แผนการสอนภาษาอังกฤษสในชีวิตจริง 2

แผนการสอน/การเรียนรมู้ ่งุ เน้นสมรรถนะอาชพี
และบรู ณาการปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง/คุณลักษณะ 3 D

รหัส 2000 - 1202 วิชา ภาษาอังกฤษในชวี ติ จรงิ 2
หลักสตู ร ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พทุ ธศักราช 2556

ประเภทวิชาสามญั

ภาคทฤษฎีและปฏบิ ตั ิ

จัดทาโดย
นายสุวชิ ฝนุ่ เงิน

แผนกวชิ าสามัญสัมพนั ธ์ วิทยาลัยเทคนคิ สว่างแดนดิน
สถาบันการอาชวี ศกึ ษาภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 2

สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนการสอน

รหสั วิชา 2000 – 1202 วิชา ภาษาอังกฤษในชีวิตจรงิ 2

จดั ทาโดย

นายสุวชิ ฝนุ่ เงนิ
ศศ.บ. ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอ่ื สารสากล
ประกาศนยี บตั รบัณฑติ วชิ าชีพ
ศษ.ม. การบริหารการศกึ ษา

แบบคาขออนุมตั ิใช้แผนการสอน

แผนการสอน/การเรยี นรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง/คณุ ลักษณะ 3 D

รายวชิ า ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 2 รหัสวิชา 2000 - 1202

ลงช่อื .....................................
(นายสวุ ชิ ฝุน่ เงิน)
ตาแหหนงง รร ร..1
ผ้จดั ทา

รวามเห็นหวั หนา้ แหผนกวิชาสามญั สมั พันธ์ รวามเห็นหวั หนา้ งานพฒั นาหลกั สตรฯ
……………………………………………………………. ………………………………………………………
ลงชอื่ ...................................................... ลงช่อื ......................................................

(นางมณีกานต์ โรตรโสภา) (นายรมุ ดวง พรมอินทร)์
ตาแหหนงง หัวหน้าแหผนกวิชาสามัญสัมพันธ์ หัวหน้างานพฒั นาหลกั สตรฯ

รวามเห็นรองผ้อานวยการฝ่ายวิชาการ
………………………………………………………

ลงช่ือ……………………………………...
(นายทินกร พรหมอินทร)์
รองผ้อานวยการฝา่ ยวิชาการ

รวามเห็นผ้อานวยการวทิ ยาลยั เทรนิรสวงางแหดนดนิ
..........................................................
อนุมัติ ไมงอนุมตั ิ

ลงชอ่ื ....................................................
(นางวรรณภา พงวงกุล)

ผ้อานวยการวทิ ยาลยั เทรนริ สวงางแหดนดิน
…………/……………/……………

คานา

แหผนการสอนวชิ าภาษาองั กฤษในชีวติ จริง 2 รหสั วชิ า 2000 – 1202 จดั ทาข้ึนเพื่อใหน้ กั เรียนได้
เรียนรู้ภาษาองั กฤษเป็ นภาษาท่ี 2 จุดประสงคห์ ลกั ในการจดั ทา คือเป็ นการสรุปแนวทางในการจดั การ
เรียนการสอนให้นกั เรียนสามารถรับรู้วฒั นธรรม การถ่ายโอนวิชาความรู้ไปยงั วิชาอื่นๆ ท่ีนกั เรียนได้
เรียนการนา ภาษาองั กฤษไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้

วิชาภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 2 เป็ นวิชาพ้ืนฐานในการเรียนรู้การสื่อสารท่ีเป็ น ภาษาองั กฤษ
ตลอดจนนักเรียนไดฝ้ ึ กฝนทกั ษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน หลกั ไวยากรณ์ คุณธรรม
จริยธรรม คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ รวมถึงการวดั ผลประเมินผล ตามสภาพจริง

ผจู้ ดั ทาหวงั วา่ โครงการสอนท่ีไดจ้ ดั ทาข้ึนจะเป็ นประโยชน์กบั ผทู้ ่ีสนใจ หากทา่ นมีขอ้
เสนอแนะประการใด ขอนอ้ มรับไวด้ ว้ ยความยนิ ดียงิ่ และจะแกไ้ ขในส่ิงที่ตอ้ งปรับปรุงตอ่ ไป

ลงช่อื …………………………………………………
( นายสวุ ชิ ฝ่นุ เงิน )

วันท่ี ........ เดือน..................พ... 2564

สารบญั

หนา้

................................................................................................................ ...........................................................
............................................................................................................................. ..............................................
......................................................................................................................................... .................................
............................................................................................................... ............................................................
............................................................................................................................. ..............................................
.......................................................................................................................................... .................................
............................................................................................................. ..............................................................
............................................................................................................................. ..............................................
......................................................................................................................................... .................................
............................................................................................................ ...............................................................
............................................................................................................................. ..............................................
.......................................................................................................................................... .................................

......................................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. ..............................................
......................................................................................................................................... .................................
........................................................................................................ ...................................................................
............................................................................................................................. ..............................................
.......................................................................................................................................... .................................
...................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. ..............................................
......................................................................................................................................... .................................
..................................................................................................... ......................................................................
............................................................................................................................. ..............................................
.......................................................................................................................................... .................................

แผนการสอน/แผนจดั การเรยี นรู้รายวชิ า

รายวชิ าภาษาองั กฤษในชีวติ จรงิ 2 รหสั วชิ า 2000 – 1202
ระดบั ประกา.นียบัตรวชิ าชพี สาขาวชิ า/กลุมง วิชา/แหผนกวิชาสามัญสัมพันธ์
หนวง ยกิต 2 หนงวย จานวนราบรวม 36 ราบ
ทฤษฎี 2 ราบ/สัปดาห์ ปฏบิ ัติ - ราบ/สปั ดาห์
ภารเรียนท่ี 1 ปกี าร.ึกษา 2564

จดุ ประสงค์รายวิชา

1. สามารถใชภ้ าษาองั กฤษ ฟัง ด พด องานแหละเขียนตามสถานการณ์ตาง งๆ ใน

ชวี ติ ประจาวัน

2. มีรวามรร้ วามเขา้ ใจในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาแหละใช้ภาษาตามมารยาทสังรม

3. ตระหนกั แหละเหน็ ประโยชน์ของการใช้ภาษาองั กฤษในชีวิตประจาวนั แหละการ.ึกษาตงอ

มาตรฐานรายวชิ า

- 1. ฟงั -ด เรอ่ื งราว บนั เทิงรดี ขาง วสั้นๆ ในชีวิตประจาวนั จากสื่อโสตทั.น์
2. สนทนาโตต้ อบสถานการณ์ตงางๆ ในชวี ิตประจาวนั แหละสถานประกอบการ

3. อาง นเร่ืองท่วั ไป กาหนดการป้ายตาง งๆ ในชวี ิตประจาวันจากส่ือสิ่งพิมพ์แหละสื่ออิเล็กทรอนิกส์

4. เขยี นใหข้ ้อมล กรอกแหบบฟอรม์ ตาง งๆ ในชีวิตประจาวนั

5. ใช้ภาษาตามมารยาทสังรมแหละวฒั นธรรมของเจ้าของภาษาในสถานการณต์ งางๆ

6. ใช้เทรโนโลยสี ารสนเท.สืบร้นแหละฝกึ ฝนการฟงั พด อาง นแหละเขียน พร้อมแหสดงหลักฐานการ

เรียนร้ดว้ ยตนเอง

คาอธิบายรายวิชา

ปฏิบัตเิ ก่ยี วกบั การฟัง-ด พด องาน เขยี น การฟัง-ดเรอ่ื งราวตงางๆ บันเทงิ รดจี ากสื่อโสตทั.น์ การ
สนทนาโตต้ อบในสถานการณ์ตงางๆ ที่กาหนดเกยี่ วกบั การเดินทาง ทงองเทีย่ ว การบอกทิ.ทาง การบอก
ตาแหหนงง ท่ีตง้ั ส่งิ บนั เทิง การซื้อ ขาย การต้อนรับ การสนทนาทางโทร.ัพท์ การปฏบิ ตั ิตามราส่งั ข้ันตอน
การปฏิบัติ การองานเรอ่ื งทว่ั ไป ขอ้ รวาม กาหนดการ ป้ายประกา.ตงางๆ ที่พบในชีวติ ประจาวันจากสอ่ื
ส่ิงพมิ พแ์ หละส่ืออิเล็กทรอนิกส์ จดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ การกรอกแหบบฟอรม์ ตาง งๆ การใชภ้ าษาตาม
มารยาทสังรมแหละวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา การใช้เทรโนโลยสี ารสนเท.เป็นแหหลงง เรียนร้หรือฝึกฝน
กับเพื่อนเพื่อพฒั นาทักษะทางภาษาดว้ ยตนเอง การสืบร้นข้อมลจากแหหลงง การเรยี นรท้ ี่หลากหลาย

วเิ คราะหห์ วั ข้อเร่ือง

รหสั วิชา 2000 – 1202 ช่ือวชิ าอังกฤษในชีวิตจรงิ 2 หนงวยกติ (ชวั่ โมง) 2(2)

หลักสตรประกา.นียบตั รวิชาชพี ประเภทวิชา สามญั

สาขาวิชา......................... สาขางาน...................................

หัวข้อเร่ือง (Topic) แหลง่ ข้อมูล
ABCDE

1. Describing People

2. Talking about Jobs

3. Shopping for Clothes

4. Giving Directions

5. Eating in Restaurants

6. Making a Call

7. Traveling Around

หมายเหตุ A : ราอธบิ ายรายวชิ า
B : ผเ้ ชี่ยวชาญ
C : ผ้ชานาญการ
D : ประสบการณ์ของรรผ้สอน
E : เอกสาร/ตารา/รมง ือ

รายการวิเคราะห์ เนอื้ หาวิชา จดุ ประสงคร์ ายวิชา มาตรฐานรายวชิ า

รหสั วชิ า 2000 – 1202 ชื่อวชิ า ภาษาองั กฤษในชีวติ จริง 2

หนงวยกิต(ช่วั โมง) 2(2)

หลักสตรประกา.นียบัตรวชิ าชพี ประเภทรายวชิ า สามัญ

สาขาวิชา........................... สาขางาน..................................

หวั ขอ้

หลัก/ เนือ้ หาวชิ า จุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา
หนว่ ย

การ

เรยี นรู้ 1 2 3 1 2 3 4 5 6

1 Describing People

1. About ASEAN: Lineage
2. Warm-up Characteristics
3. Family & Relationship
4. Grammar Focus
5. Describing People
6. Describing Personality
7. Describing Personal Features
8. Let’s Talk

9. Let’s Write

2 Talking about Jobs

1. About ASEAN: Lineage
2. Occupations
3. Identifying Jobs
4. Useful Phrases
5. Grammar Focus
6. Talking about skills & Abilities
7. Useful Phrases
8. Let’s Talk
9. Let’s Writ

3 Shopping for Clothes

1. About ASEAN: ASEAN
Costumes

2. Warm-up: Clothing

3. Shopping for Clothes
4. Useful Expressions
5. Bargaining Prices
6. Check Understandings
7. Useful Expressions
8. Let’s Talk
9. Let’s Write

4 Giving Directions

1. About ASEAN: ASEAN
Locations

2. Warm-up: Places
3. Talking about Places &

Happening Situations
4. Present Continuous Tense
5. Forming Present Participle
6. Prepositions of Place &

Direction
7. Asking for & Giving Directions
8. Let’s Talk
9. Let’s Write

5 Eating in Restaurants

1. About ASEAN: Famous ASEAN
Food

2. Warm-up: Utensils
3. Talking about Favorite Fruits

& Food
4. Useful Expressions
5. Ordering Food in a

Restaurant
6. Useful Phrases
7. Let’s Talk
8. Let’s Write

6 Making a call

1. About ASEAN: Calling Codes
2. Warm-up
3. Making a Call

4. Useful Expressions
5. Reading a Phone Number
6. Making an Appointment
7. Useful Expressions
8. Let’s Talk
9. Let’s Write

7 Traveling Around

1. About ASEAN: Famous
Landmarks

2. Warm-up: Traveling
3. Check Understand
4. Talking about the Trip
5. Grammar Focus
6. Booking a Ticket
7. Useful Phrases
8. ASEAN Airlines

ตารางวเิ คราะห์ระดับ พุทธิพสิ ัย ทกั ษะพสิ ัย จติ พสิ ัย

รหัสวิชา 2000 – 1202 ชอื่ วิชา ภาษาอังกฤษในชีวิตจรงิ 2 หนงวยกติ (ช่วั โมง) 2(2)

หลักสตรประกา.นยี บตั รวิชาชพี ประเภทรายวชิ า สามญั

สาขาวชิ า........................... สาขางาน...................................................

หน่วยที่ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ระดับพฤตกิ รรมทีพ่ ึง่ ประสงค์ เวลา
(ชม.)
พุทธิพสิ ัย ทกั ษะพิสยั จิตพิสัย
4
1 23 45 61 23 4 5 1 2 3 4 5 4
6
1 Describing People 4
2 Talking about Jobs 6
3 Shopping for Clothes 6
4 Giving Directions 6
5 Eating in Restaurants
6 Making a Call
7 Traveling Around

พุทธิพสิ ัย ทักษะพิสัย จติ พสิ ยั
1= รวามร้ 1= เลยี นแหบบ 1= รับร้
2= รวามเข้าใจ 2= ทาไดต้ ามแหบบ 2= ตอบสนอง
3= การนาไปใช้ 3= ทาได้ถกต้อง 3= เห็นรณุ รงา
4= การวิเรราะห์ แหมนง ยา 4= จัดระบบรณุ รงา
5= การสังเรราะห์ 4= ทาได้ตงอเนอ่ื ง 5= พฒั นาเปน็
6= การประเมินราง ประสานกัน ลกั ษณะนสิ ยั
5= ทาได้อยงางเปน็
ธรรมชาติ

ช่ือเร่อื ง สมรรถนะและจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
Chapter1 Describing People สมรรถนะ

1. สนทนาโต้ตอบแหลกเปล่ียนข้อมลแหละรวามสัมพันธ์
ของบรุ รลในรรอบรรัว

2. เขียนให้ขอ้ มลรรอบรรวั

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม:
ดา้ นความรู้

1. อธบิ ายลักษณะของเผาง พันธุข์ องบุรรลในชนชาติ
อาเซียนได้

2. ใช้รา.ัพท์ในการบอกลักษณะของบุรรลได้ถกต้อง
3. บอกรวามสมั พนั ธ์ของบุรรลในรรอบรรวั ได้
4. ใช้วลี ประโยร แหละสานวนภาษาในการระบุ

รวามสัมพนั ธ์ของบุรรลในรรอบรรัว
5. จดั กลุงมรา.พั ท์ทีใ่ ช้บอกลักษณะเฉพาะบุรรลแหละ

บุรลิกภาพไดถ้ กต้อง
6. ใช้รารุณ.พั ท์ทีใ่ ช้บรรยายบรุ ลิกภาพทีต่ ้องใช้กับ

Verb to BE ได้ถกต้อง
7. ใช้รารณุ .พั ทท์ ่ีใช้บรรยายลกั ษณะเฉพาะบุรรลที่

ตอ้ งใชก้ บั Verb to BE แหละ Verb to HAVE ได้
ถกต้อง
ดา้ นทกั ษะ
8. สนทนาโต้ตอบเพ่อื แหลกเปลย่ี นข้อมลของบุรรลใน
รรอบรรวั ได้
9. เขยี นบรรยายเพื่อให้ข้อมลของบุรรลในรรอบรรวั ได้
ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง
10. มีการเตรียมรวามพร้อม จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ส่ือ
แหละสถานท่ที ีใ่ ชไ้ ว้ลวง งหนา้ กงอนการปฏบิ ตั ิจรงิ
11. มภี มิร้มุ กนั ในการเลอื กใชเ้ ทรโนโลยเี พ่ือปฏิบตั งิ านได้
รมุ้ รงาแหละถกตอ้ งเหมาะสม

Chapter2Talking about Jobs สมรรถนะ:
Chapter 3 Shopping for Clothes 1. สนทนาโต้ตอบแหลกเปลี่ยนข้อมลเกี่ยวกับอาชีพ
ลักษณะการทางาน
2. เขยี นใหข้ ้อมลบุรรล

จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม:
ดา้ นความรู้

1. บอก8 สาขาอาชีพท่ีสามารถเรล่ือนยา้ ยแหรงงานใน
ประชารมอาเซียนได้

2. ใชร้ า.พั ทใ์ นการบอกลกั ษณะอาชีพได้ถกต้อง
3. อธิบายลักษณะงานได้
4. ใช้วลี ประโยร แหละสานวนภาษาในการระบุอาชีพได้
5. ใช้ Present Simple Tenseเพ่ืออธบิ ายเก่ียวกบั งาน

แหละการทางานท่ีเป็นปัจจุบนั
6. แหตงงบทสนทนาเกย่ี วกับทักษะแหละรวามสามารถใน

งานทท่ี าได้
7. ใชว้ ลี ประโยร แหละสานวนภาษาในการบอกทกั ษะ

แหละรวามสามารถของตนเองได้ถกต้องแหละเหมาะสม
ดา้ นทักษะ

8. สนทนาโตต้ อบเพือ่ ให้ข้อมลเก่ียวกับอาชีพ ทักษะ
แหละรวามสามารถท่ีใชใ้ นอาชีพ

9. เขยี นบรรยายเพื่อให้ข้อมลทกั ษะแหละรวามสามารถ
ในการทางาน

ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง
10. มีระเบียบวินัยทุกขั้นตอน ตง้ั แหตงกงอนเข้าเรียน แหละ
การปฏิบัติกิจกรรมตาง ง ๆ
11. มีมนุษยสัมพันธ์กับเพ่ือนในห้องเรียนโดยใช้หลัก
รวามมีเหตุแหละผลตามหลักปรัชญาของเ.รษฐกิจ
พอเพียง

สมรรถนะ:
1. สนทนาเพื่อสอบถามข้อมลสินร้า ราราสินร้า แหละ
วธิ ีการชาระเงนิ
2. เขยี นให้ขอ้ มลสง่ิ ของ

จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม:
ดา้ นความรู้

1. อธิบายเกี่ยวกับชุดประจาชาติของประเท.สมาชิก
อาเซียนได้

2. ใชร้ า.ัพทใ์ นการระบุประเภทเสื้อไดถ้ กต้อง

3. บอกขอ้ มลเก่ยี วกบั สี ขนาด แหละแหบบเสื้อผ้าได้
4. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการสอบถามรารา

แหละถามขอ้ มลสนิ ร้าได้
5. แหตงง บทสนทนาเก่ยี วกับการซ้อื เส้อื ผา้ ได้
6. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการตงอรองรารา การ

สอบถามขอ้ มลการชาระเงินได้
7. องานจานวนเลขในการบอกราราสินร้า ตงอรองรารา

สินรา้ แหละสงวนลดได้

ดา้ นทักษะ
8. สนทนาเพื่อสอบถามข้อมลสินร้า บอกรารา ตงอรอง
ราราสินร้า แหละการชาระเงินได้
9. เขียนเพอ่ื ใหข้ อ้ มลสงิ่ ของได้ถกต้อง

ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง
10. ปฏิบัติงานโดยใช้หลักรวามมีเหตุ แหละผลในการ

ตดั สินใจ
11. มีรวามซอื่ สตั ยต์ งอตนเองแหละเพ่ือนรวง มห้องเรียน

Chapter 4 Giving Directions สมรรถนะ:
1. สนทนาเพื่อสอบถามเสน้ ทางแหละทต่ี ้งั ของสถานท่ี
2. เขียนอธบิ ายเส้นทางแหละทต่ี ้ัง

จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม:
ดา้ นความรู้

1. อธิบายเก่ียวกับสถานท่ีตั้งของประเท.สมาชิก
อาเซยี นได้

2. ใช้รา.ัพทใ์ นการระบสุ ถานทต่ี าง งๆ ได้ถกต้อง
3. บอกขอ้ มลเกี่ยวกับทต่ี ้งั ของสถานทีไ่ ด้
4. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการกระทาหรือ

สถานการณท์ กี่ าลงั เกดิ ขึ้นขณะพดได้
5. ใช้โรรงสร้างภาษาในการบอกเหตุการณ์ท่ีกาลัง

เกดิ ขน้ึ ได้ถกต้อง
6. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการบอกเส้นทางหรือ

ที่ตัง้ ของสถานทีไ่ ด้
7. แหตงงบทสนทนาเกี่ยวกับการบอกเส้นทางแหละที่ตั้ง

ของสถานท่ไี ด้

Chapter 5Eating in Restaurants ด้านทักษะ
8. สนทนาโต้ตอบแหลกเปล่ียนข้อมลเกี่ยวกับเส้นทาง
แหละทต่ี ้ังของสถานทีไ่ ด้
9. เขียนบรรยายเสน้ ทางแหละทีต่ ั้งได้
ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง
10. มีน้าใจกับเพ่ือนในห้องเรียนต้ังแหตงเร่ิมเข้าเรียน
ตลอดจนการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตงาง ๆ
11. มีรวามตรงตงอเวลาต้ังแหตงเริ่มเรียนจนกระทั่งปฏิบัติ
กจิ กรรมจนเสร็จทกุ กจิ กรรม

สมรรถนะ:
1. สงั่ อาหาร เรร่อื งดม่ื แหละของหวานในรา้ นอาหาร
2. เขียนอธบิ ายลกั ษณะแหละวธิ กี ารทาอาหาร

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม:
ดา้ นความรู้

1. อธิบายเก่ียวกับอาหารประจาชาติของประเท.
สมาชกิ อาเซียนได้

2. ใช้รา.ัพท์ในการระบุชื่อผัก ผลไม้ อาหาร เรรื่องด่ืม
แหละของหวานไดถ้ กตอ้ ง

3. บอกชื่อผลไมแ้ หละอาหารทช่ี อบหรือไมชง อบได้
4. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการให้ข้อมลสิ่งท่ีชอบ

หรือไมชง อบได้
5. แหตงงบทสนทนาเก่ียวกับการส่ังอาหารในร้านอาหาร

ได้
6. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการสั่งอาหารใน

ร้านอาหารได้
ด้านทักษะ

7. พดบอกอาหารที่ชอบหรอื ไมงชอบ แหละสนทนาเพ่ือส่ัง
อาหารได้

8. เขียนอธิบายลักษณะแหละข้ันตอนการทาของอาหาร
ได้

ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง
9. เตรียมรวามพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์ให้สอดรล้อง
กับงาน
10. ใช้วัสดุ อุปกรณ์ แหละเรร่ืองมือในการปฏิบัติงานได้
ถกต้องตามหลักรวามพอเพยี ง

Chapter 6Making a call สมรรถนะ :
1. สนทนาโตต้ อบทางโทร.ัพท์
2. รับแหละฝากขอ้ รวามทางโทร.ัพท์
3. เขยี นจดหมายนดั หมายทางธรุ กจิ

จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม:
ด้านความรู้

1. อธิบายเกี่ยวกบั การใช้โทร.พั ท์ระหวาง งประเท.ได้
2. บอกรา.พั ทใ์ นการรบั แหละฝากข้อรวามได้
3. แหตงงบทสนทนาเกีย่ วกบั กบั การติดตงอทางโทร.ัพทไ์ ด้
4. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการติดตงอ รับแหละ

ฝากข้อรวามทางโทร.พั ทไ์ ด้
5. องานหมายเลขโทร.ัพท์ได้ถกตอ้ ง
6. แหตงงบทสนทนาเกยี่ วกับการนัดหมายทางโทร.พั ทไ์ ด้
7. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการนัดหมายหรือ

ปฏิเสธการนดั หมายได้
ดา้ นทักษะ

8. พดเพื่อนัดหมาย ตอนรับการนัดหมาย แหละปฏิเสธ
การนดั หมายได้

9. เขยี นจดหมายนัดหมายทางธุรกิจไดถ้ กตอ้ ง
ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง

10. ปฏิบัตติ นตอง เพื่อน รร อาจารย์ด้วยรวามสุภาพ นอ้ ม
นอบถอง มตน

11. ฝึกทักษะด้วยตนเองเม่ือมีเวลาวงางหลังเลิกเรียน
เพอ่ื ให้เกดิ รวามชานาญในการนาไปใชใ้ นชีวิตจริง

Chapter 7Traveling Around สมรรถนะ :
1. กลาง วแหสดงรวามรส้ กึ
2. บอกรายละเอียดป้ายใหข้ ้อมล
3. สอบถามแหละจองตว๋ั เดนิ ทาง
4. กรอกแหบบฟอรม์ การจองต๋ัวเรรอ่ื งบนิ ได้

จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
ดา้ นความรู้

1. อธิบายเก่ียวกับสถานท่ีท่ีเป็นเอกลักษณ์ของชาติ
ตาง งๆ ใน ASEAN ได้

2. บอกรา.พั ทใ์ นการจองตั๋วเดินทางได้
3. บอกรายละเอียดปา้ ยได้
4. แหตงงบทสนทนาเพอ่ื แหสดงรวามร้สึกในการเดนิ ทางได้
5. อธิบายโรรงสร้างประโยรในการพดถึงสถานการณ์ที่

เกดิ ขึน้ ในอดตี ทผ่ี งานมาแหละส้ินสดุ ลงไปแหลว้
6. ใชร้ ารณุ .พั ท์อธิบายรวามรส้ กึ ได้
7. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการจองต๋ัวเรร่ืองบิน

ได้
ด้านทกั ษะ

8. สนทนาแหสดงรวามร้สกึ ในการเดินทางได้
9. กรอกแหบบฟอรม์ การจองต๋วั เรร่อื งบนิ ได้
ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
10. ใช้ราพด แหละโรรงสร้างภาษาได้เหมาะสมแหละ

ถกต้องกับสถานท่ี
11. ฝึกเป็นผ้มีน้าใจ แหสดงไมตรีท่ีดีตงอผ้อื่นไมงวงาจะอยงใน

สถานทใ่ี ดก็ตาม

หนว่ ยการสอน/การเรียนรู้ทฤษฎีและปฏิบัติ

รหสั 2000 – 1202 วิชาภาษาองั กฤษในชวี ติ จริง 2
ทฤษฎี 2 ราบ/สัปดาห์ ปฏบิ ตั ิ ราบ/สปั ดาห์

หน่วยที่ ช่อื หนว่ ย จานวนคาบทฤษฎี จานวนคาบปฏิบตั ิ
-
1 Describing People 4 -
2 Talking about Jobs 4 -
3 Shopping for Clothes 6 -
4 Giving Directions 4 -
5 Eating in Restaurants 6 -
6 Making a Call 6 -
7 Traveling Around 6 -

รวม 36

กาหนดการเรยี นรู้
รหัสวิชา 2000 – 1202 ชื่อวิชาภาษาอังกฤษในชวี ติ จริง 2 หนงวยกติ (ช่วั โมง) 2(2)

หลักสตรประกา.นียบตั รวิชาชพี ประเภทรายวชิ า สามญั
สาขาวชิ า.............................. สาขางาน...................................................

หน่วยที่ ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ สัปดาห์ที่ ชวั่ โมงที่

1 Describing People 1-2 1-4

2 Talking about Jobs 3-4 5-8

3 Shopping for Clothes 5-7 9-14

4 Giving Directions 8-9 15-18

5 Eating in Restaurants 10-12 19-24

6 Making a Call 13-15 25-30

7 Traveling Around 16-18 31-36

สอบปลายภาค 19

รวม 18

แผนการสอน/การเรียนรู้ภาคทฤษฎีและ หน่วยท่ี...............1................
ปฏบิ ัติ
สอนครงั้ ท่ี.............1-2.............
ชือ่ วชิ าภาษาอังกฤษในชวี ิตจริง 2 คาบรวม..................4..............

ชอื่ หนว่ ย Describing People

ชอ่ื เร่ือง......... Describing People………………………………. จานวนคาบ.............4.............

หวั ข้อเรอ่ื ง
1. About ASEAN: Lineage
2. Warm-up Characteristics
3. Family & Relationship
4. Grammar Focus
5. Describing People
6. Describing Personality
7. Describing Personal Features
-

สาระสาคัญ

ให้ผ้เรียนมีรวามร้สามารถสนทนาโต้ตอบ แหละเปล่ียนข้อมลได้ตามวัตถุประสงร์ของการส่ือสารใน
สถานการณ์ตงางๆ สามารถระบุรวามสัมพันธ์ของบุรรลภายในรรอบรรัว สอบถามแหละให้ข้อมลรรอบรรัว
อธิบายลักษณะเฉพาะบุรรล อธิบายบุรลิกภาพบุรรล จดจาแหละใช้วลี ประโยร สานวนภาษาทางสังรม ใช้
โรรงสร้างทางภาษาถกต้อง แหสดงบทบาทสมมติหรือสถานการณ์จาลองที่กาหนด แหละเขียนให้ข้อมล
รรอบรรัว

สมรรถนะอาชีพทพี่ ึงประสงค์ (ส่งิ ทีต่ ้องการใหเ้ กดิ การประยกุ ตใ์ ช้รวามร้ ทกั ษะ รุณธรรม เขา้ ดว้ ยกนั )
ผเ้ รียนสามารถนา.ัพท์ สานวนทีใ่ ชใ้ นการบรรยายรวามสมั พนั ธข์ องบุรรลภายในรรอบรรัว

มาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวันแหละการทางานไดเ้ ปน็ อยงางถกต้อง

จดุ ประสงคก์ ารสอน/การเรียนรู้

 จุดประสงค์ทว่ั ไป / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง

1. เพ่ือให้มีรวามร้เกี่ยวกับโรรงสร้างทางภาษา วลี ประโยร แหละสานวนทางสังรมเกี่ยวกับ
รวามสมั พนั ธข์ องบุรรลภายในรรอบรรัว (ด้านความร)ู้

2. เพอื่ ให้มที ักษะในการสนทนาเพ่ือให้ข้อมลแหละตอบราถามเกยี่ วกับรวามสัมพันธ์ของบุรรลในรรอบรรัว
(ดา้ นทักษะ)

3. เพ่ือให้มีเจตรติที่ดีตงอการเตรียมรวามพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์ แหละการปฏิบัติงานอยงาง
ถกต้อง สาเร็จภายในเวลาที่กาหนด มีเหตุแหละผลตามหลักปรัชญาของเ.รษฐกิจพอเพียง(ด้าน
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)

 - จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง

1. อธบิ ายลกั ษณะของเผงาพันธุ์ของบุรรลในชนชาติอาเซยี นได้(ด้านความรู้)
2. ใชร้ า.พั ท์ในการบอกลักษณะของบุรรลได้ถกต้อง(ด้านความร)ู้
3. บอกรวามสมั พันธ์ของบุรรลในรรอบรรวั ได้(ดา้ นความร)ู้
4. ใช้วลี ประโยร แหละสานวนภาษาในการระบรุ วามสมั พันธข์ องบรุ รลในรรอบรรัว(ดา้ นความรู้)
5. จัดกลมงุ รา.ัพท์ทใี่ ช้บอกลกั ษณะเฉพาะบุรรลแหละบุรลิกภาพได้ถกต้อง(ดา้ นความรู้)
6. ใชร้ ารุณ.พั ทท์ ีใ่ ชบ้ รรยายบุรลิกภาพท่ีต้องใช้กบั Verb to BE ได้ถกตอ้ ง(ดา้ นความรู)้
7. ใช้รารุณ.พั ทท์ ีใ่ ช้บรรยายลักษณะเฉพาะบุรรลทต่ี ้องใช้กับ Verb to BE แหละ Verb to HAVE ได้

ถกต้อง(ด้านความรู้)
8. สนทนาโต้ตอบเพ่อื แหลกเปล่ยี นข้อมลของบุรรลในรรอบรรัวได้(ดา้ นทักษะ)
9. เขียนบรรยายเพ่ือใหข้ ้อมลของบุรรลในรรอบรรัวได้(ดา้ นทักษะ)
10. มีการเตรียมรวามพรอ้ ม จัดเตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์ สื่อ แหละสถานที่ทใ่ี ช้ไว้ลงวงหน้ากอง นการปฏิบตั ิ

จรงิ (ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง)
11. มภี มิรุ้มกนั ในการเลือกใช้เทรโนโลยีเพือ่ ปฏิบัติงานได้รุ้มรงาแหละถกต้องเหมาะสม(ดา้ นคุณธรรม

จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง)

การบรู ณาการกบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

หลกั ความพอประมาณ
1. มรี วามร้เบื้องตน้ ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 2
2. มีรวามรด้ า้ นการสนทนาในบรบิ ทตาง งๆ

หลกั ความมีเหตุผล
1. ทักษะในการอาง น
2. สนทนาในบริบทตงางๆ

หลักความมภี มู ิคุ้มกนั
1. การ.ึกษาลักษณะภาษาองั กฤษในชวี ิตจริง 2
2. .กึ ษารา.ัพท์ทางภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 2

เงอื่ นไขความรู้
1. สามารถอาง นทารวามเขา้ ใจประโยรในการบรรยายรวามสัมพนั ธ์ของบรุ รลภายในรรอบรรัวได้
2. สามารถใช้.ัพท์แหละสานวนตงาง ๆ ที่เก่ียวกับการบรรยายรวามสมั พนั ธ์ของบุรรลภายใน

รรอบรรัวไดถ้ กตอ้ ง
3. ฝกึ ฝนการองานจับใจรวามการสนทนาระหวาง งเพื่อนรงวมชน้ั เรียน ได้

เง่อื นไขคณุ ธรรม
1. ผเ้ รียนมจี ิตสานึก ตระหนักรแ้ หละปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย
2. ผเ้ รยี นมีวนิ ัย ปะหยดั กตัญญกตเวที ซอื่ สตั ย์สจุ รติ ปฏิบัตติ นเปน็ ประโยชน์ตงอสงวนรวมพร้อม

ทั้งสืบสานวฒั นธรรมแหละประเพณที ี่ดีของท้องถ่ิน
3. ผเ้ รียนร้จกั ตนเอง รกั เรารพตนเองแหละผ้อน่ื สามารถปรับตัวเข้าสังรมอยาง งมรี วามสุข
4. ผ้เรียนตระหนกั ถึงโทษภัยของยาเสพตดิ แหละสิ่งมนึ เมา ไมงเสพหรอื แหสวงหาผลประโยชนจ์ าก

สิง่ เสพตดิ แหละไมยง ุงงเก่ียวกับสิ่งเสพติด

การบรู ณาการกบั คุณลกั ษณะ 3 D แกผ่ ู้เรียน

ดา้ นประชาธิปไตย (Democracy)
ผ้เรยี นมรี วามตระหนักเห็นรวามสารัญ.รัทธาแหละเชื่อมนั่ การปกรรองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข รวมท้ังรังเกยี จการทจุ รติ แหละตอง ต้านการซื้อสทิ ธิขายเสยี ง
ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมและความเปน็ ไทย (Decency)
ผ้เรียนมีรุณธรรม จรยิ ธรรม รวามดีงามรผ้ ดิ ชอบชัว่ ดี มีรวามภมใิ จในรวามเป็นไทยแหละ
ยดึ ถือปฏิบตั ิอยงในชวี ิต
ด้านภมู คิ นุ้ กนั ภัยจากยาเสพติด (Drug-Free)
ผ้เรียนตระหนกั ถึงโทษภัยของยาเสพติดแหละสิ่งมนึ เมา ไมงเสพหรอื แหสวงหาผลประโยชน์จาก
ยาเสพติดแหละร้จกั หลีกไกลยาเสพติด

กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือการเรียนรู้

ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ขัน้ ตอนการเรยี นร้หู รอื กิจกรรมของนักเรียน

1. ตกลงเง่ือนไขในการเรียน การวัดแหละ 1. ซักถามข้อสงสัยท่ัว ๆ ไปเกยี่ วกบั การเรยี น

ประเมินผล รุณธรรมจริยธรรม 2. ตอบราถาม ยกตวั อยาง ง แหสดงรวามริดเหน็

2. นาเข้าสบง ทเรียน โดยให้นัก.ึกษาแหสดง 3. ฟัง จดบันทึก แหสดงรวามริดเห็น

รวามริดเห็นเกย่ี วกับประเภทของการโฆษณา 4. ทาแหบบฝึกทักษะตามใบงาน โดยนาสงงเป็นราย

รายบรุ รลจากนน้ั นาราตอบท่ีได้มารงวม บรุ รล

อภปิ รายในชน้ั เรียน 5. กระตอื รือรน้ ในการปฏิบตั ิงาน

3. ช้แี หจงจุดประสงรก์ ารเรียนร้หนงวยที่ 1 6. ทาแหบบฝึกหดั หลังเรยี น

Describing People

4.อธบิ ายรา.ัพทเ์ ก่ยี วกับ Describing People

พรอ้ มทัง้ การใชง้ านในรปแหบบการเขียนแหละ

สนทนาตามไวยากรณท์ ่ีถกต้อง

5. ให้นกั .กึ ษาฝึกทักษะตามใบงาน

6. สังเกตพฤติกรรมของนัก.ึกษา

7. ใหน้ ัก.กึ ษาทาแหบบฝกึ หัดหลังการเรยี น

แบบประเมินทักษะการนาเสนอผลงาน

จุดประสงรท์ ี่
............................................................................................................................................
ชอื่ กลงมุ ......................................................................ช้นั .......................................... ............
รายชอื่ สมาชิก
1............................................................................................................................ ..........

2......................................................................................................................................

3............................................................................................................................ ..........

ข้อท่ี รายการประเมิน ระแหนน ขอ้ ริดเห็น
321
1 การเตรียมรวามพร้อม
2 เนือ้ หาสาระ
3 รปแหบบการนาเสนอ
4 การมสี วง นรงวมของสมาชกิ ในกลมงุ
5 การรักษาเวลา
6 รวามสนใจของผฟ้ ัง
รวม/

ผป้ ระเมนิ ...................................................
วันท.ี่ .........เดือน...........................พ... ......................

แบบประเมนิ รายบุคคล(แบบประเมนิ ผลงาน)

ผป้ ระเมิน(ชอ่ื ).................................................................................. ตนเอง  เพือ่ น  รร

รายการประเมิน ดี พอใช้ ปรับปรุง ระแหนน หมายเหตุ
(3) (2) (1)
1. รวามสมบรณข์ องเน้ือหาสาระ
2. การใช้ภาษา รวม
3. รวามริดสร้างสรรร์
4. หลกั ฐานท่ีใชป้ ระกอบการให้
เหตผุ ล
5. การสะท้อนรวามริดเห็น
6. ประโยชน์การประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวนั

ระแหนนเฉลย่ี

เกณฑ์การประเมิน ดี ระแหนนสงกวาง 2.70
พอใช้ ระแหนนอยงระหวงาง 1.3 – 2.70
ปรบั ปรุงระแหนนต่ากวงา 1.30

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมนิ ท่ีใชใ้ นการตัดสินต้องไดม้ าจากระแหนนเฉลย่ี ของผ้ประเมนิ ทง้ั หมด

ตวั อยงาง ข้อ 1. รวามสมบรณ์ของเนื้อหาสาระ ได้ระแหนนการประเมนิ ดงั น้ี

ตนเอง ให้ดี ไดร้ ะแหนนประเมิน 3

เพอ่ื น ใหพ้ อใช้ ได้ระแหนนประเมิน 2

รร ใหพ้ อใช้ ได้ระแหนนประเมิน 2
จไดา้รกะรแะหนแหนนเนฉเลฉย่ีล่ียท่ีไ3ด+้แ23หส+ด2งวาง ใน=ข2้อ.313. เกณฑป์ ระเมินอยใง นเกณฑ์ พอใช้

แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

ช่อื ผ้ประเมนิ /กลมงุ ประเมิน................................................................................

ช่ือกลงุมรบั การประเมนิ ......................................................................................

ประเมินผลรรั้งที.่ ..................วนั ที่................เดอื น.......................พ... ............

ระดบั พฤติกรรม คะแนนท่ไี ด้

ท่ี คุณลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ใชไ้ ด้ ควรปรบั ปรุง

(1 คะแนน) (0 คะแนน)

1 รวามมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์

- แหสดงกริ ยิ าทาง ทางสภุ าพตงอผอ้ นื่

- ใหร้ วามรวง มมอื กบั ผ้อ่ืน

2 รวามมวี ินัย

- ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บ ขอ้ บังรับ แหละข้อตกลง

ตาง ง ๆ ของวทิ ยาลยั ไดแ้ หกกง ารแหตงง กายถกต้องตาม

ระเบียบแหละข้อบังรับ ตรงตงอเวลา

3 รวามรับผดิ ชอบ

- มกี ารเตรียมรวามพร้อมในการเรยี นแหละการ

ปฏบิ ตั งิ าน

- ปฏบิ ัตงิ านด้วยรวามตั้งใจ

- มรี วามเพียรพยายามในการเรยี นแหละการ

ปฏิบัตงิ าน

4 รวามเชือ่ มั่นในตนเอง

- กลา้ แหสดงรวามรดิ เหน็ อยาง งมเี หตผุ ล

5 รวามปลอดภัย

- ปฏิบตั งิ าน ทากิจกรรมด้วยรวามระมัดระวงั

6 รวามสนใจใฝร่ ้

- ซกั ถามปัญหานงาสงสยั

7 รวามรกั สามัรรี

- รวง มมือในการทางาน

8 รวามกตัญญกตเวที

- มีสัมมารารวะตอง รร-อาจารย์อยาง งสม่าเสมอ

ท้ังตงอหน้าแหละลบั หลงั

9 พ่งึ ตนเอง
- ทางานปฏบิ ตั งิ านด้วยตนเอง

10 มรี วามอดทนอดกลนั้
- รวบรมุ อารมณ/์ รวามร้สกึ อยงางมีสติแหละ
เหตุผล

แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการทางานเป็นกล่มุ

ช่ือกลงุม.......................................................................ชั้น.............................................................. ..
รายชอ่ื สมาชิก 1. ............................................................................................................................

2. ............................................................................................................................
3. ............................................................................................................................

ขอ้ ท่ี รายการประเมิน ระแหนน ขอ้ ริดเห็น
321
1 การกาหนดเป้าหมายรงวม
2 การแหบงง หน้าที่รับผดิ ชอบ
3 การปฏบิ ตั ิตามหนา้ ที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
4 การประเมินแหละปรับปรุงงาน
5 ................................................
รวม

ผ้ประเมนิ .............................................................
วนั ท่ี ............เดอื น...............................พ... ..............

สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรียน วชิ าภาษาองั กฤษในชีวิตจรงิ 2
2. กจิ กรรรมการเรียนการสอน

หลกั ฐาน
1. บันทกึ การสอน
2. การเชร็ ช่อื เข้าเรียนในวิชา

การวัดผลและการประเมนิ ผล
วิธวี ัดผล
1. ตรวจแหบบประเมินผลการเรียนร้
2. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบรุ รล
3. ประเมนิ กิจกรรมใบงาน
4. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รวง มกิจกรรมกลมุง
5. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รวง มกจิ กรรมกลุงม
6. ตรวจแหบบฝกึ ปฏิบัติ
7. การสังเกตแหละประเมินพฤติกรรมด้านรุณธรรม จริยธรรม รงานิยม แหละรุณลักษณะ
อันพงึ ประสงร์

เครือ่ งมือวดั ผล

1. แหบบประเมินผลการเรยี นร้
2. แหบบสังเกตพฤติกรรมรายบรุ รล
3. แหบบประเมินใบงาน
4. แหบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รวง มกจิ กรรมกลงุม
5. แหบบฝึกปฏิบัติ
6. แหบบประเมินรณุ ธรรม จริยธรรม ราง นิยม แหละรุณลกั ษณะอนั พึงประสงร์
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑผ์ าง นแหบบประเมนิ ผลการเรยี นรร้ อื 50%
2. เกณฑผ์ งานการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุรรล ต้องไมงมีชงองปรับปรุง
3. เกณฑ์ผาง นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารวง มกจิ กรรมกลุงม รอื ปานกลาง (50 % ขนึ้ ไป)
4. แหบบประเมินใบงาน เกณฑ์ผาง น รือ 50%
5. แหบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ งาน รือ 50%
6. แหบบประเมินรุณธรรม จริยธรรม รงานิยม แหละรุณลักษณะอันพึงประสงร์ ระแหนนขึ้นอยง

กับการประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทกึ หลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการสอน
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
.............................................................................................................. .........................................................
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
......................................................................................................... .............................................................
......................................................................................................................................................................

ผลการเรียนของนักเรียน
............................................................................................................................. ..........................................
............................................................................................................................. ..........................................
......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
................................................................................................. ......................................................................

ผลการสอนของครู
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
................................................................................................ .......................................................................
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
.................................................................................. ................................................................ .....................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

แผนการสอน/การเรียนรู้ภาคทฤษฎแี ละ หนว่ ยท่ี...............2................
ปฏิบตั ิ
สอนครั้งที่.............3-4.............
ชอื่ วิชาภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 2 คาบรวม..................4..............

ชอ่ื หน่วย Talking about Jobs

ชือ่ เร่ือง......... Talking about Jobs......................................... จานวนคาบ.............4.............

หัวข้อเรอื่ ง
1. About ASEAN: Lineage
2. Occupations
3. Identifying Jobs
4. Useful Phrases
5. Grammar Focus
6. Talking about skills & Abilities
7. Useful Phrases

สาระสาคญั
ให้ผ้เรียนมีรวามร้สามารถสนทนาโต้ตอบ แหลกเปล่ียนข้อมลได้ตามวัตถุประสงร์ของการสื่อสารใน

สถานการณต์ งางๆ สามารถระบุชื่ออาชีพ อธิบายการทางาน ใช้รา.ัพท์หรือสานวนภาษาในการสอบถามแหละ
ให้ข้อมลเก่ียวกับอาชีพ ทักษะ แหละรวามสามารถ จดจาแหละใช้วลี ประโยร สานวนภาษาทางสังรม ใช้
โรรงสรา้ งทางภาษาถกต้อง แหสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองที่กาหนด แหละเขียนให้ขอ้ มลบุรรล

สมรรถนะอาชีพทพ่ี ึงประสงค์ (สง่ิ ทตี่ อ้ งการใหเ้ กดิ การประยกุ ต์ใช้รวามร้ ทักษะ รุณธรรม เขา้ ด้วยกัน)
ผ้เรียนสามารถนา.ัพท์ สานวนเก่ียวกับอาชพี ทักษะ แหละรวามสามารถ มาประยุกตใ์ ช้ใน

ชีวิตประจาวนั แหละการทางานได้เปน็ อยงางถกต้อง

จดุ ประสงคก์ ารสอน/การเรียนรู้

 จุดประสงคท์ ่วั ไป / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง

1. เพ่ือให้มีรวามร้เกี่ยวกับโรรงสร้างทางภาษา วลี ประโยร แหละสานวนทางสังรมเกี่ยวกับการ
อาชีพ แหละทักษะรวามสามารถ(ดา้ นความร)ู้

2. เพื่อใหม้ ีทักษะในการให้ข้อมลแหละตอบราถามเก่ยี วกับอาชพี แหละทกั ษะรวามสามารถ (ดา้ นทักษะ)
3. เพ่ือให้มีเจตรติที่ดีตงอการเตรียมรวามพร้อมดา้ น วัสดุ อุปกรณ์ แหละการปฏิบัติงานอยงาง

ถกต้อง สาเร็จภายในเวลาที่กาหนด มีเหตุแหละผลตามหลักปรัชญาของเ.รษฐกิจพอเพียง
(ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม)

 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง

1. บอก 8 สาขาอาชีพที่สามารถเรลือ่ นยา้ ยแหรงงานในประชารมอาเซียนได้ (ด้านความรู้)
2. ใช้รา.ัพทใ์ นการบอกลกั ษณะอาชพี ไดถ้ กต้อง(ด้านความรู้)
3. อธบิ ายลกั ษณะงานได้ (ด้านความร้)ู
4. ใชว้ ลี ประโยร แหละสานวนภาษาในการระบุอาชีพได้ (ด้านความรู้)
5. ใช้ Present Simple Tense เพอ่ื อธบิ ายเกยี่ วกับงานแหละการทางานทีเ่ ปน็ ปัจจบุ ัน (ดา้ น

ความรู)้
6. สนทนาโตต้ อบเพอื่ บอกทักษะแหละรวามสามารถในงานทที่ าได้ (ดา้ นความรู)้
7. ใช้วลี ประโยร แหละสานวนภาษาในการบอกทักษะแหละรวามสามารถของตนเองได้ถกต้อง

แหละเหมาะสม (ดา้ นความร้)ู
8. สนทนาโตต้ อบเพื่อให้ขอ้ มลเกี่ยวกับอาชีพ ทักษะ แหละรวามสามารถทใี่ ชใ้ นอาชพี (ด้าน

ทกั ษะ)
9. เขียนบรรยายเพื่อใหข้ ้อมลทักษะแหละรวามสามารถในการทางาน (ดา้ นทักษะ)
10. มรี ะเบยี บวนิ ัยทุกขัน้ ตอน ต้ังแหตกง อง นเข้าเรยี น แหละการปฏิบัติกจิ กรรมตงางๆ (ดา้ น

คุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง)
11. มมี นุษยสัมพันธก์ ับเพือ่ นในห้องเรียน โดยใช้หลกั รวามมีเหตุแหละผลตามหลักปรัชญาของ

เ.รษฐกจิ พอเพยี ง (ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง)

การบรู ณาการกบั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หลกั ความพอประมาณ
1. มรี วามร้เบื้องตน้ ภาษาองั กฤษในชีวติ จรงิ 2
2. มรี วามร้ดา้ นการสนทนาในบรบิ ทตงางๆ
หลกั ความมเี หตผุ ล
1. ทักษะในการองาน
2. สนทนาในบริบทตงางๆ
หลักความมภี มู ิคุ้มกัน
1. การ.กึ ษาลักษณะภาษาอังกฤษในชีวติ จรงิ 2
2. .กึ ษารา.ัพท์ทางภาษาอังกฤษในชีวิตจริง 2
เงื่อนไขความรู้
1. สามารถองานทารวามเขา้ ใจประโยรในการบรรยายการให้ข้อมลแหละตอบราถามเกี่ยวกับ

อาชพี แหละทกั ษะรวามสามารถได้
2. สามารถใช.้ ัพทแ์ หละสานวนตงาง ๆ ท่เี ก่ียวกับการบรรยายการใหข้ ้อมลแหละตอบราถาม

เกยี่ วกบั อาชีพ แหละทกั ษะรวามสามารถ ได้ถกต้อง
3. ฝึกฝนการอาง นจับใจรวามการสนทนาระหวาง งเพ่ือนรวง มชนั้ เรยี นได้
เงื่อนไขคุณธรรม

1. ผ้เรียนมจี ิตสานึก ตระหนักร้แหละปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย
2. ผ้เรยี นมีวินยั ปะหยดั กตญั ญกตเวที ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ปฏิบตั ติ นเปน็ ประโยชนต์ อง

สงวนรวมพร้อมทัง้ สบื สานวัฒนธรรมแหละประเพณีท่ดี ขี องท้องถนิ่
3. ผเ้ รียนรจ้ ักตนเอง รกั เรารพตนเองแหละผ้อืน่ สามารถปรบั ตัวเข้าสงั รมอยาง งมีรวามสขุ
4. ผเ้ รยี นตระหนักถึงโทษภัยของยาเสพตดิ แหละสิง่ มนึ เมา ไมงเสพหรือแหสวงหา

ผลประโยชน์จากส่งิ เสพติดแหละไมงยุงงเกยี่ วกับส่ิงเสพตดิ

การบรู ณาการกับคณุ ลกั ษณะ 3 D แกผ่ ้เู รยี น

ด้านประชาธปิ ไตย (Democracy)
ผเ้ รยี นมีรวามตระหนักเหน็ รวามสารัญ.รัทธาแหละเช่ือม่นั การปกรรองระบอบประชาธิปไตย
อนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข รวมท้ังรังเกียจการทุจริต แหละตงอต้านการซื้อสิทธิขายเสยี ง
ด้านคุณธรรมจริยธรรมและความเปน็ ไทย (Decency)
ผ้เรยี นมรี ุณธรรม จริยธรรม รวามดีงามร้ผดิ ชอบช่ัวดี มรี วามภมใิ จในรวามเปน็ ไทยแหละ
ยึดถอื ปฏิบตั ิอยงในชีวิต
ด้านภมู คิ นุ้ กันภยั จากยาเสพตดิ (Drug-Free)
ผเ้ รียนตระหนกั ถึงโทษภยั ของยาเสพติดแหละสง่ิ มนึ เมา ไมเง สพหรือแหสวงหาผลประโยชน์จาก
ยาเสพตดิ แหละร้จักหลกี ไกลยาเสพติด

กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือการเรียนรู้

ขนั้ ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรยี นรหู้ รอื กิจกรรมของนักเรยี น

1. ตกลงเง่ือนไขในการเรยี น การวัดแหละ 1. ซักถามข้อสงสัยทว่ั ๆ ไปเกีย่ วกบั การเรียน

ประเมนิ ผล รุณธรรมจรยิ ธรรม 2. ตอบราถาม ยกตัวอยงาง แหสดงรวามริดเห็น

2. นาเขา้ สงบทเรียน โดยใหน้ ัก.กึ ษาแหสดง 3. ฟงั จดบันทึก แหสดงรวามริดเห็น

รวามรดิ เหน็ เกีย่ วกับประเภทของ 4. ทาแหบบฝึกทักษะตามใบงาน โดยนาสงง เปน็ ราย

เรรอ่ื งใช้ไฟฟา้ รายบุรรลจากนั้นนาราตอบท่ี บุรรล

ได้มารงวมอภปิ รายในชั้นเรยี น 5. กระตือรือร้นในการปฏบิ ตั งิ าน

3. ชแ้ี หจงจุดประสงรก์ ารเรยี นร้หนวง ยที่ 2 6. ทาแหบบฝึกหดั หลงั เรยี น

Talking about Jobs

4.อธิบายรา.พั ทเ์ ก่ียวกบั Talking about

Jobsพรอ้ มทง้ั การใชง้ านในรปแหบบการเขยี น

แหละสนทนาตามไวยากรณท์ ถ่ี กต้อง

5. ให้นกั .กึ ษาฝกึ ทักษะตามใบงาน

6. สังเกตพฤติกรรมของนัก.ึกษา

7. ใหน้ ัก.กึ ษาทาแหบบฝกึ หดั หลงั การเรยี น

แบบประเมนิ ทักษะการนาเสนอผลงาน

จดุ ประสงรท์ ี่
............................................................................................................................. ...............
ช่ือกลงมุ ......................................................................ช้นั .......................................... ............
รายชื่อสมาชกิ
1......................................................................................................................................

2............................................................................................................................ ..........

3......................................................................................................................................

ข้อท่ี รายการประเมนิ ระแหนน ข้อริดเห็น
321
1 การเตรยี มรวามพร้อม
2 เนอ้ื หาสาระ
3 รปแหบบการนาเสนอ
4 การมีสวง นรงวมของสมาชิกในกลมงุ
5 การรักษาเวลา
6 รวามสนใจของผฟ้ ัง
รวม

ผ้ประเมนิ ...................................................
วันท่ี..........เดือน...........................พ... ......................

แบบประเมินรายบคุ คล(แบบประเมินผลงาน)

ผ้ประเมนิ (ชื่อ).................................................................................. ตนเอง  เพ่อื น  รร

รายการประเมิน ดี พอใช้ ปรับปรุง ระแหนน หมายเหตุ
(3) (2) (1)
1. รวามสมบรณ์ของเน้ือหาสาระ
2. การใชภ้ าษา รวม
3. รวามรดิ สรา้ งสรรร์
4. หลักฐานที่ใช้ประกอบการให้
เหตุผล
5. การสะท้อนรวามรดิ เห็น
6. ประโยชน์การประยกุ ต์ใช้ใน
ชีวติ ประจาวนั

ระแหนนเฉลี่ย

เกณฑ์การประเมิน ดี ระแหนนสงกวงา 2.70
พอใช้ ระแหนนอยรง ะหวาง ง 1.3 – 2.70
ปรบั ปรุงระแหนนต่ากวาง 1.30

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินที่ใชใ้ นการตัดสินต้องไดม้ าจากระแหนนเฉล่ยี ของผป้ ระเมินทัง้ หมด

ตัวอยงาง ข้อ 1. รวามสมบรณ์ของเนื้อหาสาระ ไดร้ ะแหนนการประเมนิ ดงั น้ี

ตนเอง ให้ดี ไดร้ ะแหนนประเมนิ 3

เพ่ือน ใหพ้ อใช้ ได้ระแหนนประเมิน 2

รร ให้พอใช้ ได้ระแหนนประเมนิ 2
ไจดา้รกะรแะหนแหนนเนฉเลฉย่ีลีย่ ท่ีไ3ด+้แ23หส+ด2งวงาใน=ข2้อ.313. เกณฑป์ ระเมนิ อยใง นเกณฑ์ พอใช้

แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

ชอื่ ผป้ ระเมนิ /กลงมุ ประเมิน................................................................................

ช่อื กลงุมรบั การประเมนิ ......................................................................................

ประเมินผลรร้งั ท่.ี ..................วนั ท่.ี ...............เดอื น.......................พ... ............

ระดับพฤตกิ รรม คะแนนท่ีได้

ท่ี คุณลกั ษณะ/พฤติกรรมบง่ ชี้ ใช้ได้ ควรปรบั ปรงุ

(1 คะแนน) (0 คะแนน)

1 รวามมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์

- แหสดงกริ ยิ าทาง ทางสภุ าพตอง ผ้อนื่

- ใหร้ วามรวง มมอื กบั ผ้อ่ืน

2 รวามมวี นิ ัย

- ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บ ขอ้ บงั รบั แหละขอ้ ตกลง

ตาง ง ๆ ของวทิ ยาลยั ไดแ้ หกกง ารแหตงง กายถกตอ้ งตาม

ระเบียบแหละข้อบังรับ ตรงตงอเวลา

3 รวามรับผดิ ชอบ

- มกี ารเตรียมรวามพรอ้ มในการเรยี นแหละการ

ปฏบิ ตั งิ าน

- ปฏบิ ตั ิงานด้วยรวามตัง้ ใจ

- มรี วามเพียรพยายามในการเรยี นแหละการ

ปฏิบัตงิ าน

4 รวามเชือ่ มั่นในตนเอง

- กลา้ แหสดงรวามรดิ เหน็ อยงางมเี หตุผล

5 รวามปลอดภัย

- ปฏิบัตงิ าน ทากิจกรรมด้วยรวามระมดั ระวงั

6 รวามสนใจใฝร่ ้

- ซกั ถามปัญหานงาสงสยั

7 รวามรกั สามัรรี

- รวง มมอื ในการทางาน

8 รวามกตญั ญกตเวที

- มีสัมมารารวะตอง รร-อาจารย์อยาง งสมา่ เสมอ

ท้ังตงอหนา้ แหละลบั หลงั

9 พ่งึ ตนเอง
- ทางานปฏบิ ตั งิ านด้วยตนเอง

10 มรี วามอดทนอดกลนั้
- รวบรมุ อารมณ/์ รวามร้สึกอยงางมีสตแิ หละ
เหตุผล

แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการทางานเปน็ กลมุ่

ชื่อกลมงุ .......................................................................ช้นั ................................................................
รายชอื่ สมาชิก 1. ............................................................................................................................

2. ............................................................................................................................
3. ............................................................................................................................

ข้อที่ รายการประเมนิ ระแหนน ข้อริดเห็น
321
1 การกาหนดเป้าหมายรวง ม
2 การแหบงง หน้าทรี่ ับผิดชอบ
3 การปฏบิ ัตติ ามหน้าทีท่ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
4 การประเมินแหละปรับปรุงงาน
5 ................................................
รวม

ผ้ประเมนิ .............................................................
วนั ที่ ............เดือน...............................พ... ..............

สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรียน วชิ าภาษาองั กฤษในชีวติ จรงิ 2
2. กจิ กรรรมการเรียนการสอน

หลกั ฐาน
1. บันทกึ การสอน
2. การเชร็ ช่อื เข้าเรียนในวิชา

การวัดผลและการประเมนิ ผล
วิธีวัดผล
1. ตรวจแหบบประเมนิ ผลการเรียนร้
2. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบรุ รล
3. ประเมนิ กิจกรรมใบงาน
4. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รวง มกจิ กรรมกลมุง
5. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รงวมกจิ กรรมกลุงม
6. ตรวจแหบบฝกึ ปฏบิ ัติ
7. การสังเกตแหละประเมินพฤติกรรมด้านรุณธรรม จริยธรรม รงานิยม แหละรุณลักษณะ
อันพงึ ประสงร์

เครือ่ งมือวดั ผล

1. แหบบประเมินผลการเรยี นร้
2. แหบบสังเกตพฤติกรรมรายบรุ รล
3. แหบบประเมินใบงาน
4. แหบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รวง มกิจกรรมกลงุม
5. แหบบฝึกปฏิบัติ
6. แหบบประเมินรณุ ธรรม จริยธรรม รงานิยม แหละรุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงร์
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑผ์ าง นแหบบประเมนิ ผลการเรียนรร้ ือ 50%
2. เกณฑผ์ งานการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบรุ รล ต้องไมงมีชงองปรบั ปรงุ
3. เกณฑ์ผาง นการประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารวง มกจิ กรรมกลมงุ รือ ปานกลาง (50 % ขนึ้ ไป)
4. แหบบประเมินใบงาน เกณฑ์ผาง น รอื 50%
5. แหบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ เกณฑ์ผงาน รือ 50%
6. แหบบประเมินรุณธรรม จริยธรรม รงานิยม แหละรุณลักษณะอันพึงประสงร์ ระแหนนขึ้นอยง

กับการประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทึกหลงั การสอน

ผลการใช้แผนการสอน
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
.............................................................................................................. .........................................................
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
......................................................................................................... .............................................................
................................................................................................... ...................................................................

ผลการเรียนของนกั เรียน
............................................................................................................................. ..........................................
............................................................................................................................. ..........................................
...................................................................................... ................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
..................................................................................................................................... ..................................
................................................................................................. ......................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................

ผลการสอนของครู
.......................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
................................................................................................ .......................................................................
.................................................................................................... ...................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................
.............................................................................................................. .........................................................
.......................................................................................................................................................................

แผนการสอน/การเรยี นรู้ภาคทฤษฎแี ละ หน่วยท่ี...............3................
ปฏิบัติ
สอนครงั้ ที่.............5-7.............
ชื่อวชิ าภาษาอังกฤษในชวี ิตจริง 2 คาบรวม..................6..............

ช่อื หนว่ ย Shopping for Clothes

ชื่อเรอ่ื ง......... Shopping for Clothes...................................... จานวนคาบ.............6.............

หัวข้อเร่ือง
1. About ASEAN: ASEAN Costumes
2. Warm-up: Clothing
3. Shopping for Clothes
4. Useful Expressions
5. Bargaining Prices
6. Check Understandings
7. Useful Expressions

สาระสาคัญ

ให้ผ้เรียนมีรวามร้สามารถสนทนาโต้ตอบ แหลกเปล่ียนข้อมลได้ตามวัตถุประสงร์ของการส่ือสารใน
สถานการณ์ตงางๆ การสอบถามรารา ตงอรองรารา วิธีการชาระเงิน ใช้รา.ัพท์หรือสานวนภาษาในการ
สอบถามแหละให้ข้อมลเกี่ยวกับสี ขนาด แหละแหบบเสื้อผ้า จดจาแหละใช้วลี ประโยร สานวนภาษาทางสังรม ใช้
โรรงสรา้ งทางภาษาถกต้อง แหสดงบทบาทสมมตหิ รือสถานการณจ์ าลองที่กาหนด แหละเขยี นให้ขอ้ มลบรุ รล

สมรรถนะอาชีพท่พี ึงประสงค์ (ส่ิงทต่ี อ้ งการใหเ้ กิดการประยุกต์ใช้รวามร้ ทักษะ รุณธรรม เขา้ ด้วยกัน)
ผ้เรยี นสามารถนา.ัพท์ สานวนทใี่ ช้ในการบรรยายเสอ้ื ผ้าเรรือ่ งแหตงงกายแหละลกั ษณะเส้ือผา้ มา

ประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั แหละการทางานไดเ้ ป็นอยาง งถกต้อง

จดุ ประสงคก์ ารสอน/การเรยี นรู้

 จุดประสงค์ทัว่ ไป / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง

1. เพ่ือให้มีรวามร้เกี่ยวกับโรรงสรา้ งทางภาษา วลี ประโยร แหละสานวนทางสังรมในการสอบถาม
เกี่ยวกบั ข้อมลสี ขนาด แหละแหบบเส้อื ผ้า(ดา้ นความรู้)

2. พ่ือให้มีทักษะในการสนทนาเพื่อสอบถามข้อมลสินร้า ตงอรองราราสินร้า แหละวิธีการชาระเงิน
(ด้านทกั ษะ)

3. เพื่อให้มีเจตรติท่ีดีตงอการเตรียมรวามพร้อมดา้ น วัสดุ อุปกรณ์ แหละการปฏิบัติงานอยงาง
ถกต้อง สาเร็จภายในเวลาท่ีกาหนด มีเหตุแหละผลตามหลักปรัชญาของเ.รษฐกิจพอเพียง
(ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม)

 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง

1. อธิบายเกี่ยวกบั ชดุ ประจาชาติของประเท.สมาชิกอาเซียนได้ (ด้านความรู้)
2. ใชร้ า.พั ทใ์ นการระบุประเภทเสอื้ ได้ถกต้อง(ด้านความร)ู้
3. บอกข้อมลเกย่ี วกับสี ขนาด แหละแหบบเสอื้ ผ้าได้(ด้านความรู้)
4. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการสอบถามรารา แหละถามข้อมลสนิ รา้ ได้(ด้านความรู้)
5. แหตงง บทสนทนาเกีย่ วกบั การซื้อสินร้าได้(ด้านความร้)ู
6. ใช้วลี ประโยร สานวนภาษาในการตอง รองรารา การสอบถามขอ้ มลการชาระเงนิ ได้(ด้าน

ความรู้)
7. อาง นจานวนเลขในการบอกราราสินรา้ ตอง รองราราสนิ รา้ แหละสงวนลดได้ (ดา้ นความรู้)
8. สนทนาเพ่ือสอบถามข้อมลสนิ รา้ บอกรารา ตงอรองราราสนิ รา้ แหละการชาระเงนิ ได้(ดา้ น

ทกั ษะ)
9. เขียนเพ่ือใหข้ ้อมลสิง่ ของไดถ้ กต้อง (ดา้ นทักษะ)
10. ปฏบิ ตั งิ านโดยใช้หลักรวามมเี หตุ แหละผลในการตดั สนิ ใจ(ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณา

การเศรษฐกิจพอเพียง)
11. มรี วามซื่อสัตยต์ อง ตนเองแหละเพื่อนรวง มห้องเรยี น (ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการ

เศรษฐกจิ พอเพียง)

การบูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หลกั ความพอประมาณ
1. มีรวามรเ้ บื้องต้นภาษาอังกฤษในชวี ิตจรงิ 2
2. มรี วามรด้ า้ นการสนทนาในบรบิ ทตงางๆ
หลักความมีเหตุผล
1. ทกั ษะในการอาง น
2. สนทนาในบริบทตาง งๆ
หลกั ความมีภูมิคุ้มกนั
1. การ.ึกษาลกั ษณะภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 2
2. .ึกษารา.ัพท์ทางภาษาองั กฤษในชวี ิตจรงิ 2
เงอื่ นไขความรู้
1. สามารถองานทารวามเขา้ ใจประโยรในการบรรยายลักษณะเสื้อผ้าเรรือ่ งแหตงงกายได้
2. สามารถใช้.ัพท์แหละสานวนตงาง ๆ ทเ่ี ก่ียวกับการบรรยายเสอื้ ผา้ เรร่ืองแหตงงกายได้ถกต้อง
3. ฝึกฝนการองานจับใจรวามการสนทนาระหวงางเพื่อนรงวมชน้ั เรยี น ได้
เงอ่ื นไขคุณธรรม
1. ผเ้ รียนมจี ติ สานกึ ตระหนักร้แหละปฏิบตั ติ ามกฎหมาย
2. ผ้เรยี นมวี นิ ยั ปะหยัด กตญั ญกตเวที ซอ่ื สตั ย์สุจรติ ปฏบิ ตั ติ นเป็นประโยชน์ตงอสงวนรวม

พร้อมทง้ั สืบสานวฒั นธรรมแหละประเพณีทีด่ ขี องท้องถ่นิ
3. ผ้เรียนรจ้ กั ตนเอง รักเรารพตนเองแหละผอ้ ืน่ สามารถปรับตวั เขา้ สังรมอยงางมีรวามสขุ
4. ผเ้ รียนตระหนักถึงโทษภยั ของยาเสพตดิ แหละสง่ิ มนึ เมา ไมเง สพหรอื แหสวงหาผลประโยชน์

จากสง่ิ เสพตดิ แหละไมยง ุงงเกีย่ วกับส่งิ เสพตดิ

การบรู ณาการกับคุณลกั ษณะ 3 D แกผ่ ้เู รยี น

ด้านประชาธิปไตย (Democracy)
ผเ้ รยี นมีรวามตระหนักเห็นรวามสารัญ.รัทธาแหละเช่ือม่นั การปกรรองระบอบประชาธิปไตย
อนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ รวมทั้งรังเกียจการทุจริต แหละตอง ต้านการซื้อสทิ ธขิ ายเสยี ง
ด้านคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและความเปน็ ไทย (Decency)
ผ้เรียนมรี ุณธรรม จรยิ ธรรม รวามดีงามร้ผิดชอบช่ัวดี มีรวามภมใิ จในรวามเปน็ ไทยแหละ
ยึดถือปฏิบัติอยใง นชวี ติ
ดา้ นภูมิคนุ้ กันภยั จากยาเสพติด (Drug-Free)
ผ้เรยี นตระหนกั ถึงโทษภยั ของยาเสพตดิ แหละสงิ่ มึนเมา ไมงเสพหรอื แหสวงหาผลประโยชน์จาก
ยาเสพตดิ แหละร้จกั หลกี ไกลยาเสพติด

กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรียนรู้

ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ข้ันตอนการเรยี นร้หู รือกิจกรรมของนกั เรยี น

1. ตกลงเง่ือนไขในการเรยี น การวดั แหละ 1. ซักถามข้อสงสัยทัว่ ๆ ไปเกีย่ วกับการเรียน

ประเมินผล รุณธรรมจรยิ ธรรม 2. ตอบราถาม ยกตัวอยงาง แหสดงรวามริดเห็น

2. นาเขา้ สงบทเรียน โดยใหน้ ัก.ึกษาแหสดง 3. ฟัง จดบันทึก แหสดงรวามริดเห็น

รวามรดิ เห็นเกย่ี วกับประเภทของเส้ือผา้ เรรื่อง 4. ทาแหบบฝึกทกั ษะตามใบงาน โดยนาสงงเปน็ ราย

แหตงง กาย รายบุรรลจากนนั้ นาราตอบท่ไี ด้มา บรุ รล

รงวมอภิปรายในชั้นเรียน 5. กระตอื รือร้นในการปฏิบตั ิงาน

3. ช้ีแหจงจุดประสงร์การเรยี นร้หนงวยท่ี 3 6. ทาแหบบฝึกหดั หลงั เรียน

Shopping for Clothes

4.อธบิ ายรา.พั ท์เก่ยี วกับ Shopping for

Clothesof? พรอ้ มทั้งการใช้งานในรปแหบบการ

เขียนแหละสนทนาตามไวยากรณท์ ีถ่ กตอ้ ง

5. ให้นัก.ึกษาฝึกทักษะตามใบงาน

6. สังเกตพฤติกรรมของนัก.ึกษา

7. ให้นัก.ึกษาทาแหบบฝึกหดั หลังการเรียน

แบบประเมนิ ทักษะการนาเสนอผลงาน

จดุ ประสงรท์ ่ี
............................................................................................................................. ...............
ชอ่ื กลงมุ ......................................................................ชัน้ ......................................................
รายช่อื สมาชิก
1............................................................................................................................ ..........

2............................................................................................................................ ..........

3......................................................................................................................................

ขอ้ ที่ รายการประเมิน ระแหนน ข้อริดเห็น
321
1 การเตรียมรวามพร้อม
2 เนื้อหาสาระ
3 รปแหบบการนาเสนอ
4 การมีสวง นรงวมของสมาชกิ ในกลุงม
5 การรกั ษาเวลา
6 รวามสนใจของผฟ้ งั
รวม

ผ้ประเมนิ ...................................................
วนั ท่.ี .........เดอื น...........................พ... ......................

แบบประเมนิ รายบุคคล(แบบประเมนิ ผลงาน)

ผป้ ระเมิน(ชอ่ื ).................................................................................. ตนเอง  เพือ่ น  รร

รายการประเมิน ดี พอใช้ ปรับปรุง ระแหนน หมายเหตุ
(3) (2) (1)
1. รวามสมบรณข์ องเน้ือหาสาระ
2. การใช้ภาษา รวม
3. รวามริดสร้างสรรร์
4. หลกั ฐานท่ีใชป้ ระกอบการให้
เหตผุ ล
5. การสะท้อนรวามริดเห็น
6. ประโยชน์การประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวนั

ระแหนนเฉลย่ี

เกณฑ์การประเมิน ดี ระแหนนสงกวาง 2.70
พอใช้ ระแหนนอยงระหวงาง 1.3 – 2.70
ปรบั ปรุงระแหนนต่ากวงา 1.30

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมนิ ท่ีใชใ้ นการตัดสินต้องไดม้ าจากระแหนนเฉลย่ี ของผ้ประเมนิ ทง้ั หมด

ตวั อยงาง ข้อ 1. รวามสมบรณ์ของเนื้อหาสาระ ได้ระแหนนการประเมนิ ดงั น้ี

ตนเอง ให้ดี ไดร้ ะแหนนประเมิน 3

เพอ่ื น ใหพ้ อใช้ ได้ระแหนนประเมิน 2

รร ใหพ้ อใช้ ได้ระแหนนประเมิน 2
จไดา้รกะรแะหนแหนนเนฉเลฉย่ีล่ียท่ีไ3ด+้แ23หส+ด2งวาง ใน=ข2้อ.313. เกณฑป์ ระเมินอยใง นเกณฑ์ พอใช้

แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ช่อื ผป้ ระเมนิ /กลงมุ ประเมิน................................................................................

ช่ือกลงุมรบั การประเมนิ ......................................................................................

ประเมนิ ผลรรัง้ ท่.ี ..................วนั ที่................เดอื น.......................พ... ............

ระดับพฤตกิ รรม คะแนนท่ไี ด้

ท่ี คุณลกั ษณะ/พฤติกรรมบง่ ช้ี ใช้ได้ ควรปรบั ปรงุ

(1 คะแนน) (0 คะแนน)

1 รวามมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์

- แหสดงกริ ยิ าทาง ทางสภุ าพตอง ผอ้ นื่

- ใหร้ วามรวง มมอื กบั ผอ้ นื่

2 รวามมวี ินัย

- ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บ ขอ้ บงั รับ แหละข้อตกลง

ตาง ง ๆ ของวทิ ยาลยั ไดแ้ หกกง ารแหตงง กายถกต้องตาม

ระเบียบแหละข้อบังรับ ตรงตงอเวลา

3 รวามรับผดิ ชอบ

- มกี ารเตรียมรวามพรอ้ มในการเรยี นแหละการ

ปฏบิ ัตงิ าน

- ปฏบิ ัตงิ านด้วยรวามตัง้ ใจ

- มีรวามเพียรพยายามในการเรยี นแหละการ

ปฏิบัตงิ าน

4 รวามเชือ่ มั่นในตนเอง

- กลา้ แหสดงรวามรดิ เห็นอยงางมเี หตผุ ล

5 รวามปลอดภัย

- ปฏิบตั งิ าน ทากิจกรรมด้วยรวามระมัดระวงั

6 รวามสนใจใฝร่ ้

- ซกั ถามปัญหานงาสงสยั

7 รวามรกั สามัรรี

- รงวมมือในการทางาน

8 รวามกตัญญกตเวที

- มสี ัมมารารวะตอง รร-อาจารย์อยาง งสม่าเสมอ

ท้ังตงอหน้าแหละลบั หลงั

9 พ่งึ ตนเอง
- ทางานปฏบิ ตั งิ านด้วยตนเอง

10 มรี วามอดทนอดกลนั้
- รวบรมุ อารมณ/์ รวามร้สึกอยงางมีสติแหละ
เหตผุ ล

แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการทางานเปน็ กลมุ่

ชื่อกลมงุ .......................................................................ชัน้ ................................................................
รายชอื่ สมาชิก 1. ............................................................................................................................

2. ............................................................................................................................
3. ............................................................................................................................

ข้อที่ รายการประเมนิ ระแหนน ข้อริดเห็น
321
1 การกาหนดเป้าหมายรวง ม
2 การแหบงง หน้าทรี่ ับผิดชอบ
3 การปฏบิ ัตติ ามหน้าทีท่ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
4 การประเมินแหละปรับปรุงงาน
5 ................................................
รวม

ผป้ ระเมนิ .............................................................
วนั ที่ ............เดือน...............................พ... ..............

ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษในชีวิตจรงิ 2
2. กจิ กรรรมการเรยี นการสอน

หลกั ฐาน
1. บนั ทกึ การสอน
2. การเชร็ ช่อื เขา้ เรยี นในวิชา

การวดั ผลและการประเมินผล
วธิ ีวดั ผล
1. ตรวจแหบบประเมินผลการเรียนร้
2. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบรุ รล
3. ประเมนิ กิจกรรมใบงาน
4. ประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารวง มกิจกรรมกลมุง
5. สงั เกตพฤติกรรมการเข้ารวง มกจิ กรรมกลุงม
6. ตรวจแหบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ
7. การสังเกตแหละประเมินพฤติกรรมด้านรุณธรรม จริยธรรม รงานิยม แหละรุณลักษณะ
อนั พึงประสงร์

เรรือ่ งมอื วัดผล

1. แหบบประเมนิ ผลการเรียนร้
2. แหบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุรรล
3. แหบบประเมนิ ใบงาน
4. แหบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รวง มกจิ กรรมกลงุม
5. แหบบฝึกปฏิบัติ
6. แหบบประเมนิ รณุ ธรรม จรยิ ธรรม ราง นิยม แหละรุณลกั ษณะอนั พึงประสงร์
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑผ์ าง นแหบบประเมนิ ผลการเรยี นรร้ อื 50%
2. เกณฑผ์ าง นการสังเกตพฤติกรรมรายบุรรล ต้องไมงมีชงองปรบั ปรงุ
3. เกณฑผ์ าง นการประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารวง มกจิ กรรมกลมงุ รือ ปานกลาง (50 % ขนึ้ ไป)
4. แหบบประเมนิ ใบงาน เกณฑผ์ าง น รือ 50%
5. แหบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ าง น รอื 50%
6. แหบบประเมินรุณธรรม จริยธรรม รงานิยม แหละรุณลักษณะอันพึงประสงร์ ระแหนนขึ้นอยง

กับการประเมินตามสภาพจริง

บันทกึ หลังการสอน

ผลการใช้แผนการสอน
............................................................................................................................. ..........................................
............................................................................................................................................................ ...........
.............................................................................................................. .........................................................
............................................................................................................................. ..........................................
...................................................................................................................................................................... .
......................................................................................................... .............................................................
.......................................................................................................... ............................................................

ผลการเรยี นของนกั เรียน
......................................................................................................................................................... ..............
..................................................................................................................... ..................................................
..................................................................................................... .................................................................
.................................................................................................................................................................... ...
............................................................................................................................. ..........................................
................................................................................................... ....................................................................
.......................................................................................................................................................................
................................................................................................. ......................................................................

ผลการสอนของครู
............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................
................................................................................................ .......................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................
.................................................................................. ............................................................ .........................
............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................

แผนการสอน/การเรียนรู้ภาคทฤษฎแี ละ หน่วยที่...............4................
ปฏิบัติ
สอนครัง้ ท่ี........8-9.............
ชอ่ื วิชาภาษาอังกฤษในชวี ิตจริง 2 คาบรวม..................4..............

ช่อื หน่วย Giving Directions

ชื่อเร่ือง......... Giving Directions....................................... จานวนคาบ.............4.............

หัวข้อเรอ่ื ง
1. About ASEAN: ASEAN Locations
2. Warm-up: Places
3. Talking about Places & Happening Situations
4. Present Continuous Tense
5. Forming Present Participle
6. Prepositions of Place & Direction
7. Asking for & Giving Directions
-

สาระสาคญั

ให้ผเ้ รียนมรี วามรส้ ามารถสนทนาโตต้ อบ แหลกเปลย่ี นข้อมลไดต้ ามวตั ถปุ ระสงรข์ องการสื่อสารใน
สถานการณ์ตงางๆ การถามสถานท่ีต้ัง การถามเส้นทาง การบอกรวามร้สึก การบอกสถานการณ์ท่ีกาลัง
เกดิ ขึ้นขณะพดจดจาแหละใช้วลี ประโยร สานวนภาษาทางสังรม ใชโ้ รรงสรา้ งทางภาษาถกต้อง แหสดงบทบาท
สมมติหรือสถานการณ์จาลองท่กี าหนด แหละเขยี นให้ข้อมลบรุ รล

สมรรถนะอาชีพทพี่ ึงประสงค์ (สงิ่ ท่ีต้องการให้เกดิ การประยกุ ตใ์ ช้รวามร้ ทกั ษะ รุณธรรม เขา้ ด้วยกัน)
ผเ้ รียนสามารถนา.ัพท์ สานวนทใี่ ช้เกี่ยวกบั การถามสถานที่ตั้ง การถามเส้นทาง มาประยุกต์ใช้ใน

ชวี ิตประจาวันแหละการทางานได้เปน็ อยงางถกต้อง