The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม)ปี 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kedsara22022529, 2022-09-07 08:15:11

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม)ปี 2565

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม)ปี 2565





คำนำ

กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการ
เรียนรคู้ ณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคำสงั่ ใหโ้ รงเรียนดำเนนิ การใช้หลักสูตร
ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นมา ให้เปน็
หลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เปน็ เป้าหมายและกรอบทิศทาง
ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑
เพ่อื ให้สอดคล้องกบั นโยบายและเปา้ หมายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน

โรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) จึงได้ทำการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ
สาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และเป็น
กรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการ
พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้มีกระบวนการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ัด โครงสรา้ งเวลาเรียน
ตลอดจนเกณฑ์การวดั ประเมนิ ผลให้มคี วามสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้

ขอขอบคุณคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน คณะกรรมการบริหารหลกั สตู รและวชิ าการโรงเรียน
วัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) คณะศึกษานิเทศก์ประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๓
คณะครู และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำหลักสูตรฉบับน้ีให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี สามารถ
นำไปใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะกระบวนการคิด เป็นคนดี มีคุณธรรม และ
ดำรงชีวติ ในสงั คมไดอ้ ย่างเปน็ สขุ

(นางนาถลดา ใจเยน็ )
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวัดบา้ นนา(ฟนิ วิทยาคม)



สารบญั

เร่ือง หน้า
คำนำ
ความนำ................................................................................................................................ ๑
วิสัยทัศน.์ .............................................................................................................................. ๔
หลักการ................................................................................................................................ ๔
จุดหมาย................................................................................................................................ ๕
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน................................................................................................... ๖
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์.................................................................................................... ๗
โครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศึกษา................................................................................................ ๘
คำอธบิ ายรายวชิ า………………………………………………………………….......................................... ๑๘

กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย.......................................................................................... ๑๘
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร.์ ..................................................................................... ๒๕
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี.............................................................. ๓๓
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม.................................................. ๔๐
ประวัติศาสตร์................................................................................................................... ๔๗
กลุ่มสาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศึกษา...................................................................... ๕๔
กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ................................................................................................ ๖๑
กลุม่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี ................................................................................... ๖๘
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาอังกฤษ.................................................................................... ๗๕
รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง....................................................................................... ๘๒
รายวชิ าเพิม่ เตมิ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร................................................................. ๙๐
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น.............................................................................................................. ๙๗
เกณฑ์การจบการศึกษา............................................................................................................ ๑๑๘
บรรณานกุ รม........................................................................................................................... ๑๒๕
ภาคผนวก
- คำส่งั ทเี่ ก่ียวข้อง



ส่วนท่ี ๑

ความนำ

ความหมาย

กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง

พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ

ที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการ

เรียนรู้คณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมคี ำสัง่ ใหโ้ รงเรียนดำเนินการใช้หลักสูตร

ในปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ โดยให้ใชใ้ นชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑,๒,๔ และ ๕ ต้งั แต่ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ เปน็ ตน้ มา ให้

เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายและกรอบ

ทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมีพฒั นาการเตม็ ตามศักยภาพ มคี ุณภาพและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษ

ที่ ๒๑ เพื่อให้สอดคล้องกบั นโยบายและเปา้ หมายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน

โรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) จึงได้ทำการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

พุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ

สาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และเป็น

กรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการ

พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้มีกระบวนการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั โครงสรา้ งเวลาเรียน

ตลอดจนเกณฑ์การวัดประเมินผลให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรียนสามารถ

กำหนดทิศทางในการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเน้น โดยมี

กรอบแกนกลางเป็นแนวทางที่ชัดเจนเพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคม

คุณภาพ มีความรู้อย่างแท้จริง มีทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เปน็ คนดี มีปัญญา มี

ความสุข มศี ักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ โดยมุ่งหวงั ใหม้ คี วามสมบรู ณ์ทง้ั ด้านร่างกาย จติ ใจ

และสติปัญญา อีกทั้งมีความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรบั การดำรงชีวิต และมีคุณภาพได้มาตรฐานสากลเพื่อ

การแข่งขนั ในยุคปัจจบุ ัน และมกี ารจัดกิจกรรมลดเวลาเรยี นเพ่มิ เวลารู้ ตามนโยบายของรฐั บาลดว้ ย

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ในเอกสารน้ี ช่วยทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในทุกระดับ

เห็นผลคาดหวังท่ตี ้องการในการพฒั นาการเรยี นรขู้ องผู้เรียนท่ชี ัดเจนตลอดแนว ซ่ึงจะสามารถชว่ ยให้หน่วยงาน

ที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างมั่นใจ ทำให้การจัดทำหลักสูตรใน

ระดับสถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความชัดเจนเรื่องการวัดและ

ประเมินผลการเรยี นรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทยี บโอนระหว่างสถานศึกษา ดังนั้นในการพัฒนาหลกั สตู รในทุก



ระดับตั้งแต่ระดับชาติจนกระทั่งถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
ที่กำหนดไว้ในหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน รวมทั้งเป็นกรอบทิศทางในการจัดการศึกษาทุกรูปแบบ
และครอบคลุมผ้เู รียนทกุ กลมุ่ เปา้ หมายในระดบั การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน

การจัดหลกั สตู รการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานจะประสบความสำเรจ็ ตามเป้าหมายท่ีคาดหวงั ได้ ทุกฝา่ ย ที่
เกีย่ วขอ้ งท้ังระดับชาติ ชุมชน ครอบครวั และบุคคลตอ้ งร่วมรบั ผิดชอบ โดยรว่ มกันทำงานอยา่ งเป็นระบบ และ
ต่อเน่ือง ในการวางแผน ดำเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาเยาวชน
ของชาติไปสูค่ ณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ท่กี ำหนดไว้

ความสำคญั

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มีความสำคญั ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคณุ ภาพ
ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้เป็นแนวทางให้ผู้บริหาร
สถานศึกษา ครู อาจารย์ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ในการจัดมวล
ประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียนได้พัฒนาให้บรรลุถึงคุณภาพตามมาตรฐาน ในการพัฒนาเยาวชนของชาติ
นอกเหนอื จากการใชเ้ ป็นแนวทาง หรือข้อกำหนดในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาใหบ้ รรลุตามจดุ หมายของ
การจัดการศึกษาแล้ว หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช
๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่พัฒนาขึ้นยังเป็นหลักสูตรที่มี
จุดมุ่งหมายให้ครอบครัว ชุมชน องค์กรในท้องถิ่นทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมจัดการศึกษาของสถานศึกษา
โดยมแี นวทางสำคญั ที่สถานศกึ ษากำหนดไวใ้ นหลักสตู รสถานศึกษา ดงั นี้

๑. หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความสนุกสนาน
และความเพลิดเพลินในการเรียนรู้เปรียบเสมือนเป็นวิธีสร้างกำลังใจ และเร้าให้เกิดความก้าวหน้าแก่ผู้เรียน
ให้มากที่สุด มีความรู้สูงสุด ผู้เรียนทุกคนมีความเข้มแข็ง ความสนใจ มีประสบการณ์และความมั่นใจเรียน
และทำงานอย่างเป็นอิสระและร่วมใจกัน มีทักษะในการอ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็น รู้ข้อมูลสารสนเ ทศ
และเทคโนโลยีส่ือสาร ส่งเสรมิ จติ ใจท่ีอยากรูอ้ ยากเห็น และมีกระบวนการคดิ อย่างมีเหตุผล

๒. หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ส่งเสริมการพัฒนาด้านจิตวิญญาณ
จริยธรรม สังคม และวัฒนธรรม พัฒนาหลักการในการจำแนกระหว่างถกู และผิด เข้าใจและศรัทธาในความ
เชื่อของตน ความเชื่อและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน พัฒนาหลักคุณธรรมและความอิสระของผู้เรียน และช่วย
ใหเ้ ป็นพลเมอื งที่มีความรับผิดชอบ สามารถช่วยพัฒนาสังคมให้เป็นธรรมขึ้น มีความเสมอภาค พัฒนาความ
ตระหนัก เข้าใจและยอมรับสภาพแวดล้อมที่ตนดำรงชีวิตอยู่ ยึดมั่นในข้อตกลงร่วมกันต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งในระดับสว่ นตน ระดับท้องถิ่น ระดับชาติและระดับโลก สร้างให้ผู้เรียนมคี วามพร้อมในการเป็นผู้บริโภค
ท่ีตัดสนิ ใจแบบมีขอ้ มลู เปน็ อิสระและมคี วามรับผิดชอบ



ลักษณะของหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวัดบา้ นนา(ฟนิ วิทยาคม) ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๕
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ เปน็ หลักสตู รทส่ี ถานศกึ ษาไดพ้ ัฒนาขึ้นเพื่อ
พัฒนาผเู้ รียนในระดับประถมศกึ ษา โดยยึดองคป์ ระกอบหลกั สำคญั ๓ ส่วนคอื หลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น และสาระสำคัญที่สถานศึกษาพัฒนาเพิ่มเติมเป็น
กรอบในการจัดทำรายละเอียดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานท่ีกำหนด เหมาะสมกับสภาพ
ชุมชนและท้องถิ่นและจุดเน้นของสถานศึกษา โดยหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม)
ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ทพี่ ัฒนาข้ึนมลี ักษณะของหลักสตู ร ดังน้ี

๑. เป็นหลักสูตรเฉพาะของสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) สำหรับจัดการศึกษา
ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน จัดการศึกษาระดับประถมศึกษา(ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ – ๖ )

๒. มีความเป็นเอกภาพ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง
พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรของ
สถานศึกษาสำหรบั ใหค้ รผู ู้สอนนำไปจดั การเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างหลากหลาย โดยกำหนดให้

๒.๑ มสี าระการเรยี นรูท้ ่สี ถานศกึ ษาใช้เป็นหลกั เพ่ือสรา้ งพื้นฐานการคิด การเรยี นรู้ และการ
แกป้ ญั หา ประกอบดว้ ย ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

๒.๒ มีสาระการเรียนร้ทู ี่เสรมิ สร้างความเป็นมนุษย์ ศักยภาพการคิดและการทำงานประกอบ
ดว้ ยสุขศึกษาและพลศกึ ษา ศลิ ปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาองั กฤษ

๒.๓ มีสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม โดยจัดทำเป็นรายวิชาเพิ่มเติมตามความเหมาะสมและ
สอดคล้องกับโครงสร้างเวลาเรียน สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ความต้องการของผู้เรียน และบริบทของ
สถานศึกษา

๒.๓ มีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์
และสงั คม เสรมิ สรา้ งการเรยี นรู้นอกจากสาระการเรยี นรู้ ๘ กลมุ่ และการพัฒนาตนตามศักยภาพ

๒.๔ มีการกำหนดมาตรฐานของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับต่าง ๆ เพื่อเป็น
เป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา จัดทำรายละเอียดสาระการเรียนรู้ แ ละจัด
กระบวนการเรียนรใู้ หส้ อดคล้องกับสภาพในชมุ ชน สังคม และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ

๓. มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน หลักสูตรสถานศึกษา
โรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานเป็นตัวกำหนดเก่ียวกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของ
ผเู้ รยี น เพอื่ เป็นแนวทางในการประกันคณุ ภาพการศึกษา โดยมีการกำหนดมาตรฐานไว้ดงั นี้

๓.๑ มาตรฐานหลกั สูตร เป็นมาตรฐานด้านผ้เู รียนหรือผลผลติ ของหลักสูตรสถานศึกษา อัน
เกดิ จากการได้รับการอบรมส่ังสอนตามโครงสร้างของหลักสตู รท้ังหมดใชเ้ ป็นแนวทางในการตรวจสอบคุณภาพ
โดยรวมของการจัดการศึกษาตามหลักสูตรในทุกระดับ และสถานศึกษาต้องใช้สำหรับการประเมินตนเองเพ่อื



จัดทำรายงานประจำปีตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการศึกษา นอกจากนี้ยังเป็นแนวทางในการกำหนด
แนวปฏบิ ัติในการส่งเสรมิ กำกับ ติดตาม ดูแล และปรับปรงุ คุณภาพ เพื่อใหไ้ ดต้ ามมาตรฐานทกี่ ำหนด

๓.๒ มีตัวชี้วัดชั้นปีเป็นเป้าหมายระบุสิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของ
ผู้เรียนในแต่ละระดับชั้นซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจง และมีความเป็นรูปธรรม
นำไปใช้ในการกำหนดเนื้อหา จัดทำหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัด
ประเมนิ ผลเพ่ือตรวจสอบคุณภาพผเู้ รียน ตรวจสอบพัฒนาการผู้เรียน ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ คุณธรรม
จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ และเป็นหลักในการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์จากการศึกษาใน
ระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศัย

๓.๓ มีความเป็นสากล ความเป็นสากลของหลักสูตรสถานศึกษา คือมุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้
ความสามารถในเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาษาอังกฤษ การจัดการสิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญาท้องถิ่น มี
คุณลักษณะที่จำเป็นในการอยู่ในสังคมได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา การเสียสละ
การเอื้อเฟื้อ โดยอยู่บนพื้นฐานของความพอดีระหว่างการเป็นผู้นำและผู้ตาม การทำงานเป็นทีม และการ
ทำงานตามลำพังการแข่งขัน การรู้จักพอ และการร่วมมือกันเพื่อสังคม วิทยาการสมัยใหม่ และภูมิปัญญา
ท้องถิ่น การรับวัฒนธรรมต่างประเทศ และการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยการฝึกฝนทักษะเฉพาะทางและการ
บรู ณาการในลกั ษณะท่เี ปน็ องค์รวม

๔. มีความยืดหย่นุ หลากหลาย หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั บา้ นนา เป็นหลกั สตู รทส่ี ถานศึกษา
จัดทำรายละเอียดต่าง ๆ ขึ้นเอง โดยยึดโครงสร้างหลักที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ เปน็ ขอบข่ายในการจดั ทำจงึ ทำให้หลักสูตร ของสถานศึกษามีความยืดหย่นุ หลากหลาย
สอดคลอ้ งกับสภาพปัญหา และความตอ้ งการของทอ้ งถ่นิ โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ มคี วามเหมาะสมกับตวั ผ้เู รยี น

๕. การวัดและประเมินผลเน้นหลักการพ้ืนฐานสองประการคือการประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อ
ตัดสินผลการเรียน โดยผู้เรียนต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุ ตามมาตรฐานการ
เรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็นเป้าหมายหลักในการวัดและ
ประเมนิ ผลการเรียนรู้ในทุกระดับไมว่ ่าจะเปน็ ระดับชั้นเรยี นระดับสถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษา และ
ระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และใช้ผลการประเมิน
เปน็ ขอ้ มลู และสารสนเทศท่ีแสดงพฒั นาการความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรยี นของผ้เู รยี น ตลอดจน
ขอ้ มูลที่เปน็ ประโยชนต์ ่อการสง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การพัฒนาและเรียนรู้อยา่ งเต็มตามศกั ยภาพ

วิสัยทัศน์

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ให้เป็นมนุษย์ที่มี
ความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองที่ดี ยึดมั่นในการปกครองตาม
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข มีความรแู้ ละทักษะพนื้ ฐาน รวมทงั้ เจตคติท่ีจำเป็นต่อ
การศึกษาต่อ การประกอบอาชพี และการศึกษาตลอดชวี ติ



หลกั การ
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลาง

การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มีหลักการที่สำคัญตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มีหลักการท่ีสำคัญ ดังน้ี

๑. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้เป็น
เป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐานของความเป็น
ไทยควบค่กู ับความเป็นสากล

๒. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือปวงชนที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี
คณุ ภาพ

๓. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาให้
สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถ่ิน

๔. เปน็ หลักสตู รการศกึ ษาทมี่ โี ครงสรา้ งยดื หยนุ่ ทงั้ ด้านสาระการเรยี นร้เู วลาและการจัดการเรยี นรู้
๕. เปน็ หลักสูตรการศกึ ษาทเ่ี น้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ
๖. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก
กลมุ่ เป้าหมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นรู้และประสบการณ์

จุดหมาย
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา
มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียน
เม่ือจบการศกึ ษาตามหลกั สตู ร ดงั น้ี

๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติ ตน
ตามหลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทีต่ นนับถือ ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

๒. มคี วามรู้ความสามารถในการสอ่ื สาร การคิด การแกป้ ญั หา การใชเ้ ทคโนโลยีและมีทักษะชีวติ
๓. มสี ขุ ภาพกายและสุขภาพจิตทดี่ ี มีสขุ นสิ ยั และรกั การออกกำลังกาย
๔. มคี วามรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยดึ มน่ั ในวิถีชีวิตและการปกครอง
ตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข
๕. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม
มีจิตสาธารณะท่มี ุ่งทำประโยชนแ์ ละสรา้ งส่ิงทด่ี งี ามในสงั คมและอย่รู ว่ มกนั ในสังคมอย่างมีความสขุ

วิสยั ทัศน์โรงเรยี น
โรงเรยี นวัดบ้านนา(ฟินวทิ ยาคม) เปน็ โรงเรียนวิถพี ุทธอยา่ งย่ังยืน มีความรู้คู่คณุ ธรรม มคี ณุ ภาพ

ตามมาตรฐานการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน เปน็ ชุมชนบวรที่ยกระดับสุขภาวะและวถิ ตี ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งบนพ้ืนฐานของผมู้ สี ติและปญั ญา



พนั ธกจิ
๑. จดั กจิ กรรมสง่ เสริมใหผ้ ้เู รียนมคี วามรแู้ ละทักษะท่จี ำเป็นตามหลกั สูตรสถานศึกษา
๒. ส่งเสรมิ การจัดกจิ กรรมการเรียนสอนตามแนว วิถีพุทธ และบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ

พอเพียง
๓. ส่งเสริมและพฒั นาสถานศึกษาให้มกี ารจดั หลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนทเี่ น้นผู้เรยี น

เปน็ สำคัญ และใชแ้ หล่งเรียนรู้อยา่ งคุม้ ค่า
๔. ยกระดับคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน
๕. สง่ เสรมิ และพฒั นาสถานศึกษาให้เปน็ ชมุ ชนบวรที่ยกระดบั สุขภาวะสง่ เสรมิ และสนับสนนุ ใหค้ รู

และบุคลากรได้รับการพัฒนาตนเองตามมาตรฐานวิชาชีพ และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพิม่ ขน้ึ

๖. สง่ เสริมให้ผูม้ ีส่วนเก่ยี วข้องทกุ ภาคสว่ น มีสว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา
๗. พัฒนาระบบการบริหารจัดการองคก์ รใหม้ ปี ระสิทธภิ าพและมปี ระสทิ ธิผล
๘. พฒั นาระบบงานประกันคณุ ภาพใหเ้ ขม้ แข็งและมีประสทิ ธภิ าพ

เปา้ ประสงค์
๑. ผ้เู รียนมคี วามรแู้ ละทกั ษะทีจ่ ำเป็นตามหลกั สูตรสถานศึกษา
๒. ผู้เรยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมอนั พึงประสงค์
๓. ผเู้ รยี นสามารถนำหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการดำเนินชีวิต
๔. สถานศึกษามีการจดั หลักสูตรและกระบวนการเรยี นการสอนทีเ่ น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ
๕. ครูจัดการเรยี นการสอนทเ่ี น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
๖. สถานศกึ ษามีการใชแ้ หล่งเรยี นรูพ้ ัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นอย่างค้มุ ค่า
๗. ผู้เรยี นมีคณุ ภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน
๘. สถานศกึ ษาเปน็ ชมุ ชนบวรทีย่ กระดบั สขุ ภาวะ
๙. ครูไดร้ ับการพฒั นาตนเองตามมาตรฐานวชิ าชีพอย่างสม่ำเสมอ
๑๐.ครปู ฏบิ ัตงิ านได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและประสิทธิผล
๑๑.ผมู้ ีสว่ นเก่ยี วขอ้ งทุกภาคสว่ นมสี ่วนรว่ มในการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษา
๑๒.สถานศกึ ษามีระบบการบริหารจัดการองค์กรอยา่ งมีประสิทธิภาพและเข้มแข็ง
๑๓.ระบบงานประกนั คุณภาพเข้มแข็งและมีประสิทธภิ าพ

วสิ ยั ทศั นห์ ลักสตู รสถานศกึ ษา ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๕
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ให้เป็นมนุษย์ที่มี
ความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองที่ดี ยึดมั่นในการปกครอง
ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติ
ที่จำเป็นตอ่ การศึกษาต่อการประกอบอาชพี และการศึกษาตลอดชวี ติ



สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
ในการพัฒนาผูเ้ รียนตามหลักสูตรโรงเรียนวดั บ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๕

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ
ตามมาตรฐานทกี่ ำหนด ซงึ่ จะชว่ ยให้ผู้เรยี นเกิดสมรรถนะสำคัญและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ดังน้ี

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
หลักสูตรโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ มุ่งให้ผู้เรียนเกิด

สมรรถนะสำคญั ๕ ประการ ดังนี้
๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา

ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณอ์ นั จะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสังคม การเลอื กรบั หรือไม่รบั ข้อมูลขา่ วสารด้วยหลัก
เหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อ
ตนเองและสังคม

๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรูห้ รือสารสนเทศ
เพื่อการตดั สินใจเกีย่ วกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรูม้ าใชใ้ นการป้องกนั และแก้ไขปัญหา
และมกี าตดั สินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทเ่ี กิดขน้ึ ตอ่ ตนเอง สังคมและส่งิ แวดลอ้ ม

๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคม
ดว้ ยการสรา้ งเสรมิ ความสมั พนั ธอ์ ันดรี ะหว่างบุคคล การจดั การปญั หาและความขดั แย้งตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม การ
ปรับตัวใหท้ นั กับการเปลีย่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม และการรจู้ ักหลกี เลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
ท่ีส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืน

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และ
มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน
การแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
หลักสูตรโรงเรียนวัดบา้ นนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลาง

การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่
รว่ มกบั ผู้อืน่ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี



๑. รักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซือ่ สัตยส์ ุจรติ
๓. มวี นิ ัย
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อย่อู ย่างพอเพยี ง
๖. มุ่งม่นั ในการทำงาน
๗. รักความเปน็ ไทย
๘. มจี ติ เป็นสาธารณะ

ค่านิยมหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการ ตามนโยบายของ คสช.
๑. มคี วามรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
๒. ซอื่ สัตย์ เสยี สละ อดทน มีอุดมการณ์ในส่งิ ทด่ี ีงามเพื่อส่วนรวม
๓. กตัญญูตอ่ พ่อแม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์
๔. ใฝห่ าความรู้ หมัน่ ศกึ ษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม
๕. รกั ษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม
๖. มีศลี ธรรม รักษาความสัตย์ หวังดตี อ่ ผู้อ่ืน เผ่ือแผ่และแบ่งปัน
๗. เข้าใจเรียนรกู้ ารเป็นประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถกู ต้อง
๘. มรี ะเบียบวนิ ัย เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ ักการเคารพผู้ใหญ่
๙. มีสติรูต้ ัว รู้คิด รู้ทำ ร้ปู ฏบิ ตั ิตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั
๑๐. รจู้ กั ดำรงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระราชดำรสั ของพระบาท สมเดจ็ พระ

เจ้าอยูห่ วั รู้จกั อดออมไวใ้ ชเ้ ม่ือยามจำเปน็ มีไว้พอกนิ พอใช้ ถ้าเหลือกแ็ จกจ่ายจำหนา่ ย และพร้อมทจี่ ะขยาย
กิจการเมื่อมีความพร้อม เมอื่ มีภมู คิ มุ้ กันท่ีดี

๑๑. มคี วามเข้มแขง็ ทั้งรา่ งกาย และจติ ใจ ไม่ยอมแพต้ ่ออำนาจฝา่ ยตำ่ หรอื กเิ ลส มีความละอาย
เกรงกลัวต่อบาปตามหลกั ของศาสนา

๑๒. คำนึงถึงผลประโยชน์ของสว่ นรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง



บทท่ี ๒
โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศกึ ษา

โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวัดบา้ นนา(ฟนิ วิทยาคม) ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๕
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕

ตามหลักสูตรแกนกลางสถานศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กำหนดโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา
เพอ่ื ให้ผสู้ อน และผู้ทเี่ กีย่ วขอ้ งในการจดั การเรยี นรูต้ ามหลกั สูตรของสถานศึกษามแี นวปฏิบตั ิ ดังนี้

๑. ระดับการศึกษา กำหนดหลักสูตรเป็นระดับประถมศึกษา ตามโครงสร้างของหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และตามภารกิจหลักของการจัดการเรียนการสอนใน ระดับ
ประถมศกึ ษาของสถานศกึ ษา ดังน้ี

ระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖) การศึกษาระดับนี้เป็นช่วงแรกของการศึกษา
ภาคบงั คบั ม่งุ เนน้ ทักษะพน้ื ฐานด้านการอา่ น การเขียน การคดิ คำนวณ ทกั ษะการคดิ พื้นฐาน การตดิ ต่อส่ือสาร
กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพื้นฐานความเป็นมนุษย์ การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์และสมดุล
ทงั้ ในด้านรา่ งกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม โดยเนน้ จดั การเรียนร้แู บบบูรณาการ

๒. กลุ่มสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูใ้ นหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวัดบ้านนา พุทธศักราช
๒๕๕๙ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กำหนดไว้ในหลักสูตร
ประกอบด้วยองค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะหรือค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม
ของผูเ้ รียน ๘ กล่มุ คือ

๒.๑ ภาษาไทย
๒.๒ คณิตศาสตร์
๒.๓ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๒.๔ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
๒.๕ ประวตั ศิ าสตร์
๒.๖ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา
๒.๗ ศลิ ปะ
๒.๘ การงานอาชีพ
๒.๙ ภาษาอังกฤษ
๓. กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ม่งุ ใหผ้ เู้ รียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พฒั นา
อย่างรอบดา้ นเพ่ือความเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปญั ญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างใหเ้ ปน็ ผูม้ ี
ศลี ธรรม จรยิ ธรรม มรี ะเบยี บวินัย ปลกู ฝงั และสร้างจติ สำนึกของการทำประโยชนเ์ พ่ือสังคม สามารถจัดการ
ตนเองได้ และอย่รู ว่ มกับผู้อนื่ อย่างมีความสุข แบ่งเป็น ๓ ลักษณะ ดังนี้

๓.๑ กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์
สิ่งแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียนและอาชีพ

๑๐

สามารถปรับตนได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยใหค้ รูรู้จกั และเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลอื
และให้คำปรึกษาแก่ผปู้ กครองในการมีส่วนรว่ มพัฒนาผเู้ รยี น

๓.๒ กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี
ความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือ
แบ่งปันกัน เอื้ออาทร และสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของ
ผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและ
ปรบั ปรุงการทำงาน เน้นการทำงานรว่ มกนั เป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกบั วุฒิภาวะของผู้เรียน
บริบทของสถานศึกษาและท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียนในหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดบ้านนา ฉบับปรับปรุง
พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ประกอบด้วย

๓.๒.๑ กจิ กรรมลูกเสือ - เนตรนารี
๓.๒.๒ กจิ กรรมชมุ นุม
๓.๓ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบำเพ็ญตน
ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความ
รับผดิ ชอบ ความดีงาม ความเสยี สละตอ่ สงั คม มีจติ สาธารณะ
๔. เวลาเรียน หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบ้านนา ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนขั้นต่ำ
สำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ซึ่งผู้สอนสามารถ
เพิ่มเติมได้ตามความพร้อมและจุดเน้นของสถานศึกษา โดยสามารถปรับให้เหมาะสมตามบริบทของสถานศึกษา
และสภาพของผู้เรยี น ดงั น้ี
ระดับชัน้ ประถมศึกษา (ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ – ๖) ให้จดั เวลาเรยี นเปน็ รายปี โดยมีเวลาเรียน
วนั ละ ไม่เกนิ ๖ ชัว่ โมง

๑๑

โครงสร้างหลกั สตู รโรงเรียนวดั บ้านนา(ฟินวิทยาคม) ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕

กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรียน(ช่วั โมง/ปี)
ระดับประถมศกึ ษา
 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ (รายวชิ าพื้นฐาน) ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖
ภาษาไทย
คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
- ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
- หนา้ ท่ีพลเมืองวัฒนธรรม (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐)
และการดำเนนิ ชีวิตในสังคม (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐)
- เศรษฐศาสตร์
- ภมู ิศาสตร์ (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐)
ประวตั ิศาสตร์ (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐) (๒๐)
สุขศึกษาและพลศกึ ษา
ศิลปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
การงานอาชีพ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
ภาษาต่างประเทศ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
รวมเวลาเรียน (พื้นฐาน) ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
 รายวิชาเพิม่ เตมิ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐

หน้าท่พี ลเมอื ง(บูรณาการในชัว่ โมงอ่ืน) ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่ือสาร ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
รวมเวลาเรยี น (เพ่ิมเตมิ ) ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน
กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กจิ กรรมนกั เรยี น
- กิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
- ชุมนุม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐

๑๒

รวมเวลาเรียน (กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน) ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
 กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลารู้
๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐
กิจกรรมลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐
รวมเวลาเรยี น (ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้)
๑,๒๐๐ ช่วั โมง/ปี
รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด

หมายเหตุ
๑. รายวิชาเพิ่มเติม “หน้าที่พลเมือง” เพิ่มตามหนังสือท่ี ศธ ๐๔๐๑๐/ว ๗๗๙ ลงวันที่ ๒๖ มิถุนายน
๒๕๕๗ โดยทางโรงเรียนวัดบ้านนา(ฟินวิทยาคม) จัดสอนชั่วโมงวิชาหน้าที่พลเมืองในบูรณาการใน
ช่ัวโมงประวัตศิ าสตร์
๒. กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น จดั ตามหลักสูตรประกอบด้วยกจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียนและกิจกรรม
เพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ และจัดกิจกรรมลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลารู้
๓. ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ มีการจัดการเรียนการสอนสาระวทิ ยาการคำนวณ (กลุ่มสาระการ
เรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ควบคู่กบั กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลารู้ (คอมพวิ เตอร์)
๔. ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ ได้บูรณาการหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาในกลุ่มสาระการเรียนรู้
สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

๑๓

โครงสร้างหลักสตู รชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑
โรงเรยี นวัดบา้ นนา(ฟินวิทยาคม)

รหสั กลมุ่ สาระการเรยี นร้/ู กจิ กรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวิชาพืน้ ฐาน ๘๔๐
๒๐๐
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐

ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐
๘๐
ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐
๔๐
ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔๐
๔๐
ส ๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑๒๐
๘๐
พ ๑๑๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐
๘๐
ศ ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๑๒๐
๔๐
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี
๓๐
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐
๑๐
รายวชิ าเพิ่มเติม ๑๖๐
๑๖๐
ส ๑๑๒๐๑ หน้าทีพ่ ลเมอื ง ๑ (บรู ณาการในชว่ั โมงอื่น)

อ ๑๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพอื่ การส่อื สาร ๑

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น

แนะแนว

กจิ กรรมนักเรียน

- ลกู เสอื เนตรนารี
- ชุมนุม

กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์

กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้

รวมเวลาเรียนทง้ั หมด ป.๑ เวลาเรยี น ๑,๒๐๐ ช่วั โมง/ปี

หมายเหตุ : ชั่วโมงวชิ าหน้าทพี่ ลเมอื งสอนมีการสอนบรู ณาการในช่วั โมงประวัตศิ าสตร์

๑๔

โครงสร้างหลักสตู รช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒
โรงเรยี นวัดบา้ นนา(ฟินวิทยาคม)

รหสั กลมุ่ สาระการเรียนร้/ู กจิ กรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวิชาพ้นื ฐาน ๘๔๐
๒๐๐
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐

ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐
๘๐
ว ๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐
๔๐
ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔๐
๔๐
ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑๒๐
๘๐
พ ๑๒๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐
๘๐
ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๑๒๐
๔๐
ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี
๓๐
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐
๑๐
รายวชิ าเพมิ่ เติม ๑๖๐
๑๖๐
ส ๑๒๒๐๑ หน้าทีพ่ ลเมือง ๒ (บรู ณาการในชว่ั โมงอน่ื )

อ ๑๒๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่อื สาร ๒

กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน

แนะแนว

กจิ กรรมนักเรียน

- ลกู เสอื เนตรนารี
- ชุมนุม

กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์

กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลารู้

กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลารู้

รวมเวลาเรยี นทัง้ หมด ป.๒ เวลาเรยี น ๑,๒๐๐ ช่วั โมง/ปี

หมายเหตุ : ช่ัวโมงวชิ าหน้าท่พี ลเมอื งสอนมีการสอนบรู ณาการในช่วั โมงประวัตศิ าสตร์

๑๕

โครงสรา้ งหลักสตู รช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓
โรงเรยี นวัดบา้ นนา(ฟินวิทยาคม)

รหสั กลมุ่ สาระการเรยี นร้/ู กจิ กรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวิชาพ้นื ฐาน ๘๔๐
๒๐๐
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐

ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐
๘๐
ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐
๔๐
ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔๐
๔๐
ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑๒๐
๘๐
พ ๑๓๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐
๘๐
ศ ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๑๒๐
๔๐
ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชพี
๓๐
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐
๑๐
รายวชิ าเพมิ่ เติม ๑๖๐
๑๖๐
ส ๑๓๒๐๑ หน้าทีพ่ ลเมือง ๓ (บรู ณาการในชว่ั โมงอน่ื )

อ ๑๓๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่อื สาร ๓

กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น

แนะแนว

กจิ กรรมนักเรียน

- ลกู เสอื เนตรนารี
- ชุมนุม

กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์

กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลารู้

กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลารู้

รวมเวลาเรยี นทัง้ หมด ป.๓ เวลาเรยี น ๑,๒๐๐ ช่วั โมง/ปี

หมายเหตุ : ช่ัวโมงวชิ าหน้าทพี่ ลเมอื งสอนมีการสอนบรู ณาการในช่วั โมงประวัตศิ าสตร์

๑๖

โครงสร้างหลกั สตู รชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔
โรงเรียนวดั บา้ นนา(ฟินวิทยาคม)

รหสั กลุม่ สาระการเรยี นรู้/กจิ กรรม เวลาเรยี น
(ชม./ปี)
รายวิชาพน้ื ฐาน ๘๔๐
๑๖๐
ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
๑๒๐
ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์
๘๐
ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐
๘๐
ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๘๐
๔๐
ส ๑๔๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๘๐
๔๐
พ ๑๔๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๔๐
๔๐
ศ ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ ๑๒๐
๔๐
ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ
๓๐
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐
๑๐
รายวชิ าเพ่มิ เติม ๒๐๐
๒๐๐
ส ๑๔๒๐๑ หน้าท่พี ลเมอื ง ๔ (บูรณาการในชว่ั โมงอน่ื )

อ ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอื่ สาร ๔

กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น

แนะแนว

กจิ กรรมนักเรยี น

- ลูกเสือ เนตรนารี
- ชมุ นมุ

กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์

กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลารู้

กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้

รวมเวลาเรียนทงั้ หมด ป.๔ เวลาเรยี น ๑,๒๐๐ ช่วั โมง/ปี

หมายเหตุ : ชัว่ โมงวิชาหนา้ ที่พลเมืองสอนมีการสอนบูรณาการในช่วั โมงประวัตศิ าสตร์

๑๗

โครงสร้างหลกั สตู รชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕
โรงเรียนวดั บา้ นนา(ฟินวิทยาคม)

รหสั กลุม่ สาระการเรยี นร้/ู กจิ กรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวชิ าพน้ื ฐาน ๘๔๐
๑๖๐
ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
๑๒๐
ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์
๘๐
ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐
๘๐
ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๘๐
๔๐
ส ๑๕๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๘๐
๔๐
พ ๑๕๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๔๐
๔๐
ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๑๒๐
๔๐
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ
๓๐
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐
๑๐
รายวชิ าเพ่มิ เติม ๒๐๐
๒๐๐
ส ๑๕๒๐๑ หน้าท่พี ลเมอื ง ๕ (บูรณาการในชว่ั โมงอน่ื )

อ ๑๕๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอื่ สาร ๕

กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น

แนะแนว

กจิ กรรมนักเรยี น

- ลูกเสือ เนตรนารี
- ชมุ นมุ

กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์

กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้

กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้

รวมเวลาเรียนทัง้ หมด ป.๕ เวลาเรยี น ๑,๒๐๐ ช่วั โมง/ปี

หมายเหตุ : ชัว่ โมงวชิ าหน้าทพี่ ลเมอื งสอนมีการสอนบูรณาการในช่วั โมงประวัตศิ าสตร์

๑๘

โครงสร้างหลกั สตู รชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖
โรงเรียนวดั บา้ นนา(ฟินวิทยาคม)

รหสั กลุม่ สาระการเรยี นร้/ู กจิ กรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวชิ าพน้ื ฐาน ๘๔๐
๑๖๐
ท ๖๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
๑๒๐
ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์
๘๐
ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐
๘๐
ส ๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๘๐
๔๐
ส ๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๘๐
๔๐
พ ๑๖๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐
๔๐
ศ ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ ๑๒๐
๔๐
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ
๓๐
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐
๑๐
รายวชิ าเพ่มิ เติม ๒๐๐
๒๐๐
ส ๑๖๒๐๑ หนา้ ท่ีพลเมอื ง ๖ (บูรณาการในชว่ั โมงอน่ื )

อ ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอื่ สาร ๖

กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น

แนะแนว

กจิ กรรมนักเรยี น

- ลูกเสือ เนตรนารี
- ชมุ นมุ

กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์

กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลารู้

กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้

รวมเวลาเรยี นทง้ั หมด ป.๖ เวลาเรยี น ๑,๒๐๐ ช่วั โมง/ปี

หมายเหตุ : ช่วั โมงวชิ าหน้าทพี่ ลเมอื งสอนมีการสอนบูรณาการในช่วั โมงประวัตศิ าสตร์

๑๙

ส่วนท่ี ๓

คำอธบิ ายรายวิชา

รายวิชาพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

รายวิชาพ้นื ฐาน จำนวน ๒๐๐ ชัว่ โมง
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๒๐๐ ชั่วโมง
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๒๐๐ ชั่วโมง
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๑๖๐ ช่วั โมง
ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๑๖๐ ชวั่ โมง
ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย

๒๐

ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง

ศึกษาการอ่านและเขยี นพยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ ตวั เลขไทย การสะกดคำ การอา่ นแบบ
แจกลูก และการอ่านเป็นคำ การอ่านและการเขียนตัวสะกดทต่ี รงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา การผัน
วรรณยุกต์และความหมายของคำ ข้อความและประโยค คำท่มี ีรปู วรรณยุกตแ์ ละไม่มีรูปวรรณยุกต์ เรอื่ งสนั้
วธิ อี ่านรอ้ ยแกว้ และบทอาขยาน พูดสือ่ สาร การฟังคำแนะนำ คำสัง่ และการปฏิบัติตาม การพดู แสดงความ
คิดเห็นตามความเปน็ จรงิ การเขียนเรอ่ื งจากภาพ อ่านหรือฟังวรรณกรรมร้อยแกว้ และร้อยกรองในท้องถิ่น มี
การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน

โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษา การฟัง การพูด การอา่ น การเขียน การฟัง การทอ่ งจำ การ
สื่อสาร สรุป การคิดวิเคราะห์ข้อมูลจากเรื่องและสื่อต่าง ๆ ท่ีอ่านฟังและดูเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ
สามารถสอ่ื สารส่ิงทเ่ี รยี นรู้ มีความสามารถในการแยกแยะ ตัดสินใจ

เพื่อให้เกิดการใช้ภาษาไทยได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม โดยมีมารยาทในการพดู การอา่ น การเขียน
และการฟัง นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้อยา่ งภาคภมู ิใจ รักความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซื่อสัตยม์ ีวนิ ยั
ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งมัน่ ทำงานและมจี ติ สาธารณะ

รหสั ตัวชี้วัด ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘
ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ท ๕.๑ ๒๒ ตวั ช้วี ัด
รวมทั้งหมด

๒๑

ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๒ กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง

ศึกษาอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความและบทร้อยกรองง่าย ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน อ่าน

ข้อเขียนเชิงอธิบายและปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะนำ คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด การเขียนเรื่องสั้นๆ

เกยี่ วกบั ประสบการณ์และเรื่องสัน้ ๆ ตามจนิ ตนาการ คำแนะนำ คำสัง่ ทซี่ ับซ้อนและปฏิบัติตามเรื่องที่ฟังและ

ดูทั้งที่เป็นความรู้และความบันเทิง การแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรื่องที่ฟังและดู การพูดสื่อสาร

บอกพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และเลขไทย สะกดคำ ความหมายของคำ เรียบเรียงคำเป็นประโยคตรงตาม

เจตนาของการสื่อสาร ลกั ษณะคำคล้องจอง ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถ่นิ ข้อคิดท่ไี ด้จากการอา่ นหรือการ

ฟังวรรณกรรมสำหรับเด็ก ร้องบทรอ้ ยกรองเล่นสำหรับเด็กในท้องถนิ่ ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบท

รอ้ ยกรองทีม่ คี ณุ คา่

โดยใช้กระบวนการคิด การตัดสินใจ ทักษะการสื่อสาร การตั้งคำถามและตอบคำถาม การแสดง
ความคิดเห็นและคาดคะเนเหตุการณ์ การอธิบาย สรุป ระบุใจความสำคัญและรายละเอียดจากเรื่องที่อ่าน
วิเคราะห์ข้อมูลจากเรื่องและสื่อต่าง ๆ ที่อ่านฟังและดูเพื่อให้เกิดความรู้ การนำเสนอผลงาน มีความเข้าใจ
สามารถสอื่ สารส่ิงที่เรยี นรู้ มีความสามารถในการแยกแยะ

เพอื่ ให้เกดิ เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนภาษาไทย รักความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่อื สตั ย์ มีวนิ ัย ใฝ่
เรยี นรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง มุ่งม่ันทำงานและมจี ติ สาธารณะ มมี ารยาทในการอา่ น การฟัง การดู การพดู และ
การเขยี น สามารถนำไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนใ์ นชีวิตประจำวันตลอดจนเห็นคุณคา่ ของภาษาไทย

รหัสตวั ช้ีวัด ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗
ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕
ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ท ๕.๑ ๒๗ ตัวช้ีวัด
รวมทั้งหมด

ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๒๒
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
คำอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง

อา่ นออกเสียงคำ ข้อความ เรือ่ งสัน้ ๆ และบทร้อยกรองอย่างงา่ ยได้คล่องแคล่ว ความหมายของคำและ

ข้อความที่อ่าน ตั้งและตอบคำถามเชิงเหตุผล เหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน ข้อเขียนเชิงอธิบาย คำสั่งหรือ

ขอ้ แนะนำ ความหมายของขอ้ มลู จากแผนภาพ แผนท่ี แผนภูมิ คดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัด เขยี นบรรยาย

เกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เขียนบันทึกประจำวัน จดหมายลากครู เขียนเรื่องตามจินตนาการ รายละเอียดเกี่ยวกับ

เรื่องที่ฟังและดูทั้งที่เป็นความรู้และบันเทิง สาระสำคัญจากการฟัง การดู คำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู พูด

แสดงความคดิ เห็นและความร้สู ึกจากเรื่องท่ีฟงั และดู พดู สื่อสาร เขียนสะกดคำ ความหมายของคำ ชนิดและ

หน้าที่ของคำในประโยค ความหมายของคำ แต่งประโยคง่ายๆ คำคล้องจองและคำขวัญ ภาษาไทยมาตรฐาน

และภาษาถิน่ เพลงพน้ื บ้านและเพลงกล่อมเดก็ แสดงความคิดเหน็ วรรณคดี บทอาขยานตามทกี่ ำหนดและบท
ร้อยกรองท่ีมคี ุณคา่ ทอ้ งถน่ิ

โดยใช้กระบวนการคิด ทกั ษะการสื่อสาร สรปุ วเิ คราะหข์ ้อมูลจากเรอื่ งและส่ือตา่ ง ๆ ที่อ่านฟังและดู
เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ การอธิบาย การตัง้ คำถามและตอบคำถาม การนำเสนอ มคี วามเข้าใจสามารถสอื่ สารส่ิง
ที่เรยี นรู้ มีความสามารถในการแยกแยะ ตัดสินใจ การแสดงความคิดเห็น

เพื่อปลูกฝังความชื่นชมวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นไทย โดยนำไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่าง
ภาคภูมิใจ มีความตั้งใจเรียนและมีส่วนร่วมในการเรียน ศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
มมี ารยาทในการอา่ น การฟัง การดู การพูดและการเขยี นและใชภ้ าษาไทยได้อย่างเหมาะสม

รหสั ตัวช้ีวดั ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙
ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
ท ๕.๑ ๓๑ ตวั ชว้ี ัด
รวมท้ังหมด

๒๓

ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง

ศึกษาการอ่านออกเสียงจากคำที่มี ร ล เป็นพยัญชนะต้น อักษรนำ คำประสม อักษรย่อ

เครอ่ื งหมายวรรคตอน และประโยคท่ีมีคำ สำนวน สุภาษิต ปรศิ นาคำทาย บทร้อยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ

อา่ นสือ่ ตา่ งๆ เรอ่ื งส้นั เรื่องเลา่ นทิ าน บทความ ข่าวและเหตุการณ์ สารคดี บนั เทงิ รวมท้ัง อ่านหนังสือ

ตามความสนใจท่ีครูและนกั เรียนกำหนดร่วมกัน คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนสื่อสาร

แผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพความคิด เขียนย่อความจากสื่อต่างๆ เขียนจดหมายส่วนตัวถึงเพื่อนและบิดา

มารดา เขียนบันทกึ เขยี นรายงาน เขยี นเร่ืองตามจินตนาการ ขอ้ เทจ็ จริง ข้อคิดเห็นจากเร่ืองที่ฟงั และดู ชนิด

และหน้าที่ของคำในประโยค การศึกษาพจนานกุ รม แต่งประโยค แต่งบทร้อยกรอง คำขวัญ สำนวนทีเ่ ป็นคำ

พังเพยและสุภาษติ ภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถ่ิน นิทานพื้นบ้าน นิทานคติธรรม เพลงพื้นบ้าน วรรณคดี
และวรรณกรรม บทอาขยานบทร้อยกรอง ทอ้ งถน่ิ

โดยใช้กระบวนการคิด การแยกข้อเท็จจริง คาดคะเน บอกความหมาย การสรุปความ ทักษะการ
สื่อสาร สรุป วิเคราะห์ข้อมูลจากเรื่องและสื่อต่าง ๆ ที่อ่านฟังและดูเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจสามารถ
สือ่ สารส่งิ ทเี่ รียนรู้ มีความสามารถในการแยกแยะ การจำแนก การเปรียบเทียบและการตดั สินใจ

เพื่อนำไปใช้ชีวติ ประจำวันได้อย่างภาคภูมใิ จ รักความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่
เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นทำงานและมีจิตสาธารณะ สามารถใช้ภาษาไทยได้เหมาะสมกับกาลเทศะ
ตลอดจนเห็นคณุ ค่าของภาษาไทย โดยมมี ารยาทในการอา่ น การฟัง การดู การพดู และการเขยี น

รหสั ตวั ชี้วดั ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖
ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗
ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ท ๕.๑ ๓๓ ตัวชว้ี ัด
รวมท้ังหมด

๒๔

ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง

ศึกษาการอ่านบทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง ความหมายของคำ ประโยค และข้อความที่เป็นการ
บรรยายและการพรรณนา ความหมายโดยนัยจากเรื่องที่อ่าน ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากสื่อต่างๆ
วรรณคดีในบทเรยี น งานเขียนเชงิ อธิบาย คำสง่ั ข้อเสนอแนะ ข้อปฏิบัติตามหนังสือที่มีคุณค่า คดั ลายมือตัว
บรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด แผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิด เขียนย่อความจากสื่อต่างๆ
เขียนแสดงความรูส้ กึ ความคิดเห็น กรอกแบบรายการต่างๆ เขียนจดหมาย ถึงผู้ปกครองและญาติ เขียนเรื่อง
ตามจินตนาการ พูดแสดงความรู้สึกความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู ความน่าเชื่อถือจากเรื่องที่ฟังและดู
พูดรายงานเรื่องที่ค้นคว้า ชนิดและหน้าที่ของคำในประโยค ส่วนประกอบของประโยค ภาษาไทยมาตรฐาน
กับภาษาถิ่น คำราชาศัพท์ คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ แต่งบทร้อยกรอง สำนวนภาษา สรุปเรื่องจาก
วรรณคดี วรรณกรรมที่อ่าน นิทานพื้นบ้าน คุณค่าของวรรณคดี วรรณกรรม ท่องจำบทอาขยานและบท
ร้อยกรอง ทอ้ งถนิ่

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษา กระบวนการคดิ การประเมินค่า การแยกแยะ การคดิ วเิ คราะห์
แสดงความคิดเห็น การจบั ใจความ ต้ังคำถามและตอบคำถามเชงิ เหตุผล การจำแนก การเปรียบเทียบ การ
อธิบาย

เพอ่ื ให้เกิดการส่อื สารโดยใชค้ ำไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน เหมาะสม มมี ารยาทในการอา่ น การเขยี น การฟัง
การดู และการพูด และนำไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ในชีวติ ประจำวันได้อย่างสมำ่ เสมอ เหมาะสมกับกาลเทศะ
ปลูกฝังความชนื่ ชมของวฒั นธรรมทอ้ งถิ่นและวัฒนธรรมไทย ตลอดจนเหน็ คุณค่าของภาษาไทย

รหสั ตวั ช้ีวัด ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘
ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗
ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ท ๕.๑ ๓๓ ตัวชวี้ ัด
รวมท้ังหมด

๒๕

ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง

ศึกษาการอ่านบทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง ความหมายของคำ ประโยค ข้อความที่เป็นโวหาร เรื่อง
สั้นๆ งานเขียนเชิงอธิบาย คำสั่ง คำแนะนำ และปฏิบัติตามได้ ความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง
แผนท่ี แผนภูมิ และกราฟ อ่านหนังสือตามความสนใจ คณุ คา่ ที่ได้รบั จากการอ่าน คัดลายมอื ตัวบรรจงเต็ม
บรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนสือ่ สาร เขียนแผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพความคดิ เรียงความ ย่อความจาก
เรื่องที่อ่าน จดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่างๆ เขียนเรื่องตามจินตนาการและสร้างสรรค์ พูดแสดง
ความรู้ ความเข้าใจ จุดประสงคข์ องเรื่องที่ฟงั และดู ตั้งและตอบคำถามเชิงเหตุผลจากเรือ่ งที่ฟังและดู ความ
น่าเชื่อถือการฟังและดูสื่อโฆษณา รายงานเรื่องราวหรือประเด็นที่ศึกษา พูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผลใน
สถานการณ์ต่างๆ หน้าที่และชนิดของคำในประโยค ความหมายของคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ ระบุ
ลักษณะของประโยค แต่งบทร้อยกรอง สำนวน คำพังเพยและสุภาษิต อ่านวรรณคดีหรือวรรณกรรม เล่า
นิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเอง และนิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอื่น คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน
ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด และบทรอ้ ยกรองท่ีมคี ณุ คา่ ตามความสนใจ ทอ้ งถน่ิ

โดยใช้กระบวนการกระบวนการทางภาษา การฟงั การพูด การอ่าน การเขียน การฟงั อา่ นอธบิ าย
การคดิ วิเคราะห์ การรวบรวม การเปรียบเทยี บ การแสดงความคดิ เหน็ และการประเมนิ คา่

เพื่อนำไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างสม่ำเสมอ เหมาะสมกับกาลเทศะ ปลูกฝังความ
ชื่นชมของวัฒนธรรมท้องถิ่นและวัฒนธรรมไทย เห็นคุณค่าของภาษาไทย มีมารยาทในการอ่าน การเขียน
การฟัง การดู และการพูด และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง มีส่วนร่วมในการเรียนและศกึ ษาค้นควา้ ข้อมูล
จากแหลง่ เรียนรตู้ ่างๆ อยา่ งสม่ำเสมอ

รหัสตัวชี้วดั ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ท ๕.๑ ๓๔ ตัวชว้ี ัด
รวมท้ังหมด

๒๖

รายวิชาพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

รายวชิ าพนื้ ฐาน จำนวน ๒๐๐ ชัว่ โมง
ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๒๐๐ ชั่วโมง
ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๒๐๐ ช่ัวโมง
ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๑๖๐ ชว่ั โมง
ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๑๖๐ ชวั่ โมง
ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์

๒๗

คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน

รหัสวชิ า ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคดิ คำนวณ และฝึกการแก้ปญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี

การใชจ้ ำนวนบอกปริมาณที่ไดจ้ ากการนับ การอ่าน และการเขยี นตัวเลขฮินดูอารบิก และตวั เลขไทย

แสดงจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 การนับทีละ 1 และทีละ 10 การบอกอันดับที่ การแสดงจำนวนนับไม่

เกิน 20 ในรูปความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวม หลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก การ

เขียนตัวเลขแสดงจำนวนนับในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจำนวน การใช้เครื่องหมาย = ≠ > < การ

เรียงลำดับจำนวนไม่เกิน 5 จำนวน ความหมายของการบวก ความหมายของการลบ การหาผลบวก การหาผล

ลบ ความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบโจทย์ปัญหา แบบรปู ของจำนวนที่เพ่ิมขึ้นหรือลดลงทีละ 1 และทีละ

10 แบบรูปซ้ำของจำนวน รูปเรขาคณิตและรูปอื่นๆ การเปรียบเทียบและวัดความยาวเป็นเซนติเมตร เป็น

เมตร การเปรียบเทียบและการวัดน้ำหนักเป็นกิโลกรัม เป็นขีด โจทย์ปัญหาการบวก และโจทย์ปัญหาการลบ

เกี่ยวกับความยาว น้ำหนัก การจำแนกรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม

ทรงกระบวก และกรวย การใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพ เมื่อกำหนด 1 รูปแทน 1 หน่วย ในการหาคำตอบ

ของโจทยป์ ัญหา

การจัดประสบการณ์หรือการสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า โดยปฏิบัติจริง

ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ และทักษะการแกป้ ญั หา การใหเ้ หตผุ ล การส่ือสารและ

การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการที่ได้ไปใช้ใน

การเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์

สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณและเชื่อมน่ั ในตนเอง

การวัดผลและประเมนิ ผล ใช้วธิ ีการท่หี ลากหลายตามสภาพความเป็นจรงิ ของเน้อื หาและทกั ษะท่ี

ตอ้ งการวดั

รหสั ตัวชวี้ ดั
ค ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒, ป.๑/3 , ป.๑/4, ป.๑/5
ค ๑.๒ ป.๑/๑
ค ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ค ๒.2 ป.๑/๑
ค ๓.๑ ป.๑/๑
รวมท้ังหมด ๑0 ตัวชวี้ ัด

๒๘

คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน

รหสั วิชา ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษา ฝกึ ทกั ษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปนี้

การอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน1,000

และ 0 การนับทีละ 2 ทีละ ๕ ทีละ 10 และทีละ ๑๐๐ จำนวนคู่ จำนวนค่ี หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก

และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวน การบวกและการลบ

จำนวน ความหมายของการคูณและการหาร การหาผลคูณ การหาผลหารและเศษ ความสัมพันธ์ของการคูณ

และการหาร การบวก ลบ คูณ หารระคน และโจทยป์ ญั หา แบบรปู ของจำนวนทีเ่ พ่ิมข้นึ หรือลดลงทีละ 2 ทีละ

5 และทลี ะ 100 แบบรูปซำ้ ของรูปเรขาคณติ และรปู อื่นๆ การวดั และการเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตรและ

เซนตเิ มตร การคาดคะเนความยาวเปน็ เมตร การวัดและการเปรียบเทยี บนำ้ หนักเป็นกโิ ลกรัมและกรมั กิโลกรัม

และขีด การวัดและการเปรียบเทียบปริมาตรและความจุเป็นช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง ลิตร โจทย์ปัญหาการ

บวก และโจทย์ปัญหาการลบเกี่ยวกับความยาว น้ำหนัก ปริมาตรและความจุ การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและ

นาที (ช่วง ๕ นาที) การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมง เป็นนาที การอ่านปฏิทิน โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา การ

จำแนกและบอกลักษณะของรปู หลายเหลี่ยม วงกลม และวงรี การเขียนรปู เรขาคณติ สองมิติ โดยใช้แบบของรูป

การใช้ข้อมูลจากแผนภูมริ ูปภาพ เมื่อกำหนด 1 รูปแทน 2 หน่วย 5 หน่วย หรือ 10 หน่วย ในการหาคำตอบ

ของโจทย์ปัญหา

การจัดประสบการณ์หรือการสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า โดยปฏิบัติจริง

ทดลอง สรปุ รายงาน เพอื่ พฒั นาทักษะการคิดคำนวณ และทักษะการแกป้ ญั หา การให้เหตุผล การส่ือสารและ

การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการที่ได้ไปใช้ใน

การเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์

สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มวี จิ ารณญาณและเชื่อมน่ั ในตนเอง

การวดั ผลและประเมินผล ใช้วิธีการท่หี ลากหลายตามสภาพความเป็นจรงิ ของเนอ้ื หาและทกั ษะที่

ตอ้ งการวดั

รหัสตวั ช้ีวดั
ค ๑.๑ ป.๒/1 , ป.๒/๒ ป.๒/3 , ป.๒/4 ป.๒/5 , ป.๒/6 , ป.๒/7 , ป.๒/8
ค ๒.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ , ป.๒/๕ , ป.๒/๖
ค 2.2 ป.๒/๑
ค ๓.1 ป.๒/๑
รวมท้ังหมด 16 ตัวช้ีวดั

๒๙

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหัสวิชา ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแกป้ ัญหาในสาระตอ่ ไปน้ี

การอ่านและเขียน ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนงั สอื แสดงจำนวนนับไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐

และ ๐ เปรยี บเทยี บและเรยี งลำดบั จำนวนนบั ไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณต์ ่าง ๆ

อา่ นและเขียนเศษสว่ นแสดงปรมิ าณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิง่ ต่าง ๆ ตามเศษส่วนที่กำหนด เปรียบเทียบเศษส่วน

ที่ตัวเศษเท่ากัน โดยที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดง

การบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตวั ไม่ทราบค่า

ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณของจำนวน ๑ หลักกบั จำนวนไมเ่ กนิ ๔ หลกั และจำนวน ๒ หลักกับจำนวน

๒ หลัก หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารท่ีตัวตั้งไม่เกิน ๔ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก หา

ผลลัพธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา ๒

ขั้นตอน ของจำนวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาผลบวกของเศษส่วนทีม่ ีตัวสว่ นเท่ากันและผลบวกไม่เกิน

๑ และหาผลลบของเศษสว่ นที่มี ตัวสว่ นเทา่ กัน แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวกเศษส่วนที่มีตัวส่วน

เทา่ กันและผลบวกไมเ่ กิน ๑ และโจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนท่มี ีตัวสว่ นเท่ากัน ระบจุ ำนวนท่ีหายไปในแบบรูป

ของจำนวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละเท่า ๆ กัน แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน แสดงวิธีหา

คำตอบของโจทย์ปัญหาเกยี่ วกบั เวลาและระยะเวลา เลอื กใช้เครื่องวัดความยาวท่เี หมาะสม วดั และบอก ความยาว

ของสิ่งต่าง ๆ เป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็น

เซนติเมตร เปรียบเทียบความยาวระหว่างเซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตรจาก

สถานการณต์ ่าง ๆ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาวท่ีมีหน่วยเปน็ เซนตเิ มตรและมิลลิเมตร

เมตรและเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตรเลือกใช้เครื่องชั่งที่เหมาะสม วัดและบอกน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและขีด

กิโลกรัมและกรัม คาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด เปรียบเทียบน้ำหนักระหว่างกิโลกรัมกับกรัม

เมตริกตนั กับกิโลกรัม จากสถานการณ์ต่าง ๆ แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั น้ำหนักท่ีมีหน่วยเป็น

กโิ ลกรมั กับกรัม เมตรกิ ตันกับกโิ ลกรัม เลือกใชเ้ ครือ่ งตวงที่เหมาะสม วดั และเปรียบเทียบปริมาตร ความจุเป็น

ลิตรและมิลลิลิตร คาดคะเนปริมาตรและความจุเป็นลิตร แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกีย่ วกับปริมาตร

และความจุที่มีหน่วยเป็นลิตรและมิลลิลิตร ระบุรูปเรขาคณิตสองมติ ิที่มีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร

เขียนแผนภูมิรูปภาพ และใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา เขียนตารางทางเดียวจาก

ขอ้ มูลท่เี ปน็ จำนวนนับ และใช้ข้อมลู จากตารางทางเดยี วในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา

การจัดประสบการณ์หรือการสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า โดยปฏิบัติจริง

ทดลอง สรปุ รายงาน เพอ่ื พฒั นาทักษะการคิดคำนวณ และทักษะการแกป้ ัญหา การให้เหตผุ ล การส่ือสารและ

การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการที่ได้ไปใช้ใน

การเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์

สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ รอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณและเช่ือม่ันในตนเอง

การวดั ผลและประเมนิ ผล ใชว้ ิธกี ารท่ีหลากหลายตามสภาพความเป็นจรงิ ของเน้ือหาและทกั ษะที่

ต้องการวัด

๓๐

รหัสตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒, ป.๓/3 , ป.๓/4, ป.๓/5 , ป.๓/6 , ป.๓/7 , ป.๓/8,ป.๓/9 , ป.๓/10,

ป.๓/๑1
ค ๑.๒ ป.๓/1
ค ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ , ป.๓/๖, ป.๓/7 , ป.๓/8, ป.๓/9 , ป.๓/10,

ป.๓/๑1 , ป.๓/1๒, ป.๓/13
ค ๒.๒ ป.๓/๑
ค ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
รวมทั้งหมด ๒๘ ตัวชี้วัด

๓๑

คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

รหสั วชิ า ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษา ฝึกทักษะการคดิ คำนวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปนี้

การอา่ นและการเขียนเลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย และตวั หนังสือแสดงจำนวนที่มากกว่า 100,000

หลัก ค่าประจำหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การ

เปรยี บเทียบและเรียงลำดบั จำนวน ค่าประมาณของจำนวนนบั และการใชเ้ คร่อื งหมาย ≈ การบวกและการลบ

จำนวนที่มากกว่า 100,000 การคูณและการหาร การบวก ลบ คูณ หารระคน การประมาณผลลัพธ์ของการ

บวก การลบ การคูณ การหาร การแก้โจทย์ปัญหาพร้อมทั้งหาคำตอบ แบบรูปของจำนวนที่เกิดจากการคูณ

การหารด้วยจำนวนเดียวกัน เศษส่วนแท้ เศษเกิน จำนวนคละ ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนคละและเศษเกิน

เศษส่วนที่เท่ากัน เศษส่วนอย่างต่ำ และเศษส่วนที่เท่ากับจำนวนนับ การเปรียบเทียบและเรียงลำดับเศษส่วน

จำนวนคละ การบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละ การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ

เศษส่วน จำนวนคละ การอา่ นและ การเขียนทศนยิ มไมเ่ กิน 3 ตำแหนง่ หลกั ค่าประจำหลกั ค่าของเลขโดด

ในแต่ละหลักของทศนิยม และการเขียนตัวเลขแสดงทศนิยมในรูปกระจาย ทศนิยมที่เท่ากัน การเปรียบเทียบ

และเรยี งลำดับทศนยิ ม การบวก การลบทศนยิ ม การแก้โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ ทศนยิ มไม่เกนิ 2 ขน้ั ตอน

การบอกระยะเวลาเป็นวนิ าที นาที ชว่ั โมง วนั สัปดาห์ เดือน ปี การเปรยี บเทียบระยะเวลาโดยใชค้ วามสัมพันธ์

ระหว่างหน่วยเวลา การอ่านตารางเวลา การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา ระนาบ จุด เส้นตรง รังสี ส่วนของ

เส้นตรงและสัญลักษณ์แสดงเส้นตรง รังสี ส่วนของเส้นตรง มุม ส่วนประกอบของมุม การเรียกชื่อมุม

สัญลักษณ์แสดงมุม ชนิดของมุม การวัดขนาดของมุม โดยใช้ไม้โพรแทรกเตอร์ การสร้างมุมเมื่อกำหนดขนาด

ของมุม ชนิดและสมบัติของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยม

มมุ ฉาก พ้นื ทข่ี องรูปสเ่ี หล่ียมมุมฉาก การแก้โจทย์ปัญหาเกยี่ วกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสี่เหล่ียมมุม

ฉาก การอ่านและเขยี นแผนภูมแิ ท่ง (ไม่รวมการย่นระยะ) การอา่ นตารางสองทาง

การจัดประสบการณ์หรือการสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า จากการปฏิบัติจรงิ

สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เกี่ยวกับการแก้ปัญหา

การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การเชื่อมโยง การให้เหตุผล และการคิดอย่างสร้างสรรค์

สามารถทำงานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบวินัย มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและมีความ

เชอ่ื มน่ั ในตนเอง รวมทัง้ ตระหนักในคุณคา่ และมเี จตคติท่ดี ตี ่อคณิตศาสตร์

การวดั และประเมนิ ผล เนน้ การวดั และประเมินผล เพอ่ื พัฒนาการเรียนรู้ ด้วยวธิ กี ารท่หี ลากหลาย โดย

ใหส้ อดคล้องกบั บริบท และเป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ดั

รหัสตัวชีว้ ัด
ค ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ ป.๔/3 , ป.๔/4, ป.๔/5 , ป.๔/6, ป.๔/7 , ป.๔/8, ป.๔/9 , ป.๔/10 ,

ป.๔/11 , ป.๔/1๒ ,ป.๔/๑3 , ป.๔/14 ,ป.๔/๑5 , ป.๔/16
ค ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/3
ค ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒
ค ๓.๑ ป.๔/๑
รวมทงั้ หมด ๒2 ตวั ช้วี ัด

๓๒

คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

รหสั วิชา ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์

ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษา ฝึกทักษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแกป้ ัญหาในสาระตอ่ ไปนี้

การเปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ การบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละ การคูณ การหาร

ของเศษส่วนและจำนวนคละ การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ การแก้โจทย์ปัญหา

เศษส่วนและจำนวนคละ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเศษสว่ นและทศนยิ ม คา่ ประมาณของทศนิยมไม่เกนิ 3 ตำแหนง่

ให้เป็นจำนวนเต็มหน่วย ทศนิยม 1 ตำแหนง่ และ 2 ตำแหนง่ การใช้เคร่อื งหมาย ≈ การประมาณผลลัพธ์ของ

การบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม การคูณทศนิยม การหารทศนิยม ความสัมพันธร์ ะหว่างหน่วยความ

ยาว เซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตร ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยน้ำหนัก

กิโลกรัมเป็นกรัม การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวและน้ำหนัก โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับทศนิยมและการ

เปลี่ยนหน่วย การแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้บัญญัตไิ ตรยางศ์ การอ่านและการเขียนร้อยละหรือเปอร์เซน็ ต์ การแก้

โจทย์ปัญหาร้อยละ เส้นตั้งฉากและสัญลักษณ์แสดงการตั้งฉาก เส้นขนานและสัญลักษณ์แสดงการขนาน การ

สร้างเสน้ ขนาน มุมแย้ง มมุ ภายในและมมุ ภายนอกที่อยูบ่ นข้างเดยี วกันของเส้นตัดขวาง ชนิดและสมบัติของรูป

สี่เหลี่ยม การสร้างรูปสี่เหลี่ยม ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยม พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและรูป

ส่ีเหลย่ี มขนมเปยี กปูน การแกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกับความยาวรอบรูปและพน้ื ทขี่ องรูปส่ีเหล่ยี มด้านขนานและรูป

สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ลักษณะและส่วนต่าง ๆ ของปริซึม ปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของ

ภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ความสัมพันธ์ระหว่าง มิลลิลิตร ลิตร ลูกบาศก์เซนติเมตร ลูกบาศก์เมตร การแก้

โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ปรมิ าตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก การอ่านและ

การเขียนแผนภูมแิ ทง่ การอา่ นกราฟเส้น

การจัดประสบการณ์หรือการสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า จากการปฏิบัติจริง

สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เกี่ยวกับการแก้ปัญหา

การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การเชื่อมโยง การให้เหตุผล และการคิดอย่างสร้างสรรค์

สามารถทำงานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบวินัย มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและมีความ

เชื่อมนั่ ในตนเอง รวมทง้ั ตระหนักในคุณคา่ และมีเจตคติทีด่ ตี ่อคณิตศาสตร์

การวดั และประเมินผล เน้นการวัดและประเมนิ ผล เพือ่ พัฒนาการเรยี นรู้ ดว้ ยวธิ กี ารทหี่ ลากหลาย โดย

ให้สอดคลอ้ งกับบริบท และเปน็ ไปตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชวี้ ดั

รหัสตวั ชว้ี ดั
ค ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ ป.๕/4 , ป.๕/5 , ป.๕/6, ป.๕/7 , ป.๕/8 , ป.๕/9
ค ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔
ค ๒.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔
ค ๓.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒
รวมท้งั หมด 19 ตวั ช้ีวดั

๓๓

คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน

รหัสวชิ า ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์

ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะการคดิ คำนวณ และฝึกการแกป้ ัญหาในสาระตอ่ ไปนี้

เปรียบเทียบและเรียงลำดับเศษส่วนและจำนวนคละจากสถานการณ์ตา่ ง ๆ เขียนอัตราส่วนแสดงการ

เปรียบเทียบปริมาณ 2 ปริมาณจากข้อความหรือสถานการณ์ โดยที่ปริมาณแต่ละปริมาณเป็นจำนวนนับ หา

อัตราส่วนท่เี ทา่ กับอตั ราสว่ นท่กี ำหนดให้ หา ห.ร.ม. ของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๓ จำนวน หา ค.ร.น. ของจำนวนนับ

ไม่เกนิ ๓ จำนวน แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หาผลลัพธ์ของ

การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเศษส่วนและ

จำนวนคละ ๒ - ๓ ขั้นตอน หาผลหารของทศนิยมท่ีตวั หารและผลหารเปน็ ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหนง่ แสดงวิธี

หาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓ ขั้นตอน แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์

ปัญหาอัตราส่วน แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาร้อยละ ๒ - ๓ ขั้นตอน แสดงวิธีคิดและหาคำตอบของ

ปัญหาเกี่ยวกับแบบรูป แสดงวิธี หาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติที่

ประกอบดว้ ยทรงสี่เหลีย่ มมุมฉาก แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับความยาวรอบรปู และพ้ืนท่ีของรูป

หลายเหลี่ยม แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของวงกลม จำแนกรูป

สามเหลยี่ มโดยพจิ ารณาจากสมบัติของรูป สร้างรูปสามเหลยี่ มเมื่อกำหนดความยาวของด้านและขนาดของมุม

บอกลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติชนิดต่าง ๆ ระบุรูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบจากรูปคลี่

และระบรุ ปู คล่ีของรูปเรขาคณิตสามมติ ิ ใช้ขอ้ มูลจากแผนภูมิรูปวงกลมในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา

การจัดประสบการณ์หรือการสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า จากการ

ปฏิบัติจรงิ สรปุ รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะการคดิ คำนวณ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรเ์ ก่ียวกับการ

แก้ปัญหา การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การเชื่อมโยง การให้เหตุผล และการคิดอย่าง

สร้างสรรค์ สามารถทำงานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบวินัย มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ

และมคี วามเช่ือมั่นในตนเอง รวมท้ังตระหนกั ในคณุ คา่ และมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์

การวดั และประเมนิ ผล เน้นการวดั และประเมนิ ผล เพือ่ พัฒนาการเรยี นรู้ ด้วยวธิ กี ารทห่ี ลากหลาย โดย

ใหส้ อดคล้องกับบรบิ ท และเป็นไปตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ดั

รหสั ตัวชว้ี ดั
ค ๑.๑ ป.๖/๑ ,ป.๖/๒,ป.๖/๓, ป.๖/4,ป.๖/5 ,ป.๖/6,ป.๖/7,ป.๖/8 , ป.๖/9,ป.๖/๑0 ,ป.๖/11 ,

ป.๖/12
ค ๑.๒ ป.๖/๑
ค 2.1 ป.๖/๑ , ป.๖/๒, ป.๖/3
ค ๒.2 ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓, ป.๖/4
ค 3.1 ป.๖/๑

รวมท้งั หมด 2๑ ตัวชว้ี ัด

๓๔

รายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพื้นฐาน จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๑๒๐ ชั่วโมง
ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง
ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน ๑๒๐ ช่ัวโมง
ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

๓๕

คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน

ว ๑๑๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๑
คำอธิบายรายวชิ า เวลา ๘๐ ช่วั โมง

ศึกษาการเรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ ลักษณะ หน้าที่ และการดูแลส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์
ลักษณะหน้าที่ของส่วนต่างๆ ของสัตว์และพืชรอบตัว สภาพแวดล้อมบริเวณที่พืชและสัตว์อาศัยอยู่ ชนิดและ
สมบัติที่ใช่ทำวัสดุรอบตัว การเกิดเสียงและทิศทางการเคลื่อนที่ของเสียง ลักษณะของหิน การมองเห็นดาวบน
ทอ้ งฟ้าในเวลากลางวนั และกลางคนื การแก้ปัญหาโดยการลองผิดลองถูก การเปรยี บเทยี บ การเขียนโปรแกรม
อยา่ งง่ายโดยใช้ซอฟแวรห์ รอื สือ่ การใชง้ านอุปกรณ์เทคโนโลยีเบื้องต้น การใช้งานซอฟแวร์เบื้องต้น

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหา การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล
วางแผนการสังเกต สำรวจตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้า บันทึกข้อมูล จัดกลุ่มข้อมูล เปรียบเทียบและนำเสนอผล
แสดงความคิดเหน็ เป็นกลุ่ม มคี วามสามารถในการตัดสินใจ มีจิตวทิ ยาศาสตร์ มีเจตคติทด่ี ตี อ่ วิชาวิทยาศาสตร์
เพื่อนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งมุ่งเน้นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม
และมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสัตย์สจุ รติ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมีจิตสาธารณะ
เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นมคี วามเหมาะสมกบั คำวา่ “บคุ คลแห่งการเรยี นรู้” ใหม้ ากทีส่ ุด

รหัสตัวชี้วดั
ว ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๒.๓ ป.๑/๑
ว ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๓.๒ ป.๑/๑
ว ๔.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
รวมท้ังหมด ๑๕ ตัวชี้วัด

๓๖

คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน

ว ๑๒๑0๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒
คำอธบิ ายรายวชิ า เวลา ๘๐ ชวั่ โมง

ศึกษารียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ถึง ลักษณะของสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ความจำเป็นของแสงและน้ำ
ในการเจริญเติบโตของพืช วัฏจักรของพืชดอก สมบัติการดูดซับน้ำของวัสดุในการดูดซับน้ำของวัสดุและการ
นำไปใช้ประโยชน์ สมบัติของวัสดุที่เกิดจากการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ การเคลื่อนที่ของแสง การ
มองเห็นวัตถุ การป้องกันอันตรายจากการมองวัสดุในบริเวณที่มีความสว่างไม่เหมาะสม ส่วนประกอบและการ
จำแนกชนิดของดิน การใช้ประโยชน์จากดิน การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา การตรวจหาข้อผิดพลาดของ
โปรแกรม การใช้งานซอฟต์แวร์เบื้องต้น การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ การใช้งานและดูแลรักษาอุปกรณ์
คอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยีในชวี ิตประจำวนั การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหา การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล
วางแผนการสังเกต สำรวจตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้า บันทึกข้อมูล จัดกลุ่มข้อมูล เปรียบเทียบและนำเสนอผล
แสดงความคดิ เห็นเปน็ กลุ่ม มคี วามสามารถในการตัดสินใจ มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ มีเจตคตทิ ่ีดตี อ่ วิชาวทิ ยาศาสตร์
เพื่อนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งมุ่งเน้นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม
และมคี ณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซื่อสตั ย์สุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมีจิตสาธารณะ
เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมีความเหมาะสมกบั คำว่า “บุคคลแหง่ การเรยี นรู้” ใหม้ ากทีส่ ุด

รหสั ตัวช้ีวดั
ว ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ว ๑.๓ ป.๒/๑
ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ว ๒.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ว ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ว ๔.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
รวมท้ังหมด ๑๖ ตัวชี้วัด

๓๗

คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

ว ๑๓๑0๑ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓
คำอธิบายรายวชิ า เวลา ๘๐ ชว่ั โมง

ศกึ ษาเรยี นรแู้ บบนักวิทยาศาสตร์ สิง่ ที่จำเปน็ ตอ่ การดำรงชีวติ และการเจรญิ เติบโตของมนุษย์และสัตว์
วัฏจักรของสัตว์ ส่วนประกอบของวัตถุ การเปลี่ยนแปลงของวัสดุ แรงสัมผัสและแรงไม่สัมผัส แม่เหล็กและ
ขัว้ แมเ่ หล็ก การเปล่ียนแปลงพลังงาน การผลิตและแหล่งพลงั งานไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ประโยชน์และโทษ
ของไฟฟ้า ความสำคัญและเส้นทางการขึ้นตกของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืนและการกำหนดทิศ
ส่วนประกอบของอากาศและความสำคัญมลพิษทางอากาศ การเกิดลม ประโยชน์และโทษของลม อัลกอลิทึม
ในการทำงานหรือการแก้ปัญหา เขียนโปรแกรมอย่างง่าย ใช้อินเทอร์เนตค้นหาความรู้ รวบรวม ประมวลผล
และนำเสนอขอ้ มูล ใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภยั และปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลงในการใช้งานอนิ เทอร์เนต

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหา การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นขอ้ มูล
วางแผนการสังเกต สำรวจตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้า บันทึกข้อมูล จัดกลุ่มข้อมูล เปรียบเทียบและนำเสนอผล
แสดงความคดิ เหน็ เป็นกลุม่ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ มจี ติ วิทยาศาสตร์ มีเจตคติทดี่ ีตอ่ วชิ าวทิ ยาศาสตร์
เพื่อนำความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งมุ่งเน้นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม
และมีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ด้านรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมีจิตสาธารณะ
เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมคี วามเหมาะสมกบั คำว่า “บุคคลแหง่ การเรียนรู้” ให้มากทส่ี ุด

รหัสตวั ชี้วัด
ว ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒,
ว ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว ๒.๓ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ว ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ว ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว ๔.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕
รวมท้ังหมด ๒๕ ตัวชี้วัด

๓๘

คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ว ๑๔๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔
คำอธบิ ายรายวิชา เวลา ๑๒๐ ชัว่ โมง

ศึกษาเรยี นรแู้ บบนกั วทิ ยาศาสตร์ จำแนกสิง่ มีชีวติ เป็นกลมุ่ พชื กลุ่มสัตว์ และกลุ่มทไ่ี ม่ใช่พืชและสัตว์
การจำแนกพชื ออกเปน็ พืชมดี อกและพชื ไม่มีดอก การจำแนกสัตวอ์ อกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลงั และไม่มีกระดูก
สันหลงั ลักษณะเฉพาะของสัตว์มีกระดูกสันหลังในกลุ่มปลา กลุ่มสัตว์สะเทนิ น้ำสะเทินบก กลุม่ สตั ว์ เล้ือยคลาน
กลุ่มนก และกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม หน้าที่ของราก ลำต้น ใบ และดอกของพืชดอก สมบัติทางกายภาพ
ด้านความแขง็ สภาพความยดื หยุ่น การนำความร้อน และการนำไฟฟา้ ของวสั ดุ การนำสมบตั ิทางกายภาพของ
วสั ดไุ ปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั สมบัตขิ องสสารท้ัง ๓ สถานะ ผลของแรงโนม้ ถว่ งทีม่ ีตอ่ วตั ถุ การวัดนำ้ หนักของวัตถุ
มวลของวัตถุที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ และตัวกลางของแสง การขึ้นตกและรูปร่างของ
ดวงจันทร์ องค์ประกอบของระบบสุริยะ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การออกแบบและเขียน
โปรแกรมอยา่ งง่าย การตรวจหาข้อผดิ พลาดในโปรแกรม การข้อมูลอินเทอรเ์ นตและการใช้คำค้น การประเมิน
ความน่าเชื่อถือของข้อมูล การรวบรวม นำเสนอขอ้ มลู และสาระสนเทศ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหา การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นขอ้ มลู
วางแผนการสังเกต สำรวจตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้า บันทึกข้อมูล จัดกลุ่มข้อมูล เปรียบเทียบและนำเสนอผล
แสดงความคดิ เหน็ เป็นกลุ่ม มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ มีจิตวทิ ยาศาสตร์ มเี จตคตทิ ี่ดีต่อวิชาวทิ ยาศาสตร์
เพื่อนำความรู้ไปประยุกต์ใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวัน รวมทั้งมุ่งเนน้ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม
และมีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซอ่ื สัตย์สจุ ริต มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมีจิตสาธารณะ
เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมคี วามเหมาะสมกับคำว่า “บุคคลแหง่ การเรยี นรู้” ใหม้ ากทส่ี ดุ

รหสั ตวั ช้ีวดั
ว ๑.๒ ป.๔/๑
ว ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๒.๓ ป.๔/๑
ว ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๔.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕
รวมท้ังหมด ๒๑ ตัวช้ีวัด

๓๙

คำอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน

ว ๑๕๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
คำอธบิ ายรายวชิ า เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง

ศึกษาการเรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ โครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมในแตล่ ะแหลง่
ท่อี ยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมชี ีวิตกับสิ่งมีชีวติ และความสมั พันธร์ ะหว่างสิ่งมีชวี ิตกับสิ่งไม่มีชีวิต การถ่ายทอด
ลักษณะทางพันธุกรรมของพืช สัตว์ และมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การละลายของสารในน้ำ
การเปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้และกลับไม่ได้ แรงลัพธ์ แรงเสียดทาน การได้ยินเสียง
ผ่านตัวกลาง ลักษณะการเกิดเสียงสูง เสียงต่ำ เสียงดัง และเสียงค่อย ลักษณะเสียงและมลพิษทางเสียง ความ
แตกต่างของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ การใช้แผนที่ดาว รูปแบบเส้นทางการขน้ึ ตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า
ในรอบปี ปรมิ าณนำ้ ในแตล่ ะแหลง่ ปริมาณนำ้ ทม่ี นษุ ย์สามารถนำกลับมาใช้ได้ การใช้น้ำอยา่ งประหยัดและการ
อนุรักษ์น้ำ วัฏจักรน้ำ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้างแข็ง กระบวนการเกิดฝน หิมะ และ
ลูกเห็บ การใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จากปัญหาอย่าง
งา่ ย การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมีการตรวจสอบเง่ือนไขที่ครอบคลุมทกุ กรณี การติดตอ่ ส่ือสารผา่ น
อินเทอร์เนต การใช้อินเทอร์เนตค้นหาข้อมูล ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการ
บนอินเทอร์เนตทีห่ ลากหลายเพื่อแกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวัน

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหา การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล
วางแผนการสังเกต สำรวจตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้า บันทึกข้อมูล จัดกลุ่มข้อมูล เปรียบเทียบและนำเสนอผล
แสดงความคิดเห็นเปน็ กลุ่ม มีความสามารถในการตดั สินใจ มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ มเี จตคติที่ดตี อ่ วิชาวิทยาศาสตร์
เพื่อนำความรู้ไปประยุกตใ์ ชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจำวัน รวมทั้งมุ่งเนน้ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม
และมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมีจิตสาธารณะ
เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามเหมาะสมกบั คำวา่ “บุคคลแห่งการเรยี นรู้” ใหม้ ากทส่ี ดุ

รหสั ตัวช้ีวัด
ว ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ว ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๒.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ว ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๔.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
รวมท้ังหมด ๓๒ ตัวช้ีวดั

40

คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

ว ๑๖๑๐๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
คำอธบิ ายรายวิชา เวลา ๑๒๐ ชว่ั โมง

ศึกษาการเรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ ความสำคัญของสารอาหาร และประโยชน์ของสารอาหาร การ
เลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับวัย ระบบย่อยอาหาร และหน้าที่ของอวัยวะในการย่อยอาหาร
ความสำคัญของระบบย่อยอาหาร การแยกสารผสมให้เหมาะกับชนิดของสาร การเกิดและผลของแรงไฟฟ้า
วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน การเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาและ
จันทรุปราคา และการเกิดเงามดื เงามัว พัฒนาการของเทคโนโลยอี วกาศ การเกิดหินและวัฏจักรของหนิ การใช้
ประโยชน์จากหินและแร่ การเกิดซากดึกดำบรรพ์และการคาดคะเนสภาพแวดล้อมในอดีต การเกิดลมบก ลม
ทะเล มรสุม และผลของมรสุมต่อการเกิดฤดูกาลในประเทศไทย ภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย ปรากฏการณ์
เรือนกระจกและการปฏิบัติตนเพื่อลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดแก๊สเรือนกระจก ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่าง
งา่ ย

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหา การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล
วางแผนการสังเกต สำรวจตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้า บันทึกข้อมูล จัดกลุ่มข้อมูล เปรียบเทียบและนำเสนอผล
แสดงความคิดเหน็ เปน็ กลุ่ม มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ มีเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ วิชาวิทยาศาสตร์
เพ่ือนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งมุ่งเน้นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม
และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีจิตสาธารณะ
เพอื่ ให้ผู้เรียนมีความเหมาะสมกบั คำว่า “บคุ คลแห่งการเรยี นรู้” ให้มากทสี่ ดุ

รหัสตวั ช้ีวัด
ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕
ว ๒.๑ ป.๖/๑
ว ๒.๒ ป.๖/๑
ว ๒.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘
ว ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒
ว ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ว ๔.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
รวมทั้งหมด ๓๐ ตัวชี้วัด

41

รายวชิ าพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

รายวชิ าพนื้ ฐาน จำนวน ๘๐ ชัว่ โมง
ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
ส ๑๒๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง
ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง
ส ๑๔๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง
ส ๑๕๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง
ส ๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

42

ส ๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
เวลา ๘๐ ชั่วโมง

ศกึ ษา วิเคราะห์ พทุ ธประวัติ หรือประวตั ิของศาสดาท่ีตนนบั ถือ แบบอย่างการดำเนนิ ชีวิตและข้อคิด
จากประวตั ิสาวก ชาดก เรอื่ งเล่าและศาสนกิ ชนตัวอย่างตามท่กี ำหนด ความหมาย ความสำคญั และเคารพพระ
รัตนตรัย ปฏิบัติตามหลักธรรม โอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ สวดมนต์แผ่เมตตา มีสติ
บำเพ็ญประโยชน์ต่อวัด แสดงตนเป็นพุทธมามกะหรือศาสนิกชนของศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติในศาสนพิธี
พิธีกรรมและวันสำคัญทางศาสนาตามที่กำหนดได้ถูกต้อง และปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและ
โรงเรยี น

ศกึ ษา วิเคราะห์ ความสามรถตลอดจนความดแี ละผลจากการกระทำของตนเอง ผอู้ ่ืน โครงสรา้ ง
บทบาท หน้าท่ีของสมาชกิ ในครอบครัว โรงเรยี น บทบาท สิทธิหนา้ ท่ีของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน มีส่วน
ร่วมในการตัดสนิ ใจ และทำกิจกรรมในครอบครัวและโรงเรยี นตามกระบวนการประชาธิปไตย สินคา้ และบริการ
ท่ีใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั การใชจ้ า่ ยเงนิ ในชีวติ ประจำวนั ไมเ่ กินตัวและประโยชนข์ องการออม การใช้
ทรพั ยากรในชวี ติ ประจำวนั อย่างประหยดั ความจำเปน็ ของการทำงานท่ีสจุ ริต แยกแยะสง่ิ ต่างๆรอบตวั ทเี่ กิดขนึ้
เองตามธรรมชาติ และทม่ี นษุ ยส์ ร้างขึ้น ความสมั พนั ธ์ของตำแหนง่ ระยะ ทิศทาง สิง่ ตา่ งๆรอบตัว ทศิ หลกั ใช้
แผนผังงา่ ยๆ ในการแสดงตำแหน่งของสง่ิ ต่างๆ ในห้องเรยี น การเปลย่ี นแปลงของอากาศในรอบวัน สงิ่ ตา่ งๆท่ี
เกิดข้นึ ในธรรมชาติ ที่สง่ ผลต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดลอ้ มที่อยู่รอบตวั การจดั
ระเบยี บสง่ิ แวดล้อมท่บี า้ นและโรงเรียน โดยบรู ณาการหลกั สูตรต้านทุจริตศึกษา

โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสบื ค้นข้อมลู กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการทางสงั คม
กระบวนการกลมุ่ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแก้ปัญหา

เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถนำไปปฏบิ ัติในการดำเนินชีวติ มีคุณธรรม จริยธรรม มี
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ในดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสตั ย์สุจริต มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มีความรบั ผิดชอบ รกั
ความเปน็ ไทยและสงั คมโลก

รหัสตัวชี้วัด
ส ๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔
ส ๑.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓
ส ๒.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒
ส ๒.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓
ส ๓.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓
ส ๓.๒ ป.๑/๑
ส ๕.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔
ส ๕.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓
รวม ๒๓ ตัวชี้วดั

43

ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา คำอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
เวลา ๘๐ ช่ัวโมง

ศึกษา สรุปความสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับถือ พุทธประวัติตั้งแต่ประสูตจิ นถงึ
การออกผนวชหรือประวตั ิศาสดาทต่ี นนบั ถือตามทก่ี ำหนด ความหมาย ความสำคัญ และเคารพพระรตั นตรยั
ปฏบิ ตั ิตามหลักธรรมตามโอวาท ๓ ในพระพทุ ธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาทตี่ นนบั ถือตามทกี่ ำหนด ชื่อ
ศาสนา ศาสดา และความสำคัญของคัมภรี ์ ของศาสนาทีต่ นนับถือ และศาสนาอน่ื ๆ บอกทม่ี าของรายได้และ
รายจา่ ยของตนเองและครอบครัว

อธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างผซู้ ื้อและผู้ขาย การแลกเปล่ยี นสินค้าและบริการโดยวิธีตา่ งๆ อธิบาย การ
ปฏิบัติตนต่อสาวกในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสำคัญทางศาสนาของศาสนาที่ตนนบั ถือ มารยาทไทย ข้อตกลง
กติกา กฎ ระเบียบ และหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม แสดงพฤติกรรมในการยอมรับ
ความคิด ความเชื่อและการปฏิบัติของบุคคลอื่นที่แตกต่างกันโดยปราศจากอคติ ความสัมพันธ์ของตนเองและ
สมาชิกในครอบครวั ในฐานะเป็นส่วนหน่ึงของชุมชน ระบุผมู้ บี ทบาทอำนาจในการตัดสนิ ใจในโรงเรยี นและชุมชน
ระบุสิ่งต่างๆที่เป็นธรรมชาติกับที่มนุษย์สร้างขึ้นทรัพยากรที่นำมาผลิตสินค้าและบริการที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
บันทกึ รายรบั รายจ่ายของตนเอง เพื่อให้เหมาะสมกับรายได้ ระบุตำแหน่งและลักษณะทางกายภาพของสิ่งต่างๆ
ที่ปรากฏในลูกโลก แผนที่ แผนผัง และภาพถ่าย ความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์ระหว่างโลก ดวงอาทิตย์ และ
ดวงจันทร์ ความสัมพันธ์ของฤดูกาลกับการดำเนนิ ชีวติ ของมนุษย์ แยกแยะและใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ใชแ้ ล้ว
ใหห้ มดไปไดอ้ ย่างคมุ้ คา่ โดยบูรณาการหลักสูตรตา้ นทจุ ริตศกึ ษา

โดยใชก้ ระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการทางสังคม
กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณแ์ ละแก้ปัญหา

เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏบิ ัติในการดำเนนิ ชวี ิต มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มสี ติทเ่ี ปน็
พน้ื ฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา มีการพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือมคี ณุ ลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์ในด้านรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสตั ยส์ ุจริต มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ รักความเปน็ ไทยและ
สงั คมโลก

รหสั ตัวช้ีวดั
ส ๑.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕ ป.๒/๖ ป.๒/๗
ส ๑.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒,
ส ๒.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔
ส ๒.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒
ส ๓.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔
ส ๓.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒
ส ๕.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓
ส ๕.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔
รวมทั้งหมด ๒๘ ตัวช้ีวดั

44

ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษา คำอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
เวลา ๘๐ ชั่วโมง

บอกความหมาย ความสำคัญของพระไตรปิฎก หรือคัมภีร์ของศาสนาที่ตนนับถือ สรุปพุทธประวัติ
ศาสดาที่ตนนับถือ บอกแบบอย่างการดำเนินชีวิต บอกขอ้ คิดจากประวัตสิ าวก ชาดก และศาสนิกชนตัวอย่าง
แสดงความเคารพพระรัตนตรยั ปฏิบัติตามหลกั ธรรมโอวาทในพทุ ธศาสนา ฝึกสวดมนต์ไหว้พระและแผ่เมตตา
บอกชื่อศาสดาและความสำคัญของศาสนาท่ีตนนับถอื และศาสนาอ่ืนๆ ฝึกปฏิบัตมิ ารยาทต่อสาวกของศาสนาที่
ตนนบั ถอื และศาสนาอนื่ ๆ ฝกึ ปฏบิ ตั ิตนในศาสนพิธีกรรมในวันสำคัญของพระพุทธศาสนาการแสดงตนเป็นพุทธ
มามกะ สรปุ การปฏบิ ตั ติ นตามประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัวและท้องถิ่น ความสำคญั ของวันหยุดราชการ
บุคคลทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ ชุมชนและท้องถ่ินของตน บทบาทหนา้ ทีข่ องสมาชิกของชมุ ชนในการร่วมกิจกรรมต่างๆ
บอกความแตกต่างของการเลือกตัวแทนการออกเสียง การเปลี่ยนแปลงของบุคคลในโรงเรียนชุมชน ปัจจัยสี่ที่
จำเป็นในการดำรงชีวิต วเิ คราะห์บญั ชีรายรบั รายจ่ายของตนเอง การใชท้ รัพยากรในการผลิตและบริโภคสินค้า
การบริการต่างๆบทบาทของประชาชนในการเสียภาษีการแข่งขันทางการค้ามีผลทำให้ราคาสินค้าลดลง การ
เทียบศักราชที่สำคัญตามปฏิทินที่ใช้ในชวี ิตประจำวัน บอกแหล่งข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับโรงเรยี นและ
ชุมชน บอกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตั้งถิ่นฐานและการพัฒนาชุมชน สรุปลักษณะที่สำคัญของขนบธรรมเนียม
ประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชน เปรียบเทียบความแตกต่างทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกับชุมชนอื่นๆ
พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ที่เป็นผู้สถาปนาอาณาจักรไทย บอกพระราชกรณยี กิจของพระมหากษัตริย์
ไทย ใช้แผนที่ แผนผัง และภาพถ่ายในการหาข้อมูลในชุมชน เขียนตำแหน่งที่ตั้งสัมพันธ์ของสถานที่สำคัญ
บริเวณโรงเรียนและชุมชน บอกสภาพแวดล้อมในชุมชนในอดีตและปัจจุบัน การพึ่งพาสิ่งแวดล้อมในการ
ประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตของมนุษย์ในชุมชน มลพิษที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ความแตกต่างของ
ลักษณะของเมืองและชนบท การเพิ่มและการสูญเสียสิ่งแวดล้อมทำให้ชุมชนเปลี่ยนแปลง โดยบูรณาการ

หลักสูตรต้านทุจรติ ศึกษา

โดยใชก้ ระบวนการคิด กระบวนการสบื ค้นข้อมูล กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการทางสังคม
กระบวนการกลุม่ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแก้ปัญหา

เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบตั ใิ นการดำเนนิ ชีวติ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มสี ติท่ีเป็น
พนื้ ฐานของสมาธิในพระพทุ ธศาสนา มีการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนบั ถือมคี ณุ ลักษณะอันพึง
ประสงคใ์ นด้านรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ย์สุจรติ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ มีความรับผดิ ชอบ รกั ความเปน็ ไทยและ
สังคมโลก
รหสั ตวั ช้วี ัด

ส ๑.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ ป.๓/๕ ป.๓/๖ ป.๓/๗

ส ๑.๒ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓

ส ๒.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔

ส ๒.๒ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓

ส ๓.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓

ส ๓.๒ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓

45

ส ๕.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓
ส ๕.๒ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ ป.๓/๕
รวมทั้งหมด ๓๑ ตัวชี้วัด

46

ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษา คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
เวลา ๘๐ ชัว่ โมง

ศึกษาความสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนบั ถือ สรปุ พุทธประวัติ ตงั้ แตบ่ รรลธุ รรมจนถึง
ประกาศธรรม หรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือหรือปฏิบัติตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติ
สาวก ชาดก เรื่องเล่า หรือศาสนิกชนตัวอย่าง แสดงความเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามไตรสิกขาหรื อ
หลกั ธรรมโอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนา หรือหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนบั ถือ ชน่ื ชมการทำความดขี องตนเอง
บุคคลในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ตามหลักศาสนา พร้อมทั้งบอกแนวปฏิบัติในการดำเนินชีวิต สวด
มนต์ แผ่เมตตา มีสติ มีสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ
ปฏิบัติตามหลักของศาสนาที่ตนนับถือหรือปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เป็นผู้นำผู้ตามที่ดี
วเิ คราะหส์ ทิ ธิพ้ืนฐานท่เี ดก็ ทุกคนฟังหรอื ได้รับตามกฎหมาย

ศึกษา วิเคราะห์ความแตกต่างทางวัฒนธรรมของกลุ่มคนในท้องถิ่น เสนอวิธีการท่ีจะอยู่ร่วมกันอย่าง
สันติสุข อำนาจอธิปไตย ความสำคัญระบอบประชาธิปไตย บทบาทหน้าที่ของพลเมืองนกระบวนการเลือกตั้ง
ความสำคัญของสถาบนั พระมหากษตั ริย์ตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์เป็นประมุข ปัจจยั ทม่ี ีผล
ต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการ สิทธิพื้นฐานและรักษาผลประโยชน์ในฐานะผู้บริโภค หลักการของเศรษฐกิจ
พอเพียงและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน หน้าที่เบื้องต้นของเงิน ใช้
แผนที่และภาพถ่ายระบุลักษณะสำคัญทางสภาพแวดล้อมทางกายภาพ แหล่งทรัพยากรและสิ่งต่างๆในจังหวัด
ของตนเอง ความสัมพันธ์ของส่ิงต่างๆที่อยู่ในจงั หวัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพทีส่ ่งผลต่อการดำเนินชีวติ การ
เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมและผลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนั้น และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใน
จังหวดั โดยบรู ณาการหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา

โดยใชก้ ระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการทางสงั คม
กระบวนการกลมุ่ กระบวนการเผชญิ สถานการณแ์ ละแก้ปัญหา

เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถนำไปปฏบิ ัตใิ นการดำเนินชวี ติ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มีสติที่เปน็
พน้ื ฐานของสมาธใิ นพระพทุ ธศาสนา มกี ารพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนบั ถือมคี ณุ ลักษณะอันพึง
ประสงคใ์ นด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสตั ย์สุจริต มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มีความรับผิดชอบ รกั ความเปน็ ไทยและ
สงั คมโลก
รหัสตวั ช้ีวดั
ส ๑.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕ ป.๔/๖ ป.๔/๗ ป.๔/๘
ส ๑.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓
ส ๒.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕
ส ๒.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓
ส ๓.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓
ส ๓.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒
ส ๕.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓
ส ๕.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓

รวม ๓๐ ตัวช้ีวัด

47

ส ๑๕๑๐๑ สังคมศึกษา คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
เวลา ๘๐ ช่ัวโมง

ศกึ ษา วเิ คราะห์ เรื่องความสำคญั ของศาสนาที่ตนนับถือในฐานะเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและเป็นหลัก
ในการพัฒนาชาติไทย ประวัติศาสนาและศาสดาของศาสนาต่างๆ หลักธรรมและพิธีกรรมของศาสนาต่างๆ
สถานภาพของบุคคลในสังคม การปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธิปไตยคุณลักษณะของพลเมืองดี สิทธิ
ของเด็ก วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น การปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน เศรษฐกิจพอเพียง สหกรณ์
ธนาคารและบทบาทหน้าที่ ดอกเบี้ย การฝากเงินและการถอนเงิน การกู้ยืมเงิน ตำแหน่ง ระยะ ทิศทางของ
ภูมิภาคของตน ลักษณะภูมิลักษณ์ที่สำคัญของภาคต่างๆ ความสัมพันธ์ของลักษณะทางกายภาพและลักษณะ
สังคมในภูมิภาค สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่มีอิทธิพลต่อการตั้งถิ่นฐานและการย้ายถิ่นฐานของประชากร
อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ผลที่เกิดจากการทำลายสิ่งแวดล้อม แนวทางอนุรักษ์และรักษา
ส่งิ แวดลอ้ มทางภูมิภาค โดยบูรณาการหลกั สูตรตา้ นทุจริตศึกษา

โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ข้อมลู กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการทางสงั คม
กระบวนการกลมุ่ กระบวนการแกป้ ัญหา

เพอื่ ใหเ้ กิดการเรยี นรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนนิ ชีวิต มีคณุ ธรรมจริยธรรม มี
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ในดา้ นชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ มีหลกั ธรรมในการดำเนนิ ชวี ติ รักความเปน็ ไทย
มีจิตสาธารณะ และสามารถดำเนนิ ชวี ติ ในสังคมไดอ้ ยา่ งสันตสิ ุข

รหัสตวั ชีว้ ดั
ส ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖ , ป.๕/๗
ส ๑.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป. ๕/๔
ส ๒.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส.๓.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๓.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒
ส ๕.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๕.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
รวมท้ังหมด ๒๘ ตัวช้ีวัด


Click to View FlipBook Version