แผนการสอนมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชพี
วิชา เทคนคิ การผลติ ชิ้นสว่ นดว้ ยเครื่องมอื กล 1 รหัสวชิ า 30102–2001
หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สูง (ปวส.) พุทธศกั ราช 2563
ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม
สาขาวชิ าเทคนคิ การผลติ
จดั ทาโดย
นายคมุ ดวง พรมอินทร์
ตาแหน่ง ครู คศ.2
แผนกวชิ าชา่ งกลโรงงาน
วิทยาลยั เทคนคิ สว่างแดนดนิ
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
แบบคาขออนุมตั ิใช้แผนการจดั การเรยี นรู้
แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ
รายวชิ า เทคนคิ การผลิตชิน้ สว่ นด้วยเคร่ืองมอื กล1 รหัสวชิ า 30102-2001
ลงชื่อ.....................................................
( นายคมุ ดวง พรมอินทร์ )
ตาแหนง่ ครู คศ.2
ผตู้ รวจสอบแผนการจัดการเรยี นรู้
ลงชอื่ ............................................... ลงชื่อ...............................................
(นายสรุ ัตน์ โคตรปญั ญา) (นายคุมดวง พรมอินทร)์
หัวหน้าแผนกวิชาช่างกลโรงงาน หัวหนา้ งานพฒั นาหลักสตู รการเรยี นการสอน
ความเห็นรองผ้อู านวยการฝ่ายวิชาการ
..............................................................................................................
ลงชือ่ ……………………………………...
(นายทนิ กร พรหมอินทร์)
รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ
ความเหน็ ผ้อู านวยการวทิ ยาลัยเทคนิคสวา่ งแดนดิน
อนุมัติ ไม่อนมุ ัติ เพราะ.........................
ลงชื่อ............................................
( นางวรรณภา พว่ งกลุ )
ผ้อู านวยการวทิ ยาลัยเทคนคิ สวา่ งแดนดิน
คานา
แผนการสอนมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพเล่มนี้ จัดทาขึ้นโดยมจี ดุ มุ่งหมายเพ่อื เปน็ เอกสารประกอบการ
สอน วชิ า เทคนิคการผลติ ช้นิ ส่วนด้วยเครือ่ งมอื กล 1 รหัสวิชา 30102-2001 ตามหลกั สูตร
ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้ันสงู (ปวส.) พุทธศักราช 2563 สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ ซ่งึ ได้มีการวเิ คราะห์สาระการเรยี นรู้ให้สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะ
รายวชิ าและคาอธบิ ายรายวชิ าเนื้อหาสาระการเรยี นรภู้ ายในเอกสารประกอบการสอนนี้ มที ั้งหมด 5 หน่วย
ได้แก่
หน่วยที่ 1 หน่วยเครื่องกลงึ
หน่วยที่ 2 หน่วยเครอ่ื งกัด
หนว่ ยที่ 3 หน่วยเครือ่ งไส
หน่วยท่ี 4 หนว่ ยเครอื่ งเจียระไน
หน่วยที่ 5 หน่วยงานผลติ ชนิ้ ส่วนปากกาจับชนิ้ งานแบบหมุนได้
รายละเอยี ดแต่ละหนว่ ยประกอบด้วยโครงการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรยี น ใบ
เน้อื หา/ใบความรู้ แบบฝึกหัด ใบงาน แบบทดสอบหลงั เรยี น เฉลยแบบฝึกหัด เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
แบบทดสอบหลังเรียน บรรณานุกรมและภาคผนวก
หวังเปน็ อย่างยงิ่ วา่ เอกสารประกอบการสอนวิชา เทคนคิ การผลติ ชน้ิ สว่ นด้วยเครอ่ื งมือกล 1 ท่ีผู้
เรียบเรียงจัดทาขนึ้ จะเป็นประโยชน์ตอ่ ครูผสู้ อน ในวิชานี้ และนาไปเป็นแบบอยา่ งในการจดั ทาวชิ าอ่ืน
ต่อไป หากมีขอ้ เสนอแนะใดๆ ผ้เู รยี บเรยี งน้อมรับดว้ ยความยินดยี งิ่
ลงชื่อ.....................................
นายคมุ ดวง พรมอินทร์
ตาแหน่ง ครู คศ.2
หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ พุทธศักราช 2563
รหัสวชิ า 30102– 2001 วิชา เทคนคิ การผลติ ชนิ้ สว่ นดว้ ยเคร่อื งมอื กล1
จานวน 3 หน่วยกติ จานวน 7 ช่ัวโมง/สปั ดาห์
........................................................................................................................................................
จุดประสงค์รายวิชาเพ่อื ให้
1. เขา้ ใจหลกั การใช้เครื่องมอื กลในการผลิตช้ินส่วนเครื่องมือกล
2. ปฏบิ ัตกิ ารผลติ และตรวจสอบชิ้นส่วนเครอ่ื งมือกลไดต้ ามมาตรฐาน
3. มเี จตคติและกิจนสิ ยั ในการทางานดว้ ยความรบั ผิดชอบ มคี วามประณตี รอบคอบ ปลอดภัย
โดยตระหนกั ถึงคุณภาพงาน
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้เกยี่ วกบั การวางแผน กาหนดลาดับข้นั การผลติ
2. ผลิตชน้ิ สว่ นเครือ่ งมอื กล ลูกเบ้ียว เฟืองตรง เฟืองสะพาน เกลียวหลายปาก รางเลอ่ื น
3. วัด ตรวจสอบ ตามแบบสั่งงาน
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาและปฏบิ ัตเิ ก่ียวกบั การวางแผน กาหนดลาดับข้นั การผลิต และผลติ ชิน้ ส่วนเคร่ืองมอื กล ลูก
เบีย้ วเฟอื งตรง เฟืองสะพาน เกลยี วหลายปาก รางเล่ือน ใช้เครื่องมือกลและเครื่องมอื เลก็ (Hand Tools) ท่ี
เหมาะสมตามลักษณะงาน วดั ตรวจสอบตามแบบส่ังงาน บารงุ รกั ษาเคร่ืองมือกล ปฏบิ ัติงานตามหลัก
ความปลอดภัย
การวัดผล
คะแนนระหวา่ งภาค/ปลายภาค 60:20
ระหว่างภาค 1) แบบฝกึ หัด 10 %
10 %
2) ทดสอบหลงั เรียน
40 %
3) ใบงาน 20 %
4) คณุ ลกั ษณะพงึ ประสงค์
80 %
รวม 20%
วดั ผลสัมฤทธ(์ิ ปลายภาค)
100 %
รวม
หมายเหตุ คุณลักษณะพึงประสงค์ ได้แก่ การตรงต่อเวลา การมีระเบียบวินัย การต้ังใจเรียน การมี
น้าใจต่อครูและผู้ร่วมช้ันเรียน การแต่งกาย การมีความซ่ือสัตย์สุจริต การมีความเคารพต่อครูและ
เพ่ือนรว่ มชน้ั เรียน ฯลฯ
การประเมินผล (องิ เกณฑ)์
80 – 100 คะแนน ได้ผลการเรยี น 4.0 หมายถึง ผลการเรียนอย่ใู นเกณฑ์ดเี ยีย่ ม
75 – 79 คะแนน ได้ผลการเรียน 3.5 หมายถงึ ผลการเรียนอยูใ่ นเกณฑ์ดี
มาก
70 – 74 คะแนน ไดผ้ ลการเรียน 3.0 หมายถึง ผลการเรยี นอยูใ่ นเกณฑ์ดี
65 – 69คะแนน ได้ผลการเรียน 2.5 หมายถงึ ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี
พอใช้
60 – 64 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 2.0 หมายถึง ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑ์
พอใช้
55 – 59 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 1.5 หมายถึง ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑ์
อ่อน
50 – 54 คะแนน ไดผ้ ลการเรียน 1.0 หมายถงึ ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์
อ่อนมาก
50 คะแนน ไดผ้ ลการเรียน 0 หมายถงึ ผลการเรยี นต่ากว่าเกณฑ์ขน้ั ต่า
ตารางวเิ คราะห์เน้อื หา หน่วยที่ 1 - 5
ระดับ ปวส.
รหัสวิชา 30102– 2001 วิชา เทคนคิ การผลิต ช่ัวโมงรวม 126 ช่วั โมง
ชนิ้ ส่วนด้วยเคร่ืองมอื กล1
สาขาวิชา เทคนคิ การผลิต
พุทธพิ ิสยั
พฤตกิ รรม ความรู้
ความเข้าใจ
นาไปใ ้ช
วิเคราะห์
สังเคราะ ์ห
ประเ ิมน ่คา
ัทกษะพิสัย
ิจตพิสัย
1.เครอ่ื งกลึง
2. เครื่องกดั
3. เคร่ืองไส
4. เคร่ือง
เจียระไน
5. งานผลติ
ชนิ้ สว่ นปากกาจบั
ชิน้ งานแบบหมนุ
ได้
จุดประสงค์รายวิชา/มาตรฐานรายวิชา/คาอธิบายรายวิชา
รหัสวิชา 30102– 2001 วชิ า เทคนคิ การผลิตชิน้ ส่วนด้วยเครือ่ งมอื กล1
สาขางาน เครอื่ งมอื กล
สาขาวิชา เทคนคิ การผลติ ระดับชน้ั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพชั้นสงู (ปวส.)
วเิ คราะหเ์ นือ้ หา รหัสวิชา 2102– 2102 วิชา ผลิตชนิ้ สว่ นดว้ ยเคร่ืองมอื กล2
งานกลงึ งานกดั
งาน เทคนคิ การผลิต งานไส
ประกอบ ช้ินสว่ นด้วยเคร่ืองมอื
กล1
งาน
เจียระไน
โครงการสอน
รหัสวชิ า 30102– 2001 วชิ า เทคนิคการผลิตชิ้นส่วนดว้ ยเคร่อื งมอื กล1
จานวน 3 หนว่ ยกติ 7 ชวั่ โมง/สัปดาห์
หน่วยที่ ชอ่ื หน่วยการเรียนรูห้ ลกั หน่วยเรียนรูย้ อ่ ย จานวนชั่วโมง
1 เครื่องกลึง งานกลงึ 30
-งานปาดหน้า 24
2 เคร่อื งกดั -งานกลงึ ปอก 32
3 เครอ่ื งไส -งานกลงึ ตกรอ่ ง
-งานหลบมุม
-งานกลึงเกลยี วนอก
-งานกลึงเกลยี วใน
-งานกลงึ เรยี ว
-งานกลงึ เยื้องศูนย์
งานกดั
-งานกัดราบ (Horizontal
Millig Machines)
-งานกัดแนวตง้ั
(Vertical Millig Machines)
-งานกดั Rotary
-งานกัดเฟอื งตรง
-งานไส
-งานไสผวิ เรยี บ
-งานไสมุม
-งานไสร่องล่มิ
-งานไสบ่าฉาก
โครงการสอน
รหสั วชิ า 30102– 2001 วชิ า เทคนคิ การผลิตชิ้นส่วนด้วยเครื่องมือกล1
จานวน 3 หนว่ ยกติ 7 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
หนว่ ยท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นร้หู ลัก หน่วยเรียนรยู้ ่อย จานวนช่ัวโมง
4
เคร่ืองเจียระไน
งานเจียระไน 24
-งานเจียระไนราบ
-งานเจยี ระไนทรงกระบอก
-งานตรวจสอบช้ินงาน
-งานบารงุ รักษาเครื่องจักร
5 งานประกอบปากกาจบั งานประกอบ 16
-เพลาประคองปากกา
ชิน้ งานแบบหมุนได้ -เพลามือหมนุ ปากกา 126
-เกลียวนาเลื่อน
-แหวนลอ็ กเกลียวนาเลื่อน
-แหวนรองฐานหมุนปากกา
-แป้นลอ็ กฐานปากกา
-ฐานหมุนปากกา
-ปากจบั ปากกานาเลอ่ื น
-ปากจับปากกาตวั ประคองนา
เลื่อน
-สลกั ลอ็ กฐานปากกา
-ปากจบั ช้ินงาน
-สกรูM.4 x 0.7,M.5 x0.8
-ตรวจสอบช้นิ งาน
รวม
ข้นั ตอนการจัดกจิ กรรม
ขัน้ ตอนการสอน( กจิ กรรมครู) ข้ันตอนการเรียน (กิจกรรม พฤติกรรมที่สังเกต
(คุณลักษณะพึงประสงค์)
ผู้เรียน)
ทุกครั้งทีม่ กี ารเรียนการสอน
1. อธบิ าย วตั ถุประสงค์ นกั เรียนฟงั รายละเอยี ดในการ จะวัดลักษณะพงึ ประสงค์
(คุณธรรมจริยธรรม) ท่สี งั เกตได้
มาตรฐานรายวิชา และ เรยี น ได้แก่
- การตรงต่อเวลา
คาอธิบายรายวิชา - การมรี ะเบยี บวินยั
- การตง้ั ใจเรียน
2. อธิบาย เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน นักเรยี นฟงั ข้อตกลงและ - การมีมนุษยส์ ัมพันธ์
- การมีความซือ่ สัตย์สจุ รติ
และการประเมนิ ผลการเรียน หลกั เกณฑร์ ่วมกนั - การมีความเคารพตอ่ ครูและ
เพ่ือนร่วมช้นั เรยี น
ขนั้ ทดสอบ
1. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบ นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อน
ก่อนเรยี น (เวลา20 นาที) เรียนในเวลาท่ีกาหนด
ข้ันสอน
2. แจกเอกสารใบเน้อื หาหนว่ ยที่ นกั เรยี นรับเอกสารใบความรู้
1 เคร่ืองกลงึ เอกสารประกอบการสอน
ขน้ั ประเมนิ
3. มีการประเมนิ เปน็ รายบคุ คล นกั เรยี นทุกคนตัง้ ใจฟังไมเ่ ข้าใจ
4. มอบหมายให้นกั เรียนทา ให้ชักถาม
กิจกรรมตาม ใบงานที่ 1-8 นกั เรียนแตล่ ะคนปฏบิ ตั ติ ามใบ
เสริมการเรยี นรู้ งาน ที่ 1-8
5. ใหน้ ักศึกษาทาแบบทดสอบ
หลงั การเรยี น (เวลา30 นาที) นักเรยี นแตล่ ะคนทา
แบบทดสอบหลังเรียนและ
แบบฝกึ หดั ท้ายหนว่ ยท่ี 1 ใน
เวลาทกี่ าหนด
หนว่ ยที่ 1เคร่ืองกลึง
แบบทดสอบก่อนเรียน
คาชี้แจง 1. ข้อสอบมจี านวน 10 ขอ้ ๆ ละ 1 คะแนน ใช้เวลา 20 นาที
2. จงเลอื กคาตอบท่ถี กู ที่สุดเพียงขอ้ เดียว แล้วทาเครือ่ งหมาย () ลงในกระดาษคาตอบ
คาสั่ง: จงเลอื กคาตอบทถ่ี ูกทสี่ ดุ เพยี งข้อเดียว
1. ยนั ศนู ย์เครอ่ื งกลงึ มีมมุ รวมทปี่ ลายกอ่ี งศา
ก. 45 องศา ข. 55 องศา
ค. 60 องศา ง. 65 องศา
2. สามจับฟนั พรอ้ ม 1 ชุด มีกฟ่ี นั
ก. 2 ฟัน ข.3 ฟนั
ค. 4 ฟัน ง. ขอ้ ข และ ค ถูก
3. Cullet chuck มีลักษณะพิเศษตามข้อใด
ก. มขี นาดไม่แนน่ อน ข. มเี กลยี วปรบั ขนาด
ค. แขง็ ตัวตาย ง. ยืดหยนุ่ ได้
4.กนั สะทา้ นทต่ี ามปอ้ มมดี มีขาประคองชนิ้ งานกข่ี า
ก. 1 ขา ข. 2 ขา
ค. 3 ขา ง. 4 ขา
5. มดี กลึงขนาด ¼ ควรจับยึดแบบใด
ก. จับยดึ ด้วยห่วงพา
ข. จบั ยดึ ด้วยศูนยท์ ้ายแทน่
ค. จับยึดดว้ ยปอ้ มมดี
ง. จบั ยึดดว้ ยด้ามมีด
6. ขอ้ ดีของปอ้ มมดี มาตรฐานคอื ข้อใด
ก. จบั มดี ได้ 1 เลม่ ข. จบั มีดได้ 2 เล่ม
ค. จับมีดได้ 3 เล่ม ง.สามารถปรบั ระดบั สงู ตา่ ของปลายมีได้
7. ความเรว็ ตดั ในงานกลึงมหี น่วยวัดในขอ้ ใด
ก. มม./รอบ ข. รอบ/นาที
ค. เมตร/นาที ง. มม./นาที
8. การประกอบฟนั สามจบั มขี ัน้ ตอนตามข้อใด
ก. ใสฟ่ นั ตามลาดับ 1,2,3 ข. ใส่ฟนั ตามลาดบั 2,1,3
ค. ใสฟ่ นั ตามลาดับ 3,2,1 ง. ใสฟ่ ันตามลาดบั 3,1,2
9. เกลียวแบง่ ออกได้กชี นิด
ก.2 ชนิด ข.3 ชนดิ
ค.4 ชนดิ ง. 5 ชนดิ
10. สนั เกลยี วคอื ส่วนใดของเกลยี ว ข. ยอดเกลยี ว
ก. ความกว้างของยอดเกลียว
ค. ความสงู ของเกลยี ว ง. มุมเอยี งของเกลียว
11. ข้อใดไมอ่ ยใู่ นเกลียวสามเหลย่ี ม
ก. เกลียวเมตริก ข. เกลยี ว ISO
ค. เกลียวหนอน ง. เกลียวอเมรกิ นั
12. เกลียวสามเหลยี่ มมุมรวมยอดเกลียวกอี่ งศา
ก. 30 องศา ข. 45 องศา
ค. 55 องศา ง. 60 องศา
13. เกจสี่เหลย่ี มคางหมเู มตริกมมี มุ รวมปลายมีดกี่องศา
ก. 28 องศา ข. 29 องศ
ค. 30 องศา ง. 60 องศ
14.ขอ้ ใดเป็นการปฏิบัตงิ านกลึงท่ไี ม่ปลอดภัย
ก. สวมแว่นตานิรภยั ข. สวมถุงมอื กนั เป้อื น
ค. ไมส่ วมแวน่ และนาฬกิ า ง. สวมเสื้อใหร้ ัดกมุ
15. การป้อนกินลึกและอัตราป้อนขอ้ ใดท่ีถกู ตอ้ ง
ก.ถ้าป้อนกนิ ลึกมากตอ้ งใช้อตั ราปอ้ นเร็ว ข. ถ้ากลงึ หยาบตอ้ งใชอ้ ตั รา
ป้อนเรว็
ค.ถ้ากลึงละเอียดต้องใชอ้ ตั ราป้อนช้า ง. ถ้ากลึงละเอยี ดต้อง
ใชอ้ ตั รปอ้ นเรว็
หนว่ ยท่ี 1
เคร่ืองกลงึ
หัวเรือ่ ง (Topics)
1.1เครอ่ื งกลึงยันศนู ย์
1.2สว่ นประกอบทส่ี าคัญของเคร่อื งกลึงยันศูนย์
1.3 การใช้ความเรว็ รอบ ความเร็วตดั และอตั ราปอ้ ม
1.4 อุปกรณ์ประกอบของเคร่อื งกลงึ ยันศูนย์
1.5เกลยี วแบบต่างๆ
1.6 ฟอรม์ มดี ในการปฏบิ ัติงาน
1.7 เคร่อื งมือวัดสาหรับงานกลงึ
1.8ความปลอดภัยในงานกลึง
1.9การบารงุ รกั ษาเครื่องกลึง
แนวคิดสาคัญ (Main Idea)
เครอื่ งกลึง เป็นเครอ่ื งจกั รกลทสี่ าคญั ของช่างกลโรงงานสามารถทางานได้หลายชนดิ เช่นงานกลึงปาดหน้า
งานกลึกปอก งานกลงึ เกลียวสี่เหลี่ยมนอกและในงานกลึงเกลียวสี่เหลี่ยมคางหมนู อกและใน งานคว้านรู
งานพิมพ์ลาย งานกลึงเรียว และหากนาอุปกรณ์พิเศษมาติดตั้งจะสามารถทางานอย่างอื่นได้อีก เช่น
ตดิ ตั้งอปุ กรณ์เจียระไนจะสามารถเจียระไนบนเคร่ืองกลงึ ได้
สมรรถะย่อย (Element of Competency)
1. กลงึ ปอก กลงึ ปาดหน้าได้
2. กลึงเกลยี วสเี่ หลย่ี มคางหมูนอกและในได้
3. ควา้ นรูใน พิมพล์ าย กลึงเรยี วได้
4. ใชอ้ ุปกรณ์พิเศษในการติดต้งั กบั เครื่องกลึงได้
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (Behavioral Objectives)
1. บอกลกั ษณะเคร่ืองกลงึ ยันศนู ยไ์ ด้
2. บอกส่วนประกอบทีส่ าคัญของเครื่องกลงึ ยนั ศูนยไ์ ด้
3. บอกเคร่ืองมอื และอปุ กรณท์ ใี่ ช้กบั เคร่ืองกลงึ ยันศูนยไ์ ด้
4. อธิบายข้นั ตอนการทางานของเครื่องกลงึ ยันศนู ย์ได้
5. ต้องคานวณความเรว็ รอบความเร็วตดั ในงานกลึงได้
6. บอกชนดิ เกลียวแบบตา่ งๆได้
7. บอกวธิ ีการบารุงรกั ษาเครือ่ งกลึงยันศูนยไ์ ด้
8. อธบิ ายความปลอดภัยในการใช้เครื่องกลึงยันศนู ยไ์ ด้
เนือ้ หาสาระ (Content)
1.1 เคร่อื งกลงึ ยันศนู ย์
เครื่องกลึงยันศูนย์ (Engine Lathe)เป็นเคร่ืองกลึงขนาดเล็กใช้กลึงงานท่ีชิ้นงานไม่ใหญ่มากนักใช้งานได้
หลายอยา่ ง เชน่ งานกลงึ ปาดหนา้ งานกลกึ ปอก งานกลึงเกลยี วสเี่ หลีย่ มนอกและใน งานกลึงเกลียวส่ีเหลยี ว
คางหมนู อกและใน งานคว้านรู งานพมิ พล์ าย งานกลงึ เรียว เปน็ ตน้
รูปท่ี 1.1เครอื่ งกลงึ เยือ้ งศูนย์
ทม่ี า: http://sahachaimachinery.lnwshop.com
1.2 ส่วนประกอบท่สี าคัญของเคร่ืองกลงึ ยันศูนย์
1.2.1 ชดุ หัวเครื่องกลึง (Head Stock) เป็นส่วนท่ีอยู่ซ้ายสุดของเคร่ือง ใช้ในการจับหัวจับ
หรือทาให้ช้นิ งานหมุนด้วยความเร็วรอบต่างๆ ซ่งึ ประกอบดว้ ยสว่ นท่สี าคัญ ดงั นี้
ชดุ สง่ แขนปรบั ควำมเร็วรอบ เพลำจับชน้ิ งำน ชุดเฟืองปรับควำมเร็วรอบ
กำลัง
ชดุ เฟอื งทดสง่ กำลงั
แขนปรับกลงึ เกลยี ว ชดุ เพลำจบั ชน้ิ งำน
(ก) ชดุ หัวเคร่ืองกลึง (ข) หัวเครื่องกลึงท่สี ง่ กาลังดว้ ยชดุ เฟอื ง
รูปที่ 1.2 ชดุ หัวเครื่องกลึง
1.ชุดสง่ กาลงั (Transmission) เครอ่ื งกลึงจะสง่ กาลงั ด้วยมอเตอรไ์ ฟฟ้าโดยผ่านสายพานลม่ิ
(V-Belt) และผ่านชุดเฟอื ง (Gear) ท่ีสามารถปรับความเรว็ รอบได้หลายระดบั เพื่อไปขบั เพลาหวั จับงาน
(Spindle) ใหห้ มุน
2. แขนปรับความเร็วรอบ (SpindleSpeed Selector) ที่อยสู่ ่วนบนหรอื ส่วนหน้าของหัว
เครอ่ื งใชส้ าหรับโยกเฟอื งท่อี ยภู่ ายในหัวเคร่ืองให้ขบกนั เพ่ือท่ีจะใหไ้ ดค้ วามเร็วรอบตามท่ีต้องการ
3.แขนปรับกลึงเกลยี ว (Lead Screw and Thread Rang Level) เป็นแขนหรือป่มุ สาหรับ
ปรบั เฟอื งในชุดของกลอ่ งเฟอื ง (Gear Box) เพ่ือกลึงเกลียวด้วยระยะฟิตซ์ (Pitch) โดยท่เี พลากลงึ เกลียว
(Lead Screw) หมุนขับป้อนมีดให้เดินกลึงเกลยี วบนช้นิ งาน
4. เพลาจับชน้ิ งาน (Spindle) เปน็ เพลากลวงเป็นฐานทะลุทีป่ ลายเพลาจะทาเปน็ เรยี ว
(Taper) แบบมอส (Mores Taper) เพอ่ื ใชย้ ดึ หัวจับงาน (Chuck) หรืออุปกรณ์จบั งานอ่นื ๆ
1.2.2. ชดุ แท่นเลือ่ น (Carriage) ชดุ แท่นเล่ือนเปน็ สว่ นทเี่ ลอื่ นไปมาตามความยาวหวั เครื่องและ
ทา้ ยเคร่ืองใช้สาหรับจบั ยดึ มดี ตดั เพอื่ ปอ้ นตดั ช้นิ งานทัง้ ในแนวขนานและแนวขวางกบั หัวเครือ่ งซ่ึงมี
ส่วนประกอบดงั นี้
แครค่ รอ่ ม
ป้อมมดี สะพำนแทน่ เลอ่ื น
แท่นเล่ือนบน
แทน่ เล่อื นขวำง
ชดุ กลอ่ งเฟอื ง
รูปท่ี1.3ชุดแทน่ เลื่อน
ที่มา : มนสั นิระโส, 2559
1. แครค่ ร่อม (Saddle) เป็นส่วนทีอ่ ยบู่ นสะพานแท่นเคร่อื ง (Bed) เพือ่ ยอมรับชุดปอ้ มมีด
และชดุ กลอ่ งเฟืองแคร่คร่อมสามารถเล่อื นไปมาในแนวนอนซึง่ ใช้ในงานกลงึ ปอก
2. แท่นเลือ่ นขวาง (Cross Slide) เป็นส่วนท่ียึดอยู่บนแครค่ รอ่ ม สามารถเลอ่ื นไปมา
ดว้ ยสกรใู ช้ในการกลงึ ปาดหน้าหรือป้อนลึก
3. แท่นเลือ่ นบน (Compound Rest) เป็นส่วนทยี่ ดึ อยบู่ นแท่นปรบั องศาสามารถเลอื่ น
ไปมาด้วยสกรใู ช้ในการกลงึ เรียว (Taper) หรอื กลึงมุมต่างๆ
4. ป้อมมดี (Tool Post) เปน็ สว่ นทอ่ี ยบู่ นสดุ ใช้จับยดึ มีดกลงึ มีดคว้าน สาหรบั กลึงงาน
ปอ้ มมดี มีหลายชนิดและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับมีดตดั ตา่ งๆ
5. ชุดกล่องเฟอื ง (Apron) เปน็ ส่วนท่ีอย่ดู า้ นลา่ งสดุ ของชุดแท่นเลอื่ นภายในกลอ่ งเฟอื ง
จะมีเฟืองและกลไกต่างๆทจี่ ะใชข้ ับให้ชุดแทน่ เล่ือนเคลื่อนทไี่ ปมาในแนวขนานในงานกลึงปอก งานกลึง
เกลยี วและแนวขวาง
1.2.3. ชดุ ท้ายแทน่ (Tail Stock)เปน็ ส่วนของเคร่ืองกลงึ ทอ่ี ย่ขู วามอื ท้ายสุดของเครอื่ งกลึงใช้
สาหรับจับยนั ศูนย์ (Lathe Center) เพื่อใชใ้ นการประคองชิน้ งานท่ีกลึงชิ้นงานยาวๆเพื่อปอ้ งกันไม่ให้ชิน้ งาน
สั่งและเป็นส่วนท่หี ัวจับสว่ น (Drill Chuck) เพื่อจับดอกสวา่ น (Drill) ดอกเจาะยันศนู ย(์ Center Drill) และยงั
สามารถเยือ้ งศนู ย์ เพ่ือใช้ในการกลึงเรียวไดอ้ กี
1.2.4.สะพานแทน่ เคร่อื ง (Bed) เป็นส่วนทใ่ี ช้รองรบั ส่วนตา่ งๆของเครอ่ื งกลงึ ทที่ าจากเหล็กหลอ่ ซึ่งราง
เล่อื นเป็นแบบ (BedWay) รปู ตัววีคว่าและสว่ นแบบรางเลอ่ื นจะผ่านการชบุ ผวิ แขง็ และขูดระดบั มาแล้วจึง
ยากตอ่ การสกึ หรอ
1.3 การใช้ความเร็วรอบ ความเรว็ ตดั และอตั ราป้อนงานกลึง
1.ความเรว็ รอบ (Speed) หมายถงึ ความเรว็ รอบของชิ้นงานหรือความเรว็ รอบของเครอื่ งมอื ตัด
ทหี่ มุนได้ในเวลา 1 นาที หน่วยวัดเป็นขอบตอ่ วินาที
2.ความเรว็ ตดั (Cutting Speed) หมายถงึ ความเร็วที่คมมดี ตดั หรือปาดผิวโลหะออกเมอ่ื
ชิ้นงานหมนุ ไปครบ 1รอบ ซง่ึ มดี ตัดจะตอ้ งปาดผิวโลหะออกเปน็ เส้นยาวเท่ากบั รอบวงของช้นิ งานพอดี
หนว่ ยวดั ความเรว็ ตดั คิดเป็นเมตรตอ่ นาที
3.อตั ราป้อน (Feed) หมายถึง การเคลอ่ื นที่ของมดี ตัดหรอื เคลอ่ื นทีข่ องงานต่อการหมนุ ของ
ชิ้นงานหรือการหมนุ ของมดี ตดั 1 รอบ หน่วยวดั เป็นมลิ ลเิ มตร ดงั นั้นอตั ราการปอ้ นมหี น่วยเป็นมิลลเิ มตร
ตอ่ รอบ
ขอ้ ควรระวงั ในการเลื่อนความเรว็ ตัดให้เหมาะสมในงานกลงึ
1.ชิ้นงานทมี่ คี วามแขง็ C22 จะใชค้ วามเร็วตัดต่ากวา่ ช้ินงานที่เปน็ เหลก็ St37
2. เครื่องมือคมตัด เช่น มีดกลึง ดอกสว่าน ดอกเจาะนาศูนย์ มีดกัดท่ีทาจากเหล็กรอบสูง High
Speed Steel(HSS)จะใช้ความเร็วตดั ตา่ กวา่ มดี ตัดท่ที าจากเหลก็ คาร์ไบด์ (Carbide)
3.การตัดเฉอื นชิ้นงานทลี ะนอ้ ยจะใชค้ วามเร็วรอบสงู กวา่ การป้อนทลี ะมากๆ
4.ชน้ิ งานทม่ี กี ารหล่อเยน็ จะใช้ความเร็วตัดไดส้ งู กว่าการกลึงชิ้นงานท่ไี ม่ได้การหลอ่ เย็น
5.ชนิดและขนาดของเคร่อื งจักรกลท่ีมขี นาดใหญ่และเครื่องใหม่จะสามารถใช้กลึงงานไดเ้ ร็วกว่า
และใช้ความเรว็ ตดั ครัง้ ละมากกวา่
การคานวณความเร็วตดั และความเรว็ รอบท่เี หมาะสมกบั ช้นิ งาน
จากสตู ร ความเร็วตัด
V = .d.nเมตร/นาที
1,000
V = ความเรว็ ตดั (เมตร/นาที)
d = ความเร็วรอบของชิน้ งานหรอื ของมดี (รอบ/นาท)ี
= คา่ คงที่ = 3.14
n = ความเร็วรอบช้ินงาน
ตัวอยา่ งท่ี 1.1 ตอ้ งการกลงึ เหลก็ กลมความโต 30 มม.ด้วยความเรว็ รอบ 300 รอบ/นาที จง
คานวณหาความเร็วตดั
วิธีทา V = .d.nเมตร/นาที
1,000
= 3.14x30x300
1,000
ความเร็วตดั = 28.26 เมตร/นาที ตอบ
จากสตู ร ความเร็วรอบ
N = Vx1,000 รอบ/นาที
.d
ตัวอย่างที่1.2 ตอ้ งการกลงึ ชิน้ งานที่มีความโต 25 มม. ความยาว 250 มม. โดยใช้ความเร็วตดั 20
เมตร/นาที จงคานวณหาคา่ ความเร็วรอบในการกลงึ งานช้ินนี้
วิธที า n = Vx1,000 รอบ/นาที ตอบ
=
.d
ความเร็วรอบ =
20x1,000
3.14x25
254.77 รอบ/นาที
1.4 อปุ กรณป์ ระกอบของเครือ่ งกลึงยนั ศูนย์
1.4.1 หวั จับฟนั พร้อม (Three Jaw Self Center Chuck) Three Jaw Self Center Chuck หัวจบั
ฟนั พร้อมหรอื เรียกวา่ หวั จบั 3 จบั เป็นอุปกรณท์ ี่ใชจ้ บั ยดึ ช้ินงานที่มลี ักษณะกลมหรือทรงกระบอก การ
เคล่ือนที่ของปากจับแต่ละฟันจะขึ้นตรงต่อกนั
1. ลกั ษณะของหัวจับฟันพร้อม แบง่ ได้ 2 ลกั ษณะ
(1) Inside Jaw เปน็ ฟันใช้จับงานภายใน
(2) Outside Jaw เป็นฟันใช้จบั งานภายนอก
ฟนั ตรงใช้จับงำน ฟันกลบั ใช้จบั งำน
ภำยใน ภำยนอก
รปู ท่ี 1.4หัวจับฟันพร้อม
ท่ีมา : มนสั นิระโส, 2559
2. ส่วนประกอบของหวั จบั ฟันพร้อม
(1)ฟนั จบั งาน (Jaw)
(2)แกนเฟอื ง
(3) รใู ส่ประแจขนั ฟนั จบั ให้เคลอ่ื นเขา้ ออก
(4) จานเฟืองเฉียงจะขบกับแกนเฟอื ง เมอื่ ใชป้ ระแจขัน (Key Chuck) จะทาใหฟ้ นั เฟอื งจับ
เคล่อื นท่ี
(5) เกลยี วกน้ หอยเปน็ ตวั ขับใหฟ้ ันจบั เคลอื่ นเขา้ ออก
(6) ฟนั เกลยี วของฟนั จับเปน็ ส่วนท่ีรับการขบั มาจากเกลียวก้นหอยให้ฟนั จบั เคลอ่ื นเข้าออก
และฟันจับจะได้ศูนยด์ ้วย Self Centering Jaws
(7) รอ่ งฟันจบั (Slot Jaws)
หมำยเลข 2 หมำยเลข 3
หมำยเลข 1
ลักษณะหวั จบั ไม่
มฟี นั จบั ฟันจับจะเรยี งตามหมายเลข ฟันจับหมายเลขท่ี 1 ใสก่ ่อน
ฟันจบั หมายเลขท่ี 2 ฟนั จบั หมายเลขที่ 3 ลกั ษณะหวั จับแบบฟันพรอ้ ม
รูปท่ี 1.5การประกอบของหัวจับฟันพร้อม
ทีม่ า : มนสั นริ ะโส, 2559
1.4.2 หัวจบั ฟนั อิสระ (Four Jaw Indecent chucks) Four Jaw Indecent chucks หัวจับฟันอิสระ
หรือหัวจับแบบ 4จับ ลักษณะฟันแต่ละฟันสามารถเคลื่อนที่เป็นอิสระซึ่งกันและกัน หัวจับฟันอิสระมี
ความสามารถในการจับยึดชิ้นงานให้มคี วามม่ันคงและเที่ยงตรงมากกวา่ หัวจับแบบฟันพร้อม แต่ใช้เวลาใน
การจับงานมากกว่า
ฟันจบั มี 4 ฟันอสิ ระตอ่ กนั
รปู ท่ี1.6หวั จบั ฟันอิสระ
ท่มี า : มนสั นิระโส, 2559
ลักษณะการจับยดึ ช้ินงานด้วยฟนั อสิ ระ
1. การจับชนิ้ งานท่มี ีขนาดใหญ่ ซ่ึงไม่สามารถจับชน้ิ งานในลกั ษณะปรกติได้ ดังนน้ั จึง
จาเป็นต้องถอดสกรูออกและกลบั ทางฟัน
2. การจบั ชิ้นงานทมี่ รี ูในโต เชน่ พวกทอ่ สามารถทาไดโ้ ดยการขันฟนั ถ่างออก
3. การจับชิน้ งานท่มี ีรูปทรงอนื่ ๆสามารถทาได้โดยการเลอ่ื นฟนั จับแต่ละฟันเข้าหา ศูนย์กลาง
ของช้นิ งานโดยเช็กหาศูนย์โดยใช้ขอช้าง นาฬกิ า (Dial Gauge) หรืออปุ กรณ์อืน่ เขา้ ช่วย
รปู ที่ 1.7ลกั ษณะการจับยึดช้นิ งานดว้ ยฟนั อิสระ
ท่มี า : มนัส นริ ะโส, 2559
1.4.3 ศูนยท์ า้ ยแท่นเครื่องกลงึ ศนู ยท์ า้ ยแท่นเคร่อื งกลงึ ในการกลึงชนิ้ งานที่มคี วามยาวมากจาเปน็ ตอ้ ง
มยี นั ศูนยป์ ระคองชนิ้ งานไมใ่ ห้สนั่ ขณะกลึงช้นิ งาน ยันศนู ย์เครือ่ งกลงึ สามารถแบ่งได้หลายชนิด
ลาตวั ศนู ยท์ า้ นแทน่
ยนั ศนู ยป์ ระคอง คนั โยกลอ็ กฐาน
มือหมนุ
รปู ท่ี 1.8ศูนยท์ ้ายแทน่ เคร่อื งกลงึ
ทม่ี า : มนัส นริ ะโส, 2559
1. ยันศูนย์ตาย (Dead Center) มีมุมรวม 60 องศา และมีก้านเรียว มาตรฐานมอร์ส ทา
ด้วยเหลก็ รอบสูง กอ่ นใช้ให้ทาจารบีหรือผงคาร์ไบดเ์ พ่ือช่วยระบายความรอ้ นทุกครง้ั
รูปท่ี 1.9ยันศูนย์ตาย (Dead Center)
ทม่ี า : มนัส นริ ะโส, 2559
2.ยันศนู ย์หมุน (Revolving Dead Center) หรอื ยนั ศนู ยเ์ ป็น (Live Dead Center)
ภายในประกอบดว้ ยตลบั ลูกปืน ในขณะใชง้ านชิน้ งานกับยนั ศูนย์จะหมุนไปด้วยกัน
รูปท่ี 1.10ยันศนู ย์หมนุ
ทม่ี า : มนสั นริ ะโส, 2559
3. ยันศูนยท์ ้ายแบบปรับได้ (Micro set adjustable dead center) เปน็ ยนั ศนู ยท์ ี่ปรบั
เยอ้ื งศูนยเ์ พื่อกลงึ เรยี วบนชนิ้ งานทก่ี ลึงระหว่างศนู ยส์ ามารถปรับศนู ยง์ า่ ยและรวดเร็ว
รปู ท่ี 1.11 ยันศนู ยท์ ้ายแบบปรับได้
ทีม่ า : https://www.google.co.th/search?q=Micro+set+adjustable+dead
4. ยนั ศนู ยต์ วั ขับชน้ิ งาน (Self Driving Center) เปน็ ยนั ศนู ยท์ ี่จับยดึ ท่แี กนเพลาหวั เคร่อื ง
จะมีขนาดใหญ่กวา่ ยันศนู ย์ตายท้ายแท่น จะใช้กบั งานทตี่ ้องการกลึงในครั้งเดยี วใหเ้ สร็จ ไม่สามารถจับด้วย
หวั จับหรอื หว่ งพาไดช้ ้นิ งานส่วนใหญ่จะเปน็ ชิน้ งานออ่ น เชน่ อะลมู ิเนียมฯลฯ
รูปท่ี 1.12 ยนั ศูนยต์ ัวขับชน้ิ งาน
ทีม่ า : มนัส นิระโส, 2559
1.4.4 หนา้ จาน (Face plate)ใช้สาหรบั ยึดชิ้นงานที่มขี นาดใหญ่หรอื มรี ูปรา่ งทไ่ี มส่ ามารถ
จับยึดด้วยหัวจับแบบต่างๆได้
รปู ท่ี 1.13 หนา้ จาน
ทมี่ า : มนัส นิระโส, 2559
1.4.5 กนั สะท้าน กนั สะทา้ นเปน็ อปุ กรณ์ท่ีใช้รองรับชนิ้ งานทม่ี คี วามยาวมาก ทีน่ ามากลึงหรอื
นามาเจาะ บนเครื่องกลงึ ซง่ึ มี 2 ชนดิ คือ
1. กันสะทา้ นนิ่ง (Steady Rest) ใช้สาหรับรองรบั ช้ินงานท่ียาวมาก กันสะท้านนง่ิ จะยึดอยู่
บนรางเล่อื นของเคร่อื งกลึง กันสะทา้ นมีขาประคองงาน 3 ขา สว่ นปลายขาเปน็ พลาสติก ทองแดง หรือเป็น
ลกู กลิง้
2. กนั สะทา้ นตาม (Follow Rest) จะยึดอยู่บนอานมา้ จะเคล่อื นท่ไี ปพรอ้ มแท่นเลื่อน กัน
สะทา้ นทาหนา้ ท่ีประคองการโกง่ งอของชนิ้ งานขณะกลงึ งานซ่ึงมขี าประคอง 2 ขา อยู่ตรงกบั มีดกลึง
(ก) กนั สะทา้ นตาม 2 ขา (ข) กันสะทา้ นน่งิ 3 ขา
รปู ท่ี 1.14 กนั สะทา้ นแบบตา่ ง ๆ
ทีม่ า : มนสั นริ ะโส, 2559
1.4.6 ห่วงพา (Lathe Dog)Lathe Dog ใช้จบั ยดึ ช้ินงานท่ีกลึงระหว่างศูนย์ห่วงพาจะมีสว่ นท่ี
เป็นหางย่ืนออกมา เพื่อขัดกับจานพาที่จะให้ช้นิ งานหมนุ ตามขณะกลึง
รปู ที่ 1.15 ห่วงพาแบบต่างๆ
ที่มา : มนสั นิระโส, 2559
1.4.7 อปุ กรณ์ทจ่ี ับยึดเครื่องมอื อปุ กรณ์ท่ีจับยึดเครื่องมือ ประกอบดว้ ยด้ามจับมดี กลงึ ดา้ ม
จบั มดี กลึงเกลียว ด้ามมีดควา้ น ปอ้ มมดี ฯลฯ
1. ดา้ มจับมดี ตัด (CuttingOff หรอื Parting Tool) ใชจ้ ับมีดตัดเพ่อื ตัดหรือตกร่อง
(ก) ดา้ มมดี ตดั ซา้ ย (ข) ด้ามมีดตัดตรง (ค) ด้ามมดี ตัดขวา
รปู ที่ 1.16 ด้ามจับมีดตัด
ทมี่ า : http://www.ebay.com/
2. ด้ามจับมีดคว้าน (Boring Tool Holder) เปน็ ด้ามมดี ท่ีใชใ้ นการคว้านรู
รูปท่ี 1.17 ด้ามจบั มีดคว้าน
ทม่ี า : http://www.directindustry.com/
รูปที่ 1.18 ดา้ มมีดควา้ นกนิ ชิ้นงานปานกลาง
ทม่ี า : http://www.abmtools.net/
1.4.8 ปอ้ นมีด (Tool posts) ปอ้ นมดี ใช้สาหรับจับยดึ มีดกลึงชนดิ ต่างๆ ดงั น้ี
1. ปอ้ มมดี มาตรฐาน (Standard or Round tool Post) จะเป็นป้อมมดี ท่มี ีลกั ษณะมรี อ่ ง
4 ด้านสาหรับใส่มีด สามารถปรับหมนุ ได้ 360 องศา
รูปท่ี 1.19 ปอ้ มมีดมาตรฐาน
ที่มา : มนสั นริ ะโส, 2559
1.4.9 ล้อพมิ พ์ลาย (Knurling) ล้อพิมพ์ลา เปน็ อปุ กรณ์ทีใ่ ชพ้ ิมพ์ลายบนชิน้ งาน เพ่อื ทาใหจ้ ับงานได้ม่นั คง
และสวยงาม ล้อพมิ พ์ลายมีท้ังลายตรงและลายขวาง
รูปที่ 1.20 ล้อพมิ พ์ลาย
ท่ีมา : มนัส นริ ะโส,2559
1. ล้อพมิ พล์ าย มีท้งั ลายขวางและลายตรงผู้ใช้ต้องเลอื กให้เหมาะสมกบั งาน
ลายตรง
ลายขวาง
รปู ท่ี 1.21 ล้อพิมพล์ ายแบบตา่ ง ๆ
ทม่ี า : http://knurlingwheel.blogspot.com/
2. ชนิ้ งานที่เกดิ จากการพิมพ์ลาย
รูปท่ี 1.22 ชิ้นงานทเี่ กิดจากการพิมพ์ลาย
ที่มา : มนัส นิระโส, 2559
1.4.10 ดอกเจาะนาศนู ย์ (Center Drill) ดอกเจาะนาศูนย์ เป็นอปุ กรณท์ ่ีจาเป็นอย่าง
หน่ึงของงานกลงึ เปน็ อปุ กรณ์เจาะรนู า ทาใหเ้ จาะรไู ด้ตรงตาแหนง่ แมน่ ยาข้นึ เมอ่ื นาดอก
สว่านเจาะ
รูปที่ 1.23 ดอกเจาะนาศนู ย์
ทมี่ า : มนสั นิระโส,2559
1.5 เกลยี วแบบตา่ งๆ
เกลียวท่ีใช้งานทั่วไปทาหนา้ ท่ีจับยึดช้ินงานโดยสามารถถอดเข้า-ออกไดโ้ ดยชิ้นงานไม่เสยี หาย
สว่ นประกอบทส่ี าคัญของเกลียว
ความลกึ ของเกลียว ระยะพติ รอ่ งเกลยี ว
สนั เกลียว
Ø ยอดเก ีลยวนอก
Ø โคนเก ีลยว แกนเกลียว
มมุ เอียงเกลียว มมุ เกลยี ว
รูปที่ 1.24 ส่วนสาคัญของเกลียว
ที่มา : http://www.bspwit.ac.th/
1. เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางของยอดเกลียว (Major Dimeter) คอื ขนาดเส้นผ่านศนู ยก์ ลางทใ่ี หญ่ท่สี ุด
ของยอดเกลยี วนอก
2. เสน้ ผา่ นศูนย์กลางของโคนเกลยี ว (Minor Diameter) คือ ขนาดเสน้ ผา่ นศนู ย์กลางความลึกของ
เกลียว
3. ความลึกของเกลยี ว (Depth) คอื ความลึกของเกลยี วทีว่ ดั จากยอดเกลยี วถงึ โคนเกลียวใน
แนวดงิ่
4. ระยะพติ ซ์ (Pitch) คอื ระยะห่างระหว่างฟันเกลยี ววัดจากยอดเกลยี วหน่งึ ถึงอกี ยอดเกลยี วหนึ่ง
5. มุมเกลียว (Thread Angle) คอื มุมของฟนั เกลยี ว เกลียวมี 2 ลกั ษณะ คอื เกลียวนอก (สลกั
เกลยี ว)และเกลยี วใน (แป้นเกลียว)ที่รวมเปน็ มมุ เกลียว
6. รอ่ งเกลียว คอื รอ่ งท่ีเกิดข้นึ บนผิวงานวนไปรอบๆจะซา้ ยหรือขวาก็ไดด้วยระยะทางทส่ี ม่าเสมอ
7. มุมชนั สนั เกลียวคอื มุมเอยี งของเกลียว
8. แกนเกลยี วคือก่งึ กลางของความโตเกลียว
9. สันเกลยี วคือความกว้างของยอดเกลียว
ชนดิ ของเกลยี ว แบง่ เป็น 5 ชนดิ ดงั น้ี
1. เกลยี วสามเหลย่ี ม
(1) เกลยี วเมตรกิ (M-Thread)
(2) เกลยี ว ISO
(3) เกลียววติ เวอร์ต
(4) เกลียวอเมรกิ ัน
(5) เกลยี วยนู ไิ ฟด์
(6) เกลียวสามเหลีย่ มยอดแหลม
2. เกลยี วสเี่ หลย่ี ม
3. เกลียวสี่เหลย่ี มคางหมู
(1) เกลยี ว Tr
(2) เกลียว Aeme
(3) เกลียวหนอน
4. เกลียวกลม
5. เกลียวฟนั เลื่อย
เกลียวแบ่งตามลกั ษณะหนา้ ที่ไดห้ ลายแบบตามข้างต้นซงึ่ แตล่ ะแบบมลี กั ษณะการใชง้ าน
แตกต่างกนั ไดด้ ังนี้
1.5.1 เกลียวสามเหล่ยี ม
เกลียวสามเหล่ียม คอื เกลยี วท่มี พี ืน้ ท่ีหนา้ ตดั เป็นรูปสามเหลี่ยม มีทงั้ เกลยี วที่เป็นระบบ
เมตรกิ และระบบอังกฤษ
รูปท่ี 1.25 สว่ นสาคญั ของเกลียวสามเหล่ยี ม
ท่มี า : https://sites.google.com/
ส่วนตา่ งๆทสี่ าคัญของเกลยี วสามเหลยี่ ม
1. เสน้ ผ่านศนู ย์กลางยอดเกลยี วโตนอก (d, D)
2. ระยะพิตชข์ องเกลยี ว (P)
3. ความโตของเสน้ ผ่านศูนยก์ ลางโคนเกลยี ว (d1 , D1)
4. ความยาวเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางที่วงกลมพิตช์ (d2 , D2)
5. ความลกึ เกลยี ว (t1)
6. รัศมีโค้งทที่ ้องเกลียว (R)
7. ขนาดรูเจาะเพ่ือทาเกลียว (TDS) คือ การนาระยะพติ ชไ์ ปลบด้วยความโตของเกลียว จะ
ไดข้ นาดความโตของสว่านที่ใช้เจาะรู
1. เกลยี วเมตรกิ ธรรมดา คือ เกลยี วทีม่ ีมุมรวมยอดเกลยี ว 60 องศา แตกตา่ งจากเกลยี ว
เมตริก ISO ตรงที่สูตรการคานวณบางคา่ จะแตกต่างกัน เช่น สตู รคานวณความลึก
รปู ท่ี 1.26 เกลียวเมตรกิ ธรรมดา
ท่มี า : https://sites.google.com/
ตารางที่ 1.1 สตู รการคานวณเกลียว
สว่ นต่างๆของเกลียวเมตริก สตู ร ตัวอย่างการคานวณ (มม.)
D = ขนาดกาหนด D = 14
1. ความยาวเสน้ ผา่ นศนู ย์กลาง
โคนเกลียวนอก P = ระยะพิตช์ P=2
d1 = d - 1.299P d1 = 14 - (1.299 x 2)
2. ระยะพติ ช์ของเกลียว = 11.402
3. ความยาวเส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง d2 = d - 0.6495P d2 = 14- (0.6495x2)
โคนเกลยี ว t1 = 0.6495P = 12.701
4. ความยาวเสน้ ผ่านศนู ย์กลางท่ี R = 0.1082P t1 = 0.6495 x 2 = 1.299
TDS = d-P R = 0.1082 x 2 = 0.2164
วงกลมพติ ช์ TDS = 14 - 2 = 12
5. ความลกึ เกลยี ว
6. รัศมโี ค้งท่ที ้องเกลียว
7. ขนาดรเู จาะเพือ่ ทาเกลยี ว
(ที่มา : https://sites.google.com/)
2. เกลยี วเมตรกิ ISO คือ เกลยี วทม่ี ีมมุ รวมยอดเกลียว 60 องศา เปน็ เกลียวสามเหลย่ี มท่เี ปน็
มาตรฐานสากลของระบบเมตริก การคานวณแตกตา่ งจากเกลยี วเมตริกธรรมดาและการบอกสัญบักษณ์ของ
เกลยี วทม่ี ีระยะพติ ช์มาตรฐานอาจไม่บอกระยะพติ ช์มาให้แตห่ ากเป็นเกลียวละเอยี ดหรือเกลียวพเิ ศษจะ
บอกระยะพิตช์มาให้ระยะพิตช์ดไู ดจ้ ากตารางตอ่ ไปน้ี
ตารางท่ี 1.2 สตู รการคานวณเกลยี ว
เสน้ ผ่านศูนย์กลาง เกลียวหยาบ เกลยี วละเอยี ด
ยอดเกลียว (มม.)
ระยะพิตช์ (มม.) ขนาดรเู จาะ (มม.) ระยะพิตช์ (มม.) ขนาดรูเจาะ (มม.)
1.4
1.6 0.3 1.1 - -
2
2.5 0.35 1.25 - -
3
4 0.4 1.6 - -
5
6 0.45 2.05 - -
8
10 0.5 2.5 - -
12
14 0.7 3.3 - -
16
18 0.8 4.2 - -
20
22 1.0 5.0 - -
24
27 1.25 6.75 1.0 7.0
1.5 8.5 1.25 8.75
1.75 10.25 1.5 10.50
2.0 12.00 1.5 12.50
2.0 14.00 1.5 14.50
2.5 15.00 1.5 16.50
2.5 17.50 1.5 18.50
2.5 19.50 1.5 20.50
3.0 21.00 2.0 22.00
3.0 24.00 2.0 25.00
(ทมี่ า : https://sites.google.com )
3. เกลียววิตเวอร์ต คอื เกลยี วระบบองั กฤษที่คิดค้นขึ้นโดย Mr. Joseph Whitworth เป็นชาวอังกฤษ
เป็นเกลียวทม่ี ีมมุ มนโค้งท้ังยอดเกลียวและโคนเกลียวมมี ุมรวมยอดเกลยี ว 55 องศา บอกเกลียวเป็นจานวน
เกลยี วตอ่ น้วิ การใช้สญั ลกั ษณ์จะบอกด้วยความยาวเสน้ ผ่านศูนยก์ ลางโตนอกของเกลยี วเป็นนิว้ และตามดว้ ย
จานวนเกลยี วต่อนว้ิ และอักษรตวั ย่อดังตอ่ ไปนี้
• BSW (British Standard Whitworth) หมายถึง เกลียววิตเวอรต์ ชนดิ หยาบ
• BSF ( British Standard Fine ) หมายถงึ เกลยี ววติ เวอร์ตชนดิ ละเอียด
(ก) แบบเกลียววติ เวอร์ต (ข) ช้ินงานเกลียววิตเวอร์ต
รูปที่ 1.29 เกลยี ววิตเวอร์ต
ที่มา : https://www.google.co.th/search?q=British+Standard+Whitworth&r
ตารางที่ 1.3 เกลียววติ เวอร์ต
ความโตยอดเกลียว จานวนเกลียว/นวิ้
¼ 20
12
3/8 10
½ 8
1
7
1 1/4 6
1 1/2 5
13/4 4 1/2
2
(ทีม่ า : https://sites.google.com
4. เกลียวอเมรกิ ัน (American National Thread) คือเกลยี วสามเหล่ยี มที่ใช้หนว่ ยเปน็ น้ิวเหมือนเกลยี ว
วติ เวอรต์ แตม่ ีรูปร่างแตกต่างกันตรงมีมุมรวมยอดเกลยี ว 60 องศา บอกเป็นจานวนเกลยี วตอ่ นวิ้
สัญลกั ษณ์ในการบอกจะข้นึ ด้วยขนาดเส้นผ่านศูนยก์ ลางโตนอกมหี น่วยเป็นนิ้ว ตามด้วยจานวนเกลียวต่อ
นิว้ และตามด้วยอกั ษรตวั ย่อดงั ตอ่ ไปนี้
• NC (National Coarse Thread Series) หมายถงึ เกลยี วอเมรกิ ันชนิดเกลียวหยาบ
• NF (National Fine Thread) หมายถงึ เกลยี วอเมรกิ ันชนดิ ละเอียด
• NEF (National Extra–Fine Thread Series) หมายถึง เกลยี วอเมริกนั ชนิดพเิ ศษท่ีผลิตมาใช้งาน
เฉพาะต่างจากสองชนิดแรกเมอ่ื เทยี บกับขนาดของเกลยี วท่โี ตเท่ากนั
America National Thread Form
รูปที่ 1.28 เกลียวอเมรกิ นั ชนิดเกลยี วสามเหลี่ยม
(ทม่ี า : http://careers.autrytech.edu/Portals)
5. เกลยี วยนู ไิ ฟด์ (Unified Thread) คือเกลียวสามเหลยี่ มทใ่ี ชห้ นว่ ยเป็นนิ้วเป็นเกลยี วที่ ดัดแปลงมา
จากเกลียวอเมรกิ นั แต่มาทาให้เปน็ มาตรฐานสากลของระบบเกลียวสามเหล่ยี มระบบอังกฤษจงึ เรยี กว่า
เกลียว ISO นิ้ว มีมุมรวมยอดเกลยี ว 60 องศา บอกเป็นจานวนเกลียวตอ่ น้วิ แตแ่ ตกต่างจากเกลยี วอเมริกัน
สตู รการคานวณ เช่น ความลกึ เกลยี ว สัญลักษณ์ในการบอกจะขึ้นต้นด้วยความยาวเส้นผ่านศูนยก์ ลางโต
เกลียวนอกมีหนว่ ยเปน็ นวิ้ และตามด้วยจานวนเกลียวตอ่ นวิ้ และตามด้วยอกั ษรตัวยอ่ ดงั นี้
• UNC (Unified National Coarse Thread Series) หมายถงึ เกลยี วยูนิไฟดช์ นิดหยาบ
• UNF (Unified National Fine Thread Series) หมายถงึ เกลยี วยูนิไฟด์ชนิดละเอียด
• UNEF (Unified National Extra-Fine Thread Series) หมายถึง เกลยี วยูนไิ ฟดช์ นิดเกลียว
พเิ ศษทม่ี ีจานวนเกลียวตอ่ นวิ้ แตกต่างจากสองชนิดแรกเม่อื มีขนาดเกลยี วโตนอกเท่ากัน
รปู ท่ี 1.29 เกลียวยนู ไิ ฟด์
(ที่มา : https://engineerharry.wordpress.com)
ตารางที่ 1.4 เกลยี วยูนไิ ฟด์
เกลยี วหยาบ เกลยี วละเอียด
ขนาดเกลียว (น้วิ ) จานวนเกลยี ว/นิ้ว
ขนาดเกลยี ว (นิ้ว) จานวนเกลียว/นวิ้
¼ 20
¼ 28
5/16 18
3/8 16 5/16 24
7/16 14 3/8 24
½ 13 7/16 20
9/16 12 ½ 20
5/8 11
¾ 10 9/16 18
5/8 18
7/8 9
¾ 16
18
7/8 14
1 14
(ทม่ี า : https://engineerharry.wordpress.com)
6. เกลยี วสามเหลยี่ มยอดแหลม (Sharp V–Thread) คือเกลียวสามเหลย่ี มทีน่ ามาใช้ในช่วงเรม่ิ แรกแตใ่ น
ปัจจุบันไม่นยิ มใช้เพราะเป็นเกลียวยอดแหลมไม่มีการตดั ยอดตดั โคนเกลียวหรอื ทาการโคง้ มน เม่ือใช้งานไป
นานๆยอดเกลียวจะหกั แตกง่ายทาให้เศษท่ีหกั ไปตดิ ในเกลยี ว จากน้นั มีการดดั แปลงให้เปน็ เกลยี วชนดิ ต่างๆ
ไม่วา่ จะเปน็ เกลยี วในระบบเมตรกิ และระบบองั กฤษ
รปู ท่ี 1.30 เกลยี วสามเหลีย่ มยอดแหลม
(ท่มี า : https://engineerharry.wordpress.com/, https://en.wikipedia.org/wiki)
1.5.2 เกลยี วสเี่ หลยี่ ม (Square Thread) เกลยี วส่ีเหล่ียมเปน็ เกลียวทม่ี ีมุม 90 องศา และมี
ความแขง็ แรงเหมาะสาหรับงานทต่ี อ้ งการส่งกาลงั มาก ๆเช่น เกลียวของปากกาจบั งาน
รูปที่ 1.31 เกลยี วสีเ่ หลย่ี ม
(ที่มา : https://www.google.co.th/search?hl=th&site=imghp&tbm)
1.5.3 เกลียวส่ีเหลี่ยมคางหมู
1. เกลยี วสีเ่ หลย่ี มคางหมเู มตริก (Tr) เปน็ เกลียวที่มีมุมรวมยอดเกลียว 30 องศา เป็น
เกลียวทเี่ หมาะสาหรับใช้ในการสง่ กาลังขบั เคลื่อนเพราะมคี วามแขง็ แรงกวา่ เกลียวสามเหลย่ี ม เชน่
เกลียวปากกาจับงานและเกลียวเพลานาของเครือ่ งกลึง เพราะเกลยี วเหลา่ นเี้ ปน็ เกลยี วส่งกาลังจึงต้องมี
ความแข็งแรงสงู
ระยะ Average Clearance เกลยี วสเี่ หลี่ยมคางหมู
รปู ท่ี 1.32 เกลยี วสเ่ี หลย่ี มคางหมเู มตรกิ
ทม่ี า : https://engineerharry.wordpress.com, http://thai.alibaba.com
ระยะพติ ช์ AC
1.5 0.15
2-5 0.25
6-12 0.5
14-44
1
ตารางที่ 1.5 เกลยี วสีเ่ หลย่ี มคางหมเู มตริก
2. เกลยี วสี่เหลย่ี มคางหมอู เมริกัน (Acme ) เป็นเกลยี วส่เี หล่ียมคางหมูทเ่ี หมอื นกับเกลียว
ส่ีเหล่ียมคางหมูเมตริก มีมุมรวมยอดเกลียว 29 องศา ลักษณะการใช้งานเหมอื นกบั เกลยี วสีเ่ หลยี่ ม
คางหมเู มตริก มกี ารกาหนดขนาดเปน็ นวิ้ และบอกจานวนเกลียวตอ่ นวิ้ แทนระยะพติ ช์ ดังนั้นการ
คานวณหากต้องการหน่วยเปน็ มลิ ลเิ มตร จะต้องคูณดว้ ย 25.4 มม. จงึ จะมหี นว่ ยเป็นมลิ ลิเมตร
รูปที่ 1.33 เกลียวสเ่ี หลีย่ มคางหมูอเมริกนั
ท่มี า : https://www.google.co.th/search
ตารางที่ 1.6 เกลียวส่ีเหลยี่ มคางหมอู เมรกิ ัน
ขนาด จานวน ขนาด จานวน ขนาด จานวน
เกลียว(น้ิว) เกลยี ว/น้วิ เกลยี ว(นว้ิ ) เกลียว/นิ้ว เกลยี ว(นิว้ ) เกลียว/นิว้
1/4 16 3/4 6 1-1/2 4
5/16 14 7/8 6 1-3/4 4
3/8 12 1 5 4
7/16 12 1-1/8 5 2 3
1/2 10 1-1/4 5 2-1/4 3
5/8 9 1-3/8 4 2-1/2 3
2-3/4
(ทีม่ า :https://engineerharry.wordpress.com )
3. เกลียวหนอน เกลยี วชนิดนีน้ ิยมนาไปใชก้ ารทดรอบจากความเร็วสงู ใหเ้ ป็นความเร็วต่าและใช้
ค่กู ับเฟืองหนอนทีม่ ีลกั ษณะเกลยี วเดยี วกนั เช่น การทดรอบความเร็วจากมอเตอรท์ ม่ี ีความเรว็
สงู
เฟื องหนอน
เกลยี วหนอน
รูปท่ี 1.34 เกลยี วหนอนและเฟืองหนอน
(ท่มี า : http://www.bloggang.com)
1.5.4 เกลยี วฟนั เล่ือย (Buttress Thread) เกลียวฟนั เล่ือย เหมาะสาหรับงานส่งกาลงั ท่ี
ต้องการความปลอดภัยเพอ่ื ไมใ่ หเ้ กลียวอกี ตัวคลายออก เป็นการป้องกันการรดู ของเกลยี ว
เหมาะสาหรับใชท้ าอุปกรณ์แม่แรงยกรถหรอื ของหนกั เพราะปลอดภัยกวา่ เกลยี วชนิดอื่นๆมีมมุ
รวมยอดเกลยี ว 30 + 3 องศา รวม 33 องศา
รปู ที่ 1.35 เกลียวฟันเลือ่ ย
(ทม่ี า : https://mdmetric.com/tech/thddat12.htm)
1.5.5 เกลยี วกลม (Knuckle Thread) เกลยี วกลมเป็น เกลยี วทมี่ ุมรวม 30 องศา ยอดเกลียว
และโคนเกลยี วโคง้ มน เปน็ เกลียวในระบบองั กฤษมี
การบอกเปน็ จานวนเกลยี วต่อน้วิ ปจั จบุ นั ไดม้ กี ารกาหนดขนาดเป็นมิลลเิ มตร
แตร่ ะยะพติ ชเ์ ป็นน้วิ เหมาะสาหรับงานทตี่ อ้ งการการเคลอ่ื นทไี่ ดส้ ะดวก เชน่ เกลียวท่ขี วด
น้าอัดลม เกลียวหลอดไฟฟา้ เป็นต้น
รูปที่ 1.36 เกลยี วกลม
(ทีม่ า : https://en.wikipedia.org )
1.6 ฟอรม์ มดี ในการปฏิบัตงิ าน
1. มีดกลงึ เกลียวสามเหลี่ยม ใช้กลงึ เกลียวนอก สว่ นมากมมี ุมรวม 60 องศา
รปู ที่ 1.37 มีดกลึงเกลยี วนอก
4. มีดกลึงเกลยี ว ในใช้สาหรับกลึงเกลยี วใน
รปู ที่ 1.38 มีดกลึงเกลียวใน
(ท่ีมา : มนสั นริ ะโส, 2559)
3. มีดควา้ นรใู น ใช้สาหรบั คว้านรูให้เรยี บและได้ขนาดตามท่ีต้องการ
รูปท่ี 1.39 มดี ควา้ นรูใน
(ท่ีมา : มนัส นิระโส, 2559)
1.7เครอ่ื งมอื วดั มมุ เครือ่ งมอื ตดั
1.7.1 เครอื่ งมอื วัดมุม (Angle Protractor) เครอื่ งมือวัดมุมเป็นเครือ่ งมอื สาหรับวดั มมุ ของเครอ่ื งมือ
ตดั เชน่ มดี กลึง มีดไส ใบวดั มมุ สามารถวัดมุมได้ต้ังแต่ 0 – 180 องศา
สเกลบอกองศา สกรูปรบั ลอ็ ก
ขดี ชีต้ าแหน่ง กา้ นใบวดั มมุ
ใบบอกมมุ
รปู ท่ี 1.40 ใบวัดมุม
(ทมี่ า : https://guide.alibaba.com/shop/stainless-protractor-round)
1.7.2 เกจวดั มุมเกลยี วสามเหลย่ี ม (Center Gage) เกจวดั มุมเกลียวสามเหล่ยี ม ใช้เป็นเครอ่ื งมือวัด
สาหรบั วดั มุมมีดกลึงเกลียวสามเหลยี่ มและใชต้ ง้ั มีดกลงึ เกลยี วสามเหลี่ยม โดยทว่ั ๆ ไปจะมมี มุ รวมยอด
เกลียว 60 องศา ยกเว้นเกลยี ววิตเวอตมีมมุ รวม 55 องศา
รปู ท่ี 1.41 เกจวดั มุมเกลยี วสามเหลีย่ ม
(ทมี่ า : มนสั นริ ะโส, 2559)
1.7.3 เกจเกลยี วสีเ่ หลี่ยมคางหมู เกจเกลยี วสีเ่ หล่ียมคางหมูเปน็ เกจท่ใี ช้วดั มุมมีดเกลียวสเี่ หล่ียมคางหมู
กรณเี ปน็ แบบเกลยี วส่ีเหลี่ยมคางหมเู มตริก จะมีตวั เลขที่เกจเป็นระยะพติ ซ์ (Tr) และมมี ุมรวมปลายมีด
30 องศา และเกลยี วส่เี หลยี่ มคางหมูอเมริกัน (Acme) จะมเี ลขบอกที่เกจเปน็ จานวนเกลยี วต่อนิ้ว และ
มมี ุมรวมปลายมีด 29 องศา
(ก) เกลยี วสี่เหลย่ี มคางหมมู มุ รวม 30 องศา (ข) เกลียวสี่เหล่ียมคางหมูมุมรวม 29 องศา
รูปท่ี 1.42 เกจเกลียวสีเ่ หล่ยี มคางหมู
(ทีม่ า : https://www.google.co.th/search)
1.8 เคร่ืองมือวดั สาหรับงานกลงึ
การวดั ขนาดหรือความยาวดว้ ยบรรทดั ท่วั ๆ ไป หรอื บรรทดั เหล็กจะวัดได้ละเอียดมากท่ีสุด คือ
0.5 หรือ 7/64 นิ้ว แต่ในงานบางอยา่ งความละเอยี ดขนาดนัน้ ยงั ไมเ่ พียงพอ จึงมเี คร่อื งมือวัดชนดิ หนึง่
ทม่ี พี น้ื ฐานมาจากบรรทัดเหลก็ ท่ีสามารถวัดได้ละเอยี ดมาก เรยี กว่า เวอรเ์ นยี ร์คาลิเปอร์
รูปท่ี 1.43 สว่ นประกอบเวอรเ์ นียร์คาลิเปอร์
(ทมี่ า : https://th.wikipedia.org/wiki)
เวอร์เนียรค์ าลเิ ปอร์แบบอเนกประสงค์ (Universal Vernier Caliper) เวอร์เนียรค์ าลเิ ปอรแ์ บบ
อเนกประสงค์ เพราะสามารถวดั ขนาดของชิ้นงานไดท้ ้งั ขนาดภายนอก ภายใน และความลึก
ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ตามหมายเลขต่อไปนี้
1. ปากวัดนอก
2. ปากวดั ใน
3. ก้านวัดลกึ
4. สเกลหลกั ระบบมลิ
5. สเกลหลกั ระบบนว้ิ
6. สเกลเลอื่ นระบบมลิ
7. สเกลเล่อื นระบบนิ้ว
8. ป่มุ ล็อกสเกลเลือ่ น
1.9 ความปลอดภยั ในงานกลึง
1. ผ้ปู ฏิบตั ิงานตอ้ งแต่งกายใหร้ ดั กุมถกู ตอ้ งตามกฎความปลอดภยั ของโรงงาน
2. ผปู้ ฏิบตั ิงานต้องสวมแว่นตานิรภัยขณะปฏบิ ตั งิ าน
3. หา้ มปฏิบตั ิงานกลงึ หากมีการทร่ี บั ประทานยาลดไข เพราะจะทาใหม้ อี าการงว่ งนอนหรือยาชนดิ
อนื่ ๆที่มีผลขา้ งเคียงทาให้เกิดอาการง่วงนอน
4. ไม่หยอกล้อกนั ขณะปฏบิ ตั ิงาน
5. การปฏิบัติงานใหท้ าเพียงผู้เดยี ว
6. ตอ้ งทาการตรวจดูความพรอ้ มของเครอื่ งกลงึ ก่อนใช้ทกุ คร้งั
7. ศึกษาข้นั ตอนการใช้เครือ่ งกลึงนน้ั ๆ เปน็ อย่างดี
8. ตอ้ งมีแสงสว่างทเี่ พยี งพอต่อการปฏิบตั งิ านกลงึ
9. ต้องจบั หวั จบั ให้แน่นพร้อมทงั้ จับยึดชนิ้ งานใหแ้ น่น และนาประแจขันจบั (T – Chucl) ออก
จากหวั จับ ทกุ ครงั้
10.เศษโลหะจากการกลงึ จะต้องมเี หล็กเกี่ยวออกมาห้ามใชม้ อื หยบิ เพราะเศษโลหะอาจบาดมือ
1.10 การบารงุ รักษาเครอื่ งกลงึ
1. ก่อนลงปฏบิ ัติงานตอ้ งตรวจสอบความพร้อมของเคร่ืองจกั รใหอ้ ยใู่ นสภาพทด่ี ีและปลอดภัยกอ่ น
เปดิ สวติ ซเ์ คร่ืองกลงึ
2. กอ่ นใช้เครอื่ งกลงึ ทกุ ครั้งตอ้ งหยอดน้ามนั หล่อล่นื ในสว่ นทีเ่ คลื่อนทใ่ี ห้ครบทุกจุดเพอื่ ลดการเสียด
สี
3. การเปลี่ยนความเร็วรอบ ต้องหยุดเครื่องก่อนทกุ ครง้ั และควรโยกคนั โยกบังคบั ให้ตรงตาแหน่ง
ความเร็วรอบทต่ี ้องการพร้อมกบั มอื ขวาหมนุ หัวจับเพ่อื ใหเ้ ฟืองทดเข้ากนั ได้พอดี
4. การเลือกความเร็วรอบอตั ราปอ้ นกลงึ ควรเลอื กใหเ้ หมาะสมกบั วัสดุท่ีจะทาการตดั เฉือน
5. การเปล่ยี นถ่ายนา้ มันเครอ่ื งควรเปลยี่ นตามระยะเวลาทกี่ าหนดและเลอื กชนดิ นา้ มันเครือ่ งตาม
คมู่ ือท่ีกาหนดแต่ละเคร่ือง
6. หลงั การใช้งานทกุ ครัง้ ตอ้ งทาความสะอาดเครือ่ งมอื เครอื่ งจกั รและชโลมนา้ มนั ส่วนที่เสยี ดสี
7. ชุดแทน่ เลื่อน หลังเลิกใช้งานต้องเลอ่ื นให้มาอยทู่ ี่ทา้ ยศนู ยแ์ ท่นทุกครง้ั เพอื่ ช่วยลดน้าหนกั การ
แอ่นตัวของแท่นเลื่อน
แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 1
เครื่องกลึง
คาสั่ง จงตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ ห้ถกู ตอ้ ง
1. จงอธิบายการทางานของเคร่ืองกลงึ ยันศนู ย์มีการทางานอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
2. จงบอกส่วนประกอบของชดุ หัวเครอ่ื งกลงึ ยนั ศูนย์มอี ะไรบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
3. ส่วนประกอบของชดุ แทน่ เลอ่ื นของเคร่ืองกลึงมีอะไรบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
4. คาว่า ความเร็วรอบมีความหมายว่าอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
5. คาว่า ความเร็วตัดมีความหมายวา่ อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
6. จงใหค้ วามหมายของ คาวา่ อัตราปอ้ นมีความหมายวา่ อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
7. ชนิดของเกลยี วมกี ีช่ นิด อะไรบา้ ง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
8. เกลยี วสี่เหลย่ี มคางหมูมีความหมายว่าอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
9. วิธกี ารบารงุ รักษาเครอ่ื งกลึงยนั ศูนย์มอี ะไรบ้างระบุมา 5 ขอ้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 1
เคร่อื งกลึง
คาสัง่ จงเลอื กคาตอบทีถ่ กู ท่ีสดุ เพยี งขอ้ เดียว
1. สามจับฟันพรอ้ ม 1 ชุดมกี ฟ่ี ัน
ก. 2 ฟัน ข. 3 ฟัน
ค. 4 ฟนั ง. ข้อ ข และ ค ถกู
2. ยนั ศูนยเ์ คร่อื งกลงึ มีมุมรวมท่ปี ลายกอ่ี งศา
ก. 45 ฟัน ข.55 ฟนั
ค. 60 ฟนั ง.65 องศา
3. Cullet Chuck มลี ักษณะพเิ ศษตามข้อใด
ก. มขี นาดไมแ่ น่นอน ข. มีเกลียวปรบั ขนาด
ค. แข็งตวั ตาย ง. ยึดหยดุ ตัวได้
4.กันสะท้านทตี่ ามปอ้ มมีดมีขาประคองช้นิ งานกขี่ า
ก. 1 ขา ข. 2 ขา
ค. 3 ขา ง. 4 ขา
5. มีดกลึงขนาด ¼ ควรจบั ยดึ แบบใด ข. จับยดึ ดว้ ยศูนยท์ า้ ยแท่น
ก. จับยึดด้วยหว่ งพา ง. จบั ยึดด้วยด้ามมีด
ค. จบั ยึดดว้ ยปอ้ มมีด
6. ขอ้ ดขี องปอ้ มมดี มาตรฐานคือข้อใด ข. จับมีดได้ 2 เลม่
ก. จับมีดได้ 1 เลม่ ง. สามารถปรับระดบั สงู ตา่ ของปลาย
ค. จบั มีดได้ 3 เลม่
มดี ได้
7. ความเรว็ ตดั ในงานกลงึ มหี นว่ ยวดั ในข้อใด
ก. มม./รอบ ข. รอบ/นาที
ค. เมตร/นาที ง. มม./นาที
8. การประกอบฟันสามจบั มีข้ันตอนตามข้อใด ข. ใสฟ่ นั ตามลาดับ 2, 1, 3
ก. ใส่ฟนั ตามลาดบั 1, 2, 3 ง. ใส่ฟันตามลาดับ 3, 1, 2
ค. ใส่ฟันตามลาดับ 3, 2, 1
ง. ใส่ฟนั ตามลาดับ 3, 1, 2
9. เกลยี วแบง่ ออกได้กีชนดิ ข.3 ชนิด
ก.2 ชนิด ง. 5 ชนดิ
ค.4 ชนิด ข. ยอดเกลยี ว
10. สันเกลียวคือสว่ นใดของเกลยี ว ง. มุมเอยี งของเกลยี ว
ก. ความกว้างของยอดเกลยี ว
ค. ความสูงของเกลียว
11. ข้อใดไมอ่ ย่ใู นเกลียวสามเหล่ยี ม
ก. เกลยี วเมตริก ข. เกลยี ว ISO
ค. เกลียวหนอน ง. เกลยี วอเมริกนั
12. เกลียวสามเหล่ยี มมมุ รวมยอดเกลียวกีอ่ งศา
ก. 30 องศา ข. 45 องศา
ค. 55 องศา ง. 60 องศา
13. เกจสี่เหลย่ี มคางหมูเมตรกิ มีมมุ รวมปลายมดี กอี่ งศา
ก. 28 องศา ข. 29 องศา
ค. 30 องศา ง. 60 องศา
14.ขอ้ ใดเปน็ การปฏบิ ัตงิ านกลึงทไ่ี ม่ปลอดภัย
ก. สวมแวน่ ตานิรภยั ข. สวมถุงมอื กันเป้ือน
ค. ไม่สวมแวน่ และนาฬิกา ง. สวมเส้อื ให้รดั กุม
15. การปอ้ นกินลกึ และอตั ราป้อนข้อใดท่ีถกู ต้อง
ก. หากป้อนกินลึกมากต้องใชอ้ ตั ราปอ้ นเรว็ ข. หากกลึงหยาบอัตราเร็ว
ค. หากกลงึ ละเอียดต้องใชอ้ ตั ราป้อนช้า ง. หากกลงึ ละเอียดต้องใช้อัตรา
ป้อนเร็ว
38
ใบงำนท่ี 1 จำนวน 4 ชัว่ มง
ชื่อหนว่ ย เครอ่ื งกลึง
ชือ่ เร่อื ง งำนกลงึ เพลำประคองปำกกำ
รปที่ 1.44 แบบงำนกลงึ เพลำประคองปำกกำ
(ที่มำ : มนสั นริ ะ ส, 2559)
41
ใบงำนท่ี 2 จำนวน 4 ชัว่ มง
ช่ือหนว่ ย เคร่ืองกลึง
ช่ือเรื่อง งำนกลงึ เพลำมือหมุนปำกกำ
รปท่ี 1.45 แบบงำนกลงึ เพลำมอื หมนุ ปำกกำ
(ที่มำ : มนัส นริ ะ ส, 2559)
47
ใบงำนที่ 3
ชอ่ื หน่วย เครอื่ งกลงึ เวลำ 4 ชั่ว มง
ช่ือเรอื่ ง งำนกลงึ เกลียวนำเล่ือน
(เก ีลยว Tr)
รปท่ี 1.47 แบบงำนกลึงเกลยี วนำเลือ่ น
(ทม่ี ำ : มนสั นิระ ส, 2559)