The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา D4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by NichananThongtavee2, 2021-05-29 07:33:53

หลักสูตรสถานศึกษา D4

หลักสูตรสถานศึกษา D4

95

9. อธิบายลาดบั ววิ ฒั นาการท่ีสมั พนั ธก์ บั มวลต้งั ตน้ และวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงสมบตั ิบาง
ประการของดาวฤกษใ์ นลาดบั วิวฒั นาการ จากแผนภาพเฮิร์ซปรุง-รัสเซลล์
10. อธิบายกระบวนการเกิดระบบสุริยะการแบ่งเขต บริวารของดวงอาทิตยแ์ ละลกั ษณะของ ดาว
เคราะห์ที่เอ้ือต่อการดารงชีวติ
11. อธิบายการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ ดว้ ยกฎเคพเลอร์ และกฎความโนม้ ถ่วงของ นิว
ตนั พร้อมคานวณคาบการโคจรของ ดาวเคราะห์
12. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิด ลมสุริยะ พายุ สุริยะ และวเิ คราะห์ นาเสนอ
ปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ผลของลมสุริยะ และพายสุ ุริยะท่ีมีต่อโลก รวมท้งั ประเทศไทย
13. สร้างแบบจาลองทรงกลมฟ้า สงั เกต และเชื่อมโยงจุดและเสน้ สาคญั ของแบบจาลองทรงกลม
ฟ้ากบั ทอ้ งฟ้าจริง และอธิบายการระบุพกิ ดั ของดาวในระบบขอบฟ้า และระบบศูนยส์ ูตร
14. สงั เกตหอ้ งฟ้า และอธิบายเสน้ ทางการข้ึนการตกของดวงอาทิตยแ์ ละดาวฤกษ์
15. อธิบายเวลาสุริยคติปรากฎ โดยรวบรวมขอ้ มูล และเปรียบเทียบเวลาขณะที่ดวงอาทิตยผ์ า่ นเม
ริเดียนของผสู้ งั เกตในแตล่ ะวนั
16. อธิบายเวลาสุริยคติปานกลาง และการเปรียบเทียบเวลาของแต่ละเขตเวลาบนโลก
17. อธิบายมุมห่างท่ีสมั พนั ธ์กบั ตาแหน่งในวงโคจร และอธิบายเช่ือมโยงกบั ตาแหน่ง ปรากฎของ
ดาวเคราะห์ที่สงั เกตไดจ้ ากโลก
18. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายการสารวจอวกาศ โดยใช้ กลอ้ งโทรทรรศนใ์ นช่วงความยาวคลื่นต่าง ๆ
ดาวเทียม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ และนาเสนอ แนวคิดการนาความรู้ทางคา้ นเทคโนโลยอี วกาศ มาประ
ยกุ ติใชใ้ นชีวิตประจาวนั หรือในอนาคต
19. สืบคน้ ขอ้ มูล ออกแบบ และนาเสนอกิจกรรม การสงั เกตดาวบนทอ้ งฟ้าดว้ ยตาเปล่าและ/หรือ
กลอ้ งโทรทรรศน์
รวม 19 ผลกำรเรียนรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เติม 96

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 5
ภำคเรียนที่ 1
รำยวชิ ำ วทิ ยำศำสตในชีวติ ประจำวนั รหัสวชิ ำ ว30285

เวลำ 40 ชั่วโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาวเิ คราะห์ การใชท้ กั ษะการสงั เกต ดูตาแหน่งของดวงอาทิตยแ์ ละดวงจนั ทร์บอกเวลาในแต่
ละวนั การใชท้ กั ษะการคิดคานวณในการระบุเวลาพระจนั ทร์ข้ึนจากขอบฟ้าและข้ึนตรงหวั ในแต่ละวนั การ
ใชผ้ ลิตภณั ฑเ์ คมีในครัวเรือน การใชอ้ ุปกรณ์เครื่องใชไ้ ฟฟ้าในครัวเรือน การใชอ้ ุปกรณ์เครื่องมือที่เป็น
เคร่ืองกลทุ่นแรงพ้ืนฐานในบา้ นเรือนโดยใชว้ ธิ ีกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจ
ตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล และการอภิปราย และการนาเสนอขอ้ มูลเพือ่ ใหม้ ีความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มี
ทกั ษะกระบวนการ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณค่าทางวิทยาศาสตร์
และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
1. นกั เรียนสามารถอธิบายหลกั การวิธีการและคิดคานวณเวลาจากตาแหน่งของดวงอาทิตยแ์ ละ
ดวงจนั ทร์ได้
2. นกั เรียนสามารถสืบเสาะหาความรู้และนาเสนอวิธีการใชผ้ ลิตภณั ฑเ์ คมีในครัวเรือนไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ ง
3. นกั เรียนสามารถสืบเสาะหาความรู้และนาเสนอวธิ ีการใชอ้ ปุ กรณ์เครื่องใชไ้ ฟฟ้าในครัวเรือนได้
อยา่ งถูกตอ้ ง
4. นกั เรียนสามารถสืบเสาะหาความรู้และนาเสนอวธิ ีการใชอ้ ุปกรณ์เครื่องมือท่ีเป็นเคร่ืองกลทุ่น
แรงพ้ืนฐานในบา้ นเรือนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

รวม 4 ผลกำรเรียนรู้

รำยวชิ ำ วทิ ยำศำสตร์รอบตัว คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ 97
เวลำ 40 ชั่วโมง / ภำคเรียน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 5
รหัสวชิ ำ ว30286 ภำคเรียนที่ 2
จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาวิเคราะห์ ศึกษาปรากฏการณ์ ต่างๆทางธรรมชาติ ความรุนแรงและผลจากแผน่ ดินไหว การ
เกิดและผลจากสึนามิ การเฝ้าระวงั และการปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั จากภยั ธรรมชาติ พลงั งานจากดวงอาทิตย์
การหมุนเวียนของอากาศ ทิศทางการเคล่ือนท่ีของอากาศ การหมุนเวยี นของน้า ผวิ หนา้ ในมหาสมุทร การ
เปล่ียนแปลงภูมิอากาศของโลก ลมฟ้าอากาศโดยใชว้ ธิ ีกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้
การสารวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล และการอภิปราย และการนาเสนอขอ้ มูลเพ่ือใหม้ ีความรู้ ความคิด
ความเขา้ ใจ มีทกั ษะกระบวนการ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณคา่ ทาง
วิทยาศาสตร์ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ
ค่านิยมท่ีเหมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
1. มีความรู้ความเขา้ ใจสาเหตุของการเกิดปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ
2. บอกวธิ ีการเฝ้าระวงั และการปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั จากภยั ธรรมชาติ
3. มีความรู้ความเขา้ ใจความหมายและความสาคญั ของพลงั งานจากดวงอาทิตย์ การหมุนเวียน ของอากาศ
4. อธิบายทิศทางการเคล่ือนท่ีของอากาศ การหมุนเวยี นของน้าได้
5. อธิบายการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศของโลก ลมฟ้าอากาศได้

รวม 5 ผลกำรเรียนรู้

รำยวชิ ำ วทิ ยำกำรคำนวณ 2 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ 98
เวลำ 40 ชั่วโมง / ภำคเรียน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 5
รหัสวชิ ำ ว32217 ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาการการทาโครงงาน เป็นการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้และทกั ษะจากศาสตร์ต่าง ๆ รวมท้งั
ทรัพยากรในการสร้างหรือพฒั นาชิ้นงานหรือวธิ ีการ เพ่ือแกป้ ัญหาหรืออานวยความสะดวกในการทางาน
การทาโครงงานการออกแบบและเทคโนโลยี รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ปัญหา ออกแบบ
แนวทางการแกป้ ัญหา วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา ทดสอบ ประเมินผลปรับปรุงแกไ้ ขวธิ ีการ
แกป้ ัญหาหรือชิ้นงาน และนาเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหา ตลอดจนใชใ้ นการพฒั นาโครงงานท่ีมีการบูรณาการ
กบั วิชาอ่ืนอยา่ งสร้างสรรคแ์ ละเชื่อมโยงกบั ชีวติ จริงโดยอาศยั กระบวนการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน
(Problem-based Learning) และการเรียนรู้แบบใชโ้ ครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning) เพอ่ื เนน้ ให้
ผเู้ รียนไดล้ งมือปฏิบตั ิ ฝึกทกั ษะการคิดเผชิญสถานการณ์การแกป้ ัญหาวางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการ
เรียนรู้ และนาเสนอผา่ นการทากิจกรรมโครงงาน เพอื่ ใหเ้ กิดทกั ษะความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะในการ
วเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา จนสามารถนาเอาแนวคิดเชิงคานวณมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการสร้างโครงงานได้
เพ่ือใหผ้ เู้ รียนสามารถใชค้ วามรู้ทางดา้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดิจิทลั เทคโนโลยสี ารสนเทศ
และการส่ือสารเพื่อรวบรวมขอ้ มูลในชีวิตจริงจากแหล่งต่าง ๆ และความรู้จากศาสตร์อ่ืน มาประยกุ ตใ์ ช้
สร้างความรู้ใหม่เขา้ ใจการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยที ี่มีผลต่อการดาเนินชีวิต อาชีพ สงั คม วฒั นธรรม
และใชอ้ ยา่ งปลอดภยั มีจริยธรรม ตลอดจนนาความรู้ความเขา้ ใจในวชิ าวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยไี ปใช้
ใหก้ ิดประโยชน์ต่อสงั คม และการดารงชีวติ จนสามารถพฒั นากระบวนการคิดและจินตนาการ
ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจดั การทกั ษะในการสื่อสาร และความสามารถในการตดั สินใจ และ
เป็นผทู้ ่ีมีจิตวทิ ยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมในการใชว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ยา่ ง
สร้างสรรค์

ผลกำรเรียนรู้ทค่ี ำดหวงั
1. รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มูล และใชค้ วามรู้ดา้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดิจิทลั เทคโนโลยี
สารสนเทศในการแกป้ ัญหาหรือเพม่ิ มูลค่า ใหก้ บั บริการหรือผลิตภณั ฑท์ ่ีใช้ ในชีวติ จริง อยา่ งสร้างสรรค์
รวม 1 ผลกำรเรียนรู้

รำยวชิ ำ เทคโนโลยกี ำรออกแบบ 2 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ 99
เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 5
รหัสวชิ ำ ว32218 ภำคเรียนที่ 2
จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาการนาความรู้ดา้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ส่ือดิจิทลั และเทคโนโลยสี ารสนเทศ มาใช้
แกป้ ัญหากบั ชีวิตจริงการเพิม่ มูลค่าใหบ้ ริการหรือผลิตภณั ฑก์ ารเกบ็ ขอ้ มูลและการจดั เตรียมขอ้ มูลใหพ้ ร้อม
กบั การประมวลผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลทางสถิติการประมวลผลขอ้ มูล และเครื่องมือการทาขอ้ มูลใหเ้ ป็น
ภาพ (data visualization)เช่น bar chart, scatter, histogramการเลือกใชแ้ หล่งขอ้ มูลและการแกป้ ัญหา
หรือพฒั นางานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั โดยอาศยั กระบวนการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน
(Problem - based Learning) และการเรียนรู้แบบใชโ้ ครงงานเป็นฐาน (Project - based Learning เนน้ ให้
ผเู้ รียนไดล้ งมือปฏิบตั ิ ฝึกทกั ษะการคิด เผชิญสถานการณ์การแกป้ ัญหาวางแผนการเรียนรู้ และนาเสนอผา่ น
การทากิจกรรมโครงงานเพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ความสัมพนั ธ์ของความรู้วิทยาศาสตร์ที่มีผลต่อ
การพฒั นาเทคโนโลยปี ระเภทต่าง ๆ และการพฒั นาเทคโนโลยที ่ีส่งผลใหม้ ีการคิดคน้ ความรู้ทาง
วทิ ยาศาสตร์ที่กา้ วหนา้ ผลของเทคโนโลยตี ่อชีวิต สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม ตลอดจนนาความรู้ความเขา้ ใจใน
วชิ าวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยไี ปใชห้ เ้ กิดประยชน์ต่อสงั คม และการดารงชีวติ จนสามารถพฒั นา
กระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจดั การทกั ษะในการสื่อสาร
ความสามารถในการตดั สินใจ เป็นผทู้ ่ีมีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรมจริยธรรม คา่ นิยมในการใชว้ ิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยอี ยา่ งสร้างสรรค์

ผลกำรเรียนรู้
1. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้และทกั ษะจากศาสตร์ต่างๆรวมท้งั ทรัพยากรในการทาโครงงานเพื่อแกป้ ัญหา
หรือพฒั นา

รวม 1 ผลกำรเรียนรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เติม 100

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 5
ภำคเรียนที่ 2
รำยวชิ ำ กำรออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวชิ ำ ว32218

เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาการทาโครงงาน การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้และทกั ษะจากศาสตร์ต่างๆ รวมท้งั ทรัพยากรในการ
สร้างหรือพฒั นาชิ้นงานหรือวธิ ีการเพือ่ แกป้ ัญหาหรืออานวยความสะดวกในการทางาน สารวจสถานะการ
ปัญหาท่ีสนใจ รวบรวมขอ้ มูลแนวคิดท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา เพ่ือจดั ทาโครงงานโดยอาศยั กระบวนการเรียนรู้
โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem - based Learning) และการเรียนรู้แบบใชโ้ ครงงานเป็นฐาน (Project -
based Learning) เนน้ ใหผ้ เู้ รียนไดล้ งมือปฏิบตั ิ ฝึกทกั ษะการคิด เผชิญสถานการณ์การแกป้ ัญหาวาง
แผนการเรียนรู้ และนาเสนอผา่ นการทากิจกรรมโครงงานเพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการการ
ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้และทกั ษะจากศาสตร์ต่างๆรวมท้งั ทรัพยากรในการสร้างหรือพฒั นาชิ้นงานหรือวิธีการ
เพ่อื แกป้ ัญหาหรืออานวยความสะดวกในการทางาน สารวจสถานะการปัญหาท่ีสนใจรวบรวมขอ้ มูล
แนวคิดที่เกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา เพ่ือจดั ทาโค รงงานอยา่ งสร้างสรรค์

ผลกำรเรียนรู้ทคี่ ำดหวงั
1. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้และทกั ษะจากศาสตร์ต่างๆรวมท้งั ทรัพยากรในการทาโครงงงานเพ่ือแกป้ ัญหา
หรือพฒั นางาน

รวม 1 ผลกำรเรียนรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน 101

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 6
ภำคเรียนท่ี 2
รำยวชิ ำ วทิ ยำศำสตร์กำยภำพ (ฟิ สิกส์) รหัสวชิ ำ ว33104

เวลำ 80 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 2.0 หน่วยกติ

ศึกษาวิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งระยะทาง การกระจดั เวลา อตั ราเร็ว อตั ราเร่ง การ
เคลื่อนท่ีแนวตรง โพรเจกไทล์ การเคล่ือนท่ีแบบวงกลมและฮาร์มอนิกอยา่ งง่าย การเคล่ือนที่ของวตั ถุใน
สนามโนม้ ถ่วง การเคลื่อนที่ของอนุภาคท่ีมีประจุไฟฟ้ในสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหลก็ การใชป้ ระโยชน์
จากการเคลื่อนท่ีแบบต่าง ๆ แรงยดึ เหน่ียวระหวา่ งอนุภาคในนิวเคลียส คลื่นกล เสียงและสมบตั ิของเสียง
เสียงและการไดย้ นิ สเปกตรัมของคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า ปฏิกิริยานิวเคลียร์ กมั มนั ตรังสี ไอโซโทป และ
การใชป้ ระโยชน์ในทางสร้างสรรคร์ วมถึงผลต่อสิ่งมีชีวติ และส่ิงแวดลอ้ มโดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหา
ความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย และการทดลองเพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสาร
ส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ นาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม
คุณธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม

รหัสตัวชี้วดั
32.2 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 ม.5/5 ม.5/6 ม.5/7 ม.5/8 ม.5/9 ม.5/10
ว2.3 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 ม.5/5 ม.5/6 ม.5/7 ม.5/8 ม.5/9 ม.5/10 ม.5/11
ม.5/12

รวม 22 ตัวชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน 102

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท6ี่
ภำคเรียนท2ี่
รำยวชิ ำ วทิ ยำศำสตร์กำยภำพ (เคม)ี รหัสวชิ ำ ว33105

เวลำ 60 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จำนวน 1.5 หน่วยกติ

ระบุวา่ สารเป็นธาตุหรือสารประกอบ และอยใู่ นรูปอะตอม โมเลกลุ หรือไอออนจากสูตรเคมี
ศึกษาความเหมือนและความแตกตา่ งของแบบจาลองอะตอมของโบร์กบั แบบจาลองอะตอมแบบกลุ่ม
หมอก ระบุจานวนโปรตอน นิวตรอน และอิเลก็ ตรอนของอะตอม และไอออนท่ีเกิดจากอะตอมเดียว
เขียนสญั ลกั ษณ์นิวเคลียร์ของธาตุและระบุการเป็นไอโซโทป ระบุหมู่และคาบของธาตุ และระบุวา่ ธาตุ
เป็นโลหะ อโลหะ ก่ึงโลหะ กลุ่มธาตุเรพรีเซนเททีฟหรือกลุ่มโลหะแทรนชิชนั จากตารางธาตุ ศึกษา
สมบตั ิการนาไฟฟ้า หารใหแ้ ละการรับอิเลก็ ตรอนระหวา่ งธาตุในกลุ่มดลหะกบั อโลหะ ยกตวั อยา่ ง
ประโยชนแ์ ละอนั ตรายท่ีเกิดจากธาตุเรพรีเซนเททีฟและธาตุแทรนซิชนั ระบุวา่ พนั ธะโควาเลนตเ์ ป็น
พนั ธะเดี่ยว พนั ธะคู่ หรือพนั ธะสาม และระบุจานวนคู่อิเลก็ ตรอนระหวา่ งอะตอมคูร่ ่วมพนั ธะ จากสูตร
โครงสร้าง ระบุสภาพข้วั ของสารท่ีโมเลกลุ ประกอบดว้ ย 2 อะตอม ระบุสารท่ีเกิดพนั ธะโฮโดรเจนไดจ้ าก
สูตรโครงสร้าง อธิบายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งจุดเดือดของสาร โคเวเลนตก์ บั แรงดึงดูดระหวา่ งโมเลกลุ
ตามสภาพข้วั หรือการเกิดพนั ธะไฮโดรเจน เขียนสูตรเคมีของไอออนและสารประกอบไอออนิก ระบุวา่
สารเกิดการละลายแบบแตกตวั หรือไม่แตกตวั พร้อมใหเ้ หตุผลและระบุวา่ สารละลายที่ไดเ้ ป็น
สารละลายอิเลก็ โทรไลตห์ รือนอนอิเลก็ โทรไลต์ ระบุสารประกอบอินทรียป์ ระเภทไฮโดรคาร์บอนวา่
อิ่มตวั หรือไม่อ่ิมตวั จากสูตรโครงสร้าง ศึกษาสมบตั ิทางกายภาพระหวา่ งพอลิเมอร์และมอนอเมอร์ของ
พอลิเมอร์ชนิดน้นั ระบุสมบตั ิความเป็นกรด-เบสจากโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ อธิบายสมบตั ิ
การละลายในตวั ทาละลายชนิดต่าง ๆ ของสาร ศึกษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งโครงสร้างกบั สมบตั ิเทอร์มอ
พลาสติกและเทอร์มอเซตของพอลิเมอร์และการนาพอลิเมอร์ไปใชป้ ระโยชน์ ยกตวั อยา่ งผลกระทบของ
การใชผ้ ลิตภณั ฑพ์ อลิเมอร์ที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอ้ มพร้อมแนวทางป้องกนั หรือแกไ้ ข ระบุสูตรเคมี
ของสารต้งั ตน้ ผลิตภณั ฑ์ และแปลความหมายของสญั ลกั ษณ์ในสมการเคมีของปฏิกิริยาเคมี ศึกษาและ
อธิบายผลของความเขม้ ขน้ พ้นื ท่ีผวิ อุณหภูมิและตวั เร่งปฏิกิริยาที่มีผลต่ออตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ศึกษา
และอธิบายปัจจยั ที่มีผลต่ออตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั หรือใน
อุตสาหกรรม อธิบายความหมายของปฏิกิริยารีดอกซ์ อธิบายสมบตั ิของสารกมั มนั ตรังสีและคานวณคร่ึง
ชีวิตและปริมาณของสารกมั มนั ตรังสี ยกตวั อยา่ งประโยชน์ของสารกมั มนั ตรังสีและการป้องกนั อนั ตราย
ท่ีเกิดจากกมั มนั ตภาพรังสี

โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การ
สงั เกต การสืบคน้ ขอ้ มูล การวิเคราะห์ การอภิปราย สรุป

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ ความคิดรวบยอด ใฝ่ รู้ใฝเรียน มีระเบียบวินยั มุ่งมนั่ ในการทางาน
อยา่ งมีระบบ ประหยดั ซ่ือสตั ย์ มีวจิ ารณญาณ รู้จกั นาความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ รวมท้งั มี
เจตคติที่ดีต่อวชิ าวทิ ยาศาสตร์

ตัวชี้วดั
ว 2.1 ม.5/1-25

รวม 25 ตวั ขีว้ ดั

รำยวชิ ำ วทิ ยำศำสตร์ชีวภำพ คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน 103
เวลำ 60 ช่ัวโมง / ภำคเรียน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 6
รหัสวชิ ำ ว33106 ภำคเรียนที่ 2
จำนวน 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาความหลากหลายของระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของระบบนิเวศ องคป์ ระกอบของ
ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม เซลลแ์ ละโครงสร้างพ้นื ฐานของเซลล์ การลาเลียงสารเขา้
และออกจากเซลล์ กรรักษาดุลยภาพของน้าและแร่ธาตุ กรด -เบส อุณหภูมิในร่างกายมนุษย์ ระบบ
ภูมิคุม้ กนั ความผดิ ปกติของระบบภูมิคุม้ กนั การสร้างอาหารของพชื ดว้ ยกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง
สารสงั เคราะห์จากพชื ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช การตอบสนองของพชื ต่อส่ิงเร้า ยนื และการ
ถ่ายทอดลกั ษณะ ทางพนั ธุกรรม การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธุกรรม
ะดบั ยนื แะโครโมโซม การใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยที าง ดีเอน็ เอ วิวฒั นาการของส่ิงมีชีวติ จากการ
คดั เลือกโดยธรรมชาติการคดั เลือกโดยธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะ หาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การสงั เกต
การวิเคราะห์ การทดลอง การอธิบาย การอภิปราย และการสรุป

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตดั สินใจ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และ
นาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ของตนเองและดูแลรักษาสิ่งมีชีวติ อ่ืน ๆ เฝ้าระวงั และพฒั นาสิ่งแวดลอ้ มอยา่ งยง่ั ยนื มี
จิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม

ตวั ขีว้ ดั
ว1.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4
ว 1.2 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5 ม.4/6 ม.4/7 ม.4/8 ม.4/9 ม.4/10ม.4/11 ม.4/12
ว 1.3 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5 ม.4/6

รวม 22 ตวั ชี้วดั

รำยวชิ ำ ฟิ สิกส์ 5 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ 104
เวลำ 80 ชั่วโมง / ภำคเรียน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 6
รหัสวชิ ำ ว33211 ภำคเรียนท่ี 1
จำนวน 2.0 หน่วยกติ

ศึกษาวิเคราะห์ความร้อน การเปล่ียนอุณหภูมิ การเปลี่ยนสถานะ ความดนั การทางานของแมนอ
มิเตอร์ เคร่ืองอดั ไฮดรอลิก แรงพยงุ ความตึงผวิ ความหนืด อตั ราการไหล สมการแบร์นูลีย์ กฎของแก๊สใน
อุดมคติ แบบจาลองของแก๊สในอดุ มคติ ทฤษฎีจลนข์ องแกส็ อตั ราเร็วอาร์เอม็ เอส พลงั งานภายในระบบ
สมมุติฐานของพลงั ค์ การเกิดสเปกตรัมอะตอมไฮโดรเจน ปรากฏการณ์โฟโตอิเลก็ ทริก ทวิภาวะของคลื่น
และอนุภาค ความยาวคล่ืนของเดอบรอยล์ กมั มนั ตภาพรังสี กมั มนั ตภาพของนิวเคลียสกมั มนั ตรังสี แรง
นิวเคลียร์ เสถียรภาพของนิวเคลียร์

โดยใชว้ ิธีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบคน้
ขอ้ มูล และการอภิปราย และการนาเสนอขอ้ มูล
เพื่อใหม้ ีความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีทกั ษะกระบวนการ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้
มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั
มีจิตวทิ ยาศาสตร์จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
1. อธิบายความหมายของของไหลอุดมคติ เสน้ กระแส หลอดการไหลพร้อมท้งั วิเคราะห์หา
ความสมั พนั ธต์ ามสมการความต่อเนื่องสมการของแบร์นูลลีและคานวณหาปริมาณที่เกี่ยวขอ้ งได้
2. อธิบายหลกั ของแบร์นูลลีและนาสมการของแบร์นูลลีไปอธิบายปรากฏการณ์ท่ีเกี่ยวขอ้ งได้
3. บอกความหมายของความจุความร้อน ความจุความร้อนจาเพาะ ความร้อนแฝง ความร้อนแฝง
เพาะของสาร สมดุลความร้อนและการถ่ายโอนพลงั งานความร้อนระหวา่ งวตั ถุเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์
พลงั งานพร้อมท้งั ควณหาปริมาณตา่ ง ๆ ได้ เมื่อกาหนดสถานการณ์.ให้
4. นากฎของบอยลแ์ ละกฎของชาร์ลมาสรุปเป็นกฎของแก๊สได้
5. อธิบายความดนั ตามทฤษฎีจลน์ของแก๊ส ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งอุณหภูมิกบั พลงั งานจลน์เฉล่ีย
ของโมเลกลุ ของแก๊สได้ พร้อมท้งั ใชค้ วามสมั พนั ธ์คานวณหาปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ งกบั สถานการณ์ที่
กาหนดให้
6.นาความรู้เรื่องทฤษฎีจลน์ของแก๊ส และกฎอนุรักษพ์ ลงั งานไปอธิบายการเปล่ียนแปลงพลงั งาน
ภายในระบบของแก๊สและปรากฏการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ได้

105

7. อธิบายการทดลองของทอมสัน และการทดลองของมิลลิแกนเกี่ยวกบั การตน้ พบอิเลก็ ตรอน
8. สืบคน้ ขอ้ มูลแบบจาลองอะตอม เขียนรายงานและนาเสนอ
9.อธิบายการเกิดปรากฏการณ์โฟโตอิเลก็ ทริก และเมื่อกาหนดคา่ ปริมาณสามารถคานวณหาคา่
ต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งได้
10. อธิบายทฤษฎีอะตอมของโบร์การเกิดอนุกรมของเสน้ สเปกตรัม
11. วเิ คราะห์หารัศมีวงโคจรและคา่ พลงั งานท่ีระดบั ต่าง ๆ ของอะตอม
12. วิเคราะห์การทดลองของฟรังกแ์ ละเฮิรตซ์
13. อธิบายกลศาสตร์ควอนตมั ทวิภาพของคลื่นและอนุภาค
14. สารวจตรวจสอบการเกิดเลเซอร์ และสารก่ึงตวั นา
15. สืบคน้ ขอ้ มูลประวตั ิการคน้ พบสารกมั มนั ตรังสีการเปลี่ยนแปลงสภาพและการสลายตวั ของนิวเคลียส
16. ทดลองอุปมาอุปมยั การสลายตวั ของนิวเคลียสกบั การทอดลูกเต่า
17. สืบคน้ ขอ้ มูลการเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ การเปลี่ยนมวลเป็นพลงั งาน
18. บอกถึงประโยชน์ โทษ การป้องกนั อนั ตรายจากรังสี และการใชพ้ ลงั งานนิวเคลียร์
19. บอกวสั ดุอิเลก็ ทรอนิกส์และการนาไปใชป้ ระโยชน์ในดา้ นต่าง ๆ

รวมท้งั หมด 19 ผลกำรเรียนรู้

รำยวชิ ำ เคมี 5 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เติม 106
เวลำ 60 ช่ัวโมง / ภำคเรียน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 6
รหัสวชิ ำ ว33212 ภำคเรียนท่ี 1
จำนวน 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาขอ้ มูลและนาเสนอตวั อยา่ งสารประกอบอินทรียท์ ่ีมีพนั ธะเด่ียว พนั ธะคู่ หรือพนั ธะสาม ท่ี
พบในชีวติ ประจาวนั เขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบยอ่ และสูตรโครงสร้างแบบเสน้ ของ
สารประกอบอินทรีย์ ศึกษาโครงสร้างและระบุประเภทของสารประกอบอินทรียจ์ ากหมู่ฟังกช็ นั เขียนสูตร
โครงสร้างและเรียกชื่อสารประกอบอินทรียป์ ระเภทต่าง ๆ ท่ีมีหมู่ฟังกช์ นั ไม่เกิน 1 หมู่ ตามรับบ IUPAC
เขียนไอโชเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอินทรียป์ ระเภทต่าง ๆ ศึกษาและเปรียบเทียบจุดเดือดและการ
ละลายในน้าของสารประกอบอินทรียท์ ี่มีหมู่ฟังกช์ นั ขนาดโมเลกลุ หรือโครงสร้างต่างกนั ระบุประเภทของ
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภณั ฑจ์ ากปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยาโบรมีน หรือปฏิกิริยา
โพแทสเซียมเปอร์แมงกา-เนต เขียนสมการเคมีและอธิบายการเกิดปฏิกิริยาเอสเทอริฟิ เคชนั ปฏิกิริยาสะ
ปอนนิเคชนั ทดสอบปฏิกิริยา เอสเทอริฟิ เคชนั ปฏิกิริยาไฮโดรไลชิส และปฏิกิริยาสะปอนนิฟิ เคชนั
ยกตวั อยา่ งการนาสารประกอบอินทรียไ์ ปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั และอุตสาหกรรม ระบุประเภทของ
ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์ ศึกษาและอธิบายความสัมพนั ธ์
ระหวา่ งโครงสร้างและสมบตั ิของพอลิเมอร์ รวมท้งั การนาไปใช้ ทดสอบและระบุประเภทของพลาสติกและ
ผลิตภณั ฑย์ าง รวมท้งั การนาไปใชป้ ระโยชน์ ธิบายผลของการปรับเปล่ียนโครงสร้าง และการสงั เคราะห์
พอลิเมอร์ท่ีมีต่อสมบตั ิของพอลิเมอร์ ยกตวั อยา่ งผลกระทบจากการใชแ้ ละการกาจดั ผลิตภณั ฑพ์ อลิเมอร์
และแนวทางแกไ้ ข

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การ
สงั เกต การสืบคน้ ขอ้ มูล การวเิ คราะห์ การอภิปราย สรุป เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ
ส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสารมารถในการตดั สินใจ

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ ความคิดรวบยอด ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน มีระเบียบวนิ ยั มุ่งมนั่ ในการทางาน
อยา่ งมีระบบ ประหยดั ซื่อสตั ย์ มีวิจารณญาณ รู้จกั นาความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ รวมท้งั มี
เจตคติท่ีดีต่อวชิ าวทิ ยาศาสตร์

ผลกำรเรียนรู้
1. สืบคน้ ขอ้ มูลและนาเสนอตวั อยา่ งสารประกอบอินทรียท์ ี่มีพนั ธะเด่ียว พนั ธะคู่ หรือพนั ธะสาม ท่ีพบ
ในชีวิตประจาวนั

107

2. เขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบยอ่ และสูตรโครงสร้างแบบเสน้ ของสารประกอบอินทรีย์
3. วเิ คราะห์โครงสร้าง และระบุประเภทของสารประกอบอินทรียจ์ ากหมู่ฟังกช์ นั
4. เขียนสูตรโครงสร้างและเรียกช่ือสารประกอบอินทรียป์ ระเภทต่าง ๆ ที่มีหมู่ฟังกช์ นั ไม่เกิน
1 หมู่ ตามระบบ IUPAC
5. เขียนไอโซเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอินทรียป์ ระเภทต่าง ๆ
6. วิเคราะห์ และเปรียบเทียบจุดเดือดและการละลายในน้าของสารประกอบอินทรียท์ ่ีมีหมู่ฟังกช์ นั
ขนาดโมเลกลุ หรือโครงสร้างต่างกนั
7. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภณั ฑจ์ ากปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยา
กบั โบรมีน หรือปฏิกิริยากบั โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต
8.เขียนสมการเคมีและอธิบายการเกิดปฏิกิริยาเอสเทอริฟิ เคชนั ปฏิกิริยาการสงั เคราะห์เอไมดป์ ฏิกิริยา
ไฮโดรลิซิส และปฏิกิริยาสะปอนนิฟิ เคชนั
. ทดสอบปฏิกิริยาเอสเทอริฟิ เคชนั ปฏิกิริยาไฮโดรลิชิส และปฏิกิริยาสะปอนนิฟิ เคชนั
10. สืบคน้ ขอ้ มูล และนาเสนอตวั อยา่ งการนาสารประกอบอินทรียไ์ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั และ
อุตสาหกรรม
11. ระบุประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์
12. วเิ คราะห์ และอธิบายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งโครงสร้างและสมบตั ิของพอลิเมอร์ รวมท้งั
การนาไปใชป้ ระโยชน์
13. ทดสอบ และระบุประเภทของพลาสติกและผลิตภณั ฑย์ าง รวมท้งั การนาไปใชป้ ระโยชน์
14. อธิบายผลของการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง และการสงั เคราะห์พอลิเมอร์ท่ีมีต่อสมบตั ิของพอลิเมอร์
15. สืบคน้ ขอ้ มูล และนาเสนอตวั อยา่ งผลกระทบจากการใชแ้ ละการกาจดั ผลิตภณั ฑพ์ อลิเมอร์และแนว
ทางแกไ้ ข

รวมท้งั หมด 15 ผลกำรเรียนรู้

รำยวชิ ำ ชีววิทยำ 5 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ 108
เวลำ 60 ช่ัวโมง / ภำคเรียน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 6
รหัสวชิ ำ ว33213 ภำคเรียนท่ี 1
จำนวน 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาเกี่ยวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพและความยงั่ ยนื ของส่ิงแวดลอ้ ม ความหลากหลายของ
ส่ิงมีชีวติ การศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต กาเนิดของชีวติ อาณาจกั รของส่ิงมีชีวิต ความ
หลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ศึกษาเกี่ยวกบั ประชากร
ความหนาแน่นและการแพร่กระจายของประชากร ขนาดของประชากร รูปแบบการเพม่ิ ของประชากร การ
รอดชีวติ ของประชากร ประชากรมนุษย์ ศึกษาเก่ียวกบั มนุษยก์ บั ความยงั่ ยนื ของส่ิงแวดลอ้ ม
ทรัพยากรธรรมชาติ การใชป้ ระโยชน์ ปัญหาและการจดั การ หลกั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ และชนิด
พนั ธุต์ ่างถิ่นที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดลอ้ มโดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การ
สารวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล และการอภิปรายเพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ความคิด สามารถส่ือสารสิ่ง
ท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจเห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั มีจิต
วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
1. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย และอธิบายเกี่ยวกบั ความหมายและองคป์ ระกอบของความหลากหลายทาง

ชีวภาพ
2. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย และอธิบายการศึกษาความหลากหลายของส่ิงมีชีวติ กสารจดั หมวดหมู่ของ
ส่ิงมีชีวิต ชื่อของส่ิงมีชีวติ และการระบุชนิด
3.สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย และอธิบายเกี่ยวกบั กาเนิดของชีวิต กาเนิดของเซลลโ์ พรคริโอตและเซลลย์ คู าริ

โอต

4. สืบคน้ ขอ้ มูล ทดลอง อภิปราย อธิบาย และสรุปเกณฑท์ ี่ใชใ้ นการจดั จาแนกสิ่งมีชีวติ ออกเป็นโดเมน
และอาณาจกั ร ลกั ษณะท่ีเหมือนและแตกต่างของส่ิงมีชีวิตในอาณาจกั รมอเนอรา อาณาจกั รโพรทิสตา
อาณาจกั ร

พชื อาณาจกั รฟังไจ และอาณาจกั รสัตว์
5. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย อธิบาย และนาเสนอคุณคา่ ของความหลากหลายทางชีวภาพกบั การใช้
ประโยชนข์ องมนุษยท์ ี่มีผลต่อสงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม

109

6. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และนาเสนอ สถานการณ์ความหลากหลายทางชีภาพในประเทศไทย และ
ผลกระทบจากการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
7. ออกแบบสถานการณ์จาลองท่ีแสดงถึงการเปล่ียนแปลงปัจจยั ต่างๆ ของส่ิงแวดลอ้ มท่ีทีผลต่อการอยู่
รอดของสิ่งมีชีวติ
8. วเิ คราะห์ อธิบาย และสรุปไดว้ า่ การอยรู่ อดของส่ิงมีชีวติ สมั พนั ธ์กบั ความหลากหลายของส่ิงมีชีวติ
9. สืคนั ขอ้ มูล อภิปราย และอธิบาย เก่ียวกบั ความหมายของประชากร ความหนาแน่นของประชากร
อตั รา
10. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย และวิเคราะห์ขอ้ มูลเก่ียวกบั เร่ืองประชากรมนุษย์ การเติบโต และโครงสร้าง
อายขุ องประชากร
11. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย และอธิบายความสมั พนั ธ์ระหวา่ งมนุษยก์ บั การใชท้ รัพยากรธรรมชาติ
12. อภิปราย อธิบาย และสรุปแนวทางการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม รวมท้งั การ
อนุรักษแ์ ละพฒั นาที่ยง่ั ยนื พร้อมท้งั เสนอแนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ
13. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย และอธิบายเกี่ยวกบั ชนิดพนั ธุ์ต่างถิ่น ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดลอ้ ม

รวม 13 ผลกำรเรียนรู้

รำยวชิ ำ โครงงำนวทิ ยำศำสตร์ คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ 110
เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 6
รหัสวชิ ำ ว30283 ภำคเรียนท่ี 1
จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษา วเิ คราะห์ ทดลองและอภิปรายความหมายของโครงงาน ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะทางวทิ ยาศาสตร์ รวมท้งั กาหนดหวั ขอ้ โครงงาน การเขียนเคา้ โครงงาน
วทิ ยาศาสตร์ การเขียนรายงาน และการจดั แสดงโครงงานวิทยาศาสตร์โดยใชก้ ระบวนการโครงงาน
วิทยาศาสตร์ การสังเกต เปรียบเทียบ รวบรวมขอ้ มูล วเิ คราะห์ บนั ทึกและอธิบาย การทดลอง นาเสนอ
เพอื่ ใหม้ ีความเขา้ ใจและมีทกั ษะในการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์ เห็นคุณค่าของ
วทิ ยาศาสตร์ สามารถนาความรู้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใชใ้ นการหาความรู้ใหม่และแกป้ ัญหา
ต่างๆ
ผลกำรเรียนรู้
1. สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายความหมายและจาแนกประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้
2. จาแนกความแตกตา่ ง บอกความแตกต่างของโครงงานแตล่ ะประเภทได้
3. ฝึกทกั ษะกระบวนทางวทิ ยาศาสตร์ในการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
นาทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใชใ้ นการจดั ทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
สืบคน้ ขอ้ มูล คิดและเลือกหวั ขอ้ เร่ืองในการจดั ทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
6. เขียนเคา้ โครงเรื่องที่จะทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไดถ้ ูกตอ้ งตามข้นั ตอน
7. ทดลองและรวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ รวบรวมบนั ทึกผลการสารวจ จดั กระทา และ
วเิ คราะห์ ขอ้ มูล เพอื่ นาไปสู่การทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ที่ดีได้
8. เขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ตามรูปแบบไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
9. ทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไดต้ ามความสนใจ และนาเสนอดว้ ยวาจา รวมท้งั จดั ผลงานในรูป
นิทรรศการไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

รวม 9 ผลกำรเรียนรู้

รำยวชิ ำ ธรณีวทิ ยำ คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เติม 111
เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 6
รหัสวชิ ำ ว30288 ภำคเรียนท่ี 1
จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาวิเคราะห์ การเกิดดินและการจาแนกดิน (soil genesis and cassification) แร่ในดิน (soil mineralogy)
สารอนินทรียท์ ่ีเป็นเน้ือเดียวกนั การนาดินไปใชป้ ระโยชน์ในการเพาะปลูกพชื ความอุดมสมบูรณ์ของดิน
การปรับปรุงดิน และปริมาณธาตุอาหารท่ีเหมาะสมในการเจริญเติบโตของพชื การจดั การดิน การป้องกนั
การแกไ้ ข ตลอดจนการใชด้ ินอยา่ งมีประสิทธิภาพ เพอื่ ใหด้ ินมีความอดุ มสมบูรณ์เหมาะสมกบั การใช้
ประโยชน์ในการเกษตรตลอดไป ความอุดมสมบูรณ์ของดินป่ าไม้ ในดา้ นกายภาพ เคมี และชีววทิ ยา
ตลอดจนการสะสมของอินทรียวตั ถุในดิน ความหมายและองคป์ ระกอบของดิน 5 อยา่ ง
โดยอาศยั กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการ สืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การ
สังเกต การวิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบายและสรุป
เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตดั สินใจ สื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนา
ความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม และจริยธรรม

ผลกำรเรียนรู้
1. สืบคน้ ขอ้ มูลและนาเสนอความรู้ เรื่องการเกิดดินและการจาแนกดิน (soil genesis and
classification) ได้
2. สืบคน้ ขอ้ มูลและนาเสนอความรู้ เร่ืองแรในดิน (soil mineralogy) สาร อนินทรียท์ ่ีเป็นเน้ือ
เดียวกนั
3. สืบคนั ขอ้ มูลและนาเสนอความรู้ อภิปราย เร่ืองการนาดินไปใชป้ ระโยชน์ในการเพาะปลูกพืช
ความอุดมสมบูรณ์ของดิน การปรับปรุงดิน และปริมาณธาตุอาหารท่ีเหมาะสมในการเจริญเติบโตของพชื
4. สืบคน้ ขอ้ มูลและนาเสนอความรู้ อภิปรายเร่ืองการจดั การดิน การป้องกนั การแกไ้ ข ตลอดจน
การใชด้ ินอยา่ งมีประสิทธิภาพ เพ่อื ใหด้ ินมีความอุดมสมบูรณ์หมาะสมกบั การใชป้ ระโยชนใ์ นการเกษตร
ตลอดไป
5. สืบคน้ ขอ้ มูลและนาเสนอความรู้ เร่ืองความอุดมสมบูรณ์ของดินป่ าไม้ ในดา้ นกายภาพ เคมี และ
ชีววทิ ยา ตลอดจนการสะสมของอินทรียวตั ถุในดิน
6. สืบคน้ ขอ้ มูลและนาเสนอความรู้ เร่ืองความหมายและองคป์ ระกอบของดิน 5 อยา่ ง
7. ศึกษาสารวจและทดสอบองคป์ ระกอบของดิน ไดถ้ ูกตอ้ งตรงตามวธิ ีการ

รวม 7 ผลกำรเรียนรู้

รำยวชิ ำ พลงั งำนกบั ส่ิงแวดล้อม คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ 112
เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 6
รหัสวชิ ำ ว30287 ภำคเรียนที่ 2
จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ ทดลองและอภิปรายความหมายของพลงั งานและส่ิงแวดลอ้ ม พลงั งานต่างๆที่ใช้
ในการผลิตกระแสไฟฟ้า กระบวนการในการใชพ้ ลงั งานตา่ ง ๆในการผลิตกระแสไฟฟ้า ขอ้ ดีและขอ้ เสียของ
การผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลงั งานต่างๆ เช่น พลงั งานลม พลงั งานน้าจากเขื่อน พลงั งานจากน้าข้ึนน้าลง
พลงั งานจากคลื่น พลงั งานความร้อนจากถ่านหิน พลงั งานความร้อนจากน้าพรุ ้อน พลงั งานความร้อนจาก
ชีวมวล พลงั งานความร้อนจากนิวเคลียร์ พลงั งานจากแสงอาทิตย์ และศึกษา วเิ คราะห์ อภิปรายถึง
สาเหตุของการเกิดมลพษิ ลกั ษณะของมลพิษ และวธิ ีการป้องกนั และแกไ้ ขมลพิษต่างๆ เช่น มลพษิ ทางดิน
มลพิษทางน้า มลพิษทางเสียง มลพิษทางอากาศ มลพิษทางทศั นวสิ ยั ได้
โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบคน้ ขอ้ มูล การอภิปราย การ
วิเคราะห์ การแกป้ ัญหา การเปรียบเทียบ การสารวจตรวจสอบ การทานายและการทดลอง
เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ
นาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน มุ่งมน่ั ในการทางาน มีความรับผดิ ชอบ มีเหตผุ ล มีจิต
วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
1. สืบคน้ ขอ้ มูลและวาดรูปแสดงวธิ ีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลงั งานตา่ งๆได้
2. เขียนและอธิบายวธิ ีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลงั งานต่างๆไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ
3. เขียนและอธิบายวิธีการป้องกนั และแกไ้ ขผลเสียจากการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลงั งานตา่ งๆได้
4. สืบคน้ ขอ้ มูลและวาดรูปแสดงการเกิดมลพิษต่างๆได้
5. เขียนและอธิบายวิธีการป้องกนั และแกไ้ ขมลพษิ ต่างๆได้

รวม 5 ผลกำรเรียนรู้

รำยวชิ ำ วทิ ยำกำรคำนวณ 3 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ 113
เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 6
รหัสวชิ ำ ว33217 ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาการประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการพฒั นาโครงงาน การพฒั นาโครงงานทางดา้ น
ทคโนโลยี การนาแนวคิดเชิงคานวณพฒั นาโครงงานที่เกี่ยวกบั ชีวติ ประจาวนั ตลอดจนใชใ้ นการพฒั นา
โครงงานที่มีการบูรณาการกบั วิชาอื่นอยา่ งสร้างสรรคแ์ ละเชื่อมโยงกบั ชีวิตจริง
โดยอาศยั กระบวนการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning) และการเรียนรู้
แบบใชโ้ ครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning เพือ่ เนน้ ใหผ้ เู้ รียนไดล้ งมือปฏิบตั ิ ฝึกทกั ษะการคิด
เผชิญสถานการณ์การแกป้ ัญหาวางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และนาเสนอผา่ นการทากิจกรรม
โครงงาน เพ่อื ใหเ้ กิดทกั ษะความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะในการวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา จนสามารถนาเอา
แนวคิดเชิงคานวณมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการสร้างโครงงานได้
เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถใชค้ วามรู้ทางดา้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดิจิทลั เทคโนโลยสี ารสนเทศ
และการสื่อสารเพอื่ รวบรวมขอ้ มูลในชีวิตจริงจากแหล่งต่าง ๆ และความรู้จากศาสตร์อ่ืน มาประยกุ ตใ์ ช้
สร้างความรู้ใหม่เขา้ ใจการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยที ่ีมีผลต่อการดาเนินชีวิต อาชีพ สงั คม วฒั นธรรม
และใชอ้ ยา่ งปลอดภยั มีจริยธรรม ตลอดจนนาความรู้ความเขา้ ใจในวชิ าวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยไี ปใชใ้ ห้
เกิดประโยชน์ต่อสงั คม และการดารงชีวิต จนสามารถพฒั นากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถ
ในการแกป้ ัญหาและการจดั การทกั ษะในการส่ือสาร และความสามารถในการตดั สินใจ และเป็นผทู้ ี่มี
จิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใชว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ยา่ งสร้างสรรค์

ผลกำรเรียนรู้
1.ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการนาเสนอ และแบ่งปันขอ้ มูลอยา่ งปลอดภยั มีจริยธรรม และ
วเิ คราะห์การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศที่มีผลต่อการดาเนิน อาชีพ สงั คม และวฒั นธรรม

รวม 1 ผลกำรเรียนรู้

รำยวชิ ำ เทคโนโลยกี ำรออกแบบ 3 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เติม 114
เวลำ 40 ช่ัวโมง / ภำคเรียน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์
ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 6
รหัสวชิ ำ ว33218 ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาการนาเสนอและแบ่งปันขอ้ มูล เช่น การเขียนบลอ็ ก อบั โหลดวิดีโอ ภาพอินโฟกราฟิ กการ
นาเสนอและแบ่งปันขอ้ มูลอยา่ งปลอดภยั เช่น ระมดั ระวงั ผลกระทบท่ีตามมา เมื่อมีการแบ่งปันขอ้ มูลหรือ
เผยแพร่ขอ้ มูล ไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและผอู้ ่ืนเทคโนโลยสี ารสนเทศเทคโนโลยเี กิดใหม่ แนวโนม้
ในอนาคตการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยนี วตั กรรมหรือทคโนโลยดี า้ นต่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ งกบั ชีวิตประจาวนั
อาชีพเกี่ยวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั โดยอาศยั กระบวนการเรียนรู้โดย
ใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem - based Learning) และการเรียนรู้แบบใชโ้ ครงงานเป็นฐาน (Project- based
Learning) เนน้ ใหผ้ เู้ รียนไดล้ งมือปฏิบตั ิ ฝึกทกั ษะการคิด เผชิญสถานการณ์การแกป้ ัญหาวางแผนการเรียนรู้
และนาเสนอผา่ นการทากิจกรรมโครงงานเพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ความสัมพนั ธข์ องความรู้
วิทยาศาสตร์ท่ีมีผลต่อการพฒั นาเทคโนโลยปี ระเภทต่าง ๆ และการพฒั นาเทคโนโลยที ่ีส่งผลใหม้ ีการคิดคน้
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ท่ีกา้ วหนา้ ผลของเทคโนโลยตี ่อชีวติ สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม ตลอดจนนาความรู้ความ
เขา้ ใจในวชิ าวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยไี ปใชใ้ หเ้ กิดประยชน์ต่อสงั คม และการดารงชีวิต จนสามารถพฒั นา
กระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจดั การทกั ษะในการส่ือสาร
ความสามารถในการตดั สินใจ เป็นผทู้ ี่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรมจริยธรรม คา่ นิยมในการใชว้ ิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยอี ยา่ งสร้างสรรค์

ผลกำรเรียนรู้
1.ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้และทกั ษะจากศาสตร์ต่างๆรวมท้งั ทรัพยากรในการทาโครงงานเพ่อื แกป้ ัญหา
หรือพฒั นา

รวม 1 ผลกำรเรียนรู้

115

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม
ช้ันมธั ยมศึกษำตอนปลำย
(ฉบับปรับปรุง 2560)

ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน
พทุ ธศักรำช 2551

116

โครงสร้ำงหลกั สูตร กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม
ระดบั มัธยมศึกษำตอนปลำย

ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั ส31 101 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั ส31103 2ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั ส31102 1ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาประวตั ิศาสตร์ รหสั ส31104 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าประวตั ิศาสตร์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
รหสั ส31203 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ รหสั ส31202 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาอาเซียน รหสั ส30241 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วชิ าเศรษฐกิจพอเพยี ง รหสั ส30242 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
วิชาหนา้ ท่ีพลเมือง 1
วิชาหนา้ ที่พลเมือง 2

ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 5

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั ส32101 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั ส32103 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั ส32102 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาประวตั ิศาสตร์ รหสั ส32104 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าประวตั ิศาสตร์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
รหสั ส32201 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ รหสั ส32202 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วิชาสังคมและวฒั นธรรมไทย รหสั ส30243 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าประชากรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม รหสั ส30244 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
วชิ าหนา้ ท่ีพลเมือง 3
วิชาหนา้ ท่ีพลเมือง 4

ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 6

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั ส33101 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั ส33102 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รหสั ส33201 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ รหสั ส33202 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
วิชาการพฒั นาการเมืองการปกครอง
วิชาเหตุการณ์ปัจจุบนั

117

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม รหัสวชิ ำ ส 31101 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 40 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 1 หน่วยกติ

ศึกษาเรื่องสงั คมชมพทู วีปและคติความเชื่อทางศาสนาสมยั ก่อนพระพทุ ธเจา้ ศึกษาพทุ ธประวตั ิ
ต้งั แต่การตรัสรู้ การก่อต้งั พระพทุ ธศาสนา วิธีการสอนและการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาตามแนวพทุ ธจริยา
พทุ ธประวตั ิดา้ นการบริหารและการธารงรักษาศาสนา วเิ คราะห์ขอ้ ปฏิบตั ิทางสายกลางในพระพทุ ธศาสนา

และการพฒั นาศรัทธาและปัญญาท่ีถูกตอ้ งในพระพทุ ธศาสนา วิเคราะห์ลกั ษณะประชาธิปไตยใน
พระพทุ ธศาสนาและหลกั การของพระพทุ ธศาสนากบั หลกั การวทิ ยาศาสตร์ การฝึกฝนและพฒั นาตนเอง
การพ่งึ ตนเองและการมุ่งอิสรภาพในพระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนาเป็นศาสนาแห่งการศึกษา ซ่ึงเนน้
ความสมั พนั ธข์ องเหตุปัจจยั กบั วิธีการแกป้ ัญหาพระพทุ ธศาสนา ฝึกตนไม่ใหป้ ระมาท มุ่งประโยชน์และ
สนั ติภาพแก่บุคคล สงั คม และโลก วิเคราะห์พระพทุ ธศาสนากบั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและการ
พฒั นาประเทศแบบยง่ั ยนื ความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาเกี่ยวกบั การศึกษาที่สมบูรณ์ การเมืองและ
สันติภาพ พระรัตนตรัย หลกั ธรรมในกรอบอริยสจั 4 และพทุ ธศาสนาสุภาษิต ศึกษาประวตั ิสาวก สาวิกา
ศาสนิกชนตวั อยา่ งในพระพทุ ธศาสนา ศึกษาคุณคา่ และความสาคญั ของการสงั คายนาพระไตรปิ ฎก การ
เช่ือมนั่ ต่อผลของการทาความดี ความชว่ั ศึกษาประวตั ิศาสดาของศาสนาอื่นๆ ตระหนกั ในคุณคา่ และ
ความสาคญั ของค่านิยม และจริยธรรมท่ีเป็นตวั กาหนดความเชื่อ และพฤติกรรมที่แตกต่างกนั ของศาสนิก
ชนของศาสนาตา่ งๆ การเห็นคุณค่า เชื่อมนั่ และมุ่งมน่ั พฒั นาชีวิตดว้ ยการพฒั นาจิตและพฒั นาการเรียนรู้
ดว้ ยวธิ ีคิดแบบโยนิโสมนสิการ สวดมนตแ์ ปล แผเ่ มตตา บริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลกั สติปัฏฐาน
หลกั ธรรมในการอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติสุขของแตล่ ะศาสนา การเสนอแนวทางการจดั กิจกรรมความร่วมมือ
ของทุกศาสนาในการแกป้ ัญหาและพฒั นาสงั คม การปฏิบตั ิตนเป็นศาสนิกชนท่ีดี และปฏิบตั ิตนถูกตอ้ ง
ตามศาสนพธิ ี การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ หลกั ธรรม คติธรรมที่เกี่ยวเน่ืองกบั วนั สาคญั ทางศาสนา
สมั มนาและเสนอแนวทางในการธารงรักษาศาสนาที่ตนนบั ถืออนั ส่งผลถึงการพฒั นาตน พฒั นาชาติ และ

โลก
โดยการเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมสู่ประสบการณ์ใหม่ โดยการใชภ้ าพ ข่าว หรือสถานการณ์ต่างๆ

ใหน้ กั เรียนฝึกการสงั เกต ตอบคาถาม หาแนวทางปฏิบตั ิท่ีถูกตอ้ ง เหมาะสม ส่งเสริมการทางานกลุ่ม
เพอ่ื พฒั นาทกั ษะทางสงั คม นาไปสู่การยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองและผอู้ ื่น

118

เพ่อื ใหต้ ระหนกั ถึงความสาคญั และเห็นคุณค่าของพระพทุ ธศาสนา และศาสนาต่างๆ ท่ีหล่อหลอม
ใหศ้ าสนิกชนปฏิบตั ิตนเป็นคนดี มีค่านิยมท่ีดีงาม ปฏิบตั ิตนเพ่ือประโยชนต์ ่อสงั คมและส่วนร่วมเพอื่ ให้
เกิดสนั ติสุขในสงั คม
รหัสตวั ชี้วดั
ส1.1
ม.4/1 , ม.4/2 , ม.4/3 , ม.4/4 , ม.4/6 , ม.4/7 , ม.4/8 , ม.4/9 , ม.4/10 , ม.4/11,
ม.4/12 , ม.4/ 13 , ม.4/ 14 , ม.4/15 , ม.4/16 , ม.4/17 , ม.4/18 , ม.4/19 , ม.4/20 ,
ม.4/21, ม.4/22
ส1.2 ม.4/1 , ม.4/2 , ม.4/3 , ม.4/4 , ม.4/5
รวม 26 ตวั ชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน 119

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4
ภำคเรียนท่ี 1
รำยวชิ ำ ประวัติศำสตร์ รหัสวชิ ำ ส 31102

จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษา ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ท่ีแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของ
มนุษยชาติ ข้นั ตอนของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ คุณค่าและประโยชนข์ องวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ที่มีต่อ
การศึกษาทางประวตั ิศาสตร์ ประเดน็ สาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ต้งั แต่ความเป็นมาของชาติไทยสมยั ก่อน
อาณาจกั รสุโขทยั จนถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ความสาคญั ของสถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ่อชาติไทย
ปัจจยั ที่ส่งเสริมการสร้างสรรคภ์ ูมิปัญญาไทยและวฒั นธรรมไทย ซ่ึงมีผลต่อสงั คมไทยในยคุ ปัจจุบนั บทบาท
ของสถาบนั พระมหากษตั ริยใ์ นการพฒั นาชาติไทยในดา้ นต่างๆ
โดยใชว้ ิธีการทางประวตั ิศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนการปฏิบตั ิ
กระบวนการทางสงั คม กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการกลุ่ม
เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจตระหนกั ในความสาคญั ของการศึกษาประวตั ิศาสตร์ชาติไทย เกิด
ความรักความภาคภูมิใจและธารงความเป็นไทย มีคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงคใ์ นดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
ซ่ือสตั ยส์ ุจริต มีวินยั ใฝ่ เรียนรู้ รักความเป็นไทย มุ่งมน่ั ในการทางาน
รหัสตวั ชี้วดั

ส4.1 ม.4/1 , ม.4/2
ส4.3 ม.4/1 , ม.4/2 , ม.4/3

รวม 5 ตวั ชี้วดั

120

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม รหัสวชิ ำ ส 31103 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4

จำนวน 40 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 1 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 2

ศึกษาโครงสร้างทางสงั คม การขดั เกลาทางสงั คม การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม การแกป้ ัญหาและ
แนวทางการพฒั นาสังคม วเิ คราะห์วฒั นธรรมไทย เพ่ือศึกษาแนวทางการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและ
วิเคราะห์ความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมไทยกบั วฒั นธรรมสากล วเิ คราะห์และปฏิบตั ิตนตามกฎหมาย
ที่เก่ียวขอ้ งกบั ตนเอง ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และสงั คมโลก เพ่อื ความสงบสุขในสงั คม ประเมิน
สถานการณ์เก่ียวกบั สิทธิมนุษยชนในสงั คมไทยและสงั คมโลก วิเคราะห์การปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข ปฏิบตั ิตนและมีส่วนร่วมในการปฏิบตั ิตนเป็น
พลเมืองดีของประเทศชาติและสงั คมโลก ศึกษาความสมั พนั ธ์ระหวา่ งประเทศ เสนอแนวทางการเมือง
การปกครองท่ีนาไปสู่ความเขา้ ใจ และการประสานประโยชน์ร่วมกนั ระหวา่ งประเทศ วเิ คราะห์ปัญหา
การเมืองที่สาคญั ของไทย และ การตรวจสอบการใชอ้ านาจรัฐโดยการเช่ือมโยงประสบการณ์เดิมสู่การ
สร้างประสบการณ์ใหม่ โดยการใชภ้ าพ ข่าว หรือสถานการณ์ต่างๆ ใหผ้ เู้ รียนฝึกสงั เกต ตอบคาถามหา
แนวทางปฏิบตั ิท่ีถูกตอ้ ง เหมาะสม ส่งเสริมการทางานกลุ่ม เพอื่ พฒั นาทกั ษะทางสังคม นาไปสู่การ
ยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองและผอู้ ื่นเพอื่ ใหต้ ระหนกั ถึงความสาคญั และเห็นคุณค่าของการศึกษา
หนา้ ท่ีพลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนินชีวติ ในสงั คม ปลูกฝังค่านิยมดา้ นประชาธิปไตยอนั มี
พระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข และปฏิบตั ิตนตามบทบาทหนา้ ที่ของพลเมืองดี เพือ่ ให้ดารงชีวติ อยา่ ง
สนั ติสุขในสงั คมไทยและสงั คมโลก

รหัสตวั ชี้วดั
ส 2.1 ม.4/1 , ม.4/2 , ม.4/3 , ม.4/4 , ม.4/5
ส 2.2 ม.4/1 , ม.4/2 , ม.4/3 , ม.4/4

รวม 9 ตัวชี้วดั

121

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ ประวตั ิศำสตร์ รหัสวชิ ำ ส 31102 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 4

จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 1

ศึกษา ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของ
มนุษยชาติ ข้นั ตอนของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ คุณค่าและประโยชนข์ องวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ท่ีมีต่อ
การศึกษาทางประวตั ิศาสตร์ ประเดน็ สาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ต้งั แตค่ วามเป็นมาของชาติไทยสมยั ก่อน
อาณาจกั รสุโขทยั จนถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ความสาคญั ของสถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ่อชาติไทย
ปัจจยั ท่ีส่งเสริมการสร้างสรรคภ์ ูมิปัญญาไทยและวฒั นธรรมไทย ซ่ึงมีผลต่อสงั คมไทยในยคุ ปัจจุบนั บทบาท
ของสถาบนั พระมหากษตั ริยใ์ นการพฒั นาชาติไทยในดา้ นต่างๆ
โดยใชว้ ธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนการปฏิบตั ิ
กระบวนการทางสงั คม กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการกลุ่ม
เพื่อใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจตระหนกั ในความสาคญั ของการศึกษาประวตั ิศาสตร์ชาติไทย เกิด
ความรักความภาคภูมิใจและธารงความเป็นไทย มีคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงคใ์ นดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
ซื่อสตั ยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ รักความเป็นไทย มุ่งมนั่ ในการทางาน
รหัสตัวชี้วดั
ส4.1 ม.4/1 , ม.4/2
ส4.3 ม.4/1 , ม.4/2 , ม.4/3

รวม 5 ตวั ชี้วดั

122

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ ประวัตศิ ำสตร์ รหัสวชิ ำ ส 31104 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 4
ภำคเรียนที่ 2
จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาผลงานของบุคคลสาคญั ท้งั ชาวไทยและต่างประเทศท่ีมีส่วนสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและ
ประวตั ิศาสตร์ไทย ปัจจยั และบุคคลที่ส่งเสริมสร้างสรรคภ์ ูมิปัญญาไทย และวฒั นธรรมไทยที่มีผลต่อ
สงั คมไทยในปัจจุบนั สภาพแวดลอ้ มที่มีผลต่อการสร้างสรรคภ์ ูมิปัญญาและวฒั นธรรมไทย การกาหนด
แนวทางและการมีส่วนร่วมอนุรักษภ์ ูมิปัญญาไทยและวฒั นธรรมไทย
โดยใชว้ ธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนการปฏิบตั ิ
กระบวนการทางสงั คม กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการกลุ่ม
เพื่อใหต้ ระหนกั ในความสาคญั ของการศึกษาประวตั ิศาสตร์ชาติไทย เกิดความรัก ความภาคภูมิใจ
และธารงความเป็นไทย รู้จกั รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มุ่งมนั่
ในการทางาน

รหัสตัวชี้วดั
ส4.3 ม.4/4 , ม.4/5

รวม 2 ตวั ชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เติม 123

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนที่ 1
รำยวชิ ำ อำเซียน รหัสวชิ ำ ส 31203

จำนวน 40 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาการกาเนิดสมาคมอาสา พฒั นาการของอาเชียนต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั ขอ้ มูลของประเทศ
สมาชิกอาเชียน โครงสร้างองคก์ รและกลไกการดาเนินงานของอาเชียน 3 เสาหลกั ของประชาคมอาเชียน
การเตรียมความพร้อมของอาเชียนในการเขา้ สู่ประชาคมอาเชียน อุปสรรคในการเขา้ สู่ประชาคมอาเซียน
บทเรียนจากการรวมกลุ่มเศรษฐกิจของประเทศอ่ืน บทบาททางการเมือง เศรษฐกิจของอาเซียนในสงั คม
โลก ปัญหาของอาเซียนและความพยายามแกป้ ัญหาต่างๆ
โดยใชก้ ระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการทางสงั คม
กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแกป้ ัญหา
เพอื่ ใหต้ ระหนกั ในความสาคญั ของการรวมกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน มีส่วนร่วมในการเตรียม
ความพร้อมของสงั คมและประเทศชาติในการเขา้ สู่ประชาคมอาเชียน และปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีของ
สมาคมอาเชียน และอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอาเซียนอยา่ งปกติสุข

ผลกำรเรียนรู้
1. อธิบายกาเนิดสมาคมอาสาพฒั นาการของอาเชียนต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั
2. อธิบายเก่ียวกบั ประเทศสมาชิกอาเซียนในดา้ นต่างๆ โครงสร้างองคก์ รและกลไกการดาเนินงาน
ของอาเซียนภายใตก้ ฎบตั รอาเชียน และประชาคมอาเซียน 3 เสาหลกั
3. อธิบายการเตรียมความพร้อมของอาเซียนในการเขา้ สู่ประชาคมอาเชียน
4. วเิ คราะห์อุปสรรคในการเขา้ สู่ประชาคมอาเซียนและแนวทางแกไ้ ข
5. วเิ คราะห์บทเรียนจากการรวมกลุ่มเศรษฐกิจของประเทศอื่น เพื่อเป็นแนวทางในการพฒั นา
ประชาคมอาเซียน
6. วิเคราะห์บทบาทของอาเชียนในสงั คมโลกในดา้ นต่างๆ ปัญหาของอาเชียนและแนวทางแกไ้ ข

รวม 6 ผลกำรเรียนรู้

124

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เติม

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ เศรษฐกจิ พอเพยี ง รหัสวชิ ำ ส 31202 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4

จำนวน 40 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 2

ศึกษาความเป็นมาของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลกั ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั
พิจารณาหา้ ส่วนของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั ของการพ่งึ ตนเองของปรัชญาเศรษฐกิจพอพยี ง
ทฤษฎีใหม่หวั ใจของเศรษฐกิจพอเพียง
โดยใชก้ ระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการทางสงั คม
กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแกป้ ัญหา
เพอ่ื ใหต้ ระหนกั ถึงความสาคญั ของเศรษฐกิจพอเพียง และประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ตลอดจนเผยแพร่สู่ชุมชน

ผลกำรเรียนรู้
1. อธิบายความเป็นมาของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งได้
2. บอกหลกั ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้
3. อธิบายหลกั พิจารณาหา้ ส่วนประกอบของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งได้
4. อธิบายหลกั ของการพ่งึ ตนเองของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้
5. บอกวิธีการปรับใชห้ รือประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้
. สามารถนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอพยี งไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้
7. อธิบายการแปลงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งสู่กิจกรรมการปฏิบตั ิโดยการเริ่มจากครอบครัว
พอเพียงสู่สงั คมแห่งความพอเพียง
8. อธิบายทฤษฎีใหม่กบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งได้

รวม 8 ผลกำรเรียนรู้

125

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เติม

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ หน้ำทพ่ี ลเมือง 1 รหัสวิชำ ส 30241 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 4
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน
จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 1

ศึกษาการมีส่วนร่วมและแนะนาผอู้ ่ืนใหอ้ นุรักษแ์ ละเผยแพร่มารยาทไทยสู่สาธารณะในเรื่องการ
แสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมีสมั มาคารวะ เห็นคุณคา่ อนุรักษส์ ืบสานประยกุ ตแ์ ละ
เผยแพร่ขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปวฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเองเรื่อง
ความอดทนใฝ่ หาความรู้และต้งั ใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ปฏิบตั ิเป็นแบบอยา่ งมีส่วนร่วมในการจดั กิจกรรมและ
สนบั สนุนใหผ้ อู้ ่ืนแสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ มนั่ ในศาสนาและเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ปฏิบตั ิ
ตนเป็นแบบอยา่ ง ประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่พระบรมราโชวาทในเร่ืองการมีระเบียบวนิ ยั ความสามคั คี
หลกั การทรงงานในเรื่องระเบิดจากขา้ งใน ไม่ติดตารา บริการรวมท่ีจุดเดียว อธรรมปราบอธรรมและหลกั
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ปฏิบตั ิหนา้ ท่ียอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง
โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการ
แกป้ ัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้
เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนมีลกั ษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติยดึ มนั่
ในศาสนาและเทิดทูสถาบนั พระมหากษตั ริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์
ทรงเป็นประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองมีวิจารณญาณในการเลือกต้งั และการวพิ ากษน์ โยบาย
สาธารณะ อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งสนั ติจดั การความขดั แยง้ ดว้ ยวธิ ีสนั ติและมีวนิ ยั ในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
มีส่วนร่วมและแนะนาผอู้ ื่นใหอ้ นุรักษแ์ ละเผยแพร่มารยาทไทยสู่สาธารณะ
2. เห็นคุณคา่ อนุรักษส์ ืบสานประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่ขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปวฒั นธรรมและภูมิ
ปัญญาไทย
3. เป็นแบบอยา่ งมีส่วนร่วมในการจดั กิจกรรมและสนบั สนุนใหผ้ อู้ ่ืนแสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ
มนั่ ในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์
4. เป็นแบบอยา่ งประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่พระบรมราโชวาทหลกั การทรงงานและหลกั ปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง
5. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินยั

รวม 5 ผลกำรเรียนรู้

126

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เติม

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ หน้ำทพ่ี ลเมือง 2 รหัสวชิ ำ ส 30242 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4

จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 2

ศึกษาการปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยา่ งและส่งเสริมสนบั สนุนใหผ้ อู้ ื่นเป็นพลเมืองดีตามวถิ ีประชาธิปไตย
ในเรื่องการเป็นผนู้ าและสมาชิกที่ดี การใชส้ ิทธิและหนา้ ท่ี การใชเ้ สรีภาพอยา่ งรับผดิ ชอบ ความกลา้ หาญ
ทางจริยธรรม การเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาสงั คมต่อสาธารณะ การติดตามและประเมินขา่ วสารทาง
การเมืองและการรู้เท่าทนั ส่ือ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการประชาธิปไตย
ในการวิพากษป์ ระเดน็ นยบายสาธารณะที่ตนสนใจ มีส่วนร่วมและตดั สินใจเลือกต้งั อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
รู้ทนั ข่าวสารและรู้ทนั สื่อ คาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหนา้ บนพ้นื ฐานของขอ้ มูล ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินยั ใน
ตนเองในเรื่องความซื่อสตั ยส์ ุจริต ขยนั หมน่ั เพียรอดทนใฝ่ หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ีและยอมรับผลท่ีเกิด
จากการกระทาของตนเอง ยอมรับในอตั ลกั ษณ์และเคารพความหลากหลายในสงั คมพหุวฒั นธรรม เห็น
คุณคา่ ของการอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติและพ่งึ พาซ่ึงกนั และกนั ดว้ ยการเคารพซ่ึงกนั และกนั ไม่แสดงกิริยาและ
วาจาดูหมิ่นผอู้ ื่น ช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั แบ่งปัน ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินยั ในตนเองในเรื่องความอดทนใฝ่หา
ความรู้และยอมรับผล ท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง
โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ การปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้
เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนมีลกั ษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ
มน่ั ในศาสนาและเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มี
พระมหากษตั ริย์ ทรงเป็นประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองมีวจิ ารณญาณในการเลือกต้งั และ
การวิพากษน์ โยบายสาธารณะ อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งสนั ติจดั การความขดั แยง้ ดว้ ยวธิ ีสนั ติและมีวินยั ในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
1. เป็นแบบอยา่ งและส่งเสริมสนบั สนุนใหผ้ อู้ ื่นเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย
2. ประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการประชาธิปไตยในการวพิ ากษร์ ะเดน็ นโยบายสาธารณะท่ีตนเองสนใจ
3. มีส่วนร่วมและตดั สินใจเลือกต้งั อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
4. รู้ทนั ข่าวสารและรู้ทนั สื่อ
5. คาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหนา้ บนพ้นื ฐานของขอ้ มูล
6. ยอมรับในอตั ลกั ษณ์และเคารพความหลากหลายในสงั คมพหุวฒั นธรรม
7. เห็นคุณคา่ ของการอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติสุขและพ่ึงพาซ่ึงกนั และกนั
8. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินยั ในตนเอง

รวม 8 ผลกำรเรียนรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน 127

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 5
ภำคเรียนที่ 1
รำยวชิ ำ สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม รหัสวชิ ำ ส 32101

จำนวน 40 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 1 หน่วยกติ

ศึกษาเร่ืองหลกั เศรษฐศาสตร์วา่ ดว้ ยการกาหนดราคาและค่าจา้ งในระบบเศรษฐกิจ ผลดี ผลเสีย
ของระบบเศรษฐกิจแบบต่างๆ ตลาดและประเภทของตลาด ศึกษาเศรษฐกิจพอเพยี ง รวมท้งั การนาไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวติ เพอื่ พฒั นาเศรษฐกิจและสงั คม ศึกษาระบบสหกรณ์ท่ีมีบทบาทต่อการพฒั นา
เศรษฐกิจในชุมชนและประเทศ วเิ คราะห์ปัญหาทางเศรษฐกิจในชุมชนและแนวทางการพฒั นาเศรษฐกิจ
ศึกษาและวเิ คราะห์การเงิน การธนาคาร การคลงั และงบประมาณการจดั การเร่ืองรายได้ รายจ่ายของ
รัฐบาล ศึกษาและวเิ คราะห์เกี่ยวกบั เศรษฐกิจระหวา่ งประเทศเพื่อนาไปสู่การร่วมมือและพ่งึ พาอาศยั กนั
ทางเศรษฐกิจ

โดยเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมสู่ประสบการณ์ใหม่โดยการใชภ้ าพ ข่าว หรือสถานการณ์ต่างๆ ให้
ผเู้ รียน ฝึกสงั เกต ตอบคาถาม หาแนวทางปฏิบตั ิท่ีถูกตอ้ งเหมาะสม ส่งเสริมการทางานกลุ่ม เพื่อพฒั นา
ทกั ษะทางสงั คม นาไปสู่การยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองและผอู้ ่ืน

เพ่ือใหต้ ระหนกั ถึงความสาคญั และเห็นคุณคา่ ของการศึกษาของเศรษฐศาสตร์ เพ่อื นาไปใชใ้ น
ชีวิตประจาวนั และส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชนและประเทศใหเ้ จริญรุ่งเรือง

รหัสตวั ขีว้ ดั
ส3.1 ม.4/1 , ม.4/2 , ม.4/3 , ม.4/4
ส3.2 ม.4/1 , ม.4/2 , ม.4/3

รวม 7 ตวั ชี้วดั

128

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม รหัสวชิ ำ ส 32103 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 5

จำนวน 40 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 2

ศึกษาการใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ และสรุปขอ้ มูลตามกระบวนการ

ทางภูมิศาสตร์ และนาเสนอภูมิสารสนเทศมาใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของ

พ้นื ท่ีซ่ึงไดร้ ับอิทธิพลจากปัจจยั ทางภูมิศาสตร์ ลกั ษณะทางกายภาพซ่ึงทาใหเ้ กิดปัญหาหรือภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ
และปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพกบั กิจกรรมของมนุษยใ์ นการสร้างสรรคว์ ิถีการดาเนินชีวติ ของ
ทอ้ งถ่ินท้งั ในประเทศไทยและภูมิภาคต่างๆ ของโลก ความสาคญั ของส่ิงแวดลอ้ มท่ีมีผลต่อการดาเนินชีวติ ของ
มนุษยส์ ถานการณ์ สาเหตุ และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของ
ประเทศไทยและภูมิภาคต่างๆ ของโลก ระบุมาตรการการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหากฎหมายและนโยบายดา้ น

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม บทบาทขององคก์ ารท่ีเกี่ยวขอ้ ง การประสานความร่วมมือท้งั ในประเทศ และ
ระหวา่ งประเทศ วิเคราะห์แนวทางและมีส่วนร่วมในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มเพื่อการ
พฒั นาท่ียงั่ ยนื

โดยใชท้ กั ษะทางภูมิศาสตร์ดา้ นการสงั เกต การแปลความขอ้ มูลทางภูมิศาสตร์ การใชเ้ ทคนิคและเคร่ืองมือ

ทางภูมิศาสตร์ การคิดเชิงพ้นื ท่ี การคิดแบบองคร์ วม การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ การใชส้ ถิติพ้ืนฐาน ใชแ้ ผนที่
และเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการสืบคน้ วิเคราะห์และสรุปขอ้ มูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ กระบวนการ

สืบเสาะหาความรู้ รวมถึงทกั ษะดา้ นการสื่อสารและการรู้เท่าทนั สื่อ

เพ่อื ใหม้ ีคุณลกั ษณะดา้ นจิตสาธารณะ มีวินยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน มีส่วนร่วมในการจดั การพฒั นา
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งยงั่ ยนื

รหัสตัวชี้วดั ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3
ส5.1 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3 , ม.4-6/4
ส5.2

รวม 7 ตวั ชี้วดั

129

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ ประวตั ศิ ำสตร์ รหัสวชิ ำ ส 32102 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 5

จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 1

ศึกษาความสาคญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ท่ีแสดงถึงการเปล่ียนแปลงของมนุษยชาติ ศึกษา
การสร้างองคค์ วามรู้ใหม่ทางประวตั ิศาสตร์ โดยใชว้ ิธีการทางประวตั ิศาสตร์อยา่ งเป็นระบบ วเิ คราะห์อิทธิพลของ
อารยธรรมโบราณ และการติดต่อระหวา่ งโลกตะวนั ออกกบั โลกตะวนั ตกที่มีอิทธิพลต่อพฒั นาการและการ
เปลี่ยนแปลงของโลก

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการทางาน กระบวนการวิเคราะห์ กระบวน การ
สืบคน้ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการแกป้ ัญหา

เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ และตระหนกั ถึงความสาคญั ของเวลา และยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์
สามารถนาความรู้มาปรับใชใ้ นการดาเนินชีวติ ที่จะตอ้ งรับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของสงั คมโลกช่วยใหด้
าเนินชีวติ อยา่ งสนั ติสุข

รหัสตวั ชี้วดั
ส4.1 ม.5/1 , ม.5/2
ส4.2 ม.5/1

รวม 3 ตวั ชี้วดั

130

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ ประวตั ิศำสตร์ รหัสวชิ ำ ส 32104 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 5

จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 2

ศึกษาและวเิ คราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม เศรษฐกิจและการเมืองเขา้ สู่โลก
สมยั ปัจจุบนั ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยโุ รปไปยงั ทวีปอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย
สถานการณ์ของโลกในคริสตศ์ ตวรรษที่ 20

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการท างาน กระบวนการวเิ คราะห์
กระบวนการสืบคน้ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการแกป้ ัญหา

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ และตระหนกั ถึงความสาคญั ของเวลา และยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์
สามารถนาความรู้มาปรับใชใ้ นการดาเนินชีวิต ท่ีจะตอ้ งรับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของสงั คมโลกช่วยให้
ดาเนินชีวิตอยา่ งสนั ติสุข

รหัสตวั ชี้วดั
ส4.2 ม.5/2 , ม.5/3 , ม.5/4

รวม 3 ตวั ชี้วดั

131

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ สังคมและวฒั นธรรมไทย รหัสวชิ ำ ส 32201 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 5

จำนวน 40 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 1

ศึกษาโครงสร้างทางสงั คม สถาบนั ในสงั คมไทย เช่น สถาบนั ครอบครัว สถาบนั การศึกษา สถาบนั
เศรษฐกิจ สถาบนั การปกครอง สถาบนั ศาสนา สถาบนั นนั ทนาการปัญหาของแต่ละสถาบนั พร้อมแนวทางแกไ้ ข
ปัญหาไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม อธิบายเป้าหมายในการพฒั นาสงั คม แนวคิดในการพฒั นาทางสงั คม แผนพฒั นา
เศรษฐกิจและสงั คม องคก์ รในการพฒั นาสงั คม ความรับผดิ ชอบปัญหาสงั คม แนวทางแกไ้ ขปัญหาสงั คม
วิเคราะห์เปรียบเทียบในเร่ืองสงั คมเกษตรกบั สงั คมอุตสาหกรรมในเรื่องความหมาย ประเภท เปรียบเทียบลกั ษณะ
สังคมเกษตรและอตุ สาหกรรมเพ่อื พอใจสงั คมท่ีตนดารงชีวติ อยู่

เห็นคุณคา่ และปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมไทยเกี่ยวกบั ความหมายองคป์ ระกอบ ประเภทของวฒั นธรรม การ
เปล่ียนแปลงสงั คม วฒั นธรรม ปัญหาสงั คม เอกลกั ษณ์ไทย มรดกทางวฒั นธรรม การอนุรักษว์ ฒั นธรรมไทย แนว
ทางแกไ้ ขปัญหาสงั คมไทย

เพอ่ื ใหต้ ระหนกั ยอมรับและปฏิบตั ิตนตามบทบาทของพทุ ธศาสนาที่มีต่อสงั คมและวฒั นธรรมไทย
เพ่อื ใหส้ ามารถนาหลกั ธรรมมาใชใ้ นการดาเนินชีวิตตามหลกั วฒั นธรรมไทย ปฏิบตั ิตนตามประเพณีไทยและ
ทอ้ งถ่ินไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
1. สามารถอธิบายความหมายของสงั คม พร้อมท้งั จาแนกประเภท และเปรียบเทียบลกั ษณะสงั คมแบบ
ต่างๆ ได้
2. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั โครงสร้างสงั คมไทย และสามารถปฏิบตั ิตนตามบทบาทของสถาบนั ทาง
สงั คมพร้อมท้งั วเิ คราะห์ปัญหาของสถาบนั ต่างๆ และเสนอแนวทางแกไ้ ขปัญหาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
3. สามารถอธิบายเป้าหมายในการพฒั นาสงั คมพร้อมแนวทางแกไ้ ขปัญหาสงั คมไดถ้ ูกตอ้ ง
4. อธิบายความหมาย องคป์ ระกอบ ประเภทของวฒั นธรรมไทยได้
5. วเิ คราะห์สาเหตุการเปล่ียนแปลงของสงั คมไทยและปัญหาที่เกิดข้ึนกบั สงั คมไทย พร้อมแนวทางแกไ้ ข
ปัญหาสังคมไทยได้
6. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั เอกลกั ษณ์ของสงั คมไทย มรดกทางวฒั นธรรมและการอนุรักษว์ ฒั นธรรม
ไทยไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
7. สามารถนาหลกั ธรรมคาสอนท่ีเกี่ยวกบั วฒั นธรรมไทยมาใชใ้ นชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

รวม 7 ผลกำรเรียน

132

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ ประชำกรกบั ส่ิงแวดล้อม รหัสวชิ ำ ส 32202 ช้ันมธั ยมศึกษำท่ี 5

จำนวน 40 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 2

ศึกษาเกี่ยวกบั ประชากรในดา้ นต่างๆ เช่น ขนาด องคป์ ระกอบ การกระจายและความหนาแน่นของประชากร
การเปลี่ยนแปลงของประชากร การปรับตวั ของประชากรใหท้ นั กบั การเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึนในปัจจุบนั วิเคราะห์
ขอ้ มูลเกี่ยวกบั อตั ราการเกิด การตาย การยา้ ยถิ่นฐาน เพอ่ื น าไปใชเ้ ป็นขอ้ มูลในชีวติ ประจาวนั ศึกษาวิเคราะห์
ส่ิงแวดลอ้ มในดา้ นต่างๆ เช่น ความรู้เก่ียวกบั สิ่งแวดลอ้ มประโยชน์ของส่ิงแวดลอ้ ม ปัญหาสิ่งแวดลอ้ ม เพ่อื
สามารถเสนอแนวทางแกไ้ ขใหเ้ หมาะสมกบั สภาพของทอ้ งถิ่นน้นั ๆ

โดยใชก้ ระบวนการคิดรวบยอด กระบวนการทางาน กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการปฏิบตั ิ
กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการแกป้ ัญหา

เพื่อใหต้ ระหนกั ถึงปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกบั ประชากร ผลกระทบของปัญหาส่ิงแวดลอ้ มที่มีต่อประชากร เพอื่
นาไปเป็นแนวทางแกไ้ ขการปฏิบตั ิตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อสงั คม

ผลกำรเรียนรู้
1. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ประชากร
2. สามารถวเิ คราะห์การเปล่ียนแปลงของประชากรได้
3. อธิบายส่ิงแวดลอ้ มโดยทวั่ ไปได้
4. ตระหนกั และเห็นความสาคญั ของปัญหาสิ่งแวดลอ้ มท่ีส่งผลกระทบต่อมนุษยไ์ ด้
5. วิเคราะห์ผลกระทบของปัญหาสิ่งแวดลอ้ มท่ีมีต่อประชากรได้
6. วิเคราะห์ เสนอแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาประชากรกบั ส่ิงแวดลอ้ มได้

รวม 6 ผลกำรเรียนรู้

133

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ หน้ำทพี่ ลเมือง 3 รหัสวชิ ำ ส 30243 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 5

จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 1

ศึกษาการแสดงออก การแนะนาผอู้ ื่น ยกยอ่ งบุคคลที่มีความเอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผแ่ ละความเสียสละต่อสงั คม ปฏิบตั ิ
ตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเองปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยา่ งมีส่วนร่วมในการจดั กิจกรรมและสนบั สนุนใหผ้ อู้ ่ืนแสดงออกถึง
ความรักชาติยดึ มน่ั ในศาสนาและเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยา่ งประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่
พระบรมราโชวาทในเร่ืองการมีระเบียบวินยั ความสามคั คี หลกั การทรงงานในเร่ืองระเบิดออกจากขา้ งใน ไม่ติด
ตารา บริการท่ีจุดเดียว ใชอ้ ธรรมปราบอธรรมและหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินยั ในตนเอง
ในเร่ืองความซ่ือสตั ยส์ ุจริตขยนั หมนั่ เพยี รอดทน ใฝ่ หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทา
ของตนเอง โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวเิ คราะห์ การปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้

เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนมีลกั ษณะที่ดีของคนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติยดึ มนั่ ใน
ศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็น
ประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองมีวิจารณญาณในการเลือกต้งั และการวิพากษน์ โยบายสาธารณะอยู่
ร่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งสนั ติจดั การความขดั แยง้ ดว้ ยวธิ ีสนั ติและมีวินยั ในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
1. แสดงออก แนะนาผอู้ ื่น และยกยอ่ งบุคคลท่ีมีความเอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผแ่ ละเสียสละ
2. เป็นแบบอยา่ งมีส่วนร่วมในการจดั กิจกรรมและสนบั สนุนใหผ้ อู้ ื่นแสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ มนั่ ใน
ศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์
3. เป็นแบบอยา่ งประยกุ ตใ์ ชพ้ ระบรมราโชวาทหลกั การทรงงานและหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
4. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง

รวม 4 ผลกำรเรียนรู้

134

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ หน้ำทีพ่ ลเมือง 4 รหัสวชิ ำ ส 30244 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 5

จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 2

ศึกษาการปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยา่ งและส่งเสริมสนบั สนุนใหผ้ อู้ ื่นเป็นพลเมืองดีตามวถิ ีประชาธิปไตยในเร่ือง
การเป็นผนู้ าและสมาชิกที่ดี การใชส้ ิทธิและหนา้ ที่ การใชเ้ สรีภาพอยา่ งรับผดิ ชอบ ความกลา้ หาญทางจริยธรรม
การเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาสงั คมต่อสาธารณะ การติดตามและประเมินขา่ วสารทางการเมืองและการรู้เท่าทนั
สื่อ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการประชาธิปไตยในการวพิ ากษป์ ระเด็นนโยบาย
สาธารณะที่ตนสนใจ มีส่วนร่วมและตดั สินใจเลือกต้งั อยา่ งมีวจิ ารณญาณ รู้ทนั ขา่ วสารและรู้ทนั สื่อ คาดการณ์
เหตุการณ์ล่วงหนา้ บนพ้นื ฐานของขอ้ มูล

ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินยั ในตนเองในเรื่องความซื่อสตั ยส์ ุจริต ขยนั หมนั่ เพียรอดทน ใฝ่ หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิ
หนา้ ที่และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง มีส่วนร่วมในการแกป้ ัญหาเม่ือเกิดความขดั แยง้ โดยสนั ติวิธี
ดว้ ยการเจรจาไกลเกลี่ยการเจรจาต่อรอง การระงบั ความขดั แยง้ และสร้างเครือขา่ ยป้องกนั ปัญหาความขดั แยง้
ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินยั ในตนเองในเร่ืองความซื่อสตั ยส์ ุจริตอดทนและยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง
โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวเิ คราะห์ การปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการ
แกป้ ัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้

เพ่ือใหผ้ เู้ รียนมีลกั ษณะท่ีดีของคนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติยดึ มนั่ ใน
ศาสนาและเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็น
ประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองมีวิจารณญาณในการเลือกต้งั และการวิพากษน์ โยบายสาธารณะ อยู่
ร่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งสนั ติจดั การความขดั แยง้ ดว้ ยวธิ ีสนั ติและมีวินยั ในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
1. เป็นแบบอยา่ งและส่งเสริมสนบั สนุนใหผ้ อู้ ่ืนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย
2. ประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการประชาธิปไตยในการวพิ ากษป์ ระเดน็ นโยบายสาธารณะท่ีตนเองสนใจ
3. มีส่วนร่วมและตดั สินใจเลือกต้งั อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
4. รู้ทนั ข่าวสารและรู้ทนั ส่ือ
5. คาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหนา้ บนพ้นื ฐานของขอ้ มูล
6. มีส่วนร่วมในการแกป้ ัญหาเมื่อเกิดความขดั แยง้ โดยสนั ติวธิ ีและสร้างเครือขา่ ยการป้องกนั ปัญหาความ
ขดั แยง้
7. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง

รวม 7 ผลกำรเรียนรู้

135

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม รหัสวชิ ำ ส 33101 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 6

จำนวน 40 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 1

ศึกษาพทุ ธประวตั ิ ประวตั ิพทุ ธสาวก สาวกิ า และศาสนิกชนตวั อยา่ งในพระพทุ ธศาสนา ความสาคญั ของ
พระพทุ ธศาสนาตามหลกั ธรรมคาสอนในกรอบอริยสจั 4 และพทุ ธศาสนสุภาษิต ตลอดจนศึกษาคุณค่าของการ
สงั คายนาพระไตรปิ ฎก ประวตั ิศาสดาและพฤติกรรมท่ีแตกต่างกนั ของศาสนิกชนในแต่ละศาสนา รวมท้งั พฒั นา
ชีวติ ดว้ ยการพฒั นาจิตและพฒั นาการเรียนรู้ดว้ ยวธิ ีคิดแบบโยนิโสมนสิการ การบริหารจิตและเจริญปัญญาตาม
หลกั สติปัฏฐานและปฏิบตั ิตนตามศาสนพธิ ี หลกั ธรรม คติธรรมที่เกี่ยวเน่ืองกบั วนั สาคญั ทางศาสนา เสนอ

แนวทางในการธารงรักษาศาสนาที่ตนนบั ถือ นอกจากน้ียงั ศึกษาโครงสร้างทางสงั คมและวฒั นธรรม เพื่อเป็น
แนวทางในการอนุรักษแ์ ละวเิ คราะห์ความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมไทยกบั วฒั นธรรมสากล ตลอดจนปฏิบตั ิตน

ตามกฎหมาย โดยประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนและวิเคราะห์การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มี
พระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข การปฏิบตั ิตนและมีส่วนร่วมในการเป็นพลเมืองดี เสนอแนวทางการเมืองการ
ปกครองที่น าไปสู่ความเขา้ ใจและการประสานประโยชน์ร่วมกนั ระหวา่ งประเทศ

โดยผา่ นกระบวนการจดั การเรียนรู้แบบสืบคน้ การอภิปราย การทางานกลุ่ม อาศยั ส่ือภาพ วดี ิทศั น์
สถานการณ์ต่างๆ เพอื่ พฒั นาทกั ษะการทางานเป็นทีมและนาไปสู่การยอมรับ เห็นคุณค่าของตนเองและผอู้ ื่น

ตระหนกั ถึงความสาคญั และเห็นคุณคา่ ของพระพทุ ธศาสนา และศาสนาต่างๆ ที่หล่อหลอมใหศ้ าสนิกชน
ปฏิบตั ิตนเป็นคนดี มีค่านิยมท่ีดีงาม ปฏิบตั ิตนเพื่อประโยชนต์ ่อสงั คมและส่วนร่วมเพ่ือใหเ้ กิดสนั ติสุขในสงั คม

รหัสตัวชี้วดั
ส1.1 ม.6/1 , ม.6/2 , ม.6/3 , ม.6/4 , ม.6/5 , ม.6/6 , ม.6/7 , ม.6/8 , ม.6/9 , ม.6/10 , ม.6/11 ,
ม.6/12 , ม.6/13 , ม.6/14 , ม.6/15 , ม.6/16 , ม.6/17 , ม.6/18 , ม.6/19 , ม.6/20 ,
ม.6/21, ม.6/22
ส1.2 ม.6/1 , ม.6/2 , ม.6/3 , ม.6/4 , ม.6/5
ส2.1 ม.6/1 , ม.6/2 , ม.6/3 , ม.6/4 , ม.6/5
ส2.2 ม.6/1 , ม.6/2 , ม.6/3 , ม.6/4

รวม 36 ตัวชี้วดั

136

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม รหัสวชิ ำ ส 33102 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 6

จำนวน 40 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 2

ศึกษาความสาคญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ที่แสดงถึงการเปล่ียนแปลงของมนุษยชาติ
ข้นั ตอนของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ ท่ีมีต่อการศึกษาประวตั ิศาสตร์สากล การติดต่อระหวา่ งโลกตะวนั ออกกบั
โลกตะวนั ตก เหตุการณ์สาคญั ต่างๆ ที่มีผลต่อพฒั นาการและการเปล่ียนแปลงของโลก รวมถึงผลกระทบ ความ
ร่วมมือและความขดั แยง้ ของมนุษยชาติ สถานการณ์สาคญั ของโลกในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 21 ศึกษาเร่ืองหลกั
เศรษฐศาสตร์วา่ ดว้ ยการกาหนดราคาและคา่ จา้ งในระบบเศรษฐกิจ ผลดี ผลเสียของระบบเศรษฐกิจแบบต่างๆ
ตลาดและประเภทของตลาด ศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง รวมท้งั การนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวติ เพื่อพฒั นา
เศรษฐกิจและสงั คม ศึกษาระบบสหกรณ์ท่ีมีบทบาทต่อการพฒั นาเศรษฐกิจในชุมชนและประเทศ วเิ คราะห์ปัญหา
ทางเศรษฐกิจในชุมชนและแนวทางการพฒั นาเศรษฐกิจ ศึกษาและวิเคราะห์การเงิน การธนาคาร การคลงั และ
งบประมาณกาจดั การเรื่องรายได้ รายจ่ายของรัฐบาล ศึกษาและวเิ คราะห์เก่ียวกบั เศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ เพอื่
นาไปสู่การร่วมมือและพ่งึ พาอาศยั กนั ทางเศรษฐกิจ ศึกษาการใชเ้ ครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ขอ้ มูลภูมิสารสนเทศ
เพอ่ื วิเคราะห์อิทธิพลของสภาพภูมิศาสตร์ซ่ึงทาใหเ้ กิดปัญหาทางกายภาพหรือภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติในประเทศ
และภูมิภาคต่างๆ ของโลก ประเมินการเปล่ียนแปลงธรรมชาติในโลกวา่ เป็นผลมาจากการกระทาของมนุษยห์ รือ

ธรรมชาติ วเิ คราะห์สถานการณ์และวิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทยและ
ของโลก ระบุมาตรการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา บทบาทขององคก์ ารและการประสานความร่วมมือท้งั ในประเทศ
และนอกประเทศ เก่ียวกบั กฎหมายส่ิงแวดลอ้ มการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ระบุแนวทางการ
อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในภูมิภาคตา่ งๆ ของโลก อธิบายการใชป้ ระโยชน์จากสิ่งแวดลอ้ มใน
การสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมอนั เป็นเอกลกั ษณ์ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ มเพือ่ การพฒั นาท่ียงั่ ยนื

โดยการเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมสู่ประสบการณ์ใหม่ โดยการใชภ้ าพ ขา่ ว หรือสถานการณ์ต่างๆ ให้
นกั เรียนฝึกการสังเกต ตอบคาถามหาแนวทางปฏิบตั ิที่ถูกตอ้ ง เหมาะสม ส่งเสริมการทางานกลุ่ม เพื่อพฒั นาทกั ษะ
ทางสงั คม นาไปสู่การยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองและผอู้ ื่น

เพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจพฒั นาการและวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ท่ีมีผลต่อการศึกษาประวตั ิศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ
และเห็นคุณค่าความสาคญั เกี่ยวกบั ระบบเศรษฐกิจ กลไกราคา การเงินการคลงั ตลอดจนตระหนกั ถึงความสาคญั
ของสภาพภูมิศาสตร์ ที่มีต่อการดาเนินชีวติ ของมนุษย์

137

รหัสตวั ชี้วดั
ส4.1 ม.6/1 , ม.6/2
ส4.2 ม.6/1 , ม.6/2 , ม.6/3 , ม.6/4
ส3.1 ม.6/1 , ม.6/2 , ม.6/3 , ม.6/4
ส3.2 ม.6/1 , ม.6/2 , ม.6/3
ส5.1 ม.6/1 , ม.6/2 , ม.6/3 , ม.6/4
ส5.2 ม.6/1 , ม.6/2 , ม.6/3 , ม.6/4 , ม.6/5

รวม 22 ตัวชี้วดั

138

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ กำรพฒั นำกำรเมืองกำรปกครอง รหัสวชิ ำ ส 33201 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 6

จำนวน 40 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 1

ศึกษาวเิ คราะห์ สืบคน้ เก่ียวกบั บทบาทและการเปล่ียนแปลงทางการเมือง การปกครองที่มีผลกระทบต่อ
สงั คมไทยปัจจุบนั และมีความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั พฒั นาการทางการเมืองการปกครองรัฐธรรมนูญของประเทศไทย
ความสาคญั ท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงสงั คมต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั รวมท้งั ผลกระทบต่อการดารงชีวติ ประจพวนั
ของประชาชน

โดยใชก้ ระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการสืบคน้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการประชาธิปไตย

กระบวนการฝึกปฏิบตั ิ กระบวนการคิดรวบยอด
เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ปัญหาอุปสรรคและพฒั นาการทางการเมืองของไทยในระบอบ

ประชาธิปไตย การปกครองของไทยต้งั แตอ่ ดีตจนถึงปัจจุบนั อนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุขและตระหนกั
ถึงบทบาทหนา้ ที่ของตนเองในการมีส่วนร่วมที่จะพฒั นาการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยใหม้ น่ั คง
ต่อไป

ผลกำรเรียนรู้
1. มีความรู้พ้นื ฐานเกี่ยวกบั การเมืองการปกครอง
2. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั พฒั นาการทางการเมืองการปกครองของไทยต้งั แตร่ ะบบสมบูรณาญาสิทธิ
ราชจนถึงระบอบประชาธิปไตยในปัจจุบนั
3. อธิบายถึงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครอง กบั สงั คมเศรษฐกิจของไทย
ต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั
4. รู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั การเมือง พรรคการเมือง การเลือกต้งั สิทธิ หนา้ ที่ เสรีภาพ ในระบอบประชาธิปไตย
5. วเิ คราะห์เก่ียวกบั เหตุผลในการเปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475
6. อธิบายถึงความหมาย ความสาคญั และโครงสร้างของระบบการเมืองการปกครองของไทย

รวม 6 ผลกำรเรียนรู้

139

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม

รำยวชิ ำ เหตุกำรณ์ปัจจุบัน รหัสวชิ ำ ส 33202 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 6

จำนวน 40 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 2

ศึกษาและวเิ คราะห์สภาพเหตุการณ์ปัจจุบนั และภูมิหลงั ทางประวตั ิศาสตร์ กรณีตวั อยา่ งเหตุการณ์สาคญั ที่

เกิดข้ึนในภูมิภาคต่างๆ ของโลกในดา้ นการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สงั คมและวฒั นธรรม
โดยใชก้ ระบวนการสืบคน้ ขอ้ มูล วเิ คราะห์เปรียบเทียบกระบวนการกลุ่ม กระบวนการแกป้ ัญหา

กระบวนการพฒั นาค่านิยม ความสามคั คี

เพอ่ื ใหม้ ีความเขา้ ใจสภาวการณ์ปัจจุบนั และแนวโนม้ ตระหนกั ในปัญหาพ้ืนฐานสาคญั ของโลก
ผลกระทบของปัญหาที่เกิดข้ึน และเห็นแนวทางในการวเิ คราะห์เหตุการณ์สาคญั สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้
ได้

ผลกำรเรียนรู้
1. มีความรู้ความเขา้ ใจถึงพฒั นาการของอารยธรรมตะวนั ตก และอารยธรรมตะวนั ออกของยคุ โบราณและ
ยคุ กลางได้
2. สามารถวิเคราะห์เหตุและผลกระทบของลทั ธิจกั รวรรดินิยมท่ีก่อใหเ้ กิดการขดั แยง้ ของชาติมหาอานาจ
ตะวนั ตก จนนามาซ่ึงสงครามโลกคร้ังท่ี 2 ได้
3. มีความรู้ความเขา้ ใจถึงสาเหตุของสงครามโลกคร้ังที่ 1 และ 2 ได้
4. สามารถวิเคราะห์เหตุผล และผลกระทบของสงครามเยน็ ท่ีมีต่อสถานการณ์โลกปัจจุบนั ได้
5. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความสาคญั และความจาเป็นของความร่วมมือระดบั ภูมิภาคในดา้ นการเมือง
และเศรษฐกิจ
6. มีความรู้ความเขา้ ใจ และสามารถวิเคราะห์ปัญหาผลู้ ้ีภยั โดยเฉพาะผลกระทบต่อประเทศ
7. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั บทบาท และความสาเร็จดา้ นเศรษฐกิจของสหประชาชาติและองคก์ ารพเิ ศษ
และสามารถยกตวั อยา่ งบทบาทในปัจจุบนั ได้
8. มีความรู้ความเขา้ ใจ สภาพปัญหาของโลกในปัจจุบนั และความจาเป็นตอ้ งเร่งแกป้ ัญหา

รวม 8 ผลกำรเรียนรู้

140

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ
ช้ันมธั ยมศึกษำตอนปลำย

ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน
พทุ ธศักรำช 2551

141

โครงสร้ำงหลกั สูตร กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ
ระดบั มธั ยมศึกษำตอนปลำย

ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั พ31101 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
รหสั พ31102 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา
วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา

ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 5

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั พ32101 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รหสั พ32102 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา
วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา

ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 6

รำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั พ33101 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
รหสั พ33102 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
วชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา
วชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา

รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 4-6

วิชาเซปักตะกร้อ รหสั พ30212 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน
1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วชิ าวอลเลยบ์ อล รหสั พ30214 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน
วชิ าบาสเกตบอล รหสั พ30215 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน

วชิ าฟุตบอล รหสั พ30216

วิชาฟตุ ซอล รหสั พ30217

142

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ

รำยวชิ ำ สุขศึกษำและพลศึกษำ รหัสวชิ ำ พ 31101 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาใหม้ ีความรู้เรื่อง การสร้างเสริมการทางานของระบบ ผวิ หนงั กระดูก และระบบกลา้ มเน้ือ การวางแผน
ดูแลสุขภาพตามภาวะการเจริญเติบโตของตนเองและครอบครัว วางแผนและปฏิบตั ิตามแผนการพฒั นาสุขภาพ
ของตนเองและครอบครัว วเิ คราะห์อิทธิพลครอบครัว เพอื่ น สงั คม และวฒั นธรรมที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศ
และการดาเนินชีวติ วเิ คราะห์ค่านิยมในเร่ืองเพศตามวฒั นธรรมไทยและวฒั นธรรมอ่ืนๆ
ฝึกใหเ้ รียนรู้การทางานร่วมกนั เรียนรู้เร่ืองการวิเคราะห์ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ัญหา ยอมรับฟังความคิดเห็นของ
ผอู้ ื่น การฝึกปฏิบตั ิจริง อาทิ การหาขอ้ มูลการสืบคน้ ทางอินเตอร์เน็ต

โดยการแสดงบทบาทสมมุติ การจาลองสถานการณ์ การศึกษานอกสถานที่ การรายงาน การนาเสนอ นกั เรียน
นาผลงานกระบวนการการเรียนรู้ปรับใชใ้ นชีวิตไดอ้ ยา่ งมีคุณคา่ มีความรับผดิ ชอบ มุ่งมนั่ ในการทางาน อยใู่ น
สงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข

รหัสตัวชี้วดั
พ 1.1 ม.4/1, ม.4/2
พ 2.1 ม.4/1, ม.4/2/4
พ 4.1 ม.4/5

รวมท้งั หมด 5ตวั ชี้วดั

143

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ

รำยวชิ ำ สุขศึกษำและพลศึกษำ รหัสวชิ ำ พ 31102 ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี 4
ภำคเรียนท่ี 2
จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาใหม้ ีความรู้วเิ คราะห์สาเหตุและผลของความขดั แยง้ ท่ีอาจเกิดข้ึนระหวา่ งนกั เรียนหรือเยาวชน และ
เสนอแนวทางแกป้ ัญหา มีส่วนร่วมในการป้องกนั ความเส่ียงตอ่ การใชย้ า การใชส้ ารเสพติดและความรุนแรง เพอ่ื
สุขภาพของตนเอง ครอบครัว และสงั คม วิเคราะห์ผลกระทบท่ีเกิดจากการครอบครอง การใช้ และการจาหน่าย
สารเสพติด ใชท้ กั ษะการตดั สินใจแกป้ ัญหาในสถานการณ์ที่เส่ียงต่อสุขภาพและความรุนแรง และสามารถสร้าง
วิธีการช่วยฟ้ื นคืนชีพอยา่ งถูกวิธี

ฝึกใหเ้ รียนรู้การทางานร่วมกนั เรียนรู้เรื่องการวิเคราะห์ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ัญหา ยอมรับฟังความคิดเห็น

ของผอู้ ื่น การฝึกปฏิบตั ิจริง อาทิ การหาขอ้ มูล การสืบคน้ ทางอินเตอร์เน็ต

โดยการแสดงบทบาทสมมุติ การจาลองสถานการณ์ การศึกษานอกสถานที่ การรายงาน การนาเสนอ นกั เรียน
นาผลงานกระบวนการการเรียนรู้ปรับใชใ้ นชีวิตไดอ้ ยา่ งมีคุณค่า มีความรับผดิ ชอบ มุ่งมน่ั ในการทางาน อยใู่ น
สงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข

รหัสตวั ชี้วดั
พ 2.1 ม.4/4
พ 5.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/6, ม.4/7

รวมท้งั หมด 5 ตวั ชี้วดั

144

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ

รำยวชิ ำ สุขศึกษำและพลศึกษำ รหัสวชิ ำ พ 32101 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 5
ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาเร่ืองการเจริญเติบโตและการพฒั นาของมนุษย์ กระบวนการสร้างเสริม และดารงประสิทธิภาพการ
ทางานของระบบยอ่ ยอาหาร ระบบขบั ถ่าย ระบบหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต วธิ ีการวางแผนดูแลสุขภาพตาม
ภาวการณ์เจริญเติบโตและพฒั นาการของตนเองและบุคคลในครอบครัว การเลือกใชท้ กั ษะที่เหมาะสมในการ
ป้องกนั ลดความขดั แยง้ และการแกป้ ัญหาเร่ืองเพศและครอบครัวเพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจการเจริญเติบโตและ
พฒั นาการของมนุษย์ ชีวิตและครอบครัวฝึกใหเ้ รียนรู้การทางานร่วมกนั เรียนรู้เรื่องการวิเคราะห์ใชเ้ หตุผลในการ
แกป้ ัญหา ยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน การฝึกปฏิบตั ิจริง อาทิ การหาขอ้ มูล การสืบคน้ ทาง

โดยการแสดงบทบาทสมมุติ การจาลองสถานการณ์ การศึกษานอกสถานท่ี การรายงาน การนาเสนอ
นกั เรียนนาผลงานกระบวนการการเรียนรู้ปรับใชใ้ นชีวติ ไดอ้ ยา่ งมีคุณค่า มีความรับผดิ ชอบ มุ่งมนั่ ในการทางาน
อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข นกั เรียนมีความรับผดิ ชอบ มุ่งมนั่ ในการทางาน มีวินยั ยอมรับการตดั สินใจของหมู่
คณะอยา่ งมีเหตุผล ขจดั พฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงคท์ ี่มีผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ื่น

รหัสตวั ชี้วดั
พ 3.1 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3
พ 3.2 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4

รวมท้งั หมด 7 ตวั ชี้วดั


Click to View FlipBook Version