The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

Vol.5 No.1

vol5no1

Keywords: VE-IRJ

ทุกท่านที่ได้ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์เพื่อใช้ใน การ วารสารวจิ ยั และนวัตกรรมการอาชีวศกึ ษา 147
ประกอบการวจิ ัยในครง้ั น้ี
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
เอกสารอา้ งองิ ปีที่ 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2564
[1] สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา,
การลดปัญหาการออกกลางคันของผเู้ รียน [8] จินตนา รวมชมรัตน์, รูปแบบการจัดการ
อาชีวศกึ ษา ปีงบประมาณ 2558, อาชีวศึกษาระบบทวิภาคใี นวทิ ยาลยั อาชวี
โรงพิมพ์วทิ ยาลยั เทคนคิ มีนบรุ ี, พ.ศ.2558. ศกึ ษา สังกดั สานักงานคณะกรรมการ
[2] สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา, การอาชีวศกึ ษา, มหาวทิ ยาลัยราชภัฏ
การมสี ่วนร่วมในการจดั การอาชีวศกึ ษา กาญจนบรุ ี, พ.ศ.2558.
ระบบทวิภาคี, กรุงเทพฯ : สานกั งาน
คณะกรรมการการอาชวี ศึกษา, พ.ศ.2554. [9] สวุ ทิ ย์ สวสั ดี และชัยยุทธ ศริ ิสุทธ์,
[3] Diamond, M., Vocational students, กลยุทธก์ ารจดั การอาชวี ศกึ ษาระบบทวิภาคี
engagement and career objectives : ของสถานศกึ ษาอาชวี ศึกษา สังกัดสานักงาน
assessment of engagement processes คณะกรรมการการอาชีวศึกษา, วารสารสนั ติ
in new vocational students, Pittsburgh: ศกึ ษาปริทรรศน์ มจร., พ.ศ.2563.
University of Pittsburgh, 2007.
[4] สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา, [10] ณฐั วฒุ ิ ประทุมชาติ, การพฒั นารปู แบบ
การจัดการเรยี นแบบยดึ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั , ความสมั พันธเ์ ชิงสาเหตุของการเรยี นรู้
กรุงเทพฯ : สานกั งานคณะกรรมการ ตลอดชีวิตสาหรับนักศกึ ษาอาชวี ศกึ ษา
การอาชีวศกึ ษา,พ.ศ.2551. ระบบทวภิ าคี, จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย,
[5] พรหมสวัสดิ์ ทิพยค์ งคา, รปู แบบการบรหิ าร พ.ศ.2556.
การเปลย่ี นแปลงอาชวี ศึกษาในประเทศไทย,
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้า [11] นวลอนงค์ ธรรมเจริญ, การพัฒนารปู แบบ
พระนครเหนอื , พ.ศ.2551. การบริหารจัดการอาชวี ศกึ ษาระบบทวิภาคี
[6] นิรตุ ต์ บตุ รแสนลี, การพัฒนารปู แบบการ โรงเรียนใน โรงงานแบบบรู ณาการ, มหา
จัดการอาชวี ศึกษาระบบทวิภาคีทีม่ งุ่ เนน้ วิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนคร
ประสทิ ธผิ ลของสถานศึกษา สังกัดสานักงาน เหนอื , พ.ศ.2558.
คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษาด้วยกระบวน
การวิจัยเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารแบบมีส่วนรว่ ม, [12] สรุ ชัย ลาพิมพ์, การพฒั นาแนวทางการ
มหาวทิ ยาลยั บรู พา, พ.ศ.2561. จดั การศึกษาระบบทวภิ าคีส่คู วามเปน็
[7] สริ ชิ ยั นยั กองศริ ิ, การพฒั นารปู แบบการ เลศิ ของวทิ ยาลยั สงั กัดอาชวี ศึกษาจังหวัด
จดั การเรียนการสอนอาชวี ศึกษาระบบทวิ อดุ รธานี, มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม,
ภาคี โดยบูรณาการการสอนในสถาน พ.ศ.2562.
ประกอบการ, มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี
พระจอมเกลา้ พระนครเหนือ, พ.ศ.2554.

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

148 วารสารวิจัยและนวัตกรรมการอาชวี ศึกษา
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ปีท่ี 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2564

การพัฒนากจิ กรรมการเรียนร้ตู ามแนวคดิ หอ้ งเรยี นกลับด้าน โดยใช้ Google Classroom
เพอื่ สง่ เสริมการรูด้ ิจิทัลและผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของนกั เรยี น ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชั้นปที ี่ 1

A Development of Learning Activities Based on the Flipped Classroom Using
Google Classroom to Promote Digital literacy and Academic Achievement

for the First year Vocational Certificate Student

ศริ ญั ญา จนั ทร์ซา1*, ไพศาล วรคา2, สมสงวน ปสั สาโก3 และ พงษ์สวัสดิ์ พมิ พไิ สย4
Sirunya Juncha1*, Paisarn Worakham2, Somsangguan Passago3 and Pongsawasd Pimpisai4

*123สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ศกึ ษา คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั มหาสารคาม 44000
4วิทยาลยั เทคนคิ หนองบวั ลาภู สถาบนั การอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื 1

*123Field of Science Education, Faculty of Education, Maha Sarakham Rajabhat University 44000
4Nongbualamphu Technical College, Institute of Vocational Education : Northeastern Region 1

Received : 2021-04-05 Revised : 2021-04-25 Accepted : 2021-04-26

บทคดั ย่อ (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ชนิด
การวจิ ยั คร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์ (1) เพ่อื ศึกษาแนว เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 20 ข้อ และ
(3) แบบทดสอบออนไลน์ เรอ่ื ง ทกั ษะดา้ นการรดู้ ิจทิ ัล
ทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียน (Digital Literacy) 4 มติ ิ ของสานักงานคณะกรรมการ
กลับด้านโดยใช้ Google Classroom (2) เพ่ือพัฒนา ดจิ ิทัลเพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ จานวน 75 ขอ้
กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดหอ้ งเรียนกลับด้าน โดย (4) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียน ชนิด
ใช้ Google Classroom เรื่อง เทคโนโลยีชีวภาพและ 5 ระดับ จานวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ
จุลนิ ทรียใ์ นอาหาร ของนักเรยี นระดบั ประกาศนยี บัตร ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และ
วิชาชีพ ชั้นปีที่ 1 (3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการ ทดสอบดว้ ยสถิติ t-test for Dependent-Samples
เ รี ย น แ ล ะ ก า ร รู้ ดิ จิ ทั ล ข อ ง นั ก เ รี ย น ร ะ ดั บ
ประกาศนียบตั รวิชาชีพ ช้ันปีที่ 1 ทเ่ี รียนดว้ ยกิจกรรม ผลการวิจัยพบว่า (1) แนวทางการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้ การเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้
Google Classroom และ (4) เพื่อศึกษาความพึง Google Classroom กิจกรรมที่บ้าน 1) นักเรียน
พอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับ สืบค้นข้อมูลเน้ือหาท่ีครูกาหนดให้รายบุคคลพร้อม
ด้าน โดยใช้ Google Classroom ของนักเรียนระดับ อ้างอิงแหล่งที่มา 2) นักเรียนร่วมสนทนาแบ่งงานกัน
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีที่ 1 กลุ่มท่ีศึกษา ในรูปแบบออนไลน์ เป็นกลุ่มๆละ 3-5 คน โดยใช้
นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีท่ี 1 โปรแกรม Google Classroom, Facebook และ
วทิ ยาลยั เทคนิคหนองบัวลาภู จานวน 20 คน โดยการ Application Line 3) ส่งข้อมูลการนาเสนอเป็นไฟล์
เลือกแบบเจาะจง เคร่ืองมือท่ีใช้ได้แก่ (1) การจัด PowerPoint ในห้องเรียน Google Classroom ด้วย
กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลบั ด้านโดย รหัสช้ันเรียน คือ oyicdtu เพื่อให้ครูตรวจสอบข้อมูล
ใช้ Google Classroom จานวน 4 แผน และใหค้ าแนะนา ขอ้ เสนอแนะ ก่อนนาเสนองานที่ช้ัน
เรียน กจิ กรรมที่โรงเรยี น นาเสนอเนอื้ หาข้อมลู รว่ มกัน
*ศิรญั ญา จันทร์ซา อภิปรายกรณีตัวอย่างเกี่ยวกับเร่ืองที่ครูกาหนดให้

E-mail : [email protected]

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

สืบค้น ร่วมกันสรุปประเด็นสาคัญพร้อมถาม - ตอบ วารสารวิจัยและนวัตกรรมการอาชีวศกึ ษา 149
ครูผู้สอนจะเป็นเพียงแค่ผู้ที่ให้คาแนะนาเท่านั้น (2)
กิจกรรมการเรียนรู้มี 4 แผน มีความเหมาะสมอยู่ใน Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ระดับมาก ( X = 4.19, S.D.= 0.06) (3) ผลสัมฤทธ์ิ ปีท่ี 5 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2564
ทางการเรียนหลังจากจัดการเรียนรู้ตามแผนการ
จัดการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้ four Google Classroom plans ; 2) A choice of
Google Classroom นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการ 4 choice answers, 20 questions ; 3) Online Quiz
เรียนหลังเรียน ( X =15.55) จากคะแนนเต็ม 20 on Digital Literacy Skills 4 dimensions of the
คะแนน ไม่ต่างจากเกณฑ์ร้อยละ 75 และการรู้ดิจิทัล Office of the National Economic and Social
หลังเรยี นสูงกว่าก่อนเรยี นอยา่ งมนี ยั สาคัญทร่ี ะดบั .01 Commission, 75 items ; and 4) student
และ (4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนา satisfaction questionnaire, 5 levels, 10 items
กิจกรรมการเรียนร้ตู ามแนวคิดห้องเรยี นกลับดา้ น โดย used to analyze the data, namely percentage,
ใช้ Google Classroom โดยรวมอยู่ในระดับมาก mean and standard deviation and tested with
( X =3.57, S.D.= 0.15) t-test for Dependent-Samples
คาสาคัญ : กเู กิ้ล คลาสรูม , ห้องเรยี นกลับด้าน ,
The results showed that : 1) Guidelines
การรู้ดจิ ทิ ัล for organizing learning activities based on the
Flipped Classroom concept using Google
Abstract Classroom. Home activities comprises : 1)
The objectives of this research were to: students search for content assigned by the
teacher individually and refer to the source. 2)
1) study the way of organizing learning activities students participated in discussions, divided
based on the Flipped Classroom using Google work in an online format into groups of 3-5
Classroom ; 2) develop learning activities people, using the application such as Google
based on the Flipped Classroom concept using Classroom, Facebook, Application Line. 3) Data
the Google Classroom on Biotechnology and presentation using a PowerPoint file in Google
Food Microbes. Of vocational students 1 : 3) Classroom with the class code “oyicdtu” for
study academic achievement and digital teachers to review the information and provide
literacy of Year 1 Diploma students feedback before presenting in classroom.
participating in the Flipped Classroom School activities Present information materials
conceptual learning activities using Google together, discuss case studies, about the
Classroom ; and 4) study the satisfaction on subject matter the teacher has asked to
learning activities based on the Flipped explore. Together, summarize the key points
Classroom concept using Google Classroom for and Question and Answer session. Teacher will
First year students vocational certificate. 20 act like the facilitator and give some advice ; 2)
students from Nong Bua Lam Phu Technical There are 4 learning activities that are
College were chosen a specific type. Research appropriate at a high level. ( X = 4.19, S.D.=
tools were : 1) Organized learning activities 0.06) ; and 3) Learning achievement after
based on the Flipped Classroom concept using organizing the learning management plan
based on the Flipped Classroom concept using
Google Classroom, students have achieved
learning achievement after class. ( X =15.55)
out of a full score of 20, not different from the

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

150 วารสารวิจยั และนวตั กรรมการอาชีวศึกษา พอใจโดยใช้บทเรียนออนไลน์ (Google classroom)
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ ทุกด้านอยู่ในระดบั มาก [2] นักเรียนท่ีไม่ Join Class
ปีที่ 5 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มถิ นุ ายน 2564 ในปริมาณน้อย มีจานวนนักเรียนท่ีส่งงานผ่านระบบ
Google Classroom ตามกาหนดต่ากว่าคร่ึงหนึ่งของ
75% criterion and digital literacy. Significantly จานวนนักเรียนท้ังหมด แต่มีจานวนนักเรียน ส่งงาน
higher post-study at the .01 level ; and 4) ในปริมาณท่ีเพิ่มขึ้นจากการส่งงานในคร้ังแรกและมี
Overall student satisfaction with the จานวนนักเรียนที่ส่งงานช้าในปริมาณน้อยมาก ส่วน
development of Flipped Classroom-based นักเรียนที่ไม่ส่งงานน้ันมีปริมาณน้อยกว่าจานวน
learning activities using Google Classroom was นักเรียนท่ีส่งงานตามกาหนด จากผลการประเมิน
at a high level. ( X = 3.57, S.D. 0.15). ความพึงพอใจ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในการ
Keywords : Google Classroom, Flipped ส่งงานผ่านระบบ Google classroom ในระดับมาก
ทส่ี ดุ [3]
Classroom, Digital Literacy.
ผู้วิจัยได้เห็นถึงปัญหาและเกิดแรงจูงใจในการ
1. บทนา จะพฒั นารปู แบบการเรียนรู้เพอ่ื พัฒนาแนวทางการจดั
ปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี กิจกรรมการเรียนรู้และวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
และการรู้ดิจิทัลของนักเรียนระดับประกาศนียบัตร
สารสนเทศและการสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็วมี วิชาชีพ ชั้นปีที่ 1 ด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อ
บทบาทสาคัญต่อการดาเนินชีวิตประจาวันของมนษุ ย์ พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับ
ทั้งในด้านอุตสาหกรรม เศรษฐกิจสังคม และด้าน ด้านโดยใช้ Google Classroom ให้นักเรียนมีความ
การศึกษา ท่ามกลางความเปล่ียนแปลงน้ี ส่งผลให้ สามารถในการนาตนเองของนักเรียนที่เรียนด้วย
การศึกษา จึงเป็นเคร่ืองมือสาคัญในการยกระดับ กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีหลากหลายและเป็นการพัฒนา
คุณภาพของประชากรในประเทศไทยให้ทันต่อการ รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยวัดความพึงพอใจ ใน
เปลี่ยนแปลง โดยการให้ความสาคัญกับการเปลี่ยน รูปแบบการดาเนนิ กจิ กรรมทบ่ี ้านและทห่ี ้องเรียน เพ่ือ
วิธีการสอนลดการให้ความรู้แบบท่องจา เพ่ิมความรู้ นาไปสู่การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนในรปู แบบ
ทางเทคนคิ ให้นา้ หนกั กับการสร้างทักษะในการเรียนรู้ ใหม่เพิ่มมากขึ้น และบรรลุเป้าหมายในการเรียนรู้ได้
และการปรับตัวของนักเรียน ให้สามารถเรียนรู้เพ่ือ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
พัฒนาตนเองได้ตลอด ต้องมีการยกระดับทักษะหรือ
รับการฝึกอบรมให้มีทักษะใหม่ท่ีเหมาะสม จากงาน 2. ลกั ษณะของงานวิจยั
วิจัยการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้อง งานวิจัยน้ีจะเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research
เรียนกลับด้าน (Flipped classroom) ด้วยการบรู ณา
การการเรียนการสอนรายวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดีย and Development : R&D) เพื่อศึกษาการพัฒนา
ผ่าน Google Classroom [1] นักเรียนมีพัฒนาการ กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลบั ด้านโดย
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านผ่าน ใช้ Google Classroom เร่ือง เทคโนโลยีชีวภาพและ
Google classroom สูงขึ้น นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ จุลินทรีย์ในอาหาร เพ่ือส่งเสริมการรู้ดิจิทัลและ
ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์หลังเรียนสูง ผ ล สั ม ฤ ท ธิ์ ท า ง ก า ร เรี ย น ข อง นั ก เรี ย น ร ะ ดั บ
กว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันปีที่ 1 โดยแบ่งการวิจัย
และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้แบบ ออกเปน็ 3 ระยะ ดงั นี้
ห้องเรียนกลับด้านในระดับมาก นักเรียนท่ีเรียนมี
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นักเรียนมี
คะแนนผลสัมฤทธิ์เฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ท่ีกาหนดร้อยละ
75 อยา่ งมีนยั สาคัญทางสถติ ิทรี่ ะดบั .01 และความพงึ

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

ระยะที่ 1 ศึกษาแนวทางการจัดการเรียนรู้ตาม วารสารวิจยั และนวตั กรรมการอาชีวศกึ ษา 151
แ น ว คิ ด ห้ อ ง เ รี ย น ก ลั บ ด้ า น โ ด ย ใ ช้ Google
Classroom การวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลท่ีได้จากการ Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
สังเคราะหเ์ อกสารงานวจิ ยั และการสมั ภาษณ์ ผู้วจิ ัยนา ปีท่ี 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564
ผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญมาหา ค่าเฉลี่ย ( X )
ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ( S.D.) แปลผลคุณภาพของ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบ่ียงเบน
แผนการจัดการเรียนรู้ ซ่ึงระดับความเหมาะสมตอ้ งได้ มาตรฐาน
ค่าเฉล่ีย 3.51 ขึ้นไป จึงถือว่าเปน็ แผนการจัดกิจกรรม
ท่ีสามารถนาไปใช้จัดการเรียนร้ไู ด้ วิ เ ค ร า ะ ห์ ค ว า ม พึ ง พ อ ใ จ ข อ ง กิ จ ก ร ร ม ก า ร
พัฒนาการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดย
ระยะท่ี 2 พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด ใช้ Google Classroom วิเคราะห์โดยใช้สถิติพื้นฐาน
ห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้ Google Classroom เร่ือง ไดแ้ ก่ ค่าเฉล่ีย คา่ รอ้ ยละ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน
เทคโนโลยีชวี ภาพและจลุ ินทรีย์ในอาหารของนักเรยี น
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันปีที่ 1 จานวน 4 3. วัตถปุ ระสงค์
แผนการเรียนรู้ 12 ช่ัวโมง ระยะน้ีเป็นการยกร่าง 3.1 เพือ่ ศึกษาแนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
กิจกรรมการเรยี นรู้ตามแนวคดิ ห้องเรยี นกลับดา้ น โดย
ใช้ Google Classroom และประเมินกิจกรรมการ ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้ Google
เรยี นรู้ โดยผเู้ ชี่ยวชาญท้ัง 5 ท่าน Classroom

ระยะท่ี 3 ศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ ใน 3.2 เพ่ือพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด
ระยะนี้เป็นการทดลองใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตาม ห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้ Google Classroom เร่ือง
แ น ว คิ ด ห้ อ ง เ รี ย น ก ลั บ ด้ า น โ ด ย ใ ช้ Google เทคโนโลยีชวี ภาพและจลุ ินทรีย์ในอาหารของนกั เรยี น
Classroom เพื่อศึกษาผลสัมฤทธ์ิการเรียน และการรู้ ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชัน้ ปที ่ี 1
ดิจิทัลของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปี
ท่ี 1 วิเคราะหข์ อ้ มูลเพ่ือศึกษาผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน 3.3 เพ่ือศึกษาผลสัมฤทธ์ิการเรียน และการรู้
โดยนาคะแนนที่ได้จากแบบทดสอบ ข้อสอบปรนัย 4 ดิจิทัล ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ัน
ตัวเลอื ก จานวน 20 ข้อ ผู้วจิ ัยสร้างข้ึนตามจดุ ประสงค์ ปีที่ 1 ท่ีเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด
การเรียนรู้ ตามทฤษฎีของ Bloom และกลุ่มที่ศึกษา ห้องเรียนกลบั ด้านโดยใช้ Google Classroom
นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันปีที่ 1
วทิ ยาลัยเทคนิคหนองบัวลาภู จานวน 20 คน โดยการ 3.4 เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อกิจกรรมการ
เลือกแบบเจาะจง โดยใช้ สถิติพ้ืนฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านโดยใช้ Google
ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วย Classroom ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตร
สถติ ิ t-test Dependent Sample วิชาชีพ ชนั้ ปีที่ 1

วิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือศึกษาการรู้ดิจิทัล หรือ 4. ขอบเขตของการวิจยั
(Digital literacy) ของนกั เรยี นโดยนาคะแนนที่ได้จาก การวิจัยครั้งนเ้ี ปน็ การวิจัยและพัฒนา (Research
การทาแบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง การรู้ดิจิทัล
(Digital Literacy) ซึ่งเป็นแบบทดสอบออนไลน์ and Development : R&D) เพื่อศึกษาการพัฒนา
จานวน 75 ข้อ จากสานักงานคณะกรรมการดิจิทัล กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลบั ด้านโดย
เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มาวิเคราะห์โดยใช้ ใช้ Google Classroom เรื่อง เทคโนโลยีชีวภาพและ
จุลินทรีย์ในอาหาร เพื่อส่งเสริมการรู้ดิจิทัลและ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีท่ี 1 จานวน 20 คน
ภาคเรียนที่ 2/2563 วิทยาลัยเทคนิคหนองบัวลาภู
โดยการเลอื กแบบเจาะจง (Purposive Sampling)

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

152 วารสารวจิ ัยและนวัตกรรมการอาชวี ศึกษา
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ปที ี่ 5 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564

ตวั แปรต้น การพฒั นากิจกรรมการเรียนรู้ Google Classroom เป็นการจัดการเรียนรู้
ตามแนวคดิ หอ้ งเรียนกลบั ดา้ น รูปแบบใหม่ ท่ใี ชส้ ื่อการสอนและเทคโนโลยเี ขา้ มาชว่ ย
โดยใช้ Google Classroom ในการสอนตลอดจนการจัดการช้ันเรียน สามารถช่วย
เพิ่มประสิทธิภาพงานด้านการศึกษา เช่น การเขียน
ตัวแปรตาม 1) ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน เรียงความและกาหนดเวลาของชั้นเรียน กลุ่มของ
2) การรดู้ จิ ิทลั นักศึกษาสามารถทางานร่วมกันในงานชิ้นเดียวกันได้
3) ความพึงพอใจ ใน Google เอกสาร ซ่ึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้
ในแบบเรยี ลไทม์ แทนทจี่ ะตอ้ งรอการสง่ เอกสารหลาย
5. ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะได้รับ ฉบับมาทางอีเมล์ นักเรียนสามารถทบทวนบทเรียนได้
5.1 เป็นแนวทางสาหรับผู้สอนในการพัฒนาการ ตลอดเวลา ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงข้ึน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเป็นเครื่องมือ
เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้ Google ที่ใช้วัดความรู้ในด้านเน้ือหาวิชาและจุดประสงค์การ
Classroom สาหรบั กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรยี นรขู้ องเน้อื หาวิชาที่สอน

5.2 เม่ือพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แล้วผู้เรียนมี การรู้ดิจิทัล (Digital literacy) หมายถึง ทักษะ
ทักษะการคิดสูงข้ึน และมีความสุขพึงพอใจต่อ ในการนาเคร่ืองมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีดิจิทัลที่มี
กิจกรรมการเรียนรใู้ นรปู แบบใหมเ่ พ่ิมข้ึน อยู่ในปัจจุบัน อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แทปเลต
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และส่ือออนไลน์ มาใช้ให้เกิด
5.3 เป็นแนวทางสาหรับผู้สอนในการพัฒนา ประโยชน์สูงสุด ในการสื่อสาร การปฏิบัติงาน และ
ทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ให้เป็นพลเมืองดิจิทัลที่ การทางานรว่ มกันมี 9 ด้าน 1) การใชง้ านคอมพวิ เตอร์
มปี ระสิทธิภาพ 2) การใช้งานอินเตอร์เน็ต 3) การใช้งานเพื่อความ
มั่นคงปลอดภัย 4) การใช้โปรแกรมประมวลคา 5)
6. ทฤษฎี การใช้โปรแกรมตารางคานวณ 6) การใช้โปรแกรม
แนวคิดของห้องเรียนกลับด้านเป็นรูปแบบการ นาเสนองาน 7) การใช้โปรแกรมสร้างสื่อดิจิทัล 8)
การทางานร่วมกันแบบออนไลน์ 9) การใช้ดิจิทัลเพื่อ
เ รี ย น ก า ร ส อ น ที่ ค รู ต้ อ ง เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง บ ริ บ ท ข อ ง ความม่ันคงปลอดภยั [4]
ครูผู้สอน จากการสอนเป็นการจัดเตรียมแหล่งการ
เรียนรู้ และกิจกรรมท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน 7. การออกแบบ
เพ่ือนาความรู้ท่ีได้จากการศึกษาสรุปเป็นองค์ความรู้ ระยะที่ 1 เป็นการสงั เคราะหเ์ อกสารและงานวจิ ยั
ด้วยตัวเอง กลับมาทากิจกรรมในห้องเรียนร่วมกับ
เพื่อนและครูผู้สอน โดยเปลี่ยนการสอนแบบเดิมจาก เพื่อให้ได้กรอบของกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด
ครูเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียนหน้าชั้นเรียน ห้องเรียนกลับด้าน และทาการสัมภาษณ์ผู้เช่ียวชาญ
มาเป็นนักเรียนจะต้องศึกษาหาความรู้จากนอก ดา้ นการจัดการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และด้านเทคโนโลยี
ห้องเรียนด้วยตนเองโดยผ่านส่ือเทคโนโลยีท่ีครูเป็น สารสนเทศ (ดจิ ิทัล) เพ่อื กาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ทั้ง
ผจู้ ัดทาขึ้น จากน้ันครจู ะนาส่งิ ทนี่ ักเรยี นไดเ้ รียนรู้มาใช้ 5 ทา่ น สรุปแนวทางการจัดกิจกรรมได้ดงั ตารางที่ 1
ทากิจกรรมในช้ันเรียน โดยครูมีหน้าท่ีคอยให้
ค า แ น ะ น า แ ล ะ ตั้ ง ค า ถ า ม ใ ห้ นั ก เ รี ย น ไ ด้ ร่ ว ม กั น
แก้ปัญหา แลกเปล่ียนความคิดเห็น ทาให้เกิด
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน ซ่ึงสามารถช่วยให้
นกั เรียนไดพ้ ัฒนาทักษะการคิดเพ่ิมมากขึน้

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

ตารางที่ 1 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ วารสารวจิ ยั และนวตั กรรมการอาชีวศกึ ษา 153

แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนร้ตู ามแนวคดิ Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
หอ้ งเรยี นกลับดา้ น โดยใช้ Google Classroom ปีที่ 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2564

1. การสืบค้น 1.1 การสืบค้นข้อมูลรายบุคคลท่ีบ้าน ระยะท่ี 2 พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด
ข้อมูลเน้ือหาท่ีครูกาหนด และอ้างอิง ห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้ Google Classroom เรื่อง
แหล่งที่มา เทคโนโลยีชีวภาพและจุลินทรียใ์ นอาหารของนกั เรยี น
1.2 การสืบค้นข้อมูลแบบกลุม่ ทีบ่ า้ น ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันปีที่ 1 จานวน 4
นักเรียนร่วมสนทนาแบ่งงานกนั ใน แผนการเรียนรู้ 12 ช่ัวโมง ระยะนี้เป็นการยกร่าง
รูปแบบออนไลน์ เป็นกลมุ่ ๆ ละ 3-5 กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านโดย
คน โดยใชโ้ ปรแกรม Google ใช้ Google Classroom และประเมินกิจกรรมการ
Classroom, Facebook, เรียนรู้ โดยผู้เช่ยี วชาญท้งั 5 ท่าน
Application Line
ระยะท่ี 3 ศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ ใน
2. การ 2.1 ครูตรวจสอบ ข้อมูลงานที่นักเรียน ระยะน้ีเป็นการทดลองใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตาม
ตรวจสอบ ส่ ง ง า น ใ น โ ป ร แ ก ร ม Google แ น ว คิ ด ห้ อ ง เ รี ย น ก ลั บ ด้ า น โ ด ย ใ ช้ Google
Classroom เพื่อศึกษาผลสัมฤทธ์ิการเรียน และการรู้
Classroom รหสั ช้นั เรยี น คอื oyicdtu ดิจทิ ัลของนักเรยี นระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชั้นปีที่ 1
ท่ีครูผู้สอนกาหนดวันเวลาท่ีส่งข้อมูล
งาน พร้อมแนะนาหรือให้ข้อเสนอแนะ (1) แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
เพม่ิ เติมในไฟลง์ าน ต่าง ๆ เชน่ Word (2) แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน
PowerPoint Pdf ก่อนมารว่ มอภิปราย (3) แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง ทักษะด้าน
หรือนา เสนองานในชั้นเรียน เพ่ือให้ การรูด้ จิ ทิ ลั (Digital Literacy)
นักเรียนนาคาแนะนาไปปรับปรุงแก้ไข (4) แบบประเมนิ ความพึงพอใจ
ประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่มและ
รายบุคคลของผู้เรียน ความรับผิดชอบ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ค่าเฉล่ีย (Mean :
ต่องานช้ินน้ัน ๆ ของผู้เรียนในการร่วม X ) ร้อยละ (Percentages) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
กิจกรรมการเรียนรู้ (Standard Deviation : S.D.)
3. การอภิปราย 3.1 ครูให้นักเรียนอภิปรายและนา
เสนอหน้าชั้นเรียนรายบุคคล เพ่ือน ๆ สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพเคร่ืองมือ ค่า
ในห้องเรียนร่วมอภิปรายแผนผังความ ความเที่ยงตรง (Validity) การหาค่าอานาจจาแนก
คดิ และแสดงความคิดเหน็ ร่วมกนั (Discrimination : B) การหาคา่ ความเชอ่ื มั่น (α) ของ
3.2 นาเสนอเน้ือหาข้อมูลร่วมกัน แบบทดสอบวัดวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน
อภิปรายกรณีตัวอย่าง สรุปประเด็น
สาคัญพร้อม ถาม-ตอบ เพ่ือเป็นการ สถิติท่ีใช้ตรวจสอบสมมติฐาน t-test (t–
แลกเปลยี่ นการเรียนรู้ test Dependent sample)
3.3 แต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงสถาน
การณ์จาลองพร้อมตั้งคาถามและหา 8. ผลการวจิ ัย
คาตอบของเหตุการณ์ต่าง ๆ ร่วมกันใน 8.1 ผลการศึกษาแนวทางการจัดกิจกรรมการ
คลาสเรยี น
3.4 สรุปประเด็นปัญหาให้ตรงตาม เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้ Google
วัตถุประสงค์ของการจัดการเรียนรู้ Classroom จากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือหา
ค รู ผู้ ส อ น จ ะ เ ป็ น เ พี ย ง แ ค่ ผู้ ท่ี ใ ห้ แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด
คาแนะนาเท่าน้นั ห้องเรยี นกลับดา้ น โดยใช้ Google Classroom ไดผ้ ล
ดังน้ี

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

154 วารสารวิจยั และนวัตกรรมการอาชวี ศึกษา คน คะแนน คน คะแนน คน คะแนน คน คะแนน
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ ท่ี ท่ี ที่ ท่ี
ปที ่ี 5 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564 1 15 6 17 11 18 16 15
2 15 7 15 12 14 17 18
แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตาม 3 16 8 16 13 16 18 19
แ น ว คิ ด ห้ อ ง เ รี ย น ก ลั บ ด้ า น โ ด ย ใ ช้ Google 4 14 9 13 14 15 19 16
Classroom โดยผูท้ รงคณุ วฒุ ทิ ัง้ 5 ท่านใหส้ มั ภาษณ์ 5 15 10 13 15 16 20 15

ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ คะแนนเตม็ 20 คะแนน ( ̅ = 15.55 , S.D.= 1.57)
การจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นได้นาเสนอรูปแบบให้
ผู้เช่ียวชาญ จานวน 5 คน ได้จากการเลือกแบบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังการจัดกิจกรรม
เจาะจงตามเกณฑ์ท่ีกาหนด โดยมีคุณสมบัติคือมี การเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านโดยใช้
คุ ณ วุ ฒิ ก า ร ศึ ก ษ า ร ะ ดั บ ป ริ ญ ญ า เ อ ก ห รื อ มี Google Classroom เรื่อง เทคโนโลยีชีวภาพและ
ประสบการณ์การสอนหรือการวิจัยในด้านท่ีเกี่ยวข้อง จุลินทรีย์ในอาหารของนักเรียนระดับประกาศนียบตั ร
ไม่น้อยกว่า 10 ปีประเมินความเหมาะสมในด้าน วิชาชีพชั้น ปีท่ี 1 กับเกณฑ์ร้อยละ 75 พบว่า
องค์ประกอบของรูปแบบ กิจกรรมการเรียนรู้และ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนมี
ความเหมาะสมสาหรับนาไปทดลองใช้ พบว่าใน คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ ( X =15.55, S.D.=1.57) จาก
ภาพรวมของการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ คะแนนเตม็ 20 คะแนน ไมต่ า่ งจากเกณฑ์รอ้ ยละ 75
การเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้
Google Classroom ผู้ เชี่ ย ว ช า ญ เห็ น ว่า มีความ
เหมาะสมอยใู่ นระดบั มาก ( X = 4.19, S.D.= 0.06)

2) ทกั ษะดา้ นการรดู้ จิ ทิ ลั (n=20)

การรู้ การ t Sig.
ดจิ ิทลั ทดสอบ X S.D. (2-
tailed)

มติ ิท่ี กอ่ น 45.60 8.94 6.22** .000
1 หลงั 60.50 9.60

มติ ิที่ ก่อน 36.50 10.35 6.94** .000
2 หลัง 60.45 7.87

มิตทิ ี่ กอ่ น 35.95 8.86 8.12** .000
3 หลงั 60.75 10.56

มติ ทิ ี่ กอ่ น 38.00 9.60 6.46** .000
4 หลงั 60.40 12.50

ผลการใชก้ ิจกรรมการเรยี นรู้ รวม ก่อน 39.01 4.14 10.07** .000
1) ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน (n=20) **p <.01 หลงั 60.52 8.24

การ คะแนน ( X ) S.D. t Sig. ผลการเปรียบเทียบร้อยละของทักษะด้านการรู้
ทดสอบ เกณฑ์ (2- ดิจิทัล (Digital Literacy) 4 มิติ ได้แก่ 1) มิติการ
(ร้อยละ tailed) เข้าใจดิจิทัล 2) มิติการใช้ดิจิทัล 3) มิติการแก้ปัญหา
75) ด้วยเคร่ืองมือดิจิทัล 4) มิติการปรับตัวและเรียนรู้ใน
ยุคดิจิทัล ทักษะด้านการรู้ดิจิทัล (Digital Literacy)
ก่อน - 15 15.55 1.57 1.56** .134

หลงั

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

ก่อนเรียน ( X =39.01, S.D.= 4.14) และหลังเรียน วารสารวจิ ัยและนวัตกรรมการอาชวี ศึกษา 155
( X =60.52, S.D.= 8.24) การรู้ดิจิทัล หลังเรียนสูง
กว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญที่ระดับ.01 เมื่อ Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ Dependent เทียบกับ ปที ่ี 5 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564
เกณฑ์ พบว่าค่า Sig. (2-tailed) มีค่า .000 ซึ่งมีความ
แตกต่างอย่างมีนยั สาคัญทางสถิติ ทีร่ ะดับ .01 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้ Google
3) ผลการศกึ ษาความพึงพอใจของนกั เรียน พบวา่ Classroom เร่ืองเทคโนโลยีชีวภาพและจุลินทรีย์ใน
ครูเป็นติวเตอร์สามารถให้คาแนะนา นักเรียนได้ดีและ อาหารของนักเรียนระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชั้นปี
เหมาะสม, ครูใช้คาถามกระตุ้นทาให้นักเรียนสามารถ ท่ี 1 กับเกณฑ์ร้อยละ 75 พบว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการ
ใช้เหตุผลในการตอบคาถามในชั้นเรียนได้ อยู่ในระดบั เรียนหลังเรียนของนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ
ความพึงพอใจมากท่ีสุด ความพึงพอใจโดยรวมทุก ( X = 15.55, S.D.= 1.57) จากคะแนนเต็ม 20
ประเด็นการประเมนิ พบวา่ อยใู่ นระดับความพงึ พอใจ คะแนน ไม่ต่างจากเกณฑ์ร้อยละ 75 ส่งผลให้ควรมี
มาก ( X = 3.57, S.D.= 0.15) การพัฒนาตัวชี้วัดของรูปแบบการทดสอบผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนให้มีประสิทธิภาพกับเกณฑ์ร้อยละ
9. ผลการวิจัย เพ่ิมข้ึนต่อไป
ผลการศึกษาแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ผลการเปรียบเทยี บร้อยละของทักษะด้านการรู้
ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านโดยใช้ Google ดิจิทัล (Digital Literacy) ก่อนเรียน ( X = 39.01,
Classroom ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้ S.D.= 4.14) และหลังเรียน ( X =60.52, S.D.=
แผนท่ี 2 มีค่าเฉลี่ย คือ ( X = 4.22, S.D.= 0.06) 8.24) พบว่า มิติท่ี 3 การแก้ปัญหาด้วยเครื่องมือ
แ ส ด ง ว่ า ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น รู้ อ ยู่ ใ น ร ะ ดั บ ดิจิทัลมีค่าการทดสอบหลังเรียนสูง คือ ( X = 60.75,
เหมาะสมมากรองลงมาคอื กจิ กรรมการเรยี นรู้แผนท่ี 3 S.D.= 10.56) รองลงมา มิติท่ี 1 การเข้าใจดิจิทัล มี
มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.20, S.D.= 0.06) แสดงว่าการจัด ค่าการทดสอบหลังเรียน คือ ( X = 60.50, S.D.=
กจิ กรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับเหมาะสมมาก กจิ กรรม 9.60) และ มิติท่ี 2 การใช้ดิจิทัลมีค่าการทดสอบหลัง
การเรียนรู้แผนที่ 4 มีค่าเฉล่ีย ( X = 4.15, S.D.= เรียน คือ ( X = 60.45, S.D.= 7.87) สุดท้ายมิติที่ 4
0.06) แสดงว่าการจัดกิจกรรมการเรียนอยู่ในระดับ การปรับตัวและเรียนรู้ในยุคดิจิทัล มีค่าการทดสอบ
เหมาะสมมาก และพบว่ากิจกรรมการเรียนรู้แผนท่ี 1 หลังเรียน คือ ( X = 60.40, S.D.=12.50) เม่ือ
มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.08, S.D.= 0.06) แสดงว่าการจดั วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ Dependent เทียบกับ
กิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับเหมาะสมมาก เม่ือรวม เกณฑ์ พบว่าค่า Sig. (2-tailed) มีค่า .000 ซ่ึงมีความ
ทุกแผนแล้วมีความเหมาะสมอยู่ในระดับเหมาะสม แตกต่างอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 พบว่า
มาก ( X = 4.19, S.D.= 0.06) มีความแตกต่างแล้วส่งผลให้การรู้ดิจิทัลหลังเรียนสูง
กวา่ ก่อนเรียน ผเู้ รยี นมที ักษะด้านการรูด้ ิจิทลั (Digital
ผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ ผลสัมฤทธิ์ Literacy) เพิ่มมากขึ้นและพัฒนาการเรียนรู้ให้มี
ทางการเรียน และการรู้ดิจิทัล 9 ด้าน/4 มิติ และ ประสิทธิภาพตอ่ ไป
ความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้ ของนักเรียน
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีท่ี 1 ที่เรียนด้วย ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน พบวา่
กิจกรรมการเรียนร้ตู ามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดย ครูเป็นติวเตอร์สามารถให้คาแนะนานักเรียนได้ดีและ
ใช้ Google Classroom เหมาะสม, ครูใช้คาถามกระตุ้นทาให้นักเรียนสามารถ
ใช้เหตุผลในการตอบคาถามในชน้ั เรียนได้ อยู่ในระดบั
ความพึงพอใจมากท่ีสุด ความพึงพอใจโดยรวมทุก
ประเดน็ การประเมิน พบวา่ อยใู่ นระดบั ความพึงพอใจ
มาก ( X = 3.57, S.D.=0.15)

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

156 วารสารวิจยั และนวัตกรรมการอาชีวศกึ ษา รายบุคคล เพื่อนๆ ในห้องเรียน ร่วมอภิปรายแผนผัง
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ ความคิดและแสดงความคิดเห็นร่วมกัน, นาเสนอ
ปที ี่ 5 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564 เนื้อหาข้อมูลร่วมกันอภิปรายกรณีตัวอย่าง สรุป
ประเด็นสาคัญพร้อม ถาม-ตอบ เพื่อเป็นการ
วิธีการการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตาม แลกเปลี่ยนการเรียนรู้ , แต่ละกลุ่มร่วมกันแสดง
แ น ว คิ ด ห้ อ ง เ รี ย น ก ลั บ ด้ า น โ ด ย ใ ช้ Google สถานการณ์จาลองพรอ้ มต้ังคาถามและหาคาตอบของ
Classroom เป็นการจัดการเรียนรู้รูปแบบใหม่ ท่ีใช้ เหตุการณ์ต่าง ๆ ร่วมกันในคลาสเรียน และสรุป
สื่อการสอนและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสอน ประเด็นปัญหาใหต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ของการจัดการ
ตลอดจนการจัดการชั้นเรียน สามารถช่วยเพ่ิม เรียนรคู้ รผู สู้ อนจะเปน็ เพียงแคผ่ ทู้ ่ใี หค้ าแนะนาเท่าน้ัน
ประสิทธิภาพงานด้านการศึกษา เช่น การเขียน
เรียงความ การทางานร่วมกันในรูปแบบออนไลน์และ 10.2 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตาม
กาหนดเวลาของช้ันเรียน กลุ่มของนักเรียนสามารถ แ น ว คิ ด ห้ อ ง เ รี ย น ก ลั บ ด้ า น โ ด ย ใ ช้ Google
ทางานร่วมกันในงานชิ้นเดียวกันได้ใน Google Classroom การจัดกิจกรรมตามแผนการเรียนรู้
เอกสาร ซ่ึงจะเห็นความเปล่ียนแปลงได้ในแบบ จานวน 4 แผน มีค่าเฉล่ีย X เท่ากับ 4.19 มีความ
เรียลไทม์ แทนที่จะต้องรอการส่งเอกสารหลายฉบับ เหมาะสมอยู่ในระดับเหมาะสมมาก เม่ือเทียบกับ
มาทางอีเมล นักเรียนสามารถทบทวนบทเรียนได้ เกณฑ์มาตรฐาน สามารถนามาใช้ในการจัดกิจกรรม
ตลอดเวลา ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ต่าง ตามแผนการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบที่แตกต่างได้ใน
จากเกณฑ์รอ้ ยละ 75 และการร้ดู จิ ทิ ลั หลงั เรียนสงู กวา่ ระดับดี สอดคล้องกับ กรวรรณ สืบสม และ นพรัตน์
ก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญท่ีระดับ .01 ความพึงพอใจ หมีพลัด [1] ได้จัดทาวิจัยเรื่อง การพัฒนาการจัด
อยู่ในระดับมาก กิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped
classroom) ด้วยการบูรณาการการเรียนการสอน
10. อภปิ รายผล ร า ย วิ ช า เ ท ค โ น โ ล ยี มั ล ติ มี เ ดี ย ผ่ า น Google
10.1 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตาม Classroom ก า ร วิ จั ย ค ร้ั ง นี้ มี วั ตถุ ป ร ะส งค์ เพ่ือ
พัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับ
แ น ว คิ ด ห้ อ ง เ รี ย น ก ลั บ ด้ า น โ ด ย ใ ช้ Google ด้ า น ( Flipped classroom) ผ่ า น ห้ อ ง เ รี ย น
Classroom โดยการสัมภาษณ์ผู้เช่ียวชาญท้ัง 5 ท่าน ออนไลน์ Google classroom ซึ่ง สอดคล้อง กั บ
ได้แนวทางดงั ตอ่ ไปนี้ 1) การสืบค้น รายบุคคลท่บี า้ น สมมติฐานท่ีว่า ผู้เรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการ
ข้อมูลเน้ือหาครูกาหนดและอ้างอิงแหล่งท่ีมา , แบบ เรียนรู้เพ่ือพัฒนาผู้เรียนแบบห้องเรียนกลับรายวิชา
กลุ่มสืบค้นข้อมูลที่บ้านนักเรียนร่วมสนทนาแบ่งงาน เทคโนโลยีมัลติมีเดียมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
กันในรูปแบบออนไลน์ เป็นกลุ่มๆ ละ 3-5 คน โดยใช้ นักศึกษามีพัฒนาการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ
โ ป ร แ ก ร ม Google Classroom, Facebook , ห้องเรียนกลบั ด้านผ่าน Google classroom สงู ข้นึ
Application Line 2) การตรวจสอบ ครูผู้สอน
ตรวจสอบข้อมูลงานที่นักเรียนส่งงานในโปรแกรม 10.3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากจัดการ
ห้องเรียน Google Classroom รหัสห้องเรียนคือ เรียนรูต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ตามแนวคดิ ห้องเรียน
oyicdtu ครูกาหนดวันเวลาท่ีส่งงาน พร้อมแนะนา กลับด้าน โดยใช้Google Classroom นักเรียนมี
หรือให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ในไฟล์งานต่าง ๆ เช่น ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียน ( X = 15.55) จาก
Word, PowerPoint, Pdf, ก่อนมาร่วมอภิปราย หรือ คะแนนเต็ม 20 คะแนน ไม่ต่างจากเกณฑ์ร้อยละ 75
นาเสนองานในช้ันเรียน เพื่อให้นักเรียนนาคาแนะนา และการรู้ดิจิทัลหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี
ไปปรับปรุงแก้ไข ประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม นัยสาคัญที่ระดบั .01
และรายบุคคลของผเู้ รียน, ความรับผิดชอบตอ่ งานชนิ้
น้ันๆของผู้เรียนในการร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 3) การ
อภิปราย ครูผู้สอนให้นักเรียนนาเสนอหน้าช้ันเรียน

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนา วารสารวจิ ัยและนวตั กรรมการอาชีวศึกษา 157
กิจกรรมการเรยี นรู้ตามแนวคิดหอ้ งเรยี นกลับด้าน โดย
ใช้ Google Classroom โดยรวมอยู่ในระดับมาก Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
( X =3.57, S.D.= 0.15) ซ่ึงผลการทดสอบวัด ปีที่ 5 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบทดสอบที่ใช้วัดผล
การเรียนรู้ในเนื้อหา และจุดประสงคใ์ นรายวิชาต่าง ๆ พาณิชยกรรม โดยใช้บทเรียนออนไลน์ (Google
ท่ีเรียนมาในโรงเรียน และสถานศึกษาต่าง ๆ เป็น classroom) โดยรวมทุกด้านมีความพึงพอใจอยู่ใน
เคร่ืองมือของการวัดผล เน่ืองจากการกิจกรรมการ ระดับมาก
เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านโดยใช้ Google
Classroom ค รู ผู้ ส อน เป็ น ติ ว เต อร์ ส า ม า ร ถ ใ ห้ วิธีการการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตาม
คาแนะนา แ น ว คิ ด ห้ อ ง เ รี ย น ก ลั บ ด้ า น โ ด ย ใ ช้ Google
Classroom เป็นการจัดการเรียนรู้รูปแบบใหม่ ท่ีใช้
ก า ร รู้ ดิ จิ ทั ล ( Digital Literacy) ผ ล ก า ร สื่อการสอนและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสอน
เปรียบเทียบร้อยละ ของทักษะด้านการเข้าใจดิจิทัล ตลอดจนการจัดการชั้นเรียน สามารถช่วยเพ่ิม
(Digital Literacy) ก่อนเรียน ( X =39.01, S.D.= ประสิทธิภาพงานด้านการศึกษา เช่น การเขียน
4.14) และหลงั เรยี น ( X =60.52, S.D.= 8.24) การรู้ เรียงความและกาหนดเวลาของชั้นเรียน กลุ่มของ
ดิจิทัลหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญท่ี นักศึกษาสามารถทางานร่วมกันในงานช้ินเดียวกันได้
ระดับ.01พบว่า มิติที่ 3 การแก้ปัญหาด้วยเคร่ืองมือ ใน Google เอกสาร ซึ่งจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้
ดิจิทัล มีค่าการทดสอบหลังเรียนสูงคือ ( X =60.75, ในแบบเรียลไทม์ แทนท่ีจะต้องรอการสง่ เอกสารหลาย
S.D.=10.56) เม่ือวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ฉบับมาทางอีเมล นักเรียนสามารถทบทวนบทเรียนได้
Dependent เทียบกับเกณฑ์ พบว่าค่า Sig.(2-tailed) ตลอดเวลา ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ต่าง
มคี ่า .000 ซึง่ มีความแตกต่างอย่างมีนยั สาคัญทางสถติ ิ จากเกณฑ์ร้อยละ 75 และการรู้ดิจิทัลหลังเรียน
ที่ระดับ .01 ซ่ึงการพัฒนาการรู้ดิจิทัลเป็นการ สูงกว่าก่อนเรียนอย่าง มีนัยสาคัญที่ระดับ .01 ความ
เปล่ียนแปลงธรรมชาติของความรู้ความเข้าใจของครู พึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการพัฒนากิจกรรมการ
ทุกคน ให้สามารถนาเสนอมุมมองท่ีแตกต่างกันใน เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านโดยใช้ Google
เรื่องวธิ กี ารที่เทคโนโลยีสามารถเพ่ิมคณุ คา่ ในการเรียน Classroom โดยรวมอยใู่ นระดับมาก
ของนักเรยี น การจดั การเรยี นร้แู บบห้องเรยี นกลับดา้ น
(Flipped Classroom) เป็นการจัดรูปแบบการเรียน 11. ข้อเสนอแนะ
การสอนท่ีใช้การบรรยายในชั้นเรียนและการบ้านจะ 11.1 ขอ้ เสนอแนะเพื่อนาผลการวจิ ยั ไปใช้
สลับที่กัน โดยให้นักเรียนวางแผนและควบคุมการ 11.1.1 ผู้วิจัยควรสารวจการเข้าถึง
เรียนรู้ด้วยตนเองผ่านทางสื่อการเรียนรู้จากภายนอก
ชั้นเรียน และนาผลการเรียนรู้มานาเสนอ พร้อม อินเตอร์เน็ตทั้งในสถานศึกษาและที่บ้านของนักเรียน
อภิปรายและทากิจกรรมหรืองานต่าง ๆ ร่วมกันในชนั้ และหาแนวทางแก้ไขปัญหานักเรียนที่ไม่สามารถ
เรยี น โดยมีครคู อยใหค้ าปรึกษา เข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ เช่น ให้นักเรียนศึกษาจาก
ไฟล์ข้อมูลท่ีสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้โดยไม่
ค ว า ม พึ ง พ อ ใ จ โ ด ย ร ว ม ทุ ก ป ร ะ เ ด็ น ก า ร จาเป็นต้องใชอ้ ินเตอร์เน็ต
ประเมิน พบว่าอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
( X =3.57, S.D.=0.15) สอดคลอ้ งกับพุฒิพงษ์ มะยา 11.1.2 ในระหว่างการทากิจกรรม
[2] มีความพึงพอใจต่อการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ ครูผู้สอนควรกระตุ้นให้นักเรยี นเกิดความอยากรู้อยาก
เรียน โดยการใช้คาถามเพื่อกระตุ้นความสนใจของ
นักเรียนอย่างตรงประเด็นตามวัตถุประสงค์ของการ
เรยี นรู้

11.1.3 ครูผู้สอนควรมีการเตรียมความ
พรอ้ มให้นกั เรียนก่อนเข้าสกู่ จิ กรรมการเรียนรู้ รปู แบบ
Google Classroom

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

158 วารสารวจิ ัยและนวตั กรรมการอาชวี ศึกษา
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ปีท่ี 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2564

11.2 ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การทาวจิ ยั ครัง้ ตอ่ ไป [2] พุฒิพงษ์ มะยา, การพฒั นาผลสมั ฤทธิ์
11.2.1 ควรนาการพัฒนากิจกรรมการ ทางการเรยี นวชิ าคณติ ศาสตร์พาณชิ ยกรรม
เร่ืองการตงั้ ราคาขาย ของนกั เรียนระดับ
เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดยใช้ Google ประกาศนียบัตรวิชาชพี ชนั้ ปี ท่ี 1 สาขา
Classroom ไปพัฒนาทักษะอ่ืน ๆ ให้สามารถเข้าถึง คอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ วทิ ยาลัยพณชิ ยการ
ดิ จิ ทั ล แ ล ะ ใ ช้ ไ ด้ จ ริ ง ใ น ส ถ า น ก า ร ณ์ ยุ ค ปั จ จุ บั น ใ ห้มี เชตุพน โดยใช้บทเรยี นออนไลน์
ประสิทธภิ าพตอ่ ไป (Google classroom), รายงานการวจิ ัย
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวชิ าคณิตศาสตร์
11.2.21 ควรเพ่ิมกิจกรรมการเรียนรู้ ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ : มหาวทิ ยาลัย
ดิจิทัลในด้านการใช้โปรแกรมตารางคานวณเพื่อ รามคาแหง, พ.ศ.2560.
พัฒนาประสทิ ธิภาพในการรู้ดิจทิ ัล (Digital Literacy)
ครบทั้ง 9 ด้านตอ่ ไป [3] ปิยมาส แกว้ อนิ ตา, การแก้ปัญหาการส่ง
งานในรายวิชาคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศ
11.2.3 ควรมีการส่งเสริมพฤติกรรมการ เพื่องานอาชพี (Computer and Information
ทางานกลุ่ม โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบต่าง ๆ for Work) รหสั วิชา 2001-2001 โดยใช้
ร่วมกบั Google Classroom โดยนาไปประยุกตใ์ ชก้ บั วธิ ีการส่งงานผา่ นระบบหอ้ งเรียนออนไลน์
วิชาอื่นตามความเหมาะสม (Google Classroom) ของนกั เรยี น ระดับ
ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ช้ันปีท่ี 1 สาขาวชิ า
กติ ตกิ รรมประกาศ เทคโนโลยสี ารสนเทศ, รายงานการวิจัยสาขา
ขอขอบคุณ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย อาจารย์ สาขาวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศ, วิทยาลยั
อาชีวศกึ ษาเชียงราย : สานกั คณะกรรมการ
ประจาหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชา การอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร.
วิทยาศาสตรศึกษา) มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม พ.ศ.2560.
สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1
และผู้อานวยการวิทยาลัยเทคนิคหนองบัวลาภู คณะ [4] สานกั งานพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ผู้บริหาร ครูอาจารย์แผนกวิชาสามัญสัมพันธ์ ท่ีให้ แหง่ ชาติ สวทช., การรู้ดจิ ิทลั หรือ Digital
คาปรึกษาและดาเนินงานวิจัยในคร้ังนี้สาเร็จไปตาม literacy การทางานรว่ มกัน 9 ดา้ น และ
วัตถุประสงค์ ทกั ษะความสามารถ 4 มิติการใช้ (Use)
เขา้ ใจ (Understand) การสรา้ ง (create)
เอกสารอ้างอิง เข้าถงึ (Access) เทคโนโลยีดจิ ิทัล ไดอ้ ย่าง
[1] กรวรรณ สบื สม และ นพรัตน์ หมีพลดั , มีประสิทธภิ าพ, รายงานการวิจัยสานกั งาน
การพัฒนาการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ คณะกรรมการดจิ ิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและ
แบบหอ้ งเรยี นกลับดา้ น (Flipped classroom) สงั คมแห่งชาติ, พ.ศ.2562.
ด้วยการบูรณาการการเรียนการสอนรายวชิ า
เทคโนโลยีมลั ติมีเดียผา่ น GoogleClassroom.
รายงานการวจิ ยั สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศกึ ษา
คณะครุศาสตร์ : มหาวิทยาลยั ราชภฏั
นครศรีธรรมราช, พ.ศ.2560.

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

วารสารวจิ ยั และนวัตกรรมการอาชวี ศึกษา 159

Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ปีท่ี 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2564

อิทธพิ ลของเม็ดดนิ เหนียวขยายตัวเบาต่อคุณสมบตั ิของคอนกรตี ทมี่ ีความสามารถเทได้สูง
Influence of Lightweight Expanded Clay Aggregate
on Properties of High Workability Concrete

ปานปรียา ขาวเถนิ 1, นิบัสซัม เดะแอ2 และ มงคล นามลักษณ์3*
Panpreeya Kawturn1, Nibussum De-Ae2 and Mongkhon Narmluk3*

12*3ภาควิชครศุ าสตรโ์ ยธา คณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กรงุ เทพฯ 10140
12*3Department of Civil Technology Education, Faculty of Industrial Education and Technology,
King Mongkut’s University of Technology Thonburi, Bangkok, 10140

Received : 2020-07-09 Revised : 2020-07-17 Accepted : 2020-08-20

บทคัดย่อ Abstract
งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาอิทธิพลของเม็ดดินเหนียว This research aimed to study the

ข ย า ย ตั ว เ บ า ที่ มี ต่ อ ส ม บั ติ ข อ ง ค อ น ก รี ต ท่ี มี ค ว า ม influence of lightweight expanded clay
สามารถเทได้สูง ในการทดลองมวลรวมหยาบธรรมชาติ aggregate (LECA) on properties of high
(หินปูนบดย่อย) ถูกแทนท่ีด้วยเม็ดดินเหนียวขยายตัว workability concrete. In the experiment,
เบา (LECA) ในอัตราร้อยละ 16 32 และ 47 (โดย natural coarse aggregate (crushed limestone)
น้าหนัก) ในขณะท่ีคอนกรีตควบคุมใช้หินปูนบดย่อย was replaced by the LECA at the ratio of 16,
เปน็ มวลรวมหยาบเพียงอยา่ งเดียว สมบตั ขิ องคอนกรีต 32, and 47 percent by weight, while the control
ท่ีศึกษาประกอบด้วย ค่าการไหลแผ่ของคอนกรีตสด concrete mixture used the crushed limestone
ค่าความหนาแน่น ก้าลังรับแรงอัด และการหดตัวแบบ as coarse aggregate. The investigated concrete
ออโตจีนัส ของคอนกรีตที่แข็งตัวแล้ว ผลการวิจัย properties included slump flow of fresh
พบว่า การแทนที่หินปูนบดย่อยด้วย LECA ท้าให้ค่า concrete, density, compressive strength, and
การไหลแผ่ของคอนกรีตสูงข้ึน ค่าความหนาแน่นและ autogenous shrinkage of hardened concrete.
ก้าลังรับแรงอัดลดลง คอนกรีตซ่ึงมีอัตราการแทนท่ี The results revealed that the replacement of
ของ LECA ร้อยละ 32 ให้ค่าการไหลแผ่และก้าลังรับ crushed limestone by LECA increases the
แรงอัดที่อายุ 28 วันสูงสุด การแทนที่ในอัตราร้อยละ slump flow spread and decreases the density
47 โดยน้าหนักท้าให้คา่ ความหนาแนน่ ต่้าสดุ ซง่ึ ต่้ากวา่ and the compressive strength of concrete. The
คอนกรีตควบคุม ร้อยละ 18.7 การหดตัวแบบออโต concrete with 32% LECA replacement
จีนัสในช่วง 28 วันแรก ของการแทนที่ในอัตราร้อยละ obtained the maximum slump flow spread and
32 และ 47 (โดยน้าหนัก) มีคา่ สูงกว่าคอนกรีตควบคุม compressive strength at 28 days. The concrete
คาสาคญั : คอนกรีตทีม่ คี วามสามารถเทไดส้ ูง, with 47% LECA replacement obtained the
density 18.7% lower than that of the control
คอนกรตี มวลเบา, เม็ดดนิ เหนยี ว mixture. The autogenous shrinkage at 28 days
ขยายตัวเบา, กา้ ลงั รับแรงอัด, การหดตัว of 32% and 47% LECA replacement were
higher than that of the control mixture.
*มงคล นามลกั ษณ์
E-mail : [email protected]

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

160 วารสารวิจยั และนวตั กรรมการอาชีวศกึ ษา น้าหนักเบาชนิดหน่ึงท่ีประดิษฐ์ขึ้นจากการน้าดิน
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ เหนียวท่ีมีความเป็นพลาสติกสูง ป้ันข้ึนรูปเป็นเม็ด
ปีท่ี 5 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564 รูปทรงกลมหรือทรงรี แล้วน้าไปเผาด้วยความร้อน
ในช่วง 1,100-1,300 องศาเซลเซียส ซ่งึ ในระหวา่ งการ
Keywords : High workability concrete, เผา จะเกิดฟองแก๊สข้ึนภายในเม็ดดินเหนียว เนื่องจาก
Lightweight concrete, การเผาไหม้ของสารอินทรีย์ในดินเหนียว ส่งผลให้เม็ด
Lightweight expanded clay ดินเหนียวเกิดการขยายตัวขึ้น จะได้เม็ดเซรามิกสี
aggregate, Compressive น้าตาลเข้มหรือน้าตาลอมแดง ท่ีมีความแข็งและมี
strength, Shrinkage ความพรนุ ภายใน น้าหนักเบา ดูดซมึ น้าไดม้ าก และไม่
เกิดความเสียหายเมอ่ื สมั ผสั กบั น้า [5]
1. บทนา
คอนกรีตที่มีความสามารถท้างานได้สูง (High งานวิจัยในอดีตได้ศึกษาคณุ สมบัติของคอนกรีต
มวลเบาทใี่ ช้ LECA เป็นมวลรวมหยาบ เช่น Joz´wiak-
workability concrete) คือ คอนกรีตที่มีความเหลว Niedz´wiedzka [6] และ Shebannavar และคณะ
สูง กล่าวคือ มีค่าการยุบตัว (slump) มากกว่า 200 [7] รายงานวา่ การใช้ LECA เปน็ มวลรวมหยาบ ในชว่ ง
มิลลิเมตร [1] ถูกพัฒนาขึ้นส้าหรับการก่อสร้าง ร้อยละ 50-100 ทา้ ใหค้ อนกรีตมีความสามารถทา้ งาน
โครงสร้างคอนกรีตที่มีแบบหล่อซับซ้อน หรือมีเหล็ก ได้ (ค่าการยุบตัว) สูงข้ึน เมื่อเปรียบเทียบกับมวลรวม
เสริมหนาแน่น ซ่ึงยากต่อเทด้วยคอนกรีตปกติ และ ปกติ Maghsoudi และคณะ [8] รายงานว่าคอนกรีต
เน่ืองจากมีค่ายุบตัวสงู มาก การทดสอบความสามารถ ซึง่ ใช้ LECA ขนาด 4.75-9.5 mm เปน็ มวลรวมหยาบ
ท้างานได้ของคอนกรีตประเภทนี้ จึงนิยมใช้การ ในปริมาณ 175 kg⁄m3 มีค่าความหนาแน่นที่อายุ
ทดสอบค่าการไหลแผ่ (slump flow) [2] โดยทั่วไป 28 วัน อยู่ในช่วง 1,890-1,870 kg⁄m3 Lakshmi
การออกแบบส่วนผสมของคอนกรีตที่มีความสามารถ และคณะ [9] ได้ศึกษาการแทนที่มวลรวมหยาบ
ท้างานได้สงู จะใช้วัสดุประสาน (ปูนซีเมนต์) และสาร ธรรมชาตดิ ว้ ย LECA ในช่วงรอ้ ยละ 45-70 และพบว่า
ล ด น้ า ( superplasticizer) ใ น ป ริ ม า ณ ม า ก ก ว่ า ค่าความหนาแน่นของคอนกรีตต่้าลง ร้อยละ 9.71-
คอนกรีตปกติ ในขณะท่ีปริมาณมวลรวมหยาบและ 19.0 ตามลา้ ดบั Sivakumar และ Kameshwari [10]
มวลรวมละเอียดใกล้เคียงกัน ดังนั้นจึงมีค่าความ รายงานว่าการแทนที่มวลรวมหยาบด้วย LECA ขนาด
หนาแน่นไม่แตกต่างจากคอนกรีตปกติ (2100-2500 10 มิลลิเมตร ในช่วงร้อยละ 5-35 ท้าให้ค่าก้าลังรับ
กโิ ลกรัมตอ่ ลกู บาศก)์ [3] แรงอัดลดลงร้อยละ 0.15-45.9 ตามล้าดับ สอดคล้อง
กับ Salem และคณะ [11] ท่ีรายงายว่าการแทนที่
คอนกรีตมวลเบา (Lightweight concrete) มวลรวมหยาบด้วย LECA ขนาด 4-16 mm ร้อยละ
คือ คอนกรีตท่ีมีความหนาแน่นอยู่ในช่วง 300-2000 100 ทา้ ใหค้ า่ ก้าลังรบั แรงอดั ลดลงร้อยละ 7.25-38.71
กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร การท้าคอนกรีตมวลเบา Cui และคณะ [12] อธิบายสาเหตุที่ท้าให้ค่าก้าลังอัด
สามารถท้าได้หลายวิธี หน่ึงในน้ันคือการใช้มวลรวม ลดลง ว่าเกิดจาก LECA มีความแข็งแกร่งน้อยกว่า
เบา (Lightweight aggregate) แทนท่ีมวลรวมปกติ มวลรวมหยาบปกติ จึงท้าให้เกิดจุดอ่อนในเนื้อ
ซ่ึงมวลรวมเบาอาจได้มาจากธรรมชาติ (Natural คอนกรตี
lightweight aggregate) หรือมวลรวมเบาที่ประดิษฐ์
ข้นึ (Artificial lightweight aggregate) คอนกรีตที่ใช้ ส้าหรับในประเทศไทย จิรัฐติ์ บรรจงศิริ [13]
มวลรวมเบานี้มีค่าความหนาแน่นอยู่ในช่วง 1200- ได้ศึกษาก้าลังอัดของคอนกรีตท่ใี ช้มวลรวมประดิษฐท์ ี่
2000 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีค่าก้าลังรับ ผลิตจาก LECA เปรียบเทยี บกับคอนกรีตท่ใี ชม้ วลรวม
แรงอัดไม่ต่้ากว่า 17 เมกะปาสคาล [4] จึงเหมาะ
ส้าหรับการใชเ้ ป็นชน้ิ ส่วนโครงสรา้ งรับนา้ หนกั

เม็ดดินเหนียวขยายตัวเบา ( Lightweight
Expanded Clay Aggregate, LECA) คื อ ม ว ล รวม

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

หยาบหินธรรมชาติ โดยออกแบบส่วนผสมคอนกรีตให้ วารสารวจิ ยั และนวตั กรรมการอาชีวศึกษา 161
มีค่าการยุบตัว (Slump) อยู่ในช่วง 3-18 cm และ
LECA ที่ ใ ช้ มี ข น า ด โ ต สุ ด ไ ม่ เ กิ น 1 9 . 0 mm Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ผลการศึกษา พบว่า ค่าความหนาแน่นของคอนกรีตที่ ปีท่ี 5 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564
ท้าด้วยมวลรวม LECA แปรผันอยู่ในช่วง 1,748-
1,973 kg⁄m3 และก้าลังอัดที่อายุ 28 วัน ต้่ากว่า ความถ่วงจ้าเพาะ 2.70 และมีค่าการดูดซึมน้าเท่ากับ
ก้าลังอัดของคอนกรีตท้าด้วยมวลรวมหยาบหิน รอ้ ยละ 0.58
ธรรมชาติ อยู่ในช่วง ร้อยละ 1.0-44.3 ตามล้าดับ จาก
ข้อมูลที่กล่าวมาจะเหน็ ว่า คอนกรีตทศ่ี ึกษาในงานวจิ ยั 2.1.4 เม็ดดินเหนียวขยายตัวเบา (LECA)
ส่วนใหญ่เป็นคอนกรีตที่มีความสามารถเทปกติ ได้มาจากบริษัทไซมีส อีโคไลท์ จังหวัดราชบุรี ซ่ึงเป็น
การศึกษาในประเทศไทยยังมีน้อย และยังไม่มี LECA รูปทรงกลมรี ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางคละ อยู่
การศกึ ษาสมบัตดิ ้านการหดตวั ของคอนกรตี ระหว่าง 2-8 mm มีค่าความถ่วงจ้าเพาะเทา่ กับ 1.16
และมีค่าการดูดซึมน้าในสภาพอ่ิมตัวผิวแห้งเท่ากับ
งานวิจัยน้ีมุ่งพัฒนาคอนกรีตที่มีความสามารถ ร้อยละ 14.09 ลกั ษณะทางกายภาพของอนุภาคแสดง
ท้างานได้สูงให้มีน้าหนักเบาโดยการแทนท่ีมวลรวม ในรปู ท่ี 1
ธรรมชาติ (หินปูนบดย่อย) ด้วย LECA ซ่ึงนอกจากจะ
ศึกษาผลกระทบของการใช้ LECA ท่ีมีต่อก้าลังรับ 2 . 1 . 5 ส า ร ล ด น้ า ( Superplasticizer)
แรงอัดและความหนาแน่นของคอนกรีตแล้ว ยังศึกษา ประเภท F ซ่ึงเป็นสารลดน้าระดับสูง (High Range
พฤติกรรมการหดตัวแบบออโตจีนัสช่วงต้นของ Water Reducing Admixtures) จ า ก บ ริ ษั ท ซิ ก้ า
คอนกรีตด้วย ซึ่งองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยน้ีจะเป็น (ประเทศไทย) จ้ากัด
ประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วน
โครงสร้างคอนกรีตส้าเร็จรูป ที่นอกจากจะท้าให้ได้ 2.1.6 ผงแคลเซียมคาร์บอเนต จากบริษัท
ชิ้นสว่ นโครงสร้างคอนกรตี นา้ หนักเบาแล้ว คอนกรีตท่ี ไทยโพลีเคมีคอล จ้ากัด ซึ่งมีความละเอียดสูง (ผ่าน
มีความสามารถท้างานได้สูง ยังสามารถไหลเข้าแบบ ตะแกรง 325 รอ้ ยละ 99.85)
ได้ง่าย ช่วยลดแรงงานและเวลาในการท้าให้คอนกรีต
แน่น ซึ่งเป็นการลดต้นทุนและเพิ่มก้าลังการผลิตแผ่น 2.1.7 น้า ใช้น้าประปาสะอาดในการผสม
คอนกรตี ในโรงงานอุตสาหกรรมไดอ้ กี ดว้ ย คอนกรีต

2. วธิ ีดาเนินการวิจัย 2.2 ตัวแปรการทดลองและอัตราส่วนผสม
2.1 วัสดุทใี่ ช้ในการทดลอง คอนกรีต
2.1.1 ปูนซีเมนต์ ใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์
ตัวแปรต้นในการวิจัย คือ อัตราการแทนที่
ประเภทท่ี 1 ตามมาตรฐาน มอก. 15-2555 [14] มวลรวมหยาบธรรมชาติ (หินปูนย่อย) ด้วย LECA ซึ่ง
2.1.2 มวลรวมละเอียด ใช้ทรายแม่น้าล้าง ก้าหนดให้แปรผัน 3 ระดับ คือ ร้อยละ 16 32 และ
47 (โดยน้าหนักของมวลรวมหยาบ) หรือคิดเป็น
สะอาด ร่อนผ่านตะแกรงเบอร์ 16 มีค่าความ ร้อยละ 30 50 และ 67 (โดยปริมาตรมวลรวมหยาบ)
ถว่ งจ้าเพาะ2.63และมคี า่ การดูดซมึ น้าเท่ากบั รอ้ ยละ0.5 โดยมีเหตุผลส้าคัญ 2 ประการ คือ 1) ต้องการใช้
LECA แทนท่ีมวลรวมหยาบธรรมชาติในปริมาณสูง
2.1.3 มวลรวมหยาบ ใช้หินปูนบดย่อย กว่างานวิจัย [10] และ 2) จากการทดลองเบื้องต้น
ขนาดอนุภาคโตสุด เท่ากับ 3/8 น้ิว (9.5 mm) มีค่า พบว่า อัตราการแทนที่สูงสุดที่ไม่ท้าให้เกิดการลอย
แยกตัวของ LECA จากมอร์ตาร์ คือ ร้อยละ 47 (โดย
น้าหนัก) ตัวแปรตามในงานวิจัยนี้ คือ ค่าการไหลแผ่
ของคอนกรีตสด (Slump flow) ค่าก้าลังรับแรงอัด
ค่าความหนาแน่น และค่าการหดตัวแบบออโตจีนัส
ของคอนกรีต รายละเอียดของอัตราส่วนผสมของ
คอนกรีต ได้แสดงในตารางท่ี 1 ซ่ึงจะเห็นว่าวัสดุผง
ประกอบด้วยปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และผงแคลเซียม
คาร์บอเนต รวมกันเทา่ กัน 500 kg⁄m3 ซ่ึงปนู ซีเมนต์

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

162 วารสารวิจยั และนวตั กรรมการอาชีวศกึ ษา พร้อมน้า 1 แล้วเดินเคร่ืองผสม 3 นาที และ 6) ใส่
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ LECA ในสภาพอิ่มตัวผิวแห้ง แล้วเดินเคร่ืองผสม 5
ปที ี่ 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2564 นาที เมื่อผสมคอนกรีตจนเข้ากันดีแล้ว น้าคอนกรีตที่
ไปทดสอบคา่ การไหลแผ่ และเทลงในแบบหล่อส้าหรบั
ปอร์ตแลนด์ท้าหน้าท่ีเป็นวัสดุประสาน และผง การทดสอบก้าลังรับแรงอัดและการหดตัวโดยไม่ท้า
แคลเซียมคาร์บอเนต ซ่ึงท้าหน้าที่เป็นวัสดุเติมแทรก การจี้เขยา่ หรือกระท้งุ
และช่วยเพ่ิมปริมาตรซีเมนต์เพสต์ ส้าหรับอัตราส่วน
น้ า ต่ อวั ส ดุ ผ ง ( water to powder ratio, w/p) มี
ค่าคงทีเ่ ทา่ กบั 0.39 (โดยน้าหนัก) และใชส้ ารลดน้าใน
ปริมาณคงท่ี เทา่ กับร้อยละ 0.6 ของน้าหนักวสั ดุผง

รูปท่ี 1 ลักษณะทางกายภาพของ LECA ท่ใี ชใ้ น รูปท่ี 2 การทดสอบคา่ การไหลแผ่
การทดลอง
2.4 วธิ กี ารทดสอบ
ตารางท่ี 1 อัตราสว่ นผสมคอนกรีต (กิโลกรัม/ 2.4.1 การทดสอบค่าการไหลแผ่ (Slump
ลกู บาศก์เมตร)
flow) ของคอนกรีต ได้ท้าตามแนวทางของ ASTM
2.3 การผสมคอนกรีตและการเตรียมตวั อยา่ ง C1611 [15] โดยกรวยส้าหรับการทดสอบค่ายุบตัว
การผสมคอนกรตี มีขนั้ ตอนดังนี้ 1) ผสมสาร (slump cone) วางบนแผ่นเหล็ก จากน้ันเทคอนกรีต
จนเต็มโดยไม่ต้องจ้ีเขย่าหรือกระทุ้งให้แน่น แล้วยก
ลดน้า (Superplasticizer) กับน้าที่ต้องในการผสม กรวยทดสอบข้ึนในแนวด่ิง ปล่อยให้คอนกรีตไหลแผ่
ท้ังหมด และแบ่งเป็น 5 ส่วน 2) ใส่มวลรวมหยาบ อิสระด้วยน้าหนักตนเองจนหยุดน่ิง (ดังรูปที่ 2) จึงวัด
(หินปูนย่อย) ในเคร่ืองผสม พร้อมน้า 1 ส่วน แล้ว เส้นผ่านศูนย์กลางของคอนกรีตที่แผ่ออกใน 2 แนว
เดินเคร่ืองผสม 5 นาที 3) เติมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ทีต่ ั้งฉากกัน เพอื่ หาคา่ การไหลแผ่เฉล่ีย
พร้อมน้า 2 ส่วน แล้วเดินเคร่ืองผสม 10 นาที 4) เติม
มวลรวมละเอียด (ทราย) พร้อมน้า 1 ส่วน แล้ว 2.4.2 การทดสอบหาค่าก้าลังรับแรงอัด
เดินเคร่ืองผสม 5 นาที 5) ใส่ผงแคลเซียมคาร์บอเนต ไดท้ า้ ตามมาตรฐาน BS EN 12390-3:2009 [16] โดย
ใช้ก้อนตัวอย่างทดสอบขนาด15x15x15 เซนติเมตร
VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre ซึ่งเม่ือถอดแบบที่อายุ 24 ชั่วโมง แล้วน้าไปบ่มในน้า
และท้าการทดสอบเมื่อตัวอย่างทดสอบมีอายุ 3 7 14
และ 28 วัน ก้าลังรับแรงอัดท่ีรายงานในบทความน้ี
เป็นค่าเฉล่ียท่ีได้จากตัวอย่างทดสอบ 3 ตัวอย่าง
ส้ า ห รั บ ค่ า ค ว า ม ห น า แ น่ น ข อ ง ค อ น ก รี ต ท่ี แ ส ด ง ใน
งานวิจัยน้ีค้านวณได้จากน้าหนักและปริมาตรจริงของ

ก้อนตัวอย่างก่อนที่บันทึกไว้การทดสอบก้าลังรับ วารสารวิจยั และนวัตกรรมการอาชีวศกึ ษา 163
แรงอดั
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
2.4.3 การวัดค่าการหดตัวแบบออโตจีนัส ปที ี่ 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2564
ของคอนกรีต ได้ท้าตามมาตรฐาน ASTM C157 [17]
โดยใช้แท่งตัวอย่างขนาด 7.5x7.5x28.5 cm จ้านวน จากภาพท่ี 4 แสดงผลการทดสอบก้าลังรับ
3 แท่งต่อหนึ่งชุดทดลองเพ่ือหาค่าเฉล่ีย หลังจากการ แรงอัดของก้อนคอนกรีตท่ีมีส่วนผสมของ LECA
เทคอนกรีตสดลงในแบบหล่อ ได้ปกป้องผิวหน้า เปรียบเทยี บกบั คอนกรตี ควบคมุ เม่อื พจิ ารณาทอ่ี ายุ 3
คอนกรีตด้วยพลาสติกเพื่อป้องกันการระเหยของน้า วัน พบว่า คอนกรีต LECA16 LECA32 และ LECA47
จนกระท่ังถึงเวลาถอดแบบ ที่อายุ 24 ชั่วโมง จากน้นั มีค่าก้าลังรับแรงอัดเท่ากับ 325.9 270 และ 191.9
แทง่ ตัวอย่างจะถกู หอ่ หุ้มทันทีดว้ ยพลาสติกแผน่ บาง 3 kg⁄cm2 คิดเป็นร้อยละ 76.7 63.5 และ 45.2 ของ
ช้ัน และเทปกาวอะลูมิเนียม 2 ช้ัน เพื่อป้องกันการ คอนกรีตควบคุม ตามล้าดับ แสดงให้เห็นว่าการใช้
สูญเสยี ความช้ืน [18] ส่วนเคร่อื งมือวดั ค่าการหดตัวได้ LECA ในปริมาณท่ีเพ่ิมข้ึนท้าให้ค่าก้าลังรับแรงอัด
ใช้เคร่ืองวัดการเปลี่ยนแปลงความยาวแบบดิจิทัล ต้่าลง เน่ืองจาก LECA มีความแข็งแกร่งน้อยกว่ามวล
(Digital Length Comparator) ซ่ึงมีความแม่นย้าใน รวมธรรมชาติ จึงทา้ ใหเ้ กิดจุดออ่ นในเนื้อคอนกรีต[12]
การวดั ไดถ้ ึง 0.001 mm
เม่ือพิจารณาท่ีอายุ 7 14 และ 28 วัน พบว่า
3. ผลการทดลอง คอนกรีต LECA16 LECA32 และ LECA47 ยังคงให้
3.1 ค่าการไหลแผ่ ค่าก้าลังรับแรงอัดต้่ากว่าคอนกรีตควบคุม แต่
จากภาพที่ 3 แสดงผลการทดสอบค่าการ คอนกรีต LECA32 มีค่าก้าลังรับแรงอัดสูงกว่า
คอนกรีต LECA16 และ LECA47 ตัวอย่างเช่น ท่ีอายุ
ไหลแผ่ของคอนกรีตสด จากรูปจะเห็นว่าคอนกรีตท่ีมี 28 วัน คอนกรีต LECA16 LECA32 และ LECA47 มี
การแทนที่มวลรวมหยาบธรรมชาติ (หินปูนบดย่อย) ค่าก้าลังรับแรงอัดเท่ากับ 414.2 429 และ 338.6
ดว้ ย LECA รอ้ ยละ 16 32 และ 47 (LECA16 LECA32 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร คิดเป็นร้อยละ 89.4
และ LECA47) มีค่าการไหลแผส่ งู กวา่ คอนกรตี ควบคมุ 92.6 และ 73.0 ของคอนกรีตควบคุม ตามล้าดับ
สอดคลอ้ งกับงานวิจัยในอดตี [6-7] ท่กี ล่าววา่ มวลรวม สอดคล้องกับค่าการไหลแผ่ ซึ่งคอนกรีต LECA32 มี
ท่ีมีอนุภาคมนกลมจะท้าให้มีความสามารถท้างานได้ ค่าการไหลแผ่มากที่สุด นอกจากนี้จากการสังเกต
สูงขึ้น และคอนกรีต LECA32 มีค่าการไหลแผ่สูงสุด พบว่าเนื้อคอนกรีต LECA32 มีการกระจายเม็ดมวล
ซึ่งอาจเปน็ ผลมาจากการมีอัตราส่วนปริมาตรมวลรวม รวมสม้่าเสมอมากกว่าคอนกรีตกลุ่มอ่ืน บ่งช้ีว่าการ
ต่อปริมาตรเพสต์ท่ีเหมาะสมจึงท้าให้เกิดการไหลแผ่ แทนที่มวลรวมหยาบธรรมชาตดิ ้วย LECA ร้อยละ 32
ได้มาก (โดยน้าหนัก) เป็นปริมาณท่ีเหมาะสม ท้าให้มีการ
พัฒนาก้าลังรับแรงอัดได้ดีท่ีสุด เม่ือพิจารณาลักษณะ
รูปที่ 3 ผลการทดสอบคา่ การไหลแผข่ องคอนกรีต ของการวบิ ัตขิ องก้อนคอนกรีต LECA32 พบวา่ ระนาบ
3.2 กา้ ลงั รับแรงอัด ของการแตกร้าวว่ิงผ่านเม็ด LECA ดังภาพท่ี 5 แสดง
ให้เห็นว่ามอร์ตาร์มีความแข็งแกร่งมากกว่า LECA
นอกจากน้ี ผลการทดสอบยังแสดงให้เห็นว่าคอนกรีต
LECA47 ท่ีผลิตขึ้นในงานวิจัยน้ี มีค่าก้าลังรับแรงอัดที่
อายุ 28 วัน เท่ากับ 338.6 kg⁄cm3 หรือ 33.2
MN ซ่ึงมากกว่า 17 MN สามารถใช้ได้ในงาน
คอนกรีตโครงสร้างอาคารพักอาศัยท่ัวไป [4] เม่ือ
เปรยี บเทยี บกับงานวจิ ัยในอดีต จะเหน็ ว่าในงานวจิ ยั น้ี
มีการลดลงของค่าก้าลังรับแรงอัดที่อายุ 28 วัน อยู่
ในช่วงร้อยละ 7-27 เมื่อเปรียบเทียบกับคอนกรีต

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

164 วารสารวจิ ัยและนวตั กรรมการอาชวี ศกึ ษา คอนกรีตมวลเบา (ต่้ากว่า 2,000 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ เมตร) ซ่ึงหากน้าไปใช้ในงานโครงสร้าง จะท้าให้
ปที ี่ 5 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564 น้าหนักของโครงสร้างลดลงได้ ร้อยละ 18.7 เมื่อ
เปรียบเทียบกับการใช้คอนกรีตท่ีใช้มวลรวมหินปูน
ควบคุม ซ่ึงต่้ากว่างานวจิ ัย [10] แม้ว่างานวิจยั น้ีมกี าร เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นวา่ อัตราการ
แทนทด่ี ว้ ย LECA ในอัตราสูงกว่า แทนท่ี ร้อยละ 16 และ 32 โดยนา้ หนัก ยังไม่มากเพยี ง
พอท่ีจะท้าให้คอนกรีตมีค่าความหนาแน่นลดลงเป็น
3.3 ความหนาแน่น คอนกรีตมวลเบา เม่ือพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง
จากรูปที่ 6 แสดงผลการทดสอบค่าความ ความหนาแน่นและก้าลังรับแรงอัดของคอนกรีต ดัง
แ ส ด ง รู ป ที่ 7 จ ะ เ ห็ น ว่ า ค่ า ก้ า ลั ง รั บ แ ร ง อั ด มี
หนาแน่นของคอนกรีตผสม LECA เปรียบเทียบกับ ค ว า ม สั ม พั น ธ์ เ ชิ ง บ ว ก กั บ ค่ า ค ว า ม ห น า แ น่ น ข อ ง
คอนกรีตควบคุม โดยภาพรวมจะเห็นว่าความหนา คอนกรีต กล่าวคือ ค่าก้าลังรับแรงอัดลดลงตามค่า
แน่นของคอนกรีตมีค่าต้่าลง เม่ืออัตราการแทนที่ด้วย ความหนาแน่นของคอนกรีต ซึ่งสอดคล้องกับผล
LECA เพ่ิมข้ึน เม่ือพิจารณาที่อายุ 28 วัน พบว่า การศึกษาของ Ahmad และคณะ [2]
คอนกรีตควบคุม (Control) มีค่าความหนาแน่น
เท่ากับ 2,310 kg⁄m3 ส่วนคอนกรีต LECA16
LECA32 และ LECA47 มีค่าความหนาแน่นของ
คอนกรีตเท่ากับ 2,186 2,103 และ 1,879 kg⁄m3
หรือคิดเป็นร้อยละ 95 91 และ 81 ของคอนกรีต
ควบคมุ ตามลา้ ดับ

รปู ท่ี 6 ผลการทดสอบความหนาแนน่ ของคอนกรตี

รปู ที่ 4 ผลการทดสอบกา้ ลงั รบั แรงอัดของคอนกรีต

รูปที่ 5 ลักษณะการวิบตั ขิ องคอนกรตี LECA32 รปู ท่ี 7 ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งคา่ ความหนาแน่นและ
เม่ือเปรียบเทียบเกณฑ์ที่เสนอแนะโดยงานวิจัย ค่าก้าลงั รับแรงอัดของคอนกรตี

ในอดีต [4] จะเห็นว่ามีเพียงคอนกรีต LECA47 ท่ีผลิต
ขนึ้ ในงานวิจยั นี้ ทม่ี ีคา่ ความหนาแนน่ อยใู่ นเกณฑท์ เ่ี ปน็

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

รปู ท่ี 8 ผลการทดสอบการหดตัวแบบออโตจนี สั วารสารวิจยั และนวัตกรรมการอาชวี ศึกษา 165
ของคอนกรีต
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
3.4 การหดตัวแบบออโตจนี ัส ปที ี่ 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2564
จากรูปที่ 8 แสดงผลการทดสอบค่าการหด
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว (หลัง 28 วัน)
ตัวแบบออโตจีนัสของคอนกรีต จากรูปจะเห็นว่า คอนกรีตควบคุม (Control) และคอนกรีต LECA16 มี
คอนกรีตทุกส่วนผสมมีค่าการหดตัวเพิ่มข้ึนตามเวลา แนวโน้มเกิดการหดตัวเพิ่มข้ึนอย่างต่อเน่ือง ในขณะที่
คอนกรีต LECA16 มีค่าการหดตัวต่้ากว่าคอนกรีต คอนกรีต LECA32 และ LECA47 มีอัตราการหดตัว
ควบคุม ตลอดชว่ งอายุการทดสอบ ซึง่ คาดว่าเป็นผลมา ต่้าลง ดังน้ันอาจเป็นไปได้ว่าคอนกรีตควบคุ ม
จากการท่ีน้าภายใน LECA กระจายตัวออกมา ท้าให้ (Control) และคอนกรีต LECA16 จะมคี ่าการหดตวั สูง
ความชื้นภายในคอนกรีตมีค่าสงู ขึ้นเมื่อเปรียบเทยี บกับ กว่าในระยะยาว
คอนกรีตควบคุม ดังน้ันจึงท้าให้การหดตัวลดลง [19]
แต่เมือ่ อัตราการแทนทเี่ พิม่ ขึน้ เปน็ รอ้ ยละ 32 และ 47 4. บทสรุป
(LECA32, LECA47) ทา้ ใหค้ า่ การหดตวั สงู กวา่ คอนกรีต จากข้อมูลการทดลองข้างต้น สามารถสรุป
ควบคุม ในช่วง 28 วันแรก ผลการทดลองข้างต้น
แตกต่างการคาดการณ์ ท่ีคาดว่าการหดตัวแบบออโต ผลการวิจัยไดด้ งั นี้
จีนสั ของคอนกรีตจะลดลงอยา่ งต่อเนอื่ ง 4.1 ค่าการไหลแผ่ (slump flow) ของคอนกรีต

เม่ืออัตราการแทนที่มวลรวมหยาบด้วย LECA สูงขึ้น เมื่อแทนที่หินปูนบดย่อยด้วย LECA และการ
สูงขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น การท่ี แทนท่รี ้อยละ 32 โดยน้าหนัก ใหค้ ่าการไหลแผ่สูงสุด
LECA มีความแข็งของอนุภาคน้อยกว่าหินปูน ดังนั้น
เม่ือใช้ในปริมาณมากขึ้น จึงท้าให้โครงสร้างของมวล 4.2 ความหนาแน่นของคอนกรีตลดลง เม่ือเพิ่ม
รวมมีความต้านทานต่อการหดตัวของคอนกรีตน้อยลง อัตราการแทนท่ีหินปูนบดย่อยด้วย LECA และการ
[19] นอกจากนอ้ี าจเปน็ ไปได้ว่า LECA ทใ่ี ชใ้ นการผสม แทนท่ีในอัตราร้อยละ 47 โดยน้าหนักเท่านั้น ที่ท้าให้
คอนกรีต ยังไม่อิ่มตัวโดยสมบูรณ์และเกิดการดูดกลืน ได้คอนกรีตมวลเบา ที่มีความหนาแน่นต่้ากว่า 2000
น้าจากซีเมนต์เพสต์ ท้าให้อัตราส่วนน้าต่อซีเมนต์ กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และต้่ากว่าคอนกรีตควบคมุ
(w/c) ในเพสต์ต้่าลง และส่งผลให้เกิดการหดตัวแบบ ร้อยละ 18.7
ออโตจนี สั สงู ขนึ้ ซึง่ ปรากฏการณด์ งั กล่าวจะเหน็ ชดั เจน
ขึ้น เมอื่ อัตราการแทนทด่ี ว้ ย LECA สูงข้นึ 4.3 กา้ ลังรับแรงอัดของคอนกรีตต่า้ ลง เมอื่ แทนท่ี
หินปูนบดย่อยด้วย LECA การแทนที่ร้อยละ 32 โดย
น้าหนัก ใหค้ า่ ก้าลังรับแรงอัดสูงสดุ และการแทนท่ีรอ้ ย
ละ 47 โดยน้าหนกั ให้ค่าก้าลังรับแรงอัดต้่าสดุ (338.6
กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร) แต่สามารถใช้ในงาน
โครงสรา้ งได้

4.4 การหดตวั แบบออโตจนี สั ในชว่ ง 28 วนั แรก
มคี ่าต้า่ กวา่ คอนกรีตควบคุมเม่อื แทนทีห่ ินปนู บดยอ่ ย
ด้วย LECAร้อยละ 16 แตจ่ ะมคี า่ สงู กว่าคอนกรีตควบ
คมุ เม่อื หนิ ปนู บดยอ่ ยดว้ ย LECA รอ้ ยละ 32 และ 47

4.5 LECA มีประโยชน์ท้ังในด้านการท้าให้
คอนกรีตมีน้าหนักเบาและท้าให้ความสามารถท้างาน
ได้สูงขึ้น ทั้งนี้ต้องใช้ในปริมาณเหมาะสม และควร
หลีกเลี่ยงการใช้ในงานท่ีไม่ต้องการให้เกิดการหดตัว
สงู ในชว่ ง 3 สัปดาห์แรก
กิตตกิ รรมประกาศ

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

166 วารสารวิจัยและนวตั กรรมการอาชวี ศกึ ษา [7] D. Shebannavar Hanamanth, P.
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ Maneeth, and S. Brijbhushan.
ปที ี่ 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2564 "Comparative study of LECA as a
complete replacement of coarse
ขอขอบคุณ บริษัท ไซมิส อีโคไลท์ จ้ากัด ท่ีให้ความ aggregate by ACI method with
อนุเคราะห์เม็ดดินเหนียวขยายตัวเบา และบริษัทซิกา้ equivalent likeness of strength of IS
(ประเทศไทย) จ้ากัด ท่ีให้ความอนุเคราะห์สารสดน้า method". Int. Res. J. Eng. Tech., 2(8),
ทีใ่ ช้ในงานวิจัยน้ี pp. 589-594, 2015.

เอกสารอ้างองิ [8] A.A. Maghsoudi, Sh. Mohamadpour,
[1] M.F.M. Zain, Md. Safiuddin, and K.M. and M. Maghsoudi. "Mix design and
Yusof. "A study on the properties of mechanical properties of self-
freshly mixed high-performance compacting light weight concrete". Int.
concrete". Cement and Concrete J. Civ. Eng. 9(3), pp.230-236, 2011.
Research, 29(9), pp. 1427-1432, 1999.
[2] M.R. Ahmad, B. Chen, and S.F. Ali [9] Lakshmi P. Pavithra, A. Kaethika, and
Shah. "Investigate the influence of K. Mahendran. "Experimental
expanded clay aggregate and silica investigation on flexural properties of
fume on the properties of lightweight lightweight concrete using steel
concrete". Construction and Building scraps". SSRG Int. J. Civ. Eng., pp.566-570, 2017.
Materials, 220, pp. 253-266, 2019.
[3] J. Newman and B.S. Choo. Advanced [10] S. Sivakumar, and B. Kameshwari.
Concrete Technology: Processes. "Influence of fly ash, bottom ash, and
Butterworth-Heinemann-An imprint of light expanded clay aggregate on
Elsevier Linacre House, 2003,pp.2/3-2/25. concrete". Adv. Mater. Sci. Eng., pp.1-9, 2015.
[4] K.H. Yang, G.H. Kim, and Y.H. Choi. "An
initial trial mixture proportioning [11] N. Salem, M. Ltifi, and H. Hassis.
procedure for structural lightweight "Characterization of lightweight
aggregate concrete". Construction and aggregates manufactured from
Building Materials, 55, pp. 431-439, 2014. Tunisian clay". J. Sci. Res., 7, pp.43-51, 2014.
[5] A.M. Rashad. "Lightweight expanded
clay aggregate as a building material- [12] H.Z. Cui, T.Y. Lo, S.A. Memon, and W.
An overview". Construction and Xu. "Effect of lightweight aggregates
BuildingMaterials,170,pp.757-775, 2018. on the mechanical properties and
[6] D. Joz?wiak-Niedz?wiedzka. "Scaling brittleness of lightweight aggregate
resistance of high-performance concrete". Construction and Building
concretes containing a small portion Materials, 35, pp.149-158, 2012.
of pre-wetted lightweight fine
aggregate". Cement and Concrete [13] จริ ฐั ติ ิ์ บรรจงศิริ, "การศกึ ษากาลงั รบั แรงอัด
Composites, 27, pp.709-715, 2005. ของคอนกรีตจากมวลรวมหยาบประดษิ ฐ"์ ,
เอกสารประกอบการประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ
VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกาแพงแสน
ครงั้ ท่ี 11,พ.ศ.2557,หนา้ 2077-2085.

วารสารวิจัยและนวตั กรรมการอาชีวศกึ ษา 167

Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ปีท่ี 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2564

[14] Thai Industrial Standard Institute. "TIS
15 : 2555 Thai standard for Portland
Cement : Part I specification".
TISI,2012.

[15] ASTM C1611 / C1611M - 18. "Standard
Test Method for Slump Flow of Self-
Consolidating Concrete". ASTM
International, 2018.

[16] British Standard Institute. "BS EN
12390-3: Testing hardened concrete.
Compressive strength of test
specimens". BSI, 2009.

[17] ASTM C157 / C157M-17. "Standard
Test Method for Length Change of
Hardened Hydraulic-Cement Mortar
and Concrete". ASTM International,
2017.

[18] ชนานนท์ สงิ หค์ ศิริ และ มงคล นามลักษณ์,
"ผลกระทบของระยะเวลาบดเถ้าแกลบท่มี ี
ตอ่ การหดตัวแบบออโตจีนสั และกาลงั อดั
ของคอนกรีตผสมเถ้าแกลบ",วารสาร
วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่, ปที ่ี
25, พ.ศ.2561, หนา้ 232-241.

[19] J.A. Bogas, R. Nogueira, and N.G.
Almeida. "Influence of mineral
additions and different compositional
parameters on the shrinkage of
structural expanded clay lightweight
concrete". Materials & Design, 56, pp.
1039-1048, 2014.

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

168 วารสารวิจัยและนวตั กรรมการอาชวี ศกึ ษา
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ปที ี่ 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มถิ นุ ายน 2564

ปัจจยั แห่งความสาเร็จในการบรหิ ารความเสยี่ งของโรงพยาบาลอดุ รธานี จังหวัดอดุ รธานี
Success Factors on Risk Management of Udon Thani Hospital in Udon Thani Province

สุภา นาแซง1*, ทัศนีย์ ธนอนนั ต์ตระกูล², บษุ บา จันทะราช3, ภัทรกิ า ศิรสิ ถติ ย4์ และ อรธนา บญุ ทองดี5
Supa Nasaeng¹*, Thassanee Thanaanantrakul², Busaba Jantharach3
Pattariga Sirisatit4 and Ontana Boontongdee5

*12345สาขาวิชาการบัญชี วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาอดุ ร สถาบันการอาชีวศกึ ษาภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 1 จังหวดั หนองคาย 43000
*12345Field of Accounting, Udonthani Vocational College, Institute of Vocational Education : Northeastern Region1 Nongkhai 43000

Received : 2020-06-05 Revised : 2020-11-27 Accepted : 2020-01-06

บทคดั ย่อ ข้อกาหนดจากต้นสังกัด บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจ
การศึกษาปัจจัยแห่งความสาเร็จในการบริหาร ในกฎระเบียบของกฎหมาย และระเบียบวินัย และมี
ความรู้ความเข้าใจ วิธีการและกฎระเบียบในการ
ความเสี่ยงของโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ตรวจสอบภายใน ความเส่ียงทางด้านการบัญชี อยู่ใน
มวี ัตถุประสงค์ เพอื่ ศกึ ษาปจั จัยแห่งความสาเร็จในการ ระดบั มาก การมเี อกสารประกอบหรอื รายละเอยี ดการ
บริหารความเส่ียงของโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัด ปรับปรุงรายการบัญชีประกอบใบสาคัญทั่วไปเพื่อเป็น
อุดรธานี การวิจัยคร้ังน้ี เป็นการวิจัยเชิงสารวจ หลักฐานสาคัญในการจัดทางบการเงินตรงตามความ
ประชากรท่ีใช้ในการวิจยั ครั้งน้ี จานวน 275 ราย โดย ต้องการและทันต่อเวลา คุ้มค่า ความเสี่ยงด้านการ
การสุ่มตัวอย่างแบบช้ันภูมิและใช้แบบสอบถามเป็น ปฏิบัติงาน อยู่ในระดับมาก ภายในองค์กรต้องมี
เคร่ืองมือในการศึกษา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล บรรยากาศในการทางานที่เหมาะสม มีระบบรักษา
ไดแ้ ก่ คา่ ร้อยละ คา่ เฉลี่ย และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน ความปลอดภยั ท่ีดี มเี ครื่องมือเครื่องใช้เพยี งพอต่อการ
ผลการศึกษา พบว่า ผู้บริหารและบุคลากรภายใน ทางาน เคร่ืองมือเครื่องใช้มีความทัน สมัยและ
โรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็น เหมาะสมกับการใช้งาน และสภาพแวดล้อมของ
เก่ียวกับความเสี่ยงทางด้านกลยุทธ์ อยู่ในระดับมาก องค์กรเป็นแรงจงู ใจในการทางาน
คือการท่ีผู้บรหิ ารมีความรู้ความสามารถในการบริหาร คาสาคัญ : ความสาเร็จ, การบริหารความเสย่ี ง,
นโยบาย วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ แผนกลยทุ ธ์ มคี วามเขา้ ใจ
ในเรื่องแผนกลยุทธ์ของโรงพยาบาลอุดรธานี การ สภาพแวดล้อมขององค์กร
เปลี่ยนแปลงนโยบายของกระทรวงมีการปรับปรุง
การดาเนินงานท่ีไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ความเส่ียง Abstract
ทางด้านการเงิน อยู่ในระดับมาก มีการปฏิบัติงาน The objective of this research was to study
ด้วยความโปร่งใสและจัดทาทะเบียนคุมงบประมาณ
ตา่ ง ๆ ภายในโรงพยาบาลอุดรธานี เพอื่ ตรวจสอบการ the success factors on risk management of
จัดซ้ือวัสดุครุภัณฑ์ที่ทันสมัย ความเสี่ยงทางด้าน Udonthani Hospital in Udonthani. It is a survey
กฎหมายและข้อกาหนดผกู พันองค์กร อย่ใู นระดบั มาก method research. The population used was
บคุ ลากรรับรกู้ ารเปลยี่ นแปลงกฎระเบยี บ มาตรการ 275 people using random sampling. Moreover,
questionnaires used as a tool for studying. The
*สุภา นาแซง statistics used indataanalysiswerepercentage,mean
and standard deviation.
E-mail : [email protected]

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

The study results showed that วารสารวจิ ยั และนวตั กรรมการอาชีวศกึ ษา 169
management and personnel at Udon Thani
hospital in Udon Thani province have an Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
opinion about the strategic risk at a high level; ปที ี่ 5 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2564
the executives have the knowledge and ability
to manage the policy, vision, mission, strategic 1. บทนา
plan and being updated with the ministry's ระบบการบริหารจัดการในภาครัฐท่ีขา ด
policy. They also perform the ability to revise
some operation that do not meet objectives. ประสิทธิภาพ เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศท่ี
Besides, a financial risk was at a high level. สาคัญประการหนึ่งมาอย่างต่อเน่ือง ในเร่ืองการ
However, the operation was managed with ขับเคลื่อนการบริหารจัดการภาครัฐให้บร รลุ
transparency and prepare budget control วัตถุประสงค์ทว่ี างไว้ เพ่อื ใหเ้ ปน็ ปจั จยั สนับสนุนสาคัญ
registers within Udon Thani Hospital to verify ที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาประเทศให้ประสบผล
modern equipment and material purchasing. สาเร็จบรรลุเป้าหมายท่ีวางไว้ในช่วงแผนพัฒนาฯ
The Organization’s legal and regulatory risks ฉบับท่ี 12 ทั้งการบริหารจัดการภาครัฐ ให้โปร่งใส
binding is at a high level. Staffs recognize the มีประสิทธิภาพ รับผิดชอบ ตรวจสอบได้อย่างเป็น
organization’s regulatory changes measures ธรรม การป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบและการ
and requirement. They also have a good สร้างธรรมาภิบาลในสังคมไทยให้ความสาคัญกับการ
understanding on the rules and regulations of ส่งเสริมและพัฒนาธรรมาภิบาลในภาครัฐอย่างเป็น
the law and discipline and have knowledge รูปธรรมทั้งทางด้านระบบบริหารงานและบุคลากร
and understanding methods and regulations มีการบริหารจัดการภาครัฐที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ
for internal auditing accounting risk at a high ทันสมัย สามารถตรวจสอบได้อย่างเป็นธรรม [1] ทา
level. The availability of supporting documents ให้ผลการดาเนินงาน มีประสิทธิภาพ บรรลุตาม
or details of adjustments to accounting วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการบริหาร ซึ่งจาเป็น
transactions together with general certificates ที่จะต้องมีการกาหนดวัตถุประสงค์ การวางแผนการ
as important evidence in the preparation of ตรวจสอบ การนาแผนสู่การปฏิบัติ การติดตามและ
financial statements in accordance with the การรายงานผลการตรวจสอบจึงเป็นเร่ืองท่ีสาคัญ
needs and in a timely, cost-effective manner เพราะเป็นหลักประกันว่าการทางานในองค์กรบรรลุ
at a high level within the organization, there เป้าหมายหรือไม่ [2] ดงั นน้ั การบรหิ ารงานของภาครฐั
must be a suitable work environment. There is จึงจาเป็นท่ีจะต้องมีการประเมินความเสี่ยงเข้ามา
a good security system and sufficient tools and เกี่ยวข้อง
equipment for the work. The tools and
appliances are modern and suitable for use การบริหารความเสี่ยงเป็นกระบวนการท่ีอาศัย
and the organizational environment that brings ความร่วมมือจากผู้ปฏิบัติงานทุกระดับเข้ามามีส่วน
to a motivation for work. ร่วมถึงจะบรรลุความสาเร็จของเป้าหมาย ผู้บริหาร
Keywords : Success, Risk management, และพนักงานทุกระดับ จะได้รับรู้ถึงสาเหตุของความ
เสย่ี ง การจากัดความเสีย่ ง การลดโอกาสเสย่ี ง ปรมิ าณ
Organizational environment. ความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการบริหารจัดการความ
เสี่ยงที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลจาแนกออกเป็น 3
ประเภท ดงั นี้ 1) ความเสีย่ งทว่ั ไปได้แก่ ความผิดพลาด
ในการส่ือสาร การระบุตัวผู้ป่วย ทรัพย์สินสูญหาย
ความเสี่ยงทางส่ิงแวดล้อม 2) ความเส่ียงเฉพาะโรค
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ท่ีไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการรักษา
เฉพาะโรคหัตถการนัน้ เชน่ การแทงเสน้ เลอื ดแลว้ เส้น

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

170 วารสารวจิ ยั และนวตั กรรมการอาชีวศกึ ษา ความสาเร็จในการบริหารความเส่ียงของโรงพยาบาล
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการ
ปที ี่ 5 ฉบับที่ 1 มกราคม - มถิ นุ ายน 2564 พั ฒ น า ป รั บ ป รุ ง ก า ร บ ริ ห า ร ค ว า ม เ ส่ี ย ง ด้ า น ก า ร
บรหิ ารงานของหน่วยงานทง้ั ภาครัฐและเอกชนต่อไป
เลือดแตก การผ่าตัดถูกอวัยวะข้างเคียงเกิดการตัด
ขาดเลอื ดออกในสมองจากผลการรกั ษา 3) ความเสย่ี ง 2. วตั ถปุ ระสงค์
ทางคลินิก เป็นเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์อัน เพื่อศึกษาปัจจัยแห่งความสาเร็จในการบริหาร
เน่ืองมาจากการรักษาพยาบาลผู้ป่วยไม่ถูกตอ้ งหรอื ไม่
มปี ระสิทธภิ าพ [3] ความเส่ียงของโรงพยาบาลอุดรธานี จงั หวัดอดุ รธานี

การบริหารงานภาครัฐภารกิจของหน่วยงาน 3. ขอบเขตการวิจยั
ท้ังหมด เช่น การบริหารความเสี่ยงทางด้านกลยุทธ์ 3.1 ประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ ง
ความเส่ียงทางด้านการเงิน ความเสี่ยงทางด้านการ 3.1.1 ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ
บัญชี ความเสี่ยงทางด้านการปฏิบัติงาน และความ
เสี่ยงทางด้านกฎหมายและข้อกาหนดผูกพันองค์กร ผู้บริหาร และบุคลากรภายในโรงพยาบาลอุดรธานี
มีความสาคัญเป็นอย่างย่ิงในการลดเหตุทจ่ี ะเกิดความ จานวนทั้งสิน้ 3,096 คน [5]
เสี่ยงและลดขนาดของความเส่ียง ท่ีจะเกิดข้ึนใน
อนาคตให้อยู่ในระดบั ทยี่ อมรับได้ ประเมินได้ ควบคุม 3.1.2 กลมุ่ ตวั อย่างทใี่ ชใ้ นการวิจัยครั้งน้ี คอื
ได้และตรวจสอบได้อย่างมีระบบ โดยคานึงถึงเป้า ผู้บริหาร และบุคลากรภายในโรงพยาบาลอุดรธานี
หมายตามภารกิจหลักของหน่วยงานและเป้าหมาย จังหวัดอุดรธานี จานวน 275 คน โดยเปิดตัวอย่าง
ตามแผนปฏิบัติงานราชการ ของต้นสังกัด และเพื่อให้ Krejcie และ Morgan [6]
ก า ร บ ริ ห า ร ค ว า ม เ ส่ี ย ง ใ น ห น่ ว ย ง า น ภ า ค รั ฐ
มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมถึงปัจจัยความเสี่ยง 3.2 เคร่ืองมือท่ีใช้ในการการเก็บรวบรวมข้อมูล
ซึ่งการบริหารความเสี่ยงเป็นส่วนหน่ึงของการบริหาร ประกอบด้วยแบบสอบถาม 1 ชุด แบ่ง
จัดการองค์กรเป็นเร่ืองส่วนรวมที่ทุกคนในองค์กร
ตั้งแต่คณะกรรมการ ผู้บรหิ ารระดับสูง จนถงึ พนกั งาน ออกเป็น 2 ตอน ดงั นี้
ทุ ก ค น ค ว ร ไ ด้ มี ส่ ว น ร่ ว ม ใ น ก า ร บ ริ ห า ร ค ว า ม เ ส่ี ย ง ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ตอบแบบ
ซึ่งการบริหารความเส่ียงที่ดีจะเป็นการวัดความ
สามารถและการดาเนินงานของบุคลากรภายใน สอบถาม มีลักษณะเป็นแบบสารวจรายการประกอบ
องค์กร สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย ด้วยข้อมลู ส่วนตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ เพศ อายุ ระดับการศกึ ษา
หลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดี ประสบการณ์ในการทางานตาแหน่งงาน และการ
พ.ศ.2546 มาตรา 6 [4] ที่ว่าการบริหารกิจการ ได้รับการอบรมทางด้านการบริหาร การจัดการความ
บ้านเมืองท่ีดี ได้แก่ การบริหารราชการเพื่อบรรลุ เสยี่ ง จานวน 6 ข้อ
เป้าหมายต่อการบริหารความเส่ียง ดังน้ัน การบริหาร
ความเส่ียงจึงมีความสาคัญต่อการควบคุมภายใน ตอนท่ี 2 แบบสอบถามเก่ียวกับการจัดการ
องค์กรลดเหตุ ที่จะเกิดความเส่ียงและลดขนาดของ ความเสี่ยง ของโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอดุ รธานี
ความเสี่ยงที่จะเกิดข้ึนในอนาคตให้อยู่ในระดับที่ ท้งั 5 ปัจจยั เสีย่ ง
ยอมรับได้ ประเมินได้ ควบคุมได้ และตรวจสอบได้
อย่างมีระบบ 3.3 การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรม
สาเร็จรปู SPSS ดังนี้
จากเหตุผลท่ีกล่าวมาข้างต้น ผู้วิจัยจึงเห็น
ความสาคัญของการบริหารความเสี่ยงและมีความ ตอนที่ 1 วิเคราะหข์ อ้ มูลท่ัวไปของผู้บริหาร
ส น ใ จ ใ น ก า ร ศึ ก ษ า ว่ า ปั จ จั ย ใ ด เ ป็ น ปั จ จั ย แ ห่ ง และบุคลากรภายในโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัด
อดุ รธานี โดยใชว้ ธิ กี ารประมวลผลโดยใชส้ ถิติพรรณนา
(Descriptive Statistics) ได้แก่ การแจกแจงความถี่
(Frequency) และร้อยละ (Percentage)

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

วารสารวจิ ัยและนวตั กรรมการอาชีวศกึ ษา 171

Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ปีที่ 5 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564

ตอนท่ี 2 การวิเคราะห์ข้อมูลความคิดเห็น ต่ อ ค ว า ม ส า เ ร็ จ ต่ อ ก า ร บ ริ ห า ร ค ว า ม เ ส่ี ย ง ข อ ง
เกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงของโรงพยาบาล โรงพยาบาลอุดรธานี โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( X =
อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยใช้วิธีการประมวลผล 4.27) โดยเรียงลาดับจากมากไปหาน้อย ดังน้ี ความ
ทางหลักสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) เส่ียงทางด้านกลยทุ ธ์ ( X = 4.34) ความเสย่ี งทางดา้ น
สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การเงิน และความเส่ียงทางด้านการกฎหมายและ
ข้อกาหนดผูกพันองค์กร ( X = 4.27) ความเสี่ยง
4. ผลการวจิ ัย ทางด้านบัญชี ( X = 4.25) และความเส่ียงทางด้าน
การศึกษาวิจัย เร่ือง ปัจจัยแห่งความสาเร็จในการ การปฏิบตั ิงาน ( X = 4.24)

บริหารความเส่ียงของโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัด ตารางที่ 2 ขอ้ มูลทัว่ ไปความคิดเห็นเกยี่ วกับความ
อดุ รธานี พบว่า ผบู้ ริหารและบคุ ลากรภายโรงพยาบาล เสยี่ งทางดา้ นกลยุทธ์
อุดรธานีจังหวัดอุดรธานี ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง
(ร้อยละ 84) อายุ 30–35 ปี (ร้อยละ 33.45) ระดับ ปจั จัยแหง่ ความสาเร็จในการ X S.D. ความเหน็
การศึกษาปริญญาตรี (ร้อยละ 45.36) ประสบการณ์ บรหิ ารความเสี่ยง
การทางาน 7-9 ปี (ร้อยละ 30.91) และมีรายได้ต่อ
เดอื น ตา่ กว่า 25,000 บาท (รอ้ ยละ 90.55) ความเสย่ี งทางด้านกลยทุ ธ์

ปัจจัยแห่งความสาเร็จในการบริหารความเสี่ยง 1. มีความเข้าใจในเร่อื ง 4.56 0.63 มากทสี่ ุด
ของโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยรวม
และรายด้าน ดงั น้ี แผนกลยุทธ์

2. มกี ารดาเนินงานตาม 4.21 0.65 มาก

แผนกลยทุ ธ์เพอ่ื ใหบ้ รรลุเป้าหมาย

และพันธกิจในภาพรวม

ตารางท่ี 1 ขอ้ มลู เก่ียวกับปัจจัยแห่งความสาเร็จ 3. มีการปรบั ปรุงการดาเนนิ งาน 4.31 0.58 มาก
ในการบรหิ ารความเสยี่ งของโรงพยาบาล
อดุ รธานีจังหวดั อุดรธานี โดยรวม ทบ่ี รรลุวัตถปุ ระสงค์ท่วี างไว้

4. ผ้บู ริหารมีความรู้ความสามารถ 4.39 0.63 มาก

ในการบรหิ าร นโยบายวิสัยทัศน/์

พันธกจิ และแผนกลยุทธ์

ปัจจยั แหง่ ความสาเรจ็ ใน ความ 5. สถานการณ์และเหตกุ ารณ์ 4.24 0.67 มาก

การบริหารความเสย่ี งของ X S.D. ภายนอกส่งผลตอ่ กลยทุ ธท์ ่กี าหนด
โรงพยาบาลอดุ รธานี
เหน็ ไว้สอดคล้องกับประเดน็

1. ความเส่ยี งทางด้านกลยุทธ์ 4.34 0.65 มาก ยุทธศาสตร์/วิสยั ทศั น์

2. ความเสี่ยงทางดา้ นการ 4.25 0.66 มาก รวม 4.34 0.56 มาก

บัญชี

3. ความเส่ยี งทางด้านการเงนิ 4.27 0.70 มาก จากตารางท่ี 2 พบว่า ผู้บริหารและบุคลากร
ภ า ย ใ น โ ร ง พ ย า บ า ล อุ ด ร ธ า นี จั ง ห วั ด อุ ด ร ธ า นี
4. ความเส่ยี งทางดา้ นการ 4.24 0.65 มาก มีความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงทางด้านกลยุทธ์อยู่ใน
ระดับมาก ( X = 4.34) โดยเรียงลาดับจากมากไปหา
ปฏิบัติงาน น้อย ดังน้ี มีความเข้าใจในเร่ือง แผนกลยุทธ์
( X = 4.56) ผู้บริหารมีความรู้ความสามารถในการ
5. ความเส่ียงทางด้านการ 4.27 0.76 มาก บริหาร นโยบายวิสัยทัศน์/พันธกิจและแผนกลยุทธ์
( X = 4.39) มีการปรับปรุงการดาเนินงานท่ีไม่บรรลุ
กฎหมายและข้อกาหนด วตั ถุประสงคท์ วี่ างไว้ ( X = 4.31)

ผูกพนั องคก์ ร

รวม 4.27 0.54 มาก

จากตารางท่ี 1 พบว่า ผู้บริหารและบุคลากร
ภายในโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
มีความเห็นเกี่ยวกับปัจจัยด้านการปฏิบัติงานท่ีส่งผล

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

172 วารสารวจิ ัยและนวตั กรรมการอาชีวศกึ ษา
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ปีท่ี 5 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถุนายน 2564

ตารางท่ี 3 ข้อมลู ทั่วไปความคดิ เหน็ เก่ยี วกับความ ตารางท่ี 4 ข้อมลู เก่ยี วกบั ความเสี่ยงทางดา้ นการเงนิ
เสี่ยงทางดา้ นการบญั ชี
ปจั จยั แห่งความสาเรจ็ ในการ ความ

ปัจจยั แห่งความสาเร็จในการ ความ บรหิ ารความเสยี่ ง X S.D. เหน็
S.D.
บริหารความเสย่ี ง X ความเสีย่ งทางด้านการเงนิ
เห็น

ความเสี่ยงทางด้านการบัญชี 1. งบประมาณทีร่ ฐั บาลจดั สรรใหใ้ น 4.22 0.63 มาก

1. มกี ารควบคมุ และตรวจสอบ 4.25 0.63 มาก แตล่ ะปเี พยี งพอต่อการใช้จา่ ยใน

หลกั ฐานการตรวจการรบั -จ่าย โรงพยาบาลอุดรธานี 4.29 0.65 มาก

ถูกตอ้ งครบถว้ นกอ่ นบนั ทึกบญั ชี 2. มีเงินทนุ หมนุ เวียนและเงนิ สด

2. การจัดทารายงานการเงินได้ 4.21 0.66 มาก สารองต่อการพัฒนาในปจั จุบนั และ 4.42 0.66 มาก

จดั ทาอยา่ งถูกต้องและทันเวลา ในอนาคต

3. มกี ารจัดฝึกอบรมอยา่ ง 4.40 0.64 มาก 3. งานการเงนิ มีการปฏบิ ตั ิงานดว้ ย 4.31 0.64 มาก

เพียงพอใหก้ ับเจา้ หนา้ ทบ่ี ญั ชี ความโปรง่ ใสสามารถตรวจสอบได้

4. มกี ารจดั ทาบญั ชีตาม 4. มีการจดั ซื้อวัสดุ ครุภณั ฑอ์ ย่าง 4.28 0.66 มาก

มาตรฐานบญั ชีไทย และมกี าร 4.11 0.61 มาก คมุ้ ค่า และมคี วามเหมาะสม

วางข้นั ตอนระบบบัญชีอยา่ ง ต่อวัตถปุ ระสงค์ทีใ่ ช้

ถกู ตอ้ ง 5. การเบกิ จา่ ยงบประมาณทนั ตาม 4.28 0.66 มาก

5. มกี ารจัดทางบการเงินเพื่อ 4.11 0.61 มาก กาหนดเวลา

เสนอให้ผ้บู ริหารได้ทราบและมี รวม 4.27 0.54 มาก

การลงลายมอื ชื่อตรวจสอบจาก

ผู้บรหิ าร จากตารางท่ี 4 พบว่า ผู้บริหารและบุคลากร
ภายในโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความ
รวม 4.25 0.55 มาก เห็นเก่ียวกับความเสี่ยงทางด้านการเงินอยู่ในระดับ
มาก ( X = 4.27) โดยเรียงลาดับจากมากไปหาน้อย
จากตารางที่ 3 พบว่า ผู้บริหารและบุคลากร งานการเงนิ มีการปฏิบตั ิงานด้วยความโปรง่ ใสสามารถ
ภายในโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ตรวจสอบได้ ( X = 4.42) มีการจัดซ้ือวัสดุ ครุภัณฑ์
มีความเห็นเก่ียวกับความเส่ียงทางด้านการบัญชอี ย่ใู น อย่างคุ้มค่า และมีความเหมาะสมตอ่ วัตถุประสงคท์ ่ีใช้
ระดับมาก ( X = 4.25) โดยเรียงลาดับจากมากไปหา ( X = 4.31) มีเงินทุนหมุนเวียนและเงินสดสารองต่อ
น้อย มีการจัดทาบัญชีตามมาตรฐานบัญชีไทย และมี การพัฒนาในปัจจุบันและในอนาคต ( X = 4.29)
การวางขั้นตอนระบบบัญชีอย่างถูกต้อง ( X = 4.40) การเบิกจ่ายงบประมาณทันตามกาหนด เวลา ( X =
มีการควบคุมและตรวจสอบหลักฐานการตรวจการรับ- 4.28) และงบประมาณท่ีรัฐบาลจัดสรรให้ในแต่ละปี
จ่าย ให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนบันทึกบัญชี ( X = 4.26) เพียงพอต่อการใช้จ่ายในโรงพยาบาลอุดรธานี ( X =
การจัดทารายงานการเงินได้จัดทาอย่างถูกต้องและ 4.22)
ทนั เวลา ( X = 4.25)

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

วารสารวจิ ัยและนวตั กรรมการอาชวี ศกึ ษา 173

Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ปที ี่ 5 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2564

ตารางที่ 5 ข้อมูลเกยี่ วกับความเสีย่ งด้านการ ตารางที่ 6 ข้อมลู เก่ียวกบั ความเส่ยี งทางดา้ น
ปฏบิ ตั งิ าน กฎหมายและขอ้ กาหนดผกู พันองค์กร

ปจั จัยแหง่ ความสาเร็จในการ ความ ปจั จัยแห่งความสาเรจ็ ในการ X S.D. ความ
X S.D. เหน็ บริหารความเสย่ี ง เห็น
บริหารความเส่ยี ง 4.22 0.65
ความเส่ยี งทางดา้ นกฎหมาย 4.24 0.66 มาก
ความเส่ียงด้านการปฏบิ ัตงิ าน และข้อกาหนดผกู พันองค์กร 4.16 0.70 มาก
1. มกี ารแตง่ ตงั้ คณะกรรมการ 4.48 0.65
1. บคุ ลากรมีสมรรถนะตอ่ การ 4.47 0.61 มาก ตรวจสอบภายใน 4.23 0.76 มาก
2. มีการจัดทาเอกสารหลักฐาน 4.27 0.55
ปฏบิ ตั งิ านตามทกี่ าหนด ตา่ ง ๆ เกี่ยวกับการควบคมุ มาก
ภายในเป็นปจั จุบัน
2. เครือ่ งมือ เคร่ืองใช้มีความ 4.10 0.66 มาก 3. กฎระเบยี บและขอ้ บงั คับ มาก
มีความเหมาะสมตอ่ การ
เพียงพอทันสมัยและเหมาะสม ปฏบิ ัตงิ าน มาก
4. การรบั รู้การเปลย่ี นแปลง
ต่อการปฏบิ ตั ิงาน กฎระเบยี บ มาตรการ
ขอ้ กาหนดจากต้นสังกดั
3. การจัดสวสั ดิการการจา่ ย 4.20 0.61 มาก 5. มกี ารตรวจสอบการ
ดาเนนิ งานจากหนว่ ยงาน
ค่าตอบแทน และสวสั ดิการ ตรวจสอบภายนอก

ประโยชน์ รวม

4. สภาพแวดล้อมในการ 4.25 0.65 มาก

ปฏบิ ตั งิ านมคี วามเหมาะสมต่อ

การปฏบิ ัติงาน

5. ภายในองคก์ รมบี รรยากาศใน 4.19 0.62 มาก

การทางานท่ีเหมาะสมและมี

ระบบรักษาความปลอดภยั ที่ดี

รวม 4.24 0.55 มาก

จากตารางท่ี 5 พบว่า ผู้บริหารและบุคลากร จากตารางที่ 6 พบว่า ผู้บริหารและบุคลากร
ภายในโรงพยาบาลอุดรธานีจังหวัดอุดรธานี มีความ ภายในโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความ
เห็นเก่ียวกับความเส่ียงด้านการปฏิบัติงานอยู่ในระดบั เ ห็ น เ ก่ี ย ว กั บ ค ว า ม เ สี่ ย ง ท า ง ด้ า น ก ฎ ห ม า ย แ ล ะ ข้ อ
มาก ( X = 4.24) โดยเรียงลาดับจากมากไปหาน้อย กาหนดผูกพันองค์กร อยู่ในระดับมาก ( X = 4.27)
บุคลากรมีสมรรถนะต่อการปฏิบัติงานตามท่ีกาหนด โดยเรียงลาดับจากมากไปหาน้อยการรับรู้การเปล่ียน
( X = 4.47) สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานมีความ แปลงกฎระเบียบ มาตรการ ข้อกาหนดจากต้นสังกัด
เหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน ( X = 4.25) การจัด ( X = 4.48) มีการจัดทาเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เก่ียว
สวัสดิการการจ่ายค่าตอบแทน และสวัสดิการ กับการควบคุมภายในเป็นปัจจุบัน ( X = 4.24) มีการ
ประโยชน์ ( X = 4.20) ภายในองค์กรมีบรรยากาศใน ตรวจสอบการดาเนินงานจากหน่วยงานตรวจสอบ
ก า ร ท า ง า น ท่ี เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ มี ร ะ บ บ รั ก ษ า ค ว า ม ภายนอก ( X = 4.23) มีการแต่งต้ังคณะกรรมการ
ปลอดภัยท่ีดี ( X = 4.19) และเครื่องมือ เครื่องใช้มี ตรวจสอบภายใน ( X = 4.22) และกฎระเบียบและ
ความเพียงพอทันสมัยและเหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน ข้อบังคับมีความเหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน ( X =
( X = 4.10) 4.16)

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

174 วารสารวิจัยและนวัตกรรมการอาชีวศกึ ษา 5.4 ผู้บริหารและบุคลากรภายโรงพยาบาล
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็นเกี่ยวกับความ
ปที ี่ 5 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2564 เสี่ยงทางด้านการบัญชีอยู่ในระดับมาก โดยด้านท่ีมี
ความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ มีการจัดทาบัญชีตาม
5. สรุปผลการวจิ ยั มาตรฐานบัญชีไทย และมีการวางข้ันตอนระบบบัญชี
การวิจัยเร่ือง ปัจจัยแห่งความสาเร็จในการบรหิ าร อย่างถูกต้อง รองลงมาคือ มีการควบคุม และตรวจ
สอบหลักฐานการตรวจการรับ-จ่าย ให้ถูกต้องครบ
ความเส่ียงของโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ถ้วนก่อนบันทึกบัญชี และความคิดเห็นน้อยที่สุด คือ
สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้ ผลจากการศึกษา มีการจัดทางบการเงินเพื่อเสนอให้ผู้บริหารได้ทราบ
ข้อมูลเก่ียวกับความคิดเห็นต่อปัจจัยแห่งความสาเร็จ และมกี ารลงลายมอื ชอื่ ตรวจสอบจากผู้บรหิ าร
ในการบริหารความเส่ียงของโรงพยาบาลอุดรธานี
จังหวัดอุดรธานี โดยรวมอยู่ในระดับมาก คือ ความ 5.5 ผู้บริหารและบุคลากรภายโรงพยาบาล
เส่ียงด้านกลยุทธ์ อยู่ในระดับมากท่ีสุด รองลงมาคือ อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็นเก่ียวกับความ
ความเสี่ยงด้านการกฎหมายและข้อกาหนดผูกพัน เส่ียงทางด้านการเงิน อยู่ในระดับมากโดยด้านท่ีมี
องค์กรความเส่ียงทางด้านการเงนิ ความเสีย่ งทางดา้ น ความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ งานการเงิน มีการ
การบัญชี และความเสี่ยงทางด้านการปฏิบัติงาน ปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้
สามารถสรุปผลการศึกษาได้ ดังน้ี รองลงมาคือ มีการจัดซื้อวัสดุ ครุภัณฑ์อย่างคุ้มค่า
และมีความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์ที่ใช้ และความ
5.1 ผู้บริหารและบุคลากรภายโรงพยาบาล คิดเห็นน้อยท่ีสุดคือ งบประมาณท่รี ัฐบาลจัดสรรให้ใน
อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง แต่ละปเี พียงพอตอ่ การใชจ้ า่ ยในโรงพยาบาลอดุ รธานี
(ร้อยละ 84) อายุ 30–35 ปี (ร้อยละ 33.45) ระดับ
การศึกษาปริญญาตรี (ร้อยละ 45.36) ประสบการณ์ 5.6 ผู้บริหารและบุคลากรภายโรงพยาบาล
การทางาน 7-9 ปี (ร้อยละ 30.91) และมีรายได้ต่อ อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็นเกี่ยวกับความ
เดือนตา่ กว่า 25,000 บาท (รอ้ ยละ 90.55) เส่ียง ดา้ นการปฏิบัติงาน อยูใ่ นระดับมาก โดยด้านทีม่ ี
ความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ บุคลากรมีสมรรถนะต่อการ
5.2 ผู้บริหารและบุคลากรภายโรงพยาบาล ปฏิบัติงานตามทีก่ าหนด รองลงมาคือ สภาพแวดล้อม
อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็นเก่ียวกับความ ในการปฏิบัติงานมีความเหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน
เส่ียงทางด้านกฎหมาย และข้อกาหนดผูกพันองค์กร และความคิดเห็นน้อยที่สุดคือ เครื่องมือ เครื่องใช้มี
อยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีความคิดเห็นมากท่ีสุดคอื ความเพียงพอทนั สมยั และเหมาะสมตอ่ การปฏิบัตงิ าน
การรับรู้การเปล่ียนแปลงกฎระเบียบ มาตรการ
ข้อกาหนดจากต้นสังกัด รองลงมาคือ มีการจัดทา 6. อภปิ รายผล
เอกสารหลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับการควบคุมภายใน จากการศึกษาข้อมูลเก่ียวกับความคิดเห็นต่อ
เป็นปัจจุบันและความคิดเห็นน้อยที่สุด คือ กฎ
ระเบียบและข้อบังคับ มีความเหมาะสมต่อการ ปัจจัยแห่งความสาเร็จในการบริหารความเส่ียงของ
ปฏิบัติงาน โรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ผู้บริหารและ
บุคลากรภายในโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
5.3 ผู้บริหารและบุคลากรภายโรงพยาบาล มีความคิดเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงทั้ง 5 ด้าน โดยรวม
อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็นเกี่ยวกับความ อยูใ่ นระดบั มาก โดยดา้ นที่มีความคิดเหน็ มากทสี่ ดุ คอื
เสี่ยงทางด้านกลยุทธ์อยู่ในระดับมาก โดยด้านท่ีมี ความเส่ียงทางด้านกลยุทธ์ รองลงมาคือ ความเส่ียง
ความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ มีความเข้าใจในเร่ืองแผน ทางด้านการเงิน ความเสี่ยงทางด้านกฎหมายและ
กลยุทธ์ รองลงมาคือ ผู้บริหารมีความรู้ความสามารถ
ในการบรหิ ารนโยบาย วสิ ยั ทัศน์ พันธกิจและ แผนกล
ยุทธ์ และความคิดเห็นน้อยที่สุดคือการดาเนินงาน
ตามแผนกลยุทธ์เพอ่ื ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย และพันธกจิ ใน
ภาพรวม

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

ข้อกาหนดผูกพันองค์กร ความเส่ียงทางด้านการบญั ชี วารสารวจิ ัยและนวัตกรรมการอาชีวศกึ ษา 175
และ ความคิดเห็นน้อยท่ีสุด คือ ความเส่ียงทางด้าน
การปฏิบัติงาน ซ่ึงสามารถอภิปรายผลการศึกษาได้ Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ดังนี้ ปที ี่ 5 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มถิ นุ ายน 2564

6.1 ผู้บริหารและบุคลากรภายโรงพยาบาล ประกอบการบันทึกบัญชีมีความถูกต้องของเอกสาร
อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็นเก่ียวกับความ ก่อนลงบัญชีระบบบัญชีเกณฑ์คงค้าง มีการสอบทาน
เส่ียงทางด้านกลยุทธ์ อยู่ในระดับมาก คือการที่ ข้อมูลระหว่างบัญชีเกณฑ์คงค้างกับเกณฑ์เงินสดเป็น
ผู้บริหารมีความรู้ความสามารถในการบริหารนโยบาย ประจาและการส่งงบทดลองประจาเดือนทันเวลาที่
วิสัยทัศน์ พันธกิจ แผนกลยุทธ์ ทั้งนี้บุคลากรภายใน กาหนด ดังนั้นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการบริหาร
โรงพยาบาลอุดรธานี ต้องมีความเข้าใจในเร่ืองแผน ความเส่ียงด้านบัญชีมากท่ีสุด คือ การมีเอกสาร
กลยุทธ์ ของโรงพยาบาลอุดรธานี การเปลี่ยนแปลง ประกอบหรือรายละเอียดการปรับปรุงรายการบัญชี
นโยบายของกระทรวงมีการปรับปรุงการดาเนินงาน ประกอบใบสาคญั ทั่วไป
ที่ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ มีตัวชี้วัดผลการดาเนินงานที่
เป็นมาตรฐานในการขึ้นข้ันเงินเดือนและเลื่อนระดับ 6.3 ผู้บริหารและบุคลากรภายในโรงพยาบาล
ตาแหน่ง สอดคล้องกับงานวิจัยของ [7] พบว่า การ อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็นเก่ียวกับความ
บริหารความเส่ียงชว่ ยในการพัฒนาองคก์ รให้เปน็ ไปใน เส่ียงทางด้านการเงิน อยู่ในระดับมาก มีการปฏิบัติ
ทิศทางเดียวกับการบริหาร ความเส่ียงทาให้รูปแบบ งานด้วยความโปร่งใสโรงพยาบาลอุดรธานี และจัดทา
การตัดสินใจในการปฏิบตั ิงานขององค์กรมีการพฒั นา ทะเบียนคุมงบประมาณต่าง ๆ ภายในโรงพยาบาล
ไปในทางเดียวกัน เช่น การตัดสินใจ โดยที่มีผู้บริหาร อุดรธานี เพ่ือตรวจสอบการจัดซื้อวัสดุ ครุภัณฑ์ท่ี
มีความเข้าใจกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ขององค์กร และ คุ้มค่า และเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์ ทั้งน้ีการจัดซ้ือ
ระดับความเส่ียงอย่างชัดเจน ดังน้ัน ปัจจัยที่ส่งผล วัสดุ ครุภัณฑ์แต่ละครั้งต้องได้มาตรฐาน และคุณภาพ
กระทบต่อการบริหารความเสี่ยงด้านกลยุทธ์มากท่สี ดุ ในการทางาน และไม่มีการนาทรัพย์สินส่วนราชการ
ก็คือความรู้ความสามารถของผู้บริหาร นโยบาย มาใช้ในการส่วนตัว สอดคล้องกับงานวิจัยของ [9]
วิสยั ทัศน์ พันธกิจ แผนกลยุทธ์ พบว่า ควรคัดเลือกผู้ปฏิบัติทางด้านการเงินและบัญชี
อย่างรอบคอบ การสื่อสารให้ข้อมูลความเสี่ยงอย่าง
6.2 ผู้บริหารและบุคลากรภายในโรงพยาบาล สม่าเสมอ โดยเน้นให้เห็นถึงความสาคัญของการ
อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็นเก่ียวกับความ บริหารความเสย่ี ง
เส่ียงทางด้านการบญั ชี อยู่ในระดับมาก การมีเอกสาร
ประกอบหรือรายละเอียด การปรับปรุงรายการบัญชี 6.4 ผู้บริหารและบุคลากรภายในโรงพยาบาล
ประกอบใบสาคัญท่ัวไป เพ่ือเป็นหลักฐานสาคัญใน อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็นเก่ียวกับความ
การจัดทางบการเงินข้ึนตรงตามความต้องการและทัน เสี่ยงด้านการปฏิบัติงาน อยู่ในระดับมาก ภายใน
ต่อเวลา ท้ังน้ีงบการเงินต้องให้ผู้บริหารได้ทราบ องค์กรต้องมีบรรยากาศในการทางานที่เหมาะสม
และมีการเซ็นตรวจสอบจากผู้บริหาร และมีผู้ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี มีเครื่องมือ เครื่องใช้
ตรวจสอบหลักฐานการตรวจการรับจ่ายให้ถูกต้อง เพียงพอต่อการทางาน เครื่องใช้มีความทันสมัยและ
ครบถ้วนก่อนบันทึกบัญชี สอดคล้องกับงานวิจัยของ เหมาะสมกับการใช้งาน และสภาพแวดล้อมของ
[8] พบว่า ปัจจัยท่ีส่งผลกระทบในการจัดทาบัญชขี อง องค์กรเป็นแรงจูงใจในการทางาน สอดคล้องกับ
ผู้ทาบัญชีระบบบัญชีเกณฑ์คงค้าง คือ ข้อมูลท่ีใช้ งานวิจัยของ [10] ทาการศึกษาวิจัย เร่ืองการพัฒนา
ประกอบการบนั ทึกบญั ชีได้ตามกาหนดเวลาเอกสารที่ ร ะ บ บ ก า ร จั ด ก า ร ค ว า ม เ สี่ ย ง ก ลุ่ ม ก า ร พ ย า บ า ล
โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ผลการศึกษา
สถานการณ์ พบว่า ความเส่ียงเกิดจาก เจ้าหน้าที่ขาด
ความตระหนัก และขาดความรอบคอบ ไม่ปฏิบัตติ าม
แนวทางที่วางไว้ร่วมกับมีความเหนื่อยล้าจากการ
ทางาน เมื่อเกิดความเส่ียงขึ้นต้องการการยอมรับการ

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

176 วารสารวจิ ัยและนวตั กรรมการอาชวี ศกึ ษา 7.2 ขอ้ เสนอแนะสาหรับการวจิ ัยครั้งตอ่ ไป
Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ 7.2.1 ควรมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการ
ปที ี่ 5 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2564
บริหารความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ของโรงพยาบาล
แก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว การสร้างขวัญกาลังใจ และ อุดรธานีจังหวัดอุดรธานี เพ่ือความถูกต้องและชัดเจน
ต้องการความช่วยเหลือจากทีมบริหาร ผลการ ศึกษา ของขอ้ มลู
นาไปสู่การพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยง เช่น
ปรับปรุง แนวทางการจัดการความเสี่ยงทางการ 7.2.2 ควรมีการเปลี่ยนวิธีการเก็บรวบรวม
พยาบาล การนิเทศและการทา RCA ผลของการ ข้อมูล จากแบบสอบถามเป็นการสัมภาษณ์แบบ
พัฒนาระบบการจัดการ ความเสี่ยง พบว่า อบุ ตั กิ ารณ์ เจาะจง เพอ่ื ให้ได้ข้อมูลและความคดิ เห็นท่ีถูกต้องและ
ความเสี่ยงด้านกายภาพ และด้านข้อร้องเรียนมี ก่อใหเ้ กิดประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลสงู สุด
แนวโน้มลดลง ในขณะที่ด้านกระบวนการ ทางานมี
แนวโน้มเพิ่มขึ้นอัตราความคลาดเคลอื่ นในการบริหาร เอกสารอ้างอิง
ยามแี นวโน้มลดลงอยา่ งมีนัยสาคัญทางสถิติ [1] สานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คม
แห่งชาติ, แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คม
6.5 ผู้บริหารและบุคลากรภายในโรงพยาบาล แหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 12 พ.ศ. 2560-2564,
อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีความเห็นเกี่ยวกับความ 2560, [สืบคน้ เมอ่ื 10 พฤศจิกายน 2562].
เส่ียงทางด้านกฎหมายและข้อกาหนดผูกพันองค์กร จาก : https://www.nesdb.go.th.
อยู่ในระดับมาก บุคลากรรับรู้การเปล่ียนแปลงกฎ [2] ศิลปพร ศรีจั่นเพชร, กรอบการบรหิ าร
ระเบียบ มาตรการ ข้อกาหนดจากต้นสังกัด จัดทา ความเส่ียงขององคก์ ร, 2556, [สบื ค้นเมื่อ
หลักฐานเอกสารต่าง ๆ เก่ียวกับการควบคุมภายใน 15 ตุลาคม 2562]จาก :
เป็นปัจจุบัน โรงพยาบาลอุดรธานี จัดตั้งคณะกรรม http://www.jba.tbs.tu.ac.th.
ตรวจสอบและมีการตรวจสอบภายใน บุคลากรมี [3] สมุ ลรัตน์ พงษข์ วญั , ปัจจยั ทม่ี ีอทิ ธิพลต่อ
ความรู้ ความเข้าใจในกฎระเบียบกฎหมาย และ การบรหิ ารความเสย่ี งของพยาบาลวชิ าชีพ
ระเบียบวินัย และมีความรู้ ความเข้าใจ วิธีการและ โรงพยาบาลพุทธมณฑล จงั หวดั นครปฐม,
กฎระเบียบในการตรวจสอบภายใน สอดคล้องกับ 2560, [8 ตุลาคม 2562], จาก :
[11] พบว่า การจัดการความเส่ียงท่ีดี จาเป็นตอ้ งสรา้ ง https://www.tci-thaijo.org.
ความตระหนักให้เกิดกับบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน สนับ [4] สานักงานปลัดกระทรวงพาณชิ ย์, พระราช
สนุนให้บุคลากรสามารถประเมินส่ิงคุกคามที่เป็น กฤษฎกี าวา่ ด้วยหลักเกณฑ์ และวิธกี าร
อันตรายและควรประกอบด้วย กระบวรการประเมิน บริหารกิจการบา้ นเมืองทด่ี ี พ.ศ.2546
ความเสี่ยง การควบคุมความเส่ียง การเฝ้าระวังความ มาตรา 6, 2562, [1 พฤศจิกายน 2562],
เส่ียงที่จะเกิดขึ้นใหม่ ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วม จาก : http://www.ops.moc.go.th.
ของผู้ปฏิบตั ิงาน และการบริหารจดั การความเสี่ยง [5] โรงพยาบาลอดุ รธานี, กลุม่ งานทรัพยากร
บคุ คล, 2562, [15 ตุลาคม 2562], จาก
7. ข้อเสนอแนะ 172.16.254.212/udh.hums/.
7.1 ขอ้ เสนอแนะสาหรับการนาผลการวจิ ัยไปใช้ [6] บุญชม ศรีสะอาด, การวจิ ัยเบือ้ งตน้ , พมิ พ์
ผู้บริหารและบุคลากรภายในโรงพยาบาล ครั้งที่ 10, สวุ ีรยิ าสาสน์ , พ.ศ.2560. หนา้ 91.

อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ควรมีการศึกษาหลักการ
วธิ กี ารการปฏิบัติงาน นามาเป็นแนวทางในการจัดการ
ความเส่ียงในองค์กร

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre

วารสารวจิ ยั และนวัตกรรมการอาชวี ศึกษา 177

Vocational Education Innovation and Research Journal VE-IRJ
ปีท่ี 5 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2564

[7] พชั รนิ ทร์ ขาวงษ์, การบริหารความเส่ยี ง
งานการเงนิ บญั ชีและพัสดขุ องสถานศกึ ษา
ภาครัฐแห่งหนงึ่ , 2554,[1พฤศจกิ ายน2562],
จาก: http://www.repository.rmutt.ac.th.

[8] อลีณา เรืองบญุ ญา, ปจั จัยท่ีส่งผลกระทบตอ่
การจัดทาบญั ชีเกณฑค์ งค้างของผ้ทู าบัญชี
ภาครฐั ในกระทรวงสาธารณสุข จังหวดั
ปทุมธานี, 2554, [17 ตุลาคม 2562], จาก :
http://www.repository.rmutt.ac.th.

[9] ไพรวลั ย คุณาสถติ ยชัย และคณะ, การ
บรหิ ารความเส่ยี งดา้ นการเงนิ ของมหาวิทยา
ลัยขอนแกน, 2560, [15 ตลุ าคม 2562],
จาก : http://dspace.bru.ac.th.

[10] จิราวรรณ รงุ่ เรอื งวารนิ ทร์ และคณะ,
การพฒั นาระบบการจดั การความเสยี่ ง
กล่มุ การพยาบาล โรงพยาบาลพระนครศรี
อยุธยา, 2560, [10 พฤศจกิ ายน 2562],
จาก : file:///C:/Users/Windows%
2010SM/.

[11] สภุ าพร วชริ เมธารัชต์ และคณะ, การ
จัดการความเสีย่ งจากการทางานของ
บุคลากร โรงพยาบาลร้อยเอ็ด, 2559,
[10 พฤศจิกายน 2562], จาก :
https://rsucon.rsu.ac.th/files.

VE-IRJ Thai-Journal Citation Index Centre Tier #2

คำแนะนำสำหรับผูเขยี น
สารสงั เขปของวารสาร

วารสารวิจัยและนวัตกรรมอาชวี ศกึ ษา จัดทำโดยสถาบันการอาชีวศกึ ษาภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 1-5 รับบทความจาก
ผเู ขยี นทงั้ ในและนอกสถาบนั ฯ บทความที่เสนอเพื่อขอรับการพิจารณาอาจเปน ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได บทคัดยอ ตองมี
สองภาษา เอกสารอางอิงและแบบฟอรมตามทีว่ ารสารกำหนด ใชผ ทู รงคณุ วุฒิทง้ั ภายในและภายนอกสถาบันฯ ทีเ่ กีย่ วของ
จำนวนไมน อ ยกวา 2 ทาน กำหนดตีพิมพ ปล ะ 2 ฉบบั (มกราคม-มถิ ุนายน และ กรกฎาคม-ธันวาคม)

วัตถุประสงค (Aim and Scope)
วารสารวิจัยและนวัตกรรมการอาชีวศึกษา มีนโยบายเพื่อเปนส่ือกลางในการเผยแพรผลงานวิจัยและนวัตกรรม ที่

นำไปสกู ารพฒั นาการอาชีวศกึ ษา หรือ การนำองคความรดู านการอาชวี ศึกษาที่ผานกระบวนการวิจยั และนวตั กรรม แลวนำไปสู
การพัฒนาสถานประกอบการ ชมุ ชน เศรษฐกจิ สังคม สิง่ แวดลอ ม ประกอบไปดวยขอบเขตเน้อื หา ดานเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม
เทคโนโลยสี ารสนเทศ บริหารธรุ กจิ และอืน่ ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ งกบั การอาชวี ศกึ ษา

ขอกำหนดเก่ยี วกบั บทความวิชาการทจ่ี ะสงตีพิมพใ นวารสารน้ี
1. เปนผลงานวิชาการที่ไมเคยเผยแพรทใี่ ดมากอ น
2. เปน ผลงานท่ผี า นการพิจารณาจากผทู รงคณุ วุฒิไมนอ ยกวา 2 ทา น
3. ผลงานท่ีสง ตองเรยี บเรยี งถูกตองตามรูปแบบทีว่ ารสารวจิ ยั และนวัตกรรมการอาชีวศึกษากำหนดอยา งเครงครัด

การเตรียมตนฉบบั
บทความตองมีความยาวประมาณ 8-10 หนากระดาษ A4 สวนการกำหนดคอลัมน การตั้งคาหนากระดาษ

รายละเอียดขนาดอักษร แบบอักษร การกำหนดหัวขอ รายละเอียดการพิมพ รูปภาพ ตารางและเอกสารอางอิง ใหศึกษาจาก
คำแนะนำในการจัดทำบทความตามที่วารสารกำหนด โดยสามารถดาวนโหลดแบบฟอรมสำเร็จรูป (template) ไดท่ี
http://www.ivene1.ac.th/pdf/Template.docx

บทคัดยอ (Abstract) ใหมีทัง้ ภาษาไทย และภาษาองั กฤษ แปลจากบทคัดยอ ภาษาไทย ควรไดร บั การตรวจสอบและ
แกไ ขจากผูสอน/ผเู ชย่ี วชาญภาษาองั กฤษกอ นสงบทความ และควรมีคำสำคัญ (Key words) จำนวน 4-6 คำ

เน้อื เรื่อง (Text) ประกอบดวย
1) บทนำ (Introduction)
2) วธิ ดี ำเนนิ การวจิ ัย (Methodology)
3) ผลการวจิ ยั หรือผลการทดลอง (Result)
4) อภิปรายผลการวิจยั (Discussion)
5) สรุปผลการวิจยั (Conclusion)
6) ขอเสนอแนะ (Suggestion)
7) เอกสารอางอิง (Reference) การอางองิ ในบทความใชการอางอิงแบบตัวเลข ตามมาตรฐานสากล โดยใช

หมายเลขในเคร่ืองหมายกามปู ดังที่แสดงไวในสวนทายของประโยคนี้ [1] การอางอิงทายบทความ จะตองมีการอางอิงหรือ
กลาวถึงในบทความ และจัดเรียงตามลำดับการอา งองิ ทปี่ รากฏในบทความ ใชก ารอางองิ ตามรูปแบบของ IEEE

ตัวอยา ง [1] ชื่อผแู ตง , “ช่ือบทความ,” ชอื่ วารสาร, ปท ่,ี ฉบบั ที่, เลขหนา บทความทีอ่ า งองิ , ปทีพ่ ิมพ.
[2] นิตยา เงนิ ประเสรฐิ ศร,ี “องคการแนวนอน,” วารสารสงั คมศาสตรแ ละมนษุ ยศาสตร, ปท่ี 27, ฉบับท่ี 15,
หนา 37-42, มกราคม-มถิ ุนายน, 2554.
[3] J.K. Author, “Title of chapter in the book,” in Title of His Published Book, xth ed.
City of Publisher, Country if not USA: Abbrev. of Publisher, year, ch. x, sec. x,


Click to View FlipBook Version