50
ใบงำนท่ี 4 เวลำ 4 ชั่ว มง
ชื่อหนว่ ย เคร่ืองกลึง
ช่อื เร่อื ง งำนกลงึ แหวนลอ็ กเกลียวนำเลอื่ น
รปท่ี 1.48 แบบงำนกลงึ แหวนล็อกเกลยี วนำเลอ่ื น
(ท่ีมำ : มนัส นิระ ส, 2559)
54
แบบป บิ ัตงิ ำนท่ี 5 เวลำ 4 ชั่ว มง
ชือ่ หนว่ ย เคร่อื งกลงึ
ชื่อเรื่อง งำนกลงึ แหวนรอง ำนปำกกำ
รปท่ี 1.49 แบบงำนกลึงแหวนรอง ำนปำกกำ
(ทม่ี ำ : มนสั นิระ ส, 2559)
58
ใบงำนท่ี 6 เวลำ 4 ชั่ว มง
ชื่อหน่วย เครอ่ื งกลึง
ชอ่ื เรือ่ ง งำนกลงึ แป้นล็อก ำนปำกกำ
รปท่ี 1.50 แบบงำนกลงึ แปน้ ลอ็ ก ำนปำกกำ
(ทีม่ ำ : มนสั นริ ะ ส, 2559)
61
ใบงำนที่ 7 เวลำ 4 ช่วั มง
ชื่อหนว่ ย เครอื่ งกลึง
ชื่อเรอ่ื ง งำนกลงึ ำนหมุนปำกกำ
รปท่ี 1.51 แบบงำน ำนหมนุ ปำกกำ
(ที่มำ : มนัส นิระ ส, 2559)
64
ใบงำนที่ 8 เวลำ 4 ชั่ว มง
ชื่อหนว่ ย เครอ่ื งกลงึ
ชอ่ื เรอื่ ง งำนกลงึ สลกั ลอ็ ก ำนปำกกำ
รปท่ี 1.52 แบบงำนกลงึ สลักลอ็ ก ำนปำกกำ
(ทีม่ ำ : มนัส นิระ ส, 2559)
เฉลยคาตอบ วชิ า เทคนิคการผลิตชิ้นส่วนดว้ ยเครื่องมือกล1 รหสั วชิ า 30102-2001
เฉลยคาตอบกอ่ นเรียน หน่วยท่ี 1 เครื่องกลงึ
1. ค 2.ข 3. ง 4. ค 5. ง 6. ง 7. ค 8. ก 9. ง 10. ก 11. ค 12. ง 13. ค 14. ข 15. ง
เฉลยคาตอบหลงั เรียน หน่วยที่ 1 เครอ่ื งกลึง
1. ข 2.ค 3. ง 4. ค 5. ง 6. ง 7. ค 8. ก 9. ง 10. ก 11. ค 12. ง 13. ค 14. ข 15. ง
เฉลยคาตอบแบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 1 เครื่องกลงึ
1. จงอธิบายการทางานของเครื่องกลงึ ยันศูนยม์ กี ารทางานอย่างไร
เฉลยแนวคาตอบ
เคร่ืองกลึงยันศูนย์ (Engine Lathe)เป็นเครือ่ งกลึงขนาดเล็กใช้กลงึ งานท่ชี ้ินงานทม่ี ไี มใ่ หญม่ ากนักใช้งานได้
หลายอยา่ ง เช่น งานกลึงปาดหนา้ งานกลกึ ปอก งานกลงึ เกลียวสีเ่ หล่ยี มนอกและใน งานกลึงเกลียวสี่เหลียว
คางหมนู อกและใน งานคว้านรู งานพิมพล์ าย งานกลงึ เรียว เป็นตน้
2. จงบอกสว่ นประกอบของชุดหัวเครอ่ื งกลึงยนั ศูนย์มีอะไรบา้ ง
เฉลยแนวคาตอบ
1.ชุดหัวเครื่องกลงึ (Head Stock)
2.ชุดแทน่ เล่อื น (Carriage)
3. ชดุ ท้ายแทน่ (Tail Stock)
4.สะพานแทน่ เคร่อื ง (Bed)
3. สว่ นประกอบของชดุ แท่นเล่ือนของเครือ่ งกลงึ มีอะไรบา้ ง
เฉลยแนวคาตอบ
1. ชุดส่งกาลัง (Transmission) เครื่องกลึงจะส่งกาลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยผ่านสายพานลิ่ม (V-
Belt) และผ่านชุดเฟือง (Gear) ที่สามารถปรับความเร็วรอบได้หลายระดับ เพื่อไปขับเพลาหัวจับงาน
(Spindle) ให้หมุน
2. แขนปรับความเร็วรอบ (SpindleSpeed Selector) ท่ีอยู่ส่วนบนหรือส่วนหน้าของหัวเคร่ืองใช้
สาหรับโยกเฟอื งทอี่ ยูภ่ ายในหวั เครื่องใหข้ บกัน เพื่อทจ่ี ะใหไ้ ดค้ วามเรว็ รอบตามที่ตอ้ งการ
3. แขนปรับกลึงเกลียว (Lead Screw and Thread Rang Level) เป็นแขนหรือปุ่มสาหรับปรับ
เฟอื งในชุดของกล่องเฟือง (Gear Box) เพ่อื กลึงเกลยี วดว้ ยระยะฟติ ซ์ (Pitch) โดยที่เพลากลงึ เกลียว (Lead
Screw) หมนุ ขับป้อนมีดให้เดินกลงึ เกลียวบนชิ้นงาน
4. เพลาจับชิ้นงาน (Spindle) เป็นเพลากลวงเป็นฐานทะลุที่ปลายเพลาจะทาเป็นเรียว (Taper)
แบบมอส (Mores Taper) เพื่อใช้ยดึ หวั จับงาน (Chuck) หรอื อุปกรณจ์ ับงานอ่ืนๆ
4. คาว่า ความเรว็ รอบมีความหมายว่าอย่างไร
เฉลยแนวคาตอบ
ความเร็วรอบ (Speed) หมายถงึ ความเรว็ รอบของชิ้นงานหรือความเร็วรอบของเคร่ืองมือตัดทหี่ มุนได้ใน
เวลา 1 นาที หน่วยวดั เป็นขอบตอ่ วินาที
5. คาว่า ความเร็วตดั มีความหมายวา่ อยา่ งไร
เฉลยแนวคาตอบ
ความเรว็ ตดั (Cutting Speed) หมายถึง ความเร็วท่คี มมีดตัดหรอื ปาดผิวโลหะออกเมือ่ ชน้ิ งานหมนุ ไปครบ
1รอบ ซึ่งมดี ตัดจะตอ้ งปาดผิวโลหะออกเป็นเส้นยาวเทา่ กับรอบวงของชนิ้ งานพอดี หน่วยวดั ความเร็วตัดคิด
เปน็ เมตรตอ่ นาที
6. จงให้ความหมายของ คาว่า อัตราป้อนมคี วามหมายว่าอยา่ งไร
เฉลยแนวคาตอบ
อตั ราป้อน (Feed) หมายถึง การเคลื่อนที่ของมีดตัดหรือเคล่ือนที่ของงานต่อการหมุนของช้ินงานหรอื การ
หมุนของมดี ตดั 1 รอบ หนว่ ยวัดเป็นมลิ ลิเมตร ดงั นั้นอตั ราการป้อนมีหน่วยเป็นมิลลเิ มตรตอ่ รอบ
7.ชนดิ ของเกลียวมีก่ีชนิด อะไรบา้ ง
เฉลยแนวคาตอบ
มี 5 ชนดิ ดังน้ี
1. เกลยี วสามเหลี่ยม
2. เกลยี วสเี่ หล่ียม
3. เกลียวสี่เหล่ยี มคางหมู
4. เกลียวกลม
5. เกลยี วฟนั เลื่อย
8.เกลียวสี่เหลี่ยมคางหมูมีความหมายวา่ อยา่ งไร
เฉลยแนวคาตอบมีมมุ เกลียว 2 มมุ
1. เกลียวสี่เหลี่ยมคางหมูเมตริก (Tr) เป็นเกลียวที่มีมุมรวมยอดเกลียว 30 องศาเป็นเกลียวท่ี
เหมาะสาหรบั ใช้ในการส่งกาลังขับเคลื่อนเพราะมคี วามแข็งแรงกวา่ เกลยี วสามเหลีย่ มเช่นเกลียวปากกา
จบั งานและเกลียวเพลานาของเคร่ืองกลึง เพราะเกลียวเหล่านี้เป็นเกลียวส่งกาลงั จึงตอ้ งมีความแขง็ แรง
สูง
2. เกลียวส่ีเหลี่ยมคางหมูอเมริกัน (Acme ) เป็นเกลียวสี่เหลี่ยมคางหมูท่ีเหมือนกับเกลียว
ส่ีเหลย่ี มคางหมูเมตรกิ มีมุมรวมยอดเกลียว 29 องศาลกั ษณะการใช้งานเหมือนกบั เกลียวสี่เหลี่ยมคาง
หมูเมตริกมีการกาหนดขนาดเป็นน้ิวและบอกจานวนเกลียวต่อนิ้วแทนระยะพิตช์ดังนั้นการคาน วณ
หากตอ้ งการหนว่ ยเปน็ มลิ ลเิ มตรจะต้องคณู ด้วย 25.4 มม. จึงจะมหี น่วยเป็นมิลลเิ มตร
9. วิธีการบารุงรกั ษาเครือ่ งกลึงยนั ศนู ย์มีอะไรบา้ งระบมุ า 5 ข้อ
เฉลยแนวคาตอบ
1. ก่อนลงปฏบิ ัติงานต้องตรวจสอบความพร้อมของเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพที่ดีและปลอดภัยก่อน
เปดิ สวิตซ์เครอ่ื งกลงึ
2. กอ่ นใชเ้ คร่ืองกลึงทุกคร้งั ต้องหยอดน้ามันหล่อล่ืนในส่วนท่ีเคลอ่ื นท่ีให้ครบทุกจุดเพื่อลดการเสยี ด
สี
3. การเปลี่ยนความเร็วรอบ ต้องหยุดเครื่องก่อนทุกครั้งและควรโยกคันโยกบังคับให้ตรงตาแหน่ง
ความเรว็ รอบที่ตอ้ งการพร้อมกบั มอื ขวาหมุนหัวจบั เพือ่ ให้เฟอื งทดเข้ากนั ได้พอดี
4. การเลอื กความเรว็ รอบอัตราป้อนกลึง ควรเลือกให้เหมาะสมกบั วสั ดุทจ่ี ะทาการตัดเฉือน
5. การเปล่ียนถ่ายน้ามันเครื่องควรเปล่ียนตามระยะเวลาท่ีกาหนดและเลือกชนิดน้ามันเครื่องตาม
คมู่ ือท่กี าหนดแตล่ ะเคร่อื ง
6. หลงั การใชง้ านทกุ ครง้ั ต้องทาความสะอาดเครอื่ งมือ เครอ่ื งจกั รและชโลมน้ามันส่วนทเี่ สียดสี
7. ชุดแท่นเล่ือน หลังเลิกใช้งานต้องเล่ือนให้มาอยู่ที่ท้ายศูนย์แท่นทุกคร้ัง เพ่ือช่วยลดน้าหนักการ
แอ่นตัวของแทน่ เล่ือน
ขน้ั ตอนการจัดกิจกรรม หน่วยท่ี 2
ขัน้ ตอนการสอน( กิจกรรมครู) ข้นั ตอนการเรียน (กิจกรรม พฤตกิ รรมทสี่ งั เกต
(คุณลกั ษณะพึงประสงค์)
ผ้เู รยี น)
ทุกครั้งท่มี ีการเรียนการสอน
1. อธิบาย วัตถุประสงค์ นกั เรยี นฟงั รายละเอียดในการ จะวดั ลกั ษณะพงึ ประสงค์
(คณุ ธรรมจรยิ ธรรม) ท่ีสงั เกตได้
มาตรฐานรายวชิ า และ เรียน ไดแ้ ก่
- การตรงต่อเวลา
คาอธิบายรายวิชา - การมรี ะเบียบวนิ ัย
- การตัง้ ใจเรียน
2. อธบิ าย เกณฑ์การให้คะแนน นักเรยี นฟงั ขอ้ ตกลงและ - การมมี นุษยส์ มั พนั ธ์
- การมีความซ่ือสตั ย์สจุ ริต
และการประเมินผลการเรยี น หลักเกณฑร์ ว่ มกนั - การมคี วามเคารพตอ่ ครแู ละ
เพอ่ื นรว่ มชน้ั เรยี น
ขั้นทดสอบ
1. ให้นกั ศึกษาทาแบบทดสอบ นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ น
ก่อนเรยี น (เวลา20 นาที) เรยี นในเวลาทก่ี าหนด
ขน้ั สอน
2. แจกเอกสารใบเนอ้ื หาหนว่ ยที่ นักเรยี นรบั เอกสารใบความรู้
2 เครอื่ งกดั เอกสารประกอบการสอน
ขน้ั ประเมนิ
3. มีการประเมนิ เปน็ รายบคุ คล นักเรยี นทุกคนต้ังใจฟังไม่เข้าใจ
4. มอบหมายให้นักเรียนทา ให้ชักถาม
กิจกรรมตาม ใบงานที่ 9-11 นักเรยี นแต่ละคนปฏิบัติตามใบ
เสรมิ การเรียนรู้ งาน ที่ 9-11
5. ใหน้ กั ศึกษาทาแบบทดสอบ
หลังการเรียน (เวลา30 นาท)ี นักเรียนแต่ละคนทา
แบบทดสอบหลงั เรยี นและ
แบบฝกึ หดั ทา้ ยหน่วยที่ 2 ใน
เวลาที่กาหนด
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยท่ี 2
เครอ่ื งกัด
คาสง่ั จงเลือกคาตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว
1. เครื่องกัดชนิดใดนิยมใช้ในงานซอ่ มบารุงทว่ั ไป
ก. เครื่องกัดเพลานอน ข. เครือ่ งกดั เพลาต้ัง
ค. เครอ่ื งกดั แคร่ยาว ง. เคร่อื งกัดพิเศษ
2. เครื่องกัดชนดิ ใดใชใ้ นการกดั รอ่ งตวั ที (T-Slot)บนชน้ิ งาน
ก. เครื่องกดั แคร่ยาว ข. เครอื่ งกดั เพลานอน
ค. เครอ่ื งกดั เพลาตงั้ ง. เครือ่ งกัดพิเศษ
3. การกดั เฟอื งต้องมอี ปุ กรณ์ใดชว่ ยกดั
ก. หัวแบง่ ข. ด้ามมดี ควา้ น
ค. ปากกาจบั งาน ง. End Mill
4. อุปกรณช์ นดิ ใดหมนุ ได้ 360 องศา
ก. โต๊ะงานเคร่ืองกดั ข. Rotary Table
ค. ศนู ย์ทา้ ย ง. อปุ กรณ์พเิ ศษงานไส
5. Slotting Attachment เป็นอุปกรณ์สาหรบั ทางานในขอ้ ใด
ก. อุปกรณก์ ดั รู ข. อุปกรณก์ ัดงาน
ค. อุปกรณก์ ดั เฟือง ง. อปุ กรณ์ไสแนวดิง่
6. อปุ กรณ์Rotary TableAttachment เปน็ อปุ กรณ์กดั งานประเภทใด
ก. บา่ ฉาก ข. กัดเฟอื ง
ค. กัดรอ่ งโค้ง ง. กัดเรียบ
7. งานเซาะร่องใช้ดอกกดั ชนดิ ใด
ก. Angular Cutter ข.Convex Cutter
ค. Face Milling Cutte ง. Slitting Saw
8. งานกดั ผวิ ราบควรใชด้ อกกดั แบบใด
ก. Concave Cutter ข. Angular Cutter
ค. End Mill ง. Corner Rounding Cutter
9. การแบง่ ตรงหรอื การแบง่ อยา่ งง่ายควรใชจ้ านแบ่งขนาดก่รี ู
ก. หนา้ จาน 22 รู ข. หนา้ จาน 26 รู
ค. หนา้ จาน16 รู ง. หน้าจาน 18 รู
10. การแบ่งผสมนยิ มแบ่งฟนั ต้ังแต่กฟี่ นั ขน้ึ ไป
ก. 46 ฟนั ข้นึ ไป ข. 50 ฟันขนึ้ ไป
ค. 32 ฟนั ขน้ึ ไป ง. 40 ฟันขน้ึ ไป
11. ความเรว็ ของมดี กดั ขึ้นอยู่กบั ปัจจยั ขอ้ ใดเปน็ สาคญั
ก.ความโตของมดี กัด ข. ความโตของงานกัด
ค.ขนาดของเครื่องกดั ง. การหลอ่ เย็นช้นิ งาน
12. ปากกาจับงานแบบธรรมดาคือขอ้ ใด
ก. Universal Vise ข. Plain Vise
ค. Flanged Viseง.Swivel Base vise
13. ขอ้ ใดเป็นเครอื่ งมอื ทใ่ี ชท้ ดสอบความไดฉ้ ากของปากกากบั เสาเครือ่ งกัด
ก.ขอชา้ ง ข. เวอรเ์ นียร์ไฮเกจ
ค. นาฬิกาวัด ง. เกจ
14. การกัดงานตามขอ้ ใดจะไดข้ นาดงานตามที่ต้องการมากท่ีสุด
ก.ใช้ขอชา้ งชว่ ยในการสอบงาน ข. ขีดเสน้ แล้วกดดงึ เสน้
ค.ขดี เสน้ แลว้ ปอ้ นโดยใช้สเกลชว่ ย ง. กัดงานสลบั กับการวดั ขนาด
15. กอ่ นเปิดสวติ ซ์เคร่อื งกัดต้องปฏบิ ตั ิตามข้อใดก่อน
ก. เลอ่ื นชิ้นงานใหพ้ น้ จากมีดกัด ข. ปรับทิศทางการหมุนของมดี กดั ให้
ถกู ต้อง
ค. สวมแว่นตานริ ภยั ขณะทางาน ง. เปิดสวติ ซ์เคร่อื งกัดไดเ้ มอ่ื จับช้นิ งาน
พร้อม
หน่วยที่ 2
เครื่องกัด
หวั เรือ่ ง (Topics)
2.1 หลักการทางานของเครอ่ื งกดั
2.2 ประเภทของเครื่องกัด
2.3 เคร่อื งมอื และอุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นงานกัด
2.4 ความเร็วกัดและอตั ราการปอ้ นกดั
2.5 การขน้ึ รูปงานกัด
2.6 การบารงุ รกั ษาเครือ่ งกดั
2.7 ความปลอดภัยในการใชเ้ คร่อื งกดั
แนวคิดสาคัญ (Main ldea)
เครือ่ งกัด คือ เป็นเครื่องจักรกลชนิดหนึ่ง มีท้ังเคร่ืองกัดแกนเพลานอนและเครื่องกัดแกนเพลา
ตัง้ มคี วามสามารถในการทางานกัดลดขนาดผิวงาน กัดร่องหางเหยี่ยว กัดขึ้นรูปแบบตา่ งๆ และกัดเฟืองชนิด
ต่างๆ นอกจากนัน้ ยังสามารถจับยึดหัวจับดอกสว่าน ดอกคว้านรูรีมเมอร์ ในการทางานรปู แบบต่างๆได้อีก
ด้วย
สมรรถะยอ่ ย (Element of Competency)
1. กดั ชิ้นงานให้ผิวเรียบหรือเปน็ ช่องได้
2. กดั เฟอื งทกุ ชนิดด้วยมีดกดั (Cutter) ได้
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (Behavioral objectives)
1. อธบิ ายหลกั การทางานของเคร่อื งกัดได้
2. บอกเครือ่ งกัดชนดิ ต่างๆได้
3. บอกเครือ่ งมอื และอปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นงานกดั
4. คานวณเฟอื ง ความเร็วกัด อตั ราป้อนกดั และป้อนลกึ ได้
5. บอกชนดิ ดอกกัด (Cutter) ตา่ งๆได้
6. อธบิ ายความปลอดภัยในการใชเ้ คร่อื งกดั ได้
7. บอกวธิ ีบารงุ รกั ษาเคร่ืองกดั ได้
เน้ือหาสาระ (Content)
เครื่องกัดมีท้ังเครื่องกัดแกนเพลานอนและเคร่ืองกัดแกนเพลาแนวต้ัง มีความสามารถในการทางานได้
หลากหลาย เช่น กัดลดขนาดผิวงาน กดั รอ่ งหางเหยี่ยว กัดเฟืองชนิดตา่ งๆ และกัดข้ึนรูปแบบตา่ งๆ นอกจากน้ัน
ยังสามารถจบั ยึดหวั จบั ดอกสว่ าน ดอกคว้านรรู มี เมอร์
2.1 หลกั การทางานของเคร่ืองกัด
หลักการทางานโดยมีดกัดจะหมุนตัดช้ินงาน มดี กัดจะมที ั้งแบบคมตัดเดยี วและแบบหลายคม
ตัด ช้ินงานจะถูกยึดตดิ กับอุปกรณช์ ่วยจับยึดปากกาจับงานไว้ให้แข็งแรงเพอ่ื กัดราบ กัดร่อง กัดเฟือง กัด
เกลียว เจาะรู ควา้ นรู การรีมเมอร์
2.2 เครอื่ งกัดชนิดตา่ งๆ
2.2.1 เครอ่ื งกดั เพลานอน(Plan Knee and Column Milling Machine) เครื่องกัดเพลานอน
เปน็ เครือ่ งกดั ทีม่ ีเพลาจับมีดกัดอยู่ในแนวนอนและมีโตะ๊ งานสาหรบั จับช้ินงานหรือแบบโตะ๊ งานปรบั องศาได้
(Universal Table) นยิ มใช้กัดงานทัว่ ไปทัง้ กัดผวิ เรยี บ กดั มมุ กันรอ่ ง และกดั เฟือง
ตวั ประคองแกนเพลา แกนเพลามีดกดั
คนั โยกปรบั ความเรว็ รอบ
โตะ๊ งาน มอื หมนุ แนวขวาง
คนั โยกอตั โนมตั ิ
มอื หมนุ ขนึ้ -ลง
มือหมนุ เขา้ -ออก ฐานเครื่อง
จากตวั เครื่อง
ชดุ ควบคมุ
รปู ท่ี 2.1 เครื่องกดั เพลานอน
(ที่มา : http://www.machinerytool.net)
2.2.2 เครอ่ื งกัดต้ัง (Vertical Milling) เครือ่ งกดั ต้งั เปน็ เครื่องกัดท่มี เี พลาจับมีดกัดอยู่ใน
แนวต้ังหรอื แนวดงิ่ และสามารถปรับเปน็ มมุ ตา่ งๆได้ นิยมใช้กดั ร่องรปู แบบต่างๆด้วยเอ็นมิล (End Mill)
ชดุ สายพาน มอเตอร์
ชดุ ควบคมุ
แกนเพลา สวติ ชเ์ ปิดเครื่อง
โครงเครอ่ื งกดั
โต๊ะงาน
มือหมนุ แนวขวาง
มือหมนุ ขนึ้ -ลง
ฐานเครอ่ื ง
รปู ท่ี 2.2 เครอื่ งกดั ตงั้
(ท่ีมา : http://www.machinerytool.net)
2.2.3 เครือ่ งกดั ชนดิ พเิ ศษ (Manufacturing Type Milling Marching) เป็นเคร่อื งกัดที่
ออกแบบข้ึนมาใช้งานแบบพิเศษ เชน่ เครอื่ งกัดแครย่ าว เครื่องคว้านรูเรียบเครื่องกัด 2 หัว
รูปที่ 2.3 เคร่อื งกัดชนดิ พิเศษ
(ทม่ี า : http://thai.alibaba.com)
2.3 เครื่องมอื และอุปกรณท์ ใี่ ช้ในงานกัด
2.3.1 อปุ กรณจ์ บั ยดึ (Fixtures) อุปกรณ์จบั ยดึ เปน็ อปุ กรณท์ ใ่ี ช้จับยึดชนิ้ งานให้แนน่ เช่น
1. ปากกา (Vises) เป็นอุปกรณส์ าหรบั งานกัดสามารถจับยึดชน้ิ งานไดอ้ ย่างกวา้ งขวาง
(1) Plain Vise เปน็ ปากกาท่ีจับยึดบนโต๊ะงานของเครือ่ งกดั สามารถจบั ใหป้ ากกา ขนาน
หรอื ตั้งฉากกับแกนเพลาเครอ่ื งกดั ได้
รูปที่ 2.4 ปากกาทจ่ี บั ยึดบนโตะ๊ งาน
(ทีม่ า : มนสั นริ ะโส, 2559)
(2) Swivel Dase Vise เปน็ ปากกาท่ีฐานสามารถหมุนได้ 360 องศา ในแนวราบ
รูปท่ี 2.5 ปากกาทฐ่ี านสามารถหมุนได้ 360 องศา
(ทมี่ า : http://sunrisegr.com)
(3) Universal Vise เปน็ ปากกาที่สามารถหมนุ ได้ 360 องศา ในแนวระนาบแล้วหมุนได้
0-90 องศา ในแนวด่งิ
รปู ที่ 2.6 ปากกาที่สามารถหมุนได้ 360 องศาในแนวระนาบ และ 0-90 ในแนวดงิ่
(ที่มา : http://sunrisegr.com)
2. หัวแบ่ง (Indexing) เป็นอปุ กรณ์ทจ่ี าเปน็ และมีประโยชนม์ ากของเครอื่ งกัดท่ใี ชส้ าหรับ
แบง่ เพื่อกดั งาน เช่น กดั งานเฟอื ง กัดเหลีย่ ม แป้นเกลียว เม่อื นามาต่อกบั เพลาเกลียวนาของเคร่อื งกัด จะ
พาใหง้ านหมุนเพ่อื กัดเฟืองเฉียงและกดั รอ่ งดอกสวา่ น ฯลฯ
รปู ที่ 2.7 หวั แบง่ สาหรับกัดเฟือง
(ทีม่ า : http://sunrisegr.com)
3. Angle Milling Attachment เป็นอุปกรณ์ทีเ่ ปลี่ยนทิศทางของการกดั ในแนวตง้ั มาเป็น
แนวนอน
รปู ท่ี 2.8 อุปกรณท์ ่ีเปล่ียนทิศทางของการกดั ในแนวตัง้ มาเปน็ แนวนอน
(ท่ีมา : https://www.google.co.th)
4. Universal Angle Attachment เป็นอปุ กรณ์ทีใ่ ช้จับเครื่องมอื เล็กๆ ที่ใช้กัดมมุ ต่างๆ
ระหว่างแนวดงิ่ และแนวนอน
รปู ที่ 2.9 อปุ กรณ์ที่ใช้จบั เคร่อื งมือขนาดเล็กที่ใช้กัดมมุ ต่างๆระหวา่ งแนวดง่ิ และแนวนอน
(ท่มี า : https://www.google.co.th)
5. Vertical Milling Attachment เปน็ อุปกรณ์พเิ ศษท่ีใช้สาหรบั เปลี่ยนทศิ ทางของเคร่อื งกดั แนวนอน
มาเปน็ ทศิ ทางในแนวดิ่ง เพ่ือใช้กัดงานในแนวตง้ั
รูปท่ี 2.10 อปุ กรณพ์ ิเศษทใ่ี ช้สาหรบั เปล่ียนทิศทาง
(ท่ีมา : http://www.indiamart.com)
6. Rotary Table Attachment เปน็ อปุ กรณ์พเิ ศษที่สามารถหมนุ ได้รอบตวั 360 องศา
สามารถจับงานเพือ่ กดั ร่องโค้งและสามารถจบั งานเพือ่ เจาะรูได้
รปู ที่ 2.11 อุปกรณพ์ เิ ศษสามารถจับงานเพ่ือกดั ร่องโคง้ และเพื่อเจาะรูได้
(ท่ีมา : http://www.troyke.com)
7. ชดุ คว้าน(Boring Head) เป็นอปุ กรณ์ที่ใช้กบั เครอ่ื งกดั เพือ่ ใช้สาหรับการคว้านรูบน
เคร่อื งกัดท่ตี อ้ งการขนาดท่แี น่นอน
รูปท่ี 2.12 ชดุ ควา้ นแบบตา่ งๆ
(ที่มา : http://www.shobha-india.com)
1.8 Slotting Attachment เปน็ อปุ กรณ์พิเศษที่ใชส้ าหรับไสในแนวดิง่ เป็นอุปกรณท์ ี่
เปล่ยี นจากการหมุนมาเปน็ การเคลอื่ นท่ีในแนวเส้นตรง เพื่อไสรอ่ งลิ่ม ร่องสปายและร่องไสรูปร่างตา่ งๆ
รปู ท่ี 2.13 อปุ กรณ์พิเศษทใ่ี ชส้ าหรบั ไสในแนวด่ิง
(ท่ีมา : http://www.lathes.co.uk)
9. High Speed Attachmentเปน็ อปุ กรณ์ทีใ่ ชก้ บั เครื่องกดั นอน เพอ่ื ทาให้เครอ่ื งกัด
นอนสามารถกัดต้ังได้ โดยการใชก้ บั End Milling
รูปที่ 2.14 อุปกรณท์ ใ่ี ช้เพือ่ ทาใหเ้ คร่ืองกัดนอนสามารถกัดตั้งได้
(ทม่ี า : http://www.cnccookbook.com)
10.Universal Spiral Attachment เปน็ อุปกรณพ์ ิเศษทีอ่ อกแบบมาเพ่ือสามารถให้
เครอื่ งกัดธรรมดาสามารถกัดรอ่ งบิดได้ อปุ กรณ์ชนดิ น้ีจะยึดติดอย่ดู า้ นหน้าเสาของเครื่องกัด และจะถกู ขบั
โดยแกนเพลา และสว่ นหวั สามารถหมนุ ไดท้ ัง้ แนวดิ่งและแนวนอน อปุ กรณ์ชนิดน้ีหากใชก้ บั เคร่อื งกัดยูนิ
เวอรแ์ ซล สามารถกัดรอ่ งบิดได้มากกว่า 45 องศา สามารถกัดงานไดห้ ลายอย่าง เช่น กัดเกลียว กัดเฟอื ง
เฟืองสะพาน
รปู ท่ี 2.15 อปุ กรณพ์ ิเศษเครื่องกดั ธรรมดาสามารถกดั ร่องบดิ ได้
(ทีม่ า : http://4mechtech.blogspot.com)
11. Rack Milling Attachmentเปน็ อปุ กรณ์พเิ ศษเกย่ี วกบั เคร่ืองกัด เพอ่ื ใช้สาหรับกัด
เฟืองสะพานเครอื่ งกดั นอน โดยการประกอบอุปกรณ์พเิ ศษดังกล่าว เพอ่ื เปล่ยี นทิศทางแกนเพลาของ
เครอ่ื งกดั แนวนอนให้มากดั ตามแนวยาวของโต๊ะงาน
รูปที่ 2.16 อปุ กรณพ์ เิ ศษเพือ่ ใช้สาหรบั กัดเฟืองสะพานเครอ่ื งกัดนอน
(ทม่ี า : http://www.lathes.co.uk)
12. Rack Indexing Attachment เป็นอปุ กรณ์ทใ่ี ชแ้ บง่ เพอ่ื กดั เฟอื งสะพานใชร้ ว่ มกับ
Rack Milling Attachment
รปู ที่ 2.17 อุปกรณ์ทใ่ี ช้แบง่ เพอ่ื กดั เฟอื งสะพาน
(ที่มา : http://www.lathes.co.uk)
13. ชุดหวั จับจาปา (Cullet Chuck) ใช้สาหรับจบั ดอกกัดท่มี ีดา้ มจบั เช่น End milling
2.3.2 ดอกกดั และอปุ กรณจ์ บั ยึด
ดอกกัดเปน็ เคร่ืองมือตัดที่มหี ลายคมตัด ใช้กบั เคร่ืองกดั ที่มหี ลายรปู รา่ งหลายขนาด ดอกกดั มี
3 ประเภท คือ
1. ดอกกดั ที่เป็นชนิ้ เดยี ว วัสดุที่ทาจากเหลก็ รอบสงู เหลก็ หล่อผสม หรือซเี มนตค์ ารไ์ บด์
2. ดอกกัดท่ีลาตวั เปน็ เหล็กกล้าผสม สว่ นดอกตัดทามาจากซเี มนตค์ าร์ไบต์
3. ดอกกัดที่ลาตัวเปน็ เหลก็ กล้าผสม สว่ นช้นิ คมตัดเปน็ แบบดอกเปลย่ี นได้ ซ่ึงทามาจาก
เหล็กรอบสูง
2.4 ชนิดดอกกัด
ดอกกดั (Cutter) เปน็ อปุ กรณ์ท่ีจาเปน็ อย่างยงิ่ สาหรบั เครอ่ื งกัด สามารถทาใหเ้ ครื่องกดั ทางานได้
หลากหลาย เพราะอุปกรณ์ในงานกัดมหี ลายชนิด ดงั น้ี
1. Plain – Milling Cutter เป็นดอกกัดสาหรับงานกดั รอ่ ง งานกัดร่องล่มิ และงานกดั ผิวราบ
ลักษณะดอกกัดจะมแี บบฟันตรง สว่ นใหญม่ ขี นาดความหนาของดอกกัดไม่เกนิ ¾ นว้ิ หรือประมาณ 19
มิลลเิ มตร
รปู ท่ี 2.18 ดอกกัดสาหรับงานกดั ร่อง
(ที่มา : https://en.wikisource.org)
2. Plain Spiral – Tooth Milling Cutter เปน็ ดอกกัดสาหรับงานกดั ผวิ ราบจะมีฟนั เอียง
ส่วนใหญ่มขี นาดความหนามากกวา่ ¾ นิว้ หรือประมาณ 19 มิลลเิ มตร
รูปที่ 2.19 ดอกกัดสาหรบั งานกัดผิวราบ
(ทม่ี า : https://en.wikisource.org)
3. Helical Plain – Milling Cutter เปน็ ดอกกดั สาหรับงานกัดผิวราบ จะมีฟนั บิดเอียง
มากกว่าแบบ Plain Spiral – Tooth Milling Cutter
รปู ท่ี 2.20 ดอกกดั สาหรับงานกดั ผวิ ราบ
(ที่มา : http://toolinghouse.com)
4. Side – Milling Cutter เป็นดอกกัดท่ีมีคมตัดด้านข้างทง้ั สองข้าง
รปู ที่ 2.21 ดอกกัดท่ีมีคมตัดด้านข้างทั้งสองขา้ ง
(ทมี่ า : https://en.wikisource.org)
5. Staggered – Tooth Side – Milling Cuter เปน็ ดอกกดั ทมี่ คี มตัดดา้ นขา้ งท้งั สองขา้ งแต่
สลบั ไปมา
รปู ท่ี 2.22 ดอกกดั ที่มีคมตัดดา้ นข้างท้งั สองข้างแต่สลบั ไปมา
(ทีม่ า : http://www.amazon.com)
6. Face – Milling Cutter เปน็ ดอกกดั ผวิ เรียบแบบใชม้ ดี คมตดั เดียวหลายอัน
รปู ที่ 2.23 ดอกกัดผวิ เรียบแบบใช้มดี คมตดั เดียวหลายอัน
(ทีม่ า : http://www.imexbb.com)
7. Slitting Saws มีลักษณะเหมอื นเล่ือยวงเดือน ใช้สาหรับงานเซาะร่องและตดั ช้นิ งาน
รปู ท่ี 2.24 ดอกกัดสาหรบั งานเซาะร่องและตัดช้นิ งาน
(ทีม่ า : http://www.vibgyorindiaco.in)
8. Slitting Saws แบบมีคมตดั ดา้ นข้าง
รูปที่ 2.25 ดอกกดั แบบมคี มตัดดา้ นข้าง
(ท่มี า : http://www.vibgyorindiaco.in)
9. Angular Cutter ดอกกดั มมุ เอยี ง
รปู ที่ 2.26 ดอกกดั มุมเอยี ง
ท่ีมา : (https://en.wikisource.org)
10. Double Angular Cutter ดอกกดั มมุ เอียงสองดา้ น
รปู ที่ 2.27 ดอกกัดมุมเอยี งสองด้าน
(ที่มา : http://www.ebay.com/bhp/double-angle-cutter)
11. Convex Cutter ดอกกัดโคง้ เว้าในช้ินงาน
รปู ท่ี 2.28 ดอกกดั โคง้ เวา้ ในช้นิ งาน
(ทม่ี า : http://www.amazon.com)
12. Concave Cutter ดอกกดั รอ่ งโค้งบนชิน้ งาน
รปู ที่ 2.29 ดอกกดั รอ่ งโคง้ บนชน้ิ งาน
(ท่มี า : http://www.lalsoncuttingtools.com)
13. Corner – Rounding Cutter ดอกกัดมมุ มนบนช้นิ งาน
รปู ที่ 2.30 ดอกกัดมุมมนบนชิน้ งาน
(ทมี่ า : https://en.wikisource.org/wiki/Practical)
14. End Mill เปน็ ดอกกัดที่มรี ปู รา่ งคล้ายดอกสวา่ นปลายมีคมกัด
(1) End mill แบบสองคมตัดใช้กดั รอ่ งหรอื เจาะรคู ลา้ ยดอกสวา่ น
รูปท่ี 2.31 ดอกกดั สองคม
(ทม่ี า : http://www.mini-lathe.com)
(2) End Mill แบบสี่คมตัด ใชก้ ดั ร่องหรือกัดผวิ ราบ
รูปที่ 2.32 ดอกกัดแบบสี่คมตัดใช้กดั ร่องหรือกัดผิวราบ
(ทีม่ า : http://www.mini-lathe.com)
15. End Mill แบบสี่คมตดั ก้านเรียว
รูปที่ 2.33 ดอกกัดแบบส่ีคมตดั กา้ นเรียว
16.(ทีม่ า : https://www.google.co.th/search?rlz=1C2VSNC_enTH605TH605&dcr)
17. Shell End Mill ใชร้ ว่ มกับ Arbor
(ก) ดอก Shell End Mill (ข) เพลา Arbor
รูปที่ 2.34 ดอกกัดใชร้ ว่ มกับ Arbor
(ทม่ี า : http://scharptools.com)
18.T – Slot Cutter ใชส้ าหรบั กดั ร่องตัวที
รูปที่ 2.35 Cutter สาหรบั กดั รอ่ งตัวที
(ท่ีมา : http://www.ostartools.com)
19. Woodruff Key Seat Cutter ใชส้ าหรับกัดร่องลิ่มวงเดอื น
รปู ท่ี 2.36 Cutter สาหรับกัดร่องล่ิมวงเดอื น
(ท่มี า : https://www.google.co.th/search)
20. Involute Spur Gear Cutter ใช้สาหรบั กัดเฟอื ง
รูปที่ 2.37Cutter สาหรับกดั เฟอื ง
(ท่มี า : https://en.wikisource.org)
21. Straddle Sprocket Cutter ใช้สาหรับกดั จานโซ่
รปู ที่ 2.38Cutter สาหรบั กดั จานโซ่
(ท่ีมา : http://www.arkarnsin.com)
2.5 ความเรว็ กัด อตั ราปอ้ นกดั และการปอ้ นลกึ
ความเร็วกัด คือความเรว็ ที่คมมดี ตัดปาดผวิ โลหะออกเม่อื ชนิ้ งานหรอื มดี ตดั หมุนไปครบ 1 รอบ มีหนว่ ยวดั
เป็นเมตรต่อนาที หรือฟุตตอ่ นาที
สตู รการคานวณหาค่าความเร็วตัดของงานกดั
V = DN (เมตร/นาที)
เมอ่ื กาหนด 1,000
V = ความเร็วตัด(เมตร/นาที)
D = ขนาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางของดอกกดั (มลิ ลิเมตร)
N = ความเรว็ รอบของตัวกดั (รอบ/นาท)ี
สูตรการคานวณหาอตั ราปอ้ นกัด
อัตราป้อนกดั คอื ระยะการปอ้ นชนิ้ งานหรอื ดอกกดั ตัดเข้าหาช้ินงาน เมอ่ื ชิน้ งานหรอื ดอกกดั ตดั หมุน
ครบหนึง่ รอบ มหี น่วยวัดเป็น มม./รอบ หรอื ฟุต/รอบ
อัตราป้อนกัด = จานวนฟันดอกกดั x อตั ราป้อนกัด/ฟนั x ความเร็ว
สูตรการคานวณหารอบของดอกกดั
เมือ่ กาหนด F = TRN
F = อตั ราป้อนกดั เท่ากบั มลิ ลเิ มตร/นาที
T = จานวนฟนั ดอกกดั เท่ากบั ฟัน
R = อัตราป้อนกัดตอ่ ฟนั เท่ากับ มม./ฟนั
N = ความเรว็ รอบ เท่ากบั รอบ/นาที
การป้อนลกึ คอื การคานวณจากความเรว็ กัดและอัตราป้อนกดั ของชิน้ งาน ซง่ึ การปอ้ นลึกมี 3
ขั้นตอน คือ
(1) การปอ้ นกดั หยาบ (Rough Process) มีจุดประสงค์เพอ่ื กาจดั เนอ้ื วสั ดุท่ไี มต่ ้องการออกไปใหม้ าก
ทส่ี ุดและเรว็ ทสี่ ดุ
(2) การป้อนกดั กงึ่ ละเอียด (Semi-Finish Process) มจี ุดประสงค์เพ่ือปรับคา่ เผอ่ื เก็บละเอียด
(Stock Allowance) ให้มขี นาดใกลเ้ คียงกันมากท่สี ุดก่อนทาการกัดละเอียด
(3) การปอ้ นกัดละเอยี ด (Finishing Process) มีจุดประสงค์เพอ่ื กดั ผิวให้มีคา่ ความละเอยี ด รูปทรง
(Form) ทศิ ทาง (Orientation) ตาแหนง่ (Location) และขนาด (Size) ของพื้นผวิ ให้ไดค้ ่าตามทก่ี าหนดใน
แบบงาน
หวั แบ่ง
สว่ นประกอบของหวั แบง่
ศนู ยต์ ายหวั แบง่
ศนู ยท์ า้ ย
เฟื องประกอบ
แขนหมนุ หวั แบง่
จานแบง่
แขนหมนุ หวั แบง่ แปน้ ประกบหวั
สแลบกั ง่ใสแ่ ขนหมนุ
เพลาประกอบชดุ เฟือง
รูปท่ี 2.39 สว่ นประกอบหัวแบง่
(ที่มา : http://neotools.nanasupplier.com)
การเลอื กจานแบง่ ในการกัดชน้ิ งาน
ในการกัดชิ้นงานสามารถใช้เคร่ืองกัดแนวตงั้ ในการกัดงานไมว่ ่าการกดั หัวหกเหลย่ี ม กดั เฟอื งชนดิ ตา่ งๆ กดั
รอ่ ง วิธีท่จี ะแบ่งในการกดั ชน้ิ งานดังกล่าวให้ได้งานท่มี คี วามเทีย่ งตรงสงู ตอ้ งใช้วิธกี ารแบง่ 4 วธิ ี คอื
1. การแบ่งตรงหรอื การแบ่งอย่างง่าย (Direct Indexing) คือ การแบ่งท่ไี มต่ อ้ งผา่ นเฟอื งทด โดยใช้จานแบง่
ตอ่ ตรงกับแกนของงานที่จะกดั ชนิ้ งานโดยตรง ซ่ึงจานแบ่งทนี่ ิยมใชจ้ ะมีรขู นาด 16, 24, 36 และ 42
หากตอ้ งการใชจ้ านแบง่ ทม่ี ีรู 36 รู สว่ นท่ตี ้องการจะแบง่ ต้องนาจานวนฟนั เฟืองมาหารลงตวั โดยใช้สูตรใน
การแบง่ ดังน้ี
G = 36 = จานวนรู
เมอ่ื กาหนด
G
36 = จานวนรใู นจานแบง่
n = สว่ นท่ีต้องการแบ่ง
ตัวอยา่ งที่2.1 หากต้องการกดั เฟืองจานวน 9 ฟนั จะใชก้ ่รี ูในการกดั เฟือง
วิธที า
จากสตู ร G = 36
G = 36
9
G = 4 รู ตอบ
ฉะนน้ั ในการกัดเฟอื งจานวน 9 ฟนั ต้องเล่ือนแขนหมนุ หัวแบ่งครั้งละ 4 รู ได้ฟัน 1 ฟัน หรือจะใชก้ ารแบ่ง
องศาที่หัวแบ่งซึ่งที่มีรูล็อกตาแหน่งสามารถหมุนได้ 360 องศา โดยนาองศาต้ังหารด้วยจานวนฟันท่ี
ต้องการกดั ไปหาร จะได้จานวนรหู มนุ ที่ต้องการกัด
หวั จบั ชนิ้ งาน แขนหมนุ องศา
สเกลองศา
รูปท่ี 2.40 หัวแบ่งใช้องศา
(ทมี่ า : http://www.truck2hand.com)
2. การแบง่ ซอ้ น (Plain Indexing)
สาหรับการแบ่งซ้อนเป็นการแบ่งจานวนฟนั เฟืองมากข้ึนในการกดั เฟือง เช่น 24 ฟัน 48 ฟัน
และ 64 ฟัน ซึ่งจะมีความยุ่งยากกว่าการกัดแบบแบ่งตรงที่ต้องคานวณเพื่อเลือกจานแบ่งให้ตรงกับจาน
แบ่งท่ีต้องการ หลังจากคานวณจานแบ่งได้แล้วโดยการหมุนแขนมือหมุนหัวแบ่ง (Index Ceank) แล้ว
ส่งผ่านไปขับเกลียวหนอน (Screw Worm) โดยผ่านเฟืองหนอน (Worm Gear) ที่มีอัตราทดเฟืองหนอน
และเกลยี วหนอนในอัตราส่วน 40:1 หมายความว่าเม่ือหมุนแขนมือหมุนหวั แบ่งไป 40 รอบ เฟืองหนอน
จะหมนุ ไป 1รอบเทา่ กบั เกลียวหนอนเคลือ่ นทไ่ี ปจานวน 40 ฟัน
หวั แบง่ ซอ้ นในการกัดเฟอื งท่ัวไป
รปู ที่ 2.41 หัวแบ่งซ้อน
(ท่มี า : http://neotools.nanasupplier.com)
ส่วนสาคญั ของหัวแบง่ ซอ้ นและศนู ยท์ า้ ย
รปู ที่ 2.42 ภาพสเก็ตชห์ วั แบ่งซอ้ น
(ทม่ี า : http://www.sunrisegr.com)
จานแบ่ง (Index Plate)
เป็นอุปกรณ์ท่ีประกอบชดุ หวั แบ่งซ่งึ ทาหนา้ ทใี่ นการแบ่งส่วนในการกดั เฟือง ในจานแบ่ง แบง่ จานวนรู
ออกเปน็ แบบแถว จานแบง่ โดยท่ัวไปมี 3 แผน่ แต่ละแผ่นแบง่ รูออกเป็นแถว ดังนี้
จานแบ่งท่ี 1 จะมีรู 15 – 16 – 17 –18 - 19- 20 รู
จานแบง่ ที่ 2 จะมรี ู 21 – 23 – 27 - 29 - 31- 33 รู
จานแบง่ ท่ี 3 จะมรี ู 37 - 39 – 41 – 43 –47 - 49 รู
สูตรการคานวณแบง่ ซ้อน
G = 40
เม่อื กาหนด
G = จานวนรอบในการหมนุ แขนแบ่ง
40 = อัตราทดของเฟอื งหนอนและเกลียวหนอน
n = จานวนฟนั ท่ตี อ้ งการหรอื สว่ นที่จะแบง่
ตวั อย่างท่ี 2.2 หากตอ้ งการกัดชน้ิ งานหกเหลยี่ มดา้ นเทา่ ต้องใชจ้ านแบง่ กรี่ ู
วธิ ที า G =40
สูตร
G = 40
6
= 40 × 3
63
= 120
18
G = 6 12
18
ฉะนั้นตอ้ งหมนุ แขนแบ่ง 6 รอบ กับอกี 12 รูบนจานแบง่ แถว 18 รูเชน่ หากตอ้ งต้องการใช้จานที่ 2 ตอ้ ง
เลือก 27 รู จะต้องหาตวั เลขไปคูณให้ลงตัว 2×9 = 18 ตอ้ งหมุนแขนแบง่ ไป 6 รอบ กับ 18 รู ใน
3×9 27
หน้าจานแถว 27 รู จงึ จะได้หกเหล่ียมดา้ นเท่า ตอบ
3. การแบง่ ผสม (Compound Indexing)
การแบ่งชนดิ น้เี ป็นการแบ่งจานวนฟนั เฟอื งทเี่ กนิ 50 ฟนั ขึน้ ไป ซงึ่ ไมส่ ามารถใช้วธิ ีการแบ่งแบบ
การแบ่งซ้อน (Plain Indexing) ได้ เพราะมีความยุง่ ยากกวา่ ในการใชห้ ัวแบ่งและจานแบ่งในการหมุนแตล่ ะ
ครัง้ จะต้องใชแ้ ถวของรแู บ่งจานวน 2 แถว ในจานเดยี วกนั ดังตัวอย่างตอ่ ไปน้ีเป็นการคานวณแบบแบ่งผสม
ตัวอย่างที่2.3 จงคานวณการแบ่งเฟอื ง จานวน 51 ฟนั
สูตร G = 40
= 40
51
จานแบง่ แถว 51 รู ซง่ึ ไมส่ ามารถแบง่ 40 ให้เป็นเศษสว่ นอย่างตา่ ได้ ต้องใช้วธิ แี บง่
51
แบบกระจายดงั นี้ 40 = 46 - 6 = 23 × 2 = 23 × 2×6
51 51 51 17 3 17 3×6
= 23 × 12
17 18
= 1 6 × 12
17 18
ฉะนน้ั สามารถหาจานวนรูได้ 2 รู ในจานแบ่งเดยี วกันใหใ้ ช้จานแบ่งท่ี 1 ท่ีมีแถว18 รู และ 17 รู
ขัน้ ตอนการแบง่ มีดงั น้ี การแบง่ ครงั้ ท่ี 1 ต้องตงั้ แขนหมุนแบ่งไปทจ่ี านแบง่ ทีม่ รี ู18 รู และหมนุ แขนหมุนหัว
แบ่งไป 12 รู จึงลอ็ กให้ตรงตาแหน่งการแบ่ง คร้ังที่ 2 ดงึ แขนหมุนหัวแบ่งออกแล้วหมนุ แขนหมุนแบ่งไปที่
รูแถว 17 รูแลว้ ลอ็ กให้ตรงตาแหน่งจากนัน้ ดงึ แขนหมนุ หวั เขม็ กลบั ไป 1 รอบ กบั 6 รู เพอ่ื ให้ได้จานวน
รอบท่ี 40รอบ
51
4. การแบง่ แบบซับซอ้ น (Differential Indexing)
เปน็ การแบ่งจานวนฟันเฟืองท่ตี ้องการกัดเฟืองจานวนมากทไ่ี ม่สามารถกัดวิธีอ่ืนได้ ต้องอาศยั การกดั
เฟืองแบบซับซ้อนจานวนฟนั เฟอื งต้ังแต่ 70 ฟนั ข้ึนไปที่ใชก้ ารแบง่ แบบซบั ซอ้ น โดยการหมุนแขนหมุนหวั
แบง่ แตใ่ นขณะเดยี วกนั จานแบ่งจะหมนุ ไปดว้ ย ซ่งึ การกัดแบบนีต้ อ้ งประกอบเฟอื งชุดเพ่ือทดรอบในการกดั
ระหวา่ งเพลาหัวแบง่ กับเพลางาน
รปู ที่ 2.43การแบ่งแบบซบั ซอ้ น
(ทม่ี า : https://www.google.co.th)
เฟอื งมาตรฐานมีหลายขนาดทจี่ ะเลอื กเปล่ียนในการประกอบเฟืองชุด มดี งั น้ี 24, 28, 32 40, 44, 48,
56, 64, 72, 80, 84, 96 และ 100 ฟนั หลกั การแบ่งแบบซับซ้อนทีก่ ัดเฟอื งจานวนฟันเฟืองมากกว่า
70 ฟนั ทีไ่ มส่ ามารถกดั แบบท่ัวไปได้ เช่น หากต้องการกดั เฟอื งจานวน 143 ฟัน บางคร้ังไมส่ ามารถ
คานวณจานวนฟันที่ตอ้ งการ ตอ้ งเลอื กกดั จานวนฟันท่ีใกลเ้ คียงโดยนาสว่ นท่ขี าดมากัดแบบแบง่ ซับซ้อนให้
หมนุ จานแบ่งตามเข็มนาฬกิ าหรอื หมนุ ทวนเข็มนาฬกิ ากับแขนหมนุ หัวแบ่ง เพื่อใหไ้ ด้เฟอื งตามจานวนท่ี
ต้องการ ดังนั้นต้องหาชดุ เฟอื งทดมาประกอบในการกดั เฟืองโดยเฟืองชดุ ได้จากการคานวณดงั นี้
สตู รG1= 1(n1- n)
2
1= 4 01(n1- n)
2
หมายเหตุ 40 มาจากหวั แบง่ ทม่ี ีอตั ราทด 40 : 1
เม่อื G1 = จานวนฟันเฟอื งขับ
G2 = จานวนฟนั เฟอื งตาม
n = จานวนฟนั เฟอื งที่แบ่งจริง
n1 = จานวนฟนั ทสี่ มมตุ ขิ น้ึ มา
ตัวอย่างท่ี 2.4 จงคานวณในการกัดเฟือง 71 ฟัน ดว้ ยวิธีการแบ่งซบั ซ้อน โดยสมมุติจานวนฟนั ทแ่ี บง่ ซอ้ น
เท่ากับ 80 ฟนั
วธิ ที า เม่ือ G = 40= 40 = 8
80 16
การหาชดุ เฟืองทดในการประกอบ
สูตร 1= 4 01(n1 - n)
2
40( 80 – 71)
80
= 5
10 ×9
1 = 45 = 9
2 10 5
การหาชดุ เฟอื งทดแทนค่าเฟืองขับเฟอื งตาม
G1= 1× 3 = 9×5
2 2× 4 5×2
= 9 × 8= 5 × 16
5 8 2 16
G1 = 72 × 80
2 40 32
ต้องหมนุ จานแบง่ ดงั น้ี
1. ต้องใช้จานแบง่ ทมี่ รี ู 16 รูหมุนคร้ังละ 8 รู
2. ต้องใชเ้ ฟอื งชดุ ในการประกอบเฟอื งทด G1 = 72, G2 = 40, G3 = 80, G4 = 32
เฟืองตรง (Spur Gears)
เฟืองตรง (Spur gear) เปน็ เฟืองท่มี ีใชง้ านกนั มากท่สี ดุ ในบรรดาเฟืองชนดิ ตา่ ง ๆจะมี
ลกั ษณะเฉพาะคือฟันของเฟืองจะเปน็ แนวขนานไปกบั รเู พลาที่ทาหนา้ ท่ีในการส่งกาลัง สามารถ
เปลย่ี นแปลงความเรว็ รอบและทศิ ทางการหมุนได้
รปู ที่ 2.44เฟืองตรง
(ท่ีมา :http://heiphar.blogspot.com)
เฟอื งตรงเป็นเฟืองทม่ี โี ครงสร้างง่ายและไม่สลับซบั ซ้อนโดยหากเฟอื งตรงสองตวั ขบกนั เรยี กวา่ เฟืองพีเนยี น
(Pinion Gears) เฟืองตรงที่ใช้ส่งกาลังแต่ละคจู่ ะต้องมขี นาดของฟนั เฟอื งหรือโมดูลเทา่ กันฟนั เฟอื งจึงจะขบ
กันได้ดีเม่ือเฟอื งตรงหมุนด้วยความเรว็ เชิงเส้นที่เท่ากนั แตก่ ารได้เปรยี บเชิงกลทเี่ กดิ ข้นึ จะเกิดจากจานวน
ฟันทีต่ ่างกันของเฟอื งแตล่ ะตัว
การคานวณเฟอื งตรง
M = (โมดูล)เฟอื ง
P = ระยะพิตช์ คือ ระยะห่างระหวา่ งยอดฟัน/ยอดฟนั โดยวดั ตามแนวเส้นรอบพติ ช์
G = จานวนฟนั เฟอื ง
d = เส้นผ่านศนู ยก์ ลางระยะพิตช์
da = เสน้ ผ่านศนู ยก์ ลางของยอดเกลยี ว
df = เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางโคนฟัน
h = ความสูงฟนั
c = ระยะหา่ งเฟอื ง
Pi = ค่าพาย ( )
ตวั อยา่ งท่ี2.5 จงคานวณกัดเฟืองตรง 29 ฟนั โดยกาหนดให้โมดูลเท่ากับ 2 มม.
วธิ ีทาจากสูตร G =
G =
G = 1
ฉะนนั้ ตอ้ งหมนุ จานแบง่ ไป 1 รอบ กบั อกี 11 รู ในจารแบง่ Circle ที่ 2 ทมี่ ีรู 29 รตู อบ
การคานวณสว่ นตา่ งๆของเฟืองตรง
1. โมดลู m = 2 โจทย์กาหนดให้
2. จานวนฟนั n – G = 29 โจทยก์ าหนดให้
3. ระยะt = m x π = 2 x 3.14 = 6.28 มม.
4. ขนาดเสน้ ผา่ นศูนย์กลางวงกลมฟิตช์do = m x G = 2x29 = 58มม.
5. ขนาดเสน้ ผา่ นศูนย์กลางยอดฟัน do = do +(2+m) = 58(2+2)= 62 มม.
6. ขนาดเส้นผ่านศูนยก์ ลางโคนฟนั df = do – (2.4 × m) = 58 - 4.8 = 53.2 มม.
7. ความลกึ ของฟันhk = 2.2 x m = 2.2 x 2 = 4.4 มม.
8.ความสูงยอดฟนั ha = 1 x m = 1 x 2 = 2 มม.
9. ความสงู โคนฟัน hf = 1.2 x m = 1.2 x 2 = 2.4 มม.
10. ความกวา้ งของฟัน b = 10 x m 10 x 2 = 20 มม.
2.5 การขึ้นรปู งานกัด
การขึ้นรูปงานกัด คือ การขึ้นรูปโดยการใช้ขบวนการกัดหรือเซาะ เพ่ือให้ได้ช้นิ งานตามรูปร่างที่ต้องการ
โดยเคร่ืองมือในงานกัดใช้ดอก Cutter หรือ ดอก End Mill ในการตัดวัสดุ ทั้งกัดแนวตั้งและกัดแนวนอน
ไมว่ า่ กดั เฟือง กัดหกเหลยี่ ม กดั ส่ีเหล่ยี ม กัดร่องหางเหยี่ยว หรือกดั รอ่ งตัววี เปน็ ตน้
รปู ที่ 2.45 งานกัดร่อง รปู ท่ี 2.46งานกัดบ่าฉาก
รปู ท่ี 2.47งานกดั ตกบา่ รูปที่ 2.48งานกัดผิวเรียบ
รูปท่ี 2.49งานกดั เอียง รูปท่ี 2.50 งานกดั เรยี บ
รูปท่ี 2.51งานกดั มมุ รูปท่ี 2.52 งานกดั เฟอื งตรง
(ท่ีมา : มนัส นริ ะโส, 2559)
2.6 การบารงุ รกั ษาเครอื่ งกัด
1. ต้องตรวจสอบกลไกตา่ งๆของเครื่องกัดกอ่ นเปิดสวิตซ์
2. หยอดน้ามันหล่อลื่นในสว่ นที่เคล่ือนทใ่ี หค้ รบทุกจุดกอ่ นปฏบิ ตั งิ าน
3. ตั้งความเร็วและอัตราการป้อนกดั ใหเ้ หมาะสมกับวัสดุเพ่ือรักษาอายกุ ารใช้งานของ
เครอ่ื งกัดและเครอ่ื งมือตัด
4. ตอ้ งหล่อเย็นทุกคร้ังเมื่อปฏิบัติงานเพ่อื รกั ษาคมตัด
5. หลังปฏิบัตงิ านเสรจ็ ตอ้ งทาความสะอาดเคร่อื งกัดและเครื่องมือก่อนลงส่งห้องเครื่องมือ
2.7 ความปลอดภัยในการใชเ้ ครอื่ งกัด
1. แต่งกายให้รดั กมุ ถูกต้องตามระเบียบของโรงงาน
2. สวมแว่นตานิรภัยขณะปฏบิ ตั ิงาน
3. ศึกษาขนั้ ตอนการใช้และตรวจความพรอ้ มของเครือ่ ง
4.ใชแ้ ปรงขนออ่ นปดั เศษโลหะหา้ มใช้มือ
5. การวัดค่าชิน้ งานตอ้ งปดิ สวิตซ์ก่อนทุกครงั้
แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 2
เคร่ืองกดั
คาสั่ง จงตอบคาถามต่อไปน้ใี หถ้ กู ตอ้ ง
1. เครอื่ งกดั มหี ลกั การทางานอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
2. หวั แบ่งมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
3. ชนดิ ของปากกาจับงานมอี ะไรบ้างระบมุ า 3 ชนดิ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
4. คณุ สมบตั ิของหัวแบ่งแบบ Rotary Table Attachment คืออะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
5. คุณสมบัตชิ ุดควา้ นเครื่องกัดคืออะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
6. ประเภทของเคร่ืองกัดมีอะไรบา้ งระบุมา 3 ประเภท
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
7. อุปกรณท์ ่ใี ช้กับเครอ่ื งกัดในการกัดมอี ะไรบ้างระบุมา 4 ชนิด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
8. เครือ่ งกดั คอื อะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
9. ความปลอดภยั ในการใช้เคร่ืองกัดมอี ะไรบา้ งระบมุ า 5 ขอ้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
10. การบารงุ รักษาเครอ่ื งกดั มีอะไรบา้ งระบุมา 5 ขอ้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
แบบทดสอบหลงั เรียนรู้หน่วยที่ 2
เครื่องกัด
คาสงั่ : จงเลอื กคาตอบที่ถกู ที่สุดเพยี งข้อเดยี ว
1. เครอื่ งกดั ชนดิ ใดนิยมใช้ในงานซ่อมบารงุ ทวั่ ไป
ก. เครื่องกดั เพลานอน ข. เครือ่ งกัดเพลาต้ัง
ค. เคร่อื งกัดแครย่ าว ง. เครื่องกัดพิเศษ
2. เครื่องกดั ชนิดใดใช้ในการกดั ร่องตัวที (T-Slot)บนช้ินงาน
ก. เคร่อื งกดั แคร่ยาว ข. เคร่ืองกดั เพลานอน
ค. เครือ่ งกดั เพลาต้ัง ง. เครอ่ื งกดั พิเศษ
3. การกดั เฟอื งต้องมอี ปุ กรณ์ใดช่วยกัด
ก. หวั แบง่ ข. ด้ามมีดคว้าน
ค. ปากกาจบั งาน ง. End Mill
4. อปุ กรณ์ชนดิ ใดหมนุ ได้ 360 องศา
ก. โต๊ะงานเครอ่ื งกดั ข. Rotary Table
ค. ศนู ยท์ า้ ย ง. อุปกรณพ์ ิเศษงานไส
5. Slotting Attachment เปน็ อุปกรณ์สาหรบั ทางานในข้อใด
ก. อุปกรณก์ ัดรู ข. อปุ กรณก์ ดั งาน
ค. อปุ กรณ์กดั เฟอื ง ง. อุปกรณ์ไสแนวด่งิ
6. อุปกรณ์Rotary TableAttachment เป็นอปุ กรณก์ ัดงานประเภทใด
ก. บ่าฉาก ข. กัดเฟอื ง
ค. กัดร่องโค้ง ง. กดั เรียบ
7. งานเซาะร่องใชด้ อกกัดชนดิ ใด
ก. Face Milling Cutter ข. Slitting Saw
ค. Angular Cutter ง. Convex Cutter
8. งานกัดผวิ ราบควรใช้ดอกกดั แบบใด
ก. End Mill ข. Corner Rounding Cutter
ค. Concave Cutter ง. Angular Cutter
9. การแบ่งตรงหรือการแบ่งอยา่ งง่ายทน่ี ิยมใช้จานแบง่ ก่ีรู
ก. จานแบง่ 16 รู ข. จานแบ่ง 24 รู
ค. จานแบง่ 36 รู และ 42 รู ง. ถูกทุกขอ้
10. การแบ่งผสมนยิ มแบ่งฟันต้งั แต่กฟ่ี ันขนึ้ ไป
ก. 32 ฟนั ข้ึนไป ข. 40 ฟันขน้ึ ไป
ค. 46 ฟันขึ้นไป ง. 50 ฟนั ขึน้ ไป
11. ความเรว็ ของมดี กัดขนึ้ อยกู่ บั ปัจจยั ข้อใดเปน็ สาคัญ
ก. ขนาดของเคร่อื งกัด ข. ความโตของงานกัด
ค. ความโตของมดี กัด ง. การหล่อเยน็ ชิน้ งาน
12. ปากกาจบั งานแบบธรรมดาคือข้อใด
ก. Universal Vise ข. Swivel Dase Vise
ค. Flanged Vise ง. Plain Vise
13. ขอ้ ใดเป็นเคร่อื งมือท่ีใชท้ ดสอบความไดฉ้ ากของปากกากบั เสาเครื่องกัด
ก. นาฬิกาวัด ข. เวอรเ์ นียร์ไฮเกจ
ค. ขอชา้ ง ง. เกจ
14. การกดั งานตามขอ้ ใดจะได้ขนาดงานตามที่ต้องการมากทส่ี ดุ
ก. ขีดเส้นแล้วปอ้ นโดยใช้สเกลชว่ ย ข. ขดี เส้นแลว้ กดดึงเส้น
ค. ใช้ขอช้างช่วยในการสอบงาน ง. กดั งานสลับกบั การวัดขนาด
15. กอ่ นเปดิ สวติ ซเ์ คร่อื งกัดตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามข้อใดกอ่ น
ก. สวมแว่นตานิรภัยขนาดทางาน ข. ปรบั ทิศทางการหมนุ ของมดี กัดให้
ถูกตอ้ ง
ค. เลือ่ นชนิ้ งานให้พ้นจากมีดกัด ง. เปดิ สวติ ซ์เคร่อื งกดั ไดเ้ ม่ือจับชนิ้ งาน
พร้อม
ใบงานที่ 9 จานวน 6ช่วั โมง
ชือ่ หนว่ ย เครือ่ งกัด
ชอ่ื เร่อื ง งานกัดตวั ลอ็ กปากจบั ตวั ประคองนาเลอ่ื น
รูปท่ี 2.53 แบบงานกัดตวั ลอ็ กปากจับชิ้นงานตวั ประคองนาเล่อื น
(ทมี่ า : มนัส นริ ะโส, 2559)
ใบงานที่ 10 จานวน 8ช่วั โมง
ชื่อหนว่ ย เคร่ืองกดั
ชือ่ เรอ่ื ง งานกดั ตวั ล็อกปากจับชน้ิ งาน ปากกานาเล่อื น
รูปท่ี 2.54 แบบงานกัดตวั ลอ็ กปากจบั ช้ินงานปากกานาเลือ่ น
(ท่ีมา : มนสั นิระโส, 2559)
ใบงานท่ี 11
ชือ่ หน่วย เครื่องกัด จานวน 8 ช่วั โมง
ช่อื เรอื่ ง งานกัดรอ่ งปากจบั ช้นิ งาน
รปู ที่ 2.55 แบบงานกัดรอ่ งปากจับช้นิ งาน
(ท่ีมา : มนัส นิระโส, 2559)
เฉลยคาตอบ หน่วยท่ี 2 เครอื่ งกดั
เฉลยคาตอบกอ่ นเรียน หนว่ ยที่ 2เครื่องกัด
1. ก 2.ค 3. ก 4. ข 5. ง 6. ค 7. ข 8. ก 9. ก 10. ง 11. ค 12. ง 13. ก 14. ก 15. ค
เฉลยคาตอบหลังเรยี น หนว่ ยท่ี 2เคร่ืองกดั
1. ก 2.ค 3. ก 4. ข 5. ง 6. ค 7. ข 8. ก 9. ง 10. ง 11. ค 12. ง 13. ก 14. ก 15. ค
เฉลยคาตอบแบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 2เคร่อื งกดั
1. จงอธบิ ายหลกั การทางานของเคร่ืองกัด
เฉลยแนวคาตอบ
หลักการทางานโดยมีดกัดจะหมนุ ตัดชนิ้ งานมีดกดั จะมที ้งั แบบคมตัดเดยี วและแบบหลายคมตัดช้นิ งานจะ
ถูกยึดติดกบั อุปกรณ์ชว่ ยจับยดึ ปากกาจับงานไว้ให้แขง็ แรงเพื่อกัดราบ กดั ร่อง กดั เฟือง กดั เกลยี ว เจาะรู
คว้านรู การรีมเมอร์
2. จงบอกประโยชนข์ องหัวแบง่
เฉลยแนวคาตอบ
เป็นอปุ กรณ์ท่จี าเปน็ และมปี ระโยชน์มากของเครือ่ งกดั ท่ใี ชส้ าหรับแบง่ เพอื่ กัดงาน เชน่ กดั งานเฟือง กัด
เหลีย่ ม แปน้ เกลียว เมอื่ นามาตอ่ กับเพลาเกลยี วนาของเครอื่ งกดั จะพาใหง้ านหมุนเพื่อกดั เฟอื งเฉียงและกัด
รอ่ งดอกสวา่ น ฯลฯ
3. จงบอกชนิดของปากกาจับงานมา 3 ชนดิ
เฉลยแนวคาตอบ
1. Plain Vise เป็นปากกาท่จี ับยึดบนโต๊ะงานของเครื่องกัด สามารถจับใหป้ ากกา ขนานหรือตั้งฉาก
กบั แกนเพลาเคร่ืองกดั ได้
2. Swivel Dase Vise เปน็ ปากกาทฐ่ี านสามารถหมุนได้ 360 องศา ในแนวราบ
3. Universal Vise เปน็ ปากกาทส่ี ามารถหมุนได้ 360 องศา ในแนวระนาบแล้วหมุนได้0-90 องศา
ในแนวดง่ิ
4. จงบอกคุณสมบตั ิของหัวแบง่ แบบ Rotary Table Attachment
เฉลยแนวคาตอบ
เป็นอปุ กรณ์พิเศษท่ีสามารถหมนุ ได้รอบตวั 360 องศา สามารถจับงานเพอ่ื กดั รอ่ งโค้งและสามารถจบั งาน
เพ่อื เจาะรไู ด้
5. จงบอกคุณสมบตั ิชุดคว้านเครือ่ งกัด
เฉลยแนวคาตอบ
เปน็ อปุ กรณ์ทใี่ ช้กับเครื่องกัด เพอื่ ใช้สาหรับการคว้านรบู นเครื่องกัดทตี่ ้องการขนาดทีแ่ นน่ อน
6. จงบอกประเภทของเครื่องกัดมีอะไรบ้างระบุมา 3 ประเภท
เฉลยแนวคาตอบ
1. เครอ่ื งกัดเพลานอน (Plan Knee and Column Milling Machine)
2. เครอ่ื งกดั ต้งั (Vertical Milling)
3. เครื่องกดั ชนิดพิเศษ (Manufacturing Type Milling Marching)
7. จงบอกอปุ กรณ์ท่ใี ช้กบั เครอ่ื งกัดในการกัดมีอะไรบ้างระบมุ า 4 ชนดิ
เฉลยแนวคาตอบ
1. ปากกา (Vises)
2. หัวแบ่ง (Indexing)
3. Angle Milling Attachment เป็นอุปกรณ์ทเี่ ปลีย่ นทิศทางของการกัดในแนวต้ัง
4. Universal Angle Attachment เปน็ อุปกรณ์ท่ใี ช้จับเคร่ืองมอื เลก็ ๆ ทใ่ี ชก้ ดั มมุ ตา่ งๆระหวา่ งแนวดิ่ง
และแนวนอนมาเปน็ แนวนอน
8. เครื่องกัดคอื อะไร
เฉลยแนวคาตอบ
เครื่องกัดคือเป็นเครื่องจักรกลชนิดหน่ึง มีทั้งเครื่องกัดแกนเพลานอนและเคร่ืองกัดแกนเพลาต้ังมี
ความสามารถในการทางานกัดลดขนาดผิวงาน กัดร่องหางเหยี่ยวกัดขึ้นรูปแบบต่างๆ และกดั เฟืองชนิดตา่ งๆ
นอกจากนนั้ ยังสามารถจบั ยดึ หวั จับดอกสว่าน ดอกคว้านรรู ีมเมอร์ ในการทางานรูปแบบต่างๆได้อกี ด้วย
9. จงบอกความปลอดภัยในการใชเ้ คร่อื งกัดมอี ะไรบ้างระบุมา 5 ขอ้
เฉลยแนวคาตอบ
1.แตง่ กายใหร้ ดั กุมถูกตอ้ งตามระเบียบของโรงงาน
2. สวมแว่นตานิรภยั ขณะปฏบิ ตั ิงาน
3.ศกึ ษาข้ันตอนการใช้และตรวจความพร้อมของเครือ่ ง
4.ใช้แปรงขนออ่ นปดั เศษโลหะห้ามใชม้ อื
5.การวดั ค่าช้ินงานตอ้ งปิดสวติ ซ์กอ่ นทกุ คร้ัง
10.จงบอกการบารุงรักษาเคร่อื งกัดมอี ะไรบา้ งระบมุ า 5ข้อ
เฉลยแนวคาตอบ
1.ตอ้ งตรวจสอบกลไกต่างๆของเครือ่ งกัดกอ่ นเปิดสวิตซ์
2.หยอดน้ามนั หลอ่ ล่ืนในสว่ นที่เคล่ือนที่ให้ครบทุกจุดก่อนปฏบิ ัติงาน
3.ตง้ั ความเรว็ และอัตราการปอ้ นกดั ใหเ้ หมาะสมกับวัสดุเพอ่ื รักษาอายกุ ารใชง้ านของ
เคร่อื งกดั และเคร่อื งมือตัด
4.ตอ้ งหล่อเย็นทกุ คร้งั เมอ่ื ปฏบิ ตั ิงานเพอ่ื รักษาคมตดั
5.หลงั ปฏิบตั งิ านเสร็จต้องทาความสะอาดเครื่องกัดและเครอ่ื งมือก่อนลงสง่ ห้องเครอื่ งมอื
ขั้นตอนการจดั กิจกรรม หน่วยที่ 3
ขั้นตอนการสอน( กิจกรรมครู) ขนั้ ตอนการเรยี น (กิจกรรม พฤตกิ รรมทีส่ ังเกต
(คุณลักษณะพึงประสงค์)
ผูเ้ รียน)
ทุกครง้ั ที่มกี ารเรียนการสอน
1. อธิบาย วัตถุประสงค์ นกั เรยี นฟงั รายละเอียดในการ จะวัดลักษณะพึงประสงค์
(คณุ ธรรมจรยิ ธรรม) ทส่ี งั เกตได้
มาตรฐานรายวิชา และ เรยี น ได้แก่
- การตรงต่อเวลา
คาอธบิ ายรายวชิ า - การมรี ะเบียบวินยั
- การตั้งใจเรียน
2. อธบิ าย เกณฑก์ ารให้คะแนน นักเรยี นฟงั ขอ้ ตกลงและ - การมีมนุษย์สมั พนั ธ์
- การมีความซอ่ื สตั ย์สุจรติ
และการประเมนิ ผลการเรียน หลักเกณฑร์ ว่ มกัน - การมีความเคารพต่อครูและ
เพ่ือนร่วมชัน้ เรียน
ขั้นทดสอบ
1. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบ นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ น
กอ่ นเรียน (เวลา20 นาท)ี เรียนในเวลาทีก่ าหนด
ข้ันสอน
2. แจกเอกสารใบเน้ือหาหน่วยท่ี นกั เรยี นรบั เอกสารใบความรู้
3 เคร่อื งไส เอกสารประกอบการสอน
ขน้ั ประเมนิ
3. มีการประเมินเปน็ รายบุคคล นักเรยี นทกุ คนตั้งใจฟงั ไม่เขา้ ใจ
4. มอบหมายใหน้ ักเรยี นทา ให้ชกั ถาม
กจิ กรรมตาม ใบงานที่ 12-15 นักเรยี นแตล่ ะคนปฏิบตั ิตามใบ
เสรมิ การเรียนรู้ งาน ที่ 12-15
5. ให้นกั ศึกษาทาแบบทดสอบ
หลังการเรยี น (เวลา30 นาที) นักเรียนแต่ละคนทา
แบบทดสอบหลังเรยี นและ
แบบฝกึ หัดทา้ ยหน่วยท่ี 3 ใน
เวลาที่กาหนด
แบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยท่ี 3
เครือ่ งไสและงานไส
คาส่ัง จงเลือกคาตอบท่ถี กู ท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว
1. เคร่ืองไสชนดิ ใดนยิ มใช้ในงานซ่อมทัว่ ไป
ก. เครอื่ งไสนอน ข. เครื่องไสแครย่ าว
ค. เครือ่ งไสโต๊ะงานเคลอื่ นที่ ง. เคร่อื งไสตง้ั
2. เคร่อื งไสชนิดใดใชไ้ สชิน้ งานทม่ี ีขนาดใหญ่มาก
ก. เครื่องไสนอน ข. เครือ่ งไสแคร่ยาว
ค. เครื่องไสโต๊ะงานเคล่อื นท่ี ง. เครื่องไสต้งั
3. งานใดทเ่ี ครื่องไสไมส่ ามารถทาได้
ก. ไสร่องสปาย ข. ไสราบ
ค. ไสเฟือง ง. ไสเกลยี ว
4. เครอื่ งไสมลี กั ษณะการทางานตามขอ้ ใด
ก. ไสตดั ชิน้ งานจังหวะชักกลบั จงั หวะเดียว ข. ไสตดั ช้ินงานท้งั สองจงั หวะ
ค. ไสตัดชิ้นงานเดนิ หน้าจังหวะเดยี ว ง. หมุนกัดชน้ิ งาน
5. หน่วยความเรว็ งานไสคือขอ้ ใด
ก. เมตร/นาที ข. เมตร/วินาที
ค. มม./นาที ง. มม./วนิ าที
6. สตู รการตั้งระยะไสคือข้อใด
ก. La + L + Lu ข. L + La + Lu
ค. Lu + La + L ง. L + Lu + La
7. การตง้ั ระยะไสหนา้ มีดเผื่อไว้กี่ มม.
ก. 10 มม. ข. 20 มม.
ค. 25 มม. ง. 30 มม.
8. การตั้งระยะไสหลังมดี เผื่อไวก้ ่ี มม.
ก. 10 มม. ข. 20 มม.
ค. 25 มม. ง. 30 มม.
9. เครือ่ งมอื วัดในงานร่างแบบงานไสคือข้อใด
ก. เวอรเ์ นยี รค์ าลเิ ปอร์ ข. ฟตุ เหลก็
ค. เวอรเ์ นยี ร์ไฮเกจ ง. ถูกทกุ ขอ้
10. แทง่ ลม่ิ จับยึดเปน็ อปุ กรณส์ าหรบั กดชิน้ งานด้านใด
ก. กดช้นิ งานด้านล่าง ข. กดช้นิ งานด้านขา้ ง
ค. กดชน้ิ งานด้านบน ง. กดช้ินงานทุกด้าน