The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ม3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ดลพฤกษ์ ทันเจริญ, 2020-10-12 07:15:46

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ม3

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ม3

ลิขสิทธิ์ เป็นผลงานทเ่ี กดิ จากการใช้ปญั ญา ความรู้ความสามารถ และความอุตสาหะพยายาม

ในการสรา้ งสรรค์ผลงาน ซงึ่ ถือว่าเป็นทรัพย์สนิ ทางปัญญาประเภทหน่ึง ท่กี ฎหมายให้ความคุม้ ครอง

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินยั

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 3. มุ่งม่ันในการทำงาน

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรือ่ ง -

6. การวดั และการประเมินผล

รายการวัด วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ

6.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ ประเมนิ ตามสภาพจริง

- แบบทดสอบก่อนเรียน กอ่ นเรยี น กอ่ นเรียน

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3

เรอื่ ง เทคโนโลยีสารสนเทศ

6.2 การประเมินระหว่างการจัด - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัด(วิทยาการ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

กจิ กรรม Exercise หนา้ 39 คำนวณ) ม.3

1) การใชง้ านเทคโนโลยี - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3

สารสนเทศ เรื่อง การซ้ือสนิ ค้า เรื่อง เทคโนโลยี

ออนไลน์อยา่ ง สารสนเทศ

ปลอดภัย - แบบประเมิน

- ตรวจแบบฝึกหัด ใบงานท่ี 3.1.1

Exercise หนา้ 40–41 เร่อื ง การซ้ือสนิ ค้า

- ประเมินการนำเสนอ ออนไลน์อย่าง

เร่ือง การใช้เหตุผลเชิง ปลอดภยั

ตรรกะในชีวติ ประจำวัน

2) กฎหมายคอมพวิ เตอร์ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั (วิทยาการ ระดบั คุณภาพ 2
และลขิ สิทธิ์
Exercise หน้า 42-45 คำนวณ) ม.3 ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจแบบฝึกหดั หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3

Exercise หนา้ 46-47 เรื่อง เทคโนโลยี

- ใบงานท่ี 3.2.1 สารสนเทศ

เร่อื ง ใครมคี วามผิด - แบบประเมิน

รายการวัด วธิ วี ัด เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
ใบงานที่ 3.2.1
3) คณุ ลกั ษณะ - สงั เกตความมีวนิ ยั เรอื่ ง ใครมีความผดิ ระดบั คุณภาพ 2
อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ ม่ัน - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์
ในการทำงาน คณุ ลักษณะ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
6.3 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบ อนั พงึ ประสงค์
1) แบบทดสอบหลังเรยี น หลงั เรยี น - แบบทดสอบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 หลงั เรียน
เรื่อง เทคโนโลยี - ตรวจชน้ิ งาน/
สารสนเทศ ภาระงาน (รวบยอด) - แบบประเมินชิ้นงาน/ - ระดับคณุ ภาพ 2
2) การประเมินช้ินงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
ภาระงาน (รวบยอด)
เร่ือง -

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง เทคโนโลยีสารสนเทศ

เรือ่ งที่ 1 : การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ เวลา 3 ชวั่ โมง

วิธกี ารสอนแบบการอภิปราย

เทคนคิ การสอนแบบการถาม – ตอบ

ข้ันนำ (10 นาที)

1. ครถู ามนักเรียนคดิ ว่าเทคโนโลยีมบี ทบาทสำคัญต่อชวี ิตนกั เรยี นหรอื ไม่ อยา่ งไรบา้ ง
(แนวคำตอบ มี เพราะทำใหช้ วี ติ สะดวกสบาย)

2. ครูถามนกั เรยี นตอ่ ว่า นอกจากเทคโนโลยีมบี ทบาทสำคัญต่อชีวติ นกั เรยี นแล้ว นกั เรยี นคดิ วา่ เทคโนโลยีมี
บทบาทสำคัญตอ่ ระดบั องค์กร หรือระดบั ประเทศหรือไม่ อยา่ งไร
(แนวคำตอบ มี เน่อื งจากทำให้มรี ะบบออนไลนใ์ ชง้ าน มีใบขับข่อี ิเล็กทรอนิกส)์

ขนั้ สอน (30 นาที)

1. ครอู ธบิ ายเน้อื หาเร่ืองการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ในหนงั สอื เรยี นวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ)
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 หน้า 59-60

2. ครสู นทนาและถามนักเรยี นว่า ปัจจุบนั เทคโนโลยีเข้ามีบาทในทุกด้านยกตัวอย่าง เช่น รา้ นคา้ ตอ้ งมีการ
ปรบั ตัวการให้บริการแบบออนไลน์ ในฐานะลูกค้าหากต้องการซ้อื สนิ ค้าออนไลน์ นักเรยี นจะประเมินความ
น่าเชื่อถือของร้านคา้ อยา่ งไร
(แนวคำตอบ ร้านทม่ี ีรีววิ เยอะ ร้านคา้ ทม่ี ชี ่ือเสยี ง)

3. ครูถามต่อว่าในการซื้อสนิ ค้าออนไลนใ์ นข้นั ตอนการชำระเงนิ คา่ สินค้า นอกจากตอ้ งประเมินความนา่ เชื่อถือ
ของร้านค้า นักเรยี นจะมวี ธิ ีการทำธุรกรรมออนไลนห์ รือโอนเงินคา่ สนิ ค้าอย่างไรให้ปลอดภยั
(แนวคำตอบ โอนเงนิ ผ่านอุปกรณ์ตนเองเท่าน้นั ไมใ่ ช้ Wi-Fi สาธารณะ ใช้บรกิ ารร้านคา้ ท่ีนา่ เชอ่ื ถือ)

4. ครูอธบิ ายเนื้อหาเร่ืองการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ในหนงั สอื เรียนวชิ า เทคโนโลยี
(วิทยาการคํานวณ) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 หนา้ 62 - 63 การทำธรุ กรรมออนไลน์ และหน้า 64 – 65 การ
ซือ้ สนิ ค้าออนไลน์

5. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝึก Exercise ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 39 ขอ้ 1 – 3 เพื่อ
ตรวจสอบความเข้าใจ เร่ือง การทำธรุ กรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย

ชว่ั โมงที่ 2

ข้ันสอน (50 นาท)ี

6. ครทู บทวนเน้อื หาจากชวั่ โมงทีแ่ ล้ว นักเรียนได้เรียนรู้การทำธรุ กรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย ในช่วั โมงน้ีครู

ใหน้ ักเรยี นจบั คู่กัน จากน้นั ให้นักเรียนแต่ละคนเขียนชอื่ สินคา้ ท่ีนกั เรยี นสนใจ 1 อยา่ ง และนำหวั ขอ้ น้นั

แลกกนั กับคขู่ องตนเอง

7. ครใู ห้แตล่ ะคนคน้ หาร้านค้าออนไลนท์ ขี่ ายสินคา้ ตามหัวขอ้ ที่ไดร้ บั จากคู่ของตนเอง และเลอื กหารา้ นคา้ ท่ี

น่าเชือ่ ถือมากท่สี ุด จำนวน 3 ร้านคา้

8. ครูให้นกั เรียนบนั ทึกผลการทำกิจกรรมลงในใบงานที่ 3.1.1 เรอื่ ง การซื้อสินค้าออนไลน์อยา่ งปลอดภยั

9. ครูสุ่มนักเรียน 5 – 6 คน นำเสนอใบงานที่ 3.1.1 เรือ่ ง การซือ้ สินค้าออนไลน์อย่างปลอดภยั เพ่ือแลกเปลยี่ น

ความคดิ เหน็ ร่วมกนั

10. ครถู ามนักเรียนวา่ จากการคน้ หาร้านคา้ นักเรยี นมวี ิธีการประเมินความนา่ เชอ่ื ถือรา้ นค้าอย่างไร

(แนวคำตอบ เลือกซอ้ื เวบ็ ไซต์ที่ขึ้นตน้ ดว้ ย https//: เท่าน้นั อา่ นรวี วิ กอ่ นสงั่ ซื้อ สำรวจราคาตลาดก่อน

สัง่ ซอ้ื )

ช่ัวโมงที่ 3

ขน้ั สอน (40 นาที)

11. ครูสอบถามนักเรียนว่าจากคาบท่ีแลว้ ในการประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของรา้ นค้า นักเรียนพบวา่ ร้านค้าที่ดี

นา่ เชือ่ ถอื ควรมีลักษณะอยา่ งไรบ้าง

(แนวคำตอบ คำอธบิ ายสนิ ค้าถูกต้องไม่เกนิ จรงิ ไมเ่ ปดิ เผยข้อมูลสว่ นตัวลกู ค้าในการรีววิ สนิ คา้ ไมน่ ำข้อมลู

สว่ นตัวลูกคา้ ไปเผยแพร่ )

12. ครูอธบิ ายวา่ ในปจั จุบันการซื้อของออนไลนต์ ามเว็บไซตต์ อ้ งมบี ัญชีผ้ใู ชก้ ่อนจงึ จะสามารถทำการส่งั ซื้อ

สินค้าได้

13. ครูถามนักเรยี นว่าโดยปกติเวลาใชง้ านเว็บไซตเ์ หลา่ นสี้ ามารถสมัครบัญชผี ูใ้ ชไ้ ด้อย่างไรบา้ ง

(แนวคำตอบ ลงช่ือเขา้ ใช้ดว้ ย Facebook ลงช่ือเขา้ ใชด้ ้วย Google สมคั รบญั ชผี ใู้ ชด้ ้วยอเี มล)

14. ครูอธบิ ายวา่ ในขัน้ ตอนการลงช่อื เข้าใชง้ านเวบ็ ไซต์ดว้ ยบัญชี Facebook หรือ บัญชี Google เว็บไซตจ์ ะ

เรยี กขอสิทธใ์ิ นการเข้าถึงข้อมูลสว่ นตวั บญั ชี Facebook หรอื Google ของเราซ่ึงอาจส่งผลต่อการนำ

ข้อมลู ไปใช้และสง่ ผลเสยี ได้ ดงั นน้ั นอกจากการประเมินความน่าเชื่อถือของรา้ นค้าออนไลนแ์ ล้ว ยังมสี ่วน

อ่นื ทต่ี ้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างระมดั ระวัง

15. ครอู ธบิ ายเน้ือหาเรอื่ งการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมีความรับผดิ ชอบในหนงั สือเรียนวชิ า

เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 หนา้ 66-67

16. ครูใหน้ ักเรยี นถามคำถามนกั เรยี นโดยให้มสี ถานการณ์ “หากนักเรียนเป็นเจา้ ของร้านคา้ รบั สกรนี ลายเสอื้
และมลี กู ค้าตดิ ต่อมาใหผ้ ลิตเส้อื รูปการต์ ูนที่ตนเองไมไ่ ดเ้ ป็นเจา้ ของลขิ สิทธิ์ผลงาน นักเรยี นจะมีวธิ กี าร
รบั มอื กบั ลูกคา้ อยา่ งไร เช่น ข้อมลู ท่เี ปน็ สว่ นตวั ของลกู ค้า ความถูกต้องของข้อมลู สินคา้ กรรมสทิ ธ์ิ และ
ด้านอน่ื พร้อมบอกเหตผุ ล” จากนน้ั ครสู ุ่มนักเรียน 4 – 5 คน ตอบคำถาม

17. ครถู ามนักเรยี นวา่ จากสถานการณ์ข้างตน้ ในมุมมองนกั เรียนผบู้ รโิ ภคและผขู้ าย ควรมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อ
กันอยา่ งไรบ้าง
(แนวคำตอบ ผู้บรโิ ภคไม่จองสินคา้ แลว้ ไม่ซ้ือ ไม่ควรสงั่ สนิ คา้ ที่ทรัพย์สินทางปัญญา ผ้ขู ายจะต้องคำนึงถึง
เรอ่ื งลขิ สทิ ธคิ์ วรศึกษากฎหมายเก่ยี วกับลขิ สิทธ์ิให้ดี ความถูกตอ้ งของข้อมูลสนิ คา้ )

18. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝกึ Exercise ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 40 – 41
ข้อ 4 – 5 เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจ

ขน้ั สรุป (10 นาที)

1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ นอกจากเราจะต้องระวังการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศให้ปลอดภยั กับตัวเรา
แล้ว ยงั ต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นด้วย โดยเคารพความเปน็ ส่วนตวั คำนึงถงึ ความถกู ต้อง
แม่นยำของข้อมลู การเป็นเจ้าของ และการเข้าถงึ ขอ้ มูลทไี่ ม่ได้รับอนุญาต

เรื่องท่ี 2 : กฎหมายคอมพวิ เตอรแ์ ละลิขสทิ ธิ์ เวลา 4 ชว่ั โมง

วธิ ีการสอนแบบการอภปิ ราย

วธิ กี ารสอนแบบกระบวนการกลมุ่

ขั้นนำ (10 นาที)

1. ครถู ามนกั เรยี นวา่ จากคาบที่ผา่ นมาในการการทำธุรกรรมทางการเงิน หรอื ซ้ือของออนไลนน์ กั เรยี น
ควรระมดั ระวังดา้ นใดอีกบ้าง
(แนวคำตอบ ขอ้ มลู สว่ นตัว ลขิ สิทธ์ิผลงาน)
2. ครถู ามนักเรียนว่าจากคาบที่แล้วเรื่องการประเมินความน่าเชือ่ ถอื ของร้านคา้ ออนไลน์ หากนกั เรยี น
ทำการสั่งซื้อสนิ ค้าออนไลนไ์ ป แต่ไม่ได้รับสินคา้ หรือไดร้ บั สินคา้ ที่ไม่ตรงตามคำอธิบาย หรอื สินค้าไมม่ ีคุณภาพ
นกั เรยี นจะแกป้ ัญหาอยา่ งไร
(แนวคำตอบ ปรน้ิ ท์หลักฐานท่มี ีเกีย่ วกบั ร้านค้า สินค้า และการโอนเงนิ ทงั้ หมดและไปแจ้งตำรวจ)

ข้นั สอน (40 นาท)ี

1. ครใู หน้ กั เรียนแบง่ กลุม่ 3 – 4 คน จากนัน้ แตล่ ะกล่มุ ศึกษาเน้ือหาในหนังสือเรียนวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการ
คํานวณ) ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 หวั ขอ้ “กฎหมายคอมพิวเตอร์” โดยใหแ้ ตล่ ะกลุม่ เลือกหัวขอ้ กฏหมายตาม
พระราชบัญญัติวา่ ดว้ ยการกระทำความผิดเกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 และค้นหาเพม่ิ เตมิ จาก
อินเทอรเ์ นต็ จากนน้ั ให้สมาชิกในกลุ่มสรุปให้เพ่ือนในกลุ่มฟัง
2. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝกึ Exercise ในแบบฝกึ หดั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หนา้ 42 – 43 เพ่ือ
ตรวจสอบความเขา้ ใจ

ชว่ั โมงท่ี 2

ขน้ั ส1อ.น (50 นาที)

3. จากชว่ั โมงที่ผา่ นมา ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม 3 – 4 คน และแบ่งหัวข้อกนั ศึกษา“กฎหมายคอมพิวเตอร์” ใน
ชั่วโมงน้ีครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาเน้ือหาในหนงั สือเรยี นวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคาํ นวณ) ชนั้
มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 หนา้ 71 – 73 หวั ข้อ“ลิขสิทธิ์” และค้นหาเพ่ิมเติมจากอินเทอรเ์ นต็ จากน้นั ใหส้ มาชกิ ใน
กล่มุ สรุปใหเ้ พ่ือนในกล่มุ ฟัง

4. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึก Exercise ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 44 – 45 เพ่ือ
ตรวจสอบความเข้าใจ
5. จากนนั้ ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ทำใบงานที่ 3.2.1 เร่ือง ใครมคี วามผดิ และเตรียมตัวนำเสนอในชั่วโมงถดั ไป

ช่ัวโมงที่ 3

ขั้นส1อ.น (50 นาท)ี

6. ครใู หน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอแนวคดิ ของกลุ่มตนเอง ตรงตามความผดิ ในมาตราที่ศึกษาหรือไม่
อยา่ งไร
7. ครูให้นักเรียนชว่ ยกันสรุปแนวคิดจากคำตอบของกลุม่ อื่น
8. จากนนั้ ครใู หแ้ ตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันวางแผนในการทำกจิ กรรม Activity ในหนงั สอื แบบฝกึ หดั เทคโนโลยี
(วทิ ยาการคำนวณ) หน้า 46 – 47 ถ้าเกิดมีข้อสงสยั สามารถสอบถามครผู ูส้ อนได้
9. จากน้ันให้นกั เรยี นแตล่ งมีปฏบิ ตั ิตามที่วางแผนไว้ พรอ้ มเตรียมนำเสนอในชว่ั โมงถัดไป

ช่วั โมงที่ 4

ข้นั ส1อ.น (40 นาท)ี

10. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอกิจกรรม Activity
11. ครูซักถามกลมุ่ ท่ีนำเสนอ เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจและความถกู ต้องของข้อมูล พรอ้ มท้งั เสนอแนะ
เพ่ิมเติม

ข้ันสรปุ (10 นาท)ี

1. ครใู หแ้ ละนักเรียนร่วมกันสรปุ เนื้อหาและความสัมพันธ์เกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
ปลอดภยั มีความรับผดิ ชอบ ปฏบิ ัติตามกฎหมายเกยี่ วกับคอมพวิ เตอร์ และใชล้ ขิ สทิ ธิ์ของผ้อู ื่นโดยชอบธรรม

8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี น (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. แบบฝึกหัด (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่อื ง เทคโนโลยสี ารสนเทศ
3. ใบงานท่ี 3.1.1 เรอ่ื ง การซื้อสนิ คา้ ออนไลน์อย่างปลอดภยั
4. ใบงานที่ 3.2.1 เรือ่ ง ใครมคี วามผิด

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องคอมพิวเตอร์
2) อินเทอรเ์ นต็

แบบทดสอบก่อนเรยี น

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3

คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. ข้อใดคือการทำธรุ กรรมทางการเงนิ ออนไลน์ 6. พระราชบญั ญตั ิใดพูดถึงการกระทำความผดิ เก่ียวกบั

ทไ่ี ม่ปลอดภัย คอมพิวเตอรร์ วม มาตรา 30

ก. ออกจากระบบทุกครง้ั หลังการใชง้ าน ก. พระราชบัญญัตกิ ารรักษาความม่นั คงปลอดภยั

ข. ตั้งวงเงินในการธุรกรรมใหเ้ หมาะสม ไซเบอร์

ค. ใชบ้ ริการแจ้งเตือนเงนิ เข้า-ออกผ่าน SMS ข. พระราชบญั ญัตกิ ารกระทำความผิดเทคโนโลยี

ง. ตั้งรหัสผา่ นโดยใช้วันเดินปเี กิดหรอื ชอ่ื ของตนเอง สารสนเทศ

2. ขอ้ ใดคอื การซอ้ื สินค้าทางออนไลนอ์ ยา่ งปลอดภยั ค. พระราชบญั ญตั วิ า่ ด้วยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์

ก. เลือกซื้อของผ่านเว็บไซต์ทขี่ ึ้นตน้ ด้วย http:// ง. พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทำความผิดเก่ยี วกบั

ข. ตรวจสอบราคาตลาด คำอธบิ ายสินคา้ ไม่เกินจรงิ คอมพวิ เตอร์

ค. ใชง้ าน Wifi สาธารณะในการสงั่ ซือ้ สนิ คา้ ออนไลน์ 7. ตามพระราชบญั ญตั ิลิขสทิ ธ์ิ พ.ศ. 2537 ได้ให้ความคมุ้ ครอง

ง. เลือกซื้อสินคา้ จากร้านค้าทช่ี ่ืนชอบและสนใจ เก่ียวกับผลงาน 9 ประเภท ผลงานในขอ้ ใด

โดยไมม่ ีการจดทะเบยี นพาณิชย์ ไม่จดั อย่ใู นประเภท “งานวรรณกรรม”

3. ขอ้ ใดไม่ใชก่ ารใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ ก. หนังสอื ข. ทำนอง

ดว้ ยความรับผดิ ชอบ ค. สิง่ พมิ พ์ ง. ซอฟต์แวรค์ อมพวิ เตอร์

ก. การกำหนดความเปน็ ส่วนตัวของขอ้ มูล 8. การทำซำ้ โดยการเปลี่ยนแปลงรปู แบบใหม่ ปรบั ปรงุ

ข. การเผยแพรข่ ้อมลู ข่าวสารอย่างถูกต้องแม่นยำ แก้ไข เพิม่ เตมิ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ โดยไม่มลี กั ษณะ

ค. การดดั แปลงผลงานผูอ้ น่ื และอา้ งวา่ เปน็ ผลงาน ในการจดั ทำขึน้ ใหม่ ตามพระราชบญั ญัตลิ ิขสิทธิ์

ของตนเอง พ.ศ. 2537 เปน็ การละเมดิ ลิขสทิ ธิ์ตามขอ้ ใด

ง. การไมเ่ ข้าถึงข้อมลู ท่ีไมไ่ ด้รับอนญุ าต หรอื ยนิ ยอม ก. การทำซ้ำ ข. การทำสำเนา

ให้เขา้ ถึง ค. การเผยแพร่ ง. การดัดแปลง

4. บรษิ ัท ฟอ้ นมิวสิค จำกดั ไดส้ รา้ งผลงานเพลงชอื่ 9. เอม็ ทำซ้ำแผ่นวีซดี ภี าพยนตร์ โดยการคดั ลอกจากแผน่

กอดขาเถยี ง ข้ึนใหม่ให้กับศิลปินในสังกัด ต้งั แต่วันท่ี ต้นฉบบั เพอื่ นำมาขายในร้านของตนเอง ตามพระราชบญั ญตั ิ

16 กนั ยายน พ.ศ. 2542 จากนั้นทำการเผยแพรแ่ ละ ลิขสิทธ์ิ พ.ศ. 2537 เอ็มมีความผดิ ตามขอ้ ใด

โฆษณาบน YouTube เม่ือวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562 ก. การเผยแพรต่ อ่ สาธารณชน

ตามพระราชบัญญัตลิ ิขสิทธ์ิ พ.ศ. 2537 ดงั น้ัน ผลงานดังกลา่ ว ข. ขาย มีไว้เพื่อขาย เชา่ มไี ว้เพ่อื เช่า

จะถกู เร่มิ นับลิขสทิ ธ์ติ ง้ั แตว่ ันที่ใด ค. ขายหรอื นำเขา้ มาในราชอาณาจักร

ก. วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2542 ง. แจกจ่ายในลกั ษณะท่กี ่อให้เกดิ ความเสยี หายแก่เจ้าของ

ข. วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562 ลิขสิทธ์ิ

ค. วนั ที่ 8 กนั ยายน พ.ศ. 2562 10. การแสดงความคดิ เห็นต่อผลงานเพลงของศิลปนิ ใน YouTube

ง. วันที่ 16 กนั ยายน พ.ศ. 2562 ถอื วา่ เปน็ การยกเวน้ การละเมดิ ลิขสทิ ธต์ิ ามขอ้ ใด

5. การสร้างขา่ วปลอมและเผยแพร่ในอินเทอรเ์ นต็ ก. การนำผลงานนน้ั มาเป็นสว่ นหน่งึ ในงานของตน

เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบญั ญัตวิ า่ ดว้ ย ข. เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรบั รู้ถงึ

การกระทำความผดิ เกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ มาตราใด ความเปน็ เจา้ ของลิขสิทธิ์ในงานน้นั

ก. มาตรา 7 ข. มาตรา 14 ค. การติชม วจิ ารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึง

ค. มาตรา 15 ง. มาตรา 17 ความเป็นเจา้ ของลิขสทิ ธิ์ในงานนนั้

เฉลย ง. ใชเ้ พ่อื ประโยชนข์ องตนเอง หรือบุคคลอืน่ ในครอบครัว

1. ง 2. ข 3. ค 4. ค 5. ข 6. ง 7. ข 8. ง 9. ข 10. ค

แบบทดสอบหลงั เรยี น

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3

คำแจง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. พระราชบญั ญตั ิใดพดู ถงึ การกระทำความผดิ เก่ยี วกับ 6. บริษัท ฟ้อนมิวสคิ จำกัด ไดส้ รา้ งผลงานเพลงชอ่ื กอดขาเถยี ง

คอมพิวเตอร์รวม มาตรา 30 ขึ้นใหมใ่ หก้ ับศิลปนิ ในสังกัด ตั้งแตว่ ันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2542

ก. พระราชบญั ญตั ิการรกั ษาความมนั่ คงปลอดภยั จากนน้ั ทำการเผยแพรแ่ ละโฆษณาบน YouTube เม่อื วนั ท่ี

ไซเบอร์ 8 กันยายน พ.ศ. 2562 ตามพระราชบัญญัตลิ ิขสิทธ์ิ พ.ศ. 2537

ข. พระราชบญั ญัติการกระทำความผดิ เทคโนโลยี ดังนน้ั ผลงานดังกล่าวจะถูกเรมิ่ นบั ลขิ สทิ ธต์ิ ้งั แต่วันทใี่ ด

สารสนเทศ ก. วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2542

ค. พระราชบญั ญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ข. วันท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2562

ง. พระราชบัญญตั ิว่าด้วยการกระทำความผดิ เกีย่ วกบั ค. วนั ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562

คอมพวิ เตอร์ ง. วันที่ 16 กนั ยายน พ.ศ. 2562

2. ข้อใดคือการทำธรุ กรรมทางการเงนิ ออนไลน์ 7. ขอ้ ใดไม่ใช่การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ

ทไ่ี ม่ปลอดภัย ดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ

ก. ออกจากระบบทุกคร้งั หลังการใชง้ าน ก. การกำหนดความเปน็ สว่ นตวั ของขอ้ มูล

ข. ตั้งวงเงนิ ในการธุรกรรมใหเ้ หมาะสม ข. การเผยแพร่ข้อมลู ข่าวสารอยา่ งถูกต้องแม่นยำ

ค. ใช้บรกิ ารแจ้งเตอื นเงินเข้า-ออกผา่ น SMS ค. การไมเ่ ขา้ ถึงข้อมูลที่ไมไ่ ด้รบั อนญุ าต หรือยินยอม

ง. ตั้งรหสั ผา่ นโดยใช้วันเดินปเี กิดหรอื ชอ่ื ของตนเอง ใหเ้ ขา้ ถึง

3. การทำซ้ำโดยการเปล่ยี นแปลงรูปแบบใหม่ ปรับปรุง ง. การดดั แปลงผลงานผอู้ ื่นและอา้ งวา่ เป็นผลงานของตนเอง

แกไ้ ข เพมิ่ เตมิ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยไม่มลี ักษณะ 8. ขอ้ ใดคอื การซ้อื สินค้าทางออนไลน์อย่างปลอดภยั

ในการจัดทำขน้ึ ใหม่ ตามพระราชบญั ญัตลิ ิขสทิ ธ์ิ พ.ศ. 2537 ก. เลือกซื้อของผา่ นเว็บไซตท์ ข่ี ้นึ ตน้ ด้วย http://

เปน็ การละเมดิ ลขิ สิทธิ์ตามข้อใด ข. ตรวจสอบราคาตลาด คำอธบิ ายสนิ ค้าไม่เกินจรงิ

ก. การทำซ้ำ ข. การทำสำเนา ค. ใช้งาน Wifi สาธารณะในการสง่ั ซื้อสินคา้ ออนไลน์

ค. การเผยแพร่ ง. การดดั แปลง ง. เลือกซ้ือสินคา้ จากรา้ นค้าท่ีชนื่ ชอบและสนใจ

4. ตามพระราชบัญญตั ิลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ได้ใหค้ วามคมุ้ ครอง โดยไม่มีการจดทะเบียนพาณิชย์

เกีย่ วกับผลงาน 9 ประเภท ผลงานในขอ้ ใดไม่จัดอยใู่ น 9. เอ็มทำซำ้ แผ่นวซี ดี ภี าพยนตร์ โดยการคัดลอกจากแผ่น

ประเภท “งานวรรณกรรม” ต้นฉบบั เพ่อื นำมาขายในร้านของตนเอง ตามพระราชบัญญตั ิ

ก. ทำนอง ข. หนังสือ ลขิ สทิ ธ์ิ พ.ศ. 2537 เอม็ มีความผดิ ตามขอ้ ใด

ค. สิง่ พมิ พ์ ง. ซอฟตแ์ วร์คอมพวิ เตอร์ ก. การเผยแพร่ตอ่ สาธารณชน

5. การแสดงความคดิ เห็นตอ่ ผลงานเพลงของศิลปนิ ข. ขาย มไี วเ้ พอื่ ขาย เชา่ มไี ว้เพอ่ื เชา่

ใน YouTube ถือว่าเป็นการยกเวน้ การละเมิดลขิ สทิ ธ์ิ ค. ขายหรอื นำเข้ามาในราชอาณาจักร

ตามขอ้ ใด ง. แจกจา่ ยในลกั ษณะท่กี อ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกเ่ จา้ ของ

ก. การนำผลงานนนั้ มาเปน็ ส่วนหนง่ึ ในงานของตน ลขิ สทิ ธ์ิ

ข. เสนอรายงานขา่ วทางสอื่ สารมวลชนโดยมกี ารรับรถู้ งึ 10. การสร้างขา่ วปลอมและเผยแพรใ่ นอินเทอรเ์ นต็

ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิใ์ นงานน้ัน เป็นการกระทำความผดิ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วย

ค. การตชิ ม วิจารณ์ หรอื แนะนำผลงานโดยมีการรบั รถู้ งึ การกระทำความผดิ เก่ียวกับคอมพวิ เตอร์ มาตราใด

ความเปน็ เจา้ ของลิขสิทธใ์ิ นงานนนั้ ก. มาตรา 14 ข. มาตรา 20

ง. ใชเ้ พ่อื ประโยชน์ของตนเอง หรอื บุคคลอนื่ ในครอบครวั ค. มาตรา 15 ง. มาตรา 17

เฉลย

1. ง 2. ง 3. ง 4. ก 5. ค 6. ค 7. ง 8. ข 9. ข 10. ก

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 1

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ เวลา 7 ชั่วโมง

เรอ่ื ง การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ เวลา 3 ช่ัวโมง

รายวิชา คอมพวิ เตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

1. ผลการเรยี นรู้

1. เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

2. เพื่อให้ผู้เรยี นมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคดิ วเิ คราะห์ การแกป้ ัญหาเปน็ ข้นั ตอน และเปน็

ระบบ

3. เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นมีทักษะในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ รักษาขอ้ มูลสว่ นตัว และการสื่อสารเบ้ืองต้น

ในการแกป้ ญั หาท่ีพบในชีวติ จริงไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

4. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นนำความรู้ความเขา้ ใจในวิชาวทิ ยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยีใหมท่ เี่ กิดขึ้นไปใชใ้ ห้เกิด

ประโยชนต์ ่อสังคมและการดำรงชวี ติ

5. เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รียนพัฒนากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการ

จดั การทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตดั สนิ ใจ

6. เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นเป็นผ้มู ีจิตวิทยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มในการใช้วิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยอี ยา่ งสร้างสรรค์

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. บอกลักษณะการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ได้ (K)

2. สามารถใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศได้อยา่ งปลอดภยั และมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม (P,A)

3. สาระสำคญั

การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการใชง้ าน เชน่ การทำธรุ กรรม

ออนไลน์ การซ้ือสินค้าออนไลน์ และการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมจี ติ สำนกึ และจรยิ ธรรมทด่ี ี คำนงึ

ผลกระทบที่อาจส่งผลตอ่ ผู้อนื่

4. สาระการเรยี นรู้

1. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อยา่ งปลอดภัย

2. การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศได้อยา่ งมีความรบั ผิดชอบ

5. รูปแบบกรสอน/วิธีการสอน

1. รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย

2. วธิ ีการสอนแบบการใช้คำถาม (Questioning Method)

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น  ซอื่ สตั ย์ สจุ ริต
 ความสามารถในการส่ือสาร  ใฝ่เรียนรู้
 ความสามารถในการคิด  มุ่งมัน่ ในการทำงาน
 ความสามารถในการแกป้ ญั หา  มจี ิตสาธารณะ
 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. ทกั ษะ 4 Cs
ทักษะการคดิ วิจารณญาณ (Critical Thinking)
 ทกั ษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill)
 ทกั ษะการสอื่ สาร (Communication Skill)
 ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)

8. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
 รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
 มีวนิ ัย

 อยอู่ ย่างพอเพยี ง
 รักความเป็นไทย
9.การจดั กระบวนการเรยี นรู้

ชวั่ โมงที่ 1

1. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง เทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือวัดความรู้เดิม
ของนักเรยี นก่อนเข้าสู่กิจกรรม

ข้นั นำ (10 นาที)
1. ครูถามนักเรียนคิดว่าเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อชวี ิตนกั เรียนหรือไม่ อยา่ งไรบ้าง

(แนวคำตอบ มี เพราะทำให้ชีวิตสะดวกสบาย)
2. ครถู ามนักเรียนตอ่ วา่ นอกจากเทคโนโลยีมบี ทบาทสำคัญตอ่ ชวี ิตนักเรียนแล้ว นกั เรียนคดิ วา่ เทคโนโลยีมี

บทบาทสำคญั ต่อระดับองค์กร หรอื ระดบั ประเทศหรือไม่ อยา่ งไร
(แนวคำตอบ มี เน่ืองจากทำให้มรี ะบบออนไลนใ์ ชง้ าน มใี บขับขอ่ี ิเลก็ ทรอนกิ ส์)
ขัน้ สอน (30 นาที)
1. ครอู ธบิ ายเน้อื หาเร่ืองการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ในหนงั สือเรยี นวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคาํ นวณ)
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 หน้า 59-60

2. ครสู นทนาและถามนักเรียนว่า ปจั จบุ ันเทคโนโลยเี ขา้ มบี าทในทุกดา้ นยกตวั อยา่ ง เช่น ร้านค้า ต้องมีการ
ปรับตัวการใหบ้ ริการแบบออนไลน์ ในฐานะลูกค้าหากต้องการซื้อสนิ ค้าออนไลน์ นักเรยี นจะประเมนิ ความ
นา่ เชอ่ื ถอื ของร้านค้าอย่างไร
(แนวคำตอบ ร้านท่ีมีรีววิ เยอะ รา้ นคา้ ทม่ี ีชือ่ เสยี ง)

3. ครถู ามต่อวา่ ในการซื้อสินค้าออนไลน์ในขั้นตอนการชำระเงินค่าสินคา้ นอกจากตอ้ งประเมินความนา่ เชอื่ ถือ
ของร้านค้า นักเรียนจะมวี ิธีการทำธรุ กรรมออนไลน์หรือโอนเงนิ ค่าสนิ ค้าอย่างไรให้ปลอดภัย
(แนวคำตอบ โอนเงินผา่ นอุปกรณ์ตนเองเท่าน้นั ไม่ใช้ Wi-Fi สาธารณะ ใช้บริการร้านค้าที่นา่ เช่ือถือ)

4. ครอู ธิบายเน้อื หาเร่ืองการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ในหนงั สอื เรยี นวิชา เทคโนโลยี
(วิทยาการคํานวณ) ชั้น มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 หนา้ 62 - 63 การทำธุรกรรมออนไลน์ และหน้า 64 – 65 การ
ซอ้ื สินค้าออนไลน์

5. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝกึ Exercise ในหนงั สือแบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หนา้ 39 ข้อ 1 –
3 เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจ เร่ือง การทำธรุ กรรมออนไลนอ์ ยา่ งปลอดภยั

ชว่ั โมงที่ 2
ขั้นสอน (50 นาที)
6. ครูทบทวนเนอ้ื หาจากชัว่ โมงทแ่ี ลว้ นักเรียนได้เรียนรู้การทำธรุ กรรมออนไลน์อยา่ งปลอดภัย ในช่วั โมงน้ีครู

ให้นกั เรยี นจบั คู่กัน จากนนั้ ให้นักเรียนแต่ละคนเขยี นชื่อสนิ ค้าที่นกั เรียนสนใจ 1 อย่าง และนำหัวขอ้ นนั้
แลกกนั กับคู่ของตนเอง
7. ครใู ห้แตล่ ะคนค้นหาร้านค้าออนไลน์ทข่ี ายสินค้าตามหัวขอ้ ที่ไดร้ ับจากคู่ของตนเอง และเลือกหารา้ นค้าท่ี
น่าเช่อื ถือมากที่สดุ จำนวน 3 ร้านคา้
8. ครูให้นักเรยี นบนั ทึกผลการทำกจิ กรรมลงในใบงานท่ี 3.1.1 เรอื่ ง การซ้ือสนิ ค้าออนไลน์อย่างปลอดภัย
9. ครสู ่มุ นกั เรียน 5 – 6 คน นำเสนอใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซอื้ สนิ ค้าออนไลน์อยา่ งปลอดภยั เพื่อแลกเปล่ยี น
ความคดิ เหน็ รว่ มกนั
10. ครูถามนักเรียนวา่ จากการค้นหาร้านค้านักเรยี นมวี ธิ ีการประเมนิ ความน่าเช่อื ถือรา้ นคา้ อย่างไร
(แนวคำตอบ เลอื กซื้อเวบ็ ไซต์ท่ขี น้ึ ตน้ ด้วย https//: เท่านัน้ อ่านรวี วิ กอ่ นส่ังซื้อ สำรวจราคาตลาดก่อน
สง่ั ซ้อื )

ช่วั โมงท่ี 3

ขัน้ สอน (40 นาที)

11. ครสู อบถามนกั เรยี นวา่ จากคาบท่ีแล้วในการประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของร้านค้า นักเรียนพบวา่ ร้านค้าที่ดี

นา่ เช่ือถือควรมลี กั ษณะอยา่ งไรบา้ ง

(แนวคำตอบ คำอธบิ ายสินค้าถูกต้องไม่เกินจริง ไม่เปิดเผยข้อมลู สว่ นตวั ลกู ค้าในการรวี ิวสินคา้ ไม่นำข้อมลู

สว่ นตวั ลูกค้าไปเผยแพร่)

12. ครูอธิบายวา่ ในปจั จุบันการซอ้ื ของออนไลนต์ ามเว็บไซต์ต้องมีบัญชผี ้ใู ชก้ อ่ นจึงจะสามารถทำการสง่ั ซื้อ

สินค้าได้

13. ครูถามนักเรียนวา่ โดยปกติเวลาใช้งานเวบ็ ไซตเ์ หล่านีส้ ามารถสมคั รบัญชผี ้ใู ชไ้ ดอ้ ย่างไรบา้ ง

(แนวคำตอบ ลงชอ่ื เขา้ ใชด้ ้วย Facebook ลงช่ือเข้าใช้ด้วย Google สมคั รบญั ชีผใู้ ชด้ ว้ ยอเี มล)

14. ครูอธิบายวา่ ในขัน้ ตอนการลงชือ่ เขา้ ใช้งานเวบ็ ไซต์ดว้ ยบัญชี Facebook หรือ บญั ชี Google เวบ็ ไซต์จะ

เรยี กขอสิทธใ์ิ นการเข้าถงึ ขอ้ มูลสว่ นตัวบญั ชี Facebook หรอื Google ของเราซ่งึ อาจส่งผลต่อการนำ

ข้อมลู ไปใช้และสง่ ผลเสียได้ ดงั น้นั นอกจากการประเมินความน่าเชอ่ื ถือของรา้ นค้าออนไลนแ์ ล้ว ยงั มีส่วน

อืน่ ท่ีต้องใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งระมัดระวงั

15. ครูอธบิ ายเน้อื หาเรอ่ื งการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมคี วามรบั ผิดชอบในหนังสือเรียนวิชา

เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 หนา้ 66-67

16. ครูใหน้ ักเรียนถามคำถามนักเรยี นโดยให้มีสถานการณ์ “หากนกั เรียนเป็นเจ้าของร้านคา้ รบั สกรีนลายเส้ือ

และมีลูกคา้ ตดิ ต่อมาใหผ้ ลติ เสื้อรปู การต์ นู ทีต่ นเองไมไ่ ดเ้ ป็นเจ้าของลขิ สิทธ์ิผลงาน นกั เรยี นจะมวี ธิ ีการ

รับมือกับลูกค้าอย่างไร เช่น ข้อมูลที่เปน็ ส่วนตัวของลกู ค้า ความถูกต้องของข้อมูลสินคา้ กรรมสทิ ธิ์ และ

ด้านอ่นื พร้อมบอกเหตผุ ล” จากนั้นครูสุ่มนักเรียน 4 – 5 คน ตอบคำถาม

17. ครถู ามนักเรยี นวา่ จากสถานการณ์ข้างตน้ ในมุมมองนกั เรียนผู้บรโิ ภคและผ้ขู าย ควรมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อ

กันอยา่ งไรบ้าง

(แนวคำตอบ ผู้บริโภคไมจ่ องสินคา้ แลว้ ไม่ซื้อ ไม่ควรสงั่ สนิ คา้ ท่ีทรัพยส์ นิ ทางปัญญา ผ้ขู ายจะต้องคำนึงถงึ

เร่ืองลขิ สิทธ์ิควรศึกษากฎหมายเก่ยี วกบั ลขิ สทิ ธใิ์ หด้ ี ความถูกตอ้ งของข้อมูลสินคา้ )

18. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝึก Exercise ในแบบฝึกหดั เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 40 – 41

ข้อ 4 – 5 เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ

ขัน้ สรปุ (10 นาที)

1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปนอกจากเราจะตอ้ งระวังการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศให้ปลอดภยั กบั ตวั เรา

แล้ว ยังตอ้ งมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและผู้อ่ืนด้วย โดยเคารพความเปน็ สว่ นตวั คำนึงถึงความถูกต้อง

แมน่ ยำของข้อมลู การเปน็ เจา้ ของ และการเข้าถงึ ขอ้ มลู ที่ไม่ไดร้ ับอนุญาต

10. สื่อแหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี น วทิ ยาการคำนวณ ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. แบบฝึกหัดรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.3
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่อื ง เทคโนโลยีสารสนเทศ
3. ใบงานท่ี 3.1.1 เร่อื ง การซือ้ สนิ คา้ ออนไลน์อยา่ งปลอดภยั

11. การวัดและการประเมินผล

11.1 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรม

จุดประสงค์ วิธีการประเมนิ เครือ่ งมือการประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน

1. บอกลกั ษณะ ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัด (วทิ ยาการ บอกลกั ษณะการใช้งาน

การใช้งานเทคโนโลยี Exercise หน้า 39 คำนวณ) ม.3 เทคโนโลยสี ารสนเทศ

สารสนเทศ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 อยา่ งปลอดภัยได้ถูกต้อง

อย่างปลอดภยั ได้ (K) เร่ือง เทคโนโลยี 60% ข้นึ ไป

สารสนเทศ หนา้ 39

2. สามารถใช้งาน - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 - แบบประเมนิ - ประเมนิ ใบงานที่ 3.1.1

เทคโนโลยีสารสนเทศ เรอื่ ง การซ้ือสินค้า ใบงานที่ 3.1.1 เร่อื ง การซ้ือสนิ คา้

ได้อยา่ งปลอดภยั ออนไลน์อยา่ ง เรอ่ื ง การซ้ือสนิ คา้ ออนไลน์อย่างปลอดภัย

และมคี วาม ปลอดภยั ออนไลนอ์ ย่างปลอดภยั ระดบั คุณภาพพอใช้ขน้ึ

รับผิดชอบต่อสังคม - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหดั (วทิ ยาการ ไปถือวา่ ผา่ น

(P,A) Exercise หนา้ 40–41 คำนวณ) ม.3 - ประเมนิ การใชง้ าน

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เทคโนโลยีสารสนเทศ

เรอื่ ง เทคโนโลยี อยา่ งมีความรับผิดชอบ

สารสนเทศ หน้า 40–41 ไดไ้ ด้ถกู ต้อง 60% ขน้ึ ไป

11.2 การประเมินใบงานที่ 3.1.1 เร่อื ง การซอ้ื สนิ ค้าออนไลนอ์ ยา่ งปลอดภยั

ประเดน็ ในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ประเมนิ 3 21

1. การประเมนิ ความ สามารถประเมินความน่าเช่อื ถอื สามารถประเมนิ ความ สามารถประเมินความ

นา่ เชอื่ ถือของร้านคา้ เหตุผลมีความสมเหตุสมผล เชน่ น่าเช่อื ถือ เหตุผลมีความ น่าเชื่อถอื เหตผุ ลมี

ออนไลน์ เลอื กเวบ็ ไซต์ท่ขี ้นึ ตน้ ด้วย สมเหตสุ มผลเป็นสว่ น ความสมเหตุสมผล

https//: อ่านรีวิวกอ่ นสั่งซ้ือ ใหญ่ เพยี งบางส่วน

สำรวจราคาตลาดกอ่ นสงั่ ซ้ือ

ตรวจสอบคุณสมบตั ิของสนิ ค้าท่ี

แจ้งไวเ้ กนิ จรงิ หรือไม่ ตรวจสอบ

การจดทะเบียนร้านค้า ตรวจสอบ

ประวตั กิ ารฉ้อโกง

2. การทำธุรกรรม สามารถเลอื กวธิ กี ารทำธรุ กรรม สามารถเลือกวิธกี ารทำ สามารถเลอื กวธิ ีการทำ

อยา่ งปลอดภัย อยา่ งปลอดภัยตามหลกั การได้ ธรุ กรรมอยา่ งปลอดภัย ธุรกรรมอยา่ งปลอดภัย

และศึกษาตวั เลอื กการชำระเงิน ตามหลกั การไดเ้ ป็นสว่ น ตามหลกั การได้เพยี ง

ทางรา้ นค้าออนไลน์อย่างถ่ีถ้วน ใหญ่ บางส่วนเทา่ นัน้

เช่น มบี รกิ ารเรยี กเก็บเงิน

ปลายทาง

3. การนำเสนอ ใช้ภาษาในการนำเสนอชัดเจน ใชภ้ าษาในการนำเสนอ ใช้ภาษาในการนำเสนอ

เหมาะสมและเข้าใจงา่ ย สามารถ ชัดเจน เหมาะสมและ เขา้ ใจง่าย สามารถตอบ

ตอบคำถามได้ทุกข้อ เข้าใจงา่ ย สามารถตอบ คำถามได้เพียงบางสว่ น

คำถามไดเ้ ปน็ สว่ นใหญ่

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
8–9 ดี
5–7
พอใช้
นอ้ ยกว่า 5 ปรบั ปรุง

ใบงานท่ี 3.1.1
เร่ือง การซ้ือสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัย

1. ชอื่ สินค้า
...................................................................................................................................................

2. ช่ือร้านค้าออนไลน์และเว็บไซต์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. เหตุผลในการเลอื กร้านค้าออนไลน์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. ถา้ ส่ังซ้ือสนิ ค้าออนไลน์ นักเรยี นมีวธิ กี ารชำระเงินอยา่ งไร ให้ปลอดภัย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 3.1.1 เฉลย
เร่ือง การซอื้ สนิ คา้ ออนไลน์อยา่ งปลอดภยั

1. ชอ่ื สินค้า
...................................................................................................................................................

2. ช่อื รา้ นคา้ ออนไลน์และเว็บไซต์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. เหตุผลในการเลือกรา้ นคา้ ออนไลน์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. ถ้าส่ังซื้อสนิ คา้ ออนไลน์ นกั เรียนมีวิธกี ารชำระเงินอย่างไร ใหป้ ลอดภัย

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......

ลงช่อื
(

ตำแหนง่

13. บนั ทึกผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 7 ชว่ั โมง

เรือ่ ง กฎหมายคอมพวิ เตอร์และลิขสิทธิ์ เวลา 4 ชว่ั โมง

รายวชิ า คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3

1. ผลการเรียนรู้

1. เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ

2. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีทกั ษะการคิดเชิงคำนวณ การคดิ วเิ คราะห์ การแกป้ ัญหาเปน็ ขนั้ ตอน และเปน็

ระบบ

3. เพ่อื ให้ผู้เรียนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาขอ้ มลู ส่วนตวั และการส่ือสารเบ้อื งตน้

ในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ

4. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นนำความรูค้ วามเข้าใจในวชิ าวิทยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยีใหมท่ ่ีเกิดข้นึ ไปใช้ใหเ้ กิด

ประโยชน์ต่อสงั คมและการดำรงชวี ิต

5. เพื่อให้ผเู้ รยี นพฒั นากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการ

จัดการทกั ษะในการส่ือสาร ความสามารถในการตดั สนิ ใจ

6. เพื่อใหผ้ เู้ รียนเปน็ ผมู้ ีจติ วทิ ยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมในการใชว้ ิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยีอย่างสรา้ งสรรค์

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. เข้าใจและยกตัวอย่างการปฏิบัติตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ และการใช้ลิขสทิ ธิ์ของผู้อ่ืน

โดยชอบธรรมได้ (K,P,A)

3. สาระสำคัญ

กฏหมายท่ีเก่ียวข้องกับการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศหลายฉบับ เช่น พระราชบญั ญตั ิวา่ ด้วยการ

กระทำความผิดเกีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ พระราชบัญญตั ิวา่ ด้วยธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบญั ญัติการ

รกั ษาความมนั่ คงปลอดภัยไซเบอร์ โดยพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.

2550 และพระราชบัญญตั ิว่าดว้ ยการกระทำความผดิ เก่ียวคอมพวิ เตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560

ลิขสิทธิ์ เป็นผลงานทีเ่ กดิ จากการใช้ปัญญา ความรู้ความสามารถ และความอุตสาหะพยายามในการ

สร้างสรรคผ์ ลงาน ซึง่ ถือวา่ เป็นทรพั ยส์ นิ ทางปัญญาประเภทหนงึ่ ท่ีกฎหมายให้ความคุ้มครอง

4. สาระการเรยี นรู้

1. กฎหมายคอมพิวเตอร์

2. ลขิ สทิ ธิ์

5. รปู แบบกรสอน/วิธีการสอน

1. รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย

2. วธิ ีการสอนโดยเน้นกระบวนการกลมุ่ (Group Process–Based Instruction)

6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

 ความสามารถในการสอ่ื สาร

 ความสามารถในการคดิ

 ความสามารถในการแกป้ ัญหา

 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. ทักษะ 4 Cs

ทักษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)

 ทักษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill)

 ทกั ษะการสื่อสาร (Communication Skill)

 ทกั ษะความคดิ สร้างสรรค์ (Creative Thinking)

8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์  ซื่อสัตย์ สุจรติ

 มวี ินยั  ใฝ่เรยี นรู้

 อยอู่ ย่างพอเพียง  มุง่ มัน่ ในการทำงาน

 รกั ความเป็นไทย  มีจิตสาธารณะ

9.การจัดกระบวนการเรียนรู้

ช่วั โมงที่ 1

ข้ันนำ (10 นาที)
1. ครถู ามนกั เรียนวา่ จากคาบทีผ่ า่ นมาในการการทำธุรกรรมทางการเงนิ หรือซ้ือของออนไลน์นักเรียน
ควรระมดั ระวังดา้ นใดอกี บา้ ง
(แนวคำตอบ ข้อมลู สว่ นตวั ลขิ สิทธิ์ผลงาน)
2. ครถู ามนกั เรียนวา่ จากคาบทแี่ ล้วเรอ่ื งการประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของรา้ นค้าออนไลน์ หากนักเรียน
ทำการสัง่ ซ้ือสนิ ค้าออนไลน์ไป แตไ่ ม่ได้รับสินค้า หรอื ได้รับสินค้าที่ไมต่ รงตามคำอธิบาย หรอื สนิ คา้ ไม่มคี ุณภาพ
นกั เรยี นจะแกป้ ัญหาอยา่ งไร
(แนวคำตอบ ปริ้นทห์ ลกั ฐานทม่ี เี กยี่ วกับร้านคา้ สินคา้ และการโอนเงนิ ทง้ั หมดและไปแจ้งตำรวจ)

ข้ันสอน (40 นาที)
1. ครูใหน้ กั เรยี นแบง่ กล่มุ 3 – 4 คน จากนั้นแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาเน้อื หาในหนงั สือเรียนวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการ
คาํ นวณ) ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 หนา้ 68 – 70 หัวข้อ “กฎหมายคอมพวิ เตอร์” โดยใหแ้ ต่ละกลุ่มเลือกหวั ข้อ
กฏหมายตามพระราชบัญญตั ิว่าดว้ ยการกระทำความผดิ เก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 และค้นหา
เพ่มิ เติมจากอนิ เทอรเ์ น็ต จากน้นั ให้สมาชิกในกลุ่มสรุปใหเ้ พ่ือนในกลมุ่ ฟัง
2. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ Exercise ในแบบฝึกหดั เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 42 – 43 เพื่อ
ตรวจสอบความเข้าใจ

ชวั่ โมงที่ 2

ขัน้ สอน (50 นาที)
3. จากช่ัวโมงทีผ่ า่ นมา ครูให้นกั เรียนแบง่ กลุ่ม 3 – 4 คน และแบง่ หัวข้อกนั ศกึ ษา“กฎหมายคอมพิวเตอร์” ใน
ชวั่ โมงนี้ครใู หน้ กั เรียนแต่ละกลุม่ ศกึ ษาเนื้อหาในหนังสอื เรยี นวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคาํ นวณ) ชั้น
มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 หนา้ 71 – 73 หวั ขอ้ “ลขิ สิทธิ์” และค้นหาเพมิ่ เติมจากอินเทอรเ์ นต็ จากนน้ั ให้สมาชิกใน
กลุม่ สรปุ ให้เพื่อนในกลมุ่ ฟัง
4. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ Exercise ในแบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 44 – 45 เพื่อ
ตรวจสอบความเขา้ ใจ
5. จากนั้นครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ทำใบงานท่ี 3.2.1 เรื่อง ใครมคี วามผดิ และเตรยี มตัวนำเสนอในช่ัวโมงถดั ไป

ช่ัวโมงท่ี 3

ข้ันสอน (50 นาที)
6. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ออกมานำเสนอแนวคิดของกลุ่มตนเอง ตรงตามความผดิ ในมาตราท่ศี ึกษาหรือไม่
อย่างไร
7. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกันสรปุ แนวคดิ จากคำตอบของกลุ่มอื่น
8. จากน้นั ครูใหแ้ ต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนในการทำกจิ กรรม Activity ในแบบฝกึ หดั เทคโนโลยี (วทิ ยาการ
คำนวณ) หนา้ 46 – 47 ถา้ เกิดมขี อ้ สงสัยสามารถสอบถามครผู สู้ อนได้
9. จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นแต่ลงมีปฏิบตั ติ ามทวี่ างแผนไว้ พร้อมเตรียมนำเสนอในชัว่ โมงถดั ไป

ชั่วโมงท่ี 4

ขัน้ สอน (40 นาที)

10. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกล่มุ ออกมานำเสนอกจิ กรรม Activity

11. ครูซักถามกลมุ่ ทีน่ ำเสนอ เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจและความถูกต้องของข้อมลู พร้อมท้งั เสนอแนะ

เพม่ิ เติม

ขนั้ สรุป (10 นาที)

1. ครใู หแ้ ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ เนอ้ื หาและความสัมพันธ์เก่ียวกบั การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง

ปลอดภัย มคี วามรับผิดชอบ ปฏบิ ตั ิตามกฎหมายเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ และใช้ลขิ สทิ ธ์ิของผอู้ นื่ โดยชอบธรรม

10. สือ่ แหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. แบบฝกึ หดั (วทิ ยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรอ่ื ง เทคโนโลยสี ารสนเทศ
3. ใบงานท่ี 3.2.1 เรื่อง ใครมคี วามผดิ

11. การวัดและการประเมินผล

11.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรม

จุดประสงค์ วธิ ีการประเมนิ เคร่ืองมอื การประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน
- แบบฝึกหดั Exercise - ตอบคำถาม Exercise
1. เข้าใจและยกตัวอย่าง - ตรวจแบบฝกึ หัด หนา้ 42 – 45 และ Activity ได้ถูกต้อง
- Activity หน้า 46 – 60% ขึ้นไป
การปฏิบัติตามกฎหมาย Exercise หนา้ 42 – 45 47 - ประเมนิ ใบงานท่ี 3.2.1
- ใบงานท่ี 3.2.1 เร่ือง เรื่อง ใครมีความผิด
คอมพวิ เตอร์ และการใช้ - ตรวจ Activity หนา้ ใครมีความผดิ ระดบั คุณภาพพอใช้ขึน้
ไปถือว่าผา่ น
ลขิ สทิ ธ์ิของผู้อน่ื โดยชอบ 46 – 47

ธรรมได้ (K,P,A) - ใบงานท่ี 3.2.1 เรื่อง

ใครมีความผิด

11.2 การประเมนิ ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผดิ

ประเดน็ ในการประเมนิ 3 เกณฑ์การให้คะแนน 1
2

1. การอา้ งองิ กฎหมาย สามารถเลอื กอา้ งองิ สามารถเลือกอ้างอิง สามารถเลือกอา้ งอิง

กฎหมายคอมพวิ เตอร์ กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายคอมพวิ เตอร์

และการค้มุ ครองลิขสิทธ์ิ และการคุ้มครองลขิ สทิ ธิ์ และการคุม้ ครองลขิ สทิ ธิ์

ได้ถูกตอ้ งสอดคล้องกับ ไดถ้ ูกต้องสอดคล้องกบั ได้สอดคลอ้ งกบั

สถานการณ์ และเหตผุ ล สถานการณ์ และเหตผุ ล สถานการณ์ เหตผุ ลท่ี

ท่กี ล่าวถงึ มีความ ทก่ี ล่าวถึงมีความ กลา่ วถงึ มีความ

สมเหตุสมผล สมเหตุสมผลเป็นสว่ น สมเหตุสมผลเพียง

ใหญ่ บางส่วน

2. การนำเสนอ ใชภ้ าษาในการนำเสนอ ใชภ้ าษาในการนำเสนอ ใชภ้ าษาในการนำเสนอ

ชัดเจน เหมาะสมและ ชัดเจน เหมาะสมและ เขา้ ใจง่าย สามารถตอบ

เขา้ ใจง่าย สามารถตอบ เขา้ ใจง่าย สามารถตอบ คำถามได้เพยี งบางสว่ น

คำถามได้ทุกข้อ คำถามไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
5–6 ดี
3–4
พอใช้
นอ้ ยกว่า 3 ปรับปรุง

11.3 การประเมินการนำเสนอ Activity

ประเดน็ ในการประเมนิ 3 เกณฑก์ ารให้คะแนน 1
2 หัวข้อในคน้ หาข้อมูล
1. หวั ขอ้ ทีน่ ำเสนอ หัวขอ้ ในค้นหาขอ้ มลู มี นา่ สนใจ มีประโยชนต์ ่อ
หวั ข้อในคน้ หาข้อมูลมี การเผยแพรใ่ ห้กบั ผอู้ ่นื
ความน่าสนใจ ทันต่อ ความน่าสนใจ เปน็ เพยี งบางส่วน
สร้างสรรคแ์ ละมี
เหตุการณ์ สรา้ งสรรค์ ประโยชน์ต่อการ เน้อื หาท่นี ำเสนอมีความ
เผยแพร่ใหก้ บั ผู้อ่ืนเป็น ถกู ต้องเปน็ สว่ นใหญ่ มี
และมปี ระโยชนต์ ่อการ ส่วนใหญ่ แหล่งทีม่ าน่าเช่ือถือ
เนอ้ื หาทน่ี ำเสนอมีความ นอ้ ยหรอื ไม่มเี ลย ไม่
เผยแพร่ใหก้ ับผู้อนื่ ถูกต้องเป็นสว่ นใหญ่ มี ละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิหรือ
แหลง่ ทม่ี านา่ เชื่อถือ ไม่ คัดลอกงานของผ้อู ืน่
2. ความถูกต้องของ เนื้อหาท่ีนำเสนอมคี วาม ละเมิดลิขสทิ ธ์หิ รือ ใช้ภาษาในการนำเสนอ
เนอ้ื หา ถกู ต้อง มีแหลง่ ท่ีมา คดั ลอกงานของผอู้ ื่น เขา้ ใจง่าย สามารถตอบ
น่าเช่อื ถอื ไมล่ ะเมิด คำถามไดเ้ พยี งบางสว่ น
ลิขสิทธห์ิ รอื คัดลอกงาน ใชภ้ าษาในการนำเสนอ
ของผู้อน่ื ชดั เจน เหมาะสมและ
เข้าใจงา่ ย สามารถตอบ
3. การนำเสนอ ใชภ้ าษาในการนำเสนอ คำถามไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่
ชดั เจน เหมาะสมและ
เข้าใจง่าย สามารถตอบ
คำถามไดท้ ุกข้อ

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
8–9 ดี
5–7
พอใช้
นอ้ ยกว่า 5 ปรับปรุง

11.4 แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

คำชีแ้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด✓ลงในช่อง

ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 32 1
1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติได้
.1 รักชาติ ศาสน์

กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมที่สรา้ งความสามัคคีปรองดองและเป็นประโยชน์

ตอ่ โรงเรียน

1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา

1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมทเ่ี กีย่ วกับสถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามทโ่ี รงเรยี นจดั ขนึ้

.2 ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ ้อมลู ที่ถูกตอ้ งและเปน็ จรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ิในสงิ่ ทถ่ี ูกต้อง

.3 มวี ินยั รับผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครวั

มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน

.4 ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รจู้ ักใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม

4.3 เช่ือฟังคำสั่งสอนของบิดามารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ -

4.4 ตง้ั ใจเรียน

.5 อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั

5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ คา่

5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเก็บออมเงนิ

.6 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 6.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย

6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสำเรจ็

.7 รักความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย

7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย

.8 มีจติ สาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน

8.2 ร้จู ักการดูแลรักษาทรัพย์สมบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของห้องเรยี น

และโรงเรียน

ลงช่ือ..................................................ผ้ปู ระเมนิ
................/.................../............

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดมี าก
พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ คะแนน 1 41-50 ดี
พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติบางครัง้ 30-40 พอใช้
ปรับปรุง
ตำ่ กว่า 30

ใบงานท่ี 3.2.1
เรือ่ ง ใครมคี วามผิด

คำชี้แจง : ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 คน และตอบคำถามจากสถานการณ์ต่อไปน้ี

สถานการณ์ ร้าน RC Power ไดล้ งขอ้ มลู ขายของออนไลน์ โดยขายแพคเกจสนิ ค้าชดุ Cosmos Wars Mini
set ประกอบด้วยเสือ้ ยดื พิมพ์ลายโปสเตอรภ์ าพยนตร์เร่ือง Cosmos Wars ขนาด Free size จำนวน 2 ตวั
และ DVD ภาพยนตร์ท่ีจัดทำซ้ำข้ึนใหมจ่ ำนวน 1 ชุด พร้อมของแถมเป็น DVD โปรแกรม KKDPlayer สำหรับ
ใชเ้ ปิดไฟล์ประเภทวดี โี อโดยที่รา้ น RC Power ไม่ได้เปน็ เจา้ ของลิขสิทธิ์ หรือไดร้ ับอนญุ าตจากเจ้าของลิขสิทธ์ิ
ใด ๆ ทง้ั สิ้น แตท่ างร้านลงข้อมูลในเว็บไซต์วา่ สินคา้ และเสือ้ ยืดท้ังหมดเป็นของแทท้ ่ีมลี ิขสิทธ์ิ

จากสถานการณด์ ังกลา่ วใหน้ กั เรียนวเิ คราะหว์ า่ มีการกระทำความผิดใดตามพระราชบัญญัติวา่ ดว้ ย
การกระทำความผิดเกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2560 และควรได้รับโทษอยา่ งไร

ความผดิ
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................................................... ........
........................................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................ ..................

ใบงานที่ 3.2.1 เฉลย
เร่อื ง ใครมคี วามผิด

คำช้ีแจง : ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กล่มุ 4-5 คน และตอบคำถามจากสถานการณต์ ่อไปน้ี

สถานการณ์ รา้ น RC Power ไดล้ งข้อมลู ขายของออนไลน์ โดยขายแพคเกจสนิ คา้ ชุด Cosmos Wars Mini
set ประกอบด้วยเสอ้ื ยดื พิมพ์ลายโปสเตอรภ์ าพยนตร์เรอ่ื ง Cosmos Wars ขนาด Free size จำนวน 2 ตวั
และ DVD ภาพยนตร์ทีจ่ ัดทำซำ้ ขึน้ ใหมจ่ ำนวน 1 ชุด พร้อมของแถมเปน็ DVD โปรแกรม KKDPlayer สำหรบั
ใชเ้ ปดิ ไฟล์ประเภทวีดีโอโดยท่ีรา้ น RC Power ไมไ่ ด้เปน็ เจ้าของลิขสิทธ์ิ หรอื ได้รบั อนุญาตจากเจา้ ของลิขสิทธิ์
ใด ๆ ทัง้ สน้ิ แตท่ างร้านลงข้อมูลในเวบ็ ไซต์ว่าสินค้าและเส้อื ยืดทั้งหมดเปน็ ของแท้ที่มลี ิขสิทธิ์

จากสถานการณด์ งั กลา่ วใหน้ กั เรียนวเิ คราะห์วา่ มีการกระทำความผดิ ใดตามพระราชบัญญตั วิ า่ ด้วย
การกระทำความผดิ เก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2560 และควรไดร้ บั โทษอยา่ งไร

ความผดิ
.แ..น...ว..ค..ำ..ต..อ...บ............................................................................................................ .................................................
.ม..คี..ว...า..ม..ผ..ิด...ต..า..ม...พ..ร..ะ...ร..า..ช..บ...ัญ...ญ...ัต...วิ ..า่ ..ด..้ว..ย..ก...า..ร..ก..ร..ะ..ท...ำ..ผ..ดิ...เ.ก..ยี่...ว..ก..ับ...ค..อ...ม..พ...ิว..เ.ต...อ..ร..์.(..ฉ..บ...ับ..ท..่ี..2..)..พ.....ศ......2..5...6..0.........................
.น..ำ..ข...อ้ ..ม..ูล...ท..ี่บ...ิด..เ..บ..ือ...น..ห...ร..ือ..ป...ล..อ...ม..ไ..ม..ว่..่า..ท...้ัง..ห...ม..ด..ห...ร..อื..บ...า..ง..ส..ว่ ..น....ห...ร..ือ..น...ำ.ข...้อ..ม...ลู ..อ..ัน...เ.ป...็น...เ.ท...จ็ ..เ.ข..้า..ส...รู่ ..ะ..บ...บ..ค...อ..ม...พ..ิว..เ..ต..อ..ร..์........
.โ.ท...ษ..จ...ำ..ค..ุก...ไ.ม..่เ..ก..นิ....5....ป..ี..ห..ร..อื...ป..ร..ับ...ไ..ม..่เ.ก...ิน....1..0..0..,.0...0..0...บ...า..ท....ห...ร..ือ..ท...ง้ั ..จ..ำ..ท...้ัง.ป...ร..บั...............................................................

............................................................................................................................. .................................................

..............................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .................................................

............................................................................................................................. .................................................

..............................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .................................................

............................................................................................................................. .................................................

............................................................................................................................................................................. .

............................................................................................................................. .................................................

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................................................................................................. ............

....................................................................................................................... .......................................................

............................................................................................................................. .................................................

12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......

ลงช่อื
(

ตำแหนง่

13. บนั ทึกผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4

แอปพลเิ คชัน

เวลา 14 ชัว่ โมง
1. ผลการเรียนรู้

1. เพื่อใหผ้ ้เู รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เพือ่ ให้ผเู้ รียนมีทักษะการคิดเชงิ คำนวณ การคิดวเิ คราะห์ การแก้ปัญหาเปน็ ข้นั ตอน และเปน็

ระบบ
3. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมที กั ษะในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ รกั ษาข้อมลู ส่วนตวั และการส่อื สารเบอ้ื งต้น

ในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวติ จริงได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ
4. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยใี หม่ท่ีเกิดขน้ึ ไปใช้ให้เกดิ

ประโยชน์ตอ่ สังคมและการดำรงชวี ติ
5. เพือ่ ให้ผเู้ รยี นพัฒนากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการ

จดั การทกั ษะในการส่ือสาร ความสามารถในการตดั สินใจ
6. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นเปน็ ผมู้ จี ิตวทิ ยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมในการใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละ

เทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์
2. สาระการเรียนรู้

2.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
1) ชั้นตอนการพฒั นาแอปพลิเคชนั
2) Internet of Things (IoT)
3) ซอฟตแ์ วรท์ ี่ใชใ้ นการพฒั นาแอปพลิเคชัน เช่น Scratch, python, java, c, AppInventor
4) ตวั อยา่ งแอปพลิเคชัน เชน่ โปรแกรมแปลงสกุลเงนิ โปรแกรมผนั เสยี งวรรณยุกต์ โปรแกรมจำลอง
การแบ่งเซลล์ ระบบรดน้ำอัตโนมตั ิ

3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การทำให้อปุ กรณห์ ลายตวั สามารถสอื่ สาร แลกเปลยี่ นข้อมูล และทำงานร่วมกันได้น้ัน เรียกวา่

เทคโนโลยี IoT ตอ้ งอาศยั ความสามารถของ Smart Device ซึ่งอปุ กรณ์ท่มี หี นว่ ยประมวลผล หรือ
เซนเซอร์ภายในตวั เพื่อส่งข้อมลู ผา่ น Cloud Computing หรือ Wireless Network เปน็ ตัวกลางในการ
รบั ส่งขอ้ มลู ภายในเครือข่ายเพื่อประมวลผล และอาศัย Dashboard สำหรับแสดงผลและใช้ควบคุมการ
ทำงานจากผู้ใช้

แอปพลิเคชัน เปน็ โปรแกรมท่ีถูกพฒั นาขน้ึ มาเพ่ืออำนวยในด้านต่าง ๆ มกี ารออกแบบมาเพ่ือ ใช้
งานในหลายรูปแบบ โดยแอปพลเิ คชันแบ่งออกได้ 2 ประเภท ได้แก่ แอปพลิเคชันระบบ แอปพลเิ คชนั ที่
ตอบสนองต้องการของกลุ่มผใู้ ช้

การพัฒนาแอปพลเิ คชัน มี 7 ข้ันตอน ดังนี้ 1) กำหนดปัญหา 2) ศกึ ษาความเป็นไปได้ 3)

วิเคราะหค์ วามต้องการแอปพลเิ คชนั 4) ออกแบบแอปพลิเคชัน 5) ทดสอบ 7) จดั ทำเอกสาร

ซึ่งการพฒั นาโปรแกรมในปัจจุบนั นยิ มใช้โปรแกรมภาษาไพทอน (Python) เพราะ

เปน็ ภาษาทอ่ี ่านแล้วเขา้ ใจงา่ ย ไมซ่ ับซ้อน ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมการพัฒนาแอปพลิเคชันดว้ ย

โปรแกรมภาษาไพทอน เช่น โปรแกรมคำนวณหาอัตราแลกเปลีย่ นเงินบาทไทย (THB) เป็นเงินดอลลาร์

(USD) เปน็ ตน้

ภาษาไพทอนเปน็ ภาษาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ที่เหมาะสำหรับผเู้ รมิ่ ตน้ เขยี นโปรแกรมไปจนถงึ

การประยุกต์ใช้งานในระดับสูง เนอื่ งจากโครงสร้างภาษาที่ลดความยุ่งยากเร่ืองไวยากรณ์ในการเขยี น

โปรแกรมลง อา่ นแลว้ เขา้ ใจง่าย ไม่ซับซ้อน

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี ินัย

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. มุ่งม่ันในการทำงาน

4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. มีจิตสาธารณะ

5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่ือง -

6. การวดั และการประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ ีวดั เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ

6.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ ประเมนิ ตามสภาพจริง

- แบบทดสอบก่อนเรยี น กอ่ นเรียน กอ่ นเรียน

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3

เรอ่ื ง แอปพลิเคชัน

6.2 การประเมนิ ระหว่างการจัด - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2

กจิ กรรม เรื่อง เทคโนโลยี IoT แบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์

1) แนวคดิ และ (ขอ้ 1-3) เร่ือง เทคโนโลยี IoT

องคป์ ระกอบของ IoT - ตรวจการออกแบบ - แบบประเมนิ

แนวคิดในการพฒั นา แบบฝกึ หดั

เทคโนโลยี IoT - แบบประเมิน

ในแบบฝึกหัด การนำเสนอ

เรอ่ื ง เทคโนโลยี IoT (ข้อ5-7)

- ประเมนิ การนำเสนอ

แนวคดิ ในการพัฒนา

รายการวัด วธิ วี ดั เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
เทคโนโลยี IoT
2) ซอฟตแ์ วรท์ ีใ่ ช้ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หัด(วิทยาการ ระดับคุณภาพ 2
ในการพัฒนา เรอื่ ง เทคโนโลยี IoT คำนวณ) ม.3 ผา่ นเกณฑ์
แอปพลเิ คชัน (ขอ้ 8) หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4
- ตรวจแบบฝึกหดั เร่ือง แอปพลเิ คชัน ระดบั คุณภาพ 2
3) การพฒั นาแอปพลิเคชนั หน้า 57-58 ผ่านเกณฑ์
ดว้ ยภาษา Python - ตรวจการออกแบบ - แบบประเมิน
แนวคดิ ในแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั ระดบั คุณภาพ 2
4) คณุ ลกั ษณะ หน้า 58-59 ผ่านเกณฑ์
อันพงึ ประสงค์ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แนวคิดการออกแบบ การนำเสนอ
6.3 การประเมินหลังเรียน การพัฒนาแอปพลเิ คชนั
1) แบบทดสอบหลังเรยี น - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบประเมินชน้ิ งาน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 หนา้ 66 ข้อ 7 - แบบประเมนิ
เร่ือง แอปพลิเคชัน - อธิบายการทำงานของ
โปรแกรมหรือ การนำเสนอ
แอปพลิเคชันทเ่ี ขยี น
ดว้ ยภาษา Python - แบบประเมนิ
- ตรวจโปรแกรมหรอื คณุ ลักษณะ
แอปพลเิ คชนั ท่ีเขยี น อนั พงึ ประสงค์
ดว้ ยโปรแกรมภาษา - แบบทดสอบ
Python หลังเรียน
- บอกประโยชนข์ อง
แอปพลิเคชนั
ท่ีพัฒนาขนึ้
- สงั เกตความมวี ินยั
ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มั่น
ในการทำงาน และ
มีจติ สาธารณะ
- ตรวจแบบทดสอบ
หลังเรียน

รายการวดั วิธวี ดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
2) การประเมินชน้ิ งาน/ - ตรวจชิ้นงาน/
ภาระงาน (รวบยอด) - แบบประเมินชน้ิ งาน/ - ระดบั คณุ ภาพ 2
ภาระงาน (รวบยอด)
เรอื่ ง - ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง แอปพลิเคชนั

เร่อื งที่ 1 : แนวคดิ และองค์ประกอบของ IoT เวลา 4 ชว่ั โมง

วธิ ีการสอนแบบการใช้คำถาม (Questioning Method)
วธิ กี ารสอนโดยใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณ (Computational Thinking)

ขัน้ นำ (10 นาท)ี

1. ครถู ามคำถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นวา่ “นกั เรียนรู้จกั เทคโนโลยี IoT หรือไม่”

ข้ันสอน (30 นาท)ี

1. ครใู หน้ ักเรยี นเปิดหนังสือวิชาวทิ ยาการคำนวณ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 หนา้ 77 เรื่อง เทคโนโลยี IoT
2. ครูถามนักเรยี นว่าเครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ หรอื เครือขา่ ยไร้สายมีประโยชน์กบั ชีวิตเราอย่างไร

(แนวคำตอบ เชน่ สัญญาณ3G 4G ทำใหเ้ ขา้ ถึงอินเทอร์เน็ตได้สะดวก)
3. ครถู ามต่อว่าถา้ สมมตมิ ือถือ หรอื คอมพวิ เตอร์ แลปทอปของเราไม่มีความสามารถในการเชอ่ื มตอ่ เครือขา่ ย

อินเทอรเ์ นต็ ได้ นักเรียนคดิ ว่าจะมีผลกระทบต่อชวี ติ อยา่ งไร
(แนวคำตอบ คน้ หาข้อมูลไดย้ าก แลกเปลยี่ นข้อมลู กันช้าเนือ่ งจากไม่มอี ินเทอร์เนต็ ไม่สามารถอัปเดต
ขา่ วสารได้ Real time)
4. ครูอธบิ ายวา่ ยุคก่อนหนา้ นี้มือถือ และคอมพวิ เตอรข์ องเรายังไมม่ ีความสามารถในการเข้าถงึ อนิ เทอรเ์ น็ต
แต่ปัจจุบันอปุ กรณเ์ หลา่ นีแ้ ทบทกุ เคร่ืองจะมคี วามสามารถในการเช่อื มต่อเครอื ข่ายเข้าหากันได้ เชน่
Bluetooth , Wifi Internet ทำใหอ้ ปุ กรณห์ ลายช้นิ เช่ือมต่อกัน จึงทำให้สามารถแลกเปลีย่ นข้อมูลกนั ได้
อยา่ งรวดเร็ว
5. ครอู ธิบายวา่ ลักษณะการทำให้อปุ กรณ์หลายชิน้ เชือ่ มตอ่ เข้าหากันผ่านเครือข่าย และทำการแลกเปล่ียน
ขอ้ มลู กันเพื่อให้ใชป้ ระโยชนไ์ ด้มากขึ้นเปน็ แนวคดิ ที่คล้ายกับเทคโนโลยี IoT
6. ครูอธิบายแนวคดิ จุดกำเนิด และองคป์ ระกอบของของเทคโนโลยี IoT ในหนังสือวชิ าวิทยาการคำนวณ
มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 หน้า 77-78 เรื่อง เทคโนโลยี IoT และองคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ว่าเปน็ การทำให้
อุปกรณ์ตา่ ง ๆ มีหนว่ ยประมวลผลและความสามารถในการเช่อื มตอ่ กับอุปกรณ์อืน่ ได้ โดยไมต่ ้องพึง่ พา
ความสามารถของคอมพิวเตอรใ์ นการประมวลผลและการเช่ือมตอ่ กบั อุปกรณ์อ่นื จึงทำให้อุปกรณส์ ามารถ
สง่ ผ่านข้อมลู ระหว่างกันไดโ้ ดยตรง เชน่ เคร่อื งพมิ พ์ท่เี ชื่อมเข้าระบบ wifi และสัง่ ปริ้นท์งานผ่านระบบ
wifi ไม่จำเป็นต้องเช่ือมเคร่ืองพิมพก์ ับคอมพวิ เตอร์อีกตอ่ ไป แต่สามารถสงั่ งานจากอุปกรณ์ใดก็ไดท้ ี่เชื่อมวง
เครือข่าย wifi เดยี วกัน

ช่วั โมงที่ 2

ข้นั สอน (50 นาท)ี

7. ครถู ามนักเรียนว่าหากเราสามารถพัฒนาเทคโนโลยี IoT ด้วยตนเองได้นักเรยี นคิดว่าจะนำอปุ กรณ์

อเิ ล็กทรอนกิ ส์ใดมาเชอื่ มต่อเครอื ขา่ ย และจะใชป้ ระโยชนจ์ ากการเชอื่ มต่อเข้าเครือขา่ ยของอุปกรณ์นั้น

อย่างไร สมุ่ นักเรียนตอบคำถาม3-5คน

(แนวคำตอบ แอร์เช่ือมเนต็ แลว้ เช็คอุณหภูมจิ ากที่ไหนก็ได้จากนัน้ กส็ ั่งเปิด-ปดิ แอรต์ อนไหนกไ็ ด้)

8. ครูอธิบายเพมิ่ เติมเกยี่ วกับแนวคดิ ของ IoT เรือ่ งองคป์ ระกอบท่ีสำคัญทง้ั 3 ส่วนได้แก่

1) Smart Device ใชน้ ำเขา้ ข้อมูลจากเซนเซอร์

2) Cloud Computing หรือ Wireless Network เพื่อใช้เป็นส่อื กลางในการรับส่งข้อมลู

3) Dashboard เพอื่ ใชส้ ือ่ สารกับผู้ใช้

ดังนนั้ นอกจากอุปกรณ์จะสามารถเชอ่ื มต่อเข้าเป็นเครือขา่ ยเดยี วกันได้แล้วจะต้องมีส่วนตดิ ตอ่ ทใี่ ช้ควบคมุ

การทำงานภายในระบบได้ด้วย เช่น สง่ั สตาร์ทรถผ่านมือถือโดยใชส้ ื่อกลางเป็นระบบอนิ เทอร์เนต็ เปิด-ปิด

เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ภายในบา้ นดว้ ยเครือข่ายไรส้ าย Wifi

9. ครูใหน้ ักเรยี นวาดแผนผงั การทำงานตามแนวคดิ ของเทคโนโลยี IoT และเขียนแนวคดิ การประยุกตใ์ ช้

เทคโนโลยี IoT ในชวี ติ ประจำวนั ในแบบฝึกหดั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 เรอ่ื ง เทคโนโลยี หนา้ 53-55 ข้อ 1-5

(แนวคดิ เชิงคำนวณ : ในส่วนการแยกย่อย Decomposition นักเรียนฝกึ กระบวนการแยกองคป์ ระกอบ

โดยการเขยี นองค์ประกอบยอ่ ยของเทคโนโลยใี นรูปแบบแผนผัง)

ชวั่ โมงที่ 3

ขน้ั สอน (50 นาท)ี

10. ครูสอบถามนกั เรยี นว่าสงสยั หรือไม่ แอรท์ ีบ่ ้านเรารู้อุณหภมู ิวา่ เปน็ กี่องศาภายในบ้านไดอ้ ย่างไร

(แนวคำตอบ มตี ัวตรวจจบั มเี ครอื่ งวดั อณุ หภูมิ มเี ซนเซอร์ เซนเซอรว์ ดั อุณหภูม)ิ

11. ครสู อบถามนักเรียนวา่ “นักเรยี นรจู้ ักเซนเซอร์อะไรบ้าง หรือเคยเหน็ เซนเซอรใ์ นอุปกรณไ์ หนบ้าง

(แนวคำตอบ ข้นึ อยู่กบั ดุลยพินิจของครูผ้สู อน)

12. ครูแนะนำบอรด์ micro:bit (ไมโครบิท) ทมี่ ีเซนเซอรห์ ลากหลายสามารถนำมาใชพ้ ัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้

โดยให้นักเรยี นเปิดหนังสอื วิชาวิทยาการคำนวณ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 หนา้ 79-8 เร่ือง ตวั อย่างอปุ กรณ์

สำหรบั เทคโนโลยี IoT และยกตัวอยา่ งอปุ กรณ์ ไมโครบิท พรอ้ มบอก ส่วนประกอบเบ้ืองตน้ (กรณีที่โรงเรียน

มี micro:bit ใหค้ รแู จกบอร์ด micro:bit ใหน้ กั เรียนทำความรู้จกั )

13. ครูให้นักเรยี นเปดิ หนังสือวิชาวิทยาการคำนวณ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 หน้า 82 จากนน้ั ครูอธบิ ายตัวอยา่ ง

แนวคิดการพฒั นาเทคโนโลยี IoT โดยใช้บอรด์ ไมโครบิทเป็นอุปกรณ์ในการวดั อุณหภมู ิแล้วส่งข้อมลู มา

บนแทบเลท็ ซงึ่ เป็นสว่ นแสดงผลและใชแ้ ทปเล็ทเปน็ อปุ กรณ์เพ่ือควบคุมการทำงานของพัดลมไดโ้ ดยกด

ปมุ่ สง่ั งาน A บนแทปเลท็ เพ่ือเปดิ พัดลม พร้อมขนึ้ สถานะเลข 1 บนบอรด์ ไมโครบทิ ให้ผ้ใู ชร้ ้สู ถานะการ
ทำงานของพดั ลมได้ และกดปุ่มงาน B เพื่อปดิ พดั ลมพรอ้ มขึ้นสถานะ0 บนบอร์ดไมโครบิท
14. ครตู ง้ั คำถามกับนักเรียนว่าจากแนวคิดนี้หากให้นกั เรยี นปรับใชแ้ ละพฒั นาต่อนักเรียนจะนำแนวคดิ ไป
พฒั นาต่ออย่างไร สุ่มนักเรยี นตอบคำถาม 3-5 คน
15. ครใู ห้นักเรยี นจบั คู่กนั จากนนั้ ทำแบบฝึกหัดแบบฝึกหัด หน้า 55 ข้อที่ 6 โดยแต่ละคู่เลือกแค่ 1 แนวคิด
จากแบบฝึกหดั ข้อ 5 นำแนวคิดในการพัฒนาเทคโนโลยี IoT มาปรบั ปรุงต่อโดยประยุกต์ใชค้ วามสามารถ
จากบอรด์ ไมโครคอนโทรลเลอร์

ช่ัวโมงท่ี 4

ขั้นสอน (40 นาท)ี

16. จากชัว่ โมงท่ผี ่านมาครใู หน้ ักเรียนแต่ละคู่เลอื กแนวคิดการพฒั นาเทคโนโลยี IoT แล้ว ในช่ัวโมงนคี้ รูให้
นกั เรยี นลงมอื ทำแบบฝึกตามเวลาทกี่ ำหนด

17. ครูให้แต่ละคู่ออกมานำเสนอแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของตนเอง และใหเ้ พ่อื นในช้ันเรยี นร่วมกัน
แลกเปลย่ี นความคิดเหน็

18. เมื่อนำเสนอเสรจ็ แลว้ ให้คณุ ครถู ามทุกควู่ ่า “จากทเ่ี ราไดแ้ ลกเปล่ยี นความคดิ เห็นและฟังการนำเสนอ
แนวคดิ ค่อู ืน่ แล้ว นกั เรียนคดิ ว่าอยากปรับปรุงแนวคดิ การพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของคู่ตนเองอย่างไร”

ข้นั สรปุ (10 นาที)

1. ครูให้นกั เรียนชว่ ยกันสรปุ แนวคดิ ของเทคโนโลยี IoT
2. ครถู ามนกั เรียนว่าจากการฟังแนวคิดของเพื่อนในชั้นเรียนมแี นวคิดใดน่าสนใจ หรือแนวคิดใดที่มีประโยชน์

ในชีวิตประจำวันได้จริงบา้ ง
3. ครูสรุปแนวคดิ และองคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ใหน้ กั เรียนฟงั พรอ้ มทั้งเน้นถึงความสำคัญเร่อื ง

ประโยชน์การใชง้ านจรงิ ในชีวติ ประจำวัน
4. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดเรอื่ ง เทคโนโลยี IoT หน้า 56 ข้อ 7

เร่ืองที่ 2 : ซอฟตแ์ วรท์ ใี่ ชใ้ นการพฒั นาแอปพลเิ คชนั เวลา 4 ชั่วโมง

รปู แบบการสอนแบบการอภปิ ราย
วธิ กี ารสอนโดยเน้นกระบวนการกลมุ่ (Group Process–Based Instruction)
วิธกี ารสอนโดยใช้การแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing)
วธิ ีการสอนโดยใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณ (Computational Thinking)

ขัน้ นำ (10 นาท)ี

1. ครสู นทนากับนักเรียนวา่ ถา้ สมมตินกั เรียนไปเท่ียวตา่ งประเทศ นักเรยี นคาดวา่ ตอ้ งใชเ้ งินประมาณเทา่ ไร
2. จากนัน้ ครถู ามต่อวา่ จำนวนเงนิ ทนี่ ักเรยี นบอกเปน็ สกลุ เงนิ ไทย หรอื สกุลเงินประเทศทต่ี ้องการไปเที่ยว
3. ครถู ามว่าแล้วนักเรยี นสามารถแปลงจำนวนเงนิ บาทเปน็ สกุลเงินของต่างประเทศอยา่ งไร

(แนวคำตอบ สามารถคำนวณได้ด้วยโปรแกรมท่ีอยู่บนออนไลน์ หรือแอพพิเคชั่นบนมือถือและแท็ปเลท
นอกจากนนั้ ยงั สามารถคำนวณไดโ้ ดยดูจากการแปลงอตั ราแลกเปลยี่ นคา่ เงินประจำวัน)
4. ครูสอบถามวา่ นักเรียนเคยสงสัยไหมว่าโปรแกรมเหล่านท้ี ำงานอย่างไร
(แนวคำตอบ : การแปลงคา่ เทยี บค่าเงนิ ดูจากอตั ราแลกเปล่ยี นเงนิ )

ขนั้ สอน (40 นาที)

1. ครกู ล่าวถงึ ลักษณะแบบนี้เปน็ ประโยชน์ของโปรแกรม หรือแอปพลเิ คชันทเี่ ราใช้ในชีวติ ประจำวนั
2. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 หน้า 83 หัวข้อ

การพัฒนาแอปพลเิ คชนั
3. ครอู ธิบายความหมาย และประเภทของแอปพลิเคชัน และยกตัวอย่างแอปพลิเคชันจากในหนังสอื หน้า 84

หรือตามความเหมาะสม
4. ครอู ธิบายเพ่ิมเร่ืองขั้นตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ในหนังสอื เรียนวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้น

มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 หนา้ 85-88
5. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 57-58 ข้อ 1-3 เพื่อตรวจสอบความ

เข้าใจ

ชว่ั โมงที่ 2

ขน้ั ส1อ.น (50 นาท)ี

6. ครูถามนักเรียนว่าจากที่เราพูดถึงจำนวนเงิน และการแปลงสุกลเงินในคาบที่แล้วนักเรียนคาดว่าหาก
ตอ้ งการพัฒนาแอปพลเิ คชันเราจะต้องใชเ้ คร่ืองมือใดบ้าง
(แนวคำตอบ คอมพวิ เตอร์ โปรแกรมภาษาC++ โปรแกรมภาษาPython )

7. ครูอธิบายว่าการพัฒนาโปรแกรมสามารถใช้ภาษาในการเขียน และพัฒนาแอปพลิเคชันได้หลากหลาย
สามารถเลอื กใชไ้ ดต้ ามความถนัด

8. ครูสนทนากบั นักเรียนว่า นักเรยี นได้เรยี นเขียนโปรแกรมภาษาPython เบอ้ื งตน้ มาแล้วในชน้ั มัธยมศกึ ษาปี
ท่ี 2 แล้วรู้หรือไม่ว่าทำไมนักพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันส่วนใหญ่จึงเลือกใช้โปรแกรมน้ี เรามาดู
จุดเด่น จุดด้อยของโปรแกรมภาษาไพทอนกัน (เปิดหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้น
มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 หนา้ 89)

9. ครบู อกนักเรยี นว่า คาบน้ีจะได้ศึกษาการทำงานของโปรแกรมแปลงค่าเงินโดยให้นักเรียนเปิดหนังสอื เรียน
วิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า89 หัวข้อซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนา
แอปพลิเคชน่ั

10. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากน้ันครูอธิบายหน้าที่การทำงานเคร่ืองมือของโปรแกรม เป็นการ
ทบทวนเน้ือหาเดิมที่เรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 (เน้ือหาเดิมในหนังสือวิชา วิทยาการคำนวณ ช้ัน
มัธยมศึกษาปีท่2ี บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท.) หรอื ศึกษาเพม่ิ เตมิ จากใบความรู้เรื่อง If else, while, for
(สามารถดาวนโ์ หลดโปรแกรมได้จากเวบ็ ไซต์ https://codewith.mu/en/download)

ชั่วโมงท่ี 3

ขน้ั ส1อ.น (50 นาที)

11. ครูอธิบายเนื้อหาในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า90-105
เร่ืองโปรแกรมคำนวณหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทย(THB) เป็นเงินดอลลาร์ (USD) และให้นักเรียน
ศึกษาพร้อมทดลองเขียนโปรแกรมตามหนังสือ เพ่ือความเข้าใจโปรแกรมมากข้ึน ให้ศึกษาในใบความรู้
เพม่ิ เติมเรื่องการใชง้ าน GUI ร่วมกบั ภาษาไพทอนในการเขยี นโปรแกรม โดยใช้ Tkinter

12. ครูถามนักเรยี นวา่ จากตัวอย่างท่ีศึกษา สามารถนำแนวคิดการแปลงสกุลเงินไปปรบั เป็นโปรแกรมรูปแบบ
อ่นื ได้หรือไม่ อย่างไรบ้างให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น และบันทกึ รูปแบบท่ีเพ่ือน
นำเสนอแลว้ สนใจลงกระดาษ A4

14. ครสู อบถามวา่ จากการแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ ได้พบข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง

15. ครูให้นักเรียนจับคู่เพื่อแลกเปล่ียนแนวคิดและรูปแบบท่ีนักเรียนสนใจการพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเค
ชัน จากน้ันเลือกแนวคิดที่น่าสนใจ 1 อย่างเพ่ือเขียนรายละเอียดการทำงานตามขั้นตอนการพัฒนาแอป
พลเิ คชันดงั กล่าวในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หนา้ 58-59 ขอ้ 4

16. ครูให้นักเรียนนำแนวคิดท่ีได้มาเขียน Flow Chart เพ่ือนำไปพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันในแบบฝึกหัด
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หนา้ 60 ขอ้ 5
ชัว่ โมงที่ 4

ขัน้ ส1อ.น (40 นาที)

17. ครถู ามนักเรียนวา่ จากการเขียน Flow Chart นักเรียนคาดว่าแนวคิดทตี่ นเองเขียนมีโอกาสท่ีจะทำไดจ้ ริง
หรือไม่

18. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะคู่นำเสนอแนวคดิ และผงั งาน (Flowchart) ของตนเองหน้าช้ันเรียน ใหเ้ พอ่ื น
รว่ มกันแลกเปลีย่ นความคิดเห็น พร้อมทั้งครคู อยใหค้ ำแนะนำ จากนัน้ ใหน้ ำไปปรับปรงุ แกไ้ ข

ขัน้ สรุป (10 นาที)

1. ให้นักเรียนยกตัวอย่างแอปพลิเคชันท่ีมีประโยชน์ของในชีวิตประจำวัน โดยการตอบคำถามในแบบฝึกหัด
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หน้า 66 ขอ้ 7

เรือ่ งที่ 3 : ซอฟต์แวร์ทใ่ี ช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชัน (2) เวลา 6 ชัว่ โมง

รูปแบบการสอนแบบบรรยาย (Lecture)
วิธกี ารสอนโดยใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณ (Computational Thinking)

ข้ันนำ (10 นาท)ี

1. ครูบอกกับนักเรียนว่าจากชั่วโมงท่ีผ่านมาเราทราบดีว่าโปรแกรมท่ีใช้ในการพัฒนาแอปแพลิเคชันมีให้เลือก
หลากหลาย แตโ่ ปรแกรมทนี่ ยิ มกันและเรยี นรู้ได้เรว็ ซึ่ง Python เปน็ ตวั เลือกทีน่ ่าสนใจ

2. ครูสนทนากับนักเรียนว่า “จากตัวอย่างที่นักเรียนลองเขียนโปรแกรมแปลงค่าเงินด้วยโปรแกรมภาษา
Python นักเรียนคิดว่า ฟังก์ชันหรือคำส่ังที่นักเรียนใช้ในการเขียนโปรแกรมข้างต้น เพียงพอสำหรับการ
พฒั นาแอปพลเิ คชันตามแนวคดิ ของนกั เรียนหรอื ไม่”

3. ครสู นทนากับนักเรยี นวา่ “หากเราต้องการพัฒนาแอปแพลิเคชันด้วย Python จะต้องเรียนรู้อะไรบา้ ง
(แนวคำตอบ โปรแกรมท่ใี ชเ้ ขยี น เช่น Mu, คำสั่งใหโ้ ปรแกรมแสดงผล, เรยี นรู้คำสั่งif-else, คำสงั่ loop)

ข้นั สอน (40 นาที)

1. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากนั้นครูอธิบายหน้าท่ีการทำงานเครื่องมือของโปรแกรม (เนื้อหาเดิมใน
หนงั สือวิชา วทิ ยาการคำนวณ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่2)
(สามารถดาวนโ์ หลดโปรแกรมได้จากเวบ็ ไซต์ https://codewith.mu/en/download )

2. ครูทบทวนการเขียนโปรแกรมคำสัง่ print เพือ่ สั่งให้โปรแกรมแสดงผลตัวเลขและขอ้ ความ
3. ครูทบทวนการเขียนโปรแกรมโดยใช้ variable ด้วยตัวเลข และข้อความเพ่ือการแสดงผล
4. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า กรณีที่สร้างตัวแปรของตัวเลข เช่น A = 5 กับ C = “5” แสดงผลออกมาเป็นเลข 5

เหมือนกัน แต่ความหมายต่างกัน A เป็นตัวแปรของตัวเลข ส่วน C เป็นตัวแปรของตัวอักษรหรือข้อความ
เพราะมสี ัญลกั ษณ์ “”
5. จากนัน้ ครทู บทวนรปู แบบรหัสขอ้ มลู (Format Code) เพมิ่ เตมิ จากทีเ่ คยเรยี นผา่ นมาแลว้ ในระดับชน้ั ม.2
6. ครูให้นกั เรยี นทำใบงาน เร่ือง ตัวแปรและตวั ดำเนินการ

ชวั่ โมงท่ี 2

ขัน้ ส2อ.น (50 นาที)

7. ครูถามคำถามเพื่อทบทวนนักเรียนว่าจากการเรียนเรื่องการใช้งานตัวแปรเพ่ือการดำเนินการทาง
คณิตศาสตร์ มีขอ้ มลู ตวั เลขแบบไหนบา้ งท่ีสามารถนำมาดำเนนิ การทางคณติ ศาสตร์ได้
(แนวคำตอบ จำนวนเงิน อุณหภูมิ น้ำหนัก ส่วนสูง เป็นตัวเลขท่ีมีค่าสามารถนำมาดำเนินการทาง
คณติ ศาสตร์ได้ )

8. จากนัน้ ครทู บทวนการใชง้ านคำสัง่ การรับข้อมลู จากแป้นพิมพ์ input

9. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง การเขียนใช้คำสั่งแสดงผล อินพุต และเอาต์พุต และแบบฝึกหัด
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หน้า 61 ข้อ 6.1

10. ครสู อบถามนกั เรยี นว่าฟังก์ชัน input ทำงานอยา่ งไร
(แนวคำตอบ เป็นการรับขอ้ มลู จากแปน้ พมิ พ์ หรอื นำเข้าขอ้ มลู จากแปน้ พิมพ์)

ชั่วโมงท่ี 3

ขน้ั ส2อ.น (50 นาท)ี

11. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขียนโปรแกรมคำสั่งท่ีเรียนมา หากครูต้องการเขียนโปรแกรมจัดลำดับ
ความนิยมของร้านอาหารโดยใช้ข้อมูลจากระดับความพอใจในการใช้บริการ 5 ระดับ นักเรียนคิดว่า
สามารถทำได้หรือไม่
(แนวคำตอบ ไมส่ ามารถทำได้เนอื่ งจากเรยี นคำสั่งการดำเนินการแลว้ แตย่ ังไมม่ คี ำสงั่ ในการตรวจสอบคา่ )

12. ครูสอนนกั เรยี นใชง้ านคำส่ัง if-else
13. จากน้ันครูให้นักเรียนทำใบงาน เร่ือง การทำงานแบบมีเง่ือนไข และแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการ

คำนวณ) หนา้ 62 ขอ้ 6.2
14. ครถู ามนกั เรยี นวา่ สามารถนำความรู้ทีเ่ รียนไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวันได้อยา่ งไรบ้าง

(แนวคำตอบ การเขียนโปรแกรมตัดเกรด เขยี นโปรแกรมBMI เปน็ ตน้ )

ชว่ั โมงที่ 4

ขน้ั ส1อ.น (50 นาที)

15. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขียนโปรแกรมที่ผ่านมา หากครูต้องการให้นักเรียนเขียนโปรแกรมเพื่อ
แสดงช่ือตนเอง 100 บรรทัด นักเรียนคดิ วา่ ตอ้ งเขียนคำสั่งเยอะหรอื ไม่
(แนวคำตอบ เยอะ เน่ืองจากตอ้ งเขยี นคำสง่ั บรรทดั ต่อบรรทัดในการแสดงผล )

16. ครบู อกทม่ี าและอธบิ ายเรอ่ื งการใชง้ านคำสง่ั ทำซ้ำและคำสัง่ อน่ื ๆ ได้แก่ while , for
17. ครูสอนนักเรียนใชง้ านคำสงั่ while / for
18. ครใู หน้ ักเรียนทำใบงาน เรอ่ื ง การทำซ้ำ แบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หนา้ 63 -65

ข้อ 6.3 - 6.5
19. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคำสงั่ ในการเขยี นโปรแกรมทไี่ ดเ้ รยี นท้งั หมด พรอ้ มบอกหน้าท่ขี องแตล่ ะคำสงั่

ช่วั โมงที่ 5

ข้นั ส1อ.น (50 นาท)ี

20. จากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 ครูให้นักเรียนแต่ละคู่นำเสนอแนวคิดและผังงาน (Flowchart) ของตนเอง

หน้าช้ันเรียน ให้เพ่ือนร่วมกันแลกเปล่ียนความคิดเห็น พร้อมทั้งครูคอยให้คำแนะนำ จากนั้นให้นำไป

ปรับปรงุ แกไ้ ข

21. ในคาบนี้ครูให้นักเรียนนำแนวคิดท่ีปรับปรุงแล้วมาพัฒนาต่อเพื่อเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันด้วย

ภาษา Python หรอื นกั เรียนจะออกแบบแนวคิดการพัฒนาโปรแกรมหรอื แอปพลเิ คชันใหม่กไ็ ด้

22. ครูให้นักเรยี นลงมอื เขียนโปรแกรมหรอื แอปพลิเคชนั ด้วยภาษา Python

ชัว่ โมงท่ี 6

ขั้นส1อ.น (40 นาท)ี

23. ครใู หน้ ักเรยี นลงมือเขยี นโปรแกรมหรือแอปพลเิ คชนั ดว้ ยภาษา Python (ตอ่ )
24. ครูใหน้ ักเรียนทดสอบโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาด

ข้นั สรุป (10 นาที)

1. ครูให้นักเรียนแต่ละคู่นำเสนอโปรแกรมหรือแอปพลิเคชนั ให้เพ่ือนร่วมกันแลกเปล่ียนความคดิ เห็น พร้อม
ทง้ั ครคู อยให้คำแนะนำเพม่ิ เตมิ

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2
2. หนังสือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เร่อื ง แอปพลเิ คชนั
3. แบบฝึกหดั (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรื่อง แอปพลเิ คชนั
4. โปรแกรม Mu
5. ใบความรู้ เรือ่ ง การใชค้ ำส่ังแสดงผลอินพุต และเอาต์พตุ
6. ใบความรู้ เรื่อง ตวั แปรและตัวดำเนินการ
7. ใบความรู้ เรือ่ ง การทำงานแบบมีเงื่อนไข
8. ใบความรู้ เรอื่ ง การทำซำ้
9. ใบงานที่ 4.3.1 เร่ือง ตวั แปรและตัวดำเนนิ การ
10. ใบงานท่ี 4.3.2 เร่อื ง การใชค้ ำส่งั แสดงผลอินพตุ และเอาต์พุต
11. ใบงานท่ี 4.3.3 เรือ่ ง การทำงานแบบมีเงื่อนไข

12. ใบงานที่ 4.3.4 เรือง การทำซำ้
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้

1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอร์เน็ต

แบบทดสอบก่อนเรยี น

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4

คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. หากระบบควบคมุ แอร์อาคารแห่งหน่งึ ถกู ออกแบบ 8. หากตอ้ งการเปลย่ี นโปรแกรมตอ่ ไปนใี้ หร้ ับคา่ เฉพาะจำนวนเต็ม

ใหเ้ ชอ่ื มเข้าอินเทอรเ์ นต็ โดยอาศยั wifi เพอ่ื ใหส้ งั่ งาน สามารถทำไดด้ ้วยวธิ ใี ด

การเปดิ -ปดิ แอร์ได้จากมอื ถอื จากการสอื่ สารดว้ ยอินเทอร์เนต็

ถือว่าเป็นลักษณะของเทคโนโลยี IoT หรือไม่ เพราะเหตุใด

ก. ไม่ใช่ เพราะ ต้องมีอุปกรณ์มากกวา่ หน่ึงอย่างท่ี

เชอื่ มเขา้ กับระบบ wifi และอนิ เทอรเ์ น็ต

ข. ใช่ เพราะ ระบบแอร์เชือ่ มกับสญั ญาณ wifi และอนิ เทอรเ์ นต็

ค. ใช่ เพราะ ระบบแอรเ์ ชือ่ มกับอินเทอร์เนต็ และการสั่งงาน ก. บรรทดั ที่6 เป็น dollar = baht / rate (int)

จากมือถอื ได้ ข. บรรทดั ท่ี4และ5

ง. ไมใ่ ช่ เพราะ ระบบการทำงานของเทคโนโลยตี อ้ งเชื่อมกับ เปน็ rate = float(int('ปอ้ นอตั ราแลกเปลย่ี นเงนิ บาทไทยตอ่

อปุ กรณ์ไฟฟ้ามากกว่าหน่งึ ชนดิ 1 ดอลลาร์ : ') rate = float(int('ป้อนจำนวนเงินบาทไทย : ')

2. ข้อใดไมใ่ ช่องคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ค. บรรทัดท่ี4และ5

ก. Compiler ข. Dashboard เปน็ rate = int(input('ป้อนอตั ราแลกเปลยี่ นเงนิ บาทไทยต่อ 1

ค. Smart Device ง. Cloud Computing ดอลลาร์ : ') rate = int(input('ปอ้ นจำนวนเงนิ บาทไทย : ')

3. หากกำลังพูดถงึ “แอปพลิเคชั่นระบบและแอปพลิเคชัน ง. บรรทดั ที8่ เป็น print('คำนวณเปน็ เงินดอลลาร์ได้ : %.f ดอลลาร์'

ที่ตอบสนองตอ่ ความต้องการผใู้ ช”้ แสดงว่าผู้พูดกำลังพูดถงึ % dollar)

เร่อื งอะไร 9. หากต้องการตวั แปรเก็บขอ้ ความคำวา่ Welcome to program

ก. ประเภทของผงั งาน ข. ประเภทของแอปพลิเคชัน และคา่ ตัวเลข 497 ขอ้ เขยี นคำสั่งได้ถูกตอ้ ง

ค. ขั้นตอนการเขียนของผังงาน ง. ข้ันตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชัน ก. text = Welcome to program , x = 497

4. “Windows Android Linux” ข้อใดเกีย่ วข้องกบั ข้อความ ข. text = Welcome to program ; x = "497"

ดังกล่าว ค. text = "Welcome to program" ; x = 497

ก. แอปพลเิ คช่นั บราวเซอร์ ข. แอปพลเิ คช่ันบรกิ าร ง. text = "Welcome to program" , x = "497"

ค. แอปพลิเคชันเทคนิค ง. แอปพลิเคชันระบบ 10. ข้อใดจะใหผ้ ลลพั ธเ์ ปน็ การแสดงผลคำว่า Application 3 รอบ

5. ขอ้ ใดคอื ขน้ั ตอนแรกของขัน้ ตอนการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ก. ข.

ก. กำหนดปัญหา ข. วเิ คราะห์ปญั หา

ค. ศกึ ษาความเป็นไปได้ ง. วิเคราะหค์ วาม

6. คำส่ัง print() จะใหผ้ ลลัพธก์ ารทำงานอย่างไร

ก. แสดงผลบนเวบ็ ไซต์ ข. แสดงผลบนหน้าจอ ค. ง.

ค. แสดงผลบนบราวเซอร์ ง. แสดงผลผา่ นเครื่องพมิ พ์

7. หากตอ้ งการให้โปรแกรมแสดงผลคำวา่ Monday ต้องกรอก

เลขใดในโปรแกรม

ก. เลข 1

ข. เลข 2

ค. เลข 3

ง. เลข 4

เฉลย

1. ค 2. ก 3. แขบบ4ท.ดงสอบ5.หกลงั เร6ยี. ขน 7. ข 8. ค 9. ค 10. ง

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4

คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. หากต้องการตัวแปรเกบ็ ขอ้ ความคำว่า Welcome to 6. ข้อใดจะให้ผลลัพธ์เป็นการแสดงผลคำวา่ Application 3 รอบ
ก. ข.
program และคา่ ตวั เลข 497 ขอ้ เขียนคำส่งั ไดถ้ กู ต้อง
ค. ง.
ก. text = Welcome to program , x = 497
7. หากตอ้ งการให้โปรแกรมแสดงผลคำวา่ Monday ต้องกรอกเลข
ข. text = Welcome to program ; x = "497" ใดในโปรแกรม

ค. text = "Welcome to program" ; x = 497 ก. เลข 1
ข. เลข 2
ง. text = "Welcome to program" , x = "497" ค. เลข 3
ง. เลข 4
2. ขอ้ ใดคือข้ันตอนแรกของข้นั ตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน่ 8. หากกำลงั พูดถึง “แอปพลิเคช่ันระบบและแอปพลิเคชัน
ทตี่ อบสนองตอ่ ความตอ้ งการผู้ใช้” แสดงว่าผู้พูดกำลงั พดู ถงึ เรอ่ื ง
ก. กำหนดปญั หา ข. วเิ คราะหป์ ญั หา อะไร
ก. ประเภทของผังงาน ข. ประเภทของแอปพลเิ คชนั
ค. ศกึ ษาความเป็นไปได้ ง. วเิ คราะหค์ วามต้องการ ค. ข้นั ตอนการเขยี นของผังงาน ง. ข้ันตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชนั
9. “Windows Android Linux” ข้อใดเก่ยี วขอ้ งขอ้ ใด
3. หากตอ้ งการเปลย่ี นโปรแกรมตอ่ ไปน้ใี ห้รบั ค่าเฉพาะจำนวน ก. แอปพลเิ คช่ันบราวเซอร์ ข. แอปพลิเคชั่นบรกิ าร
ค. แอปพลเิ คชันเทคนคิ ง. แอปพลิเคชันระบบ
เต็มสามารถทำไดด้ ้วยวธิ ีใด 10. หากระบบควบคมุ แอรอ์ าคารแห่งหน่งึ ถกู ออกแบบ
ให้เชื่อมเข้าอินเทอร์เน็ตโดยอาศยั wifi เพื่อให้สง่ั งาน
ก. บรรทดั ที่6 เปน็ dollar = baht / rate (int) การเปดิ -ปดิ แอรไ์ ดจ้ ากมือถือจากการส่ือสารด้วยอนิ เทอรเ์ นต็ ถือว่า
เป็นลกั ษณะของเทคโนโลยี IoT หรือไม่ เพราะเหตุใด
ข. บรรทัดที่4และ5 ก. ไมใ่ ช่ เพราะ ต้องมีอปุ กรณ์มากกวา่ หน่ึงอยา่ งที่
เชื่อมเขา้ กับระบบ wifi และอินเทอรเ์ นต็
เปน็ rate = float(int('ปอ้ นอตั ราแลกเปลย่ี นเงนิ บาทไทยต่อ ข. ใช่ เพราะ ระบบแอรเ์ ชื่อมกับสญั ญาณ wifi และอนิ เทอรเ์ นต็
ค. ใช่ เพราะ ระบบแอรเ์ ชือ่ มกับอนิ เทอรเ์ นต็ และสงั่ งานจากมือถอื
1 ดอลลาร์ : ') rate = float(int('ปอ้ นจำนวนเงินบาทไทย : ') ง. ไมใ่ ช่ เพราะ ระบบการทำงานของเทคโนโลยตี ้องเชอื่ มกับอปุ กรณ์
ไฟฟ้ามากกว่าหนง่ึ ชนดิ และสามารถควบคุมได้ทุกอปุ กรณ์
ค. บรรทัดที่4และ5

เปน็ rate = int(input('ป้อนอตั ราแลกเปลยี่ นเงนิ บาทไทยต่อ 1

ดอลลาร์ : ') rate = int(input('ปอ้ นจำนวนเงินบาทไทย : ')

ง. บรรทัดท่8ี เป็น print('คำนวณเปน็ เงนิ ดอลลาร์ได้ : %.f

ดอลลาร์' % dollar)

4. คำสั่ง print() จะให้ผลลพั ธ์การทำงานอยา่ งไร

ก. แสดงผลบนเวบ็ ไซต์ ข. แสดงผลบนหน้าจอ

ค. แสดงผลบนบราวเซอร์ ง. แสดงผลผ่านเครือ่ งพมิ พ์

5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่องคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT

ก. Compiler ข. Dashboard

ค. Smart Device ง. Cloud Computing

เฉลย 1. ค 2. ก 3. ค 4. ข 5. ก 6. ง 7. ข 8. ข 9. ง 10. ค

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 แอปพลิเคชัน เวลา 14 ช่วั โมง

เร่ือง แนวคดิ และองคป์ ระกอบของ IoT เวลา 4 ช่วั โมง

รายวชิ า คอมพวิ เตอร์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3

1. ผลการเรียนรู้

1. เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

2. เพื่อให้ผเู้ รียนมที กั ษะการคิดเชงิ คำนวณ การคดิ วิเคราะห์ การแกป้ ัญหาเปน็ ขนั้ ตอน และเปน็

ระบบ

3. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมีทักษะในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ รกั ษาข้อมูลสว่ นตัว และการสอื่ สารเบอื้ งต้น

ในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

4. เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รยี นนำความรคู้ วามเขา้ ใจในวชิ าวทิ ยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยใี หม่ทีเ่ กิดขึน้ ไปใชใ้ ห้เกดิ

ประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต

5. เพื่อให้ผเู้ รยี นพฒั นากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการ

จดั การทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตดั สนิ ใจ

6. เพ่ือให้ผู้เรยี นเปน็ ผู้มีจิตวทิ ยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายแนวคิดและองคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ได้ (K)

2. ออกแบบแนวคิดเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้ (P)

3. ยกตวั อย่างประโยชนข์ องเทคโนโลยี IoT ในชวี ิตประจำวนั ได้ (A)

3. สาระสำคญั

การทำให้อปุ กรณห์ ลายตวั สามารถสือ่ สาร แลกเปลยี่ นข้อมูล และทำงานรว่ มกันได้นนั้ เรยี กว่า

เทคโนโลยี IoT ต้องอาศยั ความสามารถของ Smart Device ซ่ึงอปุ กรณ์ที่มีหนว่ ยประมวลผล หรือเซนเซอร์

ภายในตัว เพื่อสง่ ข้อมูลผา่ น Cloud Computing หรือ Wireless Network เป็นตัวกลางในการรับสง่ ข้อมลู

ภายในเครอื ข่ายเพื่อประมวลผล และอาศัย Dashboard สำหรับแสดงผลและใชค้ วบคุมการทำงานจากผใู้ ช้

4. สาระการเรยี นรู้

1. แนวคิดของเทคโนโลยี IoT

2. องค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT

3. อุปกรณท์ ่ีใชส้ ำหรับพฒั นาเทคโนโลยี IoT

4. ขอ้ ดีข้อเสียของเทคโนโลยี IoT

5. รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน

1. วธิ ีการสอนแบบการใชค้ ำถาม (Questioning Method)

2. วธิ กี ารสอนโดยใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณ (Computational Thinking)

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ซ่ือสตั ย์ สุจรติ
 ความสามารถในการส่อื สาร  ใฝเ่ รียนรู้
 ความสามารถในการคิด  มุ่งม่ันในการทำงาน
 ความสามารถในการแก้ปัญหา  มจี ติ สาธารณะ
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. ทกั ษะ 4Cs
 ทักษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking)
 ทักษะการทำงานรว่ มกัน (Collaboration Skill)
 ทกั ษะการส่ือสาร (Communication Skill)
 ทกั ษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking)

8. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
 รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
 มวี ินัย
 อยู่อยา่ งพอเพยี ง
 รักความเป็นไทย

9. การจดั กระบวนการเรยี นรู้

ชั่วโมงที่ 1

1. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง แอปพลเิ คชนั เพ่ือวัดความรู้เดิมของ
นักเรยี นก่อนเข้าสู่กจิ กรรม

ขนั้ นำ (5 นาท)ี
1. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นวา่ “นกั เรยี นรู้จกั เทคโนโลยี IoT หรือไม่”
ขัน้ สอน (30 นาที)
1. ครใู ห้นักเรียนเปดิ หนงั สือวชิ าวทิ ยาการคำนวณ บริษทั อักษรเจริญทศั น์ อจท ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 หนา้ 77

เรื่อง เทคโนโลยี IoT
2. ครูถามนักเรียนวา่ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือเครือขา่ ยไร้สายมปี ระโยชน์กับชีวิตเราอย่างไร

(แนวคำตอบ เชน่ สัญญาณ3G 4G ทำใหเ้ ขา้ ถงึ อนิ เทอร์เน็ตไดส้ ะดวก)
3. ครถู ามต่อว่าถา้ สมมตมิ ือถือ หรือคอมพิวเตอร์ แลปทอปของเราไม่มีความสามารถในการเชือ่ มต่อเครอื ขา่ ย

อินเทอรเ์ น็ตได้ นักเรยี นคดิ วา่ จะมผี ลกระทบต่อชีวติ อย่างไร
(แนวคำตอบ ค้นหาข้อมลู ได้ยาก แลกเปลย่ี นข้อมลู กันชา้ เนื่องจากไม่มอี ินเทอร์เนต็ ไม่สามารถอปั เดต
ข่าวสารได้ Real time)

4. ครอู ธิบายวา่ ยคุ ก่อนหนา้ น้มี ือถือ และคอมพวิ เตอร์ของเรายังไม่มีความสามารถในการเข้าถึงอนิ เทอรเ์ นต็
แต่ปัจจบุ นั อปุ กรณเ์ หลา่ น้ีแทบทกุ เคร่ืองจะมคี วามสามารถในการเชื่อมตอ่ เครือขา่ ยเข้าหากันได้ เชน่
Bluetooth , Wifi Internet ทำให้อปุ กรณห์ ลายชิ้นเชือ่ มต่อกนั จงึ ทำใหส้ ามารถแลกเปลีย่ นขอ้ มูลกันได้
อย่างรวดเร็ว

5. ครอู ธบิ ายว่าลักษณะการทำใหอ้ ปุ กรณห์ ลายช้นิ เชื่อมตอ่ เข้าหากนั ผา่ นเครือขา่ ย และทำการแลกเปลยี่ น
ขอ้ มูลกันเพ่ือให้ใช้ประโยชนไ์ ดม้ ากข้นึ เป็นแนวคดิ ท่ีคลา้ ยกับเทคโนโลยี IoT

6. ครูอธิบายแนวคดิ จุดกำเนิด และองค์ประกอบของของเทคโนโลยี IoT ในหนงั สอื วิชาวิทยาการคำนวณ ชน้ั
มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 หน้า 77-78 เร่อื ง เทคโนโลยี IoT และองค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT วา่ เป็นการทำให้
อปุ กรณ์ต่าง ๆ มหี น่วยประมวลผลและความสามารถในการเช่อื มตอ่ กบั อุปกรณ์อ่นื ได้ โดยไม่ต้องพง่ึ พา
ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลและการเชอ่ื มต่อกับอุปกรณ์อ่นื จึงทำใหอ้ ุปกรณ์สามารถ
ส่งผ่านขอ้ มลู ระหวา่ งกันได้โดยตรง เชน่ เครื่องพิมพ์ทเ่ี ชื่อมเขา้ ระบบ wifi และสัง่ ปริน้ ท์งานผ่านระบบ
wifi ไม่จำเปน็ ต้องเช่ือมเครื่องพิมพ์กับคอมพิวเตอรอ์ ีกต่อไป
แต่สามารถสัง่ งานจากอุปกรณใ์ ดก็ได้ทเี่ ชื่อมวงเครือข่าย wifi เดยี วกัน

ชว่ั โมงที่ 2

ขนั้ สอน (50 นาที)
7. ครูถามนกั เรียนวา่ หากเราสามารถพฒั นาเทคโนโลยี IoT ดว้ ยตนเองไดน้ ักเรยี นคดิ ว่าจะนำอปุ กรณ์

อเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ ดมาเช่ือมต่อเครือขา่ ย และจะใช้ประโยชนจ์ ากการเชื่อมตอ่ เข้าเครือข่ายของอุปกรณ์น้ัน
อยา่ งไร สุม่ นักเรยี นตอบคำถาม3-5คน
(แนวคำตอบ แอร์เช่ือมเน็ตแลว้ เช็คอุณหภูมิจากท่ีไหนก็ได้จากนน้ั กส็ ั่งเปิด-ปดิ แอรต์ อนไหนกไ็ ด้)
8. ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ เกีย่ วกับแนวคดิ ของ IoT เรือ่ งองคป์ ระกอบทสี่ ำคัญทัง้ 3 ส่วนไดแ้ ก่

1) Smart Device ใช้นำเข้าข้อมูลจากเซนเซอร์
2) Cloud Computing หรือ Wireless Network เพอ่ื ใช้เป็นส่อื กลางในการรบั ส่งข้อมูล
3) Dashboard เพื่อใชส้ ื่อสารกบั ผ้ใู ช้
ดงั นน้ั นอกจากอุปกรณจ์ ะสามารถเชอ่ื มต่อเขา้ เปน็ เครือขา่ ยเดียวกนั ได้แล้วจะต้องมสี ว่ นติดต่อท่ีใช้ควบคมุ
การทำงานภายในระบบไดด้ ว้ ย เช่น สั่งสตาร์ทรถผ่านมือถือโดยใชส้ ือ่ กลางเปน็ ระบบอนิ เทอร์เนต็ เปิด-ปิด
เครือ่ งใช้ไฟฟ้าภายในบา้ นด้วยเครอื ข่ายไรส้ าย Wifi
9. ครูให้นักเรียนวาดแผนผังการทำงานตามแนวคดิ ของเทคโนโลยี IoT และเขยี นแนวคดิ การประยุกต์ใช้
เทคโนโลยี IoT ในชวี ติ ประจำวนั ในแบบฝึกหดั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 เรอื่ ง เทคโนโลยี หนา้ 53-55 ข้อ 1-5
(แนวคิดเชิงคำนวณ : ในส่วนการแยกย่อย Decomposition นักเรียนฝกึ กระบวนการแยกองค์ประกอบ
โดยการเขียนองคป์ ระกอบย่อยของเทคโนโลยีในรปู แบบแผนผัง)

ชว่ั โมงที่ 3
ขั้นสอน (50 นาที)
10. ครสู อบถามนกั เรียนวา่ สงสยั หรอื ไม่ แอร์ที่บา้ นเรารู้อุณหภมู ิว่าเปน็ กอ่ี งศาภายในบา้ นได้อยา่ งไร

(แนวคำตอบ มีตัวตรวจจบั มีเครอ่ื งวัดอณุ หภมู ิ มีเซนเซอร์ เซนเซอร์วัดอุณหภมู )ิ
11. ครูสอบถามนักเรียนวา่ “นกั เรียนรู้จักเซนเซอร์อะไรบ้าง หรือเคยเหน็ เซนเซอรใ์ นอุปกรณไ์ หนบ้าง

(แนวคำตอบ ข้นึ อยู่กบั ดุลยพินิจของครูผู้สอน)
12. ครแู นะนำบอร์ด micro:bit (ไมโครบิท) ทมี่ ีเซนเซอรห์ ลากหลายสามารถนำมาใช้พัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้

โดยให้นักเรียนเปดิ หนังสอื วชิ าวทิ ยาการคำนวณ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 หนา้ 79-8 เร่ือง ตัวอยา่ งอุปกรณ์
สำหรับเทคโนโลยี IoT และยกตวั อยา่ งอปุ กรณ์ ไมโครบิท พรอ้ มบอกสว่ นประกอบเบื้องต้น (กรณีท่ี
โรงเรยี นมี micro:bit ใหค้ รูแจกบอรด์ micro:bit ใหน้ ักเรียนทำความรูจ้ กั )
13. ครใู หน้ ักเรยี นเปดิ หนงั สือวิชาวิทยาการคำนวณ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 หนา้ 82 จากนนั้ ครอู ธิบายตวั อยา่ ง
แนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT โดยใชบ้ อร์ดไมโครบิทเป็นอปุ กรณ์ในการวดั อณุ หภูมิแล้วส่งขอ้ มลู มา
บนแทบเลท็ ซ่ึงเปน็ ส่วนแสดงผลและใช้แทปเลท็ เปน็ อุปกรณ์เพ่ือควบคุมการทำงานของพดั ลมได้โดยกด
ปุ่มส่งั งาน A บนแทปเลท็ เพื่อเปิดพดั ลม พร้อมขึน้ สถานะเลข 1 บนบอร์ดไมโครบทิ ให้ผ้ใู ชร้ ้สู ถานะการ
ทำงานของพัดลมได้ และกดปุ่มงาน B เพื่อปดิ พัดลมพรอ้ มขน้ึ สถานะ0 บนบอร์ดไมโครบิท
14. ครตู ั้งคำถามกบั นักเรยี นว่าจากแนวคดิ นหี้ ากใหน้ กั เรยี นปรับใช้และพัฒนาต่อนักเรยี นจะนำแนวคดิ ไป
พัฒนาต่ออย่างไร สมุ่ นักเรยี นตอบคำถาม 3-5 คน
15. ครใู หน้ กั เรียนจบั คู่กนั จากน้นั ทำแบบฝึกหัดแบบฝึกหดั หน้า 55 ขอ้ ท่ี 6 โดยแต่ละคเู่ ลือกแค่ 1 แนวคดิ
จากแบบฝกึ หดั ขอ้ 5 นำแนวคิดในการพัฒนาเทคโนโลยี IoT มาปรบั ปรุงต่อโดยประยุกต์ใชค้ วามสามารถ
จากบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์

ชัว่ โมงท่ี 4

ขั้นสอน (40 นาที)
16. จากช่ัวโมงทผี่ า่ นมาครูใหน้ กั เรียนแต่ละคู่เลือกแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT แลว้ ในชัว่ โมงน้ีครูให้

นักเรยี นลงมือทำแบบฝึกตามเวลาท่กี ำหนด
17. ครใู ห้แตล่ ะคอู่ อกมานำเสนอแนวคิดการพฒั นาเทคโนโลยี IoT ของตนเอง และใหเ้ พื่อนในชัน้ เรียนร่วมกัน

แลกเปลย่ี นความคิดเห็น
18. เมื่อนำเสนอเสรจ็ แล้ว ให้คุณครถู ามทุกควู่ ่า “จากท่ีเราได้แลกเปล่ียนความคิดเห็นและฟงั การนำเสนอ

แนวคดิ คูอ่ ่นื แลว้ นักเรยี นคดิ ว่าอยากปรับปรุงแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของคู่ตนเองอย่างไร”
ขน้ั สรปุ (10 นาที)
1. ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปแนวคดิ ของเทคโนโลยี IoT

2. ครถู ามนกั เรยี นวา่ จากการฟังแนวคิดของเพื่อนในชน้ั เรยี นมีแนวคดิ ใดนา่ สนใจ หรือแนวคิดใดที่มปี ระโยชน์
ในชวี ติ ประจำวันได้จริงบา้ ง

3. ครูสรปุ แนวคิด และองคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ให้นกั เรียนฟัง พรอ้ มทัง้ เนน้ ถึงความสำคญั เรือ่ ง
ประโยชน์การใชง้ านจรงิ ในชวี ติ ประจำวัน

4. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดเรอ่ื ง เทคโนโลยี IoT หนา้ 56 ขอ้ 7

10. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง แอปพลเิ คชนั
2. แบบฝึกหัด (วทิ ยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่ือง แอปพลเิ คชัน

11. การวัดและการประเมินผล

11.1 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรม

จุดประสงค์ วิธีการประเมิน เคร่อื งมอื การประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน
แบบประเมนิ อธิบายแนวคิดและ
1.อธิบายแนวคิดและ ตวรจแบบฝึกหัด เร่ือง แบบฝกึ หดั องคป์ ระกอบของ
เรือ่ ง เทคโนโลยี IoT เทคโนโลยี IoT ได้ ใน
องคป์ ระกอบของ เทคโนโลยี IoT (ขอ้ 1-3) ระดบั คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป
1.แบบประเมิน ถอื วา่ ผา่ น
เทคโนโลยี IoT ได้ (K) แบบฝกึ หดั 1.ออกแบบแนวคดิ ในการ
2.แบบประเมนิ พัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้
2.ออกแบบแนวคดิ เพื่อ 1.ตรวจการออกแบบ การนำเสนอ ตรงตามแนวคิดของ
พัฒนาเทคโนโลยี IoT แนวคดิ ในการพัฒนา เทคโนโลยี ในระดบั
ได้ (P) เทคโนโลยี IoT ใน แบบฝึกหัด คุณภาพพอใช้ข้ึนไปถือว่า
แบบฝกึ หัดเรอื่ ง เรือ่ ง เทคโนโลยี IoT ผ่าน
เทคโนโลยี IoT (ขอ้ 5-7) ขอ้ 7 2.นำเสนอแนวคิดในการ
2.ประเมนิ การนำเสนอ พัฒนาเทคโนโลยี IoT ใน
แนวคิดในการพฒั นา ระดับคุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป
เทคโนโลยี IoT ถือวา่ ผ่าน
ยกตวั อยา่ งเทคโนโลยี IoT
3.ยกตวั อยา่ งประโยชน์ ตรวจแบบฝกึ หดั เรอื่ ง ในชีวิตประจำวนั ถูกต้อง
ของเทคโนโลยี IoT ใน เทคโนโลยี IoT (ข้อ 8) 60% ขึ้นไปถอื วา่ ผา่ น
ชีวิตประจำวนั ได้ (A)


Click to View FlipBook Version