The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนมัธยมปลาย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by b.bangaor, 2022-05-16 06:26:30

แผนการสอนมัธยมปลาย

แผนการสอนมัธยมปลาย

46

รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวชิ าภาษาไทยเพอ่ื การสอ่ื สารและการสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2

มาตรฐานที่ 2.1 มีความรู้ ความเข้าใจและทักษะพ้ืนฐานเก่ียวกบั ภาษาและการสอื่ สาร

ท่ี หวั เรอื่ ง ผลการเรยี นรู้ เนอื้ หา จำนวน
(ชวั่ โมง)
1. พดู ดมี มี นษุ ย 1. ใชภ้ าษาพูดสื่อสารและมีปฏสิ มั พันธ์ 1. การพดู สนทนา
7
สัมพันธ์ กับบคุ คลอื่นในชีวิตประจำวนั ได้ - องคป์ ระกอบการพูดสนทนา
7
1.1 การใช้ภาษา เหมาะสมตามกาลเทศะ - การพูดสนทนาระหวา่ งบคุ คล
5
พูดเพอื่ การส่ือสาร - การพูดสนทนาในกลมุ่ 5
3
และสร้างมนุษย - มารยาทในการพูดสนทนา

สัมพนั ธใ์ น - การพูดสนทนาที่ดมี มี นุษยสมั พันธ์

ชวี ิตประจำวัน 2. การพดู สัมภาษณ์

- ความหมายการพูดสมั ภาษณ์

- วัตถปุ ระสงค์การพดู สมั ภาษณ์

- องคป์ ระกอบสำคัญของการ

สัมภาษณ์

- ประเภทของการสมั ภาษณ์

- คณุ สมบตั ิของผสู้ มั ภาษณ์

- การเตรยี มคำถามเพ่ือการพูด

สมั ภาษณ์

- วธิ ีพดู สัมภาษณ์ท่ดี ี

1.2 การพดู แสดง 2. อธิบายหลกั การพดู แสดงความ 3. หลกั การพดู แสดงความคดิ เห็น

ความคดิ เหน็ คิดเห็นและปฏิบตั ิตามได้ - ประเภทการพดู แสดงความคดิ เหน็

- หลกั การพูดแสดงความคดิ เห็น

- คณุ ลักษณะของผ้พู ูดแสดงความ

คิดเห็นท่ดี ี

4. การพดู แสดงความคดิ เห็น

- การพดู โตแ้ ยง้

- การพดู วพิ ากษว์ จิ ารณ์

- การพดู โน้มน้าว

1.3 การใชภ้ าษา 3. อธบิ ายความหมาย ลกั ษณะและ 5. การใช้ภาษาพูดผา่ นส่ือ

พูดผ่านสอ่ื ประเภทของสือ่ ตา่ งๆได้ ประเภทต่างๆ
ประเภทตา่ งๆ 4. มีความเขา้ ใจและวเิ คราะห์ประเมนิ - วทิ ยุ
ค่าการใชภ้ าษาพดู จากสือ่ ตา่ งๆได้ - โทรศพั ท์

- อินเตอรเ์ น็ต

47

ที่ หวั เรอ่ื ง ผลการเรยี นรู้ เนอ้ื หา จำนวน
(ชว่ั โมง)
- โทรสาร
2
6. การประเมนิ ค่าการใชภ้ าษา 6

พูดจากสื่อต่างๆ 6

2 เขียนถกู หลักรกั ษ์ 1. ใชภ้ าษาเขยี นไดถ้ ูกต้องตามหลกั การ 1. การเขียนคำใหถ้ ูกต้องตาม 2
10
ภาษาไทย ใชภ้ าษา หลกั การใชภ้ าษาไทย
6
2.1 เขียนถูกหลัก 2. ใชค้ ำในการเขยี นได้ถูกต้องตาม - การเลือกคำทต่ี รงความหมาย
3
รกั ษ์ภาษาไทย อักขระวธิ ี - การเลือกใช้คำทเ่ี ปน็ ภาษาเขียน 3

3. ใช้คำในการเขยี นได้ตรงความหมาย - การเลือกใชค้ ำท่ีสภุ าพ

- การเลือกใชค้ ำท่ีเปน็ คำไทย

- การเลือกใช้คำใหถ้ ูกตอ้ งตามไว

ยกรณ์

2. ความหมายของคำในภาษาไทย

- ความหมายของคำ

- ชนดิ ของคำ

- การใชส้ ำนวนสภุ าษติ และคำ

พงั เพย

- การใชโ้ วหาร

3. คำทม่ี กั เขียนผิด

2.2 เขียนสอ่ื สาร 4. เขา้ ใจและใช้ภาษาเขยี นสอ่ื สารเพ่อื 4. การใช้ภาษาเขียนเพอ่ื กการ

สร้างมนษุ ย การมีปฏสิ ัมพนั ธก์ ับบคุ คลอน่ื ใน ส่อื สารและสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธใ์ น

สมั พนั ธ์ ชวี ติ ประจำวนั ได้ ชวี ิตประจำวนั

5. เขียนวิพากษ์วิจารณง์ านเขยี นของ - การใช้ประโยคเพอ่ื การส่อื สาร

ผ้อู ื่นได้ - การเขียนจดหมายเพอื่ การส่อื สาร

6. แตง่ บทประพนั ธท์ ั้งร้อยแกว้ รอ้ ย 5. การเขียนวิพากษ์วิจารณ์

กรองไดถ้ กู ตอ้ งตามรูปแบบและฉนั ท - คุณสมบตั ขิ องผู้เขียน

ลักษณ์ทเ่ี ปน็ ข้อกำหนดพ้นื ฐาน วิพากษว์ จิ ารณท์ ด่ี ี

- วิธวี พิ ากษ์วิจารณ์

- การเขยี นวิพากษว์ ิจารณ์

6. การประเมนิ งานเขยี นของผู้อืน่

- แนวทางการประเมนิ งานเขียน

7. การใชภ้ าษาใหเ้ กิดประโยชนใ์ น

เชิงสร้างสรรค์

48

ที่ หวั เรอ่ื ง ผลการเรยี นรู้ เนอ้ื หา จำนวน
(ชวั่ โมง)
2.3 ระดับภาษา 7.เขา้ ใจและใชค้ ำในการเขยี นไดถ้ กู ต้อง 8. การแบง่ ระดบั ภาษา
คุณคา่ มากมี ตามระดับของภาษา - ภาษาแบบแผน 6
- ภาษากง่ึ แบบแผน
- ภาษาไมเ่ ป็นแบบแผน 4
9. องค์ประกอบในการเลอื กใช้ภาษา
เพ่อื การสอ่ื สาร 5
- กาลเทศะหรือโอกาสทใี่ ช้ภาษา
- ฐานะทางสงั คมหรอื สมั พนั ธภาพ
ระหวา่ งบุคคล
10. คำราชาศพั ท์
- ที่มาของราชาศัพท์
- ประโยชนข์ องการเรยี นรคู้ ำราชา
ศัพท์
- คำราชาศพั ทส์ ำหรบั บคุ คล
- การใชค้ ำราชาศพั ทใ์ หถ้ ูกต้องตาม
เหตผุ ล
- คำราชาศพั ท์สำหรับพระภกิ ษสุ งฆ์

49

ผงั มโนทศั นร์ ายวชิ าภาษาไทยเพอ่ื การสอื่ สารและสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2

- หลักการพูดแสดงความ 1.2 การพดู แสดงความคิดเหน็ 1.1 การใชภ้ าษาพูดเพื่อการ
คดิ เห็น ส่อื สารและสรา้ งมนษุ ยสัมพนั ธ์
- การพดู แสดงความคิดเหน็ หน่วยที่ 1 ในชวี ิตประจำวนั
พดู ดีมมี นษุ ยสมั พนั ธ์
1.3 การใชภ้ าษาพดู ผา่ นสื่อ - การพดู สนทนา
ประเภทตา่ งๆ - การพดู สัมภาษณ์

- การใช้ภาษาพดู ผ่านส่ือ วชิ าภาษาไทยเพอื่ การสอื่ สาร
ประเภทต่างๆ และสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2 2.1 เขียนถูกหลักรกั ษ์ภาษาไทย
- การประเมินค่าการใช้
ภาษาพูดจากสอื่ ตา่ งๆ หนว่ ยที่ 2 - การเขยี นคำให้
เขยี นถกู หลกั รกั ษ์ภาษาไทย ถกู ตอ้ งตามหลกั การใช้
2.3 ระดับภาษาคณุ คา่ มากมี ภาษาไทย
- ความหมายของคำใน
ภาษาไทย

- คำทมี่ กั เขียนผดิ

2.2 เขียนส่ือสารสร้างมนุษยสัมพันธ์

- การแบง่ ระดับภาษา - การใช้ภาษาเขียนเพอ่ื กการส่ือสาร
- องคป์ ระกอบในการเลือกใช้ภาษาเพือ่ และสร้างมนษุ ยสมั พนั ธใ์ น
การส่ือสาร ชีวติ ประจำวัน
- คำราชาศพั ท์ - การเขียนวพิ ากษ์วิจารณ์
- การประเมินงานเขยี นของผู้อนื่
- การใช้ภาษาใหเ้ กดิ ประโยชนใ์ นเชิง
สร้างสรรค์

50

ผงั การออกขอ้ สอบรายวชิ าภาษาไทยเพอ่ื การสอ่ื สารและสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2

สาระความรู้พน้ื ฐาน รายวชิ า ภาษาไทยเพอ่ื การสื่อสารและสร้างมนุษยสัมพนั ธ์ 2 รหสั พท 33013
ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 2.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจและทักษะพ้นื ฐานเก่ียวกับภาษาและการสอ่ื สาร

มาตรฐาน หวั เรอ่ื ง ตวั ชว้ี ดั จำนวนขอ้ พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั /เนอ้ื หา
ทต่ี อ้ งการ รจู้ กั เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่

พดู ดมี มี นษุ ยสมั พนั ธพ์ ดู ดมี ี 1.1 ใช้ภาษาพูด 14 ข้อ 4ข้อ
1. สามารถพดู มนษุ ย สื่อสารและมี 1-5
เพื่อส่ือสารใน สมั พนั ธ์ ปฏิสัมพันธ์กับ

ชวี ิตประจำวัน 1.1 การใช้ บุคคลอ่นื ใน

ไดอ้ ย่าง ภาษาพูด ชวี ติ ประจำวันได้

สร้างสรรค์ เพอื่ การ เหมาะสมตาม

2. สามารถพูด สื่อสาร กาลเทศะ

อยา่ งมี และสร้าง 1.2 อธิบาย 4ขอ้
วจิ ารณญาณ มนุษย หลกั การพูด 6-9
3.เป็นผ้มู มี ารยาท สมั พนั ธ์ แสดงความ

ในการพดู ในชวี ิต คิดเหน็ และ

แสดงความ ประจำวัน ปฏิบัตติ ามได้

คิดเห็น 1.2 การพดู 1.3 อธิบาย 4ข้อ
แสดงความ ความหมาย 10 -
คดิ เหน็ ลกั ษณะและ 13
1.3 การใช้ ประเภทของสื่อ

ภาษาพดู ตา่ งๆได้ 2 ข้อ
ผา่ นส่อื 1.4 มีความ 14 -
ประเภท เขา้ ใจและ 15
ต่างๆ วเิ คราะห์
ประเมินคา่ การ

ใชภ้ าษาพูดจาก

สอื่ ตา่ งๆได้

51

มาตรฐาน หวั เรอ่ื ง ตวั ชวี้ ดั จำนวนขอ้ พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั /เนอื้ หา
ทตี่ อ้ งการ รจู้ กั เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่

เขยี นถกู หลกั เขยี นถกู 2.1 ใชภ้ าษา 4 ขอ้ 4ข้อ

รกั ษภ์ าษาไทย หลกั รกั ษ์ เขียนไดถ้ ูกตอ้ ง 16 -
1. สามารถเขยี น ภาษาไทย ตามหลกั การใช้
19
สื่อสารอยา่ งมี 2.1 เขยี น ภาษา

ประสทิ ธภิ าพ ถกู หลักรกั ษ์

เลอื กใชค้ ำ ภาษาไทย

ถูกตอ้ ง

ตามหลักไวยกรณ์

2. สามารถเขยี น 2.2 เขียน 2.2 ใชค้ ำในการ 18ข้อ 4ข้อ
20 -
เพอ่ื สือ่ สารอยา่ ง สอ่ื สาร เขียนได้ถกู ตอ้ ง 23
4ขอ้
สร้างสรรค์ สรา้ งมนษุ ย ตามอกั ขระวิธี 24 -
27
3. สามารถใช้ภาษาสัมพันธ์ 2.3 ใชค้ ำในการ
เขียนเพอ่ื ส่อื สาร เขียนไดต้ รง 4ขอ้
กบั บคุ คลอ่ืนอย่าง ความหมาย 28 -
สร้างสรรค์ เร่อื งท่ีได้อา่ น 31
4. เปน็ ผูม้ ี 2.4 เขา้ ใจและ
มารยาท ใชภ้ าษาเขยี น 2ขอ้
ในการวพิ ากษ์ ส่ือสารเพอื่ การมี 32 -
วิจารณ์งานเขยี นของ ปฏสิ มั พนั ธ์กับ 33
ผ้อู ่ืน บคุ คลอื่นใน
5. สามารถศกึ ษา ชีวติ ประจำวนั ได้ 4ข้อ
การแต่งบท 2.5 เขยี น 34 -
ประพันธ์ วพิ ากษว์ ิจารณ์ 37
รอ้ ยแก้ว งานเขยี นของ
บทประพนั ธ์ ผ้อู ืน่ ได้
รอ้ ยกรอง

ตามรูปแบบ 2.6 แตง่ บท

ประพนั ธท์ ั้ง

รอ้ ยแกว้ ร้อยกรองได้

ถกู ต้องตาม

รปู แบบและ

ฉันทลกั ษณ์ทเ่ี ป็น

ขอ้ กำหนดพนื้ ฐาน

52

มาตรฐาน หวั เรอื่ ง ตวั ชว้ี ดั จำนวนขอ้ พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั /เนอื้ หา
2.7 เขา้ ใจและ ทตี่ อ้ งการ รจู้ กั เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่
6. สามารถใช้ 2.3 ระดบั ใชค้ ำในการ
คำอย่างเหมาะสม ภาษา เขยี นได้ถกู ตอ้ ง 3 ขอ้ 3ข้อ
กับบคุ คลใน คุณค่า ตามระดับของ
แตล่ ะระดบั ตาม มากมี ภาษา 38 -
วฒั นธรรมไทย
40
รวม
40 ข้อ 19 19 2

53

ผงั การวเิ คราะหเ์ นอ้ื หา รายวชิ าภาษาไทยเพอ่ื การสอื่ สารและสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2
รหสั วชิ า พท33012

จัดกจิ กรรมการเรยี นรจู้ ำนวน 1 ครงั้

เนอ้ื หา งา่ ย ปานกลาง ยาก หมายเหตุ

1. พดู ดมี มี นุษยสมั พนั ธ์
1.1 การใชภ้ าษาพูดเพ่ือการสื่อสารและสร้างมนุษย
สมั พนั ธ์ในชวี ิตประจำวนั
1.2 การพูดแสดงความคดิ เหน็
1.3 การใช้ภาษาพดู ผา่ นสื่อประเภทต่างๆ

2. เขยี นถกู หลักรักษภ์ าษาไทย 
2.1 เขยี นถูกหลักรักษ์ภาษาไทย
2.2 เขียนสอ่ื สารสรา้ งมนุษยสัมพนั ธ์
2.3 ระดับภาษาคุณค่ามากมี

54

แผนการจดั การเรยี นรู้ ครง้ั ที่ 5
รายวชิ าภาษาไทยเพอ่ื การสอ่ื สารและสรา้ งมนษุ ยสมั พันธ์ 2 รหสั วชิ า พท33013

1. รายวชิ า/หวั เรื่อง
เร่อื ง เขยี นถกู หลกั รักษ์ภาษาไทย

2. ตวั ช้ีวัด
2.1 ใช้ภาษาเขยี นไดถ้ กู ต้องตามหลกั การใชภ้ าษา
2.2 ใชค้ ำในการเขยี นไดถ้ ูกต้องตามอักขระวิธี
2.3 ใชค้ ำในการเขยี นไดต้ รงความหมายเร่ืองทไี่ ด้อา่ น
2.4 เขา้ ใจและใชภ้ าษาเขียนสือ่ สารเพอ่ื การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์กับบุคคลอ่นื ในชีวติ ประจำวนั ได้
2.5 เขยี นวพิ ากษ์วิจารณ์งานเขียนของผ้อู นื่ ได้
2.6 แตง่ บทประพันธท์ ัง้ รอ้ ยแก้ว รอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ งตามรูปแบบและฉนั ทลักษณ์ทีเ่ ป็นข้อกำหนด

พื้นฐาน
2.7 เข้าใจและใชค้ ำในการเขียนไดถ้ กู ตอ้ งตามระดับของภาษา

3. เนอ้ื หา
3.1 เขียนถกู หลกั รักษภ์ าษาไทย
- การเขยี นคำให้ถูกตอ้ งตามหลักการใช้ภาษาไทย
- ความหมายของคำในภาษาไทย
3.2 เขียนสือ่ สารสร้างมนุษยสมั พนั ธ์
- การใชภ้ าษาเขียนเพื่อกการสื่อสารและสรา้ งมนษุ ยสัมพนั ธใ์ นชวี ติ ประจำวัน
- การเขียนวพิ ากษ์วจิ ารณ์
- การประเมินงานเขียนของผอู้ ่ืน
- การใชภ้ าษาใหเ้ กดิ ประโยชน์ในเชงิ สร้างสรรค์
3.3 ระดบั ภาษาคุณค่ามากมี
- การแบ่งระดับภาษา
- องค์ประกอบในการเลือกใชภ้ าษาเพื่อการสื่อสาร
- คำราชาศพั ท์

4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
4.1 ผเู้ รยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจการใชค้ ำในการเขียน (K = Knowledge)
4.2 ผู้เรียนเขยี นเพื่อสือ่ สารตามหลักการได้ (P = Practice)

55

4.3 ผู้เรียนเหน็ ประโยชนข์ องการเขียนเพื่อการสือ่ สาร (A = Attitude)

5. สมรรถนะของผเู้ รียน (3R 8C)
5.1 ผเู้ รยี นมีทักษะการอ่านและการเขยี น
5.2 ผ้เู รยี นมที ักษะการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ
5.3 ผู้เรยี นมที ักษะการสอ่ื สารและรู้เทา่ ทนั ส่อื
5.4 ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม

6. ความคดิ รวบยอด
ผเู้ รยี นเขียนเพอื่ ส่อื สารได้อย่างถูกตอ้ งตามหลักการ ใช้ภาษาในการส่ือสารไดอ้ ย่างเหมาะสม

7. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
7.1 ข้นั กำหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O: Orientation)
7.1.1 ผสู้ อนสอบามหากผเู้ รียนตอ้ งการสือ่ สารจะเลอื กวิธีใดในการสือ่ สาร
7.1.2 ผสู้ อนสอบถามผเู้ รยี นเคยสอื่ สารดว้ ยการเขยี นแบบใดบ้าง โดยใหผ้ ้เู รียนตอบแบบไมซ่ ำ้ กัน
7.1.3 ผู้สอนยกตัวอย่างการส่ือสารดว้ ยการเขียนท่ีมีในปัจจุบนั ให้ผเู้ รียนทราบและแจ้งให้ผู้เรียนทราบ

ถึงเรอื่ งทีจ่ ะเรยี นในวนั น้คี อื เขียนถกู หลักรกั ษภ์ าษาไทย
7.2 ขั้นแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรียนรู้ (N: New ways of learning)
7.2.1 ผู้สอนทดสอบความร้ผู ู้เรยี นกอ่ นเรียน
7.2.2 ผู้สอนยกตัวอย่างการเลือกใช้คำในการเขียน เช่น การเลือกใช้คำที่ตรงความหมาย การเลือกใช้

คำเป็นภาษาเขยี น การใช้คำสภุ าพ การเลอื กใชค้ ำใหถ้ กู ตอ้ งตามไวยกรณ์
7.2.3 ผสู้ อนยกตัวอย่างการพิมพ์สนทนาในสถาณการณ์ ไม่เปน็ ทางการและ เปน็ ทางการ

ผูส้ อนสอบถามผู้เรียนว่าควรใชค้ ำ/ประโยคและภาษาในการส่อื สารอยา่ งไร
7.2.4 ผู้สอนเฉลยคำตอบและอธิบายถงึ คำตอบและอธิบายเชื่อมโยงไปถงึ ระดบั ของภาษา
7.2.4 ผสู้ อนนำวดี ีทศั น์ตุ๊กก้ีอ่านจดหมายรักให้ผู้เรียนชม หลงั จากชมวดี ีทัศน์ผู้สอนสอบถามถึงคำที่ใช้

ในจดหมายว่าเหมาะสมหรือไม่อยา่ งไร รว่ มกนั แสดงความคิดเห็น

ตกุ๊ ก้ีอา่ นจดหมายรักhttps://www.youtube.com/watch?v=MWQ8pNXaijs

56

7.2.5 ผ้สู อนอธิบายถึงการเขียนจดหมายเพื่อการสื่อสารและใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาในหนังสือเรียน
(หน้า 70 –75) ไปพร้อมกัน

(หนงั สือเรียนภาษาไทยเพอ่ื การสื่อสารและสร้างมนุษย์ 2)
7.3 ขั้นปฏิบัตแิ ละนำไปประยกุ ต์ใช้ (I: Implementation)

7.3.1 ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นทำใบกจิ กรรม จดหมายสมัครงาน
7.3.2 ผ้สู อนนำตวั อยา่ งจดหมายสมคั รงานทผ่ี ้สู อนเขยี นข้นึ ใหผ้ ู้เรียนตรวจสอบความถูกต้อง
จดหมายสมคั รงานของผู้เรียน ใหต้ ัวแทนผเู้ รียนนำเสนอจดหมายสมคั รงาน
7.4 ข้ันประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
7.4.1 ผสู้ อนและผเู้ รียนสรปุ ความรู้ท่ไี ดจ้ ากบทเรียนพรอ้ มกัน
7.4.2 ผสู้ อนทดสอบความรู้ผเู้ รยี นหลังเรียน

8. สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
8.1 วีดที ศั น์ตกุ๊ กีอ้ า่ นจดหมายรกั
8.2 หนังสือเรียนวิชาภาษาไทยเสรมิ ทักษะการรบั สาร 2 ( QR Code )

9. วดั /ประเมนิ ผล
9.1 แบบทดสอบก่อนเรียน
9.2 แบบทดสอบหลงั เรียน
9.3 ใบกิจกรรม จดหมายสมคั รงาน

57

โครงสรา้ งรายวชิ าการเงนิ เพอ่ื ชวี ิต3

มาตรฐานที่ 5.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนกั ถงึ ความสำคญั เกยี่ วกบั ภมู ิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
การเมอื ง การปกครอง สามารถนำมาปรบั ใช้ในการดำรงชีวิต

มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดบั
มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนกั เกย่ี วกับภมู ิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื งการปกครอง

ในโลก และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนินชวี ติ เพ่อื ความม่ันคงของชาติ

ผลการเรยี นร้ทู ่คี าดหวงั
- อธิบายข้อมูลเก่ยี วกบั เรื่องการเงินได้อย่างถูกต้อง - วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ การชำระเงินผา่ นช่องทาง

ตา่ ง ๆ ตลอดจนบัญชเี งินฝาก ประเภทตา่ ง ๆ และเลอื กใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม
- คำนวณอัตราแลกเปลยี่ นเงนิ ตราตา่ งประเทศ และดอกเบี้ยบญั ชเี งนิ ฝากได้
- ประยุกต์ใช้และเลือกใช้ความรู้ทางการเงินมากำหนดเป้าหมายมาออกแบบ วางแผนการเงินของ

ตนเองได้อย่างเหมาะสม
- มีความรับผดิ ชอบต่อการใช้จ่าย จัดการการเงินได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่า ตระหนักถึงสิทธแิ ละหน้าที่

ทางการเงิน

สาระสำคัญ
เงินเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของประชาชนทุกคน เนื่องจากเป็นสื่อกลาง ที่ใช้สำหรับ

แลกเปลี่ยนกับสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้น “เงิน” ยังเป็นปัจจัย
สำคัญสำหรับการลงทุนเพื่อเพิ่มพูนรายได้ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้สภาพสังคม เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
อย่างรวดเร็ว มีวิธีทางการเงินใหม่ ๆถูกพัฒนาขึ้นอย่างหลากหลาย เช่น บัตรเดบิต บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม
การทำธุรกรรมทาง โทรศัพท์ ทางอินเทอร์เน็ต การลงทุนทางการเงินประเภทต่าง ๆ เป็นต้น และเมื่อมีการ
พัฒนา ทางการเงินเพิ่มขึ้น ภัยทางการเงินก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เช่น เงินนอกระบบ แชร์ลูกโซ่ ภัยการเงิน
ออนไลน์ เป็นต้น จึงต้องพัฒนาทักษะความสามารถด้านการเงินให้มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถออกแบบ
วางแผน และตัดสินใจทางการเงิน ตลอดจนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ภัยทางการเงิน อันเป็นประโยชน์ต่อการ
ดำรงชวี ิตในปจั จบุ นั

ขอบขา่ ยเนื้อหา
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1. วา่ ด้วยเร่อื งของเงิน
2. การวางแผนการเงนิ
3. สินเชื่อ
4. สทิ ธิและหน้าทข่ี องผูใ้ ช้บรกิ ารทางการเงิน
5. ภัยทางการเงนิ

58

ส่อื ประกอบการเรียนรู้
1. ชดุ วิชา
2. สมดุ บันทกึ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ประกอบชุดวชิ า
3. สื่อเสริมการเรียนร้อู น่ื ๆ

กจิ กรรมเรียนรู้
1. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ตรวจสอบคำตอบจากเฉลยทา้ ยเล่ม
2. ศกึ ษาเนอื้ หาสาระในหน่วยการเรยี นรูท้ กุ หน่วย
3. ทำกจิ กรรมตามทกี่ ำหนด และตรวจสอบคำตอบจากเฉลยท้ายเล่ม
4. ทำแบบทดสอบหลังเรียน และตรวจสอบคำตอบจากเฉลยท้ายเลม่

การประเมินผล
1. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลงั เรียน
2. ทำกิจกรรมในแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้
3. เข้ารบั การทดสอบปลายภาค

59

ผงั มโนทศั นร์ ายวชิ าการเงนิ เพอ่ื ชวี ติ 3 สค32029
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

ความรเู้ บ้อื งตน้ เกย่ี วกับเงิน ความสำคญั และขน้ั ตอนการวางแผน
ประเภทของเงิน การเงิน เป้าหมายการออม
การชำระเงนิ ทาง อเิ ล็กทรอนิกส์ มีความรู้ความเขา้ ใจ สามารถเลือก
ผลติ ภณั ฑ์เงินฝาก การลงทุน และการ
ว่าด้วยเรื่องของเงนิ ประกนั ภัย ทเ่ี หมาะสมกบั ตนเองได้

การวางแผนการเงนิ

การเงนิ เพ่ือชีวติ 3

ภัยทางการเงิน สนิ เช่ือ

ประเภท ลกั ษณะ การป้องกนั ตนเอง ประเมินความ เหมาะสมกอ่ นตดั สนิ ใจ
และการแก้ปญั หาใน เร่ืองภยั ทาง กอ่ หนี้ วธิ ีป้องกัน และแกไ้ ขปญั หาหน้ี
การเงิน หนว่ ยงานที่ให้คำปรกึ ษา เกย่ี วกับ
วิธีการแกไ้ ขปญั หาหนี้

สิทธแิ ละหนา้ ที่ของ
ผูใ้ ห้บรกิ ารทางการเงิน

สิทธิ และหนา้ ท่ขี องผ้ใู ชบ้ ริการทาง
การเงนิ การคมุ้ ครองผู้ใช้บรกิ าร ทาง
การเงินของธนาคารแหง่ ประเทศไทย
และหน่วยงานที่ รับเรื่องร้องเรียนอืน่ ๆ
ข้ันตอนการรอ้ งเรยี นและ หลักการเขยี น
หนงั สือ รอ้ งเรยี น

60

ผงั การออกขอ้ สอบรายวิชา การเงนิ เพอ่ื ชวี ติ 3

สาระ การพฒั นาสังคม รายวิชาการเงนิ เพอื่ ชีวติ 3 รหสั สค322029 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
มาตรฐานท่ี 5.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนัก เกย่ี วกับภมู ศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการ
ปกครองในโลก และนำมาปรบั ใชใ้ นการดำเนินชีวติ เพอื่ ความม่ันคงของชาติ

จำ พฤติกรรมการวดั
นวน
มาตรฐานการ
เรียนรู้ระดบั หัวเรอ่ื ง/เน้ือหา ตวั ช้วี ัด ขอ้ ที่ วิ สงั ประ
ต้อง เคราะ เคราะ เมนิ
การ ร-ู้ เขา้ นำไป ห์ ห์ ค่า
จำ ใจ ใช้

มคี วามรู้ 1. วา่ ดว้ ยเรอ่ื งของเงนิ 8

ความเขา้ ใจ 1.1 ความรเู้ บื้องต้น

ตระหนัก เก่ียวกบั เงิน 1. บอกหน้าทขี่ องเงินตอ่ 1
เกี่ยวกบั 1. หนา้ ทข่ี องเงนิ ระบบ เศรษฐกจิ ข้อ
ภมู ิศาสตร์ 2. ความหมายของเงิน 2. บอกความหมายของเงิน 1
ประวัติ เฟอ้ เงินฝดื 1

ศาสตร์ 3. บทบาทและหน้าท่ี เฟอ้ เงินฝืด ขอ้

เศรษฐ ของ ธนาคารแห่ง 3. บอกบทบาทและหนา้ ท่ี 21
ศาสตร์ ประเทศไทย ของ ธนาคารแห่งประเทศ ข้อ
การเมืองการ 1.2 ประเภทของเงิน ไทย 3

ปกครอง 1. เงนิ ตราไทย 1. อธบิ ายวิธีการสังเกตและ 1
ในโลก และ - ธนบตั ร ตรวจสอบธนบตั ร ขอ้ 4

นำมาปรบั ใช้ - เหรยี ญกษาปณ์ 2. บอกชนดิ ราคาเหรยี ญ

ในการ 2. เงินตราตา่ งประเทศ กษาปณ์ หมนุ เวยี น 1
ดำเนินชวี ิต ขอ้ 5
เพือ่ ความ - สกุลเงินของ 3. คำนวณอตั ราแลกเปล่ียน

ต่างประเทศ ทสี่ ำคญั เงนิ ตราตา่ งประเทศ

ม่ันคงของ - อัตราแลกเปลยี่ นและ 4. บอกชอ่ งทางการ 1
ชาติ วธิ กี ารคำนวณเงินตรา แลกเปลย่ี น เงินตรา ข้อ

ต่างประเทศ ตา่ งประเทศ 6

- ชอ่ งทางการ 5. บอกประเภทของสกลุ เงิน

แลกเปลยี่ น เงินตรา ดิจทิ ัล

ต่างประเทศ

3. สกุลเงนิ ดิจทิ ัล

61

จำ พฤตกิ รรมการวัด
นวน
มาตรฐานการ
เรียนรู้ระดับ หัวเรอ่ื ง/เนื้อหา ตวั ช้วี ัด ขอ้ ที่ สัง ประ
ต้อง เครา เมิน
การ ร-ู้ เขา้ นำไป วเิ คร ะห์ ค่า
จำ ใจ ใช้ าะห์

1.3 การชำระเงนิ ทาง

อิเลก็ ทรอนกิ ส์

1. ความหมาย และ 1. บอกความหมายและ 1
ประโยชน์ ของการชำระ ประโยชน์ ของการชำระเงิน ขอ้
เงินทาง อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทาง อิเลก็ ทรอนิกส์ 7
2. ช่องทางการชำระเงนิ 2. อธบิ ายความแตกตา่ ง 1

ทาง อิเลก็ ทรอนกิ ส์ และ ระหวา่ ง บัตรเดบติ และบตั ร ข้อ

ลกั ษณะ ของบตั รเดบติ เครดติ 8

บตั รเครดติ online 3. รวู้ ิธกี ารใช้งานส่ือการ

payment พรอ้ มเพย์ ชำระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

และ QR code อยา่ งปลอดภยั

3. ข้อแนะนำการใช้ส่อื

การ ชำระเงนิ ทาง

อเิ ล็กทรอนิกส์ อยา่ ง

ปลอดภัย

2. การวางแผนการเงนิ

2.1 การวางแผน

การเงนิ

1. ความสำคัญของการ 1. เข้าใจความสำคญั และ 10 1

วางแผนการเงินในแตล่ ะ บอก ขน้ั ตอนการวางแผน ข้อ
วัย การเงิน 9

2. ขนั้ ตอนการวางแผน

การเงนิ

2.2 การประเมนิ ฐานะ

การเงนิ 1. อธิบายหลกั การ และ 1
1. หลกั การประเมนิ วิธีการ คำนวณฐานะทางการ ขอ้
ฐานะ การเงนิ ของ เงิน 10
ตนเอง

2.หลักการประเมิน 2. วเิ คราะห์ความแตกตา่ งของ

พฤตกิ รรม การใช้จ่าย “ความจำเป็น” และ “ความ

3. ความหมายของ ไมจ่ ำเปน็ ” (หรือความ

“ความ จำเปน็ ” และ ตอ้ งการ) และจดั ลำดับ

“ความ ไม่จำเปน็ ” ความสำคญั ของ รายจา่ ย

62

จำ พฤตกิ รรมการวัด
นวน
มาตรฐานการ
เรียนรู้ระดับ หัวเรอื่ ง/เนือ้ หา ตัวชวี้ ัด ขอ้ ท่ี สัง ประ
ต้อง เครา เมิน
การ ร-ู้ เข้า นำไป วเิ คร ะห์ ค่า
จำ ใจ ใช้ าะห์

4. ข้ันตอน ส่วนประกอบ 3. บอกลักษณะและประโยชน์ 1

และ ประโยชนข์ องบันทึก และวเิ คราะห์บันทึกรายรบั – ขอ้
11
รายรับ – รายจ่าย รายจ่าย

5. การมสี ขุ ภาพ 4. อธิบายลักษณะของการมี 1
การเงนิ ท่ดี ี สขุ ภาพการเงินท่ดี ี และ ข้อ
- ความหมาย ประเมิน สุขภาพการเงนิ ของ 12

- ลักษณะของการมี ตนเอง

สขุ ภาพ การเงนิ ท่ีดี

2.3 การต้ังเปา้ หมาย

และ จดั ทำแผนการเงนิ

1. ประโยชนข์ องการมี 1. บอกประโยชน์ของการมี 1
เป้าหมายการเงินในชีวิต เป้าหมายการเงิน และ ข้อ

2. เป้าหมายการเงินท่ี เป้าหมาย การเงินทค่ี วรมีใน 13

ควรมีใน ชีวติ ชีวิต

3. ลกั ษณะของ 2. สามารถตง้ั เป้าหมาย 1
เปา้ หมาย การเงนิ ทดี่ ี การเงนิ และวางแผน ขอ้
4. ขนั้ ตอนการจดั ทำ การเงนิ ของตนเองท่ี 14
แผนการเงิน สอดคล้องกับเปา้ หมายใน

ชีวิต

2.4 การออม 1. อธิบายความหมาย และ 1
1. ความหมายและ ประโยชนข์ องการออม ข้อ
ประโยชน์ ของการออม 2. ตงั้ เป้าหมายการออมที่ 15
2. เปา้ หมายการออม
1

3. หลักการออมให้ เหมาะสมกับตนเอง ข้อ

สำเรจ็ 3. อธบิ ายหลักการออมให้ 1 16

สำเรจ็ ขอ้
17

63

จำ พฤติกรรมการวดั
นวน
มาตรฐานการ
เรียนรู้ระดับ หวั เรอ่ื ง/เนื้อหา ตัวชวี้ ัด ขอ้ ท่ี สงั ประ
ต้อง เครา เมิน
การ ร-ู้ เข้า นำไป วเิ คร ะห์ ค่า
จำ ใจ ใช้ าะห์

2.5 การฝากเงิน 1. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ 1
การลงทุน และการ รวมท้งั สามารถเลอื ก ข้อ
ประกนั ภยั ผลติ ภณั ฑ์เงนิ ฝาก การ 18
1. ผลติ ภณั ฑเ์ งนิ ฝาก ลงทุน และการประกันภยั
การ ลงทุน และการ ทเ่ี หมาะสมกับตนเองได้ 12
ประกนั ภัย 2. บอกบทบาทหน้าท่แี ละ
2. ความร้เู บื้องตน้ หลกั การของกองทุนการ 5
เกี่ยวกบั กองทนุ การ ออม แห่งชาติ (กอช.) และ
ออมแห่งชาติ (กอช.) กองทุน ประกนั สังคม ขอ้
และกองทนุ
ประกันสังคม 1. บอกลกั ษณะทส่ี ำคัญของ 19-
สินเชือ่ ประเภทต่าง ๆ
3. สนิ เชอื่ 23
1. การประเมนิ ความ 2. บอกประเภทและวิธคี ำนวณ
เหมาะสมกอ่ นตดั สนิ ใจ ดอกเบ้ยี เงินกู้ 2 2
ก่อหน้ี 3. บอกความหมาย บทบาท ขอ้ ข้อ
2. ลกั ษณะของสนิ เชอื่ หน้าท่ี และขอ้ มูลต่าง ๆ ที่ 24- 27-
ประเภทตา่ ง ๆ และการ สำคัญ เกย่ี วกบั เครดิตบโู ร 25 28
คำนวณดอกเบี้ย 2
3. เครดิตบูโร 4. บอกวธิ ีการปอ้ งกันปญั หา ข้อ
4. วิธกี ารป้องกันปญั หา หน้ี 26-
หนี้ 27
5. วธิ กี ารแกไ้ ขปญั หาหน้ี 5. บอกวิธีการแกไ้ ขปัญหาหนี้
6. หนว่ ยงานท่ีให้ 6. บอกช่องทางในการขอ 1
คำปรึกษา เกย่ี วกับวิธีการ คำปรึกษาวิธแี ก้ไขปญั หาหนี้ ข้อ
แก้ไขปญั หาหน้ี 30

64

จำ พฤตกิ รรมการวัด
นวน
มาตรฐานการ
เรียนรู้ระดับ หวั เร่ือง/เนอื้ หา ตวั ชว้ี ัด ข้อที่ สัง ประ
ตอ้ ง เครา เมิน
การ ร-ู้ เข้า นำไป วเิ คร ะห์ ค่า
จำ ใจ ใช้ าะห์

4. สทิ ธแิ ละหนา้ ทขี่ อง 3

ผใู้ ชบ้ รกิ ารทางการเงนิ 1. บอกสทิ ธิของผู้ใช้บริการ 1
1. สทิ ธขิ องผู้ใช้บรกิ าร ทางการเงิน ขอ้
ทางการเงนิ 2. บอกหนา้ ทีข่ องผู้ใช้บริการ 31
2. หนา้ ทข่ี องผใู้ ชบ้ ริการ 1

ทางการเงิน 3. ผูใ้ หบ้ รกิ าร ทางการเงิน ข้อ
ทางการเงนิ ใน ประเทศ 3. บอกผู้ใหบ้ ริการทางการเงนิ 32

ไทย ใน ประเทศไทย

4. การคมุ้ ครองผู้ใช้บรกิ าร 4. บอกบทบาทหน้าทด่ี า้ นการ

ทางการเงนิ ของธนาคาร คุ้มครองผใู้ ชบ้ รกิ ารทางการ

แหง่ ประเทศไทย และ เงนิ ของธนาคารแหง่ ประเทศ

หนว่ ยงานที่ รับเรื่อง ไทย และหนว่ ยงานที่รบั เรอ่ื ง

รอ้ งเรียนอื่น ๆ ร้องเรยี น อืน่ ๆ 1
5. ข้นั ตอนการร้องเรยี น 5. บอกขัน้ ตอนและหลักการ ขอ้
และ หลกั การเขยี น เขียนหนังสือร้องเรยี น 33
หนังสอื ร้องเรยี น

5. ภยั ทางการเงนิ 7
1. ประเภท ลักษณะ การ
ป้องกนั ตนเอง และการ 1. บอกประเภทและลกั ษณะ 3
แก้ปญั หาใน เรือ่ งภยั ทาง ของ ภยั ทางการเงนิ และ ขอ้
การเงิน ยกตวั อยา่ ง ภยั ทางการเงนิ ทมี่ ี 34
- หน้นี อกระบบ ในชมุ ชน -36
- แชรล์ ูกโซ่
- ภยั ใกลต้ วั เชน่ เบย้ี 2. บอกวธิ กี ารป้องกนั ตนเอง 2
ประกนั งวดสุดทา้ ย ตก จาก ภัยทางการเงิน ขอ้
ทอง/ ลอ็ ตเตอร่ีปลอม 37
- แกง๊ คอลเซนเตอร์ 3. บอกวิธแี ก้ปญั หาทเ่ี กดิ จาก -38
- ภัยออนไลน์ ภัยทางการเงิน
- ภัยธนาคารออนไลน์ 2
- ภยั บตั รอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ขอ้
39 -
40

รวม 40 7 23 10

65

ผงั การวเิ คราะหเ์ นอื้ หา รายวชิ าการเงนิ เพอื่ ชวี ติ 3 รหสั วิชา สค32029

จดั กจิ กรรมการเรยี นรจู้ ำนวน 2 ครงั้

เนอื้ หา งา่ ย ปานกลาง ยาก หมายเหตุ
1. วา่ ดว้ ยเรอื่ งของเงนิ 

1.1 ความรูเ้ บอ้ื งตน้ เกยี่ วกับเงิน
1. หนา้ ทข่ี องเงนิ
2. ความหมายของเงนิ เฟอ้ เงนิ ฝืด
3. บทบาทและหน้าท่ีของ ธนาคารแห่ง

ประเทศไทย
1.2 ประเภทของเงิน
1. เงนิ ตราไทย
- ธนบตั ร
- เหรยี ญกษาปณ์
2. เงนิ ตราตา่ งประเทศ
- สกลุ เงนิ ของต่างประเทศ

ท่ีสำคญั
- อตั ราแลกเปลย่ี นและ วิธกี ารคำนวณ

เงนิ ตรา ต่างประเทศ
- ชอ่ งทางการแลกเปล่ยี น เงนิ ตรา

ตา่ งประเทศ
3. สกลุ เงินดจิ ทิ ัล

1.3 การชำระเงินทาง อเิ ล็กทรอนิกส์
1. ความหมาย และประโยชน์ ของการชำระ

เงินทาง อิเล็กทรอนกิ ส์
2. ช่องทางการชำระเงินทาง อเิ ล็กทรอนกิ ส์

และลกั ษณะ ของบัตรเดบิต บตั รเครดติ online
payment พรอ้ มเพย์ และ QR code

3. ขอ้ แนะนำการใช้สอ่ื การ ชำระเงินทาง
อิเลก็ ทรอนิกส์ อยา่ งปลอดภยั

66

เนอ้ื หา ง่าย ปานกลาง ยาก หมายเหตุ

2. การวางแผนการเงนิ 

2.1 การวางแผนการเงนิ

1. ความสำคัญของการ วางแผนการเงินในแตล่ ะวัย

2. ขั้นตอนการวางแผน การเงนิ

2.2 การประเมนิ ฐานะ การเงิน

1. หลกั การประเมนิ ฐานะ การเงินของตนเอง

2.หลกั การประเมนิ พฤติกรรม การใชจ้ า่ ย

3. ความหมายของ “ความ จำเป็น” และ “ความ

ไม่จำเปน็ ”

4. ขน้ั ตอน สว่ นประกอบ และ ประโยชน์ของ

บันทึกรายรบั - รายจา่ ย

5. การมสี ขุ ภาพการเงนิ ทด่ี ี

- ความหมาย

- ลกั ษณะของการมี

3. สนิ เชอื่ 

1. การประเมินความ เหมาะสมกอ่ นตัดสินใจก่อหน้ี

2. ลักษณะของสนิ เช่ือ ประเภทตา่ ง ๆ และการ

คำนวณดอกเบี้ย

3. เครดิตบโู ร

4. วิธกี ารป้องกันปัญหาหน้ี

5. วิธกี ารแก้ไขปัญหาหน้ี

6. หนว่ ยงานที่ให้คำปรกึ ษา เก่ียวกบั วธิ กี ารแก้ไข

ปญั หาหน้ี

4. สทิ ธแิ ละหนา้ ที่ของผใู้ ชบ้ รกิ ารทางการเงิน 

1. สิทธิของผู้ใชบ้ ริการทาง การเงิน

2. หนา้ ท่ีของผ้ใู ช้บริการ ทางการเงนิ

3. ผูใ้ ห้บรกิ ารทางการเงนิ ใน ประเทศไทย

4. การคุ้มครองผ้ใู ชบ้ รกิ าร ทางการเงินของธนาคาร

แห่ง ประเทศไทย และหนว่ ยงานท่ี รับเรอ่ื งร้องเรยี น

อน่ื ๆ

5. ข้นั ตอนการร้องเรียนและ หลักการเขยี นหนงั สือ

รอ้ งเรียน

67

เนอื้ หา งา่ ย ปานกลาง ยาก หมายเหตุ
5. ภยั ทางการเงนิ 
ประเภท ลกั ษณะ การป้องกนั ตนเอง และการ
แกป้ ญั หาใน เรื่องภัยทางการเงิน

- หนน้ี อกระบบ
- แชร์ลกู โซ่
- ภัยใกล้ตัว เช่น เบ้ีย ประกนั งวดสุดท้าย
ตกทอง/ ล็อตเตอร่ปี ลอม
- แก๊งคอลเซนเตอร์
- ภยั ออนไลน์
- ภยั ธนาคารออนไลน์
- ภัยบัตรอิเล็กทรอนกิ ส์

68

แผนการจัดการเรยี นรู้ ครง้ั ท่ี 6
รายวชิ าการเงนิ เพอ่ื ชวี ติ รหสั วชิ า สค32029

1. รายวชิ า/หัวเร่อื ง
สนิ เชอ่ื

2. ตัวชว้ี ัด
2.1 บอกลักษณะทีส่ ำคญั ของ สินเชอื่ ประเภทตา่ ง ๆ
2.2 บอกความหมาย บทบาท หนา้ ที่ และขอ้ มลู ต่าง ๆ ทีส่ ำคญั เกย่ี วกับเครดติ บูโร
2.3 บอกวธิ ีการป้องกนั ปญั หาหนี้
2.4 บอกวิธกี ารแก้ไขปัญหาหน้ี
2.5 บอกชอ่ งทางในการขอคำปรกึ ษาวธิ ีแก้ไขปญั หาหนี้

3. เนือ้ หา
3.1 การประเมินความ เหมาะสมก่อนตัดสนิ ใจกอ่ หน้ี
3.2 ลักษณะของสินเช่อื ประเภทตา่ ง ๆ และการ คำนวณดอกเบี้ย
3.3 เครดิตบูโร
3.4 วิธีการป้องกนั ปัญหาหน้ี
3.5 วิธีการแก้ไขปัญหาหน้ี
3.6 หนว่ ยงานทใ่ี ห้คำปรกึ ษา เกีย่ วกับวธิ กี ารแกไ้ ขปญั หาหนี้

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
4.1 ผ้เู รียนรอู้ ะไร (K = Knowledge)
4.1.1 ผู้เรยี นไดร้ ับความรู้ สนิ เชอ่ื ประเภทต่างๆ
4.1.2 ผู้เรยี นไดร้ ับความรู้ หน่วยงานที่ใหค้ ำปรึกษา เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปญั หาหนี้
4.2 ผเู้ รียนมดี ้านทกั ษะและการปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร (P = Practice)
4.2.1 ผู้เรยี นมที กั ษะคดิ หาวธิ ีการป้องกัน และแกไ้ ขปัญหาหน้ี

5. สมรรถนะของผเู้ รียน
5.1 ผ้เู รียนสามารถอา่ นเน้อื หา/ขอ้ มลู จากเร่อื งทีอ่ ่านได้
5.2 ผเู้ รยี นสามารถเขยี นสรปุ เนื้อหา/ข้อมูลทอ่ี า่ นได้
5.3 ผู้เรียนมที กั ษะในการคิดวเิ คราะห์ มกี ารคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและแก้ไขปญั หาได้

69

6. ความคดิ รวบยอด
วิธีป้องกนั แนวทางการแกไ้ ขปัญหาหนี้ และหน่วยงานทีใ่ หค้ ำปรึกษา เกย่ี วกับวธิ ีการแกไ้ ขปญั หาหน้ี

7. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
7.1 ขัน้ กำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation)
7.1.1 ผสู้ อนอธบิ ายรายละเอียดสาระสำคญั และผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั ในรายวิชา สค 32029 การเงิน

เพ่อื ชีวติ 3 พรอ้ มทั้งเปิดหนังสือแบบเรียน วิชา สค 32029 การเงินเพื่อชีวิต3 เร่อื งสนิ เชอื่ (หน้า100) ให้ผู้เรียน
ทำความเขา้ ใจเกย่ี วกับเน้ือหาสาระของแผนนี้

7.1.2 ผู้สอนตงั้ คำถามชวนคดิ ใหก้ ับผ้เู รียน ไดแ้ ลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ว่ มกนั ด้วยคำถาม “เรือ่ งสินเชื่อ”
โดยผสู้ อนอธิบายเร่ืองหนี้ ลักษณะของสินเชือ่

7.1.3 ผ้สู อนเปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั กอ่ นนำเข้าสบู่ ทเรยี น
7.2 ข้นั แสวงหาขอ้ มลู และการจัดการเรียนรู้ (N: New ways of learning)

7.2.1 ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นโดยใช้เวลา 10 นาที
7.2.2 ครูให้ผูเ้ รียนศกึ ษา เร่ืองเครดิตบโู ร จาก QR Code ทม่ี อบให้

(ทีม่ า https://www.1213.or.th/th/serviceunderbot/loans/Pages/creditbureau.aspx)
เอกสารใบความรู้ เร่อื งเครดติ บโู ร

7.2.3 ผสู้ อนชักชวนผู้เรยี นพดู คยุ ถงึ เรื่องราวจากการศึกษา ใบความรู้เร่ืองเครดิตบูโร
( QR Code ) โดยยกตวั อย่างบางช่วงบางตอนของเนือ้ หามาแลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ นั

7.3 ขน้ั ปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยุกต์ใช้ (I: Implementation)
7.3.1 ผู้สอนให้ผู้เรียนทำใบงาน โดยตอบคำถามตามหัวข้อที่ผู้สอนกำหนดให้ โดยศึกษาจากใบความรู้

เรอื่ งเครดิตบโู ร (QR Code) หรอื หนงั สอื แบบเรยี น
1) ใบงานท่ี 1 เรือ่ งลักษณะของสนิ เชอื่ รายย่อยและการคำนวณดอกเบี้ย
2) ใบงานที่ 2 เรื่องเครดติ บูโร

7.3.2 ผ้สู อนและผ้เู รียนสรปุ เนื้อหาแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ร่วมกันโดยผ้สู อนมกี ารอธบิ ายสรปุ เพม่ิ เตมิ
วธิ กี ารป้องกันและแก้ไขปญั หาหนี้ และช่องทางในการขอคำปรกึ ษาวธิ ีแก้ไขปญั หาหน้ี

70

7.4 ขัน้ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ (E: Evaluation)
7.4.1 สงั เกตการเขา้ ร่วมกิจกรรม
7.4.2 ใบงาน

8. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 หนงั สือแบบเรยี น วชิ าการเงนิ เพ่ือชีวิต3 สค 32029 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
8.2 ใบความรู้ เร่ืองเครดิตบูโร
8.3 ใบงานท่ี 1 เรือ่ งลกั ษณะของสินเชอื่ รายย่อยและการคำนวณดอกเบี้ย
8.4 ใบงานท่ี 2 เรอื่ งเครดิตบโู ร

(ที่มา https://www.1213.or.th/th/serviceunderbot/loans/Pages/creditbureau.aspx)
เอกสารใบความรู้ เรอื่ งเครดิตบูโร

9. วดั /ประเมนิ ผล
9.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
9.2 ตรวจใบงาน
9.3 สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล

71

แผนการจัดการเรยี นรู้ ครง้ั ที่ 7
รายวชิ าการเงนิ เพอื่ ชวี ติ รหสั วชิ า สค32029

1. รายวชิ า/หวั เรอ่ื ง
ภยั ทางการเงนิ

2. ตวั ชวี้ ัด
2.1 บอกประเภทและลกั ษณะของ ภัยทางการเงนิ และยกตัวอยา่ ง ภยั ทางการเงนิ ที่มีในชุมชน
2.2 บอกวิธีการป้องกนั ตนเองจาก ภยั ทางการเงิน
2.3 บอกวิธีแก้ปญั หาทเี่ กดิ จาก ภยั ทางการเงิน

3. เน้ือหา
3.1 ประเภท ลักษณะ การป้องกันตนเอง และการแกป้ ัญหาในเร่ืองภัยทางการเงนิ
3.1.1 หนนี้ อกระบบ
3.1.2 แชร์ลกู โซ่
3.1.3 ภัยใกล้ตวั เชน่ การหลอกลวงใหจ้ า่ ยเบย้ี ประกนั งวดสดุ ท้าย ตกทอง/ ลอ็ ตเตอรี่ปลอม
3.1.4 แก๊งคอลเซนเตอร์
3.1.5 ภยั ออนไลน์
3.1.6 ภัยธนาคารออนไลน์
3.1.7 ภยั บัตรอเิ ล็กทรอนกิ ส์

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
4.1 ผู้เรยี นรูอ้ ะไร (K = Knowledge)
4.1.1 ผ้เู รยี นไดร้ บั ความรู้ ประเภทและลกั ษณะของ ภัยทางการเงนิ
4.2 ผ้เู รยี นมดี า้ นทักษะและการปฏิบตั อิ ย่างไร (P = Practice)
4.2.1 ผเู้ รียนมีทกั ษะคดิ หาวธิ กี ารปอ้ งกันตนเอง และการแก้ปญั หาในเร่ืองภยั ทางการเงิน

5. สมรรถนะของผเู้ รียน
5.1 ผ้เู รยี นสามารถอ่านเนอื้ หา/ขอ้ มลู จากเรือ่ งที่อ่านได้
5.2 ผู้เรยี นสามารถเขยี นสรปุ เนอื้ หา/ข้อมลู ท่ีอ่านได้
5.3 ผู้เรียนมีทักษะในการคดิ วเิ คราะห์ มีการคิดอย่างมีวิจารณญาณและแก้ไขปญั หาได้

72

6. ความคดิ รวบยอด
มีทักษะคิดหาวิธกี ารป้องกนั ตนเอง และการแกป้ ัญหาในเรอ่ื งภัยทางการเงิน

7. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
7.1 ข้ันกำหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรียนรู้ (O: Orientation)
7.1.1 ผู้สอนอธบิ ายรายละเอยี ดสาระสำคญั และผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั ในรายวชิ า สค 32029 การเงิน

เพ่ือชวี ติ 3 พร้อมทง้ั เปิดหนงั สือแบบเรียน วิชา สค 32029 การเงินเพ่ือชวี ิต3 เร่ืองสนิ เชอ่ื (หน้า142) ให้ผู้เรียน
ทำความเข้าใจเกยี่ วกบั เนื้อหาสาระของแผนน้ี

7.1.2 ผู้สอนตั้งคำถามชวนคิดให้กับผู้เรียน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยคำถาม “ภัยทางการเงินที่พบใน
ปจั จบุ นั มีอะไรบ้าง” โดยผเู้ รียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น

7.1.3 ผูส้ อนเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนซักถามข้อสงสัยกอ่ นนำเขา้ สบู่ ทเรียน
7.2 ขัน้ แสวงหาข้อมูลและการจดั การเรียนรู้ (N: New ways of learning)

7.2.1 ผู้สอนให้ผู้เรียนศกึ ษาจากหนงั สือแบบเรียนเรื่องภยั ทางการเงินและชมวีดที ัศน์ เรื่องรู้ทันกลโกง
แก๊งคอลเซนเตอร์

(ทม่ี า)https://www.youtube.com/watch?v=Bj0TMRgIPos
QR Cord เรอื่ งรทู้ นั กลโกงคอลเซนเตอร์

7.2.2 ผู้สอนชกั ชวนผูเ้ รยี นพูดคุยถึงเรื่องราวจากการศึกษา ในวดี ที ศั น์โดยยกตัวอย่างบางช่วงบางตอน
ของเนอ้ื หามาแลกเปลีย่ นเรียนร้กู ัน

7.3 ข้ันปฏิบตั ิและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ (I: Implementation)
7.3.1 ผู้สอนให้ผู้เรยี นทำใบงาน โดยตอบคำถามตามหัวข้อทผ่ี ้สู อนกำหนดให้ โดยศึกษาจากในวีดีทัศน์

และหนังสอื แบบเรยี น
1) ใบงานท่ี 1 เรอ่ื งแกง๊ คอลเซนเตอร์
2) ใบงานท่ี 2 เรอื่ งภยั ออนไลน์

7.3.2 ผู้สอนและผ้เู รียนสรปุ เนื้อหาแลกเปล่ียนเรยี นรรู้ ่วมกันโดยผ้สู อนมีการอธบิ ายสรุปเพ่มิ เตมิ
วธิ ีการปอ้ งกนั ตนเอง และการแกป้ ัญหาในเรอื่ งภัยทางการเงิน

73

7.3.3 ผู้สอนให้ผ้เู รยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน
7.4 ข้ันประเมนิ ผลการเรียนรู้ (E: Evaluation)

7.4.1 สงั เกตการเข้าร่วมกจิ กรรม
7.4.2 ใบงาน

8. ส่อื /แหล่งเรียนรู้
8.1 หนังสอื แบบเรียน วิชาการเงนิ เพ่อื ชีวติ 3 สค 32029 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
8.2 วีดีทศั น์ เร่อื งรทู้ นั กลโกงคอลเซนเตอร์
8.3 ใบงานที่ 1 เรอื่ งแก๊งคอลเซนเตอร์
8.4 ใบงานที่ 2 เรอื่ งภยั ออนไลน์

(ทมี่ า)https://www.youtube.com/watch?v=Bj0TMRgIPos
QR Cord เร่อื งรทู้ นั กลโกงคอลเซนเตอร์

9. วดั /ประเมินผล
9.1 ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน
9.2 ตรวจใบงาน
9.3 สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล

74

โครงสรา้ งรายวชิ าภาษาไทย (พท31001)

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

สาระสำคญั

1. การอ่านเป็นทักษะทางภาษาที่สำคัญ เพราะช่วยให้สามารถรับรู้ข่าวสารและเหตุการณ์ต่างๆของ
สงั คม ทำให้ปรับตัวได้กับความเจริญกา้ งหนา้ ทางวทิ ยาการต่างๆ สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ และนำความรู้ไปใช้
ในชีวติ ประจำวัน

2. การเขียนเป็นการสื่อสารที่จัดระบบความคิด การเลือกประเด็น การเลือกสรรถ้อยคำ เพื่อถ่ายทอด
เปน็ ตวั อักษรในการสอ่ื ความรู้ ความคิด ประสบการณ์ ความรู้สึก จากผเู้ ขียนไปยงั ผู้อา่ น

3. การฟัง การดู และการพูด เป็นทักษะที่สำคัญของการสื่อสารในการดำเนินชีวิตประจำวัน จึง
จำเป็นตอ้ งเข้าใจหลักการเบ้อื งต้น และตอ้ งคำนึงถึงมารยาทในการฟัง การดูและการพูดด้วย

4. การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องตามหลักภาษา ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของคนไทย จึง
ตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของภาษาและต้องอนรุ ักษภ์ าษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติสืบต่อไป

5. การใช้ทักษะทางภาษาไทยในการแสวงหาความรู้ การเข้าใจระดับของภาษาสามารถใช้คำพูด และ
เขยี นได้ดี ทำใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและส่วนรวม

6. วรรณคดไี ทยเป็นมรดกของภาษาและวัฒนธรรมท่ีมีคุณคา่ เป็นมรดกทางปญั ญาของคนไทยแสดงถึง
ความรงุ่ เรืองของวัฒนธรรมทางภาษา เป็นการเชิดชูความเปน็ อารยะของชาติ

ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวัง

เม่ือศึกษาชุดวชิ าแลว้ ผู้เรียนสามารถ
1. จับใจความสำคัญ และเลา่ เรอื่ งได้ ตีความได้ อ่านในใจและอา่ นออกเสยี ง วิเคราะห์ วจิ ารณ์ ประเมิน
ค่าได้ เลอื กหนังสอื และสารสนเทศได้และมมี ารยาทในการอ่านและมนี ิสยั รกั การอา่ น
2. อธิบายการเขียนเบ้ืองต้นได้ เขียนเรียงความ ย่อความ เขียนจดหมาย เขียนโต้แย้ง เขียนรายงาน
เขียนคำขวัญ เขียนประกาศ เขียนเชิญชวน กรอกแบบรายการ แต่งคำประพันธ์ บอกคุณค่าของถ้อยคำภาษา
และสามารถเลือกใชถอยคำในการประพนั ธ์ เขียนอ้างองิ เขียนเลขไทยไดถ้ ูกตอ้ งสวยงาม
3. บอกหลักเบ้ืองต้น และจุดมุ่งหมายของการฟัง การดูและการพูดได้ และสามารถพูดในโอกาสต่างๆ
ได้
4. บอกลักษณะสำคัญของภาษาและการใช้ภาษาในการสื่อสาร ใช้พจนานุกรมและสารานุกรมใน
ชวี ิตประจำวันได้
5. บอกชนดิ และหน้าทข่ี องคำ ประโยค และนำไปใชไ้ ด้ถกู ตอ้ ง

75

6. ใช้เครื่องหมายวรรคตอน อักษรย่อ คำราชาศพั ท์ หลักการประชุม การอภิปราย การโตว้ าที
7. บอกความหมายของวรรณคดีและวรรณกรรม องค์ประกอบและรูปแบบลักษณะเด่นของวรรณคดีได้
8. บอกความหมายของวรรณกรรมมุขปาฐะ และวรรณกรรมลายลักษณไ์ ด้
9. บอกความหมายและลักษณะเด่นของวรรณกรรมท้องถิ่น ประเภทรูปแบบของวรรณกรรมไทย
ปจั จุบนั ได้
10. อา่ นวรรณคดแี ละวรรณกรรม บอกแนวความคิด ค่านยิ ม คณุ คา่ หรือแสดงความคิดเห็นได้
11. บอกลักษณะสำคัญและคุณค่าของเพลงพื้นบ้าน และบทกล่อมเด็กพร้อมทั้งร้องเพลงพื้นบ้านและ
บทกลอ่ มเดก็ ได้

ขอบขา่ ยเนอื้ หา

บทที่ 1 การฟงั การดู
บทท่ี 2 การพดู
บทที่ 3 การอา่ น
บทที่ 4 การเขยี น
บทที่ 5 หลักการใชภ้ าษา
บทท่ี 6 วรรณคดแี ละวรรณกรรม
บทที่ 7 ภาษาไทยกับช่องทางการประกอบอาชีพ
สื่อการเรียนรู้
หนงั สอื เรยี น

76

คำอธบิ ายรายวชิ า พท 31001 ภาษาไทย จำนวน 5 หนว่ ยกติ
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั
การฟงั การดู

1. สามารถเลือกสอื่ ในการฟัง และดอู ย่างสร้างสรรค์
2. สามารถฟังและดู อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
3. เปน็ ผูม้ มี ารยาท ในการฟงั และดู
การพดู
1. สามารถพดู ท้ังที่เปน็ ทางการและไมเ่ ป็นทางการ โดยใช้ภาษาถกู ต้องเหมาะสม
2. สามารถแสดงความคิดเหน็ เชิงวเิ คราะห์ และประเมนิ คา่ การใช้ภาษาพูดจากส่ือต่างๆ
3. มีมารยาทในการพูด
การอ่าน
1. สามารถอ่านอย่างอยา่ ง มีวจิ ารณญาณ จัดลำดบั ความคิดจากเร่ืองที่อา่ น
2. สามารถศึกษาภาษาถิ่น สำนวน สุภาษิตที่มีอยู่ในวรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบัน และ

วรรณกรรมท้องถนิ่
3. สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินค่าองค์ประกอบของวรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบัน

วรรณกรรมท้องถิ่น
4. สามารถคน้ คว้าหาความรจู้ ากส่ือสิ่งพมิ พแ์ ละสื่อสารสนเทศ
5. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้มมี ารยาทในการอ่าน และนสิ ัยรักการอา่ น
การเขยี น
1. รู้และเขา้ ใจหลกั การเขยี นประเภทตา่ งๆ โดยใชค้ ำในการเขยี นได้ตรงความหมาย และ

ถกู ตอ้ งตามอักขระวธิ ีและระดับภาษา
2. สามารถวิพากษ์วจิ ารณแ์ ละประเมนิ งานเขยี นของผอู้ ืน่ เพ่ือนำมาพัฒนางานเขียน
3. สามารถแต่งคำประพนั ธป์ ระเภทร้อยแกว้ และร้อยกรอง
4. มีมารยาทในการเขยี น และนิสัยรกั การเขยี น
หลกั การใช้ภาษา
1. รูแ้ ละเขา้ ใจธรรมชาติของภาษา
2. สามารถใช้ภาษาสร้างมนุษยสัมพันธ์ในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น และใช้คำราชาศัพท์

คำสภุ าพไดถ้ กู ตอ้ งตามฐานะของบคุ คล
วรรณคดี วรรณกรรม

สามารถวเิ คราะห์และเห็นคุณค่าวรรณคดี วรรณกรรมปจั จุบนั และวรรณกรรมท้องถิ่น โดยใช้

77

หลกั การพนิ จิ วรรณคดี
ศึกษาและฝึกทักษะเกยี่ วกับเรื่องดงั ตอ่ ไปน้ี
การฟงั การดู

การวิจารณ์ความสมเหตุสมผล การลำดับความและความเป็นไปได้ของเรื่องที่ฟังและดูจากส่ือ
ทห่ี ลากหลาย ตลอดจนมารยาทของการฟังและดู
การพูด

ศลิ ปะการพูดทเี่ ป็นทางการและไมเ่ ป็นทางการ และมารยาทในการพูด
การอ่าน

การอา่ นเพอื่ ตคี วาม แปลความ ขยายความ ความหมายของภาษาถิ่น สำนวน สภุ าษิต องคป์ ระกอบ ของการ
ประเมินคา่ วรรณคดี วรรณกรรมปัจจบุ นั และวรรณกรรมท้องถน่ิ ตลอดจนมารยาทในการอ่าน

การเขียน
หลกั การเขยี นประเภทตา่ งๆ และการแต่งคำประพนั ธป์ ระเภทรอ้ ยกรอง ตลอดจนมารยาทในการเขียน

หลักการใช้ภาษา
ธรรมชาติของภาษา การใช้ถ้อยคำ ประโยค สำนวน สุภาษิต คำพังเพย คำสุภาพ คำราชาศัพท์

วรรณคดีและวรรณกรรม
หลักการพนิ ิจและประเมินคณุ คา่ เกย่ี วกับวรรณคดี วรรณกรรมปจั จบุ นั และวรรณกรรมทอ้ งถิน่

การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้
จัดประสบการณ์หรือสถานการณ์ในชีวิตประจำวันให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติจริงเกี่ยวกับทักษะการฟัง การดู

การพูด การอ่าน การเขียน และหลกั การใช้ภาษาเป็นรายบุคคลหรอื ใชก้ ระบวนการกลุม่

การวดั และประเมนิ ผล
การสงั เกต การฝึกปฏบิ ัติ การทดสอบ ตรวจสอบ ตอบคำถาม และการประเมินชิ้นงานในแตล่ ะกจิ กรรม

78

รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา พท31001 ภาษาไทย จำนวน 5 หนว่ ยกติ
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั
การฟงั การดู

1. สามารถเลือกสื่อ ในการฟงั และดูอยา่ งสร้างสรรค์
2. สามารถฟังและดู อยา่ งมวี ิจารณญาณ
3. เปน็ ผู้มมี ารยาท ในการฟงั และดู
การพูด
1. สามารถพดู ทัง้ ทีเ่ ปน็ ทางการและไมเ่ ป็นทางการ โดยใชภ้ าษาถูกต้องเหมาะสม
2. สามารถแสดงความคดิ เหน็ เชงิ วเิ คราะห์ และประเมนิ คา่ การใช้ภาษาพดู จากส่อื ต่างๆ
3. มีมารยาทในการพดู
การอา่ น
1. สามารถอ่านอย่างมีวิจารณญาณ จดั ลำดบั ความคิดจากเร่ืองที่อา่ น
2. สามารถศึกษาภาษาถิ่น สำนวน สุภาษิตที่มีอยู่ในวรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบนั และวรรณกรรม
ท้องถิ่น
3. สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินค่าองค์ประกอบของวรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบัน
วรรณกรรมทอ้ งถ่ิน
4. สามารถคน้ คว้าหาความรจู้ ากสื่อส่ิงพมิ พ์และสือ่ สารสนเทศ
5. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผมู้ ีมารยาทในการอ่าน และนิสัยรักการอ่าน
การเขยี น
1. รู้และเขา้ ใจหลกั การเขียนประเภทต่างๆ โดยใชค้ ำในการเขียนได้ตรงความหมาย และ
ถกู ตอ้ งตามอักขระวิธีและระดับภาษา
2. สามารถวิพากษว์ จิ ารณ์และประเมนิ งานเขยี นของผ้อู นื่ เพอื่ นำมาพัฒนางานเขยี น
3. สามารถแตง่ คำประพนั ธป์ ระเภทรอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง
4. มีมารยาทในการเขยี น และนสิ ัยรกั การเขยี น
หลักการใช้ภาษา
1. รู้และเขา้ ใจธรรมชาติของภาษา
2. สามารถใช้ภาษาสร้างมนษุ ยสัมพันธ์ในการปฏิบัติงานรว่ มกบั ผู้อ่ืน และใช้คำราชาศัพท์ คำสุภาพ
ไดถ้ กู ตอ้ งตามฐานะของบคุ คล

79

วรรณคดี วรรณกรรม

สามารถวเิ คราะห์และเหน็ คุณค่าวรรณคดี วรรณกรรมปจั จบุ ัน และวรรณกรรมทอ้ งถนิ่ โดยใช้
หลักการพนิ ิจวรรณคดี

ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชี้วัด เนอื้ หา จำนวน
(ชม.)

1. การฟัง 1. เห็นคุณคา่ ของสอื่ ในการฟังและดู 1. หลกั การฟงั และดู 10
การดู 4
2.วิจารณค์ วามสมเหตสุ มผล การ 2. สรุปความ จับประเด็นใจความสำคัญ
2. การพดู 4
ลำดับความและ ของเรอื่ ง ท่ีฟังและดู 2

ความเปน็ ไปได้ ของเรื่องทฟ่ี ังและดู 3. การวิเคราะหข์ ้อเทจ็ จรงิ ขอ้ คิดเหน็ 2
6
3. นำเสนอความรู้ ความคดิ เหน็ ท่ีได้ และสรปุ ความ
8
จากการฟงั และดู 4. มารยาทในการฟังและดู

4. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้มีมารยาทในการฟัง

และดู

1. ใชศ้ ลิ ปะการพูดทเ่ี ป็นทางการและ 1. หลักการแสดงความคิดเห็น

ไมเ่ ปน็ ทางการได้อยา่ งเหมาะสม 2. การพดู เป็นทางการ และไมเ่ ปน็

กบั โอกาสและบุคคล ทางการ

2. วเิ คราะห์ ประเมินคา่ การใชภ้ าษา 3. ศลิ ปะการพูดประเภท ตา่ ง ๆ เชน่

พูดจากสื่อตา่ ง ๆ - พูดแนะนำตนเอง

3. ปฏิบัตติ นเป็นผมู้ ีมารยาทในการ - พูดกลา่ วตอ้ นรบั

พดู - พูดกล่าวขอบคุณ

- พูดโน้มน้าวใจ/ปฏิเสธ

- พดู เจรจาต่อรอง

- พดู แสดงความคิดเห็น

- พูดอธบิ าย

- พูดสนุ ทรพจน์ /โต้วาที

4. มารยาทในการพดู

2

3. การอา่ น 1. ตีความ แปลความ และขยายความ 1. หลักการตคี วาม แปลความ 2
7
เร่ืองที่อ่าน และขยายความ

2. การอา่ นบทประพนั ธ์ทไี่ พเราะท้งั

รอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรอง

80

ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชี้วดั เนอ้ื หา จำนวน
(ชม.)

2. วเิ คราะห์ วิจารณค์ วาม
สมเหตุสมผล การลำดบั ความคิด 3. การอา่ นวรรคตอนในวรรณคดี
และความเปน็ ไปไดข้ องเร่ืองทอี่ า่ น จากเรือ่ ง ขุนชา้ ง ขนุ แผน 10
3. อธบิ ายความหมายของภาษาถน่ิ พระอภยั มณี อิเหนา นิทานเวตาล 20
นิราศพระบาท นริ าศภเู ขาทอง
สำนวน สภุ าษติ ท่ีปรากฏใน 1
ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก
วรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบัน
มัทนพาธา พระมหาชนก
วรรณกรรมท้องถิน่
(ทศชาตชิ าดก)
4. วิเคราะห์ วจิ ารณ์ประเมนิ ค่า
4. หลกั การวเิ คราะห์ วิจารณ์
วรรณคดี วรรณกรรม
และประเมินค่าวรรณคดี
ปัจจบุ ันวรรณกรรมทอ้ งถนิ่ ใน
ฐานะทเ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม วรรณกรรมปัจจบุ นั และ
ของชาติ แลว้ นำไปประยุกตใ์ ช้ใน วรรณกรรมทอ้ งถิ่น เชน่
วรรณกรรมปจั จบุ นั ไดแ้ ก่
การดำเนินชีวติ
บทละครโทรทศั น์ นวนยิ าย
5. เลือกใชส้ ่ือในการคน้ ควา้ หา
เร่ืองส้นั บทเพลงต่างๆ
ความรู้ที่หลากหลาย
6. มีมารยาทในการอา่ นและมีนสิ ัยรัก วรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ไดแ้ ก่ ไกรทอง
นางสบิ สอง ปลาบ่ทู อง
การอ่าน
ผาแดงนางไอ่คำ ละครจักรๆ วงศๆ์

ฯลฯ

5. การมมี ารยาทในการอา่ น

4. การเขียน 1. เขียนแผนภาพความคดิ 1. การเขียนแผนภาพความคิด 2
เขียนยอ่ ความ เรียงความ 2. การเขยี นย่อความ 2
จดหมาย เขียนอธบิ าย ชแ้ี จง 3. การเขยี นเรียงความ 2
4. การกรอกแบบพิมพแ์ ละ 2
2. ปฏบิ ัติตนเป็นผมู้ มี ารยาทในการ 2
เขยี น และมกี ารจดบนั ทกึ อยา่ ง ใบสมคั รงาน
สมำ่ เสมอ 5. การปฏิบัติตนเป็นผูม้ ีมารยาทใน

การเขยี นและมีนสิ ัยรกั การเขียน

81

ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวช้วี ดั เนอ้ื หา จำนวน
(ชม.)
5 หลกั การ 1. อธบิ ายความแตกตา่ งของคำ 1. ความหมายของคำ พยางค์ วลี 3
3
ใช้ภาษา พยางค์ วลี ประโยค การสะกดคำ ประโยค และการ สะกดคำ 4

ไดถ้ กู ต้อง 2. หลกั ในการสะกดคำ 9

2. ใชเ้ คร่อื งหมายวรรคตอน 3. การใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอน 8
4
อักษรย่อ คำราชาศพั ทไ์ ด้ถกู ต้อง อกั ษรย่อ คำราชาศัพทแ์ ละ 5
4
3. อธบิ ายความแตกตา่ งระหวา่ ง การใช้เลขไทย

ภาษาพดู และเขียน 4. การใชค้ ำและการสร้างคำใน

. 4. อธบิ ายการใช้ ความแตกต่างและ ภาษาไทย

ความหมายของ สำนวน สุภาษิต - การสร้างคำ

คำพงั เพย และนำไปใช้ใน - คำประสม

ชีวติ ประจำวนั ไดถ้ ูกต้อง - คำซ้อน

5. อธิบายหลักการและสามารถแต่ง - คำซำ้

คำประพนั ธ์ ประเภทต่างๆ - คำสมาส คำสนธิ

- หลักการสงั เกตคำภาษา

อน่ื ๆ ทใ่ี ช้ในภาษาไทย

5. ชนิดของประโยค

6. การใชร้ ะดบั ภาษาทเ่ี ป็น

ทางการและไม่เปน็ ทางการ

7. การใชส้ ำนวน สภุ าษิต

คำพังเพย

8. หลักการแตง่ คำประพันธ์

ประเภทตา่ งๆ เช่น

- กาพย์ยานี 11

- กาพย์ฉบงั 16

- กลอน

- ฯลฯ

82

ท่ี หัวเรื่อง ตวั ชี้วดั เนื้อหา จำนวน
(ชม.)
6. วรรณคดี อธบิ ายความแตกตา่ งและคุณค่าของ 1. หลกั การพจิ ารณาวรรณคดี 5
5
วรรณ วรรณคดี วรรณกรรมปจั จุบนั และ 2. หลกั การพินิจวรรณคดี
5
กรรม วรรณกรรมท้องถิน่ 3. ประวตั คิ วามเปน็ มา ลักษณะ
และคุณค่าของเพลงพื้นบา้ น 5

เพลงกลอ่ มเด็ก

4. หลกั การพินิจวรรณคดีด้าน

วรรณศลิ ป์ และด้านสงั คม

- สามก๊ก

- ราชาธริ าช

- กลอนเสภาขุนชา้ ง -

ขุนแผน

- กลอนบทละครเรื่องรามเกียรติ์

83

ผงั มโนทศั นร์ ายวชิ าภาษาไทย (พท31001)
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

การใช้ภาษาไทย ภาษาไทยกบั การประกอบอาชีพ การฟัง การดู การมวี จิ ารณญาณในการ
ด้านการพูด การ วเิ คราะหค์ วาม
เขยี น เปน็ สมเหตสุ มผลและความ
ช่องทางในการ เป็นไปไดข้ องเร่อื งท่ฟี งั
ประกอบอาชพี และดูจากส่ือที่
หลากหลาย ตลอดจน
การวิเคราะหแ์ ละเห็น วชิ าภาษาไทย มารยาทของการฟงั และดู
คณุ ค่าวรรณคดี
วรรณกรรมปัจจุบัน วรรณคดี การพูด ศลิ ปะการพดู ท่ีเปน็
และวรรณกรรม และวรรณกรรม ทางการและไมเ่ ปน็
ทอ้ งถ่ินโดยใชห้ ลักการ ทางการตลอดจนการ
พนิ ิจวรรณคดี แสดงความคดิ เห็นเชิง
วเิ คราะหป์ ระมาณคา่
การเลอื กใชถ้ อ้ ยคำ หลักการใช้ภาษาไทย การใชภ้ าษษพูดและ
สำนวน สุภาษติ คำ ภาษาภไทย มารยาทในการพดู
พังเพย โครงสรา้ งของ

ประโยค รปู ประโยคและ

ชนิดของประโยค เพอื่

สร้างมนุษยสัมพนั ธ์ ใน การอ่าน การตีความ แปลความ
วเิ คราะห์ วิจารณ์
การปฏิบตั ิงานรว่ มกบั
ประเมินคา่ วรรณคดี
ผูอ้ ืน่ วรรณกรรม การมนี สิ ยั
รกั การอา่ นและ
หลักการเขยี นประเภทตา่ งๆโดยใช้คำ มารยาทในการอ่าน

ได้ตรงความหมาย ถูกต้องตามอกั ขระ การเขียน
วธิ ี และระดบั ภาษา การแต่งคำ

ประพันธ์ประเภทรอ้ ยแก้ว ร้อยกรอง

ตลอดจนการวิพากยว์ ิจารณ์ ประเมนิ

งานเขยี น มนี สิ ยั รักการเขยี น และมี

มารยาทในการเขยี น

84

ผงั การออกขอ้ สอบรายวิชาภาษาไทย (พท31001)

หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

สาระความรู้พนื้ ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย รหสั พท 31001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
มาตรฐานท่ี 2.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ และทกั ษะพน้ื ฐานเกย่ี วกบั ภาษาและการสอื่ สาร

มาตรฐานการ หวั เรอ่ื ง ตวั ชี้วดั จำนวนขอ้ ร-ู้ จำ เข้าใจ พฤตกิ รรมการวดั ประเมิน
เรียนรู้ระดับ เน้ือหา ที่ตอ้ งการ นำไปใช้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ค่า

การฟัง การดู 1. 1.1 พจิ ารณาความ 8 11
ข้อ1 ขอ้ 2
1. สามารถ การ นา่ เชอ่ื ถือของเนื้อหา

เลือกสื่อใน ฟัง ทไ่ี ดจ้ ากสอื่ ในการ

การฟงั และ การดู ฟังได้

ดูอย่าง 1.2 สรุปความจากเร่ือง 1
สร้างสรรค์ ที่ฟังได้ ข้อ 3

2. สามารถฟัง 1.3 จบั ใจความสำคัญ 1
ดูอยา่ งมี จากเรือ่ งท่ีฟงั ได้ ข้อ 4

วิจารณญาณ 1.4 วเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จรงิ 2
และขอ้ คดิ เห็นท่ไี ด้ ข้อ 5-6
3. เป็นผู้มี จากการฟังและดไู ด้
มารยาทใน 11
การฟัง 1.5 วเิ คราะหเ์ นื้อหาจาก ข้อ 7 ขอ้ 8
เรือ่ งท่ีฟงั ได้

การพดู 2.

1. สามารถพูด การ

ทงั้ ทีเ่ ปน็ พดู

ทางการ

และไม่เปน็

ทางการโดย

ใชภ้ าษา

ถกู ตอ้ ง

เหมาะสม

การพดู 2.1 วเิ คราะห์ เนอื้ หา 7 1
1. สามารถพดู การพดู แสดงความ ขอ้ 9
คิดเห็น
ท้งั ทีเ่ ปน็
ทางการ
และไม่เป็น

85

มาตรฐานการ หวั เรือ่ ง ตวั ชว้ี ัด จำนวนขอ้ ร-ู้ จำ เขา้ ใจ พฤตกิ รรมการวัด ประเมิน
เรยี นรูร้ ะดบั เน้อื หา ที่ต้องการ นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ คา่

ทางการโดย
ใช้ภาษา
ถกู ต้อง
เหมาะสม

2.2 วิเคราะหก์ าร ใช้ 1
ภาษาพดู ของส่อื ข้อ 10
ต่างๆ ได้
1
2.3 ใช้ศิลปะการพูดที่ ข้อ 11
เปน็ ทางการ
หรือไมเ่ ป็นทางการ 1
ไดอ้ ย่างเหมาะสมได้ ขอ้ 12
อย่างเหมาะสมกบั
โอกาสและ 1
บุคคล ขอ้ 13

2.4 วเิ คราะหก์ ารใช้ 1
ภาษาพูดของบคุ คล ขอ้ 14
ในโอกาสตา่ งๆได้ 1
ขอ้ 15
2.5 ประเมนิ ค่าการใช้
ภาษาพูดที่เปน็
ทางการและไมเ่ ป็น
ทางการได้

2.6 สรุปแนวคิดสำคัญ
ของเนื้อหาท่ผี พู้ ดู
พดู

2.7 ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มี
มารยาทในการพูด

การอา่ น 3. 3.1 วเิ คราะห์ 16 1

1. สามารถ การ ความหมายของคำ ขอ้ 16

อา่ นอยา่ งมี อ่าน ในข้อความทีอ่ า่ นได้

วิจารณญาณ 3.2 บอกวธิ อี ่านบท 1

จัดลำดับ ประพนั ธ์ร้อยกรอง ขอ้

ได้ 17

86

มาตรฐานการ หัวเรือ่ ง ตัวชว้ี ดั จำนวนขอ้ ร-ู้ จำ เข้าใจ พฤตกิ รรมการวดั ประเมนิ
เรียนรู้ระดบั เน้ือหา ที่ต้องการ นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ คา่

ความคดิ จาก 3.3 แต่งคำประพันธ์ 1

เรื่องที่อา่ น ประเภทร้อยกรองได้ ข้อ 18

2. สามารถ 3.4 วเิ คราะห์ความ 1

ศกึ ษาภาษา ไพเราะของบท ข้อ 19

ถิ่นสำนวน ประพนั ธป์ ระเภท

ภาษติ ทีม่ อี ยู่ ร้อยกรองได้

ใน วรรณคดี 3.5 วิเคราะห์ความ 2

วรรณกรรม สมเหตสุ มผลของ ข้อ

ปจั จุบันและ เร่อื งทีอ่ า่ นได้ 20-21

วรรณกรรม 3.6 ลำดับความคดิ และ 1

ท้องถนิ่ ความเป็นไปได้ของ ขอ้ 22

3. สามารถ เร่ืองทอี่ า่ น

วเิ คราะห์ 3.7 อธบิ ายความหมาย 1

วจิ ารณ์ ของภาษาถิน่ ท่ี ขอ้
ประเมินค่า ปรากฏในวรรณคดี 23

องค์ประกอบ วรรณกรรมปจั จบุ นั
ของวรรณคดี วรรณกรรมทอ้ งถน่ิ

3.8 สรปุ แนวคิดสำคัญ 3

ของวรรณคดี ขอ้

วรรณกรรมท่ี 24-26

อา่ นได้

87

มาตรฐานการ หวั เรือ่ ง ตวั ชวี้ ัด จำนวนขอ้ ร-ู้ จำ เข้าใจ พฤตกิ รรมการวดั ประเมนิ
เรียนรรู้ ะดับ เนอ้ื หา ทีต่ ้องการ นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ค่า

วรรณกรรม 3.9 วเิ คราะหค์ ณุ ค่าของ 2
ปจั จุบนั เน้อื หาในวรรณคดี ข้อ
วรรณกรรม วรรณกรรม ปัจจบุ ัน 27-28
ท้องถนิ่ และวรรณกรรม
4. สามารถ ทอ้ งถนิ่ ได้ 1
คน้ ควา้ ขอ้ 29
หาความรจู้ าก 3.10 จำแนกความ
ส่ือสงิ่ พมิ พ์ ไพเราะของบทรอ้ ย 1
และสื่อสาร กรองในวรรณคดี ขอ้ 30
สนเทศ วรรณกรรมไทยได้
5. ปฏิบัตติ น 1
เปน็ ผู้ 3.11 วเิ คราะห์รส ขอ้ 31
มีมารยาท วรรณคดไี ทยได้
ในการอ่าน ถูกต้อง
และนสิ ยั รัก
การอา่ น 3.12 ประเมินค่า เนื้อหา
ในวรรณคดี
วรรณกรรม
ปัจจุบัน วรรณกรรม
ท้องถน่ิ ได้

การเขยี น 4. 4.1 เขียน แผนภาพ 3 1

1. รูแ้ ละเข้าใจ การ ความคิดได้ ข้อ 32

หลกั การเขียน เขียน 4.2 เขยี นยอ่ ความหรือ 1

ประเภทต่างๆ เรียงความได้ ข้อ 33

โดยใชค้ ำใน 4.3 เลือกใช้คำใน การ 1

การเขยี นได้ตร เขียนจดหมายได้ ขอ้ 34

ความหมาย เหมาะกับบคุ คล

และถูกตอ้ ง

ตาม อกั ขระ

วธิ แี ละระดับ

ภาษา

88

มาตรฐานการ หวั เร่ือง จำนวนขอ้ พฤติกรรมการวดั
เรียนรู้ระดับ เนอื้ หา ทีต่ อ้ งการ
ตวั ช้วี ดั ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ
คา่

2. สามารถ

วพิ ากษ์วิจาร

ณแ์ ละ

ประเมนิ

งานเขยี นของ

ผอู้ ่นื เพอื่ นำมา

พฒั นางาน

เขียน

3. สามารถ

แต่งคำ

ประพนั ธ์

ประเภท

ร้อยแกว้ และ

ร้อยกรอง

4. มมี ารยาใน

การเขียน

และนสิ ยั

รักการอ่าน

หลกั การใช้ 5. 5.1 อธบิ ายความ 16 1
ขอ้
ภาษา หลกั แตกตา่ ง 35

1. รแู้ ละเขา้ ใจ การใช้ ของคำ วลีและ 1
ข้อ 36
ชนดิ และ ภาษา ประโยคได้
1
หนา้ ที่ 5.2 สะกดคำได้ ขอ้ 37

ของคำ ถกู ต้อง 1
ขอ้ 38
พยางค์ 5.3 ใช้เครือ่ งหมาย

วลี ประโยค วรรคตอน อักษรย่อ

และสามรถ คำราชาศัพท์ได้

อ่านเขยี น ถกู ตอ้ ง

ไดถ้ ูกต้อง 5.4 จำแนกคำประเภท

ตามหลัก ตา่ งๆ

เกณฑ์

ของภาษา

89

มาตรฐานการ หวั เร่ือง จำนวนขอ้ พฤตกิ รรมการวดั
เรยี นรรู้ ะดับ เน้ือหา ทีต่ อ้ งการ
ตวั ชีว้ ดั ร-ู้ จำ เข้าใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ
ค่า

2. สามารถใช้ 5.5 จำแนกคำภาษา 1

เครอ่ื งหมาย ตา่ งประเทศทีน่ ำมาใชใ้ น ข้อ 39

วรรคตอน ภาษาไทยได้

อกั ษรยอ่ 5.6 จำแนก ประเภท 1

คำราชา ของภาษาทเ่ี ปน็ ขอ้

ศัพท์ ทางการและ ไม่เปน็ 40

3. สามารถ ทางการได้

วเิ คราะห์ 5.7 นำสภุ าษิต สำนวน 1

ความแตกต่าง คำพังเพยไปใช้ใน ขอ้ 41

ระหวา่ งภาษา ชีวิตประจำวัน

พดู และเขยี น ไดถ้ กู ตอ้ ง

4. รู้และเข้าใจ 5.8 อธบิ ายผงั การแตง่ 1

สำนวน คำประพันธ์ ข้อ

สภุ าษติ ประเภทต่างๆ ได้ 42

คำพงั เพย 5.9 แตง่ คำประพันธ์ 1

ในการพดู ประเภทต่างๆ ได้ ขอ้ 43

และเขียน 5.10 บอก ความหมาย 1

ของคำและขอ้ ความ ข้อ

ในคำประพนั ธ์ 44

ประเภทต่างๆ ได้

5.11 บอกความแตกตา่ ง 1

ของคำซำ้ และ ขอ้

คำซ้อนได้ 45

5.12 วเิ คราะห์ ความ 3

ไพเราะ ของคำ ข้อ

ประพนั ธ์ประเภท 46-48

ตา่ งๆ ได้

5.13 บอกความร้สู ึกของ 2

ผูป้ ระพนั ธบ์ ท ขอ้

รอ้ ยแกว้ หรือ 49-50

รอ้ ยกรองได้

90

ผงั การวเิ คราะหเ์ นอื้ หา รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า พท 31001
จัดกจิ กรรมการเรยี นรจู้ ำนวน 3 ครงั้

เนอื้ หา ง่าย ปานกลาง ยาก หมายเหตุ
1. การฟงั การดู

1.1 การเลือกสอ่ื ในการฟงั และดู 
1.2 การวิเคราะห์ วิจารณ์ เร่อื งท่ีฟัง และดู 
1.3 มารยาทในการฟังและดู
2. การพดู 
2.1 มารยาทในการพดู 
2.2 ลักษณะการพูดทด่ี ี 
2.3 การพูดในโอกาศตา่ งๆ
3. การอา่ น 
3.1 ความสำคญั ของการอ่าน 
3.2 วจิ ารณญาณในการอ่าน 
3.3 การอา่ นแปลความ ตีความ ขยายความ จับ

ใจความหรอื สรุปความ 
3.4 วรรณคดี 
3.5 หลกั การวิจารณว์ รรณคดี 
3.6 ภาษาถน่ิ 
3.7 สำนวน สภุ าษิต
3.8 วรรณกรรมท้องถนิ่ 
4. การเขยี น 
4.1 หลักการเขียน 
4.2 หลกั การแต่งคำประพันธ์
4.3 มารยาทและนสิ ัยรักการเขียน 
5. หลกั การใชภ้ าษา 
5.1 ธรรมชาติของภาษา 
5.2 ถ้อยคำ สำนวน สภุ าษิต คำพงั เพย 
5.3 การใช้พจนานุกรมและสารานกุ รม
5.4 คำราชาศพั ท์

91

เนอื้ หา งา่ ย ปานกลาง ยาก หมายเหตุ

6. วรรณคดี วรรณกรรม

6.1 หลกั การพินจิ วรรณกรรม 

6.2 การวเิ คราะหค์ ุณค่า ประเมินค่าของวรรณคดี 

วรรณกรรมปจั จุบนั และวรรณกรรมท้องถิน่

7. ภาษาไทยกบั การประกอบอาชพี

7.1 คณุ ค่าของภาษาไทย 

7.2 ภาษาไทยกับชอ่ งทางประกอบอาชีพ 

7.3 การเพ่มิ พูนความรู้และประสบกการณ์ 

ทางดา้ นภาษาไทยเพื่อการประกอบอาชีพ

92

แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 8
รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า พท 31001

1. เรอ่ื ง การอา่ น

2. ตวั ชว้ี ดั
2.1 อธิบายความหมาย ของภาษาถิ่นทปี่ รากฏในวรรณคดี วรรณกรรมปัจจบุ ัน วรรณกรรมท้องถ่นิ
2.2 วเิ คราะหค์ ณุ คา่ ของเนอ้ื หาในวรรณคดี วรรณกรรมปจั จบุ ัน และวรรณกรรมทอ้ งถิน่ ได้
2.3 ประเมินคา่ เนอื้ หาในวรรณคดี วรรณกรรมปจั จบุ ัน วรรณกรรมท้องถิ่นได้

3. เนอื้ หา
3.1 การอา่ นแปลความ ตีความ ขยายความ จบั ใจความหรอื สรปุ ความ
3.2 วรรณคดี วรรณกรรม
3.3 หลกั การวิจารณว์ รรณคดี วรรณกรรม

4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
4.1 ผ้เู รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจภาษาถน่ิ สำนวน สุภาษติ ทม่ี ีอยู่ในวรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบนั และ

วรรณกรรมท้องถ่ิน มีความรู้หลักการอ่านอยา่ งมวี ิจารณญาณ จัดลำดับความคิดจากเร่ืองท่อี า่ น วเิ คราะห์
วจิ ารณ์ ประเมินค่าองคป์ ระกอบของวรรณคดี วรรณกรรมปจั จุบนั วรรณกรรมทอ้ งถิ่น (K = Knowledge)

4.2 ผู้เรียนฝกึ ทกั ษะการวิเคราะห์ วจิ ารณ์ ประเมินคา่ เน้อื หาวรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบัน และ
วรรณกรรมท้องถ่ินจากหนงั สือเรยี น ใบความรู้ สื่อสง่ิ พิมพ์และสอ่ื สารสนเทศ (P = Practice)

4.3 ผู้เรยี นเหน็ คณุ ค่า ปฏิบตั ติ นเปน็ ผูม้ มี ารยาทในการอา่ น และนสิ ยั รักการอา่ น (A = Attitude)

5. สมรรถนะของผเู้ รยี น (3R 8C)
5.1 มีทกั ษะการอา่ นออก เขยี นได้
5.2 มที กั ษะในการคิดวเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและแกไ้ ขปัญหาได้
5.3 คิดอยา่ งสร้างสรรค์ ทกั ษะการสือ่ สารและร้เู ทา่ ทันส่ือ
5.3 มีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา มรี ะเบยี บวินยั

6. ความคดิ รวบยอด
ผเู้ รียนอ่านอยา่ งมวี จิ ารณญาณ จัดลำดับความคิดจากเร่อื งทีอ่ า่ นได้ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ ประเมินค่า

วรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบนั และวรรณกรรมท้องถิน่ สามารถคน้ คว้าความร้จู ากสือ่ สิ่งพิมพแ์ ละส่ือสารสนเทศ
ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้มมี ารยาทในการอา่ น และนสิ ัยรักการอา่ น

93

7. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
7.1 ขน้ั กำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O: Orientation)
ผู้สอนและผเู้ รยี นแลกเปลี่ยนเรียนรใู้ ครเคยอ่านวรรณคดี วรรณกรรม หรือนิทานพืน้ บา้ นเพลงกลอ่ ม

เด็กบ้าง ให้ผู้เรยี นพดู คยุ แลกเปลย่ี นประสบการณ์ ความสำคัญของวรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบันและ
วรรณกรรมท้องถนิ่ ใครเคยวิจารณ์ วรรณกรรมบ้าง

7.2 ขั้นแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรียนรู้ (N: New ways of learning)
ผ้เู รียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ผสู้ อนเฉลยแบบทดสอบ ให้ผู้เรยี นเลอื กศึกษาวรรณคดไี ทยทีช่ อบ

จากหนงั สือในประเด็นตา่ ง ๆ ดังน้ี ประวตั ิและลักษณะของเร่อื งที่อา่ น วิเคราะหว์ จิ ารณ์ตัวละครสำคญั ของเร่ือง
แนวคิด คา่ นิยมและคุณค่าตา่ ง ๆ ศกึ ษาวรรณกรรมท่ีไดร้ บั รางวลั ตามใบงาน ศึกษาวรรณกรรมท้องถน่ิ จาก
ผู้สงู อายใุ นชมุ ชน แลว้ นำเรอ่ื งเหลา่ น้นั มาเรียบเรียงเป็นลายลักษณ์อกั ษรหรือในรปู แบบคลปิ วิดโี อ และนำเสนอ

7.3 ขัน้ ปฏิบัตแิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ (I: Implementation)
ผูส้ อนและผู้เรยี นรว่ มกันสรุปและแลกเปล่ียนความคดิ เห็นเกีย่ วกับวรรณคดี วรรณกรรมท่ีอา่ นและ

นำแนวคดิ ที่ไดไ้ ปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั

7.4 ขัน้ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
ทำแบบทดสอบหลังเรียน

8. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 หนังสือเรียน หนงั สอื เรยี น
8.2 ส่อื วดิ ีทัศน์เร่อื ง
8.2.1 หลักการอา่ น
8.2.2 คุณคา่ ทางวรรณคดี วรรณกรรม
8.2.3 การวเิ คราะห์วรรณคดี
8.2.4 หลกั การวจิ ารณ์วรรณคดี
และวรรณกรรม
8.3 ใบงาน

9. วดั /ประเมนิ ผล
แบบทดสอบหลังเรียน

94

แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ท่ี 9
รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า พท 31001

1. เรอ่ื ง การเขยี น

2. ตัวชว้ี ดั
2.1 เขยี นแผนภาพความคิดได้
2.2 เขียนย่อความหรอื เรียงความได้
2.3 เลือกใชค้ ำในการเขียนจดหมายได้เหมาะกบั บุคคล

3. เน้อื หา
3.1 หลกั การเขยี นประเภทต่างๆ
3.2 มารยาทในการเขยี นและนิสยั รกั การเขียน

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
4.1 ผู้เรียนมีความรู้เรื่องหลักการเขียนประเภทต่างๆ วิธีการเขียน ใช้คำในการเขียนได้ตรงความหมาย

และถกู ต้องตามอักขระวธิ แี ละภาษา (K = Knowledge)
4.2 ผ้เู รียนฝึกทกั ษะการเขยี น แผนภาพความคดิ เขียนย่อความ เรียงความ จดหมาย (P = Practice)
4.3 ผู้เรียนมีความตระหนัก มีความรักในการเขียน เห็นความสำคัญของการเขียนแผนภาพความคิด

เขยี นยอ่ ความ เรียงความเลอื กใชค้ ำในการเขยี นได้เหมาะสม (A = Attitude)

5. สมรรถนะของผเู้ รียน (3R 8C)
5.1 มที ักษะการอ่านออก เขียนได้
5.2 มีทกั ษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและแกไ้ ขปญั หาได้
5.3 คิดอย่างสร้างสรรค์ คิดเชิงนวรรคกรรม
5.4 มคี ณุ ธรรม มเี มตตา กรณุ า มีระเบียบวินัย

6. ความคดิ รวบยอด
ผู้เรียนรู้และเข้าใจการเขียนประเภทต่างๆได้ วิพากษ์ วิจารณ์และประเมินงานเขียน มีมารยาทในการ

เขียนและนสิ ยั รักการเขียน

95

7. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.1 ขน้ั กำหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation)
ผู้สอนและผู้เรียนพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่มีเกี่ยวกับการเขียนประเภทต่างๆใน

ชีวติ ประจำวนั ปัญหาตา่ ง ๆ ทพี่ บจากการเขียนประเภทต่างๆ
7.2 ขั้นแสวงหาข้อมลู และการจดั การเรียนรู้ (N: New ways of learning)
ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ผู้เรียนศึกษาแนวการเขียนประเภทต่าง ๆ การเขียนแผนภาพความคิด

การเขยี นยอ่ ความ เรียงความ การเขียนจดหมาย
7.3 ขนั้ ปฏิบัติและนำไปประยกุ ต์ใช้ (I: Implementation)
7.3.1 ผู้เรียนฝึกเขียนแผนที่ความคิด การเขียนย่อความ เรียงความ การเขียนจดหมาย ครูและ

ผู้เรียนร่วมกันสรุปและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับงานเขียนในลักษณะต่าง ๆ รวมถึงการนำไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวนั

7.3.2 ผู้สอนเน้นย้ำให้ผู้เรียนมี คุณธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบียบวินัยต่อตนเองและเพื่อนๆ และ
การมีมารยาทในการเขยี นการเขียนท่ีดถี กู ต้องตามลกั ษณะคือผู้ท่มี วี ัฒนธรรมท่ดี ี

7.4 ขน้ั ประเมินผลการเรียนรู้ (E: Evaluation)
7.4.1 ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น

8. สอ่ื /แหล่งเรียนรู้
หนงั สอื เรยี น แบบทดสอบ
ใบงานการเขยี นประเภทตา่ งๆ

9. วัด/ประเมินผล
แบบทดสอบหลังเรยี น


Click to View FlipBook Version