The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อภินิหารการประจักษ์

พระนิพนธ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์

พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ ๔ เมื่อครั้ง เสด็จออกทรงผนวช จนถึงเหตุการณ์สำคัญในวันสวรรคต

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยจัดพิมพ์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา
๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕

ดร.ศรัณย์ มะกรูดอินทร์ บรรณาธิการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by panyabalo, 2022-08-23 10:10:01

อภินิหารการประจักษ์

อภินิหารการประจักษ์

พระนิพนธ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์

พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ ๔ เมื่อครั้ง เสด็จออกทรงผนวช จนถึงเหตุการณ์สำคัญในวันสวรรคต

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยจัดพิมพ์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา
๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕

ดร.ศรัณย์ มะกรูดอินทร์ บรรณาธิการ

Keywords: อภินิหารการประจักษ์,สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าอยู่หัว,รัชกาลที่ ๔

แลว้ จงึ ทรงจรดไมธ้ ารพระกร ลงจากสพุ รรณปราสาท๑๗๙ บาทจรไปลไุ พรมะมว่ ง พอประดษิ ฐานพระบาท
ลงยงั ธรณี ปถวนี ไี้ หวยงิ่ นกั ทกุ ทศิ ทนิ สารทเขา้ พรรษาวนั นนั้ ซ่งึ เสดจ็ ออกเสวยอยปู่ ระโชรศ๑๘๐ ขณะนนั้
ไมค่ วรเลย สรรพไมเ่ สบยเสพยน์ านาอากาศดาษสรุ ยิ เมฆา จนั ทรป์ รายกบั ดาราฤกษท์ งั้ ปวงยงิ่ กวา่ ทกุ วนั
ดว้ ยฉะนนั้ จ่ึงเสดจ็ บวชเป็นภกิ ษุ ณ ระหวา่ งพทั ธสมี านนั้
ในขณะนนั้ มีนาคราชหน่ึง อยโู่ ดยบรู พทศิ สโุ ขทัยนี้ ยกพงั พานข้ึนสูงพน้ คน แปรตาเฉพาะป่ า
มะมว่ งนนั้ เหน็ ผลดุ พลงุ่ กลางอากาศลงตอ่ แผน่ ดิน แผน่ ดนิ นดี้ สู ูงเป็นคลอง มอี ำ�นาจประไพยงิ่ นกั อน่งึ
ไดย้ นิ สำ�เนียงระฆงั ดนตรีดุริยางคใ์ กลโ้ สตของชนคณาทงั้ ปวง บรรดาทอี่ ยู่ ณ ทีน่ นั้ ยอ่ มเหน็ มหศั จรรย์
ทวั่ ทุกแห่ง ดว้ ยเสด็จทำ�พระบารมี เผอญิ ให้เป็น

๑๗๙ คาํ จารึกใช้ อธิษฺถาน บุวส เลฺหย เทบ ทรฺ ง พฺระจร ด จุะ อัวิ สพุ รณฺ ปราสาท แปลวา่ อธิษฐานบวชแลว้ จงึ ทรงเสด็จลงจาก
ปราสาททอง
๑๘๐ ในคําแปลจารกึ พระนพิ นธอ์ ีกฉบับใช้ เสด็จออกเสวยพระโชรส

143

144

มหศั จรรยม์ หี ลายอยา่ ง เม่อื ทำ�อษั ฎางคิกศลี และเม่อื ทำ�บารมสี ัจฉ๑ิ ๘๑พระขพุง เดอื นนนั้ เป็นฤดูคิมห
ไมม่ ฝี น ดว้ ยอ�ำ นาจศลี กบั ทงั้ ค�ำ ซง่ึ คาํ สตั ย์ ปถวกี ป็ ระวตั กิ มั ปนาท ยงั ฝนบนอากาศใหต้ กลงมา ณ ฤดแู ลง้
แสดงอศั จรรยใ์ นการสรา้ งพระบารมี จง่ึ จดหมายลงไวใ้ ห้ถว้ นถใี่ นแผน่ ศลิ า เพ่อื จะให้เป็นพระเกยี รตยิ ศ
ตอ่ ไป ณ ภายหนา้
ลำ�ดับนัน้ บรรดามนตรอี �ำ มาตย์ โหราราชบัณฑติ วิทยาจารย์ เศรษฐมี หาศาลราชประยรู วงศ์ ก็

มาประชมุ พรอ้ มจ�ำ นงจะใหห้ ยา่ ผนวช สมเดจ็ บพติ รกใ็ หช้ มุ นมุ พระสงฆส์ ามศี ธบิ ดี แลสงั ฆสามเี ถรานเุ ถร
ทงั้ ปวง มาปรกึ ษาพรอ้ มกนั กบั พระราชประยรู วงศ์ ณ สณั ฐาคารสถานช่อื สนั ธตศิ าลา พระบาทกมรเดง

อัตมพี ระบัณฑูรกรณุ าปราณี บรรดาสงฆส์ ามจี ะให้ทราบทัว่ กนั ดว้ ยธรรมเนียมการจะหยา่ ผนวช

๑๘๑ สัจฉิ แปลวา่ ทำ�ให้แจ้ง

145

146

แลว้ พระองคก์ ็ออกพระโอษฐเ์ ปลง่ วาจาหยา่ ผนวช ผลดั ผา้ กาสาวพัตร์ทัง้ ปวง ถวายพระนามพระบาท
กมรเดงอัตศรีธรรมมกิ ราช ขณะนนั้ สาธุชนทงั้ หลายบรรดาทีม่ ีใจอารีตอ่ ธรรม ก็มาวิงวอนให้พระองค์
ช่วยแนะน�ำ สงั่ สอนในธรรมทจี่ ะเป็นคณุ ในชาตหิ นา้ สนิ้ กาลนาน ภกิ ษบุ รษิ ทั กม็ าวงิ วอนให้พระองคช์ ่วย
แนะน�ำ สงั่ สอนในอษั ฎางคกิ มรรค ฝ่ ายอ�ำ มาตยม์ นตรเี สนาประชาชนทงั้ ปวงกพ็ รอ้ มกนั ผจงจติ ปรารถนา
จะให้พระองคโ์ ปรดเถลงิ ราชสมบตั ิ ท�ำ นบุ �ำ รงุ ราษฎรสนององคพ์ ระบดิ า ฝ่ ายพระอนชุ าทงั้ ปวงกม็ าเชญิ
เสด็จให้พระองคป์ ราณีหยา่ ผนวช พระสงฆบ์ ริษัททัง้ ปวงก็พร้อมกัน อัญเชิญให้เสด็จให้ลาอานิสงส์
ผนวชออกรักษาบริษัทคืน พระองคไ์ ดพ้ ระนามวา่ พระบาทกมรเดงอัตศรีตรีภพธรณีชิตสุริยโชติมหา
ธรรมมกิ ราช พระมหาสามีสงั ฆราชประดษิ -

147

148
148

ฐานกอ่ ถวายสนองพระชนก
ในกาลเม่ือนัน้ พระองคม์ ีพระหฤทัยระลึกถึงพระเชษฐ์เมืองศรีสัชนาลัย จะเสด็จนำ�พยุหพล
ทงั้ หลายไป ครงั้ นัน้ ราษฎรในเมืองสโุ ขทยั นสี้ ยบแสยง เสยี ใจตอ่ พระบารมเี ป็นอันมาก นมิ ิตพระบาท
กมรเดงอตั เลไทย๑๘๒ ผพู้ ระชนกมาละเลยแลว้ รบี จะประดษิ ฐานตอ่ พระราชพงศส์ บื สนองเสดจ็ คนื เม่อื
เป็นดงั่ นนั้ ทา่ นจ่งึ อญั เชญิ พระทองค�ำ เป็นพทุ ธ ณ เมอื งจนั ทร๑๘๓ มาประดษิ ฐานเป็นสนององคพ์ ระชนก
ถวายพระนามพระบาทกมรเดงอัตเลไทยผูเ้ ป็นพระชนก อภิเษกเวนเมืองสุโขทัยกับราชสมบัติอำ�พล
ดว้ ยทรพั ยร์ าษฎรประชาทงั้ ปวง แลว้ ทา่ นจงึ เสดจ็ ไปปราบเมอื งหน่งึ ช่อื ศรจี ฑุ ามนราชมหานคร๑๘๔ อยู่
ทิศพายัพเมืองศรีสัชนาลัย เสด็จทอดพระเนตรตามระยะมรรคาไป เห็นว่าหนทางนัน้ ลำ�บาก ยากที่
ราษฎรจะไปมา จ่ึงทรงพระกรณุ าให้ขุดคลองจองถนน

๑๘๒ พญาเลอไทย พระชนกพญาฦๅไทย
๑๘๓ ในคาํ แปลจารึกพระนิพนธอ์ ีกฉบบั ใช้ เมอื งจนั ทรเขต
๑๘๔ ในค�ำ แปลจารกึ พระนพิ นธอ์ ีกฉบบั ใช้ ศรจี ธุ ามลราชมหานคร

149

150

ตัง้ แต่เมืองสุโขทัยจนตลอดถึงเมืองศรีสัชนาลัย และเมืองนอ้ ยเมืองใหญอ่ ันแวะเวียนไปตามระหว่าง
ทางนัน้ ดว้ ย เป็นการบุญฉลองพระคณุ พระบิดา แลว้ ให้ตัง้ ดา่ นมีคนพิทักษร์ กั ษา อยา่ ให้กมระนติ หลบ
หนขี า้ มเขตแดน อน่งึ อยา่ ให้เป็นทางเปลยี่ วมอี นั ตราย ราษฎรจะไปมาคา้ ขายกใ็ ห้ไปโดยสะดวก ส�ำ เรจ็
ดว้ ยพระบารมใี นครงั้ หน่ึง
อน่งึ เหตตุ า่ ง ๆ ทีเ่ ป็นอศั จรรย์ กใ็ ห้จารกึ จดหมายลงไวใ้ นเสาศลิ า เพ่อื คนในภายหลงั ให้ร้แู จ้ง
ประจกั ษใ์ นการบญุ บาป รบี ท�ำ บญุ ประพฤตธิ รรม อยา่ ไดป้ ระมาททกุ คนเลย ซง่ึ แผน่ ดนิ ไหวใหญค่ ราวนี้
ก็เกิดข้ึนด้วยอำ�เภอบุญที่ท่านทำ�ด้วยแท้ เราทัง้ หลายไมเ่ คยเห็น บัดนี้หมายยลผลบุญปรากฏต่อหู
หมวดเราฟั งทา่ นกล่าวหวา่ งธรรมนีเ้ ถิด ต่อไปควรทีช่ นคนทัง้ หลายจะพยายาม กอ่ กุศลบุญให้เจริญ
ทุกคน บาปทงั้ ปวง

151

152

พงึ ละอยา่ ท�ำ เลย พระมหาเถรไตรปิฎก๑๘๕ มาแตล่ งั กาทวปี สถติ อยูพ่ ระสโิ ทล๑๘๖ โดยทกั ษณิ ป่ ามะมว่ ง
ไวค้ �ำ สรรเสรญิ เกยี รตยิ ศ ซง่ึ เสดจ็ ท�ำ ผนวช จดจารกึ ศลิ าไวร้ ะหวา่ งพทั ธสมี า ณ ป่ ามะมว่ ง โดยทศิ ประจมิ
เมอื งสโุ ขทยั แล
๏ ทนี ีจ้ ะวา่ ดว้ ยความหนงั สือไทยในเสาศิลาตอ่ ไป แทน่ ศิลาทีว่ า่ มาในขา้ งตน้ นนั้ ๑๘๗ มคี วาม
ระบุในเสาศิลาทมี่ ีมาแต่เมืองสุโขทัย๑๘๘ แสดงวา่ แรกตัง้ หนังสือไทยข้นึ ในเมืองนัน้ ครัง้ นัน้ ยังไมเ่ ป็น
เมอื งเจ้า เป็นเมอื งประเทศราชอยู่ เจ้าเมืองช่อื ขนุ รามค�ำ แหง เป็นผตู้ งั้ ลายสอื ไทยข้ึน จ่ึงไดจ้ ดหมาย
ไวใ้ นเสาศิลาดังนี้
ว่าเม่ือมหาศักราช ๑๒๑๔ ศกปีมะโรง๑๘๙ พอ่ ขุนรามคําแหง เจ้าเมืองศรีสัชนาลัยสุโขทัย
ให้ปลกู ไมต้ าลนไี้ ดส้ บิ สปี่ ีเขา้ จ่งึ ให้ช่างถากขดานศลิ าตงั้ หวา่ งกลางไมต้ าลนี้ วนั เดอื นดบั เดอื นโอก๑๙๐
แปดค�่ำ วัดเดือนเตม็ ทงั้ แปดวัน ฝงู ป่ ูครเู ถรข้ึนนัง่

๑๘๕พระมหาเถรไตรปิฎก ปรากฏนามในต�ำ นานพระปฐมเจดยี ว์ า่ “พระมหาเถรไหลล่ าย” หรอื พงศาวดารเหนอื เรยี กวา่ “พระมหาเถร
ไลยลาย”
๑๘๖หมายถงึ วดั พระศรโี ทล ตงั้ อยนู่ อกก�ำ แพงเมอื งสโุ ขทยั ทางดา้ นทศิ ตะวนั ตก ห่างจากประตอู ้อหรอื ประตเู มอื งดา้ นทศิ ตะวนั ตก
ไปประมาณ ๕๐๐ เมตร
๑๘๗ หมายถงึ พระแทน่ มนังคศลิ าบาตร
๑๘๘ หมายถึง ศิลาจารึกสุโขทยั หลกั ที่ ๑ ทีพ่ บและนำ�เอาลงมาจากสโุ ขทยั ในพุทธศักราช ๒๓๗๖
๑๘๙ พุทธศกั ราช ๑๘๓๕
๑๙๐ เดอื นโอก คือ เดือนออก หมายถงึ ขา้ งข้ึน

153

ประตมิ ากรรมพระมหาเถรไตรปิ ฎก หรือพระมหาเถรไหลล่ าย
ปั จจุบนั จัดแสดงอยทู่ พี่ พิ ิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติ พระนคร

154

พระมหาเถรไตรปิ ฎก หรือพระมหาเถรไหลล่ าย

พระมหาเถรไตรปิฎกปรากฏนามในต�ำ นานพระปฐมเจดยี ์วา่ “พระมหาเถรไหลล่ าย”
ในพงศาวดารเหนือ วา่ “พระมหาเถรไลยลาย”
ตำ�นานของพระมหาเถรไหล่ลายนี้ เดิมเป็นมหาดเล็กของเจ้ากรุงละโว้ แล้วได้
กระท�ำ ผดิ เป็นช้กู บั พระสนม ตอ้ งโทษถกู จบั สกั ไหลป่ ระจาน และสง่ ไปเป็นตะพนุ่ หญา้ มา้
ตอ่ มาไดล้ ภี้ ยั ไปยงั หวั เมอื งฝ่ายเหนอื แลว้ ประสงคจ์ ะบวชเป็นพระภกิ ษุแตพ่ ระสงฆท์ งั้ หลาย
ไมย่ อมบวชให้ เพราะเป็นนักโทษหนีคดี เพราะมีรอยสักทไ่ี หล่ จึงขอบวชเป็นสามเณร
แทน ภายหลงั ไดโ้ ดยสารเรอื ส�ำ เภาไปยงั เมอื งลงั กา แลว้ ไดข้ ออปุ สมบทเป็นพระสงั ฆราช
ลังกา แตถ่ ูกปฏิเสธเพราะเป็นนกั โทษหนีคดี จึงออกเดินทางไปนมสั การมหยิ ังคณเจดยี ์
ขณะที่ทำ�การสักการะพระเจดีย์นั้น กิ่งพระศรีมหาโพธิได้โน้มลงมากระทำ�ปาฏิหาริย์
พระสงฆท์ ัง้ หลายจึงเปล่งสาธุการ และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในครัง้ นัน้ ครัน้ เม่ือ
เดินทางกลับจึงได้อัญเชิญพระศรีมหาโพธิและพระบรมสารีริกธาตุ จำ�นวน ๖๕๐ องค์
จากเมืองลังกามาประดิษฐาน ณ สถานที่สำ�คัญหลายแห่งในประเทศไทย เช่น
วัดพระศรีมหาโพธิล์ ังกา พระพุทธไสยาสนว์ ัดป่ าโมก พระปาเลไลยนอกเมืองพันธุมบุรี
พระพทุ ธบาท เป็นตน้ สว่ นพระศรมี หาโพธไิ ดเ้ ชญิ ใสอ่ ่างทองค�ำ มาปลกู ไวท้ รี่ มิ หนองนา
กะเล นอกวัดเสมาปากน้ำ� และให้ถ่ายแบบวัดเชตุวนารามมาสร้างไว้ต่อเมืองรอ
แขวงบางทานนอกเมืองก�ำ แพงเพชร ช่อื วัดสงั ฆคณาวาส
นอกจากนี้ ในพระราชนิพนธ์ “พระราชพธิ ีสบิ สองเดือน” ของพระบาทสมเดจ็ พระ
จลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ระบวุ า่ พระมหาไหลล่ ายนเี้ ป็นรปู เคารพหนง่ึ ทใี่ ช้ในการพระราชพธิ ี
พิรณุ ศาสตร์ อันเป็นพธิ ีจรในเดอื น ๙

155

วดั ศรีโทล ตำ�บลเมอื งเกา่ อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั สโุ ขทยั
156

วัดป่ ามะมว่ ง ตำ�บลเมอื งเกา่ อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั สโุ ขทยั
157

158

เหนือขดานศิลา สวดธรรมแกอ่ ุบาสกฝูงทวย๑๙๑จําศีล ผิใช่วันสวดธรรม พอ่ ขุนรามคำ�แหงเจ้าเมือง
ศรสี ชั นาลยั สโุ ขทยั ข้นึ นงั่ เหนอื ขดานศลิ า ให้ฝงู ทวยลกู บา้ นลกู ขนุ ฝงู ทวยถอื บา้ นถอื เมอื งกะกนั ๑๙๒ วนั
เดอื นดบั เดอื นเตม็ ทา่ นแตง่ ช้างเผอื กกรพดั ลยางบา้ ยน ยอ่ มทอง๑๙๓ ทงั้ ซา้ ยขวา ช่อื รปู าศร๑ี ๙๔ พอ่ ขนุ ราม
ข้นึ ขีไ่ ปนบพระอรญั ญิก
พอ่ ขนุ รามคาํ แหงนีเ่ ป็นบุตรพอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ เป็นขนุ ในเมอื งศรสี ัชนาลยั สโุ ขทัย ทงั้ พมา่
กาวลาว๑๙๕แลไทยเมอื งใตห้ ลา้ ฟ้ าฎร ทงั้ ไทยเชาไอ้ชาวของมาข้นึ มาก๑๙๖ ลศุ กั ราช ๑๒๐๙ ศกปีกนุ ๑๙๗
ให้ขุดเอาพระธาตุออกให้ทัง้ หลายเห็นทำ�สักการบูชา บำ�เรอแกพ่ ระธาตุได้เดือนหกวัน จ่ึงเอาลงฝั ง
ในกลางเมืองศรีสัชนาลัย กอ่ เป็นพระเจดียเ์ หนือหกเขา แล้วจ่ึงตัง้ เวียงผาล้อมพระมหาธาตุเขา้ สาม
จ่งึ แลว้ ๑๙๘ เม่ือกอ่ นลายสือไทย

๑๙๑ คำ�จารึกใช้ ฝูงทว่ ย ค�ำ วา่ ทว่ ย แปลวา่ ฝูง, หมู่
๑๙๒ คาํ จารกึ ใช้ ครัน้
๑๙๓ คำ�จารึกใช้ เทีย้ รยอ่ มทอ่ งงา
๑๙๔ คำ�จารกึ ใช้ รจู าครี
๑๙๕ ค�ำ จารกึ ไว้ มากาว ขอ้ ความวา่ ทงั้ มากาวลาวและไทย ... มา กาว ลาว ไทย เป็นช่อื ของไทยเผา่ ตา่ ง ๆ ทีอ่ ยทู่ างภาคเหนือ
๑๙๖ คำ�จารกึ ใช้ ไทยชาวอชู าวของมาออก
๑๙๗ ตรงกับพทุ ธศกั ราช ๑๘๓๐
๑๙๘ ค�ำ จารกึ ใช้ กอ่ พระเจดยี เ์ หนือ หาเขา้ จ่ึงแลว้ ตัง้ เวยี งผาลอ้ มพระมหาธาตุ สามเขา้ จ่งึ แลว้

159

160
160

นบี้ ม่ ี เม่อื ศกั ราช ๑๒๐๕ ศกปีมะแม๑๙๙ พอ่ ขนุ รามคาํ แหงหาใสไ่ วใ้ จ๒๐๐ และใสล่ ายสอื ไทยนี้ ลายสอื ไทย
นี้จ่ึงมีเพ่ือขุนเพ่ือผู้ใส่ใจ๒๐๑ พ่อขุนรามคําแหงนั้น หาเป็นท้าวเป็นพญาแก่ไทยทั้งหลายไม่๒๐๒
หาก๒๐๓เป็นครอู าจารยส์ งั่ สอนไทยทงั้ หลายให้รบู้ ญุ ธรรมแท้ แตค่ นอนั มใี นเมอื งไทยดว้ ยรดู้ ว้ ยหลกั ๒๐๔
ดว้ ยแกลว้ ดว้ ยหาญ ดว้ ยแขง็ ดว้ ยแรง๒๐๕ หาคนจะเสมอมไิ ด้ อาจปราบฝงู ขา้ ศกึ มเี มอื งกวา้ งทงั้ หลาย๒๐๖
ปราบเมอื งตะวนั ออกตลอด๒๐๗สระหลวง สองแคว ลบุ าจาย๒๐๘สระคาเทา้ ฝั่ งของ ถงึ เวยี งจนั ทนเ์ วยี งคาํ
เป็นทแี่ ลว้ เบ้ืองหวั นอน๒๐๙ ตลอดคนท๒ี ๑๐ พระบาง แพรก สพุ รรณภูมิ ราชบุรี เพชรบุรี ศรธี รรมราช
ฝั่ งทะเลสมุทรเป็นที่แล้ว เบ้ืองตะวันตกตลอดเมืองฉอด เมืองบางคาพดี๒๑๑ สมุทรห้าเป็นแดน๒๑๒
เบ้ืองทิศตีนนอน๒๑๓ ตลอดเมอื งแพร่ เมอื งนา่ น เมืองพลวั พน้ ฝั่ งของ เมอื งชวาเป็นแดนแลว้ ๒๑๔ ปลกู

๑๙๙ พทุ ธศักราช ๑๘๒๖
๒๐๐ ค�ำ จารึกใช้ หาใคร่ใจในใจ หมายถงึ หากคิดในใจ
๒๐๑ ค�ำ จารึกใช้ เพ่อื ขนุ ผูน้ นั้ ใสไ่ ว้
๒๐๒ คำ�จารึกใช้ แกไ่ ทยทัง้ หลาย
๒๐๓ ค�ำ จารึกใช้ หา หมายถึง เอง, นนั้ เอง, แหละ ค�ำ วา่ หา หรอื หาก นี้ คนโบราณใช้เนน้ ขอ้ ความ
๒๐๔ ค�ำ จารกึ ใช้ ดว้ ยหลวัก (หลวก) หมายถงึ หลักแหลม, ฉลาดเฉลียว, รู้หลกั
๒๐๕ ค�ำ จารกึ ใช้ ดว้ ยแคะดว้ ยแรง หมายถงึ ดว้ ยความวอ่ งไวและเขม้ แขง็ ดว้ ยเรยี วดว้ ยแรง ภาคอสี านมคี �ำ วา่ แคะ แปลวา่ ไมเ่ ช่อื ง,
เปรยี ว
๒๐๖ ค�ำ จารกึ ใช้ มเี มอื งกวา้ งขา้ งหลาย
๒๐๗ คาํ จารึกใช้ รอด หมายถงึ ถึง
๒๐๘ คำ�จารกึ ใช้ ลุมบาจาย นา่ จะเป็นช่อื เมอื งโบราณอยูแ่ ถบลมุ่ แมน่ ้�ำ ป่ าสกั
๒๐๙ เบ้ืองหวั นอน หมายถงึ ทศิ ใต้
๒๑๐คาํ จารกึ ใช้ รอดคนที รอด หมายถงึ ถงึ , คนที หมายถงึ บา้ นโคน อยฝู่ ั่ งตะวนั ออกของแมน่ �ำ้ ปิง อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั ก�ำ แพงเพชร
๒๑๑ ค�ำ จารึกใช้ หงสาวดี
๒๑๒ คำ�จารึกใช้ สมุทรหาเป็นแผน หมายถงึ สมทุ รหากเป็นแดน, สมทุ รนัน้ แหละเป็นแดน
๒๑๓ เบ้ืองทศิ ตีนนอน หมายถงึ ทิศเหนือ
๒๑๔ ค�ำ จารึกใช้ เมอื งชวาเป็นทีแ่ ลว้

161

162

เลยี้ งฝูงลูกบา้ นลูกเมอื งนนั้ ชอบดว้ ยธรรมทุกคน ฯ
หนงั สอื เสาศลิ านแี้ กก่ วา่ หนงั สอื เสาศลิ าทจี่ ารกึ เป็นหนงั สอื เขมร ๖๔ ปี๒๑๕ แสดงเร่อื งเจา้ แผน่ ดนิ
ในเมอื งสุโขทยั ไวท้ ัง้ สองเสาศลิ า ๚ะ

๏ ลายสอื สองเร่อื งนัน้ พรรณนา

เกยี รตยิ ศพระราชา กอ่ นโนน้

วา่ มีเดชศักดา โตใหญ่
ในสโุ ขทัยโพน้ กอ่ นนีน้ านไกล
๏ เสาศลิ ากอ่ นน ี้ นานหลาย

ห้าแปดห้าปีปลาย ลว่ งแลว้

เทา่ ถงึ มะโรงหมาย สูญศกนัน่ นา
ปีพระทลู กระหมอ่ มแกว้ ลวิ่ ข้นึ สูส่ วรรค์
๏ จบโดยสังเขปสนิ้ คำ�แถลง

ราชประวตั ตแิ สดง เทา่ นี้

อยา่ หวาดระแวงแคลง กลัวเท็จ

ตรองเลือกน�ำ มาชี้ แตล่ ว้ นความจรงิ

๒๑๕ สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวรยิ าลงกรณ์ ทรงก�ำ หนดความแตกตา่ งของอายจุ ารกึ ทงั้ ๒ หลักนี้ จากศักราช
เกา่ ทสี่ ุดซ่งึ ปรากฏในจารึก ดังนี้
จารกึ พอ่ ขนุ รามค�ำ แหง ทรงก�ำ หนดตามปีที่ “ใสล่ ายสอื ไทย” เม่อื มหาศกั ราช ๑๒๐๕ (พทุ ธศกั ราช ๑๘๒๖) และจารกึ วดั ป่ ามะมว่ ง
ภาษาเขมร ก�ำ หนดตามปีตอนตน้ ของจารกึ ซง่ึ กลา่ วถงึ พญาเลอไทยเสดจ็ ออกจากเมอื งศรสี ชั นาลยั เม่อื มหาศกั ราช ๑๒๖๙ (พทุ ธศกั ราช
๑๘๙๐) ดังนัน้ จารึกพอ่ ขุนรามคําแหงจึงแกก่ ว่าจารึกวัดป่ ามะมว่ งภาษาเขมร ๖๔ ปี ทัง้ ยังทรงทราบดีว่าพระเจ้าแผน่ ดินกรุงสุโขทัย
ในจารกึ ทงั้ ๒ หลกั นี้ มิใช่พระองคเ์ ดยี วกัน และยังมพี ระนามตา่ งกนั ดว้ ย

163

164

๏ หนงั สอื เสาศลิ านกี้ อ่ นปีมะโรงศกั ราช ๑๒๓๐ ขน้ึ ไปได้ ๕๘๕ ปีเกณฑค์ ดิ ศกั ราชของเกา่ ดงั นี้
ตน้ พทุ ธศักราชปีมะเส็ง มากกวา่ มหาศักราช ๖๒๑ ตน้ มหาศกั ราชปีเถาะ มากกวา่ จุลศักราช ๕๖๐ ปี
ตน้ จุลศกั ราชปีกนุ ผสมกันทัง้ สามฐาน คอื ๖๒๑, ๕๖๐ และ ๑๒๓๐ ได้ ๒๔๑๑ เทา่ พุทธศกั ราชในปี
มะโรงสมั ฤทธศิ ก ๑๒๓๐ นีแ้ ล ๚ะ

๏ พทุ ธศกั ราชตน้ ปีมะเส็ง

จลุ ศักราชกุนเมง แมน่ แท้

มหาศักราชเลง็ ปีเถาะ ประถมนา

เอาสิบสองหารแก ้ เศษตงั้ ปีแสดง

๏ หกสองหน่ึงพทุ ธลว่ ง เกนิ มหา

ห้าหกสญู ทมี่ หา มากพน้

เกินจลุ ศกั ราชนา สองบวกกนั แฮ

จุลเพมิ่ ทสี่ ามทน้ เทา่ ถ้วนพุทธกาล ๚๒๑๖

๒๑๖ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ นัน้ มหาศักราชมิได้ใช้ในราชการแล้ว แต่ใช้ในพวกโหร จุลศักราชใช้ในราชการและกิจของฆราวาส
สว่ นพุทธศกั ราชกใ็ ช้ไนกจิ พระศาสนา และฆราวาสอยูบ่ า้ ง

165

166
166

ภาคผนวก

167

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรสี ินทรมหามงกุฎ พระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั
พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช

168

พระราชนิพนธข์ มาพระสงฆข์ อง

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดศี รีสินทรมหามงกุฎ
พระจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช

ยคเฺ ฆ ภนฺเต สงฺโฆ ชานาตุ มยหฺ ํ ภิกขฺ ุกาเล ปนุ ปฺปนุ ํ เอสา วาจา ภาสติ า ยโตหํ มหาปวารณาย
ชาโต กาลํ กรุ มุ าโน สเจ มหาปวารณาทิวเส พาฬฺหคิลาโน อุโปสถาคาเร มหาปวารณาสนฺนปิ าตํ นโี ต
ตถารูเปน พเลน สมนฺนาคโต ยถารูเปน พเลน สงฆฺ ํ เตวาจกิ ํ ปวาเรตวฺ า สงฺฆสฺส สมฺมุขา กาลํ กเรยฺยํ
ตํ สาธุวตสฺส ตํ เม อนุรปู ํ อสฺส อิติ เอวรปู ี วาจา ปุนปปฺ ุนํ ภกิ ฺขกุ าเล ภาสิตา อทิ านมหฺ ิ คหฎโฺ ฐ กยฺ าหํ
กาหามิ เตนาหํ อิเม สกกฺ าเร วิหารํ ปหินามิ อิเมหิ สกกฺ าเรหิ มหาปวารณากมฺมํ กโรนตฺ ํ สงฆฺ ํ ธมมฺ เมว
ปูเชมิ อตฺตานํ วยิ กตฺวา อยํ มหาปวารณา ครุ วุ าริกา ยถา มม ชาตทวิ โส อาพาโธ เม อภิวฑฒฺ ติ เอวํ
ภายามิ อชฺช กาลํ กเรยฺยํ อาปุจฺฉามหํ ภนฺเต สงฺฆํ จิรปรินิพฺพุตมฺปิ ตํ ภควนฺตํ อภิวาเทมิ อรหนฺตํ
สมฺมาสมฺพุทธฺ ํ ตสสฺ ธมมฺ ํ นมสฺสามิ อรยิ ญจฺ สงฆฺ ํ นมามิ ยมหฺ ํ รตนตตฺ ยํ สรณํ คโตมฺหิ
อจฺจโย มํ ภนเฺ ต อจฺจคคฺ มา ยถาพาลํ ยถามฬุ ฺหํ ยถาอกุสลํ โยหํ ภนฺเต อมิ สฺมึ อตฺตภาเว ตถา
ตถา ปมตฺโต อกุสลานิ กมมฺ านิ อกาสึ ตสสฺ เม ภนฺเต สงฺโฆ อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏคิ คฺ ณหฺ ตุ อายตึ สวํ ราย
อิทานิ มยา ปญฺจสุ สีเลสุ สํวราธฏิ ฐฺ านํ กตํ ตสสฺ มยฺหํ เอวรโู ป มนสิกาโร อนฏุ ฐฺ หยิ ติ สกิ ขฺ ยิ ติ
ปญจฺ สุ ขนฺเธสุ ฉสุ อชฺฌตฺตเิ กสุ อายตเนสุ ฉสุ พาหิเรสุ อายตเนสุ ฉสุ วิญฺญาเณสุ ฉสุ สมผฺ สเสสุ ฉสุ
ฉทวฺ าริเกสุ เวทนาสุ นตฺเถตํ โลกสฺมึ ยํ อปุ าทยิ มานํ อนวชชฺ ํ อสฺส ยํ วา ปุรโิ ส อุปาทยิ นฺโต อนวชฺชวา
อสสฺ อนุปาทานํ สิกฺขามิ สพเฺ พ สงขฺ ารา อนิจฺจา สพเฺ พ ธมมฺ า อนตฺตา ยถาปจจฺ ยํ ปวตตฺ นตฺ ิ เนตํ มม
เนโสหมสฺมิ น เม โส อตฺตา อติ ิ ยํ ยํ มรณํ สตตฺ านํ ตํ อนจฉฺ ริยํ ยโต เยตํ สพเฺ พสํ มคฺโค อปปฺ มตฺตา
โหนฺตุ ภนฺเต อาปุจฉฺ ามิ วนทฺ ามิ ยํ เม ปราธํ สพฺพํ เม สงฺโฆ ขมต.ุ

อาตรุ สมฺ ปึ ิ เม กาเย จติ ตฺ ํ น เหสฺสตาตุรํ

เอวํ สิกขฺ ามิ พทุ ฺธสสฺ สาสนานคุ ตึ กร.ํ

169

พระวิหารหลวง วัดราชประดษิ ฐสถิตมหาสีมาราม
พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้เชญิ บท

พระราชนพิ นธข์ มาพระสงฆ์ ไปอ่านในทปี่ ระชุมสงฆ์ ณ พระวิหารหลวง
วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ในคราวสวรรคต

170

คำ�แปลพระราชนิพนธ์ขมาสงฆ์

ขอเตือนสงฆจ์ งรู้ เม่อื ครงั้ ดิฉนั เป็นภิกษอุ ยู่ ดิฉันไดก้ ลา่ ววาจานีเ้ นือง ๆ วา่ เพราะดิฉนั ไดเ้ กิด
แลว้ ในวนั มหาปวารณา เม่อื จะท�ำ กาละ ถ้าในวนั มหาปวารณาป่ วยหนกั ลง ภกิ ษสุ งฆส์ ามเณรช่วยน�ำ ไป
ยงั ทสี่ งฆป์ ระชมุ ท�ำ มหาปวารณา ณ โรงอโุ บสถ ประกอบไปดว้ ยก�ำ ลงั เช่นนนั้ ดว้ ยก�ำ ลงั เช่นใดเลา่ ดฉิ นั
จะพงึ ปวารณากะสงฆถ์ ้วนก�ำ หนดสามคำ�ไดแ้ ลว้ ท�ำ กาละ ณ ทีเ่ ฉเพาะหนา้ สงฆ์ ความทดี่ ิฉนั ทำ�ไดด้ งั นี้

จะเป็นกรรมดเี ทยี วหนอ ความท�ำ ไดด้ งั นจี้ ะเป็นกรรมสมควรแกด่ ฉิ นั เทยี วหนอ วาจาเช่นนดี้ ฉิ นั ไดก้ ลา่ ว
แลว้ เนอื ง ๆ เม่ือครงั้ เป็นภกิ ษุ บัดนี้ ดิฉันเป็นคฤหัสถ์เสยี แลว้ จกั ทำ�อะไรได้ เพราะเหตุนนั้ ดฉิ ันจงึ สง่
เคร่อื งสกั การะเหลา่ นไี้ ปยงั วหิ ารบชู าสงฆซ์ ง่ึ ท�ำ ปวารณากรรมกบั ทงั้ พระธรรม ดว้ ยเคร่อื งสกั การะเหลา่ นี้
ทำ�ให้เป็นประหน่ึงตน วันมหาปวารณาวนั นีก้ เ็ ป็นวันพฤหัสบดี เช่นกบั วันดฉิ นั เกดิ เหมอื นกัน อาพาธ
ของดิฉันก็เจริญกลา้ ดฉิ ันกลัวอยวู่ า่ จะท�ำ กาลเสีย ณ เวลาวันนี้ ดฉิ นั ขอลาพระสงฆ์ อภวิ าทพระผูม้ ี
พระภาคเจ้าพระองคน์ นั้ ผูอ้ รหนั ตสมั มาสมั พทุ ธแมป้ รินิพพานแลว้ นาน นมสั การพระธรรม นอบนอ้ ม
พระอริยสงฆข์ องพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองคน์ ัน้ ดิฉันได้ถึงพระรัตนตรัยไรเล่าวา่ เป็นสรณะทีพ่ ่ึง
โทษลว่ งเกินไดเ้ ป็นไปลว่ ง ดฉิ ันผูพ้ าลอยา่ งไร ผูห้ ลงอยา่ งไร ผไู้ มฉ่ ลาดอยา่ งไร ดฉิ นั ผใู้ ดไดป้ ระมาท
ไปแลว้ ดว้ ยประการนนั้ ๆ ท�ำ อกศุ ลกรรมไวแ้ ลว้ ณ อตั ภาพนี้ พระสงฆจ์ งรบั โทษทเี่ ป็นไปลว่ ง โดยความ
เป็นโทษเป็นไปลว่ งจริงของดิฉนั ผนู้ ัน้ เพ่อื สำ�รวมระวงั ตอ่ ไป
บัดนี้ ดิฉันได้ทำ�ความอธิษฐานการสำ�รวมในศีลห้าแล้วมนสิการความทำ�ในใจเช่นนี้ดิฉันได้
ให้เกดิ ข้นึ ศึกษาอยู่ ในขนั ธท์ งั้ ๕ อายตนะภายใน ๖ อายตนะภายนอก ๖ วญิ ญาณ ๖ สมั ผัส ๖ เวทนา
ทีเ่ ป็นไปในหกทวาร ๖ สิง่ ใดทีส่ ัตวม์ าถอื เอามนั่ จะพ่ึงเป็นของหาโทษมไิ ด้ อน่ึง บุรุษมายึดมนั่ สิง่ ไรไว้

จะเป็นผหู้ าโทษมไิ ด้สงิ่ นนั้ ไมม่ เี ลยในโลกดฉิ นั มาศกึ ษาการไมย่ ดึ มนั่ อยวู่ า่ สงั ขารทงั้ หลายทงั้ ปวงไมเ่ ทยี่ ง
ธรรมทงั้ หลายทงั้ ปวงใช่ตวั ตน ยอ่ มเป็นไปตามปั จจัย สิง่ นัน้ ใช่ของเรา สว่ นนนั้ ไมเ่ ป็นเรา สว่ นนนั้ มใิ ช่
ตัวตนของเรา ดังนี้ ความตายใด ๆ ของสตั วท์ ัง้ หลาย ความตายนนั้ ไมน่ า่ อศั จรรย์ เพราะความตาย
นัน้ เป็นธรรมดาของสตั วท์ ัง้ หลาย ขอพระผเู้ ป็นเจ้าจงเป็นผไู้ มป่ ระมาทแลว้ เถดิ ดิฉนั ขอลา ดิฉันไหว้
สงิ่ ใดดิฉนั ไดผ้ ิดพลัง้ สงฆจ์ งอดสงิ่ ทงั้ ปวงนนั้ แกด่ ฉิ นั เถดิ

เม่ือกายของดิฉนั แมก้ ระสบั กระสา่ ยอย ู่ จิตตข์ องดฉิ นั จกั ไมก่ ระสับกระสา่ ย

ดิฉนั มาท�ำ ความไปตามคำ�สัง่ สอนของพระพทุ ธเจ้า ศกึ ษาอยูด่ ว้ ยประการดงั นี้ ฯ

171





อภินิหารการประจกั ษ์

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวรยิ าลงกรณ์ : นิพนธ์

พิมพค์ รงั้ ที่ ๑

มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั จดั พิมพเ์ น่ืองในพระราชพิธีมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา
๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕ สมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ิติ์ พระบรมราชินนี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปีหลวง

จำ�นวน : ๒,๐๐๐ เลม่

ข้อมลู ทางบรรณานกุ รมของส�ำ นกั หอสมดุ แหง่ ชาติ

ปวเรศวริยาลงกรณ,์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยา.
อภนิ หิ ารการประจักษ.์ -- นครปฐม : มหาวิทยาลัยมหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย, ๒๕๖๕.
๑๘๐ หนา้ .

  ๑. พระพุทธศาสนา. ๒. สงฆ์ -- ประเพณธี รรมเนยี มปฏบิ ัติ.  I. ช่อื เร่อื ง.

294.3

ISBN : 978-616-208-203-0

จัดทำ�โดย : มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั

ขอขอบพระคณุ ขอบคณุ ทอี่ นเุ คราะหด์ า้ นขอ้ มลู เอ้อื เฟ้ือภาพประกอบ ตลอดจนอ�ำ นวยความสะดวกตา่ ง ๆ จนการ
จดั ท�ำ หนงั สอื เลม่ นใี้ หล้ ลุ ว่ งไปดว้ ยด ี บรรณาธกิ าร : ดร.ศรณั ย์ มะกรดู อนิ ทร ์ ศลิ ปกรรมและออกแบบรปู เลม่ :
นายวัชรินทร์ อำ�ภาพันธ์  ภาพประกอบ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร, พระมหาปกรณ์ กิตฺติธโร
วดั ชนะสงคราม และ ดร.ศรณั ย์ มะกรดู อนิ ทร์

พมิ พท์ ี่

บรษิ ทั พมิ พด์ ี จ�ำ กดั   ๓๐/๒ หมู่ ๑ ถนนเจษฎาวถิ ี ต�ำ บลโคกขาม อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวดั สมทุ รสาคร
โทรศพั ท์ ๐๒-๔๐๑-๙๔๐๑


Click to View FlipBook Version