22 แนวความคิด งานสร้างสรรค์ “นิมิตหิมพานต์” เป� นงานดนตรีของดนตรีเชิงพรรณนา (Program Music) ที�บรรยายถึงเรื�องราวป่าหิมพานต์ ซ�ึงป่าในวรรณคดีและความเชื�อในเรื�องไตรภูมิตามคติศาสนาพุทธและ ฮินดู โดยมีความเชื�อว่า ป่าหิมพานต์ตังอย�ู่บนเชิงเขาพระสุเมรุ มีสระนําขนาดใหญ่ 7 สระ เช่น สระ� อโนดาตแวดล้อมไปด้วยภูเขาทั� ง 5 ที�จัดเป� นยอดเขาหิมพานต์ ในป่าหิมพานต์เต็มไปด้วยสัตว์แปลก ประหลาดนานาชนิด ซ�ึงเราเคยพบเห็นจากจินตนาการของศิลปินโบราณที�ได้สรรค์สร้างภาพไว้รู้จักกัน ในนามว่า สัตว์หิมพานต์ ดังนันบทเพลงนี�จะถ่ายทอดถึงจินตนาการผ่านการขับร้องเทเนอร์และเครื�อง � ดนตรีเปียโน ไวโอลิน วิโอลา และฮอร์น ในรูปแบบของ Fantasia Form ซ�ึงเน้นรูปแบบคอร์ดขยายและการ ใช้คอร์ดแทน (substituting chords) เพื�อสร้างบรรยากาศแบบโรแมนติกและผสมผสานดนตรีในศตวรรษ ที� 20 มีการทําซ� �าของรูปแบบจังหวะเดียวกันหลายครัง แต่มีการเปลี�ยนแปลงคอร์ดและการวางตําแหน่ง � ในลักษณะเฉพาะ. เพื�อการเปล่งเสียงคอร์ดสนับสนุนท่วงทํานองหลักให้โดดเด่น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื�อเป� นดนตรีบรรเลงที�ผ่อนคลาย ให้สมาธิ และจินตนาการ โดยมีเวลาในการบรรเลงประมาณ 6 นาที
23 “พันธุกรรมของจังหวะกลองยาว” สําหรับวงเจมเบ้ “DNA” of Klongyao Rhythmic Pattern for Djembe Ensemble รองศาสตราจารย์ ดร.เอกชย พุหิรัญ ั ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนัส ต้องการพานิช สาขาวิชาดนตรีตะวันตก วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
24 แนวความคิด บทประพันธ์เพลง “พันธุกรรมของจังหวะกลองยาว” สําหรับวงเจมเบ้ เป� นงานสร้างสรรค์ที� นําเสนอภายใต้แนวคิดจากวัฒนธรรมท้องถิ� นร่วมสมัย มีวัตถุประสงค์เพื�อสร้างสรรค์บทประพันธ์ ที�แสดงออกถึงรากของจังหวะกลองยาวของไทยที�ถูกพัฒนาเป� นบทประพันธ์เพลงร่วมสมัยในรูปแบบของ ดนตรีมินิมัล (Minimalism) กลุ่มผู้ประพันธ์ได้เลือกใช้เจมเบ้ (Djembe) 4 ขนาดที�แตกต่างกัน เป� นตัวแทนกลองยาวเพื�อสื�อสารตัวพันธุกรรมด้านจังหวะของกลองยาวของไทยบนเครื�องกระทบของ ตะวันตก โดยนําเสนอวิธีการบรรเลงที�เป� นรากของไทยด้วยรูปวิธีการบรรเลงแบบกลองยาว เช่น การตีแบบท่อม การตีแบบเพริ� ง การตีแบบติก ฯลฯ แนวคิดหลักของการประพันธ์เพลงที�ใช้เป� นด้าน การซ� �าอย่างมากของหน่วยทํานองย่อย (Melodic Fragment) บทประพันธ์มีความยาวประมาณ 6 นาที รายชื�อนักแสดง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนัส ต้องการพานิช เจมเบ้
25 บทเพลงการละเล่นเด็กไทยสําหรับการขับร้อง ประสานเสียง สําหรับผู้สูงอายุ: “มาเล่นกันเธอ” Song of Thai Children Playing for Elderly Choir: “Let’s Play with Me” อาจารย์ ดร.ณัฐธัญ อินทร์คง สาขาการสื�อสารศิลปะการแสดง คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมธารัถย์
26 แนวความคิด บทเพลงการละเล่นเด็กไทยชื�อ “มาเล่นกันเธอ” หรือ “Let’s Play with Me” เป� นบทเพลง ประสานเสียง 3 แนว ประกอบด้วย โซปราโน อัลโต และเทเนอร์ ขับร้องโดยคณะนักร้องประสานเสียง ผู้สูงอายุ YES Chorus การประพันธ์บทเพลงนี�ยึดแนวคิดและวิธีเล่นของการละเล่นเด็กไทย 3 เกม ได้แก่ มอญซ่อนผ้า รีรีข้าวสาร และ งูกินหาง ซ�ึงแต่ละเกมมีคําร้องหรือบทสนทนาประกอบการละเล่น เป� นสําคัญ ผู้ประพันธ์เริ� มงานสร้างสรรค์จากการตีความวิธีเล่น คําร้อง/บทสนทนา และความหมายแฝง ทางสังคมของการละเล่นเด็กไทย เพื�อออกแบบโครงสร้างเพลง กําหนดจังหวะ แต่งคําร้อง/ทํานอง และเรียบเรียงเสียงประสาน ให้เป� นบทเพลงที�นําเสนอผ่านกลุ่มสูงอายุผู้เติบโตมากับการละเล่นเหล่านี� ในวัยเด็ก
27 ดนตรีและภูมิทัศน์ทางเสียง: ชีวิตในบางกอก Music and Soundscape: Life in Bangkok อาจารย์ ดร.สุทธิพงษ์ เรืองจันทร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
28 แนวความคิด ดนตรีและภูมิทัศน์ทางเสียง: ชีวิตในบางกอก คือ งานสร้างสรรค์ที�ถ่ายทอดเรื�องราวชีวิต ของผู้คนในกรุงเทพมหานครที�เกิดขึ�นช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผ่านการประพันธ์ดนตรีแนวตะวันตก ประกอบด้วย บันไดเสียงไมเนอร์ การดําเนินคอร์ดโครมาติก และแนวทํานองเพนทาโทนิค ที�สะท้อนถึง ชีวิตที�ไม่แน่นอน ไม่สามารถตัดสินใจในการดําเนินชีวิต ภายใต้บริบททางสังคมไทย รวมเข้ากับการเรียบ เรียงภูมิทัศน์ทางเสียง ซ�ึงเป� นตัวแทนพื�นที�ของกรุงเทพมหานคร และการออกแบบเสียงอิเล็กทรอนิกส์ ที�สะท้อนถึงวิถีชีวิตของผู้คนในขณะนัน สุดท้าย แนวคิดการสร้างสรรค์งานดนตรีร่วมสมัยนี�จะเป � � นข้อมูล เข้าสู่ระบบการสร้างงานกราฟิก ที�เรียกว่า AI Image Generator
29 จากทํานองลูกกรุงสู่บทเพลงบรรเลงร่วมสมัย : “ความรักเจ้าขา” สําหรับคีย์บอร์ดไฟฟ้า Transformation of Luk Krung Melody into Contemporary Instrumental Music: Exploring “Kwam-Ruk-Chao-Kha” for Electric Keyboard เจษฎากรณ์ วรรณกุล และภัทร นันท์พิพัฒน์สกุล สาขาวิชาดนตรีสากล คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
30 แนวความคิด คีย์บอร์ดไฟฟ้าเป� นเครื�องดนตรีที�สามารถใช้สีสันของเสียงได้อย่างหลากหลาย เช่น เปียโนไฟฟ้า ซินธ์แพด คลาวิเนต เครื�องสาย หรือแม้กระทั� งการสร้างแซมปลิงเสียงเครื�องดนตรีไทย โดยผลงานนี�เลือกใช้เสียง ระนาดเอก ซออู้ และฉิ� ง นอกจากนี�คีย์บอร์ดไฟฟ้ายังสามารถบรรเลงทํานอง หลักไปพร้อม ๆ กับเสียงประสาน ผู้สร้างสรรค์จึงนําทํานองเพลง “ความรักเจ้าขา” ประพันธ์ทํานอง โดย คุณสมาน กาญจนะผลิน ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2531 มาเรียบเรียงเสียงประสานใหม่โดยใช้เทคนิค ต่าง ๆ ได้แก่ การใช้คอร์ดแทน คอร์ดดอมินันท์ที�สอง การยืมคอร์ดมาจากโมดอื�น ๆ และ เพื�อให้ได้เสียง ประสานที�หลากหลายสําหรับบรรเลงคีย์บอร์ดไฟฟ้า ที�มีความยาวประมาณ 4 นาที
31 บทประพันธ์ "มหิทธิกาเปรต" สําหรับ คลาริเน็ตดูเอ็ท “Mahidhika Imp” for clarinet duet ภัทร นันท์พิพัฒน์สกุล สาขาวิชาดนตรีสากล คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ณัชชา ฤกษ์ถนอม วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์
32 แนวความคิด งานสร้างสรรค์ “นิมิตหิมพานต์” เป� นงานดนตรีของดนตรีเชิงพรรณนา (Program Music) ที�บรรยายถึงเรื�องราวป่าหิมพานต์ ซ�ึงป่าในวรรณคดีและความเชื�อในเรื�องไตรภูมิตามคติศาสนาพุทธและ ฮินดู โดยมีความเชื�อว่า ป่าหิมพานต์ตั� งอยู่บนเชิงเขาพระสุเมรุ มีสระนํ� าขนาดใหญ่ 7 สระ เช่น สระอโนดาตแวดล้อมไปด้วยภูเขาทัง 5 ที�จัดเป � � นยอดเขาหิมพานต์ ในป่าหิมพานต์เต็มไปด้วยสัตว์แปลก ประหลาดนานาชนิด ซ�ึงเราเคยพบเห็นจากจินตนาการของศิลปินโบราณที�ได้สรรค์สร้างภาพไว้รู้จักกัน ในนามว่า สัตว์หิมพานต์ ดังนันบทเพลงนี�จะถ่ายทอดถึงจินตนาการผ่านการขับร้องเทเนอร์และเครื�อง � ดนตรีเปียโน ไวโอลิน วิโอลา และฮอร์น ในรูปแบบของ Fantasia Form ซ�ึงเน้นรูปแบบคอร์ดขยายและการ ใช้คอร์ดแทน (substituting chords) เพื�อสร้างบรรยากาศแบบโรแมนติกและผสมผสานดนตรีในศตวรรษ ที� 20 มีการทําซ� �าของรูปแบบจังหวะเดียวกันหลายครัง แต่มีการเปลี�ยนแปลงคอร์ดและการวางตําแหน่ง � ในลักษณะเฉพาะ. เพื�อการเปล่งเสียงคอร์ดสนับสนุนท่วงทํานองหลักให้โดดเด่น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื�อเป� นดนตรีบรรเลงที�ผ่อนคลาย ให้สมาธิ และจินตนาการ โดยมีเวลาในการบรรเลงประมาณ 6 นาที
33 บทประพันธ์เพลงฮกเต้ย สําหรับวงแซ ั กโซโฟน 4 ชิ � น� Composition: Hug Toey for Saxophone Quartet อาจารย์วรเชษฐ วรพุทธินันท์ ์ สาขาดุริยางคศิลป์ตะวันตก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
34 แนวความคิด เป� นผลงานการสร้างสรรค์บทเพลง สําหรับผู้ที�สนใจเป่าแซกโซโฟน ในลักษณะรวมวง 4 ชิ � � น (Saxophone Quartet) อีกทังเพื�อให้ผ �ู้บรรเลงเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน เกิดแรงบันดาลอยากที� จะฝึกแซกโซโฟนมากขึ � น ผ่านท่วงทํานองเพลงที�ผ �ู้ประพันธ์นํามาสร้างสรรค์ เป� นบทเพลงทํานองอีสานที� มีชื�อเสียง เป� นที�รู้จัก ใช้โครงสร้างบทเพลงแบบอิสระ รวมทังการประสานเสียงในโครงสร้างคอร์ดพื�น � บันไดเสียง 5 เสียง (Pentatonic Scale) เป� นอีกหนึ�งบทเพลงสร้างสรรค์สําหรับเครื�องดนตรีแซกโซโฟน � 4 ชิ� น ประเภทเครื�องเป่าลมไม้
35 การออกแบบเสียงประกอบการแสดง: เปรต Sound Design for Performance: Jinn อาจารย์พัชรินทร์ ร่มโพธิ� ช ื� น สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
36 แนวความคิด การออกแบบเสียงประกอบการแสดง: เปรต เป� นงานสร้างสรรค์ทางดนตรีและเสียงประกอบ ที�สื�อเรื�องราวของ “ผี” ตนหนึ�งที�ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ต้องทรมานกับความเจ็บปวด และความหิวโหย กลางคืนส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนก้องจากขุมอเวจี สะท้อนถึงผลแห่งการกระทําชัวครั�ง� เมื�อยังมีชีวิต แต่ด้วยวัฏสงสารยังคงส่งผล จึงได้รับการอโหสิกรรมและผลบุญ งานสร้างสรรค์นี�ใช้ จังหวะเคาะและการควบคุมความช้าเร็วเป� นสําคัญ เพื�อกํากับลีลาและการเคลื�อนไหวของนักแสดง ประกอบด้วยเสียงบรรยายและเสียงต่าง ๆ เช่น ลมหายใจ กรีดร้อง ตีฆ้อง ลมพายุ ไฟไหม้ ฟ้าร้อง เป� นต้น ซ�ึงออกแบบภายใต้บริบทของเปรตในความคิดของผู้สร้างสรรค์และบริบทสังคมไทย
ทัศนศิลป์
37 คืนพระจันทร์เต็มดวง Full moon night ซาริสวิณี รัตนบุรี สาขาคอมพิวเตอร์อาร์ต คณะดิจิทัลอาร์ต มหาวิทยาลัยรังสิต
38 แนวความคิด “Full moon night คืนพระจันทร์เต็มดวง” เป� นผลงานเทคนิคสื�อผสม (mixed media) โดยการสร้างขึ�นจากคอมพิวเตอร์ (Digital art) ประกอบด้วยการปั�นโมเดลแบบ 3 มิติและการวาด ภาพประกอบ โดยมีการออกแบบคาแรคเตอร์ตัวละครให้เป� นเด็กเจ้าเนื�อดูน่ารัก ซ�ึงมาจากหนังตะลุง คือนายเท่งที�มีลักษณะเด่นผมหยิก ตากลมโต สีผิวคลํา นุ่งผ้าขาวม้า สื�อบรรยากาศถึงประเพณีช่วง � ออกพรรษาในคืน 15 คํ� า เดือน 11 ซ�ึงมีแสงจันทร์สาดส่องสว่างไสวเป� นวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา ที�มีกลิ�นอายของวัฒนธรรมแต่ละภาค ซ�ึงประเทศไทยมีรูปแบบของวัฒนธรรมที�ทรงคุณค่าสืบต่อ จากบรรพบุรุษสู่คนรุ่นหลัง และมีพระพุทธศาสนาเป� นที�ยึดเหนี�ยวจิตใจ
39 งอก-งาม Grow อาจารย์ ดร.กฤตยชญ์ คํามิง� สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
40 แนวความคิด เป� นการนําเสนอประติมากรรมในแนวคิดการ “งอก – งาม” จากสิ�งที�พบเห็นได้จาก ธรรมชาติในรูปแบบของทฤษฎี ศิลปะกึ�งไร้รูปลักษณ์ (Semi-figurative and non-figurative Art) เป� นศิลปะที�มีการตัดทอนรูปทรงบางส่วนออกจากความจริงหรืออาจมีการดัดแปลงไปจากธรรมชาติ (สุชาติ เถาทอง, 2538 : 96) ผ่านการแสดงออกของกระบวนการสร้างสรรค์ทางด้านเครื�องปั� นดินเผา กรรมวิธีการขึ�นรูปด้วยแป้นหมุน (Wheel Throwing) เทคนิคการเผาแบบรากุ (Raku) อุณหภูมิในการ เผา 900-1,000 องศาเซลเซียส
41 การออกแบบลวดลาย 12 นักษัตร สําหรับของทีระลึก � ร้านกาลุย โซวีเนียร์ ตําบลกระบีน้อย � อําเภอเมือง จังหวัดกระบี� Design of 12 zodiac patterns for souvenirs at Kalui Sovereign shop, Krabi Noi Subdistrict, Mueang District, Krabi Province กิตติภัฏ แหวนเพชร ตมิสา ทิพยะ ภาสกร ทองขุนดํา พิทย์พันธ์ สิทธิรักษ์ สุธี โส้ปะหลาง แฉล้ม สถาพร สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
42 แนวความคิด การออกแบบลวดลาย 12 นักษัตร สําหรับของที�ระลึก ร้าน กาลุย โซวีเนียร์ ตําบลกระบี� น้อย อําเภอเมือง จังหวัดกระบี� เป� นส่วนหนึ�งของการนําเสนอผลงานในโครงการสร้างสรรค์งาน ออกแบบนิเทศศิลป์ นักศึกษาชันปีที�4 สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป �์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ในการออกแบบลวดลายที�หยิบยกความเป� นตํานานเรื�องเล่า สัตว์ประจํา 12 นักษัตร มาออกแบบเป� นลวดลายลงบนสินค้าที�ระลึก ที�มีความทันสมัย แฝงความเป� นไทย และคติความเชื�อในเรื�องปีนักษัตร ตรงตามความต้องการของร้าน กาลุย โซวีเนียร์ และความต้องการ ของกลุ่มผู้บริโภคทังชาวไทยและต่างชาติ�
43 เซอร์เคิล การ์เด้น ซีรีส์� Circle Garden Series ผู้ช่วยศาสตราจารย์ขวัญจิรา เจียนสกุล สาขาวิชาศิลปกรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
44 แนวความคิด จากธรรมชาติ สิ� งแวดล้อมรอบตัวในถิ� นที�อยู่อาศัย ที�ตนเองสามารถรับรู้และสัมผัสได้ถึง อากาศ บรรยากาศ รวมถึงสภาพแวดล้อมที�ห้อมล้อมอยู่รอบตัว ความรู้สึกเหล่านันทําให้เกิดความ � สดชื�น สบายใจ และเป� นสุข จากแรงบันดาลใจดังกล่าวนําไปสู่การพัฒนาแนวทางในการสร้างสรรค์ ผลงานในชุด เซอร์เคิล การ์เด้น ซีรี�ส์ (Circle Garden Series) นําเสนอผ่านผลงานศิลปะสื�อประสม ด้วยเทคนิคการปักผ้าผสมผสานกับสื�อวัสดุต่างๆ เพื�อให้เกิดมุมมองใหม่ทางศิลปะ โดยรูปทรงหลักภาย ในผลงานจะเน้นการใช้รูปทรงวงกลมจากสะดึงเป� นองค์ประกอบหลัก และลดทอนรูปร่างที�อยู่ในธรรมชาติ มาผสมผสานร่วมกัน ซ�ึงวัสดุที�นํามาใช้จะมีความแตกต่างกันด้วยลักษณะพื�นผิวของวัสดุนั� น ๆ ในแต่ละรูปร่างเพื�อสร้างให้เกิดมิติ และระยะภายในผลงาน โดยเน้นการใช้สีสันที�สดใสทังจากตัววัสดุและ� ผ้าที�นํามาปัก เพื�อถ่ายทอดแรงบันดาลใจที�มีสู่ผลงานสร้างสรรค์ในชุดนี�
45 สัมพันธภาพต่างสายพันธุ์ แห่งจินตปัญญา The Relation between inter-species of Contemplativeness อาจารย์ชยันต์ พลอาสา สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์
46 แนวความคิด รูปแบบการสร้างสรรค์ผลงาน 2 มิติ ได้รับอิทธิพลศิลปะศิลปะลัทธิเหนือจริง (Surrealism) เทคนิคสีชอล์คบนผ้าใบจิตรกรรมร่วมสมัย ปีที�สร้างสรรค์ 2566 สื�อประเด็นสาระถึงพฤติกรรมของมนุษย์ ที�มีต่อสัตว์เลี�ยง ได้แก่ แมว ผลงานเป� นภาษาด้านจิตใจที�โน้มน้าวไปสู่ความรัก ความอบอุ่น การบําบัด ผ่านสัญลักษณ์ทางเนื�อหาที�สะท้อนให้เห็นคุณค่าของชีวิตที�เท่าเทียมกัน และเปี�ยมไปด้วยสัมพันธภาพต่าง สายพันธุ์ ด้วยการตระหนักถึงคําว่า “จินตปัญญา” ให้เห็นคุณค่าของชีวิตที�ว่าดุลภาพแห่งความสุข ภายใต้กฎธรรมชาติและพื�นฐานของความเสมอภาคให้เท่าเทียมกัน
47 ธรรมชาติ หมายเลข 18 Nature no.18 ผู้ช่วยศาสตราจารย์นเรศ ยะมะหาร สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์
48 แนวความคิด การสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมนี�มีวัตถุประสงค์เพื�อถ่ายทอดภาวะทางอารมณ์ ความรู้สึก วุฒิภาวะทางปัญญาและความสมดุลทางจิตใจ สะท้อนจิตวิญญาณภายในอย่างฉับพลันเคลื�อนไหว ต่อเนื�อง สอดคล้องกับเรื�องราว การแปรเปลี�ยนของชีวิตในธรรมชาติ ซ�ึงผู้สร้างสรรค์ได้แสดงออกให้เห็น ถึง การแปรเปลี�ยนของขนาด การแปรเปลี�ยนของทิศทาง การแปรเปลี�ยนของจังหวะ ซ�ึงเป� นสัจธรรม ของชีวิต จากประสบการณ์ที�ผู้สร้างสรรค์ได้สัมผัสและรับรู้ถึงการแปรเปลี�ยนนี� ในสภาพสังคมปัจจุบัน และจากความบันดาลใจที�ได้รับจากคลื�นนํ� าที�เคลื�อนไหว ฝูงปลาที�แหวกว่ายในนํา ทําให้เกิดความคิด� สร้างสรรค์จิตรกรรมรูปแบบนามธรรม โดยอาศย การค้นคว้า และเก็บรวบรวมจากภ ั าพถ่ายคลื�นนําฝ�ูง ปลาที�แหวกว่ายในนํา ซ� �ึงเป� นข้อมูลพื�นฐานจากธรรมชาติ ที�มีเนื�อหาและเรื�องราว นํามาวิเคราะห์แล้ว เลือกสรร หาองค์ประกอบความงาม ให้สอดคล้องกับทฤษฎีศิลปะ มีการตัดทอนรูปทรงรายละเอียด บางส่วนของคลื�นนํา ฝ�ูงปลาที�เหมือนจริงออกไป แล้วสร้างเป� นรูปทรงใหม่ในจินตนาการ ให้สอดคล้องกับ แนวความคิด และวิธีการสร้างสรรค์ แล้วนําผลของการวิเคราะห์เข้าสู้กระบวนการสร้างสรรค์ เพื�อเลือกสรร สร้างเป� นภาพร่างโดยอาศยทฤษฎีศิลปะและทัศน์ธาตุต่างๆ เข้ามาช่วยก่อนนําภาพร่างมา ั ขยายเป� นผลงานจริงสร้างเป� นรูปทรงคลื�นนําเป� � นประธานของเรื�อง ผสมผสานกับรูปทรงอิสระของฝูงปลา ที�แหวกว่ายในนําทับซ�้อนกันในผลงาน โดยมีทัศนะธาตุหลักคือ รูปทรง พื�นผิว เส้น สี นําหนัก พื�นที�ว่าง � ประสานเชื�อมโยงกัน อย่างมีเอกภาพที�ลงตัว จนกระทังเป� � นผลงานจิตรกรรมสีอะคลายลิคบนเฟรมผ้าใบ แนวนามธรรม
49 บทสนทนาของเวลา 2566 The talk of time 2023 รองศาสตราจารย์เดือนฉายผู้ชนะ ภู่ประเสริฐ สาขาทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
50 แนวความคิด การสร้างสรรค์ผลงานชุด “พื�นที�ของเวลา 2566” (Space of Time 2023) เป� นการศึกษา กระบวนการสร้าง “ความงาม” โดยอาศยโครงสร้างระดับจ ัุลภาคและลักษณะทางกายภาพมวลของดิน นํ� า ความร้อน และการเคลื�อนที�แบบสุ่มที�ทําปฏิกิริยาต่อกัน ส่งผลต่อการเปลี�ยนแปลงสถานะ ของโครงสร้างดังกล่าวให้ค่อย ๆ ก่อตัวขึ�นตามลําดับและช่วงเวลา การเกิดขึ�นของรูปร่าง (Form) แสดงระบบระเบียบซ�ึงอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติ การเดินทางของเส้นและการเดินทางของเวลาที�ไม่ หยุดหย่อนแต่สัมพันธ์กันอย่างต่อเนื�อง เป� นความซบซั ้อนแต่ท้าทายความพยายามในการทําความเข้าใจ ร่องรอยการแตกในลักษณะของเส้น (Line) พื�นที�ว่าง (Space) รูปร่าง (Form) ที�ปรากฏ เป� นความพยายามในการสื�อสารความรู้สึกไปสู่วิธีการตอบสนองต่อแรงกดดันรอบตัว ซ�ึงเทียบได้กับ กระบวนการทางจิต สิ� งที�ปรากฏขึนนี�เผยให้เห็นความงามและความจริงบางอย่างที�ซ �่อนอยู่ ซ�ึงถูกเปิดเผย ผ่านการเชื�อมโยงในระหว่างการทํางานที�ทําให้พบความจริงที�ว่า ธรรมชาตินันมีทั�ง “พลัง” “ความงาม” � “ความเปราะบาง” และมีการ “เรียกร้อง” ถ้อยความต่าง ๆ เหล่านี�เองที�ขยายขอบเขตมาสู่การรับรู้ ของผู้สร้างสรรค์ เป� นสิ� งที�ผู้สร้างสรรค์ต้องการสื�อสารออกมา
51 โนราคล้องหงส์ Nora Khlong Hong อาจารย์พลากร พันธุ์มณี สาขาศิลปกรรมและออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชยั
52 แนวความคิด ความประทับใจในศิลปะการแสดงพื�นบ้านโนรา โดยเฉพาะตอน “โนราคล้องหงส์” ซ�ึงเกี�ยวโยง กับวรรณกรรมเรื�องพระสุธน-มโนราห์ที�เป� นวรรณกรรมสืบทอดมาตังแต่สมัยอยุธยา ในบทละครมีเนื�อหา � และตัวละครหลักคือพรานบุญไปจับนางมโนราห์ที�สระอโนดาต เพื�อนํามาถวายเป� นพระชายาของ พระสุธน ผลงานนี�ใช้เทคนิคปั�นลอยตัวสูง 60 เซนติเมตร หล่อด้วยวัสดุเรซิ�น ทําสีเหมือนโลหะ แสดงตอนพรานบุญแอบอยู่เพื�อหาจังหวะใช้บ่วงนาคบาศจับนางโนรา(ภาษาเรียกถิ� นใต้)แต่นางโนรารู้ตัว พยายามหนีแต่ยังไม่ทันสวมปีกใส่หาง ใช้คลื�นม้วนแทนค่าเป� นนํา จัดองค์ประกอบให้ล้อ ยื�อเยื�องกัน � เป� นจังหวะกับตําแหน่งที�สูงตํา สอดคล้องตามลักษณะศิลปะไทย� ประเพณีที�งามด้วยจังหวะของเส้น
53 มุมมองขยายในทัศนียภาพสีฝุ่นจากหินแร่ธรรมชาติ Expanding Perspective in Landscape Paintings from Natural Pigments อาจารย์ ดร.ออมสิรี ปานดํารงค์ สาขาทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
54 แนวความคิด เพื�อนําเสนอมุมขยาย และการพิจารณาเนื�อสีจากหินแร่ธรรมชาติ และวัตถุดิบเนื�อสีที�มี ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ เหมือนการเอาแว่นขยายระดับต่าง ๆ ไปส่องจนถึงระดับกล้อง จุลทรรศน์ส่องลงไปบนหินก้อนเดียว อาจให้ภาพที�แตกต่างกัน ซ�ึงในแง่ของกระบวนการสร้างสรรค์ เนื�อสี (Pigments) สามารถต่อเติมจินตนาการของมนุษย์มาอย่างยาวนานตั� งแต่อดีตมาแล้ว ซ�ึงใน ผลงานสร้างสรรค์ชุดนี�ต้องการแสวงหาความสอดคล้องสัมพันธ์ระหว่างหินและสิ� งแวดล้อมรอบตัวอัน เป� นองค์ประกอบพื�นฐานในธรรมชาติ วิธีการใช้วัสดุอย่างหินสีในธรรมชาติที�ผ่านกระบวนการบดเป� นสีฝุ่น ยังแสดงให้เห็นนัยยะของพื�นที�ภายในเนื�อหินที�สามารถแสดงเนื�อสีที�แสดงสุนทรียะที�แตกต่างกันออกไป เพื�อให้ผู้ชมได้ร่วมสังเกตการณ์ผ่านมุมมองที�หลากหลาย และได้สัมผัสพิจารณารูปมุมด้าน ต่าง ๆ ของเนื�อสีแต่ละชนิดไปพร้อม ๆ กัน
55 มุมมองขยายในทัศนียภาพสีฝุ่นจากหินแร่ธรรมชาติ หมายเลข ๒ Expanding Perspective in Landscape Paintings from Natural Pigments. No. 2 อาจารย์ ดร.ออมสิรี ปานดํารงค์ สาขาทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
56 แนวความคิด เพื�อนําเสนอมุมขยาย และการพิจารณาเนื�อสีจากหินแร่ธรรมชาติ และวัตถุดิบเนื�อสีที�มี ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ เหมือนการเอาแว่นขยายระดับต่าง ๆ ไปส่องจนถึงระดับกล้อง จุลทรรศน์ส่องลงไปบนหินก้อนเดียว อาจให้ภาพที�แตกต่างกัน ซ�ึงในแง่ของกระบวนการสร้างสรรค์ เนื�อสี (Pigments) สามารถต่อเติมจินตนาการของมนุษย์มาอย่างยาวนานตั� งแต่อดีตมาแล้ว ซ�ึงใน ผลงานสร้างสรรค์ชุดนี�ต้องการแสวงหาความสอดคล้องสัมพันธ์ระหว่างหินและสิ� งแวดล้อมรอบตัวอัน เป� นองค์ประกอบพื�นฐานในธรรมชาติ วิธีการใช้วัสดุอย่างหินสีในธรรมชาติที�ผ่านกระบวนการบดเป� นสีฝุ่น ยังแสดงให้เห็นนัยยะของพื�นที�ภายในเนื�อหินที�สามารถแสดงเนื�อสีที�แสดงสุนทรียะที�แตกต่างกันออกไป เพื�อให้ผู้ชมได้ร่วมสังเกตการณ์ผ่านมุมมองที�หลากหลาย และได้สัมผัสพิจารณารูปมุมด้าน ต่าง ๆ ของเนื�อสีแต่ละชนิดไปพร้อม ๆ กัน
57 หิมพานต์ฟุ โระชิกิ Himmapan Furoshiki อาจารย์ ดร.ศุลีพร คําชมภู สาขาวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิกและมัลติมีเดีย คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื�อสาร มหาวิทยาลัยพะเยา
58 แนวความคิด “ฟุ โระชิกิ” เป� นศิลปะการห่อผ้าแบบญี�ปุ่น มีลักษณะเป� นผ้าขนาดสี�เหลี�ยมจัตุรัสที�นิยมนํามาใช้ ห่อสิ� งของต่างๆ ซ�ึงไม่จํากัดรูปร่างหรือขนาด เพื�อสะดวกแก่การพกพาและหอบหิวสัมภาระ สามารถใช้ � งานได้ง่าย เนื�องจากนํามาใช้ผูก รัด ได้หลายรูปแบบ โดยได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เป� นลวดลาย บนผ้าจากภาพแกะสลักไม้นูนสูงรูปสัตว์หิมพานต์ในวิหารพระเจ้าทันใจ วัดศรีชุม อําเภอดอกคําใต้ จังหวัดพะเยาโดยผ้า 1 ผืนจะมีสัตว์หิมพานต์ปรากฏ 2 ตัว ซ�ึงสามารถนําเสนอเอกลักษณ์ที�โดดเด่นของ สัตว์หิมพานต์แต่ละตัวได้ในรูปแบบร่วมสมัย อีกทั� งเป� นการเล่าเรื�องราวของชุมชนเพื�อสนับสนุนการ ท่องเที�ยวท้องถิ� น นอกจากนี�ยังเป� นผลิตภัณฑ์ที�ช่วยรักษาสิ� งแวดล้อมให้ยังยืนอีกด้วย�
59 ฤดูหนาวสู่ฤดูร้อน Winter to Summer ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทรงเกียรติ บัวลอย สาขาวิชาศิลปกรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
60 แนวความคิด ความงามของธรรมชาติ สร้างสภาพแวดล้อม บรรยากาศ และฤดูกาลต่างๆ ได้อย่างลงตัว ธรรมชาติเป� นสิ� งที�ช่วยผสมผสานให้เกิดสีสันความงามของ ต้นไม้ ดอกไม้ แม่นํ� า ทะเล และท้องฟ้า แต่ต้องอาศยช่วงเวลาที�เหมาะสม จึงจะทําให้ธรรมชาติมีสีสันและเกิดความงาม ซ ั�ึงความงามเหล่านี�จะมี ความแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาของฤดูกาลในแต่ละพื�นที� สีสันของทิวทัศน์ตามฤดูกาลต่างๆ จึงทําให้ได้ สัมผัสถึงความงามในช่วงเวลาต่างๆ เกิดการสร้างสรรค์ผลงานที�ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ผสมผสานกับประสบการณ์สุนทรียะของตนเองเพื�อให้เกิดมุมมองใหม่ ต่อยอดพัฒนาสร้างสรรค์ออกมา เป� นผลงานจิตรกรรมเทคนิคสีนํ� าและสีชอล์คนํ� ามันบนกระดาษ ในผลงานชุด ฤดูหนาวสู่ฤดูร้อน (Winter to Summer)
61 งานออกแบบผลิตภัณฑ์ชุดกระเป๋าสุภาพสตรี จากผ้าเขียนเทียน บ้านเข็กน้อย อําเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ The design off ladies bag set form candle fabric baan khek noi khao kho District Phetchabun Province ผู้ช่วยศาสตราจารย์นําผึ�ง พ�ูนวิวัฒน์ สิริภา ระวิพันธ์ และศิริธร รุ่งเรือง สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม คณะเทคโนโลยีการเกษตรและ เทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
62 แนวความคิด ผู้สร้างสรรค์ มีแนวคิดได้นําหลักวิชาการเรื�องของการออกแบบผลิตภัณฑ์ของที�ระลึก โดยใช้ทฤษฎีในการออกแบบมาประยุกต์ร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ� น นํามาใช้ในการออกแบบพัฒนาเป� น ผลิตภัณฑ์ใหม่ ผสมผสานงานวัสดุในงานออกแบบพัฒนาเป� นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ โดยออกแบบ ผลิตภัณฑ์ชุดกระเป๋าสุภาพสตรีที�มีอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ�น เป� นผลิตภัณฑ์กระเป๋าจาก ผ้าเขียนเทียน เพื�อเพิ� มมูลค่าของผ้าเขียนเทียน ส่งเสริมการขาย และออกแบบให้เป� นเป� นผลิตภัณฑ์ ชุดกระเป๋าสุภาพสตรีที�มีอัตลักษณ์ของบ้านเข็กน้อย อําเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
63 นางพญาปักษาแห่งป่าแก่ง The Great Hornbill Queen of Kaeng Krachan ภัทรา อัตตวิริยะสกุล สาขาศิลปะการออกแบบ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
64 แนวความคิด ต.สองพี�น้อง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป� นพื�นที�ที�มีชาวกะเหรี�ยงโปว์อาศัยมาแต่อดีต หญิงชาวกะเหรี�ยงโปว์บ้านสองพี�น้องมีวัฒนธรรมการทอผ้าด้วยกี�เอว ซ�ึงสืบทอดมาแต่บรรพบุรุษ ผ้าทอของชาวกะเหรี�ยงโปว์มีสีสันและลวดลายที�สวยงามมีเอกลักษณ์ ผู้สร้างสรรค์ผลงานตระหนักถึง คุณค่าอันคู่ควรแก่การอนุรักษ์และเผยแพร่ความงามของผ้าทอกะเหรี�ยงโปว์ จึงมีแนวคิดนําเอกลักษณ์ ความงามของนกกกหรือนกเงือกที�ใหญ่ที�สุด สามารถพบเห็นได้ที�อุ ทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มาผสมผสานออกแบบเป� นเครื�องแต่งกายสตรี ที�แสดงถึงความงดงามของนกกกแห่งป่าแก่งกระจาน และเอกลักษณ์ความงามของผ้าทอของสตรีชาวกะเหรี�ยงโปว์ ต.สองพี�น้อง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
65 การออกแบบโคมไฟไม้สําหรับตกแต่งบ้าน แรงบันดาลใจจากกวาง Wooden Lamp Design inspiration from deer ธนวรรธน์ ท้าวนอก สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม คณะเทคโนโลยีการเกษตร และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
66 แนวความคิด การออกแบบโคมไฟไม้สําหรับตกแต่งบ้าน แรงบันดาลใจจากกวาง ใช้เทคนิคการลดทอน รูปร่าง รูปทรง การนําลักษณะเด่นและผสานรูปทรงเพื�อสร้างเป� นรูปทรงใหม่ ใช้เทคนิคการสร้างรูปทรง ด้วยเทคนิคการกลึงไม้เพื�อสร้างโครงสร้างหลักของชิ� นงาน สร้างพื�นผิวของผลิตภัณฑ์ด้วยการ ใช้สิ� ว แกะผิวเรียงตัวกันจนรอบผลิตภัณฑ์ ออกแบบขาโคมไฟให้ปลายขากลมมน เพื�อยกตัวผลิตภัณฑ์ ให้ลอยตัว ตกแต่งชิ� นงานให้มีลักษณะคล้ายกวางด้วยการนํากิ� งไม้ที�มีการแตกกิ� งที�มีองค์ประกอบ องศาการแตกกิ� งสวยงาม ทําการตัดเล็มให้มีความยาวที�เหมาะสมกับลักษณะของเขากวาง มาทําการ ประดับตกแต่งชิ� นงาน
67 ความเปลี�ยนแปลงในวิถีชีวิตชนบทไทย The differentiation of life of Thai culture นางสาววรรณลิษา ไวยจินดา สาขาทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
68 แนวความคิด การประพันธ์ทางเดี�ยวระนาดเอกเพลง พิรุณสร่างฟ้าสามชัน � มีวัตถุประสงค์เพื�อพัฒนา ทักษะการบรรเลงเดี�ยวระนาดเอกของนักเรียนสาธิตมรภ.วไลยอลงกรณ์ ในการดําเนินการวิจัยในครังนี� � ใช้ระเบียบวิจัยเชิงคุณภาพโดยมีแนวคิดการในเรียบเรียงตามโครงสร้างเพลงเดี�ยวระนาดเอกที�ยึดตาม โบราณจารย์ที�สั� งสมความรู้และคิดเป� นแบบแผนของการเดี�ยวระนาดเอก ซ�ึงเพลงพิรุณสร่างฟ้าสามชัน � เป� นเพลงลักษณะท่อนเดียวจึงต้องประพันธ์ทางเดี�ยวเป� น 4 เที�ยว คือ เที�ยว 1 ตีสะบัดสะเดาะ (เพิ� มการขยี�ทับ) เที�ยว 2 ตีรัวผสมตีเก็บ เที�ยวที� 3 ตีรัว และเที�ยว 4 ตีเก็บนอกจากนี�ผู้ประพันธ์ต้อง สร้างสรรค์ทางเดี�ยวให้สละสลวยเพราะช่วงเสียงของทํานองเพลงพิรุณสร่างฟ้าห่างกันและทํานอง มีความซ� �า ผู้ประพันธ์ต้องสร้างสรรค์ทํานองทางเดี�ยวให้สัมผัสกันอันแสดงถึงศกยภาพของผัู้ประพันธ์ การแสดงใช้เวลา 5 นาที
69 บันปลายชีวิต � End of life นางสาววรรณลิษา ไวยจินดา สาขาทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์