The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา D4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by NichananThongtavee2, 2021-05-29 07:33:53

หลักสูตรสถานศึกษา D4

หลักสูตรสถานศึกษา D4

145

คำอธบิ ำยรำยวิชำพนื้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรยี นรสู้ ุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ

รำยวิชำ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ รหัสวชิ ำ พ 32102 ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 5
ภำคเรียนที่ 2
จำนวน 20 ชวั่ โมง/ภำคเรยี น จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาถึงสาเหตุ และเสนอแนวทางการป้องกนั การเจบ็ ป่ วย และการตายของคนไทย รู้หลกั การวางแผน แม่
ปฏิบตั ิตามแผนการพฒั นาสุขภาพของตนเองและครอบครัว วิเคราะห์ปัจจยั ท่ีมีผลต่อสุขภาพ และความรุนแรงของ
คนไทย วเิ คราะห์ผลกระทบท่ีเกิดจากการครอบครอง การใชแ้ ละการจาหน่ายสารเสพติด วางแผนกาหนดแนวทาง
ลดอุบตั ิเหตุ และสร้างเสริมความปลอดภยั ในชุมชน โดยมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมความปลอดภยั ในชุมชน
เพื่อใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจในการสร้างสุขภาพสมรรถภาพการป้องกนั โรคและความปลอดภยั ในชีวติ

ฝึกใหเ้ รียนรู้การทางานร่วมกนั เรียนรู้เรื่องการวิเคราะห์ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ัญหา ยอมรับฟังความคิดเห็น
ของผอู้ ่ืน การฝึกปฏิบตั ิจริง อาทิ การหาขอ้ มูล การสืบคน้ ทาง

โดยการแสดงบทบาทสมมุติ การจาลองสถานการณ์ การศึกษานอกสถานที่ การรายงาน การนาเสนอ นกั เรียน
นาผลงานกระบวนการการเรียนรู้ปรับใชใ้ นชีวติ ไดอ้ ยา่ งมีคุณค่า มีความรับผดิ ชอบ มุ่งมน่ั ในการทางาน อยใู่ น
สงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข

รหัสตัวชี้วดั
พ 4.1 ม.5/4, ม.5/7
พ 5.1 ม.5/3

รวมท้งั หมด 3 ตวั ชี้วดั

146

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ

รำยวชิ ำ สุขศึกษำและพลศึกษำ รหัสวชิ ำ พ 33101 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 6
ภำคเรียนท่ี 1
จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาเรื่องการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ กระบวนการสร้างเสริม ดารงประสิทธิภาพการทางาน
ของระบบประสาท/ระบบสืบพนั ธ์ ระบบไร้ท่อ/เลือกใชท้ กั ษะท่ีเหมาะสมในการป้องกนั ลดความขดั แยง้ และ
แกป้ ัญหาเร่ืองเพศและครอบครัว วิเคราะห์สาเหตุและผลของความขดั แยง้ ท่ีอาจเกิดข้ึนระหวา่ งนกั เรียนหรือ
เยาวชนในชุมชนและเสนอแนวทางป้องกนั วางแผนและปฏิบตั ิตามแผนการพฒั นาสุขภาพของตนเองและ

ครอบครัว
โดยใชท้ กั ษะการคิดวิเคราะห์ ทกั ษะการตดั สินใจและแกไ้ ขปัญหาในการป้องกนั ลดความขดั แยง้ และ

แกป้ ัญหา เร่ืองเพศและครอบครัวฝึกใหเ้ รียนรู้การท างานร่วมกนั เรียนรู้เร่ืองการวเิ คราะห์ใชเ้ หตผุ ลในการ
แกป้ ัญหา ยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น การฝึกปฏิบตั ิจริง อาทิ การหาขอ้ มูล การสืบคน้ ทางอินเตอร์เน็ต การ

แสดงบทบาทสมมุติ การจาลองสถานการณ์ การศึกษานอกสถานที่ การรายงาน การนาเสนอ นกั เรียนนาผลงาน
กระบวนการการเรียนรู้ปรับใชใ้ นชีวติ ไดอ้ ยา่ งมีคุณค่า มีความรับผดิ ชอบ มุ่งมน่ั ในการทางาน มีวินยั ยอมรับการ
ตดั สินใจของหมู่คณะอยา่ งมีเหตุผล

รหัสตัวชี้วดั
พ 1.1 ม.6/1
พ 2.1 ม.6/3, ม.6/4
พ 4.1 ม.6/5

รวมท้งั หมด 4 ตวั ชี้วดั

147

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ

รำยวชิ ำ สุขศึกษำและพลศึกษำ รหัสวชิ ำ พ 33102 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 6
ภำคเรียนท่ี 1
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาและมีส่วนร่วมในการการสร้างเสริมพฒั นาสุขภาพ สมรรถภาพและป้องกนั โรค ของบุคคลใน

ครอบครัวและชุมชน มีการวางแผน และปฏิบตั ิตามแผน การพฒั นาสมรรถภาพทางกาย และสมรรถภาพ กลไก
วางแผน กาหนดแนวทางลดอุบตั ิเหตุ ตลอดจนมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมความปลอดภยั ในชุมชน ใชท้ กั ษะการ
การตดั สินใจแกป้ ัญหา ในสถานการณ์ท่ีเส่ียงต่อสุขภาพและความรุนแรงและสามารถแสดง วิธีการช่วยฟ้ื นคืนชีพ
ไดอ้ ยา่ งถูกวธิ ี

ฝึกใหเ้ รียนรู้การทางานร่วมกนั เรียนรู้เร่ืองการวิเคราะห์ ใชเ้ หตุผลในการแกไ้ ขปัญหา ยอมรับฟัง ความ

คิดเห็นของผอู้ ื่น การฝึกปฏิบตั ิจริง อาทิ การหาขอ้ มูล การสืบคน้ ทางอินเตอร์เน็ต การแสดงบทบาท สมมุติ การ

จาลองสถานการณ์ การศึกษานอกสถานท่ี รายงาน เกม การนาเสนอ นกั เรียนนาผลงาน กระบวนการการเรียนรู้
ปรับใชใ้ นชีวิตไดอ้ ยา่ งมีคุณค่า อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข มีความรับผดิ ชอบ มุ่งมนั่ ในการทางาน มีวนิ ยั
ยอมรับการตดั สินใจของหมู่คณะอยา่ งมีเหตุผล ขจดั พฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงค์ ท่ีมีผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่ืน

รหัสตวั ชี้วดั
พ 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2
พ 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3

รวมท้งั หมด 5 ตวั ชี้วดั

148

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ

รำยวชิ ำ เซปักตะกร้อ รหัสวชิ ำ พ 30212 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4-6
ภำคเรียนที่ 1-2
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้ความเขา้ ใจพ้นื ฐานเกี่ยวกบั กีฬาเซปักตะกร้อ ทกั ษะพ้ืนฐานท่ีสาคญั ในการเล่นเซปักตะกร้อ
ทกั ษะการเล่นลูกขา้ งเทา้ ดา้ นใน ลูกหลงั เทา้ การเล่นลูกเข่า การเล่นลูกดว้ ยศีรษะ ทกั ษะการเสิร์ฟ การเล่นลูก
หนา้ ตาข่ายเพอ่ื ทาคะแนน การป้องกนั การเล่นเกมรุก การอบอุ่นร่างกายก่อนการฝึก การพฒั นาสมรรถภาพ

กลา้ มเน้ือดว้ ยการยกน้าหนกั และการตดั สิน
เพ่อื ใหน้ กั เรียนมีทกั ษะในการปฏิบตั ิกีฬาเซปักตะกร้อ มีทกั ษะพ้ืนฐานท่ีสาคญั ในการเล่นเซปักตะกร้อ

ทกั ษะการเล้ียงลูกบาสเกตบอล ทกั ษะพ้ืนฐานท่ีสาคญั ในการเล่นบาสเกตบอล การเล่นลูกขา้ งเทา้ ดา้ นใน ลูกหลงั
เทา้ ทกั ษะการเสิร์ฟ การเล่นลูกหนา้ ตาข่ายเพ่ือทาคะแนน การป้องกนั การเล่นเกมรุก การอบอุ่นร่างกายก่อนการ

ฝึก การพฒั นาสมรรถภาพกลา้ มเน้ือดว้ ยการยกน้าหนกั และการตดั สิน และมี ความรู้ความเขา้ ใจพ้นื ฐานเก่ียวกบั
กีฬาเซปักตะกร้อ

เพือ่ ใหน้ กั เรียนมีเจตคติท่ีถูกตอ้ งและเหมาะสมเก่ียวกบั กิจกรรมการออกกาลงั กายตามความถนดั และความ

สนใจ และสามารถนาทกั ษะกีฬาบาสเกตบอลไปใชใ้ นการออกกาลงั กายเพอ่ื พฒั นาบุคลิกภาพ และสมรรถภาพ

ต่อไป

ผลกำรเรียนรู้
1. มีความรู้และเขา้ ใจเรื่องประวตั ิความเป็นมาของกีฬาเซปักตะกร้อ
2. รู้ เขา้ ใจ และปฏิบตั ิตามกฎ กติกาและการตดั สินของกีฬาเซปักตะกร้อ
3. มีทกั ษะพ้นื ฐานในการเล่นและการเคล่ือนไหวในกีฬาเซปักตะกร้อ
4. รู้ข้นั ตอนและสามารถปฏิบตั ิเมื่อเป็นฝ่ ายรุกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
5. รู้ข้นั ตอนและสามารถปฏิบตั ิเม่ือเป็นฝ่ ายรับไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
6. เห็นความสาคญั ของการอบอุ่นร่างกาย และสามารถปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
7. รู้และเขา้ ใจสมรรถภาพของกลา้ มเน้ือและสามารถบริหารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

รวมท้งั หมด 7 ผลกำรเรียนรู้

149

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ

รำยวชิ ำ วอลเลย์บอล รหัสวชิ ำ พ 30214 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 4-6
ภำคเรียนท่ี 1-2
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้ความเขา้ ใจพ้นื ฐานเก่ียวกบั ประวตั ิความเป็นมาของกีฬาวอลเลยบ์ อลประโยชน์กีฬา
วอลเลยบ์ อลและใหม้ ีส่วนร่วมปฏิบตั ิจริงในกิจกรรมการบริหารมีทกั ษะการเคล่ือนที่การเล่นลูกสองมือล่าง การ
เล่นลูกสองมือบนทกั ษะในการตบลูกบอลทกั ษะการสกดั ก้นั ลูกบอลทกั ษะการเสิร์ฟรูปแบบเทคนิคการเล่น
ประเภททีมกฎกติกาการแข่งขนั การตดั สินกลยทุ ธ์การจดั การแข่งขนั และอื่นๆ อยา่ งถูกตอ้ งปลอดภยั และ

สนุกสนานและการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
เพือ่ ใหน้ กั เรียนมีทกั ษะในการปฏิบตั ิกีฬาวอลเลยบ์ อล ท้งั ทกั ษะการเคล่ือนไหวและการเล่นลูกรูปแบบ

ต่างๆ ทกั ษะการเสิร์ฟ และทกั ษะการสกดั ก้นั พ้นื ฐานการเล่นเป็นทีม กติกาการแขง่ ขนั วอลเลยบ์ อล การทดสอบ
สมรรถภาพทางกาย รวมท้งั ประวตั ิความเป็นมาของกีฬาวอลเลยบ์ อล

เพอ่ื ใหน้ กั เรียนมีเจตคติท่ีถูกตอ้ งและเหมาะสมเก่ียวกบั กิจกรรมการออกกาลงั กายตามความถนดั และความ
สนใจ และนาทกั ษะกีฬาวอลเลยบ์ อลไปใชใ้ นการออกกาลงั กายเพื่อพฒั นาบุคลิกภาพ และสมรรถภาพต่อไป

ผลกำรเรียนรู้
1. สามารถอธิบายประวตั ิความเป็นมา ประโยชนแ์ ละวิธีการดูแลรักษาอุปกรณ์กีฬาวอลเลยบ์ อลได้
2. มีทกั ษะในการเคลื่อนไหวและเล่นลูกพ้ืนฐานในกีฬาวอลเลยบ์ อลได้
3. มีทกั ษะในการเสิร์ฟลูกวอลเลยบ์ อลแบบต่างๆ
4. มีทกั ษะในการกระโดดตบลูกวอลเลยบ์ อลแบบต่างๆ
5. มีทกั ษะในการสกดั ก้นั ลูกวอลเลยบ์ อล
6. มีทกั ษะในการเล่นกีฬาวอลเลยบ์ อลเป็นทีม
7. รู้ เขา้ ใจ และสามารถอธิบายกติกาการแขง่ ขนั วอลเลยบ์ อลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
8. รู้ เขา้ ใจ และสามารถอธิบายวธิ ีประเมินสมรรถภาพทางกายไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

รวมท้งั หมด 8 ผลกำรเรียนรู้

150

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ

รำยวชิ ำ บำสเกตบอล รหัสวชิ ำ พ 30215 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4-6
ภำคเรียนที่ 1-2
จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้ความเขา้ ใจพ้นื ฐานเกี่ยวกบั กีฬาบาสเกตบอล ทกั ษะพ้ืนฐานที่สาคญั ในการเล่นบาสเกตบอล
ทกั ษะการเล้ียงลูกบาสเกตบอล การรับ-ส่ง ลูกบาสเกตบอล การยงิ ประตูเพื่อทาคะแนน การป้องกนั การเล่นเกม
รุก การอบอุ่นร่างกายก่อนการฝึก การพฒั นาสมรรถภาพกลา้ มเน้ือดว้ ยการยกน้าหนกั และการตดั สิน

เพื่อใหน้ กั เรียนมีทกั ษะในการปฏิบตั ิกีฬาบาสเกตบอล มีทกั ษะพ้นื ฐานที่สาคญั ในการเล่นบาสเกตบอล
ทกั ษะการเล้ียงลูกบาสเกตบอล ทกั ษะพ้นื ฐานท่ีสาคญั ในการเล่นบาสเกตบอล ทกั ษะการเล้ียงลูกบาสเกตบอล
ทกั ษะการรับ-ส่งลูกบาสเกตบอล ทกั ษะการยงิ ประตูเพื่อทาคะแนน ทกั ษะการ ป้องกนั ทกั ษะการเล่นเกมรุก

ทกั ษะการอบอุ่นร่างกายก่อนการฝึก ทกั ษะการพฒั นาสมรรถภาพกลา้ มเน้ือ ดว้ ยการยกน้าหนกั ทกั ษะการตดั สิน
และมีความรู้ความเขา้ ใจพ้นื ฐานเก่ียวกบั กีฬาบาสเกตบอล

เพอื่ ใหน้ กั เรียนมีเจตคติท่ีถูกตอ้ งและเหมาะสมเกี่ยวกบั กิจกรรมการออกกาลงั กายตามความถนดั และความ

สนใจ และนาทกั ษะกีฬาบาสเกตบอลไปใชใ้ นการออกกาลงั กายเพอื่ พฒั นาบุคลิกภาพ และสมรรถภาพต่อไป

ผลกำรเรียนรู้
1. มีความรู้และเขา้ ใจเร่ืองประวตั ิความเป็นมาของกีฬาบาสเกตบอล
2. รู้ เขา้ ใจ และปฏิบตั ิตามกฎกติกาและการตดั สินของกีฬาบาสเกตบอล
3. มีทกั ษะพ้นื ฐานในการเล่นและการเคล่ือนไหวในกีฬาบาสเกตบอล
4. รู้ข้นั ตอนและสามารถปฏิบตั ิเม่ือเป็นฝ่ ายรุกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
5. รู้ข้นั ตอนและสามารถปฏิบตั ิเม่ือเป็นฝ่ ายรับไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
6. เห็นความสาคญั ของการอบอุ่นร่างกาย และสามารถปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
7. รู้และเขา้ ใจสมรรถภาพของกลา้ มเน้ือและสามารถบริหารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

รวมท้งั หมด 7 ผลกำรเรียนรู้

151

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ

รำยวชิ ำ ฟุตบอล รหัสวชิ ำ พ 30216 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4-6
ภำคเรียนท่ี 1-2
จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้และความเขา้ ใจพ้นื ฐานเก่ียวกบั กีฬาฟตุ บอล ประวตั ิความเป็นมาและประโยชนข์ องกีฬา
ฟตุ บอล ความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกบั กีฬาฟตุ บอล ทกั ษะการเล่นฟตุ บอล หลกั การรุก การรับ กติกาการ แขง่ ขนั ฟุตบอล
และการทดสอบสมรรถภาพทางกาย

เพือ่ ใหน้ กั เรียนมีทกั ษะในการเล่นกีฬาฟตุ บอล ท้งั มีความรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั กีฬาฟตุ บอล ทกั ษะการ เล่น
ฟุตบอล ทกั ษะการรุก การรับ กติกาการแขง่ ขนั ฟตุ บอล การทดสอบสมรรถภาพทางกาย และมีความเขา้ ใจ
สามารถอธิบายถึงประวตั ิความเป็นมาของกีฬาฟตุ บอลได้

เพื่อใหน้ กั เรียนมีเจตคติที่ถูกตอ้ งและเหมาะสมเก่ียวกบั กิจกรรมการออกกาลงั กายตามความถนดั และความ
สนใจ และนาทกั ษะกีฬาฟตุ บอลไปใชใ้ นการออกกาลงั กายเพ่อื พฒั นาบุคลิกภาพ และสมรรถภาพต่อไป

ผลกำรเรียนรู้
1. รู้ เขา้ ใจ และสามารถอธิบายประวตั ิความเป็นมา วิวฒั นาการและประโยชน์ของกีฬาฟตุ บอล
2. มีทกั ษะในการเล่นและการเคล่ือนไหวในกีฬาฟุตบอล
3. รู้ข้นั ตอนและสามารถปฏิบตั ิเมื่อเป็นฝ่ ายรุกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
4. รู้ข้นั ตอนและสามารถปฏิบตั ิเม่ือเป็นฝ่ ายรับไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
5. รู้ เขา้ ใจ และสามารถปฏิบตั ิตามกติกาการแขง่ ขนั กีฬาฟตุ บอลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
6. รู้ เขา้ ใจ และปฏิบตั ิการทดสอบสมรรถภาพทางกายไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

รวมท้งั หมด 6 ผลกำรเรียนรู้

152

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ

รำยวชิ ำ ฟุตซอล รหัสวชิ ำ พ 30217 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 4-6
ภำคเรียนที่ 1-2
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้และความเขา้ ใจพ้นื ฐานเก่ียวกบั กีฬาฟตุ ซอล ประวตั ิความเป็นมาและประโยชน์ของกีฬาฟุต
ซอล ความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ทกั ษะการเล่นฟุตซอล หลกั การรุกการรับ กติกาการแข่งขนั ฟุตซอล และ
การทดสอบสมรรถภาพทางกาย

เพ่ือใหน้ กั เรียนมีทกั ษะในการเล่นกีฬาฟตุ ซอล ท้งั มีความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ทกั ษะการเล่นฟตุ ซอล
ทกั ษะการรุกการรับ กติกาการแข่งขนั ฟตุ ซอล การทดสอบสมรรถภาพทางกาย และมีความเขา้ ใจสามารถอธิบาย
ถึงประวตั ิความเป็นมาของกีฬาฟตุ ซอลได้

เพื่อใหน้ กั เรียนมีเจตคติท่ีถูกตอ้ งและเหมาะสมเก่ียวกบั กิจกรรมการออกกาลงั กายตามความถนดั และความ
สนใจ และนาทกั ษะกีฬาฟตุ ซอลไปใชใ้ นการออกกาลงั กายเพอ่ื พฒั นาบุคลิกภาพ และสมรรถภาพต่อไป

ผลกำรเรียนรู้
1. รู้ เขา้ ใจ และสามารถอธิบายประวตั ิความเป็นมา วิวฒั นาการและประโยชนข์ องกีฬาฟตุ ซอล
2. มีทกั ษะในการเล่นและการเคล่ือนไหวในกีฬาฟุตซอล
3. มีทกั ษะพ้ืนฐานในการเล่นกีฬาฟตุ ซอล
4. รู้ข้นั ตอนและสามารถปฏิบตั ิเมื่อเป็นฝ่ ายรุกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
5. รู้ข้นั ตอนและสามารถปฏิบตั ิเม่ือเป็นฝ่ ายรับไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
6. รู้เขา้ ใจ และสามารถปฏิบตั ิตามกติกาการแข่งขนั กีฬาฟตุ ซอลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
7. รู้ เขา้ ใจ และปฏิบตั ิการทดสอบสมรรถภาพทางกายไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

รวมท้งั หมด 7 ผลกำรเรียนรู้

153

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปะ
ช้ันมัธยมศึกษำตอนปลำย
ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน

พทุ ธศักรำช 2551

154

โครงสร้ำงหลกั สูตร กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปะ
ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั ศ31101 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาศิลปะ รหสั ศ31102 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาศิลปะ 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั ศ32101 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 5 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วชิ าศิลปะ รหสั ศ32102 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาศิลปะ 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์

ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 6

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั ศ33101 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาศิลปะ รหสั ศ33102 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วชิ าศิลปะ

155

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

รำยวชิ ำ ศิลปะ (ทศั นศิลป์ ) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปะ ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน รหัสวชิ ำ ศ 31101 ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาเรื่องราว อิทธิพล แนวคิดรูปลกั ษณะในผลงานศิลปะในแต่ละยคุ สมยั ในวฒั นธรรมไทย และสากล ใช้
เทคโนโลยขี ้นั พ้นื ฐานสร้างสรรคง์ านศิลปะไดต้ ามรูปแบบที่ตนสนใจ สามารถวิเคราะห์ ตีความทศั นธาตุตาม
หลกั การออกแบบไดอ้ ยา่ งมีหลกั การ เพ่ือนาไปสร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ ใหม่ๆ สามารถวพิ ากษว์ จิ ารณ์เพื่อพฒั นา

งานศิลปะตามหลกั การที่ถูกตอ้ ง เพ่ือใหม้ ีความรับผดิ ชอบในการทางานศิลปะจากความคิด จิตนาการ และ
ประสบการณ์ สามารถนาความรู้และทกั ษะทางศิลปะท่ีมีมาประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้ เกิดประโยชนแ์ ก่ตนเองและสงั คมได้
สืบทอดต่อไป

รหัสตวั ชี้วดั
ศ 1.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5, ม.4/6, ม.4/7, ม.4/8, ม.4/9, ม.4/10, ม.4/11
ศ 1.2 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3

รวม 14 ตวั ชี้วดั

156

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ศิลปะ

รำยวชิ ำ ศิลปะ (ดนตรี-นำฏศิลป์ ) รหัสวชิ ำ ศ 31102 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 4
ภำคเรียนที่ 2
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ดนตรี
ศึกษาประเภท รูปแบบ ลกั ษณะของการขบั ร้องบรรเลงที่แสดงออกเป็นผลงานของดนตรี ประวตั ิศาสตร์
วฒั นธรรมของดนตรีในแต่ละยคุ สมยั ท้งั ในทอ้ งถ่ินของไทยและดนตรีสากล รู้วธิ ีจดั การสื่อสร้างสรรคแ์ สดงออก
โดยเลือกการนาเสนอการแสดงดนตรี ตลอดจนการจดั เกบ็ บารุงรักษาเครื่องดนตรีต่างๆอยา่ งถูกตอ้ งและปลอดภยั
สามารถวเิ คราะห์ ตีความ แสดงความคิดเห็นในความงาม ความหมายต่างๆ ขององคป์ ระกอบทางดนตรีท้งั หมด
อยา่ งมีหลกั การเพื่อใหเ้ กิดความรับผดิ ชอบและสามารถนาความรู้และทกั ษะทางดนตรีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิด
ประโยชน์ต่อตนเองและสงั คมสืบต่อไปได้

นำฏศิลป์
ศึกษารูป ลกั ษณะ เทคนิควธิ ีการนาฏศิลป์ การละครและละครแนวสร้างสรรคเ์ พื่อจดั แสดงเป็นผลงาน
นาฏศิลป์ และการละครของตน เรียนรู้ยคุ สมยั อิทธิพลของนาฏศิลป์ ในทอ้ งถิ่นของไทยและของสากล รู้วิธีการ
เลือกใชท้ กั ษะเฉพาะเพื่อนาไปจดั การแสดงนาฏศิลป์ และการแสดงในโอกาสต่างๆ ตลอดจนการดูแลและการ
จดั เกบ็ รักษาวสั ดุอปุ กรณ์ต่างๆ ทางนาฏศิลป์ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและปลอดภยั สามารถวิเคราะห์ วจิ ารณ์ ประเมิน
คุณค่า และแสดงความคิดเห็นในความหมายขององคป์ ระกอบต่างๆ ของนาฏศิลป์ และการแสดงไดอ้ ยา่ งมีหลกั การ
เพอื่ ใหเ้ กิดความรัก ชื่นชม เห็นคุณค่า มีความ รับผดิ ชอบ สามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะทางนาฏศิลป์
และการแสดงมาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ต่อตนเองและสงั คมสืบต่อไปได้

รหัสตวั ชี้วดั ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5, ม.4/6, ม.4/7, ม.4/8
ศ 2.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4
ศ 2.2 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5, ม.4/6, ม.4/7, ม.4/8
ศ 3.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4
ศ 3.2

รวม 24 ตวั ชี้วดั

157

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

รำยวชิ ำ ศิลปะ (ทศั นศิลป์ ) กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ศิลปะ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 5
จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน รหัสวชิ ำ ศ 32101 ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษารูปแบบ เทคนิค วธิ ีการ อิทธิพล ยคุ สมยั ของการสร้างงานศิลปะท้งั ของไทยและสากลในวฒั นธรรมท่ี
แตกต่างกนั การใชศ้ พั ทท์ ศั นศิลป์ ทศั นธาตุ หลกั การออกแบบจดั องคป์ ระกอบศิลป์ ดว้ ยเทคโนโลยเี พือ่ ส่ือ
ความหมาย การใชเ้ ทคนิควิธีการของศิลปิ นเป็นแบบอยา่ ง เลือกสรรมาดดั แปลงสร้างงานศิลปะตามรูปแบบท่ี
ตนเองช่ืนชอบเป็นแบบอยา่ งของตนเองได้ สามารถวเิ คราะห์ ตีความทศั นธาตุและหลกั การออกแบบไดอ้ ยา่ งมี
หลกั การ เพอ่ื ใหส้ ามารถเลือกตดั สินใจนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมีรสนิยมทางศิลปะต่อไป

รหัสตวั ชี้วดั
ศ 1.1 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4, ม.5/5, ม.5/6, ม.5/7, ม.5/8, ม.5/9, ม.5/1, ม.5/11
ศ 1.2 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3

รวม 14 ตัวชี้วดั

158

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ศิลปะ

รำยวชิ ำ ศิลปะ (ดนตรี-นำฏศิลป์ ) รหัสวชิ ำ ศ 32102 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 5
ภำคเรียนที่ 2
จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ดนตรี
ศึกษาลกั ษณะ รูปแบบ องคป์ ระกอบของวงดนตรี การขบั ร้องบรรเลงดนตรีไทยและดนตรีสากลใน
วฒั นธรรมท่ีแตกต่างกนั การใชท้ กั ษะประสบการณ์ทางดนตรีเพื่อส่ือแสดงออกทางดนตรี การใชเ้ ทคโนโลยี
ขอ้ มูลข่าวสารมาช่วยในการเลือกสรร คน้ ควา้ เรียนรู้ สร้างสรรค์ แสดงออกทางดนตรีเพื่อหารูปแบบของตนเองได้
สามารถวิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ ตีความและประเมินคุณค่าความงามในองคป์ ระกอบของดนตรีอยา่ งมีหลกั การ
เพื่อใหส้ ามารถใชต้ ดั สินใจเลือกประยกุ ตใ์ ชด้ นตรีในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมีรสนิยมทางดนตรี

นำฏศิลป์
ศึกษารูปแบบ ยคุ สมยั เทคนิค วิธีการจดั แสดงนาฏศิลป์ และการละครท่ีมีปรากฏแสดงในวฒั นธรรมไทย
และสากล ใชท้ กั ษะกระบวนการทางนาฏศิลป์ และการละครเพื่อส่ือความหมายดว้ ยการแสดงออกจากการรู้จกั
เลือกสรรขอ้ มูลข่าวสาร การศึกษา คน้ ควา้ เรียนรู้การแสดงเพ่ือหารูปแบบ แนวทางปฏิบตั ิของบุคคลสาคญั ๆ ใน
วงการนาฏศิลป์ และการละครเพ่อื เป็นแบบอยา่ งของตนเองได้ สามารถคิดวิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ ตีความ
ประเมินคุณค่าในเรื่องที่เก่ียวกบั องคป์ ระกอบสาคญั ๆ ทางนาฏศิลป์ และการละครอยา่ งมีหลกั การ เพอ่ื ใชเ้ ป็นฐาน
ในการคิดตดั สินใจเลือกนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมีความสุข มีรสนิยมทางนาฏศิลป์ และการ
แสดง

รหัสตัวชี้วดั ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4, ม.5/5, ม.5/6, ม.5/7, ม.5/8
ศ 2.1 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4
ศ 2.2 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4, ม.5/5, ม.5/6, ม.5/7, ม.5/8
ศ 3.1 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4
ศ 3.2

รวม 24 ตัวชี้วดั

159

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

รำยวชิ ำ ศิลปะ (ทศั นศิลป์ ศิลป์ ) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปะ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 6
จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน รหัสวชิ ำ ศ 33101 ภำคเรียนท่ี 1
จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษำววิ ฒั นำกำรของประวตั ิศำสตร์ศิลปะไทยและสำกล วเิ ครำะห์ สังเครำะห์ข้อมูลจำกผลงำนของศิลปิ น
เอกโดยกำรนำเอำกระบวนกำรคดิ แก้ปัญหำและกำรจดั กำรสร้ำงสรรค์ประยุกต์ใช้พฒั นำงำนศิลปะเกดิ เป็ นแนวคดิ
ใหม่ๆ ของตนเอง ส่ือด้วยกำรวำดภำพกำร์ตูนแบบตำงๆกำรใช้ศัพท์ศิลปะและกำรวพิ ำกษ์วจิ ำรณ์ ประเมนิ คุณค่ำ
ผลงำนศิลปะอย่ำงมีหลกั กำร เพ่ือให้สำมำรถเชื่อมโยงควำมรู้ควำมเข้ำใจและทกั ษะทำงศิลปะ นำมำใช่ในกำรสืบ
สำน อนุรักษ์ ฟื้ นฟู พฒั นำและเผยแพร่งำนศิลปะและวฒั นธรรมด้วยควำมรัก ชื่นชมภำคภูมิใจ เห็นคุณค่ำใน
ควำมเป็ นไทย

รหัสตวั ชี้วดั
ศ 1.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4, ม.6/5, ม.6/6, ม.6/7, ม.6/8, ม.6/9, ม.6/10, ม.6/11
ศ 1.2 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3

รวม 17 ตัวชี้วดั

160

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ศิลปะ

รำยวชิ ำ ศิลปะ (ดนตรี-นำฏศิลป์ ) รหัสวชิ ำ ศ 33102 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 6
ภำคเรียนที่ 2
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ดนตรี
ศึกษาเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจ อธิบายไดถ้ ึงองคป์ ระกอบของวงดนตรี การขบั ร้อง การบรรเลง และการพฒั นาการทาง
ดนตรีท้งั ของไทยและสากล ตลอดจนคีตกวดี นตรีไทยสมยั ต่างๆ หลกั การวเิ คราะห์ขอ้ มูลขา่ วสารและการใช้
ทกั ษะทางดนตรีผา่ นกระบวนการคิดวเิ คราะห์ แกป้ ัญหา นามาจดั การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ประกอบกบั เทคโนโลยี
ทางดนตรีแนวใหม่ใหเ้ ป็นแนวทางของตนเองได้ ประเมินคุณค่าผลงานดนตรีไดอ้ ยา่ งมีหลกั การ เพอื่ ใหส้ ามารถ
เชื่อมโยงความรู้ความเขา้ ใจ ทกั ษะทางดนตรีเขา้ มาใชใ้ นการอนุรักษ์ พฒั นา เผยแพร่ สืบทอดงานดนตรีที่เป็น
มรดกทางวฒั นธรรมไทยดว้ ยความรักและภาคภูมิใจในความเป็นไทย

นำฏศิลป์
ศึกษาเพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจ อธิบายไดถ้ ึงเทคนิค วิธีการจดั การพฒั นาทางดา้ นนาฏศิลป์ และการแสดงท้งั ในทอ้ งถ่ิน
ไทยและสากล สามารถสรุป วิเคราะห์ แยกแยะขอ้ มูลข่าวสาร และการนาเอาทกั ษะเฉพาะทางนาฏศิลป์ และการ
แสดงผา่ นกระบวนการคิดแกป้ ัญหาจดั การไปประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ทางนาฏศิลป์ การแสดงละครสร้างสรรคต์ ่างๆ ท้งั
จากแนวคิดเดิมและแนวคิดใหม่ๆ ตามความเชื่อของตนเองได้ ประเมินคุณคา่ ของนาฏศิลป์ และการแสดงไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ งมีหลกั การโดยสามารถเช่ือมโยงนาความรู้ ประสบการณ์มาใชก้ บั การอนุรักษ์ ฟ้ื นฟู พฒั นา และเผยแพร่
งานนาฏศิลป์ และการแสดงที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรมภูมิปัญญาไทยไปแสดงในโอกาสต่างๆ ไดด้ ว้ ยความรัก
ภาคภูมิใจ เห็นคุณคา่ ในความเป็นไทย

รหัสตวั ชี้วดั ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4, ม.6/5, ม.6/6, ม.6/7, ม.6/8
ศ 2.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4
ศ 2.2 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4, ม.6/5, ม.6/6, ม.6/7, ม.6/8
ศ 3.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3
ศ 3.2

รวม 24 ตัวชี้วดั

161

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศึกษำตอนปลำย

ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน
พทุ ธศักรำช 2551

162

โครงสร้ำงหลกั สูตร กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี
ระดบั มัธยมศึกษำตอนปลำย

ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั ง31101 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รหสั ง31102 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าการงานอาชีพและเทคโนโลยี
วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 5

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั ง32101 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
รหสั ง32102 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าการงานอาชีพและเทคโนโลยี
วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 6

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั ง33101 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
รหสั ง33102 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าการงานอาชีพและเทคโนโลยี
วชิ าการงานอาชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 4-6

วชิ าปฏิบตั ิโครงงานอาชีพ รหสั ง30217 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชางานดอกไมส้ ด รหสั ง30223 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าประดบั ตกแต่งดว้ ยผา้ รหสั ง30230 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าการสร้างสรรคง์ านประดิษฐจ์ ากวสั ดุทอ้ งถ่ิน รหสั ง30234 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน

วิชาการผลิตกลา้ ไม้ รหสั ง30243

วิชาการขยายพนั ธพ์ ชื รหสั ง30246

วชิ าพืชสวนเศรษฐกิจ รหสั ง30248

163

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี รหัสวชิ ำ ง 31101 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

วิเคราะห์และอธิบายการปฏิบตั ิตนตามหนา้ ที่และบทบาทของตนเองในฐานะสมาชิกของครอบครัววิธีการ

ดูแลรักษาและทาความสะอาดบา้ น การจดั และตกแต่งบา้ น การเกบ็ รักษาอาหาร งานช่างในบา้ น อธิบายการ

เลือกใชเ้ ส้ือผา้ และเครื่องแต่งกายใหเ้ หมาะสมการปลูกพืชไร้ดิน
วิเคราะห์และอธิบายการปฏิบตั ิตนตามหนา้ ที่และบทบาทที่เหมาะสมในฐานะสมาชิกในครอบครัว สารวจ

บา้ นและเคร่ืองใชภ้ ายในบา้ น ออกแบบจดั และตกแต่งหอ้ ง สารวจอาหารท่ีซ้ือมารับประทานในครอบครัวเป็น
ประจา ฝึกปฏิบตั ิประกอบท่อน้าพีวีซี ติดต้งั ก๊อกน้า สารวจรูปร่าง สีผวิ ของตนเอง เสนอแนวทางการเลือกใช้
เส้ือผา้ และเคร่ืองแต่งกายท่ีเหมาะสมการปลูกพชื ไร้ดิน แลว้ วิเคราะห์อภิปรายความเหมาะสม

เห็นความสาคญั ของการปฏิบตั ิตนตามหนา้ ท่ีและบทบาทของตนเอง ในฐานะสมาชิกของครอบครัว ใช้

ทกั ษะการจดั การในการทางาน มีทกั ษะกระบวนการในการแกป้ ัญหาในการทางาน มีทกั ษะแสวงหาความรู้เพื่อ

การดารงชีวิต มีคุณธรรมและลกั ษณะนิสยั ท่ีดีในการทางาน ใชพ้ ลงั งานทรัพยากรในการทางานอยา่ งคุม้ คา่ และยงั

ยนื เพ่ือการอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม

รหัสตัวชี้วดั
ง 1.1 ม. 4-6/2 , ม. 4-6/3 , ม. 4-6/4 , ม. 4-6/5 , ม. 4-6/5
ง 2.1 ม. 4-6/1 , ม. 4-6/2
ง 4.1 ม. 4-6/4 , ม. 4-6/4

รวม 9 ตัวชี้วดั

164

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี รหัสวชิ ำ ง 31102 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนท่ี 2
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

วเิ คราะห์และอธิบายงานดอกไมส้ ดของไทย การเชื่อมโยงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเทคโนโลยกี บั ศาสตร์อ่ืน ๆ
วิเคราะห์ระบบเทคโนโลยี ลกั ษณะขององคก์ รธุรกิจ ความหมายและองคป์ ระกอบของการดาเนินการทางธุรกิจ
การบริหารงานเอกสาร และการบญั ชีเบ้ืองตน้ แนวทางสู่อาชีพที่น่าสนใจและคุณลกั ษณะทีดีต่ออาชีพ

โดยใหร้ ่วมกนั สารวจดอกไมส้ ด สารวจเทคโนโลยใี นชุมชน ระบุความสมั พนั ธ์กบั ศาสตร์ต่าง ๆ ร่วมกนั
สืบคน้ ขอ้ มูล วิเคราะห์และวางแผนสร้างวธิ ีการ ส่ิงของเคร่ืองใชต้ ่าง ๆตามระบบเทคโนโลยี วิเคราะห์
องคป์ ระกอบของการดาเนินการทางธุรกิจ จดั ทาบญั ชี เขียนภาพความคิดแนวทางสู่อาชีพ

เห็นนความสาคญั การใชท้ กั ษะการจดั การในการทางาน มีทกั ษะกระบวนการในการแกป้ ัญหาในการทางาน
ทกั ษะการแสวงหาความรู้เพอื่ การดารงชีวติ มีคุณธรรมและลกั ษณะนิสยั ที่ดีในการทางาน ใชพ้ ลงั งานทรัพยากรใน
การทางานอยา่ งคุม้ ค่าและยง่ั ยนื เพ่อื การอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม

รหัสตวั ชี้วดั
ง 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6
ง 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2
ง 4.1 ม.4-6/4, ม. 4-6/5

รวม 10 ตวั ชี้วดั

165

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี รหัสวชิ ำ ง 32101 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 5
ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาคน้ ควา้ ฝึกปฏิบตั ิวิธีการทางานเพ่ือการดารงชีวติ ประจาวนั เช่นหนา้ ท่ีของนกั เรียน โรงเรียนน่าอยู่ การ
ซ่อมแซมเส้ือผา้ การถนอมอาหาร การจดั ระบบในการทางานและระดมคน การประดิษฐใ์ บตอง การดาเนินธุรกิจ
งานเกษตร ช่างประปา โดยมีความคิดสร้างสรรค์ ความคิดริเริ่ม ความยดื หยนุ่ ในการคิดโดยมีทกั ษะในการทางาน
ใหเ้ สร็จตามเป้าหมายอยา่ งมีประสิทธิภาพ และรู้วิธีการแกป้ ัญหาในการทางานโดยสงั เกต วิเคราะห์ สร้าง
ทางเลือก และประเมินทางเลือกและทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นอยา่ งมีความสุข

ใชก้ ระบวนการทางานการคน้ ควา้ รวบรวม สงั เกต สารวจ และการบนั ทึกเห็นคุณคา่ ของการ นาความรู้ไปใช้

ประโยชน์ในชีวติ ประจาวนั มีคุณธรรมและลกั ษณะนิสัยในการทางานและฝึกใหผ้ เู้ รียนมี คุณภาพขยนั อดทน
รับผดิ ชอบและซ่ือสตั ยใ์ ชท้ รัพยากรอยา่ งคุม้ คา่ และยงั ยนื มีคุณธรรมในการทางาน

เพ่ือสร้างคนสร้างงานอยา่ งมีความรับผดิ ชอบ ขยนั หมน่ั เพยี ร เพอื่ เฟ้ื อเผอื่ แผ่ ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์
ทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ นาความรู้และทกั ษะจากการปฏิบตั ิไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั

รหัสตัวชี้วดั
ง1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7

รวม 7 ตัวชี้วดั

166

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี รหัสวชิ ำ ง 32102 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 5
ภำคเรียนที่ 2
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาคน้ ควา้ ฝึกปฏิบตั ิเก่ียวกบั แนวทางเขา้ สู่อาชีพในการทางาน ประกอบดว้ ยการเตรียมตวั หางาน และ
พฒั นาการออกแบบบุคลิกภาพ ลกั ษณะความมนั่ คงและความกา้ วหนา้ การสมคั รงาน การ สมั ภาษณ์ การทางาน
การเปลี่ยนงาน รู้วธิ ีการเลือกและใชท้ างเทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมกบั อาชีพ เช่น วิธีการใชห้ ลกั การใชแ้ ละเหตุผล
ในการใชฝ้ ึกประสบการณ์ในอาชีพ การจดั จาลองอาชีพ การจดั นิทรรศการเก่ียวกบั อาชีพ มีทกั ษะในการทางาน
เป็นกลุ่ม รู้หนา้ ที่บทบาทของตนเองท่ีมีต่อสมาชิกใน โรงเรียนและชุมชน มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมท่ีดีต่อ

อาชีพ
โดยใชก้ ระบวนการในการเรียนศึกษาเกี่ยวกบั อาชีพต่างๆในชุมชน โดยมีคุณลกั ษณะที่ดีต่ออาชีพ มีความ

ซ่ือสตั ย์ มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน และมีจิตสาธารณะ
เพื่อใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ และมีทกั ษะในการวเิ คราะห์ ออกแบบการสร้างพฒั นา และเลือกใชส้ ่ิงของ

เคร่ืองใชต้ ามกระบวนการเทคโนโลยใี นการสร้างสรรคต์ ่อชีวติ สงั คม สิ่งแวดลอ้ ม และมีส่วนร่วมในการจดั การ
เทคโนโลยที ี่ยงั่ ยนื ได้

รหัสตัวชี้วดั
ง2.1 ม.4-6/4, ม.4-6/5
ง4.1 ม.4-6/2

รวม 3 ตัวชี้วดั

167

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี รหัสวชิ ำ ง 33101 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 6
ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ทกั ษะกระบวนการทางาน กระบวนการแกป้ ัญหาในการทางานร่วมกนั ตามกระบวนการ
ข้นั ตอนในการประดิษฐข์ องใชท้ ี่เป็นเอกลกั ษณ์ไทย การประกอบติดต้งั และซ่อมแซมอุปกรณ์เคร่ืองใชภ้ ายในบา้ น
ใชท้ กั ษะแสวงหาความรู้เพือ่ การเล้ียงสตั ว์ จดั การผลผลิตทางการเกษตร โดยใชเ้ ทคโนโลยแี ละภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน
เพื่ออนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม

โดยใชก้ ระบวนการทางาน กระบวนการจดั การ กระบวนการทางานร่วมกนั กระบวนการแกป้ ัญหาในการ

ทางาน กระบวนการเทคโนโลยี การสืบคน้ ขอ้ มูล วิเคราะห์และอภิปราย
เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ สามารถสร้างผลงานอยา่ งสร้างสรรค์ มีทกั ษะการทางานร่วมกนั ทกั ษะการ

จดั การ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาและทกั ษะแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและลกั ษณะนิสยั ในการทางาน ใฝ่
เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ ใชพ้ ลงั งานในการทางานอยา่ งคุม้ ค่าและยงั่ ยนื เพอ่ื การ
อนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม

รหัสตัวชี้วดั
ง 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7

รวม 7 ตวั ชี้วดั

168

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี รหัสวชิ ำ ง 33102 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 6
ภำคเรียนท่ี 2
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์การออกแบบเทคโนโลยี ออกแบบผลิตภณั ฑ์ ตามกระบวนการเทคโนโลยี โดยถ่ายทอด
ความคิดเป็นภาพร่างสองมิติ ใชอ้ ุปกรณ์เครื่องมือท่ีเหมาะสมกบั ลกั ษณะและประเภทของการทางานอยา่ งมีความคิด
สร้างสรรค์ เขา้ ใจกระบวนการทางธุรกิจและแนวทางเขา้ สู่อาชีพ โดยเลือกใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมกบั อาชีพ

โดยใชก้ ระบวนการทางาน กระบวนการจดั การ กระบวนการทางานร่วมกนั กระบวนการแกป้ ัญหาในการ

ทางาน กระบวนการเทคโนโลยี การสืบคน้ ขอ้ มูล วิเคราะห์และอภิปราย
เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ สามารถสร้างผลงานอยา่ งสร้างสรรค์ มีทกั ษะการทางานร่วมกนั ทกั ษะการ

จดั การ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาและทกั ษะแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและลกั ษณะนิสยั ในการทางาน ใฝ่เรียนรู้
ใชพ้ ลงั งานในการทางานอยา่ งคุม้ คา่ และยงั่ ยนื เพอ่ื การอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม

รหัสตวั ชี้วดั
ง 1.1 ม.4-6/3, ม.4-6/4 , ม.4-6/5, ม.4-6/6
ง 2.1 ม.4-6/4, ม.4-6/5

รวม 6 ตัวชี้วดั

169

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ ปฏบิ ัตกิ ำรโครงงำนอำชีพ รหัสวชิ ำ ง30217 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4-6

เวลำ 20 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 1-2

ศึกษาความรู้เรื่องโครงงาน การวิเคราะห์โครงงานเพื่อการตดั สินใจเลือกอาชีพ เขียนโครงการ
ปฏิบตั ิงานอาชีพ การจดั ทาโครงงาน การปฏิบตั ิตามโครงงานท่ีกาหนดการประเมินและปรับปรุงงาน การ
นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั การหารายไดจ้ ากการทาโครงงาน การสรุปรายงานโครงงาน และ
นาเสนอโครงงานดว้ ยสื่อเทคโนโลยี

โดยใชก้ ระบวนการเรียนความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะกระบวนกระบวนการความคิดรวบยอด ลงมือ
ปฏิบตั ิงานอาชีพตามโครงการที่เสนอ บนั ทึกการกปฏิบตั ิงาน ทาบญั ชีรายรับ-รายจ่าย ทกั ษะปฏิบตั ิและ
ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิโครงงานอาชีพ ใหม้ ีคุณธรรมจริยธรรมและ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีความรับผดิ ชอบ ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน ซ่ือสตั ยส์ ุจริต รักความเป็น ไทย
อยอู่ ยา่ งพอเพียง มีเจตคติที่ดีต่องานอาชีพสุจริต

ผลกำรเรียนรู้ทคี่ ำดหวงั
1. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั โครงงานอาชีพ
2. อธิบายความหมายความสาคญั ของโครงงานอาชีพ และบอกส่วนประกอบของโครงงานได้
3. ศึกษา คน้ ควา้ ขอ้ มูล เก่ียวกบั โครงงานท่ีเลือก
4. วางแผนการดาเนินงานอยา่ งเป็นข้นั ตอน
5. สามารถเขียนโครงการเพื่อขออนุมตั ิจดั ทาโครงงานอาชีพได้
6. ปฏิบตั ิโครงงานอาชีพที่ตดั สินใจเลือกได้
7. สามารถเขียนรายงานโครงงานได้
8. สามารถนาเสนอโครงงานอาชีพตามรูปแบบท่ีกาหนดได้
9. มีความใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน มุ่งมนั่ ในการทางาน มีความรับผดิ ชอบ และมีเจตคติที่ดีต่องานอาชีพสุจริต
รักความเป็นไทยอยอู่ ยา่ งพอเพียง
รวม 9 ผลกำรเรียนรู้

170

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ งำนดอกไม้สด รหัสวชิ ำ ง30223 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4-6

เวลำ 20 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 1-2

ศึกษาศิลปะและวฒั นธรรมที่เก่ียวขอ้ งกบั งานดอกไม้ การเลือกดอกไมแ้ ละวสั ดุตกแต่ง การจดั ดอกไม้
สดแบบต่างๆ การใชแ้ ละบารุงรักษาอุปกรณ์ การบรรจุสาหรับจาหน่าย

ฝึกทกั ษะเกี่ยวกบั งานดอกไมส้ ด เตรียมวสั ดุอุปกรณ์ในการจดั ดอกไม้ จดั ดอกไมส้ ดแบบต่างๆ เช่นแจกนั
พานดอกไม้ ช่อดอกไม้ พวงหรีด พวงมาลา คานวณคา่ ใชจ้ ่าย กาหนดราคาหรือคา่ บริการ จดั จาหน่าย จดบนั ทึก
การปฏิบตั ิงาน ทาบญั ชีรายรับ-รายจ่าย และประเมินผล

เพอื่ ใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ และมีทกั ษะการจดั ดอกไมส้ ด พฒั นางาน วธิ ีการทางาน ปรับปรุง
ประเมินผล ทางานไดอ้ ยา่ งมีระบบ มีความขยนั ซ่ือสตั ย์ อดทน พ่งึ ตนเองได้ ประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวิตประ
จาวนั เพอื่ การประกอบอาชีพ และศึกษาต่อในข้นั สูงต่อไป

ผลกำรเรียนรู้
1. มีความรู้ประวตั ิ ที่มาของศิลปวฒั นธรรม ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การจดั ดอกไมส้ ดและนาไปใช้ ประโยชน์
ไดใ้ นชีวติ ประจาวนั
2. มีความรู้ เขา้ ใจ หลกั การวิธีการ เลือกดอกไม้ ใบไม้ และวสั ดุตกแต่งในการจดั ดอกไมส้ ด
3. มีความรู้ เขา้ ใจ หลกั การเลือกใชแ้ ละเกบ็ รักษาเครื่องมือเคร่ืองใชว้ สั ดุอุปกรณ์ ในการจดั ดอกไมส้ ด
4. มีความรู้ เขา้ ใจ หลกั การวิธีการ ข้นั ตอน กระบวนการจดั ดอกไมส้ ดแบบต่างๆไดอ้ ยา่ งถูก วิธี
5. มีทกั ษะการจดั ดอกไมส้ ดแบบต่างๆที่กาหนด และประยกุ ตส์ ร้างสรรคแ์ บบตามโอกาสที่ใช้
6. มีความรู้ เขา้ ใจ การคานวณราคาตน้ ทุนและกาหนดราคาขาย ทาบญั ชีรายรับ-รายจ่าย
7. จดบนั ทึกการปฏิบตั ิงาน ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน ปรับปรุง พฒั นางานอยา่ งมี ประสิทธิภาพ
สรุปผลการปฏิบตั ิงาน
8. มีกิจนิสยั ที่ดีในการทางานปฏิบตั ิงาน ดว้ ยความรับผดิ ชอบ ซื่อสตั ย์ อดทน เป็นระเบียบ ประณีต
สะอาด รอบคอบและปลอดภยั
รวม 8 ผลกำรเรียนรู้

171

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ ประดบั ตกแต่งด้วยผ้ำ รหัสวชิ ำ ง 30230 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4-6

เวลำ 20 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 1-2

ศึกษาประวตั ิความเป็นมา ความหมาย ความสาคญั ประโยชน์ เกี่ยวกบั งานผกู ผา้ และตกแตง่ โตะ๊ VIP
ในงานพธิ ีการต่างๆ ตามโอกาสตามประเพณีและวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน ตลอดจนการใชว้ สั ดุอุปกรณ์ เคร่ืองมือ
เครื่องใช้ การดูแลรักษา การออกแบบ การเลือกและการคานวณผา้ ท้งั เทคนิค วธิ ีการและ ลาดบั ข้นั ตอนการผกู ผา้
และประดบั ตกแต่งโตะ๊ VIP ใหเ้ หมาะสมและสวยงาม

ฝึกทกั ษะเกี่ยวกบั การผกู ผา้ ประดบั ตกแต่งบริเวณและสถานที่ ในพธิ ีการ โอกาส ประเพณีและ
วฒั นธรรมในทอ้ งถิ่น ตลอดการจดั ตกแต่งโตะ๊ VIP ดว้ ยผา้ แบบต่างๆ มีการคานวณคา่ ใชจ้ ่าย กาหนด ราคา
ค่าบริการ จดบนั ทึกการปฏิบตั ิงาน ทาบญั ชีรายรับ-รายจ่าย และประเมินผล

เพื่อใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทกั ษะ เห็นคุณคา่ มีเจตคติที่ดีต่องาน อาชีพสุจริต มีความ รับผดิ ชอบตรง
เวลา ซ่ือสตั ย์ ประหยดั อดออม มุ่งมน่ั ทางานอยา่ งมีความสุข ประณีต รอบคอบ ปลอดภยั สะอาด มีประสบการณ์
เป็นการส่งเสริมอาชีพและรายได้ ตลอดจนสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวติ ประจาวนั และประกอบอาชีพไดด้ ว้ ย
ความภาคภูมิใจ เพ่ือสนองนโยบายตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพยี ง

ผลกำรเรียนรู้
1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ แนวทางการจดั การเรียนการสอนรายวชิ างานประดบั ตกแตง่ ดว้ ยผา้
2. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการประยกุ ตใ์ ชผ้ า้ แทนวสั ดุธรรมชาติได้ และสามารถนาหลกั
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
3. บอกความหมาย ความสาคญั และประโยชนข์ องผา้ ท่ีใชก้ บั งานพิธีการต่างๆได้ และสามารถ
นาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
4. มีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทกั ษะสามารถเลือกใชว้ สั ดุอุปกรณ์และเคร่ืองมือเครื่องใช้ ในงาน
ประดบั ตกแต่งดว้ ยผา้ รวมถึงการเกบ็ และการบารุงรักษา ตลอดจนการแกป้ ัญหาไดถ้ ูกตอ้ ง
เหมาะสมและสามารถนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
5. มีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทกั ษะและฝึกปฏิบตั ิการผกู ผา้ และการจดั โตะ๊ VIP แบบต่างๆ และ
สามารถนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั

172

6. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และตระหนกั เก่ียวกบั ตน้ ทุน และการกาหนดราคา
7. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และตระหนกั เกี่ยวกบั การทาบญั ชีรายรับ-รายจ่าย
8. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนกั และสามารถบริการรับเหมางานประดบั ตกแต่งดว้ ยผา้ ในงาน พธิ ีการต่างๆ
9. ตอ้ งผา่ นเกณฑก์ ารวดั ผล ประเมินผล ตอ้ งไดค้ ะแนนไม่ต่ากวา่ 50% ถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารวดั ประเมินผล
10. มีกิจนิสยั ท่ีดีในการทางาน ปฏิบตั ิงานดว้ ยความรับผดิ ชอบ ซ่ือสตั ย์ ประหยดั อดออม มุ่งมนั่ ทางานอยา่ งมี

ความสุข ประณีต รอบคอบ ปลอดภยั สะอาด และประกอบอาชีพได้
รวม 10 ผลกำรเรียนรู้

173

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ กำรสร้ำงสรรค์งำนประดิษฐ์จำกวสั ดุท้องถิ่น รหัสวชิ ำ ง30234 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 4-6

เวลำ 20 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 1-2

ศึกษาชนิดและลกั ษณะของผลิตภณั ฑท์ ี่ใชว้ สั ดุทอ้ งถิ่น การใชเ้ คร่ืองมือวสั ดุอุปกรณ์ในการทางาน
สามารถทางานดว้ ยความปลอดภยั การออกแบบและสร้างผลิตภณั ฑจ์ ากวสั ดุในทอ้ งถ่ิน การเลือกใชว้ สั ดุ
อยา่ งเหมาะสม การตกแต่งชิ้นงานท่ีสาเร็จ การคิดคานวณราคาค่าใชจ้ ่าย ก าหนดราคาขาย และการจดั
จาหน่ายได้

มีทกั ษะในการทางานอยา่ งเป็นระบบ ทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนบอกชนิดและลกั ษณะของผลิตภณั ฑจ์ าก
วสั ดุทอ้ งถิ่น สามารถใชเ้ ครื่องมือวสั ดุอปุ กรณ์ในการทางาน ออกแบบและสร้างผลิตภณั ฑจ์ ากวสั ดุใน
ทอ้ งถ่ิน สามารถเลือกใชว้ สั ดุอยา่ งเหมาะสม การตกแต่งชิ้นงานที่สาเร็จ สามารถคิดคานวณราคาค่าใชจ้ ่าย
กาหนดราคาขาย และสามารถจดั จาหน่ายได้

เพ่อื ให้ นกั เรียนมีความรับผดิ ชอบ ซื่อสตั ยส์ ุจริต มุ่งมน่ั ในการทางาน ยดึ หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียง ใชท้ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในการทางานอยา่ งคุม้ คา่ ถูกวิธีและตดั สินใจเลือกอาชีพ ท่ี
หลากหลาย

ผลกำรเรียนรู้รำยวชิ ำ
1. บอกชนิดและลกั ษณะของผลิตภณั ฑจ์ ากวสั ดุทอ้ งถ่ิน
2. สามารถกาหนดและออกแบบผลิตภณั ฑจ์ ากวสั ดุทอ้ งถ่ิน
3. สามารถเลือกใชว้ สั ดุไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
4. เลือกใชเ้ คร่ืองมือและอุปกรณ์ในการทางานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
5. สามารถปฏิบตั ิงานสร้างผลิตภณั ฑจ์ ากวสั ดุทอ้ งถิ่นไดต้ ามกระบวนการ
6. ตกแต่งชิ้นงานที่สาเร็จไดอ้ ยา่ งสวยงาม
7. สามารถคิดคานวณราคาค่าใชจ้ ่ายได้
8. รู้จกั ใชท้ รัพยากรในการทางานอยา่ งคุม้ คา่
9. มีความรับผดิ ชอบ ซื่อสตั ยส์ ุจริต มุ่งมน่ั ในการทางาน ยดึ หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
รวม 9 ผลกำรเรียนรู้

174

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ กำรผลติ กล้ำไม้ รหัสวชิ ำ ง30243 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4-6

เวลำ 20 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 1-2

ศึกษาความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของการผลิตกลา้ ไม้ วสั ดุอุปกรณ์ สถานเพาะชา
การผลิตกลา้ ไม้ โดยวิธีการเพาะเมลด็ ปักชา การตอน การต่อกิ่ง การทาบก่ิง และการติดตา ขอ้ ดี ขอ้ เสียของ
การผลิตกลา้ ไม้ ของแต่ละประเภท กระบวนการของการผลิตกลา้ ไม้ การเลือกใชเ้ ทคโนโลยใี ห้ เหมาะสม
กบั วิธีการและชนิดของพืช การอนุบาลกลา้ ไม้

ฝึกปฏิบตั ิใหเ้ กิดทกั ษะในการทางาน มีความรู้ความเขา้ ใจในงานอาชีพ มีความรับผดิ ชอบ
ซ่ือสตั ย์ ประหยดั อดทน มีค่านิยมในการเป็นผผู้ ลิตมากกวา่ ผบู้ ริโภค มีทกั ษะในการจดั การและนาความรู้
ไปใชใ้ น ชีวิตประจาวนั ได้

ผลกำรเรียนรู้
1. บอกความหมาย ความสาคญั และประโยชนข์ องการผลิตกลา้ ไม้
2. เปรียบเทียบขอ้ ดีขอ้ เสียของการผลิตกลา้ ไม้ แบบต่างๆได้
3. บอกหลกั การ วธิ ีการและข้นั ตอนการผลิตพนั ธุ์ไมแ้ บบต่างๆ
4. เลือกใชแ้ ละเกบ็ รักษาเคร่ืองมือและวสั ดุอุปกรณ์ และการผลิตกลา้ ไมไ้ ด้
5. มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรคใ์ นการทางาน
6. ทางานตามความรับผดิ ชอบ ขยนั ซื่อสตั ย์ ประหยดั อดออมและอดทน
7. ใชท้ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในการทางานอยา่ งคุม้ ค่าและถูกวธิ ี
8. สามารถวิเคราะห์วางแผนและปฏิบตั ิงานไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม
9. ทางานในฐานะผนู้ า/ผตู้ าม และสร้างสมั พนั ธภาพท่ีดีในกลุ่ม
10. สืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั การทางานจากแหล่งความรู้ตามวิธีที่หลากหลาย
11. สร้างทางเลือกในการแกป้ ัญหาอยา่ งหลากหลาย และเลือกทางเลือกที่เหมาะสม
12. มีความมุ่งมน่ั ท างานจนสาเร็จ ทางานอยา่ งมีความสุข ประณีต รอบคอบ และปลอดภยั
13. ใชเ้ ทคโนโลยไี ดอ้ ยา่ งเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั วิธีการผลิตกลา้ ไม้
14. มีเจตคติ แนวคิดท่ีดีต่อการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยใี นชีวติ ประจาวนั
รวม 14 ผลกำรเรียนรู้

175

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ กำรขยำยพนั ธ์พืช รหัสวชิ ำ ง30246 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4-6

เวลำ 20 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 1-2

ศึกษาความหมาย ความสาคญั ประโยชน์ ประเภทของการขยายพนั ธุ์พืช ส่ิงก่อสร้างและเคร่ืองมือ
ท่ีจ าเป็นสาหรับการขยายพนั ธุพ์ ืช การขยายพนั ธุ์พชื โดยการใชเ้ พศ การขยายพนั ธุ์พืชโดยไม่ใชเ้ พศ การ
อนุบาลพนั ธุไ์ ม้ และการปลูกพืชในภาชนะ/ปลูกในแปลง

ปฏิบตั ิการขยายพนั ธุพ์ ืชโดยการเพาะเมลด็ การตดั ชา การตอนกิ่ง การติดตา การต่อกิ่ง การ
อนุบาลพนั ธุไ์ ม้ ท่ีไดจ้ ากการขยายพนั ธุ์และปลูกพืชในภาชนะ/ลงดิน นาพนั ธุไ์ มไ้ ปตกแต่งอาคารสถานที่
ดูแลรักษาใหส้ วยงาม

เพื่อใหผ้ เู้ รียน มีความรู้ความเขา้ ใจมีทกั ษะในการปลูกและขยายพนั ธ์พชื ใชพ้ ลงั งานทรัพยากร
อยา่ งคุม้ ค่า ดว้ ยความมีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ ซ่ือสตั ยส์ ุจริต มุ่งมนั่ ในการทางานมีความรับผดิ ชอบ อยอู่ ยา่ ง พอเพยี ง
มีเจตคติต่องานและอาชีพท่ีสุจริต สามารถนาความรู้และภูมิปัญญาในทอ้ งถิ่นมาใชใ้ นการ ขยายพนั ธุ์พืชได้
อยา่ งเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

ผลกำรเรียนรู้
1. สรุป ความหมาย ความสาคญั ประโยชน์ และจาแนกประเภทของการขยายพนั ธุพ์ ชื ได้
2. เลือกใชแ้ ละเกบ็ รักษาเครื่องมือ วสั ดุอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการขยายพนั ธุ์พชื ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม
3. สรุปข้นั ตอนและปฏิบตั ิการขยายพนั ธุพ์ ชื แบบใชเ้ พศ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามข้นั ตอน วธิ ีการต่าง ๆ ได้
ถูกตอ้ งตามข้นั ตอน
4. สรุปข้นั ตอนและปฏิบตั ิการขยายพนั ธุพ์ ืชแบบไม่ใชเ้ พศ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามข้นั ตอนวธิ ีการต่าง ๆ ได้
ถูกตอ้ งตามข้นั ตอน
5. อนุบาลพนั ธุไ์ ม้ และปลูกพชื ในภาชนะ/ลงดินไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามข้นั ตอน
รวม 5 ผลกำรเรียนรู้

176

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี

รำยวชิ ำ พืชสวนเศรษฐกจิ รหัสวชิ ำ ง30248 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4-6

เวลำ 20 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 1-2

ศึกษาความหมาย ความสาคญั และประโยชนข์ องพืชสวนเศรษฐกิจ เช่น ยางพารา ปาลม์ น้ามนั
กาแฟ ฯลฯ การจาแนกและการแบ่งชนิดของพชื สวน ทาเลที่เหมาะสมสาหรับพืชสวน ปัจจยั ที่มีอิทธิพลต่อ
การเจริญเติบโตของพชื สวน ลกั ษณะของเมลด็ พนั ธุท์ ี่ดี การเตรียมดินปลูก การปฏิบตั ิดูแลรักษา การป้องกนั
โรคและกาจดั ศตั รู การเกบ็ เกี่ยว และการปฏิบตั ิหลงั การเกบ็ เก่ียว การถนอมอาหารและการแปรรูป วิเคราะห์
ขอ้ มูลความตอ้ งการของตลาด

เลือกปลูกพืชสวนอยา่ งนอ้ ย 3 ชนิด ปฏิบตั ิงานเตรียมดินปลูก ทาแปลงเพราะเมลด็ ทดสอบ การ
งอกของเมลด็ เพาะเมลด็ หวา่ นเมลด็ ยา้ ยกลา้ ปลูก ดูแลรักษา เกบ็ เกี่ยว แปรรูป และจดั ผลิตผล จาหน่าย
คานวณคา่ ใชจ้ ่าย กาหนดราคาขาย จดั จาหน่าย จดบนั ทึกการปฏิบตั ิงาน ทาบญั ชีรายรับ - รายจ่าย และ
ประเมินผล

เพื่อใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจ มีทกั ษะในการปลูกพืชสวน สามารถแปรรูป จาหน่ายได้ และมีเจตคติ
ท่ี ดีต่อการทางานการปลูกพืชสวน เห็นแนวทางในการปฏิบตั ิงาน การปรับปรุงแกไ้ ขขอ้ บกพร่องและการ
พฒั นางานใหเ้ หมาะสมสอดคลอ้ งกบั บรรทดั ฐานของสงั คม ตระหนกั ในความสาคญั ของการทางานอยา่ งมี
ข้นั ตอน และมีความรับผดิ ชอบ

ผลกำรเรียนรู้
1. อธิบายความหมาย ความสาคญั ของการผลิตพชื
2. บอกปัจจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การปลูกพชื
3. สามารถปฏิบตั ิดูแลบารุงรักษาพืช
4. บอกความปลอดภยั ในการผลิตพชื
5. บอกความสาคญั ของพชื ผกั ทวั่ ไป
6. บอกข้นั ตอนการผลิตพชื ผกั ทว่ั ไปได้
7. สามารถผลิตพชื ผกั ทว่ั ไปบางชนิดได้
8. บอกความหมายและความสาคญั ของวทิ ยาการหลงั การเกบ็ เกี่ยวได้
9. สามารถแปรรูปผลผลิตพชื
รวม 9 ผลกำรเรียนรู้

177

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ
ช้ันมธั ยมศึกษำตอนปลำย

ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน
พทุ ธศักรำช 2551

178

โครงสร้ำงหลกั สูตร กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาองั กฤษ รหสั อ31101 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาองั กฤษ รหสั อ31102 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รหสั อ31201 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ รหสั อ31202 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาองั กฤษฟัง-พดู 1 รหสั อ31203 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาองั กฤษฟัง-พดู 2 รหสั อ31204 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 1 รหสั จ31201 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหสั จ31202 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาจีนเบ้ืองตน้ 1 รหสั จ31203 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาจีนเบ้ืองตน้ 2 รหสั จ31204 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
วชิ าภาษาจีนเพ่อื การสื่อสาร 1
วชิ าภาษาจีนเพอ่ื การสื่อสาร 2

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 5 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาองั กฤษ รหสั อ32101 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาองั กฤษ รหสั อ32102 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
รหสั อ32201 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รำยวชิ ำเพมิ่ เติม รหสั อ32202 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาองั กฤษฟัง-พดู 3 รหสั อ32203 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาองั กฤษฟัง-พดู 4 รหสั อ32204 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 3 รหสั จ32201 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาองั กฤษอา่ น-เขียน 4 รหสั จ32202 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาจีนระดบั กลาง 1 รหสั จ32203 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาจีนระดบั กลาง 2 รหสั จ32204 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
วชิ าภาษาจีนเพือ่ การส่ือสาร 3
วิชาภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร 4

ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 6 179

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั อ33101 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาองั กฤษ รหสั อ33102 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาองั กฤษ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รหสั อ33201 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รำยวชิ ำเพมิ่ เติม รหสั อ33202 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาองั กฤษฟัง-พดู 5 รหสั อ33203 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาองั กฤษฟัง-พดู 6 รหสั อ33204 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 5 รหสั จ33201 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาองั กฤษอา่ น-เขียน 6 รหสั จ33202 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าภาษาจีนระดบั สูง 1 รหสั จ33203 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาภาษาจีนระดบั สูง 2 รหสั จ33204 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์
วชิ าภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร 5
วชิ าภาษาจีนเพอ่ื การส่ือสาร 6

180

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษ รหัสวชิ ำ อ31101 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนท่ี 1
เวลำ 40 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

อ่านออกเสียงขอ้ ความ ขา่ วประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน อธิบายและ

เขียนประโยค ใหส้ มั พนั ธก์ บั สื่อไม่ใช่ความเรียง จบั ใจความสาคญั วิเคราะห์ สรุป แสดงความคิดเห็น และ
ใหเ้ หตุผลประกอบจากการฟังหรืออ่าน สนทนาและเขียนเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ สถานการณ์ และ
สื่อสารอยา่ งต่อเน่ือง ใชค้ าขอร้อง คาแนะนา คาช้ีแจง เขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอ ตอบรับ และปฏิเสธ
ในสถานการณ์ต่าง ๆ พดู และเขียนเพอ่ื ขอ ใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ ประเดน็ ข่าว เหตุการณ์
ท่ีฟัง และอ่าน วเิ คราะห์ อภิปรายวถิ ีชีวิต ความเชื่อ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทยไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

โดยใชก้ ระบวนการเรียนรู้ทางภาษาท่ีหลากหลาย การฝึกปฏิบตั ิตามสถานการณ์ต่าง ๆ กระบวนการ
คิดวิเคราะห์ กระบวนการศึกษาคน้ ควา้ และสืบคน้ ขอ้ มูล

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ เห็นคุณค่าในการเรียนภาษาองั กฤษ สามารถสื่อสาร
ภาษาองั กฤษไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม

รหัสตวั ชี้วดั
ต1.1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4
ต1.2 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/4 ม.4/5
ต1.3 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3
ต2.2 ม.4/2
ต4.1 ม.4/1

รวม 12 ตวั ชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน 181

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4
ภำคเรียนท่ี 2
รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษ รหัสวชิ ำ อ31102

เวลำ 40 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ปฏิบตั ิตามคาแนะนา คาช้ีแจง คาอธิบายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงบทอ่านไดถ้ ูกตอ้ งตาม
หลกั การอ่าน อธิบายและเขียนประโยคและขอ้ ความไดส้ มั พนั ธก์ บั สื่อท่ีไม่ใช่ความเรียนรูปแบบ ต่าง ๆ จบั
ใจความสาคญั วเิ คราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่าน เลือกใชภ้ าษา
น้าเสียง และกริยาท่าทางเหมาะกบั ระดบั ของบุคคล โอกาสและสถานท่ี และวฒั นธรรมของ เจา้ ของภาษา
อธิบายความคิด ความเช่ือ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วม แนะนา และจดั
กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมอยา่ งเหมาะสม อธิบาย เปรียบเทียบความแตกต่าง ระหวา่ งโครงสร้าง ประโยค
ขอ้ ความ สานวน คาพงั เพย สุภาษิต และบทกลอนของภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย คน้ ควา้ สืบคน้ บนั ทึก
สรุป และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ขอ้ มูลจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และ นาเสนอดว้ ยการพดู และการเขียน และ
ใชใ้ นการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ ตลอดจนเผยแพร่ ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มูลข่าวสาร ของโรงเรียน ชุมชน

และทอ้ งถิ่น
โดยใชท้ กั ษะกระบวนการเรียนรู้ทางภาษาที่หลากหลาย การฝึกปฏิบตั ิตามสถานการณ์ต่าง ๆ

กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการศึกษาคน้ ควา้ และสืบคน้ ขอ้ มูล
เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ เห็นคุณคา่ ในการเรียนภาษาองั กฤษ สามารถสื่อสาร

ภาษาองั กฤษไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม

รหัสตัวชี้วดั ต 2.1 ม.4-6/3
ต 1.1 ม.4-6/1 ต 2.2 ม.4-6/1
ต 1.1 ม.4-6/4 ต 3.1 ม.4-6/1
ต 1.2 ม.4-6/3 ต 4.2 ม.4-6/1
ต 2.1 ม.4-6/1 ต 4.2 ม.4-6/2
ต 2.1 ม.4-6/2

รวม 10 ตัวชี้วดั

182

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษฟัง - พูด 1 รหัสวชิ ำ อ31201 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4
ภำคเรียนที่ 1
เวลำ 40 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ฝึกพดู บทสนทนาและเขียนไดต้ อบขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์
สถานการณ์ ขา่ ว เหตุการณ์ ประเดน็ ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม เลือกใชค้ าขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาช้ีแจง
แสดงความตอ้ งการเสนอ และใหค้ วามช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธการใหค้ วามช่วยเหลือในสถานการณ์
ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการแกป้ ัญหา
เพ่อื ใหส้ ามารถสื่อสารดา้ นการพดู ได้ ตามสถานการณ์ต่าง ๆ เห็นคุณค่าของการเรียนทางภาษา
ตลอดจนมีค่านิยม จริยธรรม และคา่ นิยมที่พงึ ประสงค์

ผลกำรเรียนรู้
1. ใชภ้ าษาในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล การทกั ทาย กล่าวลา ขอบคุณ ชมเชย การพดู สอดแทรก
การชกั ชวน การแลกเปลี่ยนขอ้ มูล
2. ใชภ้ าษาในการขอร้อง คาแนะนา คาช้ีแจง คาอธิบาย ที่มีข้นั ตอน
3. พดู แสดงความตอ้ งการเสนอ และใหค้ วามช่วยเหลือ ในสถานการณ์ต่าง ๆ
4. คาศพั ท์ สานวนภาษาประโยค และขอ้ ความท่ีใชใ้ นการขอ และใหข้ อ้ มูล บรรยาย หรืออธิบาย
เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ขอ้ มูลต่าง ๆ
5. พดู แสดงความรู้สึก ความคิดเห็น และใหเ้ หตุผลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ

รวม 5 ผลกำรเรียนรู้

183

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษฟัง - พูด 2 รหัสวชิ ำ อ31202 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4

เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 2

ฝึกพดู บทสนทนา และเขียนโตต้ อบขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์
สถานการณ์ ข่าว เหตุการณ์ ประเดน็ ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม เลือกใชค้ าขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาช้ีแจง
แสดงความตอ้ งการเสนอ และใหค้ วามช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธการใหค้ วามช่วยเหลือในสถานการณ์
ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม ใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องต่าง ๆ

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการกลุ่ม
เพ่ือใหส้ ามารถส่ือสารดา้ นการพดู ไดต้ ามสถานการณ์ต่าง ๆ เห็นคุณค่าของการเรียนทางภาษา
ตลอดจนค่านิยม จริยธรรม ที่พึงประสงค์

ผลกำรเรียนรู้
1. สนทนาและเขียนสื่อสารระหวา่ งบุคคล การทกั ทาย กล่าวลา ขอบคุณ ชมเชย การพดู สอดแทรก
การชกั ชวน การแลกเปล่ียนขอ้ มูล
2. พดู เพื่อขอร้อง คาแนะนา คาช้ีแจง คาอธิบาย ท่ีมีข้นั ตอน
3. พดู ส่ือสารแสดงความตอ้ งการเสนอและใหค้ วามช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ
4. พดู และเขยี นค าศพั ท์ สานวนภาษา ประโยค และขอ้ ความที่ใชใ้ นการขอ และใหข้ อ้ มูล บรรยาย
หรืออธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประเดน็ ขา่ ว หรือเหตุการณ์ที่ฟัง และอ่าน
5. พดู แสดงความรู้สึก ความคิดเห็น และใหเ้ หตุผลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ

รวม 5 ผลกำรเรียนรู้

184

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษอ่ำน - เขยี น 1 รหัสวชิ ำ อ31203 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนที่ 1
เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาบทอ่าน บทสนทนาตามหลกั การอ่านจบั ใจความสาคญั สรุปความแสดงความคิดเห็น พร้อม
ท้งั ใหเ้ หตุผลในการนาเสนอขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว เหตุการณ์ ท่ีอยใู่ นความสนใจของ สังคม
โดยใชภ้ าษา น้าเสียง กริยาท่าทาง เหมาะกบั ระดบั ของบุคคล โอกาสและสถานท่ี ตามมารยาททาง สงั คมและ
เจา้ ของภาษา ในสถานการณ์จริง สถานการณ์จาลองที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
วเิ คราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งวถิ ีชีวิต ความเชื่อและวฒั นธรรม ประเพณีของ
เจา้ ของภาษา สืบคน้ บนั ทึก สรุปขอ้ มูลความรู้ต่างๆ จากส่ือแหล่งเรียนรู้ พร้อมเผยแพร่ ประชาสมั พนั ธ์ข่าวสาร
ของโรงเรียน ชุมชน เขา้ ร่วม แนะนา และจดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมอยา่ ง เหมาะสม

โดยใชท้ กั ษะการสื่อสารภาษา การคิด การแกป้ ัญหา การนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั รู้จกั ใชส้ ื่อ
เทคโนโลยใี นการสืบคน้ ขอ้ มูล ความรู้อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม

เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนรู้คุณคา่ ของภาษาองั กฤษ มีความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสตั ยส์ ุจริต มีวินยั ใฝ่ เรียนรู้
อยอู่ ยา่ งเพยี งพอ มุ่งมนั่ ในการทางาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ

ผลกำรเรียนรู้
1. อ่านออกเสียงบทอ่าน บทสนทนา ขอ้ ความ ตามหลกั การอ่านและสรุปใจความสาคญั ได้
2. สนทนาโตต้ อบโดยใชภ้ าษาแลกเปล่ียนขอ้ มูลกบั บุคคลต่างๆ
3. พดู บรรยายเร่ืองต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
4. ใชภ้ าษาส่ือสารตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาและระดบั บุคคล กาลเทศะ
5. คน้ ควา้ ขอ้ มูล ขา่ วสาร ความรู้ต่างๆ จากสื่อ แหล่งเรียนรู้ อินเทอร์เน็ตและนาเสนอ แสดง ความคิดเห็นที่
เกี่ยวขอ้ งกบั สาระการเรียนรู้อ่ืน
6. สื่อสารภาษาโดยใชโ้ ครงสร้างทางภาษาตามที่กาหนดและเหมาะสมกบั ระดบั ช้นั
7. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและเผยแพร่ขอ้ มูล ขา่ วสารของโรงเรียน
8. อธิบาย นาเสนอขอ้ มูลเก่ียวกบั เทศกาล วนั สาคญั ความเช่ือ ชีวิตความเป็นอยู่ และวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา

รวม 8 ตัวชี้วดั

185

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษอ่ำน - เขยี น 2 รหัสวชิ ำ อ31204 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนท่ี 2
เวลำ 40 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ถ่ายโอนคา กลุ่มคา และประโยคที่ฟังหรืออ่านเป็นภาพสญั ลกั ษณ์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม พดู บอก
ใจความสาคญั จากบทความ บทสนทนา หรือนิทานที่มีภาพประกอบได้ พดู บอกความรู้สึกของตนเอง เก่ียวกบั
เรื่องใกลต้ วั หรือกิจกรรมต่างๆ ตามท่ีอ่านหรือฟังได้ นาเสนอบทเพลงหรือบทกวีจากส่ือประเภท ต่างๆ ไดพ้ ดู
อภิปรายวถิ ีชีวติ ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียมประเพณีของเจา้ ของภาษา ได้ เขียนหรือพดู
สรุปและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ขอ้ มูลกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น

โดยใชก้ ระบวนการส่ือทางภาษา และฝึกปฏิบตั ิการอ่านออกเสียง การอ่านจบั ใจความ การบนั ทึก สรุป
การแสดงบทบาทสมมุติ การศึกษาคน้ ควา้ การสนทนาการใชพ้ จนานุกรม การเขา้ ร่วมกิจกรรม การนาเสนอ
การแสดงความคิดเห็น มีความใฝ่ เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทางาน

เพ่ือใหม้ ีความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสตั ยส์ ุจริต มีวินยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งเพยี งพอ มุ่งมนั่ ในการ
ทางาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ

ผลกำรเรียนรู้
1. ถ่ายโอนคา กลุ่มคาและประโยคที่ฟังหรืออ่านเป็นภาพหรือสญั ลกั ษณ์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
2. พดู บอกใจความสาคญั ในบทความ บทสนทนา หรือนิทานง่ายๆ ที่มีภาพประกอบได้
3. พดู บอกความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั ส่ิงใกลต้ วั หรือกิจกรรมต่างๆ ตามที่อ่านหรือฟังได้
4. นาเสนอความคิดรวบยอดเก่ียวกบั ขอ้ มูลที่ฟังหรืออ่านได้
5. นาเสนอบทเพลงหรือบทกวีจากส่ือประเภทต่างๆ ได้
6. อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และท่ีมาของขนบธรรมเนียมประเพณีของเจา้ ของภาษาได้
7. พดู หรือเขียนสรุปและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ขอ้ มูลท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น

รวม 7 ตัวชี้วดั

186

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำจนี เบื้องต้น 1 รหัสวชิ ำ จ31201 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนที่ 1
เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาทกั ษะการปฏิบตั ิตามคาสงั่ ง่ายๆ ระบุสทั อกั ษรตามระบบพนิ อิน อ่านออกเสียงและประสม เสียง
คาง่ายๆ ตามหลกั การออกเสียง ระบุภาพหรือสญั ลกั ษณ์ ตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และ ประโยคจาก
การฟังหรือการอ่าน พดู โตต้ อบดว้ ยประโยคส้นั ๆ เพื่อส่ือสารระหวา่ งบุคคล เขียนอกั ษรจีนตาม หลกั การเขียน
คาศพั ทง์ ่ายๆ บอกความเหมือนหรือความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาจีนกบั ภาษาไทย

โดยเลือกใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พดู อ่าน เขียน ทกั ษะการจ า คิด วเิ คราะห์และเขียน สื่อความ
กระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถใน
การคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

เพือ่ ใหน้ กั เรียนเป็นผมู้ ีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริยซ์ ื่อสตั ยส์ ุจริต มีวินยั ใฝ่ เรียน
รู้อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ อนุรักษพ์ ลงั งานและ ส่ิงแวดลอ้ ม
สืบสานศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

ผลกำรเรียนรู้
1. ปฏิบตั ิตามคาสงั่ ง่ายๆ
2. ระบุสทั อกั ษรตามระบบพนิ อินอ่านออกเสียง และประสมเสียงคาง่ายๆ ตามหลกั การออกเสียง
3. ระบุภาพหรือสญั ลกั ษณ์ ตรงตามความหมายของคา กลุ่มคาและประโยคจากการฟังหรือการอ่าน
4. พดู โตต้ อบดว้ ยประโยคส้นั ๆ เพือ่ ส่ือสารระหวา่ งบุคคล
5. เขียนอกั ษรจีนตามหลกั การเขียนคาศพั ทง์ ่ายๆ
6. บอกความเหมือนหรือความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยคและขอ้ ความของ ภาษาจีน
กบั ภาษาไทย

รวมท้งั หมด 6 ผลกำรเรียนรู้

187

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำจนี เบื้องต้น 2 รหัสวชิ ำ จ31202 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 4
ภำคเรียนที่ 2
เวลำ 40 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาทกั ษะการปฏิบตั ิตามคาสง่ั ง่ายๆ ระบุสทั อกั ษรตามระบบพินอิน อ่านออกเสียงและ ประสม
เสียงคาง่ายๆ ตามหลกั การออกเสียง ระบุภาพหรือสญั ลกั ษณ์ ตรงตามความหมายของคา กลุ่มคาและประโยค
จากการฟังหรือการอ่าน ตอบคาถามง่ายๆ จากการฟัง พดู โตต้ อบดว้ ยประโยคส้นั ๆ เพ่อื สื่อสารระหวา่ งบุคคล
พดู เพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครัวและส่ิงใกลต้ วั เขียนอกั ษรจีนตามหลกั การเขียน
คาศพั ทง์ ่ายๆ บอกความเหมือนหรือความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยคและขอ้ ความของ
ภาษาจีนกบั ภาษาไทย

โดยเลือกใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พดู อ่าน เขียน ทกั ษะการจา คิด วเิ คราะห์และเขียน ส่ือความ
กระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถใน
การคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

เพือ่ ใหน้ กั เรียนเป็นผมู้ ีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสัตยส์ ุจริต มีวินยั ใฝ่
เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุ่งมน่ั ในการทางาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ อนุรักษพ์ ลงั งานและ
สิ่งแวดลอ้ ม สืบสานศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ผลกำรเรียนรู้
1. ปฏิบตั ิตามคาสง่ั ง่ายๆ
2. ระบุสทั อกั ษรตามระบบพนิ อินอ่านออกเสียง และประสมเสียงคาง่ายๆ ตามหลกั การออกเสียง
3. ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์ ตรงตามความหมายของคา กลุ่มคาและประโยคจากการฟังหรือการอ่าน
4. ตอบคาถามง่ายๆ จากการฟัง
5. พดู โตต้ อบดว้ ยประโยคส้นั ๆ เพอ่ื สื่อสารระหวา่ งบุคคล
6. พดู เพื่อขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครัวและส่ิงใกลต้ วั
7. เขียนอกั ษรจีนตามหลกั การเขียน คาศพั ทง์ ่ายๆ
8. บอกความเหมือน หรือความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาจีนกบั ภาษาไทย

รวมท้งั หมด 8 ผลกำรเรียนรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน 188

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 4
ภำคเรียนท่ี 1
รำยวชิ ำ ภำษำจนี เพื่อกำรส่ือสำร 1 รหัสวชิ ำ จ31203

เวลำ 20 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ปฏิบตั ิตามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนาง่ายๆจากเร่ืองที่ อ่านหรือฟัง อ่านออกเสียงประโยค
ขอ้ ความบทกลอนนิทานภาษาจีน ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน เลือกขอ้ ความสมั พนั ธก์ บั ความหมายและส่ือ จาก
เร่ืองที่ฟังหรืออ่าน สรุปใจความสาคญั ตอบคาถามจากเร่ืองท่ีฟังเรืออ่าน พดู โตต้ อบสนทนาสื่อสาร
แลกเปลี่ยนขอ้ มูล แสดงความรู้สึกใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองเพอื่ น ครอบครัว เรื่องใกลต้ วั ใชถ้ อ้ ยคาภาษา
น้าเสียง กริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามแบบวฒั นธรรมเจา้ ชาวจีนบอกความเหมือนความแตกตา่ งระหวา่ ง
ภาษาไทยกบั ภาษาจีน วถิ ีชีวติ วฒั นธรรม คน้ ควา้ สืบคน้ รวบรวมขอ้ มูลในการศึกษาต่อแหล่งการเรียนรู้นอก
หอ้ งเรียนใชภ้ าษาในการสื่อสารในสถานการณ์จริงหรือจาลอง

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา กระบวนการฟัง พดู อ่าน เขียน กระบวนการฝึกปฏิบตั ิจริง
กระบวนการกลุ่มกระบวนการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง อภิปราย

เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจไปใชใ้ นการสื่อสาร กบั บุคคลอ่ืนตามแบบวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา นาศพั ทแ์ ละบทสนทนาที่ไดม้ าประยกุ ตใ์ ชป้ ระโยชน์ใน ชีวติ ประจาวนั เห็นคุณคา่ วิชาภาษาจีน มี
คุณธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมท่ีเหมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
ผลการเรียนรู้ท่ี 1 ปฏิบตั ิตามคาสง่ั ง่ายๆ
ผลการเรียนรู้ที่ 2 อ่านออกเสียง และประสมเสียงคาง่ายๆ ตามหลกั การออกเสียง
ผลการเรียนรู้ท่ี 3 พดู หรือเขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล
ผลการเรียนรู้ท่ี 4 พดู หรือเขียนแสดงความตอ้ งการตอบรับและปฏิเสธในสถานการณ์ต่างๆ

รวมท้งั หมด 4 ผลกำรเรียนรู้

189

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำจนี เพื่อกำรสื่อสำร 2 รหัสวชิ ำ จ31204 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนท่ี 2
เวลำ 20 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ปฏิบตั ิตามคาสง่ั คาขอร้อง และคาแนะนาง่ายๆจากเร่ืองที่ อ่านหรือฟัง อ่านออกเสียงประโยค
ขอ้ ความบทกลอนนิทานภาษาจีน ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน เลือกขอ้ ความสมั พนั ธก์ บั ความหมายและส่ือ จาก
เร่ืองท่ีฟังหรืออ่าน สรุปใจความสาคญั ตอบคาถามจากเรื่องท่ีฟังเรืออ่าน พดู โตต้ อบสนทนาสื่อสาร
แลกเปลี่ยนขอ้ มูล แสดงความรู้สึก ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองเพอ่ื น ครอบครัว เรื่องใกลต้ วั ใชถ้ อ้ ยคาภาษา
น้าเสียง กริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามแบบวฒั นธรรมเจา้ ชาวจีนบอกความเหมือนความแตกตา่ งระหวา่ ง
ภาษาไทยกบั ภาษาจีน วิถีชีวติ วฒั นธรรม คน้ ควา้ สืบคน้ รวบรวมขอ้ มูลในการศึกษาต่อแหล่งการเรียนรู้นอก
หอ้ งเรียนใชภ้ าษาในการสื่อสารในสถานการณ์จริงหรือจาลอง

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา กระบวนการฟัง พดู อ่าน เขียน กระบวนการฝึกปฏิบตั ิจริง
กระบวนการกลุ่มกระบวนการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง อภิปราย

เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจไปใชใ้ นการสื่อสาร กบั บุคคลอ่ืนตามแบบวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา นาศพั ทแ์ ละบทสนทนาที่ไดม้ าประยกุ ตใ์ ชป้ ระโยชนใ์ น ชีวติ ประจาวนั เห็นคุณค่าวิชาภาษาจีน
มีคุณธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมท่ีเหมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
ผลการเรียนรู้ท่ี 1 ปฏิบตั ิตามคาสงั่ ง่ายๆ
ผลการเรียนรู้ที่ 2 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา
ผลการเรียนรู้ที่ 3 พดู หรือเขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล
ผลการเรียนรู้ท่ี 4 พดู หรือเขียนแสดงความตอ้ งการตอบรับและปฏิเสธในสถานการณ์ต่างๆ

รวมท้งั หมด 4 ผลกำรเรียนรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน 190

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 5
ภำคเรียนท่ี 1
รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษ รหัสวชิ ำ อ32101

เวลำ 40 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ปฏิบตั ิตามคาแนะนา คาช้ีแจง และอ่านออกเสียงบทอ่านไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน เขียน
ประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั ส่ือที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน จบั ใจความสาคญั ตีความ
โตต้ อบขอ้ มูลเก่ียวกบั การดาเนินชีวติ ของตนเอง เร่ืองที่อยใู่ นความสนใจ เรื่องใกลต้ วั ประสบการ์ ณ
สถานการณ์ต่างๆ เลือกและใชค้ าขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาช้ีแจง ตอบรับและปฎิเสธ ขอและใหข้ อ้ มูลใน
สถานการณ์ต่างๆ เหตุการณ์ใกลต้ วั เลือกใชภ้ าษา น้าเสียงและกิริยาท่าทางเหมาะกบั โอกาส และสถานท่ี
ตามมารยาททางสงั คมของเจา้ ของภาษา อธิบายวถิ ีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี ตลอดจนเขา้ ร่วมและจดั
กิจกรรมทางภาษา วฒั นธรรมของเจา้ ของอยา่ งเหมาะสม เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่าง
ระหวา่ งโครงสร้าง สานวนประโยค

โดยใชก้ ระบวนการเรียนการสอนทางภาษาที่หลากหลาย การฝึกปฏิบตั ิตามสถานการณ์ต่างๆ

กระบวนการคิดวเิ คราะห์กระบวนการศึกษาคน้ ควา้ และสืบคน้ ขอ้ มูล
เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ เห็นคุณคา่ ในการเรียนภาษาองั กฤษ สามารถส่ือสาร

ภาษาองั กฤษไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม สามารถใชภ้ าษาองั กฤษในการศึกษา คน้ ควา้ สืบคน้ รวบรวมขอ้ มูล
ต่างๆจากส่ือและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆได้

รหัสตัวชี้วดั ต2.1 ม.5/3 ต4.1 ม.5/1
ต1.1 ม.5/2, ต1.1 ม.5/4, ต2.2 ม.5/2, ต4.2 ม.5/1
ต1.2 ม.5/1, ต1.2 ม.5/3 ต3.1 ม.5/1
ต1.3 ม.5/1 ,ต1.3 ม.5/3

รวมท้งั หมด 11ตัวชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน 191

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 5
ภำคเรียนที่ 2
รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษ รหัสวชิ ำ อ32102

เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ฝึกอ่าน ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครส้นั ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน ปฏิบตั ิตาม
คาอธิบาย และคาบรรยายที่ฟังและอ่าน เลือกและใชค้ าขอร้อง คาช้ีแจง คาอธิบาย และใหค้ าแนะนา อธิบาย
และเขียนประโยคและขอ้ ความสมั พนั ธ์กบั สื่อท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ท่ีอ่านสื่อสารแสดง ความ
ตอ้ งการ เสนอและให้ ตอบรับและปฏิเสธการใหค้ วามช่วยเหลือในสถานการณ์จาลองหรือ สถานการณ์จริง
อยา่ งเหมาะสม อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ เปรียบเทียบความแตกต่างระหวา่ ง โครงสร้างประโยค
ขอ้ ความ สานวน คาพงั เพย สุภาษิต บทกลอน ความเชื่อและวฒั นธรรมของเจา้ ของ ภาษากบั ของไทย

โดยใชก้ ระบวนการ คน้ ควา้ รวบรวม บนั ทึก สรุปใจความสาคญั วเิ คราะห์ความ นาเสนอขอ้ มูล
เร่ือง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ ประสบการณ์และสถานการณ์ต่าง ๆ ตามความสนใจ และแสดงความ คิดเห็น
พร้อมใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบในการฟังและอ่านสารคดี บนั เทิงคดี และเร่ืองที่เกี่ยวขอ้ ง กบั กลุ่ม
สาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ โดยใชภ้ าษา น้าเสียง และ
กิริยาท่าทางในการส่ือสารในสถานการณ์จริงและสถานการณ์จาลองอยา่ งเหมาะสมกบั ระดบั ของบุคคล
เวลา โอกาส และสถานท่ี ถูกตอ้ งตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

เพือ่ ใหเ้ ป็นผทู้ ่ีมีความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสตั ยส์ ุจริต มีวินัย ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
มุ่งมน่ั ในการทางาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ

รหัสตัวชี้วดั
ต 1.1 ม.5/1 , ต 1.1 ม.5/3
ต 1.2 ม.5/2 , ต 1.2 ม.5/4 , ต 1.2 ม.5/5
ต 1.3 ม.5/2
ต 2.1 ม.5/1 , ต 2.1 ม.5/2
ต 2.2 ม.5/1
ต 4.2 ม.5/2

รวมท้งั หมด 10 ตัวชี้วดั

192

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษฟัง – พูด 3 รหัสวชิ ำ อ32201 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 5
ภำคเรียนที่ 1
เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาและฝึกทกั ษะฟัง–พดู อยา่ งเขม้ ขน้ และเพยี งพอ ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรู้คา ศพั ทส์ านวน โครงสร้างภาษา
การออกเสียงคา ประโยค การลงเสียงหนกั –เบา เสียงสูง–ต่า การพดู รวบคา การตีความ จากสานวนภาษาและ
น้าเสียงของผพู้ ดู วฒั นธรรม ประเพณีและวถิ ีชีวติ ของชาวต่างชาติรวมท้งั วธิ ีการฝึก ทกั ษะการฟังและพดู โดย
กาหนดเน้ือหาในหวั ขอ้ การเช่าท่ีพกั อาศยั ในเมืองใหญ่ การต่อรองราคาสินคา้ การประกอบอาชีพ ร้านอาหาร
ประเภทต่างๆ และการสงั่ อาหารการใชบ้ ริการท่ีท่าอากาศยานระหวา่ ง ประเทศ ภูมิศาสตร์และสถานท่ีสาคญั
ของโลก การท่องเที่ยวในมหานครนิวยอร์ก ความเครียดและการผอ่ นคลาย

โดยใชภ้ าษาเพอื่ การสื่อสารในชีวติ จริง ฝึกทกั ษะการฟัง จบั ใจความ การถ่ายโอนขอ้ มูลเป็นส่ือที่ ไม่ใช่
ความเรียงรูปแบบต่างๆ การวเิ คราะห์ความ สรุปความและตีความจากสานวนภาษาและน้าเสียงของผู้ พดู การ
พดู แสดงความคิดเห็น การพดู เพอื่ ขอและใหข้ อ้ มูล การพดู ขอร้อง ตอบรับ ปฏิเสธ แสดงความรู้สึก และให้
เหตผุ ล การคน้ ควา้ รวบรวม สรุปและนาเสนอขอ้ มูล การแสดงบทบาทสมมุติตามสถานการณ์ จาลองและ
สถานการณ์จริงท้งั ในและนอกหอ้ งเรียน ท้งั น้ี

เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมีความมนั่ ใจในการใชภ้ าษาองั กฤษในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมตาม กาลเทศะ
บุคคล และมารยาททางสงั คม เห็นคุณค่าและความสาคญั ของภาษาตา่ งประเทศ ในการใชเ้ ป็น เครื่องมือในการ
คน้ ควา้ หาความรู้การทางาน และการพฒั นาบุคลิกภาพ มีเหตผุ ล มีวจิ ารณญาณ มี ประสิทธิภาพ ในการสื่อความ
และมีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์

ผลกำรเรียนรู้
1. จบั ใจความสาคญั วเิ คราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังบท สนทนาและ
คาบรรยายไดถ้ ูกตอ้ ง
2. อธิบาย เขียนขอ้ ความและประโยคใหส้ มั พนั ธ์กบั สื่อท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ท่ีฟังและ อ่าน รวมท้งั
ระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ใหส้ มั พนั ธก์ บั ประโยคและขอ้ ความที่ฟังหรือ อ่านได้
ถูกตอ้ ง
3. ปฏิบตั ิตามคาแนะนาในคูม่ ือการใชง้ านต่างๆ คาช้ีแจง คาอธิบาย และคาบรรยายที่ฟังและอ่าน ไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ ง เหมาะสม

193

4. ระบุและอ่านออกเสียงคาประโยค ขอ้ ความไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การออกเสียงภาษาองั กฤษ
5. พดู เพื่อขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ือง ประเดน็

ข่าว เหตุการณ์ท่ีฟังและอ่านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
6. วเิ คราะห์อภิปรายความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งวถิ ีชีวติ ความเชื่อ และวฒั นธรรม ของเจา้ ของ

ภาษากบั ของไทยและนาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล
7. คน้ ควา้ สืบคน้ บนั ทึกสรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ขอ้ มูลที่เก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการ เรียนรู้อ่ืน

จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ และนาเสนอดว้ ยการพดู และการเขียนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
8. เลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางไดเ้ หมาะสมกบั ระดบั ของบุคคล โอกาส และสถานที่ ตาม

มารยาททางสงั คมและ วฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา
รวมท้งั หมด 8 ผลกำรเรียนรู้

194

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษฟัง – พูด 4 รหัสวชิ ำ อ32202 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 5
ภำคเรียนท่ี 2
เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาและฝึกทกั ษะฟัง–พดู อยา่ งเขม้ ขน้ และเพยี งพอ ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรู้ค า ศพั ทส์ านวน โครงสร้าง
ภาษา การออกเสียงคาประโยค การลงเสียงหนกั –เบา เสียงสูง–ต่าการพูดรวบค า การตีความ จากสานวนภาษา
และน้า เสียงของผพู้ ดู วฒั นธรรม ประเพณีและวิถีชีวติ ของชาวต่างชาติรวมท้งั วธิ ีการฝึก ทกั ษะการฟังและพดู
โดย กาหนดเน้ือหาในหวั ขอ้ การเช่าท่ีพกั อาศยั ในเมืองใหญ่ การต่อรองราคาสินคา้ การประกอบอาชีพ
ร้านอาหารประเภทต่างๆ และการสงั่ อาหารการใชบ้ ริการที่ท่าอากาศยานระหวา่ ง ประเทศ ภูมิศาสตร์และ
สถานที่สาคญั ของโลก การท่องเท่ียวในมหานครนิวยอร์ก ความเครียดและการผอ่ น คลาย

โดยใชภ้ าษาเพอ่ื การส่ือสารในชีวิตจริง ฝึกทกั ษะการฟัง จบั ใจความ การถ่ายโอนขอ้ มูลเป็นสื่อที่
ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ การวิเคราะห์ความ สรุปความและตีความจากสานวนภาษาและน้าเสียงของผู้ พดู
การพดู แสดงความคิดเห็น การพดู เพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูล การพดู ขอร้อง ตอบรับ ปฏิเสธ แสดงความรู้สึก และให้
เหตผุ ล การคน้ ควา้ รวบรวม สรุปและน าเสนอขอ้ มูล การแสดงบทบาทสมมุติตามสถานการณ์ จาลองและ
สถานการณ์จริงท้งั ในและนอกหอ้ งเรียน ท้งั น้ี

เพ่ือใหผ้ เู้ รียนมีความมน่ั ใจในการใชภ้ าษาองั กฤษในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมตาม
กาลเทศะ บุคคล และมารยาททางสงั คม เห็นคุณคา่ และความสาคญั ของภาษาต่างประเทศ ในการใชเ้ ป็น
เครื่องมือในการคน้ ควา้ หาความรู้การทางาน และการพฒั นาบุคลิกภาพ มีเหตุผล มีวิจารณญาณ มี
ประสิทธิภาพ ในการสื่อความ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

ผลกำรเรียนรู้
1. จบั ใจความสาคญั วเิ คราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังบท สนทนาและ
คาบรรยายไดถ้ ูกตอ้ ง
2. อธิบาย เขียนขอ้ ความและประโยคใหส้ มั พนั ธก์ บั ส่ือท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่ฟังและ อ่าน
รวมท้งั ระบุและเขียนส่ือที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ใหส้ มั พนั ธก์ บั ประโยคและขอ้ ความท่ีฟังหรือ
อ่านไดถ้ ูกตอ้ ง
3. ปฏิบตั ิตามคาแนะนาในคูม่ ือการใชง้ านต่างๆ คาช้ีแจง คาอธิบาย และคาบรรยายท่ีฟังและอ่าน ไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ ง เหมาะสม


Click to View FlipBook Version