การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ 116
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
แนวความคิด
เพลงนกขมิ�นเปน� เพลงเก่าสมัยอยุธยา ต่อมาราวสมยั รัชกาลท่ี 4 ครูเพ็งไดน้ ํามาขยายขึ�นเปน� อตั ราสามชั�น
เป�นเพลง 3 ท่อน ประเภทหน้าทับปรบไก่ บทร้องให้อารมณ์ในเชิงเหงา อ้างว้าง เดียวดาย นิยมนําไปดัดแปลง
พัฒนาเปน� เพลงในรูปแบบต่าง ๆ มากมายและถูกนําเสนออย่างหลากหลาย จึงได้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์
ผลงานเด่ียวจะเข้ ซ่ึงเป�นเคร่ืองดนตรีท่ีมีเสียงดังกังวาน แกร่ง และมีพลัง เหมาะสมกับอารมณ์ของบทเพลง
ใช�กลวิธีการประพันธ์ทางบรรเลงเด่ียวในการตกแต่งทํานองหลัก โดยอาศัยแนวทางการบรรเลงของคุณครูสหรัฐ
จันทร์เฉลิม ดําเนินทํานองโดยการผู กกลอนเพลงโดยใชล� ีลาและกลวิธีพิเศษในการบรรเลงเด่ียวขั�นสูง เช่น การสะบัด
การขย�ีและการดีดควบสายเพ่ือสร้างความน่าสนใจและส่ืออารมณ์สะเทือนใจ ทางบรรเลงแสดงการใช�ศักยภาพของ
เคร่อื งดนตรีท่มี ชี ่วงเสยี งกว้างอย่างเต็มท่ี นอกจากนีเ� พลงนกขมิน� สามชั�นยังมีช่วงทํานองท่มี ลี ักษณะการประดษิ ฐ์เสียง
เพ่อื เลียนเสยี งผู้ขับร้องในช่วงท่มี ีการบรรเลง “วา่ ดอก” อกี ดว้ ย
จะเข้ รายช่ือนกั แสดง
ฉ่งิ
นายภมู ิพัฒน์ วทิ ยารตั น์ และ นายนิธศิ เตชะโต
โทน รํามะนา นายอภิสิทธ์ิ เฉลมิ วรบุตร
นางสาวแคทรยี า สุขเจริญ
117 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
การสร้างสรรค์เพลงเด่ยี วสารถี สามชั�น สําหรบั ขมิ
MUSIC CREATIVE: THEME AND VARIATION "SARATEE" FOR KHIM
ผูช้ ่วยศาสตราจารยส์ วุ วิ รรธน์ ลมิ ปชัย
ภาควิชาดนตรีไทย วิทยาลัยการดนตรี มหาวทิ ยาลัยราชภฎั บ้านสมเด็จเจา้ พระยา
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ 118
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
แนวความคิด
เพลงสารถี สามชัน� มีทว่ งทํานองท่มี คี วามไพเราะ เหมาะแก่การสร้างสรรคส์ ําหรับการเด่ยี วเคร่ืองดนตรีได้
หลากหลายชนดิ สําหรบั การบรรเลงด้วยขมิ นั�น เปน� การสะทอ้ นอารมณ์ของเพลงสู่เสียงของเคร่อื งดนตรีในอีกลักษณะ
หน่ึง เน่ืองด้วยขิมจัดได้ว่าเปน� เคร่ืองดนตรีท่ีเม่ือบรรเลงทางหวาน ก็สามารถทําได้อย่างไพเราะ บรรเลงทางเก็บ
ก็สามารถบรรเลงได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน ทั�งนี�ผู้ประพันธ์ได้ยึดทํานองหลักฆ้องวงใหญ่เพลงสารถี สามชั�น
เปน� หลักในการแปรทํานอง ด้วยถือว่าทํานองฆ้องวงใหญ่ สามารถให้เคร่ืองดนตรีชนิดอ่ืนแปรทํานองได้โดยง่าย
ทั�งน�ีการแปรทํานองขิมในการบรรเลงเด่ียว ก็ต้องมีทํานองท่ีเหมาะสมกับลักษณะของเคร่ืองดนตรี มีกลุ่มเสียงท่ีไปใน
ทิศทางเดียวกับทํานองหลัก และดูรายละเอียดต่าง ๆ ของเพลง เช่น สังคีตลักษณ์ บทร้อง ลักษณะพ�ืนฐานการ
บรรเลงเคร่ืองดนตรี บันไดเสียง อารมณ์เพลง สําเนียง จังหวะ การใชง� านหน้าทับ เปน� ต้น ทั�งนี�รายละเอียดท่ีกล่าว
มาไดน้ ําไปสกู่ ารสรา้ งสรรค์ทางเด่ยี วขมิ ท่ไี ด้สร้างสรรคข์ นึ� ใหมท่ ั�งหมด โดยผู้ประพนั ธ์จะใชก� ลวธิ ีและรูปแบบการบรรเลง
ของครูมนตรี ตราโมท เพ่ือนําไปใชใ� นการบูรณาการร่วมกับการสอนทักษะการปฏิบัติแก่นิสิตนักศึกษา สามารถนําไป
บรรเลงเพ่ือการประกวด รวมทั�งอนุรักษ์ตลอดทั�งสืบทอดเพลงสารถี สามชั�น วิธีการสร้างสรรค์ทางใหม่ด้วยการ
นาํ เสนอเพลงสารถี สามชั�น ดว้ ยการบรรเลงเด่ยี วขมิ
ขมิ รายช่ือนกั แสดง
โทน-รํามะนา นางสาวพรายรักษ์ เสมอญาติ
ฉ่ิง นางสาวนุชสรา พิณพาทย์
นางสาวศศิประภา กจิ สําเร็จ
119 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
บทประพนั ธ์เพลงระบาํ "ซ�อตเธ่ียเจตอยโหมน่ "
MUSIC COMPOSITION: SOTTIE JETOY SNEERED DANCE
นายยุวรตั น์ นกั ทาํ นา
โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ 120
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
แนวความคิด
ผู้สร้างสรรค์ศึกษาวัฒนธรรมต่าง ๆ ของชุมชนวัดศาลาแดงเหนือ เพ่ือเปน� แนวคิดในการสร้างสรรค์
ผลงาน ซ่ึงเพลงระบําซ�อตเธ่ียเจตอยโหม่น ใช�หลักการประพันธ์เพลงไทย โดยใช�บรรทัดแรกในหัวข�ึนเพลงดอนเจดีย์
เถาในการทําทางเปล่ียนทํานองสองชั�น ผู้สร้างสรรค์เรียบเรียงทํานองห่าง ๆ เพ่ือให้ถึงความสง่างามของชาวมอญ
และท่ารํามอญ มีการสอดแทรกเสียงเปิงมางคอกท่ีบรรเลงตามทาํ นองเพลงผสานกับป่ีมอญท่ีบรรเลงโหยหวนเคล้ากับ
ทํานองเพ่ือให้เห็นถงึ วัฒนธรรมของชาวมอญในการศรัทธาเจดีย์หอย ส่วนชั�นเดียวผู้สร้างสรรค์ นําบรรทัดแรกเพลง
เร็วมาทําทางเปล่ียน ผู้สร้างสรรค์เรียบเรียงทํานองพยางค์ถ่ี ๆ เพ่ือส่ือถึงความสนุกความร่าเริงแจ่มใส ด้านเน�ือร้อง
ผู้สร้างสรรค์ใช�ภาษามอญในการขับร้อง เพราะภาษาสามารถแสดงถึงเอกลักษณ์ของชนชาตินั�นได้อย่างลึกซึ�ง
ซ่ึงไดใ้ หผ้ ู้เช่ียวชาญในพน�ื ท่ชี ุมชนวดั ศาลาแดงเหนือแปลและเรียบเรียงให้
ป่ีมอญ รายช่ือนกั แสดง
ระนาดเอก
ระนาดทุ้ม นายยุวรัตน์ นักทํานา
ฆ้องมอญวงใหญ่ ด.ช.วรดร รุง่ กระจา่ ง
ฆอ้ งมอญวงเลก็ นายสุราช ใหญ่สงู เนิน
ฉ่งิ นายรฐั ฤกษ์ มากกล่าํ
ฉาบใหญ่ นายปิยฉัตร ไทยศรี
ตะโพน นายสิรวชิ ญ์ เอ่ยี มสะอาด
เปิงมางคอก เดก็ ชายบูรพา มากกล่าํ
โหมง่ นายระพีพัฒน์ ฟักสขุ จิตต์
นักรอ้ ง นายธนายุทธ กาญจนนุช
เด็กชายนราธิป ไกยสวน
นางสาวอรอนงค์ จตุพรภัทรพร
สาขาทศั นศลิ ป์
30 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564
รายช่ือผลงานท่ผี า่ นการคดั เลือก
- Grey Matter
- เสนห่ แ์ ห่งความเปน� ไทย
- สัญลักษณท์ างพ�ืนท่แี ห่งความสมั พันธ์
- การสรา้ งสรรค์ประตมิ ากรรมเคร่อื งปั�นดนิ เผา
เร่ือง รอ่ งรอยของความงามในธรรมชาติ
- ผู้หญิง
- การออกแบบปรบั ปรุงภูมทิ ัศนบ์ ริเวณฟุ ตบาส
ตรงข้ามโรงอาหารคณะเทคโนโลยกี ารเกษตร
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคณุ ทหารลาดกระบงั
- “เดอื นสิบสอง”
- บวช
- ความเคล่อื นไหวของเส้นสขี าว
- ลูปแอนเิ มชัน สสี ันอัตลกั ษณ์ปลากดั ไทย
- ธรรมชาติ หมายเลข 2
- จิตวิญญาณแห่งดนิ หมายเลข 2, จิตวญิ ญาณแห่งดนิ หมายเลข 4
- ความทรงจาํ ตกผลกึ หมายเลข 2
- ภาพสะทอ้ นการเยยี วยา หมายเลข 1, ภาพสะท้อนการเยยี วยา หมายเลข 2
รายช่ือผลงานท่ผี า่ นการคดั เลอื ก (ตอ่ )
ชีวติ ท่เี ปน� -
ความทรงจําและความผูกพัน -
ท้องทุง่ อีสาน -
แมลงสะทอ้ นชีวติ -
นางสีดา -
121 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
Grey matter
เทคนคิ : Digital painting
2,480 X 3,508 Pixels
อาจารยว์ ชั รพล หงษท์ อง
สาขาศลิ ปศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม
แนวความคดิ
จินตนาการจากโลกทัศน์ ส่ือบันเทิงท่ีมีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สามารถดลบันดาลมโนภาพ
ให้เปน� จรงิ ทุกอย่างได้ตามตาเหน็ เร้าอารมณ์ สรา้ งความสุข ความเพลิดเพลิน บางครัง� อาจต้องแลกด้วยผลท่ตี ามมา
อย่างไม่น่าพึงประสงค์ จากบุคลิกของตัวละครในจินตนาการท่สี ามารถดึงดูด มีเสน่ห์ชวนหลงใหล ด้วยเสน่ห์ของการ
ออกแบบการสร้างสรรค์ร่วมสมยั ท่ีสามารถสร้างความประทับใจ ดึงดดู ทางเพศ ต่อผูช้ ม ตลอดจนถึงเนื�อหาเร่ืองราว
การนําเสนอความรุนแรง สะใจ ทําให้เพลิดเพลินไปกับการกระทํา พฤติกรรมของตัวละคร ท่ีเกิดจากการต่อสู้
ประหัตประหารการสังหารฆ่าส่งผลอิทธิพลต่อการรับรู้ของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างย่ิงเด็กและเยาวชนมิใช่ น้อย
และสามารถโน้มน้าวให้เกิดความรู้สึกคล้อยตามเห็นด้วยกับการกระทําเหล่านั�น ซ่ึงจะกระทบต่อการเจริญเติบโต
ความคิดจินตนาการและคุณภาพชีวิต สร้างอุ ปนิสัยท่ีหยาบกระด้าง ก้าวร้าว อารมณ์แปรปรวน ยึดการใช�ความ
รุนแรงในการยุติปัญหาเปน� ท่ีตั�ง อันเกิดจากการอ้างอิงจากตัวละครหรือ ส่ิงสมมุติท่ีมาจากจินตนาการการออกแบบ
สร้างสรรค์ในทัศนคติของผูส้ ร้างส่อื บันเทิงในแตล่ ะยุคสมัยท่ผี ่านมา
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ 122
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
เสนห่ แ์ หง่ ความเปน� ไทย
Charm of traditional Thai art
อาจารยร์ ตา อกั ษรทอง
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วทิ ยาเขตวทิ ยาลัยเพาะช่าง
แนวความคิด
สัตว์หิมพานต์เปน� เหมือนลูกเล่นเพ่ิมสีสันและชีวิตชีวาในงานจิตรกรรมและประติมากรรมไทยมาแต่ดั�งเดิม
จากการท่ีดิฉันมีความผู กพันในงานจิตรกรรมโบราณและประติมากรรมโบราณเห็นเสน่ห์ของสัตว์เหล่าน�ี
บนงานจิตรกรรมฝาผนังโบราณ ทําให้เอาความประทับใจมาสร้างสรรค์เป�นผลงานประติมากรรมส่ือผสม
ท่ีนํากระดาษท่ีทิ�งแล้วมารีไซเคิลเพ่ือนํากลับมาใช�สร้างเปน� ผลงานศิลปะ และผลงานศิลปะชิ�นนี�ยังสะท้อนถึงการ
บูรณปฏิสังขรณ์งานโบราณตามสถานท่ีต่าง ๆ ท่ีอาจจะไม่ได้มาตรฐานเพียงพอ ท่ีจะทําให้ส่ิงงดงามเหล่าน�ีอยู่คู่กับ
เราไดไ้ ปตลอดกาล อยากเผยแพร่ให้ผูค้ นเห็นคณุ คา่ ของงานศิลปะโบราณ ผ่านผลงานน�ี
123 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
สัญลกั ษณท์ างพน�ื ท่ีแหง่ ความสมั พนั ธ์
Symbolic Space of Relationship
เทคนคิ : สอี ะครลิ กิ และพิมพ์ซิคส์ กรนี
ขนาด 50x65 เซนตเิ มตร
ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ปัทมาสน์ พณิ นกุ ูล
สาขาทศั นศลิ ป์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
แนวความคิด
แนวคดิ การสร้างสรรค์ผลงานเชิงสญั ลักษณ์ เพ่อื ส่ือสาระภาพความรู้สึก ความประทบั ใจท่ซี ่อนอยูภ่ ายใน
วิถีของแก่นธรรมชาติท่ีงดงาม ในพื�นท่ีเกาะยาวน้อย เปน� แหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศท่ีอุดม
สมบู รณ์ และเป�นแหล่งท่องเท่ียวท่ีรายล้อมด้วยภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม รวมทั�งมีส่ิงมีชีวิตท่ีนับว่าเป�นเสน่ห์
คือ นกเงือก หรือ “นกแก๊ก” สัตว์สัญลักษณ์ท่ีเปน� มรดกทางธรรมชาติท่ีดําเนินวิถีร่วมกับผู้คน และส่ิงมีชีวิตอันเปน�
กลไกระบบหมุนเวียนของการดํารงชีพ นํามาสู่ดุลยภาพแห่งความงาม ความอุ ดมสมบูรณ์ของธรรมชาติท่ีสอด
ประสานสัมพันธ์อันน่าประทับใจ ซ่ึง รูปทรงของ “คู่รักนกเงือก” ส่ือแสดงเชิงสัญญะทางความหมายท่ีซ่อนไว้ภายใต้
อิทธิพลของธรรมชาติ ซ่ึงแฝงไปด้วยสุนทรียะต่าง ๆ เกิดการจินตนาการและมโนภาพแห่งความประทับใจถึงเร่ืองราว
ตามหลักทฤษฎีองค์ประกอบศิลป์ทางทัศนธาตุ เทคนิคการพิมพ์ซิลค์ สกรีน กลวิธี ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์
ผลงานจิตรกรรม 2 มิติ
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ 124
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
การสรา้ งสรรคป์ ระตมิ ากรรมเคร่อื งปั�นดนิ เผา
เร่อื ง รอ่ งรอยของความงามในธรรมชาติ
Creative Ceramic Sculpture: Traces of Natural Beauty
อาจารยส์ รุ ศกั ด์ิ สขุ วเิ ศษ
สาขาวชิ าศลิ ปกรรมสาสตร์ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม
แนวความคดิ
การสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมเคร่ืองเคลือบดินเผา เร่ือง ร่องรอยของความงามในธรรมชาติ
ผู้วิจัยมีความประทับใจในภูมิทัศน์ และธรรมชาติซ่ึงเปน� ผืนป่ าเล็กๆ ในบ้านเกิดของผู้วิจัย ภาพของความงามของภูมิ
ทัศน์ และธรรมชาติในช่วงเวลาต่างๆท่ีอยู่ในความทรงจํานั�นยังคงซ�อนทับกันกับภาพของความงามของธรรมชาติใน
ปัจจุ บัน ซ่ึงเป�นส่ิงท่ีสร้างความประทับใจให้ตลอดมา ซ่ึงส่ิงเหล่านี�เป�นส่วนสําคัญท่ีทําให้เกิดแรงบันดาลใจ
ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ผู้วิจัยจึงต้องการแสดงให้เห็นถึงแนวความคิด ความรู้สึก และความทรงจําท่ีมีต่อ
ธรรมชาติเหลา่ นนั� โดยสร้างสรรค์ใหเ้ ปน� ผลงานประติมากรรมเคร่อื งปั�นดนิ เผา
125 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
ผูห้ ญงิ
Woman
อาจารยจ์ ารุวรรณ นครจารุพงศ์
สาขาวชิ าศิลปศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
แนวความคดิ
เม่ือกลา่ วถึง เรือนรา่ งของสตรเี พศมกั มีข้อจํากัดต่อการรบั รู้ เน่อื งด้วยสังคม วฒั นธรรม จารตี ประเพณี
สตรีเพศจึงมักตกเปน� เคร่ืองมือของความเล่ือมล�ําทางสังคม ความไม่เท่าเทียม ส่งผลให้เกิดบรรทัดฐานท่ีมีความ
เคร่งครัดต่อการแสดงออก กระท่ังถูกบดบังความงามของสรีระในแง่มุมต่าง ๆ ในท่ีสุด ทั�งน�ีผู้สร้างสรรค์จึงนําเสนอ
ผลงานจิตรกรรมสีอะคริลิกประสมส่ือวัสดุบนเฟรมผ้าใบ โดยแสดงให้เห็นความงามของสรีระผ่านการสร้างสรรค์
ผลงานชิ�นนี� เพ่อื ปลดปล่อยจากความเช่ือในชุดความคิดเดิม สู่การรับรูถ้ ึงความงามท่แี ฝงอยู่
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ 126
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
การออกแบบปรบั ปรุงภมู ทิ ศั นบ์ รเิ วณฟุ ตบาทตรงขา้ มโรงอาหาร
คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหาร
ลาดกระบงั
Landscape improvement of footpath opposite the canteen
of the Faculty of Agricultural Technology, King Mongkut's Institute
of Technology Ladkrabang
อาจารยว์ นั อาสาฬห์ พทิ กั ษ์
หลักสูตรภูมิทศั น์เพ่อื ส่งิ แวดล้อม คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยพี ระจอมเกล้าเจา้ คุณ
ทหารลาดกระบัง
แนวความคิด
แนวความคิดของการสร้างสรรค์ผลงานช�ินน�ีมาจากการปรับปรุงพื�นท่ีฟุ ตบาทท่ีเส่ือมโทรมให้เกิดความ
สวยงาม ไม่ทําลายธรรมชาติและไม่ทําลายความสวยงามของพฤติกรรมท่ีผู้คนมีต่อผู้คนซ่ึงเกิดในพื�นท่ี
จึงได้ทําการออกแบบพ�ืนท่ีฟุ ตบาทให้กลายเปน� พื�นท่ี Co-working Space โดยเทคนิคการสร้างสรรค์ช�ินงานช�ินนี�ขั�น
แรกทําโดยการร่างแบบในกระดาษและทําการออกแบบขั�นต่อมาในคอมพิวเตอร์รวมทั�งการขึ�นภาพ 3 มิติ
ในคอมพิวเตอร์ ซ่ึงวิธีการสร้างสรรค์ผลงาน ทําได้โดย 1. ตรวจเอกสารค้นหาความหมายของการออกแบบพื�นท่ี
สาธารณะ 2. สํารวจพ�นื ท่ีและพรรณไม้เดิม 3. สํารวจพฤตกิ รรมของคนใช�พ�ืนท่ี 4. หาแรงบันดาลใจในการออกแบบ
และ 5. ออกแบบชิ�นงาน
127 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
เดอื นสบิ สอง
Twelfth month
อาจารย์ ดร.ธวทิ วงศพ์ ลาย
สาขาวชิ าศิลปศึกษา คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม
แนวความคดิ
รูปแบบการแสดงทัศนศิลป์ : จิตรกรรมแสดงเน�ือหาภาพพิธีกรรมในงานประเพณีเดือนสิบสองของ
เชียงใหม่และสุโขทัย เทคนิค: สีอะครีลิคบนผืนผ้าใบโดยใช�เกรียง แปรงขนสังเคราะห์ แปรงยางและลูกกล�ิง
วิธีการสร้างสรรค์ : กําหนดเน�ือหา ค้นคว้าข้อมูลเน�ือหา และข้อมูลภาพถ่าย ประมวลความคิด สรุปแนวความคิด
สรา้ งภาพต้นแบบ ขยายเปน� ผลงานจริง โดยสรา้ งพน�ื ผิวบนระนาบผา้ ใบ ขนาด 90x90 เซนตเิ มตร ร่างภาพ ระบายสี
พื�นหลังด้วยลูกกลิ�ง ระบายรูปทรงด้วยแปรงขนสังเคราะห์ เพ่ิมความหนาของผิววัตถุด้วยเกรียง และแปรงยาง
เพ่ือสรา้ งความแตกต่างระหว่างผวิ ของวัตถุ และพน�ื หลังของทอ้ งฟ�า โดยใชเ� ฉดสีในกลุม่ เดยี วกัน เช่ือมโยงประสานกัน
ทงั� ภาพ
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ 128
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
บวช
Ordain
อาจารยส์ ุรพงษ์ ประเสรฐิ ศกั ด์ิ
สาขาวิชาออกแบบนเิ ทศศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
แนวความคดิ
แนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานในชิ�นน�ีได้แนวคิดมาจากความต้องการของผู ้สร้างสรรค์เองโดยต้องการ
ให้ผลงานแสดงภาพลักษณ์ไทยร่วมสมัย โดยผู้สร้างสรรค์ได้หยิบยกเนื�อหาและเร่ืองราว ในกิจกรรมการแห่นาค
ของประเพณีการอุปสมบทในภาคกลาง โดยใชห� ลักการในการตัดทอนรายละเอียดของภาพ เช่น รูปร่างรูปทรง แสง
เงา มิติ เส้น แต่ยังคงสัญลักษณ์ และเอกลักษณ์บางอย่างท่ีสามารถแสดงภาพลักษณ์ไทย ได้แก่ เส้นตา เส้นคิ�วของ
ภาพคน ทรงผมของคน เป�นต้น ผู้สร้างสรรค์ได้นําแนวคิดในการใช�สี การจัดวางภาพมาจากการออกแบบ
ภาพประกอบ และใช�การตัดทอนลวดลายเชิงกราฟิก เลือกใช�สีท่ีไม่ฉูดฉาด สีท่ีมีลักษณะของการผสมด้วยสีเทา
ดํา และสีขาวเป�นหลัก การจัดวางภาพแบบท่ัวทั�งภาพ น�ําหนักทางสายตาและระยะพื�นท่ีว่างเท่า ๆ กัน
หรอื การจดั วางเพ่อื ให้เกดิ ลวดลายทัง� ภาพ
129 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
ความเคล่อื นไหวของเสน้ สขี าว
The white line movement
อาจารย์ ดร.พบิ ูลย์ มงั กร
สาขาวชิ าศลิ ปศึกษา คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
แนวความคดิ
นําเสนอผลงานจิตรกรรม มีเน�ือหาเปน� ศิลปะการต่อสู้ของไทยคือ มวยไทย ท่แี สดงความเคล่ือนไหวเปน� ภาพ
ลวงตา โดยมีลักษณะนามธรรม เปน� รูปแบบตามแนวทางของศิลปินกลุ่มฟิวเจอริส-ซึม และการระบายสีโดยไม่ใช�พู่กัน
ด้วยส่อื วสั ดสุ ีอะครีลิคบนผ้าใบ มีการใชเ� ส้นและสีเพ่ือแสดงมิตใิ กล้ไกลของพื�นภาพ ตามแนวคดิ ท่วี ่า สีเปน� เปอร์สเปคทีฟ
ระบายสีเพ่ือให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างภาพและพื�นหลัง มีการลากเส้นแสดงโครงสร้างท่าทางมวยไทยให้เกิดเส้นท่ีมี
ความซ�ําซอ� นกัน บางเส้นแสดงลักษณะเส้นช�าแบบลากสมั ผัส (Contour Drawing) บางเส้นลากเร็วแสดงท่าทางและความ
เคล่อื นไหว (Gesture Drawing) ประสมประสานกัน
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ 130
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
ลปู แอนิเมชัน สสี นั อัตลักษณ์ปลากดั ไทย
Loop animation color identity of Thai betta
อาจารยส์ มโชค เนยี นไธสง
สาขาวชิ าออกแบบดจิ ทิ ลั อาร์ต คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครปฐม
แนวความคดิ
ปลากัดไทย (Thai Betta) ถือว่าเป�นปลาสวยงามท่ีมีเอกลักษณ์ท่ีโดดเด่นเป�นอย่างมาก โดยเฉพาะ
ความงามด้านสีสัน ท่ีมีความหลากหลาย แปลกตา ทั�งท่ีเกิดข�ึนเองโดยธรรมชาติและผ่านกระบวนการพัฒนาโดยฝีมือ
มนุษย์ขึ�นมา ความสวยงามของปลากัดไทยท่ีเกิดจากการเคล่ือนไหวลําตัว ครีบหาง ครีบหลังกระโดง ครีบท้อง
ชายน�ํา ตะเกียบ ทวน และมีอิทธิพลต่อการนําเสนออารมณ์ และความรู้สึกของปลากัดในแต่ละชนิดสายพันธุ์ โดยการ
ถอดรหัสเปน� ค่าชุดสี ออกแบบกราฟิกสองมิติ และดําเนินการสร้างสรรค์เปน� ผลงานภาพเคล่ือนไหวลูปแอนิเมชันด้วย
ซอฟตแ์ วร์คอมพวิ เตอร์ สร้างการเคล่อื นไหวแบบต่อเน่อื งท่ใี ห้ความรู้สึกผอ่ นคลาย เกิดความสุขและ มสี ุนทรียะภาพ
131 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
ธรรมชาติ หมายเลข 2
Nature no.2
เทคนคิ : สีอะคลายลคิ บนผา้ ใบ
ขนาด 90 x 130 Cm.
ผูช้ ่วยศาสตราจารยน์ เรศ ยะมะหาร
สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
แนวความคิด
การสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรม ภายใต้หัวข้อการแปรเปล่ียนของชีวิตในธรรมชาติ ข้าพเจ้าได้แสดงออก
ให้เห็นถึงการแปรเปล่ียนของขนาด การแปรเปล่ียนของทิศทาง และการแปรเปล่ียนของจังหวะซ่ึงเปน� สัจธรรมของชีวิต
จากประสบการณ์ท่ีข้าพเจ้าได้สัมผัสและรับรู้ถึงการแปรเปล่ียนน�ีในสภาพสังคมปัจจุ บันและจากความบันดาลใจท่ีได้รับ
จากคล่นื น�ําท่ีเคล่อื นไหว ฝูงปลาท่ีแหวกว่ายในน�าํ ทาํ ให้เกดิ ความคดิ ในการสรา้ งสรรค์จิตรกรรมรูปแบบนามธรรม
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ 132
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
จิตวญิ ญาณแหง่ ดนิ หมายเลข 2 และ จติ วิญญาณแหง่ ดนิ หมายเลข 4
earth spirit No.2, earth spirit No.4
ผูช้ ่วยศาสตราจารยเ์ ดอื นฉายผูช้ นะ ภปู่ ระเสรฐิ
สาขาวชิ าทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
แนวความคิด
งานสร้างสรรค์ชุดน�ี สร้างจากดินโดยใชเ� ส้นและรูปทรงเปน� วาทกรรมในการก่อเกิดคุณค่าทางสุนทรียภาพ
ในผลงานแต่ละช�ิ นปรากฏมิติของเส้นท่ีพัฒนาขึ�นระหว่างช่ วงเวลาท่ีแตกต่างกันส่งผลต่อสุนทรียภาพว่าด้วย
สุนทรียศาสตร์ในปัจจุ บัน วาทกรรมปฏิบัติการเกิดขึ�นภายใต้ปรากฏการณ์บางอย่างระหว่างวัตถุ เส้น สีดิน
และ พฤติกรรมแห่งดินตามแหล่งภายในท้องถ่ินซ่ึงเปน� ตัวกําหนดคณุ ค่าจากสองแหลง่ ผูกพนั กันคือ บุคคล และ ธาตุ
ตามธรรมชาติ พฤติกรรมของเส้นท่ีเกิดขึ�นในงาน เปน� ความงามในลักษณะนามธรรมท่ีตอ้ งอาศัยการอธิบายตัวบทใน
การตคี วามสู่ความเปน� “จิตวญิ ญาณแหง่ ดนิ ” ผ่านวาทกรรมเก่ียวกบั สุนทรยี ศาสตรข์ องเสน้ ในศิลปะร่วมสมยั
133 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
ความทรงจาํ ตกผลกึ หมายเลข 2
The Crystallization Tank No.2
เทคนคิ : Installation art
อาจารยอ์ อมสริ ี ปานดาํ รงค์
สาขาวชิ าทศั นศลิ ป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
แนวความคดิ
จดบันทึก ไตร่ตรอง ไม่ว่าจะรูปแบบใด ทําให้เรานึกย้อนไปถึงความทรงจํา เพ่ือเยียวยาจิตใจ
และในขณะเดียวกันสามารถทําให้เราตกผลึกทางความคิด ท่ีนําไปสู่การเปล่ียนแปลงรูปทางประสบการณ์ความคิด
ท่ีทําให้เราเข้าใจโลกและการเจริญเตบิ โตทางจิตใจ
การสร้างสรรค์ด้วยวิธีการตกผลึกเกลือเป�นกระบวนการเปล่ียนผ่าน นํามาซ่ึงการเช่ือมโยงเน�ือหา
ความทรงจําในพื�นท่ีเฉพาะ และในขณะเดียวกันก็เปล่ียนสภาพตกผลึกทางความคิด บทบาทความงามของร่างกาย
และภาษาใหเ้ ปน� ความหมายใหม่ท่กี วา้ งออกไป
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ 134
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
ภาพสะท้อนการเยยี วยา หมายเลข 1
Reflection of therapy 1
อาจารยป์ ิยงั กรู ตนั วเิ ชียร
สาขาวชิ าทัศนศลิ ป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
แนวความคดิ
ภาพสะท้อนการเยียวยา หมายเลข 1 ผู้สร้างสรรค์ต้องการสะท้อนสภาวะความเจ็บปวดจากประสบการณ์
ของตนท่ีได้รับผลกระทบจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โดยสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ด้วยกระบวนการ
ภาพพิมพ์ร่องลึกและการอัดภาพไซยาโนไทป์ ท่ีเปรียบเสมือนเคร่ืองมือหรือแนวทางในการรักษาเยียวยาสภาพจิตใจ
ใหค้ วามรูส้ ึกเชิงลบได้แปรเปล่ยี นเปน� พลงั บวกโดยสะทอ้ นใหป้ รากฏในลักษณะของภาษาภาพด้วยเร่อื งราวประสบการณ์
สภาวะความเจ็บปวดให้ได้ระบายความรู้สึกภายใต้จินตนาการอันเหนือจริง เพ่ือเปน� การสร้างแรงและกําลังใจให้ผู้สร้าง
สรรค์มีแรงผลักดันในการดําเนินชีวิตจากอาการเจ็บป่ วย อีกทัง� เปน� การศึกษา ค้นคว้าแนวทางการพัฒนาศิลปะภาพ
พมิ พใ์ นลกั ษณะส่อื ผสม
135 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
ภาพสะท้อนการเยยี วยา หมายเลข 2
Reflection of therapy 2
อาจารยป์ ิยงั กรู ตนั วเิ ชียร
สาขาวิชาทศั นศลิ ป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
แนวความคดิ
ภาพสะท้อนการเยียวยา หมายเลข 2 ผู้สร้างสรรค์ต้องการสะท้อนสภาวะความเจ็บปวดจากประสบการณ์
ของตนท่ีได้รับผลกระทบจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โดยสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ด้วยกระบวนการ
ภาพพิมพ์ร่องลึกและการอัดภาพไซยาโนไทป์ ท่ีเปรียบเสมือนเคร่ืองมือหรือแนวทางในการรักษาเยียวยาสภาพจิตใจ
ให้ความรู้สกึ เชิงลบได้แปรเปล่ยี นเปน� พลงั บวกโดยสะทอ้ นใหป้ รากฏในลกั ษณะของภาษาภาพดว้ ยเร่อื งราวประสบการณ์
สภาวะความเจ็บปวดให้ได้ระบายความรู้สึกภายใต้จินตนาการอันเหนือจริง เพ่ือเปน� การสร้างแรงและกําลังใจใหผ้ ู้สร้าง
สรรค์มีแรงผลักดันในการดําเนินชีวิตจากอาการเจ็บป่ วย อีกทัง� เปน� การศึกษา ค้นคว้าแนวทางการพัฒนาศิลปะภาพ
พิมพ์ในลักษณะส่ือผสม
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ 136
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
ชีวติ ท่เี ปน�
THE LIFE THAT IS
นายปรญิ ญา ตระกลู ทมุ
สาขาวชิ าทศั นศลิ ป์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
แนวความคดิ
ตั�งแต่ยังเด็กข้าพเจ้ามีโรคประจําตัวท่ีเปน� ติดตัวมา คือโรคเบาหวาน เปน� ส่ิงท่ีข้าพเจ้าไม่อาจหลีกเล่ียง
และเลือกท่ีจะไมเ่ ปน� ไม่ได้ ซ่ึงโรคนีเ� กิดจากกรรมพันธุ์ ท่เี ปน� สืบตอ่ กันมาในครอบครัวของข้าพเจ้า แต่ถึงแม้ข้าพเจ้าจะมี
โรคเบาหวานติดตัวมาตั�งแต่ยังเด็ก แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้เอามาเปน� ปมด้อยของตนเอง หรือเอามาเปน� ข้อเปรียบเทียบว่า
ตนเองมีข้อเสียหรือแตกต่างจากผู้อ่ืน ข้าพเจ้ายอมรับและดําเนินชีวิตอยู่กับมันทุกวันเปรียบเสมือนส่วนหน่ึงของชีวิต
ข้าพเจ้าเอง โดยท่ีไม่คิดในแง่ลบว่า โรคน�ีเปน� โรคท่ีน่ารังเกียจแต่อย่างใด และในการดําเนินชีวิตของข้าพเจ้าเองก็มี
ความสขุ ได้ไมต่ ่างจากคนอ่นื ท่ไี มไ่ ดม้ ีโรคประจําตวั อย่างขา้ พเจา้ แต่อย่างใด
การยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองนั�นเป�นส่ิงสําคัญ เพราะคนทุกคนมีคุณค่าในตัวของตัวเอง
ข้าพเจ้าจึงยอมรับในส่ิงท่ีเปน� และปรับตัวใชช� ีวิตอยู่ร่วมกับมัน โดยไม่ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบของร่างกาย ใช�ชีวิต
แบบเรียบง่าย แตใ่ ส่ใจและเห็นคุณคา่ ของตนเอง ขา้ พเจ้าจึงใชช� ีวิตอยูก่ บั ส่งิ ท่ีเปน� อยา่ งมีความสุขได้ในทุก ๆ วนั
137 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
ความทรงจําและความผู กพัน
Memories and Relationship
นางสาวพรศริ ิ ซาซิโย
สาขาวิชาทศั นศิลป์ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
แนวความคดิ
เน่ืองจากคนอีสานส่วนมากเด๋ียวน�ีได้เสียสละออกจากบ้านทิ�งบ้านท�ิงครอบครัวท่ีอันเป�นรักของตัวเอง
พากนั เข้ามาทํางานในกรุงเทพ เพ่อื มาหารายได้เล�ียงตวั เองและครอบครัว ช่วงเทศกาลของทุกปี จะเปน� ความหวังคนท่ี
รออยู่ทางบ้าน รอเพ่ือให้คนท่ีจากบ้านไป ได้กลับมาเย่ียมเยียน กลับมาสู่อ้อมกอด ข้าพเจ้าสร้างสรรค์ผลงานช�ินน�ี
โดยผา่ นกระบวนการ กดั ผ้าดว้ ยไฮเตอรร์ ูปแบบศลิ ปะเหมือนจรงิ
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ 138
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
ทอ้ งทงุ่ อสี าน
ISAN’S WAY OF LIFE
นายประฏพิ ร ผลบุญ
สาขาวิชาทัศนศลิ ป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
แนวความคิด
ดนิ แดนอสี าน มีธรรมชาติ วถิ ีชีวิตความเปน� อยู่ ท่เี รียบงา่ ย แผ่นดนิ อีสาน หรือภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ
ของประเทศไทย เปน� ภูมิภาคท่ีมีความหลากหลายทางการเกษตร มีความงดงามของวิถีชีวิตท่ีเรียบง่าย กลมกลืนกับ
ธรรมชาติอบอุ่น ขา้ พเจ้าจงึ นาํ เสนอจุ ดเดน่ ภาพวิวทิวทัศน์ของทุ่งนาท่ีมีความอุดมสมบูรณ์ ชาวอสี านมอี าชีพหลักคือ
การทําเกษตรกรรม โดยเฉพาะการปลูกข้าว ทํานา ชาวชนบทอีสานมีวิถีอยู่อย่างพ่ึงพาตนเอง ข้าพเจ้ามีความ
ภาคภูมิใจในท้องถ่ินของตนจึงสร้างสรรค์ผลงานศิลปนิพนธ์โดยผ่านกระบวนการภาพพิมพ์แกะไม้ (Woodcut)
รูปแบบศิลปะเหมือนจริง(Realism) ส่ือสะท้อนการแสดงออกของการใช�ชีวิตท่ีเรียบง่าย ความเปน� ธรรมชาติกับมนุษย์
ผลงานในรูปแบบสองมิติ เทคนิคภาพพิมพ์กะไม้ วิธีการสร้างสรรค์เร่ิมจากการลงพ�ืนท่ีจริงเพ่ือนํามาสร้างสเก็ต
นําไปสร้างผลงานโดยดราฟลงแผ่นไม้ เร่ิมแกะจากสีท่ีสว่างท่ีสุดทําการพิมพ์โดยใช�บาเร็ง หลังจากนั�นล้างแม่พิมพ์
ทาํ การแกะสีตอ่ ไปทําซ�ําจนไปถึงสีเขม้ และเก็บรายละเอยี ดของงาน
139 การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรคท์ างดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมร่วมสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจาํ ปี 2564
แมลงสะทอ้ นชีวติ
INSECTS TO REFLECT LIFE
นางสาวจณิสตา มากกวา่ วงค์
สาขาวิชาทศั นศลิ ป์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
แนวความคิด
แมลงกับการใช�ชีวิตในสังคมเมืองและชนบท ข้าพเจ้าเปรียบตัวเองกับมนุษย์ในสังคม เหมือนกับชีวิต
ของแมลง มีชีวิตท่ีริบร่ี อ่อนแอ ว่างเปล่า ต้องต่อสู้ด�ินรนเพ่ือให้พ้นจากความยากลําบากและเพ่ือส่ิงท่ีต้องการจะได้
ใหส้ มหวัง ถงึ แม้จะมกี ารใชช� ีวติ ท่ีเปน� อิสระ แตก่ ็ยังอยู่ในกรอบท่ไี ด้วางเอาไว้ และซ่อนเร้นความแขง็ แกรง่ ยามท่มี ดื มิด
หรือทอ้ แท้กจ็ ะมแี สงสว่างคอยนําทางอยู่เสมอ เปน� แสงแหง่ ความหวังท่คี อยชักนําใหไ้ ปสคู่ วามสาํ เร็จ ซ่ึงยงั เปรียบได้กับ
คนชนบทท่ีเข้ามาในสังคมเมืองได้ว่า “ท่ีไหนมีความเจริญก็ย่อมตามไป ณ ท่ีแห่งนั�น” ข้าพเจ้าจึงได้นําแมลงมาเปน�
สัญลักษณ์ของมนุษย์ โดยการหลอมรวมความเปน� มนุษย์และแมลงเข้าด้วยกัน จนกลายเปน� รูปร่างของแมลงท่ีมีความ
แปลก ความหลากหลาย เพ่ือสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของชีวิต และฉลุเปน� ลวดลายของวิถีชีวิตและส่ิงท่ีข้าพเจ้า
ไดพ้ บเจอ
การนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศลิ ปกรรมระดบั ชาติ 140
มหกรรมวฒั นธรรมรว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3 ประจําปี 2564
นางสดี า
NANGSRIDA
นางสาวกญั ธมิ า อนิ เผ่อื น
สาขาวิชาทศั นศิลป์ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
แนวความคิด
การหยิบยกสัญลักษณ์ท่ีมีความรู้สึกทางใจมาผูกต่อเร่ืองราวความเปน� หญิงไทยในวรรณคดี มานําเสนอ
อสิ ระทางความคิด และประสบการณร์ ่วมของสังคมระหว่างอดีตและปัจจุ บัน มาเผยให้เห็นความสัมพนั ธ์ของขอ้ กําหนด
ทางวัฒนธรรมท่ีฝังรากลึก และการวางตัวของผู้หญิงไทย ซ่ึงข้าพเจ้านําเสนออารมณ์ความรู้สึกภาพร่างกาย
ของตนเองแทนสัญลักษณ์ของสตรีไทยสมัยใหม่ท่ีสวมเส�ือผ้าอย่างเรียบง่ายตามปกติของวัยสาวและความสดใสไร้
ความซับซอ� น การสืบต่อนําเสนออิสระทางความคิด และประสบการณ์ร่วมของสังคมระหว่างอดีตและปัจจุ บัน มาเผย
ให้เห็นความสัมพันธ์ของข้อกําหนดทางวัฒนธรรมท่ีฝังรากลึก และการวางตัวของผู้หญิงไทย และชีวิตท่ีต้องอยู่
ควบคไู่ ปกับการเจรญิ เติบโตของวัฒนธรรมท่มี ีการเปล่ียนแปลงไม่สิ�นสุดขา้ พเจ้าสร้างสรรคผ์ ลงานศิลปนิพนธ์โดยผ่าน
กระบวนการสีน�ํามันบนผ้าใบ (painting) เพ่ือใช�ส่ือถึงการแสดงออกของอารมณ์ความรู้สึกตนเองแทนสัญลักษณ์
ของสตรีไทย
FOLK
2021
ขอขอบพระคณุ
ผูส้ นบั สนนุ การดาํ เนนิ งาน
กระทรวงวัฒนธรรม
กระทรวงการอุดมศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม
สํานกั งานศลิ ปวฒั นธรรมรว่ มสมัย
สาํ นักงานวฒั นธรรมจงั หวดั ปทุมธานี
ขอขอบพระคณุ
สถาบนั เครอื ขา่ ยความรว่ มมอื (MOU)
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั จนั ทรเกษม
มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม
มหาวิทยาลัยราชภฏั นครราชสีมา
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบุรรี มั ย์
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนครศรอี ยุธยา
มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุตรดิตถ์
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี
สถาบันบณั ฑติ พฒั นศิลป์
สํานกั ศลิ ปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภฏั อุดรธานี
มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์
ช่องทางติดตามขา่ วสาร และการเผยแพรผ่ ลงาน
Facebook Fanpang: VRU Contemporary Folk Festival
โครงการนาํ เสนอผลงานสรา้ งสรรค์ทางดา้ นศิลปกรรมระดบั ชาติ
มหกรรมวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ รว่ มสมยั ครงั� ท่ี 3
(The 3rd National Creative Work Presentation
of Fine Arts: VRU Contemporary Folk Festival 2021)
29 – 30 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564
(การนาํ เสนอผลงานผ่านส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ออนไลน์)
มหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
จังหวัดปทมุ ธานี
สูจิบัตร
โครงการนาํ เสนอผลงานสร้างสรรคท์ างด้านศลิ ปกรรมระดับชาติ
มหกรรมวัฒนธรรมท้องถ่ินร่วมสมยั ครัง� ท่ี 3 ประจําปี 2564
(The 3rd National Creative Work Presentation of Fine Arts:
VRU Contemporary Folk Festival 2021)
คณะกรรมการดาํ เนนิ งาน
ศศิพร เหลอื งไพฑูรย์
วภิ าพร ตัณฑสวัสด์ิ
ดวงกมล ทองอยู่
สมรรถพงศ์ ขจรมณี
กฤตนันท์ ในจิต
พสิ จู นอ์ กั ษร
พรศริ ิ นาควชั ระ
ประกาศติ ประกอบผล
เนมิ อุนากรสวัสด์ิ
นารนี าถ วงษ์ปรดี า
จิระศกั ด์ิ สังเมฆ
กราฟิก
วรรณสิญจน์ และคณะ
พมิ พเ์ ผยแพร่
ผ่านระบบออนไลน์ วันท่ี 26 พฤศจกิ ายน 2564
“…ของประดบั ถา้ ไมร่ ูจ้ กั เกบ็ รกั ษากส็ ญู หายได้
แต่วชิ าความรูน้ ัน� ติดตัวไปตลอดชีวติ …”
พระดาํ รัส
สมเดจ็ พระราชปิตุจฉา เจา้ ฟ�าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรรี าชสริ นิ ธร
องค์ประทานกําเนิด
โรงเรียนฝึกหดั ครูเพช็ รบุรวี ทิ ยาลงกรณ์
ปัจจุ บนั คือ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวดั ปทุมธานี
คาํ นํา
สูจิบัตรการนําเสนอผลงานสร้างสรรค์ระดับชาติฉบับน�ี จัดทําขึ�นเพ่ือการเผยแพร่ในงาน
นําเสนอผลงานสร้างสรรค์ทางด้านศิลปกรรมระดับชาติ “มหกรรมวัฒนธรรม ท้องถ่ินร่วมสมัย”
ครั�งท่ี 3 (The 3rd National Creative Work Presentation of Fine Arts: VRU Contemporary
Folk Festival 2021) ซ่ึงดําเนินการจัดงานโดยคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยภาคีและสถาบันเครือข่าย
ภายใต้จุ ดประสงค์ของการเปิดพื�นท่ีให้แก่นักศึกษา อาจารย์ นักวิชาการ และผู้สนใจ ร่วมเผยแพร่
ผลงานสร้างสรรค์ทัง� ยังร่วมกันสืบสาน ศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน รวมถึงเปน� การสร้างเครอื ข่ายความ
ร่วมมือด้านงานวัฒนธรรมท้องถ่ิน ทัง� ยังเปน� การ สร้างบรรยากาศในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ด้านงาน
วิชาการและเครือข่ายการวิจัยระหว่างสถาบันการศึกษา ทางคณะกรรมการขอขอบพระคุณ
ผู้ทรงคุณวุ ฒิ ผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้อง และผู้เข้าร่วมการนําเสนอผลงานทุกท่านท่ีได้ให้ความสนใจ
เขา้ รว่ มงานในครงั� น�ี และหวังเปน� อยา่ งย่งิ ว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากทุกท่านสบื เน่ืองต่อไป
คณะกรรมการผูจ้ ัดงาน
คํานิยม
ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.สพุ จน์ ทรายแกว้
อธกิ ารบดี มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ จงั หวัดปทมุ ธานี
--------------------------------------------
ขอแสดงความยินดีในโอกาสท่ีจัดงานการนําเสนอผลงานสร้างสรรค์ระดับชาติ
“มหกรรมวัฒนธรรมท้องถ่ินร่วมสมัย” ซ่ึงได้จัดดําเนินงานอย่างต่อเน่ืองมาเปน� ปีท่ี 3 กิจกรรม
ในครั�งนี�นับได้ว่าเป�นส่วนหน่ึงในพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัยด้านการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม
กระตุ้นการมีจิตสํานึกและหวงแหนรากเหง้าของวัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมท้องถ่ิน และส่งเสริม
การเรียนรู้ในด้านความแตกต่างทางวัฒนธรรมเพ่ือใหเ้ กิดการยอมรับซ่ึงกันและกัน ตลอดจนสามารถ
อยู่รว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งสนั ติในบริบทต่าง ๆ ทางสงั คม
น อ ก เ ห นื อ ไ ป จ า ก ก า ร ต ร ะ ห นั ก รู ้ เ ก่ี ย ว กั บ วั ฒ น ธ ร ร ม แ ล ะ ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง แ ล้ ว
การร่วมกิจกรรมดังกล่าวยังเปน� กลไกหน่ึงท่ีช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ท่ีเก่ียวข้องในศิลปกรรมศาสตร์
ร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้นวัตกรรมและข้อมูลทางวิชาการใหม่ ๆ เพ่ือการต่อยอดองค์ความรู้
อยา่ งสรา้ งสรรค์ สามารถใชป� ระโยชนใ์ นทางวิชาการหรอื ทางอาชีพ
ในโอกาสน�ี ขอขอบคุณผู้ร่วมงาน และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทุกภาคส่วน รวมถึงผู้มีเกียรติ
ทุกท่าน ท่ีให้เกียรติเข้าร่วมงาน “มหกรรมวัฒนธรรมท้องถ่ินร่วมสมัย” ครั�งท่ี 3 (The 3rd National
Creative Work Presentation of Fine Arts: VRU Contemporary Folk Festival 2 0 2 1)
ในวันท่ี 29-30 พฤศจิกายน 2564 ในนามผู้บริหารและคณะผู้จัดงานมีความหวังเป�นอย่างย่ิง
ว่าจะเปน� ประโยชน์ใหแ้ กท่ ่านทงั� ด้านวิชาการและวิชาชีพต่อไป
(ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.สพุ จน์ ทรายแกว้ )
อธกิ ารบดี
คาํ นยิ ม
ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ภิศกั ด์ิ กลั ยาณมติ ร
คณบดคี ณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ จงั หวดั ปทมุ ธานี
--------------------------------------------
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรม
ราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี ได้กําหนดจัดงาน การนําเสนอผลงานสร้างสรรค์ระดับชาติ
“มหกรรมวัฒนธรรมท้องถ่ินร่วมสมัย” ครั�งท่ี 3 (The 3rd National Creative Work Presentation
of Fine Arts: VRU Contemporary Folk Festival 2021) ซ่ึงเป�นการจัดงานนําเสนอสร้างสรรค์
ทางด้านศิลปกรรมระดับชาติ โดยในปี พ.ศ. 2564 นี� ได้รวบรวมการนําเสนอผลงานทางด้าน
ศิลปกรรมศาสตร์ทั�ง 3 สาขา ได้แก่ ทัศนศิลป์ ศิลปะการแสดง และดุริยางคศิลป์ เพ่ือส่งเสริม
บรรยากาศทางวิชาการและเพ่ิมพ�ืนท่ีในการแสดงผลงาน และการนําเสนอระดับชาติ สําหรับบุคลากร
ทางการศกึ ษา นกั ศึกษาและผูส้ นใจท่ัวไป ซ่ึงตอ้ งการมาร่วมแลกเปล่ียนเรียนรูห้ รือเย่ียมชมผลงานท่ีมี
คุณภาพจากงานครงั� นี�
นอกจากสาขาวิชาท่ีเข้าร่วมนําเสนอแล้ว การจัดงานในครั�งน�ียังได้รับเกียรติจาก
ผู้เช่ียวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิ ของแต่ละศาสตร์มาให้ข้อเสนอแนะ พร้อมทั�งเสริมสร้างแรงจูงใจ
ในการผลิตผลงานอันยอดเย่ียมทั�งในรูปแบบของการนําเสนอผลงาน และการเผยแพร่เอกสาร
ซ่ึงจะได้รบั การจดั พมิ พใ์ นรูปแบบของส่ืออิเล็กทรอนิกสอ์ ีกรูปแบบหน่ึง
ในการนี�ขอช่ืนชมคณะผู้ดําเนินงาน และช่ืนชมผู้สร้างสรรค์ผลงานทั�ง 3 สาขา ท่ีได้ให้
เกียรติร่วมเสนอผลงาน ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซ่ึงคณะหวัง
เปน� อยา่ งย่ิงว่า ความรว่ มมือในด้านวชิ าการ และดา้ นอ่นื ๆ ยังคงสานต่อไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ
(ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ภศิ ักด์ิ กลั ยาณมิตร)
คณบดคี ณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
โครงการบริหารจดั การสง เสรมิ ศาสนา
ทํานุบํารงุ ศิลปะและวัฒนธรรมและภูมิปญญาทอ งถ่ิน
1. ชื่อกิจกรรม การนําเสนอผลงานสรางสรรคท างดานศลิ ปกรรมระดับชาติ “มหกรรมวัฒนธรรมทองถน่ิ รวมสมัย”
ค ร้ั ง ท่ี 3 ( The 3rd National Creative Work Presentation of Fine Arts : VRU Contemporary Folk
Festival 2021)
2. หลักการและเหตผุ ล
ศิลปวัฒนธรรมรวมสมัย เปนสุนทรียะภาพท่ีแสดงออกถึงคุณคามนุษยเกิดข้ึนจากการสรางสรรคการอยู
รวมกันและศิลปวัฒนธรรมรวมสมัย ยังบงบอกเรื่องราวท่ีเปนวิถีชีวิตผูคนสะทอนถึงอัตลักษณและขนบวัฒนธรรม
ประเพณีทองถิ่น ประกอบดวย ศิลปะการแสดง ดนตรี ทัศนศิลป วรรณกรรม รวมถึงงานสถาปตยกรรมท้ังอดีต
และปจ จุบนั ซึง่ การสบื สานสงตอศลิ ปวัฒนธรรมรวมสมยั ใหด ํารงคงอยคู กู ับสังคมไทย
คณะมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ ในพระบรมราชูปถัมภ
ไดตระหนักถึงความสําคัญงานศิลปวัฒนธรรมรวมสมัย ทั้งยังมีภารกิจสรางการมีสวนรวมและเครือขาย
ในการอนรุ กั ษมรดกของประเทศไดสบื สานและดํารงอยูอยางยงั่ ยืนตลอดไป จงึ ไดก ําหนดจัดโครงการนําเสนอผลงาน
สรางสรรคทางดานศิลปกรรมระดับชาติ “มหกรรมวัฒนธรรมทองถ่ินรวมสมัย” คร้ังท่ี 3 (The 3rd National
Creative Work Presentation of Fine Arts : VRU Contemporary Folk Festival 2021
3. วตั ถปุ ระสงค
1. เพือ่ สงเสริมและสนบั สนุนใหม ีการอนุรักษ และประยกุ ตศ ิลปะและวัฒนธรรมทอ งถนิ่ ใหก ับชุมชน
นาํ ไปสกู ารเพิ่มคุณคาทางสงั คม และมูลคา เชงิ เศรษฐกจิ อยางย่ังยนื
2. เพ่ือสงเสริมใหนักเรียน นักศึกษา อาจารย และบุคคลภายนอก มีสวนรวมในการอนุรักษ และสืบสาน
ศลิ ปวฒั นธรรมทองถนิ่ พรอ มท้ังสามารถสรา งเครอื ขา ยความรว มมอื ทองถนิ่ รว มกนั
3. เพ่ือใหน กั เรียน นักศกึ ษา ไดเ รียนรูวิถชี ีวิตของคนในทอ งถ่ิน
4. เพ่อื สรางเครือขา ยวิชาการในการนําเสนอผลงานสรา งสรรคระดับประเทศ
4. กลมุ เปา หมาย/ผูเขารวมโครงการ
1. ผนู ําเสนอผลงานสรา งสรรค ทางดานศิลปะการแสดง จํานวน 35 ผลงาน
2. ผูนําเสนอผลงานสรางสรรค ทางดา นดรุ ยิ างคศลิ ป จาํ นวน 15 ผลงาน
3. ผูนําเสนอผลงานสรางสรรค ทางดา นทศั นศลิ ป จาํ นวน 10 ผลงาน
4. นกั ศึกษา และอาจารย เขารว มโครงการ จํานวน 50 คน
5. ระยะเวลาดาํ เนนิ โครงการ
วันเร่มิ ตน โครงการ 29 พฤศจกิ ายน 2564 วันส้ินสุดโครงการ 30 พฤศจกิ ายน 2564
6. สถานทดี่ าํ เนนิ การ
คณะมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร และหองปฏิบัติการนิเทศศาสตร (studio) คณะวิทยาการจัดการ
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ ในพระบรมราชปู ถัมภ จงั หวัดปทมุ ธานี
7. แผนการดาํ เนินงาน
ระยะเวลาการดําเนินงาน
ข้นั ตอน/กิจกรรม ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 ไตรมาสที่ 4
ในการดําเนินงาน (ต.ค.-ธ.ค.64) (ม.ค.-ม.ี ค.65) (เม.ย.-มิ.ย.65) (ก.ค.-ก.ย.65)
ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.
ขออนมุ ัตโิ ครงการ
ดําเนินกจิ กรรม
ประเมนิ ผล
8. ผลทคี่ าดวา จะไดรับ
1. มีการอนุรักษ และประยุกตศิลปะและวัฒนธรรมทองถ่ินใหกับชุมชน นําไปสูการเพิ่มคุณคาทางสังคม
และมลู คาเชงิ เศรษฐกจิ อยา งยง่ั ยนื
2. นักศึกษา อาจารย และชุมชน มีสวนรวมในการนําเสนอผลงานสรางสรรคและรวมกันสืบสาน
ศลิ ปวฒั นธรรมทองถ่นิ พรอ มสรา งเครอื ขา ยความรว มมอื งานวฒั นธรรมทองถ่ินรวมกนั
3. นกั ศึกษา และชุมชนไดเรียนรแู ละถายทอดวถิ ีชวี ติ วฒั นธรรมของคนในทองถ่นิ
4. มีเครือขายวชิ าการในการนําเสนอผลงานสรางสรรคร ะดับประเทศ
9. ตัวช้วี ัดความสําเร็จ/ คาเปาหมาย
9.1 เชิงปรมิ าณ
1. กลมุ เปา หมายเขารวมโครงการรอยละ 80
2. ผูเ ขา รวมโครงการ มีความพึงพอใจ เฉลยี่ ในระดับดีมาก อยา งนอยรอยละ 80
9.2 เชิงคุณภาพ
1. เกดิ เครอื ขายความรวมมอื ทางวิชาการ 1 เครือขาย
2. ผูเขารว มโครงการมีความรคู วามเขาใจในวิถขี องคนในทอ งถ่ิน อยา งนอยรอยละ 90
3. ผเู ขารว มโครงการสามารถนาํ ความรูทไ่ี ดรับไปใชป ระโยชน รอยละ 75
4. ผูเขารวมโครงการเกิดการอนรุ ักษและประยกุ ตศลิ ปะและวัฒนธรรมทองถ่ินใหก ับชมุ ชน
นําไปสกู ารเพ่ิมคณุ คา ทางสังคมและมูลคา เชงิ เศรษฐกจิ อยา งยั่งยืนในระดับดี รอยละ 75
10. การติดตามและประเมนิ ผลโครงการ เคร่ืองมอื
วธิ กี าร แบบประเมินความพึงพอใจของผูเ ขารวมโครงการ
แบบทดสอบความรูความเขา ใจในดานตา งๆ ทผ่ี เู ขา รวม
แจกแบบสอบถามความพงึ พอใจ โครงการไดรับ ประกอบดว ยความรูด า นศลิ ปวฒั นธรรม เปน ตน
แจกแบบสอบถามความรคู วามเขา ใจ
11. สาเหตุหรือปจจัยความเสยี่ งท่อี าจจะเกิดข้ึนในการดาํ เนินโครงการ
สาเหตหุ รอื ปจจัยความเสี่ยง แนวทางแกไข/ปองกันความเสยี่ ง
มีผูเขา รว มโครงการไมถึงรอยละ 80 ประชาสัมพันธทุกชองทางใหหนวยงานภายในและภายนอก
มหาวทิ ยาลัยไดทราบขา วสารการจดั กจิ กรรม
12. รายช่อื คณะกรรมการดาํ เนนิ งาน ประธานกรรมการ
12.1 อาจารย ดร.นัฏภรณ พูลภักดี กรรมการ
12.2 ผชู วยศาสตราจารย ดร.สมทรง บรรจงธติ ิทานต กรรมการ
12.3 ผูช ว ยศาสตราจารยวิเชียร ธนลาภประเสริฐ กรรมการ
12.4 ผชู วยศาสตราจารยน เรศ ยะมะหาร กรรมการและเลขานกุ าร
12.5 อาจารย ดร.ลกั ขณา แสงแดง กรรมการผชู ว ยเลขานกุ าร
12.6 นางสาวบษุ บงก วินิยม กรรมการผูชว ยเลขานุการ
12.7 นายกฤตนันท ในจิต
กาํ หนดการ
นาํ เสนอผลงานสรางสรรคทางดานศลิ ปกรรมระดบั ชาติ
“มหกรรมวฒั นธรรมทองถ่ินรว มสมยั ” ครง้ั ท่ี 3
วันท่ี 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
ณ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ ในพระบรมราชูปถัมภ จังหวดั ปทมุ ธานี
และการนาํ เสนอผลงานสรา งสรรคผ านส่อื อเิ ล็กทรอนิกสอ อนไลน (ระบบ Zoom Cloud Meetings)
********************************
พธิ เี ปด
สถานท่ี : หอ งประชุมเพชรบุรีวทิ ยาลงกรณ 2 ช้นั 3 อาคารเรยี นรวมสงั คมศาสตร
08.00 - 08.30 น. ผูเขา รว มนําเสนอเขา ระบบออนไลน Zoom
08.30 - 08.45 น. พิธเี ปด การนาํ เสนอผลงานสรางสรรคทางดา นศลิ ปกรรมระดับชาติ
“มหกรรมวัฒนธรรมทองถิน่ รว มสมยั ” คร้งั ที่ 3
โดย ผูช ว ยศาสตราจารย ดร.สพุ จน ทรายแกว อธกิ ารบดี
08.45 - 08.55 น. กลาวตอนรบั และแสดงความยินดีตอ ผูนาํ เสนอผลงาน
โดย นายโกวิท ผกามาศ ผตู รวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม
รับชมการแสดงพธิ เี ปด
- คลปิ การแสดงพธิ เี ปด โดย ศาสตราจารย ดร.นราพงษ จรัสศรี
(ผบู กุ เบกิ นาฏศิลปร ว มสมยั ในประเทศไทย)
การนําเสนอผลงานสรา งสรรค : ดา นศิลปะการแสดง
สถานที่ : หอ งประชุมเพชรบุรวี ทิ ยาลงกรณ 2 ชนั้ 3 อาคารเรยี นรวมสงั คมศาสตร
08.55 - 09.00 น. กลาวตอนรบั เขาสกู ารนําเสนอผลงานสรางสรรค “มหกรรมวฒั นธรรมทองถน่ิ รว มสมยั ”
09.00 - 10.00 น. ครงั้ ท่ี 3 ทางดา นศิลปะการแสดง
รวมเสวนาทางวิชาการ ในหัวขอ “การสรา งสรรคผลงานทางดา นศิลปะการแสดงในยคุ
New Normal”
โดยผทู รงคุณวุฒิ ศาสตราจารย ดร.นราพงษ จรสั ศรี
10.00 - 12.00 น. การวิพากษผลงานและสรุปเทคนิคการสรา งสรรคผลงานทางดานศิลปะการแสดง
โดยผทู รงคุณวฒุ ิ
12.00 - 13.00 น. 1. ศาสตราจารย ดร.นราพงษ จรัสศรี
13.00 – 17.20 น. 2. รองศาสตราจารย ดร.วาสนา บุญญาพทิ กั ษ
3. ผชู วยศาสตราจารย ดร.ศรณั ยพัชร ศรเี พญ็
4. ผูชวยศาสตราจารย ดร.ธรากร จันทนะสาโร
5. ผูชว ยศาสตราจารย ดร.รักษสินี อัครศวะเมฆ
พักรับประทานอาหารกลางวัน
พรอ มรบั ชมนทิ รรศการมหกรรมวัฒนธรรมทอ งถิน่ รวมสมัยรูปแบบออนไลน
การวิพากษผลงานและสรุปเทคนิคการสรา งสรรคผ ลงานทางดานศิลปะการแสดง (ตอ)
โดยผทู รงคณุ วุฒิ
1. ศาสตราจารย ดร.นราพงษ จรัสศรี
2. รองศาสตราจารย ดร.วาสนา บญุ ญาพิทักษ
3. ผชู วยศาสตราจารย ดร.ศรัณยพชั ร ศรีเพ็ญ
4. ผูชว ยศาสตราจารย ดร.ธรากร จันทนะสาโร
5. ผูชวยศาสตราจารย ดร.รกั ษส นิ ี อัครศวะเมฆ
ตารางการนาํ เสนอผลงานสรางสรรค : ดา นศลิ ปะการแสดง
เวลา ชื่อผลงานสรางสรรค ชอื่ เจา ของผลงาน
10.00 - 10.10 น. ชดุ ที่ 1 ศรีนครไชย 1.นางนฤมล ณ นคร
10.10 - 10.20 น. ชุดที่ 2 อกั ขราคม 2.ผชู วยศาสตราจารยฤ ดชี นก คชเสนี
10.20 - 10.30 น. ชดุ ท่ี 3 โสภิณสี รางวดั 3.ผูชว ยศาสตราจารยวา ท่ี ร.ต.ธนกร สุวรรณอําภา
4.ผูชวยศาสตราจารยจินตนา อนุวัฒน
10.30 - 10.40 น. ชุดที่ 4 ทศาวตาร 5.นางสาวพมิ พกิ า มหามาตย
6.นางสาวพิชญา บวรอิทธกิ ร
1.อาจารยบัณฑิต เขม็ ทอง
2.อาจารยจตุพร ภักดี
3.อาจารยช านนท ทัสสะ
1.นางสาวธัญลกั ษณ มว งคาํ
2.นายธนวนิ ท วรรณสังข
3.นางสาวนิธิกร เทศขาํ
4.นางสาวนศิ ารัตน ดใี จ
5.นางสาวเบญญาภา แกวสีรงั
6.นางสาวปณฑติ า ยิ่งยวด
7.นายพงษเพ็ชร ตะถา
8.นางสาวมกุ ดา ละมลุ
9.นางสาวอุทมุ พร พลู ศรสี วสั ดิ์
10.อาจารย ดร.กัญชพร ตันทอง
1.นายกิตติ อัตถาผล
2.นายพัฒนพงษ อรัณยะนาค
3.วาที่ร.ต.ภทั รกฤษณ พมุ พิพัฒน
4.นายสัจจะ ภูแพงสทุ ธ์ิ
5.ผูชว ยศาสตราจารย วาที่ ร.ต.ธนกร สุวรรณอําภา
6.นายปรมัตถ บุณยศิริ
7.นายอนุชา สีฟก
8.นายภูวภล ภิญโญลาภเกษม
9.นายเอกพันธุ มาบรรดษิ ฐ
10.นายวุฒชิ ยั นราแกว
10.40 - 10.50 น. ชุดท่ี 5 ธงุ ใยแมงมุม 1.นายณรงศักดิ์ พรมมิน
10.50 - 11.00 น. 2.นางสาวบุณยาพร กลบี เมฆ
11.00 - 11.10 น.
11.10 - 11.20 น. 3.นางสาวปย ฉตั ร แกว คงวงษ
11.20 - 11.30 น.
11.30 - 11.40 น. 4.นางสาวลิลรนี อรามคาํ
11.40 - 11.50 น.
11.50 - 12.00 น. 5.นางสาวสิรกิ ญั ญา ฮาตไชย
12.00 - 13.00 น.
6.นางสาวสุพรรณิกา สิงหวี
7.นางสาวอนันทจติ ปกู ลาย
8.นางสาวอารีรัตน พมุ บัว
9.อาจารยณัฏฐนันท จนั นินวงศ
10.อาจารยศิรดา พานิชอํานวย
ชุดท่ี 6 บปุ ผาปณ ณาการ 1.นักศึกษาช้ันปท ี่ 5 คณะศลิ ปศกึ ษา
สถาบนั บณั ฑิตพฒั นศลิ ป
2.ผชู ว ยศาสตราจารยบ วรนรรฏ อัญญะโพธ์ิ
ชุดท่ี 7 การสรางสรรคน าฏยศิลป 1.ผชู วยศาสตราจารย ดร.ธนนั ทพ ัชร อศั วเสมาชยั
รวมสมัยผานเรือ่ งราวโทมิเอะ 2.นางสาวอริสรา ชวนจิตร
3.นายนครินทร เลศิ จามกี ร
ชดุ ที่ 8 นางวิสาขา อาจารย ดร.นฏั ภรณ พูลภักดี
ชุดท่ี 9 พระพทุ ธทศพลญาณ ผชู วยศาสตราจารย ดร.ภัทรฤทยั กนั ตะกนษิ ฐ
ตระการศิลป
ชดุ ท่ี 10 ฮอยฮักฮอยกรรม 1.ผูช ว ยศาสตราจารย ดร.มนศู กั ดิ์ เรืองเดช
2.นางสาวตนุษา ซิม้ เจรญิ
3.นายชัยธวัช ทัพธานี
ชุดที่ 11 BO(R)N อาจารย ดร.วทิ วสั กรมณีโรจน
ชดุ ท่ี 12 หตั ถศลิ ปถนิ่ สูงเนนิ ผูชวยศาสตราจารย ดร.นวลรวี กระตา ยทอง
ฟอ นซนิ่ เงีย่ งนางดาํ
--พักรบั ประทานอาหารกลางวนั --
พรอมรับชมนทิ รรศการมหกรรมวัฒนธรรมทองถน่ิ รวมสมัยรูปแบบออนไลน
13.00 - 13.10 น. ชดุ ที่ 13 ผลไมใ หค นรนุ ใหม อาจารยมนทริ า มะโนรนิ ทร
13.10 - 13.20 น. จากใจชาวปทุมธานี อาจารย ดร.ลกั ขณา แสงแดง
ชดุ ที่ 14 อนุรกั ษผลไมสถติ ไว
กลางใจปทุมธานี
13.20 - 13.30 น. ชดุ ที่ 15 ประทีปดิ๋น ผูช ว ยศาสตราจารย ดร.อรนชุ อนิ ตา
13.30 - 13.40 น. สอ งศลิ ปโ คราช
13.40 - 13.50 น. ชดุ ที่ 16 ลกู ทุงบางพลี อาจารย ดร.ชนดิ า จันทรงาม
13.50 - 14.00 น. ชุดท่ี 17 ละครเวทีนกกระดาษ 1.นางสาวนฤมล ทองสุข
14.00 - 14.10 น. ชดุ ที่ 18 นาฏยประสาน 2.นายภานุพงศ บวั โรย
14.10 - 14.20 น. ชุดที่ 19 ฟอ นมหาวิทยาลัย อาจารยว รวรรณ ปน รัตนากร
14.20 - 14.30 น. ราชภฏั วไลยอลงกรณ 1.อาจารย ดร.นัฏภรณ พูลภกั ดี
ในพระบรมราชปู ถมั ภ 2.อาจารย ดร.ลกั ขณา แสงแดง
14.30 - 14.40 น. ชดุ ที่ 20 ฟอ นหตั ถกรรม 3.อาจารยม นทิรา มะโนรินทร
14.40 - 14.50 น. นํานวตั วถิ ี
14.50 - 15.00 น. ชดุ ที่ 21 มาลัยไมไผ นางสาวพมิ พวลญั ช พลหงษ
15.00 - 15.10 น.
ชดุ ท่ี 22 สาววิทยาลัยครูลาํ เพลนิ 1.นายหัตถพร แกวหาญ
2.นายธีรภทั ร กานกลา
ชดุ ท่ี 23 สียะตราทรงเครอ่ื ง 3.นายพรี วิชญ โมสันเทยี ะ
ชุดท่ี 24 ปทมุ ธานี 4.นางสาวอัยมี่ สิงหส วสั ดิ์
5.นางสาวกนกกาญจน นอยคํามลู
ชดุ ท่ี 25 ราชสถานภริ มย 6.นางสาวนฤมล รูปใหญ
7.นางสาวจริ นนั ท สุภาพนั ธ
8.นางสาวเสรมิ สขุ สาํ อางกจิ
9.อาจารยสชุ รี า อินทโชติ
10.อาจารยอาทิตยา เงนิ แดง
1.นายอมั พร ใจเดจ็
2.นางนงเยาว อํารุงพงษว ัฒนา
3.นายไพฑูรย เขม แข็ง
อาจารย ดร.พรรณพชั ร เกษประยรู
1.อาจารย ดร.นัฏภรณ พลู ภกั ดี
2.อาจารย ดร.ลักขณา แสงแดง
3.อาจารยมนทิรา มะโนรินทร
อาจารย ดร.ดสุ ติ ธร งามย่ิง
15.10 - 15.20 น. ชุดท่ี 26 ระบาํ นางสะ อาจารย ดร.กลุ นาถ พมุ อําภา
นางเชิญแตงตัว
15.20 - 15.30 น. ชุดที่ 27 ชนาง 1.นายเจษฏา ทาทอง
2.นายหาญชนะ บุญทิน
15.30 - 15.40 น. ชดุ ที่ 28 รําวงบา นงิว้ 3.นางสาวรชั นีกร นานันท
15.40 - 15.50 น. ชุดที่ 29 ปราฮกู อและ 4.นางสาวภัทราวดี บุญเกิด
5.นางสาวกัลยาณี มูลสาร
15.50 - 16.00 น. ชุดท่ี 30 คาํ สารภาพ 6.นางสาวศริ ลิ ักษณ มีแยม ภกั
16.00 - 16.10 น. ชดุ ท่ี 31 กาลศรัทธา 7.นางสาวสิรินญา ไมงาม
8.นางสาวกานตพ ชิ ชา พานไธสง
9.นางสาวกนษิ ฐา สังขรตั น
10.นายอานนท หวานเพช็ ร
11.นายอมั พรใจ เด็จ
1.อาจารยศิรขิ วัญ บุญธรรม
2.อาจารย ดร.ลกั ขณา แสงแดง
3.อาจารย ดร.นัฏภรณ พูลภกั ดี
4.อาจารยรวิธร ฐานสั สกุล
1.นางสาวกนษิ ฐา สังขรัตน
2.นายอานนท หวานเพ็ชร
3.นายอมั พร ใจเดจ็
4.นายชวนนั ท อนิ ทรด า
5.นางสาวสวุ นนั ท ขําโคกกรวด
6.นายธนาธปิ แกวคง
7.นางสาวจรี นนั ท ทองเสริม
8.นางสาวชลทชิ า สังฆะสา
9.นางสาวณฐั ธิดา เหมาะสม
10.นางสาวสริ นิ ยา ปน พศิ
11.นายวิทวธั รอดทา หอย
อาจารยข นษิ ฐา บตุ รไชย
1.นางสาวสุรสั วดี วัชระอมรนิ ทร
2.นายภทั รพล ทองปจฉมิ
3.นางสาวกัญญาภัค ฝนสระนอย
4.นางสาวมณรี ัตน ยวนใจ
5.นางสาวณฐอร มณโี ชติ
6.อาจารย ดร.ดุสิตธร งามย่ิง