The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ชุด “เดินตามรอยพ่อสอน”

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by irus.pc, 2022-07-14 04:19:51

คู่มือการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ชุด “เดินตามรอยพ่อสอน” เล่มที่ 2

คู่มือการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ชุด “เดินตามรอยพ่อสอน”

๙๘



คาสงั่ ให้นกั เรียนอา่ นพระบรมราโชวาททก่ี าหนดให้ โดยจบั ใจความสาคญั คดิ วเิ คราะห์
แล้วเขียนตอบลงในช่องวา่ ง (๑๐ คะแนน)

๙๙

๑. พระบรมราโชวาทกล่าวถึงเร่ืองใดเปน็ สาคัญ
๒. พระบรมราโชวาท ในหลวงทรงพระราชทาน ณ สถานที่ใด
๓. พระบรมราโชวาทนปี้ รากฏเม่ือวนั ที่เท่าไร
๔. เหตใุ ดพระองค์ท่านจึงพระราชทานบรมราโชวาทน้ี
๕. ใจความสาคญั ของพระบรมราโชวาทนคี้ ืออะไร
๖. เพราะเหตุใดในหลวงจงึ พระราชทานพระบรมราโชวาทนี้
๗. ในหลวงทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทให้กับใคร
๘. ในหลวงทรงให้ประชาชนทกุ คนตระหนกั ในเร่ืองใดมากที่สดุ
๙. นักเรียนรสู้ กึ อย่างเม่ือได้อา่ นพระบรมราโชวาทนี้
๑๐. สาระสาคัญ ที่พระองค์ทรงพระราชทาน คืออะไร

๑๐๐



คาสงั่ ใหน้ ักเรยี นอา่ นพระบรมราโชวาทท่กี าหนดให้ โดยตั้งคาถาม พรอ้ มตอบคาถามท่ีตั้ง
ไวใ้ หถ้ กู ตอ้ ง (๑๐ คะแนน)

๑๐๑

ข้อที่ ๑

คาถาม
คาตอบ

ข้อท่ี ๒

คาถาม
คาตอบ

ข้อที่ ๓

คาถาม
คาตอบ

ขอ้ ท่ี ๔

คาถาม
คาตอบ

ขอ้ ท่ี ๕

คาถาม
คาตอบ

๑๐๒



๑. พระบรมราโชวาทกล่าวถงึ เร่ืองใดเปน็ สาคัญ
การอยู่อยา่ งพอเพยี ง

๒. พระบรมราโชวาท ในหลวงทรงพระราชทาน ณ สถานทใ่ี ด
ศาลาดุสดิ าลยั

๓. พระบรมราโชวาทน้ปี รากฏเมื่อวันท่เี ทา่ ไร
๔ ธันวาคม ๒๕๔๑

๔. เหตใุ ดพระองค์ทา่ นจึงพระราชทานบรมราโชวาทนี้
ต้องการให้ประชาชนชาวไทยเรียนร้ถู ึงการใช้ชีวิตอยา่ งพอเพียง

๕. ใจความสาคญั ของพระบรมราโชวาทนีค้ ืออะไร
ถา้ เราใชช้ ีวิตอยา่ งพอเพียง ก็จะทาใหช้ วี ิตมคี วามสุข

๖. เพราะเหตุใดในหลวงจงึ พระราชทานพระบรมราโชวาทน้ี
ตอ้ งการใหป้ ระชาชนชาวไทยตระหนกั ถึงการใชช้ วี ิตอย่างพอเพียง

๗. ในหลวงทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทใหก้ บั ใคร
บุคคลท่ีเข้าเฝ้า ณ ศาลาดสุ ดิ าลยั

๘. ในหลวงทรงให้ประชาชนทุกคนตระหนักในเรื่องใดมากท่ีสุด
การใชช้ วี ติ อยา่ งพอเพยี ง

๑๐๓

๙. นักเรยี นรู้สกึ อยา่ งเม่ือได้อา่ นพระบรมราโชวาทน้ี
ปล้ืมปติ ิ และจะนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

๑๐. สาระสาคญั ที่พระองค์ทรงพระราชทาน คืออะไร
ถ้าเราพอใจในสิ่งทีเ่ รามี มีความโลภน้อย ใช้ชวี ิตอยา่ งพอเพียง กจ็ ะทาใหช้ วี ิตมคี วามสขุ

๑๐๔



ข้อท่ี ๑

คาถาม ในหลวงทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทเน่ืองในโอกาสใด
คาตอบ วนั เฉลิมพระชนมพรรษา

ขอ้ ท่ี ๒

คาถาม ในหลวงทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่ใคร
คาตอบ คณะบุคคลตา่ งๆ ทเี่ ข้าเฝา้

ข้อท่ี ๓

คาถาม ในหลวงทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทเก่ียวกับเร่ืองอะไร
คาตอบ ความพอเพียง

ข้อที่ ๔

คาถาม ในหลวงทรงต้องการใหป้ ระชาชนชาวไทยประพฤตติ วั อย่างไร
คาตอบ ใชช้ ีวิตอยู่อยา่ งพอเพยี ง

ข้อท่ี ๕

คาถาม ประชาชนชาวไทยรู้สึกอยา่ งไรตอ่ พระบรมราโชวาทของในหลวงในคร้งั นี้
คาตอบ ปลมื้ ปิติในพระมหากรณุ าธคิ ุณ และนามาเปน็ แนวปฏบิ ตั ใิ นการดารงชีวติ

๑๐๕

แบบบันทกึ การทากิจกรรม

แบบฝกึ ทักษะการอ่านจับใจความ ชุด “เดนิ ตามรอยพอ่ สอน”
ชุดที่ ๕ เรอ่ื ง ความพอเพียง

นกั เรียน ๑ กิจกรรมฝกึ ทกั ษะท/ี่ (คะแนน) ๖ รวม
(คนที่) (๑๐) ๒๓๔๕ (๑๕) (๖๕)
(๑๐) (๑๕) (๑๐) (๑๐)

๒ ๗๙–––– –

๔ ๗๙–––– –

๖ ๗๗–––– –

๘ ๙๙–––– –

๑๐ ๘๙–––– –
๑๑
๑๒ ๘๗–––– –
๑๓
๑๔ ๘๙–––– –
๑๕
๑๖ ๘๘–––– –
๑๗
๑๘ ๙๘–––– –
๑๙
๒๐ ๙๘–––– –

๙๙–––– –

๙๗–––– –

๘ ๑๐ – – – – –

๘๗–––– –

๘๘–––– –

๗๗–––– –

๗ ๑๐ – – – – –

๙๗–––– –

๗ ๑๐ – – – – –

๗๘–––– –

๑๐๖

นกั เรยี น ๑ กจิ กรรมฝึกทักษะท/ี่ (คะแนน) ๖ รวม
(คนที่) (๑๐) ๒๓๔๕ (๑๕) (๖๕)
(๑๐) (๑๕) (๑๐) (๑๐)
๒๑
๒๒ ๙๘–––– –
๒๓
๒๔ ๗๘–––– –
๒๕
๒๖ ๘๘–––– –
๒๗
๒๘ ๘๙–––– –
๒๙
๓๐ ๘๙–––– –
๓๑
๓๒ ๘ ๑๐ – – – – –
๓๓
๓๔ ๘ ๑๐ – – – – –
๓๕
๓๖ ๗๙–––– –
๓๗
๓๘ ๗๙–––– –

๗๘–––– –

๗๙–––– –

๗๙–––– –

๗๘–––– –

๗๙–––– –

๗๙–––– –

๗๙–––– –

๙๘–––– –

๘๘–––– –

๑๐๗

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกลมุ่

การอา่ นจบั ใจความ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
เรื่อง ความพอเพียง ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖

คาชแี้ จง ครูทาการสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่มของนักเรยี น โดยทาเครื่องหมาย  ลงในระดับ

คะแนนที่ตรงกับความเป็นจริง

รายการประเมิน/ระดบั คะแนน

คนท่ี ความร่วมมือ มคี วามสนใจ มีความมงุ่ ม่ัน มีความ รวม ผลการ
ในการทางาน ในการทา ในการทา
กจิ กรรม กจิ กรรม รบั ผิดชอบ ประเมนิ

๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒

๑  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๒  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๓  – – –  –  – –  – – ๑๑ ดี

๔  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๕  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๖  – –  – – –  –  – – ๑๑ ดี

๗  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๘  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๙ –  –  – –  – –  – – ๑๑ ดี

๑๐  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๑๑  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๑๒  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๑๓  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๑๔  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๑๕  – – –  –  – –  – – ๑๑ ดี

๑๖  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๑๗  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๑๘  – – –  – – –   – – ๙ ปานกลาง

๑๐๘

รายการประเมนิ /ระดับคะแนน

คนที่ ความร่วมมือ มคี วามสนใจ มีความมุ่งมั่น ความรบั ผดิ ชอบ รวม ผลการ
ในการทา ในการทา ในการทา ในการทา ประเมิน
กจิ กรรม กจิ กรรม กิจกรรม กิจกรรม

๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒

๑๙  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๒๐  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๒๑ –  –  – –  – –  – – ๑๑ ดี

๒๒  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๒๓  – – –  –  – –  – – ๑๑ ดี

๒๔  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๒๕  – – – –   – – –  – ๙ ปานกลาง

๒๖  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๒๗  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๒๘ –  –  – –  – –  – – ๑๑ ดี

๒๙  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๓๐  – – –  –  – –  – – ๑๑ ดี

๓๑  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๓๒  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๓๓  – – –  –  – –  – – ๑๑ ดี

๓๔  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๓๕  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๓๖  – –  – – –  –  – – ๑๑ ดี

๓๗  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๓๘  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

เกณฑ์ระดับคุณภาพ มพี ฤติกรรมการทางานกลมุ่ อยใู่ นระดับดี
ระดบั คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถึง มพี ฤติกรรมการทางานกลุ่มอยู่ในระดบั ปานกลาง
ระดบั คะแนน ๕ – ๘ หมายถงึ มพี ฤติกรรมการทางานกลุ่มอยู่ในระดบั ควรปรับปรุง
ระดับคะแนน ๑ – ๔ หมายถงึ

๑๐๙

รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ การทางานกลมุ่

ประเดน็ การประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน
๓๒๑

ความรว่ มมอื ในการทา ใหค้ วามร่วมมือในการ ใหค้ วามร่วมมือในการ ไมใ่ ห้ให้ความรว่ มมือ

กิจกรรม ทากิจกรรมดว้ ยความ ทากจิ กรรมในบางครั้ง ในการทากิจกรรม

เต็มใจ สมาชิกในกลุ่มต้อง

คอยกระตุ้นอย่เู สมอ

ความสนใจในการทากิจกรรม ใหค้ วามสนใจในการ ใหค้ วามสนใจในการ สนใจในการทา

ทากจิ กรรมทกุ ครงั้ ทากจิ กรรมในบางครงั้ กจิ กรรมในบางครงั้

หรอื ไม่ใหค้ วามสนใจ

ในการทากจิ กรรมเลย

ความมงุ่ ม่นั ในการทากิจกรรม มคี วามมุ่งมนั่ ในการทา มีความมุ่งมนั่ ในการทา ไมม่ ีความมงุ่ มั่นในการ

กจิ กรรม และตงั้ ใจทา กจิ กรรม และตงั้ ใจทา ทากิจกรรมและตั้งใจ

กจิ กรรมอย่างเต็มท่ี กจิ กรรมในบางคร้ัง ทากิจกรรมเลย

ความรับผดิ ชอบในการทา มคี วามรบั ผิดชอบใน มคี วามรับผดิ ชอบ ไมม่ ีความรบั ผิดชอบ

กจิ กรรม การทากิจกรรม ในการทากิจกรรม ในการทากิจกรรม

ทางานที่ได้รบั ทางานท่ีไดร้ บั ทางานที่ได้รบั

มอบหมายเสร็จตาม มอบหมายเสรจ็ มอบหมายไมเ่ คย

กาหนด แตล่ า่ ชา้ ไมต่ รงเวลา สาเร็จตรงตามเวลา

๑๑๐

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๖ ๑๗ ชวั่ โมง

กล่มุ สาระฯ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖
จานวน ๓ ชั่วโมง
เร่ือง อา่ นจับใจความจากประกาศ เวลา ๑ ชั่วโมง
วนั ทสี่ อน .๑..๔......พ...ฤ..ษ...ภ..า..ค...ม.....๒...๕..๖...๒...................

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ
แก้ปัญหาในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รกั การอา่ น

มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกต้อง
มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่เี ปน็ โวหาร
มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ จากเรือ่ งที่อ่าน
มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนาความรู้และความคิดจากเร่ืองที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา

ในการดาเนนิ ชีวติ
มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๘ อ่านหนังสือตามความสนใจ และอธบิ ายคุณค่าที่ไดร้ ับ
มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๙ มมี ารยาทในการอ่าน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความและเขียนเรื่องราว

ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศ และรายงานการศึกษา
คน้ คว้าอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
มฐ. ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขียนสอ่ื สารโดยใช้ถอ้ ยคาถกู ต้อง ชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย
มฐ. ท ๒.๑ ป.๖/๖ เขียนแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับสาระจากสอ่ื ท่ไี ดร้ ับ
มฐ. ท ๒.๑ ป.๖/๙ มมี ารยาทในการเขียน

๑๑๑

สาระสาคัญ
ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมี

ระบบภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงท้ังภายใน
ภายนอก ท้ังน้ี จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิงในการนา
วิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการ ทุกข้ันตอน และขณะเดียวกัน จะต้อง
เสรมิ สร้างพ้ืนฐานจิตใจของคนในชาติ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

เมอื่ นกั เรียนเรียนจบในเน้ือหานี้แลว้ นกั เรียนสามารถ
๑. อ่านจบั ใจความสาคัญ ในเร่ือง ความพอเพียง ได้ (K)
๒. แสดงความคิดเห็น ระบุประเด็นสาคัญ และอธิบายความแตกต่าง ความสัมพันธ์เชิง
เหตผุ ลจากเร่อื งทีอ่ ่านได้ (P)
๓. มีความร่วมมือ สนใจ มุ่งม่ัน มีความรับผิดชอบ มีมารยาทในการอ่าน และการเขียน
ในระหว่างทากจิ กรรม (A)

สาระการเรยี นรู้

อา่ นจบั ใจความจากประกาศ

กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นา
๑. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ทบทวนเน้ือหาในช่งั โมงทแ่ี ล้ว
๒. ครูนาตัวอย่างปา้ ยประกาศของโรงเรยี นหรือทางหนังสือพิมพ์มาให้นกั เรยี นอา่ น

ครตู ้งั คาถามว่าเกี่ยวกับประกาศท่ียกตัวอย่างว่า ใครทาอะไรท่ีไหนเมอื่ ไรอยา่ งไร

๑๑๒

๓. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่าการอ่านคาสั่งและประกาศผู้อ่านต้องอ่านให้เข้าใจและ
เก็บใจความสาคญั ให้ไดว้ า่

- ส่งั เกย่ี วกบั เรอ่ื งอะไร
- ใหท้ าอะไร
- เพราะอะไร
- เมื่อใด
- ทีไ่ หน
- อย่างไร
(และในบางโอกาสตอ้ งพจิ ารณาด้วยว่าควรเช่อื ถือและปฏิบตั ิตามหรือไม่)
๔. ครูสนทนากับนักเรียนในเร่ืองของ “ความพอเพียง” โดยครูให้ความรู้เบื้องต้นกับนักเรียน
ว่า ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบ
ภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงทั้งภายในภายนอก
ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิงในการนาวิชาการต่างๆ
มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการ ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้างพ้ืนฐาน
จิตใจของคนในชาติ

ขน้ั สอน
๕. ครูใหน้ กั เรียนประจากลมุ่ เดิม
๖. ประธานกล่มุ /รองประธานกลุ่ม ออกมารบั แบบฝกึ ทักษะการอ่านจบั ใจความ ชดุ “เดิน
ตามรอยพ่อสอน” ชดุ ที่ ๕ เร่อื ง ความพอเพียง เพอ่ื นาไปแจกให้กับสมาชิกในกล่มุ
๗. เม่ือแต่ละกลุ่มได้รับแบบฝึกทักษะฯ แล้ว ให้เร่ิมศึกษาเนื้อหาจากแบบฝึกทักษะ โดย
เร่ิมตั้งแต่การศึกษามาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ รวมถึง
บทบาทของตนเอง เพอื่ ทาความเขา้ ใจ
๘. แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ท่ี ๒ เร่ือง อ่านจับใจความจากประกาศ
โดยสมาชิกในกลุ่มร่วมกันศึกษา เรียนรู้ ให้คาแนะนา รวมถึงการสรุป และอภิปรายเนื้อหาที่ศึกษา
ร่วมกนั
๙. เม่อื ทาการศึกษาเนอ้ื หาจากใบความรูท้ ่ี ๒ จนเข้าใจแล้ว ให้สมาชิกแตล่ ะคนทาแบบฝึก
ทกั ษะที่ ๓ และ ๔ (ทาเปน็ รายบคุ คล)

๑๑๓

๑๐. เม่ือนักเรียนแต่ละคนทาแบบฝึกทักษะท่ี ๓ และ ๔ เสร็จแล้ว ให้จับคู่กับเพื่อนในกลุ่ม
เพ่ือส่งแบบฝึกทักษะท่ีทาเสร็จแล้วให้เพื่อนตรวจ ในกรณีที่คะแนนยังไม่ผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ ๘๐)
ให้นักเรียนกลับไปทบทวนเนื้อหาเพื่อทาความเข้าใจอีกครั้ง จากน้ันกลับมาทาแบบฝึกใหม่ จนกว่า
คะแนนจะผ่านเกณฑ์

ข้นั สรปุ (Summarizing)
๑๑. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปในเร่อื ง ความพอเพียง จนไดข้ ้อสรปุ ว่า

“ความพอเพียง คือ ความพยายามบากบ่ัน ไม่ย่อทอ้ ปฏิบตั ิอย่างสม่าเสมอ เพ่ือให้เกิด
ความสาเร็จ”

๑๒. ครูแจง้ ใหน้ ักเรียนมาศึกษาเนื้อหาในเรื่องการอ่านจับใจความ โดยใช้แบบฝึกทักษะการ
อ่านจับใจความ ชดุ “เดนิ ตามรอยพ่อสอน” ชุดท่ี ๕ เรื่อง ความพอเพยี ง ในชัว่ โมงต่อไป

ส่ือ/แหล่งเรียนรู้
๑. ตัวอยา่ งบทความ
๒. แบบฝึกทกั ษะการอา่ นจับใจความ ชดุ “เดนิ ตามรอยพ่อสอน” ชดุ ที่ ๕ เร่ือง ความพอเพยี ง
๓. ใบความรูท้ ่ี ๒ เร่อื ง อา่ นจบั ใจความจากประกาศ
๔. แบบฝึกทักษะท่ี ๓ และ ๔

การวัดผลประเมนิ ผล

สิ่งท่ีต้องการวัด วิธวี ดั ผล เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์การประเมินผล
อา่ นจับใจความสาคัญ ในเรื่อง ตรวจแบบฝึก แบบฝกึ ทกั ษะท่ี ทาแบบฝึกทักษะ
ความพอเพียง ได้ ทกั ษะ ถูกต้องผา่ นเกณฑ์
๓ และ ๔ รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป
แสดงความคิดเหน็ ระบปุ ระเด็น ตรวจแบบฝกึ ทาแบบฝกึ ทักษะ
สาคญั และอธบิ ายความแตกตา่ ง ทักษะ แบบฝึกทักษะที่ ถูกต้องผา่ นเกณฑ์
ความสมั พนั ธ์เชิงเหตุผลจากเร่อื งท่ี รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป
อา่ นได้ ๓ และ ๔
ให้ความรว่ มมือ สนใจ มุ่งมนั่ มคี วาม ประเมิน มีพฤติกรรมการ
รับผดิ ชอบ มีมารยาทในการอ่าน พฤติกรรมการ - แบบประเมิน ทางานกลมุ่ ผ่าน
และการเขียน ในระหวา่ งทากิจกรรม ทางานกลมุ่ พฤติกรรมการ เกณฑ์อยใู่ นระดับดี
ทางานกลุ่ม

๑๑๔

บนั ทึกผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้

ผลการจัดการเรยี นการสอนตามตัวช้วี ดั
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ปญั หา / อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่อื ………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………………
(นางวนั ดี เหลา่ สวุ รรณ) (นางสาวพัชราภรณ์ เรอื งศรี)

ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ ตาแหน่ง หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้

ลงชอ่ื ………………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………………………………
(นางปรดี า ชว่ ยสุข) (นายธานินทร์ แก้วจุรัตน์)

ตาแหน่ง รองผู้อานวยการสถานศกึ ษา ฝา่ ยวิชาการ ตาแหนง่ ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา
โรงเรียนเทศบาล ๒ (บา้ นหาดใหญ)่ โรงเรียนเทศบาล ๒ (บา้ นหาดใหญ)่

๑๑๕

อา่ นจบั ใจความจากประกาศ

ความหมายของประกาศ
ประกาศ คือ เป็นการแจงขาวสารหรือเร่ืองท่ีเกี่ยวของกับหน่วยงานน้ันให้แก่ผู้ที่มีส่วน

เกย่ี วขอ้ งหรือบคุ คลทั่วไปไดท้ ราบถึงเรอื่ งราวตา่ งๆ ในประกาศน้ัน
การอ่านประกาศ
๑. ใคร ? ผูป้ ระกาศคือใคร
๒. ทาอะไร ? ประกาศเพอื่ อะไร
๓. ทไ่ี หน ? ประกาศจากทีไ่ หน
๔. เมอ่ื ไร ? ประกาศตงั แตเ่ มือไหร่
๕. อย่างไร ? ขอ้ ความในประกาศบอกอะไร

๑๑๖

ตัวอย่างประกาศ

ทม่ี า: http://www2.eduzones.com (สบื คน้ วันท่ี ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙)

๑๑๗

ใจความจากการอา่ นประกาศ

๑. ใครประกาศ ?
(มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร)์

๒. ประกาศอะไร ?
(ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบข้อเขียนและแผนผังที่นั่งสอบ ในการคัดเลือกบุคคลเข้า

ศกึ ษาในมหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ระดบั ปริญญาตรี โครงการรบั ตรง ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๖)
๓. ประกาศท่ไี หน ?
(มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์)
๔. ประกาศเมอ่ื ไร ?
(๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕)
๕. ประกาศอยา่ งไร ?
(กาหนดรับสมัครเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงประกาศรายช่ือผู้มีสิทธิสอบข้อเขียนและแผนผัง

ท่ีน่ังสอบ คณะนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ คณะ
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์และการผังเมือง คณะ
สาธารณสุขศาสตร์ และสถาบนั เทคโนโลยนี านาชาติสิรินธร ให้ผมู้ ีสิทธิสอบข้อเขียนทราบและปฏิบัติ
ดังน้ี สอบตามตารางสอน นาบตั รประจาตวั ประชาชนมาแสดง และเตรยี มอปุ กรณ์ทจี่ าเปน็ )

๑๑๘

มารยาททดี่ ีในการอา่ น

ผูม้ มี ารยาททดี่ ีในการอา่ นควรปฏบิ ัติ ดงั นี้
๑. วางท่าทางที่ถูกต้องเหมาะสมขณะอ่าน จัดระยะห่างจากสายตาให้เหมาะสม ควรอ่าน
หนังสือในท่ีท่ีมีแสงสว่างเพียงพอ ไม่มีหรือแสงสว่างจ้าเกินไป และไม่ควรอ่านหนังสือในรถเน่ืองจาก
จะทาใหส้ ายตาเสียได้
๒. มีสมาธิใจจดจ่อต่อส่ิงที่อ่าน ไม่เล่นกันขณะอ่าน เพื่อสามารถจับประเด็นสาคัญ และ
สามารถคดิ วิเคราะห์ตามในประเด็นต่างๆ ได้ชดั เจน
๓. การอ่านออกเสียงต้องอ่านด้วยเสียงที่ดังเหมาะสม ไม่อ่านเสียงรบกวนผู้อื่น หากอ่าน
ในใจไม่ควรอา่ นใหม้ ีเสยี งหรอื ทาปากขมุบขมิบตามการอา่ น
๔. ขณะอ่านควรจดบันทึกประเด็นสาคัญ ข้อสรุปและข้อคิดที่ไดร้ ับไว้ หากมีข้อสงสัยหรือ
สนใจเปน็ พเิ ศษ เม่ืออ่านจบแล้วควรไปคน้ คว้าเพ่มิ เติม
๕. ไม่ทาลายหนังสือหรือทาหนังสือให้ชารุดเสียหาย เจ้าของหนังสืออาจขีดเส้นเน้น
ข้อความสาคญั ลงในหนังสอื อย่างเรียบร้อยได้ หนังสือส่วนรวมหรือหนังสือท่ีขอยืมมาไม่ควรขีดเขียน
เม่ืออ่านค้างไว้ควร หาที่คั่นหนังสือมาใช้ค่ันหน้าแทนเพื่อไม่ให้หนังสือชารุดและฉีกขาดได้ง่าย ไม่ควรฉีก
ตดั ภาพหรอื ข้อความในหนงั สือ หากต้องการใช้ควรถา่ ยเอกสาร
๖. ไม่ควรแย่งหนงั สอื หรือชะโงกหนา้ ไปยังหนงั สอื ขณะผู้อื่นกาลงั อ่านอยู่
๗. ควรใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสืออย่างเหมาะสมและไม่ควรอ่านหนังสือในขณะท่ี
ครสู อน

๑๑๙



คาส่งั ใหน้ ักเรยี นสรุปประเด็นสาคญั ของประกาศ (๑๐ คะแนน)

สรุปประเด็นสาคัญ

...................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................
........................................................................................................................................... ........
.......................................................................................................................... .........................
............................................................................................................................. ......................
.................................................................................. .................................................................
............................................................................................................................. ......................
...................................................................................................................................................

๑๒๐

สรุปประเดน็ สาคัญ

................................................................................................................. ..................................
............................................................................................................................. ......................
...................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................
...................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................
............................................................................................................................. ......................
..................................................................................................... ..............................................

๑๒๑



คาสง่ั ใหน้ กั เรียนอา่ นคาส่งั ตอ่ ไปนแี้ ลว้ ตอบคาถามที่กาหนดให้ (๑๐ คะแนน)

ท่มี า: http://www.pahsak.go.th (สืบคน้ วันท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๕๙)

๑๒๒

๑. ประกาศเกยี่ วกับเรื่องอะไร

............................................................................................................................. .............
...................................................................................................................................... ....

๒. ประกาศให้ทาอะไร

..........................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............

๓. ปฏิบตั ิตามเรอื่ งทปี่ ระกาศเมอื่ ใด

............................................................................................................................. .............
..........................................................................................................................................

๔. หน่วยงานใดประกาศ

.................................................................................................... ......................................
............................................................................................................................. .............

๕. ประกาศวา่ อย่างไร

............................................................................................................................. .............
..........................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............
..........................................................................................................................................

๑๒๓



สรุปประเดน็ สาคญั

...........ศ..นู...ย..ส์...ถ..า..น...ศ..ึก..ษ...า..พ...อ..เ..พ..ยี...ง...ม..ลู...น..ธิ..ยิ...วุ ..ส..ถ..ิร..ค...ณุ.....ป..ร..ะ..ก...า..ศ..ง..ด...ก..า..ร..จ..ัด...ก..ิจ..ก...ร..ร..ม..ค...ดั .เ..ล..อื..ก...............
ส..ถ...า..น..ศ...ึก..ษ...า..พ...อ..เ.พ...ยี..ง..ท...ี่ม..ผี..ล...ก..า..ร..ป...ฏ..บิ...ตั...ทิ ..่ีเ.ป...น็...เ.ล..ศิ....(.ส...ป..ล....)..“...ป..ร..ัช...ญ...า..ข..อ..ง..เ..ศ..ร..ษ...ฐ..ก..จิ...พ..อ...เ.พ...ยี ..ง..แ..ล...ะ.....
ห...ล..ัก..น...ติ ..ธิ...ร..ร..ม..”....ป..ี..๒..๕...๖...๑....เ.น...่อื ..ง..จ..า..ก...ม..ีก...า..ร..ป..ร..ับ...เ.ป...ล..ยี่ ...น..น...โ.ย...บ..า..ย..ภ...า..ย..ใ..น...อ..ง..ค..์ก...ร..บ..า..ง..ป..ร..ะ..ก...า..ร...........
............................................................................................................................. ......................
.......................................................................................................... .........................................
............................................................................................................................. ......................
...................................................................................................................................................
.........................(.เ..ป..็น...เ.พ...ยี..ง..แ..น...ว..ค...ำ..ต..อ..บ....ค...ำ..ต..อ...บ..ข...้นึ ..อ...ย..ู่ก..ับ...ด..ุล...ย..พ...ิน..จิ...ข..อ..ง..ค...ร..ูผ..ู้ส..อ...น..).. ......................

๑๒๔

สรปุ ประเดน็ สาคัญ

...........ฝ..า่..ย...ท..นุ...เ.ศ...ร..ษ..ฐ..ก...ิจ..พ...อ..เ..พ..ีย...ง...ไ.ด...้ป..ร..ะ...ก..า..ศ..ร..า..ย...ช..ื่อ..ผ...มู้ ..ีส...ทิ ..ธ..์ิไ..ด..้ร..ับ...ท...นุ ..เ..ศ..ร..ษ...ฐ..ก..จิ..พ...อ..เ.พ...ีย..ง...ร..นุ่...ท...่ี .๗..
ป...ร..ะ..จ..า..ป...ี .๒...๕...๖..๐.....โ.ด...ย..ใ.ห...น้...กั ..เ.ร..ีย...น..ท...ุน..เ..ศ..ร..ษ...ฐ..ก..จิ...พ..อ...เ.พ...ีย..ง...ร..ุ่น...ท..ี่..๗....ด..า..ว..น...โ์ .ห...ล..ด...แ..ล..ะ...ก..ร..อ..ก...แ..บ...บ..ต...อ..บ..
ร..ับ...ย..ืน...ย..ัน...ก..า..ร..ร..ับ..ท...นุ...เ.ศ..ร..ษ...ฐ..ก...ิจ..พ...อ..เ.พ...ยี..ง....ป..ี..๒..๕...๖...๐....แ...ล..ะ..ส..ง่..ก...ล..ับ...ม..า..ย...ัง.ฝ...่า..ย..ท...นุ ..เ..ศ..ร..ษ...ฐ.ก...จิ ..พ...อ..เ.พ...ีย..ง.....
ภ...า..ย..ใ.น...ว..ัน...ท..ี่..๑...๑....ส..ิง..ห...า.ค...ม....๒...๕..๖...๐....ก..่อ...น..เ..ว..ล..า...๑...๖....๐...๐....น...............................................................
............................................................................................................................. ......................
........................................................................................................................................ ...........
....................................................................................................................... ............................
.........................(.เ..ป..็น...เ.พ...ยี..ง..แ..น...ว..ค...ำ..ต..อ..บ....ค...ำ..ต..อ...บ..ข...น้ึ ..อ...ย..ู่ก..ับ...ด..ุล...ย..พ...นิ ..ิจ...ข..อ..ง..ค...ร..ูผ..สู้..อ...น..).. ......................

๑๒๕



๑. ประกาศเกีย่ วกบั เร่ืองอะไร

..เ.ช...ญิ ...เ.ข...า้ ..ร..่ว..ม..ว..สิ...า..ม..ัญ...ส...ภ..า..อ...ง.ค...์ก..า..ร..บ...ร..หิ ...า.ร..ส...ว่ ..น...ต..า..บ..ล...ป..่า..ส..ัก....ป...ร..ะ..จ..า..ป...ี.๒...๕...๕...๖.......................
............................................................................................................................. .............

๒. ประกาศใหท้ าอะไร

.เ.ป...ดิ ..ป...ร..ะ..ช..ุม...ว..สิ ..า..ม...ญั ...ส..ภ...า..อ..ง..ค..์ก...า..ร..บ...ร..ิห..า..ร..ส..่ว...น..ต...า..บ..ล...ป..า่..ส...กั ...ป...ร..ะ..จ..า..ป...ี.๒...๕...๕...๖............ .............
......................................................................................................... .................................

๓. ปฏบิ ตั ิตามเร่อื งทปี่ ระกาศเมื่อใด

.ป..ร..ะ...ก..า..ศ..ว..ัน...ท...ี่ .๓...๐....เ.ด...อื ..น...ส..งิ..ห...า..ค..ม....พ...ศ.....๒...๕...๕...๖...................................................................
............................................................................................................................. .............

๔. หน่วยงานใดประกาศ

.อ..ง..ค..์ก...า..ร..บ..ร..ิห...า..ร..ส..่ว..น...ต..า..บ...ล..ป...่า..ส..กั............................................................................. .............
..........................................................................................................................................

๕. ประกาศว่าอย่างไร

.ส..ภ...า..อ..ง..ค..์ก...า..ร..บ..ร..หิ...า..ร..ส..่ว..น...ต..า..บ...ล..ป...่า..ส..กั....ไ..ด..้ก..า..ห...น...ด..ใ.ห...ม้...กี ..า..ร..ป...ร..ะ..ช..มุ...ว..ิส..า..ม...ัญ...ส..ภ...า..อ..ง..ค..์ก...า..ร........
.บ..ร..หิ...า..ร..ส..่ว..น...ต..า..บ...ล..ป...า่..ส..กั....ใ..น..ว..ัน...ท...่ี ..๕......ก..นั...ย..า..ย..น....๒...๕...๕...๖.....ต...ั้ง.แ...ต..่เ..ว..ล..า...๑...๓....๓...๐.....น.... .............
.ณ....ห...้อ..ง..ป...ร..ะ..ช...ุม..ส..ภ...า..อ..ง..ค...์อ..ง..ค..ก์...า..ร..บ..ร..หิ...า..ร..ส..ว่..น...ต..า..บ...ล..ป...า่..ส..กั....จ..งึ..ข...อ..ป...ร..ะ..ก..า..ศ...ใ.ห...้ป..ร..ะ...ช..า.ช...น..ท...ี่ ....
.ส..น...ใ.จ...ท..ร..า..บ...เ.ข..้า..ฟ...ัง..ก..า..ร..ป...ร..ะ..ช..ุม.................................................................... ..........................

๑๒๖

แบบบันทกึ การทากิจกรรม

แบบฝกึ ทักษะการอ่านจบั ใจความ ชุด “เดินตามรอยพอ่ สอน”
ชุดที่ ๕ เร่อื ง ความพอเพียง

นกั เรียน ๑ กิจกรรมฝกึ ทกั ษะท/ี่ (คะแนน) ๖ รวม
(คนที่) (๑๐) ๒๓๔๕ (๑๕) (๖๕)
(๑๐) (๑๕) (๑๐) (๑๐)

๒ ๗๙๘๙–– –

๔ ๗๙๙๙–– –

๖ ๗๗๙๘–– –

๘ ๙๙๘๙–– –

๑๐ ๘๙๙๙–– –
๑๑
๑๒ ๘๗๙๗–– –
๑๓
๑๔ ๘๙๗๙–– –
๑๕
๑๖ ๘๘๙๙–– –
๑๗
๑๘ ๙๘๙๗–– –
๑๙
๒๐ ๙๘๙๙–– –

๙๙๙๘–– –

๙๗๗๘–– –

๘ ๑๐ ๙ ๑๐ – – –

๘๗๙๗–– –

๘๘๗๙–– –

๗๗๙๘–– –

๗ ๑๐ ๙ ๙ – – –

๙๗๗๙–– –

๗ ๑๐ ๙ ๘ – – –

๗๘๙๙–– –

๑๒๗

นกั เรยี น ๑ กจิ กรรมฝกึ ทักษะท่ี/(คะแนน) ๖ รวม
(คนที่) (๑๐) ๒๓๔๕ (๑๕) (๖๕)
(๑๐) (๑๕) (๑๐) (๑๐)
๒๑
๒๒ ๙๘๗๙–– –
๒๓
๒๔ ๗๘๙๗–– –
๒๕
๒๖ ๘๘๘๙–– –
๒๗
๒๘ ๘๙๘๙–– –
๒๙
๓๐ ๘๙๘๙–– –
๓๑
๓๒ ๘ ๑๐ ๙ ๙ – – –
๓๓
๓๔ ๘ ๑๐ ๗ ๗ – – –
๓๕
๓๖ ๗๙๗๙–– –
๓๗
๓๘ ๗๙๗๗–– –

๗๘๗๙–– –

๗๙๘๙–– –

๗๙๗๗–– –

๗๘๗๙–– –

๗๙๘๙–– –

๗๙๘๗–– –

๗๙๘๙–– –

๙๘๗๘–– –

๘๘๗๙–– –

๑๒๘

แบบประเมินพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม

การอ่านจับใจความ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
เรือ่ ง อ่านจับใจความจากประกาศ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖

คาชี้แจง ครทู าการสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่มของนกั เรียน โดยทาเครื่องหมาย  ลงในระดบั

คะแนนทตี่ รงกบั ความเปน็ จริง

รายการประเมิน/ระดบั คะแนน

คนที่ ความร่วมมือ มีความสนใจ มีความม่งุ ม่ัน มีความ รวม ผลการ
ในการทางาน ในการทา ในการทา
กิจกรรม กจิ กรรม รับผิดชอบ ประเมนิ

๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒

๑ –  –  – –  – –  – – ๑๑ ดี

๒  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๓  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๔  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๕  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๖  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๗  – – – –   – – –  – ๙ ปานกลาง

๘  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๙  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๑๐ –  –  – –  – –  – – ๑๑ ดี

๑๑  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๑๒  – – –  –  – –  – – ๑๑ ดี

๑๓  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๑๔  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๑๕  – – –  –  – –  – – ๑๑ ดี

๑๖  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๑๗  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๑๘  – – –  – – –   – – ๙ ปานกลาง

๑๒๙

รายการประเมนิ /ระดับคะแนน

คนที่ ความร่วมมือ มคี วามสนใจ มีความมุ่งมั่น ความรบั ผดิ ชอบ รวม ผลการ
ในการทา ในการทา ในการทา ในการทา ประเมิน
กจิ กรรม กจิ กรรม กิจกรรม กิจกรรม

๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒

๑๙  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๒๐  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๒๑ –  –  – –  – –  – – ๑๑ ดี

๒๒  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๒๓  – – –  –  – –  – – ๑๑ ดี

๒๔  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๒๕  – – – –   – – –  – ๙ ปานกลาง

๒๖  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๒๗  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๒๘ –  –  – –  – –  – – ๑๑ ดี

๒๙  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๓๐  – – –  –  – –  – – ๑๑ ดี

๓๑  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๓๒  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๓๓  – – –  –  – –  – – ๑๑ ดี

๓๔  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๓๕  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

๓๖  – –  – – –  –  – – ๑๑ ดี

๓๗  – –  – –  – – –  – ๑๑ ดี

๓๘  – –  – –  – –  – – ๑๒ ดี

เกณฑ์ระดับคุณภาพ มพี ฤติกรรมการทางานกลมุ่ อยใู่ นระดับดี
ระดบั คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถึง มพี ฤติกรรมการทางานกลุ่มอยู่ในระดบั ปานกลาง
ระดบั คะแนน ๕ – ๘ หมายถงึ มพี ฤติกรรมการทางานกล่มุ อย่ใู นระดับควรปรับปรุง
ระดับคะแนน ๑ – ๔ หมายถงึ

๑๓๐

รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ การทางานกลมุ่

ประเดน็ การประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน
๓๒๑

ความรว่ มมอื ในการทา ใหค้ วามร่วมมือในการ ใหค้ วามร่วมมือในการ ไมใ่ ห้ให้ความรว่ มมือ

กิจกรรม ทากจิ กรรมดว้ ยความ ทากจิ กรรมในบางครั้ง ในการทากิจกรรม

เต็มใจ สมาชิกในกลุ่มต้อง

คอยกระตุ้นอย่เู สมอ

ความสนใจในการทากิจกรรม ใหค้ วามสนใจในการ ใหค้ วามสนใจในการ สนใจในการทา

ทากจิ กรรมทกุ ครงั้ ทากจิ กรรมในบางครงั้ กจิ กรรมในบางครงั้

หรอื ไม่ใหค้ วามสนใจ

ในการทากจิ กรรมเลย

ความมงุ่ ม่นั ในการทากิจกรรม มคี วามมุ่งมนั่ ในการทา มีความมุ่งมนั่ ในการทา ไมม่ ีความมงุ่ มั่นในการ

กจิ กรรม และตงั้ ใจทา กจิ กรรม และตงั้ ใจทา ทากิจกรรมและตั้งใจ

กจิ กรรมอย่างเต็มท่ี กจิ กรรมในบางคร้ัง ทากิจกรรมเลย

ความรับผดิ ชอบในการทา มคี วามรบั ผิดชอบใน มคี วามรับผดิ ชอบ ไมม่ ีความรบั ผิดชอบ

กจิ กรรม การทากิจกรรม ในการทากิจกรรม ในการทากจิ กรรม

ทางานที่ได้รบั ทางานท่ีไดร้ บั ทางานที่ได้รบั

มอบหมายเสร็จตาม มอบหมายเสรจ็ มอบหมายไมเ่ คย

กาหนด แตล่ า่ ชา้ ไมต่ รงเวลา สาเร็จตรงตามเวลา

๑๓๑

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๗ ๑๗ ช่วั โมง

กลมุ่ สาระฯ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖
จานวน ๓ ช่ัวโมง
เร่อื ง หมบู่ า้ นเหด็ หอม เวลา ๑ ชว่ั โมง
วันทสี่ อน .๑..๕......พ...ฤ..ษ...ภ..า..ค...ม.....๒...๕..๖...๒...................

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ
แกป้ ญั หาในการดาเนินชีวิต และมีนิสัยรกั การอ่าน

มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง
มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่เี ป็นโวหาร
มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากเรอื่ งที่อ่าน
มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนาความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา

ในการดาเนินชีวติ
มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๘ อา่ นหนงั สือตามความสนใจ และอธิบายคณุ ค่าที่ได้รับ
มฐ. ท ๑.๑ ป.๖/๙ มมี ารยาทในการอ่าน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความและเขียนเร่ืองราว

ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศ และรายงานการศึกษา
ค้นคว้าอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
มฐ. ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขียนสอ่ื สารโดยใช้ถ้อยคาถูกตอ้ ง ชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย
มฐ. ท ๒.๑ ป.๖/๖ เขียนแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับสาระจากสือ่ ทไ่ี ดร้ บั
มฐ. ท ๒.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการเขยี น

๑๓๒

สาระสาคัญ
ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมี

ระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายใน
ภายนอก ทั้งน้ี จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนา
วิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการ ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้อง
เสรมิ สรา้ งพ้นื ฐานจิตใจของคนในชาติ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

เม่อื นกั เรียนเรยี นจบในเน้ือหาน้แี ล้ว นักเรียนสามารถ
๑. อ่านจบั ใจความสาคัญ ในเรอ่ื ง ความพอเพียง ได้ (K)
๒. แสดงความคิดเห็น ระบุประเด็นสาคัญ และอธิบายความแตกต่าง ความสัมพันธ์เชิง
เหตผุ ลจากเร่อื งทอ่ี ่านได้ (P)
๓. มีความร่วมมือ สนใจ มุ่งม่ัน มีความรับผิดชอบ มีมารยาทในการอ่าน และการเขียน
ในระหว่างทากิจกรรม (A)

สาระการเรยี นรู้

ความพอเพียง

กจิ กรรมการเรียนรู้

ขน้ั นา
๑. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สนทนาในเรอื่ ง ความพอเพียง
๒. ครสู นทนากับนักเรียนเก่ียวกับการอ่านจับใจความ จุดมุ่งหมายของการอ่าน หลักการอ่าน
จบั ใจความสาคัญ การสงั เกตข้อความท่ีเป็นใจความสาคญั และพลความ และตาแหนง่ ของใจความสาคัญ
๓. ครูสร้างประสบการณ์เก่ียวกับการอ่าน โดยสุ่มนักเรียน จานวน 1 คน ให้ออกมาอ่าน
นทิ านให้เพ่ือนๆ ฟัง เม่ือนักเรยี นอา่ นจบ ครูต้งั คาถามใหน้ ักเรยี นทกุ คนชว่ ยกันตอบ เชน่

- นิทานเร่ืองนี้มีตัวละครกี่ตัว
- เปน็ คน หรือสัตว์
- เหตกุ ารณเ์ กิดทใ่ี ด เวลาใด
- นิทานเรื่องนใี้ ห้ข้อคดิ เรอื่ งอะไร
นกั เรยี นและครูชว่ ยกันสรุปจากเรอื่ งทอ่ี ่านอีกคร้งั

๑๓๓

ข้นั สอน
๕. ครูใหน้ กั เรยี นประจากลุ่มเดิม
๖. ประธานกลมุ่ /รองประธานกลุ่ม ออกมารบั แบบฝกึ ทักษะการอ่านจบั ใจความ ชุด “เดิน
ตามรอยพอ่ สอน” ชุดท่ี ๕ เรอื่ ง ความพอเพยี ง เพือ่ นาไปแจกให้กับสมาชกิ ในกลมุ่
๗. เม่ือแต่ละกลุ่มได้รับแบบฝึกทักษะฯ แล้ว ให้เร่ิมศึกษาเน้ือหาจากแบบฝึกทักษะ โดย
เร่ิมตั้งแต่การศึกษามาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ รวมถึง
บทบาทของตนเอง เพือ่ ทาความเขา้ ใจ
๘. แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ท่ี ๓ เร่ือง หมู่บ้านเห็ดหอม โดยสมาชิกใน
กล่มุ ร่วมกนั ศึกษา เรยี นรู้ ให้คาแนะนา รวมถงึ การสรุป และอภปิ รายเนื้อหาท่ีศึกษาร่วมกัน
๙. เมอ่ื ทาการศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ที่ ๓ จนเข้าใจแลว้ ให้สมาชิกแต่ละคนทาแบบฝึก
ทักษะท่ี ๕ และ ๖ (ทาเปน็ รายบุคคล)
๑๐. เมื่อนักเรียนแต่ละคนทาแบบฝึกทักษะท่ี ๕ และ ๖ เสร็จแล้ว ให้จับคู่กับเพื่อนในกลุ่ม
เพ่ือส่งแบบฝึกทักษะที่ทาเสร็จแล้วให้เพ่ือนตรวจ ในกรณีท่ีคะแนนยังไม่ผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ ๘๐)
ให้นักเรียนกลับไปทบทวนเน้ือหาเพ่ือทาความเข้าใจอีกคร้ัง จากนั้นกลับมาทาแบบฝึกใหม่ จนกว่า
คะแนนจะผ่านเกณฑ์

ขนั้ สรปุ (Summarizing)
๑๑.ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ในเรื่อง ความพอเพียง จนไดข้ ้อสรุปว่า

“ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่
จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้ง
ภายในภายนอก ท้ังน้ี จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิงในการ
นาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการ ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้อง
เสริมสรา้ งพ้นื ฐานจิตใจของคนในชาติ”

๑๒.นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน จานวน ๑๐ ข้อ เพื่อเป็นการประเมินผลการเรียนของ
นักเรียน

๑๓. ครูแจ้งให้นักเรียนมาทาการทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียน จานวน ๓๐ ข้อ
ในช่วั โมงตอ่ ไป

๑๓๔

สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้
๑. ตวั อย่างบทความ
๒. แบบฝกึ ทักษะการอา่ นจับใจความ ชดุ “เดินตามรอยพ่อสอน” ชดุ ที่ ๕ เรือ่ ง ความพอเพยี ง
๓. ใบความรทู้ ี่ ๓ เรอ่ื ง หมู่บ้านเหด็ หอม
๔. แบบฝึกทักษะท่ี ๕ และ ๖
๕. แบบทดสอบหลังเรียน

การวัดผลประเมินผล

ส่งิ ท่ตี ้องการวดั วธิ วี ัดผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล
อ่านจบั ใจความสาคญั ในเร่ือง - ตรวจแบบ - แบบฝกึ ทักษะที่ ทาแบบฝึกทักษะ
ความพอเพียง ได้
ฝกึ ทกั ษะ ๕ และ ๖ ถกู ต้องผา่ นเกณฑ์
รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป
- การทดสอบ
- แบบทดสอบ ทาแบบทดสอบผา่ น
แสดงความคิดเห็น ระบปุ ระเดน็ - ตรวจแบบ หลงั เรยี น เกณฑร์ ้อยละ ๘๐
สาคญั และอธบิ ายความแตกต่าง ฝึกทกั ษะ ขึ้นไป
ความสัมพนั ธ์เชิงเหตุผลจากเรอื่ งท่ี
อ่านได้ - การทดสอบ - แบบฝึกทักษะที่ ทาแบบฝกึ ทักษะ
๕ และ ๖ ถูกต้องผา่ นเกณฑ์
ให้ความร่วมมือ สนใจ มงุ่ มั่น มคี วาม ประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป
รับผิดชอบ มีมารยาทในการอ่าน พฤติกรรมการ
และการเขยี น ในระหว่างทากิจกรรม ทางานกลุ่ม - แบบทดสอบ ทาแบบทดสอบผา่ น
หลงั เรียน เกณฑ์ร้อยละ ๘๐
ข้ึนไป

- แบบประเมนิ มพี ฤติกรรมการ
พฤติกรรมการ ทางานกลุ่มผา่ น
ทางานกลุม่ เกณฑ์อยู่ในระดบั ดี

๑๓๕

บันทึกผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้

ผลการจดั การเรยี นการสอนตามตวั ช้วี ัด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ปญั หา / อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชอ่ื ………………………………………………………… ลงชื่อ ………………………………………………………
(นางวนั ดี เหลา่ สุวรรณ) (นางสาวพัชราภรณ์ เรอื งศรี)

ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ ตาแหนง่ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้

ลงชอ่ื ………………………………………………………… ลงชื่อ ………………………………………………………
(นางปรีดา ชว่ ยสุข) (นายธานินทร์ แกว้ จรุ ตั น์)

ตาแหนง่ รองผู้อานวยการสถานศึกษา ฝ่ายวิชาการ ตาแหน่ง ผู้อานวยการสถานศกึ ษา
โรงเรยี นเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) โรงเรียนเทศบาล ๒ (บา้ นหาดใหญ)่

๑๓๖

หมบู่ ้านเหด็ หอม

ยังมหี มู่บ้านเลก็ ๆแหง่ หนงึ่ ชอ่ื ว่าหมบู่ ้านเหด็ หอม
ชาวบา้ นสว่ นใหญม่ ีอาชพี เพาะเห็ดหอม และเห็ดอ่นื ๆ อีกมากมาย

ชมุ ชนเห็ดหอมอยู่อย่างพง่ึ พาอาศัยกัน มกี นิ มีใช้ไม่ขดั สน

วันหน่งึ มพี อ่ ค้าจากต่างแดนนาเอาของวิเศษ
เข้ามาเสนอขายในราคาแสนแพง

ของสิง่ นน้ั เอาไวต้ ดิ ต่อพูดคยุ กันโดยไมต่ ้องเหน็ หน้า
และจะพกไปไหนมาไหนกส็ ะดวก

๑๓๗

ครอบครัวนายเหมอื น ภรรยาชอ่ื นางมั่ง ลูกสาวช่อื หนมู ี
กอ็ ยากได้ของวิเศษไว้ใช้ แตเ่ พราะรายไดน้ ้อย
จงึ ยอมเปน็ หน้เี พื่อใหไ้ ด้ของวเิ ศษมาใช้

สองผัวเมีย และลกู ไม่เป็นอันทางาน
ได้แตเ่ ดินอวด พูดโชว์ ไปวันๆ
เห็ดทีเ่ พาะไว้ถูกทอดท้ิง เห่ียวเฉา

รายได้ก็ไมม่ ี ค่าพูดกต็ ้องจา่ ย เงินทองทสี่ ะสมไวเ้ รมิ่ รอ่ ยหรอ
ตอ้ งไปกู้หนย้ี ืมสินมาเพ่ิม

๑๓๘

ฝ่ายหนูมผี ้เู ปน็ ลกู สาว ตงั้ แตม่ ีของวเิ ศษก็กลายเปน็ ดาวเดน่
เปน็ ทส่ี นใจของชายหนุ่ม เพราะต่างก็มขี องวเิ ศษ
เอาไว้เกี้ยวพาราสี จนไม่เปน็ อันเรียนหนังสือ
เมือ่ เอาแตใ่ ชจ้ า่ ย เงนิ ท่ีมอี ยู่ก็ลดนอ้ ยลง
รายได้ก็ไมม่ ี แต่คา่ ใชจ้ ่ายกลับเพม่ิ ขึ้นโดยไม่จาเปน็
เม่ือไมส่ ามารถหาเงนิ มาใชห้ น้ี สมบตั ิทีม่ อี ยู่ก็ถูกยดึ
ทั้งบา้ น และฟาร์มเห็ด ก็ไม่เหลืออกี แลว้
ครอบครัวนายอฟู้ ู่ ครอบครวั นายระเรงิ

และอีกหลายบ้านทย่ี อมเปน็ หน้ีเพื่อซ้ือของวิเศษที่เกินความจาเป็น
ทั้งๆ ท่ี กว่าจะได้เงนิ มาต้องปลกู เห็ด ขายเหด็ จานวนมาก
ทาใหค้ รอบครัวเกดิ ปัญหา
เมือ่ หลายๆ ครอบครัวมปี ัญหา หมบู่ า้ นกม็ ปี ัญหา
และก็ออ่ นแอลงเรื่อยๆ เพราะรากฐานถูกทาลาย

๑๓๙



คาสัง่ ให้นกั เรียนจบั ใจความสาคัญ และวิเคราะห์ เร่อื ง “หมบู่ า้ นเห็ดหอม” และตอบ
คาถามตอ่ ไปน้ีให้ถกู ตอ้ ง (๑๐ คะแนน)

๑ สาระสาคญั ของเรื่อง “หมู่บา้ นเห็ดหอม” คอื อะไร

……………………………………………………………………………………………………………………..
.

๒ นกั เรยี นควรเอาแบบอย่างใครในเรื่องนี้

……………………………………………………………………………………………………………………..

๓ เรือ่ ง “หมู่บ้านเห็ดหอม” ให้ข้อคิดอะไรกบั นักเรียน

……………………………………………………………………………………………………………………..

๔ นักเรยี นสามารถเอาข้อคิดจากเร่อื งนี้ ไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้อย่างไรบ้าง

……………………………………………………………………………………………………………………..

๕ เร่อื ง “หม่บู ้านเห็ดหอม” สอนอะไรให้กบั นักเรียน

……………………………………………………………………………………………………………………..

๑๔๐



คาส่งั ให้นักเรียนบอกถึงหลกั ความพอเพียงที่นามาใช้ในชีวิตประจาวันของนักเรยี น
โดยเขียนเป็นแผนผังมโนทศั น์ (๑๕ คะแนน)

…………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………

………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………

………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………

๑๔๑



๑ สาระสาคญั ของเร่ือง “หมู่บา้ นเห็ดหอม” คอื อะไร

…กา…ร…ใช…ช้ …ีวิต…อ…ย…่าง…ฟ…ุ่ม…เฟ…อื …ย…………………………………………………………………………………..
.

๒ นกั เรียนควรเอาแบบอย่างใครในเรอ่ื งนี้

…ไม…่ม…ีใ…คร…ค…ว…รน…า…เอ…า…มา…เ…ปน็…แ…บ…บ…อ…ย…่าง…………………………………………………………………..

๓ เร่อื ง “หมู่บา้ นเห็ดหอม” ให้ข้อคิดอะไรกบั นักเรียน

…ก…าร…ใช…้ช…ีว…ติ อ…ย…่า…งฟ…ุ่ม…เฟ…อื…ย…จ…ะ…ท…า…ให…ช้ …วี ิต…ม…ีแ…ต…่คว…า…ม…ลา…บ…า…ก……………………………………..

๔ นักเรียนสามารถเอาข้อคิดจากเรื่องนี้ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างไรบา้ ง

…ใช…้ช…วี …ติ อ…ย…า่ …งพ…อ…เพ…ีย…ง………………………………………………………………………………………..

๕ เรื่อง “หมบู่ า้ นเห็ดหอม” สอนอะไรใหก้ บั นักเรยี น

…กา…ร…ใช…ช้ …ีว…ติ อ…ย…า่ …งฟ…ุ่ม…เฟ…อื…ย…จ…ะ…ส…่งผ…ล…ให…้ช…ีว…ิต…ม…แี ต…ค่ …ว…าม…ล…า…บา…ก…ค…ว…ร…ใช…ช้ …วี ิต…อ…ย…่าง…พ…อ…เพ…ยี ..ง

๑๔๒



…คว…า…ม…ปร…ะ…ห…ย…ดั …ต…ัดท…อ…น…ค…า่ …ใช…้จ…่าย……………
…ลด…ค…ว…าม…ฟ…มุ่ …เฟ…ือ…ย…ใน…ก…า…รด…า…ร…งช…พี ……………
…………………………………………………………

…ยดึ…ถ…ือ…ก…าร…ป…ร…ะก…อ…บ…อ…าช…ีพ…ด…้ว…ยค…ว…าม………… …ย…ึดห…ล…ัก…พ…อ…อ…ย…ู่ พ…อ…ก…ิน…พ…อ…ใช…้ ………………
…ถกู…ต…้อ…ง…แล…ะ…ส…ุจร…ติ ………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………

ล…ะ…เล…ิก…ก…าร…แ…ก…ง่ แ…ย…่งผ…ล…ป…ร…ะโ…ย…ชน…์แ…ล…ะ……… …ภ…ูม…ปิ ญั…ญ……าช…า…วบ…า้ …น…แ…ละ…ท…ดี่ …ิน…ท…าก…นิ …ค…ือ……
แ…ข…ง่ …ขัน…ใ…น…กา…ร…ค…้าข…า…ย…………………………… …ท…นุ …ทา…ง…ส…ังค…ม………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………

(เปน็ เพียงแนวคำตอบ อยใู่ นดุลยพินิจของครผู สู้ อน
โดยให้คะแนนจำกแบบกำรให้คะแนนจำกเขียนแผนผงั ควำมคดิ )

๑๔๓

แบบบันทกึ การทากิจกรรม

แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ชุด “เดินตามรอยพ่อสอน”
ชุดที่ ๕ เรือ่ ง ความพอเพียง

นกั เรียน ๑ กิจกรรมฝึกทกั ษะท่ี/(คะแนน) ๖ รวม
(คนที่) (๑๐) ๒๓๔๕ (๑๕) (๖๕)
(๑๐) (๑๕) (๑๐) (๑๐)

๒ ๗ ๙ ๘ ๙ ๘ ๑๒ ๕๓

๔ ๗ ๙ ๙ ๙ ๗ ๑๔ ๕๕

๖ ๗ ๗ ๙ ๘ ๘ ๑๔ ๕๓

๘ ๙ ๙ ๘ ๙ ๘ ๑๕ ๕๘

๑๐ ๘ ๙ ๙ ๙ ๙ ๑๕ ๕๙
๑๑
๑๒ ๘ ๗ ๙ ๗ ๙ ๑๕ ๕๕
๑๓
๑๔ ๘ ๙ ๗ ๙ ๘ ๑๕ ๕๖
๑๕
๑๖ ๘ ๘ ๙ ๙ ๙ ๑๒ ๕๕
๑๗
๑๘ ๙ ๘ ๙ ๗ ๙ ๑๒ ๕๔
๑๙
๒๐ ๙ ๘ ๙ ๙ ๙ ๑๑ ๕๕

๙ ๙ ๙ ๘ ๙ ๑๕ ๕๙

๙ ๗ ๗ ๘ ๙ ๑๕ ๕๕

๘ ๑๐ ๙ ๑๐ ๙ ๑๓ ๕๙

๘ ๗ ๙ ๗ ๗ ๑๕ ๕๓

๘ ๘ ๗ ๙ ๘ ๑๕ ๕๕

๗ ๗ ๙ ๘ ๙ ๑๕ ๕๕

๗ ๑๐ ๙ ๙ ๙ ๑๕ ๕๙

๙ ๗ ๗ ๙ ๘ ๑๐ ๕๐

๗ ๑๐ ๙ ๘ ๙ ๑๒ ๕๕

๗ ๘ ๙ ๙ ๙ ๑๒ ๕๔

๑๔๔

นกั เรียน ๑ กจิ กรรมฝึกทกั ษะท่/ี (คะแนน) ๖ รวม
(คนที)่ (๑๐) ๒๓๔๕ (๑๕) (๖๕)
(๑๐) (๑๕) (๑๐) (๑๐)
๒๑
๒๒ ๙ ๘ ๗ ๙ ๗ ๑๑ ๕๑
๒๓
๒๔ ๗ ๘ ๙ ๗ ๙ ๑๕ ๕๕
๒๕
๒๖ ๘ ๘ ๘ ๙ ๙ ๑๕ ๕๗
๒๗
๒๘ ๘ ๙ ๘ ๙ ๙ ๑๑ ๕๔
๒๙
๓๐ ๘ ๙ ๘ ๙ ๙ ๑๒ ๕๕
๓๑
๓๒ ๘ ๑๐ ๙ ๙ ๗ ๑๕ ๕๘
๓๓
๓๔ ๘ ๑๐ ๗ ๗ ๘ ๑๕ ๕๕
๓๕
๓๖ ๗ ๙ ๗ ๙ ๙ ๑๒ ๕๓
๓๗
๓๘ ๗ ๙ ๗ ๗ ๙ ๑๒ ๕๑

๗ ๘ ๗ ๙ ๘ ๑๒ ๕๑

๗ ๙ ๘ ๙ ๙ ๑๒ ๕๔

๗ ๙ ๗ ๗ ๙ ๑๒ ๕๑

๗ ๘ ๗ ๙ ๘ ๑๓ ๕๒

๗ ๙ ๘ ๙ ๙ ๑๒ ๕๔

๗ ๙ ๘ ๗ ๙ ๑๒ ๕๒

๗ ๙ ๘ ๙ ๙ ๑๒ ๕๔

๙ ๘ ๗ ๘ ๘ ๑๕ ๕๕

๘ ๘ ๗ ๙ ๘ ๑๒ ๕๒

๑๔๕

แบบทดสอบหลงั เรยี น

การอา่ นจบั ใจความ ชุด “เดินตามรอยพ่อสอน” ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖
เรือ่ ง ความพอเพียง เวลา ๑๐ นาที

คาสง่ั ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ีถูกทสี่ ดุ เพยี งคาตอบเดียว

๑. ข้อใด ไม่ใช่ หลักการของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ก. มีเหตผุ ล
ข. มภี ูมคิ ้มุ กนั ทด่ี ี
ค. มีความอยู่ดกี นิ ดี
ง. มคี วามพอประมาณ

๒. การปฏิบัติตนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงควรเร่ิมต้นจากใคร
ก. พอ่ แม่
ข. ตนเอง
ค. ญาตพิ น่ี อ้ ง
ง. ครูอาจารย์

๓. ในโรงเรยี น นกั เรยี นควรปฏบิ ัตติ นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร
ก. ปิดก๊อกนา้ ใหส้ นทิ ทกุ คร้งั เมื่อไม่ใช้งาน
ข. นาหนังสอื ในหอ้ งสมดุ ไปเก็บไว้อ่านทบี่ ้าน
ค. ซอ้ื ขนมทขี่ ายในสหกรณโ์ รงเรียนเปน็ ประจา
ง. เปิดไฟฟ้าทกุ ดวงในห้องเรยี นทิ้งไว้เป็นประจา

๔. ข้อใดเปน็ การนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ นชีวิตประจาวัน
ก. ซือ้ สินคา้ ทกุ ชนิด
ข. ซอ้ื สนิ คา้ ที่อยากได้
ค. ลดการซ้อื สนิ ค้าทไ่ี ม่จาเปน็
ง. ใชเ้ งนิ ใหม้ ากกวา่ เงินที่ได้รับ

๑๔๖

๕. ขอ้ ใดเปน็ การนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นครอบครวั
ก. ใช้สินคา้ ราคาแพงอยูเ่ สมอ
ข. ผลติ พลังงานไฟฟา้ ขนึ้ ใช้เองในครอบครัว
ค. นาสนิ ค้าทีไ่ มม่ คี ุณภาพออกจาหนา่ ยเพอ่ื สรา้ งรายได้
ง. ปลกู ผกั สวนครัวในบรเิ วณบา้ นเพอ่ื ไวร้ บั ประทานเอง

อา่ นขอ้ ความต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามขอ้ ๖ – ๗

“...ในการสร้างตวั สรา้ งฐานะนน้ั จะต้องถอื หลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวงั
และความพอเหมาะพอดี ไม่ทาเกินฐานะและกาลงั หรือทาด้วยความเร่งรบี เมอ่ื มพี นื้ ฐานแน่นหนา
รองรบั พร้อมแลว้ จึงค่อยสร้างคอ่ ยเสริมความเจริญกา้ วหน้า ในระดบั สงู ข้นึ ตามต่อกนั ไปเป็น
ลาดับผลท่เี กดิ ขึ้นจึงจะแนน่ อน มีหลักเกณฑ์ เปน็ ประโยชน์แท้และย่ังยืน...”

พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบตั รของมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่
วนั ท่ี ๑๘ ธนั วาคม ๒๕๔๐

๖. ข้อความดงั กลา่ วขา้ งต้น พูดถงึ เรื่องอะไร
ก. การสร้างตัวสร้างฐานะ
ข. การสร้างประโยชนแ์ กส่ ังคม
ค. การสร้างความเจริญกา้ วหน้า
ง. การสร้างภมู ิคุ้มกันให้กบั ตนเอง

๗. พระบรมราโชวาทข้างตน้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ฯ (รัชกาลที่ ๙) ทรงพูดให้กับใคร
ก. นกั วิชาการ
ข. ประชาชนทว่ั ไป
ค. บณั ฑติ ทีจ่ บการศึกษา
ง. คณาจารย์ในหมาวิทยาลยั

๑๔๗

อา่ นขอ้ ความต่อไปน้ี แลว้ ตอบคาถามข้อ ๘ – ๙

“…เศรษฐกิจพอเพยี ง เปน็ เสมอื นรากฐานของชวี ิต รากฐานความมัน่ คงของแผน่ ดนิ
เปรยี บเสมอื นเสาเข็มท่ีถูกตอกรองรับบา้ นเรือน ตวั อาคารไวน้ นั่ เอง สิ่งกอ่ สร้างจะมั่นคงได้ก็อยู่ท่ี
เสาเขม็ แต่คนส่วนมากมองไมเ่ ห็นเสาเข็ม และลมื เสาเข็มเสียด้วยซ้าไป… ”

พระบรมราโชวาทพระราชทานผ่านมลู นธิ ชิ ยั พัฒนา

๘. พระบาทสมเด็จพระมหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รชั กาลที่ ๙) ทรงเปรียบ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง เหมอื นอะไร
ก. รากฐานของแผ่นดนิ
ข. รากฐานของของชีวิต
ค. รากฐานของของบา้ น
ง. รากฐานของประเทศ

๙. รากฐานทสี่ าคัญของ “หลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง” เปรียบได้กบั อะไร
ก. ฝาบา้ น
ข. เสาเขม็
ค. คานบ้าน
ง. หลังคาบ้าน

๑๐. นกั เรียนจะปฏบิ ตั ิตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไดอ้ ยา่ งไร
ก. เลือกซ้อื เส้ือผ้าท่ที นั สมยั อยู่เสมอ
ข. รับประทานอาหารนอกบา้ นทกุ ครั้ง
ค. เลอื กซือ้ สินค้าท่ีสามารถผลิตเองได้
ง. ประดษิ ฐก์ ระปุกออมสนิ จากวสั ดุเหลือใช้ในบ้าน


Click to View FlipBook Version