แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ป3

ชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด
เร่ือง การรวบรวม ประมวลผล และนำเสนอขอ้ มลู

คำช้แี จง : ให้นกั เรยี นเลือกเรื่องท่สี นใจภายในโรงเรียนตามหัวขอ้ ทกี่ ำหนดให้ แลว้ ทำการรวบรวมขอ้ มูล
ประมวลผลด้วยวิธกี ารต่างๆ จากนั้นนำเสนอหนา้ ช้ันเรียนใหน้ ่าสนใจ

• อาชีพท่ีอยากเป็น
• สถานทท่ี ่องเทย่ี วที่อยากไป
• เรือ่ งอ่ืน ๆ ภายในโรงเรยี นทนี่ ักเรยี นสนใจ

1. เร่อื งทส่ี นใจรวบรวมข้อมูล.........................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………....

2. ขอ้ มูลที่ใชเ้ ปน็ ข้อมลู ประเภทใด.................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………....

3. ข้นั ตอนในการรวบรวมข้อมลู
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....

4. รวบรวมขอ้ มลู
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....

5. การประมวลผลข้อมูล

6. รปู แบบการนำเสนอ
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....

ชิน้ งาน/ภาระงานรวบยอด เฉลย
เรื่อง การรวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมูล

คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นเลอื กเร่ืองทีส่ นใจภายในโรงเรียนตามหัวขอ้ ท่ีกำหนดให้ แลว้ ทำการรวบรวมขอ้ มูล
ประมวลผลด้วยวิธีการต่างๆ จากน้นั นำเสนอหน้าชัน้ เรยี นใหน้ ่าสนใจ

• อาชพี ท่ีอยากเป็น
• สถานที่ท่องเท่ียวที่อยากไป
• เรือ่ งอืน่ ๆ ภายในโรงเรียนทน่ี ักเรียนสนใจ

1. เร่อื งท่สี นใจรวบรวมข้อมูล.........อ..า..ช...พี ...ท..ี่อ...ย..า..ก..เ..ป..็น.......................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………....

2. ข้อมูลที่ใช้เป็นข้อมูลประเภทใด......ข..อ้ ..ม...ูล..อ..ัก...ข..ร..ะ.........................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………....

3. ขน้ั ตอนในการรวบรวมข้อมลู
1….…เล…ือ…ก…ห…ัวข…อ้ …ท…ีต่ …อ้ …งก…า…รร…ว…บ…รว…ม……: …เล…อื …กห…ัว…ข…้ออ…า…ช…ีพ…ท…ี่อย…า…ก…เป…น็ ……………………………………....
2….…เล…ือ…ก…แ…ห…ล่ง…ข…้อ…มูล…ท…ต่ี …้อ…งก…า…รร…ว…บ…รว…ม…:…เ…พ…อื่ น…ท…ั้ง…ห…มด…ใ…น…ห…้อง…………………………………………....
3….…ว…ิธีก…า…ร…ใน…ก…าร…ร…วบ…ร…ว…ม…ข้อ…ม…ูล…:…ส…อ…บ…ถา…ม…เพ…ื่อ…น…ๆ…ใน…ห…้อ…งแ…ล…ะ…จด…บ…นั …ท…ึก…ล…งใ…น…กร…ะ…ด…าษ…………....
4….…ก…าร…เ…ลอื…ก…อ…ปุ …กร…ณ…ท์…ต่ี …้อ…งก…า…ร…ใน…ก…าร…ร…วบ…ร…ว…ม…ข้อ…ม…ูล…:…ก…า…รใ…ช…้กร…ะ…ด…าษ…จ…ด…บ…นั ท…กึ…………………....
5….…ร…วบ…ร…ว…มข…อ้ …ม…ูล…:…ท…ำ…กา…ร…รว…บ…ร…วม…ข…้อ…ม…ลู ต…า…ม…ขั้น…ต…อ…น……………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....

4. รวบรวมขอ้ มูล
……………………………………………………หวั…ข…อ้ …อ…า…ชพี…ใ…น…ฝ…ัน…………………………………………………....
…ฝน…แ…ล…ะ…ปล…า…อ…ยา…ก…เป…น็ …ค…ร…ู น…กุ …น…กิ แ…ล…ะ…โจ…อ…ย…าก…เ…ป็น…ห…ม…อ…เ…จน…อ…ย…า…กเ…ป…น็ …พ…ยา…บ…า…ล…………………....
…กิบ๊…อ…ย…า…กเ…ป…น็ ท…ห…า…ร…น…า…ยอ…ย…า…กเ…ป…็น…ตำ…ร…วจ……แ…บม…อ…ย…าก…เ…ป…น็ จ…ติ …ก…ร…บ…า…สอ…ย…า…กเ…ป…็น…วศิ …ว…ะ…………....
…บอ…ล…อ…ย…าก…เ…ป็น…ค…น…ท…ำ…อา…ห…า…ร ………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....

5. การประมวลผลข้อมูล

อาชีพในฝนั

ชือ่ เพ่อื น หมอ ครู พยาบาล ทหาร ตำรวจ จติ กร วิศวะ อื่นๆ

1.ฝน /
2.ปรา
3.เจน /
4.แบม
5.นุกนิก /
6.กิ๊บ
7.นาย /
8.บอล
9.บาส /
10โจ
รวม /

/

/

/

/

2 2 1 1 111 1

6. รูปแบบการนำเสนอ
…ก…า…รท…ำ…ต…าร…า…งร…ว…บ…รว…ม…ผ…ล…แ…ละ…น…ำ…เส…น…อ…โด…ย…กา…ร…บ…อก…เ…ล…า่ ว…่า…เพ…่ือ…น…ใน…ช…้ัน…เร…ีย…นม…ีอ…า…ชพี…ใ…น…ฝ…ัน…....
…อ…ะ…ไร…บ…า้ ง…แ…ล…ะ…จ…ำน…ว…น…อ…าช…พี …ท…ี่เพ…อ่ื …น…ใน…ห…้อ…ง…อย…า…ก…เป…น็ …ท…สี่ ุด…ค…ือ…อ…ะไ…ร…*…ค…รสู …า…มา…ร…ถ…ต่อ…ย…อ…ด…โด…ย....
…ก…า…รใ…ห…น้ …กั เ…รยี…น…ห…า…ข…้อม…ลู …อ…าช…ีพ…ต…่า…งๆ…ม…า…น…ำ…เส…น…อใ…ห…เ้ พ…ื่อ…น…ฟ…ังอ…ีก…ไ…ด้เ…พ…่ือ…เป…็น…ก…าร…แ…น…ะแ…น…ว……....
…อ…า…ชพี………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....
………………………………………………………………………………………………………………………………....

12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......

ลงช่อื
(

ตำแหนง่

13. บนั ทึกผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5

การใช้งานซอฟต์แวร์

เวลา 3 ช่ัวโมง

1. ผลการเรยี นรู้

1. เพือ่ ให้ผู้เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเบ้ืองต้น

2. เพื่อให้ผเู้ รียนมีทักษะการคิดเชงิ คำนวณ การคิดวิเคราะห์ แกป้ ญั หาเปน็ ขั้นตอนและเป็นระบบ

3. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นมีทักษะในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ รกั ษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบ้ืองต้น

ในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ิตจริงไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ

4. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นพฒั นากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการ

ทกั ษะในการสอ่ื สาร ความสามารถในการตัดสนิ ใจ

5. เพอื่ ให้ผู้เรยี นเป็นผู้มจี ติ วิทยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มในการใช้วทิ ยาศาสตรแ์ ละ

เทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์

2. สาระการเรยี นรู้

2.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

1) การรวบรวมขอ้ มลู ทำไดโ้ ดยกำหนดหัวขอ้ ท่ตี ้องการ เตรียมอุปกรณ์ในการจดบนั ทึก

2) การประมวลผลอย่างง่าย เช่น เปรยี บเทียบ จดั กลุ่ม เรียงลำดับ

3) การนำเสนอขอ้ มูลทำไดห้ ลายลักษณะตามความเหมาะสม เชน่ การบอกเลา่

การทำเอกสารรายงาน การจัดทำปา้ ยประกาศ

4) การใช้ซอฟตแ์ วร์ทำงานตามวัตถปุ ระสงค์ เชน่ ใชซ้ อฟต์แวรน์ ำเสนอ หรอื ซอฟต์แวร์กราฟิกสรา้ ง

แผนภูมิรูปภาพ ใชซ้ อฟตแ์ วร์ประมวลคำทำป้ายประกาศหรอื เอกสารรายงาน ใชซ้ อฟต์แวร์

ตารางทำงานในการประมวลผลขอ้ มูล

3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

Software (ซอฟต์แวร)์ เปน็ องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ทเ่ี ราไม่สามารถสมั ผสั จับต้องได้

โดยตรง เปน็ ชดุ คำส่งั หรือโปรแกรม (Program) ท่ีเขยี นขึ้นเพ่ือให้คอมพวิ เตอร์ทำงาน ซอฟตแ์ วร์จึงเป็น

เสมือนตวั เชอื่ มระหวา่ งผู้ใชง้ านกบั คอมพวิ เตอร์ใหส้ ามารถเข้าใจกนั ได้ การทค่ี อมพิวเตอรจ์ ะทำงานได้อยา่ ง

มีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน โดยซอฟต์แวรท์ ่นี ยิ มใช้ใน

ปัจจุบนั เช่น ซอฟตแ์ วรน์ ำเสนอ ซอฟตแ์ วรป์ ระมวลคำ ซอฟตแ์ วรต์ ารางทำงาน

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวินยั

2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 2. ใฝ่เรียนรู้

3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

5. ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง สำรวจโรงเรยี นของฉัน

6. การวดั และการประเมินผล

รายการวดั วิธีวัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเมินตามสภาพจริง
6.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ

- แบบทดสอบก่อนเรยี น กอ่ นเรียน กอ่ นเรยี น

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5

เรอ่ื ง การใชง้ านซอฟต์แวร์

6.2 การประเมินระหว่างการจัด - ตรวจชิน้ งานจาก - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
กจิ กรรม ผา่ นเกณฑ์
1) การใช้งานซอฟต์แวร์ กจิ กรรมฝึกทกั ษะใน กิจกรรมฝึกทักษะ
ระดบั คุณภาพ 2
2) คุณลกั ษณะ หนงั สือเรียน หน่วยที่ - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์
อนั พึงประสงค์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
5 หน้า 86, 95, 104 ชน้ิ งาน/ภาระงาน
6.3 การประเมินหลังเรียน
1) แบบทดสอบหลังเรยี น - ตรวจช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5
เรือ่ ง การใชง้ าน (รวบยอด) สำรวจ - กิจกรรมฝึกทักษะที่ 1
ซอฟต์แวร์
โรงเรยี นของฉนั

- ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ

ท่ี 1 เรื่อง เลือกให้

เหมาะสม

- สังเกตความมวี ินยั - แบบประเมิน

ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มั่น คณุ ลกั ษณะ

ในการทำงาน อนั พึงประสงค์

- ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ

หลงั เรยี น หลังเรียน

2) การประเมินชิ้นงาน/ - ตรวจชน้ิ งาน/ - แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ - ระดบั คณุ ภาพ 2
ภาระงาน (รวบยอด)
เรื่อง สำรวจโรงเรียน ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
ของฉัน

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่อื ง การใชง้ านซอฟต์แวร์

เรือ่ งท่ี 1 : ซอฟต์แวรเ์ บื้องตน้ เวลา 3 ชว่ั โมง

วิธีการสอนแบบสาธิต
การจดั การเรยี นร้แู บบร่วมมือ
เทคนคิ ตามแนวคดิ เชิงคำนวณ

ขั้นนำ

1. นกั เรียนทำกิจกรรมลองทำดู ในแบบฝึกหดั (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 หนา้ 62
เพือ่ เป็นการทบทวนความรูเ้ ดิมกอ่ นเข้าสบู่ ทเรยี น

2. ครนู ำนกั เรยี นสนทนาทบทวนความรู้เกย่ี วกับเร่ือง ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ ให้ครยู กตวั อยา่ งภาพ
ข้นึ มาหนา้ ห้องและใหน้ กั เรียนร่วมกนั ทำ ใบงานท่ี 1 เราแยกกันเถอะ โดยให้นักเรยี นช่วยแยกภาพ
ตวั อยา่ งว่าภาพใดคือฮาร์ดแวร์ ภาพใดคือซอฟตแ์ วร์

3. ครชู ี้ใหน้ ักเรยี นเห็นว่าจาก ใบงานท่ี 1 เราแยกกันเถอะ ทำใหน้ ักเรยี นทราบถึงว่าสง่ิ ใดคือฮาร์ดแวร์
และสิ่งใดคือซอฟตแ์ วร์แลว้ ครใู ช้คำถามเพ่ือทดสอบความเข้าใจกบั นักเรยี นว่าฮารด์ แวรแ์ ละ
ซอฟตแ์ วร์แตกต่างกนั อย่างไร (แนวคำตอบ ฮาร์ดแวร์ หมายถึง อุปกรณต์ ่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นเปน็
เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ มีลกั ษณะเป็นโครงรา่ งสามารถมองเหน็ ด้วยตาและสมั ผัสได้ เชน่ จอภาพ
คยี บ์ อร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ ส่วนซอฟต์แวร์ หมายถึง ส่วนของโปรแกรมทบ่ี รรจุคำส่งั เพื่อใหอ้ ุปกรณ์
นน้ั สามารถทำงานไดต้ ามต้องการ โดยปกติแล้วจะถูกสร้างโดยบุคคลทเี่ รียกวา่ นกั เขยี นโปรแกรม ไม่
สามารถจบั ตอ้ งหรอื สมั ผัสได้เหมอื นกบั ฮารด์ แวร์ ดงั นน้ั ในโทรศัพทม์ ือถือ ตัวเคร่ืองโทรศัพทจ์ ดั เปน็
ฮารด์ แวร์ และระบบการทำงานที่บรรจลุ งในโทรศัพท์ก็คอื ซอฟตแ์ วร)์

4. ครใู หน้ กั เรยี นยกตวั อย่างซอฟตแ์ วรท์ ีน่ ักเรยี นรู้จกั หรือเคยพบเหน็ ในชีวิตประจำวนั เพ่ิมเติมจากท่ีครู
ยกตวั อย่างมาให้ในกิจกรรมเราแยกกันเถอะ โดยครูเป็นผู้ตอบเพียงว่า ตวั อย่างท่นี ักเรยี นยกมานนั้ ใช่
ซอฟต์แวรห์ รือไม่ เพื่อใหน้ ักเรียนไดร้ ู้จักซอฟต์แวร์ทห่ี ลากหลาย

5. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อ ซอฟต์แวร์เบอ้ื งต้น หนา้ 79 ในหนังสือเรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป.3
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 วา่ “ซอฟตแ์ วรแ์ ต่ละชนดิ มลี กั ษณะการใช้งานและมีประโยชนอ์ ย่างไรบ้าง”

ขั้นสอน

1. ครนู ำนกั เรยี นศึกษาเน้ือหาในหนงั สอื เรยี น (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 เรอื่ ง
ซอฟต์แวร์เบ้ืองต้น (1.1 ซอฟตแ์ วร์ประมวลคำ) หน้า 79 และอภิปรายความรู้ทไ่ี ด้ ตวั อย่างประเดน็
การอภปิ ราย เชน่
• ซอฟตแ์ วร์แต่ละชนิดมีลักษณะการใช้งานและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

• นักเรยี นคดิ วา่ จะใช้ซอฟตแ์ วร์ใดทใ่ี ช้ทำงานบนเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยทเี่ ราสามารถพมิ พ์
ข้อความ แทรกรูป แทรกเสียง ตลอดจนแทรกวิดีโอลงได้ รวมท้งั ยังสามารถเปรยี บเทียบ
จดั ลำดับ คำนวณตัวเลขมากมายได้

• ครแู นะนำนักเรียนว่า“คอมพิวเตอร์มีซอฟต์แวรท์ ี่จะชว่ ยเราใหส้ ามารถพิมพ์จดหมาย พิมพ์
เอกสาร พิมพ์ประกาศได้ คอื ซอฟตแ์ วรป์ ระมวลคำ“

2. ครูแนะนำซอฟตแ์ วร์ประมวลคำ ทีใ่ ชส้ ำหรับการพิมพเ์ อกสาร สามารถแก้ไข เพ่ิม แทรก ลบ และ
จัดรปู แบบเอกสารได้ โดยโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากท่ีสดุ คือ ไมโครซอฟต์เวริ ์ด (Microsoft
Word) ให้นักเรยี นรูจ้ ักดว้ ยวธิ ีสาธติ วิธีการใช้งานเบ้ืองตน้ และให้นกั เรยี นลองปฏิบัตติ ามหนงั สือเรยี น
ในหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 สว่ นประกอบของซอฟต์แวรป์ ระมวลคำ หนา้ 80-85 เช่น
• การเรียนรูส้ ่วนประกอบของหนา้ จอโปรแกรม
• การต้ังค่าหน้ากระดาษตามต้องการ
• การพมิ พข์ ้อความและการตกแตง่ ข้อความรปู แบบและขนาดตัวอกั ษร
• การแทรกรปู ภาพ ตาราง สญั ลักษณ์ พิมพเ์ นื้อหาลงกล่องข้อความท่ีมีรปู ร่างต่าง ๆ
• การบนั ทกึ ไฟลเ์ อกสาร ช้ินงาน

3. นกั เรยี นประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ประมวลคำในสถานการณท์ กี่ ำหนดให้ โดยใหน้ กั เรยี นจับคู่ทำ กิจกรรม
ฝกึ ทักษะ ในหนงั สือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 หนา้ 86 โดยเลือกหัวข้อท่ี
กำหนดให้มา 1 หัวข้อครสู ่มุ คู่นกั เรยี นออกมานำเสนอช้ินงานของตนเองหนา้ ชน้ั เรยี น และใหน้ กั เรียน
พมิ พช์ ้ินงานไปตดิ ไว้ทปี่ า้ ยนเิ ทศน์

4. ครนู ำนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรูท้ ีไ่ ดจ้ ากการจัดกจิ กรรม เช่น
- ครตู ง้ั คำถามวา่ “นกั เรยี นคิดวา่ เราสามารถนำโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิรด์ ไปใชส้ รา้ งชนิ้ งานอะไรได้
อกี บ้าง” (แนวคำตอบ งานเอกสารต่าง ๆ)
- ครูตงั้ คำถามวา่ “โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ดสามารถทำอะไรไดบ้ ้าง” (แนวคำตอบ สามารถพิมพ์
และแก้ไขเอกสารสามารถลบ โยกยา้ ย และสำเนาข้อความสามารถพมิ พ์ตัวอกั ษรประเภทตา่ ง ๆ
สามารถขยายขนาดจดั ตัวอักษรใหเ้ ป็นตัวหนา ตวั เอียง ขีดเสน้ ใต้ได้สามารถใส่เครื่องหมายและตวั เลข
ลำดบั หน้าหวั ข้อสามารถตรวจการสะกดและแกไ้ ขให้ถูกต้องสามารถจดั ข้อความในเอกสารใหพ้ มิ พ์ชิด
ซา้ ย ชดิ ขวาและกึ่งกลางบรรทดั สามารถใสร่ ปู ภาพในเอกสารสามารถพิมพ์ตาราง)

5. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 หนา้ 63-65 (ซอฟต์แวร์ประมวล
คำ) หรือครูอาจใหน้ ักเรียนทำเป็นการบ้าน

ชัว่ โมงท่ี 2

ขั้นสอน

1. ครนู ำนักเรียนสนทนาทบทวนความรเู้ ดิมในเรื่องการใช้ซอฟตแ์ วรป์ ระมวลคำในคาบท่ีผ่านมา
2. นักเรียนทำ ใบงานท่ี 2 เร่อื ง รายรบั – รายจา่ ย โดยใหน้ ักเรยี นคำนวณหารายรับรายจ่ายการใช้เงนิ

ภายใน 1 สปั ดาห์ โดยให้คำนวณหารวมยอดรายรบั รายจา่ ย และเงินคงเหลือจากสถานการณ์ที่
กำหนดภายในเวลา 5 นาที ครูสังเกตการคำนวณของนกั เรียนเพื่อถามเนน้ เวลาวา่ ”นักเรียนเสรจ็ หรอื
ยงั เวลาใกล้จะหมดแล้ว” เม่ือหมดเวลา ครถู ามนักเรียนว่า“นักเรยี นคนไหนทำเสรจ็ ทนั เวลาบ้าง ยก
มอื ขึน้ ” (แนวคำตอบ ถา้ มคี นยกมือเสรจ็ ทันเวลาให้สอบถามวิธกี ารคดิ หรือการหาคำตอบของนักเรียน
ว่าทำอย่างไร) หรอื ถา้ มนี ักเรียนคนใดเสร็จไม่ทนั เวลา ให้ครถู ามต่อว่า “เพราะอะไรทำไมถงึ ทำไม่
ทันเวลา” (แนวคำตอบ อาจจะไดว้ า่ เพราะมีตวั เลขหลายรายการ)
3. ครูแนะนำซอฟต์แวรต์ ารางทำงานทจ่ี ะชว่ ยในการคิดคำนวณข้อมลู ตา่ ง ๆ ตามสตู รหรือเง่ือนไขที่
กำหนด เปน็ ซอฟต์แวรท์ เ่ี ราจะได้เรียนต่อไปน้ีคือ โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อกซ์เซล (Microsoft Excel)
และครูชแี้ จงในสว่ นของเกร็ดนา่ รูใ้ หน้ ักเรยี นฟังในหน้า 87
4. ครูแนะนำซอฟต์แวรต์ ารางทำงานให้นักเรียนรู้จักด้วยวิธสี าธติ วธิ ีการใชง้ านเบอ้ื งต้นและให้นกั เรียน
ลองปฏิบัตติ ามหนงั สือเรียนในหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 1.2 ซอฟต์แวรต์ ารางทำงาน หนา้ 87-94 เช่น

• ส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม
• แถว (row) คอลมั น์ (column) เซลล์ (cell)
• การพมิ พ์ข้อความลงในตาราง
• การใช้สตู รคำนวณหาค่าต่าง ๆ
• การบนั ทึกไฟล์
5. ให้นักเรยี นประยุกต์ใช้ซอฟต์แวรต์ ารางทำงานประมวลผลข้อมูล โดยให้นกั เรยี นจับคเู่ ดมิ ในคาบทแี่ ลว้
ทำ กิจกรรมฝึกทกั ษะ ในหนังสือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 หนา้ 95 นำ
ข้อมูลท่ีกำหนดให้มาประมวลผลคะแนนรวมโดยใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อกซเ์ ซล ครสู มุ่ ค่นู กั เรียน
ออกมานำเสนอชิ้นงานของตนเองหน้าช้นั เรียน (คู่ที่ไม่ซ้ำกับ 2 คาบท่ีแลว้ )
6. ครูต้งั คำถามท้าทายการคดิ ขั้นสงู ตามหนงั สอื เรียนในหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 1.3 ซอฟตแ์ วร์นำเสนอ
หน้า 96 กับนกั เรยี นว่า “ถ้านักเรียนตอ้ งการใชง้ านซอฟตแ์ วร์เพือ่ จะนำเสนอชิ้นงาน ออกมาในรูป
ของวดี โี อแนะนำตนเอง นักเรียนจะใช้ซอฟตแ์ วร์ชนดิ ใด”
7. ครแู นะนำซอฟตแ์ วรน์ ำเสนอข้อมูลในรูปแบบตวั อักษร รปู ภาพ กราฟ แผนภมู ิ ภาพเคล่ือนไหวและ
เสียง โดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ (Microsoft PowerPoint) ใหน้ กั เรยี นรูจ้ กั ด้วยวิธี
สาธิตวธิ กี ารใชง้ านเบื้องตน้ และให้นกั เรยี นลองปฏิบตั ิตามหนงั สือเรียนในหน่วยการเรยี นรู้ที่ 5
1.3 ซอฟต์แวรน์ ำเสนอ หน้า 96-103 เชน่

• การสรา้ งสไลด์ การสร้างงานนำเสนอจะเร่มิ ตน้ จากการสรา้ งสไลด์ ซึ่งสไลดท์ ี่สร้างข้นึ อาจเป็น
สไลด์เปล่า หรือเปน็ สไลดส์ ำเรจ็ รปู ท่มี ีการตกแตง่ มาแล้ว

• การกรอกข้อความ หลกั จากท่ีสรา้ งสไลดเ์ รยี บรอ้ ยแลว้ ก็ต้องมกี ารกำหนดหัวข้อเพ่ือแสดงให้
ผชู้ มการนำเสนอทราบว่า สไลดแ์ ผ่นนี้เก่ยี วขอ้ งกับเร่ืองอะไร

• ใส่รปู ภาพ วีดีโอ ภาพเคลอ่ื นไหว เสยี ง ตาราง แผนภมู ิรปู ภาพ เพ่ือนำเสนองานได้อยา่ ง
น่าสนใจ และสามารถเข้าใจในเนอื้ หาได้อย่างงา่ ย ผูส้ ร้างงานไมค่ วรจดั ทำงานนำเสนอที่มีแต่
ข้อความล้วน

• กำหนดลูกเลน่ ตา่ งๆในสไลด์ เพอ่ื ให้งานนำเสนอมีสสี นั และดึงดูด เชน่ เมื่อเปิดสไลด์ จะเหน็
ข้อความว่ิงปรากฏจากมาดา้ นซ้ายของสไลด์ หรอื ว่งิ มาทีละตัวจากทางดา้ นขวา

• เมื่อเราได้จดั ทำสไลด์เป็นท่ีเรียบร้อย ขน้ั ตอนสุดทา้ ยคือ ทดลองนำเสนอจรงิ ควรตรวจสอบ
ความถูกตอ้ ง เช่น ตรวจคำผดิ ตรวจลำดับของการนำเสนอ จับเวลาในการนำเสนอ เปน็ ต้น

• ครชู แ้ี จงในสว่ นของเกร็ดนา่ ร้ใู ห้นกั เรยี นฟังในหน้า 98 และหน้า 100
8. ใหน้ กั เรยี นประยุกตใ์ ชซ้ อฟต์แวรน์ ำเสนอในสถานการณ์ท่ีกำหนดให้ โดยนักเรยี นจับคูเ่ ดมิ ในคาบท่ี

แลว้ ทำ กจิ กรรมฝึกทักษะ ในหนงั สอื เรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 หนา้ 104
ออกแบบแผนภมู ิรูปภาพจากซอฟตแ์ วรน์ ำเสนอ พร้อมทัง้ ตกแต่งแผนภมู ิรูปภาพให้สวยงามครสู ่มุ คู่
นักเรยี นออกมานำเสนอชน้ิ งานของตนเองหน้าช้นั เรยี นผา่ นโปรเจกเตอร์
9. ครูนำนักเรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้ทไี่ ด้จากการจัดกิจกรรม เช่น

• ข้อดี/ประโยชนข์ องโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกซเ์ ซล (Microsoft Excel) มอี ะไรบา้ ง (แนว
คำตอบ ซอฟตแ์ วรท์ ชี่ ว่ ยในการคิดคำนวณข้อมูลต่าง ๆ)

• ครูตง้ั คำถามวา่ “หากต้องการแทรกตาราง, รูปภาพ ต้องเข้าไปทเี่ มนูใด ” (แนวคำตอบ คลกิ
ทเี่ มนู Insert แลว้ เลือกตาราง (Table) และเลือกรปู ภาพ (Picture))

• ครตู งั้ คำถามวา่ “การสร้างชนิ้ งานด้วยโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยต์ มีลำดบั ขัน้ ตอน
อยา่ งไรบ้าง ยกตัวอยา่ งการเข้าใชง้ านอยา่ งครา่ ว ๆ ” (แนวคำตอบ1.เปดิ โปรแกรม
ซอฟต์แวร์นำเสนอขนึ้ มา 2. การสร้างสไลด์ 3. การกรอกข้อความทก่ี ล่องข้อความ 4. คลกิ ที่
เมนู Insert เพอื่ ใส่รปู ภาพ วีดโี อ ภาพเคลอื่ นไหว เสยี ง ตาราง แผนภูมริ ปู ภาพ 5. กำหนด
ลูกเลน่ ตา่ งๆ
6. ตรวจสอบความถูกต้อง 7. บันทกึ ชน้ิ งาน โดยคลิกที่เมนู File เลอื กบันทกึ (Save) หรือ
(Save as) จากน้ันตั้งชือ่ ไฟล์งานและคลิกท่คี ำวา่ (Save) เพ่ือบนั ทกึ ชิน้ งาน)

10. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 5 หนา้ 66-70 (ซอฟต์แวร์ตาราง
ทำงาน) (ซอฟต์แวรน์ ำเสนอ) หรือครอู าจให้นกั เรียนทำเปน็ การบ้าน

ชั่วโมงที่ 3

ขนั้ สอน

1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มกนั ทำชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) สำรวจโรงเรยี นของฉัน กลุ่มละ 3-5 คน ผลดั กัน
ออกมาจับสลาก โดยครูทำสลากตามหวั ข้อต่อไปนี้
• สำรวจจำนวนตน้ ไมใ้ หญภ่ ายในโรงเรียน มา 5 ชนดิ นำมาเรียงลำดับมากทสี่ ุดไปน้อยที่สุด
และเปรียบเทียบวา่ ตน้ ไม้ชนิดท่ีมากที่สดุ ต่างกับชนดิ ท่ีน้อยทสี่ ุดกต่ี น้
• สำรวจจำนวนขยะภายในโรงเรยี นท่ีอยตู่ ามพ้ืน ท่ีท้งิ ไมล่ งถงั ขยะ มา 3 ประเภท แบ่งเป็น
ขวดพลาสติก, ถงุ พลาสติก และหลอดพลาสติก นำมาเรยี งลำดับน้อยทส่ี ดุ ไปมากที่สุด และ
เปรียบเทยี บว่าขยะประเภทที่นอ้ ยทส่ี ุดต่างกับประเภทท่ีมากทส่ี ดุ กี่ชนิ้
• สำรวจจำนวนนักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 ทงั้ หมด จำนวนนักเรียนทข่ี าดเรยี น จำนวน
นกั เรยี นทลี่ าปว่ ย ลากิจ และจำนวนนกั เรยี นคงเหลือ ในระยะเวลา 3 วัน รวมจำนวนท่ีขาด
เรยี น รวมจำนวนทีล่ าปว่ ย ลากจิ ในระยะเวลา 3 วัน และทำการเปรียบเทยี บสถติ ิการมา
เรียนแต่ละวนั ว่าวันใดนักเรยี นมาเรียนมากที่สดุ ต่างกับวันที่มาเรยี นนอ้ ยท่ีสุดก่ีคน

2. เมอื่ นักเรยี นจบั สลากได้แลว้ ใหน้ ักเรยี นนำหัวขอ้ ทไี่ ด้ไปสำรวจ และจดั ทำแบบสำรวจในโปรแกรม
ไมโครซอฟตเ์ วิร์ด และนำข้อมูลมาประมวลผลในโปรแกรมเอกซ์เซล จากน้ันนำเสนอในโปรแกรม
เพาเวอร์พอยต์ โดยใสร่ ูปภาพทสี่ อดคล้องกับหัวข้อที่ได้ อย่างน้อย 3 รูป จากน้ันพิมพช์ ้ินงานใน
โปรแกรมตา่ ง ๆ และติดใส่ในช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

3. ให้นกั เรียนทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะที่ 1 เร่ือง เลือกให้เหมาะสม โดยให้นกั เรยี นอ่านสถานการณ์ และ
เลอื กใชซ้ อฟต์แวรท์ ่ีเหมาะสมในการทำงานในชวี ติ ประจำวัน ในแบบฝึกหดั (วิทยาการคำนวณ) ป.3
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 หนา้ 71-72

ขนั้ สรปุ

1. นักเรียนตรวจสอบตนเอง หลังจากเรียนจบหน่วยนี้ ในหนังสือเรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 หนา้ 104

2. นกั เรียนทำแบบทดสอบท้ายบท ประจำหน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 หนา้ 73-76 ในแบบฝึกหัด
(วิทยาการคำนวณ) ป.3 เพื่อเป็นการตรวจสอบความรู้ทไี่ ด้หลังเรยี น

3. ครนู ำนกั เรียนพดู คยุ รว่ มกนั สรุปความรู้จากสาระสำคัญที่ได้จากการจัดกิจกรรมในหนังสือเรยี น
(วิทยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 หน้า 105 จนได้วา่ ซอฟต์แวรเ์ บอื้ งตน้ ท่ีเราเรียน
นั้นมี 3 โปรแกรม คือ โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ เหมาะทจ่ี ะใช้กบั งานท่ตี ้องการ
นำเสนอข้อมลู โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิรด์ เหมาะท่ีจะใช้กับงานเอกสาร งานประกาศ เพราะ

สามารถจดั รูปแบบเอกสารใหม้ ีความเหมาะสมได้ และโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกซ์เซล เหมาะท่ี
จะใชก้ ับงานที่ต้องการคิดคำนวณ ตอ้ งการเปรยี บเทียบ บวก ลบ คูณ หารจำนวนของข้อมลู เปน็
ตน้
4. นกั เรยี นทำกจิ กรรมเสรมิ สร้างการเรยี นรู้ ในหนงั สอื เรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการ
เรยี นรู้ที่ 5 หน้า 106 เปน็ การบา้ น
5. นกั เรียนทำกิจกรรมลองทำดูหนา้ 50 และกจิ กรรมฝึกทักษะบนั ทึกลงในสมุดเพอื่ ส่งในชั่วโมง
ถดั ไป

8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง การใช้งานซอฟต์แวร์
2) หนังสอื แบบฝึกหดั (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง การใช้งานซอฟต์แวร์
3) ใบงานท่ี 5.1.1 เรอื่ ง เราแยกกันเถอะ
4) ใบงานที่ 5.2.1 เรอื่ ง รายรับ–รายจา่ ย
5) ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง สำรวจโรงเรยี นของฉนั
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องคอมพิวเตอร์
2) อินเทอรเ์ น็ต

แบบทดสอบก่อนเรยี น

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5

คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ซอฟต์แวร์ไดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด 6. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ โปรแกรม Microsoft Word ได้ถกู ตอ้ ง
ก. อปุ กรณ์เทคโนโลยีระดับสูง ก. เปน็ โปรแกรมคำนวณ
ข. โปรแกรมคอมพิวเตอร์เบอ้ื งต้น ข. เป็นโปรแกรมวาดภาพ
ค. ชดุ คำสง่ั ควบคมุ การทำงานของคอมพวิ เตอร์ ค. เปน็ โปรแกรมจดั การเอกสาร

2. กอ้ ยตอ้ งการทำแผน่ ปา้ ยประชาสมั พนั ธ์ ก้อยควร ใช้ภาพต่อไปนีต้ อบคำถามข้อ 7-8
เลอื กใชซ้ อฟต์แวร์ใด
ก. ซอฟแวร์นำเสนอ 7. หากต้องการทราบคะแนนรวมของคะแนนสอบวชิ า
ข. ซอฟต์แวร์ประมวลคำ คณิตศาสตร์ ควรใชส้ ูตรคำนวณในขอ้ ใด
ค. ซอฟต์แวร์ตารางคำนวณ ก. =B3+D3
ข. =B3+C3
3. หากตอ้ งการเพม่ิ รปู ภาพลงในโปรแกรมนำเสนอ ค. =A3+B3+C3
ควรเลือกใชเ้ มนคู ำสั่งใด
ก. Insert > Picture 8. หากตอ้ งการทราบคะแนนสอบปลายภาควชิ าภาษาองั กฤษ
ข. Insert > Shapes ควรใชส้ ูตรคำนวณใด (คะแนนสอบกลางภาคและปลายภาค
ค. Home > Picture รวมกันเท่ากบั 50 คะแนน๗
ก. =B4+C4
4. โปรแกรม Microsoft PowerPoint เป็นซอฟตแ์ วร์ ข. =50-B4
ประเภทใด ค. =50+B4
ก. ซอฟต์แวร์นำเสนอ
ข. ซอฟต์แวร์ประมวลคำ 9. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ งเก่ยี วกับโปรแกรม Microsoft Excel
ค. ซอฟตแ์ วรต์ ารางทำงาน ก. ใช้ในการคำนวณ
ข. ใชใ้ นการทำรายงาน
5. โดนัทต้องการคำนวณคะแนนสอบของตนเอง โดนัท ค. ใชใ้ นการนำเสนอผลงาน
ควรเลอื กใชโ้ ปรแกรมใด
ก. โปรแกรม Microsoft Excel 10. หากนกั เรียนต้องการนำเสนอผลงานด้วยโปรแกรม
ข. โปรแกรม Microsoft Word Microsoft PowerPoint ควรใชม้ มุ มองใดในการนำเสนอ
ค. โปรแกรม Microsoft PowerPoint ก. มุมมองปกติ
ข. มุมมองหนา้ บนั ทึกยอ่
เฉลย ค. มมุ องการนำเสนอภาพน่งิ

1. ค 2. ข 3. ก 4. ก 5. ก 6. ค 7. ข 8. ข 9. ก 10. ค

แบบทดสอบหลงั เรยี น

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5

คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. ข้อใดกล่าวถงึ แถบเคร่ืองมือในโปรแกรม Microsoft 7. หากต้องการคำนวณหาผลรวมของรายจ่ายประจำวัน ควร
Word ไดถ้ กู ต้อง เลือกใช้คำสัง่ ใด
ก. แถมรวบรวมคำส่งั ต่าง ๆ ในเมนู
ข. แถบบอกตำแหนใ่ นการพมิ พง์ าน ก.
ค. แถบแสดงคำสัง่ ท้ังหมดในโปรแกรม
ข.
2. ขอ้ ใดกลา่ วถึงโปรแกรม Microsoft Excel ไดถ้ ูกต้อง
ทส่ี ดุ ค.
ก. ใช้ในการคน้ หาขอ้ มลู 8. ขอ้ ใดคอื สัญลกั ษณ์ของโปรแกรมทใี่ ชใ้ นการนำเสนอ
ข. เหมาะสำหับการคำนวณ
ค. ใช้ในงานนำเสนอได้ดีทส่ี ุด ก.

3. การจดั การตา่ ง ๆ เกย่ี วกับงานเอกสารเป็นลักษณะ ข.
ของโปรแกรมใด
ก. โปรแกรมนำเสนอ ค.
ข. โปรแกรมประมวลคำ
ค. โปรแกรมตารางคำนวณ 9. โปรแกรมควบคุมการทำงานของคอมพวิ เตอร์หมายถึงขอ้ ใด
ก. ฮารแ์ วร์
4. โปรแกรมใดเหมาะสำหรบั การนำไปใชใ้ นงาน ข. ซอฟแวร์
นำเสนอ ค. แฟมิลแี วร์
ก. โปรแกรม Microsoft Edge
ข. โปรแกรม Microsoft Excel 10. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเก่ียวกบั โปรแกรม Microsoft Word
ค. โปรแกรม Microsoft PowerPoint ก. ใชใ้ นการคำนวณ
ข. ใชใ้ นการทำรายงาน
5. โปรแกรมในข้อใดจัดเป็นซอฟตแ์ วร์ตารางทำงาน ค. ใชใ้ นการนำเสนอผลงาน
ก. โปรแกรม Microsoft Excel
ข. โปรแกรม Microsoft Word
ค. โปรแกรม Microsoft PowerPoint

6. ข้อใดกล่าวไมถ่ ูกต้องเกย่ี วกับโปรแกรม Microsoft
Word
ก. กด Save เพื่อบนั ทกึ งาน
ข. เพ่ิมรปู ภาพดว้ ยเมนูแทรก
ค. ใส่เอฟเฟกตด์ ว้ ยเมนู Animations

เฉลย

1. ก 2. ข 3. ข 4. ค 5. ก 6. ค 7. ข 8. ค 9. ข 10. ข

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1 เวลา 3 ชั่วโมง
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 การใช้งานซอฟตแ์ วร์ เวลา 3 ช่ัวโมง
เร่อื ง ซอฟต์แวรเ์ บ้ืองต้น ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
รายวิชา คอมพิวเตอร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

1. ผลการเรยี นรู้
1. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเบ้ืองต้น
2. เพ่ือใหผ้ ูเ้ รยี นมีทกั ษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แก้ปญั หาเปน็ ขน้ั ตอนและเป็นระบบ
3. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมีทกั ษะในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ รักษาข้อมลู ส่วนตัว และการส่ือสารเบื้องต้นในการ

แกป้ ัญหาที่พบในชวี ิตจรงิ ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
4. เพอ่ื ให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปญั หา การจดั การทักษะใน

การสอ่ื สาร ความสามารถในการตดั สินใจ
5. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นเปน็ ผู้มีจติ วทิ ยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มในการใช้วิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยีอยา่ งสร้างสรรค์

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ประยุกต์ใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิรด์ เอกซเ์ ซล และเพาเวอรพ์ อยต์ ในสถานการณ์ที่กำหนดได้ (K)
2. ออกแบบแบบสำรวจ ตารางข้อมูล และนำเสนอโดยใช้ซอฟตแ์ วรไ์ ด้ (P)
3. เลือกใชซ้ อฟต์แวร์ทเี่ หมาะสมในการทำงานในชวี ิตประจำวันได้ (A)

3. สาระสำคญั
Software (ซอฟตแ์ วร)์ เปน็ องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ท่ีเราไม่สามารถสัมผสั จบั ต้องไดโ้ ดยตรง

เป็นชดุ คำสั่งหรอื โปรแกรม (Program) ทีเ่ ขียนขึ้นเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จงึ เปน็ เสมือนตวั เชือ่ ม
ระหว่างผู้ใชง้ านกบั คอมพิวเตอรใ์ หส้ ามารถเข้าใจกนั ได้ การทคี่ อมพิวเตอรจ์ ะทำงานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพนน้ั
ข้ึนอย่กู ับการเลือกใชซ้ อฟต์แวรใ์ หเ้ หมาะสมกับลกั ษณะงาน โดยซอฟตแ์ วร์ที่นิยมใชใ้ นปัจจบุ นั เช่น ซอฟต์แวร์
นำเสนอ ซอฟตแ์ วร์ประมวลคำ ซอฟต์แวรต์ ารางทำงาน

4. สาระการเรยี นรู้
การใช้ซอฟต์แวรเ์ บ้ืองตน้

5. รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน
1) วธิ ีการสอนแบบสาธิต
2) การจดั การเรียนร้แู บบรว่ มมือ
3) เทคนิคตามแนวคิดเชิงคำนวณ

6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น  ซอื่ สตั ย์ สจุ ริต
 ความสามารถในการส่อื สาร  ใฝเ่ รียนรู้
 ความสามารถในการคิด  มุง่ มัน่ ในการทำงาน
 ความสามารถในการแก้ปัญหา  มีจติ สาธารณะ
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. ทักษะ 4 Cs
ทกั ษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)
ทกั ษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill)
ทกั ษะการสื่อสาร (Communication Skill)
ทักษะความคดิ สรา้ งสรรค์ (Creative Thinking)

8. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
 รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
 มีวนิ ัย
 อยู่อยา่ งพอเพยี ง
 รกั ความเปน็ ไทย

9. การจดั กระบวนการเรยี นรู้

ชวั่ โมงท่ี 1
1. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง การใช้งานซอฟต์แวร์ เพอ่ื เปน็ การวดั ความรู้ก่อนเรียน

ขั้นนำ/ ทบทวนความรเู้ ดิม (20 นาที)
1. นักเรยี นทำกจิ กรรมลองทำดู ในแบบฝกึ หดั (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 หน้า 62
เพอ่ื เปน็ การทบทวนความรู้เดิมก่อนเขา้ สบู่ ทเรยี น
2. ครูนำนักเรยี นสนทนาทบทวนความรเู้ กยี่ วกับเรื่อง ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟต์แวร์ ใหค้ รูยกตวั อย่างภาพ
ขึ้นมาหนา้ หอ้ งและใหน้ กั เรยี นรว่ มกันทำ ใบงานที่ 5.1.1 เรอื่ ง เราแยกกันเถอะ โดยใหน้ ักเรียนชว่ ย
แยกภาพตัวอย่างวา่ ภาพใดคือฮารด์ แวร์ ภาพใดคือซอฟต์แวร์
3. ครูช้ีใหน้ ักเรยี นเหน็ ว่าจาก ใบงานท่ี 5.1.1 เรือ่ ง เราแยกกันเถอะ ทำใหน้ ักเรียนทราบถึงว่าสิง่ ใดคือ

ฮาร์ดแวรแ์ ละสง่ิ ใดคือซอฟต์แวร์แลว้ ครูใชค้ ำถามเพ่ือทดสอบความเขา้ ใจกับนักเรยี นวา่ ฮารด์ แวร์และ

ซอฟต์แวรแ์ ตกต่างกนั อย่างไร (แนวคำตอบ ฮารด์ แวร์ หมายถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีประกอบขึ้นเป็น

เคร่อื งคอมพิวเตอร์ มลี ักษณะเป็นโครงรา่ งสามารถมองเห็นดว้ ยตาและสัมผัสได้ เชน่ จอภาพ

คยี ์บอรด์ เคร่ืองพิมพ์ เมาส์ สว่ นซอฟตแ์ วร์ หมายถึง สว่ นของโปรแกรมทบ่ี รรจุคำสง่ั เพ่ือให้อุปกรณ์

นัน้ สามารถทำงานไดต้ ามต้องการ โดยปกติแล้วจะถูกสร้างโดยบคุ คลท่เี รยี กว่า นกั เขียนโปรแกรม ไม่

สามารถจบั ต้องหรอื สัมผสั ไดเ้ หมอื นกบั ฮารด์ แวร์ ดงั นัน้ ในโทรศัพท์มือถือ ตวั เครอ่ื งโทรศัพท์จดั เปน็

ฮาร์ดแวร์ และระบบการทำงานทีบ่ รรจุลงในโทรศัพทก์ ็คือซอฟตแ์ วร)์

4. ครใู ห้นกั เรยี นยกตัวอยา่ งซอฟตแ์ วร์ทน่ี ักเรยี นรู้จกั หรือเคยพบเหน็ ในชีวิตประจำวนั เพ่มิ เติมจากท่ีครู
ยกตวั อย่างมาให้ในใบงานที่ 5.1.1 เรื่อง เราแยกกนั เถอะ โดยครเู ป็นผู้ตอบเพียงวา่ ตัวอย่างที่นักเรียน
ยกมาน้ันใช่ซอฟต์แวรห์ รอื ไม่ เพื่อใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั ซอฟต์แวร์ทห่ี ลากหลาย

5. ครถู ามคำถามประจำหัวข้อ ซอฟต์แวร์เบ้อื งตน้ หนา้ 79 ในหนงั สอื เรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 วา่ “ซอฟต์แวร์แตล่ ะชนิดมีลกั ษณะการใช้งานและมปี ระโยชน์อยา่ งไรบา้ ง”

ข้นั สอน (40 นาที)
1. ครูนำนกั เรยี นศึกษาเน้ือหาในหนงั สือเรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 เร่อื ง
ซอฟตแ์ วร์เบอื้ งต้น (1.1 ซอฟตแ์ วรป์ ระมวลคำ) หน้า 79 และอภปิ รายความรู้ท่ไี ด้ ตวั อย่างประเดน็
การอภิปราย เช่น
• ซอฟต์แวร์แต่ละชนดิ มลี ักษณะการใช้งานและมีประโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง
• นักเรียนคิดว่าจะใชซ้ อฟตแ์ วร์ใดทใ่ี ช้ทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยท่เี ราสามารถพิมพ์
ขอ้ ความ แทรกรปู แทรกเสียง ตลอดจนแทรกวิดีโอลงได้ รวมทง้ั ยงั สามารถเปรยี บเทียบ
จดั ลำดบั คำนวณตวั เลขมากมายได้
• ครูแนะนำนักเรยี นวา่ “คอมพิวเตอรม์ ซี อฟต์แวรท์ ี่จะช่วยเราให้สามารถพิมพจ์ ดหมาย พิมพ์
เอกสาร พิมพ์ประกาศได้ คอื ซอฟต์แวร์ประมวลคำ“
2. ครูแนะนำซอฟตแ์ วร์ประมวลคำ ทีใ่ ชส้ ำหรบั การพิมพ์เอกสาร สามารถแก้ไข เพิม่ แทรก ลบ และ
จัดรูปแบบเอกสารได้ โดยโปรแกรมที่ได้รบั ความนยิ มมากที่สุดคอื ไมโครซอฟตเ์ วิรด์ (Microsoft
Word) ใหน้ ักเรยี นรู้จักดว้ ยวธิ สี าธติ วิธกี ารใช้งานเบือ้ งต้นและให้นักเรยี นลองปฏิบตั ิตามหนงั สือเรยี น
ในหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 สว่ นประกอบของซอฟต์แวร์ประมวลคำ หน้า 80-85 เชน่
• การเรยี นร้สู ่วนประกอบของหน้าจอโปรแกรม
• การตัง้ คา่ หน้ากระดาษตามต้องการ
• การพิมพ์ข้อความและการตกแต่งข้อความรปู แบบและขนาดตวั อกั ษร
• การแทรกรูปภาพ ตาราง สัญลักษณ์ พิมพเ์ น้ือหาลงกลอ่ งข้อความท่ีมรี ูปรา่ งต่าง ๆ
• การบนั ทึกไฟลเ์ อกสาร ชนิ้ งาน
3. นกั เรยี นประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ประมวลคำในสถานการณท์ ีก่ ำหนดให้ โดยใหน้ กั เรยี นจับคู่ทำ กิจกรรม
ฝึกทักษะ ในหนังสือเรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 หนา้ 86 โดยเลอื กหัวข้อท่ี
กำหนดใหม้ า 1 หัวข้อครูส่มุ คู่นักเรียนออกมานำเสนอชน้ิ งานของตนเองหนา้ ช้ันเรียน และให้นกั เรยี น
พมิ พ์ช้นิ งานไปตดิ ไว้ท่ีปา้ ยนิเทศน์
4. ครนู ำนักเรียนรว่ มกนั สรุปความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการจัดกิจกรรม เชน่
- ครูตั้งคำถามว่า “นกั เรียนคิดวา่ เราสามารถนำโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ดไปใช้สรา้ งชิ้นงานอะไรได้
อกี บ้าง” (แนวคำตอบ งานเอกสารตา่ ง ๆ)

- ครตู ง้ั คำถามว่า “โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ดสามารถทำอะไรไดบ้ า้ ง” (แนวคำตอบ สามารถพิมพ์
และแก้ไขเอกสารสามารถลบ โยกยา้ ย และสำเนาข้อความสามารถพิมพ์ตวั อักษรประเภทตา่ ง ๆ
สามารถขยายขนาดจดั ตัวอักษรให้เปน็ ตวั หนา ตวั เอยี ง ขดี เสน้ ใตไ้ ดส้ ามารถใส่เคร่ืองหมายและตวั เลข
ลำดบั หน้าหัวขอ้ สามารถตรวจการสะกดและแกไ้ ขให้ถูกต้องสามารถจดั ข้อความในเอกสารใหพ้ ิมพ์ชิด
ซ้าย ชดิ ขวาและกึ่งกลางบรรทัดสามารถใส่รปู ภาพในเอกสารสามารถพิมพ์ตาราง)
5. นักเรยี นทำแบบฝึกหัด (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 หน้า 63-65 (ซอฟต์แวรป์ ระมวล
คำ) หรือครอู าจให้นักเรยี นทำเปน็ การบ้าน

ช่วั โมงท่ี 2

ขนั้ สอน (60 นาที)
1. ครนู ำนักเรียนสนทนาทบทวนความรเู้ ดมิ ในเร่ืองการใชซ้ อฟตแ์ วร์ประมวลคำในคาบที่ผา่ นมา
2. นักเรยี นทำ ใบงานท่ี 5.1.2 เรือ่ ง รายรับ – รายจา่ ย โดยให้นักเรยี นคำนวณหารายรับรายจา่ ยการใช้
เงนิ ภายใน 1 สัปดาห์ โดยให้คำนวณหารวมยอดรายรับ รายจา่ ย และเงินคงเหลือจากสถานการณ์ท่ี
กำหนดภายในเวลา 5 นาที ครสู ังเกตการคำนวณของนักเรยี นเพ่ือถามเน้นเวลาวา่ ”นักเรียนเสร็จหรอื
ยัง เวลาใกล้จะหมดแลว้ ” เมื่อหมดเวลา ครูถามนักเรียนว่า“นักเรยี นคนไหนทำเสร็จทันเวลาบา้ ง ยก
มอื ขนึ้ ” (แนวคำตอบ ถ้ามคี นยกมือเสร็จทันเวลาให้สอบถามวธิ กี ารคิดหรือการหาคำตอบของนักเรยี น
ว่าทำอย่างไร) หรือถ้ามนี ักเรียนคนใดเสรจ็ ไม่ทันเวลา ให้ครูถามต่อวา่ “เพราะอะไรทำไมถึงทำไม่
ทนั เวลา” (แนวคำตอบ อาจจะไดว้ า่ เพราะมีตัวเลขหลายรายการ)
3. ครูแนะนำซอฟต์แวร์ตารางทำงานท่ีจะชว่ ยในการคิดคำนวณข้อมลู ต่าง ๆ ตามสตู รหรือเงื่อนไขที่
กำหนด เป็นซอฟตแ์ วรท์ เี่ ราจะไดเ้ รียนต่อไปนีค้ ือ โปรแกรมไมโครซอฟต์เอกซ์เซล (Microsoft Excel)
และครูชี้แจงในส่วนของเกรด็ น่ารใู้ ห้นกั เรยี นฟังในหนา้ 87
4. ครแู นะนำซอฟตแ์ วรต์ ารางทำงานให้นกั เรียนร้จู กั ดว้ ยวิธีสาธิตวิธกี ารใชง้ านเบื้องต้นและใหน้ ักเรยี น
ลองปฏบิ ตั ติ ามหนงั สือเรียนในหนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 1.2 ซอฟต์แวรต์ ารางทำงาน หน้า 87-94 เชน่
• สว่ นประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม
• แถว (row) คอลัมน์ (column) เซลล์ (cell)
• การพมิ พ์ข้อความลงในตาราง
• การใช้สูตรคำนวณหาค่าต่าง ๆ
• การบันทกึ ไฟล์
5. ใหน้ ักเรียนประยุกตใ์ ชซ้ อฟต์แวรต์ ารางทำงานประมวลผลขอ้ มูล โดยให้นักเรยี นจบั คูเ่ ดิมในคาบที่แล้ว
ทำ กิจกรรมฝึกทักษะ ในหนังสือเรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 หนา้ 95 นำ
ขอ้ มูลท่ีกำหนดให้มาประมวลผลคะแนนรวมโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อกซเ์ ซล ครูสุม่ ค่นู ักเรยี น
ออกมานำเสนอชิน้ งานของตนเองหน้าช้ันเรยี น (คู่ทีไ่ ม่ซำ้ กับ 2 คาบทแี่ ล้ว)

6. ครตู ้งั คำถามท้าทายการคิดขั้นสงู ตามหนงั สือเรียนในหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 1.3 ซอฟต์แวรน์ ำเสนอ
หน้า 96 กับนกั เรียนว่า “ถ้านักเรยี นตอ้ งการใช้งานซอฟต์แวรเ์ พอื่ จะนำเสนอชิ้นงาน ออกมาในรูป
ของวดี ีโอแนะนำตนเอง นักเรียนจะใช้ซอฟตแ์ วรช์ นิดใด”

7. ครแู นะนำซอฟต์แวร์นำเสนอขอ้ มลู ในรูปแบบตวั อักษร รปู ภาพ กราฟ แผนภูมิ ภาพเคล่ือนไหวและ
เสียง โดยใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยต์ (Microsoft PowerPoint) ให้นกั เรยี นรู้จักดว้ ยวิธี
สาธิตวิธกี ารใช้งานเบ้อื งต้นและให้นกั เรยี นลองปฏิบตั ิตามหนังสอื เรียนในหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5
1.3 ซอฟต์แวรน์ ำเสนอ หนา้ 96-103 เชน่
• การสรา้ งสไลด์ การสรา้ งงานนำเสนอจะเร่มิ ตน้ จากการสร้างสไลด์ ซ่ึงสไลด์ทสี่ รา้ งข้ึนอาจเปน็
สไลดเ์ ปล่า หรอื เป็นสไลด์สำเร็จรปู ท่มี กี ารตกแต่งมาแล้ว
• การกรอกข้อความ หลกั จากท่ีสรา้ งสไลดเ์ รยี บร้อยแลว้ กต็ ้องมกี ารกำหนดหัวข้อเพื่อแสดงให้
ผชู้ มการนำเสนอทราบวา่ สไลด์แผ่นนีเ้ ก่ยี วข้องกับเร่ืองอะไร
• ใส่รปู ภาพ วีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว เสยี ง ตาราง แผนภมู ิรูปภาพ เพ่ือนำเสนองานได้อย่าง
น่าสนใจ และสามารถเข้าใจในเนอ้ื หาได้อย่างงา่ ย ผูส้ ร้างงานไมค่ วรจัดทำงานนำเสนอท่ีมีแต่
ข้อความล้วน
• กำหนดลกู เล่นต่างๆในสไลด์ เพือ่ ให้งานนำเสนอมีสสี นั และดึงดูด เชน่ เม่ือเปิดสไลด์ จะเหน็
ข้อความวิง่ ปรากฏจากมาดา้ นซ้ายของสไลด์ หรือวิ่งมาทลี ะตวั จากทางด้านขวา
• เมือ่ เราได้จดั ทำสไลด์เป็นทเ่ี รียบร้อย ขนั้ ตอนสุดท้ายคือ ทดลองนำเสนอจรงิ ควรตรวจสอบ
ความถูกต้อง เช่น ตรวจคำผิด ตรวจลำดับของการนำเสนอ จับเวลาในการนำเสนอ เป็นต้น
• ครูชแ้ี จงในส่วนของเกร็ดน่ารูใ้ หน้ ักเรยี นฟังในหน้า 98 และหน้า 100

8. ให้นกั เรยี นประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์นำเสนอในสถานการณ์ท่ีกำหนดให้ โดยนกั เรยี นจบั คู่เดิมในคาบท่ี
แล้วทำ กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ ในหนงั สอื เรียน (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 หน้า 104
ออกแบบแผนภูมริ ปู ภาพจากซอฟต์แวร์นำเสนอ พร้อมท้ังตกแตง่ แผนภูมริ ปู ภาพให้สวยงามครสู ่มุ คู่
นักเรยี นออกมานำเสนอชิน้ งานของตนเองหน้าช้นั เรยี นผ่านโปรเจกเตอร์

9. ครูนำนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรูท้ ีไ่ ดจ้ ากการจดั กจิ กรรม เชน่

• ข้อดี/ประโยชนข์ องโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อกซ์เซล (Microsoft Excel) มีอะไรบา้ ง (แนว
คำตอบ ซอฟต์แวรท์ ่ชี ่วยในการคิดคำนวณข้อมูลต่าง ๆ)

• ครตู ้ังคำถามว่า “หากต้องการแทรกตาราง, รปู ภาพ ต้องเขา้ ไปที่เมนูใด ” (แนวคำตอบ
คลิกทเี่ มนู Insert แลว้ เลือกตาราง (Table) และเลอื กรปู ภาพ (Picture))

• ครูตง้ั คำถามว่า “การสรา้ งชิน้ งานด้วยโปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ มลี ำดับขนั้ ตอน
อยา่ งไรบ้าง ยกตวั อยา่ งการเข้าใชง้ านอยา่ งครา่ ว ๆ ” (แนวคำตอบ1.เปดิ โปรแกรม
ซอฟต์แวร์นำเสนอขน้ึ มา 2. การสรา้ งสไลด์ 3. การกรอกข้อความทก่ี ล่องข้อความ 4. คลิกที่
เมนู Insert เพ่ือใสร่ ปู ภาพ วดี ีโอ ภาพเคลอื่ นไหว เสยี ง ตาราง แผนภมู ริ ปู ภาพ 5. กำหนด
ลกู เล่นตา่ งๆ

6. ตรวจสอบความถูกต้อง 7. บันทึกชน้ิ งาน โดยคลิกท่ีเมนู File เลือกบนั ทึก (Save) หรือ
(Save as) จากน้ันตงั้ ชื่อไฟล์งานและคลกิ ท่คี ำว่า (Save) เพื่อบันทกึ ช้นิ งาน)
10. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 หนา้ 66-70 (ซอฟต์แวรต์ าราง
ทำงาน) (ซอฟต์แวร์นำเสนอ) หรอื ครอู าจใหน้ กั เรียนทำเป็นการบา้ น

ชว่ั โมงท่ี 3
ขน้ั สอน (40 นาที)

1. นักเรยี นแบ่งกลุ่มกนั ทำชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) สำรวจโรงเรียนของฉัน กลุ่มละ 3-5 คน ผลดั กัน
ออกมาจับสลาก โดยครูทำสลากตามหวั ข้อต่อไปนี้
• สำรวจจำนวนต้นไม้ใหญภ่ ายในโรงเรยี น มา 5 ชนดิ นำมาเรยี งลำดบั มากท่สี ดุ ไปน้อยท่สี ุด
และเปรียบเทยี บว่าต้นไมช้ นิดทีม่ ากท่สี ุดต่างกับชนิดทนี่ อ้ ยทส่ี ดุ ก่ีต้น
• สำรวจจำนวนขยะภายในโรงเรียนท่อี ย่ตู ามพื้น ท่ีทิง้ ไม่ลงถังขยะ มา 3 ประเภท แบ่งเปน็
ขวดพลาสติก, ถุงพลาสตกิ และหลอดพลาสติก นำมาเรยี งลำดบั น้อยทีส่ ดุ ไปมากที่สดุ และ
เปรียบเทียบวา่ ขยะประเภทที่นอ้ ยทสี่ ดุ ตา่ งกบั ประเภททมี่ ากท่ีสดุ กช่ี ้ิน
• สำรวจจำนวนนกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 ทง้ั หมด จำนวนนกั เรียนที่ขาดเรียน จำนวน
นักเรยี นท่ลี าป่วย ลากจิ และจำนวนนักเรยี นคงเหลอื ในระยะเวลา 3 วัน รวมจำนวนทีข่ าด
เรียน รวมจำนวนทีล่ าปว่ ย ลากิจ ในระยะเวลา 3 วนั และทำการเปรียบเทียบสถติ ิการมา
เรียนแตล่ ะวนั วา่ วนั ใดนกั เรียนมาเรยี นมากทสี่ ุดตา่ งกบั วนั ทีม่ าเรยี นนอ้ ยทส่ี ดุ ก่ีคน

2. เมือ่ นักเรยี นจบั สลากได้แล้ว ใหน้ กั เรียนนำหวั ขอ้ ทไี่ ด้ไปสำรวจ และจัดทำแบบสำรวจในโปรแกรม
ไมโครซอฟตเ์ วิร์ด และนำข้อมูลมาประมวลผลในโปรแกรมเอกซเ์ ซล จากนั้นนำเสนอในโปรแกรม
เพาเวอร์พอยต์ โดยใส่รปู ภาพทสี่ อดคล้องกบั หัวข้อท่ีได้ อย่างนอ้ ย 3 รปู จากนน้ั พิมพ์ช้ินงานใน
โปรแกรมต่าง ๆ และติดใส่ในชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

3. ให้นกั เรียนทำกิจกรรมฝึกทกั ษะท่ี 1 เร่ือง เลือกใหเ้ หมาะสม โดยใหน้ กั เรยี นอา่ นสถานการณ์ และ
เลอื กใช้ซอฟต์แวร์ทเ่ี หมาะสมในการทำงานในชีวติ ประจาวัน ในแบบฝึกหัด (วิทยาการคำนวณ) ป.3
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 หน้า 71-72

ขน้ั สรปุ (20 นาที)
1. นกั เรยี นตรวจสอบตนเอง หลังจากเรียนจบหน่วยนี้ ในหนังสือเรยี น (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ย
การเรยี นรู้ท่ี 5 หนา้ 104
2. นักเรยี นทำแบบทดสอบท้ายบท ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 หนา้ 73-76 ในแบบฝึกหดั (วทิ ยาการ
คำนวณ) ป.3 เพื่อเป็นการตรวจสอบความรู้ทไ่ี ดห้ ลังเรยี น
3. ครนู ำนกั เรียนพูดคยุ รว่ มกันสรปุ ความรู้จากสาระสำคญั ที่ได้จากการจัดกจิ กรรมในหนังสอื เรียน
(วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 หนา้ 105 จนได้วา่ ซอฟตแ์ วร์เบ้ืองตน้ ทเ่ี ราเรียนนน้ั มี 3
โปรแกรม คอื โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยต์ เหมาะท่ีจะใชก้ ับงานที่ต้องการนำเสนอข้อมูล
โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ด เหมาะทจี่ ะใช้กบั งานเอกสาร งานประกาศ เพราะสามารถจดั รปู แบบ

เอกสารให้มีความเหมาะสมได้ และโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกซ์เซล เหมาะทจี่ ะใชก้ ับงานทต่ี ้องการคิด
คำนวณ ต้องการเปรียบเทยี บ บวก ลบ คูณ หารจำนวนของข้อมูล เปน็ ตน้
4. นักเรยี นทำกิจกรรมเสรมิ สรา้ งการเรียนรู้ ในหนงั สือเรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่
5 หนา้ 106 เป็นการบ้าน
10. ส่อื แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3
2. แบบฝึกหดั (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3
3. ใบงานที่ 5.1.1 เรอ่ื ง เราแยกกนั เถอะ
4. ใบงานที่ 5.1.2 เรือ่ ง รายรับ–รายจา่ ย
5. ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง สำรวจโรงเรียนของฉัน

11. การวัดและการประเมินผล

11.1 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรม

จดุ ประสงค์ วธิ ีการประเมนิ เครอ่ื งมือการประเมิน เกณฑ์การประเมิน
แบบประเมนิ กิจกรรม นักเรียนประยุกต์ใชโ้ ปรแกรม
1.นักเรยี นสามารถประยกุ ต์ใช้ ตรวจช้ินงานจากกจิ กรรมฝึก ฝกึ ทกั ษะ ไมโครซอฟตเ์ วิรด์ เอกซเ์ ซล
และเพาเวอร์พอยต์ ใน
โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ด ทักษะในหนงั สือเรยี น หน่วย สถานการณ์ที่กำหนดใหไ้ ด้ ใน
ระดับคุณภาพ พอใชข้ ้นึ ไป ถือ
เอกเซลล์ และเพาเวอรพ์ อยต์ ที่ 5 หน้า 86, 95, 104 ว่าผา่ น
นกั เรียนออกแบบแบบสำรวจ
ในสถานการณ์ท่กี ำหนดให้ได้ ตารางข้อมูล และนำเสนอโดย
ใช้ซอฟต์แวรไ์ ด้ จาก
(K) สถานการณ์ท่กี ำหนดมาให้ได้ใน
ระดบั คุณภาพ พอใชข้ ึน้ ไป ถือ
2.นกั เรียนสามารถออกแบบ ตรวจช้ินงาน/ภาระงาน (รวบ แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ ว่าผ่าน
แบบสำรวจ ตารางข้อมูล และ ยอด) สำรวจโรงเรียนของฉัน ภาระงาน (รวบยอด) นักเรียนสามารถโยงเสน้ จบั คู่
นำเสนอโดยใช้ซอฟตแ์ วรไ์ ด้ เลือกเลอื กใชซ้ อฟต์แวรท์ ่ี
(P) เหมาะสมในการทำงานใน
ชีวติ ประจำวนั ได้ถกู ต้อง 3 ข้อ
3.นกั เรยี นสามารถเลือกใช้ ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะที่ 1 กิจกรรมฝึกทักษะที่ 1 ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น
ซอฟต์แวร์ทเ่ี หมาะสมในการ เร่ือง เลอื กใหเ้ หมาะสม
ทำงานในชีวิตประจำวนั ได้ (A)

11.2 แบบประเมินกจิ กรรมฝึกทกั ษะ

ประเด็นในการ เกณฑ์การให้คะแนน

ประเมนิ 5 43 2 1

1.รูปแบบชนิ้ งาน รปู แบบชน้ิ งาน รปู แบบชิ้นงาน รูปแบบชน้ิ งาน รูปแบบชนิ้ งาน รูปแบบชนิ้ งาน

ถูกต้องครบถว้ นทกุ ขาดไป 1 ขาดไป 2 รายการ ขาดไป 3 รายการ ขาดไป 4 รายการ

รายการดงั น้ี รายการ

-ครบตามเงื่อนไขทุก

ประเดน็

-รูปแบบแปลกใหม่

นา่ สนใจ

-ขนาดงานเหมาะสม

-รูปภาพมี

ความสมั พันธ์กับ

เนื้อหา

2.เนื้อหา -รูปแบบงานและ -รูปแบบงาน -รปู แบบงานและ -รูปแบบงานและ -รปู แบบงานและ

เน้อื หามคี วาม และเนื้อหามี เน้อื หามคี วาม เนอ้ื หามีความ เนื้อหามีความ

สอดคล้องกนั ความสอดคล้อง สอดคลอ้ งกนั สอดคลอ้ งกนั สอดคลอ้ งกนั

-เนอื้ หาถูกตอ้ ง กนั บางสว่ น บางส่วน บางสว่ น

มีรายละเอียด -เนอ้ื หาถูกตอ้ ง -เนอื้ หาถกู ตอ้ ง มี -เนอ้ื หาถูกต้อง มี -เนื้อหาไม่ถูกต้อง

ครบถ้วนทกุ ประเดน็ มรี ายละเอียด รายละเอยี ด รายละเอยี ด ขาดรายละเอยี ด

ตามสถานการณ์ที่ บางสว่ นไม่ ครบถ้วนทกุ บางสว่ นไม่ และไมค่ รบถว้ น

กำหนด ครบถว้ นตาม ประเด็นตาม ครบถ้วนตาม ตามสถานการณท์ ่ี

สถานการณ์ท่ี สถานการณ์ที่ สถานการณ์ที่ กำหนด

กำหนด กำหนด กำหนด

3.ภาษา -มกี ารพิมพ์ขอ้ ความ -มกี ารพิมพ์ -มีการพิมพ์ -มกี ารพิมพ์ -มีการพิมพ์

พมิ พภ์ าษาอย่าง ข้อความ พิมพ์ ข้อความ พมิ พ์ ข้อความ พมิ พ์ ข้อความ พิมพ์

ถูกต้อง ภาษาอยา่ ง ภาษาผดิ บางส่วน ภาษาผิดบางส่วน ภาษาผดิ เป็น

-มกี ารเวน้ วรรค ถูกต้อง -มกี ารเว้นวรรค -มกี ารเวน้ วรรค ส่วนมาก และมี

ถกู ต้อง ไม่ฉกี คำ -มีการเว้นวรรค ถกู ต้อง ไม่ฉีกคำ ไม่ถูกตอ้ ง ฉกี คำ การเวน้ วรรคอาจ

ไม่ถูกตอ้ ง ฉกี คำ ถกู ต้องหรือไม่

ถกู ต้อง รวมถงึ

การฉกี คำและไม่

ฉกี คำ

4.เวลา -ส่งช้ินงานภายใน -สง่ ช้ินงาน -สง่ ชน้ิ งานช้ากว่า -สง่ ช้ินงานชา้ กว่า -สง่ ชนิ้ งานช้ากวา่

เวลาทีก่ ำหนด ภายในเวลาท่ี เวลาที่กำหนด 1 เวลาท่ีกำหนด 1 เวลาท่ีกำหนด

-ช้ินงานเสรจ็ สมบูรณ์ กำหนด วัน วนั มากกวา่ 1 วัน

ประเด็นในการ เกณฑ์การให้คะแนน

ประเมนิ 5 43 2 1

-ชน้ิ งานยงั ไม่ -ช้ินงานเสรจ็ -ช้ินงานยงั ไมเ่ สรจ็

เสร็จสมบรู ณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์

เกณฑ์การตดั สนิ /ระดบั คณุ ภาพ

คะแนน 18 – 20 หมายถงึ ดีมาก

คะแนน 14 – 17 หมายถงึ ดี

คะแนน 10 – 13 หมายถงึ พอใช้

คะแนนต่ำกวา่ 10 หมายถึง ปรบั ปรุง

11.3 แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ ง

ที่ตรงกับระดบั คะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงคด์ า้ น 32 1

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติได้

กษตั รยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี รา้ งความสามัคคีปรองดองและเป็นประโยชน์

ตอ่ โรงเรียน

1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา

1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทีเ่ กยี่ วกับสถาบันพระมหากษัตริยต์ ามทโ่ี รงเรยี นจดั ข้ึน

2. ซอื่ สตั ย์ สุจรติ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถี่ ูกต้องและเปน็ จรงิ

2.2 ปฏิบตั ใิ นสิ่งท่ีถกู ตอ้ ง

3. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครวั

มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวัน

4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 ร้จู ักใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ละนำไปปฏบิ ัติได้

4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม

4.3 เชอื่ ฟงั คำสงั่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้

4.4 ต้งั ใจเรียน

5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและสงิ่ ของของโรงเรียนอย่างประหยัด

5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรคู้ ุณค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน

6. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย

6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็

7. รักความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย

7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทำงาน

8.2 รูจ้ ักการดูแลรกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิ่งแวดล้อมของห้องเรยี น

และโรงเรียน

ลงชอื่ ..................................................ผู้ประเมนิ

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดีมาก
พฤติกรรมท่ีปฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน 41-50 ดี
พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางคร้ัง 30-40 พอใช้
ปรบั ปรงุ
ตำ่ กว่า 30

11.4 แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

ประเด็น เกณฑ์การให้คะแนน

ในการประเมนิ 3 2 1

1.ความถกู ต้องของ เนื้อหาและรูปแบบงานมี เนือ้ หามถี ูกต้อง แต่รปู แบบ เน้อื หาไม่ถูกต้อง แต่รูปแบบ

เน้อื หา ความสอดคล้องกัน ถกู ต้อง งานไม่ความสอดคล้องตาม งานมคี วามสอดคล้องตาม

ครบถว้ นตามสถานการณ์ท่ี สถานการณ์ที่กำหนด สถานการณ์ที่กำหนด

กำหนด

2.การใช้ซอฟต์แวร์ เข้าใชง้ านในโปรแกรม เข้าใชง้ านในโปรแกรม เข้าใชง้ านในโปรแกรม

อยา่ งถูกต้อง ไมโครซอฟตเ์ วริ ด์ เอกซเ์ ซล ไมโครซอฟตเ์ วริ ด์ เอกซ์เซล ไมโครซอฟต์เวริ ์ด เอกซเ์ ซล

และเพาเวอรพ์ อยต์ โดยใช้ และเพาเวอรพ์ อยต์ โดยใช้ และเพาเวอร์พอยต์ โดยใช้

เมนพู น้ื ฐาน เชน่ เมนพู ืน้ ฐานได้ แตไ่ มค่ รบ เมนูพ้ืนฐานได้ แต่ไมค่ รบ

-การต้งั ค่าหนา้ กระดาษ ตามเงือ่ นไขที่กำหนดขาดไป ตามเงอ่ื นไขทีก่ ำหนดขาดไป

-การแทรกตาราง รูปภาพ 2 เง่อื นไข มากกว่า 2 เงื่อนไข

รูปรา่ ง วีดโี อ

-การบันทึกงาน

-การคำนวณหาผลรวม

ผลตา่ งไดถ้ ูกต้องครบถ้วน

ตามเงื่อนไขทกี่ ำหนดทกุ

ประเด็น

3. การใชซ้ อฟตแ์ วร์ เลอื กใช้ซอฟตแ์ วร์เหมาะสม เลอื กใชซ้ อฟต์แวร์กบั งานและ เลอื กใชซ้ อฟต์แวร์กับงานและ

อยา่ งเหมาะสม กบั งานและใช้ประโยชนจ์ าก ใชป้ ระโยชนจ์ ากคุณสมบัติ ใช้ประโยชน์ ไม่เหมาะสมกับ

คณุ สมบตั ิของโปรแกรมได้ ของโปรแกรมไมไ่ ด้ตามความ คณุ สมบัตขิ องโปรแกรม เชน่

ถกู ตอ้ ง เช่น เลือกใชโ้ ปรแกรม เหมาะสมเช่น อาจจะ เลือกใช้ อาจจะ เลือกใชโ้ ปรแกรม

ไมโครซอฟต์เวิร์ด หาก โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ด ไมโครซอฟต์เวิรด์ ในการ

ต้องการบนั ทกึ รายงาน ในการบันทึก รายงาน และใช้ บนั ทึก รายงาน และใช้

เลอื กใชโ้ ปรแกรมเอกเซลล์ โปรแกรมไมโครซอฟต์เวริ ด์ โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ด

หากตอ้ งการคำนวณ ในการคำนวณ เปรยี บเทยี บ ในการคำนวณ เปรยี บเทยี บ

ประเดน็ เกณฑ์การให้คะแนน
ในการประเมิน
321
4.เวลา
เปรยี บเทยี บสถติ ิ และเลือกใช้ สถติ ิ โดยใชก้ ารคำนวณขา้ ง สถิติ โดยใชก้ ารคำนวณขา้ ง

โปรแกรมเพาเวอรพ์ อยต์ เมื่อ นอกจากเครือ่ งคดิ เลข แลว้ นำ นอกจากเครื่องคดิ เลข แล้วนำ

ตอ้ งการนำเสนองาน นำเสนอ ตวั เลขไปเตมิ ขอ้ มูล เป็นตน้ ตัวเลขไปเตมิ ขอ้ มลู และใช้

วีดโี อต่อผูอ้ นื่ โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ดใน

การนำเสนองาน

สง่ ชนิ้ งานภายใน เวลาท่ี ส่งช้นิ งานชา้ กวา่ เวลาท่ี สง่ ชน้ิ งานชา้ กวา่ เวลาที่

กำหนด กำหนด 1 วนั กำหนดมากกว่า 1 วัน

เกณฑ์การตดั สิน /ระดับคุณภาพ

คะแนน 10–12 หมายถงึ ดี
พอใช้
คะแนน 6–9 หมายถงึ ปรับปรงุ

ต่ำกวา่ 6 หมายถึง

ใบงานท่ี 5.1.1
เรื่อง เราแยกกนั เถอะ

คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนชว่ ยแยกภาพตัวอย่างวา่ ภาพใดคือฮารด์ แวร์ภาพใดคือซอฟต์แวร์ ลงในกรอบขอ้ ความ
ดา้ นล่าง

ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์

ไมใ่ ชฮ่ ารด์ แวร์และซอฟตแ์ วร์

ใบงานที่ 5.1.1 เฉลย
เรอ่ื ง เราแยกกนั เถอะ

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนช่วยแยกภาพตวั อย่างวา่ ภาพใดคือฮารด์ แวร์ภาพใดคือซอฟตแ์ วร์ ลงในกรอบข้อความ
ดา้ นล่าง

ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์

ไมใ่ ช่ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์

ใบงานท่ี 5.1.2
เรอ่ื ง รายรับ - รายจา่ ย

คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นคำนวณหารายรับ – รายจ่ายการใชเ้ งินภายใน 1 สัปดาห์ โดยให้คำนวณหารายรับ
รายจา่ ย และเงินคงเหลอื จากสถานการณ์ทกี่ ำหนดภายในเวลา 5 นาที ลงในชอ่ งวา่ ง

สถานการณท์ ีก่ ำหนด
นอ้ งสายฟ้า ต้องการทำบันทึกรายรบั รายจา่ ยการใช้เงินภายใน 1 สัปดาห์ เพ่อื ให้

ทราบขอ้ มลู คา่ ใช้จ่ายเงินในแต่ละวนั ว่าตอ้ งเสยี คา่ ใช้จ่ายไปกับสงิ่ ของใดบ้าง และเปน็ การ
รู้จักเก็บออมเงินท่เี หลือใช้ในแตล่ ะวัน โดยคุณแมจ่ ะใหเ้ งนิ ประจำวนั วันละ 30 บาท
รายละเอียดคา่ ใชจ้ ่ายตามตารางดา้ นลา่ งนี้

วัน รายการสินค้าทีซ่ ือ้
อาทิตย์ ค่าของเล่น 25 บาท
จนั ทร์ คา่ ข้าว 15 บาท ค่าขนม 5 บาท
องั คาร ค่าก๋วยเตี๋ยว 20 บาท ค่าผลไม้ 10 บาท
คา่ ขนมปัง 10 บาท ค่าลูกช้นิ 10 ชิ้น
พธุ ค่าขา้ ว 20 บาท ค่าขนม 5 บาท
พฤหัสบดี คา่ ซาลาเปา 15 บาท คา่ ขนมจีบ 10 บาท
คา่ ขา้ ว 15 บาท ค่านมกล่อง 10 บาท
ศกุ ร์
เสาร์
รวมรายรบั
รวมรายจ่าย
คงเหลอื

ใบงานที่ 5.1.2 เฉลย
เร่อื ง รายรับ - รายจา่ ย

คำชี้แจง : ให้นักเรียนคำนวณหารายรับ – รายจา่ ยการใช้เงินภายใน 1 สัปดาห์ โดยให้คำนวณหารายรบั
รายจ่าย และเงนิ คงเหลือจากสถานการณ์ท่กี ำหนดภายในเวลา 5 นาที ลงในชอ่ งวา่ ง

สถานการณ์ทกี่ ำหนด
น้องสายฟ้า ต้องการทำบันทึกรายรับรายจ่ายการใช้เงนิ ภายใน 1 สัปดาห์ เพ่ือให้

ทราบข้อมลู ค่าใช้จ่ายเงินในแต่ละวนั ว่าตอ้ งเสยี ค่าใช้จ่ายไปกับสิง่ ของใดบา้ ง และเปน็ การ
รู้จกั เกบ็ ออมเงินทเี่ หลือใช้ในแตล่ ะวนั โดยคณุ แมจ่ ะใหเ้ งนิ ประจำวนั วนั ละ 30 บาท
รายละเอียดคา่ ใชจ้ ่ายตามตารางดา้ นลา่ งนี้

วัน รายการสนิ คา้ ท่ีซื้อ
อาทติ ย์ ค่าของเลน่ 25 บาท
จนั ทร์ คา่ ข้าว 15 บาท คา่ ขนม 5 บาท
องั คาร ค่าก๋วยเตย๋ี ว 20 บาท ค่าผลไม้ 10 บาท
คา่ ขนมปัง 10 บาท ค่าลกู ชน้ิ 10 ชน้ิ
พธุ คา่ ขา้ ว 20 บาท คา่ ขนม 5 บาท
พฤหัสบดี คา่ ซาลาเปา 15 บาท ค่าขนมจีบ 10 บาท
คา่ ขา้ ว 15 บาท คา่ นมกล่อง 10 บาท
ศุกร์ 210 บาท
เสาร์ 170 บาท
รวมรายรบั 40 บาท
รวมรายจา่ ย
คงเหลอื

ชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด)
เรอ่ื ง สำรวจโรงเรยี นของฉัน

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลือกหวั ขอ้ สำรวจ และจดั ทำแบบสำรวจในโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด และนำข้อมลู มา
ประมวลผลในโปรแกรมเอกซ์เซล และนำเสนอในโปรแกรมเพาเวอร์พอยต์ โดยใส่รปู ภาพทส่ี อดคล้องกบั หัวข้อ
ทีไ่ ด้ อย่างนอ้ ย 3 รปู จากน้นั พมิ พช์ ิ้นงานในโปรแกรมตา่ ง ๆ และติดใส่ในกรอบทีก่ ำหนด

เลอื กหัวขอ้ ท่สี ำรวจ
1. สำรวจจำนวนต้นไม้ใหญภ่ ายในโรงเรียน มา 5 ชนดิ นำมาเรียงลำดบั มากท่สี ุดไปน้อยท่สี ุด

และเปรียบเทยี บว่าต้นไมช้ นดิ ทม่ี ากที่สดุ ต่างกับชนิดทีน่ ้อยที่สุดกต่ี น้

2. สำรวจจำนวนขยะภายในโรงเรียนท่ีอยตู่ ามพ้นื ท่ีท้ิงไมล่ งถังขยะ มา 3 ประเภท แบ่งเปน็
ขวดพลาสติก, ถุงพลาสตกิ และหลอดพลาสติก นำมาเรยี งลำดบั นอ้ ยทส่ี ุดไปมากทีส่ ุด และ
เปรยี บเทียบว่าขยะประเภทท่ีนอ้ ยทส่ี ุดตา่ งกบั ประเภททมี่ ากท่สี ดุ ก่ชี ิน้

3. สำรวจจำนวนนกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 ท้งั หมด จำนวนนกั เรยี นท่ีขาดเรียน จำนวน
นกั เรียนที่ลาป่วย ลากจิ และจำนวนนักเรยี นคงเหลอื ในระยะเวลา 3 วนั รวมจำนวนท่ีขาด
เรยี น รวมจำนวนท่ลี าป่วย ลากิจ ในระยะเวลา 3 วนั และทำการเปรยี บเทยี บสถติ ิการมา
เรียนแตล่ ะวนั วา่ วนั ใดนกั เรียนมาเรยี นมากท่ีสุดตา่ งกับวนั ท่ีมาเรียนน้อยทสี่ ุดกี่วนั

ออกแบบ แบบสำรวจในหัวขอ้ ท่เี ลือกโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ด์

(ตดิ ช้นิ งาน)

ออกแบบ ตารางเพ่อื เรยี งลำดบั และเปรียบเทยี บในหัวข้อที่เลอื กโดยใช้โปรแกรมเอกซ์เซล
(ตดิ ชิ้นงาน)

ออกแบบ นำเสนอขอ้ มูลโดยนำผลจากตารางท่สี ำรวจมาได้ โดยใชโ้ ปรแกรมเพาเวอร์พอยต์
(ติดช้นิ งาน)

ช้นิ งาน/ภาระงาน(รวบยอด) เฉลย
เร่อื ง สำรวจโรงเรยี นของฉัน

คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นเลือกหัวข้อสำรวจ และจัดทำแบบสำรวจในโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิรด์ และนำข้อมลู มา
ประมวลผลในโปรแกรมเอกซ์เซล และนำเสนอในโปรแกรมเพาเวอร์พอยต์ โดยใสร่ ปู ภาพท่สี อดคล้องกับหวั ข้อ
ทไ่ี ด้ อย่างน้อย 3 รูป จากนนั้ พิมพช์ ิ้นงานในโปรแกรมต่าง ๆ และตดิ ใส่ในกรอบที่กำหนด

เลือกหัวขอ้ ท่ีสำรวจ
1. สำรวจจำนวนตน้ ไมใ้ หญภ่ ายในโรงเรยี น มา 5 ชนดิ นำมาเรียงลำดับมากทส่ี ุดไปน้อยท่สี ุด

และเปรียบเทียบว่าต้นไมช้ นิดท่มี ากท่ีสดุ ตา่ งกับชนิดทีน่ อ้ ยที่สุดก่ตี ้น

2. สำรวจจำนวนขยะภายในโรงเรียนทอ่ี ยูต่ ามพ้นื ที่ทิ้งไมล่ งถังขยะ มา 3 ประเภท แบ่งเปน็
ขวดพลาสติก, ถุงพลาสตกิ และหลอดพลาสติก นำมาเรียงลำดับนอ้ ยทีส่ ดุ ไปมากที่สดุ และ
เปรียบเทียบว่าขยะประเภทที่น้อยที่สุดตา่ งกับประเภททม่ี ากทส่ี ดุ กช่ี ิ้น

3. สำรวจจำนวนนกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 ทั้งหมด จำนวนนักเรียนที่ขาดเรยี น จำนวน
นักเรียนทล่ี าปว่ ย ลากิจ และจำนวนนกั เรียนคงเหลือ ในระยะเวลา 3 วนั รวมจำนวนที่ขาด
เรียน รวมจำนวนที่ลาป่วย ลากจิ ในระยะเวลา 3 วัน และทำการเปรยี บเทียบสถติ ิการมา
เรียนแต่ละวนั วา่ วันใดนักเรียนมาเรยี นมากท่ีสุดตา่ งกบั วันทม่ี าเรียนน้อยทสี่ ดุ กี่วัน

ออกแบบ แบบสำรวจในหัวขอ้ ท่เี ลือกโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ด์

(ตดิ ช้นิ งาน)

ออกแบบ ตารางเพ่อื เรยี งลำดบั และเปรียบเทยี บในหัวข้อที่เลอื กโดยใช้โปรแกรมเอกซ์เซล
(ตดิ ชิ้นงาน)

ออกแบบ นำเสนอขอ้ มูลโดยนำผลจากตารางท่สี ำรวจมาได้ โดยใชโ้ ปรแกรมเพาเวอร์พอยต์
(ติดช้นิ งาน)

12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......

ลงช่อื
(

ตำแหนง่

13. บนั ทึกผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข