The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ม3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ดลพฤกษ์ ทันเจริญ, 2020-10-12 07:15:46

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ม3

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ม3

11.2 การประเมินการนำเสนองานกล่มุ

ที่ รายการประเมิน คุณภาพผลงาน
4 3 21

1 นำเสนอการประยุกต์แนวคดิ ในการพัฒนาเทคโนโลยี IoT กับ

ความสามารถของ micro:bit ไดน้ ่าสนใจและส่ือสารเขา้ ใจง่าย ชัดเจน

2 อธบิ ายการทำงานของแนวคิดไดเ้ ขา้ ใจ และถูกต้องตามหลักการ และตอบ

คำถามได้

3 มีความคดิ สรา้ งสรรค์

4 การมสี ่วนรว่ มของสมาชิกในกลุม่

5 การรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อ่ืน

รวม

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
16 – 20 ดี
10 – 15
น้อยกวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง

11.3 การประเมินแบบฝึกหัด เร่อื ง เทคโนโลยี IoT (แนวคดิ และองค์ประกอบของ IoT)

ประเด็นในการประเมนิ 3 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1
2

1.อธิบายแนวคดิ ของ อธบิ ายแนวคดิ ของ อธบิ ายแนวคิดของ อธบิ ายแนวคดิ ของ

เทคโนโลยี IoT เทคโนโลยี IoT ได้ เทคโนโลยี IoT ได้ เทคโนโลยี IoT ได้

ถกู ต้องครบถว้ นทงั้ หมด ถกู ต้อง 50% ขนึ้ ไป ถกู ต้อง น้อยกว่า 50%

2.แผนผังการทำงาน เขียนแผนผงั การทำงาน เขียนแผนผงั การทำงาน เขียนแผนผงั การทำงาน

องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ

เทคโนโลยี IoT เทคโนโลยี IoT ได้เป็น เทคโนโลยี IoT ได้เปน็ เทคโนโลยี IoT ได้เป็น

ระบบ ถูกต้องและ ระบบ ถูกต้องและ ระบบ ถูกต้องและ

เข้าใจง่ายทั้งหมด เขา้ ใจงา่ ย 50% ขนึ้ ไป เข้าใจงา่ ย น้อยกว่า

50%

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
5–6 ดี
3–4
พอใช้
น้อยกว่า 3 ปรับปรงุ

11.4 การประเมินแบบฝึกหัด เร่อื ง เทคโนโลยี IoT (การออกแบบแนวคิดในการพัฒนา

เทคโนโลยี IoT)

ประเด็นในการประเมิน 3 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1
2

1.ระบุปัญหาท่ีพบเจอใน ระบปุ ญั หาที่พบเจอใน ระบปุ ัญหาที่พบเจอใน ระบุปญั หาท่ีพบเจอใน

ชวี ติ ประจำวัน และ ชวี ติ ประจำวันได้ ชีวติ ประจำวนั ได้ ชีวิตประจำวนั ได้ และ

แนวทางการพัฒนา นา่ สนใจ และอธิบาย นา่ สนใจ และอธิบาย อธิบายแนวทางการพฒั นา

แนวทางการพัฒนาโดย แนวทางการพัฒนาโดย โดยใช้เทคโนโลยี IoT ได้

ใชเ้ ทคโนโลยี IoT ได้ ใช้เทคโนโลยี IoT ได้ ถกู ต้องครบ น้อยกวา่ 50%

ถูกต้องครบถ้วน ถูกต้องครบ 50% ข้ึนไป

2.ออกแบบแนวคิดใน ออกแบบแนวคิดในการ ออกแบบแนวคิดในการ ออกแบบแนวคิดในการ

การพฒั นาเทคโนโลยี พัฒนาเทคโนโลยี IoT พฒั นาเทคโนโลยี IoT พฒั นาเทคโนโลยี IoT กบั

IoT กบั ความสามารถ กับความสามารถของ กบั ความสามารถของ ความสามารถของ บอรด์

ของบอรด์ บอรด์ บอรด์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ได้

ไมโครคอนโทรลเลอร์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ได้ ไมโครคอนโทรลเลอร์ได้ หลกั การถูกต้องครบถ้วน

น่าสนใจ สร้างสรรค์ นา่ สนใจ หลกั การ และเลอื กใชอ้ ุปกรณ์ได้

หลักการถูกตอ้ งครบถ้วน ถกู ต้อง และเลือกใช้ เหมาะสมกบั การแก้ปญั หา

ทั้งหมด และเลือกใช้ อุปกรณ์ได้เหมาะสมกับ นอ้ ยกวา่ 50%

อุปกรณ์ได้เหมาะสมกบั การแก้ปัญหา 50% ขึน้

การแกป้ ัญหา ไป

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
5–6 ดี
3–4
พอใช้
น้อยกว่า 3 ปรบั ปรุง

12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......

ลงช่อื
(

ตำแหนง่

13. บนั ทึกผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 เวลา 14 ช่ัวโมง
เวลา 4 ชัว่ โมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 แอปพลิเคชนั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
เรอ่ื ง ซอฟตแ์ วร์ท่ใี ช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชนั
รายวชิ า คอมพวิ เตอร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

1. ผลการเรียนรู้
1. เพื่อใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีทกั ษะการคิดเชิงคำนวณ การคดิ วิเคราะห์ การแก้ปญั หาเป็นขน้ั ตอน และเป็น
ระบบ
3. เพอื่ ให้ผ้เู รียนมที ักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสอ่ื สารเบอื้ งตน้
ในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจรงิ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ
4. เพื่อใหผ้ เู้ รียนนำความรู้ความเข้าใจในวชิ าวิทยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยใี หมท่ ่เี กิดขึน้ ไปใช้ให้เกดิ
ประโยชนต์ อ่ สงั คมและการดำรงชีวติ
5. เพ่อื ให้ผูเ้ รียนพัฒนากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการ
จดั การทกั ษะในการส่ือสาร ความสามารถในการตัดสินใจ
6. เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รียนเปน็ ผมู้ จี ิตวิทยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1.บอกความหมาย ประเภท และขน้ั ตอนการพัฒนาแอปพลิเคชันได้ (K)
2.ออกแบบการพฒั นาแอปพลิเคชันตามข้ันตอนการพัฒนาแอปพลิเคชันได้ (P)
3.ยกตัวอยา่ งแอปพลเิ คชนั ทีม่ ปี ระโยชน์ของในชีวติ ประจำวันได้ (A)

3. สาระสำคัญ
แอปพลิเคชัน เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพ่ืออำนวยในด้านต่าง ๆ มีการออกแบบมาเพื่อใช้งาน

ในหลายรูปแบบ โดยแอปพลิเคชันแบ่งออกได้ 2 ประเภท ได้แก่ แอปพลิเคชันระบบ แอปพลิเคชันที่
ตอบสนองต้องการของกลมุ่ ผูใ้ ช้

การพัฒนาแอปพลิเคชัน มี 7 ขั้นตอน ดังนี้ 1) กำหนดปัญหา 2) ศึกษาความเป็นไปได้ 3) วิเคราะห์
ความตอ้ งการแอปพลิเคชนั 4) ออกแบบแอปพลิเคชัน 5) ทดสอบ 7) จดั ทำเอกสาร

ซึ่งการพัฒนาโปรแกรมในปัจจุบันนิยมใช้โปรแกรมภาษาไพทอน (Python) เพราะเป็นภาษาท่ีอ่าน
แล้วเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมการพัฒนาแอปพลิเคชันด้วยโปรแกรมภาษาไพทอน
เชน่ โปรแกรมคำนวณหาอัตราแลกเปล่ยี นเงินบาทไทย (THB) เปน็ เงินดอลลาร์ (USD) เปน็ ต้น
4. สาระการเรยี นรู้

1. ขัน้ ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชนั
2. ซอฟต์แวร์ท่ใี ช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชนั่

5. รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน

1. รปู แบบการสอนแบบการอภปิ ราย

2. วธิ ีการสอนโดยเน้นกระบวนการกล่มุ (Group Process–Based Instruction)

3. วิธีการสอนโดยใชก้ ารแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing)

4. วธิ กี ารสอนโดยใช้แนวคดิ เชิงคำนวณ (Computational Thinking)

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ความสามารถในการสอื่ สาร

 ความสามารถในการคิด

 ความสามารถในการแกป้ ัญหา

 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. ทักษะ 4 Cs

 ทักษะการคดิ วิจารณญาณ (Critical Thinking)

 ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน (Collaboration Skill)

 ทกั ษะการสือ่ สาร (Communication Skill)

 ทักษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking)

8. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ

 มวี ินัย  ใฝ่เรียนรู้

 อยู่อยา่ งพอเพยี ง  มุ่งมนั่ ในการทำงาน

 รักความเปน็ ไทย  มีจติ สาธารณะ

9. การจัดกระบวนการเรียนรู้

ชวั่ โมงท่ี 1

ขั้นนำ (10 นาที)
1. ครสู นทนากบั นักเรียนว่า ถา้ สมมตินกั เรียนไปเทีย่ วต่างประเทศ นกั เรียนคาดวา่ ตอ้ งใชเ้ งนิ ประมาณเทา่ ไร
2. จากนั้นครถู ามต่อวา่ จำนวนเงินทนี่ ักเรยี นบอกเป็นสกุลเงนิ ไทย หรือสกุลเงินประเทศที่ต้องการไปเที่ยว
3. ครถู ามว่าแลว้ นักเรียนสามารถแปลงจำนวนเงินบาทเปน็ สกุลเงินของตา่ งประเทศอย่างไร

(แนวคำตอบ สามารถคำนวณได้ด้วยโปรแกรมที่อยู่บนออนไลน์ หรือแอพพิเคช่ันบนมือถือและแท็ปเลท
นอกจากนน้ั ยังสามารถคำนวณไดโ้ ดยดจู ากการแปลงอตั ราแลกเปลย่ี นคา่ เงินประจำวัน)
4. ครสู อบถามว่านกั เรียนเคยสงสัยไหมว่าโปรแกรมเหล่านที้ ำงานอย่างไร
(แนวคำตอบ : การแปลงคา่ เทียบค่าเงิน ดูจากอตั ราแลกเปลย่ี นเงนิ )

ขน้ั สอน (40 นาท)ี
1. ครกู ล่าวถงึ ลักษณะแบบน้ีเปน็ ประโยชน์ของโปรแกรม หรือแอปพลิเคชนั ท่ีเราใช้ในชีวติ ประจำวนั
2. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 หน้า 83 หัวข้อ

การพฒั นาแอปพลเิ คชัน
3. ครอู ธิบายความหมาย และประเภทของแอปพลิเคชัน และยกตัวอย่างแอปพลเิ คชันจากในหนังสอื หน้า 84

หรือตามความเหมาะสม
4. ครูอธบิ ายเพิ่มเร่ืองขั้นตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ในหนงั สือเรยี นวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้น

มัธยมศึกษาปที ี่ 3 หนา้ 85-88
5. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 57-58 ข้อ 1-3 เพ่ือตรวจสอบความ

เข้าใจ

ชวั่ โมงท่ี 2

ขัน้ สอน (50 นาที)
6. ครูถามนักเรียนว่าจากที่เราพูดถึงจำนวนเงิน และการแปลงสุกลเงินในคาบที่แล้วนักเรียนคาดว่าหาก

ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันเราจะต้องใช้เคร่อื งมือใดบา้ ง
(แนวคำตอบ คอมพวิ เตอร์ โปรแกรมภาษาC++ โปรแกรมภาษาPython )
7. ครูอธิบายว่าการพัฒนาโปรแกรมสามารถใช้ภาษาในการเขียน และพัฒนาแอปพลิเคชันได้หลากหลาย
สามารถเลอื กใชไ้ ดต้ ามความถนัด
8. ครูสนทนากบั นักเรียนว่า นกั เรียนได้เรยี นเขยี นโปรแกรมภาษาPython เบ้ืองต้นมาแล้วในชั้นมัธยมศึกษาปี
ที่ 2 แล้วรู้หรือไม่ว่าทำไมนักพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันส่วนใหญ่จึงเลือกใช้โปรแกรมนี้ เรามาดู
จุดเด่น จุดด้อยของโปรแกรมภาษาไพทอนกัน (เปิดหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ช้ัน
มธั ยมศึกษาปีที่ 3 หนา้ 89)
9. ครูบอกนักเรียนว่า คาบน้ีจะได้ศึกษาการทำงานของโปรแกรมแปลงค่าเงินโดยให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน
วิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 หน้า89 หัวข้อซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนา
แอปพลิเคช่นั
10. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากน้ันครูอธิบายหน้าท่ีการทำงานเครื่องมือของโปรแกรม เป็นการ
ทบทวนเนื้อหาเดิมที่เรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 (เนื้อหาเดิมในหนังสือวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้น
มธั ยมศกึ ษาปที 2ี่ ) หรือศึกษาเพิ่มเติมจากใบความรเู้ รื่อง If else, while, for
(สามารถดาวนโ์ หลดโปรแกรมไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ https://codewith.mu/en/download )

ช่ัวโมงท่ี 3

ขน้ั สอน (50 นาที)
11. ครูอธิบายเน้ือหาในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 หน้า90-105

เร่ืองโปรแกรมคำนวณหาอัตราแลกเปล่ียนเงินบาทไทย(THB) เป็นเงินดอลลาร์ (USD) และให้นักเรียน
ศึกษาพร้อมทดลองเขียนโปรแกรมตามหนังสือ เพ่ือความเข้าใจโปรแกรมมากขึ้น ให้ศึกษาในใบความรู้
เพ่ิมเตมิ เรือ่ งการใช้งาน GUI ร่วมกับภาษาไพทอนในการเขยี นโปรแกรม โดยใชโ้ มดูล Tkinter
12. ครูถามนักเรียนว่าจากตัวอย่างที่ศึกษา สามารถนำแนวคิดการแปลงสกุลเงินไปปรับเปน็ โปรแกรมรูปแบบ
อนื่ ได้หรือไม่ อย่างไรบ้างให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น และบันทึกรูปแบบที่เพ่ือน
นำเสนอแลว้ สนใจลงกระดาษ A4
14. ครูสอบถามว่าจากการแลกเปล่ยี นความคิดเห็นไดพ้ บขอ้ ดี ข้อเสยี อะไรบา้ ง
15. ครูให้นักเรียนจับคู่เพื่อแลกเปล่ียนแนวคิดและรูปแบบที่นักเรียนสนใจการพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเค
ชัน จากนั้นเลือกแนวคิดท่ีน่าสนใจ 1 อย่างเพ่ือเขียนรายละเอียดการทำงานตามขั้นตอนการพัฒนาแอป
พลิเคชันดงั กล่าวในแบบฝกึ หดั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หนา้ 58-59 ขอ้ 4
16. ครูให้นักเรียนนำแนวคิดที่ได้มาเขียน Flow Chart เพ่ือนำไปพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันในแบบฝึกหัด
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หน้า 60 ขอ้ 5

ชวั่ โมงท่ี 4

ขั้นสอน (40 นาที)
17. ครถู ามนักเรยี นว่าจากการเขียน Flow Chart นกั เรยี นคาดวา่ แนวคดิ ทีต่ นเองเขียนมโี อกาสทจ่ี ะทำได้จรงิ

หรอื ไม่
18. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะค่นู ำเสนอแนวคดิ และผังงาน (Flowchart) ของตนเองหนา้ ช้นั เรยี น ให้เพอื่ น

ร่วมกนั แลกเปล่ียนความคดิ เหน็ พรอ้ มท้งั ครูคอยให้คำแนะนำ จากนั้นให้นำไปปรบั ปรงุ แก้ไข
ขน้ั สรปุ (10 นาที)
1. ให้นักเรียนยกตัวอย่างแอปพลิเคชันที่มีประโยชน์ของในชีวิตประจำวัน โดยการตอบคำถามในแบบฝึกหัด

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หนา้ 66 ข้อ 7

10. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรียน (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง แอปพลิเคชัน
2. แบบฝึกหัด (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง แอปพลิเคชนั
3. โปรแกรม Mu

11. การวดั และการประเมินผล

11.1 การประเมินระหวา่ งการจัดกจิ กรรม

จุดประสงค์ วธิ กี ารประเมิน เคร่อื งมือการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ
บอกความหมาย
1. บอกความหมาย ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัด(วทิ ยาการ ประเภท และขน้ั ตอน
การพัฒนาแอปพลเิ คชนั
ประเภท และขั้นตอน หน้า 57-58 คำนวณ) ม.3 ไดถ้ ูกต้อง 60% ขึ้นไป

การพัฒนาแอปพลิเคชนั หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 1.ออกแบบการพฒั นา
แอปพลเิ คชนั ตาม
ได้ (K) เร่ือง แอปพลเิ คชนั ขั้นตอนการพฒั นาแอป
พลเิ คชันได้ ในระดบั
หน้า 57-58 คณุ ภาพพอใชข้ น้ึ ไปถอื
ว่าผ่าน
2.ออกแบบการพัฒนา 1.ตรวจการออกแบบ 1.แบบประเมิน 2.นำเสนอแนวคดิ การ
ออกแบบการพฒั นาแอป
แอปพลิเคชนั ตาม แนวคิดในแบบฝกึ หัด แบบฝึกหัด พลเิ คชนั ในระดับ
คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไปถอื
ขั้นตอนการพฒั นาแอป หนา้ 58-59 เรอ่ื ง แอปพลเิ คชัน วา่ ผ่าน
3.ผ่านเกณฑ์การ
พลเิ คชนั ได้ (P) 2.ประเมนิ การนำเสนอ (ออกแบบการพัฒนา ประเมิน 60% ข้ึนไป

แนวคิดการออกแบบการ แอปพลิเคชนั )

พัฒนาแอปพลิเคชัน 2.แบบประเมิน

การนำเสนองานกลุ่ม

(ออกแบบแนวคดิ การ

พฒั นาแอปพลเิ คชนั )

3.ยกตวั อยา่ งแอปพลเิ ค ตรวจแบบฝึกหดั หน้า แบบฝึกหัด (วิทยาการ
ชนั ที่มปี ระโยชนข์ องใน 66 ขอ้ 7 คำนวณ) ม.3
ชีวติ ประจำวนั ได้ (A) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4
เร่อื ง แอปพลเิ คชนั
หนา้ 66 ข้อ 7

11.2 การประเมินการนำเสนองานกลุม่ (ออกแบบแนวคิดการพฒั นาแอปพลิเคชนั )

ท่ี รายการประเมิน คุณภาพผลงาน
4 3 21

1 นำเสนอการออกแบบการพัฒนาแอปพลิเคชันตามขั้นตอนการพัฒนาแอป

พลเิ คชนั ไดน้ ่าสนใจและสื่อสารเขา้ ใจง่าย ชดั เจน

2 อธบิ ายการทำงานของแนวคิดได้เข้าใจ และถูกต้องตามหลักการ และตอบ

คำถามได้

3 มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์

4 การมีส่วนรว่ มของสมาชกิ ในกล่มุ

5 การรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผู้อ่ืน

รวม

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
16 – 20 ดี
10 – 15
น้อยกวา่ 10 พอใช้
ปรับปรงุ

11.3 การประเมินแบบฝึกหัด เร่อื ง แอปพลเิ คชนั (ออกแบบการพัฒนาแอปพลเิ คชัน)

ประเด็นในการประเมนิ 3 เกณฑ์การให้คะแนน 1
2

1.ความสอดคล้องกับ ออกแบบแนวคิดการ ออกแบบโปรแกรมหรอื ออกแบบโปรแกรมหรือ

เนื้อหา พฒั นาโปรแกรมหรือ แอปพลิเคชันตาม แอปพลเิ คชันตาม

แอปพลเิ คชันตาม ขน้ั ตอนการออกแบบ ขั้นตอนการออกแบบ

ขนั้ ตอนการออกแบบ แอปพลิเคชันได้ถูกต้อง แอปพลเิ คชันได้ถกู ต้อง

แอปพลิเคชนั ได้ถูกต้อง และชดั เจนมากกว่า50% นอ้ ยกวา่ 50%

ครบถว้ นและชัดเจน

2.การแสดงอัลกอริทึม เขยี นแสดงลำดบั การ เขียนแสดงลำดบั การ เขียนแสดงลำดบั การ

ทำงานของโปรแกรม ทำงานของแอปพลเิ คชัน ทำงานของแอปพลเิ คชัน

หรือแอปพลเิ คชันด้วย ดว้ ยแผนผังงาน (Flow ด้วยแผนผงั งาน (Flow

แผนผังงาน (Flow Chart) ไดเ้ ปน็ ระบบ Chart) ได้เป็นระบบ

Chart) ได้เปน็ ระบบ ถกู ต้องและเขา้ ใจงา่ ย ถูกต้องและเข้าใจงา่ ย

ถูกต้องและเขา้ ใจงา่ ย มากกว่า50% นอ้ ยกวา่ 50%

3.มคี วามคดิ สร้างสรรค์ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ

ในการออกแบบแอป แนวคดิ การพฒั นาแอป แนวคิดการพฒั นาแอป แนวคิดการพฒั นาแอป

พลิเคชัน พลเิ คชันได้นา่ สนใจ พลิเคชนั ได้น่าสนใจ พลเิ คชันไดน้ ่าสนใจ

และคำนงึ ประโยชน์ของ และคำนึงประโยชน์ของ และคำนงึ ประโยชน์ของ

การใช้งาน การใชง้ านเป็นส่วนใหญ่ การใชง้ านบ้างพยี ง

บางส่วน

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
7–9 ดี
5–6
พอใช้
น้อยกว่า 5 ปรบั ปรงุ

12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......

ลงช่อื
(

ตำแหนง่

13. บนั ทึกผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เวลา 14 ช่วั โมง
เวลา 6 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 แอปพลิเคชัน ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3
เร่ือง ซอฟตแ์ วร์ท่ีใชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชัน (2)
รายวิชา คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

1. ผลการเรยี นรู้
1. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. เพอื่ ให้ผเู้ รียนมที ักษะการคิดเชงิ คำนวณ การคดิ วิเคราะห์ การแกป้ ญั หาเปน็ ขั้นตอน และเป็น
ระบบ
3. เพอ่ื ให้ผู้เรียนมที ักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รกั ษาขอ้ มลู ส่วนตวั และการสื่อสารเบอื้ งตน้
ในการแกป้ ญั หาที่พบในชีวิตจริงไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ
4. เพอ่ื ให้ผู้เรียนนำความรู้ความเขา้ ใจในวชิ าวทิ ยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยใี หมท่ ่เี กิดขึน้ ไปใช้ให้เกิด
ประโยชนต์ อ่ สังคมและการดำรงชีวติ
5. เพอื่ ให้ผู้เรียนพฒั นากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการ
จัดการทกั ษะในการส่ือสาร ความสามารถในการตัดสินใจ
6. เพื่อใหผ้ เู้ รียนเปน็ ผมู้ ีจิตวทิ ยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยมในการใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยอี ยา่ งสร้างสรรค์

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายหนา้ ทกี่ ารทำงานของคำสัง่ ในการเขียนโปรแกรมด้วย Python ได้ (K)
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมหรอื แอปพลเิ คชนั ด้วยภาษา Pythonได้ (P)
3. พัฒนาแอปพลิเคชนั ท่ีคำนงึ ถึงประโยชน์ตอ่ ชวี ติ ประจำวนั (A)

3. สาระสำคัญ
ภาษาไพทอนเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีเหมาะสำหรับผู้เร่ิมต้นเขียนโปรแกรมไปจนถึงการ

ประยุกต์ใช้งานในระดับสงู เนือ่ งจากโครงสร้างภาษาท่ีลดความยงุ่ ยากเร่อื งไวยากรณ์ในการเขียนโปรแกรมลง
อา่ นแล้วเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
4. สาระการเรยี นรู้

1. ซอฟต์แวรท์ ใี่ ชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชนั่
5. รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน

1. รปู แบบการสอนแบบบรรยาย (Lecture)
2. วิธีการสอนโดยใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณ (Computational Thinking)
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
 ความสามารถในการสอ่ื สาร
 ความสามารถในการคดิ

 ความสามารถในการแกป้ ญั หา  ซื่อสัตย์ สจุ รติ
 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต  ใฝเ่ รยี นรู้
 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี  ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
7. ทักษะ 4Cs  มีจิตสาธารณะ
 ทักษะการคดิ วิจารณญาณ (Critical Thinking)
 ทักษะการทำงานรว่ มกนั (Collaboration Skill)
 ทกั ษะการส่ือสาร (Communication Skill)
 ทักษะความคดิ สรา้ งสรรค์ (Creative Thinking)
8. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
 รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

 มีวนิ ยั

 อย่อู ย่างพอเพียง

 รักความเป็นไทย

9. การจดั กระบวนการเรยี นรู้

ชว่ั โมงท่ี 1

ข้ันนำ (10 นาที)
1. ครูบอกกับนักเรียนว่าจากชั่วโมงที่ผ่านมาเราทราบดีว่าโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาแอปแพลิเคชันมีให้เลือก

หลากหลาย แตโ่ ปรแกรมทนี่ ิยมกันและเรียนรู้ไดเ้ รว็ ซง่ึ Python เปน็ ตัวเลือกท่นี ่าสนใจ
2. ครูสนทนากับนักเรียนว่า “จากตัวอย่างที่นักเรียนลองเขียนโปรแกรมแปลงค่าเงินด้วยโปรแกรมภาษา

Python นักเรียนคิดว่า ฟังก์ชันหรอื คำสัง่ ท่ีนักเรียนใช้ในการเขียนโปรแกรมข้างต้น เพียงพอสำหรับการ
พฒั นาแอปพลิเคชันตามแนวคิดของนักเรียนหรอื ไม่”
3. ครสู นทนากับนกั เรยี นวา่ “หากเราต้องการพัฒนาแอปแพลิเคชันดว้ ย Python จะต้องเรียนรูอ้ ะไรบา้ ง
(แนวคำตอบ โปรแกรมทีใ่ ช้เขียน เช่น Mu, คำส่ังให้โปรแกรมแสดงผล, เรียนรคู้ ำส่งั if-else, คำส่งั loop)
ขน้ั สอน (40 นาท)ี
1. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากน้ันครูอธิบายหน้าท่ีการทำงานเคร่ืองมือของโปรแกรม (เน้ือหาเดิมใน
หนงั สอื วชิ า วิทยาการคำนวณ ช้ันมัธยมศึกษาปีท2ี่ )
(สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ https://codewith.mu/en/download )
2. ครทู บทวนการเขยี นโปรแกรมคำสั่ง print เพ่ือสงั่ ใหโ้ ปรแกรมแสดงผลตวั เลข และขอ้ ความ

เช่น Code ผลลพั ธ์ได้

3. ครทู บทวนการเขยี นโปรแกรมโดยใช้ variable ด้วยตัวเลข และขอ้ ความเพือ่ การแสดงผล เชน่
Code

ผลลพั ธ์ทไี่ ด้

4. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า กรณีท่ีสร้างตัวแปรของตัวเลข เช่น A = 5 กับ C = “5” แสดงผลออกมาเป็นเลข 5
เหมือนกัน แต่ความหมายต่างกัน A เป็นตัวแปรของตัวเลข ส่วน C เป็นตัวแปรของตัวอักษรหรือข้อความ
เพราะมสี ัญลักษณ์ “”

5. จากนั้นครทู บทวนรูปแบบรหัสข้อมูล (Format Code) เพ่ิมเติม จากที่เคยเรียนผา่ นมาแลว้ ในระดบั ชั้นม.2
6. ครใู ห้นักเรยี นทำใบงาน เรื่อง ตวั แปรและตวั ดำเนนิ การ

ชวั่ โมงท่ี 2
ข้ันสอน (50 นาท)ี
7. ครูถามคำถามเพ่ือทบทวนนักเรียนว่าจากการเรียนเร่ืองการใช้งานตัวแปรเพ่ือการดำเนินการทาง

คณติ ศาสตร์ มขี ้อมูลตัวเลขแบบไหนบ้างท่ีสามารถนำมาดำเนนิ การทางคณติ ศาสตร์ได้
(แนวคำตอบ จำนวนเงิน อุณหภูมิ น้ำหนัก ส่วนสูง เป็นตัวเลขที่มีค่าสามารถนำมาดำเนินการทาง
คณติ ศาสตร์ได้ )
8. จากนัน้ ครทู บทวนการใช้งานคำสง่ั การรบั ขอ้ มูลจากแป้นพิมพ์ input เชน่

Code

ผลลพั ธ์ทีไ่ ด้

9. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง การเขียนใช้คำส่ังแสดงผล อินพุต และเอาต์พุต และแบบฝึกหัด
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หนา้ 61 ขอ้ 6.1

10. ครูสอบถามนกั เรียนวา่ ฟงั กช์ ัน input ทำงานอยา่ งไร
(แนวคำตอบ เป็นการรับขอ้ มลู จากแป้นพิมพ์ หรอื นำเขา้ ขอ้ มูลจากแปน้ พิมพ์)

ช่วั โมงที่ 3

ข้นั สอน (50 นาท)ี
11. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขียนโปรแกรมคำส่ังที่เรียนมา หากครูต้องการเขียนโปรแกรมจัดลำดับ

ความนิยมของร้านอาหารโดยใช้ข้อมูลจากระดับความพอใจในการใช้บริการ 5 ระดับ นักเรียนคิดว่า
สามารถทำได้หรอื ไม่
(แนวคำตอบ ไมส่ ามารถทำไดเ้ นอื่ งจากเรยี นคำส่งั การดำเนินการแลว้ แต่ยงั ไม่มีคำสงั่ ในการตรวจสอบคา่ )
12. ครูสอนนักเรียนใช้งานคำสง่ั if-else
13. จากน้ันครูให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การทำงานแบบมีเง่ือนไข และแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการ
คำนวณ) หนา้ 62 ข้อ 6.2
14. ครถู ามนักเรยี นว่าสามารถนำความร้ทู ีเ่ รียนไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้อยา่ งไรบ้าง
(แนวคำตอบ การเขยี นโปรแกรมตดั เกรด เขียนโปรแกรมBMI เป็นต้น)

ชว่ั โมงที่ 4
ขั้นสอน (40 นาท)ี
15. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขียนโปรแกรมที่ผ่านมา หากครูต้องการให้นักเรียนเขียนโปรแกรมเพ่ือ

แสดงชือ่ ตนเอง 100 บรรทัด นักเรยี นคิดว่าต้องเขยี นคำส่ังเยอะหรือไม่
(แนวคำตอบ เยอะ เนอื่ งจากตอ้ งเขียนคำส่ังบรรทดั ต่อบรรทดั ในการแสดงผล )
16. ครูบอกทม่ี าและอธบิ ายเรื่องการใช้งานคำสั่งทำซำ้ และคำสัง่ อ่ืนๆ ได้แก่ while , for
17. ครสู อนนกั เรยี นใชง้ านคำสง่ั while / for
18. ครูใหน้ ักเรียนทำใบงาน เรอ่ื ง การทำซ้ำ แบบฝึกหดั เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 63 -65
ข้อ 6.3 - 6.5
19. ครูให้นกั เรียนช่วยกันบอกคำส่ังในการเขยี นโปรแกรมท่ีไดเ้ รียนทัง้ หมด พร้อมบอกหนา้ ทีข่ องแต่ละคำสัง่

ชั่วโมงท่ี 5

ข้นั สอน (50 นาท)ี

20. จากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 ครูให้นักเรียนแต่ละคู่นำเสนอแนวคิดและผังงาน (Flowchart) ของตนเอง

หน้าชั้นเรียน ให้เพื่อนร่วมกันแลกเปล่ียนความคิดเห็น พร้อมทั้งครูคอยให้คำแนะนำ จากน้ันให้นำไป

ปรบั ปรงุ แก้ไข

21. ในคาบน้ีครูให้นักเรียนนำแนวคิดที่ปรับปรุงแล้วมาพัฒนาต่อเพื่อเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันด้วย

ภาษา Python หรือนักเรียนจะออกแบบแนวคดิ การพฒั นาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชนั ใหม่ก็ได้

22. ครูใหน้ ักเรยี นลงมอื เขยี นโปรแกรมหรอื แอปพลิเคชันดว้ ยภาษา Python

ชั่วโมงที่ 6

ขน้ั สอน (40 นาท)ี
23. ครูให้นกั เรียนลงมอื เขยี นโปรแกรมหรือแอปพลเิ คชนั ดว้ ยภาษา Python (ต่อ)
24. ครใู ห้นกั เรยี นทดสอบโปรแกรมหรอื แอปพลเิ คชันเพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาด
ขัน้ สรุป (10 นาท)ี
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคู่นำเสนอโปรแกรมหรือแอปพลิเคชัน ให้เพ่ือนร่วมกันแลกเปลี่ยนความคดิ เห็น พร้อม
ทง้ั ครคู อยให้คำแนะนำเพิม่ เตมิ

10. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ม.2
2. หนงั สือเรยี น (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่ือง แอปพลิเคชนั
3. แบบฝึกหัด (วทิ ยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง แอปพลเิ คชนั
4. โปรแกรม Mu
5. ใบความรู้ เรอ่ื ง การใช้คำส่ังแสดงผลอินพุต และเอาต์พตุ
6. ใบความรู้ เรื่อง ตวั แปรและตัวดำเนนิ การ
7. ใบความรู้ เรอื่ ง การทำงานแบบมเี ง่ือนไข
8. ใบความรู้ เร่อื ง การทำซำ้
9. ใบงานท่ี 4.3.1 เรอ่ื ง ตัวแปรและตัวดำเนนิ การ
10. ใบงานที่ 4.3.2 เรื่อง การใช้คำส่งั แสดงผลอินพตุ และเอาต์พุต
11. ใบงานท่ี 4.3.3 เรือ่ ง การทำงานแบบมเี ง่ือนไข
12. ใบงานที่ 4.3.4 เรอื ง การทำซำ้

11. การวดั และการประเมินผล

11.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรม

จดุ ประสงค์ วธิ ีการประเมนิ เครอื่ งมือการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ

1.อธบิ ายหน้าทีก่ าร อธิบายการทำงานของ แบบประเมินช้ินงาน อธบิ ายได้ถกู ต้องตาม

ทำงานของคำสง่ั ในการ โปรแกรมหรอื แอปพลเิ ค (ออกแบบและเขียน หลกั การ 60% ขน้ึ ไปถือ

เขยี นโปรแกรมดว้ ย ชนั ที่เขยี นด้วยภาษา โปรแกรมหรือแอปพลิเค ว่าผ่าน

Python ได้ (K) Python ชันดว้ ยภาษา Python)

2.ออกแบบและเขียน 1.ตรวจโปรแกรมหรอื แบบประเมินช้นิ งาน 1.ออกแบบและเขยี น

โปรแกรมหรือแอปพลิเค แอปพลเิ คชันที่เขียนด้วย (ออกแบบและเขยี น โปรแกรมหรอื แอปพลิเค

ชนั ด้วยภาษา Python โปรแกรมภาษา Python โปรแกรมหรือแอปพลิเค ชันด้วยภาษา Python

ได้ (P) ชนั ดว้ ยภาษา Python) ได้ ในระดับคณุ ภาพ

พอใช้ข้นึ ไปถือว่าผ่าน

3.พฒั นาแอปพลิเคชนั ที่ บอกประโยชน์ของแอป แบบประเมิน บอกประโยชนข์ องแอป

คำนงึ ถงึ ประโยชน์ตอ่ พลิเคชนั ทีพ่ ฒั นาข้นึ การนำเสนอ พลเิ คชนั ทีพ่ ัฒนาขึ้น

ชีวติ ประจำวนั (A) คำนึงถึงประโยชนต์ อ่

ชีวติ ประจำวันได้ใน

ระดับคุณภาพพอใช้ขึน้

ไปถือวา่ ผา่ น

11.2 การประเมินชน้ิ งาน (ออกแบบและเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันด้วยภาษา Python)

ประเด็นในการประเมนิ 3 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1
2

1.ความสอดคล้องกับ อธบิ ายหน้าทกี่ ารทำงาน อธิบายหนา้ ท่ีการทำงาน อธิบายหน้าท่ีการทำงาน

เนื้อหา ของคำสัง่ ในการเขยี น ของคำส่ังในการเขียน ของคำส่ังในการเขียน

โปรแกรมด้วย Python โปรแกรมดว้ ย Python โปรแกรมด้วย Python

ได้ถูกต้องตามหลกั การ ไดถ้ ูกต้องตามหลักการ ได้เพยี งบางสว่ น สอื่ สาร

สอ่ื สารเข้าใจงา่ ยชัดเจน สื่อสารเข้าใจชัดเจนและ เข้าใจและตอบคำถามได้

และตอบคำถามได้ ตอบคำถามไดม้ ากกว่า น้อยกวา่ 50%

ทง้ั หมด 50%

2.ขั้นตอนการเขียน เขยี นโปรแกรมหรือแอป เขียนโปรแกรมหรือแอป เขียนโปรแกรมหรือแอป

โปรแกรมหรือแอปพลเิ ค พลเิ คชันด้วยภาษา พลเิ คชันดว้ ยภาษา พลิเคชันดว้ ยภาษา

ชนั ด้วยภาษา Python Python ได้ถกู ต้อง ใช้ Python ได้ถกู ใช้คำสงั่ Python ได้ ใชค้ ำส่ัง

คำส่งั เหมาะสมกบั การ เหมาะสมกับการทำงาน เหมาะสมกบั การทำงาน

ทำงาน สามารถ สามารถตรวจสอบและ สามารถตรวจสอบและ

ตรวจสอบและแกไ้ ข แก้ไขข้อผิดพลาดของ แก้ไขข้อผดิ พลาดของ

ข้อผดิ พลาดของ โปรแกรมได้มากกวา่ โปรแกรมไดน้ ้อยกว่า

โปรแกรมได้ 50% 50%

3.มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ

ในการออกแบบแอป แนวคิดการพฒั นาแอป แนวคิดการพฒั นาแอป แนวคิดการพฒั นาแอป

พลเิ คชนั พลิเคชนั ได้นา่ สนใจ และ พลิเคชนั ได้น่าสนใจ และ พลิเคชนั ได้นา่ สนใจ และ

สร้างสรรค์ มคี วาม สร้างสรรค์ มีความ สร้างสรรค์ มคี วาม

เหมาะสมกบั การใชง้ าน เหมาะสมกบั การใช้งาน เหมาะสมกบั การใช้งาน

มากกวา่ 50% น้อยกวา่ 50%

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
7–9 ดี
5–6
พอใช้
นอ้ ยกว่า 5 ปรับปรุง

11.3 การประเมนิ การนำเสนอ (ออกแบบและเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันด้วยภาษา Python)

ท่ี รายการประเมนิ คณุ ภาพผลงาน
4 3 21

1 อธบิ ายหนา้ ท่กี ารทำงานของคำส่งั ในการเขียนโปรแกรมด้วย Python ได้

ถกู ต้อง และตอบคำถามได้

2 บอกประโยชน์ของแอปพลเิ คชนั ท่ีพฒั นาและคำนงึ ถงึ ประโยชนต์ อ่

ชีวิตประจำวัน

3 มวี ธิ ีการนำเสนอนา่ สนใจ ใชภ้ าษาเหมาะสมเข้าใจงา่ ย

4 การมสี ่วนรว่ มของสมาชิกในกลมุ่

5 การรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ่ืน

รวม

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
15 – 20 ดี
10 – 14
น้อยกวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง

11.4 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

คำชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลงในช่อง

ที่ตรงกบั ระดับคะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงคด์ า้ น 32 1

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติได้

กษัตรยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคีปรองดองและเปน็ ประโยชน์

ตอ่ โรงเรียน

1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถอื ปฏบิ ตั ิตามหลกั ศาสนา

1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมที่เก่ียวกับสถาบนั พระมหากษตั ริย์ตามท่โี รงเรยี นจัดข้ึน

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ให้ขอ้ มูลทถี่ กู ต้องและเปน็ จริง

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิ่งท่ถี ูกตอ้ ง

3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครวั

มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน

4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชนแ์ ละนำไปปฏิบัตไิ ด้

4.2 รู้จกั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เช่ือฟังคำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้

4.4 ตง้ั ใจเรยี น

5. อยอู่ ย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรพั ย์สินและสง่ิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั

5.2 ใช้อปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คุณคา่

5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุง่ มัน่ ในการทำงาน 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย

6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสำเรจ็

7. รักความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย

7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย

8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทำงาน

8.2 รจู้ ักการดแู ลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น

และโรงเรยี น

ลงชอ่ื ..................................................ผู้ประเมนิ
............/.................../................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดมี าก
พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 41-50 ดี
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางคร้ัง 30-40 พอใช้
ปรับปรงุ
ตำ่ กวา่ 30

ใบความรู้
เรื่อง การใช้คำส่ังแสดงผลอินพตุ และเอาต์พุต
คำส่ังแสดงผลดว้ ย print คือ การแสดงผลทางหน้าจอโดยใช้คำสั่ง print() ทำหน้าท่ใี นการแสดง
ขอ้ มลู ชนดิ อักขระ ตัวเลข ตัวแปร หรือนพิ จน์
โคด้ ผลลัพธ์

คำสั่งนำเขา้ ข้อมูลทางแปน้ พิมพด์ ว้ ย input
Input คือ การรบั ข้อมูลจากภายนอกดว้ ยแป้นพิมพโ์ ดยใช้คำสัง่ input() ซงึ่ จะรับข้อมลู เข้ามาเก็บไว้

ในตัวแปร
โค้ด ผลลพั ธ์

ใบความรู้

เรือ่ ง ตวั แปร และตัวดำเนินการ

ตัวแปร คอื หนว่ ยความจำท่ีใช้จัดเก็บข้อมลู เพ่ือนำไปใช้ในโปรแกรม ตวั แปรจะถูกเรียกใชใ้ นการเกบ็

ข้อมลู จากอนิ พตุ เก็บคา่ คงท่ี นำขอ้ มลู ไปคำนวณและเกบ็ ผลลัพธ์การกำหนด หรือประกาศตัวแปร

ชนิดขอ้ มลู ตัวแปร

ชนิด การใช้งาน

Int ข้อมลู ชนดิ ตัวเลขจำนวนเต็ม

String ข้อมลู ที่เป็นอักขระ หรือข้อความ

Float ข้อมูลท่ีเป็นจำนวนจรงิ

ตวั ดำเนนิ การ หรือ โอเปอเรเตอร์ คือ สัญลักษณ์ที่บอกใหด้ ำเนินการอยา่ งใดอย่างหนง่ึ กับขอ้ มูลในตวั

แปร และคา่ คงที่ต่างๆ เชน่ การคำนวณ โดยใชเ้ ครื่องหมาย + - * / และการเปรยี บเทยี บทใ่ี ชเ้ คร่อื งหมาย > <

>= <=

1) ตัวดำเนินการทางคณติ ศาสตร์

ตวั ดำเนินการ ความหมาย ตวั อยา่ ง

+ การบวก x+y

- การลบ x-y

* การคูณ x*y

/ การหาร x/y

% การหาร เอาเฉพาะเศษ x%y

** การยกกำลงั x ** y

2) ตัวดำเนนิ การเปรียบเทียบ

ตวั ดำเนินการ ความหมาย ตัวอย่าง

== เท่ากับ x == y

!= ไม่เทา่ กับ x != y

> มากกวา่ x>y

< น้อยกว่า x<y

>= มากกว่าหรือเท่ากบั x >= y

<= นอ้ ยกวา่ หรอื เท่ากบั x <= y

ใบความรู้
เร่ือง การทำงานแบบมเี ง่อื นไข
การใช้งานคำสงั่ if
if คอื คำสง่ั กำหนดเง่ือนไขเพ่ือควบคมุ ใหโ้ ปรแกรมทำงานเฉพาะคำสง่ั ท่ีต้องการเม่ือเง่ือนไขเปน็ จรงิ
ซึ่งเปน็ การเลือกทำงานท่ีมที างเลือกเดยี ว
โคด้ ผลลพั ธ์

การใชง้ านคำส่ัง if-else
If-else คือ การกำหนดเง่ือนไขให้โปรแกรมเลือกทำ 2 กรณี โดยเลือกทำคำส่ังในบลอ็ ก if เมอื่

เงอ่ื นไขเป็นจรงิ หรือเลือกทำคำสั่งในบลอ็ ก else เม่อื เงอื่ นไขเปน็ เท็จ
โค้ด ผลลัพธ์

ใบความรู้
เร่ือง การทำงานซำ้
การใช้งานคำส่ัง while
while คือ การวนลูปโดยการตรวจสอบเงอ่ื นไขก่อนทำงาน ซง่ึ ในขณะทีจ่ รวจสอบพบวา่ เง่ือนไขเป็น
จรงิ คำสงั่ ท่อี ยู่ภายในบล้อกจะถกู รนั ให้ทำงานวนรอบไปเรื่อยๆ และจะหยุดทำงานเมื่อโปรแกรมตรวจสอบ
พบวา่ เงอ่ื นไขเป็นเทจ็
คำสง่ั ผลลัพธ์
i=0
while i <= 10:
print(i, end = ', ')
i=i+1

การใชง้ านคำสั่ง for
for คือ การทำงานแบบวนซ้ำที่สามารถกำหนดจำนวนครั้งที่แนน่ อน โดยมีการกำหนดจุดเร่มิ ต้น จดุ

สุดท้าย และจำนวนการทำงานตามจำนวนขอ้ มลู ทีม่ ี
คำส่งั ผลลพั ธ์

for num in (27,12,2537):
print(num)

bp ='Lisa','Jisoo','Jennie','Rose'
for bp in bp:

print(bp)

ใบงานท่ี 4.3.1
เรือ่ ง ตวั แปรและตัวดำเนนิ การ
1.ให้นักเรียนทำความเข้าใจเร่ืองตวั แปรเพ่ือตอบคำถามต่อไปนี้
1.1 เขยี นผลลพั ธ์การทำงานของโค้ดต่อไปน้ี

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 “ก้ิฟขายแอปเปิ้ลได้เงนิ มา 425 บาท อรขายส้มได้เงินมา 565 บาท ทศขายมะม่วงงินมา 456”
ใหน้ กั เรียนเขียนโปรแกรมเพ่ือแสดงรายไดจ้ ากการขายผลไม้ของแต่ละคน โดยใช้คำส่ัง “ตัวแปร”
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.ให้นกั เรียนทำความเขา้ ใจเร่ืองตัวแปรและการดำเนินการเพอ่ื ตอบคำถามตอ่ ไปนี้
2.1 เขียนผลลัพธ์การทำงานของโค้ดต่อไปน้ี

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.2 เขียนผลลพั ธก์ ารทำงานของโคด้ ต่อไปนี้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.3 ให้นักเรียนเขยี นโปรแกรมเฉล่ยี คา่ อาหารรายคน โดยใหโ้ ปรแกรมรบั จำนวนลกู คา้ และค่าอาหาร
ทงั้ หมด จากน้นั แสดงค่าอาหารท่ีเฉลี่ยต่อคนทางหนา้ จอ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.4 เขยี นโปรแกรมประยุกต์ใชต้ ัวดำเนนิ การเพ่ือแสดงผลลัพธ์ ดังน้ี

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 4.3.1 เฉลย
เร่อื ง ตวั แปรและตัวดำเนนิ การ
1.ใหน้ ักเรียนทำความเขา้ ใจเรื่องตัวแปรเพอ่ื ตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1.1 เขียนผลลพั ธ์การทำงานของโคด้ ต่อไปนี้

…P…ri…ce……of…M……an…g…o…=…4…5………………………………………………………………………………………………………………………
…P…ri…ce……of…M……el…o…n …=…8…6………………………………………………………………………………………………………………………
…P…ri…ce……of…B…a…n…an…a…=……24………………………………………………………………………………………………………………………
…P…ri…ce……of…A…p…p…le……=…6…4………………………………………………………………………………………………………………………
…P…ri…ce……of…W……at…e…rm…e…l…on……=…8…6……………………………………………………………………………………………………………
…/…/ต…ัว…เล…ข…ใน……W…a…te…rm……el…o…n…ม…คี …่า=…8…6…เน…่ือ…ง…จ…าก…ใน…โ…ค…้ด…โจ…ท…ยไ์…ด…ใ้ ส…ต่ …วั …แป…ร…m……el…o…n…ล…งไ…ป…แ…ทน…………………………

1.2 “กิ้ฟขายแอปเปิล้ ได้เงนิ มา 425 บาท อรขายสม้ ไดเ้ งนิ มา 565 บาท ทศขายมะมว่ งงินมา 456”
ใหน้ กั เรียนเขียนโปรแกรมเพ่ือแสดงรายได้จากการขายผลไม้ของแตล่ ะคน โดยใช้คำสัง่ “ตัวแปร”
…g…if…t =……4…25…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…t…o…ss…=…4…5…6………………………………………………………………………………………………………………………………………
…o…rn……=…5…6…5 ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…p…ri…n…t('…G…ift…=……%…d…' …%…g…if…t)…………………………………………………………………………………………………………………
…p…ri…n…t('…T…os…s…=…%…d……' %……t…os…s…) ……………………………………………………………………………………………………………
…p…ri…n…t('…O…rn…=……%…d…'…%……or…n…) ………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.ใหน้ ักเรยี นทำความเข้าใจเร่ืองตัวแปรและการดำเนินการเพอื่ ตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
2.1 เขียนผลลพั ธก์ ารทำงานของโค้ดต่อไปน้ี

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………9………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………6…0 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.2 เขยี นผลลัพธก์ ารทำงานของโค้ดต่อไปน้ี

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………Y…o…u…r …ag…e…=……25……………………………………………………………………………………………………………………………
………Y…o…u…r …BM……I =……19……………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.3 ให้นักเรยี นเขยี นโปรแกรมเฉลีย่ คา่ อาหารรายคน โดยให้โปรแกรมรบั จำนวนลกู คา้ และคา่ อาหาร
ทั้งหมด จากนนั้ แสดงค่าอาหารท่เี ฉลยี่ ตอ่ คนทางหนา้ จอ
………p…r…in…t(…'W…e…lc…o…m…e…t…o…R…e…st…u…ar…an…t…')………………………………………………………………………………………………
………b…i…ll…=…in…t…(in…p…u…t(…'E…n…te…r…b…ill…t…ot…a…l …: '…))…………………………………………………………………………………………
………r…e…gi…s …=…in…t…(in…p…u…t(…'E…nt…e…r …to…ta…l…c…us…t…om……er…:…')…) ……………………………………………………………………………
………a…v…e…rp…=……bi…ll…/r…eg…is………………………………………………………………………………………………………………………
………p…r…in…t(…'\n…A…v…e…ra…ge……pe…r…1…=……%…d…'…%……av…e…rp…)…………………………………………………………………………………
………p…r…in…t(…'T…h…an…k…y…o…u…:)…') …………………………………………………………………………………………………………………

2.4 เขียนโปรแกรมประยกุ ต์ใช้ตัวดำเนินการเพื่อแสดงผลลพั ธ์ ดงั นี้

………m……on…t…h…1…=…2…3…54…………………………………………………………………………………………………………………………
………m……on…t…h…2…=…4…5…84…………………………………………………………………………………………………………………………
………m……on…t…h…3…=…2…4…65…………………………………………………………………………………………………………………………
………m……on…t…h…4…=…8…5…46…………………………………………………………………………………………………………………………
………p…r…in…t(…'B…an…t…h…un…g…C…a…fe…')………………………………………………………………………………………………………………
………p…r…in…t(…'*…**…**…**…')……………………………………………………………………………………………………………………………
………p…r…in…t(…'R…e…po…r…t …by……4m……on…t…h…=…%……d'…%……………………………………………………………………………………………
………(…m…o…n…th…1…+…m…o…n…th…2…+m……o…nt…h…3+…m……on…t…h4…)…) …………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 4.3.2
เร่ือง การใชค้ ำสั่งแสดงผลอินพตุ และเอาตพ์ ตุ
1.จงบอกหน้าท่กี ารทำงานของคำสงั่ ตอ่ ไปนี้
1.1 print
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1.2 input
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.ให้นักเรยี นทำความเข้าใจคำสัง่ การแสดงผล print เพ่ือตอบคำถามต่อไปนี้
2.1 เขียนโคด้ คำส่ังเพื่อแสดงผลลัพธ์ ดังนี้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.2 ให้นักเรยี นเขยี นโปรแกรมเพ่ือแสดงประวตั สิ ว่ นตวั ของนักเรยี นท่สี ามารถเปดิ เผยตอ่ สว่ นรวมได้
อยา่ งน้อย 7 อย่างจากน้นั จดบันทกึ คำส่ังจากโปรแกรมลงด้านลา่ ง(เฉพาะโคด้ )
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.3 ใหน้ กั เรยี นเขียนโปรแกรมรบั ช่อื พร้อมน้ำหนัก จากแปน้ พิมพจ์ ำนวน3คนจากนัน้ ใหโ้ ปรแกรม
แสดงขอ้ มูลของแตล่ ะคนทางหน้าจอ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 4.3.2 เฉลย

เรอื่ ง การใชค้ ำส่งั แสดงผลอินพุต และเอาตพ์ ุต

1.จงบอกหนา้ ทก่ี ารทำงานของคำส่ังตอ่ ไปนี้

1.1 print

……………ก…า…รแ…ส…ด…งผ…ล…ท…าง…ห…น…า้ จ…อ…โ…ดย…ใ…ช้ค…ำ…ส…งั่ …p…rin…t…()…ท…ำห…น…า้ …ท…ใี่ น…ก…า…รแ…ส…ด…งข…้อ…ม…ูล…ชน…ดิ …อ…กั …ขร…ะ………………………

……………ต…ัว…เล…ข…ต…ัว…แป…ร…ห…ร…ือ…น…ิพ…จน…์ ………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 input

……………ก…า…รร…ับ…ข…้อม…ลู …จ…าก…ภ…า…ย…น…อก…ด…้ว…ยแ…ป…น้ …พ…ิม…พ…โ์ ด…ย…ใช…้ค…ำ…สั่ง…i…n…pu…t…()…ซ…่ึงจ…ะ…ร…ับข…้อ…ม…ูล…เข…า้ …มา…เก…็บ…ไ…ว้………………

……………ใ…น…ตัว…แ…ป…ร………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.ให้นกั เรยี นทำความเข้าใจคำสั่งการแสดงผล print เพื่อตอบคำถามต่อไปน้ี

2.1 เขียนโคด้ คำสัง่ เพ่ือแสดงผลลพั ธ์ ดงั นี้

……………p…rin…t…('H…e…l…lo…')…………………………………………………………………………………………………………………………
……………p…rin…t…('I…a…m……py…t…ho…n…')………………………………………………………………………………………………………………
……………p…rin…t…('I…w…a…s…b…o…rn…i…n…1…98…9…b…y…R…o…s…so…m…'…) ………………………………………………………………………………
……………p…rin…t…('M……y …la…n…gu…a…ge……b…as…e…o…n…A…B…C…') ………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.2 ให้นักเรียนเขยี นโปรแกรมเพ่ือแสดงประวตั ิสว่ นตวั ของนกั เรยี นที่สามารถเปดิ เผยตอ่ สว่ นรวมได้

อย่างน้อย 7 อย่างจากน้นั จดบันทกึ คำส่ังจากโปรแกรมลงด้านลา่ ง(เฉพาะโค้ด)
…………p…ri…nt…('M……y …n…am……e …is…P…a…tt…ha…r…a …R…a…ks…a…') ………………………………………………………………………………………
…………p…ri…nt…('M……y…n…ic…k …n…am…e……is…G…if…t')……………………………………………………………………………………………………
…………p…ri…nt…('I…a…m……25……ye…a…rs…o…l…d'…) ………………………………………………………………………………………………………
…………p…ri…nt…('I…w…a…s…b…o…rn…i…n…K…h…on…k…a…en……') ……………………………………………………………………………………………
…………p…ri…nt…('I…l…o…ve…B…l…ac…k…p…in…k …')…………………………………………………………………………………………………………
…………p…ri…nt…('I…l…ik…e…to……ea…t…d…e…ss…e…rt…') …………………………………………………………………………………………………….
…………p…ri…nt…('I…l…iv…e…in……Ba…n…gk…o…k…') …………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.3 ใหน้ กั เรยี นเขียนโปรแกรมรับชอื่ พร้อมนำ้ หนกั จากแปน้ พิมพ์จำนวน3คนจากนั้นให้โปรแกรม

แสดงขอ้ มลู ของแตล่ ะคนทางหนา้ จอ
……………n…am……e1……=…in…p…u…t(…'En…t…e…r n…a…m…e…:…')……………………………………………………………………………………………
……………w…e…ig…ht…1…=…i…nt…(i…np…u…t…('E…n…te…r…w…e…ig…h…t …: '…))…………………………………………………………………………………
……………n…am……e2……=…in…p…u…t(…'En…t…e…r n…a…m…e…:…')……………………………………………………………………………………………
……………w…e…ig…ht…2…=…i…nt…(i…np…u…t…('E…n…te…r…w…e…ig…h…t …: '…))…………………………………………………………………………………
……………n…am……e3……=…in…p…u…t(…'En…t…e…r n…a…m…e…:…')……………………………………………………………………………………………
……………w…e…ig…ht…3…=…i…nt…(i…np…u…t…('E…n…te…r…w…e…ig…h…t …: '…))………………………………………………………………………………….
……………p…rin…t…('1….…%…s…w…e…ig…h…t=……%…d…' %……(n…a…m…e…1…,w…e…ig…h…t1…))……………………………………………………………………
……………p…rin…t…('2….…%…s…w…e…ig…h…t=……%…d…' %……(n…a…m…e…1…,w…e…ig…h…t1…))……………………………………………………………………
……………p…rin…t…('3….…%…s…w…e…ig…h…t=……%…d…' %……(n…a…m…e…1…,w…e…ig…h…t1…))……………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 4.3.3
เรือ่ ง การทำงานแบบมีเง่อื นไข
1.ให้นกั เรยี นทำความเขา้ ใจการทำงานคำสงั่ if-else แลว้ ตอบคำถามต่อไปน้ี
1.1 ใหน้ กั เรยี นเขียนผลลัพธ์การทำงานของโค้ดต่อไปน้ี

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 ใหน้ ักเรียนเขียนผลลพั ธก์ ารทำงานของโคด้ ต่อไปนี้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.เขยี นโปรแกรมรับค่าอุณหภมู ิจากแป้นพิมพ์จากนนั้ ใหแ้ สดงระดับอณุ หภมู ิ โดยใชเกณฑ์ ดังน้ี
เกณฑ์อุณหภมู ิ(เซลเซียส)
29 ข้นึ ไป = ร้อน
24-28 = ปกติ
1-23 = เยน็
0 = เยือกแขง็

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 4.3.3 เฉลย
เร่อื ง การทำงานแบบมีเง่ือนไข
1.ใหน้ ักเรยี นทำความเขา้ ใจการทำงานคำสงั่ if-else แล้วตอบคำถามต่อไปนี้
1.1 ให้นกั เรียนเขียนผลลพั ธก์ ารทำงานของโค้ดต่อไปน้ี

…………A……sa…m…e……B ………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 ใหน้ กั เรียนเขียนผลลพั ธ์การทำงานของโคด้ ต่อไปน้ี

…………C…o…r…re…ct……………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.เขียนโปรแกรมรบั ค่าอุณหภมู ิจากแป้นพิมพ์จากนนั้ ใหแ้ สดงระดับอุณหภูมิ โดยใชเกณฑ์ ดังน้ี

เกณฑอ์ ณุ หภมู ิ(เซลเซียส)
29 ขึ้นไป = ร้อน
24-28 = ปกติ
1-23 = เย็น
0 = เยอื กแขง็

…………t…e…m…p…=…f…lo…a…t(…in…p…ut…('…En…t…er…t…e…m…p…er…a…tu…re……: '…))…………………………………………………………………………
…………i…f t…e…m…p…>…=2…9…:…………………………………………………………………………………………………………………………
……………p…ri…n…t('…ร้อ…น…')……………………………………………………………………………………………………………………………
…………e…li…f …te…m…p…>…=…24……an…d…t…e…m…p…<…=…28…:……………………………………………………………………………………………
……………p…ri…n…t('…ป…กต…'ิ …) …………………………………………………………………………………………………………………………
…………e…li…f …te…m…p…>…=…1…a…nd……te…m…p…<…=…2…3:………………………………………………………………………………………………
……………p…ri…n…t('…เย…น็ …')……………………………………………………………………………………………………………………………
…………e…li…f …te…m…p…=…=…0…: ………………………………………………………………………………………………………………………
……………p…ri…n…t('…เย…อื …ก…แข…ง็ …')……………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 4.3.4
เร่ือง การทำซ้ำ

1.ใหน้ กั เรียนทำความเข้าใจการทำงานของ while และ for และตอบคำถามต่อไปน้ี
1.1 บอกผลลัพธ์ของการทำงานจากคำสง่ั while ต่อไปนี้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 ให้ประยกุ ต์ใชค้ ำส่งั for เก็บชอ่ื ดารา นักร้องทช่ี อบ5คนจากนน้ั ใหโ้ ปรแกรมแสดงรายช่ือทัง้ หมด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.ให้บอกประโยชน์ของโปรแกรม หรอื แอปพลเิ คชั่นในชีวิตประจำวนั
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ใบงานที่ 4.3.4 เฉลย
เรือ่ ง การทำซ้ำ

1.ให้นกั เรียนทำความเขา้ ใจการทำงานของ while และ for และตอบคำถามต่อไปน้ี
1.1 บอกผลลพั ธ์ของการทำงานจากคำสั่ง while ต่อไปนี้

…………H…e…llo……Py…t…ho…n……………………………………………………………………………………………………………………………
…………H…e…llo……Py…t…ho…n……………………………………………………………………………………………………………………………
…………H…e…llo……Py…t…ho…n……………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 ใหป้ ระยกุ ต์ใชค้ ำสัง่ for เกบ็ ชอื่ ดารา นกั ร้องท่ชี อบ5คนจากน้นั ใหโ้ ปรแกรมแสดงรายชอ่ื ทงั้ หมด
…………m…y…p…op……=…'M…i…ll…a'…,'M…a…t…he…w…',…'P…a…nc…a…ke…',…'A…ri…an…a…','…Ta…y…lo…r…' ……………………………………………………………
…………p…rin…t…('T…h…is…i…s …m…y…p…o…p…ul…a…r')………………………………………………………………………………………………………
…………fo…r…m…y…p…o…p…in…m……yp…o…p…:……………………………………………………………………………………………………………
………………p…rin…t…(m…y…p…o…p)………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.ใหบ้ อกประโยชน์ของโปรแกรม หรอื แอปพลเิ คชนั่ ในชวี ติ ประจำวัน
........1.....ส..ร..้า..ง..โ.ป...ร..แ..ก...ร..ม..ท...ม่ี ..ปี...ร..ะ..โ..ย..ช..น...ใ์.น...ช..ีว..ติ...ป...ร..ะ..จ..ำ..ว..ัน..............................................................................................
........2.....ท..ำ..โ..ป..ร..แ...ก..ร..ม...แ..ป...ล..ง..ส..ก...ุล..เ.ง..นิ ............................... ............................................................................................
........3.....ท..ำ..ใ..ห..้ช...ีว..ติ ..ส...ะ..ด..ว..ก...ส..บ...า..ย............................................................................... .................................................
........4.....ล..ด...เ.ว..ล..า..ใ..น..ก...า..ร..ท..ำ..ง..า..น...ข..อ..ง..ม...น..ษุ...ย..์ล...ง............................................................ .................................................

12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......

ลงช่อื
(

ตำแหนง่

13. บนั ทึกผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข


Click to View FlipBook Version