คนจะลว่ งทกุ ขไ์ ด้
เพราะ
ค ว า ม เ พี ย ร
Only through grit and perseverance, shall one end all suffering
020
๐๒๐
การปฏบิ ัติ ... ไมไ่ ด้ไปท�ำใหอ้ ัตตาเป็นอนตั ตา
แตใ่ หเ้ ห็นวา่ ... ความรูส้ กึ เปน็ อตั ตา น้ันคือ อนตั ตา
Practicing Dhamma is not about transforming oneself (Atta) into
non-self (Anatta)
but it is to realize that the cognition of regarding things as
self (Atta) is actually non-self (Anatta).
021
๐๒๑
ขันธ์หา้ ไม่ใชอ่ วิชชา ไม่ใชน่ ิพพาน
ไม่ตอ้ งไปยงุ่ หรอื ดับมัน
ปลอ่ ยใหข้ นั ธ์ห้า เป็นอย่างทม่ี ันเป็น
หรอื ปลอ่ ยวาง
จงึ เป็นผมู้ ีสัมมาทิฏฐิ
The Five Aggregates (Khandhas) are not the cause of Ignorance
or Nirvana.
Do not pester nor attempt to extinguish them.
To let go or leave the Khandas as they are,
leads to seeing the right view (Sammathitthi)
022
๐๒๒
สงั ขาร ไหลไป
ใจไดแ้ ต่ รู้
Things may come and go,
But the Mind can only “know”
023
๐๒๓
เมอ่ื มี...ราคะ โทสะ โมหะ เกดิ ขนึ้ ในใจ
ไม่ต้องทำ� อะไร...แค่มีความรสู้ กึ ตัวข้ึนมา
ไมห่ ลงจมไปใน ราคะ โทสะ โมหะ
สติ ปัญญา จะค่อย ๆ เกดิ
เมือ่ เห็นความจริงว่า
สิ่งตา่ ง ๆ ท่ีเกดิ ขน้ึ ในใจย่อมดับไปเป็นธรรมดา
ใหจ้ ิตเรยี นรูแ้ ละเหน็ โทษเอง
กจ็ ะหลดุ พน้ เอง
When greed, hatred or delusion manifests within the mind,
Do nothing but have awareness and mindfulness.
Do not let oneself be consumed by it.
The wisdom will bloom and come into realization that
everything that occurs inevitably reaches its end.
Let the mind observe and learn,
Eventually, the mind will be liberate from all suffering.
024
๐๒๔
เหน็ “ ไอบ้ า้ ” ในตวั เราไหม...ทมี่ นั พดู ไม่หยดุ นะ่
ปฏิบัตเิ พื่อให้เห็น “ ไอบ้ ้า ” นี่แหละ
Have you ever noticed that internal monologue
that keeps narrating relentlessly.
We practice dhamma to find this voice
025
๐๒๕
รบั ร้ทู ุก “ ประตู ”
ตา หู
จมกู ลนิ้
กาย ใจ
ด้วย “ ใจ ” ทเี่ ปน็ กลาง
Know through the 6 senses
through the eyes, ears, nose, tongue, body and mind
without prejudice.
026
๐๒๖
จงอยู่กบั “ รู้ ” ... อย่าอยูก่ บั “ คดิ ”
Just know
Do not fall, trapped in the thoughts.
027
๐๒๗
“ รู้ ” เองจากใจวา่ . .
ความรสู้ กึ นกึ คิด อารมณ์ ลว้ นเปน็ เพียง “ สงั ขาร ”
เป็นคล่ืน wave vibration ท่ีเกดิ เอง ดบั เอง
เกิดเอง ดบั เอง ตลอดเวลา
ไม่มีตัวตน ตวั เรา ของเรา จริง ๆ
Know from the Heart that
feelings, thoughts and emotions are merely parts of Sankhara.
They are like waves, forming and dissipating freely
in repeating cycles.
Thus, what we consider as ours does not truly exist,
Not even ourselves.
028
๐๒๘
รอู้ ยู่ เหน็ อยู่ ทกุ ขณะปจั จบุ นั
ไมม่ ใี ครยดึ ถอื
ก.็ ..พ้ น ทุ ก ข์
Cessation of Suffering
is to know and see at every present moment without attachment.
029
๐๒๙
รแู้ ท้ ๆ คอื “ ฮู้ ซือ ซอื ”
รู้ แบบ ตรงไปตรงมา
สุขก็รู้ .. ทุกขก์ ร็ ู้
เลอื กไม่ได้
สักแตว่ า่ “ รู้ ” ก็พอแลว้
To truly know is to simply and easily know.
When you are happy, you know.
When you are suffering, you know.
You cannot choose what you want to know.
But it is to solely know that is enough.
030
๐๓๐
“ รู้ ” แบบไมม่ ีตวั เรา ไปเป็นผู้รู้
ก็ . . ไม่มผี ยู้ ึด
พน้ ทกุ ข์ (นิพพาน)
Know, with no one that is trying to observe
Know without seeking for more,
is how one is truly detached
or free from suffering (Nirvana)
031
๐๓๑
ไมต่ อ้ งไปอยากได้ “ รู้ ท่ี ไม่ คดิ ”
เพราะถา้ แคร่ ู้ กไ็ มไ่ ดค้ ิดแลว้
Do not wish to know without thinking,
Because you are not thinking when you are knowing.
032
๐๓๒
ให้ร้คู วามคิด
แต่อย่าติดความคดิ ไป
Be aware of thoughts.
But do not cling on to them.
033
๐๓๓
รูไ้ ม่เกดิ ร้ไู มด่ บั
รู้ไมจ่ าง รู้ไมห่ าย
รู้ .. ไม่ยดึ
ไมย่ ึด .. รู้
“ ธาตุรู้ ” ตามธรรมชาติ
ไมม่ ีตัวตน
It knows not of birth or death.
It does not flicker or fade away.
Mindfulness is never bound
Nor attached to by anyone.
There is no self within Mindfulness.
034
๐๓๔
อย่กู ับ..รู้
รวู้ า่ “ ไม่มีอะไรทย่ี ึดได้ ”
ท้ัง สังขาร และ วิสังขาร
Mind
knows that there is nothing that can be held on to,
Neither Sankhara (Formation) or Visankhara (Nothingness).
035
๐๓๕
อย่าท้งิ “ รู้ ”
แต่
ไมย่ ึด “ รู้ ”
Do not abandon knowing
but do not become attached to it.
036
๐๓๖
“ รู้ ” ทกุ อาการ
ทุก ๆ อาการ ไมใ่ ช่ รู้
The Mind is in every living moment
and aware of everything that has occurred,
but none of these things are the Mind.
037
๐๓๗
“ รู้ ” สงั ขาร
ไมห่ ลงไปเป็นมัน
และไม่ไปไล่ดับมัน
Be aware of conditioned things (Sankhara).
Do not be deceived
nor try to quell them.
038
๐๓๘
อยา่ “ ไ ห ล ” ไปกบั สงั ขาร
อย่า “ ห นี ” ออกจากมัน
อยา่ “ ห ยุ ด ” น่งิ เฉย ไม่รบั รู้มัน
แตจ่ งรับรคู้ วามจรงิ ตามความเปน็ จริง
กระทัง่ “ รู้ ” ออกมาจากใจ วา่
ทุกสรรพสงิ่ ลว้ น “ ว่ า ง เ ป ล่ า ”
ไมม่ สี าระแกน่ สาร ให้ยึดมัน่ ถอื มน่ั
Do not follow conditioned things (Sankhara).
Do not run away from it.
And do not stay still, or ignore it.
Accept the truth as it is
that nothing bound to identity
and condition;
Thus, does not truly have any value or should be hold on to.
039
๐๓๙
ถ้าอยากหยดุ มนั ไม่หยุด
ต้องหยดุ อยาก จึงจะหยดุ
If one wants to stop, it will not stop.
Because one no longer desiring it; therefore, it stops.
040
๐๔๐
อยูก่ ับปัจจุบัน
รใู้ นปัจจุบนั
รวู้ ่าไม่มีอะไรยดึ ถอื ได้
รวู้ า่ ไมม่ ีอะไร ท่เี ป็น “ ตวั เรา ” “ ของเรา ”
Live in the present moment
Know of the present
Know that nothing can be held on to
And that nothing is us
041
๐๔๑
พ้น จาก ทกุ ข์
เพราะ
“ร”ู้ เร่ือง “รู้” เหตุ แหง่ ทุกข์
Free from suffering
By knowing what cause the suffering.
042
๐๔๒
กเิ ลส เป็นเพียงของจรมา
เปรยี บดัง่ ขณะจิตท่ีหลงยึดถือ
เหมือนเมฆมาบงั พระอาทิตย์
หากไม่หลงยึดถือสง่ิ ใด
ไม่ว่าสุขทุกข์ ดชี ั่ว
กเ็ ปน็ เพียงธรรมชาติ
ท่ีผา่ นมาแลว้ ผ่านไปของเขาเอง
เหมือนกบั นกบินผา่ นทอ้ งฟ้า
ยอ่ มไมท่ ิง้ ร่องรอย
๐๔๓
Defilement (Kilesa)
is merely a visitor.
As the mind clings on to attachments,
it is like the clouded sun.
When the mind is not deceived
into attachment,
Whether it may be
happiness or sadness,
good or bad,
All are merely essences
that come and go.
Like birds that fly across the sky
unable to leave any trace behind.
043
สงั ขารปัจจุบันขณะ เปรยี บด่งั สายน�้ำทีไ่ หลผา่ น
ไหลเขา้ มา...แล้วก็ ไหลออกไป
ไม่มอี ะไร ท่เี ข้ามาแลว้ ...ไมผ่ ่านไป
ทกุ สิ่งล้วน มาและไป...เปน็ ธรรมชาติ ธรรมดา
ถา้ “ ไมม่ อี ะไร ไปยดึ อะไร ”
น้�ำก็ไหลผา่ นไป ผา่ นไป..เป็นธรรมชาติ เป็นธรรมดา
ไม่มใี คร..เข้าไป ยึดรง้ั ขอ้ งเก่ยี ว
ส้นิ ผกู้ นิ อาการตามงบั เงา
Sankhara (Formation) is like
the river that flows through.
It flows in, and then flows out.
Nothing enters and never leaves,
Like all things natural taking its course, coming and going.
If one is attached to nothing,
Let the water in the river flow naturally,
One would live without attachment.
044
๐๔๔
อารมณต์ า่ ง ๆ .. ทม่ี นั เกิด
ทงั้ หงดุ หงดิ นอ้ ยใจ ดใี จ เสียใจ
ไม่ตอ้ งพยายาม ลบอะไรออกไป
ย่งิ ลบ...ย่งิ เห็นรอ่ งรอย
เพราะมันมี “ ตั ว เ ร า ” เขา้ ไปจัดการ
เพยี งแคไ่ ม่ยึด และ ไมผ่ ลักไส ในสิ่งตา่ ง ๆ
สักแต่วา่ | รู้ |
When any feeling emerges,
Whether it is irritation, pity, joy or sorrow, do not try to get rid of it.
The more you try erase it, the more traces are left behind.
They are the marks of your doing
Neither hold onto nor push things away.
Just simply know
045
๐๔๕
การปฏิบัติ ไม่ใช่คิดวา่ ... ตัวเราไม่มี
แต่ “ รู้ ” วา่ ... ไมม่ ีตัวเรา
To practice dhamma is not about deluding oneself
into believing we are nonexistent
but to come to terms with which we are void of existence
046
๐๔๖
จะมสี ภาวะใด
ดี .. ไม่ดี .. ชอบ .. ไมช่ อบ
กป็ ลอ่ ยให้มนั เป็นอย่างท่เี ป็น
ปลอ่ ยวางท่ใี จ
ไม่ใชเ่ อาใจไปปล่อยวาง
Whatever condition it may be,
whether it is good or bad,
wanted or unwanted,
let it be as it is,
Not by forcing your mind to set free from it,
but by letting it goes from your heart
047
๐๔๗
ธรรมชาติ นั้นเกอื้ กูลกัน แต่ไมย่ ดึ ถือกัน
ถา้ หากไรเ้ สียซึ่ง ดนิ น�ำ้ แสงแดด และอากาศ
ทกุ ชวี ิตก็ไม่อาจอยู่ได้
ถา้ หากเปน็ หน่งึ เดียวกับธรรมชาติ
เพราะไมย่ ดึ วา่ มตี วั เรา ของเรา
ก็จะพ้นจากทกุ ขโ์ ดยถาวร
The essences of Nature support each other in harmony
but do not cling to each other.
Without Nature, the unyielding Earth, Water, Sunlight, and Air,
all life would not exist.
Only when one act like how the nature is,
by no longer segregate things as our,
will one be free from suffering.
048
๐๔๘
ธรรมะท่ามกลางธรรมชาติ
ความเกิดดบั เกิดดับ ในความไม่เกดิ ดบั
หรือความเคล่ือนไหว เคลือ่ นไหว ในความไมเ่ คล่ือนไหว
สง่ิ ใดเคลื่อนไหว เกดิ ดับเปลย่ี นแปลง สง่ิ นั้นเปน็ ทุกข์
สงิ่ ใดไมอ่ าจเคล่อื นไหว ไม่เกิดดบั ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เป็นทกุ ข์
สมด่งั คำ� ตรัสของพระพทุ ธองค์ว่า
“ทุกขเ์ ท่านนั้ ทเี่ กดิ ข้นึ ทุกขเ์ ท่านน้ั ทต่ี งั้ อยู่ ทกุ ขเ์ ท่านั้นท่ีดับไป
นอกจากทุกข์แล้ว
ไม่มอี ะไรเกดิ ขน้ึ
ไมม่ อี ะไรตั้งอยู่
ไม่มีอะไรดับไป”
Dhamma
within Nature
Everything exists within the blank space.
There is motion within stillness.
Things that are moving, occurring and ever changing, will only suffer
Things which cannot move, has no beginning or end, is unchanged, will not suffer.
Like the teaching of the Buddha
�Only suffering (Dukkha) is created, remains and eventually reaches its end.
All that is not suffering, they do not come to exist,
do not remain, never know ends.”
049
๐๔๙
นำ�้ ไหล นงิ่
ผู้ใดเห็นความสงบในความเคล่อื นไหว
เหน็ ความว่างในความมี
ใจจะสขุ สงบนริ ันดร์
นั ต ถิ สั น ติ ป ะ รั ง สุ ขั ง
“ สขุ ใดเหนือกวา่ ใจที่สงบ เป็นไมม่ ี ”
The river runs still,
Whoever sees peace within motion,
Sees emptiness within a full glass of water,
One will attain eternal peace.
There are no happinesses beyond
The Peaceful Mind.
050
๐๕๐
ยอมรบั ทุกส่งิ ตามทมี่ ันเป็น
ไม่วา่ จะ ดี หรือ ไม่
ทุกสิ่งล้วนแต่ เกิดขึ้น และ ดับไป
ไมม่ ีอะไรท่ีจะเหลือให้ยึดมั่นถือม่นั
Accept things as they are
Whether it is good or bad.
All things come and go.
Nothing lasts to be held on to.
051
๐๕๑
อดตี ปจั จบุ นั อนาคต จบไป
เพราะ ปล่อยวาง ทีใ่ จ
ใน ปจั จุบนั
Past, Present, and Future can truly end
If one let go of present.
052
๐๕๒
ไมม่ ี ผูย้ ึดถือ
ไม่มี ผูท้ ุกข์
Because no one is attached,
no one will suffer.
053
๐๕๓
ใจ ไร้ตัวใจ
ไมม่ ีใคร ไปยดึ อะไรไว้
ปล่อยวางหมด จบทีใ่ จ
The heart which contains none.
No one can be attached.
Let go of everything
Starting from the heart
054
๐๕๔
ท่สี ุดของปญั ญา
คอื
ก า ร ป ล่ อ ย ว า ง
The ultimate wisdom is to let it go.
055
๐๕๕
ปลอ่ ยใหท้ กุ อย่าง..เปน็ อยา่ งท่ีมนั เป็น
คือ
ป ล่ อ ย ว า ง
To let things take their own course is to let go.
056
๐๕๖
ป ล่ อ ย ว า ง
คือ
ปลอ่ ยวาง สง่ิ ท่ีรู้ ท่ีเหน็ ท่เี ป็น ทกุ ขณะปจั จบุ ัน
ไมใ่ ช่ปล่อยวาง “ สติ ปญั ญา ” เลยไม่ร้เู หน็ อะไรเลย
Letting go is to let go at the present moment of
the things one has known, seen and become.
But, letting go is not to let go of the mindfulness or wisdom
such that you see and know nothing.
057
๐๕๗