การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 146
สายอากาศ RC-292
กลา่ วท่ัวไป
สายอากาศ RC-292 เป็นสายอากาศแบบใชด๎ นิ เทยี ม (Artificial Ground หรือ Ground Plane) ใช๎งาน
ได๎เอนกประสงค์ ติดตั้งประจาที่ ใช๎เพอ่ื วัตถปุ ระสงค์ในการเพม่ิ ระยะการติดตํอของเครอ่ื งรบั -สํงวิทยุ FM ทีใ่ ช๎งาน
ทางยุทธวิธี จานวนทํอนสายอากาศและดนิ เทียมจะต๎องมีความยาวพอเหมาะกบั ความถ่ที ีใ่ ช๎งาน
คณุ ลกั ษณะทางเทคนิค 20 - 76 MHz.
ยํานความถี่ ประมาณ 2 เทาํ ของระยะการสอ่ื สารของเคร่อื ง
ระยะส่ือสารเพื่อใช๎ในการวางแผน วทิ ยุนั้น ๆ เมือ่ ใชส๎ ายอากาศวิป
37 - 41.2 ฟุต
ความสูงเมื่อต้งั
ความต้องการในการเลือกใช้
การสื่อสารประเภทวิทยุ หน๎าท่ี 147
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 148
รปู แสดง สํวนประกอบชุดของ RC - 292
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 149
สายอากาศ OE-254
กล่าวท่ัวไป
สายอากาศ OE-254 เป็นสายอากาศแบบใช๎ดินเทียม (Artificial Ground หรือ Ground Plane) ชนิด
ครอบคลุมทั้งยาํ น (broad band) ใชง๎ านทดแทนสายอากาศ RC-292 โดยไมํเปลี่ยนความยาวของสายอากาศเมอ่ื
ความถี่ใช๎งานเปล่ียนแปลงไป ใช๎งานได๎เอนกประสงค์ ติดตั้งประจาที่ ใช๎เพ่ือวัตถุประสงค์ในการเพ่ิมระยะ
การตดิ ตํอของเครื่องรบั -สํงวทิ ยุ FM ทีใ่ ช๎งานทางยุทธวิธี
คุณลกั ษณะทางเทคนิค 30 - 88 MHz.
ยาํ นความถี่ 350 วตั ต์
กาลงั สํงของวทิ ยุทีท่ นได๎ ประมาณ 2 เทํา ของระยะการสอ่ื สารของเคร่อื ง
ระยะสือ่ สารเพอ่ื ใช๎ในการวางแผน วทิ ยนุ ้นั ๆ เมอื่ ใชส๎ ายอากาศวิป
SPEC MIL-A-49204
มาตรฐานทางทหาร
การส่ือสารประเภทวิทยุ หน๎าที่ 150
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 151
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 152
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 153
ตอนที่ 2 ยทุ โธปกรณป์ ระเภทวิทยุ AM หนา๎ ที่ 154
7.10 ชดุ วิทยุ PRC/VRC-610
7.11 ชุดวิทยุ AN/GRC-106(*)
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ
7.12 ชดุ วิทยุ AN/GRC-122(*),142(*)
7.13 ชดุ วิทยุ PRC-1099
7.14 ชดุ วทิ ยตุ ระกูล HF-2000
7.15 ชดุ วิทยตุ ระกูล HF-6000
7.16 ชุดสายอากาศ DOUBLET AN/GRA-50
7.17 เคร่ืองควบคุมระยะไกล AN/GRA-6
ชดุ วิทยุ PRC/VRC-610
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หน๎าที่ 155
รปู หนา๎ เคร่อื ง PRC/VRC-610
กล่าวโดยท่ัวไป
เครื่องวิทยแุ บบนเี้ ป็นวิทยแุ บบ HF/SSB นาไปมาโดยสะพายหลงั ติดตั้งบนยานพาหนะ หรอื ประจา
ท่ีมลี กั ษณะพิเศษ คือ สามารถถอดชดุ ควบคมุ ออกจากตัวเครอื่ งขณะใชง๎ านอยกูํ ไ็ ด๎เพอื่ ความสะดวกในการใช๎
งานขณะกาลงั สะพายหลงั สามารถเขา๎ ขาํ ยกับเครอ่ื งวิทยุ AM แบบมาตรฐานได๎
ระดับหนํวยทีใ่ ชง๎ าน กองรอ๎ ย - กรม ร.
สํวนประกอบสาคญั เครือ่ งรบั สงํ RT - 600
สายอากาศ AT - 600
แบตเตอรี่ NICAD
เครอ่ื งประจใุ ช๎แสงแดด SC - 601
การควบคมุ ระยะไกล ไมมํ ี
การสงํ ตํอ ไมมํ ี
นา้ หนัก 11.6 กก.
เครอ่ื งรักษาความปลอดภยั คาพูด ไมมํ ี
การประกอบเป็นวทิ ยชุ ดุ อ่นื ไมํมี
คุณลักษณะทางเทคนิค คาพดู ,CW
แบบของการใชง๎ าน 1.6 - 29.9999 MHz.
ยํานความถ่ี 284,000 ชอํ ง หํางกนั ชํองละ 100 Hz.
จานวนชอํ งสื่อสาร 20 กม.
ระยะสือ่ สารเพือ่ ใชใ๎ นการวางแผน 15 VDC.
กาลงั ไฟ แบตเตอรี่ BB - 600 หรือ BB - 4600
แหลํงกาเนดิ ไฟ 12-30 VDC.จากยานพาหนะรํวมกับ PP-600
กาลงั ออกอากาศ 4 - 20 W.
สายอากาศ WHIP AT - 602 หรือ AT - 271A
การปรับตง้ั ความถ่ี DIPOLE AT - 601
LONGWIRE AT - 604
การสื่อสารประเภทวิทยุ แบบตัวเลขและสามารถตง้ั ความถล่ี ํวงหนา๎
ได๎ 10 ความถ่ี
หน๎าที่ 156
......................................
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หนา๎ ท่ี 157
ชุดวทิ ยุ AN/GRC-106 (*)
กล่าวท่ัวไป
AN/GRC-106(*) เปน็ วิทยยุ าํ นความถ่ีสงู HF / SSB กาลงั ปานกลาง ออกแบบไว๎เพอ่ื ตดิ ตั้งบน
ยานพาหนะ เปน็ สถานสี อื่ สารเคลอื่ นที่ และอาจใชเ๎ ป็นสถานีประจาทีห่ รือกง่ึ ประจาที่ หรือกง่ึ ประจาทก่ี ็
ได๎ AN/GRC-106 ใช๎แทนชดุ วิทยุ AN/GRC-19
ระดบั หนวํ ยท่ีใชง๎ าน กรม - กองพล
สวํ นประกอบสาคัญ เครอื่ งรับ - สงํ RT-662/GRC (RT-834/GRC)
เครื่องขยาย AM-3349/GRC-106
สายอากาศ WHIP และ DOUBLET AN/GRA-50
นา้ หนัก 128 ปอนด์
คณุ ลักษณะทางเทคนิค
ชนิดการใช๎งาน คาพูด,CW และสามารถตดิ ต้งั เครอ่ื งโทรพมิ พ์
ใช๎งานรวํ มได๎
ยํานความถ่ี 2-29.999 MHz
จานวนชํองการสอื่ สาร RT-662/GRC มี 28,000 ชํอง หํางกนั ชอํ งละ 1 KHz
RT-834/GRC มี 280,000 ชอํ ง หาํ งกันชอํ งละ 100 Hz
ระยะสอื่ สารเพือ่ ใช๎ในการวางแผน 80 กม.(คล่นื ดนิ )
160 - 2400 กม.(คล่ืนฟูา)
กาลังออกอากาศ 200 วตั ต์ ( CW และ โทรพมิ พ)์
400 วัตต์ ( คาพดู )
กาลังไฟท่ใี ช๎ 24 - 30 V.DC. (ดีที่สุด 28.5 V.DC.)
ความสนิ้ เปลอื งกาลงั ไฟสงู สุด 45 วัตต์ (ขณะสงํ )
กินกระแสสงู สุด 38 แอมป์ (สงํ SSB)
43 แอมป์ (สํง CW)
แหลงํ กาลงั ไฟฟูา จากยานพาหนะโดยผําน ALTERNATOR จาก
ไฟกระแสสลับ 220/115 V. รํวมกบั เครอ่ื งเปล่ียนกระแสไฟ
PP-4763 A
หลักฐานอ๎างองิ TM 11 - 5820 - 520 - 12
......................................
การส่ือสารประเภทวิทยุ หนา๎ ท่ี 158
รปู ตัวเครอ่ื งรบั -สงํ ของชดุ วิทยุ AN/GRC-106
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หนา๎ ที่ 159
ชุดวิทยุ AN/GRC-122(*), 142(*)
กลา่ วท่วั ไป
AN/GRC-122(*),142(*) เป็นชดุ วทิ ยกุ าลงั ปานกลาง ตดิ ตัง้ บนยานพาหนะใชเ๎ ป็นหลกั ในการ
ปฏิบตั งิ านด๎วยวิทยุโทรพมิ พ์ ใชแ๎ ทนชดุ วทิ ยุโทรพมิ พแ์ บบเกาํ ดังนี้
AN/GRC-122 ใช๎ทดแทนแบบ AN/GRC-26 D
AN/GRC-142 ใชท๎ ดแทนแบบ AN/GRC-46
ระดบั หนํวยทีใ่ ช๎งาน กองพล
สํวนประกอบสาคญั ดตู าราง
การควบคมุ ระยะไกล 3.2 กม. โดยใช๎ AN/GRA-6
การสงํ ตํอ ไมํมี
น้าหนกั ดตู าราง
ขอ๎ จากดั ปฏบิ ตั งิ านไดแ๎ บบ HALF DUPLEX เทําน้ัน
(ยกเวน๎ AN/GRC-122และความถ่ขี องเครอ่ื งรบั ชํวย
จะต๎องแตกตํางจากความถ่ีเคร่ืองสํงอยํางนอ๎ ย
1 MHz หรือ 10 %)
คุณลักษณะทางเทคนิค
เหมอื นกบั AN/GRC-106 ทุกประการ
การประกอบชดุ อน่ื ๆ
ชดุ วทิ ยุ RT-662 AM-3349 MD-522 PACT-220 AN/GRA-6 น้าหนกั
(กก.)
(RT-834) 2 1 831.7
1 1 769.1
AN/GRC-122 2 1 1
AN/GRC-142 1 1 1
* RT-662 (RT-834) จานวน 1 เครอื่ ง ใชเ๎ ปน็ เครอ่ื งรับ
......................................
การส่ือสารประเภทวิทยุ หน๎าท่ี 160
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 161
ชดุ วิทยุ PRC-1099
ความมงุ่ หมายและการใชง้ าน
1. ชุดวิทยุ PRC-1099 เป็นวิทยรุ ับ-สํงความถส่ี งู ระบบซิงเกลิ ไซแบนด์ (HF/SSB) ,
สะพายหลงั และหอบหว้ิ ขนย๎ายได๎ ตดิ ตํอสอ่ื สารดว๎ ยคาพูด (Voice), โทรเลข (CW) และ
ข๎อมูล (DATA)
2. ชุดวิทยุ PRC-1099 ยงั ใช๎เป็นสวํ นประกอบของชุดขยายกาลงั สูง คอื RA 100,
RA 400/5 และ RA 1000/5 ตดิ ต้งั ประจาท,ี่ ขนยา๎ ยและ เคล่ือนที่โดย รยบ.
3. ชุดวทิ ยุ PRC-1099 สามารถติดตอํ วิทยุ HF/SSB ท่ียาํ นความถี่ 1.6-30 MHz.
คุณลกั ษณะทางเทคนิค กองรอ๎ ย, กองพัน, กรม
ระดับหนวํ ยที่ใชง๎ าน 1.6 - 30 MHz.
ยาํ นความถ่ี 284,000 ชํอง
จานวนชํองการสอื่ สาร 10 ชอํ ง
ชํองหนวํ ยความจา 100 Hz.
ความหํางของชํองการสอ่ื สาร
แบบของสัญญาณรับ-สงํ คาพดู (300-2,700 Hz.) SSB, USB/LSB,
ขณะสงํ โทรเลข (CW), ข๎อมูล (DATA)
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 162
ขณะรบั คาพดู (VOICE)
โทรเลข (CW)
ข๎อมูล (DATA)
เครอ่ื งมอื รักษาความปลอดภัย เครอ่ื งมอื ที่ออกแบบมาเพ่อื ใชก๎ ับวิทยุ HF/SSB
ความตอ๎ งการของกาลงั ไฟ
ขณะสํง 12.0 - 15 VDC.
กาลังสงู เฉลี่ย คาพูด ประมาณ 1.5 A.
กาลังตา่ เฉลี่ย คาพดู ประมาณ 1.0 A.
ขณะรบั 12 - 15 VDC.
SQ. 100 mA.
ไมํใช๎ SQ. 130 mA.
แบบของการปรงุ คล่นื SSB (USB/LSB)
กาลงั ออกอากาศ เลอื กได๎ 5 W., 20 W.
แบบของ SQ. ตดั เสียงรบกวน (IMMUNE SQUELCH)
แบบของสายอากาศ
สายอากาศ Whip สายอากาศ AT-271 A, ยาว 10 ฟุต หลายทํอน
พร๎อมฐานเสาอากาศ AB-591
สายอากาศ Long Wire ยาว 25 ฟุต, 50 ฟตุ , 100 ฟุต หรอื
สายอากาศยาวท่วั ๆ ไป
สายอากาศ 50 โอห์ม พร๎อม VSWR 3:1 หรอื น๎อยกวํา
แหลํงกาลงั ไฟ ลิเธยี มแบตเตอร,ี่ ตะก่ัวแคดเม่ียมแบตเตอรี่ หรอื
แหลํงจาํ ยไฟฟาู กระแสสลบั PRC-PS
อายุการใชง๎ านของแบตเตอรี่ กาลังสูง 50 ช่วั โมง อตั ราการรบั สงํ 9:1 เมื่อใชก๎ บั
แบตเตอรี่ BA-6598/U
......................................
การสื่อสารประเภทวิทยุ หนา๎ ท่ี 163
ชดุ วทิ ยุ HF-2000
PRC-2200 : MANPACK
VRC-2020 : VEHICULAR
รปู ท่ี 11 – 1 หนา้ เครอ่ื งรับ – สง่ ชดุ วิทยุ HF - 2000
คณุ ลักษณะทางเทคนคิ กองรอ๎ ย-กรม
1.5 - 29.9999 MHz.
ระดับหนํวยท่ีใชง๎ าน 285,000/100 Hz. (SPACE)
ยํานความถี่ 20 CH. ( Parameter )
จานวนชอํ ง/ความหาํ ง 10 COMSEC KEYS.
จานวนชํองตง้ั ลวํ งหน๎า 10 ECCM TABLES &
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หนา๎ ท่ี 164
2 AUTOCALL TABLES
โหมดการใช๎งาน FIXED FREQ : CLEAR (CLR)
: SEC (COMSEC)
FREQ HOP : AJ [ANTI-JAMMING (ECCM)]
แบบการรบั -สงํ สัญญาณ
คาพูด : USB, LSB, AM
NARROW BAND DATA (INT MODEM: 50/75/150 BAUD) : USB, LSB
WIDE BAND DATA (EXT MODEM) : USB, LSB
CW (CCW, NCW, CW) : USB, LSB
แบบสญั ญาณปอู งกัน 3 แบบ
: เสียงธรรมดา (CLEAR)
: เสียงเข๎ารหัส (SECURE) : ENCRYPTION/DECRYPTION
: ปูองกนั การรบกวน (ANTI-JAMMING) : FREQ. HOPPING
แบบการตัง้ ความถ่ี 3 แบบ
: AUTO-CALL (การเลอื กความถที่ ่ดี ที ี่สดุ โดยอตั โนมตั ิ)
: การเลือกตัง้ โดยบุคคล
: การรบั -สงํ คนละความถ่ี (DUAL) = SEMI-DUPLEX
แบบของ SQUELCH (SQ.)
SQ - SEL.C : เปน็ SQ. แบบรหสั ดจิ ติ อล
SQ-SYLAB : SYLABIC SQ. เป็น SQ. แบบเกาํ ทใี่ ช๎กบั วทิ ยุ HF/SSB
ทว่ั ไป
SQ-OFF : ยกเลิกการใช๎ SQ. (ปดิ SQ.)
* SEL.C = SELECTIVE CALLING
กาลังออกอากาศ (LO, MI, HI)
PRC-2200 : 5, 10, 20 W.
VRC-2100 : 20, 50, 100 W.
กาลังงานทใี่ ช๎
PRC-2200 : 10.5 - 14.5 V.DC. (LITHIUM BATT., NI-CAD BATT.)
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 165
VRC-2100 : 22 - 32 V.DC.
ข๎อมลู ทาง ECCM
อตั ราเรว็ ในการ HOP มากกวํา 15 HOP/SEC.
จานวน KEY ในการ HOP 10
จานวนตารางการ HOP 10 TABLE
จานวนความถี่ตอํ ตาราง 8 - 150 FREQ.
เวลาแตกตาํ งระหวํางวทิ ยุ 3 นาที (ไมเํ กิน)
(PERMISABLE TOD DIFFERANCE BETWEEN RADIO SET)
ความต๎องการปจั จัยตาํ งๆ ในแตํละ MODE
MODE CLR FREQ CLR
MODE SEC FREQ. KEY SEC
MODE AJ. TOD T.N. K.N. N.No. AJ.
TOD = TIME OF DAY
T.N. = NUMBER OF TABLE
K.N. = NUMBER OF KEY
N.No. = NUMBER OF NET
AUTO-CALL ( เลอื กความถท่ี ่ดี ีทสี่ ดุ ในการตดิ ตอํ ) หนา๎ ท่ี 166
AUTO OFF = การปิดหรอื ไมํใชก๎ ารหาความถี่โดยเครื่อง
AUTO ON1 = การใชเ๎ ครื่องเลอื กความถี่ทีด่ ที ส่ี ดุ ในตารางที่ 1
AUTO ON2 = การใชเ๎ ครอ่ื งเลอื กความถีท่ ีด่ ีทสี่ ุดในตารางที่ 2
AUTO CALL : สาหรบั กลางวัน 1 ตาราง
: สาหรบั กลางคืน 1 ตาราง
การคานวณ ( MUF ) ต๎องมขี ๎อมูลให๎ COMPUTER :-
* LOCATION “ HOME ” และ “ TARGET ” ( พิกัดคํูสถานี )
* DATE ( DATE/MONTH/YEAR ) DD,MM,YY
* SUNSPOT DATA
การส่ือสารประเภทวิทยุ
* ANTENNA TYPE
* TIME GAP ( เวลาแตกตําง GREENIC TIME )
รปู ชดุ วทิ ยุ VRC-2100
สว่ นประกอบชดุ วิทยุ VRC-2100 ( BASIC ITEMS )
ลาดับ รายการ จานวน
1 Reciever/Transmitter RT-2001 1
2 Antenna Coupler, CP-2103 1
3 Adapter, 12/24 V, AD-1224V/HF 1
การสื่อสารประเภทวิทยุ หน๎าที่ 167
4 Handset, D-250/GR 1
5 Loudspeaker, Portable, LS-100M/HF 1
6 Antenna, Whip, 15 feet, AT-1715,including:- 1
Mast Section, MS-116A ( 3 each ) 1
Mast Section, MS-117A ( 1 each ) 1
Mast Section, MS-118A ( 1 each ) 1
Antenna Cover ( 1 each )
Antenna base, AB-652/GR ( 1 each ) 1
Antenna Sheath Clamp ( 1 each ) 1
Rope, Dacron ( 1 each ) 1
Plate Warning 1
Cover
Insulator Antenna Cable
7 Bracket, Antenna Base, MP-49
8 Mounting, MT-2010/HF
9 Dipole Antenna Kit, AT-1742, including:
Wire, Antenna, W-198 ( 2 each )
Dipole Feed, F-198/t ( 7 meter )
Dacron Cord, C-198 ( 2 each )
10 Cable, DC Power, CX-4720/T ( 3 each )
11 Cable,RF Jumper, CX-1746A/HF ( 0.7 meter )
12 Operator’s Manual, VRC-2020
13 Operator’s Manual, PRC-2200
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หนา๎ ท่ี 168
ส่วนประกอบชดุ วทิ ยุ VRC-2020 ( OPTIONAL ITEMS ) จานวน
ลาดับ รายการ 1
1
1 Handset, Control, H-739 1
2 Key, Telegraph, KY-116 1
3 Cable Assy, Key, CX-1852S ( 1.8 meter ) 1
4 Microphone, Dynamic, M-80/U 1
5 Headset, H-140A/U 1
6 Teletypewriter Adapter, AD-2165 1
7 Keyloader, G-10N Set
8 Remote Control Group, GRA-7300B
สว่ นประกอบชุดวทิ ยุ PRC-2200 จานวน
ลาดับ รายการ 1
1 Reciever/Transmitter RT-2001 1
2 Antenna Coupler, CP-2003 1
3 Handset, H-250/U
4 Antenna Whip Kit, AT-1741H 1
The Kit includs: 1
Base, Antenna, AB-591 1
Antenna, Collapsible, AT-271A 1
Belt, Safety 1
Adapter, Antenna, AB-10H 1
5 Carrying Harness, ST-2243
6 Battery, Rechargeable,NiCd, TNC-2188
.....................................
การสื่อสารประเภทวิทยุ หนา๎ ที่ 169
ชดุ วทิ ยุตระกลู HF-6000
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าที่ 170
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 171
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 172
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 173
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 174
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 175
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 176
ชุดสายอากาศ DOUBLET AN/GRA-50
คุณลกั ษณะทางเทคนิค Doublet ครึ่งคล่นื
แบบสายอากาศ 1.5 - 20 MHz.
ยํานความถี่ 100 วตั ต์ (สงู สุด)
ใชก๎ บั เคร่อื งสงํ ทีม่ กี าลงั ออกอากาศ
ส่วนประกอบชดุ
สายเคเบิ้ล CG-678/U ยาว 35 ฟตุ 1 สาย
INSULATOR IL 4/GRA-4 ยาว 3 นวิ้ ครงึ่ 1 อนั
ลอ๎ มว๎ นสาย RC-432/G ยาว 12 น้วิ 2 ลอ๎
WIRE ASSOMBLY ANTENNA CX-7303/G ยาว 160 ฟตุ 2 สาย
ถุงผา๎ ใบ BG-175 1 ถงุ
เชอื ก MX-2706/G 2 มว๎ น
เทปวัดระยะ ยาว 156 ฟุต 1 ตลับ
หนังสอื คูํมอื TM 11-5820-467-15 2 เลมํ
ทาเลการติดตัง้
เนือ่ งจากในพนื้ ทท่ี ่ีเปน็ ปาุ ทึบ สายอากาศแบบต้ังจะมีผลตํอต๎นไม๎ ใบไม๎ เนื่องจากเกิดการดูดกลืนการ
แพรกํ ระจายคลนื่ ไปหมดดงั น้ันสายอากาศ Doublet จะมีประสิทธิภาพดีกวําสายอากาศแบบตั้งมาก ฉะน้ันควร
เลอื กตัง้ สายอากาศในพ้ืนทท่ี ่ไี มํมตี น๎ ไม๎ปกคลมุ
การตดิ ตั้ง
กาหนดความยาวของสายอากาศ โดยใช๎เทปวัดระยะกาหนดความยาวที่แนํนอนของสายอากาศ เพ่ือให๎
ตรงกับความถีท่ ่ีใช๎งาน
ตารางขา๎ งลาํ งน้ีเป็นตารางบอกความยาวของสายอากาศแตลํ ะข๎าง (รวมล๎อม๎วนสาย) โดยเริ่มตงั้ แตํ 1.5 -
20 MHz.
การสื่อสารประเภทวิทยุ หน๎าที่ 177
ความถี่ ความยาวสายอากาศแตลํ ะขา๎ ง ความถ่ี ความยาวสายอากาศแตลํ ะข๎าง
(MHz.) รวมลอ๎ ม๎วนสาย (ฟุต) (MHz.) รวมลอ๎ ม๎วนสาย (ฟุต)
1.50 156 2.00 117.00
1.52 153.94 2.05 114.14
1.54 151.94 2.10 111.42
1.56 150 2.15 108.83
1.58 148.10 2.20 106.36
1.60 146.25 2.25 104.0
1.62 144.68 2.30 101.73
1.64 142.68 2.35 99.57
1.66 140.96 2.40 97.50
1.68 139.28 2.45 95.51
1.70 137.64 2.50 93.60
1.72 136.04 2.55 91.76
1.74 134.48 2.60 90.00
1.76 132.95 2.65 88.30
1.78 131.46 2.70 86.66
1.80 130.00 2.75 85.09
1.82 128.57 2.80 83.57
1.84 127.17 2.85 82.10
1.86 125.80 2.90 80.68
1.88 124.46 2.95 79.32
1.90 123.15 3.00 78.0
1.92 121.87 3.10 75.48
1.94 120.61 3.20 73.12
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หนา๎ ที่ 178
1.96 119.38 3.30 70.90
1.98 118.18 3.40 68.82
ความถี่ ความยาวสายอากาศแตลํ ะข๎าง ความถี่ ความยาวสายอากาศแตลํ ะข๎าง
(MHz.) รวมลอ๎ มว๎ นสาย (ฟุต) (MHz.) รวมลอ๎ ม๎วนสาย (ฟุต)
3.50 66.85 6.80 34.41
3.60 65.00 7.00 33.42
3.70 63.24 7.50 31.20
3.80 61.57 8.00 29.18
3.90 60.00 8.50 27.52
4.00 58.50 9.00 26.00
4.20 55.71 9.50 24.63
4.40 53.18 10.00 23.40
4.60 50.86 10.50 22.29
4.80 48.75 11.00 21.27
5.00 46.80 12.00 19.51
5.20 45.00 13.00 18.00
5.40 43.33 14.00 16.71
5.60 41.78 15.00 15.60
5.80 40.35 16.00 14.62
6.00 39.00 17.00 13.76
6.20 37.74 18.00 13.00
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หนา๎ ที่ 179
6.40 36.56 19.00 12.31
6.60 35.45 20.00 11.70
......................................
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หนา๎ ท่ี 180
รปู สํวนประกอบชดุ ของ AN/GRA-50
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 181
เคร่ืองควบคุมระยะไกล AN/GRA-6
กลา่ วทั่วไป
AN/GRA-6 เป็นเครื่องควบคมุ ระยะไกลสาหรับตอํ เข๎ากับวทิ ยุ ที่มหี มุดตํอ AUDIO 10 หมุด ขนาดเล็ก
นา้ หนกั เขา สามารถควบคุมชดุ วิทยุ AM ให๎ทางานในระยะไกลได๎เคร่อื งนปี้ ระกอบดว๎ ย C-434 สาหรับตอํ เข๎า
กับเครื่องวทิ ยุ และ C-433 สาหรับตํออยทูํ างด๎านไกล
คณุ ลกั ษณะทางเทคนคิ เสียง (300 - 3500 Hz.)
3.2 ก.ม. (2 ไมล)์ โดยใช๎สาย WD-1/TT
ยํานความถี่ C-434 ใช๎ BA-30 จานวน 2 กอ๎ น
ระยะสอ่ื สารเพื่อใช๎ในการวางแผน C-433 ใช๎ BA-414 จานวน 1 กอ๎ น
กาลงั ไฟ BA-30 จานวน 2 กอ๎ น
C-434 หนัก 10.50 ปอนด์
นา้ หนกั C-433 หนกั 7 ปอนด์
ลกั ษณะพเิ ศษ
1. ให๎บรกิ ารดว๎ ยเครอื่ งโทรศัพทร์ ะหวํางที่ตง้ั ท้ังสอง
2. มสี ญั ญาณเรียก 20 Hz. ระหวาํ งเครือ่ งทง้ั สอง
3. สามารถรบั และสงํ ขาํ วด๎วยเครอ่ื งวทิ ยจุ ากดา๎ นใดดา๎ นหนงึ่
รูปแสดงการตอํ AN/GRA-6 ใช๎งาน หน๎าท่ี 182
การส่ือสารประเภทวิทยุ
AN/GRA-6
Receiver-Transmitter Control Group
รปู ตัวเครอ่ื งรับ – สํง และแผนผังการตํอใช๎งาน หนา๎ ท่ี 183
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ
บทท่ี 8
การปฏิบัตกิ ารซ่อมบารุงยุทโธปกรณ์วิทยุ
8.1 กลา่ วนา
8.1.1 กลาํ วทั่วไป
ก.การมอบหมายการปฏิบัติการซํอมบารุงให๎แกํหนํวยบัญชาการเฉพาะใดๆ นั้นให๎พิจารณาถึง
ภารกิจหลัก ลกั ษณะ และความคลอํ งตัวของระดับหนวํ ยทเ่ี กีย่ วขอ๎ งตลอดจนการกระจายทางเศรษฐกิจของแหลํง
กาลงั
ข.ชิน้ สวํ นอะไหลํ อตั ราอนมุ ัติช้นิ สวํ นอะไหลแํ ละจานวนช้ินสวํ นอะไหลขํ น้ั ตน๎ จะกาหนดขน้ึ และแบงํ
มอบใหห๎ นวํ ย และหนํวยสนบั สนุนโดยตรง หนํวยสนับสนุนทัว่ ไป และหนํวยซํอมบารุงระดับคลัง การจํายช้ินสํวน
อะไหลรํ ะดบั ต่ากวาํ สถานีทีต่ ัง้ คลงั สนามของกองทพั น้นั หนํวยสนบั สนนุ การซอํ มบารุงเป็นผก๎ู ระทา
8.1.2 ประเภทการซอํ มบารงุ
มปี ระเภทการซํอมบารุงอยํู 4 ประเภท (รูปท่ี 8-1) การแบงํ ประเภทเชํนน้ีทาให๎การมอบหมายภารกจิ และ
ความรับผิดชอบในการซอํ มบารงุ ภายในกองทพั บกสะดวกขนึ้
ก.การซอํ มบารุงระดับหนํวย คอื การซํอมบารงุ ซง่ึ ตามปกตแิ ลว๎ อนุมัตใิ ห๎หนํวยท่ีใช๎เครื่องซ่ึงอยูํใน
ความครอบครองเป็นผ๎ูดาเนินการและรับผิดชอบการซํอมบารุงระดับนี้ประกอบด๎วยพันธกิจและการซํอมในขีด
ความสามารถของเจ๎าหน๎าท่ีซํอมและดาเนินการซํอมด๎วยการใช๎เครื่องมือและเคร่ืองตรวจสอบภายในหนํวยผ๎ูใช๎
การซอํ มบารุงที่เกนิ ขอบเขตอนมุ ตั ิใหซ๎ ํอมบารงุ ระดบั เหนอื ข้นึ ไป
ข.การซอํ มบารงุ สนับสนุนโดยตรง คือ การซํอมบารุงซ่ึงปกติแล๎วอนุมัติให๎ดาเนินการโดยชุดซํอม
เคล่อื นทจ่ี ากหนวํ ยซํอมบารงุ สนบั สนุนโดยตรงตํอหนํวยใหก๎ ารซํอมบารงุ ประเภทนี้จากัดใหซ๎ อํ มเฉพาะอปุ กรณ์ครบ
ชดุ (END ITEMS) หรอื อุปกรณส์ ํวนประกอบ (ASSEMLIES) ท่ชี ารดุ เพ่ือสนบั สนุนหนํวยใชโ๎ ดยมูลฐานการสํวนคือ
ผใ๎ู ช๎
ค.การซอํ มบารุงสนบั สนนุ ทั่วไป คือ การซอํ มบารงุ ซึง่ อนมุ ัตใิ หด๎ าเนินการโดยโรงซอํ มกง่ึ ประจาท่ี
หรอื ถาวรโดยหนวํ ยซอํ มซงึ่ กาหนดใหส๎ นบั สนุนระบบการสงํ กาลงั ของกองทพั ตามปกตแิ ล๎วหนวํ ยซอํ มบารงุ
การสื่อสารประเภทวิทยุ หน๎าท่ี 184
สนับสนุนทวั่ ไปจะซอํ มคนื สภาพ (OVERHAUL) โดยขน้ึ อยูํกับความต๎องการสงํ กาลงั ของพ้ืนทีก่ องทพั ซึ่งไดร๎ บั การ
สนบั สนุนทก่ี ระทาได๎
ง.การซอํ มบารงุ ระดบั คลงั คอื การซํอมคนื สภาพตอํ วสั ดุ ทส่ี ามารถซอํ มได๎ คลงั สนามของกองทัพ
จะเป็นผ๎ูพจิ ารณาวําจะใหห๎ นวํ ยซํอมบารงุ สนบั สนนุ ท่ัวไปทาการซํอมหรอื ซอํ มคืนสภาพจะใหส๎ งํ เคร่ืองชารุดนั้น
มายังคลังสนาม ถ๎าความต๎องการทางการสงํ กาลังมมี ากก็ใหด๎ าเนินการซํอม ถา๎ มคี วามตอ๎ งการน๎อยก็ให๎สงํ มาเก็บไว๎
ท่ีคลังของกองทัพอยํางประหยัด, เพือ่ สํงเสริมการกาหนดการจดั หาใหบ๎ รรลุความต๎องการของกองทัพเป็นสวํ นและ
ถา๎ จาเป็นกจ็ ดั การซอํ มวัสดนุ นั้ ๆ ทเ่ี กินขดี ความสามารถหนวํ ยซํอมบารุงสนับสนนุ ท่ัวไป
รปู ท่ี 8-1
8.2 การปรนนบิ ตั ิบารุง
8.2.1 กลาํ วท่ัวไป
การปรนนบิ ตั บิ ารุง คอื การดูแล การตรวจ และการบริการตํอเคร่ืองมืออยํางเป็นระเบียบ เพื่อรักษาให๎
เครื่องอยํูในสภาพใช๎งานได๎และปูองกันมิให๎ชารุดลงทันทีทันใดในขณะใช๎งาน การปรนนิบัติบารุงนั้น พนักงาน
ผใ๎ู ชเ๎ คร่อื งหรอื เจา๎ หนา๎ ที่ซํอมบารงุ ระดบั หนวํ ยเป็นผู๎กระทา
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หนา๎ ท่ี 185
ก.พนกั งานวทิ ยซุ ่งึ ได๎รบั การฝกึ ทางเทคนิคมาเป็นอยาํ งดแี ล๎ว ยํอมปฏิบัติการซํอมบารุงอยํางงํายๆ
ซ่ึงผู๎ท่ีมีความร๎ูทางเทคนิคอยํางจากัดสามารถกระทาได๎ คํูมือทางเทคนิคประจาเครื่องแตํละเลํมได๎กลําวถึ ง
มาตรการการปรนนิบัตบิ ารงุ เหลาํ นไ้ี วใ๎ นรายการตรวจสอบทางปฏบิ ตั ิ
ข.เจา๎ หนา๎ ที่ซํอมบารุงระดับหนวํ ย จัดการซํอมบารงุ เพ่อื สนับสนุนพนักงานวิทยุและรับผิดชอบตํอ
การซอํ มบารุงระดับหนํวยซงึ่ ไมตํ อ๎ งการการฝึกทางเทคนคิ มากนกั อนง่ึ หนงั สือคูมํ อื ทางเทคนคิ ประจาเครื่องแตํละ
เลํมมรี ายการตรวจสอบสมรรถนะของเคร่อื งอยูํแล๎ว และยังมีเร่อื งเกยี่ วกบั การซอํ มบารงุ ระดบั หนวํ ยอีกด๎วย
8.2.2 ความรับผิดชอบ
ผูบ๎ งั คับบญั ชารับผดิ ชอบดแู ลใหม๎ นั่ ใจวําเจ๎าหน๎าที่ซึ่งอยูํภายใต๎การบังคับบัญชาปฏิบัติตามระเบียบและ
คาแนะนาเกย่ี วกบั การปรนนบิ ัติบารงุ และดแู ลให๎เจ๎าหน๎าท่ีได๎กรอกข๎อความท่ีต๎องการลงในบันทึกการซํอมบารุง
ตามทีม่ ีอยํูในคํูมอื ทางเทคนคิ
8.2.3 การปฏบิ ัตกิ ารปรนนบิ ตั บิ ารุง
ก.การปฏบิ ตั ิประจาวัน การปรนนบิ ัตบิ ารุงน้ันพนักงานวิทยเุ ปน็ ผกู๎ ระทาตอํ เครอื่ งวิทยทุ กุ วันท่มี กี าร
ใช๎เคร่อื ง เคร่อื งวิทยจุ ะไดร๎ ับการตรวจและปรนนิบัติบารุงให๎เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติท่ีได๎กาหนดไว๎ในคูํมือทาง
เทคนิคประจาเครื่องท่ใี ชน๎ ั้น ขอ๎ บกพรอํ งตาํ งๆ ซ่ึงพนักงานมไิ ดแ๎ ก๎ไขหรือท่ีได๎แก๎ไขโดยการสับเปล่ียนช้ินสํวนนั้น
จะมีการบันทกึ ไว๎ในแบบเอกสารการซอํ มบารุงอนั เหมาะสม
ข.การปฏิบตั ติ ามระยะเวลา การตรวจสอบและการปรนนิบัติบารุงเหลําน้ีได๎อธิบายไว๎ในคํูมือทาง
เทคนิคประจาเครอื่ งซงึ่ เจา๎ หนา๎ ที่ซํอมบารุงประจาหนํวยเป็นผู๎กระทา ในขณะที่ทาการปรนนิบัติ เจ๎าหน๎าท่ีซํอม
บารุงระดบั หนํวยจะมพี นกั งานวิทยเุ ปน็ ผู๎ชวํ ยทาการตรวจและปรนนิบัติบารุงตํอเครื่องอยํางเป็นระเบียบ บรรดา
ขอ๎ บกพรอํ งท้ังหมดตลอดจนข๎อแก๎ไขจะถกู บันทกึ ไว๎ในแบบเอกสารการซอํ มบารงุ อัน
เหมาะสม ถา๎ หากการซํอมบารงุ น้นั จะต๎องกระทาในระดับสูงขึ้น ก็จะต๎องเตรียมแบบเอกสารการซํอมบารุงและ
สํงไปพรอ๎ มกับเคร่อื งถงึ หนวํ ยทีท่ าการซอํ มบารุงสนบั สนนุ
8.2.4 อนั ตรายจากการถกู กระแสไฟฟาู และข๎อควรระวงั เพื่อความปลอดภัย
ก.กลําวท่ัวไป ศักย์ไฟฟูาแรงสูงน้ันอาจจะมีอยูํในเคร่ืองวิทยุ เพราะฉะน้ันพนักงานวิทยุและ
เจ๎าหนา๎ ทซ่ี อํ มบารงุ จงึ ควรจะทาความรู๎จกั และคุ๎นเคยกบั คมํู อื ประจาเครอื่ งกอํ นที่จะใช๎เคร่ืองคาเตอื น “ถูกถึงตาย”
ถ๎าพนกั งานซํอมบารงุ และพนักงานผ๎ูใช๎เครอ่ื งไมํปฏิบัตติ ามขอ๎ ควรระวังเพื่อความปลอดภยั
ข.ขอ๎ ควรระวงั เม่ือเครือ่ งวทิ ยใุ ชศ๎ กั ยไ์ ฟฟูาแรงสูง พนักงานวิทยุควรปฏิบัติตามข๎อควรระวังในการ
ปรนนบิ ัตบิ ารงุ และการใช๎งานดังตํอไปน้ี
(1)ระวังอยาํ สมั ผสั ข้วั ตํอศกั ยไ์ ฟฟูาแรงสงู หรอื ขั้วตอํ กาลงั ไฟฟูา
(2)อยาํ แตะต๎องสายสํงและสายอากาศซ่งึ มศี กั ยไ์ ฟฟูาความถ่วี ิทยุ
การส่ือสารประเภทวิทยุ หนา๎ ท่ี 186
(3)เมื่อทางานในเคร่ืองวิทยุดูให๎แนํใจวําได๎ตัดแหลํงกาลังไฟฟูาแนํแล๎ว และหม๎อตุนศักย์
ไฟฟาู แรงสูงได๎ถูกปลํอยประจอุ อกแล๎วด๎วย
(4)ตรวจคูํมือประจาเครื่องเพอื่ ดใู นรายการสํวนประกอบวําสวํ นใดมีศกั ยไ์ ฟฟาู แรงสงู บา๎ ง
8.3 การบารุงรกั ษาของพนกั งานวทิ ยุ
8.3.1 การฝกึ ซอํ มบารงุ
การซอํ มบารุงเครอ่ื งวิทยุและเคร่อื งประกอบนั้นมีความสาคัญท่ีจะต๎องทาการฝึกพนักงานวิทยุทุกคนใน
เรอ่ื งระเบยี บการซํอมบารงุ บางประการและในเรื่องการรายการข๎อบกพรํองซ่ึงตนไมํได๎รับอนุมัติให๎ทาการแก๎ไข
การฝึกเชํนน้ีจะต๎องกระทาพร๎อมๆ กันกับการฝึกระเบียบปฏิบัติการใช๎เคร่ืองและจะต๎องฝึกให๎ละเอียดละออ
ระเบยี บปฏิบตั ิการซํอมบารุงทอี่ นุมตั ิให๎พนกั งานกระทาได๎ก็ควรจะสอนควบคํไู ปกบั ระเบยี บการใชเ๎ ครื่อง
8.3.2 ขั้นตอนการบารงุ รักษาของพนักงานวิทยุ
ขน้ั ตอนการบารงุ รกั ษาของพนกั งานน้ันอาจจะแบํงได๎ดังนี้
ก.การบารุงรักษากอํ นใชง๎ าน (ตรวจสภาพทางวตั ถุ)
ข.การบารุงรกั ษาระหวํางการใช๎งาน (ตรวจดแู ละตรวจสอบสมรรถนะเพื่อใหม๎ นั่ ใจวําเครื่องน้ันพร๎อมท่ีจะ
ใช๎งานไดเ๎ ม่อื ต๎องการ)
8.3.3 การบารงุ รกั ษากํอนการใชง๎ าน
กอํ นใช๎เคร่อื งวิทยุใดๆ ปฏิบตั งิ าน พนักงานวทิ ยคุ วรจะต๎อง
ก.ตรวจสายเคเบ้ิลและขอ๎ ตอํ ตาํ งๆ
(1)ให๎แนใํ จวาํ ข๎อตํอตาํ งๆ อยํูในสภาพที่ดี ตอํ เขา๎ ท่ีถกู ต๎องแตนํ อน
(2)ให๎แนใํ จวําสายเคเบลิ้ ตาํ งๆ อยใํู นสภาพทีด่ ี สะอาด แห๎ง และวางไว๎ในท่ีซ่ึงไมํเป็นอันตราย
ในระหวาํ งปฏิบตั งิ านตามปกติ
(3)เช็คไขมัน นา้ มัน ความชน้ื และสิ่งสกปรกอ่ืนๆ ออกจากเคเบ้ลิ และข๎อตํอให๎หมด
(4)ให๎แนํใจวาํ เคเบิล้ ไมถํ ูกดึงจนเกินไปไมมํ ีการขดเปน็ เกลียวหรือขอด (โดยเฉพาะอยํางย่ิงใกล๎
กบั ข๎อตํอ) ไมํมกี ารดึงตรงขอบหรือมมุ หบี เคร่ืองมือ ไมํมีของหนักกดทับหรือพิงทับ ไมํอยํูใกล๎กับความร๎อนท่ีมาก
เกินไปหรือถกู แสงแดดโดยตรง
ข.ตรวจสวํ นควบคุม ไกไฟฟาู และปมุ ตาํ งๆ
(1)ให๎แนํใจวาํ ไกไฟฟาู และสวํ นควบคุมตํางๆ เคลื่อนที่ตามลักษณะท่ีต๎องการโดยไมํต๎องออก
แรงมาก
(2)ใหแ๎ นํใจปมุ ตาํ งๆ ตดิ แนนํ อยูํกบั ก๎านของไกไฟฟูาและสํวนควบคมุ
(3)ใหแ๎ นใํ จวาํ ปุมดรรชนี (INDEXED KNOBS) หมุนไปบนแกนและแสดงการต้ังท่ีถูกต๎องของ
แตลํ ะตาแหนงํ
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 187
(4)ใหแ๎ นํใจวําไกไฟฟาู และสํวนควบคุมหยดุ ตรงตามตาแหนํงที่กาหนดเว๎นไว๎แตํจะตั้งใจทาไว๎
ใหห๎ มุนได๎รอบตัว
(5)เปลีย่ นปุมที่หาย (ถา๎ มขี องให๎เปล่ียน) หรอื หามาทดแทนได๎
(6)ให๎แนํใจวาํ ไกไฟฟูาชนิดปุมจะเข๎าท่เี มื่อกดจะหลดุ ทันทเี มื่อปลอํ ยและยึดแนํนเมือ่ ตอ๎ งการ
(7)ให๎แนํใจวําเครอื่ งหมายหรอื ปาู ยประจาเครื่องวทิ ยอุ าํ นไดช๎ ัดเจน
(8)เช็คไขมัน นา้ มัน ความชื้นและสิง่ สกปรกอื่นๆ ออกจากสํวนบังคับและบริเวณรอบๆ สํวน
บังคับ ให๎ความสนใจเปน็ พิเศษตอํ ไกไฟฟาู ชนิดปมุ ใหอ๎ ยูํในตาแหนํงวํางเมอ่ื ไมํใช๎
ค.ตรวจมาตร เคร่อื งชบี้ อก และเคร่ืองจากัดตาํ งๆ
(1)ตรวจมาตรตํางๆ เพื่อแนํใจวําเข็มชี้บอกอยูํในสภาพเรียบร๎อยและตรง และเคล่ือนท่ีได๎
ตามปกติ ตรวจการเคลอ่ื นท่ีของเข็มเมื่อเปิดไฟฟาู เขา๎ เครื่องหรือเม่อื มกี ารเปลี่ยนแปลงระหวาํ งปฏิบัตงิ าน
(2)ตรวจกระจกครอบมาตรตาํ งๆ และเครือ่ งช้ีบอกตาํ งๆ ให๎แนใํ จวาํ ไมํรา๎ วหรอื หลวมคลอน
(3)ตรวจกระจกเจียรนยั ท่ีครอบ-หลอดนา และหลอดให๎แสงสวํางเพ่ือให๎แนํใจวําไมํร๎าวหรือ
หลวมคลอน
(4)ตรวจความชื้นทีร่ วมตัวภายในกระจกครอบมาตร และกระจกเจียระไน ซึง่ เปน็ การแสดงให๎
ทราบถึงการผนกึ ของครอบไมแํ นนํ การระบายอากาศไมํพอดีหรือทั้งสองอยําง
(5)ดูแลให๎แนํใจวําแกว๎ ฝาครอบมาตรไมํเปล่ียนสี เช็คไข น้ามัน ความชื้นหรือสิ่งสกปรกอ่ืนๆ
ออกเสยี ถา๎ หากวาํ มีหมกั หมมอยูทํ ีผ่ ิวแกว๎ ดา๎ นนอก ให๎อาํ นคํมู ือประจาเครื่องเพือ่ ดูระเบยี บการทาความสะอาด
(6)ดูแลให๎แนใํ จวําหน๎าปทั มข์ องมาตรไมํเปลย่ี นสหี รือเป็นฝูา
(7)ดูแลใหแ๎ นํใจวํามาตรทง้ั หมดนนั้ เขม็ ช้ีทศ่ี ูนย์กํอนท่ีจะปอู นกาลังเขา๎ เครือ่ ง
(8)ดูแลให๎แนํใจวาํ สวํ นควบคุมมาตรและไกไฟฟูาสาหรบั เลอื กทางอยํใู นตาแหนงํ ที่กาหนดกอํ น
การเปดิ ไฟฟูาเขา๎ เครอ่ื ง
(9)ดูแลให๎แนํใจวาํ เกลียวยึดมาตร และเครื่องช้ีบอกตาํ งๆ เขา๎ ท่ีและแนนํ (ถ๎าสามารถใชม๎ ือล๎วง
เขา๎ ไปปรบั ขา๎ งในได)๎
ง.ตรวจตู๎ ฝากครอบ สายรัด และที่ยดึ ตํางๆ
(1)ตรวจตู๎และฝาครอบของเคร่ืองเพ่ือให๎แนํใจวําบรรดา กลอน ขาจับ หูหิ้วและสายยึด
ตลอดจนทยี่ ึดตํางๆ นั้นอยํูในสภาพทดี่ แี ละเขา๎ ท่ี
(2)ตรวจภายนอกของต๎โู ลหะและฝาครอบวาํ มีรอยบบุ รอยเจาะ มีของแหลมคม รอยขีดขํวน
และสถี ลอกปอกเปดิ
(3)ตรวจผา๎ ใบหรอื พลาสติกทค่ี ลมุ เคร่ือง หรือถุงใสํเคร่ืองวํามรี อยฉกี ขาด เปน็ ฝาู เปอ้ื น มีไขขน๎
หรอื มคี วามชื้น
(4) ตรวจหมนุ เกลยี วยดึ และหมุนเกลยี วแผงเครอื่ งท่ยี ดึ กนั สะเทอื นและสายดนิ เพอ่ื ใหแ๎ นํใจวาํ
หมุนเขา๎ ที่ แนนํ และอยใูํ นสภาพท่ีดี
การสื่อสารประเภทวิทยุ หนา๎ ที่ 188
(5)ในขณะทท่ี าการอนุํ เครอ่ื งอยนํู นั้ ใหต๎ รวจการระบายอากาศของเครอื่ งวําปฏิบตั งิ านไดโ๎ ดยไมํ
มีอุปสรรค และมีอากาศไหลได๎สะดวกในทอํ ลม ดแู ลใหแ๎ นใํ จวําไมํมีอุปสรรค และมีอากาศไหลได๎สะดวกในทํอลม
ดแู ลใหแ๎ นํใจวําไมํมีวตั ถแุ ปลกปลอมอนื่ ๆ วางขวางอยํู ซงึ่ อาจจะเปน็ การขดั ขวางตํอการระบายอากาศของเคร่ืองได๎
ถ๎ามีสิ่งช้บี อกใดๆ วาํ การระบายอากาศของเครอ่ื งไมํเพียงพอก็ให๎ปดิ กาลังไฟฟูาเขา๎ เครอื่ งจนกวําเหตุขัดข๎องน้ันจะ
ไดพ๎ จิ ารณาและแกไ๎ ขเรียบร๎อยแลว๎
(6)ตรวจบรรดาเคร่อื งประกอบท้งั หมดใหค๎ รบถ๎วนและมคี วามสะอาด
(ก)ให๎แนใํ จวําหูฟงั , ชุดมอื ถือ, ปากพดู , ลาโพง และคันเคาะตาํ งๆ อยใูํ นสภาพปราศจาก
สิ่งสกปรก, ความช้นื แลส่งิ แปลกปลอมอนื่ ๆ
(ข)ดูแลให๎แนํใจวําสายไฟฟูาและข๎อตํอตํางๆ น้ันพร๎อมที่จะใช๎งานได๎ ปราศจากการ
แตกหัก, เปน็ สนิม, ฉนวนชารดุ , โคง๎ งอ และมปี ม, เปน็ สนิม, ฉนวนชารุด, โคง๎ งอ และมปี ม
(ค)ดูแลใหแ๎ นํใจวาํ สิ่งอปุ กรณ์ท้ังหมดซงึ่ ไมํใช๎งานนนั้ ได๎เกบ็ ไว๎เรียบร๎อยแตํให๎มีพร๎อมเมื่อ
ต๎องการใช๎
จ.ใหบ๎ นั ทกึ สิ่งบกพรอํ งและขาดแคลนทังหมดไวใ๎ นแบบเอกสารในการซํอมบารุงที่เหมาะสม ซ่ึงได๎
พบเห็นในระหวาํ งการตรวจ เนอ่ื งจากพนักงานวิทยุได๎รับคาสง่ั ให๎ตรวจรายการสภาพตํางๆ ที่ตนไมํได๎รับอนุมัติให๎
แก๎ไข ตนจึงต๎องลงบนั ทึกสง่ิ ขาดตกบกพรํองเหลํานี้ไว๎ในแบบเอกสารการซํอมบารุงที่เหมาะสมเพ่ือให๎เจ๎าหน๎าที่
ซอํ มบารงุ ซงึ่ ได๎รบั อนุมตั ดิ าเนินการตํอไป พนกั งานวิทยคุ วรปฏิบัติการทันทเี พอื่ ใหแ๎ นํใจวําเคร่ืองวิทยุจะได๎รับการ
ซอํ มหรอื บารุงรักษาตามความจาเปน็ เพอื่ ใหใ๎ ช๎งานได๎
8.3.4 การบารงุ รกั ษาระหวาํ งปฏบิ ตั ิงาน
พนักงานวิทยุทุกคนจะต๎องได๎รับการฝึกให๎สังเกตการปฏิบัติงานของเคร่ืองวิทยุของตนอยํางใกล๎ชิดตน
จะต๎องเอาใจใสํโดยเฉพาะตอํ ลกั ษณะที่ผิดปกตใิ นการปฏบิ ตั ิงานของเครอื่ งและควรสารวจลักษณะทผิ่ ิดปกตเิ หลาํ นี้
ท่ีเกดิ ข้นึ ทนั ที ในระหวาํ งการใช๎เคร่อื งวทิ ยุใดๆ พนกั งานวิทยุควรปฏิบัติดงั น้ี
ก.ใช๎รายการตรวจสอบทางการปฏิบัติท่ีมีอยูํในคํูมือประจาเคร่ืองอันเหมาะสมเพ่ือตรวจเคร่ืองให๎
เร่มิ ตรวจสอบในทนั ทเี มอ่ื อนํุ และพร๎อมที่จะใชง๎ าน
ข.ตรวจสมรรถนะของเครื่องโดยการต้ังสํวนควบคุมตามพิกัดและบันทึกผลไว๎ให๎ค๎นดูคูํมือประจา
เครอื่ งเพ่ือต้งั ตามพกิ ัดใหถ๎ ูกตอ๎ ง ถ๎าผลผิดปกติก็ให๎สารวจเพื่อพิจารณาหาข๎อบกพรํองถ๎าหากข๎อบกพรํองใดๆ มี
ลกั ษณะซง่ึ พนักงานวิทยุไมไํ ดร๎ ับอนุมตั ิให๎ทาการแก๎ไขแลว๎ กใ็ หบ๎ นั ทึกผลไวใ๎ นเอกสารแยกเรอ่ื ง และรายงานสภาพ
ไปยังเจา๎ หนา๎ ทซ่ี ํอมบารงุ ระดบั หนํวย
ค.ตรวจมาตร (ถา๎ มี) เพ่ือดกู ารช้ีบอกทถี่ ูกตอ๎ ง
ง.ตรวจเครื่องชี้บอกความถ่ี (ถ๎ามี) เพือ่ ใหแ๎ นํใจวําปฏิบัติงานอยํูในความถี่ทีถ่ ูกตอ๎ ง
จ.ตรวจมาตรปรงุ คลน่ื (ถ๎ามี) เพอื่ ดกู ารเปล่ยี นแปลงท่ีชีบ้ อกปกติ
ฉ.ตรวจเครือ่ งระบายอากาศตามหว๎ งเวลา
ช.ตรวจเคร่อื งวทิ ยอุ ยวูํ าํ รอ๎ นจดั หรอื ไมํ ถ๎าเห็นวํารอ๎ นจดั ให๎ทบทวนตรวจสอบทางปฏิบตั เิ สยี ใหมํ ถา๎
ปรากฏวํารอ๎ นจดั ก็ใหป๎ ิดเครื่องทนั ทแี ละจดั ให๎เจา๎ หน๎าที่ซํอมบารุงระดับหนํวยได๎ทาการตรวจข๎อขัดข๎องเรื่องน้ีไมํ
การสื่อสารประเภทวิทยุ หนา๎ ที่ 189
อาจใช๎ในสถานการณท์ างยทุ ธวิธีไดเ๎ พราะวาํ การใช๎เคร่ืองโดยตอํ เน่อื งกันนั้นมีความสาคัญมาก โดยไมํคานึงถึงการ
เส่ยี งตํออนั ตรายของเครอ่ื ง
ซ.บันทึกส่ิงขาดตกบกพรํองตํางๆ ไว๎ในแบบเอกสารการซํอมบารุงที่เหมาะสมและรายงานให๎
เจา๎ หน๎าท่ีซํอมบารุงระดบั หนวํ ยทราบ เพ่อื เรํงรัดการซอํ มและการบารงุ รกั ษาใหเ๎ รว็ ข้ึน
8.3.5 การบารงุ รักษาภายหลงั การใชง๎ าน
การบารงุ รกั ษาภายหลังการใชง๎ านควรจะเร่ิมต๎นทันทีท่ีปิดวงจร แตํกํอนท่ีจะปิดเคร่ืองในการซํอมบารุง
ภายหลังการใชง๎ านนั้น พนกั งานควรจะกระทาดงั นี้.-
ก.ใช๎รายการตรวจสอบทางปฏบิ ตั ิท่ีมีอยูํในคํูมอื ประจาเคร่ืองเพ่ือตรวจสอบกํอนท่ีจะปิดเคร่ือง ให๎
บนั ทึกผลท่ีเห็นวําผิดปกติ
ข.ปิดเครื่องและทาการตรวจสอบกํอนการปฏิบัติงานท่ีปรากฏอยํูในข๎อ 3 และบันทึกสิ่งขาดตก
บกพรอํ งไว๎ในแบบเอกสารการซํอมบารุงท่เี หมาะสม
ค.ใหแ๎ นํใจวาํ ช้นิ สวํ นท้ังหมดน้นั ได๎รับการหลอํ ลนื่ (เฉพาะชิ้นสวํ นท่ีจะต๎องหลอํ ลื่น)
ง.ทาความสะอาดและปรับปรงุ สวํ นประกอบทง้ั หมด
จ.ทาความสะอาด ปรับปรุงและเก็บบรรดาสายเคเบ้ิล สายตํอทางไฟ สํวนประกอบยํอยและ
อุปกรณเ์ พม่ิ เตมิ
ฉ.ครอบฝากนั เครือ่ ง
ช.ทาการจาหนํายเคร่ืองไปใช๎ในท่ีตํางๆ (เครื่องพร๎อมรบ, ไว๎ในคลังเก็บตาย, สํงไปยังหนํวยซํอม
บารงุ ข้ันเหนอื ฯลฯ)
ซ.รายงานเจ๎าหน๎าที่ซํอมบารุงระดับหนํวยให๎ทราบถึงส่ิงขาดตกบกพรํองที่ได๎พบเห็นแตํยังไมํได๎
แก๎ไข
8.4 การซํอมบารงุ ระดับหนวํ ย
8.4.1 กลําวทวั่ ไป
การซํอมบารงุ ระดบั หนวํ ยนั้น จะต๎องดาเนินการโดยเจา๎ หน๎าทผี่ ู๎ซึง่ ไดร๎ ับการฝกึ ให๎มคี วามชานาญใน
เร่อื งท่ตี อ๎ งการ และแสดงใหเ๎ ห็นวาํ มคี วามสามารถอยํางเพียงพอในเรื่องเหลํานี้ หลังจากได๎รับการฝึกมาแล๎ว ท้ัง
ได๎รบั อนุมตั โิ ดยถูกตอ๎ งใหด๎ าเนนิ การซอํ มบารงุ ระดบั หนวํ ย ควรจะสงั เกตไว๎วําการบารงุ รกั ษาของพนักงานและการ
ซํอมบารงุ ระดับหนํวยนนั้ เป็นแตเํ พยี งการแสดงศพั ท์เทํานน้ั มิได๎หมายความวําพนักงานผ๎ูได๎รับการฝึกและมีความ
ชานาญงานน้จี ะไมํไดร๎ ับอนมุ ตั ิให๎ทาหนา๎ ท่กี ารซํอมบารงุ ระดับหนวํ ยในบางเรื่องเสยี ทีเดียว โดยทั่วไปแล๎วศัพท์ทั้ง
สองคานเี้ ป็นเพยี งเครอ่ื งชีบ้ อกทีย่ อมรบั กนั วาํ เปน็ ระดบั ขีดความสามารถที่แสดงวุฒทิ ต่ี ๎องการของเจา๎ หน๎าท่ที จ่ี ะให๎
ทาหน๎าท่นี นั้ ๆ เทาํ น้นั ขอบเขตอันแท๎จริงของการซํอมบารงุ ระดับหนํวยตอํ เครอ่ื งวทิ ยใุ ดๆ อาจพิจารณากาหนดได๎
จากหนังสือคูมํ ือประจาเครือ่ งนั้นๆ
การสื่อสารประเภทวิทยุ หนา๎ ท่ี 190
8.4.2 การตรวจด๎วยสายตา
กํอนที่จะตํอกระแสไฟฟาู เข๎าเครอ่ื งวิทยซุ งึ่ ทางานไมเํ ปน็ ปกติ เจา๎ หน๎าทซ่ี อํ มบารงุ ระดบั หนวํ ยควร
จะไดต๎ รวจข๎อบกพรํองด๎วยสายตาเสียกอํ น โดยท่ัวไปแลว๎ การกระทาเชนํ นจ้ี ะชํวยประหยัดเวลาและอาจปูองกัน
ความเสยี หายท่ีจะเกิดข้ึนแกเํ ครือ่ งวทิ ยุตอํ ไปได๎ ข๎อขัดขอ๎ งของเครอื่ งวิทยสุ ํวนมากอาจจะคน๎ หาไดจ๎ ากขอ๎ บกพรอํ ง
หนงึ่ หรอื หลายประการตอํ ไปนีค้ อื
ก.การตํอสายเคเบลิ้ หรือสายไฟฟาู ไมถํ กู ตอ๎ ง
ข.สายไฟหรอื ชอํ งเสยี บแตกหักหรือไมตํ อํ กนั
ค.สายตอํ สายอากาศตํอกันไมํถกู ต๎อง
ง.สายเคเบล้ิ ท่ีตํอระหวาํ งเครือ่ งรบั และเครื่องสงํ ชารุดหรอื ไมตํ ํอกัน
จ.หลอดหรือผลึกแรํชารุด
ฉ.สายท่ตี อํ ภายในหลวมหรือขาด
ช.หนา๎ สัมผสั ของไกไฟฟูา (Switch Contacts) สกปรกหรือหกั
8.4.3 การตรวจสอบสมรรถนะของเครือ่ ง
คํูมือประจาเครื่องสํวนมากมีรายการตรวจสอบสมรรถนะของเคร่ืองอยูํด๎วย เพื่อให๎เทคนิคในการ
คน๎ หาขอ๎ ขดั ขอ๎ งอยาํ งมรี ะเบยี บ รายการตรวจสอบสมรรถนะของเครื่องมีรายละเอียดมากกวํารายการตรวจสอบ
ทางปฏบิ ัติ และมาขอบเขตทางเทคนคิ มากกวําและใชเ๎ พื่อคน๎ หาขอ๎ ขดั ข๎องท่ีอยูทํ ่ีฐานเคร่ือง หรือที่สํวนประกอบ
ซ่ึงสามารถเปลี่ยนได๎งําย รายการตรวจสอบสมรรถนะของเคร่ืองใช๎รํวมกันกับรายการตรวจสอบทาง
ปฏิบัติเพ่ือยืนยันรายงานของพนักงานในเรอื่ งสิ่งทขี่ าดตกบกพรอํ งและเพอ่ื คน๎ หาข๎อขดั ขอ๎ งของเคร่ืองมือ
ดว๎ ยรายการตรวจสอบสมรรถนะของเคร่ือง มตี วั อยํางดงั แสดงไวใ๎ นตารางนี้
รายการตรวจสอบสมรรถนะของเครื่อง (ชดุ วทิ ยุ AN/PRC-25)
การปฏิบตั ิ การชี้บอกปกติ มาตรการแก๎ไข
ขั้น -เปลี่ยนแบตเตอร่ี BA-386
เปล่ียนหลอดไฟสํองหน๎าปทั ม์
1. -ตดิ ตงั้ สายอากาศตามกาหนดบนทีต่ ดิ ต้ัง -ตอํ ปากพูด-หูฟงั H-138/U กับ
สายอากาศ หวั ตํอ AUDIO อันอ่ืน
2. - ตอํ ปากพูด-หูฟงั H-138/U กบั หวั ตํอ
AUDIO อนั ใดอันหน่ึง
3. - ตั้งปุมบังคบั ที่เลข 5
4. -ต้ังไกไฟฟูาบอกการทางานท่ี LITE -ไฟสอํ งหนา๎ ปัทมช์ ํอง
สือ่ สารติด
5. -ตัง้ ไกไฟฟาู บอกการทางานท่เี ปดิ (ON) -จะได๎ยินเสยี งซูํจากปาก
พูด-หูฟงั H-138/U เม่อื
การสื่อสารประเภทวทิ ยุ หน๎าท่ี 191
สญั ญาณยงั ไมํเข๎า ตรวจปากพดู -หูฟงั โดยการ
เปลี่ยนใหมํ ตรวจโมดลู
A16,A25,A21 และA5
ข้ัน การปฏบิ ตั ิ การชี้บอกปกติ มาตรการแกไ้ ข
6. -ตัง้ ไกไฟฟาู บอกการทางานที่ -จะไมํไดย๎ ินเสยี งซูํ -ตรวจโมดลู A24
SQUELCH
7. -ตั้งเคร่ือง AN/PRC-25 ท่อี ยํใู กล๎ (ซง่ึ -สญั ญาณทดสอบจะดัง -ถ๎าสญั ญาณที่รบั ไดอ๎ อํ น ตรวจ
เป็นเครอ่ื งด)ี ในชํองการสื่อสารซงึ่ มแี ถบ และชัดเจน สายอากาศและการตอํ
ความถ่ี 30-52 MHz. และปรับตงั้ RT- สายอากาศ ถา๎ รับสัญญาณไมํได๎
505/PRC-25รบั สญั ญาณตาม เลย ตรวจโมดลู A2 ถงึ A5,A9
ชอํ งสื่อสารดงั กลาํ ว สงํ สญั ญาณทดสอบ ถงึ A15 และ A17 และ A18
เป็นเสยี งยาวจากเครอื่ งสงํ วทิ ยุ
AN/PRC-25 ทต่ี ้งั อยใูํ กลเ๎ คียง
8. -ปรบั เครอ่ื ง AN/PRC-25 ซง่ึ ตงั้ อยํู -สญั ญาณทดสอบจะดงั -ตอ๎ งสงํ ซอํ มขนั้ สูง
ใกลเ๎ คยี ง ณ ชํองส่อื สารซึง่ ให๎มีแถบ ชัดเจน
ความถ่ี 53-75 MHz.และปรบั RT-
505/PRC-25 รับตามชอํ งสือ่ สาร
ดงั กลําว สงํ สัญญาณทดสอบเป็นเสยี ง
ยาวจากเครื่อง
9. AN/PRC-25 ทตี่ งั้ อยูใํ กล๎เคียง -สัญญาณทดสอบจะดัง -ตรวจสอบโมดลู ท่ี RT-505/PRC-
-ปรับเคร่ือง AN/PRC-25 ใกลเ๎ คียง และชัดเจนทุกๆ ชํอง 25 ตามชํองทร่ี ับไมํไดต๎ ามลาดับ
เพอื่ ใหส๎ ํงชอํ งส่อื สารตาํ งๆ ดงั ข๎างลําง ใช๎ สัญญาณ A10,A11,A12,A13, A14,A15
สัญญาณทดสอบเปน็ เสียงยาวทกุ ชํอง และ A17
ปรับตง้ั RT-505/PRC-25 รบั ตาม
ชํองสัญญาณแตํละชอํ งตามชํองความถี่
ขา๎ งลาํ งน้ี
30.00 MHz.
การส่ือสารประเภทวิทยุ หนา๎ ท่ี 192
30.05 MHz.
30.10 MHz.
30.20 MHz.
30.30 MHz.30.40 MHz.
30.50 MHz.
30.60 MHz.
30.70 MHz.
30.80 MHz.
30.90 MHz.
ขั้น การปฏิบตั ิ การชี้บอกปกติ มาตรการแกไ้ ข
10. -ปรับเครือ่ ง AN/PRC-25 ทตี่ ั้งอยํู -สญั ญาณทดสอบจะดัง -ตรวจปากพูด-หูฟงั H138/U
ใกลเ๎ คียง (ร๎แู นวํ ําเป็นเครือ่ งด)ี เพือ่ รบั และชดั เจนทีเ่ ครอ่ื ง โดยการเปลยี่ นอันใหมํ ถ๎ารบั
สัญญาณทดสอบ ซง่ึ สํงไปโดย RT- AN/PRC-25 ท่ตี ั้งอยูํ สญั ญาณไมํได๎เลย ให๎ตรวจดโู มดลู
505/PRC-25 กลไกไฟฟาู ชนิดกดเพ่ือพูด ใกลเ๎ คียง A1,A6,A7,A22 และA23ตรวจ
ของปากพูด-หูฟัง H-138/U ซงึ่ ตํอกบั หลอด V1 ตรวจ K1 และ K3
RT-505/PRC-25 และสงํ สัญญาณ โดยการเปล่ียนใหมํ ปรับเคร่ือง
ทดสอบเปน็ เสยี งยาวๆ AN/PRC-25 ซงึ่ ตงั้ อยูใํ กลเ๎ คียง
ทกุ ชํองสญั ญาณ ทงั้ ซ๎ายขวา และ
ดา๎ นซ๎ายของชํองสญั ญาณ ถ๎า
ไดร๎ ับสญั ญาณนอกชอํ งตรวจ
A19
11. -ปรับเครือ่ ง AN/PRC-25 ท่ีตั้งอยํู -สัญญาณทดสอบจะดงั ตรวจโมดลู A23 และ A24
ใกลเ๎ คยี ง (รูแ๎ นวํ าํ เครื่องด)ี เพอ่ื รบั และชัดเจนทเ่ี ครอื่ ง AN/ ตรวจ K2 โดยการเปลี่ยนใหมํ
PRC-25 ท่ตี ้งั อยํู
สัญญาณทดสอบซงึ่ สงํ ไปโดย RT-
505/PRC-25 ตั้งไกไฟฟูาบอกการ ใกลเ๎ คยี ง
ทางานของเครือ่ ง AN/PRC-25 ท่ตี งั้ อยูํ
การสื่อสารประเภทวิทยุ หนา๎ ท่ี 193
ใกลเ๎ คยี งใหอ๎ ยทํู ่ี SQUELCH กดไก -เลิกใช๎เครอื่ ง -สงํ ซอํ มขน้ั สงู
ไฟฟูาชนดิ กดเพื่อพดู ของปากพดู -หฟู ัง
H- 138/U ซง่ึ ตํอกบั RT-505/PRC-25
และสงํ สญั ญาณทดสอบเป็นเสยี งยาว
12. -ตัง้ ไกไฟฟาู บอกการทางานที่ OFF
8.4.4 เครื่องมอื ตรวจวัดทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์
เจา๎ หนา๎ ทีซ่ ํอมบารงุ ระดบั หนํวยมกั จะถกู ใชใ๎ ห๎ตั้งเคร่อื งใหมํๆ เพอื่ ใช๎งาน ทาการปรนนิบัติบารุงตามปกติ
หรอื ทาการซอํ มเครอ่ื งมือที่ซับซอ๎ น โดยมากแล๎วงานน้ันไมํอาจจะกระทาได๎ถ๎าไมํใช๎เครื่องมือตรวจวัด โดยทั่วไป
แล๎วงานนน้ั อาจจะกระทาไดร๎ วดเร็ว แนํนอนและมีประสิทธิภาพมากข้ึน ถ๎าใช๎เครื่องมือตรวจวัดที่เหมาะสมแล๎ว
เครอ่ื งมือตรวจวดั ธรรมดาสามัญไดแ๎ กมํ าตรวัดรวม (MULTIMETERS) เครื่องกาเนดิ สญั ญาณ เครอ่ื งตรวจวัดหลอด
มาตรวัดความถ่แี ละเครอื่ งแกวํง
ก.มาตรวัดรวม (MULTIMETERS) มาตรวัดรวมดูเหมือนจะเป็นเคร่ืองตรวจวัดช้ินเดียวที่สะดวก
ทีส่ ดุ ท่เี จา๎ หน๎าท่ซี อํ มบารงุ มีอยูํ เนื่องจากอาจจะใช๎ทาการตรวจศักยไ์ ฟฟูา ความตา๎ นทาน และตามปกติวัดกระแส
ด๎วยมาตรขนาดใหญๆํ ซ่ึงตามปกตใิ ช๎ในโรงซํอมขน้ั สูงๆ นั้นมักจะมีความแนํนอนมากและเสียหายงําย สํวนมาตร
ขนาดเลก็ ๆ ไมํสูจ๎ ะแนนํ อนเหมอื นเคร่ืองขนาดใหญํ แตมํ ีความแข็งแรงเหมาะทจี่ ะใชง๎ านในสนาม
ข.เครอ่ื งกาเนดิ สัญญาณ (SIGNAL GENERATORS) เครอ่ื งกาเนดิ สัญญาณเป็นเครื่องตรวจวัดที่ให๎
กาเนิดสญั ญาณกระแสทส่ี ามารถปรบั ตง้ั คลน่ื เคร่ืองความถี่ได๎เป็นสวํ นใหญํ สัญญาณท่ีกาเนิดข้ึนน้ีอาจจะเป็นการ
ปรงุ คล่นื หรือไมปํ รุงคล่ืนกไ็ ด๎ และอาจให๎เพ่ือปรบั แตํง (ALIGNMENT) วงจรทป่ี รบั แตงํ ได๎ การคน๎ หาขอ๎ ขดั ขอ๎ งของ
เครอ่ื งพลวัต (การตรวจคน๎ สัญญาณ) วงจรทปี่ รับแตงํ ได๎ การวดั ความไว การวัดความเข๎มของสนามและการวัดผล
เพม่ิ ของภาพวงจร และการทดแทนดว๎ ยสัญญาณ
ค.เครื่องตรวจวัดหลอด (TUBE TESTERS) เพ่ือให๎เหมาะที่จะใช๎ในสนามเครื่องตรวจวัดหลอด
จะต๎องให๎การประเมนิ คําคุณภาพของหลอดได๎งํายและรวดเร็วเครื่องตรวจวัดหลอดทาหน๎าท่ีอยํางน้าได๎โดยการ
เปรียบเทยี บสภาพของหลอดจะตรวจวัดกับมาตรฐานทกี่ าหนดไว๎ลํวงหน๎า
ง.มาตรวัดความถ่ี (FREQUENCY METER) โดยหลักแล๎ว มาตรวัดความวัดความถี่ก็เป็นวงจรที่
ปรบั ตั้งคล่ืนได๎ มาหนา๎ ปัทม์ซ่ึงได๎ปรับเทยี บโดยตรงเปน็ กิโลไซเก้ลิ หรอื รบั วทิ ยมุ าตรวดั ความถ่ี บางแบบอาจจะใช๎
แทนเครื่องกาเนดิ สญั ญาณในการตรวจด๎วยสญั ญาณหรอื วธิ กี ารค๎นหาขอ๎ ขดั ขอ๎ งอ่ืนๆ ได๎
จ.เครื่องดูการแกวํงไฟฟูา (OSCILLOSCOPERS) เป็นเคร่ืองมืออิเล็กทรอนิกส์ที่แสดงภาพของ
ศักย์ไฟฟูาศักย์หนึ่งท่ีเกี่ยวกับศักย์ไฟฟูาอีกศักย์หนึ่งบนจอของหลอดรังสีข้ัวไฟฟูาลบ (CATHODE-RAY TUBE)
ลกั ษณะทีส่ าคญั ของเครื่องดูการแกวํงไฟฟูาคือ ลาอิเล็กตรอนไมํมีความเฉื่อย หลอดรังสีขั้วไฟฟูาลบจึงสามารถ
ตอบสนองตํอความถีส่ ูงๆ มากได๎ดกี วําเครอ่ื งชี้บอกทางไฟฟาู อน่ื ๆ
8.4.5 ระเบียบปฏบิ ัตใิ นการคน๎ หาข๎อขดั ขอ๎ ง
การส่ือสารประเภทวิทยุ หน๎าที่ 194
เนื่องจากมีเครื่องอุปกรณ์แบบตํางๆ กันมากมายท่ีใช๎ในสนาม ฉะนั้นจึงไมํมีกฏตายตัวในการค๎นหา
ขอ๎ ขัดขอ๎ ง หัวขอ๎ ตํอไปนีเ้ ปน็ ระเบยี บปฏบิ ตั ิโดยทวั่ ไปที่อาจใชเ๎ ป็นแนวทางอันเปน็ ประโยชน์สาหรับเจ๎าหน๎าที่ซํอม
บารุงระดับหนวํ ยทีไ่ ดเ๎ รยี นรู๎วิธีค๎นหาขอ๎ ขดั ขอ๎ งอยาํ งรวดเรว็ และดีที่สดุ มาแล๎วดว๎ ยประสบการณ์ คอื
ก.การศกึ ษาตารา ภาพแสดงประกอบ และแผนผงั ท่มี าอยใํู นคาแนะนาการซํอมบารุงระดับหนวํ ย
ข.หมน่ั ซกั ซอ๎ มการใช๎เคร่ืองมือตรวจสอบอยูเํ สมอ
ค.ตรวจสอบเครื่องตามระเบียบปฏิบตั ิในรายการตรวจสอบการใช๎เครือ่ ง
ง.ตรวจสอบเคร่ืองตามระเบียบในการตรวจสอบสมรรถนะของเครื่อง
จ.ดาเนนิ การตามการแกไ๎ ขตามท่ีปรากฏในรายการตรวจสอบ
ฉ.บันทกึ ความขาดตกบกพรอํ งทไี่ มํสามารถจะแกไ๎ ขไดใ๎ นขณะนั้น
ช.ถา๎ ตอ๎ งการทาการซํอมบารุงในประเภทที่สงู กวําก็ให๎สํงเคร่ืองอุปกรณ์พร๎อมด๎วยบันทึกการซํอม
บารุงไปยังโรงซอํ มขนั้ นน้ั ในบางโอกาสเจา๎ หน๎าทซี่ อํ มบารงุ สนับสนุนโดยตรง ก็อาจจะมาเย่ยี มหนวํ ยตามระยะเวลา
ตํอเวลาตอํ หนํวยซ่ึงตอ๎ งการรับบริการ ในกรณีน้ีก็ให๎สํงบันทึกการซํอมบารุง (หรือรายงานอันเหมาะสม) ไปกํอน
และเกบ็ เครือ่ ง (ชะงกั ใชง๎ าน) ไว๎จนกวาํ เจ๎าหนา๎ ที่ซอํ มบารงุ สนบั สนุนโดยตรงจะมาถงึ พนื้ ทน่ี ัน้ ถา๎ ตอ๎ งการเครอ่ื งนนั้
เรํงดวํ นกใ็ ห๎สํงคาขอรบั การซอํ มหรือบารงุ รกั ษาโดยทันทตี ามมูลฐานฉกุ เฉิน ถา๎ ไมจํ าเป็นก็ให๎หลีกเล่ียงการขอการ
ซํอมบารุงแบบน้ีเสียเนื่องจากการขอการซํอมบารุงฉุกเฉินบํอยๆ จะกระทบกระเทือนตํอประสิทธิผลในการ
ปฏบิ ตั ิงานของโรงซํอมบารุงประเภทสงู กวาํ
8.4.6 การวเิ คราะหเ์ พ่ือการแกไ๎ ข
ข๎อขัดขอ๎ งอนั สบั สนเกีย่ วกบั เคร่ืองอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ ชํน เครอื่ งวทิ ยุจะคน๎ พบได๎โดยต๎องให๎หาสํวนท่ี
ขดั ข๎องเสียกํอนแล๎วจึงค๎นหาข๎อขัดข๎องของสํวนน้ัน การค๎นหาข๎อขัดข๎องท้ังเครื่องน้ันจะต๎องมีความเข๎าใจความ
เกย่ี วข๎องระหวํางกันของสํวนประกอบหลักท่ีประกอบข้ึนเป็นชุดวิทยุถ๎าขัดข๎องเกิดข้ึนที่สํวนประกอบหลักอันใด
อันหน่ึงก็จะทาใหเ๎ ครอ่ื งไมํทางานตามหน๎าที่ที่ได๎ออกแบบสร๎างมาในเครื่องวิทยุบางแบบความบกพรํองเพียงส่ิง
เดยี วเทาํ น้ันอาจทาใหเ๎ ครื่องนที้ างานไดต๎ ามเดิม แตวํ ทิ ยุบางเคร่ืองการชารดุ ข้นั ต๎นเพยี งสวํ นหนึง่ เชนํ หมอ๎ ตนุ เป็น
ต๎น ก็อาจกํอให๎เกดิ ความเสยี หายแกสํ วํ นอน่ื ๆ ได๎อีกหลายสํวน ในกรณีนี้สํวนที่ได๎รับการกระทบกระเทือนถึงท้ัง
สํวนควรจะได๎มีการเปลีย่ นเสียกํอนทจ่ี ะใช๎เครื่อง
ก.เพื่อทจี่ ะให๎คน๎ หาข๎อขดั ขอ๎ งไดง๎ ํายเข๎า เครอ่ื งวทิ ยุจงึ ไดแ๎ บงํ สวํ นประกอบหลักไวเ๎ ปน็ สวํ นโดย
สวํ นมากแลว๎ แตํมากแลว๎ แตลํ ะสํวนประกอบหลกั จะติดตงั้ ไวบ๎ นฐานเคร่อื งซ่ึงแยกจากกัน ระบบวทิ ยุโดยทวั่ ไปแล๎ว
จะมสี วํ นประกอบหลักๆ ดังตอํ ไปน้ี
(1)สวํ นเครื่องสํง
(2)สํวนเครอื่ งรับ
(3)สํวนระบบสายอากาศ
(4)สํวนเคร่อื งควบคมุ
(5)สํวนเคร่อื งจํายกาลัง
ข.สวํ นประกอบหลกั แตํละสวํ นในบางกรณอี าจจะตอ๎ งพง่ึ พาอาศัย สํวนประกอบอื่นๆ อีกหน่ึงหรือ
หลายสวํ น ตวั อยาํ งเชนํ เครอ่ื งจะไมทํ างาน ถ๎าระบบสายอากาศหรือเคร่ืองจํายกาลังบกพรํอง เพราะฉะนั้น โดย
การส่ือสารประเภทวทิ ยุ หน๎าที่ 195