The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บ้านหลวง ผ่อนคลาย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nrung2304, 2022-07-07 00:19:26

บ้านหลวง ผ่อนคลาย

บ้านหลวง ผ่อนคลาย

บา้ นหลวง

ผอ่ นคลาย

1 หมู่ 20 ตำบลบ้ำนหลวง อำเภอจอมทอง จงั หวดั เชียงใหม่
โทรศพั ท์ 053-033618 ต่อ 9 , โทรสำร 053-114370



บา้ นหลวง

ผอ่ นคลาย

หลบั ตา
หายใจ
สมั ผสั
รอบยิ้ม

แพ็ คกระเป๋ำออกเดินทำงไปตำมภำพฝัน
ตลอดเสน้ ทำงทีต่ ้องผ่ำน มีหลำยส่งิ ซอ้ นอยู่
ทอ้ งนำ ภเู ขำ เมฆ หมอก หรอื แมแ้ ตป่ รอยฝน
สง่ิ เหล่ำน้ี...จะทำใหว้ ันเวลำมคี วำมหมำยมำกย่งิ ขึน้

เรำ...อยำกให้คุณ
ข้ำมฟำ้ ขำ้ มภูเขำ ข้ำมใจตัวเอง
มำสมั ผัสบ้ำนหลวง อยำ่ งแทจ้ ริง ด้วยหัวใจ
อำจพบวำ่ เวลำท่ีนีเ่ ดินชำ้ ...ถึงชำ้ มำก

แตย่ ิ่งแปลก ทีเ่ วลำเดนิ ช้ำเทำ่ ไหร่
รอยยิม้ บนใบหนำ้ กลับอย่นู ำนยง่ิ ข้ึน
และนี่อำจจะเปน็ บำงส่งิ ...ที่ขำดหำยไปจำกชีวติ

ให้บำ้ นหลวง พำกลบั มำ...ใหค้ ุณ

บ้านหลวง
ผอ่ นคลาย

มำเทย่ี วบำ้ นหลวง
ในมุมมองใหม่
ควำมรูส้ ึกใหม่ ๆ

อากาศ

พักสำยตำ กบั ทิวเขำ
ละอองน้ำ ต้นไม้นอ้ ยใหญ่
ทิ้งตัวใหร้ ่ำงกำยตกอยใู่ น

อ้อมกอดของขุนเขำ
รับพลงั จำกธรรมชำติ
สูดลมหำยใจทีบ่ รสิ ทุ ธิ์

ของบำ้ นหลวง

อารมณ์

เพิ่ มรอยยิม้
รับควำมรสู้ กึ ดี
จำกผู้คนทเี่ ป็นมติ ร
กำรได้ออกไปเที่ยว
พบเจอกับคนทอ้ งถนิ่

เดก็ ชำวเขำ
แม่ นง่ั ทอผ้ำใตถ้ ุนบ้ำน
ลงุ ปำ้ น้ำอำพำไปปปลกู ข้ำว
นำขัน้ บันได หรอื แม้แต่

ข้ึนดอกไปเดินป่ำ
คงจะเป็นอีกวนั ท่ี
ทำให้คุณมรี อยยม้ิ
มำกขึน้ กว่ำเดิม

อาหาร

เวลำไปต่ำงจงั หวดั
กำรกระดก๊ี ระดำ๊ ก็คอื
กำรหำของกินทอ้ งถิ่นมำลองชมิ
แบบทีช่ อบพู ดกันวำ่
ถ้ำอยำกไปให้ถงึ ท…่ี ..
ก็ตอ้ งลองกนิ โนน่ -น-่ี นนั่
อำหำรประจำทอ้ งถิน่ นน้ั ๆ
จงึ จะถอื วำ่ ไปถงึ ทจ่ี ริงๆ
ทำนองเดยี วกบั .....
“ เขำ้ เมืองตำหลิ่ว ก็ต้องหลวิ่ ตำตำม ”

อารยธรรม

น่ังน่ิง ๆ พิจำรณำควำมเปน็ จริง
ทุกตำรำงนว้ิ ของศลิ ปวัฒนธรรม
ขนบธรรมเนยี มทีส่ ืบทอดมำชำ้ นำน

จำกพลังศรัทธำ ประเพณี
ค่ำนิยมอนั เก่ำเเก่ทีช่ ำวบำ้ นหลวง
หรือแม้แตค่ วำมเรียบงำ่ ย ใจดีของผ้คู น
สะท้องถึงควำมสงบภำยในจติ ใจ

ท่ีสำสมรถสมั ผสั ได้
โดยไม่ต้องหลับตำ

แผนที่

ตำบลบำ้ นหลวง



สารบัญ

1

58

อำหำร อำรยธรรม

96 128

Weather

อำกำศ

1 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย

1.ยอดดอยอนิ ทนนท์
2.พระมหำธำตุนภเมทนดี ลและ

พระมหำธำตนุ ภพลภมู สิ ริ ิ
3.พระตำหนักผำตงั้

4.เกษตรหลวงอินทนนท์
5.นำ้ ตกสิรภิ มู ิ
6. น้ำตกสิรธิ ำร

7. น้ำตกวชิรธำร
8.นำ้ ตกแมก่ ลำง

9.นำ้ ตกแมย่ ะ
10.ถ้ำบรจิ นิ ดำ

2 บ้ำนหลวง ผอ่ นคลำย

แผนท่ที อ่ งเท่ียว

3 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

หลบั ตำ
สดู ลมหำยใจ
ณ ยอดดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ แตเ่ ดมิ ดอยนม้ี ีชือ่ ว่ำ “
ดอยหลวง" หรอื "ดอยอำ่ งกำ" ดอยหลวง
มำจำกขนำดของดอยท่ใี หญม่ ำก ชำวบำ้ นจงึ

เรียกกนั วำ่
"ดอยหลวง"

(หลวง: เป็นภำษำเหนือ แปลวำ่ ใหญ่)

ดอยอ่างกา มีเรื่องเล่ำว่ำ ห่ำงจำก
ย อ ด ด อ ย ไ ป ท ำ ง ทิ ศ ต ะ วั น ต ก ป ร ะ ม ำ ณ
300เมตร มีหนองน้ำแห่งหน่ึงลักษณะ
เหมือนอ่ำง ฝูงกำจำนวนมำกมำยมักพำ
กันไปเล่นน้ำท่ีหนองน้ำแห่งน้ี จึงพำกัน
เรียกว่ำ "อ่ำงกำ" และภูเขำขนำดใหญ่
แห่งนั้นก็เลยเรียกกันว่ำ "ดอยอ่ำงกำ"
แต่ก็มีบำงกระแสกล่ำวว่ำ คำว่ำ "อ่ำงกำ"
แท้จริงแล้วมำจำกภำษำปกำเกอ ญอ
(กะเหรี่ยง) แปลว่ำ "ใหญ่" เพรำะฉะนั้นคำ
ว่ำ "ดอยอ่ำงกำ" จึงแปลวำ่ ดอยที่มคี วำม
ใหญน่ ่นั เอง

4 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย

ดอยอินทนนท์ อดีตกำลก่อนป่ำไม้ทำงภำคเหนืออยู่ในควำมควบคุมของเจ้ำผู้
ครองนครต่ ำงๆ สมั ยพระเจ้ ำอิ นทวิ ชยำนนท์ เจ้ ำผู้ ครองนครเชี ยงใหม่
(องค์สุดท้ำย) พระองค์ให้ควำมสำคัญกับป่ำไม้อย่ำงมำก โดยเฉพำะป่ำใน
บริเวณดอยหลวง ทรงรับส่ังว่ำ หำกส้ินพระชนม์ลงให้นำอัฐิบำงส่วนขึ้นไป
สร้ำงสถูปบรรจุไว้บนดอย ดอยนี้จึงมีนำมเรียกขำนว่ำ "ดอยอินทนนท์" แต่มี
ข้อมูลบำงกระแสกล่ำวว่ำ ท่ีดอยหลวงเรียกว่ำ ดอยอินทนนท์ นั้น เป็นเพรำะ
เนื่องจำกวำ่ เปน็ กำรให้เกยี รติ เจ้ำผู้ครองนคร จึงต้ังช่ือจำกคำว่ำ "ดอยหลวง" ซึ่ง
เป็นชื่อท่ีมีควำมซ้ำกับดอยหลวง ของอำเภอเชียงดำว แต่ภำยหลังมีชำว
เยอรมันมำทำกำรสำรวจและวัด ซึ่งปรำกฏผลว่ำ ดอยหลวง หรือดอยอ่ำงกำ
ที่อำเภอแม่แจ่ม มีควำมสูงกว่ำ ดอยหลวง ของอำเภอเชียงดำว จึงเปลี่ยนชื่อ
ใหม่ เพ่ือไม่ใหม้ ีควำมซ้ำซ้อนกัน และเรียกดอยแหง่ น้ีว่ำ "ดอยอินทนนท์"

5 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย

ดอยอินทนนท์เป็นยอดดอย
ที่สูงที่สุดของประเทศไทย สูงจำก
ระดับ น้ำท ะเลปำนกลำง 2,565
เ ม ต ร ปั จ จุ บั น เ ป็ น ส ถ ำ น ท่ี ส ำ คั ญ
ของประเทศไทย ท่ีมีนักท่องเท่ียว
ทั้งชำวไทยและต่ำงประเทศ มำ
เท่ียวชมเป็นสถำนท่ีท่ีงดงำม มีถ้ำ
น้ำตก ภูเขำ และสถำนที่สวยงำม
อ่ืนๆทมี่ ชี ือ่ เสียง

ส่วนบรเิ วณจดุ สงู สุดแดนสยำม
ถื อ เ ป็ น ไ ฮ ไ ล ท์ ย อ ด นิ ย ม ข อ ง
นักท่องเท่ียวที่มำเยี่ยมเยือนดอยอิน
ทนนท์ เน่ืองจำกด้ำนบนของยอด
ดอยจะมี หมุดหลักฐานจุดสูงสุด
แด นสย าม ซ่ึงถื อเป็น สั ญ ลักษ ณ์
สำคญั ของยอดดอยอินทนนท์

6 บ้ำนหลวง ผอ่ นคลำย

สักกำระพระมหำธำตุฯ
เสรมิ สริ ิมงคล

ถัดจำกเสน้ ทำงศกึ ษำธรรมชำติ พระมหำธำตุคู่เมอื งจอมทอง ทต่ี งั้ อยบู่ น
กิ่วแมป่ ำนลงมำประมำณ 500 กโิ ลเมตรท่ี 41.5 ทำงด้ำนซ้ำยมอื สรำ้ งขน้ึ
เมตร ก็จะถึงสถำนที่ท่องเท่ยี ว โดยกองทัพอำกำศรว่ มกบั พสกนกิ รชำวไทย
อกี หนง่ึ สถำนทส่ี ำคญั ท่ีใครมำ
เทีย่ วดอยอนิ ทนนท์ต้องไม่ โดย พระมหำธำตนุ ภเมทนดี ล สร้ำงถวำย
พลำดเขำ้ มำเย่ยี มชม น่ันกค็ อื พระบำทสมเด็จพระบรมชนกำธเิ บศร มหำภูมิ
“พระมหาธาตนุ ภเมทนดี ล และ พลอดลุ ยเดชมหำรำช บรมนำถบพิตร เน่ือง
พระมหาธาตนุ ภพลภูมสิ ริ ิ“ ในวโรกำสทรงเจริญ พระชนมพรรษำครบ 5
รอบ เม่ือ พ.ศ. 2530 และพระมหำธำตนุ
ภพลภูมสิ ริ ิสรำ้ งถวำยสมเดจ็ พระนำงเจำ้
สิริกิต์ิฯ พระบรมรำชนิ นี ำถในรัชกำลท่ี 9 ใน
วโรกำสทรงเจริญพระชนมพรรษำครบ 5
รอบ เม่อื พ.ศ. 2535 ซ่งึ ท้ังสองพระองคไ์ ด้
เสด็จมำทรงรับเม่อื วนั ท่ี 6 มีนำคม 2532
และ 8 มีนำคม 2536

7 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

พระมหำธำตเุ จดยี ์ทง้ั 2 องค์ สร้ำงอยู่
บนเนื้อที่ 18 ไร่ 2 งำน 45 ตำรำงวำ
ประกอบด้วยลำนกว้ำงระหว่ำงยอดดอย 2
ดอย ตรงลำนกวำ้ ง มแี ผน่ ปำ้ ยแสดงข้อมลู
นำมขององค์พระมหำธำตุ และมบี นั ไดทำง
ขน้ึ ไปยังพระมหำธำตเุ จดีย์ ซ่ึงประดิษฐำน
อยู่บนยอดดอย ยอดละ 1 องค์ โดยพระ
มหำธำตนุ ภเมทนดี ล ประดษิ ฐำนบนยอด
ดอยดำ้ นซำ้ ยมอื องคจ์ ะเป็นสนี ้ำตำล และ
พระมหำธำตุนภพลภูมิสิริ ประดิษฐำนบน
ยอดดอยทำงด้ำนขวำมือ องคจ์ ะเป็นสีม่วง
อมชมพู อีกทัง้ รอบบรเิ วณสำมำรถมองเห็น
ทวิ ทศั นข์ องดอยอินทนนทโ์ ดยรอบได้อยำ่ ง
สวยงำม

8 บำ้ นหลวง ผ่อนคลำย

พระมหาธาตนุ ภเมทนีดล มคี วำมหมำยว่ำ “พระสถูปเจดียบ์ รรจุพระ

บรมธำตุทย่ี ่ิงใหญเ่ พียงฟำ้ จดดิน” ถือเปน็ พระมหำสถปู เจดีย์องค์แรกท่ี
ตัง้ อยูบ่ นแผ่นดนิ ทสี่ ูงทีส่ ดุ ในประเทศไทย มคี วำมสงู 60 เมตร เพ่ือเปน็ นิมติ
หมำยถงึ กำรสรำ้ งเมื่อพระบำทสมเดจ็ พระบรมชนกำธเิ บศร มหำภูมพิ ลอ
ดลุ ยเดชมหำรำช บรมนำถบพิตร ชนมพรรษำ 60 พรรษำ

9 บ้ำนหลวง ผอ่ นคลำย

“พระมหาธาตุเจดียน์ ภเมทนีดล” องคพ์ ระมหำสถปู เจดีย์มสี ัณฐำนทรง
ระฆัง 8 เหลยี่ ม มลี วดลำยแบ่งออกเป็น 3 ชว่ ง แทนพระบำรมี 3 ขั้นตอน
ท่ีพระพุ ทธเจำ้ ไดท้ รงบำเพ็ญ อนั ประกอบดว้ ย บำรมขี น้ั แรก 10 ข้นั
อุปบำรมี 10 ขน้ั และปรมัตถบำรมี 10 ขน้ั รวมเปน็ บำรมี 30 ทัศ

10 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

สว่ นท่เี หนอื รูปทรงระฆัง เปน็ รปู บัวหงำย 8 กลีบ หมำยถึงมรรคมอี งค์ 8 และ
ส่วนบนสุดขององค์พระมหำสถูปเจดีย์ มีรปู ทรงเปน็ ยอดปลี ซ่ึงหมำยถงึ กำร
ตรสั รูส้ ูพ่ ระนิพพำน และทปี่ ลำยยอดปลีกั้นด้วยฉัตรโลหะสเี งิน 9 ชนั้ ฉลุลำยสี
เงิน มียอดเปน็ สที อง อันหมำยถงึ อุดมมงคลอันสูงสดุ และเป็นรม่ เกล้ำทพ่ี ระ
มหำกษตั ริยำธิรำช รัชกำลที่ 9 ผู้ทรงเปน็ “นวรำชบพิตร” ถวำยเป็นพุ ทธบชู ำ

สว่ นพ้ืนฐำนอันเปน็ ทตี่ ง้ั ขององค์พระมหำสถูปเจดยี ์ เปน็ ลำนประทักษณิ 2
ชั้น ซงึ่ มีซ้มุ ภำพป้ นั ด้วยดินเผำด่ำนเกวียน เปน็ ศลิ ปะแบบนนู ตำ่ ภำพทศชำติ
ชำดก ภำพธรรมชำตขิ องป่ำหิมพำนต์ และสตั วใ์ นป่ำหิมพำนต์ และทหี่ นำ้ บนั ซุ้ม
ทำงเขำ้ ภำยในองค์พระมหำสถปู ประดษิ ฐำน พระปรมำภไิ ธย ยอ่ ภ.ป.ร. ภำยใต้
พระมหำพิชยั มงกฎุ

ภำยในองค์พระมหำสถปู เจดยี ์ เปน็ หอ้ งโถงโลง่ ทรง 8 เหล่ียม เพดำนสงู
ตรงกลำงห้องประดิษฐำนพระพุ ทธรูปปำงประทำนพร จำหลกั ด้วยหินแกรนติ
สว่ นผนงั หอ้ งโถงประดบั ดว้ ยภำพศิลำจำหลัก แบบนูนตำ่ 4 ภำพใหญ่ แสดง
พุ ทธประวตั ิ 4 ตอนสำคัญ คือ ประสตู ิ ตรสั รู้ ปฐมเทศนำ และปรนิ ิพพำน
สำหรับพระพุ ทธรปู ปำงประทำนพรนี้ มขี นำดหนำ้ ตกั กวำ้ ง 60 นิ้ว ตำมจำนวน
พระชนมพรรษำ สูง 87 น้วิ หนัก 6 ตนั โดยแกะสลักจำกหนิ แกรนิตสเี ขียวอม
เทำของประเทศอินโดนีเซยี

11 บ้ำนหลวง ผอ่ นคลำย

กำรแกะสลักพระพุ ทธรูปแล้วเสร็จ และทำพิ ธีรับมอบเม่ือวันที่ 11 พฤษภำคม
พ.ศ.2530 (ตรงกับวันเพ็ ญวิสำขบูชำ) และได้อัญเชิญไปประดิษฐำนเป็นพระ
ประธำนในพระมหำธำตุเจดีย์นภเมทนีดล เมื่อวันที่ 3 กรกฎำคม พ.ศ.2530
พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว ได้พระรำชทำนนำมพระพุ ทธรูปนี้ว่ำ “พระพุ ทธบรม
ศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิ พั ฒน์ ” อัน มี
ควำมหมำยว่ำ “พระ พุ ทธเจ้าผู้เป็นพร ะบรมศาส ด า ส ร้างเป็นอนุสร ณ์ที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลท่ี 9 แห่งพระบรม
ราชจักรีวงศ์ พระชนมพรรษา 60 พรรษา”

12 บำ้ นหลวง ผ่อนคลำย

ท้ังน้ี กองทัพอำกำศได้อัญเชิญประกอบพิ ธีพุ ทธำภิเษกเบิกพระเนตร
พร้อมกับพระพุ ทธรูปจำลองเน้ือโลหะหน้ำตัก 9 น้ิว จำนวน 999 องค์
เม่ือวันอำทิตยท์ ี่ 6 กันยำยน พ.ศ.2530

พระพิมพ์ “พระพุ ทธบรมศำสดำ” เน้ือผง

พระพุ ทธบรมศำสดำจำลอง

13 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย

ในสว่ นของพระบรมสำรีรกิ ธำตุ ทไ่ี ดอ้ ัญเชญิ ขึ้นประดิษฐำนภำยในยอดปลี
พระมหำสถูปเจดยี น์ ้ี กองทัพอำกำศไดร้ บั พระรำชทำนจำกพระบำทสมเดจ็ พระ
เจ้ำอย่หู ัวสว่ นหน่งึ รบั จำกพระสงั ฆมหำนำยกะ สิริมัลวตั ตะ อนนั ดำ วัดมัลวัตตะ
เมอื งแคนดี ประเทศศรลี งั กำสว่ นหนึ่ง และสมเดจ็ พระญำณสงั วร สมเด็จ
พระสงั ฆรำช สกลมหำสงั ฆปริณำยก (เจรญิ สุวฑฺฒโน) อกี ส่วนหนงึ่ ซ่งึ
พระบำทสมเด็จพระเจำ้ อยหู่ ัว ได้ทรงทำพิธีบรรจพุ ระบรมสำรีรกิ ธำตุท้ังหมดไว้ใน
เจดยี ห์ นิ อ่อน และพระรำชทำนใหพ้ ลอำกำศเอกประพันธ์ ธปู ะเตมีย์ ผบู้ ัญชำกำร
ทหำรอำกำศ (ในขณะนั้น) ไดน้ ำไปประดิษฐำน ณ พระมหำธำตเุ จดยี ์นภเมทนีดล

14 บ้ำนหลวง ผอ่ นคลำย

พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล
องคน์ ี้ ประกอบพิ ธวี างศิลาฤกษ์
ก่อสรา้ งเมื่อวนั ที่ 5 ธนั วาคม
พ.ศ.2529 เวลา 10.19 นาฬิ กา

ตอ่ มำเมอ่ื วนั ที่ 6 มนี ำคม พ.ศ.2532 พระบำทสมเดจ็ พระเจ้ำอย่หู ัว ได้เสด็จ
พระรำชดำเนนิ มำทรงรบั และทรงเปิดพระมหำธำตุเจดยี น์ ภเมทนดี ล

15 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

เม่อื ปีพุ ทธศกั รำช 2535 อัน
เป็นปมี ง่ิ มหำมงคลท่ี สมเด็จพระ
นำงเจำ้ สิรกิ ติ ิ์ พระบรมรำชินีนำถ
พระบรมรำชชนนพี ันปีหลวง ทรง
เจรญิ พระชนมพรรษำครบ 5 รอบ
กองทัพอำกำศ ได้กอ่ สรำ้ ง
พระมหำธำตเุ จดยี ์ เพ่ือน้อมเกล้ำ
นอ้ มกระหม่อมถวำย และได้รับ
พระรำชทำนนำมวำ่

”พระมหาธาตนุ ภพลภูมิสิริ”

อนั มคี วำมหมำยว่ำ

“เปน็ กาลงั แหง่ ฟา้ เปน็ สิริแหง่ ดนิ ”

16 บำ้ นหลวง ผ่อนคลำย

“พระมหาธาตเุ จดียน์ ภพลภมู ิสิริ” มรี ปู ทรง 12 เหล่ียม แสดงควำมหมำยถึง
อัจฉรยิ ธรรม 12 ประกำร อนั เกิดแกพ่ ระนำงสิริมหำมำยำ พระพุ ทธมำรดำ มี
ระเบยี งกวำ้ งโดยรอบเปน็ 2 ระดับ ควำมกวำ้ งทีร่ ะดับระเบยี งลำ่ ง 37 เมตร
แสดงควำมหมำยถึงโพธปิ ักขยิ ธรรม 37 ประกำร ที่ขอบระเบยี งแต่ละระดบั มี
ซ้มุ รปู กลีบบัวประดับอยู่ 6 ซุ้ม องคพ์ ระมหำธำตุมคี วำมสูงจำกชำนพักชน้ั ล่ำง
ถงึ ยอดปลี 55 เมตร

สำหรับ รูปลักษณ์ของ
องค์เจดีย์นั้น แสดงควำม
หมำยถึงโพธิปักขิยธรรม
ท้ัง 37 ประกำร องค์เจดีย์
ป ร ะ ดั บ โ ม เ ส ก แ ก้ ว สี ม่ ว ง
อมชมพู สีเดียวกันตลอด
ท้ังองค์ ท่ีส่วนยอดของ
องคเ์ จดีย์เป็นยอดปลีล้อม
ด้ ว ย ก ลี บ ด อ ก บั ว ตู ม
ป ร ะ ดั บ ด้ ว ย โ ม เ ส ก แ ก้ ว สี
ทอง เป็นท่ีประดิษฐำนพระ
บรมสำรีริกธำตุ กั้นด้วย
ฉัตรสีเงนิ 9 ช้ัน

17 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

ที่ผนังด้ำนนอกขององค์พระมหำธำตุเจดีย์และซุ้มระเบียง ประดับด้วยภำพ
ป้ ันดินเผำ เป็นเร่ืองรำวของพระภิกษุณี ผู้เป็นเอตทัคคะ, เรื่องรำวของ
อุบำสิกำ ผู้เป็นเอตทัคคะ และภำพสวรรค์ท้ัง 6 ช้ัน ส่วนที่ด้ำนบนของซุ้ม
ประตทู ้ัง 3 ดำ้ น มพี ระนำมำภไิ ธยยอ่ สก. ประดษิ ฐำนไว้

ภำยในเจดีย์เป็นโถงเพดำนสูง มีพระพุ ทธรูปที่ประดิษฐำนเป็นพระ
ประธำนอยู่บนแท่นกลำงโถง เป็นพระพุ ทธรูปปำงรำพึง ซึ่งเป็นพระประจำวัน
ศุกร์ อันเป็นวันพระรำชสมภพของสมเด็จพระนำงเจ้ำฯ พระบรมรำชินีนำถ
แกะสลักด้วยหินหยกขำว จำกประเทศสำธำรณรัฐประชำชนจีน ขนำดควำมสูง
เฉพำะองค์พระ 3 เมตร 20 เซนติเมตร ประทับยืนบนดอกบัว มีชำยสังฆำฏิ
พำดอยบู่ นบลั ลังก์ หนกั ประมำณ 5 ตัน

18 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

อำจกล่ำวได้วำ่ เปน็ พระพุ ทธรูปหินหยกขำวทม่ี ีขนำดใหญ่และงดงำมที่สุดองค์
หนึ่ง ได้รับพระรำชทำนนำมจำกสมเด็จพระนำงเจ้ำฯ พระบรมรำชินีนำถว่ำ
“พระพุ ทธสิรกิ ติ ฑิ ฆี ำยุมงคล” มีควำมหมำยว่ำ “พระพุ ทธเจ้ำทรงเป็นสิริมงคล
และทรงเจรญิ พระชนมพรรษำ สมเดจ็ พระนำงเจำ้ ฯ พระบรมรำชนิ นี ำถ”

ผนังตอนบนโถงประดับด้วยภำพพุ ทธประวัติ ทำด้วยโมเสกแก้วสี ซึ่ง
ออกแบบกำรจัดภำพและสีด้วยคอมพิวเตอร์ สั่งทำพิเศษจำกอิตำลี เป็นภำพ
แสดงเรื่องรำวของพระนำงสิริมหำมำยำ, พระนำงมหำปชำบดีโคตมี, พระนำง
ยโสธรำพิมพำ และนำงวิสำขำมหำอุบำสิกำ ซ่ึงเป็นผู้ท่ีมีบทบำทในกำรส่งเสริม
ให้พระพุ ทธศำสนำได้อุบัติข้ึนในโลก รวมท้ัง ได้ทะนุบำรุงให้มีกำรสืบทอด
พระพุ ทธศำสนำมำจนทุกวนั น้ี

19 บ้ำนหลวง ผอ่ นคลำย

ส่วนผนังตอนล่ำงประดับด้วย
ภ ำ พ พ ร ะ ร ำ ช ก ร ณี ย กิ จ ท่ี ส ำ คั ญ ข อ ง
สมเด็จพระนำงเจ้ำฯ พระบรมรำชินีนำถ
เป็ น ภ ำ พ แ บ บ ผ ส ม นู น ต่ ำ แ ล ะ นู น สู ง
แกะสลักดว้ ยหินแกรนติ สขี ำว

โดยรวมแล้วรูปลักษณ์ของพระ
มหำธำตุเจดีย์ น้ันแสดงควำมหมำยถึง
องค์ ป ระ กอ บ ที่ส่ งเ สริม ให้ องค์ พร ะ
สัมมำสัมพุ ทธเจ้ำ บรรลุอนุตรสัมมำ
สัมโพธิญำณ ส่วนกำรตกแต่งแสดง
ถึงบทบำทของสตรีท่ีมีส่วนส่งเสริมและ
สนับสนุนให้พระพุ ทธศำสนำอุบัติข้ึนใน
โลก สีสันและวัสดุท่ีใช้ประดับท้ังภำยใน
และภำยนอกองค์เจดีย์

20 บ้ำนหลวง ผอ่ นคลำย

ควำมหมำยกำรตกแต่ง

ภำพพระรำชกรณยี กจิ ภำยในองค์พระมหำธำตุเจดยี ์ เปน็
โถงรูป 12 เหล่ยี ม มีซมุ้ ประตทู ำงเข้ำ 3 ซมุ้ มีผนงั ระหวำ่ ง
ซุม้ ประตู ช่วงละ 3 ด้ำน จงึ จดั ภำพพระรำชกรณียกิจเป็น
3 กลมุ่ ใหค้ รอบคลมุ พระรำชกรณียกจิ ท่ีสำคัญทั้ง 3 ด้ำน

ภำพกล่มุ ท่ี 1 เป็นภำพท่สี ะท้อนใหเ้ หน็ ถงึ พระปรีชำสำมำรถในกำรปฏิบตั ิพระรำชกรณยี กิจ

21 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย

ภำพกล่มุ ท่ี 2 เปน็ ภำพทต่ี อ้ งกำรสะท้อนให้เหน็ ถงึ พระรำชปณธิ ำนอนั แนว่ แนม่ ่ันคง

ภำพกลุ่มท่ี 3 เปน็ ภำพพระรำชกรณยี กิจทสี่ ะทอ้ นถึงควำมเป็นพระแมเ่ จ้ำของชำวไทย

22 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

ผนังตอนบนภายในโถงเจดยี ์ประดบั ด้วยภาพพุ ทธประวัติ

ผนงั ตอนบนภำยในโถงเจดีย์ประดบั ดว้ ยภำพพุ ทธประวัติ ทำด้วย
โมเสกแกว้ ซึ่งออกแบบกำรจดั ภำพ และสดี ้วยคอมพิวเตอร์ สั่งทำพิเศษจำก
อิตำลี เปน็ ภำพแสดงเรื่องรำวของ พระนำงสิริมหำมำยำ พระนำงมหำปชำบดี
โคตมี พระนำงยโสธรำพิมพำ และนำงวสิ ำขำมหำอบุ ำสกิ ำ ซึ่งเป็นผทู้ ่มี ีบทบำทใน
กำรส่งเสริมใหพ้ ระพุ ทธศำสนำได้อุบตั ขิ ึน้ ในโลกรวมทงั้ ไดท้ ะนุบำรงุ ใหม้ ีกำรสืบ
ทอดพระพุ ทธศำสนำมำจนทุกวันน้ีรวม 12 ภำพ

ภำพที่ 1 ภำพพระนำงสริ มิ หำมำยำทรงสุบนิ นมิ ติ ภำพที่ 2 ภำพพระนำงสริ ิมหำมำยำประสตู พิ ระโพธสิ ัตวใ์ ต้ร่มต้นสำละ

23 บำ้ นหลวง ผ่อนคลำย

ภำพที่ 3 ภำพพระพุ ทธเจ้ำทรงแสดงพระธรรมเทศนำ ภำพท่ี 4 ภำพพระนำงมหำปชำบดีโคตมี ทรงบริบำล
โปรดสนั ดุสิตเทพบตุ ร พระโพธิสัตว์

ภำพที่ 5 ภำพพระพุ ทธเจ้ำทรงผนวชพระนำงมหำปชำบดโี คตมี ภำพท่ี 6 ภำพพระนำงมหำปชำบดีโคตมี ปรินพิ พำน
เปน็ พระภิกษณุ ี

ภำพที่ 7 ภำพนำงวสิ ำขำมหำอบุ ำสกิ ำฟงั ธรรมจำกพระพุ ทธเจ้ำ ภำพที ๘ ภำพพระนำงวิสำขำถูกไลอ่ อกจำกบ้ำนของมิคำรเศรษฐี

24 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

ภำพท่ี 9 ภำพพระนำงวสิ ำขำถวำยโลหะปรำสำทแก่พระพุ ทธเจ้ำ ภำพท่ี 10 ภำพพระนำงยโสธรำพิมพำ ทูลขอขุมทรัพยใ์ ห้
พระรำหลุ

ภำพที่ 11 ภำพพระพุ ทธเจ้ำทรงชี้แจง ใหพ้ ระนำงยโสธรำพิมพำ ภำพท่ี 12 ภำพพระพุ ทธเจ้ำทรงผนวชพระนำงยโสธรำพิมพำ
เข้ำใจถงึ ขมุ ทรพั ยภ์ ำยนอกและขมุ ทรัพยภ์ ำยใน เปน็ พระภกิ ษุณี

25 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

ที่เพดำนโถงประดับดว้ ยโมเสกแก้ว รูปดอกสำละสีน้ำตำล เกสรสีทอง มีกลีบ
ดอก 2 ชั้น ๆ ละ 12 กลีบ ตัดเส้นกลีบดอกชั้นนอกกับช้ันในด้วยสีน้ำตำลเข้ม ท่ี
โคนกลีบชั้นและปลำยกลีบชั้นนอกติดไฟกระบอก ซ่ึงปรับควำมเข้มของแสงได้ไว้
กลับละ 1 ดวงแล้วปรับลำแสงของดวงไฟที่กลีบช้ันในไปที่องค์พระพุ ทธสิริกิติ
ฑฆี ำยมุ งคล นอกจำกน้ียังได้ติดไฟส่องภำพพุ ทธประวัติ และภำพพระรำชกรณีย
กิจโดยจัดกำรให้แสงไวอ้ ย่ำงดีย่งิ เม่ือเปิดไฟท้งั หมดแลว้ ภำยในโถงจะดูสว่ำงไสว
ไฟส่องมำท่ี พระพุ ทธรูป พระพุ ทธสิริกิติฑีฆำยุมงคล ทำให้ดูโดดเด่นสวยงำม
อย่ำงย่ิง นอกจำกน้ัน แสงไฟท่ีส่องภำพพระรำชกรณียกิจ ท่ีบรรจงจัดให้เกิด
ควำมสว่ำงและเงำที่เหมำะเจำะ ทำใหม้ ภี ำพควำมคมชดั และสวยงำมขึ้นเปน็ อันมำก

ดอกสำละ ลักษณะของดอกไม้ชนิดนี้คล้ำยดอกสำรภี แต่มีขนำดใหญ่กว่ำดอก
สำละมีควำมเก่ียวพั น กับองค์พระสัมมำสัมพุ ทธเจ้ำคือ พระองค์ประสูติใต้ต้น
สำละ ซึง่ ตำนำนได้กล่ำวไว้ว่ำ ขณะนั้นกำลังผลิดอกสวยงำมเป็นที่น่ำร่ืนรมย์ และ
ในครำวเสดจ็ ดบั ขนั ธป์ รินพิ พำน พระองคก์ ็ประทับบรรทมบนพระแทน่ ระหว่ำงตน้
สำละท้ังคู่ซ่ึงกำลังผลิดอกสะพร่ังอยู่เช่นเดียวกัน ดอกสำละจึงเป็นดอกไม้ที่มี
คณุ ค่ำทำงดำ้ นจิตใจของพุ ทธศำสนิกชนเป็นอยำ่ งสงู

26 บำ้ นหลวง ผ่อนคลำย

การตกแตง่ องคพ์ ระมหาธาตุเจดยี ์

สิ่งท่ีจะสะดุดตำผู้ที่ได้เห็นพระมหำธำตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ เป็นส่ิงแรกคือ สีของ
องค์เจดีย์ที่มองเห็นในภำพรวมเป็นสีม่วงอมชมพู ประกอบกับ รูปทรงท่ีอ่อน
ช้อยด้วยบัวรัดรอบองค์เจดีย์ ทำให้ดูแปลกตำแตกต่ำงไปจำกเจดีย์ทั่วๆ ไป
เมื่อเข้ำไปใกล้จะปรำกฏภำพดินเผำเคลือบสีกลมกลืนกับองค์เจดีย์ประดับอยู่ที่
ผนังด้ำนนอกขององค์เจดีย์ และภำพดินเผำเคลือบสีน้ำตำลประดับอยู่ท่ีซุ้ม
ระเบียงสีม่วงอ่อนตัดกับผนังระเบียงสีม่วง ท่ียอดองค์เจดีย์มีลักษณะเป็น
ยอดปลีสีทองกั้นด้วยฉัตรสีเงิน 9 ช้ัน

ภำพป้ ันรอบองค์เจดีย์
เป็นเรื่องรำวในอดีตชำติ
แ ล ะ ปั จ จุ บั น ช ำ ติ ข อ ง
พระภิกษุณี ท่ีบ ำเพ็ ญ
เพี ยรจนบรรลุพระอรหัต
แ ล ะ เ ป็ น เ อ ต ทั ค ค ะ
ตำมลำดบั ประกอบดว้ ย

ภำพที่ 1 พระเขมำภิกษณุ ี ผเู้ ปน็ เลศิ ทำงมีปญั ญำมำก

27 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

ภำพท่ี 2 พระอุบลวณั ณำภกิ ษุณี ผู้เป็นเลิศทำงมฤี ทธิ์มำก ภำพที่ 3 พระปฎำจำรำภกิ ษณุ ี ผู้เปน็ เลิศทำงมีวนิ ยั มำก

ภำพที่ 4 พระโสณำภิกษุณี ผเู้ ปน็ เลศิ ทำงควำมเพียร ภำพที่ 5 พระนันทำภกิ ษุณี ผเู้ ปน็ เลิศทำงฌำน

28 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย

ภำพท่ี 6 พระธมั มทนิ นำภิกษุณี ผูเ้ ป็นเสิศทำงธรรมกถกึ ภำพท่ี 7 พระสกลุ ำภกิ ษุณี ผ้เู ป็นเลิศทำงจกั ษุทพิ ย์

ภำพท่ี 8 พระภทั ทำกุณฑลเกสำภกิ ษณุ ี ภำพที่ 9 พระภัททำกปลิ ำนีภิกษณุ ี
ผู้เปน็ เลศิ ทำงตรสั รูไ้ ดเ้ ร็วพลัน ผู้เป็นเลิศทำงระลกึ ชำตกิ ่อนๆ ได้

ภำพป้ ันเรือ่ งรำวของภกิ ษณุ ที งั้ 9 ภำพ ได้จัดตกแต่งไว้ตำมลำดบั
เริ่มต้นภำพแรกทำงซ้ำยของประตูทำงเขำ้ ดำ้ นหน้ำเวยี นเปน็ ทกั ษิณำวฏั

29 บ้ำนหลวง ผอ่ นคลำย

พระภทั ทากปลิ านีเถรี

ท่ำนเป็นธิดำของพรำหมณ์โกสิยโคตรในสำคลนครแห่งมัททรัฐ เม่ือเจริญวัยขึ้นได้
แต่งงำนกับปิปผลิมำณพ บุตรของกบิลพรำหมณ์ แห่งบ้ำนพรำหมณ์มหำตฏิ ฐะ ใน
นคธรัฐ ท่ำนท้ังสองมิได้มีเพศสัมพั นธ์กัน เพรำะเป็นผู้มีบำรมีแก่กล้ำได้อยู่ครอง
เรือนมำจนบิดำมำรดำสิ้นชีพหมดแล้ว จึงต่ำงพำกันออกบวช ท่ำนได้มำบวชอยู่ใน
สำนกั ของพระมหำปชำบดีโคตมีเถรีไม่นำน ก็ได้บรรลุพระอรหันต์ ท่ำนชำนำญในกำร
ระลึกชำติ ในอดีตหนงึ่ ทำ่ นได้ทะเลำะกับนอ้ งสำวของสำมี วันหนึ่งหญิงนั้นได้ใส่บำตร
พระปัจเจกพระพุ ทธเจ้ำและอธิษฐำนดัง ๆ ให้ท่ำนได้ยินว่ำขออย่ำให้พบเห็นหญิง
เช่นนี้ ท่ำนได้ยินเข้ำก็โกรธจึงแย่งบำตรจำกพระปัจเจกพุ ทธเจ้ำมำเททิ้งเสีย เอำดิน
โคลนใสแ่ ทนถวำยพระไป ผ้เู ห็นเหตกุ ำรณ์ตำหนทิ ำ่ นวำ่ ทำ่ นเปน็ คนพำลทะเลำะกันเอง
แล้วทำไมไปทำกับพระปัจเจกพุ ทธเจ้ำท่ำนกลับได้สติจึงขอบำตรคืนมำเทโคลนทิ้ง
ล้ำงสะอำดแลว้ อบดว้ ยควำมหอม บรรจุอำหำรประณีตรำดเนยสีสวย ถวำยอธิษฐำน
ขอให้มีผิวพรรณผุดผ่องในชำตินี้ พระพุ ทธเจ้ำได้ทรงตั้งท่ำนในตำแหน่งผู้เป็นเลิศ
ของภกิ ษณุ ผี รู้ ะลกึ ชำตไิ ด้.

30 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย

ซ้มุ ระเบียงรอบองคเ์ จดยี ์ ประดับดว้ ยภำพป้ ันดินเผำเคลือบสีน้ำตำล เลยี นแบบ
สีธรรมชำติของเนื้อดิน ทำให้ซุ้มระเบียงมีควำมงำมเด่น ท่ีซุ้มระเบียงบนด้ำนใน
จะเป็นภำพสวรรค์ทั้ง 6 ช้ัน ด้ำนนอกเป็นภำพเร่ืองรำวของอุบำสิกำผู้เป็นเลิศ
ในด้ำนต่ำง ๆ 6 นำง สำหรับภำพท่ีประดับในซุ้มระเบียงล่ำงด้ำนใน เป็นภำพ
อุบำสิกำผู้เป็นเลิศ 3 นำง และพระภิกษุณีผู้ท่ีพระพุ ทธเจ้ำได้ทรงยกย่องให้เป็น
เลิศในด้ำนต่ำง ๆ อีก 3 รูป ส่วนภำพด้ำนนอกของซุ้มระเบียงล่ำงเป็นภำพปีก
สญั ลกั ษณข์ องกองทพั อำกำศ

ภำพท่ี 1 พระนำงสุปปวำสำโกลิยธิดำ เลิศกว่ำอบุ ำสกิ ำ ภำพที่ 2 นำงนกุลมำตำคหปตำนี เลิศกวำ่ อบุ ำสกิ ำ
ผู้ถวำยรสอนั ประณตี ผคู้ ุ้นเคย

ภำพที่ 3 นำงอุตตรำนันทมำตำ เลิศกว่ำอบุ ำสิกำ ภำพที่ 4 นำงกำฬี อุบำสกิ ำ เลิศกวำ่ อุบำสกิ ำ
ผยู้ นิ ดใี นฌำน ผ้เู ล่ือมใสโดยไดย้ นิ ได้ฟงั ตำม

31 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย

ภำพท่ี 5 นำงสปุ ปยิ ำอบุ ำสิกำ เลิศกว่ำอุบำสกิ ำ ภำพท่ี 6 นำงกำติยำนี เลศิ กว่ำอุบำสกิ ำ
ผเู้ ปน็ คิลำนุปฎั ฐำก ผูเ้ ล่อื มใสอย่ำงแนน่ แฟน้

ภาพป้ นั ซมุ้ ระเบยี งล่างด้านใน เป็นเร่อื งรำวของพระภิกษุณีผเู้ ปน็ เลศิ รวมทั้ง
อบุ ำสิกำผเู้ ป็นเลศิ ซง่ึ ในช่วงสดุ ทำ้ ยของชีวติ ไดบ้ วชและบรรลุอรหนั ต์ทกุ องค์
ประกอบดว้ ย
ภำพที่ 1 พระกสี ำโคตมีภกิ ษุณี เป็นเลิศกว่ำภิกษุณีผู้ทรงจีวรเศรำ้ หมอง
ภำพท่ี 2 พระสคิ ำลมำตำภิกษุณี เป็นเลศิ กวำ่ ภิกษุณีผูพ้ ้นจำกกิเลสได้ด้วยศรัทธำ
ภำพท่ี 3 พระนำงอโนชำภิกษุณี ผ้มู คี วำมตงั้ ใจมัน่
ภำพท่ี 4 นำงสชุ ำดำเสนียธดิ ำ เลิศกวำ่ อบุ ำสกิ ำผูส้ รณะก่อน
ภำพท่ี 5 นำงขชุ ชตุ ตรำ เลศิ กว่ำอบุ ำสกิ ำผเู้ ป็นพหูสตู
ภำพที่ 6 นำงสำมำวดี เลศิ กวำ่ อุบำสกิ ำผู้ปกติอยดู่ ว้ ยเมตตำ

32 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย

ภำพป้ นั ซุ้มระเบยี งบนดำ้ นใน เป็นภำพสวรรค์ ประกอบด้วย
ภำพที่ 1 สวรรคช์ ้ันท่ี 1 จำตุมหำรำชิกำภมู ิ มีท้ำวจำตุมมหำรำช ปกครอง
ภำพที่ 2 สวรรค์ชัน้ ท่ี 2 ตำวตงิ สำภูมิ มีทำ้ วสกั กะเทวรำช ปกครอง
ภำพที่ 3 สวรรค์ช้ันที่ 3 ยำมำภมู ิ มีท้ำวสุยำม ปกครอง
ภำพท่ี 4 สวรรคช์ ้ันท่ี 4 ดสุ ติ ำภูมิ มีท้ำวสนั ดสุ ิต ปกครอง
ภำพท่ี 5 สวรรคช์ ้นั ท่ี 5 มินมำนรตีภูมิ มีทำ้ วสุนิมมติ ปกครอง
ภำพที่ 6 สวรรคช์ น้ั ที่ 6 ปรนิมมิตสวตั ตภี มู ิ มที ้ำววสวตั ตี ปกครอง

ที่ด้ำนบนของซุ้มประตูท้ัง 3 ด้ำน ได้
อัญเชิญพระนำมำภิไธยย่อ สก . ขึ้น
ประดิษฐำนไว้เป็นกำรเฉลิมพระเกียรติ
สมเด็จพระนำงเจ้ำฯ พระบรมรำชินีนำถ
ในรัชกำลที่ 9 เพ่ื อให้พสกนิกรผู้ได้มำ
สักกำระ และเย่ียมชมพระมหำธำตุเจดีย์
จั ก ไ ด้ ร ำ ลึ ก ถึ ง พ ร ะ บ ำ ร มี แ ล ะ ร่ ว ม
อนุโมทนำสำธกุ ำรไปช่ัวกำลนำน

33 บำ้ นหลวง ผอ่ นคลำย

เดนิ เลน่ บนลำนกวำ้ ง
ชมววิ พญำเสือโคร่ง

พระตาหนักดอยผาต้ัง ต้ังอยู่ภำยในพื้นที่ของหน่วยพิทักษ์อุทยำนแห่งชำติ

ดอยอินทนนท์ที่ 8(ดอยผำตั้ง) อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อีกสถำนที่ท่องเท่ียวชม
พญำเสือโคร่งบำนบนดอยอินทนนท์ ที่อยำกเชิญชวนให้ไปเที่ยวชม ท่ีน่ีมีต้นพญำ
เสือโคร่งท่ีจะบำนสะพรั่งทั่วสนำมหญ้ำสีเขียวแสนกว้ำง สำมำรถนั่งเล่นหรือเดินชม
ดอกพญำเสือโคร่งริมสนำมหญ้ำ และเส้นถนนภำยในพระตำหนัก ฯ และเนื่องจำก
ต้งั อยู่บนท่ีสงู จึงสำมำรถมองเหน็ วิวทิวทศั นข์ องภเู ขำทอี่ ยู่รำยล้อมไดอ้ กี ด้วย

34 บำ้ นหลวง ผ่อนคลำย

พระตาหนักดอยผาตั้ง ต้ังอยู่ถัดจำกแยกบ้ำนขุนกลำง (ทำงไปขุนวำง)
เพี ยงเล็กน้อย สำมำรถขับรถส่วนตัวข้ึนไปได้ หำกผ่ำนตลำดม้งอินนทนนท์
ก็เตรยี มชิดซำ้ ยแยกขน้ึ ไปตำมถนนเสน้ เล็กๆ สูพ่ ระตำหนักดอยผำต้ังเส้นทำง
ขึ้นไปยังดอยผำตั้งจะค่อนข้ำงแคบและชัน ต้องขับรถด้วยควำมระมัดระวัง
รถทุกชนิดสำมำรถขึ้นไปถึงได้ ถนนเป็นถนนรำดยำงไปจนถึงพระตำหนัก
เม่ือมำถงึ สำมำรถจอดรถไดบ้ รเิ วณลำนจอดรถ จำกน้นั เดนิ ลงไปยังพ้ืนสนำม
หญ้ำซึ่งสะพร่ังไปด้วยสีชมพู ของดอกนำงพญำเสือโคร่งได้ เรียกได้ว่ำเป็น
จดุ ชมพญำเสือโคร่งท่ีจอดรถปบุ๊ กเ็ ดินลงไปชมไดเ้ ลย

พื้ นที่สนำมหญ้ำกว้ำงมำก
จะน่งั เลน่ พักผ่อนภำยใต้ร่ม
เ ง ำ ข อ ง ต้ น น ำ ง พ ญ ำ เ สื อ
โคร่ง หรือจะเดินถ่ำยภำพ
ยังมุมตำ่ งๆ
35 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย

จำกลำนสนำมหญ้ำมองเห็นเรือนประทับแรม
ดอยผำตั้งหรือที่นักท่องเท่ียวเรียกกันติด
ปำกว่ำพระตำหนักดอยผำต้ัง ซึ่งเป็นเรือน
รับรองพิ เศษของสมเด็จพระนำงเจ้ำสิริกิตต์
พระบรมรำชินีนำถ(ในรัชกำลท่ี9) ท่ีมีดอก
พญำเสือโคร่งสชี มพู ปกคลมุ สวยงำมมำก

ต้นนำงพญำเสือโคร่งท่ีนี่ปลูกอย่ำงเป็นระเบียบ รอบสนำมหญ้ำ ผืนหญ้ำสี
เขียวผสมผสำนกันระหว่ำงสีชมพู ของดอกไม้และท้องฟำ้ สีฟำ้ ได้อย่ำงลงตัว
แถมนักท่องเที่ยวไม่เยอะมำกเหมือนกับขุนวำงหรือขุนช่ำงเค่ียน มีควำมสงบ
และเป็นธรรมชำติ ตอนนี้เรมิ่ มีใบแซมขึ้นมำแลว้ แตย่ งั สวยอยู่

นอกจำกต้นพญำเสือโคร่งที่ปลูกริมสนำมหญ้ำแล้ว ยังมีที่ปลูกริมถนน
ภำยในพระตำหนักด้วย พระตำหนักดอยผำตั้ง เป็นอีกหนึ่งจุดดอกนำงพญำ
เสือโคร่งในบรรยำกำศท่ีเย็นสบำย มองเห็นวิวทิวเขำ และธรรมชำติที่ยัง
สวยงำมทีอ่ ยูร่ ำยล้อม

36 บ้ำนหลวง ผ่อนคลำย


Click to View FlipBook Version