96
แผนการจดั การเรยี นรู้ ครง้ั ที่ 10
รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า พท 31001
1. เร่ือง หลักการใช้ภาษา
2. ตวั ชี้วดั
2.1 อธิบายความแตกต่างของคำ วลีและประโยชน์ได้
2.2 สะกดคำได้ถกู ต้อง
2.3 ใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน อักษรย่อ คำราชาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง
2.4 จำแนกคำประเภทตา่ งๆได้
2.5 จำแนกคำภาษาตา่ งประเทศที่นำมาใชใ้ นภาษาไทยได้
2.6 จำแนกประเภทของภาษาทเี่ ปน็ ทางการและไมเ่ ปน็ ทางการได้
2.7 บอกความแตกตา่ งของคำซำ้ และคำซอ้ นได้
3. เนอื้ หา
ธรรมชาติของภาษา
4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
4.1 ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจธรรมชาติของภาษา เช่น ชนิดและหน้าที่ของคำ พยางค์ วลี ประโยค
สามารถอ่านเขียนได้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของภาษา ใช้เครื่องหมายวรรคตอน อักษรย่อ คำราชาศัพท์
วิเคราะห์ความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาพูดและเขยี น (K = Knowledge)
4.2 ผู้เรียนศึกษาธรรมชาติของภาษาการใช้คำ ประโยคในภาษาไทย ประเภทของภาษาที่เป็นทางการ
และไม่เป็นทางการ ฝึกวเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งระหว่างภาษาพูดและเขยี น การใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรคตอน การใช้
อกั ษรยอ่ คำราชาศพั ท์ (P = Practice)
4.3 ผู้เรยี นเห็นคุณคา่ และความสำคญั ของหลักการใชภ้ าษาไดถ้ กู ต้อง (A = Attitude)
5. สมรรถนะของผู้เรยี น (3R 8C)
5.1 มที กั ษะการอ่านออก และเขยี นได้
5.2 มีทกั ษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณและแกไ้ ขปญั หาได้
97
6. ความคิดรวบยอด
รูแ้ ละเขา้ ใจธรรมชาติของภาษา สามารถใชภ้ าษาสร้างมนุษยสัมพันธใ์ นการปฏิบัติงานรว่ มกับผู้อ่ืน และ
ใช้คำราชาศพั ท์ คำสภุ าพไดถ้ ูกต้องตามฐานะของบุคคล
7. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขนั้ กำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation)
ผู้สอนและผู้เรียนพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกีย่ วกับการใช้ภาษาไทย การเขียนภาษาไทยที่ใช้
ในชีวิตประจำวนั ปญั หากาใชภ้ าษาไทยทถ่ี กู ตอ้ ง
7.2 ขั้นแสวงหาข้อมลู และการจดั การเรียนรู้ (N: New ways of learning)
ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าจากหนังสือเรียน และสื่อสารสนเทศ เรื่องธรรมชาติ
ของภาษา ประเภทของคำตา่ งๆ วลี ประโยค
7.3 ขน้ั ปฏบิ ัติและนำไปประยกุ ต์ใช้ (I: Implementation)
7.3.1 ผู้เรียนทำใบงานธรรมชาติของภาษา ประเภทของคำต่างๆ วลี ประโยค คำราชาศัพท์ คำ
สุภาพ ครูและผู้เรียนร่วมกันสรุปและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับธรรมชาติของภาษา การใช้ภาษาใน
ชีวิตประจำวนั
7.4 ขั้นประเมินผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
7.4.1 ทำแบบทดสอบหลงั เรียน
8. สื่อ/แหล่งเรยี นรู้
หนงั สือเรยี น ใบงาน แบบทดสอบ
9. วัด/ประเมนิ ผล
แบบทดสอบหลงั เรยี น
98
โครงสรา้ ง
รายวชิ าการพฒั นาอาชพี เกษตรกรรม “ศาสตรพ์ ระราชา สกู่ ารพฒั นาทยี่ งั่ ยนื ”
รหสั อช 33774
คำอธบิ ายรายวิชา
ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
มาตรฐานที่ 3.4 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ในการพฒั นาอาชีพใหม้ คี วามมัน่ คง
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการพัฒนาอาชีพ ให้มีผลิตภณั ฑห์ รอื งานบริการ สร้างรายได้
พอเพียงตอ่ การดำรงชวี ิต มีเงินออมและมีทนุ ในการขยายอาชีพ
ศกึ ษาและฝึกทกั ษะ
1. ศาสตร์พระราชา
2. ศึกษาแหลง่ เรียนรู้
3. การพัฒนาอาชีพการเกษตรตามศาสตร์พระราชา
4. การปรบั ปรงุ บำรงุ ดนิ
5. การทำป๋ยุ อินทรีย์
6. การทำป๋ยุ อินทรยี ์น้ำ
7. การดแู ลรักษาและการใชน้ ำ้ จากแหล่งนำ้
8. การเกษตรแบบผสมผสาน
9. การทำของใชใ้ นชีวิตประจำวนั
10. การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร
การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้
1. ศกึ ษาจากใบความรู้
2. การเรียนรโู้ ดยการทำโครงงาน
3. ศกึ ษาจากแหลง่ เรียนรู้
4. การทำใบงาน
5. การทำแบบฝกึ หดั
6. การทำแบบทดสอบ
7. การปฏิบตั จิ ริง
99
การวัดและประเมินผล
1. สงั เกต การเข้าร่วมกิจกรรมของผ้เู รยี น
2. ประเมินโครงการ
2. ประเมินผลงานจากการทำใบงาน
3. ตรวจแบบฝกึ หดั
4. ตรวจแบบทดสอบ
5. ประเมินจากสภาพจรงิ ของผเู้ รียนทแี่ สดงออกเก่ียวกับการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวติ
100
คำอธบิ ายรายวชิ า
รหสั วชิ า อช 33774 ชอื่ รายวชิ าการพฒั นาอาชีพเกษตร “ศาสตรพ์ ระราชา สู่การพฒั นาที่ยงั่ ยนื ”
จำนวน 3 หนว่ ยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจในการพฒั นาอาชพี ให้มผี ลิตภัณฑ์หรืองานบริการ สรา้ งรายได้
พอเพียงตอ่ การดำรงชวี ติ มีเงินออมและมีทุนในการขยายอาชีพ
ท่ี หวั เรอื่ ง ตวั ชวี้ ดั เนอื้ หา จำนวน
(ชวั่ โมง)
1. ศาสตร์พระราชา 1. รูแ้ ละเข้าใจความเปน็ มา 1. ความเปน็ มา ความหมาย 3
5
ความหมาย ความสำคัญ ความสำคัญ
เกยี่ วกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ 2. ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
พอเพยี ง และเกษตรทฤษฎใี หม่ 3. เกษตรทฤษฎีใหม่
2. ศึกษาแหล่งเรียนรู้ 1. รแู้ ละเขา้ ใจความเป็นมา 1. ความเป็นมา แหล่งเรยี นรู้
1 โครงการศกึ ษา แหล่งเรยี นรู้ 2. องค์ความรู้
ทดลองการแก้ไข 2. รแู้ ละเขา้ ใจองค์ความรู้ของ 2.1 การปรับปรงุ บำรุงดนิ
ปัญหาดินเปรี้ยวอนั แหล่งเรียนรู้ 2.2 การทำปุ๋ยอนิ ทรยี ์
เนื่องมาจาก 2.1 การปรับปรุงบำรุงดนิ 2.3 การทำปุ๋ยอินทรีย์นำ้
พระราชดำริ ในที่ดิน 2.2 การทำปุ๋ยอินทรยี ์ 2.4 การบำรงุ รกั ษาและการ
มูลนธิ ชิ ัยพัฒนา 2.3 การทำปุ๋ยอินทรยี ์นำ้ ใชน้ ำ้ จากแหลง่ น้ำ
ต.บ้านพริก 2.4 การบำรุงรักษาและการใช้ 2.5 การปลูกพชื แบบ
อ.บ้านนา น้ำจากแหล่งนำ้ ผสมผสาน
จ.นครนายก 2.5 การปลูกพชื แบบ 2.6 การเล้ยี งสตั ว์
2 เศรษฐกจิ ผสมผสาน 2.7 การทำของใช้ใน
พอเพยี ง 2.6 การเล้ยี งสัตว์ ชวี ติ ประจำวนั
บ้านทงุ่ กระโปรง 2.7 การทำของใช้ใน 2.8 การแปรรูปผลผลิตทาง
หมู่ 12 ต.ปา่ ขะ ชีวิตประจำวนั การเกษตร
อ.บา้ นนา 2.8 การแปรรูปผลผลิตทาง 3. การถ่ายทอดองค์ความรู้
จ. นครนายก การเกษตร 4. ตวั อย่างแห่งความสำเร็จ
3. การถา่ ยทอดองค์ความรู้
4. ตวั อย่างแห่งความสำเรจ็
101
ท่ี หวั เรอื่ ง ตวั ชว้ี ดั เนอ้ื หา จำนวน
(ชว่ั โมง)
3. การพัฒนาอาชพี 1. รู้และเข้าใจ ความหมายและ 1. ความหมายและความสำคัญ 5
15
การเกษตรตาม ความสำคญั 2. การพัฒนาอาชีพตามหลัก 20
15
ศาสตร์พระราชา 2. รู้และเข้าใจการพฒั นาอาชีพ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ และเกษตรทฤษฎีใหม่
พอเพียง และเกษตรทฤษฎใี หม่
4. การปรบั ปรงุ บำรุง 1. ร้แู ละเขา้ ใจความหมายและ 1. ความหมายและความสำคัญ
ดนิ ความสำคญั 2. วิธีการ
2. รู้ เข้าใจและทักษะการ การ
ตรวจหาค่า PH 2.1การตรวจหาค่า P
การตรวจหาแร่ธาตุ 2.2 การตรวจหาแร่ธาตุ
5. การทำปุ๋ยอนิ ทรยี ์ 1. รแู้ ละเขา้ ใจความหมาย 1. ความหมายและความสำคัญ
ความสำคัญ และประโยชนข์ อง 2. ประโยชนข์ องปยุ๋ อินทรีย์
ปุ๋ยอนิ ทรยี ์ 3. วิธกี ารทำป๋ยุ อนิ ทรยี ์
2. รู้ เข้าใจ และทักษะการทำ
ปุ๋ยอนิ ทรีย์
6 การทำปุ๋ยอินทรีย์น้ำ 1. รู้ เข้าใจความหมาย 1. ความหมายและความสำคัญ
ความสำคญั และประโยชน์ 2. ประโยชน์ของ
ทักษะของปุย๋ อินทรยี น์ ้ำ ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
2. รู้ เขา้ ใจและทักษะการทำปุย๋ 3. วิธีการทำป๋ยุ อินทรียน์ ำ้
อนิ ทรียน์ ้ำ
7. การดแู ลรักษาแหลง่ 1. รู้ เข้าใจความหมายและ 1. ความหมายและความสำคัญ 7
นำ้ ความสำคญั 2. วิธีการดแู ล
2. รู้ เข้าใจและทักษะการดูแล รักษาแหลง่ นำ้
รกั ษาแหลง่ น้ำ
8. การเกษตร 1. รู้ เขา้ ใจความหมายและ 1. ความหมายและความสำคัญ 25
แบบผสมผสาน ความสำคัญ 2. การทำเกษตรแบบ
2. รู้ เขา้ ใจและทักษะการทำ ผสมผสาน
เกษตรแบบผสมผสาน
102
ท่ี หวั เรอื่ ง ตวั ชว้ี ดั เนอื้ หา จำนวน
(ชว่ั โมง)
9. การทำของใช้ใน 1. รู้ เข้าใจความหมายและ 1. ความหมายและความสำคัญ 5
20
ชวี ิตประจำวัน ความสำคัญการทำของใชใ้ น การทำของใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน
ชวี ติ ประจำวัน 2. การทำของใชใ้ น
2. รู้ เข้าใจ และทักษะการทำ ชวี ติ ประจำวัน
ของใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
10. การแปรรปู ผลผลติ 1. รู้ เขา้ ใจความหมายและ 1. ความหมายและความสำคัญ
ทางการเกษตร ความสำคัญการแปรรปู ผลผลิต การแปรรปู ผลผลิตทาง
ทางการเกษตร การเกษตร
2. รู้ เขา้ ใจ และทกั ษะแปรรูป 2. การแปรรูปผลผลิตทาง
ผลผลิตทางการเกษตร การเกษตร
103
ผงั มโนทศั น์
รายวชิ าการพฒั นาอาชพี เกษตรกรรม “ศาสตรพ์ ระราชา สกู่ ารพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื ”
รหสั อช 33774
การแปรรปู ผลผลิตทาง การแปรรปู ผลผลิต ศาสตรพ์ ระราชา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
การเกษตร ทางการเกษตร และเกษตรทฤษฎใี หม่
ทักษะการการทำของใชใ้ น การทำของใช้ใน แหลง่ เรยี นรู้ 1.โครงการศึกษาทดลอง
ชวี ติ ประจำวัน ชวี ติ ประจำวนั การแก้ไขปัญหาดิน
เปร้ยี วอันเนือ่ งมาจาก
พระราชดำริ ในที่ดิน
มูลนิธชิ ัยพฒั นา
การเกษตร 2. บา้ นทุง่ กระโปรง หมู่
แบบ 12 ต.ป่าขะ อ.บา้ นนา
ผสมผสาน การพฒั นาอาชพี การเกษตร
ทกั ษะการทำ การดูแลรักษาและ ตามศาสตรพ์ ระราชา
เกษตรแบบ การใช้นำ้ จากแหล่ง
ผสมผสาน การพัฒนาอาชีพตามหลกั
น้ำ
วธิ กี ารดูแล รักษา ปรชั ญาของเศรษฐกิจ
แหลง่ นำ้
พอเพยี ง และเกษตร
ทฤษฎีใหม่
การปรบั ปรุง
บำรุงดนิ วิธกี าร
1.การตรวจหาค่า PH
2.การตรวจหาแรธ่ าตุ
ประโยชน์ของปยุ๋ การทำปยุ๋ อนิ ทรีย์
อนิ ทรยี น์ ้ำ น้ำ
วธิ กี ารทำปุย๋ อินทรีย์นำ้
การทำปุย๋ ประโยชน์ของปุย๋ อินทรยี ์
อินทรยี ์ วธิ ีการทำป๋ยุ อนิ ทรยี ์
104
ผงั การออกขอ้ สอบ
รายวชิ าการพฒั นาอาชพี เกษตรกรรม
“ศาสตรพ์ ระราชา สกู่ ารพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื ” รหสั อช 33774
จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
หวั เรอ่ื ง เนอ้ื หา ตวั ชวี้ ดั ขอ้ ท่ี ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำ วิ สงั ประเมนิ
ตอ้ งการ ไปใช้ เคราะห์ เคราะห์ คา่
1. ศาสตร์
พระราชา 1. รู้และเข้า 1. ความเปน็ มา 4
ใจความเปน็ มา ความหมาย
ความหมาย ความสำคญั
ความสำคญั 2. ปรชั ญา
เกย่ี วกบั ปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียง
เศรษฐกิจ 3. เกษตรทฤษฎี
พอเพยี งและ ใหม่
เกษตรทฤษฎี 4. แกล้งดิน
ใหม่
3. การ 1. รแู้ ละเขา้ ใจ 1. ความหมาย 4
พัฒนา ความหมายและ และความสำคญั
อาชพี ความสำคญั 2. การพฒั นา
การเกษตร 2. รแู้ ละเข้าใจ อาชพี ตามหลกั
ตาม การพฒั นาอาชีพ ปรชั ญาของ
ศาสตร์ ตามหลกั ปรชั ญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง
พระราชา ของเศรษฐกิจ และเกษตรทฤษฎี
พอเพียง และ ใหม่
เกษตรทฤษฎี
ใหม่
4.การ 1. ร้แู ละเขา้ ใจ 1. ความหมาย 4
ปรบั ปรุง ความหมายและ และความสำคญั
บำรงุ ดนิ ความสำคญั 2. วิธีการ
2. รู้ เขา้ ใจและ
ทักษะการ การ 2.1การตรวจหา
ตรวจหาคา่ PH ค่า Ph
การตรวจหาแร่
ธาตุ 2.2 การ
ตรวจหาแร่ธาตุ
105
จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
ขอ้ ท่ี
หวั เรอื่ ง เนอื้ หา ตวั ช้ีวดั ตอ้ งการ ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำ วิ สงั ประเมนิ
3 ไปใช้ เคราะห์ เคราะห์ คา่
5. การทำ 1. รูแ้ ละเข้าใจ 1. ความหมาย
ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ ความหมาย และความสำคญั
ความสำคญั 2. ประโยชนข์ อง
และประโยชน์ ปุ๋ยอนิ ทรยี ์
ของปยุ๋ อินทรยี ์ 3. วิธีการทำปุ๋ย
2. รู้ เขา้ ใจ และ อนิ ทรีย์
ทกั ษะการทำปุ๋ย
อินทรยี ์
6. การทำ 1. รู้ เข้าใจ 1. ความหมาย 3
ปยุ๋ อินทรยี ์ ความหมาย และความสำคญั
นำ้ ความสำคญั แล 2. ประโยชน์ของ
ประโยชนท์ กั ษะ ปุ๋ยอินทรีย์นำ้
ของป๋ยุ อินทรีย์ 3. วธิ ีการทำป๋ยุ
นำ้ อนิ ทรยี ์นำ้
2. รู้ เข้าใจและ
ทกั ษะการทำป๋ยุ
อนิ ทรยี ์นำ้
7.การดูแล 1. รู้ เขา้ ใจ 1. ความหมาย 3
รกั ษา ความหมายและ และความสำคญั
แหล่งนำ้ ความสำคญั 2. วธิ ีการดูแล
2. รู้ เขา้ ใจและ รักษาแหล่งนำ้
ทกั ษะการดูแล
รกั ษาแหล่งน้ำ
8.การ 1. รู้ เข้าใจ 1. ความหมาย 4
เกษตร ความหมายและ และความสำคญั
แบบ ความสำคญั 2. การทำเกษตร
ผสมผสาน 2. รู้ เขา้ ใจและ แบบผสมผสาน
ทักษะการทำ
เกษตรแบบ
ผสมผสาน
106
จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
หวั เรอื่ ง เนอื้ หา ตวั ชี้วดั ขอ้ ที่ ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำไป วิ สงั ประเมนิ
ตอ้ งการ ใช้ เคราะห์ เคราะห์ คา่
9.การทำ 1. รู้ เขา้ ใจ 1. ความหมาย 5
ของใช้ใน ความหมายและ และความสำคญั
ชีวิต ความสำคญั การ การทำของใช้ใน
ประจำวนั ทำของใชใ้ นชวี ติ ชีวติ ประจำวนั
ประจำวัน 2. การทำของใช้
2. รู้ เขา้ ใจ และ ในชวี ติ
ทักษะการทำ ประจำวนั
ของใช้ใน
ชวี ิตประจำวนั
10.การ 1. รู้ เขา้ ใจ 1. ความหมาย 5
แปรรูป ความหมายและ และความสำคญั
ผลผลติ ความสำคญั การ การแปรรปู
ทาง แปรรูปผลผลติ ผลผลติ ทาง
การเกษตร ทางการเกษตร การเกษตร
2. การแปรรปู
2. รู้ เข้าใจ และ ผลผลติ ทาง
ทกั ษะแปรรูป การเกษตร
ผลผลติ ทาง
การเกษตร
107
ผงั การวเิ คราะหเ์ นอ้ื หา
รายวชิ าการพฒั นาอาชพี เกษตรกรรม“ศาสตรพ์ ระราชา สกู่ ารพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื ”
รหสั อช 33774
จดั กจิ กรรมการเรยี นรจู้ ำนวน 2 ครง้ั
หวั เรอ่ื ง เนอ้ื หา งา่ ย ปาน ยาก หมาย
กลาง เหตุ
1.ศาสตรพ์ ระราชา 1. รแู้ ละเขา้ ใจความเป็นมา
ความหมาย ความสำคัญเก่ยี วกับ
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ
เกษตรทฤษฎใี หม่
2. ศกึ ษาแหล่งเรียนรู้ 1. รู้และเข้าใจความเป็นมา แหล่ง
2.1 โครงการศกึ ษา เรียนรู้
ทดลองการแก้ไขปัญหาดิน 2. รแู้ ละเข้าใจองค์ความรูข้ อง
เปรยี้ วอนั เน่ืองมาจาก แหลง่ เรยี นรู้
พระราชดำริ ในที่ดินมูลนิธิ 2.1กาปรับปรุงบำรุงดนิ
ชยั พัฒนา 2.2 การทำป๋ยุ อนิ ทรีย์
ต.บา้ นพรกิ 2.3 การทำปุ๋ยอนิ ทรยี ์นำ้
อ.บ้านนา 2.4 การบำรุงรักษาและการใช้
จ.นครนายก นำ้ จากแหลง่ น้ำ
2.2 เศรษฐกจิ พอเพยี ง 2.5 การปลูกพืชแบบผสมผสาน
บ้านท่งุ กระโปรง หมู่ 12 2.6 การเล้ยี งสตั ว์
ต.ปา่ ขะ 2.7 การทำของใช้ใน
อ.บา้ นนา ชีวิตประจำวนั
จ. นครนายก 2.8 การแปรรปู ผลผลิตทาง
การเกษตร
3. การถ่ายทอดองคค์ วามรู้
4. ตวั อย่างแห่งความสำเร็จ
108
หวั เรอ่ื ง เนอ้ื หา ง่าย ปาน ยาก หมาย
กลาง เหตุ
3. การพัฒนาอาชีพ 1. รแู้ ละเข้าใจ ความหมายและ
การเกษตรตามศาสตร์ ความสำคัญ
พระราชา 2. รแู้ ละเขา้ ใจการพฒั นาอาชีพ
ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง และเกษตรทฤษฎใี หม่
4. การปรับปรุง บำรุงดนิ 1. รแู้ ละเข้าใจความหมายและ
ความสำคัญ
2. รู้ เขา้ ใจและทักษะการ
การตรวจหาค่า PH
การตรวจหาแร่ธาตุ
5. การทำปุ๋ยอนิ ทรีย์ 1. รู้และเขา้ ใจความหมาย
ความสำคญั และประโยชนข์ อง
ปุ๋ยอนิ ทรยี ์
2. รู้ เขา้ ใจ และทกั ษะการทำปยุ๋
อนิ ทรยี ์
6. การทำปุ๋ยอนิ ทรยี ์น้ำ 1. รู้ เขา้ ใจความหมาย
ความสำคญั และประโยชน์ทักษะ
ของปุย๋ อนิ ทรีย์นำ้
2. รู้ เข้าใจและทักษะการทำป๋ยุ
อินทรยี ์นำ้
7. การดแู ลรกั ษาแหลง่ นำ้ 1. รู้ เข้าใจความหมายและ
ความสำคญั
2. รู้ เข้าใจและทักษะการดูแล
รกั ษาแหลง่ น้ำ
8. การเกษตร 1. รู้ เขา้ ใจความหมายและ
แบบผสมผสาน ความสำคญั
2. รู้ เขา้ ใจและทักษะการทำ
เกษตรแบบผสมผสาน
109
หวั เรอื่ ง เนอื้ หา งา่ ย ปาน ยาก หมาย
กลาง เหตุ
9. การทำของใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั 1. รู้ เขา้ ใจความหมายและ
ความสำคัญการทำของใชใ้ น
ชวี ติ ประจำวัน
2. รู้ เข้าใจ และทักษะการทำของ
ใชใ้ นชีวิตประจำวัน
10. การแปรรปู ผลผลติ ทาง 1. รู้ เขา้ ใจความหมายและ
การเกษตร ความสำคญั การแปรรปู ผลผลิต
ทางการเกษตร
2. รู้ เข้าใจ และทกั ษะแปรรปู
ผลผลิตทางการเกษตร
110
แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 11
รายวชิ ารายวชิ าการพฒั นาอาชพี เกษตรกรรม “ศาสตรพ์ ระราชา สู่การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื ”
รหสั วชิ า อช 33774
1. รายวชิ า/หวั เรอ่ื ง
ศาสตรพ์ ระราชา
2. ตวั ชว้ี ดั
ร้แู ละเข้าใจความเป็นมา ความหมาย ความสำคญั เกี่ยวกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และเกษตรทฤษฎใี หม่
3. เนอื้ หา
3.1 ความเปน็ มา ความหมาย ความสำคญั ของศาสตร์พระราชา
3.2 ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
3.3 เกษตรทฤษฎีใหม่
3.4 โครงการแกล้งดนิ
4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
4.1 บอกความหมาย ความสำคญั ความเป็นมา ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง เกษตรทฤษฎใี หม่ ได้
4.2 ผ้เู รียนมดี ้านทกั ษะและการปฏิบัติอยา่ งไร (P = Practice)
1) ผู้เรยี นมที กั ษะในการประกอบอาชีพและการเรยี นรู้ได้
4.3 ผู้เรียนดา้ นเจตคติหรือคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคอ์ ะไร (A = Attitude)
1) ผเู้ รียนมีเจตคติท่ีดใี นเร่ืองการดำเนนิ ชวี ิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้
5. สมรรถนะของผเู้ รยี น
5.1 ผูเ้ รียนสามารถอ่านเน้ือหาศาสตร์พระราชาได้
5.2 ผู้เรียนสามารถเขยี นสรุปเน้ือหาศาสตร์พระราชาได้
5.4 ผ้เู รียนมีทักษะอาชีพและการเรยี นรูไ้ ด้
5.5 ผู้เรยี นมคี วามเมตตากรณุ า มีคณุ ธรรม และมรี ะเบยี บวนิ ยั
6. ความคดิ รวบยอด
ศาสตรพ์ ระราชา คือ การลงไปศกึ ษาเรยี นรจู้ ากชมุ ชน ใหช้ มุ ชนบอกว่าปญั หาคืออะไร ความต้องการของ
ประชาชนคืออะไร โดยตอ้ งคำนึงถงึ ความตอ่ เนื่องและย่ังยืน
111
7. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
7.1 ขั้นกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation)
7.1.1 ผูส้ อนและผู้เรยี นพูดคยุ เร่ืองการประกอบอาชีพในชุมชนว่ามีอาชีพอะไรบ้าง
7.1.2 ผูส้ อนและผเู้ รยี นสรุปเรอื่ งอาชีพในชมุ ชนและการพัฒนาอาชพี ในชุมชนให้ย่งั ยนื โดย
“ศาสตรพ์ ระราชา”
7.2 ข้ันแสวงหาขอ้ มูลและการจัดการเรียนรู้ (N: New ways of learning)
7.2.1 ผ้สู อนใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นโดยใชเ้ วลา 10 นาที
7.2.2 ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนค้นคว้าข้อมลู จากใบความรู้และ สื่อวีดที ัศน์ เรื่อง ศาสตร์พระราชา
1) ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
2) เกษตรทฤษฎีใหม่
3) โครงการแกลง้ ดนิ
7.3 ขั้นปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยุกต์ใช้ (I: Implementation)
7.3.1 ผู้สอนและผู้เรยี นสรปุ เนอื้ หาทีไ่ ดศ้ กึ ษามา
7.3.2 ผ้เู รียนนำเสนอเนอ้ื หาที่ได้สรปุ มา และวธิ ีการนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั
7.4 ข้ันประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
7.4.1 สงั เกต การเขา้ ร่วมกิจกรรมของผ้เู รียน
7.4.2 ประเมินผลงานจากการสรปุ เน้อื หาท่ไี ด้รับมอบหมาย
8. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 ใบความรู้ เร่ืองศาสตร์พระราชา
8.2 จากส่อื วีดที ศั น์ เรอ่ื งศาสตรพ์ ระราชา
8.3 แบบทดสอบก่อนเรียน
9. วดั /ประเมนิ ผล https://www.youtube.com/watch?v=i8-skrxH20A
9.1 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
9.2 ตรวจใบงาน
9.3 สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
112
แผนการจดั การเรยี นรู้ ครง้ั ท่ี 12
รายวชิ ารายวชิ าการพฒั นาอาชพี เกษตรกรรม “ศาสตรพ์ ระราชา สูก่ ารพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื ”
รหสั วชิ า อช 3374
1. รายวชิ า/หวั เรอื่ ง
ศกึ ษาแหลง่ เรยี นรู้
1.1 โครงการศึกษาทดลองการแก้ไขปัญหาดินเปรีย้ วอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ ในท่ีดินมูลนิธิชัยพัฒนา
ต.บา้ นพรกิ อ.บ้านนา จ.นครนายก
1.2 เศรษฐกจิ พอเพียง หมู่ 12 บา้ นทุ่งกระโปรง ต.ปา่ ขะ อ.บา้ นนา จ. นครนายก
2. ตวั ชว้ี ดั
2.1 รูแ้ ละเข้าใจความเป็นมา แหล่งเรียนรู้
2.2 รแู้ ละเข้าใจองคค์ วามรู้ของแหล่งเรยี นรู้
2.2.1 การปรบั ปรงุ บำรุงดนิ
2.2.2 การทำปุ๋ยอินทรีย์
2.2.3 การทำปุ๋ยอินทรียน์ ้ำ
2.2.4 การบำรุงรกั ษาและการใช้นำ้ จากแหล่งน้ำ
2.2.5 การปลูกพืชแบบผสมผสาน
2.2.6 การเลย้ี งสัตว์
2.2.7 การทำของใชใ้ นชีวิตประจำวนั
2.2.8 การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร
2.3 การถา่ ยทอดองคค์ วามรู้
2.4 ตวั อยา่ งแหง่ ความสำเร็จ
3. เนอื้ หา
3.1 ความเปน็ มา แหล่งเรียนรู้
2. องคค์ วามรู้
2.1 การปรับปรงุ บำรงุ ดิน
2.2 การทำปยุ๋ อนิ ทรีย์
2.3 การทำปุ๋ยอนิ ทรยี น์ ำ้
2.4 การบำรุงรักษาและการใชน้ ำ้ จากแหลง่ นำ้
2.5 การปลูกพชื แบบผสมผสาน
113
2.6 การเลี้ยงสตั ว์
2.7 การทำของใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
2.8 การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร
3. การถ่ายทอดองคค์ วามรู้
4. ตวั อย่างแห่งความสำเรจ็
4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
4.1 ผเู้ รยี นรูอ้ ะไร (K = Knowledge)
1) บอกความหมาย ความสำคัญ ความเปน็ มา แหลง่ เรยี นรู้ ได้
4.2 ผเู้ รยี นมดี า้ นทักษะและการปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร (P = Practice)
1) ผู้เรยี นมีทกั ษะในการประกอบอาชีพหลังจากการศกึ ษาดงู าน
4.3 ผู้เรียนดา้ นเจตคตหิ รอื คุณลกั ษณะอันพึงประสงคอ์ ะไร (A = Attitude)
1) ผเู้ รยี นมีเจตคติทด่ี ีในเรอ่ื งการดำเนนิ ชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งได้
5. สมรรถนะของผเู้ รยี น
5.1 ผ้เู รยี นสามารถอา่ นเน้ือหาข้อมูลต่างๆของแหลง่ เรียนรไู้ ด้
5.2 ผูเ้ รียนสามารถเขยี นสรปุ เนอ้ื หาจากแหลง่ เรยี นรู้ได้
5.4 ผูเ้ รยี นมีทกั ษะอาชีพและการเรียนรู้ได้
5.5 ผู้เรียนมีความเมตตากรณุ า มีคุณธรรม และมรี ะเบียบวนิ ยั
6. ความคดิ รวบยอด
แหล่งเรยี นรู้ หมายถงึ แหล่งขอ้ มูลข่าวสาร สารสนเทศ และประสบการณ์ ท่สี นับสนุนส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียนใฝ่
เรยี น ใฝ่รู้ แสวงหาความรู้และเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองตามอัธยาศัย เพื่อเสรมิ สรา้ งใหผ้ เู้ รียนเกิดกระบวนการเรยี นรู้
7. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ข้ันกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ (O: Orientation)
7.1.1 ผ้สู อนและผเู้ รยี นคน้ หาแหลง่ เรยี นรใู้ นชมุ ชน
7.1.2 ผสู้ อนพาผ้เู รียนไปศกึ ษาแหลง่ เรยี นรู้
7.2 ขน้ั แสวงหาข้อมลู และการจดั การเรยี นรู้ (N: New ways of learning)
7.2.1 ผสู้ อนใหผ้ ้เู รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน
7.2.2 ผสู้ อนพาผูเ้ รียนไปศึกษาแหลง่ เรียนรู้
1) โครงการศกึ ษาทดลองการแก้ไขปัญหาดนิ เปรีย้ วอนั เน่อื งมาจากพระราชดำริ ในทดี่ ินมลู นิธิชัย
114
พฒั นา ต.บ้านพรกิ อ.บ้านนา จ.นครนายก
2) บ้านทุง่ กระโปรง หมู่ 12 ต.ปา่ ขะ อ.บา้ นนา จ. นครนายก
7.3 ขัน้ ปฏิบัตแิ ละนำไปประยุกตใ์ ช้ (I: Implementation)
7.3.1 ผสู้ อนและผ้เู รยี นสรุปเน้อื หาที่ได้ศึกษามาจากแหล่งเรยี นรู้
7.3.2 ผ้เู รยี นนำเสนอเน้ือหาท่ีได้สรุปมา และวธิ กี ารนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั
7.4 ขั้นประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
7.4.1 สังเกต การเขา้ รว่ มกจิ กรรมของผ้เู รียน
7.4.2 ประเมนิ ผลงานจากการสรุปเนื้อหาทไี่ ด้รบั มอบหมาย
7.4.3 แบบทดสอบก่อนเรยี น
8. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 แบบทดสอบ กอ่ น/หลังเรียน
8.2 แหล่งเรยี นรู้ โครงการศึกษาทดลองการแก้ไขปญั หาดินเปรี้ยวอนั เน่อื งมาจากพระราชดำริ ในท่ดี นิ มลู นธิ ิ
ชยั พฒั นา ต.บา้ นพรกิ อ.บา้ นนา จ.นครนายก
8.3 บ้านทุ่งกระโปรง หมู่ 12 ต.ป่าขะ อ.บ้านนา จ. นครนายก
9. วดั /ประเมนิ ผล
9.1 แบบทดสอบก่อนเรียน
115
โครงสรา้ งรายวชิ าการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวัน 3
จำนวน 3 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
มาตรฐานการเรยี นรู
มีความรู ความเขาใจ ทักษะและเห็นคุณคาเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร เทคโนโลยี
สิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในทองถิ่น ประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน
กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก และดาราศาสตร มีจิตวิทยาศาสตร์ และนําความรูไปใชประโยชนในการ
ดาํ เนนิ ชวี ติ
ผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวงั
อธิบาย ออกแบบ วางแผน ทดลอง ทดสอบ ปฏิบัติการเรื่องไฟฟาไดอย่างถูกตอง และปลอดภัย
คิดวิเคราะห เปรียบเทียบขอดี ขอเสียของการตอวงจรไฟฟาแบบอนุกรม แบบขนาน แบบผสม ประยุกต และ
เลือกใชความรูและทักษะอาชีพชางไฟฟาใหเหมาะสมกับดานบริหารจัดการและการบริการเพื่อนําไปสู่การ
จดั ทําโครงงานวทิ ยาศาสตร
การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้
ศกึ ษาข้อมลู ตนเอง ข้อมูลวชิ าการ ขอ้ มูลสงิ่ แวดลอ้ ม วิเคราะห์ สงั เคราะห์ เช่อื มโยงเขา้ กับความรู้ และ
ประสบการณ์ โดยศึกษาจากกรณีตัวอย่าง สภาพจริง สื่อทุกประเภท การอภิปราย แลกเปลี่ยนเรียนรู้
ภมู ปิ ัญญา การทดลอง ทดสอบ ฝกึ ปฏิบตั ิ ประเมนิ ผลและวางแผนประยุกตใ์ นชวี ิต
การวดั และประเมนิ ผล
ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความคิดเห็น ชิ้นงาน ผลงาน โดยวิธีการทดสอบ สังเกต ตรวจสอบ
ประเมนิ การปฏิบตั ิจริง และประเมนิ สภาพจริง
116
117
ผงั การออกขอ้ สอบรายวชิ าการใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวนั 3
สาระความรพู้ นื้ ฐาน รหสั วชิ า พว32023 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
มาตรฐานที่ 2.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะพนื้ ฐานเกยี่ วกบั คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
มาตรฐาน หวั เรอ่ื ง/เนอ้ื หา ตวั ชวี้ ดั จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั ขอ้ ที่ ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ
ตอ้ งการ ไปใช้ คา่
มีความรู้ 1. การกำเนดิ ของ 1.1 บอก 1 1
ความเข้าใจ ไฟฟา้ การกำเนิด ข้อ 1
ทักษะ และ - ไฟฟ้าทเี่ กิดจาก ของ
เห็นคณุ คา่ การเสยี ดสีของวตั ถุ ไฟฟา้ ได้
เกย่ี วกบั - ไฟฟา้ ที่เกิดจาก
กระบวนการ การทำ
ทางวทิ ยาศาสตร์ ปฎิกิรยิ าทางเคมี
เทคโนโลยี - ไฟฟ้าที่เกิดจาก
สงิ่ มีชวี ติ ความร้อน
ระบบนิเวศ - ไฟฟ้าท่เี กดิ จาก
ทรัพยากร พลังงานแสง
ธรรมชาติ และ อาทิตย์
สิ่งแวดล้อม - ไฟฟา้ ท่เี กิดจาก
ในท้องถน่ิ พลงั งานแมเ่ หล็ก
ประเทศ ไฟฟา้
และโลก 2. สถานการณ์ 31
สารแสง พลังงานไฟฟ้า ขอ้ 2
พลังงาน ประเทศในกลมุ่
กระบวนการ อาเซียน และโลก 2.1.1
เปล่ียนแปลง 2.1 สถานการณ์ อธบิ าย
ของโลก และ พลงั งานไฟฟา้ ของไทย การใช้
ดาราศาสตร์ - สดั สว่ นการผลติ ไฟฟา้
มีจติ ไฟฟา้ จากเชือ้ เพลงิ ในแตล่ ะ
วทิ ยาศาสตร์ - การใช้ไฟฟา้ ใน ช่วงเวลา
และนำความรู้ แตล่ ะชว่ งเวลาใน ใน 1 วนั
ไปใช้ประโยชน์ 1 วันของไทย ของไทยได้
ในการดำรงชีวติ - สภาพปัจจบุ ัน
และแนวโนม้ การ
ใชพ้ ลังงานไฟฟ้า
- แผนพฒั นากำลัง
การผลิตไฟฟ้าของไทย
118
มาตรฐาน หวั เรอื่ ง/เนอื้ หา ตวั ชว้ี ดั จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรู้ระดบั ขอ้ ท่ี
2.2 สถานการณ์ 2.2.1 ตอ้ งการ ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ
พลังงานไฟฟา้ อธิบาย ไปใช้ คา่
ของประเทศ สดั สว่ น
ในกลมุ่ อาเซยี น เช้ือเพลงิ 1
และ ข้อ 3
พลงั งานท่ี
ใชใ้ น
การผลติ
ไฟฟ้า
2.3 สถานการณ์ 2.3.1 บอก 1
ข้อ 4
พลังงานไฟฟ้าของโลก สดั สว่ น
1
เช้ือเพลงิ ขอ้ 5
และ 3
ข้อ 6-8
พลังงานท่ี
ใช้ใน
การผลิต
ไฟฟา้
ของโลกได้
3. หน่วยงานทีเ่ ก่ียวข้อง 3.1 อธบิ าย 1
11
ดา้ นพลังงานไฟฟา้ ใน บทบาท
ประเทศไทย หน้าที่ของ
- การไฟฟา้ ฝ่ายผลิต หนว่ ยงาน
แห่งประเทศไทย ที่เก่ียวข้อง
- การไฟฟ้าส่วน ดา้ น
ภูมิภาค พลงั งาน
- การไฟฟา้ นครหลวง ไฟฟ้าได้
- คณะกรรมการ
กำกับ
กิจการพลงั งาน (กกพ.)
4. เช้อื เพลงิ ทใ่ี ชใ้ นการ 4.1.1
ผลติ ไฟฟ้า อธบิ าย
4.1 เช้ือเพลงิ ฟอสซลิ กระบวน
- ถ่านหิน การผลติ
- นำ้ มัน ไฟฟา้
- ก๊าซธรรมชาติ
119
มาตรฐาน หวั เรอื่ ง/เนอื้ หา ตวั ชว้ี ดั จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั
ขอ้ ที่ ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ
ตอ้ งการ
ไปใช้ คา่
4.2 พลังงานทดแทน 4.2.1 3
- พลังงานลม อธบิ าย
- พลงั งานน้ำ ผลิตไฟฟ้า ข้อ9-11
- พลงั งานแสง จาก
อาทิตย์ พลงั งาน
- พลงั งานชวี มวล ทดแทน
- พลังงานความ
รอ้ นใตพ้ ภิ พ
- พลังงานนวิ เคลยี ร์
4.3 พลงั งานทดแทนใน 4.3.1 1
ขอ้ 12
ชุมชน วิเคราะห์
1
- พลังงานทดแทน ศักยภาพ ขอ้ 13
จากกระแสลม พลังงาน 1
ข้อ 14
- พลังงานทดแทน ทดแทนทม่ี ี
จากพลังน้ำ ในชุมชน
ของตนเอง
4.3.2 เลอื ก
ใช้
พลังงาน
ทดแทน
ให้เหมาะสมกบั
ชุมชนได้
4.4 ต้นทุนการผลติ 4.4.1
พลงั งานไฟฟา้ ตอ่ หนว่ ย เปรียบเทยี บ
จากเชื้อเพลงิ แต่ละ ตน้ ทุนการ
ประเภท ผลิต
พลังงาน
ไฟฟ้าตอ่
หนว่ ยจาก
เชือ้ เพลิง
แต่ละ
ประเภทได้
120
มาตรฐาน หวั เรอื่ ง/เนอื้ หา ตวั ชวี้ ดั จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั ขอ้ ท่ี ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ
4.5 ขอ้ ดแี ละข้อจำกัด ตอ้ งการ
ของการผลติ ไฟฟ้า ไปใช้ คา่
จากเชอื้ เพลงิ แตล่ ะ 4.5.1
ประเภท เปรยี บเทยี บ 2
ข้อดีข้อ ขอ้ 15-16
5. โรงไฟฟา้ กับการจดั จำกดั ของ
การดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม เช้อื เพลงิ 1
5.1 ผลกระทบด้าน และ ขอ้ 17
ส่งิ แวดล้อม และการ พลังงานท่ี
จัดการ ใชใ้ นการ 1
ผลิตไฟฟา้ ข้อ 18
- ด้านอากาศ
- ดา้ นน้ำ 5.1.1 4 1
- ด้านเสียง ขอ้ 19
อธบิ าย
5.2 ขอ้ กำหนดที่ ผลกระทบ
เก่ียวข้องกบั โรงไฟฟ้า ด้านสงิ่
ดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม แวดลอ้ ม
ทเี่ กิดจาก
- การวเิ คราะห์ โรงไฟฟ้า
ผลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม 5.1.2
อธบิ าย
- การวิเคราะห์ การจัดการ
ผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ ม ด้านสิ่ง
สงั คม และสขุ ภาพ แวดลอ้ ม
ของโรง
ไฟฟ้า
5.2.1
อธิบาย
ข้อกำหนด
เกยี่ วกบั การ
วิเคราะห์
ผลกระทบ
สง่ิ แวดล้อม
และการ
วเิ คราะห์
ผลกระทบ
สิ่งแวดลอ้ ม
สังคม
121
มาตรฐาน หวั เรอื่ ง/เนอื้ หา ตวั ชวี้ ดั จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั ขอ้ ท่ี
และสุขภาพ ตอ้ งการ ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ
ไปใช้ คา่
5.2.2 1
เปรยี บเทยี บ ขอ้ 20
การวเิ คราะห์
ผลกระทบ 1
สง่ิ แวดลอ้ ม ขอ้ 21
และผล
การวิเคราะห์
ผลกระทบ
สิง่ แวดลอ้ ม
สังคม และ
สขุ ภาพได้
6. อปุ กรณ์ไฟฟา้ และ
วงจรไฟฟา้
6.1 อปุ กรณ์ไฟฟา้ 6.1.1.1 เลอื ก
6.1.1 ฟวิ ส์ ใช้ฟวิ ส์ได้
ถกู ตอ้ ง
6.1.2.1 1
6.1.2 อุปกรณ์ อธิบายการทำ ข้อ 22
ตดั ตอนหรอื เบรกเกอรง์ านของ
1
อปุ กรณไ์ ด้ ข้อ 23
6.1.3 สวติ ซ์ 6.1.3.1 เลอื ก 1
ใชส้ วิตซได้ ข้อ 24
ถกู ต้อง 1
ขอ้ 25
6.1.4.1
6.1.4 สะพานไฟอธิบายการ
ทำงานของ
สะพานไฟได้
6.1.5 เครื่องตัด 6.1.5.1 บอก
ไฟฟ้ารวั่ หน้าทขี่ อง
เครอ่ื งตัด
ไฟฟ้ารว่ั ได้
122
มาตรฐาน หวั เรอ่ื ง/เนอื้ หา ตวั ชว้ี ดั จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั ขอ้ ท่ี ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ
ตอ้ งการ ไปใช้ คา่
6.1.6 เต้ารับและ 6.1.6.1 เลอื ก 1
เต้าเสียบ ใช้เต้ารับ และ ขอ้ 26
เตา้ เสยี บได้
ถกู ตอ้ ง
6.1.7.1 เลือก 1
ใช้สายไฟได้ ข้อ 27
ถูกตอ้ ง
6.2 การต่อวงจรไฟฟา้ 6.2.1 เลอื ก 1
- แบบอนุกรม ใชว้ งจรไฟฟา้ ขอ้ 28-29
แบบต่างๆ
ไดถ้ ูกตอ้ ง
6.3 สายดินและสายดนิ6.3.1 อธิบาย 1
ขอ้ 30
- สายดนิ การตอ่ สายดนิ
- หลกั ดนิ และหลกั ดนิ
ได้
7. การใชแ้ ละการ 7.1.1 1
ประหยดั พลงั งานไฟฟอ้าธิบายองค์ ข้อ 31
7.1 กลยทุ ธ์การ ประกอบของ
ประหยดั พลังงานไฟฟฉ้าลากเบอร์ 5
3 อ.
- กลยทุ ธ์ อ.1 อุปกรณ์
ประหยดั ไฟฟ้า
- กลยุทธ์ อ.2 อาคาร
ประหยดั ไฟฟ้า
- กลยทุ ธ์ อ.3 อปุ นสิ ยั
ประหยดั ไฟฟ้า
123
มาตรฐาน หวั เรอื่ ง/เนอ้ื หา ตวั ชว้ี ดั จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั ขอ้ ที่ ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ
ตอ้ งการ ไปใช้ คา่
7.2 การเลือกซื้อ
การใช้ และการดูแล
รักษาเครือ่ งใช้ไฟฟา้
ภายในบา้ น
7.2.1 เครอ่ื งทำ 7.2.1.1 1
ข้อ 32
นำ้ อุ่นไฟฟ้า เลอื กใชเ้ ครอ่ื ง
ทำน้ำอุ่น
ไฟฟ้าถูกต้อง
7.2.2 กระติก 7.2.2.1 1
นำ้ ร้อนไฟฟา้ อธิบายวิธี ข้อ 33
การดูแล
กระตกิ
นำ้ ร้อน
ไฟฟา้ ได้
7.2.3 พัดลม 7.2.3.1 1
เลือกใชพ้ ัดลม ขอ้ 34
ไดถ้ กู ต้อง
7.2.4 โทรทัศน์ 7.2.4.1 1
เลอื กใช้ ขอ้ 35
โทรทศั นไ์ ด้
ถกู ต้อง
7.2.5 เตารดี ไฟฟ้า 7.2.5.1 1
อธบิ ายวิธีการ ขอ้ 36
ดแู ลรกั ษา
เตารดี ไฟฟ้า
7.2.6 ตเู้ ยน็ 7.2.6.1 1
อธบิ ายวธิ กี าร ขอ้ 37
ดแู ลรักษา
ตเู้ ยน็ ได้
7.2.7 หลอดไฟ 7.2.7.1 1
เลือกใช้ ข้อ 38
หลอดไฟได้
ถกู ต้อง
124
มาตรฐาน หวั เรอ่ื ง/เนอื้ หา ตวั ชวี้ ดั จำนวน พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั ขอ้ ที่ ร-ู้ จำ เขา้ ใจ นำ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ
ตอ้ งการ ไปใช้ คา่
7.3 การวางแผน
และการคำนวณคา่
ไฟฟา้ ในครวั เรอื น
7.3.1 การ 7.3.1.1 1
คำนวณคา่ ไฟฟา้ คำนวณคา่ ขอ้ 39
ในครัวเรือน ไฟฟา้ ใน
- องค์ประกอบ ครัวเรือน
คา่ ฟา้
- อัตราค่าไฟฟ้า
- การคำนวณ 7.3.2.1 1
คา่ ไฟฟ้า อธิบายวธิ กี าร ข้อ 40
วางแผนการ
7.3.2 การ ใชไ้ ฟฟา้ ใน
วางแผน ครวั เรือนได้
การใชไ้ ฟฟา้ ใน
ครวั เรือน
125
ผังการวเิ คราะหเ์ นื้อหารายวชิ าการใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวนั 3 รหสั วชิ า พว32023
จดั กจิ กรรมการเรียนรจู้ ำนวน 2 ครงั้
เนอ้ื หา งา่ ย ปานกลาง ยาก หมายเหตุ
1. การกำเนิดของไฟฟ้า
- ไฟฟ้าท่เี กิดจากการเสียดสขี องวตั ถุ
- ไฟฟา้ ทเ่ี กดิ จากการทำปฎกิ ริ ยิ าทางเคมี
- ไฟฟ้าที่เกดิ จากความร้อน
- ไฟฟ้าทเี่ กดิ จากพลังงานแสงอาทติ ย์
- ไฟฟ้าทเ่ี กดิ จากพลังงานแมเ่ หลก็ ไฟฟา้
2. สถานการณ์พลงั งานไฟฟ้า ประเทศในกล่มุ
อาเซยี น และโลก
2.1 สถานการณพ์ ลังงานไฟฟา้ ของไทย
- สดั ส่วนการผลติ ไฟฟา้ จากเช้ือเพลงิ
- การใช้ไฟฟา้ ในแต่ละชว่ งเวลาใน 1 วนั ของไทย
- สภาพปัจจบุ นั และแนวโนม้ การใชพ้ ลังงานไฟฟ้า
- แผนพฒั นากำลังการผลิตไฟฟา้ ของไทย
2.2 สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟา้ ของประเทศ
ในกลุ่มอาเซียน
2.3 สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟ้าของโลก
3. หนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวข้องด้านพลังงานไฟฟา้ ใน
ประเทศไทย
- การไฟฟ้าฝา่ ยผลิตแหง่ ประเทศไทย
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
- การไฟฟ้านครหลวง
- คณะกรรมการกำกับกจิ การพลังงาน (กกพ.)
4. เชื้อเพลงิ ท่ีใช้ในการผลติ ไฟฟา้
4.1 เชื้อเพลงิ ฟอสซิล
- ถา่ นหนิ
- น้ำมัน
- กา๊ ซธรรมชาติ
4.2 พลังงานทดแทน
- พลังงานลม
- พลังงานน้ำ
- พลงั งานแสงอาทติ ย์
- พลังงานชีวมวล
- พลังงานความรอ้ นใต้พภิ พ
- พลงั งานนวิ เคลยี ร์
126
เนอื้ หา งา่ ย ปานกลาง ยาก หมายเหตุ
4.3 พลงั งานทดแทนในชุมชน
- พลังงานทดแทนจากกระแสลม
- พลังงานทดแทนจากพลังน้ำ
4.4 ตน้ ทุนการผลติ พลงั งานไฟฟ้าต่อหน่วยจากเชอื้ เพลงิ
แตล่ ะประเภท
4.5 ขอ้ ดีและขอ้ จำกดั ของการผลติ ไฟฟ้า
จากเชื้อเพลงิ แต่ละประเภท
5. โรงไฟฟ้ากับการจดั
การด้านส่ิงแวดลอ้ ม
5.1 ผลกระทบด้านสิง่ แวดล้อม และการ จดั การ
- ดา้ นอากาศ
- ดา้ นน้ำ
- ดา้ นเสียง
5.2 ขอ้ กำหนดทเี่ กีย่ วข้องกับโรงไฟฟา้ ด้านสงิ่ แวดลอ้ ม
- การวิเคราะห์ผลกระทบสง่ิ แวดล้อม
- การวิเคราะห์ผลกระทบสง่ิ แวดล้อมสังคมและสุขภาพ
6. อปุ กรณ์ไฟฟ้า และวงจรไฟฟา้
6.1 อุปกรณไ์ ฟฟา้
6.1.1 ฟิวส์
6.1.2 อุปกรณ์ตดั ตอนหรอื เบรกเกอร์
6.1.3 สวิตซ์
6.1.4 สะพานไฟ
6.1.5 เคร่ืองตดั ไฟฟา้ รัว่
6.1.6 เต้ารับและเตา้ เสียบ
6.2 การตอ่ วงจรไฟฟา้
- แบบอนุกรม
6.3 สายดินและสายดิน
- สายดนิ
- หลกั ดิน
7. การใช้และการประหยดั พลังงานไฟฟา้
7.1 กลยทุ ธก์ ารประหยดั พลงั งานไฟฟา้ 3 อ.
- กลยุทธ์ อ.1 อปุ กรณ์ประหยดั ไฟฟา้
- กลยทุ ธ์ อ.2 อาคารประหยดั ไฟฟา้
- กลยทุ ธ์ อ.3 อปุ นสิ ัยประหยัดไฟฟา้
เนอ้ื หา 127
งา่ ย ปานกลาง ยาก หมายเหตุ
7.2 การเลือกซ้อื การใช้ และการดแู ล
รักษาเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ภายในบา้ น
7.2.1 เคร่ืองทำน้ำอนุ่ ไฟฟ้า
7.2.2 กระตกิ น้ำร้อนไฟฟา้
7.2.3 พดั ลม
7.2.4 โทรทัศน์
7.2.5 เตารดี ไฟฟา้
7.2.6 ตู้เย็น
7.2.7 หลอดไฟ
7.3 การวางแผนและการคำนวณค่า
ไฟฟา้ ในครัวเรือน
7.3.1 การคำนวณคา่ ไฟฟา้ ในครัวเรือน
- องค์ประกอบค่าฟ้า
- อตั ราค่าไฟฟา้
- การคำนวณค่าไฟฟา้
7.3.2 การวางแผนการใชไ้ ฟฟ้าในครวั เรือน
128
แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 13
รายวชิ า การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าในชวี ติ ประจำวนั 3 รหสั วชิ า พว32023
1. รายวชิ า/หวั เรอื่ ง
1.1 การกำเนดิ ไฟฟ้า
1.2 เชอื้ เพลิงทใี่ ชใ้ นการผลติ ไฟฟ้า
1.3 โรงไฟฟา้ กับการจัดการสิ่งแวดล้อม
2. ตวั ชว้ี ดั
2.1 บอกการกำเนดิ ของไฟฟ้าได้
2.2 อธิบายกระบวนการผลิตไฟฟา้ จากเชือ้ เพลิงฟอสซลิ ได้
2.3 เปรยี บเทียบข้อดี ข้อจำกดั ของเชอ้ื เพลงิ และพลังงานที่ใช้ในการผลติ ไฟฟ้าได้
2.4 อธิบายขอกําหนดเกยี่ วกับการวเิ คราะหผลกระทบสงิ่ แวดลอม (EIA) และการวเิ คราะห
ผลกระทบสิง่ แวดลอม สังคม และสขุ ภาพ (EHIA)
3. เนอ้ื หา
พลังงานไฟฟ้ามีกำเนิดหลายลักษณะ ซึ่งก่อให้เกิดพลังงานที่สามารถนําไปใช ประโยชนในลักษณะ
ตาง ๆ เชน ความรอน แสงสวาง เปนตน โดยการไดมาซ่งึ พลังงานไฟฟาจะตองอาศัยเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟา
ในปจั จบุ ันเชอื้ เพลิงฟอสซลิ เป็นเชือ้ เพลงิ หลักที่ใช้ในการผลิตไฟฟา้ ประเทศในกลมุ่ อาเซยี น มแี ผนในการจัดการ
และวางแผนการผลติ ไฟฟา้ ร่วมกนั และในการผลติ ไฟฟ้า ซ่ึงเชอื้ เพลิงและพลงั งานแตล่ ะประเภทมขี ้อดีข้อจำกัด
ท้งั ในแงข่ องต้นทุนและผลกระทบต่อประชาชน และสง่ิ แวดลอ้ ม
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
4.1 ผเู้ รยี นมคี วามรู้เกีย่ วกบั การกำเนดิ พลังงานไฟฟ้า (K)
4.2 ผูเ้ รยี นมีความรใู้ นกระบวนการผลติ ไฟฟา้ จากเชือ้ เพลงิ ฟอสซิล (K)
4.2 ผ้เู รียนมที ักษะการคิดวิเคราะหผ์ ลกระทบส่ิงแวดล้อมที่เกิดจากโรงไฟฟ้า (P)
4.3 ผู้เรยี นมเี จตคตทิ ่ีดีต่อโรงไฟฟา้ และสงิ่ แวดล้อม (A)
5. สมรรถนะของผเู้ รยี น
ผเู้ รียนสามารถอา่ นออก และเขียนได้ มที กั ษะการคิดวเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และสามารถ
แก้ไขปัญหา และคิดวเิ คราะห์ผลกระทบสง่ิ แวดล้อมที่เกดิ จากโรงไฟฟา้ และสง่ิ แวดลอ้ ม
129
6. ความคดิ รวบยอด
พลงั งานไฟฟา้ เป็นปจั จยั ท่ีสำคัญในการดำเนินชีวิตและการพัฒนาประเทศ ความต้องการใช้พลังงานไฟฟา้
ของประเทศไทย มแี นวโนม้ เพมิ่ สงู ขนึ้ เช้อื เพลิงฟอสซสิ เป็นเชื้อเพลงิ หลกั ในการผลิตไฟฟ้า เพ่ือเปน็ การลด
ปญั หาการขาดแคลนพลงั งานไฟฟ้าในอนาคต จึงตอ้ งมีการจัดหาพลงั งานทดแทนเพ่อื ใช้เปน็ พลังงานสำหรับ
ผลติ กระแสไฟฟ้า
7. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขัน้ กำหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรียนรู้ (O: Orientation)
7.1.1 ผสู้ อนและผู้เรยี น ร่วมกันแลกเปลยี่ นเรียนรดู้ ว้ ยคำถาม ดงั ต่อไปนี้
- ไฟฟา้ คืออะไร
- การกำเนดิ ไฟฟ้ามวี ธิ ีใดบา้ ง
- เช้อื เพลิงชนดิ ใดทใี่ ชใ้ นการผลติ ไฟฟ้า
- โรงไฟฟา้ มผี ลกระทบกบั สิ่งแวดลอ้ มหรือไม่
โดยผูส้ อนและผเู้ รียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ และตอบคำถาม จากนั้นครเู ชือ่ มโยงเขา้ สู่เนื้อหาความเปน็ มา
ของการผลติ ไฟฟา้ มีความสำคญั และจำเป็นตอ่ การดำเนินชีวติ ประจำวนั โรงงานไฟฟ้ามีขอ้ ดี ข้อจำกัด
ผลกระทบต่อสิง่ แวดลอ้ มสงั คมและสขุ ภาพ
7.2 ขน้ั แสวงหาข้อมูลและการจดั การเรียนรู้ (N: New ways of learning)
7.2.1 ผู้สอนให้ผเู้ รียนดวู ิดโิ อเรื่อง กระบวนการผลิตไฟฟ้า
7.2.2 ผสู้ อนและผู้เรียนรว่ มกันสรุปความรหู้ ลังจากท่ีได้ดูวิดิโอ กระบวนการผลติ ไฟฟ้า จากเชือ้ เพลงิ
แตล่ ะชนดิ มลี ักษณะเหมือนหรอื แตกตา่ งกนั อย่างไร และใหผ้ ้เู รียนยกตวั อย่างพลังงานทดแทนทใี่ ช้กันอยทู่ ่ัวไป
ในปัจจบุ ัน
7.2.3 ผู้สอนและผ้เู รียนร่วมกันตอบคำถามเกี่ยวกับโรงไฟฟ้ามผี ลกระทบต่อสง่ิ แวดล้อมสังคม โดยให้
ผู้เรียนยกตวั อยา่ งผลกระทบท่ีเกิดขึน้
7.3 ขน้ั ปฏบิ ตั ิและนำไปประยุกต์ใช้ (I: Implementation)
7.3.1 ผสู้ อนมอบหมายใหผ้ ูเ้ รยี น สรุปเนอื้ หา และการนำความรเู้ กี่ยวกับไฟฟา้ มาใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
7.4 ขัน้ ประเมินผลการเรียนรู้ (E: Evaluation)
7.4.1 ผสู้ อนประเมินผเู้ รยี นในชัน้ เรียนด้วยการต้งั คำถามจากการดวู ิดิโอ และจากการศึกษาจาก
หนังสือแบบเรียน
7.4.2 ผู้เรยี นทำใบงานเร่อื ง การกำเนดิ และกระบวนการผลิตไฟฟ้า
7.4.3 ผูเ้ รียนทำแบบทดสอบหลังเรียนเรอ่ื ง การกำเนดิ และกระบวนการผลติ ไฟฟ้า
130
8. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 สื่อวดิ โิ อ เรื่อง กระบวนการผลติ ไฟฟา้
8.2 หนงั สือแบบเรียนรายวชิ า การใช้พลงั งานไฟฟ้าในชวี ติ ประจำวนั ๓ รหัสวชิ า พว32023
8.3 ใบงานเรอ่ื ง การกำเนิดและกระบวนการผลติ ไฟฟ้า
9. วดั /ประเมนิ ผล
9.1 ใบงาน
9.2 แบบทดสอบหลังเรียน
131
แผนการจดั การเรยี นรู้ ครง้ั ที่ 14
รายวชิ า การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าในชวี ติ ประจำวนั 3 รหสั วชิ า พว32023
1. รายวชิ า/หวั เรอ่ื ง
1.1 การใชไ้ ฟฟา้ และการประหยดั พลังงาน
2. ตวั ชวี้ ดั
2.1 อธิบายองคป์ ระกอบของฉลากเบอร์ 5
2.2 เลอื กใช้และอธิบายวธิ กี ารดูแลรักษาเคร่อื งใช้ไฟฟา้
2.3 อธบิ ายวธิ ีการวางแผนการใชไ้ ฟฟ้าในครัวเรือน
2.4 คำนวณคา่ ไฟฟา้ ในครัวเรือน
3. เนอ้ื หา
การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยลดการใช้พลังงาน ยังช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย
ซง่ึ ในการประหยัดพลังงานนน้ั สามารถดำเนินไดโ้ ดยใช้กลยุทธ์ 3 อ. คอื อุปกรณป์ ระหยัดพลังงานไฟฟา้ อาคาร
ประหยดั พลังงานไฟฟ้า และอุปนสิ ยั ประหยัดพลงั ไฟฟ้า สิง่ ทม่ี คี วามสำคัญอย่างมากอย่างหน่ึง ท่ีจะช่วยในการ
ประหยัดพลังงานไฟฟ้า คือ การเลือกซื้อ เลือกใช้ และดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้สามารถใช้งานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพและมีอายุงานได้ยาวนาน รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับการคำนวณค่าใช้ไฟฟ้าในเบื้องต้นจะช่วยให้
สามารถวางแผนเพื่อลดการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าได้งา่ ยข้นึ
4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
4.1 ผูเ้ รียนมคี วามรสู้ ามารถอธบิ ายองคป์ ระกอบของฉลากเบอร์ 5 (K)
4.2 ผ้เู รยี นมีความร้ใู นเลอื กใช้และอธบิ ายวิธกี ารดแู ลรกั ษาเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า (K)
4.3 ผู้เรียนสามารถอธิบายวธิ ีการวางแผนการใช้ไฟฟา้ ในครัวเรอื น (K)
4.3 ผเู้ รยี นมที กั ษะการคำนวณคา่ ไฟฟ้าในครัวเรือน (P)
5. สมรรถนะของผเู้ รยี น
5.1 ผเู้ รียนสามารถอ่านออก และเขียนได้
5.2 ผเู้ รยี นสามารถคดิ เลขได้
5.3 มีทกั ษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
132
6. ความคดิ รวบยอด
การประหยัดพลังงาน คือ การใชพ้ ลงั งานอย่างมีประสิทธภิ าพ และรู้คุณค่าการประหยัดพลงั งาน นอกจาก
ชว่ ยลดปรมิ าณการใช้พลังงาน ยงั เปน็ การประหยัดคา่ ใช้จา่ ยของครัวเรือน และประเทศชาติ ยงั ช่วยลดปญั หา
ผลกระทบจากสง่ิ แวดลอ้ ม
7. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
7.1 ขน้ั กำหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรียนรู้ (O: Orientation)
7.1.1 ผูส้ อนและผ้เู รยี น รว่ มกันแลกเปล่ียนเรยี นรดู้ ้วยคำถาม ดงั ต่อไปนี้
- ภายในบ้านของผู้เรียนมีเครื่องใชไ้ ฟฟ้าอะไรบ้าง
- ผู้เรยี นมีวธิ ีการประหยัดพลังงานไฟฟา้ ภายในบ้านอย่างไร
โดยผู้สอนและผูเ้ รยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและตอบคำถาม จากนั้นครูเชือ่ มโยงเข้าสู่เนอื้ หา การใช้พลงั งาน
ไฟฟา้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ การเลือกใชเ้ คร่ืองใช้ไฟฟ้าอย่างถกู วิธี
7.2 ขัน้ แสวงหาข้อมูลและการจดั การเรียนรู้ (N: New ways of learning)
7.2.1 ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นดวู ดิ โิ อเรื่อง วธิ กี ารประหยัดพลงั งานไฟฟ้า
7.2.2 ผู้สอนและผู้เรยี นรว่ มกันสรุปความรู้หลงั จากที่ไดด้ วู ิดิโอ เรอื่ ง วธิ ีการประหยัดไฟฟ้า สามารถทำ
ไดด้ ว้ ยวิธใี ดบา้ ง และการดแู ลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้า
7.2.3 ผสู้ อนได้ดำเนินการสอนวธิ ีการคำนวณค่าไฟฟ้าในครัวเรอื น
7.3 ขน้ั ปฏบิ ตั ิและนำไปประยุกต์ใช้ (I: Implementation)
7.3.1 ผสู้ อนมอบหมายใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาจากหนงั สือแบบเรียน และทำใบงานเรอื่ งการใชไ้ ฟฟ้า และการ
ประหยดั พลังงาน
7.4 ขั้นประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
7.4.1 ผูส้ อนประเมนิ ผเู้ รยี นในชั้นเรียนดว้ ยการต้งั คำถามจากการดูวิดโิ อ และจากการศึกษาจาก
หนังสือแบบเรียน
7.4.2 ผเู้ รียนทำใบงานเรอื่ ง การใช้ไฟฟ้าและการประหยัดพลังงาน
7.4.3 ผเู้ รียนทำแบบทดสอบหลังเรียนเร่อื ง การใช้ไฟฟ้าและการประหยัดพลงั งาน
133
8. สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
8.1 สือ่ วิดิโอ เรอ่ื ง การประหยัดไฟฟ้าภายในบ้าน
8.2 หนงั สือแบบเรยี นรายวิชา การใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวนั ๓ รหสั วชิ า พว32023
8.3 ใบงานเรอ่ื ง การใช้ไฟฟา้ และการประหยัดพลังงาน
9. วดั /ประเมนิ ผล
9.1 ใบงาน
9.2 แบบทดสอบหลังเรยี น
134
โครงสรา้ งรายวชิ าภาษาไทยเสรมิ ทกั ษะการรบั สาร - สง่ สาร 2
รหสั วชิ า พท33012 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
สาระการเรยี นรู้ สาระท่ี 2 สาระความรู้พืน้ ฐาน
มาตรฐานการเรยี นรทู้ ี่ 2.1 มีความรู้ ความเข้าใจและทักษะพน้ื ฐานเกย่ี วกับภาษาและการสื่อสาร
สาระสำคญั
การเลอื กส่ือในการฟังและดูอย่างสรา้ งสรรค์ ค้นควา้ หาความรจู้ ากสอื่ สิ่งพมิ พแ์ ละส่ือสารสนเทศ อ่าน
อยา่ งมีวิจารณญาณโดยลำดับความคิดจากเร่ืองที่อ่านอยา่ งถกู ต้องตรงตามสาระสำคญั ของเรอื่ ง เสริมสรา้ งและ
พฒั นาอปุ นสิ ัยรักการอา่ น ใช้ทักษะการอา่ นในการศึกษาภาษาถิ่น สำนวนสุภาษติ ท่มี ีอยู่ในวรรณคดี
วรรณกรรมปัจจบุ ันและวรรณกรรมท้องถ่นิ ใชห้ ลักการพินิจวรรณกรรมในการวิเคราะห์คุณค่าของวรรณคดี
วรรณกรรมปจั จุบนั และวรรณกรรมท้องถิ่น เพอื่ การเรยี นรแู้ ละความเข้าใจภาษาไทยในฐานะเจา้ ของภาษา
ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั
1. เข้าใจและอธบิ ายความหมายของการฟังและดอู ยา่ งสรา้ งสรรคไ์ ด้
2. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในหลักการ พิจารณาเลอื กส่ือเพ่ือการฟังและการดู และปฏิบตั ิได้
3. อธิบายความหมายของส่ือส่ิงพมิ พแ์ ละส่ือสารสนเทศได้ถูกต้อง
4. มีความรู้ความเข้าใจและสามารถคน้ คว้าหาความรูจ้ ากส่อื ส่ิงพมิ พ์และสื่อสารสนเทศได้
5. วิเคราะห์สาระสำคัญและคุณค่าจากเรือ่ งที่อา่ นไดถ้ ูกต้องครบถว้ น
6. อธิบายสรปุ ความสำคัญจากเรือ่ งท่ีอา่ นได้
7. มรี ่องรอยหลกั ฐานทแ่ี สดงถึงการพัฒนานิสัยรกั การอา่ น
8. มคี วามรู้ความเขา้ ใจและอธบิ ายลักษณะของวรรณคดีและวรรณกรรมได้
9. มคี วามรู้ความเข้าใจลักษณะของวรรณกรรมปัจจบุ ันและวรรณกรรมท้องถิ่น อธิบายและ
ระบบุ ่งชี้ได้
10. เข้าใจหลกั การพินจิ วรรณกรรมและวเิ คราะห์คุณค่าของวรรณกรรมท่ีอา่ นได้
ขอบขา่ ยเนอื้ หา
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การฟังและการดู
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การอ่าน
สอื่ ประกอบการเรียนรู้
1. ใบกจิ กรรม หนว่ ยที่ 1 และหน่วยที่ 2
2. ภาพปรศิ นาทายคำ
135
3. คลิปวดี โี อข่าว
4. หนังสอื เรียน (QR Code)
จำนวนหนว่ ยกติ 2 หนว่ ยกติ
กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ทดสอบความรู้กอ่ น
2. ศึกษาเนื้อหาสาระในหน่วยการเรียนรู้
3. ทำกิจกรรมตามท่ีกำหนดในหน่วยการเรยี นรู้
4. ทดสอบความรู้หลงั เรยี น
การประเมนิ ผล
1. การสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น
2. กิจกรรมในแต่ละหน่วยการเรยี นรู้
136
รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวชิ าภาษาไทยเสรมิ ทกั ษะการรบั สาร - สง่ สาร 2
มาตรฐานท่ี 2.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจและทกั ษะพ้นื ฐานเกย่ี วกบั ภาษาและการสอื่ สาร
ท่ี หวั เรอ่ื ง ผลการเรยี นรู้ เนอื้ หา จำนวน
(ชวั่ โมง)
1. การฟงั และการดู 1. เข้าใจและอธบิ ายความหมายของ
1.1 ความหมาย การฟังและดอู ยา่ งสรา้ งสรรคไ์ ด้ 1. ความหมายและจดุ มุ่งของการฟงั และ 6
ของการฟงั และ
การดู 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจ หลกั การ การดูอยา่ งสร้างสรรค์
พจิ ารณาเลือกสอื่ เพอื่ การฟังและการดู
1.2 หลักการ และปฏบิ ตั ิได้ - ความหมายของการฟงั และการดู
พิจารณาเลือกส่ือ
เพ่อื การฟงั และ - การฟังและดูอยา่ งสร้างสรรค์
การดู
- ประเภทของการฟงั และดอู ยา่ ง
สร้างสรรค์
- จุดมงุ่ หมายชองการฟงั และดูอยา่ ง
สรา้ งสรรค์
2. หลกั การฟังและการดอู ย่างสร้างสรรค์ 6
- ขั้นตอนในการฟงั และการดู
- สิ่งท่ีควรคำนงึ ถงึ ของผู้รับสารและ
ผสู้ ่งสาร
- คณุ สมบตั ขิ องผู้ฟงั และผู้ดทู สี่ รา้ งสรรค์
- หลักการฟงั และการดอู ย่างสร้างสรรค์
3. การพิจารณาเลือกสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ 3
- ความหมายของสื่อประเภทตา่ ง ๆ
- ประเภทของส่ือ
4. คณุ คา่ ของสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ 6
- คุณค่าของสอื่ สิง่ พิมพ์
- คุณค่าของส่อื อิเล็กทรอนิกส์
- คณุ ค่าของสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์
ประเภทเสียง
- คุณคา่ ของส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ทไ่ี ดร้ บั ทั้ง
เสยี งและภาพ
5. มารยาทของการฟงั และการดู 3
- สำนวน พงั เพย สภุ าษติ ที่เก่ียวกบั
การฟงั
- สำนวน พังเพย สุภาษติ ทเี่ กย่ี วกับ
การดู
137
ที่ หวั เรอื่ ง ผลการเรยี นรู้ เนอื้ หา จำนวน
(ชว่ั โมง)
2. การอา่ น 1. อธิบายความหมายของสอื่ สิง่ พิมพ์ 1. ความหมายและประเภทของส่ือสิ่งพิมพ์ 2
2.1 การรบั สาร และส่อื สารสนเทศได้ถูกต้อง และสื่อสารสนเทศ
จากสื่อสิ่ง 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจและสามารถ - ความหมายสื่อสิ่งพมิ พ์
พมิ พแ์ ละส่อื ค้นควา้ หาความรจู้ ากสอื่ สิ่งพมิ พแ์ ละสือ่ - ประเภทของส่ือสงิ่ พิมพ์
สารสนเทศ สารสนเทศได้ 2. คณุ คา่ ของส่อื สง่ิ พมิ พ์และส่ือ 3
สารสนเทศ
- คุณค่าของสื่อสิง่ พมิ พ์
- คณุ คา่ ของสอื่ สารสนเทศ
2.2 การอา่ น 3. วิเคราะหส์ าระสำคญั และคณุ คา่ จาก 3. หลักการอา่ นอยา่ งมีวิจารณญาณ 6
อย่างมี เรอื่ งทอี่ า่ นได้ถกู ตอ้ งครบถว้ น - ลกั ษณะของความคิดทีป่ รากฏอยูใน
วจิ ารณญาณ 4. อธิบายสรุปความคดิ สำคัญจากเรื่องท่ี วรรณกรรม
ไดอ้ ่าน - การใช้วิจารณญาณในการอ่าน
5. มีร่องรอยหลักฐานทแี่ สดงถึงการ วรรณกรรม
พฒั นานสิ ัยรกั การอา่ น - ขอ้ เสนอแนะการฝึกทกั ษะการอา่ นอย่าง
มีวจิ ารณญาณ
4. การอา่ นแปลความ ตคี วาม ขยายความ 12
และสรปุ ความ
- การอา่ นแปลความ
- การอ่านตคี วาม
- การอา่ นขยายความ
- การอา่ นสรุปความ
5. หลกั การเสรมิ สรา้ งและพฒั นานิสยั รัก 6
การอา่ น
- หลกั การอ่าน
- ลักษณะการอ่าน
- การเลือกอา่ น
- การรจู้ กั หนังสือ
- เทคนิคการอ่านเรว็
- เทคนิคการใช้คำถาม
2.3 วรรณกรรม 6. มีความรู้ ความเข้าใจและอธบิ าย 6. ความหมาย ความสำคญั และลกั ษณะ 6
คดแี ละ ลักษณะของวรรณคดีและวรรณกรรมได้ ของวรรณคดีและวรรณกรรม
วรรณกรรม - ความหมายวรรณคดี
138
ที่ หวั เรอื่ ง ผลการเรยี นรู้ เนอ้ื หา จำนวน
(ชวั่ โมง)
- ความสำคญั ของวรรณคดแี ละ
วรรณกรรม
- ลักษณะของวรรณคดี
- ความหมายวรรณกรรม
- ลกั ษณะของวรรณกรรม
7. มีความรู้ ความเข้าใจลกั ษณะของ 7. ลกั ษณะของวรรณกรรมปัจจุบนั และ 5
วรรณกรรมปจั จุบนั และวรรณกรรม วรรณกรรมท้องถน่ิ
ท้องถิน่ อธบิ ายและระบบุ ง่ ชไ้ี ด้ - ความหมายวรรณกรรมปัจจบุ ัน
8. เข้าใจหลักการพินิจวรรณกรรมและ - ลักษณะของวรรณกรรมปจั จบุ ัน
วเิ คราะหค์ ุณคา่ ของวรรณกรรมที่อ่านได้ - ความหมายของวรรณกรรมทอ้ งถิน่
- ลักษณะของวรรณกรรมท้องถน่ิ
8. หลกั การพินจิ วเิ คราะห์ และวจิ ารณ์ 6
วรรณคดีและวรรณกรรม
- หลกั การพนิ ิจ วเิ คราะห์ และวจิ ารณ์
วรรณคดีและวรรณกรรม
- ลักษณะแนวคดิ เห็นท่ดี ี
- คุณสมบตั ิของผู้ท่ีจะแสดงความคดิ เห็น
ได้ดี
- หลกั การวิจารณว์ รรณคดแี ละ
วรรณกรรม
- หลักการวิจารณด์ ้านศิลปะการแตง่
-การพนิ จิ คณุ ค่าของวรรณคดีและ
วรรณกรรม
9. คณุ คา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรม 10
- คณุ คา่ ทางสงั คม
- คุณค่าทางด้านวรรณศลิ ป์
- คณุ ค่าด้านอารมณ์
139
ผงั มโนทศั นร์ ายวชิ าภาษาไทยเสรมิ ทกั ษะการรบั สาร - สง่ สาร 2
1.2 หลักการพิจารณาเลอื กสอื่ 1.1 ความหมายของการ
เพ่ือการฟังและการดู ฟงั และการดู
- การพิจารณาเลอื กสอื่ หนว่ ยที่ 1 - ความหมายและจุดมุ่งหมาย
ประเภทต่าง ๆ การฟงั และการดู ของการฟังและการดูอยา่ ง
- คณุ คา่ ของส่ือประเภทต่าง ๆ สร้างสรรค์
- มารยาทของการฟังและการ - หลกั การฟงั และการดูอยา่ ง
สรา้ งสรรค์
2.3 วรรณกรรมคดี
และวรรณกรรม วิชาภาษาไทยเสรมิ ทกั ษะ
การรบั สาร - สง่ สาร 2
- ความหมาย ความสำคญั
และลกั ษณะของวรรณคดี หน่วยท่ี 2 2.1 การรบั สารจากสื่อ
และวรรณกรรม การอ่าน สงิ่ พิมพแ์ ละสือ่ สารสนเทศ
- ลักษณะของวรรณกรรม
ปจั จุบนั และวรรณกรรม 2.2 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ - ความหมายของสื่อส่งิ พิมพ์
ท้องถน่ิ และสื่อสารสนเทศ
- หลกั การพนิ ิจ วิเคราะห์ - คณุ คา่ ของสื่อสง่ิ พิมพ์และส่ือ
และวจิ ารณว์ รรณคดีและ สารสนเทศ
วรรณกรรม
- คุณคา่ ของวรรณคดีและ - หลักการอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ
วรรณกรรม - การอ่านแปลความ ตคี วาม ขยาย
ความและสรปุ ความ
- หลกั การเสริมสร้างและพฒั นา
นสิ ยั รักการอา่ น
140
ผงั การออกขอ้ สอบรายวชิ าภาษาไทยเสรมิ ทกั ษะการรบั สาร - สง่ สาร 2
สาระความรู้พ้นื ฐาน รายวิชา ภาษาไทยเสรมิ ทักษะการรบั สาร - สง่ สาร 2 รหสั พท 33012
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 2.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจและทักษะพน้ื ฐานเก่ียวกบั ภาษาและการสอ่ื สาร
มาตรฐาน หวั เรอ่ื ง ตวั ชว้ี ดั จำนวนขอ้ พฤตกิ รรมการวดั
/ผลการเรยี นรู้
การเรยี นรรู้ ะดบั /เนอื้ หา ทตี่ อ้ งการ รจู้ กั เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่
1.1 เขา้ ใจและ
การฟงั การดู การฟัง อธบิ าย 14 ขอ้ 6ขอ้
ความหมาย
1. สามารถเลือก และการดู ของการ 1-6
สือ่ ในการฟงั และดู 1.1 ฟงั และดูอย่าง
สร้างสรรคไ์ ด้
อย่างสรา้ งสรรค์ ความหมา 1.2 มคี วามรู้
ความเขา้ ใจ
2. สามารถฟัง ยของการ หลกั การพจิ ารณา
เลือกสอ่ื เพอ่ื
ดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ ฟังและ การฟงั และ
การดูและ
3.เป็นผมู้ ีมารยาท การดู ปฏบิ ัตไิ ด้ 8ข้อ
7-14
ในการฟังและดู 1.2
หลกั การ
พจิ ารณา
เลือกสอื่
เพอื่ การ
ฟงั และ
การดู
การอา่ น การอา่ น 2.1 อธิบาย 18 ขอ้ 3ข้อ
15-
1. สามารถอ่านอย่าง 2.1 การรบั ความหมาย 17
มีวจิ ารณญาณ สารจาก ของสื่อสงิ่ พิมพ์ 3ขอ้
18-
จดั ลำดบั ความ สง่ิ พมิ พ์ และสอ่ื สาร 20
จากเร่อื งท่อี า่ น และสื่อ สนเทศได้ถูกต้อง 5ขอ้
21-
2. สามารถค้นควา้ หา สารสนเทศ 2.2 มีความรู้ 25
ความรู้จากสือ่ สง่ิ พิมพ์ 2.2 ความเข้าใจและ
และสื่อสาร การอา่ น สามารถค้นคว้า
3. ปฏิบัติตนเป็นผูม้ ี อย่างมี หาความรจู้ ากส่ือ
มารยาในการอ่าน วจิ ารณ สง่ิ พิมพ์และ
และนิสยั รกั การอา่ น ญาณ สอ่ื สารสนเทศได้
2.3 วเิ คราะห์
สาระสำคญั และ
คณุ คา่ จาก
เรอื่ งท่ีอ่านได้
ถูกต้องครบถ้วน
141
มาตรฐาน หวั เรอ่ื ง ตวั ชวี้ ดั จำนวนขอ้ พฤตกิ รรมการวดั
การเรยี นรรู้ ะดบั /เนอื้ หา /ผลการเรยี นรู้ ทต่ี อ้ งการ รจู้ กั เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่
2.4 อธบิ ายสรปุ 6ขอ้
ความคิดสำคญั 26-
จากเรือ่ งทีไ่ ด้อา่ น 31
2.5 มีร่องรอย 1ข้อ
หลักฐานทแี่ สดง 32
ถึงการพฒั นา
นิสยั รักการอ่าน
4. สามารถศกึ ษา 2.3 2.6 มีความรู้ 8 ข้อ 3ข้อ
33-
ภาษาถิน่ สานภาษิต วรรณคดี ความเขา้ ใจและ
ทมี่ อี ยูใ่ นวรรณคดี และ อธบิ ายลกั ษณะ 35
วรรณกรรมปจั จุบัน วรรณกรรม ของวรรณคดีและ
และวรรณกรรม วรรณกรรมได้ 2ขอ้
ทอ้ งถิ่น 2.7 มีความรู้
5. สามารถวิเคราะห์ ความเขา้ ใจ 36-
วิจารณ์ประเมินคา่ ลักษณะของ 37
องค์ประกอบของ วรรณกรรม
วรรณคดีวรรณกรรม ปจั จบุ ันและ
ปัจจบุ ันวรรณกรรม วรรณกรรมทอ้ งถ่นิ
ทอ้ งถน่ิ อธบิ ายและระบุ
บง่ ช้ีได้
2.8 เข้าใจหลกั การ 3ข้อ
พินจิ วรรณกรรม 38-
และวิเคราะห์ 40
คณุ ค่าของ
วรรณกรรม
ทอ่ี ่านได้
สรปุ 40 28 7 5
142
ผงั การวเิ คราะหเ์ นอ้ื หา รายวชิ าภาษาไทยเสรมิ ทกั ษะการรบั สาร - สง่ สาร 2
รหสั วชิ า พท33012
จัดกจิ กรรมการเรยี นรจู้ ำนวน 2 ครงั้
เนอ้ื หา งา่ ย ปานกลาง ยาก หมายเหตุ
1. การฟงั และการดู
1.1 ความหมายและจดุ มงุ่ ของการฟังและการดูอยา่ ง
สร้างสรรค์
1.2 หลกั การฟงั และการดูอย่างสร้างสรรค์
1.3 การพิจารณาเลอื กส่อื ประเภทต่าง ๆ
1.4 คณุ คา่ ของสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ
1.5 มารยาทของการฟังและการดู
2. การอา่ น
2.1 ความหมายและประเภทของส่ือสง่ิ พิมพแ์ ละส่ือ
สารสนเทศ
2.2 คุณคา่ ของสื่อสิง่ พมิ พ์และสอื่ สารสนเทศ
2.3 หลักการอา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณ
2.4 การอ่านแปลความ ตีความ ขยายความและสรุป
ความ
2.5 หลกั การเสรมิ สรา้ งและพัฒนานสิ ยั รักการอา่ น
2.6 ความหมาย ความสำคญั และลักษณะของวรรณคดี
และวรรณกรรม
2.7 ลักษณะของวรรณกรรมปัจจบุ นั และวรรณกรรม
ท้องถิ่น
2.8 หลกั การพนิ จิ วเิ คราะห์ และวจิ ารณ์วรรณคดแี ละ
วรรณกรรม
2.9 คุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม
143
แผนการจัดการเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 15
รายวชิ าภาษาไทยเสรมิ ทกั ษะการรบั สาร - ส่งสาร 2 รหสั วชิ า พท33012
1. วชิ า/หวั เรอ่ื ง
การฟงั การดู
2. ตวั ชวี้ ดั
1. เขา้ ใจและอธบิ ายความหมายของการฟังและดอู ยา่ งสร้างสรรคไ์ ด้
2. มีความรูค้ วามเขา้ ใจในหลักการ พจิ ารณาเลอื กส่อื เพื่อการฟงั และการดู และปฏิบัตไิ ด้
3. เนอื้ หา
3.1 ความหมายและจดุ มงุ่ ของการฟังและการดูอยา่ งสรา้ งสรรค์
- ความหมายของการฟงั และการดู
- การฟังและดูอย่างสรา้ งสรรค์
- ประเภทของการฟงั และดอู ยา่ งสรา้ งสรรค์
- จดุ มงุ่ หมายชองการฟังและดูอยา่ งสร้างสรรค์
3.2 หลักการฟังและการดูอย่างสร้างสรรค์
- ข้นั ตอนในการฟงั และการดู
- สิ่งทค่ี วรคำนงึ ถงึ ของผูร้ บั สารและผู้ส่งสาร
- คุณสมบัตขิ องผ้ฟู ังและผดู้ ูท่ีสร้างสรรค์
- หลกั การฟงั และการดูอยา่ งสร้างสรรค์
3.2 การพจิ ารณาเลือกสอื่ ประเภทต่าง ๆ
- ความหมายของส่อื ประเภทตา่ ง ๆ
- ประเภทของส่ือ
3.3 คุณคา่ ของส่ือประเภทตา่ ง ๆ
- คุณคา่ ของสื่อส่งิ พิมพ์
- คุณค่าของสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์
- คุณค่าของส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ประเภทเสยี ง
- คณุ คา่ ของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ไดร้ ับทั้งเสยี งและภาพ
144
4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
4.1 ผู้เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจหลกั การฟงั และการดู (K = Knowledge)
4.2 ผู้เรียนมที กั ษะในการสรุปเนอื้ หาจากส่ือท่ีฟังและดู (P = Practice)
4.3 ผเู้ รียนเห็นคณุ คา่ และความสำคัญของสือ่ (A = Attitude)
5. สมรรถนะของผเู้ รยี น (3R 8C)
5.1 ผเู้ รยี นมีทกั ษะการอ่านและการเขยี น
5.2 ผู้เรียนมที ักษะการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ
5.3 ผเู้ รียนมีทักษะการส่ือสารและรูเ้ ทา่ ทันสื่อ
5.4 ผูเ้ รยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม
6. ความคดิ รวบยอด
ผูเ้ รยี นฟงั และดูส่ืออย่างสร้างสรรค์เลือกฟังและดูส่ือทเ่ี หมาะสมเห็นคุณค่าของสื่อประเภทต่างๆ
7. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขัน้ กำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation)
7.1.1 ผสู้ อบสอบถามผ้เู รยี นว่าในปัจจบุ นั ผ้เู รียนรบั รขู้ อ้ มลู ขา่ วสารดว้ ยวิธใี ดและจากแหลง่ ใดบา้ ง
7.1.2 ผูส้ อนให้ผเู้ รยี นทำกิจกรรม ทายภาพปริศนา เมอ่ื มีผู้ตอบถูก ผสู้ อนถามเทคนิคการหาคำตอบ
จากผ้เู รียนท่ีตอบคำถามถูกต้อง
7.1.3 ผ้สู อนไดแ้ จ้งใหผ้ ูเ้ รียนทราบถึงหนว่ ยการเรียนรู้นี้จะเรียนเรอ่ื งการดูและการฟัง
7.2 ขนั้ แสวงหาขอ้ มูลและการจดั การเรียนรู้ (N: New ways of learning)
7.2.1 ผสู้ อนทดสอบความรกู้ ่อนเรียนผเู้ รยี น
7.2.2 ผู้สอนนำวีดที ศั น์ข่าวให้ผเู้ รียนดูและแจ้งใหผ้ เู้ รียนทราบวา่ เม่ือดจู บผสู้ อนจะสอบถามถึง
เหตุการณ์ในข่าว
https://www.youtube.com/watch?v=cxA97A8BgEs
ใชห้ ่นุ ยนต์ใต้น้ำ ROV ระดมค้นหาหนุ่มวัย 27 ขับรถตาม GPS พลดั ตกแม่นำ้ เจ้าพระยาสูญหาย
7.2.3 ผู้สอนให้ผเู้ รียนเลา่ เหตุการณใ์ นขา่ วท่ไี ด้ดูเมื่อสักครู และสอบถามผู้เรยี นคนอนื่ ๆใครคิดวา่ มี
เหตุการณอ์ ื่นท่เี กิดขึน้ นอกเหนือจากทผี่ เู้ รยี นคนแรกเลา่ บ้าง ให้เสริมเพ่ิมเตมิ
7.2.4 ผสู้ อนถามผ้เู รยี นถึงหลักการที่ใช้ในการดูข่าว มีหลกั การใดท่ีทำใหจ้ ดจำเรื่องราวได้
145
7.2.5 ผู้สอนบถามผู้เรยี นถงึ ข่าวทีผ่ ูส้ อนนำมาให้ผู้เรียนดู ข่าวนี้มีความนา่ เชื่อถอื หรือไม่
เพราะเหตุใดและบทสรุปของเร่ืองนจี้ ะเปน็ อย่างไรได้บา้ ง ใหผ้ เู้ รยี นทกุ คนร่วมแสดงความ
คดิ เหน็ และแลกเปล่ยี นวธิ ีการวิเคราะห์ขา่ ว
7.2.6 ผู้สอนอธบิ ายหลกั การฟงั และการดู โดยใหผ้ ู้เรยี นศึกษาหนังสือประกอบการเรยี นไปพร้อมกนั
(หนงั สือเรียน หนา้ ที1่ 4-18)
QRCode หนังสือเรียนวชิ าภาษาไทยเสริมทกั ษะการรบั สาร-ส่งสาร 2
7.2.7 ผู้สอนกลา่ วถึงสอ่ื ท่ีผเู้ รียนดูเมอ่ื คร่วู ่าเปน็ สอ่ื ประเภทใด ผ้สู อนถามผู้เรียนวา่ รจู้ กั ส่ือใดบ้าง
นอกจากทผ่ี ูส้ อนนำให้ดู
7.2.8 ผสู้ อนถามผ้เู รยี นว่าสอ่ื ท่ีผูเ้ รยี นเคยใช้นั้นมคี ุณค่าหรือใหป้ ระโยชน์อย่างไรบ้าง
7.2.9 ผ้สู อนอธิบายเรอ่ื ง ส่ือ และการเลือกใชส้ ่ือ โดยให้ผู้เรยี นศึกษาหนังสือประกอบการเรยี นไป
พร้อมกนั (หนงั สือเรยี น หนา้ ท่2ี 0-25)
QRCode หนงั สือเรียนวิชาภาษาไทยเสริมทักษะการรับสาร-ส่งสาร 2
7.3 ข้ันปฏิบตั ิและนำไปประยุกต์ใช้ (I: Implementation)
7.3.1 ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นหาข่าวจากส่ือท่ผี ู้เรยี นสนใจทำลงใบกจิ กรรม การฟงั และการดู
7.3.2 ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นวิเคราะห์ขา่ ว และให้เหตผุ ลการเลือกใช้สอื่
7.4 ขั้นประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
7.4.1 ผสู้ อนและผูเ้ รยี นสรปุ ความรทู้ ไี่ ด้จากบทเรียนพรอ้ มกัน
7.4.2 ผูส้ อนทดสอบความรู้ผู้เรียนหลงั เรียน
8. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 ภาพปรศิ นา
8.4 วีดีทศั นข์ า่ ว
8.4 หนงั สอื เรียนวชิ าภาษาไทยเสรมิ ทักษะการรบั สาร-สง่ สาร 2 ( QR Code )
8.5 ใบกจิ กรรม การฟงั และการด