ไม่ใช่เอาตวั เราไปปลอ่ ยวาง
เเต่ .. ปล่อยวางตวั เรา
ปลอ่ ยวางทใี่ จ .. พ้นทุกข์
It is not about you letting go of something,
but it is to let go of yourself.
Let it go from the heart
Cessation of Suffering
058
๐๕๘
อย่าทงิ้ สติ
ท้ังรู้ ทั้งเหน็
จนกวา่ ..เป็นธรรมจรงิ ทใี่ จ
Do not abandon consciousness,
nor mind
not until one finally enlighten in dhamma
059
๐๕๙
พบผู้รู้
ปล่อยวางผู้รู้
แ ค่ รู้
ไมม่ .ี ..ผ้รู ู้
Find the one who knows
And let go of them
Just know
Without the one who knows.
060
๐๖๐
ไมว่ า่ มสี ภาวะอศั จรรยแ์ คไ่ หน
กเ็ ป็นแค่ สงั ขาร
ถ้ายึดไวก้ เ็ ปน็ ทกุ ข์
“วาง”
However miraculous states seem,
they all are merely things (Sankhara).
Holding on will only cause suffering
Let go
061
๐๖๑
มีทห่ี มาย กม็ ที ไ่ี ป
เวียนวนเกิดตาย ไมจ่ บสิ้น
วางทหี่ มาย หมดท่ไี ป จบทใี่ จ...ปล่อยวาง
Where there is a destination, there is a path
Circling endlessly within the cycle of life and death, Samsara
No destination thus, no path
Ends it with mind, by let it go
062
๐๖๒
ไ ม่ ดู ด ไ ม่ ผ ลั ก
รทู้ ุกอยา่ ง แต่ไม่ยดึ สักอยา่ ง
จงึ พ้นทกุ ข์
Do not push away nor draw in
Know of everything but be attached to nothing
lead to the cessation of suffering
063
๐๖๓
อสิ ระจากความยดึ ถอื
เพยี ง “ รู้ ” และ
“ ปล่อยวาง ”
Free from Attachment
by simply know and let go
064
๐๖๔
อาศัยสตปิ ญั ญา
เพือ่ ปลอ่ ยวางตวั เรา
ปล่อยวางแมก้ ระทั่ง ... ตัวเราผปู้ ล่อยวาง
Let go of oneself by the wisdom.
To let go of oneself is to let go even of the one
who is trying to let go
065
๐๖๕
เมื่อ ปล่อยวาง “ความปรุงแตง่ ”
และไม่โหยหา “ความไมป่ รุงแต่ง”
ก็ สน้ิ ยดึ ทัง้ สังขารและวิสงั ขาร
จงึ พบ ใจท่ีเปน็ พุทธะ
ใจท่ี รู้จริง รแู้ จง้ รู้พน้ สิน้ อวชิ ชา กเิ ลสตณั หา
Letting go of the conditioned (Sankhara)
and do not crave for the unconditioned (Visankhara)
then you will no longer be attached.
You will find Buddha, Enlightenment, the end of Ignorance
(Avidya) and Defilement (Kilesa).
066
๐๖๖
ส้ิ น ยึ ด ... พ้ น ทุ ก ข์
Free from all attachment, free from all suffering
067
๐๖๗
ใจสงบ
ก็ พบ ธ ร ร ม
Where there is inner peace, there is dhamma.
068
๐๖๘
เม่อื ใจถงึ ธรรม...เมอ่ื ธรรมถงึ ใจ
ทุกสรรพสิ่ง ลว้ นเป็น ธ ร ร ม
When the mind has become dhamma,
Everything will be perceived as dhamma.
069
๐๖๙
ธ ร ร ม ทง้ั หลาย ... มเี พียงปจั จบุ นั
Dhamma only exists in the present
070
๐๗๐
ชีวติ จิตใจมีอย่ตู ามปกติ
สุขทกุ ข์ ผอ่ งใส เศร้าหมอง มอี ยปู่ กติ
แต่ผยู้ ดึ มั่นถือมั่น “ ไม่มี ”
Life takes its course naturally,
Joy and suffering,
happiness and sorrow,
those are a part of life
However, the one who hold onto things is now gone.
071
๐๗๑
เส้นทางนี้ .. ไมม่ ีผมู้ า และ ไม่มีผ้ไู ป
สนิ้ สดุ .. เม่ือ “ หยุด ” เดนิ ทาง
On this journey,
No one ever start it,
nor will travel to anywhere.
This journey ends,
only when one ends it.
072
๐๗๒
ต้องเดนิ ทางจนถงึ ท่สี ดุ
แต่จบดว้ ย “ หยุด ” การเดินทาง
จบทีใ่ จ หยุดท่ใี จ
Though it is necessary to travel to the very end,
That end can only truly be reached when one ends the journey.
End it within the heart
Let go from the heart
073
๐๗๓
นิพพาน คอื ไม่มตี ัวเรา ของเรา
เพราะ ร้วู า่ ตัวเราไม่มี
ร้วู ่า ความมี เกดิ จาก ความไมม่ ี
มนั เกดิ เองดบั เอง
ธรรมชาตเิ ป็นเชน่ น้ี
Nirvana is not us or something to be attained,
because one does not exist.
Everything is born from Nothing,
thus, things naturally come into existence and erode away.
It is the fleeting essence of nature.
074
๐๗๔
ความไม่ม.ี ..ไมใ่ ชค่ วามว่าง
ความไม่มี…ไมม่ ีแม้แต่ “ ความว่าง ”
Nothingness is not emptiness.
Nothingness has nothing, not even emptiness.
075
๐๗๕
“ สิ้นยดึ ” .. ตวั ตนก็ดบั หายไป
“ ดงั่ เปลวไฟท่สี น้ิ เชื้อ ”
When there are no attachment, there is no self
Just like a flame that has been completely extinguished.
076
๐๗๖
“ ส้ินผูเ้ สวย ” . . . แคน่ ั้น
Allow no thought to consume you
077
๐๗๗
พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์
รวมลงอยูท่ ่ี “ ใจ ”
The Buddha, the dhamma, and the Noble Monk, all reside as one in
the Heart
078
๐๗๘
ที่สดุ แหง่ ทุกข์
ไม่ใชอ่ ย่ตู รงที่ .. เกดิ ดับ
แต่อยตู่ รงที่ .. ไมเ่ กิดดบั
The end of suffering does not come from
its occurrence and termination,
But it is to be unbound from the concept of life and death.
079
๐๗๙
อกิริยาจิต
คือ
“ ท่ีสดุ แหง่ ทุกข์ ”
พ้นจาก สังขาร ทงั้ ปวง
Motionlessness
is the cessation of suffering
080
๐๘๐
เมอื่ ส้ินอวิชชา
ความเป็นตวั ตน..ในความร้สู ึก
จงึ ดบั ไป
Because ignorance (Avidya) ceases to exist,
The feeling of oneself will also cease to exist.
081
๐๘๑
ผู้ใด ดับสังขารปรงุ แต่งได้สมบูรณ์
ผู้นนั้ จะพบ ความสุขที่แท้จรงิ
One who is completely free from mental formations (Sankhara),
will find true happiness.
082
๐๘๒
ร่ม..กางออก มิไดท้ �ำใหฝ้ นหยดุ ตก
แต่ กางออก เพ่ือมใิ หเ้ ปยี กฝน
การปฏบิ ัติธรรม ก็มิไดท้ �ำใหท้ ุกขไ์ ม่มี
แต่ ท�ำให้ ไมม่ ีผู้ใดไปทกุ ข์
Umbrella does not stop the rain
but it prevents one from getting soaked.
Practicing dhamma does not eliminate pain or suffering
but the one who is bothered by suffering no longer exist.
083
๐๘๓
พระพทุ ธองค์ ทรงตรัสสอนวา่
สุดทา้ ยของการปฏิบัตธิ รรมน้นั “ ไม่ไดอ้ ะไรเลย ”
แตต่ ถาคตสามารถบอกไดถ้ ึง “ สงิ่ ท่ีหายไป ”
คอื กเิ ลส ตณั หา อวิชชา ได้สูญส้นิ ไป
Lord Buddha said that,
Practicing dhamma would not allow one to gain,
but one could tell what had disappeared,
that is, the loss of Defilement (Kilesa), Desire (Tanha)
and Ignorance (Avidya)
084
๐๘๔
เมอ่ื ความปรารถนาความสุขหมดไป
ความทุกขก์ ็ดบั ลงพรอ้ ม
Once the craving for happiness disappears, suffering will also
disappear.
085
๐๘๕
ธรรมทัง้ ปวง รวมลงตรงความ ส้นิ ยดึ
All dhamma is about letting go of attachment.
086
๐๘๖
ส้ิ น ยึ ด
กก็ ลายเป็นหน่งึ เดยี วกบั ธรรมชาติ
Because no one is attached,
No one will suffer.
087
๐๘๗
เพราะสง่ิ น้มี ี สิ่งนี้จึงมี
เพราะสิ่งนเี้ กดิ สง่ิ น้จี ึงเกดิ
เพราะส่ิงนด้ี บั ส่ิงนจี้ ึงดบั
เพราะไมม่ ีส่งิ ใดเกิด จงึ ไม่มีส่งิ ใดดับ
ทุกสรรพสง่ิ ล้วนเปน็ เชน่ น้ันเอง
รตู้ ามธรรมชาติ...อยอู่ ย่างนี้
“ ท่ีสุดแลว้ มันไม่มีอะไร ”
Because it exists that this exists.
Because it happened that this happens.
Because it ceases to exist that this ceases to exist.
Because nothing began, then nothing can end.
Everything follows the same path.
Simply realize how the nature takes its course.
That in the end, this is how it is.
088
๐๘๘
“ จบลงท่ีใจ ” ในปจั จุบนั
วาง...ทุกอยา่ ง
ไมม่ อี ดตี ไมม่ ีอนาคต
แม้ปจั จุบนั ก็ไมร่ ักษาไว้
“ ส้นิ ผเู้ สวย ส้นิ ผยู้ ดึ มนั่ ถือม่ัน ”
กลายเป็นใจทสี่ งบ...ว่างเปลา่
มีแต่...ความสงบรม่ เย็น
End with the mind in the present
Let go of everything,
The past, present, and future do not exist
The one who takes or hold on cease to exist.
There is left a peaceful and empty mind,
There only exists the serenity.
089
๐๘๙
ไมม่ ีอะไรใหย้ ดึ ถอื
ไม่มอี ะไรให้ปล่อยวาง
ไม่มีใครจะไปได้ ไปมี ไปเป็นอะไร
ไมม่ ีตัวตนของผู้ทจ่ี ะพน้ ทุกข์
There is nothing to hold on to.
There is nothing to be let go of.
There is no one who will attain, be given, or become anything.
And there does not exist anyone who will be freed from suffering.
090
๐๙๐
ทุกข์นัน่ แหละมีอยู่
แตผ่ ทู้ กุ ขห์ ามไี ม่
การกระท�ำมอี ยู่
แต่ผ้ทู �ำไมม่ ี
นพิ พานมีอยู่
แต่คนผ้นู พิ พานไมม่ ี
ทางก็มอี ยู่
แต่ผเู้ ดนิ ทางไม่มี
๐๙๑
Pain and suffering exists,
but the one who suffers does not.
Actions exist,
but the one who acts does not.
Nirvana exists,
but the one who has attained nirvana
does not.
The path to nirvana exists,
but the one who takes the journey does not.
091
ท่สี ุด..ไมม่ ที ส่ี ดุ
ไม่มที ี่หมาย ไมม่ ีท่ีไป
มนั ไมม่ อี ะไร..จะไปเปน็ อะไร
เพราะมนั ....“ ไม่มี ”
In the end, there is no end
Nothing to become and nowhere to go
Because there is nothing that is.
092
๐๙๒
สงู สดุ คือ จดุ เรมิ่ ตน้
คือ ความ “ ไม่มี ” อะไร
The pinnacle of dhamma lies at the beginning
Which is Nothingness.
093
๐๙๓
ไมม่ ีตวั เรา มาแต่แรก
ใยตอ้ ง “ ปลอ่ ยวาง ” ตัวเรา
If oneself does not exist from the very beginning;
What need is there to let go of oneself.
094
๐๙๔
มาจากความวา่ งเปลา่
กลับคืนสูค่ วามวา่ งเปลา่
Come from emptiness
Return to emptiness
095
๐๙๕