The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ป2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ดลพฤกษ์ ทันเจริญ, 2020-10-11 06:06:49

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ป2

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ป2

รายการวดั วิธีวัด เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
5) พฤตกิ รรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล
6) พฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม

7) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - สงั เกตความมีวินยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
ความรับผิดชอบ คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
6.4 การประเมินหลงั เรยี น ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มัน่ อนั พงึ ประสงค์
- แบบทดสอบหลังเรียน ในการทำงาน ประเมินตามสภาพจริง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 - แบบทดสอบหลังเรียน
เร่ือง การตรวจหาข้อผดิ พลาด - ตรวจแบบทดสอบ
ของโปรแกรม หลังเรียน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม

เร่อื งที่ 1: การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ เวลา 1 ช่วั โมง

วธิ ีการสอนโดยเน้นการจัดการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ข้ันนำ

ข้ันที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครูถามนักเรยี นวา่ “นกั เรียนรู้หรือไม่ว่าการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ มลี ักษณะเป็นอยา่ งไร”
และ “นักเรียนคดิ วา่ การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ มีขอ้ ดอี ย่างไร”
2. จากน้นั ครูอธบิ ายเกย่ี วกบั การเขียนโปรแกรมเพื่อเช่ือมโยงเข้าสู่บทเรยี น

ข้นั สอน

ข้ันที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. ครถู ามคำถามเพื่อกระตุน้ ความคิดของนักเรียนว่า“นักเรยี นคดิ ว่านำ้ ผ้ึงเกิดขึ้นได้อย่างไร
ใครเปน็ ผผู้ ลติ ข้ึนมา และมีกระบวนการผลิตนำ้ ผง้ึ อย่างไร”
2. นักเรยี นร่วมกันออกแบบกระบวนการผลิตน้ำผง้ึ โดยครคู อยบันทกึ ลงบนกระดานหนา้ ชน้ั เรยี น
3. ครูถามคำถามกบั นักเรยี นว่า“นักเรยี นคดิ ว่ากระบวนการผลิตน้ำผ้งึ มีการทำงานซ้ำ ๆ กนั
หรือไม่ อย่างไรบ้างทีต่ ้องทำงานซ้ำ ๆ”

4. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพือ่ สงั เกตและศึกษาสัญลกั ษณ์
ของชุดคำสัง่ จากหนังสือเรียน หรอื ศึกษาเกีย่ วกบั ความหมายของชดุ คำสงั่ จากใบงานที่ 2.1.1
เร่ือง การหาเส้นทาง
ข้ันที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันศึกษาการเขยี นคำสง่ั ให้ผ้ึงเดนิ ไปเก็บน้ำหวานโดยใช้โปรแกรม
Code.org จากหนังสือเรียนและศกึ ษาวิธีการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ
6. ครูสมุ่ นักเรียน 2-3 กลุ่มออกมาอภิปรายหนา้ ชนั้ เรียนเกี่ยวกบั การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้
7. ครอู ธิบายเกร็ดน่ารู้เพื่อใหน้ กั เรียนเกดิ ความเข้าใจมากย่ิงขน้ึ
ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
8. ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุม่ ลงมือทำใบงานที่ 2.1.1 เรือ่ ง การหาเส้นทาง เพื่อขยายความเขา้ ใจ

โดยใหน้ ักเรยี นเขียนโปรแกรมคำสง่ั จากสถานการณ์ท่ีกำหนดให้
9. จากนน้ั ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอการเขียนโปรแกรมคำสัง่ หนา้ ชน้ั เรยี น
10. ครมู อบหมายให้นักเรียนรว่ มกันจดั หอ้ งใหมใ่ หม้ ีพ้นื ท่ีว่างโดยการนำเชอื กมาขึงเปน็ ตาราง

ขนาด 4x4 (จำนวน16ช่อง)
11. ครูสุ่มนักเรยี นออกมาทำกจิ กรรม 3 คน โดยใหผ้ ูเ้ ลน่ คนแรกแสดงเปน็ ผึง้ ผู้เล่นคนทสี่ อง

แสดงเปน็ ดอกไม้ และผเู้ ลน่ คนทีส่ ามแสดงเป็นรวงผ้งึ โดยมกี ตกิ าในการทำกจิ กรรมดงั นี้
ให้ผ้เู ลน่ ทง้ั 3 คน ยืนตามตำแหนง่ ทปี่ รากฏอยู่ในใบงาน และให้ผเู้ ล่นคนท่ีสองถือ
บัตรภาพหยดน้ำหวาน จำนวน 3 หยด
12. ครูคัดเลอื กผลงานการเขยี นโปรแกรมคำสง่ั ทสี่ มบูรณ์ที่สุดมาตรวจสอบคำสั่ง โดยครู
ใหข้ ้อเสนอแนะกับนักเรียนตามความเหมาะสม
13. ครใู หน้ ักเรียนทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะในการหาเส้นทางทีจ่ ะพากระต่ายกลับไปยังสวนสัตว์
จากหนงั สอื เรียน และบนั ทึกลงในสมดุ ประจำตวั

ข้นั สรปุ

ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูตรวจสอบและสรุปข้ันตอนการเขยี นโปรแกรมคำส่ังท่ถี กู ตอ้ งใหน้ ักเรียนดู
2. ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรมฝกึ ทักษะจากหนงั สือเรียน
3. นักเรียนและครูร่วมกนั สรปุ เก่ียวกับการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ว่า“การเขยี นโปรแกรม
แบบวนซ้ำจะช่วยใหก้ ารเขยี นโปรแกรมคำสั่งสะดวกและงา่ ยขึ้น โดยไม่ต้องเขยี นโปรแกรม
คำส่งั ซำ้ กนั หลาย ๆ คร้ัง ชว่ ยให้ประหยดั ระยะเวลาในการเขยี นโปรแกรม”

เรือ่ งท่ี 2: การตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดจากการเขยี นโปรแกรม เวลา 1 ชว่ั โมง

วธิ ีการสอนโดยเน้นการจดั การเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ขนั้ นำ

ขน้ั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามเพื่อกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นว่า“ในชีวิตประจำวันนักเรยี นพบ
ความผิดพลาดอะไรบ้าง และนกั เรยี นจะมวี ธิ ีการชว่ ยลดความผดิ พลาดทีเ่ กดิ ขน้ึ ได้อย่างไร”
2. ครูทบทวนความรู้จากชั่วโมงท่ีผ่านมา พร้อมซักถามคำถามประจำหัวขอ้ เพ่ือกระตนุ้ ความสนใจ
ของนักเรียนว่า“การตรวจสอบข้อผิดพลาดมปี ระโยชน์อย่างไรตอ่ การเขยี นโปรแกรมคำสัง่ ”
จากนั้นครูกล่าวเพ่อื เช่ือมโยงเข้าสูบ่ ทเรยี น

ข้นั สอน

ข้นั ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม โดยให้นกั เรยี นสงั เกตสญั ลกั ษณ์
ของชดุ คำส่งั จากใบงานที่ 2.2.1 เรอ่ื ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดจากการเขียนโปรแกรม และ

ศกึ ษาเน้ือหาสถานการณ์ตัวอย่างจากหนงั สือเรยี น
ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)

2. ครสู ่มุ นกั เรยี น 2-3 กลุ่มออกมาอภิปรายเกย่ี วกับข้นั ตอนการตรวจสอบข้อผิดพลาด
หนา้ ชน้ั เรยี น และมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมฝึกทกั ษะจากหนงั สือเรียน
เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจ โดยให้นกั เรยี นแก้ไขขอ้ ผดิ พลาดใหถ้ กู ต้องจากนน้ั บันทกึ คำตอบ
ลงในสมดุ ประจำตัว

3. เปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาสถานการณ์ตัวอยา่ งจากการตรวจสอบขอ้ ผิดพลาด
ของโปรแกรมทีละคำสั่งจากหนงั สือเรยี น จากนนั้ ครูอธบิ ายเกรด็ น่ารใู้ ห้นกั เรยี นฟงั

ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
4. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันศกึ ษาการเขียนโปรแกรมจากชุดคำส่งั ในใบงาน
โดยหาขอ้ ผดิ พลาดของคำสั่ง จากนนั้ แกไ้ ขคำส่ังให้ถูกต้อง และใหแ้ กตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอ
ขั้นตอนการแก้ไขคำส่งั หน้าช้ันเรียน
5. ครใู หน้ กั เรียนทำกิจกรรมฝกึ ทักษะในหนังสอื เรยี นเพือ่ ขยายความเข้าใจมากยง่ิ ข้นึ โดยใหน้ กั เรยี น
พจิ ารณาบัตรคำสั่ง และหาผลลพั ธท์ ่ีเกิดขึน้ ให้ถกู ตอ้ ง โดยเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสามารถพดู คยุ
แลกเปลยี่ นความคิดเห็นรว่ มกนั ภายในหอ้ งเรียน

ขั้นสรปุ

ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูสมุ่ นักเรยี น 2-3 คน รว่ มกันตอบคำถามวา่ “นักเรียนจะนำวิธกี ารตรวจสอบข้อผิดพลาดท่ีได้
เรียนรู้น้ี ไปช่วยลดข้อผดิ พลาดทีอ่ าจจะเกิดขึน้ ในชวี ิตประจำวนั ของตนเองได้อย่างไร”
2. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานท่ี 2.2.1 และการทำกิจกรรมฝกึ ทักษะ
3. นกั เรียนและครสู รปุ เนอ้ื หาร่วมกนั เก่ยี วกับการตรวจสอบข้อผดิ พลาดจากการเขยี นโปรแกรม

เรือ่ งท่ี 3: การหารูปแบบของปัญหาอย่างง่าย เวลา 1 ชัว่ โมงวธิ กี าร

สอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ข้นั นำ

ข้นั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนกั เรียน และถามคำถามกับนักเรียนว่า “นักเรยี นรจู้ ักการเขียน
โปรแกรมด้วย Code.org หรือไม่ และการเขียนโปรแกรมด้วย Code.org มีประโยชน์อย่างไร”
2. ครพู ูดกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนว่า“วนั นคี้ รูจะใหน้ ักเรยี นทดลองใชเ้ วบ็ ไซต์ Code.org”
พร้อมอธบิ ายเพอื่ เช่ือมโยงเขา้ สูบ่ ทเรียน

ขั้นสอน

ข้ันท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรียนเขา้ สเู่ วบ็ ไซต์ Code.org โดยทำตามขนั้ ตอนท่คี รูอธิบาย
2. เปิดโอกาสให้นักเรยี นได้ศกึ ษาการเขียนโปรแกรมจากเวบ็ ไซต์ Code.org ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์
ของตนเอง โดยกำหนดระยะเวลาตามความเหมาะสม
3. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 2-3 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพื่อศึกษาสถานการณต์ ัวอย่าง
และคำสั่งควบคุมการทำงานของผึ้งโดยใช้โปรแกรม Code.org จากหนงั สือเรียน

ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
4. ครูใชค้ ำถามทา้ ทายการคดิ ขัน้ สงู ของนักเรยี นวา่ “ในการทำนายผลลพั ธ์ นอกจากจะใชว้ ธิ ีการ
พิจารณาทีละคำสงั่ แลว้ นกั เรยี นมวี ิธีการทำนายผลลพั ธ์ในรูปแบบอ่นื อีกหรือไม่ อย่างไร”

ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
5. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มลงมือทำใบงานท่ี 2.3.1 เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมดว้ ย Code.org
โดยลากเสน้ จบั คู่สถานการณ์กับโปรแกรมคำสง่ั ใหถ้ ูกต้องตรงกนั และเลือกโปรแกรมคำสั่ง
จากสถานการณท์ ่ีกำหนดไว้ได้อยา่ งถูกต้อง

6. นกั เรยี นออกมานำเสนอผลงานจากการทำใบงานหนา้ ชน้ั เรียน
7. นกั เรียนทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะจากหนงั สือเรยี นเพ่ือขยายความเข้าใจ จากน้นั บนั ทึกคำตอบ

ลงในสมุดประจำตวั และนำมาอภิปรายรว่ มกนั ในชั้นเรยี น

ขน้ั สรปุ

ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครตู รวจสอบการเขียนโปรแกรมคำสั่งของนกั เรยี นจากการทำใบงานและการทำกจิ กรรม
ฝึกทกั ษะ และถามนักเรียน 2-3 คนวา่ “จากการเลน่ เกมส์ในเว็บไซต์ Code.org นกั เรียน
ได้เรียนร้วู ธิ ีการเขียนโปรแกรมคำส่งั อย่างไรบ้าง”
2. นักเรียนและครูสรุปร่วมกัน และให้นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2
เรื่อง การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม
3. นักเรยี นทำกิจกรรมเสรมิ สรา้ งการเรียนรู้จากหนังสือเรยี นและทำชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เร่อื ง การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม จากนัน้ บันทึกคำตอบลงในสมดุ และนำมาสง่
ในช่วั โมงถัดไป

8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น วิทยาการคำนวณ ป.2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของ
โปรแกรม
2) ใบงานท่ี 2.1.1 เรื่อง การหาเส้นทาง
3) ใบงานท่ี 2.2.1 เร่ือง การตรวจหาข้อผิดพลาดจากการเขยี นโปรแกรม
4) ใบงานที่ 2.3.1 เร่ือง การเขียนโปรแกรมดว้ ย Code.org
5) บัตรภาพหยดนำ้ หวาน
6) เชอื ก
7) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) อินเทอร์เนต็
2) ห้องคอมพิวเตอร์

แบบทดสอบก่อนเรียน

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2

คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. จงเรยี งลำดบั การทำงานของผึง้ ในการออกหา 4. ข้อใดกล่าวถึงการทำงานแบบวนซ้ำได้ถูกต้องทีส่ ุด
น้ำหวานจากเกสรดอกไม้เพอื่ นำมาผลิตน้ำผ้ึง ก. เป็นการทำงานตามลำดับข้นั ตอนทไ่ี ดว้ างแผนไว้
ทร่ี วงผงึ้ ข. เป็นการทำงานทซ่ี ับซ้อนและมีขั้นตอนซำ้ ๆ
a. เดินทางออกจากรวงผ้ึง ค. เป็นการทำงานแบบเดิมซำ้ กันหลาย ๆ รอบ
b. ผลิตนำ้ ผึง้ ทร่ี วงผ้ึง
c. หานำ้ หวานจากเกสรดอกไม้ 5. สถานการณใ์ นข้อใดจำเป็นต้องเขียนคำสั่งแบบวนซ้ำ
ก. a → b → c ก. มดลำเลียงอาหารเข้ารงั
ข. a → c → b ข. ปลวกกัดแทะอาหารอยู่ภายในรงั
ค. c → b → c ค. ผ้ึงอาศัยอยูร่ วมกันเป็นฝงู

2. การเขียนชดุ คำสัง่ ให้คอมพิวเตอรท์ ำงาน 6. จงเขียนเส้นทางการเกบ็ น้ำหวานจากดอกไม้ 3 ดอก
ตามเงื่อนไขท่ีกำหนด มแี นวคดิ ในการเขยี น เพอื่ นำมาผลิตน้ำผ้ึงทร่ี วงผ้ึง 3 รวงใหไ้ ดส้ ัน้ ทีส่ ุด
โปรแกรมตามข้อใด จากสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ ดังนี้
ก. การออกแบบ → การเขยี นชดุ คำส่งั
→ การตรวจสอบผลลพั ธ์ 33
ข. การวเิ คราะหข์ ้อมูล → การออกแบบ
→ การเขยี นชุดคำสง่ั ก. (บิน) → (บิน) → (เก็บ) → (เกบ็ ) → (เกบ็ )
ค. การเขียนชุดคำส่งั → การตรวจสอบผลลัพธ์ → (บิน) → (ผลติ ) → (ผลติ ) → (ผลิต)
→ การนำไปใช้
ข. (บิน) → (บิน) → (เก็บนำ้ หวานซำ้ 3 คร้งั )
3. ขอ้ ใดคือสัญลกั ษณ์ของการทำซ้ำ → (บิน) → (ผลติ นำ้ ผง้ึ ซำ้ 3 ครั้ง)
ก.
ค. (บนิ ไปทางขวาซำ้ 2 ครั้ง) → (เกบ็ นำ้ หวาน
ซำ้ 3 ครงั้ ) → (บนิ ไปทางขวา 1 ครง้ั ) →
(ผลิตนำ้ ผงึ้ ซ้ำ 3 คร้ัง)

ข.

ค.

7. การเขยี นโปรแกรมคำสง่ั ในขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั 9. จากสถานการณ์และโปรแกรมคำส่ังทผ่ี ดิ พลาด
สถานการณ์ดังต่อไปน้ี ควรแกไ้ ขตามข้อใดใหผ้ ง้ึ สามารถเก็บน้ำหวาน
ได้สำเรจ็
ก.
ก.
ข. ข.
ค.
ค.
10. จากภาพสถานการณ์และโปรแกรมคำส่งั
8. การเขยี นโปรแกรมคำส่งั ในขอ้ ใดสามารถพานก สว่ นใดทท่ี ำใหโ้ ปรแกรมคำส่ังเกิดข้อผดิ พลาด
สแี ดงไปหาเจา้ หมไู ด้อยา่ งปลอดภัย

ก.

ก.
ข.

ข.

ค.
ค.

เฉลย
1. ข 2. ก 3. ค 4. ค 5. ก 6. ค 7. ค 8. ข 9. ก 10. ก

แบบทดสอบหลังเรยี น

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2

คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาภาพด้านล่าง และเลือกคำส่ัง 3. สญั ลักษณ์ หมายถงึ ขอ้ ใด

เสน้ ทางท่พี าแม่นกเข้ารงั ได้อย่างปลอดภยั ก. การวนซ้ำ ๆ

โดยแม่นกจะตอ้ งไมบ่ นิ ผา่ นต้นไมแ้ ละอีกา ข. การเวียนซ้ำ

ค. การทำซ้ำ

4. วธิ กี ารเขียนโปรแกรมแบบใด ทำให้คอมพวิ เตอร์

ทำงานตามข้ันตอนแบบเดิมซ้ำ ๆ ลดน้อยลง

ก. การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้

ข. การเขยี นโปรแกรมแบบทำซ้ำ

ค. การเขยี นโปรแกรมแบบเวียนซำ้

5. การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำใชไ้ ดก้ ับสถานการณ์

ในข้อใด

ก. วินยั ทำการบา้ นสง่ ครเู ปน็ ประจำ

ข. เดชาขนของจำนวน 10 ช้ินเกบ็ ไว้ในหอ้ งเกบ็ ของ

ก. ค. สมศรีตงั้ ใจเรียนจนไดเ้ กรดดอี ย่างต่อเน่ือง

ข. 6. โปรแกรมคำสั่งดังต่อไปน้ี ตรงกบั ภาพเสน้ ทางของผึง้
ในข้อใด
ค. (บนิ ไปทางขวา 1 ครั้ง) → (เกบ็ น้ำหวาน)
→ (บินไปทางขวา 2 คร้งั ) → (ผลิตน้ำผึ้ง)
2. ขอ้ ใดคือแนวคิดในการเขียนโปรแกรม ก.
เพ่ือใหค้ อมพิวเตอร์ทำงานตามที่กำหนด
ก. การวเิ คราะห์ข้อมูล → การออกแบบ

→ การเขยี นชุดคำสัง่

ข. การออกแบบ → การเขยี นชดุ คำสั่ง ข.

→ การตรวจสอบผลลพั ธ์

ค. การเขียนชุดคำสง่ั → การตรวจสอบผลลพั ธ์

→ การนำไปใช้ ค.

7. การเขยี นโปรแกรมคำสั่งในข้อใดสอดคล้องกับ 9. จากสถานการณ์และโปรแกรมคำสง่ั ทผ่ี ดิ พลาด
สถานการณด์ ังต่อไปน้ี ควรแก้ไขตามข้อใดใหผ้ งึ้ สามารถเก็บน้ำหวาน
ได้สำเรจ็
ก.
ก.
ข.
ข.
ค.
ค.
8. โปรแกรมคำส่งั ดังต่อไปนต้ี รงกบั เสน้ ทาง
การพานกสีแดงไปหาเจ้าหมใู นภาพใด 10. จากภาพสถานการณ์และโปรแกรมคำส่งั
สว่ นใดที่ทำใหโ้ ปรแกรมคำสัง่ เกิดข้อผดิ พลาด

ก.

ข.
ก.

ค. ข.
ค.

เฉลย
1. ก 2. ข 3. ค 4. ก 5. ข 6. ค 7. ค 8. ข 9. ข 10. ค

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ระยะเวลา 1 ชั่วโมง

กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าเพมิ่ เตมิ คอมพิวเตอร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2

1. ผลการเรียนรู้
1. เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเบอ้ื งตน้
2. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นมีทักษะการคดิ เชงิ คำนวณ การคิดวิเคราะห์ แกป้ ัญหาเปน็ ขน้ั ตอนและเปน็ ระบบ
3. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นในการ
แก้ปัญหาทีพ่ บในชีวติ จรงิ ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
4. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการทักษะ
ในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสินใจ
5. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายขั้นตอนในการเขียนโปรแกรมและการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำได้ (K)
2. เขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ได้ถกู ต้อง (P)
3. เห็นความสำคัญและประโยชน์ของการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ (A)

3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง

- ตวั อย่างโปรแกรม เชน่ เขียนโปรแกรมสงั่ ใหต้ วั ละคร ทำงานตามทตี่ ้องการ และตรวจสอบข้อผดิ พลาด
ปรับแกไ้ ขให้ไดผ้ ลลัพธต์ ามทีก่ ำหนด
- ซอฟตแ์ วร์หรอื สื่อท่ีใช้ในการเขียนโปรแกรม เชน่ ใชบ้ ัตรคำสัง่ แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org

4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การเขียนโปรแกรม หมายถึง การเขียนชุดคำส่งั ใหค้ อมพิวเตอรท์ ำงานตามเง่ือนไขที่กำหนด โดยเริ่ม

กระบวนการตั้งแต่การออกแบบโปรแกรม การเขียนชุดคำสัง่ เพ่ือใหโ้ ปรแกรมทำงานตามทอี่ อกแบบไว้ จนกระทัง่
ตรวจสอบผลลัพธ์การทำงานทีไ่ ด้ และทำการแก้ไขขอ้ ผดิ พลาดทพ่ี บ สว่ นการเขยี นโปรแกรม

แบบวนซ้ำ จะชว่ ยใหก้ ารเขยี นโปรแกรมง่ายและสะดวกข้ึน โดยไมต่ ้องเขยี นโปรแกรมซำ้ กนั หลาย ๆ ครง้ั

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี ินยั รบั ผิดชอบ

- ทกั ษะการส่ือสาร 2. ใฝ่เรียนรู้

2. ความสามารถในการคิด 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

- ทักษะการคดิ เชิงคำนวณ

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

- ทักษะการแก้ปัญหา

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

- ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชัว่ โมงที่ 1

ขนั้ นำ

ข้นั ท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง การตรวจหาข้อผิดพลาด
ของโปรแกรมเพ่ือวดั ความรเู้ ดิมของนักเรยี นก่อนเขา้ สู่กจิ กรรม
2. ครูถามนักเรยี นวา่ “นักเรยี นรู้หรือไมว่ า่ การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ มีลักษณะเปน็ อย่างไร”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนขน้ึ อยกู่ ับดุลยพินจิ ของครูผูส้ อน)
3. ครูถามนักเรียนตอ่ วา่ “นกั เรียนคิดว่าการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ มีขอ้ ดอี ย่างไร”
(แนวตอบ : การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ จะชว่ ยให้การเขียนโปรแกรมงา่ ยและสะดวกขึ้น
โดยไมต่ ้องเขียนคำสั่งซ้ำกันหลาย ๆ รอบ)
4. ครูอธบิ ายเกีย่ วกับการเขยี นโปรแกรมเพ่อื เชื่อมโยงเข้าสูบ่ ทเรียนว่า“การเขียนโปรแกรม คอื
การเขยี นชดุ คำสงั่ ขึ้นเพ่ือให้คอมพิวเตอรท์ ำงานตามเงอ่ื นไขท่ผี เู้ ขียนโปรแกรมเป็นคนกำหนด
โดยมีแนวคดิ 3 ขน้ั ตอน คือ การออกแบบ การเขียนชุดคำส่ัง และการตรวจสอบผลลพั ธ์”

ข้นั สอน

ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. ครถู ามคำถามเพ่ือกระตุ้นความคิดของนักเรยี นว่า“นักเรยี นคดิ ว่าน้ำผึ้งเกิดข้นึ ได้อยา่ งไร
ใครเป็นผู้ผลิตข้นึ มา และมีกระบวนการผลติ นำ้ ผ้ึงอย่างไร”

(แนวตอบ : นำ้ ผ้งึ เกดิ จากน้ำหวานของเกสรดอกไม้ทผี่ งึ้ หลาย ๆ ตวั ช่วยกนั บินไปหาน้ำหวาน
จากเกสรดอกไม้หลาย ๆ ดอก และนำมาผลิตรวมกนั ไวท้ ่รี วงผ้ึง)
2. นักเรียนรว่ มกนั ออกแบบกระบวนการผลติ น้ำผึง้ โดยครคู อยบนั ทกึ ลงบนกระดานหน้าช้ันเรยี น

(แนวตอบ : ผ้งึ เดนิ ทางออกจากรวงผ้ึง → เกบ็ น้ำหวานจากดอกไม้หลาย ๆ ดอก →
นำน้ำหวานไปผลิตเป็นนำ้ ผึ้งที่รวงผง้ึ )
3. ครถู ามคำถามกบั นักเรียนวา่ “นักเรยี นคดิ วา่ กระบวนการผลิตนำ้ ผึ้งมีการทำงานซ้ำ ๆ กนั
หรือไม่ อยา่ งไรบา้ งที่ต้องทำงานซ้ำ ๆ”
(แนวตอบ : กระบวนการผลติ น้ำผ้ึงมีกระบวนการทำงานทซี่ ้ำ ๆ กนั ดังน้ี

1. ข้ันตอนเดนิ ทาง เพราะผึง้ ตอ้ งเดนิ ทางหลาย ๆ รอบ
2. ขน้ั ตอนเก็บน้ำหวาน เพราะผ้งึ ต้องเกบ็ น้ำหวานจากเกสรดอกไม้หลาย ๆ ดอก
3. ข้ันตอนผลิตนำ้ หวาน เพราะผ้ึงมีขนาดตวั ท่ีเลก็ สง่ ผลใหเ้ กบ็ น้ำหวานได้จำกัด

ในแต่ละคร้งั จึงต้องนำน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ไปผลิตนำ้ ผ้ึงที่รวงผงึ้ หลาย ๆ รอบ)
4. ครูอธิบายกับนักเรียนวา่ “การทำงานเป็นกระบวนการซ้ำ ๆ กันหากถูกนำมาเขยี นโปรแกรม

จะเปน็ การเขยี นโปรแกรมคำสง่ั ในรูปแบบท่ีใหโ้ ปรแกรมทำงานซ้ำกันหลาย ๆ รอบ โดยใช้
สญั ลกั ษณ์ตา่ ง ๆ ในการเขยี นชดุ คำส่ังเพื่อใหค้ อมพิวเตอร์ทำงานตามเง่ือนไขที่กำหนด”
5. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน หรือตามความเหมาะสม เพื่อสังเกตและศึกษาสัญลกั ษณ์
ของชดุ คำสั่งจากหนงั สือเรยี น วิทยาการคำนวณ ป.2 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 หรอื ศกึ ษา

เกีย่ วกับความหมายของชุดคำส่งั จากใบงานที่ 2.1.1 เรอ่ื ง การหาเส้นทาง
ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)

6. นักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกันศึกษาการเขียนคำส่งั ให้ผง้ึ เดนิ ไปเก็บนำ้ หวานโดยใชโ้ ปรแกรม
Code.org จากหนังสือเรยี นและศกึ ษาวิธีการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้
7. ครสู ุม่ นกั เรยี น 2-3 กลุ่มออกมาอภปิ รายหน้าชัน้ เรียนเกยี่ วกับการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้

(แนวตอบ : การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ หมายถึง การเขียนชุดคำสัง่ ให้โปรแกรมทำงานซ้ำ
กันหลายรอบ นักเรียนจะเขียนโปรแกรมคำสั่งไดก้ ต็ ้องรู้ความหมายของคำสัง่ แต่ละคำส่ังว่า

มหี น้าท่ีการทำงานอยา่ งไร)
8. ครูอธบิ ายเกรด็ น่ารเู้ พื่อให้นักเรียนเกดิ ความเขา้ ใจมากย่งิ ขึ้นว่า“การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ

จะช่วยให้การเขียนโปรแกรมง่ายขึน้ และมคี วามสะดวกมากยิ่งข้ึน โดยไมต่ ้องเขยี นโปรแกรม
ซำ้ กันหลาย ๆ รอบ ช่วยลดความซ้ำซอ้ นในการทำงาน”
ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
9. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำใบงานท่ี 2.1.1 เรอื่ ง การหาเส้นทาง เพ่ือขยายความเข้าใจ
โดยให้นักเรียนเขียนโปรแกรมคำส่ังจากสถานการณ์ทก่ี ำหนดให้
10. จากน้นั ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอการเขยี นโปรแกรมคำสง่ั หน้าชน้ั เรยี น

11. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นรว่ มกันจัดห้องใหมใ่ ห้มีพ้ืนทว่ี า่ งโดยการนำเชือกมาขึงเปน็ ตาราง
ขนาด 4x4 (จำนวน16ช่อง)

12. ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมาทำกจิ กรรม 3 คน โดยใหผ้ ้เู ล่นคนแรกแสดงเป็นผง้ึ ผเู้ ล่นคนท่ีสอง
แสดงเปน็ ดอกไม้ และผเู้ ล่นคนทสี่ ามแสดงเปน็ รวงผ้ึง โดยมีกตกิ าในการทำกจิ กรรมดงั น้ี
ใหผ้ ูเ้ ล่นท้ัง 3 คน ยนื ตามตำแหน่งที่ปรากฏอยู่ในใบงาน และใหผ้ ูเ้ ลน่ คนท่ีสองถือ
บัตรภาพหยดน้ำหวาน จำนวน 3 หยด

13. ครคู ดั เลือกผลงานการเขียนโปรแกรมคำสง่ั ที่สมบูรณ์ทส่ี ุดมาตรวจสอบคำสง่ั โดยครู
ให้ขอ้ เสนอแนะกับนักเรียนตามความเหมาะสม

14. ครใู ห้นักเรียนทำกจิ กรรมฝึกทักษะในการหาเสน้ ทางทจ่ี ะพากระต่ายกลบั ไปยงั สวนสตั ว์
จากหนงั สอื เรยี น และบันทึกลงในสมดุ ประจำตัว

Note
วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพอ่ื ให้นักเรียน
- มที ักษะการทำงานร่วมกัน โดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ เพ่ือส่ือสารและศกึ ษาข้อมูล

พรอ้ มร่วมกนั อภิปรายร่วมกนั เกีย่ วกับการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ จากโปรแกรม Code.org
- มีทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณในการเขยี นโปรแกรมคำส่งั จากสถานการณ์ท่ีกำหนด

โดยมรี ะยะเวลาตามความเหมาะสม
- มที กั ษะการแก้ปัญหาและทักษะการสือ่ สารในการทำกจิ กรรมตรวจสอบคำสงั่

และร่วมกนั หาคำตอบโดยรว่ มกนั คิดคน้ แลกเปลีย่ นประสบการณ์รว่ มกันพร้อมแกป้ ัญหา
เฉพาะหน้าได้อยา่ งถูกต้อง

ข้นั สรปุ

ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูตรวจสอบและสรปุ ขั้นตอนการเขียนโปรแกรมคำส่ังที่ถกู ต้องใหน้ ักเรียนดู
2. ครตู รวจสอบผลการทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะจากหนังสือเรียน
3. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ เกี่ยวกบั การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำวา่ “การเขยี นโปรแกรม
แบบวนซำ้ จะช่วยให้การเขยี นโปรแกรมคำส่ังสะดวกและง่ายขึน้ โดยไมต่ ้องเขียนโปรแกรม
คำสง่ั ซ้ำกันหลาย ๆ คร้ัง ช่วยใหป้ ระหยัดระยะเวลาในการเขียนโปรแกรม”

7. การวดั และประเมินผล วธิ ีวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมนิ
- ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
รายการวดั ก่อนเรยี น ก่อนเรยี น

7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 2.1.1 - ใบงานที่ 2.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบทดสอบก่อนเรยี น
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
เรอื่ ง การตรวจหา
ข้อผดิ พลาด
ของโปรแกรม

7.2 การประเมินระหว่างการ
จัดกิจกรรม
1) การหาเสน้ ทาง

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
ผลงาน
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์

รายบุคคล การทำงานรายบุคคล

4) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
กลมุ่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์

5) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
อันพึงประสงค์ ความรับผิดชอบ คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่ัน อนั พงึ ประสงค์
ในการทำงาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
เร่อื ง การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม
2) ใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง การหาเสน้ ทาง
3) บตั รภาพหยดน้ำหวาน
4) เชอื ก

ใบงานท่ี 2.1.1
เรอื่ ง การหาเส้นทาง

คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนศกึ ษาความหมายของชดุ คำสง่ั ต่อไปนี้ ความหมาย
ชุดคำส่งั

สัญลักษณ์

เดนิ ข้ึนข้างบน

เดนิ ลงข้างลา่ ง

เดินไปทางขวา

เก็บ เดนิ ไปทางซา้ ย
น้ำหวาน เก็บน้ำหวาน
ผลิตน้ำผึ้ง
ผลติ น้ำผึ้ง

ชุดคำสงั่

สัญลกั ษณ์ ความหมาย

การทำซำ้

2 การทำซำ้ 2 คร้ัง

3 การทำซ้ำ 3 ครงั้

4 การทำซำ้ 4 ครง้ั

? การทำซ้ำ … ครั้ง

คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นเขยี นโปรแกรมคำสั่งโดยนำผึ้งเดินทางไปเกบ็ น้ำหวานจากเกสรดอกไม้และผลิตนำ้ ผง้ึ ท่ี
รวงผึง้ ไดส้ ำเร็จตามเสน้ ทางทีก่ ำหนด

สถานการณ์

3

3

โปรแกรมคำสัง่

123 45

คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนเขยี นโปรแกรมคำสั่งโดยนำผ้งึ เดนิ ทางไปเก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไม้และผลิตน้ำผ้งึ ท่ี

รวงผึ้งไดส้ ำเรจ็ ตามเส้นทางท่ีกำหนด เฉลย

สถานการณ์

3

3

โปรแกรมคำสั่ง

123 45
23
3

เก็บ ผลติ
นำ้ หวาน น้ำผง้ึ

บัตรภาพ
เร่ือง หยดน้ำหวาน



9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ .................................
( ................................ )

ตำแหนง่ .......

10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 การตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดจากการเขยี นโปรแกรม

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ระยะเวลา 1 ชัว่ โมง

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าเพมิ่ เติม คอมพิวเตอร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2

1. ผลการเรยี นรู้
1. เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเบื้องตน้
2. เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นมที ักษะการคิดเชงิ คำนวณ การคดิ วเิ คราะห์ แก้ปัญหาเป็นขน้ั ตอนและเปน็ ระบบ
3. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นในการ
แก้ปัญหาทพี่ บในชวี ติ จรงิ ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
4. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการทักษะ
ในการสอ่ื สาร ความสามารถในการตัดสินใจ
5. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกปญั หาทเี่ กิดขึ้นจากข้อผิดพลาดในชวี ติ ประจำวันได้ (K)
2. อธบิ ายวิธกี ารตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรมได้ถกู ต้อง (K)
3. ตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการเขยี นโปรแกรมได้ (P)
4. แก้ไขข้อผิดพลาดจากการเขยี นโปรแกรมได้ (P)
5. นำความรู้และประโยชนท์ ่ีไดร้ ับจากการเรยี นมาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวันได้ (A)

3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

- ตัวอยา่ งโปรแกรม เช่น เขยี นโปรแกรมสงั่ ให้ตวั ละครทำงานตามท่ตี ้องการ และตรวจสอบข้อผิดพลาด
ปรับแก้ไขให้ได้ผลลพั ธต์ ามที่กำหนด
- การตรวจหาข้อผิดพลาด ทำได้โดยตรวจสอบคำส่ังที่แจ้งข้อผดิ พลาด หรอื หากผลลัพธไ์ ม่เป็นไปตาม
ท่ตี อ้ งการให้ตรวจสอบการทำงานทีละคำส่งั
- ซอฟตแ์ วรห์ รือสื่อที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น ใชบ้ ัตรคำสง่ั แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org
4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

การตรวจสอบความผดิ พลาด เปน็ ข้นั ตอนหนึ่งทสี่ ำคัญในการเขยี นโปรแกรม ซึ่งจะต้องตรวจสอบวา่
ไดผ้ ลลพั ธต์ รงตามท่ตี ้องการหรอื ไม่ โดยข้อผดิ พลาดท่ีเกิดขึ้นมี 2 ลักษณะ คือ ข้อผดิ พลาดท่เี กิดจาก
การเขียนคำส่ังผดิ และข้อผดิ พลาดที่เกิดจากการเขยี นคำสั่งผดิ รปู แบบ

5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินยั รับผดิ ชอบ

- ทกั ษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรียนรู้

2. ความสามารถในการคิด 3. มุ่งม่ันในการทำงาน

- ทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณ

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

- ทักษะการแก้ปญั หา

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

- ทักษะการทำงานร่วมกนั

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

 วิธีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชว่ั โมงที่ 1

ขนั้ นำ

ขั้นท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามเพื่อกระต้นุ ความสนใจของนกั เรียนว่า“ในชีวิตประจำวันนกั เรียนพบ
ความผิดพลาดอะไรบ้าง และนกั เรยี นจะมีวธิ ีการช่วยลดความผิดพลาดทเี่ กิดข้ึนได้อยา่ งไร”
(แนวตอบ : คำตอบข้ึนอยกู่ ับประสบการณ์ของนักเรียน เช่น การตอบคำถามผิด การทำการบา้ น
ไมถ่ ูกตอ้ ง การลืมจัดกระเป๋านกั เรียน ลืมอปุ กรณ์การเรียนไวท้ ีโ่ รงเรียน เปน็ ต้น และวิธกี าร
ที่จะช่วยลดความผดิ พลาดท่อี าจจะเกดิ ขนึ้ จึงควรมีการตรวจสอบก่อนทุกครง้ั เช่น ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งทุกครงั้ เมื่อทำการบ้านเสร็จ ตรวจเช็คอปุ กรณ์การเรยี นหลังใช้งาน เปน็ ตน้ )
2. ครทู บทวนความรู้จากช่ัวโมงที่ผ่านมา พรอ้ มซกั ถามคำถามประจำหวั ข้อเพื่อกระตุ้นความสนใจ
ของนักเรียนว่า“การตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดมปี ระโยชนอ์ ย่างไรตอ่ การเขียนโปรแกรมคำสั่ง”
(แนวตอบ : เปน็ การตรวจสอบโปรแกรมคำส่งั ก่อนนำไปใช้งานจริง ทำใหล้ ดความผิดพลาด
ทีอ่ าจจะเกิดข้นึ ขณะใชง้ านโปรแกรมคำสัง่ )
3. ครกู ลา่ วเพ่ือเช่ือมโยงเข้าสบู่ ทเรียนวา่ “ทกุ คนล้วนแต่เคยทำผิดพลาดมาด้วยกันทงั้ นน้ั ไม่ว่าจะ
เป็นเร่ืองเลก็ หรือเรอื่ งใหญ่ ดังนั้นเพือ่ ป้องกนั ความผิดพลาดทอ่ี าจเกดิ ขึน้ ไม่ว่าจะทำสง่ิ ใด
กต็ ามจะตอ้ งมีการตรวจสอบความถกู ต้องกอ่ นทกุ ครัง้ เชน่ การเขยี นโปรแกรมคำส่ัง ควรมี
การตรวจสอบความถกู ต้องทุกคร้งั ก่อนนำไปใชง้ านจรงิ เพ่ือป้องกนั ข้อผดิ พลาดที่อาจจะเกิดขนึ้

ขณะใช้งานโดยขอ้ ผดิ พลาดจะมี 2 ลกั ษณะ คือ ข้อผดิ พลาดทเ่ี กดิ จากการเขยี นคำส่งั ผดิ และ
ขอ้ ผิดพลาดท่ีเกิดจากการเขียนคำสง่ั ผิดรูปแบบ”

ข้นั สอน

ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม โดยใหน้ กั เรียนสงั เกตสญั ลักษณ์
ของชุดคำส่งั จากใบงานท่ี 2.2.1 เร่อื ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดจากการเขยี นโปรแกรม
และศึกษาเนื้อหาสถานการณ์ตัวอย่างจากหนังสือเรยี น วทิ ยาการคำนวณ ป.2
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม เกย่ี วกบั การตรวจสอบคำสง่ั
ขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมเมือ่ มคี ำส่ังแจ้งเตอื นข้อผิดพลาด

ขัน้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
2. ครูสุม่ นกั เรียน 2-3 กลุ่มออกมาอภปิ รายเกี่ยวกบั ข้ันตอนการตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดหนา้ ชัน้ เรียน
(แนวตอบ : วธิ ีการตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดทำได้โดยตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานของโปรแกรม
ทีละคำสัง่ และตรวจสอบคำสั่งท่ีผดิ รปู แบบทลี ะคำสงั่ เม่ือพบคำสัง่ ท่ผี ดิ พลาดให้แก้ไข และ

ทดสอบผลการทำงานใหม่อีกครงั้ )
3. มอบหมายให้นกั เรียนแตล่ ะคนทำกิจกรรมฝึกทักษะจากหนังสอื เรยี นเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจ
โดยให้นักเรียนแก้ไขขอ้ ผิดพลาดให้ถูกต้องจากนนั้ บนั ทึกคำตอบลงในสมดุ ประจำตวั
4. ครอู ธิบายกบั นักเรยี นวา่ “นอกจากนยี้ งั มีการตรวจสอบคำสั่งผิดรปู แบบทลี ะคำสั่ง ซงึ่ เปน็
การตรวจสอบตง้ั แต่คำส่งั แรกจนถึงคำส่ังสุดท้าย เมื่อพบข้อผิดพลาดแลว้ จงึ ค่อยดำเนนิ การ
แกไ้ ขให้ถูกต้อง”
5. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ศึกษาสถานการณ์ตวั อย่างจากการตรวจสอบขอ้ ผิดพลาด
ของโปรแกรมทีละคำสงั่ จากหนงั สอื เรียน
6. จากนั้นครอู ธิบายเกรด็ นา่ รใู้ ห้นักเรยี นฟงั วา่ “ความผิดพลาดอาจส่งผลให้งานท่ีทำอยู่ไมส่ ำเรจ็
เพราะฉะนน้ั ในการทำงานใด ๆ ตอ้ งมีการตรวจสอบทุกครง้ั หากมีข้อผดิ พลาดจะไดแ้ ก้ไข
ก่อนนำไปใชง้ านจริง”

ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
7. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันศึกษาการเขียนโปรแกรมจากชุดคำส่ังในใบงานที่ 2.2.1
เรือ่ ง การตรวจหาข้อผิดพลาดจากการเขียนโปรแกรม โดยหาข้อผิดพลาดของคำสัง่ จากน้นั
แกไ้ ขคำสัง่ ให้ถกู ต้อง และให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอขนั้ ตอนการแก้ไขคำสง่ั หน้าชัน้ เรยี น
8. ครใู ห้นกั เรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนังสอื เรยี นเพ่ือขยายความเขา้ ใจมากยิ่งข้ึน โดยใหน้ ักเรยี น
พิจารณาบัตรคำส่งั และหาผลลพั ธ์ท่เี กิดขึน้ ใหถ้ ูกต้อง โดยเปิดโอกาสให้นกั เรยี นสามารถพดู คยุ
แลกเปลยี่ นความคดิ เห็นรว่ มกันภายในหอ้ งเรียน

Note
วัตถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมเพอ่ื ใหน้ ักเรียน
- มีทกั ษะในการแกป้ ัญหา โดยให้นกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาด

โดยแก้ไขปัญหาทีเ่ กิดขน้ึ อย่างเหมาะสมขณะทำกจิ กรรม
- มที กั ษะการทำงานรว่ มกันโดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม และทักษะการคิดเชงิ คำนวณ

ในการตรวจสอบหาข้อผดิ พลาดจากการเขยี นโปรแกรม พร้อมแกไ้ ขให้ถูกต้อง
- มที กั ษะการสื่อสาร โดยการพดู คุย แลกเปล่ียนความคิดเห็นร่มกันภายในหอ้ งเรียน

ในการทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะเพ่ือขยายความเขา้ ใจ

ขั้นสรปุ

ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครสู ุ่มนักเรยี น 2-3 คน รว่ มกันตอบคำถามวา่ “นักเรียนจะนำวธิ ีการตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดที่ได้
เรยี นรู้นี้ ไปชว่ ยลดขอ้ ผดิ พลาดที่อาจจะเกดิ ขนึ้ ในชีวติ ประจำวนั ของตนเองได้อย่างไร”
(แนวตอบ : ตรวจสอบความถูกต้องของภาระงานท่ีได้รบั มอบหมายให้สมบูรณ์กอ่ นนำสง่ ครู
ตรวจสอบคำพูดเม่ือส่ือสารผ่านสงั คมออนไลน์ เปน็ ตน้ )
2. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 2.2.1 และการทำกจิ กรรมฝึกทักษะ
3. นักเรียนและครูสรุปเนอ้ื หาร่วมกันเกีย่ วกับการตรวจสอบข้อผดิ พลาดจากการเขียนโปรแกรมว่า
“การตรวจสอบข้อผิดพลาดขณะเขยี นโปรแกรม ถือว่าเป็นขั้นตอนท่สี ำคัญสำหรบั การเขียน
โปรแกรม เพราะเป็นการตรวจสอบวา่ การเขยี นโปรแกรมครง้ั นั้นได้ผลลัพธต์ รงตามความตอ้ งการ
หรือไม่ โดยข้อผดิ พลาดที่เกิดขึน้ ไมว่ ่าจะเกดิ จากการเขียนคำส่ังผิดหรือเกดิ จากการเขยี นคำสัง่
ผิดรปู แบบ หากไม่มกี ารตรวจสอบข้อผิดพลาดกอ่ นจะสง่ ผลให้การเขยี นโปรแกรมคำสัง่ ครั้งนัน้
ไมป่ ระสบผลสำเรจ็ ดังนั้นเพื่อลดความผิดพลาดท่ีอาจเกิดขนึ้ จึงควรตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ทุกคร้งั กอ่ นนำไปใช้งานจริง”

7. การวัดและประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ ีวดั เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
- ตรวจใบงานที่ 2.2.1 - ใบงานที่ 2.2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
7.1 การประเมนิ ระหว่างการ
จัดกจิ กรรม
1) การตรวจหา
ขอ้ ผิดพลาดจาก
การเขียนโปรแกรม

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
ผลงาน - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม

รายบุคคล การทำงานรายบุคคล

4) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
กลุม่ การทำงานกลุ่ม
การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์

5) คณุ ลักษณะ - สงั เกตความมีวนิ ัย - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
อันพงึ ประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มน่ั อนั พึงประสงค์
ในการทำงาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี น วิทยาการคำนวณ ป.2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
2) ใบงานที่ 2.2.1 เร่อื ง การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดจากการเขียนโปรแกรม

ใบงานที่ 2.2.1
เรือ่ ง การตรวจหาข้อผิดพลาดจากการเขยี นโปรแกรม

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นศึกษาความหมายของชุดคำสงั่ ต่อไปนี้ ความหมาย
ชุดคำสง่ั

สญั ลกั ษณ์

เดนิ ขน้ึ ขา้ งบน

เดนิ ลงขา้ งล่าง

เดนิ ไปทางขวา

เกบ็ เดินไปทางซา้ ย
น้ำหวาน เก็บน้ำหวาน
ผลติ น้ำผึ้ง
ผลติ การทำซำ้
น้ำผง้ึ

คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นพจิ ารณาโปรแกรมต่อไปนี้ว่า ผงึ้ เดนิ ทางไปเกบ็ น้ำหวานและผลติ น้ำผึง้ ไดส้ ำเรจ็ ตาม
เสน้ ทางที่กำหนดหรือไม่ ถ้าพบขอ้ ผิดพลาด ใหน้ กั เรียนแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดในโปรแกรมคำส่งั ให้ถูกต้อง
สถานการณ์

โปรแกรมคำสงั่
123 45

เก็บ ผลติ น้ำผึง้

นำ้ หวาน

พจิ ารณาโปรแกรมคำส่ัง (วงกลมรอบคำตอบ) × ผดิ พลาด

√ ถกู ตอ้ ง

สถานการณ์

โปรแกรมคำส่งั ทถี่ กู ต้อง (วาดคำส่งั ลงในแต่ละช่องตามลำดับ) 4 5
123

คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นพจิ ารณาโปรแกรมตอ่ ไปนวี้ า่ ผึ้งเดินทางไปเก็บนำ้ หวานและผลิตน้ำผึง้ ได้สำเร็จตาม
เสน้ ทางที่กำหนดหรือไม่ ถา้ พบขอ้ ผิดพลาด ให้นักเรยี นแก้ไขข้อผดิ พลาดในโปรแกรมคำสง่ั ใหถ้ ูกต้อง

สถานการณ์ เฉลย

โปรแกรมคำสั่ง

123 45

เก็บ ผลิตน้ำผ้ึง

น้ำหวาน

พิจารณาโปรแกรมคำสั่ง (วงกลมรอบคำตอบ) × ผิดพลาด

√ ถกู ตอ้ ง

สถานการณ์

โปรแกรมคำสง่ั ทถ่ี กู ตอ้ ง (วาดคำสง่ั ลงในแต่ละช่องตามลำดบั ) 45

123 ผลิตน้ำผงึ้

เกบ็
นำ้ หวาน

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ .................................
( ................................ )

ตำแหนง่ .......

10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมดว้ ย Code.org

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ระยะเวลา 1 ชว่ั โมง

กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาเพมิ่ เติม คอมพิวเตอร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2

1. ผลการเรยี นรู้
11. เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเบ้อื งตน้
12. เพอื่ ให้ผู้เรยี นมีทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แก้ปญั หาเปน็ ขัน้ ตอนและเป็นระบบ
13. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นในการ
แกป้ ัญหาทพี่ บในชีวติ จรงิ ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
14. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการทักษะ
ในการส่ือสาร ความสามารถในการตัดสินใจ
15. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการเขยี นโปรแกรมคำสั่งโดยใช้ Code.org ได้ถูกต้อง (K)
2. อธิบายขนั้ ตอนการใช้โปรแกรมคำสั่งควบคุมตัวละครในสถานการณ์ตัวอยา่ งได้ถูกต้อง (K)
3. แสดงขน้ั ตอนการเขยี นโปรแกรมแบบจดั ลำดับด้วย Code.org ได้ (P)
4. แสดงข้ันตอนการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำด้วย Code.org ได้ (P)
5. เหน็ ประโยชนข์ องการเขียนโปรแกรมดว้ ย Code.org (A)

3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

- ตัวอยา่ งโปรแกรม เชน่ เขียนโปรแกรมส่ังให้ตวั ละครทำงานตามทตี่ ้องการ และตรวจสอบข้อผิดพลาด
ปรบั แกไ้ ขใหไ้ ด้ผลลัพธ์ตามทก่ี ำหนด
- ซอฟต์แวรห์ รือส่ือท่ีใชใ้ นการเขียนโปรแกรม เชน่ ใชบ้ ัตรคำสัง่ แสดงการเขยี นโปรแกรม, Code.org
4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเขียนโปรแกรมด้วย Code.org เปน็ การเรียนรกู้ ารเขยี นโปรแกรมโดยใช้เกมสเ์ ป็นส่ือ ช่วยดึงดดู ความ
สนใจและกระตนุ้ การเรียนรู้ของนักเรยี น ในเว็บไซต์ Code.org แบ่งคอรส์ เรียนตามชว่ งวัยใหเ้ หมาะสมกบั
พฒั นาการการเรยี นรู้ โดยในบทเรยี นประกอบดว้ ย การเรียนรู้คำสง่ั ท่ใี ช้เขียนโปรแกรมแบบจดั ลำดับ
การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ และการตรวจสอบข้อผดิ พลาดจากการเขยี นโปรแกรม

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี นและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ

- ทกั ษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรยี นรู้

2. ความสามารถในการคิด 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

- ทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณ

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

- ทักษะการแก้ปญั หา

- ทกั ษะการสงั เกต

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

- ทักษะการทำงานร่วมกัน

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 วธิ กี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชว่ั โมงที่ 1

ขน้ั นำ

ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนกั เรยี น และถามคำถามกับนักเรียนว่า “นกั เรียนรู้จกั การเขียน
โปรแกรมด้วย Code.org หรือไม่ และการเขียนโปรแกรมด้วย Code.org มปี ระโยชนอ์ ย่างไร”
(แนวตอบ : Code.org เป็นโปรแกรมสำหรับเด็กในวยั เรียน และผทู้ ส่ี นใจจะเรยี นรูเ้ กยี่ วกับ
การเขียนโปรแกรมหรอื การเขียนโค้ดคำส่ังอย่างงา่ ยผ่านบทเรียนสั้น ๆ เพ่อื พฒั นาทักษะพ้นื ฐาน
ในการพัฒนากระบวนการทางความคิด)
2. ครพู ดู กระตุ้นความสนใจของนกั เรยี นวา่ “วนั น้ีครูจะให้นักเรียนทดลองใช้เวบ็ ไซต์ Code.org”
3. ครอู ธบิ ายเพ่ือเชอ่ื มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี นว่า“การเรียนรู้คำสงั่ จากโปรแกรม Code.org จะส่งผลให้
นักเรียนสามารถเขยี นโปรแกรมคำสง่ั แบบจดั ลำดับ เขยี นโปรแกรมคำสง่ั แบบวนซ้ำ และ
การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดได้”

ขั้นสอน

ขัน้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรียนเขา้ สู่เวบ็ ไซต์ Code.org โดยทำตามขัน้ ตอน ดงั นี้

1. เขา้ สู่เวบ็ ไซต์ Code.org

2. เลอื กบทเรยี นสำหรบั นกั เรยี น
3. เลอื กคอร์ส 2 ทเี่ หมาะสมสำหรับนักเรยี นทีม่ ีอายุ 6 ขวบข้นึ ไป
4. เลือกหัวขอ้ ที่ 8 คอื เกมผ้งึ แบบวนลูป
2. ครอู ธิบายกบั นักเรียนวา่ “การเขียนโปรแกรมในเว็บไซต์ Code.org มกี ารเรยี นรูจ้ ากงา่ ยไปยาก
ดงั นั้นนักเรยี นควรเรียนรูอ้ ย่างเป็นลำดับขนั้ ตอน เพื่อให้เกดิ การเรยี นรูไ้ ดอ้ ยา่ งถูกต้อง”
3. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นได้ศกึ ษาการเขยี นโปรแกรมจากเวบ็ ไซต์ Code.org ในเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
ของตนเอง โดยกำหนดระยะเวลาตามความเหมาะสม
4. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม เพ่อื ศึกษาสถานการณ์ตวั อย่างและ
คำสั่งควบคุมการทำงานของผ้ึงโดยใชโ้ ปรแกรม Code.org จากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม
ข้ันที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
5. ครูอธบิ ายกบั นักเรยี นวา่ “จากสถานการณ์ตัวอยา่ งและคำสงั่ ควบคมุ การทำงานของผ้ึง
สามารถจับคูช่ ดุ คำส่งั กบั ผลลพั ธไ์ ด้ 4 โปรแกรมคำส่งั ดังน้ี
- โปรแกรมผง้ึ รปู ที่ 1 คู่กับ คำสง่ั ควบคุมการทำงานรปู B
- โปรแกรมผ้งึ รปู ท่ี 2 คู่กับ คำสัง่ ควบคุมการทำงานรปู A
- โปรแกรมผงึ้ รปู ท่ี 3 คูก่ ับ คำสั่งควบคมุ การทำงานรูป D
- โปรแกรมผ้งึ รปู ท่ี 4 คู่กบั คำสง่ั ควบคุมการทำงานรูป C
โดยการทำนายผลลัพธ์ลักษณะนน้ี กั เรยี นสามารถนำไปใชก้ ับรายวิชาอ่นื ได้ เช่น วชิ าคณิตศาสตร์
เปน็ ต้น”
6. ครูใช้คำถามท้าทายการคดิ ขน้ั สูงของนักเรียนวา่ “ในการทำนายผลลพั ธ์ นอกจากจะใชว้ ธิ ีการ
พจิ ารณาทลี ะคำส่ังแลว้ นักเรยี นมวี ิธีการทำนายผลลัพธ์ในรูปแบบอน่ื อีกหรือไม่ อย่างไร”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบคำถามตามประสบการณ์ โดยคำตอบขนึ้ อยูก่ บั ดลุ ยพินิจของครูผู้สอน)
ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
7. นกั เรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำใบงานท่ี 2.3.1 เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมด้วย Code.org
โดยลากเสน้ จับคู่สถานการณ์กบั โปรแกรมคำสั่งใหถ้ ูกต้องตรงกนั และเลือกโปรแกรมคำสั่งจาก
สถานการณ์ที่กำหนดไว้ได้อย่างถูกต้อง
8. นักเรยี นออกมานำเสนอผลงานจากการทำใบงานหน้าช้ันเรียน
9. นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทกั ษะจากหนังสอื เรียนเพอื่ ขยายความเข้าใจ โดยให้นักเรียนเขียนคำส่ัง
โปรแกรมใหส้ มบูรณ์ตามสถานการณท์ ่ีกำหนด จากนัน้ บันทึกคำตอบลงในสมุดประจำตัว และ
นำมาอภิปรายรว่ มกันในช้ันเรยี น

Note
วัตถุประสงคข์ องกจิ กรรมเพือ่ ให้นักเรยี น
- มีทักษะการแกป้ ัญหาเฉพาะหน้าขณะทำกิจกรรมเพือ่ ฝึกทักษะการเขยี นโปรแกรม

ในเว็บไซต์ Code.org โดยใช้ทักษะการคิดเชิงคำนวณในการคิดค้นวีการเขยี นโปรแกรมคำสง่ั
และวธิ กี ารตรวจสอบข้อผดิ พลาดจากการเขียนโปรแกรมคำสงั่ ก่อนนำไปใชง้ าน

- มที กั ษะการทำงานรว่ มกันโดยใช้กระบวนการกล่มุ ในการส่อื สารและแลกเปลยี่ น
ความคดิ เห็นขณะทำใบงานการจับคู่สถานการณก์ ับโปรแกรมคำส่ังให้ถูกต้องตรงกัน
โดยสามารถพานกสแี ดงเดนิ ทางไปหาหมสู เี ขียวได้อยา่ งปลอดภยั

- มีทกั ษะการสังเกตสถานการณ์และคำสั่งควบคุมการทำงานของผึ้งจากตัวอยา่ งใน
หนงั สอื เรียน โดยนำมาปรับใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสม

ขน้ั สรุป

ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครตู รวจสอบการเขยี นโปรแกรมคำสง่ั ของนกั เรียนจากการทำใบงานและการทำกจิ กรรม
ฝกึ ทกั ษะ
2. ครูส่มุ ถามนักเรียน 2-3 คนว่า“จากการเลน่ เกมสใ์ นเว็บไซต์ Code.org นกั เรยี นไดเ้ รยี นรู้
วิธีการเขียนโปรแกรมคำส่งั อย่างไรบา้ ง”
(แนวตอบ : เรยี นรู้การเขยี นโปรแกรมคำส่งั แบบจดั ลำดับ การวนซ้ำ และการตรวจหา
ข้อผดิ พลาด)
3. นกั เรยี นและครูสรปุ รว่ มกันว่า“การเขยี นโปรแกรมคำสั่งท่ีดีจะต้องไม่เขียนคำสงั่ ใหโ้ ปรแกรม
ทำงานซ้ำกนั หลาย ๆ รอบ ควรเป็นการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ เพือ่ ลดความซ้ำซ้อน
ในการทำงาน ซงึ่ ก่อนนำโปรแกรมทเี่ ขยี นไปใช้งาน ควรมีการตรวจสอบข้อผดิ พลาดโดยใช้
วธิ ีการตรวจสอบคำส่งั ซง่ึ มวี ธิ ีการทเ่ี หมาะสมอยู่ 2 วธิ ี ได้แก่ การตรวจสอบคำส่งั ข้นั ตอน
การทำงานของโปรแกรมและการตรวจสอบคำสัง่ ทผี่ ดิ รูปแบบทลี ะคำสงั่ โดยผทู้ ีเ่ รมิ่ ฝึก
เขยี นโปรแกรมควรฝึกจากเว็บไซต์ Code.org เพื่อเรยี นรลู้ กั ษณะการเขียนโปรแกรมคำสั่ง
จากง่ายไปยาก”
4. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด
ของโปรแกรม

5. นักเรียนทำกิจกรรมเสริมสร้างการเรยี นรจู้ ากหนังสือเรยี นและทำชิน้ งาน/ภาระงาน

(รวบยอด) เรอ่ื ง การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม จากนัน้ บันทกึ คำตอบลงในสมุด

และนำมาสง่ ในชั่วโมงถดั ไป

7. การวดั และประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ ีวัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

7.1 การประเมินระหว่างการ - ตรวจใบงานท่ี 2.3.1 - ใบงานที่ 2.3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

จดั กจิ กรรม
1) การเขียนโปรแกรม

ด้วย Code.org

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2

ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์

3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2

รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์

4) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
กลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์

5) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี ินัย - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
อนั พงึ ประสงค์ ความรับผิดชอบ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ ม่นั อนั พงึ ประสงค์
ในการทำงาน

7.2 การประเมนิ หลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมนิ ตามสภาพจริง

- แบบทดสอบหลังเรยี น หลงั เรียน

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2

การตรวจหาข้อผดิ พลาด

ของโปรแกรม

- การประเมินชน้ิ งาน - ตรวจช้ินงาน/ภาระงาน - แบบประเมินช้นิ งาน ระดับคุณภาพ 2

/ภาระงาน (รวบยอด) (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์

เรือ่ ง การตรวจหา

ข้อผิดพลาดของ

โปรแกรม

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี น วิทยาการคำนวณ ป.2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของ
โปรแกรม
2) ใบงานท่ี 2.3.1 เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมดว้ ย Code.org
3) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) อนิ เทอร์เน็ต
2) ห้องคอมพวิ เตอร์

ใบงานท่ี 2.3.1
เร่อื ง การเขียนโปรแกรมดว้ ย Code.org

คำชแี้ จง : ให้นักเรียนลากเส้นจับคสู่ ถานการณก์ บั โปรแกรมคำสงั่ ใหถ้ ูกต้องโดยสามารถพานกสแี ดง
เดินทางไปหาหมูสเี ขียวได้อยา่ งปลอดภยั

1A

2B

3 C

คำชีแ้ จง : จากสถานการณ์ต่อไปน้ี

ใหน้ กั เรียนทำเคร่ืองหมายกากบาท (x) เลือกโปรแกรมคำส่งั ท่ีถูกต้องและใชค้ ำสง่ั นอ้ ยทส่ี ุด
โดยสถานการณ์ คอื ใหผ้ ึ้งเก็บนำ้ หวานจากเกสรดอกไมแ้ ละนำน้ำหวานไปผลติ เป็นน้ำผ้งึ ท่รี วงผึ้งให้ครบ

AB

CD
C

ใบงานท่ี 2.3.1 เฉลย
เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมด้วย Code.org

คำชี้แจง : ให้นักเรยี นลากเส้นจบั ค่สู ถานการณก์ บั โปรแกรมคำสัง่ ให้ถูกต้องโดยสามารถพานกสีแดง
เดินทางไปหาหมูสีเขียวได้อย่างปลอดภัย

1A

2B

3C

คำชแี้ จง : จากสถานการณ์ต่อไปน้ี

ใหน้ ักเรียนทำเครือ่ งหมายกากบาท (x) เลอื กโปรแกรมคำส่ังทถ่ี ูกต้องและใชค้ ำสัง่ น้อยทีส่ ุด
โดยสถานการณ์ คือ ใหผ้ ึ้งเก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไมแ้ ละนำน้ำหวานไปผลติ เปน็ น้ำผึ้งที่รวงผงึ้ ให้ครบ

AB

CD

C

ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรอ่ื ง การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม

คำชีแ้ จง : ให้นักเรียนวิเคราะห์สถานการณ์และตรวจสอบโปรแกรมคำสง่ั พรอ้ มแกไ้ ขใหมใ่ หถ้ ูกต้อง
โดยมีสถานการณ์ ดงั น้ี ใหผ้ ึ้งเก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไมแ้ ละนำน้ำหวานไปผลิตเป็นนำ้ ผึ้ง
ที่รวงผ้ึงให้ครบ

สถานการณ์ โปรแกรมคำสงั่ ท่ีผดิ พลาด

จากโปรแกรมคำสั่งจะพบวา่ เป็นโปรแกรมคำส่งั ท่ผี ดิ พลาด ผึง้ ไมส่ ามารถเกบ็ น้ำหวานจากเกสรดอกไม้
และนำน้ำหวานไปผลติ นำ้ ผึ้งได้หมด ดงั นน้ั ใหน้ ักเรียนเขยี นโปรแกรมคำสงั่ ใหม่ลงในช่องว่างท่ีกำหนด

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย
เรอื่ ง การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม

คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหส์ ถานการณ์และตรวจสอบโปรแกรมคำสง่ั พรอ้ มแกไ้ ขใหม่ให้ถูกต้อง
โดยมีสถานการณ์ ดงั น้ี ใหผ้ ้ึงเก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไม้และนำน้ำหวานไปผลติ เป็นนำ้ ผง้ึ
ท่รี วงผึ้งใหค้ รบ

สถานการณ์ โปรแกรมคำสง่ั ทผ่ี ดิ พลาด

จากโปรแกรมคำสัง่ จะพบวา่ เปน็ โปรแกรมคำส่งั ที่ผิดพลาด ผงึ้ ไมส่ ามารถเก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไม้
และนำน้ำหวานไปผลติ น้ำผ้ึงได้หมด ดังน้นั ให้นักเรียนเขยี นโปรแกรมคำสัง่ ใหม่ลงในช่องว่างท่ีกำหนด

แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

คำชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดับคะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32
1 ความถกู ต้องของเน้ือหา 
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์  
3 วธิ ีการนำเสนอผลงาน  
4 การนำไปใช้ประโยชน์  
5 การตรงต่อเวลา  


รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ
............/................./...................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

14–15 ดมี าก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล

คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 การแสดงความคิดเห็น 
2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผูอ้ ื่น  
3 การทำงานตามหนา้ ที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย  
4 ความมีน้ำใจ  
5 การตรงต่อเวลา  


รวม

เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............/.................../................
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่

คำชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกบั ระดับคะแนน

การทำงาน การมี
ตามท่ไี ดร้ บั
ลำดับที่ ช่ือ–สกลุ การแสดง การยอมรับ มอบหมาย ความมีนำ้ ใจ ส่วนร่วมใน รวม
ของนักเรยี น ความคดิ เห็น ฟังคนอนื่ การปรบั ปรุง 15
คะแนน
ผลงานกลุ่ม

321321321321321

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............./.................../...............
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

14–15 ดมี าก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่

ตรงกับระดับคะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อันพึงประสงคด์ ้าน 32 1

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้

กษตั รยิ ์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่

โรงเรยี น

1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา

1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทเี่ กย่ี วกับสถาบันพระมหากษัตริยต์ ามทโ่ี รงเรียนจดั ขึน้

2. ซือ่ สัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมลู ทถ่ี กู ตอ้ งและเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงที่ถูกต้อง

3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครวั

มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมต่างๆ ในชวี ิตประจำวนั

4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รู้จกั ใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้

4.2 รูจ้ ักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม

4.3 เชือ่ ฟังคำสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง

4.4 ตั้งใจเรียน

5. อย่อู ย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด

5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรู้คณุ ค่า

5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงนิ

6. มุ่งม่นั ในการทำงาน 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย

6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ให้งานสำเร็จ

7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย

7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย

8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 ร้จู กั ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน

8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรพั ย์สมบัติและส่ิงแวดลอ้ มของหอ้ งเรียนและ

โรงเรยี น

ลงช่อื ..................................................ผปู้ ระเมิน
............/.................../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก
พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ัดเจนและบ่อยคร้งั ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี
พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัติบางครง้ั 30–40 พอใช้
ตำ่ กว่า 30 ปรับปรงุ

แบบประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือสือ่ และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม

รายการ เกณฑ์การประเมิน (ระดับคุณภาพ) ระดบั
ประเมิน คณุ ภาพ
ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
1. การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด ดีมาก
ของโปรแกรม สามารถตรวจหา สามารถตรวจหา สามารถตรวจหา ไมส่ ามารถตรวจหา
ข้อผิดพลาดของ ดี
2. การแก้ไขขอ้ ผิดพลาดของ ข้อผดิ พลาดของ ขอ้ ผดิ พลาดของ ข้อผิดพลาดของ โปรแกรมได้
โปรแกรม พอใช้
โปรแกรมไดอ้ ย่าง โปรแกรมได้อยา่ ง โปรแกรมไดค้ อ่ นขา้ งดี ไม่สามารถแกไ้ ข
3. ความสมบรู ณข์ องผลงาน ข้อผดิ พลาดของ ปรบั ปรุง
ถูกตอ้ ง ถกู วธิ ีดีมาก ถูกตอ้ ง ถูกวธิ ีดี โปรแกรมได้

สามารถแกไ้ ข สามารถแกไ้ ข สามารถแก้ไข ผลงานมคี วามครบถว้ น
สมบูรณน์ ้อย
ข้อผดิ พลาดของ ขอ้ ผิดพลาดของ ข้อผดิ พลาดของ

โปรแกรมไดอ้ ย่างชัดเจน โปรแกรมได้อยา่ งชัดเจน โปรแกรมไดค้ ่อนข้างดี

ดมี าก ดี

ผลงานมีความครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถว้ น ผลงานมีความครบถว้ น

สมบูรณ์ดมี าก สมบูรณค์ อ่ นข้างดี สมบูรณ์ดเี ปน็ บางส่วน

4. ส่งงานตรงเวลา สง่ ภาระงานภายในเวลา ส่งภาระงานชา้ กวา่ สง่ ภาระงานช้ากวา่ สง่ ภาระงานช้ากวา่
กำหนด 2 วัน กำหนดเกิน 3 วนั ขึ้นไป
ท่กี ำหนด กำหนด 1 วนั

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ

14 - 16 ดมี าก

10 - 13 ดี

7 - 9 พอใช้

1 - 6 ปรับปรุง

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ .................................
( ................................ )

ตำแหนง่ .......

10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3

การจดั การไฟล์อย่างมีระบบ

รายวิชา คอมพิวเตอร์ ระยะเวลา 8 ชัว่ โมง

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2

1. ผลการเรยี นรู้
1. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเบ้ืองต้น
2. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมที กั ษะการคิดเชงิ คำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แกป้ ัญหาเป็นขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ
3. เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาขอ้ มลู ส่วนตัว และการสอื่ สารเบ้ืองตน้ ใน
การแกป้ ัญหาท่พี บในชวี ิตจริงได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ
4. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการ
ทกั ษะในการสอื่ สาร ความสามารถในการตดั สินใจ
5. เพอื่ ให้ผูเ้ รยี นเป็นผมู้ ีจิตวทิ ยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ มในการใช้วิทยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์

2. สาระการเรียนรู้
2.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1) การใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บ้ืองตน้ เชน่ การเขา้ และออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การจดั เกบ็
การเรยี กใชไ้ ฟล์ การแก้ไขตกแตง่ เอกสาร ทำไดใ้ นโปรแกรม เชน่ โปรแกรมประมวลคำ
โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนำเสนอ
2) การสร้าง คดั ลอก ยา้ ย ลบ เปลีย่ นช่อื จดั หมวดหมู่ไฟล์ และโฟลเดอร์อย่างเปน็ ระบบจะทำให้
เรียกใช้ ค้นหาข้อมลู ไดง้ ่ายและรวดเร็ว

3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
ซอฟต์แวร์เปน็ โปรแกรมหรือชดุ คำส่ังท่ีเขียนข้ึนเพ่ือสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามความต้องการ

ของผใู้ ช้งาน โดยภายในคอมพิวเตอร์มีโปรแกรมบรรจุอยู่มากมาย โดยผใู้ ชส้ ามารถเข้าใช้งานได้อย่างอิสระ
ไมว่ ่าจะเปน็ การสรา้ งไฟล์ การจัดเก็บไฟล์ และการเรียกใช้ไฟล์ โดยซอฟต์แวร์พื้นฐานทีน่ ิยมใช้ ได้แก่
โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมประมวลคำ และโปรแกรมนำเสนอ เป็นต้น และการจดั การกับไฟล์งานท่ีได้
จากโปรแกรมต่าง ๆ ก็มีส่วนสำคัญ ตั้งแต่การสร้างไฟล์ คัดลอกไฟล์ ย้ายไฟล์ ลบไฟล์ และเปลย่ี นช่ือไฟล์
รวมถึงการจดั หมวดหมู่ไฟล์ต่าง ๆ เข้าสโู่ ฟลเดอร์เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการใชง้ าน


Click to View FlipBook Version