คำนำ
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอกมลาไสย ได้จัดทาหนังสือ
เรียนสาระการประกอบอาชีพ รายวิชาเลือกเสรี การทาธุงอีสาน รหัสวิชา อช0300514 เพ่ือเป็น
แบบเรียนสาหรับนักศึกษา ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย จัดทาขึ้น
โดยมีวัตถุประสงคเ์ พื่อตอ้ งการพัฒนาผ้เู รยี นใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ มีคุณธรรม และมศี ักยภาพในการ
ประกอบอาชีพ สามารถดารงชีวติ อยูใ่ นครอบครัว ชุมชน สงั คม และประเทศชาติไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ โดย
ผ้เู รยี นสามารถนาหนังสือไปศกึ ษาคน้ คว้าได้ดว้ ยตัวเอง ทาความเขา้ ใจในเนือ้ หาสาระของแต่ละบทเรียน
เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเพิ่มพูนความรู้ โดยคณะผู้จัดทาได้ศึกษาค้นคว้าเนื้อหาสาระจากสื่อต่างๆ
อาทิ เอกสาร การทาธุง อินเตอร์เน็ต ภูมิปัญญาท้องถิ่น และแหล่งเรียนรู้ นามารวบรวม เรียบเรียง
เพ่ือให้สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ.2551 และเป็น
ประโยชน์ตอ่ ผ้เู รียนท่อี ยู่นอกระบบอย่างแท้จริง
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย หวงั ว่าหนังสือเรยี น
ชุดนี้จะเป็นประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอน และผู้เรียนสามารถนาความรู้ไปพัฒนาตนเองให้เกิด
คุณภาพด้านการศึกษาและการดาเนนิ ชีวิตท่ีดีข้ึน ขอขอบคุณผู้บริหารสถานศึกษา ภาคีเครือขาย คณะ
ครู กศน.อาเภอกมลาไสย และผู้มสี ่วนเก่ยี วข้อง ที่ได้ให้การสนบั สนุนสง่ เสรมิ ประสานความร่วมมือทาให้
การจดั ทาหนังสอื เรียนเล่มนส้ี าเร็จตามวตั ถุประสงค์ หากมีขอ้ เสนอแนะประการใด คณะผ้จู ดั ทาขอน้อม
รบั ไว้ดว้ ยความขอบคุณยิ่ง
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
ธนั วาคม 2564
สารบัญ หนา้
คานา 1
คาแนะนาการใช้หนงั สือเรยี น 2
รายละเอียดคาอธบิ ายรายวชิ า การทาธงุ อีสาน รหัสวิชา อช0300514 5
บทท่ี 1 การเลือกช่องทางและการตดั สนิ ใจประกอบอาชีพการทาธงุ อสี าน 7
1. ความรูเ้ ก่ียวกบั อาชีพ 11
12
2. องค์ประกอบในการตดั สินใจเลือกอาชีพ 14
3. ปญั หาและอปุ สรรคการประกอบอาชีพหัตถกรรม “การทาธงุ อสี าน” 25
27
แบบทดสอบทา้ ยบท 28
บทท่ี 2 ประวตั ิความเปน็ มาของธุงอสี าน 30
1. ความเปน็ มาของพระธาตยุ าคู 33
35
2. ประวตั ิความเปน็ มาของธงุ อสี าน 40
41
แบบทดสอบทา้ ยบท
บทท่ี 3 ประเภทของธงุ อสี าน 46
48
1. ประเภทของธุงในรูปแบบตา่ งๆ 48
50
2. รูปแบบของธุงอีสานหรอื ธุงใยแมงมุม 51
3. การนาธงุ อสี านไปปรับใช้ให้เกิดประโยชนก์ บั ความเหมาะสม 54
แบบทดสอบท้ายบท 55
บทท่ี 4 การเตรียมวัสดุอปุ กรณใ์ นการทาธงุ อีสาน
1. คุณสมบัตขิ องวสั ดอุ ปุ กรณ์ เครื่องมอื ในการทาธงุ อสี าน
2. ทกั ษะในการเตรียมดา้ ยและไมไ้ ผ่
3. การเลอื กสขี องดา้ ยหรอื ไหมพรม
แบบทดสอบทา้ ยบท
บทท่ี 5 การทาธุงอสี าน
1. ความรู้เก่ยี วกับขนั้ ตอนวธิ กี ารทาธุงอสี าน
1.1 การทาธงุ อีสาน รปู ส่ีเหลี่ยม 1 มิติ
1.2 การทาธงุ อีสานรปู สี่เหล่ยี ม 2 มิติ
1.3 การทาธุงอสี าน 3 มติ ิ
1.4 การทาธงุ อีสาน 4 มติ ิ
2. ความรเู้ กยี่ วกบั การประกอบธงุ อสี าน
แบบทดสอบทา้ ยบท 64
บทที่ 6 การพฒั นารูปแบบผลติ ภณั ฑ์จากธงุ อสี าน 66
68
1. ความรู้เกี่ยวกับความหมายการพฒั นารปู แบบผลติ ภัณฑ์ 72
2. การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑธ์ ุงอสี านเป็นเคร่ืองประดบั
77
3. การพฒั นารปู แบบผลิตภัณฑ์ธุงอีสาน การทาเคร่ืองตกแตง่ 79
80
แบบทดสอบทา้ ยบท
บทท่ี 7 การดแู ลและจัดเก็บธงุ อีสาน 85
87
1. คณุ สมบตั ิของวสั ดอุ ุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการทาธงุ อีสาน 89
2. สถานทแ่ี ละขนั้ ตอนในการเก็บรักษาธุงอสี าน 92
แบบทดสอบท้ายบท
บทท่ี 8 การทาบญั ชีและการจดั จาหนา่ ย 100
102
1. การทาบัญชรี ายรับ – รายจา่ ย
2. การขายและการตลาด
3. หลักการตลาดและตลาดสนิ คา้ หัตถกรรม
แบบทดสอบทา้ ยบท
บทท่ี 9 การจัดแสดงผลงาน
1. การจดั แสดงผลงาน
แบบทดสอบทา้ ยบท
บรรณานกุ รม
คณะผู้จัดทา
คาแนะนาการใชห้ นงั สอื เรียน
หนงั สอื เรยี นสาระการประกอบอาชีพ รายวิชาเลอื กเสรี การทาธุงอสี าน รหสั วิชา อช0300514
สาหรับนักศกึ ษา ระดับประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นแบบเรยี นที่จัดทา
ข้นึ สาหรบั ผู้เรยี นที่เปน็ นักศกึ ษานอกระบบ ผู้เรียนควรปฏบิ ัตดิ ังน้ี
1. ศึกษาโครงสร้างรายวิชาให้เข้าใจในหัวข้อและสาระสาคัญ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและ
ขอบขา่ ยเนอื้ หาของรายวชิ านัน้ ๆ โดยละเอยี ด
2. ศกึ ษารายละเอยี ดเน้ือหาของแต่ละบทอย่างละเอยี ด และทากจิ กรรมตามที่กาหนดและทา
ความเข้าใจในเนอื้ หาน้นั ใหมใ่ หเ้ ขา้ ใจก่อนทจี่ ะศกึ ษาเรอ่ื งตอ่ ไป
3. ปฏิบัติกิจกรรมท้ายเร่ืองของแต่ละเร่ือง เพ่ือเป็นการสรุปความรู้ความเข้าใจของเนือ้ หาใน
เร่ืองนั้นอีกครั้งและปฏิบัติกิจกรรมของแต่ละเนื้อหาแต่ละเร่ืองผู้เรียนสามารถนาไป
ตรวจสอบกบั ครูและเพือ่ นๆท่ีรว่ มเรยี นในรายวิชาและระดบั เดียวกนั ได้
4. หนังสอื เรียนเล่มน้มี ี 9 บท คือ
บทที่ 1 การเลอื กช่องทางและการตดั สินใจประกอบอาชีพการทาธุงอสี าน
บทที่ 2 ประวตั ิความเป็นมาของธงุ อสี าน
บทท่ี 3 ประเภทของธงุ อสี าน
บทที่ 4 การเตรยี มวัสดอุ ุปกรณใ์ นการทาธุงอสี าน
บทท่ี 5 การทาธุงอสี าน
บทที่ 6 การพฒั นารูปแบบผลิตภัณฑ์จากธงุ อีสาน
บทท่ี 7 การดแู ลและจัดเก็บธงุ อสี าน
บทที่ 8 การทาบัญชแี ละการจดั จาหน่าย
บทที่ 9 การจดั แสดงผลงาน
คาอธิบายรายวชิ าเลอื กเสรี การทาธงุ อสี าน รหัสวิชา อช0300514
สาระการประกอบอาชพี
ระดบั ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาตอนต้น มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
มำตรฐำนกำรเรียนรู้
ศึกษาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของธุงอีสาน คุณค่าและประโยชน์ของธุงอีสาน
การนาธุงไปใช้ในพิธีต่างๆ ข้ันตอนและการทาธุงอีสาน เทคนิคการทาธุงรูปแบบต่างๆ การเก็บรักษา
ธุงอีสาน
ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเกย่ี วกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี
ศึกษาเกยี่ วกับความเปน็ มาของธงุ อสี วาน คณุ คา่ และประโยชน์ของธงุ และการนาธุงไปใช้
ในพิธีตา่ งๆ ขั้นตอนและวธิ กี ารทาธุงอสี านรูปแบบตา่ งๆ นวตั กรรมการทาธงุ การเกบ็ รักษา
การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้
บรรยาย สาธติ และฝึกปฏบิ ตั ิ
มาตรฐานที่ 3.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคตทิ ่ดี ีในงานอาชพี มองเหน็ ชอ่ งทางและตดั สนิ ใจ
ประกอบอาชพี ได้ตามความต้องการและศักยภาพของตนเอง
มาตรฐานที่ 3.2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในอาชพี ท่ีตดั สินใจเลอื ก
มาตรฐานที่ 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจัดการอาชพี อยา่ งมคี ณุ ธรรม
มาตรฐานท่ี 3.4 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจัดการอาชพี ให้มีความมั่นคง
รายละเอยี ดคาอธิบายรายวชิ า การทาธุงอีสาน รหัสวิชา อช0300514
สาระการประกอบอาชีพ
ระดบั ประถมศกึ ษา มัธยมศึกษาตอนตน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย
จานวน 3 หน่วยกติ (120 ชัว่ โมง)
ชอ่ื รายวชิ า การทาธงุ อีสาน รหัสวิชา อช0300514 จานวน 3 หนว่ ยกิต
มาตรฐานที่ 3.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคตทิ ด่ี ใี นงานอาชีพ มองเห็นช่องทางและตดั สนิ ใจ
ประกอบอาชพี ได้ตามความต้องการและศกั ยภาพของตนเอง
มาตรฐานที่ 3.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจทกั ษะในอาชพี ที่ตดั สนิ ใจเลอื ก
มาตรฐานท่ี 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจในการจัดการอาชพี อยา่ งมีคณุ ธรรม
มาตรฐานที่ 3.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจในการจดั การอาชพี ให้มคี วามมั่นคง
ท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวัง สาระการเรียนรู้ จานวน
ช่ัวโมง
1 การเลือกชอ่ งทางและ 1. อธิบายเกีย่ วกับลักษณะ 1 ความร้เู กีย่ วกับอาชพี
การตัดสินใจประกอบ 5
อาชีพการทาธงุ อีสาน
อาชพี ตา่ งๆ ได้ 2 องคป์ ระกอบในการ
2. อธบิ ายองค์ประกอบในการ ตดั สนิ ใจเลือกอาชีพ
ตัดสนิ ใจเลือกอาชีพได้ 3 ปัญหาและอุปสรรคการ
3. อธิบายปัญหาและ ประกอบอาชีพหัตถกรรม
อุปสรรคในการประกอบ “การทาธุงอสี าน”
อาชีพทาหัตถกรรมได้
2 ประวัติความเป็นมา 1. ผเู้ รยี นอธบิ ายความเป็นมา 1. ความเป็นมาของพระธาตุ 5
ของธุงอสี าน
ของพระธาตุยาคูได้ ยาคู
2. ผู้เรียนอธบิ ายประวตั ิ 2. ประวตั ิความเปน็ มา
ความเปน็ มาของธุงอีสานได้ ของธงุ อีสาน
ท่ี หนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง สาระการเรยี นรู้ จานวน
3 ประเภทของธุงอีสาน ชัว่ โมง
1.ผ้เู รยี นอธบิ ายเกย่ี วกับ 1 ประเภทของธงุ ในรปู แบบ
ประเภทของธุงในรปู แบบ ต่างๆ 5
ต่างๆ ได้ 2 รูปแบบของธุงอีสาน
2.ผ้เู รยี นอธบิ ายเกี่ยวกับธุง หรอื ธุงใยแมงมุม
อีสานหรือธงุ ใยแมงมมุ ได้ 3 การนาธงุ อีสานไปปรับใช้
3. ผู้เรยี นอธิบายเกี่ยวกบั การ ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ามความ
นาธุงอสี านไปปรบั ใช้ใหเ้ กิด เหมาะสม
ประโยชน์ตามความเหมาะสม
ได้
4 การเตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ 1. ผู้เรียนอธิบายคุณสมบตั ิ 1.1 คุณสมบัติของวสั ดุ 10
ในการทาธุงอสี าน ของวสั ดอุ ปุ กรณ์ เคร่ืองมือใน อุปกรณ์ เคร่อื งมอื ในการ
การทาธุงอสี านได้ ทาธุงอีสาน
2. ผู้เรียนมที กั ษะในการ 1.2 ทักษะในการเตรยี มด้าย
เตรียมดา้ ยและไม้ไผ่ และไมไ้ ผ่
3. ผู้เรียนมคี วามรู้และ 1.3 การเลอื กสขี องดา้ ยหรอื
สามารถเลือกสขี องดา้ ยหรอื ไหมพรม
ไหมพรมได้
5 การทาธงุ อีสาน 1.ผเู้ รยี นอธบิ ายข้นั ตอน 1. ความร้เู ก่ียวกับขัน้ ตอน 40
วิธีการทาธงุ อสี านได้ วธิ กี ารทาธุงอสี าน
2.ผเู้ รียนบอกวิธกี ารประกอบ 1.1 การทาธงุ อสี าน รูปสเ่ี หลยี่ ม
ธุงอสี านได้ 1 มิติ
1.2 การทาธงุ อสี านรปู ส่เี หลย่ี ม
2 มติ ิ
1.3 การทาธงุ อีสาน 3 มิติ
1.4 การทาธุงอีสาน 4 มติ ิ
2. ความรูเ้ กีย่ วกับการ
ประกอบธุงอสี าน
สาระการเรยี นรู้
ท่ี หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรูท้ ่คี าดหวัง สาระการเรียนรู้ จานวน
6 การพัฒนารูปแบบ ช่วั โมง
1. ผเู้ รยี นอธบิ ายความหมาย 1. ความร้เู กย่ี วกบั
ผลติ ภัณฑ์จากธงุ อีสาน 40
เกี่ยวกบั การพฒั นารปู แบบ ความหมายการพัฒนา
7 การดูแลและจัดเกบ็ 5
ธงุ อสี าน ผลติ ภัณฑ์ได้ รูปแบบผลติ ภัณฑ์ 5
8 การทาบัญชี 2. ผู้เรียนอธบิ ายการพฒั นา 2. การพฒั นารูปแบบ 5
และการจัดจาหนา่ ย
รูปแบบผลติ ภณั ฑธ์ ุงอสี าน ผลติ ภัณฑ์ธงุ อสี านเปน็
9 การจดั แสดงผลงาน
เปน็ เครอ่ื งประดบั ได้ เครือ่ งประดับ
3. ผเู้ รียนอธบิ ายการพัฒนา 3. การพฒั นารูปแบบ
รูปแบบผลิตภณั ฑ์จากธุง ผลติ ภัณฑ์ธุงอีสานเพอื่ ใชใ้ น
อสี านเพอื่ ใชใ้ นการตกแต่งได้ การตกแต่ง
1. อธบิ ายเกี่ยวกับคุณสมบตั ิ 1. คณุ สมบัติของวสั ดุ
ของวัสดอุ ปุ กรณ์ที่ใช้ในการ อุปกรณ์ท่ีใช้ในการทาธุง
ทาธุงอสี านได้ อสี าน
2. อธิบายสถานที่และข้นั ตอน 2. สถานทแี่ ละขน้ั ตอนใน
ในการเกบ็ รกั ษาธงุ อีสานได้ การเกบ็ รกั ษาธุงอสี าน
1.ผูเ้ รียนอธบิ ายการทาบัญชี 1.การทาบญั ชรี ายรบั –
รายรบั -รายจ่ายได้ รายจ่าย
2. ผู้เรียนอธบิ ายหลักการขาย 2.การขายและการตลาด
และการตลาดได้ 3.หลกั การตลาดและตลาด
3. ผูเ้ รยี นอธบิ ายสนิ ค้า สินคา้ หตั ถกรรม
หตั ถกรรม
1. ผู้เรยี นอธิบายการจัด 1. การแสดงผลงาน
แสดงผลงานตามข้นั ตอนการ
จัดแสดงผลงานได้
แผนผงั วชิ าการทาธุงอสี าน
1. การเลอื กชอ่ งทาง
การประกอบอาชพี
9 กำรจดั แสดงผลงำน 2.ประวัติความเป็นมา
ของธงุ อีสาน
8.กำรจดั ทำบัญชี
และกำรจำหน่ำย 3.การเตรียมวสั ดอุ ปุ กรณ์
ในการทาธุงอสี าน
7.กำรเกบ็ รกั ษำ กกาำรรททาำธธุงงุ ออสี สี าำนน
ธงุ อสี ำน 4.ประเภทของธุงอสี าน
6.กำรพัฒนำรปู แบบผลิตภัณฑ์ 5.การทาธุงอสี าน
จำกธงุ อีสำน
บทท่ี 1
การเลอื กชอ่ งทางและการตดั สนิ ใจประกอบอาชพี การทาธุงอสี าน
สาระสาคญั
การประกอบอาชีพการทาธุงอีสานเป็นอาชีพด้านหัตถกรรม ท่ีก่อให้เกิดรายได้กับชุมชน
สังคมและประเทศ การประกอบอาชีพจาเป็นต้องพัฒนาอย่างต่อเน่ืองเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง
ด้วยการใช้ความรู้ความสามารถ ทักษะการประกอบอาชีพ ให้ผู้เรียนสามารถเลือกแนวทางการพัฒนา
อาชพี ท่ีเหมาะสมต่อตนเองและสังคม อกี ทัง้ เป็นการอนรุ ักษ์และสืบสานวฒั นธรรมประเพณใี นทอ้ งถ่ิน
ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง
1. อธิบายเก่ยี วกับลกั ษณะอาชพี ตา่ งๆได้
2. อธิบายองคป์ ระกอบในการตัดสินใจเลอื กอาชีพได้
3. อธิบายปญั หาและอุปสรรคในการประกอบอาชีพหัตถกรรมได้
ขอบข่ายเนื้อหา
เรือ่ งที่ 1 ความรูเ้ กย่ี วกบั อาชีพ
เรอ่ื งท่ี 2 องค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกอาชีพ
เรอ่ื งที่ 3 ปญั หาและอปุ สรรคการประกอบอาชพี หัตถกรรม “การทาธุงอีสาน”
จานวนชัว่ โมง
จานวน 5 ชั่วโมง
สือ่ การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี น
2. แหลง่ เรียนร/ู้ ภูมิปัญญา
3. สื่อออนไลน์
4. บุคคล
หนังสือเรยี นวชิ าการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หนา้ 1
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
1. ความรู้เกย่ี วกับอาชีพ
ความรู้เกีย่ วกับอาชีพ
อาชีพ หมายถึง การทากิจกรรม การทางาน การประกอบการที่ไม่เป็นโทษต่อสังคม
และรายได้ตอบแทน โดยอาศัยแรงงาน ความร้ทู ักษะ อปุ กรณ์เคร่ืองมอื วธิ ีการแตกตา่ งกันไป
ประเภทและลักษณะของอาชพี
การแบง่ ประเภทของอาชพี สามารถแบ่งตามลักษณะไดเ้ ป็น 2 ลักษณะ คือแบ่งตาม
เนือ้ หาวชิ าของอาชพี และแบง่ ตามลักษณะของการประกอบอาชพี
1.การแบง่ อาชีพตามเนอ้ื หาวิชาของอาชพี สามารถจัดกลุ่มอาชพี ตามเน้ือหาได้ประเภท
ดงั น้ี
1.1 อาชีพเกษตรกรรม ถอื เปน็ อาชีพหลัก และเปน็ อาชีพทส่ี าคัญของประเทศ ปัจจุบัน
ประชากรของไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ยังประกอบอาชีพนี้อยู่มาก อาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพ
เกี่ยวเนื่องกับการผลิตและการจัดจาหน่ายสินค้า และบริการทางด้านการเกษตรซึ่งผลผลิตและการจัด
จาหน่ายและบริการ ทางด้านการเกษตรจากการใช้ในการบริโภคเป็นส่วนใหญแ่ ล้วยังใช้เป็นวัตถุดิบใน
การผลิตทางอุตสาหกรรมอกี ด้วย ได้แก่ การทานา ทาไร่ ทาสวน เลยี้ งสัตว์ ฯลฯ
1.2 อาชีพอุตสาหกรรม การทาอุตสาหกรรม หมายถึงการผลิตสินค้าอันเนื่องมาจาก
การนาเอาวสั ดุ หรือสนิ คา้ บางชนดิ มาแปรสภาพให้เกดิ ประโยชน์ต่อผใู้ ชม้ ากขน้ึ
กระบวนการประกอบการอตุ สาหกรรมประกอบดว้ ย
วตั ถุดบิ หรือสินคา้ กระบวนการผลติ สินคา้ สาเรจ็ รปู ผู้บรโิ ภค
ในขั้นตอนขบวนการผลิตมีปัจจัยมากมายนับแต่แรงงาน เครื่องจักร เครื่องมือ เคร่ืองใช้
เงนิ ทุน ทด่ี นิ อาคาร รวมท้งั การบรหิ ารจดั การ
การประกอบอาชีพอุตสาหกรรมแบ่งตามขนาดไดด้ งั น้ี
อุตสาหกรรมในครอบครัว เป็นอุตสาหกรรมท่ีทากันในครัวเรือน หรือ ภายในบ้านใช้
แรงงานภายในครัวเรือน ครอบครัวเป็นหลัก บางทีอาจใช้เคร่ืองจักรขนาดเล็กเข้าช่วยในการผลิต
ใช้วัตถุดิบ วัสดุหาได้ในท้องถ่ินมาเป็นปัจจัยในการผลิตอุตสาหกรรมในครัวเรือน ได้แก่ การทอผ้า
การจักสาน การทาร่ม การทาอิฐมอญ ฯลฯ มีลักษณะการดาเนนิ งานที่ไมเ่ ป็นระบบมากนัก รวมทั้งการ
ใช้เทคโนโลยแี บบงา่ ยๆ ไมย่ ุ่งยากซับซอ้ น และมกี ารลงทุนไม่มากนกั
หนงั สือเรียนวชิ าการทาธุงอีสาน(อช0300514) หน้า 2
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
อุตสาหกรรมขนาดย่อม เป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างคนงาน มากกว่า 50 คน ใช้ทุน
ดาเนินการ ไม่เกิน 10 ล้านบาท อุตสาหกรรมขนาดย่อม ได้แก่ อู่ซ่อมรถ โรงกลึง โรงงานทาขนมปัง
โรงสีข้าว เป็นต้น ในการดาเนินอุตสาหกรรมขนาดย่อม มีขบวนการผลิตไม่ซับซ้อน ใช้แรงงานที่มีฝีมือ
ไม่มากนกั
อุตสาหกรรมขนาดกลาง เป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างคนงานมากกว่า 50 คน แต่ไม่เกนิ
200 คน ใชท้ ุนดาเนนิ การมากกวา่ 10 ลา้ นบาทแตไ่ มเ่ กนิ 100 ล้านบาท อตุ สาหกรรมขนาดกลาง ได้แก่
อุตสาหกรรมทอกระสอบ อตุ สาหกรรมเสือ้ ผ้าสาเรจ็ รูป เปน็ ต้น การดาเนนิ อุตสาหกรรมขนาดกลางต้อง
มีการจัดการที่ดี แรงงานต้องมีทักษะความรู้ความสามารถในกระบวนการผลิตเป็นอย่างดีเพื่อท่ีจะได้
สินค้าทม่ี ีคณุ ภาพระดับเดยี วกนั
อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีคนงานมากกว่า 200 คนขึ้นไป
ใช้ทุนดาเนินการมากกว่า 200 ล้านบาท อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่
อุตสาหกรรมถลุงเหล็ก เป็นต้น อุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีระบบจัดการท่ีดี ใช้คนที่มีความรู้มีทักษะ
ความสามารถเฉพาะด้านหลายสาขา เชน่ วศิ วกรรม อิเลก็ ทรอนิกส์ ในการดาเนินงานการผลิตมีกรรมวิธี
ท่ียุ่งยากใช้เคร่ืองจักร คนงาน เงินทุน จานวนมากข้ึน มีกระบวนการผลิตท่ีทันสมัยและผลิตสินค้าได้
จานวนมาก มกี ารวา่ จา้ งบคุ คลระดับผ้บู รหิ ารท่มี คี วามสามารถมาบรหิ ารงาน
1.3 อาชีพพาณิชยการและบริการ เป็นการประกอบอาชีพที่เป็นการแลกเปล่ียนระหว่าง
สนิ คา้ กับเงิน สว่ นใหญ่จะมี ลักษณะซ้ือมา ขายไป ผปู้ ระกอบอาชีพทางพาณิชกรรม จึงจดั เป็นคนกลาง
ซ่ึงทาหน้าที่ซ้ือสินค้าจากผู้ผลิต หรือบริการต่างๆ นับตั้งแต่การนาวัตถุดิบจากผู้ผลิตด้านเกษตรกรรม
ตลอดจนสนิ ค้าสาเรจ็ รปู จากโรงงานอตุ สาหกรรม รวมทง้ั คหกรรม ศิลปกรรม หตั ถกรรมและการนามา
ขายต่อผู้บริโภค ประกอบด้วย การค้าสินค้าส่งและการค้าสินค้าปลีก โดยอาจจัดจาหน่ายในรูปของการ
ขายตรงหรือขายอ้อม จึงเป็นกิจกรรมที่สอดแทรกทุกอาชีพ การประกอบอาชีพพาณิชยกรรม หรือ
บริการ ผู้ประกอบอาชีพมีความสามารถในการจัดหา มีความคิดริเร่ิม และมีคุณธรรม จึงทาให้การ
ประกอบอาชีพเจริญก้าวหน้า อาชีพบริการ เป็นอาชีพท่ีทาให้เกิดความพอใจแก่ผู้ซื้อ การบริการ
อาจเป็นสินค้าที่มีตัวตนหรือไม่มีตัวตนก็ได้ การบริการท่ีมีตัวตน ได้แก่การบรกิ ารขนส่ง บริการทางการ
เงิน ส่วนบรกิ ารไม่มตี ัวตน ได้แก่ บริการ ท่องเท่ยี ว บริการรกั ษาพยาบาล เปน็ ตน้
1.4 อาชีพคหกรรม ได้แก่ อาชีพท่ีเกี่ยวกับอาหาร ขนม ตัดเย็บ การเสริมสวย ดัดผม
เป็นต้น
1.5 อาชีพหตั ถกรรม การประกอบอาชีพหตั ถกรรมไดแ้ ก่ อาชพี ที่เกย่ี วกับงานช่าง โดยการ
ใชม้ อื ในการผลติ ชน้ิ งานเป็นสว่ นใหญ่ ได้แก่ อาชพี จกั สาน แกะสลกั ทอผ้าด้วยมอื ทอส่ือ ทาธงุ เป็น
ตน้
1.6 อาชีพศิลปกรรม ได้แก่ อาชีพที่เก่ียวข้องกับการแสดงออกในลักษณะต่างๆ เช่น
การวาดภาพ การปั้น การดนตรี ละคร การโฆษณา ถ่ายภาพ เปน็ ต้น
2. การแบ่งอาชีพตามลกั ษณะของการประกอบอาชพี
ลกั ษณะของการประกอบอาชพี มี 2 ลักษณะ คืออาชพี อิสระ และอาชพี รับจ้าง
หนงั สอื เรยี นวิชาการทาธุงอสี าน(อช0300514) หน้า 3
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
2.1 อาชีพอิสระ หมายถึง อาชีพทุกประเภทที่มีผู้ประกอบการดาเนินการด้วยตนเอง
แต่เพียงผู้เดียว หรือเป็นกลุ่มอาชีพอิสระที่ไม่ต้องใช้คนจานวนมาก แต่ถ้าหากมีความจาเป็นอาจมีการ
จ้างคนอื่นมาช่วยงานก็ได้เจ้าของกิจการเป็นผู้ลงทุน และจาหน่ายเอง คิดและตัดสินใจด้วยตนเอง
ทุกเรื่องในการบริหาร การจัดการไปอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ การประกอบอาชีพอิสระ เช่น
การขายอาหาร การขายของช่างซ่อม รถจักรยานยนต์ฯลฯ ในการประกอบอาชีพอิสระผู้ประกอบการ
จะตอ้ งมคี วามรูค้ วามสามารถในการบริหารการจดั การ เชน่ การตลาด ทาเลทตี่ ง้ั เงนิ ทนุ การตรวจสอบ
ทเ่ี กิดขน้ึ มีความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรคแ์ ละมองเหน็ ภาพการดาเนินงานของตนเองได้ทะลุปรุโปร่ง
2.2 อาชีพรับจ้าง ท่ีมีผู้อ่ืนเป็นเจ้าของกิจการโดยตัวเองเป็นผู้รับจ้างให้และได้รับ
คา่ ตอบแทนเปน็ คา่ จา้ งหรอื เงนิ เดือน อาชพี รับจา้ งประกอบด้วยบุคคล 2 ฝา่ ย ซ่งึ ตกลงว่าจ้างกนั บุคคล
ฝ่ายแรกเรียกว่า “นายจ้าง” หรือผู้ว่าจ้างบุคคลฝ่ายหลังเรียกว่า “ลูกจ้าง” หรือผู้รับจ้างมีค่าตอบแทน
ผทู้ ่ีว่าจ้างจะตอ้ งจ่ายใหแ้ ก่ผู้รับจ้างเรียกว่า “ค่าจา้ ง” การประกอบอาชพี รบั จา้ ง โดยทวั่ ไปมลี ักษณะเป็น
การรับจ้าง ทางานในสถานประกอบการหรือโรงงาน เป็นการรับจ้างในลักษณะขายแรงงาน โดยรับ
ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน หรือ ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน หรือค่าตอบแทนที่ตามชิ้นงานที่ทาได้ อัตรา
ค่าจ้างข้ึนอยู่กบั การกาหนดของเจ้าของประกอบการ หรือนายจา้ ง การทางานผูร้ บั จ้างจะต้องทางานอยู่
ภายในโรงงาน ตามเวลาที่นายจ้างกาหนด การประกอบอาชีพรับจ้างในลักษณะนมี้ ีข้อดีคือ ไม่เส่ียงต่อ
การลงทุนเพราะลูกจ้างจะใช้เคร่ืองมือ อุปกรณ์ท่ี นายจ้างจัดไว้ให้ทางานตามนายจ้างกาหนด แต่มี
ข้อเสียคือ มกั จะเป็นงานซ้าๆ เหมอื นกนั ทุกวนั และตอ้ งปฏิบัติตามระเบยี บของนายจ้าง ในการประกอบ
อาชีพรับจ้างนน้ั มีปจั จัยหลายอย่างท่ีเอ้ืออานวยให้ผู้ประกอบอาชีพรับจ้าง มีความเจริญกา้ วหน้าไดเ้ ชน่
ความรู้ความชานาญในการทางาน มีนิสัยทางานท่ีดีมีความกระตือรือร้น มานะ อดทน ในการทางาน
ยอมรับกฎเกณฑแ์ ละเชื่อฟงั คาส่งั มีความซอ่ื สัตยส์ จุ รติ ความขยนั หม่ันเพียร รบั ผดิ ชอบ มมี นุษย์สมั พันธ์
ที่ดีรวมท้ังสุขภาพอนามัยท่ีดีอาชีพต่างๆ มีมากมายหลากหลายอาชีพ ซึ่งบุคคลสามารถเลือกประกอบ
อาชีพได้ตามความถนัด ความต้องการ ความชอบและความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพใด จะเป็นอาชีพ
อิสระหรืออาชีพรับจ้าง หากเป็นอาชีพที่สุจริตย่อมทาให้เกิดรายได้มาสู่ตนเองและครอบครัว ถ้าบุคคล
ผู้นั้นมีความมุ่งมั่น ขยัน อดทน ตลอดจนมีความรู้ข้อมูลเก่ียวกับอาชีพต่างๆ จะทาให้เห็นโอกาสในการ
เขา้ ส่อู าชีพและพัฒนาอาชพี ใหมๆ่ ให้เกิดขึ้นอยเู่ สมอ
2.องค์ประกอบในการตัดสนิ ใจเลือกอาชพี
องค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกอาชีพ การตัดสินใจเลือกอาชีพ คือ การนาข้อมูล
หลายด้านที่เก่ียวกับอาชีพที่จะเลือกมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รอบคอบ เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือก
ประกอบการให้เหมาะสมกับขีดความสามารถของตนเองให้มากท่ีสุด มีปัญหาอุปสรรคน้อยที่สุด
การตดั สินใจเลอื กอาชพี มีองคป์ ระกอบทส่ี าคัญดังตอ่ ไปนี้
หนังสือเรียนวิชาการทาธุงอสี าน(อช0300514) หนา้ 4
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
1. ข้อมูลประกอบการตดั สินใจ ซ่งึ พจิ ารณาข้อมลู 3 ดา้ น คือ ก) ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง คอื
ข้อมูลต่างๆ ท่ีเกี่ยวกับการประกอบอาชีพที่ตนเองมีอยู่ เช่น เงินทุน ที่ดิน อาคารสถานท่ี แรงงาน
เครื่องมือ เครื่องใช้วัสดุอุปกรณ์ความรู้ทักษะต่างๆ ที่จะนาไปใช้ในการประกอบอาชีพมีหรือไม่อยา่ งไร
ข) ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและสังคม เช่น ผู้ที่มาใช้บริการ(ตลาด) ส่วนแบ่งของตลาด ทาเลการ
คมนาคม ทรัพยากรท่ีจะเออื้ ทม่ี ีในท้องถ่ิน แหล่งความรตู้ ลอดจนผลท่ีจะเกิดข้ึนต่อชุมชน ค) ข้อมูลทาง
วิชาการ ได้แก่ ความรู้เทคนิคต่างๆ ที่จาเป็นต่ออาชีพน้ันๆ เช่น การตรวจสอบ ซ่อมแก้ไขเทคนิคการ
บรกิ ารลกู ค้า ทกั ษะงานอาชพี ตา่ งๆ ฯลฯ เปน็ ต้น
2. ความถนัด โดยทั่วไปคนเรามีความถนัดในเชิงช่าง แต่ละคนแตกต่างกันไป เช่นความ
ถนัด ในการทาอาหาร ถนัดในงานประดิษฐ์ ฯลฯ ผู้ที่มีความถนัดจะช่วยทาให้การทางานน้ันเป็นไปได้
อย่างรวดเร็ว สะดวก คล่องแคล่ว รวมท้ังยังช่วยให้มองเห็นลู่ทางในการพัฒนาอาชีพนั้นๆ ให้รุดหน้า
ได้ดกี วา่ คนทไ่ี ม่มีความถนดั
3. เจตคติต่องานอาชีพ เปน็ ความร้สู ึกภายในของแต่ละคนทีม่ ีต่องานอาชีพ ไดแ้ ก่ ความรกั
ความศรัทธาความภูมิใจ ฯลฯ ความรู้สึกต่างๆ เหล่าน้ีจะเป็นแรงผลักดันให้คนเกิดความมานะ อดทน
มุ่งม่ัน ขยัน กล้าสู้กล้าเส่ียง ทาให้ประสบความสาเร็จในการประกอบอาชีพได้ การที่จะตัดสินใจ เลือก
อาชีพผู้ประกอบการ ต้องเอาข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์โดยมีแนวทางในการพิจารณา คือ 1) วิเคราะห์
สภาพท่ีเป็นอยู่ หมายถึง สิ่งที่เป็นอยู่ในขณะน้ันเก่ียวกับเร่ืองต่างๆ ต้องมาวิเคราะห์ ตามสภาพจริงที่
เป็นอยู่ 2) วิเคราะห์ทางออก หมายถึง แนวทางในการดาเนินงานท่ีผู้วิเคราะห์เห็นว่าในกรณี สภาพท่ี
เป็นอยู่น้ันเป็นไปตามความต้องการหรือตามท่ีกาหนด แต่อาจมีแนวทางการดาเนินงาน หรือทางออก
อื่นๆ ท่ีทาให้เป็นไปตามที่ต้องการได้อีกหลายวิธี ซึ่งต้องตัดสินใจเลือกทางออกหรือวิธีการท่ีเหมาะสม
เป็นไปได้มากที่สุด 3) วิเคราะห์ความเป็นไปได้ หมายถึง การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพท่ี
เป็นอยู่กับทางออกแนวทางที่จะดาเนินการนั้น เป็นสิ่งที่สามารถจะทาให้เกิดขึ้น หรือเป็นไปได้จริง
หรือไม่ตามตามออกที่คิดไว้ 4) ตดั สนิ ใจเลอื กเป็นการสรุปเลอื กอาชีพหลังจากการวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ
อย่างละเอียด รอบคอบแล้วการวิเคราะห์ความพร้อมและความเป็นไปได้ของอาชีพท่ีตัดสินใจเลือก
เมื่อตัดสินใจท่ีประกอบอาชีพใดแล้ว เพ่ือให้เกิดความมั่นใจ และเช่ือมั่นว่าอาชีพที่เลือกน้ันสามารถจะ
ดาเนินการได้ตลอดรอดฝงั่
หนังสอื เรยี นวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หน้า 5
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
การวิเคราะห์ความพร้อมและความเปน็ ไปได้ของอาชพี ท่ตี ัดสินใจเลอื ก โดยมีขน้ั ตอนการดังน้ี
อาชีพท่ตี ัดสินใจเลอื ก
ความพรอ้ มของตนในการประกอบอาชีพนนั้ ความเป็นไปได้ของ
อาชีพลอื ก
• เงนิ ทนุ
• แรงงาน • ส่วนแบง่ การตลาด
• วสั ดอุ ุปกรณ์ • การขยายงานกจิ การ
• สถานประกอบการ • ความมน่ั คงในอาชีพ
• วัตถุดบิ
• คณุ สมบัติทจ่ี าเปน็ ตอ่ การประกอบ
ไม่ พร้อม พอใจ ไม่พอใจ
พร้อม ล้มเลิก
กาหนดโครงการและ
ลม้ เลิก แผนงานในอาชีพ หนา้ 6
หนงั สือเรียนวชิ าการทาธงุ อีสาน(อช0300514)
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอกมลาไสย
3. ปญั หาและอุปสรรคการประกอบอาชีพหัตถกรรม “การทาธุงอีสาน”
ปญั หาการประกอบอาชพี หตั ถกรรม
การประกอบอาชีพหัตถกรรมเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นแขนงหนึ่งที่ถ่ายทอดกันมาแต่รุ่นปู่ย่า
ตายาย ชว่ ยเหลือเกอ้ื กูลกันในการทามาหากนิ สรา้ งรายได้ สร้างความเข้มแข็งใหก้ ับชุมชน แตส่ ่งิ เหล่านี้
กาลังจะเลือนหายไป หากผู้นาท้องถ่ินหรือคนในชุมชนขาดความสานึกไม่เห็นคุณค่าและความสาคัญ
จะทาให้สูญหายไปตามการเปล่ียนแปลงของวิถีชีวิตในยุคปัจจุบัน จึงจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องมีการ
อนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่โดยปัจจุบันมีเพียงบางชุมชนที่ยังมีความรัก ความเชื่อและความศรัทธาใน
งานหัตถกรรมท้องถ่ิน จึงได้มีการนาเทคโนโลยใี หม่มาพัฒนาปรับปรุงงานหัตถกรรมใหด้ ียิ่งขนึ้ เพื่อเปน็
ช่องทางในการประกอบอาชีพทาให้เกิดรายได้ต่อตนเอง ชุมชน สังคม และเกิดความรักความสามัคคี
ต่อไป
โอกาส (Opportunity)
1. เป็นผลติ ภัณฑท์ ม่ี ีเอกลกั ษณป์ ระจาทอ้ งถิน่
2. เปน็ แหลง่ ศกึ ษาเรียนรดู้ ูงานภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ
เอกลกั ษณโ์ ดดเดน่ ของผลติ ภณั ฑ์ธุงอสี าน
1. เป็นผลิตภณั ฑ์ท่ีทาจากวสั ดุธรรมชาตแิ ละมีอยใู่ นทอ้ งถิน่
2. มรี ปู แบบทันสมัยท้ังท่ีเปน็ งานหตั ถกรรมประดษิ ฐโ์ ดยฝีมือชาวบา้ น
3. มีการนาเอาภูมิปัญญาดง้ั เดมิ มาปรับปรุงให้เข้ากบั ยคุ ปัจจบุ ันทาใหม้ คี วามทนั สมัย
อยูเ่ สมอ
4. ฝมี อื ประณตี สแี ละลวดลายทนั สมยั และลกู คา้ สามารถสัง่ ทาผลิตภัณฑไ์ ด้ตาม
ความต้องการ
ปญั หาการประกอบอาชีพหัตถกรรม ธงุ อีสาน
จุดแขง็ (Strength)
1. มแี หล่งวัตถุดบิ ท่ีมีคุณภาพและเพยี งพอในทอ้ งถิ่น
2. เป็นแหล่งศกึ ษาดูงานภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ
3. สินคา้ ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน
4. มีแบรนดท์ ี่เปน็ เอกลักษณ์ ของกลุม่ (ตราสินค้า)
5. มีฐานลูกค้าเดิม
6. มีเงินทุนหมนุ เวียน
7. มกี ารจัดทาบญั ชเี ป็นปัจจุบนั ตรวจสอบได้
หนังสอื เรียนวิชาการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หน้า 7
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
จดุ อ่อน (Weakness)
1. มีคูแ่ ขง่ ในต่างจังหวดั หลายกลมุ่ และจาหนา่ ย สินค้าแบบตดั ราคา
(ไมเ่ น้นคุณภาพ)
2. ขาดแรงงานท่ีมีฝีมือและความชานาญในด้านการออกแบบ และผลติ แบบใหมๆ่
3. สว่ นใหญย่ งั ยดึ ตดิ กับการผลิตสินค้าแบบเดิมๆ
4. ตอ้ งใช้เวลาในการทาช้นิ งานเพ่อื ให้เกิดความประณตี
5. เงนิ ทนุ ไมเ่ พียงพอหากตอ้ งการขยายงานเพอ่ื รองรับการสง่ ออกไปยังจงั หวดั ต่างๆ
หรอื สง่ ออกตา่ งประเทศ
หนังสอื เรยี นวชิ าการทาธุงอสี าน(อช0300514) หน้า 8
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
แบบทดสอบท้ายบท
คาชแี้ จง ใหผ้ เู้ รียนทาเครอื่ งหมาย X ทบั อักษร ก ข ค หรือ ง ทเี่ ปน็ คาตอบทถี่ กู ตอ้ งเพียงข้อเดยี ว
1. ความหมายของอาชพี คอื ขอ้ ใด
ก. อาชีพเกษตรกรรม
ข. อาชพี อุตสาหกรรม
ค. อาชพี รับจา้ ง
ง. อาชีพพาณิชยกรรม
2. ขอ้ มูลในการตัดสินใจเลือกอาชพี การทาธุงอีสานคือขอ้ ใด
ก. วัตถอุ ปุ กรณ์ เงินทนุ กระบวนการผลิต
ข. สินคา้ ตลาด ผ้บู ริโภค
ค. ลูกคา้ ผขู้ าย สินค้า
ง. ตนเอง สังคม วชิ าการ
3. ขอ้ ใดคือขอ้ มูลความพร้อมของตนเองในการประกอบอาชพี หัตถกรรม
ก. การตลาด
ข. เงนิ ทนุ
ค. คมนาคม
ง. ทรัพยากร
4. กระบวนการประกอบการอุตสาหกรรมใช้ขอ้ มลู ในข้อใด
ก. วตั ถดุ บิ หรือสนิ ค้า กระบวนการผลิต สินค้าสาเร็จรปู ผู้บรโิ ภค
ข. กระบวนการผลิต สินค้าสาเรจ็ รปู วัตถุดบิ หรอื สินค้า ผบู้ รโิ ภค
ค. ผู้บรโิ ภค สนิ ค้าสาเร็จรปู วตั ถุดบิ หรือสินคา้ กระบวนการผลิต
ง. สินค้าสาเรจ็ รูป ผ้บู ริโภค กระบวนการผลิต วัตถดุ บิ หรอื สินคา้
5. ความหมายของอาชีพคอื ขอ้ ใด
ก. การทางาน
ข. การทากิจกรรม
ค. การประกอบการทไ่ี ม่เป็นโทษต่อสงั คมและมีรายได้
ง. ถกู ทุกขอ้
หนงั สอื เรยี นวชิ าการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หนา้ 9
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
6. ข้อใดไม่ได้เป็นอาชพี หัตถกรรม
ก. การจกั สาน
ข. การทอผา้
ค. การทาธงุ
ง. การทาขนม
7. ข้อใดคือข้อมูลในการประกอบการตดั สินใจ
ก. ทางวชิ าการ ตนเอง สภาพแวดล้อมและสังคม
ข. ตนเอง สภาพแวดลอ้ มและสงั คม ทางวชิ าการ
ค. สภาพแวดลอ้ มและสงั คม ทางวิชาการ ตนเอง
ง. ตนเอง สภาพแวดล้อมและสงั คม ทางวชิ าการ
8. ปญั หาเกย่ี วกบั สินค้าด้านหตั ถกรรมหมายถงึ ขอ้ ใด
ก. คณุ ภาพสนิ ค้าตา่
ข. ไมม่ ตี ลาดจาหนา่ ย
ค. ผู้ผลิตสินค้าน้อย
ง. ราคาสินค้าตา่
9. ขอ้ ใดต่อไปนคี้ อื ปัญหาการประกอบอาชพี หัตถกรรม
ก. เงินทนุ หมุนเวียนไมเ่ พยี งพอ
ข. มีแบรนด์ท่เี ป็นเอกลกั ษณ์
ค. สินคา้ ได้รบั มาตรฐาน
ง. มเี งินทุนหมนุ เวียน
10. จุดแขง็ (strength) ของการประกอบอาชีพหัตถกรรมตรงตามข้อใด
ก. ความศรทั ธาในงานหัตถกรรมทอ้ งถ่ิน
ข. ชมุ ชนขาดความสานึกไมเ่ ห็นคุณคา่
ค. สินค้าไดร้ บั มาตรฐานผลติ ภัณฑช์ ุมชน
ง. สรา้ งรายได้และสร้างความเข้มแข็งใหก้ บั ชมุ ชน
หนังสอื เรียนวชิ าการทาธุงอสี าน(อช0300514) หนา้ 10
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
บทท่ี 2
ประวตั คิ วามเปน็ มาของธงุ อีสาน
สาระสาคญั
สังคมของคนภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือหรือคนอีสาน มีความเช่ือว่าพระธาตุยาคูเปน็ ท่ี
บรรจอุ ฐั ขิ องพระภกิ ษุผูท้ ่ีได้ดารงตนอยใู่ นสมณเพศตลอดชีวิตจนแก่ชรา และเป็นผูท้ มี่ าสอนหลักธรรม
พร้อมกับการตั้งถ่ินฐาน จนชาวบ้านเกิดความศรัทธาและเคารพบูชา มีการนาธุงมาสักการบูชา
พุทธศาสนกิ ชนชาวอีสานจึงถอื ว่าธุงเปน็ เคร่ืองสกั การะ ใช้ในพธิ ีกรรมทางพุทธศาสนา ในงานบุญและ
ขบวนแห่ต่างจะประดับประดาในงานพิธีเพื่อความสวยงาม มีความแตกต่างกันตามความเชื่อใน
พธิ กี รรมของแตล่ ะท้องถิน่
ตัวช้วี ัด
1. ผ้เู รยี นอธบิ ายความเปน็ มาของพระธาตุยาคูได้
2. ผู้เรียนอธิบายประวตั ิความเปน็ มาของธงุ อสี านได้
ขอบขา่ ยเนอื้ หา
เรอ่ื งท่ี 1. ความเป็นมาของพระธาตุยาคู
เรื่องท่ี 2. อธิบายประวัตคิ วามเปน็ มาของธงุ อีสาน
ระยะเวลาในการศึกษา
จานวน 5 ชั่วโมง
สื่อการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน
2. .แหล่งเรียนรู/้ ภมู ิปัญญา
3. บคุ คล
4. ส่ือออนไลน์ตา่ งๆ
หนงั สอื เรียนวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หนา้ 11
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
1. ความเป็นมาของพระธาตุยาคู
พระธาตุยาคู เป็นโบราณสถานทางตอนเหนอื ของเมอื งฟา้ แดดสงยาง คาดว่าสรา้ งราวสมยั
ทวารวดีช่วงพทุ ธศตวรรษท่ี 12–16
โบราณสถาน
โบราณสถานประกอบไปด้วยพระธาตุ เป็นศาสนสถานเน่ืองในศาสนาพุทธ
ในสมัยทวารวดี โดยลักษณะฐานอิฐสี่เหล่ียมยกเก็จมบี ันไดทางขน้ึ ทั้งสี่ด้าน ก่อด้วยอิฐขนาดใหญแ่ บบ
อิฐที่พบใน โบราณสถานสมัยทวารวดี ไม่หล่อปูน ด้านบนเป็นฐานแปดเหล่ียม เป็นเจดีย์แบบสมัย
อยุธยาซ้อนทับและมีหลักฐานว่าบูรณะใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ รวมความสูงปัจจุบันสูง 15 เมตร
มขี นาดกวา้ ง 16 เมตร ลักษณะของพระธาตยุ าคูจากการขุดแตง่ ของกรมศิลปากรพบวา่ ก่อนทจี่ ะเปน็
องค์สถูปเจดยี ์ ได้พบฐานเดิมซ่ึงลกึ ลงไปจากสถานสถูปเจดยี ์ในปัจจบุ นั อกี ช้ันหนง่ึ ก่อด้วยอฐิ มผี ังคล้าย
รูปกากบาท แต่มีการย่อมุม ท่ีตรงปลายของแต่ละด้านท่ียื่นออกไปมีความสูงจากพื้นล่างข้ึนมา
ประมาณ 1 เมตรเศษ ต่อจากนน้ั จึงเปน็ ฐานทบี่ ูรณะขนึ้ ใหม่จากลักษณะที่เปน็ กองอฐิ ธรรมดาตามรอย
เดิมในลักษณะของฐานเขียง ผังแปดเหล่ียมซ้อนกันสามช้ัน และอีกช้ันที่ส่ีมีความสูงมากกว่าทุกชั้น
แตท่ าส่วนบนสอบเข้าเล็กน้อย จากนั้นทาตอนบนเหนอื ข้ึนไปผายออกเลก็ น้อย ทาสว่ นบนสอบเข้าหา
จุดศูนย์กลางโดยการก่ออิฐลดหล่ันเป็นข้ันบันไดข้ึนไปตอนบน แล้วจึงเป็นองค์ระฆังแปดเหล่ียม
ทรงอวบอ้วนสอบเข้าตอนปลายเล็กน้อยจากองค์ระฆงั ข้นึ ไปชารุดแต่ถกู บรู ณะขึ้นใหม่
จากการขุดค้นทางโบราณคดี ทาให้กาหนดอายุพระธาตุยาคูไว้ในช่วงพุทธศตวรรษ
ท่ี 12–16 ฐานของเจดีย์ขุดพบใบเสมาสลักเป็นภาพเล่าเร่ืองเก่ียวกับพุทธประวัติปักไว้ท่ีฐาน
หนังสอื เรียนวิชาการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หนา้ 12
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
โดยมีเสมาหินทรายแผ่นหนึ่ง พบระหว่างการขุดแต่งองค์พระธาตุห่างไป 11 เมตร ทางด้าน
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยอยู่ในลักษณะท่ีคว่าหน้าหันส่วนยอดของปลายใบเสมาเข้าสู่องค์เจดีย์
ในความลึกจากระดับดิน เดิมประมาณ 30 เซนติเมตร จากการศึกษาลักษณะประติมาณวิทยาของ
ภาพสลัก แปลความได้ว่าเป็นภาพสลักเล่าเร่ืองมโหสถชาดก กาหนดอายุได้ประมาณพุทธศตวรรษที่
14 –15 เช่นเดียวกบั การกาหนดอายุของใบเสมาทเ่ี มอื งฟา้ แดดสงยาง
โบราณวัตถุ
บริเวณพระธาตุยาคูชาวบ้านขุดค้นพบโบราณวัตถุต่างๆ หลายอย่าง เช่น ใบเสมา
ภาชนะเคร่ืองใช้ดินเผา กาไล แหวน กระดูกสัตว์ ลูกปัดแก้ว และเครื่องประดับชนิดต่างๆ และพระ
พิมพ์ดินเผา วางเรียงซ้อนทับกันจานวนหลายร้อยองค์ เม่ือขุดลึกไปประมาณ 70 เซนติเมตรโดยรอบ
พระธาตุยาคูมีใบเสมาจานวนหน่ึงปักไว้ ใบเสมาสลักบางแผ่นสลักภาพเล่าเรื่องชาดกในพุทธศาสนา
เช่น ชาดกเรื่องมโหสถชาดก ชาดกเร่ืองภูริทัตชาดก เป็นต้น ถัดออกไปทางทิศใต้ประมาณ 25 เมตร
มีซากเจดีย์สมัยทวารวดีกระจายตัวอยู่รวมกันห้าองค์พระพิมพ์มีทั้งสมบูรณ์และแตกหักชารุด
พระพิมพด์ นิ เผาในพน้ื ทีพ่ ระธาตุยาคู เรยี กวา่ กรุฟ้าแดดสงยางสมยั ทวารวดี ซึง่ มีหลายพิมพ์ดว้ ยกันคอื
พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็กพิมพ์กลีบบัว (หลังกุ้ง) พิมพ์ปกโพธิ์ และพิมพ์พระแผง แต่พระพมิ พ์ที่
ได้รับความนิยมสูงสุดของพระกรุฟ้าแดดสงยางคือ พิมพ์ใหญ่นิยม องค์พระมีขนาดกว้าง 5 นิ้ว
สงู 7 นวิ้
ประวตั ิ
ชาวบา้ นเชอ่ื กันว่าพระธาตยุ าคเู ปน็ ทบี่ รรจุอัฐิของพระเถระผู้ใหญ่ผ้ตู ้ังหมู่บ้านที่ชาวเมือง
เคารพนับถือ เน่ืองจากคาว่า "ยาคู" เป็นคาเรียกสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ของภาคอีสานโบราณ ซึ่งเมือ่
พระสงฆ์รูปใดเป็นผู้ประพฤติปฏิบัติดีมีคุณธรรมและบวชมาแล้วไม่น้อยกว่าสามพรรษา ชาวบ้านจะ
นิมนตม์ าทาพธิ ีฮีดสรง จากนน้ั กไ็ ด้เล่อื นสมณศักด์เิ ป็น "ยาคู ยาซา"
ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ชาวบ้านผู้สูงอายุกล่าวถึงเมืองโบราณบริเวณท่ีต้ังพระธาตุยาคู
ว่าเดิมพ้ืนท่ีบริเวณนเี้ ป็นท่ีรกร้าง ปรากฏมีซากเจดีย์และแผ่นหินรูปใบเสมาอยมู่ ากมาย ชาวบ้านเห็น
เป็นทาเลดี จงึ ไดม้ ชี าวบ้านกลมุ่ หนงึ่ อพยพออกมาจากเมืองกมลาไสย มาตั้งบา้ นเรอื นและจับจองที่ทา
ไร่นา และเรียกหมู่บ้านตัวเองว่าบ้านบักก้อม ซึ่งเรียกตามช่ือเสือโคร่งหางด้วนที่พบบริเวณป่าใกล้
หมบู่ า้ น
การอพยพมาตงั้ บา้ นเรือนมีพระภกิ ษอุ ันเป็นท่ีเคารพนับถือของชาวบ้านตามมาและต้ังสานักสงฆ์
และกลายเป็นวัดประจาหมู่บ้าน ภิกษุรูปนี้ชาวบ้านเรียกว่า ยาคูง่อม เม่ือภิกษุรูปนี้มรณภาพลง
ชาวบ้านจึงทาศาลใส่อัฐิไว้ในบริเวณบ้านบักก้อม ภายหลังหมู่บ้านแห่งนี้ได้ช่ือใหม่ว่า "บ้านเสมา”
หนังสอื เรียนวชิ าการทาธุงอสี าน(อช0300514) หน้า 13
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
บริเวณท่ีตั้งศาลเป็นวัดประจาหมู่บ้าน ช่ือว่า วัดโพธิชัยเสมาราม ต่อมา เมื่อชาวบ้านยุคใหม่เห็นว่า
มีซากเจดยี ์ขนาดใหญส่ มบูรณก์ ว่าทอ่ี ่นื ชาวบ้านจงึ คดิ วา่ เป็นท่บี รรจุอฐั ิของภิกษยุ าคงู อ่ ม จงึ เรียกเจดีย์
แห่งนวี้ า่ “พระธาตยุ าคู” จวบจนปจั จบุ นั
อยา่ งไรก็ตาม กรมศลิ ปากรได้ขุดแต่งและบูรณะเจดีย์องค์น้ีในช่วงปี พ.ศ. 2510 – 2522
ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีที่พระธาตุยาคู ทราบว่าพระธาตุยาคูมีมาแล้วตั้งแต่สมัยทวารวดีอายุ
ประมาณพทุ ธศตวรรษที่ 12–16 ขัดแยง้ กับความเชอื่ ของชาวบ้านในปัจจบุ นั เก่ียวกับการบรรจุอัฐิของ
พระภกิ ษทุ ี่ชาวบา้ นนับถอื ในช่วงที่เพง่ิ ตัง้ หมบู่ า้ นซึง่ เปน็ ช่วงเวลาไม่นานมาน้ี ประกอบกับผลการขดุ พบ
ใบเสมาสลักภาพเล่าเร่ืองในพุทธศาสนาปักไว้ท่ีฐานพระธาตุ ดังนั้น พระธาตุยาคูคงไม่ใช่เจดียท์ ี่บรรจุ
อัฐิธาตุของพระเถระดังความเช่ือของชาวบ้านในปัจจุบัน ส่วนคาเรียก "พระธาตุยาคู" เป็นคาเรียกต่อ
กันมาจนกระทัง่ ทางกรมศิลปากรเขา้ มาบรู ณปฏิสังขรณจ์ ึงเรยี กตามชาวบา้ นด้วย
2. ประวัตคิ วามเป็นมาของธุงอสี าน
“ธงุ อสี าน” ชาวอาเภอกมลาไสย ทาเปน็ 2 แบบ คือ
1. แบบธุงผ้าธงผะเหวด เป็นการประยกุ ต์นวตั กรรมการทอผ้ามาทอธงผะเหวด ซึ่งจะมี
ความยาก และใชเ้ วลาในการทอธงผะเหวดมากกวา่ ทอผา้ เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชนใ์ ชแ้ รงงาน
ในชมุ ชน เปน็ การสร้างรายได้ให้กบั คนในหมู่บ้านอกี ทางหนึง่
2. แบบตุงใย เป็นการนาเอาด้ายกับไม้ไผ่มาถักให้เป็นรูปทรงตามถนัด เช่น ทรง
สี่เหลี่ยม และทรงหกเหลี่ยม มีขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความสามัคคี และพลัง
ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ตามความเชื่อของชาวอีสาน “ตุง” หรือ “ธุง” เป็นสัญลักษณ์ท่ีเปน็ สิริมงคล
ความดีงาม เช่อื ว่าเมอื่ ไดถ้ วายตุง จะเป็นบันไดไปสู่สวรรคน์ น่ั เอง
2.1 ความเช่ือที่เกย่ี วกับการถวายธงุ ใหว้ ัดส่วนใหญ่ เช่อื ว่าไดก้ ศุ ลแรงเพราะธุงถือเป็น
ของสูงในพิธีกรรมและมักถูกนามาใช้ตกแต่งในงานบุญท่ีสาคัญเสมอ หากถวายเพ่ืออุทิศส่วนกุศลให้
ผู้ตายเช่ือว่าบุญจะถึงและได้บุญมาก ดังน้ันผ้าธุงที่ญาติโยมนามาถวายวัดจึงมักนยิ มเขียนหรอื ปักชอ่ื ทั้ง
ญาตทิ ี่เสียชวี ติ ไปแล้วและชือ่ ผ้อู ุทิศสว่ นกุศลไปให้ดังนั้น คนอีสานจงึ มคี วามเช่อื เกี่ยวกับธงุ ใน 2 ลักษณะ
ได้แก่
1) การทาบุญ เมือ่ ไดท้ าบุญดว้ ยการถวายธงุ แลว้ จะอยเู่ ยน็ เปน็ สุขเปน็ สริ ิมงคลแก่ชวี ติ
2) การให้ทาน เม่อื ได้ใหท้ านดว้ ยการถวายธุงแลว้ จะชว่ ยใหว้ ิญญาณผูต้ ายหลดุ พน้ จาก
นรกหรอื วบิ ากกรรม
2.2 ความเช่ือเก่ียวกับการนาธุงมาใช้ เชื่อว่าการปักหรือแขวนธุงในเขตงานบุญเป็น
การบอกกล่าวหรือเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คน รวมท้ังสิ่งที่มองไม่เห็นได้รับรู้สถานท่ีแห่งน้ีกาลังมีงานบุญ
บางแห่งได้เย็บกระเป๋าติดกับตัวธุงสาหรับใส่เงิน ดอกไม้และอื่นๆ ไว้ด้วย ส่วนความเชื่อเกี่ยวกับการ
หนังสอื เรยี นวิชาการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หนา้ 14
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
ใส่เงินอาจมีแตกต่างกันไปบ้าง เช่น บางแห่งเช่ือว่าเป็นการส่งเงินให้คนหรือญาติที่ตายไปแล้ว บางแห่ง
บอกวา่ ใหก้ บั เจา้ กรรมนายเวรการปักหรือแขวนธุงเปน็ การปอ้ งกนั พญามารมารบกวนเขตพิธอี ันศกั ด์สิ ิทธ์ิ
ตามความเช่ือท่ีสืบต่อกันมา การปักหรือแขวนธุงเป็นการตกแต่งสถานท่ีงานบุญที่สาคัญที่เคยยึดถือ
สืบต่อกนั มาจนเปน็ ประเพณี
ธุงผา้ ธงผะเหวด
ประเภทของธงุ
ความเชือ่ ของคนอีสานเก่ียวกับธุง พบว่า ความเชื่อที่เกี่ยวเนอ่ื งจากธุงของคนอีสาน
ไม่แตกต่างกนั มากนัก ทั้งน้ีจากจาแนกออกเป็น 2 ด้าน คือ ด้านการถวายผ้าธงุ และด้านการนาธุงมา
ใชส้ าหรับความเช่ือท่ีเกย่ี วกบั การถวายธงุ ใหว้ ดั ส่วนใหญ่ เชอื่ วา่ ได้กศุ ลแรง เพราะธุงถือเปน็ ของสูงใน
พธิ กี รรม และมักถกู นามาใช้ตกแตง่ ในงานบุญที่สาคญั เสมอ หากถวายเพื่ออุทศิ ส่วนกุศลให้ผตู้ ายเชื่อว่า
บุญจะถึงและได้บุญมาก ดังนั้นผ้าธุงท่ีญาติโยมนามาถวายวัดจึงมักนิยมเขียนหรือปักช่ือทั้งญาติที่
เสียชีวิตไปแล้ว และชื่อผู้อุทิศส่วนกุศลไปให้ ดังน้ัน คนอีสานจึงมีความเช่ือเกี่ยวกับธุงใน 2 ลักษณะ
คือ การทาบุญ เมื่อได้ทาบุญด้วยการถวายธุงแล้ว จะอยู่เย็นเป็นสุข เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต การให้ทาน
เมอื่ ได้ใหท้ านด้วยการถวายธงุ แล้วจะชว่ ยให้วิญญาณผูต้ ายหลุดพน้ จากนรกหรอื วบิ ากกรรม
ความเชือ่ เก่ียวกบั การนาธงุ มาใช้ เชื่อวา่
1. การปักหรือแขวนธุงในเขตงานบุญเป็นการบอกกล่าวหรือเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คน รวมทั้ง
ส่ิงท่ีมองไม่เห็นได้รับรู้สถานที่แห่งน้ีกาลังมีงานบุญ บางแห่งได้เย็บกระเป๋าติดกับตัวธุงสาหรับใส่เงิน
ดอกไม้และอื่นๆไว้ด้วย ส่วนความเช่ือเกย่ี วกับการใส่เงนิ อาจมีแตกต่างกันไปบ้าง เช่น บางแห่งเช่อื วา่
เปน็ การสง่ เงินให้คนหรอื ญาติทีต่ ายไปแล้ว บางแหง่ บอกว่าให้กับเจา้ กรรมนายเวร
หนังสอื เรยี นวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หนา้ 15
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
2. การปักหรอื แขวนธงุ เปน็ การป้องกันพญามารมารบกวนเขตพิธีอนั ศักดิ์สิทธ์ิตามความเช่ือ
ทส่ี ืบตอ่ กนั มา
3. การปักหรือแขวนธุงเป็นการตกแต่งสถานที่งานบุญท่ีสาคัญที่เคยยึดถือสืบต่อกันมาจน
เป็นประเพณี
“ตุง” หรือ “ธุง”ความศรัทธาที่งดงามยามสายลมไหว
บนแผ่นดนิ อีสานจะมีงานบุญประเพณใี นแต่ละเดอื นท่บี ง่ บอกถงึ วิถกี ารดารงชีวิตท่ีเช่ือมโยง
ระหว่างพธิ ีกรรมและการดารงชีวติ ของผคู้ นในแตล่ ะพื้นถ่นิ ก่อให้เกิดความภาคภูมใิ จและความสามัคคี
ในพื้นถิ่นโดยใช้งานบุญประเพณีประจาเป็นตัวเช่ือมประสานในงานบุญประเพณีแต่ละเดือนของชาว
อสี านมกั จะประดษิ ฐ์ “ตงุ ” หรือ “ธุง” หลากหลายรูปแบบและหลากหลายสีสนั บนผืนผา้ หรอื ใช้วัสดุ
ส่ิงอ่ืนเพ่ือส่ือความหมายระหว่างมนุษย์กับส่ิงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆตามความเชื่อท่ีมีมาแต่โบราณ “ตุง” มี
ความเปน็ มาจากเรือ่ งเลา่ เมอ่ื ครงั้ ในอดีตวา่ มพี วกเหล่ามารปศี าจข้ึนไปกอ่ กวนเทวดาบนสวรรค์ จนทา
ให้เหล่าเทวดาตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ทาให้เจ้าแห่งสวรรค์สร้าง “ตุง” ข้ึนมา เพื่อให้เหล่าเทวดาได้
มองเห็น “ตุง” แล้วเกิดความกล้าหาญไม่หวาดกลัวเหล่ามารปีศาจอีกต่อไป “ตุง” จึงเป็นเหมือน
ตัวแทนในการขับไล่มารร้ายไปจากสวรรค์น้ันเอง ทาให้ในกาลต่อมามนุษย์จึงได้ประดิษฐ์ “ตุง” เพ่ือ
เป็นสื่อกลางในการติดต่อระหวา่ งมนุษย์กบั ส่ิงศักดิส์ ิทธ์ิ การติดต่อส่ือสารระหวา่ งมนษุ ยก์ ับผู้ท่ีล่วงลับ
ไปแล้ว อีกท้ังเพ่ือเป็นพุทธบูชา อีกทั้งเป็นปัจจัยการส่งกุศลให้แก่ตนเองในชาติหนา้ จะได้เกดิ บนสรวง
สวรรค์ตอ่ ไป
การใช้ "ธุง" ประดับตกแต่งในพิธีสักการะบุคคลสาคัญในเขตภาคเหนือและภาคอีสานมี
การแบ่งประเภทของ “ธุง” ตามลักษณะของวัสดุที่นามาใช้ทาอยู่ 5 ประเภท ด้วยกัน คือ ธุงผ้าทอ
ธุงใย ธงุ กระดาษ และธุงกระด้าง ธุงผา้ ทอ นยิ มทอดว้ ยผา้ ฝ้ายสีขาว มลี วดลายใช้สีดาและสีแดงเป็น
เส้นพุ่ง หรืออาจสอดสีอ่ืนๆ เพ่ือความสวยงาม โดยท่ัวไปจะมีขนาดกว้าง 1 – 50 เซนติเมตร มีขนาด
ความยาวต้ังแต่ 1 – 3 เมตร ลักษณะของธุงผ้าทอแบ่งออกตามลักษณะการใช้งาน คือ ตุงไชย ใช้ใน
พิธีเฉลิมฉลองต่างๆ เช่น งานสงกรานต์ งานตังธรรมมาสน์เทศน์มหาชาติ (ทาด้วยผ้าสี) ธุงพญายอ
ใช้ในเทศกาลสงกรานต์ ธุงพันวาใช้ในงานพิธีเฉลิมฉลองปีใหม่ ธุงพระบฎหรือผ้าพระบฎ ใช้ถวายวัด
เปน็ พทุ ธบูชา และธงุ ตะขาบ ธุงจระเข้ ใชใ้ นขบวนแหก่ ฐนิ การแห่ธุงพระบฎหรือผา้ พระบฎ เพ่อื ถวาย
วัดเป็นพุทธบชู าในงานเทศน์มหาชาตขิ องชาวบา้ นหนองโอ อาเภอหนองสงู จงั หวดั มกุ ดาหาร
หนังสอื เรยี นวชิ าการทาธุงอีสาน(อช0300514) หนา้ 16
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
ภาพประกอบ ผา้ พระบฎ ภาพประกอบ ธงุ จระเขใ้ ช้แห่งานกฐิน
ภาพประกอบ ภาพประกอบ
ธุงผา้ ทอแบบประยุกต์ใชผ้ า้ ขาวม้า ธุงธงไทย หวั ใจรักรักชาตเิ ตม็ ร้อย
หนังสอื เรียนวชิ าการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หนา้ 17
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอกมลาไสย
ภาพประกอบ ธุงใย
จะใช้เส้นฝ้ายสีขาวมัดหรือสานคล้ายใยแมงมุม แล้วมีไม้ไผ่สอดเป็นโครงยึดเป็นช่วงๆ ทาด้วย
ดอกไม้หรอื พหู่ อ้ ย นอกจากนน้ั จะจดั ทาเปน็ ตงุ ราว ประดับด้วยผ้าหรือกระดาษสีต่างๆ แขวนบนเชือก
โยงตามเสาของศาลาธรรมในงานประจาปีของวดั
ภาพประกอบ "ธุงใย"
จะใชเ้ ส้นฝา้ ยสีขาวมัดหรอื สานคลา้ ยใยแมงมุม
หนงั สอื เรียนวิชาการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หนา้ 18
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
“ธงุ ” สญั ลกั ษณ์แหง่ ล้านนา
"ธุง" ของล้านนา ก็คือ "ธง" ของไทยภาคกลางนั่นเอง มีลักษณะเป็นแผ่นวัตถุส่วนปลายแขวน
ติดกับเสาห้อยเป็นแผ่นยาวลงมา วัสดุท่ีใช้ทา ตุงนั้นมีหลายอย่าง เช่น ไม้ สังกะสี ผ้า กระดาษ ใบลาน
เป็นตน้
ธุง เป็นสิ่งท่ีทาขึ้นเพื่อใช้ในงานพิธีทางพุทธศาสนา โดยมีขนาด รูปร่าง และรายละเอียดด้าน
วัสดุตกแต่งแตกต่างกันไปตามความเชื่อและพิธีกรรมตลอดจนตามความนิยมในแต่ละท้องถ่ินด้วยสว่ น
จุดประสงค์ของการทาตุงล้านนาก็คือ ทาถวายเป็นพุทธบูชาโดยท้ังชาวไทยยวน ไทลื้อ ไทเขิน และไท
ใหญ่ จะถือวา่ เป็นการทาบุญอทุ ิศใหแ้ ก่ผู้ท่ลี ว่ งลับไปแล้ว หรือถวายเพื่อเป็นปัจจยั สง่ กุศลให้แกต่ นไปใน
ชาติหน้า ด้วยความเช่ือว่าเม่ือตายไปแล้วจะได้เกาะยึดชายธุงขึ้นสวรรค์ ความงามของธุงจะวัดกันท่ี
ลวดลายและสีสันท่ีแต่งแต้มประดิษฐ์ลงไปที่ผืนธุง โดยจาแนกตามวัสดุที่ใช้ทาธุง ดังนี้
ธุงผ้าทอ โดยทั่วไปมีขนาดกว้าง 15-50 ซม. ยาว 1-6 เมตร โครงสร้างประกอบด้วย
ส่วนหัว-ตวั -หาง นยิ มทอดว้ ยฝา้ ยสขี าว มีลวดลายขติ สีดาและแดงเป็นเสน้ พุ่ง อาจสอดสอี ่ืนๆ เพอ่ื ความ
สวยงาม
ธงุ ใย ใช้เสน้ ฝา้ ยสีขาวมดั หรอื ถกคล้ายแมงมุมชักใย มไี ม้ไผ่สอดเป็นโครงยดึ เปน็ ช่วงๆ
ทาด้วยวสั ดุต่างๆ เปน็ ดอกไม้ หรือพ่หู ้อย
ธงุ กระดาษ เชน่ ธุงไสห้ มู ไสช้ ้าง ธงุ พญายอ โดยการนากระดาษแกว้ สีตา่ งๆ อย่างน้อย
แผ่นละสมี ารวมกนั พับไปมาแลว้ ตดั สลบั ไม่ใหข้ าดจากกันเม่อื คล่อี อก และจบั หงายขนึ้ จะเป็นชอ่ พวงยาว
ผูกติดกับไม้ยาวประมาณ 1เมตร ปักตกแต่งหรือใช้ร่วมขบวนแห่ครัวทานเข้าวัดหรือปักเจดีย์ทรายใน
เทศกาลสงกรานต์ ธุง กับงานประเพณีต่างๆ เช่น งานปีใหม่ หรือประเพณีสงกรานต์ของชาวล้านนา
ประชาชนจะทาเคร่ืองสักการะคือ ธูป น้าส้มป่อย ธุง และ ช่อตุงหรือธุง อันเป็นเครื่องสักการะ
มี 4 ประเภท คอื
1. ธุงเดีย่ ว หรอื ตุงค่าคงิ สาหรบั บชู าแทนตนเอง
2. ธุงไสห้ มู บูชาพระเจดีย์ พระธาตทุ ้ังหลาย
3. ธุงไจยหรอื ธงุ ไชย ถวายบูชาพระพทุ ธรปู เพอ่ื สรา้ งความสวัสดีมชี ัย
4. ชอ่ หรอื ธงชยั สาหรบั ปักเคร่ืองบชู าต่าง ๆ
ธงุ จัดเป็นเครือ่ งสักการะของล้านนาไทย มีตุงหลายชนิดท่ีใชใ้ นพิธีกรรม เชน่ งานฉลอง หรืองาน
ปอย งานชาตา หรือขบวนแห่ต่างๆ เป็นต้น แม้จนกระทั่งปัจจุบนั ธุงก็ยังมหี น้าท่ีสาคัญผูกพันกบั ความ
ศรัทธาของชาว ล้านนา นอกจากน้ันก็ยังมีหน้าท่ีใหม่เพ่ิมเข้ามาได้แก่ การแห่แหนหรือการประดับ
ประดาเพื่อเฉลิมฉลองงานการท่องเท่ียว ตลอดจนมีการพัฒนารูปแบบที่ย่ิงใหญ่อลังการมากข้ึนไปอีก
ดังเช่น การแห่ตุงพนั วาในขบวนแห่สลงุ หลวงท่ี จ.ลาปาง และในขบวนแห่ต่างๆ ที่ จงั หวดั เชียงใหม่ และ
จงั หวัดเชียงราย เป็นต้น
หนังสือเรยี นวชิ าการทาธุงอีสาน(อช0300514) หนา้ 19
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
ในงานบุญประเพณีแต่ละเดือนของชาวอีสานมักประดิษฐ์ “ตุง” หรือ “ธุง” หลากหลาย
รูปแบบ และหลากหลายสสี ันบนผืนผ้าหรอื ใช้วัสดุสิ่งอน่ื เพ่อื สอื่ ความหมายระหวา่ งมนุษยก์ บั สิง่ ศกั ดิ์สิทธ์ิ
ตา่ งๆ ตาม ความเช่ือทมี่ มี าแตโ่ บราณในงานบุญประเพณีแต่ละเดอื นของชาวอีสานมักจะประดษิ ฐ์ “ตงุ ”
หรือ “ธุง” หลากหลายรูปแบบและหลากหลายสีสันบนผืนผ้าหรือใช้วัสดุส่ิงอื่นเพ่ือสื่อความหมาย
ระหว่างมนษุ ยก์ ับสิ่งศักดส์ิ ทิ ธิ์ตา่ ง ๆ ตามความเช่ือทม่ี มี าแตโ่ บราณ
“ธุง” จึงนับได้ว่าเป็นเคร่ืองสักการะ เพื่อใช้พิธีกรรมทางพุทธศาสนา ในบุญเฉลิมฉลอง หรือ
ขบวนแห่ต่างๆ การประดบั ประดาในงานพธิ ตี ่างๆ เพอ่ื ความสวยงามตระการตา โดยมีความแตกต่างกัน
ตามความเช่ือในการประกอบพิธีกรรมของท้องถิ่น ซึ่งโดยทั่วไปตุงจะมีลักษณะคล้ายกับธงมีความยาว
ประมาณ 1 – 3 เมตร อาจทอด้วยผ้าฝ้ายเป็นลายขิด ลวดลายสัตว์ คน ต้นไม้ หรือพระพุทธรูป เพ่ือ
ถวายพระสงฆ์เป็นพุทธบูชา
ธุงสิบสองราศี นิยมทาด้วยกระดาษ ลักษณะของธุงสิบสองราศี มีรูปนักษัตรหรือสัตว์ สิบสอง
ราศีในผืนเดียวกัน เชื่อว่าในครอบครัวหน่ึงอาจมีสมาชิกหลายคน แต่ละคนอาจมีการเกิดในปีต่างกัน
หากมกี ารนาไปถวายเท่ากับว่าทุกคนในครอบครัวได้รับอานิสงค์จากการทานธุงเท่าๆ กัน ถอื ว่าเปน็ การ
สมุ่ ทาน ใช้เปน็ ธุงบูชาเจดีย์ทรายในวันสงกรานต์
ภาพประกอบธงุ 12 ราศี
หนงั สอื เรยี นวชิ าการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หนา้ 20
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
ธงุ ใยแมงมมุ เปน็ ธุงท่ที าจากเส้นด้ายจากเส้นฝ้ายหรือเส้นไหม ผูกโยงกนั คลา้ ยใยแมงมุม นยิ มใช้
แขวนตกแต่งไว้หน้าพระประธาน หรือโดยรอบในงานพิธีกรรม ใช้ในการปกป้องคุ้มครองคล้ายกับ
ธุงไชย เป็นที่แพร่หลายในภาคอีสาน การประดับธุงใยแมงมุมของวัดไชยศรี งานบุญเผวสบ้านสาวะถี
และประดบั ในงานรว่ มสมัย
ภาพประกอบธงุ ใยแมงมุม
ธุงเจดีย์ทราย ใช้ปักประดับที่เจดีย์ทราย ทาจากกระดาษสีต่างๆ ให้หลากสี ตัดฉลุลายด้วย
รูปทรงสวยงาม เม่ือได้ธุงนามาร้อยกับเส้นด้าย ผูกติดกับกิ่งไม้หรือกิ่งไผ่ ปักไว้ที่เจดีย์ทรายในวัด ธุง
ตะขาบ ธุงจระเข้ เป็นผ้าผืนท่ีมีรปู จระเข้หรอื ตะขาบไว้ตรงกลาง เป็นสัญลักษณ์ในงานทอดกฐินใช้แห่
นาขบวนไปทอดยงั วัด บนความเชอื่ เกย่ี วกบั จ้าวแหง่ สตั ว์ในท้องถนิ่ ท่ีจะมาชว่ ยปกปอ้ งคุ้มครอง ในงาน
บุญกุศล บางแหง่ อาจมรี ปู เสือทเี่ ป็นเจา้ แหง่ ปา่ ร่วมด้วย
ภาพประกอบธงุ เจดียท์ ราย หน้า 21
หนงั สือเรยี นวชิ าการทาธงุ อีสาน(อช0300514)
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
ปัจจบุ ัน ธงุ หรอื ตุง ในมมุ มองของคนรนุ่ ใหมอ่ าจเหน็ ภาพไมช่ ัดเจน ขาดความรูค้ วามเข้าใจ
ที่ถูกต้อง แต่ ธุง หรือ ตุง ก็ยังอยู่ในวถิ ีวัฒนธรรมความเชื่อของคนอีสาน รวมถึงผู้คนในแถบลุ่มน้าโขง
และถือได้ว่า ธุง หรือ ตุง เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตามความเช่ือถือของแต่ละ
ท้องถ่ิน ท่ีไดร้ ับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ จนกลายเปน็ มรดกทางวฒั นธรรมอันล้าคา่ ทคี่ วรแก่การ
บันทึก ศึกษา ไวใ้ หล้ กู หลานเรียนรู้สบื ไป
หนงั สือเรยี นวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หนา้ 22
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
แบบทดสอบท้ายบท
คาชแี้ จง ให้ผูเ้ รียนทาเครอื่ งหมาย X ทบั อักษร ก ข ค หรือ ง ท่ีเปน็ คาตอบท่ถี กู ตอ้ งเพียงขอ้ เดยี ว
1. “ธงุ ” ตามความเชื่อของคนอีสานมคี วามหมายตรงกับขอ้ ใด
ก. เปน็ ถวายทาน ความดีงาม
ข. เปน็ สัญลกั ษณ์ท่เี ปน็ สิริมงคล ความดีงาม
ค. เปน็ การนาเอาด้ายกบั ไมไ้ ผม่ าถกั ใหเ้ ปน็ รูปทรง
ง. ตามความเช่ือของชาวอสี าน
2. ประเภทของธุงอสี านนิยมทาก่ีแบบ
ก. 2 แบบ ค. 3 แบบ
ข. 4 แบบ ง. 5 แบบ
3. ธงุ ทท่ี าจากเส้นด้าย ผูกโยงกนั คล้ายใยแมงมมุ ตรงกบั ขอ้ ใด
ก. ธงุ ด้าย
ข. ธงุ ใยไหม
ค. ธงุ สามมุม
ง. ธุงใยแมงมุม
4. ความเช่ือที่เก่ียวกบั การถวายธงุ ในลักษณะการทาบุญ ตรงกบั ขอ้ ใด
ก. เม่อื ได้ทาบุญดว้ ยการถวายธงุ แลว้ จะค้าขายร่ารวย
ข. เมอื่ ไดท้ าบญุ ดว้ ยการถวายธุงแลว้ จะอยู่เย็นเปน็ สุข เปน็ สิรมิ งคลแกช่ วี ิต
ค. เมอ่ื ได้ทาบุญด้วยการถวายธงุ แลว้ จะอยู่มคี วามสุขความเจริญ
ง. เมื่อไดท้ าบุญด้วยการถวายธงุ แลว้ จะมีสุขภาพแข็งแรง มงคลชีวติ
5. ความเชือ่ ที่เกยี่ วกบั การถวายธุง ในลกั ษณะการทาทาน ตรงกับขอ้ ใด
ก. เม่ือได้ให้ทานด้วยการถวายธงุ แลว้ จะช่วยหลดุ พน้ วบิ ากกรรม
ข. เมื่อไดใ้ ห้ทานดว้ ยการถวายธุงแลว้ จะช่วยหมดวบิ ากกรรม
ค. เมอ่ื ไดใ้ ห้ทานด้วยการถวายธงุ แล้วจะช่วยให้วิญญาณผ้ตู ายขน้ึ สวรรค์
ง. เมอื่ ไดใ้ หท้ านดว้ ยการถวายธงุ แล้วจะช่วยใหว้ ญิ ญาณผตู้ ายหลุดพ้นจากนรกหรอื วบิ ากกรรม
หนังสือเรียนวชิ าการทาธุงอีสาน(อช0300514) หนา้ 23
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
6. การนับพทุ ธศตวรรษท่ี 1 คือนับชว่ ง พ.ศ.ใด
ก. พ.ศ. 1 - พ.ศ. 2
ข. พ.ศ. 1 - พ.ศ. 10
ค. พ.ศ. 1 - พ.ศ. 100
ง. พ.ศ. 1 - พ.ศ. 1000
7. สมัยทวารวดี ความเช่ือต่างๆ เกดิ จากส่งิ ใดเป็นสว่ นมาก
ก. เช่อื เรื่องศาสนา
ข. เชอ่ื เรือ่ งเทวดา
ค. เช่ือเรื่องหมอดู
ง. เชอื่ ในความคิดเห็นของตวั เอง
8. ข้อใดคือโบราณวัตถุ
ก. พิพิธภัณฑส์ ามเจ้าพระยา
ข. พระธาตยุ าคู
ค. กรุวดั ราชบูรณะ
ง พระพทุ ธรปู เทวรปู
9. “ทะเลธงุ ” เกดิ ขึ้นคร้ังแรก ในประเทศไทยท่ีใด
ก. วัดพระศรีสรรเพชญ์ จงั หวัดพระนครศรอี ยุธยา
ข. พระธาตุพนม จงั หวดั นครพนม
ค. พระธาตุยาคู จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์
ง. ปราสาทหนิ พมิ าย จังหวัดนครราชสมี า
10. โบราณสถาน พระธาตุยาคู มีต้ังแตส่ มัยใด
ก. สมัยทวารวดี
ข. สมยั ขอมดาดนิ
ค. สมยั กรีกโรมนั
ง. สมยั กรุงรัตนโกสนิ ทร์
หนงั สอื เรยี นวชิ าการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หนา้ 24
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอกมลาไสย
บทท่ี 3
ประเภทของธุงอสี าน
สาระสาคัญ
ศึกษาหาความรู้ในเรื่องของประเภทของธุงท่ีสืบทอดกันมาแต่ยาวนาน โดยศึกษาเกี่ยวกับ
ประเภทต่างๆ ของธุง และศึกษาเน้ือหาเพิ่มเติมเก่ียวกับธุงอีสานหรือธุงใยแมงมุมให้มีความรู้เพิ่มขึ้น
และนาไปปรบั ใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ตามความเหมาะสม
ตวั ชี้วดั
1. ผู้เรยี นอธิบายเกี่ยวกับประเภทของธุงในรปู แบบต่างๆ ได้
2. ผู้เรยี นอธิบายเก่ยี วกบั ธุงอีสานหรือธุงใยแมงมุมได้
3. ผเู้ รยี นอธบิ ายเก่ียวกับการนาธุงอสี านไปปรบั ใชใ้ ห้เกิดประโยชนต์ ามความเหมาะสมได้
ขอบขา่ ยเน้ือหา
เรอ่ื งท่ี 1 ประเภทของธุงในรปู แบบต่างๆ
เรือ่ งท่ี 2 รูปแบบของธงุ อสี านหรือธงุ ใยแมงมมุ
เรอ่ื งท่ี 3 การนาธงุ อสี านไปปรบั ใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ตามความเหมาะสม
จานวนชั่วโมง
จานวน 5 ชว่ั โมง
ส่ือการเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น
2. แหลง่ เรยี นร/ู้ ภมู ปิ ัญญา
3. สื่อออนไลน์
หนังสือเรยี นวชิ าการทาธุงอสี าน(อช0300514) หน้า 25
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอกมลาไสย
1. ประเภทของธงุ ในรูปแบบตา่ งๆ
ธงุ เปน็ เคร่อื งประกอบพิธีกรรมสาคญั ของชาวอีสานมาอยา่ งยาวนาน เช่อื กนั ว่าสามารถ
ใช้ปอ้ งกนั ส่งิ เลวร้ายหรือสิ่งไม่ดีที่มองไม่เหน็ ภูตผวี ิญญาณตา่ งๆ ทีจ่ ะมารบกวนงานบญุ หากเห็นธงุ แล้ว
จะถอยออกไป พร้อมกันนน้ั ยังเป็นการบอกกลา่ วบวงสรวงเทพยดาในพ้ืนท่วี ่ามีการทาบุญ และมพี ิธกี าร
สาคัญใหม้ าช่วยปกปอ้ งคมุ้ ครอง
ธุงอีสานแบบด้ังเดิมนยิ มทอเป็นผืนยาวๆ มีรูปสัตว์หรือรูปภาพต่างๆ ตามความเช่ือบน
ผืนธุง เช่น จระเข้ เสือ ตะขาบ นางเงือก เทวดา และอ่ืนๆ นอกจากนั้นยังมีการดัดแปลงวสั ดุธรรมชาติ
อื่นมาเปน็ ธุงดว้ ย โดยได้แบ่งประเภทของธงุ อสี าน 6 ประเภท ดงั น้ี
1. ธุงราว ทาจากผ้าหรือกระดาษอาจเป็นรูปสามเหล่ียม สี่เหลี่ยม หรืออื่นๆ นามาร้อย
เรียงเปน็ ราวแขวนโยง
2. ธุงไชย เป็นเครื่องหมายของชัยชนะหรอื สิริมงคลทอจากเส้นด้ายหรือเส้นไหมสลับสี
บางครัง้ ใชไ้ ม้ไผค่ นั่ นยิ มใช้ลายประจายาม ลายปราสาท ลายเครอื เถา ลายสัตว์ ลายดอกไม้
3. ธงุ สบิ สองราศี นยิ มทาดว้ ยกระดาษ ลักษณะของธงุ สบิ สองราศี มีรูปนกั ษัตรหรอื สัตว์
สิบสองราศีในผืนเดียวกัน เชื่อว่าในครอบครัวหน่ึงอาจมีสมาชิกหลายคน แต่ละคนอาจมีการเกิดในปี
ตา่ งกนั หากมกี ารนาไปถวายเทา่ กับว่าทุกคนในครอบครัวไดร้ ับอานิสงค์จากการทานธูงเท่าๆ กัน ถือว่า
เปน็ การ สุ่มทาน ใช้เป็นธงุ บชู าเจดีย์ทรายในวันสงกรานต์
4. ธุงเจดีย์ทราย ใช้ปักประดับท่ีเจดีย์ทราย ทาจากกระดาษสีต่างๆ ให้หลากสี ตัดฉลุ
ลาย ด้วยรูปทรงสวยงาม เมื่อได้ธุงนามาร้อยกับเส้นด้าย ผูกติดกับกิ่งไม้หรือกงิ่ ไผ่ ปักไว้ท่ีเจดีย์ทรายใน
วัด ธุงตะขาบ ธุงจระเข้ เป็นผ้าผืนท่ีมีรูปจระเข้หรือตะขาบไว้ตรงกลาง เป็นสัญลักษณ์ในงานทอดกฐิน
ใช้แห่นาขบวนไปทอดยังวัด บนความเชื่อเก่ียวกับจ้าวแห่งสัตว์ในท้องถิ่นที่จะมาช่วยปกป้องคุ้มครอง
ในงานบุญกุศลบางแหง่ อาจมีรูปเสือทีเ่ ป็นเจ้าแห่งปา่ ร่วมดว้ ย
5. ธุงไส้หมู เปน็ งานศลิ ปะประดษิ ฐ์ท่ีเกิดจากการตัดกระดาษสีหรอื กระดาษแก้วสีต่างๆ
เมื่อใช้กรรไกรตัดสลับกันเป็นลายฟันปลาจนถึงปลายสุด แล้วคล่ีออกและจับหงายจะเกิดเป็นพวง
กระดาษสวยงาม นาไปผูกติดกับคันไม้ไผ่หรือแขวนในงานพิธีต่างๆ เช่น ตกแต่งปราสาทศพ ปักเจดีย์
ทราย ประดับครวั ทาน และอื่นๆ
6. ธุงใยแมงมมุ เป็นธงุ ทท่ี าจากเสน้ ดา้ ยจากเส้นฝ้ายหรอื เสน้ ไหม ผกู โยงกันคล้ายใยแมง
มุม นิยมใช้แขวนตกแต่งไว้หน้าพระประธาน หรือโดยรอบในงานพิธีกรรม ในการปกป้องคุ้มครองคล้าย
กับธุงไชย ซ่ึงเป็นที่แพร่หลายในภาคอีสาน เช่น การประดับธุงใยแมงมุมของวัดไชยศรี งานบุญผะเหวด
บา้ นสาวะถี และการประดบั ในงานร่วมสมยั
หนังสอื เรยี นวชิ าการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หนา้ 26
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
2. รูปแบบของธงุ อสี านหรือธุงใยแมงมมุ
ธุงอีสานหรือธุงใยแมงมุม เหมาะสมในการจัดทาและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาใน
ภาคอีสาน โดยการเลือกรูปแบบสามารถเลือกทาได้หลายรปู แบบและเลือกสีสันไหมพรมได้หลากหลาย
สีสัน ตามความชอบของแต่ละบุคคล ชุมชนและตามความต้องการของผู้ท่ีสนใจนาไปใช้ในการประดับ
ตกแต่งไวห้ น้าพระประธาน หรอื โดยรอบในงานพธิ กี รรม ในการปกป้องคุ้มครองคล้ายกับธุงไชย ซ่งึ เป็นที่
แพรห่ ลายในภาคอสี าน เช่น การประดับธุงใยแมงมุมของวดั ตา่ งๆ การประดบั ธุงงานบญุ ผะเหวด การจดั
งานทะเลธุง ในศาสนสถาน และการประดับในงานร่วมสมยั การถวายธุง ถอื ได้ว่าเปน็ การสรา้ งบุญกุศล
เม่ือถวายธุงแล้ว จะได้บุญ จะได้เกาะชายผ้าธุงข้ึนสวรรค์ และอุทิศกุศลผลบุญให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
โดยการนาข้าวตม้ เงิน มาแขวนหางธงุ เพ่ืออุทิศให้กับคนตายหรอื แขวนหางธุงเพ่ือนาพาตนขึ้นสวรรค์
นอกจากน้ยี งั เช่อื ว่า การถวายธุงในชาติน้เี พือ่ เป็นอานิสงสใ์ นชาติหน้า เช่น ถา้ ชาตนิ ี้รูปร่าง
ไม่สูง ชาติหน้าจะได้สูง และการถวายธงุ ยังเชื่อว่าจะทาให้ได้บุญ ได้ความงาม และความร่มเย็นเป็นสขุ
อกี ดว้ ย
ในปัจจุบันการทาธุงมหี ลายรปู แบบสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามความคิด และไอเดีย ของ
ผู้ผลติ คิดคันประดิษฐ์โดยไม่มขี อบเขต ตามความเหมาะสม
รปู แบบของธุงกับแนวคดิ ความเชอ่ื ของท้องถิ่น
ธงุ ส่เี หลีย่ ม หมายถึง อรยิ สัจ 4 คอื ความจรงิ อนั ประเสริฐ 4 ประการอนั เป็นหลักคาสอนสาคัญของ
พระพุทธศาสนา ดังน้ี
ทุกข์ คือ ความจรงิ ทว่ี ่าดว้ ยความทกุ ข์
สมุทัย คอื ความจริงที่วา่ ดว้ ยเหตใุ ห้เกดิ ความทกุ ข์
นโิ รธ คือ ความจริงท่วี ่าดว้ ยความดับทกุ ข์
มรรค คือ ความจริงท่วี า่ ดว้ ยทางแห่งความดบั ทกุ ข์
ธุงหกเหลีย่ ม หมายถึง ทิศทั้งหก
เบอ้ื งบน - เบ้ืองลา่ ง
เบ้ืองหนา้ - เบื้องหลงั
เบ้ืองซา้ ย – เบ้อื งขวา
หนงั สอื เรยี นวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หน้า 27
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
ธงุ แปดเหล่ียม หมายถงึ มรรค 8 คอื
ทางการดาเนินชีวิตอันประเสริฐทางเดินของใจ เป็นการเดินทางจากความทุกข์ไปสู่ความ
เปน็ อิสระหลุดพ้นจากทกุ ข์ซง่ึ มนุษยห์ ลงยึดถือและประกอบข้ึนใส่ตนด้วยอานาจของอวิชชา มรรคมีองค์
แปดคือต้องพรอ้ มเป็นอนั เดียวกันท้ังแปดอยา่ งดุจเชือกฟั่นแปดเกลียว
ธุงสบิ เหลี่ยม หมายถงึ การทาความดี 10 ประการ
ไดแ้ ก่ การใหท้ าน การสมาทาน การภาวนา ความออ่ นนอ้ ม
ถ่อมตน เตม็ ใจช่วยเหลือผอู้ ่ืน การแสดงธรรม การฟังธรรม
การมอบความดใี ห้แก่กันและกนั การพลอยยินดกี บั ผอู้ นื่
ทาความเหน็ ให้ตรงกับผอู้ น่ื
ธุง 3 มิติ หมายถงึ พระรตั นตรัย คือ พระพุทธ
พระธรรม พระสงค์
หนงั สอื เรียนวชิ าการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หนา้ 28
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
ธุง 4 มติ ิ หมายถึง อิทธิบาท 4 คือ หลกั ธรรมทน่ี าไปสคู่ วามสาเร็จแหง่ กจิ การ
มี 4 ประการคอื ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วมิ ังสา
ฉนั ทะ คอื ความพอใจ ใฝร่ กั ใฝ่หาความรู้ และใฝ่สรา้ งสรรค์
วิริยะ คือ ความเพียรพยายาม มคี วามอดทนไมท่ อ้ ถอย45
จิตตะ คอื ความเอาใจใสแ่ ละตง้ั ใจแนว่ แนใ่ นการทางาน
วิมงั สา คือ ความหมัน่ ใช้ปญั ญาและสติในการตรวจตราและคิดไตรต่ รอง
3. การนาธงุ อีสานไปปรับใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนต์ ามความเหมาะสม
ชาวอีสานนิยมถวายธงุ เปน็ พุทธบูชา และอทุ ิศถวายดว้ ยความเชือ่ และศรัทธา วัตถุประสงค์
ในการถวายธงุ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ผู้เก่ียวข้อง อุทิศส่วนกุศลให้กับญาติผู้ล่วงลับไป
แล้ว บางครั้งจะใช้ธุงในงานบุญผะเหวด บุญกฐิน บุญอัฐถะ (แจกข้าว) ผ้าป่า งานบวช บุญสงกรานต์
ปีใหม่ ใช้ประดับวัด งานในศาสนสถาน ในวันสาคัญต่างๆ ในพระพุทธศาสนา ฯลฯ การใช้ธุงแต่ละ
ท้องถิน่ น้นั ไม่เหมอื นกัน บางแหง่ ใช้เฉพาะในงานบุญผะเหวดเท่าน้ันงานอ่ืนๆ ไมใ่ ช้ แตบ่ างแห่งใช้ทุกงาน
เพ่ือให้รู้ว่ามีการจัดงานบุญประเพณี จานวนท่ีใช้และประเภทของธุงท่ีใช้ก็ไม่เหมือนกัน เช่น บางแห่ง
ใชธ้ งุ ราว บางแหง่ ใช้ธุงเจดีย์ทราย บางแหง่ ใชธ้ ุงใยแมงมุม ซึ่งแลว้ แต่ความเช่ือของแต่ละทอ้ งถ่ิน ปจั จุบัน
การใช้ธุงนอกจากใช้เพ่ือวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว ชาวอีสานยังนิยมนาธุงมาใช้ในการประดับตกแต่ง
สถานที่เนื่องในงานพิธีหรือเทศกาลต่างๆ ท่ีไม่ใช่เป็นพุทธบูชาหรือเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนา
แตเ่ พื่อประดบั ตกแตง่ ใหเ้ กิดความสวยงามเทา่ นนั้
การถวายธุง จะถวายเม่ือไหร่กไ็ ด้ เช่น บญุ กฐนิ บุญแจกขา้ ว บุญมาฆปูรมี บุญวสิ าขปุณณมี
ชาวบ้าน นิยมใช้ธุงถวาย ปักไว้ 3 คืน จึงจะเก็บ แล้วถวายวัด เม่ือมีงานบุญผะเหวดก็จะนาธุงมาปัก
อกี ครงั้ หรือ เมื่อมีงานบุญวดั ต่างๆ กจ็ ะนามาประดบั ตกแตง่ ใหส้ วยงาม
หนงั สือเรียนวิชาการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หน้า 29
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
การถวายธุงอีสานหรือธุงใยแมงมุม เป็นการถวายต่อเทพยดาต่อส่ิงศักดิ์สิทธ์ิท่ีเคารพนับถอื
โดยจะนามาถวายในเทศกาลที่เก่ียวกบั พระพุทธศาสนา เพือ่ เปน็ การปดั เป่า ป้องกนั ส่งิ ทีไ่ ม่ดที ี่จะเกิดข้ึน
กับตัวเราและยังช่วยส่งเสริม ต่อยอดให้ชีวิตมีความสุข เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน โดยการถวายธุง
อีสานน้นั สามารถถวายได้ทุกรูปแบบตามที่ผู้นาไปถวายนัน้ เหน็ เปน็ การสมควร
หนังสอื เรยี นวชิ าการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หน้า 30
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอกมลาไสย
แบบทดสอบท้ายบท
คาช้ีแจง แบบทดสอบมีจานวน 10 ข้อ ใช้เวลา 15 นาที ใหผ้ เู้ รยี นทาเครือ่ งหมาย X ทบั อักษร
ก ข ค หรือ ง ท่ีเปน็ คาตอบทีถ่ กู ต้องเพียงขอ้ เดียว ลงในกระดาษคาตอบ
1. ประเภทของธงุ อสี าน มปี ระเภท
ก. 3 ประเภท
ข. 4 ประเภท
ค. 5 ประเภท
ง. 6 ประเภท
2. ธงุ 4 มติ ิ หมายถงึ
ก. พระรัตนตรัย พระพทุ ธ พระธรรม
ข. พระรัตนตรยั พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ค. พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์
ง. พระพุทธ พระธรรม พระพทุ ธ
3. ธุงส่เี หลี่ยม หมายถึง
ก. อริยสัจ 4 คือ ความจริงอันประเสรฐิ 4 ประการ
ข. สมุทัย คือ ความจรงิ ท่วี ่าด้วยเหตุให้เกดิ ความทุกข์
ค. นิโรธ คอื ความจริงท่วี ่าดว้ ยความดบั ทุกข์
ง. ถกู ทกุ ขอ้
4. ข้อใดไมใ่ ชร่ ปู แบบธุงอสี าน 1 มิติ
ก. ธงุ อีสาน 1 มิติ รูปสเี่ หล่ียม
ข. ธุงอสี าน 1 มิติ รูปหกเหล่ยี ม
ค. ธุงอีสาน 1 มติ ิ รูปแปดเหลยี่ ม
ง. ธุงอีสาน 1 มติ ิ รูปเก้าเหล่ยี ม
5. ข้อใดคือความหมายของธุงหกเหล่ียม
ก. เบือ้ งบน – เบ้อื งลา่ ง เบ้ืองหน้า – เบ้อื งล่าง เบ้ืองซ้าย – เบื้องขวา
ข. เบ้ืองบน – เบือ้ งล่าง เบื้องหน้า – เบื้องลา่ ง เบื้องกวา้ ง – เบอื้ งสงู
ค. เบ้อื งบน – เบือ้ งล่าง เบอื้ งซา้ ย – เบือ้ งขวา เบ้ืองกว้าง – เบือ้ งสูง
ง. เบ้อื งบน – เบ้อื งลา่ ง เบื้องซา้ ย – เบอื้ งซา้ ย เบ้ืองกว้าง – เบอื้ งสงู
หนงั สอื เรยี นวชิ าการทาธุงอสี าน(อช0300514) หน้า 31
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
6. ธุงแปดเหล่ยี ม หมายถงึ ข้อใด
ก. การดาเนนิ ชวี ติ อนั ประเสริฐทางเดนิ ของใจเป็นการเดนิ ทางจาก ความทุกข์ไปสู่ความเป็น
ข. การให้ทาน การสมาทาน การภาวนา ความออ่ นน้อม ถ่อมตน เต็มใจชว่ ยเหลอื ผอู้ ่ืน
ค. การพลอยยนิ ดีกับผู้อนื่ ท าความเหน็ ใหต้ รงกบั ผอู้ ืน่
ง. ความจริงอนั ประเสริฐ ๔ ประการ อนั เปน็ หลกั คาสอนสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา
7. “ธุง” ตามความเช่ือของคนอสี านมคี วามหมายตรงกับข้อใด
ก. เป็นถวายทาน ความดีงาม
ข. เป็นสัญลกั ษณ์ทเี่ ปน็ สริ มิ งคล ความดงี าม
ค. เปน็ การนาเอาด้ายกับไม้ไผ่มาถักให้เปน็ รปู ทรง
ง. ตามความเชื่อของชาวอีสาน
8. ขอ้ ใดหมายถึงธุงใยแมงมมุ
ก. เป็นส่ือหรือสัญลักษณ์ความเชื่อเรื่องโชคลางของชาวอีสาน โดยเช่ือกันว่าสามารถใช้ปอ้ งกนั
ส่งิ ร้ายๆ หรือสงิ่ ไม่ดที ่ีมองไม่เห็น
ข. คอื ธงชนิดหนึง่ ของชาวอีสาน เปน็ สญั ลักษณข์ องการผสมผสานระหว่างภูมิปญั ญาวัฒนธรรม
ทางความเช่อื ของชาวอีสาน
ค. ความเชื่อหลายอย่างด้วยกัน อาทิ แทนการเช่ือมโยงวิญญาณหลังความตาย รวมถึงเป็น
กุศโลบาย
ง. ถูกหมดทกุ ข้อ
9. ธุงสบิ เหลีย่ ม หมายถึง
ก. ทมี่ คี วามสวยงามสลบั สสี ันลวดลายหลากสี
ข. ทิศทง้ั หก เบื้องบน – เบอื้ งล่าง เบอ้ื งหน้า – เบือ้ งลา่ ง เบื้องซ้าย – เบอ้ื งขวา
ค. ทางการดาเนนิ ชีวติ อนั ประเสริฐทางเดนิ ของใจเป็นการเดนิ ทางจาก ความทกุ ข์ไปสู่ความเป็น
อสิ ระหลุดพน้ จากทุกขซ์ ง่ึ มนษุ ยห์ ลงยึดถอื
ง. การใหท้ าน การสมาทาน การภาวนา ความออ่ นน้อม ถอ่ มตน เตม็ ใจช่วยเหลอื ผู้อื่น
การแสดงธรรม การฟังธรรม การมอบความดีใหแ้ ก่กนั และกัน การพลอยยินดีกับผอู้ ืน่
10. ธงุ ใยแมงมุมนิยมทามาจากอะไร
ก. เส้นด้าย เสน้ ฝ้าย เส้นไหม
ข. ผ้าหลากสี
ค. กระดาษสี กระดาษแก้ว
ง. ดอกไม้
หนงั สอื เรียนวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หน้า 32
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
บทท่ี 4
การเตรียมวสั ดุอุปกรณใ์ นการทาธุงอสี าน
สาระสาคัญ
วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการทาธุงอีสาน เปน็ การผสมผสานระหว่างวัสดุ อปุ กรณ์ เคร่อื งมือ
ทม่ี อี ยู่ในท้องถน่ิ และการนาศิลปหตั ถกรรมพนื้ บ้าน และความคดิ สร้างสรรค์มาประดษิ ฐเ์ พื่อใช้ประโยชน์
ใชส้ อยในชวี ติ ประจาวนั และสืบสานศลิ ปหัตถกรรมท้องถน่ิ สืบตอ่ ไป
ตัวช้ีวดั
1. ผู้เรียนอธิบายคณุ สมบตั ิของวสั ดอุ ุปกรณ์ เคร่ืองมือในการทาธงุ อีสานได้
2. ผ้เู รียนมที กั ษะในการเตรียมดา้ ยและไม้ไผ่
3. ผเู้ รียนมีความรู้และสามารถเลือกสีของด้ายหรือไหมพรมได้
ขอบข่ายเนื้อหา
เรื่องท่ี 1 คณุ สมบัติของวสั ดุอุปกรณ์ เคร่ืองมือในการทาธุงอีสาน
เรอ่ื งที่ 2 ทักษะในการเลือกดา้ ยและไม้ไผ่
เรอ่ื งท่ี 3 การเลอื กสีของดา้ ยหรือไหมพรม
จานวนชวั่ โมง
จานวน 10 ช่ัวโมง
สื่อการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน
2. แหลง่ เรยี นรู้ กลุ่มอาชีพ/ศูนยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน
3. สอ่ื ออนไลน์
หนังสอื เรียนวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หน้า 33
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
1. คุณสมบัติของวัสดุอุปกรณ์ เครอื่ งมือในการทาธุงอีสาน
คุณสมบัติของวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือการทาธุงอีสาน เป็นส่ิงท่ีช่วยให้งานทาธุงมคี วาม
ละเอียดเรียบร้อย รวดเร็วและได้ผลงานดีอุปกรณ์และเคร่ืองมือที่ใช้งานของช่างจะต้องอยู่ในสภาพที่
สมบูรณ์มกี ารทาความสะอาด และควรเก็บรกั ษาให้อยู่ในสภาพท่ีใช้งานได้อยู่เสมอ เพราะการทาธุงต้อง
ใช้ฝีมือ มีความละเอียดเรียบร้อย มีความประณีตและมีความเท่ียงตรงเป็นหลักสาคัญ ซ่ึงการใช้และ
การดูแลรกั ษาเคร่ืองมือเป็นคณุ ลักษณะท่ีดี ดังน้ันจงึ ควรรูจ้ ักวัสดุ อปุ กรณ์ เพื่อการเลอื กใช้ให้เหมาะสม
ตามชนิดของงานและดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพท่ีดี เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน แบ่งได้เป็นหลาย
ประเภท ไดแ้ ก่
1. ดา้ ยไหมพรมหรือดา้ ยวีนัส
2. ไม้ไผ่ (ส่วนท่ีเปน็ ลาต้น)
3. เข็มมือ
4. กรรไกร
5. กาวลาเท็กซห์ รอื กาวร้อน
6. ลกู ปดั
1. ดา้ ยไหมพรมหรือด้ายวีนัส
ด้ายไหมพรม ท่ีเป็นท่รี ู้จักอยา่ งกวา้ งขวางในกลุม่ คนรักงานเยบ็ ปักถกั ร้อย เปน็ ไหมท่ี
สามารถแยกออกเป็น 6 เสน้ เลก็ ๆ ได้ จับกลุ่มสีสวย หลายสไตล์ ราคาย่อมเยา
การใช้งาน นาเส้นไหมพรมมาพันรอบๆ ตามรูปแบบธุงอสี าน
หนังสือเรยี นวิชาการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หน้า 34
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
ด้ายวีนัส เป็นเส้นด้ายจากธรรมชาติ ท่ีมีความเเข็งแรงมาก เส้นมีขนาดยาว เหมาะ
สาหรับงานเย็บหนังหรอื งานเย็บหนังสือ โดยผลิตมาจากต้น flax ลักษณะของด้าย มีเส้นใยท่ียาว หนา
มากกวา่ ฝา้ ย ใช้สาหรับเยบ็ สมดุ ถักสรอ้ ย ถกั กระเป๋า และงานประดิษฐ์อน่ื ๆ ขนาดเส้นสมา่ เสมอ เหนยี ว
แนน่ ทนทาน
การใช้งาน นาเสน้ ด้ายวนี ัสมาพนั รอบๆ ตามรปู แบบธุงอสี าน
2. ไมไ้ ผ่ (สว่ นท่ีเปน็ ลาตน้ )
ไม้ไผ่เปน็ พืชท่ีมีเน้ือไม้ซึง่ แขง็ แรงและยืดหยนุ่ ได้เช่นเดียวกับเน้ือไม้ของพชื อืน่ ๆ คือ
1. การโค้งงอ คุณสมบัติข้ึนกับชนิดของไม้ไผ่และขนาดของลาไผ่ หรือเนื้อไม้ท่ีถูกผ่า
แบง่ ให้มคี วามหนาและบางแตกตา่ งกนั ไป
2. การยดื หยุ่น ขน้ึ กับคุณสมบตั ใิ นการโค้งงอและการทนต่อแรงกดบนเนือ้ ไม้
3. การทนทานต่อแรงกด แรงบบี และแรงอัดต่างๆ ซึง่ มีผลต่อการรับน้าหนกั ของวตั ถุ
การใช้งาน นาส่วนลาต้นไมไ้ ผ่มาเหลาให้กลม เช่น ไม้เสียบลูกชิ้น ตะเกียบ และไม้จิม้
ฟนั เพ่ือท่ีจะนามาสร้างโครงธุงอีสาน
หนงั สือเรียนวิชาการทาธุงอสี าน(อช0300514) หน้า 35
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
3. เข็มมือ
การใชง้ าน ใชร้ อ้ ยด้าย ลูกปัดสตี ่างๆพู่ท่ที าจากไหมพรม
ลักษณะ ของงาน ทนี่ ามาใชต้ ามเบอรด์ ังนี้ คือ
1) ใช้สาหรับงานสอย และเนาเสอื้ ผ้า ใชเ้ ข็มมือขนาดเบอร์ 7 ถงึ 9
2) ใช้สาหรบั งานถกั รงั กระดุม ตดิ เมด็ กระดุม ใช้เขม็ มือขนาดเบอร์ 5 ถึง 6
4. กรรไกร
การใชง้ าน ใช้สาหรับตัดดา้ ย ไม่ตัดวัสดอุ ย่างอื่นที่ไม่ใช่ด้าย ขณะใชง้ านควร วางเบาๆ
ระวงั ไม่ให้ตกจะทาใหไ้ ม่คมคณุ ภาพของกรรไกรทาดว้ ยเหล็กกลา้ มีความคมของกรรไกรจากโคนกรรไกร
ถงึ ปลายกรรไกร โดยทดลองตัดดา้ ยแล้วด้ายจะขาดตลอด ไม่มีเศษด้ายติดทก่ี รรไกรแสดงว่ากรรไกรนั้น
คมจริง ขนาดของกรรไกรวัดความยาวเปน็ นิว้ มขี นาดความยาว 8 นิ้ว ถึง 9 นิ้ว ด้ามโค้งตัดไดเ้ ทย่ี งกว่า
หนังสือเรียนวิชาการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หนา้ 36
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
5. กาวลาเทก็ ซ์หรือกาวร้อน
กาวลาเท็กซ์
ยดึ เกาะดีเยีย่ ม จบั ตดิ เปน็ เน้ือเดียวกับชิ้นงาน โดยท่ีไมท่ าลายพ้ืนผิว และเกดิ รอยด่าง ทั้งไมท่ ้ิง
คราบสกปรกเม่ือแหง้ เหมาะกบั ยึดติดวัสดุประเภทกระดาษ ผา้ วอลเปเปอร์ พลาสติก เปน็ ต้น
การใชง้ าน ใช้ทายึดเกาะไม้ไผ่ และลกู ปัด
กาวร้อน
กาวร้อน โดยทั่วไป จะถูกออกแบบมาให้มีลักษณะของเหลวใส ความเข้มข้นประมาณ 2-5
CPS. และแห้งเร็วภายในระยะเวลา 3-5 วินาที ทาให้เหมาะกับการใช้ติดวัสดุหรือช้ินงานที่ต้องการ
การยึดตดิ ที่แห้งเรว็ ไมต่ อ้ งเสียเวลาประคองชิ้นงานไวเ้ ป็นเวลานาน เมือ่ เทียบกบั กาวชา้ ง
การใชง้ าน ใช้ทายึดเกาะไมไ้ ผ่ และลกู ปัด
หนงั สอื เรยี นวิชาการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หนา้ 37
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
6. ลกู ปดั
ลูกปัด หมายถึง วัตถุทีมีลักษณะเป็นเม็ดมีรูตรงกลางสาหรับร้อยด้ายหรือเชือกใช้เป็น
เคร่ืองประดับ ลูกปัดทาจากวัตถุหลายชนิด เช่น หิน ดินเผา แก้ว ไข่มุก เปลือกหอย เปลือกไข่
นกกระจอกเทศ กระดกู สตั ว์ ปะการงั เปลือกไม้ ยางไม้ แร่ เมลด็ พืช รวมท้งั โลหะต่างๆ
เช่น สาริด และทองคา เป็นต้น ลูกปัดมีหลายรูปทรง เช่น ทรงกลม ทรงเหล่ียม ทรงกระบอก
ทรงลูกทุ่น รูปสัตว์ และอื่นๆ มีวิธีการผลิตและรูปแบบตามลักษณะการใช้สอย ความเช่ือ หรือค่านิยม
ในยคุ สมัยตา่ งๆ
การใชง้ าน ใชป้ ระดับตกแต่งประกอบธงุ อสี าน
2. ทักษะในการเตรียมดา้ ยและไม้ไผ่
ทักษะในการเลือกด้ายและไม้ไผ่ทาธุงอีสาน (Thung) เกิดข้ึนจากความชานาญหรือ
ความสามารถในการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาวัฒนธรรมทางความเชื่อของชาวอีสาน ซึ่งผู้ที่ทาธุง
อสี านทมี่ คี วามรู้ในการเลือกหาวัสดุท่มี ในท้องถน่ิ หรือวัสดุทเี่ ลอื กหาได้งา่ ยในชุมชนนามาประยกุ ต์ในการ
ทาธุงอีสานที่ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของท้องถิ่นท่ีสวยงาม โดยมีทักษะในการเลือกด้ายหรือไหม
พรมและไมไ้ ผ่ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. การเลือกด้ายหรือไหมพรม
1.1 เส้นด้ายมีความเหนียว ยดื หย่นุ ไดแ้ ตไ่ ม่ขาดง่าย
1.2 มีผวิ เรียบเสมอ สนเข็มงา่ ย และ สะดวก
1.3 มีความคงตวั ไมย่ ืดหด
1.4 เส้นดา้ ยไม่แตกออกจากกันงา่ ย
1.5 ทนการเสยี ดสไี ดม้ าก
1.6 มีลกั ษณะและผวิ สมั ผัสดี
1.7 สไี ม่ตก หรือจางเร็ว
หนงั สอื เรียนวชิ าการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หน้า 38
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
ด้ายวนี สั ดา้ ยไหมพรม
2. การเลือกไม้ไผ่
2.1 ควรเลือกไม้ไผ่ทม่ี ีอายุประมาณ 1-2 ปี ถา้ หากเลือกไม้ไผท่ ี่มอี ายุมากเกนิ ไปจะทา
ใหไ้ ม้ไผท่ น่ี ามาทาธงุ อีสานจะเปราะและหักงา่ ย
2.2 ถ้าเปน็ ไม้ไผอ่ ่อนจะทาให้อ่อนตวั และยบุ ตัว ทาให้ดา้ ยย่นลง
2.3 ไมไ้ ผจ่ ะต้องมขี นาดเท่ากนั
หนังสอื เรยี นวชิ าการทาธุงอีสาน(อช0300514) หน้า 39
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
3. การเลือกสขี องด้ายหรอื ไหมพรม
สี เป็นสิ่งท่ีมคี วามสาคัญต่อวิถีชีวิตของเราอย่างมาก นบั แตส่ มยั ดกึ ดาบรรพ์จนถึงปัจจุบัน
เราได้นาสีมาใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้เป็นสัญลักษณ์ในการถ่ายทอดความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง
สีจึงเป็นสิ่งท่ีควรศึกษาเพ่ือใช้ประโยชน์กับวิถีชีวิตของเราเพราะสรรพส่ิงท้ังหลายท่ีแวดล้อมตัวเรา
ประกอบไปด้วยสีท้ังส้ินในงานศิลปะสีเป็นองค์ประกอบสาคัญอย่างหน่ึงและในวิถีชีวิตของเราสีเป็น
องค์ประกอบทีม่ ีอิทธพิ ลต่อ ความรสู้ ึก อารมณ์ และจิตใจ ปจั จุบันมีหลายพืน้ ท่ีทไี่ ด้นาวฒั นธรรมการใช้
สมี าสร้างมลู คา่ จดั แสดงเปน็ สถานทท่ี ่องเทย่ี วและสรา้ งรายได้ใหเ้ กดิ ข้นึ กับชุมชน ดงั เช่นในงานมาฆปรู มี
ณ พระธาตุยาคู ตาบลหนองแปน อาเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธ์ุ ซ่ึงมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น
เป็น “ทะเลธุงอีสาน” สีสันสดใสงดงาม ผูกเป็นธงยาวกับเสาไม้ไผ่ เรียงกันเป็นทางยาวสุดสายตา
มพี ระธาตุยาคตู ง้ั เป็นฉากสง่างามอยเู่ บอื้ งหลัง
หนังสือเรียนวิชาการทาธุงอสี าน(อช0300514) หน้า 40
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย