The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ม 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by torsaktata40311904, 2022-09-15 15:03:04

แผนการจัดการเรียนรู้ ม 3

แผนการจัดการเรียนรู้ ม 3

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ระบบนเิ วศ

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1

ระบบนเิ วศ

เวลา 12 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด

ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงไม่มีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตและ
ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน
การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไข
ปัญหาสง่ิ แวดลอ้ ม รวมทงั้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ว 1.1 ม.3/1 อธิบายปฏสิ มั พันธ์ขององค์ประกอบของระบบนเิ วศทไ่ี ด้จากการสำรวจ
ว 1.1 ม.3/2 อธิบายรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตรูปแบบต่าง ๆ ในแหล่ง
ทีอ่ ยู่เดียวกันท่ีไดจ้ ากการสำรวจ
ว 1.1 ม.3/3 สร้างแบบจำลองในการอธบิ ายการถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหาร
ว 1.1 ม.3/4 อธบิ ายความสัมพนั ธ์ของผูผ้ ลิต ผบู้ ริโภค และผู้ยอ่ ยสลายสารอินทรยี ใ์ นระบบนิเวศ
ว 1.1 ม.3/5 อธบิ ายการสะสมสารพษิ ในโซอ่ าหาร
ว 1.1 ม.3/6 ตระหนักถงึ ความสัมพนั ธข์ องสงิ่ มีชีวติ และส่ิงแวดล้อมในระบบนิเวศโดยไมท่ ำลาย
สมดลุ ของระบบนเิ วศ

2. สาระการเรยี นรู้

2.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1. ระบบนเิ วศประกอบด้วยองคป์ ระกอบทีม่ ีชีวิต เช่น พชื สัตว์ จุลินทรีย์ และองค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต
เช่น แสง น้ำ อุณหภูมิ แร่ธาตุ แก๊ส องค์ประกอบเหล่าน้ีมีปฏิสัมพันธ์กัน เช่น พืชต้องการแสง น้ำ
แร่ธาตุ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซดใ์ นการสร้างอาหาร สัตว์ต้องการอาหาร และสภาพแวดล้อมท่ี
เหมาะสมในการดำรงชีวิต เช่น อุณหภูมิ ความชื้น องค์ประกอบทั้งสองส่วนนี้จะต้องมี
ความสมั พนั ธ์กนั อย่างเหมาะสม ระบบนิเวศจงึ จะสามารถคงอยตู่ ่อไปได้
2. สิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตมีความสัมพันธ์กันในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาวะพ่ึงพากัน ภาวะอิงอาศัย
ภาวะเหยื่อกับผลู้ า่ ภาวะปรสติ
3. สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันท่ีอาศัยอยู่ร่วมกันในแหล่งที่อยู่เดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน เรียกว่า
ประชากร
4. กลุ่มส่ิงมีชีวิตประกอบด้วยประชากรของสิ่งมีชีวิตหลาย ๆ ชนิด อาศัยอยู่ร่วมกันในแหล่งท่ีอยู่
เดียวกัน
5. กลุ่มส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศแบ่งตามหน้าที่ได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลาย
สารอินทรีย์ สิ่งมีชีวิตท้ัง 3 กลุ่มนี้ มีความสัมพันธ์กัน ผู้ผลิตเป็นส่ิงมีชีวิตท่ีสร้างอาหารได้เอง
โดยกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง ผู้บริโภคเป็นส่ิงมีชวี ติ ท่ไี ม่สามารถสร้างอาหารได้เอง และต้อง
กินผู้ผลิตหรือส่ิงมีชีวิตอื่นเป็นอาหาร เมื่อผู้ผลิตและผู้บริโภคตายลง จะถูกย่อยโดยผู้ย่อยสลาย
สารอินทรยี ์ซ่งึ จะเปลยี่ นสารอนิ ทรียเ์ ป็นสารอนินทรยี ์กลับคนื สู่ส่งิ แวดล้อม ทำให้เกดิ การหมุนเวียน

1

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ

สารเป็นวฏั จกั ร จำนวนผู้ผลิต ผบู้ ริโภค และผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์จะตอ้ งมีความเหมาะสม จึงทำ

ใหก้ ลมุ่ ส่งิ มีชวี ิตอยู่ไดอ้ ย่างสมดุล

6. พลงั งานถูกถ่ายทอดจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคลำดบั ต่าง ๆ รวมท้ังผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ในรปู แบบ

สายใยอาหารที่ประกอบด้วยโซ่อาหารหลายโซ่ที่สัมพันธ์กัน ในการถ่ายทอดพลังงานในโซ่อาหาร

พลังงานท่ีถกู ถ่ายทอดไปจะลดลงเร่ือย ๆ ตามลำดบั ของการบริโภค

7. การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ อาจทำให้มีสารพิษสะสมอยู่ในสิ่งมีชีวิตได้ จนอาจก่อให้เกิด

อนั ตรายต่อส่ิงมีชีวิต และทำลายสมดลุ ในระบบนิเวศ ดังนั้น การดูแลรักษาระบบนเิ วศให้เกิดความ

สมดลุ และคงอย่ตู ลอดไปจงึ เป็นส่งิ สำคัญ

2.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถนิ่

(พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศึกษา)

3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

ระบบนิเวศประกอบด้วยองค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต (abiotic component) และองค์ประกอบที่มีชีวิต

(biotic component) ซึ่งมีปฏิสัมพันธ์กันอยา่ งเป็นระบบ ตัวอย่างปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบท่ีมีชีวิต

กับองค์ประกอบท่ีไม่มีชีวิต เช่น ต้นไม้ต้องการน้ำ แสง ธาตุอาหาร และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวอย่าง

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบท่ีมีชีวิตกับองค์ประกอบท่ีมีชีวิต เช่น กวางกินหญ้า เสือกินกวาง แร้งกิน

ซากเสอื ทตี่ ายแลว้ และจลุ นิ ทรียจ์ ะย่อยสลายซากเสือให้กลายเปน็ สารอินทรยี ก์ ลับคนื สธู่ รรมชาติ

สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศมีอยู่หลายชนิด ซ่ึงแต่ละชนิดต่างก็มีรูปแบบความสัมพันธ์ท่ีแตกต่างกัน

ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศอาจทำให้ส่ิงมีชีวิตบางชนิดได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์

หรือไม่มผี ลต่อการดำรงชวี ติ ของสงิ่ มีชีวิตน้ันเลย

ส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศมีความเก่ียวข้องสัมพันธ์กัน โดยมีการถ่ายทอดพลังงานในรูปของโซ่อาหาร

และสายใยอาหาร ซึ่งโซ่อาหารมีความสัมพันธ์กับส่ิงมีชีวิตในบริเวณเดียวกันที่มีการถ่ายทอดพลังงานผ่าน

การกินต่อกันเป็นทอด ๆ เริ่มจากส่ิงมีชีวิตที่เป็นผผู้ ลติ และสายใยอาหารเป็นการถ่ายทอดพลังงานผ่านการ

กนิ ทีซ่ ับซ้อนมากขนึ้

ในระบบนิเวศต้องมีกระบวนการถ่ายทอดพลงั งานท่ีเกิดขึน้ พร้อมกับการหมุนเวียนสาร และในระบบ

หน่ึงประกอบด้วยองค์ประกอบที่ไม่มีชีวิตและองค์ประกอบท่ีมีชีวิต ซ่ึงมีความสัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม

ระบบนเิ วศจึงจะอยู่ในสภาวะสมดุล (equilibrium)

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทักษะการวดั 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

2) ทักษะการสังเกต

3) ทักษะการจำแนกประเภท

4) ทักษะการสรา้ งแบบจำลอง

5) ทกั ษะการจัดทำและสื่อความหมาย

6) ทกั ษะการลงความเหน็ จากขอ้ มูล

7) ทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป

3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

2

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ

5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- แผนผงั มโนทัศน์ เรือ่ ง ระบบนิเวศ

6. การวัดและการประเมินผล

รายการวัด วิธีวดั เครื่องมือ เกณฑ์การ
ประเมนิ
6.1 การประเมินชน้ิ งาน/ - ตรวจแผนผงั มโนทัศน์ - แบบประเมินชิน้ งาน/ - ระดบั คุณภาพ 2
ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ ภาระงาน (รวบยอด)
6.2 การประเมนิ ก่อนเรียน - ประเมินตาม
- แบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน สภาพจริง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 กอ่ นเรยี น หนว่ ยการ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1
ระบบนเิ วศ เรียนรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ ระบบนิเวศ

6.3 การประเมินระหวา่ ง - ตรวจใบงานที่ 1.1 - ใบงานท่ี 1.1 - รอ้ ยละ 60
การจดั กิจกรรม ผา่ นเกณฑ์
1) องคป์ ระกอบของ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตวั หรือ
ระบบนเิ วศ หรอื แบบฝึกหัด แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ - ร้อยละ 60
วทิ ยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 ผ่านเกณฑ์
2) ผลบนั ทึกการปฏบิ ัติ เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
กจิ กรรมสำรวจ - ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมดุ ประจำตัว หรือ - รอ้ ยละ 60
ระบบนเิ วศใน หรอื แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์
ท้องถิน่ วิทยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1
เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1

3) ความสมั พันธร์ ะหว่าง - ตรวจใบงานท่ี 1.2 - ใบงานที่ 1.2 - ร้อยละ 60
สิ่งมีชวี ิตในระบบนิเวศ ผ่านเกณฑ์
- ตรวจสมุดประจำตัว - สมุดประจำตัว หรอื
4) ผลบันทกึ การปฏบิ ตั ิ หรอื แบบฝึกหดั แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ - ร้อยละ 60
กจิ กรรมสำรวจ วทิ ยาศาสตร์ และ และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 ผ่านเกณฑ์
รูปแบบความสมั พันธ์ เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1
ระหวา่ งส่ิงมีชีวิต - ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมุดประจำตวั หรอื - ร้อยละ 60
ภายในโรงเรียน หรอื แบบฝึกหัด แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์
วทิ ยาศาสตร์ และ และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1

3

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ

รายการวดั วธิ ีวัด เครือ่ งมือ เกณฑก์ าร
ประเมนิ
5) ผลบันทึกการปฏบิ ัติ - ตรวจสมดุ ประจำตัว
กิจกรรมความสมั พันธ์ หรอื แบบฝกึ หัด - สมุดประจำตัว หรือ - ร้อยละ 60
ระหว่างสิ่งมชี ีวติ วิทยาศาสตร์ และ
เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์
6) โซอ่ าหารและ - ตรวจสมดุ ประจำตัว
สายใยอาหาร หรือแบบฝึกหัด และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1
วทิ ยาศาสตร์ และ
7) ผลบันทกึ การปฏบิ ตั ิ เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 - สมุดประจำตวั หรอื - ร้อยละ 60
กิจกรรมจำลองการ - ตรวจสมดุ ประจำตัว
ถ่ายทอดพลังงานใน หรือแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์
สายใยอาหาร วิทยาศาสตร์ และ
เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
8) สมดลุ ระบบนิเวศ
- ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมดุ ประจำตัว หรือ - ร้อยละ 60
หรือแบบฝึกหัด
วิทยาศาสตร์ และ แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์
เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1

- สมดุ ประจำตวั หรอื - รอ้ ยละ 60

แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์

และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1

9) การนำเสนอผลงาน/ - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ การนำเสนอ - ระดับคุณภาพ 2
การปฏิบตั กิ จิ กรรม ผลงาน/ผลการ ผลงาน ผา่ นเกณฑ์
ปฏิบัติกจิ กรรม
10) พฤตกิ รรมการทำงาน - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2
รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม
การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์

11) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
กลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์

12) คุณลักษณะอันพึง - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ คุณลักษณะ - ระดับคุณภาพ 2
ประสงค์ รับผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ อนั พึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์
และมงุ่ มน่ั ในการ ทำงาน
6.4 การประเมนิ หลังเรียน - รอ้ ยละ 60
- แบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน ผา่ นเกณฑ์
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หลังเรยี น หนว่ ยการ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1
ระบบนิเวศ เรียนรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ ระบบนเิ วศ

4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ

7. กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา 3 ช่ัวโมง
เวลา 3 ช่ัวโมง
• แผนท่ี 1 : องค์ประกอบของระบบนิเวศ เวลา 4 ชัว่ โมง
วธิ ีสอน 5Es Instructional Model เวลา 2 ช่วั โมง
(รวมเวลา 12 ชั่วโมง)
• แผนที่ 2 : ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสิง่ มีชวี ิตในระบบนิเวศ
วิธีสอน 5Es Instructional Model

• แผนท่ี 3 : โซอ่ าหารและสายใยอาหาร
วธิ ีสอน 5Es Instructional Model

• แผนท่ี 4 : สมดลุ ระบบนิเวศ
วธิ สี อน 5Es Instructional Model

8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 หนว่ ยการ
เรียนรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
2) แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1
ระบบนเิ วศ
3) ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ระบบนิเวศจำลอง
4) ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ความสมั พันธ์ระหวา่ งส่งิ มีชีวิต
5) วัสดุอปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการปฏิบัติกิจกรรม สำรวจระบบนิเวศในท้องถน่ิ
6) วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรม สำรวจรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตภายใน
โรงเรยี น
7) วสั ดุอปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ความสมั พันธร์ ะหว่างสง่ิ มชี ีวิต
8) วัสดุอปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม จำลองการถา่ ยทอดพลังงานในสายใยอาหาร
9) PowerPoint เรอื่ ง ระบบเิ วศ
10) สลากชือ่ สิ่งมชี วี ติ ชนิดต่าง ๆ
11) บตั รภาพ
12) QR Code เร่ือง บทบาทของสิง่ มชี วี ิตในระบบนิเวศ
13) QR Code เรื่อง สายใยอาหาร
14) สมุดประจำตัวนกั เรียน

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องเรียน
2) หอ้ งสมดุ
3) อินเทอรเ์ น็ต

5

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ระบบนเิ วศ

แบบทดสอบก่อนเรยี น

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง ระบบนิเวศ

คำช้ีแจง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. ข้อใดอธบิ ายความหมายของระบบนิเวศได้ถกู ต้อง 6. ส่งิ มีชวี ิตใดสำคญั ต่อระบบนเิ วศมากทสี่ ุด
1. สถานท่ีทมี่ สี ่ิงมชี ีวติ อาศยั อยู่ 1. หญ้า
2. ส่ิงต่าง ๆ ท่ีอยูร่ วมกบั สง่ิ มีชีวิต 2. ปลวก
3. กลุ่มของสิง่ มชี ีวิตที่อยรู่ วมกันในแตล่ ะแหล่ง 3. มนุษย์
4. ความสัมพนั ธ์ของกลุ่มสง่ิ มีชีวิตในแหล่งทอ่ี ยู่ 4. กระต่าย
เดียวกัน
7. ขอ้ ใดจัดเป็นผบู้ ริโภคลำดบั ท่ี 1
2. ข้อใดไม่จดั เป็นระบบนิเวศ 1. หญา้
1. ป่าเตง็ รัง 2. สงิ โต
2. สนามฟุตบอล 3. หนอน
3. ลานสเกต็ น้ำแขง็ 4. มนษุ ย์
4. อุทยานแห่งชาตแิ ละป่าสงวน
8. สิ่งมีชีวิตใดมบี ทบาทแตกต่างจากข้ออน่ื
3. ขอ้ ใดจดั เปน็ องค์ประกอบท่มี ชี วี ิตในระบบนเิ วศ 1. ม้า
1. ดนิ 2. ววั
2. แร่ธาตุ 3. จระเข้
3. ปะการงั 4. กระต่าย
4. น้ำทะเล
9. สิ่งมีชวี ิตประเภทใดจะไดร้ ับปริมาณสารพิษ
4. ข้อใดคือองค์ประกอบท่ีไม่มชี วี ิตในระบบนิเวศ มากที่สดุ
1. แสง 1. ผผู้ ลิต
2. ปะการงั 2. ผู้บรโิ ภคลำดับที่ 1
3. ธาตุอาหาร 3. ผู้บรโิ ภคลำดับท่ี 2
4. นำ้ และความช้ืน 4. ผู้บรโิ ภคลำดบั สดุ ท้าย

5. บทบาทของสงิ่ มชี ีวิตในข้อใดเกี่ยวข้องกับ 10. ข้อใดมีความหลากหลายทางชวี ภาพมากที่สุด
กระบวนการหมุนเวยี นสารมากทีส่ ุด 1. ทะเลทราย
1. ผผู้ ลติ 2. ทะเลเดดซี
2. ผูบ้ ริโภค 3. ปา่ ชายเลน
3. ผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ 4. ข้ัวโลกเหนอื
4. ถกู ทุกข้อ

เฉลย 1. 4 2. 3 3. 3 4. 2 5. 3 6. 1 7. 3 8. 3 9. 4 10. 3
6

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ

แบบทดสอบหลังเรียน

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง ระบบนเิ วศ

คำช้ีแจง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ขอ้ ใดอธบิ ายความหมายของระบบนเิ วศได้ถูกต้อง 6. ส่ิงมีชีวิตใดสามารถเป็นได้ทั้งผู้บริโภคลำดับท่ี
1 และ 2 ได้
1. สถานท่ีท่ีมีสิ่งมชี ีวติ อาศัยอยู่ 1. มา้ 2. ววั
3. หมี 4. ชา้ ง
2. ส่งิ ตา่ ง ๆ ทอ่ี ยู่รวมกบั สงิ่ มีชีวติ
7. ส่งิ มชี วี ติ ใดควรเป็นผบู้ ริโภคลำดับที่ 1
3. กลุ่มของสิง่ มชี วี ติ ทอ่ี ยรู่ วมกันในแตล่ ะแหล่ง 1. หญา้
2. สิงโต
4. ความสัมพันธข์ องกล่มุ ส่ิงมชี วี ิตในแหล่งท่อี ยู่ 3. หนอน
4. สุนขั จิง้ จอก
เดยี วกนั
8. ส่ิงมีชีวิตใดไดร้ บั พลังงานผา่ นการกินเปน็ ลำดบั
2. ชายคนหน่ึงสงั เกตขอนไมร้ มิ สระนำ้ พบวา่ มปี ลวก นอ้ ยทสี่ ุด
1. ไก่
ตัวทาก ตะไคร่นำ้ เห็ดรา ส่งิ มมี ชี ีวติ ใดทำหนา้ ที่ 2. เสือ
3. หนอน
เปน็ ผู้ผลิต 4. มนุษย์

1. ปลวก 2. ตวั ทาก 9. สาเหตุใดที่ทำให้ขนาดประชากรในระบบนิเวศ
เปลีย่ นแปลง
3. เห็ดรา 4. ตะไครน่ ำ้ 1. การเกดิ
2. การตาย
3. จากขอ้ 2. สิง่ มีชวี ติ ใดทำหน้าทเ่ี ปน็ ผู้ย่อยสลาย 3. การยา้ ยถน่ิ ฐาน
4. ถกู ทุกข้อ
สารอนิ ทรีย์
10. ข้อใดไม่ใช่แนวทางการในการรักษาสมดุลของ
1. เหด็ 2. ปลวก ระบบนิเวศ
1. ปลกู ต้นไม้
3. ขอนไม้ 4. ตะไครน่ ้ำ 2. ปลกู ปะการงั
3. ไมล่ า่ พนั ธ์สุ ตั ว์หายาก
4. เพลยี้ กับตน้ ไมม้ คี วามสัมพันธก์ นั อย่างไร 4. สรา้ งสง่ิ มีชีวติ ดัดแปรพันธกุ รรม

1. ภาวะปรสติ

2. ภาวะอิงอาศัย

3. ภาวะพึง่ พากนั

4. ภาวะการไดร้ ับประโยชนร์ ว่ มกนั

5. ข้อใดเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตแบบ

ภาวะพึง่ พากนั

1. ดอกไม้กบั ผเี ส้ือ

2. เหาฉลามกบั ฉลาม

3. หนอนกับใบชาเชยี ว

4. โพรโทซัวในลำไสป้ ลวก

เฉลย 1. 4 2. 4 3. 1 4. 1 5. 4 6. 3 7. 3 8. 3 9. 4 10. 4
7

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ

แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินผลงานแผนผังมโนทัศน์

คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนประเมินผลงาน/ชิน้ งานของนักเรียนตามรายการที่กำหนด แลว้ ขีด ✓ลงในชอ่ งทีต่ รงกับ

ระดบั คะแนน

ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ
4 3 21

1 ความสอดคล้องกบั จุดประสงค์ทีก่ ำหนด

2 ความถูกต้องของเนอื้ หา

3 ความคดิ สรา้ งสรรค์

4 ความเปน็ ระเบยี บ

รวม

ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ
............../................./................

เกณฑป์ ระเมินแผนผังมโนทัศน์

ประเดน็ ทป่ี ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32

1. ผลงานตรงกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผล งาน ไม่ ส อด ค ล้ อง

จุดประสงค์ท่กี ำหนด จดุ ประสงคท์ ุกประเด็น จดุ ประสงค์เปน็ ส่วนใหญ่ จุดประสงค์บางประเดน็ กับจดุ ประสงค์

2. ผลงานมคี วาม เน้ือหาสาระของผลงาน เนื้อหาสาระของผลงาน เน้ือหาสาระของผลงาน เน้ือหาสาระของผลงาน

ถูกตอ้ งของเน้ือหา ถกู ต้องครบถว้ น ถูกต้องเปน็ ส่วนใหญ่ ถูกต้องเป็นบางประเด็น ไมถ่ ูกตอ้ งเปน็ ส่วนใหญ่

3. ผลงานมีความคดิ ผล งาน แ สด งออกถึง ผลงานมีแนวคิดแปลก ผลงานมีความน่าสนใจ ผลงานไม่แสดงแนวคิด

สรา้ งสรรค์ ค วาม คิ ด ส ร้างส รรค์ ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่

แ ป ล ก ให ม่ แ ล ะ เป็ น ใหม่

ระบบ

4. ผลงานมีความเป็น ผ ล ง า น มี ค ว า ม เป็ น ผลงานส่วนใหญ่มีความ ผ ล ง า น มี ค ว า ม เป็ น ผลงานส่วนใหญ่ไม่เป็น

ระเบียบ ระเบียบแสดงออกถึง เป็ นระเบี ยบ แต่ ยั งมี ระเบยี บแตม่ ีขอ้ บกพร่อง ร ะ เ บี ย บ แ ล ะ มี ข้ อ

ความประณตี ข้อบกพร่องเลก็ น้อย บางสว่ น บกพร่องมาก

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

14-16 ดมี าก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ต่ำกว่า 7 ปรับปรงุ

8

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ

แบบประเมนิ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรม

คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินการปฏิบตั ิกิจกรรมของนักเรียนตามรายการทก่ี ำหนด แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งที่ตรง
กับระดับคะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

1 การปฏบิ ตั ิการทำกจิ กรรม
2 ความคล่องแคลว่ ในขณะปฏิบัติกจิ กรรม
3 การบนั ทึก สรุปและนำเสนอผลการทำกจิ กรรม

รวม

ลงช่ือ ................................................... ผปู้ ระเมิน
................./................../..................

ประเดน็ ที่ เกณฑ์การประเมนิ การปฏบิ ัติกจิ กรรม 1
ประเมนิ
1. การปฏบิ ตั ิ ระดบั คะแนน ต้องให้ความชว่ ยเหลือ
กิจกรรม อยา่ งมากในการทำ
432 กจิ กรรม และการใช้
2. ความ ทำกิจกรรมตามขนั้ ตอน ทำกิจกรรมตามขัน้ ตอน ตอ้ งใหค้ วามชว่ ยเหลือ อุปกรณ์
คลอ่ งแคล่ว และใช้อปุ กรณไ์ ดอ้ ย่าง และใชอ้ ปุ กรณไ์ ด้อย่าง บา้ งในการทำกจิ กรรม
ในขณะปฏบิ ตั ิ ถูกตอ้ ง ถกู ต้อง แต่อาจตอ้ ง และการใชอ้ ปุ กรณ์
กิจกรรม
ได้รบั คำแนะนำบ้าง

มคี วามคล่องแคลว่ มคี วามคลอ่ งแคลว่ ขาดความคลอ่ งแคล่ว ทำกิจกรรมเสร็จไม่
ในขณะทำกิจกรรมโดย ในขณะทำกิจกรรมแต่ ในขณะทำกจิ กรรมจงึ ทนั เวลา และทำ
ไม่ตอ้ งไดร้ ับคำชแ้ี นะ ตอ้ งไดร้ บั คำแนะนำบา้ ง ทำกจิ กรรมเสร็จไม่ อุปกรณ์เสยี หาย
และทำกิจกรรมเสรจ็ และทำกิจกรรมเสรจ็ ทันเวลา
ทนั เวลา ทันเวลา

3. การบันทึก บนั ทกึ และสรุปผลการ บนั ทกึ และสรปุ ผลการ ตอ้ งให้คำแนะนำในการ ตอ้ งให้ความชว่ ยเหลือ
สรปุ และ ทำกิจกรรมได้ถกู ต้อง ทำกิจกรรมได้ถูกตอ้ ง บันทึก สรุป และ อย่างมากในการบันทกึ
นำเสนอผลการ รดั กุม นำเสนอผลการ แต่การนำเสนอผลการ นำเสนอผลการทำ สรุป และนำเสนอผล
ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ทำกิจกรรมเปน็ ขั้นตอน ทำกจิ กรรมยังไมเ่ ป็น กจิ กรรม การทำกจิ กรรม
ชัดเจน ข้ันตอน

9

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

10-12 ดีมาก

7-9 ดี

4-6 พอใช้

0-3 ปรบั ปรุง

แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งท่ี

ตรงกบั ระดบั คะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 ความถกู ต้องของเนือ้ หา  

2 ความคิดสรา้ งสรรค์  

3 วิธกี ารนำเสนอผลงาน  

4 การนำไปใช้ประโยชน์  

5 การตรงต่อเวลา  

รวม

ลงชือ่ ................................................... ผ้ปู ระเมิน
............/................./...................

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง

10

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล

คำช้แี จง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่

ตรงกบั ระดับคะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32

1 การแสดงความคิดเหน็  

2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น  

3 การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย  

4 ความมีน้ำใจ  

5 การตรงต่อเวลา  

รวม

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............/.................../................
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง

11

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่

คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่

ตรงกับระดับคะแนน

การมี

ลำดับที่ ช่ือ–สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม
ของนกั เรียน ความ ฟงั คนอืน่ ตามท่ไี ด้รบั น้ำใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ปรับปรงุ
ผลงานกลุ่ม

321321321321321

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงช่อื ................................................... ผู้ประเมนิ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............./.................../...............
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ

14–15 ดมี าก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกว่า 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำช้ีแจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่

ตรงกบั ระดับคะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน

12

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ

อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้

กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์

ต่อโรงเรยี น

1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา

1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีเกย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทีโ่ รงเรียนจดั ข้ึน

2. ซ่ือสัตย์ สจุ ริต 2.1 ให้ขอ้ มลู ท่ถี กู ต้องและเปน็ จรงิ

2.2 ปฏบิ ัตใิ นส่ิงทถ่ี กู ต้อง

3. มวี ินยั รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของครอบครัว

มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 ร้จู กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้

4.2 รูจ้ ักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม

4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง

4.4 ต้งั ใจเรียน

5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินและสิง่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ุณค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย

6.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็

7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย

7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครูทำงาน

8.2 รจู้ ักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มของหอ้ งเรียนและ

โรงเรยี น

ลงช่อื .................................................. ผูป้ ระเมิน
............/.................../................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ
พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครั้ง ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน 51-60 ดีมาก

41-50 ดี

30-40 พอใช้

ตำ่ กว่า 30 ปรบั ปรุง

13

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 1 องค์ประกอบของระบบนเิ วศ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1

องค์ประกอบของระบบนเิ วศ

เวลา 3 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด

ว 1.1 ม.3/1 อธบิ ายปฏิสมั พนั ธข์ ององคป์ ระกอบของระบบนเิ วศทีไ่ ด้จากการสำรวจ

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายปฏสิ มั พนั ธ์ขององคป์ ระกอบของระบบนเิ วศท่ไี ดจ้ ากการสำรวจได้ (K)
2. จำแนกองคป์ ระกอบของระบบนิเวศท่ีไดจ้ ากการสำรวจได้ (P)
3. มคี วามใฝเ่ รียนรแู้ ละมุ่งมนั่ ในการทำงาน (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

• ระบบนิเวศประกอบด้วยองค์ประกอบที่มีชีวิต
เช่น พืช สัตว์ จุลินทรีย์ และองค์ประกอบท่ีไม่มีชีวิต
เช่น แสง น้ำ อุณหภูมิ แร่ธาตุ แก๊ส องค์ประกอบ
เหล่าน้ีมีปฏิสัมพันธ์กัน เช่น พืชต้องการแสง น้ำ และ
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ในการสร้างอาหาร สัตว์
ตอ้ งการอาหาร และสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมในการ
ดำรงชีวิต เช่น อุณหภูมิ ความช้ืน องค์ประกอบท้ัง
สองส่วนนี้จะต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม
ระบบนเิ วศจึงจะสามารถคงอยตู่ ่อไปได้

4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

ระบบนิเวศประกอบด้วยองค์ประกอบท่ีไม่มีชีวิต (abiotic component) และองค์ประกอบท่ีมีชีวิต
(biotic component) ซ่ึงมีปฏิสัมพันธ์กันอยา่ งเป็นระบบ ตวั อย่างปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบที่มีชีวิต
กับองค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต เช่น ต้นไม้ต้องการน้ำ แสง แร่ธาตุ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวอย่าง
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบที่มีชีวิตกับองค์ประกอบที่มีชีวิต เช่น กวางกินหญ้า เสือกินกวาง แร้งกิน
ซากเสือทีต่ ายแลว้ และจลุ นิ ทรียจ์ ะยอ่ ยสลายซากเสอื ให้กลายเป็นสารอนิ ทรยี ก์ ลับคนื สู่ธรรมชาติ

5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียนและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี ินยั รับผดิ ชอบ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน

2) ทกั ษะการจำแนกประเภท

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

17

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 1 องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : 5Es Instructional Model

ชั่วโมงท่ี 1

ข้ันนำ
ข้ันที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage)

1. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 ระบบนิเวศ เพ่ือวัดความรู้เดมิ ของ
นกั เรียนก่อนเขา้ สู่กิจกรรม

2. ครูถามคำถาม Big Question ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ เพ่ือกระตุ้นความสนใจของนักเรียน “เรือขนส่ง
น้ำมันล่มกลางทะเลส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างไร” โดยให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายแสดง
ความคิดเหน็ อยา่ งอิสระโดยครยู งั ไม่เฉลยว่าถกู หรอื ผดิ
(แนวตอบ : คราบน้ำมันท่ีลอยอยู่บนผิวน้ำทะเลจะปิดกั้นการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชน้ำหรือ
แพลงก์ตอนพืชบางชนิดซ่ึงทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตในระบบนิเวศ ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคตามมา
รวมทั้งสารเคมีท่ีปนเปื้อนอยู่ในน้ำมันอาจทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในน้ำ ทำให้ปริมาณออกซิเจน
ในน้ำลดลง และเกิดการสะสมสารพิษในโซ่อาหารท่ีเร่ิมต้ังแต่ผู้ผลิต ผู้บริโภคขั้นต้น ไปจนถึง
ผบู้ รโิ ภคข้ันสุดท้าย คือ มนุษย)์

3. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรู้ 1 ระบบนเิ วศ โดยบนั ทกึ ลงในสมุดประจำตัวนักเรียน

4. นักเรียนทำกิจกรรม Engaging Activity โดยพิจารณาภาพระบบนิเวศในทะเล และระบบนิเวศ
ในป่าไม้ จากหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
1 ร ะ บ บ นิ เว ศ จ า ก น้ั น ให้ นั ก เรี ย น แ ต่ ล ะ ค น ส ำ ร ว จ อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ที่ อ ยู่ ใน ภ า พ
แล้วลองวิเคราะห์ว่า องค์ประกอบที่อยู่ในภาพมีความสัมพันธ์กันอย่างไร โดยบันทึกลงใน
สมุดประจำตัวนกั เรียน
(แนวตอบ :

18

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 1 องค์ประกอบของระบบนิเวศ

ภาพจากหนังสือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ 1
ภาพท่ี 1 ประกอบดว้ ย ฉลาม ปลาทะเล นำ้ ทะเล ปะการัง แสง แพลงก์ตอน ความดัน อุณหภูมิ
วิเคราะหค์ วามสัมพนั ธ์ ทะเลเป็นแหลง่ ทีอ่ ยูอ่ าศัยและใชใ้ นการดำรงชวี ติ ของปลาทะเล ปลาทะเล
อาศยั ปะการงั และหินเป็นทห่ี ลบภยั ฉลามกนิ ปลาทะเลเปน็ อาหาร

ภาพจากหนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ 1
ภาพที่ 2 ประกอบดว้ ย ตน้ ไม้ อากาศ แสง อุณหภูมิ ยีราฟ ชา้ ง กระทิง แรด ม้าลาย สงิ โต แรง้
วิเคราะหค์ วามสมั พันธ์ สิง่ มชี ีวติ ตอ้ งการแรธ่ าตุ ดนิ อากาศ แสง อณุ หภมู ิในการดำรงชีวติ
ตน้ ไมเ้ ปน็ ผูผ้ ลิตทีอ่ าศยั แสงและแร่ธาตุในดิน รวมทั้งสภาพอากาศในการเจริญเติบโตเพอื่ ผลิต
พลังงานเคมีสะสมอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของพืช และยีราฟ ช้าง ม้าลายต่างกินพืชเป็นอาหาร สิงโตกิน
ยีราฟ ชา้ ง ม้าลาย เมื่อสิงโตตาย แร้งจะมากนิ ซากสิงโต)

ข้นั สอน

ขัน้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูถามคำถาม Key Question จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ เพ่ือทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนว่า “แหล่งที่อยู่
อาศยั สำคญั กับส่ิงมีชวี ิตอยา่ งไร”
(แนวตอบ : แหลง่ ที่อยู่อาศยั เปน็ แหล่งท่ีใช้ในการดำรงชีวิต เป็นทหี่ ลบภัย และเลี้ยงลกู อ่อน)
2. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ จากน้ันครูแจ้งจดุ ประสงค์ของกิจกรรม สำรวจ
ระบบนเิ วศในท้องถ่ิน ให้นกั เรยี นทราบเพอื่ เป็นแนวทางการปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่ีถูกต้อง
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษากิจกรรม สำรวจระบบนิเวศในท้องถิ่น จากหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ โดยครูใช้รูปแบบ
การเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายในกลุ่มมี
บทบาทหน้าท่ขี องตนเองดงั น้ี
• สมาชิกคนท่ี 1-2 ทำหน้าที่เตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมสำรวจระบบนิเวศ
ในทอ้ งถ่ิน
• สมาชกิ คนที่ 3-4 ทำหนา้ ที่อ่านวธิ ีปฏิบตั กิ จิ กรรม และนำมาอธิบายใหส้ มาชกิ ในกลุ่มฟัง
• สมาชิกคนที่ 5-6 ทำหนา้ ท่ีบนั ทกึ ผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมลงในสมดุ ประจำตวั นักเรยี น

19

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 1 องค์ประกอบของระบบนเิ วศ

4. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันกำหนดปัญหาและต้ังสมมติฐาน จากน้ันร่วมกันปฏิบัติกิจกรรม
ตามข้ันตอน จากหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ

6. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าช้ันเรียน ในระหว่างที่นักเรียน
นำเสนอ ครคู อยใหข้ ้อเสนอแนะเพมิ่ เติม เพื่อให้นกั เรยี นมคี วามเขา้ ใจทถ่ี ูกต้อง
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)

7. ครถู ามคำถามทา้ ยกจิ กรรม โดยใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นเพื่อหา
คำตอบ ดงั นี้
• ยกตวั อยา่ งองค์ประกอบทพ่ี บในบริเวณทสี่ ำรวจ
(แนวตอบ : ข้นึ อย่กู ับผลกิจกรรม โดยมแี นวคำตอบ คือ องค์ประกอบทีไ่ มม่ ชี วี ติ เชน่ แสง น้ำ
แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ แกส๊ ออกซเิ จน อุณหภูมิ หนิ ดนิ และองคป์ ระกอบทม่ี ีชวี ติ เช่น ปลา
นก มนษุ ย์ แมลง จุลินทรยี ์ท่อี ยูใ่ นดินหรอื นำ้ )
• สิง่ มชี ีวติ ที่พบมคี วามสัมพนั ธก์ บั สง่ิ มีชวี ติ ในบริเวณที่สำรวจอยา่ งไร
(แนวตอบ : ขึ้นอยู่กับผลกิจกรรม โดยมีแนวคำตอบ คือ สิ่งมีชีวิตมีความสัมพันธ์กันอย่างเป็น
ระบบ เช่น สัตวก์ นิ พืชเป็นอาหาร)

• สิ่งมีชวี ิตทพ่ี บมีความสัมพันธ์กบั สิ่งไม่มีชีวติ ในบริเวณทีส่ ำรวจอยา่ งไร
(แนวตอบ : ขึน้ อย่กู บั ผลกิจกรรม โดยมแี นวคำตอบ คอื สงิ่ มชี วี ิตต้องการน้ำ แกส๊ อณุ หภมู ิที่
เหมาะสมตอ่ การดำรงชวี ิต)

8. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการปฏิบัติกิจกรรม สำรวจระบบนิเวศในท้องถ่ิน เพ่ือให้ได้
ข้อสรุปร่วมกันว่า “ระบบนิเวศประกอบด้วยองค์ประกอบท่ีไม่มีชีวิตและองค์ประกอบท่ีมีชีวิตซึ่งมี
ความสมั พันธ์กัน”

ชัว่ โมงที่ 2-3

9. นักเรียนแบ่งกลุ่มเดิมจากการทำกิจกรรม สำรวจระบบนิเวศในท้องถ่ิน โดยให้สมาชิกภายในกลุ่ม
แบง่ หน้าที่ออกเป็น 2 ฝ่าย ดังน้ี
• ฝ่ายท่ี 1 : ทำหน้าท่ีศึกษาเนื้อหาเก่ียวกับองค์ประกอบท่ีไม่มีชีวิต และองค์ประกอบท่ีมีชีวิต
จากหนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1
ระบบนเิ วศ หรือแหลง่ การเรยี นรตู้ ่าง ๆ เชน่ อินเทอรเ์ น็ต
• ฝ่ายที่ 2 : ทำหนา้ ทเ่ี ตรยี มอปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ กระดาษ A4 อปุ กรณ์เคร่ืองเขียน สไี ม้

ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
10. สมาชิกที่อยู่ในฝ่ายที่ 1 ร่วมกันสรุปและอธิบายความรู้เก่ียวกับองค์ประกอบของระบบนิเวศ
ใหส้ มาชกิ ภายในกล่มุ ที่อยู่ฝา่ ยที่ 2 เข้าใจ
11. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลหรือผลท่ีได้จากการสำรวจระบบนิเวศในท้องถ่ิน เพ่ือ
จำแนกว่าเป็นองค์ประกอบประเภทใดในระบบนิเวศ และสิ่งมีชีวิตที่สำรวจได้มีบทบาทอย่างไร
ในระบบนเิ วศ โดยบันทกึ ผลลงในกระดาษ A4 พรอ้ มตกแตง่ ชิน้ งานให้สวยงาม
12. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอชิ้นงานหน้าชั้นเรียน ในระหว่างท่ีนักเรียน
นำเสนอ ครคู อยใหข้ อ้ เสนอแนะเพิ่มเติม เพ่ือใหน้ กั เรียนทุกคนมีความเข้าใจท่ีตรงกนั

20

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 1 องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ

(หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมินนักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
13. ครูตั้งประเด็นคำถามว่า อนินทรียสารกับอินทรียสารแตกต่างกันอย่างไร แล้วให้นักเรียนร่วมกัน

สืบค้นข้อมลู เพ่ิมเตมิ
(แนวตอบ : อนินทรียสารเปน็ สารประกอบท่ีไม่มีคารบ์ อนเป็นองค์ประกอบ ยกเว้น CO3, HCO3,
CO2, CaC2, HCN, เพชร, แกรไฟต์ ส่วนอินทรียสารเป็นสารประกอบท่ีมีธาตุคาร์บอนเป็น
องค์ประกอบ)
14. นักเรียนแต่ละคนศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับบทบาทของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศจาก
QR Code เรอ่ื ง บทบาทของส่ิงมชี ีวติ ในระบบนเิ วศ
15. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเนื้อหาเกี่ยวกับ เรื่อง องค์ประกอบของระบบนิเวศ
และให้ความรู้เพิ่มเตมิ โดยครูอาจใช้ PowerPoint เร่ือง องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ
16. ให้นักเรียนทำ Topic Questions เร่ือง องค์ประกอบของระบบนิเวศ จากหนังสือเรียนรายวิชา
พ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ ลงใน
สมดุ ประจำตัวนกั เรียน
17. ให้นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกหัด เร่ือง องค์ประกอบของระบบนิเวศ จาก แบบฝึกหัด
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ เป็นการบ้านส่งใน
ช่วั โมงถดั ไป
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
18. ครูกำหนดปัญหาเกี่ยวกบั ราคาไข่ไก่ที่แพงข้ึนในปัจจุบัน โดยให้นักเรยี นออกแบบระบบนิเวศของ
ฟาร์มไก่จำลอง โดยใช้ระบบอินทรีย์ หรือระบบเล้ียงไก่แบบธรรมชาติ โดยจำแนกองค์ประกอบ
ของระบบนิเวศ พร้อมอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบภายในระบบนิเวศ ลงใน
ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง ระบบนิเวศจำลอง

ขนั้ สรปุ

นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเก่ียวกับองค์ประกอบของระบบนิเวศ ซ่ึงควรได้ข้อสรุปร่วมกันว่า
“ระบบนเิ วศ คอื กลุ่มสง่ิ มีชีวติ ทอี่ าศัยอยู่ในบรเิ วณเดียวกัน และมคี วามสมั พันธ์กันอย่างเป็นระบบ ระบบนเิ วศ
ในแต่ละพื้นที่ต่างประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 2 ประเภท คือ องค์ประกอบท่ีไม่มีชีวิต และองค์ประกอบที่มี
ชีวิตที่มีปฏิสัมพันธ์กัน โดยองค์ประกอบท่ีไม่มีชีวิตเป็นปัจจัยที่สำคัญในการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต และ
องค์ประกอบท่ีมีชีวิตมีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบที่มีชีวิต เช่น การกินของส่ิงมีชีวิต ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตใน
ระบบนเิ วศมบี ทบาททีแ่ ตกตา่ งกัน คือ ผ้ผู ลติ ผู้บรโิ ภค และผูย้ ่อยสลายสารอนิ ทรยี ์”

ข้นั ประเมิน

ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ
2. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในสมดุ ประจำตวั นกั เรยี น
3. ครตู รวจสอบผลการปฏิบตั กิ จิ กรรม สำรวจระบบนิเวศในทอ้ งถิน่
4. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ระบบนิเวศจำลอง
5. ครตู รวจ Topic Questions เรื่อง องค์ประกอบของระบบนิเวศ ในสมดุ ประจำตัวนักเรียน

21

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 1 องค์ประกอบของระบบนิเวศ

6. ครตู รวจแบบฝกึ หดั เรือ่ ง องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ จากแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ

7. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
และจากการนำเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน

7. การวดั และประเมินผล

รายการวัด วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์
การประเมนิ
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อน - แบบทดสอบก่อนเรยี น
- แบบทดสอบก่อนเรยี น เรียน หนว่ ยการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 - ประเมนิ ตาม
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ท่ี 1 ระบบนิเวศ ระบบนเิ วศ สภาพจริง
ระบบนเิ วศ

7.2 ประเมินระหว่างการจัด - ตรวจใบงานท่ี 1.1 - ใบงานท่ี 1.1 - รอ้ ยละ 60
กจิ กรรมการเรยี นรู้
1) องค์ประกอบของ - ตรวจสมุดประจำตัว ผา่ นเกณฑ์
ระบบนิเวศ หรือแบบฝึกหดั
วิทยาศาสตร์และ - สมดุ ประจำตวั หรือ - ร้อยละ 60
2) ผลบันทกึ การปฏบิ ัติ เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
กจิ กรรม สำรวจ แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์
ระบบนิเวศในท้องถิน่ - ตรวจสมุดประจำตัว
หรือแบบฝกึ หัด และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1
วทิ ยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 - สมุดประจำตวั หรอื - รอ้ ยละ 60

แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์

และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1

3) การนำเสนอผลงาน/ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การนำเสนอ - ระดบั คุณภาพ 2

ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม ผลงาน/ผลการปฏิบัติ ผลงาน ผา่ นเกณฑ์

กจิ กรรม

4) พฤตกิ รรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล

5) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2
กลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์

22

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์
แผนฯ ที่ 1 องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ การประเมิน
- สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมินคุณลักษณะ
รายการวัด รับผิดชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ - ระดบั คุณภาพ 2
และมงุ่ มัน่ ในการ ผา่ นเกณฑ์
6) คณุ ลักษณะ ทำงาน
อันพึงประสงค์

8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
ระบบนิเวศ
2) แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ
3) ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง สำรวจระบบนเิ วศในทอ้ งถ่ิน
4) วัสดุอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม สำรวจระบบนิเวศในท้องถิน่
5) PowerPoint เรื่อง องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ
6) QR Code เรอ่ื ง บทบาทของส่งิ มชี วี ติ ในระบบนเิ วศ
7) สมุดประจำตวั นักเรยี น

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องเรยี น
2) อินเทอร์เน็ต

23

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 1 องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ

ใบงานท่ี 1.1

เร่อื ง ระบบนเิ วศจำลอง

คำช้แี จง : ออกแบบและวาดภาพระบบนเิ วศของฟารม์ ไก่จำลอง

องค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต องค์ประกอบที่มีชีวิต
(abiotic component) (biotic component)

วเิ คราะห์ปฏสิ มั พันธข์ ององค์ประกอบภายในระบบนเิ วศ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

24

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 1 องค์ประกอบของระบบนเิ วศ

ใบงานที่ 1.1 เฉลย

เรือ่ ง ระบบนเิ วศจำลอง

คำช้ีแจง : ออกแบบและวาดภาพระบบนเิ วศของฟารม์ ไก่จำลอง

(ขน้ึ อย่กู บั ดลุ ยพนิ จิ ของผู้สอน โดยพจิ ารณาจากความถกู ตอ้ งและเหมาะสมของข้อมลู )

องค์ประกอบท่ีไม่มีชีวิต องค์ประกอบที่มีชีวิต
(abiotic component) (biotic component)

วิเคราะหป์ ฏิสมั พนั ธ์ขององคป์ ระกอบภายในระบบนิเวศ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

25

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 1 องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ

9. ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทม่ี ปี ัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปญั หา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

26

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 2 ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสิ่งมชี ีวิตในระบบนเิ วศ

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2

ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสิ่งมีชวี ิตในระบบนิเวศ

เวลา 3 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั

ว 1.1 ม.3/2 อธบิ ายรปู แบบความสัมพันธร์ ะหวา่ งสิง่ มีชีวิตกับส่ิงมีชีวติ รูปแบบตา่ ง ๆ ในแหล่งทอี่ ยู่
เดียวกันที่ได้จากการสำรวจ

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายนยิ ามของกล่มุ สง่ิ มีชวี ิตและประชากรได้ (K)
2. อธิบายรปู แบบความสัมพนั ธส์ ง่ิ มีชวี ติ กับสงิ่ มีชวี ิตรูปแบบต่าง ๆ ได้ (K)
3. จำแนกรูปแบบความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิง่ มชี วี ติ กับส่งิ มชี วี ติ ได้ (P)
4. ตระหนักถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสง่ิ มชี ีวิตกบั สิง่ มชี ีวิตในระบบนิเวศ (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถน่ิ
พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง

• สิ่งมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตมีความสัมพันธ์กันในรูปแบบ
ต่าง ๆ เช่น ภาวะพึ่งพากัน ภาวะอิงอาศัย ภาวะ
เหย่อื กับผลู้ ่า ภาวะปรสิต

• ส่ิงมีชีวิตชนิดเดียวกันที่อาศัยอยู่ร่วมกันในแหล่งที่
อยู่ เดี ย วกั น ใน ช่ วงเวล าเดี ย วกั น เรียก ว่า
ประชากร

• กลุ่มส่ิงมีชีวิตประกอบด้วยประชากรของส่ิงมีชีวิต
หลาย ๆ ชนิด อาศัยอยู่ร่วมกันในแหล่งท่ีอยู่
เดยี วกนั

4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศมีอยู่หลายชนิด ซ่ึงแต่ละชนิดต่างก็มีรูปแบบความสัมพันธ์ท่ีแตกต่างกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศอาจทำให้สิ่งมีชีวิตบางชนิดได้รับประโยชน์หรือเสียประโยชน์
หรอื ไม่มผี ลต่อการดำรงชีวติ ของสงิ่ มชี วี ติ นน้ั เลย

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี ินยั รับผดิ ชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

28

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 2 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสงิ่ มชี ีวติ ในระบบนเิ วศ

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
2) ทักษะการจำแนกประเภท
3) ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมลู
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรียนรู้

 แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : 5Es Instructional Model

ชัว่ โมงที่ 1

ขั้นนำ

ขัน้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)

1. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3
เลม่ 1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ โดยบนั ทกึ ลงในสมุดประจำตัวนักเรยี น

2. นักเรียนทำกิจกรรม Engaging Activity โดยพิจารณาภาพรังต่อบนต้นไม้ และกาฝากบนต้นไม้
จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ระบบนิเวศ จากนั้นครูตงั้ ประเด็นคำถามกระตุ้นความคดิ นักเรียนว่า “เพราะเหตุใดต้นไมท้ ้ัง 2 ต้น
จึงมีลักษณะแตกตา่ งกนั ”
(แนวตอบ : เพราะส่ิงท่ีมาอาศัยอยู่ในต้นไม้ภาพท่ี 1 และภาพท่ี 2 แตกต่างกันคือ ภาพท่ี 1
ตัวต่อมาอาศัยและทำรังอยู่บนต้นไม้ โดยตัวต่อไม่ได้ทำลายหรือสร้างความเสียหายให้กับต้นไม้
ต้นไม้ในภาพท่ี 1 จึงมีความอุดมสมบูรณ์ปกติ แต่ในภาพท่ี 2 กาฝากซ่ึงเป็นปรสิตของพืชมาอาศัย
อยู่กับต้นไม้ในภาพท่ี 2 โดยกาฝากจะใช้รากแทงทะลุเข้าไปยังท่อลำเลียงน้ำและธาตุอาหาร
คอยแย่งน้ำและอาหาร ทำให้ต้นไม้ในภาพท่ี 2 ไมเ่ จรญิ เติบโตและตายในทีส่ ุด)

ขน้ั สอน

ข้ันที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
1. ครูถามคำถาม Key Question จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ เพื่อทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนว่า “เพราะเหตุ
ใดเหาฉลามจงึ อยู่รว่ มกบั ปลาฉลามได้”
(แนวตอบ : เหาฉลามไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับปลาฉลามและยังได้รับเศษอาหารที่เหลือ
จากการกินของปลาฉลาม ในขณะที่ปลาฉลามก็ไม่ได้และไม่เสียประโยชน์จึงสามารถอยู่ร่วมกัน
ได)้

29

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 2 ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสงิ่ มชี ีวิตในระบบนเิ วศ

2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน จากน้ันครูแจ้งจุดประสงค์ของกิจกรรม สำรวจรูปแบบ
ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตภายในโรงเรียน ให้นักเรียนทราบเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติ
กจิ กรรมที่ถกู ต้อง

3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษากิจกรรม สำรวจรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตภายใน
โรงเรียน จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการ
เรียนรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ โดยครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดย
กำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายในกลมุ่ มีบทบาทหนา้ ทีข่ องตนเองและลงมือปฏิบัติกิจกรรม ดังน้ี
• สมาชิกคนท่ี 1-2 ทำหน้าท่ีเตรียมวัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมสำรวจรูปแบบ
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสง่ิ มีชีวติ ภายในโรงเรียน
• สมาชิกคนที่ 3 ทำหน้าทอ่ี า่ นวธิ ีปฏบิ ตั ิกิจกรรม และนำมาอธบิ ายใหส้ มาชิกในกลมุ่ ฟงั
• สมาชิกคนท่ี 4 ทำหน้าที่ศึกษาและสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับรูปแบบความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
ภายในโรงเรียน
• สมาชิกคนท่ี 5-6 ทำหน้าท่ีสำรวจสิ่งมีชีวติ ภายในโรงเรยี นให้ได้มากที่สุด และบันทึกผลลงใน
สมุดประจำตัวนกั เรียน

4. เมื่อสมาชิกในกลุ่มทำหน้าที่ของตนเองแล้ว ให้สมาชิกคนท่ี 4 อธิบายทฤษฎี หรือรูปแบบ
ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ มีชีวติ ให้สมาชกิ ภายในกลุ่มเข้าใจ

5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันกำหนดปัญหาและตั้งสมมติฐาน จากนั้นรว่ มกันวเิ คราะห์สิ่งมีชีวิตท่ีได้
จากการสำรวจ และระบุรูปแบบความสัมพันธ์ของสง่ิ มีชีวิต

6. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าชั้นเรียน ในระหว่างที่นักเรียน
นำเสนอ ครคู อยให้ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม เพ่ือใหน้ กั เรยี นมีความเขา้ ใจทถี่ ูกต้อง
(หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)

7. ครูถามคำถามท้ายกิจกรรม โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพ่ือหา
คำตอบ ดงั น้ี
• ในบรเิ วณทส่ี ำรวจ ส่งิ มชี วี ติ ค่ใู ดบ้างที่มีความสมั พนั ธ์กัน
(แนวตอบ : ขึน้ อยกู่ บั ผลกจิ กรรม ตัวอย่างคำตอบเชน่ พชื กบั มนุษย์)
• สิ่งมีชีวิตชนิดใดได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ หรือไม่ได้และไม่เสียประโยชน์จากการอยู่
ร่วมกัน
(แนวตอบ : ขึ้นอยู่กับผลกิจกรรม ตัวอย่างคำตอบเช่น ดอกไม้กับผีเสื้อ นกทำรังบนต้นไม้
แมวกบั หนู)

8. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการปฏิบัติกิจกรรม สำรวจรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่าง
ส่ิงมีชีวิตภายในโรงเรียน เพ่ือให้ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า “ส่ิงมีชีวิตไม่สามารถอยู่อย่างโดดเด่ียวได้
จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์กับส่ิงมีชีวิตอื่นเพ่ือประโยชน์ในการดำรงชีวิต ซ่ึงความสัมพันธ์ของ
ระหวา่ งส่งิ มหี ลายรปู แบบ”

ชวั่ โมงท่ี 2-3

9. นกั เรียนแบ่งกล่มุ ออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน และส่งตัวแทนกลุ่มออกมาจบั สลากหมายเลข
1-4 โดยแต่ละหมายเลขมขี ้อความลกั ษณะความสัมพนั ธข์ องส่ิงมีชวี ิต ดงั น้ี
• หมายเลข 1 สิง่ มีชีวติ ต้องดำรงชวี ิตอยู่ดว้ ยกันตลอดเวลา ไมส่ ามารถแยกจากกนั ได้

30

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 2 ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสิง่ มชี วี ิตในระบบนเิ วศ

• หมายเลข 2 ส่ิงมีชีวิตดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างอิสระ ถ้ามาอยู่ร่วมกันต่างฝ่ายจะให้ประโยชน์ซึ่งกัน
และกัน

• หมายเลข 3 สิ่งมีชีวิตต้องอาศัยสิ่งมีชีวิตอ่ืนเพ่ือการดำรงชีวิต โดยสิ่งมีชีวิตท่ีมาอาศัยจะ
ก่อใหเ้ กิดโรค

• หมายเลข 4 สง่ิ มีชีวิตดำรงชีวติ อยไู่ ดด้ ว้ ยการลา่ สิ่งมีชวี ติ อืน่ เปน็ อาหาร
10. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับรูปแบบความสัมพันธ์ของส่ิงมีชีวิตท่ีกลุ่มตนเองจับ

สลากได้ จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ระบบนิเวศ หรือแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุด พร้อมยกตัวอย่างส่ิงมีชีวิต
ท่ีมรี ูปแบบความสมั พันธ์น้นั มาอย่างนอ้ ย 5 คู่
11. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายเร่ืองท่ีได้ศึกษา จากน้ันส่งตัวแทนกลุ่มออกมาเสนอข้อมูล
หน้าช้นั เรยี น จากน้ันใหน้ ักเรยี นรว่ มกันสรุปความรทู้ ่ีได้ลงในสมุดประจำตัวนกั เรียน
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ และรายบคุ คล)
12. นักเรียนแบ่งกลุ่มเดิมทำกิจกรรม ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิต จากหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ โดยครูใช้รูปแบบ
การเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายในกลุ่ม
มบี ทบาทหนา้ ทีข่ องตนเอง ดงั นี้

•สมาชิกคนท่ี 1-2 ทำหน้าท่ีเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมความสัมพันธ์
ระหวา่ งส่ิงมีชวี ิต

• สมาชิกคนท่ี 3-4 ทำหนา้ ทอี่ ่านวิธปี ฏิบัติกิจกรรม และนำมาอธิบายใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ ฟงั
• สมาชกิ คนท่ี 5-6 ทำหน้าทบ่ี ันทึกผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมลงในสมดุ ประจำตัวนักเรยี น
13. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันกำหนดปัญหาและต้ังสมมติฐาน จากน้ันร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมตาม
ข้นั ตอน จากหนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรู้
ท่ี 1 ระบบนเิ วศ
ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
14. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้และวิเคราะห์ผลการปฏิบัติกิจกรรม แล้วอภิปราย
ผลร่วมกัน
15. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าชั้นเรียน ในระหว่างที่นักเรียน
นำเสนอ ครูคอยใหข้ อ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม เพอื่ ให้นักเรยี นมีความเขา้ ใจที่ถูกตอ้ ง
(หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินการนำเสนอผลงาน)
16. ครูถามคำถามท้ายกิจกรรม โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพ่ือหา
คำตอบ ดังน้ี
• เมื่อเวลาผา่ นไปคา่ pH ทว่ี ดั ไดจ้ ากชดุ ทดลองทัง้ 4 ชดุ เป็นอยา่ งไร
(แนวตอบ : คา่ pH ของชดุ การทดลองท่ี 1 และ 3 มีค่าตำ่ ลง ส่วนคา่ pH ของชุดการทดลองท่ี 2
และ 4 มคี า่ เทา่ เดิมหรือไม่ลดลงไปจากเดิม)
• ความสัมพันธร์ ะหวา่ งปลากบั สาหร่ายเปน็ ความสัมพันธร์ ปู แบบใด
(แนวตอบ : ภาวะพ่งึ พากนั )

31

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 2 ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสิง่ มชี วี ติ ในระบบนเิ วศ

17. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการปฏิบัติกิจกรรม ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต เพ่ือให้ได้
ข้อสรุปร่วมกันว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ
ส่ิงแวดล้อมล้วนมีความสัมพันธ์กัน จากการทดลองปลาต้องอาศัยน้ำและสาหร่ายในการดำรงชีวิต
รูปแบบความสัมพันธร์ ะหวา่ งปลากับสาหร่ายจึงต้องเป็นแบบภาวะพึ่งพากนั แต่ในธรรมชาติปลา
ตอ้ งอาศัยอยู่ร่วมกบั ส่ิงมีชีวิตอนื่ มากมาย ไม่เพยี งแค่สาหร่าย ดงั นัน้ รปู แบบความสัมพนั ธ์ระหว่าง
ปลากับสาหร่ายจงึ เปน็ แบบภาวะการได้ประโยชนร์ ่วมกัน”

18. ครูเตรียมสลากช่ือสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ ได้แก่ รา นกเอ้ียง เหาฉลาม ฉลาม กาฝาก ควาย ต้นไม้
มนุษย์ สาหร่าย และนก จากน้นั ให้นกั เรียนแต่ละคนจับสลากชื่อสิง่ มีชีวิต ซ่ึงนักเรียนท่ีจับสลากได้
ช่ือสง่ิ มีชีวติ เดียวกันใหม้ ารวมกลุม่ กัน

19. ครูอธิบายเพ่มิ เติมใหน้ ักเรียนเข้าใจเกย่ี วกบั ประชากร และกล่มุ ส่งิ มชี ีวิตวา่ “นกั เรียนแตล่ ะคนทถ่ี ือ
สลากชื่อส่ิงมีชีวิตล้วนเป็นสิ่งมีชีวิต ในความเป็นจรงิ สิ่งมีชีวิตไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในระบบนิเวศได้
โดยลำพัง เม่ือนักเรียนที่จับสลากได้ชื่อสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันมารวมกลุ่มกันในแหล่งที่อยู่เดียวกัน
และเวลาเดียวกัน เรียกว่า ประชากร (population) ดังนั้น ในห้องเรียนน้ีจึงประกอบด้วย
ประชากรของสง่ิ มีชีวติ หลายชนดิ มาอย่รู วมกัน เรียกวา่ กลมุ่ ส่งิ มชี วี ิต (community)”

20. ให้นักเรียนแต่ละคนท่ีถือสลากชื่อสิ่งมีชีวิตเลือกจับคู่กับเพื่อนท่ีถือสลากชื่อส่ิงมีชีวิตอีกคนหนึ่ง
แลว้ ระบุความสัมพันธ์ของสิ่งมชี วี ติ

21. ครูสมุ่ นักเรียน 5-10 คู่ ระบุและอธิบายความสมั พนั ธข์ องส่งิ มีชีวิต
22. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า “ความสัมพันธ์ของส่ิงชีวิตที่นอกเหนือจากภาวะอิงอาศัย

ภาวะพ่ึงพากัน ภาวะปรสิต และการล่าเหย่ือ เช่น ภาวะการได้ประโยชน์ร่วมกัน ซ่ึงส่ิงมีชีวิต
ทงั้ สองฝา่ ย สามารถแยกกนั อยไู่ ด้ รวมทั้งภาวะการแก่งแย่งแข่งขันกัน เปน็ ความสมั พันธ์ทีส่ ่ิงมชี ีวิต
ท้ังสองฝ่ายต่างเสยี ประโยชน์ท้ังคู่ เนื่องจากมีการแก่งแย่งแข่งขันกันระหว่างสิ่งมีชวี ิตชนิดเดียวกัน
และต่างชนดิ กนั ”
23. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเน้ือหาเกี่ยวกับ เรือ่ ง ความสัมพันธ์ระหวา่ งส่ิงมชี ีวิตในระบบนิเวศ
และให้ความรู้เพ่ิมเติม โดยครูอาจใช้ PowerPoint เร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตใน
ระบบนิเวศ
24. ให้นักเรียนทำ Topic Questions เร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศ จากหนังสือ
เรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ
ลงในสมุดประจำตัวนักเรยี น
25. ให้นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกหัด เร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ จาก
แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ เป็น
การบา้ นส่งในชว่ั โมงถดั ไป
ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
26. ครูกำหนดปัญหาเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกในปัจจุบันท่ีมักแพร่ระบาดในช่วงฤดูฝน โดยให้นักเรียน
ออกแบบสิ่งมีชีวิตในบ่อน้ำเพื่อแก้ปัญหา บ่อน้ำขังกลางแจ้งท่ีถูกปล่อยทิ้งร้างลงในใบงานท่ี 1.2
เรือ่ ง ความสัมพนั ธ์ระหว่างสงิ่ มีชวี ิต พร้อมอธบิ ายรูปแบบความสมั พนั ธ์ของสง่ิ มชี ีวติ

ข้ันสรุป

32

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 2 ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่ิงมชี วี ติ ในระบบนเิ วศ

นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเก่ียวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ซึ่งควรได้ข้อสรุป
ร่วมกันว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศล้วนมีความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตทั้งทางตรงและ
ทางอ้อม ซ่ึงส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศมีอยู่หลายชนิดแต่ละชนิดต่างมีรูปแบบความสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน เช่น
ภาวะอิงอาศัย ภาวะพ่ึงพากัน ภาวะปรสิต ภาวะการล่าเหยื่อ ภาวะการแก่งแย่งแข่งขัน และภาวะการได้
ประโยชนร์ ว่ มกนั ”

ขัน้ ประเมิน

ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในสมดุ ประจำตวั นกั เรยี น
2. ครูตรวจสอบผลการปฏบิ ัติกิจกรรม สำรวจรปู แบบความสัมพนั ธ์ระหว่างส่งิ มชี วี ิตภายในโรงเรยี น
3. ครูตรวจสอบผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ความสัมพันธ์ระหวา่ งส่งิ มีชวี ิต
4. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง ความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่งิ มีชวี ติ
5. ครูตรวจ Topic Questions เร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศ ในสมุดประจำตัว
นกั เรียน
6. ครูตรวจแบบฝึกหัด เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศ จากแบบฝึกหัด
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนิเวศ
7. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ และจากการนำเสนอผลการปฏิบัตกิ ิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน

33

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 2 ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่งิ มชี วี ติ ในระบบนเิ วศ

7. การวัดและประเมินผล

รายการวดั วธิ กี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์
การประเมิน

7.1 ประเมินระหว่างการจัด

กิจกรรมการเรยี นรู้

1) ความสัมพันธ์ระหว่าง - ตรวจใบงานที่ 1.2 - ใบงานท่ี 1.2 - ร้อยละ 60

ส่ิงมชี วี ติ ในระบบนิเวศ - ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมุดประจำตัว หรือ ผ่านเกณฑ์

หรือแบบฝกึ หดั แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ - ร้อยละ 60

วิทยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 ผา่ นเกณฑ์

เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1

2) ผลบันทึกการปฏิบัติ - ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมดุ ประจำตัว หรือ - รอ้ ยละ 60

กิจกรรมสำรวจรูปแบบ หรือแบบฝึกหัด แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์

ความสัมพันธ์ระหว่าง วทิ ยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1

สง่ิ มชี ีวิตภายในโรงเรยี น เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1

3) ผลบันทึกการปฏิบัติ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตัว หรอื - รอ้ ยละ 60

กิจกรรมความสัมพันธ์ หรือแบบฝึกหัด แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์

ระหวา่ งสิง่ มชี ีวิต วทิ ยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1

เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1

4) การนำเสนอผลงาน/ผล - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ การนำเสนอ - ระดบั คุณภาพ 2

การปฏบิ ตั ิกิจกรรม ผลงาน/ผลการปฏบิ ตั ิ ผลงาน ผ่านเกณฑ์

กจิ กรรม

5) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล

6) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2
กลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์

34

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 2 ความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่ิงมชี วี ิตในระบบนเิ วศ

รายการวดั วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
การประเมิน
7 ) คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ อั น พึ ง - สังเกตความมวี ินัย - แบบประเมินคุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์ - ระดับคุณภาพ 2
ประสงค์ รับผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ ผ่านเกณฑ์

และมุ่งมัน่ ในการ

ทำงาน

8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
ระบบนิเวศ
2) แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ
3) ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ความสัมพันธ์ระหว่างสิง่ มชี วี ติ
4) วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรม สำรวจรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตภายใน
โรงเรยี น
5) วสั ดุอปุ กรณ์ท่ีใช้ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ความสมั พนั ธ์ระหว่างสง่ิ มชี ีวิต
6) PowerPoint เรอ่ื ง ความสัมพันธ์ระหวา่ งสง่ิ มชี ีวติ ในระบบนิเวศ
7) สลากช่อื ส่ิงมชี วี ติ ชนดิ ต่าง ๆ
8) สมดุ ประจำตัวนกั เรยี น

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องเรียน
2) อินเทอร์เนต็
3) หอ้ งสมดุ

35

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 2 ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่งิ มชี วี ิตในระบบนเิ วศ

ใบงานที่ 1.2

เรอ่ื ง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่ิงมชี วี ิต

คำชี้แจง : ออกแบบและวาดภาพสง่ิ มชี วี ิตในบอ่ น้ำกลางแจ้งท่มี ีลกู นำ้ เปน็ จำนวนมาก และอธิบายรปู แบบ
ความสมั พันธ์ของสิ่งมีชีวติ

คสู่ ิ่งมีชีวิต รูปแบบความสัมพนั ธ์ระหว่างสิง่ มชี ีวิต

36

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ระบบนเิ วศ เฉลย
แผนฯ ท่ี 2 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสงิ่ มชี วี ิตในระบบนเิ วศ

ใบงานที่ 1.2

เรอื่ ง ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสงิ่ มีชวี ิต

คำชแี้ จง : ออกแบบและวาดภาพสง่ิ มีชวี ิตในบ่อน้ำกลางแจ้งทมี่ ีลูกนำ้ เป็นจำนวนมาก และอธบิ ายรปู แบบ
ความสัมพนั ธ์ของสิ่งมชี ีวิต

(ขน้ึ อย่กู ับดุลยพนิ จิ ของผสู้ อน โดยพจิ ารณาจากความถูกตอ้ งและเหมาะสมของขอ้ มูล)

คู่ส่ิงมีชีวติ รปู แบบความสัมพันธร์ ะหวา่ งสิ่งมชี ีวติ

37

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ 
แผนฯ ที่ 2 ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสง่ิ มชี ีวติ ในระบบนเิ วศ

สลากชื่อส่งิ มชี วี ติ ชนิดต่าง ๆ

นกเอี้ยง เหาฉลาม

กาฝาก รา
ฉลาม ควาย
ต้นไม้ มนษุ ย์
สาหรา่ ย นก

38

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 2 ความสัมพนั ธ์ระหว่างสง่ิ มชี ีวิตในระบบนเิ วศ

9. ความเหน็ ของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงช่ือ
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปญั หา/อปุ สรรค

 แนวทางการแก้ไข

39

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 3 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 3

โซ่อาหารและสายใยอาหาร

เวลา 4 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั

ว 1.1 ม.3/3 สร้างแบบจำลองในการอธบิ ายการถา่ ยทอดพลงั งานในสายใยอาหาร
ว 1.1 ม.3/4 อธบิ ายความสมั พนั ธ์ของผผู้ ลติ ผูบ้ ริโภค และผูย้ อ่ ยสลายสารอินทรียใ์ นระบบนเิ วศ
ว 1.1 ม.3/5 อธิบายการสะสมสารพิษในโซ่อาหาร

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายการถ่ายทอดพลังงานจากผู้ผลิตไปยงั ผ้บู รโิ ภคลำดบั ตา่ ง ๆ ได้ (K)
2. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ของผูผ้ ลิต ผูบ้ ริโภค และผู้ย่อยสารอินทรยี ใ์ นระบบนเิ วศได้ (K)
3. อธิบายการสะสมสารพิษในโซ่อาหารได้ (K)
4. สรา้ งแบบจำลองการถา่ ยทอดพลังงานในสายใยอาหารได้ (P)
5. ตระหนักถึงอันตรายจากปริมาณสารพิษท่สี ะสมในโซอ่ าหาร (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

• กลุ่มส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศแบ่งตามหน้าท่ีได้เป็น
3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลาย
สารอินทรีย์ ส่ิงมีชีวิตท้ัง 3 กลุ่มน้ี มีความสัมพันธ์กัน
ผู้ผลิต เป็ น สิ่งมี ชีวิต ท่ี สร้างอาห ารได้เอง โด ย
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ผู้บริโภคเป็น
ส่ิงมีชีวิตท่ีไม่สามารถสร้างอาหารได้เอง และต้องกิน
ผู้ผลิตหรือสิ่งมีชีวิตอ่ืนเป็นอาหาร เม่ือผู้ผลิตและ
ผู้ บ ริโภ ค ต าย ล ง จ ะ ถู ก ย่ อ ย โด ย ผู้ ย่ อ ย ส ล าย
สารอินทรีย์ซ่ึงจะเปล่ียนสารอินทรีย์เป็นสารอนินทรีย์
กลับคืนสู่ส่ิงแวดล้อม ทำให้เกิดการหมุนเวียนสาร
เป็นวัฏจักร จำนวนผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลาย
สารอินทรีย์จะต้องมีความเหมาะสม จึงทำให้กลุ่ม
ส่งิ มีชีวิตอยูไ่ ดอ้ ยา่ งสมดลุ

41

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน
แผนฯ ท่ี 3 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
• พลังงานถูกถ่ายทอดจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคลำดับ

ต่าง ๆ รวมท้ังผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ในรูปแบบ
สายใยอาหารท่ีประกอบด้วยโซ่อาหารหลายโซ่ที่
สัมพันธ์กัน ในการถ่ายทอดพลังงานในโซ่อาหาร
พลังงานท่ีถูกถ่ายทอดไปจะลดลงเรื่อย ๆ ตามลำดับ
ของการบริโภค
• การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ อาจทำให้มี
สารพิษสะสมอยู่ในส่ิงมีชีวิตได้ จนอาจก่อให้เกิด
อันตรายต่อสิ่งมีชีวิต และทำลายสมดุลในระบบนิเวศ
ดังน้ันการดูแลรักษาระบบนิเวศให้เกิดความสมดุล
และคงอย่ตู ลอดไปจงึ เปน็ สิ่งสำคญั

4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

สิ่งมีชวี ิตในระบบนิเวศ มีความเกี่ยวข้องสัมพนั ธ์กัน โดยสง่ิ มีชีวิตในบริเวณเดียวกันจะมีการถ่ายทอด
พลังงานผ่านการกินต่อกันเป็นทอด ๆ โดยเร่ิมจากสิ่งมีชีวิตท่ีเป็นผู้ผลิตถ่ายพลังงานไปยังผู้บริโภคลำดับ
ต่อไปเร่ือย ๆ เรียกว่า โซ่อาหาร ในธรรมชาติส่ิงมีชีวิตไม่ได้กินสิ่งมีชีวิตอื่นเพียงชนิดเดียว แต่มีการกิน
มากกวา่ 1 ชนิด จึงทำให้มกี ารถา่ ยทอดพลงั งานท่ซี บั ซ้อนมากกวา่ เรยี กวา่ สายใยอาหาร

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี นิ ัย รบั ผิดชอบ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

2) ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มลู

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : 5Es Instructional Model

ช่วั โมงที่ 1

ขน้ั นำ
ขั้นที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage)

42

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 3 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร

1. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3
เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนิเวศ โดยบนั ทกึ ลงในสมุดประจำตวั นักเรียน

2. นักเรียนทำกิจกรรม Engaging Activity โดยพิจารณาภาพท้ังหมด 9 ภาพ จากหนังสือเรียน
รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ จากนั้น
นำหมายเลขที่อยู่ใต้ภาพมาเรียงลำดับการกินตามความคิดของนักเรียน แล้วให้นักเรียนเขียน
สญั ลกั ษณ์ลกู ศรแทนการกิน โดยใหห้ ัวลกู ศรช้ไี ปทางหมายเลขของผบู้ รโิ ภค

3. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมาเขียนคำตอบของตนเองหน้าชั้นเรียน โดยให้เพ่ือนในชั้นเรียน
รว่ มกันพิจารณาและเสนอความคิดวา่ คำตอบถูกต้องหรือไม่ และควรเป็นอย่างไร จากนั้นนักเรียน
และครูร่วมกันอภิปรายจากการทำกิจกรรม Engaging Activity วา่ “สิ่งมีชีวิตมีความสัมพันธ์แบบ
กินกันเป็นอาหาร โดยในธรรมชาติสง่ิ มีชีวิตชนิดหนึ่งสามารถบริโภคส่งิ มีชวี ิตอนื่ ไดม้ ากกว่า 1 ชนิด
กลายเป็นความสัมพันธ์ของสงิ่ มชี วี ิตทมี่ ีความซบั ซอ้ น”

ขน้ั สอน

ขัน้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูถามคำถาม Key Question จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ เพ่ือทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนว่า “พลังงานท่ี
มนุษย์ใช้ทำกิจกรรมมาจากแหลง่ ใด และถ่ายทอดมาสูม่ นุษยไ์ ดอ้ ย่างไร”
(แนวตอบ : พลังงานท่ีมนุษย์ใช้ทำกิจกรรมมาจากการบริโภคอาหาร โดยเริ่มต้นจากพืชเปลี่ยน
พลงั งานแสงจากดวงอาทติ ยใ์ ห้เป็นพลังงานเคมแี ลว้ ถ่ายทอดมาสู่ผูบ้ รโิ ภคพืชไปสูม่ นุษย์ ตามลำดับ
โดยมนุษยส์ ามารถไดร้ บั พลังงานจากพชื โดยการบรโิ ภคพืชหรือบรโิ ภคสตั วท์ ่ีบริโภคพืชกไ็ ด้)
2. ครูตัง้ ประเด็นคำถามกระตุ้นความคิดนกั เรียนว่า “ถ้าส่ิงมีชีวิตไม่มีการกินกนั เป็นทอด ๆ จะสง่ ผล
กระทบกับส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศอย่างไร” โดยให้นักเรียนแต่ละคนร่วมกันอภิปรายแสดงความ
คิดเห็นอยา่ งอิสระโดยไมม่ กี ารเฉลยวา่ ถกู หรือผิด
(แนวตอบ : ส่ิงมีชีวิตชีวิตนั้นจะมีโอกาสสูญพันธ์ุมากกว่าสิ่งมีชีวิตท่ีกินสิ่งมีชีวิตอื่นได้หลากหลาย
กวา่ นอกจากนีใ้ นระบบนิเวศนนั้ จะไม่เกิดการถา่ ยทอดพลังงาน)
3. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม ตามความสมัครใจ จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษา
ค้นคว้าข้อมูลเก่ียวกับเรื่อง โซ่อาหารและการเขียนแผนภาพโซ่อาหาร จากหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ หรือแหล่งการ
เรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุด เม่ือสมาชิกคนใดเข้าใจแล้ว อธิบายให้เพ่ือนสมาชิกใน
กลมุ่ เขา้ ใจเพื่อความรวดเร็วในการศึกษาเนื้อหา
4. ครกู ำหนดและเขยี นช่ือสง่ิ มชี ีวติ บนกระดานใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่ม ดงั นี้
• กลุ่มที่ 1 : มนุษย์ แซลม่อน แพลงก์ตอนสตั ว์ ฉลาม แพลงก์ตอนพืช
• กลมุ่ ท่ี 2 : กะหล่ำปลี เหย่ียว หนอน งู นกกระจอก
• กลุ่มท่ี 3 : แมว สิงโต หนู ข้าวโพด สุนัขจ้งิ จอก
5. นักเรียนแต่ละกลุ่มวิเคราะห์ส่ิงมีชีวิตท่ีครูกำหนดให้ และร่วมกันเขียนแผนภาพโซ่อาหารลงใน
กระดาษ A4 วาดภาพระบายสีสง่ิ มชี วี ติ พรอ้ มตกแต่งใหส้ วยงาม

43

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 3 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร

ชวั่ โมงท่ี 2-3

ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
6. ให้ตัวแทนกลุ่มของแต่ละกลุ่มนำเสนอโซ่อาหารของตนเอง โดยนำผลงานของตนเองไปติดไว้บน

กระดานด้วยสกอตเทป และนำเสนอผลงาน เม่ือตัวแทนกลุ่มนำเสนอจบแล้ว นักเรียนคนใดมีข้อ

สงสัย หรือข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม ให้ยกมือแล้วลุกขึ้นถามคำถามหรือแสดงความคิดเห็นให้กับ
ผลงานของเพื่อนกลุ่มอ่ืน ในระหว่างนี้ ครูจะประเมินความถูกต้องของโซ่อาหารและอธิบาย

เพิม่ เติมให้นักเรยี นเกิดความเข้าใจทต่ี รงกัน

7. เม่ือตัวแทนทั้ง 3 กลุ่มนำเสนอครบทั้ง 3 กลุ่มแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียน 1-2 คน อธิบายเกี่ยวกับ
“สายใยอาหาร”

8. ครูอธิบายเพ่ิมเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า “ในธรรมชาติสิ่งมีชีวิตไม่ได้กินส่ิงมีชีวิตเพียงชนิดเดียว แต่

สามารถกินสิ่งมีชีวิตอื่นได้มากกว่า 1 ชนิด ทำให้เกิดการกินที่ซับซ้อน หรือมีโซ่อาหารมากกว่า
หลายโซ่ เรยี กวา่ สายใยอาหาร”

9. ครูตั้งประเด็นกระตุ้นความคิดของนักเรียนว่า หากสิ่งมีชวี ิตท่ีครกู ำหนดให้กับแต่ละกลุ่มข้างต้นอยู่

ในระบบนิเวศเดียวกันจะเกิดการกินท่ีซับซ้อน ให้นักเรียนเขียนแผนภาพสายใยอาหารของ
ระบบนเิ วศนี้

10. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสายใยอาหารเพ่ือให้ได้ข้อสรุปว่า สายใยอาหารของระบบนิเวศนี้

สามารถเขยี นไดจ้ ากการนำโซ่อาหารของแตล่ ะกลุม่ มาเชอื่ มโยงกันเป็นสายใย ดงั น้ี
โซ่อาหารกลมุ่ ท่ี 1 : แพงก์ตอนพืช → แพลงก์ตอนสตั ว์ → แซลม่อน → ฉลาม → มนุษย์
โซอ่ าหารกลมุ่ ที่ 2 : กะหล่ำปลี → หนอน → นกกระจอก → งู → เหยีย่ ว
โซ่อาหารกลุ่มที่ 3 : ขา้ วโพด → หนู → แมว → สุนัขจิ้งจอก → สงิ โต

สายใยอาหาร

มนษุ ย์ เหย่ยี ว สิงโต

ฉลาม งู สนุ ขั จิง้ จอก

แซลมอ่ น นกกระจอก แมว

แพลงกต์ อนสตั ว์ หนอน หนู

แพลงกต์ อนพืช กะหล่ำปลี ขา้ วโพด

11. ครูต้ังประเด็นถามคำถามให้นักเรียนคิดต่อไปว่า ปริมาณพลังงานที่ถ่ายทอดจากผู้ผลิตไปยัง

ผู้บริโภคจะมากขน้ึ หรือนอ้ ยลง ซ่งึ นักเรียนจะไดท้ ราบหลงั ทำกจิ กรรมตอ่ ไปนี้

12. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษา

กิจกรรม จำลองการถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหารจากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน

44

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 3 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร

วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ จากนน้ั ให้สมาชกิ ภายใน
กลุม่ ผลัดกันอธบิ ายแลกเปลยี่ นความรูเ้ พื่อใหเ้ กดิ ความเข้าใจทีต่ รงกนั ก่อนเร่ิมปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
13. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคน
ภายในกลมุ่ มบี ทบาทหน้าทีข่ องตนเอง ดังน้ี
• สมาชิกคนท่ี 1-2 ทำหน้าที่เตรียมวัสดุอปุ กรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมจำลองการถา่ ยทอด

พลังงานในสายใยอาหาร
• สมาชกิ คนที่ 3-4 ทำหน้าทอี่ ่านวิธีปฏบิ ัติกิจกรรม และนำมาอธบิ ายใหส้ มาชิกในกลุ่มฟัง
• สมาชิกคนท่ี 5-6 ทำหน้าทบ่ี นั ทึกผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมลงในสมดุ ประจำตวั นักเรยี น
14. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนเพื่อสร้างแบบจำลอง จากหนังสือเรียน
รายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ

ช่ัวโมงที่ 4

15. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแบบจำลองหน้าช้ันเรียน ในระหว่างท่ีนักเรียนนำเสนอ ครูคอย
ใหข้ อ้ เสนอแนะเพิม่ เติม เพ่ือให้นักเรยี นมคี วามเข้าใจทีถ่ ูกตอ้ ง
(หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมินการนำเสนอผลงาน)

16. ครูถามคำถามท้ายกิจกรรม โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพ่ือหา
คำตอบ ดงั นี้
- ส่งิ มีชีวติ เร่มิ ต้นของสายใยอาหารเปน็ สง่ิ มชี ีวติ ชนิดใด
(แนวตอบ : พืช)
- ผ้บู ริโภคลำดับที่ 1 มกั เปน็ ส่งิ มชี วี ิตประเภทใด
(แนวตอบ : ผบู้ ริโภคพชื )
- ระดับพลังงานในสายใยอาหารทถ่ี กู ถ่ายทอดไปตามลำดับข้นั เป็นอย่างไร
(แนวตอบ : ลดลงตามลำดับของผู้บรโิ ภคทสี่ งู ขึ้น)

17. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการปฏิบัติกิจกรรม จำลองการถ่ายทอดพลังงานในสายใย
อาหาร เพ่ือให้ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า “ปริมาณพลังงานจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคลำดับต่าง ๆ
จะลดลงไปทีละขั้นตามลำดับของผู้บริโภคที่สูงขึ้น เนื่องจากส่ิงมีชีวิตไม่ได้กินสิ่งมีชีวิตอื่นท้ังหมด
มีบางส่วนท่ีไม่สามารถย่อยสลายหรือดูดซึมไปใช้ได้ รวมท้ังในการดำรงชีวิตประจำวัน พลังงาน
ความร้อนบางส่วนจะถูกถ่ายโอนสู่สิ่งแวดล้อม ดังนั้น แบบจำลองที่สร้างควรมีลักษณะคล้ายกับ
พีระมดิ ฐานสามเหลย่ี ม”

18. ครูถามนักเรียนว่า แล้วปริมาณสารพิษท่ีปนเปื้อนในโซ่อาหารจะเป็นอย่างไร เหมือนกับการ
ถ่ายทอดปริมาณพลังงานหรือไม่ อย่างไร ให้นักเรียนเสนอความคิดอย่างอิสระ แล้วครูจึงค่อยเฉลย
คำตอบทถี่ กู ตอ้ ง
(แนวตอบ : ไม่เหมือนกัน ปริมาณสารพิษที่ปนเป้ืนในโซ่อาหารจะเพ่ิมขึ้น ตามลำดับ โดยเร่ิมจาก
ผู้ผลิตไปยงั ผบู้ ริโภค ซึ่งผูบ้ ริโภคลำดบั สดุ ทา้ ยจะได้รบั ปรมิ าณสารพิษมากทส่ี ุด)

45

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 3 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร

19. อธิบายเพ่ิมเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า “สารพิษท่ีปนเปื้อนสู่ส่ิงแวดล้อม จะปนเป้ือนไปตามโซ่อาหาร
เช่นกัน โดยเร่ิมจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคลำดับท่ีสูงข้ึน ปริมาณสารพิษจะเพิ่มข้ึนตามลำดับของ
ผู้บริโภค ดังนน้ั ผู้บรโิ ภคลำดบั สดุ ท้ายจะได้รบั ปริมาณสารพิษมากที่สุด”

20. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเนื้อหาเกี่ยวกับ เรื่อง โซ่อาหารและสายใยอาหาร และให้ความรู้
เพิ่มเติมจากคำถามของนักเรียน โดยครูใช้ PowerPoint เรื่อง โซ่อาหารและสายใยอาหาร
ในการอธบิ ายเพิม่ เตมิ

21. นักเรียนแต่ละคนศึกษาค้นคว้าขอ้ มูลเพิ่มเติมเก่ียวกับสายใยอาหาร จาก QR Code เร่ือง สายใย
อาหาร

22. ให้นักเรียนทำ Topic Questions เรื่อง โซ่อาหารและสายใยอาหาร จากหนังสือเรียนรายวิชา
พ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ ลงในสมุด
ประจำตวั นกั เรยี น

23. ให้นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกหัด เรื่อง โซอ่ าหารและสายใยอาหาร จากแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ เป็นการบ้านสง่ ในชั่วโมงถัดไป

ขัน้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
24. ให้นักเรียนวิเคราะห์สายใยอาหารจากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 1 หน้า 26 แล้วเขียนโซ่อาหารทั้งหมดลงในกระดาษ A4 พร้อมกับสืบค้นข้อมูลเพ่ิมเติม
เพ่ือระบุประเภทของโซ่อาหารแต่ละโซ่อาหาร ตกแต่งชิ้นงานให้สวยงาม แล้วนำมาส่งครูในวัน
ถดั ไป

ขน้ั สรปุ

นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับโซ่อาหารและสายใยอาหาร ซ่ึงควรได้ข้อสรุปร่วมกันว่า
“การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศเป็นรูปแบบความสมั พันธ์ระหวา่ งสิ่งมีชวี ิตท่ีสำคัญอยา่ งหน่ึงในระบบนิเวศ
ซงึ่ โซ่อาหารมคี วามสัมพันธ์กับส่ิงมชี วี ติ ในบรเิ วณเดียวกันทมี่ กี ารถ่ายทอดพลังงานผ่านการกินต่อกนั เป็นทอด ๆ
เริ่มจากสงิ่ มีชวี ติ ทเ่ี ป็นผผู้ ลติ และสายใยอาหารเป็นการถ่ายทอดพลังงานผ่านการกินที่ซับซ้อนมากขนึ้ ”

ข้นั ประเมนิ

ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครตู รวจแบบฝึกหดั เรอ่ื ง โซ่อาหารและสายใยอาหาร จากแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ
2. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นก่อนเข้าสูก่ จิ กรรมการเรยี นการสอนจากกรอบ Check for
Understanding ในสมุดประจำตวั นักเรียน
3. ครูตรวจสอบผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม จำลองการถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหาร
4. ครปู ระเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกลุม่ และจากการนำเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมหนา้ ชน้ั เรยี น

46

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 3 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร

7. การวดั และประเมินผล

รายการวัด วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
การประเมิน

7.1 ประเมนิ ระหวา่ งการจัด - ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมดุ ประจำตัว หรือ - รอ้ ยละ 60
กจิ กรรมการเรียนรู้ หรอื แบบฝึกหดั
1) โซอ่ าหารและ วิทยาศาสตร์และ แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์
สายใยอาหาร เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1

และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1

2) ผลบนั ทึกการปฏบิ ัติ - ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมุดประจำตัว หรือ - รอ้ ยละ 60
กิจกรรม จำลองการ หรอื แบบฝึกหัด
ถา่ ยทอดพลงั งานใน วทิ ยาศาสตร์และ แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์
สายใยอาหาร เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1

3) การนำเสนอ ผลงาน/ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการนำเสนอ - ระดบั คุณภาพ 2

ผลการ ปฏิบัติกิจกรรม ผลงาน/ผลการปฏิบตั ิ ผลงาน ผา่ นเกณฑ์

กิจกรรม

4) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล

5) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2
กลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์

6) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมินคุณลักษณะ - ระดับคุณภาพ 2
อนั พึงประสงค์ รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้
และมงุ่ มั่นในการ อนั พึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์
ทำงาน

47

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 3 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ระบบนิเวศ
2) แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ระบบนิเวศ
3) วสั ดุอปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการปฏิบตั ิกจิ กรรมจำลองการถา่ ยทอดพลงั งานในสายใยอาหาร
4) PowerPoint เรอ่ื ง ความสัมพันธ์ระหวา่ งสิ่งมชี วี ติ ในระบบนเิ วศ
5) สมุดประจำตวั นักเรยี น

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งเรียน
2) อนิ เทอร์เน็ต
3) หอ้ งสมุด

48

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 3 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร

9. ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทม่ี ปี ัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

49

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ที่ 4 สมดลุ ระบบนเิ วศ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4

สมดลุ ระบบนเิ วศ

เวลา 2 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั

ว 1.1 ม.3/6 ตระหนักถึงความสัมพันธ์ของส่ิงมีชีวิต และสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศโดยไม่ทำลาย
สมดลุ ของระบบนิเวศ

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายแนวทางการรักษาสมดลุ ของระบบนเิ วศได้ (K)
2. ออกแบบและเสนอวธิ กี ารรกั ษาสมดลุ ของระบบนิเวศได้ (P)
3. ตระหนักถงึ ความสมั พนั ธข์ องส่งิ มชี วี ิตและส่งิ แวดล้อมในระบบนิเวศ (A)
4. มคี วามใฝ่เรียนรู้และมุ่งมนั่ ในการทำงาน (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น
พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

• กลุ่มส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศแบ่งตามหน้าที่ได้เป็น
3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลาย
สารอินทรีย์ สิ่งมีชีวิตทั้ง 3 กลุ่มนี้ มีความสัมพันธ์กัน
ผู้ผลิต เป็ น สิ่งมี ชีวิต ที่ สร้างอาห ารได้เอง โด ย
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ผู้บริโภคเป็น
สิ่งมีชีวิตท่ีไม่สามารถสร้างอาหารได้เอง และต้องกิน
ผู้ผลิตหรือสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหาร เม่ือผู้ผลิตและ
ผู้ บ ริโภ ค ต าย ล ง จ ะ ถู ก ย่ อ ย โด ย ผู้ ย่ อ ย ส ล าย
สารอินท รีย์ซึ่งจะเปลี่ยนสารอินทรีย์เป็ นสาร
อนินทรีย์กลับคืนสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการ
หมุนเวียนสารเป็นวัฏจักร จำนวนผู้ผลิต ผู้บริโภค
และผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์จะต้องมีความเหมาะสม
จงึ ทำให้กลุ่มสง่ิ มชี วี ิตอยไู่ ด้อยา่ งสมดุล

51

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่ิน
แผนฯ ท่ี 4 สมดลุ ระบบนเิ วศ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
• พลังงานถูกถ่ายทอดจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคลำดับ

ต่าง ๆ รวมท้ังผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ในรูปแบบ
ส า ย ใย อ า ห า ร ที่ ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย โ ซ่ อ า ห า ร ห ล า ย โ ซ่
ที่สัมพันธ์กัน ในการถ่ายทอดพลังงานในโซ่อาหาร
พลังงานท่ีถูกถ่ายทอดไปจะลดลงเร่ือย ๆ ตามลำดับ
ของการบรโิ ภค
• การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ อาจทำให้มี
สารพิษสะสมอยู่ในส่ิงมีชีวิตได้ จนอาจก่อให้เกิด
อันตรายต่อสิ่งมีชีวิต และทำลายสมดุลในระบบนิเวศ
ดังนั้นการดูแลรักษาระบบนิเวศให้เกิดความสมดุล
และคงอยตู่ ลอดไปจึงเป็นส่งิ สำคัญ

4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

ในระบบนิเวศต้องมีกระบวนการถ่ายทอดพลงั งานที่เกิดข้นึ พร้อมกับการหมุนเวยี นสาร และในระบบ
นิเวศหน่ึงประกอบด้วยองค์ประกอบท่ีไม่มีชีวิตและองค์ประกอบที่มีชีวิต ซ่ึงมีความสัมพันธ์กันอย่าง
เหมาะสมระบบนิเวศจงึ จะอยใู่ นสภาวะสมดลุ

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้

1) ทักษะการสงั เกต 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

2) ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมลู

3) ทักษะการตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรปุ

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรียนรู้

 แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : 5Es Instructional Model

ช่ัวโมงท่ี 1

ขั้นนำ

ข้นั ที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engage)

1. ครูเปิดข่าวเกี่ยวกับไฟป่าที่เกิดขึ้นกับประเทศออสเตรเลียที่เกิดขึ้นเม่ือวันที่ 20 ธันวาคม 2562
แล้วรว่ มกนั อภปิ รายความเสียหายและผลกระทบทเี่ กิดขึ้น

52

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 4 สมดลุ ระบบนิเวศ

2. ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระว่า เหตุการณ์ไฟป่าท่ีเกิดข้ึนในประเทศออสเตรเลีย
จะสง่ ผลกระทบต่อสมดลุ ของระบบนเิ วศอย่างไรบา้ ง

3. ครูเกร่ินนำว่า นอกเหนือจากไฟป่าแล้ว ยังมีสาเหตุอ่ืนท่ีทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุล โดยครูเตรียม
บตั รภาพ จำนวน 5 ภาพ ไดแ้ ก่ การสร้างเข่ือน คนล่าสัตว์ ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม น้ำเสียที่
ถกู ปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรม และนำ้ มนั ร่วั ไหลกลางทะเล มานกั เรียนศกึ ษา

ขัน้ สอน

ข้ันท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
1. ให้นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ออกเปน็ 5 กล่มุ ตามความสมัครใจของนักเรยี น
2. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนออกมารับบตั รภาพ โดยกลมุ่ ที่ 1 2 3 4 และ 5 รับบัตรภาพที่ 1 2 3
4 และ 5 ตามลำดบั
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มสำรวจบัตรภาพ พร้อมท้ังอธิบายว่า การกระทำท่ีเกิดข้ึนทำให้ระบบนิเวศเสีย
สมดุลอย่างไร
4. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันศึกษาคน้ คว้าข้อมูล จากหนังสอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ หรือแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น
อนิ เทอร์เนต็ และออกแบบกิจกรรมท่ชี ว่ ยรักษาสมดลุ ของระบบนเิ วศจากบัตรภาพ
5. สมาชกิ ภายในกลุ่มร่วมกันอภิปรายแสดงความคดิ เห็น จากน้นั ให้แต่ละกลุ่มรวบรวมข้อมูลท่ีได้จาก
การอภิปรายแสดงความคดิ เห็นลงในกระดาษ A4
(หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ )

ชว่ั โมงท่ี 2

ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
6. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลกระทบท่ีมีต่อระบบนิเวศ และแนวทางการอนุรักษ์ระบบ
นิเวศให้สมดุลหน้าชั้นเรียน ในระหว่างที่นักเรียนนำเสนอ ครูคอยให้ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมเพื่อให้
นกั เรียนมีความเขา้ ใจท่ถี กู ตอ้ ง
(หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
7. นักเรยี นและครรู ่วมกันอภปิ รายผลจากการนำเสนอผลกระทบท่มี ีต่อระบบนิเวศ และแนวทางการ
อนุรกั ษร์ ะบบนเิ วศใหส้ มดลุ เพ่อื ให้ได้ข้อสรปุ รว่ มกนั ดงั นี้
• “ภาพที่ 1 การสรา้ งเข่ือน เป็นการใช้พ้ืนที่ป่าไม้เป็นจำนวนมากเพ่ือสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
ทำให้สูญเสียต้นไม้เป็นจำนวนมาก ทำให้สตั วป์ า่ ไมม่ ีทอ่ี ยู่อาศยั และไม่มีแหลง่ อาหาร ดังนนั้
หากวาดภาพสายใยอาหารจะพบว่า การสร้างเขอ่ื นจะส่งผลกระทบตอ่ ผู้บริโภคพชื เป็นลำดบั แรก
และส่งผลกระทบทางอ้อมต่อผู้บริโภคประเภทอ่ืนตามมาเป็นลำดับ เน่ืองจากสิ่งมีชีวิตมีการกิน
กันเปน็ ทอด ๆ แนวทางการอนรุ ักษอ์ าจจะเรม่ิ จากการปลกู ปา่ ทดแทนพ้ืนทที่ ส่ี ูญเสียไป

53

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 4 สมดลุ ระบบนเิ วศ

• ภาพท่ี 2 คนล่าสัตว์ เป็นการฆ่าสัตว์เพื่อนำอวยั วะต่าง ๆ ของสตั ว์ไปขาย หรอื ล่าสตั วเ์ พอื่ นำมา
บริโภค ซ่ึงจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคส่ิงมีชีวิตชนิดน้ันโดยตรง และส่งผลกระทบโดย
อ้อมตอ่ ส่ิงมีชวี ิตอื่นที่มีความเก่ยี วข้องกับส่ิงมีชวี ิตทบ่ี ริโภคสตั ว์ชนิดนั้น ทำให้จำนวนสิ่งมีชีวติ ใน
โซ่อาหารไม่สมดุล และส่งผลกระทบต่อสายใยอาหารในระบบนิเวศ และทำให้ระบบนิเวศเสีย
สมดุลในที่สุด แนวทางการอนุรักษ์อาจเรม่ิ จากการรณรงค์ไมใ่ ห้มีการล่าสตั ว์ และรว่ มกันอนุรักษ์
ไม่ให้สตั วป์ า่ สูญพนั ธุ์โดยเฉพาพันธุส์ ัตวป์ า่ ทหี่ ายาก

• ภาพที่ 3 ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นมลพิษทางอากาศอย่างหน่ึงท่ีส่งผลกระทบต่อ
สิง่ แวดล้อม ตัวอย่างเช่น โรงงานถา่ นหินท่ีมักปล่อยแก๊สที่มีส่วนประกอบของกำมะถัน เม่ือแก๊ส
เหล่านี้ลอยไปสะสมกับน้ำในบรรยากาศ ส่งผลให้น้ำฝนที่ตกลงมามีฤทธิ์เป็นกรด จะส่งผล
กระทบต่อพืชซึ่งเป็นผู้ผลิตซ่ึงเป็นส่ิงมีชีวิตเร่ิมต้นในโซ่อาหารหรือสายใยอาหาร หากพืชได้รับ
ความเสียหายจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคตามมา แนวทางการอนุรักษ์อาจรณรงค์ให้โรงงาน
อุตสาหกรรมมีการตรวจสอบและกำจัดมลพิษท่ีเกิดข้ึนจากกระบวนการผลิต เพ่ือลดปัญหา
มลพษิ รัว่ ไหลสสู่ ิง่ แวดล้อมใหไ้ ดม้ ากทีส่ ุด

• ภาพที่ 4 น้ำเสียที่ถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นการปล่อยสารเคมีลงสู่แม่น้ำ ทำให้
สัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดน้ำเน่าเสีย นอกจากน้ีน้ำเสียท่ีปล่อยออกจากโรงงาน
อตุ สาหกรรม ยังส่งผลใหม้ ีการสะสมสารเคมใี นโซอ่ าหาร ซ่ึงปริมาณสารเคมที สี่ ะสมจากผู้ผลติ ไป
ยังผู้บริโภค จะเพิ่มข้ึนตามลำดับของผู้บริโภคท่ีสูงข้ึน โดยผู้ท่ีจะได้รับผลกระทบมากท่ีสุด คือ
ผู้บริโภคลำดับสุดท้าย ซ่ึงส่วนใหญ่คือ มนุษย์ แนวทางการอนุรักษ์ คือ รณรงค์ให้โรงงาน
อุตสาหกรรมมีการตรวจสอบและกำจัดมลพิษที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต เพ่ือลดปัญหา
มลพิษรวั่ ไหลสสู่ ิง่ แวดล้อม

• ภาพที่ 5 น้ำมันร่ัวไหลกลางทะเล เป็นการปล่อยสารเคมีลงสู่น้ำทะเลโดยตรง ส่งผลให้สัตว์
ทะเลบางชนิดตายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากน้ำมันท่ีร่ัวไหลปิดก้ันการละลายของออกซิเจนใน
อากาศ ทำให้สัตว์ทะเลขาดออกซิเจนและตายในท่ีสุด นอกจากนี้สารเคมีที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำมัน
อาจทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในน้ำ ทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง และยังทำให้เกิดการ
สะสมสารพิษในโซ่อาหาร ดังนั้น แนวทางการอนุรักษ์ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล
ของน้ำมัน เพ่มิ ความปลอดภัย ตรวจเช็คสภาพเรอื และถังน้ำมนั ให้อยใู่ นสภาพดีกอ่ นขนสง่ ”

8. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถามเนื้อหาเกีย่ วกบั เร่อื ง สมดลุ ระบบนิเวศ และให้ความรูเ้ พ่ิมเติม
9. คำถามของนกั เรียน โดยครูใช้ PowerPoint เรือ่ ง สมดลุ ระบบนิเวศ ในการอธบิ ายเพ่ิมเติม
12. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของปะการังว่า “ปะการังเป็น

ทรพั ยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อบรเิ วณชายฝั่งทะเล เป็นท่ีอยู่อาศัย แหล่งอาหาร แหล่งเพาะพันธ์ุ
ของสตั ว์ทะเล ซงึ่ มีสว่ นช่วยรักษาสมดุลธรรมชาติ”
13. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองจากกรอบ Self Check เร่ือง ระบบนิเวศ จากหนังสือ
เรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ
โดยบนั ทึกลงในสมุดประจำตวั นกั เรียน
14. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำ Unit Questions เรื่อง ระบบนิเวศ จากหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน
วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ โดยทำลงในสมดุ ประจำตัวนักเรยี น
15. นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกหัด เร่ือง สมดุลระบบนิเวศ จากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 ระบบนิเวศ เป็นการบ้านส่งในชว่ั โมงถัดไป

54

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
แผนฯ ท่ี 4 สมดุลระบบนิเวศ

16. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 ระบบนิเวศ เพื่อเป็นการวัดความรู้หลัง
เรยี นของนักเรยี น

17. นักเรียนแต่ละคนนำความรู้ท่ีได้จากการเรียนของหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ มาเขียนสรุป
เป็นแผนผงั มโนทศั น์ ลงในกระดาษ A4 พรอ้ มตกแต่งให้สวยงาม

ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
18. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน ตามความสมัครใจ โดยให้แต่ละกลุม่ ทำกิจกรรม Application
Activity เพื่อระดมความคิดออกแบบกิจกรรมฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเล และนำเสนอแนว
ทางการดูแลรักษาระบบนิเวศตามแนวชายฝั่งทะเล โดยอาจจัดทำเป็นโครงการ หรือทำเป็นแผ่น
พับ แล้วร่วมกันรณรงค์ให้คนในชุมชนไม่ทำลายสิ่งแล้วเพื่อปลูกจิตสำนึก และตระหนักถึงสมดุล
ของระบบนเิ วศ

ขั้นสรปุ

นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเก่ียวกับสมดุลระบบนิเวศ ซึ่งควรได้ข้อสรุปร่วมกันว่า “สิ่งมีชีวิตในระบบ
นิเวศล้วนมีกลไกในการปรับสภาวะตัวเอง เน่ืองจากสิ่งมีชีวิตต่างก็มีบทบาทและหน้าที่ท่ีแตกต่างกัน กล่าวคือ
ส่ิงมชี ีวิตบางชนิดทำหนา้ ทเี่ ป็นผ้ผู ลิต หรอื ผู้บริโภค หรือผู้ยอ่ ยสลายสารอินทรยี ์ ซ่ึงทำใหเ้ กิดการหมุนเวียนสาร
เปน็ วัฏจกั รและเกดิ ข้ึนไปพร้อมกับการถ่ายทอดพลังงาน ทำใหร้ ะบบนิเวศเกดิ ความสมดุล”

ขน้ั ประเมิน

ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูตรวจสอบแบบฝึกหัด เร่ือง สมดุลระบบนิเวศ จากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3
เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ระบบนิเวศ
2. ครูตรวจสอบผลการตรวจสอบความเข้าใจของตนเองจากกรอบ Self Check เร่ือง ระบบนิเวศ
ในสมดุ ประจำตวั นกั เรยี น
3. ครตู รวจแบบฝกึ หดั Unit Questions เร่ือง ระบบนิเวศ ในสมุดประจำตัวนกั เรยี น
4. ครวู ัดและประเมนิ ผลจากชนิ้ งาน/ผลงาน แผนผังมโนทัศน์ เรื่อง ระบบนิเวศ
5. ครูตรวจสอบผลการทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ เพื่อตรวจสอบ
ความเข้าใจหลังเรียนของนกั เรยี น
6. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม และจากการนำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหนา้ ชัน้ เรยี น

55


Click to View FlipBook Version