The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ศาสนาสำคัญของโลก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by e60161556, 2022-01-23 11:35:10

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ศาสนาสำคัญของโลก

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ศาสนาสำคัญของโลก

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

เเรรอ่ื่อื งง ศาสนาสาคญั ของโลก
รายวิชา ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202)

โดย
นายณัฐพงค์ กรงุ ศรี

นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู
โรงเรียนนวมินทราชทู ศิ พายพั
สานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้

ชุดกิจกรรมที่ 1 ความรทู้ ั่วไปเกี่ยวกบั ศาสนา
ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ
ชุดกิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์
ชุดกิจกรรมที่ 5 ศาสนาอิสลาม

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

เเรรอ่ือ่ื งง ศาสนาสาคัญของโลก
รายวิชา ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202)
ชดุ ที่ 1 ความรู้ท่ัวไปเกีย่ วกับศาสนา

โดย
นายณัฐพงค์ กรุงศรี

นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู
โรงเรียนนวมินทราชูทศิ พายัพ
สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษาเชียงใหม่

ชุดกิจกรรมที่ 1 ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกับศาสนา ก

คานา

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ศาสนาสาคัญของโลก รายวิชา
ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งชุดกิจกรรม
การเรียนรู้นี้จัดทาข้ึนเพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียน และใช้เป็น
เคร่อื งมือพฒั นาผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นของนักเรียน ใช้ประกอบการ
สอนในรายวิชา ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202) เน้นกิจกรรมที่
หลากหลาย ผู้เรยี นจะได้รบั การพฒั นาท้ังทางด้านความรู้ ทักษะ และ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ซึ่งก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดการ
เปลย่ี นแปลงด้านทักษะและด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดนี้นาเสนอในลักษณะการวิเคราะห์
และสังเคราะห์องค์ความรู้ มีคาชี้แจง มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด
จุดประสงค์การเรียนรู้ คาถาม พร้อมภาพประกอบที่ชัดเจนสวยงาม
มีการเรียนรู้คาถามพร้อมเฉลย เพื่อประเมินผลการเรียน

ผู้จัดทาหวงั เป็นอยา่ งยิ่งว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดนี้ จะก่อ
ประโยชน์สูงสุดในการพัฒนานักเรียนให้บรรลุจุดประสงค์ ตัวชี้วัด
และเปน็ ประโยชน์ต่อผู้สนใจศึกษา ทีจ่ ะนาไปใช้ในการจดั การเรียนการ
สอน

ณัฐพงค์ กรงุ ศรี

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

ชดุ กิจกรรมท่ี 1 ความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกบั ศาสนา
ชุดกจิ กรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
ชุดกจิ กรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ
ชดุ กจิ กรรมที่ 4 ศาสนาครสิ ต์
ชุดกจิ กรรมที่ 5 ศาสนาอิสลาม

ชุดกิจกรรมที่ 1 ความร้ทู ว่ั ไปเกี่ยวกับศาสนา ข

สารบัญ

หนา้

คานา ก

สารบัญ ข

แผนภมู ิลาดบั ข้นั ก่อนการศึกษา 1

คาแนะนาสาหรับครู 2

คาแนะนาสาหรับนกั เรียน 3

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้วี ัด / สาระการเรียนรู้ / จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 4

แบบทดสอบก่อนเรียน 5

ใบความรู้ 7

กิจกรรมการเรียนรู้ 11

แบบทดสอบหลังเรียน 12

ภาคผนวก 14

เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน 15

เฉลยกิจกรรมการเรียนรู้ 17

บรรณานกุ รม 18

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกับศาสนา 1

แผนลาดับขนั้ ตอนกอ่ นการศึกษา

ชดุ ท่ี 1 ความรู้ทว่ั ไปเก่ยี วกับศาสนา
ขน้ั ตอนการศึกษาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

อ่านคาแนะนาการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

ทดสอบกอ่ นเรียน

ศกึ ษาชดุ กิจกรรมโดยปฏิบตั กิ ิจกรรมดงั นี้
• ศกึ ษาใบความรู้
• ปฏิบัติกิจกรรม

ทดสอบหลังเรียน

ผา่ นเกณฑ์ ไมผ่ ่านเกณฑ์

ศกึ ษาชุดตอ่ ไป

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับศาสนา 2

คาแนะนาการใชช้ ุดกิจกรรม : สาหรบั ครู

การจัดกิจกรรมโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีขั้นตอนการจัดกิจกรรมที่ผู้สอนต้อง
ดาเนนิ การดงั ต่อไปน้ี
1. ขั้นเตรียมการสอน

1.1 ศกึ ษาแผนการจัดการเรยี นรู้และชดุ กจิ กรรมอย่างละเอยี ดจนเขา้ ใจเปน็ อยา่ งดี
1.2 ตรวจสอบชดุ กิจกรรม สอื่ การเรียนรู้
2. ขน้ั ดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้
2.1 ครูแจกชุดกจิ กรรม
2.2 ครชู ้แี จงการใช้ชุดกจิ กรรมให้นกั เรยี นทราบก่อนลงมือปฏบิ ตั ิ
2.3 ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อศึกษาระดับความรู้พื้นฐานของ

นกั เรยี น
2.4 ครใู ห้นักเรียนศึกษาชุดกิจกรรมและปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามขัน้ ตอน ดังนี้

1) ศึกษาใบความรู้
2) ทากิจกรรม
2.5 ครูให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน เพ่ือศึกษาพัฒนาการเรียนรขู้ องนักเรียน
3. ข้นั ประเมนิ ผล
3.1 ครตู รวจแบบทดสอบและกจิ กรรม
3.2 บนั ทึกคะแนน ประเมินผลตามเกณฑก์ ารวดั ผลและประเมินผล
3.3 หากมีนักเรียนคนใดยังทาแบบทดสอบหลังเรียนและกิจกรรมไม่ผ่านร้อยละ 80
ให้ศกึ ษาชดุ กิจกรรมตามข้นั ตอนใหมอ่ กี ครั้ง

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความรู้ท่วั ไปเกี่ยวกับศาสนา 3

คาแนะนาการใช้ชุดกิจกรรม : สาหรบั นักเรียน

การจัดการเรียนรู้โดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีข้ันตอนการจัดกิจกรรมที่นักเรียน
ต้องดาเนินการ ดังต่อไปนี้

1. ศึกษาจุดประสงค์การเรยี นรู้ใหเ้ ขา้ ใจ
2. ตั้งใจเรยี นรู้ตามลาดบั ขัน้ ตอนท่ีกาหนดให้ ไม่ข้ามข้ันตอน
3. ศึกษาและลงมือปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดและมีความซ่ือสัตย์ต่อตนเอง
ไมเ่ ปดิ ดูเฉลยคาตอบกอ่ น
4. ขณะศกึ ษาหากมขี อ้ สงสัยหรือข้อขอ้ งใจให้ถามครเู พ่ือขอคาแนะนา
5. หลงั จากศึกษาชุดกิจกรรมเสรจ็ จะมีการทดสอบดว้ ยกิจกรรม
6. หากนกั เรียนคนใดยังทาแบบทดสอบและกิจกรรมไม่ผ่านร้อยละ 80 ให้ศึกษาชุด
กิจกรรมตามข้ันตอนใหม่อีกคร้ัง หากยังไม่ผ่านหรือมีข้อสงสัยให้นักเรียนยืมชุดกิจกรรมไป
ศกึ ษานอกเวลาเรยี นหรอื ปรึกษาครูผู้สอน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ น้ีจะมีประโยชน์ต่อนักเรียน ถ้านักเรียนศึกษาตามลาดับ
ข้ันตอนและมีความซ่ือสัตย์ ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ที่กาหนดให้นักเรียนศึกษาเน้ือหาในใบความรู้
และฝกึ ทากิจกรรมหลาย ๆ คร้ัง แล้วกลับมาทดสอบอีกครั้ง เชื่อว่านักเรียนจะมีความเข้าใจ
อย่างถกู ต้อง มีความรู้ ความสามารถ ส่งผลให้มผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นสูงข้ึน

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความรูท้ ั่วไปเกีย่ วกับศาสนา 4

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้วี ัด / สาระการเรียนรู้

มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้วี ัด

มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา
หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่
ถกู ต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลกั ธรรมเพ่ืออยรู่ ่วมกนั อยา่ งสันติสขุ

ตวั ชีว้ ัด ส 1.1 ม.4-6/17 อธิบายประวัติศาสดาของศาสนาอื่น ๆ โดยสังเขป

สาระการเรยี นรู้

➢ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกบั ศาสนา
➢ ความหมายของศาสนา
➢ องค์ประกอบของศาสนา
➢ ประเภทของศาสนา
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายและองคป์ ระกอบของศาสนาไดถ้ กู ตอ้ ง (K)
2. นกั เรยี นสามารถจาแนกประเภทของศาสนาไดถ้ กู ตอ้ ง (P)
3. นกั เรียนเห็นความสาคญั ของศาสนา โดยสามารถบอกประโยชน์ของศาสนาได้ (A)

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความรทู้ ว่ั ไปเกี่ยวกบั ศาสนา 5

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เรือ่ ง ความรทู้ ่วั ไปเกี่ยวกับศาสนา

คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่คิดว่าถกู ต้องมากทส่ี ุดเพียง 1 ข้อเท่านั้น

1. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกบั คาว่า “ศาสนา”
ก. ความผกู พันระหว่างมนษุ ย์กับพระเจ้าศาสนา
ข. ศาสนา ตรงกบั คาภาษาองั กฤษว่า “religion”
ค. ภาษาบาลวี ่า “ศาสน” แปลว่า "คาสงั่ สอน”
ง. เชื่อว่าพระเจ้ากาหนดคาสอนด้านศีลธรรมและกฎหมาย

2. ข้อใดคือความหมายของคาว่า “ศาสนา” ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525
ก. ข้อปฏิบัติตามระหว่างมนุษย์กบั พระเจ้า
ข. ลทั ธคิ วามเชื่อของมนษุ ย์ ทีแ่ สดงกาเนิดและส้นิ สดุ ของโลก
ค. แสดงออกโดยการมอบศรทั ธาตอ่ พระเจ้าด้วยความเคารพยาเกรง
ง. การควบคุมดแู ลกล่าวตกั เตือนตนเอง ให้ทาในสิง่ ทถ่ี กู ต้องดงี ามอยู่เสมอนั่นเอง

3. มูลเหตุสาคัญของการเกิดศาสนาอนั ดับแรก คือข้อใด
ก. เกิดจากความไมร่ ู้
ข. เกิดจากความกลัว
ค. เกิดจากความตอ้ งการทีพ่ ึ่งทางใจ
ง. เกิดจากปญั ญาตอ้ งการรู้แจ้งเห็นจริง

4. ขอ้ ใดไม่ใช่องค์ประกอบหลกั ของศาสนา
ก. ศาสดา
ข. พิธกี รรม
ค. คาสอน
ง. สญั ลักษณ์

5. องค์ประกอบของศาสนาที่สาคญั มากทส่ี ดุ คือข้อใด
ก. ศาสดาและพิธกี รรม
ข. ศาสดาและนักบวช
ค. คาสอนและพิธกี รรม
ง. ศาสนสถานและคาสอน

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความรทู้ ่ัวไปเกีย่ วกบั ศาสนา 6

6. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้องเก่ยี วกับคาว่า “ลัทธิ”
ก. เน้นประโยชน์เพือ่ สว่ นรวม
ข. จาเปน็ ต้องมีพิธกี รรม
ค. คาสอนทีไ่ ม่เปลย่ี นแปลง
ง. คตคิ วามเชื่อ ความคิดเหน็

7. ข้อใดกล่าวถูกต้องถึงความแตกต่างระหว่างของคาว่า “ศาสนา”กบั “ลทั ธ”ิ
ก. ศาสนา เน้นความคิดเห็น , ลัทธิ เน้นคาสอน
ข. ศาสนา เน้นเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง , ลทั ธิ เน้นเรื่องบญุ -บาป
ค. ศาสนา คาสอนเปลีย่ นแปลงได้ , ลทั ธิ คาสอนเปลี่ยนแปลงไมไ่ ด้
ง. ศาสนา เน้นประโยชน์สุขของคนทั่วไป , ลทั ธิ เน้นประโยชน์ของบุคคลเฉพาะกลมุ่

8. ศาสนาใดบ้าง ทีม่ ีลักษณะเปน็ เอกเทวนยิ ม
ก. พุทธ เชน
ข. อิสลาม พราหมณ์ - ฮินดู
ค. ครสิ ต์ อิสลาม
ง. พราหมณ์ - ฮินดู ชนิ โต

9. ศาสนาใดบ้าง ทีม่ ีลกั ษณะเปน็ พหุเทวนิยม
ก. พุทธ ซิกข์
ข. ครสิ ต์ อิสลาม
ค. พราหมณ์ - ฮินดู ชนิ โต
ง. อิสลาม พราหมณ์ – ฮินดู

10. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกีย่ วกับความสาคัญของศาสนา
ก. เปน็ ที่พึง่ ทีย่ ึดเหนีย่ วจิตใจ
ข. เป็นแหล่งกาเนดิ ศิลปะและวัฒนธรรม
ค. สอนให้ผู้คนเห็นประโยชน์ส่วนตวั มากกว่าผู้อื่น
ง. สร้างระเบียบความประพฤติของสมาชิกในสงั คมให้เปน็ ไปในแนวเดยี วกนั

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกับศาสนา 7

ใบความรู้
เรือ่ ง ความรทู้ ว่ั ไปเกี่ยวกบั ศาสนา

ศาสนาคืออะไร
ศาสนา ตรงกบั คาภาษาอังกฤษว่า “religion” มาจากภาษาลาติน “religio” ซึ่งแปลว่า “ผูกพัน”

หรือ “สัมพันธ์” หมายถึง ความผูกพันระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า ซึ่งแสดงออกโดยการมอบศรัทธาต่อ
พระเจ้าด้วยความเคารพยาเกรง เช่น

เชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลกและสรรพสง่ิ
เชือ่ ว่าพระเจ้ากาหนดคาสอนด้านศีลธรรมและกฎหมาย
เชื่อคาสอนของพระเจ้าโดยไมต่ ้องพิสูจน์
อุทิศตนให้แก่พระเจ้า
ตารับคาว่า “ศาสนา” ในภาษาไทย มาจากคาศัพท์เดิมในภาษาสันสกฤตว่า “ศาสน” และ ตรง
กบั คาในภาษาบาลวี ่า “สาสน” แปลว่า "คาสง่ั สอน” หรอื “การปกครอง” ซึง่ หมายถึง
“คาส่ัง” อันเป็นข้อห้ามมิให้ทาชั่ว ที่เรียกว่า “ศีล” หรือ “วินัย” และ “คาสอน” อันเป็น
คาแนะนาให้ทาความดี ทีเ่ รียกว่า “ธรรม” เมือ่ รวมเข้าด้วยกันกห็ มายถึง “ศีลธรรม” นน่ั เอง
“การปกครอง” หมายถึง การปกครองจิตใจของตนเอง การควบคมุ ดูแลกล่าวตักเตือนตนเองให้
ทาในสง่ิ ทีถ่ ูกต้องดงี ามอยู่เสมอนั่นเอง

ตามพจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้คานิยามของคาว่าศาสนาไว้ว่า
“ ลทั ธคิ วามเชื่อถือของมนุษยอ์ นั มีหลัก คือ การแสดงกาเนิดและความส้ินสุดของโลกเป็นต้น อันเป็นไป
ในฝ่ายปรมตั ถ์ประการหน่งึ แสดงหลักธรรมเกีย่ วกับบุญบาปอันเป็นไปฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง พร้อม
ท้ังลทั ธพิ ิธที ี่กระทาตามความเห็นหรือตามคาส่ังสอนในความเชื่อถือน้ัน ๆ ” ซึ่งก็หมายถึงว่า ศาสนาเป็น
ลัทธิความเชื่อของมนุษย์ ที่แสดงกาเนิดและส้ินสุดของโลก แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาป และมี
พิธีกรรม น่นั เอง

ศาสนาเกดิ ขึ้นได้อย่างไร

ศาสนาเกิดขนึ้ จากมลู เหตุสาคัญ ดังนี้
1) เกิดจากความไมร่ ู้ (อวิชชา) เช่น ไมร่ ู้ว่าปรากฏการณ์ธรรมชาตติ ่าง ๆ เกิดขนึ้ ได้อยา่ งไร
2) เกดิ จากความกลัว อนั เป็นผลสืบเนือ่ งมาจากความไมร่ ู้นั่นเอง
3) เกิดจากความตอ้ งการทีพ่ ึง่ ทางใจ ในยามทีเ่ ศร้าโศกเสียใจ หรือหวาดกลวั
4) เกิดจากอิทธิพลของบุคคลสาคญั เช่น บุคคลทีเ่ คยทาคุณประโยชนใ์ หญ่หลวงให้กับท้องถิน่
5) เกิดจากปัญญาตอ้ งการรู้แจ้งเห็นจริง ต้องการหาคาตอบให้แก่ชีวิต ต้องแสวงหาทางหลดุ พ้น

จากทีก่ ล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าศาสนาเกดิ ข้ึนเพื่อตอบสนองความต้องการของมนษุ ย์น้ันเอง

ชุดกิจกรรมที่ 1 ความร้ทู ั่วไปเกี่ยวกับศาสนา 8

องค์ประกอบของศาสนา
1) ศาสดา เปน็ ผกู้ ่อตง้ั หรือผู้ประกาศศาสนา ต้องมีตัวตนอยู่จริงตามประวตั ิศาสตร์
2) คมั ภีร์/หลกั ธรรม อันเป็นคาสอนในดา้ นศีลธรรม ซึ่งต่อมาได้มกี ารรวบจารึกเปน็
ลายลกั ษณ์อักษร เรียกว่า “คมั ภีร์ทางศาสนา”
3) นกั บวช เปน็ สาวกผู้ปฏิบตั ิศาสนกจิ และสืบต่อหลกั คาสอน
4) ปชู นยี สถานและปูชนยี วตั ถุ สถานท่หี รือวัตถอุ ันเปน็ ที่เคารพบชู า
5) พธิ ีกรรม การประกอบพิธตี ่าง ๆ ตามแนวปฏิบัติของศาสนา

ศาสนากบั ลทั ธิต่างกันอย่างไร
คาว่า “ลทั ธ”ิ หมายถึง คตคิ วามเชื่อ ความคิดเห็น ซึ่งมีข้อแตกต่างระหว่าง “ศาสนา” และ

“ลัทธ”ิ ในประเด็นต่าง ๆ ต่อไปนี้

* ในแง่ของเขต
ศาสนา เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์สุขของคนทั่วไป เกี่ยวข้องกับมนุษย์ท่ัวโลก มีศาสดาผู้นา สัจ

ธรรมหรอื นาคาสงั่ สอนของพระเจ้ามาบอกชาวโลก
ลัทธิ เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์สุขของบุคคลเฉพาะกลุ่ม เจ้าลัทธิประกาศเพียงหลักการของ

ตนเองซึ่งเปน็ ทัศนะส่วนตวั

* ในแงค่ าสอน
ศาสนา มีคาสอนเกี่ยวกับศีลธรรมเป็นหลัก มีคาสอนเกี่ยวกับจุดหมายสูงสุดของชีวิตท้ังใน

โลกนแี้ ละโลกหนา้ ท้ังทีเ่ ปน็ รปู ธรรมและนามธรรม คาสอนมีลักษณะศักด์ิเป็นที่สักการะบูชาของศา
สนิกชน

ลัทธิ ไม่มีหลักการที่จะต้องมีคาสอนเกี่ยวกับศีลธรรมโดยตรง อาจมีแต่คาส่ังไม่มีคาสอน
ทางศีลธรรมเลยก็ได้ เน้นจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิตในปัจจุบันและอนาคต อันเป็นรูปธรรม คาสอน
ไม่มลี กั ษณะศักดส์ิ ทิ ธิ์ เปน็ เพียงความเหน็ ที่สอดคล้อง กันระหว่างเจ้าลทั ธิกับผู้นับถือ

* ในแงก่ ารสืบต่อ
ศาสนา มีสถาบันและคัมภีร์สืบต่อคาสอน โดยไม่สามารถเปล่ียนแปลงส่ิงใดในคัมภีร์ได้มี

พิธีกรรมที่เกีย่ วข้องกบั ศาสนา
ลัทธิ มีคัมภีร์ไว้เป็นหลักการ และมีสถาบันไว้ปฏิบัติให้บรรลุหลักการ ซึ่งอาจเปล่ียนแปลง

แก้ไขได้ และไมจ่ าเปน็ ต้องมีพิธีการเสมอไป

ชุดกิจกรรมที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกบั ศาสนา 9

ประเภทของศาสนา

สามารถจัดประเภทของศาสนาได้หลายรูปแบบ ดังนี้
1) จดั ตามแหล่งผนู้ บั ถือ

ศาสนาประจาชาติ เช่น ชินโต ฮินดู ซิกข์
ศาสนาสากล เช่น พทุ ธ ครสิ ต์ อิสลาม พราหมณ์ - ฮินดู
2) จัดตามการมีผู้นบั ถือในปัจจุบนั
ศาสนาทีต่ ายไปแลว้ เช่น ศาสนาของชาวอียิปต์โบราณ ศาสนาของกรีกโบราณ
ศาสนาทีย่ งั มีชีวิตอยู่ เช่น พทุ ธ ครสิ ต์ อิสลาม พราหมณ์ - ฮินดู
3) จัดตามความเชือ่ เกย่ี วกับพระเจ้า
ศาสนาอเทวนิยม เช่น ศาสนาพทุ ธ เชน
ศาสนาเทวนิยม แบ่งเป็น

เอกเทวนยิ ม เช่น ครสิ ต์ อิสลาม
พหุเทวนิยม เช่น พราหมณ์ - ฮินดู ชินโต

ความสาคัญของศาสนา
• สร้างระเบียบความประพฤติของสมาชิกในสงั คมให้เปน็ ไปในแนวเดยี วกัน
• เปน็ ทีพ่ ึง่ ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
• ยกระดบั จิตใจคนให้สูงขนึ้
• เป็นแหล่งกาเนิดจริยธรรม ทาให้คนในสังคมประพฤติในแนวทางที่ถูกต้อง
• เปน็ แหลง่ กาเนดิ ศิลปะและวฒั นธรรม

ประโยชน์ของศาสนา
• สอนให้มนุษย์เป็นอิสระจากการครอบงาของกิเลส
• สอนให้มนุษยป์ กครองตนเองได้ สามารถควบคุมตนเองไมใ่ ห้ทาช่ัวทั้งในทีล่ ับและทีแ่ จ้ง
• ช่วยให้มนุษยอ์ ยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข
• สง่ เสริมและสร้างสรรค์ให้เกิดผลงานที่มีคุณค่าทางศิลปะและวัฒนธรรม

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความรทู้ ่วั ไปเกีย่ วกบั ศาสนา 10

สรุป
เร่อื ง ศาสนาสาคัญของโลก

ความเชือ่ ที่สอดคลอ้ งของทงั้ 4 ศาสนา

หัวข้อ พราหมณ์ - ฮนิ ดู พทุ ธ คริสต์ อิสลาม

เปา้ หมายสงู สดุ เปน็ อนั หนง่ึ อันเดียวกับ นิพพาน การได้อยใู่ นอาณาจกั ร มุ่งสู่พระอลั เลาะห์
พระพรหม พระเจ้า
ทาดี ละเว้นความชั่ว ปุรษารถะ 4 เบญจศลี หลักศรัทธา 6 และ
เบญจธรรม บัญญัติ 10 ประการ หลักปฏิบตั ิ 5
การเสียสละ ใหท้ านด้วยความเตม็ ใจ สังควตั ถุ 4
การเสียสละ โดยไม่ การบริจาคซะกาต
ความรกั เมตตา กษมาในหลกั ธรรม 10 พรหมวหิ าร 4 หวงั ผลตอบแทน
ทุกคนเป็นพี่นอ้ งกนั
ความอุตสาหะ อทุ ิศตวั ต่อหนา้ ทีต่ น อิทธบิ าท 4 รกั พระเจ้าและรัก
อดทน กษมา ทมะ เพือ่ นมนษุ ย์ การถือศลี อด
ปรัชญาโยคะ ตนเป็นนที่พึง่ แหง่ ตน
การพึ่งตนเอง ความอดทนทาใหเ้ กิด กฎสภาวะที่
ธฤติ กษมา ธี ทิฏฐธรรมมิกัตถะ อปุ นิสัยที่ดี เปลีย่ นแปลงได้
การพฒั นาตนเอง วทิ ยา อโกธะ ความพยายามอยู่ที่
สวรรค์เปน็ ผลจาก ช่วยตนเองก่อน ไหน ความสาเร็จอยู่ที่
ความเชือ่ สถานทีต่ อบแทนของ การทาดี นรกเป็นผล แล้วพระเจ้าจะช่วย
เรื่องนรก - สวรรค์ ผลของการกระทา น้ัน
ของกรรมชวั่ ผู้ปฏิบตั ิตามหลกั คา ความเชื่อหลังวัน
สอนย่อมบรรลุ
เป้าหมาย พิพาทษา

สวรรค์มีพระเจ้า
นรกมีซาตาน

ความแตกตา่ งของทัง้ 4 ศาสนา

ศาสนา นรก - วรรณะ พระเจ้า ชาติหนา้ ความมี เปา้ หมายสงู สดุ
สวรรค์ ตวั ตน
  โมกษะ
พราหมณ์ - ฮนิ ดู  - -  ปรินพิ พาน
- - - อาณาจักรพระเจ้า
พทุ ธ  - - เข้าถึงพระเจ้า

คริสต์  

อิสลาม 

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความรทู้ ่วั ไปเกีย่ วกับศาสนา 11

กิจกรรมการเรยี นรู้

เรื่อง ความรทู้ ่ัวไปเกีย่ วกบั ศาสนา

ตอนที่ 1 : ใหใ้ ส่ตัวอกั ษร ก หนา้ ข้อความที่คิดว่าถูก และใส่ ตัวอักษร ง ข้อความใดทีก่ ล่าวผิด

............. 1. คาว่า “ศาสนา” มาจากคาศัพท์เดิมในภาษาสันสกฤตว่า “สาสน” และภาษา
บาลวี ่า “ศาสน”

............. 2. ศาสนา (religion) หมายถึง ความผกู พนั ระหว่างมนุษย์กบั พระเจ้า
............. 3. สาเหตขุ องการเกิดศาสนาเริ่มมาจากความไมร่ ู้ (อวิชชา)
............. 4. การเกิดขนึ้ ของศาสนาพทุ ธ เกิดจากปัญญาตอ้ งการรู้แจ้งเห็นจริงของ

พระพุทธเจ้า
............. 5. สญั ลักษณ์ประจาศาสนา จัดเป็นองค์ประกอบหลักของศาสนา
............. 6. คาสอนและพิธกี รรม เป็นองค์ประกอบทีส่ าคญั ที่สดุ ของศาสนา
............. 7. ศาสนาประเภทอเทวนิยม คือ ไม่มีการบูชาเทพเจ้า เน้นศักยภาพมนุษย์ เช่น

ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ เป็นต้น
............. 8. ศาสนาประเภทเทวนิยมแบ่งออกเป็น เอกเทวนิยม และพหเุ ทวนิยม
........... 9. ศาสนา คาสอนไม่มีการเปล่ียนแปลง ส่วนลัทธิ สามารถเปล่ียนแปลงได้

ตลอดเวลา
............. 10. ศาสนา เน้นประโยชน์เฉพาะกลมุ่ สว่ นลทั ธิ เน้นประโยชน์เพื่อสว่ นรวม

ตอนที่ 2 : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามตามหวั ข้อต่อไปนี้ ตามความคิดเหน็ ของนักเรียน

2.1 นกั เรยี นคิดว่าศาสนามีความสาคญั ต่อการดาเนินชีวิตของนักเรียนอย่างไรบ้าง

2.2 ให้นกั เรยี นบอกประโยชน์ของศาสนา (บอกเป็นข้อ ๆ )

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความรทู้ ว่ั ไปเกี่ยวกบั ศาสนา 12

แบบทดสอบหลงั เรียน
เรื่อง ความรทู้ ว่ั ไปเกีย่ วกับศาสนา

คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบที่คิดว่าถูกต้องมากท่สี ุดเพียง 1 ข้อเท่านั้น

1. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกี่ยวกบั คาว่า “ศาสนา”
ก. ความผกู พันระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าศาสนา
ข. ศาสนา ตรงกบั คาภาษาองั กฤษว่า “religion”
ค. ภาษาบาลวี ่า “ศาสน” แปลว่า "คาส่งั สอน”
ง. เชื่อว่าพระเจ้ากาหนดคาสอนด้านศีลธรรมและกฎหมาย

2. ข้อใดคือความหมายของคาว่า “ศาสนา” ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525
ก. ข้อปฏิบัติตามระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
ข. ลทั ธคิ วามเชือ่ ของมนษุ ย์ ทีแ่ สดงกาเนิดและส้นิ สุดของโลก
ค. แสดงออกโดยการมอบศรทั ธาตอ่ พระเจ้าด้วยความเคารพยาเกรง
ง. การควบคุมดแู ลกล่าวตักเตือนตนเอง ให้ทาในสิ่งทถ่ี กู ต้องดงี ามอยู่เสมอนนั่ เอง

3. มูลเหตสุ าคัญของการเกิดศาสนาอันดบั แรก คือข้อใด
ก. เกิดจากความไมร่ ู้
ข. เกิดจากความกลัว
ค. เกิดจากความตอ้ งการที่พึ่งทางใจ
ง. เกิดจากปัญญาตอ้ งการรู้แจ้งเห็นจริง

4. ขอ้ ใดไม่ใช่องค์ประกอบหลกั ของศาสนา
ก. ศาสดา
ข. พิธกี รรม
ค. คาสอน
ง. สญั ลักษณ์

5. องค์ประกอบของศาสนาที่สาคัญมากท่สี ดุ คือข้อใด
ก. ศาสดาและพิธกี รรม
ข. ศาสดาและนักบวช
ค. คาสอนและพิธกี รรม
ง. ศาสนสถานและคาสอน

ชุดกิจกรรมที่ 1 ความรทู้ ่ัวไปเกี่ยวกับศาสนา 13

6. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้องเก่ยี วกับคาว่า “ลทั ธิ”
ก. เน้นประโยชน์เพือ่ สว่ นรวม
ข. จาเปน็ ต้องมีพิธกี รรม
ค. คาสอนทีไ่ ม่เปลย่ี นแปลง
ง. คตคิ วามเชื่อ ความคิดเห็น

7. ข้อใดกล่าวถูกต้องถึงความแตกต่างระหว่างของคาว่า “ศาสนา”กับ“ลัทธ”ิ
ก. ศาสนา เน้นความคิดเหน็ , ลทั ธิ เน้นคาสอน
ข. ศาสนา เน้นเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง , ลทั ธิ เน้นเรื่องบุญ-บาป
ค. ศาสนา คาสอนเปลีย่ นแปลงได้ , ลทั ธิ คาสอนเปลีย่ นแปลงไมไ่ ด้
ง. ศาสนา เน้นประโยชน์สขุ ของคนท่วั ไป , ลทั ธิ เน้นประโยชน์ของบุคคลเฉพาะกลมุ่

8. ศาสนาใดบ้าง ทีม่ ีลักษณะเปน็ เอกเทวนยิ ม
ก. พุทธ เชน
ข. อิสลาม พราหมณ์ - ฮินดู
ค. ครสิ ต์ อิสลาม
ง. พราหมณ์ - ฮินดู ชนิ โต

9. ศาสนาใดบ้าง ทีม่ ีลกั ษณะเปน็ พหุเทวนิยม
ก. พุทธ ซิกข์
ข. ครสิ ต์ อิสลาม
ค. พราหมณ์ - ฮินดู ชนิ โต
ง. อิสลาม พราหมณ์ – ฮินดู

10. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกีย่ วกบั ความสาคัญของศาสนา
ก. เปน็ ที่พึง่ ทีย่ ึดเหนีย่ วจิตใจ
ข. เป็นแหล่งกาเนดิ ศิลปะและวัฒนธรรม
ค. สอนให้ผู้คนเห็นประโยชน์ส่วนตวั มากกว่าผู้อืน่
ง. สร้างระเบียบความประพฤติของสมาชิกในสังคมให้เปน็ ไปในแนวเดยี วกนั

ชุดกิจกรรมที่ 1 ความรู้ทวั่ ไปเกีย่ วกับศาสนา 14

ภาคผนวก

• เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน
• เฉลยกิจกรรมการเรียนรู้

ชุดกิจกรรมที่ 1 ความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกับศาสนา 15

เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
เรื่อง ความรทู้ ั่วไปเกีย่ วกบั ศาสนา

คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบที่คิดว่าถูกต้องมากท่สี ุดเพียง 1 ข้อเท่าน้ัน

1. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกี่ยวกบั คาว่า “ศาสนา”
ก. ความผูกพันระหว่างมนุษย์กบั พระเจ้าศาสนา
ข. ศาสนา ตรงกับคาภาษาอังกฤษว่า “religion”
ค. ภาษาบาลวี ่า “ศาสน” แปลว่า "คาสั่งสอน”
ง. เชื่อว่าพระเจ้ากาหนดคาสอนด้านศีลธรรมและกฎหมาย

2. ข้อใดคือความหมายของคาว่า “ศาสนา” ตามพจนานกุ รม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525
ก. ข้อปฏิบตั ิตามระหว่างมนษุ ย์กับพระเจ้า
ข. ลัทธคิ วามเชื่อของมนุษย์ ทีแ่ สดงกาเนิดและส้นิ สดุ ของโลก
ค. แสดงออกโดยการมอบศรัทธาตอ่ พระเจ้าด้วยความเคารพยาเกรง
ง. การควบคุมดูแลกล่าวตกั เตือนตนเอง ให้ทาในสิง่ ทถ่ี ูกต้องดงี ามอยู่เสมอนน่ั เอง

3. มูลเหตสุ าคัญของการเกิดศาสนาอนั ดับแรก คือข้อใด
ก. เกิดจากความไมร่ ู้
ข. เกิดจากความกลัว
ค. เกิดจากความตอ้ งการที่พึง่ ทางใจ
ง. เกิดจากปัญญาตอ้ งการรู้แจ้งเหน็ จริง

4. ขอ้ ใดไม่ใช่องค์ประกอบหลกั ของศาสนา
ก. ศาสดา
ข. พิธกี รรม
ค. คาสอน
ง. สัญลกั ษณ์

5. องค์ประกอบของศาสนาที่สาคญั มากทส่ี ุด คือข้อใด
ก. ศาสดาและพิธกี รรม
ข. ศาสดาและนักบวช
ค. คาสอนและพิธกี รรม
ง. ศาสนสถานและคาสอน

ชุดกิจกรรมที่ 1 ความรทู้ ่ัวไปเกี่ยวกับศาสนา 16

6. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้องเก่ยี วกับคาว่า “ลทั ธิ”
ก. เน้นประโยชน์เพือ่ สว่ นรวม
ข. จาเปน็ ต้องมีพิธกี รรม
ค. คาสอนทีไ่ ม่เปลย่ี นแปลง
ง. คตคิ วามเชื่อ ความคิดเห็น

7. ข้อใดกล่าวถูกต้องถึงความแตกต่างระหว่างของคาว่า “ศาสนา”กับ“ลัทธ”ิ
ก. ศาสนา เน้นความคิดเหน็ , ลทั ธิ เน้นคาสอน
ข. ศาสนา เน้นเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง , ลทั ธิ เน้นเรื่องบุญ-บาป
ค. ศาสนา คาสอนเปลีย่ นแปลงได้ , ลทั ธิ คาสอนเปลีย่ นแปลงไมไ่ ด้
ง. ศาสนา เน้นประโยชน์สขุ ของคนท่วั ไป , ลทั ธิ เน้นประโยชน์ของบุคคลเฉพาะกลมุ่

8. ศาสนาใดบ้าง ทีม่ ีลักษณะเปน็ เอกเทวนยิ ม
ก. พุทธ เชน
ข. อิสลาม พราหมณ์ - ฮินดู
ค. ครสิ ต์ อิสลาม
ง. พราหมณ์ - ฮินดู ชนิ โต

9. ศาสนาใดบ้าง ทีม่ ีลกั ษณะเปน็ พหุเทวนิยม
ก. พุทธ ซิกข์
ข. ครสิ ต์ อิสลาม
ค. พราหมณ์ - ฮินดู ชนิ โต
ง. อิสลาม พราหมณ์ – ฮินดู

10. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกีย่ วกบั ความสาคัญของศาสนา
ก. เปน็ ที่พึง่ ทีย่ ึดเหนีย่ วจิตใจ
ข. เป็นแหล่งกาเนดิ ศิลปะและวัฒนธรรม
ค. สอนให้ผู้คนเห็นประโยชน์ส่วนตวั มากกว่าผู้อืน่
ง. สร้างระเบียบความประพฤติของสมาชิกในสังคมให้เปน็ ไปในแนวเดยี วกนั

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความร้ทู ั่วไปเกี่ยวกับศาสนา 17

เฉลยกิจกรรมการเรยี นรู้

เรื่อง ความรทู้ ั่วไปเกีย่ วกบั ศาสนา

ตอนที่ 1 : ใหใ้ ส่ตวั อักษร ก หนา้ ข้อความทีค่ ิดว่าถกู และใส่ ตัวอักษร ง ข้อความใดที่กล่าวผิด

.......ง...... 1. คาว่า “ศาสนา” มาจากคาศัพท์เดิมในภาษาสันสกฤตว่า “สาสน” และภาษา
บาลวี ่า “ศาสน” (ภาษาสนั สกฤตว่า “ศาสน” และภาษาบาลีว่า “สาสน”)

......ก....... 2. ศาสนา (religion) หมายถึง ความผกู พนั ระหว่างมนุษย์กบั พระเจ้า
......ก....... 3. สาเหตุของการเกิดศาสนาเริ่มมาจากความไมร่ ู้ (อวิชชา)
......ก....... 4. การเกิดขนึ้ ของศาสนาพุทธ เกิดจากปญั ญาตอ้ งการรู้แจ้งเหน็ จริงของ

พระพทุ ธเจ้า
.......ง...... 5. สญั ลักษณ์ประจาศาสนา จัดเป็นองค์ประกอบหลกั ของศาสนา (ไม่ใช่องคป์ ระกอบหลัก)
......ก....... 6. คาสอนและพิธกี รรม เปน็ องค์ประกอบทีส่ าคัญทีส่ ดุ ของศาสนา
......ง....... 7. ศาสนาประเภทอเทวนิยม คือ ไม่มีการบูชาเทพเจ้า เน้นศักยภาพมนุษย์ เช่น

ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ เปน็ ต้น (ศาสนาอิสลาม คริสต์ จัดเปน็ เทวนิยม)
......ก....... 8. ศาสนาประเภทเทวนิยมแบ่งออกเปน็ เอกเทวนิยม และพหเุ ทวนิยม
.....ก...... 9. ศาสนา คาสอนไม่มีการเปล่ียนแปลง ส่วนลัทธิ สามารถเปล่ียนแปลงได้

ตลอดเวลา
.......ง...... 10. ศาสนา เน้นประโยชน์เฉพาะกลมุ่ สว่ นลทั ธิ เน้นประโยชน์เพือ่ สว่ นรวม

(ศาสนา เน้นประโยชน์เพื่อส่วนรวม ส่วนลัทธิ เน้นประโยชน์เฉพาะกลุ่ม)

ตอนที่ 2 : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตามหัวข้อต่อไปนี้ ตามความคิดเห็นของนกั เรียน

2.1 นกั เรยี นคิดว่าศาสนามีความสาคญั ต่อการดาเนินชีวิตของนักเรียนอย่างไรบ้าง

เช่น 1. สร้างระเบียบความประพฤติของสมาชิกในสงั คมใหเ้ ปน็ ไปในแนวเดียวกัน
2. เป็นทีพ่ ึง่ ทีย่ ึดเหน่ยี วจติ ใจ
3. ยกระดบั จิตใจคนใหส้ ูงขนึ้

2.2 ให้นกั เรยี นบอกประโยชน์ของศาสนา (บอกเปน็ ข้อ ๆ )

เช่น 1. สอนใหม้ นษุ ย์เปน็ อิสระจากการครอบงาของกิเลส
2. สอนใหม้ นุษย์ปกครองตนเองได้ สามารถควบคมุ ตนเองไม่ให้ทาชว่ั ท้ังในทีล่ ับและทีแ่ จง้
3. ช่วยใหม้ นษุ ย์อยู่ร่วมกนั ในสงั คมอย่างสงบสุข

ชดุ กิจกรรมที่ 1 ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกับศาสนา 18

บรรณานุกรม

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม. (2551). ความรู้ศาสนาเบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด

โ ก วิ ท ว ง ศ์ สุ ร วั ฒ น์ . ( 2 5 62) . ศ า ส น า ค ริ ส ต์ . [ อ อ น ไ ล น์ ] . เ ข้ า ถึ ง ไ ด้ จ า ก
https://www.matichon.co.th/article/news_1768119. (วนั ทีค่ ้นข้อมลู : 29 ธันวาคม
2564)

ปฏิภาณ์ มหรรธนาธิบด.ี (2553). ศาสนาทวั่ ไป(Religions). [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก
https://nkr. mcu.ac.th/e-book/?p=53. (วนั ที่ค้นข้อมูล : 31 ธันวาคม 2564)

มนต์ ทองชัย. (2530). 4 ศาสนาสาคัญของโลกปัจจุบัน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
http://opac.mbu.ac.th/Author/Home. (วนั ที่ค้นข้อมลู : 26 ธนั วาคม 2564)

มลู นิธโิ ครงการสารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน. (2560). ศาสนาอิสลาม. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=20&chap=1&page
=t20-1-infodetail05. (วันที่ค้นข้อมูล : 28 ธันวาคม 2564)

พระครบู รมธาตุกิจจาทร. (2560). ศาสนาทว่ั ไป(Religions). [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้
จาก https://www.mcutak.com/userfiles/file.pdf. (วันที่ค้นข้อมูล : 26 ธนั วาคม 2564)

พระประเทือง ขนฺติ. (2564). ศาสนาสาคัญของโลก. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jmhs1_s/article/view/249544.(วันท่คี ้นขอ้ มูล : 31
ธันวาคม 2564)

ศาสนาสาคัญของโลก. (2558). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://curadio.chula.ac.th/
Images/Class-Onair/so/2015/so-2015-07-22.pdf. (วันที่ค้นข้อมูล : 25 ธันวาคม
2564)

สานกั งานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ. (2559). พระพทุ ธศานาในโลก. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://onab.go.th/th/content/category/detail/id/82/iid/4126. (วันที่ค้นข้อมูล : 31
ธันวาคม 2564)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

เเรร่อื่อื งง ศาสนาสาคัญของโลก
รายวิชา ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202)
ชดุ ที่ 2 ศาสนาพราหมห์ - ฮินดู

โดย
นายณัฐพงค์ กรงุ ศรี

นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู
โรงเรียนนวมินทราชทู ศิ พายัพ
สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู ก

คานา

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ศาสนาสาคัญของโลก รายวิชา
ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งชุดกิจกรรม
การเรียนรู้นี้จัดทาข้ึนเพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียน และใช้เป็น
เครอ่ื งมือพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรียน ใช้ประกอบการ
สอนในรายวิชา ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202) เน้นกิจกรรมที่
หลากหลาย ผู้เรยี นจะได้รบั การพัฒนาทั้งทางด้านความรู้ ทักษะ และ
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ซึ่งก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดการ
เปล่ยี นแปลงด้านทกั ษะและด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดนี้นาเสนอในลักษณะการวิเคราะห์
และสังเคราะห์องค์ความรู้ มีคาชี้แจง มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด
จุดประสงค์การเรียนรู้ คาถาม พร้อมภาพประกอบที่ชัดเจนสวยงาม
มีการเรียนรู้คาถามพร้อมเฉลย เพือ่ ประเมินผลการเรียน

ผู้จดั ทาหวังเป็นอยา่ งยิง่ ว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดนี้ จะก่อ
ประโยชน์สูงสุดในการพัฒนานักเรียนให้บรรลุจุดประสงค์ ตัวชี้วัด
และเปน็ ประโยชน์ต่อผู้สนใจศึกษา ทีจ่ ะนาไปใช้ในการจัดการเรียนการ
สอน

ณฐั พงค์ กรุงศรี

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

ชุดกิจกรรมท่ี 1 ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั ศาสนา
ชุดกจิ กรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
ชุดกจิ กรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ
ชุดกจิ กรรมที่ 4 ศาสนาครสิ ต์
ชุดกจิ กรรมที่ 5 ศาสนาอิสลาม

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู ข

สารบัญ

หนา้

คานา ก

สารบญั ข

แผนภมู ิลาดบั ข้ันกอ่ นการศึกษา 1

คาแนะนาสาหรับครู 2

คาแนะนาสาหรับนกั เรียน 3

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วดั / สาระการเรียนรู้ / จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 4

แบบทดสอบก่อนเรียน 5

ใบความรู้ 7

กิจกรรมการเรียนรู้ 12

แบบทดสอบหลงั เรียน 15

ภาคผนวก 17

เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน 18

เฉลยกิจกรรมการเรียนรู้ 20

บรรณานกุ รม 23

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 1

แผนลาดบั ขน้ั ตอนก่อนการศึกษา

ชดุ ท่ี 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู
ขนั้ ตอนการศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้

อา่ นคาแนะนาการใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

ทดสอบก่อนเรียน

ศกึ ษาชุดกิจกรรมโดยปฏิบัตกิ ิจกรรมดงั นี้
• ศกึ ษาใบความรู้
• ปฏิบัติกิจกรรม

ทดสอบหลงั เรียน

ผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์

ศกึ ษาชดุ ตอ่ ไป

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 2

คาแนะนาการใชช้ ุดกิจกรรม : สาหรับครู

การจัดกิจกรรมโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีขั้นตอนการจัดกิจกรรมที่ผู้สอนต้อง
ดาเนนิ การดงั ต่อไปนี้
1. ขนั้ เตรยี มการสอน

1.1 ศกึ ษาแผนการจัดการเรยี นรูแ้ ละชดุ กจิ กรรมอยา่ งละเอยี ดจนเข้าใจเปน็ อยา่ งดี
1.2 ตรวจสอบชดุ กิจกรรม ส่อื การเรียนรู้
2. ขน้ั ดาเนินกิจกรรมการเรยี นรู้
2.1 ครูแจกชดุ กิจกรรม
2.2 ครูชีแ้ จงการใชช้ ุดกิจกรรมให้นกั เรยี นทราบก่อนลงมอื ปฏิบตั ิ
2.3 ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือศึกษาระดับความรู้พ้ืนฐานของ

นักเรียน
2.4 ครูให้นกั เรยี นศึกษาชดุ กจิ กรรมและปฏิบัตกิ จิ กรรมตามขั้นตอน ดงั นี้

1) ศกึ ษาใบความรู้
2) ทากจิ กรรม
2.5 ครใู หน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เพื่อศกึ ษาพฒั นาการเรียนรู้ของนักเรียน
3. ขน้ั ประเมินผล
3.1 ครูตรวจแบบทดสอบและกจิ กรรม
3.2 บันทึกคะแนน ประเมินผลตามเกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล
3.3 หากมีนักเรียนคนใดยังทาแบบทดสอบหลังเรียนและกิจกรรมไม่ผ่านร้อยละ 80
ใหศ้ ึกษาชดุ กิจกรรมตามขัน้ ตอนใหมอ่ กี คร้ัง

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 3

คาแนะนาการใช้ชดุ กิจกรรม : สาหรับนักเรียน

การจัดการเรียนรู้โดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีขั้นตอนการจัดกิจกรรมที่นักเรียน
ตอ้ งดาเนินการ ดงั ต่อไปน้ี

1. ศึกษาจดุ ประสงค์การเรียนรใู้ ห้เขา้ ใจ
2. ตัง้ ใจเรยี นรตู้ ามลาดบั ขัน้ ตอนท่กี าหนดให้ ไมข่ า้ มขนั้ ตอน
3. ศึกษาและลงมือปฏิบัติตามข้ันตอนอย่างเคร่งครัดและมีความซ่ือสัตย์ต่อตนเอง
ไม่เปิดดูเฉลยคาตอบก่อน
4. ขณะศกึ ษาหากมีขอ้ สงสยั หรือข้อขอ้ งใจใหถ้ ามครูเพือ่ ขอคาแนะนา
5. หลังจากศึกษาชดุ กจิ กรรมเสร็จจะมีการทดสอบดว้ ยกจิ กรรม
6. หากนกั เรียนคนใดยังทาแบบทดสอบและกิจกรรมไม่ผ่านร้อยละ 80 ให้ศึกษาชุด
กิจกรรมตามข้ันตอนใหม่อีกครั้ง หากยังไม่ผ่านหรือมีข้อสงสัยให้นักเรียนยืมชุดกิจกรรมไป
ศกึ ษานอกเวลาเรยี นหรือปรกึ ษาครผู สู้ อน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นี้จะมีประโยชน์ต่อนักเรียน ถ้านักเรียนศึกษาตามลาดับ
ข้ันตอนและมีความซื่อสัตย์ ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ที่กาหนดให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาในใบความรู้
และฝกึ ทากจิ กรรมหลาย ๆ คร้ัง แล้วกลับมาทดสอบอีกครั้ง เชื่อว่านักเรียนจะมีความเข้าใจ
อยา่ งถูกตอ้ ง มคี วามรู้ ความสามารถ สง่ ผลใหม้ ีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นสูงขน้ึ

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 4

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ดั / สาระการเรียนรู้

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชวี้ ัด

มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา
หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่
ถกู ต้อง ยึดมนั่ และปฏิบัติตามหลกั ธรรมเพื่ออยรู่ ่วมกันอยา่ งสนั ติสุข

ตวั ชีว้ ดั ส 1.1 ม.4-6/17 อธิบายประวัติศาสดาของศาสนาอื่น ๆ โดยสังเขป

สาระการเรยี นรู้
➢ ประวตั ิความเป็นมาของศาสนาพราหมณ์ – ฮนิ ดู
➢ องคป์ ระกอบของศาสนาศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายประวัตคิ วามเปน็ มาของศาสนาพราหมณ์ – ฮนิ ดไู ด้ (K)
2. นกั เรยี นสามารถจาแนกองค์ประกอบทส่ี าคญั ของศาสนาพราหมณ์ – ฮนิ ดไู ด้ถูกตอ้ ง (P)
3. นกั เรียนเหน็ ความสาคญั ของศาสนาพราหมณ์ – ฮนิ ดู โดยสามารถเสนอหลกั ปฏบิ ตั ิมา

ปรับใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ (A)

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 5

แบบทดสอบก่อนเรยี น
เรื่อง ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู

คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบทีค่ ิดว่าถกู ต้องมากท่สี ุดเพียง 1 ข้อเท่าน้ัน

1. การทาลายลา้ ง การสร้าง และคุ้มครองโลกกับจักรวาลเป็นบทบาทของเทพองค์ใดในศาสนา
พราหมณ์-ฮินดู
ก. พระลักษมีเทวี
ข. พระอมุ าเทวี
ค. พระตรีมูรติ
ง. พระศิวะ

2. ข้อใดไมต่ รงกับคาสอนของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
ก. การมีบตุ รเมือ่ มีฐานะพร้อม
ข. การสละบ้านเรือนออกบวชเมื่อแก่ชรา
ค. การเอาใจใส่เรียนหนงั สือเม่อื อยู่ในวัยรา่ เรียน
ง. การแตง่ งานมีครอบครัวหลังจากผ่านวยั ศึกษาเลา่ เรียนแล้ว

3. โมกษะในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู หมายถึงอะไร
ก. การทีจ่ ิตหลดุ พ้นจากกเิ ลส
ข. ความหลุดพ้นจากชีวิตที่เป็นทุกขใ์ นโลกนี้
ค. การได้เกิดในสวรรค์อันเปน็ บรมสุข
ง. วิญญาณบรสิ ุทธิไ์ ม่เวียนว่ายตายเกดิ

4. ข้อใดไมไ่ ด้จดั อยู่ในคัมภีร์ไตรเวท
ก. อาถรรพเวท
ข. ฤคเวท
ค. ยชรุ เวท
ง. สามเวท

5. มหากาพย์เรอ่ื งใดของศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมไทยมากทีส่ ดุ
ก. มหาภารตะ
ข. พระมนูธรรมศาสตร์
ค. ปรุ าณะ
ง. รามายณะ

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 6

6. การปฏบิ ตั เิ พ่ือมุง่ ให้เกดิ ความรแู้ จ้งเกีย่ วกับธรรมชาตทิ ่ีแท้จรงิ ของชีวาตมัน และปรมาตมนั
หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. ภกั ตโิ ยคะ
ข. ชญานโยคะ
ค. กรรมโยคะ
ง. ศกั ตโิ ยคะ

7. เพราะเหตุใดเผา่ อารยันในพระเวทจงึ ยกย่องธรรมชาตวิ า่ เป็นเทพเจ้า
ก. เพราะเชื่อว่าธรรมชาติมคี วามลลี้ ับซับซ้อน
ข. เพราะเช่อื ว่าธรรมชาติมวี ิญญาณเชน่ เดียวกับมนษุ ย์
ค. เพราะเช่อื ว่าธรรมชาตมิ พี ลงั อานาจจงึ เกิดความหวาดกลัว
ง. เพราะเช่อื ว่าธรรมชาติใหค้ ณุ และโทษแกผ่ ู้ทีน่ บั ถือได้

8. ตามความเชอ่ื ของชาวอินเดียโบราณ วรรณะใดเกดิ จาก แขน ของพระพรหม
ก. พราหมณ์
ข. กษัตรยิ ์
ค. แพศย์
ง. ศทู ร

9. นิกายใดของศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู ทน่ี บั ถือชายาของเทพตรีมูรติ
ก. นกิ ายพรหม
ข. นกิ ายไวษณพ
ค. นกิ ายไศวะ
ง. นิกายศักติ

10. นิกายใดของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ทน่ี บั ถอื ศวิ ลงึ ค์ และไมท่ านเนื้อววั
ก. นกิ ายพรหม
ข. นกิ ายไวษณพ
ค. นกิ ายไศวะ
ง. นิกายศักติ

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 7

ใบความรู้
เรอ่ื ง ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู

ศาสนาพรามหณ์ – ฮินดูเกิดขนึ้ ในอินเดยี มีอายุเก่าแก่กว่าพระพทุ ธศาสนาประมาณ 900 ถึง
1,000 ปี จึงจัดเปน็ ศาสนาที่เก่าแก่กว่าบรรดาศาสนาทั้งหลายที่มีผู้นบั ถืออยู่ในปัจจุบัน มีลักษณะเป็น
ศาสนาพหเุ ทวนิยม

ศาสดา
ตามหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ไม่ปรากฏว่าศาสนาพราหมณ์มีศาสดาผู้ก่อต้ังหรือเผยแผ่คา

สอน ผู้นบั ถือศาสนาพราหมณ์เชื่อว่า ศาสนาของตนสบื เนือ่ งมาจากพระผู้เปน็ เจ้า คือ พระพรหม
ถา้ มองในแง่ประวตั ศิ าสตร์ ศาสนาพราหมณ์ถอื กาเนิดข้ึนเมื่อพวกอารยันอพยพเข้ามาต้ังถ่ิน

ฐาน และมีอานาจบรเิ วณลมุ่ แม่น้าสินธุ และนาความเชื่อเรื่องการนับถือสุริยเทพและเทพเจ้าประจา
ธรรมชาติ ของตนเข้ามาผสมผสานกับการนับถือและบูชาวิญญาณประจาโลกธาตุท้ัง 4 (ดิน น้า ลม
ไฟ) ของชาวพนื้ เมือง (ดราวิเดียนหรือมิลกั ขะ) ดว้ ยเหตุนศี้ าสนาพราหมณ์จึงกาเนิดขึ้นในลักษณะของ
ศาสนาพหเุ ทวนิยม

เทพเจา้

ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู นับถือเทพเจ้ามากมาย โดยมีความคิดว่าเทพเจ้ามีความรู้สึก รัก

โกรธ เกลียด ชงั เหมือนกบั มนษุ ย์ และอาจบันดาลประโยชน์หรือหายนะแก่มนุษยไ์ ด้ ทาให้มนุษย์รู้สึก

กลัว และหาทางเอาใจเทพเจ้า ก่อให้เกิดการสวดสรรเสริญเยินยอเทพเจ้า การบูชายัญเพื่อสังเวย

เทพเจ้า เทพเจ้าองค์สาคญั มี 3 องค์ ที่เรียกรวมกันว่า “ตรีมรู ต”ิ คือ

พระพรหม เทพเจ้าผู้สร้างโลก

พระวิษณุ (นารายณ)์ เทพเจ้าผพู้ ิทกั ษค์ ุ้มครองโลก

พระศิวะ (อิศวร) เทพเจ้าผู้ทาลายโลก ทาลายเพือ่ กวาดล้างความชว่ั

และให้อาตมันได้พกั ผ่อนจากการเวียนว่ายตายเกิด

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 8

ระบบวรรณะ

ผู้นับถือศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู เชื่อว่าวรรณะตา่ ง ๆ เกิดจากพระผู้เป็นกาหนดคนในสังคม
จึงต้องปฏิบัติตาม แตถ่ ้าพิจารณาจากคาศพั ท์และประวัติศาสตร์ จะพบว่า คาว่า “วรรณะ” แปลว่า
“สี” หมายถึง สีผิวกายของบุคคลที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในลุ่มแม่น้าาตอนเหนือของอินเดีย ซึ่งแบ่งเป็น 2
กลุ่ม คือ พวกอารยัน และพวกดราวิเดยี น จึงมีการแบ่งวรรณะตามสีผวิ

ในคัมภีร์พระเวทแบ่งคนในสังคมออกเป็น 4 วรรณะ ได้แก่
1) วรรณะพราหมณ์
เกิดจากปากของพระพรหม ทาหน้าที่ศึกษาคัมภีร์พระเวท
และประกอบพิธีทางศาสนา (สีประจาวรรณะ คือ สีขาว)
2) วรรณะกษัตริย์
เกิดจากแขนของพระพรหม ทาหน้าทีป่ กครองและปกป้อง
บ้านเมอื ง (สีประจาวรรณะ คือ สีแดง)
3) วรรณะแพศย์
เกิดจากส่วนขาของพระพรหม เป็นบุคคลส่วนใหญ่ของ
สังคม มีอาชีพค้าขาย และอาชีพอ่ืน ๆ เช่น เกษตรกรรม
หตั ถกรรม ฯลฯ (สีประจาวรรณะ คือ สีเหลือง)
4) วรรณะศทู ร
เกิดจากเท้าของพระพรหม มีหน้าที่ใช้แรงกายรับจ้าง
ทางานให้คนในวรรณะอ่นื (สีประจาวรรณะ คือ สีดา)

คมั ภีรท์ างศาสนา

ศรุติ คือ คมั ภีร์ที่พราหมณ์ไดย้ ินมาจากพระเจ้า (พระเจ้าประทานให้) ซึ่งคัมภีร์ที่สาคัญที่สุด
คือ คัมภีร์พระเวท ประกอบด้วย 4 หมวด
1. ฤคเวท เป็นคัมภีร์ทีว่ ่าด้วยการสวดสรรเสริญ อ้อนวอนพระเจ้า
2. ยชรุ เวท เป็นหมวดทีว่ ่าการบชู ายนั (ใช้เลอื ดแพะ) ของชาวดราวิเดยี น
3. สามเวท เปน็ คมั ภีร์ที่ว่าด้วยการถวายน้าโสมแด่พระเจ้า
4. อาถรรพเวท เปน็ หมวดทีเ่ กี่ยวกบั เวทย์มนต์ คาถา (เป็นคาภีร์ที่เกิดขนึ้ หลงั สุด)

คมั ภีร์ไตรเพท หมายถึง ฤคเวท + ยชรุ เวท + สามเวท

สมฤติ คือ คัมภีร์ที่เหล่าพราหมณ์ได้มีการเพิ่มเติมในภายหลัง หรือขยายความเพื่อใช้
ประกอบกับคัมภีร์พระเวท ตัวอย่างคัมภีร์ที่สาคัญมี 3 คมั ภีร์ คือ
1. มนธู รรมศาสตร์ เป็นคมั ภีร์ทีว่ ่าด้วยเรือ่ งของกฎหมายและจารตี ประเพณขี องคนในสงั คม
2. อิติหาส เปน็ คมั ภีร์ประวตั ิศาสตร์ที่สาคัญ ได้แก่ มหากาพย์รามยณะ และมหากาพย์ภารตะ
3. คมั ภีร์ภควัตคีตา เป็นคมั ภีร์ทีถ่ ือได้ว่าเปน็ ปรชั ญาที่สาคัญ อันแสดงถงึ หนทางทีจ่ ะบรรลสุ ู่โมกษะ

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 9

จดุ มุ่งหมายสงู สดุ ของศาสนา

จดุ มงุ่ หมายสูงสุดของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู อยู่ที่ “โมกษะ” อันเป็นการหลุดพ้นจากความ
ทกุ ข์ท้ังปวง มีภาวะเปน็ อันหนึ่งอันเดยี วกบั ปรมาตมนั ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป

ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู เชือ่ ว่าสิ่งที่เปน็ แกนกลางของชีวิตคือ “อาตมัน” หรือ “ชีวาตมัน”
ซึ่ง เป็นตัวตนแท้จริงไม่แตกดับ และมี “ปรมาตมัน” เป็นตัวตนสากล เปรียบด่ังดวงวิญญาณอัน
ย่ิงใหญ่ เป็นพลังธรรมชาติ และปรมาตมันเป็นต้นกาเนิดของอาตมันท้ังปวง เมื่ออาตมันแยกออกมา
จาก ปรมาตมนั แลว้ จะเวียนว่ายตายเกิด ซึง่ การเวียนว่ายตายเกิดถือว่าเป็นทุกข์ การจะพ้นจากความ
ทุกข์ อาตมนั ตอ้ งกลับไปรวมเปน็ อันหน่งึ อนั เดียวกบั ปรมาตมนั

โยคะ 3 คือ การไปสู่โมกษะทาได้
1) กรรมโยคะ คือ การกระทากิจต่าง ๆ ด้วยความรู้สึกปล่อยวาง ทาด้วยความรู้สึกว่าเป็น

หนา้ ที่ อุทิศตนเองเพือ่ รบั ใช้พระเป็นเจ้า และไม่มุ่งหวงั ผลประโยชนส์ ว่ นตนใด ๆ จากการกระทานั้น
2) ภักตโิ ยคะ คือ การมีจติ ใจภักดีต่อพระเป็นเจ้าอย่างไม่คลอนแคลน สักการะบูชาพระองค์

อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มอบกายถวายชีวิตให้อยู่ในพระกรณุ าของพระองค์
3) ชญานโยคะ คือ การปฏิบตั เิ พือ่ มุ่งให้เกิดความรู้แจ้งเกี่ยวกับธรรมชาติที่แท้จริงของชีวาต

มนั และปรมาตมัน โดยขจัดความหลงผิดและความเข้าใจผิดให้หมดไป
ทั้งสามประการเปน็ หลักปฏิบตั ทิ ี่สอดคล้องกัน แต่จะเน้นหนักไปทางไหนแล้วแต่อัธยาศัยของ

แต่ ละบคุ คล เมือ่ ปฏิบตั จิ นถึงที่สุดจนเปน็ ที่พอใจของพระเปน็ เจ้า พระองค์ก็จะประทานความรู้แจ้งให้
เกิดข้นึ เมื่อเกิดความรแู้ จ้งก็หลดุ พ้น เรยี กว่า “บรรลโุ มกษะ”

หลักธรรมทีส่ าคัญ

1. หลักอาศรม ๔
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ได้แบ่งขั้นตอนของชีวิตออกเป็น 4 ชว่ ง เรยี กว่า “อาศรม 4” ได้แก่
1) พรหมจรรย์ เป็นวัยศึกษาเล่าเรียน ผู้ชายที่อยู่ในวัยรุ่นจะต้องออกจากบ้านไปอยู่ศึกษา

วิชาการจากอาจารย์ คอยปฏิบัตริ บั ใช้อาจารย์พรอ้ มทั้งเรยี นวิชาที่เหมาะกับวรรณะของตน
2) คฤหัสถ์ เป็นวัยครองเรือนโดยการแต่งงานและตั้งครอบครัว ในข้ันนี้บุคคลต้องประกอบ

อาชีพเล้ียงครอบครัว และสะสมทรัพยส์ มบตั ไิ ว้ตามความสามารถ
3) วานปรัสถ์ เป็นวัยที่ต้องแยกตัวออกไปปฏิบัติธรรมอยู่ในป่า เมื่อเริ่มแก่หรือเริ่มมีหลาน

บุคคลควรเร่ิมต้นอาศรมที่สามของชีวิต โดยการออกจากครอบครัวไปปฏิบัติธรรมในป่า เป็นการ
เตรยี มตนเพือ่ ขั้นตอนสดุ ท้ายของชวี ิต

4) สันยาสี เป็นข้ันตอนสุดท้ายของชีวิต บุคคลจะครองเพศบรรชิตสละชีวิตทางโลกโดยส้ินเชิง
ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปในการพิจารณาแสวงหาความจริงเกีย่ วกับชวี ิต พยายามควบคุมกาย วาจา ใจ ของ
ตนเองให้อยใู่ นขอบเขตของชีวิตพรหมจรรย์ มุ่งปฏิบัตเิ พื่อบรรลุโมกษะ

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 10

2. ปรุ ษุ าระถะ
คือ หลักธรรมทีบ่ รุ ษุ พงึ ยึดถือไวเ้ พอ่ื ทาตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์
1) อรรถะ คือ การสร้างฐานะครอบครวั ให้มั่นคง (คู่กับคฤหสั ถ์)
2) กามะ คือ การแสงหาความสขุ จากการครองเรือน (คู่กบั คฤหสั ถ์)
3) ธรรม คือ การแสวงหาหลักธรรมเพือ่ ดาเนนิ ชีวิตให้พบความสงบสุข (คู่กบั วานปรัสถ)์
4) โมกษะ คือ การปฏิบัตเิ พื่อให้หลดุ พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด (คู่กบั สันยาสี)

3. หลกั ธรรม 10 ประการ
เรียกว่า ฮินดูธรรม ได้แก่
1) ธฤติ ได้แก่ ความม่นั คง ความกล้าหาญ คือ เพียรพยายามจนสาเรจ็ ประโยชนต์ ามที่ประสงค์
2) กษมา ได้แก่ ความอดทน หรืออดกลน้ั คือ มีความพากเพียรพยายาม
3) ทมะ ไดแ้ ก่ การระงับใจ การขม่ จิตใจ คือ ไม่ปล่อยใจให้หวน่ั ไหว
4) อสั เตยะ ได้แก่ การไม่ลักขโมย ไม่ทาโจรกรรม
5) เศาจะ ได้แก่ ความบรสิ ุทธ์ิ การทาตนให้บรสิ ทุ ธ์ทิ ั้งทางร่างกายและจิตใจ
6) อินทรียนิครหะ ได้แก่ การระงับอินทรีย์ 10 ประการ คือ หม่ันสารวจตรวจสอบตนเองอยู่
เสมอว่าอินทรยี ์ทั้ง 10 เหลา่ นั้นไดร้ ับการบรหิ ารหรอื ใช้ไปในทางทีถ่ กู ทีค่ วรหรอื ไม่ จุดประสงค์
คือ ไมต่ ้องการให้มนษุ ย์ ปลอ่ ยอินทรย์มัวเมาจนเกินไปให้รู้จกั พอ
7) ธี ได้แก่ ปัญหา สติ ความคิด คือ มีความรู้ความเข้าใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ธรรมะ
สงั คม และวฒั นธรรม
8) วิทยา ได้แก่ ความรู้ทางปรชั ญา คือ มีความรลู้ กึ ซงึ้
9) สตั ยะ ได้แก่ ความจริง ความเห็นอนั บรสิ ุทธ์ิ คือ มีความจรงิ ใจให้กัน
10) อโกธะ ได้แก่ ความไมโ่ กรธ คือมีขนั ติ ความอดทน และโสรัจจะ ความสงบเสงีย่ ม
นน่ั คือ เอาชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ ไม่อาฆาตมุ่งร้ายต่อใคร

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 11

นกิ ายตา่ ง ๆ ของศาสนา

มีนกิ ายทีส่ าคัญ ดังน้ี
๑) นกิ ายไวษณพ

นบั ถือพระวิษณุ / พระนารายณ์ เปน็ เทพเจ้าสงู สดุ ทรงเปน็ ผสู้ ร้างโลกและทกุ สง่ิ ในโลก
๒) นกิ ายไศวะ

นับถือพระศิวะ เปน็ เทพเจ้าสงู สุด ทรงเปน็ ผู้สร้างโลกและทุกสง่ิ ในโลก
๓) นกิ ายพรหม

นับถือพระพรหม เป็นเทพเจ้าสูงสุด ทรงเป็นผสู้ ร้างโลกและทุกสง่ิ ในโลก
๔) นกิ ายศกั ติ

นับถือบูชาชายา หรือพระเทวีของเทพตรีมรู ติทั้ง 3 ได้แก่
พระสรสั วดี (ชายาของพระพรหม)
พระลักษมีเทวี (ชายาของพระวิษณุ)
และพระอมุ าเทวี (ชายาของพระศิวะ)

สญั ลักษณข์ องศาสนา

สัญลักษณ์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู คือ
อักษรเทวนาครี อ่านว่า “โอม” ซึ่งย่อมาจากอักษร อะ
อุ และ มะ หมายถึงเทพยิ่งใหญ่ท้ังสาม อักษร “อะ”
แทนพระศิวะ / อักษร “อ”ุ แทนพระวิษณุ / อักษร “มะ”
แทนพระพรหม

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 12

กิจกรรมการเรยี นรู้

เรื่อง ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู

ตอนที่ 1 : อ่านรายละเอียดข้อความทีก่ าหนดให้ และตอบคาถามใหถ้ ูกต้อง

.............................. เป็นกลมุ่ ที่นับถือธรรมชาตเิ บื้องสงู
เช่น พระอินทร์ พระวรณุ พระสรุ ิยะ และพระยม

.............................. เป็นกลมุ่ ที่นับถือธรรมชาตเิ บื้องตา่
เช่น แผ่นดนิ แม่น้า ภูเขา ไฟ สัตว์ ต้นไม้ เปน็ ต้น

............................... เทพเจ้าผู้สร้างโลก
............................... เทพเจ้าผู้พิทักษ์คุ้มครองโลก
............................... เทพเจ้าผู้ทาลายโลก

ท้ัง 3 เทพ รวมเรียกว่า .................................

...................... เป็นคัมภีร์ที่ว่าด้วยการถวายน้าโสมแด่พระเจ้า
...................... เป็นหมวดทีว่ ่าการบชู ายนั ของชาวดราวิเดยี น
...................... เป็นหมวดที่เก่ยี วกบั เวทย์มนต์ คาถา
...................... เปน็ คัมภีร์ที่ว่าด้วยการสวดสรรเสริญ อ้อนวอนพระเจ้า

จากภาพดงั กล่าว คือ มหากาพย์ ........................
จัดอยู่ในคัมภีร์ ........................ ของคมั ภีร์สมฤติ
และเปน็ วรรณคดเี รอ่ื ง ........................... ของไทย

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 13

ตอนที่ 2 : จับคู่หมายเลขใน กับวรรณะ ตามตาแหนง่ ของการเกิดของวรรณะนั้น ๆ ใหถ้ ูกต้อง

2 “ วรรณะพราหมณ์
1 “ วรรณะกษตั รยิ ์
“ วรรณะแพศย์
4 “ วรรณศทู ร

3

ชื่อเทพ : ...............................

ตอนที่ 3 : จงเติมคาตอบและอธบิ ายการดาเนินชีวิตตามหลักอาศรม 4 ใหถ้ กู ต้อง

อาศรมที่ 2 : ............................ อาศรมที่ 4 : ............................

อาศรมที่ 1 : ............................ อาศรมท่ี 3 : ............................

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 14

ตอนที่ 4 :ใหใ้ ส่ตวั อักษร ก หนา้ ข้อความทีค่ ิดว่าถกู และใส่ ตวั อักษร ง ข้อความใดทีก่ ล่าวผิด

............. 1. จุดมงุ่ หมายสงู สดุ ของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู คือ “โมกษะ”
............. 2. ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู เปน็ ศาสนาประเภทเอกเทวนยิ ม
............. 3. ชาวพืน้ เมืองโบราณ (กลุ่มดั้งเดมิ ) ของอินเดยี คือ กลุ่มชาวอารยัน
............. 4. มนธู รรมศาสตร์ เปน็ คมั ภีร์ทีว่ ่าด้วยเรือ่ งของกฎหมายและจารีตประเพณี
............. 5. ภักติโยคะ คือ การมีจติ ใจภกั ดีต่อพระเป็นเจ้า สกั การะบูชาพระองค์
............. 6. บคุ คลจะครองเพศบรรชิตสละชีวิตทางโลกโดยส้นิ เชิง อยู่อาศรมที่ 3
............. 7. อรรถะ คือ การสร้างฐานะครอบครวั ให้มัน่ คง (คู่กับอาศรมที่ 2)
............. 8. นิกายที่เก่าแก่ทีส่ ดุ และคนนบั ถือมากที่สดุ คือ นิกายไศวะ
............. 9. นิกายไศวะ นับถอื พระศิวะ มีการบูชาศิวลึงค์ ไม่ทานเนอื้ ววั
............. 10. กษมา ได้แก่ ความอดทน หรืออดกลน้ั คือ มีความพากเพียรพยายาม

ตอนที่ 5 : อธบิ ายความสาคญั แต่ละนิกายของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู อย่างละเอียด

ยกตัวอย่างอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ – ฮนิ ดู ท่มี ีผลตอ่ สังคมไทยในดา้ นใดบ้าง

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 15

แบบทดสอบหลังเรียน
เรื่อง ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู

คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบทีค่ ิดว่าถูกต้องมากท่สี ุดเพียง 1 ข้อเท่าน้ัน

1. การทาลายลา้ ง การสร้าง และคุ้มครองโลกกับจักรวาลเปน็ บทบาทของเทพองค์ใดในศาสนา
พราหมณ์-ฮินดู
ก. พระลกั ษมีเทวี
ข. พระอุมาเทวี
ค. พระตรีมูรติ
ง. พระศิวะ

2. ข้อใดไมต่ รงกับคาสอนของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
ก. การมีบตุ รเมือ่ มีฐานะพร้อม
ข. การสละบ้านเรือนออกบวชเมื่อแก่ชรา
ค. การเอาใจใส่เรียนหนงั สือเมื่ออยู่ในวัยร่าเรียน
ง. การแตง่ งานมีครอบครัวหลงั จากผ่านวยั ศึกษาเลา่ เรียนแล้ว

3. โมกษะในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู หมายถึงอะไร
ก. การที่จิตหลดุ พ้นจากกเิ ลส
ข. ความหลุดพ้นจากชีวิตทีเ่ ป็นทกุ ขใ์ นโลกนี้
ค. การได้เกิดในสวรรค์อนั เปน็ บรมสขุ
ง. วิญญาณบรสิ ทุ ธิ์ไม่เวียนว่ายตายเกดิ

4. ข้อใดไมไ่ ด้จัดอยู่ในคัมภีร์ไตรเวท
ก. อาถรรพเวท
ข. ฤคเวท
ค. ยชรุ เวท
ง. สามเวท

5. มหากาพย์เร่อื งใดของศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู มีอิทธิพลต่อวฒั นธรรมไทยมากที่สุด
ก. มหาภารตะ
ข. พระมนธู รรมศาสตร์
ค. ปุราณะ
ง. รามายณะ

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 16

6. การปฏิบตั ิเพอื่ มุ่งให้เกดิ ความรู้แจ้งเกี่ยวกับธรรมชาติท่แี ทจ้ ริงของชีวาตมัน และปรมาตมนั
หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. ภกั ตโิ ยคะ
ข. ชญานโยคะ
ค. กรรมโยคะ
ง. ศักติโยคะ

7. เพราะเหตุใดเผ่าอารยันในพระเวทจงึ ยกยอ่ งธรรมชาตวิ ่าเปน็ เทพเจ้า
ก. เพราะเชือ่ ว่าธรรมชาตมิ คี วามล้ีลับซบั ซ้อน
ข. เพราะเช่อื วา่ ธรรมชาติมีวิญญาณเช่นเดียวกับมนษุ ย์
ค. เพราะเชอื่ วา่ ธรรมชาติมีพลังอานาจจงึ เกดิ ความหวาดกลัว
ง. เพราะเช่อื วา่ ธรรมชาตใิ หค้ ณุ และโทษแก่ผู้ท่ีนับถอื ได้

8. ตามความเช่ือของชาวอินเดียโบราณ วรรณะใดเกิดจาก แขน ของพระพรหม
ก. พราหมณ์
ข. กษัตรยิ ์
ค. แพศย์
ง. ศทู ร

9. นกิ ายใดของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ทีน่ ับถอื ชายาของเทพตรีมรู ติ
ก. นิกายพรหม
ข. นกิ ายไวษณพ
ค. นกิ ายไศวะ
ง. นิกายศกั ติ

10. นิกายใดของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ทนี่ ับถือศวิ ลงึ ค์ และไมท่ านเนอื้ ววั
ก. นกิ ายพรหม
ข. นิกายไวษณพ
ค. นิกายไศวะ
ง. นกิ ายศักติ

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 17

ภาคผนวก

• เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
• เฉลยกิจกรรมการเรียนรู้

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 18

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรียน
เรือ่ ง ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู

คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่คิดว่าถูกต้องมากทส่ี ดุ เพียง 1 ข้อเท่านั้น

1. การทาลายลา้ ง การสร้าง และคุ้มครองโลกกับจักรวาลเปน็ บทบาทของเทพองค์ใดในศาสนา
พราหมณ์-ฮินดู
ก. พระลักษมีเทวี
ข. พระอุมาเทวี
ค. พระตรีมรู ติ
ง. พระศิวะ

2. ข้อใดไมต่ รงกับคาสอนของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
ก. การมีบุตรเมือ่ มีฐานะพร้อม
ข. การสละบ้านเรือนออกบวชเมือ่ แก่ชรา
ค. การเอาใจใส่เรียนหนงั สือเมื่ออยู่ในวยั ร่าเรียน
ง. การแตง่ งานมีครอบครวั หลังจากผ่านวัยศึกษาเลา่ เรียนแล้ว

3. โมกษะในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู หมายถึงอะไร
ก. การที่จิตหลดุ พ้นจากกเิ ลส
ข. ความหลดุ พ้นจากชีวิตทีเ่ ปน็ ทกุ ขใ์ นโลกนี้
ค. การได้เกิดในสวรรค์อนั เปน็ บรมสุข
ง. วิญญาณบรสิ ุทธิ์ไม่เวียนว่ายตายเกดิ

4. ข้อใดไมไ่ ด้จัดอยู่ในคัมภีร์ไตรเวท
ก. อาถรรพเวท
ข. ฤคเวท
ค. ยชุรเวท
ง. สามเวท

5. มหากาพย์เรอ่ื งใดของศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู มีอิทธิพลต่อวฒั นธรรมไทยมากทีส่ ดุ
ก. มหาภารตะ
ข. พระมนูธรรมศาสตร์
ค. ปรุ าณะ
ง. รามายณะ

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 19

6. การปฏิบตั ิเพอื่ มุ่งให้เกดิ ความรู้แจ้งเกี่ยวกับธรรมชาติท่แี ทจ้ ริงของชีวาตมัน และปรมาตมนั
หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. ภกั ตโิ ยคะ
ข. ชญานโยคะ
ค. กรรมโยคะ
ง. ศักติโยคะ

7. เพราะเหตุใดเผ่าอารยันในพระเวทจงึ ยกยอ่ งธรรมชาตวิ ่าเปน็ เทพเจ้า
ก. เพราะเชือ่ ว่าธรรมชาตมิ คี วามล้ีลับซบั ซ้อน
ข. เพราะเช่อื วา่ ธรรมชาติมีวิญญาณเช่นเดียวกับมนษุ ย์
ค. เพราะเชอื่ วา่ ธรรมชาติมีพลังอานาจจงึ เกดิ ความหวาดกลัว
ง. เพราะเช่อื วา่ ธรรมชาตใิ หค้ ณุ และโทษแก่ผู้ท่ีนับถอื ได้

8. ตามความเช่ือของชาวอินเดียโบราณ วรรณะใดเกิดจาก แขน ของพระพรหม
ก. พราหมณ์
ข. กษัตรยิ ์
ค. แพศย์
ง. ศทู ร

9. นกิ ายใดของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ทีน่ ับถอื ชายาของเทพตรีมรู ติ
ก. นิกายพรหม
ข. นกิ ายไวษณพ
ค. นกิ ายไศวะ
ง. นิกายศกั ติ

10. นิกายใดของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ทนี่ ับถือศวิ ลงึ ค์ และไมท่ านเนอื้ ววั
ก. นกิ ายพรหม
ข. นิกายไวษณพ
ค. นิกายไศวะ
ง. นกิ ายศักติ

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 20

เฉลยกิจกรรมการเรยี นรู้

เรือ่ ง ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู

ตอนที่ 1 : ใหน้ ักเรียนอ่านรายละเอียดทีก่ าหนดให้ และตอบคาถามใหถ้ กู ต้อง

.......ช...า.ว..อ...า.ร..ย..ัน......... เป็นกลมุ่ ทีน่ บั ถือธรรมชาตเิ บื้องสูง
เช่น พระอินทร์ พระวรุณ พระสรุ ิยะ และพระยม

.....ช..า..ว..ด..ร..า..ว.ิ.เ.ด..ีย..น...... เปน็ กลมุ่ ที่นับถือธรรมชาตเิ บื้องตา่
เช่น แผ่นดนิ แม่น้า ภูเขา ไฟ สตั ว์ ต้นไม้ เป็นต้น

.........พ..ร..ะ..พ...ร..ห..ม......... เทพเจ้าผู้สร้างโลก
..พ...ร..ะ..ว..ิษ..ณ.../ุ.น...า.ร..า..ย..ณ....์ เทพเจ้าผู้พิทักษ์คุ้มครองโลก
......พ..ร..ะ..ศ..ิว..ะ../.อ..ิศ...ว.ร...... เทพเจ้าผู้ทาลายโลก

ทั้ง 3 เทพ รวมเรียกว่า ............ต..ร..ีม...รู .ต...ิ ..........

......ส..า..ม...เ.ว..ท...... เปน็ คัมภีร์ที่ว่าด้วยการถวายน้าโสมแด่พระเจ้า
......ย..ช..ุร..เ.ว..ท....... เป็นหมวดที่ว่าการบชู ายัน ของชาวดราวิเดยี น
...อ..า..ถ..ร..ร..พ...เ.ว..ท... เป็นหมวดทีเ่ กย่ี วกับเวทย์มนต์ คาถา
.......ฤ..ค...เ.ว..ท....... เป็นคมั ภีร์ทีว่ ่าด้วยการสวดสรรเสริญ อ้อนวอนพระเจ้า

จากภาพดังกล่าว คือ มหากาพย์ ....ร..า..ม..า..ย..ณ...ะ.......
จดั อยู่ในคัมภีร์ .......อ...ิต..ิห..า..ส........ ของคมั ภีร์สมฤติ
และเป็นวรรณคดเี ร่อื ง .......ร..า..ม..เ.ก...ีย..ร..ต..ิ์ .... ของไทย

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 21

ตอนที่ 2 : จบั คู่หมายเลขใน กับวรรณะ ตามตาแหนง่ ของการเกิดของวรรณะน้ัน ๆ ใหถ้ กู ต้อง

2 “2 วรรณะพราหมณ์
1 “1 วรรณะกษตั ริย์
4“ วรรณะแพศย์
4 “3 วรรณศูทร

3

ช่อื เทพ : .....พ...ร..ะ...พ...ร..ห...ม..........

ตอนที่ 3 : จงเติมคาตอบและอธบิ ายการดาเนินชีวิตตามหลกั อาศรม 4 ใหถ้ กู ต้อง

ครองเรือน แต่งงาน สละโลกภายนอก
ประกอบอาชีพ
อาศรมท่ี 4 : ......ส...นั ...ย...า..ส...ี........
อาศรมที่ 2 : ......ค...ฤ...ห....สั ...ถ...์ ......

อาศรมที่ 1 : ....พ...ร...ห...ม...จ...า..ร...ี .... อาศรมท่ี 3 : ....ว..า...น...ป...ร...สั ...ถ...์ ....

ศึกษาเลา่ เรียนตาม ละชีวิตครองเรือน
วรรณะ ออกบาเพญ็ ตบะในป่า

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 22

ตอนที่ 4 : ใหใ้ ส่หมายเลข 1 หนา้ ข้อความที่คิดว่าถกู และใส่หมายเลข 0 ข้อความใดที่กล่าวผิด

......ก....... 1. จุดมงุ่ หมายสงู สุดของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู คือ “โมกษะ”
......ง....... 2. ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู เปน็ ศาสนาประเภทเอกเทวนยิ ม (พหเุ ทวนิยม)
.......ง...... 3. ชาวพนื้ เมืองโบราณ (กลุ่มด้ังเดมิ ) ของอินเดยี คือ กลุ่มชาวอารยัน (ดราวิเดยี น)
......ก....... 4. มนธู รรมศาสตร์ เปน็ คัมภีร์ทีว่ ่าด้วยเรื่องของกฎหมายและจารีตประเพณี
......ก....... 5. ภักติโยคะ คือ การมีจติ ใจภกั ดีต่อพระเป็นเจ้า สกั การะบชู าพระองค์
.......ง...... 6. บุคคลจะครองเพศบรรชิตสละชีวิตทางโลกโดยส้นิ เชิง อยู่อาศรมที่ 3 (อาศรมที่ 4)
......ก....... 7. อรรถะ คือ การสร้างฐานะครอบครัวให้ม่ันคง (คู่กบั อาศรมที่ 2)
......ง....... 8. นิกายที่เก่าแก่ทีส่ ดุ และคนนับถือมากที่สดุ คือ นิกายไศวะ (นิกายพรหม)
......ก....... 9. นิกายไศวะ นับถอื พระศิวะ มีการบูชาศิวลึงค์ ไม่ทานเนอื้ ววั
......ก....... 10. กษมา ได้แก่ ความอดทน หรืออดกลน้ั คือ มีความพากเพียรพยายาม

ตอนที่ 5 : อธบิ ายความสาคญั แต่ละนิกายของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู อย่างละเอียด

นบั ถือพระพรหม นบั ถือพระ นบั ถือพระศิวะเปน็ นับถือมเหสีของเทพเจ้า
เปน็ สาคญั นารายณ์เปน็ สาคัญ คอื
สาคญั ผู้นยิ มเรียก
เป็นนิกายดั้งเดิม “ลัทธอิ วตาร” บูชาศวิ ลึงค์ พระลกั ษมเี ทวี
และเก่าแก่มาก (ชายาพระวิษณุ)

ที่สุด พระอุมาเทวี
(ชายาพระศิวะ)
พระสรุ ัสวดีเทวี
(ชายาพระพรหม)

ยกตัวอย่างอทิ ธิพลของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ท่ีมผี ลตอ่ สงั คมไทยในด้านใดบ้าง

เช่น ดา้ นพิธีกรรม ได้แก่ การบวงสรวงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีฉัตรมงคล
พระราชพิธีจรดพระนงั คลั แรกนาขวญั พระราชพิธีตรียมั พวาย - ตรีปวาย

ด้านประเพณี ได้แก่ สงกรานต์ และลอยกระทง ดา้ นวรรณกรรม ได้แก่ รามเกียรติ์

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 23

บรรณานกุ รม

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม. (2551). ความรู้ศาสนาเบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั

โ ก วิ ท ว ง ศ์ สุ ร วั ฒ น์ . ( 2 5 62) . ศ า ส น า ค ริ ส ต์ . [ อ อ น ไ ล น์ ] . เ ข้ า ถึ ง ไ ด้ จ า ก
https://www.matichon.co.th/article/news_1768119. (วันที่ค้นข้อมูล : 29 ธันวาคม
2564)

ปฏิภาณ์ มหรรธนาธิบด.ี (2553). ศาสนาท่ัวไป(Religions). [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก
https://nkr. mcu.ac.th/e-book/?p=53. (วันทีค่ ้นข้อมูล : 31 ธันวาคม 2564)

มนต์ ทองชัย. (2530). 4 ศาสนาสาคัญของโลกปัจจุบัน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
http://opac.mbu.ac.th/Author/Home. (วันที่ค้นข้อมลู : 26 ธนั วาคม 2564)

มลู นิธโิ ครงการสารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน. (2560). ศาสนาอิสลาม. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=20&chap=1&page
=t20-1-infodetail05. (วันที่ค้นข้อมูล : 28 ธันวาคม 2564)

พระครบู รมธาตุกิจจาทร. (2560). ศาสนาทว่ั ไป(Religions). [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้
จาก https://www.mcutak.com/userfiles/file.pdf. (วันที่ค้นข้อมูล : 26 ธันวาคม 2564)

พระประเทือง ขนฺติ. (2564). ศาสนาสาคัญของโลก. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jmhs1_s/article/view/249544.(วนั ทค่ี ้นขอ้ มลู : 31
ธันวาคม 2564)

ศาสนาสาคัญของโลก. (2558). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://curadio.chula.ac.th/
Images/Class-Onair/so/2015/so-2015-07-22.pdf. (วันทีค่ ้นข้อมูล : 25 ธนั วาคม
2564)

สานกั งานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ. (2559). พระพุทธศานาในโลก. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://onab.go.th/th/content/category/detail/id/82/iid/4126. (วนั ที่ค้นข้อมลู : 31
ธันวาคม 2564)

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

เเรร่อื่อื งง ศาสนาสาคัญของโลก
รายวิชา ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202)
ชดุ ที่ 3 ศาสนาพุทธ

โดย
นายณัฐพงค์ กรุงศรี

นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู
โรงเรียนนวมินทราชูทศิ พายัพ
สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่


Click to View FlipBook Version