The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by คำนำ, 2022-05-24 23:29:20

เเรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์พิชิตความสำเร็จ

รศ.ดร อัมเรศ เนตาสิทธิ์

กิจกรรมท่ี 3

“บุคลิกดี มีชัย”

ค�ำชี้แจง
1. กิจกรรมน้ีเป็นกิจกรรมที่เหมาะส�ำหรับใช้ส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
ให้กบั นักเรยี นระดบั ประถมศึกษาปีท่ี 4-6 (ชว่ งชัน้ ท่ี 2)
2. กิจกรรมน้ีเน้นการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ให้กับนักเรียนใน
ดา้ นสว่ นตัวและสังคม
3. ขนาดกลมุ่ นกั เรียนท่ที ำ� กิจกรรม ไม่ควรเกนิ จำ� นวน 50 คน
4. ครูควรจดั สถานที่ใหเ้ หมาะสมกับลักษณะของกิจกรรม
5. เวลาท่ีใช้ในการท�ำกิจกรรมประมาณ 40 นาที ท้ังนี้ครูต้องวางแผน
การจดั กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั จำ� นวนของนกั เรยี นทเี่ ขา้ รว่ มกจิ กรรมดว้ ย
6. กิจกรรมนี้ตอ้ งท�ำเปน็ กลมุ่ กล่มุ ละ 20–30 คน กรณีทจี่ ำ� นวนนกั เรียน
มีนอ้ ย ครสู ามารถปรบั กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกับจ�ำนวนนกั เรยี นได้

49

7. ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม ครคู วรมกี ารชมเชยอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและใหโ้ อกาส
นักเรยี นทุกคนได้ประสบความส�ำเรจ็ ในการทำ� กิจกรรม


สาระส�ำคัญ

ผู้ท่ีมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูงจะเป็นบุคลที่ต้องการทราบข้อมูลย้อนกลับ
(Need for Performance Feedback) โดยจะชอบท�ำงานในสถานการณ์ที่
พวกเขาทราบผลข้อมูลย้อนกลับของงานท่ีได้กระท�ำลงไป (McClelland, 1961)
ดังนั้นทุกคร้ังที่การมอบหมายให้นักเรียนได้ท�ำงาน ควรมีการเฉลยให้นักเรียนได้
ทราบถงึ ผลของงานทที่ ำ� ดว้ ย
จุดประสงค์การเรียนรู้

1. เพือ่ สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นเป็นบคุ ลทต่ี อ้ งการทราบขอ้ มลู ย้อนกลับ
2. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนบอกลักษณะของผู้ทม่ี ีบุคลกิ ภาพท่ีดีและไม่ดไี ด้
สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้
1. แนวทางอธิบายเก่ียวกับลักษณะของผู้ที่บุคลิกภาพดีและผู้ท่ีมี

บุคลิกภาพที่ไม่ดีส�ำหรบั ครู
2. ฉลากบุคลกิ ภาพ จ�ำนวน 10 บุคลิกภาพ
3. ใบงานเรอื่ ง “การสงั เกตบุคลกิ ภาพ”
4. แนวทางสรุปส�ำหรับครู

50

วิธีด�ำเนินกิจกรรม

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/ส่ือ/อุปกรณ์

1. ครูอธิบายเก่ียวกับลักษณะของผู้ท่ีบุคลิกภาพดี 1. ฉลากบุคลิกภาพ
และผู้ท่ีมีบุคลิกภาพที่ไม่ดี จ�ำนวน 10
บุคลิกภาพ
2. ครสู ่มุ เลือกนกั เรยี นมา 10 คน ให้จบั สลากคนละใบ
ใครจับสลากได้ใบใด ก็ต้องแสดงบุคลิกภาพตามท่ี 1. ใบงานเร่ือง
ปรากฏในสลากน้ัน เช่น จับสลากได้ “เค้ียวอาหาร “การสังเกต
เสียงดัง” ก็ต้องแสดงท่าทางเคี้ยวอาหารเสียงดัง บุคลิกภาพ”
ให้เพื่อนนักเรียนในห้องดู โดยให้แสดงทีละคน
มีคนคอยให้สัญญาณเริ่มแสดงทุกครั้ง ให้เวลา
แสดง 10 วินาที ถ้ามีคนสังเกตไม่ทัน ให้แสดงซ้�ำ
ได้อีกเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ซึ่งสลากที่แต่ละคนจับ
ได้ต้องปกปิดเป็นความลับ มีเพียงเจ้าของสลากรู้
เพียงคนเดียวเท่าน้ัน

3. ให้นักเรียนคนอ่ืน ๆ เป็นผู้สังเกต โดยใช้ใบงาน
เร่ือง “การสังเกตบุคลิกภาพ” โดยผู้สังเกตเขียน
ชื่อตนเองในกระดาษบันทึกข้อมูล เขียนชั้น
เขียนเลขที่ แลว้ เขียนช่ือผูแ้ สดงบุคลิกภาพทีละคน
พร้อมกับสันนิษฐานว่าบุคลิกภาพท่ีผู้แสดง
ก�ำลังแสดงอยู่นั้นคืออะไร เขียนค�ำตอบโดยท�ำ
เคร่ืองหมาย √ ในช่องบุคลิกภาพที่คิดว่าผู้แสดง
ก�ำลังแสดง

51

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/ส่ือ/อุปกรณ์

4. เม่ือนักเรียนแสดงครบท้ัง 10 คนแล้ว ครูให้ 1. ใบงานเรื่อง
นักเรียนแต่ละคนเฉลยบุคลิกภาพที่ตนเองแสดง “การสังเกต
พร้อมกับบอกว่าเป็นบุคลิกภาพที่ดีหรือไม่ดี บุคลิกภาพ”
และให้นักเรียนคนอ่ืน ๆ ตรวจค�ำตอบของตนเอง
ค�ำตอบใดถูกให้เขียนเครื่องหมายวงกลมล้อมรอบ
ค�ำตอบน้ัน พร้อมให้นับคะแนน

5. ครูสรุปคะแนนของคนที่ทายได้มากท่ีสุด
พร้อมชื่นชมและให้เพื่อนปรบมือให้ และให้
นักเรียนช่วยกันสรุปเกี่ยวกับบุคลิกภาพที่ดี
และบุคลิกภาพที่ไม่ดี หลังจากน้ันครูสรุปถึง
วิธีการปรับปรุงบุคลิกภาพของตนเอง

การประเมินผล
1. ประเมินจากใบงานเรอื่ ง “การสงั เกตบคุ ลิกภาพ”

52

ใบงานเร่ือง “การสังเกตบุคลิกภาพ”
ค�ำสั่ง: ให้นักเรยี นสงั เกตบุคลกิ ภาพจากการแสดงบทบาทสมมตุ ขิ องเพ่อื น พรอ้ มทงั้ บันทกึ ผลการสงั เกตลงในตารางบันทกึ ข้อมูล
โดยเขยี นชือ่ ผแู้ สดงแต่ละคน สังเกตการแสดง ถา้ คดิ วา่ กำ� ลงั แสดงบคุ ลกิ ภาพอะไรก็เขียนเครื่องหมาย √ ลงในช่องบคุ ลกิ ภาพนัน้
ชอ่ื .......................................................................................ชน้ั .................................เลขท.่ี ..............................................................

บุคลิกภาพที่แสดง

ล�ำดับ ช่ือผู้แสดง เดินอย่าง เคี้ยว การไอ ร้องขอด้วย สายตา การแต่ง น่ัง เอ้ือมมือ ยิ้มแย้ม เดิน
สง่างาม อาหาร หรือจาม ค�ำพูดท่ี แสดงความ กายไม่ เรียบร้อย คร่อมศีรษะ เสียงดัง
เสียงดัง เสียงดัง สุภาพ เป็นมิตร เรียบร้อย บุคคลอ่ืน

1
2
3
4
5
6
7

8
9
10

53 รวมสังเกตถูกต้อง จ�ำนวน……………คน



กิจกรรมท่ี 4

ภาษาในอาเซียน

55



กิจกรรมที่ 4

“ภาษาในอาเซียน”

ค�ำชี้แจง
1. กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมท่ีเหมาะส�ำหรับใช้ส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ
ให้กบั นักเรียนระดบั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-6 (ช่วงชัน้ ที่ 2)
2. กิจกรรมนี้เน้นการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิให้กับนักเรียนใน
ดา้ นการศึกษา
3. ขนาดกลมุ่ นกั เรยี นทีท่ ำ� กิจกรรม ไม่ควรเกนิ จำ� นวน 50 คน
4. ครูควรจดั สถานท่ใี ห้เหมาะสมกบั ลกั ษณะของกิจกรรม
5. เวลาที่ใช้ในการท�ำกิจกรรมประมาณ 40 นาที ทั้งนี้ครูต้องวางแผน
การจดั กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั จำ� นวนของนกั เรยี นทเ่ี ขา้ รว่ มกจิ กรรมดว้ ย
6. ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม ครคู วรมกี ารชมเชยอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและใหโ้ อกาส
นกั เรียนทุกคนได้ประสบความสำ� เรจ็ ในการทำ� กจิ กรรม

57

7. ระหวา่ งทค่ี รอู ธบิ ายเกย่ี วกบั ภาษาในอาเซยี น ครคู วรกระตนุ้ ใหน้ กั เรยี น
ทุกคนออกเสยี งไปพรอ้ ม ๆ กนั
สาระส�ำคัญ
ผทู้ มี่ แี รงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธจ์ิ ะเปน็ ผทู้ ขี่ ยนั ขนั แขง็ (Energetic) ชอบการกระทำ�
แปลก ๆ ใหม่ ๆ ท่ีจะท�ำให้บุคคลนั้นเกิดความรู้สึกว่าตนเองประสบความส�ำเร็จ
ผู้มีความต้องการสัมฤทธ์ิผลสูงไม่จ�ำเป็นต้องเป็นคนขยันในทุกกรณีไป แต่จะมานะ
พากเพยี รตอ่ สงิ่ ทที่ า้ ทาย หรอื ยว่ั ยคุ วามสามารถของตนและทำ� ใหต้ นเกดิ ความรสู้ กึ วา่
ได้ท�ำงานส�ำคัญลุล่วงไปแล้ว ผู้ท่ีมีความต้องการสัมฤทธิ์ผลสูงมักจะไมข่ ยนั ขนั แขง็
ในงานท่ีเป็นกิจวัตรประจ�ำวัน แต่จะท�ำงานขยันขันแข็งเฉพาะงานท่ีต้องใช้สมอง
และเป็นงานท่ีไม่ซ้�ำแบบใคร หรือสามารถที่จะค้นคว้าหาวิธีการใหม่ ๆ ในการแก้
ปญั หาใหส้ ำ� เรจ็ ลลุ ว่ งไป (McClelland, 1961) ดงั นน้ั การสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นไดม้ กี าร
แข่งขันในการท�ำกจิ กรรมตา่ ง ๆ บา้ ง จะสามารถส่งเสริมความขยันใหก้ ับนักเรยี นได้
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพ่อื ส่งเสริมใหน้ กั เรียนเกิดความขยนั ขนั แข็ง
2. เพ่ือใหน้ กั เรยี นบอกภาษาในอาเซียนได้
3. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นบอกความส�ำคญั ของการรภู้ าษาในอาเซียนได้

ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้
1. บัตรค�ำภาษาอาเซยี น
2. คลิปวีดีโอเร่ือง “การ์ตูนภาษาอาเซียน” (https://www.youtube.
com/watch?v=n2MRaCkcRkw)

58

วิธีด�ำเนินกิจกรรม

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/สื่อ/อุปกรณ์

1. ครูให้นักเรียนดูคลิปการ์ตูนภาษาอาเซียน 1. คลิปวีดีโอเร่ือง
“การ์ตูนภาษา
2. ครูอธิบายเก่ียวกับภาษาในอาเซียน เช่น ค�ำพูด อาเซียน”
ทักทาย ขอบคุณ บอกรัก สบายดีไหม ยินดีท่ี
ได้รู้จัก พบกันใหม่ ลาก่อน เชิญ ใช่ ไม่ใช่ ฯลฯ 1. บัตรค�ำภาษาอาเซียน
พร้อมชูบัตรค�ำให้นักเรียนดูและออกเสียงไป
พร้อม ๆ กัน (ในระหว่างนี้นักเรียนอาจจัดบันทึก
ไว้ได้ เพ่ือกันลืม)

3. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นสองกลุ่มเท่า ๆ กัน
แล้วให้นั่งหันหน้าเข้าหากัน พร้อมบอกว่ามีเวลา
ในการเล่มเกม 10 นาที

4. ครูอธิบายกติกาการเล่มเกมภาษาในอาเซียน
โดยให้นักเรียนกลุ่มที่ 1 พูดค�ำขึ้นมาเป็นภาษา
ไทย พร้อมทั้งบอกประเทศที่ต้องการให้กลุ่มท่ี 2
พูดออกมาเป็นภาษาของประเทศน้ัน ทั้งน้ีสมาชิก
ในกลุ่มสามารถหารือกันและช่วยกันตอบได้
ถ้าตอบไม่ได้ให้บอกว่าผ่าน กรณีท่ีตอบแล้วให้
กลุ่มท่ี 1 เฉลยว่าถูกต้องหรือไม่ (ทั้งนี้ครูต้อง
ให้ข้อมูลย้อนกลับด้วยว่าถูกต้องหรือไม่) ให้ถาม
สลับกันไปมาเร่ือย ๆ (ในขั้นตอนน้ีครูควรกระตุ้น
ให้นักเรียนทุกคนได้มีโอกาสพูดเท่า ๆ กัน)

59

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/ส่ือ/อุปกรณ์

5. ระหว่างท่ีนักเรียนถามกันสลับไปมา ครูเขียน
คะแนนของท้ังสองกลุ่มบนกระดานให้นักเรียน
ทุกคนเหน็ เม่อื หมดเวลา ครสู รปุ คะแนน พรอ้ มกบั
ชมเชยและให้รางวัลแก่กลุ่มท่ีชนะ (ควรเป็น
รางวัลท่ีสามารถแบ่งกันในห้องเรียนได้ทุกคน)

6. ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปถึงความส�ำคัญของ
การรู้ภาษาในอาเซียน

การประเมินผล
1. ประเมนิ จากการเลน่ เกมทายภาษาอาเซยี น

60

ตัวอย่างค�ำภาษาอาเซียน (ส�ำหรับครู)

ท่ีมา: https://praneearamdilokratblog.wordpress.com

61



กิจกรรมที่ 5

ยิงเรือ

63



กิจกรรมที่ 5

“ยิงเรือ”

ค�ำช้ีแจง
1. กิจกรรมน้ีเป็นกิจกรรมที่เหมาะส�ำหรับใช้ส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ
ให้กับนกั เรียนระดบั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-6 (ช่วงช้นั ท่ี 2)
2. กิจกรรมน้ีเน้นการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิให้กับนักเรียนใน
ด้านการศึกษา
3. ขนาดกลมุ่ นักเรยี นทที่ �ำกจิ กรรม ไม่ควรเกินจำ� นวน 50 คน
4. ครคู วรจดั สถานทีใ่ หเ้ หมาะสมกับลกั ษณะของกิจกรรม
5. เวลาที่ใช้ในการท�ำกิจกรรมประมาณ 40 นาที ท้ังนี้ครูต้องวางแผน
การจดั กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั จำ� นวนของนกั เรยี นทเ่ี ขา้ รว่ มกจิ กรรมดว้ ย
6. ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม ครคู วรมกี ารชมเชยอยา่ งตอ่ เนอื่ งและใหโ้ อกาส
นกั เรียนทุกคนได้ประสบความส�ำเร็จในการทำ� กจิ กรรม

65

สาระส�ำคัญ
ผู้ที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิสูงจะเป็นผู้ที่ท�ำงานอย่างมีการวางแผน พยายาม

ท่ีจะท�ำอย่างไม่ท้อถอยจนถึงจุดหมายปลายทาง และต้องการข้อมูลย้อนกลับจาก
ผลงานท่ีได้กระท�ำไป (สุรางค์ โค้วตระกูล, 2553) ดังนั้นควรส่งเสริมให้นักเรียน
ได้ท�ำกิจกรรมท่ีมีการวางแผนร่วมกัน มีเป้าหมายร่วมกัน และพยายามท�ำให้ถึง
เป้าหมาย ทั้งนี้ครูต้องให้ข้อมูลย้อนกลับถึงผลงานของนักเรียนด้วย เพ่ือให้เกิด
ความภูมิใจในงานทที่ ำ�
จุดประสงค์การเรียนรู้

1. เพอ่ื สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนท�ำงานอยา่ งมีการวางแผน
2. เพื่อให้นักเรียนบอกความส�ำคญั ของการมีทักษะการคิดได้
3. เพอื่ ใหน้ กั เรยี นสามารถปรับตวั ในการเปน็ ผนู้ ำ� และผู้ตามได้
4. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสามารถสอ่ื สารและทำ� งานรว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้
ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้
1. เพลง “ลมเพลมพดั ”
2. ใบงานเรอื่ ง “เรอื ในมหาสมทุ ร”
3. แบบเฉลย “ยิงเรือ”

66

วิธีด�ำเนินกิจกรรม

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เนื้อหา/ส่ือ/อุปกรณ์

1. ครูให้นักเรียนร้องเพลง “ลมเพลมพัด” เพื่อแบ่ง 1. เพลง “ลมเพลมพัด”
กลุ่มให้ได้กลุ่ม ละประมาณ 6 คน หรือตาม
ความเหมาะสมของจ�ำนวนผู้เรียน และให้มาน่ัง 1. ใบงานเร่ือง
รวมกัน “เรือในมหาสมุทร”

2. สมมติให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มเป็นลูกเรือ
โดยครูให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันตั้งช่ือเรือของ
ตนเอง และเลือกกัปตันเรือ ส�ำหรับท�ำหน้าท่ี
ในการยิงเรือ

3. ครูแจกใบงานส�ำหรับยิงเรือให้กลุ่มละ 3 แผ่น
โดยสมมติว่าในพ้ืนที่ที่ก�ำหนดให้ในใบงานมีเรือ
ของโจรสลัดอยู่ 1 ล�ำ ให้ลูกเรือปรึกษาหารือกัน
เพื่อเลือกต�ำแหน่งในการยิงเรือของโจรสลัด
ว่าจะยิงบริเวณไหน

4. ครูอธิบายกติกาในการเล่นเกม ดังนี้
1 ในการยิงเรือแต่ละครั้ง สามารถยิงได้จ�ำนวน
3 นดั (โดยการกากบาทลงในกระดาษทแี่ จกให้)
2 ห้ามมีการปรึกษาระหว่างกลุ่ม ให้มีการ
ปรึกษาภายในกลุ่มของตนเองเท่าน้ัน โดยมี
กัปตันเป็นผู้น�ำในการหารือกัน
3 แต่ละกลุ่มจะสามารถยิงเรือได้ 3 ครั้ง ยกเว้น
ถ้าได้คะแนนเท่ากัน อาจยิงคร้ังท่ี 4 ได้

67

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/ส่ือ/อุปกรณ์

5. เม่ือลูกเรือตกลงกันได้แล้ว และกากบาทจ�ำนวน 1. ใบงานเร่ือง
3 จุดเรียบร้อยแล้ว ให้กัปตันเรือของกลุ่มส่ง “เรือในมหาสมุทร”
กระดาษดังกล่าวให้กับครู
1. แบบเฉลย “ยิงเรือ”
6. ครูท�ำการบันทึกคะแนนที่ได้ลงในกระดาน หรือ
กระดาษส�ำหรับบันทึกละคะแนน และแจ้งให้ 1. ใบงานเร่ือง
ลูกเรือทุกคนทราบว่ายิงโดนเรือหรือไม่ และได้ “เรือในมหาสมุทร”
ก่ีคะแนน
1. แบบเฉลย “ยิงเรือ”
7. ครูให้แต่ละกลุ่ม ปรึกษาหารือกันอีกครั้งหลังจาก
ที่ทราบคะแนนของกลุ่มตนเองแล้ว และท�ำการ 1. ใบงานเรื่อง
เลือกต�ำแหน่งในการยิงเรือคร้ังท่ี 2 “เรือในมหาสมุทร”

8. กัปตันส่งกระดาษในการยิงเรือให้ครูบันทึก 1. แบบเฉลย “ยิงเรือ”
คะแนนอีกครั้ง ครูแจ้งคะแนนให้ลูกเรือทุกคน
ทราบ

9. ครูให้แต่ละกลุ่ม ปรึกษาหารือกันอีกคร้ังหลังจาก
ท่ีทราบคะแนนของกลุ่มตนเองแล้ว และท�ำการ
เลือกต�ำแหน่งในการยิงเรือคร้ังที่ 3

10. กัปตันส่งกระดาษในการยิงเรือให้ครูบันทึก
คะแนน รวมคะแนน เรือล�ำท่ีได้คะแนนมาก
ที่สุดเป็นกลุ่มที่ชนะ พร้อมทั้งเฉลยว่าเรือท่ียิง
เป็น “เรือด�ำน�้ำ”

68

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/ส่ือ/อุปกรณ์

11. ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปถึงสิ่งที่ได้จากการท�ำ
กิจกรรมยิ่งเรือ และ ครูสรุปเพ่ิมเติมถึงข้อดี
ของการมีทักษะการคิดวิเคราะห์

การประเมินผล
1. ประเมนิ จากใบงานเร่ือง “เรือในมหาสมทุ ร”

69

ใบงานเร่ือง “เรือในมหาสมุทร”
ชอ่ื เรอื ........................................................................................................................
กปั ตนั เรอื ...................................................................................................................
ยิงคร้งั ท.ี่ ....................................................................................................................

ABCDEFGH I J
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

70

แบบเฉลย “ยิงเรือ” (ส�ำหรับครู)

ABCDEFGH I J
1
2
3
4
5
6

75
8 444
9 13331
10 1 2 2 2 2 2 1

ที่มา: ไพฑูรย์ สนิ ลารตั น์ (2550)

71



กิจกรรมที่ 6

เขียนตามภาพ

73



กิจกรรมท่ี 6

“เขียนตามภาพ”

ค�ำช้ีแจง
1. กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมท่ีเหมาะส�ำหรับใช้ส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ
ให้กับนกั เรียนระดบั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4-6 (ช่วงชนั้ ท่ี 2)
2. กิจกรรมน้ีเน้นการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิให้กับนักเรียนใน
ดา้ นการศกึ ษา
3. ขนาดกลุม่ นกั เรยี นท่ที �ำกิจกรรม ไมค่ วรเกินจ�ำนวน 50 คน
4. ครคู วรจดั สถานทใ่ี ห้เหมาะสมกบั ลักษณะของกิจกรรม
5. เวลาที่ใช้ในการท�ำกิจกรรมประมาณ 40 นาที ทั้งนี้ครูต้องวางแผน
การจดั กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั จำ� นวนของนกั เรยี นทเ่ี ขา้ รว่ มกจิ กรรมดว้ ย
6. ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม ครคู วรมกี ารชมเชยอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและใหโ้ อกาส
นักเรียนทุกคนไดป้ ระสบความส�ำเร็จในการทำ� กจิ กรรม

75

7. การเขยี นคำ� ภาษาองั กฤษตามภาพ ใหข้ น้ึ อยกู่ บั ความพรอ้ มของนกั เรยี น
และความพร้อมของครูผู้จัดกิจกรรมด้วย กรณีที่ยังไม่มีความพร้อม
สามารถเขียนเฉพาะค�ำภาษาไทยได้

สาระส�ำคัญ
ผู้ท่ีมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิสูงจะเป็นผู้ที่เปล่ียนแปลงพัฒนาอยู่เสมอ

(Innovativeness) การทำ� ในสงิ่ ทแ่ี ตกตา่ งและดขี นึ้ จากเดมิ เชน่ ใชเ้ วลานอ้ ยกวา่ หรอื
มปี ระสทิ ธภิ าพในการสจู่ ดุ หมายมากกวา่ จะเปน็ คนไมช่ อบอยเู่ ฉย พวกเขาจะชอบการ
เปลย่ี นแปลง นน่ั คอื พวกเขาจะมองหางานทที่ า้ ทาย ถา้ เขาไดก้ ระทำ� งานทม่ี คี วามยาก
พวกเขาจะมงุ่ หนา้ ไมล่ ดละทจ่ี ะทำ� งานชน้ิ นน้ั และถา้ เขาประสบความสำ� เรจ็ ในงานที่
ยากนัน้ สิ่งนัน้ ก็จะกลายเปน็ งานงา่ ยสำ� หรบั เขา (McClelland, 1961) ดังน้นั การให้
นกั เรยี นไดท้ ำ� สงิ่ ทแ่ี ตกตา่ งจากเดมิ จะเปน็ การสง่ เสรมิ ใหเ้ ขาไดพ้ ฒั นาตนเองอยเู่ สมอ
จุดประสงค์การเรียนรู้

1. เพอ่ื ส่งเสริมใหน้ ักเรยี นเปน็ ผทู้ ี่พฒั นาอยู่เสมอ
2. เพื่อใหน้ ักเรียนสามารถเขยี นค�ำที่กำ� หนดใหไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง
3. เพ่อื ให้นกั เรยี นสามารถอา่ นคำ� ทีก่ ำ� หนดให้ไดถ้ กู ต้อง
สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้
1. บตั รภาพ จำ� นวน 20 แผ่น
2. บอรด์ หรือกระดาน

76

วิธีด�ำเนินกิจกรรม

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เนื้อหา/สื่อ/อุปกรณ์

1. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่มเท่า ๆ กัน 1. บัตรภาพ
2. ครูให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มออกมาเลือกบัตร 1. บอร์ดหรือกระดาน
1. บัตรภาพ
ภาพท่ีก�ำหนดให้ แล้วแสดงให้อีกกลุ่มดู เช่น เป็น 2. บอร์ดหรือกระดาน
บัตรภาพเก่ียวกับ “บุรุษไปรษณีย์” “ตะกร้า”
“ล�ำไย” เป็นต้น
3. กลุ่มที่ดูภาพจากที่เพื่อนอีกกลุ่มแสดงให้ดู หารือ
กันและส่งตัวแทนออกมาเขียนค�ำทั้งภาษาไทยและ
ภาษาอังกฤษท่ีสื่อถึงรูปภาพในบัตรภาพน้ันบน
กระดาน
4. ท�ำสลับกันท้ังสองกลุ่มจนครบ 20 ค�ำ ครูเฉลย
ทีละค�ำ กลุ่มไหนเขียนได้ถูกต้องมากที่สุดเป็นกลุ่ม
ที่ชนะ
5. ครูให้นักเรียนช่วยกันแก้ไขค�ำที่เขียนผิด โดยให้
ส่งตัวแทนออกมาเขียนให้ถูกต้อง
6. ครูให้นักเรียนอ่านค�ำท่ีเขียนและแก้ไขให้ถูกต้อง
แล้วพร้อม ๆ กัน พร้อมสรุปถึงความส�ำคัญของ
การเขียนและอ่านให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย

การประเมินผล

1. ประเมนิ จากใบงานการเขียนค�ำบนบอร์ดหรือกระดาน

77

ตัวอย่างบัตรภาพ พร้อมค�ำเฉลย (ส�ำหรับครู)

ล�ำไย (Longan) คลินกิ (Clinic)

ผดั ไทย (Phat-Thai or ลายเซน็ (Signature)
Thai Style fried Noodles)

ใบกะเพรา (Basil or Kra-Phrao) ไอศกรมี (Ice Cream)

ขา้ วเหนียวมูน (Sweet Sticky Rice) อีเมล (E-mail or Electronic mail)

78

ตะกร้า (Basket) ขึน้ ฉา่ ย (Calery)

สบั ปะรด (Pineapple) กะหลำ่� ปลี (Cabbage)

ค�ำนวณ (Calculate) จักจั่น (Cicada)

ถ่วั พู (Winged Bean) บุรษุ ไปรษณยี ์ (Postman)

ท่ีมาภาพประกอบ: www.google.com 79



กิจกรรมที่ 7

จ�ำได้ดี ต้องมีภาพ

81



กิจกรรมท่ี 7

“จ�ำได้ดี ต้องมีภาพ”

ค�ำช้ีแจง
1. กิจกรรมน้ีเป็นกิจกรรมท่ีเหมาะส�ำหรับใช้ส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ
ให้กับนกั เรียนระดบั ประถมศึกษาปที ่ี 4-6 (ชว่ งชนั้ ท่ี 2)
2. กิจกรรมนี้เน้นการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ให้กับนักเรียนใน
ด้านการศึกษา
3. ขนาดกลมุ่ นกั เรียนทท่ี ำ� กจิ กรรม ไมค่ วรเกินจ�ำนวน 50 คน
4. ครคู วรจดั สถานทใ่ี ห้เหมาะสมกบั ลักษณะของกจิ กรรม
5. เวลาที่ใช้ในการท�ำกิจกรรมประมาณ 40 นาที ทั้งน้ีครูต้องวางแผน
การจดั กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั จำ� นวนของนกั เรยี นทเ่ี ขา้ รว่ มกจิ กรรมดว้ ย
6. ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม ครคู วรมกี ารชมเชยอยา่ งตอ่ เนอื่ งและใหโ้ อกาส
นกั เรยี นทกุ คนไดป้ ระสบความสำ� เรจ็ ในการท�ำกิจกรรม

83

7. จ�ำนวนสถานท่ี และจ�ำนวนของท่ีนักเรียนต้องไปซ้ือจากตลาดให้แม่
อาจลดจ�ำนวนลงได้ตามความเหมาะสมกบั ความพร้อมของนักเรยี น

8. ของทกี่ ำ� หนดใหน้ กั เรยี นตอ้ งไปซอื้ จากตลาดใหแ้ ม่ สามารถปรบั เปลย่ี น
ตามความพร้อมของครูผู้จัดกิจกรรม หรือตามความพร้อมของบริบท
โรงเรยี นได้


สาระส�ำคัญ

ผู ้ ที่ มี แ ร ง จู ง ใ จ ใ ฝ ่ สั ม ฤ ท ธ์ิ สู ง จ ะ มี ทั ก ษ ะ ใ น ก า ร จั ด ก า ร ร ะ บ บ ง า น
(Organizational Skills) (McClelland, 1961) ดังน้ันการส่งเสริมให้นักเรียนมี
การจัดระบบต้ังแต่ระบบของกระบวนการจ�ำ จะส่งผลให้เกิดสมรรถภาพในการจัด
ระบบงานมากยิ่งขนึ้
จุดประสงค์การเรียนรู้

1. เพอื่ ให้นกั เรียนมีทกั ษะในการจัดการระบบงาน
2. เพ่อื ให้นักเรียนสามารถจัดระบบการจำ� ของตนเองได้
3. เพื่อให้นักเรยี นสามารถจ�ำในสง่ิ ที่กำ� หนดให้จ�ำในระยะเวลาอนั สั้นได้
สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้
1. ใบงานเรื่อง “แผนท่บี า้ นของฉนั ”

84

วิธีด�ำเนินกิจกรรม

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เนื้อหา/ส่ือ/อุปกรณ์

1. ครูให้นักเรียนฝึกจ�ำช่ือคน โดยเริ่มจากการฝึก 1. ใบงานเรื่อง
“เรียกช่ือ” คนรอบข้างบ่อย ๆ เวลานึกถึงหน้า “แผนที่บ้านของฉัน”
ใคร ให้นึกถึงช่ือด้วยเสมอ โดยสุ่มให้นักเรียน
แต่ละคนบอกชื่อเพื่อนในชั้นเรียน ทั้งชื่อเล่น
ชื่อจริง และนามสกุล

2. ครูอธิบายเทคนิคการช่วยจ�ำ โดยให้นักเรียน
นึกถึงหมู่บ้านท่ีนักเรียนอยู่ และนึกถึงการเดิน
ทางระหว่างบ้านมาโรงเรียนว่านักเรียนผ่าน
สถานท่ีอะไรบ้าง แล้วให้เขียนเรียงล�ำดับ
สถานท่ีจากบ้านถึงโรงเรียน ในใบงานเร่ือง
“แผนที่บ้านของฉัน” ตอนที่ 1 เช่น
1) บ้านของฉัน
2) ร้านขายก๋วยเตี๋ยว
3) ร้านขายของช�ำ
4) เซเว่นอิเลฟเว่น
5) ธนาคาร
6) ตลาด
7) ร้านขายไข่
8) บ้านผู้ใหญ่บ้าน
9) ร้านขนมหน้าโรงเรียน
10) โรงเรียน

85

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/ส่ือ/อุปกรณ์

3. ครูให้นักเรียนลองนึกเรียงล�ำดับสถานที่
ว่าสถานท่ี 1 เป็นอะไร สถานที่ 2 เป็นอะไร
ไปเร่ือย ๆ จนครบ จนกว่าจะนึกได้จนคล่อง

4. ครูสมมติให้นักเรียนต้องจ�ำของท่ีต้องไปซื้อ
จากตลาดให้แม่ โดยครูเขียนค�ำเหล่านั้นลงบน
กระดาน พร้อมท้ังให้นักเรียนดูตัวอย่างของจริง
เช่น
1) แอปเปิ้ล
2) แปรงสีฟัน
3) หนังสือพิมพ์
4) ขนมปัง
5) ไข่
6) ผงซักฟอก
7) สบู่
8) มะละกอ
9) ปากกา
10) น�้ำยาล้างจาน

86

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/สื่อ/อุปกรณ์

5. ครูให้นักเรียนท�ำการเช่ือมโยงระหว่างล�ำดับ 1. ใบงานเรื่อง
และของที่ต้องซื้อ โดยเชื่อมโยงให้ฮาที่สุด “แผนที่บ้านของฉัน”
เป็นไปไม่ได้ที่สุด มีสีสันที่สุด หรือโอเวอร์ท่ีสุด
เป็นต้น แล้วเขียนลงไปในใบงานเร่ือง
“แผนที่บ้านของฉัน” ตอนที่ 2 เช่น
1) ฉันเดินออกมาหน้าบ้านพบ “แอปเปิ้ล”
เต็มบ้านเลย
2) ผมผ่านร้านขายโจ๊ก มี “แปรงสีฟัน”
อยู่ในถ้วยโจ๊ก
3) ผมเข้าไปในเซเว่น ปรากฏว่าในเซเว่น
มีแต่ “หนังสือพิมพ์”เต็มเลย
4) ผมไปท่ีป้ายรถเมล์ เห็นรถเมล์ท�ำด้วย
“ขนมปัง” วิ่งผ่านไป
5) ท่ีร้านเต้าหู้มีสูตรใหม่ใส่ “ไข่”
6) ไปที่ร้านเช่าการ์ตูน เจ้าของร้านก�ำลัง
ซักการ์ตูนด้วย “ผงซักฟอก”

6. ครูอธิบายให้กับนักเรียนว่า ต่อไปเม่ือเราจะเรียก
ความจ�ำกลับคืนมา ก็แค่นึกถึงทางเดินแล้วก็
สถานที่ท่ีเรานึกไว้ เราก็จะจ�ำได้ว่าที่นั่นมีอะไร
เกิดข้ึน แค่น้ีเราก็จ�ำได้อย่างง่ายดายแล้ว
โดยครูลองให้นักเรียนนึกถึงส่ิงท่ีเราจะซ้ือ
แล้วเขียนลงในตอนที่ 3 พร้อมกับสุ่มถาม
นักเรียนทีละคนว่าส่ิงท่ีเขาจ�ำได้น้ันถูกต้องหรือไม่
ถ้าถูกต้องให้เพื่อนในช้ันเรียนปรบมือให้

87

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เนื้อหา/สื่อ/อุปกรณ์

7. ครูสรุปถึงการจ�ำแบบสถานท่ีจะท�ำให้นักเรียน
จ�ำได้อย่างง่ายดาย แต่จะยากในการบอกว่า
สถานท่ีนั้นอยู่ล�ำดับที่เท่าไหร่ เพราะต้องนึกต่อ
เน่ืองไปเร่ือย ๆ ถึงจะนึกออก เพราะฉะนั้น
ถ้าจะจ�ำอะไรบางอย่างท่ีมากถึงย่ีสิบอย่างขึ้นไป
ควรท�ำแผนท่ีไว้ หลาย ๆ แผนที่ แผนที่ละ
10 สถานท่ี แล้วค่อยเอามาต่อกันจึงจะง่ายกว่า

8. ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปข้อดีของการจ�ำได้
ดี และครูให้ข้อมูลแก่นักเรียนเพ่ิมเติมเก่ียวกับ
เทคนิคการจ�ำ

การประเมินผล
1. ประเมินจากใบงานเรอ่ื ง “แผนทบ่ี า้ นของฉนั ”
2. ประเมินจากการบอกสิง่ ท่ตี ้องการซือ้ ได้ถูกต้อง

88

ใบงานเรื่อง “แผนท่ีบ้านของฉัน”
ช่ือ.......................................................................................ชั้น.................................
เลขท.่ี ..........................................................................................................................

ตอนที่ 1 ให้นักเรียนเขียนเรียงล�ำดับสถานท่ี จากบ้านถึงโรงเรียน
จำ� นวน 10 สถานท่ี เชน่ บา้ นของฉัน รา้ นขายก๋วยเตี๋ยว และรา้ นขายของชำ� เปน็ ต้น

1. ..............................................................................................................
2. ..............................................................................................................
3. ..............................................................................................................
4. ..............................................................................................................
5. ..............................................................................................................
6. ..............................................................................................................
7. ..............................................................................................................
8. ..............................................................................................................
9. ..............................................................................................................
10. ............................................................................................................

89

ตอนท่ี 2 ให้นักเรียนเขียนประโยค โดยท�ำการเช่ือมโยงระหว่างล�ำดับ
สถานที่และของท่ีต้องซ้ือ เชื่อมโยงให้ฮาที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่สุด มีสีสันที่สุด
หรือโอเวอร์ท่สี ดุ เช่น ฉันเดินออกมาหนา้ บ้านพบ “แอปเปลิ้ ” เตม็ บ้านเลย เปน็ ตน้

1. ..............................................................................................................
2. ..............................................................................................................
3. ..............................................................................................................
4. ..............................................................................................................
5. ..............................................................................................................
6. ..............................................................................................................
7. ..............................................................................................................
8. ..............................................................................................................
9. ..............................................................................................................
10. ............................................................................................................

90

ตอนท่ี 3 ให้นักเรียนนึกถึงส่ิงท่ีจะซ้ือ แล้วเขียนเรียงล�ำดับให้ถูกต้อง
(หา้ มดูตอนที่ 2)

1. ..............................................................................................................
2. ..............................................................................................................
3. ..............................................................................................................
4. ..............................................................................................................
5. ..............................................................................................................
6. ..............................................................................................................
7. ..............................................................................................................
8. ..............................................................................................................
9. ..............................................................................................................
10. ............................................................................................................

91



กจิ กรรมที่ 8

อาชีพในฝัน

93



กิจกรรมที่ 8

“อาชีพในฝัน”

ค�ำชี้แจง
1. กิจกรรมน้ีเป็นกิจกรรมที่เหมาะส�ำหรับใช้ส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ
ให้กับนกั เรยี นระดับประถมศึกษาปที ี่ 4-6 (ชว่ งช้นั ท่ี 2)
2. กิจกรรมน้ีเน้นการส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ให้กับนักเรียนใน
ด้านอาชีพ
3. ขนาดกล่มุ นักเรยี นที่ท�ำกจิ กรรม ไมค่ วรเกินจำ� นวน 50 คน
4. ครคู วรจดั สถานทีใ่ ห้เหมาะสมกบั ลักษณะของกจิ กรรม
5. เวลาท่ีใช้ในการท�ำกิจกรรมประมาณ 40 นาที ทั้งนี้ครูต้องวางแผน
การจดั กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั จำ� นวนของนกั เรยี นทเ่ี ขา้ รว่ มกจิ กรรมดว้ ย
6. ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม ครคู วรมกี ารชมเชยอยา่ งตอ่ เนอื่ งและใหโ้ อกาส
นกั เรียนทกุ คนไดป้ ระสบความสำ� เร็จในการทำ� กิจกรรม

95

สาระส�ำคัญ
ผู้ที่มีความต้องการสัมฤทธ์ิผลสูงมักเป็นบุคคลที่มีการวางแผนระยะยาว

มีการท�ำนายหรือคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า (Anticipation of Future Possibilities)
เพราะเล็งเห็นผลการณ์ไกลกว่าผู้ที่มีความต้องการสัมฤทธ์ิผลต�่ำ (McClelland,
1961) ดังนั้นการส่งเสริมให้นักเรียนมีเป้าหมายและวางแผนด้านอาชีพ รวมทั้งได้
ทราบข้อดีจากอาชีพท่ีตนเองต้องการ จะเป็นแรงจูงใจให้นักเรียนมีความพยายาม
เพ่ือกอ่ ให้เกิดผลสัมฤทธ์ดิ า้ นอาชพี และอนาคตแบบทตี่ อ้ งการ

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพ่ือสง่ เสรมิ ให้นกั เรียนเป็นบุคคลทีม่ กี ารวางแผนระยะยาว
2. เพอ่ื ให้นกั เรยี นบอกอาชีพในอนาคตทตี่ นเองอยากทำ� ได้
3. เพือ่ ให้นักเรยี นบอกเหตผุ ลในการเลือกอาชีพทตี่ นเองอยากทำ� ได้

ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้
1. เพลง “อาชพี ในฝัน”
2. ใบงานเรอ่ื ง “อาชีพน้ีดอี ยา่ งไร”
3. กระดาษการด์ สี A4
4. สไี ม้ หรอื สีเทียน
5. ดนิ สอ
6. ยางลบ
7. กระดาษสสี ำ� หรับตกแตง่ บอร์ด
8. กาวสองหนา้

96

วิธีด�ำเนินกิจกรรม

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เน้ือหา/ส่ือ/อุปกรณ์

1. ครูให้นักเรียนฟังเพลง “อาชีพในฝัน” 1. ใบงานเรื่อง
2. ครูให้นักเรียนบอกชื่ออาชีพที่ตนเองรู้จักมา “อาชีพน้ีดีอย่างไร”

คนละ 1 ช่ือ โดยไม่ซ�้ำกัน
3. ครูให้นักเรียนบอกอาชีพท่ีตนเองสนใจ

และแบ่งกลุ่มนักเรียนท่ีสนใจในอาชีพเดียวกัน
ออกเป็นกลุ่ม ๆ
4. ครูให้นักเรียนในกลุ่มช่วยกันคิดข้อดี/เหตุผลใน
การเลือกอาชีพที่ตนเองสนใจ เช่น ได้ช่วยเหลือ
ผู้อื่น ได้เงินเดือนสูง และสามารถเบิกค่ารักษา
พยาบาลได้ เป็นต้น
5. ครูให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมาเล่าข้อดีของ
แต่ละอาชีพให้เพื่อนฟัง และให้นักเรียนตัดสิน
ใจอีกคร้ังว่าตนชอบอาชีพอะไร

97

วิธีด�ำเนินกิจกรรม เนื้อหา/ส่ือ/อุปกรณ์

6. ครูให้นักเรียนพับคร่ึงกระดาษ A4 และให้ 1. กระดาษการ์ดสี A4
นักเรียนด�ำเนินการดังนี้ 2. สีไม้ หรือสีเทียน
• หน้าท่ี 1 วาดภาพตนเองในอนาคต 3. ดินสอ
เป็นภาพการประกอบอาชีพที่ตนเองฝันไว้ 4. ยางลบ
พร้อมทั้งลงสีให้สวยงาม
• หน้าท่ี 2 เขียนวิธีการว่าท�ำอย่างไรถึงจะ 1. กระดาษสีส�ำหรับ
สามารถประกอบอาชีพน้ันได้ ตกแต่งบอร์ด
• หน้าท่ี 3 นักเรียนแลกเปลี่ยนกระดาษกัน
แล้วเขียนข้อความให้ก�ำลังใจเพ่ือน เพื่อให้ 2. กาวสองหน้า
ประสบความส�ำเร็จตามท่ีฝันไว้พร้อมลงช่ือ 3. ภาพวาดอาชีพของ
ผู้เขียน โดยให้ได้จ�ำนวนมากท่ีสุด
หลังจากน้ันส่งคืนให้กับเจ้าของ นักเรียน

7. ครูให้นักเรียนช่วยกันจัดบอร์ดเร่ือง
“อาชีพในฝัน” ไว้ในห้องเรียน พร้อมทั้ง
น�ำภาพวาดของนักเรียนทุกคนไปไปติดไว้

8. ครูสรุปลักษณะการท�ำงานและข้อดีของแต่ละ
อาชีพ พร้อมพูดให้ก�ำลังใจและจูงใจให้นักเรียน
เกิดความพยายามไปสู่จุดมุ่งหมายด้านอาชีพ
ที่ฝันไว้

98


Click to View FlipBook Version