The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ศาสนาสำคัญของโลก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by e60161556, 2022-01-23 11:35:10

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ศาสนาสำคัญของโลก

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ศาสนาสำคัญของโลก

ชดุ กิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ ก

คานา

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ศาสนาสาคัญของโลก รายวิชา
ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งชุดกิจกรรม
การเรียนรู้นี้จัดทาข้ึนเพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียน และใช้เป็น
เครอ่ื งมือพฒั นาผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นของนักเรียน ใช้ประกอบการ
สอนในรายวิชา ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202) เน้นกิจกรรมที่
หลากหลาย ผู้เรยี นจะได้รับการพฒั นาทั้งทางด้านความรู้ ทักษะ และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซึ่งก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดการ
เปลย่ี นแปลงด้านทกั ษะและด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดนี้นาเสนอในลักษณะการวิเคราะห์
และสังเคราะห์องค์ความรู้ มีคาชี้แจง มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด
จุดประสงค์การเรียนรู้ คาถาม พร้อมภาพประกอบที่ชัดเจนสวยงาม
มีการเรียนรู้คาถามพร้อมเฉลย เพื่อประเมินผลการเรียน

ผู้จดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยิ่งว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดนี้ จะก่อ
ประโยชน์สูงสุดในการพัฒนานักเรียนให้บรรลุจุดประสงค์ ตัวชี้วัด
และเปน็ ประโยชน์ต่อผู้สนใจศึกษา ทีจ่ ะนาไปใช้ในการจัดการเรียนการ
สอน

ณฐั พงค์ กรุงศรี

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

ชดุ กิจกรรมท่ี 1 ความรทู้ ั่วไปเกี่ยวกับศาสนา
ชดุ กจิ กรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
ชดุ กจิ กรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ
ชดุ กจิ กรรมที่ 4 ศาสนาครสิ ต์
ชุดกจิ กรรมที่ 5 ศาสนาอิสลาม

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ ข

สารบญั

หนา้

คานา ก

สารบญั ข

แผนภูมิลาดบั ขน้ั กอ่ นการศึกษา 1

คาแนะนาสาหรับครู 2

คาแนะนาสาหรับนกั เรียน 3

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชีว้ ัด / สาระการเรียนรู้ / จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4

แบบทดสอบก่อนเรียน 5

ใบความรู้ 7

กิจกรรมการเรียนรู้ 14

แบบทดสอบหลงั เรียน 18

ภาคผนวก 20

เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน 21

เฉลยกิจกรรมการเรียนรู้ 23

บรรณานุกรม 27

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 1

แผนลาดับขั้นตอนกอ่ นการศึกษา

ชดุ ท่ี 3 ศาสนาพุทธ
ขั้นตอนการศึกษาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

อ่านคาแนะนาการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรียนรู้

ทดสอบก่อนเรียน

ศกึ ษาชุดกิจกรรมโดยปฏิบตั กิ ิจกรรมดงั นี้
• ศกึ ษาใบความรู้
• ปฏิบัติกิจกรรม

ทดสอบหลังเรียน

ผา่ นเกณฑ์ ไม่ผา่ นเกณฑ์

ศกึ ษาชดุ ต่อไป

ชุดกิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 2

คาแนะนาการใชช้ ุดกิจกรรม : สาหรับครู

การจัดกิจกรรมโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีขั้นตอนการจัดกิจกรรมที่ผู้สอนต้อง
ดาเนนิ การดงั ต่อไปนี้
1. ขนั้ เตรยี มการสอน

1.1 ศกึ ษาแผนการจัดการเรยี นรูแ้ ละชดุ กจิ กรรมอยา่ งละเอยี ดจนเข้าใจเปน็ อยา่ งดี
1.2 ตรวจสอบชดุ กิจกรรม ส่อื การเรียนรู้
2. ขน้ั ดาเนินกิจกรรมการเรยี นรู้
2.1 ครูแจกชดุ กิจกรรม
2.2 ครูชีแ้ จงการใชช้ ุดกิจกรรมให้นกั เรยี นทราบก่อนลงมอื ปฏิบตั ิ
2.3 ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือศึกษาระดับความรู้พ้ืนฐานของ

นักเรียน
2.4 ครูให้นกั เรยี นศึกษาชดุ กจิ กรรมและปฏิบัตกิ จิ กรรมตามขั้นตอน ดงั นี้

1) ศกึ ษาใบความรู้
2) ทากจิ กรรม
2.5 ครใู หน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เพื่อศกึ ษาพฒั นาการเรียนรู้ของนักเรียน
3. ขน้ั ประเมินผล
3.1 ครูตรวจแบบทดสอบและกจิ กรรม
3.2 บันทึกคะแนน ประเมินผลตามเกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล
3.3 หากมีนักเรียนคนใดยังทาแบบทดสอบหลังเรียนและกิจกรรมไม่ผ่านร้อยละ 80
ใหศ้ ึกษาชดุ กิจกรรมตามขัน้ ตอนใหมอ่ กี คร้ัง

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 3

คาแนะนาการใช้ชดุ กิจกรรม : สาหรับนักเรียน

การจัดการเรียนรู้โดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีขั้นตอนการจัดกิจกรรมที่นักเรียน
ตอ้ งดาเนินการ ดงั ต่อไปน้ี

1. ศึกษาจดุ ประสงค์การเรียนรใู้ ห้เขา้ ใจ
2. ตัง้ ใจเรยี นรตู้ ามลาดบั ขัน้ ตอนท่กี าหนดให้ ไมข่ า้ มขนั้ ตอน
3. ศึกษาและลงมือปฏิบัติตามข้ันตอนอย่างเคร่งครัดและมีความซ่ือสัตย์ต่อตนเอง
ไม่เปิดดูเฉลยคาตอบก่อน
4. ขณะศกึ ษาหากมีขอ้ สงสยั หรือข้อขอ้ งใจใหถ้ ามครูเพือ่ ขอคาแนะนา
5. หลังจากศึกษาชดุ กจิ กรรมเสร็จจะมีการทดสอบดว้ ยกจิ กรรม
6. หากนกั เรียนคนใดยังทาแบบทดสอบและกิจกรรมไม่ผ่านร้อยละ 80 ให้ศึกษาชุด
กิจกรรมตามข้ันตอนใหม่อีกครั้ง หากยังไม่ผ่านหรือมีข้อสงสัยให้นักเรียนยืมชุดกิจกรรมไป
ศกึ ษานอกเวลาเรยี นหรือปรกึ ษาครผู สู้ อน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นี้จะมีประโยชน์ต่อนักเรียน ถ้านักเรียนศึกษาตามลาดับ
ข้ันตอนและมีความซื่อสัตย์ ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ที่กาหนดให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาในใบความรู้
และฝกึ ทากจิ กรรมหลาย ๆ คร้ัง แล้วกลับมาทดสอบอีกครั้ง เชื่อว่านักเรียนจะมีความเข้าใจ
อยา่ งถูกตอ้ ง มคี วามรู้ ความสามารถ สง่ ผลใหม้ ีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นสูงขน้ึ

ชดุ กิจกรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 4

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ดั / สาระการเรียนรู้

มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ัด

มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา
หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่
ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลกั ธรรมเพื่ออยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติสขุ

ตวั ชี้วดั ส 1.1 ม.4-6/17 อธิบายประวตั ิศาสดาของศาสนาอืน่ ๆ โดยสงั เขป

สาระการเรยี นรู้
➢ ประวัติความเป็นมาของศาสนาพุทธ
➢ องคป์ ระกอบของศาสนาศาสนาพทุ ธ

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายประวัตคิ วามเป็นมาของศาสนาพทุ ธได้ (K)
2. นักเรียนสามารถจาแนกองค์ประกอบท่ีสาคัญของศาสนาพทุ ธได้ถกู ต้อง (P)
3. นกั เรียนเห็นความสาคัญของศาสนาพทุ ธ โดยสามารถเสนอหลกั ปฏบิ ัติมาปรบั ใชใ้ น

ชวี ิตประจาวันได้ (A)

ชดุ กิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 5

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เรือ่ ง ศาสนาพุทธ

คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบทีค่ ิดว่าถกู ต้องมากท่สี ุดเพียง 1 ข้อเท่านั้น

1. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกีย่ วกบั พุทธประวตั ิ
ก. เสด็จออกผนวชในคืนทีพ่ ระราหุลประสูติ
ข. พระองค์ตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ในวันเพญ็ เดอื น 3
ค. 80 พรรษา พระองค์ได้เสด็จดับขนั ธ์ปรินิพพาน
ง. 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกบั พระนางยโสธรา

2. บคุ คลควรใช้หลักธรรมใดในการดาเนนิ ชีวิตอยู่ร่วมกันกบั ผู้อืน่ ในสงั คมได้อย่างสงบสขุ
ก. อริยสัจ 4
ข. อิทธิบาท 4
ค. สังคหวัตถุ 4
ง. พรหมวิหาร 4

3. อริยสัจ 4 เปน็ พืน้ ฐานของหลักธรรมทั้งหลาย เพราะเหตุใด
ก. เป็นหลกั แสดงถึงกฎแห่งกรรม
ข. เปน็ หลักแสดงถึงการแกป้ ญั หาชีวิต
ค. เป็นหลกั แสดงถึงการแสวงหาความจริง
ง. เปน็ หลกั แสดงถึงความเปน็ เหตุและผล

4. ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั “กฎแห่งกรรม” ในพระพทุ ธศาสนา
ก. คนบางคนทาช่ัวแต่ไดด้ ี
ข. ปลูกพืชใดย่อมได้ผลนั้น
ค. สรรพสง่ิ ดาเนินไปอย่างมีระเบียบ
ง. ความบังเอิญในชีวิตเกิดขนึ้ ตลอดเวลา

5. หลกั ธรรมใดสามารถนาไปใช้ฝึกอบรม กาย วาจา ใจ ให้เกิดคุณธรรม มีความรถู้ ูกต้อง
และรู้จักดารงชีวิตอย่างมีความสุข
ก. มรรค 8
ข. โลกธรรม 8
ค. ขนั ธ์ 5
ง. ไตรลักษณ์

ชดุ กิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 6

6. ขอ้ ใด มคี วามหมายสอดคลอ้ งกบั “หลักศลี สกิ ขา” มากทส่ี ุด
ก. การตัง้ สติควบคมุ จติ ใจให้แนว่ แน่จนเกดิ สมาธิ
ข. การพัฒนาจติ ใจให้หลุดพน้ จากกิเลส
ค. รักษาศลี หรือควบคุมกายและวาจาใหเ้ ปน็ ปกติ
ง. การสารวมกาย วาจา และใจ ใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิ

7. หลักธรรมข้อใดทเ่ี ราควรรใู้ หเ้ ท่าทนั ความเป็นจรงิ แลว้ ละวางไมย่ ึดตดิ
ก. ขันธ์ 5
ข. ศลี 5
ค. นิวรณ์ 5
ง. ภาวนา 4

8. “ละชว่ั ทาดี ชาระจิตใจใหผ้ อ่ งใส” เปน็ หลกั ธรรมท่เี ก่ยี วเน่อื งกับวนั สาคญั ใดของพระพุทธศาสนา
ก. วนั มาฆบูชา
ข. วนั วสิ าขบูชา
ค. วันอาสาฬหบชู า
ง. วันอฏั ฐมีบูชา

9. “พิธสี วดอภิธรรม” ในงานอวมงคล จัดเปน็ พธิ ีใดของศาสนาพทุ ธ
ก. กุศลพิธี
ข. บุญพิธี
ค. ทานพิธี
ง. ปกณิ กพธิ ี

10. เร่อื งราวนทิ านชาดกต่าง ๆ จัดอยู่ในหมวดใดของพระไตรปฎิ ก
ก. กุศลพธิ พี ระวนิ ัยปิฎก
ข. พระสุตตนั ตปฎิ ก
ค. พระอภิธรรมปฎิ ก
ง. จัดอยใู่ นทุกหมวด

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ 7

ใบความรู้
เรอ่ื ง ศาสนาพุทธ

ศาสนาพทุ ธเกิดขนึ้ ในประเทศอินเดยี เมือ่ ประมาณ 2,500 ปีมาแลว้ มีลกั ษณะเปน็ ศาสนา อเทวนิยม

ศาสดา
ศาสดาของศาสนาพุทธ คือ พระพุทธเจ้า พระองค์ประสูติในวรรณะกษัตริย์ เป็นพระโอรส

ของพระเจ้าสทุ โทธนะ ผู้ครองกรุงกบิลพสั ดุ และพระนางสิริมหามายา
เมือ่ ประสตู ิได้ 5 วัน ได้จดั ให้มีพิธขี นานพระนาม และทานายพระลกั ษณะ พราหมณ์ผู้ประกอบ

พิธสี ว่ นใหญท่ านายเปน็ 2 ลกั ษณะ คือ ถ้าพระโอรสดารงอยู่ในฆราวาสจักไดเ้ ปน็ มหาจักรพรรดิ
ถ้าออกผนวชจักไดเ้ ป็นศาสดาเอกของโลก มีเพียงพราหมณ์หนุ่มโกณฑัญญะเท่าน้ันที่ทานาย เป็นคติ
เดยี วคือ พระโอรสจะออกผนวชและไดเ้ ปน็ ศาสดาเอกของโลก

เม่ือพระชนม์ได้ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางยโสธราหรือพิมพา และเมื่อเจริญ
พระชนมายุ 29 พรรษา ทรงมพี ระโอรสพระนามว่า “ราหลุ ”

เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวชในคืนที่พระราหุลประสูติ ทรงแสวงหาทางดับทุกข์โดยการ
ทดลองถูกทดลองผิด โดยการศึกษาเล่าเรียนในสานักอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง เมื่อไม่ได้ผลจึงทรงหันมา
บาเพ็ญทุกรกิริยา ซึ่งในระหว่างนนั้ ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้มาติดตามพระองค์

หลงั จากทรงพบว่าการบาเพญ็ ทกุ รกริ ิยามิใช่หนทางสู่การพ้นทุกขจ์ ึงหนั มาเสวยภัตตาหารและ
บาเพ็ญเพียรทางจิต เปน็ เหตใุ ห้เหลา่ ปญั จวคั คีย์เส่อื มศรัทธาและพากนั ทิ้งพระองค์ไป

ในคืนที่จะตรัสรู้พระองค์ประทับนั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ทรงต้ังจิตอธิษฐานว่า “แม้เลือดเนื้อในกาย
ของ เราจะเหือดแห้งไป เหลอื แตห่ นงั เอ็นและกระดูกก็ตาม ถ้ายังไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณจะไม่เลิก
ละ ความเพียรลกุ ไปจากทีน่ ี้”

เมื่อพระชนม์ได้ 35 พรรษา พระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ และได้เป็นพระ
สัมมาสมั พทุ ธเจ้า ในวันเพญ็ เดือน 6

หลงั จากตรสั รู้แลว้ พระองค์ได้เผยแพร่พระศาสนธรรมให้แพร่หลาย พระองค์ทรงประกาศ พระ
ศาสนาอยู่ 45 พรรษา คร้ังถึงวันเพ็ญเดือน 6 เมื่อมีพระชนมายุ 80 พรรษา พระพุทธเจ้าได้เสด็จดับ
ขนั ธ์ปรินิพพาน ณ ป่าสาละ เมืองกุสนิ ารา

ชดุ กิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ 8

คัมภีร์ทางศาสนา
พระคัมภีร์ในศาสนาพทุ ธคือ “พระไตรปิฎก” ซึ่งแปลว่า ตะกร้า 3 ใบ
พระไตรปิฎก ประกอบดว้ ย 3 คัมภีร์ คือ
1) พระวินยั ปิฎก ว่าดว้ ยเรอ่ื งวินัยหรือศีลของพระสงฆ์
2) พระสตุ ตันตปฎิ ก ว่าดว้ ยพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าและพระสาวกสาคัญที่แสดงแก่
บคุ คลต่าง ๆ ในเวลาและสถานที่ต่าง ๆ เช่น นิทาน ชาดก ฯลฯ
3) พระอภิธรรมปิฎก ว่าด้วยหลกั ธรรมทีอ่ ธิบายในด้านวิชาการล้วน ๆ ไม่มีเหตุการณ์ บุคคล
สถานทเ่ี ข้ามาเกีย่ วข้อง

จุดมุง่ หมายสูงสดุ ของศาสนา
จุดมงุ่ หมายสงู สดุ ของศาสนาพุทธ คือ นิพพาน เป็นภาวะที่ดับส้ินจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง

ทั้งปวง หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในสงั สารวัฏ

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 9

วนั สาคัญทางพระพุทธศาสนา

1) วันมาฆบูชา ตรงกบั วันเพ็ญขึน้ 15 คา่ เดอื น 3 (วันพระธรรม)
เกดิ เหตุการณ์ จาตรุ งคสนั นิบาต ประกอบด้วย
- วันน้ันเปน็ วันเพ็ญเดอื น (พระจันทร์เตม็ ดวง)
- พระสงฆ์ 1,250 รูป มาชุมนุมกันโดยมิไดน้ ัดหมาย
- พระสงฆ์เหลา่ นนั้ ลว้ นเป็นพระอรหนั ต์ทั้งสนิ้
- พระสงฆ์เหลา่ นนั้ ลว้ นเปน็ เอหิภกิ ขอุ ปุ สัมปทา (พระพทุ ธเจ้าบวชให้)

2) วนั วิสาขบชู า ตรงกับวนั เพ็ญขึน้ 15 คา่ เดอื น 6 (วนั พระพทุ ธ)
เปน็ วนั สาคญั คือ วนั ประสูติ ตรสั รู้ ปรินิพพาน ของพระพทุ ธเจ้า

3) วนั อฐั มีบชู า ตรงกับวนั แรม 8 ค่า เดอื น 6
เป็นวันสาคญั คือ เป็นวันถวายพระเพลงิ พระพทุ ธสรีระและไดม้ ีแสดง
หลกั ธรรมอัปปมาทธรรม (ความไมป่ ระมาท) โดยพระอานนท์

4) วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวนั เพญ็ ขึน้ 15 คา่ เดอื น 8 (วันพระสงฆ์)
เปน็ วันท่มี ีพระสงฆ์รูปแรกของโลก และพระพทุ ธเจ้าทรงแสดงหลกั ธรรม
มชั ฌิมาปฏิปทา หรือธรรมจกั รกปั ปวัตนสูตร ให้กบั พระอญั ญาโกทญั ญะ

5) วันเข้าพรรษา ตรงกบั แรม 1 ค่า เดอื น 8
เป็นวันที่พระสงฆ์ทั้งหลายต้องงดธุดงค์ ปฏิบัติธรรมและศึกษาอย่างเคร่งครัดเป็น
เวลา 3 เดอื น จนถึงวันออกพรรษา ซึ่งพุทธศาสนกิ ชนจะถอื โอกาสทาบุญรักษาศลี

6) วันออกพรรษา ตรงกับเพญ็ ข้นึ 15 ค่า เดือน 11
เปน็ วันส้นิ สดุ จาพรรษาของพระสงฆ์ และในวันนพี้ ระสงฆ์ท้ังหลายจะมี
การมหาปวารณา คือ การกล่าวตกั เตือนกันในหมู่สงฆ์ตลอดการจาพรรษา

7) วันเทโวโรหณะ ตรงกบั วนั แรม 1 ค่า เดอื น 11 (วันตกั บาตรเทโว)
เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากจาพรรษาครบ
3 เดอื น เพือ่ โปรดพระมารดา พร้อมกลับเปิดโลกสวรรค์ โลกมนุษย์ และโลกนรก
ให้เห็นพร้อมกนั หรือเราเรียกวนั นั้นว่า “วนั พระเจ้าเปิดโลก”

8) วันธรรมสวนะ ( วนั พระ ) กาหนดเดอื นทางจันทรคติละ 4 วัน ได้แก่
วนั ข้ึน 8 คา่
วันข้ึน 15 คา่ (วันเพญ็ )
วันแรม 8 ค่า
วนั แรม 15 ค่า (หากเดอื นใดเป็นเดือนขาด ถอื เอาวนั แรม 14 คา่ )

พุทธศาสนิกชนถือเป็นวันสาคัญ ควรไปวัดเพื่อทาบุญ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ และฟังธรรม
สาหรับผู้ที่เคร่งครัดในศาสนาอาจถอื ศีล 8 ในวันพระดว้ ย นอกจากนยี้ ังถอื ว่าวนั พระไมค่ วรทาบาปใด ๆ
การทาบาปหรือไมถ่ อื ศีล 5 ในวนั พระถือว่าเปน็ บาปย่งิ ในวันอื่น

วันโกน เปน็ ภาษาพดู หมายถึง วันก่อนวนั พระ 1 วัน

ชดุ กิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 10

หลักธรรมสาคญั

1) ไตรลักษณ์
“ไตรลกั ษณ์” แปลว่า ลกั ษณะ 3 อย่าง หมายถงึ กฎธรรมชาติทีม่ อี ยู่ทวั่ ไปในสรรพสิ่ง ทั้งปวง เป็นสิ่ง

ธรรมดาที่เกิดข้ึนเอง เป็นไปเองตามธรรมชาติ ไม่มีผู้สร้างผู้บนั ดาล เรยี กอีกอย่างว่า “สามัญลักษณ์” มีอยู่ 3
ประการ คือ

1. อนจิ จตา ความไมเ่ ทีย่ งแท้ ความไมค่ งที่ การเปลย่ี นแปลง
2. ทุกขตา ความทนอยู่ไม่ได้ ภาวะทีม่ คี วามบกพร่องในตวั พร้อมทีจ่ ะเปล่ยี นแปลง
3. อนตั ตตา ความไม่มตี ัวตน ไม่มตี วั ตนทีแ่ ท้จริง ทกุ สิง่ เกดิ ข้ึน ตั้งอยู่ และดบั ไป
หลักธรรมเรื่องไตรลักษณ์สอนให้เรารู้เท่าทันธรรมชาติของสรรพส่ิงที่ไม่สามารถคงอยู่เช่นเดิมได้
ตอ้ งมีการเปล่ยี นแปลงอยเู่ สมอ เพือ่ จะได้ไม่ยดึ มน่ั ถอื มั่นให้เกิดทกุ ข์

2) ไตรสิกขา
คือ หลกั ธรรมทั้ง 3 ประการทีค่ วรศึกษาและยึดถอื ปฏิบัติ (สิกขา มาจากคาว่า ศึกษา) ได้แก่
1. ศีล คือ การฝึกประพฤติปฏิบัติทางกายและวาจา ได้แก่ สัมมาวาจา สมั มากมั มนั ตะ สัมมาอาชีวะ
2. สมาธิ คือ การฝึกอบรมจติ ใจให้ดงี าม ได้แก่ สัมมาวายามะ สมั มาสติ สมั มาสมาธิ
3. ปญั ญา คือ การตั้งตนให้รู้เท่าทันอยเู่ สมอและมปี ญั ญาอยู่เสมอ ได้แก่ สมั มาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ

3) ขันธ์ 5
“ขนั ธ์ 5 “ หรือ “เบญจขนั ธ์” เปน็ องค์ประกอบของชีวิต 5 ประการ ประกอบด้วย
1. รปู สว่ นที่เป็นร่างกาย รวมถึงพฤติกรรมท้ังหมดของร่างกาย
2. เวทนา ความรสู้ กึ ทีเ่ กิดขนึ้ ต่อสิ่งที่รับรู้ มี 3 อย่าง คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนาและอเุ บกขาเวทนา
3. สญั ญา การกาหนดหมายรู้สิง่ ใดสิง่ หนึง่ แยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไร
4. สังขาร ส่งิ ทีป่ รุงแต่งจติ แรงจูงใจแรงผลกั ดันให้เกิดการกระทาอย่างใดอย่างหนึง่
5. วิญญาณ การรบั รู้ผา่ นประสาทสมั ผัส ตา หู จมกู ล้ิน กาย ใจ ประกอบด้วย จักขุวิญญาณ

โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชวิ หาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนวิญญาณ

4) นวิ รณ์ 5
คือ สง่ิ ที่ขวางก้ันไมใ่ ห้พบกับความสุขสงบ ทาให้เราห่วงหาอาวรณ์ ได้แก่
1. กามฉนั ทะ คือ ความเพลิดเพลินในกามรมณ์
2. พยาบาท คือ ความโกรธแค้น อาฆาต
3. ถีนมิทธะ คือ ความง่วงเหงาหาวนอน
4. อทุ ธจั จกุกกุจจะ คือ ความฟุ้งซา่ น
5. วิจิกิฉา คือ ความสงสยั ลงั เล

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 11

5) อรยิ สจั 4
“อริยสจั 4” แปลว่า ความจรงิ อันประเสริฐ 4 ประการ อนั เปน็ ข้ันตอนปฏิบตั เิ พือ่ ความดบั ทุกข์

หรือแก้ปัญหา ได้แก่
1. ทุกข์ คือ ปัญหาหรือความทกุ ข์
2. สมทุ ยั คือ สาเหตแุ ห่งทกุ ข์
3. นโิ รธ คือ ความดบั ทกุ ข์
4. มรรค คือ ทางแห่งความดับทุกข์ มี 8 ประการ คือ สัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา
สัมมากัมมันตะ สมั มาอาชีวะ สมั มาวายามะ สมั มาสติ สัมมาสมาธิ

6) ภาวนา 4
คือ หลกั การพฒั นาตน 4 ดา้ น ได้แก่
1. กายภาวนา คือ การพฒั นาตนเองให้มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรงอยู่เสมอ
2. ศีลภาวนา คือ การพัฒนาตนเองให้อยใู่ นศีลธรรม และไม่เบียดเบียนหรอื เอาเปรยี บผู้อืน่
3. จติ ภาวนา คือ การพฒั นาตนเองให้มีจติ ใจทีด่ งี าม ไม่คิดรา้ ยพยาบาทต่อผู้อื่น
4. ปัญญาภาวนา คือ การพัฒนาตนเองให้รู้เท่าทนั เปน็ ผใู้ ฝร่ ู้อยเู่ สมอ

7) อิทธบิ าท 4
คือ ธรรมแห่งความสาเรจ็ ได้แก่
1. ฉนั ทะ คือ ความพอใจ
2. วิริยะ คือ ความพยายาม
3. จติ ตะ คือ ความตง้ั ใจ
4. วิมงั สา คือ การตรวจสอบตนเองอยู่เสมอ

8) พรหมวิหาร 4
คือ ธรรมที่ใช้เพือ่ อปุ ถมั ภค์ ้าชูผู้อืน่ (สาหรับนกั ปกครอง )ได้แก่
1. เมตตา คือ การปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข
2. กรุณา คือ การปรารถนาให้ผู้อืน่ พ้นทุกข์
3. มทุ ิตา คือ การยินดตี ่อผู้อืน่
4. อุเบกขา คือ การวางเฉยเมื่อผู้อืน่ เกิดความผิดพลาด

9) สังคหวัตถุ 4
คือ ธรรมทีใ่ ช้ยึดเหนีย่ วจิตใจผู้อืน่ ได้แก่
1. ทาน คือ การให้ทาน
2. ปิยวาจา คือ การพดู และเจรจาทีด่ ีต่อผู้อืน่
3. อตั ถจรยิ า คือ การทาตนเองให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
4. สมานตั ตตา คือ การวางตนให้เสมอต้นเสมอปลาย

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ 12

10) เบญจศลี
เป็นเครือ่ งรกั ษาเจตนาทีจ่ ะควบคุมกาย และวาจาให้เป็นปกติ คือ ไมท่ าบาป
โดยการละเว้น 5 ประการ คือ
1. ปาณาติบาต คือ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ และการเบียดเบียนสัตว์
2. อทินนาทาน คือ ละเว้นจากการลักขโมย ปลน้ จ้ี ฉกชงิ วิ่งราว เปน็ ต้น
3. กาเมสุมิจฉาจาร คือ ละเว้นจากการประพฤติผิด ลว่ งละเมิดลูกเมียผู้อืน่
4. มสุ าวาท คือ ละเว้นจากการพดู ปด พูดคาหยาบ พูดเพ้อเจ้อ พดู ส่อเสยี ด
5. สรุ าเมระยะ คือ ละเว้นจากการเสพสุรา เพราะเป็นสาเหตุให้ทาผิดศีลข้ออริยสัจ 4

11) เบญจธรรม
เป็นหลกั ธรรมที่ควรปฏิบตั ิ มี 5 ประการ ได้แก่
1. เมตตากรณุ า คือ บคุ คลใดทีม่ ีเมตตายอ่ มไม่ฆา่ หรอื เบียดเบียนสตั ว์ ดว้ ยรู้ดีว่าทุกชวี ิตยอ่ มมี
ความรกั ตวั กลวั ตายเช่นเดยี วกบั เรา ทาให้ไม่ผิดศีลในข้อที่ 1
2. สัมมาอาชีพ คือ ประกอบอาชีพที่สุจริต มีรายได้ รู้จักใช้จ่าย และที่สาคัญรู้จักคาว่าพอดี และมี
หิริโอตตัปปะ คือ ความละอาย และเกรงกลัวต่อผลของบาป จึงทาให้ไม่ผิดศีลขอ้ ที่ 2
3. ความสารวมอินทรยี ์ คือ ระมดั ระวัง ตา หู จมูก ล้นิ กาย และใจ ทาให้ ความใครใ่ นกามคุณ
คือ การติดในรูป รส กลิ่น เสยี ง สัมผัส ลดน้อยลง เมือ่ ความสารวมเกิดขนึ้ จึงทาให้ไม่ผิดศีลข้อที่ 3
4. ความซื่อสัตย์ คือ การพดู ความจริง เปน็ สิง่ ทีท่ าให้ไม่เกิดการมุสาวาท ทาให้ไมผ่ ิดศีลข้อที่ 4
5. สติ คือ การรู้สึกตัว ซึง่ เป็นหัวหน้าฝ่ายกศุ ล ทาให้ชีวิตไมป่ ระมาท เพราะรวู้ ่าอะไรดี อะไรช่ัว ทาให้
ไม่เกลือกกลั้วกับสิง่ ทีจ่ ะทาให้ชีวิตตกตา่ เช่น สรุ าเมื่อคนด่มื กินกท็ าให้มึนเมาและขาดสติ การมีสติจึง
ทาให้ไม่ผิดศีลข้อที่ 5

12) ทิฏฐิธัมมิกตั ถะ 4
คือ ธรรมทีเ่ ป็นไปเพื่อประโยชนใ์ นปจั จุบัน หลกั ธรรมอันอานวยประโยชนส์ ขุ ในข้ันตน้
เป็นหลกั ปฏิบัติในการสร้างเนอื้ สร้างตวั สร้างฐานะที่ม่นั คง มี 4 ประการ คือ
1. อุฏฐานสมั ปทา คือ ขยนั หม่ันเพียรในการปฏิบตั ิหนา้ ทีก่ ารงานประกอบอาชีพอันสุจริต
ไม่เกียจคร้าน รู้จกั ใช้ปัญญาสอดสอ่ งตรวจตราหาวิธใี นการจดั การกจิ การให้สาเร็จลุลว่ งดว้ ยดี
2. อารกั ขสมั ปทา คือ รู้จกั รกั ษาทรัพย์สินที่หามาได้จากการทางานไม่ให้ส้ินเปลืองหมดไปด้วยส่ิงที่
ไม่เกิดประโยชน์ อีกอย่างหน่ึงคือ รู้จักรักษางานหรือผลงานที่ทาด้วย ความขยันหม่ันเพียรน้ันไม่ให้
เสอ่ื มเสยี และพฒั นาให้ดียิ่งข้นึ อยู่เสมอ
3. กลั ปย์ าณมิตตตา คือ ต้องรู้จกั เลือกคบคน คบเฉพาะคนทีเ่ ปน็ คนดีเปน็ บณั ฑิตสามารถแนะนาชัก
จูงเราไปในทิศทางทีด่ ีได้ ไม่คบคนชวั่ คนพาลทีจ่ ะนาพาเราไปสคู่ วามเสอ่ื ม
4. สมชีวิตา คือ มีความเปน็ อยเู่ หมาะสม ใช้จา่ ยแตพ่ อดแี ก่ฐานะ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่สุรุ่ยสุร่าย รู้จักแบ่ง
เก็บแบ่งใช้ ไม่ใช้จา่ ยเกินตวั นัน่ เอง

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 13

นกิ ายสาคญั ของศาสนา

กอ่ นทีส่ มเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระองค์ได้ประทานพระโอวาท
แก่ พระสาวก ข้อหนึ่งในโอวาททั้งหลายนั้นมีว่า “อานนท์ ต่อไปภายหน้าถ้าสงฆ์ปรารถนาจะถอน
สิกขาบทเล็กๆ น้อยๆ บ้างก็ได้” (สิกขาบท หมายถึง ข้อศีล ข้อวินัย คือศีลแต่ละข้อ วินัยแต่ละข้อ เช่น
ศีลของสามเณรมี 10 ข้อ เรียกว่ามี 10 สกิ ขาบท ศีลของพระภิกษุมี 227 ข้อ เรียกว่ามี 227 สกิ ขาบท)

พทุ ธดารสั ท่ตี รสั แกพ่ ระอานนท์ครง้ั นี้ ได้ถูกยกมาเป็นประเด็นถกเถียงกัน แต่ไม่สามารถวินิจฉัย
เดด็ ขาดไปได้ว่าสิกขาบทใดบ้างเปน็ สิกขาบทเล็กน้อยซึ่งอาจเพิกถอนได้ จึงมีความเห็นเป็นสองฝ่าย คือ
ฝ่ายที่เห็นว่าควรรักษาสิกขาบทต่าง ๆ ไว้คงเดิมโดยไม่เปล่ียนแปลง อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าควรมีการเพิก
ถอน หรือปรบั เปลย่ี นให้เข้ากบั สถานการณ์ที่เปล่ยี นแปลงไป จากเหตุการณ์นี้จึงมีการแบ่งนิกายขึ้นเป็น
ครง้ั แรกในพระพุทธศาสนา หลงั จากนั้นกแ็ ตกแยกย่อยเปน็ อีกหลายนิกาย

ปัจจุบันมีนิกายใหญ่ ๆ ที่สาคญั อยู่ 2 นิกาย คือ
1) นกิ ายเถรวาท (หินยาน) เปน็ นิกายดั้งเดิมทีร่ ักษาพระธรรมวินัยต่าง ๆ ไว้โดยไม่เปล่ยี นแปลง
2) นิกายอาจาริยวาท (มหายาน) เป็นนิกายที่เกิดขึ้นใหม่ โดยผสมผสานกับหลักคาสอนของ
นิกายอื่นๆ แล้วสร้างเอกลักษณ์ที่เป็นของตนโดยเฉพาะ สาหรับนิกายมหายานนั้น วินัยแก้ไขได้ ธรรม
แก้ไขได้ ไมเ่ น้นชีวิตสงฆ์ แนวคิดเกี่ยวกับอุดมคติพระโพธิสัตว์ (ภาวะโพธิสัตว์เป็นส่ิงที่เกิดขึ้นกับบุคคล
ทั่วไปได้ โดยต้ังปณิธานของพระโพธิสัตว์ 4 ประการ คือ ช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ทาลายกิเสล
ตัณหาท้ังหลายให้หมดส้ิน เข้าถึงสัจธรรมและสอนธรรมน้ันให้แก่ผู้อื่น นาสัตว์ท้ังหลายให้ เข้าสู่พุทธ
ภาวะหมายถงึ ภาวะแห่งความรู้ ความต่นื ความเบิกบาน)

พธิ ีกรรมที่สาคญั ของศาสนา

พทุ ธพิธี มีทั้งหมด 4 พิธี ได้แก่
1. บุญพธิ ี เปน็ พิธที ี่เกีย่ วข้องกบั ชีวิตมนษุ ยต์ ้ังแต่เกิดจนตาย และมักนิมนต์พระมาเล้ยี งทีบ่ ้าน

เช่น ทาบุญวันเกิด การสมรส การข้นึ บ้านใหม่ งานศพ การทาบญุ ครบรอบ 100 วนั
2. กุศลพธิ ี เป็นพิธที ี่เกี่ยวข้องกับการทาคุณความดใี ห้กบั พระพุทธศาสนา เช่น เวียนเทียน ตักบาตร

บรรพชา อปุ สมบท การถวายตนเป็นพทุ ธมามกะ สวดมนต์ไหว้พระ
3. ทานพิธี เปน็ พิธที ีเ่ กี่ยวข้องกับการถวายทานแดพ่ ระสงค์ เช่น สงั ฆทาน กฐิน เทียนพรรษา ผ้าป่า
4. ปกิณกพิธี เปน็ พิธเี บด็ เตล็ดท่ัวไป เช่น ไหว้ครู การกรวดน้า การจดั โต๊ะหมู่บชู า

วงล้อแห่งชีวิต หรือ ธรรมจักร ในศาสนาพุทธเป็น
สัญลักษณ์แทนวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด หรือวงเวียนแห่งการ
ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธองค์ ลักษณะของ
ธรรมจกั รดั้งเดมิ มีสองรูปแบบ คือมี หกซี่ หรือบางครั้งห้าซี่ และ
รูปแบบที่กาเนิดในพุทธศาสนาคือ แปดซี่ สอดคล้องกับ มรรค
แปด หรอื รปู พระหถั ต์

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ 14

กิจกรรมการเรยี นรู้

เรือ่ ง ศาสนาพทุ ธ

ตอนที่ 1 : อ่านรายละเอียดข้อความที่กาหนดให้ และตอบคาถามใหถ้ ูกต้อง

พระพุทธเจ้า พระองค์ประสตู ิในวรรณะ ................. เป็น
พระโอรสของพระเจ้าสุทโทธนะและพระนางสิริมหามายา
.............................. เปน็ ผทู้ านาย หากเจ้าชายสทิ ธตั ออก

ผนวชและไดเ้ ปน็ ศาสดาเอกของโลก

เมือ่ พระชนม์ได้ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรส
กบั ........................................... และเมื่อเจริญ

พระชนมายุ 29 พรรษา ทรงมีพระโอรส
พระนามว่า .................... แปลว่า .................

พระองค์ประทับนง่ั อยู่ใต้ต้น ........... เมือ่ พระชนม์ได้ 35 พรรษา
พระองค์ได้ตรสั รู้พระอนตุ ตรสมั มาสัมโพธิญาณ และได้เป็น
พระสัมมาสมั พุทธเจ้า ในวันข้นึ ........ คา่ เดอื น ……….

พระองค์ทรงประกาศ พระศาสนาอยู่ .............. พรรษา
ครง้ั ถึงวนั เพญ็ เดอื น 6 เมื่อมีพระชนมายุ ...........พรรษา
พระพทุ ธเจ้าไดเ้ สดจ็ ดับขนั ธ์ปรินิพพาน ณ เมืองกุสนิ ารา

ชดุ กิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ 15
ตอนที่ 2 : อธบิ ายองค์ประกอบ และความสาคญั ของพระไตรปฎิ ก ทั้ง 3 หมวด อย่างละเอียด

ตอนที่ 3 : จากภาพ จงบอกชื่อวันสาคัญทางพระพุทธศาสนาจานวน 4 ภาพ ใหถ้ ูกต้อง

ชดุ กิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 16

ตอนที่ 4 : ตอบคาถามจากสถานการณ์ข้างต้น วา่ มีความสอดคล้องกับหลักธรรมใดบ้าง

หมากร่วมแสดงความยนิ ดกี ับคิมเบอร์ลี่ เนือ่ งจาก
จบการศึกษาระดับปรญิ ญาตรี

................................................................

แบงคร์ ู้ตวั ว่าเป็นคนเรยี นไมเ่ ก่ง แตเ่ มือ่ มีความพยายาม
ก็ทาให้สอบตดิ มหาวิทยาลยั

..........................................................................

รอนเสียใจ เพราะแมวทีเ่ ล้ียงมา 4 ปีตาย ถูกรถชน

.......................................................................

พิมรี่พาย เป็นแม่ค้าออนไลน์ใจบุญ เพราะชอบ
ช่วยเหลือผู้อื่น เช่น การบริจาคสิ่งของ เป็นต้น

..................................................................

สายป่าน ชอบทาบุญทกุ เชา้ ก่อนออกเปน็ ทางาน
และเปน็ คนชอบเกบ็ ออมเงินเป็นประจา

..................................................................

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 17

ตอนที่ 5 : นาตวั อกั ษรที่กาหนดให้ จับคู่กบั ภาพศาสนพิธีจานวนท้ังหมด 8 ภาพ ใหถ้ กู ต้อง

ก. บญุ พิธี ข. กศุ ลพิธี ค. ทานพิธี ง. ปกิณกพธิ ี

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ 18

แบบทดสอบหลังเรียน
เรือ่ ง ศาสนาพุทธ

คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่คิดว่าถกู ต้องมากทส่ี ดุ เพียง 1 ข้อเท่าน้ัน

1. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกี่ยวกบั พุทธประวตั ิ
ก. เสดจ็ ออกผนวชในคืนทีพ่ ระราหุลประสตู ิ
ข. พระองค์ตรสั รู้ใต้ต้นโพธิใ์ นวนั เพญ็ เดอื น 3
ค. 80 พรรษา พระองค์ได้เสดจ็ ดับขนั ธ์ปรินิพพาน
ง. 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกบั พระนางยโสธรา

2. บุคคลควรใช้หลกั ธรรมใดในการดาเนนิ ชีวิตอยู่ร่วมกันกบั ผู้อืน่ ในสังคมได้อย่างสงบสุข
ก. อริยสัจ 4
ข. อิทธิบาท 4
ค. สงั คหวัตถุ 4
ง. พรหมวิหาร 4

3. อริยสจั 4 เปน็ พนื้ ฐานของหลกั ธรรมท้ังหลาย เพราะเหตุใด
ก. เป็นหลกั แสดงถึงกฎแห่งกรรม
ข. เปน็ หลักแสดงถึงการแกป้ ัญหาชีวิต
ค. เปน็ หลักแสดงถึงการแสวงหาความจริง
ง. เปน็ หลักแสดงถึงความเปน็ เหตแุ ละผล

4. ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกับ “กฎแห่งกรรม” ในพระพทุ ธศาสนา
ก. คนบางคนทาชว่ั แต่ไดด้ ี
ข. ปลูกพืชใดย่อมได้ผลนั้น
ค. สรรพส่งิ ดาเนินไปอย่างมีระเบียบ
ง. ความบงั เอิญในชีวิตเกิดขนึ้ ตลอดเวลา

5. หลักธรรมใดสามารถนาไปใช้ฝึกอบรม กาย วาจา ใจ ให้เกิดคุณธรรม มีความรถู้ ูกต้อง
และรู้จกั ดารงชีวิตอย่างมีความสุข
ก. มรรค 8
ข. โลกธรรม 8
ค. ขนั ธ์ 5
ง. ไตรลักษณ์

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ 19

6. ข้อใด มคี วามหมายสอดคล้องกับ “หลักศลี สิกขา” มากทส่ี ุด
ก. การตง้ั สติควบคมุ จิตใจใหแ้ น่วแนจ่ นเกดิ สมาธิ
ข. การพัฒนาจติ ใจใหห้ ลุดพน้ จากกิเลส
ค. รกั ษาศีล หรอื ควบคมุ กายและวาจาให้เป็นปกติ
ง. การสารวมกาย วาจา และใจ ใหบ้ รสิ ุทธ์ิ

7. หลกั ธรรมข้อใดท่ีเราควรรใู้ ห้เทา่ ทันความเป็นจริง แลว้ ละวางไม่ยึดติด
ก. ขันธ์ 5
ข. ศีล 5
ค. นวิ รณ์ 5
ง. ภาวนา 4

8. “ละชั่ว ทาดี ชาระจิตใจให้ผอ่ งใส” เปน็ หลกั ธรรมทีเ่ กยี่ วเนอ่ื งกบั วันสาคัญใดของพระพทุ ธศาสนา
ก. วันมาฆบชู า
ข. วนั วสิ าขบูชา
ค. วนั อาสาฬหบชู า
ง. วนั อัฏฐมีบชู า

9. “พิธสี วดอภธิ รรม” ในงานอวมงคล จัดเปน็ พธิ ใี ดของศาสนาพุทธ
ก. กุศลพิธี
ข. บุญพธิ ี
ค. ทานพธิ ี
ง. ปกิณกพิธี

10. เร่ืองราวนิทานชาดกต่าง ๆ จัดอยู่ในหมวดใดของพระไตรปิฎก
ก. กุศลพธิ ีพระวินยั ปฎิ ก
ข. พระสตุ ตนั ตปิฎก
ค. พระอภิธรรมปฎิ ก
ง. จดั อยู่ในทุกหมวด

ชดุ กิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 20

ภาคผนวก

• เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
• เฉลยกิจกรรมการเรียนรู้

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ 21

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรียน
เรือ่ ง ศาสนาพทุ ธ

คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบทีค่ ิดว่าถกู ต้องมากท่สี ุดเพียง 1 ข้อเท่าน้ัน

1. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกี่ยวกบั พุทธประวตั ิ
ก. เสดจ็ ออกผนวชในคืนทีพ่ ระราหลุ ประสูติ
ข. พระองค์ตรสั รู้ใต้ต้นโพธิ์ในวันเพ็ญเดอื น 3
ค. 80 พรรษา พระองค์ได้เสดจ็ ดับขันธ์ปรินิพพาน
ง. 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกบั พระนางยโสธรา

2. บคุ คลควรใช้หลักธรรมใดในการดาเนนิ ชีวิตอยู่ร่วมกนั กบั ผู้อืน่ ในสงั คมได้อย่างสงบสขุ
ก. อริยสัจ 4
ข. อิทธิบาท 4
ค. สังคหวัตถุ 4
ง. พรหมวิหาร 4

3. อริยสัจ 4 เปน็ พืน้ ฐานของหลกั ธรรมท้ังหลาย เพราะเหตใุ ด
ก. เป็นหลกั แสดงถึงกฎแห่งกรรม
ข. เป็นหลกั แสดงถึงการแกป้ ัญหาชีวิต
ค. เปน็ หลกั แสดงถึงการแสวงหาความจริง
ง. เปน็ หลกั แสดงถึงความเปน็ เหตุและผล

4. ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั “กฎแห่งกรรม” ในพระพุทธศาสนา
ก. คนบางคนทาชวั่ แต่ไดด้ ี
ข. ปลูกพืชใดย่อมได้ผลนั้น
ค. สรรพสง่ิ ดาเนินไปอย่างมีระเบียบ
ง. ความบังเอิญในชีวิตเกิดขนึ้ ตลอดเวลา

5. หลักธรรมใดสามารถนาไปใช้ฝึกอบรม กาย วาจา ใจ ให้เกิดคุณธรรม มีความรถู้ กู ต้อง
และรู้จกั ดารงชีวิตอย่างมีความสขุ
ก. มรรค 8
ข. โลกธรรม 8
ค. ขนั ธ์ 5
ง. ไตรลกั ษณ์

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ 22

6. ข้อใด มคี วามหมายสอดคล้องกับ “หลักศลี สิกขา” มากทส่ี ุด
ก. การตง้ั สติควบคมุ จิตใจใหแ้ น่วแนจ่ นเกดิ สมาธิ
ข. การพัฒนาจติ ใจใหห้ ลุดพน้ จากกิเลส
ค. รกั ษาศีล หรอื ควบคมุ กายและวาจาให้เป็นปกติ
ง. การสารวมกาย วาจา และใจ ใหบ้ รสิ ุทธ์ิ

7. หลกั ธรรมข้อใดท่ีเราควรรใู้ ห้เทา่ ทันความเป็นจริง แลว้ ละวางไม่ยึดติด
ก. ขันธ์ 5
ข. ศีล 5
ค. นวิ รณ์ 5
ง. ภาวนา 4

8. “ละชั่ว ทาดี ชาระจิตใจให้ผอ่ งใส” เปน็ หลกั ธรรมทีเ่ กยี่ วเนอ่ื งกบั วันสาคัญใดของพระพทุ ธศาสนา
ก. วันมาฆบชู า
ข. วนั วสิ าขบูชา
ค. วนั อาสาฬหบชู า
ง. วนั อัฏฐมีบชู า

9. “พิธสี วดอภธิ รรม” ในงานอวมงคล จัดเปน็ พธิ ใี ดของศาสนาพุทธ
ก. กุศลพิธี
ข. บุญพธิ ี
ค. ทานพธิ ี
ง. ปกิณกพิธี

10. เร่ืองราวนิทานชาดกต่าง ๆ จัดอยู่ในหมวดใดของพระไตรปิฎก
ก. กุศลพธิ ีพระวินยั ปฎิ ก
ข. พระสตุ ตนั ตปิฎก
ค. พระอภิธรรมปฎิ ก
ง. จดั อยู่ในทุกหมวด

ชดุ กิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 23

เฉลยกิจกรรมการเรยี นรู้

เรื่อง ศาสนาพุทธ

ตอนที่ 1 : อ่านรายละเอียดข้อความทีก่ าหนดให้ และตอบคาถามใหถ้ กู ต้อง

พระพุทธเจ้า พระองค์ประสูติในวรรณะ .....ก..ษ..ัต..ร..ิย..์.. เป็น
พระโอรสของพระเจ้าสทุ โทธนะและพระนางสิริมหามายา
.......โ..ก..ณ...ฑ..ัญ...ญ...ะ........ เป็นผทู้ านาย หากเจ้าชายสทิ ธัตออก

ผนวชและไดเ้ ปน็ ศาสดาเอกของโลก

เมื่อพระชนม์ได้ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรส
กบั ......พ...ร..ะ.น..า..ง..ย..โ.ส..ธ..ร..า./.พ...ิม..พ..า....... และเมือ่ เจริญ

พระชนมายุ 29 พรรษา ทรงมพี ระโอรส
พระนามว่า ......ร.า..ห..ุล......... แปลว่า ......บ...่ว.ง.......

พระองค์ประทบั นัง่ อยู่ใต้ต้น ...โ.พ...ธ..์ิ .. เมือ่ พระชนม์ได้ 35 พรรษา
พระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสมั มาสัมโพธิญาณ และได้เปน็
พระสัมมาสมั พทุ ธเจ้า ในวันข้นึ ..1..5.... คา่ เดอื น ……6….

พระองค์ทรงประกาศ พระศาสนาอยู่ ......4..5...... พรรษา
ครง้ั ถึงวันเพญ็ เดอื น 6 เมือ่ มีพระชนมายุ .....8..0....พรรษา
พระพุทธเจ้าไดเ้ สด็จดับขนั ธ์ปรินิพพาน ณ เมืองกุสนิ ารา

ชดุ กิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 24
ตอนที่ 2 : อธบิ ายองค์ประกอบ และความสาคัญของพระไตรปฎิ ก ท้ัง 3 หมวด อย่างละเอียด

คมั ภีร์ที่เกบ็ รวบรวมเกีย่ วกบั คัมภีร์ที่เกบ็ รวบรวมพระสูตร คัมภีร์ที่เกบ็ รวบรวม
ข้อปฏิบตั ิ และข้อหา้ มของ ต่างๆ ที่เป็นพระธรรมเทศนา หลกั ธรรมต่างๆ คาอธบิ าย
พระภิกษแุ ละภิกษุณี เพื่อให้ ของพระพทุ ธเจ้าและพระ หลักธรรมทีเ่ ปน็ หลักคาสอน
พระภิกษุและภิกษุณีอยู่ ล้วน ๆ ไม่มีเรื่องเล่าประกอบ
ร่วมกันอย่างสงบสุข มุ่งม่ันใน สาวกใช้สอนตามสถานที่ เพือ่ ใหช้ าวพุทธ อยู่ร่วมกัน
ต่างๆ มีเรื่องเล่า นิทาน อย่างสงบสุขและสามารถ
การปฏิบตั ิธรรม
(ชาดก) นาไปปฏิบตั ิได้

ตอนที่ 3 : จากภาพ จงบอกชื่อวนั สาคัญทางพระพุทธศาสนาจานวน 4 ภาพ ใหถ้ กู ต้อง

วันวิสาบูชา วนั อาสาฬหบชู า
วันมาฆบชู า วนั ออกพรรษา

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 25

ตอนที่ 4 : ตอบคาถามจากสถานการณ์ข้างต้น วา่ มีความสอดคล้องกับหลักธรรมใดบ้าง

หมากร่วมแสดงความยนิ ดกี ับคิมเบอร์ลี่ เนือ่ งจาก
จบการศึกษาระดับปรญิ ญาตรี

.........................พ..ร.ห...ม..ว.ิห..า..ร...4.......................

แบงคร์ ู้ตวั ว่าเป็นคนเรยี นไมเ่ ก่ง แตเ่ มื่อมีความพยายาม
กท็ าให้สอบตดิ มหาวิทยาลยั

...............อ..ิท...ธ.ิบ..า..ท...4.../.อ..ร..ิย..ส..จั ...4../.ภ..า..ว..น..า..4..................

รอนเสียใจ เพราะแมวที่เล้ียงมา 4 ปีตาย ถกู รถชน

.............................ไ.ต..ร.ล..ัก..ษ...ณ..์...........................

พิมรีพ่ าย เป็นแม่ค้าออนไลน์ใจบญุ เพราะชอบ
ช่วยเหลือผู้อื่น เช่น การบริจาคสิง่ ของ เปน็ ต้น

..................ส..ัง.ค..ว..ัต..ถ..ุ .4../..พ..ร..ห..ม..ว..ิห..า.ร...4................

สายป่าน ชอบทาบุญทุกเชา้ ก่อนออกเป็นทางาน
และเป็นคนชอบเกบ็ ออมเงินเป็นประจา

..................ส..ัง..ค..ว.ตั..ถ..ุ.4.../..ท..ิฏ..ฐ..ธิ ..ัม..ม..กิ ..ัต..ถ..ะ..4...........

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 26

ตอนที่ 5 : นาตัวอกั ษรที่กาหนดให้ จับคู่กบั ภาพศาสนพิธีจานวนทั้งหมด 8 ภาพ ใหถ้ กู ต้อง

ก. บุญพิธี ข. กศุ ลพธิ ี ค. ทานพิธี ง. ปกิณกพธิ ี

ขง
กค
ขค
กง

ชุดกิจกรรมที่ 3 ศาสนาพทุ ธ 27

บรรณานุกรม

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม. (2551). ความรู้ศาสนาเบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด

โ ก วิ ท ว ง ศ์ สุ ร วั ฒ น์ . ( 2 5 62) . ศ า ส น า ค ริ ส ต์ . [ อ อ น ไ ล น์ ] . เ ข้ า ถึ ง ไ ด้ จ า ก
https://www.matichon.co.th/article/news_1768119. (วันทีค่ ้นข้อมูล : 29 ธันวาคม
2564)

ปฏิภาณ์ มหรรธนาธิบด.ี (2553). ศาสนาทว่ั ไป(Religions). [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก
https://nkr. mcu.ac.th/e-book/?p=53. (วันทีค่ ้นข้อมลู : 31 ธนั วาคม 2564)

มนต์ ทองชัย. (2530). 4 ศาสนาสาคัญของโลกปัจจุบัน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
http://opac.mbu.ac.th/Author/Home. (วนั ที่ค้นข้อมลู : 26 ธันวาคม 2564)

มลู นิธโิ ครงการสารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน. (2560). ศาสนาอิสลาม. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=20&chap=1&page
=t20-1-infodetail05. (วันทีค่ ้นข้อมลู : 28 ธันวาคม 2564)

พระครบู รมธาตกุ ิจจาทร. (2560). ศาสนาท่วั ไป(Religions). [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้
จาก https://www.mcutak.com/userfiles/file.pdf. (วันทีค่ ้นข้อมลู : 26 ธันวาคม 2564)

พระประเทือง ขนฺติ. (2564). ศาสนาสาคัญของโลก. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jmhs1_s/article/view/249544.(วันท่คี ้นขอ้ มลู : 31
ธันวาคม 2564)

ศาสนาสาคัญของโลก. (2558). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://curadio.chula.ac.th/
Images/Class-Onair/so/2015/so-2015-07-22.pdf. (วนั ทีค่ ้นข้อมูล : 25 ธันวาคม
2564)

สานกั งานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ. (2559). พระพทุ ธศานาในโลก. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://onab.go.th/th/content/category/detail/id/82/iid/4126. (วันทีค่ ้นข้อมูล : 31
ธันวาคม 2564)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

เเรร่อื่อื งง ศาสนาสาคัญของโลก
รายวิชา ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202)
ชดุ ที่ 4 ศาสนาคริสต์

โดย
นายณฐั พงค์ กรงุ ศรี

นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู
โรงเรียนนวมินทราชทู ศิ พายัพ
สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษาเชียงใหม่

ชุดกิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ ก

คานา

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ศาสนาสาคัญของโลก รายวิชา
ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งชุดกิจกรรม
การเรียนรู้นี้จัดทาข้ึนเพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียน และใช้เป็น
เคร่อื งมือพัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของนักเรียน ใช้ประกอบการ
สอนในรายวิชา ศาสนาเปรียบเทียบ (ส 33202) เน้นกิจกรรมที่
หลากหลาย ผู้เรยี นจะได้รบั การพัฒนาท้ังทางด้านความรู้ ทักษะ และ
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ซึ่งก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดการ
เปลย่ี นแปลงด้านทกั ษะและด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดนี้นาเสนอในลักษณะการวิเคราะห์
และสังเคราะห์องค์ความรู้ มีคาชี้แจง มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด
จุดประสงค์การเรียนรู้ คาถาม พร้อมภาพประกอบที่ชัดเจนสวยงาม
มีการเรียนรู้คาถามพร้อมเฉลย เพื่อประเมินผลการเรียน

ผู้จดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยิง่ ว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดนี้ จะก่อ
ประโยชน์สูงสุดในการพัฒนานักเรียนให้บรรลุจุดประสงค์ ตัวชี้วัด
และเปน็ ประโยชน์ต่อผู้สนใจศึกษา ทีจ่ ะนาไปใช้ในการจัดการเรียนการ
สอน

ณฐั พงค์ กรุงศรี

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

ชุดกิจกรรมท่ี 1 ความรู้ท่ัวไปเกีย่ วกบั ศาสนา
ชดุ กจิ กรรมที่ 2 ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
ชุดกจิ กรรมที่ 3 ศาสนาพุทธ
ชุดกจิ กรรมที่ 4 ศาสนาครสิ ต์
ชดุ กจิ กรรมที่ 5 ศาสนาอิสลาม

ชุดกิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ ข

สารบัญ

หน้า

คานา ก

สารบญั ข

แผนภูมิลาดับขัน้ กอ่ นการศึกษา 1

คาแนะนาสาหรับครู 2

คาแนะนาสาหรับนกั เรียน 3

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชีว้ ดั / สาระการเรียนรู้ / จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 4

แบบทดสอบก่อนเรียน 5

ใบความรู้ 7

กิจกรรมการเรียนรู้ 11

แบบทดสอบหลังเรียน 14

ภาคผนวก 16

เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน 17

เฉลยกิจกรรมการเรียนรู้ 19

บรรณานกุ รม 22

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 1

แผนลาดบั ขนั้ ตอนก่อนการศึกษา

ชุดท่ี 4 ศาสนาคริสต์
ข้ันตอนการศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้

อา่ นคาแนะนาการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

ทดสอบก่อนเรียน

ศกึ ษาชดุ กิจกรรมโดยปฏิบัตกิ ิจกรรมดงั นี้
• ศกึ ษาใบความรู้
• ปฏิบัติกิจกรรม

ทดสอบหลงั เรียน

ผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์

ศกึ ษาชดุ ตอ่ ไป

ชุดกิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 2

คาแนะนาการใช้ชุดกิจกรรม : สาหรบั ครู

การจัดกิจกรรมโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีข้ันตอนการจัดกิจกรรมที่ผู้สอนต้อง
ดาเนินการดังต่อไปนี้
1. ขน้ั เตรียมการสอน

1.1 ศกึ ษาแผนการจัดการเรยี นร้แู ละชดุ กิจกรรมอย่างละเอียดจนเข้าใจเปน็ อยา่ งดี
1.2 ตรวจสอบชุดกจิ กรรม สื่อการเรียนรู้
2. ข้นั ดาเนนิ กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ครแู จกชดุ กจิ กรรม
2.2 ครชู แี้ จงการใช้ชดุ กจิ กรรมใหน้ กั เรยี นทราบก่อนลงมอื ปฏิบัติ
2.3 ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือศึกษาระดับความรู้พื้นฐานของ

นกั เรียน
2.4 ครูให้นักเรียนศกึ ษาชุดกจิ กรรมและปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามขน้ั ตอน ดังน้ี

1) ศกึ ษาใบความรู้
2) ทากิจกรรม
2.5 ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เพ่ือศึกษาพัฒนาการเรยี นรู้ของนักเรยี น
3. ข้ันประเมนิ ผล
3.1 ครูตรวจแบบทดสอบและกจิ กรรม
3.2 บนั ทึกคะแนน ประเมินผลตามเกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล
3.3 หากมีนักเรียนคนใดยังทาแบบทดสอบหลังเรียนและกิจกรรมไม่ผ่านร้อยละ 80
ใหศ้ ึกษาชุดกจิ กรรมตามข้นั ตอนใหมอ่ กี ครง้ั

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 3

คาแนะนาการใช้ชุดกิจกรรม : สาหรบั นกั เรียน

การจัดการเรียนรู้โดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีข้ันตอนการจัดกิจกรรมท่ีนักเรียน
ต้องดาเนินการ ดังตอ่ ไปน้ี

1. ศึกษาจดุ ประสงค์การเรียนรู้ใหเ้ ขา้ ใจ
2. ตัง้ ใจเรยี นร้ตู ามลาดับข้นั ตอนทก่ี าหนดให้ ไมข่ า้ มข้ันตอน
3. ศึกษาและลงมือปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดและมีความซ่ือสัตย์ต่อตนเอง
ไม่เปดิ ดเู ฉลยคาตอบก่อน
4. ขณะศึกษาหากมขี ้อสงสยั หรอื ข้อข้องใจใหถ้ ามครูเพ่อื ขอคาแนะนา
5. หลงั จากศึกษาชดุ กจิ กรรมเสรจ็ จะมีการทดสอบด้วยกิจกรรม
6. หากนักเรียนคนใดยังทาแบบทดสอบและกิจกรรมไม่ผ่านร้อยละ 80 ให้ศึกษาชุด
กิจกรรมตามข้ันตอนใหม่อีกครั้ง หากยังไม่ผ่านหรือมีข้อสงสัยให้นักเรียนยืมชุดกิจกรรมไป
ศึกษานอกเวลาเรยี นหรือปรกึ ษาครูผู้สอน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นี้จะมีประโยชน์ต่อนักเรียน ถ้านักเรียนศึกษาตามลาดับ
ข้ันตอนและมีความซื่อสัตย์ ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ท่ีกาหนดให้นักเรียนศึกษาเน้ือหาในใบความรู้
และฝกึ ทากจิ กรรมหลาย ๆ คร้ัง แล้วกลับมาทดสอบอีกครั้ง เช่ือว่านักเรียนจะมีความเข้าใจ
อย่างถูกตอ้ ง มีความรู้ ความสามารถ ส่งผลใหม้ ผี ลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นสงู ข้ึน

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 4

มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ดั / สาระการเรียนรู้

มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ัด

มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา
หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่
ถกู ต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรมเพื่ออยรู่ ่วมกันอยา่ งสันติสขุ

ตวั ชี้วดั ส 1.1 ม.4-6/17 อธิบายประวัติศาสดาของศาสนาอืน่ ๆ โดยสังเขป

สาระการเรยี นรู้
➢ ประวตั ิความเปน็ มาของศาสนาคริสต์
➢ องคป์ ระกอบของศาสนาศาสนาคริสต์

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นกั เรียนสามารถอธิบายประวัติความเปน็ มาของศาสนาครสิ ต์ได้ (K)
2. นักเรยี นสามารถจาแนกองคป์ ระกอบที่สาคัญของศาสนาครสิ ตไ์ ด้ถกู ตอ้ ง (P)
3. นกั เรียนเหน็ ความสาคัญของศาสนาคริสต์ โดยสามารถเสนอหลักปฏิบตั ิมาปรบั ใชใ้ น

ชวี ติ ประจาวันได้ (A)

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 5

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เรื่อง ศาสนาคริสต์

คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบทีค่ ิดว่าถกู ต้องมากท่สี ดุ เพียง 1 ข้อเท่านั้น

1. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกบั ศาสนาคริสต์
ก. มีลักษณะเป็นอเทวนิยม
ข. ศาสดาของศาสนาคริสต์ คือ โมเสส
ค. วันฟืน้ คืนชีพ เรียกว่า วนั อีสเตอร์
ง. นับถือพระเจ้าสูงสดุ คือ พระยโฮวาห์

2. ศาสนาคริสต์มรี ากฐานมาจากศาสนาใด
ก. ศาสนาอิสลาม
ข. ศาสนายดู าย
ค. ศาสนาชินโต
ง. ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู

3. ข้อใดถกู ต้องตามคาสอนในครสิ ต์ศาสนา
ก. ผู้ที่กระทาผิดโดยเจตนาจะได้รับการลงโทษจากพระเจ้าเสมอ
ข. มนุษยจ์ ะพ้นบาปทีม่ มี าแต่กาเนดิ ก็ต่อเมื่อยอมรบั การสละพระชนม์ชีพของพระเยซู
ค. มนษุ ยไ์ มส่ ามารถเปลย่ี นแปลงตนเองเพราะพระเจ้ากาหนดไว้แลว้ ให้เราเป็นคน
อย่างไร
ง. มนุษยจ์ ะต้องเวียนว่ายตายเกิดจนกว่าจะทาความดพี อเพียงทีจ่ ะได้รับเข้าอยู่ในดินแดน
ของพระเจ้า

4. ศาสนาคริสต์นิกายโรมนั คาทอลกิ ต่างจากศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์อยา่ งไร
ก. นิกายโรมันคาทอลกิ รับศีล 7 ข้อ นิกายโปรเตสแตนต์รับศีล 2 ข้อ
ข. นิกายโรมนั คาทอลกิ ไม่นบั ถือพระแม่มาเรีย นิกายโปรเตสแตนต์นับถือพระแม่มาเรีย
ค. นิกายโรมนั คาทอลิกศูนย์กลางอยู่ทีร่ ัสเซีย นิกายโปรเตสแตนต์ศนู ย์กลางอยู่ทีอ่ ิตาลี
ง. นิกายโรมนั คาทอลกิ นักบวชแตง่ งานได้ นิกายโปรเตสแตนต์นักบวชแตง่ งานไมไ่ ด้

5. การสารภาพบาปในศาสนาคริสต์มจี ุดประสงค์หลักเพือ่ อะไร
ก. เพื่อให้เราใกล้ชิดศาสนาโดยการไปหาพระทีว่ ัดบ่อย ๆ
ข. เพื่อให้เราสบายใจเมือ่ เผลอทาความผิดลงไป
ค. เพื่อเปน็ การเริม่ ต้นทาความดหี ลงั จากยอมรบั ความผิดพลาด
ง. เพือ่ แสดงว่าพระเจ้าทรงรักมนุษยแ์ ละพร้อมจะให้อภัยเราเสมอ

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 6

6. คาว่า “พระจติ ” ในหลักศาสนาคริสต์ มีความหมายว่าอย่างไร
ก. พระเยซูผมู้ จี ิตอนั เข้าแข็งทรงเกื้อหนุนใหม้ นษุ ย์มีพลังใจ
ข. พระเจ้าในฐานะทีป่ รากฏทางจิตวญิ ญาณของมนษุ ยค์ อยกระตนุ้ ให้มนุษย์ทาความดี
ค. จิตของมนษุ ย์ผู้เปย่ี มดว้ ยความรกั อนั ย่งิ ใหญ่อันเกดิ จากเจตน์จานงเสรี
ง. จติ ใจที่มเี หตผุ ล มคี วามเสยี สละอันเป็นผลมาจากการนมสั การและการภาวนา

7. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งถึงคัมภรี ไ์ บเบิล
ก. พระคัมภรี ใ์ หม่ เป็นคัมภีรข์ องศาสนาคริสต์
ข. บญั ญตั ิ 10 ประการ มรี ากฐานมาจากพนั ธสญั ญาเดิม
ค. พระคมั ภีรใ์ หม่ กลา่ วถงึ โมเสส และพระเจา้ สร้างโลก
ง. พระคมั ภีร์เก่า หรอื พันธสญั ญาเดิม เปน็ เรื่องราวของชาวยิว

8. ข้อใดไม่จดั อยู่ในบญั ญัติ 10 ประการ ของศาสนาคริสต์
ก. อย่าลักทรัพย์
ข. อย่าด่ืมสรุ าและของมนึ เมา
ค. อย่ามีความโลภในสง่ิ ของผอู้ ่ืน
ง. จงนมัสการพระเจา้ แตเ่ พียงพระองคเ์ ดยี ว

9. พิธที ชี่ าวครสิ ตร์ บั ประทานขนมปังและด่ืมไวน์โดยบาทหลวงส่งให้เรยี กว่าพธิ อี ะไร
ก. ศีลกาลัง
ข. ศลี แกบ้ าป
ค. ศีลลา้ งบาป
ง. ศลี มหาสนิท

10. “บาทหลวงจะใช้น้าศักดิ์สิทธ์ิเทลงบนศรี ษะพรอ้ มเจิมนา้ มันคริสต์มาทีห่ น้าผาก” หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. ศลี กาลัง
ข. ศีลแกบ้ าป
ค. ศีลล้างบาป
ง. ศลี มหาสนทิ

ชุดกิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 7

ใบความรู้
เรอ่ื ง ศาสนาคริสต์

ศาสนาครสิ ต์ถอื กาเนดิ ขนึ้ ในดนิ แดนปาเลสไตน์ ทวีปเอเชีย แต่เผยแผ่เข้าไปแพร่หลายในทวีป
ยุโรป แล้วแพร่หลายไปสู่ทวีปต่างๆ ท่ัวโลก ศาสนาคริสต์มีพัฒนาการมาจากศาสนายูดายหรือ
ศาสนายวิ มีลกั ษณะเปน็ ศาสนาเอกเทวนยิ ม โดยมีพระเจ้าสูงสุดคอื พระยะโฮวาห์

ศาสดา
ศาสดาของศาสนาคริสต์ คือ พระเยซู ท่านกาเนิดที่เมืองเบธเลเฮม (Bethlehem) แคว้นยูดาย

เมื่อ พ.ศ.543 (ค.ศ.1) ในครรภ์ของหญงิ พรหมจรรย์นามว่า มาเรีย ซึ่งตั้งครรภ์โดยพระอานุภาพของ
พระเจ้า

พระเยซูเร่มิ ประกาศศาสนาเมอื่ อายุ 30 ปี เทศนาสัง่ สอนประชาชน รักษาคนป่วย ชาวคริสต์
เชื่อว่าพระเยซเู ปน็ พระเมสซิอาห์ (Meshiah) หรือพระผู้ช่วยให้รอด ซึ่งพระเจ้าส่งลงมาช่วยเหลือ
ชาวยิว ให้รอดพ้นจากการกดขีแ่ ละภยั สงคราม เป็นผทู้ ีจ่ ะนาสันติสุขที่แท้จริงมาสู่ชาวยิว

การประกาศศาสนาของพระเยซูทาให้นักบวชชาวยิวไม่พอใจ เน่ืองจากคาสอนของพระเยซู
ขดั ต่อคาสอนของโมเสส ความขดั แย้งเร่อื งผลประโยชน์ พระเยซูประกาศศาสนาในนามของพระองค์
เอง และพระเยซไู ม่หยุดทางานวันสะบาโต (วันพักผ่อน) จึงหาทางกาจัดพระองค์ โดยวางแผนจับกุม
แล้วส่งให้ผูส้ าเรจ็ ราชการชาวโรมันให้สาเร็จโทษ ในข้อหาหมิ่นประมาทพระเจ้า อ้างตนเป็นพระเมสซิ
อาห์และเป็นบุตรของพระเจ้า และเป็นกบฏต้ังตนเป็นกษัตริย์ของชาวยิว ท้ายที่สุดผู้สาเร็จราชการ
ชาวโรมันได้รับแรงกดดันจน ต้องตัดสินโทษประหารพระเยซูโดยโบยตีและการตรึงกางเขน เมื่อ
พระชนมายุ 33 ปี

หลังจากพระเยซูสนิ้ พระชนม์แล้วสามวัน พระองค์ก็ได้ฟื้นคืนชีพ หรือวัน Easter Day และสั่ง
สอนประชาชนต่อไปอีก สกั ระยะก่อนจะเสดจ็ สสู่ วรรค์ บรรดาสาวกของพระองค์ก็ออกเผยแผ่ศาสนา
ยังดินแดนต่าง ๆ ในประเทศอิสราเอล และค่อย ๆ ขยายไปในแถบเมดิเตอร์เรเนียน

ชุดกิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 8

คัมภรี ์ทางศาสนา

คมั ภีร์ของศาสนาคริสต์ คือ คมั ภีรไ์ บเบิล เปน็ ประมวลคาสอนซึ่งถือว่าคือพระวจนะของพระเจ้า
แบ่งออกเป็น 2 ภาค คือ

พระคมั ภีร์เกา่ หรอื พนั ธสัญญาเดิม (The Old Testament)
เป็นคัมภีร์ของศาสนายิวซึ่ง เป็นรากฐานของพระคัมภีร์ใหม่ ประกอบด้วยเน้ือหาเกี่ยวกับเร่ือง
พระเจ้าทรงสร้างโลก ประวัตชิ นชาตผิ ิว บัญญตั ิ 10 ประการ และศาสดาพยากรณ์ต่าง ๆ
พระคมั ภีร์ใหม่ หรอื พันธสญั ญาใหม่ (The New Testament)
เป็นคมั ภีร์ของศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะ เป็นเร่อื งราวเกีย่ วกับพระเยซแู ละพระอัครสาวกต่าง ๆ ซึ่ง
เขียนโดยนกั บุญทสี่ าคญั ต่าง ๆ เช่น มธั ธิว (Mathew) มาระโก (Mark) ลกู า (Luke) ยอหน์ (John)

หลักธรรมสาคัญ

หลักตรเี อกานภุ าพ โดยเชื่อว่า
พระบิดา (พระยะโฮวา)
พระบตุ ร (พระเยซู)
พระจติ (พระวิญญาณบรสิ ุทธิ์ ของพระเจ้าที่เสดจ็ มาประทับในใจผู้เชือ่ ถอื )
**** คือพระเจ้าองค์เดยี วกันแม้จะมีพระนามและพระฐานะต่างกัน ****

หลกั ความรกั
ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความรัก โดยหลกั ความรักนแี้ บ่งออกเปน็ ๒ ประการ คือ
1) ความรกั ตอ่ พระเจา้

“จงรกั พระองค์ผู้เปน็ พระเจ้าของเจ้าด้วยสดุ จิต สดุ ใจของเจ้าด้วยสดุ กาลงั ”
2) ความรักตอ่ เพ่อื นมนุษย์

“ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน กจ็ งหันแก้มซ้ายให้เขาดว้ ย”

บัญญัติ 10 ประการ
1) จงนมสั การพระเจ้าแต่เพียงพระองค์เดยี ว
2) จงอย่าสร้างรปู เคารพ
3) อย่าออกนามพระเจ้าโดยไมส่ มเหตุ
4) จงนบั ถือวันสะบาโตเป็นวนั ศกั ดิส์ ิทธิ์
5) จงนับถือบิดามารดา
6) อย่าฆ่าคน
7) อย่าผดิ ประเวณี
8) อย่าลกั ทรพั ย์
9) อย่าเปน็ พยานเท็จ
10) อย่ามีความโลภในส่งิ ของผู้อื่น

ชุดกิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 9

นกิ ายสาคัญของศาสนา

1. นกิ ายโรมันคาทอลิก (Roman Catholic)
• ชือ่ นกิ ายมาจากการถือเอากรุงโรมเป็นศูนย์กลางของศาสนา และเป็นที่พานักของ
พระสันตปาปา (ปัจจุบันอยู่ที่นครวาติกัน ซึ่งเป็นรัฐอิสระที่ต้ังอยู่ในกรุงโรม)
• มีพระสนั ตะปาปาเป็นประมขุ สงู สุดของครสิ ต์ศาสนจกั ร
• ชาวคาทอลิกเชื่อว่าตนเป็นผู้สืบทอดคาสอนและประเพณีอื่นๆ ของศาสนามาแต่
เริ่มแรก และพยายามปกป้องหลักธรรมคาสอนและประเพณีแต่ดั้งเดิมอย่าง
เครง่ ครดั
• ชาวคาทอลิกเชือ่ เรื่องการชาระบาป ถอื ว่าพระเป็นผู้ประกอบพิธีล้างบาปให้ได้ และ
เชื่อเรือ่ งแดนชาระ
• ชาวโรมันคาทอลกิ จะยกย่องนกั บญุ ทั้งหลาย รวมท้ังมาเรีย และโยเซฟ
• มีการประกอบพิธีศีลศักด์ิสิทธิ์ 7 ประการ คือ ศีลล้างบาป ศีลกาลัง ศีลมหาสนิท
ศีลแก้บาป ศีลเจิมคนไข้ ศลี บวช และศีลสมรส
• มีนักบวช ซึ่งอุทิศตนเพือ่ ศาสนา และไม่ได้รับอนุญาตให้สมรส

2. นกิ ายออรธ์ อดอกซ์ (Orthodox)
• แยกตัวจากนิกายโรมันคาทอลิกด้วยเหตุผลทางการเมือง (ความขัดแย้งระหว่าง
สังฆราชแห่งโรม กบั สังฆราชแห่งคอนสแตนติโนเบิล)
• ไมข่ นึ้ ตรงต่อพระสนั ตปาปา แตล่ ะประเทศมีประมขุ เรียกว่าเพทรอิ าค (Patriarch)
• แทบจะไม่มีข้อแตกต่างจากโรมันคาทอลิกในด้านหลักธรรมคาสอน แต่มีความ
แตกต่าง ในเรือ่ งรูปแบบของพิธกี รรม ภาษา การจัดระเบียบการปกครองสงฆ์
• ไมย่ กย่องนกั บุญ รปู เคารพมกั เปน็ ภาพสองมิติ (ห้ามประดิษฐานรปู เคารพสามมิติ)
• ประกอบพิธศี ีลศักดิ์สิทธิ์ 7 ศีล
• มีนกั บวช และนักบวชช้ันผู้น้อยสามารถสมรสได้

3. นกิ ายโปรแตสแตนท์ (Protestant)
• เปน็ ชื่อเรียกรวมของนิกายต่าง ๆ ทีไ่ มใ่ ช่โรมันคาทอลกิ และออร์ธอดอกซ์
• แยกจากโรมันคาทอลิกเนื่องจากความขัดแย้งเกี่ยวกับหลักธรรมคาสอน และการ
ปฏิบัตศิ าสนาที่ผิดแบบแผน เช่น การซอื้ ใบไถ่บาป
• การบรหิ ารจัดการแต่ละประเทศเปน็ อิสระ ไมข่ นึ้ ต่อพระสันตปาปา
• ไม่เชื่อว่าพระมีอานาจใจการอภยั บาป การอภัยบาปสามารถทาได้เองโดยสารภาพ
ต่อพระเจ้าเป็นหมู่คณะ
• ไม่ยกย่องนักบุญ และไม่ประดิษฐานรูปเคารพใด ๆ เพราะถือเป็นเรื่องนอกคัมภีร์
ไมก้ างเขนจะไมม่ ีรปู พระเยซถู กู ตรึงอยบู่ นกางเขน
• ประกอบพิธศี ีลศกั ดิเ์ พียง 2 ศีล คือ ศีลลา้ งบาป และศีลมหาสนิท

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 10

ความเชือ่ เร่อื งอาณาจกั รพระเจา้

อาณาจักรพระเจ้า หมายถึง อาณาจักรพระเจ้าบนสรวงสวรรค์ หรืออาณาจักรพระเจ้า บนโลก
มนุษย์ ซึ่งกค็ ือศาสนจักร ซึ่งทุกคนที่มคี วามเชือ่ จะอยู่ร่วมกนั อย่างสันติสขุ

จุดมงุ่ หมายสงู สุดของศาสนาคริสต์กค็ ือ การได้อยู่อย่างเป็นสขุ ในอาณาจกั รพระเจ้าน่ันเอง

ศีลศกั ดิส์ ิทธิ์ของศาสนาครสิ ต์

ศีลศกั ดิ์สิทธิห์ รอื พิธกี รรมศกั ดิ์สิทธิใ์ นศาสนาคริสต์ มี 7 ศีล
1. ศีลล้างบาป (ศีลจุ่ม หรือการรับบัพติศมา) คือ ศีลที่จะต้องรับเมื่อแรกเกิด หรือเข้ามานับถือ
ศาสนาคริสต์ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีบาปตั้งแต่กาเนิด โดยบาทหลวงจะใช้น้าศักด์ิสิทธิ์เทลงบนศีรษะพร้อม
เจิมน้ามนั ครสิ ต์มาทีห่ น้าผาก
2. ศีลกาลงั คือ ศีลที่ทาเพื่อยืนยันการเป็นชาวคริสต์อย่างสมบูรณ์ โดยจะรับหลังจากรับศีลล้าง
บาป ซึ่งจะมีการเจิมหน้าผาก เพือ่ ยืนยันความเชือ่ ว่าจะถอื ศาสนาครสิ ต์ตลอดไป
3. ศีลมหาสนิท (มิสซา) เป็นศีลที่ทาเพื่อระลึกบญุ คุณของพระเจ้า โดยรบั ขนมปงั และเหลา้ องุ่นมา
รบั ประทาน ซึ่งเชื่อว่าเปน็ พระกายและพระโลหิตของพระเยซู
4. ศีลแกบ้ าป (เรียกว่า ศีลอภัยบาป หรือศีลสารภาพบาป) คือ ศีลที่ทาเพือ่ สานึกความผิดทีต่ นทา
มา และเป็นการเริ่มต้นทาความดอี ีกครั้งหนึ่ง
5. ศีลเจิมคนไข้ เปน็ ศีลทีม่ ุ่งให้กาลงั ใจแก่ผปู้ ่วย โดยน้าเสกบาทหลวงให้ระลึกว่าพระเจ้าจะอยู่กับ
ตนและให้พลังบรรเทาอาการเจ็บป่วย
6. ศีลบวช (อนกุ รม) เป็นศีลที่จะมอบให้แก่ผทู้ ีจ่ ะบวช (บาทหลวง) ทาเฉพาะเพศชายเท่านั้น
7. ศีลสมรส คือ ศีลทีม่ ุ่งให้การสมรส มีความศักด์ิสิทธิ์ โดยมีบาทหลวงเป็นพยาน เป็นการแสดง
ความสัมพันธ์ว่าจะรักกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่

สัญลกั ษณข์ องศาสนา สัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ คือ ไม้กางเขน ซึ่งใช้
ตรงกันทุกนิกาย ไม้กางเขนประกอบด้วยไม้ 2 ท่อน หมายถึง
ความรบั ผิดชอบทีม่ นษุ ยม์ ีต่อพระเจ้า ส่วนไม้แนวขวางชี้ออกไป
2 ข้างน้ัน หมายถึง ความรับผิดชอบที่แต่ละคนมีต่อเพื่อนบ้าน
ความหมายนีน้ บั ว่าถกู ต้องเหมาะสมกบั หลักคาสอนของศาสนา
คริสต์อย่างยิ่ง เพราะศาสนาคริสต์สอนให้รักพระเจ้าสุดชีวิต
จิตใจและสอนให้รกั เพอ่ื นบ้านเหมือนรักตนเอง

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 11

กิจกรรมการเรยี นรู้

เรือ่ ง ศาสนาคริสต์

ตอนที่ 1 : อ่านรายละเอียดข้อความทีก่ าหนดให้ และตอบคาถามใหถ้ ูกต้อง

ศาสนาคริสต์มรี ากฐานมากจากศาสนา .................
ศาสดาของศาสนาครสิ ต์ คือ ......................

ซึ่งเป็นผู้นาพระวจนะของพระเจ้ามาแนะนาสง่ั สอน
ประชาชน โดยมีพระเจ้าสูงสดุ คอื ..................

ประสตู ิเมื่อ พ.ศ. ..................... ซึ่งนบั ว่าเป็น ค.ศ. 1
ทีเ่ มือง ................. แคว้น ................ เรียกว่าวนั .....................

โดยมารดาชือ่ ............... บิดาชือ่ .............. (พ่อบุญธรรม)

เริ่มประกาศศาสนาเมือ่ อายุ ....... ปี เทศนาสง่ั สอนประชาชน
รักษาคนปว่ ย ชาวครสิ ต์เชือ่ ว่าพระเยซูเปน็ ........................
หรือพระผู้ช่วยให้รอด ซึง่ พระเจ้าสง่ ลงมาชว่ ยเหลอื ชาวยิว

ให้รอดพ้นจากการกดขีแ่ ละภัยสงคราม

เมื่อพระชนมายุ ...... ปี พระองค์ถูกตัดสินโทษประหารพระเยซู
โดยโบยตีและการตรึงกางเขน หลงั จากพระเยซสู ิน้ พระชนม์แล้ว
....... วนั พระองค์ก็ไดฟ้ ื้นคืนชีพ หรือเรียกว่าวนั ......................
และส่ังสอนประชาชนต่อไปอีก สกั ระยะก่อนจะเสด็จสสู่ วรรค์

ชุดกิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 12

ตอนที่ 2 : ใหใ้ ส่ตวั อักษร ก หนา้ ข้อความทีค่ ิดว่าถูก และใส่ ตวั อกั ษร ง ข้อความใดทีก่ ล่าวผิด

............. 1. คมั ภีร์ไบเบิล เป็นประมวลคาสอนซึ่งถอื ว่าคือพระวจนะของพระเจ้า
............. 2. พระคัมภีร์เก่า (The Old Testament) เปน็ คมั ภีร์ของศาสนายิว
............. 3. พระคมั ภีร์ใหม่ เปน็ เรอ่ื งราวของชาวยิว และพระเจ้าสร้างโลก
............. 4. หลกั ตรีเอกานภุ าพ ประกอบดว้ ย พระบิดา พระบตุ ร และพระจิต
............. 5. พระจิต หมายถึง พระวิญญาณบริสทุ ธิ์ของพระเจ้า
............. 6. พระบิดา หมายถึง พระเยซู ผู้ไถบ่ าป
............. 7. ศาสนาคริสต์สอนให้รกั เพียงพระเจ้าเท่าน้ัน
............. 8. บญั ญัติ 10 ประกาศ มีรากฐานมากจากศาสนายูดาย
............. 9. อย่าดม่ื สรุ าและยาเสพตดิ จดั อยู่ในบัญญตั ิ 10 ประการ
............. 10. นกิ ายโรมันคาทอลกิ รับศลี เพียง 2 ศีล คือ ศีลลา้ งบาป และศีลมหาสนิท
............. 11. การซ้ือใบไถ่บาป ทาให้เกิดการแยกนกิ ายโปรแตสแตนท์
............. 12. นิกายโปรแตสแตนท์ นับถือไม้กางเขนทีไ่ ม่มรี ปู พระเยซถู ูกตรึง
............. 13. นกิ ายออรธ์ อดอกซ์ มีประมุขเรียกว่าเพทรอิ าค (Patriarch)
............. 14. ศีลลา้ งบาป คือ รบั ขนมปังและเหลา้ องุ่นมารบั ประทาน
............. 15. ศีลมหาสนทิ เรยี กอีกชือ่ ว่า การรับบัพตศิ มา

ตอนที่ 3 : อธบิ ายองค์ประกอบ และความสาคัญนกิ ายของศาสนาคริสต์ อย่างละเอียด

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 13

ตอนที่ 4 : เลือกหมายเลขที่ถกู ต้องเพื่อช่วยพามาร์ตนิ เดินทางผ่านเขาวงกตไปยังอาณาจกั รพระเจ้า

1

หมายเลขที่เลือก 2
3

4

5

ตอนที่ 5 : จากภาพ จงบอกชื่อศลี สาคัญของศาสนาคริสตจ์ านวน 4 ภาพ ใหถ้ ูกต้อง

ชุดกิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 14

แบบทดสอบหลงั เรียน
เรือ่ ง ศาสนาคริสต์

คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่คิดว่าถูกต้องมากท่สี ุดเพียง 1 ข้อเท่าน้ัน

1. ข้อใดกล่าวถกู ต้องเกี่ยวกับศาสนาคริสต์
ก. มีลกั ษณะเป็นอเทวนิยม
ข. ศาสดาของศาสนาคริสต์ คือ โมเสส
ค. วนั ฟืน้ คืนชีพ เรียกว่า วันอีสเตอร์
ง. นบั ถอื พระเจ้าสงู สุด คือ พระยโฮวาห์

2. ศาสนาคริสต์มรี ากฐานมาจากศาสนาใด
ก. ศาสนาอิสลาม
ข. ศาสนายูดาย
ค. ศาสนาชินโต
ง. ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู

3. ข้อใดถูกต้องตามคาสอนในครสิ ต์ศาสนา
ก. ผู้ที่กระทาผิดโดยเจตนาจะได้รับการลงโทษจากพระเจ้าเสมอ
ข. มนษุ ยจ์ ะพ้นบาปที่มมี าแต่กาเนดิ กต็ ่อเมือ่ ยอมรับการสละพระชนม์ชีพของพระเยซู
ค. มนุษยไ์ มส่ ามารถเปล่ยี นแปลงตนเองเพราะพระเจ้ากาหนดไว้แลว้ ให้เราเป็นคน
อย่างไร
ง. มนุษยจ์ ะต้องเวียนว่ายตายเกิดจนกว่าจะทาความดพี อเพียงทีจ่ ะได้รับเข้าอยู่ในดินแดน
ของพระเจ้า

4. ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลกิ ต่างจากศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์อยา่ งไร
ก. นิกายโรมันคาทอลกิ รบั ศีล 7 ข้อ นิกายโปรเตสแตนต์รบั ศีล 2 ข้อ
ข. นิกายโรมนั คาทอลกิ ไม่นับถือพระแม่มาเรีย นิกายโปรเตสแตนต์นับถือพระแม่มาเรีย
ค. นิกายโรมนั คาทอลิกศนู ย์กลางอยู่ที่รสั เซีย นิกายโปรเตสแตนต์ศูนย์กลางอยู่ทีอ่ ิตาลี
ง. นิกายโรมนั คาทอลกิ นกั บวชแตง่ งานได้ นิกายโปรเตสแตนต์นักบวชแตง่ งานไมไ่ ด้

5. การสารภาพบาปในศาสนาคริสต์มจี ดุ ประสงค์หลกั เพื่ออะไร
ก. เพื่อให้เราใกล้ชิดศาสนาโดยการไปหาพระที่วัดบ่อย ๆ
ข. เพื่อให้เราสบายใจเมื่อเผลอทาความผิดลงไป
ค. เพือ่ เปน็ การเริ่มต้นทาความดหี ลงั จากยอมรบั ความผิดพลาด
ง. เพือ่ แสดงว่าพระเจ้าทรงรกั มนุษยแ์ ละพร้อมจะให้อภยั เราเสมอ

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 15

6. คาว่า “พระจติ ” ในหลักศาสนาคริสต์ มีความหมายว่าอย่างไร
ก. พระเยซูผมู้ จี ิตอนั เข้าแข็งทรงเกื้อหนุนใหม้ นษุ ย์มีพลังใจ
ข. พระเจ้าในฐานะทีป่ รากฏทางจิตวญิ ญาณของมนษุ ยค์ อยกระตนุ้ ให้มนุษยท์ าความดี
ค. จิตของมนษุ ย์ผู้เปย่ี มดว้ ยความรกั อนั ย่งิ ใหญ่อันเกดิ จากเจตน์จานงเสรี
ง. จติ ใจที่มเี หตผุ ล มคี วามเสยี สละอันเป็นผลมาจากการนมสั การและการภาวนา

7. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งถึงคัมภรี ไ์ บเบิล
ก. พระคัมภรี ใ์ หม่ เป็นคัมภีรข์ องศาสนาคริสต์
ข. บญั ญตั ิ 10 ประการ มรี ากฐานมาจากพนั ธสญั ญาเดิม
ค. พระคมั ภีรใ์ หม่ กลา่ วถงึ โมเสส และพระเจา้ สร้างโลก
ง. พระคมั ภีร์เก่า หรอื พันธสญั ญาเดิม เปน็ เรื่องราวของชาวยิว

8. ข้อใดไม่จดั อยู่ในบญั ญัติ 10 ประการ ของศาสนาคริสต์
ก. อย่าลักทรัพย์
ข. อย่าด่ืมสรุ าและของมนึ เมา
ค. อย่ามีความโลภในสง่ิ ของผอู้ ่ืน
ง. จงนมัสการพระเจา้ แตเ่ พียงพระองคเ์ ดยี ว

9. พิธที ชี่ าวครสิ ตร์ บั ประทานขนมปังและด่ืมไวน์โดยบาทหลวงส่งให้เรยี กว่าพธิ อี ะไร
ก. ศีลกาลัง
ข. ศลี แกบ้ าป
ค. ศีลลา้ งบาป
ง. ศลี มหาสนิท

10. “บาทหลวงจะใช้น้าศักดิ์สิทธ์ิเทลงบนศรี ษะพรอ้ มเจิมนา้ มันคริสต์มาทีห่ น้าผาก” หมายถงึ ข้อใด
ก. ศลี กาลัง
ข. ศีลแกบ้ าป
ค. ศีลล้างบาป
ง. ศลี มหาสนทิ

ชุดกิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 16

ภาคผนวก

• เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
• เฉลยกิจกรรมการเรียนรู้

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 17

เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
เรื่อง ศาสนาคริสต์

คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่คิดว่าถูกต้องมากทส่ี ดุ เพียง 1 ข้อเท่าน้ัน

1. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกีย่ วกบั ศาสนาคริสต์
ก. มีลกั ษณะเป็นอเทวนิยม
ข. ศาสดาของศาสนาคริสต์ คือ โมเสส
ค. วันฟืน้ คืนชีพ เรียกว่า วนั อีสเตอร์
ง. นับถือพระเจ้าสูงสุด คือ พระยโฮวาห์

2. ศาสนาคริสต์มรี ากฐานมาจากศาสนาใด
ก. ศาสนาอิสลาม
ข. ศาสนายูดาย
ค. ศาสนาชินโต
ง. ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู

3. ข้อใดถูกต้องตามคาสอนในครสิ ต์ศาสนา
ก. ผู้ที่กระทาผิดโดยเจตนาจะได้รับการลงโทษจากพระเจ้าเสมอ
ข. มนุษยจ์ ะพ้นบาปที่มมี าแต่กาเนดิ กต็ ่อเมือ่ ยอมรบั การสละพระชนม์ชีพของพระเยซู
ค. มนษุ ยไ์ มส่ ามารถเปล่ยี นแปลงตนเองเพราะพระเจ้ากาหนดไว้แลว้ ให้เราเปน็ คน
อย่างไร
ง. มนุษยจ์ ะต้องเวียนว่ายตายเกิดจนกว่าจะทาความดพี อเพียงทีจ่ ะได้รับเข้าอยู่ในดินแดน
ของพระเจ้า

4. ศาสนาคริสต์นิกายโรมนั คาทอลกิ ต่างจากศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์อยา่ งไร
ก. นิกายโรมนั คาทอลกิ รบั ศีล 7 ข้อ นิกายโปรเตสแตนต์รับศีล 2 ข้อ
ข. นิกายโรมนั คาทอลกิ ไม่นบั ถือพระแม่มาเรีย นิกายโปรเตสแตนต์นบั ถือพระแม่มาเรีย
ค. นิกายโรมนั คาทอลิกศนู ย์กลางอยู่ทีร่ สั เซีย นิกายโปรเตสแตนต์ศูนย์กลางอยู่ที่อิตาลี
ง. นิกายโรมนั คาทอลกิ นักบวชแตง่ งานได้ นิกายโปรเตสแตนต์นักบวชแตง่ งานไมไ่ ด้

5. การสารภาพบาปในศาสนาคริสต์มจี ุดประสงค์หลกั เพื่ออะไร
ก. เพื่อให้เราใกล้ชิดศาสนาโดยการไปหาพระที่วัดบ่อย ๆ
ข. เพื่อให้เราสบายใจเมื่อเผลอทาความผิดลงไป
ค. เพือ่ เปน็ การเริ่มต้นทาความดหี ลงั จากยอมรับความผิดพลาด
ง. เพื่อแสดงว่าพระเจ้าทรงรกั มนษุ ยแ์ ละพร้อมจะให้อภัยเราเสมอ

ชดุ กิจกรรมที่ 4 ศาสนาคริสต์ 18

6. คาว่า “พระจติ ” ในหลักศาสนาคริสต์ มีความหมายว่าอย่างไร
ก. พระเยซูผมู้ จี ิตอนั เข้าแข็งทรงเกื้อหนุนใหม้ นษุ ย์มีพลังใจ
ข. พระเจ้าในฐานะทีป่ รากฏทางจิตวญิ ญาณของมนษุ ยค์ อยกระตนุ้ ให้มนุษยท์ าความดี
ค. จิตของมนษุ ย์ผู้เปย่ี มดว้ ยความรกั อนั ย่งิ ใหญ่อันเกดิ จากเจตน์จานงเสรี
ง. จติ ใจที่มเี หตผุ ล มคี วามเสยี สละอันเป็นผลมาจากการนมสั การและการภาวนา

7. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งถึงคัมภรี ไ์ บเบิล
ก. พระคัมภรี ใ์ หม่ เป็นคัมภีรข์ องศาสนาคริสต์
ข. บญั ญตั ิ 10 ประการ มรี ากฐานมาจากพนั ธสญั ญาเดิม
ค. พระคมั ภีรใ์ หม่ กลา่ วถงึ โมเสส และพระเจา้ สร้างโลก
ง. พระคมั ภีร์เก่า หรอื พันธสญั ญาเดิม เปน็ เรื่องราวของชาวยิว

8. ข้อใดไม่จดั อยู่ในบญั ญัติ 10 ประการ ของศาสนาคริสต์
ก. อย่าลักทรัพย์
ข. อย่าด่ืมสรุ าและของมนึ เมา
ค. อย่ามีความโลภในสง่ิ ของผอู้ ่ืน
ง. จงนมัสการพระเจา้ แตเ่ พียงพระองคเ์ ดยี ว

9. พิธที ชี่ าวครสิ ตร์ บั ประทานขนมปังและด่ืมไวน์โดยบาทหลวงส่งให้เรยี กว่าพธิ อี ะไร
ก. ศีลกาลัง
ข. ศลี แกบ้ าป
ค. ศีลลา้ งบาป
ง. ศลี มหาสนิท

10. “บาทหลวงจะใช้น้าศักดิ์สิทธ์ิเทลงบนศรี ษะพรอ้ มเจิมนา้ มันคริสต์มาทีห่ น้าผาก” หมายถงึ ข้อใด
ก. ศลี กาลัง
ข. ศีลแกบ้ าป
ค. ศีลล้างบาป
ง. ศลี มหาสนทิ


Click to View FlipBook Version