3. หลกั การตลาดและตลาดสนิ ค้าหตั ถกรรม
กระบวนการวางแผนการตลาดสามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ 5 ขนั้ ตอนสาคัญ คอื
1. การวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบัน (Situation Analysis) โดยพิจารณาปัจจัยภายใน
และ ภายนอกทมี่ ีผลต่อธรุ กิจ รวมถงึ ทงั้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน เพอ่ื นา
ข้อมูลส่วนน้ี ไปทาการวิเคราะห์ ถึง โอกาสและอุปสรรค ความเสี่ยงของธุรกิจ และเปรียบเทียบกับ
จดุ อ่อนจุดแขง็ ของบริษทั หรอื ทเ่ี รยี กว่าการวิเคราะห์ SWOT ซง่ึ สามารถอธิบายได้ คอื S-Strength (จดุ
แข็งของธุรกิจ) W-Weakness (จุดอ่อนของธุรกิจ) Opportunity (โอกาสของการทาธุรกิจ) และ
Threats (อุปสรรคในการทาธุรกิจ) เพื่อดูว่า สถานการณ์ในปัจจุบันเหมาะสาหรับการลงทุนและการ
แข่งขนั หรอื ไม่มปี ระเดน็ อะไรท่ีตอ้ งระวงั เป็นพิเศษ หรือมโี อกาสท่นี า่ สนใจทธ่ี ุรกิจควรเขา้ สตู่ ลาด
2. กาหนดวตั ถปุ ระสงค์ (Objectives) หลังจากทป่ี ระเมินสภาพแวดลอ้ มทางธุรกิจ ส่วนน้ี
จะเป็นการกาหนดผลลัพธ์ของธุรกิจท่ีเราต้องการตามช่วงระยะเวลาของแผนการตลาดท่ีตั้งเอาไว้ทั้ง
ระยะสั้นและระยะยาว เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกับเปา้ หมายโดยรวมของกิจการ ซึง่ เป้าหมายทั้งหมดท่ีตง้ั ไว้ใน
แตล่ ะส่วน ควรมีลักษณะทีส่ อดคล้องและเปน็ ไปในทศิ ทางเดียวกนั
3. กาหนดกลยุทธ์ทางการตลาด (Marketing Tactics) โดยวิเคราะห์ เพื่อแบ่ง
กลุ่มเป้าหมาย (Segmentation) กาหนดตลาดเป้าหมาย (Target) และการกาหนดตาแหน่งทางการ
ตลาด (Positioning) จะชว่ ยใหม้ ีความเข้าใจลูกคา้ เปา้ หมาย และตาแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ของ
บริษทั ใหช้ ัดเจนขนึ้ กลยุทธ์ทางการตลาดเป็นส่วนท่ีสาคัญในการทาธุรกจิ
4. แผนการดาเนนิ งานตามกลยทุ ธ์ (Implementation) เป็นส่วนทน่ี ากลยทุ ธ์การตลาด ท่ี
กาหนดไว้มา ทาให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม โดยมีกระบวนการข้ันตอนต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุตาม
วตั ถปุ ระสงค์ของ ธรุ กจิ ที่กาหนดไว้รวมถึงการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขนั ทางธรุ กิจ
5. การวัดผลและควบคุมการปฏิบัติงาน (Measurement and Control) เป็นการวัดผล
และ ควบคุม ดูแลให้เป็นไปตามแผนงานท่ีได้วางไว้ และรวมถึงการปรับปรุง การปฏิบัติงาน ซึ่งเกิด
ข้อผิดพลาดหรือไม่เป็นตามแผนท่ีวางไว้ ซึ่งจะมีการนาแผนสารองมารองรับสิ่งที่จะ เกิดข้ึนโดยไม่
คาดคดิ เพอื่ ยังคงไว้ ซง่ึ เป้าหมายที่ได้กาหนดอย่างใกลเ้ คยี งมากทส่ี ดุ
จรรยาบรรณ และจติ สานกึ ในการประกอบอาชีพ
จริยธรรม (Ethics) หมายถึง มาตรฐานของความประพฤติหรือศีลธรรมท่ีก่อตัวขึ้นมาจาก
อารมณ์ และทัศนคตขิ องสงั คมใดสังคมหน่งึ ทัง้ ในอดตี และปจั จบุ นั
จรรยาบรรณ (Code of Ethics) หมายถึง ประมวลความประพฤติท่ีผู้ประกอบอาชีพ
การงานแตล่ ะอย่างกาหนดขึ้นเพอ่ื รกั ษาและสง่ เสริมเกียรตคิ ณุ ชอื่ เสยี งและฐานะของสมาชิกอาจเขยี นเป็น
ลายลักษณ์อกั ษรหรือไมก่ ไ็ ด้
หนงั สอื เรยี นวชิ าการทาธุงอสี าน(อช0300514) หนา้ 91
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอกมลาไสย
เมื่อนามารวมกันจรรยาบรรณในการขายจึงน่าจะหมายความถึง หลักท่ีควรประพฤติปฏิบตั ิ
ของพนักงานขายและเป็นส่ิงที่จะควบคุมหรือสร้างความประพฤติที่เหมาะสมในการติดต่อธุรกิจด้วย
ความซื่อสัตย์จะสร้างพื้นฐานความสัมพันธใ์ นระยะยาวกับลูกค้า เพราะความพึงพอใจของลูกค้านับเป็น
สนิ ทรัพยท์ สี่ าคญั อย่างย่งิ สาหรับการดาเนินธุรกิจอย่างไรก็ตามจรรยาบรรณไมม่ รี ูปแบบท่ีตายตวั สาหรับ
พนักงานแตล่ ะคนองค์กรธุรกิจขนาดใหญม่ ักมีการเขียนหลักเกณฑ์จรรยาบรรณเป็นแนวทางการปฏิบตั ิ
แก่พนักงาน ซ่ึงจะช่วยหลีกเล่ียงการท่ีพนักงานอาจมีพฤติกรรมที่ไร้จรรยาบรรณได้โดยรวมแล้ว
จรรยาบรรณในการขายสาหรับ นักขายจึงเปน็ เรื่องเก่ียวกับความสานกึ ท่ีถูกตอ้ งทางศีลธรรมทีพ่ นักงาน
ขายพึงมแี ละพึงปฏบิ ัติตอ่ ลกู คา้ ของตนเอง
ความสาคญั ของจรรยาบรรณตอ่ งานขาย
งานขายเป็นงานที่ต้องติดต่อสื่อสารกับลูกค้า การให้บริการทางการขายท่ีดีและเหมาะสมแก่
ลูกคา้ ยอ่ มนามาซงึ่ ความพงึ พอใจ ไวว้ างใจ และภักดตี ่อผลิตภัณฑ์ทีเ่ ราเปน็ ตวั แทนจาหนา่ ย ดังน้ันการมี
จรรยาบรรณในการขายจึงเป็นสิ่งจาเป็นต่องานขาย ทั้งนี้จรรยาบรรณมีความสาคัญต่อการประกอบ
อาชีพการขาย ดงั นี้
1. เปน็ ส่งิ ทใ่ี ชค้ วบคุมมาตรฐานการประกอบอาชีพงานขาย
2. เปน็ ส่งิ ท่ีใช้ควบคุมจริยธรรมของผู้ประกอบอาชีพให้ปฏิบัตงิ านดว้ ยความซอื่ สัตย์ สจุ ริต
3. เปน็ สิง่ ทใ่ี ช้ส่งเสรมิ มาตรฐานวิชาชีพ
4. เปน็ ส่งิ ท่ีใช้ส่งเสริมจริยธรรมของผู้ประกอบอาชีพผ้ผู ลิต
5. เป็นสิง่ ที่ใช้ลดปัญหาตา่ งๆ ท่อี าจเกิดขนึ้ เชน่ ลดปญั หาการหลอกลวง คดโกง
การตลาดสินคา้ หตั ถกรรม
การตลาดสินค้าหัตถกรรม เมื่อมีการผลิตสินค้าหัตถกรรมข้ึนมาแล้ว ก็จาเป็นจะต้องขายให้ได้
ต้นทุนบวกกับกาไรกลับมา เพื่อการดารงชีพ และขยายงาน แต่จะขายให้กับใคร ก็คงจะตอบว่า ขาย
ให้แก่คนที่ต้องการซ้ือสินค้าน้ันๆ มาจาหน่ายต่อ หรือเก็บไว้ใช้เอง หมายถึง ผู้ค้าปลีก เอเยนต์ หรือ
นายหน้า รวมไปถึงผู้ส่งออก ซ่ึงซ้ือสินค้าน้ี เพื่อนาไปขายต่อยังตลาดต่างประเทศและผู้ใช้หรือผู้บริโภค
โดยตรง
ตลาดสาหรับสินค้าหัตถกรรมแบ่งออกเป็น ๒ ตลาด คือตลาดภายในประเทศ (DOMESTIC
MARKET) และตลาดส่งออก (EXPORT MARKET)
หนงั สอื เรียนวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หนา้ 92
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
ตลาดภายในประเทศ (DOMESTIC MARKET)
การขายในประเทศ เปน็ การขายท่ีเกดิ ข้ึนภายในประเทศของเราเอง จงึ ไม่มีขัน้ ตอนทีย่ งุ่ ยาก
ซับซอ้ น เพยี งแต่ขายใหไ้ ด้ราคาทอี่ ยู่ในเกณฑ์ดี ก็เปน็ ทางเลอื กทีด่ ีทส่ี ดุ แลว้
ช่องทางการจาหนา่ ยภายในประเทศโดยทว่ั ไปมีดงั น้ี
กลุ่มผู้บริโภคสินค้าหัตถกรรมของตลาดภายในประเทศ มีอยู่หลายกลุ่มด้วยกัน เช่น กลุ่ม
ผู้บริโภคทว่ั ไปคือ ผู้ท่ซี ้อื หามาเพื่อใช้สอยในชวี ิตประจาวัน กล่มุ นักสะสม กลุ่มผ้ซู ื้อหามาเพ่ือการตกแต่ง
บา้ นเรือนและสถานที่ และกลมุ่ นกั ทอ่ งเทย่ี วทว่ั ไป ท้ังชาวไทย และชาวตา่ งประเทศ เปน็ ต้น
สินคา้ หัตถกรรม เพอ่ื ขายภายในประเทศ โดยทั่วไปจะมีหลายระดบั คณุ ภาพ ความประณีต
และราคา ท่ีแตกต่างกัน ท้ังน้ีเพ่ือให้ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มได้เลือกสรรตามวัตถุประสงค์ของการใช้สอย
เพราะผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม จะมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน เช่น กลุ่มนักสะสม ต้องการชิ้นงาน
หัตถกรรมรูปแบบ ท่ีมคี วามแปลก สวยงาม ฝมี ือการผลติ ท่ีประณีต ในขณะท่ผี ู้บรโิ ภคที่ตอ้ งการซือ้ เพือ่
ไปใช้สอย อาจจะต้องการช้ินงานที่แข็งแรง ความประณีตสวยงามน้อยกว่ากลุ่มนกั สะสม และราคาที่ไม่
แพงนัก เป็นต้น ส่วนกลุ่มนักท่องเท่ียว โดยเฉพาะชาวต่างประเทศ โดยท่ัวไปอาจจะไม่ค่อยพิถีพิถัน
เก่ียวกบั รปู แบบ และความประณีตมากนกั เพราะจดุ ประสงค์ของการซอื้ ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมในท้องถ่ิน
ที่เดินทางไป ก็เพราะมีความประทับใจเก่ียวกับประเทศ ขนบธรรมเนียมประเพณีและส่ิงต่างๆ อันเป็น
เอกลกั ษณข์ องไทยเรา ซ่ึงอาจจะไมค่ อ่ ยคานึงถงึ สิ่งปลีกย่อยเก่ียวกับคุณภาพ ความประณตี บรรจง หาก
จะด้อยไปสักนิด ก็ไม่ถือว่าสาคัญ เพราะต้องการซ้ือ เพื่อเป็นของท่ีระลึกสาหรับการมาเยือน และเป็น
ของฝากแก่ผู้ใกล้ชิด แต่การผลิต สินค้าหัตถกรรม เพ่ือขายแก่นักท่องเท่ียวน้ัน แม้ผู้ซ้ือไม่ค่อยพิถีพิถัน
เก่ียวกับคุณภาพความประณีต สวยงามมากนัก ก็อย่าไปคิดว่า ผลิตคุณภาพไม่ดี ก็ขายได้ เพราะการท่ี
นักท่องเทีย่ วซ้ือสนิ ค้าหัตถกรรมจากประเทศเราไป เม่อื ไปถึงประเทศของเขาแล้ว เขากจ็ ะตอ้ งเอาไปให้
และไปอวดต่อผู้ใกล้ชิด หรือผู้ท่ีรู้จัก หากชิ้นงานน้ัน มีคุณภาพดี เป็นที่พอใจของผู้ได้รับหลายๆ คน ก็
เปน็ แนวทางหน่งึ ของการเผยแพร่สนิ ค้านี้ ซงึ่ อาจจะสามารถส่งเปน็ สนิ ค้าออกไปขายยังประเทศนั้นๆ ได้
อกี ดว้ ย
หนังสอื เรียนวชิ าการทาธุงอีสาน(อช0300514) หนา้ 93
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
รปู แบบการขายธุงอสี านในประเทศ
ผู้ทจี่ ะประกอบอาชพี ทาธงุ อีสาน ควรจะไดส้ ารวจตลาดของการค้าผ้าวา่ มีลักษณะอย่างไร
มอี งคป์ ระกอบอะไรซงึ่ จะต้องใชเ้ ป็นข้อมลู ในการผลติ ธุงอสี านให้มีคุณภาพ และมีลกั ษณะท่ตี รงกับความ
ตอ้ งการของผู้ซอื้ การศกึ ษาขอ้ มลู เกี่ยวกบั การตลาดธงุ อีสาน ประกอบดว้ ยการศึกษาประเดน็ ดงั น้ี
1. เกี่ยวกับสินค้าธุงอีสาน เช่น ลักษณะของผ้าที่ผู้ซ้ือต้องการ สี ลวดลาย ขนาด ฝีมือ
ความปราณีต ฯลฯ ผู้ทอจะต้องศกึ ษาเพือ่ พยายามผลติ ธงุ อีสาน ใหต้ รงกับท่ีผู้ซื้อตอ้ งการมากท่ีสดุ
2. เกย่ี วกบั ราคาจาหน่ายธุงอีสาน การกาหนดราคาขายธุงอสี าน ผู้ทอมักจะพจิ ารณาจาก
ราคาตน้ ทนุ แล้วบวกกาไรเพม่ิ นิดหน่อยราคาตน้ ทุนจะคิดจาก ราคาวตั ถุดิบ ไดแ้ ก่ ค่าเส้นดา้ ยไหมพรม
ลกู ปดั ราคาค่าแรง
ในกรณีที่ต้องจ้างให้ช่างคนอ่นื ช่วยทาให้บางขั้นตอน ก็จะต้องมีการจ้าง เช่น จ้างเหลา่ ไม้
และจ้างประกอบธุง ค่าแรงในแต่ละกิจกรรมจะไม่เท่ากัน ข้ึนอยู่กับพ้ืนที่ เมือง ฤดูกาลและความสนิท
สนมระหว่างผู้รบั จ้างและผู้จ้าง ในกรณีที่ผู้ขายเป็นผู้ปฏิบัติข้ันตอนเหล่าน้ีเอง ก็จะต้องใช้แรงตัวเอง จึง
อาจต้องใช้เวลาในการผลิตละประมาณ 3-5 วัน ลักษณะของการจาหน่ายธุงอีสานมีการค้าปลีกและ
การคา้ ส่ง ในระดบั ชาวบา้ น เปน็ การคา้ ปลกี ในระดับพ่อคา้ คนกลางจะเป็นการคา้ สง่ ท้งั นีเ้ พราะธุงอสี าน
แต่ละอันจะตอ้ งใช้เวลาทานาน ตงั้ แต่ 3 ถงึ 5 วนั แตส่ าหรบั พอ่ ค้าคนกลางจะเป็นผู้ทม่ี ีเงนิ ทุนก็จะกว้าน
ซอื้ จากผผู้ ลิตรายย่อย แล้วรวบรวมนาไปขาย ซงึ่ มีท้งั ผู้ไปขายเองและส่งขายให้กับรา้ นค้า
3. การจาหน่ายธุงอีสาน ลักษณะช่องทาง การจาหน่ายธุงอีสานจึงมีท้ังการค้าปลีกและ
การค้าส่ง ดงั นี้
1. การขายธุงอสี านในงานมาฆปูรมแี ละงานวันวสิ าขปรู ณมี
จังหวัดกาฬสินธ์ุได้กาหนดงานวันมาฆปูรมีและงานวันวิสาขปูรณมีเป็นงานประจาปี
อาเภอกมลาไสย ร่วมกับ พุทธศาสนิกชนชาวอาเภอกมลาไสยทุกหมู่บ้าน ทุกตาบล กาหนดจัดงาน
“มาฆปูรมี ทวารวดีม่ิงหล้า เมืองฟ้าแดดสงยาง ตรงกับวันมาฆบูชา ที่บริเวณองค์พระธาตุยาคู ตาบล
หนองแปน อาเภอกมลาไสย จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ ซ่งึ จดั ข้ึนเปน็ ปีแรกตรงกบั วันท่ี 1มนี าคม พ.ศ.2561 โดย
ชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านกจ็ ะช่วยกนั ธุง หรือ ธุง ท่ีชาวอีสานเรียก เพื่อถวายพระธาตุยาคู ถวายเป็นพุทธ
บูชา ขณะนช้ี าวบา้ น เรมิ่ ประดบั ธงุ ในวนั งานคือวันที่ 1 มนี าคม 2561 จะมีธุง ประมาณ 300 กวา่ ต้นท่ัว
บริเวณ การจัดงาน รอบองค์พระธาตุยาคู สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้าน คู่เมืองของชาวอาเภอกมลาไสย และ
ในช่วงท่ีอาเภอกมลาไสย มีการจัดงาน จึง ได้หันมารวมกลุ่มกนั เพ่ือทาธุงอีสานเพ่ือถวายองค์พระธาตุ
ยาคู สงิ่ ศกั ดิ์สิทธิค์ ูบ่ ้าน เป็นพทุ ธบูชาในวนั มาฆบูชา แต่มีนักทอ่ งเทีย่ วไดเ้ ข้ามาติดตอ่ ขอซ้ือธุงอีสานเป็น
จานวนมาก จึงเป็นจุดเริ่มตน้ ของการผลิตเพ่อื การจาหนา่ ยตง้ั แตน่ นั้ เป็นตน้ มา
หนงั สอื เรียนวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หนา้ 94
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
(ท่มี า https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/369934)
2. การค้าขายธุงอสี านในชมุ ชน
ในส่วนของอาเภอกมลาไสย จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ สบื เนอ่ื งจากได้มีการขายธุงอีสานในงานมาฆปรู มี
และวันวิสาขปรู ณมี เป็นท่ีนยิ มแลว้ จึงทาให้เกิดการตอ่ ยอดของชาวบ้านโดยชาวบ้านจะนาธุงอสี านทต่ี น
ทามาวางขายหน้าบ้านตนเอง เพื่อเปน็ จดุ สนใจและใหผ้ ูซ้ ้ือสามารถซอื้ ได้อยา่ งสะดวก
( ที่มา https://fadet-heritage.ksu.ac.th/?p=500)
3. การคา้ ขายธุงอีสานผา่ นศนู ยก์ ระจายสนิ ค้าหนึ่งตาบลหน่งึ ผลติ ภัณฑ์ (OTOP)
โครงการหนึง่ ตาบลหน่ึงผลติ ภณั ฑ์ (OTOP) จัดขน้ึ เพือ่ มวี ัตถุประสงค์จาหน่ายหรือกระจาย
สินคา้ ของชมุ ชน
1. สร้างงาน สร้างรายได้ แก่ชุมชน
2. สร้างความเข้มแขง็ แกช่ มุ ชน ให้สามารถคิดเอง ทาเอง ในการพฒั นาทอ้ งถิน่
3. ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของชุมชน ในการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ โดยสอดคล้องกบั วิถชี วี ติ และวัฒนธรรมในทอ้ งถ่ิน
หนังสือเรยี นวิชาการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หนา้ 95
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
4. ส่งเสรมิ การพัฒนาทรัพยากรมนษุ ย์ จะเห็นไดว้ ่าธงุ อสี านแสดงถึงเอกลกั ษณ์ของทอ้ งถิน่ โดย
ใหส้ ทิ ธิประโยชน์ทางภาษีแก่ธุรกิจเอกชนท่ีสนับสนุนสนิ ค้าท้องถิ่น ซงึ่ นอกจากประชาชนจะทราบจุดเด่น
ของท้องถ่ินนน้ั ๆ แล้ว ยังเป็นการกระตุ้นการท่องเทยี่ วไปในจังหวดั ต่างๆ ได้อีกด้วย ภาครัฐจึงมีการเขา้
มาสนบั สนนุ ธุงอีสานให้เปน็ สนิ ค้าทม่ี ีมาตรฐาน
(ทม่ี า https://district.cdd.go.th/kamalasai)
วธิ กี าหนดราคา
วิธีการกาหนดราคาสินค้าอย่างหนึ่งอย่างใดในท้องตลาดนั้นมีอยู่หลายทาง แค่สรุปแล้วการ
กาหนดราคาสนิ ค้าขึ้นอยูก่ ับปัจจยั 2 อยา่ ง คอื อุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply)
อุปสงค์ คือ ความตอ้ งการในสนิ คา่ นน้ั ๆ จงึ อาจเรยี กวา่ การเสนอ
อปุ ทาน หมายถึง ปริมาณในการผลิตสินคา้ น้นั ๆ จงึ อาจเรียกว่าการสนอง ราคาของผลติ ผลทาง
หัตถกรรม ข้ึนอยู่กับจานวนความหนาแน่นของผู้ผลิต คือถ้าปริมาณผลิตผลมีน้อยความต้องการมมี าก
ราคาก็ย่อมจะสูง แตเ่ มื่อไรผลติ ผลมีมาก ความต้องการมนี ้อยราคาก็จะตกต่า
ลักษณะของตลาดและพอ่ คา้ มีอยู่ 3 ประเภทดว้ ยกันคือ
1. ตลาดขายปลกี และขายตรงต่อผู้บริโภค เช่น ขายตามบ้าน รมิ ถนนหรอื ตลาดนดั ต่าง ๆ
2. ตลาดในท้องถิ่นและพ่อค้าในหมู่บ้าน กล่าวคือจะมีพ่อค้าเร่ พ่อค้าในหมู่บ้าน หรือสหกรณ์
เปน็ ผูซ้ ้อื สินคา้ และรวบรวมผลิตผลจากชาวบ้านในท้องถน่ิ เพ่ือสง่ ไปจาหน่ายที่อืน่ ต่อไป
3. ตลาดกลางในเมืองและพอ่ คา้ รายใหญ่ กลา่ วคอื จะมีพอ่ คา้ รายใหญอ่ ยูใ่ นเมอื ง หรือในจังหวัด
ท่ีจะคอยรวบรวมผลิตผลโดยตรง หรอื จากพอ่ ค้าในท้องถ่นิ เพ่ือทจ่ี ะบรรจหุ ีบหอ่ หรอื แยกประเภท แล้ว
ส่งต่อไปขายที่อนื่
หนงั สือเรยี นวิชาการทาธุงอสี าน(อช0300514) หน้า 96
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
การส่งเสรมิ ดา้ นการตลาด
รัฐบาลไทยมีนโยบาย และความปรารถนาอย่างแรงกล้า ท่ีจะช่วยประชาชนผู้ยากจน ให้มี
อาชพี เสริม เพอื่ เพ่ิมรายไดแ้ กค่ รอบครัวอีกทางหนง่ึ หนว่ ยงานของราชการ กระทรวงพาณชิ ย์ กระทรวง
อุตสาหกรรมและรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทยและภาคเอกชน เช่น สภา
หอการค้า สมาคมการค้าที่เก่ียวข้อง เป็นต้น จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมสนับสนุนด้านการตลาด สินค้า
หัตถกรรมไทย ให้สามารถขยายตลาดการส่งออกให้กว้างขวางย่ิงข้ึน ท้ังภายในและต่างประเทศ ซ่ึง
สามารถสรุปไดด้ ังน้ี
1. กาหนดให้สินค้าหัตถกรรมการทาธุงอีสานหลายชนิด เป็นสินค้าเป้าหมายการส่งเสริมการ
สง่ ออก
2.จัดให้มีการแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์หัตถกรรมเป็นประจาทุกปี เช่น งานมาฆปูรมี งานวิสาข
ปณู ณมี งานสัปดาหส์ นิ คา้ ของขวญั ของชารว่ ย เปน็ ตน้
3. นาผู้ผลิตผูส้ ่งออกของไทยไปเขา้ ร่วมงานแสดงสินค้า
4. นาคณะผแู้ ทนการคา้ ไปเจรจาการค้าและนาคณะผู้แทนการค้าจากต่างประเทศ มาพบเจรจา
การคา้ กบั ผูผ้ ลติ ส่งออกของไทย
5. จดั ใหม้ กี ารสง่ เสริมสินค้าไทยรว่ มกับห้างสรรพสินคา้ ในต่างประเทศ
6. เชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาให้คาแนะนาฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคนิคการผลิตและการ
ออกแบบแกผ่ ผู้ ลติ สง่ ออกของไทย
7. จัดทาเอกสารข้อมูลเก่ียวกับสินค้าหัตถกรรมไทยการทาธุงอีสาน เพื่อเผยแพร่ไปยังตลาด
ตา่ งประเทศ
8. เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตส่งออกนาสินค้าเข้ามาแสดง ณ ห้องแสดงสินค้าของกรมส่งเสริมการ
ส่งออก และกรมส่งเสรมิ อตุ สาหกรรม เปน็ ต้น
9. ให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการผลิตและการตลาด โดยกองส่งเสริมหัตถกรรมไทย กรม
ส่งเสรมิ อตุ สาหกรรม และกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณชิ ย์ เป็นต้น
หนังสือเรียนวิชาการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หนา้ 97
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
แบบทดสอบท้ายบท
คาชแี้ จง แบบทดสอบมีจานวน 10 ข้อ ใช้เวลา 15 นาที ให้ผเู้ รียนทาเครอื่ งหมาย X ทับอกั ษร
ก ข ค หรอื ง ท่ีเปน็ คาตอบทีถ่ กู ต้องเพยี งขอ้ เดียว ลงในกระดาษคาตอบ
1.ความสาคญั การตลาด ขอ้ ใดถูกที่สุด
ก. บคุ คล องค์กรธรุ กิจ เศรษฐกจิ และสงั คม
ข. องค์กรธรุ กิจ เศรษฐกิจและสังคม
ค. สินทรพั ย์ สินคา้ ธุรกจิ
ง. นายจ้าง ลูกจา้ ง เงนิ เดอื น
2. ขอ้ ใดคอื เครื่องมือทางการตลาด
ก. ผลติ ภัณฑ์ ราคา การจาหนา่ ย
ข. ผลิตภณั ฑ์ ราคา การจาหนา่ ย สง่ เสริมการตลาด
ค. การซ้ือ การขาย การลงทนุ
ง. อปุ สงค์ อุปทาน ราคา
3. ขอ้ ใดเปน็ การวางแผนตลาด
ก. วเิ คราะหส์ ถานการณ์ – ประเมินสงิ่ แวดล้อม-กาหนดกลยุทธ์-ดาเนินตามกลยุทธ์
ข. วเิ คราะห์สถานการณ์ – ประเมินสง่ิ แวดลอ้ ม-กาหนดกลยทุ ธ์-ดาเนินตามกลยุทธ์ – รายงาน
ข้อมูล
ค. วิเคราะหส์ ถานการณ์ –ประเมนิ ส่งิ แวดล้อม-กาหนดกลยุทธ์-ดาเนินตามกลยทุ ธ์ –ควบคุม
แผนงาน
ง. วิเคราะหส์ ถานการณ์ – กาหนดกลยทุ ธ์-ดาเนนิ ตามกลยทุ ธ์ –ควบคุมแผนงาน-รายงานข้อมลู
4. การกาหนดราคา ขึ้นอย่กู บั ข้อใด
ก. ผลติ ภัณฑ์ ราคา การจาหน่าย
ข. ผลิตภณั ฑ์ ราคา การจาหน่าย ส่งเสรมิ การตลาด
ค. อุปสงค์ อปุ ทาน
ง. การซอ้ื การขาย การลงทุน
5. กลุ่มบคุ คลท่มี ีความสาคัญมากตอ่ ธุรกจิ คอื ข้อใด
ก. ผู้ขาย
ข. รฐั บาล
ค. ผูซ้ อื้
ง. ลูกจา้ ง
หนงั สอื เรยี นวิชาการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หนา้ 98
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
6. องค์ประกอบธุรกจิ ขอ้ ใดเปน็ หัวใจสาคญั ในการดาเนนิ ธรุ กิจ
ก. การเงนิ
ข. การผลติ
ค. การตลาด
ง. การค้าปลกี
7. ขอ้ ใดไม่ใชป่ ระโยชนข์ องการบันทกึ รายรบั -รายจา่ ย
ก. ทราบจานวนรายรับ - รายจ่าย
ข. รจู้ ักวางแผนการใชเ้ งนิ
ค. มีรายรบั เพิ่มมากข้นึ
ง. ควบคุมการใช้จ่ายได้
8. ข้อใด หมายถึง การทาบญั ชี
ก. บนั ทึกรายการ
ข. บันทกึ คา่ ใชจ้ ่าย
ค. บนั ทกึ รายการทกุ รายการ
ง. บนั ทกึ การรับ-จา่ ยเงิน
9. ขอ้ ใดคือประโยชน์ของการทาบัญชี
ก. ทาให้ทราบกาไร-ขาดทุน
ข. ทาให้ทราบระยะการทางาน
ค. ทาให้ทราบจานวนของทีผ่ ลิต
ง. ทาให้ทราบจานวนคนงาน
10. การทาบญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย ในเดอื นน้ันไดร้ บั เงินจากการขายธุงโมบาย ถือเป็นรายรบั หรือรายจา่ ย
ก. รายรบั
ข. รายจา่ ย
ค. เป็นทง้ั รายรับและรายจ่าย
ง. ถกู ทุกข้อ
หนังสอื เรยี นวชิ าการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หน้า 99
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอกมลาไสย
บทท่ี 9
การจดั แสดงผลงาน
สาระสาคญั
การแสดงผลงานเป็นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆให้แก่ผู้ชมโดยพยายามให้
ใกล้เคียงกับประสบการณ์ตรงมากที่สุดและให้ผู้ดูสามารถรบั รู้รูปแบบและเร่ืองราวต่างๆสิ่งพรอ้ มกนั ใน
เวลาเดียวกันและเพ่ือส่งเสริมการแสดงออกท่ีให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้จัดและผู้ชมซึ่งนับเป็นการ
ถ่ายทอดและการเรียนรู้วิธีหนง่ึ
ตวั ชีว้ ัด
1. ผ้เู รียนอธบิ ายการจัดแสดงผลงานตามขั้นตอนและวิธกี ารทาได้
ขอบข่ายเนือ้ หา
1. การจัดแสดงผลงาน
จานวนชั่วโมง
จานวน 5 ชว่ั โมง
สอื่ การเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี น
2. สอื่ ออนไลน์ตา่ งๆ
หนังสอื เรียนวชิ าการทาธุงอสี าน(อช0300514) หน้า 100
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
การแสดงผลงาน
การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็นขน้ั ตอนสุดท้ายของการทาธงุ อีสาน เปน็ การนาเสนอผลการ
ดาเนินงานทั้งหมดมานาเสนอให้ผู้อ่ืนได้ทราบ ซึ่งผลผลิตที่ได้จากการจัดทาธุงอีสานประเภทต่างๆ
มีลกั ษณะเป็นเอกสาร รายงานชิ้นงานแบบจาลอง ทงั้ นเ้ี ป็นไปตามประเภทของผลงาน
ขน้ั ตอนการจดั แสดงผลงาน
ข้นั ที่ 1 ขนั้ วางแผน
ขัน้ วางแผนเปน็ ข้ันของการคิด ในการที่จะดาเนนิ การจัดการแสดงผลงานทั้งหมด เริ่มตัง้ แต่การ
หาช่ือเรือ่ ง ของผลงาน การตง้ั จดุ มุ่งหมาย งบประมาณ สถานที่ ไปจนถึงข้ันสดุ ทา้ ยของการจัดแสดงผล
งานและการสรุปผล
ขั้นท่ี 2 ขน้ั เตรียมการและออกแบบ
เมื่อได้กาหนดการจัดการแสดงผลงานเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงข้ันการเตรยี มการและออกแบบ ใน
การเตรียมการน้ัน ก็เตรียมการต้ังแต่เน้ือหา รวบรวมวัตถุส่ิงของหรือเอกสารต่างๆ ท่ีจะนาออกแสดง
จัดแบ่งประเภท หมวดหมู่และความสาคัญตามลาดับแล้วจัดทาช่ือทะเบียนประจาวตั ถุ คาบรรยายของ
ส่งิ ตา่ งๆ แล้วสารวจดูให้แน่ใจว่า มีครบและพอเพียงตามจุดมุ่งหมายทกี่ าหนดไวห้ รอื ไม่ เม่ือรวบรวมวัตถุ
สิ่งของต่างๆ ท่ีจัดแสดง ได้ครบแล้วจะทาให้ทราบ ขนาดการจัดแสดงผลงานท่ีจะจัดแสดง ว่ามีขนาด
ใหญ่เท่าไร ต้องการใช้พื้นท่ีที่จัดแสดงเท่าใด สาหรับจัดแสดงจานวนเท่าใด มีขนาดกว้างยาวแค่ไหน
จากนน้ั ก็นาขอ้ มลู ดงั กลา่ วมาจัดวางผัง ออกแบบ บนกระดาษร่างแบบ โดยคานึงถงึ ความสาคัญว่า สงิ่ ใด
ที่ต้องการเน้นเป็นจุดเด่นของเร่ือง สิ่งใดเป็นจุดรอง ในการออกแบบควรคานึงถึงเส้นทางจราจร และ
เส้นทางเดินของผู้ชม ต้องการแสดง ว่าผู้ชมควรเริ่มดูจากจุดใด ไปสู่จุดใด ท้ังน้ีทาได้โดยการกาหนด
วธิ กี ารจัดแผง ฐานตง้ั และเส้นทางเดนิ ของผู้ชมของการจดั การแสดงผลงาน
ขั้นท่ี 3 ขัน้ การจดั ทา
เม่ือไดเ้ ตรียมการและออกแบบแลว้ ก็ถึงขน้ั ลงมือจดั ทา ในขั้นนี้ต้องใชบ้ ุคคลฝ่ายตา่ งๆ มากมาย
มาร่วมมือกนั ปฏิบัตงิ าน ตามลกั ษณะงานท่ีตนเองถนัดและชานาญ โดยเร่ิมตั้งแต่ การจดั ทาโครงของธุง
การประดับตกแตง่ การจดั วางหรอื ติดต้งั แขวนวตั ถสุ ง่ิ ของทจ่ี ะจัดแสดง ในการจัดทานั้นอาจจะจัดทาที่
ใดที่หนึ่งให้เรียบร้อยก่อนแล้วจึงขนไปจัดแสดง ท่ีห้องหรือสถานที่ที่จัดหรือจะไปจัดทาในห้องที่ใช้จัด
แสดผลงานก็ได้ ทงั้ นี้แล้วแตค่ วามสะดวกของผู้จัด
หนังสอื เรยี นวิชาการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หนา้ 101
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
ขน้ั ท่ี 4 ข้ันการประชาสัมพนั ธ์
การประชาสัมพันธ์เป็นการโฆษณา เพ่ือเชิญชวนหรือชักจูงหรือแจ้งข่าวสารต่าง ๆ ให้แก่
ประชาชน เพ่ือให้ทราบ ข้อมูลต่างๆ เก่ียวกับงานการจัดแสดงผลงาน เช่น งานการจัดแสดงผลงานจัด
ระหว่างวันที่ เดือน ปอี ะไร ภายในงานมีการจัดแสดงอะไรไว้บา้ ง รายการใดท่ีมคี วามสาคญั หรือมีคุณค่า
มาก เก็บเงินค่าผ่านประตหู รอื ไม่ เปน็ ต้น ในการประชาสัมพันธ์นั้นควรมกี ารประชาสมั พันธล์ ่วงหน้าก่อน
วันงานประมาณอย่างน้อย 1 เดือน และถ้าเป็นการจัดการแสดงขนาดใหญ่มาก การประชาสัมพันธ์
ควรทาลว่ งหน้าใหน้ านกวา่ น้ี สาหรบั สือ่ ทจ่ี ะใชใ้ นการประชาสัมพนั ธ์นน้ั มีอยู่มากมาย เช่น การ
ประชาสัมพนั ธ์ทางวิทยุ โทรทัศน์ หนงั สอื พมิ พ์ แผน่ ภาพโฆษณา รปู ลอก เอกสาร สูจิบัตร ไปรษณยี บัตร
หรอื ส่งบัตรเชิญ หรอื จดหมายเชญิ ชวนไปยังท่ีบ้านของประชาชน หรืออาจจะอาศัยกานัน ผู้ใหญ่บา้ นไป
ประชุมเชิญชวนลูกบ้านให้มาชม การจัดการแสดงก็ได้ ซึ่งในการจะประชาสัมพันธ์ให้ได้ผลตาม
จุดมงุ่ หมายที่ตั้งไว้ ผจู้ ดั ควรเลือกใชส้ ่อื และวธิ กี ารประชาสัมพันธ์หลายๆ รปู แบบ
ขน้ั ที่ 5 ข้นั การนาเสนอ
การนาเสนอผลงานคือการให้ประชาชนเข้าชมและเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีผู้จัดการจัดการ
แสดงผลงานจัดทาข้ึน ซึ่งในข้ันของการนาเสนอน้ี มีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้ คือ พิธีเปิด การสาธิต การจัด
กิจกรรมต่างๆ เช่น การอภิปราย การอธิบายและตอบคาถามของผู้ชม การประชาสัมพันธ์ในงาน
การอานวย ความสะดวกต่างๆ เช่น การชี้แจงเส้นทางจราจร การแนะนาสถานท่ีที่จะไปชมการจัดการ
แสดงว่า ท่ีใดจัดแสดงเร่ือง อะไร การรักษาความปลอดภัย การปฐมพยาบาล ดังน้ันในขั้นน้ีผู้จัด
นิทรรศการจะต้องจดั เตรียมบคุ คลต่างๆ ประจาทท่ี ่มี ีการจัดแสดง ให้พรอ้ มเพรียง
ข้นั ท่ี 6 ข้ันการประเมนิ ผล
ในการจัดการแสดงนั้นๆ ควรมีการประเมินผลไว้ ทั้งนี้เพ่ือให้ทราบว่าการจัดผลงานการ
แสดงทจี่ ดั ขึ้นนนั้ บรรลตุ ามวัตถุประสงค์ทต่ี ้ังไว้หรือไม่ มีข้อดแี ละขอ้ ควรปรับปรุงอะไรบ้าง ท้งั นเี้ พอื่ จะ
ไดน้ าไปใช้เปน็ ขอ้ มูลในการพิจารณา ปรบั ปรงุ แก้ไขการจดั การแสดงผลงานครงั้ ต่อไป สาหรบั กรรมวิธีใน
การเก็บข้อมูลการประเมินผลนั้น อาจทาได้โดยการแจกแบบ สอบถามแล้วให้ผู้เข้าชมตอบคาถามใน
แบบสอบถามนั้น หรืออาจจะใช้วิธีการสัมภาษณ์ผู้เข้าชมนิทรรศการก็ได้ เม่ือได้ข้อมูล มาแล้วก็นาไป
วิเคราะห์ผลและประเมินผลตอ่ ไป
หนังสอื เรยี นวชิ าการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หน้า 102
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
ขน้ั ท่ี 7 ขั้นการสรุปผล
หลังจากจัดการแสดงผลงานผ่านพ้นไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ควรมีการประชุม
คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ที่ร่วมการจัดผลงานการแสดงเพื่อทาการประเมินผล ผลการจัดผลงานการ
แสดงในส่วนที่คณะกรรมการชุดนั้นๆ รับผิดชอบ ว่าผลการจัดนั้นเป็นอย่างไร มีปัญหาอุปสรรค ข้อดี
และข้อเสยี อย่างไรบ้าง มีสิ่งท่ีควรจะปรบั ปรุงแกไ้ ขหรือข้อเสนอแนะอย่างไร เม่ือฝา่ ยต่างๆ เสนอครบ
หมดทุกฝ่ายแล้ว ก็นามารวมสรุปเป็นผลของการจัดผลงานการแสดง ซ่ึงการสรุปผลอาจทาในรูปของ
รายงานกไ็ ด้
จากการจัดแสดงผลงานที่ผ่านมา ทาให้รู้ว่ามีการจัดแสดงผลงานการทาธุงอีสาน ในวัน
สาคัญประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ ในท้องถิ่น เช่น วันมาฆบูชา งานบรวงสรวงพระธาตุยาคู การจัด
แสดงนทิ รรศการ การประดับตกแต่งสถานทใ่ี ห้สวยงามนนั้ ได้รบั ความสนใจจากประชาชน โดยมีผ้เู ข้าชม
เป็นจานวนมาก
หนังสือเรียนวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หนา้ 103
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
แบบทดสอบท้ายบท
คาชี้แจง ใหผ้ ู้เรียนทาเครอื่ งหมาย X ทับอักษร ก ข ค หรือ ง ท่ีเป็นคาตอบท่ีถกู ต้องเพียงขอ้ เดียว
1. ขอ้ ใดคือความสาคญั ของการจัดการแสดงผลงาน
ก. เรยี นรู้จากประสบการณต์ รง
ข. พฒั นาความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์
ค. ใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์
ง. ถูกทุกขอ้
2. การจดั เค้าโครงการแสดงผลงานเพ่อื อะไร
ก. เตรียมแสดงผลงาน
ข. เตรยี มศึกษาเอกสาร
ค. การลงมือปฏิบตั ิ
ง. เปน็ การวางแผนในการจัดทา
3. วตั ถุประสงคห์ ลักของการนาเสนอผลงานคือขอ้ ใด
ก. เพอ่ื การค้า
ข. เพ่อื ประชาสมั พันธ์
ค. เพ่อื จดั แสดงผลงาน
ง. เพือ่ เผยแพรค่ วามรู้
4. ขั้นตอนการแสดงผลงานขอ้ ใดถือวา่ ยากท่ีสุด
ก. การเขียนรายงาน
ข. การลงมอื ปฏบิ ัติ
ค. การเขยี นเค้าโครงในการทาผลงาน
ง. การคิดและเลอื กหวั เรอ่ื งในการทา
5. ส่งิ ทจ่ี ะดึงดูดความสนใจผู้เข้ารบั ชมการแสดงผลงานคือข้อใด
ก. ใชส้ ีสดใสเนน้ จุดสนใจ
ข. ใช้วัสดทุ เ่ี ปน็ ประเภทเดยี วกนั
ค. ทาอย่างไรก็ไดใ้ ห้ดเู ร่อื งง่าย
ง. ใชส้ ดใสเนน้ จดุ สนใจแต่ใช้วสั ดตุ า่ งประเภทกัน
หนังสอื เรยี นวิชาการทาธุงอีสาน(อช0300514) หน้า 104
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกมลาไสย
6. ประเภทประดษิ ฐค์ วรคานงึ ถึงข้อใดมากที่สดุ
ก. ความประณีต
ข. ความสวยงาม
ค.ความนา่ เชอ่ื ถอื
ง. ความคงทนแขง็ แรงและประโยชน์ใช้สอย
7. ทักษะในข้อใดไมจ่ าเป็นตอ่ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
ก. ทักษะการปฏบิ ตั ิ
ข. ทักษะการแสวงหาความรู้
ค. ทกั ษะการทางานร่วมกัน
ง. ทักษะกระบวนมุ่งเนน้ ปฏิบัติงานเชิงยุทธศาสตร์
8.จดุ เน้นของการปฏิรปู การจดั กจิ กรรมการเรียนรคู้ อื ข้อใด
ก. ยึดเหตุผล
ข. ยดึ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั
ค. ยดึ กระบวนการคดิ
ง. ยดึ ทกั ษะกระบวนการ
9. การได้หวั ข้อการจดั การแสดงผลงานอาจจะได้มาจากการทากิจกรรมใด
ก. การศกึ ษาดูงาน
ข. การศึกษาเอกสารวารสาร
ค. การศกึ ษาค้นควา้ จากอนิ เตอร์เน็ต
ง. ถูกทกุ ข้อ
10. การไดม้ าของหัวเรอ่ื งในการทาผลงานไดม้ าจากทใี่ ดเปน็ อนั ดบั แรก
ก. สงั เกตสารวจสงิ่ แวดลอ้ มรอบตัว
ข. ไปศกึ ษาแนวคิดของชิ้นงาน
ค. ไปศกึ ษานอกสถานท่ี
ง. ปรกึ ษาอาจารย์ทปี่ รึกษา
หนงั สอื เรยี นวชิ าการทาธุงอสี าน(อช0300514) หน้า 105
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอกมลาไสย
เฉลยแบบทดสอบทา้ ยบทที่ 1 - 9
บทที่ ข้อ ขอ้ ขอ้ ขอ้ ขอ้ ขอ้ ข้อ ข้อ ขอ้ ขอ้
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 คกขกงงขคกค
2 ขกงขงคกงคก
3 งขงงกกขกง ก
4 คกง ง ง ง ง งค ง
5 ข8งคคกขกคก
6 คคคกงงขงขค
7 ขคคกคง งกง ง
8 กขคคคกคงกก
9 ง งงงคงงคงก
หนงั สือเรียนวิชาการทาธงุ อีสาน(อช0300514) หน้า 106
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอกมลาไสย
บรรณานกุ รม
คณะครกู ศน.อาเภอหนองกุงศร.ี การปลกู มะม่วงมหาชนก. (อช03455). ม.ท.ป. 2564
https://www.baanjomyut.com/library_3/extension-
4/professional_development/index.html สืบค้นเมอ่ื วนั ท่ี 5 สิงหาคม 2564
https://gnews.apps.go.th/news?news=12416
ประวตั คิ วามเป็นมาของธงุ อสี าน&rlz=1C1CHWA_enTH602TH602&oq
ภาณุพงศ์ ธงศรี. https://theisaanrecord.co/2019/04/02/isaan-believe-culture/
สืบค้นเม่ือ วนั ท่ี 25 สิงหาคม 2564
วธิ ีทาธงุ อสี าน&aqs=chrome..69i57.7165j0j4&sourceid=chrome&ie=UTF-8
https://www.brandingchamp.com/การพัฒนาผลติ ภัณฑ์/
http://www.mis.ms.su.ac.th/MISMS01/PDF03/132_20190626_.pdf/การพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก
ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ เพือ่ เพม่ิ ประสทิ ธิภาพ
การแสดงผลงาน&rlz=1C1CHWA_enTH602TH602&oq=การแสดงผล
งานน&aqs=chrome..69i57j0i512l9.9460j0j4&sourceid=chrome&ie=UTF-8
ท่ีมา https://th-th.facebook.com/TAT.KhonkaenOffice/photos/pcb.2479810708714110/
2479826968712484/?type=3&theater
- คณะสถาปัตยกรรม มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
หนังสือเรียนวิชาการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หนา้ 107
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย
คณะผู้จดั ทำ
ที่ปรึกษา ผอู้ านวยการสานกั งาน กศน.จังกาฬสนิ ธุ์
รองผูอ้ านวยการสานกั งาน
1. นางพรทิพยพ์ า คาวีวงศ์ กศน.จังหวดั กาฬสนิ ธุ์
2. นายคมสันต์ สารแสน ผอ. กศน.อาเภอกมลาไสย
3. นายเทพพร มูลเหลา
คณะผู้จดั ทา ครผู ูช้ ว่ ย
ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น
1. นางศภุ นันท์ นนทะบุตร ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น
2. นายเจริญ รัตนเกื้อ ครูอาสาสมคั รการศึกษานอกโรงเรียน
3. นายณฏั ฐพล จนั ทชมุ ครอู าสาสมคั รการศกึ ษานอกโรงเรียน
4. นายอภิชาติ ปรจี ารัส ครอู าสาสมัครการศกึ ษานอกโรงเรียน
5. นางพนมวลั ย์ วนั ชเู สรมิ ครูอาสาสมคั รการศึกษานอกโรงเรียน
6. นางสาวประคอง ไพรินทร์ ครู กศน.ตาบล
7. นางบญุ สริ ิกร ชื่นจิต ครู กศน.ตาบล
8. นางสาวกลั ยา พรมกัลยา ครู กศน.ตาบล
9. นางสาวบุษดี หาวเิ ศษ ครู กศน.ตาบล
10. นางสาวปาริฉัตร นิระราช ครู กศน.ตาบล
11. นางธรี นุช ทิพย์เดชา ครู กศน.ตาบล
12. นางสาวเสาวลกั ษณ์ สิงกนั ยา ครู กศน.ตาบล
13. นางพศิ สมยั ทองเจริญ ครู กศน.ตาบล
14. นางพุทธาพร ชูแกว้ ครู กศน.ตาบล
15. นางสาวสิมรี ทิพเลิศ ครู กศน.ตาบล
16. นายศุภณัฐ แพงโพนทอง ครู กศน.ตาบล
17. นางพิศมยั พรมพฤกษ์ ครู กศน.ตาบล
18. นายเอนก โพนทอง ครู กศน.ตาบล
19. นางสาวกนกวรรณ อนิ อุ่นโชติ ครู กศน.ตาบล
20. นางสาวนัฎสดุ า ดอนกระจา่ ง ครู กศน.ตาบล
21. นายพงษ์นรนิ ทร์ ดอนภิรมย์
22. นางสาวณฐั พร ลอยพลิ า
หนังสอื เรยี นวชิ าการทาธงุ อสี าน(อช0300514) หน้า 108
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอกมลาไสย
23. นายวรวิทย์ กติ ิวัตร์ ครู กศน.ตาบล
24. นางกัญนกิ า จันทะรตั น์ ครู กศน.ตาบล
25. นางสาวจฬุ ารตั น์ วรแสน ครู กศน.ตาบล
26. นางธญั ญลักษณ์ ปรีจารสั ครู กศน.ตาบล
27. นายวินัย เหมรานนท์ ครู กศน.ตาบล
28. นางสาวปิยวรรณ พันธรุ ะ ครู กศน.ตาบล
29. นางสาวณฏั ฐวี กลุ กิจ ครู ศรช.
30. นางสาวรงุ่ นภา สาระบวั ครู ศรช.
31. นายจกั รพงศ์ ภูแลน่ คู่ เจา้ หน้าที่บนั ทกึ ข้อมลู
32. นางสาวอโณทัย นาแขง็ ฤทธ์ิ บรรณารกั ษ์อัตราจา้ ง
33. นายอนุชิต เฉิดไธสง พนกั งานบรกิ าร
บรรณำธิกำร ผอ.กศน.อาเภอสมเดจ็
1. นางวชิราภรณ์ สังขแ์ ก้ว ครู กศน.ตาบล
2. นางสาวกัลยา พรมกัลยา ครู กศน.ตาบล
3. นางสาวบุษดี หาวเิ ศษ ครู กศน.ตาบล
4. นางสาวจุฬารตั น์ วรแสน
หนังสือเรยี นวชิ าการทาธุงอสี าน(อช0300514) หนา้ 109
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอกมลาไสย