The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ITABPNS2566, 2023-07-19 23:02:10

O04 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน

1






























































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


2







การให้ความเห็นชอบ
แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านโป่งน้อย

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2570
…………………...............................…………….

ตามที่โรงเรียนบ้านโป่งน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑ ได้จัดทำ

แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. ๒5๖๖ - ๒5๗๐) ฉบับนี้ขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหาร
และจัดการศึกษาของโรงเรียนบ้านโป่งน้อย ที่มีความเชื่อมโยงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖1 - ๒๕80)
แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2566 – 2570 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ (ร่าง)แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑3 (พ.ศ. ๒๕๖6 – ๒๕70)

แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายและ
จุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ และแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2566 – 2570 ของ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 โดยมีปัจจัยความสำเร็จของการดำเนินการตามแผน

เพื่อเป็นแผนแม่บทสำหรับสถานศึกษาใช้เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามภารกิจของ
สถานศึกษาในช่วงเวลา พ.ศ. ๒5๖๖ – ๒570 แล้วนั้น
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านโป่งน้อย จึงมีมติเห็นชอบให้ใช้แผนพัฒนาคุณภาพ

การศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2570





(นายชูศักดิ์ เนียมทอง)
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโป่งน้อย





(นายนิยม ผุยเจริญ)

ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
โรงเรียนบ้านโป่งน้อย








แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





คำนำ



แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. ๒5๖๖ - ๒5๗๐) ฉบับนี้ โรงเรียนบ้านโป่งน้อย
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑ ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารและ
จัดการศึกษาของโรงเรียนบ้านโป่งน้อย ที่มีความเชื่อมโยง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖1 - ๒๕80)
แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2566 – 2570 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ (ร่าง)แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑3 (พ.ศ. ๒๕๖6 – ๒๕70)
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายและ
จุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ และแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2566 – 2570 ของ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 โดยมีปัจจัยความสำเร็จของการดำเนินการตามแผน
เพื่อเป็นแผนแม่บทสำหรับสถานศึกษาใช้เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามภารกิจของ
สถานศึกษาในช่วงเวลา พ.ศ. ๒5๖๖ - ๒570

โรงเรียนบ้านโป่งน้อย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑ ขอขอบคุณ

คณะทำงานทุกท่าน แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒5๖๖ - ๒5๗๐) และผู้เกี่ยวข้อง
ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งทำให้ “แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๔๖๖ - ๒๔๗๐)”
ฉบับนี้แล้วเสร็จสมบูรณ์ และคาดหวังว่าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันผลักดันให้แผนพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. ๒5๖๖ - ๒5๗๐) สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายต่อไป




โรงเรียนบ้านโป่งน้อย


สำนักงานเขตพื้นที่การศกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑




















แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





สารบัญ


หน้า

คำนำ ก
สารบัญ ข
สารบัญตาราง ค

สารบัญแผนภาพ ง
ส่วนที่ 1 สภาพทั่วไป 1
1. หลักการความเป็นมา 1

2. ภารกิจขององค์กร 1
3. สถานที่ตั้งของโรงเรียนบ้านโป่งน้อย 2
4. พื้นที่เขตบริการ 3
5. ข้อมูลบุคลากรโรงเรียนบ้านโป่งน้อย 5

6. ข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ปีงบประมาณ 256๖ 5

7. ข้อมูลสถานศกษา 6
8. ข้อมูลนักเรียนและห้องเรียน 10
9. อัตราส่วน ครู : นักเรียน และ ห้องเรียน : นักเรียน 10

10. ผลสอบ O-NET ปีการศึกษา 256๔ 11
11. ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา (SAR) ปีการศึกษา 2564 13
12. ผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ.รอบ 4 14
13. ข้อมูลการเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นของนักเรียนที่จบการศึกษาชั้น ม.3 16

14. โครงการขับเคลื่อนภารกิจเร่งด่วนตามนโยบายทางการศึกษา 17

ส่วนที่ 2 ทิศทางการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน 18
ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) 18
1. วิสัยทัศน์ประเทศไทย 18

2. กรอบยุทธศาสตร์ชาติ 19
3. (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) 20
ื้
4. แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพนฐาน พ.ศ. 2566 – 2570 ของ สพฐ. 26
5. ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 29
6. แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 36
7. นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวตรีนุช เทียนทอง) 38
8. นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ 2566 41

9. นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 46
10. (ร่าง) แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2566 – 2570 49
11. (ร่าง) แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 – 2570) ของ สพป.ชม.1 51


12. ความเชื่อมโยงระหว่างแผนนโยบายสำคัญ กับแผนพฒนาคุณภาพการศกษา
และแผนปฏิบัติราชการของโรงเรียนบ้านโป่งน้อย 53


แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





สารบัญ (ต่อ)



หน้า

ส่วนที่ 3 ทิศทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านโป่งน้อย 55
วิสัยทัศน์ 55

พันธกิจ 54
เป้าประสงค์ 55
กลยุทธ์ 55
นโยบายและจุดเน้น 55

แนวทางการพัฒนา 56
ทิศทางการพัฒนาการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ (พ.ศ. ๒5๖๖ – ๒5๗๐) 57
ยุทธศาสตร์การพัฒนาสถานศกษา ปีงบประมาณ (พ.ศ. ๒5๖๖ – ๒5๗๐) 63


ส่วนที่ 4 แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๔๖๖ - ๒๔๗๐ 69
แผนงานตามกลยุทธ์ของสถานศึกษา 69
กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามาตรฐานสถานศึกษาและคุณลักษณะ
นักเรียนดีศรีโป่งน้อย 69

กลยุทธ์ที่ 2 ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนา
และสามารถปฏิบัติงานได้ตามบทบาทหน้าที่ 71
กลยุทธ์ที่ 3 พัฒนาระบบการบริหาร และจัดการศึกษาให้ได้ตามาตรฐาน 72
กลยุทธ์ที่ 4 ส่งเสริม สนับสนุนให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

ผู้ปกครองนักเรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดการศกษา 73

กลยุทธ์ที่ 5 สนับสนุนให้คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา มีส่วนร่วมในการ
บริหารงาน และจัดการศึกษาของสถานศึกษา 75
กลยุทธ์ที่ 6 ส่งเสริมการพัฒนาและใช้แหล่งเรียนรู้ เทคโนโลยีในการจัดการศึกษา 76

แผนงานตามนโยบาย สพฐ. (4 ด้าน) 77
1. ด้านความปลอดภัย 77
2. ด้านโอกาส 79
3. ด้านคุณภาพ 81

4. ด้านประสิทธิภาพ 85

ส่วนที่ 5 การบริหารแผนสู่การปฏิบัติ 90
ภาคผนวก 92

คำสั่ง 93







แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





สารบัญตาราง



หน้า

ตารางที่ 1 พื้นที่ให้บริการโรงเรียนบ้านโป่งน้อย 3
ตารางที่ 2 ข้อมูลบุคลากรโรงเรียนบ้านโป่งน้อย 5

ตารางที่ 3 ข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกษา 5

ตารางที่ 4 จำนวนนักเรียนและห้องเรียน 10
ตารางที่ 5 ผลการทดสอบระดับชาติ (O - NET) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ปีการศึกษา 256๔ 11

ตารางที่ 6 ผลการทดสอบระดับชาติ (O - NET) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 12
ตารางที่ 7 ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา (SAR) ปีการศึกษา 256๔ 13
ตารางที่ 8 ผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. รอบ 4 14
ตารางที่ 9 จำนวนการเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นของนักเรียนที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ปีการศึกษา 256๔ 16
ตารางที่ 10 จำนวนโครงการขับเคลื่อนภารกิจเร่งด่วนเพอรองรับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ
ื่
กระทรวงศึกษาธิการ 17

ตารางที่ 11 ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายหลักของ (ร่าง)แผนพฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ 13 พ.ศ. 2566 – 2570 23



























แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





สารบัญแ ผนภาพ


หน้า

แผนภาพที่ 1 ภาพโรงเรียนบ้านโป่งน้อย 2
แผนภาพที่ ๒ แผนที่จังหวัดเชียงใหม่ 3

แผนภาพที่ ๓ แผนที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 4
แผนภาพที่ ๔ แผนผังโรงเรียนบ้านโป่งน้อย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑ 7

แผนภาพที่ 5 แผนภาพอตราส่วน ครู : นักเรียน และ ห้องเรียน : นักเรียน 10
แผนภาพที่ 6 แผนภูมิแสดงคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 11
แผนภาพที่ 7 แผนภูมิแสดงคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 12

แผนภาพที่ 8 ผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. รอบ 4 15

แผนภาพที่ 9 ข้อมูลการเขาศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นของนักเรียนที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ปีการศึกษา 256๔ 16
แผนภาพที่ 10 ความเชื่อมโยงระหว่างหมุดหมายการพัฒนากับเป้าหมายหลักของ (ร่าง)แผนพัฒนา

เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 พ.ศ. 2566 - 2570 25
แผนภาพที่ 11 ความเชื่อมโยงระหว่างแผนนโยบายกับแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและแผนปฏิบัติการ
โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒5๖๖ – ๒5๗๐ 53










































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570






ส่วนที่ ๑
สภาพทั่วไป



1. หลักการความเป็นมา

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3)
พ.ศ. 2553 หมวด 2 มาตรา 10 กล่าวถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานไว้ว่า การศึกษาต้องจัดให้บุคคล มีสิทธิและ
โอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดย

ไม่เก็บค่าใช้จ่าย การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม
การสื่อสารและการเรียนรู้ หรือมีร่างกายพิการ หรือทุพพลภาพ หรือบุคคลซึ่งไม่สามารถพึ่งตนเองได้ หรือไม่มี
ผู้ดูแล หรือด้อยโอกาส ต้องจัดให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิและโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ โดยมี
การวิเคราะห์ให้สอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ

สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) กรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2579)
แผนปฏิบัติราชการ 5 ปี ได้ให้ความสำคัญต่อการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต่อประชากรวัยเรียนให้ได้รับโอกาส
ทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ

2. ภารกิจขององค์กร
โรงเรียนบ้านโป่งน้อย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑ เป็นสถานศึกษา

ขั้นพื้นฐาน มีบทบาทหน้าที่ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่ชั้นปฐมวัย ระดับประถมศึกษา และระดับ
ชั้นมัธยมศึกษาต้อนต้น เพื่อให้บรรลุตามความมุ่งหมายของการปฏิรูปการศึกษาตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่า
ด้วยการศึกษาแห่งชาติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติพุทธศักราช ๒๕๔๒ ดังนี้

2.๑. จัดทำนโยบาย แผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาให้สอดคล้องกับนโยบาย และแผนของ
ื้
กระทรวงศึกษาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนฐานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตลอดจนบริบท
และความต้องการของชุมชนและท้องถิ่น
2.๒. จัดตั้งงบประมาณ และรับผิดชอบการใช้จ่ายงบประมาณของสถานศึกษา

2.๓. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหลัก
ความต้องการของนักเรียน ชุมชน และท้องถิ่น
2.๔. จัดการเรียนการสอน สภาพแวดล้อมบรรยากาศการเรียนการสอนที่เหมาะสมและส่งเสริม
กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตลอดจนการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอย่าง

ต่อเนื่อง
2.๕. ออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และแนวปฏิบัติต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
2.๖. กำกับ ติดตาม ประเมินผลงานตามแผนงาน โครงการ และประเมินผลการปฏิบัติงาน ตลอดจน

การ พิจารณาความดีความชอบ การพัฒนา และการดำเนินการทางวินัยกับครูและบุคลากรทางการศึกษาใน
สถานศึกษาตามที่กฎหมายกำหนด
2.๗. ระดมทรัพยากรเพอการศึกษา รวมทั้งปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ใช้และจัดหา ผลประโยชน์จาก
ื่
ทรัพย์สินของสถานศึกษา




แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





2.๘. จัดให้มีระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และให้ความร่วมมือในการประเมินคุณภาพ

การศึกษาจากหน่วยงานภายนอกสถานศึกษา รวมทั้งการรายงานผลการประเมินต่อคณะกรรมการสถานศึกษา
และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
2.๙. ส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับชุมชน และสร้างความสัมพันธ์กับสถานศึกษา และสถาบันอื่นใน
ชุมชนและท้องถิ่น
2.๑๐. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวกับกิจการภายในสถานศึกษาหรือตามที่ได้รับมอบหมายและตามที่

กฎหมายกำหนด

3. สถานที่ตั้งโรงเรียนบ้านโป่งน้อย

โรงเรียนบ้านโป่งน้อย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑ ตั้งอยู่เลขที่ ๑๗๗
หมู่ที่ 1๓ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปรษณีย์ ๕0๒00 มีพื้นที่ทั้งหมด 7 ไร่
3 งาน 58.5 ตารางวา

เบอร์โทรศัพท์ / โทรสาร ๐๕๓-๓๒๙๑๙๘
Website : http//: www.bpnschool.ac.th
Email : [email protected]


แผนภาพที่ ๑ ภาพโรงเรียนบ้านโป่งน้อย











































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





4. พื้นที่เขตบริการ

โรงเรียนบ้านโป่งน้อย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑ จัดการศึกษาตั้งแต่
ชั้นปฐมวัย ระดับประถมศึกษา และระดับชั้นมัธยมศึกษาต้อนต้น มีเขตพื้นที่ให้บริการ ดังนี้


ตารางที่ 1 พื้นที่ให้บริการ โรงเรียนบ้านโป่งน้อย

จังหวัด อำเภอ ตำบล หมบ้าน หลังคาเรือน ประชากร
ู่
เชียงใหม ่ เมือง สุเทพ ๔ ๒,๖๓๖ ๕,6๙๑

บ้านโป่งน้อย ๓๙๗ ๘๐๙

บ้านสันลมจอย ๔๘๕ ๑,๕๗๑
บ้านร่ำเปิง ๘๙๔ ๑,๗๓๐

บ้านอุโมงค์ ๘๖๐ ๑,๕๘๑


ข้อมูลสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 256๔

แผนภาพที่ 2 แผนที่จังหวัดเชียงใหม ่












































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





แผนภาพที่ 3 แผนที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม ่















































































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570






5. ข้อมลบุคลากรโรงเรียนบ้านโป่งน้อย


ตารางที่ 2 ข้อมลบุคลากรโรงเรียนบ้านโป่งน้อย

กรอบ จำนวน ขาด/
ตำแหน่ง
อัตรากำลัง ที่มอยู่ เกิน

1. ผู้อำนวยการ 1 1 ๐
2. รองผู้อำนวยการ ๑ ๑ ๐

3. ข้าราชการครู ๒๓ ๒๑ ๒
รวมทั้งสิ้น ๒๕ ๒๓ ๒
๔. ลูกจ้างประจำ ๑ 0 ๑

๕. พนักงานราชการ ๑ ๑ ๐
๖. ลูกจ้างชั่วคราว - ๑ ๐

๗. ธุรการ ๑ ๐ ๑
๘. แม่บ้าน - ๑ ๐
ข้อมูล ณ วันที่ ๒1 พฤศจิกายน 256๕

6. ข้อมลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ปีงบประมาณ 2566


ตารางที่ 3 ข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา


วุฒิ อายุ จน.ชม. จน.ชม.ที่
ชื่อ – สกุล ตำแหน่ง การศึกษา วิทยฐานะ ประสบ ที่สอน/ ได้พัฒนา/
สูงสุด การณ์ สัปดาห์ ปี 64

1. นายชูศักดิ์ เนียมทอง ผู้อำนวยการ ศษ.ม. ชำนาญการพิเศษ 35 5 40
2. ว่าที่ร้อยตรีหญิงพิมพร วงศ์จันทร์ รองผู้อำนวยการ ศษ.ม. ชำนาญการ 7 10 40
3. นางรัชรารีย์ ขัติยศ ครู ศษ.ม. ชำนาญการพิเศษ 23 25 80

4. นางจันทนา หน่อคำมา ครู ศษ.ม. ชำนาญการพิเศษ 18 25 80
5. นางวราภรณ์ เซ็นเสถียร ครู ค.บ. ชำนาญการพิเศษ 17 25 98
6. นางโสภิดา สิทธิ ครู ค.บ. ชำนาญการ 16 25 80
7. นายยงยุทธ ธรรมวงค์ษา ครู ศษ.บ. ชำนาญการ 12 25 96

8. นายสุรศักดิ์ สมพาน ครู บธ.บ. ชำนาญการ 12 25 60
9. นางสาวชลินทรา จันทร์ธีระโรจน์ ครู ศษ.ม. ชำนาญการ 11 25 96

10. นายกวิน หยดย้อย ครู ศษ.ม. ชำนาญการ 10 25 64
11. นางสาวศิรินันท์ วรรณตระกูล ครู ศษ.ม. ชำนาญการ 7 30 68
12. นายกรวีร์ ไม้หอม ครู ศษ.ม. ชำนาญการ 7 25 80
13. นางชนดา ธรรมวงค์ษา ครู วท.บ. - 7 25 96

14. นางสาวสุกัญญา มาทรายคำ ครู ค.บ. - 7 25 96



แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





วุฒิ อายุ จน.ชม. จน.ชม.ที่

ชื่อ – สกุล ตำแหน่ง การศึกษา วิทยฐานะ ประสบ ที่สอน/ ได้พัฒนา/
สูงสุด การณ์ สัปดาห์ ปี 64
15. นางสาวภัทร์ปรียา คำจิตร ครู ค.บ. - 7 25 60

16. นางพิมพร เนียมทอง ครู ค.บ. - 6 30 96
17. นางสาวภรณ์กนก อินกองงาม ครู ค.บ. - 6 25 80

18. นางสาวสุชญา นพสุวรรณ์ ครู ค.บ. - 6 25 60
19. นางรสริน ศรีสมยา ครู ศษ.บ. - 5 25 88
20. นายรินลดา ปู่ลือลา ครู ค.บ. - 5 25 80
21. นางศิรินทร์นภา ธงชัย ครู ค.บ. - 3 30 88

22. นางสาวศิรินภา ติ๊บขัน ครู ค.บ. - 3 25 46
23. นายทิวากร สุริยศ ครูผู้ช่วย ค.บ. - 0.2 25 10

24. นางสาวระติวัลย์ ทองกูล พนักงานราชการ ศศ.บ. - 15 25 60
25. นางภูษิตา พิมพ์ธารา ครูอัตราจ้าง ค.บ. - 2 30 40

ข้อมูล ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2565


7. ข้อมูลสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2481 ตั้งอยู่หมู่ที่ 13 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
สมัยนั้นเรียกว่า”โรงเรียนวัดโป่งน้อย” เปิดสอนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 - 4 มีนายสม ชัยวุฒิ เป็นครูใหญ่ ต่อมา

มีนายวัชระ ณ เชียงใหม่ เป็นครูใหญ่ มีสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นทำให้ต้องย้ายนักเรียนไปเรียนห้วยทราย
ซึ่งปัจจุบันก็คือ โรงเรียนบ้านห้วยทราย เพราะเกรงว่านักเรียนจะได้รับอันตราย ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มกราคม
พ.ศ. 2510 พระอธิการคำตั๋น เตชวโร เจ้าอาวาสวัดโป่งน้อย นายใจ๋ เตชะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตลอดจน
คณะกรรมการศรัทธาวัดโป่งน้อย และบ้านร่ำเปิง ได้ประชุมปรึกษาหารือกันเห็นว่า นักเรียนที่อยู่บ้านโป่งน้อย
และบ้านร่ำเปิง ได้รับความลำบากในการเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนบ้านห้วยทรายเพราะระยะทางไกล

ที่ประชุมจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะจัดตั้งโรงเรียน ส่งเรื่องไปยังอำเภอ และจังหวัด ตามลำดับ
ครั้นถึงวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2511 ทางจังหวัดก็อนุญาตให้มีการจัดตั้งโรงเรียนได้ โดยให้นามว่า
“โรงเรียนบ้านโป่งน้อย” คณะกรรมการซึ่งมีพระอธิการคำตั๋น เตชวโร เป็นประธาน นายศรี ใหม่วรรณ เป็นรอง

ประธาน นายใจ๋ เตชะ เป็นเหรัญญิก ร่วมกับคณะกรรมการอื่น ๆ ได้ร่วมมือกันจัดสร้างอาคารขึ้นใหม่ ในเนื้อที่
ทางตอนใต้ของวัด แต่การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ จึงใช้ศาลาการเปรียญวัดโป่งน้อยเป็นที่เรียนชั่วคราว และได้ทำ
พิธีเปิดป้ายอาคารเรียนในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2511 โดยมีนายชุ่ม บุญเรือง นายอำเภอเมืองสมัยนั้นเป็นประธาน
ในปี พ.ศ. 2512 ทางราชการได้แต่งตั้ง นายบุญส่ง รังสี ดำรงตำแหน่งครูใหญ่ ได้ร่วมมือกับ

คณะกรรมการศึกษา พร้อมทั้งคณะครู ผู้ปกครองนักเรียนดำเนินการสร้างอาคารจนแล้วเสร็จ คิดเป็นเงิน
164,706.50 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ได้จากภาษีบำรุงท้องถิ่น ปี พ.ศ. 2512 และปี พ.ศ. 2513 จำนวน
80,700 บาท นอกจากนั้นเป็นเงินที่มาจากราษฎรสมทบ จำนวน 75,006.50 บาท และยังได้สร้างประปา
โรงเรียน รั้วลวดหนามรอบบริเวณโรงเรียน และสร้างเสาธงชาติ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 21,733 บาท ซึ่งเงินที่เกิน

มาได้มาจากผู้ใจบุญ และผู้ปกครองนักเรียน ได้ทำพิธีมอบสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514
โดยมี นายสุพจน์ ศรลัมภ์ นายอำเภอเมืองเป็นประธาน และได้เปิดป้ายชื่ออาคาร ได้ชื่อว่า “อาคารประชาราษฎรอุทิศ”


แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





แผนภาพที่ 4 แผนผังโรงเรียนบ้านโป่งน้อย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1










































ปัจจุบันเปิดทำการสอนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผู้อำนวยการ 1 คน

รองผู้อำนวยการ 1 คน ข้าราชการครู จำนวน 21 คน พนักงานราชการ จำนวน 1 คน และครูอัตราจ้าง จำนวน 1 คน
มีนักเรียนทั้งหมด 489 คน ประกอบด้วย นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 - 3 จำนวน 81 คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6
จำนวน 298 คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 จำนวน 110 คน มีนายนิยม ผุยเจริญ เป็นประธานคณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีนายชูศักดิ์ เนียมทอง เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน และว่าที่ร้อยตรีหญิงพิมพร วงศ์จันทร์
เป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน




แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





คำขวัญโรงเรียน

“มารยาทดี มีคุณธรรม นำวิชาการ”

คติพจน์
“เราทำดีไม่มีสิ้นสุด”


ปรัชญาโรงเรียน
“ปัญญา นะรานัง รัตนัง ปัญญาเปรียบเสมือนเครื่องประดับแห่งตน ”


ปณิธานโรงเรียน
“เรียนรู้พึงตระหนัก ยึดหลักปรัชญา รักษาวัฒนธรรม คุณธรรมนำชีวิต”

อัตลักษณ์ของโรงเรียน

“มารยาทดี มีวินัย”

เอกลักษณ์ของโรงเรียน
“โรงเรียนส่งเสริมวิถีพอเพียง”


คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2. ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม

3. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
4. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม

5. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม

6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน
7. เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง

8. มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
9. มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

10. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่าย และพร้อมที่จะ

ขยายกิจการเมื่อมีความพร้อมเมื่อมีภูมิคุ้มกันที่ดี

11. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลสมีความละอาย
เกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา

12. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง




แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570





สีประจำโรงเรียน

สีฟ้า เป็นสัญลักษณ์ของความสงบ สันติ ความจงรักภักดี ความไว้วางใจ ความภาคภูมิใจ
นำไปสู่ผลของความสำเร็จของการศึกษา
สีเหลือง ความรื่นเริงเบิกบานใจ ความสุข ความสดใสร่าเริง พลัง อนาคต การมองโลกในแง่ดี
อุดมคติ จินตนาการ ความหวัง แสงสว่าง ฤดูร้อน ปัญญา ปรัชญา ความคิดสร้างสรรค์
ทำให้นักเรียนเกิดคุณลักษณะของนักเรียนที่มีมีคุณธรรม พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา


สัญลักษณ์ของโรงเรียน (Logo)


รัศมี13 แฉก หมายถึง สติปัญญาที่ปราดเปรื่อง
ของนักเรียนในโรงเรียนบ้านโป่งน้อยทั้ง 13
หมู่บ้านที่อยู่ภายในตำบลสุเทพ
พระธาตุดอยสุเทพ หมายถง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให ้

มีคุณธรรมจริยธรรม


อักษรย่อ ปน. สีฟ้า สีเหลือง หมายถง อักษรย่อ
ของโรงเรียนบ้านโป่งน้อย สีฟ้า สีเหลืองเป็นสี
ประจำโรงเรียนบ้านโป่งน้อย
วงกลมล้อมรอบอักษรย่อโรงเรียน หมายถึง ความสมัคร
สมาน สามัคค ี
แถบสีน้ำตาลครึ่งวงกลม หมายถึง เรือจ้างที่ครูได้สั่ง

สอนให้ลูกศิษย์จนประสบความสำเรจ
แถบริบบิ้นชื่อโรงเรยน หมายถง ชื่อของ


โรงเรียนบ้านโป่งน้อย

ดอกบัว หมายถึง นักเรียนที่มีหลากหลายที่ได้เล่า
เรียนในโรงเรียนจนเป็นดอกบัวที่บานที่พ้นน้ำ คือ
บุคคลที่มีศีลธรรมประจำใจครบถ้วนสมบูรณ์

ความหมายของสัญลักษณ์

รัศม ๑๓ แฉก หมายถึง สติปัญญาที่ปราดเปรื่อง ของนักเรียนในโรงเรียนบ้านโป่งน้อยทั้ง ๑๓
หมู่บ้านที่อยู่ภายในตำบลสุเทพ
พระธาตุดอยสุเทพ หมายถึง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้มีคุณธรรมจริยธรรม

อักษรย่อ ปน. สีฟ้า สีเหลือง หมายถึง อักษรย่อของโรงเรียนบ้านโป่งน้อย

สีฟ้า สีเหลือง เป็นสีประจำโรงเรียนบ้านโป่งน้อย
วงกลมล้อมรอบอักษรยอโรงเรียน หมายถึง ความสมัครสมาน สามัคค ี

แถบสีน้ำตาลครึ่งวงกลม หมายถึง เรือจ้างที่ครูได้สั่งสอนให้ลูกศิษย์จนประสบความสำเร็จ
แถบริบบิ้นชื่อโรงเรียน หมายถึง ชื่อของโรงเรียนบ้านโป่งน้อย


ดอกบัว หมายถึง นักเรียนที่มีหลากหลายที่ได้เล่าเรียนในโรงเรียนจนเป็นดอกบัวที่บานที่พนน้ำ คือ
บุคคลที่มีศีลธรรมประจำใจครบถ้วนสมบูรณ์



แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๑๐


8. ข้อมูลนักเรียนและห้องเรียน

ตารางที่ ๔ จำนวนนักเรียนและห้องเรียน

ระดับชั้น จำนวนนักเรียน จำนวนห้องเรียน

อนุบาล 1 ๒๘ ๑
อนุบาล 2 ๒6 ๑

อนุบาล 3 ๒7 ๑
รวม (นร. ระดับปฐมวัย) ๘1 ๓
ประถมศึกษาปีที่ 1 ๔9 ๒
ประถมศึกษาปีที่ ๒ ๕5 ๒

ประถมศึกษาปีที่ ๓ 45 ๒
ประถมศึกษาปีที่ ๔ ๔7 ๒

ประถมศึกษาปีที่ ๕ 39 ๒
ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๖3 ๒
รวม (นร. ระดับประถมศึกษา) 298 ๑๒
มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๓6 ๑

มัธยมศึกษาปีที่ ๒ 39 ๑
มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ๓๕ ๑

รวม (นร.ระดับมัธยมศึกษา) ๑๑0 ๓
รวมนักเรียนทั้งหมดทุกระดับ 489 ๑๘
ข้อมูลระบบ DMC ณ วันที่ ๑0 พฤศจิกายน 256๕

9. อัตราส่วน ครู : นักเรียน และห้องเรียน : นักเรียน



แผนภาพที่ 5 แผนภาพอัตราส่วน ครู : นักเรียน และ หองเรียน : นักเรียน





1:2๐








1:๒๘












แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๑๑


10. ผลสอบ O-NET ปีการศึกษา 2564

ตารางที่ 5 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ปีการศึกษา 256๔


กลุ่มสาระ ระดับประเทศ ระดับจังหวัด ระดับเขตพื้นที่ ระดับโรงเรียน ผลต่าง +/-



1. ภาษาไทย 5๐.๓๘ 5๑.45 51.64 ๔5.๑๖ - 5.๒๒
2. คณิตศาสตร์ ๓๖.๘๓ ๓๗.16 37.56 ๓๔.๓๑ - 2.๕๒

3. วิทยาศาสตร์ ๓๔.๓๑ 3๔.91 34.79 2๙.๑๒ - ๕.๑9

4. ภาษาอังกฤษ 3๙.๒๒ ๔2.87 40.60 ๓๒.๒๖ - ๖.96
เฉลี่ย ๔ กลุ่มสาระ ๔๐.1๙ ๔๑.60 41.15 3๕.21 - ๔.78


แผนภาพที่ 6 แผนภูมิแสดงคะแนนผลการทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564

แผนภูมิแสดงคะแนนผลการทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564



60


50



40


30


20



10


0

ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ

ระดับโรงเรียน ระดับเขตพื้นที่ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ







แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๑๒


ตารางที่ 6 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ปีการศึกษา 2564



กลุ่มสาระ ระดับประเทศ ระดับจังหวัด ระดับเขตพื้นที่ ระดับโรงเรียน ผลต่าง +/-


1. ภาษาไทย ๕๑.๑๙ ๕๔.๔๐ 52.13 ๔๕.๕1 - 5.68

2. คณิตศาสตร์ 2๔.4๗ 2๖.0๕ 24.75 ๒๑.๒๔ - 3.23

3. วิทยาศาสตร์ 3๑.๔๕ ๓2.7๔ 31.67 2๙.๔๒ - 2.03
4. ภาษาอังกฤษ 3๑.๑๑ 33.8๕ 30.79 ๒๔.๖๔ - 6.47

เฉลี่ย ๔ กลุ่มสาระ 3๔.๕๖ ๓๖.7๖ 34.84 ๓๐.๒๐ - 4.35


แผนภาพที่ 7 แผนภูมิแสดงคะแนนผลการทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564

แผนภูมิแสดงคะแนนผลการทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564


60



50


40


30



20


10


0

ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ

ระดับโรงเรียน ระดับเขตพื้นที่ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ








แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๑๓


11. ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา (SAR) ปีการศึกษา 2564

ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านโป่งน้อย สังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 ได้รับการประเมินคุณภาพภายใน (SAR) โดยหน่วยงาน
ต้นสังกัดมีผลการประเมิน ดังนี้

ตารางที่ 7 ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา (SAR) ปีการศึกษา 2564

ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ระดับปฐมวยในภาพรวม อยู่ในระดับ ดีเลิศ

ผลการประเมินมาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก อยู่ในระดับ ดีเลิศ
ผลการประเมินมาตรฐานที่ 2 กระบวนบริหารและการจัดการ อยู่ในระดับ ดีเลิศ
ผลการประเมินมาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ อยู่ในระดับ ดีเลิศ

ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวมอยู่ในระดับ ดีเลิศ
งผู้เร
ขอ
ียน
ผลการประเมินมาตรฐานที่ 1 อยู่ในระดับ ดีเลิศ

คุณ

าพ
ผลการประเมินมาตรฐานที่ 2 กระบวนบริหารและการจัดการ อยู่ในระดับ ดีเลิศ
ผลการประเมินมาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อยู่ในระดับ ดีเลิศ































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๑๔


12. ผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. รอบ 4

ผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. รอบที่ 4 โรงเรียนบ้านโป่งน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 มีผลการประเมิน ดังนี้


ตารางที่ 8 ผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. รอบ 4








































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๑๕


แผนภาพที่ 8 ผลการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาของ สมศ. รอบ 4













































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๑๖


13. ข้อมูลการเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นของนักเรียนที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ตารางที่ 9 จำนวนนักเรียนที่เข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นของนักเรียนที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ปีการศึกษา 2564

ประเภท จำนวน ร้อยละ

ศึกษาต่อในสถาบันอาชีวศึกษา/สายอาชีพ ๒๓ ๕๑.๑๑
ศึกษาต่อในสายสามัญ ๔ ๘.๘๘

ศึกษาต่อในสถาบันอื่น ๆ (กศน.) ๑๓ ๒๘.๘๘
ประกอบอาชีพ ๕ ๑๑.๑๑

ไม่ประกอบอาชีพ และไม่ศกษาต่อ - -
รวม ๔๕ ๑๐๐.๐0
ข้อมูล ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2564


แผนภาพที่ 9 ข้อมลการเข้าศึกษาต่อเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๑๗


14. โครงการขับคลื่อนภารกิจเร่งด่วนตามนโยบายทางการศึกษา

โรงเรียนบ้านโป่งน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษษประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 ขับเคลื่อน
ื่
ภารกิจเร่งด่วนเพอรองรับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการตามประเด็นปฏิรูปการศึกษา
(ในกรอบ 8 นโยบาย) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม มีโครงการ ดังนี้


ตารางที่ 10 จำนวนโครงการขับเคลื่อนภารกิจเร่งด่วนเพื่อรองรับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ที่ โครงการ
1 ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการจัดการศึกษา
2 โรงเรียนนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่

3 โรงเรียนนำร่องการใช้ (ร่าง) หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน (หลักสูตรฐานสมรรถนะ)
4 การจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning ,ทักษะ ๓R ๘C สู่ศตวรรษที่ 21
๕ โรงเรียนประชารัฐ / โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล

๖ โรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ
๗ โรงเรียนคุณธรรม ๓ ดาว
๘ โรงเรียนสุจริต
































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๑๘



ส่วนที่ 2
ทิศทางการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน





ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖1 - ๒๕80)
คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติได้ดำเนินการจัดทำกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี
(พ.ศ. ๒๕๖1 – ๒๕80) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะ ๒๐ ปี โดยกำหนดวิสัยทัศน์

เป้าหมาย และยุทธศาสตร์ ดังนี้
๑. วิสัยทัศน์ประเทศไทย

“ประเทศไทยมีความมั่นคงมั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง” และเป็นคติพจน์ประจำชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”


เป้าหมาย

๑. ความมั่นคง
๑.๑ การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ
ในทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งมิติ

เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง
๑.๒ ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ที่เข้มแข็ง
เป็นศูนย์กลางและที่ยืดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองมีความมั่นคง เป็นกลไกที่นำไปสู่การบริหาร
ประเทศที่ต่อเนื่องและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล

๑.๓ สังคมมีความปรองดองและความสามัคคี สามารถผนึกกำลังเพื่อพัฒนาประเทศชุมชนมีความ
เข้มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุ่น
๑.๔ ประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต มีงานและรายได้ที่มั่นคงพอเพียงกับการดำรงชีวิต มีที่อยู่อาศัย
และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน

๑.๕ ฐานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มีความมั่นคงของอาหาร พลังงาน และน้ำ

๒. ความมั่งคั่ง
๒.๑ ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ยกระดับเป็นประเทศในกลุ่มรายได้สูง
ความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาลดลง ประชากรได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น
๒.๒ เศรษฐกิจมีความสามารถในการแช่งชันสูง สามารถสร้างรายได้ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ

สร้างฐานเศรษฐกิจ และสังคมแห่งอนาคต และเป็นจุดสำคัญของการเชื่อมโยงในภูมิภาค ทั้งการคมนาคมขนส่ง
การผลิต การค้าการลงทุนและการทำธุรกิจ มีบทบาทสำคัญใบระดับภูมิภาคและระดับโลก เกิดสายสัมพันธ์ทาง
เศรษฐกิจและการค้าอย่างมีพลัง

๒.๓ ความสมบูรณ์ในทุนที่จะสามารถสร้างการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา
ทุนทางการเงิน ทุนที่เป็นเครื่องมือเครื่องจักร ทุนทางสังคม และทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม





แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๑๙


๓. ความยั่งยืน

๓.๑ การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะต่อ
สิ่งแวดล้อม จนเกินความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศน์
๓.๒ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของประชาคมโลก
ซึ่งเป็นที่ยอมรับร่วมกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพดีขึ้น คนมีความ

รับผิดชอบต่อสังคม มีความเอื้ออาทร เสียสละ เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม
๓.๓ ประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมยืดถือ และปฏิบัติตามปรัชญาชองเศรษฐกิจพอเพียง

วัตถุประสงค์

๑. เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์
ิ่
๒. เพื่อเพมกระจายโอกาสและคุณภาพการให้บริการของรัฐอย่างทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม
๓. เพื่อลดต้นทุนให้ภาคการผลิตและบริการ

ิ่
๔. เพื่อเพมมูลค่าสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม และบริการด้วยนวัตกรรม
๒. กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒5๖1 – ๒๕80) มี ๖ ยุทธศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสำนักงาน

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๖ ยุทธศาสตร์ ดังนี้

ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การสร้างความมั่นคง

ยุทธศาสตร์ ที่ ๑.๓ การรักษาความมั่นคงภายใน และความสงบเรียบร้อยภายในตลอดจนการบริหาร
จัดการความมั่นคงชายแดนและชายกึ่งทะเล
ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การสร้างความสามารถในการแข่งขัน
ยุทธศาสตร์ที่ ๒.๔ การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในด้านการขนส่ง ด้านพลังงานระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารและการวิจัยและพัฒนา

ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพศักยภาพคน
ยุทธศาสตร์ที่ ๓.๑ การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิตให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ
ยุทธศาสตร์ที่ ๓.๒ การยกระดับคุณภาพการศกษาและการเรียนรูให้มีคุณภาพเท่าเทียมและทั่วถึง

ยุทธศาสตร์ที ๓.๓ การปลูกฝังระเบียบวินัย คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมทพงประสงค์
ี่

ยุทธศาสตร์ที่ ๔ ด้านการสร้างโอกาสบนความเสมอภาค และความเท่าเทียมกันทางสังคม
ยุทธศาสตร์ที่ ๔.๑ การสร้างความมั่นคงและการลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
ยุทธศาสตร์ที่ ๕ ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ื้

ยุทธศาสตร์ที่ 5.๑ การจัดระบบอนุรักษ์ ฟนฟ และป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
ยุทธศาสตร์ที่ ๖ ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
ยุทธศาสตร์ที่ ๖.๑ การปรับปรุงโครงสร้าง บทบาท ภารกิจของหน่วยงานภาครัฐให้มีขนาดที่เหมาะสม
ยุทธศาสตร์ที่ ๖.๔ การต่อด้านการทุจริตและประพฤติมิขอบ

ยุทธศาสตร์ที่ ๖.๔ การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ให้ทันสมัย เป็นธรรมและเป็นสากล







แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๒๐


๓. (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570)

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) มีสถานะเป็นแผนระดับที่ ๒
ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญในการแปลงยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติ และใช้เป็นกรอบสำหรับการจัดทำแผนระดับที่ ๓
เพื่อให้การดำเนินงานของภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้องสามารถสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ
ตามกรอบระยะเวลาที่คาดหวังไว้ได้ โดยพระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑
บัญญัติให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ส่งผล

ให้กรอบระยะเวลา ๕ ปีของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ เริ่มต้น ณ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕
ครอบคลุมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐ ซึ่งเป็นระยะ ๕ ปีที่สองของยุทธศาสตร์ชาติ
ทั้งนี้ การจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ อยู่บนความตั้งใจที่จะให้แผนมีจุดเน้นและเป้าหมายของการ

พัฒนาที่เป็นรูปธรรม สามารถบ่งบอกทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจนที่ประเทศควรมุ่งไปในระยะ ๕ ปี ถัดไป
โดยเป็นผลที่เกิดจากกระบวนการสังเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งสถานะของทุนในมิติต่าง ๆ บทเรียนของ
การพัฒนาที่ผ่านมาตลอดการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยและเงื่อนไขที่จะมีอิทธิพลต่อองคาพยพต่าง ๆ ของ
ประเทศ รวมถึงการสนับสนุนให้ภาคีการพัฒนาทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

อย่างกว้างขวางตั้งแต่ในขั้นตอนการกำหนดกรอบทิศทางของแผนไปจนถึงการยกร่างแผน
นอกจากนี้ การจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ ยังอยู่ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต้องเผชิญ
กับข้อจำกัดหลากหลายประการที่เป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ซึ่งไม่เพียงแต่
ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของประชากร แต่ยังส่งผลให้เกิดเงื่อนไขทางเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต

ของประชาชนทุกกลุ่ม นอกจากนี้ ในระยะของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ ยังเป็นช่วงเวลาที่มีแนวโน้มของการ
พัฒนาของเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น การเป็นสังคม
สูงวัยของประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลก ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ระหว่างประเทศ
ดังนั้น การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศท่ามกลางกระแสแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จึงต้องให้

ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแขงจากภายในให้สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางความผัน

แปรที่เกิดขึ้นรอบด้าน และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ในการกำหนดทิศทางของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ ให้ประเทศสามารถก้าวข้ามความท้าทายต่าง ๆ
เพื่อให้ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญา

ของเศรษฐกิจพอเพียง” ตามเจตนารมณ์ของยุทธศาสตร์ชาติ ได้อาศัยหลักการและแนวคิด ๔ ประการ ดังนี้
1. หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยสืบสาน รักษา ต่อยอดการพัฒนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง ผ่านการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศอย่างมีเหตุผล ความพอประมาณ ภูมิคุ้มกัน
บนฐานของความรู้ คุณธรรม และความเพียร โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับสถานการณ์และเงื่อนไข

ระดับประเทศและระดับโลกทั้งในปัจจุบันและอนาคตอนใกล้ และศักยภาพของทุนทางเศรษฐกิจ ทุนทางสังคม

และทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสมดุลในมิติ
ต่าง ๆ ทั้งความสมดุลระหว่างการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศกับความสามารถในการ

พึ่งตนเองได้อย่างมั่นคง ความสมดุลของการกระจายโอกาสเพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างกลุ่มคน และพื้นที่
และความสมดุลทางธรรมชาติเพื่อให้คนอยู่ร่วมกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการ
บริหารจัดการองคาพยพต่าง ๆ ของประเทศให้พร้อมรับกับความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง ทั้งภายนอก
และภายในประเทศ นอกจากนี้ในการวางแผนและการขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติต้องอาศัย องค์ความรู้ทาง






แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๒๑


วิชาการที่รอบด้านและพิจารณาด้วยความรอบคอบ ควบคู่กับการยึดถือผลประโยชน์ ของประชาชนส่วนรวม

เป็นที่ตั้ง และมุ่งมั่นผลักดันให้การพัฒนาบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
2. การสร้างความสามารถในการ “ล้มแล้ว ลุกไว” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน ๓ ระดับ ประกอบด้วย
๑) การพร้อมรับ หรือ ระดับ “อยู่รอด” ในการแก้ไขข้อจำกัดหรือจุดอ่อนที่มีอยู่ ซึ่งเป็นผลให้ประชาชน
ประสบความยากลำบากในการดำรงชีวิต หรือทำให้ประเทศมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงจากภายนอก
ื้
และภายใน รวมถึงการสร้างความพร้อมในทุกระดับในการรับมือกับสภาวะวิกฤติที่อาจเกิดขึ้น ให้สามารถฟน
คืนสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว ๒) การปรับตัว หรือ ระดับ “พอเพียง” ในการปรับเปลี่ยน ปัจจัยที่จำเป็นเพอ
ื่
เสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ในระดับครอบครัว ชุมชน พื้นที่ และประเทศ
รวมถึงปรับทิศทาง รูปแบบ และแนวทางการพัฒนาให้สอดรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ และ

ั่
๓) การเปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน หรือ ระดับ “ยงยืน” ในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
เชิงโครงสร้างในมิติต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความสามารถของบุคคลและสังคม ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง
เพื่อสนับสนุนให้ประเทศสามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
๓. เป้าหมายการพัฒนาอย่างยงยืนของสหประชาชาติ โดยกำหนดทิศทางการพัฒนาที่อยู่บนพนฐาน
ั่
ื้
ของแนวคิด “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” มุ่งเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งในมิติของการมี
ปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานที่เพียงพอ การมีสภาพแวดล้อมที่ดี การมีปัจจัย สนับสนุนให้มี
สุขภาพที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ การมีโอกาสที่จะใช้ศักยภาพของตนในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดี
และการมุ่งส่งต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดีไปยังคนรุ่นต่อไป

๔. การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว โดยให้ความสำคัญกับการ
ิ่
ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้าง มูลค่าเพม
ทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จากฐาน
ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต การให้บริการ

และการบริโภคเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

วัตถุประสงค์และเป้าหมายการพัฒนา
การพัฒนาประเทศในระยะ ๕ ปี ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ ให้สามารถก้าวข้ามความท้าทายที่เป็น

อุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ จำเป็นจะต้องเร่งแก้ไขจุดอ่อนและข้อจำกัดของประเทศที่
มีอยู่เดิม รวมทั้งเพิ่มศักยภาพในการรับมือกับความเสี่ยงสำคัญที่มาจากการเปลี่ยนแปลงของบริบททั้งจาก
ภายนอกและภายใน ตลอดจนการเสริมสร้างความสามารถในการสร้างสรรค์ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นได้
อย่างเหมาะสมและทันท่วงทีด้วยเหตุนี้ การกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓

จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยสู่ “สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่า อย่างยั่งยืน”
ซึ่งหมายถึงการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับโครงสร้าง นโยบาย และกลไก เพื่อมุ่งเสริมสร้าง

สังคมที่ก้าวทันพลวัตของโลก และเกื้อหนุนให้คนไทยมีโอกาสที่จะพฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมกับ
ื้
การยกระดับกิจกรรมการผลิตและการให้บริการให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มที่สูงขึ้น โดยอยู่บนพนฐานของความ
ยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ข้างต้น แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ จึงได้กำหนดเป้าหมาย
หลักของการพัฒนาจำนวน ๕ ประการ ประกอบด้วย
๑. การปรับโครงสร้างภาคการผลิตและบริการสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม มุ่งยกระดับขีด
ิ่
ความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการสำคัญ ผ่านการผลักดันส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพม



แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๒๒


โดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ ที่ตอบโจทย์พัฒนาการของสังคมยุคใหม่และเป็นมิตรต่อ

สิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นและผู้ประกอบการรายย่อยกับห่วงโซ่
มูลค่าของภาคการผลิตและบริการเป้าหมาย รวมถึงพัฒนาระบบนิเวศที่ส่งเสริมการค้าการลงทุนและนวัตกรรม
๒. การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม มุ่งพัฒนาให้คนไทยมีทักษะและคุณลักษณะที่เหมาะสมกับโลกยุคใหม่

ทั้งทักษะในด้านความรู้ ทักษะทางพฤติกรรม และคุณลักษณะตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม และเร่งรัดการ
เตรียมพร้อมกำลังคนให้มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และเอื้อต่อการปรับโครงสร้าง

เศรษฐกิจไปสู่ภาคการผลิต และบริการเป้าหมายที่มีศักยภาพและผลิตภาพสูงขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการ
สร้างหลักประกัน และความคุ้มครองทางสังคมที่สามารถส่งเสริมความมั่นคงในชีวิต
๓. การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ทั้งใน

เชิงรายได้พื้นที่ ความมั่งคั่ง และการแข่งขันของภาคธุรกิจ ด้วยการสนับสนุนช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและ
ผู้ด้อยโอกาสให้มีโอกาสในการเลื่อนสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม กระจายโอกาสทางเศรษฐกิจ และจัดให้มี
บริการสาธารณะที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งเพมโอกาสในการแข่งขันของภาค
ิ่
ธุรกิจให้เปิดกว้างและเป็นธรรม

๔. การเปลี่ยนผ่านการผลิตและบริโภคไปสู่ความยั่งยืน มุ่งลดการก่อมลพิษควบคู่ไปกับการผลักดัน
ให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับขีดความสามารถในการรองรับของ
ระบบนิเวศ ตลอดจนลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุ เป้าหมายความเป็นกลาง
ทางคาร์บอนภายในปี ๒๕๙๓ และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ เป็นศูนย์ภายในปี ๒๖๐๘

๕. การเสริมสร้างความสามารถของประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยง

ภายใต้บริบทโลกใหม มุ่งสร้างความพร้อมในการรับมือและแสวงหาโอกาสจากการเป็นสังคมสูงวัย
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยโรคระบาด และภัยคุกคามทางไซเบอร์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกลไก
ทางสถาบันที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างและระบบการบริหารงานของภาครัฐให้

สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีได้อย่างทันเวลา
มีประสิทธิภาพ และมีธรรมาภิบาล




























แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๒๓


ี้
ตารางที่ 11 ตัวชวัดและค่าเป้าหมายหลัก

































































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๒๔


ทั้งนี้ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายของแต่ละเป้าหมายหลัก เป็นตัวชี้วัดร่วมที่ต้องการอาศัยการดำเนินงาน

จากหลายหมุดหมายการพัฒนาประกอบกัน และใช้ในการวัดผลสัมฤทธิ์ของแผนในภาพรวม

หมุดหมายการพัฒนา
เพื่อถ่ายทอดเป้าหมายหลักไปสู่ภาพของการขับเคลื่อนที่ชัดเจนในลักษณะของวาระการพัฒนาที่เออให้
ื้
เกิดการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงานและหลายภาคส่วนในการผลักดันการพัฒนาเรื่องใด เรื่องหนึ่งให้เกิด

ผลได้อย่างเป็นรูปธรรม แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ จึงได้กำหนดหมุดหมายการพัฒนา จำนวน ๑๓ หมุดหมาย
ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงสิ่งที่ประเทศไทยปรารถนาจะ “เป็น” หรือมุ่งหวังจะ “มี” เพื่อสะท้อนประเด็นการพฒนา

ที่มีลำดับความสำคัญสูงต่อการพลิกโฉมประเทศไทยสู่ “สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจ สร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน”
โดยหมุดหมายทั้ง ๑๓ ประการ แบ่งออกได้เป็น ๔ มิติ ดังนี้

๑. มิติภาคการผลิตและบริการเป้าหมาย
หมุดหมายที่ ๑ ไทยเป็นประเทศชั้นน าด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง
หมดหมายที่ ๒ ไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน

หมุดหมายที่ ๓ ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ส าคัญของโลก
หมุดหมายที่ ๔ ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง
หมุดหมายที่ ๕ ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค
หมุดหมายที่ ๖ ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและอุตสาหกรรม

ดิจิทัลของอาเซียน
๒. มิติโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม
หมุดหมายที่ ๗ ไทยมีวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมที่เข้มแข็ง มีศักยภาพสูง และ
สามารถแข่งขันได้

หมุดหมายที่ ๘ ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน
หมุดหมายที่ ๙ ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลง และมีความคุ้มครองทางสังคมที่เพียงพอ
เหมาะสม

๓. มิติความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หมุดหมายที่ ๑๐ ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียน และสังคมคาร์บอนต่ำ
หมุดหมายที่ ๑๑ ไทยสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และการ
เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
๔. มิติปัจจัยผลักดันการพลิกโฉมประเทศ

หมุดหมายที่ ๑๒ ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนา
แห่งอนาคต
หมุดหมายที่ ๑๓ ไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน












แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๒๕



ความเชื่อมโยงระหว่างหมุดหมายการพฒนากับเป้าหมายหลักแสดงไว้ในแผนภาพที่ ๓ โดยหมุดหมาย
การพัฒนาที่กำหนดขึ้นเป็นประเด็นที่มีลักษณะเชิงบูรณาการที่ครอบคลุมการพัฒนาตั้งแต่ในระดับต้นน้ำจนถึง
ปลายน้ำ และสามารถนำไปสู่ผลพัฒนาทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปพร้อม ๆ กัน
ทำให้หมุดหมายแต่ละประการสามารถสนับสนุนเป้าหมายหลักได้มากกว่าหนึ่งข้อ นอกจากนี้ การพัฒนาภายใต้
แต่ละหมุดหมายไม่ได้แยกขาดจากกัน แต่มีการสนับสนุนหรือเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน


แผนภาพที่ 10 ความเชื่อมโยงระหว่างหมุดหมายการพัฒนากับเป้าหมายหลัก





















































แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๒๖


๔. แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 – 2570) ของ สพฐ.

การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นการศึกษาเพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศ โดยมีเป้าหมาย
ผู้เรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน เป็นผู้เรียนรู้ ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม และเป็นพลเมืองที่
ื้
เข้มแข็งของประเทศ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนฐาน จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์
และกลยุทธ์ ในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) ดังนี้


วิสัยทัศน์
“ผู้เรียนมีความรู้ และสมรรถนะที่จำเป็น มีความสุข และมีเป้าหมาย ได้รับการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ
เพื่อพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ”


พันธกิจ
1. ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามศักยภาพ และเพิ่มขีด
ความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตร และทักษะที่จำเป็นต่อ

อนาคตในศตวรรษที่ 21
2. พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการศึกษาที่
ตอบสนองทิศทางการพัฒนาประเทศ
3. พัฒนาสถานศึกษาและระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับให้มีความปลอดภัย และสถานศึกษา

สามารถจัดการศึกษาเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs)
ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
4. เพิ่มโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการทางการศึกษาอย่าง
ทั่วถึงและเท่าเทียม

5. พัฒนาระบบการบริหารจัดการของหน่วยงานในสังกดให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลเหมาะสม

กับบริบท

เป้าประสงค์

1. ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดมั่นการ
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าที่อย่างมีความ
รับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ มีความรักและความภูมิใจในความเป็นไทย
2. ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เสมอภาค มีคุณภาพ

ตามมาตรฐาน สอดคล้องกับศักยภาพ ให้เป็นผู้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
3. เด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะออกจากระบบการศึกษา เด็กตกหล่น และเด็กออกกลางคัน ได้รับการช่วยเหลือ
ให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

4. ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา ได้รับการดูแลความปลอดภัยจากภัย
คุกคาม 9 รูปแบบ ได้แก่ ภัยยาเสพติด ภัยความรุนแรง ภัยพิบัติต่าง ๆ อุบัติเหตุ โรคอุบัติใหม่ ฝุ่น PM 2.5
การค้ามนุษย์ การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงอาชญากรรมไซเบอร์ สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่
โรคอุบัติซ้ำ และรองรับวิถีชีวิตใหม่ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี






แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๒๗


5. ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของ

เทคโนโลยี มีสมรรถนะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ จรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ รวมทั้งจิตวิญญาณความเป็นครู
6. สถานศึกษาจัดการศึกษาเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development
Goals : SDGs) ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
7. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีการนำ
ระบบข้อมูลสารสนเทศ และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบการบริหาร

จัดการที่ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับบริบท

กลยุทธ์

กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยจากภัยทุกรูปแบบ
เป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์
1. ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการดูแลความปลอดภัยจากภัยคุกคาม 9 รูปแบบ
ได้แก่ ภัยยาเสพติด ภัยความรุนแรง ภัยพิบัติต่าง ๆ อุบัติเหตุ โรคอุบัติใหม่ ฝุ่น PM 2.5 การค้ามนุษย์

การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงอาชญากรรมไซเบอร์

2. ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการดูแลความปลอดภัยและสามารถปรับตัวต่อโรคอบัติใหม่
โรคอุบัติซ้ำ
3. สถานศึกษา ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัย และจัดการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. สถานศึกษา ได้รับการส่งเสริมให้มีความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง เพื่อความ
ปลอดภัยของผู้เรียน

กลยุทธ์ที่ 2 เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน

เป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์
1. ประชากรวัยเรียนระดับการศึกษาภาคบังคับ ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาคจนจบ
การศึกษาภาคบังคับ
2. ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้รับการส่งเสริมให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาค

จนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3. เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ
4. ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษได้รับการส่งเสริมและพัฒนาเต็มตามศักยภาพ
5. เด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะออกจากระบบการศึกษา เด็กตกหล่น และเด็กออกกลางคัน ได้รับการช่วยเหลือ

ให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน












แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๒๘


กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21

เป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์
1. เด็กปฐมวัยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีพัฒนาการสมวัย
2. ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดมั่นการ
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าที่อย่างมีความ
รับผิดชอบ

3. ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐาน
สอดคล้องกับศักยภาพ ให้เป็นผู้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
4. ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของ

เทคโนโลยี มีสมรรถนะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ จรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ รวมทั้งจิตวิญญาณความเป็นครู
5. สถานศึกษาจัดการศึกษาเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals :
SDGs) ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
6. สถานศึกษา สามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และมีระบบการวัดและประเมินผล

เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ยืดหยุ่นตอบสนองต่อ
ความถนัดและความสนใจของผู้เรียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรายบุคคล (Personalized Learning)

กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา

เป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์
1. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีการนำ
ระบบข้อมูลสารสนเทศ และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการและการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ
2. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีระบบ

การบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน
3. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีระบบ
การจัดสรรทรัพยากร โดยเฉพาะอัตรากำลังและงบประมาณ ที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับบริบท
4. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีการ

ส่งเสริมการมีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับบริบท
5. สถานศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา สถานศึกษาในพื้นที่ลักษณะพิเศษ และโรงเรียนคุณภาพ
ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพ ที่เหมาะสมกับบริบท















แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๒๙


5. ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ

ประกอบด้วย ๑๐ ยุทธศาสตร์ เกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๖ ยุทธศาสตร์ ดังนี้
ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย ์

ให้ความสำคัญกับการวางรากฐาน การพัฒนาคนให้มีความสมบูรณ์ เริ่มตั้งแต่กลุ่มเด็กปฐมวัยที่ต้อง
พัฒนา ให้มีสุขภาพกายและใจที่ดีมีทักษะทางสมอง ทักษะการเรียนรู้ และทักษะชีวิต เพื่อให้เติบโตอย่างมี
คุณภาพ ควบคู่กับการพัฒนาคนไทยในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี มีสุขภาวะที่ดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวินัย

มีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม ส่วนรวม มีทักษะความรู้ และความสามารถปรับตัวเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงรอบตัวที่
รวดเร็วบนพื้นฐานของการมีสถาบันทางสังคมที่เข้มแข็งทั้งสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา
สถาบันชุมชน และภาคเอกชนที่ร่วมกันพัฒนาทุนมนุษย์ให้มีคณภาพสูง อีกทั้งยังเป็นทุนทางสังคมสำคัญในการ

ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ
๑. วัตถุประสงค์

๑.๑ เพื่อปรับเปลี่ยนให้คนในสังคมไทยมีค่านิยมตามบรรทัดฐานที่ดีทางสังคม
๑.๒ เพื่อเตรียมคนในสังคมไทยให้มีทักษะในการดำรงชีวิตสาหรับโลกศตวรรษที่ ๒๑


๒. เป้าหมายและตัวชี้วัด
๒.1 เป้าหมายการพัฒนา
๒.๑.๑ คนไทยส่วนใหญ่มีทัศนคติและพฤติกรรมตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคมเพิ่มขึ้น
ึ้
๒.๑.๒ คนในสังคมไทยทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ และความสามารถเพิ่มขน
๒.๑.๓ คนไทยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล และสามารถเรียนรู้ด้วย
ตนเองอย่างต่อเนื่อง

๒.๒ ตัวชี้วัด
เป้าหมาย ๑ คนไทยส่วนใหญ่มีทัศนคติและพฤติกรรมตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม
ตัวชี้วัด ๑.๑ ประชากรอายุ ๑๓ ปีขึ้นไป มีกิจกรรมการปฏิบัติตนที่สะท้อนการมีคุณธรรม

จริยธรรมเพิ่มขึ้น

เป้าหมาย ๒ คนในสังคมไทยทุกช่วงวยมทักษะ ความรู้ และความสามารถเพิ่มขึ้น


๒.๑ เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ
ตัวชี้วัด ๑ เด็กมีพัฒนาการสมวัยไม่น้อยกว่าร้อยละ ๙๐
๒.๒ เด็กวัยเรียนและวัยรุ่นมีสติปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์เพมขึ้น
ิ่
ตัวขี้วัด ๒ คะแนน IQ เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ตัวขี้วัด ๓ เด็กร้อยละ ๗๐
มีคะแนน EQ ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน


เป้าหมาย ๓ คนไทยมีการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และมีความสามารถเรียนรู้ด้วย
ตนเองอย่างต่อเนื่อง
ตัวชี้วัด ๓.๑ ผลคะแนนสอบ PISA ในแต่ละวิชาไม่ต่ำกว่า ๕๐๐

ตัวชี้วัด ๓.๒ การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการอ่านหาความรู้เพิ่มขึ้น
ตัวชี้วัด ๓.๓ การอ่านของคนไทยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๘๕



แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๓๐


๓. แนวทางการพัฒนา

๓.๑ ปรับเปลี่ยนค่านิยมคนไทยให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย จิตสาธารณะ และพฤติกรรมที่พึงประสงค์
3.1.1 ส่งเสริมให้มีกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งในและนอกห้องเรียนที่สอดแทรกคุณธรรม
จริยธรรม ความมีวินัย จิตสาธารณะ รวมทั้งเร่งสร้างสภาพแวดล้อมภายในและโดยรอบสถานศึกษาให้ปลอด
จากอบายมุขอย่างจริงจัง
๓.๒ พัฒนาศักยภาพคนให้มีทักษะความรู้และความสามารถในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า

3.2.1 ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีการพัฒนาทักษะทางสมองและทักษะทางสังคมที่เหมาะสม
๓.๒.๒ พัฒนาเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ มีความคิด

สร้างสรรค์ มีทักษะการทำงานและการใช้ชีวิตที่พร้อมเขาสู่ตลาดงาน
๑) ปรับกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้เด็กมีการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงสอดคล้องกับ
พัฒนาการของสมองแต่ละช่วงวัย และเน้นพัฒนาทักษะพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีด้าน
วิศวกรรมศาสตร์ ด้านคณิตศาสตร์ ด้านศิลปะ และด้านภาษาต่างประเทศ
๒) สนับสนุนให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการพัฒนาทักษะชีวิต

และ ทักษะการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อาทิ การอ่าน การบำเพ็ญประโยชน์ทางสังคม การดูแลสุขภาพ การทำงาน
ร่วมกันเป็นกลุ่ม การวางแผนชีวิต
๓) สร้างแรงจูงใจให้เด็กเข้าสู่การศึกษาในระบบทวิภาคีและสหกิจศึกษาที่มุ่งการฝึกทักษะ
อาชีพ ให้พร้อมเข้าสู่ตลาดงาน


๓.๓ ยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวต
๓.๓.1 ปรับหลักสูตรการผลิตครูที่เน้นสมรรถนะ มีจิตวิญญาณความเป็นครู เป็นผู้แนะนำและ
สามารถกระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน สร้างมาตรการจูงใจให้ผู้มีศักยภาพสูงเข้ามาเป็นครูปรับระบบประเมิน
วิทยฐานะ ทางวิชาชีพให้เชื่อมโยงกับพัฒนาการของผู้เรียน และสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการจัดการ

เรียนการสอนที่เป็นการพัฒนาสมรรถนะของครูอย่างต่อเนื่อง
๓.๓.2 ส่งเสริมมาตรการสร้างแรงจูงใจให้สถานประกอบการขนาดกลางที่มีศักยภาพเข้าร่วม
ระบบทวิภาคีหรือสหกิจศึกษา สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการ ครูฝึกหรือครูพี่เลี้ยงให้ร่วมวาง
แผนการจัดการเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติ และการติดตามประเมินผลผู้เรียน

๓.๓.3 จัดทำสื่อการเรียนรู้ที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์และสามารถใช้งานผ่านระบบอุปกรณ์
สื่อสาร เคลื่อนที่ให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวก ทั่วถึง ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ และใช้มาตรการ

ทางภาษีจูงใจให้ ภาคเอกชน ผลิตหนังสือ สื่อการอ่านและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและราคาถก
๓.๓.4 ปรับปรุงแหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์และมีชีวิต อาทิ

พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด โบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์ โรงเรียนผู้สูงอายุ รวมทั้งส่งเสริมให้มีระบบการ
จัดการความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น
๓.4 ผลักดันให้สถาบันทางสังคมมส่วนร่วมพัฒนาประเทศอย่างเข้มแข็ง

๓.4.1 ส่งเสริมสถาบันการศึกษาให้เป็นแหล่งบริการความรู้ทางวิชาการที่ทุกคนสามารถเข้าถึง
ได้รวมทั้งสนับสนุนให้มีการทำวิจัยร่วมกับชุมชนในการแก้ปัญหาและตอบโจทย์การพัฒนาในพื้นที่






แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๓๑


ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

ให้ความสำคัญกับการดำเนินการยกระดับคุณภาพบริการทางสังคมให้ทั่วถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ด้าน การศึกษาและสาธารณสุขรวมทั้งการปิดช่องว่างการคุ้มครองทางสังคมในประเทศไทย ซึ่งเป็นการ
ดำเนินงานต่อเนื่อง จากที่ได้ขับเคลื่อนและผลักดันในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑2
และมุ่งเน้นมากขึ้นในเรื่องการเพิ่มทักษะแรงงานและการใช้นโยบายแรงงานที่สนับสนุนการเพิ่มผลิตภาพ
แรงงานและเสริมสร้างรายได้สูงขึ้น และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ

๑. วัตถุประสงค์
๑.๒ เพื่อให้คนไทยทุกคนเข้าถึงบริการทางสังคมที่มคุณภาพได้อย่างทั่วถึง



๒. เป้าหมายและตัวชี้วัด
เป้าหมายที่ ๒ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการพื้นฐานทางสังคมของภาครัฐ
ตัวชี้วัด ๒.๑ อัตราการเข้าเรียนสุทธิ (ที่ปรับปรุง) ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่ากับร้อยละ ๙๐
โดยไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มนักเรียน/นักศกษาที่ครอบครัวมีฐานะทางเศรษฐกิจสังคมและระหว่างพื้นที่

ตัวชี้วัด ๒.๒ สัดส่วนนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาทุกระดับขั้นผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ ๕๐
มีจำนวนเพิ่มขึ้น และความแตกต่างของคะแนนผลสัมฤทธิ์ระหว่างพื้นที่ และภูมิภาคลดลง

๓. แนวทางการพัฒนา

๓.1 การเพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มเป้าหมายประชากรร้อยละ ๔๐ ที่มีรายได้ต่ำสุดให้สามารถเข้าถึงบริการ
ที่มีคุณภาพของรัฐ และมีอาชีพ ทั้งในด้านการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น การได้รับขยายการคุ้มครองทางสังคม
(Social Protection) และสวัสดิการ (Welfare) ที่เหมาะสมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม และการพัฒนาทักษะ
ฝีมือเพื่อประกอบอาชีพและยกระดับรายได้ โดย

๓.๑.๑ ขยายโอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพให้แก่เด็กและเยาวชน ที่ด้อยโอกาสทาง
การศึกษาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ถูกจำกัดศักยภาพจากสภาพครอบครัวพื้นที่ และสภาพร่างกายการดูแลนักเรียน
ยากจนที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลที่ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างรายได้ของครัวเรือน การสนับสนุนค่าเดินทางไปยัง
สถานศึกษา การปรับปรุงระบบ คัดกรองและการให้เงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐาน นักเรียนยากจนของ สพฐ. ให้มี

ประสิทธิภาพมากขึ้น และการให้ทุนการศึกษาต่อระดับสูง เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กนักเรียนออกจากโรงเรียน
กลางคัน
๓.๒ การกระจายการให้บริการภาครัฐทั้งด้านการศึกษาสาธารณสุขและสวัสดิการที่มีคุณภาพให้
ครอบคลุมและทั่วถึง

๓.๒.๑ ส่งเสริมให้มีการกระจายการบริการด้านการศึกษาที่มีคุณภาพให้มีความเท่าเทียมกัน
มากขึ้นระหว่างพื้นที่ โดย
๑) กำหนดมาตรการสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรครูมีการกระจายตัวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งมาตรการที่เป็นตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน อาทิ สวัสดิการบ้านพักครู เส้นทางความก้าวหน้าทางอาชีพที่ชัดเจน
เพิ่มโอกาสในการพัฒนาครู
๒) สร้างระบบความรับผิดชอบ (Accountability) ของการจัดการศึกษาโดยนำผลสัมฤทธิ์
ทางการศึกษามาประกอบการประเมินผลครูและโรงเรียน






แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๓๒


๓) ขยายการจัดการศึกษาทางไกลโดยใช้โครงข่ายเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร

เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลและขาดแคลนครูผู้สอน
๓.๒.2 ส่งเสริมให้ประชากรกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุ
และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม สามารถเข้าถึงบริการของรัฐ และโอกาสทางสังคมได้อย่างเท่าเทียมพร้อมทั้ง
ส่งเสริมบทบาทของกลุ่มข้างต้นในระดับการบริหารและการตัดสินใจทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น
เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ



ยุทธศาสตร์ที่ 4 การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ประเด็นท้าทายที่ต้องเร่งดำเนินการในช่วงแผนพัฒนาแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ ได้แก่ การสร้าง
ความมั่นคงของฐาน ทรัพยากรธรรมชาติและยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการเติบโตที่เป็นมิตร
กับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน เร่งแก้ไขปัญหาวิกฤติสิ่งแวดล้อมเพื่อลดมลพิษที่เกิดจากการผลิต

และการบริโภคพัฒนาระบบบริหารจัดการที่โปร่งใสเป็นธรรม
๑. วัตถุประสงค์
๑.๓ บริหารจัดการสิ่งแวดล้อม และลดมลพิษให้มีคุณภาพดีขึ้น


๒. เป้าหมายและตัวชี้วัด
เป้าหมายที่ ๓ สร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี ลดมลพิษ และลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
และระบบนิเวศ

ื้
โดยให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายฟนฟูคุณภาพแหล่งน้ำ
สำคัญของประเทศ และแก้ไขปัญหาวิกฤตหมอกควัน
ตัวชี้วัด ๓.๑ สัดส่วนของขยะมูลฝอยชุมชนได้รับการจัดการอย่างถูกต้องและนำไปใช้ประโยชน์ไม่น้อย
กว่าร้อยละ ๗๕ สัดส่วนของเสียอันตรายชุมชนที่ได้รับการกำจัดอย่างถูกต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 และกาก

อุตสาหกรรมอันตรายทั้งหมดเข้าสู่ระบบการจัดการที่ถูกต้อง

๓. แนวทางการพัฒนา
๓.1 แก้ไขปัญหาวิกฤตสิ่งแวดล้อม ด้วยการเร่งรัดการควบคุมมลพิษทั้งทางอากาศขยะน้ำเสียและของ

เสียอันตรายที่เกิดจากการผลิตและบริโภค สร้างเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือเมืองสีเขียวเพื่อสร้าง
คุณภาพ สิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับประชาชน โดยมีแนวทางดำเนินงาน ดังนี้
๓.1.๑ เร่งรัดแก้ไขปัญหาการจัดการขยะตกค้างสะสมในพื้นที่วิกฤต ผลักดันกฎหมายและกลไก

เพื่อการคัดแยกขยะ สนับสนุนการแปรรูปเป็นพลังงาน ใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพี่อให้เกิดการลดปริมาณขยะ
รวมทั้งสร้างวินัยคนในชาติเพื่อการจัดการขยะอย่างยั่งยืน










แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๓๓


ยุทธศาสตร์ที่ 5 การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติเพี่อการพัฒนาประเทศสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน


ให้ความสำคัญต่อการฟนฟพื้นฐานด้านความมั่นคงที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและ
ื้
สังคมของประเทศ โดยเฉพาะการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติของผู้มีความเห็นต่างทางความคิดและ
อุดมการณ์บนพื้นฐาน ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและการ

เตรียมการรับมือกับภัยคุกคามขามชาติซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยยะสำคัญต่อการพฒนาเศรษฐกิจและสังคม

ของประเทศในระยะ 20 ปีข้างหน้า
๑. วัตถุประสงค์
๑.๑ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และเสริมสร้างความมั่นคงภายใน รวมทั้งป้องกันปัญหาภัย
คุกคามที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของชาติ

๑.๒ เพื่อสร้างความพร้อมและผนึกกำลังของทุกภาคส่วน ให้มีขีดความสามารถในการบริหารจัดการ
ด้านความมั่นคง และมีศักยภาพในการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดจากภัยคุกคาม ทั้งภัยทางทหารและ
ภัยคุกคามอื่น ๆ
๑.๓ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศในการสนับสนุนการรักษาความสงบ

สุขและผลประโยชน์ของชาติ

๒. เป้าหมายและตัวชี้วัด
เป้าหมายภาพรวมคือผลประโยชน์ของชาติว่าด้วยความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

เป้าหมายที่ ๑ ปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นสถาบันหลักของประเทศ
ตัวชี้วัด ๑.1 จำนวนกิจกรรมเทิดพระเกียรติและเชิดชูสถาบันพระมหากษตริย์เพิ่มขึ้น

ตัวชี้วัด ๑.๒ จำนวนกิจกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการพระราชดำริเพิ่มขึ้น
เป้าหมายที่ ๓ ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมีโอกาส

ในการศึกษาและการประกอบอาชีพที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้น
ตัวชี้วัด ๓.๒ รายได้ครัวเรือนเฉลี่ยต่อคนและจำนวนปีการศึกษาเฉลี่ยในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดน
ภาคใต้เพิ่มขึ้น


เป้าหมายที่ ๔ ประเทศไทยมความสัมพันธ์และความร่วมมอด้านความมั่นคงในกลุ่มประเทศ
สมาชิกอาเซียน มิตรประเทศ และนานาประเทศในการป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการ
รักษาผลประโยชน์ของชาติ
ตัวชี้วัด ๔.๔ จำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดลดลง


๓. แนวทางการพัฒนา
๓.๑ การรักษาความมั่นคงภายใน เพื่อให้เกิดความสงบในสังคมและธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ
๓.๑.๑ สร้างจิตสำนึกของคนในชาติให้มีความหวงแหน และธำรงรักษาสถาบันชาติศาสนา

ื่
พระมหากษัตริย์ โดยปลูกฝังและสร้างความตระหนักถึงความสำคัญ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการเพอป้องกันการ
กระทำที่มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อสถาบันหลักของชาติ
๓.๑.๒ เสริมสร้างความปรองดองของคนในชาติและมีกลไกในการตรวจสอบและพัฒนาภาค
การเมือง โดยปลูกฝังค่านิยมและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจของการอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานความแตกต่างทาง






แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๓๔



ความคิดและอดมการณ์ทางการเมือง ภายใต้สิทธิและหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยและคำนึงถึงความมั่นคง
และผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง
๓.๑.๓ ป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกระบวนการสันติสุข
แนวทางสันติวิธี และกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่บนพื้นฐานความแตกต่างทางอัตลักษณ์และ
ชาติพันธ์เพื่อขจัดความขัดแย้ง ลดความรุนแรงตามแนวทาง “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” พร้อมทั้งสร้างโอกาสใน
การพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นธรรมทางสังคมในพื้นที่

๓.๒ การพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยคุกคาม
ทั้งการทหารและภัยคุกคามอื่น ๆ
๓.๒.๑ ดำเนินบทบาทเชิงรุก และใช้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งระดับภูมิภาคและ

ื่
พหุภาคี เพอปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของไทย ตลอดจนเสริมสร้างขีดความสามารถแลกเปลี่ยนและเรียนรู้
แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศและร่วมมือในการรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ อาทิ ปัญหายาเสพติด
การก่อการร้าย การโยกย้ายถิ่นฐาน การลักลอบเข้าเมือง การค้ามนุษย์ความมั่นคงด้านไซเบอร์ ภัยพิบัติ
โรคระบาดโรคติดต่อร้ายแรง และสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขอื่น ๆ



ยุทธศาสตร์ที่ ๖ การบริหารจัดการในภาครัฐการป้องกันการทุจริตประพฤติมชอบและธรรมาภิบาล

ในสังคมไทย
เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องเร่งปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างจริงจัง เพื่อให้เป็น
ปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาประเทศในทุกด้านให้ประสบผลสำเร็จบรรลุเป้าหมายทั้งการ

บริหารจัดการภาครัฐให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพ รับผิดชอบ ตรวจสอบได้อย่างเป็นธรรม และประชาชน มีส่วนร่วม
มีการกระจายอำนาจ และแบ่งภารกิจรับผิดขอบที่เหมาะสมระหว่างส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น และ
วางพื้นฐานเพื่อให้บรรลุตามกรอบเป้าหมายอนาคตในปี ๒๕๗๙


๑. วัตถุประสงค์
๑.๑ เพื่อให้ภาครัฐมีขนาดเล็ก มีการบริหารจัดการที่ดี และได้มาตรฐานสากล
๑.๒ เพื่อลดปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบของประเทศ
๑.๓ เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการทางกฎหมายให้สามารถอำนวยความสะดวกด้วยความรวดเร็ว

และเป็นธรรมแก่ประชาชน

๒. เป้าหมายและตัวชี้วัด

เป้าหมายที่ ๓ เพิ่มคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตให้สูงขึ้น
ตัวชี้วัด ๓.๑ ระดับคะแนนของดัชนีการรับรู้การทุจริตสูงกว่าร้อยละ 40 เมื่อสิ้นสุดแผนพัฒนาและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒

๓. แนวทางการพัฒนา

๓.๑ ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน บทบาท ภารกิจ และคุณภาพบุคลากรภาครัฐให้มีความโปร่งใส
ทันสมัย คล่องตัว มีขนาดที่เหมาะสม เกิดความคุ้มค่า





แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๓๕


๓.๑.๑ กำหนดภารกิจ ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของราชการบริหารส่วนกลางส่วนภูมิภาคและ

ท้องถิ่นให้ชัดเจนและไม่ซ้ำซ้อน

๓.2 ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
๓.2.๑ ปลูกฝังให้คนไทยไม่โกง
๑) ส่งเสริม สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมุ่งสร้างจิตสำนึกในการรักษาประโยชน์สาธารณะ

ทัศนคติ เชิงบวก รวมทั้งคุณธรรม จริยธรรม และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับทุกกลุ่มในสังคม
ผ่านกลไกครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา สื่อมวลชน และเครือข่ายทางสังคม ควบคู่กับการปลูกฝัง
จิตสำนึก ความซื่อสัตย์สุจริต ค่านิยมที่ถูกต้อง สร้างความตระหนักถึงภัยร้ายแรงของการทุจริตและการรู้เท่าทัน

การทุจริตของสังคมไทย โดยอาศัย กลไกทางสังคมเป็นมาตรการในการลงโทษผู้กระทำผิดหรือผู้กระทำการ

ทุจริตและประพฤติมชอบ
๒) พัฒนากลไกและระบบการดำเนินงานที่ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทาง
การเมืองปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมและมาตรฐานจริยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยการรณรงค์ประชาสัมพนธ์ให้

ประชาชน ภาคเอกชน และสื่อมวลชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังพฤติกรรมของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่ง
ทางการเมืองในการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบ และกำหนดขั้นตอนการลงโทษผู้ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืน
ประมวลจริยธรรมตามความร้ายแรงแห่งการกระทำอย่างจริงจัง
3) พัฒนาสร้างเครือข่ายและคุ้มครองการแจ้งเบาะแสการทุจริตและประพฤติมิชอบในกลุ่มประชาชน


๓.2.๒ ป้องกันการทุจริต

1) เร่งรัดหน่วยงานภาครัฐให้มีการดำเนินงานในการกำหนดมาตรการป้องกันและแกไขปัญหา
การทุจริตและประพฤตมิชอบอย่างเคร่งครัด โดยติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไข

ปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบของทุกหน่วยงานของรัฐอย่างต่อเนื่อง
2) เสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งให้แก่ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตให้สามารถ
เป็น หน่วยงานหลักของภาครัฐในการเฝ้าระวัง ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบที่บูรณา
การการทำงานร่วมกันอย่างมีกลยุทธ์


ยุทธศาสตร์ที่ ๘ การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม
ให้ความสำคัญกับการใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ผลงานวิจัยและพัฒนาความก้าวหน้าทาง

เทคโนโลยี นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์อย่างเข้มข้นทั้งในภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม รวมทั้ง
ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสภาวะแวดล้อมหรือปัจจัยพื้นฐานที่เอื้ออำนวยทั้งการลงทุนด้านการวิจัยและ
ื่
พัฒนาการพัฒนาบุคลากรวิจัย โครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการบริหารจัดการเพอ
ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่เป้าหมายดังกล่าว

๑. วัตถุประสงค์
๑.๑ เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยกระดับความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นก้าวหน้าให้
สนับสนุนการสร้างมูลค่าของสาขาการผลิตและบริการเป้าหมาย

๒. เป้าหมายและตัวชี้วัด
เป้าหมายที่ ๑ เพิ่มความเข้มแข็งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ




แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๓๖


ตัวชี้วัด ๑.๓ สัดส่วนการลงทุนวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์และเป้าหมายของประเทศ :

ื่
งานวิจัยพื้นฐานเพอสร้าง/สะสมองค์ความรู้: ระบบโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากรและระบบมาตรฐาน
ตัวชี้วัด ๑.๔ จำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มเป็น ๒๕ คนต่อประชากร ๑๐,๐0๐ คน
๓. แนวทางการพัฒนา
๓.๑ เร่งส่งเสริมการลงทุนวิจัยและพัฒนาและผลักดันสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม
๓.๑.1 ลงทุนวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางสังคมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและ

ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อาทิ เทคโนโลยีการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเทคโนโลยี
เพื่อผู้พิการ เทคโนโลยีเพื่อผู้สูงอายุ เทคโนโลยีทางการแพทย์ (ยาและวัคซีน) โดยอาศัยกลไกการดำเนินงาน
อย่างเป็นเครือข่ายระหว่างสถาบันการศึกษา สถาบันการวิจัย ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนหรือชุมชน

๓.2 พัฒนาสภาวะแวดล้อมของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม
๓.2.๑ ด้านบุคลากรวิจัย
๑) เร่งการผลิตบุคลากรสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับความ
ต้องการโดยเฉพาะในสาขา STEM (วิทยาศาสตร์ (Science : S) เทคโนโลยี (Technology :T) วิศวกรรมศาสตร์

(Engineer: E) และคณิตศาสตร์ (Mathematics : M)
๒) เร่งสร้างนักวิจัยมืออาชีพ
๓) พัฒนาศักยภาพนักวิจัยให้มีทั้งความรู้และความเข้าใจในเทคโนโลยี


6. แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้จัดทำ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙ เพื่อใช้เป็น
แผนยุทธศาสตร์ระยะยาวสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของประเทศ ได้นำไปใช้เป็นกรอบและแนว
ทางการพัฒนาการศึกษาและเรียนรู้สำหรับพลเมืองทุกช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต โดยจุดมุ่งหมายที่
สำคัญของแผน คือ การมุ่งเน้นการประกันโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการศกษาเพื่อการมีงาน

ทำและสร้างงานได้ ภายใต้บริบทเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศและของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและ
ี่
ความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งความเป็นพลวัตร เพื่อให้ประเทศไทยสามารถ ก้าวข้ามกับดักประเทศทมีรายได้ปาน
กลาง ไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งภายใต้กรอบแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ -๒๕๗๙ ได้กำหนด
สาระสำคัญสำหรับบรรลุเป้าหมายของ การพัฒนาการศึกษาใน ๕ ประการ ได้แก่ การเข้าถึงโอกาสทางการ

ศึกษา (Access) ความเท่าเทียมทางการศึกษา (Equity) คุณภาพการศึกษา (Quality) ประสิทธิภาพ
(Efficiency) และตอบโจทย์บริบทที่เปลี่ยนแปลง (Relevancy) ใบระยะ ๑๕ ปีข้างหน้า ดังนี้
วิสัยทัศน์ : คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุข

สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ ๒๑
วัตถุประสงค์

๑. เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาที่มีคณภาพและมีประสิทธิภาพ
๒. เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับบทบัญญัติ
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ

๓. เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรมจริยธรรม รู้จักสามัคคี และร่วมมือ
ผนึกกำลังมุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๔. เพื่อนำประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้ำภายในประเทศลดลง



แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๓๗


แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒5๗๙ ยุทธศาสตร์ ดังนี้

๑. การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ
๒. การผลิตและพัฒนากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรม เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
๓. การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
๔. การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษา
๕. การจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

๖. การพัฒนาประสิทธิภาพของระบบบริหารจัดการศึกษา

ปัจจัยและเงื่อนไขความสำเร็จ

การดำเนินการตามวัตถุประสงค์เป้าหมายของแต่ละยุทธศาสตร์ ตามที่กำหนดไว้ในแผนการศึกษา
แห่งชาติจะประสบผลสำเร็จตามที่ระบุไว้ ในแต่ละยุทธศาสตร์ และแนวทางการพัฒนาหน่วยงานทั้งระดับ
ื้
นโยบายและระดับปฏิบัติการ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค จังหวัด เขตพนที่การศึกษาและสถานศึกษาต้อง
ยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินงาน และมีการทบทวน ปรับปรุงมาตรการ เป้าหมายความสำเร็จให้ทันต่อการ

เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่เพื่อการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนในทุกช่วงวัยต้องดำเนินการ ดังนี้
๑. การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจและการยอมรับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาสังคมในการ
สนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาในลักษณะต่างๆ อย่างกว้างขวาง มุ่งเน้นที่การจัดระบบการศึกษาที่มี
ประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนในทุกระดับ

๒. การสร้างความเข้าใจในเป้าหมายและยุทธศาสตร์การดำเนินงานของแผนๆ ของผู้ปฏิบัติทุก
หน่วยงาน ทุกระดับเพื่อให้การขับเคลื่อนแผนฯ ไปสู่การปฏิบัติ มีการบริหารจัดการและการเชื่อมโยง
ยุทธศาสตร์และแนว ทางการพัฒนาให้บรรลุเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของการจัดการศึกษามีคณะกรรมการกำกับ
ดูแลแต่ละยุทธศาสตร์ให้ เกิดการนำไปปฏิบัติ โดยมีระบบงบประมาณเป็นกลไกสนับสนุนให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม

๓. การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของการจัดการศึกษา จากการเป็นผู้จัดการศึกษาโดยรัฐมาเป็นการจัด
การศึกษาโดยทุกภาคส่วนของสังคม ที่มุ่งการจัดการศึกษาเพื่อความเท่าเทียมและทั่วถึง (Inclusive
Education) ตลอดจนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับทุกคน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่
ยั่งยืน (Sustainable Development Goals)

๔. การจัดให้แผนการศึกษาแห่งชาติ เป็นเสมือนแผนงบประมาณด้านการจัดการศึกษาของรัฐ ระบบ
การจัดสรรงบประมาณประจำปี ให้ยึดแผนงานโครงการและเป้าหมายการพัฒนาที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์และ
แนวทางการพัฒนาของแผนฯ เป็นหลักในการพิจารณา เพื่อให้การดำเนินงานพัฒนาการศึกษาเป็นไปในทิศทาง
และเป้าหมายการพัฒนาผู้เรียนแต่ละช่วงวัย และการพัฒนากำลังคนตามความต้องการของตลาดงานและ

ประเทศ เพื่อการจัดการศึกษาบรรลุผลตามยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัดในช่วงเวลาที่กำหนด
๕. การปรับระบบการบริหารจัดการภาครัฐให้เกิดประสิทธิภาพ โดยปรับโครงสร้างการบริหารงานให้มี
ความชัดเจนในด้านบทบาท หน้าที่และการกระจายอำนาจและการตัดสินใจจากส่วนกลางสู่ระดับภูมิภาคและ

สถานศึกษา รวมทั้งการปรับระบบการบริหารจัดการและการบริหารงานบุคคลในแต่ละระดับให้ส่งเสริม
สนับสนุน การจัดการศึกษาในสถานศึกษาให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ ผู้เรียนได้รับบริการการศึกษาที่มีมาตรฐาน
อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม






แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๓๘


๖. การสร้างระบบข้อมูลและสารสนเทศที่บูรณาการและเชื่อมโยงกับระบบการประกันคุณภาพภายใน


และการประเมินคณภาพภายนอกผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการรายงานต่อสาธารณชนจะเป็นกลไก
ในการสร้างการรับรู้ของผู้จัดการศึกษาและผู้เรียน เพื่อการปรับประสิทธิภาพการบริหารจัดการและความ
รับผิดชอบต่อผู้เรียน ผ่านระบบการกำกับ ตรวจสอบ ติดตามและประเมินผล
๗. การปฏิรูป ระบบทรัพยากรและการเงิน เพื่อการศึกษา เพื่อให้รัฐสามารถใช้เครื่องมือทางการเงินใน
การกำกับการดำเนินงานของสถานศึกษาให้เป็นไปตามแผนการศึกษาแห่งชาติและนโยบายรัฐบาล



7. นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวตรีนุช เทียนทอง)
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวตรีนุช เทียนทอง) ได้มอบนโยบาย และยุทธศาสตร์
ในการปฏิบัติงานให้กับผู้บริหารระดับสูง บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานในกำกับเพื่อเป็น
แนวทางในการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาให้ให้เกิดความเชื่อมั่น และสร้างความมั่นใจให้กับสังคมโดยมอบ

หลักการทำงาน นโยบายหลัก และนโยบายเร่งด่วน ดังต่อไปนี้
๑. หลักการทำงาน “สร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจให้กับสังคม” หรือ “TRUST” ภายใต้
หลักการ ดังนี้

T (Transparency) หมายถึง ความโปร่งใส ทั้งในเชิงกระบวนการทำงานและกระบวนการ ตรวจสอบ
จากภาคส่วนต่าง ๆ
R (Responsibility) หมายถึง ความรับผิดชอบ สนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนดำเนินการตามภารกิจ
ของตนด้วยความรับผิดชอบต่อตัวเอง องค์กร ประชาชน และประเทศชาติ


U (Unity) หมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอนเดียว ระหว่างครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ผู้เรียน
และประชาชน
S (Student-Centricity) หมายถึง ผู้เรียนเป็นเป้าหมายแห่งการพัฒนา โดยการทำให้ผู้เรียน มีวิธีคิด
และทักษะที่เป็นสากลสอดคล้องกับพลวัตในศตวรรษท ๒๑ ควบคู่ไปกับสำนึกและความเข้าใจในความเป็นไทย
ี่
T (Technology) หมายถึง ความพร้อมด้านเทคโนโลยี ทั้งในเชิงโครงสร้าง (Infrastructure) ได้แก่
สิ่งจำเป็นและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของโอกาสในการศึกษาและในเชิง
การเรียนรู้ (Learning) ได้แก่ แหล่งข้อมูล แหล่งเรียนรู้รูปแบบต่าง ๆ ที่ทันสมัยช่วยให้ผู้เรียนทุกคนถึงพร้อม
ซึ่งคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทุกประการ



๒. นโยบายการจัดการศึกษาทั้ง ๑๒ ข้อ ดังนี้
ข้อ ๑ การปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ให้ทันสมัย และทันการเปลี่ยนแปลงของ

ี่
โลกในศตวรรษท ๒๑ โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกระดับการศึกษาให้มีความรู้ ทักษะและคณลักษณะที่เหมาะสมกับ
บริบทสังคมไทย
ข้อ ๒ การพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครูและอาจารย์ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและ
อาชีวศึกษาให้มีสมรรถนะทางภาษาและดิจิทัล เพื่อให้ครูและอาจารย์ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะ ทั้งด้าน
การจัดการเรียนรู้ด้วยภาษาและดิจิทัล สามารถปรับวิธีการเรียนการสอนและการใช้สื่อทันสมัย และมีความ

รับผิดชอบต่อผลลัพธ์ทางการศึกษาที่เกิดกับผู้เรียน





แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๓๙


ข้อ ๓ การปฏิรูปการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลแห่งชาติ (NDLP)

และการส่งเสริมการฝึกทักษะดิจิทัลในชีวิตประจำวัน เพื่อให้มีหน่วยงานรับผิดชอบพัฒนาแพลตฟอร์มการ
เรียนรู้ด้วยดิจิทัลแห่งชาติ ที่สามารถนำไปใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัย และเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้
อย่างกว้างขวางผ่านระบบออนไลน์ และการนำฐานข้อมูลกลางทางการศึกษามาใช้ประโยชน์ในการพัฒนา
ประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษา
ข้อ ๔ การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษา โดยการส่งเสริมสนับสนุน

สถานศึกษาให้มีความเป็นอิสระและคล่องตัว การกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา โดยใช้
จังหวัดเป็นฐาน โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายการศึกษาแห่งชาติที่ได้รับการปรับปรุง เพื่อกำหนดให้มีระบบ
บริหารและการจัดการ รวมถึงการจัดโครงสร้างหน่วยงานให้เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ

สถานศึกษาให้มีความเป็นอิสระและคล่องตัว การบริหารและการจัดการศึกษาโดยใช้จังหวัดเป็นฐาน มีระบบ
การบริหารงานบุคคลโดยยึดหลักธรรมาภิบาล
ข้อ ๕ การปรับระบบการประเมินผลการศึกษาและการประกันคุณภาพ พร้อมจัดทดสอบวัด
ความรู้ และทักษะที่จำเป็นในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาทั้งสายวิชาการและสายวิชาชีพ เพื่อให้ระบบการ

ประเมินผลการศึกษาทุกระดับและระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย
ตอบสนองผลลัพธ์ทางการศึกษาได้อย่างเหมาะสม
ข้อ ๖ การจัดสรรและการกระจายทรัพยากรให้ทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการระดม
ทรัพยากรทางการศึกษาจากความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อให้การจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษามีความเป็น


ธรรม และสร้างโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคณภาพทัดเทียมกลุ่มอื่น ๆ กระจายทรัพยากรทั้ง
บุคลากรทางการศึกษา งบประมาณ และสื่อเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึง
ข้อ ๗ การนำกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) สู่การ

ปฏิบัติเป็นการผลิตและการพัฒนากำลังคนเพอการพฒนาประเทศโดยใช้กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เชื่อมโยงระบบ
ื่
การศึกษาและการอาชีพ โดยใช้กลไกการเทียบโอนประสบการณ์ด้วยธนาคารหน่วยกิต และการจัดทำมาตรฐาน
อาชีพในสาขาที่สามารถอ้างอิงอาเซียนได้
ข้อ ๘ การพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาเพื่อพัฒนา
ร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกบวัย เพื่อเป็นการขับเคลื่อนแผนบูรณาการการพฒนา


เด็กปฐมวัยตามพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ.๒๕๖๒ สู่การปฏิบัติเป็นรูปธรรม โดยหน่วยงานที่
เกี่ยวข้องนำไปเป็นกรอบในการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย และมีการติดตามความก้าวหน้าเป็นระยะ
ข้อ ๙ การศึกษาเพื่ออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อให้ผู้จบ
การศึกษาระดับปริญญาและอาชีวศึกษามีอาชีพและรายได้ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพและคุณภาพชีวิตที่ดีมี

ส่วนช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกได้
ข้อ ๑๐ การพลิกโฉมระบบการศึกษาไทย ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้
ในการจัดการศึกษาทุกระดับการศึกษา เพื่อให้สถาบันการศึกษาทุกแห่งนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

มาใช้ในการจัดการศึกษาผ่านระบบดิจิทัล
ข้อ ๑๑ การเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทาง
การศึกษา และผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพของ
กลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา และผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ






แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๔๐


ข้อ ๑๒ การจัดการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย โดยยึดหลักการเรียนรู้ตลอด

ชีวิตและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพของกลุ่ม
ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาและผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)

ในปัจจุบันได้กอให้เกิดความนิยมในรูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์ (Online) มากยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบอย่าง

มีนัยสำคัญ ต่อการเตรียมผู้เรียนไทยให้มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ
(Entrepreneurship) และความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ (Resilience) รวมถึงปัญหา
ความปลอดภัยของสถานศึกษา และปัญหาความเหลื่อมล้ำของโอกาสในการศึกษา ที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น


๓. นโยบายระยะเร่งด่วน (Quick Win) ของกระทรวงศึกษาธิการ
๑) ความปลอดภัยของผู้เรียน โดยจัดให้มีรูปแบบ วิธีการ หรือกระบวนการในการดูแล
ช่วยเหลือนักเรียน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ มีความสุข และได้รับการปกป้องคุ้มครองความ

ปลอดภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงการสร้างทักษะให้ผู้เรียนมีความสามารถในการดูแลตนเองจากภัย
อันตรายต่าง ๆ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางสังคม
๒) หลักสูตรฐานสมรรถนะ มุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายโดยยึดความสามารถของ

ผู้เรียนเป็นหลัก และพัฒนาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะที่ต้องการ
๓) ฐานข้อมูล Big Data พัฒนาการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบและไม่ซ้ำซ้อน เพื่อให้ได้
ข้อมูลภาพรวมการศึกษาของประเทศที่มีความครบถ้วน สมบูรณ์ ถูกต้องเป็นปัจจุบัน และสามารถนำมาใช้
ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง
๔) ขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) สนับสนุนการ

ดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) ตามความเป็นเลิศของแต่ละ
สถานศึกษา และตามบริบทของพื้นที่ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ตลอดจนมีการจัดการเรียนการสอนด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย สอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจุบัน

๕) พัฒนาทักษะทางอาชีพ ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่เน้นพัฒนาทักษะอาชีพของผู้เรียน
เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพและรายได้ที่เหมาะสม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
๖) การศึกษาตลอดชีวิต การจัดเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย ให้มีคุณภาพ
และมาตรฐาน ประชาชนในแต่ละช่วงวัยได้รับการศึกษาตามความต้องการอย่างมีมาตรฐานเหมาะสม และเต็ม

ตามศักยภาพตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยชรา และพัฒนาหลักสูตรที่เหมาะสมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
๗) การจัดการศึกษาสำหรับผู้ที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้ที่มี


ความต้องการจำเป็นพเศษได้รับการพฒนาอย่างเต็มศกยภาพ สามารถดำรงชีวิตในสังคมอย่างมีเกียรติ ศักดิ์ศรี

เท่าเทียมกับผู้อื่นในสังคม สามารถช่วยเหลือตนเองและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ










แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๔๑


8. นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

เนื่องจากในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งทำให้
ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนชีวิตให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal จึงมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ
การดำเนินการให้มีความปลอดภัยทั้งต่อผู้เรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปด้วยความ
เรียบร้อย ดังนั้น จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร
ราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงประกาศนโยบายและจุดเน้น

ของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ดังนี้
1. การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัย
2. ยกระดับคุณภาพการศึกษา


3. สร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทกช่วงชั้น
4. พัฒนาทักษะอาชีพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
5. ส่งเสริม สนับสนุนวิชาชีพครู และบุคลาการทางการศึกษา
6. พัฒนาระบบราชการ และการบริการภาครัฐยุคดิจิทัล

7. การขับเคลื่อนกฎหมายทางการศึกษา

หลักการตามนโยบาย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

กระทรวงศึกษาธิการมุ่งมั่นดำเนินการภารกิจหลักตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
(พ.ศ. 2561 – 2580) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนทุกแผนย่อยในประเด็น 12 การพัฒนาการเรียนรู้
และแผนย่อยที่ 3 ในประเด็น 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต รวมทั้งแผนการปฏิรูปประเทศด้าน

การศึกษา (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบายหลักด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และ
การพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย และนโยบายเร่งด่วน เรื่อง การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 และ

พหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องร่าง

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) โดยเฉพาะหมุดหมายที่ 12
ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคตแผนการศึกษาแห่งชาติ

พ.ศ. 2560 – 2579 รวมทั้งนโยบายและแผนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยจะได้รับการ
พัฒนาในทุกมิติ ทั้งในด้านโอกาส ความเท่าเทียม ความเสมอภาค ความปลอดภัย และมีสมรรถนะที่สำคัญ
จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และมีความพร้อมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

ดังนั้น ในการเร่งรัดการทำงานภาพรวมกระทรวงให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นความ

ไว้วางใจให้กบสังคมและผลักดันให้การจัดการศึกษามีคุณภาพและประสิทธิภาพในทุกมิติ กระทรวงศึกษาธิการ
จึงได้กำหนดหลักการสำคัญในการประกาศนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2566 ไว้ดังนี้

1. สร้างความเชื่อมั่น ไว้วางใจให้กับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เรียนและประชาชน โดยให้ทุก
หน่วยงานนำรูปแบบการทำงานโดยบูรณาการการทำงานร่วมกัน และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส
ความรับผิดชอบ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน






แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


๔๒


2. สนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนดำเนินการตามภารกิจด้วยความรับผิดชอบ ต่อตนเอง

องค์กร ประชาชนและประเทศชาติ โดยให้ความสำคัญกับการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ผ่านกลไก
การรับฟังความคิดเห็นมาประกอบการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษา
3. ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้ประกาศและแถลงนโยบายไว้แล้ว
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เพื่อมุ่งเน้นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภาคการศึกษาที่จะก่อให้เกิด
ประโยชน์ต่อผู้เรียนและประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ


นโยบายและจุดเน้น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

1. การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัย
1.1 เร่งสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของสังคม และป้องกันจาก

ภัยคุกคามในชีวิตรูปแบบใหม่ และภัยอื่นๆ โดยมีการดำเนินการตามแผนและมาตรการด้านความปลอดภัย
ให้แก่ผู้เรียน ครู และบุคลากรในรูปแบบต่างๆ อย่างเข้มข้น รวมทั้งดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ติดตาม
ประเมินผลการดำเนินการ และแสวงหาสถานศึกษาที่ดำเนินการได้ดีเยี่ยม (Best Practice) เพื่อปรับปรุง

พัฒนาและขยายผลต่อไป
1.2 เร่งปลูกฝังทัศนคติ พฤติกรรม และองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง โดยบูรณาการอยู่ใน

กระบวนการจัดการเรียนรู้ เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้และสร้างภูมิคุ้มกันควบคู่กับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ใน
เชิงบวกและสร้างสรรค์ พร้อมทั้งหาแนวทางวิธีการปกป้องคุ้มครองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ครูและ

บุคลากรทางการศึกษา
1.3 เสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก และส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมที่

พึงประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
1.4 เร่งพัฒนาบทบาทและภารกิจของหน่วยงานด้านความปลอดภัยที่มีอยู่ในทุกหน่วยงานใน
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการให้ดำเนินการอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ

2. การยกระดับคุณภาพการศึกษา
2.1 ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษานำหลักสูตรฐานสมรรถนะไปสู่การปฏิบัติอย่างเต็ม

รูปแบบ เพื่อสร้างสมรรถนะที่สำคัญจำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 ให้กับผู้เรียน
2.2 จัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ค้นพบพรสวรรค์ ความสนใจ ความถนัดในอาชีพของ

ตนเอง ด้วยการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) ทั้งในห้องเรียน สถานประกอบการ รวมทั้ง
การเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มและห้องดิจิทัลให้คำปรึกษาแนะนำ

2.3 พัฒนาและบูรณาการกระบวนการจัดการเรียนรู้และการวัดประเมินผลฐานสมรรถนะสู่
การปฏิบัติในชั้นเรียน เพื่อสร้างความฉลาดรู้ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างตรรกะความคิด
แบบเป็นเหตุเป็นผลให้นักเรียนไทยสามารถแข่งขันได้กับนานาชาติ

2.4 พัฒนาทักษะดิจิทัลและภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) สำหรับผู้เรียนทุกช่วงวัย
ื่
เพอรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัลในโลกยุคใหม่








แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโป่งน้อย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570


Click to View FlipBook Version