The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nimit pongjit, 2023-10-15 23:44:32

วิชาแผนที่

วิชาแผนที่

ลักษณะภูมิประเทศรอง (Minor Terrain Features)


ลักษณะภูมิประเทศย่อย (Supplementary Terrain Features)


การตีความลักษณะภูมิประเทศจากแผนที่


การตีความลักษณะภูมิประเทศจากแผนที่ การแปลความหมายโดยการอ่านค่าและลักษณะของกลุ่มเส้นชั้นความสูงที่ปรากฏเด่นชัด คือ - ยอดเขาหรือเนินเขา เป็นจุดสูงสุดจะเป็นเส้นชั้นความสูงที่มาบรรจบกันเล็กๆ และจะไม่ปรากฏเส้นชั้นความสูงใดซ้อนอยู่ภายในเส้นนั้นอีก - จมูกเขา เป็นส่วนที่ยื่นออกจากจุดสูงสุดของเนินเขาลาดลงต่ า ลักษณะเส้นชั้นความสูงจากเส้นที่มีค่ามากจะยื่นแหลมออกยังไปเส้นที่มีค่าน้อย หรือยื่นลงสู่ที่ต่ า - แนวสันเขา เป็นแนวที่ลากเชื่อมกันจากยอดเขาไปยังอีกยอดเขาหรือไปตามแนวจมูกเขาเชื่อมเข้าหายอดเขาที่ใกล้กันที่สุดสุดถึงยอดเขาสุดท้าย - ร่องน้ า เป็นแนวที่เป็นร่องที่น้ าสามารถไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ าได้ ลักษณะเส้นชั้นความสูงจากเส้นที่มีค่าน้อยจะยื่นแหลมเขาหาเส้นที่มีค่ามาก หรือขึ้นสู่ที่สูง


1.บริเวณพิกัด 269523 ,276548 คือ ยอดเขา 2.บริเวณพิกัด 264510, 294543 คือ สันเขา 3.บริเวณพิกัด 31805328 คือ หุบเขา 4.บริเวณพิกัด 27405347 คือ คอเขา 5.บริเวณพิกัด 292524 คือ ที่ต่ า 6.บริเวณพิกัด 290531 ,290541 คือ ลาดเสมอ 7.บริเวณพิกัด 305511 ,320504 คือ ลาดเว้า 8.บริเวณพิกัด 276560 คือ ลาดนูน 1 1 2 2 3 4 5 6 6 7 7 8 1.บริเวณพิกัด 269523 ,276548 คือ 2.บริเวณพิกัด 264510, 294543 คือ 3.บริเวณพิกัด 31805328 คือ 4.บริเวณพิกัด 27405347 คือ 5.บริเวณพิกัด 292524 คือ 6.บริเวณพิกัด 290531 ,290541 คือ 7.บริเวณพิกัด 305511 ,320504 คือ 8.บริเวณพิกัด 276560 คือ แบบทดสอบการพิจารณาภูมิประเทศแผนที่ 1 : 50,000 แล้วตอบค าถาม


การพิจารณาภูมิประเทศจะต้องดู จากซ้ายไปขวา หรือ จากขวาไปซ้าย และจากใกล้ตัวไปหาไกล อย่าพลาด


การอ่านค่าจะอ่านตามค่าที่ก ากับเส้นชั้นความสูง ซึ่งปกติจะก ากับที่เส้นชั้นความสูงหลัก โดยจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง เมื่ออ่านค่าที่เส้นชั้นความสูงแทรก การอ่านค่าเส้นชั้นความสูง


ยอดเขาพิกัด QS 2203 มีความสูงเท่าไร 210 เมตร


ยอดเขาพิกัด QS 4103 มีความสูงเท่าไร 950 เมตร


ยอดเขาพิกัด QS 3902 มีความสูงเท่าไร 796 เมตร


ยอดเขาที่สูงที่สุดพิกัด QR 3284 สูงกว่ายอดเขาพิกัด QR 3484 เท่าไร 120 เมตร 310 เมตร 190 เมตร


ยอดเขาที่สูงที่สุดพิกัด QR 344844 สูงกว่ายอดเขาที่พิกัด QR 368821 เท่าไร 15 เมตร 190 เมตร 175 เมตร


บริเวณพิกัด QR 281966 กับพิกัด QR 240960 มีความสูงต่างกันเท่าไร X X 60 เมตร 180 เมตร 240 เมตร


ความเอียงของพื้นที่ ซึ่งท ามุมกับพื้นที่ระดับ หรือ อัตราเฉลี่ย ของความสูงขึ้น หรือต่ าลงของภูมิประเทศ เมื่อเทียบกับเส้นชั้นความสูงบนแผนที่ราบลักษณะของลาด บริเวณนั้นๆ ความลาด (Slope)


ลาดเสมอ เส้นชั้นความสูงจะมีระยะห่างเท่าๆ กัน


เส้นชั้นความสูงที่มีระยะห่างมาก ๆ และมีระยะห่างเท่า ๆ กัน แสดงว่าเป็นพื้นที่พื้นลาดน้อย และสม่ าเสมอ


เส้นชั้นความสูงที่มีระยะประชิด และระยะห่าง ๆ เท่า ๆ กัน แสดงว่า เป็นพื้นที่ลาดชัน (Steep Slope) และ สม่ าเสมอ


ลาดโค้ง (นูน) เส้นชั้นความสูงที่มีระยะห่างกันตอนบนและจะค่อยๆ ชิดกันในตอนล่าง (ห่างกันที่สูง ชิดกันที่ต่ า)


เส้นชั้นความสูงที่มีระยะชิดกันตอนบนและจะค่อยๆ ห่างกันในตอนล่าง (ชิดกันที่สูง ห่างกันที่ต่ า) ลาดแอ่น (เว้า)


การแสดงค่าของลาด ลาดอาจจะมีผลกระทบกระเทือนต่อการเคลื่อนย้ายของยุทโธปกรณ์ หรือก าลังพล จึงจ าเป็นต้องทราบค่าของลาด เพื่อพิจารณาในการ เคลื่อนย้าย ค่าของลาดสามารถแสดงได้หลายวิธี ซึ่งขึ้นอยู่กับการ เปรียบเทียบระหว่าง “ระยะทางดิ่ง” และ “ระยะทางระดับ” ทั้งสิ้น


ก ข ระยะทางดิ่ง ระยะทางระดับ ระยะทางดิ่ง ระยะทางระดับ การหาค่าของลาด การหาค่าลาด วิธีการวัดความชัน เราอาจจะวัดความชันของพื้นที่โดยตรงจากแผนที่ ภูมิประเทศ โดยการวัดระยะทางบนแผนที่จากปลายหนึ่งไปยังอีกปลายหนึ่งของ ความลาดนั้น ๆ และตามความแตกต่างของความสูงที่ปลายทั้งสอง (ดูจากเส้นชั้น ความสูง) =


1. ลาดเป็นเปอร์เซ็น ( 100 เปอร์เซนต์) 2. ลาดเป็นองศา (57.3 องศา) 3. ลาดเป็นมิลเลียม (1,000 มิลเลียม) ระยะทางดิ่ง ระยะทางระดับ X ระยะทางดิ่ง ระยะทางระดับX ระยะทางดิ่ง ระยะทางระดับX 100 57.3 1,000 สูตรหาค่าลาด


ตัวอย่าง จงหาค่าของลาดเป็นเปอร์เซ็นต์ จากจุด(พิกัด) ก. ถึงจุด (พิกัด) ข. ตามเส้นชั้นความสูงในรูป (ช่วงต่างเส้นชั้นความสูงช่วงละ 20 เมตร) วิธีท า - หาระยะทางดิ่ง ( 170 เมตร – 20 เมตร ) เท่ากับ 150 เมตร - หาระยะทางระดับ เท่ากับ 1,200 เมตร - ค่าของลาดเป็นเปอร์เซ็นต์ 150 1,200 × 100 =12.5 % ตอบ ค่าลาด +12.5 %


ข้อควรเข้าใจ การหาระยะทางดิ่ง – ระยะทางระดับในแผนที่


ข้อควรจ า 1. ระยะทางดิ่งเป็นระยะผลต่างระหว่างความสูงของจุดที่สูงที่สุด กับที่ต่ าสุดของ ลาดบริเวณนั้น พิจารณาจากเส้นชั้นความสูง 2. ระยะทางระดับ เป็นระยะทางราบจากต าบลทั้งสอง วัดที่มาตรส่วนเส้นบรรทัด 3. ระยะทางดิ่งกับระยะทางระดับ เป็นระยะทางที่คิดจากจุดทั้งสองที่เป็นต าบล เดียวกันนั้นเอง 4. “ ลาดขึ้น ” แสดงด้วยเครื่องหมาย ( + ) “ ลาดลง ” แสดงด้วยเครื่องหมาย ( - )


ข้อควรค านึงในการใช้แผนที่ภูมิประเทศในสนาม 1. วางแผนที่ให้อยู่ในทิศที่ถูกต้อง 2. ศึกษาลักษณะภูมิประเทศจากการใช้เส้นชั้นความสูง 3. ควรฝึกหัดคาดคะเนระยะทางจริง เพื่อเปรียบเทียบ ระยะทางในแผนที่


การใช้เข็มทิศ ประกอบแผนที่


มุมภาคทิศ และมุมภาคทิศกลับ (Azimuth and Back Azimuth) ✓มุมภาคทิศเหนือ คือ ค่ามุมราบนับวนตามเข็มนาฬิกาจากแนวทิศหลัก (ทิศเหนือจริง,ทิศเหนือแม่เหล็ก หรือทิศเหนือกริด) ไปยังแนวเป้าหมาย แบ่งเป็น 360 องศา 90 270 0 0 180 0 0 0 OR 360 0 Base Line ORIGIN


มุมภาคทิศ และมุมภาคทิศกลับ ✓มุมภาคทิศกลับ คือ มุมภาคที่วัดในทางตรงกันข้ามกับมุมภาคทิศเหนือ ถ้ามุมภาคทิศเหนือ มากกว่า 1800 ให้เอา 180 ลบ ถ้ามุมภาคทิศเหนือ น้อยกว่า 1800 ให้เอา 180 บวก 90 270 0 0 180 0 0 0 OR 360 0 มุมภาคทิศกลับ เท่ากับ 115 + 180 = 295


เข็มทิศ ที่ใช้ในทางทหาร มี 2 ชนิด คือ 2. เข็มทิศ แบบ เลนเซติก 1. เข็มทิศ แบบ เอ็ม ทู ( M. 2 )


เข็มทิศแบบ M 2


เข็มทิศแบบเลนเซติก


ส่วนประกอบของเข็มทิศแบบเลนเซติก มี 3 ส่วน 1. ฝาตลับ 2. ตัวเรือน 3. ก้านเล็ง


1. ฝาตลับ 2. ตัวเรือน 3. ก้านเล็ง จุดเลง็พรายน า้ บากเล็ง เส้นเล็งที่หมาย แว่นขยาย แถบไม้บรรทัด ครอบหน้าปัดเข็มทิศ ห่วงมือถือ หน้าปัดเข็มทิศ เส้นวดัมุม /เส้นดัชนีสีด าคงที่ ลูกศรแม่เหลก็สีด า เส้นพรายน ้าหน้าปัด


ฝาตลับ


เลขสีแดง อ่านค่าเป็น องศา 0 - 360 เลขสีด า อ่านค่าเป็น มิลเลียม 0 - 6400 ตัวเรือน


ก้านเล็ง


การจับเข็มทิศ และการวัดมุมภาคเหนือ


1. การจับเข็มทิศเพื่อยกขึ้นเล็ง (แบบประณีต) 2. การจับเข็มทิศโดยไม่ต้องยกขึ้นเล็ง (แบบเร่งด่วน) การจับถือเข็มทิศ มี2วิธี


จับเพื่อยกขึ้นเล็ง ( การเล็งแบบประณีต ) 1. จับเข็มทิศด้วยมือที่ถนัด โดยเอาหัวแม่มือสอดเข้าไปในห่วงถือ นิ้วชี้รัดอ้อมไปตามขอบ ข้างล่างของเรือนเข็มทิศ นิ้วที่เหลือรองรับอยู่ข้างล่าง 3. จับเข็มทิศให้ได้ระดับเสมอ เพื่อให้หน้าปัดลอยตัวเป็นอิสระ 2. เปิดฝาตลับเข็มทิศยกขึ้นให้ตั้งฉากกับเรือนเข็มทิศ และยกก้านเล็งให้สูงขึ้นท ามุมประมาณ ๔๕ องศา การวัดมุมภาคทิศเหนือ ** ยกเข็มทิศให้อยู่ในระดับสายตา และเล็งผ่านช่องเล็งตรงไปยังเส้นเล็ง และที่หมาย ** ในขณะนี้ให้เหลือบสายตาลงมาที่แว่นขยาย และอ่านมุมภาคทิศเหนือที่อยู่ใต้เส้นดัชนี สีด าของกระจกหน้าปัดเข็มทิศ


การจับเข็มทิศเพื่อยกขึ้นเล็ง ตัวอย่าง


การจับเข็มทิศเพื่อยกขึ้นเล็ง (แบบประณีต) ตัวอย่าง


วัดมุมภาคทิศเหนือจากจุดที่ยืนอยู่ไปยังต าบลเด่น ตัวอย่าง


การจับเข็มทิศโดยไม่ต้องยกขึ้นเล็ง (เล็งเร่งด่วน) 1. เปิดฝาตลับเล็งเข็มทิศจนเป็นแนวเส้นตรงกับฐานและยกก้านเล็งขึ้นจนสุด 2. สอดหัวแม่มือข้างหลังเข้าไปในห่วงถือ นิ้วชี้ทาบไปตามขอบด้านข้างของเข็มทิศ และนิ้วที่เหลือรองรับอยู่ข้างล่างให้มั่นคง 3. เอาหัวแม่มืออีกข้างหนึ่งวางลงระหว่างกันเล็งกับเรือนเข็มทิศ และใช้นิ้วชี้ทาบไปตาม ด้านข้างของขอบเข็มทิศอีกด้านหนึ่ง นิ้วที่เหลือรัดพับบนนิ้วมือของอีกข้างหนึ่ง เพื่อให้แน่นมากยิ่งขึ้น 4. การจับโดยวิธีนี้จะต้องให้ข้อศอกทั้งสองข้างแนบแน่นกับล าตัว และให้เข็มทิศอยู่ ระหว่างคางกับเข็มขัด


การจับเข็มทิศโดยไม่ต้องยกขึ้นเล็ง (เล็งเร่งด่วน)


การจับเข็มทิศโดยไม่ต้องยกขึ้นเล็ง (เล็งเร่งด่วน) ตัวอย่าง


การจับเข็มทิศโดยไม่ต้องยกขึ้นเล็ง (เล็งเร่งด่วน) ตัวอย่าง


Click to View FlipBook Version