แผนพฒั นาคุณภาพการจดั การศกึ ษา
โรงเรียนบา้ นท่งุ เฟือ้ (เอมสะอาดอำนวย)
พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๘
สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเพชรบรุ ี เขต ๑
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร
1
บันทึกการให้ความเหน็ ชอบแผนพัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษา
โรงเรียนบ้านท่งุ เฟ้ือ (เอมสะอาดอำนวย) พ.ศ.2564 - 2568
***********************************************************
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย) มีมติเห็นชอบ
แผนพฒั นาคณุ ภาพการจัดการศึกษา โรงเรยี นบ้านทุ่งเฟอ้ื (เอมสะอาดอำนวย) พ.ศ.2564 – 2568 ตามท่ี
ผู้อำนวยการโรงเรียนได้อนุมัติใช้แล้ว ขอให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ในการ
บริหารและการพฒั นาการศึกษาทีก่ ำหนดไว้
ในนามของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย)
ขอแสดงความชืน่ ชมต่อผบู้ ริหาร และครูโรงเรียนบ้านทุ่งเฟือ้ (เอมสะอาดอำนวย) ท่ีได้มีความวริ ยิ ะอุตสาหะ
จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษา โรงเรียนบ้านทงุ่ เฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย) พ.ศ.2564 – 2568
อย่างละเอยี ดรอบคอบ สอดคลอ้ งกบั พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ นโยบายของ
รัฐบาล มีการเชื่อมโยงวสิ ัยทัศน์ และกลยุทธ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน สำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต ๑ และสถานศึกษาใหเ้ ป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อส่งเสรมิ
การปฏริ ปู การศึกษา ทมี่ ุ่งเน้นใหค้ นไทยได้เรยี นรตู้ ลอดชวี ิต อย่างมคี ุณภาพ
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย) จึงขอขอบคุณ
คณะทำงาน และใหใ้ ช้เป็นกรอบแนวทางและเครื่องมือในการบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้
บรรลวุ ตั ถุประสงค์เปา้ หมายที่กำหนดไว้ จงึ ลงลายมอื ชื่อไวเ้ ป็นสำคญั
(ลงช่อื )
(นายสุทธิ เพียรเรียน)
ประธานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน
โรงเรียนบา้ นทุ่งเฟือ้ (เอมสะอาดอำนวย)
2
คำนำ
โรงเรียนบา้ นท่งุ เฟอื้ (เอมสะอาดอำนวย) สังกัดสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาเพชรบุรี
เขต ๑ เป็นสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โดยการ
บริหารจัดการศึกษาทั้ง ๔ ด้าน คือ ด้านการบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงานบุคลากร ด้านการ
บริหารงานงบประมาณ และด้านการบริหารงานทั่วไป โดยบูรณาการบริหารจัดการที่สอดคล้องกับ
ยทุ ธศาสตรข์ องกระทรวงศึกษาธกิ าร สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน การพัฒนาของจังหวัด
เพชรบรุ ี องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ฯลฯ เพอ่ื ให้ประชาชน ชุมชน ผปู้ กครองและนักเรยี น ได้รับประโยชน์สงู สดุ
แผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย) พ.ศ. ๒๕๖๔ -
๒๕๖๘ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดการศึกษา โดยมีความสอดคล้องกับพระราชบญั ญัติการศกึ ษา
แห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ สอดคล้องกับนโยบายของรฐั บาล มีการเชื่อมโยงวิสัยทัศน์ และกลยุทธข์ อง
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาเพชรบุรี เขต ๑
และสถานศึกษาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างโอกาสทางการศึกษาและการ
เรยี นรูต้ ลอดชวี ติ ตลอดจนการมสี ่วนรว่ มของประชาคมในการจดั การศึกษา
หวังเปน็ อยา่ งยิ่งว่า แผนพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศึกษา โรงเรยี นบา้ นทุ่งเฟ้อื (เอมสะอาดอำนวย)
พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๘ เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำไปปฏิบัติเพื่อใช้เป็นกรอบ
แนวทางในการบริหาร การจัดการศึกษา วางแผนและดำเนินการร่วมกัน เพื่อพัฒนาคุณภาพ การจัด
การศึกษาให้ประสบผลสำเร็จอย่างมีคุณภาพ เป็นที่พึงพอใจของผู้รับบริการ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและบุคคล
ทัว่ ไปอยา่ งแท้จริง
ในการนี้ ขอขอบคุณผู้มีส่วนเก่ียวขอ้ งทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพฒั นาคุณภาพการจดั
การศึกษา โรงเรียนบ้านทงุ่ เฟ้ือ (เอมสะอาดอำนวย) พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๘ ฉบับน้จี นสำเร็จเรยี บร้อยด้วยดี
ไว้ ณ โอกาสนี้ และแผนกลยุทธ์ฉบบั นี้จะเปน็ แผนแม่บทของโรงเรียน อันจะนำโรงเรียนไปสู่เป้าประสงค์
ทว่ี างไวต้ อ่ ไป
(นางสาวนาถธดิ า เจรญิ สุข)
ครูโรงเรียนบา้ นทงุ่ เฟอื้ (เอมสะอาดอำนวย) รกั ษาการในตำแหน่ง
ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นท่งุ เฟอื้ (เอมสะอาดอำนวย)
วนั ท่ี ๖ พฤษภาคม 2564
(นายสุทธิ เพียรเรยี น)
ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐาน โรงเรยี นบ้านทงุ่ เฟอ้ื (เอมสะอาดอำนวย)
วนั ท่ี ๖ พฤษภาคม 2564
3
สารบัญ หน้า
เรอ่ื ง ๑
ส่วนท่ี ๑ บริบทของโรงเรยี นขอ้ มูลทวั่ ไปของโรงเรียน ๒
๔
ประวัตคิ วามเป็นมาของโรงเรียน
ภารกจิ โครงสรา้ งการบรหิ าร ๕
ขอ้ มลู พื้นฐานการจัดการศึกษา ๙
ขอ้ มลู สภาพชมุ ชน ๑๐
ข้อมลู ผลการดำเนนิ งาน
ผลงานท่ปี ระสบผลสำเร็จ ๓๒
๓๓
นโยบายสำคญั ท่ีเกีย่ วข้อง ๖๖
ส่วนท่ี ๒ ผลการวเิ คราะหศ์ กั ยภาพสถานศกึ ษา ๖๖
ผลการวเิ คราะห์ศกั ยภาพสถานศกึ ษา ๗๗
๗๗
ส่วนที่ ๓ ทศิ ทางการจดั การศกึ ษา
ทิศทางการจัดการศึกษา ๘๐
๘๐
ส่วนที่ ๔ กรอบกลยทุ ธ์การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๔-๒๕๖๘ ๘๓
ประเด็นกลยุทธท์ ี่ ๑ การจดั การศึกษาดา้ นความปลอดภยั
ประเด็นกลยทุ ธท์ ี่ ๒ การจัดการศึกษาด้านโอกาส ๘๕
ประเด็นกลยุทธ์ท่ี ๓ การจัดการศกึ ษาด้านคุณภาพ ๙๐
ประเด็นกลยทุ ธ์ที่ ๔ การจัดการศึกษาดา้ นประสทิ ธิภาพ ๙๒
ส่วนที่ ๕ โครงการ/กิจกรรม ระยะ ๕ ปี ๙๒
ประเดน็ กลยทุ ธท์ ่ี ๑ การจัดการศึกษาดา้ นความปลอดภยั ๙๓
ประเดน็ กลยทุ ธ์ท่ี ๒ การจดั การศึกษาด้านโอกาส ๙๔
ประเด็นกลยทุ ธท์ ี่ ๓ การจัดการศึกษาดา้ นคุณภาพ
ประเดน็ กลยทุ ธท์ ี่ ๔ การจดั การศึกษาด้านประสิทธิภาพ ๙๕
๙๖
ส่วนท่ี ๖ การบรหิ ารแผนไปสกู่ ารปฏิบัติ ๙๖
การบรหิ ารแผนไปสกู่ ารปฏิบตั ิ
๑๐๓
ภาคผนวก ๑๐๔
คำสง่ั แต่งตัง้ คณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียน ๑๐๖
รายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน
คณะกรรมการจดั ทำแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาโรงเรยี น ๑๒๐
4
ส่วนที่ ๑
บริบทของโรงเรียน
ข้อมลู ทว่ั ไปของโรงเรยี น
ช่ือสถานศึกษา : โรงเรียนบ้านทงุ่ เฟอื้ (เอมสะอาดอำนวย)
ท่ีอยู่ : หมทู่ ่ี ๗ บา้ นทุ่งเฟ้อื ตำบลบางครก อำเภอบา้ นแหลม จังหวัดเพชรบรุ ี
รหสั ไปรษณีย์ ๗๖๑๑๐ โทรศพั ท์ : ๐๓๒ – ๔๐๙๐๒๓ โทรสาร : -
E-Mail : [email protected]
เว็บไซตโ์ รงเรยี น : https://sites.google.com/a/petburi.go.th/btf/home
เฟสบุคโรงเรยี น : รร.บา้ นทุ่งเฟ้อื ต.บางครก อ.บา้ นแหลม จ.เพชรบรุ ี
เปดิ สอนระดบั : ชั้นอนบุ าล ๒–๓ ถึงระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑–๖
เนื้อท่ี : ๖ ไร่ ๔ ตารางวา
เขตพ้ืนทีบ่ ริการ : หมูท่ ี่ ๗ และหมทู่ ่ี ๑๐ ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จงั หวัดเพชรบรุ ี
สงั กัด : สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาเพชรบุรี เขต 1
5
ประวัติความเปน็ มาของโรงเรียน
โรงเรยี นบ้านทุ่งเฟ้ือ (เอมสะอาดอำนวย) เดิมชื่อวา่ โรงเรียนประชาบาลตำบลบางครก ๒ (เอมสะอาด
อำนวย) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๒ โดยการบริจาคอาคารเรยี นและทีด่ ินของนายเอิบ เอมสะอาด โดยจัดสรา้ ง
เป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูง แบบ ๓ ห้องเรียน มีหน้ามุข จำนวน ๑ หลัง บนเนื้อที่ของตนเองประมาณ
๒๐๐ ตาราวา สิ้นค่าก่อสร้างอาคารเรียน ๑,๓๖๐ บาท เปิดทำการสอนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑
พฤษภาคม ๒๔๘๒ โดยมี นายชู ควรประสิทธิ์ เป็นครูใหญ่ เปิดสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๓
และปีการศึกษา ๒๔๘๓ เปิดสอนตงั้ แตช่ ้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ – ๔
ปี พ.ศ.๒๕๑๔ นายสมนึก บัวงาม ครูใหญ่โรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย)ได้ติดต่อขอ
บริจาคที่ดินและจัดหาเงินซือ้ ท่ีดินข้างเคยี งเพ่ิมเตมิ รวมทีด่ ินที่ขอบริจาคและจัดซื้อเพิ่มเตมิ จำนวน ๖ ไร่
๔ ตารางวา จงึ ของบประมาณกอ่ สรา้ งอาคารเรยี น แบบ ป.๑ ข จำนวน ๑๗๐,๐๐๐ บาท วันท่ี ๒๓ มิถุนายน
๒๕๑๕ ได้ย้ายสถานที่เรียนของนักเรียนจากที่เดิม มาอยู่ที่ตั้งโรงเรียนใหม่ (ที่อยู่โรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ
(เอมสะอาดอำนวย) ปจั จุบัน ปี พ.ศ.๒๕๑๖ ได้งบประมาณสรา้ งบา้ นพักครู จำนวน ๑ หลัง
ปี พ.ศ.๒๕๑๘ โรงเรียนได้รับเงินผัน (บชลต.) จำนวน ๙,๐๐๐ บาท จึงได้ย้ายอาคารเรียนจาก
โรงเรียนเดิมมาปลูกสร้างเป็นอาคารเอนกประสงค์ สิ้นค่าก่อสร้างเป็นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาทและได้ขยาย
โอกาสทางการศกึ ษาแก่นกั เรียนโดยเปิดทำการเรยี นการสอนตง้ั แตช่ ้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ – ๗
ปี พ.ศ.๒๕๒๐ ไดร้ บั งบประมาณกอ่ สรา้ งอาคารเรยี นแบบ ๐๑๗ จำนวน ๔๒๐,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ.๒๕๒๑ ได้รบั งบประมาณตอ่ เติมชั้นล่าง ๑๒๐,๐๐๐ บาท และทำพ้นื ล่างจำนวน ๗๕,๐๐๐
บาทและงบประมาณก่อสร้างส้วมแบบกรมสามัญ ๔๐๑ (๒ หลัง ๔ ที่นั่ง) จำนวน ๒๕,๐๐๐ บาท และ
งบประมาณสร้างถังเก็บน้ำแบบ ฝ.๓๐ ชนิด ๖ ถัง เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ในปีนี้ได้จดั การเรียนการสอน
ตามหลกั สตู รประถมศึกษาพุทธศักราช ๒๕๒๑ โดยจดั การเรยี นการสอนต้ังแต่ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖
ปี พ.ศ.๒๕๒๓ ได้รบั งบประมาณจากทางราชการ สร้างโรงฝกึ งานแบบกรมสามญั ๓๑๒ จำนวน ๑
หลงั เปน็ เงนิ ๑๖๙,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ.๒๕๒๕ โรงเรียนได้จัดหาเงนิ เพื่อถมสนามโรงเรียนซึ่งเป็นแอ่งน้ำ เป็นเงิน ๘๗,๗๗๐ บาท
และประชาชนได้ร่วมกันบรจิ าคเงนิ จดั สรา้ งเสาธงโรงเรยี น เพ่ือมอบเปน็ ท่รี ะลกึ ในการฉลองกรงุ รตั นโกสนิ ทร์
ครบ ๒๐๐ ปี
ปี พ.ศ.๒๕๒๗ โรงเรียนได้ทำรั้วคอนกรีตด้านหน้าโรงเรียนความยาว ๑๐๐ เมตรและทำถนนดิน
ลูกรังเชื่อมต่อระหว่างอาคารเรียน โดยใช้แรงงานจากครู ภารโรง และนักเรียนร่วมกันจัดสร้าง
สนิ้ คา่ ก่อสร้าง ๑๔,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ.๒๕๒๕ โรงเรียนได้จัดหาเงินเพ่ือถมสนามโรงเรียนซ่ึงเป็นแอ่งน้ำ เป็นเงิน ๘๗,๗๗๐ บาท
และประชาชนได้ร่วมกันบริจาคเงินจัดสร้างเสาธงโรงเรียน เพื่อมอบเป็นที่ระลึกในการฉลอง
กรงุ รตั นโกสนิ ทรค์ รบ ๒๐๐ ปี
วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๒๙ โรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย)ได้เปิดทำการสอน
ชัน้ เด็กเลก็
6
ปี พ.ศ.๒๕๓๑ โรงเรียนได้เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ๑ อนุบาล ๒ จนถึง
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ มีครู ๑๐ คน นักเรยี น ๑๖๐ คน นักการภารโรง ๑ คน
ในเดือนสงิ หาคม พ.ศ.๒๕๓๒ โรงเรียนได้จัดงานครบรอบ ๕๐ ปขี องโรงเรยี น เหลือเงนิ จากการจดั
งานครั้งน้ี ๓๕,๐๐๐ บาท คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานมีความเห็นชอบให้ดำเนนิ การจัดสร้างส้วม
๑ หลงั จำนวน ๓ ท่ีนัง่ สิ้นค่าก่อสรา้ ง ๓๕,๐๐๐ บาท
วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ นายชูรัฐ ระหว่างบ้าน ย้ายมาดำรงตำแหน่งอาจารยใ์ หญ่โรงเรียน
บ้านท่งุ เฟ้อื เอมสะอาดอำนวย)
วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ นายธนา ตราชูวณิช ย้ายมาดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียน
บา้ นท่งุ เฟ้ือ (เอมสะอาดอำนวย)
วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๗ นายณัฐนันท์ นิภาสภัทรพงศ์ ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ
โรงเรียนบา้ นทุ่งเฟ้อื (เอมสะอาดอำนวย)
วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๐ นายสำราญ โมคบุรุษ ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน
บ้านทงุ่ เฟ้ือ (เอมสะอาดอำนวย)
วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ นายจำลอง นุ่มสวน ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน
บา้ นทุ่งเฟือ้ (เอมสะอาดอำนวย)
วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด ได้มอบที่ดินจำนวน
๒ ไร่ ๓ งาน ๔๒ ตารางวา คดิ เป็นเงนิ ๒๕๗,๙๕๐ บาท และบรจิ าคงบประมาณทาสอี าคารเรยี นแบบ ๐๑๗
เป็นเงิน ๒๒๕,๐๐๐ บาท
วนั ที่ ๒๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ นายโกศล กรที วี ย้ายมาดำรงตำแหน่งผ้อู ำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งเฟ้อื
(เอมสะอาดอำนวย)
วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ นายอนุโรจน์ คุ้มเสาร์ ครูโรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย)
รับหน้าที่รักษาการในตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนบา้ นท่งุ เฟ้ือ (เอมสะอาดอำนวย)
วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ นางสาวนาถธิดา เจริญสุข ครูโรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย)
รบั หนา้ ที่ รกั ษาการในตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย)
7
ภารกิจ โครงสร้างการบรหิ าร
โรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย) แบ่งโครงสร้างการบริหารงาน เป็น ๔ ด้าน ได้แก่
ด้านการบริหารวิชาการ ด้านการบริหารงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคลากร และด้านการบริหาร
ทั่วไป ผู้บริหารยึดหลักการบริหาร/เทคนิคการบริหารแบบธรรมาภิบาลมาบูรณาการในการบริหารและ
จดั การศกึ ษา ได้แก่ หลักนติ ิธรรม หลักคณุ ธรรม หลกั ความโปรง่ ใส หลักการมีส่วนร่วม หลกั ความรับผิดชอบ
หลักความค้มุ คา่ โดยใชโ้ รงเรียนเปน็ ฐานมีการบรหิ ารและการจดั การศกึ ษารองรบั การกระจายอำนาจ บรหิ าร
เชิงกลยุทธ์และใช้หลักการมีส่วนร่วม คณะกรรมการสถานศึกษาร่วมพัฒนาสถานศึกษา ใช้ รูปแบบการ
บริหารที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน ตรวจสอบและถ่วงดุล และใช้ผลการประเมินด้านคุณภาพผู้เรียนตาม
มาตรฐานการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานเพ่อื พฒั นายกระดับคุณภาพ มาบูรณาการเขา้ กบั หลักการแนวคดิ การบริหาร
ระบบคณุ ภาพวงจร PDCA ดำเนนิ การบริหารจัดการเกยี่ วกับการปฏิบัตงิ านวิชาการ งานบรหิ ารงานบุคคล
งานบริหารงานบุคคล งานบริหารแผนงานและงบประมาณและงานบรหิ ารทัว่ ไป
ภารกจิ โครงสรา้ งการบรหิ าร โรงเรียนแบง่ โครงสร้างงาน เปน็ ๔ กลุม่ ดงั น้ี
๑. กลุ่มบรหิ ารวชิ าการ โดยมี นางสาวนาถธดิ า เจริญสุข เป็นหวั หนา้ กลุม่
๒. กลุ่มบรหิ ารงบประมาณ โดยมี นางสาวนาถธิดา เจรญิ สุข เป็นหวั หนา้ กลมุ่
๓. กล่มุ บรหิ ารงานบุคลากร โดยมี นางสาวศริ ดา แจ่มศรี เปน็ หวั หน้ากลมุ่
๔. กลมุ่ บรหิ ารทวั่ ไป โดยมี นางสาวศริ ดา แจม่ ศรี เป็นหัวหนา้ กลุ่ม
โครงสร้างการบรหิ ารงานโรงเรยี นบา้ นทุ่งเฟอื้ (เอมสะอาดอำนวย)
ผู้อำนวยการโรงเรยี น
คณะกรรมการ
สถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน
ดา้ นการบริหาร ดา้ นการบริหาร ด้านการบริหาร ด้านการบรหิ าร
วิชาการ งบประมาณ งานบคุ คล ทั่วไป
นาถธิดา เจรญิ สขุ
นาถธดิ า เจริญสขุ ศริ ดา แจม่ ศรี ศิรดา แจม่ ศรี ศริ ดา แจ่มศรี
ศทุ ธนิ ี วันเสอื จฑุ าทิพย์ ถาออ่ นสี ศุทธินี วันเสือ กมลชนก คนลัด
นฤมล พูลสวสั ด์ิ จฑุ าทพิ ย์ ถาออ่ นสี นฤมล พูลสวสั ด์ิ
8
ขอ้ มลู พ้ืนฐานการจดั การศึกษา
ข้อมลู ประชากรวยั เรียนในเขตบรกิ าร
โรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย) มีประชากรวัยเรียนในเขตบริการ หมู่ ๗ และ หมู่ ๑๐
ตำบลบางครก อำเภอบา้ นแหลม จังหวดั เพชรบรุ ี โดยมจี ำนวนนกั เรยี นทีเ่ ข้าเรียนในชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑
ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ จำนวน ๗ คน ดังน้ี
ช่ือตัว - ชอื่ สกุล เกิดเมอื่ ท่ีอยู่
วัน เดอื น ปี เลขที่ หมู่ ตำบล อำเภอ จงั หวัด
ด.ช. พชร เผ่าวจิ ารย์ 23 พฤศจกิ ายน 2558 1/3 7 บางครก บ้านแหลม เพชรบรุ ี
ด.ญ. ชุตกิ าญจน์ โค้วไล้ 17 เมษายน 2558 37/2 7 บางครก บ้านแหลม เพชรบุรี
ด.ญ. กนกรัตน์ ทองคำ 5 ตุลาคม 2558 44 7 บางครก บา้ นแหลม เพชรบุรี
ด.ช. จิรายุ เตบิ ญวน 4 มิถุนายน 2558 49 7 บางครก บา้ นแหลม เพชรบุรี
ด.ญ. ขวัญณภัส เลก็ สกุ 5 กมุ ภาพันธ์ 2558 89 10 บางครก บา้ นแหลม เพชรบรุ ี
ด.ช. ธนายทุ ธ พมิ พเ์ ลิศ 30 ตลุ าคม 2558 91 10 บางครก บ้านแหลม เพชรบรุ ี
ด.ช. ณัฐพล สมบรู ณ์ศรี 18 ธนั วาคม 2558 91 10 บางครก บ้านแหลม เพชรบุรี
ข้อมลู นักเรียน
ข้อมูลนักเรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๔ จำนวนนักเรียนในโรงเรียน ทั้งสิ้น ๒๙ คน จำแนกตาม
ระดับชั้นท่สี อน ดงั น้ี
ระดบั ชน้ั เรยี น จำนวนห้องเรยี น จำนวนนกั เรยี น เฉล่ีย
ชาย หญงิ รวม ต่อห้อง
อนบุ าล ๒ ๑ ๓๒๕
อนบุ าล ๓ ๑ ๒๒๔ ๕
รวม ๑ ๕๔๙ ๔
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ๑ ๒๒๔ ๙
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๒ ๑ - ๒๒ ๔
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ๑ ๓๒๕ ๒
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ ๑ ๓๑๔ ๕
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ๑ ๑๒๓ ๔
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ๑ - ๒๒ ๓
รวมประถมศกึ ษา ๖ ๙ ๑๑ ๒๐ ๒
รวมท้ังสิ้น ๖ ๑๔ ๑๕ ๒๙
9
ข้อมลู ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา
ขอ้ มูลผู้บรหิ าร
ชอ่ื – สกลุ : นางสาวนาถธิดา เจริญสขุ ครโู รงเรยี นบ้านท่งุ เฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย)
ผรู้ ักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบา้ นทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย)
โทรศัพท์ : ๐๙๔ - ๙๙๒ ๐๙๔๒
E-mail : [email protected]
วุฒิการศกึ ษาสงู สดุ : ครุศาสตรมหาบณั ฑติ การบริหารการศกึ ษา
ขอ้ มูลครแู ละบคุ ลากร
บคุ ลากร ผู้บริหาร ครูผสู้ อน ครูอตั ราจา้ ง ครผู ูท้ รงคุณคา่ พีเ่ ล้ยี ง เจา้ หน้าที่ รวม
แห่งแผ่นดนิ เด็กพิการ อื่น ๆ ท้ังหมด
ปีการศึกษา
๒๕๖๔ -๒ ๒ - ๑๑๖
ขอ้ มูลขา้ ราชการครู
ท่ี ช่ือ-ช่ือสกลุ อายุ อายุ ตำแหน่ง/ วุฒิ วชิ าเอก สอนวิชา/ จำนวนคร้งั /
(ป)ี วิทยฐานะ ช้ัน ชว่ั โมงท่ี
ราชการ ไดร้ ับ/การ
(ป)ี
พัฒนา/ปี
๑ น.ส.นาถธิดา เจริญสุข ๓๕ ๑๐ คศ.๓ ค.ม. การบริหาร ป.๖ ๓๐ ชม.ตอ่
การศึกษา สปั ดาห์
๒ นางสาวศริ ดา แจม่ ศรี ๒๗ ๑ ครผู ู้ช่วย ค.บ. ภาษาอังกฤษ ป.๓ ๓๐ ชม.ตอ่
สัปดาห์
ขอ้ มลู ครูอตั ราจา้ ง
ท่ี ช่ือ-ชอ่ื สกลุ อายุ ประสบการณ์ วุฒิ วิชาเอก สอนวชิ า/ชนั้ จา้ งดว้ ย
(ป)ี การสอน (ป)ี เงนิ
๑ นางสาวนฤมล พลู สวัสด์ิ ๒๘ ๓ ค.บ. การศึกษา อนุบาล อบจ.
ปฐมวยั
๒ นางสาวกมลชนก คนลัด ๒๔ ๑ ค.บ. สงั คมศึกษา ป.๑-๒ อบจ.
10
ข้อมลู พีเ่ ล้ียงเด็กพิการ
ที่ ช่ือ-ชื่อสกุล อายุ ประสบการณ์ วุฒิ วชิ าเอก สอน จา้ งดว้ ยเงนิ
(ปี) การสอน (ปี) วิชา/ชัน้
๑ น.ส.ศุทธนิ ี วนั เสือ ๓๓ ๑๐ ปวส. คอมพิวเตอร์ ป.๔-๕ สพป.พบ.๑
ธุรกจิ (ครูพี่เล้ยี งเดก็ พกิ าร)
ข้อมลู เจา้ หน้าทธ่ี รุ การ
ท่ี ช่อื -ชอ่ื สกลุ อายุ วฒุ ิ วชิ าเอก จา้ งดว้ ยเงิน
๑ น.ส.จุฑาทพิ ย์ ถาออ่ นสี (ปี) นาฏศลิ ป์ สพป.พบ.๑
๒๖ ค.บ.
ขอ้ มลู ท่ีดนิ และสิ่งกอ่ สรา้ ง
โรงเรยี นบา้ นทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย) มที ่ดี นิ จำนวน ๖ ไร่ ๔ ตารางวา
ขอ้ มูลสง่ิ ก่อสร้าง อาคารสถานท่ี
อาคารเรียน จำนวน ๒ หลงั
อาคารประกอบ จำนวน ๑ หลงั
สว้ ม จำนวน ๓ หลงั
สนามเดก็ เล่น จำนวน ๑ สนาม
สนามฟตุ บอล จำนวน ๑ สนาม
สนามวอลเลยบ์ อล จำนวน ๑ สนาม
สนามเปตอง จำนวน ๑ สนาม
แปลงเกษตร จำนวน ๑ แปลง
11
ส้วม แผนท่โี รงเรยี น N
แปลงเกษตร
ถงั เกบ็ นำ้ บ่อเล้ยี งปลา ศาลพระภูมิ
อาคาร อาคารเรยี น เจา้ ที่
เอนกประสงค์ แบบ ป.๑ ข
โรงเห็ด
สว้ ม สนามฟุตบอล ศาลานงั่ พัก
พระพุทธรูป
เรอื นไทยทรงดำ ถนน
สนามเปตอง สนาม
วอลเลยบ์ อล
โรงจอดรถ
ส้วม ถนน
โรงจอดรถ อาคารเรยี น
แบบ ๐๑๗
ป้ายโรงเรียน
12
ข้อมลู สภาพชมุ ชน
การปกครอง
ชุมชนบ้านทุ่งเฟื้อ ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา ภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยท่ี
พระมหากษัตรยิ ์ ซ่งึ ปัจจุบนั คือ พระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว เป็นประมุข
การประกอบอาชีพ
ชุมชนบ้านท่งุ เฟอื้ อาชพี หลกั คอื ทำสวนมะพรา้ ว สวนกล้วย เลย้ี งปลา เลยี้ งกงุ้ ทำนำ้ ตาลโตนด ทำขนม
นานาชนดิ และรบั จา้ งทวั่ ไป มีฐานะทางเศรษฐกจิ ปานกลาง มรี ายไดเ้ ฉล่ยี ต่อครอบครวั ๓๐,๐๐๐ บาทต่อปี
ลกั ษณะความเปน็ อยขู่ องชมุ ชน
ชุมชนบ้านทุ่งเฟื้อตั้งอยู่ในที่ราบลุ่ม ห่างจากชายฝั่งทะเล ๘ กิโลเมตร พื้นดินส่วนใหญ่เป็น
ดินเหนียว น้ำกร่อย ส่วนใหญ่มีรสเค็ม มีคูคลองส่งระบายน้ำเพื่อการเกษตรเหมาะสมกับการเพาะปลูก
รอบหมูบ่ ้านประกอบไปด้วยทงุ่ เฟอ้ื เทอื กสวนไร่นา สวนมะพรา้ ว สวนกล้วย อาชพี หลกั ของชุมชนทำสวน
มะพร้าว สวนกล้วย เลี้ยงปลา เลี้ยงกุ้ง ทำน้ำตาลโตนด ทำขนมนานาชนิด และรับจ้างทั่วไป มีฐานะ
ทางเศรษฐกิจปานกลาง มีรายได้เฉลี่ยต่อครอบครัว ๓๐,๐๐๐ บาทต่อปี ภายในหมู่บ้าน มีประชากร
ประมาณ ๒,๑๐๐ คน มเี อกลักษณ์ประจำถิ่น คอื เป็นชาวไทยทรงดำ สว่ นใหญ่นบั ถือศาสนาพุทธ มีวิถีชีวิต
ความเป็นอยู่อย่างสุขสงบ เอื้อเฟ้ือแบ่งปันชว่ ยเหลือกัน มีขนบธรรมเนยี มประเพณีที่สำคัญ คือ วันสำคัญ
ทางศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา วันลอยกระทง และประเพณี
ท้องถิ่นที่ สืบทอดต่อกันมา คือ ประเพณีสืบสานวัฒนธรรมไทยทรงดำ กิจกรรมที่สำคัญ คือ พิธีกรรม
เสนเรอื น เป็นพธิ ีกรรมเซน่ ผีบรรพบุรุษ รว่ มกันทำทุกปีหรอื ๓-๕ ปีต่อคร้งั กไ็ ด้ เช่ือกันว่าทำแล้วจะร่ำรวย
มีฐานะดี ภายในหมูบ่ า้ นมีภูมปิ ญั ญาท้องถ่ินหรอื ผู้มคี วามรคู้ วามสามารถหลากหลาย
ในฤดูฝน ฝนตกมาก จึงเกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำ ส่งผลให้เทือกสวนไร่นา สวนผลไม้
เสียหาย วสั ดอุ ุปกรณ์ทางการเกษตรเกิดความเสียหายเป็นประจำ
13
ข้อมลู ผลการดำเนินงาน
ผลประเมินผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น โรงเรียนบา้ นทงุ่ เฟ้อื (เอมสะอาดอำนวย) ปีการศึกษา
๒๕๖๓
ระดบั ปฐมวยั
หมายเหตุ เดก็ อนุบาล ๓ มจี ำนวน ๕ คน มเี ด็กจำนวน ๑ คนทข่ี าดเรยี นเปน็ เวลานาน
ทำให้ผลการประเมนิ พัฒนาการเด็กอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง
14
ระดับขน้ั พื้นฐาน
รอ้ ยละของนักเรียนทม่ี ีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นแตล่ ะรายวิชาในระดับ ๓ ขึ้นไป
จาแนกตามระดับชนั้ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓
๑๒๐.๐๐
๑๐๐.๐๐
๘๐.๐๐
๖๐.๐๐
๔๐.๐๐
๒๐.๐๐
๐.๐๐ ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๕๐.๐๐ ๖๖.๖๗ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐
ภาษาไทย ๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๕๐.๐๐ ๓๓.๓๓ ๕๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐
คณิตศาสตร์ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๕๐.๐๐ ๐.๐๐ ๕๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐
วิทยาศาสตร์ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๕๐.๐๐ ๖๖.๖๗ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐
สงั คมศึกษาฯ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๕๐.๐๐ ๖๖.๖๗ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐
ประวัตศิ าสตร์ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐
สขุ ศึกษาฯ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๕๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐
ศิลปะ ดนตรี ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๗๕.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐
การงานฯ ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๕๐.๐๐ ๖๖.๖๗ ๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐
ภาษาอังกฤษ
15
16
17
ผลการทดสอบความสามารถพนื้ ฐานของผเู้ รียนระดบั ชาติ (National Test : NT)
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓
รายวชิ า คะแนนเฉล่ยี รอ้ ยละ สูง/ต่ำ
ภาษาไทย โรงเรยี น ประเทศ +22.04
คณติ ศาสตร์ -1.47
รวมความสามารถเฉล่ียทง้ั ๒ ดา้ น ๖๙.๕๐ ๔๗.๔๖ +10.28
๓๙.00 ๔๐.๔๗
๕๔.๒๕ ๔๓.๙๗
คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละผลการประเมนิ การทดสอบความสามารถพน้ื ฐานของผู้เรยี น
ระดับชาติ
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓
๘๐.๐๐ ๖๙.๕๐
๗๐.๐๐
๖๐.๐๐ ๕๑.๑๔๔๗.๔๖ ๔๗.๒๙ ๕๔.๒๕ ระดับโรงเรียน
๕๐.๐๐ ๓๙.๐๐ ๔๐.๔๗ ๔๙.๒๒ ระดบั เขตพืน้ ที่
๔๐.๐๐ ๔๓.๙๗ ระดบั ประเทศ
๓๐.๐๐
๒๐.๐๐
๑๐.๐๐
๐.๐๐
แผนภูมิแท่งเปรยี บเทียบผลคะแนน NT ของโรงเรยี น เขตพนื้ ที่ ตน้ สังกดั
ศึกษาธกิ ารจังหวดั ศกึ ษาธิการภาค สงั กัดและประเทศ
18
เปรียบเทยี ลผลการประเมินการทดสอบความสามารถพืน้ ฐานของผ้เู รียนระดับชาติ
(National Test : NT) ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓
ความสามารถ ปกี ารศกึ ษา ปีการศึกษา รอ้ ยละของผลต่าง
๒๕๖๒ ๒๕๖๓ ระว่างปกี ารศกึ ษา
ภาษาไทย
คณิตศาสตร์ 46.00 ๖๙.๕๐ +23.50
รวมความสามารถเฉล่ยี ทั้ง ๒ ดา้ น 42.00 ๓๙.00
๕๔.๒๕ -3.00
440.00 +10.25
แผนภมู แิ ทง่ เปรียบเทียบผลการทดสอบความสามารถพ้นื ฐานของผู้เรยี น
ระดับชาติ (NT)
ของนักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓
80
60
40
20
0 ๒๕๖๓ ระหวา่ งปีการศึกษา
-20 ๒๕๖๒
ปีการศกึ ษา ปกี ารศึกษา ร้อยละของผลต่าง
ภาษาไทย คณติ ศาสตร์
19
ผลการประเมนิ การทดสอบความสามารถพน้ื ฐานของผเู้ รยี นระดับชาติ (National Test : NT)
ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓
คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓ เปรียบเทยี บระดบั ต่าง ๆ
ที่ ระดับ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ เฉลยี่ ท้ัง ๒ ดา้ น
ดา้ นภาษา ดา้ นคำนวณ
1 ระดับโรงเรียน
2 ระดบั เขตพ้นื ที่ 25๖๒ ๒๕๖๓ ผลต่าง 25๖๒ ๒๕๖๓ ผลต่าง 25๖๒ ๒๕๖๓ ผลตา่ ง
3 ระดบั ประเทศ
๔๖.๐๐ ๖๙.๕๐ ๒๓.๕๐ ๔๒.๐๐ ๓๙.๐๐ -๓.๐๐ ๔๔.๐๐ ๕๔.๒๕ ๑๐.๒๕
๕๓.๐๓ ๕๑.๑๔ -๑.๘๙ ๕๐.๖๘ ๔๗.๒๙ -๓.๓๙ ๕๑.๘๖ ๔๙.๒๒ -๒.๖๔
๔๔.๙๔ ๔๗.๔๖ ๒.๕๒ ๔๖.๔๖ ๔๐.๔๗ -๕.๙๙ ๔๕.๗๐ ๔๓.๙๗ -๑.๗๔
ผลการประเมนิ การทดสอบความสามารถพนื้ ฐานของผเู้ รียนระดบั ชาติ (National Test : NT)
ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓
ร้อยละของจำนวนนักเรยี น ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓ จำแนกตามระดบั คุณภาพ
ที่ ความสามารถ ร้อยละของจำนวนนกั เรยี น ปี 25๖๒ ร้อยละของจำนวนนกั เรียน ปี 25๖๓
ปรบั ปรงุ พอใช้ ดี ดีมาก ปรับปรุง พอใช้ ดี ดมี าก
0.00 0.00 0.00 100.00
1 ภาษาไทย 0.00 50.00 50.00 0.00 0.00 100.00 0.00 0.00
2 คณิตศาสตร์ 0.00 50.00 50.00 0.00
ผลการทดสอบความสามารถพนื้ ฐานของผู้เรียนระดับชาติ (National Test : NT) ช้นั ประถมศกึ ษา
ปีที่ ๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ โรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย) วิชาภาษาไทย คะแนนเฉลี่ยสูงกวา่
ระดับประเทศ อยู่ในเกณฑ์ดีมาก และวิชาคณิตศาสตร์ คะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าระดับประเทศ อยู่ในเกณฑ์
พอใช้ เม่อื รวมความสามารถเฉลีย่ ทงั้ ๒ ด้าน อยูใ่ นเกณฑ์ดี โรงเรียนควรพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนวชิ า
ภาษาไทยและคณติ ศาสตร์ให้สงู ข้นึ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ของนกั เรยี นต่อไป
20
ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติพืน้ ฐาน (O-NET) ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓
ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติข้นั พื้นฐาน (O-NET) ประจำปกี ารศึกษา ๒๕๖๓
ระดบั /รายวชิ า ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คะแนนรวมเฉลี่ย
๖๑ ๖๓ ๖๔ ๖๕
ระดบั ประเทศ ๕๖.๒๐ ๔๓.๕๕ ๒๙.๙๙ ๓๘.๗๘ ๔๒.๑๓
ระดับสงั กดั สพฐ. ๕๔.๙๖ ๓๘.๘๗ ๒๘.๕๙ ๓๗.๖๔ ๔๐.๐๒
ระดับเขตพ้นื ที่ ๕๖.๖๓ ๔๓.๓๘ ๓๑.๒๖ ๓๙.๒๗ ๔๒.๖๔
ระดบั โรงเรียน ๖๓.๕๐ ๓๓.๓๓ ๒๕.๐๐ ๓๙.๒๓ ๔๐.๒๗
ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ ้นั พน้ื ฐาน (O-NET) ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓
เปรียบเทยี บผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ ัน้ พนื้ ฐาน (O-NET) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓
รายวิชา/ปี ๒๕๖๒ คะแนนเฉลยี่ ระดับโรงเรยี น ผลการพฒั นา
การศึกษา ๔๐.๑๓ ๒๕๖๓ ๒๓.๓๗
๓๑.๒๕ ๖๓.๕๐
ภาษาไทย ๔๕.๐๐ ๓๓.๓๓ ๒.๐๘
ภาษาอังกฤษ ๔๑.๘๘ ๒๕.๐๐
คณิตศาสตร์ ๓๙.๒๓ -๒๐.๐๐
วิทยาศาสตร์ ๓๙.๕๗ -๒.๖๕
คะแนนรวมเฉลีย่ ๔๐.๒๗
๐.๗๐
21
ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติข้นั พ้ืนฐาน (O-NET) ประจำปกี ารศึกษา ๒๕๖๓
การเปรยี บเทยี บผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒-๒๕๖๓
ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ วิชาภาษาไทย
และวิทยาศาสตร์มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ และโรงเรียนมีค่าเฉลี่ยวิชาภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
สงู กว่า ในปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ แตส่ ำหรบั วิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มคี ่าเฉลยี่ ต่ำกว่าในปีการศึกษา
๒๕๖๒ ดังนั้น โรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย) จำเป็นต้องพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้ดี
ยงิ่ ขน้ึ ต่อไป
22
ผลการประเมนิ ความสามารถการอา่ น (RT) ช้ันประถมศึกษาปี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓
ผลการประเมนิ ความสามารถการอ่าน (RT) ของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑
วชิ า คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ สูง/ตำ่
การอา่ นออกเสยี ง โรงเรยี น ประเทศ +1.86
การอ่านรเู้ รอื่ ง +19.77
76.00 74.14 +10.80
เฉลยี่
92.00 72.23
84.00 73.20
แผนภูมแิ ท่งเปรยี บเทียบผลคะแนน RT ของโรงเรยี น เขตพน้ื ที่ ต้นสงั กดั ศึกษาธกิ ารจงั หวัด
ศึกษาธิการภาค สงั กดั และประเทศ ของนักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓
เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถการอา่ น (RT)
ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓
รายวชิ า/ปีการศึกษา คะแนนเฉลยี่ ระดับโรงเรยี น
การอา่ นออกเสียง ๒๕๖๒ ๒๕๖๓ ผลการพฒั นา
การอา่ นรเู้ รอื่ ง
คะแนนรวมเฉลย่ี 55.00 76.00 +21.00
70.00 92.00 +22.00
62.50 84.00 +21.50
23
แผนภูมแิ ทง่ เปรยี บเทยี บผลการประเมินความสามารถการอา่ น (RT)
ของนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓
แผนภมู ิแท่งเปรยี บเทียบผลการประเมินความสามารถการอา่ น (RT)
ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓
100
50
0 ๒๕๖๓ ระหวา่ งปีการศึกษา
๒๕๖๒
ปกี ารศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ร้อยละของผลต่าง
การอ่านออกเสียง การอา่ นรเู้ รอื่ ง
ผลการประเมินคณุ ภาพทางการศกึ ษาชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒, ๔, ๕ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓
กลุม่ สาระการเรยี นรู้/รายวิชา
ระดับช้ัน คณติ ศาสตร์ ภาษาไทย วทิ ยาศาสตร์
ป.๒ คะแนน ระดบั คะแนน ระดับ คะแนน ระดับ
ป.๔
ป.๕ ๔๔.๐๐ ปรบั ปรงุ ๕๕.๐๐ พอใช้ --
๓๖.๖๗ ปรบั ปรงุ ๓๒.๘๖ ปรบั ปรงุ ๒๑.๖๗ ปรบั ปรงุ
๕๕.๓๓ พอใช้ ๕๕.๗๑ พอใช้ ๕๘.๕๗ พอใช้
หมายเหตุ
ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ผลการประเมินวิชาภาษาไทย อยู่ระดับ พอใช้ และวิชาคณิตศาสตร์ อยู่
ระดับปรับปรงุ โรงเรียนจำเปน็ ที่จะตอ้ งพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้ดยี ิ่งขึ้นต่อไป
ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ ผลการประเมินทุกวิชา อยู่ในระดับ ปรับปรงุ โรงเรียนจึงจำเป็นที่จะตอ้ ง
พัฒนาการจัดการเรยี นการสอนให้ดียิง่ ขน้ึ ต่อไป
ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ผลการประเมินทุกวิชา อยู่ในระดับ พอใช้ โรงเรียนจึงจำเป็นที่จะต้อง
พัฒนาการจดั การเรียนการสอนให้ดยี ิง่ ขน้ึ ตอ่ ไป
24
ผลการประเมินคณุ ภาพการศึกษา (SAR)
โรงเรยี นบา้ นทุ่งเฟอ้ื (เอมสะอาดอำนวย) มผี ลการประเมินคณุ ภาพการศกึ ษา (SAR) ประเมิน
ตนเอง แยกเป็นระดบั ปฐมวัยและข้ันพนื้ ฐาน ดังน้ี
มาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษาระดบั ปฐมวัย
มาตรฐานที่ ๑ เดก็ มพี ฒั นาการดา้ นรา่ งกาย
ท่ี ตวั บ่งชี้ จำนวน จำนวน รอ้ ยละ/ระดับ ระดับ แปลคณุ ภาพ
นกั เรยี นท่ี นักเรียน ทไ่ี ด้ คณุ ภาพ
๑ มีพฒั นาการดา้ นร่างกายแขง็ แรง มสี ขุ นสิ ยั ทด่ี ี อยู่ในระดับ ท้ังหมด ดเี ลศิ
และดแู ลความปลอดภยั ของตนเองได้ ๓ ข้นึ ไป ดี
๕ ๘๐.๐๐ 4 ดเี ลศิ
๒ 2.มีพัฒนาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ควบคมุ และ ๔ ดี
แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ ๕ ๖๐.๐๐ ๓
๓
๓ 3.มพี ฒั นาการด้านสงั คม ช่วยเหลือตนเองและ ๕ ๘๐.๐๐ 4
เปน็ สมาชิกทด่ี ขี องสังคม ๔
๕ ๖๐.๐๐ ๓
๔ 4. มีพัฒนาการด้านสตปิ ัญญา สือ่ สารได้ มี ๓
ทักษะการคดิ พนื้ ฐานและแสวงหาความรูไ้ ด้ ๗๐.๐๐
เฉล่ียรอ้ ยละ ๓
สรุประดบั คณุ ภาพมาตรฐาน ดี
แปลระดบั คุณภาพ
25
มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการบริหารและการจดั การ
จำนวนนักเรียน จำนวน รอ้ ยละ/ระดบั ระดบั แปลคณุ ภาพ
ท่ี ตัวบ่งช้ี ทอ่ี ยใู่ นระดับ ๓ นกั เรยี น ทีไ่ ด้ คุณภาพ
ทั้งหมด ดีเลศิ
ข้นึ ไป ๔ ดี
3 ดีเลศิ
๑ มหี ลักสตู รครอบคลุมพฒั นาการทง้ั 4 ๔ ดี
ดานสอดคลองกับบรบิ ทของทองถ่นิ
3 ดี
๒ จดั ครูใหพยี งพอกบั ชน้ั เรยี น
๓ สงเสริมใหครูมคี วามเชย่ี วชาญดานการจัด 3 ดี
ประสบการณ์ 3
๔ จดั สภาพแวดลอมและส่อื เพื่อการเรยี นรู 3.๓๓
อยางปลอดภยั และเพียงพอ 3
5 ใหบริการส่อื เทคโนโลยีสารสนเทศและสอื่ การ ดี
เรยี นรเู พื่อสนับสนุนการจดั ประสบ
การณสาํ หรบั ครู
6 มีระบบบริหารคณุ ภาพทเี่ ปดิ โอกาสให้
ผู้เกีย่ วข้องทกุ ฝา่ ยมสี ่วนร่วม
เฉล่ยี ร้อยละ
สรุประดับคุณภาพมาตรฐาน
แปลระดบั คุณภาพ
มาตรฐานท่ี ๓ การจดั ประสบการณท์ ่ีเน้นเดก็ เป็นสำคญั
ท่ี ตัวบ่งช้ี จำนวนครูท่ีอยู่ จำนวน รอ้ ยละ/ระดบั ระดับ แปลคุณภาพ
ในระดับ ๓ ข้นึ ครู ที่ได้ คุณภาพ
ไป ท้ังหมด
๑ จัดประสบการณ์ทส่ี ง่ เสรมิ ให้เด็กมี ๑ ๑ 100.๐๐ ๓ ดี
พฒั นาการทุกดา้ นอยา่ งสมดลุ เตม็ ศักยภาพ
๒ สรา้ งโอกาสใหเ้ ดก็ ได้รับประสบการณต์ รง ๑ ๑ 100.๐๐ ๓ ดี
เลน่ และปฏบิ ัติอยา่ งมคี วามสขุ
๓ จัดบรรยากาศทเ่ี ออ้ื ต่อการเรียนรู้ ใช้สอื่ และ ๑ ๑ 100.๐๐ ๓ ดี
เทคโนโลยที เ่ี หมาะสมกบั วัย
๔ ประเมนิ พฒั นาการเดก็ ตามสภาพจริง และ
นำผลการประเมนิ พฒั นาการเด็กไปปรบั ปรงุ ๑ ๑ 100.๐๐ ๓ ดี
การจดั ประสบการณแ์ ละพฒั นาเดก็
เฉลยี่ รอ้ ยละ 100.๐๐
สรุประดบั คณุ ภาพมาตรฐาน ๓
แปลระดบั คุณภาพ ดี
26
มาตรฐานการศกึ ษาระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานที่ ๑ คณุ ภาพผูเ้ รยี น
ตวั บ่งชท้ี ่ี 1 ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน
ท่ี ตัวบง่ ช้ี จำนวนนกั เรียน จำนวน รอ้ ยละ/ ระดบั แปล
ทอี่ ยูใ่ นระดบั ๓ นักเรียน ระดับ คณุ ภาพ คณุ ภาพ
ขน้ึ ไป ท้ังหมด ท่ไี ด้
๑ มคี วามสามารถในการอา่ น การเขยี น การ ๑๓ ๑๘ ๗๒.๒๒ ๓ ดี
สื่อสาร และการคิดคำนวณ ๑๓ ๑๘ ๗๒.๒๒ ๓ ดี
๑๓ ๑๘ ๗๒.๒๒ ๓ ดี
๒ มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คดิ อย่าง
มีวจิ ารณญาณ อภปิ รายแลกเปลีย่ นความคดิ
และแก้ปญั หา
๓ มีความสามารถในการสร้างนวตั กรรม
๔ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและ ๑๓ ๑๘ ๗๒.๒๒ ๓ ดี
การส่ือสาร
๑๓ ๑๘ ๗๒.๒๒ ๓ ดี
5 มผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลักสตู ร 1๕ ๔ ดีเลศิ
สถานศึกษา ๑๘ ๘๓.๓๓
6 มคี วามรู้ทักษะพ้ืนฐาน และเจตคตทิ ีด่ ตี ่องานอาชีพ ๗๔.๐๗
๓
เฉลี่ยร้อยละ ดี
สรปุ ระดับคณุ ภาพมาตรฐาน
แปลระดบั คุณภาพ
ตัวบง่ ชที้ ี่ 2 คณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผเู้ รยี น
ที่ ตวั บ่งชี้ จำนวนนักเรียน จำนวน รอ้ ยละ/ ระดับ แปล
ท่อี ยู่ในระดบั ๓ นักเรยี น ระดบั คุณภาพ คุณภาพ
๑ มคี ุณลกั ษณะและคา่ นิยมทดี่ ตี ามสถานศึกษา
กำหนด ขึน้ ไป ทั้งหมด ทีไ่ ด้
๒ มคี วามภูมใิ จในทอ้ งถิ่นและความเปน็ ไทย 1๕ ๑๘ ๘๓.๓๓ ๔ ดีเลศิ
๓ ยอมรบั ทจ่ี ะอยู่ร่วมกนั บนความแตกตา่ งและ
1๘ ๑๘ ๑๐๐.๐๐ ๕ ยอดเย่ียม
หลากหลาย
๔ มีสขุ ภาวะทางร่างกาย และสงั คม 1๕ ๑๘ ๘๓.๓๓ ๔ ดีเลศิ
เฉลี่ยร้อยละ 1๕ ๑๘ ๘๓.๓๓ ๔ ดเี ลศิ
สรปุ ระดับคุณภาพมาตรฐาน
๘๗.๕๐
แปลระดบั คุณภาพ ๔
ดีเลิศ
27
มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ จำนวน รอ้ ยละ/ ระดบั แปล
นกั เรยี น/ครู ระดับ คุณภาพ คุณภาพ
จำนวนนกั เรียน/ ท่ไี ด้
ท่ี ตัวบ่งช้ี ครทู อ่ี ยใู่ นระดบั ทั้งหมด ๔ ดีเลศิ
3 ดี
๓ ขน้ึ ไป ดเี ลศิ
๔
๑ มเี ปา้ หมายวสิ ยั ทศั นแ์ ละพันธกิจท่ี ดี
สถานศึกษากำหนดชัดเจน 3 ดี
ดี
๒ มีระบบบรหิ ารจัดการคณุ ภาพของสถานศกึ ษา 3
๓ ดำเนินงานพัฒนางานวิชาการทเี่ นน้
3
คุณภาพผเู้ รียนรอบดา้ นตามหลักสูตร
สถานศึกษาและกล่มุ เปา้ หมาย ๓.๓๓
๔ พฒั นาครแู ละบคุ ลากรใหม้ คี วามเช่ียวชาญ 3
ทางวิชาชีพ ดี
5 จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมที่
เอือ้ ต่อการจดั การเรยี นร้อู ย่างมคี ณุ ภาพ
6 จดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื สนบั สนุน
การบริหารจดั การและการจัดการเรียนรู้
เฉลี่ย
สรุประดับคุณภาพมาตรฐาน
แปลระดับคุณภาพ
มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่เี นน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั
จำนวนนักเรียน/ จำนวน รอ้ ยละ/ ระดับ แปล
ระดบั คุณภาพ คุณภาพ
ที่ ตวั บง่ ช้ี ครทู ีอ่ ยู่ในระดับ นักเรียน/ครู ทไ่ี ด้
4 ดเี ลศิ
๓ ข้นึ ไป ท้ังหมด ๘๐.๐๐
4 ดเี ลศิ
๑ จดั การเรยี นรู้ผ่านกระบวนการคดิ และ ๔ ๕ ๘๐.๐๐ 4 ดเี ลศิ
ปฏบิ ตั จิ ริงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ ๘๐.๐๐ 4 ดี
๖๐.๐๐
๒ ใชส้ ่ือเทคโนโลยีสารสนเทศและแหลง่ ๔๕ 5 ดี
เรยี นรทู้ ีเ่ ออื้ ตอ่ การเรยี นรู้ ๖๐.๐๐
๓ มกี ารบริหารจดั การชั้นเรยี นเชงิ บวก ๔๕ ๗๒.๐๐
๓
๔ ตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รียนอยา่ งเป็น ๓ ๕ ดี
ระบบและนำผลมาพฒั นาผู้เรยี น
5 มีการแลกเปลย่ี นเรียนรแู้ ละให้ข้อมลู สะท้อน
กลบั เพอื่ พฒั นาและปรบั ปรงุ การจดั การ ๓ ๕
เรียนรูท้ เี่ หมาะสมกบั สภาพของสถานศกึ ษา
เฉล่ีย
สรปุ ระดับคุณภาพมาตรฐาน
แปลระดบั คุณภาพ
28
ผลการประเมนิ คณุ ภาพภายนอกรอบสาม
ระดับการศกึ ษาปฐมวัย
มาตรฐานการศึกษาระดบั ปฐมวยั ปรบั ปรุง ระดบั คุณภาพ ดมี าก
เพ่อื การประเมนิ คุณภาพภายนอก พอใช้ ดี ๗๗.๒๐
๘๗.๒๐
กลุ่มตวั บง่ ชพ้ี ืน้ ฐาน ๗๒.๒๐
๗๒.๒๐ ๗๘.๒๐
มาตรฐานท่ี ๑ เดก็ มพี ฒั นาการดา้ นร่างกายสมวัย ๘๖.๕๐
มาตรฐานที่ ๒ เด็กมพี ัฒนาการด้านอารมณแ์ ละจติ ใจสมวัย ๖๖.๒๐ ๘๒.๔๐
๗๐.๐๐ ๘๐.๒๐
มาตรฐานท่ี ๓ เดก็ มพี ฒั นาการด้านสงั คมสมวยั ๗๙.๘๐
มาตรฐานท่ี ๔ เด็กมพี ัฒนาการด้านสตปิ ญั ญาสมวัย ๗๘.๐๐
มาตรฐานท่ี ๕ เด็กมีความพร้อมศกึ ษาต่อในขน้ั ต่อไป
มาตรฐานท่ี ๖ ประสทิ ธิผลการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ทเี่ นน้
เด็กเป็นสำคญั
มาตรฐานท่ี ๗ ประสทิ ธภิ าพของการบรหิ ารจัดการและการ
พัฒนาสถานศึกษา
มาตรฐานที่ ๘ ประสทิ ธิผลของระบบการประกนั คุณภาพภายใน
กลมุ่ ตวั บง่ ชอ้ี ตั ลักษณ์
มาตรฐานท่ี ๙ ผลการพัฒนาใหบ้ รรลุตามปรชั ญา ปณิธาน/
วสิ ยั ทศั น์ พันธกจิ และวัตถปุ ระสงคข์ องการจัดต้ังสถานศกึ ษา
มาตรฐานท่ี ๑๐ ผลการพัฒนาตามจดุ เน้นและจดุ เด่นทส่ี ง่ ผล
สะทอ้ นเปน็ อัตลกั ษณ์ของสถานศกึ ษา
กลุม่ ตวั บ่งช้ีมาตรการส่งเสรมิ
มาตรฐานที่ ๑๑ ผลการดำเนนิ งานโครงการพเิ ศษเพื่อส่งเสรมิ
บทบาทของสถานศึกษา
มาตรฐานท่ี ๑๒ ผลการส่งเสรมิ พัฒนาสถานศกึ ษาเพ่อื ยกระดับ
มาตรฐาน รกั ษามาตรฐานและพฒั นาส่คู วามเป็นเลศิ ท่ีสอดคลอ้ ง
กบั แนวทางการปฏริ ปู การศึกษา
โรงเรียนมีผลการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดีมาก โดยมคี า่ เฉลีย่ ๙๐.๐๐
ผลการรบั รองมาตรฐานคณุ ภาพ รบั รอง ไม่รบั รอง
29
ระดับการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน
มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน ระดับคณุ ภาพ ดมี าก
เพ่ือการประเมนิ คุณภาพภายนอก ปรับปรงุ พอใช้ ดี
กลุ่มตวั บง่ ชี้พ้ืนฐาน ๘๒.๘๐
มาตรฐานที่ ๑ ผเู้ รยี นมสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตทีด่ ี
มาตรฐานที่ ๒ ผเู้ รยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นิยมท่พี งึ ๙๑.๖๐
ประสงค์
๖๙.๘๐
มาตรฐานท่ี ๓ ผเู้ รียนมีความใฝ่รู้ และเรยี นรูอ้ ย่างต่อเน่อื ง ๖๐.๒๐
๖๗.๘๐
มาตรฐานที่ ๔ ผเู้ รยี นคดิ เป็น ทำเปน็
มาตรฐานที่ ๕ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นของผู้เรียน ๘๗.๒๐
มาตรฐานท่ี ๖ ประสทิ ธผิ ลของการจดั การเรยี นการสอนท่ีเนน้ ๙๐.๐๐
ผูเ้ รยี นเป็นสำคัญ
๘๘.๐๐
มาตรฐานท่ี ๗ ประสทิ ธิภาพของการบรหิ ารจดั การและการ
พฒั นาสถานศึกษา ๘๕.๐๐
มาตรฐานท่ี ๘ พฒั นาการของการประกันคณุ ภาพภายในโดย ๘๗.๐๐
สถานศกึ ษาและต้นสงั กดั
กลุ่มตวั บ่งชีอ้ ัตลักษณ์ ๘๕.๐๐
มาตรฐานที่ ๙ ผลการพฒั นาใหบ้ รรลตุ ามปรัชญา ปณิธาน/ ๘๗.๕๐
วสิ ยั ทัศน์ พันธกจิ และวัตถุประสงคข์ องการจดั ต้งั สถานศกึ ษา
มาตรฐานที่ ๑๐ ผลการพฒั นาตามจุดเนน้ และจดุ เดน่ ทสี่ ง่ ผล
สะทอ้ นเปน็ อตั ลักษณ์ของสถานศกึ ษา
กลุ่มตัวบ่งชม้ี าตรการสง่ เสรมิ
มาตรฐานท่ี ๑๑ ผลการดำเนนิ งานโครงการพเิ ศษเพ่ือส่งเสรมิ
บทบาทของสถานศกึ ษา
มาตรฐานท่ี ๑๒ ผลการสง่ เสรมิ พฒั นาสถานศึกษาเพอ่ื ยกระดับ
มาตรฐาน รักษามาตรฐานและพัฒนาสคู่ วามเปน็ เลิศท่สี อดคลอ้ ง
กับแนวทางการปฏิรปู การศกึ ษา
โรงเรียนมีผลการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดมี าก โดยมคี า่ เฉล่ยี ๙๐.๘๕
ผลการรบั รองมาตรฐานคณุ ภาพ รบั รอง ไมร่ บั รอง
30
ข้อเสนอแนะจากผลการประเมินคณุ ภาพภายในและภายนอก
จุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาและข้อเสนอแนะจากการติดตามตรวจสอบคุณภาพภายในของ
สถานศึกษาโดยสถานศกึ ษาหรือหน่วยงานต้นสังกัด
ระดับปฐมวยั
ดา้ นผเู้ รียน
ผู้เรยี นระดับปฐมวัย ควรได้รับการส่งเสรมิ การจัดประสบการณ์ฝกึ ทกั ษะความสามารถในการ
คดิ วเิ คราะห์ คิดแกป้ ญั หา และคิดรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ โดยครจู ัดมมุ การเรยี นรู้ เพม่ิ สอื่ อปุ กรณ์การเรียนรู้ในช้ัน
เรียนให้มีความพอเพียงต่อความสนใจของผู้เรียนและเอื้อต่อการเรียนรู้ จัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วย
กิจกรรมที่หลากหลาย ตามแผนการจดั ประสบการณ์และตารางกิจกรรมประจำชั้นให้ผูเ้ รียนได้ทำกิจกรรม
หมนุ เวยี นเปลี่ยนชดุ จากมมุ การเรยี นรู้ จัดกิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์โดยนำนกั เรียนออกไปสงั เกต สำรวจ
สื่อธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมภายนอก บูรณาการสู่กิจกรรมสร้างสรรค์ ศิลปะ การปั้น การวาด ระบายสี
เลียนแบบธรรมชาติ
ผู้เรยี นระดบั ประถมศึกษา ควรได้รับการพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์
มีวิจารณญาณ คิดไตร่ตรองและมีวิสัยทัศน์ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ฝึกคิดฝึกทดลอง
วเิ คราะห์ปัญหาตามแนวทางวทิ ยาศาสตร์ บูรณาการชิน้ งานในทุกกลุม่ สาระเรยี นรเู้ กยี่ วกบั สิง่ แวดลอ้ ม ท้งั ท่ี
เป็นสภาพปัญหา และศึกษาการพฒั นาการในสถานศกึ ษาและชุมชน โดยครูส่งเสรมิ ส่ืออุปกรณ์ ใบความรู้
ใบงาน แบบโครงงาน แบบประเมนิ กิจกรรมดว้ ยตนเอง โดยเพื่อน ผู้ปกครอง และครูมีส่วนร่วมและสะสม
ผลงานด้วย แฟ้มสะสมงานไว้ประเมินผลพัฒนาการเรียนรูด้ ้วยตนเองโดยการจัดกิจกรรมโครงการต่าง ๆ
อย่างจรงิ จงั จากแหล่งเรียนรู้ท้ังในและนอกสถานศึกษา ได้รับการพฒั นายอย่างเป็นระบบและต่อเน่ือง
ดา้ นครู
ครูปฐมวัยควรใชค้ วามรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนจดั กจิ กรรมและประสบการณ์
การเรยี นรแู้ กผ่ ูเ้ รยี นโดยใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนการเรียนรูแ้ ละตารางกิจกรรมประจำวันอย่าง
มีประสิทธิภาพและเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ วัดผล ประเมินผลพัฒนาการผู้เรียนและนำมาปรับปรุงปัญหา
กจิ กรรมพฒั นาประสบการณ์แกผ่ เู้ รียนใหเ้ ตม็ ศักยภาพ
ครูผู้สอนระดับประถมศึกษา ควรวิเคราะห์หลักสูตรจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการ
สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ให้ทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความสนใจของผู้เรียน ด้วยสาระ
การเรยี นรู้ ท่ีหลากหลายใช้สอื่ เทคโนโลยีพฒั นาการเรยี นการสอน วดั ผล ประเมินผลอยา่ งเปน็ ระบบ พร้อม
ทำวจิ ยั ในชนั้ เรียนเพอ่ื นำผลมาพัฒนาสอ่ื และผเู้ รยี นให้เต็มศกั ยภาพ ดำเนนิ การอย่างต่อเนอ่ื ง
ด้านผบู้ รหิ าร
ผบู้ รหิ ารควรส่งเสริมใหค้ รูมาจดั สภาพแวดล้อมในช้ันเรียนระดบั ปฐมวัย ให้มีมุมการเรียนรู้ท่ีมี
สอ่ื อปุ กรณ์การเรียนรทู้ ่หี ลากหลายและเอ้ือตอ่ การเรยี นรู้ พฒั นาสนามเด็กเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนามให้มเี พยี งพอ
และอยู่ในสภาพใช้การได้ดี จัดทำสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ส่งเสริมให้ครจู ัดกิจกรรม
สง่ เสรมิ คุณภาพผู้เรยี นอย่างหลากหลายโดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั
31
ผู้บริหารควรพัฒนาห้องแหล่งเรียนรู้ ห้องปฏิบัติการต่าง ๆ ให้มีสื่ออุปกรณ์พร้อมใช้ท้ัง
ห้องปฏิบตั กิ ารภาษาองั กฤษ ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องสมุด ปรบั ปรุงพฒั นาให้มีหนังสอื เพียงพอ น่าสนใจและยืม
ใช้บรกิ ารจดั กจิ กรรมโครงการต่าง ๆ ส่งเสรมิ การพฒั นาผ้เู รยี นให้เกิดประสิทธภิ าพสูงสดุ ผู้บริหารนิเทศ กำกับ
ติดตามการปฏิบัติการจัดการสอนของครูอย่างเป็นระบบเพื่อให้งานสอน กิจกรรม โครงการต่าง ๆ บรรลุ
เป้าหมาย ตามกลยุทธ์และแผนการท่กี ำหนดไว้ ควรดำเนินการใหไ้ ด้คณุ ภาพมาตรฐานในภาพรวม ภายใน ๒ ปี
จดุ เดน่ จดุ ทีค่ วรพฒั นาและขอ้ เสนอแนะจากการประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบสาม
จดุ เดน่
ด้านการศกึ ษา
๑. ผู้เรียนมสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ท่ีดี มีนำ้ หนกั ส่วนสูง และสมรรถภาพทางกายตาม
เกณฑ์ รวมทั้งรู้จักดูแลตนเองให้มีความปลอดภัย ปลอดภัยจากปัญหาทางเพศและ
ยาเสพตดิ เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งด้านศิลปะ ดนตรีนาฏศิลป์ และนันทนาการทั้งในและ
นอกสถานศกึ ษา
๒. ผเู้ รยี นมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นยิ มทพี่ ึงประสงค์ มคี วามเออื้ อาทรต่อผู้อื่น กตัญญู
กตเวทีต่อบุพการีและผู้มพี ระคณุ มีความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติตรงตามความเปน็ จรงิ
ทั้งทางกาย วาจา ใจ และยึดหลักความจริง ความถูกต้องในการดำเนนิ ชีวิต มีความ
ละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำความผิดยอมรับความคิดเห็นและวัฒนธรรมท่ี
แตกต่าง เพ่อื การอยู่รว่ มกันอยา่ งมคี วามสุข
๓. ผู้เรียนมีผลทดสอบระดับชาติในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา สุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับดีมาก ใน
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖
๔. สถานศึกษาประสบผลสำเรจ็ ในการพัฒนาคุณภาพเด็กตามวิสัยทศั น์ของสถานศกึ ษา
และประสบความสำเร็จในการดำเนินงานตามจุดเน้น จุดเด่นของสถานศึกษาจน
สะท้อนเปน็ เอกลักษณ์ของสถานศกึ ษา
๕. สถานศึกษาประสบผลสำเรจ็ ในการดำเนนิ การเพื่อแกไ้ ขพฤติกรรมทไ่ี ม่พงึ ประสงค์ของ
ผู้เรียน
ด้านการบรหิ ารจดั การ
๑. ผบู้ ริหารมกี ารวางแผนงานวชิ าการ งบประมาณ บุคลากรและงานบรหิ ารท่วั ไป เช่น การ
รวบรวมข้อมูล และจัดทำแนวปฏิบัติ การทำแผนงาน โครงการรองรับการพัฒนาแต่ละ
ดา้ นอยา่ งครบถ้วนสมบรู ณ์ จัดให้มกี ารดำเนินงานอยา่ งเปน็ ระบบครบวงจรคุณภาพ
๒. ผู้บรหิ ารบริหารจัดการศกึ ษาใหบ้ รรลเุ ป้าหมายตามทก่ี ำหนดไว้ในแผนปฏบิ ัติการ โดย
ใหผ้ ู้เกยี่ วข้องทกุ ฝ่ายมีสว่ นร่วมในการกำหนดเป้าหมายและรว่ มรับผิดชอบดำเนินงาน
ตามบทบาทหนา้ ที่
๓. ผู้บริหารมีแผนงาน โครงการหรือกิจกรรมพัฒนาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาให้มี
ความรู้ความเข้าใจ มีความสามารถและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพ
การศกึ ษาครอบคลมุ ทั้ง ๔ ดา้ น
32
ดา้ นการจัดการเรยี นการสอนท่เี นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ
๑. ครมู ีการศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกีย่ วกับการวจิ ัยทางการศึกษา มีการวจิ ัยในช้ัน
เรียนเพอื่ แก้ปญั หาและพัฒนาผเู้ รยี นในกลุ่มสาระการเรียนรทู้ ตี่ นรบั ผิดชอบ มีการนำ
ผลการวิจัยไปใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของครู รวมทั้งพัฒนาการเรียนรู้ของ
ผเู้ รียนอย่างตอ่ เนื่อง
๒. ครูใช้ส่อื และเทคโนโลยที ี่เหมาะสม มีการวิจยั เพือ่ พัฒนาสือ่ การเรียนรอู้ ยา่ งต่อเน่อื ง มี
การนำภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ และเทคโนโลยีต่าง ๆ มาประยุกตใ์ ช้ในการจัดการเรียนการ
สอนอยู่เสมอ
๓. ครูจัดการเรียนการสอนตามวิชาที่ไดร้ ับมอบหมายเต็มเวลา เต็มความสามารถ และ
อุทิศตนทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติงานสอนตามกลุ่มสาระที่ได้รับมอบหมาย
อยา่ งครบถว้ น มงุ่ มนั่ พฒั นาผู้เรยี นใหม้ ีคุณภาพตามหลกั สูตรทีก่ ำหนด
ดา้ นประกันคณุ ภาพภายใน
๑. สถานศึกษามีการดำเนินการติดตามตรวจสอบความก้าวหนา้ ของการปฏิบัตงิ าน มีการ
ประเมินผลการดำเนนิ งานตามมาตรฐานการศึกษาอยา่ งต่อเนือ่ ง นำผลการประเมนิ ไป
จดั ทำรายงานการประเมนิ ตนเอง โดยมีผู้เก่ียวขอ้ งมีสว่ นร่วม
๒. สถานศึกษามกี ารนำผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาทัง้ ภายในและภายนอกไปศกึ ษา
วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อสรุปผลเป็นแนวทางพัฒนาและใช้ในการปรับปรุงพัฒนา
คุณภาพการศึกษา
๓. สถานศึกษามีการจัดทำรายงานผลการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษา
นำเสนอตอ่ คณะกรรมการสถานศึกษาให้ความเห็นชอบกอ่ นนำเสนอต่อสาธารณชน
จดุ ทค่ี วรพฒั นา
ดา้ นผลการจัดการศกึ ษา
๑. ควรให้ผู้เรยี นหาความรูจ้ ากการอ่านและการใชเ้ ทคโนโลยี การทำงานร่วมกันเปน็ กลุ่ม
ดา้ นการบรหิ ารจดั การ
๑. การบรหิ ารงานวิชาการ
๒. การประชุมคณะกรรมการสถานศกึ ษา
ขอ้ เสนอแนะ
ดา้ นผลการจดั การศกึ ษา
๑. ผู้เรียนควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้ค้นคว้าหาความรู้จากการอ่านและใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศผ่านประสบการณ์ตรง ร่วมกับผู้อื่นทั้งในและนอกสถานศึกษา
และส่งเสริมการประกวดในโอกาสต่าง ๆ และจดบันทึกความรู้ที่ได้รับทุกคร้งั เพ่อื ให้
ติดเปน็ นสิ ยั
๒. ผู้เรียนควรได้รับการส่งเสริมให้รู้จักแก้ปัญหาที่เกิดจากการทำงานกลุ่ม โดยครูให้
ความรเู้ กี่ยวกับกระบวนการกลุ่มและดแู ลใหค้ ำแนะนำใหผ้ ู้เรยี นได้ปฏิบัตงิ านกลมุ่ ตาม
กระบวนการกลุ่มอยา่ งแทจ้ ริง
33
ด้านการบรหิ ารจัดการศึกษา
๑. ผู้บริหารควรให้คำแนะนำ คำปรึกษาทางวิชาการทั้งการพัฒนาและการใช้หลักสูตร
สถานศึกษา การจัดการเรยี นรู้ การสร้าง การพัฒนา และการเลือกใช้สื่อการเรยี นรู้
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ การวิจัยเพอ่ื พฒั นาการเรียนรู้แก่ผู้เก่ียวข้องได้เป็น
อย่างดี
๒. ผบู้ รหิ ารควรมีแผนงาน/โครงการ/กจิ กรรม เพอื่ พัฒนาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา
ให้มีความรู้ความเข้าใจ มีความสามารถและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานพัฒนา
คณุ ภาพการจดั การศกึ ษาครอบคลุมทัง้ ๔ ด้าน
สรปุ สภาพปญั หา จดุ เดน่ จุดท่ีควรพฒั นาในการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา
สภาพปญั หา
ด้านผลการจัดการศกึ ษา
๑. ควรให้ผู้เรียนหาความรู้จากการอ่านและการใชเ้ ทคโนโลยี การทำงานร่วมกันเปน็ กลุ่ม
ด้านการบรหิ ารจดั การ
๑. การบริหารงานวชิ าการ
๒. การประชมุ คณะกรรมการสถานศึกษา
จุดเดน่
ดา้ นการศึกษา
๑. ผู้เรยี นมสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตทดี่ ี มนี ้ำหนกั ส่วนสูง และสมรรถภาพทางกายตาม
เกณฑ์ รวมทงั้ รจู้ กั ดแู ลตนเองให้มคี วามปลอดภัย ปลอดภัยจากปญั หาทางเพศและยา
เสพตดิ เขา้ รว่ มกจิ กรรม ท้งั ด้านศลิ ปะ ดนตรีนาฏศิลป์ และนันทนาการทง้ั ในและนอก
สถานศกึ ษา
๒. ผู้เรียนมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นิยมทพี่ ึงประสงค์ มคี วามเอ้ืออาทรต่อผู้อ่ืน กตัญญู
กตเวทีต่อบุพการแี ละผู้มีพระคุณ มีความซื่อสัตย์สจุ ริต ปฏิบัติตรงตามความเปน็ จรงิ
ทั้งทางกาย วาจา ใจ และยึดหลักความจริง ความถูกต้องในการดำเนินชีวิต มีความ
ละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำความผิดยอมรับความคิดเห็นและวัฒนธรรมที่
แตกต่าง เพือ่ การอยู่รว่ มกนั อยา่ งมีความสุข
๓. ผู้เรียนมีผลทดสอบระดับชาติในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ สังคมศกึ ษา สขุ ศกึ ษา ศลิ ปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับดีมาก
ในช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖
๔. สถานศึกษาประสบผลสำเรจ็ ในการพัฒนาคุณภาพเด็กตามวิสัยทศั นข์ องสถานศกึ ษา
และประสบความสำเร็จในการดำเนินงานตามจุดเน้น จุดเด่นของสถานศึกษาจน
สะท้อนเป็นเอกลกั ษณข์ องสถานศึกษา
๕. สถานศึกษาประสบผลสำเรจ็ ในการดำเนนิ การเพอ่ื แกไ้ ขพฤตกิ รรมทไ่ี ม่พึงประสงค์ของ
ผเู้ รยี น
34
ด้านการบรหิ ารจัดการ
๑. ผู้บริหารมกี ารวางแผนงานวชิ าการ งบประมาณ บุคลากรและงานบริหารทวั่ ไป เชน่ การ
รวบรวมข้อมูล และจัดทำแนวปฏบิ ัติ การทำแผนงาน โครงการรองรับการพัฒนาแตล่ ะ
ดา้ นอยา่ งครบถว้ นสมบูรณ์ จดั ใหม้ กี ารดำเนนิ งานอย่างเป็นระบบครบวงจรคุณภาพ
๒. ผบู้ รหิ ารบริหารจดั การศึกษาใหบ้ รรลเุ ป้าหมายตามทก่ี ำหนดไวใ้ นแผนปฏบิ ตั กิ าร โดย
ใหผ้ ูเ้ ก่ยี วขอ้ งทกุ ฝา่ ยมีสว่ นร่วมในการกำหนดเป้าหมายและรว่ มรับผิดชอบดำเนินงาน
ตามบทบาทหน้าที่
๓. ผู้บริหารมแี ผนงาน โครงการหรือกิจกรรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มี
ความรู้ความเข้าใจ มีความสามารถและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาครอบคลุมทั้ง ๔ ดา้ น
ด้านการจดั การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
๑. ครมู กี ารศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรเู้ กี่ยวกบั การวิจยั ทางการศกึ ษา มกี ารวจิ ัยในชัน้
เรยี นเพอ่ื แก้ปัญหาและพัฒนาผ้เู รยี นในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ท่ีตนรับผดิ ชอบ มีการนำ
ผลการวิจัยไปใช้ในการพัฒนาการจัดการเรยี นรู้ของครู รวมทั้งพฒั นาการเรียนรู้ของ
ผู้เรียนอย่างตอ่ เน่อื ง
๒. ครูใช้ส่ือและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม มีการวิจัยเพือ่ พัฒนาสื่อการเรียนรู้อย่างต่อเนือ่ ง มี
การนำภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ และเทคโนโลยตี ่าง ๆ มาประยุกตใ์ ช้ในการจดั การเรยี นการสอน
อย่เู สมอ
๓. ครูจัดการเรียนการสอนตามวิชาที่ไดร้ ับมอบหมายเต็มเวลา เต็มความสามารถ และ
อุทิศตนทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติงานสอนตามกลุ่มสาระที่ได้รับมอบหมาย
อย่างครบถว้ น มุง่ มัน่ พฒั นาผเู้ รียนให้มีคณุ ภาพตามหลกั สูตรท่กี ำหนด
ดา้ นประกันคณุ ภาพภายใน
๑. สถานศึกษามกี ารดำเนนิ การตดิ ตามตรวจสอบความกา้ วหน้าของการปฏิบตั งิ าน มีการ
ประเมินผลการดำเนนิ งานตามมาตรฐานการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง นำผลการประเมนิ ไป
จดั ทำรายงานการประเมนิ ตนเอง โดยมผี เู้ กย่ี วขอ้ งมสี ่วนรว่ ม
๒. สถานศกึ ษามกี ารนำผลการประเมินคุณภาพการศึกษาทั้งภายในและภายนอกไปศึกษา
วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อสรุปผลเป็นแนวทางพัฒนาและใช้ในการปรับปรุงพัฒนา
คณุ ภาพการศึกษา
๓. สถานศึกษามีการจัดทำรายงานผลการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษา
นำเสนอต่อคณะกรรมการสถานศกึ ษาใหค้ วามเหน็ ชอบกอ่ นนำเสนอตอ่ สาธารณชน
จดุ ที่ควรพฒั นา
ดา้ นผลการจัดการศกึ ษา
๑. ควรให้ผู้เรยี นหาความรูจ้ ากการอา่ นและการใชเ้ ทคโนโลยี การทำงานร่วมกันเป็นกล่มุ
ด้านการบริหารจดั การ
๑. การบริหารงานวชิ าการ และการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา
35
ผลงานที่ประสบผลสำเร็จ
๑. สถานศึกษาพอเพยี ง ของกระทรวงศกึ ษาธิการ
๒. สถานศึกษาปลอดภยั ดเี ด่น ประจำปี ๒๕๖๒ ปที ี่ ๒ ติดต่อกัน ของกระทรวงแรงงาน
๓. โรงเรียนขนาดเล็กที่มีผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา
๒๕๖๒ สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม ( DLTV)
รว่ มกับการจัดการเรียนการสอนวิธอี ่นื ๆ ของสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
๔. “สถานศึกษาดีเด่น" ท่มี ีผลการปฏิบตั ิงานได้คะแนนเฉล่ียในการทดสอบทางการศึกษา
ระดบั ชาติข้นั พน้ื ฐาน (O-NET) ช้ันป.๖ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดบั ประเทศ
๕. ครูอนุโรจน์ คุ้มเสาร์ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อฯ ได้รับรางวัล
"ผู้บริหารสถานศึกษาดีเด่น" ที่มีผลการปฏิบัติงาน ได้คะแนนเฉลี่ยในการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ
ขั้นพ้นื ฐาน (O-Net) ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ สูงกวา่ คะแนนเฉลย่ี ระดบั ประเทศ
๕. ครูนาถธิดา เจริญสุข ได้รับรางวลั "ครูผู้สอนดีเด่น" กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
และกลุ่มสาะการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ( O-NET)
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
36
นโยบายสำคัญท่ีเกีย่ วข้อง
โรงเรียนบ้านทุ่งเฟื้อ (เอมสะอาดอำนวย) ได้ศึกษานโยบายสำคัญที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณฯ
พระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หวั ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) แผนแมบ่ ทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี
(พ.ศ. 2561-2580) แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา นโยบายรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) แผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 นโยบายและจดุ เน้น
ของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 นโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการของ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวตรีนุช เทียนทอง) นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565 แผนพัฒนาจังหวัดเพชรบุรี (พ.ศ.๒๕๖๑-๒๕๖๕) และ
จุดเนน้ ของสำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบรุ ี เขต ๑ ดงั น้ี
1. พระบรมราโชบาย ของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสนิ ทร มหาวชริ าลงกรณฯ
พระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หัว ด้านการศกึ ษา
1. มที ศั นคตทิ ี่ดแี ละถูกตอ้ ง
- มีความรคู้ วามเข้าใจตอ่ ชาติบ้านเมือง
- ยึดมนั่ ในศาสนา
- มั่นคงในสถาบนั พระมหากษัตริย์
- มีความเออ้ื อาทรต่อครอบครวั และชมุ ชนของตน
2. มีพ้นื ฐานชีวติ ท่มี ั่นคงเขม้ แขง็
- รจู้ กั แยกแยะสง่ิ ท่ีผิด-ชอบ/ชว่ั -ดี
- ปฏิบตั สิ ง่ิ ท่ชี อบ สิ่งทดี่ งี าม
- ปฏิเสธสิ่งทผี่ ดิ สงิ่ ท่ชี ว่ั
- ชว่ ยกันสรา้ งคนดใี ห้แกบ่ ้านเมือง
3. มีงานทำ มอี าชพี
- เลี้ยงดูลูกหลานในครอบครัว หรือการฝึกฝนอบรมในสถานศึกษาต้องมุ่งให้เด็กและ
เยาวชนรกั งาน สงู้ าน ทำจนงานสำเร็จ
- การฝึกฝนอบรมทั้งในหลกั สูตรและนอกหลักสูตร ต้องมีจุดมุ่งหมายใหผ้ ู้เรียนทำงาน
และมีงานทำในที่สดุ
- ตอ้ งสนับสนนุ ผ้สู ำเร็จหลักสตู รมีอาชพี มงี านทำ จนสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครวั ได้
4. เป็นพลเมอื งดีมีระเบยี บวินัย
- การเปน็ พลเมอื งดี เป็นหนา้ ที่ของทุกคน
- ครอบครวั สถานศึกษา และสถานประกอบการ ตอ้ งสง่ เสรมิ ใหท้ ุกคนมโี อกาสทำหนา้ ที่
พลเมอื งดี
- การเป็นผลเมืองดี คอื “เหน็ อะไรทีจ่ ะทำเพือ่ บ้านเมอื งได้กต็ อ้ งทำ เชน่ งานอาสาสมัคร
งานบำเพญ็ ประโยชน์ งานสาธารณกศุ ล ให้ทำด้วยความมีนำ้ ใจและเอ้ืออาทร”
37
2. ยทุ ธศาสตรช์ าติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)
ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) มีวิสยั ทศั น์ ยทุ ธศาสตรแ์ ละเปา้ หมายการพัฒนา คือ
วิสัยทัศน์
“ประเทศไทยมคี วามม่ันคง มัง่ คัง่ ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ดว้ ยการพัฒนาตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพยี ง” หรอื เป็นคติพจนป์ ระจำชาตวิ า่ “ม่นั คง ม่งั ค่งั ยั่งยนื ”
ยทุ ธศาสตร์
1. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นความมัน่ คง
2. ยุทธศาสตรด์ ้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
3. ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพคน
4. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการสรา้ งโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสงั คม
5. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคณุ ภาพชวี ิตทีเ่ ปน็ มติ รกับสง่ิ แวดลอ้ ม
6. ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดลุ และพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภาครฐั
เป้าหมาย
1. ยุทธศาสตร์ด้านความมน่ั คง มีเปา้ หมายดงั นี้
1.1 การรกั ษาความสงบภายในประเทศ
1.2 การพัฒนาศักยภาพในการป้องกันประเทศพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทั้งทางทหาร และ
ภัยคุกคามอน่ื ๆ
1.3 บูรณาการความรว่ มมือกบั ต่างประเทศที่เอื้อให้เกิดความมั่นคงความมั่งคั่งทางเศรษฐกจิ
ป้องกันภัยคกุ คามข้ามชาติ และคณุ ภาพชวี ติ ของคนในชาติ
1.4 การรักษาความม่นั คงและผลประโยชน์ทางทรัพยากรธรรมชาตแิ ละทางทะเล
1.5 การบริหารจัดการความมั่นคงให้สอดคล้องกันแผนงานพัฒนาอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือ
ประชาชนและรว่ มพฒั นาประเทศ
2. ยทุ ธศาสตร์ด้านการสรา้ งความสามารถในการแข่งขนั มเี ปา้ หมายดงั นี้
2.1 การพัฒนาภาคการผลิตและบรกิ าร
2.2 การพัฒนาสังคมผ้ปู ระกอบการ (Entrepreneurial Society) เพ่อื สร้างผปู้ ระกอบการทางธรุ กิจ
2.3 การพฒั นาปจั จยั สนับสนุนและการพฒั นาโครงสรา้ งพื้นฐานเพอ่ื เพิม่ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั
2.4 การวางรากฐานท่แี ขง็ แกร่งเพ่อื สนับสนุนการเพิม่ ขีดความสามารถในการแข่งขัน
3. ยุทธศาสตร์การพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพคน มเี ป้าหมายดงั นี้
3.1 การปรับเปลี่ยนคา่ นิยมและวัฒนธรรม (Transformation of Culture) เพื่อสร้างคนไทย
ทม่ี คี ณุ ภาพ คณุ ธรรม จริยธรรม มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย
3.2 การพัฒนาศกั ยภาพคนตลอดชว่ งชีวติ
3.3 การปฏิรปู การเรยี นรแู้ บบพลกิ โฉม (Transformation of Learning)
3.4 การพฒั นาและรักษากลุ่มผมู้ ีความสามารถพิเศษ (Talents)
3.5 การเสรมิ สร้างใหค้ นไทยมีสุขภาวะท่ีดี
3.6 การสร้างความอยู่ดีมสี ขุ ของครอบครวั ไทย
38
4. ยทุ ธศาสตร์ด้านการสรา้ งโอกาสความเสมอภาคและเทา่ เทยี มกนั ทางสงั คม มเี ป้าหมายดงั น้ี
4.1 การสรา้ งความมนั่ คงทางเศรษฐกจิ และสงั คมรวมทงั้ ความมน่ั คงในชีวติ และทรัพยส์ นิ ของคนทกุ กลมุ่
4.2 การสร้างโอกาสการเขา้ ถึงบริการทางสังคมอย่างทัว่ ถงึ
4.3 การเสรมิ สร้างพลังทางสังคม
4.4 การสรา้ งความสมานฉันท์ในสงั คม
5. ยทุ ธศาสตร์ดา้ นการสร้างการเติบโตบนคณุ ภาพชวี ติ ทีเ่ ปน็ มติ รกบั ส่ิงแวดล้อม มเี ปา้ หมาย
ดงั นี้
5.1 จัดระบบอนรุ กั ษ์ ฟื้นฟูและปอ้ งกันการทำลายทรพั ยากรธรรมชาติ
5.2 วางระบบบรหิ ารจดั การน้ำอยา่ งบรู ณาการให้มปี ระสิทธภิ าพใน 25 ลุม่ นำ้ ทง้ั ดา้ นอปุ สงค์
และอปุ ทาน
5.3 พฒั นาและใชพ้ ลงั งานท่เี ป็นมติ รกับสิง่ แวดล้อมในทกุ ภาคเศรษฐกจิ
5.4 พฒั นาเมอื งอุตสาหกรรมเชงิ นเิ วศและเมืองท่เี ป็นมติ รกบั ส่ิงแวดลอ้ ม
5.5 รว่ มลดปัญหาโลกรอ้ นและปรับตวั ใหพ้ ร้อมรับการเปล่ียนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ
5.6 ใชเ้ ครอื่ งมอื ทางเศรษฐศาสตรแ์ ละนโยบายการคลงั เพ่อื สง่ิ แวดล้อม
6. ยทุ ธศาสตร์ด้านการปรับสมดลุ และพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภาครฐั มเี ปา้ หมายดังน้ี
6.1 การวางระบบบรหิ ารงานราชการแบบบรู ณาการ
6.2 การยกระดบั งานบริการประชาชนและการอำนวยความสะดวกของภาครัฐสู่ความเป็นเลิศ
6.3 การปรับปรงุ บทบาท ภารกจิ และโครงสรา้ งของหนว่ ยงานภาครฐั
6.4 การพัฒนาระบบบรหิ ารจัดการกำลงั คนและพฒั นาบคุ ลากรภาครัฐในการปฏบิ ัตริ าชการ
และมีความเป็นมืออาชีพ
6.5 การตอ่ ต้านการทจุ รติ และประพฤตมิ ิชอบ
6.6 การปรับปรงุ แกไ้ ขกฎหมาย ระเบียบ และขอ้ บงั คับใหม้ ีความชัดเจน ทนั สมยั เปน็ ธรรม
และสอดคลอ้ งกับขอ้ บังคับสากลหรือข้อตกลงระหวา่ งประเทศ
39
3. แผนแม่บทภายใต้ยทุ ธศาสตรช์ าติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)
แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เป็นส่วนสำคัญในการถ่ายทอดเป้าหมาย และประเด็น
ยุทธศาสตร์ของยทุ ธศาสตรช์ าตลิ งสแู่ ผนระดับต่าง ๆ ตอ่ ไป ซง่ึ ไดค้ ำนงึ ถึงประเด็นรว่ มหรอื ประเด็นตัดข้าม
ยุทธศาสตร์และการประสานเชื่อมโยงเป้าหมายของแต่ละแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติให้มีความ
สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติจะประกอบด้วย สถานการณ์
และแนวโน้มที่เก่ียวข้องของแผนแม่บท เปา้ หมายและตัวชี้วัดในการดำเนินการซึง่ แบ่งช่วงเวลาออกเป็น ๔
ช่วง ชว่ งละ ๕ ปี รวมทัง้ กำหนดแนวทางการพฒั นา และแผนงาน/โครงการที่สำคัญของแผนแม่บทภายใต้
ยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนา
ประเทศทีก่ ำหนดไวใ้ นยุทธศาสตร์ชาติว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจ
พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยนื ” โดยยกระดับศักยภาพของ
ประเทศในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิตแิ ละในทกุ ช่วงวัยใหเ้ ปน็ คนดี เก่ง มคี ณุ ภาพ สร้างโอกาสและ
ความเสมอภาคทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีภาครัฐของ
ประชาชนเพ่อื ประชาชนและประโยชนส์ ว่ นรวม”แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ มีจำนวนรวม ๒๓ ฉบับ
ประกอบด้วย (๑) ความมั่นคง (๒) การต่างประเทศ (๓) การเกษตร (๔) อุตสาหกรรรมและบริการแห่ง
อนาคต (๕) การท่องเที่ยว (๖) พื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ (๗) โครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และ
ดิจิทัล (๘) ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ (๙) เขตเศรษฐกิจพิเศษ
(๑๐) การปรับเปลี่ยนค่านิยม และวัฒนธรรม (๑๑) ศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต (๑๒) การพัฒนา
การเรียนรู้ (๑๓) การเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี(๑๔) ศักยภาพการกีฬา (๑๕) พลังทางสังคม
(๑๖) เศรษฐกิจฐานราก (๑๗) ความเสมอภาคและหลักประกันทางสังคม (๑๘)การเติบโตอย่าง
ยั่งยืน (๑๙) การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ (๒๐) การบริการประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐ
(๒๑) การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ (๒๒) กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และ
(๒๓) การวจิ ยั และพฒั นานวัตกรรม
3.1 แผนแมบ่ ทภายใตย้ ุทธศาสตรช์ าตทิ งั้ ๒๓ ฉบบั มสี ่วนทีเ่ กีย่ วข้องด้านการศึกษา ดังน้ี
3.1.1 ประเด็นความมัน่ คง
แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ ประเด็นความม่ันคง ถอื เป็นกรอบแนวทางการดำเนนิ การ
หลกั ทจ่ี ะนำไปสู่จดุ หมายปลายทางในภาพรวมที่เปน็ รูปธรรมชัดเจนในระยะ๒๐ปีตามท่ียทุ ธศาสตร์ชาติด้านความ
ม่ันคงกำหนดเอาไวซ้ ง่ึ กค็ ือ “ประเทศชาติม่นั คงประชาชนมีความสขุ ” โดยมเี ป้าหมายสำคญั ประกอบดว้ ย (๑)
ประชาชนอยู่ดี กินดี และมีความสุข (๒) บ้านเมืองมีความม่ันคงในทุกมิติและทกุ ระดับ (๓) กองทพั หน่วยงาน
ด้านความมั่นคง ภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน มีความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความ
มั่นคง (๔) ประเทศไทยมีบทบาทด้านความม่ันคงเปน็ ที่ชืน่ ชมและได้รับการยอมรับ โดยประชาคมระหวา่ ง
ประเทศ และ (๕) การบริหารจดั การความมั่นคงมีผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมอย่างมปี ระสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุ
เป้าหมายดังกลา่ วข้างตน้ จงึ ได้กำหนดสาระสำคัญ จำนวนท้งั ส้นิ ๕ แผนยอ่ ย ไดแ้ ก่
40
1) การรักษาความสงบภายในประเทศ เพื่อสร้างความสงบให้เกิดขึ้นในประเทศชาติ
บ้านเมืองเอื้อต่อการบริหารและพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายที่กำหนด สังคมมีความ
เข้มแขง็ สามัคคี ปรองดอง ประชาชนอย่ดู ี กินดี และมีความสุข โดยมแี นวคิดในการดำเนนิ การท่ีสำคัญ คือ
การสร้างความม่ันคง ปลอดภยั ในชวี ติ และทรพั ยส์ นิ สร้างความรกั ความสามัคคี ความสำนกึ จงรักภักดี และ
ความภาคภูมิใจในชาติให้เกิดขึ้นกับประชาชนทุกหมู่เหล่า ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุขที่มีเสถียรภาพและธรรมาภบิ าล เห็นแก่ประโยชนข์ อง
ประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ตลอดถึงการพัฒนาปรับปรุงกลไกการบริหารจัดการที่มี
ประสิทธิภาพอย่างเปน็ รูปธรรม
2) การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง เพื่อเร่งรัด
ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างจริงจังให้หมดไปในที่สุด (ภายใน ๑๐ ปี)
พรอ้ มทงั้ พัฒนากลไกเฝ้าระวงั แจ้งเตือน ปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาดา้ นความมนั่ คงทอ่ี าจจะเกดิ ขึ้นใหม่อย่าง
เป็นรูปธรรม รวมถึงพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขต
และเขตทีป่ ระเทศไทยมสี ทิ ธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชนข์ องชาติ ความมัน่ คงของรฐั และความสงบ
เรียบร้อยของประชาชนและการพฒั นาประเทศตามท่บี ญั ญตั ิไว้ในรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย โดยมี
แนวคิดในการดำเนินการที่สำคญั คือ การวิเคราะห์และระบุสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาในแต่ละเรื่องให้
ชัดเจน วางแผนบูรณาการในการแก้ไขปัญหาตามลำดับความเร่งด่วนของปัญหา มีการติดตาม
ตรวจสอบที่เป็นรูปธรรม ตลอดจนพัฒนากลไกในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน ป้องกัน และแก้ไขปัญหา
ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและอาจจะเกิดขึ้นใหม่ให้ชัดเจนและมปี ระสิทธิภาพ
3) การพัฒนาศักยภาพของประเทศ ให้พรอ้ มเผชิญอปุ สรรคทีก่ ระทบต่อความมั่นคง
ของชาติ เพอ่ื ยกระดบั ขดี ความสามารถของกองทัพและหนว่ ยงานดา้ นความม่นั คงทงั้ ระบบของประเทศ ให้มี
ความพร้อม ในการป้องกนั และรกั ษาอธิปไตยของประเทศ สามารถติดตาม แจ้งเตือน ป้องกัน แก้ไขปัญหา และ
รับมอื กับอุปสรรค รวมทง้ั ปญั หาทอ่ี าจกระทบตอ่ ความมั่นคงในทุกมิติ ทกุ รูปแบบ และทุกระดับความรนุ แรง
ตลอดถึงสามารถพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขต
และเขตที่ประเทศไทยมีสทิ ธิอธิปไตย เกียรติภมู ิและผลประโยชน์ของชาติ ความมัน่ คงของรฐั และความ
สงบเรียบร้อยของประชาชน และการพัฒนาประเทศ ได้ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรร มนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทยอย่างมีประสิทธิภาพตามบทบาทหน้าท่ีท่ีกำหนด โดยมีแนวคิดในการดำเนินการที่
สำคัญคือพัฒนาระบบงานด้านการข่าวกรอง ให้มีประสิทธิภาพ สามารถติดตาม แจ้งเตือน ระงับยับย้ัง
ป้องกันปัญหาและอุปสรรคได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนจะเกิดเหตุการณ์หรอื เหตกุ ารณ์จะลกุ ลามตอ่ ไป ใน
ขณะเดียวกัน จะต้องมีแผนในการพัฒนาศักยภาพกองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งคน เครื่องมือ/
ยุทโธปกรณ์ แผนปฏิบัติการ ตลอดจนการฝึกและระบบการบรหิ ารจัดการ ให้มีความพร้อมอย่างเพียงพอและเปน็
รูปธรรมในการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น การป้องกันประเทศ ภัยจากการก่อการร้าย
อาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนสาธารณภัยและภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งจัดทำ
แนวทางในการบริหารจัดการ และ/หรือแผนปฏิบัติการ ในการเผชิญกับอุปสรรคแต่ละมิติให้เป็น
รปู ธรรมและมีประสทิ ธภิ าพดว้ ย
41
4) การบูรณาการความรว่ มมือ ดา้ นความม่นั คงกบั อาเซียน และนานาชาติ รวมท้งั
องค์กรภาครฐั และมใิ ช่ภาครัฐ เพือ่ ส่งเสริมความร่วมมือระหวา่ งประเทศในทุกระดับเพ่ือเตรยี มความพร้อม
ของไทย ในการรบั มือตอ่ ความทา้ ทายดา้ นความมัน่ คงในอนาคต โดยส่งเสริมความมนั่ คงแบบองค์รวมรวมถึงความ
มั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานและของมนุษย์ควบคู่กับความมั่นคงทางทหาร และนอกเหนือจากการเสริมสร้าง
ขีดความสามารถของประเทศไทยในการรับมืออุปสรรคจากภายนอกแล้ว ยังจะต้องดำเนินการเชิงรุก
ในด้านการเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในภูมิภาคไปพร้อมกันด้วย เพื่อมุ่งลดความเสี่ยง
หรือ ป้องกันปัญหาท่ีอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในอนาคตได้
5) การพัฒนากลไกการบรหิ ารจดั การความม่ันคงแบบองค์รวม มีวตั ถปุ ระสงค์เพอื่ ให้
มีกลไกในการแกไ้ ข ปัญหา ตลอดจนขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ชาตดิ ้านความมัน่ คงท่ีเปน็ รปู ธรรม โดยมีแนวคิดใน
การดำเนนิ การทีส่ ำคญั คือการปรบั โครงสรา้ ง บทบาท อำนาจหน้าท่ี และระบบการบริหารจดั การของสำนักงาน
สภาความมั่นคงแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์
อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ให้มีประสทิ ธภิ าพมากขน้ึ
3.1.2 ประเดน็ การปรับเปลีย่ นคา่ นยิ มและวัฒนธรรม
ยุทธศาสตร์ชาติให้ความสำคญั กับการพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์ เนอื่ งจากเป็นปัจจัยพ้ืนฐานใน
การพัฒนาด้านต่าง ๆ ของประเทศในระยะยาว โดยการจะพัฒนาประชากรที่ดีและสมบูรณ์นั้น
นอกจากการยกระดับในด้านสุขภาวะและด้านทักษะการศึกษาแล้ว จะตอ้ งพฒั นาด้านคา่ นยิ มและวัฒนธรรม
ที่ดีของประชาชนทุกกลุ่มวัยควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ ในการ
พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยในช่วงที่ผ่านมาประชากรไทย
ส่วนใหญ่ยงั มีปัญหาด้านคุณธรรม จริยธรรมและไม่ตระหนกั ถึงความสำคญั ของการมวี ินัย ความซือ่ สัตย์สุจริต
และการมีจิตสาธารณะดังปรากฏในผลการสำรวจด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมตา่ ง ๆ อาทิ การสำรวจโดยศูนย์
คณุ ธรรม (องค์กรมหาชน) เมื่อปี ๒๕๖๑ พบว่า ปญั หาความซื่อสตั ย์ สจุ ริตทุจริต คอรัปชั่น เป็นปญั หาทม่ี คี วาม
รุนแรงมากที่สุด (ระดับความรุนแรง ๔.๑๓ จากคะแนนเต็ม ๕.๐๐) และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขปัญหามาก
ที่สุดรองลงมาคือปญั หาจิตสำนกึ สาธารณะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าส่วนรวม ซ่ึงอาจสะท้อนการ
เปลี่ยนไปของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่มีค่านิยมยึดตนเองเป็นหลักมากกว่า การคำนึงถึงสังคมส่วนรวม
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องกำหนดให้มีแผนแม่บท ด้านการปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม เพือ่ ปลูกฝงั
ค่านิยมวัฒนธรรมที่พึงประสงค์ของประชาชนไทยในช่วงระยะเวลา ๒๐ ปีข้างหน้า โดยเฉพาะการมีวินัย ความ
ซื่อสตั ย์สจุ ริต การมีจิตอาสา จติ สาธารณะและความตระหนกั ถงึ หน้าท่ีตอ่ ประโยชนส์ ว่ นรวม รวมทงั้ การ สง่ เสรมิ
ใหป้ ระชาชนยึดม่ันสถาบนั หลกั ทเ่ี ปน็ ศูนยร์ วมจิตใจใหเ้ กิดความรกั ความสามคั คี ความภาคภมู ใิ จในความเปน็
ไทยที่มีอัตลักษณ์และความโดดเด่นจนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกทั้งในด้านความมีน้ำใจ ความ
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมีไมตรีและความเป็นมิตร โดยมุ่งเน้นให้สถาบันทางสังคมร่วมปลูกฝังค่านิยม
วัฒนธรรมที่พึงประสงค์ซึ่งบูรณาการร่วมระหว่างภาคีต่าง ๆ อาทิ ครอบครัว ชุมชน ศาสนา การศึกษา สื่อ
ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการหล่อหลอมคนไทยให้มีคุณธรรม จริยธรรม ในลักษณะที่เป็น ‘วิถี’ การ
ดำเนินชีวิต โดยวางรากฐานการพฒั นาคนให้มีความสมบูรณ์ เริ่มตัง้ แตก่ ารพฒั นาคนให้มีสุขภาพกายและใจที่ดี
บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของสถาบันสังคมและวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ทั้งครอบครัว ชุมชน ศาสนา
การศึกษา สื่อ และภาคเอกชน โดยแผนแม่บทฯ ประกอบด้วย ๓ แผนย่อย ดงั นี้
42
1) การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและการเสริมสร้างจิตสาธารณะและการเป็น
พลเมืองที่ดี ผ่านการเลี้ยงดูในครอบครัว การบูรณาการเร่ืองความซื่อสัตย์ วินัย คุณธรรม จริยธรรม ใน
การจัดการเรียนการสอน การสร้างความเข้มแข็งของสถาบนั ทางศาสนา การปลูกฝังคา่ นยิ มและวฒั นธรรม
โดยใช้ชมุ ชนเปน็ ฐาน การส่งเสรมิ ให้คนไทยมจี ิตสาธารณะ จติ อาสาและรบั ผิดชอบต่อส่วนรวม รวมทัง้ การสรา้ ง
เสรมิ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงและตน้ แบบท่ดี ีทง้ั ระดับบคุ คลและองคก์ ร
2) การสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมที่พึงประสงค์จากภาคธุรกจิ โดยการเสริมสร้าง
และพัฒนากลไก เพื่อให้ภาคธุรกิจ สง่ เสรมิ สนับสนนุ และสร้างค่านยิ มและวฒั นธรรมที่ดี และการยกระดับ
การบริหารจัดการ รวมถึงมาตรการของภาครัฐเพ่ือให้ภาคธุรกิจร่วมรับผิดชอบในการปรับเปลี่ยนค่านิยม
และวัฒนธรรม
3) การใช้ส่ือและสื่อสารมวลชนในการปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมของคนใน
สังคม โดยการพัฒนาสื่อ สร้างสรรค์และเสริมสร้างค่านิยมท่ีดีให้กับเยาวชน และประชาชนท่ัวไป พัฒนา
สื่อเผยแพร่เพ่ือสร้างเสริมศลิ ปะและวฒั นธรรม และจดั สรรเวลาและเปิดพื้นที่ให้สื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็ก
เยาวชน และประชาชน ในการปลูกจิตสำนึกและสรา้ งเสรมิ ค่านยิ มทด่ี ี
3.1.3 ประเดน็ ศักยภาพคนตลอดชว่ งชีวติ
ยุทธศาสตร์ชาติได้กำหนดเป้าหมายการขับเคลือ่ นการพัฒนาให้ประเทศเจริญก้าวหน้าไปใน
อนาคต ซึ่งทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยขับเคล่ือนสำคัญในการยกระดับการพัฒนาประเทศในทุกมิติไปสู่
เป้าหมายการเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วท่ขี บั เคล่ือนโดยภมู ิปัญญาและนวตั กรรมในอีก ๒๐ ปขี ้างหนา้ อีกทั้ง
การเปล่ยี นแปลงโครงสร้างประชากรทม่ี ีสัดสว่ นประชากรวยั แรงงานและวัยเดก็ ทลี่ ดลงและประชากรสงู อายุ
ท่ีเพิม่ ข้ึนอยา่ งตอ่ เน่ือง จะเปน็ ปจั จยั เส่ียงสำคัญท่ีจะทำให้การพฒั นาประเทศในมิติต่าง ๆ มีความท้าทายเพ่ิมมาก
ขึ้น ทั้งในส่วนของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในการจัดสวัสดิการเพ่ือดูแลผู้สูงอายทุ ี่เพ่ิมสูงขึ้น การลงทนุ
และการออม การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ความมั่นคงทางสังคม การบริหารจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนซึ่งจะเป็นประเด็นท้าทายต่อการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นประเทศ
พัฒนาแล้ว โดยปัจจุบัน โครงสร้างประชากรไทยกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสูส่ ังคมสูงวัย และจะเปลี่ยนแปลง
อย่างสมบูรณ์ ในช่วงปี ๒๕๖๔ ซึ่งทำให้ประชากรวัยแรงงานจะมีจำนวนสูงสุดและเริ่มลดลงอย่าง
ต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกจิ ของประเทศในระยะยาว นอกจากน้ี อัตราการ
เจริญพนั ธ์ุรวมของประชากรไทย ในปี ๒๕๖๑ อยู่ท่ี ๑.๕๘ ซ่ึงตำ่ กวา่ ระดับทดแทน นอกจากน้ี กลุ่มวัยต่าง ๆ
ยังคงมีปัญหาและความท้าทายในแต่ละกลุ่ม อาทิ โภชนาการในกลุ่มเด็กปฐมวัย ความสามารถทางเชาว์
ปญั ญา และความฉลาดทางอารมณ์ของกลุ่มวยั รุ่น ผลิตภาพแรงงานต่ำในกลมุ่ วัยแรงงาน และปัญหาสุขภาพ
ของกลุ่มผู้สงู อายุเป็นต้นดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการวางรากฐานการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ
อย่างเป็นระบบ โดยจำเป็นต้องมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ
มนุษย์ สร้างความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทย ซึ่งเป็นหน่วยที่ย่อยที่สุดเพื่อให้สามารถเป็นพลังในการ
ขับเคล่ือนชว่ ยเหลือสังคม พัฒนาและยกระดับคนในทกุ มิติและในทุกช่วงวัยใหเ้ ป็นทรัพยากรมนษุ ย์ท่ีดี เกง่
และมีคุณภาพ พร้อมขบั เคล่ือนการพัฒนาประเทศไปข้างหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพ ซ่ึง“คนไทยในอนาคต
จะต้องมีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิต
สาธารณะ รับผิดชอบตอ่ สังคมและผอู้ ่ืน มัธยสั ถ์ อดออม โอบออ้ มอารี มีวินัย รักษาศลี ธรรม และเปน็ พลเมืองดี
43
ของชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะที่จำเป็นในโลกอนาคต สามารถใช้ภาษาไทยได้ดี มีทักษะสื่อสาร
ภาษาอังกฤษและภาษาที่ ๓ รวมทั้งอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่าง
ต่อเนื่องตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูง เป็นนักพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูงและนวัตกร นักคิด
ผ้ปู ระกอบการ เกษตรกรยคุ ใหม่และอ่นื ๆ โดยมสี ัมมาชพี ตามความถนัดของตนเอง” แผนแมบ่ ทประเด็นการ
พัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ได้กำหนดแผนย่อยไว้ ๕ แผนย่อย เพื่อพฒั นาและยกระดบั ทรพั ยากร
มนษุ ย์ในทุกมิตแิ ละในทกุ ช่วงวัยให้เต็มศกั ยภาพและเหมาะสม ดังน้ี
1) การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์
พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ โดยจำเป็นต้องมุ่งเนน้ การพัฒนาและยกระดบั คนในทุกมิติและในทกุ
ช่วงวยั ให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ท่ีดี เก่ง และมีคุณภาพ พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปข้างหน้าได้
อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจำเป็นต้องมีการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้าง
ศักยภาพทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ระดับครอบครวั ชุมชน สังคม และการมีระบบและกลไก
รองรบั การพฒั นาทรัพยากรมนุษยท์ ่มี ปี ระสทิ ธิภาพ
2) การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์จนถงึ ปฐมวัย โดยจัดให้มกี ารเตรียมความ
พร้อมให้แก่พ่อ – แม่ ก่อนการตั้งครรภ์พร้อมทั้งส่งเสริมอนามัยแม่และเด็กตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์
ส่งเสริมและสนับสนุนใหโ้ รงพยาบาลทกุ ระดับ ดำเนนิ งานตามมาตรฐานงานอนามัยแมแ่ ละเดก็ สมู่ าตรฐาน
โรงพยาบาลและบริการสขุ ภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และสารอาหารทีจ่ ำเป็นต่อ
สมองเดก็ การกระตุ้นพฒั นาการสมองและการพัฒนาเด็กปฐมวยั ให้มพี ฒั นาการท่สี มวัยทุกด้าน
๓) แผนยอ่ ยการพฒั นาช่วงวยั เรียน/วยั รุ่น ช่วงวยั เรียน/วัยรนุ่ ปลูกฝังความเป็นคนดี
มีวินัย พัฒนาทักษะความสามารถที่สอดรับกับทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ โดยเฉพาะทักษะด้านการคิด
วิเคราะห์ สังเคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน มีภูมิคุ้มกันต่อปัญหาหรืออาชญากรรม
ต่าง ๆ มีความคิดสร้างสรรค์มีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นมีความยืดหยุ่นทางความคิด
รวมถึงทักษะด้านภาษา ศิลปะ และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและได้รับการพัฒนาเต็มตาม
ศักยภาพ สอดคล้องกับความสามารถ ความถนดั และความสนใจ รวมถึงการวางพื้นฐานการเรียนรู้เพื่อ
ก า ร วา ง แ ผ น ชี วิ ต แ ล ะ วา ง แ ผ น ท า ง ก า ร เ งิ น ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยและนำไปปฏิบัติได้ตลอดจนการ
พัฒนาทักษะการเรียนรู้ที่เชื่อมต่อกับโลกการทำงาน รวมถึงทักษะอาชีพที่สอดคลอ้ งกับความต้องการของ
ประเทศ มีทักษะชีวิต สามารถอยู่รว่ มและทำงานกับผู้อ่ืนได้ภายใต้สังคมที่เป็นพหุวัฒนธรรม ซึ่งหากมี
การออกแบบกระบวนการเรียนรู้และมีหลักสูตรการศึกษาที่เอื้อต่อทักษะชีวิต มีการเสริมสร้าง
ประสบการณ์ชีวิต ทักษะชีวิต และทักษะอาชีพในหลักสูตร และสร้างการมีงานทำของวัยเรียน/วัยรุ่น
จะชว่ ยให้การพฒั นาเดก็ และเยาวชนบงั เกิดผลสมั ฤทธ์ิ
4) การพฒั นาและยกระดับศักยภาพวัยแรงงาน ด้วยการยกระดับศักยภาพทักษะและ
สมรรถนะของคนในช่วงวัยทำงานให้สอดคล้องกับความสามารถเฉพาะบุคคลและความต้องการของ
ตลาดแรงงานเพ่ือสรา้ งความเข้มแข็งของเศรษฐกิจและผลติ ภาพเพิม่ ข้ึนใหก้ ับประเทศ เสริมสร้างความอยากรู้
และยกระดับตนเอง สรา้ งวัฒนธรรมการทำงานทพ่ี ึงประสงค์ และความร้คู วามเขา้ ใจและทักษะทางการเงินเพื่อ
เสริมสร้างความมั่นคงและหลักประกันของตนเองและครอบครัว ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาความรู้
44
แรงงานฝีมือให้เป็นผู้ประกอบการใหม่ และสามารถพัฒนาต่อยอดความรู้ในการสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ และ
สรา้ งเสรมิ คณุ ภาพชีวติ ที่ดี ให้กบั วยั ทำงานผ่านระบบการคมุ้ ครองทางสังคมและการส่งเสริมการออม
5) การส่งเสริมศักยภาพวัยผู้สูงอายุโดยส่งเสริมการมีงานทำของผู้สูงอายุให้พึ่งพา
ตนเองได้ทางเศรษฐกจิ และรว่ มเป็นพลงั สำคัญต่อการพฒั นาเศรษฐกจิ ชมุ ชนและประเทศ ส่งเสริมและพัฒนา
ระบบการออมเพอื่ สร้างหลกั ประกันความม่นั คงในชีวิตหลงั เกษียณ และหลกั ประกันทางสงั คมท่ีสอดคล้องกับ
ความจำเปน็ พื้นฐานในการดำรงชวี ิต และส่งเสรมิ สนับสนุนระบบการสง่ เสรมิ สขุ ภาพดแู ลผู้สูงอายุ พร้อมท้งั จัด
สภาพแวดล้อมให้เป็นมติ รกับผู้สงู อายุ
3.1.4 ประเดน็ การพฒั นาการเรียนรู้
ยทุ ธศาสตร์ชาติใหค้ วามสำคญั กับการพฒั นาศกั ยภาพและคุณภาพของประชากรไทยทกุ ชว่ ง
วัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ ซึ่งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทั้ง
สอดคลอ้ งกับศกั ยภาพ ความสนใจ ความถนัด และการตระหนักถึงพหุปญั ญาของมนษุ ยท์ ี่หลากหลาย อาทิ
ภาษา ตรรกะและคณิตศาสตร์ ด้านทัศนะและมิติ ดนตรี กีฬาและการเคลื่อนไหวของรา่ งกาย การจัดการ
ตนเอง มนุษย์สัมพันธ์ รวมถึงผู้มีความสามารถอนั โดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้าน ซึ่งจำเป็นตอ้ งมี
การพัฒนาระบบและปัจจัยส่งเสริมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปพร้อมกัน ทั้งในส่วนของระบบการเรียนการสอน
และการพัฒนาทักษะฝีมือ รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้
ประเทศไทยสามารถยกระดับเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวทันโลก ซึ่งการศึกษาและการ
เรียนรู้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของคนให้มีทักษะความรู้ ทกั ษะอาชีพบนฐานพหุปัญญา
มีสมรรถนะที่มีคุณภาพสูง รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงโดยในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าคนไทยได้รับโอกาสทาง
การศึกษาสูงขึน้ โดยมีจำนวนปกี ารศกึ ษาเฉลีย่ ของประชากรวัยแรงงานอายุ ๑๕-๕๙ ปี เพมิ่ ข้นึ อย่างต่อเนื่อง
จาก ๘.๘ ปี ในปี ๒๕๕๑ เป็น ๙.๔ ปี ในปี ๒๕๕๙ แต่ในภาพรวมคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ของคน
ไทยยงั อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำแต่เมอื่ พจิ ารณาคะแนน ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนขั้นพ้ืนฐาน
ในปี ๒๕๖๐พบว่ามีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าร้อยละ ๕๐ และ ผลคะแนนสอบ PISA ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าอีก
หลายประเทศท่มี ีระดับการพัฒนาใกลเ้ คียงกัน เนื่องจากขอ้ จำกัดทีส่ ำคัญของการศึกษาไทย ท้ังปัญหาเรื่อง
หลักสูตรและระบบการเรียนการสอนที่เน้นการท่องจำ ทำให้ขาดความคิดสร้างสรรค์ ปัจจัยสนับสนุนการ
จัดการเรียนการสอนและครูที่มีคุณภาพยังกระจายไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ขณะที่ในระดับ
อาชีวศึกษายังมีเด็กท่ีสนใจเรียนต่อสายอาชีพในสัดส่วนที่น้อย ส่วนระดับอุดมศึกษาพบว่ามีการเปิด
หลักสตู รโดยไมค่ ำนึงถึงความต้องการของตลาดงาน บณั ฑติ ทจ่ี บออกมาบางสว่ นยงั มปี ญั หาคุณภาพ ดังน้ัน
แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการพฒั นาการเรียนรู้ ได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ ที่เน้นทั้ง
การแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน และการเสริมสร้างและยกระดับการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ ทั้ง
การศึกษาในระบบ นอกระบบ และการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยการพัฒนาระบบการเรียนรู้ที่ตอบสนอง
ต่อการเปลย่ี นแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ มีการออกแบบระบบการเรียนรใู้ หม่ การเปล่ยี นบทบาทครู การเพิ่ม
ประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษา และการพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้
สามารถกำกบั การเรียนรทู้ เี่ หมาะสมกบั ตนเองไดอ้ ย่างตอ่ เนือ่ งแม้จะออกจากระบบการศกึ ษาแลว้ ควบคู่กับ
การส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ รวมถึงการสร้างเสริมศักยภาพ ผู้มี
ความสามารถพิเศษใหส้ ามารถตอ่ ยอดการประกอบอาชพี ได้อยา่ งมัน่ คง โดยประกอบด้วย ๒ แผนยอ่ ย ดังน้ี
45
1) การปฏิรปู กระบวนการเรยี นรูท้ ่ีตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษท่ี ๒๑
ด้วยการปรับเปลี่ยนระบบการเรียนรู้สำหรับศตวรรษที่ ๒๑ โดยพัฒนากระบวนการเรียนรูใ้ นทุกระดบั ช้ัน ตั้งแต่
ปฐมวัยจนถึงอุดมศึกษา ที่ใช้ฐานความรู้และระบบคิดในลักษณะสหวิทยาการ พัฒนากระบวนการ
เรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับการศึกษา รวมถึงจัดกิจกรรมเสริมทักษะเพื่อพัฒนาทักษะสำหรับศตวรรษ
ที่ ๒๑ พัฒนาระบบการเรียนรู้เชิงบูรณาการที่เน้นการลงมือปฏิบัติ มีการสะท้อนความคิด/ทบทวน
ไตร่ตรอง พัฒนาระบบการเรียนรู้ท่ีให้ผู้เรียนสามารถกำกับการเรียนรู้ของตนได้ เพื่อให้สามารถนำองค์
ความรู้ไปใช้สร้างรายได้ รวมถึงมีทักษะด้านวิชาชีพและทักษะชีวิต เปลีย่ นโฉมบทบาท “ครู” ให้เปน็ ครูยคุ
ใหม่ โดยวางแผนการผลติ พัฒนาและปรับบทบาท “ครู คณาจารยย์ ุคใหม่” ให้เป็น “ผู้อำนวยการการเรยี นรู้”
ปรับระบบการผลิตและพัฒนาครูตั้งแต่ การดึงดูด คัดสรร ผู้มีความสามารถสูงให้เข้ามาเป็นครู ส่งเสริม
สนับสนนุ ระบบการพัฒนาศักยภาพและ สมรรถนะครอู ย่างต่อเนอ่ื งครอบคลมุ ทง้ั เงนิ เดอื น สายอาชพี และระบบ
สนับสนนุ อ่นื ๆ การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพ ระบบบรหิ ารจดั การศกึ ษาในทกุ ระดับ ทุกประเภท โดยปฏิรูปโครงสร้าง
องค์กรด้านการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ จัดให้มีมาตรฐานขั้นต่ำของโรงเรียนในทุกระดับ เพื่อผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนที่สูงขึ้น ปรับปรุงโครงสร้างการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มคุณภาพการศึกษา
ส่งเสริมการมสี ่วนรว่ มจากภาคเอกชนในการจดั การศึกษา พัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษา โดยแยก
การประกันคุณภาพการศกึ ษาออกจากการประเมินคุณภาพและการรับรองคุณภาพและการกำกับดูแลคุณภาพ
การศึกษา ปฏิรูประบบการสอบที่นำไปสู่การวัดผลในเชิงทักษะท่ีจำเป็นสำหรับศตวรรษที่ ๒๑ มากกว่า
การวัดระดบั ความรู้ รวมทั้งส่งเสริมการวจิ ัยและใช้เทคโนโลยีในการสรา้ งและจัดการความรู้ การเรียนการสอน
และการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทกั ษะอาชีพที่สอดคล้องกับบรบิ ทพื้นท่ี การพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอด
ชีวติ โดยจัดให้มีระบบการศึกษาและระบบฝึกอบรมบนฐานสมรรถนะท่ีมีคุณภาพสูงและยืดหยนุ่ มมี าตรการจูง
ใจและสง่ เสริมสนับสนุนให้คนเข้าสู่การใฝ่เรยี นรู้ พัฒนาตนเอง รวมถึงการยกระดับทกั ษะวิชาชีพ พฒั นาระบบ
การเรียนรู้ชุมชนให้เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยความรว่ มมือจากภาครฐั ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม
พัฒนาระบบเครือข่ายเทคโนโลยีดิจิทัลและดิจิทัลแฟลตฟอร์มเพื่อการศึกษาในทุกระดับทุกประเภท
การศึกษาอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์หรือสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลที่มีคุณภาพท่ี
นักเรียน นักศึกษาและประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองผ่าน
เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ รวมถึงการสร้างระบบการศึกษา เพื่อเป็นเลิศทางวิชาการระดับนานาชาติ โดย
ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความโดดเด่นเฉพาะสาขาสู่ระดับ
นานาชาติ สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษาและบุคลากรในระดับ
นานาชาติ รวมถงึ การพฒั นาศนู ย์วิจยั เฉพาะทาง ศนู ยฝ์ กึ อบรม และทดสอบในระดบั ภูมิภาค จัดให้มีการเรียนรู้
ประวัตศิ าสตรช์ าติไทยและประวัติศาสตรท์ ้องถนิ่ จดั ให้มีการเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ประเพณี วฒั นธรรมของ
ไทยและพัฒนาการของประเทศเพือ่ นบา้ นในระบบการศกึ ษา และ สำหรบั ประชาชน สง่ เสริมสนับสนุนการ
แลกเปลีย่ นเรยี นรขู้ องเด็ก เยาวชนและนักเรียนกบั ประเทศเพ่อื นบา้ นในภูมภิ าคเอเชยี อาคเนย์
2) การตระหนกั ถงึ พหุปญั ญาของมนุษย์ทหี่ ลากหลาย ดว้ ยการพฒั นาและสง่ เสรมิ พหุ
ปัญญา ผ่านครอบครวั ระบบสถานศึกษา สภาพแวดลอ้ ม รวมทัง้ สื่อ โดยพฒั นาระบบบริหารจัดการ กลไก
การคัดกรองและการส่งต่อเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ ส่งเสริม
สนับสนุนครอบครัว ในการเสริมสร้างความสามารถพิเศษตามความถนัดและศักยภาพ ทั้งด้านกีฬา ภาษาและ
46
วรรณกรรม สุนทรียะศิลป์ ส่งเสริมสนับสนุนระบบสถานศึกษาและสภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการสร้างและ
พัฒนาเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษบนฐานพหุปัญญา ส่งเสริมสนับสนุนมาตรการจูงใจแก่
ภาคเอกชนและสือ่ ในการมีส่วนรว่ มและผลกั ดันให้ผู้มคี วามสามารถพิเศษ มีบทบาทเดน่ ในระดับนานาชาติ
การสรา้ งเสน้ ทางอาชพี สภาพแวดล้อมการทำงาน และระบบสนบั สนุนทีเ่ หมาะสมสำหรบั ผมู้ คี วามสามารถ
พิเศษ โดยจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสนับสนุนเพื่อผู้มีความสามารถพิเศษได้สร้างความ
เข้มแข็งและต่อยอดได้ จัดให้มีกลไกการทำงานในลักษณะการรวมตัวของกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษ
ในหลากสาขาวิชาเพื่อรวมนักวิจัยและนักเทคโนโลยีชัน้ แนวหน้าเพือ่ พัฒนาต่อยอดงานวิจยั เพอื่ ตอบโจทย์
การพฒั นาประเทศ และสรา้ งความรว่ มมือและเชอ่ื มตอ่ สถาบนั วจิ ยั ชั้นนำทั่วโลก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้
นกั วิจัยความสามารถสงู ของไทยใหม้ ศี ักยภาพสงู ยง่ิ ขึ้น
4. แผนปฏิรูปประเทศด้านการศกึ ษา
ด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๘ จ. โดยสรุปได้บัญญัติให้มีการ
ดำเนินการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ครอบคลุมให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพฒั นาก่อนเข้ารับการศึกษา
เพือ่ ใหเ้ ดก็ เลก็ ได้รบั การพัฒนารา่ งกาย จติ ใจ วินยั อารมณ์ สงั คม และสตปิ ญั ญาใหส้ มกับวัย โดยไม่เก็บค่าใชจ้ า่ ย
ให้ดำเนนิ การตรากฎหมายเพ่ือจดั ตัง้ กองทุนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศกึ ษา ให้มกี ลไกและระบบการผลิต
คัดกรอง และพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครูและอาจารย์ให้ได้ผู้มีจิตวิญญาณของความเป็นครู มีความรู้
ความสามารถอยา่ งแท้จริง ไดร้ ับค่าตอบแทนท่ีเหมาะสมกบั ความสามารถและ ประสิทธิภาพในการสอน รวมท้งั
มีกลไกสรา้ งระบบคุณธรรมในการบรหิ ารงานบคุ คลของผ้ปู ระกอบวิชาชีพครู ให้มกี ารปรับปรงุ การจัดการเรียน
การสอนทุกระดับเพอ่ื ให้ผเู้ รียนสามารถเรยี นไดต้ ามความถนัดและ ปรบั ปรุงโครงสรา้ งของหน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง
เพือ่ บรรลุเปา้ หมายดังกลา่ ว โดยสอดคล้องกนั ท้งั ในระดับชาติ และระดับพน้ื ท่ี ท้งั น้ีบทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนญู ฯ
มาตรา ๒๖๑ กำหนดใหก้ ารปฏริ ูปตามมาตรา ๒๕๘ จ. ดา้ นการศึกษา มีคณะกรรมการท่มี ีความเป็นอสิ ระคณะ
หนึ่งที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง ดำเนินการศึกษาและ จัดทำข้อเสนอแนะ และร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการ
ดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายเพือ่ เสนอคณะรัฐมนตรีดำเนินการตอ่ ไป นอกจากน้ี การปฏิรูปการศึกษา ยังเปน็
สว่ นหนง่ึ ของการปฏริ ปู ประเทศเพือ่ สนับสนุนการบรรลตุ ามยทุ ธศาสตรช์ าตทิ ีก่ ำหนดไวใ้ นดา้ นตา่ ง ๆ เน่ืองด้วย
การศึกษาเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ ดังนั้นแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาจึงเป็น
องคป์ ระกอบสำคญั ท่จี ะสนบั สนนุ การดำเนินการตามยุทธศาสตรช์ าตทิ ุกดา้ น โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ด้านการพัฒนา
ทรพั ยากรมนุษยข์ องประเทศ ดา้ นความเท่าเทียมและความเสมอภาคของสังคม และด้านขดี ความสามารถในการ
แข่งขัน การพัฒนาเศรษฐกิจและการกระจายรายได้ โดยแผนการปฏิรูปประเทศมีประเดน็ ที่เกี่ยวข้องกับการ
พัฒนาการศึกษา ดังนี้
4.1.1 ด้านการเมอื ง มีประเด็นที่นำสู่การพฒั นาทางการศกึ ษา คอื สร้างจิตสำนึกใน
การเรียนรู้ ความเป็นพลเมืองไทย และพลเมอื งโลกท่ีดี โดยเนน้ ในผ้เู รียนทุกระดบั ตั้งแต่เดก็ ปฐมวัยกระทั่ง
ถึง ระดับอุดมศึกษา เพื่อให้มีการเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนใน
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยให้ผู้สอนมีการจัดกิจกรรมปลูกฝั งจิตสำนึก
เก่ียวกบั หน้าท่ีความมรี ะเบียบวนิ ยั และความรับผิดชอบการเป็นพลเมืองท่ีดี และผู้เรียนมีความเข้าใจ
เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย และการมีจิตสำนกึ ในการเป็นพลเมืองโลกทดี่ ี
47
4.1.๒ ดา้ นการบริหารราชการแผ่นดิน มีประเด็นทางการศกึ ษา คอื การสรา้ งและพัฒนา
โรงเรียนให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ (Public School) โดยเริ่มต้นจากโรงเรียนต้นแบบ ๗๗ แห่ง ใน
ภาคการศึกษาท่ี ๑/๒๕๖๑ ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว จึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขระเบียบที่เป็น
อปุ สรรคเพ่ือการขยายผลและตดิ ตามผลต่อไป
4.1.๓ ด้านกฎหมาย มีประเด็นนำสูก่ ารพัฒนาการศกึ ษา คือ การส่งเสริมให้ผูเ้ รยี นเปน็
start up รุ่นเยาว์และการจัดตั้งสถาบันการศึกษาเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของอตุ สาหกรรมขนาดกลาง ขนาด
ย่อม และstart up ตลอดจนการจัดหลกั สตู รฝึกอบรมความร้ทู ่ีเก่ียวขอ้ งกบั วชิ าชพี ตา่ ง ๆ ท่ีเปน็ ไปตามความ
ตอ้ งการของตลาดสนับสนุนใหเ้ พ่มิ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศใหส้ งู ขึ้น
๔.1.4 ด้านเศรษฐกิจ พบประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการศึกษาค่อนข้างมาก
โดยเฉพาะในสว่ นของผู้เรียนในระดับอาชีวศึกษา และระดับอุดมศึกษา ที่จะพัฒนาผู้เรียนไปสู่ทักษะการ
ประกอบอาชพี โดยประเดน็ ที่เก่ยี วขอ้ งจะเปน็ ในสว่ นของการพฒั นามาตรฐานคุณภาพหลกั สตู ร การพัฒนา
ผู้เรียนในทุกระดบั ตัง้ แต่ระดับพืน้ ฐานจนกระทั่งถงึ ระดับอุดมศกึ ษา โดยเฉพาะในการเน้นการสร้างนวัตกรรม
และการทำวิจัยในผู้เรียนทุกระดับ การส่งเสริมโรงเรียนอาชีวะต้นแบบ โครงการทวิภาคี และสิ่งท่สี ำคัญท่ี
ตอบโจทย์แผนพัฒนาเศรษฐกิจ คือการพัฒนาทักษะด้านดิจทิ ัลให้แก่ผู้เรียน โดยร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพ่ือ
เศรษฐกจิ และสงั คม ซง่ึ ถือเป็นการสนบั สนนุ และการเพมิ่ ระดบั การแขง่ ขนั ในระดับชาตใิ ห้สงู ข้ึน
4.1.๕ ด้านทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม มีประเด็นที่เกีย่ วข้องกบั การพัฒนาการศึกษา คือเน้น
การสง่ เสรมิ โครงการ Zero waste ให้แกส่ ถานศกึ ษา ให้ผู้สอนและผเู้ รยี นมสี ่วนร่วมในการดำเนนิ งานในการลด
ขยะท่เี ป็นมลพิษ และการนำสง่ิ ทใ่ี ช้ประโยชน์ได้มาแปรรปู ใหเ้ ปลย่ี นเปน็ คา่ เงนิ ในส่วนทส่ี ามารถจดั การไดใ้ หเ้ ปน็
ระบบในสถานศึกษาทุกระดับ และในส่วนอื่น ๆ คือ การสอดแทรกเนื้อหารายวิชาที่ เกี่ยวข้องกับการพัฒนา
หลักสูตร การทำวิจยั ทเี่ กี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ ใหไ้ ด้เรยี นรู้ธรรมชาตจิ รงิ และสิ่งท่เี กิดขึน้ จริงจากทฤษฎี
ลงสกู่ ารปฏบิ ัติ
4.1.๖ ด้านสาธารณสุข มีประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการศึกษา คือ การ
เข้าถึงเทคโนโลยีทางการศึกษาทางสาธารณสขุ ได้อย่างทั่วถึง และมีความปลอดภัย ลดการละเมดิ สทิ ธิทาง
สื่อ สังคม โดยจะเน้นการเพิ่มสมรรถนะผู้เรียนระดับอุดมศึกษาสำหรับสายการแพทย์ การมีแหล่งฝึกทาง
การแพทย์ที่มมี าตรฐานและปลอดภัย สำหรับผู้เรียน รวมถึงการส่งเสริมระบบการพัฒนาหลักสูตรเด็ก
ก่อนปฐมวัยและเด็กปฐมวัย ในการพัฒนากาย จติ ใจ สงั คม ทีพ่ ร้อมเขา้ สู่เด็กวยั เรียน
4.1.7 ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการศึกษา ในส่วนของ
ความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการศกึ ษาของผู้เรียนในทกุ ระดับ และทุกภาคส่วน โดยเน้นถึงความ
ปลอดภัย รู้เทา่ ทันส่อื และลดการละเมดิ สทิ ธิทางสอ่ื สังคมในผู้เรยี นทกุ ระดับชน้ั
4.1.8 ด้านสังคม มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการศึกษา เน้นผู้เรียนให้เป็นผู้มี
ทักษะชวี ิตในการดำรงชีวิตนอกเหนอื จากสงั คมในโรงเรียนได้อยา่ งเหมาะสม และมคี วามสุข เปน็ ผ้มู ีปัญญา
ควบคู่การมีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้ชีวิตในสังคม การเป็นผู้มีจิตอาสา การส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความ
กระหาย ต้องการที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิต และสิ่งท่ีสำคญั คือ การสรา้ งจิตสำนึกรักบ้านเกิดในการนำความรูท้ ีศ่ ึกษา
นวัตกรรมและทำวิจัยทอ้ งถน่ิ กลับมาเปลยี่ นแปลงถน่ิ กำเนดิ ของตนเอง ใหเ้ กิดการพัฒนาอยา่ งสูงสุด
48
4.1.9 ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ดำเนินการ
ภายใต้กรอบรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างมาก ซึ่งได้กำหนดไว้ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
หลายส่วน โดยเฉพาะ หมวดที่ ๔ หนา้ ที่ของปวงชนชาวไทย มาตรา ๕๐ (๑๐) ท่ีกำหนดใหบ้ คุ คลมหี นา้ ท่ี
ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายเกี่ยวกับการ
บริหารราชแผ่นดินและ การปฏิรูปและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อาทิ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ท่ี
๖๙/๒๕๕๗ เรื่อง มาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการ
พัฒนาการศึกษา คือ ส่งเสริมการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชาไปใช้ในการ
ดำเนนิ ชีวิต และการสรา้ งทศั นคติ ความร้แู ละปลกู ฝังเยาวชนในสถานศึกษาทกุ ระดับ ให้รงั เกียจการทุจริต
และตระหนักถงึ โทษภัยของการทุจริตคอร์รปั ช่ัน
4.1.10 ด้านกระบวนการยุติธรรม ไม่มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการศึกษาที่
ชัดเจน
4.1.11 ด้านพลงั งาน ไม่มี ประเด็นท่ีเกย่ี วข้องกบั การพัฒนาการศกึ ษาทช่ี ัดเจน
5. นโยบายรฐั บาล
ประเทศไทยมีการพัฒนาอยา่ งต่อเนื่องผา่ นวสิ ยั ทัศนแ์ ละการขบั เคลอื่ นการพฒั นาของผนู้ ำประเทศใน
อดตี และในวันนว้ี ิสยั ทศั น์ในการขับเคล่อื นประเทศของรฐั บาลชุดนี้ คือ“มงุ่ ม่ันให้ประเทศไทยเปน็ ประเทศท่ี
พฒั นาแลว้ ในศตวรรษที่ ๒๑” โดยรฐั บาลได้กำหนดนโยบายในการบรหิ ารราชการแผน่ ดิน มีส่วนทเ่ี ก่ียวขอ้ ง
ดา้ นการศึกษา ดังน้ี
5.1 นโยบายหลัก ๑๒ ดา้ น
5.1.๑ การทำนบุ ำรงุ ศาสนา ศลิ ปะและวฒั นธรรม
๑) ปลกู ฝังคา่ นิยมและวัฒนธรรมทด่ี ีท้ังด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม กตญั ญู ความซ่ือสตั ย์ การมี
วินัย เคารพกฎหมาย มีจิตสาธารณะและการมีส่วนร่วมทำประโยชน์ให้ประเทศ และเป็นพลเมืองที่ดี โดย
ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคมและชุมชนเป็นฐานในการบ่มเพาะ ส่งเสริมให้ภาคเอกชน
ดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล ให้สื่อมีบทบาทกระตุ้นและสร้างความตระหนักในค่านิยมที่ดี รวมถึง
ผลิตส่ือทีม่ คี ุณภาพและมีความรบั ผดิ ชอบและเปดิ พ้นื ท่ีสาธารณะให้ประชาชนได้แสดงออกอย่างสรา้ งสรรค์
5.๑.2 การปฏริ ูปกระบวนการเรียนร้แู ละการพัฒนาศกั ยภาพของคนไทยทกุ ชว่ งวัย
๑) ส่งเสริมการพฒั นาเด็กปฐมวัย
๑.๑ จดั ให้มีระบบพฒั นาเด็กแรกเกดิ อย่างต่อเนือ่ งจนถงึ เด็กวัยเรียนให้มีโอกาส
พัฒนาตามศักยภาพ เพื่อสร้างคนไทยที่มีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพผ่านครอบครัวที่อบอุ่นในทกุ รปู แบบ
ครอบครัว เพื่อส่งต่อการพัฒนาเด็กไทยให้มีคุณภาพสู่การพัฒนาในระยะถัดไปบนฐานการให้ความ
ช่วยเหลือที่คำนึงถึงศักยภาพของครอบครัวและพื้นท่ี เตรียมความพร้อมการเป็นพ่อแม่ ความรู้เรื่อง
โภชนาการและสุขภาพการอบรมเลี้ยงดูการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยผ่านการให้บริการสาธารณะที่
เก่ยี วข้องโดยเฉพาะการยกระดบั คุณภาพสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ทั่วประเทศให้ได้มาตรฐานและพัฒนาศักยภาพ
ของบุคลากรทางการศกึ ษาและผู้ดแู ลเดก็ ปฐมวยั ให้สามารถจัดการศกึ ษาไดอ้ ยา่ งมคี ณุ ภาพ
49
๑.๒ ส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยคำนึงถึงพหุปัญญาที่หลากหลายของ
เด็กแตล่ ะคนใหไ้ ด้รบั การส่งเสรมิ และพฒั นาอย่างเต็มตามศักยภาพ ผ่านการออกแบบการจัดการเรียนรู้ท่ี
เชอ่ื มโยงกบั ระบบโรงเรยี นปกติท่ีเป็นระบบและมีทิศทางทีช่ ดั เจน
๒) พฒั นาบณั ฑิตพนั ธใ์ุ หม่
๒.๑ ปรบั รูปแบบการเรียนรแู้ ละการสอนเพื่อพฒั นาทักษะและอาชพี ของคนทกุ ช่วง
วัยสำหรับศตวรรษที่ ๒๑ โดยปรับโครงสร้างหลักสูตรการศึกษาให้ทันสมัย มีการนำเทคโนโลยีและการ
เรียนรู้ ผ่านประสบการณ์จริงเข้ามามีส่วนในการจัดการเรียนการสอน และปรับระบบดึงดูด การ
คัดเลือก การผลิต และพัฒนาครู ที่นำไปสู่การมีครูสมรรถนะสูงเป็นครูยุคใหม่ที่สามารถออกแบบและ
จัดระบบการสร้างความรู้ สร้างวินัย กระตุ้น และสร้างแรงบันดาลใจ เปิดโลกทัศน์มมุ มองของเด็กและครูดว้ ย
การสอนในเชงิ แสดงความคิดเห็นให้มากข้นึ ควบคู่กับหลักการทางวชิ าการ
๒.๒ จัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะของ
ผู้เรียน ทั้งในส่วนฐานความรู้และระบบความคิดในลักษณะสหวิทยาการ และตรงกับความต้องการของ
ประเทศในอนาคตแ ล ะ เ ป็ น ผู้ เ รี ย น ที่ ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ไ ด้ จ ริ ง แ ล ะ ส า ม า ร ถ ก ำ กั บ ก า ร เ รี ย น รู้ ข อ ง
ตนเองได้ รวมถึงมีทักษะด้านภาษาอังกฤษและภาษาท่ีสามที่สามารถส่ือสารและแสวงหาความรู้ได้
มีความพร้อมทั้งทักษะความรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิตก่อนเข้าสตู่ ลาดแรงงาน
๓) พัฒนาอาชีวะ พัฒนาคุณภาพวิชาชีพ และพัฒนาแรงงานรองรับอุตสาหกรรม
๔.๐ โดยการจัดระบบและกลไกความร่วมมอื ระหวา่ งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ชดั เจนเปน็ ระบบในการ
พัฒนากำลังคน ที่มีทักษะขั้นสูงให้สามารถนำความรู้และทักษะมาใช้ในการแก้ไขปัญหา รวมถึงการ
สร้างและพฒั นานวตั กรรม ซ่งึ ต้องครอบคลมุ การพฒั นากำลังคนทอี่ ยู่ในอุตสาหกรรมแล้ว กำลังคนท่ีกำลัง
จะเข้าสู่อุตสาหกรรม และเตรียมการสำหรับผลิตกำลังคนในสาขาที่ขาดแคลน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมและ
เทคโนโลยีในอนาคต รวมทั้งเร่งรัดและขยายผลระบบคุณวุฒิวิชาชีพ การยกระดับฝีมือแรงงานในกลุ่ม
อุตสาหกรรมที่มศี กั ยภาพและอตุ สาหกรรมท่ใี ชแ้ รงงานเข้มขน้
๔) สง่ เสรมิ การเรยี นรู้และพัฒนาทกั ษะทุกชว่ งวัย
๔.๑ มงุ่ เน้นการพฒั นาโรงเรยี นควบคู่กับการพฒั นาครู เพ่มิ ประสิทธิภาพระบบ
บริหารจัดการศึกษาในทุกระดับบนพื้นฐานการสนับสนุนที่คำนึงถึงความจำเป็นและศักยภาพของ
สถาบันการศึกษาแต่ละแห่ง พร้อมท้งั จัดให้มีมาตรฐานขน้ั ต่ำของโรงเรียนในทกุ ระดับ และสร้างระบบวัดผล
โรงเรยี นและครทู ่ีสะทอ้ นความรับผดิ ชอบตอ่ ผลลัพธ์ทีเ่ กดิ กับผเู้ รียน คืนครใู ห้นกั เรยี นโดยลดภาระงานที่ไม่
จำเป็น รวมถึงจัดให้มีระบบฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยการเชื่อมโยงหรือส่งต่อข้อมูล
ครอบครัว และผู้เรยี นระหวา่ งหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงการพัฒนาตลอดช่วงชีวิต ตลอดจน
พัฒนาช่องทางให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวติ
๔.๒ พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ผ่านระบบดิจิทัล พร้อมท้ังส่งเสริมให้มี
การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสร้างสรรค์ที่เหมาะสมมาใช้ในการเรยี นการสอนออนไลน์แบบเปดิ ที่
หลากหลายเพ่ือส่งเสรมิ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเองตามความสนใจและเหมาะสมกบั ช่วงวัย ตลอดจนพฒั นาแหลง่
เรยี นรู้และอุทยานการเรียนรู้สำหรับเยาวชนท่ีเชื่อมโยงเทคโนโลยีกับวิถีชีวิต และส่งเสริมการเรียนการ
สอนท่ีเหมาะสมสำหรับผู้ทีเ่ ขา้ สู่สังคมสงู วยั
50