ดา้ นที่ ๔ ความกตญั ญู โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชวี้ ดั ๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ รอ้ งเพลงชาติ และอธิบายความหมายของเพลง
๔.๑ เปน็ พลเมอื งดีของชาติ ชาตไิ ดถ้ ูกตอ้ ง
๔.๑.๒ ปฏบิ ัตติ นตามสทิ ธแิ ละ หน้าทีพ่ ลเมอื งดขี องชาติ
๔.๒ ธำรงไว้ซ่ึงความเปน็ ชาติ ๔.๑.๓ มีความสามคั คี ปรองดอง
ไทย ๔.๒.๑ เขา้ ร่วม สง่ เสริม สนับสนุนกิจกรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง
ทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชนและสงั คม
๔.๓ ศรทั ธา ยึดมั่นและปฏบิ ัติ ๔.๒.๒ หวงแหน ปกปอ้ ง ยกย่องความเปน็ ชาติไทย
ตนตามหลกั ของศาสนา ๔.๓.๑ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ
๔.๓.๒ ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนาที่ตนนบั ถือ
๔.๔ เคารพเทิดทนู สถาบัน ๔.๓.๓ เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีของศาสนิกชน
พระมหากษัตริย์ ๔.๔.๑ เขา้ รว่ มและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กีย่ วกบั สถาบัน
พระมหากษัตรยิ ์
๔.๔.๒ แสดงความสำนกึ ในพระมหากรุณาธคิ ณุ ของพระมหากษัตรยิ ์
๔.๔.๓ แสดงออกซ่ึงความจงรกั ภักดตี อ่ สถาบันพระมหากษัตริย์
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๕)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๑ เปน็ พลเมอื งดขี องชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ
รอ้ งเพลง ชาติ และอธบิ าย ไม่ยืนตรงเคารพ ยนื ตรงเคารพ ยนื ตรงเม่ือได้ยนิ ยนื ตรงเม่อื ได้ยิน
ความหมาย ของเพลงชาตไิ ด้
ถูกต้อง ธงชาติ ธงชาติ เพลงชาติ ร้องเพลง เพลงชาติ รอ้ ง
๔.๑.๒ ปฏิบตั ิตนตามสิทธหิ น้าที่ ชาติได้ และบอก เพลงชาติได้ และ
พลเมืองดีของชาติ
ความหมายของ บอกความหมาย
เพลงชาติได้ถูกต้อง ของเพลงชาติได้
ถกู ต้อง
ไมป่ ฏิบัติตน ตาม ปฏิบัติตน ตามสิทธิ ปฏบิ ตั ิตน ตามสิทธิ ปฏบิ ัตติ น ตามสิทธิ
สิทธแิ ละหน้าทีข่ อง และหน้าที่ของ และหนา้ ทีข่ อง และหนา้ ทีข่ อง
นกั เรยี น นกั เรียนบางคร้ัง นกั เรยี นบอ่ ยครง้ั นกั เรยี นสม่ำเสมอ
๔.๑.๓ มีความสามัคคปี รองดอง ไมใ่ ห้ความร่วมมือ ใหค้ วามรว่ มมือ ใหค้ วามรว่ มมือ ให้ความร่วมมือ
รว่ มใจ ในการ รว่ มใจ ในการ ร่วมใจ ในการ ร่วมใจ ในการ
ทำงาน ทำงาน กบั สมาชิก ทำงาน กบั สมาชิก ทำงาน กับสมาชิก
ในชั้นเรยี นบางครง้ั ในชนั้ เรยี น ในช้ันเรยี นและใน
โรงเรยี นสมำ่ เสมอ
บอ่ ยคร้ัง
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๒ ธำรงไวซ้ ่ึงความเปน็ ชาติไทย
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
เข้าร่วมกิจกรรมที่
๔.๒.๑ เข้าร่วมสง่ เสรมิ สนบั สนุน ไม่เขา้ รว่ มกจิ กรรม สรา้ งความสามคั คี เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ี เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่
สรา้ งความสามคั คี สรา้ งความสามัคคี
กจิ กรรม ทส่ี รา้ งความสามัคคี ทีส่ ร้างความ เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ี ปรองดอง และเปน็ ปรองดอง และเป็น
ปรองดอง ที่เป็นประโยชน์ ต่อ สามคั คี แสดงความเปน็ ประโยชน์ต่อ ประโยชนต์ อ่
โรงเรียน ชมุ ชน และสงั คม ชาตไิ ทยด้วยความ โรงเรยี น โรงเรยี นและชมุ ชน
ภาคภูมิใจบางครงั้
๔.๒.๒ หวงแหน ปกปอ้ ง ยกย่อง ไมเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม เขา้ ร่วมกิจกรรมที่ เขา้ รว่ มกิจกรรมที่
แสดงความเปน็ แสดงความเป็น
ความเป็นชาตไิ ทย ทแ่ี สดงความเปน็ ชาตไิ ทยดว้ ยความ ชาตไิ ทยดว้ ยความ
ภาคภูมิใจบอ่ ยคร้ัง ภาคภูมใิ จ
ชาตไิ ทย สมำ่ เสมอ
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๓ ศรทั ธา ยดึ มนั่ และปฏบิ ัตติ นตามหลักของศาสนา
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๔.๓.๑ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทาง ไมเ่ ข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ ร่วมกจิ กรรม เข้ารว่ มกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกจิ กรรมที่
ตนนับถือและ ตนนบั ถือและ
ศาสนา ทตี่ นนับถือ ทางศาสนาท่ีตน ทางศาสนาท่ีตน ปฏิบตั ติ นตามหลัก ปฏบิ ัตติ นตามหลัก
ศาสนาตามโอกาส ศาสนาอย่าง
นบั ถือ นับถือ สม่ำเสมอ
๔.๓.๒ ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของ ไมป่ ฏิบัติตนตาม ปฏิบตั ิตนตาม ปฏิบัตติ นตาม ปฏบิ ัตติ นตาม
ศาสนาทีต่ นนบั ถือ หลักธรรมทาง
หลกั ธรรมทาง หลักธรรมทาง หลักธรรมทาง ศาสนาท่ีตนนบั ถือ
๔.๓.๓ เป็นแบบอย่างทด่ี ีของ สม่ำเสมอ
ศาสนกิ ชน ศาสนาท่ีตนนบั ถือ ศาสนาท่ีตนนับถือ ศาสนาทต่ี นนบั ถือ
ส่งเสรมิ สนบั สนนุ
บางครงั้ บ่อยคร้งั ดแู ล และ
ปกป้องศาสนวัตถุ
ไมส่ ง่ เสริม ศาสน สง่ เสรมิ สนับสนุน สง่ เสริม สนับสนนุ ศาสนสถานและศา
สนบุคคล เพ่ือให้
วตั ถุ ศาสนสถาน ดูแล ศาสนวัตถุ ดแู ล ศาสนวตั ถุ ศาสนาดำรงอยู่ใน
สังคมต่อไป
และศาสนบุคคล ศาสนสถานและศา ศาสนสถานและศา สม่ำเสมอ
เพื่อให้ศาสนาดำรง สนบุคคล เพ่ือให้ สนบคุ คล เพ่ือให้
อย่ใู นสงั คมต่อไป ศาสนาดำรงอยู่ใน ศาสนาดำรงอยู่ใน
สังคมตอ่ ไปบางคร้ัง สงั คมต่อไป
บ่อยครัง้
โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๔.๔.๑ เขา้ ร่วมและมีสว่ นรว่ ม
ในการจัดกจิ กรรมทีเ่ กี่ยวกับ ไม่เข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ี เข้ารว่ มกิจกรรมที่ เข้าร่วมกิจกรรม
สถาบนั พระมหากษตั ริย์
ทเี่ กย่ี วข้องกับ เกย่ี วขอ้ งกับ เก่ียวขอ้ งกบั และมสี ่วนรว่ มใน
๔.๔.๒ แสดงความสำนึกใน
พระมหากรณุ าธิคณุ ของ สถาบนั สถาบนั สถาบนั การจัดกิจกรรม
พระมหากษัตรยิ ์
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ ทเี่ กย่ี วกบั กับ
ตามท่โี รงเรยี นจัด ตามทีโ่ รงเรยี นและ สถาบนั
ขน้ึ ชุมชนจดั ขึ้น พระมหากษัตรยิ ์
ตามท่ีโรงเรยี นและ
ชุมชนจัดข้ึน
ไมย่ ืนตรงและรอ้ ง ยนื ตรงและร้อง ยืนตรงและรอ้ ง ยนื ตรงและรอ้ ง
เพลงสรรเสริญพระ เพลงสรรเสริญพระ เพลงสรรเสรญิ พระ เพลงสรรเสรญิ พระ
บารมี บารมีบางคร้ัง บารมีบ่อยครงั้ บารมีสมำ่ เสมอ
๔.๔.๓ แสดงออกซง่ึ ความ ไมแ่ สดงความ แสดงความเคารพ แสดงความเคารพ แสดงความเคารพ
จงรักภกั ดี ต่อสถาบนั เคารพต่อ พระบรม ตอ่ พระบรมฉายา ตอ่ พระบรมฉายา ตอ่ พระบรมฉายา
พระมหากษัตริย์ ฉายาลักษณ์ ลกั ษณ์บางครง้ั ลกั ษณ์บ่อยครั้ง ลกั ษณ์สม่ำเสมอ
ด้านที่ ๕ ความพอเพยี ง โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั ๕.๑.๑ ใช้ทรพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ เงนิ ส่ิงของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ
๕.๑ ดำเนนิ ชวี ิตอย่าง พอประมาณมี อยา่ งประหยัด คมุ้ คา่ และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี รวมท้ังการใช้
เหตผุ ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม เวลาอยา่ งเหมาะสม
๕.๑.๒ ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยัด คมุ้ ค่าและเกบ็
๕.๒ มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี ปรับตัว รักษาดูแลอย่างดี
เพื่ออยูใ่ น สังคมได้อยา่ งมีความสุข ๕.๑.๓ ปฏิบัติตนและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล
๕.๑.๔ ไม่เอาเปรียบผู้อ่นื และไม่ทำใหผ้ อู้ ืน่ เดือดร้อน พรอ้ มให้
อภยั เมื่อผู้อื่น กระทำผิดพลาด
๕.๒.๑ วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ วี ติ ประจำวัน
บนพนื้ ฐานของความรู้ ข้อมลู ข่าวสาร
๕.๒.๒ รูเ้ ทา่ ทนั การเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม
ยอมรับและ ปรับตวั เพ่อื อยู่ร่วมกับผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งมีความสุข
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๕)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๕.๑ ดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๕.๑.๑ ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง ใช้เงนิ และของใช้ ใชเ้ งินและของใช้ ใชเ้ งินและของใช้ ใช้เงินและของใช้
ส่วนตัวอย่าง ส่วนตวั อยา่ ง
เช่น เงนิ ส่ิงของ เครื่องใช้ ส่วนตวั อยา่ งไม่ สว่ นตัวอยา่ ง ประหยดั คุม้ ค่า ประหยัดคุ้มคา่
และเก็บรักษาดูแล และเก็บรักษาดูแล
ฯลฯ อยา่ งประหยัด คมุ้ ค่า ประหยดั ประหยัด อย่างดี อย่างดีรวมทั้งการ
ใช้เวลาอย่าง
และเก็บ รักษาดแู ลอย่างดรี วมทง้ั เหมาะสม
การใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม ใช้ทรพั ยากรของ
สว่ นรวมอย่าง
๕.๑.๒ ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวม ใช้ทรัพยากรของ ใช้ทรพั ยากรของ ใช้ทรัพยากรของ ประหยดั และคุ้มค่า
เกบ็ รกั ษาดแู ลอย่าง
อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ สว่ นรวมอย่างไม่ สว่ นรวมอยา่ ง สว่ นรวมอย่าง ดี
รักษา ดูแล อยา่ งดี ประหยัด ประหยัด ประหยดั และคมุ้ ค่า ตัดสนิ ใจอยา่ งมี
เหตุผลด้วยความ
๕.๑.๓ ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจ ตัดสินใจไมม่ ี ตดั สนิ ใจอย่างมี ตัดสนิ ใจอยา่ งมี รอบคอบก่อนการ
ดว้ ยความรอบคอบมเี หตุผล เหตุผล เหตุผล เหตุผลดว้ ยความ ลงมือทำหรือพูด
รอบคอบ
ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่ืน
๕.๑.๔ ไมเ่ อาเปรยี บผู้อน่ื และไม่ เอาเปรยี บผอู้ ื่น ไม่เอาเปรยี บผู้อ่ืน ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อืน่
ทำให้ผูอ้ ่นื เดือดร้อนพร้อมให้อภยั และไม่ทำใหผ้ ู้อื่น เดอื ดรอ้ นพร้อมให้
เมอ่ื ผู้อ่นื กระทำผดิ พลาด เดอื ดร้อน อภัยเม่ือผู้อ่นื
กระทำผิดพลาด
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๕.๒ มภี มู คิ ุ้มกันในตวั ท่ีดี ปรบั ตวั เพอ่ื อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ใช้ความรู้ ขอ้ มลู
๕.๒.๑ วางแผนการเรยี น ไม่วางแผนการ วางแผนการเรียน ข่าวสารให้เป็น ใช้ความรู้ ขอ้ มลู
ประโยชน์ต่อการ ข่าวสารใหเ้ ปน็
การทำงานและการใช้ เรยี นและการใช้ และการใช้ เรียนและการใช้ใน ประโยชน์ตอ่
ชวี ติ ประจำวนั บนพื้นฐาน ชีวติ ประจำวนั ชวี ติ ประจำวัน ชวี ิตประจำวัน การเรยี นและการ
ของความรู้ข้อมูลขา่ วสาร ใช้ในชวี ติ ประจำวนั
รบั รูก้ ารเปล่ยี นแปลง อย่างสมำ่ เสมอ
๕.๒.๒ รเู้ ทา่ ทนั การ เปลีย่ นแปลง รบั รู้ไม่ทัน รบั รูก้ าร ของครอบครวั ชมุ ชน
ของสังคม และสภาพแวดลอ้ ม เปลยี่ นแปลงของ เปลีย่ นแปลงของ และสภาพแวดล้อม รับรู้การ
ยอมรบั และปรับตวั เพื่ออยู่ ร่วมกับ ครอบครัว ชมุ ชน ครอบครัว ชุมชน เปลี่ยนแปลงของ
ผูอ้ นื่ ได้ อย่างมีความสุข ครอบครัว ชมุ ชน
และสภาพแวดลอ้ ม
ยอมรับ และ
ปรับตวั เพ่อื อยู่
ร่วมกับผู้อ่นื ได้
อยา่ งมีความสขุ
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
แนวทางการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชเ้ี ชงิ บวก (คุณธรรมอตั ลกั ษณ)์
ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ โรงเรยี นอนุบาลตาก
ดา้ นท่ี ๑ ความมวี นิ ัย พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้ ๑.๑.๑ ปฏบิ ตั ติ น ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ข้อบงั คับ ของครอบครวั โรงเรยี นและสังคม
ตวั ชวี้ ดั ไมล่ ะเมิดสทิ ธขิ องผูอ้ ่ืน
๑.๑ ปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ข้อบังคับ ของครอบครวั โรงเรียน และสังคม ๑.๑.๒ ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่าง ๆ
ในชีวติ ประจำวัน และรับผดิ ชอบในการทำงาน
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับประถมศกึ ษา (ป.๖)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๑.๑ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บังคบั ของครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏิบัตติ น ตาม ไม่ปฏบิ ัตติ นตาม ปฏบิ ตั ติ าม ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง ปฏบิ ัติตามข้อตกลง
ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ขอ้ บังคับ ของครอบครัว ขอ้ ตกลง ฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบียบ
ระเบยี บ ข้อบงั คบั ระเบียบ ข้อบงั คับ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บังคบั ของ
โรงเรียนและสงั คม ไมล่ ะเมิด ของครอบครวั และ ของครอบครัว ครอบครัว และ ครอบครวั และ
โรงเรยี น โดยตอ้ งมี โรงเรยี นได้ดว้ ย
สิทธขิ องผ้อู ืน่ โรงเรียน และโรงเรยี น การเตือนเปน็ ตนเอง
โดยตอ้ งมีการ
เตือนเปน็ ส่วน บางคร้ัง
ใหญ่
๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการ ไม่ปฏิบตั กิ ิจกรรม ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ปฏิบตั ิกจิ กรรมหรือ ปฏิบัติกจิ กรรมหรือ
ปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ใน หรอื ทำงานทไี่ ดร้ ับ หรือทำงานท่ี ทำงานท่ีไดร้ บั ทำงานที่ได้รับ
มอบหมายเสรจ็
ชวี ติ ประจำวนั และรบั ผดิ ชอบ มอบหมายไม่ ได้รบั มอบหมาย มอบหมายเสร็จ ทนั เวลาไดด้ ว้ ย
ในการทำงาน เสร็จทนั เวลาได้ ทันเวลาได้ด้วย
ด้วยตนเอง โดย ตนเอง โดยมกี าร ตนเอง
ตอ้ งมีการเตือน เตอื นเปน็ บางคร้ัง
เปน็ ส่วนใหญ่
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ดา้ นที่ ๒ ความซอื่ สตั ย์
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั พฤตกิ รรมบง่ ชี้
๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ต่อตนเอง
๒.๑.๑ ใหข้ ้อมูลทถ่ี กู ต้องและเปน็ จริง
ทั้งทางกาย วาจา ใจ ๒.๑.๒ ปฏบิ ัติตนโดยคำนึงถึงความถูกต้องละอาย
๒.๒ ประพฤตติ รงตาม ความเป็นจริงตอ่ ผูอ้ ่นื และเกรงกลัวต่อการกระทำผิด
ทั้งทางกายวาจา ใจ ๒.๑.๓ ปฏิบัตติ ามคำม่นั สัญญา
๒.๒.๑ ไมถ่ อื เอาส่ิงของหรือผลงานของผู้อน่ื
มาเปน็ ของตนเอง
๒.๒.๒ ปฏิบัติตนต่อผอู้ นื่ ดว้ ยความซือ่ ตรง
๒.๒.๓ ไม่หาประโยชนใ์ นทางที่ไม่ถกู ต้อง
โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดับประถมศกึ ษา (ป.๖)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ตนเองทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ให้ข้อมลู ท่ถี ูกต้อง
๒.๑.๑ ใหข้ อ้ มลู ที่ถกู ต้องและเป็น ไม่ใหข้ อ้ มลู ท่ีถูกตอ้ ง ใหข้ ้อมูลท่ีถูกต้อง ให้ขอ้ มูลทถี่ ูกต้อง เปน็ จรงิ และ
และเปน็ จริง ครบถว้ น
จรงิ และเปน็ จรงิ ปฏบิ ัตใิ นสงิ่ ที่
ถูกตอ้ ง ละอาย
๒.๑.๒ ปฏบิ ัตติ นโดยคำนงึ ถึง ปฏิบตั ติ นโดยโดย ปฏบิ ัตใิ นสิ่งที่ ปฏิบัตใิ นส่งิ ท่ี เกรงกลัวทจี่ ะทำ
ความถกู ต้องละอายและเกรงกลัว คำนงึ ถงึ ความ ถกู ต้อง โดยตอ้ งมี ถกู ตอ้ ง โดยต้องมี ความผิดดว้ ย
ต่อการกระทำผิด ถกู ต้อง การเตือนเปน็ ส่วน การเตอื นเป็น ตนเอง และ
ใหญ่ บางครัง้ เปน็ แบบอย่างท่ีดี
ด้านความซ่ือสตั ย์
๒.๑.๓ ปฏบิ ตั ติ ามคำมัน่ สญั ญา ไมป่ ฏบิ ัตติ าม ทำตามสญั ญาท่ี ทำตามสญั ญาที่
คำม่ันสญั ญา ตนให้ไว้กบั พ่อแม่ ตนให้ไว้กบั พ่อแม่ ตามสัญญาที่ตนให้
หรอื ผู้ปกครอง ได้ หรือผูป้ กครองได้ ไว้กบั พอ่ แม่ หรอื
บางครง้ั เป็นส่วนใหญ่ ผูป้ กครองได้ทุกครั้ง
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ผอู้ นื่ ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๒.๒.๑ ไมถ่ ือเอาสง่ิ ของหรอื
ผลงานของผู้อื่นมาเปน็ ของตนเอง นำส่งิ ของของผู้อ่นื ไม่นำสิง่ ของของ ไม่นำสง่ิ ของของ ไม่นำส่งิ ของและ
ผ้อู ่นื มาเปน็ ของ ผลงานของผู้อ่นื
๒.๒.๒ ปฏบิ ัตติ นตอ่ ผูอ้ น่ื ด้วย มาเปน็ ของตน ผู้อืน่ มาเป็นของ ตนเอง มาเปน็ ของตนเอง
ความซอื่ ตรง
ตนเอง ปฏิบตั ิตนตอ่ ผู้อนื่ ปฏบิ ตั ิตนต่อผู้อื่น
ดว้ ยความซือ่ ตรง ด้วยความซอื่ ตรง
ไมป่ ฏิบัติตนต่อ ปฏิบัตติ นต่อผู้อน่ื เปน็ สว่ นใหญ่ อยา่ งสม่ำเสมอ
ผ้อู ่นื ดว้ ยความ ดว้ ยความซ่อื ตรง
ซอ่ื ตรง เป็นเป็นบางครง้ั
๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชน์ในทางท่ี หาประโยชน์ หาประโยชน์ ไม่หาประโยชน์ ไม่หาประโยชน์
ไม่ถูกต้อง
ในทางที่ไม่ถูกต้อง ในทางท่ีไม่ถูกต้อง ในทางท่ีไม่ถูกต้อง ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง
บางครงั้ และเปน็ บบอย่าง
ทีด่ แี ก่เพอ่ื นด้าน
ความซอื่ สตั ย์
โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ดา้ นที่ ๓ ความรบั ผดิ ชอบ
ตวั ชวี้ ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้ พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชวี้ ดั ๓.๑.๑ ต้ังใจเรยี น
๓.๑ ต้ังใจ เพยี รพยายาม ในการเรยี น ๓.๑.๒ เอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้
๓.๑.๓ สนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรตู้ ่าง ๆ
และเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้
๓.๒.๑ ศึกษาค้นคว้าหาความรจู้ ากหนงั สอื เอกสาร ส่ิงพิมพ์
๓.๒ แสวงหาความรูจ้ ากทง้ั ภายใน สื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ แหลง่ เรยี นรู้ทั้งภายในและ
และภายนอกโรงเรยี น ด้วยการ ภายนอกโรงเรยี น และเลอื กใช้ส่อื ได้อยา่ งเหมาะสม
เลอื กใชส้ ่อื อยา่ งเหมาะสม สรุป
เป็นองค์ความรู้ และสามารถ ๓.๒.๒ บันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ตรวจสอบ จากส่งิ ทเ่ี รียนรู้
นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ สรุปเปน็ องคค์ วามรู้
๓.๒.๓ แลกเปลี่ยนความรู้ ดว้ ยวิธีการต่าง ๆ และนำไปใช้
ในชวี ิตประจำวนั
โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับประถมศึกษา (ป.๖)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๓.๑.๑ ตง้ั ใจเรียน ตั้งใจและ
ไมเ่ อาใจใส่ต่อการ เอาใจใส่ต่อการ ตัง้ ใจและ รับผิดชอบในการ
รับผิดชอบในการ ปฏิบตั กิ จิ กรรมที่
ปฏิบตั กิ ิจกรรมที่ ปฏิบัติกจิ กรรมที่ ปฏิบัติกจิ กรรมท่ี ได้รบั มอบหมาย
ไดร้ บั มอบหมาย จนสำเรจ็ และ
ไดร้ บั มอบหมาย ได้รับมอบหมาย จนสำเร็จแตม่ ี ถกู ต้องสมบูรณ์
ข้อบกพร่อง
และไมส่ ำเรจ็ แตไ่ มส่ ำเร็จ บางส่วน ตัง้ ใจและ
รบั ผิดชอบในการ
๓.๑.๒ เอาใจใส่และมีความเพยี ร ไม่เอาใจใส่ต่อการ เอาใจใส่ต่อการ ตัง้ ใจและ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมที่
พยายามในการเรียนรู้ ปฏิบัตกิ ิจกรรมที่ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมที่ รบั ผิดชอบในการ ไดร้ ับมอบหมาย
ไดร้ ับมอบหมาย ไดร้ ับมอบหมาย ปฏิบตั กิ ิจกรรมที่ จนสำเร็จ ถูกต้อง
และไม่สำเร็จ แต่ไม่สำเร็จ ได้รับมอบหมาย สมบรู ณ์ และ
จนสำเรจ็ แต่มี รับผดิ ชอบในการ
ขอ้ บกพร่อง ทำงานได้ด้วย
บางส่วนและ ตนเอง
รบั ผิดชอบในการ
ทำงานแตต่ ้องมี เข้าร่วมกจิ กรรม
การเตือนเปน็ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ
บางคร้งั เปน็ ประจำหรอื
ร้อยละ 80 ขึ้นไป
๓.๑.๓ สนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมการ ไมเ่ ขา้ รว่ ม เข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ รว่ มกิจกรรม
เรยี นรตู้ า่ ง ๆ การเรียนรู้ต่าง ๆ
กจิ กรรมการ การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ บอ่ ยคร้ังหรือรอ้ ย
ละ 60 - 79
เรยี นรู้ตา่ ง ๆหรือ บางคร้ัง หรอื ร้อย
เขา้ ร่วมกิจกรรม ละ 50 - 59
ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 50
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อื่ อยา่ ง
เหมาะสม สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๒.๑ ศึกษาค้นควา้ หาความรู้ ไมศ่ กึ ษาค้นควา้ หา ศึกษาค้นควา้ หา ศกึ ษาค้นควา้ หา ศกึ ษาคน้ คว้าหา
จากหนงั สอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์ ส่อื ความรู้ จากแหลง่ ความรู้จากหนังสือ ความรูจ้ ากหนังสอื ความรู้จากหนงั สือ
เทคโนโลยีตา่ ง ๆ แหลง่ เรียนรู้ท้งั การเรยี นร้ตู า่ ง ๆ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ เอกสาร สิง่ พิมพ์ เอกสาร สง่ิ พิมพ์
ภายในและภายนอกโรงเรยี น และ สอ่ื เทคโนโลยี ส่ือเทคโนโลยี ส่อื เทคโนโลยี
เลอื กใชส้ ่ือได้อยา่ งเหมาะสม ภายในโรงเรยี น ภายในโรงเรยี น แหล่งเรียนรอู้ น่ื
และนอกโรงเรยี น ภายในโรงเรียน
และนอก เลือกใช้
ส่อื ได้อย่าง
เหมาะสมโรงเรยี น
อยา่ งสม่ำเสมอ
๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ ไมม่ ีการบนั ทึก มกี ารบนั ทึก มีการบนั ทึก มกี ารบนั ทึก
ตรวจสอบ จากส่ิงท่เี รยี นรู้ สรปุ ความร้จู ากสงิ่ ที่ ความร้จู ากส่งิ ท่ี ความรูจ้ ากสิง่ ที่ ความรู้จากสิ่งท่ี
เปน็ องค์ความรู้ เรยี นรู้ และสรปุ เรียนรู้ และสรปุ เรยี นรู้ และสรปุ เรยี นรู้และสรปุ
เปน็ องค์ความรู้ เปน็ องค์ความรู้ เปน็ องค์ความรู้ เป็นองค์ความรูท้ ุก
๓.๒.๓ แลกเปล่ยี นความรู้ ดว้ ย เปน็ บางคร้งั เป็นสว่ นใหญ่ คร้ัง
วธิ กี ารต่าง ๆ และนำไปใช้ใน ไมม่ ีมกี ารนำเสนอ
ชีวติ ประจำวัน และแลกเปลยี่ น มกี ารนำเสนอ มีการนำเสนอ มกี ารนำเสนอ
องค์ความรู้ ด้วย และแลกเปล่ยี น และแลกเปลยี่ น และแลกเปล่ยี น
วธิ กี ารท่ี องค์ความรู้ ดว้ ย องค์ความรู้ ดว้ ย องค์ความรู้ ด้วย
หลากหลาย วิธีการที่ วธิ ีการที่ วิธีการท่ี
หลากหลายกบั หลากหลายกบั หลากหลายกับ
เพือ่ นในหอ้ งเรยี น เพ่อื นในห้องเรยี น เพอื่ นในห้องเรียน
ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ ครูผู้สอนดว้ ย โรงเรยี น
วธิ กี ารตา่ ง ๆ
ด้านท่ี ๔ ความกตญั ญู โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั ๔.๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธบิ ายความหมายของเพลง
๔.๑ เปน็ พลเมืองดีของชาติ ชาติได้ถูกตอ้ ง
๔.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิและ หนา้ ทีพ่ ลเมืองดขี องชาติ
๔.๒ ธำรงไว้ซ่ึงความเปน็ ชาติ ๔.๑.๓ มีความสามคั คี ปรองดอง
ไทย ๔.๒.๑ เข้าร่วม ส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง
ที่เปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม
๔.๓ ศรัทธา ยึดมน่ั และปฏิบัติ ๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกยอ่ งความเป็นชาติไทย
ตนตามหลกั ของศาสนา ๔.๓.๑ เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ
๔.๓.๒ ปฏิบตั ิตนตามหลักของศาสนาท่ีตนนบั ถือ
๔.๔ เคารพเทิดทูนสถาบนั ๔.๓.๓ เป็นแบบอย่างทดี่ ีของศาสนิกชน
พระมหากษัตรยิ ์ ๔.๔.๑ เข้าร่วมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทีเ่ กีย่ วกับสถาบัน
พระมหากษัตริย์
๔.๔.๒ แสดงความสำนกึ ในพระมหากรุณาธคิ ุณของพระมหากษัตรยิ ์
๔.๔.๓ แสดงออกซ่ึงความจงรักภักดตี ่อสถาบันพระมหากษัตริย์
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๖)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๔.๑ เป็นพลเมอื งดขี องชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๔.๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ ไมย่ ืนตรงเคารพ ยืนตรงเคารพธง ยนื ตรงเคารพธง ยืนตรงเคารพธง
ชาติเมอื่ ไดย้ ินเพลง ชาตเิ มอื่ ได้ยนิ เพลง ชาติทกุ คร้งั เมอ่ื ได้
รอ้ งเพลงชาติได้ ธงชาติ ชาติ ชาติ และร้องเพลง ยนิ เพลงชาติ และ
ชาติได้ รอ้ งเพลงได้ถูกต้อง
๔.๑.๒ อธบิ ายความหมายของ อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย อธิบายความหมาย
เพลงชาตไิ ด้ถกู ต้อง
ของเพลงชาตไิ ม่ ของเพลงชาตผิ ดิ ของเพลงชาติได้ไม่ ของเพลงชาตไิ ด้
ถกู ต้อง บางส่วน ครบถว้ น ตรงครบถ้วน
๔.๑.๓ ปฏบิ ตั ิตนตามสทิ ธิและ ไมป่ ฏบิ ตั ติ นตาม ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธิ ปฏิบตั ิตนตามสิทธิ ปฏิบตั ิตนตามสิทธิ
หนา้ ทพ่ี ลเมืองดีของชาติ สิทธแิ ละหน้าทข่ี อง และหนา้ ที่ของ และหนา้ ทีข่ อง และหน้าทข่ี อง
นักเรียน นกั เรยี นบางครง้ั นกั เรยี นเป็นส่วน นกั เรยี นอย่าง
๔.๑.๔ มคี วามสามัคคี ใหญ่ สมำ่ เสมอ
ปรองดอง ไมใ่ ห้ความรว่ มมือ ใหค้ วามรว่ มมือ
รว่ มใจในการ รว่ มใจในการ ใหค้ วามรว่ มมือ ใหค้ วามร่วมมือ
ทำงานกบั สมาชิก ทำงานกับสมาชกิ ร่วมใจในการ ร่วมใจในการ
ในโรงเรียน ในโรงเรยี นบางคร้ัง ทำงานกับสมาชิก ทำงานกบั สมาชกิ
ในโรงเรยี นเปน็ ส่วน ในโรงเรยี นอยา่ ง
ใหญ่ สม่ำเสมอ
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๒ ธำรงไวซ้ ่ึงความเปน็ ชาติไทย
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี
๔.๒.๑ เข้าร่วม สง่ เสรมิ ไม่เข้าร่วมกจิ กรรม เข้าร่วมกจิ กรรมที่ เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ี สรา้ งความสามคั คี
สนบั สนนุ กจิ กรรมท่ีสร้างความ ที่สร้างความ สรา้ งความสามคั คี สร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็น
สามัคคี ปรองดอง ทเี่ ปน็ สามัคคี ปรองดอง ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ตอ่
ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชุมชนและ ประโยชน์ต่อ โรงเรียนและชมุ ชน
สงั คม โรงเรยี น
เข้าร่วมกิจกรรม
๔.๒.๒ หวงแหน ปกปอ้ ง ไม่เขา้ รว่ มกิจกรรม เข้าร่วมกจิ กรรม ที่ เข้ารว่ มกิจกรรม เก่ยี วกบั หวงแหน
ยกยอ่ งความเปน็ ชาตไิ ทย ทีเ่ กีย่ วกับการหวง เก่ียวกับการหวง เก่ยี วกับการหวง ปกปอ้ งยกย่อง
แหน ปกป้อง แหน ปกปอ้ ง แหน ปกปอ้ ง ความเป็นชาติไทย
ยกย่องความเป็น ยกย่องความเป็น ยกย่องความเปน็ ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป
ชาติไทยหรอื เขา้ ชาตไิ ทยร้อยละ 50 ชาตไิ ทยร้อยละ
ร่วมกิจกรรม - 59 60 - 79
ต่ำกว่ารอ้ ยละ 50
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๓ ศรทั ธา ยดึ มน่ั และปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๔.๓.๑ เขา้ ร่วมกิจกรรมทาง
ศาสนาทต่ี นนับถือ ไมเ่ ขา้ รว่ มกจิ กรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรม เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ี เข้ารว่ มกิจกรรมท่ี
๔.๓.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ของ ทางศาสนาที่ตนนบั ทางศาสนาท่ีตน ตนนบั ถือและ ตนนับถือและ
ศาสนาท่ตี นนับถือ
ถอื นับถอื ปฏิบตั ติ นตามหลกั ปฏิบัติตนตามหลกั
ศาสนา ตามโอกาส ศาสนาอยา่ ง
สม่ำเสมอ
ไมป่ ฏิบัติตนตาม ปฏิบัตติ นตามหลัก ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั
หลักของศาสนาท่ี ของศาสนาท่ตี นนบั ของศาสนาทตี่ นนับ ของศาสนาทต่ี นนบั
ตนนับถือ ถอื โดยตอ้ งมีการ ถอื โดยต้องมีการ ถือด้วยตนเอง
เตอื นเป็นส่วนใหญ่ เตือนเป็นบางครั้ง
๔.๓.๓ เป็นแบบอยา่ งท่ดี ีของ ไม่ปฏบิ ัติเป็น ปฏบิ ัติเป็น ปฏบิ ตั ิเป็น ปฏบิ ตั ิเป็น
ศาสนิกชน แบบอย่างท่ดี ี
ของศาสนกิ ชน แบบอยา่ งท่ดี ี แบบอยา่ งที่ดี แบบอย่างทด่ี ี
ของศาสนกิ ชน โดย ของศาสนิกชน โดย ของศาสนกิ ชนด้วย
ตอ้ งมีการเตือนเป็น ต้องมีการเตือนเปน็ ตนเอง
สว่ นใหญ่ บางครง้ั
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๔.๔.๑ เขา้ รว่ มและมสี ว่ นรว่ มใน ไม่เข้ารว่ มกจิ กรรม เข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ ร่วมกิจกรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรม
และมสี ่วนรว่ มใน และมสี ว่ นรว่ มใน
การจัดกิจกรรมท่เี ก่ียวกบั สถาบัน ทีเ่ กย่ี วกับสถาบัน และมีส่วนรว่ มใน การจดั กิจกรรมที่ การจดั กจิ กรรมท่ี
เกย่ี วกบั สถาบนั เกย่ี วกบั สถาบัน
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์ การจดั กิจกรรม พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์
ร้อยละ 60 - 79 ร้อยละ 80 ขึ้นไป
หรอื เข้ารว่ ม ที่เกยี่ วกับสถาบัน
กจิ กรรม พระมหากษัตรยิ ์
ต่ำกว่ารอ้ ยละ 50 ร้อยละ 50 - 59
๔.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระ ไมเ่ ข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ี เขา้ ร่วมกจิ กรรมที่ เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี
มหากรณุ าธิคุณของ ทเี่ กี่ยวกับสถาบัน เกีย่ วกับสถาบัน เกย่ี วกบั สถาบัน เกีย่ วกับสถาบัน
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ท่ี พระมหากษัตริย์ท่ี พระมหากษัตรยิ ์ท่ี
โรงเรยี นและชุมชน โรงเรียน ชมุ ชน
โรงเรียนจดั ขนึ้ จัดขึน้ สังคมจดั ข้ึน
๔.๔.๓ แสดงออกซ่ึงความ ไมเ่ ข้าร่วมกิจกรรม เข้าร่วมกจิ กรรม เขา้ ร่วมกิจกรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรม
จงรักภักดตี ่อสถาบัน ที่เก่ยี วกับสถาบัน และมสี ว่ นร่วมใน และมสี ว่ นรว่ มใน และมีส่วนร่วมใน
พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ การจดั กิจกรรม การจดั กิจกรรมท่ี การจดั กิจกรรมท่ี
เกยี่ วกบั สถาบนั เกีย่ วกบั สถาบนั
เกี่ยวกับสถาบัน พระมหากษัตริย์ที่ พระมหากษัตริยท์ ่ี
พระมหากษัตรยิ ท์ ี่ โรงเรียนและชุมชน โรงเรียน ชุมชน
โรงเรยี นจดั ขนึ้ จดั ขน้ึ สังคมจัดขึ้น
ด้านที่ ๕ ความพอเพยี ง โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั ๕.๑.๑ ใช้ทรพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ เงนิ ส่ิงของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ
๕.๑ ดำเนนิ ชวี ิตอย่าง พอประมาณมี อยา่ งประหยัด คมุ้ คา่ และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี รวมท้ังการใช้
เหตผุ ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม เวลาอยา่ งเหมาะสม
๕.๑.๒ ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยัด คมุ้ ค่าและเกบ็
๕.๒ มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี ปรับตัว รักษาดูแลอย่างดี
เพื่ออยูใ่ น สังคมได้อยา่ งมีความสุข ๕.๑.๓ ปฏิบัติตนและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล
๕.๑.๔ ไม่เอาเปรียบผู้อ่นื และไม่ทำใหผ้ อู้ ืน่ เดือดร้อน พรอ้ มให้
อภยั เมื่อผู้อื่น กระทำผิดพลาด
๕.๒.๑ วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ วี ติ ประจำวัน
บนพนื้ ฐานของความรู้ ข้อมลู ข่าวสาร
๕.๒.๒ รูเ้ ทา่ ทนั การเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม
ยอมรับและ ปรับตวั เพ่อื อยู่ร่วมกับผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งมีความสุข
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๖)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๕.๑ ดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ุณธรรม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๕.๑.๑ ใช้ทรัพย์สินของตนเอง ใชเ้ งนิ และของใช้ ใช้ทรพั ย์สินของ ใช้ทรัพยส์ นิ ของ ใชท้ รัพย์สินของ
เช่น เงนิ สิ่งของ เครื่องใช้ สว่ นตัวอยา่ งไม่ ตนเองอย่าง
ตนเองอย่าง ตนเองอย่างประหยดั
ฯลฯ อยา่ งประหยัด คุ้มค่า ประหยดั ประหยดั และ ประหยัดและค้มุ คา่ และคมุ้ ค่า เก็บรักษา
ค้มุ คา่
และเก็บ รักษาดูแลอยา่ งดรี วมทง้ั เกบ็ รกั ษาดูแล ดูแลอย่างดี และรู้จัก
การใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม อยา่ งดี การบรหิ ารเวลาทดี่ ี
๕.๑.๒ ใช้ทรัพยากรของส่วนรวม ใช้ทรพั ยากรของ ใชท้ รัพยากรของ ใช้ทรพั ยากรของ ใช้ทรพั ยากรของ
สว่ นรวมอยา่ ง ส่วนรวมอย่าง
อย่างประหยดั คุม้ ค่าและเกบ็ สว่ นรวมอยา่ งไม่ สว่ นรวมอยา่ ง ประหยดั คมุ้ ค่า ประหยดั คุ้มค่า
เก็บรักษาดูแล รอบคอบ เกบ็ รักษา
รกั ษา ดแู ล อยา่ งดี ปะหยัด ประหยัดและ อยา่ งดี ดูแลอย่างดี แนะนำ
คมุ้ คา่ ชักชวนผอู้ ่นื ได้
ปฏิบตั ิตนและ
๕.๑.๓ ปฏิบตั ติ นและตดั สนิ ใจ ไม่มเี หตุผลในการ ปฏบิ ตั ิตนและ ตัดสนิ ใจอยา่ งมี ปฏิบัตติ นและ
ดว้ ยความรอบคอบมเี หตุผล ปฏิบตั ิตนและ ตดั สินใจอยา่ งมี เหตผุ ล รอบคอบ ตดั สนิ ใจอยา่ งมี
ตดั สนิ ใจ เหตุผล ตาม ได้ด้วยตนเอง เหตุผล รอบคอบได้
คำแนะนำ ดว้ ยตนเอง และ
ไมเ่ อาเปรียบผู้อ่นื ยอมรบั /รับฟังเหตุผล
๕.๑.๔ ไม่เอาเปรียบผู้อ่ืน และไม่ เอาเปรยี บผอู้ ื่น ไม่เอาเปรียบผู้อนื่ และไมท่ ำให้ผู้อื่น ของผู้อน่ื
เดือดรอ้ น
ทำใหผ้ ้อู ืน่ เดือดร้อนพร้อมให้อภัย และทำให้ผู้อน่ื ไมเ่ อาเปรยี บผู้อืน่
และไมท่ ำให้ผู้อน่ื
เมื่อผอู้ ่นื กระทำผิดพลาด เดือดร้อน เดือดรอ้ น พรอ้ มให้
อภยั เมอื่ ผู้อืน่ กระทำ
ผิดพลาด
โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๕.๒ มภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี ปรบั ตวั เพอ่ื อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
ใช้ความรู้ ขอ้ มลู
๕.๒.๑ วางแผนการเรียน การ ไมว่ างแผนการ ใช้ความรู้ ขอ้ มูล ข่าวสารให้เป็น ศกึ ษาหาความรู้ หา
ประโยชนต์ อ่ ขอ้ มูล และใช้ความรู้
ทำงานและการใช้ชวี ิตประจำวนั เรยี นและการใช้ ข่าวสารให้เป็น การเรยี นและ ข้อมลู ขา่ วสารให้
บนพื้นฐานของความรู้ข้อมูล ชวี ิตประจำวนั ประโยชนต์ อ่ การใช้ใน เป็นประโยชนต์ อ่
ขา่ วสาร การเรยี น ชีวิตประจำวนั การเรยี นและการใช้
ในชีวิตประจำวนั
๕.๒.๒ รเู้ ท่าทันการ เปลย่ี นแปลง ไมต่ ดิ ตาม ข้อมูล ติดตาม ข้อมลู รบั รู้และยอมรบั
ของสงั คม และสภาพแวดล้อม ข่าวสาร ขา่ วสาร การเปลี่ยนแปลง รับรู้และยอมรบั การ
ยอมรบั และปรับตวั เพื่ออยู่ เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ เหตกุ ารณต์ ่างๆ ของครอบครวั เปล่ยี นแปลงของ
ร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ อยา่ งมคี วามสุข ชุมชนและ ครอบครัว ชมุ ชน
สภาพแวดลอ้ ม และสภาพแวดลอ้ ม
และปรบั ตวั อยู่
รว่ มกับผ้อู ืน่ อย่างมี
ความสุข
แนวทางการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชเี้ ชงิ บวก (คุณธรรมอตั ลกั ษณ)์
ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖ โรงเรยี นอนบุ าลตาก
ด้านที่ ๑ ความมวี นิ ัย พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชวี้ ดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้ ๑.๑.๑ ปฏบิ ัตติ น ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ
ข้อบังคบั ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม
ตวั ชว้ี ดั ไมล่ ะเมิดสิทธขิ องผูอ้ ่ืน
๑.๑ ปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ข้อบงั คับ ของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมต่าง ๆ
ในชีวิตประจำวนั และรับผดิ ชอบในการทำงาน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๑)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏิบัตติ นตาม ข้อตกลง ไมป่ ฏิบัติตนตาม ปฏิบัตติ นตาม ปฏิบัติตามข้อตกลง ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง
กฎเกณฑ์ ระเบียบ
กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของ
ครอบครวั และ
ครอบครวั โรงเรียนและสังคม ระเบยี บ ข้อบงั คบั ระเบยี บ ข้อบงั คับ ขอ้ บงั คบั ของ โรงเรียนโดยต้องมี
การเตือนเป็นบางครง้ั
ไมล่ ะเมิดสิทธิของผู้อืน่ ของครอบครัวและ ของครอบครวั และ ครอบครัวและ ได้ดว้ ยตนเอง
โรงเรยี น โรงเรียน โรงเรยี นโดยต้องมี
การเตอื นเป็นส่วน
ใหญ่
๑.๑.๒ ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิ ไมต่ รงต่อเวลาใน ตรงต่อเวลาในการ ตรงต่อเวลาในการ ตรงตอ่ เวลาในการ
กิจกรรมต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวนั ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ
และรับผดิ ชอบในการทำงาน การปฏบิ ัติกิจกรรม ปฏิบัตกิ จิ กรรม ตา่ ง ๆ ใน ในชีวติ ประจำวนั
ชวี ิตประจำวัน และ และรบั ผิดชอบในการ
ตา่ ง ๆ ใน ตา่ ง ๆ ใน รบั ผดิ ชอบในการ ทำงานโดยตอ้ งมีการ
ทำงานโดยตอ้ งมกี าร เตอื นเปน็ บางครั้งได้
ชวี ิตประจำวนั ชวี ิตประจำวัน เตือนเป็นส่วนใหญ่ ดว้ ยตนเอง
และรบั ผดิ ชอบใน และรบั ผิดชอบใน
การทำงาน การทำงาน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๒)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏบิ ตั ติ นตาม ขอ้ ตกลง ไมป่ ฏิบตั ติ นตาม ปฏบิ ัตติ นตาม ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏิบตั ิตนตาม
กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์
ครอบครัว โรงเรียนและสังคม ระเบยี บ ข้อบงั คบั ระเบียบ ข้อบังคับ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ระเบยี บ ข้อบงั คับ
ไมล่ ะเมิดสิทธิของผูอ้ ื่น ของครอบครัว ของครอบครัว ของครอบครวั ของครอบครวั
และโรงเรียน และโรงเรียนเป็น โรงเรยี นและ โรงเรยี นและ
บางคร้งั สังคม ไม่ละเมดิ สังคม ไม่ละเมดิ
สิทธขิ องผ้อู น่ื เป็น สิทธิของผู้อืน่
บอ่ ยครั้ง อยา่ งสมำ่ เสมอ
๑.๑.๒ ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติ ไมต่ รงต่อเวลาใน ตรงตอ่ เวลาในการ เขา้ ร่วมกิจกรรม ตรงตอ่ เวลาในการ
กจิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจำวัน การปฏบิ ัติ ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ตรงต่อเวลาในการ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
และรบั ผิดชอบในการทำงาน กจิ กรรมต่าง ๆ ใน ต่าง ๆ ใน ปฏิบตั ิกิจกรรม ตา่ ง ๆ ใน
ชีวติ ประจำวัน
ชวี ิตประจำวนั ชวี ิตประจำวนั ตา่ ง ๆ ใน และรับผดิ ชอบใน
และไมร่ ับผดิ ชอบ และรับผิดชอบใน ชวี ติ ประจำวัน
ในการทำงาน การทำงานเป็น และรบั ผดิ ชอบใน การทำงานท่ีได้รบั
บางครงั้
การทำงานอยา่ ง มอบหมายอย่าง
บ่อยครง้ั สม่ำเสมอ
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๓)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๑.๑ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏิบตั ิตน ตามข้อตกลง ไมป่ ฏบิ ตั ติ นตาม ปฏิบัติตาม ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง ปฏบิ ัตติ าม
กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของ ข้อตกลง ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ ตกลง
ครอบครวั โรงเรยี นและสังคม ไม่ กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบงั คับ ข้อบังคบั ของ กฎเกณฑ์
ละเมิดสิทธขิ องผอู้ ื่น ระเบียบ ข้อบังคับ ของครอบครัว ครอบครัว และ ระเบยี บ ข้อบังคับ
ของครอบครัว และโรงเรียน โดย โรงเรยี น โดยตอ้ งมี ของครอบครวั
และโรงเรยี น ตอ้ งมี การเตอื น การเตอื นเป็น และโรงเรยี นได้
เปน็ ส่วนใหญ่ บางคร้งั ดว้ ยตนเอง
๑.๑.๒ ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิ ไม่ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ปฏิบตั กิ ิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรมหรือ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
กิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวัน หรือทำงานท่ี หรอื ทำงานที่ ทำงานท่ีได้รับ หรอื ทำงานที่
และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน ได้รบั มอบหมาย ไดร้ ับมอบหมาย มอบหมายเสรจ็ ไดร้ ับมอบหมาย
ไม่ เสรจ็ ทนั เวลาได้ ทันเวลาได้ดว้ ย เสร็จทนั เวลาได้
ตนเอง โดยมกี าร ดว้ ยตนเอง
ด้วยตนเอง โดย เตอื นเปน็ บางครง้ั
ต้องมีการเตือน
เปน็ ส่วนใหญ่
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๔)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏบิ ตั ิตนตาม ข้อตกลง ไม่ปฏิบตั ิตนตาม ปฏิบัตติ นตาม ปฏบิ ตั ติ าม ปฏบิ ัติตามข้อตกลง
กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ
ครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม ไม่ และ ระเบียบ และ ระเบยี บ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของ
ข้อบงั คบั ของ ข้อบงั คบั ของ ครอบครัว
ละเมดิ สิทธิของผอู้ นื่ ข้อบังคับของ ครอบครวั และ ครอบครัว โรงเรียน และสงั คม
ครอบครวั และ
โรงเรยี น โรงเรียน โรงเรียน และ ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ อง
สังคม ผู้อน่ื
๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิ ไมต่ รงต่อเวลาใน ตรงตอ่ เวลาในการ ตรงตอ่ เวลาใน ตรงตอ่ เวลาในการ
กิจกรรมต่าง ๆ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ปฏิบัติกิจกรรม ใน การปฏิบตั ิ ปฏิบตั กิ จิ กรรม ใน
ในชวี ิตประจำวนั และรับผิดชอบ ในชวี ติ ประจำวัน ชวี ติ ประจำวัน กิจกรรม ใน ชวี ิตประจำวัน และ
ในการทำงาน ชีวติ ประจำวนั รับผดิ ชอบในการ
และรับผดิ ชอบใน ทำงานอย่าง
การทำงาน สมำ่ เสมอ
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๕)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏิบตั ิตนตาม ไม่ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏิบัตติ ามข้อตกลง ปฏบิ ตั ิตาม
ข้อตกลง ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อตกลง กฎเกณฑ์
กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั และ ระเบียบ และ ระเบียบ ข้อบังคบั ของ ระเบียบ ข้อบังคบั
ของครอบครวั โรงเรยี นและ ข้อบังคบั ของ ขอ้ บังคับของ ครอบครวั และ ของครอบครัวและ
สงั คม ไม่ละเมิดสิทธขิ องผู้อ่นื ครอบครวั และ ครอบครัวและ โรงเรยี น โรงเรยี น
โรงเรียน โรงเรียน
๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการ ไมต่ รงต่อเวลาใน ตรงต่อเวลาใน ตรงต่อเวลาในการ ตรงตอ่ เวลาในการ
ปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ใน การปฏิบัติกิจกรรม การปฏิบตั กิ จิ กรรม ปฏิบตั ิกจิ กรรม ปฏิบัติกจิ กรรม
ตา่ งๆ ในชวี ติ
ชีวิตประจำวนั และรบั ผดิ ชอบ ตา่ ง ๆ ใน ตา่ ง ๆ ใน ตา่ งๆ ใน ประจำวนั แต่ต้อง
ในการทำงาน ชีวิตประจำวันแต่ ชวี ิตประจำวนั แต่ ชีวิตประจำวนั
ต้องมีการเตือน ตอ้ งมีการเตือน แต่ต้องมีการเตือน มีการเตือนเป็น
เปน็ สว่ นใหญ่ เปน็ ส่วนใหญ่
เปน็ บางครงั้ บางครั้งและ
รบั ผดิ ชอบดว้ ย
ตนเอง
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับประถมศกึ ษา (ป.๖)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๑.๑ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๑.๑.๑ ปฏิบตั ิตน ตาม ไมป่ ฏบิ ตั ติ นตาม ปฏบิ ตั ิตาม ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง ปฏิบตั ิตามข้อตกลง
ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ ตกลง ฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ข้อบงั คบั ของครอบครวั ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อตกลงกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของ
โรงเรยี นและสังคม ไม่ละเมิด ของครอบครัวและ ครอบครัว และ
สทิ ธขิ องผ้อู ืน่ โรงเรียน ระเบยี บ ข้อบังคับ ข้อบังคบั ของ โรงเรียนได้ด้วย
ตนเอง
ของครอบครัว ครอบครวั และ
และโรงเรียน โรงเรียน โดยตอ้ งมี
โดยตอ้ งมีการ การเตือนเป็น
เตือนเปน็ สว่ น บางคร้งั
ใหญ่
๑.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการ ไม่ปฏิบตั กิ ิจกรรม ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ปฏบิ ัติกจิ กรรมหรือ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมหรือ
ทำงานท่ีไดร้ ับ ทำงานท่ีได้รับ
ปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ ใน หรอื ทำงานที่ไดร้ ับ หรอื ทำงานท่ี มอบหมายเสร็จ มอบหมายเสรจ็
ทนั เวลาได้ด้วย ทันเวลาไดด้ ้วย
ชวี ติ ประจำวนั และรบั ผดิ ชอบ มอบหมายไม่ ได้รับมอบหมาย ตนเอง โดยมกี าร ตนเอง
เตอื นเปน็ บางครั้ง
ในการทำงาน เสรจ็ ทนั เวลาได้
ด้วยตนเอง โดย
ต้องมีการเตือน
เป็นส่วนใหญ่
ดา้ นที่ ๒ ความซอ่ื สตั ย์
ตวั ชวี้ ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั พฤตกิ รรมบง่ ชี้
๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ตนเอง
๒.๑.๑ ให้ข้อมูลท่ีถกู ต้องและเปน็ จรงิ
ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ ๒.๑.๒ ปฏบิ ัติตนโดยคำนึงถึงความถกู ตอ้ งละอาย
๒.๒ ประพฤตติ รงตาม ความเป็นจรงิ ตอ่ ผู้อ่ืน และเกรงกลัวต่อการกระทำผดิ
ทงั้ ทางกายวาจา ใจ ๒.๑.๓ ปฏบิ ตั ติ ามคำมน่ั สัญญา
๒.๒.๑ ไม่ถือเอาส่งิ ของหรอื ผลงานของผู้อ่ืน
มาเปน็ ของตนเอง
๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ิตนต่อผูอ้ ื่นด้วยความซอื่ ตรง
๒.๒.๓ ไม่หาประโยชนใ์ นทางทไี่ ม่ถกู ต้อง
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๑)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ตนเองทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ให้ข้อมลู ทถี่ ูกต้อง
๒.๑.๑ ให้ขอ้ มูลท่ีถกู ต้องและเป็น ไม่ใหข้ ้อมลู ท่ี ให้ข้อมูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ ปฏบิ ตั ิ ให้ขอ้ มูลที่ถูกต้อง
ในส่ิงท่ี และเป็นจรงิ ปฏิบตั ิ
จริง ถกู ต้องและเป็นจริง และเป็นจรงิ ถูกต้อง ในสิ่งทถ่ี กู ต้อง ทำ
ตามสัญญาทีต่ นให้
๒.๑.๒ ปฏบิ ัตติ นโดย คำนึงถึง ไมป่ ฏิบัติตนโดย ปฏบิ ัติตนโดย ปฏบิ ัติตนโดย ไว้กบั พ่อแม่ หรอื
ความถูกต้อง ละอายและเกรงกลัว คำนึงถึงความถูก คำนงึ ถึงความถูก คำนงึ ถงึ ความถูก ผปู้ กครองและครู
ต่อการกระทำผดิ ต้อง ละอายและ ต้อง ละอายและ ต้อง ละอายและ
เกรงกลวั ต่อการ เกรงกลัวตอ่ การ เกรงกลวั ตอ่ การ ปฏิบตั ิตนโดย
กระทำผดิ กระทำผิด กระทำผดิ ทำตาม คำนงึ ถงึ ความถูก
สญั ญาทต่ี นให้ไว้กับ ต้อง ละอายและ
๒.๑.๓ ปฏบิ ตั ติ ามคำม่ันสัญญา ไมป่ ฏิบตั ิตามคำมนั่ ปฏบิ ตั ติ ามคำม่ัน พ่อแม่ หรือ เกรงกลัวต่อการ
สญั ญา สัญญา ผปู้ กครอง กระทำผิดทำตาม
ปฏิบตั ิตามคำม่นั สัญญาทีต่ นให้ไวก้ บั
สญั ญาตนให้ไวก้ ับ พ่อแม่ หรือ
พอ่ แม่ หรือ ผปู้ กครองและครู
ผ้ปู กครอง
ปฏบิ ตั ติ ามคำมั่น
สัญญาตนให้ไวก้ ับ
พอ่ แม่ หรอื
ผปู้ กครองและครู
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ผอู้ น่ื ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๒.๒.๑ ไมน่ ำสิง่ ของหรือผลงาน นำส่ิงของของคน ไมน่ ำสิ่งของของ ไม่นำสง่ิ ของของ ไมน่ ำสิ่งของ และ
ของผู้อืน่ มาเปน็ ของตนเอง อ่นื มาเป็นของตน ผู้อื่นมาเปน็ ของ ผูอ้ น่ื มาเป็นของ ผลงานของผู้อน่ื มา
ตนเอง ตนเอง เปน็ ของตนเอง
๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ติ นต่อผอู้ นื่ ดว้ ยความ ไมป่ ฏิบตั ิตนต่อ ปฏิบตั ิตนตอ่ ผูอ้ นื่ ปฏบิ ตั ิตนตอ่ ผูอ้ นื่ ปฏิบัติตนต่อผู้อ่นื
ซอ่ื ตรง ผอู้ น่ื ดว้ ยความ ด้วยความซอ่ื ตรง ด้วยความซ่อื ตรงไม่ ด้วยความซอ่ื ตรงไม่
ซ่อื ตรง บ้างครงั้ นำสิ่งของของผอู้ ืน่ นำสง่ิ ของและ
มาเปน็ ของตนเอง ผลงานของผู้อ่ืนมา
เป็นของตนเอง
๒.๒.๓ ไม่หาประโยชนใ์ นทางที่ หาประโยชน์ในทาง ไมห่ าประโยชน์ ไมห่ าประโยชน์ ไมห่ าประโยชน์จาก
ไมถ่ ูกต้อง ทไ่ี ม่ถูกต้อง ในทางที่ไม่ถกู ต้อง จากผอู้ ื่นในทางท่ี ผู้อนื่ และเอา
ไมถ่ ูกตอ้ ง ผลงานของผู้อน่ื มา
ใช้ในทางที่ไม่
ถูกต้อง
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๒)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๒.๑.๑ ใหข้ ้อมูลทถ่ี ูกต้องและเป็น ไมใ่ ห้ข้อมลู ท่ี ใหข้ ้อมูลทถ่ี ูกต้อง ให้ข้อมลู ที่ถูกตอ้ ง ให้ขอ้ มลู ท่ีถูกตอ้ ง
และเปน็ จรงิ และเป็นจริง
จริง ถูกต้องและเปน็ และเปน็ จรงิ ปฏิบตั ิในส่งิ ท่ี ปฏบิ ัติในสิ่งท่ี
ถูกต้อง ถูกต้อง ทำตาม
จรงิ สญั ญาทีต่ นให้ไว้
กับพ่อแม่ หรือ
๒.๑.๒ ปฏิบตั ิตนโดย คำนึงถงึ ไมป่ ฏบิ ัติตน ไม่ ปฏิบตั ติ น โดย เข้าร่วมกจิ กรรม ผูป้ กครองและครู
คำนงึ ถึงความ ปฏบิ ัตติ น โดย
ความถกู ต้อง ละอายและเกรงกลัว คำนึงถงึ ความ ถูกต้องเปน็ บางครงั้ คำนงึ ถึงความ ปฏิบตั ติ น โดย
คำนึงถึงความ
ต่อการกระทำผดิ ถกู ต้อง ถูกต้องอย่าง ถกู ต้องไมท่ ำผิด
บอ่ ยครั้ง กฎระเบยี บไม่
ทำลายช่อื เสียงของ
๒.๑.๓ ปฏบิ ตั ติ ามคำมัน่ สัญญา ไมป่ ฏิบัตติ ามคำมนั่ ปฏบิ ตั ิตามคำมน่ั ปฏิบตั ิตนเป็น โรงเรยี นอย่าง
สัญญา สัญญาเป็นบางคร้ัง ประโยชนต์ ่อการ สม่ำเสมอ
ปฏบิ ตั ติ ามคำมั่น ปฏิบัตติ นเป็น
สัญญาบอ่ ยคร้ัง ประโยชนต์ ่อการ
ปฏบิ ัตติ ามคำมั่น
สญั ญาอยา่ ง
สม่ำเสมอ
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ผอู้ น่ื ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๒.๒.๑ ไมน่ ำส่งิ ของหรือผลงาน นำส่งิ ของของคน ไมน่ ำส่ิงของของ ไมน่ ำสง่ิ ของ ไมน่ ำสิง่ ของ และ
ผลงานของผู้อนื่ มา
ของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง อนื่ มาเปน็ ของตน ผอู้ น่ื มาเป็นของ ของผู้อื่นมา เป็นของตนเอง
ตนเองเป็นบางครั้ง เปน็ ของตนเอง อยา่ งสมำ่ เสมอ
บอ่ ยครั้ง
ปฏิบตั ติ นต่อผู้อื่น
๒.๒.๒ ปฏิบตั ติ นต่อผอู้ ืน่ ดว้ ยความ ไมป่ ฏิบัตติ นต่อ ปฏบิ ัตติ นต่อผู้อ่ืน ปฏิบตั ติ นตอ่ ผู้อ่นื ด้วยความซื่อตรง
ซอ่ื ตรง ผู้อนื่ ด้วยความ ด้วยความซ่ือตรง ดว้ ยความซื่อตรง ไม่นำสง่ิ ของทไี่ ม่ใช่
ของตนเองมาเปน็
ซ่อื ตรง เป็นบางครง้ั บอ่ ยครง้ั ของเรา ปฏบิ ัตติ ่อ
ผูอ้ ่นื ด้วยความ
๒.๒.๓ ไม่หาประโยชนใ์ นทางที่ หาประโยชน์ในทาง ไมห่ าประโยชน์ ไม่หาประโยชน์ ซื่อตรงอยา่ ง
ไมถ่ ูกตอ้ ง สม่ำเสมอ
ท่ีไม่ถูกต้อง ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง ในทางที่ไม่ถกู ต้อง
ไมห่ าประโยชน์
เปน็ บางครงั้ บ่อยครง้ั ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง
อย่างสมำ่ เสมอ
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๓)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
ใหข้ อ้ มลู ท่ถี ูกต้อง
๒.๑.๑ ใหข้ อ้ มูลที่ถกู ต้องและเปน็ ไม่ใหข้ อ้ มูลท่ีถูกตอ้ ง ให้ข้อมูลทีถ่ กู ต้อง และเป็นจริง ใหข้ ้อมูลทีถ่ กู ต้อง
จริง และเปน็ จรงิ เปน็ จริง และ
ปฏบิ ัตใิ นส่งิ ที่ ครบถ้วน
๒.๑.๒ ปฏบิ ัตติ นโดยคำนงึ ถงึ ปฏบิ ัตติ นโดยโดย ปฏบิ ัตใิ นสงิ่ ท่ี ถูกต้อง โดยต้องมี
ความถูกต้องละอายและเกรงกลัว คำนึงถงึ ความ ถูกต้อง โดยตอ้ งมี การเตือนเป็น ปฏิบตั ิในส่งิ ท่ี
ต่อการกระทำผิด ถูกต้อง การเตอื นเปน็ ส่วน บางครงั้ ถกู ตอ้ ง ละอาย
ใหญ่ และเกรงกลัวทีจ่ ะ
ทำตามสญั ญาที่ ทำความผดิ ด้วย
๒.๑.๓ ปฏบิ ัตติ ามคำมนั่ สัญญา ไมป่ ฏบิ ตั ติ าม ทำตามสัญญาที่ ตนให้ไว้กับพ่อแม่ ตนเอง
คำม่นั สัญญา ตนใหไ้ ว้กับพ่อแม่ หรือผปู้ กครองได้
หรือผูป้ กครอง ได้ เป็นส่วนใหญ่ ตามสญั ญาที่ ตน
บางครัง้ ให้ไว้กับ พ่อแม่
หรือผปู้ กครองไดท้ ุก
ครัง้
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๒.๒ ประพฤตติ รงตาม ความเป็นจรงิ ตอ่ ผอู้ นื่ ท้งั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๒.๒.๑ ไม่ถอื เอาสิง่ ของหรอื นำส่ิงของของผ้อู ืน่ ไม่นำส่งิ ของของ ไมน่ ำส่งิ ของของ ไม่นำสงิ่ ของและ
ผ้อู ่นื มาเป็นของ ผลงานของผู้อื่น
ผลงานของผู้อน่ื มาเป็นของตนเอง มาเปน็ ของตน ผู้อ่นื มาเป็นของ ตนเอง มาเปน็ ของตนเอง
ตนเอง
๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ิตนต่อผู้อื่นดว้ ย ไมป่ ฏบิ ัตติ นต่อ ปฏิบตั ิตนตอ่ ผู้อ่ืน ปฏบิ ัติตนต่อผูอ้ ่นื ปฏบิ ตั ิตนตอ่ ผู้อนื่
ความซ่ือตรง ผอู้ นื่ ดว้ ยความ ดว้ ยความซ่ือตรง ด้วยความซอ่ื ตรง ด้วยความซื่อตรง
ซ่ือตรง
๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชนใ์ นทางท่ไี ม่ หาประโยชน์ หาประโยชน์ ไมห่ าประโยชน์ ไม่หาประโยชน์
ถกู ต้อง ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง ในทางที่ไม่ถกู ต้อง ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง
บางคร้ัง และเปน็
แบบอย่างที่ดีแก่
เพือ่ นด้านความ
ซอื่ สตั ย์
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๔)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๒.๑.๑ ให้ข้อมูลทถี่ ูกต้องและเป็น ไม่ใหข้ ้อมูลท่ี ให้ข้อมูลทถ่ี ูกต้อง ใหข้ ้อมลู ที่ถูกต้อง ใหข้ ้อมลู ทถ่ี ูกตอ้ ง
และเปน็ ความจริง และเป็นความจรงิ
จริง ถกู ต้องและเป็น เปน็ บางคร้ัง ทุกครง้ั ทกุ ครัง้ และเปน็
แบบอยา่ งที่ดใี ห้
จริง เพอ่ื น
๒.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนโดย คำนึงถงึ ไมค่ ำนึงถึงความ คำนงึ ถึงความถูก ปฏิบตั ิตนโดย ปฏบิ ตั ติ นโดย
ความถกู ตอ้ ง ละอายและเกรงกลวั ถูกต้อง ต้อง ละอายและ คำนึงถึงความ คำนึงถงึ ความ
ตอ่ การกระทำผิด เกรงกลวั ต่อการ ถูกต้อง ละอาย ถูกต้อง ละอาย
กระทำผิด และเกรงกลวั ตอ่ เกรงกลวั ต่อการ
การกระทำผิด กระทำผดิ และ
เป็นแบบอย่างท่ีดี
๒.๑.๓ ปฏบิ ตั ิตามคำมั่นสัญญา ไมป่ ฏิบัติตามคำ ปฏบิ ัติตามคำ ปฏบิ ตั ิตามคำ ด้านความซื่อสตั ย์
สญั ญา สัญญาเปน็ บางคร้งั สญั ญา เฉพาะกับ
ปฏิบัติตามสัญญา
เพือ่ นทกุ คร้ัง ที่ตนใหไ้ ว้กับเพื่อน
พอ่ แมห่ รอื
ผปู้ กครองและครู
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ผอู้ น่ื ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๒.๒.๑ ไม่นำส่ิงของหรือผลงาน นำส่ิงของ ของผู้อนื่ ไมน่ ำสิ่งของ ของ ไม่นำสง่ิ ของ ของ ไมน่ ำส่ิงของหรือ
ผู้อ่ืนมาเปน็ ของ ผลงานของผู้อน่ื มา
ของผู้อื่นมาเปน็ ของตนเอง มาเป็นของตน ผู้อนื่ มาเป็นของ ตนเอง เป็นของตนเอง
ตนเอง ปฏบิ ตั ิตนดว้ ย ปฏิบตั ิตนตอ่ ผู้อื่น
ความซ่อื ตรง ด้วยความซ่ือตรง
๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ติ นต่อผ้อู น่ื ด้วยความ ไมซ่ ่ือตรงต่อผู้อน่ื ปฏิบัตติ นด้วย
ซ่อื ตรง ความซื่อตรงตอ่ ปฏบิ ตั ติ นดว้ ย ปฏบิ ตั ติ นต่อผ้อู ื่น
ความซ่ือตรงตอ่ ดว้ ยความซ่ือตรง
ตนเอง ตนเองและ และเป็นแบบอย่าง
ครอบครวั ที่ดแี ก่เพื่อน
๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชน์ในทางที่ หาประโยชนใ์ นทาง ไม่หาประโยชน์
ไม่ถูกต้อง ไม่หาประโยชน์ ไม่หาประโยชน์
ท่ไี ม่ถูกต้อง จากผู้อื่นในทางที่ ในทางท่ีไม่ถูกต้อง ในทางที่ไม่ถกู ต้อง
ตอ่ ตนเองและ ทัง้ ต่อตนเอง
ไม่ถูกต้อง ครอบครัว ครอบครวั สังคม
และเป็นแบบอย่าง
ที่ดแี ก่เพอื่ นดา้ น
ความซ่ือสัตย์
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๕)
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๒.๑.๑ ให้ข้อมลู ท่ีถูกต้องและ ไมใ่ ห้ข้อมลู ท่ี
เป็นจรงิ ถกู ต้องและเป็น ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกต้อง ใหข้ อ้ มูลท่ถี ูกต้อง ใหข้ ้อมูลท่ีถูกต้อง
จริง
๒.๑.๒ ปฏิบัตติ นโดย คำนึงถงึ ไมป่ ฏบิ ตั ใิ นสิ่ง และเปน็ จรงิ เป็น และเปน็ จริง และเปน็ จริง
ความถูกต้อง ละอายและเกรงกลวั ท่ถี ูกต้อง ละอาย
ต่อการกระทำผิด และเกรงกลัวทีจ่ ะ บางครั้ง บอ่ ยครง้ั สมำ่ เสมอ
ทำความผดิ
๒.๑.๓ ปฏบิ ัติตามคำมน่ั สญั ญา ปฏบิ ตั ิในสิง่ ปฏบิ ตั ใิ นส่ิง ปฏบิ ตั ิในสง่ิ
ไมต่ าม
สญั ญาท่ีตนให้ไว้ ทีถ่ กู ต้อง ละอาย ทถี่ กู ต้อง ละอาย ที่ถูกต้อง ละอาย
กบั พ่อแม่ หรือ
ผูป้ กครองและครู และเกรงกลัวทจ่ี ะ และเกรงกลัวทจี่ ะ และเกรงกลวั ทจี่ ะ
ทำความผดิ เป็น ทำความผดิ ทำความผิด
บางครั้ง บ่อยครงั้ สมำ่ เสมอ
ทำตามสัญญาทต่ี น ทำตามสัญญาท่ีตน ทำตามสญั ญาท่ตี น
ใหไ้ วก้ บั พ่อแม่ ใหไ้ ว้กบั พ่อแม่ ใหไ้ ว้กับพ่อแม่
หรือผูป้ กครองและ หรือผปู้ กครองและ หรอื ผูป้ กครองและ
ครเู ป็นบางคร้ัง ครบู ่อยครั้ง ครสู ม่ำเสมอ
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ผอู้ น่ื ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
ไมน่ ำสิ่งของ
๒.๒.๑ ไมน่ ำสิ่งของหรือผลงาน นำสงิ่ ของของคน ไม่นำส่ิงของของ ของผู้อน่ื มา ไม่นำสงิ่ ของ และ
เปน็ ของตนเอง ผลงานของผู้อนื่ มา
ของผู้อน่ื มาเปน็ ของตนเอง อ่ืนมาเปน็ ของตน ผู้อ่นื มาเป็นของ เป็นของตนเอง
ตนเอง ปฏบิ ัติตนต่อผู้อ่นื ปฏิบตั ติ นตอ่ ผู้อนื่
ดว้ ยความซ่อื ตรง ด้วยความซือ่ ตรง
๒.๒.๒ ปฏิบตั ติ นต่อผ้อู ื่นด้วยความ ไมป่ ฏบิ ัตติ นต่อ ปฏิบัตติ นตอ่ ผอู้ ่ืน บอ่ ยครงั้
ไมล่ อกหรอื นำ ปฏบิ ัตติ นต่อผอู้ ่นื
ซือ่ ตรง ผอู้ น่ื ดว้ ยความซือ่ ตรง ผลงานของผู้อื่นมา ดว้ ยความซอ่ื ตรง
เป็นของตนเอง สมำ่ เสมอ
ดว้ ยความซอื่ ตรง เปน็ บางคร้ัง และไมค่ ดโกง หรือ
เอาเปรียบผู้อื่น ไมล่ อกหรือนำ
๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชน์ในทางที่ ลอกหรอื นำผลงาน ไมล่ อกหรือนำ ผลงานของผู้อืน่ มา
เปน็ ของตนเอง
ไมถ่ ูกตอ้ ง ของผู้อ่ืนมาเป็น ผลงานของผู้อืน่ มา และไม่คดโกง หรือ
เอาเปรียบผ้อู ื่น
ของตนเอง เปน็ ของตนเอง
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๖)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ตนเองทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
ใหข้ ้อมลู ทถ่ี ูกต้อง
๒.๑.๑ ให้ข้อมลู ท่ีถกู ต้องและเปน็ ไม่ใหข้ อ้ มูลท่ีถูกต้อง ใหข้ อ้ มูลที่ถูกต้อง ให้ขอ้ มลู ทถ่ี ูกต้อง เป็นจริง และ
จรงิ และเปน็ จริง และเป็นจริง ครบถว้ น
ปฏบิ ตั ิในส่ิงที่
๒.๑.๒ ปฏิบัติตนโดยคำนึงถึง ปฏิบตั ติ นโดยโดย ปฏิบัตใิ นสิ่งท่ี ปฏบิ ัติในสิ่งที่ ถกู ตอ้ ง ละอาย
ความถกู ต้องละอายและเกรงกลวั คำนึงถึงความ ถูกต้อง โดยต้องมี ถกู ตอ้ ง โดยต้องมี เกรงกลัวท่จี ะทำ
ต่อการกระทำผิด ถูกต้อง การเตอื นเป็นส่วน การเตอื นเป็น ความผิดด้วย
ใหญ่ บางครง้ั ตนเอง และ
เปน็ แบบอย่างทด่ี ี
๒.๑.๓ ปฏบิ ัติตามคำมั่นสัญญา ไมป่ ฏบิ ตั ิตาม ทำตามสญั ญาท่ี ทำตามสญั ญาท่ี ด้านความซื่อสัตย์
คำม่นั สัญญา ตนให้ไว้กบั พ่อแม่ ตนใหไ้ ว้กบั พ่อแม่
หรือผู้ปกครอง ได้ หรอื ผู้ปกครองได้ ตามสัญญาทตี่ นให้
บางครั้ง เป็นสว่ นใหญ่ ไว้กบั พอ่ แม่ หรือ
ผู้ปกครองได้ทุกครั้ง
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ผอู้ นื่ ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๒.๒.๑ ไม่ถือเอาส่งิ ของหรอื
ผลงานของผู้อ่นื มาเป็นของตนเอง นำส่งิ ของของผูอ้ ืน่ ไม่นำสง่ิ ของของ ไมน่ ำส่งิ ของของ ไม่นำสงิ่ ของและ
ผอู้ ื่นมาเปน็ ของ ผลงานของผู้อนื่
๒.๒.๒ ปฏิบัตติ นตอ่ ผู้อืน่ ดว้ ย มาเปน็ ของตน ผอู้ ่ืนมาเป็นของ ตนเอง มาเปน็ ของตนเอง
ความซ่อื ตรง
ตนเอง ปฏิบัติตนตอ่ ผูอ้ ่นื ปฏิบตั ติ นตอ่ ผอู้ ่นื
ด้วยความซอ่ื ตรง ด้วยความซ่อื ตรง
ไมป่ ฏบิ ัติตนต่อ ปฏิบัติตนตอ่ ผ้อู ่ืน เปน็ ส่วนใหญ่ อยา่ งสม่ำเสมอ
ผอู้ น่ื ดว้ ยความ ด้วยความซอื่ ตรง
ซ่ือตรง เปน็ เป็นบางครัง้
๒.๒.๓ ไม่หาประโยชนใ์ นทางท่ี หาประโยชน์ หาประโยชน์ ไมห่ าประโยชน์ ไม่หาประโยชน์
ไม่ถูกตอ้ ง
ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง ในทางที่ไม่ถูกต้อง ในทางที่ไม่ถกู ต้อง ในทางท่ีไม่ถกู ต้อง
บางครงั้ และเปน็ บบอย่าง
ทด่ี แี ก่เพอ่ื นดา้ น
ความซอื่ สตั ย์
ดา้ นที่ ๓ ความรบั ผดิ ชอบ
ตวั ชวี้ ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี พฤตกิ รรมบง่ ชี้
ตวั ชว้ี ดั ๓.๑.๑ ต้งั ใจเรียน
๓.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายาม ในการเรียน ๓.๑.๒ เอาใจใส่และมคี วามเพียรพยายามในการเรยี นรู้
๓.๑.๓ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ
และเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้
๓.๒.๑ ศึกษาค้นควา้ หาความรู้จากหนงั สอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์
๓.๒ แสวงหาความรู้จากทั้งภายใน สื่อเทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหลง่ เรยี นรูท้ ้งั ภายในและ
และภายนอกโรงเรยี น ด้วยการ ภายนอกโรงเรยี น และเลอื กใชส้ ่ือไดอ้ ย่างเหมาะสม
เลอื กใชส้ ่อื อย่างเหมาะสม สรปุ
เป็นองคค์ วามรู้ และสามารถ ๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ตรวจสอบ จากสงิ่ ทเี่ รยี นรู้
นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้
๓.๒.๓ แลกเปล่ียนความรู้ ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ และนำไปใช้
ในชวี ิตประจำวนั
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๑)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๓.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ ม กจิ กรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๑.๑ ตั้งใจเรยี น ไม่ต้งั ใจเรียน ตง้ั ใจเรยี น ตงั้ ใจเรยี น โดย ตัง้ ใจเรยี น โดย
ต้องมีการเตือน ต้องมีการเตือน
เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นบางครงั้ ไดด้ ว้ ย
ตนเอง
๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมีความเพียร ไมเ่ อาใจใสแ่ ละมี เอาใจใส่และมี เอาใจใส่และมี เอาใจใส่และมี
พยายาม ในการเรียนรู้ ความเพยี ร ความเพียร
พยายาม ในการ พยายาม ในการ ความเพยี ร ความเพียร
เรยี นรู้ เรียนรู้
พยายาม ในการ พยายาม ในการ
เรยี นรู้ตอ้ งมีการ เรยี นร้ตู ้องมีการ
เตอื นเป็นส่วนใหญ่ เตอื นเปน็ บางครั้ง
ไดด้ ว้ ยตนเอง
๓.๑.๓ สนใจเข้าร่วม กิจกรรม ไมส่ นใจเข้ารว่ ม สนใจเขา้ รว่ ม สนใจเขา้ รว่ ม สนใจเข้ารว่ ม
การเรียนรู้ต่างๆ
กจิ กรรม กจิ กรรม กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้
การเรยี นรู้ต่าง ๆ การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ตา่ ง ๆต้องมีการ ตา่ ง ๆตอ้ งมีการ
เตือนเปน็ ส่วนใหญ่ เตอื นเปน็ บางคร้ัง
ไดด้ ้วยตนเอง
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ ตา่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ ง
เหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ศกึ ษาคน้ ควา้ ศกึ ษาค้นควา้ หา
๓.๒.๑ ศกึ ษาค้นคว้าหา ความรู้ ไม่ศึกษาค้นคว้า หาความรู้ จาก ความรู้ จาก ศกึ ษาค้นคว้าหา
จากหนังสือ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ ส่ือ หาความรู้ หนังสอื หนงั สอื เอกสาร ความรู้จากหนังสือ
เทคโนโลยตี า่ งๆแหล่งเรียนรูท้ ้ัง สิง่ พิมพ์ สอื่ เอกสารส่งิ พิมพ์
ภายในและภายนอกโรงเรยี น และ บันทกึ ความรู้ เทคโนโลยี สอ่ื เทคโนโลยี
เลือกใชส้ ือ่ ได้ อย่างเหมาะสม วิเคราะห์ แหลง่ เรยี นรอู้ นื่ แหล่งเรยี นรอู้ ื่น
ขอ้ มลู จากสง่ิ ท่ี และมีการบนั ทึก
๓.๒.๒ บันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ไมบ่ นั ทึกความรู้ เรยี นรู้ บนั ทึกความรู้ ความรู้
ข้อมูลจากสิง่ ทีเ่ รียนรู้ สรปุ เป็น วิเคราะห์ วิเคราะห์
องค์ความรู้ ขอ้ มูลจากส่ิงที่ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ ขอ้ มูลจากสง่ิ ท่ี บันทกึ ความรู้
เรยี นรู้ ด้วยวิธกี ารตา่ งๆ เรยี นรู้และสรุป วเิ คราะห์
องค์ความรู้เป็น ข้อมูลจากส่งิ ที่
๓.๒.๓ แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ดว้ ย ไมแ่ ลกเปลย่ี น บางคร้งั เรยี นรู้และสรุป
วิธกี ารต่างๆและนำไปใช้ใน เรียนรู้ ดว้ ย แลกเปล่ยี นเรียนรู้ องค์ความรู้อยา่ ง
ชีวิตประจำวัน วิธกี ารต่างๆ ดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ สม่ำเสมอ
และนำไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั เป็น แลกเปล่ยี นเรยี นรู้
บางครั้ง ด้วยวธิ ีการต่างๆ
และนำไปใชใ้ น
ชวี ิตประจำวันเป็น
อยา่ งสมำ่ เสมอ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๒)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๓.๑ ตัง้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ ม กจิ กรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๓.๑.๑ ตั้งใจเรยี น ไมต่ ัง้ ใจเรยี น
ตัง้ ใจเรยี น เอาใจ ตงั้ ใจเรยี น ต้ังใจเรียน เอาใจ
๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมีความเพียร ไมเ่ อาใจใส่และมี
พยายาม ในการเรียนรู้ ความเพียร ใส่ในการเรยี นเป็น เอาใจใส่ใน ใส่ในการเรยี น
พยายามในการ
๓.๑.๓ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรม เรียนรู้ บางครั้ง การเรยี นบอ่ ยครัง้ อยา่ งสมำ่ เสมอ
การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ
ไมส่ นใจเข้าร่วม มีเอาใจใสแ่ ละมี มีความเอาใจใส่ มคี วามเอาใจใส่
กิจกรรมการ
เรยี นรู้ตา่ ง ๆ ความเพียร ตอ่ การเรียนและมี ตอ่ การเรียนและมี
พยายาม ในการ ความเพยี ร ความเพยี ร
เรียนรู้เปน็ บางครัง้ พยายาม ในการ พยายาม ในการ
เรยี นรู้บ่อยครง้ั เรียนรู้สม่ำเสมอ
สนใจเขา้ รว่ ม สนใจเขา้ รว่ ม สนใจเขา้ รว่ ม
กิจกรรมการ กิจกรรมการ กจิ กรรมการ
เรยี นร้ตู ่าง ๆ เป็น เรียนรู้ต่าง ๆ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ
บางครัง้ ที่ทางโรงเรยี นได้ ทท่ี างโรงเรียนได้
จดั ให้บอ่ ยคร้ัง จัดให้สม่ำเสมอ
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใช้
สอื่ อยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๒.๑ ศึกษาคน้ คว้าหา ความรู้ ไมศ่ ึกษาคน้ คว้า ศึกษาคน้ คว้า ศกึ ษาคน้ ควา้ หา ศกึ ษาค้นควา้ หา
จากหนังสือ เอกสาร ส่ิงพิมพ์ สอ่ื หาความรู้ หาความรจู้ าก ความรู้ จาก ความรจู้ ากหนงั สือ
เทคโนโลยีตา่ งๆ แหลง่ เรยี นรทู้ ้ัง หนังสือเป็น หนงั สือ เอกสาร เอกสารสงิ่ พิมพ์
ภายใน และภายนอกโรงเรียน บางครัง้ สง่ิ พมิ พ์ สื่อ สื่อเทคโนโลยี
และเลือกใช้สอ่ื ได้อยา่ งเหมาะสม เทคโนโลยี แหล่งเรียนรอู้ นื่
แหล่งเรียนร้อู ืน่ การบันทกึ ความรู้
บ่อยครัง้ สม่ำเสมอ
๓.๒.๒ บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ ไม่บนั ทึก ไม่ มกี ารบันทึก มกี ารบันทึก มกี ารบันทึก
ข้อมูลจากสิ่งท่ีเรยี นร้สู รุปเปน็ วิเคราะห์ หรอื ความรู้ วเิ คราะห์ ความรู้ ศกึ ษาและ ความรู้ ศกึ ษาและ
องค์ความรู้ เรียนรู้ ข้อมลู จากส่ิงที่ วเิ คราะหข์ ้อมลู วิเคราะหข์ ้อมลู
เรียนรสู้ รปุ เป็น จากสง่ิ ทีเ่ รยี นรู้ จากส่งิ ทเ่ี รยี นรู้
องค์ความรู้เป็น สรปุ เปน็ องค์ สรุปเป็นองค์
บางครงั้ ความรู้เป็น ความรู้ โดยผ่าน
บ่อยคร้ัง กระบวนการ
เรียนรู้จากสงิ่
รอบตัวและ
กิจกรรมท่ี
กำหนดให้
สมำ่ เสมอ
๓.๒.๓ แลกเปลีย่ นเรียนรู้ ดว้ ย ไมแ่ ลกเปลยี่ น แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ใช้การแลกเปล่ยี น มกี ารแลกเปลีย่ น
วธิ ีการต่าง ๆ และนำไปใชใ้ น เรียนรู้ ด้วย ดว้ ยวิธีการต่าง ๆ เรียนรู้ ด้วยวิธกี าร เรียนรู้ ด้วยวธิ ีการ
ชีวติ ประจำวัน วธิ กี ารต่าง ๆ และ และนำไปใช้ใน ต่าง ๆ และไปใช้ ต่าง ๆ ที่สามารถ
ไมน่ ำไปใชใ้ น ชีวติ ประจำวันเป็น ในชีวติ ประจำวัน นำไปปรบั ใชใ้ น
ชีวติ ประจำวนั
บางครั้ง ไดบ้ อ่ ยครัง้ ชวี ิตประจำวนั ได้
สม่ำเสมอ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๓)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบ
๓.๑.๑ ตั้งใจเรยี น ไมเ่ อาใจใส่ต่อการ เอาใจใส่ต่อการ ตง้ั ใจและ ในการปฏิบัติ
กจิ กรรมที่ไดร้ ับ
ปฏิบตั กิ ิจกรรมที่ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมท่ี รบั ผิดชอบในการ มอบหมายจนสำเรจ็
และถูกต้องสมบรู ณ์
ได้รับมอบหมาย ได้รบั มอบหมาย ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมที่
ตงั้ ใจและรับผิดชอบ
และไม่สำเรจ็ แตไ่ ม่สำเร็จ ได้รับมอบหมาย ในการปฏิบตั ิ
กิจกรรมที่ได้รับ
จนสำเรจ็ แตม่ ี มอบหมายจนสำเร็จ
และถูกตอ้ งสมบูรณ์
ขอ้ บกพร่อง
เข้าร่วมกิจกรรมการ
บางส่วน เรียนร้ตู ่าง ๆ รอ้ ย
ละ 80 ขึน้ ไป
๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมีความเพียร ไมเ่ อาใจใส่ต่อการ เอาใจใสต่ ่อการ ตัง้ ใจและ
พยายามในการเรียนรู้ ปฏิบัตกิ ิจกรรมท่ี ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมที่ รบั ผดิ ชอบในการ
ได้รบั มอบหมาย ได้รบั มอบหมาย ปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่ี
๓.๑.๓ สนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการ และไม่สำเรจ็ แต่ไม่สำเร็จ ได้รบั มอบหมาย
เรยี นรตู้ า่ ง ๆ จนสำเรจ็ แตม่ ี
ไมเ่ ข้าร่วม เขา้ รว่ มกจิ กรรม ขอ้ บกพร่อง
กจิ กรรมการ การเรียนรตู้ ่าง ๆ บางส่วน
เรยี นรู้ตา่ ง ๆหรือ รอ้ ยละ 50 - 59
เขา้ รว่ มกจิ กรรม เข้าร่วมกจิ กรรม
ต่ำกว่าร้อยละ 50 การเรียนรู้ต่าง ๆ
ร้อยละ 60 - 79
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อื่ อยา่ ง
เหมาะสม สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๓.๒.๑ ศึกษาคน้ คว้าหาความรู้ ไมศ่ ึกษาค้นควา้ หา ศึกษาค้นควา้ หา ศกึ ษาคน้ คว้าหา
จากหนังสอื เอกสาร สิ่งพิมพ์ สอ่ื ความรู้ ความรู้จากหนังสอื ความรจู้ ากหนังสอื ศกึ ษาคน้ ควา้ หา
เทคโนโลยีต่าง ๆ แหลง่ เรียนรู้ท้ัง เอกสาร สิง่ พิมพ์ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ความรจู้ ากหนังสอื
ภายในและภายนอกโรงเรียน ไมม่ ีการบนั ทึก ส่อื เทคโนโลยี สื่อเทคโนโลยี เอกสาร สิง่ พิมพ์ ส่ือ
และเลอื กใชส้ อื่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ความรู้จากส่งิ ท่ี ภายในโรงเรียน ภายในโรงเรียน เทคโนโลยี แหลง่
เรยี นรู้ และนอกโรงเรยี น เรียนรู้อ่นื ภายใน
๓.๒.๒ บันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ มกี ารบนั ทึก โรงเรยี นและนอก
ตรวจสอบ จากสิ่งที่เรียนรู้ สรุป ความรู้จากสิง่ ที่ มีการบนั ทึก โรงเรียนอย่าง
เปน็ องค์ความรู้ เรยี นร้เู ป็น ความรู้จากสิ่งท่ี สม่ำเสมอ
บางครง้ั เรียนรูเ้ ปน็ สว่ น
ใหญ่ มีการบันทึกความรู้
จากส่งิ ที่เรียนรู้อย่าง
ทกุ คร้ัง
๓.๒.๓ แลกเปล่ียนความรู้ ดว้ ย ไมม่ ีการ มีการแลกเปล่ียน มกี ารแลกเปล่ยี น มีการแลกเปลยี่ น
ความรกู้ ับเพ่ือนใน ความรกู้ ับเพื่อน ความรู้กับเพ่ือนใน
วิธกี ารตา่ ง ๆ และนำไปใชใ้ น แลกเปลีย่ น หอ้ งเรียนด้วย ในห้องเรียน หอ้ งเรียน โรงเรยี น
วธิ กี ารตา่ ง ๆ ครผู สู้ อนด้วย ด้วยวิธีการตา่ ง ๆ
ชวี ติ ประจำวนั ความรู้
วิธีการต่าง ๆ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๔)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ ม กจิ กรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๑.๑ ตั้งใจเรียน ไมต่ ัง้ ใจเรยี น ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่
เอาใจใสใ่ น ในการเรียนรู้อย่าง ในการเรียนรู้อย่าง
สม่ำเสมอ และเปน็
๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพียร ไมม่ ีความเพียร การเรียนรู้เปน็ สม่ำเสมอ ผ้นู ำของเพือ่ น
พยายาม ในการเรียนรู้ พยายาม ในการ บางคร้ัง
เอาใจใสแ่ ละมคี วาม เอาใจใส่และมี
เอาใจใสแ่ ละมี เพยี รพยายาม ใน ความเพยี รพยายาม
ความเพยี ร ในการเรียนรู้อย่าง
สมำ่ เสมอ และเป็น
เรียนรู้ พยายาม ในการ การเรยี นรู้อยา่ ง แบบอยา่ งทด่ี กี บั
เรียนรู้เป็นบางครั้ง สมำ่ เสมอ เพอ่ื น
๓.๑.๓ สนใจเข้ารว่ มกิจกรรม ไมเ่ ข้ารว่ ม สนใจ และเขา้ รว่ ม สนใจ และเข้าร่วม สนใจ และเข้าร่วม
การเรียนรตู้ ่าง ๆ กจิ กรรม กิจกรรมการ กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้
การเรียนรู้ เรยี นรู้เปน็ บางครัง้ อย่างสม่ำเสมอ อย่างสมำ่ เสมอ
และเปน็ ผ้นู ำเพื่อน
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ ตา่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อื่ อยา่ ง
เหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๒.๑ ศกึ ษาค้นคว้าหา ความรู้ ไม่ศึกษาค้นควา้
จากหนงั สอื เอกสาร ส่งิ พิมพ์ สือ่ หาความรู้ ศึกษาความรู้จาก ศกึ ษาค้นคว้าหา ศกึ ษาค้นควา้ หา
เทคโนโลยตี ่างๆ แหลง่ เรยี นรูท้ ั้ง
ภายในและภายนอกโรงเรยี น ไม่บนั ทึกความรู้ หนงั สอื เรียนเท่านั้น ความรู้ จากหนังสอื ความรู้ จากหนงั สอื
และเลือกใชส้ ่ือไดอ้ ย่างเหมาะสม จากส่ิงทเี่ รยี นรู้
เอกสาร สิง่ พิมพ์ เอกสาร ส่งิ พิมพ์
๓.๒.๒ บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ไมแ่ ลกเปล่ยี น
ข้อมลู จากสง่ิ ที่เรยี นรู้สรปุ เปน็ เรียนรู้กบั เพื่อน ส่อื เทคโนโลยีตา่ งๆ สอ่ื เทคโนโลยี และ
องค์ความรู้
แหลง่ เรียนรทู้ ง้ั
๓.๒.๓ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ ดว้ ย
วิธกี ารต่าง ๆ และนำไปใช้ ภายในและ
ในชวี ติ ประจำวนั
ภายนอกโรงเรยี น
และเลอื กใช้สอื่ ได้
อยา่ งเหมาะสม
บนั ทกึ ความรู้ จาก บนั ทึกความรู้ จาก บนั ทกึ ความรู้
ส่ิงทเี่ รียนรูแ้ ตไ่ ม่ สิ่งทีเ่ รยี นรู้ และ วเิ คราะห์
สามารถวเิ คราะห์ สามารถวเิ คราะห์ ขอ้ มูลจากสิง่ ท่ี
ขอ้ มูลจากสงิ่ ท่ี ขอ้ มลู จากสิ่งท่ี เรยี นรู้ และสรปุ
เรยี นรู้ เรียนรู้ เปน็ องค์ความรู้
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ แลกเปลีย่ นเรียนรู้ แลกเปล่ียนเรยี นรู้
กนั เพ่ือนเปน็ กบั เพื่อนดว้ ยวิธีการ กับเพื่อนดว้ ยวิธีการ
บางครัง้ ต่างๆ อยา่ ง ตา่ งๆ อยา่ ง
สมำ่ เสมอ สม่ำเสมอ และ
นำไปประยุกตใ์ ช้ใน
ชวี ติ ประจำวันได้
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๕)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ ม กจิ กรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๓.๑.๑ ตงั้ ใจเรียน ไม่ตงั้ ใจเรียน ตัง้ ใจเรยี น ตัง้ ใจเรยี น เอาใจ- ตั้งใจเรยี น เอาใจ-
๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมีความเพียร เอาใจใสใ่ น ใส่ และมคี วาม ใส่และมคี วาม
พยายามในการเรยี นรู้ การเรียนรู้เป็น เพยี รพยายามใน เพยี รพยายามใน
๓.๑.๓ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรม บางคร้ัง การเรยี นรู้ การเรียนรู้
การเรยี นรูต้ ่าง ๆ เข้ารว่ มกิจกรรม เข้าร่วมกจิ กรรม
การเรยี นรตู้ ่าง ๆ การเรยี นรู้ต่าง ๆ
บางคร้งั บ่อยครง้ั
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อื่ อยา่ ง
เหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๓.๒.๑ ศกึ ษาคน้ คว้าหา ความรู้ ไม่ศึกษาคน้ คว้า
จากหนงั สอื เอกสาร ส่ิงพิมพ์ ส่ือ หาความรู้ ศกึ ษาค้นคว้าหา ศึกษาค้นควา้ หา ศึกษาค้นคว้าหา
เทคโนโลยตี ่างๆ แหล่งเรยี นรู้ท้งั
ภายในและภายนอกโรงเรียน ไมม่ ีการ ความรู้ ความรู้ จากหนังสอื ความรจู้ ากหนงั สือ
และเลอื กใช้สือ่ ได้อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้
สรปุ เป็นองค์ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ เอกสาร สิ่งพิมพ์
๓.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ ความรู้
ขอ้ มูลจากส่ิงทเี่ รยี นรู้สรุปเปน็ ไมน่ ำเสนอและ ส่อื เทคโนโลยตี า่ ง ๆ สือ่ เทคโนโลยตี า่ ง ๆ
องค์ความรู้ แลกเปลย่ี น
ความรู้ กับผู้อน่ื แหล่งเรียนรู้ แหลง่ เรยี นรทู้ ้ัง
๓.๒.๓ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ ด้วย ได้
วิธีการต่าง ๆ และนำไปใช้ ทั้งภายในและ ภายในและภายนอก
ในชวี ติ ประจำวัน
ภายนอกโรงเรียน โรงเรยี น ได้อยา่ ง
เหมาะสม
มีการบนั ทึก มกี ารบนั ทึกความรู้ มีการบนั ทึกความรู้
ความรูส้ รุปเปน็ สรุปเป็นองค์ความรู้ วเิ คราะห์ข้อมลู จาก
องค์ความรู้ สิง่ ทีเ่ รยี นรสู้ รุปเป็น
องค์ความรู้
นำเสนอและ นำเสนอและ นำเสนอและ
แลกเปล่ยี น แลกเปลี่ยนความรู้ แลกเปลยี่ นความรู้
ความรู้ กับผู้อนื่ กับผอู้ ื่นและ กับผู้อนื่ และนำไปใช้
ได้ นำไปใชใ้ น ในชวี ติ ประจำวนั ได้
ชวี ิตประจำวันได้ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๖)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๓.๑ ต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๓.๑.๑ ต้ังใจเรียน ตัง้ ใจและ
ไมเ่ อาใจใส่ต่อการ เอาใจใสต่ ่อการ ตัง้ ใจและ รบั ผดิ ชอบในการ
รบั ผิดชอบในการ ปฏิบัตกิ จิ กรรมท่ี
ปฏิบัตกิ จิ กรรมท่ี ปฏบิ ัติกจิ กรรมท่ี ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมท่ี ไดร้ บั มอบหมาย
ไดร้ บั มอบหมาย จนสำเร็จและ
ได้รบั มอบหมาย ไดร้ ับมอบหมาย จนสำเร็จแตม่ ี ถูกต้องสมบูรณ์
ข้อบกพร่อง
และไมส่ ำเร็จ แต่ไม่สำเรจ็ บางสว่ น ตง้ั ใจและ
รบั ผดิ ชอบในการ
๓.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมีความเพยี ร ไม่เอาใจใสต่ ่อการ เอาใจใส่ต่อการ ตง้ั ใจและ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมท่ี
พยายามในการเรยี นรู้ ปฏิบตั ิกิจกรรมที่ ปฏบิ ัติกจิ กรรมที่ รบั ผิดชอบในการ ได้รับมอบหมาย
ไดร้ ับมอบหมาย ได้รบั มอบหมาย ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมที่ จนสำเร็จ ถกู ตอ้ ง
และไมส่ ำเร็จ แต่ไมส่ ำเรจ็ ได้รับมอบหมาย สมบรู ณ์ และ
จนสำเร็จแต่มี รับผดิ ชอบในการ
ข้อบกพร่อง ทำงานได้ด้วย
บางส่วนและ ตนเอง
รบั ผดิ ชอบในการ
ทำงานแต่ต้องมี เข้ารว่ มกิจกรรม
การเตอื นเป็น การเรยี นรตู้ ่าง ๆ
บางคร้งั เป็นประจำหรอื
รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป
๓.๑.๓ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการ ไมเ่ ขา้ รว่ ม เขา้ ร่วมกิจกรรม เข้าร่วมกจิ กรรม
เรียนรู้ตา่ ง ๆ การเรียนรตู้ ่าง ๆ
กจิ กรรมการ การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ บ่อยคร้ังหรือร้อย
ละ 60 - 79
เรียนรู้ต่าง ๆหรือ บางครั้ง หรอื ร้อย
เข้าร่วมกิจกรรม ละ 50 - 59
ตำ่ กว่าร้อยละ 50
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๓.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ ง
เหมาะสม สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๓.๒.๑ ศึกษาค้นควา้ หาความรู้ ไม่ศึกษาค้นคว้าหา ศึกษาคน้ ควา้ หา ศกึ ษาคน้ คว้าหา ศกึ ษาค้นควา้ หา
จากหนงั สอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์ สื่อ ความรู้ จากแหลง่ ความรู้จากหนงั สอื ความรู้จากหนงั สือ ความรูจ้ ากหนงั สอื
เทคโนโลยีตา่ ง ๆ แหล่งเรยี นรู้ท้ัง การเรียนรตู้ ่าง ๆ เอกสาร ส่ิงพิมพ์ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ เอกสาร สง่ิ พิมพ์
ภายในและภายนอกโรงเรียน และ สือ่ เทคโนโลยี สอ่ื เทคโนโลยี ส่อื เทคโนโลยี
เลือกใชส้ อื่ ได้อยา่ งเหมาะสม ภายในโรงเรียน ภายในโรงเรยี น แหล่งเรยี นรอู้ นื่
และนอกโรงเรียน ภายในโรงเรียน
และนอก เลือกใช้
ส่อื ได้อยา่ ง
เหมาะสมโรงเรียน
อยา่ งสม่ำเสมอ
๓.๒.๒ บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ ไมม่ ีการบนั ทึก มีการบนั ทึก มกี ารบนั ทึก มีการบนั ทึก
ตรวจสอบ จากส่ิงที่เรียนรู้ สรุป ความรู้จากสง่ิ ที่ ความร้จู ากสิ่งที่ ความร้จู ากสง่ิ ที่ ความรูจ้ ากสิง่ ท่ี
เป็นองค์ความรู้ เรียนรู้ และสรุป เรยี นรู้ และสรุป เรียนรู้ และสรปุ เรยี นรู้และสรุป
เปน็ องค์ความรู้ เปน็ องค์ความรู้ เป็นองค์ความรู้ เป็นองค์ความร้ทู ุก
๓.๒.๓ แลกเปล่ียนความรู้ ด้วย เป็นบางคร้งั เป็นส่วนใหญ่ ครงั้
วธิ ีการต่าง ๆ และนำไปใช้ใน ไมม่ ีมกี ารนำเสนอ
ชวี ติ ประจำวนั และแลกเปล่ยี น มีการนำเสนอ มีการนำเสนอ มีการนำเสนอ
องค์ความรู้ ด้วย และแลกเปลย่ี น และแลกเปลี่ยน และแลกเปลยี่ น
วิธกี ารท่ี องค์ความรู้ ด้วย องค์ความรู้ ดว้ ย องค์ความรู้ ดว้ ย
หลากหลาย วิธีการท่ี วธิ ีการท่ี วิธกี ารที่
หลากหลายกับ หลากหลายกับ หลากหลายกับ
เพ่ือนในห้องเรียน เพอ่ื นในห้องเรยี น เพ่ือนในห้องเรยี น
ดว้ ยวิธกี ารตา่ ง ๆ ครผู ้สู อนดว้ ย โรงเรียน
วิธกี ารต่าง ๆ
ด้านที่ ๔ ความกตญั ญู พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
ตวั ชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบง่ ช้ี
๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ รอ้ งเพลงชาติ และอธบิ ายความหมายของเพลง
ตวั ชว้ี ดั ชาตไิ ดถ้ ูกต้อง
๔.๑ เป็นพลเมอื งดีของชาติ ๔.๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละ หนา้ ท่ีพลเมอื งดีของชาติ
๔.๑.๓ มคี วามสามัคคี ปรองดอง
๔.๒ ธำรงไวซ้ งึ่ ความเป็นชาติ
ไทย ๔.๒.๑ เขา้ รว่ ม ส่งเสรมิ สนบั สนุนกิจกรรมท่สี ร้างความสามคั คี ปรองดอง
ท่เี ปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม
๔.๓ ศรทั ธา ยึดม่ันและปฏบิ ตั ิ ๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกยอ่ งความเปน็ ชาติไทย
ตนตามหลกั ของศาสนา
๔.๓.๑ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาทีต่ นนบั ถือ
๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบัน ๔.๓.๒ ปฏบิ ัติตนตามหลกั ของศาสนาทต่ี นนับถอื
พระมหากษัตรยิ ์ ๔.๓.๓ เป็นแบบอย่างท่ดี ีของศาสนกิ ชน
๔.๔.๑ เข้ารว่ มและมีสว่ นรว่ มในการจัดกิจกรรมท่เี กยี่ วกบั สถาบัน
พระมหากษัตรยิ ์
๔.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคณุ ของพระมหากษตั ริย์
๔.๔.๓ แสดงออกซ่ึงความจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบันพระมหากษตั ริย์
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดับประถมศึกษา (ป.๑)
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๑ เปน็ พลเมอื งดขี องชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
ยืนตรงเคารพธง
๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ไม่ยืนตรงเคารพธง ชาติ ยืนตรงเมอ่ื ได้ยิน ยนื ตรงเม่ือได้ยนิ
รอ้ งเพลง ชาติ และอธิบาย ชาติ ปฏบิ ัตติ นตามสิทธิ เพลงชาติ ร้องเพลง เพลงชาติ รอ้ ง
หนา้ ที่
ความหมาย ของเพลงชาติ พลเมืองดี ชาตไิ ด้ เพลงชาติได้ และ
ได้ถูกต้อง ทะเลาะกบั เพอื่ น บอกความหมาย
ในหอ้ งเรยี นเปน็
บางคร้ัง ของเพลงชาติได้
ถกู ต้อง
๔.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธหิ น้าท่ี ไมป่ ฏบิ ัติตนตาม ปฏิบตั ติ นตามสิทธิ ปฏิบตั ิตนตามสิทธิ
พลเมอื งดขี องชาติ สทิ ธิหนา้ ท่ี
พลเมืองดี และหน้าทขี่ อง ของนักเรยี นตาม
นักเรียนบางครงั้ สิทธิหนา้ ที่
พลเมอื งดสี ม่ำเสมอ
๔.๑.๓ มคี วามสามคั คีปรองดอง ทะเลาะกบั เพอื่ น มคี วามรว่ มมือใน ใหค้ วามรว่ มมือ
ในหอ้ งเรยี นเปน็
ประจำ การทำงานร่วมกัน ร่วมใจในการ
ในชั้นเรยี น ทำงานกบั สมาชิก
ในชัน้ เรียน
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๒ ธำรงไวซ้ งึ่ ความเปน็ ชาตไิ ทย
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี เข้าร่วมกจิ กรรมที่
๔.๒.๑ เขา้ รว่ มส่งเสรมิ สนบั สนุน ไมเ่ ขา้ รว่ มกจิ กรรม สรา้ งความสามัคคี สรา้ งความสามัคคี เข้าร่วมกจิ กรรมที่
ปรองดองและเปน็ สร้างความสามัคคี
กิจกรรม ที่สร้างความสามัคคี ท่สี รา้ งความ หวงแหน ปกปอ้ ง ประโยชนต์ อ่ ปรองดอง และเปน็
ปรองดอง ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ สามคั คี ความเป็นชาตไิ ทย โรงเรยี น ชุมชน ประโยชนต์ อ่
โรงเรียน ชมุ ชน และสังคม โรงเรียน ชมุ ชน
หวงแหน ปกปอ้ ง และสงั คม
๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกย่อง ไมห่ วงแหน ยกยอ่ ง ความเป็น
ชาติไทยเป็น หวงแหน ปกปอ้ ง
ความเปน็ ชาติไทย ปกปอ้ ง ความเป็น บางคร้งั ยกยอ่ ง ความเป็น
ชาติไทยสม่ำเสมอ
ชาตไิ ทย
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๔.๓ ศรทั ธา ยึดมนั่ และปฏบิ ตั ติ นตามหลักของศาสนา
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๔.๓.๑ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทาง ไม่เขา้ ร่วมกิจกรรม เข้ารว่ มกจิ กรรม เข้าร่วมกิจกรรมท่ี เข้ารว่ มกิจกรรมที่
ศาสนาที่ตนนบั ถือ ทางศาสนาท่ีตน ทางศาสนาท่ีตน ตนนบั ถอื และ ตนนบั ถือและ
นบั ถือ นบั ถือ ปฏิบัติตนตามหลัก ปฏบิ ัตติ นตามหลกั
ศาสนาตามโอกาส ศาสนาอย่าง
บางครง้ั สมำ่ เสมอ
๔.๓.๒ ปฏิบัติตนตามหลกั ของ ไมป่ ฏบิ ตั ิตนตาม ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ปฏิบัตติ นตามหลกั ปฏิบตั ิตนตามหลกั
ศาสนาทตี่ นนบั ถือ หลักของศาสนา ของศาสนา ของศาสนาทีต่ นนับ ของศาสนาทต่ี นนบั
ถือบางครง้ั ถือสมำ่ เสมอ
๔.๓.๓ เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีของ ไม่เป็นแบบอย่างท่ี เปน็ แบบอยา่ งท่ดี ี เปน็ แบบอยา่ งที่ดี เปน็ แบบอย่างทีด่ ี
ศาสนกิ ชน ดขี องศาสนิกชน ของศาสนกิ ชน ของศาสนิกชน ของศาสนิกชน
นานๆ ครง้ั บางครง้ั สม่ำเสมอ
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๔.๔.๑ เข้าร่วมและมีส่วนร่วม ไม่เขา้ ร่วมกจิ กรรม เข้าร่วมกิจกรรมที่ เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ี เข้าร่วมกิจกรรม และ
ในการจัดกิจกรรมท่ีเกยี่ วกับ ที่เกยี่ วข้องกับ เกย่ี วขอ้ งกบั เกี่ยวข้องกบั มสี ่วนรว่ มในการจดั
สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ สถาบนั สถาบัน สถาบนั กจิ กรรมท่ีเกี่ยวกับ
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ สถาบัน
ตามท่ีโรงเรยี นจดั พระมหากษัตริย์
ขน้ึ ตามทโี่ รงเรียนและ
ชุมชนจดั ข้นึ
๔.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระ ไมเ่ ขา้ ร่วมกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกจิ กรรมที่ เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่
มหากรณุ าธิคุณของ ทแ่ี สดงความสำนึก แสดงความสำนึก แสดงความสำนึก แสดงความสำนกึ
พระมหากษัตรยิ ์ มหากรุณาธคิ ุณของ มหากรณุ าธคิ ุณ มหากรณุ าธิคุณของ มหากรุณาธคิ ุณของ
พระมหากษัตริย์ ของ พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์
พระมหากษัตริย์ ตามทโี่ รงเรียนจัด ตามท่ีโรงเรยี นและ
ขน้ึ ชุมชนจดั ขึน้
๔.๔.๓ แสดงออกซง่ึ ความ ไม่เข้ารว่ มกจิ กรรม เข้าร่วมกิจกรรมท่ี เข้าร่วมกิจกรรมท่ี เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ี
จงรักภักดี ต่อสถาบัน ทแี่ สดงออกถึง แสดงออกถึง แสดงออกถึงความ แสดงออกถึงความ
พระมหากษัตรยิ ์ ความจงรักภกั ดตี ่อ ความจงรกั ภกั ดี จงรกั ภกั ดีต่อ จงรกั ภกั ดี ต่อสถาบัน
สถาบัน ตอ่ สถาบนั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ ตามที่โรงเรยี นจดั ขน้ึ
ตามทีโ่ รงเรียนจัด และชุมชนจดั ขนึ้
ขนึ้
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๒)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๑ เปน็ พลเมอื งดขี องชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
ยืนตรงเคารพ
๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ไมย่ ืนตรงเคารพ ธงชาติ ยืนตรงเม่อื ได้ยิน ยืนตรงเมอ่ื ได้ยิน
เพลงชาติ รอ้ งเพลง เพลงชาติ รอ้ ง
ร้องเพลง ชาติ และอธบิ าย ธงชาติ ปฏบิ ัตติ ามสทิ ธิ
หนา้ ท่ีของพลเมือง
ความหมาย ของเพลงชาติ ดีบางครง้ั ชาติได้ และบอก เพลงชาตไิ ด้ และ
ความหมายของ บอกความหมาย
ไดถ้ ูกต้อง เกิดความสามัคคี เพลงชาติได้ถกู ต้อง ของเพลงชาติได้
รักใคร่กนั ใน
ห้องเรยี นเปน็ ปฏิบตั ติ น ถูกต้อง
บางครง้ั
๔.๑.๒ ปฏิบตั ิตนตามสทิ ธิหน้าท่ี ไมป่ ฏิบัตติ าม ปฏบิ ัตติ ามสทิ ธิ ปฏบิ ตั ิตามสิทธิ
พลเมืองดขี องชาติ หนา้ ที่ของพลเมือง หนา้ ท่ขี องพลเมือง หนา้ ท่ีของพลเมือง
ทีด่ ี
ดี เคารพกฎกตกิ า ดี เคารพกฎกติกา
บ้านเมือง กฎ บ้านเมือง กฎ
จราจร อยา่ ง จราจร และบอก
บ่อยครั้ง ความหมายของ
การปฏิบัติเปน็
หนา้ ทพ่ี ลเมืองที่ดี
ได้อย่างสมำ่ เสมอ
๔.๑.๓ มคี วามสามัคคปี รองดอง ไมม่ ีความสามัคคี เกดิ ความสามัคคี เกดิ ความสามัคคี
รักใครก่ ันใน รักใคร่กันใน
ห้องเรียน มีความ หอ้ งเรียน มีความ
ปรองดองและรัก ปรองดองและรัก
ใคร่สามัคคี ตอ่ ใคร่สามัคคี ตอ่
โรงเรยี นบ่อยคร้ัง โรงเรียน เละ
สมาชิกในชนั้ เรยี น
สม่ำเสมอ
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๒ ธำรงไวซ้ ึ่งความเปน็ ชาติไทย
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
เขา้ ร่วมกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกจิ กรรมที่
๔.๒.๑ เขา้ ร่วมส่งเสริมสนับสนนุ ไม่เขา้ รว่ มกิจกรรม สรา้ งความสามคั คี สรา้ งความสามัคคี เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่
บางครง้ั ปรองดอง และเปน็ สรา้ งความสามคั คี
กิจกรรม ทสี่ รา้ งความสามัคคี ทสี่ ร้างความ ประโยชน์ตอ่ ปรองดอง และเปน็
ปรองดอง ท่เี ปน็ ประโยชน์ ต่อ สามัคคี มีการปกป้อง หวง โรงเรียนบอ่ ยครงั้ ประโยชน์ต่อ
โรงเรียน ชมุ ชน และสงั คม แหน ยกยอ่ ง ความ โรงเรยี นและชมุ ชน
เปน็ ชาติไทยเปน็ มกี ารปกป้อง หวง สม่ำเสมอ
๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกย่อง ไม่หวงแหน หรอื บางคร้ัง แหน ยกย่อง ความ
เป็นชาตไิ ทย มีการปกป้อง หวง
ความเปน็ ชาติไทย ปกปอ้ ง ยกยอ่ ง บ่อยคร้ัง แหน ยกย่อง ความ
เปน็ ชาตไิ ทยและ
ความเปน็ ชาตไิ ทย เปน็ ประโยชนต์ ่อ
ประเทศชาติอยา่ ง
สม่ำเสมอ
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๓ ศรทั ธา ยึดมนั่ และปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๔.๓.๑ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนา ไม่เขา้ รว่ มกจิ กรรม เข้าร่วมกจิ กรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ี
ตนนบั ถือและ ตนนับถือและ
ที่ตนนบั ถือ ทางศาสนาที่ตน ทางศาสนาท่ีตน ปฏิบตั ิตนตามหลัก ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั
นบั ถือ นับถือเป็นบางครงั้ ศาสนา ตามโอกาส ศาสนาอยา่ ง
บ่อยครง้ั สม่ำเสมอ
๔.๓.๒ ปฏิบตั ติ นตามหลักของ ไมป่ ฏบิ ัติตนตาม ปฏิบัติตนตามหลัก
ศาสนาท่ีตนนบั ถือ หลกั ของศาสนาท่ี ของศาสนาที่ตน ปฏิบัติตนตามหลัก ปฏิบตั ติ นตามหลัก
ตนนบั ถอื นับถอื เปน็ บางครั้ง ของศาสนาท่ตี น ของศาสนาท่ีตนนบั
๔.๓.๓ เป็นแบบอยา่ งท่ีดขี อง นบั ถือบ่อยครั้ง ถืออยา่ งสมำ่ เสมอ
ศาสนิกชน ไมเ่ ป็นแบบอยา่ งท่ี เปน็ แบบอย่างทด่ี ี
ดีของศาสนิกชน ของศาสนิกชนเป็น เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี เข้าร่วมเป็น
บางครั้ง เปน็ แบบอยา่ งทีด่ ี แบบอยา่ งทดี่ ี
ของศาสนกิ ชน ของศาสนกิ ชน
บอ่ ยครงั้ สมำ่ เสมอ
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
เขา้ ร่วมกิจกรรมที่ เขา้ รว่ มกิจกรรมที่
๔.๔.๑ เขา้ ร่วมและมสี ว่ นร่วมใน ไมเ่ ขา้ รว่ มกิจกรรม เก่ยี วขอ้ งกบั เกย่ี วขอ้ งกบั เข้ารว่ มกิจกรรม
สถาบนั สถาบัน และมีสว่ นรว่ มใน
การจัดกจิ กรรมที่เก่ียวกบั สถาบัน ที่เกย่ี วข้องกับ พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์ การจัดกิจกรรมที่
ตามท่ีโรงเรยี นจดั เกยี่ วกับกับสถาบัน
พระมหากษัตริย์ สถาบนั แสดงความสำนึก ข้นึ พระมหากษัตริย์
ในพระมหา ตามท่ีโรงเรยี นและ
พระมหากษัตริย์ กรณุ าธิคุณของ เขา้ รว่ มกิจกรรมที ชมุ ชนจัดขนึ้
พระมหากษัตริย์ เกย่ี วขอ้ งและแสดง
๔.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระ ไมแ่ สดงความ ความสำนึกในพระ เขา้ ร่วมกจิ กรรมที
มหากรุณาธิคุณของ สำนึกในพระมหา แสดงออกซึง่ ความ มหากรุณาธิคุณขอ เก่ียวขอ้ งและแสดง
พระมหากษัตรยิ ์ กรุณาธคิ ณุ ของ จงรกั ภกั ดี ตอ่ พระมหากษัตรยิ ์ ความสำนึกในพระ
พระมหากษัตรยิ ์ สถาบัน มหากรณุ าธคิ ุณขอ
พระมหากษัตรยิ ์ เขา้ ร่วมกิจกรรม พระมหากษัตริย์ใน
๔.๔.๓ แสดงออกซงึ่ ความ ไมแ่ สดงออกซงึ่ แสดงออกซงึ่ ความ วนั สำคัญตา่ งๆ
จงรกั ภักดี ตอ่ สถาบัน ความจงรกั ภักดี จงรักภักดี ต่อ
พระมหากษัตริย์ ตอ่ สถาบัน สถาบัน เข้ารว่ มกิจกรรม
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ แสดงออกซ่งึ ความ
จงรกั ภักดี ต่อ
สถาบนั
พระมหากษัตริย์ซง่ึ
เปน็ ประโยชน์ตอ่
โรงเรียนและ
ประเทศชาติ
เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา (ป.๓)
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๑ เปน็ พลเมอื งดขี องชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
ยนื ตรงเคารพธง
๔.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ไมย่ ืนตรงเคารพ ยืนตรงเคารพธง ยนื ตรงเคารพธง ชาตทิ กุ คร้งั เมื่อได้
ชาตเิ มอื่ ไดย้ นิ ชาตเิ ม่ือไดย้ นิ เพลง ยินเพลงชาติ และ
ร้องเพลงชาติได้ ธงชาติ เพลงชาติ ชาติ และร้องเพลง รอ้ งเพลงไดถ้ ูกต้อง
ชาติได้
อธิบายความหมาย
๔.๑.๒ อธบิ ายความหมายของ อธบิ ายความหมาย อธิบาย อธิบายความหมาย ของเพลงชาติได้
ความหมายของ ของเพลงชาติได้ไม่ ตรงครบถว้ น
เพลงชาตไิ ด้ถูกต้อง ของเพลงชาตไิ ม่ เพลงชาตผิ ิด ครบถ้วน
บางส่วน เข้าร่วมกิจกรรม
ถกู ต้อง การใชส้ ิทธเิ ลือก
เข้ารว่ มกิจกรรม เขา้ รว่ มกิจกรรม หวั หนา้ หอ้ ง/
๔.๑.๓ ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละ ไม่เข้าร่วมกจิ กรรม การใชส้ ทิ ธเิ ลือก การใชส้ ิทธเิ ลอื ก หวั หน้าเวร/
หนา้ ท่พี ลเมืองดีของชาติ การใช้สทิ ธเิ ลอื ก หัวหนา้ หอ้ ง/ หัวหนา้ หอ้ ง/ ประธานนกั เรยี น
หวั หน้าห้อง/หวั หนา้ หัวหน้าเวร/ หวั หน้าเวร/ ร้อยละ 80 ขึ้นไป
๔.๑.๔ มคี วามสามคั คี เวร/ประธานหรือ ประธานนักเรียน ประธานนกั เรียน
ปรองดอง เขา้ ร่วมกิจกรรม ร้อยละ 50 - 59 ร้อยละ 60 - 79 ใหค้ วามรว่ มมือ
ตำ่ กว่ารอ้ ยละ 50 ร่วมใจในการ
ให้ความร่วมมือ ให้ความรว่ มมือ ทำงานกับสมาชกิ
ไมใ่ หค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจในการ ร่วมใจในการ ในห้องเรยี นอยา่ ง
รว่ มใจในการทำงาน ทำงานกบั สมาชกิ ทำงานกับสมาชกิ สมำ่ เสมอ
กบั สมาชิกใน ในห้องเรยี น ในหอ้ งเรียนเป็น
หอ้ งเรียน บางครงั้ ส่วนใหญ่
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๒ ธำรงไวซ้ ง่ึ ความเปน็ ชาตไิ ทย
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
เขา้ รว่ มกิจกรรมที่
๔.๒.๑ เขา้ ร่วม ส่งเสริม ไมเ่ ขา้ รว่ มกจิ กรรมที่ สรา้ งความสามัคคี เขา้ รว่ มกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกจิ กรรมที่
ปรองดอง สร้างความสามัคคี สรา้ งความสามคั คี
สนบั สนุนกจิ กรรมทสี่ ร้างความ สรา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ปรองดอง และเปน็
สามัคคี ปรองดอง ทเ่ี ปน็ เขา้ รว่ มกจิ กรรม ประโยชนต์ ่อ ประโยชนต์ ่อ
ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชนและ ทเี่ กีย่ วกับการหวง โรงเรยี น โรงเรียนและชมุ ชน
แหน ปกป้อง
สังคม ยกยอ่ งความเป็น เข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ รว่ มกิจกรรม
ชาติไทยรอ้ ยละ เกี่ยวกับการหวง เกีย่ วกับหวงแหน
๔.๒.๒ หวงแหน ปกปอ้ ง ไม่เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี 50 - 59 แหน ปกปอ้ ง ปกปอ้ ง ยกยอ่ ง
ยกยอ่ งความเป็น ความเป็นชาติไทย
ยกย่องความเปน็ ชาติไทย เก่ียวกับการหวงแหน ชาติไทยรอ้ ยละ ร้อยละ 80 ข้ึนไป
ปกป้อง ยกย่องความ 60 - 79
เป็นชาตไิ ทยหรอื เข้า
รว่ มกิจกรรม
ตำ่ กวา่ รอ้ ยละ 50
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๓ ศรทั ธา ยดึ มน่ั และ ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
๔.๓.๑ เขา้ รว่ มกิจกรรมทาง ไมเ่ ข้ารว่ มกิจกรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี
ศาสนาทต่ี นนับถือ ทางศาสนาที่ตนนับ ทางศาสนาท่ีตน ตนนบั ถือและ เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี
ถือ นับถือ ปฏบิ ัตติ นตามหลัก ตนนับถือและ
๔.๓.๒ ปฏบิ ัติตนตามหลักของ ศาสนาตามโอกาส ปฏิบัติตนตามหลกั
ศาสนาที่ตนนับถือ ไมป่ ฏบิ ัติตนตาม ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาอยา่ ง
หลักของศาสนาที่ ของศาสนาท่ตี นนับ ปฏบิ ัติตนตามหลกั สมำ่ เสมอ
ตนนับถอื ถือโดยตอ้ งมีการ ของศาสนาทีต่ นนบั
เตือนเปน็ ส่วนใหญ่ ถือโดยตอ้ งมีการ ปฏิบตั ิตนตามหลกั
เตอื นเป็นบางคร้งั ของศาสนาที่ตนนับ
ถอื ด้วยตนเอง
๔.๓.๓ เป็นแบบอย่างทด่ี ีของ ไม่ปฏบิ ัติเป็น ปฏิบตั ิเป็น ปฏิบตั ิเป็น ปฏิบตั ิเป็น
ศาสนิกชน แบบอย่างท่ีดี
ของศาสนิกชน แบบอย่างทีด่ ี แบบอย่างทดี่ ี แบบอยา่ งทีด่ ี
ของศาสนกิ ชน โดย ของศาสนิกชน โดย ของศาสนิกชน ด้วย
ต้องมีการเตือนเปน็ ตอ้ งมีการเตือนเป็น ตนเอง
สว่ นใหญ่ บางคร้ัง
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๔.๔.๑ เข้าร่วมและมสี ่วนร่วมใน ไมเ่ ขา้ ร่วม เขา้ รว่ มกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรมท่ี เข้าร่วมกจิ กรรมที่
เก่ยี วกบั สถาบนั เกย่ี วกับสถาบัน
การจดั กจิ กรรมท่เี กย่ี วกบั สถาบัน กจิ กรรมทเ่ี ก่ียวกบั ทเ่ี ก่ยี วกับสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์รอ้ ย
ร้อยละ 60 - 79 ละ 80 ข้นึ ไป
พระมหากษัตริย์ สถาบัน พระมหากษัตรยิ ์
พระมหากษัตริย์ รอ้ ยละ 50 - 59
หรอื เขา้ ร่วม
กิจกรรม
ตำ่ กว่าร้อยละ 50
๔.๔.๒ แสดงความสำนกึ ในพระ ไมเ่ ข้าร่วม เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ี
มหากรณุ าธคิ ุณของ เกย่ี วกบั สถาบนั เกย่ี วกบั สถาบัน
พระมหากษัตริย์ กิจกรรมที่เก่ยี วกบั เกีย่ วกบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ท์ ่ี พระมหากษัตริยท์ ี่
โรงเรียนและชุมชน โรงเรียน ชุม ชน
สถาบนั พระมหากษัตรยิ ท์ ี่ จัดข้ึน สังคมจัดขนึ้
พระมหากษัตริย์ โรงเรียนจดั ขึน้ เข้าร่วมกจิ กรรมที่ เข้าร่วมกิจกรรมที่
เกย่ี วกบั สถาบัน เก่ยี วกบั สถาบัน
๔.๔.๓ แสดงออกซง่ึ ความ ไมเ่ ข้ารว่ ม เข้ารว่ มกิจกรรมท่ี พระมหากษัตรยิ ท์ ี่ พระมหากษัตริยท์ ี่
จงรกั ภกั ดีต่อสถาบัน โรงเรียนและชมุ ชน โรงเรียน ชุม ชน
พระมหากษัตรยิ ์ กิจกรรมที่เกี่ยวกับ เก่ียวกบั สถาบัน จดั ขน้ึ สงั คมจัดขนึ้
สถาบัน พระมหากษัตริยท์ ่ี
พระมหากษัตริย์ โรงเรยี นจดั ข้นึ
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๔)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๑ เปน็ พลเมอื งดขี องชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
เข้าร่วมกจิ กรรม เขา้ รว่ มกิจกรรม
๔.๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้อง ไม่เขา้ ร่วมกจิ กรรม หนา้ เสาธง และยืน หน้าเสาธง ยนื ตรง เข้าร่วมกิจกรรม
ตรงเม่ือไดย้ นิ เพลง เมอ่ื ไดย้ ินเพลงชาติ หน้าเสาธง ยืนตรง
เพลงชาติ และอธบิ ายความหมาย หนา้ เสาธง ชาติ ร้องเพลงชาติได้ เคารพธงชาติ รอ้ ง
ถกู ต้อง เพลงชาติ และ
ของเพลงชาตไิ ด้ถกู ตอ้ ง ปฏิบตั ติ นตามสทิ ธิ อธิบายความหมาย
และหนา้ ที่ของ ปฏบิ ัตติ นตามสิทธิ ของเพลงชาตไิ ด้
๔.๑.๒ ปฏิบัตติ นตามสทิ ธหิ นา้ ที่ ไมป่ ฏบิ ัติตนตาม นกั เรยี น และหนา้ ท่ขี อง ถูกต้อง
พลเมอื งดขี องชาติ สิทธิและหนา้ ทขี่ อง นกั เรียน และเปน็
นกั เรียน รว่ มมอื รว่ มใจใน ผู้นำของเพ่ือนได้ ปฏิบัติตนตามสทิ ธิ
การทำกจิ กรรมกบั และหน้าทขี่ อง
๔.๑.๓ มีความสามัคคีปรองดอง ไมร่ ่วมมือในการทำ สมาชิกในช้นั เรียน ร่วมมือรว่ มใจใน นกั เรียน ด้วยความ
กจิ กรรมในช้นั เรยี น การทำกิจกรรมกับ เตม็ ใจ เป็นผนู้ ำ
สมาชิกในชน้ั เรียน ของเพ่อื น และ
และเป็นผูน้ ำ พลเมอื งทดี่ ีของ
ชาติ
ร่วมมอื ร่วมใจใน
การทำกิจกรรมกับ
สมาชกิ ในชั้นเรียน
โรงเรียน และสังคม
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๒ ธำรงไวซ้ ่งึ ความเปน็ ชาติไทย
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ี เข้าร่วมกจิ กรรมที่
๔.๒.๑ เขา้ รว่ มส่งเสรมิ สนับสนุน ไมเ่ ขา้ รว่ มกจิ กรรม สรา้ งความสามัคคี สรา้ งความสามัคคี เขา้ ร่วมกิจกรรม
กิจกรรม ที่สรา้ งความสามัคคี ทส่ี รา้ งความ ปรองดองเป็น ปรองดอง และเปน็ และมสี ่วนร่วมใน
ปรองดอง ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ ต่อ สามคั คี บางคร้ัง ประโยชน์ต่อ การจดั กจิ กรรมที่
โรงเรยี น ชุมชน และสังคม โรงเรียนอย่าง สรา้ งความสามคั คี
ชน่ื ชมในความเป็น สมำ่ เสมอ ปรองดอง และเป็น
๔.๒.๒ หวงแหน ปกปอ้ ง ยกย่อง ไมช่ นื่ ชมในความ ชาตไิ ทย ประโยชนต์ อ่
ชื่นชม ปกปอ้ ง ใน โรงเรยี น ชุมชน
ความเปน็ ชาติไทย เปน็ ชาตไิ ทย ความเปน็ ชาติไทย และสังคมอย่าง
สม่ำเสมอ
ช่ืนชม หวงแหน
ปกป้อง ยกย่อง
ความเป็นชาติไทย
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๓ ศรทั ธา ยดึ มน่ั และปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓)
เข้ารว่ มกิจกรรม
๔.๓.๑ เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนา ไมเ่ ข้าร่วมกจิ กรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรม ทางศาสนาที่ตน เข้าร่วมกจิ กรรม
นบั ถอื ตามอยา่ ง ทางศาสนาท่ีตน
ทตี่ นนบั ถือ ทางศาสนาท่ีตน ทางศาสนาที่ตน สม่ำเสมอ นับถอื อย่าง
นบั ถอื นับถือตามโอกาส สม่ำเสมอและเปน็
ปฏิบัติตนตามหลัก แบบอยา่ งท่ดี ี
๔.๓.๒ ปฏิบตั ิตนตามหลักของ ไมป่ ฏบิ ตั ติ นตาม ปฏบิ ัตติ นตามหลัก ศาสนา อยา่ ง
สมำ่ เสมอ ปฏบิ ัติตนตามหลัก
ศาสนา ท่ีตนนับถือ หลกั ศาสนา ศาสนาตามโอกาส ศาสนา อย่าง
ปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมำ่ เสมอ และ
๔.๓.๓ เป็นแบบอย่างที่ดีของ ไมป่ ฏิบตั ติ นตาม ปฏิบัตติ นเป็น แบบอย่างทีด่ ี ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่น
ศาสนกิ ชน แบบอย่างท่ีดี แบบอยา่ งที่ดี ของศาสนิกชน ปฏบิ ตั ิด้วย
ของศาสนกิ ชน ของศาสนิกชนตาม อย่างสม่ำเสมอ
โอกาส ปฏบิ ัตติ นเป็น
แบบอย่างที่ดี
ของศาสนกิ ชน
อย่างสม่ำเสมอ
และชกั ชวนใหผ้ อู้ นื่
ปฏบิ ตั ดิ ้วย
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๔.๔.๑ เข้าร่วมและมสี ่วนรว่ มใน ไมเ่ ขา้ ร่วมกิจกรรม เข้ารว่ มกิจกรรมท่ี เขา้ ร่วมกจิ กรรมที่ เขา้ รว่ มกิจกรรม
การจดั กิจกรรมทเ่ี ก่ยี วกับสถาบนั ท่ีเกยี่ วข้องกบั เก่ยี วขอ้ งกับ
เกีย่ วข้องกบั และมีสว่ นร่วมใน
พระมหากษัตรยิ ์ สถาบัน สถาบนั สถาบนั การจดั กิจกรรม
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์
ตามทโ่ี รงเรียนจดั พระมหากษัตรยิ ์ ท่เี กย่ี วกบั สถาบัน
ข้นึ
ตามที่โรงเรยี นและ พระมหากษัตริย์
ชมุ ชนจัดขึ้น ตามทโี่ รงเรียนและ
ชุมชนจดั ขึน้
๔.๔.๒ แสดงความสำนกึ ใน ไมส่ ำนึกในพระ ชืน่ ชมในพระมหา ช่นื ชมในพระมหา ช่ืนชมในพระมหา
พระมหากรณุ าธิคณุ ของ มหากรณุ าธิคุณ กรณุ าธคิ ณุ ของ
พระมหากษัตริย์ ของ พระมหากษัตริย์ กรณุ าธคิ ุณของ กรุณาธคิ ุณ ในพระ
พระมหากษัตรยิ ์ เป็นบางคร้งั ท่ีได้
๔.๔.๓ แสดงออกซึง่ ความ ทราบถงึ พระราช พระมหากษัตรยิ ์ ราชกรณียกจิ พระ
จงรักภักดี ตอ่ สถาบนั ไม่จงรักภักดีตอ่ กรณยี กิจ
พระมหากษัตริย์ สถาบัน ทกุ ครั้งทไ่ี ด้ทราบ ปรีชาสามารถของ
พระมหากษัตรยิ ์ ชืน่ ชม และ
จงรกั ภกั ดี ตอ่ ถงึ พระราชกรณยี พระมหากษัตรยิ ์
พระมหากษัตรยิ ์
กิจ และพระราชวงศ์
ชืน่ ชม และ ชื่นชม และ
แสดงออกถึงความ แสดงออกถึงความ
จงรกั ภกั ดี ตอ่ จงรักภกั ดี ตอ่
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์
และพระราชวงศ์
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.๕)
ตวั ชวี้ ดั ที่ ๔.๑ เปน็ พลเมอื งดีของชาติ
พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
๔.๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ
ร้องเพลง ชาติ และอธิบาย ไมย่ นื ตรงเคารพ ยนื ตรงเคารพ ยืนตรงเมือ่ ได้ยนิ ยืนตรงเม่ือไดย้ ิน
ความหมาย ของเพลงชาตไิ ด้
ถูกต้อง ธงชาติ ธงชาติ เพลงชาติ รอ้ งเพลง เพลงชาติ รอ้ ง
๔.๑.๒ ปฏิบตั ิตนตามสิทธิหน้าท่ี ชาติได้ และบอก เพลงชาตไิ ด้ และ
พลเมอื งดีของชาติ
ความหมายของ บอกความหมาย
เพลงชาติได้ถกู ต้อง ของเพลงชาติได้
ถูกต้อง
ไมป่ ฏบิ ตั ิตน ตาม ปฏบิ ตั ติ น ตามสิทธิ ปฏิบตั ติ น ตามสิทธิ ปฏิบัตติ น ตามสทิ ธิ
สิทธิและหนา้ ทีข่ อง และหน้าท่ขี อง และหน้าทข่ี อง และหน้าที่ของ
นกั เรียน นักเรียนบางครง้ั นักเรียนบ่อยครง้ั นกั เรยี นสม่ำเสมอ
๔.๑.๓ มคี วามสามัคคีปรองดอง ไมใ่ หค้ วามร่วมมือ ใหค้ วามรว่ มมือ ใหค้ วามร่วมมือ ให้ความรว่ มมือ
รว่ มใจ ในการ รว่ มใจ ในการ รว่ มใจ ในการ รว่ มใจ ในการ
ทำงาน ทำงาน กบั สมาชิก ทำงาน กับสมาชิก ทำงาน กับสมาชิก
ในชั้นเรียนบางครั้ง ในชัน้ เรยี น ในชั้นเรยี นและใน
โรงเรยี นสม่ำเสมอ
บ่อยครง้ั
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๒ ธำรงไวซ้ ่งึ ความเปน็ ชาตไิ ทย
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓)
เข้าร่วมกจิ กรรมที่
๔.๒.๑ เขา้ รว่ มสง่ เสริมสนบั สนุน ไมเ่ ข้ารว่ มกจิ กรรม สรา้ งความสามัคคี เขา้ รว่ มกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกิจกรรมท่ี
สร้างความสามัคคี สร้างความสามคั คี
กจิ กรรม ทส่ี รา้ งความสามัคคี ท่สี รา้ งความ เขา้ รว่ มกิจกรรมที่ ปรองดอง และเป็น ปรองดอง และเปน็
ปรองดอง ทีเ่ ป็นประโยชน์ ต่อ สามัคคี แสดงความเป็น ประโยชน์ต่อ ประโยชนต์ ่อ
โรงเรยี น ชุมชน และสังคม ชาติไทยด้วยความ โรงเรยี น โรงเรยี นและชุมชน
ภาคภมู ิใจบางครง้ั
๔.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกย่อง ไม่เขา้ ร่วมกจิ กรรม เขา้ ร่วมกจิ กรรมที่ เขา้ ร่วมกิจกรรมที่
แสดงความเปน็ แสดงความเป็น
ความเปน็ ชาตไิ ทย ทีแ่ สดงความเปน็ ชาติไทยดว้ ยความ ชาตไิ ทยด้วยความ
ภาคภมู ใิ จบอ่ ยคร้ัง ภาคภูมิใจ
ชาติไทย สมำ่ เสมอ