แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
คำช้ีแจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการสงั เกตพฤตกิ รรมทนี่ ักเรียนปฏบิ ัติ
รายการ
รับผิดชอบ รับฟงั ความ นำเสนองาน มคี วามคดิ ทำงานเสร็จ
งานทีไ่ ดร้ บั คดิ เห็นของ ได้นา่ สนใจ รเิ ร่ิม ตรงตาม
เลขท่ี ชื่อ-สกุล มอบหมาย ผูอ้ ืน่ ( ๒ คะแนน ) สรา้ งสรรค์ เวลาท่ี
( ๒ คะแนน ) ( ๒ คะแนน ) ( ๒ คะแนน ) กำหนด
( ๒ คะแนน )
เกณฑ์การประเมิน ลงชอ่ื ............................................................ผปู้ ระเมิน
คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดมี าก (นายธนนั ณ์ แสนนอก)
คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี
คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู
คะแนน ๐-๔ ระดบั ปรับปรุง
แบบสงั เกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง ให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการสังเกตพฤตกิ รรมท่ีนักเรียนปฏบิ ตั ิ
รายการ
เลขที่ ชื่อ-สกลุ ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มั่นในการ รักความเป็นไทย สรุปผลการ
ทำงาน ประเมนิ
ผา่ น ไม่ ผา่ น ไมผ่ า่ น ผา่ น ไม่ ผา่ น ไม่
ผ่าน ผา่ น ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ ลงชอ่ื ...............................................................ผู้ประเมนิ
ผ่านต้งั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น (นายธนนั ณ์ แสนนอก)
ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู
การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)
การประเมินกิจกรรมนี้ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)
เรื่อง การอ่านจบั ใจความสำคัญจากบทร้อยกรอง
ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑
เกณฑ์การประเมนิ (๙-๑๐ คะแนน) (๗-๘ คะแนน) (๕-๖ คะแนน) (ต่ำกวา่ ๕ คะแนน)
การอ่านจับใจความ จับใจความสำคัญ จับใจความสำคัญ จับใจความสำคัญ จับใจความสำคัญ
สำคัญจากบทร้อย จากบทร้อยกรองท่ี จากบทร้อยกรองที่ จากบทร้อยกรองท่ี จากบทร้อยกรองที่
กรอง ครูกำหนดให้ได้ ค ร ู ก ำ ห น ด ใ ห ้ ไ ด้ ครูกำหนดให้ยังไม่ ค ร ู ก ำ ห น ด ใ ห้ ไ ม่
ถูกต้องตอบคำถาม ถูกต้องตอบคำถาม สมบูรณ์ตอบคำถาม สมบูรณ์ตอบคำถาม
ไดค้ รบทกุ ประเด็น ไดบ้ างทุกประเดน็ ได้บางประเดน็ ไดบ้ างประเดน็
แบบฝึกเสริมทกั ษะชุดที่ 3
เรื่องการอ่านจับใจความ บทรอ้ ยกรอง
คำช้ีแจง นกั เรียนอา่ นนทิ านตอ่ ไปน้ีแล้วตอบคำถามจากเร่ืองทีอ่ ่าน
กลอนดอกสร้อยรำพงึ ในป่าช้า
กองเอ๋ยกองขา้ ว กองสูงราวโรงนาย่ิงน่าใคร่
เกดิ เพราะการเกบ็ เกีย่ วดว้ ยเคยี วใคร ใครเล่าไถคราดพืน้ ฟ้ืนแผ่นดนิ
เช้ากข็ บั โคกระบอื ถือคันไถ สำราญใจตามเขตประเทศถิน่
ยึดหางยามยักไปตามใจจนิ ต์ หางยามผินตามใจเพราะใครเอย.
พระยาอปุ กิตศลิ ปสาร
1. จากบทร้อยกรอง วรรคใดท่สี ะทอ้ นใหเ้ หน็ วถิ ีชวี ิตของชาวนาไดอ้ ย่างชัดเจน
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
2. ถ้าชาตเิ ราไมม่ ีชาวนา ส่งผลกระทบใดต่อประเทศบา้ งบา้ ง
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากบทร้อยกรองขา้ งต้น ถอดคำประพันธว์ า่ อย่างไร
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
4. จากบทรอ้ ยกรอง กลอนดอกสร้อยรำพงึ ในปา่ ช้าขา้ งตน้ ให้ข้อคดิ อย่างไรบา้ ง
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. จากบทร้อยกรอง มีใจความสำคญั อยา่ งไร
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
แนวคำตอบแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะชุดท่ี 3
เร่อื งการอา่ นจบั ใจความบทรอ้ ยกรอง
คำชี้แจง นักเรียนอ่านบทรอ้ ยกรองต่อไปนแ้ี ลว้ ตอบคำถามจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น
กลอนดอกสร้อยรำพงึ ในปา่ ชา้
กองเอย๋ กองขา้ ว กองสูงราวโรงนายิ่งน่าใคร่
เกดิ เพราะการเก็บเกย่ี วดว้ ยเคียวใคร ใครเล่าไถคราดพ้ืนฟืน้ แผน่ ดนิ
เชา้ ก็ขบั โคกระบือถอื คนั ไถ สำราญใจตามเขตประเทศถนิ่
ยึดหางยามยักไปตามใจจนิ ต์ หางยามผินตามใจเพราะใครเอย.
พระยาอปุ กิตศิลปสาร
1. จากบทร้อยกรอง วรรคใดที่สะทอ้ นใหเ้ หน็ วิถชี วี ิตของชาวนาได้อยา่ งชัดเจน
เช้ากข็ บั โคกระบือถอื คันไถ
2. ถา้ ชาตเิ ราไม่มีชาวนา สง่ ผลกระทบใดต่อประเทศบา้ งบา้ ง
ประเทศกจ็ ะไดร้ บั ผลกระทบในดา้ นเศรษฐกิจ ประเทศจะตอ้ งรบั ซ้อื ขา้ วจากประเทศเพอื่ นบา้ น
ค่าครองชพี อาจจะสงู ขึน้ เกิดสภาวะขาดเครอื่ งบริโภค
3. จากบทรอ้ ยกรองข้างต้น ถอดคำประพันธว์ ่าอยา่ งไร
เห็นกองข้าวสูงราวกับโรงนา ช่างน่ายินดีนัก กองข้าวนี้เกิดเพราะการเก็บเกี่ยวด้วยเคียวของใคร
หรือใครเป็นคนไถคราดพลิกฟื้นแผ่นดินนี้ขึ้นมา เช้าก็ถือคันไถพร้อมกับไล่ควายอย่างสบายใจอยู่ท้องนา
โดยจบั หางไถไถนาตามใจของตน หางไถหนั ไปในทิศทางต่าง ๆ เพราะใครเล่า
4. จากบทร้อยกรอง กลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในปา่ ช้าขา้ งตน้ ให้ขอ้ คดิ อย่างไรบา้ ง
- การภมู ใิ จในอาชพี ของตน
- สะทอ้ นใหเ้ หน็ วา่ คนทีท่ ำอาชพี เกษตรกรรมคือ ชาวนา
5. จากบทร้อยกรอง มใี จความสำคัญอย่างไร
ชใ้ี หเ้ หน็ วิถชี วี ิตชาวนา
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑๑
รายวชิ า ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทยพนื้ ฐาน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ กลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในปา่ ช้า จำนวน ๑๕ ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑๑ จบั ใจความสำคัญจากการอา่ นบทความ เวลา ๑ ชวั่ โมง
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ภาคเรียนท่ี ๒
ผ้สู อน นายธนนั ณ์ แสนนอก ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาใน
การดำเนนิ ชวี ติ และมีนิสยั รกั การอ่าน
๒. ตัวช้วี ดั
ท ๑.๑ ม. ๒/๒ จบั ใจความสำคญั สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเรือ่ งท่อี า่ น
ท ๑.๑ ม. ๒/๗ อา่ นหนังสือ บทความ หรือคำประพนั ธอ์ ย่างหลากหลายและประเมนิ คุณคา่ หรือ
แนวคดิ ทไ่ี ด้จากการอา่ นเพ่อื นำไปใช้แก้ปัญหาในชวี ิต
ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มมี ารยาทในการอา่ น
๓. จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรียนบอกหลักและทกั ษะการอา่ นจับใจความสำคญั (K)
๒. นกั เรยี นอา่ นจบั ใจความสำคญั จากบทความ (P)
๓. นกั เรยี นมีมารยาทในการอ่าน (A)
๔. สาระสำคัญ
การอ่านเป็นกระบวนการรับรู้สารขั้นพื้นฐาน ในชีวิตประจำวันของมนุษย์จะต้องรับรู้สารจากการ
อ่านเป็นประจำและในรูปแบบต่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน บทความ สารคดี เรื่องส้ัน นวนิยาย ฯลฯ การรับรู้
สารในช่วงเวลาเดียวกนั และมคี วามเร่งด่วน การอ่านจับใจความสำคญั เป็นสิง่ สำคญั ทช่ี ่วยทำให้ผู้อ่านเข้าใจ
สาระสำคัญของเรือ่ งราวต่าง ๆ ได้รวดเร็ว และทำให้การรับสารในแต่ละคร้งั เกิดประสทิ ธภิ าพ
๕. สาระการเรยี นรู้
- การอ่านจับใจความสำคัญ
๖. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
- ทักษะการอ่าน
๒. ความสามารถในการคดิ
- การประยุกต์/การปรบั ปรุง
- การสรปุ ความ
- การประเมินค่า
๗. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้
ตัวช้วี ดั ท่ี ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี น และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้
มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
ตวั ชี้วัดท่ี ๖.๑ ต้ังใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบัตหิ น้าทกี่ ารงาน
ตวั ชวี้ ัดท่ี ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพียรพยายาม และอดทนเพ่ือให้งานสำเร็จตามเปา้ หมาย
รกั ความเปน็ ไทย
ตัวชี้วดั ท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ ค่าและใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๓ อนุรกั ษแ์ ละสืบทอดภมู ิปญั ญาไทย
๘. การจดั การเรียนรู้
ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน
๑. ครูทบทวนบทเรียนเรื่องการอา่ นจับใจความจากบทร้อยกรอง จากคาบเรียนท่ผี ่านมา
๒. นักเรียนรับฟังจุดประสงค์การเรียนรู้จากครูและเชื่อมโยงเข้าสู่การอ่านจับใจความจาก
บทความ
ขน้ั สอน
๓. นักเรียนร่วมกันแสดงความรู้ความเข้าใจและความคิดเห็น เกี่ยวกับวิธีการอ่านที่ทำให้
สามารถเกบ็ ข้อมูลข่าวสารไดอ้ ย่างครบถ้วน
๔. ครสู ุ่มเรยี กชอื่ นกั เรยี นเพ่ืออธิบายความร้เู กยี่ วกบั การอ่านจบั ใจความ
๕. นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ ๔ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทความ เสร็จแล้วนำส่งครูตรวจ
เปน็ รายบคุ คล
ขนั้ สรปุ
๖. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เรียน โดยครูใช้คำถามในแต่ละประเด็นเพื่อให้นักเรียนได้
สงั เคราะหค์ วามรู้
๙. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้
- หนงั สอื หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๒
- แบบฝกึ หัดที่ ๔ เรือ่ งการอา่ นจับใจความจากบทความ
๑๐.การวดั และประเมนิ ผล
เคร่อื งมอื วิธวี ดั เกณฑ์การประเมนิ
๑.แบบฝึกหัด เรื่อง การอ่านจับ ตรวจผลงานนักเรยี นเปน็ ตามเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพ
ใจความจากบทความ (K) จรงิ การอ่านจบั ใจความ
รายบคุ คล
๒. แบบสังเกตการณ์เข้าร่วม ประเมินการเข้ารว่ มกิจกรรมของ การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม
กจิ กรรม (P) นักเรยี น กิจกรรม
ผ่านตง้ั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผ่าน ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน
๓.แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึง ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ผ่านตง้ั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผา่ น ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
ประสงค์ (A) ประสงค์
๑. ใฝ่เรยี นรู้
๒. มุง่ มัน่ ในการทำงาน
๓. รักความเปน็ ไทย
บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน ท๒๒๑๐๒ จำนวน ๑๕ ชว่ั โมง
หนว่ ยการจดั การเรยี นรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ กลอนดอกสรอ้ ยรำพงึ ในปา่ ช้า เวลา ๑ ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๑ จบั ใจความสำคัญจากการอา่ นบทความ
ผู้สอน นายธนันณ์ แสนนอก
๑.การจัดการเรยี นการสอน
๑.๑ ดา้ นความรู้ (K)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๑.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๑.๓ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๒.ปัญหาและอปุ สรรค
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.............................................................................ผสู้ อน
(นายธนันณ์ แสนนอก)
นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ครู
วนั ที่..........เดือน...........................................พ.ศ. ............
ความคดิ เห็นครพู ่ีเล้ยี ง
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ......................................................ครพู เ่ี ลีย้ ง
(นางสาวภัทราภรณ์ ละมุล)
ครู
ความคิดเห็นหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ..............................................หัวหนา้ กลุม่ สาระฯ
(นางอุไรรตั น์ ศรวี งษช์ ยั )
หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ความคิดเหน็ รองผู้อำนวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ................................................รองผ้อู ำนวยการ
( นายชาญ สิ่วไธสง )
รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนพทุ ไธสง
ความคิดเห็นผอู้ ำนวยการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ......................................................ผอู้ ำนวยการ
(นายประชยั พรสง่ากลุ )
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นพุทไธสง
ภาคผนวก
• แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
๑. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่
๒. แบบสงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
• แบบประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)
• แบบฝึกหัดที่ ๓ เรอื่ ง การอา่ นจบั ใจความจากบทความ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
คำชแ้ี จง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย ✓ ลงในช่องรายการสงั เกตพฤตกิ รรมท่นี ักเรียนปฏิบตั ิ
รายการ
เขา้ รว่ ม
เลขท่ี ช่อื -สกุล ร่วมมอื ใน กลา้ ออกมา กจิ กรรมดว้ ย สรปุ ผลการ
การทำงาน แสดง ความ ประเมนิ
ความสามารถ สนกุ สนาน
เพลิดเพลิน
ผา่ น ไม่ ผ่าน ไม่ ผา่ น ไม่ ผา่ น ไม่
ผ่าน ผา่ น ผา่ น ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ ลงชอ่ื .........................................................ผปู้ ระเมนิ
ผา่ นตง้ั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผ่าน (นายธนนั ณ์ แสนนอก)
ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู
แบบสงั เกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง ให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการสังเกตพฤตกิ รรมท่ีนักเรียนปฏบิ ตั ิ
รายการ
เลขที่ ชื่อ-สกลุ ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มั่นในการ รักความเป็นไทย สรุปผลการ
ทำงาน ประเมนิ
ผา่ น ไม่ ผา่ น ไมผ่ า่ น ผา่ น ไม่ ผา่ น ไม่
ผ่าน ผา่ น ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ ลงชอ่ื ...............................................................ผู้ประเมนิ
ผ่านต้งั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น (นายธนนั ณ์ แสนนอก)
ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู
การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)
การประเมนิ กจิ กรรมน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เรอื่ ง การอ่านจับใจความสำคัญจากบทความ
ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑
เกณฑ์การประเมนิ (๙-๑๐ คะแนน) (๗-๘ คะแนน) (๕-๖ คะแนน) (ตำ่ กวา่ ๕ คะแนน)
การอ่านจับใจความ จับใจความสำคัญ จับใจความสำคัญ จับใจความสำคัญ จับใจความสำคัญ
สำคญั จากบทความ จากบทความที่ครู จากบทความที่ครู จากบทความที่ครู จากบทความที่ครู
กำหนดใหไ้ ด้ถูกต้อง กำหนดให้ได้ถูกต้อง ก ำ ห น ด ใ ห้ ย ั ง ไ ม่ กำหนดให้ไม่สมบูรณ์
ตอบคำถามได้ครบ ตอบคำถามได้บาง สมบูรณ์ตอบคำถาม ตอบคำถามได้บาง
ทกุ ประเดน็ ทกุ ประเดน็ ได้บางประเด็น ประเด็น
แบบฝกึ เสริมทกั ษะชุดที่ 4
เรอื่ งการอ่านจบั ใจความจากบทความ
คำชแ้ี จง นักเรยี นอ่านบทความตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคำถามจากเร่อื งท่อี ่าน
สังคมไทยรับเอาค่านิยมทางวัฒนธรรมจากต่างประเทศมากขึ้น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน
หลายๆด้าน ทั้งทางด้านการประกอบอาชีพจะเห็นได้ว่าเปลี่ยนจากสังคมเกษตรกรรมมาเป็นสังคม
อุตสาหกรรมกันมากขึ้น สังคมไทยเลี้ยงดูบุตรด้วยเงินมากขึ้นมากกว่าการเลี้ยงด้วยความรักความอบอุ่น
เหมือนแต่ก่อนทั้งทางชีวิตความเป็นอยู่ สังคมไทยในปัจจุบันอยู่แบบครอบครัวเดี่ยว การรับค่านิยมทาง
วัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคมปัจจุบันนั้นก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมที่มากมายเช่นกัน ในสังคม
ปจั จุบันนั้นวัยรนุ่ สมยั นรี้ ับเอาคา่ นิยมทางวัฒนธรรมท่ผี ิดๆเขา้ มาปรบั ใช้ในชวี ิตประจำวนั มากมาย เช่น การ
เลียนแบบการแต่งตายของชาวตะวันตก การไม่รักนวลสงวนตัวของวัยรุ่นหญิงในปัจจุบันเนื่องจากการรับ
เอาค่านิยมทางวัฒนธรรมที่ผิดๆมาใช้ปัญหาที่เกิดตามมาในสังคมก็คือการท้องแบบไม่ได้ต้ังใจ เกิดปัญหา
การถกู ท้ิงของเดก็ ปัญหาการทำแทง้ การใชจ้ า่ ยแบบฟุม่ เฟอื ยของคนในสงั คมปจั จุบันเน่อื งจากการอยากได้
อยากมีความหรูหรา จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ที่การ
นำมาปรับใช้ เทคโนโลยีที่นำมาใช้แล้วเกิดประโยชน์กม็ ีมากมายและที่เกิดโทษก็มมี ากมายเช่นกัน ปัจจุบนั
วัยรุ่นมักจะมีค่านิยมที่เลียนแบบเพื่อนโดยที่ไม่คิดคำนึงว่าความสามารถทางการเงินของตัวเองเป็นเช่นไร
ทงั้ นี้เปน็ การใชเ้ ทคโนโลยใี นทางทผ่ี ดิ ๆ ส่วนทางด้านอตุ สาหกรรมมกี ารนำเทคโนโลยเี ขา้ มาใชใ้ นการทำงาน
ทำให้ได้ผลงานที่เป็นมาตรฐานและรวดเร็ว ทำให้ผลิตสินค้าเพื่อการจำหน่ายได้รวดเร็ว ส่วนทางด้าน
เกษตรกรรม เกษตรกรได้นำเคร่อื งจกั รกลมาใช้ในการประกอบอาชีพทำให้ย่นระยะเวลาในการทำงานไดเ้ รว็
ขึน้ และผลผลิตที่ได้ทีปริมาณเพิ่มมากขึน้
อย่างไรก็ตามการรับเอาค่านิยมทางวัฒนธรรมมาปรับใช้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเราจึงควรใช้ให้
ถูกต้องตามความเหมาะสมและควรแก่การอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยที่เป็นเอกลักษณ์มาแต่ช้านาน
น้นั ไวด้ ้วยเพื่อดำรงสบื ทอดตอ่ ไปยังลกู หลาน
ทม่ี า : http://sd-group1.blogspot.com/2013/01/53242513.html
1. บทความนป้ี ัญหาสำคญั ที่เกดิ ขึน้ คอื เร่อื งใด
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. ผู้เขยี นบทความนีม้ คี วามร้สู ึกอยา่ งไร
...................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. จากบทความน้ี ประเทศไทยมีวัฒนธรรมใดบา้ งท่ีเปล่ยี นไปตามวัฒนธรรมจากต่างประเทศ
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. เพราะเหตใุ ดเราจงึ ควรรับเอาค่านยิ มทางวฒั นธรรมจากตา่ งประเทศมาปรับใช้ให้เหมาะสม
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………..
5. นกั เรยี นได้ข้อคิดอะไรจากการอ่านบทความนี้
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
แนวคำตอบแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะชดุ ที่ 4
เร่ืองการอ่านจับใจความจากบทความ
คำชี้แจง นกั เรยี นอ่านบทความต่อไปนี้ แลว้ ตอบคำถามจากเร่ืองที่อ่าน
สังคมไทยรับเอาค่านิยมทางวัฒนธรรมจากต่างประเทศมากขึ้น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน
หลายๆด้าน ทั้งทางด้านการประกอบอาชีพจะเห็นได้ว่าเปลี่ยนจากสังคมเกษตรกรรมมาเป็นสังคม
อุตสาหกรรมกันมากขึ้นสังคมไทยเลี้ยงดูบุตรด้วยเงินมากขึ้นมากกว่าการเลี้ยงด้วยความรักความอบอุ่น
เหมือนแต่ก่อนทั้งทางชีวิตความเป็นอยู่ สังคมไทยในปัจจุบันอยู่แบบครอบครัวเดี่ยว การรับค่านิย มทาง
วัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคมปัจจุบันนั้นก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมที่มากมายเช่นกัน ในสังคม
ปจั จุบนั นั้นวัยรนุ่ สมยั นี้รับเอาคา่ นยิ มทางวฒั นธรรมท่ผี ิดๆเขา้ มาปรบั ใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น การ
เลียนแบบการแต่งตายของชาวตะวันตก การไม่รักนวลสงวนตัวของวัยรุ่นหญิงในปัจจุบันเนื่องจากการรับ
เอาค่านิยมทางวัฒนธรรมที่ผิดๆมาใช้ปัญหาที่เกิดตามมาในสังคมก็คือการท้องแบบไม่ได้ตั้งใจ เกิดปัญหา
การถูกท้ิงของเดก็ ปญั หาการทำแทง้ การใช้จ่ายแบบฟมุ่ เฟือยของคนในสงั คมปัจจุบันเน่ืองจากการอยากได้
อยากมีความหรูหรา จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ที่การ
นำมาปรับใช้ เทคโนโลยีที่นำมาใช้แล้วเกิดประโยชน์กม็ ีมากมายและที่เกิดโทษก็มมี ากมายเช่นกัน ปัจจุบัน
วัยรุ่นมักจะมีค่านิยมที่เลียนแบบเพื่อนโดยที่ไม่คิดคำนึงว่าความสามารถทางการเงินของตัวเองเป็นเช่นไร
ท้ังนีเ้ ป็นการใช้เทคโนโลยีในทางท่ผี ดิ ๆ ส่วนทางดา้ นอตุ สาหกรรมมีการนำเทคโนโลยเี ข้ามาใช้ในการทำงาน
ทำให้ได้ผลงานที่เป็นมาตรฐานและรวดเร็ว ทำให้ผลิตสินค้าเพื่อการจำหน่ายได้รวดเร็ว ส่วนทางด้าน
เกษตรกรรม เกษตรกรได้นำเครอื่ งจักรกลมาใช้ในการประกอบอาชพี ทำใหย้ น่ ระยะเวลาในการทำงานไดเ้ รว็
ข้ึนและผลผลิตทีไ่ ดท้ ีปรมิ าณเพ่มิ มากขน้ึ
อย่างไรก็ตามการรับเอาค่านิยมทางวัฒนธรรมมาปรับใช้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเราจึงควรใช้ให้
ถูกต้องตามความเหมาะสมและควรแก่การอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยที่เป็นเอกลักษณ์มาแต่ช้านาน
น้ันไวด้ ้วยเพอ่ื ดำรงสบื ทอดตอ่ ไปยังลูกหลาน
ที่มา : http://sd-group1.blogspot.com/2013/01/53242513.html
1. บทความนปี้ ัญหาสำคญั ทเ่ี กิดขึน้ คอื เร่ืองใด
การรับค่านิยมทางวฒั นธรรมตา่ งประเทศท่ผี ิดๆ มาใชใ้ นชวี ิตประจำวนั
2. ผเู้ ขยี นบทความน้ีมคี วามรสู้ ึกอย่างไร
กังวล ห่วงใย
3. จากบทความน้ี ประเทศไทยมีวัฒนธรรมใดบา้ งที่เปล่ยี นไปตามวัฒนธรรมจากตา่ งประเทศ
- การเลียนแบบการแต่งกายของชาวตะวันตก
- การไม่รักนวลสงวนตวั
- การใช้จ่ายฟ่มุ เฟือย
4. เพราะเหตุใดเราจงึ ควรรบั เอาค่านยิ มทางวฒั นธรรมจากตา่ งประเทศมาปรับใช้ใหเ้ หมาะสม
ค่านยิ มทางวฒั นธรรมต่างประเทศ มที ั้งข้อดแี ละข้อเสยี
5. นักเรียนได้ขอ้ คิดอะไรจากการอ่านบทความน้ี
รูจ้ ักเลือกเอาวัฒนธรรมที่ดีของตา่ งประเทศ มาใช้ใหถ้ กู ตอ้ งตามความเหมาะสม
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๒
รายวชิ า ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทยพนื้ ฐาน ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ กลอนดอกสรอ้ ยรำพงึ ในปา่ ชา้ จำนวน ๑๕ ช่วั โมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๒ สรา้ งเปา้ หมายนำชวี ติ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ภาคเรียนที่ ๒
ผสู้ อน นายธนนั ณ์ แสนนอก ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็
คุณคา่ และนำมาประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ
๒. ตวั ช้วี ดั
ท ๕.๑ ม. ๒/๔ สรุปความรูแ้ ละข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ จริง
๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑. นักเรียนสรปุ ความร้แู ละขอ้ คดิ จากกลอนดอกสร้อยรำพงึ ในปา่ ชา้ (K)
๒. นกั เรยี นสังเคราะหข์ อ้ คดิ จากกลอนดอกสร้อยรำพงึ ในป่าชา้ ไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตจรงิ (P)
๓. นักเรยี นเห็นคุณค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรม (A)
๔. สาระสำคัญ
การสรุปความรู้และการนำข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง จะทำให้การอ่านเกิด
ประโยชน์ และควรอ่านหนังสือต่าง ๆ อยู่เสมอ
๕. สาระการเรียนรู้
ความรู้และขอ้ คิดจากกลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในปา่ ชา้
๖. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
- ทกั ษะการอา่ น
๒. ความสามารถในการคิด
- การประยกุ ต/์ การปรับปรุง
- การสรปุ ความ
- การประเมนิ ค่า
๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
๗. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ใฝ่เรียนรู้
ตัวช้ีวดั ที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรียน และเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้
มุ่งมน่ั ในการทำงาน
ตวั ชี้วัดที่ ๖.๑ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ทก่ี ารงาน
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๖.๒ ทำงานด้วยความเพียรพยายาม และอดทนเพือ่ ให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย
รักความเปน็ ไทย
ตัวช้ีวัดที่ ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการส่อื สารได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม
ตวั ชี้วัดท่ี ๗.๓ อนุรักษ์และสืบทอดภูมิปญั ญาไทย
๘. การจดั การเรียนรู้
ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรียน
๑. นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ จากคำถามของครู ดังน้ี
- หากเปรียบชวี ติ เหมอื นกับตน้ ไม้ นกั เรียนอยากเปน็ ต้นไม้ชนิดไหน เพราะเหตุใด
๒. นักเรียนรับฟังจุดประสงค์การเรียนรู้จากครูและเชื่อมโยงเข้าสู่การสังเคราะห์ข้อคิดจาก
กลอนดอกสรอ้ ยรำพงึ ในป่าช้าไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ
ขัน้ สอน
๓. นักเรยี นทบทวน เน้ือหาและขอ้ คดิ นำชวี ิต วรรณคดเี ร่อื ง กลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในป่าช้า
๔. นักเรยี นร่วมกิจกรรม “สัญญากบั โลก” โดยครจู ะแจกกระดาษให้คนละ ๑ แผน่ จากนั้นให้
เขียนความดีที่อยากทำกับโลกก่อนจะสิ้นลมหายใจ ครูสุ่มหยิบ สลากเลขที่ สุ่มโดนหมายเลขนักเรยี นคนใด
ใหอ้ อกมานำเสนอความดที ีอ่ ยากทำพร้อมอธบิ ายเหตุผล
๕. นกั เรียนทำชิ้นงาน เร่ือง เปา้ หมายชวี ิตก่อนสิน้ ลมหายใจ ครตู รวจสอบผลงานของนักเรียน
เป็นรายบุคคล
ขนั้ สรุป
๖. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เรียน โดยครูใช้คำถามในแต่ละประเด็นเพื่อให้นักเรียนได้
สงั เคราะห์ความรู้
๙. สือ่ /แหล่งเรียนรู้
- หนังสือวรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๒
- ช้ินงาน เรอ่ื ง เป้าหมายชวี ิตก่อนสิ้นลมหายใจ
๑๐.การวัดและประเมินผล
เครอ่ื งมือ วิธวี ดั เกณฑ์การประเมนิ
๑.ชิ้นงาน เรื่อง เป้าหมายชีวิต ตรวจผลงานนักเรยี นเป็น ตามเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพ
ก่อนสิ้นลมหายใจ (K) จริง การเขียนความเรียงแสดง
รายบุคคล เป้าหมายในชวี ติ
๒. แบบสงั เกตการณ์เขา้ รว่ ม การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วม
กจิ กรรม (P) ประเมินการเข้ารว่ มกิจกรรมของ กจิ กรรม
นกั เรยี น ผ่านตัง้ แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผา่ น
ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
๓.แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึง ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึง ผา่ นต้ังแต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผา่ น
ผ่าน ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
ประสงค์ (A) ประสงค์
๑. ใฝเ่ รยี นรู้
๒. มุ่งมั่นในการทำงาน
๓. รักความเป็นไทย
บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทยพื้นฐาน ท๒๒๑๐๒ จำนวน ๑๕ ชวั่ โมง
หนว่ ยการจดั การเรยี นร้ทู ่ี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ กลอนดอกสรอ้ ยรำพงึ ในปา่ ชา้ เวลา ๑ ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑๒ สร้างเปา้ หมายนำชวี ติ
ผูส้ อน นายธนนั ณ์ แสนนอก
๑.การจัดการเรียนการสอน
๑.๑ ดา้ นความรู้ (K)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๑.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๑.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๒.ปัญหาและอปุ สรรค
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .............................................................................ผู้สอน
(นายธนนั ณ์ แสนนอก)
นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ครู
วนั ที่..........เดือน...........................................พ.ศ. ............
ความคดิ เห็นครพู เ่ี ลี้ยง
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ......................................................ครพู เี่ ลีย้ ง
(นางสาวภทั ราภรณ์ ละมุล)
ครู
ความคดิ เห็นหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ..............................................หัวหน้ากลมุ่ สาระฯ
(นางอไุ รรตั น์ ศรวี งษช์ ัย)
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ความคิดเหน็ รองผู้อำนวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ................................................รองผูอ้ ำนวยการ
( นายชาญ สิ่วไธสง )
รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนพทุ ไธสง
ความคิดเห็นผอู้ ำนวยการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ......................................................ผอู้ ำนวยการ
(นายประชัย พรสงา่ กุล)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นพทุ ไธสง
ภาคผนวก
• แบบสังเกตพฤติกรรม
๑. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่
๒. แบบสังเกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
• แบบประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)
• ชนิ้ งาน เรอ่ื ง เป้าหมายชีวติ ก่อนสนิ้ ลมหายใจ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
คำชแ้ี จง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤตกิ รรมที่นกั เรยี นปฏบิ ัติ
รายการ
เข้ารว่ ม
เลขท่ี ช่อื -สกุล ร่วมมอื ใน กลา้ ออกมา กจิ กรรมดว้ ย สรปุ ผลการ
การทำงาน แสดง ความ ประเมนิ
ความสามารถ สนกุ สนาน
เพลิดเพลนิ
ผ่าน ไม่ ผ่าน ไม่ ผ่าน ไม่ ผ่าน ไม่
ผา่ น ผา่ น ผ่าน ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ ลงชือ่ .........................................................ผ้ปู ระเมิน
ผา่ นตง้ั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผ่าน (นายธนนั ณ์ แสนนอก)
ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู
แบบสงั เกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง ให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการสังเกตพฤตกิ รรมท่ีนักเรียนปฏบิ ตั ิ
รายการ
เลขที่ ชื่อ-สกลุ ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มั่นในการ รักความเป็นไทย สรุปผลการ
ทำงาน ประเมนิ
ผา่ น ไม่ ผา่ น ไมผ่ า่ น ผา่ น ไม่ ผา่ น ไม่
ผ่าน ผา่ น ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ ลงชอ่ื ...............................................................ผู้ประเมนิ
ผ่านต้งั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น (นายธนนั ณ์ แสนนอก)
ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู
การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)
การประเมนิ กจิ กรรมนีใ้ หผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เรื่อง การเขยี นความเรียงแสดงเป้าหมายในชวี ิต
ระดบั คะแนน ๔ ๓ ๒ ๑
(๗-๘ คะแนน) (๕-๖ คะแนน) (ต่ำกวา่ ๕ คะแนน)
เกณฑ์การประเมิน (๙-๑๐ คะแนน)
มเี ปา้ หมายในชวี ิต มีเป้าหมายในชวี ติ มีเปา้ หมายในชวี ติ
การเขียนความเรยี ง มีเปา้ หมายในชวี ิต ชดั เจน แสดงใหเ้ หน็ ชัดเจน เรยี บเรียง ไมช่ ดั เจน การเรียบ
ถึงความม่งุ ม่นั ขอ้ ความให้เขา้ ใจได้ เรียงขอ้ ความยัง
แสดงเป้าหมายในชวี ติ ชดั เจน แสดงให้ ใชภ้ าษาเรยี บเรียง แต่ยงั ใช้ภาษาไม่ สับสนและเขียนเพยี ง
ข้อความได้ราบรืน่ ดี กระชับ สนั้ ๆ
เหน็ ถงึ ความมงุ่ มั่น
ใช้ภาษาเรียบเรียง
ข้อความกระชบั
สื่อความหมาย
ชดั เจน
ชน้ิ งาน
การเขยี นความเรียงแสดงเป้าหมายในชวี ติ
เมอื่ ทุกคนเกดิ มาแลว้ ต้องตาย นกั เรยี นมีเป้าหมายชีวติ ในเรอ่ื งใดทีจ่ ะทำให้สำเรจ็ เขยี น
ความเรยี งส้นั ๆ แสดงความคดิ เห็นของตนเอง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๓
รายวชิ า ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทยพนื้ ฐาน ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ กลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในปา่ ช้า จำนวน ๑๕ ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๓ พูดรายงาน ขยายฐานความรู้ เวลา ๑ ชวั่ โมง
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ภาคเรียนท่ี ๒
ผู้สอน นายธนนั ณ์ แสนนอก ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิดและ
ความร้สู กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
๒. ตวั ชี้วัด
ท ๓.๑ ม. ๒/๕ พูดรายงานเรื่องหรือประเดน็ ทศ่ี กึ ษาค้นคว้าจากการฟงั การดู และการสนทนา
ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟงั การดู และการพดู
๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นบอกขอ้ ควรปฏิบัติในการพดู รายงานทด่ี ี (K)
๒. นักเรียนพูดรายงานจากการศกึ ษาคน้ ควา้ (P)
๓. นกั เรียนเห็นความสำคญั ของการพูดรายงานจากการศึกษาคน้ คว้าและมมี ารยาทในการพูด (A)
๔. สาระสำคัญ
การพดู รายงานเป็นการพดู ท่ีไดจ้ ากการศกึ ษาผา่ นการจัดเรียงลำดบั ขอ้ มูลมาเป็นอยา่ งดี จงึ ทำให้เห็น
ถงึ ความสามารถในการศกึ ษาคน้ คว้าและขอ้ มลู ทพ่ี ดู เปน็ ประโยชนต์ อ่ ผฟู้ งั
๕.สาระการเรียนรู้
- การพูดรายงาน
๖. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
- ทกั ษะการฟงั การดู และการพูด
๒. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
๗. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้
ตัวช้วี ดั ที่ ๔.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้
มุ่งม่นั ในการทำงาน
ตวั ช้ีวัดท่ี ๖.๑ ต้ังใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติหนา้ ทก่ี ารงาน
ตัวช้วี ดั ที่ ๖.๒ ทำงานด้วยความเพียรพยายาม และอดทนเพอ่ื ใหง้ านสำเร็จตามเปา้ หมาย
รกั ความเปน็ ไทย
ตวั ชว้ี ัดท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการสอื่ สารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ตวั ชีว้ ดั ที่ ๗.๓ อนุรกั ษแ์ ละสบื ทอดภมู ปิ ัญญาไทย
๘. การจัดการเรยี นรู้
ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรียน
๑. นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น จากคำถามของครู ดังต่อไปน้ี
- นักเรียนจะนำทักษะการพดู รายงานไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ไดอ้ ย่างไรบา้ ง
๒. นักเรยี นรบั ฟงั จุดประสงค์การเรียนรูจ้ ากครูและเชอ่ื มโยงเข้าสูก่ ารพูดรายงาน
ขั้นสอน
๓. นักเรียนช่วยกันบอกลักษณะการพูดที่ดี (ตัวอย่างคำตอบ เสียงดังชัดเจน น้ำเสียงน่าฟัง
ออกเสียงคำถูกต้อง บุคลิกภาพดี แต่งกายสภุ าพถกู กาลเทศะ)
๔. นักเรยี นออกมาพดู รายงานจากการศกึ ษาคน้ ควา้ ทลี ะกลุ่ม ใช้เวลากล่มุ ละประมาณ ๕ นาที
เมื่อจบการพดู รายงานของแต่ละกลุม่ ใหผ้ ้ฟู งั ซกั ถามขอ้ สงสยั
๕. นักเรียนรว่ มกันวิจารณ์และประเมินการพูดซึ่งกันและกัน บอกข้อดี ข้อบกพร่องของแต่ละ
กลุ่ม ครใู ห้กำลังใจและชมเชยในความพยายามของนักเรยี นทกุ คน
ข้ันสรุป
๖. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เรียน โดยครูใช้คำถามในแต่ละประเด็นเพื่อให้นักเรียนได้
สังเคราะห์ความรู้
- การพดู รายงานเปน็ การพูดท่ไี ด้จากการศกึ ษาผ่านการจัดเรยี งลำดับข้อมลู มาเป็นอยา่ งดี
จึงทำใหเ้ หน็ ถงึ ความสามารถในการศึกษาคน้ คว้าและขอ้ มูลท่ีพดู เป็นประโยชน์ต่อผฟู้ ัง
๙. สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้
- ตัวอยา่ งการพูดรายงานท่ีดี จาก ยทู ปู
๑๐.การวดั และประเมินผล
เครื่องมอื วิธวี ัด เกณฑ์การประเมนิ
๑.แบบบอกข้อควรปฏิบัติในการ ประเมนิ ดว้ ยวิธีการสงั เกต ตามเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพ
พดู รายงานท่ดี ี (K) จริง การพูดรายงาน
๒.แบบสงั เกตการณเ์ ข้ารว่ ม ประเมินการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุม่ การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ ม
กิจกรรมกลุ่ม (P) กจิ กรรมกล่มุ
คะแนน ๙-๑๐ ระดับ ดมี าก
คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี
คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้
คะแนน ๐-๔ ระดับ ปรับปรงุ
๓.แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึง ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ผา่ นตง้ั แต่ ๒ รายการ ถือว่า ผา่ น
ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น
ประสงค์ (A) ประสงค์
๑. ใฝเ่ รยี นรู้
๒. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
๓. รักความเปน็ ไทย
บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน ท๒๒๑๐๒ จำนวน ๑๕ ชวั่ โมง
หนว่ ยการจัดการเรียนรู้ท่ี หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ กลอนดอกสร้อยรำพงึ ในปา่ ชา้ เวลา ๑ ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๓ พูดรายงาน ขยายฐานความรู้
ผ้สู อน นายธนันณ์ แสนนอก
๑.การจดั การเรยี นการสอน
๑.๑ ดา้ นความรู้ (K)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๑.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๑.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๒.ปัญหาและอปุ สรรค
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .............................................................................ผสู้ อน
(นายธนันณ์ แสนนอก)
นักศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู
วนั ที.่ .........เดือน...........................................พ.ศ. ............
ความคดิ เหน็ ครพู ่ีเลย้ี ง
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ......................................................ครพู เี่ ลีย้ ง
(นางสาวภทั ราภรณ์ ละมุล)
ครู
ความคิดเห็นหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ..............................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ
(นางอุไรรัตน์ ศรวี งษ์ชัย)
หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ความคดิ เห็นรองผอู้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ................................................รองผอู้ ำนวยการ
( นายชาญ สวิ่ ไธสง )
รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนพุทไธสง
ความคิดเห็นผอู้ ำนวยการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ......................................................ผอู้ ำนวยการ
(นายประชยั พรสงา่ กุล)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนพทุ ไธสง
ภาคผนวก
• แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
๑. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่
๒. แบบสังเกตคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
• แบบประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
คำช้ีแจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการสงั เกตพฤตกิ รรมทนี่ ักเรียนปฏบิ ัติ
รายการ
รับผิดชอบ รับฟงั ความ นำเสนองาน มคี วามคดิ ทำงานเสร็จ
งานทีไ่ ดร้ บั คดิ เห็นของ ได้นา่ สนใจ รเิ ร่ิม ตรงตาม
เลขท่ี ชื่อ-สกุล มอบหมาย ผูอ้ ืน่ ( ๒ คะแนน ) สรา้ งสรรค์ เวลาท่ี
( ๒ คะแนน ) ( ๒ คะแนน ) ( ๒ คะแนน ) กำหนด
( ๒ คะแนน )
เกณฑ์การประเมิน ลงชอ่ื ............................................................ผปู้ ระเมิน
คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดมี าก (นายธนนั ณ์ แสนนอก)
คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี
คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู
คะแนน ๐-๔ ระดบั ปรับปรุง
แบบสงั เกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง ให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการสังเกตพฤตกิ รรมท่ีนักเรียนปฏบิ ตั ิ
รายการ
เลขที่ ชื่อ-สกลุ ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มั่นในการ รักความเป็นไทย สรุปผลการ
ทำงาน ประเมนิ
ผา่ น ไม่ ผา่ น ไมผ่ า่ น ผา่ น ไม่ ผา่ น ไม่
ผ่าน ผา่ น ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ ลงชอ่ื ...............................................................ผู้ประเมนิ
ผ่านต้งั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น (นายธนนั ณ์ แสนนอก)
ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู
การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)
การประเมนิ กจิ กรรมนใี้ หผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)
เร่อื ง การพูดรายงาน
ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒๑
(๙-๑๐ คะแนน) (๗-๘ คะแนน) (๕-๖ คะแนน) (ตำ่ กวา่ ๕ คะแนน)
เกณฑ์การประเมิน
การพูดรายงาน นำเสนอข้อมลู นำเสนอข้อมลู นำเสนอข้อมูล นำเสนอขอ้ มูล
เป็นลำดับมคี วาม เป็นลำดับมีความ เป็นลำดบั แต่การพูด เปน็ ลำดบั แตเ่ ป็น
ม่นั ใจ แสดงถึงการ มั่นใจ แสดงถงึ ติดขัดบา้ ง เพราะ ลกั ษณะของการอ่าน
เตรยี มตวั มาเปน็ การเตรียมตวั ความตน่ื เตน้ ขอ้ มลู ท่ี ตามเอกสารที่
อย่างดี ขอ้ มลู ท่ี มาเป็นอย่างดี นำเสนอนา่ สนใจ นำออกไปด้วย ขอ้ มูล
นำเสนอน่าสนใจใช้ ขอ้ มูลทีน่ ำเสนอ มสี อื่ ประกอบแตต่ ้อง ท่ีนำเสนอนา่ สนใจ
สอื่ ประกอบ น่าสนใจใชส้ อื่ ปรบั ปรุงรปู แบบ ไม่มีชือ่ ประกอบ
เหมาะสมเสียงดงั ประกอบเหมาะสม ใหน้ า่ สนใจข้ึน
ชดั เจนออกเสยี งคำ เสยี งดังชดั เจน ความดงั ของเสยี ง
ถกู ตอ้ งน้ำเสยี งน่า นำ้ เสยี งนา่ ฟัง ยังไมเ่ หมาะสม
ฟงั บคุ ลิกภาพใน บุคลิกภาพในการพูด ออกเสียงคำบางคำ
การพูดดี ดแี ต่ตอ้ งพัฒนา ไม่ชัดเจน
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๔
รายวิชา ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทยพน้ื ฐาน ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ กลอนดอกสรอ้ ยรำพงึ ในปา่ ชา้ จำนวน ๑๕ ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๔ กลอนดอกสรอ้ ย รอ้ ยถอ้ ยความ เวลา ๑ ชว่ั โมง
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ภาคเรียนที่ ๒
ผสู้ อน นายธนนั ณ์ แสนนอก ปีการศึกษา ๒๕๖๒
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา
และพลังของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติ
ของชาติ
๒. ตัวช้ีวดั
ท ๔.๑ ม. ๒/๓ แตง่ บทร้อยกรอง
๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นกั เรียนสรุปขอ้ บังคับและหลกั การแต่งกลอนดอกสรอ้ ย (K)
๒. นกั เรียนแต่งกลอนสด (P)
๓. นักเรยี นเหน็ ความสำคัญของการแต่งกลอนดอกสร้อย (A)
๔. สาระสำคญั
การแตง่ กลอนดอกสร้อยเป็นการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมทางภาษาอกี วิธหี นึ่ง
๕. สาระการเรยี นรู้
การแต่งกลอนดอกสรอ้ ย
๖. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
- ทักษะการเขยี น
๒. ความสามารถในการคิด
- การประยุกต์/การปรับปรุง
๗. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้
ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๑ ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น และเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
มงุ่ ม่ันในการทำงาน
ตัวช้ีวดั ท่ี ๖.๑ ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทีก่ ารงาน
ตัวชีว้ ัดที่ ๖.๒ ทำงานด้วยความเพยี รพยายาม และอดทนเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย
รักความเปน็ ไทย
ตัวชี้วดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
ตัวชีว้ ดั ท่ี ๗.๓ อนรุ ักษ์และสบื ทอดภูมิปัญญาไทย
๘. การจัดการเรียนรู้
ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
๑. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ จากคำถามของครู ดังน้ี
- นักเรียนรู้จักกลอนดอกสร้อยหรือไม่ (หากนักเรียนตอบไม่รู้จัก ครูให้นักเรียนท่อง
อาขยานบท แมวเอย๋ แมวเหมียว ๑ รอบ)
๒. นกั เรียนรบั ฟงั จุดประสงคก์ ารเรียนร้จู ากครูและเชอื่ มโยงเขา้ สู่การแต่งกลอนดอกสร้อย
ขนั้ สอน
๓. นักเรียนศึกษาข้อบังคับและหลักการในการแต่งกลอนดอกสร้อย โดยครูผู้สอนอธิบายให้
นกั เรยี นได้เขา้ ใจพร้อมยกตัวอยา่ งประกอบ
๔. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓ คน โดยช่วยกันแตง่ กลอนดอกสร้อยใหถ้ กู ต้องตามฉนั ทลกั ษณ์
จำนวน ๑ บท ในเวลา ๑๐ นาที ซง่ึ ครูจะเป็นคนขึ้นวรรคแรกให้ และให้แต่ละกลมุ่ เลอื ก ดังนี้
- ความเอ๋ยความรกั
- โรงเอย๋ โรงเรียน
- ความเอ๋ยความฝัน
- ดอกเอ๋ยดอกไม้
- คดิ เอ๋ยคดิ ถึง
๕. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มออกมาอ่านบทกลอนหน้าชั้นเรียน ครูและนักเรียน
รว่ มกนั ประเมนิ กลอน
ขน้ั สรุป
๖. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เรียน โดยครูใช้คำถามในแต่ละประเด็นเพื่อให้นักเรียนได้
สงั เคราะหค์ วามรู้
๙. ส่อื /แหล่งเรียนรู้
- หนงั สอื วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๒
- ผังฉนั ทลักษณ์ กลอนดอกสรอ้ ย
๑๐.การวดั และประเมินผล วิธวี ัด เกณฑก์ ารประเมิน
ตรวจผลงานนกั เรยี น ตามเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพ
เครอ่ื งมอื จริง การแตง่ กลอนดอกสรอ้ ย
๑.ชิ้นงาน เรื่อง แต่งกลอน
ดอกสรอ้ ย (K)
๒. แบบสังเกตการณเ์ ขา้ รว่ ม ประเมินการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม
กจิ กรรมกลุ่ม (P) ของนกั เรยี น กิจกรรมกลมุ่
คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก
คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี
คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้
คะแนน ๐-๔ ระดบั ปรบั ปรุง
๓.แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึง ประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ผา่ นตง้ั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผ่าน
ประสงค์ (A) ประสงค์ ผ่าน ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
๑. ใฝเ่ รยี นรู้
๒. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
๓. รกั ความเป็นไทย
บันทึกผลหลงั การสอน ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน ท๒๒๑๐๒ จำนวน ๑๕ ชวั่ โมง
หนว่ ยการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ กลอนดอกสร้อยรำพึงในปา่ ช้า เวลา ๑ ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑๔ กลอนดอกสร้อย รอ้ ยถ้อยความ
ผสู้ อน นายธนนั ณ์ แสนนอก
๑.การจัดการเรยี นการสอน
๑.๑ ด้านความรู้ (K)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๑.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๑.๓ ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๒.ปัญหาและอปุ สรรค
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .............................................................................ผสู้ อน
(นายธนันณ์ แสนนอก)
นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู
วนั ที.่ .........เดือน...........................................พ.ศ. ............
ความคดิ เห็นครพู เ่ี ล้ยี ง
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ......................................................ครูพเ่ี ล้ยี ง
(นางสาวภทั ราภรณ์ ละมุล)
ครู
ความคิดเห็นหวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ..............................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ
(นางอุไรรตั น์ ศรีวงษช์ ัย)
หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ความคิดเห็นรองผอู้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ................................................รองผ้อู ำนวยการ
( นายชาญ ส่วิ ไธสง )
รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นพทุ ไธสง
ความคดิ เห็นผอู้ ำนวยการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ......................................................ผอู้ ำนวยการ
(นายประชัย พรสงา่ กลุ )
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นพุทไธสง
ภาคผนวก
• แบบสงั เกตพฤติกรรม
๑. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
๒. แบบสังเกตคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
• แบบประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
• ผังฉนั ทลักษณก์ ลอนดอกสรอ้ ย
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
คำช้ีแจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการสงั เกตพฤตกิ รรมทนี่ ักเรียนปฏบิ ัติ
รายการ
รับผิดชอบ รับฟงั ความ นำเสนองาน มคี วามคดิ ทำงานเสร็จ
งานทีไ่ ดร้ บั คดิ เห็นของ ได้นา่ สนใจ รเิ ร่ิม ตรงตาม
เลขท่ี ชื่อ-สกุล มอบหมาย ผูอ้ ืน่ ( ๒ คะแนน ) สรา้ งสรรค์ เวลาท่ี
( ๒ คะแนน ) ( ๒ คะแนน ) ( ๒ คะแนน ) กำหนด
( ๒ คะแนน )
เกณฑ์การประเมิน ลงชอ่ื ............................................................ผปู้ ระเมิน
คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดมี าก (นายธนนั ณ์ แสนนอก)
คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี
คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู
คะแนน ๐-๔ ระดบั ปรับปรุง
แบบสงั เกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง ให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการสังเกตพฤตกิ รรมท่ีนักเรียนปฏบิ ตั ิ
รายการ
เลขที่ ชื่อ-สกลุ ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มั่นในการ รักความเป็นไทย สรุปผลการ
ทำงาน ประเมนิ
ผา่ น ไม่ ผา่ น ไมผ่ า่ น ผา่ น ไม่ ผา่ น ไม่
ผ่าน ผา่ น ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ ลงชอ่ื ...............................................................ผู้ประเมนิ
ผ่านต้งั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น (นายธนนั ณ์ แสนนอก)
ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู
การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)
การประเมนิ กิจกรรมน้ใี หผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เรื่อง การแตง่ กลอนดอกสร้อย
ระดบั คะแนน ๔๓ ๒๑
(๙-๑๐ คะแนน) (๗-๘ คะแนน) (๕-๖ คะแนน) (ตำ่ กวา่ ๕ คะแนน)
เกณฑก์ ารประเมนิ
การแต่งกลอน ฉนั ทลักษณ์ถูกต้อง ฉนั ทลกั ษณถ์ กู ต้อง ฉันทลักษณ์ถกู ต้อง ฉันทลักษณ์ถกู ตอ้ ง
ดอกสรอ้ ย เนอ้ื หาลกึ ซ้ึงกนิ ใจ เน้อื หาลึกซง้ึ กินใจ เน้ือหาดี เน้ือหาสมั พันธ์
แต่ละวรรคสอ่ื ส่อื ความหมาย สือ่ ความหมาย กบั หวั ข้อ
ความหมายชดั เจน สอดคลอ้ งกันทัง้ สอดคลอ้ งกนั ทั้งบท แต่บางวรรค
เลือกใชค้ ำไพเราะ บทมีสมั ผสั ในบาง ไม่ส่อื ความหมาย
มสี ัมผสั ในหลายแหง่ แหง่
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑๕
รายวิชา ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทยพน้ื ฐาน ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ กลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในปา่ ชา้ จำนวน ๑๕ ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๕ เรยี งความ เรยี งฝนั เรียงใจ เวลา ๑ ช่วั โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ภาคเรียนที่ ๒
ผ้สู อน นายธนนั ณ์ แสนนอก ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน
เร่อื งราวในรปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ และรายงานการศึกษาค้นควา้
อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
๒. ตัวชีว้ ัด
ท ๒.๑ ม. ๒/๓ เขียนเรียงความ
ท ๒.๑ ม. ๒/๘ มมี ารยาทในการเขยี น
๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรียนอธิบายรูปแบบเรยี งความ (K)
๒. นกั เรียนเขยี นเรยี งความเกี่ยวกับความฝันทอี่ ยากจะเป็น (P)
๓. นักเรียนเห็นความสำคัญของการเขียนเรียงความเกี่ยวกับประสบการณ์ และมีมารยาทในการ
เขียน(A)
๔. สาระสำคญั
เรียงความเป็นงานเขียนที่มีรูปแบบชัดเจน ประกอบด้วย คำนำ เนื้อเรื่อง และสรุป การเขียน
เรียงความเกี่ยวกับความฝันที่อยากจะเป็นจะต้องสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่
ผอู้ า่ น ผูเ้ ขยี นเรยี งความควรวางโครงเรอ่ื งใหช้ ดั เจนจึงจะทำให้เรียงความมีเอกภาพ น่าสนใจและชวนอา่ น
๕. สาระการเรียนรู้
การเขียนเรยี งความ
๖. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
- ทักษะการเขยี น
๒. ความสามารถในการคิด
- การประยกุ ต์/การปรบั ปรงุ
๗. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ใฝเ่ รียนรู้
ตัวชีว้ ัดที่ ๔.๑ ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียน และเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้
ม่งุ ม่ันในการทำงาน
ตัวชี้วัดที่ ๖.๑ ตง้ั ใจและรับผิดชอบในการปฏบิ ตั ิหน้าทีก่ ารงาน
ตวั ชีว้ ัดท่ี ๖.๒ ทำงานด้วยความเพยี รพยายาม และอดทนเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย
รักความเปน็ ไทย
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการสือ่ สารได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม
ตวั ชวี้ ัดท่ี ๗.๓ อนรุ ักษแ์ ละสบื ทอดภมู ปิ ญั ญาไทย
๘. การจดั การเรียนรู้
ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น
๑. นักเรียนร่วมกันดูตัวอย่างการเขียนเรียงความจากรุ่นพี่ จากนั้นให้ช่วยกันวิเคราะห์ว่า
เรียงความที่เป็นตัวอย่างมีข้อดีอย่างไรบ้าง (ชื่อเรื่องน่าสนใจ เทคนิคการเขียนคำนำน่าสนใจ เนื้อเรื่อง
ชดั เจน สรุปประทบั ใจปดิ ท้ายด้วยคำคม)
๒. นักเรียนรบั ฟงั จดุ ประสงค์การเรยี นรจู้ ากครแู ละเชื่อมโยงเขา้ ส่กู ารเขียนเรยี งความ
ขั้นสอน
๓. นกั เรียนศึกษาหลักการเขียนเรยี งความ โดยใช้คำถามตรวจสอบความเข้าใจดังน้ี
-เรียงความคอื อะไร (งานเขยี นท่ีมีลักษณะเฉพาะ คอื คำนำ เนอื้ เรื่อง และสรปุ )
-คำนำทนี่ า่ สนใจมีกลวธิ กี ารเขียนอยา่ งไรบา้ ง (เขยี นคำจำกัดความ คำคม สุภาษิต หรอื
คำประพันธ์มาใช)้
-เนอ้ื เรอ่ื งต้องเขียนอย่างไร (ต้องเขยี นจากประสบการณ์จรงิ และเป็นประโยชน์แกผ่ ้อู นื่ )
-สรุปควรมีลักษณะอย่างไร (เขียนสรุปแนวคิดทั้งหมด ตรงประเด็น อาจใช้คำคมหรือ
สภุ าษิตสรุปจะทำให้นา่ ประทับใจย่งิ ข้นึ ) ครอู ธิบายเพมิ่ เติม
๔. นกั เรยี นเขยี นเรยี งความในหัวข้อ “ฉนั อยากจะเปน็ ....”
๕. ครตู รวจผลงานนักเรยี นเป็นรายบุคคล
ขั้นสรุป
๖. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เรียน โดยครูใช้คำถามในแต่ละประเด็นเพื่อให้นักเรียนได้
สงั เคราะห์ความรู้
๙. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้
- หนงั สือหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๒
- ตัวอยา่ ง งานเขียนเรยี งความ