แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ
พิชิตความส�ำเร็จ
ชุดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
ส�ำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ พิชิตความส�ำเร็จ
ชุดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
ส�ำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา
ISBN 978-616-577-380-5
ผู้เขียน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัมเรศ เนตาสิทธ์ิ
คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏล�ำปาง
พิมพ์คร้ังที่ 1 เมษายน 2559
จ�ำนวนพิมพ์ 50 เล่ม
จัดพิมพ์และเผยแพร่โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัมเรศ เนตาสิทธิ์
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏล�ำปาง
119 ม.9 ถนนล�ำปาง-แม่ทะ ต�ำบลชมพู
อ�ำเภอเมือง จังหวัดล�ำปาง 52100
โทรศัพท์ 054-241303
โทรสาร 054-316748
ออกแบบและพิมพ์ที่ บริษัท ดีเซมเบอร่ี จ�ำกัด
โทรศัพท์ 08 5997 7220
กิตติกรรมประกาศ
งานวิจัยเร่ืองการพัฒนาชุดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ ส�ำหรับ
นักเรียนระดับประถมศึกษาของโรงเรียนในสังกัดส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
ประถมศึกษาลำ� ปาง เขต 3 เป็นงานวิจัยท่ีได้รับทุนอุดหนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ
ล�ำปาง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 และได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหลายฝ่าย
จนท�ำให้งานวิจัยส�ำเร็จลุล่วงด้วยดี
ผู้วิจัยขอกราบขอบพระคุณ นายวิบูลย์ ทานุชิต ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขต
พน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาลำ� ปาง เขต 3 นางวรางคณา ไชยเรอื น รองผอู้ ำ� นวยการ
ส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาล�ำปาง เขต 3 ศึกษานิเทศก์ ส�ำนักงาน
เขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาล�ำปาง เขต 3 นายเทพพิทักษ์ สมใจ ผู้อ�ำนวยการ
โรงเรยี นแจซ้ อ้ นวทิ ยา คณะครแู ละนกั เรยี นโรงเรยี นแจซ้ อ้ นวทิ ยา นกั ศกึ ษาทเี่ รยี นใน
รายวชิ าจติ วทิ ยาสำ� หรบั ครู ภาคการศกึ ษาที่ 2/2558 ในการเปน็ วทิ ยากรประจำ� กลมุ่
และบันทึกการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างการท�ำกิจกรรม รวมท้ัง
ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ได้สละเวลาอันมีค่าในการให้ข้อมูลและตรวจสอบ
ชุดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ ส�ำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาดังกล่าว
3
ค�ำน�ำ
แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธไิ์ มไ่ ดเ้ กดิ จากกรรมพนั ธแ์ุ ตเ่ กดิ จากการเรยี นรู้ การฝกึ ฝน
อบรมตลอดจนส่ิงแวดล้อมล้วนมีผลโดยตรงต่อระดับแรงจูงใจของบุคคล ดังนั้น
การปลูกฝังแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิให้กับบุคคลควรเริ่มต้ังแต่ในวัยเด็ก หากเด็กได้รับ
การเลีย้ งดทู ่ีดีถูกต้องตามหลกั จิตวิทยาและหลักวิชาการทีเ่ กยี่ วขอ้ ง เขาจะพัฒนาได้
เต็มศักยภาพ โดยเฉพาะนักเรียนระดับประถมศึกษาที่เป็นวัยแห่งการเตรียมพร้อม
ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา หากได้รับส่ิงแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริม
พฒั นาการทดี่ ี เขาจะสามารถปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ประสบการณใ์ หมห่ รอื สง่ิ แวดลอ้ มใหม่
ได้อย่างราบรื่น เด็กในวัยน้ีก�ำลังเรียนรู้ เขาจะเริ่มเรียนรู้ในส่ิงที่อยู่ใกล้ตัวก่อนแล้ว
จึงคอ่ ย ๆ เรียนรูส้ ่ิงแวดลอ้ มท่อี ยู่ไกลตัวออกไป หากโรงเรยี นจดั เตรียมส่งิ แวดลอ้ มที่
เหมาะสมใหเ้ ขาไดเ้ คลอื่ นไหวรา่ งกายและมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมสมำ่� เสมอ จะเปน็ การ
เพมิ่ หรือสง่ เสริมพฒั นาการทางปญั ญาของเดก็ อยา่ งมาก
ดังน้ันผู้วิจัยจึงได้พัฒนาชุดกิจกรรมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิให้กับเด็กนักเรียน
ระดับประถมศึกษา เพ่ือใช้ส่งเสริมให้นักเรียนมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น เพ่ือให้
เดก็ เตบิ โตมาเปน็ ผใู้ หญท่ ม่ี คี ณุ ภาพในอนาคต สามารถดำ� รงตนอยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมี
ความสขุ และสง่ ผลดตี อ่ ประเทศชาติ ทงั้ นผ้ี วู้ จิ ยั หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ ชดุ กจิ กรรมนจ้ี ะเปน็
แนวทางให้โรงเรียนประถมศึกษาท่ัวประเทศ ที่ต้องการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ
ใหก้ ับนักเรยี นประถมศึกษาไดน้ ำ� ไปประยกุ ต์ใช้ไดอ้ ีกดว้ ย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัมเรศ เนตาสิทธ์ิ
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏล�ำปาง
ผู้วิจัย
4
สารบัญ
กิตตกิ รรมประกาศ 3
คำ� น�ำ 4
บทน�ำ 11
คำ� ช้แี จงในการใชช้ ดุ กจิ กรรม 16
บทบาทของครู/ครแู นะแนวในการจดั กิจกรรม 17
และการส่งเสริมแรงจงู ใจใฝ่สัมฤทธิ ์ 20
แผนการจดั กิจกรรมส่งเสริมแรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธิ ์
กิจกรรมที่ 1 “สิ่งท่ีฉันเป็น กับสิ่งที่ฉันฝัน” 23
ค�ำช้แี จง 25
สาระสำ� คญั 26
จุดประสงค์การเรยี นรู ้ 26
สื่อ/อปุ กรณ/์ แหลง่ เรยี นรู ้ 26
วิธดี ำ� เนินกิจกรรม 27
การประเมินผล 28
ใบงานเร่อื ง “ความถนดั ของฉนั ” 29
แบบทดสอบความถนัดด้านอาชีพ (Basic Vocational Orientation) 30
การแปลผลแบบทดสอบความถนัดทางอาชพี (ส�ำหรับคร)ู 37
5
กิจกรรมที่ 2 “ฉันคนใหม่” 39
ค�ำชแ้ี จง 41
สาระส�ำคญั 42
จุดประสงคก์ ารเรยี นร ู้ 42
สื่อ/อุปกรณ์/แหลง่ เรยี นรู ้ 42
วธิ ดี �ำเนนิ กจิ กรรม 43
การประเมนิ ผล 44
ใบงานเร่อื ง “ฉนั จะเปลย่ี นแปลง (I Will)” 45
กิจกรรมท่ี 3 “บุคลิกดี มีชัย” 47
ค�ำชแ้ี จง 49
สาระสำ� คัญ 50
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 50
สอ่ื /อุปกรณ์/แหล่งเรยี นร้ ู 50
วิธีดำ� เนนิ กิจกรรม 51
การประเมนิ ผล 52
ใบงานเรอื่ ง “การสังเกตบุคลกิ ภาพ” 53
กิจกรรมที่ 4 “ภาษาในอาเซียน” 55
ค�ำชแี้ จง 57
สาระสำ� คญั 58
จุดประสงค์การเรียนร้ ู 58
สื่อ/อปุ กรณ์/แหลง่ เรียนรู ้ 58
วธิ ีดำ� เนินกิจกรรม 59
การประเมนิ ผล 60
ตวั อย่างคำ� ภาษาอาเซยี น (สำ� หรบั ครู) 61
6
กิจกรรมที่ 5 “ยิงเรือ” 63
ค�ำชีแ้ จง 65
สาระสำ� คญั 66
จุดประสงคก์ ารเรยี นร ู้ 66
สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นร ู้ 66
วิธดี ำ� เนินกิจกรรม 67
การประเมินผล 69
ใบงานเร่ือง “เรือในมหาสมทุ ร” 70
แบบเฉลย “ยิงเรือ” (สำ� หรบั คร)ู 71
กิจกรรมท่ี 6 “เขียนตามภาพ” 73
ค�ำชแี้ จง 75
สาระสำ� คญั 76
จดุ ประสงค์การเรยี นร้ ู 76
สื่อ/อุปกรณ/์ แหลง่ เรียนร้ ู 76
วธิ ดี �ำเนนิ กิจกรรม 77
การประเมินผล 77
ตวั อย่างบัตรภาพ พรอ้ มคำ� เฉลย (สำ� หรับคร)ู 78
กิจกรรมที่ 7 “จ�ำได้ดี ต้องมีภาพ” 81
คำ� ช้ีแจง 83
สาระส�ำคญั 84
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 84
สอื่ /อุปกรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ 84
วิธีด�ำเนนิ กจิ กรรม 85
การประเมินผล 88
ใบงานเร่ือง “แผนทีบ่ า้ นของฉนั ” 89
7
กิจกรรมท่ี 8 “อาชีพในฝัน” 93
คำ� ชี้แจง 95
สาระส�ำคัญ 96
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 96
สื่อ/อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นร ู้ 96
วธิ ีด�ำเนินกิจกรรม 97
การประเมินผล 99
ใบงานเร่อื ง “อาชีพนดี้ ีอยา่ งไร” 100
กิจกรรมท่ี 9 “ก้าวไกลในอาเซียน” 103
ค�ำชี้แจง 105
สาระส�ำคญั 106
จุดประสงค์การเรยี นร้ ู 106
สื่อ/อปุ กรณ/์ แหลง่ เรยี นรู้ 106
วิธดี ำ� เนินกิจกรรม 107
การประเมนิ ผล 107
กิจกรรมที่ 10 “นายตัวเอง” 109
ค�ำชแ้ี จง 111
สาระสำ� คัญ 112
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร ู้ 112
สอ่ื /อุปกรณ์/แหล่งเรยี นร้ ู 112
วธิ ดี �ำเนนิ กจิ กรรม 113
การประเมินผล 114
รายการอ้างองิ 117
8
9
บทน�ำ
คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ส�ำหรับนักเรียนระดับ
ประถมศึกษา มีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมส�ำหรับนักเรียน
ระดับประถมศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม
ศึกษาล�ำปาง เขต 3 โดยให้ครูและนักเรียนมีส่วนร่วมในการท�ำกิจกรรม ผล
จากการใช้ชุดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ จะท�ำให้นักเรียนระดับ
ประถมศึกษา มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์เพิ่มข้ึน และมุ่งท�ำกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือ
จะประสบความส�ำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ รวมถึงช่วยให้นักเรียนมีผล
สัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีดีข้ึน นอกจากน้ันใช้เป็นแนวทางให้ครูในโรงเรียนระดับ
ประถมศึกษาแห่งอ่ืน ๆ น�ำไปประยุกต์ใช้ในจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
การแนะแนว หรือในช่วั โมง “ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลาร”ู้ ได้
คู่มือการจัดกิจกรรมนี้ช่ือชุดกิจกรรม “แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ พิชิต
ความส�ำเร็จ” ประกอบไปด้วยกจิ กรรมย่อย 10 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมท่ี 1 “ส่ิงท่ีฉันเป็น กับสิ่งที่ฉันฝัน” มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนมี
ความทะเยอทะยานท่ีสัมพันธ์กับอัตมโนทัศน์ของตนเอง บอกอาชีพที่สอดคล้องกับ
ความถนัดของตนเอง และบอกแผนงานท่ีจะด�ำเนินการเพ่ือให้ได้ประกอบอาชีพ
ทสี่ อดคลอ้ งกับความถนัดของตนเองได้
กิจกรรมที่ 2 “ฉันคนใหม่” มุ่งเสริมสร้างให้ให้นักเรียนมีความพยายาม
ที่จะผลักดันตนเองให้ดีกว่าเดิม วิเคราะห์ลักษณะนิสัยของตนเอง และบอกวิธี
การเปลี่ยนแปลงตนเองเพ่อื ใหต้ นเองเกิดความสำ� เรจ็ ในอนาคตได้
11
กิจกรรมที่ 3 “บุคลิกดี มีชัย” มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนเป็นบุคลท่ีต้องการ
ทราบข้อมูลย้อนกลับ บอกลักษณะของผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ดี และบอกลักษณะของ
ผู้ทม่ี ีบุคลกิ ภาพท่ไี ม่ดไี ด้
กจิ กรรมท่ี 4 “ภาษาในอาเซยี น” มงุ่ สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นเกดิ ความขยนั ขนั แขง็
บอกภาษาในอาเซยี น และบอกความส�ำคัญของการรู้ภาษาในอาเซียนได้
กิจกรรมท่ี 5 “ยิงเรือ” มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนท�ำงานอย่างมีการวางแผน
บอกความส�ำคัญของการมีทักษะการคิด สามารถปรับตัวในการเป็นผู้น�ำและผู้ตาม
และสามารถสื่อสารและทำ� งานร่วมกับผอู้ น่ื ได้
กิจกรรมท่ี 6 “เขียนตามภาพ” มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนเป็นผู้ท่ีพัฒนา
อยู่เสมอ สามารถเขียนค�ำที่ก�ำหนดให้ได้ถูกต้อง และสามารถอ่านค�ำท่ีก�ำหนดให้ได้
ถกู ต้อง
กิจกรรมท่ี 7 “จ�ำได้ดี ต้องมีภาพ” มุ่งส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นมีทกั ษะในการ
จัดการระบบงานสามารถจัดระบบการจ�ำของตนเอง และสามารถจ�ำในสิ่งท่ีก�ำหนด
ใหจ้ ำ� ในระยะเวลาอนั สั้นได้
กิจกรรมที่ 8 “อาชีพในฝัน” มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนเป็นบุคคลท่ีมี
การวางแผนระยะยาว บอกอาชีพในอนาคตที่ตนเองอยากท�ำ และบอกเหตุผล
ในการเลือกอาชีพท่ีตนเองอยากทำ� ได้
กิจกรรมท่ี 9 “ก้าวไกลในอาเซียน” มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนมุ่งหา
ความส�ำเร็จและกลัวความล้มเหลว วิเคราะห์ลักษณะนิสัยของตนเอง และบอกวิธี
การเปล่ียนแปลงตนเองเพอื่ ให้ตนเองเกดิ ความสำ� เร็จในอนาคตได้
กิจกรรมท่ี 10 “นายตัวเอง” มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนเป็นบุคคลท่ีต้องการ
ความสำ� เรจ็ บอกอาชพี ทเ่ี ปน็ อาชพี อสิ ระ และบอกขอ้ ดขี องอาชพี ทเ่ี ปน็ อาชพี อสิ ระได้
12
คมู่ อื การจัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ ไดผ้ ่านการด�ำเนินงานตาม
กระบวนการของการวจิ ยั ดังนี้
1. ศกึ ษาเอกสาร ผลการวิจยั และข้อมูลท่เี ก่ยี วขอ้ ง แนวคิด ทฤษฎี และ
หลกั การเกยี่ วกบั การสง่ เสรมิ แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธท์ิ งั้ ในและตา่ งประเทศ
การศึกษาข้อมูลดังกล่าวสามารถท�ำให้ได้แนวคิด หลักการส่งเสริม
แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธช์ิ ดั เจนยง่ิ ขน้ึ จากนน้ั นำ� มากำ� หนดเปน็ กรอบแนวคดิ
ส�ำหรับการวจิ ัย
2. วิเคราะห์วิธีการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิโดยการศึกษาเอกสาร
เว็บไซต์ การสัมภาษณ์ผู้เช่ียวชาญด้านจิตวิทยาการศึกษาและ
การแนะแนว และผ้เู ช่ียวชาญเกีย่ วกับการจดั กิจกรรมส�ำหรับนักเรียน
ช้ันประถมศกึ ษา รวมจำ� นวนท้งั หมด 6 คน และจัดเสวนาครแู นะแนว
และครผู สู้ อน จำ� นวน 10 คน เพอ่ื เปน็ แนวทางในการพฒั นาชดุ กจิ กรรม
ส่งเสรมิ แรงจูงใจใฝส่ มั ฤทธ์ิ ส�ำหรบั นักเรยี นระดบั ประถมศึกษา
3. ผวู้ จิ ยั รา่ งชดุ กจิ กรรมสง่ เสรมิ แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธิ์ สำ� หรบั นกั เรยี นระดบั
ประถมศึกษา จากผลท่ีได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล จากท้ังในประเทศ
และตา่ งประเทศ รวมทงั้ จากการสัมภาษณ์ และจากการจัดเวทเี สวนา
4. น�ำเสนอชดุ กจิ กรรมส่งเสรมิ แรงจูงใจใฝส่ มั ฤทธิ์ สำ� หรบั นักเรยี นระดบั
ประถมศกึ ษา โดยนำ� ชดุ กจิ กรรมทผี่ วู้ จิ ยั พฒั นาขนึ้ ไปสอบถามความคดิ
เห็นเพอื่ ประเมินความเหมาะสมของชุดกจิ กรรม โดยใชแ้ บบสอบถาม
ในลักษณะประมาณค่า (Rating Scale) สอบถามนักวิชาการด้าน
จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว รวมจำ� นวน 30 คน
5. ปรับปรุงชุดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ ส�ำหรับนักเรียน
ระดับประถมศึกษา โดยน�ำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับชุดกิจกรรมท่ีได้จาก
การสอบถามความคดิ เหน็ เพอื่ ประเมนิ ความเหมาะสมของนกั วชิ าการ
มาพฒั นาและปรบั ปรงุ เพอื่ ใหไ้ ดช้ ดุ กจิ กรรมสง่ เสรมิ แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธ์ิ
13
ทเ่ี หมาะสมส�ำหรับนกั เรยี นระดับประถมศึกษา
6. การตรวจสอบและยนื ยนั ชดุ กจิ กรรมสง่ เสรมิ แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธ์ิ สำ� หรบั
นักเรียนระดับประถมศึกษา โดยการจัดประชุมสนทนาผู้ทรงคุณวุฒิ
(Focus Group Discussion) ทม่ี ปี ระสบการณด์ า้ นจติ วทิ ยาการศกึ ษา
และการแนะแนว และการจดั กจิ กรรมนกั เรยี นสำ� หรบั ชนั้ ประถมศกึ ษา
จ�ำนวน 10 คน เพอ่ื ให้ข้อเสนอแนะทเี่ ปน็ ไปได้ในการน�ำรปู แบบไปใช้
7. การทดลองใช้ชุดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ ส�ำหรับนักเรียน
ระดบั ประถมศกึ ษา ในโรงเรยี นแจซ้ อ้ นวทิ ยา สงั กดั เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา
ประถมศกึ ษาลำ� ปางเขต 3 ตลอดภาคเรยี นท่ี 2/2558 โดยมขี น้ั ตอน ดงั นี้
7.1 ผวู้ จิ ยั จดั อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื ทำ� ความเขา้ ใจ ชแี้ จง วตั ถปุ ระสงค์
เปา้ หมาย ขนั้ ตอนวธิ กี ารในการดำ� เนนิ การใชช้ ดุ กจิ กรรมสง่ เสรมิ
แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธ์ิ ใหก้ บั ครแู นะแนะแนว ครผู สู้ อนและนกั ศกึ ษา
ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมแรงจูงใจ
ใฝ่สัมฤทธ์ิ ส�ำหรบั นกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษา
7.2 ครูและนักศึกษานำ� เอาเทคนคิ วธิ กี ารและองคค์ วามรู้ท่ไี ด้รบั ไป
ดำ� เนนิ การจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธ์ิ ใหก้ บั นกั เรยี น
ระดับประถมศึกษา ในชั่วโมงกิจกรรมแนะแนว หรือ น�ำไป
ประยุกตใ์ ชใ้ นชั่วโมง “ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลาร”ู้
7.3 ผู้วิจัยติดตามผลการจัดกิจกรรม โดยการใช้กระบวนการนิเทศ
ติดตามผลแบบกัลยาณมิตร เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการ
พัฒนา โดยผู้วิจัย ลงพ้ืนที่ นิเทศ ติดตาม ให้ข้อเสนอแนะ
ปรับปรุงนวัตกรรม และเคร่ืองมือต่าง ๆ ให้เหมาะสมยิ่งข้ึน
ซงึ่ การนิเทศจะครอบคลุมกิจกรรมตา่ ง ๆ เชน่ การแลกเปลีย่ น
เรียนรู้ โดยกลุ่มไม่เป็นทางการ กลุ่มแก้ปัญหา การเล่าเรื่อง
การใช้เครือข่ายสังคม (Social Network) เพ่ือใช้เป็นเวที
14
การแลกเปล่ยี นข้อมลู ระหว่างกนั เชน่ Facebook เปน็ ต้น
7.4 ประเมินผลความส�ำเร็จของการใช้ชุดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจ
ใฝ่สัมฤทธ์ิ ส�ำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา เพื่อสรุปผล
การดำ� เนนิ งาน สรุปบทเรียน และจดั ท�ำขอ้ เสนอแนะ
8. การประเมินผลการใช้ชุดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ ส�ำหรับ
นกั เรยี นระดบั ประถมศกึ ษา โดยใชแ้ บบประเมนิ การมแี รงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธ์ิ
ส�ำหรับนกั เรยี น ส�ำหรบั ครู และสำ� หรับผปู้ กครอง เกบ็ ขอ้ มูลกอ่ นและ
หลงั การสง่ เสรมิ แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธดิ์ ว้ ยการจดั กจิ กรรมตามชดุ กจิ กรรม
ที่พัฒนาขึ้น ใช้แบบสังเกตพฤติกรรม สังเกตพฤติกรรมด้านการมี
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ระหว่างการท�ำกิจกรรม และสรุปผลการใช้
ชุดกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ ส�ำหรับนักเรียนระดับประถม
ศกึ ษา
15
ค�ำช้ีแจงในการใช้ชุดกิจกรรม
1. ชดุ กจิ กรรมนเี้ ปน็ กจิ กรรมทเี่ หมาะสำ� หรบั ใชส้ ง่ เสรมิ แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธ์ิ
ให้กับนักเรยี นระดับประถมศึกษาปีท่ี 4-6 (ช่วงช้ันท่ี 2)
2. ชดุ กจิ กรรมนสี้ ามารถนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นการ
สอน การแนะแนว หรือการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”
ตามนโยบายของรฐั บาลในการสนบั สนนุ แนวทางการปฏริ ปู การศกึ ษา
อย่างเปน็ รูปธรรม
3. เวลาท่ีใช้ในการจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง ควรใช้เวลาประมาณ 40 นาที
ถงึ 1 ชัว่ โมง
4. สื่อทีใ่ ช้ในการจัดกิจกรรม ควรจัดใหเ้ พียงพอและเหมาะสมกับจ�ำนวน
นกั เรยี นท่เี ขา้ รว่ มกจิ กรรม
5. กรณที ม่ี กี ารจดั กจิ กรรมซำ�้ ควรปรบั เปลยี่ นสอื่ ประกอบการทำ� กจิ กรรม
เพือ่ ใหเ้ กิดความนา่ สนใจ
6. การประเมินผลของแต่ละกิจกรรมเน้นการสังเกตพฤติกรรมของ
นักเรยี นขณะท�ำกิจกรรม และผลงานทีท่ ำ� ในระหว่างการท�ำกิจกรรม
7. สถานศกึ ษาสามารถประยกุ ตใ์ ชก้ จิ กรรมไดต้ ามบรบิ ทและความพรอ้ ม
ของสถานศึกษา
16
บทบาทของครู/ครูแนะแนว
ในการจัดกิจกรรมและการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ
ผู้ที่สามารถน�ำชุดกิจกรรมนี้ไปประยุกต์ใช้ ได้แก่ ครูและบุคลากรทาง
การศึกษา ท่ีต้องการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษา
ในการด�ำเนินการตามกระบวนการของกิจกรรม โดยผู้น�ำท�ำกิจกรรมและผู้ช่วย
ต้องด�ำเนินการตามบทบาทที่ส�ำคัญในการจัดกิจกรรม และบทบาทในการส่งเสริม
แรงจงู ใจใฝ่สัมฤทธ์ิ ดงั น้ี
บทบาทที่ส�ำคัญในการน�ำท�ำกิจกรรม
1. เข้าใจกฎกติกาของกิจกรรมทุกกิจกรรมก่อนท่ีจะน�ำไปใช้ และช้ีแจง
กฎกติกาในการท�ำกิจกรรมใหช้ ดั เจน
2. เป็นผู้ชี้น�ำให้ท�ำกิจกรรม โดยอาจจะมีทดลองท�ำกิจกรรมดูก่อน
ก่อนจะมีการท�ำกิจกรรมจริง
17
3. รวบรวมและตรวจอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ทจี่ ำ� เปน็ หรอื การใชใ้ นการทำ� กจิ กรรม
ให้ครบถว้ น ก่อนจะจัดกิจกรรม
4. จัดโปรแกรมของกิจกรรมให้มีความยืดหยุ่นได้ โดยให้เหมาะสมกับ
สถานการณ์
5. ผู้น�ำท�ำกิจกรรมต้องวางแผนเกี่ยวกับการจัดการเวลาให้เหมาะสมกับ
จ�ำนวนของนักเรียนท่รี ว่ มทำ� กิจกรรมด้วย
6. มีเทคนิคในการควบคุมกิจกรรม และควบคุมเวลา โดยไม่ลืมจับเวลา
ขณะท�ำกจิ กรรม เพ่อื ไมใ่ หเ้ กดิ การเยน่ิ เยอ้
7. ร้จู กั การแกไ้ ขปัญหาในขณะการดำ� เนินการท�ำกจิ กรรม
8. มกี ารตัดสินช้ีขาดทยี่ ุติธรรม โดยไม่ใหน้ กั เรียนรสู้ ึกวา่ เราลำ� เอียง
9. ผู้น�ำท�ำกิจกรรมต้องมีความสามารถในการสรุปความรู้ได้ชัดเจน และ
จบั ประเดน็ ใจความได้ถูกต้อง
10. สังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ตั้งแต่การเริ่มท�ำกิจกรรมจนถึงสิ้นสุด
กจิ กรรม โดยอาจมกี ารจดบนั ทกึ ประเมนิ นกั เรยี น หรอื อาจมกี ารบนั ทกึ
ภาพ หรือคลปิ ไว้ส�ำหรับการประเมนิ ตา่ ง ๆ
11. ในการจดั กจิ กรรมควรสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นไดร้ บั ความสนกุ สนาน ควบคู่
ไปกบั การสง่ เสรมิ แรงจูงใจใฝส่ มั ฤทธิ์
บทบาทของครู/ครูแนะแนวในการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
1. บอกวตั ถปุ ระสงคข์ องการทำ� กจิ กรรมของแตล่ ะกจิ กรรมใหน้ กั เรยี นทราบ
2. กรณที มี่ กี ารแบง่ กลมุ่ ทำ� กจิ กรรม ครคู วรสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นรจู้ กั วางแผน
การทำ� กจิ กรรมของกลมุ่ เพอื่ ใหป้ ระสบความสำ� เรจ็ ในการทำ� กจิ กรรม
3. ช่วยและสนับสนุนกลุ่มที่แพ้ เพ่ือให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสในการ
ประสบความส�ำเร็จเท่า ๆ กัน
18
4. ส่งเสริมให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสท�ำกิจกรรมอย่างเสมอภาค และ
เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นไดร้ ว่ มกำ� หนดกตกิ าในการทำ� กจิ กรรม เพอ่ื สง่ เสรมิ
ใหน้ กั เรยี นไดต้ ง้ั เปา้ หมายความส�ำเร็จดว้ ยตนเอง
5. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้อภิปราย และแสดงความคิดเห็นในเร่ืองต่าง
ๆ ตามความเหมาะสม
6. ระหว่างการท�ำกิจกรรมควรให้ก�ำลังใจ และให้โอกาสนักเรียน
ประสบความส�ำเร็จในกิจกรรม เพ่ือสร้างความเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ
ในตนเองแก่นกั เรียน
7. ผนู้ ำ� ทำ� กจิ กรรมตอ้ งสรา้ งบรรยากาศของการทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั ทำ� ให้
เกดิ บรรยากาศท่ีอบอุ่น และมไี มตรตี ่อกัน
8. ผู้น�ำท�ำกิจกรรมควรรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน วางตัวเป็นกลาง
และกรณที เ่ี กิดปญั หาตอ้ งตดั สนิ ปัญหาอย่างยตุ ธิ รรม
9. ควรจัดบรรยากาศของการท�ำกิจกรรมให้มีบรรยากาศที่ท้าทาย
ความอยากรู้อยากเหน็ ของนกั เรียน
10. บรรยากาศในห้องท่ีท�ำกิจกรรม และระหว่างการท�ำกิจกรรมต้อง
ปราศจากการข่เู ขญ็
11. กรณีที่นักเรียนบางคนไม่สามารถท�ำกิจกรรมประสบความส�ำเร็จได้
ควรให้ความช่วยเหลือนักเรียนเรียนเป็นรายบุคคล เพ่ือช่วยนักเรียน
ได้มีโอกาสในการประสบความส�ำเร็จ
12. ใหข้ ้อมลู ยอ้ นกลับแก่นักเรียนอยา่ งสม�่ำเสมอระหวา่ งการทำ� กจิ กรรม
13. จัดกิจกรรมโดยค�ำนึงถึงหลักของมาสโลว์ที่ว่า ผู้เรียนจะเรียนรู้ได้
เมอ่ื ความตอ้ งการพื้นฐานได้สมปรารถนา
19
แผนการจัดกิจกรรม
ส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
สัปดาห์ที่ เวลาที่ใช้ในการ กิจกรรม
จัดกิจกรรม
1 ประเมินแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิก่อนท�ำ
40 นาที กิจกรรม โดยแยกเป็น
2 40 นาที • การประเมินโดยผู้เรียนเอง
3 40 นาที • การประเมินโดยผู้สอน
4 40 นาที • การประเมินโดยผู้ปกครอง
5 40 นาที สิ่งท่ีฉันเป็น กับส่ิงที่ฉันฝัน
6 40 นาที ฉันคนใหม่
7 40 นาที บุคลิกดี มีชัย
8 40 นาที ภาษาในอาเซียน
9 40 นาที ยิงเรือ
10 เขียนตามภาพ
จ�ำได้ดี ต้องมีภาพ
อาชีพในฝัน
ก้าวไกลในอาเซียน
20
สัปดาห์ที่ เวลาท่ีใช้ในการ กิจกรรม
จัดกิจกรรม
11 นายตัวเอง
12 40 นาที ประเมินแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิหลังท�ำกิจกรรม
โดยแยกเป็น
• การประเมินโดยผู้เรียนเอง
• การประเมินโดยผู้สอน
• การประเมินโดยผู้ปกครอง
หมายเหตุ
1. ควรจดั กจิ กรรมซำ้� เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเกดิ การเรยี นรู้ แตค่ วรปรบั เปลย่ี นสอ่ื
ประกอบการทำ� กิจกรรม เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความนา่ สนใจ
2. ชว่ งเวลาในการท�ำกิจกรรมสามารถปรบั ได้ตามความเหมาะสม
3. ระยะเวลาในการท�ำกิจกรรมสามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม
ตามจ�ำนวนนักเรียน แต่ไม่ควรใช้เวลานานเกินไป เพราะจะท�ำให้
นกั เรียนขาดความสนใจในการทำ� กิจกรรม
21
กจิ กรรมที่ 1
สงิ่ ที่ฉนั เป็น
กบั สง่ิ ทฉ่ี นั ฝนั
23
กิจกรรมที่ 1
“สิ่งที่ฉันเป็น กับส่ิงที่ฉันฝัน”
ค�ำช้ีแจง
1. กิจกรรมน้ีเป็นกิจกรรมท่ีเหมาะส�ำหรับใช้ส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ
ใหก้ ับนกั เรยี นระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 (ชว่ งชั้นท่ี 2)
2. กิจกรรมน้ีเน้นการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ให้กับนักเรียนใน
ดา้ นอาชีพ
3. ขนาดกลุ่มนกั เรยี นทีท่ �ำกิจกรรม ไมค่ วรเกินจำ� นวน 50 คน
4. ครูควรจัดสถานทใี่ ห้เหมาะสมกับลกั ษณะของกิจกรรม
5. เวลาที่ใช้ในการท�ำกิจกรรมประมาณ 40 นาที ทั้งน้ีครูต้องวางแผน
การจดั กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั จำ� นวนของนกั เรยี นทเี่ ขา้ รว่ มกจิ กรรมดว้ ย
6. ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม ครคู วรมกี ารชมเชยอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและใหโ้ อกาส
นกั เรียนทกุ คนได้ประสบความส�ำเรจ็ ในการทำ� กิจกรรม
25
สาระส�ำคัญ
ลกั ษณะเดน่ ของผทู้ ม่ี แี รงจงู ใจใฝ่สมั ฤทธ์สิ ูง คือมรี ะดับความทะเยอทะยาน
(Level of Aspiration) สมั พนั ธ์ (ตรงกนั ) กบั อตั มโนทศั น์ (Self-Concept) (Weiner,
1972) ดังน้ันการส่งเสริมให้นักเรียนสามารถประเมินความสามารถหรือความถนัด
ของตนเอง และก�ำหนดเป้าประสงค์ด้านอาชีพท่ีสอดคล้องกับความสามารถหรือ
ความถนัดของตนเองได้ จะส่งผลให้ผู้เรียนประสบความส�ำเร็จในสิ่งท่ีท�ำ เกิด
ความภาคภูมิใจในความส�ำเร็จนั้น และจะเกิดแรงจูงใจและก�ำลังใจในการพัฒนา
ตนเองเพ่ือให้สัมฤทธผิ์ ลในการประกอบอาชีพตามเป้าหมายท่ตี ั้งไว้
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพอื่ สง่ เสริมใหน้ กั เรียนมคี วามทะเยอทะยานที่สัมพันธ์กับอัตมโนทัศน์
ของตนเอง
2. เพ่อื ใหน้ กั เรยี นบอกอาชีพท่ีสอดคลอ้ งกับความถนัดของตนเองได้
3. เพอื่ ใหน้ กั เรยี นบอกแผนงานทจ่ี ะดำ� เนนิ การเพอื่ ใหไ้ ดป้ ระกอบอาชพี ท่ี
สอดคล้องกบั ความถนดั ของตนเองได้
ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้
1. ใบงานเรื่อง “ความถนดั ของฉัน”
2. แบบทดสอบความถนัดด้านอาชพี
26
วิธีด�ำเนินกิจกรรม
วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/สื่อ/อุปกรณ์
1. ครใู ห้นกั เรียนเขียนถึงความถนดั ของตนเองเกย่ี วกบั 1. ใบงานเร่ือง “ความ
1.1 วิชาท่ีเรียน เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ถนัดของฉัน”
ภาษาอังกฤษ เป็นต้น
1.2 กิจกรรมท่ีชื่นชอบ เช่น เล่น ฟุตบอล 1. แบบทดสอบ
ร้องเพลง ท�ำอาหาร เป็นต้น ความถนัดด้านอาชีพ
1.3 งานอดิเรก เช่น ถักโครเช ดูหนัง เป็นต้น
2. ครูให้นักเรียนท�ำแบบทดสอบความถนัด
ด้านอาชีพ
3. หลงั จากนกั เรยี นทำ� ใบงานเรอื่ ง “ความถนดั ของฉนั ”
และท�ำแบบทดสอบความถนัดด้านอาชีพแล้ว
ครูให้นักเรียนวิเคราะห์ถึงความถนัดของตนเอง
อีกครั้ง ว่ามีความเหมาะสมกับอาชีพอะไร
4. ครูสอบถามนักเรียนอีกคร้ังเกี่ยวกับความฝัน
ด้านอาชีพของตนเอง และจะวางแผนหรือ
มีวิธีการอย่างไรเพ่ือให้ไปถึงความฝันน้ันได้
5. ครูสรุปถึงการก�ำหนดเป้าประสงค์ด้านอาชีพให้
สอดคล้องกับความสามารถหรือความถนัดของ
ตนเอง ว่าจะส่งผลให้นักเรียนประสบความส�ำเร็จ
ในสิ่งที่ท�ำ เกิดภาคภูมิใจในความส�ำเร็จนั้น และ
จะเกิดแรงจูงใจและก�ำลังใจในการพัฒนาตนเอง
เพ่ือให้สัมฤทธ์ิผลในการประกอบอาชีพตาม
เป้าหมายที่ตั้งไว้
27
การประเมินผล
1. ประเมินจากใบงานเรอ่ื ง “ความถนดั ของฉัน”
2. ประเมนิ จากแบบทดสอบความถนดั ดา้ นอาชีพ
28
ใบงานเรื่อง “ความถนัดของฉัน”
ชื่อ.......................................................................................ชั้น.................................
เลขท.่ี ..........................................................................................................................
ค�ำส่ัง: ใหน้ ักเรียนกรอกข้อมูลเกีย่ วกบั ความถนดั ของตนเองใหค้ รบท้งั 3 ตอน
ตอนท่ี 1 วิชาท่ีฉันชอบเรียน (เขียนเรียงล�ำดบั จากชอบมากไปชอบนอ้ ย)
1. ..............................................................................................................
2. ..............................................................................................................
3. ..............................................................................................................
ตอนที่ 2 กจิ กรรมทฉี่ นั ชอบทำ� (เขยี นเรยี งลำ� ดบั จากชอบมากไปชอบนอ้ ย)
1. ..............................................................................................................
2. ..............................................................................................................
3. ..............................................................................................................
ตอนที่ 3 สิ่งท่ีฉันท�ำยามว่าง (เขยี นเรยี งลำ� ดับจากชอบมากไปชอบน้อย)
1. ..............................................................................................................
2. ..............................................................................................................
3. ..............................................................................................................
29
แบบทดสอบความถนัดด้านอาชีพ
(Basic Vocational Orientation)
ค�ำชี้แจง: ให้นักเรียนอ่านข้อความดังต่อไปน้ีและพิจารณาใส่ตัวอักษรดังต่อไปน้ี
ในกระดาษคำ� ตอบ
ช หมายถึง ชอบหรือตอ้ งการ
ค หมายถงึ คิดดกู อ่ นหรือไม่แน่ใจ
ม หมายถงึ ไมช่ อบหรอื ไมต่ ้องการ
1. เมื่อคณุ รู้สกึ เหงาคณุ ตอ้ งการอะไร
1.1 หาวิธกี ารแกไ้ ขในหนงั สอื
1.2 ไปหาเพอื่ นคยุ แก้เหงา
1.3 เลน่ เกมหรือเล่นแชทในอนิ เตอรเ์ นท็
2. หากคณุ จะสร้างภาพยนตร์ หนา้ ทใ่ี ดทค่ี ณุ ตอ้ งการจะท�ำ
2.1 เปน็ ผู้เขียนบทภาพยนตร์
2.2 เป็นผ้แู สดงภาพยนตร์
2.3 จัดเตรียมฉากและอปุ กรณต์ า่ ง ๆ
3. กิจกรรมใดทคี่ ุณชอบทำ� เกย่ี วกับดนตรี
3.1 แตง่ เพลง
3.2 ร้องเพลงคาราโอเกะกับเพ่อื น
3.3 เล่นดนตรี
4. คุณทำ� รายงานส่งอาจารย์ดว้ ยวิธไี หน
4.1 คน้ ควา้ ข้อมูลจากห้องสมุด
4.2 ทำ� ร่วมกับเพอ่ื น ๆ
4.3 ท�ำด้วยตนเอง เชน่ พิมพด์ ีด หรอื พิมพ์ดว้ ยคอมพิวเตอร์
30
5. คณุ ชอบนวนิยายประเภทใด
5.1 ประเภทลึกลบั
5.2 ประเภทรักหวานช่นื
5.3 ประเภทบ/ู๊ ต่อสู้กัน
6. คุณอยากจะเป็นหวั หนา้ งานแบบไหน
6.1 แบบใหร้ ายงานผลงานทุกครั้ง
6.2 แบบยดื หยนุ่ เปน็ กันเอง
6.3 แบบตรวจสอบและซ่อมแซมครุภัณฑ์ดว้ ยตนเองเมือ่ ช�ำรดุ
7. คุณมีวธิ เี ลือกซื้อเคร่อื งคอมพวิ เตอรอ์ ยา่ งไร
7.1 ดจู ากหนงั สือ/เอกสาร/แผน่ ปลิวแนะน�ำสินคา้
7.2 ใหค้ นรอบขา้ งแนะน�ำ
7.3 จากการทดลองดว้ ยตนเอง
8. คุณชอบวิชาอะไร
8.1 คณติ ศาสตร์
8.2 จิตวทิ ยาแนะแนว/สงั คมศาสตร์
8.3 ช่าง/เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร/์ อิเลก็ ทรอนิกส์
9. ถา้ คณุ เปน็ ครพู ละศึกษา คุณจะเปน็ ครพู ละศกึ ษาแบบไหน
9.1 จัดท�ำสถติ กิ ฬี าของนักกฬี าในโรงเรียน
9.2 เน้นกฬี าที่เล่นเปน็ ทมี
9.3 สอนนักเรียนให้รู้จกั บำ� รงุ รกั ษาอปุ กรณ์กีฬา
10. คุณเลน่ กีฬาอะไร เพราะอะไร
10.1 หมากรกุ หรือหมากฮอส เพราะได้ใชค้ วามคดิ พจิ ารณา
10.2 แชร์บอล เพราะไดเ้ ล่นเปน็ ทีมกับเพือ่ น
10.3 แข่งรถ เพราะไดข้ บั รถเรว็ ๆ
31
11. งานอดเิ รกของคณุ คอื
11.1 อา่ นหนังสอื
11.2 เลน่ กฬี ากับเพือ่ น
11.3 ปลกู ตน้ ไมแ้ ละดอกไม้
12. ถ้าจะท�ำการค้าขายคณุ มเี ทคนิคการขายอยา่ งไร
12.1 วเิ คราะหผ์ ้ซู อื้ กอ่ น
12.2 มขี องแถมเอาใจลกู คา้
12.3 ขายแบบสาธิตใหด้ ู
13. ถา้ คณุ เปน็ นกั สงั คมสงเคราะหค์ ณุ จะเปน็ นกั สงั คมสงเคราะหแ์ บบไหน
13.1 ชว่ ยเหลอื ตามทฤษฎีที่กำ� หนด
13.2 ชว่ ยพดู ใหผ้ ้ปู ระสบปญั หาเกิดความสบายใจ
13.3 ช่วยสรา้ งที่พักอาศัยให้
14. คณุ ตอ้ งการทำ� หน้าทอี่ ะไร
14.1 นักวชิ าการ
14.2 นักประชาสัมพนั ธ์
14.3 วิศวกร/ชา่ ง
15. คณุ ต้องการท�ำหน้าที่อะไร
15.1 ใหบ้ ริการด้านขอ้ มูล
15.2 ให้บรกิ ารดา้ นการตอ้ นรับ
15.3 ใหบ้ ริการดา้ นการตกแต่งสถานที่
16. คุณหาขอ้ มูลการไปเทีย่ วต่างประเทศจากไหน
16.1 เอกสารแนะนำ� ประเทศต่าง ๆ
16.2 เพอ่ื น ๆ หรือผูท้ เ่ี คยไปมาแลว้
16.3 แผนที่
32
17. ถ้าคุณเป็นนกั ข่าวคณุ ตอ้ งการท�ำขา่ วประเภทไหน
17.1 ข่าวการเมอื ง
17.2 ข่าวกีฬา/สังคม
17.3 ขา่ วอาชญากรรม
18. ถ้าคุณท�ำธรุ กิจกบั เพ่อื นคุณตอ้ งการท�ำหน้าท่ไี หน
18.1 วางแผน/ศึกษาข้อมูลความเปน็ ไปได้
18.2 ฝา่ ยขาย/ฝ่ายต้อนรบั
18.3 ฝ่ายผลติ /ควบคมุ การผลิต
33
กระดาษค�ำตอบแบบทดสอบความถนัดทางอาชีพ
(Basic Vocational Orientation)
ชื่อ.......................................................................................ชั้น.................................
เลขท.ี่ ..........................................................................................................................
ค�ำชี้แจง: เมื่ออ่านค�ำส่ังในแบบสอบถามแล้วให้ใส่ตัวอักษรท่ีก�ำหนดในกระดาษ
ค�ำตอบดงั ต่อไปน้ี
ใส่อักษร ช หมายถึงชอบ/ตอ้ งการ
ใสอ่ ักษร ค หมายถงึ คดิ ดกู อ่ น/ไมแ่ นใ่ จ
ใส่อักษร ม หมายถงึ ไมช่ อบ/ไมต่ อ้ งการ
ข้อ ความถนัดแบบ P ความถนัดแบบ D ความถนัดแบบ T หมายเหตุ
1 1.1 1.2 1.3 ในแต่ละข้อ
การใส่ตัวอักษร
2 2.1 2.2 2.3 ช/ค/ม
3 3.1 3.2 3.3 ต้องไม่ซ้�ำกัน
4 4.1 4.2 4.3
5 5.1 5.2 5.3
6 6.1 6.2 6.3
7 7.1 7.2 7.3
8 8.1 8.2 8.3
9 9.1 9.2 9.3
10 10.1 10.2 10.3
34
ข้อ ความถนัดแบบ P ความถนัดแบบ D ความถนัดแบบ T หมายเหตุ
11 11.1 11.2 11.3
12 12.1 12.2 12.3
13 13.1 13.2 13.3
14 14.1 14.2 14.3
15 15.1 15.2 15.3
16 16.1 16.2 16.3
17 17.1 17.2 17.3
18 18.1 18.2 18.3
รวม รวม 54 คะแนน
หมายเหตุ:
1. ให้นับ/รวมคะแนนในแนวตั้งเฉพาะข้อท่ีมีอักษร ช/ค โดยการเทียบ
คะแนนดงั น้ี
(ช = 2 คะแนน / ค = 1 คะแนน / ม ไม่มีคะแนนหรือ = 0)
ถ้าคะแนน 1-25 % อย่ใู นเกณฑ์ต่ำ�
ถา้ คะแนน 26-74 % อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง
ถ้าคะแนน 75 % อยใู่ นเกณฑส์ งู
2. คะแนนรวมแตล่ ะแบบ (ในแนวตั้ง) ตอ้ งไม่มากกว่า 36 คะแนน
3. คะแนนรวมท้งั หมด (ทง้ั 3 แบบ) ตอ้ งเทา่ กบั 54 คะแนน
4. คะแนนรวมแตล่ ะขอ้ (ในแนวนอน) ตอ้ งเทา่ กบั 3 คะแนน
35
การแปลผลแบบทดสอบความถนัดทางอาชีพ (ส�ำหรับครู)
ผลของการทดสอบจะท�ำให้ผู้รับการทดสอบทราบถึงความถนัดทาง
อาชีพ 3 ด้าน ดังน้ี
1. ความถนัดดา้ นขอ้ มูล (Data)
2. ความถนัดดา้ นบุคคล (Person)
3. ความถนัดดา้ นเคร่อื งมือ (Tool)
โดยผลการทดสอบจะสามารถทำ� ใหท้ า่ นทราบถงึ ความถนดั หรอื พรสวรรค์
ของผรู้ ับการทดสอบ ผลท่ไี ดจ้ ากการทดสอบน�ำไปใชเ้ ปน็ แนวทางในการเลือกศกึ ษา
ตอ่ เลอื กประกอบอาชพี ใหส้ อดคลอ้ งกบั ตนเอง ตลอดจนนายจา้ งสามารถใชใ้ นการ
คัดเลือกลูกจ้างให้เหมาะสมกับภารกิจ หรืองานท่ีต้องท�ำ ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฏี
วเิ คราะหล์ กั ษณะและองคป์ ระกอบของบคุ คล (Trait and Factor Theory ) ทฤษฏนี ้ี
มหี ลกั การวา่ บคุ คลใชว้ จิ ารณญาณตดั สนิ ใจเลอื กอาชพี โดยอาศยั หลกั วเิ คราะหต์ นเอง
และจิตวิทยาความแตกต่างระหว่างบุคคลและจิตวิทยาประยุกต์ โดยมีหลักการว่า
บุคคลประกอบด้วยลักษณะหลายประการ ซ่ึงส�ำรวจและวัดด้วยแบบทดสอบทาง
จิตวิทยาหรือแบบส�ำรวจ ตลอดจนใช้การสังเกตและการสมั ภาษณ์
รายละเอียดการแปลผลแบบทดสอบความถนัดทางอาชีพ
1. ความถนัดด้านข้อมูล (Data) หรือ D
มีทักษะด้านการพูดและตัวเลข ชอบการเปรียบเทียบคะแนน การจัดท�ำ
เอกสาร การคำ� นวณ การคดิ วเิ คราะห์ ชอบใฝห่ าความรู้ ชอบทำ� งานทมี่ ลี กั ษณะซบั ซอ้ น
อาชีพที่สอดคล้องกับความถนัด
แพทย์ สตั วแพทย์ ทนั ตแพทย์ เภสชั กร นกั วทิ ยาศาสตร์ นกั ทดลอง นกั วจิ ยั
นกั เคมี เจา้ หนา้ ทวี่ เิ คราะหร์ ะบบคอมพวิ เตอร์ นกั สงั คมสงเคราะห์ นกั เศรษฐศาสตร์
36
นักเขียน งานวิชาการ นักโบราณคดี ทหาร/ต�ำรวจสายวิชาการ วิศวกร รัฐศาสตร์
ภูมิศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษย์วิทยา ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ดาราศาสตร์ เสมียน
ผผู้ ลติ งานพาณชิ ศิลป์
2. ความถนัดด้านบุคคล (Person) หรือ P
ชอบเจรจาต่อรองกับผู้อื่น รับใช้สังคม เป็นผู้ท่ีชอบติดต่อกับผู้อ่ืน
ชอบสนทนา ชอบให้ความรู้ ชอบสอนผู้อ่ืน ชอบแสดงตัวร่าเริง มีความรับผิดชอบ
มที กั ษะทางภาษา มที กั ษะดา้ นการพดู และความสมั พนั ธก์ บั ผอู้ นื่ ตอ้ งการความสนใจ
ชอบช่วยเหลือผู้อ่ืน มีลักษณะเป็นหญิง หลีกเล่ียงการใช้ความคิดทางปัญญา ชอบ
แกป้ ญั หาโดยคำ� นงึ ถงึ ความรสู้ กึ หลกี เลยี่ งงานทเ่ี กยี่ วกบั เครอื่ งยนตห์ รอื วทิ ยาศาสตร์
อาชีพท่ีสอดคล้องกับความถนัด
ครู นักสังคมสงเคราะห์ นักแนะแนว พัฒนากร นักรัฐศาสตร์ ผู้จัดการ
พยาบาล เจ้าหน้าท่ีฝ่ายบุคคล ทหาร/ต�ำรวจสายสังคม/ปฏิบัติการทางจิตวิทยา
พนักงานต้อนรับ นักจิตวิทยา ช่างเสริมสวย ครูสอนขับรถ นักออกแบบ พนักงาน
ขาย นักจดั รายการ (ดเี จ) ผจู้ ดั การโรงแรม พอ่ บา้ น แม่บา้ น หมอดู
3. ความถนัดด้านเคร่ืองมือ (Tool) หรือ T
ความถนดั ดา้ นเครอื่ งมอื ชอบใชเ้ ครอ่ื งมอื หรอื เครอ่ื งจกั รในการผลติ สง่ิ ของ
เป็นผู้ท่ีชอบกิจกรรมท่ีต้องใช้พละก�ำลัง ชอบท�ำงานกลางแจ้ง กิจกรรมที่ไม่ซับซ้อน
กจิ กรรมทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั เครอื่ งจกั รกล ขาดทกั ษะทางภาษา มลี กั ษณะเปน็ ชาย มคี า่ นยิ ม
ทางเศรษฐกจิ และการเมอื งอยใู่ นรปู แบบทม่ี รี ะเบยี บแบบแผน ยดึ ถอื ประเพณนี ยิ ม
อาชีพท่ีสอดคล้องกับความถนัด
วิศวกร ช่างเทคนิค นักบนิ ประมง ปา่ ไม้ ผู้ฝึกกฬี า สัตวแพทย์ เกษตรกร
ช่างฝีมือ ช่างไม้ ช่างเจียระไนพลอย ช่างทาสี ช่างซ่อมรองเท้า ช่างตัดเสื้อ วิศวกร
สัตวแพทย์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาปนิก นักกายภาพบ�ำบัด ทหารบก
ทหารเรอื ทหารอากาศสายชา่ ง ตำ� รวจสายสบื สวน/ปราบปราม ชา่ งยนต์ คนขบั รถแทก็ ซี่
นกั การภารโรง
ท่ีมา: กฤษณะ เกษมี และคณะ (2554)
37
กิจกรรมที่ 2
ฉันคนใหม่
39
กิจกรรมท่ี 2
“ฉันคนใหม่”
ค�ำชี้แจง
1. กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมท่ีเหมาะส�ำหรับใช้ส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ
ใหก้ บั นกั เรยี นระดบั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4-6 (ชว่ งชน้ั ท่ี 2)
2. กิจกรรมนี้เน้นการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิให้กับนักเรียนใน
ดา้ นส่วนตวั และสงั คม
3. ขนาดกลุ่มนักเรียนท่ที ำ� กิจกรรม ไม่ควรเกินจ�ำนวน 50 คน
4. ครคู วรจดั สถานทใ่ี ห้เหมาะสมกับลักษณะของกจิ กรรม
5. เวลาท่ีใช้ในการท�ำกิจกรรมประมาณ 40 นาที ท้ังน้ีครูต้องวางแผน
การจดั กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั จำ� นวนของนกั เรยี นทเ่ี ขา้ รว่ มกจิ กรรมดว้ ย
6. ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม ครคู วรมกี ารชมเชยอยา่ งตอ่ เนอื่ งและใหโ้ อกาส
นักเรียนทกุ คนได้ประสบความสำ� เรจ็ ในการท�ำกจิ กรรม
41
สาระส�ำคัญ
ผู้ที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูงจะเป็นบุคคลที่ต้องการทราบแน่ชัดถึง
ผลการตดั สินใจของตนเอง (Knowledge of Result of Decision) โดยไม่ใชเ่ พยี ง
การคาดคะเนเอาว่าจะต้องเป็นลักษณะอย่างน้ันอย่างน้ี นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการ
ความสัมฤทธิ์ผลสูงยังพยายามที่จะผลักดันตนเองให้ดีกว่าเดิม เม่ือทราบว่าผลจาก
การกระทำ� ของตนเองเปน็ อยา่ งไร (McClelland, 1961) ดงั นนั้ ควรสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี น
พยายามปรบั ปรงุ หรอื เปลย่ี นแปลงตนเองใหด้ กี วา่ เดมิ พรอ้ มทง้ั ไดล้ งมอื ทำ� ตามวธิ กี าร
ปรับปรงุ หรือเปลย่ี นแปลงตามทีน่ ักเรยี นได้ตั้งใจไว้
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพอื่ สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นมคี วามพยายามทจี่ ะผลกั ดนั ตนเองใหด้ กี วา่ เดมิ
2. เพอ่ื ให้นกั เรียนวเิ คราะหล์ ักษณะนสิ ัยของตนเองได้
3. เพื่อให้นักเรียนบอกวิธีการเปล่ียนแปลงตนเองเพื่อให้ตนเองเกิดความ
สำ� เรจ็ ในอนาคตได้
ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้
1. คลิปวีดีโอเรือ่ ง “เถ้าแกน่ ้อย” เชน่
ตอ๊ บ เถ้าแก่น้อย Part1
(https://www.youtube.com/watch?v=9l2f5ET3KA0)
เวทีข่าวสัมภาษณ์ เถ้าแกน่ ้อย
(https://www.youtube.com/watch?v=--FYcazhrow)
2. ใบงานเร่ือง “ฉันจะเปลีย่ นแปลง (I Will)”
42
วิธีด�ำเนินกิจกรรม
วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/สื่อ/อุปกรณ์
1. ครูให้นักเรียนเขียนลักษณะนิสัยท่ีเป็นข้อเสีย 1. ใบงานเรื่อง “ฉันจะ
ของตนเอง อย่างน้อยคนละ 5 ข้อ ลงในช่อง A เปลี่ยนแปลง (I Will)”
เช่น ติดเกม ข้ีเกียจท�ำการบ้าน ไม่ชอบอ่าน
หนังสือ ต่ืนสาย เป็นต้น โดยไม่ต้องลงชื่อ
ผู้เขียน
2. ครูให้นักเรียนเวียนใบงานส่งต่อให้กับเพ่ือน ๆ
ในห้องเรียน แล้วให้เพื่อน ๆ ช่วยกันเขียนถึง
วิธีการแก้ไขลักษณะนิสัยท่ีไม่ดีของนักเรียนคน
น้ัน ๆ ให้ได้มากท่ีสุด โดยเขียนลงในช่อง B
หลังจากนั้นให้เพื่อนวางใบงานไปไว้กลางห้อง
แล้วให้นักเรียนท่ีเป็นเจ้าของใบงานน้ันมารับ
กลับไป
3. ครูให้นักเรียนดูคลิปเร่ือง “เถ้าแก่น้อย”
หลังจากดูคลิปจบ ครูให้นักเรียนช่วยกัน
สรุปถึงหนทางแห่งความส�ำเร็จของเขา
ว่าเขามีการเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างไรบ้าง
4. ครูให้นักเรียนเลือกวิธีการแก้ไขลักษณะนิสัยที่
ไม่ดีของตนเองแล้วเขียนลงในช่อง C
43
วิธีด�ำเนินกิจกรรม เนื้อหา/ส่ือ/อุปกรณ์
5. ครูสรุปเพื่อจูงใจให้นักเรียนเปล่ียนแปลง
ลักษณะนิสัยท่ีไม่ดีของตนเองตามวิธีที่ตนเอง
ได้เลือกไว้
การประเมินผล
1. ประเมินจากใบงานเรื่อง “ฉันจะเปล่ยี นแปลง (I Will)”
44
ใบงานเรื่อง “ฉันจะเปล่ียนแปลง (I Will)”
ค�ำสั่ง: ให้นักเรียนเขียนลักษณะนิสัยที่เป็นข้อเสียของตนเอง คนละ 5 ข้อ
หลังจากน้ันให้ส่งใบงานนี้เวียนให้เพื่อนในห้องเรียนเขียนวิธีการแก้ไข
ลักษณะนสิ ัยทไ่ี มด่ ีนนั้
A B C
ลักษณะนิสัย วิธีการแก้ไข นักเรียนจะแก้ไข
ข้อท่ี ที่เป็นข้อเสียของตนเอง ลักษณะนิสัยที่ไม่ดี ลักษณะนิสัยท่ีไม่ดี
(เขียนโดยนักเรียนเอง) (เขียนโดยเพ่ือนใน ของตนเองอย่างไร
ห้องเรียน) (เขียนโดยนักเรียนเอง)
1 1.
2.
3.
4.
2 1.
2.
3.
4.
3 1.
2.
3.
4.
4 1.
2.
3.
4.
5 1.
2.
3.
4.
45
กิจกรรมท่ี 3
บุคลิกดี มชี ัย
47