2
3
บันทึกการให้ความเห็นชอบรายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา
(Self-Assessment Report : SAR) ประจําปกี ารศกึ ษา 2563
โรงเรยี นทีปงั กรวิทยาพัฒน(์ มธั ยมวัดหตั ถสารเกษตร)ในพระราชปู ถัมภ์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร
----------------------------------------------------
โดยที่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงว่าด้วยการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2561 นโยบายปฏิรูป
ระบบการประเมินและประกันคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา และประกาศมาตรฐานการศกึ ษาระดับปฐมวัย
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศูนย์การศึกษาพิเศษ พ.ศ. 2561 สําหรับให้
สถานศึกษาใช้เป็นแนวทางดําเนินงานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา และเตรียมการสําหรับ
การประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งจะทําให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าการจัดการศึกษา
ของสถานศึกษามีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และคงรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานจากการดําเนินงานประกันคุณภาพภายใน
ของสถานศึกษา การจัดทํารายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self-Assessment Report : SAR)
เพื่อนําเสนอผลการพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาในรอบปีที่ผ่านมาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน หน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน และเพื่อเป็นฐานข้อมูลของ
สถานศึกษาในการจัดทําแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาในปีต่อไป และเป็นฐานข้อมูลสําหรับ
รองรบั การประเมินคุณภาพภายนอก
โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร จึงได้จัดทํารายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self-
Assessment Report : SAR) ประจําปกี ารศกึ ษา 2563 ขึน้ เพอื่ ใช้เปน็ ฐานข้อมูลการดําเนนิ งานพัฒนาคุณภาพ
การจดั การศกึ ษาท้งั ในด้านจุดเดน่ จุดท่ีควรพัฒนา โอกาส และขอ้ จํากัด นาํ ไปใช้ประโยชน์ต่อการปรับปรุงและ
พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาในปีถัดไป และได้นําเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
เพื่อให้ความเห็นชอบ ซึ่งคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานได้พิจารณารายงานการประเมินตนเองของ
สถานศึกษา (Self-Assessment Report : SAR) ประจําปีการศึกษา 2563 แล้วมีมติเห็นชอบรายงานการ
ประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self-Assessment Report : SAR) สามารถนําไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้
(นางอัญชลี เกตุบำรงุ ) (นายอัศวิน วงค์นาค)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนทีปงั กรวทิ ยาพฒั น์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พื้นฐาน
(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถมั ภ์ฯ
4
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา
(Self – Assessment Report : SAR)
ปกี ารศึกษา 2563
โรงเรียนทีปงั กรวิทยาพัฒน์(มธั ยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถมั ภ์
สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช เจา้ ฟา้ มหาวชิราลงกรณ สยามมกฎุ ราชกมุ าร
สำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาปทุมธานี
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
ก
คำนำ
รายงานการประเมินตนเองของโรงเรียนทปี ังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
จัดทำสรุปผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่สะท้อนผลการพัฒนาคุณภาพทั้งในด้านคุณภาพผู้เรียน และ
ผลสำเรจ็ จากการบรหิ ารจดั การศกึ ษาท่ีสอดคลอ้ งกบั ระบบการประกันคุณภาพภายในระดบั การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน
และสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประกันคุณภาพภายใน รวมถึงวิเคราะห์จุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา
และระบุ แนวทางการพัฒนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการจัดการศึกษาในรอบปีที่ผ่านมาให้ผู้เกี่ยวข้อง
ได้ทราบระบุทิศทางการพัฒนาความพร้อมของสถานศึกษาในอนาคตและนำเสนอรายงานผลให้ต้นสังกัดและ
สาธารณชนได้ทราบ รวมท้งั เพ่อื เตรยี มความพรอ้ มของสถานศึกษาในการรับการประเมินคุณภาพภายนอก
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษาฉบับนี้ ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน
ของสถานศึกษา ส่วนที่ 2 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา 3 มาตรฐาน ส่วนที่ 3 สรุปผลการดำเนินการ
แนวทางการพฒั นา และความต้องการการช่วยเหลือ และสว่ นที่ 4 ภาคผนวก
ดังนั้นของโรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรม
โอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จึงได้จัดทำ
รายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเปิดเผยต่อสาธารณะชน เพื่อนำไปสู่
การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาและเพื่อรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก และใช้การมีสว่ นร่วม
จากทุกฝ่ายในการบรหิ ารและจัดการศึกษาที่มุง่ ให้การประกันคุณภาพการจัดการเรียนรู้ที่คำนงึ ถึงผลอันเกิดกับ
ผ้เู รียนเป็นสำคญั ที่สุด
รายงานการประเมินตนเองของโรงเรียนทปี ังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ฉบบั น้ีจะเป็นประโยชนต์ ่อการดำเนนิ งานของสถานศึกษา เพ่อื ใหไ้ ดม้ าซ่งึ รายงานประจำปขี องสถานศึกษา (SAR)
ที่มีคุณภาพ สามารถนำไปใช้เป็นฐานข้อมูลในการยกระดับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้มีประสิทธภิ าพและ
เป็นทีย่ อมรับจากผู้ท่ีเกยี่ วข้องตอ่ ไป
โรงเรยี นทีปังกรวิทยาพฒั น์(มัธยมวดั หตั ถสารเกษตร)ในพระราชูปถมั ภ์
สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช เจา้ ฟ้ามหาวชริ าลงกรณ สยามมกุฎราชกมุ าร
สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาปทมุ ธานี
เมษายน 2564
ข
สารบญั
หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
สว่ นท่ี 1 บทสรปุ สำคัญผบู้ รหิ าร 1
ส่วนที่ 2 ผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา 12
1. ข้อมลู พ้ืนฐานของสถานศึกษา 12
2. ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา 34
มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผเู้ รยี น 34
มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ 51
มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่เี น้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญ 62
3. สรุปผลการดำเนินการ แนวทางการพัฒนา และความต้องการการชว่ ยเหลอื 70
4. ภาคผนวก 76
คำสั่ง โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ 77
160/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานตามมาตรฐาน เพื่อการประเมนิ
คุณภาพภายในสถานศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา
(SAR) ประจำปกี ารศึกษา 2563
ประกาศ โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เรื่อง
การใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการ
ประกันคุณภาพภายในของสถานศกึ ษา 89
ประกาศ โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เรื่อง
การกำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษา 93
ขั้นพ้ืนฐาน เพ่ือการประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษา
ผลการประเมนิ ตนเองตามมาตรฐานการศึกษา ระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน โรงเรยี น 96
ทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรม 98
โอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชริ าลงกรณสยามมกุฎราชกมุ าร ปีการศึกษา 2563
QR Code เอกสารหลกั ฐานข้อมลู สำคญั และเอกสารอา้ งองิ
ส่วนที่ 1
บทสรุปสำคญั ผูบ้ ริหาร
บทสรุปสำคัญผูบ้ ริหาร
ผู้จดั ทำ : ผูบ้ ริหารสถานศึกษา
โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
เจา้ ฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ใชอ้ ักษรย่อ ท.ป.๕ สปี ระจำโรงเรยี น สีฟา้ – ขาว ปรัชญาโรงเรียน
มีวินัย ใฝ่วิชา พัฒนาชุมชน คติพจน์โรงเรียน “ สุวิชาโน ภวัง โหติ ” ผู้รู้ดีเป็นผูเ้ จริญ วิสัยทัศน์ เทิดทูนสถาบนั
มีคุณภาพ มาตรฐานสากล เอกลักษณ์ โรงเรียนเศรษฐกิจพอเพียง อัตลักษณ์ สืบสานงานพระราชดำริ ตั้งอยู่ท่ี
เลขที่ 34 หมู่ 8 ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี รหัสไปรษณีย์ 12120 สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 4 เปิดสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ปัจจุบันโรงเรียนทีปังกรวิทยา
พัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ฯ จัดการเรียนการสอนทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและ
มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มีนักเรียนจำนวน 2,270 คน (10 มถิ นุ ายน 2563) โรงเรียนได้มีการพฒั นาในทุก ๆ ด้าน
อย่างต่อเนือ่ ง มีสมาคมผ้ปู กครองและครู ศษิ ยเ์ ก่า องค์กรชุมชน องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ องคก์ รเอกชน และ
หน่วยงานราชการต่าง ๆ ให้การสนับสนุน มีพันธกิจ ด้านเทิดทูนสถาบันคือปลูกจิตสำนึกให้นักเรียน รักชาติ
ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความรักชาตสิ ามัคคี อยู่ดีมีสุข ตามแนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และสืบสาน
งานพระราชดำริ ด้านมีคุณภาพ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณภาพ จริยธรรมและคุณธรรมและคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ตามหลักสูตร พัฒนาระบบบริหารจัดการของสถานศึกษาให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพที่ส่งผลต่อ
ผู้เรียนตามมาตรฐานสากล และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก จัดและพัฒนาหลักสูตรอย่าง
หลากหลาย ตรงตามศกั ยภาพของผู้เรยี นเทยี บเคียงมาตรฐานสากล สง่ เสรมิ ศกั ยภาพทางวิชาการ และจริยธรรม
พัฒนาสิ่งแวดล้อมใหส้ ะอาด สวยงาม ปลอดภัย มีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ด้านมาตรฐานสากล ส่งเสริม
บุคลิกภาพให้ผู้เรียน มีความมุ่งมั่น ขยันใฝ่เรียน ตระหนักใส่ใจสังคมภายนอก สร้างภูมิทัศน์ สิ่งแวดล้อม
บรรยากาศ ให้เอื้อต่อการค้นคว้า ศึกษาทั้งภายในและภายนอก พัฒนาสื่อเทคโนโลยี และความรู้เพื่อการจัด
การเรียนการสอน
สรุปผลการประเมนิ คุณภาพภายในสถานศกึ ษา ปีการศึกษา 2563
กำลังพฒั นา ปานกลาง ดี ดีเลิศ ยอดเยีย่ ม
ระดบั การศึกษาขัน้ พื้นฐาน
มาตรฐาน/ตัวบง่ ชี้ ระดบั คุณภาพ
มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผเู้ รยี น ดเี ลศิ
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ดเี ลศิ
มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเี่ นน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ
ยอดเยยี่ ม
2
สรุปผลการดำเนนิ การในภาพรวมของแต่ละมาตรฐาน
ผลจากการดำเนินการมาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียนมีระดับคุณภาพดีเลิศ โดยความสามารถ
ในการอ่าน การเขียนการสื่อสาร และการคิดคำนวณ รายวิชาภาษาไทย วิชาคณิตศาสตร์ และวิชา
ภาษาต่างประเทศ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-6 ในปีการศกึ ษา 2563 ร้อยละ 77.77 โดยสถานศึกษาไดจ้ ัดทำหลกั สูตร
สอนวชิ าเพม่ิ เติม ในรายวชิ าเสริมสร้างทักษะภาษาไทย ได้แก่ เสริมทกั ษะการอ่าน 1-2 เสริมทักษะการพูด 1-2
เป็นตน้ และไดจ้ ัดเสรมิ สรา้ งทกั ษะในรายวิชาภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ภาษาอังกฤษฟังพูด 1-6 และภาษาองั กฤษ
อา่ น-เขยี น 1-6 ให้นกั เรียนเรียนปรบั พน้ื ฐานเพ่อื คดั กรองในกลุ่มที่จะส่งเสรมิ หรอื พัฒนา ผู้เรียนเข้ารว่ มโครงการ
รักการอ่าน เพื่อที่จะได้อ่านเขียนและสรุปใจความสำคัญ เสริมทักษะภาษาอังกฤษกับครูชาวต่างประเทศ
อยา่ งนอ้ ย สปั ดาหล์ ะ 1 คาบเรยี นทกุ ระดบั ชน้ั เพ่ือสง่ เสริมทักษะการสอื่ สาร สนทนา ภาษาอังกฤษ และวชิ าเลอื ก
เพิ่มเติม การจัดกิจกรรมส่งเสริมชุมนุมรักการอ่าน-เขียน ในวิชาภาษาไทย และวิชาภาษาอังกฤษ ในรายวิชา
คณิตศาสตร์ มีการจัดกิจกรรมสอนเสริม การติวเพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศ และอัจฉริยภาพทั้งวิทยากร
ภายในและภายนอก มีการจัดทำโครงงานคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนที่มีความสนใจ ให้ผู้เรียนได้เข้าร่วม
กิจกรรมสอนซ่อมเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษโดยวิทยากรภายนอกในวิชาคณิตศาสตร์และ
วิชาภาษาอังกฤษ ตามโครงการพฒั นาศกั ยภาพนกั เรียนที่มคี วามสามารถพิเศษ ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
(Gifted Program) เพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนากระบวนการความรู้ของนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้บรรลุ
ตามจดุ หมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 จัดโครงการการเรียนปรับพื้นฐาน
นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 และมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ประจำปกี ารศึกษา 2563 เพอ่ื เป็นการปรับพ้นื ฐานให้ผู้เรยี น
มีทกั ษะในการคิด อ่าน ฟงั ดู พดู เขยี น มคี วามรแู้ ละทักษะที่จำเปน็ ตามหลกั สตู ร ในดา้ นความสามารถในการคิด
วิเคราะห์คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการแก้ปัญหาในระดับดีขึ้นไป
ร้อยละ 76.68 โดยสถานศกึ ษาไดจ้ ัดทำผู้เรียนไดเ้ รียนรู้แบบ Active Learning ในทุกรายวชิ า ด้วยกระบวนการ
สอนที่หลากหลาย เชน่ การสอนทใี่ ชก้ ารทดลอง การออกแบบช้นิ งาน บูรณาการแบบโครงงาน บูรณาการเรียน
การสอนโดยใช้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และสะเต็มศึกษาในทุกระดับชั้น ส่งเสริมให้ครูกลุ่มสาระการ
เรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสม
กับเนือ้ หาตามมาตรฐานหลกั สตู ร ยงั ไดจ้ ัดให้มีกิจกรรมนอกหลกั สตู รท่ีสง่ เสริมพัฒนาให้ผู้เรียนให้มีความสามารถ
ในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวจิ ารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคดิ เห็น และแก้ปัญหา มีการจัดกิจกรรม
ที่ส่งผลเชิงประจักษ์สนับสนุนผลการประเมิน ได้แก่ รางวัลในการแข่งขันทักษะความสามารถทางวิชาการ
โรงเรียนคาร์บอนต่ำสู่ชุมชน กิจกรรมชุมนุมห้องเรียนสีเขียว กิจกรรมการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ภาษาไทย
กล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ การออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ด้วยคอมพิวเตอร์ และการสร้างเกมสร้างสรรค์
จากคอมพิวเตอร์ เรียนสามารถจัดทำโครงงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำงานร่วมกันเป็นทีม
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ผู้เรียนได้เข้าร่วมโครงการกิจกรรมสัปดาห์
วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปีการศึกษา 2563 เป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีของผ้เู รยี น ในดา้ นความสามารถในการสร้างนวตั กรรม ผู้เรียนสามารถสรา้ งนวตั กรรมได้ในระดับดีข้ึน
ไปร้อยละ 92.82 โดยสถานศึกษาได้จัดทำการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนผ่านงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียนที่ให้ผู้เรียนที่ร่วมกันสร้างนวัตกรรม “หนึ่งห้องเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ที่ให้ผู้เรียนทุกคนร่วมกันสร้าง
3
ชนิ้ งาน และอธิบาย หลักการ แนวคดิ ขั้นตอน และปญั หาอปุ สรรค ของการทำงานได้ โดยมีกิจกรรมร่วม ได้แก่
โครงงานวทิ ยาศาสตร์ โครงงานคณติ ศาสตร์ โครงงานการงานอาชพี คอมพวิ เตอร์ การศกึ ษาคน้ คว้าองค์ความรู้
จนทำให้ผู้เรียนทุกระดับชั้นสร้างผลงานและชิ้นงานตามความมุ่งหมายของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
โดยมีห้องทีส่ ่งผลงานจำนวน 67 หอ้ งเรยี น จากท้ังหมด 67 หอ้ งเรยี น คิดเป็นร้อยละ 100 ของนกั เรียนทั้งหมด
นักเรียนร่วมกันทำโครงงานคุณธรรมที่เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา ในด้านพฤติกรรมการเรียนรู้ที่เกิดข้ึน
ในห้องเรียนของตนเอง และมีการนำเสนอแนวคิด หลักการ วิธีการดำเนินงาน และประโยชน์จากการ ผู้เรียน
สามารถคิดค้นนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ภายในสถานศึกษาและภายนอกสถานศึกษา เช่น
หนังสั้นคุณธรรม การสร้างสมการทำนายเวลาในการนึง่ ข้าวเหนียว ผู้เรียนไดเ้ ขา้ รว่ มโครงการหน้ากากอนามยั
ทำเองได้ สู้ภัย COVID-19 เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
COVID-19 ด้วยตนเองและลดภาระค่าใช้จา่ ยในการซ้ือหน้ากากอนามยั ในดา้ นความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารนักเรียนมีคุณภาพระดับดีขึ้นไปร้อยละ 88.18 โดยผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านรายวิชา
คอมพิวเตอร์ทุกรายวิชา ทุกระดับชั้นทุกคน ได้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในห้องสมุดที่จัดไว้ให้ในมุ มสืบค้น
สามารถใช้อินเทอร์เน็ตของโรงเรียนฟรี มีระบบการยืมคืนหนังสือและอ่านหนังสือออนไลน์ผ่าน Applications
DP5 สามารถดูผลการมาเรียน ขาด มาสายของ และดูคะแนนพฤติกรรมของตน ตลอดจนการดูผลประเมิน
ต่าง ๆ ของตนเอง ในด้านความฉลาดทางอารมณ์ SDQ และความฉลาดทางสงั คม EQ ผ่านเว็บไซต์ 21ess.net
ผู้เรียนสามารถใช้เทคโนโลยีในการนำเสนองานในรูปแบบต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น การสร้างไลน์กลุ่ม เฟชบุ๊ค
กลุ่ม เพื่อติดตามงานในการเรียนการสอนในแต่ละวันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการเรียนรู้ ในด้าน
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรอยู่ในระดับดีขึ้นไป 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้อยู่ในระดับดีเลิศ
โดยสถานศึกษาได้จัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษาและการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริงของผู้เรียน
ในด้านการมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนดระดับยอดเยี่ยม ร้อยละ 93.03 โดยผู้เรียน
สามารถปฏิบัติตามค่าที่นิยมที่ให้เกิดกับผู้เรียนคือเป็น “คนดีอัญมณีทีปังกร” ไม่เอารัดเอาเปรียบ ช่วยเหลือ
ซง่ึ กนั และกัน อยดู่ ้วยกนั อยา่ งเป็นสุข นกั เรยี นมคี วามรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ เข้ารว่ มงานพธิ ีสำคัญ
ต่าง ๆ พธิ ีถวายพระพรชยั มงคลกับพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทกุ พระองค์ สนองงานพระราชดำริ
อย่างตอ่ เน่ือง ตลอดจนเข้าร่วมงานทางศาสนาอยู่เสมอ เช่น กจิ กรรมถวายพระพรชัยมงคล กจิ กรรมปลูกต้นไม้
มงคลเฉลมิ พระเกียรติ เขา้ รว่ มกิจกรรมพิธเี ข้าประจำกองและประดับอินทรธนู ลูกเสือ เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่
ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดความสามัคคี เสริมสร้างคุณธรรม ความมีระเบียบมีวินัยเข้าใจที่ดีต่อกัน รวมท้ัง
สอดคล้องกบั นโยบายที่จะเทิดทูลสถาบนั ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตรยิ ์ เข้าร่วมกจิ กรรมพิธีประดับเข็มตรา
สัญลักษณ์ ประจำปีการศึกษา 2563 ในด้านความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทยเป็นตามเกณฑ์ร้อยละ
91.29 โดยผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนในวันสำคัญต่าง ๆ เช่น ประเพณีการจุดลูกหนู ประเพณีการ
แขง่ ขนั เรือยาว ประเพณลี อยกระทง งานทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ผู้เรียนได้ฝึกรำวงมาตรฐานในทกุ ระดับชั้น และทกุ
คน เพื่อเป็นการปลูกฝังให้ผู้เรียนช่วยกันรักษ์ และรักษาความภาคภูมิใจในความเป็นไทยให้คงอยู่ ได้เรียนรู้
ดนตรีไทย จนสามารถนำมาสร้างวงดนตรีลูกทุ่ง “รวงผึ้ง” โดยมาการผสมผสานการขับร้อง เล่นดนตรีไทย
โดยมีการผสมผสานดนตรีสากล และการร่ายรำประกอบเพลงและนำวงเข้าร่วมกวดในการแข่งขันทักษะ
ทางวิชาการและ Best practice โรงเรียนในกลุ่มพระราชูปถมั ภ์ ได้เข้าร่วมพิธีไหว้ครู ประจำปี 2563 กิจกรรม
วันอาสาฬหาบูชาและวันเข้าพรรษา ตามโครงการสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย ได้เข้าร่วมกิจกรรมวันแม่
4
เป็นการรำลึกถึงพระราชกรณีกจิ ของพระบาทสมเด็จพระนางเจา้ สริ ิกิติ์ พระบรมราชินนี าถ พระบรมราชนนพี นั ปี
หลวง และได้รำลึกถึงพระคุณของแม่ผู้ให้กำเนิด ในด้านการยอมที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและความ
หลากหลายเป็นตามเกณฑ์ร้อยละ 99.60 โดยผู้เรียนสามารถยอมรับและอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและ
หลากหลายของบุคคลบนพื้นฐานของสังคมประชาธิปไตยในโรงเรยี นและเปน็ สงั คมปลอดการเหยียด (Bullying)
ผู้เรียนได้เข้ารว่ มโครงการลูกเสือต้านทุจริต (ปลูกลูกเสือ “ช่อสะอาด”) และโครงการลูกเสอื ต้านภัยยาเสพติด
ในสถานศึกษา ตามแผนปฏิบัติการประจำปี 2563 เพื่อใช้กระบวนการลูกเสือขยายผลไปยังกลุ่มผู้เรียน
ที่เป็นลูกเสือ เนตรนารี ให้เรียนรู้และยึดปฏิบัติในการดำรงชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการป้องกันภัยอันตราย
อันเกิดจากยาเสพติด และในด้านสขุ ภาวะทางร่างกายและจิตสังคมเป็นไปตามเกณฑ์ร้อยละ 95.21 โดยผู้เรียน
ไดร้ ับการตรวจสขุ ภาพประจำปี แบบรายงานสมรรถภาพทางร่างกาย และสมุดสรุปผลการตรวจสขุ ภาพประจำปี
จากหนว่ ยงานของโรงพยาบาล ผเู้ รียนทุกคนไดท้ ำการทดสอบ EQ ของตนเอง โดยผา่ ยงานแนะแนวเป็นประจำ
ผู้เรียนได้รับการให้คำปรึกษาและติดตามพฤติกรรมการเรยี น พร้อมหาแนวทางการแก้ปัญหาและปอ้ งกันความ
เสี่ยงที่ไม่เหมาะสมที่อาจจะเกดิ ขึ้น ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการโณงเรียนส่งเสริมสุขภาพ
ตามวนั และเวลาที่สถานศึกษากำหนดตลอดปกี ารศึกษา
ผลจากการดำเนินการมาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารจัดการมีระดับคุณภาพดีเลิศ
โดยสถานศึกษามีเปา้ หมาย วสิ ยั ทัศนแ์ ละพนั ธกจิ สอดคล้องกบั สภาพ ปัญหาความตอ้ งการพฒั นาของสถานศกึ ษา
นโยบายการปฏิรูปการศึกษา ความต้องการของ ชุมชน ท้องถิ่น และสอดคล้องกับ แนวทางการปฏิรูป
ตามแผนการศกึ ษาชาติ และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสงั คม และสถานศกึ ษายงั ได้ความรว่ มมอื จากผู้ปกครอง
คณะกรรมการสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา และนักเรียน กำหนดแนวทางในการจัดทำ
แผนการพัฒนาคุณภาพการจัดการศกึ ษา และแผนปฏิบัติการประจำปีของสถานศึกษา มแี ผนกลยทุ ธ์ที่ใช้ในการ
ขับเคลื่อนเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจ สู่การปฏิบัติโดย จัดทําเป็นแผนกลยุทธ์ระยะเวลา 3 ปี
(2561 - 2563) และแผนปฏิบัติการประจําปี มีการบริหารจัดการคุณภาพการศึกษาด้วยรูปแบบการบริหาร
จัดการ RUANGPHUNG Model ภายใต้วิสัยทัศน์ “เทิดทูนสถาบัน มีคุณภาพ มาตรฐานสากล” กระบวนการ
ตรวจสอบคุณภาพ PDCA มีระบบบริหารจัดการคุณภาพที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อคุณภาพ
ตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาโดยความร่วมมือของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีการนำข้อมูลมาใช้
ในการปรับปรุง พัฒนางานอย่างต่อเนื่อง โดยสถานศึกษามีครูตรงตามสาขาวิชาเอก และมีครบตามเกณฑ์
มโี ครงสร้างการบรหิ ารงานท่ีชัดเจน มุ่งเนน้ คุณภาพและประสิทธิภาพในการปฏบิ ัตงิ าน สอดคล้องกับเป้าหมาย
วิสัยทัศน์และพันธกิจ มีหลักสูตรสถานศึกษาและบริการเสริมหลักสูตร เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียน
ทุกกลมุ่ เป้าหมายและสอดคล้องกับความถนัดและความตอ้ งการของผู้เรยี น การดำเนนิ งานของกลุ่มงาน 4 กลุ่ม
มคี วามคลอ่ งตัวครอบคลุม ทุกฝ่ายมสี ว่ นรว่ ม ครผู สอนทุกคนผ่านการประเมินครบทุกมิติ มีระบบดูแลช่วยเหลือ
นักเรียน โดยได้มีการพัฒนาระบบ Best school เพื่อให้เอื้อต่อการบริหารจัดการผู้เรียนโดยผ่านเว็บไซต์
21ess.net มีระบบบันทึกผลโครงการ การประเมินคุณภาพโครงการ การจัดสรรงบประมาณในการดำเนิน
โครงการ มีระบบบนั ทกึ ผลการเรียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ และประเมินผลการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน
ในระบบ SGS เป็นการให้ครูบันทึกผลการเรียนออนไลน์ และให้นักเรียนหรือผู้ปกครองสามารถดูผลการเรียน
ออนไลน์ได้ มีการสร้างเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยโรงเรียนเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผน การพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปได้อยา่ งมีคุณภาพ
5
รับทราบและรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา มีการจัดทำคำสั่งปฏิบัติหน้าของสถานศึกษา เพื่อให้บุคลากร
ในสถานศึกษา ได้รับทราบบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบตนเอง มีบุคลลากรในโรงเรียนได้รับการพัฒนาและ
เลื่อนวิทยฐานะ อย่างต่อเนื่องทุกปี มีการจัดเก็บข้อมูลในแหล่งที่เชื่อถือได้ที่เป็นระบบและมีการสำรองข้อมลู
เพอ่ื ปอ้ งกันการสญู หายอยรู่ ะบบคราวด์ของโรงเรยี น ในด้านดำเนนิ งานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบ
ด้านตามหลกั สูตรสถานศึกษาและทกุ กลุ่มเป้าหมาย มกี ารดำเนินงาน คือ โรงเรียนได้เปดิ หลักสูตรที่หลากหลาย
และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมเพิ่มเติม 3 หลักสูตร คือหลักสูตรการจัดการค้าธุรกิจสมัยใหม่ร่วมกับ
CP All หลักสูตรธุรกิจค้าปลีก และหลักสูตรศิลป์-รัฐศาสตร์ ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอย่าง
ต่อเนื่องทั้งห้องเรียนปกติ และห้องเรียนสำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทย์ -คณิต (Gifted
Program) โดยจัดแผนการเรียนดังนี้ แผนการเรียน วิทย์-คณิต ศิลป์-คำนวณ ศิลป์-ภาษา ศิลป์-ทั่วไป
ศิลป์-รัฐศาสตร์ งานช่าง การจัดการธุรกิจคา้ สมยั ใหม่ ธุรกิจค้าปลีก เพื่อให้สอดคล้องกบั นโยบายความต้องการ
ของชมุ ชนและท้องถนิ่ โดยจัดแผนการเรียนท่ีเน้นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ และ
ภาษาจีน สังคม คอมพิวเตอร์ การงานอาชีพ และศิลปะ และห้องเรียนพิเศษ วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่หลากหลายและต่อเนื่อง เพื่อให้นักเรียนได้รู้จักการแสวงหาความรู้ ความสามารถ
กล้าแสดงออก ปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง ภายในโรงเรียน ได้แก่ ตลาดนัดนักธุรกิจสมัยใหม่ กิจกรรมมหกรรม
TO BE NUMBER ONE DAY แนะแนวอาชีพ การนำเสนอโครงงานคุณธรรม กีฬาสีภายใน กิจกรรม
วันวิทยาศาสตร์ เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนได้นำเสนอผลงานและแสดงความสามารถ และจัดกิจกรรมภายนอก
สถานศึกษา ได้แก่ การกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และผู้บำเพ็ญประโยชน์
มีหลักสตู รการบูรณาการจัดการเรียนการสอนให้ครบทกุ กลุ่มสาระการเรียน และครบทกุ ระดับชน้ั ให้ผู้เรียนสร้าง
ชิ้นงานเกิดการเป็นนวัตกรรมทางการเรียนรู้ในการบูรณาการหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) กับงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนจนโรงเรียนได้เป็นต้นแบบ
ในการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในจังหวัดปทุมธานี และได้รับพระราชทานป้ายงานสนอง
พระราชดำริ ในงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ
รตั นราชสุดาฯ ในวันท่ี 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 มหี ลกั สูตรทหี่ ลากหลายให้นักเรียนเลอื กเรยี นในรายวิชาเลือก
เพิ่มเติม หรือรายวิชาเลือกเสรีในวิชา Shopping ในรายวิชาศิลปะ การงานอาชีพ สุขศึกษาและพลศึกษา และ
ที่ให้นักเรียนสามารถเลือกรายวิชาเรียนเองได้ตามความถนัดและความสนใจของผู้เรียน มีค่าเป้าหมายของ
การพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียนโดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นไม่ต่ำกว่าระดับ 2.00 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและ
วัฒนธรรม และกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ และให้ผเู้ รียนมีผลการเรียนไม่ต่ำกว่า 2.50 ในกลุ่มสาระ
การเรยี นรศู้ ลิ ปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา และกลุ่มสาระการงานอาชพี ในด้านการพัฒนาครู
และบุคลากรใหม้ คี วามเชีย่ วชาญทางดา้ นวิชาชีพโดยสถานศึกษามีการพัฒนาครแู ละบคุ ลากรใหม้ คี วามเชี่ยวชาญ
ทางวิชาชีพร้อยละ 90.32 โดยครูมีการพัฒนาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง ด้วยการเข้าอบรม ประชุม สัมมนา ไม่น้อย
กว่าปีการศึกษาละ 20 ชัว่ โมง คดิ เปน็ ร้อยละ 92.39 และนำผลมาพัฒนาการจดั การเรียนการสอน คิดเปน็ รอ้ ยละ
100 มีการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้โดยการจัดทำสื่อการสอน และจัดแหล่งการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียน
เป็นสำคัญโดยสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา และส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการ สถานศึกษาได้ทำการ
นิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารและการจัดการศึกษาที่เหมาะสมเป็นระบบและต่อเนื่อง
6
เปิดโอกาสใหผ้ เู้ กี่ยวข้อง มีสว่ นรว่ มในการจดั การศึกษา สถานศกึ ษาไดก้ ำหนดให้ครูได้สร้างชุมชนแหง่ การเรียนรู้
ทางวชิ าชีพ PLC เพือ่ แก้ปัญหาผูเ้ รยี นจนครทู ุกคนสามารถมวี ิธีหรอื กระบวนการแก้ปญั หาทเ่ี กิดขน้ึ ในการจัดการ
เรียนการสอนครบทุกคน รวมแล้วไม่น้อยกว่า 50 ชั่วโมง คิดเป็นร้อยละ 89.24 ครูได้จัดทำผลงานวิจัย
ในช้ันเรียน ภาคเรียนละ 1 เร่อื ง รวม 1 ปีการศึกษา ครูทำผลงานวจิ ัยในชน้ั เรยี นจำนวน 2 เรอื่ ง คิดเป็นร้อยละ
100 ในด้านการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพร้อยละ
62.72 โดยสถานศึกษามกี ารพัฒนาสถานทีแ่ ละสิ่งแวดลอ้ ม กิจกรรมปรับภูมิทัศน์ กิจกรรมปรับสภาพแวดลอ้ ม
ทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนอย่างต่อเนื่องหลากหลายที่ ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน สวนรวงผึ้ง ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมจีน ห้องวงดนตรีลูกทุ่ง “รวงผึ้ง”
ห้องศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ห้องเรียนสีเขียว ห้องดนตรีไทย และห้องนาฏศิลป์ สถานศึกษา
ดำเนินการจัดการให้ห้องเรียนทุกห้องเป็นห้องเรียนติดแอร์ สถานศึกษาได้จัดทำโครงการปรับปรุงระบบน้ำ
บริเวณสวนหย่อมหนา้ หอประชมุ รวงผงึ้ โครงการปรับปรงุ ซอ่ มแซมบริเวณโรงอาหาร โครงการปรับปรุงซ่อมแซม
อาคารสถานที่ตามนโยบาย โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณอาคาร 2 ตามนโยบายเร่งด่วน โครงการปรับปรุง
จอรับภาพห้องอัญมณีทีปังกร โครงการปรับปรุงเครื่องเสียงหอประชุมรวงผึ้ง และโครงการจัดเตรียมสถานที่
ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ทำให้โรงเรียนมีอาคารสถานที่ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ในด้านการจัดระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ร้อยละ 78.93 สถานศึกษา
มีการจัดระบบสารสนเทศที่สามารถสืบค้นและเป็นระบบ และเผยแพร่ต่อสาธารณชน ได้แก่ เว็บไซต์
www.hs.ac.th, เว็บไซต์กลุ่มบริการวิชาการ เว็บไซต์งานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน FB : โรงเรียนทีปังกรวิทยา
พัฒน์(มัธยมวดั หัตถสารเกษตร)ในพระราชปู ถัมภ์ฯ, FB : งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนทีปังกรวิทยา
พัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ฯ และเว็บไซต์ gg.gg/dp5botany ซึ่งเป็นช่องทางในการ
เผยแพรข่ ่าวสารของโรงเรียน และการแสดงความคิดเห็นของผู้ปกครอง ครู นกั เรียน ชมุ ชน และผ้ทู ีม่ คี วามสนใจ
อืน่ ๆ มีระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น ผา่ นระบบ Best school โดยไดม้ ีการพัฒนาระบบเพือ่ ใหเ้ ออื้ ต่อการบรหิ าร
จัดการผู้เรียนโดยผ่านเว็บไซต์ 21ess.net สถานศึกษาขอบัญชีอีเมล์ของ @obecmail.org ให้กับครูทุกคน
คิดเป็นร้อยละ 100.00 ในการจัดตั้งทีมผ่าน Microsoft Tames ในการจัดการเรยี นการสอน จัดประชุมได้มาก
ถึง 250 คนต่อคู่สาย สามารถสร้างสื่อการเรยี นการสอน การทดสอบนักเรียนออนไลน์ การนัดหมายในการจัด
กระบวนการทำงานต่าง ๆ รวมทั้งการจัดตั้งให้ครูร่วมกันแก้ปัญหา ตั้งกลุ่ม PLC ได้อีกด้วย ระบบบันทึก
ผลโครงการ การประเมินคุณภาพโครงการ การจัดสรรงบประมาณในการดำเนินโครงการระบบบันทึกผลการ
เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และประเมินผลการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระบบ SGS เป็นการให้ครู
บันทึกผลการเรียนออนไลน์ และให้ผู้เรียนหรือผูป้ กครองสามารถดูผลการเรียนออนไลนไ์ ด้ สถานศึกษาจัดการ
เรียนการสอนออนไลน์ โดยการใช้แพลตฟอรม์ ดิจิตอลตา่ ง ๆ ในการเรียนออนไลน์ในสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของเชอื้ ไวรัสโคโรนา่ 2019 (Covid-19)
ผลจากการดำเนินการมาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
มีระดับคุณภาพยอดเยี่ยม โดยครูทุกคนมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้น
กระบวนการคดิ การปฏบิ ตั จิ รงิ คิดเป็นร้อยละ 100 โดยภายใตใ้ นแผนการจัดการเรยี นรู้ มีการจดั กิจกรมทเ่ี น้นการ
ลงมือปฏิบัติ Active learning ด้วยวิธีการที่หลากหลาย สำหรับห้องเรียนที่มีความจำเป็นพิเศษครูผู้สอน
มีการกำหนดรูปแบบการจัดการเรียนรูเ้ ฉพาะผูท้ ี่มีความจำเป็นพิเศษ ครูผู้สอนมีการกำหนดรปู แบบการจัดการ
7
เรียนรู้และต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ผลการประเมินคิดเป็นร้อยละ 84.73 โดยมีการจัดทำแผนการจัด
การศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program : IEP) ที่มีการกำหนดแนวทางในการจัดการ
เรียนรู้ที่สอดคล้องกับความจำเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับนกั เรียนแต่ละคน ครูทุกคนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้
ตรงตามมาตรฐานตวั ชีว้ ัดของหลกั สูตรสถานศึกษา ครจู ดั การศึกษาเรียนรว่ มในโรงเรียนไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ
และนักเรียนไดร้ ับการฝึกทกั ษะ แสดงออก การแสดงความคิดเห็น สรุปองค์ความรู้ นำเสนอผลงาน และสามารถ
อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ นักเรียนได้ฝึกทักษะแสดงออกแสดงความคิดเห็น สรุปองค์ความรู้ ผ่านการนำเสนอ
ผลงานนวัตกรรม ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวันได้ ผลการประเมินคิดเปน็ ร้อยละ 86.67 โดยการ
จัดการเรียนการสอนตามแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล ในรายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
(Independent Study: IS) ซึง่ เป็นการจดั การเรียนการสอนท่ีมีเนื้อหาสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั สภาพความพร้อม
และจดุ เน้นตามบริบทของสถานศึกษา ในการพัฒนาผเู้ รยี นสูม่ าตรฐานสากล นอกจากนยี้ ังมีการสอน แบบบรู ณา
การโดยใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น ในด้านใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการ
เรียนรู้ โดยครูใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอ้ือต่อการเรียนรู้จากการนิเทศ สำรวจข้อมูลและ
การสัมภาษณ์การสอนของครูในสถานศึกษามีการใช้สื่อเทคโนโลยี คิดเป็นร้อยละ 84.59 การใช้ภูมิปัญญา
ท้องถิ่นมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนร้อยละ 79.78 และการสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ด้วย
ตนเองจากสื่อที่หลากหลายร้อยละ 84.52 ในภาพรวมการสื่อเทคโนโลยีสารเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการ
เรียนรู้ ร้อยละ 84.59 ครูมีการจัดทำข้อสอบออนไลน์ในระบบ 21ess.net เพื่อเสริมทักษะในการทำข้อสอบ
ออนไลน์ในระบบ 21ess.net สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวัดผลประเมินผลจากการจัดการเรียนการสอน
ออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ครูใช้สื่อออนไลน์ และเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการเรียนรู้การสอนรวมถึงการออก
ข้อสอบออนไลน์ และการประเมินการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ด้วยการสร้างห้องเรียนออนไลน์ โดยใช้
Microsoft Tame, Google Classroom, Zoom เป็นต้น ครูมที ักษะการใช้ส่ือและเทคโนโลยมี าใช้ในการจัดการ
เรียนรู้ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ โปรเจคเตอร์ การใชง้ านโปรแกรมพน้ื ฐาน Microsoft (Word, Excel, PowerPoint,
365Microsoft) Google Application การใช้ Email : @obecmail.org ซึ่งมี Applications ในการดำเนินการ
ได้แก่ Microsoft (Tame เป็นการใชใ้ นการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ การอบรม การประชุมได้มากถงึ 250
คน, Forms ใช้การออกข้อสอบออนไลน์ หรือการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ, Power BI เป็นการสร้าง
แผนภมู กิ ราฟ นำเสนองานต่าง ๆ ที่มีประสทิ ธภิ าพ) และยงั มกี ารนำโปรแกรม SGS มาใชใ้ นการประเมินผลการ
เรยี นของผ้เู รียนในระบบออนไลน์ ครมู กี ารใช้ห้องปฏบิ ัติการต่าง ๆ ในการจดั การเรียนการสอนในทุกกลุ่มสาระ
การเรียนรู้ ได้แก่หอ้ งปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ภาษาไทย ศิลปะภาษาต่างประเทศ ศูนย์การเรียนรู้
ภาษาจีน ห้องจริยธรรม ห้องปฏิบตั ิงานการงานอาชีพ ห้องคหกรรม ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงยิม ห้องงาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน สวนรวงผึ้งและ
ห้องศูนย์เพ่ือนใจ TO BE NUMBER ONE เป็นต้น ในด้านการมีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ครูมีการทำ
ความรู้จักกับผู้เรีนเป็นรายบุคลและตอบสนองได้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนร้อยละ 87.53
ครูมีกิจกรรม/โครงการที่ส่งเสริมการบริการจัดการชั้นเรียนเชิงบวกร้อยละ 86.45 ครูมีบริหารจัดการชั้นเรียน
ให้มบี รรยากาศการเรยี นรู้อย่างมีความสุขร้อยละ 87.31 โดยภาพรวมการบริหารจดั การช้นั เรียนเชิงบวกร้อยละ
87.10 ครูแต่ละคนได้กำหนดขอบเขต ระเบียบและกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน บอกความคาดหวังของครูให้นักเรียน
ทราบ อธิบายเหตุผลให้นักเรียนฟัง และส่งเสริมให้นักเรียนคิดเป็น รู้จักการต่อรอง ครูเน้นการจัดการเรียน
8
การสอนโดยให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก โดยให้เด็กรักครู ครูรักเด็ก และสามารถเรียนรู้ร่วมกัน โดยผ่าน
กิจกรรมที่หลากหลาย อาทิเช่น โครงการห้องเรียนสีขาว กิจกรรมโครงงานคุณธรรม กิจกรรม
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น กิจกรรมจิตอาสา ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน กจิ กรรม TO BE IDOL คนเกง่ คน
ดี TO BE NUMBER ONE เป็นต้น ครูมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สื่อการเรียนการสอนที่มีความ
หลากหลาย มีเทคนิคการสอนท่ีเขา้ กับลักษณะความแตกตา่ งกับผู้เรียนแต่ละคน และจัดกิจกรรมการเรียนการ
สอนให้นักเรียนได้เรียนอย่างมีความสุขครูได้รับการนิเทศการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
เพื่อสง่ เสริม แก้ปัญหา และพฒั นาการจดั การเรยี นรู้ให้มีประสิทธิภาพ ในดา้ นการตรวจสอบและประเมินผู้เรียน
ได้อย่างเป็นระบบและนำผลมาพัฒนาผู้เรียน การประเมินผู้เรียนจากสภาพจริงร้อยละ 86.67 มีขั้นตอนการ
ตรวจสอบและประเมินอย่างเป็นระบบร้อยละ 86.88 ใช้เครื่องมือและวิธีวัดและประเมินผลที่เหมาะสม
กับเปา้ หมายและการจัดการเรียนรรู้ ้อยละ 87.74 นักเรยี นและผเู้ รียนมสี ่วนเกีย่ วขอ้ งและส่วนร่วมในการวัดและ
ประเมินผลร้อยละ 85.59 ให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนและผู้เรียนนำไปใช้พัฒนาตนเองร้อยละ 86.24
โดยภาพรวมมีการตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รยี นอยา่ งเป็นระบบและนำผลมาพฒั นาผูเ้ รียน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 86.62
ครูตรวจสอบและพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาที่สอนอย่างเป็นระบบ โดยการใช้เครื่องมือและ
วิธีการวัดและประเมินผลที่เหมาะสมกับเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ มีความหลากหลาย เช่น การสังเกต
การตอบคำถาม การอภิปราย การเขา้ รว่ มกิจกรรม ชิน้ งาน การสดสอบ เปน็ ตน้ โดยมีการประเมินตามสภาพจริง
และให้ข้อมลู ย้อนกลับแก่ผเู้ รยี นเพอ่ื นำไปใชพ้ ัฒนาการเรยี นรู้ทำให้สามารถแกป้ ญั หานักเรียนในช้ันเรียนมากข้ึน
ส่งผลให้นักเรียนมีผลการเรียนข้ึน นักเรียนติด 0, ร, มส. น้อยลงอย่างต่อเนื่อง ครูการนำผลจากงานวจิ ัยในช้ัน
เรียนมาใช้ในการแก้ปัญหาผู้เรียน เพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของผูเ้ รียนสูงขึ้น นำผลจากการนิเทศ ติดตาม
การจัดการเรียนรู้ของครูมาปรับปรุงเพิ่มเติม และแก้ไขแผนการจัดการเรียนรู้ให้เป็นแผนการจัดการเรียน
ที่สามารถจัดกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านการการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับ
เพอื่ พฒั นาและปรบั ปรงุ การเรียนรู้ ครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมลู สะทอ้ นกลับเพื่อพฒั นาและปรับปรุง
การเรียนรู้ คดิ เปน็ ร้อยละ 96.77 โดยครูมีสว่ นร่วมในชุมแห่งการเรียนรทู้ างวิชาชพี PLC รอ้ ยละ 90.32 ครูมกี าร
นิเทศการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ร้อยละ 100.00 ครูมีวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนา
ผู้เรียน ร้อยละ 100.00 ครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ (PLC) รวมทั้งให้
ขอ้ มูลปอ้ นกลบั เพอื่ นำไปใชใ้ นการปรับปรงุ แก้ไขปญั หาในการจัดการเรียนการสอนและพฒั นาการจัดการเรียนรู้
ร่วมกัน ส่งเสริมให้ครูเข้ารับการอบรมตามความสนใจ เช่น การอบรมพัฒนาศักยภาพจิตวิทยาของครู
ในสถานศึกษา การอบรมตาม ก.ค.ศ. รับรองสำหรับการประเมินวิทยฐานะตาม ว 21 การอบรมออนไลน์
ตามความสนใจเพื่อนำความรู้มาพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การแก้ปัญหาในชั้นเรียน และการ
พัฒนาคุณภาพในงานที่ได้รับมอบหมายอื่น ๆ ของโรงเรียน อันที่ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชา
พน้ื ฐาน 8 กล่มุ สาระการเรียนรูแ้ ละกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนให้สูงข้ึนเป็นอนั ส่งผลให้งานที่รับมอบหมายมีคุณภาพ
และประสทิ ธภิ าพ
9
จุดเด่น
ด้านคุณภาพของผเู้ รียน
1. สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างหลากหลาย ทั้งด้านวิชาการ คุณธรรม จริยธรรม
สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ตอบสนอง
ความ ต้องการของและความถนัดของผเู้ รียนทกุ กลุ่ม
2. สถานศึกษามีการพัฒนาผ้เู รยี นที่มีความต้องการพเิ ศษดว้ ยการส่งเสริมความสามารถเฉพาะด้าน และ
จัดให้มีห้องเรียนคู่ขนานเรียนรวมสําหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ ทําให้สามารถพัฒนาผู้เรียนแต่ละ
กลุ่มให้เต็มตามศักยภาพ และมีการส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียนกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่องจนกระท่ัง
ประสบความสาํ เรจ็ ในการนาํ ผู้เรยี นเขา้ แขง่ ขนั ในรายการตา่ ง ๆ
3. สถานศึกษามีการบูรณาหลักสูตรสถานศึกษากับงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม
โดยมีการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนพืชศึกษา “อัญชัน” โดยนําพืชศึกษามาเป็นองค์ประกอบในการ
สร้างนวัตกรรมตามระดับชั้น ได้แก่ อาหารจากอัญชัน เครื่องดื่มจากอัญชัน ของหวานจากอัญชัน
สินค้าในครัวเรือน สินค้าแปรรูป และนวัตกรรมเกี่ยวกับสินค้าในชีวิตประจําวัน มีการจัดแสดงผลงาน OCOP
รว่ มกับชมรม To Be Number One
ดา้ นกระบวนการบริหารและการจัดการ
1. สถานศึกษามีการบริหารและการจัดการของสถานศึกษาที่เน้นการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม
ของทุกฝา่ ยท่เี กี่ยวขอ้ ง
2. สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ครอบคลุม
ทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ บกพร่อง
ทางการเรียนรู้ และการให้โอกาสผู้เรียนที่มีปัญหาความขาดแคลนทุนทรัพย์ด้วยการทําความร่วมมือ MOU
กบั หน่วยงานเอกชน เป็นตน้
ด้านกระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้นผูเ้ รยี นเปน็ สาํ คัญ
1. ครูปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านกระบวนคิดและปฏิบัติจริง
ทําให้ผู้เรียนได้รับการฝึกทักษะด้านการแสดงออก การแสดงความคิดเหน็ สรุปองค์ความรู้ การนําเสนอผลงาน
และนาํ ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจําวนั ได้
2. ครูรู้จักผเู้ รียนเป็นรายบคุ คลและจัดกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี นอย่างหลากหลาย ท้งั ดา้ นวชิ าการ คณุ ธรรม
จริยธรรม สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ ตอบสนอง
ความต้องการของและความถนัดของผู้เรียนทุกกลุ่ม โดยจัดให้มีห้องเรียนปกติ สําหรับผู้เรียนทั่วไป ห้องเรียน
พิเศษ Gifted สําหรับผู้เรียนที่สนใจเรียนรู้กับสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยในห้องเรียน Future Classroom และ
ห้องเรียนคู่ขนานเรียนรวมสําหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ ทําให้สามารถพัฒนาผู้เรียน แต่ละก ลุ่ม
ใหเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ
3. ครูทุกคนจัดทาํ วิจัยในช้นั เรยี นเพ่อื แก้ปญั หาในชัน้ เรยี นและพฒั นาผเู้ รียนอยา่ งเปน็ ระบบ
10
ขอ้ เสนอแนะ
ด้านคณุ ภาพของผ้เู รียน
1. ผู้เรียนควรได้รับประสบการณ์ตรงเพื่อเพิ่มพูนทักษะชีวิตโดยเฉพาะด้านงานอาชีพในอนาคตของ
ตนเอง โดยใช้เวลาในช่วงกจิ กรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมในอาชีพนั้น ๆ อาจไปเรียนรู้
การทํางานในสถานประกอบการที่ตัวเองสนใจ หรืออาจทําในลักษณะบริษัทจําลอง (Mini Company)
เพื่อฝกึ การทํางานท่ีเป็นระบบ ครบวงจร โดยมคี รูคอยเป็นที่ปรกึ ษา กิจกรรมดังกลา่ วน้สี ามารถเติมเต็มศักยภาพ
ของผเู้ รียนใหม้ ีความพร้อมเตบิ โตเป็นผ้ใู หญ่ทม่ี ีคณุ ภาพยิ่งขึ้นในอนาคต
2. สถานศึกษาควรมีการสร้างความตระหนักและพัฒนาบุคลากรในด้านการวัดและประเมินผลผู้เรียน
ตามสภาพจรงิ และมีการนิเทศ ตดิ ตามให้ครูผู้สอนดําเนนิ การวัดและประเมินผลระดับช้นั เรียนให้สอดคล้องกับ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้การวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนมีความสอดคล้องกับ
บริบทของหลักสูตรและสภาพความเป็นจริงของผู้เรียนแต่ละกลุ่ม และควรมีการนําผลการประเมินระดับชาติ
O-NET มาวเิ คราะห์หาขอ้ มูลตามรายละเอียดตวั ช้ีวดั ในกลุ่มสาระการเรียนร/ู้ รายวิชา และวเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ
กับผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น นําข้อมลู มาปรับปรงุ และพฒั นาการจดั การเรียนรู้เพื่อให้ผลการประเมินมีพัฒนาการ
ทดี่ ีขน้ึ หรอื รักษาระดบั คณุ ภาพใหอ้ ย่ใู นระดบั ใกล้เคยี งระหวา่ งปีการศกึ ษา
ดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจัดการ
ผู้บริหารควรพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตร โดยเพิ่มกิจกรรมการนิเทศ
การสอน การศึกษาดงู านโรงเรียนทีเ่ ปน็ ตัวอย่างทีด่ ีหรอื มี Best Practice และประสบผลสําเร็จในดา้ นการสอน
และจัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญเพิ่มจากที่สถานศึกษา
ดาํ เนินการอยู่แลว้ ในเรื่องของการสอน แบบ STEM EDUCATION และการสอนแบบ Active Learning
ดา้ นกระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่เี น้นผ้เู รยี นเปน็ สาํ คัญ
1. ครูควรจัดหาสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาเพิ่มเติม หรือจัดทําสื่อ/สื่อมัลติมีเดีย เพื่อใช้ประกอบการ
เรยี นการสอนให้เพียงพอกับความตอ้ งการ
2. สถานศึกษาควรสนับสนุน ส่งเสริมให้มีการทําการวิจัยสื่อที่ครูผลิตขึ้น และเผยแพร่ผลการพัฒนา
ส่ือให้กับสถานศึกษาอน่ื ๆ เพือ่ ใชป้ ระโยชนต์ ่อไป
3. สถานศึกษาควรดําเนินการจัดทํา ผลงาน/นวัตกรรม ที่ครูและผู้เรียนจัดทําขึ้น อย่างต่อเนื่องและ
มกี ารเผยแพรเ่ พอ่ื เปน็ ต้นแบบใหก้ บั สถานศึกษาอ่นื ใชป้ ระโยชน์ตอ่ ไป
4. ครูควรมกี ารนาํ ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ เข้ามาร่วมจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนใหก้ ับผู้เรยี นอย่าง ต่อเน่ือง
และเพือ่ แกป้ ัญหาการขาดแคลนครูที่มคี วามเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
5. สถานศึกษาควรดําเนินการวางแผนในการพฒั นากระบวนการเรยี นการสอนเพอื่ ยกระดับ ผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนของผู้เรียนและการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในทุกรายวิชาอย่างเป็นระบบ
โดยการวิเคราะห์ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของปีที่ผ่านมา ศึกษาโครงสร้างข้อสอบ
ตาม Test Blue Print ของ สทศ. กําหนดจุดพัฒนาในตัวชี้วัดที่มีคะแนนไม่น่าพึงพอใจ นํากระบวนการ PLC
มาใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพการจดั การเรียนรู้ และตดิ ตามผลการดําเนนิ งานเปน็ ระยะเพอื่ ปรับปรุงสถานศึกษา
11
แผนการพฒั นาคุณภาพของสถานศึกษาในปีการศกึ ษาถดั ไป
1. พัฒนาผู้เรยี นให้มีคณุ ภาพตามมาตรฐานสากล มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนท่ีสูงข้ึน มีความสามารถใน
การใชภ้ าษาทีส่ องในการส่ือสาร
2. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาใหเ้ ทยี บเคยี งหลักสูตรมาตรฐานสากล
3. พัฒนาระบบการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ ยกระดับคุณภาพสูงขึ้นสู่มาตรฐานสากล มีการบริหาร
จัดการระบบคณุ ภาพ ผ่านเกณฑ์รางวลั คณุ ภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน (OBECQA)
4. พัฒนาบคุ ลากรหลักของโรงเรยี นเกี่ยวกบั การจดั ทำแผนกลยุทธ์เพอื่ พัฒนาโรงเรียนสมู่ าตรฐานสากล
5. ส่งเสริมให้ครูผู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ตรงตามตัวชี้วัด ส่งเสริมกระบวนการคิดของนักเรียน
เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
และชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ให้มคี ะแนนเฉลีย่ สูงกวา่ คะแนนเฉลีย่ ระดบั ประเทศในทุกรายวชิ า
6. พัฒนาครูและบุคลากรให้ได้ระดับการพัฒนาทางวิชาชีพ จัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี
และนวัตกรรมอยา่ งตอ่ เนอ่ื งเทยี บเคยี งมาตรฐานสากล
7. ส่งเสริมสนับสนุน ความร่วมมือระหว่างชุมชน สร้างเครือข่ายระดับองค์กรทั้งหน่วยงาน
ภายในประเทศและต่างประเทศเพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษา
ความต้องการและการชว่ ยเหลือ
1. จัดอบรมพัฒนาครูเพื่อการพัฒนาหลักสูตร และการบริหารหลักสูตรที่มุ่งยกระดับการจัดการเรียน
การสอนเทยี บเคียงมาตรฐานสากล ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการพัฒนาโรงเรียนมาตรฐานสากล
2. งบประมาณในการพัฒนา ปรับปรุง ซ่อมแซม อาคาร และสื่อเทคโนโลยีการเรียนรู้ที่หลากหลาย
อปุ กรณใ์ นการจัดการเรียน การสอน และคา่ สาธารณูปโภค
3. อัตรากำลังของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำหรับทดแทนอัตราการเกษียณ
อายุราชการ ในปีงบประมาณ 2565 มีจำนวนมาก หากไม่มีอัตราทดแทนจะทำให้เกิดความเสียหาย
ตอ่ การจัดการเรยี นการสอน
4. อปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการจดั การเรียนการสอนแบบสะเตม็ ไม่เพียงพอตอ่ จำนวนนกั เรยี นในปัจจบุ ัน
12
ส่วนที่ 2
ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา
1. ข้อมลู พืน้ ฐานของสถานศึกษา
1. ขอ้ มลู ท่ัวไป
โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งอยู่ที่เลขที่ 34 หมู่ 8 ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง
จังหวัดปทุมธานี รหัสไปรษณีย์ 12120 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 4
โทรศัพท์ 02-194-4594 โทรสาร 02-194-4593 เว็บไซต์ www.hs.ac.th อีเมล์ [email protected]
เปิดสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 บริหารงานโดยมีนางอัญชลี เกตุบำรุง ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ
โรงเรยี น โทรศัพท์ 092-262-9860 อีเมล์ [email protected]
2. ประวตั ิโรงเรียน
โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร มีเนื้อที่ทั้งหมด 41 ไร่ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2520
โดยมีคณะกรรมการที่ประกอบดว้ ย
1. ฝา่ ยสงฆ์ มีพระครธู ญั สารโสภณ เจา้ อาวาสวัดหัตถสารเกษตร
2. ฝ่ายฆราวาสประกอบด้วย
2.1 นายสมปอง บญุ ยะรัตน์ รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่
2.2 นายประสิทธิ์ แสนกล ศึกษาธิการอำเภอคลองหลวง
2.3 นายประชมุ บัวทอง ศึกษาธิการจงั หวัดปทมุ ธานี
2.4 นายรังสฤษดิ์ เชาวนะศิริ อธิบดกี รมสามัญศกึ ษา
เมื่อวันท่ี 22 มีนาคม พ.ศ. 2520 กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติให้จัดตั้งโรงเรียน
หัตถสารเกษตรวิทยาคารเป็นโรงเรียนสหศึกษา ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนมัธยมวัดหัตถสารเกษตร”
เมือ่ วันท่ี 17 พฤศจกิ ายน พ.ศ.2539 และได้เข้าร่วมโครงการ “หน่ึงอำเภอหนง่ึ โรงเรียนในฝัน” ของอำเภอคลอง-
หลวง จังหวัดปทุมธานี ผ่านการประเมินเป็นโรงเรียนต้นแบบหนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน พ.ศ. 2549
เมื่อวันท่ี 17 มีนาคม พ.ศ. 2553 โรงเรียนมัธยมวัดหัตถสารเกษตรได้รับพระราชทานนามเปลี่ยนชื่อโรงเรียน
เป็น “โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ
สยามมกฎุ ราชกมุ าร”
ปัจจุบันโรงเรียนทปี ังกรวิทยาพฒั น์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ฯ จัดการเรียนการสอน
ทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียนจำนวน 2,130 คน (10 มิถุนายน 2562)
โรงเรียนได้มีการพัฒนาในทุก ๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง มีสมาคมผู้ปกครองและครู ศิษย์เก่า องค์กรชุมชน
องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ องค์กรเอกชน และหนว่ ยงานราชการตา่ ง ๆ ให้การสนับสนนุ
13
ตราสัญลกั ษณ์ โรงเรียนทปี ังกรวิทยาพฒั น์(มธั ยมวดั หัตถสารเกษตร)
ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจา้ ฟา้ มหาวชิราลงกรณ
สยามมกุฎราชกุมาร
อักษรยอ่ ท.ป.๕
สปี ระจำโรงเรยี น ฟา้ – ขาว
ปรชั ญาโรงเรียน มีวินัย ใฝ่วิชา พัฒนาชมุ ชน
คติพจน์โรงเรียน “ สวุ ชิ าโน ภวงั โหติ ” ผูร้ ดู้ ีเปน็ ผ้เู จริญ
วสิ ัยทัศน์ เทิดทนู สถาบัน มคี ุณภาพ มาตรฐานสากล
เอกลักษณ์ โรงเรยี นเศรษฐกจิ พอเพยี ง
อตั ลกั ษณ์ สบื สานงานพระราชดำริ
พนั ธกจิ
เทิดทนู สถาบัน
1. ปลูกจติ สำนกึ ใหน้ ักเรียน รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
2. มีความรักชาติสามัคคี อย่ดู ีมีสุข ตามแนวหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
3. สืบสานงานพระราชดำริ
คุณภาพ
1. ส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นมคี ณุ ภาพ จริยธรรมและคุณธรรมและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ตามหลกั สตู ร
2. พฒั นาระบบบรหิ ารจดั การของสถานศกึ ษาให้ทันสมยั มีประสทิ ธภิ าพท่ีส่งผลตอ่ ผูเ้ รยี นตาม
มาตรฐานสากล และสอดคล้องกบั การเปลย่ี นแปลงของสังคมโลก
3. จัดและพฒั นาหลักสูตรอยา่ งหลากหลาย ตรงตามศกั ยภาพของผเู้ รยี นเทยี บเคียงมาตรฐานสากล
4. ส่งเสริมศกั ยภาพทางวิชาการ และจรยิ ธรรม
5. พัฒนาส่ิงแวดล้อมให้สะอาด สวยงาม ปลอดภัย มีบรรยากาศทีเ่ ออื้ ตอ่ การเรยี นรู้
มาตรฐานสากล
1. สง่ เสรมิ บุคลกิ ภาพให้ผู้เรียน มีความมุ่งมนั่ ขยันใฝ่เรยี น ตระหนกั ใสใ่ จสังคมภายนอก
2. สร้างภมู ิทศั น์ ส่งิ แวดล้อม บรรยากาศ ให้เอ้ือต่อการค้นควา้ ศกึ ษาทั้งภายในและภายนอก
3. พัฒนาสื่อเทคโนโลยี และความร้เู พือ่ การจดั การเรียนการสอน
ต้นไมป้ ระจำโรงเรียน ตน้ รวงผ้งึ
ตำแหน่งผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา
การคมนาคม ผอู้ ำนวยการโรงเรียน
เดนิ ทางสะดวกสบายทกุ ฤดกู าล ถนนลาดยาง
การสาธารณูปโภค มีรถเมล์สายรังสิต-คลองสิบสาม และ รงั สิต-คลองห้า วง่ิ ผา่ น
สภาพชุมชน
มีไฟฟา้ / น้ำบาดาล / ไปรษณยี ์ / โทรศพั ท์
ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและรับจา้ งเป็นหลกั บ้านเรอื น
สว่ นใหญ่ตดิ ถนนเลียบคลอง การคมนาคมสะดวก มีถนนเข้าถึง ทกุ หมบู่ า้ น
ประชาชนมีรายได้ไมแ่ นน่ อน ฐานะครอบครัวอยใู่ นระดบั ยากจนถึงปานกลาง
แหลง่ การเรียนร้ภู ายในและภายนอกโรงเรียน ปกี ารศึกษา 2563 14
1. แหล่งเรยี นรู้ภายในสถานศึกษา ไดแ้ ก่
1.1 ห้องงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน รวม
1.2 หอ้ งทบู นี ัมเบอร์วัน 133
1.3 ห้องสมุดดจิ ติ อล 4.0 (Application D.P.5)
1.4 ห้องคอมพิวเตอร์
1.5 ห้องนทิ รรศการเฉลิมพระเกยี รติ
1.6 สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
1.7 สวนรวงผง้ึ
1.8 ศนู ย์การเรยี นรู้เศรษฐกิจพอเพียง
1.9 สวนสนุ ทรภู่
1.10 ธนาคารโรงเรยี น
2. แหล่งเรยี นรูภ้ ายนอกสถานศกึ ษา ไดแ้ ก่
2.1 หออัครศลิ ปิน
2.2 มหาวิทยาลัยรงั สิต
2.3 สตดู ิโอ เวิร์คพอยท์เอน็ เทอร์เทนเมนท์
2.4 สถานพนิ จิ และค้มุ ครองเด็กและเยาวชนจังหวัดปทมุ ธานี
2.5 ศนู ย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศกึ ษารังสติ
2.6 พพิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ ธรณีวิทยาเฉลิมพระเกยี รติ
2.7 วดั หัตถสารเกษตร
2.8 วดั ปัญญานนั ทาราม
2.9 วัดพุทธชินวงศว์ นาราม
2.10 มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
2.11 มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ศูนยร์ ังสิต
2.12 องคก์ ารพิพธิ ภณั ฑว์ ิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)
2.13 ศูนยว์ ิจยั พนั ธุ์ข้าว
2.14 พพิ ธิ ภณั ฑก์ ารเกษตรเฉลิมพระเกียรติ
3. ข้อมลู บคุ ลากรของสถานศึกษา
3.1 จำนวนบุคลากร
ปีการศกึ ษา ผู้บรหิ าร ครูผู้สอน พนักงาน ลูกจ้างประจำ ลูกจา้ ง
(รวมรอง ผอ.) ราชการ 2 ชว่ั คราว
2563 5 113 3 10
15
แผนภูมิแสดงรอ้ ยละของจำนวนบุคลากร ปกี ารศึกษา 2563
ลกู จา้ งประจํา ลูกจ้างช่ัวคราว ผูบ้ รหิ าร
1% 8% 4%
พนักงานราชการ
2%
ครผู ูส้ อน
85%
3.2 วุฒกิ ารศึกษาสงู สดุ ของบคุ ลากร
วฒุ ิการศึกษาสูงสุด วุฒกิ ารศึกษาสูงสดุ ของบคุ ลากร รวม
ตำแหน่ง ปริญญาเอก ปรญิ ญาโท ปรญิ ญาตรี อื่น ๆ 5
113
1. ผู้บรหิ าร (รวมรอง ผอ.) - 5- - 3
2
2. ครูผู้สอน - 23 90 - 10
133
3. พนกั งานราชการ - -3 -
4. ลูกจ้างประจำ - -- 2
5. ลกู จา้ งชั่วคราว - -- 10
รวม - 28 93 12
แผนภูมิแสดงรอ้ ยละของวฒุ ิการศกึ ษาสูงสุดของบคุ ลากร ปีการศกึ ษา 2563 จำแนกตามวุฒกิ ารศกึ ษาสูงสุด
อ่นื ๆ
9%
ปรญิ ญาโท
21%
ปรญิ ญาตรี
70%
3.3 ขอ้ มูลตำแหนง่ อนั ดับของขา้ ราชการครู (วิทยฐานะ) 16
กลุ่มสาระ ตำแหน่งอนั ดับของขา้ ราชการครู (วิทยฐานะ) รวม
ครผู ชู้ ว่ ย คศ.1 คศ.2 คศ.3 7
11
1. ฝา่ ยบรหิ าร - -3 4 13
20
2. ภาษาไทย 3 35 - 12
7
3. คณติ ศาสตร์ 3 62 2 12
7
4. วิทยาศาสตร์ 3 97 1 12
3
5. สังคมศกึ ษา ฯ 2 54 1 104
6. ศลิ ปะ - 61 -
7. การงานอาชีพฯ 1 71 3
8. สขุ ศึกษาฯ 1 41 1
9. ภาษาตา่ งประเทศ 2 61 3
10. กลุ่มพฒั นาผเู้ รยี น - 21 -
รวม 15 48 26 15
กราฟแสดงจำนวนของข้อมูลขอ้ มลู ตำแหนง่ อันดบั ของข้าราชการครู (วิทยฐานะ) ปกี ารศึกษา 2563
แยกตามกลมุ่ สาระการเรียนรฯู้
กลมุ่ พัฒนาผูเ้ รียน 0 2 1
ภาษาต่างประเทศ 2 6 13
สขุ ศกึ ษาฯ 4 11
ก ่ลุมสาระการเ ีรยน ้รูฯ การงานอาชพี ฯ 7 13
ศิลปะ 0 6 1
สังคมศกึ ษา ฯ 2 5 41
วิทยาศาสตร์ 3 9 7
คณิตศาสตร์ 3 6 22
ภาษาไทย 3 3 5
ฝ่ายบรหิ าร 4
0 5 10 15 20 25
จาํ นวน (คน)
ครูผชู้ ว่ ย คศ.1 คศ.2 คศ.3
17
แผนภูมิสถิติแสดงร้อยละของขอ้ มูลตำแหนง่ อันดับของขา้ ราชการครู (วทิ ยฐานะ) ปีการศกึ ษา 2563
คศ.3 ครผู ู้ชว่ ย
14% 15%
คศ.2
25% คศ.1
46%
4. ข้อมูลนกั เรียน
ระดบั ช้ันนักเรยี น ม.1 ม.2 ม.3 รวม ม.4 ม.5 ม.6 รวม รวม
ม.1-3 ม.4-6 ท้งั หมด
จำนวนหอ้ ง 12 11 12 35 12 11 9 32 67
เพศ ชาย 213 222 223 658 160 136 122 418 1,076
หญิง 209 252 224 685 200 156 153 509 1,194
รวม 422 474 447 1,343 360 292 275 927 2,270
เฉลย่ี ตอ่ หอ้ ง 35.17 43.09 37.25 38.37 30.00 26.55 30.56 28.97 33.88
* ขอ้ มูลนกั เรยี น ณ วันที่ 10 มถิ นุ ายน 2563
กราฟแสดงการเปรยี บเทียบจำนวนนักเรียน ปกี ารศกึ ษา 2563
จำแนกตามเพศ
300
250 213 209 222 252
223 224 200
200 160 156 153
150 136 122
100
50
0
ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6
ชาย หญงิ
18
จำนวนนกั เรยี นปีการศึกษา 2561-2563
ระดับชั้น ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 รวม
ปีการศึกษา ท้งั หมด
2,045
2561 482 361 337 318 292 255 2,130
2562 478 457 343 478 457 343
2,270
2563 422 474 447 360 292 275
กราฟแสดงการเปรยี บเทยี บจำนวนนักเรยี น ปกี ารศึกษา 2561-2563
แยกตามระดับชน้ั
600
500 422 447882 361 445774 333473 447 478 457 434
ํจานวน ันกเ ีรยน (คน) 400 318
360
292 255
300 292 275
200
100
0
ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6
ปกี ารศึกษา 2561 ปีการศึกษา 2562 ปีการศึกษา 2563
5. ข้อมูลผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นระดับสถานศึกษา ในชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1-6
5.1 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563
จำนวนท่ี รอ้ ยละ/ระดับคณุ ภาพ ของผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน
ลง
กลุม่ สาระ 60 ข้นึ ไป 80 ขึน้ ไป 70-79 60-69 50-59 ต่ำกวา่ 50
ทะเบยี น ดขี ึน้ ไป ยอดเยยี่ ม ดเี ลิศ ดี ปานกลาง กำลงั พัฒนา
คน % คน % คน % คน % คน %
คน %
27 0.98
1. ภาษาไทย 2,753 2,217 80.53 756 27.46 814 29.57 647 23.50 209 18.49 107 5.66
2. คณิตศาสตร์ 3,006 2,147 71.42 433 14.40 749 24.92 965 32.10 689 22.92 104 1.99
58 1.35
3. วิทยาศาสตร์ 5,222 4,524 86.63 1,356 25.97 1,719 32.92 1,449 27.75 594 11.31 81 2.22
74 1.66
4. สงั คมศึกษา ฯ 4,309 3,895 90.39 849 19.70 1,487 34.51 1,559 36.18 356 8.26 13 0.28
131 2.38
5. ศิลปะ 3,646 3,411 93.35 1,861 51.04 995 27.29 555 15.22 154 4.22 658 1.96
6. การงานอาชพี ฯ 4,454 4,288 96.27 2,824 63.40 1,056 23.71 408 9.16 92 2.07
7. สขุ ศึกษาฯ 4,628 4,585 99.07 3,108 67.16 1,302 28.13 175 3.78 30 0.65
8. ภาษาต่างประเทศ 5,510 4,735 85.93 1,641 29.78 1,467 26.62 1,627 29.53 644 11.69
รวมท้งั ส้ิน 33,528 29,802 88.89 12,828 38.26 9,589 28.60 7,385 22.03 3068 9.15
19
กราฟแสดง ร้อยละ/ระดับคณุ ภาพ ของผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน
ของนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-6 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
120
100 80.53
71.42
80
86.63
ร้อยละ 60 90.39
51.04 93.35
63.4 96.27
67.16 99.07
85.93
40 18.4293.5272.94.657 5.66 14.4 222.49.29232.1 252.79.77352.92 343.65.118 00..2638.578 28.13 26.22699..25738
20 1.99 11.31 19.7 2.42.222 15.22 27.29 12..6067 9.16 23.71 2.38 11.69
1.35 8.26
0.98
0 คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สังคมศกึ ษาฯ ศลิ ปะ การงานอาชีพฯ สขุ ศึกษาฯ ภาษาต่างประเทศ
ภาษาไทย 80 ข้นึ ไป ดีเลศิ 70-79 ดเี ย่ียม 60-69 ดี 50-59 ปานกลาง ตาํ่ กวา่ 50 กาํ ลงั พฒั ฯ
60 ขึ้นไป ดขี ึ้นไป
5.2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563
จำนวนท่ี ร้อยละ/ระดับคณุ ภาพ ของผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน
ลง
กล่มุ สาระ 60 ข้นึ ไป 80 ขน้ึ ไป 70-79 60-69 50-59 ต่ำกว่า 50
ทะเบยี น ดขี ึ้นไป ยอดเย่ยี ม ดีเลศิ ดี ปานกลาง กำลังพฒั นา
1. ภาษาไทย คน % คน % คน % คน % คน %
2. คณติ ศาสตร์ 2,647 คน %
3. วทิ ยาศาสตร์ 2,982 2,267 85.64 69 2.61
4. สังคมศกึ ษา ฯ 4,869 2,292 77.00 933 35.25 814 30.75 520 19.64 311 11.75 130 4.36
5. ศิลปะ 4,259 3,956 81.25 283 5.81
6. การงานอาชพี ฯ 3,324 3,835 90.04 624 20.93 923 30.95 749 25.12 556 18.65 75 1.76
7. สขุ ศกึ ษาฯ 3,232 2,945 80.60 77 2.31
8. ภาษาต่างประเทศ 4,675 3,009 93.63 1,452 29.82 1,426 29.29 1,078 22.14 630 12.94 109 3.37
5,277 4,475 95.72 52 1.11
รวมท้งั สิน้ 31,265 4,564 86.49 1,401 32.90 1,355 31.81 1,079 25.33 349 8.19 134 2.54
27,347 87.47 929 2.97
1,683 50.63 783 23.56 479 14.41 302 9.09
1,951 60.37 732 22.65 326 10.09 114 3.53
3,183 68.09 1,110 23.74 182 3.89 148 3.17
1,924 36.47 1,590 30.13 1,050 19.90 579 10.97
13,151 42.06 8,733 27.93 5,463 17.47 2,989 9.56
20
กราฟแสดง รอ้ ยละ/ระดับคณุ ภาพ ของผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน
ของนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1-6 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563
120
100 85.64
77
80
81.25
้รอยละ 60 90.04
50.63 80.6
60.37 93.63
68.09 95.72
86.49
40 2.61 11.75 19.64 30.7355.25 18.260.59235.1230.95 5.81 12.94 22.142299..2892 25.33331.2.891 1.31.3.11879 23.74
2.54 10.97 19.9 30.1336.47
20 2.31 9.0914.41 23.56 33..3573 10.09 22.65
4.36 1.76 8.19
0 คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษาฯ ศลิ ปะ การงานอาชีพฯ สขุ ศึกษาฯ ภาษาต่างประเทศ
ภาษาไทย 80 ขน้ึ ไป ดเี ลิศ 70-79 ดีเยย่ี ม 60-69 ดี 50-59 ปานกลาง ตาํ่ กว่า 50 กาํ ลงั พฒั ฯ
60 ข้ึนไป ดีขึน้ ไป
5.3 ภาคเรยี นท่ี 1 และภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
จำนวนที่ ร้อยละ/ระดบั คุณภาพ ของผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน
ลง
กลุม่ สาระ 60 ขนึ้ ไป 80 ข้นึ ไป 70-79 60-69 50-59 ต่ำกว่า 50
ทะเบียน ดขี ้นึ ไป ยอดเยีย่ ม ดเี ลิศ ดี ปานกลาง กำลังพฒั นา
1. ภาษาไทย คน % คน % คน % คน % คน %
5,400 คน %
4,484 83.04 96 1.78
1,689 31.28 1,628 30.15 1,167 21.61 820 15.86 300 5.01
387 3.84
2. คณิตศาสตร์ 5,988 4,443 74.20 1,057 17.65 1,672 27.92 1,714 28.62 1,245 20.79 133 1.55
158 2.27
3. วทิ ยาศาสตร์ 10,091 8,480 84.04 2,808 27.83 3,145 31.17 2,537 25.04 1,224 12.13 183 2.38
65 0.70
4. สงั คมศกึ ษา ฯ 8,568 7,730 90.22 2,250 26.26 2,842 33.17 2,638 30.79 705 8.23 265 2.46
5. ศิลปะ 6,970 6,356 91.19 3,544 50.85 1,978 25.51 1,034 14.84 456 2.54 1,587 2.45
6. การงานอาชพี ฯ 7,686 7,297 94.94 4,775 62.13 1,788 23.26 734 9.55 206 2.68
7. สขุ ศกึ ษาฯ 9,303 9,060 97.39 6,291 67.62 2,412 25.93 357 38.37 178 1.91
8. ภาษาต่างประเทศ 10,787 9,299 86.21 3,565 33.05 3,057 28.34 2,677 24.82 1,223 11.34
รวมท้ังส้ิน 64,793 57,149 88.20 25,979 40.10 18,322 28.28 12,848 19.83 6,057 9.35
แหล่งขอ้ มูล : รายงานผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
21
กราฟแสดง รอ้ ยละ/ระดับคุณภาพ ของผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน
ของนักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-6 ภาคเรียนท่ี 1 และภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
120
100 22..2574 14.84 25.51 50.85 91.19 62.13 94.94 97.39
3.84 12.13 25.207.43813.17 84.04 90.22 86.21
83.04
80 74.2
67.62
้รอยละ 60
40 15.8621.61 330.1.1258 17.2605.79227.8.9622 26.2360.373.917 25.93 38.37 24.2882.3343.05
20 22..3688 9.55 23.26 2.46 11.34
1.78 5.01 1.55 8.23 0.1.791
0 คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศกึ ษาฯ ศลิ ปะ การงานอาชพี ฯ สุขศกึ ษาฯ ภาษาต่างประเทศ
ภาษาไทย 80 ขน้ึ ไป ดีเลิศ 70-79 ดีเย่ยี ม 60-69 ดี 50-59 ปานกลาง ตํ่ากวา่ 50 กําลงั พัฒฯ
60 ขึน้ ไป ดขี นึ้ ไป
กราฟแสดงการเปรยี บเทียบ ร้อยละ/ระดับคุณภาพ ของผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นของนักเรียน
ปกี ารศึกษา 2563 จำแนกตามภาคเรยี นที่ 1 และภาคเรียนที่ 2
0.00 10.00 20.00 30.00 40.00 50.00 60.00 70.00 80.00 90.00 100.00
ตํา่ กวา่ 50 กาํ ลงั พฒั นา 1.96
50-59 ปานกลาง 2.97
60-69 ดี
70-79 ดีเย่ยี ม 9.15
80 ข้นึ ไป ดเี ลิศ 9.56
60 ขึน้ ไป ดขี ้ึนไป
22.03
14.47
28.60
27.93
38.26
42.06
88.89
87.47
ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2
22
6. ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ้ันพ้ืนฐาน (O-NET)
6.1 การเปรียบเทียบคะแนนเฉล่ีย O-Net ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ปีการศึกษา 2563
รายวชิ า รหัส คะแนนเฉลี่ย ปีการศกึ ษา 2563
วิชา โรงเรยี น
จงั หวดั สงั กดั ภาค ประเทศ
ภาษาไทย 91 51.77 58.07 55.18 54.64 54.29
25.46
คณติ ศาสตร์ 94 21.54 29.81 25.82 25.81 29.89
34.38
วิทยาศาสตร์ 95 27.80 32.48 30.17 30.12
ภาษาต่างประเทศ 93 32.13 42.23 34.14 35.19
ทม่ี า : รายงานผลการทดสอบ(O-NET) ม.3 ปกี ารศึกษา 2563 (สทศ.)
กราฟแสดงการเปรียบเทยี บคะแนนเฉลย่ี (O-Net) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ปกี ารศึกษา 2563
70
คะแนนเฉ ่ีลย60
51.7750
58.07
40
55.18
54.6430
54.29
21.54
29.81
25.82
25.81
25.46
27.8
32.48
30.17
30.12
29.89
32.13
42.23
34.14
35.19
34.38
20
10
0 94 คณติ ศาสตร์ 95 วิทยาศาสตร์ 93 ภาษาต่างประเทศ
91 ภาษาไทย จังหวัด สงั กัด ภาค ประเทศ
โรงเรียน
6.2 การเปรยี บเทยี บคะแนนเฉลยี่ O-Net ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ปกี ารศึกษา 2561-2563
รายวชิ า รหัส ปกี ารศกึ ษา 2561 ปกี ารศึกษา 2562 ปีการศึกษา2563
วิชา ระดับประเทศ ระดับโรงเรียน ระดับประเทศ ระดับโรงเรยี น ระดับประเทศ ระดับโรงเรยี น
ภาษาไทย 91 54.42 49.13 55.14 48.07 54.29 51.77
คณติ ศาสตร์ 94 30.04 26.18 26.73 22.82 25.46 21.54
วทิ ยาศาสตร์ 95 36.10 32.68 30.07 27.84 29.89 27.80
ภาษาต่างประเทศ 93 29.45 27.37 33.25 30.04 34.38 32.13
ท่มี า : รายงานผลการทดสอบ(O-NET) ม.3 ปกี ารศึกษา 2561-2563 (สทศ.)
23
กราฟแสดงการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ย (O-Net) ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ปกี ารศกึ ษา 2561-2563
60
50
40
คะแนนสอบ O-Net 30
20
10
0 ปีการศกึ ษา 2561 ปกี ารศกึ ษา 2562 ปีการศกึ ษา 2563
49.13 48.07 51.77
91 ภาษาไทย 26.18 22.82 21.54
94 คณิตศาสตร์ 32.68 27.84 27.8
95 วทิ ยาศาสตร์ 27.37 30.04 32.13
93 ภาษาตา่ งประเทศ
6.3 การเปรยี บเทยี บคะแนนเฉล่ีย O-Net ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2563
รายวชิ า รหัส คะแนนเฉลย่ี ปกี ารศกึ ษา 2563
วิชา โรงเรียน
จงั หวัด สงั กัด ภาค ประเทศ
44.36
ภาษาไทย 01 35.46 45.11 45.22 44.72 26.04
32.68
คณิตศาสตร์ 04 18.43 27.98 26.33 26.33 35.93
29.94
วิทยาศาสตร์ 05 28.51 33.25 33.04 32.76
สังคมศึกษา 02 32.19 36.10 36.32 35.87
ภาษาตา่ งประเทศ 03 24.27 32.68 29.73 30.27
ท่มี า : รายงานผลการทดสอบ(O-NET) ม.6 ปกี ารศึกษา 2563 (สทศ.)
กราฟแสดงการเปรียบเทียบคะแนนเฉลีย่ (O-Net) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 256345.11
44444..5.372622
50
45 35.46 28.51 32.193333556.6...8913732 24.27
40 33.25 32.68
35คะแนนสอบ O-Net 27.98 33.04
30 26.33 32.76 29.73
25 26.33 32.68 30.27
20 26.04 29.94
15
10 18.43
5
0
01 ภาษาไทย 04 คณิตศาสตร์ 05 วทิ ยาศาสตร์ 02 สงั คมศกึ ษา 03 ภาษาต่างประเทศ
โรงเรียน จังหวดั สงั กัด ภาค ประเทศ
24
6.4 การเปรยี บเทยี บคะแนนเฉลยี่ O-Net ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2561-2563
รายวชิ า รหสั ปกี ารศึกษา 2561 ปีการศกึ ษา 2562 ปกี ารศึกษา2563
วิชา ระดบั ประเทศ ระดบั โรงเรยี น ระดับประเทศ ระดับโรงเรยี น ระดับประเทศ ระดบั โรงเรยี น
ภาษาไทย 01 47.31 35.37 42.21 34.87 44.36 35.46
คณติ ศาสตร์ 04 30.72 21.82 25.41 20.45 26.04 18.43
วทิ ยาศาสตร์ 05 30.51 26.68 29.20 25.46 32.68 28.51
สงั คมศึกษา 02 35.16 31.96 35.70 33.31 35.93 32.19
ภาษาตา่ งประเทศ 03 31.41 24.20 29.20 24.77 29.94 24.27
ที่มา : รายงานผลการทดสอบ(O-NET) ม.6 ปีการศึกษา 2561-2563 (สทศ.)
กราฟแสดงการเปรียบเทยี บคะแนนเฉลยี่ (O-Net) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 2561-2563
40
35
30
25 คะแนนสอบ O-Net
20
15 ปกี ารศึกษา 2561 ปีการศึกษา 2562 ปกี ารศกึ ษา 2563
10 35.37 34.87 35.46
5 21.82 20.45 18.43
0 26.68 25.45 28.51
31.96 33.31 32.19
01 ภาษาไทย 24.20 24.77 24.27
04 คณติ ศาสตร์
05 วทิ ยาศาสตร์
02 สังคมศกึ ษาฯ
03 ภาษาตา่ งประเทศ
7. จำนวนนักเรียนทตี่ อ้ งการความช่วยเหลือพเิ ศษ
ประเภทความบกพรอ่ ง จำนวน (คน)
ระดบั ช้นั ทางการ ทาง ทางร่างกาย ปัญหาทางการ ออทิสตกิ รวม
ไดย้ นิ สตปิ ญั ญา หรอื สขุ ภาพ เรียนรู้ 2 7
12
ม.1 - 2 - 3 - 5
1 3
ม.2 - 6 1 5 3
1 2
ม.3 - 2 - 2 - 32
1
ม.4 - 2 - - 5
ม.5 1 1 - 1
ม.6 - - 1 -
รวม 1 13 2 11
25
8. จำนวนนักเรยี นทจี่ บหลกั สูตร
นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 และนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ท่จี บหลกั สูตร ปีการศึกษา 2563
(ข้อมูลการจบการศกึ ษา ณ วนั ที่ 9 เมษายน 2564)
ท่ี รายการ จำนวนนกั เรยี นที่จบหลกั สูตร (คน) คดิ เป็นร้อยละ
80.31
1 นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 359 77.45
(นกั เรยี นท้งั หมด 447 คน) 79.22
2 นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 213
(นักเรียนทั้งหมด 275 คน)
3 นกั เรียนทีจ่ บหลักสูตรปีการศึกษา 2563 572
(นกั เรยี นท้งั หมด 722 คน)
9. ขอ้ มลู การใช้แหลง่ เรียนรภู้ ายในและภายนอกโรงเรยี น ปีการศึกษา 2563
9.1 ขอ้ มูลการใช้แหลง่ การเรียนรูภ้ ายในโรงเรยี น
ตารางแสดง ร้อยละของนักเรยี นทใ่ี ชแ้ หล่งเรยี นรู้ภายในโรงเรยี น
ระดบั ชัน้ รอ้ ยละของนกั เรยี นท่ีใช้แหล่งเรียนรูภ้ ายในโรงเรยี น
แหลง่ เรียนรู้ ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6
1) หอ้ งงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน 100 100 100 100 100 100
2) ห้องทูบนี ัมเบอร์วัน 100 100 100 100 100 100
3) หอ้ งสมุดดิจิตอล 4.0 (Application D.P.5) 100 100 100 100 100 100
4) หอ้ งคอมพวิ เตอร์ 100 100 100 100 100 100
5) หอ้ งนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 100 100 100 100 100 100
6) สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น 100 100 100 100 100 100
7) สวนรวงผง้ึ 100 100 100 100 100 100
8) ศนู ย์การเรยี นรู้เศรษฐกิจพอเพยี ง 100 100 100 100 100 100
9) สวนสุนทรภู่ 100 100 100 100 100 100
10) ธนาคารโรงเรียน 100 100 100 100 100 100
11) ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 100 100 100 100 100 100
26
9.2 ขอ้ มูลการใชแ้ หลง่ การเรียนรภู้ ายนอกโรงเรียน
ตารางแสดง รอ้ ยละของนักเรยี นทเ่ี ข้าร่วมกจิ กรรมศกึ ษาแหลง่ การเรยี นรู้ภายนอกโรงเรียน
ระดับชนั้ ร้อยละของนักเรียนทีใ่ ช้แหล่งเรยี นร้ภู ายในโรงเรยี น
แหล่งเรียนรู้ ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6
1) หออัครศิลปนิ 100 100 100 - - -
2) มหาวิทยาลยั รังสติ - - - 100 100 100
3) ศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพ่อื การศึกษารังสิต 100 100 100 100 100 100
4) พิพิธภัณฑสถานแหง่ ชาติ ธรณีวทิ ยาเฉลมิ 100 100 100 100 100 100
พระเกยี รติ
5) วัดหตั ถสารเกษตร 100 100 100 100 100 100
6) วดั ปัญญานนั ทาราม - - - 100 100 100
7) วัดพุทธชนิ วงศว์ นาราม 100 100 100 - - -
8) มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ - - - 100 100 100
9) องคก์ ารพิพธิ ภณั ฑ์วทิ ยาศาสตร์แหง่ ชาติ 100 100 100 100 100 100
(อพวช.)
10) สยามนิรมิต กรงุ เทพมหานคร - - - 100 100 100
10. การติดตามนักเรยี นทีเ่ รียนจบการศกึ ษามัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 และนกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ที่ศกึ ษาต่อ/
ประกอบอาชีพ
ตารางแสดง จำนวนนกั เรียนท่เี รียนจบการศึกษามธั ยมศึกษาปีที่ 3 ทศี่ ึกษาต่อ/ประกอบอาชพี จำแนกตามเพศ
สังกดั ปกี ารศึกษา 2563 (ขอ้ มูลการจบการศกึ ษา ณ วันท่ี 9 เมษายน 2564)
จำนวนนกั เรยี นท่เี รียนจบการศกึ ษามัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
รายการ ท่ีศกึ ษาต่อ/ประกอบอาชีพ
จบการศึกษา ชาย หญงิ รวม รอ้ ยละ
1. ศกึ ษาตอ่
153 147 300 64.79
1.1 เรยี นตอ่ ม.4 โรงเรียนเดิม 20 47 67 14.47
1.2 เรยี นต่อ ม.4 โรงเรียนอืน่ ๆ 54 23 77 16.63
1.3 สถาบนั อาชวี ศึกษา 11 2 0.43
1.4 สถาบนั อื่น ๆ 228 18 446 96.32
รวมศึกษาตอ่ -- --
2. ไม่ศึกษาตอ่ -- --
93 11 2.38
2.1 ประกอบอาชีพ 42 6 1.30
2.2 บวชในศาสนา 13 5 17 3.68
2.3 ไม่ประกอบอาชีพ และไม่ศึกษาตอ่ -- --
2.4 อนื่ ๆ
รวมไม่ศึกษาตอ่ ทง้ั สิ้น
3. กำลังตดิ ตาม
27
แผนภมู ิแสดงร้อยละของนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ทศ่ี ึกษาตอ่ ในสถาบนั ตา่ ง ๆ ปกี ารศกึ ษา 2563
สถาบันอาชีวศกึ ษา สถาบนั อ่นื ๆ
17% 1%
เรยี นตอ่ ม.4 เรยี นตอ่ ม.4
โรงเรยี นอนื่ ๆ โรงเรยี นเดมิ
15% 67%
ตารางแสดง จำนวนนักเรยี นทเี่ รียนจบการศึกษามัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ที่ศกึ ษาต่อ/ประกอบอาชพี จำแนกตามเพศ
สังกัด ปกี ารศกึ ษา 2563 (ข้อมลู การจบการศกึ ษา ณ วันท่ี 9 เมษายน 2564)
จำนวนนกั เรยี นท่เี รยี นจบการศกึ ษามธั ยมศึกษาปที ี่ 6
รายการ ทศี่ กึ ษาตอ่ /ประกอบอาชพี
จบการศึกษา ชาย หญงิ รวม รอ้ ยละ
1. ศกึ ษาต่อ
19 10 3.80
1.1 มหาวิทยาลยั ของรฐั บาล 12 26 38 10.41
1.2 มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล -- --
1.3 มหาวิทยาลยั ราชภัฏ 7 21 28 10.57
1.4 มหาวิทยาลยั เอกชน 10 4 14 5.28
1.5 วทิ ยาลัยอาชีวศึกษา 1- 1 0.38
1.6 มหาวิทยาลัยเปิด 31 60 91 30.44
รวมศึกษาต่อ 12 3 1.13
2. ไม่ศึกษาตอ่
-- -
2.1 ประกอบอาชพี
2.2 ไมป่ ระกอบอาชีพ 12 3 1.13
รวมไม่ศกึ ษาต่อ 89 82 171 64.53
3. กำลังตดิ ตาม
28
แผนภูมิแสดงร้อยละของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ท่ีศึกษาตอ่ ในสถาบนั ตา่ ง ๆ ปีการศึกษา 2563
วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษา มหาวิทยาลัยเปิด มหาวิทยาลยั ของรัฐบาล
15% 1% 11%
มหาวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั
เอกชน เทคโนโลยีราช
31%
มงคล
42%
12. ผลงานดเี ดน่ ในรอบปที ผ่ี า่ นมา
1. โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับเกียรติบัตร
รางวัลชนะเลิศ ระดับประเทศดีเยี่ยม โรงเรียนคาร์บอนต่ำสู่ชุมชน (ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่บ้าน
นักเรียน) ระดับมัธยมศึกษา ประเภทจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 2,500 คน ประจำปีการศึกษา 2563
หนว่ ยงานทม่ี อบ การไฟฟ้าฝ่ายผลติ แหง่ ประเทศไทย ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี 25 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564
2. โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับเกียรติบัตร
รางวัลชนะเลิศ ระดับประเทศ โรงเรียนคาร์บอนต่ำสู่ชุมชน (ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่โรงเรียน)
ระดับมัธยมศึกษา ประเภทจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 2,500 คน ประจำปีการศึกษา 2563
หนว่ ยงานท่ีมอบ การไฟฟา้ ฝ่ายผลติ แหง่ ประเทศไทย ใหไ้ ว้ ณ วันที่ 25 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564
3. โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับเกียรติบัตร เข้าร่วม
โครงการส่งเสริมกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาจรรยาบรรณวิชาชีพ
ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (E-PLC) ประจำปีการศึกษา 2563 หน่วยงานที่มอบ มหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี ให้ไว้ ณ วันท่ี 14 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2563
4. โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับประกาศเกียรติคุณ
เป็นผใู้ หก้ ารสนับสนุนและเข้าร่วมกิจกรรม มหกรรมแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ “18 ปีทมี่ ุ่งมั่น สายสัมพันธ์
ปทุมธรรมทูบี คลองหลวง ปทุมธานี ต้นแบบอำเภอ TO BE NUMBER ONE” ภายใต้โครงการรณรงค์
ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา
สิริวัฒนาพรรณวดี ประจำปีการศึกษา 2563 หน่วยงานที่มอบให้โครงการTO BE NUMBER ONE
จังหวดั ปทุมธานี ให้ไว้ ณ วนั ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2563
29
5. โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับเกียรติบัตรให้เป็น
โรงเรยี นดีไม่มีอบายมขุ เนอ่ื งในวันครแู หง่ ชาติ ประจำปี 2563 หน่วยงานทีม่ อบให้ สำนักงานเครือข่าย
องคก์ รงดเหล้า (สคล.) ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2563
6. โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับเกียรติบัตร
รางวัลชนะเลิศ การประกวดภาพยนตร์สั้นต่อต้านการทุจริต ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษา เขต 4 ในโครงการโรงเรียนสุจริต ประจำปีการศึกษา 2563 หน่วยงานที่มอบให้
สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 4
7. โรงเรียนทีปงั กรวิทยาพฒั น์ (มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ
เพื่อแสดงว่า ได้ส่งผลงานเข้าประกวดในการประกวดโครงการพลังเล็กเปลี่ยนโลก ปี 8 ภายใต้แนวคิด
นวัตกรรมพิชิตโควิด-19 ประจำปีการศึกษา 2563 หน่วยงานท่ีมอบให้ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)
รว่ มกบั บริษัท อสมท. จำกดั (มหาชน) ให้ไว้ ณ วนั ที่ 28 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2563
8. โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับโล่ประกาศเกียรตคิ ณุ
เพื่อแสดงว่า เป็นสถานศึกษา สืบสาน รักษา ต่อยอด สถาบันชาติ ศาส นา พระมหากษัตริย์
ประจำปีการศกึ ษา 2563 หน่วยงานท่ีมอบให้ กลุม่ โรงเรียนในพระราชปู ถัมภ์ ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี 30 มีนาคม
พ.ศ. 2564
13. ผลการประเมนิ คณุ ภาพภายในสถานศึกษาในปีทผี่ ่านมา ปีการศกึ ษา 2562 (ปกี ารศึกษาทแี่ ลว้ )
กำลังพัฒนา ปานกลาง ดี ดีเลิศ ยอดเยี่ยม
ระดบั การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน
มาตรฐาน/ตวั บง่ ช้ี ระดับคุณภาพ
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผเู้ รียน ดี
มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีเลศิ
มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีเนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคญั ยอดเยี่ยม
*** หมายเหตุ กระบวนการดำเนินงานและวิธกี ารได้มาซง่ึ ขอ้ มลู มีความแตกตา่ งกันจากปีการศกึ ษา 2563
ขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ เลม่ รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา
(Self-Assessment Report : SAR) ปกี ารศึกษา 2562
14. รายงานผลการประเมินภายนอกรอบส่ี (พ.ศ.2559 - 2563) ระดบั คณุ ภาพ
ดีมาก
ระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน ดีมาก
ดีมาก
ดา้ น
1 คุณภาพของผเู้ รยี น
2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ
3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนท่เี น้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคญั
30
จุดเด่น
ดา้ นคุณภาพของผูเ้ รียน
1. สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างหลากหลาย ทั้งด้านวิชาการ คุณธรรม จริยธรรม
สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลกั สูตร จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนที่ตอบสนองความต้องการ
ของและความถนัดของผู้เรยี นทุกกลมุ่
2. สถานศึกษามกี ารพฒั นาผเู้ รียนท่ีมีความต้องการพเิ ศษด้วยการส่งเสริมความสามารถเฉพาะด้าน และ
จัดให้มีห้องเรียนคูข่ นานเรียนรวมสําหรับผู้เรียนที่มีความตอ้ งการพิเศษ ทําให้สามารถพัฒนาผู้เรียนแต่ละกลุ่ม
ให้เต็มตามศักยภาพ และมีการส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียนกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งประสบ ความสําเร็จ
ในการนาํ ผเู้ รยี นเข้าแขง่ ขนั ในรายการตา่ ง ๆ
3. สถานศึกษามีการบูรณาหลักสูตรสถานศึกษากับงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม
โดยมีการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนพืชศึกษา “อัญชัน” โดยนําพืชศึกษามาเป็นองค์ประกอบในการ
สร้างนวัตกรรมตามระดับชั้น ได้แก่ อาหารจากอัญชัน เครื่องดื่มจากอัญชัน ของหวานจากอัญชัน สินค้าใน
ครัวเรือน สินค้าแปรรูป และนวัตกรรมเกี่ยวกับสินค้าในชีวิตประจําวัน มีการจัดแสดงผลงาน OCOP ร่วมกับ
ชมรม To Be Number One
ดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจัดการ
1. สถานศึกษามีการบริหารและการจัดการของสถานศึกษาที่เน้นการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม
ของทกุ ฝ่ายที่เกยี่ วขอ้ ง
2. สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ครอบคลุม
ทุกกลุ่มเป้าหมายได้แก่ กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ บกพร่องทาง
การเรียนรู้ และการให้โอกาสผู้เรียนที่มีปัญหาความขาดแคลนทุนทรัพย์ด้วยการทําคว ามร่วมมือ MOU
กับหนว่ ยงานเอกชนเป็นตน้
ดา้ นกระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผูเ้ รยี นเปน็ สาํ คญั
1. ครูปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านกระบวนคิดและปฏิบัติจริง
ทําให้ผู้เรียนได้รับการฝึกทักษะด้านการแสดงออก การแสดงความคิดเหน็ สรุปองค์ความรู้ การนําเสนอผลงาน
และนําไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจําวนั ได้
2. ครรู ู้จักผู้เรยี นเปน็ รายบุคคลและจัดกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียนอย่างหลากหลาย ทัง้ ด้านวชิ าการ คุณธรรม
จริยธรรม สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ ตอบสนอง
ความต้องการของและความถนัดของผู้เรยี นทุกกลุ่ม โดยจัดให้มีห้องเรียนปกติ สําหรับผู้เรียนทั่วไป ห้องเรียน
พิเศษ Gifted สําหรับผู้เรียนที่สนใจเรียนรู้กับสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยในห้องเรียน Future Classroom และ
ห้องเรียนคู่ขนานเรียนรวมสําหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ ทําให้สามารถพัฒนาผู้เรียน แต่ละกลุ่ม
ใหเ้ ต็มตามศกั ยภาพ
2. ครทู ุกคนจัดทาํ วจิ ัยในช้ันเรียนเพ่ือแกป้ ัญหาในช้ันเรียนและพัฒนาผูเ้ รียนอย่างเป็นระบบ
31
จดุ ท่ีควรพฒั นา
ด้านคณุ ภาพของผ้เู รยี น
สถานศึกษาควรพัฒนาผู้เรียนให้ได้รับประสบการณ์ตรง เพื่อเพิ่มพูนทักษะชีวิตโดยเฉพาะด้านอาชีพ
ในอนาคตของผูเ้ รยี น
ดา้ นกระบวนการบริหารและการจัดการ
สถานศึกษาควรบริหารจัดการงานวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้สูงขึ้นและลดจํานวนผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
ผลการเรียน
ดา้ นกระบวนการจดั การเรียนการสอนทีเ่ นน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สําคญั
1. ส่อื เทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษามีนอ้ ยไม่เพียงพอกบั ความต้องการของครแู ละผเู้ รยี น
2. ขาดแคลนครทู ่มี ีความเชีย่ วชาญเฉพาะทาง
3. การวางแผนในการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนเพือ่ ยกระดับผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของผ้เู รียน
และการทดสอบระดับชาติขัน้ พนื้ ฐาน (O-NET) ในทุกรายวชิ า อยา่ งเปน็ ระบบ
ข้อเสนอแนะ
ดา้ นคุณภาพของผู้เรียน
1. ผู้เรียนควรได้รับประสบการณ์ตรงเพื่อเพิ่มพูนทักษะชีวิตโดยเฉพาะด้านงานอาชีพในอนาคตของ
ตนเอง โดยใช้เวลาในช่วงกิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ ศึกษาหาขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ ในอาชพี น้ัน ๆ อาจไปเรียนรู้
การทํางานในสถานประกอบการที่ตัวเองสนใจ หรืออาจทําในลักษณะบริษัทจําลอง (Mini Company) เพื่อฝึก
การทํางานที่เป็นระบบ ครบวงจร โดยมีครูคอยเป็นที่ปรึกษา กิจกรรมดังกล่าวนีส้ ามารถเติมเต็มศักยภาพของ
ผเู้ รียนให้มีความพรอ้ มเติบโตเปน็ ผู้ใหญ่ท่มี ีคุณภาพยงิ่ ขน้ึ ในอนาคต
2. สถานศึกษาควรมีการสร้างความตระหนักและพัฒนาบุคลากรในด้านการวัดและประเมินผลผู้เรียน
ตามสภาพจริง และมีการนิเทศ ติดตามให้ครูผู้สอนดําเนินการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนให้สอดคล้อง
กับ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้การวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนมคี วามสอดคล้องกบั
บริบทของหลักสูตรและสภาพความเป็นจริงของผู้เรียนแต่ละกลุ่ม และควรมีการนําผลการประเมินระดับชาติ
O-NET มาวิเคราะหห์ าข้อมูลตามรายละเอียดตัวช้ีวัดในกล่มุ สาระการเรยี นรู/้ รายวิชา และวิเคราะห์ เปรียบเทยี บ
กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นําข้อมูลมาปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผลการ ประเมินมีพัฒนา
ที่ดีขึ้น หรือรักษาระดับคุณภาพให้อยู่ในระดับใกล้เคียงระหว่างปกี ารศกึ ษากาํ หนดการดําเนินการปรับปรุงตาม
ข้อเสนอแนะภายใน 1 ปี
ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ
ผู้บริหารควรพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรยี นรอบด้านตามหลักสูตร โดยเพิ่มกิจกรรมการนิเทศการ
สอน การศกึ ษาดงู านโรงเรยี นที่เปน็ ตวั อย่างทีด่ ีหรือมี Best Practice และประสบผลสําเร็จในด้านการสอนและ
จัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญเพิ่มจากที่สถานศึกษาดําเนินการ
อยูแ่ ลว้ ในเรอ่ื งของการสอน แบบ STEM EDUCATION และการสอนแบบ Active Learning
32
ดา้ นกระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่เี น้นผเู้ รยี นเปน็ สําคญั
1. ครูควรจัดหาสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาเพิ่มเติม หรือจัดทําสื่อ/สื่อมัลติมีเดีย เพื่อใช้ประกอบการ
เรียนการสอนให้เพยี งพอกับความต้องการ
2. สถานศึกษาควรสนับสนุน ส่งเสริมให้มีการทําการวิจัยสื่อที่ครูผลิตขึ้น และเผยแพร่ผลการพัฒนา
สอ่ื ให้กบั สถานศึกษาอ่ืน ๆ เพื่อใช้ประโยชนต์ ่อไป
3. สถานศึกษาควรดําเนินการจัดทํา ผลงาน/นวัตกรรม ที่ครูและผู้เรียนจัดทําขึ้น อย่างต่อเนื่องและ
มกี ารเผยแพรเ่ พ่อื เป็นตน้ แบบใหก้ ับสถานศกึ ษาอนื่ ใช้ประโยชน์ตอ่ ไป
4. ครคู วรมีการนาํ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ เข้ามารว่ มจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนอย่างต่อเน่ือง
และเพือ่ แก้ปัญหาการขาดแคลนครูทมี่ ีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
5. สถานศึกษาควรดําเนินการวางแผนในการพฒั นากระบวนการเรียนการสอนเพื่อยกระดับผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนของผู้เรียนและการทดสอบระดบั ชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในทุกรายวิชา อย่างเป็นระบบโดยการ
วิเคราะหผ์ ลการทดสอบระดับชาติข้นั พ้ืนฐาน (O-NET) ของปีทผี่ ่านมา ศกึ ษาโครงสรา้ งข้อสอบตาม Test Blue
Print ของ สทศ. กําหนดจดุ พัฒนาในตวั ชี้วัดทม่ี ีคะแนนไม่น่าพึงพอใจ นํากระบวนการ PLC มาใช้ในการพัฒนา
คุณภาพการจัดการเรียนรู้ และติดตามผลการดําเนนิ งานเปน็ ระยะเพือ่ ปรับปรุงสถานศึกษา พัฒนากําหนดการ
ดาํ เนนิ การปรับปรุงตามข้อเสนอแนะภายใน 1 ปี
ขอ้ เสนอแนะเพือ่ การพฒั นาสูน่ วตั กรรม หรอื แบบอย่างทด่ี ี
ด้านคณุ ภาพของผเู้ รยี น
สถานศึกษาควรมุ่งส่งเสริมการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชตามแนวพระราชดําริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจา้
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีโดยจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการคิด
การประดิษฐ์ การวิจัย การแกป้ ญั หา สามารถสร้างผลงาน ชน้ิ งานที่เปน็ นวัตกรรม ที่ใช้กระบวนการของสะเต็ม
ศึกษา (STEM EDUCATION) เพื่อต่อยอดพัฒนาให้ความรู้ ความสามารถนี้ก่อประโยชน์ให้เกิดกับสถานศึกษา
ท้องถิ่นและชุมชนมากยิ่งขึ้น ผู้เรียนควรได้มีโอกาสคิดค้น แก้ปัญหา และพัฒนาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวโดยใช้
กระบวนการของสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION) เพื่อเช่น การรีไซเคิลขวดพลาสติกที่มีจํานวนมากใน
สถานศึกษา การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากพืชในท้องถิ่น เป็นต้น มีการขยายผลจากผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาด
หรอื การวจิ ัยต่อยอดกบั สถาบนั อุดมศึกษา หรอื สถาบนั วิจัยเพอื่ นาํ คณุ ประโยชนไ์ ปสู่สังคมในวงกว้าง
ด้านกระบวนการบรหิ ารและการจัดการ
สถานศึกษาจัดจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมท่เี อ้ือต่อการจัดการเรียนรู้ให้เป็นแบบอย่างท่ีดี
ต่อสถานศึกษาอื่น ได้แก่ การจัดให้มีห้องเรียน Future Classrooms ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนเพื่อส่งเสริม
การเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะในศตวรรษที่ 21 และพัฒนาพื้นที่โดยรอบโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มี
บรรยากาศธรรมชาติ รม่ รืน่
ด้านกระบวนการจัดการเรยี นการสอนทีเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สําคญั
1. สถานศกึ ษามีการสง่ เสรมิ ให้ครูทุกคนจัดทําวิจัยในช้ันเรียน เพ่อื แกป้ ัญหาในการเรียนอย่างเป็นระบบ
ดังนั้นเพื่อให้มีความต่อเนื่อง ควรมีการพัฒนาต่อยอดงานวิจัยเพื่อไปนําพัฒนาการเรียนการสอนให้มี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ขยายผลการพัฒนาให้กับสถานศึกษาอื่น ๆ เพื่อใช้ประโยชน์
ต่อไป
33
2. สถานศึกษาควรจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ให้ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการคิดผ่านการทําโครงงานตาม
ความสนใจอย่างตอ่ เน่อื งและหลากหลายยิ่งขึ้น จนเปน็ เอกลักษณ์ของสถานศกึ ษา
สรปุ ประเด็นจากหนว่ ยงานตน้ สังกัด
หน่วยงานตน้ สงั กดั มปี ระเดน็ ให้สถานศึกษาดำเนินการ ดงั น้ี
1. การพฒั นาหลกั สตู รและกระบวนการจดั การเรียนรู้
2. การพฒั นาการวัดและการประเมนิ ผล (ระดับโรงเรยี น ระดบั ชาตแิ ละระดับนานาชาต)ิ
3. กระบวนการนิเทศภายใน
4. ระบบประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา
5. การพัฒนาความสามารถและทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามจุดเน้นการพัฒนา
คณุ ภาพผเู้ รยี น
6. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้สะเตม็ ศกึ ษา
7. การพฒั นาแหล่งเรียนรเู้ พอ่ื พัฒนาคุณภาพผ้เู รียน
8. การจดั กจิ กรรมเพ่ือพฒั นาการอา่ น การเขียน การพัฒนาหอ้ งสมดุ
9. การนอ้ มนาํ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งส่กู ารขับเคลื่อนในสถานศกึ ษา
10. การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม
รายงานผลประเมนิ คณุ ภาพภายนอกรอบส่ี (พ.ศ.2559 - 2563)
ระดบั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน
34
2. ผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผเู้ รียน
ระดับคุณภาพ ดเี ลศิ
1. กระบวนการพฒั นา
1.1 ผลสัมฤทธท์ิ างวชิ าการของผู้เรียน
โรงเรยี นทีปงั กรวทิ ยาพัฒน์(มัธยมวัดหตั ถสารเกษตร)ในพระราชูปถมั ภ์ฯ ไดจ้ ดั การเรียนรู้ตามหลักสูตร
โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ฯ พุทธศักราช 2561 ที่สอดคล้องกับ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) และมีการจัดการศึกษา
ต่อไปนี้ 1. โครงการห้องเรยี นพิเศษวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 2. ห้องเรียนทั่วไปที่เน้นความต้องการพิเศษ
ไดแ้ ก่ แผนการเรียน วทิ ย์-คณิต ศิลป-์ คำนวณ ศิลป-์ ภาษา ศิลป-์ ทวั่ ไป ศิลป์-รัฐศาสตร์ งานชา่ ง การจัดการธุรกิจ
ค้าสมัยใหม่ ธุรกิจค้าปลีก และในการจัดการศึกษาให้กับผู้เรียนทุกคนได้มีการประกาศค่าเป้าหมายของการ
พัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ต่ำกว่าระดับ 2.00 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและ
วัฒนธรรม และกล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ และให้ผูเ้ รยี นมีผลการเรยี นไม่ต่ำกว่า 2.50 ในกลุ่มสาระ
การเรียนรศู้ ลิ ปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา และกลมุ่ สาระการงานอาชีพ
ด้านความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ โรงเรียนได้จัดกิจกรรม
การเรียนการสอน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามมาตรฐานตัวชี้วัดของกลุ่มสาระการ
เรียนรแู้ ตล่ ะกลุ่มสาระ โรงเรียนไดม้ อบหมายให้กลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีเก่ียวข้องได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ที่ได้พัฒนาผูเ้ รยี นครบทุกทักษะทางภาษา ได้แก่ การอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูด การจัดทำหลักสูตร
การสอนวิชาเพิม่ เติม และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยได้จัดทำโครงการเขียนดีมีใจศิลปะ โครงการอา่ นออก
เขียนไดง้ ่ายนิดเดียว ในการฝึกทักษะการอา่ นและการเขียนผลท่ไี ด้รับผู้เรยี นมที กั ษะการอ่านและการเขียนที่ดีข้ึน
และกล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศมีกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีสร้างโอกาสให้ผู้เรียนมี
ส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นโดยมีการกำหนดข้อตกลงและเป้าหมายคุณภาพร่วมกันระหว่างผู้เรียนและ
ครูผู้สอน โดยมีกิจกรรมให้ผู้เรียนเข้าร่วมตามโครงการพฒั นาการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ กิจกรรมวนั
คริสต์มาส กิจกรรมการแข่งขันทักษะภาษาต่างประเทศ ยังมีการวัดทักษะทางภาษาอังกฤษของผู้เรียนให้กับ
ผูเ้ รียนทกุ คน เพือ่ ทผี่ เู้ รยี นจะไดท้ ราบว่าความสามารถทางด้านการสอื่ สารภาษาอังกฤษของผู้เรียนอยู่ในระดับใด
ในส่วนของการพัฒนาความสามารถในด้านการคิดคำนวณของผู้เรียน โรงเรียนได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ทง้ั ในและนอกหอ้ งเรียน ทสี่ ง่ เสรมิ และพัฒนาใหผ้ ้เู รยี นไดเ้ รียนรเู้ ตม็ ตามศักยภาพของตนเอง จากกิจกรรม
ฟังให้ได้ศัพท์ จับมาวิเคราะห์ กิจกรรมเสริมทักษะทางด้านเรขาคณิตโดยใช้โปรแกรม GSP และกิจกรรมตอบ
คำถามประจำสปั ดาห์ เพ่อื สง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียนไดพ้ ัฒนาความเปน็ เลศิ ทางดา้ นการคำนวณท้ังในและนอกเวลาเรียน
ด้านการพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน
ความคดิ เห็น และแกป้ ญั หาของผู้เรียน สง่ เสรมิ ใหค้ รูผู้สอนออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่สง่ เสริมกระบวนการคิด
ของผู้เรียนในชั่วโมงเรียน โดยใช้การเรียนรู้แบบ Active Learning ในทุกรายวิชา ด้วยกระบวนการสอนที่
35
หลากหลาย เช่น การสอนที่ใช้การทดลอง การออกแบบชิ้นงาน บูรณาการแบบโครงงาน บูรณาการเรียนการ
สอนโดยใช้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และสะเต็มศึกษาในทุกระดับชั้น ส่งเสริมให้ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้
คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จดั กระบวนการเรียนรทู้ เ่ี หมาะสมกบั เนอ้ื หาตาม
มาตรฐานหลักสูตร ยังได้จัดให้มีกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ส่งเสริมพัฒนาให้ผู้เรียนให้มีความสามารถในการคิด
วิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหา ได้แก่ ค่ายพัฒนาทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การทำโครงงานคณิตศาสตร์ กิจกรรมโครงงานคุณธรรม และกิจกรรมมหกรรม
ชมรม TO BE NUMBER ONE
ด้านความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนอกจากจะมุ่งเน้นให้
ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะกระบวนการคิดแล้วยังส่งเสริมความสามารถในการสร้างนวัตกรรมของผู้เรียน
โดยมีกิจกรรมเสริมหลักสูตร ได้แก่ กิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานคณิตศาสตร์ โครงงานภาษาไทย
โครงงานอาชีพ นอกจากน้ียังได้บรู ณาการเรียนการสอนโดยใช้งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน และสะเต็มศึกษา
(STEM EDUCATION) ตลอดจนให้ผู้เรียนพัฒนาผลงาน อันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน ได้แก่
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมผังความคิด (Thing map) โดยเน้น
กระบวนการ Gpas 5 step หนังสือเล่มเล็ก เกม การสร้างสื่อนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ใน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 มีกระบวนการพัฒนาคุณธรรมของโรงเรียน มี 6 ขั้นตอน
ดังน้ี ข้ันตอนที่ 1 การสรา้ งการรับรแู้ ละการยอมรับ ข้นั ตอนที่ 2 การสร้างครูแกนนำและนกั เรยี นแกนนำ ขัน้ ตอน
ที่ 3 การกำหนดคุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน ขั้นตอนที่ 4 การกำหนดวิธีบรรลุคุณธรรมอัตลักษณ์ของ
โรงเรียน ขั้นตอนที่ 5 ลงมือปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนแปลง ขั้นตอนที่ 6 สร้างกลไกการขับเคลื่อน
โรงเรียนคุณธรรม
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีกระบวนการในการพัฒนาความสามารถ
ในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร โดยจัดการเรียนการสอนในรายวชิ าคอมพิวเตอรใ์ นทุกภาคเรียน
มีการใช้โปรแกรมทางด้านการสืบค้นข้อมูลในห้องสมุด ผู้เรียนมีการใช้แพลตฟอร์มดิจิตอลต่าง ๆ ในการเรียน
ออนไลน์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) เช่น Google meet Line
Edmodo Zoom และ Google classroom เป็นต้น
ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนจัดทำหลักสูตรโรงเรียนทีปังกรวิทยา
พัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ฯ พุทธศักราช 2561 ที่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และกิจกรรม
พัฒนาผู้เรียน มีการจัดครูผู้สอนตรงตามวิชาเอก ครูผู้สอนดำเนินการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล วิเคราะห์
หลกั สูตรสถานศกึ ษา จดั ทำหน่วยการเรียนรู้ จดั ทำแผนการจดั การเรียนร้ทู ี่สอดคลอ้ งกบั สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วัด
หรือผลการเรยี นรู้ โดยมีกระบวนการจดั การเรียนการสอนทีเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคญั ตามธรรมชาตขิ องผเู้ รียน ซึ่งใน
การจัดกจิ กรรมการเรียนรขู้ องแต่ละกลุ่มสาระฯ จะเริม่ จากการวเิ คราะหผ์ เู้ รยี น มีการคดั กรองผเู้ รียนอา่ นไม่ออก
เขยี นไม่คลอ่ ง ในรายวิชาภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หรือมกี ารสื่อสารทไี่ มเ่ หมาะสมกับระดับชน้ั จากนั้นแต่ละ
กลุ่มสาระฯ ได้จัดกิจกรรมอย่างหลากหลายเพื่อแก้ไขปัญหาทีพ่ บ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้กระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเนื้อหาตามมาตรฐานหลักสูตร
36
วัดผลประเมนิ ผลตามสภาพจริง มกี ารนิเทศการจัดการเรยี นการสอนของครูทุกคนอย่างน้อย 1 ครัง้ ตอ่ ภาคเรียน
และกำกับดแู ลการวดั ผลประเมินผล
ด้านการพัฒนาความรู้ ทักษะพ้ืนฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ นอกจากโรงเรียนมกี ารเตรียมความ
พร้อมในการศึกษาต่อ การฝึกงาน หรือการมีงานทำให้กับผู้เรียน โดยจดั กิจกรรมแนะแนวศึกษาต่อให้กับผู้เรียน
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยเชิญสถาบันอุดมศึกษา และหนว่ ยงานต่าง ๆ ตลอดจนรุ่นพ่ี
ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในอาชีพต่าง ๆ มาแนะนำแนวทางในการการศึกษาต่อ มีการทำแบบทดสอบ
ทางอาชีพออนไลน์ เพื่อค้นหาความถนัด และความสามารถของแต่ละบุคคล การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
แนะแนวในทุกระดับชั้น นอกจากนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมโครงการอาชีพให้กับผู้เรียนโดยผ่านโครงการ
ตลาดนัด นักธุรกิจ สมัยใหม่ อาหารสด สะอาด ผักปลอดสารพิษ และตลาดนัดพอเพียงของชมรม TO BE
NUMBER ONE เปน็ ตน้
1.2 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ด้านการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด โรงเรียนได้จัดทำ
กิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนมีพฤติกรรมเป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม เคารพในกฎกติกา มีค่านิยม จิตสำนึก
และอัตลักษณ์ตามที่สถานศึกษากำหนดโดยไม่ขัดกับกฎหมายและวัฒนธรรมอันดีของสังคม โดยมีการพัฒนา
โปรแกรมระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ผ่านเว็บไซต์ 21ess.net บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ทุกฝ่ายท่ี
เกี่ยวข้องในการพฒั นาผูเ้ รียน ได้แก่ ครูกลุ่มบริหารวชิ าการ ครูฝ่ายกิจการนักเรียน ครูที่ปรึกษา ครูผู้สอน และ
ผู้ปกครองคอยดูแลพฤติกรรมของนักเรียนที่รับผิดชอบอย่างเป็นระบบ และปลูกฝังให้ผู้เรียนมีทัศนคติและ
ค่านยิ มอันดตี ่อสถานศกึ ษา กจิ กรรมพัฒนาและส่งเสรมิ ระเบยี บวนิ ยั และความประพฤติ กิจกรรมพฒั นาศกั ยภาพ
ความเป็นพลเมอื งดีมีคณุ ธรรม ฯ อบรมแกนนำป้องกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพติดเพ่อื สง่ เสริมให้เดก็ และเยาวชน
รับรู้และตระหนักในเรื่องปัญหายาเสพติดและอบายมุข โครงการเยาวชนขับขี่ปลอดภัย เสริมสร้างวินัยจราจร
และปอ้ งกันอบุ ัตภิ ยั ในโรงเรียน กิจกรรมห้องเรียนสีขาว และโครงงานคณุ ธรรมซง่ึ เปน็ โครงงานที่เกิดจากผู้เรียน
ร่วมกันคดิ ร่วมกนั ทำเพอ่ื ปลูกฝังความมคี ณุ ธรรมใหก้ ับผเู้ รียนและสังคม
โรงเรียนปลูกฝงั ใหผ้ ้เู รียนมีความภมู ิใจในทอ้ งถนิ่ เห็นคณุ ค่าของความเปน็ ไทย มสี ว่ นร่วมในการอนุรักษ์
วัฒนธรรมและประเพณีไทย รวมทั้งภูมิปัญญาไทย โดยมีการจัดกิจกรรมทั้งในหลักสูตร ได้แก่กิจกรรมชุมนุม
ดนตรีไทย กิจกรรมชุมนุมนาฏศิลป์ไทย วงดนตรีดนตรีลูกทุ่ง กิจกรรมหล่อเทียนพรรษา กิจกรรมทอดผ้าป่า
เพื่อการศึกษา กิจกรรมทำบุญฝึกจิตใกล้ชิดพระธรรม น้อมนำศาสนา นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังสนับสนุนให้
นกั เรียนมีการเข้าร่วมกจิ กรรมงานประเพณีต่าง ๆ กับชุมชน เชน่ ประเพณีวันลอยกระทง เพือ่ สบื สานวัฒนธรรม
ทด่ี งี ามของคนในทอ้ งถน่ิ และภูมิปัญญาท้องถิน่
ดา้ นการพัฒนาให้ผูเ้ รยี นยอมรับและอยู่ร่วมกนั บนความแตกต่างระหว่างบุคคลในด้าน เพศ วัย เชื้อชาติ
ศาสนา ภาษาวัฒนธรรม ประเพณีนั้น โรงเรียนได้จัดให้มีการพัฒนาผู้เรียนโดย ได้วิเคราะห์และการคัดกรอง
ผู้เรียนรายบุคคล โดยใช้แบบประเมินตนเอง SDQ ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ 21ess.net บนเครือข่ายอินเทอร์เนต็
ช่วยเหลือครูในการคัดกรองปญั หาและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นให้นักเรยี น โรงเรียนยังมีการจัดกิจกรรมตา่ ง ๆ
เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รู้จักการทำงานเป็นหมู่คณะร่วมกับผู้อื่น รู้จักการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เกิดความสามัคคี มีความเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี เช่น โครงการห้องเรียนสีขาว
37
กิจกรรมรณรงค์วันงดสูบบุหรี่ กิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติด และกิจกรรมเรียนปรับพื้นฐานของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กิจกรรมส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยภายในโรงเรียน และ
การแข่งขนั กีฬาสภี ายใน เป็นต้น
นอกจากนี้โรงเรียนยังส่งเสริมให้ผู้เรียนมีการรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิต อารมณ์ และสังคม และ
แสดงออกอยา่ งเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยสามารถอย่รู ว่ มกับคนอื่นอย่างมีความสุข เขา้ ใจผูอ้ ื่น ไม่มีความขัดแย้ง
กับผ้อู ื่น โดยมกี ระบวนการพัฒนาให้ผู้เรยี นมคี วามตระหนกั และสำนกึ ดีในการปฏิบตั ิตนดว้ ยวธิ ีการท่ีหลากหลาย
ให้เป็นไปตามบริบทของเหตุการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมเพื่อการอยู่ร่วมกันของผู้เรียนมีการ
รวมกลุ่มนำเสนอความคิดเห็นในรูปแบบของการประชุมกลุ่มของห้องเรียน การทำงานของสารวัตรนักเรียน
การทำหน้าทีใ่ นคณะกรรมการสถานศึกษาสีขาวท่ีพร้อมไปดว้ ยองค์ประกอบของศนู ยเ์ สมารกั ษ์ การให้คำปรึกษา
มีการดำเนินการเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียน เพื่อให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เน้นการพัฒนาด้าน
คุณธรรม จรยิ ธรรม ทเ่ี หมาะสมกบั วยั ของผูเ้ รยี น เนน้ ให้ผู้เรยี นมีวนิ ยั ซ่ือสัตย์ รบั ผดิ ชอบ มีจิตสาธารณะ มคี วาม
กล้าหาญ เสียสละ และมีความกตัญญู มีระบบการแนะแนวและการดูแลสุขภาวะจิต มีการป้องกันและแก้ไข
ยาเสพติดในสถานศึกษา โรงเรียนได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อชนะยาเสพติดจากศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้
เพื่อเอาชนะยาเสพติด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงเรียนได้น้อมนำโครงการ TO BE NUMBER ONE
ในการรณรงค์ป้องกันและแกไ้ ขปญั หายาเสพติด มีการส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนไม่เพิกเฉยต่อการกระทำสิ่งที่ไม่ดี และ
อยู่ร่วมกันด้วยดีในครอบครัว ชุมชุน และสังคม โดยผ่านการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ของโครงการ
สถานศึกษาสีขาว คือ ด้านการป้องกัน ด้านการค้นหา ด้านการรักษา ด้านการเฝ้าระวงั ด้านการบรหิ ารจัดการ
และมีกระบวนการจัดกิจกรรมที่เน้นการปฏิบัติจริงโดยให้ผู้เรียนดำเนินในการจัดกิจกรรมตามโครงการต่าง ๆ
ของโรงเรยี น
2. ผลการพัฒนา
ผลจากการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ด้วยการจัดกิจกรรมทางวิชาการ
ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างหลากหลาย จึงส่งผลให้ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน
การสอื่ สาร และการคดิ คำนวณ การคดิ วเิ คราะห์ คิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ อภปิ รายแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ และ
แก้ปัญหา สามารถในการสร้างนวตั กรรม และมีใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
ส่งผลใหผ้ เู้ รยี นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลักสูตรสถานศกึ ษาจึงทำให้มคี วามรู้ ทักษะพน้ื ฐาน และเจตคติที่ดี
ตอ่ งานอาชีพ
นอกจากนี้โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(มัธยมวัดหัตถสารเกษตร)ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้จัดกิจกรรมที่
มงุ่ เน้นพัฒนาให้ผูเ้ รยี นมกี ารพัฒนาดา้ นคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์อยา่ งครอบคลุมและทว่ั ถึง โดยส่งผลให้ผู้เรียนมี
คุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด ความภูมิใจในท้องถิ่น และความเป็นไทย การยอมรับ
ที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย มีสุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคมที่ดี ทั้งนี้มีผล
การดำเนนิ งานเชิงประจักษ์จากการประเมินในด้านต่าง ๆ ดังนี้
38
มาตรฐาน/ประเดน็ การ ผลการดำเนนิ งาน
พจิ ารณา
1.1 ผลสัมฤทธท์ิ างวชิ าการของผู้เรียน ระดับคุณภาพดีเลิศ
1.1.1 ความสามารถใน ผู้เรียนท่ีมีความสามารถในการอ่าน เขียน การสอ่ื สาร และการคำนวณในแต่ละ
การอา่ น การเขียน ระดบั ช้ัน ร้อยละนกั เรียนท่ีได้ผลการเรยี น 2 ระดบั ดขี น้ึ ไป คิดเปน็ รอ้ ยละ 77.77
1. วิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน รอ้ ยละ 80.57
การส่ือสาร และการคิด 2. วิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รอ้ ยละ 82.89
คำนวณ อยู่ในระดับ 3. วิชาคณิตศาสตร์พืน้ ฐาน รอ้ ยละ 69.85
ดี
ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมายของโรงเรียน และจากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนของนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1-6 ในปีการศึกษา 2561-2563 ผู้เรียนมี
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงข้ึนอยา่ งต่อเน่อื ง
กราฟแสดงการเปรียบเทียบความสามารถในการอ่าน การเขียนการสอ่ื สาร
และการคดิ คำนวณ รายวชิ าภาษาไทย วิชาคณติ ศาสตร์ และวชิ าภาษาต่างประเทศ
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1-6 ในปีการศึกษา 2561-2563
จำแนกตามระดับคุณภาพ (ระดับดขี ้นึ ไป เฉลยี่ ร้อยละ 77.77)
90.00
80.00
70.00
60.00
ร้อยละ 50.00
40.00
30.00
20.00
10.00
0.00 ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ ภาษาอังกฤษ
68.19 51.85 63.56
ปกี ารศกึ ษา 2561 75.31 68.89 74.17
ปกี ารศึกษา 2562 80.57 69.85 82.89
ปีการศึกษา 2563
สถานศึกษาไดด้ ำเนินการ
1. จัดทำหลักสตู รสอนวชิ าเพิม่ เตมิ ในรายวชิ าเสรมิ สร้างทักษะภาษาไทย ได้แก่
เสริมทักษะการอ่าน 1-2 เสริมทักษะการพูด 1-2 เรียงความชั้นสูง 1-2 ห้องสมุดและ
การค้นควา้ การอ่านและพจิ ารณาวรรณกรรม 1 ประวตั ิวรรณคดี 1 การเขียนเรยี งความ
ชั้นสูง 1-2 ภาษาไทยเพื่อการแสดง ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร หลักภาษาไทย
การพูด และได้จัดเสริมสร้างทักษะในรายวิชาภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ
ฟงั พดู 1-6 และภาษาองั กฤษอ่าน-เขยี น 1-6
39
มาตรฐาน/ประเด็นการ ผลการดำเนนิ งาน
พจิ ารณา
2. ใหผ้ เู้ รียนเรยี นปรบั พน้ื ฐานเพอ่ื คัดกรองในกลุ่มทีจ่ ะส่งเสรมิ หรือพฒั นา
3. ให้ผู้เรียนเข้าร่วมโครงการรักการอ่าน เพื่อที่จะได้อ่านเขียนและสรุป
ใจความสำคัญ
4. จัดให้ผู้เรียนเรียนเสริมทักษะภาษาอังกฤษกับครูชาวต่างประเทศอย่างนอ้ ย
สปั ดาหล์ ะ 1 คาบเรยี นทุกระดับชัน้ เพอื่ สง่ เสรมิ ทกั ษะการส่ือสาร สนทนา ภาษาอังกฤษ
และวชิ าเลอื กเพม่ิ เติม
5. การจัดกิจกรรมส่งเสริมชุมนุมรักการอ่าน-เขียน ในวิชาภาษาไทย และวิชา
ภาษาอังกฤษ
6. ในรายวิชาคณติ ศาสตร์ มีการจดั กิจกรรมสอนเสริม การตวิ เพือ่ ส่งเสริมความ
เป็นเลิศ และอัจฉริยภาพทั้งวิทยากรภายในและภายนอก มีการจัดทำโครงงาน
คณติ ศาสตร์สำหรบั ผ้เู รียนท่ีมคี วามสนใจ
7. ให้ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมสอนซ่อมเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ
โดยวิทยากรภายนอกในวิชาคณิตศาสตร์และวิชาภาษาอังกฤษ ตามโครงการพัฒนา
ศักยภาพนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ (Gifted
Program) เพื่อเปน็ การสง่ เสริมการพัฒนากระบวนการความรู้ของผู้เรยี นให้มที ักษะการ
เรียนรู้บรรลุตามจุดหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551
8. จัดโครงการการเรียนปรับพื้นฐานนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2563 เพื่อเป็นการปรับพื้นฐานให้ผู้เรียนมี
ทกั ษะในการคดิ อ่าน ฟงั ดู พดู เขยี น มคี วามร้แู ละทกั ษะที่จำเป็นตามหลกั สตู ร
1.1.2 ความสามารถ กราฟแสดงรอ้ ยละของผู้เรยี นชั้น ม.1-ม.6 ทมี่ คี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์
ในการคดิ วิเคราะห์ คิดอยา่ งมีวิจารญาณ อภปิ รายแลกเปลี่ยนความคิดเหน็
คิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และแก้ปญั หาวิชาวทิ ยาศาสตร์
อภปิ รายแลกเปลย่ี น จำแนกตามระดบั คุณภาพ (ระดับดีข้ึนไป เฉล่ยี ร้อยละ 76.68)
ความคดิ เห็นและการ 40.00 34.31
แก้ปัญหา อยูใ่ นระดับ 35.00 27.69
ดีเลิศ 30.00
ร้อยละ 25.00
20.00 19.47
14.68
15.00
10.00
5.00 3.85
0.00
ม.1-6
ยอดเยยี่ ม ดเี ลิศ ดี ปานกลาง กําลังพฒั นา
40
มาตรฐาน/ประเดน็ การ ผลการดำเนนิ งาน
พิจารณา
ผลของการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมี
วิจารณญาณ อภปิ รายแลกเปลยี่ น ความคิดเห็นและการแก้ปัญหา ดังน้ี
1. ผูเ้ รียนได้เรียนรู้แบบ Active Learning ในทุกรายวชิ า ด้วยกระบวนการสอน
ที่หลากหลาย เช่น การสอนที่ใช้การทดลอง การออกแบบชิ้นงาน บูรณาการแบบ
โครงงาน บูรณาการเรียนการสอนโดยใช้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และสะเต็ม
ศึกษาในทุกระดับชั้น ส่งเสริมให้ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการ
เรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดกระบวนการเรยี นรู้ที่เหมาะสมกับเนื้อหาตาม
มาตรฐานหลักสูตร ยังได้จัดให้มีกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ส่งเสริมพัฒนาให้ผู้เรียน
ให้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยน
ความคิดเหน็ และแก้ปัญหา
2. มีการจัดกิจกรรมที่ส่งผลเชิงประจักษ์สนับสนุนผลการประเมิน ได้แก่
รางวัลในการแข่งขันทักษะความสามารถทางวิชาการโรงเรียนคาร์บอนต่ำสู่ชุมชน
กิจกรรมชุมนุมห้องเรียนสีเขียว กิจกรรมการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ภาษาไทย
กล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ การออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ด้วยคอมพิวเตอร์ และ
การสรา้ งเกมสรา้ งสรรค์จากคอมพวิ เตอร์
3. ผู้เรียนสามารถจัดทำโครงงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำงาน
ร่วมกันเป็นทีม มกี ารแลกเปล่ียนเรียนรู้เพอ่ื แก้ปญั หาไดอ้ ย่างเหมาะสม
4. ผู้เรียนได้เข้าร่วมโครงการกิจกรรมสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ประจำปีการศึกษา 2563 เป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีของผู้เรยี น
1.1.3 ความสามารถ กราฟแสดงร้อยละของผูเ้ รียนชนั้ ม.1-ม.6 ที่มีผลการประเมนิ
ในการสรา้ งนวตั กรรม ความสามารถในการสรา้ งนวตั กรรม
อยู่ในระดับคุณภาพ จำแนกตามระดับคุณภาพ (ระดับดีข้ึนไป เฉลี่ยรอ้ ยละ 92.82)
ยอดเย่ยี ม 60.00
54.68
50.00
ร้อยละ 40.00
30.00 29.34
20.00
10.00 8.80
7.18
0.00 0.00
ม.1-6
ยอดเยยี่ ม ดีเลิศ ดี ปานกลาง กําลงั พฒั นา
41
มาตรฐาน/ประเดน็ การ ผลการดำเนนิ งาน
พจิ ารณา
1. จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระฯ ซึ่งมีการบูรณาการ
การจัดการเรียนการสอนผ่านงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนที่ให้ผู้เรียนที่ร่วมกัน
สร้างนวตั กรรม “หนึ่งหอ้ งเรียน หนึ่งนวตั กรรม” ที่ให้ผเู้ รยี นทุกคนร่วมกันสร้างช้ินงาน
และอธิบาย หลักการ แนวคิด ขั้นตอน และปัญหาอุปสรรค ของการทำงานได้ โดยมี
กิจกรรมร่วม ไดแ้ ก่ โครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานคณติ ศาสตร์ โครงงานการงานอาชพี
คอมพวิ เตอร์ การศึกษาค้นคว้าองคค์ วามรู้ จนทำให้ผ้เู รียนทุกระดับช้นั สร้างผลงานและ
ชิ้นงานตามความมุ่งหมายของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนโดยมีห้องที่ส่งผลงาน
จำนวน 67 ห้องเรียน จากทั้งหมด 67 ห้องเรียน คิดเป็นร้อยละ 100.00 ของนักเรียน
ทั้งหมด
2. ผู้เรียนร่วมกันทำโครงงานคุณธรรมที่เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาในด้าน
พฤติกรรมการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนของตนเอง และมีการนำเสนอแนวคิด
หลักการ วิธกี ารดำเนนิ งาน และประโยชนจ์ ากการดำเนินงาน โดยมีนักเรียนท่ีส่งผลงาน
ทัง้ หมด 67 ห้องเรียน ซ่งึ คดิ เป็นร้อยละของนกั เรยี นที่เขา้ รว่ มกิจกรรมร้อยละ 100.00
3. ผู้เรียนสามารถคิดค้นนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในสถานศึกษา
และภายนอกสถานศึกษา เชน่ หนังส้นั คุณธรรม การสร้างสมการทำนายเวลาในการน่ึง
ขา้ วเหนยี ว
4. ผู้เรียนได้เข้าร่วมโครงการหน้ากากอนามัยทำเองได้ สู้ภัย COVID-19 เพื่อ
เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนใหส้ ามารถปอ้ งกันการแพร่ระบาดของเชือ้ ไวรัส COVID-
19 ด้วยตนเองและลดภาระค่าใชจ้ า่ ยในการซือ้ หนา้ กากอนามัย
1.1.4 มคี วามสามารถใน กราฟแสดงรอ้ ยละของผู้เรยี นช้ัน ม.1-ม.6 ทมี่ ีผลการประเมินความสามารถ
การใชเ้ ทคโนโลยี ในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ และการสื่อสารได้เหมาะสมตามระดบั ช้ัน
สารสนเทศและการ จำแนกตามระดบั คุณภาพ (ระดับดีขึ้นไป เฉล่ียรอ้ ยละ 88.18)
สอ่ื สาร อยู่ในระดบั 45.00 41.68
คุณภาพดีเลิศ 40.00
ร้อยละ 35.00
30.00 30.45
25.00
20.00 16.04
15.00
10.00
5.00 5.79 6.03
0.00
ม.1-6
ยอดเยีย่ ม ดีเลศิ ดี ปานกลาง กาํ ลงั พฒั นา
42
มาตรฐาน/ประเด็นการ ผลการดำเนินงาน
พจิ ารณา 1. ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านรายวิชาคอมพิวเตอร์ทุกรายวิชา ทุกระดับชั้น ทุกคนได้
ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในหอ้ งสมุดท่ีจดั ไวใ้ หใ้ นมมุ สืบค้น
2. ผู้เรียนทุกคนสามารถใช้อินเทอร์เน็ตของโรงเรียนฟรี ในการสืบค้น ข้อมูล
ข่าวสาร หรอื สงิ่ ท่นี ักเรียนสนใจตามความชอบและความถนัดของผูเ้ รยี น
3. ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการสืบค้นข้อมูลในห้องสมุด โดยมีระบบการยืมคืน
หนงั สอื และอ่านหนังสือออนไลน์ผา่ น Applications DP5
4. ผู้เรียนสามารถดูผลการมาเรียน ขาด มาสายของ และดูคะแนนพฤติกรรม
ของตน ตลอดจนการดผู ลประเมนิ ตา่ ง ๆ ของตนเองในด้านความฉลาดทางอารมณ์ SDQ
และความฉลาดทางสังคม EQ ผ่านเวบ็ ไซต์ 21ess.net
5. ผู้เรียนสามารถใช้เทคโนโลยีในการนำเสนองานในรูปแบบต่าง ๆ ได้
เป็นอย่างดี เชน่ การสร้างไลนก์ ลุ่ม เฟชบุ๊คกลมุ่ เพื่อติดตามงานในการเรียนการสอนใน
แตล่ ะวนั และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการเรียนรู้
1.1.5 มผี ลสมั ฤทธิ์ 1. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเกรด 2 ระดับดีขึ้นไป 8 กลุ่มสาระฯ
ทางการเรียนตาม เฉลีย่ ในระดับชั้น ม.1-6 ปีการศึกษา 2563 สงู กว่าระดับดี ทั้ง 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
หลกั สูตรสถานศึกษาอยู่
กราฟแสดงผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นเกรด 2 ระดบั ดีขึ้นไป 8 กลุ่มสาระฯ
ในระดบั คุณภาพดีเลิศ ในระดับชั้น ม.1-6 ปกี ารศึกษา 2563 (ระดบั ดีขนึ้ ไปเฉล่ยี ร้อยละ 87.31)
120.00
100.00 91.38 94.90 96.83
87.57
80.69 84.91 85.21
80.00 76.95
้รอยละ
60.00
40.00
20.00
0.00
43
มาตรฐาน/ประเดน็ การ ผลการดำเนนิ งาน
พจิ ารณา
2. การเปรียบเทียบร้อยละของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
8 กลุม่ สาระฯ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1-6 ที่มผี ลการเรยี น 2 ขน้ึ ไป ปกี ารศึกษา 2561-2563
กราฟแสดงรอ้ ยละของนกั เรยี นท่มี ผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน 8 กลุม่ สาระ
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1-6 ท่ีมีผลการเรยี น 2 ขน้ึ ไป ปกี ารศึกษา 2561-2563
4.00
3.50
3.00
้รอยละ 2.50
้รอยละ 2.00
1.50
1.00
0.50
0.00 คณติ ศาสต วทิ ยาศาสต สังคม การงาน ภาษาตา่ ง
ร์ ร์ ศกึ ษา อาชีพ ประเทศ
ภาษาไทย สขุ ศกึ ษาฯ ศิลปะ 3.27 2.19
ปีการศึกษา 2561 2.37 1.90 2.52 2.58 3.40 2.70 3.33 2.56
ปกี ารศึกษา 2562 2.62 2.31 2.82 2.69 3.45 2.99 3.49 2.86
ปีการศึกษา 2563 3.05 2.58 2.83 2.82 3.68 3.32
หมายเหตุ ผเู้ รียนมผี ลการเรยี นเพิ่มขนึ้ อย่างต่อเนอื่ ง ในทุกกล่มุ สาระฯ
3. การเปรยี บเทียบร้อยละของนักเรยี นทม่ี ผี ลการเรยี นระดับ 2 ขนึ้ ไป 8 กลุ่ม
สาระฯ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ปกี ารศึกษา 2561-2563
กราฟแสดงการเปรียบเทยี บรอ้ ยละของนกั เรียนทม่ี ผี ลการเรียนระดบั 2 ข้ึนไป
8 กลมุ่ สาระฯ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1-6 ปีการศกึ ษา 2561-2563
90
88 87.3
86
84
81.98
82
80
78
76.085
76
74
72
70 ปีการศึกษา 2562 ปกี ารศึกษา 2563
ปกี ารศกึ ษา 2561
หมายเหตุ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นเฉลย่ี ท้ัง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ จากโปรแกรม SGS
ของ สพฐ. เพม่ิ ข้ึนอย่างตอ่ เน่อื งในทกุ ปีการศกึ ษา
มาตรฐาน/ประเด็นการ 44
พจิ ารณา
ผลการดำเนนิ งาน
1.1.6 มคี วามรทู้ กั ษะ กราฟแสดงร้อยละของผู้เรยี นช้ัน ม.1-ม.6 ที่มีความรทู้ กั ษะพ้นื ฐาน
พ้ืนฐานและเจตคติทีด่ ี
ตอ่ งานอาชพี อยู่ใน และเจตคตทิ ี่ดีตอ่ งานอาชีพ
ระดับคณุ ภาพยอดเยีย่ ม จำแนกตามระดับคุณภาพ (ระดบั ดีข้ึนไป เฉลี่ยรอ้ ยละ 94.90)
60.00 56.85
50.00
ร้อยละ 40.00
30.00 30.13
20.00
10.00 7.91
0.00 3.86 1.24
ม.1-6
ยอดเยี่ยม ดีเลิศ ดี ปานกลาง กาํ ลงั พฒั นา
โดยมีผลการพฒั นาดงั น้ี
1. โรงเรียนได้จัดกิจกรรมแนะแนวศึกษาต่อให้กับผู้เรียน จนผู้เรียนมีแนวทาง
ในการศกึ ษาต่อและเหน็ คุณคา่ ของงาน
2. โรงเรียนส่งเสริมจนผู้เรียนได้จัดกิจกรรมตลาดนัดนกั ธุรกิจ สมัยใหม่ อาหาร
สด สะอาด ผักปลอดสารพิษ
3. ผู้เรียนมีพื้นฐานที่ดีในการประดิษฐ์ของเครื่องใช้ ตลอดจนงานฝีมือต่าง ๆ
เช่น การประดิษฐ์ดอกไม้จากผ้าใยบัว การประดิษฐ์ดอกไม้มงคล จนสามารถนำผลงาน
ของนักเรยี นออกนำเสนอต่อสาธารณะชนในงานตา่ ง ๆ ที่มกี ารจดั แสดง
4. ผู้เรยี นสามารถประดิษฐ์หรือการวาดเป็นงานสามมติ ิจากการเขียนโปรแกรม
คอมพวิ เตอร์
5. โรงเรียนได้จนกิจกรรมตลาดนัดพอเพียงของชมรม TO BE NUMBER ONE
จนนกั เรียนได้เหน็ ถึงคณุ คา่ ของทกั ษะพ้ืนฐานและเจตคติทีด่ ตี ่องานอาชีพ
6. ผู้เรียนคน้ พบความถนัดและสนใจของตนเอง มีความรู้มที ักษะกระบวนการ
และเจตคตทิ ดี่ ีต่องานอาชีพเพ่ือพฒั นาตนเองในข้นั ทสี่ งู ข้ึน
7. ผ้เู รยี นเข้ารว่ มโครงการอบรมการดบั เพลงิ เบื้องตน้ ประจำปกี ารศกึ ษา 2563
เพ่อื ให้ผเู้ รยี นเกดิ ความรู้และความเข้าใจในการดบั เพลงิ เบอื้ งตน้ รวมทง้ั ตระหนกั ถงึ
อันตรายท่เี กิดจากอัคคีภัย