตั ติ ่อ
ผอู้ ืน่ ด้วยความ
๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชนใ์ นทางที่ หาประโยชน์ในทาง ไมห่ าประโยชน์ ไม่หาประโยชน์ ซือ่ ตรงอย่าง
ไมถ่ ูกตอ้ ง สม่ำเสมอ
ที่ไม่ถกู ต้อง ในทางที่ไม่ถกู ต้อง ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง
ไมห่ าประโยชน์
เป็นบางครง้ั บ่อยครง้ั ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง
อย่างสม่ำเสมอ
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ด้านท่ี ๓ ความรบั ผดิ ชอบ
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั ๓.๑.๑ ตง้ั ใจเรยี น
๓.๑ ต้ังใจ เพยี รพยายาม ในการเรยี น ๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมีความเพียรพยายามในการเรยี นรู้
๓.๑.๓ สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ
และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
๓.๒.๑ ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้จากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์
๓.๒ แสวงหาความรู้จากทง้ั ภายใน สอ่ื เทคโนโลยีตา่ ง ๆ แหลง่ เรียนรทู้ ้ังภายในและ
และภายนอกโรงเรียน ดว้ ยการ ภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้สือ่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
เลอื กใชส้ ือ่ อย่างเหมาะสม สรุป
เปน็ องค์ความรู้ และสามารถ ๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ตรวจสอบ จากส่ิงท่ีเรยี นรู้
นำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ สรุปเปน็ องคค์ วามรู้
๓.๒.๓ แลกเปล่ยี นความรู้ ดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และนำไปใช้
ในชวี ิตประจำวัน
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๒)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๓.๑ ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ ม กจิ กรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๑.๑ ตั้งใจเรียน ไม่ตั้งใจเรียน
ต้ังใจเรยี น เอาใจ ตง้ั ใจเรียน ตั้งใจเรยี น เอาใจ
๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพียร ไมเ่ อาใจใสแ่ ละมี
พยายาม ในการเรยี นรู้ ความเพยี ร ใส่ในการเรียนเป็น เอาใจใส่ใน ใสใ่ นการเรยี น
พยายามในการ
๓.๑.๓ สนใจเข้าร่วมกจิ กรรม เรียนรู้ บางครัง้ การเรียนบ่อยคร้ัง อย่างสมำ่ เสมอ
การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
ไมส่ นใจเขา้ ร่วม มเี อาใจใสแ่ ละมี มีความเอาใจใส่ มคี วามเอาใจใส่
กจิ กรรมการ
เรยี นรู้ต่าง ๆ ความเพยี ร ต่อการเรียนและมี ต่อการเรยี นและมี
พยายาม ในการ ความเพยี ร ความเพียร
เรียนรู้เปน็ บางครงั้ พยายาม ในการ พยายาม ในการ
เรียนรู้บ่อยคร้งั เรยี นรู้สมำ่ เสมอ
สนใจเข้ารว่ ม สนใจเขา้ ร่วม สนใจเขา้ ร่วม
กจิ กรรมการ กจิ กรรมการ กจิ กรรมการ
เรียนรตู้ า่ ง ๆ เป็น เรยี นรู้ต่าง ๆ เรยี นรตู้ ่าง ๆ
บางคร้งั ท่ีทางโรงเรียนได้ ท่ที างโรงเรียนได้
จัดให้บ่อยครง้ั จดั ให้สม่ำเสมอ
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ ตา่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อื่ อยา่ ง
เหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๒.๑ ศกึ ษาคน้ ควา้ หา ความรู้ ไมศ่ ึกษาคน้ คว้า ศึกษาค้นคว้า ศึกษาคน้ ควา้ หา ศกึ ษาค้นคว้าหา
จากหนงั สือ เอกสาร สิง่ พิมพ์ สอื่ หาความรู้ หาความร้จู าก ความรู้ จาก ความรู้จากหนังสือ
เทคโนโลยตี ่างๆ แหล่งเรยี นรู้ทง้ั หนังสือเป็น หนงั สอื เอกสาร เอกสารสงิ่ พิมพ์
ภายใน และภายนอกโรงเรยี น บางครงั้ สิ่งพมิ พ์ สอื่ สื่อเทคโนโลยี
และเลอื กใชส้ ือ่ ได้อย่างเหมาะสม เทคโนโลยี แหล่งเรียนร้อู ืน่
แหล่งเรียนรู้อื่น การบนั ทึกความรู้
บ่อยคร้งั สม่ำเสมอ
๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ ไมบ่ นั ทึก ไม่ มีการบันทึก มกี ารบนั ทึก มีการบนั ทึก
ข้อมลู จากส่งิ ทเี่ รียนรู้สรุปเปน็ วิเคราะห์ หรือ ความรู้ วิเคราะห์ ความรู้ ศกึ ษาและ ความรู้ ศึกษาและ
องค์ความรู้ เรยี นรู้ ขอ้ มูลจากสิ่งที่ วิเคราะหข์ ้อมลู วิเคราะห์ข้อมูล
เรียนรูส้ รปุ เป็น จากสิ่งทเี่ รียนรู้ จากสิง่ ทเ่ี รียนรู้
องค์ความรู้เป็น สรปุ เป็นองค์ สรุปเป็นองค์
บางคร้งั ความรู้เป็น ความรู้ โดยผา่ น
บ่อยครั้ง กระบวนการ
เรยี นรจู้ ากสง่ิ
รอบตัวและ
กิจกรรมที่
กำหนดให้
สม่ำเสมอ
๓.๒.๓ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ ด้วย ไมแ่ ลกเปลี่ยน แลกเปลยี่ นเรียนรู้ ใช้การแลกเปลีย่ น มกี ารแลกเปล่ยี น
วิธีการต่าง ๆ และนำไปใชใ้ น เรียนรู้ ดว้ ย ด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ เรยี นรู้ ด้วยวธิ กี าร เรียนรู้ ดว้ ยวธิ กี าร
ชวี ิตประจำวัน วธิ กี ารตา่ ง ๆ และ และนำไปใชใ้ น ต่าง ๆ และไปใช้ ต่าง ๆ ทีส่ ามารถ
ไมน่ ำไปใชใ้ น ชีวติ ประจำวันเป็น ในชีวติ ประจำวัน นำไปปรับใชใ้ น
ชีวติ ประจำวนั บางครง้ั ไดบ้ อ่ ยคร้งั ชีวติ ประจำวันได้
สม่ำเสมอ
ดา้ นท่ี ๔ ความกตญั ญู โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชวี้ ดั ๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธิบายความหมายของเพลง
๔.๑ เป็นพลเมืองดีของชาติ
ชาติไดถ้ กู ต้อง
๔.๒ ธำรงไว้ซ่งึ ความเปน็ ชาติ ๔.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิและ หนา้ ที่พลเมืองดขี องชาติ
ไทย ๔.๑.๓ มคี วามสามัคคี ปรองดอง
๔.๒.๑ เข้าร่วม สง่ เสริม สนับสนุนกจิ กรรมท่สี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง
๔.๓ ศรทั ธา ยึดมั่นและปฏบิ ตั ิ
ตนตามหลักของศาสนา ทีเ่ ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม
๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกย่องความเป็นชาติไทย
๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั ๔.๓.๑ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนับถือ
พระมหากษัตรยิ ์ ๔.๓.๒ ปฏบิ ัตติ นตามหลักของศาสนาทีต่ นนบั ถอื
๔.๓.๓ เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ีของศาสนกิ ชน
๔.๔.๑ เข้าร่วมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมที่เก่ยี วกบั สถาบัน
พระมหากษัตริย์
๔.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตรยิ ์
๔.๔.๓ แสดงออกซง่ึ ความจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๒)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๑ เปน็ พลเมอื งดีของชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ยนื ตรงเคารพ
๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ไม่ยนื ตรงเคารพ ธงชาติ ยืนตรงเมอื่ ไดย้ นิ ยนื ตรงเมือ่ ได้ยิน
เพลงชาติ ร้องเพลง เพลงชาติ ร้อง
ร้องเพลง ชาติ และอธิบาย ธงชาติ ปฏิบัติตามสทิ ธิ
หน้าทข่ี องพลเมือง
ความหมาย ของเพลงชาติ ดีบางคร้ัง ชาตไิ ด้ และบอก เพลงชาตไิ ด้ และ
ความหมายของ บอกความหมาย
ได้ถูกต้อง เกดิ ความสามัคคี เพลงชาตไิ ด้ถูกต้อง ของเพลงชาติได้
รักใครก่ ันใน
หอ้ งเรยี นเป็น ปฏบิ ตั ิตน ถูกต้อง
บางคร้งั
๔.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามสทิ ธิหนา้ ท่ี ไม่ปฏิบัตติ าม ปฏิบตั ติ ามสิทธิ ปฏิบตั ติ ามสิทธิ
พลเมืองดีของชาติ หน้าทขี่ องพลเมือง หน้าที่ของพลเมือง หนา้ ทขี่ องพลเมือง
ทด่ี ี
ดี เคารพกฎกตกิ า ดี เคารพกฎกตกิ า
บ้านเมอื ง กฎ บ้านเมือง กฎ
จราจร อย่าง จราจร และบอก
บ่อยคร้ัง ความหมายของ
การปฏิบตั ิเปน็
หนา้ ท่พี ลเมืองที่ดี
ไดอ้ ยา่ งสมำ่ เสมอ
๔.๑.๓ มคี วามสามคั คปี รองดอง ไม่มีความสามัคคี เกดิ ความสามัคคี เกดิ ความสามัคคี
รักใคร่กันใน รกั ใครก่ ันใน
ห้องเรียน มคี วาม หอ้ งเรยี น มคี วาม
ปรองดองและรัก ปรองดองและรัก
ใคร่สามคั คี ตอ่ ใครส่ ามัคคี ต่อ
โรงเรยี นบอ่ ยครั้ง โรงเรียน เละ
สมาชกิ ในชั้นเรียน
สม่ำเสมอ
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๒ ธำรงไวซ้ ึ่งความเปน็ ชาติไทย
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี เข้ารว่ มกจิ กรรมที่
๔.๒.๑ เข้าร่วมสง่ เสริมสนบั สนุน ไม่เขา้ รว่ มกิจกรรม สร้างความสามัคคี สรา้ งความสามคั คี เข้าร่วมกจิ กรรมท่ี
บางครั้ง ปรองดอง และเป็น สร้างความสามัคคี
กจิ กรรม ทสี่ ร้างความสามัคคี ท่สี รา้ งความ ประโยชนต์ ่อ ปรองดอง และเป็น
ปรองดอง ทเ่ี ป็นประโยชน์ ต่อ สามัคคี มกี ารปกป้อง หวง โรงเรยี นบ่อยครั้ง ประโยชนต์ อ่
โรงเรียน ชมุ ชน และสังคม แหน ยกยอ่ ง ความ โรงเรียนและชุมชน
เป็นชาติไทยเปน็ มีการปกป้อง หวง สมำ่ เสมอ
๔.๒.๒ หวงแหน ปกปอ้ ง ยกย่อง ไม่หวงแหน หรือ บางครง้ั แหน ยกย่อง ความ
เป็นชาติไทย มกี ารปกป้อง หวง
ความเป็นชาติไทย ปกป้อง ยกยอ่ ง บ่อยครั้ง แหน ยกย่อง ความ
เป็นชาติไทยและ
ความเปน็ ชาติไทย เป็นประโยชน์ต่อ
ประเทศชาติอยา่ ง
สมำ่ เสมอ
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๔.๓ ศรทั ธา ยดึ มน่ั และปฏบิ ตั ติ นตามหลักของศาสนา
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๔.๓.๑ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนา ไมเ่ ขา้ รว่ มกิจกรรม เขา้ รว่ มกิจกรรม เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ี เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ี
ตนนับถอื และ ตนนบั ถอื และ
ทต่ี นนบั ถือ ทางศาสนาที่ตน ทางศาสนาที่ตน ปฏบิ ัตติ นตามหลัก ปฏิบัติตนตามหลัก
นบั ถอื นับถือเปน็ บางครั้ง ศาสนา ตามโอกาส ศาสนาอย่าง
บอ่ ยครั้ง สมำ่ เสมอ
๔.๓.๒ ปฏิบัติตนตามหลกั ของ ไมป่ ฏิบัตติ นตาม ปฏบิ ัตติ นตามหลกั
ศาสนาทตี่ นนบั ถือ หลกั ของศาสนาท่ี ของศาสนาท่ีตน ปฏิบตั ติ นตามหลกั ปฏิบัติตนตามหลกั
ตนนับถือ นับถือเป็นบางคร้งั ของศาสนาทต่ี น ของศาสนาท่ตี นนบั
๔.๓.๓ เปน็ แบบอย่างท่ดี ขี อง นับถือบ่อยครง้ั ถอื อยา่ งสม่ำเสมอ
ศาสนกิ ชน ไม่เปน็ แบบอยา่ งที่ เป็นแบบอย่างที่ดี
ดีของศาสนกิ ชน ของศาสนกิ ชนเป็น เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี เข้ารว่ มเป็น
บางคร้ัง เป็นแบบอย่างทด่ี ี แบบอย่างทีด่ ี
ของศาสนิกชน ของศาสนิกชน
บ่อยครงั้ สมำ่ เสมอ
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
เขา้ รว่ มกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ี
๔.๔.๑ เขา้ รว่ มและมสี ่วนรว่ มใน ไม่เข้าร่วมกจิ กรรม เกยี่ วข้องกบั เกีย่ วข้องกบั เขา้ ร่วมกิจกรรม
สถาบนั สถาบนั และมีส่วนร่วมใน
การจดั กิจกรรมท่เี กยี่ วกับสถาบัน ทีเ่ กย่ี วข้องกบั พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์ การจดั กิจกรรมท่ี
ตามทีโ่ รงเรยี นจดั เกย่ี วกบั กบั สถาบนั
พระมหากษัตริย์ สถาบัน แสดงความสำนึก ขน้ึ พระมหากษัตริย์
ในพระมหา ตามทโ่ี รงเรียนและ
พระมหากษัตริย์ กรุณาธิคุณของ เข้ารว่ มกิจกรรมที ชุมชนจดั ขึ้น
พระมหากษัตริย์ เกยี่ วข้องและแสดง
๔.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระ ไมแ่ สดงความ ความสำนกึ ในพระ เขา้ ร่วมกจิ กรรมที
มหากรุณาธคิ ุณของ สำนกึ ในพระมหา แสดงออกซ่งึ ความ มหากรณุ าธคิ ุณขอ เก่ียวข้องและแสดง
พระมหากษัตริย์ กรุณาธิคุณของ จงรักภักดี ตอ่ พระมหากษัตรยิ ์ ความสำนึกในพระ
พระมหากษัตรยิ ์ สถาบนั มหากรณุ าธิคุณขอ
พระมหากษัตรยิ ์ เข้ารว่ มกจิ กรรม พระมหากษัตรยิ ์ใน
๔.๔.๓ แสดงออกซึง่ ความ ไมแ่ สดงออกซงึ่ แสดงออกซงึ่ ความ วนั สำคญั ตา่ งๆ
จงรักภักดี ตอ่ สถาบนั ความจงรกั ภกั ดี จงรกั ภักดี ตอ่
พระมหากษัตริย์ ต่อสถาบนั สถาบนั เขา้ ร่วมกจิ กรรม
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ แสดงออกซง่ึ ความ
จงรักภกั ดี ตอ่
สถาบนั
พระมหากษัตริย์ซง่ึ
เป็นประโยชนต์ ่อ
โรงเรยี นและ
ประเทศชาติ
ด้านท่ี ๕ ความพอเพยี ง โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชวี้ ดั ๕.๑.๑ ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเอง เช่น เงิน ส่ิงของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ
๕.๑ ดำเนินชีวิตอยา่ ง พอประมาณมี
เหตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม อยา่ งประหยัด คมุ้ คา่ และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี รวมทั้ง
การใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม
๕.๒ มีภมู ิคมุ้ กนั ในตัวที่ดี ปรับตัว ๕.๑.๒ ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด ค้มุ คา่ และเกบ็
เพือ่ อยูใ่ น สังคมได้อยา่ งมคี วามสุข รกั ษาดแู ลอยา่ งดี
๕.๑.๓ ปฏบิ ตั ติ นและตดั สินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล
๕.๑.๔ ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไมท่ ำใหผ้ ู้อืน่ เดือดรอ้ น พร้อมให้
อภัยเมอ่ื ผอู้ ่ืน กระทำผดิ พลาด
๕.๒.๑ วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชวี ิตประจำวนั
บนพนื้ ฐานของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
๕.๒.๒ รเู้ ทา่ ทันการเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม
ยอมรับและ ปรับตวั เพอ่ื อยรู่ ่วมกบั ผู้อนื่ ได้อย่างมี
ความสขุ
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๒)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๕.๑ ดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ุณธรรม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๕.๑.๑ ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเอง ใชเ้ งินและของใช้ ใชเ้ งิน และของใช้ ใชเ้ งิน ของใช้ ใช้เงิน ของใช้
เชน่ เงิน ส่งิ ของ เครื่องใช้ ส่วนตัว อยา่ งไม่ สว่ นตัวอยา่ ง สว่ นตัว และของ สว่ นตัว และของ
ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่าและเกบ็ ประหยัด ประหยดั เป็น สว่ นรวมอยา่ ง ส่วนรวมอย่าง
รักษาดแู ลอย่างดีรวมทงั้ การใช้ บางคร้ัง ประหยัด และ ประหยดั ค้มุ ค่า
เวลา อยา่ งเหมาะสม เก็บรกั ษา ดูแล เก็บรกั ษาดูแล
อย่างดีบ่อยคร้ัง อย่างดี มเี หตุผล
และไม่เอาเปรียบ
ผ้อู นื่ สม่ำเสมอ
๕.๑.๒ ใช้ทรพั ยากรของสว่ นรวม ไมใ่ ช้ทรัพยากรของ ใช้ทรัพยากรของ มีการใช้ มีการใชท้ รัพยากร
อยา่ งประหยดั คุ้มคา่ สว่ นรวม สว่ นรวม ทรพั ยากรของ ของสว่ นรวม
และเกบ็ รักษา ดแู ล อย่างดี อย่างประหยัด อยา่ งประหยดั ส่วนรวม อยา่ ง อย่างประหยัด
คมุ้ ค่า คมุ้ ค่า ประหยดั คมุ้ คา่ คุ้มค่า เหมาะสม
และไมเ่ ก็บรักษา และเกบ็ รักษา เหมาะสมและเก็บ และเก็บรักษา ดูแล
ดูแล อยา่ งดีเป็น รกั ษาดแู ล อยา่ งดี อยา่ งดีสมำ่ เสมอ
บางครั้ง บ่อยครง้ั
๕.๑.๓ ปฏบิ ตั ติ นและตัดสนิ ใจดว้ ย ไมป่ ฏบิ ัติตนและ ปฏิบตั ิตนและ มีการปฏบิ ตั ิตน มีการปฏบิ ตั ติ นและ
ความรอบคอบมีเหตผุ ล ตัดสนิ ใจดว้ ยความ ตดั สินใจด้วย และตดั สินใจด้วย ตดั สนิ ใจดว้ ยความ
ไม่มเี หตุผล ความรอบคอบมี ความรอบคอบมี รอบคอบมีเหตุผล
เหตผุ ลเป็น เหตุผล เหมาะสม เหมาะสมกับ
บางครัง้ อย่างบ่อยคร้งั สถานที่
สถานการณ์อย่าง
สมำ่ เสมอ
๕.๑.๔ ไมเ่ อาเปรียบผอู้ ่นื และไม่ เอาเปรยี บผู้อ่นื ไมเ่ อาเปรียบผอู้ ื่น ไม่เอาเปรยี บผอู้ น่ื ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ นื่
ทำใหผ้ อู้ ืน่ เดือดร้อนพร้อมให้อภยั และทำใหผ้ ู้อ่นื และไมท่ ำใหผ้ ู้อ่นื และไมท่ ำใหผ้ ู้อ่ืน และไมท่ ำใหผ้ ู้อ่นื
เดอื ดร้อนพร้อม เดือดร้อนพร้อม เดือดร้อนพร้อมให้
เม่ือผอู้ ่นื กระทำผดิ พลาด เดือดรอ้ น
ให้อภัยเมือ่ ผู้อืน่ ใหอ้ ภยั เมื่อผู้อื่น อภัยเมอื่ ผู้อ่นื
กระทำผดิ พลาด กระทำผดิ พลาด กระทำผิดพลาด
เปน็ บางครัง้ อย่างบ่อยคร้ัง อย่างสม่ำเสมอ
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๕.๒ มภี มู คิ ุ้มกันในตวั ทด่ี ี ปรบั ตวั เพอ่ื อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๕.๒.๑ วางแผนการเรียน
การทำงานและการใช้ ไมว่ างแผนการเรียน วางแผนการเรยี น ใชค้ วามรู้ ข้อมูล ใชค้ วามรู้ ข้อมลู
ชวี ิตประจำวันบนพน้ื ฐาน
ของความรู้ข้อมูลขา่ วสาร และการใช้ และการใช้ ขา่ วสารให้เปน็ ข่าวสารใหเ้ ปน็
๕.๒.๒ รูเ้ ท่าทันการ เปล่ยี นแปลง ชวี ติ ประจำวัน ชวี ติ ประจำวนั ประโยชนต์ อ่ ประโยชน์ตอ่
ของสงั คม และสภาพ แวดลอ้ ม
ยอมรับ และปรับตวั เพื่ออยู่ เปน็ บางคร้งั การเรียนอย่าง การเรียนและใช้ใน
ร่วมกบั ผอู้ ่นื ได้อย่างมคี วามสุข
บ่อยครงั้ ชีวิตประจำวนั อยา่ ง
สมำ่ เสมอ
ไม่รเู้ ท่าทัน ร้เู ทา่ ทันการ มีการแสวงหาให้ มกี ารแสวงหาให้
เทคโนโลยี ไม่ เปล่ยี นแปลงของ รู้เท่าทันการ รเู้ ท่าทันการ กบั
เปลี่ยนแปลง สังคม และสภาพ เปลีย่ นแปลงของ เทคโนโลยใี น
ปรับปรงุ ตนเองให้ แวดลอ้ มยอมรบั สังคม และสภาพ ปจั จุบนั มีการรับรู้
ตามเท่าทัน และปรับตวั เพ่ือ แวดล้อมยอมรับ เปลี่ยนแปลงของ
เทคโนโลยี อยู่ รว่ มกบั ผ้อู ื่น และปรบั ตัวเพ่ือ สงั คม และสภาพ
ได้อยา่ งมีความสุข อยู่ ร่วมกบั ผู้อ่ืน แวดลอ้ มยอมรบั
เปน็ บางครง้ั ได้อย่างมีความสุข และปรบั ตัวเพ่ือให้
อยา่ งบ่อยครงั้ อยู่ รว่ มกับผู้อน่ื ได้
อยา่ งมีความสขุ
อย่างสม่ำเสมอ
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
แนวทางการประเมนิ พฤตกิ รรมบง่ ชเี้ ชงิ บวก (คณุ ธรรมอตั ลกั ษณ)์
ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ โรงเรยี นอนบุ าลตาก
ด้านท่ี ๑ ความมวี นิ ัย พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้ ๑.๑.๑ ปฏบิ ัตติ น ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ข้อบงั คับ ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม
ตวั ชวี้ ดั ไม่ละเมดิ สิทธขิ องผู้อื่น
๑.๑ ปฏบิ ัตติ าม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ขอ้ บงั คับ ของครอบครวั โรงเรียน และสงั คม ๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมต่าง ๆ
ในชีวติ ประจำวัน และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๓)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๑.๑ ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏบิ ตั ิตน ตามข้อตกลง ไมป่ ฏบิ ัตติ นตาม ปฏบิ ตั ติ าม ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง ปฏบิ ัติตาม
กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของ ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อตกลง
ครอบครัว โรงเรยี นและสังคม ไม่ กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบังคับ ขอ้ บงั คับของ กฎเกณฑ์
ละเมดิ สทิ ธขิ องผู้อ่นื ระเบยี บ ข้อบงั คับ ของครอบครัว ครอบครวั และ ระเบียบ ข้อบังคับ
ของครอบครัว และโรงเรียน โดย โรงเรยี น โดยตอ้ งมี ของครอบครวั
และโรงเรยี น ต้องมี การเตือน การเตือนเป็น และโรงเรียนได้
เป็นสว่ นใหญ่ บางคร้ัง ดว้ ยตนเอง
๑.๑.๒ ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติ ไม่ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ปฏิบตั ิกจิ กรรมหรือ ปฏิบัติกิจกรรม
กจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวัน หรอื ทำงานท่ี หรือทำงานท่ี ทำงานที่ได้รับ หรอื ทำงานที่
และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน ไดร้ ับมอบหมาย ได้รบั มอบหมาย มอบหมายเสรจ็ ได้รับมอบหมาย
ไม่ เสร็จทันเวลาได้ ทันเวลาไดด้ ้วย เสรจ็ ทนั เวลาได้
ตนเอง โดยมีการ ด้วยตนเอง
ด้วยตนเอง โดย เตือนเปน็ บางครัง้
ต้องมีการเตือน
เป็นส่วนใหญ่
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ด้านที่ ๒ ความซอ่ื สตั ย์
ตวั ชวี้ ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ตนเอง
๒.๑.๑ ให้ขอ้ มูลท่ถี ูกต้องและเป็นจริง
ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ ๒.๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นโดยคำนงึ ถงึ ความถกู ต้องละอาย
๒.๒ ประพฤติตรงตาม ความเป็นจรงิ ต่อผู้อื่น และเกรงกลัวต่อการกระทำผดิ
ทง้ั ทางกายวาจา ใจ ๒.๑.๓ ปฏิบตั ิตามคำมัน่ สญั ญา
๒.๒.๑ ไมถ่ ือเอาส่ิงของหรอื ผลงานของผู้อืน่
มาเปน็ ของตนเอง
๒.๒.๒ ปฏบิ ัติตนต่อผู้อนื่ ดว้ ยความซอ่ื ตรง
๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชนใ์ นทางทีไ่ ม่ถูกต้อง
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๓)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ตนเองทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
ใหข้ อ้ มูลทีถ่ กู ต้อง
๒.๑.๑ ให้ขอ้ มลู ท่ีถกู ต้องและเปน็ ไมใ่ ห้ขอ้ มลู ที่ถูกตอ้ ง ให้ข้อมูลท่ถี ูกต้อง และเป็นจริง ให้ข้อมูลทถ่ี ูกต้อง
จริง และเป็นจริง เป็นจรงิ และ
ปฏิบตั ิในสงิ่ ที่ ครบถ้วน
๒.๑.๒ ปฏบิ ัตติ นโดยคำนึงถึง ปฏิบตั ติ นโดยโดย ปฏิบตั ิในสงิ่ ที่ ถูกตอ้ ง โดยต้องมี
ความถูกตอ้ งละอายและเกรงกลัว คำนึงถงึ ความ ถูกต้อง โดยต้องมี การเตือนเป็น ปฏิบตั ิในสง่ิ ท่ี
ตอ่ การกระทำผิด ถกู ต้อง การเตือนเป็นสว่ น บางครัง้ ถกู ตอ้ ง ละอาย
ใหญ่ และเกรงกลวั ที่จะ
ทำตามสญั ญาท่ี ทำความผดิ ดว้ ย
๒.๑.๓ ปฏบิ ัติตามคำมนั่ สญั ญา ไมป่ ฏิบัติตาม ทำตามสัญญาท่ี ตนใหไ้ ว้กบั พ่อแม่ ตนเอง
คำมั่นสญั ญา ตนใหไ้ ว้กับพ่อแม่ หรือผปู้ กครองได้
หรือผปู้ กครอง ได้ เปน็ สว่ นใหญ่ ตามสญั ญาที่ ตน
บางครั้ง ใหไ้ ว้กับพอ่ แม่
หรอื ผู้ปกครองได้ทุก
คร้งั
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๒.๒ ประพฤตติ รงตาม ความเปน็ จรงิ ตอ่ ผอู้ นื่ ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๒.๒.๑ ไม่ถอื เอาส่ิงของหรอื นำสง่ิ ของของผูอ้ ืน่ ไมน่ ำสิง่ ของของ ไม่นำสงิ่ ของของ ไม่นำสงิ่ ของและ
ผอู้ ื่นมาเปน็ ของ ผลงานของผู้อ่ืน
ผลงานของผู้อ่นื มาเปน็ ของตนเอง มาเปน็ ของตน ผอู้ ื่นมาเป็นของ ตนเอง มาเปน็ ของตนเอง
ตนเอง
๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ิตนต่อผู้อน่ื ด้วย ไมป่ ฏิบตั ิตนต่อ ปฏบิ ตั ิตนตอ่ ผอู้ น่ื ปฏิบตั ติ นตอ่ ผอู้ น่ื ปฏบิ ตั ิตนตอ่ ผอู้ น่ื
ความซือ่ ตรง ผู้อน่ื ดว้ ยความ ดว้ ยความซอ่ื ตรง ด้วยความซ่ือตรง ดว้ ยความซ่อื ตรง
ซ่ือตรง
๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชน์ในทางทีไ่ ม่ หาประโยชน์ หาประโยชน์ ไม่หาประโยชน์ ไม่หาประโยชน์
ถกู ต้อง ในทางที่ไม่ถกู ต้อง ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง ในทางท่ีไม่ถูกต้อง ในทางท่ีไม่ถูกต้อง
บางคร้งั และเปน็
แบบอยา่ งท่ีดีแก่
เพือ่ นด้านความ
ซ่อื สัตย์
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ดา้ นท่ี ๓ ความรบั ผดิ ชอบ
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้ พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชวี้ ดั ๓.๑.๑ ตัง้ ใจเรยี น
๓.๑ ต้ังใจ เพยี รพยายาม ในการเรยี น ๓.๑.๒ เอาใจใส่และมคี วามเพียรพยายามในการเรยี นรู้
๓.๑.๓ สนใจเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ
และเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
๓.๒.๑ ศึกษาคน้ คว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร ส่งิ พิมพ์
๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากท้งั ภายใน ส่ือเทคโนโลยตี ่าง ๆ แหลง่ เรียนรทู้ ้ังภายในและ
และภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการ ภายนอกโรงเรียน และเลือกใชส้ ื่อได้อย่างเหมาะสม
เลือกใช้สือ่ อยา่ งเหมาะสม สรปุ
เปน็ องค์ความรู้ และสามารถ ๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ตรวจสอบ จากสิ่งทเี่ รียนรู้
นำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ สรุปเป็นองค์ความรู้
๓.๒.๓ แลกเปล่ียนความรู้ ด้วยวิธีการตา่ ง ๆ และนำไปใช้
ในชวี ติ ประจำวนั
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๓)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓.๑ ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๓.๑.๑ ตง้ั ใจเรยี น
ไม่เอาใจใสต่ ่อการ เอาใจใส่ต่อการ ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบ
ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมที่ ปฏบิ ัติกจิ กรรมที่ ในการปฏบิ ตั ิ ในการปฏบิ ตั ิ
ไดร้ ับมอบหมาย ได้รับมอบหมาย กจิ กรรมท่ีไดร้ บั กิจกรรมท่ีไดร้ บั
และไม่สำเร็จ แตไ่ มส่ ำเรจ็ มอบหมายจนสำเรจ็ มอบหมายจนสำเรจ็
แต่มีข้อบกพร่อง และถูกต้องสมบูรณ์
บางสว่ น
๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพียร ไมเ่ อาใจใส่ต่อการ เอาใจใส่ต่อการ ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบ ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบ
พยายามในการเรียนรู้ ปฏิบัติกจิ กรรมท่ี ปฏิบัตกิ ิจกรรมที่ ในการปฏิบัติ ในการปฏิบัติ
ได้รับมอบหมาย ได้รบั มอบหมาย กจิ กรรมท่ีไดร้ ับ กจิ กรรมท่ีไดร้ บั
และไมส่ ำเร็จ แต่ไมส่ ำเรจ็ มอบหมายจนสำเรจ็ มอบหมายจนสำเรจ็
แต่มีข้อบกพรอ่ ง และถูกต้องสมบูรณ์
บางสว่ น
๓.๑.๓ สนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการ ไม่เข้ารว่ ม เข้าร่วมกิจกรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรมการ เขา้ รว่ มกจิ กรรมการ
เรียนรตู้ า่ ง ๆ กิจกรรมการ การเรียนรูต้ า่ ง ๆ เรียนรูต้ า่ ง ๆ รอ้ ย เรยี นรตู้ ่าง ๆ ร้อยละ
เรียนรูต้ ่าง ๆหรือ ร้อยละ 50 - 59 ละ 60 - 79 80 ขึน้ ไป
เขา้ รว่ มกจิ กรรม
ตำ่ กวา่ ร้อยละ 50
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ ง
เหมาะสม สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๒.๑ ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ ไม่ศึกษาคน้ คว้าหา ศึกษาคน้ ควา้ หา ศกึ ษาค้นควา้ หา
จากหนงั สอื เอกสาร สิง่ พิมพ์ สือ่ ความรู้ ความรู้จากหนังสอื ความรู้จากหนงั สอื ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้
เทคโนโลยีตา่ ง ๆ แหลง่ เรยี นรทู้ ัง้ เอกสาร สิง่ พิมพ์ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ จากหนังสือ เอกสาร
ภายในและภายนอกโรงเรยี น ไมม่ ีการบันทึก สอ่ื เทคโนโลยี ส่อื เทคโนโลยี สง่ิ พิมพ์ สอื่
และเลือกใชส้ ่ือได้อย่างเหมาะสม ความรู้จากสิ่งที่ ภายในโรงเรียน ภายในโรงเรยี นและ เทคโนโลยี แหล่ง
เรียนรู้ นอกโรงเรียน เรียนรู้อน่ื ภายใน
๓.๒.๒ บันทึกความรู้ วิเคราะห์ มกี ารบันทึก โรงเรยี นและนอก
ตรวจสอบ จากส่ิงท่เี รยี นรู้ สรุป ความรู้จากสงิ่ ที่ มกี ารบันทึกความรู้ โรงเรยี นอย่าง
เป็นองค์ความรู้ เรียนร้เู ป็น จากสง่ิ ที่เรยี นรู้เปน็ สมำ่ เสมอ
บางครง้ั สว่ นใหญ่
มกี ารบันทึกความรู้
จากส่งิ ทเี่ รยี นรู้อย่าง
ทกุ คร้งั
๓.๒.๓ แลกเปลี่ยนความรู้ ด้วย ไม่มีการ มีการแลกเปล่ยี น มีการแลกเปลย่ี น มีการแลกเปลย่ี น
ความรกู้ ับเพอื่ นใน ความร้กู บั เพ่ือนใน ความรูก้ บั เพอื่ นใน
วิธีการต่าง ๆ และนำไปใช้ใน แลกเปลยี่ น ห้องเรยี นดว้ ย หอ้ งเรยี น ครผู ูส้ อน หอ้ งเรียน โรงเรยี น
วิธกี ารต่าง ๆ ด้วยวิธีการตา่ ง ๆ ด้วยวธิ ีการต่าง ๆ
ชวี ติ ประจำวนั ความรู้
ด้านท่ี ๔ ความกตญั ญู โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั ๔.๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธบิ ายความหมายของเพลง
๔.๑ เปน็ พลเมืองดีของชาติ ชาติได้ถูกตอ้ ง
๔.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิและ หนา้ ทีพ่ ลเมืองดขี องชาติ
๔.๒ ธำรงไว้ซ่ึงความเปน็ ชาติ ๔.๑.๓ มีความสามคั คี ปรองดอง
ไทย ๔.๒.๑ เข้าร่วม ส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง
ที่เปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม
๔.๓ ศรัทธา ยึดมน่ั และปฏิบัติ ๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกยอ่ งความเป็นชาติไทย
ตนตามหลกั ของศาสนา ๔.๓.๑ เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ
๔.๓.๒ ปฏิบตั ิตนตามหลักของศาสนาท่ีตนนบั ถือ
๔.๔ เคารพเทิดทูนสถาบนั ๔.๓.๓ เป็นแบบอย่างทดี่ ีของศาสนิกชน
พระมหากษัตรยิ ์ ๔.๔.๑ เข้าร่วมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทีเ่ กีย่ วกับสถาบัน
พระมหากษัตริย์
๔.๔.๒ แสดงความสำนกึ ในพระมหากรุณาธคิ ุณของพระมหากษัตรยิ ์
๔.๔.๓ แสดงออกซ่ึงความจงรักภักดตี ่อสถาบันพระมหากษัตริย์
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๓)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๑ เป็นพลเมอื งดขี องชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
ยนื ตรงเคารพธง
๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ไม่ยืนตรงเคารพ ยนื ตรงเคารพธง ยืนตรงเคารพธง ชาติทุกครง้ั เม่ือได้
ชาติเมื่อไดย้ นิ ชาติเมอ่ื ได้ยนิ เพลง ยนิ เพลงชาติ และ
ร้องเพลงชาติได้ ธงชาติ เพลงชาติ ชาติ และรอ้ งเพลง รอ้ งเพลงไดถ้ ูกต้อง
ชาตไิ ด้
อธบิ ายความหมาย
๔.๑.๒ อธิบายความหมายของ อธบิ ายความหมาย อธบิ าย อธิบายความหมาย ของเพลงชาติได้
ความหมายของ ของเพลงชาตไิ ด้ไม่ ตรงครบถว้ น
เพลงชาติได้ถกู ต้อง ของเพลงชาตไิ ม่ เพลงชาตผิ ิด ครบถ้วน
บางส่วน เขา้ ร่วมกจิ กรรม
ถูกต้อง การใช้สิทธเิ ลอื ก
เขา้ ร่วมกจิ กรรม เข้าร่วมกจิ กรรม หวั หนา้ หอ้ ง/
๔.๑.๓ ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิและ ไม่เขา้ ร่วมกิจกรรม การใช้สทิ ธเิ ลอื ก การใช้สทิ ธเิ ลอื ก หวั หนา้ เวร/
หนา้ ที่พลเมืองดีของชาติ การใช้สิทธิเลือก หัวหนา้ ห้อง/ หวั หนา้ ห้อง/ ประธานนกั เรียน
หวั หน้าห้อง/หวั หน้า หวั หน้าเวร/ หัวหนา้ เวร/ รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป
๔.๑.๔ มคี วามสามัคคี เวร/ประธานหรือ ประธานนกั เรยี น ประธานนักเรียน
ปรองดอง เข้าร่วมกิจกรรม รอ้ ยละ 50 - 59 ร้อยละ 60 - 79 ให้ความรว่ มมือ
ตำ่ กว่าร้อยละ 50 ร่วมใจในการ
ใหค้ วามร่วมมือ ใหค้ วามรว่ มมือ ทำงานกับสมาชกิ
ไมใ่ ห้ความร่วมมือ ร่วมใจในการ ร่วมใจในการ ในห้องเรียนอยา่ ง
ร่วมใจในการทำงาน ทำงานกบั สมาชกิ ทำงานกับสมาชกิ สมำ่ เสมอ
กบั สมาชกิ ใน ในหอ้ งเรยี น ในห้องเรยี นเปน็
หอ้ งเรยี น บางครง้ั ส่วนใหญ่
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๔.๒ ธำรงไวซ้ ่งึ ความเปน็ ชาตไิ ทย
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
เขา้ ร่วมกจิ กรรมที่
๔.๒.๑ เขา้ รว่ ม ส่งเสรมิ ไม่เขา้ รว่ มกิจกรรมที่ สร้างความสามัคคี เข้ารว่ มกิจกรรมที่ เข้าร่วมกิจกรรมที่
ปรองดอง สรา้ งความสามัคคี สร้างความสามัคคี
สนบั สนนุ กจิ กรรมที่สร้างความ สรา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็น ปรองดอง และเป็น
สามคั คี ปรองดอง ที่เปน็ เข้ารว่ มกจิ กรรม ประโยชนต์ อ่ ประโยชน์ต่อ
ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชนและ ท่ีเก่ยี วกบั การหวง โรงเรียน โรงเรยี นและชุมชน
แหน ปกป้อง
สังคม ยกยอ่ งความเป็น เข้าร่วมกจิ กรรม เข้าร่วมกิจกรรม
ชาติไทยร้อยละ เกี่ยวกบั การหวง เกี่ยวกบั หวงแหน
๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ไมเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ี 50 - 59 แหน ปกป้อง ปกปอ้ ง ยกย่อง
ยกยอ่ งความเป็น ความเปน็ ชาติไทย
ยกย่องความเปน็ ชาตไิ ทย เก่ยี วกับการหวงแหน ชาติไทยร้อยละ ร้อยละ 80 ข้ึนไป
ปกปอ้ ง ยกย่องความ 60 - 79
เป็นชาตไิ ทยหรือเข้า
รว่ มกจิ กรรม
ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 50
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๓ ศรทั ธา ยดึ มน่ั และ ปฏบิ ตั ิตนตามหลักของศาสนา
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๔.๓.๑ เข้ารว่ มกจิ กรรมทาง ไมเ่ ขา้ ร่วมกิจกรรม เข้ารว่ มกิจกรรม เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี
ศาสนาที่ตนนับถือ ทางศาสนาที่ตนนับ ทางศาสนาที่ตน ตนนับถือและ เข้ารว่ มกิจกรรมที่
ถอื นบั ถือ ปฏิบัตติ นตามหลกั ตนนับถือและ
๔.๓.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามหลักของ ศาสนาตามโอกาส ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั
ศาสนาที่ตนนบั ถือ ไมป่ ฏิบตั ิตนตาม ปฏบิ ตั ติ นตามหลัก ศาสนาอย่าง
หลกั ของศาสนาที่ ของศาสนาทต่ี นนบั ปฏบิ ัตติ นตามหลกั สม่ำเสมอ
ตนนับถอื ถอื โดยต้องมกี าร ของศาสนาทต่ี นนับ
เตือนเปน็ ส่วนใหญ่ ถือโดยต้องมกี าร ปฏบิ ัติตนตามหลกั
เตือนเป็นบางครัง้ ของศาสนาท่ีตนนบั
ถอื ด้วยตนเอง
๔.๓.๓ เป็นแบบอย่างที่ดีของ ไมป่ ฏิบตั ิเป็น ปฏิบัติเป็น ปฏิบัติเป็น ปฏบิ ัติเป็น
ศาสนกิ ชน แบบอยา่ งท่ีดี
ของศาสนิกชน แบบอยา่ งที่ดี แบบอย่างทด่ี ี แบบอยา่ งที่ดี
ของศาสนิกชน โดย ของศาสนกิ ชน โดย ของศาสนกิ ชน ด้วย
ตอ้ งมีการเตือนเป็น ต้องมีการเตือนเป็น ตนเอง
สว่ นใหญ่ บางครงั้
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๔.๔.๑ เข้ารว่ มและมสี ว่ นร่วมใน ไมเ่ ข้ารว่ ม เขา้ ร่วมกิจกรรม เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ี เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ี
เกย่ี วกับสถาบนั เกย่ี วกบั สถาบนั
การจัดกจิ กรรมที่เกีย่ วกับสถาบนั กิจกรรมท่เี กย่ี วกับ ท่ีเก่ยี วกับสถาบัน พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริยร์ อ้ ย
ร้อยละ 60 - 79 ละ 80 ขึ้นไป
พระมหากษัตรยิ ์ สถาบัน พระมหากษัตริย์
พระมหากษัตรยิ ์ รอ้ ยละ 50 - 59
หรือเขา้ รว่ ม
กจิ กรรม
ต่ำกว่าร้อยละ 50
๔.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระ ไมเ่ ขา้ รว่ ม เข้าร่วมกจิ กรรมท่ี เขา้ รว่ มกิจกรรมที่ เข้าร่วมกิจกรรมท่ี
มหากรณุ าธิคุณของ เกี่ยวกบั สถาบัน เก่ียวกับสถาบัน
พระมหากษัตรยิ ์ กจิ กรรมทเี่ กี่ยวกบั เก่ยี วกับสถาบนั พระมหากษัตริย์ที่ พระมหากษัตรยิ ท์ ่ี
โรงเรียนและชมุ ชน โรงเรียน ชมุ ชน
สถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ท่ี จดั ขน้ึ สังคมจดั ขึ้น
พระมหากษัตรยิ ์ โรงเรียนจัดข้นึ เข้าร่วมกิจกรรมท่ี เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี
เกย่ี วกบั สถาบนั เกยี่ วกับสถาบัน
๔.๔.๓ แสดงออกซ่งึ ความ ไม่เขา้ รว่ ม เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ี พระมหากษัตริยท์ ่ี พระมหากษัตรยิ ท์ ี่
จงรกั ภักดีต่อสถาบนั โรงเรยี นและชุมชน โรงเรยี น ชมุ ชน
พระมหากษัตริย์ กจิ กรรมทีเ่ กี่ยวกับ เกีย่ วกับสถาบัน จดั ขน้ึ สงั คมจัดข้นึ
สถาบัน พระมหากษัตริยท์ ี่
พระมหากษัตริย์ โรงเรียนจัดขน้ึ
ด้านที่ ๕ ความพอเพยี ง โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั ๕.๑.๑ ใช้ทรพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ เงนิ ส่ิงของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ
๕.๑ ดำเนนิ ชวี ิตอย่าง พอประมาณมี อยา่ งประหยัด คมุ้ คา่ และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี รวมท้ังการใช้
เหตผุ ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม เวลาอยา่ งเหมาะสม
๕.๑.๒ ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยัด คมุ้ ค่าและเกบ็
๕.๒ มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี ปรับตัว รักษาดูแลอย่างดี
เพื่ออยูใ่ น สังคมได้อยา่ งมีความสุข ๕.๑.๓ ปฏิบัติตนและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล
๕.๑.๔ ไม่เอาเปรียบผู้อ่นื และไม่ทำใหผ้ อู้ ืน่ เดือดร้อน พรอ้ มให้
อภยั เมื่อผู้อื่น กระทำผิดพลาด
๕.๒.๑ วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ วี ติ ประจำวัน
บนพนื้ ฐานของความรู้ ข้อมลู ข่าวสาร
๕.๒.๒ รูเ้ ทา่ ทนั การเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม
ยอมรับและ ปรับตวั เพ่อื อยู่ร่วมกับผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งมีความสุข
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับประถมศกึ ษา (ป.๓)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๕.๑ ดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ใช้เงิน ของใช้
๕.๑.๑ ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง ใชเ้ งนิ และของใช้ ใชเ้ งนิ และของใช้ สว่ นตัวอย่าง ใชเ้ งิน ของใช้
ประหยัดและดูแล สว่ นตวั อย่าง
เช่น เงนิ สิ่งของ เคร่ืองใช้ ส่วนตัวไมป่ ระหยดั สว่ นตวั อย่าง รกั ษา ประหยัด ค้มุ คา่
เกบ็ รักษาดูแล
ฯลฯ อย่างประหยัด คมุ้ ค่าและเก็บ ประหยัด ใชท้ รัพยากรของ อยา่ งดี และรักษา
ส่วนรวมอย่าง เวลา
รกั ษาดแู ลอย่างดรี วมทัง้ การใช้ ประหยดั และ
เก็บรักษา ดแู ล ใช้ทรพั ยากรของ
เวลา อย่างเหมาะสม ปฏบิ ัติตนและ ส่วนรวมอย่าง
ตดั สนิ ใจด้วย ประหยัด และเกบ็
๕.๑.๒ ใช้ทรพั ยากรของส่วนรวม ใช้ทรัพยากรของ ใช้ทรัพยากรของ ความรอบคอบ รักษาดแู ลอย่างดี
อย่างมเี หตุผล
อยา่ งประหยัด คุ้มค่าและเก็บ สว่ นรวมไม่ประหยัด ส่วนรวมอยา่ ง ปฏิบัติตนและ
ไม่เอาเปรยี บผูอ้ น่ื ตดั สินใจด้วยความ
รกั ษา ดูแล อยา่ งดี ประหยดั และไมท่ ำใหผ้ ู้อนื่ รอบคอบอย่างมี
เดอื ดรอ้ น เหตุผล ไมเ่ อา
๕.๑.๓ ปฏบิ ตั ติ นและตัดสินใจดว้ ย ไมป่ ฏบิ ตั ิตนและไม่ ปฏิบัติตนและ เปรยี บผู้อน่ื
ความรอบคอบมเี หตุผล ตดั สินใจด้วยความ ตดั สนิ ใจด้วย ไม่เอาเปรยี บผูอ้ นื่
และไมท่ ำให้ผู้อื่น
รอบคอบ ความรอบคอบ เดอื ดรอ้ นพร้อมให้
อภัยเม่ือผู้อน่ื
๕.๑.๔ ไมเ่ อาเปรียบผอู้ นื่ และไม่ เอาเปรียบผอู้ ่นื ไมเ่ อาเปรียบผูอ้ นื่ กระทำผิดพลาด
หรือไม่ทำให้ผอู้ ่ืน
ทำใหผ้ ู้อ่นื เดือดร้อนพร้อมให้อภัย และทำใหผ้ ู้อืน่ เดอื ดรอ้ น
เม่อื ผอู้ นื่ กระทำผิดพลาด เดือดรอ้ น
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๕.๒ มภี มู คิ ้มุ กันในตวั ท่ดี ี ปรบั ตวั เพอื่ อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ใชค้ วามรู้ ขอ้ มลู
๕.๒.๑ วางแผนการเรียน ไมว่ างแผนการเรียน วางแผนการเรียน ขา่ วสารใหเ้ ป็น ใชค้ วามรู้ ขอ้ มูล
ประโยชนต์ อ่ ขา่ วสารให้เปน็
การทำงานและการใช้ และการใช้ และการใช้ การเรยี น ประโยชนต์ ่อ
การเรยี นและใช้ใน
ชีวติ ประจำวนั บนพนื้ ฐาน ชีวิตประจำวัน ชีวติ ประจำวนั รู้เท่าทันการ ชีวติ ประจำวัน
เปลยี่ นแปลงของ
ของความรขู้ ้อมลู ข่าวสาร สงั คม และ รู้เทา่ ทนั การ
สภาพแวดลอ้ ม เปลี่ยนแปลงของ
๕.๒.๒ รูเ้ ทา่ ทนั การ เปลีย่ นแปลง ไมต่ ิดตามข้อมูล ติดตามข้อมูล สังคม และสภาพ
ขา่ วสาร การ แวดลอ้ มยอมรับ
ของสังคม และสภาพแวดล้อม ขา่ วสาร การ เปลี่ยนแปลงของ และปรบั ตัวเพื่ออยู่
สังคมและ ร่วมกับผู้อนื่ ไดอ้ ยา่ ง
ยอมรับ และปรับตัวเพ่ืออยู่รว่ มกับ เปล่ยี นแปลงของ สภาพแวดลอ้ ม มีความสขุ
ผู้อืน่ ได้อย่างมีความสขุ สังคมและ
สภาพแวดล้อม
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
แนวทางการประเมนิ พฤตกิ รรมบง่ ชเี้ ชงิ บวก (คณุ ธรรมอตั ลกั ษณ)์
ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ โรงเรยี นอนุบาลตาก
ด้านท่ี ๑ ความมวี นิ ัย พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี ๑.๑.๑ ปฏิบตั ิตน ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ขอ้ บงั คับ ของครอบครัวโรงเรยี นและสังคม
ตวั ชวี้ ดั ไมล่ ะเมิดสทิ ธขิ องผอู้ ื่น
๑.๑ ปฏบิ ตั ติ าม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ขอ้ บังคบั ของครอบครัว โรงเรยี น และสังคม ๑.๑.๒ ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ
ในชีวติ ประจำวนั และรับผดิ ชอบในการทำงาน
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๔)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๑.๑ ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลง ไมป่ ฏบิ ตั ิตนตาม ปฏิบตั ิตนตาม ปฏิบตั ิตาม ปฏิบัตติ ามข้อตกลง
กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ข้อตกลงกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ครอบครวั โรงเรียนและสังคม ไม่ และ ระเบียบ และ ระเบยี บ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของ
ละเมดิ สทิ ธิของผู้อื่น ขอ้ บังคับของ ข้อบงั คับของ ขอ้ บังคบั ของ ครอบครัว
ครอบครวั และ ครอบครวั และ ครอบครวั โรงเรียน และสังคม
โรงเรยี น โรงเรยี น โรงเรียน และ ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ อง
สังคม ผู้อ่ืน
๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ ไมต่ รงต่อเวลาใน ตรงตอ่ เวลาในการ ตรงตอ่ เวลาใน ตรงตอ่ เวลาในการ
กจิ กรรมตา่ ง ๆ การปฏิบัตกิ จิ กรรม ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ใน การปฏบิ ัติ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ใน
ชวี ิตประจำวัน และ
ในชวี ิตประจำวัน และรบั ผิดชอบ ในชวี ิตประจำวัน ชวี ติ ประจำวัน กจิ กรรม ใน รบั ผิดชอบในการ
ในการทำงาน ชีวิตประจำวนั
และรบั ผิดชอบใน ทำงานอย่าง
การทำงาน สม่ำเสมอ
โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
ด้านที่ ๒ ความซอื่ สตั ย์
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชวี้ ดั พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเอง
๒.๑.๑ ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ต้องและเป็นจริง
ท้ังทางกาย วาจา ใจ ๒.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนโดยคำนึงถึงความถูกตอ้ งละอาย
๒.๒ ประพฤติตรงตาม ความเป็นจรงิ ต่อผอู้ ืน่ และเกรงกลัวตอ่ การกระทำผิด
ทัง้ ทางกายวาจา ใจ ๒.๑.๓ ปฏบิ ัตติ ามคำม่ันสัญญา
๒.๒.๑ ไมถ่ ือเอาส่ิงของหรือผลงานของผู้อ่ืน
มาเปน็ ของตนเอง
๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ติ นต่อผู้อน่ื ด้วยความซือ่ ตรง
๒.๒.๓ ไม่หาประโยชน์ในทางทไี่ ม่ถกู ต้อง
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๔)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ตนเองทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๒.๑.๑ ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ต้องและเปน็ ไมใ่ ห้ข้อมูลท่ี ใหข้ ้อมูลท่ีถูกต้อง ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ ง ให้ข้อมลู ที่ถูกตอ้ ง
และเปน็ ความจริง และเปน็ ความจริง
จริง ถกู ต้องและเปน็ เปน็ บางคร้งั ทุกคร้ัง ทุกคร้งั และเปน็
แบบอยา่ งทด่ี ีให้
จริง เพือ่ น
๒.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนโดย คำนึงถงึ ไมค่ ำนึงถึงความ คำนึงถงึ ความถูก ปฏิบตั ติ นโดย ปฏิบตั ิตนโดย
ความถูกต้อง ละอายและเกรงกลัว ถูกต้อง ต้อง ละอายและ คำนงึ ถึงความ คำนึงถึงความ
ต่อการกระทำผดิ เกรงกลวั ต่อการ ถูกต้อง ละอาย ถกู ต้อง ละอาย
กระทำผิด และเกรงกลวั ต่อ เกรงกลวั ต่อการ
การกระทำผิด กระทำผดิ และ
เป็นแบบอย่างท่ีดี
๒.๑.๓ ปฏิบัตติ ามคำมัน่ สญั ญา ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามคำ ปฏิบัตติ ามคำ ปฏิบัตติ ามคำ ด้านความซื่อสัตย์
สญั ญา สัญญาเป็นบางคร้ัง สัญญา เฉพาะกบั
ปฏิบัติตามสัญญา
เพอื่ นทกุ ครั้ง ทต่ี นให้ไว้กับเพื่อน
พ่อแมห่ รือ
ผู้ปกครองและครู
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ผอู้ น่ื ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๒.๒.๑ ไมน่ ำสง่ิ ของหรอื ผลงาน นำสิ่งของ ของผู้อื่น ไม่นำส่ิงของ ของ ไมน่ ำส่ิงของ ของ ไมน่ ำส่ิงของหรือ
ผ้อู ื่นมาเป็นของ ผลงานของผู้อื่นมา
ของผู้อ่นื มาเป็นของตนเอง มาเปน็ ของตน ผูอ้ ื่นมาเปน็ ของ ตนเอง เป็นของตนเอง
ตนเอง ปฏบิ ตั ิตนดว้ ย ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ ่ืน
ความซอ่ื ตรง ดว้ ยความซือ่ ตรง
๒.๒.๒ ปฏิบัติตนต่อผูอ้ ืน่ ดว้ ยความ ไมซ่ ื่อตรงต่อผ้อู ืน่ ปฏิบตั ิตนดว้ ย
ซอื่ ตรง ความซื่อตรงต่อ ปฏบิ ตั ิตนดว้ ย ปฏบิ ัติตนตอ่ ผูอ้ ืน่
ความซ่ือตรงต่อ ด้วยความซอ่ื ตรง
ตนเอง ตนเองและ และเป็นแบบอย่าง
ครอบครัว ที่ดแี กเ่ พอ่ื น
๒.๒.๓ ไม่หาประโยชนใ์ นทางท่ี หาประโยชนใ์ นทาง ไม่หาประโยชน์
ไม่ถูกต้อง ไม่หาประโยชน์ ไมห่ าประโยชน์
ทีไ่ ม่ถูกต้อง จากผอู้ ืน่ ในทางท่ี ในทางที่ไม่ถูกต้อง ในทางที่ไม่ถูกต้อง
ต่อตนเองและ ทงั้ ตอ่ ตนเอง
ไมถ่ ูกตอ้ ง ครอบครวั ครอบครวั สังคม
และเป็นแบบอยา่ ง
ท่ีดีแก่เพ่อื นด้าน
ความซ่ือสตั ย์
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ดา้ นท่ี ๓ ความรบั ผดิ ชอบ
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั ๓.๑.๑ ตงั้ ใจเรียน
๓.๑ ต้ังใจ เพยี รพยายาม ในการเรยี น ๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพียรพยายามในการเรยี นรู้
๓.๑.๓ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ
และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
๓.๒.๑ ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรจู้ ากหนงั สือ เอกสาร ส่งิ พิมพ์
๓.๒ แสวงหาความรู้จากทัง้ ภายใน ส่ือเทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหลง่ เรยี นรู้ทัง้ ภายในและ
และภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการ ภายนอกโรงเรยี น และเลอื กใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
เลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม สรุป
เป็นองค์ความรู้ และสามารถ ๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วิเคราะหต์ รวจสอบ จากส่งิ ทเ่ี รียนรู้
นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้
๓.๒.๓ แลกเปลย่ี นความรู้ ดว้ ยวิธกี ารตา่ ง ๆ และนำไปใช้
ในชีวติ ประจำวนั
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๔)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๓.๑ ต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ ม กจิ กรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๓.๑.๑ ตงั้ ใจเรียน ไม่ตงั้ ใจเรยี น ตงั้ ใจเรียน ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่
ในการเรียนรอู้ ย่าง
เอาใจใสใ่ น ในการเรยี นรู้อย่าง สม่ำเสมอ และเป็น
การเรยี นรู้เปน็ สม่ำเสมอ ผูน้ ำของเพือ่ น
บางครง้ั
เอาใจใสแ่ ละมี
๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมีความเพียร ไมม่ ีความเพยี ร เอาใจใส่และมี เอาใจใสแ่ ละมีความ ความเพียรพยายาม
ในการเรียนร้อู ย่าง
พยายาม ในการเรยี นรู้ พยายาม ในการ ความเพยี ร เพียรพยายาม ใน สมำ่ เสมอ และเปน็
แบบอยา่ งที่ดกี บั
เรียนรู้ พยายาม ในการ การเรียนรู้อย่าง เพ่อื น
เรียนรู้เปน็ บางครั้ง สม่ำเสมอ
สนใจ และเข้ารว่ ม
๓.๑.๓ สนใจเขา้ ร่วมกิจกรรม ไมเ่ ขา้ รว่ ม สนใจ และเข้าร่วม สนใจ และเขา้ ร่วม กิจกรรมการเรียนรู้
การเรยี นรตู้ ่าง ๆ กิจกรรม กจิ กรรมการ กจิ กรรมการเรียนรู้ อย่างสม่ำเสมอ
การเรียนรู้ เรียนรู้เป็นบางครง้ั อย่างสมำ่ เสมอ และเปน็ ผูน้ ำเพ่ือน
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ ง
เหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๒.๑ ศึกษาคน้ คว้าหา ความรู้ ไมศ่ ึกษาค้นคว้า
จากหนงั สือ เอกสาร สิง่ พิมพ์ สอื่ หาความรู้ ศกึ ษาความรู้จาก ศึกษาค้นคว้าหา ศกึ ษาค้นควา้ หา
เทคโนโลยีต่างๆ แหล่งเรยี นรู้ทง้ั
ภายในและภายนอกโรงเรยี น ไมบ่ นั ทึกความรู้ หนงั สือเรยี นเทา่ นั้น ความรู้ จากหนังสอื ความรู้ จากหนงั สือ
และเลอื กใช้ส่อื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม จากสง่ิ ท่ีเรียนรู้
เอกสาร ส่งิ พิมพ์ เอกสาร สง่ิ พิมพ์
๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ ไมแ่ ลกเปลีย่ น
ข้อมูลจากสิ่งที่เรยี นร้สู รปุ เป็น เรียนรู้กบั เพื่อน ส่อื เทคโนโลยีต่างๆ สอื่ เทคโนโลยี และ
องค์ความรู้
แหล่งเรยี นรูท้ ้งั
๓.๒.๓ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้วย
วธิ กี ารต่าง ๆ และนำไปใช้ ภายในและ
ในชีวติ ประจำวัน
ภายนอกโรงเรยี น
และเลอื กใชส้ อ่ื ได้
อยา่ งเหมาะสม
บันทึกความรู้ จาก บนั ทึกความรู้ จาก บนั ทกึ ความรู้
ส่งิ ทีเ่ รยี นรูแ้ ต่ไม่ สง่ิ ที่เรยี นรู้ และ วิเคราะห์
สามารถวิเคราะห์ สามารถวเิ คราะห์ ขอ้ มูลจากสิง่ ท่ี
ขอ้ มลู จากสง่ิ ที่ ข้อมลู จากสงิ่ ที่ เรยี นรู้ และสรปุ
เรียนรู้ เรียนรู้ เปน็ องค์ความรู้
แลกเปลีย่ นเรียนรู้ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ แลกเปลีย่ นเรียนรู้
กันเพื่อนเป็น กบั เพ่ือนดว้ ยวิธกี าร กับเพ่ือนด้วยวิธกี าร
บางครงั้ ต่างๆ อยา่ ง ต่างๆ อยา่ ง
สม่ำเสมอ สมำ่ เสมอ และ
นำไปประยุกตใ์ ช้ใน
ชีวิตประจำวนั ได้
ด้านท่ี ๔ ความกตญั ญู โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั ๔.๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธบิ ายความหมายของเพลง
๔.๑ เปน็ พลเมืองดีของชาติ ชาติได้ถูกตอ้ ง
๔.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิและ หนา้ ทีพ่ ลเมืองดขี องชาติ
๔.๒ ธำรงไว้ซ่ึงความเปน็ ชาติ ๔.๑.๓ มีความสามคั คี ปรองดอง
ไทย ๔.๒.๑ เข้าร่วม ส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง
ที่เปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม
๔.๓ ศรัทธา ยึดมน่ั และปฏิบัติ ๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกยอ่ งความเป็นชาติไทย
ตนตามหลกั ของศาสนา ๔.๓.๑ เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ
๔.๓.๒ ปฏิบตั ิตนตามหลักของศาสนาท่ีตนนบั ถือ
๔.๔ เคารพเทิดทูนสถาบนั ๔.๓.๓ เป็นแบบอย่างทดี่ ีของศาสนิกชน
พระมหากษัตรยิ ์ ๔.๔.๑ เข้าร่วมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทีเ่ กีย่ วกับสถาบัน
พระมหากษัตริย์
๔.๔.๒ แสดงความสำนกึ ในพระมหากรุณาธคิ ุณของพระมหากษัตรยิ ์
๔.๔.๓ แสดงออกซ่ึงความจงรักภักดตี ่อสถาบันพระมหากษัตริย์
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๔)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๔.๑ เปน็ พลเมอื งดขี องชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
เขา้ ร่วมกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรม
๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ รอ้ ง ไมเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม หน้าเสาธง และยนื หนา้ เสาธง ยืนตรง เขา้ รว่ มกิจกรรม
ตรงเมอ่ื ไดย้ ินเพลง เมอ่ื ได้ยินเพลงชาติ หนา้ เสาธง ยนื ตรง
เพลงชาติ และอธบิ ายความหมาย หน้าเสาธง ชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ เคารพธงชาติ ร้อง
ของเพลงชาตไิ ด้ถกู ต้อง ถกู ต้อง เพลงชาติ และ
ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิ อธิบายความหมาย
๔.๑.๒ ปฏิบตั ติ นตามสิทธหิ นา้ ที่ ไมป่ ฏบิ ตั ติ นตาม และหน้าท่ีของ ปฏิบัติตนตามสิทธิ ของเพลงชาติได้
พลเมืองดขี องชาติ สทิ ธแิ ละหนา้ ท่ขี อง นกั เรียน และหนา้ ทขี่ อง ถูกต้อง
นกั เรยี น นักเรียน และเป็น
รว่ มมอื รว่ มใจใน ผู้นำของเพ่ือนได้ ปฏบิ ัติตนตามสิทธิ
๔.๑.๓ มคี วามสามัคคปี รองดอง ไมร่ ว่ มมือในการทำ การทำกิจกรรมกบั และหนา้ ทขี่ อง
กจิ กรรมในช้นั เรียน สมาชิกในชน้ั เรียน ร่วมมือร่วมใจใน นกั เรียน ด้วยความ
การทำกจิ กรรมกับ เตม็ ใจ เป็นผู้นำ
สมาชิกในชนั้ เรยี น ของเพ่อื น และ
และเปน็ ผู้นำ พลเมืองทด่ี ีของ
ชาติ
รว่ มมอื รว่ มใจใน
การทำกจิ กรรมกับ
สมาชกิ ในชั้นเรยี น
โรงเรียน และสังคม
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๔.๒ ธำรงไวซ้ ึ่งความเปน็ ชาติไทย
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ี เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี
๔.๒.๑ เขา้ รว่ มส่งเสริมสนบั สนนุ ไม่เข้ารว่ มกิจกรรม สรา้ งความสามคั คี สร้างความสามคั คี เขา้ ร่วมกจิ กรรม
ปรองดองเป็น ปรองดอง และเปน็ และมีส่วนร่วมใน
กจิ กรรม ทส่ี ร้างความสามัคคี ทสี่ รา้ งความ บางครั้ง ประโยชนต์ อ่ การจดั กจิ กรรมท่ี
โรงเรียนอย่าง สรา้ งความสามัคคี
ปรองดอง ทเ่ี ป็นประโยชน์ ต่อ สามัคคี ชนื่ ชมในความเปน็ สมำ่ เสมอ ปรองดอง และเป็น
ชาตไิ ทย ประโยชนต์ อ่
โรงเรยี น ชุมชน และสังคม ช่ืนชม ปกปอ้ ง ใน โรงเรียน ชมุ ชน
ความเป็นชาตไิ ทย และสงั คมอยา่ ง
๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกย่อง ไมช่ ืน่ ชมในความ สม่ำเสมอ
ความเปน็ ชาตไิ ทย เปน็ ชาติไทย ชืน่ ชม หวงแหน
ปกป้อง ยกยอ่ ง
ความเปน็ ชาตไิ ทย
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๔.๓ ศรทั ธา ยึดมนั่ และปฏบิ ัตติ นตามหลักของศาสนา
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
เขา้ ร่วมกิจกรรม
๔.๓.๑ เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนา ไม่เข้าร่วมกิจกรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรม ทางศาสนาท่ีตน เขา้ รว่ มกจิ กรรม
นบั ถือตามอย่าง ทางศาสนาที่ตน
ท่ีตนนบั ถือ ทางศาสนาที่ตน ทางศาสนาท่ีตน สม่ำเสมอ นบั ถืออยา่ ง
นับถือ นบั ถอื ตามโอกาส สมำ่ เสมอและเป็น
ปฏบิ ัติตนตามหลัก แบบอย่างที่ดี
๔.๓.๒ ปฏบิ ัตติ นตามหลักของ ไมป่ ฏิบตั ติ นตาม ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนา อยา่ ง
สม่ำเสมอ ปฏบิ ัตติ นตามหลัก
ศาสนา ทตี่ นนับถือ หลักศาสนา ศาสนาตามโอกาส ศาสนา อยา่ ง
ปฏิบัติตนเปน็ สมำ่ เสมอ และ
๔.๓.๓ เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ีของ ไม่ปฏบิ ัติตนตาม ปฏบิ ัติตนเป็น แบบอยา่ งทดี่ ี ชักชวนใหผ้ อู้ ่ืน
ศาสนกิ ชน แบบอยา่ งท่ดี ี แบบอย่างท่ดี ี ของศาสนิกชน ปฏบิ ัตดิ ว้ ย
ของศาสนิกชน ของศาสนกิ ชนตาม อยา่ งสม่ำเสมอ
โอกาส ปฏิบตั ติ นเปน็
แบบอยา่ งท่ดี ี
ของศาสนกิ ชน
อยา่ งสมำ่ เสมอ
และชักชวนใหผ้ ู้อื่น
ปฏบิ ตั ิด้วย
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๔.๔.๑ เขา้ รว่ มและมีส่วนร่วมใน ไมเ่ ข้ารว่ มกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรมที่ เข้าร่วมกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกจิ กรรม
การจดั กิจกรรมที่เก่ยี วกับสถาบนั ที่เกยี่ วข้องกบั เกี่ยวขอ้ งกับ
เกี่ยวขอ้ งกับ และมีสว่ นรว่ มใน
พระมหากษัตริย์ สถาบนั สถาบนั สถาบัน การจดั กิจกรรม
พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์
ตามทโี่ รงเรยี นจดั พระมหากษัตริย์ ท่เี กยี่ วกบั สถาบัน
ข้ึน
ตามทโี่ รงเรียนและ พระมหากษัตริย์
ชุมชนจัดขน้ึ ตามทีโ่ รงเรียนและ
ชุมชนจดั ขึน้
๔.๔.๒ แสดงความสำนกึ ใน ไมส่ ำนกึ ในพระ ชื่นชมในพระมหา ชื่นชมในพระมหา ช่ืนชมในพระมหา
พระมหากรณุ าธิคณุ ของ มหากรณุ าธิคุณ กรณุ าธคิ ุณของ
พระมหากษัตริย์ ของ พระมหากษัตรยิ ์ กรุณาธคิ ณุ ของ กรณุ าธิคณุ ในพระ
พระมหากษัตรยิ ์ เป็นบางคร้ังท่ีได้
๔.๔.๓ แสดงออกซง่ึ ความ ทราบถึงพระราช พระมหากษัตริย์ ราชกรณียกิจ พระ
จงรักภักดี ตอ่ สถาบัน ไม่จงรักภักดีตอ่ กรณียกิจ
พระมหากษัตริย์ สถาบนั ทุกครั้งท่ไี ด้ทราบ ปรชี าสามารถของ
พระมหากษัตริย์ ชืน่ ชม และ
จงรักภกั ดี ต่อ ถงึ พระราชกรณีย พระมหากษัตริย์
พระมหากษัตรยิ ์
กจิ และพระราชวงศ์
ชืน่ ชม และ ชื่นชม และ
แสดงออกถึงความ แสดงออกถึงความ
จงรกั ภกั ดี ตอ่ จงรักภกั ดี ตอ่
พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์
และพระราชวงศ์
ด้านที่ ๕ ความพอเพยี ง โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั ๕.๑.๑ ใช้ทรพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ เงนิ ส่ิงของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ
๕.๑ ดำเนนิ ชวี ิตอย่าง พอประมาณมี อยา่ งประหยัด คมุ้ คา่ และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี รวมท้ังการใช้
เหตผุ ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม เวลาอยา่ งเหมาะสม
๕.๑.๒ ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยัด คมุ้ ค่าและเกบ็
๕.๒ มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี ปรับตัว รักษาดูแลอย่างดี
เพื่ออยูใ่ น สังคมได้อยา่ งมีความสุข ๕.๑.๓ ปฏิบัติตนและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล
๕.๑.๔ ไม่เอาเปรียบผู้อ่นื และไม่ทำใหผ้ อู้ ืน่ เดือดร้อน พรอ้ มให้
อภยั เมื่อผู้อื่น กระทำผิดพลาด
๕.๒.๑ วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ วี ติ ประจำวัน
บนพนื้ ฐานของความรู้ ข้อมลู ข่าวสาร
๕.๒.๒ รูเ้ ทา่ ทนั การเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม
ยอมรับและ ปรับตวั เพ่อื อยู่ร่วมกับผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งมีความสุข
โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๔)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๕.๑ ดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๕.๑.๑ ใช้ทรัพยส์ ินของตนเอง ใชเ้ งนิ และของใช้ ใช้เงนิ และของใช้ ใช้ทรัพยส์ นิ ของ ใชท้ รพั ยส์ นิ ของ
เช่น เงิน สง่ิ ของ เครื่องใช้ ส่วนตวั อย่างไม่ สว่ นตวั อยา่ ง ตนเองและ ตนเองและ
ฯลฯ อย่างประหยัด คุม้ ค่า ประหยดั ประหยดั ทรัพยากรของ ทรัพยากรของ
และเกบ็ รกั ษาดูแลอย่างดีรวมท้งั ส่วนรวมอยา่ ง สว่ นรวมอย่าง
การใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม ประหยดั และคมุ้ คา่ ประหยัดและคมุ้ ค่า
เกบ็ รกั ษาดแู ลอย่าง
ดีตดั สินใจอย่างมี
เหตุผลไมเ่ อา
เปรียบผอู้ ่นื
๕.๑.๒ ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวม ใช้ทรพั ยากรและ ใชท้ รพั ยากรและ ใช้ทรพั ยากรและ ใชท้ รพั ยากรและ
อย่างประหยดั คุ้มค่าและเกบ็ ของใชส้ ่วนรวม ของใชส้ ว่ นรวม ของใช้สว่ นรวมอยา่ ง ของใช้ส่วนรวม
รกั ษา ดูแล อยา่ งดี อย่างไมป่ ระหยัด อยา่ งประหยดั ประหยดั และคุ้มคา่ อยา่ งประหยัด
คุ้มคา่ และเก็บ
รกั ษาดแู ลอย่างดี
๕.๑.๓ ปฏิบัติตนและตดั สินใจ ไมป่ ฏบิ ัติตนและ ปฏบิ ัติตนและ ปฏบิ ตั ิตนและ ปฏิบัติตนและ
ปฏบิ ตั ิตนและตดั สนิ ใจมเี หตุผล ตัดสนิ ใจดว้ ยความ ตัดสินใจและ
ไมร่ อบคอบและมี ตดั สินใจมเี หตุผล ตดั สินใจ ตัดสนิ ใจมเี หตผุ ล
๕.๑.๔ ไม่เอาเปรียบผอู้ ืน่ และไม่ เหตผุ ล บา้ ง
ทำให้ผู้อน่ื เดือดรอ้ นพร้อมให้อภยั อยา่ งมีเหตุผล อยา่ งดเี ยี่ยม
เมื่อผู้อ่ืนกระทำผิดพลาด เอาเปรยี บผอู้ ื่น ไมเ่ อาเปรียบผู้อน่ื
และทำให้ผู้อื่น และไมท่ ำใหผ้ ู้อื่น ไมเ่ อาเปรียบผ้อู ืน่ ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื
เดือดร้อน เดอื ดรอ้ น
และไม่ทำใหผ้ ู้อนื่ และไมท่ ำใหผ้ ู้อ่ืน
เดอื ดร้อนพร้อมให้ เดือดร้อนพร้อมให้
อภยั เมื่อผู้อน่ื กระทำ อภยั เม่อื ผู้อนื่
ผิดพลาด กระทำผิดพลาด
อยา่ งสมำ่ เสมอ
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๕.๒ มภี มู คิ มุ้ กันในตวั ท่ีดี ปรบั ตวั เพอ่ื อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
ใชค้ วามรู้ ข้อมูล
๕.๒.๑ วางแผนการเรียน ไมว่ างแผนการ วางแผนการเรียน ขา่ วสารใหเ้ ปน็ ใช้ความรู้ ข้อมลู
ประโยชน์ต่อ ขา่ วสารใหเ้ ปน็
การทำงานและการใช้ เรียนและการใช้ และการใช้ การเรยี นและ ประโยชนต์ ่อ
ชวี ิตประจำวนั บนพื้นฐาน ชวี ิตประจำวัน ชีวติ ประจำวนั การใช้ใน การเรียนและการ
ของความรู้ข้อมูลขา่ วสาร ชวี ติ ประจำวัน ใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน
รบั รู้การ
๕.๒.๒ รูเ้ ท่าทนั การ เปลยี่ นแปลง ไม่รูเ้ ท่าทันการ รเู้ ทา่ ทนั การ ร้เู ทา่ ทันการ เปล่ยี นแปลงของ
ของสังคม และสภาพแวดล้อม เปลยี่ นแปลงของ เปล่ียนแปลง เปลีย่ นแปลง ครอบครัว ชุมชน
ยอมรบั และปรับตวั เพ่ืออยู่ สังคม และ ของสังคม และ ของสังคม และ และสภาพแวดล้อม
ร่วมกบั ผ้อู น่ื ได้ อยา่ งมคี วามสุข สภาพแวดลอ้ ม สภาพแวดลอ้ ม สภาพแวดล้อม
ยอมรบั และปรับตัว ร้เู ทา่ ทนั การ
เพอื่ อยู่ รว่ มกบั ผู้อ่ืน เปลีย่ นแปลงของ
ได้ สงั คม และ
สภาพแวดล้อม
ยอมรับ และ
ปรบั ตัวเพ่ืออยู่
ร่วมกบั ผู้อ่ืนได้
อยา่ งมีความสขุ
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
แนวทางการประเมนิ พฤตกิ รรมบง่ ชเ้ี ชงิ บวก (คณุ ธรรมอตั ลกั ษณ)์
ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ โรงเรยี นอนุบาลตาก
ดา้ นที่ ๑ ความมวี นิ ัย พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี ๑.๑.๑ ปฏบิ ัตติ น ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ข้อบงั คบั ของครอบครัวโรงเรยี นและสังคม
ตวั ชว้ี ดั ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิของผูอ้ ื่น
๑.๑ ปฏิบตั ิตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ขอ้ บังคับ ของครอบครวั โรงเรียน และสงั คม ๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ
ในชวี ติ ประจำวนั และรับผดิ ชอบในการทำงาน
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๕)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏิบัติตนตาม ไม่ปฏิบัติตนตาม ปฏิบตั ติ นตาม ปฏบิ ัติตามข้อตกลง ปฏบิ ตั ติ าม
ข้อตกลง ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ข้อตกลงกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อตกลง กฎเกณฑ์
กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับ และ ระเบยี บ และ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของ ระเบยี บ ข้อบงั คับ
ของครอบครวั โรงเรียนและ ขอ้ บงั คับของ ขอ้ บังคบั ของ ครอบครัวและ ของครอบครัวและ
สังคม ไม่ละเมดิ สิทธขิ องผู้อ่นื ครอบครวั และ ครอบครวั และ โรงเรียน โรงเรียน
โรงเรยี น
โรงเรยี น
๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการ ไมต่ รงต่อเวลาใน ตรงต่อเวลาใน ตรงต่อเวลาในการ ตรงต่อเวลาในการ
ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ใน การปฏิบัติกจิ กรรม การปฏบิ ัติกิจกรรม ปฏิบตั ิกิจกรรม ปฏิบตั กิ ิจกรรม
ชีวิตประจำวัน และรับผดิ ชอบ ตา่ ง ๆ ใน ตา่ ง ๆ ใน ต่างๆ ใน ต่างๆ ในชวี ิต
ในการทำงาน ชวี ติ ประจำวันแต่ ชวี ติ ประจำวนั แต่ ชีวติ ประจำวนั ประจำวนั แตต่ ้อง
ต้องมีการเตือน ตอ้ งมีการเตือน แตต่ อ้ งมกี ารเตือน มกี ารเตือนเป็น
เป็นส่วนใหญ่ เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นบางคร้งั บางคร้ังและ
รับผดิ ชอบดว้ ย
ตนเอง
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ดา้ นท่ี ๒ ความซอื่ สตั ย์
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชวี้ ดั พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงต่อตนเอง
๒.๑.๑ ให้ข้อมลู ท่ีถูกต้องและเป็นจรงิ
ท้ังทางกาย วาจา ใจ ๒.๑.๒ ปฏบิ ัติตนโดยคำนึงถึงความถกู ต้องละอาย
๒.๒ ประพฤติตรงตาม ความเป็นจรงิ ตอ่ ผู้อื่น และเกรงกลัวต่อการกระทำผดิ
ทงั้ ทางกายวาจา ใจ ๒.๑.๓ ปฏบิ ัตติ ามคำมัน่ สัญญา
๒.๒.๑ ไมถ่ ือเอาส่งิ ของหรอื ผลงานของผู้อน่ื
มาเปน็ ของตนเอง
๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ิตนตอ่ ผอู้ ื่นด้วยความซอื่ ตรง
๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชนใ์ นทางทไ่ี ม่ถกู ต้อง
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๕)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๒.๑.๑ ให้ข้อมลู ท่ถี ูกต้องและ ไม่ใหข้ ้อมลู ที่
เป็นจริง ถกู ต้องและเป็น ใหข้ ้อมลู ทีถ่ ูกต้อง ให้ข้อมลู ทีถ่ ูกต้อง ใหข้ อ้ มูลที่ถูกตอ้ ง
จริง
๒.๑.๒ ปฏบิ ัติตนโดย คำนงึ ถงึ ไมป่ ฏบิ ัตใิ นสงิ่ และเป็นจริงเป็น และเปน็ จรงิ และเปน็ จริง
ความถกู ต้อง ละอายและเกรงกลัว ที่ถกู ต้อง ละอาย
ต่อการกระทำผดิ และเกรงกลวั ทีจ่ ะ บางคร้ัง บ่อยคร้งั สมำ่ เสมอ
ทำความผดิ
๒.๑.๓ ปฏิบตั ิตามคำมั่นสัญญา ปฏบิ ัติในส่งิ ปฏิบัติในส่งิ ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่
ไมต่ าม
สัญญาท่ตี นให้ไว้ ที่ถูกต้อง ละอาย ทถ่ี ูกต้อง ละอาย ท่ถี กู ต้อง ละอาย
กบั พ่อแม่ หรือ
ผ้ปู กครองและครู และเกรงกลวั ทจี่ ะ และเกรงกลวั ทจี่ ะ และเกรงกลวั ทจ่ี ะ
ทำความผิด เป็น ทำความผดิ ทำความผดิ
บางครง้ั บอ่ ยคร้ัง สมำ่ เสมอ
ทำตามสัญญาทีต่ น ทำตามสญั ญาที่ตน ทำตามสัญญาที่ตน
ให้ไว้กับพ่อแม่ ให้ไว้กบั พ่อแม่ ใหไ้ ว้กับพ่อแม่
หรือผู้ปกครองและ หรือผู้ปกครองและ หรือผู้ปกครองและ
ครเู ป็นบางครัง้ ครบู อ่ ยครั้ง ครสู มำ่ เสมอ
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ผอู้ นื่ ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ไม่นำสิ่งของ
๒.๒.๑ ไมน่ ำสง่ิ ของหรือผลงาน นำส่งิ ของของคน ไม่นำสงิ่ ของของ ของผู้อน่ื มา ไม่นำสิ่งของ และ
เปน็ ของตนเอง ผลงานของผู้อน่ื มา
ของผู้อื่นมาเปน็ ของตนเอง อนื่ มาเปน็ ของตน ผู้อน่ื มาเป็นของ เปน็ ของตนเอง
ตนเอง ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผู้อืน่ ปฏบิ ัติตนตอ่ ผู้อน่ื
ดว้ ยความซ่อื ตรง ด้วยความซอื่ ตรง
๒.๒.๒ ปฏิบัตติ นตอ่ ผอู้ ื่นด้วยความ ไมป่ ฏบิ ัติตนต่อ ปฏิบัติตนต่อผู้อน่ื บอ่ ยครั้ง
ไม่ลอกหรือนำ ปฏบิ ัติตนตอ่ ผ้อู ่นื
ซือ่ ตรง ผูอ้ ืน่ ดว้ ยความซอื่ ตรง ผลงานของผู้อ่นื มา ดว้ ยความซอ่ื ตรง
เป็นของตนเอง สม่ำเสมอ
ดว้ ยความซื่อตรง เปน็ บางคร้งั และไมค่ ดโกง หรือ
เอาเปรยี บผ้อู ื่น ไมล่ อกหรอื นำ
๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชน์ในทางท่ี ลอกหรอื นำผลงาน ไมล่ อกหรือนำ ผลงานของผู้อืน่ มา
เป็นของตนเอง
ไมถ่ ูกตอ้ ง ของผู้อ่นื มาเป็น ผลงานของผู้อื่นมา และไม่คดโกง หรือ
เอาเปรยี บผอู้ ื่น
ของตนเอง เปน็ ของตนเอง
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ด้านท่ี ๓ ความรบั ผิดชอบ
ตวั ชวี้ ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั ๓.๑.๑ ต้ังใจเรยี น
๓.๑ ตั้งใจ เพียรพยายาม ในการเรยี น ๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพียรพยายามในการเรียนรู้
๓.๑.๓ สนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ต่าง ๆ
และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้
๓.๒.๑ ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้จากหนงั สือ เอกสาร สิง่ พิมพ์
๓.๒ แสวงหาความรู้จากท้ังภายใน สือ่ เทคโนโลยตี ่าง ๆ แหลง่ เรียนรทู้ ้ังภายในและ
และภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการ ภายนอกโรงเรียน และเลอื กใชส้ ื่อไดอ้ ย่างเหมาะสม
เลอื กใชส้ ือ่ อย่างเหมาะสม สรุป
เปน็ องคค์ วามรู้ และสามารถ ๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วเิ คราะหต์ รวจสอบ จากสิ่งท่ีเรยี นรู้
นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ สรปุ เปน็ องค์ความรู้
๓.๒.๓ แลกเปลีย่ นความรู้ ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ และนำไปใช้
ในชวี ิตประจำวนั
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๕)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๓.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ ม กจิ กรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๓.๑.๑ ตงั้ ใจเรียน ไม่ต้ังใจเรยี น ตั้งใจเรยี น ตัง้ ใจเรยี น เอาใจ- ตง้ั ใจเรยี น เอาใจ-
๓.๑.๒ เอาใจใส่และมคี วามเพียร เอาใจใส่ใน ใส่ และมีความ ใส่และมคี วาม
พยายามในการเรยี นรู้ การเรียนรู้เปน็
๓.๑.๓ สนใจเข้ารว่ มกิจกรรม บางครง้ั เพยี รพยายามใน เพียรพยายามใน
การเรียนรู้ การเรยี นรู้
การเรียนรู้ต่าง ๆ เข้าร่วมกจิ กรรม เข้ารว่ มกจิ กรรม
การเรยี นรู้ต่าง ๆ การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ
บางครงั้ บ่อยคร้งั
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ ตา่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ ง
เหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๒.๑ ศกึ ษาคน้ ควา้ หา ความรู้ ไม่ศึกษาค้นควา้
จากหนงั สอื เอกสาร ส่งิ พิมพ์ สอื่ หาความรู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ หา ศึกษาคน้ ควา้ หา ศกึ ษาคน้ ควา้ หา
เทคโนโลยีตา่ งๆ แหลง่ เรยี นรู้ทงั้
ภายในและภายนอกโรงเรยี น ไมม่ ีการ ความรู้ ความรู้ จากหนงั สือ ความรู้จากหนังสือ
และเลือกใชส้ ่อื ไดอ้ ย่างเหมาะสม บันทกึ ความรู้
สรุปเปน็ องค์ เอกสาร สงิ่ พิมพ์ เอกสาร สงิ่ พิมพ์
๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ ความรู้
ขอ้ มูลจากสิ่งทเ่ี รยี นรูส้ รุปเป็น ไมน่ ำเสนอและ สอ่ื เทคโนโลยีตา่ ง ๆ ส่อื เทคโนโลยตี า่ ง ๆ
องค์ความรู้ แลกเปลย่ี น
ความรู้ กับผู้อื่น แหลง่ เรียนรู้ แหลง่ เรียนรู้ทั้ง
๓.๒.๓ แลกเปลยี่ นเรียนรู้ ด้วย ได้
วิธีการต่าง ๆ และนำไปใช้ ทัง้ ภายในและ ภายในและภายนอก
ในชวี ิตประจำวัน
ภายนอกโรงเรียน โรงเรียน ได้อย่าง
เหมาะสม
มีการบนั ทึก มกี ารบันทึกความรู้ มีการบนั ทึกความรู้
ความร้สู รปุ เปน็ สรุปเปน็ องค์ความรู้ วิเคราะห์ข้อมลู จาก
องค์ความรู้ สง่ิ ท่ีเรียนรู้สรุปเป็น
องค์ความรู้
นำเสนอและ นำเสนอและ นำเสนอและ
แลกเปลย่ี น แลกเปล่ยี นความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้
ความรู้ กบั ผอู้ ่นื กับผอู้ น่ื และ กบั ผอู้ ื่นและนำไปใช้
ได้ นำไปใชใ้ น ในชวี ติ ประจำวนั ได้
ชวี ิตประจำวันได้ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม