คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม
รายวชิ า คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เวลา 20 คาบ จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
คำอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษาการแสดงลำดับข้ันตอนการทำงานหรือแก้ปญั หาอย่างงา่ ย โดยใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์ หรอื ข้อความ
ตลอดจนการเขียนโปรแกรมสร้างลำดับของคอมพิวเตอร์ทำงาน และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม ศกึ ษา
การใช้งานซอฟต์แวรเ์ บื้องตน้ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการสร้าง และจดั การกับขอ้ มูลอยา่ งเปน็ ระบบ
รวมถงึ การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
โดยอาศยั กระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (Problem-Base Learning) เพือ่ เนน้ ให้ผู้เรียนเกิด
การเรยี นรูจ้ ากการฝึกแก้ปญั หาต่าง ๆ ผ่านกระบวนการคดิ การปฏบิ ตั ิอย่างมีระบบ และสรา้ งองค์ความรู้ใหม่
จากการใชป้ ญั หาท่ีเกิดขึ้นจรงิ ในชวี ติ ประจำวนั ได้
ผลการเรียนรู้
1. เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเบือ้ งตน้
2. เพ่อื ให้ผ้เู รยี นมที กั ษะการคดิ เชงิ คำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แกป้ ญั หาเปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบ
3. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นใน
การแกป้ ัญหาทพ่ี บในชีวติ จรงิ ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
4. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการ
ทกั ษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสินใจ
5. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์
รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้
โครงสร้างรายวชิ าเพมิ่ เติม คอมพิวเตอร์ ชนั้ ป.2
ลำดบั ที่ ช่อื หน่วยการ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา
1. เรียนรู้ เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นมี (ชม.)
ความรู้ ความเข้าใจ การแก้ปัญหาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใน
2. การแก้ปัญหาอย่าง ในการใช้เทคโนโลยี ชีวิตประจำวัน เช่น การแก้ปัญหาการ 4
เป็นขั้นตอน สารสนเทศเบอ้ื งต้น เดนิ ทางไปโรงเรียน การทำการบ้าน การเล่น
เกม ดังนั้น จึงต้องเรียนรู้ขั้นตอนการ 3
การตรวจหา เพือ่ ให้ผู้เรยี นมี แก้ปัญหาเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ข้อผดิ พลาดของ ทกั ษะการคดิ เชงิ ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ขั้นตอนของการ
โปรแกรม คำนวณ การคิด แก้ปญั หามี 4 ข้นั ตอน ดังน้ี พิจารณาและทำ
วิเคราะห์ แก้ปัญหา ความเข้าใจปัญหา คือ การทำความเข้าใจ
เปน็ ขน้ั ตอนและ ปัญหา โดยวิเคราะห์ปัญหานั้น วางแผนการ
เป็นระบบ แก้ปัญหา คือ การกำหนดและจัดลำดับ
ขั้นตอนของสิ่งที่ต้องกระทำเพื่อแก้ปัญหา
จากข้อมูลที่ได้รับ ลงมือแก้ปัญหา คือ การ
กระทำตามขั้นตอนที่ได้วางแผนเพื่อให้
ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด
ไว้ และตรวจสอบผลการแก้ปัญหา คือ การ
ตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้ดำเนินการว่าตรงตาม
แนวทางที่จะแก้ไขหรือไม่ โดยผลลัพธ์ท่ี
เกิดขึ้นอาจจะไม่เป็นไปตามแนวทางการ
แก้ปัญหาที่วางไว้ ซึ่งอาจจะต้องปรับปรุง
แกไ้ ขอกี ครั้ง
การเขียนโปรแกรม คือ การเขียน
ชดุ คำส่ังให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามเง่ือนไขท่ี
กำหนดการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ เป็น
การเขียนโปรแกรมทำงานซ้ำกนั หลายรอบ
การตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการเขียน
โปรแกรมเป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญในการ
เขียนโปรแกรม ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าได้
ผลลัพธ์ตรงตามที่ต้องการหรือไม่ โดย
ลำดบั ที่ ชื่อหน่วยการ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา
เรียนรู้ (ชม.)
ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมี 2 ลักษณะ คือ
ข้อผิดพลาดทีเ่ กดิ จากการเขยี นคำส่ังผดิ และ
ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนคำสั่งผิด
รปู แบบ แบ่งเป็นการตรวจสอบคำส่ังขั้นตอน
การทำงานของโปรแกรม การตรวจสอบ
คำสงั่ ผิดรูปแบบทีละคำสั่ง
3. การจดั การไฟล์ เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมี การใช้งานซอฟต์แวร์เบื้องต้น ซึ่ง 8
อย่างมีระบบ
ทกั ษะการใช้ ซอฟต์แวร์เป็นชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้
เทคโนโลยี สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึง
สารสนเทศ รกั ษา หมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนข้ึน
ข้อมลู ส่วนตัว และ ด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียง
การส่ือสารเบ้ืองต้น กนั เป็นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
ในการแกป้ ญั หาท่ี การนำเสนอข้อมูลโดยใช้โปรแกรมต่าง ๆ
พบในชีวติ จริงได้ เชน่ โปรแกรมกราฟิก ซึง่ เปน็ โปรแกรมท่ีใช้ใน
อยา่ งมี การวาดภาพ หรือออกแบบกราฟิกบนเครื่อง
ประสิทธภิ าพ คอมพิวเตอร์ ซึ่งได้แก่ โปรแกรมเพนต์ การ
สรา้ งและการจดั เก็บไฟล์ด้วยโปรแกรมกราฟิก
การเรยี กใช้โปรแกรมกราฟิก การแก้ไขตกแต่ง
เอกสารด้วยโปรแกรมกราฟิก การนำเสนอ
ข้อมูลด้วยโปรแกรมนำเสนอ
การจัดการไฟล์เป็นการจัดระเบียบไฟล์
งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่การสร้าง
คัดลอก ย้าย ลบ เปลี่ยนชื่อ และจัดหมวดหมู่
เพือ่ ใหส้ ะดวกรวดเรว็ ในการใช้งาน
4 การใช้เทคโนโลยี - เพ่ือใหผ้ เู้ รยี น ในสภาพสังคมที่เทคโนโลยีเข้ามามี 5
สารสนเทศอยา่ ง
ปลอดภัย พัฒนากระบวนการ บทบาทมาก การรู้จักข้อมูลส่วนตัวของ
คดิ และจินตนาการ ตนเอง และการขอความช่วยเหลือเมื่อพบ
ความสามารถใน ปัญหาจากการเผยแพร่ข้อมูลสว่ นตัว เป็นวิธี
การแก้ปัญหา การ หนึ่งที่จะช่วยทำให้สามารถใช้เทคโนโลยี
จัดการทักษะในการ สารสนเทศได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้การ
สอื่ สาร เรียนรู้ข้อปฏิบัติ การดูแลรักษาอุปกรณ์
ลำดบั ท่ี ช่อื หน่วยการ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา
เรียนรู้ (ชม.)
ความสามารถใน เทคโนโลยี และการใชง้ านอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี
การตดั สินใจ อย่างเหมาะสมจะช่วยยดื อายุการใช้งานของ
- เพ่ือให้ผเู้ รียนเป็น อุปกรณ์เทคโนโลยีให้ใช้งานได้นานมากขึ้น
ผู้มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ ต ล อ ด จ น ส า ม า ร ถ ใ ช ้ ง า น ไ ด ้ อ ย ่ า ง มี
มีคุณธรรม ประสิทธภิ าพ
จริยธรรม และ
คา่ นิยมในการใช้
วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีอยา่ ง
สรา้ งสรรค์
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1
การแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ข้นั ตอน
รายวชิ าเพิ่มเตมิ ว12201 วิทยาการคำนวณ ระยะเวลา 4 ช่วั โมง
กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2
1. ผลการเรียนรู้
1. เพ่อื ให้ผูเ้ รียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น
2. เพื่อให้ผเู้ รียนมีทกั ษะการคดิ เชงิ คำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แก้ปัญหาเปน็ ขนั้ ตอนและเป็นระบบ
3. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นใน
การแก้ปัญหาทพ่ี บในชีวติ จริงไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
4. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการ
ทักษะในการส่อื สาร ความสามารถในการตดั สนิ ใจ
5. เพ่อื ให้ผู้เรยี นเปน็ ผ้มู ีจติ วิทยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มในการใช้วทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีอยา่ งสร้างสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
1) การแสดงขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา ทำได้โดยการเขียนบอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์
2) ปัญหาอย่างงา่ ย เชน่ เกมตัวต่อ 6-12 ชนิ้ การแตง่ ตัวมาโรงเรยี น
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
ในชีวติ ประจำวันของคนเราจำเป็นต้องพบเจอปัญหาต่าง ๆ ดังนัน้ จงึ ต้องมีการเรียนรขู้ ้ันตอนการแกป้ ัญหา
เบ้ืองตน้ เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง ถูกวิธี และรวดเร็ว แต่การแก้ปัญหาทีด่ ีจะต้องมีการวางแผน
การแกป้ ัญหา เพื่อถ่ายทอดออกมาเป็นลำดับขนั้ ตอนเพ่ือให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ซ่งึ สามารถการแสดงขน้ั ตอน
การแก้ปัญหาสามารถทำได้โดยการเขียนบอกเล่า การวาดภาพ หรือการใชส้ ญั ลักษณ์ และอีกวิธคี ือการหารูปแบบ
ของปญั หา ซ่ึงเป็นการหาความสมั พันธข์ องปัญหาโดยการเปรียบเทียบ จัดกลุ่ม เรียงลำดับ เพ่ือช่วยให้สามารถ
แกป้ ัญหาไดง้ ่ายขึ้น
4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ
- ทักษะการส่ือสาร 2. ใฝ่เรียนรู้
2. ความสามารถในการคดิ 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน
- ทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทักษะการแกป้ ัญหา
สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ทกั ษะการสังเกต
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
- ทกั ษะการทำงานร่วมกัน
5. ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ชนิ้ งาน/ภาระงาน(รวบยอด) เรอ่ื ง การแก้ปญั หา
6. การวัดและการประเมนิ ผล
รายการวัด วิธวี ดั เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ
6.1 การประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน - ตรวจชิน้ งาน/ภาระ - แบบประเมินชิน้ งาน ระดับคุณภาพ 2
(รวบยอด) เรอ่ื ง การแกป้ ัญหา งาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
6.2 การประเมนิ ก่อนเรยี น
- แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 ก่อนเรยี น
เรอ่ื งาการแกป้ ัญหา
อย่างเปน็ ขั้นตอน
6.3 ประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรม - ตรวจใบงานท่ี 1.1.1 - ใบงานที่ 1.1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การเรยี นรู้ - ใบงานท่ี 1.2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ใบงานที่ 1.2.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1) แก้ปญั หากนั ดีกวา่
2) การแสดงขัน้ ตอน - ตรวจใบงานท่ี 1.2.1
การแก้ปญั หา
3) การเขียนผงั งาน - ตรวจใบงานที่ 1.2.2
4) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
รายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2
5) พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
- สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม
6) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
ความรบั ผิดชอบ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์
6.4 การประเมนิ หลังเรยี น ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มั่น อันพงึ ประสงค์
- แบบทดสอบหลังเรียน ในการทำงาน ประเมินตามสภาพจริง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 - แบบทดสอบหลังเรียน
เรือ่ งาการแก้ปัญหา - ตรวจแบบทดสอบ
อย่างเปน็ ขั้นตอน หลงั เรยี น
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 การแก้ปญั หาอย่างเป็นขน้ั ตอน
เรอ่ื งที่ 1: การแกป้ ญั หาเบอ้ื งต้น เวลา 1 ชั่วโมง
วิธกี ารสอนโดยเนน้ การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (problem- based learning)
ขน้ั นำ
ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นและเช่ือมโยงเขา้ ส่บู ทเรยี นวา่ “ถา้ นักเรยี น
มาโรงเรียนสายทุกวันและนักเรียนต้องการจะไปโรงเรียนให้ทันเวลาตอ้ งทำอย่างไร” และ
“นกั เรียนคิดว่าการหาข้อมูลเข้ามีความสำคญั ต่อการแก้ปัญหาอย่างไร”
ข้นั สอน
ขั้นที่ 1 กำหนดปญั หา
1. ครถู ามนักเรียนว่า“ในชีวติ ประจำวันนักเรยี นพบปญั หาอะไรบา้ งและนักเรียนมีวธิ ีการแก้ไข
ปัญหาอย่างไร” ให้นักเรียนเขียนปญั หาท่ีสำคญั ท่ีสดุ ของตนเองและบันทกึ ลงในกระดาษโนต้
ขน้ั ท่ี 2 ทำความเข้าใจปัญหา
2. นกั เรยี นแตล่ ะคนวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหาและแนวทางการแกไ้ ขปัญหาของตนเอง แล้วบันทึก
ลงในกระดาษโน้ต (ใบเดิม)
ขัน้ ที่ 3 ดำเนินการศกึ ษาคน้ คว้า
3. นกั เรียนศึกษาข้ันตอนการแก้ปัญหาเบอ้ื งต้นทง้ั 4 ขั้นตอนจากหนังสอื เรียน โดยครูอธบิ าย
เพ่มิ เติมถึงรายละเอียดของขั้นตอนการแกป้ ญั หาเบอ้ื งตน้
4. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นศึกษาสถานการณ์การแก้ปัญหาจากตวั อย่างในหนังสือเรียน และ
อธิบายเกรด็ นา่ รใู้ นการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวันให้นักเรยี นฟัง
ขั้นท่ี 4 สังเคราะหค์ วามรู้
5. ครใู ห้นักเรยี นทำกิจกรรมฝกึ ทักษะการแกป้ ัญหาในหนังสือเรยี น โดยใหน้ ักเรยี นวเิ คราะห์
สถานการณ์ และอธบิ ายวธิ กี ารแกป้ ัญหาแต่ละขน้ั ตอนลงในสมดุ ประจำตัว พร้อมส่มุ นักเรียน
1-2 คน ออกมาอธบิ ายวิธกี ารแก้ปัญหาหนา้ ช้นั เรียน
ขั้นท่ี 5 สรุปและประเมนิ ค่าของคำตอบ
6. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั และครใู ห้ความรเู้ พม่ิ เติมเพื่อให้นักเรยี นเขา้ ใจมากยงิ่ ขน้ึ
และมอบหมายใหน้ ักเรียนทำใบงานท่ี 1.1.1 เรือ่ ง แก้ปัญหากันดีกว่า และนำมาสง่ ในช่วั โมงถดั ไป
ขนั้ ที่ 6 นำเสนอและประเมนิ ผลงาน
7. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน สมุดประจำตัว ผลการทำใบงาน
และกจิ กรรมฝกึ ทักษะ
ขั้นสรุป
ครูให้นักเรียนนำกระดาษโนต้ ของตนเองมาแปะบนกระดานหน้าช้นั เรียน และส่มุ กระดาษโน้ตของ
นกั เรยี น 2-3 ใบ โดยใหเ้ จ้าของผลงานออกมานำเสนอแนวทางการวเิ คราะห์สภาพปญั หาและ
แนวทางการแกไ้ ขปญั หาหนา้ ช้ันเรยี น โดยครูให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ และสรุปเนื้อหาร่วมกนั
กบั นักเรยี น
เรอ่ื งท่ี 2: การแสดงข้นั ตอนการแกป้ ัญหา เวลา 2 ชั่วโมง
วิธีการสอนโดยเน้นการจัดการเรยี นรู้แบบใชป้ ญั หาเป็นฐาน(problem- based learning)
ขน้ั นำ
ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อวา่ “การแสดงลำดับขน้ั ตอนช่วยในการแกป้ ญั หาอยา่ งไร”
พร้อมอธบิ ายเพื่อเช่ือมโยงเขา้ สู่บทเรียนว่า
ขนั้ สอน
ข้นั ที่ 1 กำหนดปัญหา
1. ครูใช้คำถามท้าทายความคิดนักเรียนวา่ “นักเรียนรจู้ ักวธิ กี ารทอดไขเ่ จยี วหรือไม่”
ขน้ั ที่ 2 ทำความเขา้ ใจปัญหา
2. นักเรียนจบั คูก่ นั เพื่อแลกเปล่ียนประสบการณ์การทอดไขเ่ จยี วของตนเองใหเ้ พื่อนฟงั
ขน้ั ที่ 3 ดำเนินการศึกษาคน้ ควา้
3. นกั เรยี นศกึ ษาการแสดงลำดบั ข้นั ตอนการแก้ปญั หา โดยการเขยี นบอกเล่า การวาดภาพ และ
การใช้สญั ลักษณ์ของผังงานอยา่ งง่าย จากสถานการณ์ตวั อย่างและวธิ ีการแกป้ ัญหาต่าง ๆ
โดยการเขียนบอกเล่า การวาดภาพ และการใช้สัญลักษณ์ของผงั งานอย่างง่ายจากหนงั สือเรยี น
4. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คนหรือตามความเหมาะสม เพือ่ ระดมความคิดเห็นร่วมกนั
ภายในกลุม่ เกี่ยวกับการแสดงข้นั ตอนการแก้ปัญหาการทอดไข่เจียว โดยให้นกั เรยี นเขียนวิธกี าร
แกป้ ัญหาออกมาในรปู แบบของการเขียนบอกเล่า
ขน้ั ท่ี 4 สังเคราะหค์ วามรู้
5. ครูใหน้ ักเรยี นนำลำดบั ขนั้ ตอนการทอดไขเ่ จียวในรูปแบบการใช้วธิ กี ารเขียนบอกเลา่ มาปรบั ใหม่
ใหอ้ อกมาในรูปแบบของการวาดภาพแสดงข้ันตอนการแกป้ ัญหา และบนั ทึลงในใบงานที่ 1.2.1
เรอื่ ง การแสดงขัน้ ตอนการแก้ปญั หา
6. ให้นักเรยี นนำข้อมลู จากใบงานที่ 1.2.1 มาปรบั ใหมใ่ ห้ออกมาในรปู แบบการใช้สัญลกั ษณ์
เพ่ือแสดงขนั้ ตอนการแกป้ ญั หาพร้อมจดั ทำลงในใบงานที่ 1.2.2 เร่ืองการเขียนผังงาน
7. ให้นกั เรียนทำกิจกรรมฝึกทกั ษะการแสดงขนั้ ตอนการแกป้ ัญหาในหนงั สอื เรียนและบนั ทึกผล
ลงในสมดุ ประจำตวั ครสู มุ่ นักเรยี น 2-3 กลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน
ขั้นท่ี 5 สรุปและประเมินค่าของคำตอบ
8. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสัย และครูให้ความรู้เพม่ิ เติมในส่วนนัน้ หรืออาจจะ
ใหน้ กั เรียนศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอร์เนต็
ขน้ั ท่ี 6 นำเสนอและประเมินผลงาน
9. ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตัว
10. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานท่ี 1.2.1 ใบงานท่ี 1.2.2 และกิจกรรมฝกึ ทักษะ
ข้นั สรปุ
นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ถึงการแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหาทส่ี ามารถทำได้โดยการเขียนบอกเลา่
การวาดภาพ หรอื การใช้สญั ลกั ษณ์
เรอื่ งท่ี 3: การหารูปแบบของปัญหาอยา่ งง่าย เวลา 1 ชว่ั โมง
วธิ กี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ขนั้ นำ
ขน้ั ที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อว่า “รปู แบบของปญั หามผี ลต่อการแกป้ ญั หาอย่างไร”
2. จากน้นั ครนู ำบตั รภาพเกมตัวต่อใหน้ ักเรยี นไดด้ ูพร้อมถามนกั เรียนว่า“นกั เรยี นรู้หรือไม่
เกมน้มี วี ิธีการเลน่ อยา่ งไร” และใหน้ กั เรยี นแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน หรอื ตามความเหมาะสม
เพ่ือเล่นเกมตัวต่อร่วมกนั
ขนั้ สอน
ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. ครมู อบหมายให้นักเรียนเล่นเกมตวั ตอ่ โดยครูแจกบัตรภาพเกมตัวตอ่ ใหน้ ักเรยี นกลุ่มละ 4 แผน่
และให้เวลาในการเลน่ เกมตามความเหมาะสม กลุ่มใดทำกิจกรรมสำเร็จก่อนกลุ่มนน้ั จะเปน็ ผชู้ นะ
โดยแตล่ ะกลมุ่ จะตอ้ งบันทึกระยะเวลาในการเล่นเกมตวั ต่อตั้งแต่เริ่มต้นจนสำเร็จไว้
ข้ันท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
2. จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นกลุ่มทชี่ นะออกมาอภปิ รายหนา้ ชั้นเรยี นเกย่ี วกับวธิ ีคดิ ในการเลน่ เกมตัวตอ่
และใหน้ กั เรียนศกึ ษาวธิ คี ิดในการเล่นเกมตวั ต่อที่เหมาะสมจากหนงั สือเรียนเพอ่ื การเลน่ เกม
ตวั ต่อได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
3. ใหน้ ักเรยี นแต่ละคนทำกิจกรรมฝึกทักษะเกมตวั ต่อในหนงั สือเรยี นและบันทึกลงในสมดุ ประจำตัว
และใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่ม (กลุ่มเดิม) เพอ่ื เลน่ เกมตัวต่อ โดยใช้บัตรภาพเกมตวั ต่อทงั้ 4 แผน่ เช่นเดมิ
โดยใชว้ ิธกี ารคดิ ตามหนงั สอื เรียนและให้ทุกกลมุ่ จดระยะเวลาในการเล่นเกมตัวตอ่ ต้ังแตเ่ ร่ิมต้น
จนสำเรจ็ ไว้เพอ่ื เปรยี บเทยี บระยะเวลาในการเลน่ เกมตัวต่อของทง้ั 2 ครัง้
4. นกั เรียนทำความเข้าใจกบั การหารปู แบบของปัญหาอย่างงา่ ยอีกแบบหน่ึง คอื การเขยี นขั้นตอน
แบบเรียงลำดบั โดยใหน้ ักเรยี นดูขั้นตอนการแต่งกายมาโรงเรียนจากหนังสอื เรียน
5. ครถู ามคำถามท้าทายการคิดขั้นสงู วา่ “ในการเลอื กเสอ้ื ผ้าเครอ่ื งแต่งกายไปโรงเรยี นในแต่ละวัน
ให้ถกู ต้อง นกั เรยี นควรคำนึงถงึ ส่ิงใดบา้ ง”
6. ครูใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมฝึกทักษะการแต่งกายมาโรงเรียนในหนังสือเรยี น
ขัน้ สรุป
ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม การรว่ มกันทำผลงาน และจากการนำเสนอ
ผลงานหน้าชน้ั เรียน
2. ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรมฝกึ ทกั ษะและกจิ กรรมเสริมสร้างการเรียนรู้
3. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรุปถงึ การแก้ปัญหาอย่างเป็นข้นั ตอน
4. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง การแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน
5. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้ และทำชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรื่อง การแกป้ ัญหา และนำมาสง่ ครใู นชว่ั โมงถดั ไป
8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี น วทิ ยาการคำนวณ ป.2 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1
เร่ือง การแก้ปญั หาอย่างเป็นขน้ั ตอน
2) ใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง แก้ปญั หากนั ดีกวา่
3) ใบงานที่ 1.2.1 เร่ือง การแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหา
4) ใบงานท่ี 1.2.2 เร่ือง การเขียนผังงาน
5) บตั รภาพ เร่ือง สัญลักษณ์ของผงั งานอย่างง่าย
6) บัตรภาพ เรื่อง เกมตวั ต่อ
7) กระดาษโนต้
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
- อนิ เทอรเ์ น็ต
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1
คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ข้ันตอนการแกป้ ัญหาเบ้ืองต้น 6. เมือ่ พบปัญหาควรทำสิง่ ใดเป็นข้ันตอนแรก
ก. วางแผนการแก้ปัญหา ก. ลงมือแกป้ ญั หา
ข. ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ข. พจิ ารณาและทำความเขา้ ใจปญั หา
ค. ลงมอื แกป้ ัญหา ค. วางแผนการแกป้ ญั หา
2. ข้นั ตอนในข้อใด คอื ขัน้ ตอนการตรวจสอบว่า 7. เมอ่ื ลงมือแก้ปัญหาแลว้ ควรทำสง่ิ ใดเปน็ ขน้ั ตอนต่อไป
ปญั หาคอื อะไร ก. จบการแกป้ ัญหา
ก. พจิ ารณาและทำความเข้าใจปญั หา ข. ตรวจสอบผลการแก้ปญั หา
ข. วางแผนการแกป้ ญั หา ค. แก้ปญั หาอืน่ ตอ่ ๆไป
ค. ลงมือแกป้ ัญหา
8. สญั ลักษณ์ทิศทางขอ้ มูล เป็นแบบใด
3. ขอ้ ใด ไม่ใช่ การแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา ก.
ก. การพดู บรรยาย
ข. การวาดภาพ ข.
ค. การใช้สญั ลกั ษณ์
ค.
4. ข้อใด ไม่ใช่ สัญลักษณ์ของผังงานอยา่ งง่าย 9. การใชส้ ญั ลักษณ์ในการแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา
ก.
นยิ มใช้กบั ขอ้ ใด
ข. ก. ผังความคิด
ข. แผนภาพ
ค. ค. ผงั งาน
5. สญั ลกั ษณ์ในข้อใดหมายถงึ การเริม่ ต้น 10. เม่อื เล่นเกมตวั ตอ่ ควรทำสิ่งใดเป็นขั้นตอนแรก
หรอื ส้ินสุดการทำงาน ก. แยกตัวต่อตามโทนสีที่คลา้ ยกนั เอาไว้ในกลมุ่
ก. เดียวกัน
ข. ข. ตอ่ ตวั ตอ่ ทเ่ี ปน็ ส่วนด้านขอบกอ่ น
ค. ค. ต่อตวั ต่อจนครบ
เฉลย 6. ข 7. ข 8. ก 9. ค 10. ก
1. ข 2. ก 3. ก 4. ค 5. ข
แบบทดสอบหลังเรยี น
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. ขอ้ ใดต่อไปนีห้ มายถงึ ข้นั ตอนการพิจารณา 6. ขอ้ ใด ไม่ใช่ สัญลักษณ์ของผงั งานอยา่ งง่าย
และทำความเข้าใจปญั หา ก.
ก. ปญั หาคืออะไร ? ข.
ข. วธิ แี กป้ ญั หาควรทำอยา่ งไร ?
ค. ผลลัพธ์ท่ตี อ้ งการคืออะไร ? ค.
2. เม่ือพบปัญหาควรทำสงิ่ ใดเปน็ ขนั้ ตอนแรก 7. สญั ลกั ษณใ์ นข้อใดหมายถึงการตัดสินใจ
ก. วางแผนการแก้ปญั หา ก.
ข. พจิ ารณาและทำความเขา้ ใจปัญหา
ค. ลงมือแกป้ ญั หา ข.
3. ข้อใดคือข้นั ตอนแรกของการแต่งกายมาโรงเรยี น ค.
ก. สวมกางเกง/กระโปรง
ข. สวมเสื้อนักเรยี น 8. สัญลักษณ์ หมายถงึ ข้อใด
ค. สวมถงุ เท้า
ก. ทิศทางข้อมูล
4. ขน้ั ตอนการตรวจสอบผลการแก้ปัญหาที่ดี ข. เสน้ ทางข้อมูล
ควรทำหลังจากขั้นตอนใด ค. ชน้ี ำขอ้ มลู
ก. วางแผนการแก้ปญั หา 9. ข้อใดเปน็ การใชส้ ัญลักษณ์ในการแสดงขั้นตอน
ข. ลงมอื แกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา
ค. จบการแก้ปัญหา ก. ผงั ความคดิ
ข. แผนภาพ
5. ข้อใดคือการแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา ค. ผงั งาน
10. การเลน่ เกมตัวต่อเมื่อแยกโทนสีท่คี ลา้ ยกนั ไวใ้ นกลมุ่
ก. การวาดภาพ เดยี วกนั แลว้ ควรทำสงิ่ ใดเปน็ ข้นั ตอนต่อไป
ข. การพดู บรรยาย
ค. การใชผ้ งั ความคิด ก. ตอ่ ตวั ต่อท่ีเป็นสว่ นด้านขอบกอ่ น
ข. ตอ่ ตัวต่อท่เี ปน็ ส่วนดา้ นใดกอ่ น
ค. ตอ่ ตวั ตอ่ จนครบ
เฉลย
1. ก 2. ข 3. ข 4. ข 5. ก 6. ค 7. ข 8. ก 9. ค 10. ก
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแกป้ ญั หาเบ้อื งตน้ ระยะเวลา 1 ช่ัวโมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าเพม่ิ เติม คอมพวิ เตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2
1. ผลการเรียนรู้
1. เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเบอ้ื งต้น
2. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมีทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบ
3. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นในการ
แกป้ ญั หาท่ีพบในชีวติ จริงได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
4. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการทักษะ
ในการสื่อสาร ความสามารถในการตดั สินใจ
5. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายวิธีการแก้ปัญหาเบ้ืองต้นแต่ละขัน้ ตอนได้ (K)
2. เขยี นขั้นตอนการแกป้ ัญหาเบือ้ งตน้ ได้ (P)
3. สนใจใฝ่รใู้ นการศึกษา (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การแสดงขั้นตอนการแก้ปญั หาทำไดโ้ ดยการเขียนบอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์
- ปัญหาอย่างงา่ ย เชน่ เกมตวั ตอ่ 6-12 ช้นิ การแต่งตัวมาโรงเรียน
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ในชวี ติ ประจำวนั จะตอ้ งพบเจอปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปโรงเรียนสายหรือการลืมจดั กระเปา๋
นกั เรียน ดงั นน้ั จงึ ต้องมีการเรียนรูข้ น้ั ตอนการแก้ปัญหาเบอื้ งต้น เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาไดอ้ ย่างถกู ต้อง ถูก
วธิ ี และรวดเรว็
5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี นิ ัย รบั ผดิ ชอบ
- ทักษะการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
- ทักษะการคดิ เชงิ คำนวณ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
- ทักษะการแกป้ ญั หา
- ทักษะการสังเกต
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
วธิ กี ารสอนโดยเนน้ การจดั การเรียนรู้แบบใช้ปญั หาเป็นฐาน (problem- based learning)
ช่ัวโมงท่ี 1
ขน้ั นำ
1. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ือง การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ข้นั ตอน
เพอื่ วดั ความรเู้ ดมิ ของนักเรยี นก่อนเข้าสู่กจิ กรรม
2. ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นวา่ “ถ้านักเรยี นมาโรงเรยี นสายทุกวนั และ
นักเรยี นตอ้ งการจะไปโรงเรียนใหท้ นั เวลาต้องทำอย่างไร”
(แนวตอบ : พจิ ารณาคำตอบของนักเรียน โดยขึ้นอยู่กบั ดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน)
3. ครูถามคำถามเพ่ือเชอ่ื มโยงเข้าสบู่ ทเรียนว่า“นักเรยี นคิดวา่ การหาข้อมูลเขา้ มีความสำคัญ
ต่อการแก้ปัญหาอยา่ งไร”
(แนวตอบ : ขอ้ มลู มีส่วนสำคัญ เพราะถ้ามีข้อมูลทด่ี ี มคี วามสมบูรณ์ก็จะชว่ ยใหท้ ราบถึง
สาเหตุของปัญหา และนำมาซ่ึงการแก้ปญั หาทเ่ี กิดขึ้นได้อย่างถกู ต้อง รวดเร็ว และไดผ้ ลลัพธ์
ตามท่ตี ้องการ)
ขั้นสอน
ขัน้ ที่ 1 กำหนดปัญหา
1. ครถู ามนักเรยี นว่า“ในชีวิตประจำวันนักเรียนพบปญั หาอะไรบา้ งและนกั เรียนมีวิธีการแก้ไข
ปัญหาอยา่ งไร”
(แนวตอบ : พิจารณาคำตอบของนักเรียน โดยข้นึ อยู่กับดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน)
2. ให้นกั เรียนเขยี นปัญหาที่สำคัญทสี่ ดุ ของตนเองพร้อมบันทึกลงในกระดาษโนต้
ข้ันท่ี 2 ทำความเขา้ ใจปัญหา
3. นกั เรยี นแตล่ ะคนวเิ คราะห์ถึงสภาพปัญหาและแนวทางการแกไ้ ขปญั หาของตนเอง แลว้ บันทึก
ลงในกระดาษโน้ต(ใบเดิม)
ขัน้ ท่ี 3 ดำเนนิ การศกึ ษาคน้ ควา้
4. นักเรียนศกึ ษาขั้นตอนการแก้ปัญหาเบอ้ื งต้นทั้ง 4 ขัน้ ตอนจากหนงั สือเรยี น วิทยาการคำนวณ
ป.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ขน้ั ตอน ซึ่งประกอบไปดว้ ยขน้ั ตอนดังนี้
- พจิ ารณาและทำความเข้าใจปัญหา
- วางแผนการแก้ปญั หา
- ลงมอื แก้ปัญหา
- ตรวจสอบผลการแกป้ ญั หา
5. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมถงึ รายละเอียดของขนั้ ตอนการแก้ปญั หาเบ้อื งต้น ดงั นี้
1. พจิ ารณาและทำความเขา้ ใจปญั หา คอื การวิเคราะหว์ ่าปัญหาคืออะไร มีข้อมูล และ
เง่อื นไขอะไรบา้ งท่ีเก่ียวข้องกับปญั หาน้นั ๆ
2. วางแผนการแก้ปญั หา คือ การกำหนดวธิ ีการแกป้ ัญหาและผลลพั ธ์ท่ีต้องการ
3. ลงมือแกป้ ัญหา คอื การแก้ปัญหาตามแนวทางที่ไดว้ างแผนไว้ให้ประสบความสำเร็จ
ตามทต่ี ้องการ
4. ตรวจสอบผลการแก้ปญั หา คือ การตรวจสอบผลลัพธ์ท่ไี ด้ว่าตรงตามแนวทางการแก้ไข
หรอื ไม่ หากผลลัพธ์ไมเ่ ปน็ ไปตามแนวทางให้ดำเนนิ การปรับปรุงข้ันตอนการแกป้ ัญหา
อกี คร้ัง
6. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนศกึ ษาสถานการณ์การแกป้ ญั หาจากตัวอย่างในหนงั สือเรยี นทว่ี ิเคราะห์
ตามข้ันตอนการแก้ปญั หาเบอ้ื งตน้ โดยให้นักเรยี นทำความเขา้ ใจกับสถานการณก์ ารแกป้ ัญหา
อย่างเปน็ ขั้นตอน เรม่ิ จากการพิจารณาและทำความเขา้ ใจปัญหาของสถานการณ์ โดยวเิ คราะห์
วา่ ปญั หาคอื อะไร มขี ้อมลู หรือเง่ือนไขใดบา้ งท่ีเกยี่ วข้อง จากนน้ั ศึกษาขั้นตอนการวางแผน
การแก้ปัญหาว่ามกี ารกำหนดหรอื การจัดลำดับขน้ั ตอนเพื่อแกป้ ญั หาอย่างไร มวี ิธีการลงมอื
แก้ปญั หาใหป้ ระสบความสำเร็จตามทกี่ ำหนดไว้ไดห้ รือไม่ และศึกษาวิธีการตรวจสอบผล
การแกป้ ัญหาว่าผลลพั ธ์ท่ีไดเ้ ปน็ ไปตามแนวทางการแก้ปัญหาที่วางไวห้ รอื ไม่
7. ครูอธบิ ายเกรด็ น่ารู้ในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวันว่า“ในการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ
จำเป็นต้องใช้ทักษะการคดิ เชิงคำนวณมาช่วยในการดำเนินการ เพราะจะชว่ ยให้ลงมือ
แก้ปญั หาต่าง ๆ ไดง้ ่ายขึ้น และไดผ้ ลลพั ธต์ ามทต่ี อ้ งการ”
ขั้นท่ี 4 สังเคราะห์ความรู้
8. ครใู ห้นกั เรยี นทำกิจกรรมฝกึ ทักษะการแกป้ ัญหาในหนังสอื เรียน โดยให้นักเรยี นวิเคราะห์
สถานการณ์ และอธิบายวิธีการแกป้ ัญหาแตล่ ะขนั้ ตอนลงในสมุดประจำตัว
9. ครสู มุ่ นกั เรยี น 1-2 คน ออกมาอธิบายวิธกี ารแก้ปัญหาหนา้ ชน้ั เรยี น
ขนั้ ท่ี 5 สรุปและประเมนิ คา่ ของคำตอบ
10. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นซักถามข้อสงสัย และครูให้ความรเู้ พิ่มเติมเพื่อใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจ
มากย่ิงขนึ้
11. ครมู อบหมายให้นกั เรียนทำใบงานที่ 1.1.1 เรือ่ ง แก้ปญั หากนั ดกี วา่ โดยใหน้ กั เรยี น
บอกปัญหาที่นกั เรยี นพบในชีวิตประจำวนั และเขยี นอธบิ ายวธิ กี ารแก้ปัญหาเบื้องตน้
แตล่ ะข้นั ตอนให้ชดั เจน และนำมาสง่ ในชัว่ โมงถดั ไป
ข้นั ที่ 6 นำเสนอและประเมินผลงาน
12. ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุดประจำตัว
13. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานท่ี 1.1.1 และกิจกรรมฝกึ ทักษะ
Note
วัตถุประสงค์ของกจิ กรรมเพือ่ ให้นกั เรียน
- มีทกั ษะการแก้ปัญหาท่นี กั เรยี นพบในชวี ิตประจำวนั และเขยี นขน้ั ตอน
การแกป้ ัญหาเบ้อื งตน้ ได้อย่างชัดเจนโดยใช้การคิดเชงิ คำนวณ
- มที กั ษะการสื่อสาร โดยการตอบคำถามและการอธบิ ายวธิ ีการแกป้ ัญหา
จากกจิ กรรมฝึกทักษะในหนงั สอื เรียน
- มีทักษะการสังเกต โดยเปดิ โอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาตวั อยา่ งสถานการณ์
การแกป้ ัญหาทวี่ เิ คราะห์ตามข้นั ตอนการแก้ปญั หาเบ้ืองต้นจากหนงั สอื เรยี น
ขน้ั สรุป
1. ครูให้นักเรียนนำกระดาษโนต้ ท่ีไดบ้ อกถึงผลการวเิ คราะห์สภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไข
ปญั หาของตนเองมาแปะบนกระดานหนา้ ชน้ั เรียน
2. จากนั้นครสู ่มุ กระดาษโน้ตจำนวน 2-3 ใบ โดยใหเ้ จ้าของผลงานออกมานำเสนอแนวทาง
การวเิ คราะห์สภาพปญั หาและแนวทางการแก้ไขปญั หาหน้าชน้ั เรียน โดยครใู ห้ขอ้ เสนอแนะ
เพิ่มเติม เพ่ือใหน้ กั เรยี นมแี นวทางในการแก้ไขปญั หาท่ีถูกต้องมากยิง่ ขนึ้
3. นักเรียนและครสู รปุ ร่วมกันวา่ “คนเราทุกคนย่อมมปี ัญหาท่ีแตกต่างกนั อย่างหลากหลาย
บางปัญหาสามารถแก้ไขได้ บางปัญหาไมส่ ามารถแก้ไขได้ ดงั น้นั เมื่อพบปญั หาควรมีสติ
ในขณะท่ลี งมือแก้ไขปัญหาโดยใชว้ ธิ ีการแกป้ ัญหาทเ่ี หมาะสมและถูกวธิ ีก็จะทำใหป้ ัญหา
ท่เี กดิ ขน้ึ สามารถแก้ไขไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์”
7. การวดั และประเมนิ ผล วิธวี ัด เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ
รายการวดั - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ ประเมินตามสภาพจรงิ
ก่อนเรียน กอ่ นเรียน
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจใบงานที่ 1.1.1 - ใบงานที่ 1.1.1
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 ระดบั คุณภาพ 2
เรือ่ ง การแกป้ ญั หา - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
อย่างเปน็ ขั้นตอน การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
7.2 การประเมินระหว่างการ
จดั กจิ กรรม
1) แก้ปญั หากันดกี วา่
2) พฤติกรรมการทำงาน
รายบคุ คล
3) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
อันพงึ ประสงค์ ความรับผดิ ชอบ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์
ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่น อันพงึ ประสงค์
ในการทำงาน
8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน วิทยาการคำนวณ ป.2 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรื่อง การแก้ปัญหาอยา่ งเป็นข้ันตอน
2) ใบงานท่ี 1.1.1 เรื่อง แก้ปัญหากันดกี ว่า
3) กระดาษโน้ต
ใบงานที่ 1.1.1
เรอ่ื ง แก้ปัญหากันดีกว่า
คำชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นบอกปัญหาทน่ี กั เรียนพบในชวี ติ ประจำวัน และเขียนขัน้ ตอนการแก้ปญั หาเบื้องต้น
ให้ชดั เจน
ปัญหาทีน่ ักเรียนพบในชีวิตประจำวนั คือ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
มีขั้นตอนการแกป้ ัญหาเบอื้ งต้นดังนี้
1.พจิ ารณาและทำความเขา้ ใจปัญหา 2.วางแผนการแกป้ ญั หา
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
4.ตรวจสอบผลการแกป้ ญั หา 3.ลงมอื แก้ปญั หา
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
ใบงานท่ี 1.1.1 เฉลย
เร่ือง แก้ปญั หากันดีกว่า
คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นบอกปัญหาทีน่ ักเรียนพบในชวี ิตประจำวัน และเขียนขัน้ ตอนการแกป้ ัญหาเบ้อื งต้น
ให้ชัดเจน
ปัญหาท่ีนักเรยี นพบในชีวิตประจำวันคือ
.....................................................................ม...า..โ.ร..ง..เ.ร..ยี ..น...ส..า..ย................................................... ..................
................................................................................................................................................................
มีขั้นตอนการแก้ปญั หาเบ้ืองตน้ ดงั น้ี
1.พิจารณาและทำความเข้าใจปัญหา 2.วางแผนการแก้ปัญหา
…ม…าโ…ร…งเ…รยี …น…ส…าย…เ…พ…รา…ะ…ไ…มย่…อ…ม…ทำ…ก…าร…บ…้า…น………… …ร…บี …ทำ…ก…า…รบ…้า…นห…ล…งั …จา…ก…เล…กิ …เร…ียน……แล…ะ…เข…า้ …น…อน…เ…ร็ว…
…ห…ล…งั จ…า…กเ…ล…กิ เ…รีย…น…จ…งึ …ทำ…ใ…หต้…อ้ …ง…นอ…น…ด…ึก…แล…ะ…ท…ำใ…ห…้ …จ…ะ…ทำ…ใ…ห้ม…า…โร…งเ…ร…ียน…ไ…ดท้…นั …เว…ล…า…………………………
…ม…าโ…ร…งเ…รยี …น…ส…าย……………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
4.ตรวจสอบผลการแกป้ ญั หา 3.ลงมอื แก้ปญั หา
…ต…รว…จ…ส…อบ…ผ…ล…ว่า…เม…อื่ …เข…า้ …น…อน…เ…ร็ว…จ…ะท…ำ…ให…้ …………… …ลง…ม…อื …แก…ป้ …ัญ…ห…าต…า…ม…แน…ว…ท…าง…ท…ี่ก…ำห…น…ด…………………
…ม…าโ…รง…เร…ีย…น…ได…้ท…นั …เว…ลา…ห…ร…ือไ…ม…่ ถ…้าห…า…ก…ไม…ท่ …นั ………… ……………………………………………………………………
…จ…ะต…อ้ …ง…หา…ว…ธิ กี…า…รแ…ก…้ไข…ป…ญั …ห…าต…่อ…ไป……………………… ……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
9. ความเห็นของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ .................................
( ................................ )
ตำแหนง่ .......
10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
ดา้ นความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 การแสดงขัน้ ตอนการแก้ปัญหา
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแกป้ ญั หาเบ้ืองต้น ระยะเวลา 2 ชวั่ โมง
กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าเพิ่มเตมิ คอมพิวเตอร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2
1. ผลการเรยี นรู้
1. เพื่อให้ผเู้ รียนมีความรู้ ความเข้าใจในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเบื้องตน้
2. เพือ่ ให้ผ้เู รยี นมที กั ษะการคิดเชงิ คำนวณ การคดิ วเิ คราะห์ แกป้ ัญหาเปน็ ขัน้ ตอนและเปน็ ระบบ
3. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นในการ
แกป้ ัญหาทพ่ี บในชีวิตจรงิ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
4. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการทักษะ
ในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสนิ ใจ
5. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ยา่ งสร้างสรรค์
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายวิธกี ารแสดงขั้นตอนในการแก้ปญั หาแตล่ ะแบบได้ (K)
2. เขียนบอกเลา่ แสดงข้ันตอนการแก้ปัญหาได้ (P)
3. วาดภาพแสดงข้ันตอนการแกป้ ัญหาได้ (P)
4. เขียนผงั งานอย่างง่ายแสดงขนั้ ตอนการแก้ปญั หาได้ (P)
5. เห็นความสำคัญของการแกป้ ญั หา (A)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
- การแสดงขั้นตอนการแกป้ ัญหาทำได้โดยการเขยี นบอกเล่า วาดภาพ หรอื ใชส้ ัญลกั ษณ์
- ปัญหาอยา่ งงา่ ย เชน่ เกมตัวตอ่ 6-12 ช้ิน การแต่งตวั มาโรงเรียน
4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การแก้ปัญหาท่ดี จี ะตอ้ งมีการวางแผนการแก้ปัญหา และมีการถา่ ยทอดความคิดในการแก้ปัญหา ออกมา
เปน็ ลำดับขน้ั ตอน เพื่อใหง้ ่ายตอ่ การทำความเขา้ ใจ และตรวจสอบความถูกตอ้ งหรือกลับไปแก้ไขได้ โดยการ
แสดงขั้นตอนการแกป้ ญั หา สามารถทำได้โดยการเขียนบอกเล่า การวาดภาพ หรือใชส้ ัญลักษณ์
5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย รับผิดชอบ
- ทักษะการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้
- ทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณ 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทกั ษะการแก้ปญั หา
- ทักษะการสงั เกต
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
- ทักษะการทำงานรว่ มกนั
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
วธิ ีการสอนโดยเน้นการจดั การเรยี นรู้แบบใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน (problem- based learning)
ช่ัวโมงที่ 1
ขนั้ นำ
1. ครถู ามคำถามประจำหัวข้อว่า“การแสดงลำดับขั้นตอนชว่ ยในการแก้ปญั หาอยา่ งไร”
(แนวตอบ : การแสดงลำดบั ขั้นตอนเป็นการถ่ายทอดความคดิ ออกมา เพ่ือใหง้ ่ายต่อ
การทำความเข้าใจ และการตรวจสอบ)
2. ครอู ธิบายเพ่ือเช่ือมโยงเข้าสบู่ ทเรยี นวา่ “เม่ือพบปัญหาผแู้ ก้ปญั หาที่ดีควรมีสติและวางแผน
การแกป้ ัญหาได้ โดยการถ่ายทอดความคิดออกมาเปน็ ลำดับข้ันตอนการแก้ปัญหา ซงึ่ สามารถ
ทำได้โดยการเขียนบอกเล่า การวาดภาพ และการใชส้ ญั ลกั ษณ์”
ข้นั สอน
ขน้ั ท่ี 1 กำหนดปัญหา
1. ครใู ช้คำถามท้าทายความคดิ นักเรยี นวา่ “นกั เรียนรจู้ กั วธิ กี ารทอดไขเ่ จยี วหรอื ไม่”
(แนวตอบ : ให้นักเรียนแสดงความคิดเหน็ ตามประสบการณ์ของนักเรยี น)
ขนั้ ท่ี 2 ทำความเข้าใจปญั หา
2. นกั เรยี นจับคกู่ ันเพ่ือแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทอดไข่เจยี วของตนเองให้เพือ่ นฟัง
ขนั้ ท่ี 3 ดำเนินการศึกษาค้นคว้า
3. นกั เรียนศกึ ษาการแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหาจากหนังสือเรียน วทิ ยาการคำนวณ ป.2
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 การแก้ปญั หาอย่างเป็นขน้ั ตอน
4. จากน้ันใหน้ กั เรยี นทำความเข้าใจสถานการณ์ตัวอยา่ ง พรอ้ มศกึ ษาการแสดงลำดบั ขัน้ ตอน
การแก้ปัญหาโดยการเขียนบอกเลา่ จากน้นั นำข้อความการเขียนบอกเลา่ มาแสดงเปน็ ลำดบั
ข้นั ตอนการแก้ปัญหาโดยการวาดภาพ
5. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คนหรอื ตามความเหมาะสม เพ่ือระดมความคดิ เหน็ รว่ มกนั
ภายในกลุ่มเก่ยี วกบั การแสดงขน้ั ตอนการแก้ปญั หาการทอดไขเ่ จยี ว โดยให้นักเรียนเขียนออกมา
ในรปู แบบของการเขยี นบอกเล่า
ขนั้ ท่ี 4 สังเคราะหค์ วามรู้
6. ครูให้นักเรยี นนำลำดับขนั้ ตอนการทอดไขเ่ จยี วในรปู แบบการใชว้ ธิ ีการเขียนบอกเล่ามาปรบั ใหม่
ให้ออกมาในรปู แบบของการวาดภาพแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหา
7. จากนัน้ ครใู ห้นักเรียนนำข้ันตอนการแก้ปญั หาการทอดไขเ่ จยี วดว้ ยวธิ ีการเขียนบอกเล่า และ
วธิ ีการวาดภาพทำลงในใบงานที่ 1.2.1 เร่ือง การแสดงข้ันตอนการแก้ปญั หาพร้อมสมุ่ นักเรียน
2-3 กลุ่มออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน
ช่วั โมงท่ี 2
ข้นั สอน
ขั้นท่ี 2 ทำความเขา้ ใจปญั หา
8. ครทู บทวนเนื้อหาการเรียนเม่ือช่ัวโมงท่ีแล้วเกย่ี วกับการแสดงขน้ั ตอนการแก้ปญั หา
โดยการเขยี นบอกเลา่ และการวาดภาพ
9. ครูหยบิ ยกคำถามชัว่ โมงที่แลว้ วา่ “นกั เรยี นรู้จักวิธกี ารทอดไข่เจียวหรือไม่”
(แนวตอบ : ใหน้ ักเรยี นแสดงความคิดเหน็ ตามประสบการณ์ของนักเรยี น)
ขน้ั ท่ี 3 ดำเนินการศกึ ษาค้นควา้
10. ครูอธิบายกับนักเรียนวา่ “การแสดงขัน้ ตอนการแก้ปัญหานอกจากจะใช้วิธีการเขยี นบอกเลา่
และการวาดภาพแลว้ ยงั มกี ารแสดงขนั้ ตอนการแก้ปัญหาโดยการใช้สัญลกั ษณ์อีกวิธีหน่ึง”
11. นักเรียนศึกษาการใชส้ ญั ลักษณ์ของผงั งานอย่างง่ายจากหนังสอื เรียนเพ่ือนำมาใช้
ในการแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหา
12. ครูอธบิ ายสญั ลักษณท์ ี่ใชใ้ นการเขยี นผงั งานอย่างง่ายโดยใช้บัตรภาพ เรอ่ื ง สัญลกั ษณ์
ของผังงานอย่างง่าย เพ่ือให้นักเรียนไดเ้ ขา้ ใจมากยง่ิ ขนึ้ โดยมีสญั ลักษณข์ องผังงานอยา่ งงา่ ย
ทนี่ กั เรียนควรรู้อยู่ 4 สัญลักษณ์ ดังน้ี
สญั ลักษณ์ ความหมาย
เร่ิมต้นหรอื สิ้นสดุ
การทำงาน
การตดั สินใจ
การทำงาน
ทิศทางขอ้ มลู
13. นักเรยี นศกึ ษาตวั อยา่ งการใช้สัญลกั ษณใ์ นการแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาโดยการเขยี นผงั งาน
จากหนงั สอื เรยี น
14. จากนั้นให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ศึกษาสถานการณต์ ัวอยา่ งจากหนงั สอื เรยี นโดยใหว้ เิ คราะห์ปญั หา
และแนวทางการแก้ไขปัญหารว่ มกนั
ขน้ั ที่ 4 สังเคราะห์ความรู้
15. ใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมฝึกทกั ษะการแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาในหนังสอื เรียนและบันทึกผล
ลงในสมุดประจำตัว
16. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันทำใบงานที่ 1.2.2 เรื่องการเขียนผงั งาน โดยให้นักเรยี น
นำข้อมูลจากชั่วโมงท่ีแลว้ มาปรับใชใ้ นการเขียนผังงานแสดงลำดบั ขน้ั ตอนการทอดไขเ่ จียว
17. ครสู มุ่ นักเรียน 2-3 กลุ่ม ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน
ขั้นที่ 5 สรุปและประเมินคา่ ของคำตอบ
18. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามข้อสงสยั และครใู ห้ความรู้เพม่ิ เติมในส่วนนั้น หรอื อาจจะ
ให้นกั เรยี นศึกษาเพิ่มเติมจากอนิ เทอร์เนต็
ขั้นที่ 6 นำเสนอและประเมินผลงาน
19. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตวั
20. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 1.2.1 ใบงานที่ 1.2.2 และกจิ กรรมฝึกทักษะ
Note
วตั ถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมเพือ่ ให้นักเรยี น
- มที กั ษะการแก้ปัญหา โดยการแสดงขัน้ ตอนการแกป้ ญั หาอย่างง่าย
ดว้ ยการบอกเลา่ การวาดภาพ และการใชส้ ญั ลกั ษณผ์ า่ นการคิดเชงิ คำนวณ
- มีทักษะการทำงานร่วมกัน โดยการทำกิจกรรมกระบวนการกลมุ่
เพอื่ ใหน้ ักเรียนไดส้ ื่อสารและแลกเปล่ียนประสบการณร์ ว่ มกนั
- มีทกั ษะการสังเกต โดยการสงั เกตตวั อยา่ งการแสดงขั้นตอนการแกป้ ัญหา
อยา่ งง่ายดว้ ยการเขียนบอกเล่า การวาดภาพ และการใช้สัญลกั ษณ์
ขัน้ สรปุ
นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปถึงการแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหาท่ีสามารถทำได้โดยการเขียนบอกเลา่
การวาดภาพ หรอื การใช้สัญลักษณว์ ่า“การแกป้ ญั หาโดยการเขียนบอกเล่า การวาดภาพ หรือ
การใชส้ ญั ลกั ษณ์เขียนผังงาน เป็นการแสดงใหเ้ หน็ ถึงลำดบั ข้ันตอนการแก้ปญั หา ทำให้สามารถ
แก้ปญั หาไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม”
7. การวัดและประเมินผล
รายการวัด วิธีวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
7.1 การประเมนิ ระหว่างการ
จดั กจิ กรรม - ตรวจใบงานท่ี 1.2.1 - ใบงานท่ี 1.2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
1) การแสดงขัน้ ตอน
การแกป้ ัญหา
2) การเขียนผังงาน - ตรวจใบงานที่ 1.2.2 - ใบงานท่ี 1.2.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
4) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
กลมุ่ การทำงานกลุ่ม
- แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
5) คุณลักษณะ - สังเกตความมีวนิ ยั คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
อันพึงประสงค์
อนั พงึ ประสงค์ ความรบั ผิดชอบ
ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั
ในการทำงาน
8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน วิทยาการคำนวณ ป.2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ืองการแก้ปัญหาอย่างเปน็ ขน้ั ตอน
2) ใบงานที่ 1.2.1 เร่ือง การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา
3) ใบงานที่ 1.2.2 เร่ือง การเขียนผังงาน
4) บัตรภาพ เร่ือง สญั ลักษณ์ของผังงานอย่างงา่ ย
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
- อนิ เทอร์เนต็
ใบงานที่ 1.2.1
เรอื่ ง การแสดงข้ันตอนการแก้ปัญหา
คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนแสดงลำดบั ข้นั ตอนการทอดไข่เจียวโดยการเขียนบอกเล่า และการวาดภาพ
ข้นั ตอนการทอดไขเ่ จียวโดยการเขยี นบอกเลา่
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ขน้ั ตอนการทอดไข่เจียวโดยการวาดภาพ
ใบงานท่ี 1.2.1 เฉลย
เรอ่ื ง การแสดงข้ันตอนการแกป้ ญั หา
คำช้แี จง : ให้นกั เรียนแสดงลำดับข้ันตอนการทอดไขเ่ จียวโดยการเขยี นบอกเลา่ และการวาดภาพ
ข้ันตอนการทอดไข่เจียวโดยการเขียนบอกเลา่
.....1.....ต...อ..ก..ไ.ข..่ใ..ส..ช่ ..า.ม................................................................................................................................
.....2.....ใ..ส..่เ.ค..ร..อ่ื ..ง..ป..ร..งุ .ร..ส..ท...่ตี ..้อ..ง.ก..า..ร...............................................................................................................
.....3.....ต...ีไ.ข..ผ่ ..ส..ม..ใ..ห..้เ.ข..้า..ก..ัน..........................................................................................................................
.....4.....ต...ั้ง.ก..ร..ะ..ท..ะ..เ.ท...น..้ำ..ม..นั .........................................................................................................................
.....5....น...ำ.ไ..ข..่ล..ง..ใ.น..ก..ร..ะ..ท..ะ..........................................................................................................................
.....6.....ก...ล..บั ..ด..า้..น..ไ.ข...่ ................................................................................................................................
.....7.....ต...กั ..ใ.ส..่จ..า..น..เ.ส..ริ..์ฟ..............................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ขัน้ ตอนการทอดไข่เจยี วโดยการวาดภาพ
1 2 3..........................................................................................................................................................
4
7 65
ใบงานที่ 1.2.2
เรอ่ื ง การเขยี นผงั งาน
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นแสดงลำดบั ข้นั ตอนการทอดไขเ่ จียวโดยการเขยี นผังงาน
เรม่ิ ต้น
ใบงานท่ี 1.2.2 เฉลย
เร่อื ง การเขียนผังงาน
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นแสดงลำดบั ข้ันตอนการทอดไข่เจียวโดยการเขยี นผงั งาน
เร่ิมต้น
1.ตอกไขใ่ ส่ชาม
2.ใส่เครอื่ งปรุงรสทีต่ อ้ งการ
3.ตีไขผ่ สมให้เขา้ กนั
4.ตง้ั กระทะเทนำ้ มนั
5.นำไข่ลงในกระทะ
6.กลบั ดา้ นไข่
7.ตักใส่จานเสริ ์ฟ
สิน้ สุด
บัตรภาพ
เรื่อง สญั ลกั ษณ์ของผังงานอยา่ งงา่ ย
เร่ิมต้นหรอื ส้ินสดุ
การทำงาน
การตัดสนิ ใจ
การทำงาน
ทิศทางข้อมลู
9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ .................................
( ................................ )
ตำแหนง่ .......
10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
ดา้ นความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 การหารูปแบบของปัญหาอยา่ งง่าย
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การแกป้ ญั หาเบ้ืองต้น ระยะเวลา 1 ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาเพิม่ เติม คอมพิวเตอร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2
1. ผลการเรยี นรู้
6. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเบือ้ งตน้
7. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคดิ วิเคราะห์ แกป้ ัญหาเป็นข้นั ตอนและเป็นระบบ
8. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นในการ
แก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
9. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการทักษะ
ในการส่ือสาร ความสามารถในการตัดสินใจ
10. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์แล ะ
เทคโนโลยีอยา่ งสร้างสรรค์
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายการหารปู แบบของปญั หาอยา่ งง่ายได้ (K)
2. อธบิ ายข้นั ตอนการแกป้ ญั หาเกมตัวตอ่ ได้ (K)
3. ปฏิบัติตามขั้นตอนการแก้ปญั หาเกมตวั ต่อได้ (P)
4. สนใจใฝร่ ใู้ นการศกึ ษา (A)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
- การแสดงข้ันตอนการแกป้ ญั หาทำได้โดยการเขยี นบอกเล่า วาดภาพ หรือใชส้ ัญลกั ษณ์
- ปัญหาอย่างง่าย เช่น เกมตัวต่อ 6-12 ชิ้น การแต่งตวั มาโรงเรียน
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ปัญหาเป็นสงิ่ ทีเ่ กิดขน้ึ ในชวี ติ ประจำวันสำหรบั ทกุ คน แต่เมื่อมปี ัญหาเกิดข้ึนสิง่ ทจ่ี ะควรทำคอื
การแก้ไขปญั หาโดยการหารปู แบบของปญั หา ซง่ึ ถอื วา่ เป็นการหาความสมั พันธข์ องปญั หาตา่ ง ๆ
โดยการเปรียบเทียบ การจัดกลุ่ม การเรียงลำดับ เพื่อช่วยให้การแก้ปญั หาเปน็ ไปอยา่ งราบรื่น
และง่ายดายมากขน้ึ
5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินัย รับผิดชอบ
- ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝเ่ รยี นรู้
2. ความสามารถในการคิด 3. มุ่งม่ันในการทำงาน
- ทักษะการคิดเชงิ คำนวณ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทกั ษะการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
- ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วธิ ีการสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่วั โมงที่ 1
ขนั้ นำ
ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามประจำหัวข้อว่า “รปู แบบของปญั หามีผลต่อการแกป้ ญั หาอย่างไร”
(แนวตอบ : เปน็ การหาความสมั พันธ์ของปัญหา โดยการเปรียบเทียบ จดั กลุ่ม เรยี งลำดับ
เพื่อช่วยใหส้ ามารถแก้ปัญหาได้ง่ายขนึ้ )
2. จากนนั้ ครนู ำบตั รภาพเกมตัวต่อให้นักเรยี นได้ดูพรอ้ มถามนกั เรยี นวา่ “นักเรยี นรู้หรือไม่
เกมน้ีมวี ธิ ีการเลน่ อยา่ งไร”
(แนวตอบ : ใหน้ กั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ ตามประสบการณ์ของนักเรียน)
3. ให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ 4 คน หรอื ตามความเหมาะสมเพ่ือเลน่ เกมตวั ต่อรว่ มกัน
ขั้นสอน
ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. ครมู อบหมายให้นักเรยี นเล่นเกมตวั ต่อ โดยครูแจกบัตรภาพเกมตวั ต่อให้นักเรยี นกลมุ่ ละ 4 แผ่น
และให้เวลาในการเล่นเกมตามความเหมาะสม กลุ่มใดทำกิจกรรมสำเรจ็ ก่อนกลุม่ นนั้ จะเปน็ ผ้ชู นะ
โดยแต่ละกลุ่มจะตอ้ งบนั ทึกระยะเวลาในการเลน่ เกมตวั ตอ่ ตัง้ แตเ่ ริ่มตน้ จนสำเร็จไว้
ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
2. จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นกล่มุ ทีช่ นะออกมาอภิปรายหนา้ ชนั้ เรยี นเก่ยี วกบั วิธีคดิ ในการเลน่ เกมตัวตอ่
และให้นกั เรียนศกึ ษาวิธคี ิดในการเลน่ เกมตัวต่อทเี่ หมาะสมจากหนังสือเรียน วิทยาการคำนวณ
ป.2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นขนั้ ตอน เพ่ือการเล่นเกมตัวตอ่ ได้อย่างถูกต้อง
และถกู วธิ ี
3. ครอู ธบิ ายเกร็ดน่ารใู้ นการเลน่ เกมตัวตอ่ ว่า“การฝึกเล่นเกมตัวตอ่ หรือเกมต่อจกิ ซอว์เปน็ ประจำ
จะทำให้นักเรยี นได้ฝึกใช้ทกั ษะในการหารูปแบบของปญั หา ช่วยใหม้ ีสมาธิ รจู้ ักสงั เกต และ
มีความอดทน”
ข้นั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
4. ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะเกมตวั ต่อในหนงั สือเรยี นและบันทกึ ลงในสมดุ ประจำตวั
เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น
5. ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่ม (กลุ่มเดิม) เพ่อื เล่นเกมตัวต่อโดยใชบ้ ตั รภาพเกมตัวต่อทง้ั 4 แผน่ เช่นเดมิ
แตใ่ นการเล่นเกมคร้ังนี้ให้ใช้วิธีการคิดตามหนังสือเรียน โดยมกี ตกิ าวา่ กล่มุ ใดทีท่ ำกจิ กรรมสำเรจ็
กอ่ นกลมุ่ นั้นจะเป็นผชู้ นะและให้ทกุ กลุ่มจดระยะเวลาในการเล่นเกมตัวตอ่ ต้ังแตเ่ ริม่ ตน้ จนสำเร็จ
6. จากนั้นครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุม่ เปรยี บเทียบระยะเวลาในการเล่มเกมตวั ต่อของท้ัง 2 คร้ัง
7. นักเรยี นทำความเข้าใจกับการหารูปแบบของปัญหาอยา่ งงา่ ยอีกแบบหนึ่ง คอื การเขยี นข้ันตอน
แบบเรียงลำดับ โดยให้นักเรยี นดูขน้ั ตอนการแต่งกายมาโรงเรียนจากหนังสือเรียน
8. ครูถามคำถามทา้ ทายการคดิ ข้ันสูงว่า“ในการเลือกเสื้อผ้าเครอ่ื งแต่งกายไปโรงเรยี นในแต่ละวนั
ใหถ้ ูกต้อง นกั เรยี นควรคำนงึ ถึงสิ่งใดบ้าง”
(แนวตอบ : ความสะอาด ความเรยี บรอ้ ย ความเหมาะสม ความถกู ต้อง)
9. ครใู หน้ กั เรียนทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะการแต่งกายมาโรงเรยี นในหนงั สอื เรยี น
Note
วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรมเพ่อื ใหน้ กั เรียน
- มที กั ษะการทำงานรว่ มกนั โดยใชก้ ิจกรรมแบบกระบวนการกล่มุ ในการเล่นเกม
ตัวตอ่ หรือเกมจิกซอว์จากบัตรภาพท่คี รูแจกให้
- มีทกั ษะการสื่อสารโดยการแลกเปลย่ี นวธิ กี ารคิดในการเล่นเกมตัวต่อหรือ
เกมจกิ ซอว์
- มีทักษะการคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาอยา่ งง่ายไมว่ า่ จะเป็นการเล่นเกม
ตวั ต่อ 6-12 ช้นิ หรือปญั หาการแต่งตวั มาโรงเรยี น
- มที ักษะการแก้ปญั หาทเี่ กิดข้นึ ขณะทำกจิ กรรมเลน่ เกมตัวต่อ 6-12 ชน้ิ
ภายในห้องเรยี น
ข้ันสรปุ
ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกนั ทำผลงาน และจากการนำเสนอ
ผลงานหน้าชนั้ เรยี น
2. ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรมฝึกทกั ษะและกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้
3. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรุปถงึ การแก้ปัญหาอย่างเป็นขัน้ ตอนวา่ “การแก้ปัญหาอย่างเป็นข้นั ตอน
สามารถทำได้โดยการเขยี นบอกเล่า การวาดภาพ หรอื การใชส้ ญั ลักษณ์ตา่ ง ๆ เพ่ือนำมาเขียน
เป็นผงั งานแสดงข้ันตอนในการแกป้ ัญหา โดยผทู้ ีแ่ ก้ปญั หาจะตอ้ งมสี ตขิ ณะดำเนินการแก้ปัญหา
เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุของปญั หาอย่างแน่ชัด และดำเนกิ ารแก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม”
4. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง การแก้ปัญหาอย่างเป็นขัน้ ตอน
5. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมเสรมิ สรา้ งการเรียนรู้ และทำช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรือ่ ง การแก้ปญั หา โดยให้นักเรยี นเลือกปัญหาทีก่ ำหนดให้ จากนั้นใหน้ กั เรียนเลือกแสดงขัน้ ตอน
การแก้ปัญหาซึ่งสามารถทำได้โดยการเขยี นบอกเล่า วาดภาพ หรือใชส้ ญั ลกั ษณ์ และนำมาส่งครู
ในชวั่ โมงถดั ไป
7. การวัดและประเมนิ ผล
รายการวดั วิธีวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน
7.1 การประเมนิ ระหวา่ งการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
จดั กจิ กรรม การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
1) พฤติกรรมการทำงาน
รายบคุ คล
2) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
กลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
3) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
อนั พึงประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมนั่ อันพงึ ประสงค์
7.2 การประเมนิ หลังเรียน ในการทำงาน
- แบบทดสอบหลังเรยี น - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมนิ ตามสภาพจริง
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 - ตรวจแบบทดสอบ
การแก้ปัญหา หลังเรียน
อย่างเป็นขัน้ ตอน
- การประเมินช้ินงาน - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน - แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คุณภาพ 2
/ภาระงาน (รวบยอด)
เรื่อง การแก้ปญั หา (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1
เรื่อง การแกป้ ญั หาอยา่ งเป็นขน้ั ตอน
2) บัตรภาพ เร่ือง เกมตวั ต่อ
บตั รภาพ
เรื่อง เกมตวั ตอ่
ชนิ้ งาน/ภาระงาน(รวบยอด)
เร่ือง การแกป้ ัญหา
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนเลือกปัญหาที่กำหนดให้ 1 ปัญหา จากน้นั ใหน้ ักเรยี นแสดงข้ันตอนการแกป้ ัญหา
ซง่ึ สามารถทำไดโ้ ดยการเขยี นบอกเล่า วาดภาพ หรือใชส้ ัญลักษณ์
1.ปญั หาข้ึนรถโรงเรียนไม่ทัน
2.ปญั หาการหาหนงั สือที่ต้องการไม่พบในห้องสมุด
3.ปญั หามกี ารปวดทอ้ งท่ีโรงเรยี น
1.นกั เรียนเลือกปญั หาใด ………………………………………………………………………………………………………
2.นักเรยี นเลอื กวธิ กี ารแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาแบบใด ...................................................................
3.จงแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา
ชน้ิ งาน/ภาระงาน(รวบยอด) เฉลย
เรื่อง การแกป้ ญั หา
คำชี้แจง : ให้นักเรยี นเลือกปัญหาทีก่ ำหนดให้ 1 ปัญหา จากน้นั ใหน้ กั เรยี นแสดงข้นั ตอนการแก้ปัญหา
ซง่ึ สามารถทำไดโ้ ดยการเขียนบอกเลา่ วาดภาพ หรือใช้สญั ลกั ษณ์
1.ปญั หาข้นึ รถโรงเรียนไม่ทัน
2.ปญั หาการหาหนังสือท่ีต้องการไม่พบในห้องสมดุ
3.ปญั หามีอาการปวดท้องที่โรงเรยี น
1.นกั เรยี นเลอื กปญั หาใด …………ป…ญั …ห…าม…อี …า…กา…ร…ป…วด…ท…้อ…งท…่โี …รง…เร…ีย…น………………………………………………
2.นกั เรยี นเลือกวิธีการแสดงขนั้ ตอนการแกป้ ญั หาแบบใด ............ก..า..ร..เ.ข...ีย..น..บ...อ..ก..เ.ล..า่...............................
3.จงแสดงข้ันตอนการแก้ปญั หา
ขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาอาการปวดท้องที่โรงเรียน
1.แจ้งครทู ป่ี รึกษาทราบ
2.ไปท่ีหอ้ งพยาบาล
3.แจง้ อาการครปู ระจำห้องพยาบาล
4.รับประทานยาแก้อาการปวดท้อง
5.นอนพักผ่อน หากอาการไม่ดขี ึน้ ให้รีบแจ้งครูประจำห้องพยาบาล
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อื่น
3 การทำงานตามหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย
4 ความมีน้ำใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ............/.................../................
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ ช่ือ–สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมนี ้ำใจ การมี รวม
ของนกั เรยี น ความคิดเหน็ ฟังคนอ่นื ตามทีไ่ ดร้ บั ส่วนร่วมใน 15
มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน
ผลงานกลมุ่
321321321321321
ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............./.................../...............
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ทีต่ รงกับระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 32 1
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่สี ร้างความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ ่อ
โรงเรยี น
1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถอื ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา
1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทเี่ กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ต์ ามท่โี รงเรียนจดั ขึ้น
2. ซ่อื สตั ย์ สุจริต 2.1 ใหข้ ้อมลู ทถ่ี กู ตอ้ งและเป็นจรงิ
2.2 ปฏบิ ตั ิในสิ่งทถี่ ูกตอ้ ง
3. มวี นิ ัย รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว
มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน
4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 รจู้ ักใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัตไิ ด้
4.2 รู้จักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม
4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้
4.4 ต้ังใจเรยี น
5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด
5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คุณคา่
5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน
6. มุง่ มนั่ ในการทำงาน 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนกึ ในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย
7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครทู ำงาน
8.2 รู้จกั การดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรยี นและ
โรงเรยี น
ลงชอ่ื ..................................................ผู้ประเมิน
............/.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก
พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี
พฤติกรรมท่ปี ฏิบัติบางครัง้ 30–40 พอใช้
ตำ่ กวา่ 30 ปรับปรุง
แบบประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แสดงลำดับข้นั ตอนการทำงาน หรอื การแก้ปญั หาอย่างงา่ ย โดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ
รายการ ดีมาก (4) เกณฑก์ ารประเมิน (ระดับคุณภาพ) ปรบั ปรุง (1) ระดบั
ประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) คณุ ภาพ
สามารถแก้ปัญหาได้ ไมส่ ามารถแกป้ ญั หาได้
1.การแก้ปัญหา อยา่ งถกู ต้อง ถกู วิธี สามารถแก้ปญั หาได้ สามารถแกป้ ัญหาได้ ดมี าก
ดีมาก อย่างถูกตอ้ ง ถกู วิธดี ี ค่อนข้างดี
2. การแสดงขัน้ ตอนการ เลอื กใช้วิธกี ารแก้ปญั หา เลือกใชว้ ธิ กี ารแกป้ ัญหา เลอื กใชว้ ิธีการแก้ปัญหา เลอื กใชว้ ิธกี ารแกป้ ญั หา ดี
แกป้ ญั หา พอใช้
ไดแ้ ละสามารถแสดง ไดแ้ ละสามารถแสดง ได้และสามารถแสดง ได้แตไ่ มส่ ามารถแสดง ปรับปรงุ
3. ความสมบรู ณ์ของผลงาน
ขัน้ ตอนการแก้ปญั หาได้ ข้ันตอนการแก้ปญั หาได้ ข้นั ตอนการแกป้ ัญหาได้ ขนั้ ตอนการแกป้ ัญหาได้
อย่างชดั เจนดมี าก อย่างชดั เจนดี ค่อนขา้ งดี
ผลงานมคี วามครบถว้ น ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมีความครบถว้ น ผลงานมีความครบถ้วน
สมบรู ณด์ มี าก สมบูรณ์คอ่ นขา้ งดี สมบูรณ์ดเี ป็นบางสว่ น สมบรู ณ์น้อย
4. สง่ งานตรงเวลา ส่งภาระงานภายในเวลา ส่งภาระงานชา้ กวา่ สง่ ภาระงานชา้ กว่า สง่ ภาระงานช้ากวา่
กำหนด 2 วนั กำหนดเกนิ 3 วันข้นึ ไป
ที่กำหนด กำหนด 1 วนั
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
14 - 16 ดีมาก
10 - 13 ดี
7 - 9 พอใช้
1 - 6 ปรับปรุง
9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ .................................
( ................................ )
ตำแหนง่ .......
10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2
การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม
รายวิชา คอมพิวเตอร์ ระยะเวลา 3 ช่ัวโมง
กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
1. ผลการเรยี นรู้
1. เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเบ้อื งต้น
2. เพอ่ื ให้ผู้เรียนมที กั ษะการคิดเชิงคำนวณ การคดิ วิเคราะห์ แกป้ ัญหาเปน็ ข้ันตอนและเปน็ ระบบ
3. เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นในการ
แก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจรงิ ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ
4. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการทักษะ
ในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสนิ ใจ
5. เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นเปน็ ผมู้ จี ติ วทิ ยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมในการใชว้ ทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
1) ตวั อยา่ งโปรแกรม เช่น เขียนโปรแกรมส่ังใหต้ วั ละครทำงานตามทต่ี ้องการ และตรวจสอบ
ขอ้ ผดิ พลาด ปรบั แก้ไขให้ไดผ้ ลลพั ธ์ตามที่กำหนด
2) การตรวจหาข้อผิดพลาด ทำไดโ้ ดยตรวจสอบคำสงั่ ท่ีแจ้งขอ้ ผิดพลาด หรือหากผลลพั ธ์ไม่เปน็ ไป
ตามท่ตี ้องการให้ตรวจสอบการทำงานทีละคำส่งั
3) ซอฟต์แวร์หรือส่อื ท่ใี ช้ในการเขยี นโปรแกรม เชน่ ใชบ้ ตั รคำสง่ั แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org
3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การเขียนโปรแกรม หมายถึง การเขียนชดุ คำสัง่ ให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามเงื่อนไขท่ีกำหนด ส่วนการเขียน
โปรแกรมแบบวนซ้ำ จะชว่ ยให้การเขียนโปรแกรมง่ายและสะดวกขึ้น โดยไมต่ ้องเขียนโปรแกรมซ้ำกันหลาย ๆ คร้ัง และ
เม่ือทำการเขียนโปรแกรมเสร็จแล้วจะต้องทำการตรวจสอบข้อผิดพลาด ซ่งึ ถือวา่ เปน็ ขนั้ ตอนหนึ่งทส่ี ำคัญในการเขียน
โปรแกรม โดยในข้ันตอนน้ีจะต้องตรวจสอบว่าไดผ้ ลลพั ธ์ตรงตามที่ต้องการหรือไม่ และถ้าพบข้อผดิ พลาดจะต้องทำการ
แก้ไขให้เรียบร้อย นอกจากน้ันการเขียนโปรแกรมดว้ ย Code.org เป็นการเรยี นรู้การเขยี นโปรแกรมโดยใช้เกมส์เป็นส่ือ
ช่วยดงึ ดูดความสนใจและกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียน โดยในบทเรียนประกอบดว้ ย การเรียนรู้คำส่ังท่ีใช้เขียน
โปรแกรมแบบจัดลำดับ การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ และการตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการเขียนโปรแกรม
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี ินัย รบั ผิดชอบ
- ทักษะการส่ือสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการคดิ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
- ทักษะการคิดเชิงคำนวณ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทักษะการแก้ปญั หา
- ทักษะการสงั เกต
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
- ทักษะการทำงานร่วมกัน
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
6. การวัดและการประเมนิ ผล
รายการวัด วิธวี ัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน
6.1 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน - ตรวจชน้ิ งาน/ - แบบประเมนิ ชน้ิ งาน ระดบั คุณภาพ 2
(รวบยอด) เร่ือง การตรวจหา ภาระงาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
ขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม
6.2 การประเมนิ ก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
- แบบทดสอบก่อนเรียน ก่อนเรียน
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2
เร่ือง การตรวจหาข้อผิดพลาด
ของโปรแกรม
6.3 ประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรม - ตรวจใบงานที่ 2.1.1 - ใบงานท่ี 2.1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การเรียนรู้
1) การหาเส้นทาง
2) การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด - ตรวจใบงานท่ี 2.2.1 - ใบงานที่ 2.2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
จากการเขียนโปรแกรม
3) การเขยี นโปรแกรมด้วย - ตรวจใบงานท่ี 2.3.1 - ใบงานท่ี 2.3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
Code.org
4) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์