100
แบบบันทึกการประเมินคณุ ภาพการเรยี นรขู้ องนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
รายวิชาวิทยาศาสตร์พืน้ ฐาน (ว23102) หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 ไฟฟา้ I
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 17 เรื่อง ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในบา้ น .
คำชี้แจง: ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ในชอ่ งคา่ นำ้ คะแนนแต่ละด้านตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ โดยประเมนิ ตามเกณฑ์
(Rubrics Score)
เลข ชอื่ -นามสกุล/ ดา้ นความรู้ (K) ด้านกระบวนการ (P) ดา้ นเจตคติ (A) คะแนนรวม
ท่ี รหัสนกั เรยี น ค่านำ้ หนักคะแนน ค่าน้ำหนักคะแนน ค่านำ้ หนกั คะแนน
ระดับ
3 2 1 3 2 1 32 1 คุณภาพ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
101
เลข ชอ่ื -นามสกุล/ ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นกระบวนการ (P) ด้านเจตคติ (A) คะแนนรวม
ท่ี รหัสนกั เรียน คา่ นำ้ หนักคะแนน ค่าน้ำหนกั คะแนน ค่าน้ำหนักคะแนน
ระดับ
321 32 1 32 1 คุณภาพ
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
เกณฑ์การพิจารณาคุณภาพ หมายถึง ดีมาก
คะแนนรวมเฉลี่ย 3.00 หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉล่ีย 2.00 - 2.99 หมายถงึ พอใช้
คะแนนรวมเฉลยี่ 0.01 - 1.99
ตอ้ งไดค้ ะแนนเฉลีย่ ทกุ ประเด็นการประเมิน ไม่ตำ่ กว่า 2.00 แสดงระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไปเท่าน้ัน
ถึงจะผ่านการเรยี นรู้ตามตัวชว้ี ัด
ผลการประเมนิ การเรยี นรขู้ องนักเรียน
ผเู้ รยี นท่ี ผ่าน ตัวชี้วัด
มจี ำนวน…………………………คน คิดเป็นรอ้ ยละ………………………………………………..
ผ้เู รยี นท่ี ไม่ผ่าน ตวั ช้วี ดั
มจี ำนวน…………………………คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ………………………………………………..
1)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
2)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
3)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
ส่ือการเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17: 102
คลปิ วีดีทัศน์: ไฟฟา้ ลดั วงจรเปน็ อยา่ งไร สอื่ วีดิทัศน์
ส่อื วีดทิ ัศนเ์ รือ่ ง ไฟฟ้าลดั วงจรเปน็ อยา่ งไร อธบิ ายเก่ียวขอ้ งกับการเกิดไฟฟ้าลดั วงจรเปน็ อยา่ งไร โดยให้
นกั เรยี นตอ่ วงจรไฟฟา้ จำลองการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
แหล่งท่ีมา: เวบ็ ไซตอ์ า้ งอิง ipst.me/9879
เผยแพร่เมื่อ 27 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2562
(เจา้ ของผลงาน สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.))
ส่ือการเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 17: 103
แผนภาพแสดงผงั มโนทัศน์
แผนผงั มโนทัศน์ เรอ่ื งวงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย
สื่อการเรียนรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 17: ใบกจิ กรรมทา้ ยบท
ใบกิจกรรมท้ายบท ออกแบบวงจรไฟฟ้าในห้องไดอ้ ย่างไร
104
หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 2 ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หนา้ 93
กิจกรรมทา้ ยบท ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในห้องได้อย่างไร?
จุดประสงค์ ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในห้องโดยใช้ความรูเ้ กยี่ วกับวงจรไฟฟา้ อยา่ งง่าย
วสั ดอุ ุปกรณ์
วสั ดทุ ่ใี ช้ตอ่ กล่มุ
วิธดี ำเนนิ กิจกรรม
1. ถา่ นไฟฉายขนาด 1.5 V 4 ก้อน
2. กระบะถา่ นแบบ 4 ก้อน 1 อนั
3. สายไฟฟา้ 14 เส้น
4. หลอดไฟฟา้ ขนาด 6 V พร้อมฐาน 5 ชุด
5. สวิตชแ์ บบโยก 4 อัน
ถ้านักเรียนเป็นวิศวกร ไดร้ บั การวา่ จ้างจากเจ้าของโรงแรมแหง่ หนึ่งให้ออกแบบ
วงจรไฟฟ้าที่ใหแ้ สงสวา่ งในหอ้ งพัก โดยมรี ายละเอียดดังน้ี
มีหลอดไฟฟ้าท้งั หมด 5 หลอด แต่ละหลอดกำหนดให้ตดิ ต้ังในตำแหน่งต่าง ๆ
ดังนี้ อยู่ท่เี พดานบริเวณทางเขา้ ห้องพกั ในห้องน้ำ เหนือเตียงนอน เหนอื โต๊ะทำงน
และระเบยี ง หลอดไฟฟา้ แต่ละหลอดมีสวิตช์ ยกเวน้ หลอดไฟฟา้ บรเิ วณเหนือเตยี ง
นอนและโต๊ะทำงานทใี่ ช้สวติ ชต์ ัวเดยี วกนั แหลง่ กำเนิดไฟฟ้ามาจากแหล่งจา่ ยไฟฟ้า
ทีอ่ ยูน่ อกห้อง
1. ออกแบบและเขียนแผนภาพวงจรไฟฟา้
ตามเงอื่ นไขท่ีกำหนด โดยใชถ้ ่านไฟฉาย
แทนแหลง่ จ่ายไฟฟา้ และใชห้ ลอดไฟฟา้
ขนาด 6 โวลต์ แทนหลอดไฟฟ้าในห้อง
2. ต่อวงจรไฟฟา้ ตามที่ได้ออกแบบไว้
บนั ทกึ ผล
3. นำเสนอแผนภาพการต่อวงจรและ
เปรยี บเทยี บข้อดแี ละขอ้ จำกัดของการ
ตอ่ วงจรแตล่ ะแบบ
ภาพ แผนผังห้อง
105
กจิ กรรมท้ายบท ออกแบบวงจรไฟฟ้าในห้องได้อยา่ งไร?
การเตรยี มตวั ครคู วรตรวจสอบคณุ ภาพของอปุ กรณ์ไฟฟ้าให้อย่ใู นสภาพพรอ้ มใช้งาน
ล่วงหน้าสำหรบั ครู
ขอ้ เสนอแนะใน ครสู ามารถทดลองเสมือนจริงด้วยส่ืออินเตอรแ์ อ็กทีฟซมิ เู ลชนั สำหรับทำกิจกรรม
การทำกจิ กรรม ในกรณที ี่อุปกรณไ์ มเ่ พียงพอ หรอื ในกรณที ีต่ ้องการใหน้ กั เรียนไปฝึกฝนนอกเวลาเรยี น
สอื่ การเรยี นรู/้ • สื่อการเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า CircutiLab
แหลง่ เรียนรู้ https://www.circuitlab.com/
• ส่ืออนิ เตอร์แอ็กทีฟซมิ ูเลชนั ตอน วงจรไฟฟ้า
http://ipst.me/10653
คำถามท้ายกิจกรรม
1. การออกแบบวงจรไฟฟ้าในหอ้ ง ใช้การตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบใดบา้ ง เพราะเหตุใด
2. การตอ่ หลอดไฟฟา้ ที่อยูเ่ หนือเตียงนอนและอยู่เหนือโต๊ะทำงานโดยใช้สวติ ชต์ วั เดียวกันต่อได้กีแ่ บบ
แตล่ ะแบบมขี ้อดหี รือข้อจำกัดอยา่ งไร
106
ส่ือการเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 17: แบบบันทกึ การค้นคว้ากจิ กรรมทา้ ยบท
แบบบันทกึ การคน้ คว้ากจิ กรรมทา้ ยบท ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในหอ้ งได้อยา่ งไร
ชือ่ -นามสกุล..........................................................................................ช้ัน.................เลขท.่ี ..........กลุ่มท.่ี ...........
สถานการณท์ ่ีกำหนดให้
- ให้นักเรยี นออกแบบ เรอื่ ง ...............................................................................................................................
- กำหนดให้มหี ลอดไฟฟ้า ทัง้ หมด จำนวน .......................... หลอด
- แต่ละหลอดกำหนดให้ติดต้งั ในตำแหนง่ บรเิ วณ ได้แก่ ......................................................................................
............................................................................................................ ..............................................................
ออกแบบแผนภาพวงจรไฟฟ้าในห้อง
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. การออกแบบวงจรไฟฟ้าในหอ้ ง ใช้การต่อวงจรไฟฟ้าแบบใดบา้ ง เพราะเหตุใด
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การต่อหลอดไฟฟา้ ท่ีอย่เู หนอื เตยี งนอนและอยเู่ หนือโต๊ะทำงานโดยใชส้ วติ ชต์ ัวเดยี วกันต่อไดก้ ี่แบบ แตล่ ะ
แบบมีขอ้ ดีหรือข้อจำกัดอยา่ งไร
ตอบ ………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนบทา้ ยแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 17: 107
การให้คะแนนด้านกระบวนการ (P)
แนวทางบันทึกการคน้ คว้ากิจกรรมทา้ ยบท ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในห้องไดอ้ ยา่ งไร
สถานการณท์ ก่ี ำหนดให้
- ใหน้ ักเรยี นออกแบบ เร่ือง ................ออกแบบวงจรไฟฟา้ ที่ให้แสงสวา่ งในห้องพัก.....................
- กำหนดให้มีหลอดไฟฟ้า ทั้งหมด จำนวน ...........5........... หลอด
- แต่ละหลอดกำหนดให้ติดตง้ั ในตำแหนง่ บรเิ วณ ได้แก่ ..............อย่ทู ีเ่ พดานบริเวณทางเข้าห้องพัก ในห้องนำ้
เหนอื เตยี งนอน เหนอื โต๊ะทำงน และระเบยี ง..................
ออกแบบแผนภาพวงจรไฟฟ้าในห้อง
แผนผงั วงจรไฟฟา้ ท่ีออกแบบ วงจรไฟฟา้ ท่ีต่อตามที่ออกแบบ
หมายเหตุ : นักเรยี นอาจออกแบบให้หลอดไฟฟ้าเหนือเตยี งนอนและโต๊ะทำงานตอ่ กนั แบบอนุกรม ดังภาพ
ซ่ึงวิธนี ้ตี รงตามเง่ือนไข แต่มีข้อเสยี คอื ถา้ หลอดไฟฟา้ หลอดใดหลอดหนงึ่ เสยี หาย หลอดที่เหลอื จะไมท่ ำงาน
ครูอาจให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรายไดใ้ นคำถามทา้ ยกิจกรรมขอ้ ที่ 2
แนบทา้ ยแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 17: 108
การใหค้ ะแนนดา้ นความรู้ (K)
เฉลยใบกจิ กรรมท้ายบท ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในห้องไดอ้ ย่างไร
เฉลยคำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. การออกแบบวงจรไฟฟา้ ในห้อง ใช้การตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบใดบ้าง เพราะเหตุใด
แนวคำตอบ ต่อหลอดไฟฟ้าท้ังหมดแบบขนาน เพราะเม่ือหลอดไฟฟา้ หลอดใดหลอดหนงึ่ เสยี หาย
หลอดทีเ่ หลือกย็ งั ใช้งานได้ โดยแต่ละหลอดจะต่อกบั สวิตช์แบบอนกุ รมเพื่อควบคุมการปดิ เปิดของวงจรไฟฟ้า
2. การต่อหลอดไฟฟ้าที่อยู่เหนือเตียงนอนและอย่เู หนือโต๊ะทำงานโดยใชส้ วติ ชต์ ัวเดียวกันตอ่ ไดก้ ี่แบบ แตล่ ะ
แบบมีข้อดีหรือข้อจำกัดอย่างไร
แนวคำตอบ ตอ่ ได้ 2 แบบ คือ ตอ่ หลอดไฟฟา้ ทั้งสองหลอดให้ขนานกนั แลว้ จงึ ต่ออนุกรมกบั สวิตช์
โดยเมื่อกดสวิตช์กจ็ ะสามารถควบคุมการปิดเปิดหลอดไฟฟ้าท้ังสองหลอดพร้อมกัน ซึ่งมีข้อดีคือถ้าหลอดไฟฟา้
หลอดใดหลอดหน่ึงเสียหาย หลอดท่ีเหลือกย็ ังใชง้ านได้ หรือต่อหลอดไฟฟ้าทง้ั สองหลอดและสวติ ชแ์ บบอนกุ รมกนั
โดยเม่ือกดสวติ ชก์ จ็ ะควบคุมการปิดเปดิ หลอดไฟฟ้าทัง้ สองหลอดได้เช่นกนั แต่มีขอ้ จำกัดคอื ถ้าหลอดไฟฟ้า
หลอดใดหลอดหนึ่งเสียหาย หลอดทีเ่ หลือจะไม่ทำงาน
109
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 18
เร่ือง คำนวณพลงั งานไฟฟา้ ของเคร่ืองใช้ไฟฟ้า รหัสวิชา ว23102 เวลา 1 ชั่วโมง
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ ไฟฟ้า
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวม 22 ชั่วโมง
สาระท่ี 2 ช่ือสาระ วิทยาศาสตร์กายภาพ
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2
มาตรฐาน ว 2.3
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั
ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
สสารและพลังงาน พลงั งานในชีวติ ประจำวนั ธรรมชาตขิ องคล่นื ปรากฏการณ์ที่เก่ียวขอ้ งกับเสียง แสง และคล่ืน
แมเ่ หล็กไฟฟา้ รวมทัง้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตัวช้ีวดั
ว 2.3 ม.3/8 อธบิ ายและคำนวณพลงั งานไฟฟา้ โดยใชส้ มการ W = Pt รวมทั้งคำนวณค่าไฟฟา้ ของ
เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ในบ้าน
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
1) เครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีค่ากำลังไฟฟ้าและความต่างศักย์กำกับไว้ กำลังไฟฟ้ามีหน่วยเป็นวัตต์ ความต่าง
ศักย์มีหน่วยเป็นโวลต์ ค่าไฟฟ้าส่วนใหญ่คิดจากพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมด ซึ่งหาได้จากผลคูณของกำลงั ไฟฟ้าใน
หนว่ ยกิโลวตั ตก์ ับเวลาในหนว่ ยชั่วโมง พลงั งานไฟฟา้ มหี นว่ ยเป็นกิโลวัตต์ชั่วโมงหรือหน่วย
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนอธบิ ายและคำนวณพลังงานไฟฟ้าโดยใชส้ มการ W = Pt ได้
1) ดา้ นความรู้ (K) นักเรยี นใช้ทักษะการใช้จำนวน โดยการนำข้อมลู จากสถานการณ์ตัวอย่าง
2) ดา้ นทกั ษะ (P) มาคำนวณค่าพลังงานไฟฟา้ ของเครื่องใชไ้ ฟฟ้าได้
นักเรียนมีความมงุ่ มนั่ และรบั ผิดชอบในการทำงาน
3) ดา้ นเจตคติ (A)
4. คุณลักษณะผู้เรยี น
4.1 คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซื่อสตั ย์สจุ ริต มุ่งมั่นในการทำงาน
มวี นิ ัย รกั ความเปน็ ไทย ใฝเ่ รียนรู้ มีจติ สาธารณะ
5. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
ความสามารถในการสื่อสาร: นักเรียนสามารถสื่อสาร โดยการนำเสนอข้อมูลจากการสืบค้นข้อมูล
มาอธบิ ายเกีย่ วกบั การคำนวณคา่ ไฟฟา้
6. สาระการเรียนรู้
การเปรยี บเทียบพลังงานไฟฟา้ ทเี่ ครอื่ งใช้ไฟฟ้าแตล่ ะเครื่องใช้ จะมีการกำหนดเวลาที่ใชใ้ นเวลาหนงึ่
หนว่ ยเทา่ กัน ซึ่งการคดิ พลังงานไฟฟ้าท่ีใช้ไปในหนึ่งหนว่ ยเวลาเรียกว่า กำลงั ไฟฟ้า (electric power) มีหน่วย
เป็นจูลตอ่ วนิ าที (J/s) หรือ วัตต์ (W)
110
กำลงั ไฟฟา้ จะเขียนความสมั พันธ์ระหว่างพลังงานไฟฟา้ ทีเ่ คร่อื งใชไ้ ฟฟ้าใชแ้ ละเวลาได้ดังน้ี
=
เมือ่ แทน พลังงานไฟฟา้ ท่ีเครือ่ งใช้ไฟฟ้าใช้ มหี น่วยเป็น จลู (J)
แทน เวลาทใ่ี ช้ มีหน่วยเป็น วินาที (S)
แทน กำลงั ไฟฟา้ มหี นว่ ยเป็น จูลตอ่ วินาที (J/s) หรอื วัตต์ (W)
จากภาพ ที่ระบุกำลังไฟฟ้าของหลอดไฟเป็น 100 วัตต์
หมายความว่า ในเวลา 1 วิ หลอดไฟนี้ใช้พลังงานไฟฟ้า 100 จูล จากค่า
กำลังไฟฟ้าที่ระบุไว้บนเครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถคำนวณพลังงานไฟฟ้า
ทั้งหมดที่เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้ไปได้จากสมการ = ซึ่งจะเขียนเป็น
สมการความสมั พันธิไดใ้ หม่เปน็
ภาพ กำลังไฟฟา้ ที่ระบุบนครือ่ งใช้ไฟฟา้
=
การคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟและกำลังไฟฟ้าสามารถศึกษาได้จากตัวอย่าง
โจทยต์ ่อไปน้ี
ตัวอยา่ งโจทย์ หอ้ งของเด็กชาย ก มีหลอดไฟฟา้ ขนาด 28 วัตต์ จำนวน 2 หลอด และมพี ดั ลมขนาด
70 วัตต์ จำนวน 1 เคร่ือง ถา้ เด็กชาย ก ใชห้ ลอดไฟฟ้าทงั้ สองหลอดพร้อม ๆ กนั
เปน็ เวลา 45 นาที และใช้พดั ลมป็นเวลา 30 นาที พลังงานไฟฟา้ ทัง้ หมดทีใ่ ช้ไป
จะมคี า่ เท่าใด
แนวคิด หาพลงั งานไฟฟ้าทห่ี ลอดไฟฟ้าใช้
โจทย์กำหนด กำลงั ไฟฟา้ ของหลอดไฟฟ้ามขี นาด 28 วตั ต์
เด็กชาย ก ใชห้ ลอดไฟฟ้าเป็นเวลา 45 นาที
น่ันคอื เด็กชาย ก ใช้หลอดไฟฟ้านาน 45 x 60 วนิ าที เท่ากบั 2,700 วนิ าที
จากความสมั พนั ธ์ W = Pt
= 28 W x 2,700 s
= 75,600 J หรือ 75.6 KJ
หลอดไฟฟ้า จำนวน 1 หลอด ใช้พลังงานไฟฟ้า 75.6 กิโลจูล
ถ้าหลอดไฟฟ้า จำนวน 2 หลอด จะใช้พลงั านไฟฟา้ 75.6 กโิ ลจูล x 2 หลอด เทา่ กบั 151.2 กโิ ลจูล
หาพลังงานไฟฟ้าทพ่ี ัดลมใช้
โจทยก์ ำหนด กำลงั ไฟฟา้ ของพัดลมมขี นาด 70 วัตต์
เด็กชาย ก ใช้พัดลมเปน็ เวลา 30 นาที
น่นั คอื เดก็ ชาย ก ใชพ้ ัดลมนาน 30 x 60 วินาที เทา่ กับ 1,800 วนิ าที
จากความสัมพันธ์ W = Pt
= 70 W x 1,800 s
= 126,000 J หรือ 126 kJ
111
พัดลมใช้พลังงานไฟฟ้า 126 กโิ ลจูล
ดงั นั้น พลงั งานไฟฟ้าที่เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ทงั้ 2 ชนดิ ใชม้ ีคา่ 151,2 + 126.0 กิโลจลู เท่ากบั 277.2 กิโลจลู
การคำนวณค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนนั้น ค่าไฟฟ้าส่วนหนึ่งคิดจากพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้
ซึ่งสามารถคำนวณพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้จากสมการ W = Pt โดยให้ P มีหน่วยเป็นกิโลวัตต์ t มีหน่วยเป็น
ช่ัวโมง ดังนน้ั W จึงมีหนว่ ยเป็นกโิ ลวัตต์-ชัว่ โมง หรือหนว่ ย (unit) ตัวอยา่ งเชน่ ใชเ้ ตารดี 2,400 วัตต์ รีดผ้านาน
3 ชั่วโมง พลังงานไฟฟ้าท่ีเตารีดใช้คิดเป็น 7.2 กิโลวัตต์-ชัว่ โมง หรือ 7.2 หน่วย ทั้งนี้ค่าไฟฟ้าในบ้านจะคำนวณ
เป็นราคาตอ่ หน่วย
การคิดคา่ ไฟฟ้าท่ใี ช้ในแตล่ ะเดือนนั้น นอกจากจะคดิ จากพลงั งานไฟฟ้าทั้งหมดทใี่ ช้ซงึ่ คือค่าไพฟ้าฐาน
แล้ว ยังรวมคา่ บรกิ ารรายเตอื น ค่ไฟฟา้ ผันแปร (Ft) และภาษมี ลู คา่ เพม่ิ เขา้ ไปด้วย ดังสมการ
ค่าไฟฟา้ = ค่าไฟฟ้าฐาน + ค่าบริการรายเดือน + ค่าไฟฟ้าผนั แปร + ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ
ค่าไฟฟ้าฐานหาจากพลังงานไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดใช้ในหนึ่งเดือน แล้วคูณด้วยค่าไฟฟ้าต่อ
หน่วย ในอัตราก้าวหน้า ซึ่งเมื่อใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่ม ค่าอัตราต่อหน่วยก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ค่าไฟฟ้าผันแปร
เป็นค่าใช้จ่ายที่การไฟฟ้าไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ราคาเชื้อเพลิงที่เปลี่ยนแปลงไปตามตันทุนการผลิต แล้ว
นำไปคูณกับจำนวนหน่วยของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในเดือนนั้น ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีที่ผู้ใช้ต้องจ่าย
ตามท่ีกฎหมายกำหนด นอกจากนี้ผใู้ ช้ไฟฟ้ายงั ต้องรับผดิ ชอบคา่ บริการรายเดือนซง่ึ จะขนึ้ อยู่กับปริมาณการใช้
พลงั งานไฟฟา้ โดยในปจั จุบันการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ไม่เกนิ 150 หนว่ ยตอ่ เดือน คดิ ค่าบรกิ ารรายเดอื น 8.19 บาท
ถ้าใชเ้ กนิ 150 หนว่ ยตอ่ เดอื น คดิ ค่าบรกิ ารรายเดอื น 38.22 บาท
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ใช้รปู แบบการจดั การเรยี นการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (1 ชวั่ โมง; 60นาท)ี
ขัน้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) (10 นาที)
1) ครูสนทนาร่วมกับนักเรียน โดยแสดงฉลากสินค้าหรือเอกสารที่ระบุกำลังไฟฟ้าบน
เครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วใช้คำถามกระตุ้นความคิดว่า ตัวเลขแสดงกำลังไฟฟ้า เช่น 100W 900W 2,400W ที่ระบุไว้
บนเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น สามารถหาได้จากการคำนวณของค่าใดที่เกี่ยวข้อง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ
ตนเอง)
ขั้นท่ี 2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) (20 นาที)
2) ให้นักเรียนอา่ นเนื้อหาในหนังสือเรยี นหน้า 102 เพอื่ ทบทวนความรเู้ รื่องการเปลี่ยนพลังงาน
จากนน้ั กำหนดสถานการณก์ ารใชเ้ ตารีด A และ B เพอ่ื เชอ่ื มโยงเข้าส่เู รอื่ งกำลงั ไฟฟา้ ดังน้ี
- กรณที ่ี 1 เตารีด A ใชพ้ ลังงานไฟฟา้ 5,000 จลู และเตารดี B ใช้พลงั งานไฟฟา้ 12,000 จลู
- กรณีที่ 2 เตารีด A ใช้พลังงานไฟฟ้า 5,000 จูล ในเวลา 2 วินาที และเตารีด B ใช้พลังงาน
ไฟฟ้า 12,000 จลู ในเวลา 10 วนิ าที
จากสถานการณ์ร่วมกันอภิปรายโดยใช้คำถามว่า กรณีใดสามารถเปรียบเทียบได้ว่าเตารีดใดมี
อณุ หภมู ิสูงกว่ากันเพราะเหตุใด โดยใหน้ ักเรยี นอธบิ ายคำตอบ เชน่ กรณี 1 ไมส่ ามารถเปรียบเทียบได้เพราะเหตุ
ใด และกรณี 2 สามารถเปรยี บเทียบไดเ้ พราะเหตใุ ด ตามความเขา้ ใจของตนเอง
3) ให้นักเรียนอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 103 เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้องจากสถานการณ์ท่ี
กำหนด ซึง่ นกั เรยี นจะสามารถสรุปไดว้ า่ กรณีที่ 1 ไมส่ ามารถสรปุ ได้ว่าเตารีดใดมีอณุ หภูมสิ ูงกวา่ กนั เพราะไม่ได้
112
ระบุระยะเวลาในการใช้งาน กรณีท่ี 2 สามารถสรปุ ไดว้ ่าเตารีด A มีอุณหภูมสิ งู กวา่ B เพราะมกี ารระบุระยะเวลา
ในการใช้งานเตารีดทั้งสองอัน เมื่อคิดพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไปในเวลา 1 วินาทีเท่ากัน เตารีด A ใช้พลังงานไฟฟ้า
2,500 จูล ขณะท่ีเตารีด B ใช้พลงั งานไฟฟ้า 1,200 จูล ดังน้นั เตารีด A ใช้พลังงานไฟฟ้าในเวลา 1 วินาทมี ากกว่า
เตารีด B เตารีด A จะมีอุณหภูมิสูงกว่า จากนั้นร่วมกันอภิปราย เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า พลังงานไฟฟ้าท่ี
เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ใชใ้ นหน่ึงหน่วยเวลา เรียกวา่ กำลังไฟฟ้า ซึ่งมีความสมั พันธ์กับพลงั งานไฟฟ้าและเวลาตามสมการ
P = W/t หรอื W = Pt โดยกำลังไฟฟ้ามีหน่วยเป็นจลู ตอ่ วินาที (J/s) หรอื วตั ต์ (W)
ขนั้ ท่ี 3 ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (10 นาที)
4) ให้นักเรียนศึกษาการคำนวณหาพลังงานไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้าจากตัวอย่างโจทย์ โดยอ่าน
เนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 104-105 แล้ววิเคราะห์ว่าโจทย์ตัวอย่างต้องการให้หาอะไร และโจทย์ตัวอย่าง
กำหนดอะไรให้บ้าง จากนั้นตอบคำถามโจทย์ชวนคิดจำนวน 2 ข้อ (หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ชั้นม.3 เล่ม 2 สสวท. หน้า 106) (เฉลยแนบท้ายแผนการจัดการเรียนรู้) และร่วมอภิปราย
เกย่ี วกับคำตอบร่วมกัน
ข้ันท่ี 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที)
5) ให้นักเรียนอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 106 และร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการคำนวณ
คา่ ไฟฟ้าที่ต้องจ่ายในแตล่ ะเดือน โดยใชค้ ำถามว่า คา่ ไฟฟ้าแตล่ ะเดือนจะมากน้อยเพยี งใดเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง
เพือ่ ใหไ้ ด้ข้อสรปุ วา่ คา่ ไฟฟา้ จะมากหรือน้อยข้ึนอยู่กับพลงั งานไฟฟ้าที่ใช้ทง้ั หมด ซงึ่ เกยี่ วขอ้ งกบั กำลังไฟฟ้าของ
เครือ่ งใช้ไฟฟา้ และชว่ งเวลาหรอื ระยะเวลาท่ใี ช้
6) ให้นักเรียนศึกษาการคำนวณพลังงานไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้ไปในหนึ่งเดือนจากโจทย์
ตัวอย่างและเกร็ดน่ารู้ โดยอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 107-109 และร่วมกันอภิปราย เพื่อให้ได้ข้อสรุปวา่
ค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนคำนวณจากผลรวมของค่าไฟฟ้าฐาน ค่าบริการรายเดือน ค่าไฟฟ้าผันแปร และ
ภาษีมูลคา่ เพิ่ม โดยค่าไฟฟ้าฐานเป็นพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าใช้โดยคิดในราคาต่อหน่วย ค่าบริการ
รายเดือนเป็นค่าบริการที่การไฟฟ้าเป็นผู้เรียกเก็บจากผู้ใช้บริการตามปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า ค่าไฟฟ้าผัน
แปรเป็นค่าใช้จ่ายที่การไฟฟ้าไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ค่าเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ต้นทุนในการ
กอ่ สรา้ งโรงไฟฟา้ และระบบสายส่งไฟฟ้า และภาษมี ูลคา่ เพม่ิ เป็นภาษที ผี่ ใู้ ช้ต้องจา่ ยตามกฎหมายกำหนด
ข้นั ท่ี 5 ขั้นประเมนิ (Evaluation) (10 นาที)
7) นักเรียนตรวจสอบการทำแบบฝึกหัดคำถามชวนคิดและสง่ ตามกำหนดทว่ี างไว้
8) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมนิ (Rubrics Score)
8. ส่ือการเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้
8.1 อปุ กรณ์ทำกจิ กรรม: ฉลากสินค้าหรือเอกสารทรี่ ะบุกำลังไฟฟ้าบนเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
8.2 แบบฝึกหดั : คำถามชวนคิด จำนวน 2 ข้อ (หนงั สอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และ
8.3 แหลง่ เรียนรู้: เทคโนโลยี ชนั้ ม.3 เล่ม 2 สสวท. หน้า 106)
หนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3
เล่ม 2 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธกิ าร
113
9. การวดั และการประเมิน
ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ วิธกี ารวัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์ที่ใช้ในการประเมิน
1. อธบิ ายและคำนวณพลงั งาน - ตรวจการตอบคำถาม - คำถามชวนคิด - ไดไ้ มน่ ้อยกว่า 2 คะแนน
ไฟฟ้าโดยใชส้ มการ W = Pt ชวนคดิ การคำนวณหาพลังงานไฟฟ้า ระดบั คุณภาพดี ถือว่า
(ดา้ นความรู้: K) และกำลงั ไฟฟ้าเป็นอย่างไร ผา่ นการประเมิน
จำนวน 2 ข้อ ดา้ นความรู้
ตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์ทใ่ี ชใ้ นการประเมิน
2. การใช้ทกั ษะการใช้จำนวน - ตรวจการตอบคำถาม - คำถามชวนคดิ - ไดไ้ มน่ ้อยกว่า 2 คะแนน
โดยการนำข้อมลู จาก ชวนคิด การคำนวณหาพลังงานไฟฟ้า ระดบั คุณภาพดี ถือวา่
สถานการณ์ตวั อยา่ งมา และกำลังไฟฟ้าเปน็ อย่างไร ผา่ นการประเมิน
คำนวณค่าพลงั งานไฟฟา้ ด้านกระบวนการ
(ดา้ นกระบวนการ: P) จำนวน 2 ข้อ
3. ความม่งุ ม่นั ในการ - สงั เกตพฤติกรรมของ - เกณฑก์ ารประเมินความ - ได้ไม่น้อยกว่า2 คะแนน
ทำงานและความ นักเรียนระหวา่ งและ มงุ่ มนั่ และความรับผดิ ชอบ ระดับคณุ ภาพดี ถือวา่
รับผดิ ชอบ หลังการจัดกิจกรรม ในการทำกจิ กรรมการ ผ่านการประเมิน
(ดา้ นเจตคต:ิ A) การเรยี นรู้ เรียนรู้ ด้านเจตคติ
9.1 เกณฑก์ ารประเมินผลนักเรยี น เกณฑ์การประเมิน (Rubrics Score)
ประเด็นการประเมิน ค่านำ้ หนกั แนวทางการให้คะแนน
การให้คะแนนตอบ คะแนน
ตอบคำถามชวนคิด ได้ถูกต้อง จำนวน 2 ขอ้
คำถามชวนคดิ 3 ตอบคำถามชวนคิด ได้ถูกต้อง จำนวน 1 ข้อ
2 ตอบคำถามชวนคดิ ไดแ้ ต่มีข้อผิดพลาดต้องปรบั ปรงุ แก้ไขใหถ้ ูกต้อง
การให้คะแนนการบันทกึ 1 บันทกึ ผลการคำนวณตามโจทย์ท่ีกำหนดไดอ้ ย่างถูกต้อง มีการระบสุ ูตร
คำตอบลงในแบบฝกึ หดั 3 และแสดงวิธที ำได้อย่างชัดเจน สอดคลอ้ งกลบั ในกจิ กรรม
บนั ทึกผลการคำนวณตามโจทย์ท่ีกำหนดไดอ้ ยา่ งถูกต้อง มกี ารระบสุ ูตร
การใหค้ ะแนนพฤติกรรม 2 และแสดงวธิ ที ำ สอดคล้องกลับในกจิ กรรม แต่ยงั มีข้อผดิ พลาดไมถ่ ูกต้อง
ความมุง่ ม่ันและความ บันทกึ ผลการคำนวณตามโจทย์ที่กำหนดไม่ถูกต้อง ไม่มกี ารระบสุ ูตร และ
รับผิดชอบในการทำ 1 แสดงวธิ ที ำ ต้องปรบั ปรุงแก้ไขใหถ้ ูกต้อง
กจิ กรรมการเรียนรู้ 1) นกั เรียนมีความสนใจและมุ่งมัน่ ในการทำกจิ กรรม ให้ความรว่ มมือ
3 และปฏิบัตติ ามขนั้ ตอนการเรียนรเู้ ป็นอยา่ งดี 2) นกั เรียนมีความรบั ผดิ ชอบ
ทำงานที่ได้รบั มอบหมายไดต้ รงเวลาที่กำหนดเปน็ อยา่ งดี
2 1) นักเรยี นสนใจและม่งุ มน่ั ในการทำกิจกรรมเปน็ บางคร้ัง และมีการคยุ กนั
เล่นขณะการเรียนรู้ แต่ไมก่ ระทบผูอ้ น่ื 2) นักเรียนมีความรับผดิ ชอบทำงาน
ทีไ่ ดร้ ับมอบหมายตรงตามเวลาท่กี ำหนด แต่เกิดปัญหาระหว่างการทำงาน
114
1) นักเรียนขาดความมุ่งมัน่ และไม่สนใจในการเรยี น มีพฤติกรรมชอบคยุ
1 ชอบเลน่ หรือนอนหลบั ขณะการเรียนการสอน 2) นักเรียนขาดความ
รบั ผดิ ชอบในงานท่ีได้รับมอบหมายไมต่ รงตามกำหนดเวลาที่ตกลงไว้
9.2 ระดบั คณุ ภาพ
คะแนนรวมเฉล่ีย 3.00 หมายถงึ ดีมาก
คะแนนรวมเฉลย่ี 2.00 - 2.99 หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉล่ยี 0.01 - 1.99 หมายถึง พอใช้
ดังนนั้ นกั เรียนต้องไดค้ ะแนนเฉลี่ยทุกประเดน็ การประเมิน ไม่ต่ำกว่า 2.00 แสดงระดับ
คณุ ภาพ ดี ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในแผนการจดั การเรียนท่ี 18
115
บันทกึ หลังการสอน
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 ไฟฟา้ .... ...... ... ...
แผนการสอนเรอ่ื ง 18 คำนวณพลงั งานไฟฟา้ ของเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า
วันท.่ี ..............................เดอื น...............................................................พ.ศ.................
1. สรปุ ผลการเรียนการสอน
1. นกั เรียนจำนวน....................คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้...........คน คดิ เปน็ ร้อยละ.............
ไม่ผา่ นจุดประสงค.์ ......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.............
ได้แก.่ .................................................................................................
2. สรปุ ผลตามรายจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
2.1 นกั เรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ( K)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.2 นักเรียนมีความรูเ้ กดิ กระบวนการ (P)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.3 นักเรียนมเี จตคติ (A)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะหลงั การจดั การเรียนการสอน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ............................................ครผู ู้สอน ลงชื่อ.............................................หวั หน้ากลุม่ สาระ
() ()
ตำแหน่ง................................................... ลงชื่อ.............................................ผชู้ ว่ ย/รองฯวิชาการ
…………./……………./………… ()
ลงช่อื ............................................ผู้อำนวยการ
()
116
แบบบนั ทึกการประเมินคณุ ภาพการเรยี นรู้ของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3
รายวชิ าวิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน (ว23102) หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 ไฟฟา้ I
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 18 เร่อื ง วงจรไฟฟ้าแบบขนาน .
คำชีแ้ จง: ทำเครอื่ งหมาย ✓ ในชอ่ งคา่ นำ้ คะแนนแตล่ ะด้านตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ โดยประเมนิ ตามเกณฑ์
(Rubrics Score)
เลข ชอื่ -นามสกุล/ ด้านความรู้ (K) ดา้ นกระบวนการ (P) ด้านเจตคติ (A) คะแนนรวม
ท่ี รหัสนกั เรยี น ค่าน้ำหนักคะแนน คา่ น้ำหนกั คะแนน ค่าน้ำหนกั คะแนน
ระดับ
3 2 1 3 2 1 32 1 คุณภาพ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
117
เลข ชอ่ื -นามสกุล/ ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นกระบวนการ (P) ด้านเจตคติ (A) คะแนนรวม
ท่ี รหัสนกั เรียน คา่ นำ้ หนักคะแนน ค่าน้ำหนกั คะแนน ค่าน้ำหนักคะแนน
ระดับ
321 32 1 32 1 คุณภาพ
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
เกณฑ์การพิจารณาคุณภาพ หมายถึง ดีมาก
คะแนนรวมเฉลี่ย 3.00 หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉล่ีย 2.00 - 2.99 หมายถงึ พอใช้
คะแนนรวมเฉลยี่ 0.01 - 1.99
ตอ้ งไดค้ ะแนนเฉลีย่ ทกุ ประเด็นการประเมิน ไม่ตำ่ กว่า 2.00 แสดงระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไปเท่าน้ัน
ถึงจะผ่านการเรยี นรู้ตามตัวชว้ี ัด
ผลการประเมนิ การเรยี นรขู้ องนักเรียน
ผเู้ รยี นท่ี ผ่าน ตัวชี้วัด
มจี ำนวน…………………………คน คิดเป็นรอ้ ยละ………………………………………………..
ผ้เู รยี นท่ี ไม่ผ่าน ตวั ช้วี ดั
มจี ำนวน…………………………คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ………………………………………………..
1)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
2)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
3)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
118
สอื่ การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 18: แบบฝกึ หดั
แบบฝกึ หัดคำถามชวนคดิ การคำนวณหาพลงั งานไฟฟา้ และกำลังไฟฟ้าเป็นอยา่ งไร จำนวน 2 ขอ้
หนังสอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 2 ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธกิ าร หน้า 106
1. บ้านหลังหนึ่งใช้โทรทัศน์ขนาด 125 วัตต์นาน 4 ชั่วโมง และใช้หม้อหุงข้าวขนาด 450 วัตต์นาน 40
นาที
ในแต่ละวนั เคร่อื งใช้ไฟฟ้าใดใช้พลังงานมากกว่าและใช้พลังงานไฟฟ้ามากกวา่ เทา่ ใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ถา้ ใช้งานเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าในแตล่ ะคืนประกอบด้วยหลอดไฟฟ้าขนาด 35 วัตต์นาน 2 ช่วั โมง
โทรทัศน์ขนาด 150 วตั ต์นาน 3 ชวั่ โมง และพดั ลมตง้ั พน้ื ขนาด 75 วตั ตน์ าน 30 นาที
เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ท้งั หมดใชพ้ ลังงานไฟฟ้าเทา่ ใดในเดอื นกันยายน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนบทา้ ยแผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 18: 119
การใหค้ ะแนนดา้ นความรู้ (K) และดา้ นกระบวนการ (P)
เฉลยแบบฝกึ หัดคำถามชวนคิด การคำนวณหาพลงั งานไฟฟา้ และกำลงั ไฟฟ้าเปน็ อยา่ งไร
1. บ้านหลังหนึ่งใช้โทรทัศน์ขนาด 125 วัตต์นาน 4 ชั่วโมง และใช้หม้อหุงข้าวขนาด 450 วัตต์นาน 40
นาที
ในแต่ละวนั เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ใดใชพ้ ลังงานมากกว่าและใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ มากกว่าเท่าใด
แนวคำตอบ หาพลังงานไฟฟ้าทโี่ ทรทัศนใ์ ชใ้ นแต่ละวัน
โจทย์กำหนด โทรทัศนม์ กี ำลงั ไฟฟ้าขนาด 125 วัตต์
ใชโ้ ทรทศั น์เป็นเวลา 4 ชั่วโมง
นน่ั คือ ใช้โทรทัศน์นาน 4 ชัว่ โมง x 60 นาที x 60 วนิ าที เท่ากับ 14,400 วนิ าที
จากความสมั พันธ์ W = Pt
= 125 W x 14,400 s
= 1,800,000 J หรือ 1,800 kJ
พลังงานไฟฟา้ ทโ่ี ทรทัศน์ใช้ในแต่ละวัน เทา่ กับ 1,800 กิโลจูล
หาพลังงานไฟฟา้ ท่หี ม้อหุงขา้ วใชใ้ นแต่ละวัน
โจทย์กำหนด หม้อหงุ ขา้ วมีกำลังไฟฟา้ ขนาด 450 วตั ต์
ใชห้ ม้อหงุ ขา้ วเปน็ เวลา 40 นาที
นน่ั คอื ใช้หมอ้ หุงข้าวนาน 40 นาที x 60 วินาที เท่ากบั 2,400 วินาที
จากความสัมพนั ธ์ W = Pt
= 450 W x 2,400 s
= 1,080,000 J หรือ 1,080 kJ
พลังงานไฟฟา้ ที่หม้อหุงข้าวใช้ในแตล่ ะวัน เทา่ กบั 1,080 กิโลจลู
ดังนั้น ในแต่ละวนั โทรทัศน์ใชพ้ ลงั งานมากกว่าหม้อหุงข้าวมีค่า 1,800 – 1,080 เทา่ กบั 720 กโิ ลจลู
120
แนบท้ายแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 18: การให้คะแนนดา้ นความรู้ (K) และดา้ นกระบวนการ (P)
เฉลยแบบฝกึ หดั คำถามชวนคิด การคำนวณหาพลังงานไฟฟา้ และกำลงั ไฟฟ้าเป็นอยา่ งไร
2. ถ้าใชง้ านเครื่องใช้ไฟฟ้าในแต่ละคนื ประกอบดว้ ยหลอดไฟฟ้าขนาด 35 วตั ต์นาน 2 ชั่วโมง
โทรทศั นข์ นาด 150 วัตตน์ าน 3 ชั่วโมง และพดั ลมตั้งพ้นื ขนาด 75 วัตตน์ าน 30 นาที
เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าทั้งหมดใชพ้ ลังงานไฟฟา้ เท่าใดในเดือนกันยายน
แนวคำตอบ หาพลังงานไฟฟา้ ท่ีหลอดไฟฟ้าใช้ในเดือนกันยายน
โจทยก์ ำหนด หลอดไฟฟ้าขนาด 35 วตั ต์ / ใช้หลอดไฟฟา้ เปน็ เวลา 2 ชั่วโมง
น่นั คือ ใช้หลอดไฟฟ้านาน 2 ชั่วโมง x 60 นาที x 60 วินาที เท่ากับ 7,200 วนิ าที
จากความสัมพันธ์ W = Pt
= 35 W x 7,200 s
= 252,000 J หรอื 252 kJ
หลอดไฟฟา้ ใช้พลงั งานไฟฟ้าต่อวัน 252 กิโลจูล
ใน 30 วัน หลอดไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้า 30 วนั X 252 กโิ ลจูล เท่ากบั 7,560 กโิ ลจลู หรือ 7.56 เมกะจลู
หาพลังงานไฟฟ้าท่ีโทรทัศน์ใชใ้ นเดอื นกนั ยายน
โจทยก์ ำหนด โทรทศั นข์ นาด 150 วตั ต์ / ใช้โทรทศั น์เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
น่นั คือ ใชโ้ ทรทศั นน์ าน 3 ชัว่ โมง x 60 นาที x 60 วนิ าที เท่ากับ 10,800 วนิ าที
จากความสมั พันธ์ W = Pt
= 150 W x 10,800 s
= 1,620,000 J หรือ 1,620 kJ
โทรทศั นใ์ ช้พลังงานไฟฟา้ ตอ่ วัน 1,620 กิโลจลู
ใน 30 วัน โทรทัศน์ใช้พลงั งานไฟฟ้า 30 วนั X 1,620 กโิ ลจูล เทา่ กบั 48,600 กิโลจูลหรือ 48.6 เมกะจลู
หาพลงั งานไฟฟา้ ทพ่ี ัดลมต้งั พืน้ ใชใ้ นเดอื นกันยายน
โจทย์กำหนด พดั ลมต้ังพ้นื ขนาด 75 วตั ต์
ใช้พัดลมตง้ั พ้ืนเป็นเวลา 30 นาที
น่ันคอื ใชพ้ ดั ลมต้ังพื้นนาน 30 นาที x 60 วินาที เทา่ กับ 1,800 วนิ าที
จากความสมั พันธ์ W = Pt
= 75 W x 1,800 s
= 135,000 J หรือ 135 kJ
พัดลมต้ังพืน้ ใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ต่อคืน 135 กิโลจูล
ใน 30 วัน พัดลมตง้ั พนื้ ใช้พลงั งานไฟฟา้ 30 วนั X 135 กิโลจลู เทา่ กับ 4,050 กิโลจูลหรอื 4.05 เมกะจูล
ดังนั้น พลังงานไฟฟา้ ทั้งหมดทเ่ี ครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าใช้ในเดอื นกันยายน
มคี ่า 7,560 + 48,600 + 4,050 เทา่ กับ 60,210 กโิ ลจลู หรอื 60.21 เมกะจลู
121
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 19
เรือ่ ง การใช้เครอื่ งใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยดั และปลอดภัย รหัสวิชา ว23102 เวลา 2 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ ไฟฟ้า
กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวม 22 ชว่ั โมง
สาระที่ 2 ช่ือสาระ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2
มาตรฐาน ว 2.3
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั
ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
สสารและพลงั งาน พลังงานในชวี ติ ประจำวัน ธรรมชาติของคลืน่ ปรากฏการณ์ทเ่ี กย่ี วข้องกับเสียง แสง และคล่ืน
แมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชีว้ ัด
ว 2.3 ม.3/9 ตระหนักในคุณค่าของการเลือกใชเ้ คร่อื งใชไ้ ฟฟ้าโดยนำเสนอวิธีการใช้เครื่องใชไ้ ฟฟ้าอยา่ ง
ประหยัดและปลอดภัย
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
1) วงจรไฟฟ้าในบ้านมีการต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบขนาน เพื่อให้ความต่างศักย์เท่ากัน การใช้
เครื่องใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน ต้องเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความต่างศักย์และกำลังไฟฟ้าให้เหมาะกับการใช้
งาน และการใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟา้ ต้องใช้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และประหยดั
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ นกั เรยี นวางแผนการใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นอยา่ งถูกต้อง ประหยดั
1) ด้านความรู้ (K) และปลอดภยั
นักเรียนใช้ทักษะการสอ่ื สาร โดยนำเสนอวิธกี ารใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ อย่าง
2) ด้านทกั ษะ (P) ประหยดั และปลอดภัย
นักเรียนตระหนักในคุณค่าของการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟา้ โดยนำเสนอแนะ
3) ดา้ นเจตคติ (A) วิธีการใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าอย่างประหยดั และปลอดภัย
4. คุณลักษณะผเู้ รยี น
4.1 คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
มวี ินยั รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจติ สาธารณะ
5. ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
ความสามารถในการสื่อสาร: นักเรียนสามารถสอ่ื สาร โดยการนำเสนอข้อมูลจากการสังเกต การวดั
การปฏิบัตกิ ิจกรรม และการอภิปราย เกี่ยวกบั การคำนวณคา่ ไฟฟ้า และแนวทางการลดค่าไฟฟา้ ในบ้าน
6. สาระการเรียนรู้
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต้องคำนึงถึงค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าที่ใช้ให้ถูกต้อง เนื่องจาก
ระบบไฟฟ้าแต่ละประเทศ อาจมีค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าแตกต่างกัน เช่น ประเทศไทยใช้ความต่างศักย์ไฟฟ้า
เหมือนกบั ประเทศจีน ในขณะที่ประเทศญ่ีปุ่นใช้ความตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ 100 โวลต์ ในการผลติ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าหรือ
122
อุปกรณ์ไฟฟ้าของแต่ละประเทศจะต้องผลิตให้ตรงกับค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าของประเทศนั้น ๆ ดังนั้นการใช้
เครื่องใชไ้ ฟฟ้าก็ต้องใช้ใชใ้ ห้ตรงกับคา่ ความต่างศักย์ไฟฟ้าที่ระบุไว้บนเครื่องใช้ไฟฟ้าน้ัน ทั้งนี้เนือ่ งจากความตา่ ง
ศักย์ไฟฟ้า ซึ่งมีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างกระแสไฟฟ้ากับความต้านทานไฟฟ้า แต่ความต้านทานไฟฟ้าของ
เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีค่าคงที่ค่าหนึ่ง ทำให้ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า
ขึ้นอยู่กับค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟฟ้า นั่นคือถ้าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากับแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่มีความต่าง
ศักย์ไฟฟ้าสูงกว่าที่ระบุไว้ จะทำให้กระแสไฟฟ้าผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าจะทนได้ ส่งผลให้
เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นเกิดความร้อนสูง ซึ่งอาจชำรุดเสียหายหรือเกิดไฟไหม้ได้ แต่ถ้าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากับแหล่งจ่าย
ไฟฟ้าทม่ี ีความต่างศักย์ไฟฟ้าตำ่ กวา่ ทีร่ ะบุไว้ให้กระแสไฟฟ้าผ่านเคร่ืองใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าท่ีเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องการ
เครือ่ งใช้ไฟฟา้ น้ันก็จะไมท่ ำงาน
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต้องคำนึงถึงความประหยัด เนื่องจากค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายใน
แต่ละเดือนคิดจากพลังงานไฟฟที่เครื่องใช้ไฟฟ้าท่ีใช้ทั้งหมด ซึ่งพลังานไฟฟ้าที่ใช้ขึ้นอยู่กับกำลังไฟฟ้าของ
เครื่องใช้ไฟฟ้าและระยะเวลาที่เราใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้น ดังนั้นการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดจึงควร
พจิ ารณากำลงั ไฟฟา้ ของเครื่องใชไ้ ฟฟา้ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น การเลือกใชห้ ลอดไฟฟา้ ควรเลือกใช้หลอด
แอลอีดี ซึ่งมีกำลังไฟฟ้าต่ำกวา่ หลอดไส้แตม่ ีประสิทธภิ าพในกรส่องสว่างมากและมีอายุการใช้งานยาวนาน หรือ
การเลือกใช้หลอดฟลูออเรสเชนต์แบบผอมขนาด 18 วัตต์ ซึ่งมีความสว่างเท่ากับหลอดไฟฟ้าขนาด 20 วัตต์
แต่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าเม่ือใช้ในระยะเวลาที่เทา่ กัน อย่างไรก็ตามการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าควรเปดิ เฉพาะเวลา
ใช้งานเท่านั้น และควรถอดปกหรอื เต้าเสยี เมื่อไมไ่ ด้ใชง้ านการใช้ครื่องใชไ้ ฟฟ้า นอกจากตอ้ งใช้งานให้ถูกต้องและ
ประหยัดแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย ซึ่งการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยมีวิธีปฏิบัติดังภาพ (แนบท้าย
แผนการจัดการเรียนรู้)
ซึ่งการคำนวณหาพลังงานไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าใชไ้ ปและค่าไฟฟ้าทีต่ ้องจ่ายในแต่ละเดือน ตลอดจน
การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยและประหยัด เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่าง
มีคณุ ภาพ
7. กิจกรรมการเรียนรู้
ใช้รปู แบบการจดั การเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (2 ชว่ั โมง; 120นาท)ี
ขน้ั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) (10 นาที)
1) ครแู ละนักเรยี นสนทนารว่ มกัน เพื่อกระต้นุ ความสนใจของนักเรยี น โดยครใู ช้แผนภาพแสดง
วิธีการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย แล้วให้นักเรียนร่วมกันตอบว่า สัญลักษณ์ภาพที่เห็นนั้น มีการระบุถึงวิธีการหรือ
แนวทางการใช้ไฟฟ้าทปี่ ลอดภยั อยา่ งไร
2) ครูใช้สื่อคลิปวีดิทัศน์ เรื่อง การใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยในบ้านอยู่อาศัย สืบค้นได้จาก
https://www.youtube.com/watch?v=gVpXXdJVbn0 เพื่อให้นักเรียนตระหนักในคุณค่าของการเลือกใช้
เคร่อื งใช้ไฟฟา้ อย่างประหยดั และปลอดภัย
ขน้ั ที่ 2 ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) (20 นาที)
3) ครูเชื่อมโยงเข้าสู่กิจกรรมที่ 6.6 ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัยได้อย่างไร
โดยใช้คำถามวา่ เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ที่ใช้อยู่ในบ้านมจี ำนวนมาก โดยเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าแตล่ ะชนิดจะมฉี ลากแสดงปริมาณ
ทางไฟฟ้ากำกับไว้ เราจะมีวิธีการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นให้ถูกต้อง ปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่าย
ได้อย่างไร
123
4) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 112 และครูตรวจสอบความ
เขา้ ใจการอ่าน โดยใชค้ ำถามดังต่อไปน้ี
- กจิ กรรมนี้เก่ียวกบั เรอื่ งอะไร (การใช้เครอื่ งใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยัดและปลอดภยั )
- กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (วางแผนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างถูกต้อง ประหยัด
และปลอดภัย เปรียบเทียบค่าไฟฟ้าก่อนและหลังการปฏิบัติเพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า นำเสนอวิธีการใช้
เครือ่ งใช้ไฟฟา้ อย่างประหยัดและปลอดภยั )
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (นักเรียนต้องสังเกตและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ
พลังงานไฟฟ้าในใบแจ้งค่าไฟฟ้า เช่น จำนวนหน่วยที่ใช้ไปในครั้งก่อน จำนวนหน่วยที่ใช้ไปในครั้งหลัง จำนวน
หน่วยที่ใช้ในเดือนนั้น ซึ่งเป็นผลต่างของจำนวนหน่วยที่ใช้ไปในครั้งหลังและครั้งก่อน กำลังไฟฟ้าของ
เครื่องใช้ไฟฟ้าและพฤติกรรมการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และวิธีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกต้อง ประหยัด
และปลอดภยั )
5) ขณะที่นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
และให้คำแนะนำ ถ้านักเรียนมีข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ที่อาจเป็นปัญหา ซึ่งครูควรรวบรวมปัญหา และ
ข้อสงสัยท่ีพบจากการทำกิจกรรมของนกั เรียนเพื่อใช้เปน็ ข้อมลู ประกอบการอภิปรายหลังจากการทำกิจกรรม
ขั้นที่ 3 ข้นั อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (10 นาที)
6) ให้นักเรียนแต่ละคนสังเกตค่าพลังงานไฟฟ้าในใบแจ้งค่าไฟฟ้า สืบค้นและวางแผนการใช้
เคร่ืองใช้ไฟฟ้าให้ถูกต้อง ประหยดั และปลอดภยั โดยครสู ังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียน พรอ้ มท้ังให้คำแนะนำ
หากนกั เรยี นมีขอ้ สงสยั เกีย่ วกับคา่ พลงั งานไฟฟ้าที่ระบใุ นใบแจ้งค่าไฟฟา้ และการวางแผนการใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟ้า
7) ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ถูกต้อง ประหยัดและปลอดภัย
โดยอาจใช้คำถามว่า การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ถูกต้องควรพิจารณาจากอะไร มีหลักการเลือกใช้อย่างไร
การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดควรพิจารณาจากอะไร มีหลักการเลือกใช้อย่างไร และการใช้
เครือ่ งใช้ไฟฟา้ อย่างปลอดภัยทำได้อย่างไร
8) หลงั จากนักเรียนปฏบิ ตั ติ ามแผนครบ 1 เดือนแลว้ ให้นักเรียนเปรยี บเทียบจำนวนหน่วยของ
พลังงานไฟฟ้าก่อนและหลังการปฏิบัติ พร้อมนำเสนอผลและวิธีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกต้อง ประหยัดและ
ปลอดภัยขั้นที่
9) ให้นักเรียนตอบคำถามท้ายกิจกรรม จากนั้นร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปจากกิจกรรม
โดยการใช้เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ใหถ้ ูกต้อง ประหยัด และปลอดภยั ขึน้ อยูก่ บั การทำกจิ กรรมของนักเรยี น
4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที)
10) ให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ถูกต้อง ประหยัดและปลอดภัย
ตลอดจนเกร็ดน่ารู้ โดยอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 113-115 และร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับสิ่งที่นักเรียนได้
เรียนรู้นอกเหนือจากการทำกิจกรรมที่ 6.6 เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้
ถูกต้องและปลอดภัย โดยการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องเลือกใช้ให้ตรงกับค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าที่ระบุไว้บน
เครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งเป็นค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานและต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ถูกวิธี รวมทั้ง
ตอ้ งเลือกใช้เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ที่มีกำลงั ไฟฟา้ ให้เหมาะสมกบั การใชง้ านเพ่ือความประหยดั
124
ขั้นท่ี 5 ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) 1 นาที)
11) นกั เรียนตรวจสอบการทำแบบบันทึกการทำกิจกรรมและส่งตามกำหนดท่วี างไว้
12) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมนิ (Rubrics Score)
8. ส่ือการเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้
8.1 อุปกรณ์ทำกจิ กรรม: 1) ใบแจ้งค่าไฟฟ้าก่อนการปฏิบตั ิ 2) ใบแจง้ ค่าไฟฟ้าหลังการปฏบิ ตั ิ
8.2 คลิปวดี ทิ ศั น์: เรื่อง การใช้ไฟฟ้าอยา่ งปลอดภัยในบ้านอยู่อาศัย
8.3 แผนภาพ: แสดงผงั มโนทศั น์ เร่ืองวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย
8.4 ใบกจิ กรรม: ใบกิจกรรมทา้ ยกิจรรมท่ี 6.6 วิธกี ารใชไ้ ฟฟ้าอย่างปลอดภยั
8.5 แบบบนั ทึกกจิ กรรม: แบบบันทึกการค้นควา้ กิจกรรมท่ี 6.6 วิธกี ารใช้ไฟฟ้าอยา่ งปลอดภัย
8.6 แหลง่ เรียนรู:้ หนงั สือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3
9. การวัดและการประเมนิ เล่ม 2 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551
(ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ
ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ วิธกี ารวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑ์ท่ใี ช้ในการประเมิน
- คำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 6.6
1. วางแผนการใช้ - ตรวจการตอบคำถาม - ไดไ้ มน่ ้อยกว่า 2 คะแนน
ใช้เครอื่ งใช้ไฟฟา้ อย่าง ระดบั คุณภาพดี ถือวา่
เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ในบ้านอยา่ ง ทา้ ยกจิ กรรมท่ี 6.6 ประหยัดและปลอดภัยได้ ผา่ นการประเมิน
อย่างไร จำนวน 3 ข้อ ดา้ นความรู้
ถูกต้อง ประหยดั และ - แบบบนั ทึกการค้นควา้
กิจกรรมที่ 6.6 - ไดไ้ มน่ ้อยกว่า 2 คะแนน
ปลอดภยั (ด้านความรู้: K) ใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าอย่าง ระดบั คุณภาพดี ถือว่า
ผา่ นการประเมิน
2. การใช้ทกั ษะการสื่อสาร - ตรวจการทำแบบ ประหยดั และปลอดภัยได้ ดา้ นกระบวนการ
โดยนำเสนอวธิ ีการใช้ บนั ทกึ การคน้ คว้า อยา่ งไร
เคร่ืองใช้ไฟฟ้าอย่าง กจิ กรรมท่ี 6.6
ประหยัดและปลอดภยั
(ดา้ นกระบวนการ: P)
3. ตระหนกั ในคุณค่าของการ - ตรวจการตอบคำถาม - คำถามท้ายกิจกรรมท่ี 6.6 - ได้ไม่น้อยกว่า2 คะแนน
เลอื กใช้เครื่องใช้ไฟฟา้ ทา้ ยกจิ กรรมที่ 6.6 ใช้เครอื่ งใช้ไฟฟา้ อยา่ ง ระดับคุณภาพดี ถือวา่
โดยนำเสนอแนะวธิ ีการใช้ ประหยดั และปลอดภัยได้ ผ่านการประเมิน
เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าอย่าง อยา่ งไร จำนวน 3 ข้อ ด้านเจตคติ
ประหยัดและปลอดภัย
(ดา้ นเจตคต:ิ A)
9.1 เกณฑก์ ารประเมินผลนักเรียน เกณฑ์การประเมนิ (Rubrics Score)
ประเด็นการประเมนิ คา่ นำ้ หนัก แนวทางการให้คะแนน
คะแนน
การให้คะแนนตอบ 3 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมท่ี 6.6 ถูกต้อง จำนวน 3 ข้อ
คำถามทา้ ย 2 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 6.6 ถกู ต้อง จำนวน 2 ข้อ
125
กจิ กรรมที่ 6.6 1 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 6.6 ถกู ตอ้ ง จำนวน 1 ขอ้ หรือไม่ถูกต้อง
การให้คะแนนการบันทึก บันทกึ ผลการทำกิจกรรม จากการนำเสนอ โดยนำเสนอวธิ ีการใช้
แบบบันทึกการค้นคว้า 3 เครอื่ งใช้ไฟฟา้ อย่างประหยัดและปลอดภยั ได้อย่างอยา่ งรวดเรว็
ชดั เจน และถกู ต้อง สอดคล้องกบั เนื้อหาในกจิ กรรม
กิจกรรมท่ี 6. 2 บนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรม จากการนำเสนอ โดยนำเสนอวิธีการใช้
เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ อย่างประหยัดและปลอดภัยไดถ้ ูกต้อง
ประเด็นการประเมนิ 1 สอดคล้องกบั เน้ือหาในกจิ กรรม
การใหค้ ะแนน คา่ นำ้ หนกั บนั ทึกผลการทำกจิ กรรม จากการนำเสนอ โดยนำเสนอวธิ กี ารใช้
คะแนน เครือ่ งใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภยั ได้ แต่ไมส่ อดคล้องกับเน้ือหา
การตระหนักในคุณค่า
ของการเลอื กใช้ 3 แนวทางการให้คะแนน
เคร่ืองใช้ไฟฟา้ 2
1 ตอบคำถามท้ายกิจกรรมที่ 6.6 ถูกต้อง จำนวน 3 ขอ้
ตอบคำถามท้ายกจิ กรรมที่ 6.6 ถกู ต้อง จำนวน 2 ข้อ
ตอบคำถามท้ายกิจกรรมท่ี 6.6 ถูกต้อง จำนวน 1 ข้อ หรือไม่ถูกต้อง
9.2 ระดับคณุ ภาพ
คะแนนรวมเฉลย่ี 3.00 หมายถึง ดมี าก
คะแนนรวมเฉล่ยี 2.00 - 2.99 หมายถงึ ดี
คะแนนรวมเฉลย่ี 0.01 - 1.99 หมายถึง พอใช้
ดังนั้น นกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนนเฉลีย่ ทุกประเดน็ การประเมิน ไม่ตำ่ กวา่ 2.00 แสดงระดับ
คณุ ภาพ ดี ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมินในแผนการจดั การเรยี นท่ี 19
126
บันทึกหลังการสอน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ไฟฟา้ .... ...... ... ...
แผนการสอนเรอื่ ง 19 ออกแบบวงจรไฟฟ้าในบ้าน
วันท.ี่ ..............................เดอื น...............................................................พ.ศ.................
1. สรุปผลการเรยี นการสอน
1. นกั เรียนจำนวน....................คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้...........คน คิดเป็นรอ้ ยละ.............
ไมผ่ า่ นจุดประสงค.์ ......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.............
ได้แก.่ .................................................................................................
2. สรปุ ผลตามรายจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
2.1 นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ ( K)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.2 นักเรยี นมคี วามรเู้ กิดกระบวนการ (P)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.3 นักเรยี นมีเจตคติ (A)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะหลังการจัดการเรยี นการสอน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ............................................ครผู ู้สอน ลงชื่อ.............................................หัวหนา้ กลุ่มสาระ
() ()
ตำแหนง่ ................................................... ลงช่ือ.............................................ผูช้ ่วย/รองฯวิชาการ
…………./……………./………… ()
ลงชื่อ............................................ผูอ้ ำนวยการ
()
127
แบบบันทึกการประเมินคุณภาพการเรยี นร้ขู องนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3
รายวชิ าวิทยาศาสตรพ์ ื้นฐาน (ว23102) หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 ไฟฟา้ I
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 19 เรื่อง การใช้เคร่ืองใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยัดและปลอดภยั .
คำช้แี จง: ทำเครื่องหมาย ✓ ในช่องคา่ น้ำคะแนนแต่ละด้านตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ โดยประเมินตามเกณฑ์
(Rubrics Score)
เลข ชือ่ -นามสกุล/ ด้านความรู้ (K) ด้านกระบวนการ (P) ดา้ นเจตคติ (A) คะแนนรวม
ที่ รหสั นกั เรยี น ค่าน้ำหนักคะแนน ค่านำ้ หนกั คะแนน ค่าน้ำหนักคะแนน
ระดับ
3 2 1 3 2 1 32 1 คุณภาพ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
128
เลข ชอ่ื -นามสกุล/ ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นกระบวนการ (P) ดา้ นเจตคติ (A) คะแนนรวม
ท่ี รหัสนกั เรียน คา่ นำ้ หนักคะแนน ค่านำ้ หนักคะแนน ค่านำ้ หนักคะแนน
ระดับ
321 32 1 32 1 คุณภาพ
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
เกณฑ์การพิจารณาคุณภาพ หมายถึง ดีมาก
คะแนนรวมเฉลี่ย 3.00 หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉล่ีย 2.00 - 2.99 หมายถงึ พอใช้
คะแนนรวมเฉลยี่ 0.01 - 1.99
ตอ้ งไดค้ ะแนนเฉลีย่ ทกุ ประเด็นการประเมิน ไม่ตำ่ กวา่ 2.00 แสดงระดับคณุ ภาพ ดี ขึ้นไปเทา่ น้ัน
ถึงจะผ่านการเรยี นรู้ตามตัวชว้ี ัด
ผลการประเมนิ การเรยี นรขู้ องนักเรียน
ผเู้ รยี นท่ี ผ่าน ตัวชี้วัด
มจี ำนวน…………………………คน คิดเป็นรอ้ ยละ………………………………………………..
ผ้เู รยี นท่ี ไม่ผ่าน ตวั ช้วี ดั
มจี ำนวน…………………………คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ………………………………………………..
1)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
2)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
3)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
สื่อการเรียนรู้แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 19: 129
คลปิ วีดีทัศน์: การใชไ้ ฟฟา้ อย่างปลอดภยั ในบา้ นอยู่อาศัย สอื่ วีดิทศั น์
ส่ือวีดทิ ัศนเ์ รื่อง การใชไ้ ฟฟ้าอย่างปลอดภัยในบ้านอยอู่ าศยั อธบิ ายเก่ียวขอ้ งกับสญั ลกั ษณท์ ่ีแสดง
เพือ่ ระวังการใช้ชีวติ ประจำวัน
แหลง่ ท่ีมา: เว็บไซต์อา้ งอิง
https://www.youtube.com/watch?v=gVpXXdJVbn0
เผยแพรเ่ ม่ือ 25 สงิ หาคม พ.ศ. 2559
(ช่องYouTube: PEA CHANNEL)
130
สือ่ การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 19: แผนภาพแสดงผังมโนทัศน์
แสดงแผนภาพแสดงผงั มโนทัศน์ เรื่องวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย
(ท่ีมา: https://www.pea.co.th/)
131
สื่อการเรียนรู้แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 19: ใบกิจกรรมท่ี 6.6
ใบกจิ กรรมที่ 6.6 ใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภัยได้อย่างไร
หนังสือเรียนรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 2 ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธกิ าร หนา้ 112
กิจกรรมท่ี 6.6 ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภยั ไดอ้ ยา่ งไร?
จุดประสงค์ 1. วางแผนการใชเ้ ครื่องใชไ้ ฟฟา้ ในบ้านอยา่ งถกู ต้อง ประหยัด และปลอดภัย
วัสดอุ ุปกรณ์ 2. เปรียบเทยี บค่าไฟฟา้ ก่อนและหลงั การปฏิบตั เิ พอื่ การประหยัดพลงั งานไฟฟ้า
3. นำเสนอวิธีการใชเ้ ครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าอย่างประหยดั และปลอดภยั
1. ใบแจง้ ค่าไฟฟา้ ก่อนการปฏิบัติ 1 ใบ
2. ใบแจง้ คา่ ไฟฟ้าหลังการปฏิบัติ 1 ใบ
วธิ ีดำเนินกิจกรรม 1. สังเกตข้อมูลและระบจุ ำนวนหน่วยของพลังงานไฟฟา้ ท่ใี ช้ในเดอื นนัน้ ในใบแจง้
คา่ ไฟฟ้า บันทกึ ผล
2. บนั ทกึ ข้อมลู เก่ียวกับกำลงั ไฟฟา้ ของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าท่ีใชภ้ ายในบ้านของตนเอง และ
บนั ทกึ พฤติกรรมจรงิ ในการใช้เคร่อื งใช้ไฟฟา้ แตล่ ะชนิดและระยะเวลาทใ่ี ช้ เชน่
ใช้เตารดี กำลงั ไฟฟา้ 2,400 วัตต์รดี ผ้าวนั ละ 30 นาที โดยใช้ระดับความร้อนสูงเทา่ กนั
ทกุ ชนิ้ และพรมน้ำที่ผา้ ก่อนการรดี
3. สบื ค้นวธิ ีการใชเ้ ครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั และปลอดภัย แลว้ อภิปราย
ร่วมกนั และวางแผนการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าในบ้านให้ถกู ต้อง ประหยัด และปลอดภัย
ลงมือปฏบิ ตั ิตามที่วาแผนไวเ้ ปน็ เวลา 1 เดอื น และสังเกตจำนวนหน่วยของพลงั งาน
ไฟฟา้ ในใบแจ้งคา่ ไฟฟ้าท่ีใช้ในเดอื นหลังการปฏบิ ตั ิ บันทึกผล
5. เปรียบเทียบจำนวนหนว่ ยของพลงั งานไฟฟา้ ท่ีใชก้ อ่ นและหลังการปฏิบตั ิ
6. นำเสนอวิธกี ารใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ท่ถี ูกต้อง ประหยดั และปลอดภยั
การเตรียมตัว ครูตอ้ งแจ้งให้นักเรียนเตรียมใบแจ้งคา่ ไฟฟ้าของบา้ นตนเองในเดือนกอ่ นปฏิบัติ
ลว่ งหนา้ สำหรับครู กจิ กรรม หรอื ครอู าจใช้ใบแจ้งคา่ ไฟฟ้าของโรงเรยี นเพื่อให้นักเรยี นวางแผนการใช้
เครอื่ งใช้ไฟฟ้าของโรงเรยี นแทนบา้ นตนเอง
ขอ้ เสนอแนะใน • เนอื่ งจากกิจกรรมนี้ นักเรยี นต้องปฏิบตั ิกจิ กรรมเปน็ เวลานาน 1 เดอื น ครูสามารถ
การทำกจิ กรรม เลือกจดั กิจกรรมได้ 2 แนวทาง
แนวทางท่ี 1 ให้นักเรียนสืบค้นขอ้ มูลเกี่ยวกับการใช้เครื่องใชไ้ ฟฟ้าอย่างถูกต้อง
ประหยดั และปลอดภยั จากนนั้ วางแผนการใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งถูกต้อง ประหยดั
และปลอดภัย และปฏิบตั งิ านตามแผนทีว่ างไว้เป็นเวลา 1 เดอื น ซึง่ ในระหว่างท่ี
นักเรยี นปฏิบัติงานตามแผน ครสู ามารถจดั การเรยี นรู้อ่นื ๆ ได้ แล้วจดั กจิ กรรมนี้
อีกครั้ง เพ่ือใหน้ กั เรยี นได้เปรียบเทยี บจำนวนหนว่ ยของพลังงานไฟฟ้าก่อนและหลงั ได้
132
กิจกรรมที่ 6.6 ใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งประหยดั และปลอดภยั ไดอ้ ยา่ งไร?
ข้อเสนอแนะใน
การทำกจิ กรรม แนวทางที่ 2 ในระหวา่ งการจัดการเรยี นรู้บทที่ 1 ปริมาณทางไฟฟา้ มอบหมายให้
นกั เรียนสบื ค้นข้อมูลเก่ยี วกบั การใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งถูกต้อง ประหยัด และ
ส่ือการเรียนรู/้ ปลอดภัยล่วงหน้า และวางแผนการประหยดั ไฟฟา้ ในบ้านของตนเอง จากนั้นปฏิบัติ
แหล่งเรยี นรู้ ตามแผนทว่ี างไว้เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเตรียมสำหรบั การทำกจิ กรรมท่ี 6.6
• เน่อื งจากกจิ กรรมนีต้ ้องใช้ใบแจ้งคา่ ไฟฟา้ ก่อนและหลงั การปฏิบัติ เพ่อื ใหส้ ามารถ
เปรยี บเทียบจำนวนหนว่ ยของพลงั งานไฟฟ้าได้ ครูควรแนะนำใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิ
กจิ กรรมตามแผนที่วางไวไ้ ปจนกว่าจะได้รับใบแจง้ คา่ ไฟฟ้าในรอบถัดไป
• การบันทึกข้อมลู เกีย่ วกับพฤตกิ รรมการใชเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟา้ ครูควรแนะนำให้นกั เรยี น
บันทึกรายละเอยี ดของพฤติกรรม เชน่ วิธีการใช้งาน ระยะเวลาทใ่ี ช้ เพอื่ เปน็ ขอ้ มลู
ประกอบการวางแผนการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ให้ถกู ต้อง ประหยัด และปลอดภยั
• การไฟฟา้ ส่วนภูมภิ าค : วธิ ใี ชไ้ ฟฟ้าอยา่ งประหยัด
https://www.pea.co.th/
• การไฟฟา้ ฝ่ายผลติ แห่งประเทศไทย : รูไ้ วใ้ ช่วา่ ไฟฟา้ ใกล้ตัว “การใชไ้ ฟฟา้
อยา่ งปลอดภยั ”
https://www.egat.co.th/
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. เครื่องใชไ้ ฟฟ้าในบา้ นชนิดใดที่ใชพ้ ลังงานไฟฟ้ามากท่ีสุด ทราบไดอ้ ย่างไร
2. นักเรยี นวางแผนการใชเ้ ครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ในบา้ นใหถ้ กู ต้อง ประหยดั และปลอดภัยอย่างไร
3. จากกจิ กรรม สรุปได้ว่าอย่างไร
133
ส่ือการเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 19: แบบบันทึกการคน้ ควา้ กิจกรรมท่ี 6.6
แบบบนั ทึกการค้นควา้ กจิ กรรมที่ 6.6 ใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งประหยดั และปลอดภัยไดอ้ ยา่ งไร
ชอ่ื -นามสกุล..........................................................................................ชั้น.................เลขท.ี่ ..........กลุ่มท.ี่ ...........
ตารางบนั ทกึ ผลการทำกิจกรรม
การใชเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟา้ การใชเ้ ครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ การใช้เครื่องใชไ้ ฟฟา้
ใหถ้ กู ตอ้ ง ใหป้ ลอดภยั
การใช้เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้า
………………………………..…… ให้ประหยดั ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..……
………………………………..……
คำถามทา้ ยกิจกรรม
1. เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ในบ้านชนดิ ใดทใ่ี ชพ้ ลังงานไฟฟ้ามากท่ีสดุ ทราบได้อย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรียนวางแผนการใชเ้ คร่อื งใชไ้ ฟฟ้าในบา้ นให้ถูกต้อง ประหยดั และปลอดภยั อย่างไร
ตอบ ………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากกิจกรรม สรุปไดว้ ่าอยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
134
แนบทา้ ยแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 19: การให้คะแนนด้านกระบวนการ (P)
แนวทางบันทกึ การค้นคว้ากิจกรรมที่ 6.6 ใชเ้ คร่อื งใช้ไฟฟา้ อย่างประหยัดและปลอดภยั ไดอ้ ย่างไร
ตารางบันทกึ ผลการทำกิจกรรม
การใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้
การใชเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟ้า การใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้า การใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
ให้ถูกต้อง
ใหป้ ระหยัด ให้ปลอดภยั
- ใชเ้ คร่ืองใช้ไฟฟ้าทมี่ ี
ความตา่ งศักย์ไฟฟา้ ตรง - ใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟ้าที่มีฉลาก - ตอ่ สายดนิ เมอ่ื ใช้
กับความต่างศกั ย์ไฟฟ้า
ของแหลง่ กำเนิดไฟฟา้ แสดงประสิทธิภาพอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นโลหะ
หรอื แหล่งจ่ายไฟฟา้
ไฟฟ้าหรอื ฉลากประหยดั ไฟ - ใช้อปุ กรณ์ไฟฟ้าหรือ
เบอร์ 5 ซ่งึ บอกคุณภาพ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทผี่ า่ น
ในการใช้พลังงานไฟฟ้า มาตรฐานอตุ สาหกรรม
ของเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า - ศึกษาคู่มือวิธีการใช้
- เลือกใช้เครอื่ งใช้ไฟฟ้าท่ีมี เคร่อื งใช้ไฟฟ้าและปฏิบัติ
กำลังไฟฟ้าเหมาะสมกับ ตามเพ่ือป้องกันอันตราย
การใช้งาน เชน่ เลอื กใช้ - ไมเ่ สยี บปลกั๊ หรือเต้าเสยี บ
เครอื่ งปรับอากาศที่มี ของเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทมี่ ี
กำลงั ไฟฟา้ น้อย มีขนาดบีทยี ู กำลงั ไฟฟ้าสูงหลายชนดิ
เหมาะสมกับขนาดของหอ้ ง ที่เต้ารบั เพียงอนั เดียว
และตดิ ต้งั ในตำแหน่งที่ - ใช้สายไฟฟา้ ท่มี ีขนาด
เหมาะสมกับการใช้งาน เหมาะสมเพ่ือรองรบั
เพ่อื ให้อากาศเย็นหมุนเวียน ปริมาณกระแสไฟฟ้า
ในห้องไดอ้ ย่างทัว่ ถึง - ติดตั้งสวติ ชต์ ัดไฟอัตโนมัติ
135
แนบท้ายแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 19: การให้คะแนนดา้ นความรู้ (K) และด้านเจตคติ (A)
เฉลยใบกิจกรรมที่ 6.6 ใชเ้ คร่ืองใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยัดและปลอดภยั ได้อย่างไร
เฉลยคำถามท้ายกจิ กรรม
1. เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นชนดิ ใดทีใ่ ช้พลังงานไฟฟ้ามากท่ีสดุ ทราบไดอ้ ย่างไร
แนวคำตอบ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ทใี่ ช้พลังงานไฟฟ้ามากที่สดุ พจิ ารณาได้ 2 กรณี คอื
กรณี 1 พจิ ารณาจากกำลงั ไฟฟา้ ของเครือ่ งใชไ้ ฟฟ้า โดยเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าที่มีกำลงั ไฟฟา้ มากจะใช้พลังงานไฟฟ้ามาก
ซ่งึ เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ที่ให้ความร้อนและให้พลงั งานกลบางชนิดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทีใ่ ช้กำลงั ไฟฟา้ มาก เชน่
เคร่ืองทำน้ำอ่นุ ไฟฟ้า มีกำลังไฟฟา้ 2,500-12,000 วัตต์ เตารดี ไฟฟ้ามกี ำลงั ไฟฟา้ 750-2,000 วัตต์
เครอ่ื งซกั ผา้ มกี ำลงั ไฟฟา้ 3,000 วัตต์
กรณี 2 พิจารณาจากเวลาท่ีใช้เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ถา้ เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ที่มกี ำลังไฟฟ้าน้อยแต่ใช้งานเปน็ ระยะเวลานาน
เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นกจ็ ะใช้พลังงานไฟฟ้ามากเช่นกัน
2. นกั เรยี นวางแผนการใช้เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นให้ถกู ต้อง ประหยดั และปลอดภัยอย่างไร
แนวคำตอบ ขึ้นอย่กู ับการทำกจิ กรรมของนกั เรยี น
- การใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ใหถ้ กู ต้อง เชน่ ใชเ้ คร่อื งใชไ้ ฟฟ้าทีม่ ีความตา่ งศกั ยไ์ ฟฟา้ ตรงกบั ความตา่ งศักย์ไฟฟา้
ของแหล่งกำเนิดไฟฟา้ หรือแหล่งจา่ ยไฟฟ้า
- การใช้เครอื่ งใช้ไฟฟ้าใหป้ ระหยดั เช่น ใช้เครือ่ งใช้ไฟฟ้าท่ีมีฉลากแสดงประสิทธภิ าพอปุ กรณ์ไฟฟา้ หรือ
ฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 และเลือกใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟา้ ท่มี ีกำลงั ไฟฟ้าเหมาะสมกบั การใชง้ านของตนเอง
- การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย เช่น ต่อสายดินเมื่อใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นโลหะ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า
หรอื เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ท่ผี า่ นมาตรฐานอุตสาหกรรม และใช้เครื่องใช้ไฟฟา้ ให้ถูกต้องตามคมู่ ือการใชง้ าน
3. จากกจิ กรรม สรุปไดว้ ่าอย่างไร
แนวคำตอบ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ถูกต้อง ประหยัด และปลอดภัย ขึ้นอยู่กับการทำกิจกรรมของ
นักเรียน โดยใช้เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าใหถ้ ูกต้อง เช่น ใชเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟ้าทมี่ ีความต่างศักย์ไฟฟ้าตรงกับความต่างศักย์ไฟฟ้า
ของแหล่งกำเนิดไฟฟ้าหรือแหล่งจ่ายไฟฟ้า การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด เช่น ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลาก
แสดงประสิทธิภาพอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 และเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟฟ้า
เหมาะสมกบั การใช้งานของตนเอง ท้ังน้เี ครื่องใชไ้ ฟฟา้ ที่ใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ มากพิจารณาจากกำลังไฟฟ้าและเวลาที่
ใช้ ส่วนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย เช่น ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม
และใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟ้าให้ถูกต้องตามคู่มือปฏิบตั ิ และเมือ่ ใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าที่เปน็ โลหะจะต้องต่อสายดิน ในการวาง
แผนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นให้ถูกต้อง ประหยัด และปลอดภัย จะช่วยให้การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามีความ
ปลอดภยั แล้ว ยังช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้านได้ในปริมาณมาก
136
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 20
เร่ือง ตวั ตา้ นทานไฟฟา้ รหัสวิชา ว23102 เวลา 2 ชวั่ โมง
รวม 22 ช่วั โมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ ไฟฟ้า ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 2
มาตรฐาน ว 2.3
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระท่ี 2 ชื่อสาระ วิทยาศาสตร์กายภาพ
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวดั
ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
สสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวนั ธรรมชาตขิ องคลนื่ ปรากฏการณท์ เ่ี ก่ยี วขอ้ งกับเสยี ง แสง และคลื่น
แม่เหล็กไฟฟา้ รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตัวชีว้ ัด
ว 2.3 ม.3/6 บรรยายการทำงานของชน้ิ สว่ นอเิ ล็กทรอนิกส์อย่างง่ายในวงจรจากข้อมูลที่รวบรวมได้
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
1) ช้นิ ส่วนอเิ ลก็ ทรอนิกส์มีหลายชนดิ เชน่ ตัวต้านทาน ไดโอด ทรานซสิ เตอร์ ตัวเกบ็ ประจุ โดยช้ินส่วน
แตล่ ะชนดิ ทำหนา้ ท่แี ตกต่างกันเพอ่ื ใหว้ งจรทำงานได้ตามต้องการ
2) ตัวต้านทานทำหน้าที่ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ไดโอดทำหน้าที่ให้กระแสไฟฟ้า
ผ่านทางเดียว ทรานซิสเตอร์ทำหน้าที่เป็นสวิตช์ปิดหรือเปิดวงจรไฟฟ้าและควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้า ตัวเก็บ
ประจทุ ำหน้าท่เี ก็บและคายประจไุ ฟฟ้า
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนบรรยายหน้าทข่ี องตัวตา้ นทานในวงจรไฟฟ้าได้
1) ด้านความรู้ (K) นกั เรยี นใช้ทักษะการสงั เกต โดยการสังเกตการทำงานของตวั ตา้ นทาน
2) ดา้ นทกั ษะ (P) นักเรียนตระหนกั ถึงความสำคญั ของการใชอ้ ุปกรณ์การทำกจิ กรรมได้
3) ดา้ นเจตคติ (A)
4. คุณลักษณะผ้เู รียน ซื่อสัตย์สจุ ริต มุง่ มั่นในการทำงาน
4.1 คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ มจี ติ สาธารณะ
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อยา่ งพอเพียง
มวี ินัย รกั ความเปน็ ไทย
5. ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการสือ่ สาร: นักเรยี นสามารถสื่อสาร โดยการนำเสนอขอ้ มูลจากการสงั เกต การ
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการสืบค้นข้อมูล และการอภิปราย มาอธบิ ายเกย่ี วกับหน้าท่ีของชน้ิ สว่ นอิเลก็ ทรอนิกสแ์ ตล่ ะชนิด
6. สาระการเรยี นรู้
ภายในเครื่องใช้ไฟฟ้ามีวงจรไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างก็มีชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์อยู่ใน
วงจรไฟฟ้า เพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้ตามต้องการ
เชน่ ตัวต้านทาน ไดโอด ตวั เกบ็ ประจุ ทรานซิสเตอร์
137
ตัวต้านทานเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ตัวต้านทานคงที่และ
ตัวต้านทานแปรค่าได้ ซึ่งสามารถอ่านค่าความต้านทานไฟฟ้าของตัวต้านทานคงที่ได้จากแถบสีรอบตัวต้านทาน
ส่วนตวั ต้านทานแปรค่าได้ จะระบคุ า่ ความต้านทานไฟฟ้าสงู สดุ ไว้บนตวั ตา้ นทานนั้น
ก. ตวั ต้านทานคงที่ ข. ตัวตา้ นทานแปรค่าได้
ภาพแสดง ตวั ตา้ นทาน
เม่อื ต่อตวั ตา้ นทานเขา้ ในวงจรไฟฟ้า ปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจรจะเปลีย่ นไปเม่ือเทยี บกบั วงจรไฟฟ้า
ที่ไม่ได้ต่อตัวต้านทาน ดังนั้นตัวต้านทาน (resistor) จึงทำหน้าที่ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจร โดยเมื่อ
ค่าความต้านทานไฟฟา้ สงู ข้ึน ปริมาณกระแสไฟฟา้ ในวงจรจะมีค่าลดลง ตวั ต้านทานเปน็ ชน้ิ สว่ นอิเล็กทรอนิกส์ท่ี
ไม่มีขั้ว การสลับขาของตัวต้านทานที่ต่อในวงจรไฟฟ้าไม่มีผลต่อปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ตัวต้านทาน
จะมคี วามตา้ นทานไฟฟา้ ซงึ่ มหี น่วยเปน็ โอหม์ ()
การที่ตัวต้านทานทำหน้าที่ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจร จึงสามารถนำตัวต้านทานมาต่อ
อนุกรมกับชิ้นส่วนอิล็กทรอนิกส์อื่น เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าที่ผ่านชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีค่ามากเกินไป
จนเกิดความเสยี หายแกช่ น้ิ ส่วนอิเล็กทรอนิกสน์ ัน้ ๆ ในวงจรไฟฟา้ ได้
ตวั ตา้ นทานคงที่เปน็ ตัวต้านทานท่ีมคี ่าความต้านทานไฟฟ้าไม่เปล่ียนแปลง การเขยี นตัวต้านทานคงที่
ในแผนภาพวงจรไฟฟา้ ใช้สัญลักษณ์ในวงจรคอื
ตัวต้านทานแปรค่าได้เป็นตัวต้านทานที่ค่าความต้านทานไฟฟ้าสามารถปลี่ยนแปลงได้ด้วยการหมุน
ปมุ่ ปรบั ค่าเพิม่ หรอื ลดคา่ ความต้านทานไฟฟ้าท่ีตอ้ งการ ตัวต้านทานแปรคา่ ได้ใชส้ ัญลักษณ์ในวงจรไฟฟา้ คอื
หรือ
ตัวต้านทานแปรค่าได้ประกอบด้วยขา 3 ขา ในการใช้งานตัวต้านทานแบรค่าได้สามารถเปลี่ยนค่า
ความต้านทานไฟฟ้าจากค่าต่ำสุด คือ 0 โอห์ม ไปยังค่าสูงสุดตามที่กำหนดไว้ เช่น ตัวต้านทานแปรค่าได้ขนาด
10 กโิ ลโอห์ม จะสามารถเปลีย่ นค่าจาก 0 โอหม์ ถงึ 10 กิโลโอหม์ ไดอ้ ย่างต่อเนื่อง
ภาพแสดง ขาของตวั ตา้ นทานแปรค่าได้
ตัวต้านทานแปรค่าได้สมารถนำมาใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าในลักษณะเป็นปุ่มหมุนเพื่อ
ปรับลดหรือเพิ่มความต้านทานไฟฟ้า เช่น ปุ่มปรับความดังของเสียงในครื่องเสียง ปุ่มปรับระดับความร้อนของ
เตารีด ปมุ่ ปรบั ความสว่างในวงจรหร่ีไฟ (dimmer)
138
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ใช้รูปแบบการจดั การเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (2 ชวั่ โมง; 120นาท)ี
ข้นั ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) (20 นาที)
1) ใหน้ กั เรยี นสงั เกตภาพนำเรื่อง หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้
ม.3 เลม่ 2 สสวท. หนา้ 116) หรือใชส้ ื่อวีดทิ ัศน์ (https://www.youtube.com/watch?v=yTGSy-79eHc)
ร่วมกับการนำเสนอภาพนำเรื่อง จากนน้ั ใหน้ ักเรียนอ่านเนื้อหานำเรื่อง และร่วมกันอภิปรายโดยใชค้ ำถามต่อไปน้ี
- องค์การบรหิ ารการบินและอวกาศแห่งชาตหิ รือนาซาพฒั นาหนุ่ ยนตม์ าเพ่ือชว่ ยปฏบิ ตั ภิ ารกิจ
บนดาวอังคารหนุ่ ยนต์ดงั กลา่ วมีชอื่ วา่ อะไร (หุ่นยนต์ R5 หรือเรยี กช่ืออีกอยา่ งว่า Valkyrie)
- หุน่ ยนต์ R5 มีลกั ษณะพิเศษอยา่ งไร (หุ่นยนต์ R5 มลี ักษณะพิเศษ คอื สามารถเคลอ่ื นไหวได้
อยา่ งอสิ ระคล้ายมนษุ ย์ โดยใช้เซ็นเซอร์ควบคุมการเคลอ่ื นไหวกวา่ 200 จุดทัว่ รา่ งกาย)
- หุน่ ยนต์ R5 มคี วามสามารถด้านใดบ้าง (หุ่นยนต์ R5 มคี วามสามารถในการตัดสินใจเรื่อง
ตา่ ง ๆ ดว้ ยตนเองเน่ืองจากมีระบบปัญญาประดษิ ฐ์ มีความสามารถในการซอ่ มแซมอปุ กรณ์ทีเ่ สียหายและ
บรรเทาภยั พิบตั เิ นื่องจากมีระบบปฏิบัตกิ ารเม่ือเกดิ เหตุฉุกเฉนิ และมคี วามสามารถในการสำรวจเนอ่ื งจากมี
ระบบการสำรวจในพนื้ ที่ท่ยี ากต่อการเขา้ ถงึ )
- นักเรียนคิดว่าภายในหุน่ ยนต์ R5 มวี งจรไฟฟ้าหรือไม่ อย่างไร (หุน่ ยนต์ R5 มวี งจรไฟฟ้าท่ี
ซับซ้อนอยู่ภายในซึ่งประกอบดว้ ยสว่ นรับคำสง่ั สว่ นปฏบิ ตั กิ าร และสว่ นแสดงผลทท่ี ำงานสัมพันธก์ นั เป็นระบบ)
- นักเรียนคดิ ว่าภายในวงจรไฟฟา้ ของหนุ่ ยนต์ R5 จะมีการใช้งานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่
หากมีช้นิ สว่ นอิเล็กทรอนกิ ส์จะมีหน้าที่อยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
2) ให้นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้ก่อนเรียน (หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ชั้นม.3 เล่ม2 สสวท. หน้า 117) จำนวน 2 ข้อ (เฉลยแนบท้ายแผนการจัดการเรียนรู้) เกี่ยวกับ
วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า โดยวิเคราะห์ความต่างศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า และการต่อ
หลอดไฟฟา้ ให้สว่าง แลว้ ร่วมกนั อภปิ รายเพอ่ื ใหไ้ ด้คำตอบที่ถูกต้อง
3) ครูตรวจสอบการทำกิจกรรมทบทวนความรู้ก่อนเรียน ถ้าไม่ถูกต้องให้แก้ไขความเข้าใจ
คลาดเคลื่อนของนักเรียน ความรู้พื้นฐานเรื่องส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าที่ถูกต้องและเพียงพอที่จะเรียนเรื่อง
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ตอ่ ไป
4) กระตุ้นความสนใจของนักเรียน โดยครูใช้สื่อวีดิทัศน์เกี่ยวกับวงจรไฟกะพริบ
(https://youtu.be/GK3cb85k8S0) หรอื อาจใช้สอ่ื จรงิ ให้นกั เรียนดู และรว่ มกนั อภิปรายโดยใชค้ ำถาม เชน่
- วงจรไฟฟ้าที่เห็นประกอบด้วยอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น
ถา่ นไฟฉาย สายไฟฟา้ หลอดไฟฟา้ และช้ินส่วนอนื่ ๆ)
- วงจรไฟฟา้ นท้ี ำงานอย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
- วงจรไฟฟา้ น้ีแตกต่างจากวงจรไฟฟ้าทนี่ ักเรียนเคยต่อมาแล้วอย่างไร (นกั เรยี นตอบตามความ
เขา้ ใจของตนเอง)
- ส่วนประกอบใดในวงจรไฟฟ้าทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างสลับกัน (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ
ของตนเอง)
5) ให้นักเรียนอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 118 จากนั้นครูนำเสนอชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
และร่วมกนั อภปิ ราย เพอื่ ให้ไดข้ อ้ สรุปวา่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนกิ สพ์ นื้ ฐานที่สำคญั เช่น ตัวต้านทาน ไอโอด ตวั เก็บ
ประจุ และทรานซิสเตอร์ เป็นชน้ิ ส่วนที่มหี น้าที่ควบคุมการเคลอื่ นที่ของกระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้
ข้นั ท่ี 2 ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration) (40 นาที)
139
6) ครเู ช่ือมโยงเข้าส่กู จิ กรรมที่ 6.7 ตัวตา้ นทานมหี นา้ ท่อี ะไร โดยใชค้ ำถามว่า นกั เรยี นคิดว่า
ตัวต้านทานทำหน้าที่ควบคมุ กระแสไฟฟ้าอยา่ งไรหรือทำหน้าทอ่ี ะไรในวงจรไฟฟา้ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ
ของตนเอง)
7) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 119 และครูตรวจสอบความ
เขา้ ใจการอ่าน โดยใช้คำถามดงั ต่อไปนี้
ตอนท่ี 1 ตัวต้านทานคงที่
- กจิ กรรมนเี้ กย่ี วกบั เรื่องอะไร (หนา้ ท่ีของตัวตา้ นทานคงท่ีในวงจรไฟฟ้า)
- กจิ กรรมนม้ี จี ดุ ประสงค์อะไร (สงั เกตและบรรยายหนา้ ที่ของตวั ต้านทานคงทีใ่ นวงจรไฟฟ้า)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (ต่อสวิตช์ สายไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า และ
แอมมิเตอร์เข้ากับถ่านไฟฉายแบบอนุกรม สังเกตรูปร่างลักษณะของตัวต้านทานคงที่แล้วต่อแทรกในวงจรไฟฟา้
แบบอนุกรม สลับขาของตัวต้านทานคงที่เพื่อตรวจสอบขั้ว เปลี่ยนตัวต้านทานคงที่มีค่าความต้านทานไฟฟ้า
เพิ่มขนึ้ )
- นักเรยี นตอ้ งสังเกตหรอื รวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (นักเรียนต้องสงั เกตและบันทึกข้อมลู เกี่ยวกับ
การเปลย่ี นแปลงของหลอดไฟฟ้าและปริมาณกระแสไฟฟ้าเม่ือไม่ตอ่ ตวั ตา้ นทานคงท่แี ละเม่อื ต่อตัวต้านทานคงท)ี่
- ข้อควรระวังในการทำกิจกรรมมีอะไรบ้าง (เมื่ออ่านค่ากระแสไฟฟ้าและสังเกตความ
เปลี่ยนแปลงของหลอดไฟฟ้าแล้วต้องยกสวิตช์ขึ้นทุกครั้งทันทีเพื่อไม่ให้มีกระแสไฟฟ้าในวงจรเป็นเวลานาน
ซง่ึ จะทำใหอ้ ุปกรณ์ไฟฟา้ และช้ินส่วนอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เกดิ ความรอ้ นสูงหรือเกิดความเสียหาย)
8) ขณะท่ีนักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
และให้คำแนะนำ หากนักเรียนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้า การใช้งานแอมมิเตอร์ และการอ่าน
ค่ากระแสไฟฟ้าของนกั เรียน ซึ่งครูควรรวบรวมปัญหา และข้อสงสยั ที่พบจากการทำกิจกรรมของนักเรยี นเพ่อื ใช้
เป็นขอ้ มูลประกอบการอภิปรายหลงั จากการทำกิจกรรม
9) นักเรียนบันทึกการทำกิจกรรมลงในแบบบันทึกการค้นคว้ากิจกรรมที่ 6.7 ตัวต้านทานมี
หน้าที่อะไร โดยสรุปผลของกิจกรรมและตอบคำถามท้ายกิจกรรม เพื่อให้ได้ข้อสรุปจากกิจกรรมว่า
เมือ่ ตอ่ ตัวต้านทานคงที่แบบอนุกรมในวงจรไฟฟา้ ทำให้ความสว่างของหลอดไฟฟา้ ลดลงและปริมาณกระแสไฟฟ้า
ในวงจรมคี ่าลดลง การสลบั ขาของตัวตา้ นทานคงที่ไมม่ ีผลต่อความสวา่ งของหลอดไฟฟา้ และปริมาณกระแสไฟฟ้า
ในวงจรไฟฟ้า และเมอ่ื เพมิ่ ค่าความต้านทานไฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้าใหม้ ากขน้ึ กระแสไฟฟ้าจะยง่ิ มคี ่าลดลง
10) ครูนำเข้าสู่กิจกรรมที่ 6.7 ตอนที่ 2 ตัวต้านทานแปรค่าได้ โดยใช้คำถามว่านักเรียนคิดว่า
ตัวต้านทานแปรค่าได้จะทำหนา้ ทเ่ี หมือนกบั ตวั ตา้ นทานคงท่หี รือไม่ อยา่ งไร
11) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 119 และครูตรวจสอบความ
เขา้ ใจการอา่ น โดยใช้คำถามดงั ตอ่ ไปนี้
ตอนท่ี 2 ตัวตา้ นทานแปรคา่ ได้
- กิจกรรมนี้เกี่ยวกบั เรื่องอะไร (หนา้ ท่ีของตัวต้านทานแปรค่าไดใ้ นวงจรไฟฟา้ )
140
- กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (สังเกตและบรรยายหน้าที่ของตัวต้านทานแปรค่าได้ใน
วงจรไฟฟ้า)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (ต่อสวิตช์ สายไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า และ
แอมมิเตอร์เข้ากับถ่านไฟฉายแบบอนุกรม สังเกตรูปร่างลักษณะของตัวต้านทานแปรค่าได้แล้วต่อแทรกใน
วงจรไฟฟ้า หมุนปุ่มปรับคา่ ของตัวตา้ นทานไปช้า ๆ และหมุนกลับช้า ๆ จากนั้นย้ายสายไฟฟ้าท่ีต่อกับขาริมขวา
ไปต่อที่ขารมิ ซ้ายของตัวตา้ นทานแปรคา่ ได้ แล้วหมุนปรบั คา่ ซำ้ )
- นกั เรียนต้องสังเกตหรือรวบรวมข้อมลู อะไรบ้าง (นักเรยี นต้องสังเกตและบันทึกข้อมูลเก่ียวกับ
การเปลย่ี นแปลงของหลอดไฟฟ้าและปรมิ าณกระแสไฟฟา้ )
- ข้อควรระวังในการทำกิจกรรมมีอะไรบ้าง (เมื่ออ่านค่ากระแสไฟฟ้าและสังเกตความ
เปลี่ยนแปลงของหลอดไฟฟ้า แล้วต้องยกสวิตช์ขึ้นทุกครั้งทันทีเพื่อไม่ให้มีกระแสไฟฟ้าในวงจรเป็นเวลานาน
ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เกิดความร้อนสูงหรือเกิดความเสียหาย และระวังไม่ให้ลวด
ตวั นำของสายไฟฟา้ ท่ตี ่อกับขาของตัวตา้ นทานแปรค่าไดแ้ ตะกนั เพราะจะทำใหเ้ กดิ ไฟฟา้ ลดั วงจร)
ข้นั ท่ี 3 ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (20 นาที)
12) ขณะที่นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม โดยครูสังเกตการต่อวงจรไฟฟ้า การใช้งาน
แอมมิเตอร์ และการอ่านค่ากระแสไฟฟ้าของนักเรียน ของนักเรียนแต่ละกลุ่ม และให้คำแนะนำ หากนักเรียนมี
ข้อสงสยั ครูควรรวบรวมปญั หา และข้อสงสยั ท่ีพบจากการทำกิจกรรมของนักเรียนเพ่ือใช้เป็นข้อมูลประกอบการ
อภิปรายหลังจากการทำกิจกรรม
ข้ันท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาที)
13) ให้นักเรียนนำเสนอผลการทำกิจกรรม ตอบคำถามท้ายกิจกรรม และร่วมกันอภิปราย
สรุปผลของกิจกรรมโดยใช้คำถามท้ายกิจกรรมเป็นแนวทาง เพื่อให้ได้ข้อสรุปจากกิจกรรมว่า เมื่อต่อตัว
ต้านทานแปรค่าได้แบบอนุกรมในวงจรไฟฟ้า การหมุนปุ่มปรับค่าทำให้สามารถปรับค่าความต้านทานไฟฟ้าใน
วงจรให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามความต้องการได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าค่าความต้านทานไฟฟ้ามีค่ามากขึ้น จะทำให้
หลอดไฟฟ้าสว่างลดลง ปริมาณกระแสไฟฟ้าจะมีค่าน้อยลง แต่ถ้าหมุนปุ่มปรับไปในทิศทางตรงกันข้ามค่าความ
ต้านทานไฟฟา้ จะมคี า่ นอ้ ยลง หลอดไฟฟ้าจะสว่างมากข้นึ และปรมิ าณกระแสไฟฟ้าก็จะมีค่ามากข้นึ
ข้นั ท่ี 5 ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) (20 นาที)
14) ครูและนกั เรียนอภปิ รายผลการทำกจิ กรรมท่ี 6.7 หนา้ ท่ีของตวั ตา้ นทานในวงจรไฟฟ้าเป็น
อย่างไร จะไดข้ ้อสรุปว่า
- ตวั ต้านทานทำหน้าท่ีควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า โดยถา้ ความต้านทานไฟฟ้ามี
คา่ มากข้นึ ปริมาณกระแสไฟฟ้าจะมีคา่ น้อยลง
- ตัวต้านทานทำหน้าที่ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
ตัวต้านทานคงทีแ่ ละตวั ตา้ นทานแปรค่าได้ ซึ่งความต้านทานไฟฟ้ามหี นว่ ยเป็นโอห์ม การเขียนตวั ต้านทานคงท่ีใน
แผนภาพ ใช้สัญลักษณค์ อื และตัวต้านทานแปรค่าได้ใชส้ ัญลกั ษณค์ ือ หรือ
15) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมิน (Rubrics Score)
141
8. ส่ือการเรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้
8.1 อปุ กรณ์ทำกิจกรรม: จำนวน 10 รายการ ดงั แสดงแนบไว้ในใบกจิ กรรมท่ี 6.7
8.2 คลิปวดี ิทัศน์: Meet R5: Valkyrie (https://www.youtube.com/watch?v=yTGSy-79eHc)
8.3 ใบกจิ กรรม: ใบกจิ กรรมที่ 6.7 ตัวต้านทานมีหน้าท่อี ะไร
8.4 แบบบันทกึ กจิ กรรม: แบบบันทกึ การคน้ ควา้ กจิ กรรมท่ี 6.7 ตัวตา้ นทานมีหน้าทีอ่ ะไร
8.5 แหล่งเรียนร้:ู หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
เลม่ 2 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธกิ าร
9. การวัดและการประเมิน
ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ วธิ ีการวัด เครื่องมอื วดั เกณฑท์ ใ่ี ชใ้ นการประเมิน
- คำถามท้ายกจิ กรรมท่ี 6.7 - ได้ไม่น้อยกว่า 2 คะแนน
1. บรรยายหนา้ ท่ขี องตวั - ตรวจการตอบคำถาม
ตวั ต้านทานมหี น้าท่ีอะไร ระดบั คุณภาพดี ถือว่าผา่ น
ต้านทานในวงจรไฟฟา้ ได้ ทา้ ยกจิ กรรมที่ 6.7 จำนวน 8 ขอ้ การประเมินดา้ นความรู้
- แบบบันทึกการค้นคว้า
(ดา้ นความรู้: K) กิจกรรมที่ 6.7 - ไดไ้ มน่ ้อยกว่า 2 คะแนน
ตัวต้านทานมหี นา้ ท่ีอะไร ระดบั คุณภาพดี ถือว่า
2. การใชท้ กั ษะสงั เกต โดย - ตรวจการทำแบบ ผ่านการประเมิน
- เกณฑก์ ารประเมนิ การใช้ ด้านกระบวนการ
การสงั เกตการณท์ ำงานของ บันทกึ การค้นคว้า งานอุปกรณ์ในกิจกรรม
ของนักเรยี น - ไดไ้ มน่ ้อยกวา่ 2 คะแนน
ช้นิ ส่วนอเิ ล็กทรอนกิ ส์ กจิ กรรมท่ี 6.7 ระดบั คุณภาพดี ถือว่า
ผา่ นการประเมิน
(ตัวตา้ นทาน) ดา้ นเจตคติ
(ด้านกระบวนการ: P)
3. ตระหนักถึงความสำคญั - สงั เกตการใชง้ าน
ของการใช้อุปกรณ์ อุปกรณ์ในกจิ กรรม
การทำกจิ กรรมได้ ของนักเรียน
(ดา้ นเจตคต:ิ A)
9.1 เกณฑก์ ารประเมินผลนักเรียน เกณฑก์ ารประเมนิ (Rubrics Score)
ประเด็นการประเมิน คา่ นำ้ หนกั แนวทางการใหค้ ะแนน
คะแนน
การใหค้ ะแนนตอบ 3 ตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรมที่ 6.7 ถูกต้อง จำนวน 6-8 ขอ้
คำถามท้าย
กิจกรรมท่ี 6.7 2 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมท่ี 6.7 ถกู ต้อง จำนวน 3-5 ขอ้
การให้คะแนนการบันทึก 1 ตอบคำถามท้ายกิจกรรมที่ 6.7 ถูกต้อง จำนวน 1-2 ข้อ หรือไม่ถกู ต้อง
แบบบนั ทึกการค้นคว้า
บันทกึ ผลการทำกิจกรรม จากการสังเกตการทำงานของชิ้นส่วน
กจิ กรรมท่ี 6.7
3 อิเล็กทรอนกิ ส์ตามความเป็นจรงิ โดยไมเ่ พิ่มความคดิ เหน็ สว่ นตวั และ
สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรทู้ ่ีถกู ต้อง ชดั เจน
2 บนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรม จากการสังเกตการทำงานของชน้ิ สว่ น
อเิ ล็กทรอนิกสต์ ามความเป็นจริง แตไ่ มส่ อดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1 บันทกึ ผลการทำกจิ กรรม จากการสงั เกตการทำงานของชิน้ ส่วน
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ไม่ถูกต้องและไม่สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้
142
ประเด็นการประเมนิ คา่ น้ำหนกั แนวทางการใหค้ ะแนน
คะแนน
การให้คะแนน ใช้งานอุปกรณก์ ารทดลองในกิจกรรมได้ถกู วธิ ี หยิบ เคลอื่ นยา้ ยอปุ กรณ์
การใชง้ านอปุ กรณ์ 3 อยา่ งระมดั ระวัง ไม่หยอกลอ้ หรือแกล้งเพื่อนขณะกำลังใช้งานอุปกรณ์
และหลังการใชง้ านอุปกรณ์มีการเก็บรักษาอย่างถูกวิธี
ในกจิ กรรม 2 ใช้งานอุปกรณก์ ารทดลองในกิจกรรมได้ถกู วธิ ี หยบิ เคลอ่ื นย้ายอุปกรณ์
อยา่ งระมัดระวงั ไมห่ ยอกล้อหรอื แกล้งเพอ่ื นขณะกำลงั ใช้งานอปุ กรณ์
1 แต่หลงั การใช้งานอุปกรณไ์ มม่ ีการเก็บรักษาอยา่ งถูกวิธี หรอื ไมเ่ ก็บอุปกรณ์
เข้าตู้เก็บอุปกรณ์ตามประเภทของอุปกรณ์
ใชง้ านอุปกรณก์ ารทดลองในกิจกรรมได้ แต่ขณะหยบิ เคลื่อนย้ายอปุ กรณ์
หรือกำลังใช้งานอุปกรณ์ จะหยอกล้อหรือแกล้งเพ่ือน อาจทำใหอ้ ปุ กรณ์
เสียหายได้ และหลงั การใช้งานอุปกรณ์ไม่มกี ารเก็บรกั ษาอย่างถกู วธิ ี
9.2 ระดบั คุณภาพ
คะแนนรวมเฉลี่ย 3.00 หมายถึง ดีมาก
คะแนนรวมเฉล่ีย 2.00 - 2.99 หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉลีย่ 0.01 - 1.99 หมายถึง พอใช้
ดงั นน้ั นกั เรยี นต้องไดค้ ะแนนเฉล่ยี ทุกประเดน็ การประเมิน ไม่ตำ่ กว่า 2.00 แสดงระดับ
คณุ ภาพ ดี ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมินในแผนการจัดการเรยี นที่ 20
143
บันทึกหลังการสอน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 ไฟฟ้า.... ...... ... ...
แผนการสอนเร่ือง 20 ตวั ตา้ นทานไฟฟา้
วนั ท.่ี ..............................เดอื น...............................................................พ.ศ.................
1. สรปุ ผลการเรยี นการสอน
1. นักเรียนจำนวน....................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้...........คน คิดเป็นร้อยละ.............
ไมผ่ ่านจุดประสงค.์ ......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............
ได้แก.่ .................................................................................................
2. สรปุ ผลตามรายจุดประสงค์การเรยี นรู้
2.1 นกั เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ ( K)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.2 นักเรียนมคี วามรู้เกดิ กระบวนการ (P)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.3 นักเรียนมเี จตคติ (A)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะหลงั การจดั การเรยี นการสอน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ............................................ครูผู้สอน ลงช่ือ.............................................หัวหนา้ กลุม่ สาระ
() ()
ตำแหนง่ ................................................... ลงช่ือ.............................................ผชู้ ่วย/รองฯวิชาการ
…………./……………./………… ()
ลงช่อื ............................................ผู้อำนวยการ
()
144
แบบบนั ทึกการประเมินคณุ ภาพการเรียนร้ขู องนกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
รายวิชาวิทยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน (ว23102) หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 ไฟฟา้ I
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 20 เรื่อง ตวั ต้านทานไฟฟ้า .
คำชแ้ี จง: ทำเคร่ืองหมาย ✓ ในช่องคา่ น้ำคะแนนแตล่ ะด้านตามจุดประสงค์การเรียนรู้ โดยประเมนิ ตามเกณฑ์
(Rubrics Score)
เลข ชอ่ื -นามสกุล/ ด้านความรู้ (K) ดา้ นกระบวนการ (P) ดา้ นเจตคติ (A) คะแนนรวม
ที่ รหสั นักเรยี น คา่ นำ้ หนกั คะแนน คา่ นำ้ หนกั คะแนน คา่ น้ำหนักคะแนน
ระดับ
3 2 1 3 2 1 32 1 คุณภาพ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
145
เลข ชอ่ื -นามสกุล/ ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นกระบวนการ (P) ด้านเจตคติ (A) คะแนนรวม
ท่ี รหัสนกั เรียน คา่ นำ้ หนักคะแนน ค่าน้ำหนกั คะแนน ค่าน้ำหนักคะแนน
ระดับ
321 32 1 32 1 คุณภาพ
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
เกณฑ์การพิจารณาคุณภาพ หมายถึง ดีมาก
คะแนนรวมเฉลี่ย 3.00 หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉล่ีย 2.00 - 2.99 หมายถงึ พอใช้
คะแนนรวมเฉลยี่ 0.01 - 1.99
ตอ้ งไดค้ ะแนนเฉลีย่ ทกุ ประเด็นการประเมิน ไม่ตำ่ กว่า 2.00 แสดงระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไปเท่าน้ัน
ถึงจะผ่านการเรยี นรู้ตามตัวชว้ี ัด
ผลการประเมนิ การเรยี นรขู้ องนักเรียน
ผเู้ รยี นท่ี ผ่าน ตัวชี้วัด
มจี ำนวน…………………………คน คิดเป็นรอ้ ยละ………………………………………………..
ผ้เู รยี นท่ี ไม่ผ่าน ตวั ช้วี ดั
มจี ำนวน…………………………คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ………………………………………………..
1)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
2)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
3)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................
สอื่ การเรียนรู้แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 20: 146
คลปิ วดี ีทศั น์: Meet R5: Valkyrie สอ่ื วีดิทศั น์
สื่อวีดิทัศน์เรื่อง หุ่นยนต์ R5 หรือเรียกชื่ออีกอย่างว่า Valkyrie อธิบายเกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ R5 มี
ลักษณะพิเศษ คือสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระคล้ายมนุษย์ โดยใช้เซ็นเซอร์ควบคุมการเคลือ่ นไหวกว่า 200
จุดทวั่ รา่ งกาย
แหลง่ ท่ีมา: เว็บไซตอ์ า้ งอิง
https://www.youtube.com/watch?v=yTGSy-79eHc
เผยแพร่เม่ือ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
(ช่องYouTube: NASA Johnson)
147
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 20: ใบกิจกรรมที่ 6.7
ใบกจิ กรรมที่ 6.7 ตัวต้านทานมีหน้าทอ่ี ะไร
หนังสอื เรียนรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 2 ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธกิ าร หน้า 119
กิจกรรมท่ี 6.7 ตวั ต้านทานมีหนา้ ท่ีอะไร?
จุดประสงค์ สงั เกตและบรรยายหน้าที่ของตัวตา้ นทานในวงจรไฟฟา้
วสั ดุอุปกรณ์
วัสดทุ ่ใี ช้ต่อกลุม่
วธิ ีดำเนินกิจกรรม
1. แอมมเิ ตอร์ 1 เคร่ือง
2. สายไฟฟา้ 5 เสน้
3. ถ่านไฟฉายขนาด 1.5 V 4 ก้อน
4. กระบะถา่ นแบบ 4 กอ้ น 1 อัน
5. สวติ ช์แบบโยก 1 อัน
6. หลอดไฟฟ้าขนาด 6 V พร้อมฐาน 1 ชดุ
7. ตัวต้านทานคงท่ีขนาด 10 Ω 1 อัน
8. ตัวตา้ นทานคงท่ีขนาด 30 Ω 1 อนั
9. ตวั ต้านทานคงที่ขนาด 100 Ω 1 อัน
10. ตวั ต้านทานแปรคา่ ได้ขนาด 1 kΩ 1 อัน
ตอนท่ี 1 ตัวต้านทานคงที่
1. ต่อวงจรไฟฟ้าที่ประกอบด้วยถ่านไฟฉาย 4 ก้อน สวิตช์ สายไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า
และแอมมิเตอร์ ดังภาพ กดสวติ ชล์ งเพ่ือให้วงจรปดิ สังเกตการเปลย่ี นแปลงของหลอด
ไฟฟา้ อา่ นคา่ กระแสไฟฟา้ บนั ทกึ ผล แล้วยกสวติ ชข์ ้ึน
2. สังเกตรปู ร่างลกั ษณะของตัวต้านทานคงท่ีและบนั ทึกผล
3. ต่อตวั ตา้ นทานคงที่ขนาด 10 โอหม์ เข้าในวงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม ดังภาพ กดสวิตซ์
ลงเพ่อื ให้วงจรปิด สังเกตการเปลยี่ นแปลงของหลอดไฟฟ้า อา่ นคา่ กระแสไฟฟา้
บนั ทึกผลแล้วยกสวติ ชข์ ้นึ
ภาพการจัดอปุ กรณใ์ นกจิ กรรม
148
กจิ กรรมท่ี 6.7 ตวั ตา้ นทานมีหนา้ ท่ีอะไร?
4. ทำซำ้ ในข้อ 2 แตส่ ลับขาตัวต้านทานคงที่ สังเกตการเปลยี่ นแปลงของหลอดไฟฟ้า
อ่านค่ากระแสไฟฟ้า บนั ทึกผล
5. ทำซ้ำในข้อ 2 โดยเปลย่ี นตวั ตา้ นทานคงทีเ่ ป็นขนาด 30 โอห์ม และ 100 โอห์ม
ตามลำดับ สงั เกตการเปล่ียนแปลงของหลอดไฟฟา้ อา่ นคา่ กระแสไฟฟา้ บนั ทึกผล
ตอนท่ี 2 ตัวตา้ นทานแปรคา่ ได้
1. ตอ่ วงจรไฟฟา้ ท่ปี ระกอบด้วยถา่ นไฟฉาย 4 ก้อน สวิตช์ สายไฟฟา้ หลอดไฟฟ้า
และแอมมิเตอร์ ดังภาพ กดสวิตซ์ลงเพอ่ื ใหว้ งจรปิด สังเกตการเปลย่ี นแปลง
ของหลอดไฟฟ้า อ่านคา่ กระแสไฟฟ้า บันทึกผล แล้วยกสวติ ชข์ ้ึน
2. สงั เกตรปู ร่างลกั ษณะของตัวต้านทานแปรค่าไดแ้ ละบนั ทึกผล
3. ตอ่ ตวั ตา้ นทานแปรค่าได้ขนาด 1 กิโลโอห์มเขา้ ในวงจรไฟฟา้ โดยต่อสายไฟฟ้าเขา้
กบั ขาตรงกลางและสายไฟฟ้าอีกสายหน่ึงต่อเข้ากับขารมิ ขวาของตวั ต้านทานแปรค่าได้
ดังภาพ กดสวิตซล์ ง เพ่ือใหว้ งจรปิด สังเกตการเปล่ียนแปลงของหลอดไฟฟา้ อา่ นคา่
กระแสไฟฟา้ บนั ทึกผล แลว้ ยกสวิตช์ขนึ้
ภาพการจดั อปุ กรณ์ในกจิ กรรม
การเตรียมตัว ตอนที่ 1 ตัวตา้ นทานคงที่
ลว่ งหนา้ สำหรบั ครู • ครคู วรตรวจสอบอปุ กรณ์ไฟฟา้ และช้ินส่วนอเิ ล็กทรอนิกส์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใชง้ าน
• ครคู วรทดลองต่อวงจรไฟฟ้ากอ่ นจดั กจิ กรรม เพอ่ื ตรวจสอบว่าวงจรไฟฟ้าทใ่ี ชใ้ น
กจิ กรรมต่ออย่างไรและวงจรไฟฟา้ ทำงานไดต้ ามตอ้ งการหรือไม่
ตอนท่ี 2 ตัวตา้ นทานแปรคา่ ได้
• ครคู วรตรวจสอบอุปกรณไ์ ฟฟา้ และชิ้นส่วนอเิ ล็กทรอนิกส์ใหอ้ ยใู่ นสภาพพรอ้ มใชง้ าน
• ครูควรทดลองต่อวงจรไฟฟา้ กอ่ นจัดกิจกรรม เพือ่ ตรวจสอบวา่ วงจรไฟฟ้าที่ใชใ้ น
กจิ กรรมต่ออย่างไรและวงจรไฟฟ้าทำงานได้ตามตอ้ งการหรือไม่
149
กิจกรรมท่ี 6.7 ตัวตา้ นทานมหี นา้ ที่อะไร?
ข้อควรระวงั ตอนที่ 1 ตัวตา้ นทานคงท่ี
• ครคู วรยำ้ เตือนนักเรียนเม่ืออ่านค่ากระแสไฟฟา้ และสงั เกตการเปลยี่ นแปลงของ
ขอ้ เสนอแนะใน หลอดไฟฟ้า แลว้ ต้องยกสวติ ช์ขน้ึ ทกุ ครัง้ ทนั ทเี พื่อไมใ่ หม้ ีกระแสไฟฟ้าในวงจรเป็น
การทำกิจกรรม เวลานาน เพราะจะทำให้อปุ กรณไ์ ฟฟา้ และชิน้ ส่วนอเิ ล็กทรอนิกส์เกิดความร้อนสูง
ซึ่งอาจทำให้เสียหายได้
ตอนที่ 2 ตัวต้านทานแปรคา่ ได้
• ครูควรยำ้ เตือนนกั เรียนเมอ่ื อา่ นค่ากระแสไฟฟา้ และสงั เกตความเปลี่ยนแปลงของ
หลอดไฟฟา้ แลว้ ตอ้ งยกสวิตช์ขึ้นทกุ คร้งั ทันทเี พ่ือไม่ใหม้ ีกระแสไฟฟ้าในวงจรเป็น
เวลานาน เพราะจะทำให้อปุ กรณไ์ ฟฟา้ และช้นิ ส่วนอิเล็กทรอนกิ ส์เกิดความร้อนสูงซึ่ง
อาจทำใหเ้ สยี หายได้
• เน่ืองจากขาของตัวต้านทานแปรค่าได้อย่ชู ิดกัน ครูควรย้ำเตือนใหน้ กั เรยี นระวงั
ไมใ่ หล้ วดตวั นำหรือปากหนบี ของสายไฟฟ้าท่ีต่อกบั ขาของตวั ต้านทานแปรค่าได้
แตะกัน เพราะจะทำให้เกิดไฟฟ้าลดั วงจร
ตอนที่ 1 ตัวต้านทานคงท่ี
• หากครูไม่สามารถจัดหากระบะถ่านแบบ 4 ก้อน ครูสามารถใชก้ ระบะถ่านแบบ
2 กอ้ น จำนวน 2 อนั มาต่อแบบอนุกรมแทนกระบะถา่ นแบบ 4 ก้อนได้
• หากครไู ม่สามารถจัดหาตวั ต้านทานขนาด 30 โอหม์ ครูสามารถใช้ตัวต้านทาน
ขนาด 10 โอห์มจำนวน 3 อันมาตอ่ แบบอนุกรม หรือใช้ตวั ตา้ นทานขนาด 20 โอหม์
จำนวน 1 อัน และ 10 โอหม์ จำนวน 1 อันมาต่อแบบอนุกรมแทนตัวต้านทานขนาด
30 โอหม์ ได้
ตอนที่ 2 ตัวต้านทานแปรค่าได้
• หากครไู ม่สามารถจดั หากระบะถ่านแบบ 4 ก้อน ครสู ามารถใชก้ ระบะถ่านแบบ
2 กอ้ น จำนวน 2 อันมาต่อแบบอนุกรมแทนกระบะถา่ นแบบ 4 ก้อนได้
• หากครูไมส่ ามารถจัดหาตวั ต้านทานแปรคา่ ได้ตามขนาด 1 กโิ ลโอห์ม ครูสามารถใช้
ตัวตา้ นทานแปรคา่ ได้ที่มขี นาดใกล้เคยี งกบั ขนาดของตัวตา้ นทานแปรคา่ ไดท้ ่ีกำหนด
แทนได้ เช่น ใช้ตัวตา้ นทานแปรค่าได้ขนาด 500 โอหม์ อย่างไรก็ตาม ครูไม่ควรใช้
ตัวต้านทานแปรคา่ ไดท้ ี่มขี นาดสูงกวา่ ขนาด 1 กโิ ลโอหม์ เพราะจะทำให้สงั เกต
ความสว่างของหลอดไฟฟ้าไม่ไดเ้ นอ่ื งจากกระแสไฟฟ้าในวงจรมคี ่านอ้ ยเกนิ ไป
• ครูอาจแนะนำให้นกั เรยี นใชเ้ บรดบอร์ดชว่ ยในการต่อตัวต้านทานแปรค่าได้
ซ่งึ เบรดบอร์ดมกี ารต่อเชือ่ มตำแหน่งตา่ ง ๆ บนบอร์ด ดังภาพ