The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือรวมบทความเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by asadayuth, 2021-12-08 12:51:16

สายนทีแห่งวิทยา 60 ปี ภาควิชาภาษาตะวันออก

หนังสือรวมบทความเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Al-Suḥaimī, S. S. ‫ سلمان سالم‬،‫السحيمي‬. (1995). ʼIbdāl l-ḥurūf fī
l-lahjāt l-ʽaraīyah. ‫إبدال الحروف في اللهجات العربية‬
[Consonants’ Change in Arabic Dialects]. Madinah: Antique
Stranger Library.

Bashar, K. M. ‫كمال محمد‬،‫بشر‬. (1999). ʼAlif fī l-lughah l-ʽarabīyah
‫[ الألف في اللغة العربية‬Aleph in Arabic Language]. L-muʽjam
l-mufaṣṣal fī l-ʼimlāʼ. ‫[ المعجم المفصل في الإملاء‬the Elaborate
Dictionary in Essay]. Yamīn, Nāṣīf (Ed.). Beirut: Acadimic
Books House. (pp. 72-80).

Ramaḍān, M. ‫ محي الدين‬،‫ رمضان‬.(1979). Fī Ṣawtīyah ʽArabīyah.
‫[ في صوتيات عربية‬in Arabic Phonology]. Amman: Modern Letter
Library.

Sezgin, F. ‫ فؤاد‬،‫ سزكين‬،. (2010). ʽArḍ Mūjaz li matḥaf Istanbūl li tārikh
l-ʽulūm wa l-tiknūlūjīya fī l-ʼIslam.
‫عرض موجز لمتحف إستانبول لتاريخ العلوم و التكنولوجيا في الإسلام‬
. [the Brief Overview of Istanbul Museum for History of
Sciences and Technology in Islam]. Istanbul: Secil Ofset.

289

บทความวิชาการ

นำ้ ในคำสอนของอิสลาม

Water in Islamic Teachings

อภชิ าติ พงษ์เกษม1
Apichat Pongkasem

บทคดั ย่อ
น้ำเป็นสิ่งหนึ่งที่อิสลามได้ให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็น
แหลง่ กำเนิดและรากฐานของการดำเนินชีวิตมนุษย์ สตั ว์และพืชพันธ์ุ และ
เป็นสิ่งที่มีบทบาทในการสร้างเสริมความศรัทธาและการมีจิตสำนึกใน
ความเมตตาต่ออลั ลอฮ์ โดยอิสลามมีคำสอนวา่ น้ำสะอาดคือน้ำบริสุทธิ์ที่ไม่
มีการเปลี่ยนสภาพ สี กลิ่น และรสชาติเหมาะสมในการบริโภคและใช้ทำ
ความสะอาดสิ่งสกปรก และการทำความสะอาดที่เป็นเงื่อนไขของการ
ปฏิบัติศาสนกิจ รวมถึงการทำความสะอาดที่ศาสนาส่งเสริมให้กระทำซึ่ง
ถือเปน็ การประกอบศาสนกิจอย่างหนง่ึ ของอสิ ลาม
นอกจากนี้น้ำยังเป็นสิ่งที่ใช้ในการเสริมสร้างศรัทธาให้แก่มนุษย์
โดยอัลลอฮ์ทรงประทานน้ำแห่งความเมตตา น้ำแห่งความผาสุกแก่ผู้ที่
ศรัทธา และทรงประทานน้ำแห่งการลงโทษกับผู้ปฏิเสธและไม่สำนึกถึง
ความเมตตาของพระองค์

คำสำคญั : น้ำ, อสิ ลาม, คำสอน

1 อาจารย์ ดร., สาขาวิชาภาษาอาหรับ ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะอักษรศาสตร์
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , E-mail : [email protected]

290

Abstract

Water is one of the things that Islam has given priority
because of the origin and foundation of human life, animals,
and plants. It plays a role in building faith and consciousness of
compassion for Allah. Islam teaches that clean water is pure
water that does not change its color, smell, and taste suitable
for human consumption. Moreover, use it to clean the dirt and
cleansing that is a condition of ministering, including the
cleaning that religion promotes, which is one of Islam's religious
practices.
Besides, water strengthens humankind's faith. Allah gives the
water of mercy to believers and the water of punishment to
those who do not recognize his mercy.

Keywords : water, Islam, teachings

1. บทนำ
คำสอนของอิสลามมีแหล่งมูลฐานสำคัญมาจากคัมภีร์อัลกุรอาน

อัลหะดีษ มติปวงปราชญ์ และการกิยาส (หลักเทียบเคียง) ซึ่งได้ประมวล
หลักการต่าง ๆ ในการปฏิบัติศาสนกิจและการดำเนินชีวิตประจำวัน น้ำ
เปน็ แหล่งกำเนิดและรากฐานของชวี ติ มนุษย์ สตั ว์ และพชื พันธุ์ ชีวติ เหล่าน้ี
จะอยไู่ มไ่ ด้ถ้าปราศจากนำ้ คมั ภีรอ์ ัลกุรอานได้กล่าววา่ อลั ลอฮ์ทรงประทาน
น้ำฝนลงเพื่อให้แผ่นดินที่แห้งแล้งเปลี่ยนเป็นแผ่นดินอุดมสมบูรณ์และ

291

เพื่อให้มนุษย์ สัตว์ และพืช ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำนี้ (Al-Kathĩr, 1999,
vol.6 p. 115) ซึ่งเป็นความเมตตาที่มีให้ต่อทุกชีวิต และพระองค์ทรงใช้
นำ้ เตือนมนุษย์ให้ศรัทธาและสำนึกในความเมตตาด้วยการท่ีพระองค์ทำให้
น้ำฝนมีรสจืดเพื่อมนุษย์จะใช้น้ำทำประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย แต่หาก
พระองค์ทรงทำให้น้ำฝนมีรสชาติที่เค็มจัด น้ำนั้นก็จะไม่เหมาะสมในการ
นำมาใช้บริโภค ดังนั้นมนุษย์ถ้าคิดวิเคราะห์สิ่งที่พระองค์ทรงดลบันดาล
ขึ้นมาเขาก็จะมีจิตสำนึกในความเมตตาของพระองค์ (Al-ṭabrĩ, 2001,
vol. 22 p. 353) นอกจากนท้ี า่ นนบมี ุฮัมมัด ‫ ﷺ‬ได้กำหนดให้น้ำบริสุทธิ์คือ
สิ่งที่ใช้ทำความสะอาดเป็นอันดับแรกในบทบัญญัติของอิสลาม และความ
สะอาดก็เปน็ ส่วนหน่งึ ของการศรัทธา

ดงั นัน้ อสิ ลามจึงไดใ้ ห้ความสำคัญกับน้ำโดยถือวา่ เป็นปัจจัยสำคัญ
ในการใช้อุปโภคและบริโภค นอกจากนี้น้ำยังถือว่าเป็นสิ่งที่มีบทบาทใน
การส่งเสริมความศรัทธาและการปฏบิ ัตศิ าสนกิจ

2..นำ้ เปน็ ส่งิ ใช้ทำความสะอาด

ศาสนาอิสลามให้ความสำคัญและเอาใจใส่ในเรื่องของความ

สะอาดเป็นอย่างมาก โดยกำหนดให้การรักษาความสะอาดนั้นเป็นการ

ปฏิบตั ิของบุคคลท่มี คี วามศรทั ธาต่อหลักคำสอน จึงทำให้วถิ ชี ีวิตของมสุ ลิม

มีความผูกพันกับการรักษาความสะอาด อัลลอฮ์ทรงดำรัสในคัมภีร์

อัลกุรอานวา่ ُ‫َوَرنُْْحَْستِِقِهيَ ۚه‬ ‫اأَنلْ﴿َعََّاسوًُمهَمااَوِءَاوأََلَََّمنِذاِءسًيَّيأَطََْركُهثَِسيوًرًرااَل‬
‫َِِوأََمّناَزلْنَاَخلَِمْقنََان‬
‫يََد ْي‬ ‫بُبِ ِهْشًرابَ ْلبََْدْةًَي‬ ‫الِلنُ﴾ِرََْيحيَِحَي‬
‫َّم ْي تًا‬

292

ความว่า “และพระองค์คือผู้ส่งลม เป็นการนำข่าวดี
ล่วงหน้าท่ามกลางความเมตตาของพระองค์ และเราได้
ประทานน้ำบริสุทธิ์ลงมาจากฟากฟ้า เพื่อเราจะให้มีชีวิต
ด้วยมัน (น้ำ) แก่แผ่นดินที่แห้งแล้ง และเราจะให้สิ่งที่เรา
สร้างมันขึ้นมา เช่น ปศุสัตว์ และมนุษย์มากมาย ดื่มมัน”

(อัลกุรอาน 25 ꓽ 48; สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศ
ไทย,2545 น. 880)

คำว่า “‫( ”طَُهوًرا‬บริสุทธิ์) หมายถึง สิ่งที่สะอาดและสามารถทำ
ความสะอาดสงิ่ อื่นได(้ Abdurrahman,1999, Vol.2, p.438)

﴾‫﴿ َويُنَ ِزُل عَلَيْ ُكم ِم َن ال َّس َماِء َماءً لِيُطَِهَرُكم بِِه‬
“และพระองค์ทรงให้นำ้ ลงมาแก่พวกเจา้ จากฟากฟ้าเพ่ือท่ี
ทรงชำระสิ่งสกปรกให้ออกไปจากพวกเจ้า” (อัลกุรอาน 8

ꓽ 11; สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย,2545 น.
411)

อัลลอฮ์ได้ทรงประทานน้ำฝนที่สะอาดบริสุทธิ์มาเพื่อให้แผ่นดินมี
ความสมบูรณ์ และเพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกชีวิตในการอุปโภคและบริโภค
อีกทั้งน้ำฝนถือเป็นหนึ่งในน้ำที่ศาสนาอนุญาตให้นำมาทำความสะอาดสิ่ง
สกปรกต่าง ๆ ตามร่างกาย เสื้อผ้า หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้ แต่ถ้าหากไม่มี
น้ำฝนก็สามารถใช้น้ำทะเลทำความสะอาดแทนได้ โดยในสมัยของท่านนบี
มุฮัมมัด ‫ ﷺ‬2 ได้มีชายคนหนึ่งได้ถามท่านถึงการใช้น้ำทะเลในการอาบน้ำ

2 อ่านว่า “ศ็อลลัลลอฮุอะลยั ฮวิ ะ สลั ลัม” เป็นพรภาวนาที่มสุ ลมิ กลา่ วต่อทา้ ยเมอ่ื
กล่าวถงึ นามของศาสนทตู มฮุ ัมมดั

293

ละหมาดเพ่อื ทดแทนจากน้ำจดื ที่มแี คเ่ พยี งพอท่จี ะใชด้ ม่ื ในการเดนิ ทางทาง
ทะเลของเขาเท่านน้ั ทา่ นนบีมฮุ มั มัด ‫ ﷺ‬จึงได้กล่าววา่

"ُ‫ ا ْلِ ُّل َميْتَتُه‬،ُ‫" ُهَو ال َطُّهْوُر ماَُؤه‬
ความวา่ “น้ำทะเลสะอาดและสัตวท์ ะเลทตี่ ายก็เป็นสง่ิ ท่ี
ฮะลาล”(Abū Dāwud, 2009, p. 62)

จากแหล่งที่มาของน้ำทั้งสองนี้นักนิติศาสตร์อิสลามจึงได้มี
ความเห็นว่า น้ำบ่อ น้ำแม่น้ำ น้ำตาน้ำ น้ำแข็งและน้ำลูกเห็บถือเป็นนำ้ ท่ี
สำมำรถใชท้ ำควำมสะอำดได้เหมือนกับน้ำฝนและน้ำทะเล เพรำะมี
แหลง่ ท่ีมำจำกฟำ้ และไดม้ ำจำกแผ่นดิน

นำ้ ไดถ้ กู แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
1. นำ้ ท่ไี ม่เปลย่ี นสภาพไปจากเดิมทั้งสี กล่ิน และรสชาติ เป็นน้ำท่ี
สะอาดและใช้ทำความสะอาดสิ่งอน่ื ได้ เรยี กว่า “นำ้ มตุ ลัก (‫”)الْ َماءُ الْ ُمطْلَ ُق‬
2. นำ้ ทต่ี ากแดดจนร้อน เป็นนำ้ ทีส่ ะอาดและใช้ทำความสะอาดสิ่ง
อื่นได้ แต่มักรูฮ์(สมควรที่จะละทิ้ง)การใช้น้ำนี้ด้วยเงื่อนไขดังนี้ 1.อยู่ใน
ประเทศเขตร้อน 2.อยู่ในภาชนะที่เกิดสนิมได้ 3.นำมาใช้กับร่างกาย น้ำ
ประเภทนีถ้ กู เรียกวา่ “นำ้ มชุ ำมัส (‫”)الْ َماءُ الْ ُم َش َّم ُس‬
3. น้ำที่ถูกใช้ในการทำความสะอาดแล้ว เช่นน้ำที่ใช้อาบน้ำ
ละหมาดแลว้ โดยปรมิ าณของน้ำไม่ถึง 2 กลุ ละฮ์3 น้ำประเภทนี้ถูกเรียกว่า

3 นำ้ 2 กลุ ละฮ์ คอื น้ำมีปรมิ าตร 216 ลิตร (สมาคมครุ สุ ัมพนั ธอ์ ิสลามแห่งประเทศ
ไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ,์ 2563 น.34)

294

“น้ำมุสตะอ์มัล (ُ‫ ”)الْ َماءُ الْ ُم ْستَ ْع َمل‬เป็นน้ำที่สะอาดแต่ทำความสะอาดส่ิง
อนื่ ไมไ่ ด้

4. น้ำที่ปนเปื้อนนะยิส (‫)الْ َماءُ الْ ُمتَنَ ِج ُس‬4 โดยปริมาณน้ำไม่ถึง 2
กุลละฮ์ หรือน้ำนัน้ มีปริมาณเกนิ กว่า 2 กุลละฮ์ แต่สภาพของน้ำเปลีย่ นไป

จากเดิมทัง้ สี กลนิ่ และรสชาติ เป็นนำ้ ทไ่ี มส่ ะอาด (Al-Kin, Al-Bughā and

Al-Sharbajĩ, 2013, p. 31)

น้ำ 3 ประเภทแรกนั้นเป็นน้ำที่สะอาดแต่ใช่ว่าจะใช้ทำความ

สะอาดได้ทั้งหมด มีเพียงน้ำประเภทแรกที่เรียกว่า “น้ำมุตลัก” ที่ใช้ทำ

ความสะอาดได้และน้ำประเภทท่ีสองทีเ่ รยี กว่า “น้ำมุชำมัส” ซึ่งไม่สมควร

นำมาใช้กับร่างกาย ส่วนน้ำประเภทที่สามที่ถูกเรียกว่า “น้ำมุสตะอ์มัล”

เป็นน้ำสะอาดที่ใช้บริโภคได้แต่ก็ไม่สามารถนำไปใช้ทำความสะอาดได้

และน้ำประเภทสุดท้ายเรียกว่า “น้ำปนเปื้อนนะยิส” คือน้ำที่มีการ

ปนเปื้อนสิ่งสกปรกตามศาสนบัญญัติจะใช้ทำความสะอาดไม่ได้ เพราะถ้า

หากนำไปซักเสอื้ ผ้ากจ็ ะทำให้เสื้อผ้านั้นเปอ้ื นนะยสิ ไปดว้ ย

การทำความสะอาดส่ิงสกปรกด้วยนำ้ มอี ยู่ 2 ประเภท

1.การทำความสะอาดนะยิส ถ้าหากเป็นสิ่งสกปรกระดับรุนแรง

(นะยิสมุฆอลละเซาะฮ์) เช่น สุนัข และสุกร ท่านนบีมุฮัมมัด ‫ ﷺ‬ใช้ให้ล้าง

ภาชนะท่ถี กู สนุ ขั เลียว่า ‫أََمََّحرا ِدُكتْمأُإِوَذَلاُهََوّلَن َغِبلفِْيُِْتَها الِْبَ"كْل ُب‬ ‫إََن ِء‬
‫َسْب َع‬
‫أَ ْن‬ ‫يَ" ْغطَُِسهلَْوهُُر‬

4 นะยสิ คือสิ่งสกปรกทศี่ าสนาอิสลามไดก้ ำหนดไว้ เช่น เลอื ด อาเจยี น ปสั สาวะ
อุจจาระ สนุ ัข และสุกรเปน็ ต้น

295

“การทำความสะอาดภาชนะของพวกทา่ นทส่ี นุ ัขไดเ้ ลยี
จะต้องล้างดว้ ยนำ้ 7 คร้งั โดยในคร้ังแรกต้องใชน้ ำ้ ผสม
ดนิ 1 คร้ัง” (Muslim,1991, p. 234)

การทำความสะอาดสิ่งที่สัมผัสกับสุกรนั้นใช้วิธีเดียวกันกับสุนัข
โดยใช้หลักการเทยี บเคียง(กยิ าส) ซึง่ สุนัขและสุกรถอื เป็นสง่ิ สกปรกท่ีอยู่ใน
ระดบั เดียวกนั

หากเป็นสิ่งสกปรกระดับปานกลาง (นะยิสมุตะวัซซิเตาะฮ์) เช่น
ปัสสาวะ อุจจาระ ท่านนบีมุฮัมมัด ‫ ﷺ‬ได้ใช้บรรดาสาวกให้ทำการราดน้ำ
ลงบนพื้นมัสยิด(โดยที่พื้นมัสยิดเป็นพื้นทราย) ที่เปื้อนปัสสาวะหน่ึง
กระป๋อง(Muslim,1991, p. 236) การล้างนะยิสชนิดนี้จะต้องให้น้ำล้าง
ผ่านสิ่งที่เปื้อน โดยจะต้องชำระให้ตัวนะยิส และลักษณะต่าง ๆ ของตัว
นะยิสให้หมดไปทั้งในลักษณะของสี กลิ่น และรสชาติ และถ้าหากเป็นสิ่ง
สกปรกระดบั เบาบาง (นะยสิ มุคอฟฟะฟะฮ์) เช่นปัสสาวะของทารกผู้ชายท่ี
ไม่ได้รับประทานสิ่งใดเป็นอาหารนอกจากน้ำนมเพียงอย่างเดียว สามารถ
ชำระล้างร่องรอยปัสสาวะดงั กลา่ วโดยการใชน้ ้ำพรมลงไปบนสิ่งทีเ่ ป้ือนให้
ทว่ั แลว้ เช็ดออก (Al-Kin, Al-Bughā and Al-Sharbajĩ, 2013, p. 40)

2.การทำความสะอาดเพือ่ การประกอบศาสนกิจ
2.1 การอาบน้ำละหมาด (วุดูอ์ ꓽ ُ‫ ) الُْو ُضْوء‬คือการใช้น้ำทำความ
สะอาดกับอวัยวะทั้ง 4 ได้แก่ ใบหน้า มือและแขนทั้งสองข้าง ศีรษะ และ
เทา้ ทง้ั สองข้าง (Muḥammad, Al-Sayyid, 2000, p. 29)

296

การอาบน้ำละหมาดเป็นข้อกำหนดที่จำเป็นสำหรับผู้ที่จะทำการ

ละหมาดตามท่ีอัลลอฮไ์ ดท้ รงดำรสั ไวว้ ่า
‫إََِل ال َّصَلِة فَا ْغ ِسلُوا‬ ‫َُووأَ﴿ُْرجَُجَويلََهُأكَيُُكّْمْمَهإِاَََولاأََلّياْلِْذِديَيكََْعنُبَكْْْمآِيَم ۚإِنََُوا﴾ل‬
‫َوا ْم َس ُحوا بُِرءُو ِس ُك ْم‬ ‫إِاذَلْاَمَقرُا ْفِمتُِقْم‬

ความว่า “ผู้ศรัทธาทั้งหลาย เมื่อพวกเจ้ายืนข้ึน

ละหมาดก็จงล้างหน้าของพวกเจ้า และมอื ของพวกเจ้า

จนถึงข้อศอก และจงลูบศีรษะของพวกเจ้า และล้าง

เท้าของพวกเจ้าจนถึงตาตุ่ม” (อัลกุรอาน 5 ꓽ 6;
สมาคมนักเรียนเก่าอาหรบั ประเทศไทย,2545 น. 242)

จากคำดำรสั น้ีไดน้ ำพาไปสู่การกำหนดส่งิ ท่ีจำเป็น (ฟัรดู ꓽ ‫)فَْرض‬
ในการอาบน้ำละหมาดดังน้ี

1. ตั้งเจตนา5 ในขณะเมื่อล้างส่วนแรกของใบหน้า (Al-Kin, Al-

Bughā and Al-Sharbajĩ, 2013, p. 54) ทา่ นนบีมฮุ มั มดั ‫ ﷺ‬ได้กล่าวว่า
"‫"إَِّّنَا اْلَ ْع َما ُل ِبلْنِيَا ِت َوإَِّّنَا لِ ُك ِل اِْمِرئ َمانََوى‬

ความว่า “แท้จริงการกระทำต่าง ๆ ที่จะมีผลใช้ได้นั้น
ต้องมีการตั้งเจตนา และแท้จริงแต่ละคนนัน้ ยอ่ มได้รบั

ตามส่งิ ท่ีตนต้งั เจตนา”(Al-Bukharĩ, 2002, p. 7)

5 คือการตั้งใจพร้อมกับลงมือปฏิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องกระทำในทุก ๆ สิ่งที่เป็น
ศาสนกิจ

297

2. ล้างทั่วใบหน้า ต้องทำการล้างให้ทั่วขอบเขตของใบหน้า เริ่ม
ตั้งแต่โคนผมที่หน้าผากจรดใต้คาง และพื้นที่ระหว่างหูทั้งสองข้างเริ่มจาก
ตงิ่ หขู ้างหน่ึงจรดติ่งหอู กี ขา้ งหนึ่ง

3. ล้างมือทั้งสองข้างจนถึงข้อศอก โดยจำเป็นต้องให้น้ำล้างเส้น
ขนและผิวหนังทั้งหมด หากมีสิ่งใดกัน้ น้ำไม่ให้สมั ผัสกับผิวหนังการอาบน้ำ
ละหมาดนัน้ ถือวา่ ไมถ่ กู ต้อง

4. เช็ดศีรษะ คือการเช็ดเส้นผมที่อยู่ในเขตของศีรษะแม้จะเป็น
การเช็ดเพียงผมเส้นเดียวตามทัศนะของมัซฮับชาฟีอี(Al-Jazĩlĩ, 2003,
vol1, p. 57)

5. ล้างเท้าทั้งสองข้าง คือการใช้น้ำล้างบริเวณเท้าจนเลยเขตของ
ตาตมุ่ ให้ทั่วผวิ หนงั ตลอดจนรอยแตก และซอกตา่ ง ๆ ท่เี ล็บเพราะหากล้าง
ไมท่ ัว่ เขตดังกล่าวก็จะทำให้การอาบนำ้ ละหมาดน้นั ไมถ่ ูกต้อง

6. เรียงตามลำดับ คือการปฏิบัติโดยมีการเรียงลำดับขั้นตอนต่าง
ๆ ในการอาบน้ำละหมาดอย่างเป็นระบบ (กอ่ น-หลงั ) ตามทีถ่ กู กลา่ วเอาไว้
ในพระดำรัสของอัลลอฮ์ และการปฏบิ ัตขิ องท่านนบมี ุฮัมมัด ‫ﷺ‬

2.2 การอาบนำ้ (‫ )الْغُ ْس ُل‬คือการทำความสะอาดดว้ ยการให้น้ำไหล
ผ่านทั่วร่างกาย พร้อมมีตั้งเจตนาเจาะจงการอาบน้ำ (Al-Kin, Al-Bughā
and Al-Sharbajĩ, 2013, p. 62)

การอาบน้ำเป็นบัญญัติทางศาสนาที่มีหลักฐานมาจากคำสอน
ของอัลกุรอานทวี่ ่าผทู้ ี่รักความสะอาดและทำให้ตนเองสะอาดอยูต่ ลอดเป็น
บคุ คลท่ีอัลลอฮท์ รงรัก

﴾‫﴿ إِ َّن اََّّللَ ُُِي ُّب الَتَّّوابَِْي َوُُِي ُّب الْ ُمتَطَِهِري َن‬

298

ความว่า “แท้จริงอัลลอฮ์ทรงชอบบรรดาผู้สำนึก
ผิด กลับเนื้อกลับตัว และทรงชอบบรรดาผู้ที่ทำ

ตนให้สะอาด” (อัลกุรอาน 2 ꓽ 222; สมาคม
นักเรยี นเกา่ อาหรับประเทศไทย,2545 น. 72)

﴾ ‫﴿ َوَل ُجنُبًا إَِّل َعابِِري َسبِيل َحَّٰت تَغْتَ ِسلُوا‬
ความว่า “และก็จงอย่าเข้าใกล้การละหมาด
ขณะที่เป็นผู้มีญะนาบะฮ์6 นอกจากผู้ที่ผ่านทาง

ไปเทา่ นนั้ จนกวา่ พวกเจา้ จะอาบน้ำ” (อัลกุรอาน

4 ꓽ 43; สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย

,2545 น. 189)
คำวา่ (‫ ) َحَّٰت تَ ْغتَ ِسلُوا‬เป็นหลกั ฐานยืนยนั ว่า ขอ้ ปฏบิ ัติของผู้มีญุนุบ
ยังคงมีอยูจ่ นกว่าจะอาบน้ำเสร็จ (Al-Khāzin, 2004, p. 379)
และการอาบน้ำถือเป็นหน้าที่อันหนึ่งของมุสลิมที่จะต้องปฏิบัติ

เนื่องจากศาสนกิจบางอย่าง เช่น การละหมาด มีความสะอาดของร่างกาย
เป็นเงื่อนไขที่ทำให้การปฏิบัติศาสนกิจนั้นถูกต้องและถือว่าใช้ได้ตาม

หลกั การโดยทา่ นนบีมุฮัมมัด ‫ ﷺ‬ได้กลา่ ววา่
‫َسبْعَِة‬ ‫أَ ْن يَ ْغتَ ِس َل‬ ُ‫يَعَغْلَ ِىس ُلُك ِفِلْيِهُم َرأْْسلَِسمه‬
‫أََّيم‬ ‫ُك ِل‬ ‫ِف‬ "ُ‫َو َج َس َده‬ ‫" َحق‬
،‫يَْوًما‬

6 มอี สจุ ิหลง่ั ออกมาจะด้วยเหตุใดกต็ ามหรอื การมีเพศสัมพันธ์

299

“เป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคนจะต้องอาบน้ำให้ทวั่
ศีรษะและร่างกายอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์”

(Muslim,1991, p. 378)
นักวิชาการอิสลามจึงมีมติว่า การอาบน้ำที่เป็นเงื่อนไขทำให้การ
ปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ ถูกตอ้ งตามหลกั การถอื เป็นสง่ิ ทจ่ี ำเป็นตอ้ งปฏบิ ตั ิ(ฟัรดู) แต่
ถ้าหากว่าเป็นการอาบน้ำโดยทั่วไปถือเป็นสิ่งที่ศาสนาส่งเสริมให้กระทำ
(มสุ ตะฮับ)
การอาบนำ้ ในคำสอนของอิสลามมีอยู่ 2 ประเภท
1. การอาบน้ำที่เป็นสิ่งจำเป็นต้องปฏิบัติ (ฟัรดู ꓽ ‫ )الْ َمْفُرْو ُض‬คือ
การอาบน้ำเมื่อมีสาเหตุของการอาบน้ำเกิดขึ้น โดยสาเหตุที่จำเป็นต้อง
อาบนำ้ ได้แก่
1.1 มีญุนุบ (‫ )ا ْلُنُب‬ได้แก่คนที่ร่างกายไม่สะอาดเนื่องจากมีการ
หลั่งอสุจิ หรือร่วมประเวณี คนที่อยู่ในสภาพนี้เขาไม่สามารถปฏิบัติ
ศาสนกิจบางอย่างได้ เช่น การละหมาด การตอวาฟ7 และการสัมผัสอัลกุ
รอาน จนกว่าเขาจะทำการอาบน้ำทำความสะอาดเนื่องจากการมีญุนุบ
เสียก่อน
1.2 การมรี อบเดือน (ฮัยด์ ꓽ ‫ )ا ْلَيْ ُض‬ผหู้ ญิงท่ีอยใู่ นช่วงรอบเดือน
เธอจะถูกหำ้ มในกำรทำกำรละหมำด กำรถือศีลอด กำรอ่ำนอลั กุรอำน
กำรตอวำฟ กำรผำ่ นเขำ้ ไปในมสั ยิด และกำรรว่ มประเวณี

7 การตอวาฟ คือการเดินเวียนรอบวิหารกะบะฮ์ ที่มัสยิด อัลหะรอม ประเทศซาอุดิ
อารเบยี

300

1.3 กำรคลอดบุตร (วิลำดะฮ์ ꓽ ُ‫ )ال ِوَل َدة‬ผู้หญิงที่คลอดบุตรไม่ว่า
จะคลอดดว้ ยวิธีใดก็ตามมีขอ้ หา้ มเหมอื นกับคนทีม่ ีญนุ บุ

1.4 น้ำคาวปลา (นิฟาส ꓽ ‫ )الْنَِفا ُس‬หมายถึงเลือดที่ออกมาถัดจาก
การคลอดบุตร ผู้หญิงที่อยู่ในสภาพนี้จะมีข้อห้ามเหมือนกับผู้หญิงที่ที่อยู่

ในช่วงของการมรี อบเดอื น

1.5 การตาย คือเมอื่ มุสลมิ คนหน่ึงไดเ้ สยี ชีวติ จำเปน็ บนบุคคลท่ีมี

ชีวิตอยู่จะต้องอาบน้ำศพ นอกจากผู้ที่เสียชีวิตในสมรภูมิศาสนาที่ไม่ตอ้ งมี

การอาบนำ้ ศพ (Al-Kin, Al-Bughā and Al-Sharbajĩ, 2013, p. 73)

ดังนั้นบุคคลใดก็ตามท่ีมีญุนุบ การมีรอบเดือน การคลอดบุตร

และมีน้ำคาวปลา เขาไม่สามารถจะปฏิบัติศาสนกิจที่มีความสะอาดเป็น

เงื่อนไขได้ เนื่องจากมีข้อห้ามในปฏิบัติ ซึ่งข้อห้ามดังกล่าวจะหายไปด้วย

การอาบนำ้ ทำความสะอาดจากสาเหตุดังกล่าว

2. การอาบน้ำท่ีได้รับการส่ิงส่งเสรมิ ให้กระทำ (สุนัต ꓽ ُ‫)الْ ُم ْستَ َحَبّة‬
ถ้าไม่กระทำก็ไม่ส่งผลใดต่อการปฏิบัติศาสนกิจ และไม่ได้รับการตำหนิ

หรอื การลงโทษใด ๆ ซึง่ การอาบน้ำประเภทนี้มีดังน้ี

2.1 การอาบน้ำวันศุกร์ เป็นสิ่งที่ส่งเสริมเฉพาะบุคคลที่มีความ

ประสงค์ไปรว่ มละหมาดวนั ศกุ ร์ให้กระทำ เพอื่ ให้การรวมตัวของพวกเขาใน

วันศกุ ร์จะไดเ้ กิดภาพลกั ษณท์ ่ีดีที่สะอาด ทา่ นนบมี ุฮมั มัด ‫ ﷺ‬ไดส้ งั่ ใช้ว่า
.‫َو ِس َواك‬ ‫ُْمتَلِم‬ ‫َوَعالَِْيجِه"ب‬ ‫ا ْلُُمعَِة‬ ‫ِ"م َغَن ْاسل ُلِطييَِْوِبم‬
‫َوَيَس‬ ‫ُك ِل‬ ‫عَلَى‬ ‫َما قََدَر‬

ความว่า “การอาบน้ำวันศุกร์และการแปรงฟันเป็นส่ิง

ที่ส่งเสริมกับผู้บรรลุศาสนภาวะ และเขาจะต้องใส่

301

น้ำหอมเท่าที่สามารถกระทำ” (Muslim, 1991, p.
581)

2.2 การอาบน้ำในวันอีดทั้งสอง (อีด้ิลฟิตร์ และอีดิ้ลอัฎฮา) เป็น
การอาบน้ำที่ศาสนาส่งเสริมให้กระทำเช่นเดียวกับการอาบน้ำวันศุกร์ แต่
แตกต่างจากการอาบน้ำวันศุกร์ตรงที่ศาสนาสนับสนุนให้ทุกคนทำการ
อาบน้ำเนื่องในวันอีดไม่เพียงแต่เฉพาะผู้ที่มีความประสงค์จะไปทำการ
ละหมาดอีดท่ีมสั ยดิ เท่าน้ัน เพือ่ ทกี่ ารรวมตัวของพวกเขาในวันอดี จะได้เกิด
ภาพลักษณท์ ีด่ ที ี่สะอาด

2.3 การอาบน้ำภายหลังจากการอาบน้ำศพ เป็นที่ส่งเสริมให้
กระทำสำหรับบุคคลทท่ี ำการอาบน้ำศพ

2.4 การอาบน้ำต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิธีฮัจญ์ ศาสนาส่งเสริมให้
บุคคลที่ประกอบพิธีฮัจญ์ทำการอาบน้ำในช่วงเวลาประกอบพิธี ตั้งแต่การ
อาบน้ำเพื่อเข้าพิธีฮัจญ์ (เอี๊ยะห์รอม) การอาบน้ำเพื่อเข้าสู่เมืองมักกะฮ์
การอาบน้ำเพื่อวุกูฟที่อะรอฟะฮ์ (Muḥammad and Al-Sayyid, 2000,
p. 70)

การอาบน้ำทั้งที่เป็นฟัรดู และสุนัตนั้น จะต้องมีการตั้งเจตนาใน
การปฏิบัติ มีการขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย และต้องอาบน้ำให้ทั่ว
เรือนรา่ ง เพราะเป็นเงือ่ นไขทจ่ี ะทำให้การอาบนำ้ นั้นถูกต้องตามหลักการ

นอกเหนือไปจากการท่ีอิสลามกำหนดให้น้ำเป็นสิ่งที่ใช้ทำความ
สะอาดแล้ว อิสลามยังได้กำหนดข้อควรละทิ้งในการใช้น้ำเช่นเดียวกันอัน
ไดแ้ ก่

1. การใช้น้ำในปริมาณที่มากเกินไปในการอาบน้ำ เพราะเป็นการ
ใช้ทรัพยากรน้ำอย่างสิน้ เปลืองโดยไมม่ ีความจำเป็น และเป็นการกระทำท่ี

302

ไม่ใช่แนวทางของท่านนบีมุฮัมมัด ‫ ﷺ‬ซึ่งท่านได้เคยใช้น้ำ 4-5 ลิตรในการ
อาบนำ้ และใชน้ ้ำเพียง 1 ลิตร ในการอาบนำ้ ละหมาดเทา่ นัน้

2. การลงอาบนำ้ ในน้ำทีน่ ่ิง เปน็ การกระทำที่ควรละท้ิงเพราะอาจ
ทำให้นำ้ น้นั เป็นน้ำมสุ ตะอ์มั้ลไม่สามารถทำความสะอาดส่ิงอ่ืนได้ถ้าหากว่า
น้ำนั้นมีน้อยกว่า 2 กุลละฮ์8 จนกลายเป็นการสูญเสียน้ำสะอาดโดยไร้
ประโยชน์ ท่านนบีมุฮัมมัด ‫ ﷺ‬ได้กำชับว่าจะต้องไม่มีการปัสสาวะและ
อาบนำ้ ญนุ บุ ในนำ้ ท่นี ิง่ (Al-Imrānĩ, 2006, vol.1,p. 256)

3. นำ้ คือความเมตตาจากอัลลอฮ์
อัลลอฮ์ได้ทำให้นำ้ เป็นแหล่งที่มาของทุกชีวิตทัง้ หลายบนโลกใบน้ี

และเป็นสิ่งที่ใช้อุปโภคและบริโภคที่สำคัญของมนุษย์ สัตว์ หรือพืชพันธ์ุ
เพ่ือดำรงชวี ติ

﴾‫﴿َو َجَعْلنَا ِم َن الْ َماِء ُك َّل َش ْيء َحي ۖ أَفََل يُْؤِمنُوَن‬
“และได้ทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตมาจากน้ำ ดังนั้นพวกเขาจะ

ยังไม่ศรัทธาอีกหรือ” (อัลกุรอาน 21 ꓽ 30; สมาคม
นักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย,2545 น. 774)

3.1 น้ำเป็นสิ่งที่ใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ ผ่านการดื่มและอาบไม่
วา่ จะเปน็ นำ้ รอ้ นหรือเย็น โดยอลั ลอฮไ์ ด้ดลบันดาลให้น้ำเป็นสื่อที่ใช้ในการ
รักษาโรคทนี่ บีอยั ยบู 9ไดป้ ระสบ

﴾‫﴿اْرُك ْض بِِر ْجلِ َك َٰه َذا ُم ْغتَ َسل َب ِرد َو َشَراب‬

8 น้ำ 2 กลุ ละฮ์ คือนำ้ มปี ริมาตร 216 ลิตร (สมาคมครุ สุ มั พันธอ์ สิ ลามแห่งประเทศ
ไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์,2563 น.34)
9 หน่งึ ในศาสดาของศาสนาอสิ ลาม

303

“จงกระทืบ (แผ่นดิน) ด้วยเท้าของเจ้า นี่คือน้ำเย็น
สำหรับอาบชำระล้าง และสำหรับดื่ม” (อัลกุรอาน 38

ꓽ 42; สมาคมนักเรยี นเก่าอาหรับประเทศไทย,2545 น.
1158)

เมื่อนบีอัยยูบได้ทำการกระทืบเท้าลงที่แผ่นดิน น้ำตาน้ำก็ได้พุ่ง
ไหลออกมา เขาจึงได้ใช้น้ำนั้นชำระร่างกายทำให้โรคภายนอกร่างกายได้
หายไป แล้วเมื่อเขาได้ดื่มน้ำนั้นโรคภายในร่างกายของเขาก็ได้หายไป
เช่นกัน (Al-Qurṭubĩ, 2006, Vol.18, p.216)

3.2 น้ำคือความผาสุกในสวรรค์ สวรรค์เป็นรางวัลสูงสุดของผู้
ศรัทธาที่ยืนหยัดในหลักการของศาสนา อัลลอฮ์ได้ทรงดำรัสไว้ในหลาย
โองการของอัลกุรอานถึงลักษณะต่าง ๆ ของสวรรค์ที่ถูกตกแต่งด้วยแมน่ ำ้
และตาน้ำหลายสาย เพื่อแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ และความเขียวขจี
ของพืชพันธุ์ ธัญญาหารในสวรรค์ เปน็ การยนื ยันถึงความผาสขุ ของทุกชีวิต
ในสวรรค์ พระองคไ์ ด้ทรงดำรัสว่า

‫الِآَمللَاث﴿ِّسََءًَّمّمشثََانراَِْرُلِبحَِِويأْتاًََْمْينْاََلَواَنَّمَفروَِةأغََْقِْْفاِنمََلََّطراّةِنَرعتَِملّأَُِمََْومنبعِعَْنَاّرََدِّءَّلْبِعَُاهْملْيَْمَۖتَسُمَتّغََ﴾كلَيُّقَْرمُوّمْنَنطََۖصْعًُهّففَُِمويىهَُهۖاَخَواأََألَوَِْْْْنََلندَُااْمرِرففِِمِيمالَْهَنننّاا ََِرّمَِمخاَْءرون َُلسُّكغََُقّذْيِوِةلرا‬
“อุปมาของสวนสวรรค์ซึ่งบรรดาผู้ยำเกรงได้ถูกสัญญา
ไว้ในสวนสวรรคน์ ้ันมธี ารน้ำหลายสายที่ไม่ผันแปร (ท้ัง
รสและกลิน่ ) และธารนำ้ นมหลายสาย ท่ีรสชาติของมัน

304

ไม่เปลี่ยนแปลง และธารน้ำจัณฑ์ (เหล้า) หลายสาย
เป็นรสชาติที่ดีแก่ผู้ดื่ม และธารน้ำผึ้งที่สะอาดบริสุทธิ์
หลายสาย และสำหรับพวกเขาในสวนสวรรค์นั้นมี
ผลไม้หลายชนิด และการอภัยโทษจากพระเจ้าของ
พวกเขาจะเหมือนกบั ผู้ที่พำนักอยใู่ นไฟนรก และถูกให้
ดื่มน้ำร้อนจัดแล้วมันตัดลำไส้ของพวกเขากระนั้นหรือ

(อัลกุรอาน 47 ꓽ 15; สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ
ประเทศไทย,2545 น. 1324)

3.3 เครื่องด่ืมของชาวสวรรค์ เป็นน้ำทส่ี ะอาดบริสุทธ์ิจะชำระล้าง
สิ่งทพ่ี วกเขาได้ดม่ื กินและขบั สง่ิ น้นั ออกมาเปน็ เหง่ือท่ีมีกลนิ่ หอมเหมือนกับ
กลน่ิ ของชะมดเชียง (Al-ṭabrĩ, 2001, Vol.23,p. 569)

4. นำ้ เป็นส่ิงทีอ่ ัลลอฮ์ใชล้ งโทษ
อัลกุรอานได้ถ่ายทอดเรื่องราวของกลุ่มชนต่าง ๆ ท่ีได้รับการ

ลงโทษจากพระองค์โดยทรงเปลี่ยนน้ำที่มาจากความเมตตาเป็นน้ำที่ใช้ใน
การลงโทษ เพือ่ เป็นขอ้ เตอื นใจใหแ้ กค่ นรุ่นหลงั

4.1 น้ำท่วม (ตูฟาน ꓽ ‫ )طُْوفَان‬เป็นเหตุการณ์ที่ประสบกับกลุ่มชน
ของนบีนูฮ์ หลังจากที่ท่านได้เรียกเชิญชวนพวกเขาไปสู่การเคารพภักดี
ต่ออัลลอฮ์เพียงองค์เดียวเป็นเวลา 950 ปี พวกเขามิได้ตอบรับการ
เรียกร้องแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังได้วางแผนที่จะทำลายการ
เรียกร้องนี้อีกด้วย ดังนั้นท่านนบีนูฮ์จึงได้ขออัลลอฮ์อย่าปล่อยให้พวก
ปฏิเสธศรัทธาหลงเหลืออยู่ในแผ่นดินนี้ พระองค์จึงได้ตอบรับคำขอและ
ทรงให้เกิดนำ้ ทว่ มฉับพลัน(Al-Qurṭubĩ, 2006, Vol.21, p.267)

305

‫اْلَْر َض‬ ‫َوفَ َّجْرََن‬ ‫قُُّمِدنَْرَه﴾ِمر‬ ‫ِِبَاء‬ ‫ال َّس َماِء‬ ‫﴿ فَ َفتَ ْحنَا أَبْ َوا َب‬
‫قَ ْد‬ ‫َعلَ ٰى أَْمر‬ ُ‫عُيُوًَن فَالْتََقى الْ َماء‬
“ดังนั้น เราจึงได้เปิดประตูแห่งชัน้ ฟ้าให้น้ำฝนเทลงมา

อย่างหนัก และเราได้ทำให้แผ่นดินแยกออกเป็นตาน้ำ

ไหลพุ่ง ดังนั้น น้ำฝนและตาน้ำได้มาบรรจบกันตาม

กิจการที่ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว” (อัลกุรอาน 54 ꓽ 11;
สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย,2545 น.
1404)

อัลลอฮ์ได้ลงโทษผูป้ ฏิเสธท้ังหลายโดยให้เกิดน้ำท่วมเพื่อท่ีจะขจัด

กลุ่มชนที่เย้ยหยันคำสอนและปฏิเสธศรัทธาให้หมดไป และพระองค์ได้
เมตตาช่วยให้ท่านนบีนูฮ์และผู้ที่ศรัทธาให้รอดพ้นจากการลงโทษนี้ด้วย

การอาศยั อยู่บนเรอื ลำใหญท่ ท่ี ่านนบนี ูฮส์ รา้ งขึ้นตามคำบัญชาของพระองค์
4.2 การจมน้ำของฟิรเอาน์(ฟาโรห์)และทหารของเขา เป็น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มชนของนบีมูซา ขณะนบีมูซาได้นำพากลุ่มชน
ของตนเองหนีจากการกดขี่ของฟิรเอาน์ที่บังคับให้ทุกคนต้องเคารพ

สักการะตนตามคำบัญชาจากอัลลอฮ์เพื่อเดินทางไปยังดินแดนปาเลสไตน์
ในตอนกลางคนื เม่อื ฟริ เอานท์ ราบข่าวจึงได้จัดกองทหารติดตามไปในตอน

เช้า ซึ่งกองทหารของเขากไ็ ดต้ ดิ ตามมาทนั นบีมซู าและกล่มุ ชนของท่าน
‫فَُم﴿وَكفَاَأسََْنوٰىَحُكيَْونََُمّلانفِإَِْرََّمٰلقعَهُُمَكأاَولَْْسجََطّٰعِْىوِْدأََياِنلََُْعَثّاِأظَيْضْغِمَِررقْنََوباأَْزلابَِْْفعَلنَاََصخاَِرَيثَّكَناْاللْ﴾بََخْحِريَر َۖن‬
‫فَانَفلَ َق‬
‫َوأَنجَيْنَا‬

306

“ดังนั้นเราได้ดลใจมูซาว่า “จงฟาดทะเลด้วยไม้เท้า
ของเจ้า” แล้วมันก็ได้แยกออก แต่ละข้างมีสภาพ
เหมือนภูเขาใหญ่ และเราได้ให้พวกอื่น ให้เข้ามาใกล้
ณ ที่นั้น และเราได้ให้มูซาและผู้ที่อยู่ร่วมกับเขา
ทั้งหมดรอดพ้นไป และเราได้ให้พวกอื่น จมน้ำตาย”

(อัลกุรอาน 26 ꓽ63-66; สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ
ประเทศไทย,2545 น. 899)

อัลลอฮ์ทรงทำให้น้ำทะเลแยกออกเป็นทางเดินให้แก่พวกเขา
ดังนั้นเมื่อนบีมูซาและกลุ่มชนของเขาได้เดินผ่านพ้นไป ฟิรเอาน์พร้อม
ทหารของเขาก็ได้เดินเข้าไปในทะเล อัลลอฮ์จึงทรงให้ทะเลกลบพวกเขา
จนกระทั่งพวกเขาจมน้ำตายทั้งหมด (Al-Qurṭubĩ, 2006, Vol.16, p.23)
โดยไม่มีใครที่จะรอดพ้นจากการลงโทษนี้ได้ เหตุการณ์นี้อัลลอฮ์ได้ทรง
รักษาเรือนร่างของฟิรเอาน์เอสไว้ไม่ให้สูญหายและถูกปลากัดกินเป็น
อาหารเพื่อเป็นอทุ าหรณ์แกก่ ลุม่ ชนรนุ่ หลัง

4.3 การไดร้ บั โทษของชาวเมอื งสะบะอ์ (ُ‫)الْ َّسبَأ‬
สะบะอ์เป็นอาณาจักรเยเมนโบราณ อัลลอฮ์ทรงกล่าวถึงสภาพ
ความเป็นอยู่ของชาวเมืองที่ได้รับความเมตตาจากพระองค์ มีบ้านเรือน
ห้อมล้อมไปดว้ ยสวนท่ีมีอยู่ท้ัง 2 ดา้ นทัง้ ทางดา้ นขวาและทางด้านซ้ายของ
หุบเขา เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำฝน ชาวเมืองได้สร้างเขื่อนเพื่อเก็บ
กักน้ำและแจกจ่ายน้ำไปยังสวนต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ผลผลิตออกมาเพียงพอ
ในการบริโภค และพระองคไ์ ด้ทรงใหพ้ วกเขาใชป้ ระโยชน์จากสง่ิ ท่ีพระองค์
ทรงประทานให้โดยเป็นผู้ที่สำนึกในพระเมตตา แต่เมื่อชาวเมืองกลับไม่

307

สำนึกถึงพระเมตตาและปฏิเสธการเคารพสักการะต่อพระองค์ อัลลอฮ์จึง
ได้ลงโทษด้วยการปล่อยน้ำจากเขื่อนให้ท่วมเมืองเพื่อทำลายไร่สวนและ
บา้ นเรอื นของพวเขา (Al-Saadĩ, 2002, p. 795)

‫َج﴿َنّفَتَأَْْْعِيَرذَُضَواواََْتفَأأَُْرُكَسلْلنَاََخَْعلَطيْ ِهَوأْمَثْلَسْيَوَلَشاْلْيعَءِرِمِمنَوبََِّدسلْْنَدارُهقَملِيِِبَلَنّتَ﴾يْ ِه ْم‬
“แตพ่ วกเขาไดผ้ ินหลัง ดงั นัน้ เราจึงปลอ่ ยน้ำจากเข่ือน
ให้ท่วมพวกเขา และเราได้เปลี่ยนให้สวนสองแห่งของ
พวกเขา แทนสวนอีกสองแห่ง มผี ลไม้ขมและต้นไม้พุ่ม
และต้นพุทราบ้างเล็กน้อย” (อัลกุรอาน 34 ꓽ16;
สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย,2545 น.
1071)

จากเหตุการณ์ที่อัลกุรอานได้เล่ามาน้ี เป็นอุทาหรณ์ให้แก่กลุ่มคน
รุ่นหลังได้ถอดบทเรียนว่า น้ำที่อัลลอฮ์ทรงประทานลงมาให้เป็นปัจจัยใน
การใช้ชีวติ พระองค์ทรงสามารถเปลีย่ นใหเ้ ปน็ สิ่งท่ีใชล้ งโทษมนุษย์เมื่อเขา
น้ันไม่สำนึกถึงพระเมตตา และปฏเิ สธการสักการะตอ่ พระองค์

4.4 เครื่องดื่มของชาวนรก อัลกุรอานได้อธิบายลักษณะของชาว
นรกที่อัลลอฮไ์ ดล้ งโทษพวกเขาด้วยนำ้ ร้อนจัด นำ้ หนอง น้ำทเ่ี หมือนกับน้ำ
ทองแดง เพื่อเป็นการเตือนสติ และเป็นการขู่ให้มนุษย์เกิดความกลัวที่จะ
ฝ่าฝนื คำสัง่ ของพระองค์

﴾‫﴿ َشَراب ِم ْن َِْحيم‬

308

“เครื่องดื่มจากน้ำที่ร้อนจัด” (อัลกุรอาน 6 ꓽ70;
สมาคมนักเรียนเกา่ อาหรับประเทศไทย,2545 น. 308)

﴾‫﴿فَْليَ ُذوقُوهُ َِْحيم َوغَ َّساق‬
“ดังนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสน้ำท่ีเดือดพล่าน และน้ำเลือด
น้ำหนองของชาวนรก” (อัลกุรอาน 38ꓽ57; สมาคม
นกั เรยี นเกา่ อาหรบั ประเทศไทย,2545 น. 1161)

﴾‫﴿تُ ْسَق ٰى ِم ْن َعْْي آنِيَة‬
“จะถูกให้ดื่มจากน้ำพุที่ร้อนจัด” (อัลกุรอาน 88ꓽ5;
สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย,2545 น.
1690)
‫﴿يُغَاثُوا ِِبَاء َكالْ ُم ْه ِل يَ ْش ِوي الْ ُو ُجوهَ ۚ بِْئ َس ال َّشَرا ُب‬

﴾‫َو َساءَ ْت ُمْرتََفًقا‬
“ พวกเขาจะถูกช่วยเหลือด้วยน้ำเสมือนน้ำทองแดง
เดือดลวกใบหน้า มันเป็นนำ้ ด่มื ทช่ี ั่วช้าและเปน็ ที่พำนัก
ที่เลวร้าย” (อัลกุรอาน 18ꓽ29; สมาคมนักเรียนเก่า
อาหรบั ประเทศไทย,2545 น. 698)

5.สรปุ
อิสลามมีหลักคำสอนในเรื่องน้ำไว้ว่า น้ำฝนคือสิ่งที่พระเจ้า

ประทานให้มาแก่มนุษย์เป็นน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์ใช้สำหรับอุปโภคและ
บริโภค น้ำบ่อ น้ำแม่น้ำ น้ำตาน้ำ น้ำแข็ง น้ำลูกเห็บ และน้ำทะเลถือเป็น
น้ำที่สะอาดและใช้ทำความสะอาดสิ่งอื่นได้เหมือนกับน้ำฝนโดยมีเงื่อนไข

309

ว่าจะต้องไม่เปลี่ยนสภาพไปจากเดิมทั้งสี กลิ่น และรสชาติ เรียกว่าน้ำ
ประเภทนี้ว่า “น้ำมุตลัก (‫ ”)الْ َماءُ الْ ُمطْلَ ُق‬ซึ่งจะใช้ทำความสะอาดนะยิส
และใช้ทำความสะอาดเพือ่ ปฏบิ ตั ิศาสนกจิ
นอกจากนี้น้ำยังเป็นสิ่งที่แสดงความเมตตาและเป็นสิ่งที่พระเจ้าใช้ลงโทษ
มนุษยอ์ ีกดว้ ย

310

เอกสารอา้ งองิ (References)
ภาษาไทย
สมาคมคุรุสัมพันธ์อิสลามแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์. (2563).

หนังสือเรียนศาสนาอิสลาม ระดับพื้นฐาน (ฟัรดูอัยน์). นนทบุรี:
สมาคมครุ ุสัมพนั ธอ์ สิ ลามแห่งประเทศไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์.
สมาคมนักเรยี นเกา่ อาหรบั ประเทศไทย. (2545). พระมหาคัมภรี ์อลั กุรอาน
พร้อมความหมายภาษาไทย. มาดีนะห์: ศูนย์กษัตริย์ฟะฮัด เพื่อการ
พมิ พอ์ ัลกรุ อาน.
ภาษาอาหรับ
Muḥammad, A. and Al-Sayyĩd, A. (2000). Al-wasĩṭ fe fiqh Al-
ibādāt. Cairo: Al-Azhar University.
Al-Jazĩlĩ, Abdurrahmān. (2003). Al-fiq Alā Al-mazāhib Al-
arbaah. Beirut: Dar Al-kutub Al-ilmĩyah.
Al-Saadi, Abdurraḥmān Bin Nasĩr. (2002). Taysĩr Al-karĩm Ar
rahmān fi Tafsĩr Kalām Al-Manān. Riyadh: Dār Al-Salām.
Abū Dāwud, Sulaymān Bin al-ashath. (2009). Sunan Abĩ Dāwud.
Beirut: Dār Al-risalah Al-ālamĩyah .
Al-Khāzin, Ali Bin Muḥammad. (2004). Tafsir Al-khāzin. Beirut:
Dār Al-kutub Al-ilmĩyah.
Al-Kathĩr, Ismaĩl Bin Umar. (1999). Tafsĩr Ibn Al-kathĩr. Riyadh:
Dār Taiba.
Abdulrahman, M. (1999). Muaajam Al-muṣṭalahāt wa Al-alfāẓ
Al-fiqhĩyah. Cairo : Dar Alfaderah.

311

Al-Qurṭubĩ, Muḥammad Bin Aḥmad. (2006). Al-Jāmiaa' li ahkām
Al-qurān. Beirut: Al Resalah Publishers.

Al-Bukharĩ, Muḥammad Bin Ismāil. (2002). sahĩh al-bukharĩ.
Beirut: Dār ibn al-kathĩr.

Al-ṭabrĩ, Muḥammad Bin Jarĩd. (2001). Tafsir Al-ṭabrĩ. Cairo: Dār
Hijrĩ.

Muslim, Muslim Bin Al-hajjaj. (1991). sahĩh muslim. Beirut: Dār
Al-kutub Al-ilmĩyah.

Mustafa Al-Kin, Mustafa Al-Bughā and Ali Al-Sharbajĩ. (2013). Al-
Fiqh Al-Manhajĩ. Damascus: Dār Al-qalām.

Al-Imrānĩ, Yahya Ibn Sālim. (2006). Al-bayān. Beirut: Dār Al-
minhāj.

312



หนังสือรวมบทความ
สายนทีแหงวิทยา 60 ป
ภาควิชาภาษาตะวันออก

ISBN: 978-616-407-623-5

9 786164 076235


Click to View FlipBook Version