1
2
หนงั สือเรียนสาระการพัฒนาสังคม
รายวิชา สค33161
ไทรน้อยน่าเรยี นร้คู ูน่ นทบุรี
ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอไทรนอ้ ย
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวัดนนทบรุ ี
สำนกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย
สำนักปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ
3
คำนยิ ม
กกกกกกกหนงั สือเรียนสาระการพัฒนาสงั คม รายวิชา สค33161 ไทรน้อยน่าเรียนรู้ค่นู นทบุรี ของศูนย์การศึกษา
นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอไทรน้อย เปน็ หนงั สือเรียนท่ีมคี ุณค่าช่วยใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับ ไทรน้อยน่าเรียนรู้คู่นนทบุรี มีทักษะเกี่ยวกับการใช้วิธีการทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ศึกษา
ไทรน้อยน่าเรียนรู้คู่นนทบุรี ทักษะการทำแผ่นพับด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และทักษะการจัดทำคลิปวีดิทัศน์
(Video) ดว้ ยสมาร์ทโฟน เพอื่ สืบสานและอนรุ ักษ์ประเพณีท่ีสำคัญ ทำให้เข้าถึงข้อมูลองค์ความรู้เกี่ยวกับไทรน้อย
นา่ เรียนรูค้ ู่นนทบรุ ีอยา่ งแทจ้ ริง สง่ ผลใหเ้ กิดความภาคภมู ใิ จในการเป็นคนอำเภอไทรนอ้ ย มีความศรทั ธา
ในพระพุทธศาสนา สบื ทอดประเพณี วัฒนธรรม และชว่ ยกนั ดูแลรักษาแหล่งท่องเท่ยี ว ดูแล ทำนุบำรุงวัด นอกจากนี้
ยังชว่ ยให้เกิดความตระหนกั เห็นคุณค่าของ สังคม วฒั นธรรม ประเพณี และแหลง่ ท่องเท่ียวท่มี ีอยู่ในอำเภอไทรน้อย
เป็นการปลูกผงั ความภาคภมู ิใจในอำเภอของตนเองท่ีอาศัย หรือประกอบอาชพี อย่ไู ด้เป็นอย่างดี
กกกกกกกขอขอบคณุ รองศาสตราจารย์ ดร.พชั รี ศรสี ังข์ อาจารยค์ ณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ
ข้าราชการบำนาญ และนายสังคม โทปุรินทร์ ผู้อำนวยการสถานศึกษาเชี่ยวชาญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษาเขต36ข้าราชการบำนาญ ทีป่ รึกษาการจัดทำหนังสือเรียน และคณะทำงาน ประกอบด้วย
นางสาวฉัฐรส หู้เต็ม ผ้อู ำนวยการศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอไทรนอ้ ย นาย
สาเรศ เมฆฉาย ครูชำนาญการ นายณัฐวุฒิ ทันอินทรอาจ ครู นางปราณี ศาตะนิมิ ครูอาสาสมัครการศึกษานอก
โรงเรียน นางสาวณัชชา เต็กจินดา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน นางสาวพรไพลิน โพธิ์ศรี ครู กศน.ตำบล
และนางสาวอรวรรณ มาตอำพร ครู กศน.ตำบล ที่ร่วมมือร่วมใจกันจัดทำหนังสือเรียนที่มีคุณค่า สามารถนำไปใช้
เป็นส่ือการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ลงทะเบียน รายวชิ า สค 33161 ไทรน้อยน่าเรียนรู้ค่นู นทบุรี ของศนู ย์การศึกษานอก
ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอไทรน้อย สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัยจงั หวัดนนทบุรี ทำใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ทกั ษะ และเจตคติทดี่ ตี ่อรายวชิ าน้ี รวมทง้ั ต่อชมุ ชนถนิ่ เกิดของตนได้
เป็นอย่างดี
(นางสุพรพรรณ นาคปานเอ่ยี ม)
ผอู้ ำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
จังหวดั นนทบุรี
4
คำนำ
กกกกกกกหนังสือรายวิชา สค33161 ไทรน้อยน่าเรียนรู้คู่นนทบุรี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัยอำเภอไทรน้อย จัดทำขึ้นเพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้ของหลักสูตรรายวิชานี้ และให้ผู้เรียนที่ลงทะเบียนเรียน
รายวิชานี้ได้ศึกษาเรียนรู้ ส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดี เกี่ยวกับท้องถิ่นที่ตนอาศยั
หรือประกอบอาชพี อยู่หลังจากได้ฝึกปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามที่กำหนดไวใ้ นหนงั สือ
กกกกกกกหนังสือรายวิชา สค33161 ไทรน้อยน่าเรียนรู้คู่นนทบุรี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อธั ยาศัยอำเภอไทรน้อย ประกอบด้วย (1) คำแนะนำการใช้หนงั สือเรียน (2) โครงสร้างรายวิชา ไดแ้ ก่ สรปุ สาระสำคัญ
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังขอบข่ายเนื้อหา และสื่อประกอบการเรียน(3) รายละเอียดเนื้อหาในแต่ละบท ได้แก่ ชื่อบท
สาระสำคญั ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั ขอบข่ายเนอ้ื หา สื่อประกอบการเรียน เนื้อหา และกจิ กรรมทา้ ยบท
(4) บรรณานุกรม และ (5) ภาคผนวก ได้แก่ เฉลยกิจกรรมท้ายบท การอนุญาตใช้หนังสือเรียนรายชื่อคณะผู้จัดทำ
และประกาศแต่งต้ังทีป่ รกึ ษาในการจัดทำหนังสอื เรยี น
กกกกกกกหนังสือเรียนฉบับนี้สำเร็จลงได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจาก นางสุพรพรรณ นาคปานเอี่ยม
ผูอ้ ำนวยการสำนักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจงั หวัดนนทบรุ ี และทป่ี รึกษา ได้แก่
รองศาสตราจารย์ ดร.พัชรี ศรสี งั ข์ อาจารยค์ ณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ ข้าราชการบำนาญ และ
นายสังคม โทปุรินทร์ ผู้อำนวยการสถานศึกษาเชี่ยวชาญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36
ขา้ ราชการบำนาญ คณะผูจ้ ัดการอบรมปฏิบัติการจัดทำสื่อหนังสือเรียนของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ
และการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวัดนนทบุรี ได้แก่ นางสาวธนกฤต ทองแผน่ นกั จัดการงานทวั่ ไป และ
นางสาวสารี เพช็ รง์ าม นักวชิ าการพัสดุ และทีส่ ำคัญอย่างย่ิง คือ คณะครู ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบ และการศึกษา
ตามอัธยาศยั อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบรุ ี ได้แก่ นายสาเรศ เมฆฉาย ครูชำนาญการ นายณฐั วฒุ ิ ทนั อินทรอาจ ครู
นางปราณี ศาตะนิมิ ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน นางสาวณัชชา เต็กจินดา ครูอาสาสมัครการศึกษานอก
โรงเรียน นางสาวพรไพลนิ โพธศ์ิ รี ครู กศน.ตำบล และนางสาวอรวรรณ มาตอำพร ครู กศน.ตำบล รว่ มมอื ร่วมใจกัน
ทำหนงั สอื เรยี นจนสำเร็จ ขอขอบพระคณุ และขอบคุณทุกท่าน เปน็ อย่างสงู
(นางสาวฉัฐรส หเู้ ตม็ )
ผอู้ ำนวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอไทรนอ้ ย
5
สารบญั
หน้า
คำแนะนำการใช้หนังสือเรียน....……………………………………………………………………….…………. 1
โครงสรา้ งรายวิชา…………..……………………………………………………………………………………….…. 3
โครงสรุปสาระสำคัญ.....………………………………………………………………………………….…….……. 3
โครงผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง....……………………………………………………………………………..….… 14
โครงขอบข่ายเนอ้ื หา.........………………………………………………………………………..........…………. 14
โครงสื่อประกอบการเรียน...............…………………………………………...………………….......….….. 15
บทที่ 1 เร่ืองบรบิ ทพ้นื ฐานอำเภอไทรนอ้ ย………..…………………….……………….........……....….. 18
โครงสาระสำคญั ................……………….………………………………………………………………………… 18
โครงผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง…………………………………………………………………………………..…… 20
โครงขอบขา่ ยเน้ือหา……………………………………………………………………………………………..…… 20
โครงส่ือประกอบการเรียน....………………………………………………………………………………….….… 20
โครงเรือ่ งท่ี 1 ประวัติความเปน็ มา……………………………………………………………………….….…… 21
โครงเรือ่ งท่ี 2 ทีต่ ัง้ อำเภอไทรนอ้ ย……………………………………………………………………….……… 21
โครงเรอ่ื งที่ 3 การปกครอง…………………………………………………………………………………..…….. 22
โครงเรอ่ื งที่ 4 สภาพประชากร สภาพเศรษฐกิจ ด้านการศึกษา และด้านศาสนา…………….... 23
โครงเรอ่ื งที่ 5 บคุ คลสำคัญของอำเภอไทรนอ้ ย…………………………………………….…………….... 25
โครงกิจกรรมท้ายบท............................................................................................................... 36
บทที่ 2 เรื่องสถานที่สำคญั และแหลง่ ท่องเท่ยี วในอำเภอไทรน้อย……………….........……....….. 38
โครงสาระสำคัญ..........………………………………….………………………………………………………..…. 38
โครงผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั ………………………………………………………………………………..……… 43
โครงขอบข่ายเนื้อหา……………………………………………………………………………………………..…… 43
โครงส่ือประกอบการเรียน....……………………………………………………………………………….…...… 43
โครงเรื่องที่ 1 วดั ไทรใหญ่…………………………………………………………………………………………… 44
โครงเรื่องท่ี 2 วดั ไทรนอ้ ย..........…………………………………………………………….…………………… 51
โครงเรอ่ื งท่ี 3 วดั คลองขวาง……………………………..….…………………………………………………….. 58
โครงเรื่องท่ี 4 วัดราษฎร์ 62
นิยม……………..………………….………………………………………………..…..
โครงเร่ืองที่ 5 วัดสโมสร…..……………..……………………………………………….…………………………. 69
6
สารบญั (ตอ่ )
หน้า
โครงเรือ่ งที่ 6 วดั เสนวี งศ์………………..……………………………………………….……………………..….. 76
โครงเรอ่ื งที่ 7 ตลาดนำ้ ไทร 82
นอ้ ย…..……………………………………………………………………………….
โครงกิจกรรมท้ายบท............................................................................................................... 83
บทที่ 3 เรื่องประเพณที ่ีสำคัญ……………….........……....…......................................................... 86
โครงสาระสำคญั ..........…………………………………………………………………………….……………..…. 86
โครงผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั ……………………………………………………………………………………..… 89
โครงขอบขา่ ยเน้ือหา………………………………………………………………………………………………..… 89
โครงสอ่ื ประกอบการเรยี น....……………………………………………………………………………….…...… 90
โครงเรอ่ื งที่ 1 ประเพณีตกั บาตรดอกไม้……………………………………………………………………..… 90
โครงเรอื่ งท่ี 2 ประเพณสี งกรานต์มอญ......……………………………………………….…………………… 92
โครงเรอ่ื งที่ 3 ประเพณีแห่เตา่ .....………………………….…………………………………………………….. 93
โครงเรอื่ งที่ 4 ประเพณแี ห่ธงตะขาบ....………………….…………………………………………………….. 95
โครงเรอ่ื งท่ี 5 ประเพณีการจัดงานศพพระสงฆม์ อญ…..………………………….……………..……….. 96
โครงเรื่องที่ 6 พธิ แี หเ่ จา้ พอ่ จยุ้ ………………………………………………………….…………………..…….. 98
โครงเร่อื งที่ 7 พิธีแห่เจ้าแม่ทองคำ…..………………………………………….……………………….…..…. 100
โครงเรื่องที่ 8 เทศกาลสำคญั และประเพณขี องชาวไทยมสุ ลิม…………………………………………. 101
โครงกิจกรรมท้ายบท............................................................................................................... 104
บทที่ 4 เรื่องประเพณีท่ีสำคัญ……………….........……....…......................................................... 107
โครงสาระสำคัญ..........………………………………………………….………………………………….…. 107
โครงผลการเรยี นรทู้ ่ี 107
คาดหวัง…………………………………………………………………………………….....
โครงขอบขา่ ยเนอ้ื หา…………………………………………………………………………………..……………… 107
โครงสอ่ื ประกอบการเรียน....……….………………………………………………………………….………..… 107
โครงเรอ่ื งที่ 1 วิธกี ารทางภูมิศาสตร์…….…………………………………………………………..…...…..… 108
โครงเรอ่ื งที่ 2 วธิ กี ารทางประวัติศาสตร์.…….…………………………………..…………..……………….. 110
โครงกิจกรรมท้ายบท.............................................................................................................. 113
บทที่ 5 เรื่องการสบื สานและอนรุ ักษ์ ประเพณี และการดูแลสถานที่ทอ่ งเทย่ี วที่สำคัญ.......... 116
โครงสาระสำคัญ.....……………………………………………………………..…………………………..….….... 116
7
สารบญั (ตอ่ )
หน้า
โครงผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวงั ………………………………………………………………………..….……..… 116
โครงขอบขา่ ยเน้ือหา…………………………………………………………………………………..……………… 117
โครงสอ่ื ประกอบการเรียน....………….………………………………………………………..…….……......… 117
โครงเรอ่ื งท่ี 1 ความหมายของการสืบสานและอนุรักษ์ประเพณ.ี ........................................... 118
โครงเรื่องที่ 2 ความหมายของการดแู ลสถานที่ท่องเทีย่ วทส่ี ำคัญ……………………………..….…. 118
โครงเรอ่ื งท่ี 3 ความสำคญั ของการสบื สานและอนรุ ักษป์ ระเพณีและการดแู ลสถานท่ี
ท่องเที่ยวท่ีสำคัญ………………………………………………………………………………... 119
โครงเรอ่ื งท่ี 4 วธิ ีการสบื สานและอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมประเพณแี ละการดแู ลสถานทีท่ ่องเท่ยี ว
ที่สำคญั …………………………………………………………………………………….……..…. 120
โครงกิจกรรมท้ายบท.............................................................................................................. 151
โครงบรรณานุกรม……………………………………………………………………………………………...…... 153
โครง 158
ภาคผนวก……………………………………………………………………………………………………........
โครงก เฉลยกจิ กรรมท้ายบท......……………… ………………………………………………...............… 159
โครงข การอนุญาตใช้หนังสอื เรยี น.…………….………………………..……………….………………..…. 164
โครงค รายช่ือคณะผ้จู ัดทำหนังสือเรยี น…….………………….…………………….………..………....… 166
โครงง ประกาศแต่งตงั้ ทป่ี รกึ ษาการจัดทำหนงั สอื เรียน……………………..………………………..... 168
คำแนะนำการใชห้ นังสือเรยี น
กกกกกกกหนงั สอื เรียนสาระการพฒั นาสงั คม รายวชิ า สค33161 ไทรนอ้ ยน่าเรียนรคู้ ู่นนทบุรี
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอไทรน้อย
จังหวัดนนทบุรี เปน็ สอื่ การเรยี นรู้ ให้กบั ผู้เรยี นทล่ี งทะเบยี นเรียนหลักสตู รรายวิชา สค33161
ไทรน้อยน่าเรียนรู้คู่นนทบุรี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้ศึกษาเรียนรู้ รวมถึงผู้ที่สนใจศึกษา
เกี่ยวกับ วัดสถานที่ท่องเที่ยว ประเพณีที่สำคัญในอำเภอไทรน้อย โดยเฉพาะผู้เรียนทั้งในสังกัด
โรงเรียน ในระบบและนอกระบบ ได้ศึกษาเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับท้องถิ่น ส่งผล
ต่อเนื่องให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง อันเป็นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ
มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานคุณภาพผู้เรียนในข้อคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ ผูเ้ รียนเกดิ ความภาคภูมใิ จในท้องถ่นิ และความเป็นไทยบรรลไุ ด้
กกกกกกกในการศึกษาหนังสือเรียนเล่มนี้ให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลผู้เรียนควรศึกษา
แนวทางหรอื คำแนะนำในการใชห้ นังสอื เรยี นใหเ้ ขา้ ใจก่อนดังน้ี
กกกกกกก1. ใหผ้ ูเ้ รยี นศกึ ษาโครงสร้างรายวิชา ประกอบด้วย สรุปสาระสำคัญของแต่ละบท ผลการ
เรียนรทู้ ีค่ าดหวัง ขอบขา่ ยเนื้อหา และสอ่ื ประกอบการเรยี น ของแตล่ ะบทใหช้ ดั เจนเป็นเบ้อื งต้น
ก่อนศกึ ษาเนือ้ หารายละเอยี ดของแต่ละบทตอ่ ไป
กกกกกกก2. การศกึ ษาเนอื้ หารายละเอียดของแตล่ ะบท ผู้เรยี นตอ้ งศกึ ษา สาระสำคญั ผลการเรียนรู้
ทคี่ าดหวงั ขอบขา่ ยเนอ้ื หาของบทน้ัน ๆ สอ่ื ประกอบการเรียน และรายละเอยี ดของเน้ือหาในแต่ละบท
เป็นเร่ือง ๆ ตามลำดบั เร่ืองทม่ี อี ยูใ่ นบทน้นั ๆ ตอ่ จากน้ันให้ผูเ้ รยี นทำกจิ กรรมทา้ ยบท เพือ่ สรปุ ความรู้
ความเขา้ ใจท่ไี ด้ศึกษาในบทนน้ั ในการทำกิจกรรมทา้ ยบท มแี นวปฏบิ ัตทิ ่ีผเู้ รียนควรปฏบิ ตั ิตอ่ ไปน้ี
กกกกกกก2. 2.1 เมื่อทำกิจกรรมท้ายบทเสร็จสิ้น ให้ผู้เรียนตรวจคำตอบที่ถูกต้องได้จากภาคผนวก ก.
เฉลยกจิ กรรมท้ายบทของบทนั้น
กกกกกกก2. 2.2 ในกรณีท่ตี รวจกิจกรรมท้ายบทแลว้ พบว่า ตอบไดไ้ มถ่ กู ตอ้ งให้ผู้เรียนกลับไปอ่าน
เนื้อหาของเรื่องน้ัน ๆ ใหมอ่ ีกครั้ง แล้วทดลองตอบกจิ กรรมท้ายบทขอ้ น้ัน ๆ ใหมอ่ ีกครั้งหนง่ึ
เพอ่ื เสริมสรา้ งความรู้ ความเข้าใจท่ีถกู ต้อง
กกกกกกก2. 2.3 ในกรณีที่ผู้เรียนกลับไปอ่านเนือ้ หาในเรือ่ งนั้นๆ แล้ว ยังมีความรู้สกึ ว่าตนเองยังไม่มีความ
เข้าใจชัดเจนในเนื้อหาดังกล่าว ให้ผู้เรียนนำข้อสงสัย สอบถามครูผู้สอนหลักสูตรรายวิชา สค33161 ไทรน้อย
น่าเรียนรู้คนู่ นทบรุ ี ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หรอื นำไปพูดคุยแลกเปล่ียนเรียนรู้ กบั เพือ่ นผู้เรียนท่ีลงทะเบียน
เรียนหลกั สูตร หรอื เพือ่ นผู้เรยี นคนอน่ื ๆ ที่มคี วามรเู้ กีย่ วกบั เรื่องนกี้ ็ได้
กกกกกกก3. หนังสือเรียนเล่มน้ี ประกอบด้วย 5 บท ดงั น้ี
กกกกกกก2. บทที่ 1 เรอื่ งบริบทพนื้ ฐานอำเภอไทรน้อย
กกกกกกก2. บทที่ 2 เรอื่ งสถานท่ีสำคญั และแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วในอำเภอไทรน้อย
กกกกกกก2. บทที่ 3 เรือ่ งประเพณที ่สี ำคญั
กกกกกกก2. บทที่ 4 เรอื่ งวธิ กี ารทางภูมศิ าสตรแ์ ละประวัติศาสตร์ศกึ ษาไทรน้อยนา่ เรยี นรู้คู่นนทบุรี
กกกกกกก2. บทท่ี 5 เรอ่ื งการสบื สานและอนรุ ักษป์ ระเพณแี ละการดูแลสถานทที่ ่องเท่ยี วท่สี ำคญั
2
โครงสรา้ งรายวิชา
สรุปสาระสำคัญ
กกกกกกก1. บทที่ 1 เร่อื งบริบทพนื้ ฐานอำเภอไทรนอ้ ย
กกกกกกก1. 1.1 ประวัตคิ วามเป็นมา อำเภอไทรนอ้ ยเดมิ เป็นก่งิ อำเภอไทรน้อย ซึง่ แยกออกมาจาก
อำเภอบางบัวทอง และภายหลังได้ยกระดับเป็นอำเภอไทรน้อย ประกอบด้วย 7 ตำบล และ 1 เทศบาล
ได้แก่ ตำบลไทรน้อย ตำบลไทรใหญ่ ตำบลหนองเพรางาย ตำบลราษฎร์นิยม ตำบลขุนศรี ตำบลทวี
วัฒนา ตำบลคลองขวาง และเทศบาลตำบลไทรนอ้ ย
กกกกกกก1. 1.2 ทต่ี ้ังอำเภอไทรน้อย
กกกกกกก1. 1.2 อำเภอไทรน้อย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดนนทบุรี อยู่ในเขต
ปกครองของจังหวดั นนทบุรี มีอาณาเขตติดต่อ ดงั นี้
กกกกกกก1. 1.2 1.2.1 ทิศเหนือติดต่อกับตำบลสามเมอื ง อำเภอลาดบวั หลวง จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา
กกกกกกก1. 1.2 1.2.2 ทศิ ใต้ติดต่อกับตำบลบ้านใหม่ อำเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบรุ ี และตำบลคลองโยง
อำเภอพุทธมณฑล จงั หวดั นครปฐม
กกกกกกก1. 1.2 1.2.3 ทิศตะวันออกติดต่อกับตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
และตำบลหนา้ ไม้ อำเภอลาดหลมุ แก้ว จงั หวัดปทุมธานี
กกกกกกก1. 1.2 1.2.4 ทิศตะวนั ตกตดิ ตอ่ กบั ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวดั นครปฐม
กกกกกกก1. 1.3 การปกครองของอำเภอไทรนอ้ ย
กกกกกกก1. 1.2 อำเภอไทรน้อยแบง่ เขตการปกครองออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่ การปกครองสว่ น
ภูมิภาค และการปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่
กกกกกกก1. 1.4 สภาพประชากร สภาพเศรษฐกิจ ด้านการศกึ ษา และด้านศาสนา
กกกกกกก1. 1.2 1.4.1 สภาพประชากร ประชากรอำเภอไทรน้อย ข้อมลู ปี พ.ศ. 2561 มจี ำนวน
ประชากร 46,754 คน ประกอบด้วยหลากหลายชาติพันธุ์ แบ่งออกได้ 4 กลุม่ ไดแ้ ก่ ชาวไทย ชาวไทย
เช้ือสายรามัญ (มอญ) ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยเชอื้ สายจีน
กกกกกกก1. 1.2 1.4.2 สภาพเศรษฐกิจ
กกกกกกก1. 1.2 1.4.2 1) อาชีพของประชากร ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
ได้แก่ การทำนา รองลงมาเป็นการทำสวนผลไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ สวนผัก และมีการเลี้ยงสัตว์บ้าง
เล็กนอ้ ย อาชพี นอกภาคเกษตรกรรมท่สี ำคญั ไดแ้ ก่ การคา้ ขาย และการรบั จ้างทวั่ ไป
กกกกกกก1. 1.2 1.4.2 2) สภาพเศรษฐกิจ เศรษฐกิจของอำเภอไทรน้อยรายไดข้ องครัวเรอื นส่วน
ใหญ่มาจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ การทำนา ในปี พ.ศ. 2560 พบว่ามีรายได้เฉล่ีย
299,221 บาทตอ่ ครวั เรือน (ขอ้ มูลโดยสำนักงานสถิติจังหวดั นนทบุร)ี
กกกกกกก1. 1.2 1.4.3 ด้านการศกึ ษา ด้านการศึกษาของอำเภอไทรน้อย ประกอบด้วย โรงเรยี น
ระดับประถมศึกษา มีทั้งหมด 8 แห่ง โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา มีทั้งหมด 5 แห่ง และระดับ
มหาวทิ ยาลยั มีทงั้ หมด 2 แหง่ รวมมีสถานศกึ ษา 15 แห่ง
กกกกกกก1. 1.2 1.4.4 ด้านศาสนา วดั ในอำเภอไทรน้อย มีท้ังหมด 15 แหง่ สำนกั สงฆม์ อญ (รามัญ)
3
1 แห่ง และมสั ยดิ ทัง้ หมด 2 แหง่
กกกกกกก1. 1.5 บุคคลสำคญั ของอำเภอไทน้อย ได้แก่
กกกกกกก1. 1.2 1.5.1 พระราชาภิมณฑ์ (เพง็ ) เปน็ ผทู้ ี่ทำคุณประโยชน์แก่ประชาชนในอำเภอไทรน้อย
เปน็ อยา่ งมาก โดยไดร้ ว่ มทนุ กบั คณะจดั ตั้งเป็นบริษัทด้วยเงนิ ทุน 32,000 บาท ขอพระราชทาน พระ
บรมราชานุญาตขุดคลองแยกจากคลองบางบัวทอง ไปทางทิศตะวันตกผ่านป่ากระทุ่มมืด เป็น
คลองส่งน้ำให้ประชาชนเข้าไปจับจองที่ดินสองฝั่งคลองประกอบอาชีพเกษตรกรรม จนขยายชุมชน
เปน็ จำนวนมาก
กกกกกกก1. 1.2 1.5.2 ขนุ ศรรี าษฎรน์ ยิ ม (พร มณั ยานนท์) ชาวไทยเชอื้ สายมอญท่ไี ดเ้ ขา้ มา
จับจองทำประโยชนใ์ นท่ีดนิ ปา่ กระทุม่ ตอ่ มานายพร มัณยานนท์ ได้รบั การแต่งตง้ั ให้เปน็ กำนันคนแรก
ของตำบลไทรใหญ่ และมีความขยันและทำประโยชน์แก่ราษฎรที่เข้าจับจองท่ีดินที่ตำบลไทรใหญ่
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนศรีราษฎร์นิยม และเป็นต้นสกุล มัณยานนท์ เพื่อเป็นอนุสรณ์
คุณงามความดขี องขุนศรีราษฎร์นยิ ม
กกกกกกก1. 1.2 1.5.3 หม่อมแชม่ กฤดากร ณ อยุธยา เป็นชาวไทยเช้ือสายมอญ ไดท้ ำ
คุณประโยชน์อย่างมากแก่ราษฎรในจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดนครปฐม ในการประกอบอาชีพ
การเกษตร ซ่ึงในปจั จบุ ันนมี้ กี ารปลูกพืช นอกจากการทำนา เช่น การปลกู กระเจ๊ียบมอญ ซึง่ ชาวบ้าน
คลองหม่อมแช่มปลูกกันมาก เป็นสินค้าส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น สร้างรายได้จำนวนมาก
ให้กับชมุ ชน นอกจากนน้ั ได้บริจาคที่ดินให้สร้างวัดและไดอ้ ุปถัมภ์ในการสร้างวดั ขึ้นในชมุ ชน อีกทั้งยัง
ไดเ้ ปน็ แหล่งการศึกษาของเยาวชนในชมุ ชนให้ได้รับการศกึ ษาจากโรงเรยี นวัดสโมสรทสี่ รา้ งขึ้นอีกด้วย
กกกกกกก1. 1.2 1.5.4 พระครปู ระชาธรรมนาถ (แฉง่ ฐานงั กโร) ไดท้ ำคุณประโยชน์แก่ผู้คนใน
อำเภอไทรน้อยเช่น ด้านการสนบั สนนุ การศกึ ษาของเยาวชน ด้านการพัฒนาชุมชน โครงการขุดคลอง
โครงการสบู นำ้ เข้านา นำไฟฟา้ สู่ชุมชนราษฎรน์ ยิ ม ทำถนนเขา้ หมู่บ้าน การผลติ ถงั ส้วม อ่างลา้ งเทา้ เพ่อื รณรงค์ให้
ชาวบ้านได้มีสุขอนามัยที่ดี สร้างสถานีอนามัยเพื่อประโยชน์ของชาวบ้าน สร้างประปาในหมู่บ้าน
การส่งเสริมนสิ ัยประหยดั และการรู้จักออมเงิน ส่งเสริมชาวบา้ นให้รู้จกั ต้ังฉางข้าวในชุมชน และงาน
สาธารณะสงเคราะห์อนื่ ๆ
กกกกกกก1. 1.2 1.5.5 นายปรชี า ลุประสงค์ เป็นชาวนาตำบลราษฎร์นิยม อำเภอไทรนอ้ ย
จังหวัดนนทบุรี เป็นผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งในอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี โดยได้ทำ
คุณประโยชน์ด้านการเกษตรอย่างมากแก่ชาวนา ได้รับการคัดเลือกจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้ไป
ศึกษาดูงานการเกษตรที่ประเทศไต้หวันในนามของชาวนาจากประเทศไทย เป็นผู้ริเริ่มในการปลูก
พชื ผกั ที่จำเปน็ ต้องใชเ้ ปน็ อาหารประจำวัน และปลกู ผลไมอ้ ืน่ ๆ และเปน็ ผู้จดั ตง้ั โรงสขี า้ วของสหกรณ์
และไดร้ บั ความชว่ ยเหลือจากรฐั บาลประเทศนิวซีแลนด์
กกกกกกก1. 1.5 1.5.6 นายยวง เขียวนลิ ไดส้ ร้างคุณประโยชน์แกอ่ ำเภอไทรนอ้ ยและประเทศ
คือ สรา้ งฐานการเรียนรใู้ นพ้ืนทีข่ องตนเองเพือ่ เปน็ แหลง่ เรยี นรู้การทำการเกษตรตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และเป็นวิทยากรถา่ ยทอดความรู้ใหก้ บั เกษตรกร นกั เรยี น นักศกึ ษา ท้งั ชาวไทย
และชาวต่างประเทศ เป็นอาสาสมัครให้กับส่วนราชการต่าง ๆ ช่วยถ่ายทอดความรู้โดยไม่หวัง
ผลตอบแทน มีการรวมกลุ่มและสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างชุมชนทั้งในจังหวัด และระหว่าง
4
จงั หวดั เพอ่ื ชว่ ยเหลือในการดำเนินกิจกรรมทางการเกษตร และยงั มกี ารเผยแพร่ผลงานผ่านส่ือต่าง ๆ
อกี จำนวนมาก
กกกกกกก2. บทที่ 2 เร่ืองสถานที่สำคญั และแหล่งท่องเท่ียวในอำเภอไทรน้อย
2.1 วัดไทรใหญ่
2.1 2.1.1 ประวตั คิ วามเป็นมาของวดั และประวตั เิ จา้ อาวาสทีส่ ำคัญ วัดไทรใหญ่
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2410 โดยนางเง็ก แสงประภา เป็นผู้ถวายที่ดินสร้างวัดในสมัยรัชกาลที่ 4 ชื่อ
“วดั มหานิโครธาราม” แปลวา่ “ไทรตน้ ใหญ่” ตอ่ มาได้เปล่ียนเป็น “วดั ไทรใหญ”่ เมอื่ มีการขุดคลอง
พระพิมลราชา ระหว่าง พ.ศ.2433-2442 และขุดคลองทวีวัฒนา (คลองเจ้า) ทางด้านทิศตะวันตกของวัด
จึงมีราษฎรมาอาศัยอยู่ใกล้วัด และมาทำบุญมากข้ึน เป็นวัดเดียวในอำเภอไทรน้อย ที่เดิมขึ้นอยู่กบั
อำเภอบางบัวทอง
2.1 2.1.1 เจ้าอาวาสที่สำคัญ ได้แก่ พระมงคลนนทเขต (วิชิต ปิยังกโร) อุปสมบท
เมื่อวันที่ 15 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2483 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอไทรน้อยตั้งแต่ พ.ศ. 2503-2545
เป็นพระราชาคณะช้ันสามัญ ฉายา พระมงคลนนทเขต ได้บริจาคทรพั ย์สร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ
และอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลไทรน้อย ส่งเสริมการศึกษา สร้างถนน และจัดตั้งมูลนิธิ
สงเคราะหต์ า่ ง ๆ อกี จำนวนมาก มรณภาพด้วยภาวะติดเช้อื ในกระแสโลหติ
ณ โรงพยาบาลพระน่งั เกล้า เม่ือวันที่ 14 เดือน กันยายน พ.ศ. 2555 สริ ิอายุ 90 ปี กบั อีก 70 พรรษา
2.1 2.1.2 ทต่ี ง้ั วัดไทรใหญ่ ตงั้ อยู่เลขที่ 65 บา้ นไทรใหญ่ ถนนไทรน้อย-ต้นเชือก
หมทู่ ่ี 5 ตำบลไทรนอ้ ย อำเภอไทรน้อย จังหวดั นนทบุรี
2.1 2.1.3 ความสำคัญของวัดไทรใหญ่ เปน็ ศูนย์กลางของทอ้ งท่ีอำเภอไทรน้อย
เปน็ ท่ปี ระดิษฐานหลวงพอ่ ทองคำ ซ่ึงเป็นพระพุทธรูปที่ชาวไทรน้อยเคารพ สักการะ มอี โุ มงค์ลอด
โบสถ์ ศนู ยก์ ลางของท้องที่อำเภอไทรนอ้ ยทง้ั อำเภอ จึงไดร้ บั การจดั ตั้งเปน็ ศนู ยก์ ลางวัฒนธรรม และ
ยังเป็นสถานทป่ี ฏบิ ัตธิ รรมท่ญี าติโยมและอุบาสก อุบาสิกาเขา้ มาถือศีล ปฏิบัตธิ รรม
กกกกกกก2. 2.1 2.1.4 วตั ถุและสิง่ ก่อสรา้ งภายในวัด ไดแ้ ก่ (1) พระอโุ บสถหลังใหม่ (2) หลวงพ่อ
ทองคำ และ (3) รูปปนั้ ช้างเจ้าบุญมา และนางกวัก
กกกกกกก2. 2.1 2.1.5 กิจกรรมประเพณที ่สี ำคัญของวัด ได้แก่ ประเพณตี ักบาตรพระร้อยจัดขึ้น
เพ่ือเป็นกิจกรรมท่ีสำคัญของวดั ไทรใหญ่
กกกกกกก2. 2.2 วดั ไทรนอ้ ย
กกกกกกก2. 2.1 2.2.1 ประวัตคิ วามเปน็ มาของวัดและประวัติเจ้าอาวาสที่สำคญั วดั ไทรนอ้ ย
ประวตั คิ วามเปน็ มาของวัดไทรน้อย ประมาณ พ.ศ. 2530 ชาวมอญจากจังหวดั สมทุ รสาครไดพ้ ากนั มา
ตั้งรกรากแถบชายป่ากระทุ่มมืดใกล้ป่าหนองเพรางาย พระราชาภิมณฑ์ ได้ดำเนินการขุดคลอง
พระราชาภิมณฑ์ ทำให้การเดนิ ทางสะดวกขึ้น นายมะธไุ ดบ้ รจิ าคท่ดี ิน จำนวน 42 ไร่ 2 งาน เพื่อสรา้ ง
วัด และชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างวัดสาลีมุนีภิรมย์ หมายถึงวัดเป็นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธ์ุ
ธัญญาหาร โดยมีหลวงตาโจ๊ก พระมอญ ได้ร่วมดำเนินการและพำนักที่วัดนาน 30 ปี จนมรณภาพ
ชาวบา้ นพร้อมใจกนั นิมนต์พระมอญ ช่ือพระอาจารยเ์ กร็บ จากวัดปรมัยยกิ าวาส มาเปน็ เจา้ อาวาส รปู
แรกของวัด ในปี พ.ศ. 2495 ได้เปลี่ยนช่ือเป็น “วดั ไทรน้อย”
5
กกกกกกก2. 2.1 2.2.1 เจ้าอาวาสท่ีสำคญั ได้แก่ พระครนู นทสิทธิการ (ประสิทธิ์ สิทธกิ าโร)
มีความสำคัญ คือ เป็นผ้สู รา้ งความเจรญิ และพัฒนาวดั ไทรน้อย เมอื่ ปี พ.ศ. 2500 หลวงพอ่ ประสิทธิ์
ได้ทำการสร้างหอปริยัตธิ รรม ศาลาการเปรียญ กุฏิ และปี พ.ศ. 2502 อโุ บสถชำรุด จงึ สั่งรอื้
แล้วได้สรา้ งอุโบสถหลงั ใหม่โดยใช้เวลาสรา้ งประมาณ 5 ปี เม่อื พ.ศ. 2507 จงึ ไดจ้ ดั งานฝังลูกนิมิต
ไดก้ ราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาเป็นองคป์ ระธาน
ในพิธีตดั ลกู นิมิตอุโบสถหลงั ใหม่ พระครูนนทสิทธิการ เปน็ พระเกจิอาจารยช์ ื่อดัง มรณภาพ
ด้วยโรคปอดติดเช้อื ที่โรงพยาบาลพระนงั่ เกลา้ จังหวดั นนทบรุ ี ด้วยอายุ 88 ปี 65 พรรษา
กกกกกกก2. 2.1 2.2.2 ท่ีต้ัง ตั้งอย่รู ิมคลองพระราชาพมิ ลฝ่ังทศิ เหนอื หมูท่ ่ี 1 ตำบลไทรน้อย
อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี
กกกกกกก2. 2.1 2.2.3 ความสำคัญของวดั ไทรน้อย วดั ไทรน้อยสนับสนนุ การศึกษาของชาติ
ใหก้ ารอุปถมั ภแ์ ก่โรงเรยี น เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนชาวมอญ และยังเปน็ สถานที่ปฏิบัติธรรม
ของชาวไทรนอ้ ยอกี ด้วย
กกกกกกก2. 2.1 2.2.4 วัตถแุ ละส่งิ ก่อสร้างภายในวัด ไดแ้ ก่ (1) มหาเจดยี ม์ ุนีภริ มย์
(2) วิหารจตรุ มุข ศาลาบำเพญ็ กศุ ล และฌาปนสถาน
กกกกกกก2. 2.1 2.2.5 กิจกรรมประเพณที ่ีสำคญั ของวัด ไดแ้ ก่ ประเพณตี กั บาตรดอกไม้กกกกกก
กกกกกกก2. 2.3 วัดคลองขวาง
กกกกกกก2. 2.1 2.3.1 ประวตั คิ วามเปน็ มาของวดั และประวตั ิเจา้ อาวาสทีส่ ำคัญ พ.ศ. 2430
ชาวบ้านกลุม่ เล็ก ๆ มาตงั้ รกรากแถบป่ากระทุ่มมดื เพ่อื พักอาศัยและทำนา พระธุดงค์ผ่านมา ชาวบ้าน
จึงช่วยกันสร้างที่พักสงฆ์ ในปี พ.ศ. 2534 ได้สร้างวัด นายแดง แซ่เล้า ได้ถวายที่ดิน จำนวน 49 ไร่เศษ
เพอื่ สรา้ งวดั ราษฎร์ศรทั ธาธรรม แต่ชาวบ้านนยิ มเรียกวา่ “วัดคลองขวาง”
กกกกกกก2. 2.1 2.3.2 ประวตั ิเจา้ อาวาสทสี่ ำคัญ ไดแ้ ก่ พระครูโสภติ ธรรมวสิ ุทธิ์ (วสิ ุทธ์ิองั สุธัมโม)
เกิดเมื่อวันท่ี 12 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2508 อุปสมบท วันที่ 5 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2530 เป็นพระ
วิปัสสนาจารย์ ผู้ฝกึ สอนกมั มัฏฐาน ท่านใหค้ วามสนใจและเห็นความสำคญั ของการศึกษาปฏิบัติ และ
เผยแผ่ธรรมอย่างแท้จริงทั้งให้การสนับสนุนการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ด้านทุน ด้านสถานที่
ด้านบุคคลากร และยังอบรมพระภิกษุหรือบุคคลที่เป็นวิทยากรในสำนักมีความประพฤติดี สามารถ
ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และปัจจุบัน พระครูโสภติ ธรรมวิสุทธิ์ (วิสุทธิ์ อังสุธัมโม) ดำรงตำแหน่ง
เจ้าอาวาสวดั คลองขวาง
กกกกกกก2. 2.1 2.3.3 ท่ีตง้ั เลขท่ี 10 หมู่ 6 ตำบลคลองขวาง อำเภอไทรน้อย จงั หวัดนนทบุรี 11150
ความสำคัญของวัด ให้การสนับสนุนราชการด้านการศึกษา เป็นสถานที่อบรมสามเณร และปฏิบัติ
ธรรมประจำจงั หวดั สนบั สนุนดา้ นการศกึ ษาแก่เยาวชน
กกกกกกก2. 2.1 2.3.4 วตั ถุและส่ิงกอ่ สร้างภายในวดั ได้แก่ (1) พระอุโสถ และ (2) ลายจำหลกั
ประตูดา้ นหน้า และด้านหลังอุโบสถวัดคลองขวาง
กกกกกกก2. 2.1 2.3.5 กจิ กรรมประเพณีที่สำคัญของวดั ได้แก่ (1) ประเพณกี ารบวชสามเณร
ภาคฤดูรอ้ น (2) การทำบญุ วันสำคญั ทางศาสนา (3) ประเพณีการลอยกระทง และ (4) ประเพณี
สงกรานต์
6
กกกกกกก2. 2.4 วดั ราษฎรน์ ยิ ม
กกกกกกก2. 2.4 2.4.1 ประวตั ิความเป็นมาของวดั และประวตั เิ จ้าอาวาสที่สำคัญ วัดราษฎร์นยิ ม
คือเดิมชื่อ วัดห้าร้อย ตั้งวัดเมื่อวันที่ 4 เดือนเมษายน พ.ศ. 2459 ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อใช้เป็นสำนักสงฆ์
และให้เป็นสถานท่ีบำเพ็ญกุศลของคนชุมชน ต่อมาขุนศรีราษฎร์นิยมเหน็ ด้วยในการที่จะให้มีวัดในชุมชน
จงึ จดั ท่ดี ินจำนวน 100 ไร่ ไว้ให้สร้างวดั ต่อมาพระครปู ระชาธรรมนาถ ไดร้ วบรวมเงนิ บรจิ าค จาก
ชาวบ้านซ้ือท่ีดินเพิ่มอกี 45 ไร่ และนางปรกี วลิ าวรรณ ไดถ้ วายท่ีดนิ เพิ่มอกี 5 ไร่ ได้รับพระราชทาน
วสิ งุ คามสมี า เมื่อวนั ที่ 24 เดอื นเมษายน พ.ศ. 2468
กกกกกกก2. 2.4 2.4.1 เจ้าอาวาสท่ีสำคญั ไดแ้ ก่ ไดแ้ ก่ พระครูประชาธรรมนาถ (แฉง่ ฐานงั กโร)
นามเดมิ แฉ่ง ห้วยฤทัย เกดิ เมือ่ วันที่ 24 เดือนกนั ยายน พ.ศ. 2457 แขวงท่าข้าม เขตบางขนุ เทียน
กรุงเทพมหานคร บรรพชาเปน็ สามเณรเม่อื วนั ท่ี 1 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2470 ขณะมอี ายุ 14 ปี
สอบได้นักธรรมเอกขณะท่ยี งั เปน็ สามเณร อายุครบ 20 ปี พ.ศ. 2476 จึงไดอ้ ปุ สมบท
ณ พัทธสมี าวัดโคก อำเภอเมืองปทมุ ธานี จังหวดั ปทมุ ธานี พระมหาอนิ ทร์ วัดโคก เปน็ อุปัชฌาย์
พระมหาหยวก วัดโคก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธกิ ารพวง จุฬาโร เป็นเจ้าอาวาสวัดราษฎร์นยิ ม
ตง้ั แตป่ ี พ.ศ.2481 และมรณภาพวันที่ 9 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2538 สริ ิอายุรวม 81 ปี
กกกกกกก2. 2.4 2.4.2 ท่ตี ้งั วดั ราษฎร์นยิ ม ตงั้ อยู่ หมู่ที่ 6 บ้านราษฎรน์ ิยม ตำบลราษฎร์นิยม
อำเภอไทรน้อย จงั หวดั นนทบุรี 11150
กกกกกกก2. 2.4 2.4.3 ความสำคัญของวัด ได้ใชเ้ ป็นท่สี ร้างสถานท่ีราชการ ดังน้ี คอื (1) โรงเรียน
วัดราษฎร์นิยม สอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (2) โรงเรียนราษฎร์นิยม
สอนในระดับมัธยมศึกษา (3) วิทยาลัยการอาชีพไทรน้อย (4) สถานีอนามัยตำบลราษฎร์นิยม และ
(5) ท่ีทำการองค์การบริหารสว่ นตำบลราษฎรน์ ยิ ม
กกกกกกก2. 2.4 2.4.4 วัตถแุ ละส่งิ ก่อสร้างภายในวดั ได้แก่ (1) พระเจดยี ์ศรรี าษฎร์นิยม
(2) อุโบสถ (3) หน้าบัน และลายรวงผงึ้ หนา้ อุโบสถ
กกกกกกก2. 2.4 2.4.5 กิจกรรมประเพณที ่สี ำคญั ของวัดราษฎร์นิยม ไดแ้ ก่ (1) ทำบญุ ในวนั สำคัญ
ทางพทุ ธศาสนา (2) วันสงกรานต์ และ (3) บวชเณรภาคฤดรู ้อน
กกกกกกก2. 2.5 วัดสโมสร
กกกกกกก2. 2.4 2.5.1 ประวัติความเปน็ มาของวดั และประวัติเจา้ อาวาสที่สำคญั วัดสโมสร เดมิ ช่ือว่า
วัดหมอ่ มแช่ม ซ่ึงหม่อมแชม่ กฤดากร ได้จัดถวายทด่ี นิ 1 แปลง จำนวน 15 ไร่ เพือ่ สร้างวดั นอ้ มถวาย
แก่พระพุทธศาสนา และเพอ่ื ให้ชาวบา้ นได้มีสถานทบี่ ำเพ็ญบญุ สร้างกศุ ลของตน
กกกกกกก2. 2.4 2.5.1 เจ้าอาวาสที่สำคัญ ได้แก่ พระครูปัญญานนทคุณ หรือ หลวงปู่บาง ปัญญาทีโป
ท่านมีนามเดิมว่า บาง นามสกุล นุชสุภาพ เกิดเมื่อวันที่ 11 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2460 เมื่อวันที่ 5
เดือน มีนาคม พ.ศ. 2474 ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดกลางสวน อำเภอพระประแดง จังหวัด
สมุทรปราการ พอท่านมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดกลาง
ตำบลบางผึ้ง อำเภอพระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันท่ี 22 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2482 เมื่อท่าน
อุปสมบทเป็นพระแลว้ ทา่ นก็ไดม้ าอยู่จำพรรษาที่วดั สโมสร ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2492 ท่านจงึ ไดร้ ับแต่งต้ัง
ให้ดำรงตำแหนง่ เจ้าอาวาสวัดสโมสร เมื่อวันท่ี 1 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2492 ทา่ นได้ละสงั ขารลงอย่างสงบ เม่ือวันท่ี
27 ธันวาคม พ.ศ. 2548 สิริรวมอายไุ ด้ 87 ปี พรรษา 66
7
กกกกกกก2. 2.4 2.5.2 วัดสโมสร ตงั้ อยู่หม่ทู ่ี 9 ตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรนอ้ ย จงั หวดั นนทบุรี
กกกกกกก2. 2.4 2.5.3 ความสำคัญของวัดสโมสร เป็นวดั ที่อยู่ในชุมชนที่เป็นชาวไทยเชื้อสาย
รามัญ ในชุมชนตำบลไทรใหญ่และพื้นที่ไกล้เคียง มีการจัดงานเพื่ออนุรักษ์ประเพณีสงกรานต์ไทย
รามัญเป็นประจำ มีอนุรักษป์ ระเพณีสงกรานตไ์ ทยรามัญให้คงอยู่ตลอดไป สรา้ งความสามัคคีของหมู่
คณะใหเ้ ปน็ นำ้ หนึ่งใจเดยี วกัน และชุมชนมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรม
กกกกกกก2. 2.4 2.5.4 วตั ถุและสง่ิ ก่อสร้างภายในวัด ไดแ้ ก่ (1) อุโบสถ (2) เสาหงส์ (3) เรอื เกง๋ 4 แจว
และ (4) ศาลเจา้ ประจำวดั หรอื ตะละทาน
กกกกกกก2. 2.4 2.5.5 กจิ กรรมประเพณที ส่ี ำคัญของวดั ไดแ้ ก่ (1) การแห่หางหงส์ ธงตะขาบ
(2) การเล่นสะบา้ มอญ และ (3) การแข่งสะบา้ ทอย
กกกกกกก2. 2.6 วัดเสนีวงศ์
กกกกกกก2. 2.7 2.6.1 ประวัติความเปน็ มาของวัดและประวตั เิ จ้าอาวาสทส่ี ำคญั วัดเสนวี งศ์เปน็
วัดสังกัดมหานิกาย รูปแบบการสร้างวัดผสมผสานระหว่างไทย มอญ จีน เดิมในชุมชนปลายคลอง
มะสงไม่มีวัด ต้องเดินทางไปทำบุญไกลถึงวัดเพรางาย ต่อมานายงาม และนางเสงี่ยม เสนีวงศ์ ณ
อยุธยา ได้บริจาคที่ดิน 50 ไร่ เพื่อสร้างวัดในชุมชน ชาวบ้านจึงพร้อมใจตั้งชื่อวัดว่า “วัดเสนีวงศ”์
ตามนามสกุลของผูส้ ร้าง
กกกกกกก2. 2.7 2.6.1 เจ้าอาวาสท่ีสำคัญ ไดแ้ ก่ พระครธู ีรนนทคณุ ฐานธโี ร เกดิ เม่อื วนั ที่ 29
เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2468 บรรพชา และอุปสมบทเมื่อวันที่ 10 เดือน มิถุนายน 2498 อายุ 29 ปี ได้ดำรง
ตำแหน่งเจา้ อาวาสวดั เสนวี งศ์ ท่านได้ทำการกอ่ สรา้ ง บูรณปฏิสังขรณเ์ สนาสนะในวดั เพื่อประโยชนแ์ ก่
พระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านในการบำเพ็ญศาสนกิจ พระครูธีรนนทคุณ เร่ิมมีอาการอาพาธ
เดือน มีนาคม พ.ศ. 2545 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และท่านได้ถึงแก่มรณภาพ เม่ือ
วนั ที่ 27 เดอื น มีนาคม 2545 รวมอายุ 77 ปี พรรษา 48 ดว้ ยโรคมะเรง็ ลำไสต้ ดิ เช้ือ
กกกกกกก2. 2.7 2.6.2 ท่ีต้งั วัดเสนวี งศต์ ง้ั อยู่ท่ีปลายคลองมะสง หมทู่ ี่ 9 ตำบลหนองเพรางาย
อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบรุ ี 11150
กกกกกกก2. 2.7 2.6.3 ความสำคัญของวัดเสนวี งศ์ ได้แก่ (1) สนับสนนุ ด้านการศึกษาสร้างโรงเรียน
(2) สถานีอนามัย (3) ฉางข้าวเพอ่ื เกษตรกร และ (4) ร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อเป็นแหล่งน้ำ
ในการเกษตร
กกกกกกก2. 2.7 2.6.4 วตั ถแุ ละสิ่งกอ่ สรา้ งภายในวัด ไดแ้ ก่ (1) อโุ บสถ (2) เจดียส์ มปรารถนา
(3) หอระฆังคู่ และ (4) สวนป่ามหาชาติ
กกกกกกก2. 2.7 2.6.5 กจิ กรรมประเพณีทีส่ ำคัญของวดั เสนีวงศ์ ได้แก่ (1) ทำบญุ ในวนั สำคัญทาง
พระพทุ ธศาสนา และ (2) วนั สงกรานต์
กกกกกกก2. 2.7 ตลาดนำ้ ไทรนอ้ ย
กกกกกกก2. 2.7 2.7.1 ประวตั ิความเป็นมาของตลาดน้ำไทรนอ้ ย เปิดดำเนินกิจกรรมอยทู่ ่บี ริเวณ
ริมคลองหน้าวัดไทรใหญ่บริเวณแพที่จอดอยู่ในคลองพระพิมลราชา จำหน่ายอาหารเลิศรสต่าง ๆ
มากมาย ส่วนบริเวณชายน้ำริมคลองหน้าวัดไทรใหญ่เป็นแหล่งจำหน่ายผักผลไม้ที่เป็นผลผลิตของ
เกษตรกรในอำเภอไทรนอ้ ยและสินคา้ OTOP จากชุมชนตา่ ง ๆ ในอำเภอไทรน้อย ตลาดน้ำไทรน้อย
เปิดบริการ ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยดุ นกั ขัตฤกษ์
8
กกกกกกก2. 2.7 2.7.2 ท่ตี ง้ั ตง้ั อยู่รมิ คลองพระพิมลราชา ตดิ กับวัดไทรใหญ่ ตำบลไทรน้อย
อำเภอไทรน้อย จงั หวัดนนทบุรี
กกกกกกก2. 2.7 2.7.3 ความสำคัญของตลาดน้ำไทรน้อย ตลาดน้ำไทรน้อยมีความสำคัญ คือ
เป็นตลาดน้ำที่อยู่ใกล้กรุงเทพ ดำเนินชีวิตตามแบบวิถไี ทย ศูนย์รวมของอาหารคาวหวาน ผัก ผลไม้
หลายชนิดที่ชาวบ้านนำมาจำหน่ายริมฝ่ังคลอง มีรสชาติอร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัยและราคาถูก
มีรถนำเท่ียวสวนเกษตร
กกกกกกก2. 2.7 2.7.4 กิจกรรมภายในตลาดน้ำไทรน้อย ได้แก่ การนั่งทานอาหารบนเรือริมน้ำ
กราบพระในโบสถ์ ไหว้หลวงพ่อทองคำ ให้จิตใจสงบสุข เดินชมสินค้า ให้อาหารปลา มีการแสดง
ของเยาวชน
กกกกกกก3. บทท่ี 3 เร่อื งประเพณีทสี่ ำคัญ
กกกกกกก3. 3.1 ประเพณตี ักบาตรดอกไม้
กกกกกกก3. 3.1 3.1.1 ประวัติความเป็นมาของประเพณีตักบาตรดอกไม้ ประเพณตี ักบาตรดอกไม้
เป็นของชาวไทยเชื้อสายมอญ (รามญั ) จัดขนึ้ ในวันขน้ึ 15 ค่ำ ก่อนออกพรรษา 1 วัน พระสงฆม์ อญจะ
ทำพธิ ปี วารณาออกพรรษา ในวนั นจี้ ะมพี ิธตี กั บาตรดอกไมท้ ่ีวัดมอญในอำเภอไทรน้อย
กกกกกกก3. 3.1 3.1.2 ความสำคัญของประเพณีตกั บาตรดอกไม้ ประเพณีตกั บาตรดอกไม้
มีความสำคัญ ถือเป็นการปฏิบัติและแสดงความคารวะนอบน้อม อีกทั้งขอขมาลาโทษหากมีเหตุ
พลาดพลั้ง ซ่ึงเป็นการกระทำล่วงเกินต่อพระพุทธศาสนาและพระภิกษุสงฆ์ เพ่ือรำลึกถึงเหตุการณ์
ท่ีเก่ียวข้องกับพระพทุ ธประวตั อิ ันเป็นการบูชาต่อองค์สมเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจ้า
กกกกกกก3. 3.1 3.1.3 กจิ กรรมในประเพณตี ักบาตรดอกไม้ กจิ กรรมในประเพณีตักบาตรดอกไม้
เมอ่ื พระสงฆท์ ง้ั หลายฉนั ภัตตาหารเพลแลว้ จะเดนิ ลงจากศาลาการเปรียญสูพ่ ระอุโบสถ โดยให้ชาวบ้าน
นั่งอยู่ตลอดสองข้างทางพร้อมทั้งจัดเตรียมดอกไม้ธูปเทียนไว้ถวายสักการะ ครั้งถึงพระสงฆ์ลงจาก
โบสถ์เพื่อทำพิธีปวารณาออกพรรษาจะอัญเชิญพระพุทธรูปนำหนา้ พระสงฆ์ เมื่อพระสงฆ์เดนิ ไปพระ
อโุ บสถชาวบ้านค่อย ๆ ถวายดอกไม้ ธูปเทียนแดพ่ ระสงฆ์
กกกกกกก3. 3.2 ประเพณีสงกรานตม์ อญ
กกกกกกก3. 3.2 3.2.1 ประวตั ิความเปน็ มาของประเพณสี งกรานตม์ อญ (ปจั อะห์ตะ๊ ห์) หรอื
ชาวไทยรามัญ ประเพณีสงกรานต์มอญ เรียกเป็นภาษามอญว่า (ปัจอะห์ต๊ะห์) เป็นเทศกาลสำคัญ
ประจำปขี องชาวมอญ จะมกี ารทำบุญเฉลมิ ฉลองกันอย่างมโหฬารในทกุ หมู่บ้านของชุมชนชาวมอญ
โดยจดั ขน้ึ ระหว่างวนั ท่ี 13–15 เดือน เมษายน ของทุกปี มกี จิ กรรมตา่ ง ๆ
กกกกกกก3. 3.3 3.2.2 ความสำคัญของประเพณสี งกรานต์มอญ ประเพณีสงกรานต์มอญ
เปน็ ประเพณขี ้นึ ศักราชใหม่ จงึ จัดให้มีการเฉลมิ ฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการทำบุญรกั ษาศลี
เพ่ือบชู าพระรตั นตรัย มกี ารบชู าทีบ่ รรจอุ ัฐขิ องบรรพบรุ ษุ และพระสงฆ์มอญตอ้ งการจะสนองศรัทธา
ของชาวบา้ นดว้ ยการไดส้ รงน้ำพระ
กกกกกกก3. 3.3 3.2.3 กิจกรรมในเทศกาลสงกรานตม์ อญนอกจากชาวบา้ นจะมาทำบุญรกั ษาศีล
ที่วัด กิจกรรมในประเพณีสงกรานต์มอญ เช่น การแห่หงส์ ธงตะขาบ การเลน่ สะบ้ามอญ การสรงน้ำ
พระ การแหข่ า้ วแช่ แห่นำ้ ปลาหวาน ปล่อยปลา แห่สงกรานต์ และการทำบุญกลางบ้าน รำเจ้า
ประจำปขี องแตล่ ะหมู่บา้ น
9
กกกกกกก3. 3.3 ประเพณแี ห่เต่า
กกกกกกก3. 3.3 3.3.1 ประวัติความเป็นมาประเพณแี หเ่ ต่า จัดขน้ึ ในวันที่ 15 เดือน เมษายน
ของทุกปี ตรงกับเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งชาวบ้านมีความเช่ือวา่ การแห่เต่านนั้ จะทำให้ชาวบ้านมอี ายยุ ืน สุขภาพ
ร่างกายแข็งแรง มีความอดทน จึงทำให้ชาวบา้ นทำสืบต่อกนั มา จนถงึ ปัจจุบนั นี้
กกกกกกก3. 3.3 3.3.2 ความสำคัญของประเพณีแห่เต่า การจัดประเพณีแห่เต่าเพ่ือเป็นการ
อนุรักษ์ประเพณีของท้องถ่ิน และเป็นการสอดแทรกหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนา ในเรื่อง
ของการเสียสละ รู้จักการให้และการแบ่งปัน ประเพณีแห่เต่าจึงปฏิบัติสืบทอดกันมาจนถึงทุกวันน้ี
กกกกกกก3. 3.3 3.3.3 กิจกรรมในประเพณีแห่เต่า จัดขึ้นจากชาวบ้านตำบลคลองขวาง เพื่อให้ชาวบ้าน
ท่ีอยู่ในพื้นท่ีออกมาร่วมบริจาคปัจจัย และนำปัจจัยที่ได้รับจากการบริจาคนำไปถวายวัดคลองขวาง
บำรุงในทางพระพุทธศาสนาสบื ตอ่ ไป
กกกกกกก3. 3.4 ประเพณีแห่ธงตะขาบ
กกกกกกก3. 3.3 3.4.1 ประวัติความเป็นมาของประเพณีแห่ธงตะขาบ ประเพณีแห่ธงตะขาบ
เป็นความเช่อื ชีวิตหลงั ความตาย และความกตัญญูต่อบรรพบรุ ษุ
กกกกกกก3. 3.3 3.4.2 ความสำคัญของประเพณีแหธ่ งตะขาบ เพ่อื บูชาและเฉลมิ ฉลอง
เมื่อครงั้ ที่พระพทุ ธเจ้าเสด็จกลับจากจากสวรรคช์ ้ันดาวดึงส์ ในการฉลองงานบุญการกุศล ชาวรามัญ
จะใช้เสาหงส์ และธงตะขาบคกู่ นั
กกกกกกก3. 3.3 3.4.3 กิจกรรมในประเพณแี หธ่ งตะขาบ ใชเ้ ชอื กเป็นเส้นขอบผกู ขวางคั่นด้วยซี่ไม้
ไผ่เป็นช่วง ๆ ใช้เสื่อผืนยาวปิดทับแทนผ้าหรือกระดาษเป็นลำตัว ปลายไม้ที่ยื่นสองข้างทุกซีป่ ระดับ
ด้วยชอ้ นผกู หอ้ ยแทนขา สลับกับพกู่ ระดาษเพือ่ ความสวยงาม หัวและหางสานผกู ด้วยโครงไม้ ปิด
กระดาษสี แหไ่ ปทว่ี ดั ขึงธงไว้กบั ต้นเสาในศาลา นำสายสญิ จนม์ าวงรอบธง ทำพธิ ถี วายธง นำธงไปชัก
ขึ้นแขวนบนเสาหงส์
กกกกกกก3. 3.5 ประเพณกี ารจัดงานศพพระสงฆ์มอญ
กกกกกกก3. 3.5 3.5.1 ประวตั คิ วามเปน็ มาประเพณีการจดั งานศพพระสงฆม์ อญ ประเพณกี ารจดั
งานศพพระสงฆม์ อญ ชาวไทยเชอ้ื สายมอญจะมพี ธิ กี รรมท่ีเข้ามาเกย่ี วข้องต้งั แตเ่ กดิ จนตาย
อีกทั้งศรัทธาในพุทธศาสนาควบคู่ไปกับการนับถือผีบรรพบุรุษ ก่อให้เกิดรากฐานของประเพณี
และพิธีกรรมทส่ี บื ทอดปฏิบตั ิกันมา ดังน้นั คนมอญจึงมรี ูปแบบพิธกี รรมทแ่ี ฝงความหมาย และปริศนา
ธรรมตา่ ง ๆ
กกกกกกก3. 3.5 3.5.2 ความสำคญั ของประเพณีการจัดงานศพพระสงฆ์มอญ เป็นการแสดงความ
เคารพนบั ถือ และบุญคุณตอ่ พระสงฆท์ ี่มรณภาพ
กกกกกกก3. 3.5 3.5.3 รายละเอยี ดประเพณกี ารจดั งานศพพระสงฆ์มอญ เมื่อพระสงฆ์มอญ
มรณภาพจะมพี ธิ ีการในการจัดงานศพพระสงฆ์อย่างสมฐานะของความเป็นสมณะ มกี ารสร้างปราสาท
มอญสำหรับเป็นสถานที่ประกอบพิธีฌาปนกิจ มีการสร้างโลงบรรจุศพแบบมอญที่วิจิตรสวยงาม
มปี ระเพณกี ารจุดลกู หนู มีการต้ังโรงทาน
10
กกกกกกก3. 3.6 พธิ ีแหเ่ จ้าพ่อจยุ้
กกกกกกก3. 3.6 3.6.1 ประวัติความเป็นมาของพธิ แี ห่เจ้าพอ่ จยุ้ ชาวไทยเชือ้ สายจีนในอำเภอไทรน้อย
มคี วามศรัทธาในเจ้าพ่อจุ้ยเป็นอยา่ งมาก ได้สร้างศาลเจา้ พ่อจยุ้ ไทรใหญอ่ ย่างสวยงามตามแบบสถาปัตยกรรม
จนี ในช่วงหลังวันตรษุ จีน จะมีพิธีแหเ่ จ้าพ่อจุ้ยและจัดงานประจำปเี ปน็ งานใหญ่ งานหนึง่ ของอำเภอไทรน้อย
กกกกกกก3. 3.6 3.6.2 ความสำคญั ของพธิ แี หเ่ จา้ พ่อจยุ้ ความสำคัญของประเพณีแหเ่ จา้ พอ่ จุ้ย
เพื่อเป็นการสบื สานประเพณีและวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจนี ทอ่ี าศัยอยู่ในพื้นท่อี ำเภอไทรนอ้ ย
กกกกกกก3. 3.6 3.6.3 กิจกรรมในพิธแี ห่เจ้าพอ่ จุ้ย คือ วันแห่เจ้าพ่อจุ้ยจะมีพธิ ีเลี้ยงพระ จากนน้ั
มีพิธีไหว้ปึงเถ่ากง ไหว้ปึงเถ่ามา และเชิญรูปเจ้าพ่อจุ้ยแห่รอบอำเภอไทรน้อย ชาวตลาดจะจัดโต๊ะ
ที่หน้าบ้านเพื่อสักการบูชาเจ้าพ่อจุ้ยที่ผ่านหน้าบ้าน มีการจุดธูปเทียนและจุดประทัดบูชาเจ้าพ่อจุ้ย
เพ่อื ขอพรและความเปน็ สริ มิ งคล
กกกกกกก3. 3.7 พธิ แี หเ่ จา้ แมท่ องคำ
กกกกกกก3. 3.6 3.7.1 ประวัติความเป็นมาของพิธีแห่เจ้าแม่ทองคำ เป็นเจ้าแม่ที่คนไทยเชื้อสาย
จีนในอำเภอไทรน้อยให้ความเคารพ เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ ศาลเจ้าแม่ทองคำอยู่หลังตลาด
ปากคลองขนุ ศรี ตำบลคลองขวาง อำเภอไทรน้อย งานประจำปีศาลเจ้าแมท่ องคำ งานประจำปี
มลี ิเกฉลอง จัดประมาณเดือนมีนาคม ของทกุ ปี
กกกกกกก3. 3.6 3.7.2 ความสำคัญของพิธีแห่เจ้าแม่ทองคำ เป็นที่ยึดเหนีย่ วในทางจิตใจ เพื่อขอ
พรและเพ่อื ความเปน็ สริ ิมงคลในชีวิตและเป็นการสบื สานประเพณวี ัฒนธรรม ทอ้ งถ่นิ อำเภอไทรนอ้ ย
กกกกกกก3. 3.6 3.7.3 รายละเอียดประเพณีแหเ่ จ้าแม่ทองคำ ทำพธิ เี ซน่ ไหวเ้ จ้าแมท่ องคำตาม
ธรรมเนยี มจนี โบราณ เชิญเจา้ แม่เขา้ ขบวนแห่ ชาวบา้ นต้ังเครอื่ งบชู า มกี ารจุดธปู เทยี น จุดประทดั
ชาวตลาดปากคลองขนุ ศรีจงึ นับถือเจา้ แมท่ องคำและได้สรา้ งศาลตามแบบสถาปตั ยกรรมจีนที่สวยงาม
กกกกกกก3. 3.8 เทศกาลสำคัญและประเพณขี องชาวไทยมุสลิม
กกกกกกก3. 3.6 3.8.1 ประวัติความเป็นมาของเทศกาลสำคญั และประเพณขี องชาวไทยมุสลิม
ประวัติความเป็นมาเทศกาลสำคัญและประเพณีของชาวไทยมุสลิม เป็นหลักคำสอนท่ีสอดคล้องกับ
ธรรมชาติของมนษุ ย์ ทั้งนี้เพ่ือให้การปฏิบัติตนเป็นไปด้วยความสะดวกและเรียบงา่ ย โดยเริ่มต้นจาก
ความศรัทธาตอ่ อลั ลอฮ์ผสู้ ร้าง การปฏบิ ตั ิศาสนกจิ การขดั เกลาจิตใจใหส้ ะอาด มีศีลธรรมและสามารถ
ครองตนอยูร่ ่วมกบั ผอู้ ื่นในสังคม
กกกกกกก3. 3.6 3.8.2 ความสำคัญของเทศกาลสำคัญและประเพณีของชาวไทยมุสลิม การปฏิบัติ
ตาม และการนอบน้อมต่ออัลลอฮ์พระผู้เป็นเจ้า พร้อมกันน้ี พระองค์ ได้แต่งตั้งมุฮัมมัด บุตรของ
อับดลุ ลอฮ์ เป็นศาสดานำพามนุษย์สูก่ ารให้ความเปน็ เอกะแดพ่ ระองคใ์ นการเป็นพระผู้อภิบาล
และการเป็นพระเจ้า
กกกกกกก3. 3.6 3.8.3 รายละเอียดเทศกาลสำคญั และประเพณขี องชาวไทยมุสลิม
กกกกกกก3. 3.6 3.8.3 การถือศลี อด (ถอื บวช) การที่บคุ คลละเวน้ อาหารและเครอื่ งดม่ื
กกกกกกก3. 3.6 3.8.3 วันฮารีรายอ (อีดิลฟติ ริ) เปน็ วนั ออกบวชเมอ่ื ครบกำหนด 1 เดือน ของการ
ถอื ศีลอดในเดือนรอมฎอน
กกกกกกก3. 3.6 3.8.3 พิธีแต่งงาน มีการประกอบพธิ แี ตง่ งาน เจา้ บา่ วเจา้ สาวรว่ มทำพธิ ีละหมาด
และขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า เม่ือเสร็จพิธีทางศาสนาแล้วมีการเล้ียงอาหารผู้ท่ีมาร่วมงาน
11
กกกกกกก3. 3.6 3.8.3 พธิ ีโกนผมไฟ เด็กมุสลิมเม่ือแรกเกิดจะมพี ิธโี กนผมไฟใหแ้ ก่เด็กภายใน 7 วนั
นับตงั้ แตว่ นั ท่เี กิด
4. บทที่ 4 วธิ ีการทางภมู ศิ าสตร์และประวัติศาสตร์ศึกษาไทรนอ้ ยนา่ เรยี นร้คู ู่นนทบุรี
4. 4.1 วิธีการทางภมู ศิ าสตร์ มี 4 ขน้ั ตอน ไดแ้ ก่
(1) กำหนดวัตถุประสงค์ (2) เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการปฏิบัติภาคสนามและสัมภาษณ์
(3) นำข้อมูลมาวิเคราะห์และจัดหมวดหมู่ และ (4) สรุปนำเสนอข้อมูลและเขียนรายงาน
4. 4.2 วิธีการทางประวัติศาสตร์ มี 5 ขั้นตอน ได้แก่ (1) การกำหนดประเด็นศึกษา
(2) การสืบค้นและรวบรวมข้อมูล (3) การวิเคราะห์และตีความข้อมูล (4) การคัดเลือกและประเมิน
ข้อมลู และ (5) การเรียบเรียงรายงานข้อเทจ็ จริง
กกกกกกก5. บทที่ 5 การสบื สานและอนรุ ักษป์ ระเพณแี ละการดแู ลสถานทีท่ อ่ งเท่ียวที่สำคัญ
กกกกกกก5. 5.1 การสืบสานประเพณี หมายถงึ การพัฒนาและสืบทอดประเพณีที่ดีงาม ท่เี ป็น
รากฐานในการดำเนินชีวิตที่มีความเชื่อมโยงกับชุมชนและสังคม เป็นกระบวนการที่สำคัญที่จะทำนุ
บำรุงและรักษาไว้ซึ่งประเพณีให้คงอยูไ่ มส่ ูญหาย จากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง และการอนุรักษ์
ประเพณี หมายถึง การดำรงรกั ษาวิถีแห่งการดำเนินชีวิตท่ีปฏิบตั ิสืบทอดกันมา เป็นประเพณีท่ีดีงาม
ของคนในสังคมนน้ั ๆ ใหค้ งอยตู่ อ่ ไป
กกกกกกก5. 5.2 การดแู ลสถานทท่ี อ่ งเท่ียวท่ีสำคญั หมายถึง ผูท้ เ่ี กย่ี วขอ้ งทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วม
การดูแลสถานทที่ ่องเทย่ี วทสี่ ำคัญ เกดิ จติ สำนึกทด่ี ตี ่อการดูแลสถานท่ีท่องเทย่ี ว
กกกกกกก5. 5.3 ความสำคญั ของการสืบสานและอนรุ กั ษ์ประเพณีมีความสำคญั คอื เป็นการสร้าง
ทัศนคติความรู้และความเข้าใจให้ทุกคนมีหน้าที่เสริมสร้าง ฟื้นฟู และการดูแลรักษาสืบสานและ
อนุรักษ์ประเพณีไทยท่ีเป็นสมบัติของคนในชุมชนสืบต่อไป และการดูแลสถานท่ี หมายถึง ให้ชุมชน
มีความรู้สึกว่าสถานที่ทอ่ งเท่ียวเป็นของตน เพื่อให้มีความรูส้ ึกรักและหวงแหน จะได้ช่วยกันดูแลรกั ษา
เป็นมรดกตกทอด ของคนในท้องถิ่นนั้น ให้คงสภาพที่ดีสืบต่อไป
กกกกกกก5. 5.4 วิธีการสบื สานและอนรุ กั ษป์ ระเพณีและการดูแลสถานท่ีท่องเท่ียวที่สำคัญ ได้แก่
(1) การทำคลิปวีดิทศั น์ (Video) เผยแพร่ และ (2) การทำแผ่นพับเผยแพร่
ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวัง
กกกกกกก1. บอกและอธิบายบรบิ ทพนื้ ฐานอำเภอไทรน้อย สถานท่สี ำคัญและแหลง่ ท่องเท่ยี ว
ในอำเภอไทรนอ้ ย ประเพณที ี่สำคัญ วธิ กี ารทางภูมิศาสตรแ์ ละประวตั ิศาสตรศ์ กึ ษาไทรน้อยนา่ เรยี นรู้
คนู่ นทบรุ ีกการสบื สานและอนรุ กั ษ์ประเพณแี ละการดูแลสถานท่ที อ่ งเที่ยวทส่ี ำคัญได้
กกกกกกก2. นำความรคู้ วามเข้าใจที่ได้ศึกษาไทรน้อยน่าเรียนรูค้ ่นู นทบุรี มาทำกจิ กรรมท้ายบทได้
กกกกกกก3. ตระหนักถงึ ความสำคัญ เห็นคุณค่า ของการศกึ ษาไทรนอ้ ยนา่ เรียนรูค้ นู่ นทบรุ ี
12
ขอบขา่ ยเนือ้ หา
กกกกกกกหนงั สือเรียนสาระพฒั นาสงั คม รายวชิ า สค33161 ไทรนอ้ ยน่าเรยี นรูค้ นู่ นทบรุ ี
ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน 5 บท ดังน้ี
กกกกกกกบทท่ี 1 เรื่องบริบทพืน้ ฐานอำเภอไทรน้อย
กกกกกกกบทที่ 2 เรื่องสถานทส่ี ำคญั และแหล่งทอ่ งเท่ียวในอำเภอไทรนอ้ ย
กกกกกกกบทที่ 3 เร่ืองประเพณที ่สี ำคญั
กกกกกกกบทท่ี 4 วธิ ีการทางภูมศิ าสตรแ์ ละประวัติศาสตรศ์ ึกษาไทรนอ้ ยน่าเรียนรคู้ ู่นนทบุรี
กกกกกกกบทที่ 5 การสืบสานและอนรุ ักษ์ประเพณแี ละการดแู ลสถานที่ท่องเท่ยี วท่ีสำคัญ
ส่อื ประกอบการเรียน
กกกกกก 1. บทที่ 1 บริบทพนื้ ฐานอำเภอไทรน้อย
กกกก 1.1 หนงั สอื วดั ในอำเภอไทรน้อย ผู้แตง่ พศิ าล บุญผกู ปที พี่ ิมพ์ 2551
บริษัท อมรนิ ทรพ์ รน้ิ ติ้งแอนดพ์ ับลิชชงิ่ จำกดั (มหาชน)
1.2 หนังสือภมู นิ ามอำเภอไทรนอ้ ย ผูแ้ ตง่ พศิ าล บุญผกู ปที ่พี ิมพ์ 2552
บรษิ ทั อมรนิ ทร์พริน้ ติ้งแอนดพ์ ับลชิ ชงิ่ จำกดั (มหาชน)
1.3 ภูมิบ้านนามเมืองนนท์ ผู้แตง่ สำนักงานวฒั นธรรมจังหวัดนนทบรุ ี ม.ป.ป.
Lighting Design Agency
1.4 อตั ลักษณ์ทางวัฒนธรรมเมอื งนนทบุรี สำนักงานจงั หวดั นนทบุรี ปที พ่ี ิมพ์ 2558
และสำนกั งานวฒั นธรรมจังหวดั นนทบุรี Lighting Design Agency
กกกกกกก 1.5 สืบคน้ จาก Google.co.th หนังสือภูมินามอำเภอไทรน้อย ผ้แู ต่ง พศิ าล บญุ ผูก
www.http://library.tcdc.or.th/record/view/b00023217
1.6 ห้องสมุดประชาชนอำเภอไทรนอ้ ย ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรนอ้ ย จังหวัดนนทบุรี
02-597-1123
1.7 ท่ีวา่ การอำเภอไทรน้อย เลขท่ี 10/7 หมทู่ ี่ 1 ถนนเทศบาล 2 ตำบลคลองขวาง
กกกกกก 2. บทท่ี 2 สถานทส่ี ำคัญและแหล่งทอ่ งเท่ยี วอำเภอไทรนอ้ ย
2.1 หนงั สือวัดในอำเภอไทรนอ้ ย ผู้แต่ง พศิ าล บุญผกู ปีทพ่ี มิ พ์ 2551
บรษิ ัท อมรนิ ทร์พรนิ้ ติ้งแอนดพ์ ับลชิ ช่งิ จำกัด (มหาชน)
กกกกกกก2. 2.2 สบื ค้นจาก Google.co.th หนงั สอื ภมู นิ ามอำเภอไทรนอ้ ย ผแู้ ต่ง พศิ าล บญุ ผูก
www.http://library.tcdc.or.th/record/view/b00023217
กกกกกก 2.3 หอ้ งสมุดประชาชนอำเภอไทรน้อย ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จงั หวัดนนทบรุ ี
02-597-1123
2.4 ที่วา่ การอำเภอไทรน้อย เลขที่ 10/7 หมู่ท่ี 1 ถนนเทศบาล 2 ตำบลคลองขวาง
กกกกกก 3. บทท่ี 3 ประเพณที ่ีสำคญั
3.1 หนงั สือภมู นิ ามอำเภอไทรนอ้ ย พิศาล บญุ ผูก ปที ่พี มิ พ์ 2552
13
บรษิ ัท อมรินทร์พริน้ ตงิ้ แอนดพ์ ับลิชชงิ่ จำกัด (มหาชน)
3.2 สืบค้นจาก Google.co.th หนังสือภมู ินามอำเภอไทรน้อย ผแู้ ต่ง พศิ าล บุญผูก
www.http://library.tcdc.or.th/record/view/b00023217
3.4 หอ้ งสมดุ ประชาชนอำเภอไทรนอ้ ย ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรนอ้ ย จงั หวัดนนทบรุ ี
02-597-1123
กกกกกก 4. บทที่ 4 วิธกี ารทางภูมศิ าสตรแ์ ละประวัตศิ าสตรศ์ กึ ษาไทรนอ้ ยนา่ เรยี นรู้ค่นู นทบุรี
กกกกกก 4. 4.1 หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ ป.5. รศ. ดร.ไพฑูรย์ มีกุศล และ
คณะ. กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551. ผลติ และจัดจำหน่ายโดย บริษทั สำนกั พมิ พ์วัฒนาพานชิ จำกัด.
4.2 วดั ในอำเภอไทรน้อย พศิ าล บุญผกู 2551 บรษิ ทั อมรนิ ทรพ์ ร้ินต้ิงแอนด์พับลิชช่ิง
จำกัด (มหาชน)
4.3 หนังสือภมู ินามอำเภอไทรนอ้ ย พศิ าล บุญผูก 2552 บรษิ ทั อมรนิ ทร์พริ้นติ้งแอนด์
พบั ลชิ ซง่ิ จำกัด (มหาชน)
4.4 ภูมิบ้านนามเมืองนนท์ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนนทบุรี ม.ป.ป. Lighting
Design Agency
4.5 อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมเมืองนนทบุรี สำนักงานจงั หวัดนนทบรุ ี 2558 และ
สำนักงานวัฒนธรรมจงั หวัดนนทบุรี Lighting Design Agency
4.6 สืบค้นจาก Google.co.th หนงั สอื ภมู นิ ามอำเภอไทรนอ้ ย พิศาล บญุ ผกู
www.http://library.tcdc.or.th/record/view/b00023217
4.7 ข้นั ตอนของวิธกี ารทางประวัติศาสตร์. หัสยา รอดย้ิม และสนุ ิศา หึกขนุ ทด.
ส่อื การเรียนการสอนออนไลน.์ สืบคน้ จาก www. http://tinnagorn05.blogspot.com
4.8 สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม วิธีการทางประวัติศาสตร์
วรรณา ไชยศรี สบื คน้ จาก https://wanna500.wordpress.com
4.9 ห้องสมดุ ประชาชนอำเภอไทรน้อย ตัง้ อยู่หม่ทู ่ี 6 ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรนอ้ ย
จังหวดั นนทบุรี 11150 หมายเลขโทรศพั ท์ 0-2010-5719
4.10 ห้องสมดุ กศน.ตำบล จำนวน 7 แห่ง ในพน้ื ทอ่ี ำเภอไทรน้อย
กกกกกก 5. บทท่ี 5 การสบื สานและอนุรักษว์ ฒั นธรรมประเพณี
5.1 หนงั สือตดั ตอ่ วดี ีโอ งา่ ยนิดเดยี ว ทวีทรัพย์ จิตติวัฒนานุกลุ ปที ่พี มิ พ์ 2545
ปีทีพ่ มิ พ์ ม.ป.ป.
5.2 รปู แบบของส่อื Mobile Content ประเภทวีดิโอคลิป (Video clip) ช่อื ผู้เขยี น/
หน่วยงานท่ีโพสตน์ ายอมรเทพ เทพวิชติ สบื คน้ จาก https://ceit.sut.ac.th/km/wpcontent/
uploads/2013/04/mobilecontent_vdoclip.pdf
5.3 การทำแผน่ พบั word แบบง่าย ๆ สอนเป็นขนั้ ตอน ทรงอาจ ทเู ดย์ สืบคน้ จาก
www. https://www.songarj.today/make-a-brochure/
14
5.4 แผ่นพับ วรพงศ์ วรชาติอดุ มพงศ์ http://kanlayanee.ac.th/wbiprinting
/WBI/wbi_7/Lesson/compos_13.htm
5.5 แผ่นพับคอื อโณทยั เชยี่ วชาญ http://anothai573.blogspot.com
/2011/06/blog-post_20.html
5.6 แผน่ พับ จันทนา ทองประยรู http://kanlayanee.ac.th/wbiprinting
/WBI/wbi_7/Lesson/compos_13.htm
5.7 การทำแผน่ พับ https://www.songarj.today/make-a-brochure/
5.8 หอ้ งสมุดประชาชนอำเภอไทรน้อย ถนนเทศบาล 1 ตำบลไทรนอ้ ย
อำเภอไทรนอ้ ย จงั หวดั นนทบรุ ี 11150 หมายเลขโทรศัพท์ 02-5971-123, 02-0105-719
15
บทท่ี 1
เร่อื ง บรบิ ทพื้นฐานอำเภอไทรน้อย
สาระสำคญั
กกกกกกก1. ประวัตคิ วามเป็นมา อำเภอไทรนอ้ ยเดมิ เป็นกง่ิ อำเภอไทรนอ้ ย ซึ่งแยกออกมาจากอำเภอ
บางบัวทอง และภายหลังได้ยกระดับเป็นอำเภอไทรน้อย ประกอบด้วย 7 ตำบล และ 1 เทศบาล ได้แก่
ตำบลไทรน้อย ตำบลไทรใหญ่ ตำบลหนองเพรางาย ตำบลราษฎร์นิยม ตำบลขุนศรี ตำบลทวีวัฒนา
ตำบลคลองขวาง และเทศบาลตำบลไทรน้อย
กกกกกกก2. ทีต่ ง้ั อำเภอไทรน้อย
อำเภอไทรนอ้ ย ต้งั อยู่ทางทศิ ตะวันตกเฉยี งเหนือของจงั หวัดนนทบุรี อยู่ในเขตปกครอง
ของจังหวดั นนทบรุ ี มีอาณาเขตตดิ ต่อ ดังน้ี
2.1 ทิศเหนือติดต่อกับตำบลสามเมือง อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
2.2 ทิศใต้ติดต่อกับตำบลบ้านใหม่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และ ตำบลคลองโยง
อำเภอพุทธมณฑล จงั หวดั นครปฐม
2.3 ทิศตะวันออกติดต่อกับตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และ
ตำบลหนา้ ไม้ อำเภอลาดหลมุ แกว้ จังหวัดปทุมธานี
2.4 ทิศตะวันตกตดิ ต่อกับตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จงั หวดั นครปฐม
3. การปกครองของอำเภอไทรน้อย
อำเภอไทรน้อยแบง่ เขตการปกครองออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่ การปกครองส่วนภมู ิภาค
และการปกครองส่วนท้องถิน่
กกกกกกก4. สภาพประชากร สภาพเศรษฐกิจ ด้านการศึกษา และดา้ นศาสนา
4.1 สภาพประชากร ประชากรอำเภอไทรน้อย ขอ้ มลู ปี พ.ศ. 2561 มีจำนวนประชากร
46,754 คน ประกอบด้วยหลากหลายชาติพนั ธ์ุ แบง่ ออกได้ 4 กลุม่ ไดแ้ ก่ ชาวไทย
ชาวไทยเชือ้ สายรามญั (มอญ) ชาวไทยมสุ ลิม และชาวไทยเชือ้ สายจนี
4.2 สภาพเศรษฐกจิ
4.2.1 อาชีพของประชากร ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่
การทำนา รองลงมาเปน็ การทำสวนผลไม้ ไม้ดอกไมป้ ระดบั สวนผัก และมีการเลีย้ งสัตวบ์ ้างเลก็ น้อย
อาชพี นอกภาคเกษตรกรรมทสี่ ำคัญ ไดแ้ ก่ การคา้ ขาย และการรบั จา้ งท่ัวไป
4.2.2 สภาพเศรษฐกิจ เศรษฐกิจของอำเภอไทรน้อย รายได้ของครัวเรือนส่วนใหญ่
มาจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ไดแ้ ก่ การทำนา ในปี พ.ศ. 2560 พบวา่ มรี ายได้
เฉล่ีย 299,221 บาทต่อครวั เรอื น (ข้อมลู โดยสำนักงานสถิติจังหวดั นนทบุร)ี
4.3 ด้านการศึกษา ด้านการศกึ ษาของอำเภอไทรนอ้ ย ประกอบดว้ ย โรงเรียน
ระดบั ประถมศกึ ษา มีท้ังหมด 8 แห่ง โรงเรยี นระดบั มัธยมศกึ ษา มีทั้งหมด 5 แห่ง
และระดบั มหาวทิ ยาลยั มที งั้ หมด 2 แห่ง รวมมีสถานศึกษา 15 แห่ง
16
4.4 ด้านศาสนา วดั ในอำเภอไทรน้อย มีท้งั หมด 15 แห่ง สำนักสงฆม์ อญรามญั 1 แห่ง
และมสั ยดิ ทัง้ หมด 2 แห่ง
กกกกกกก5. บคุ คลสำคัญของอำเภอไทรนอ้ ย ได้แก่
5.1 พระราชาภมิ ณฑ์ (เพ็ง) เปน็ ผู้ท่ีทำคุณประโยชน์แก่ประชาชนในอำเภอไทรนอ้ ย
เป็นอย่างมาก โดยได้ร่วมทุนกับคณะจัดตั้งเป็นบริษัทด้วยเงินทุน 32,000บาท ขอพระราชทาน
พระบรมราชานุญาตขุดคลองแยกจากคลองบางบัวทอง ไปทางทิศตะวันตกผ่านป่ากระทุ่มมืด
เป็นคลองส่งนำ้ ให้ประชาชนเขา้ ไปจับจองท่ีดินสองฝั่งคลองประกอบอาชพี เกษตรกรรมจนขยายเป็น
ชมุ ชนเปน็ จำนวนมาก
5.2 ขนุ ศรีราษฎร์นิยม (พร มณั ยานนท์) ชาวไทยเช้อื สายมอญทไี่ ดเ้ ข้ามาจับจองทำ
ประโยชน์ในที่ดินป่ากระทุ่ม ต่อมานายพร มัณยานนท์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกำนันคนแรกของ
ตำบลไทรใหญ่ และมีความขยัน และทำประโยชน์แกร่ าษฎรที่เข้าจับจองที่ดินท่ีตำบลไทรใหญ่ ได้รับ
พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขนุ ศรรี าษฎร์นิยม และเป็นตน้ สกุล มณั ยานนท์ เพื่อเป็นอนุสรณค์ ุณงาม
ความดีของขุนศรีราษฎร์นิยม
5.3 หม่อมแช่ม กฤดากร ณ อยุธยา เปน็ ชาวไทยเช้อื สายมอญ ได้ทำคุณประโยชน์
อย่างมากแก่ราษฎรในจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดนครปฐม ในการประกอบอาชีพการเกษตร ซึ่งใน
ปัจจุบนั นีม้ กี ารปลูกพชื นอกจากการทำนา เช่น การปลูกกระเจ๊ยี บมอญ ซง่ึ ชาวบ้านคลองหม่อมแช่ม
ปลูกกันมาก เป็นสินค้าส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น สร้างรายได้จำนวนมากให้กับชุมชน
นอกจากน้นั ได้บริจาคทด่ี ินใหส้ รา้ งวัดและได้อุปถัมภใ์ นการสรา้ งวดั ขนึ้ ในชุมชน อีกทงั้ ยงั ไดเ้ ป็นแหล่ง
การศึกษาของเยาวชนในชุมชนใหไ้ ด้รับการศึกษาจากโรงเรยี นวัดสโมสรที่สร้างขน้ึ อีกด้วย
5.4 พระครูประชาธรรมนาถ (แฉ่ง ฐานังกโร) ได้ทำคุณประโยชน์แก่ผู้คนในอำเภอ
ไทรน้อย เช่น ด้านการสนับสนุนการศึกษาของเยาวชน ด้านการพัฒนาชุมชน โครงการขุดคลอง
โครงการสูบน้ำเข้านา นำไฟฟ้าสู่ชุมชนราษฎร์นิยม ทำถนนเข้าหมู่บ้าน การผลิตถังส้วม อ่างล้างเทา้
เพ่ือรณรงค์ให้ชาวบ้านไดม้ ีสุขอนามัยท่ีดี สรา้ งสถานีอนามัยเพอ่ื ประโยชน์ของชาวบ้าน สร้างประปา
ในหมู่บ้าน การส่งเสริมนิสัยประหยดั และการรจู้ ักออมเงนิ ส่งเสรมิ ชาวบา้ นให้รูจ้ กั ต้ังฉางข้าว
ในชมุ ชน และงานสาธารณะสงเคราะหอ์ น่ื ๆ
5.5 นายปรีชา ลุประสงค์ เป็นชาวนาตำบลราษฎรน์ ิยม อำเภอไทรน้อย
จังหวดั นนทบรุ ี เปน็ ผู้มบี ทบาทสำคญั คนหนงึ่ ในอำเภอไทรนอ้ ย จังหวัดนนทบรุ ี โดยได้ทำคุณประโยชน์
ด้านการเกษตรอย่างมากแก่ชาวนา ได้รับการคัดเลือกจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้ไปศึกษาดูงาน
การเกษตรที่ประเทศไต้หวันในนามของชาวนาจากประเทศไทย เป็นผู้ริเริ่มในการปลูกพืชผัก
ทจ่ี ำเป็นตอ้ งใช้เปน็ อาหารประจำวัน และปลกู ผลไม้อน่ื ๆ และเปน็ ผู้จดั ตงั้ โรงสขี ้าวของสหกรณ์ และ
ได้รบั ความช่วยเหลอื จากรฐั บาลประเทศนิวซแี ลนด์
5.6 นายยวง เขียวนิล ได้สร้างคุณประโยชน์แกอ่ ำเภอไทรนอ้ ยและประเทศ คือ
สร้างฐานการเรียนรู้ในพื้นที่ของตนเองเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้การทำการเกษตรตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง และเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ใหก้ ับเกษตรกร นักเรียน นักศึกษา ทั้งชาวไทย
และชาวต่างประเทศ เป็นอาสาสมัครให้กับส่วนราชการต่าง ๆ ช่วยถ่ายทอดความรู้โดยไม่หวัง
ผลตอบแทน มีการรวมกลุ่ม และสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างชุมชนทั้งในจังหวัดและระหว่าง
17
จงั หวัดเพอื่ ชว่ ยเหลอื ในการดำเนินกจิ กรรมทางการเกษตร และยงั มกี ารเผยแพร่ผลงานผ่านสื่อต่าง ๆ
อีกจำนวนมาก
ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวัง
กกกกกกก1. บอกและอธบิ ายบริบทพนื้ ฐานอำเภอไทรนอ้ ย
กกกกกกก2. ตอบกจิ กรรมทา้ ยบทบรบิ ทพ้นื ฐานอำเภอไทรน้อย
ขอบข่ายเน้อื หา
กกกกกกกเร่อื งที่ 1 ประวัติความเป็นมา
กกกกกกกเรื่องที่ 2 ที่ตงั้ อำเภอไทรนอ้ ย
กกกกกกกเรื่องท่ี 3 การปกครอง
กกกกกกกเรื่องท่ี 4 สภาพภูมิศาสตร์
กกกกกกกเรื่องที่ 5 บุคคลสำคญั ของอำเภอไทรน้อย
สื่อประกอบการเรียน
กกกกกกก1. ภูมินามอำเภอไทรนอ้ ย พิศาล บญุ ผกู มีนาคม พ.ศ. 2552 จัดพิมพแ์ ละเผยแพร่โดย
โครงการการจดั การสารสนเทศจากภูมิปัญญาท้องถิ่นดา้ นนนทบุรี ศกึ ษาเพอ่ื สง่ เสรมิ บริหารหอ้ งสมุด
สชู่ มุ ชน สำนกั บรรณสารสารสนเทศ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมมาธิราช
กกกกกกก2 ภูมบิ า้ น นามเมืองนนทบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจงั หวดั นนทบรุ ี
เบอรโ์ ทรศัพท์ 02-580-1348 ปีทพ่ี มิ พ์ ม.ป.ป.
กกกกกกก3. ประวตั ิความเปน็ มาอำเภอไทรน้อย สำนกั งานพฒั นาชมุ ชนอำเภอบางบัวทอง
จังหวัดนนทบุรี กระทรวงมหาดไทย http://district.cdd.go.th/bangbuathong/about กกก
ก
เรือ่ งที่ 1 ประวตั คิ วามเปน็ มา
กกกกกกก อำเภอไทรน้อย เดิมช่อื ว่าตำบลหนองไทร ในสมยั พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
อำเภอไทรน้อยมสี ภาพพื้นที่เป็นป่าทึบ มีต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ขึ้นปกคลุมอย่างหนาแน่น เช่น ต้น
ไทร ต้นยาง ต้นประดู่ ต้นกระทุ่ม มีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ชื่อว่า “ป่ากระทุ่มมืด” ต่อมาในรัชสมัย
พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว โปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมใหข้ ุดคลองทววี ฒั นา และคลอง
นราภิรมย์ ระหว่าง พ.ศ. 2420 - 2423 เพื่อให้ประชาชนใชใ้ นการเกษตรกรรม ทำให้มีผู้คนหล่ังไหล
เข้าไปจับจอง บุกเบิกป่ากระทุ่มมืด ใช้พื้นที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่อมีประชากร
มากขึ้น จึงเกิดเป็นชุมชน ซึ่งอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอบางบัวทอง ต่อมาทางราชการเห็นวา่
อำเภอบางบัวทองมีพื้นที่กวา้ งขวาง และจำนวนประชากรเพิ่มข้ึน ดูแลทุกข์สุขได้ไม่ทั่วถึง ประชากร
เดินทางมาติดต่อราชการไม่สะดวก โดยเฉพาะตำบลไทรน้อย ตำบลไทรใหญ่ ตำบลราษฎรน์ ิยม และ
ตำบลหนองเพรางาย ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอบางบัวทองมากที่สุด จึงแบ่งท้องที่ 4 ตำบลนี้เป็น
18
กิ่งอำเภอไทรน้อย เมื่อวันที่ 1 เดือน มกราคม พ.ศ. 2491 และเมื่อมีประชากรหนาแน่นขึ้น มีความ
เจริญมากขึ้น จึงยกฐานะเป็นอำเภอไทรน้อย ในวันที่ 6 เดืน มิถุนายน พ.ศ. 2499 โดยแบ่งเขตการ
ปกครองย่อยออกเป็น 7 ตำบล และปัจจุบันแบ่งเป็น 7 ตำบล 1 เทศบาล ประกอบด้วย ตำบลไทรน้อย
ตำบลไทรใหญ่ ตำบลหนองเพรางาย ตำบลราษฎร์นิยม ตำบลขนุ ศรี ตำบลทววี ฒั นา ตำบลคลองขวาง
และเทศบาลตำบลไทรน้อย
กกกกกกก กล่าวโดยสรุป อำเภอไทรน้อยเดมิ เป็นกง่ิ อำเภอไทรน้อย ซ่งึ แยกออกมาจาก
อำเภอบางบัวทอง และภายหลังไดย้ กระดับเปน็ อำเภอไทรนอ้ ย ประกอบดว้ ย 7 ตำบล และ 1 เทศบาล ได้แก่
ตำบลไทรน้อย ตำบลไทรใหญ่ ตำบลหนองเพรางาย ตำบลราษฎร์นิยม ตำบลขุนศรี ตำบลทววี ัฒนา
ตำบลคลองขวาง และเทศบาลตำบลไทรนอ้ ย
เร่อื งท่ี 2 ที่ต้งั อำเภอไทรนอ้ ย
อำเภอไทรนอ้ ย ตง้ั อย่ทู างทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจงั หวดั นนทบุรี อยู่ในเขตปกครอง
ของจงั หวัดนนทบุรี มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
2.1 ทิศเหนือติดต่อกับตำบลสามเมือง อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
2.2 ทศิ ใต้ติดตอ่ กับตำบลบ้านใหม่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบรุ ี
และตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จงั หวัดนครปฐม
2.3 ทิศตะวนั ออกตดิ ต่อกบั ตำบลบางครู ัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
และตำบลหนา้ ไม้ อำเภอลาดหลุมแกว้ จังหวดั ปทุมธานี
2.4 ทศิ ตะวนั ตกตดิ ต่อกบั ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จงั หวดั นครปฐม
แผนทีอ่ ำเภอไทรนอ้ ย
19
เรือ่ งที่ 3 การปกครอง
กกกกกกก การปกครองของอำเภอไทรน้อย แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ดังนี้
กกกกกกก 3.1 การปกครองสว่ นภมู ิภาค แบ่งออกเปน็ 7 ตำบล 68 หมู่บ้าน ได้แก่
กกกกกกก 3.1 3.1.1 ตำบลไทรน้อย มี 11 หมบู่ ้าน
กกกกกกก 3.1 3.1.2 ตำบลราษฎร์นยิ ม มี 8 หมู่บ้าน
กกกกกกก 3.1 3.1.3 ตำบลหนองเพรางาย มี 12 หมู่บ้าน
กกกกกกก 3.1 3.1.4 ตำบลไทรใหญ่ มี 11 หม่บู ้าน
กกกกกกก 3.1 3.1.5 ตำบลขุนศรี มี 8 หม่บู ้าน
กกกกกกก 3.1 3.1.6 ตำบลคลองขวาง มี 10 หมูบ่ ้าน
กกกกกกก 3.1 3.1.7 ตำบลทววี ฒั นา มี 8 หมู่บ้าน
กกกกกกก 3.2 การปกครองส่วนท้องถนิ่ แบง่ ออกเปน็ องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบล 7 แหง่ และ
เทศบาล 1 แหง่ ได้แก่
กกกกกกก 3.1 3.2.1 องค์การบรหิ ารส่วนตำบลไทรนอ้ ย
กกกกกกก 3.1 3.2.2 องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลราษฎรน์ ิยม
กกกกกกก 3.1 3.2.3 องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลหนองเพรางาย
กกกกกกก 3.1 3.2.4 องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลไทรใหญ่
กกกกกกก 3.1 3.2.5 องค์การบริหารสว่ นตำบลขุนศรี
กกกกกกก 3.1 3.2.6 องค์การบริหารส่วนตำบลคลองขวาง
กกกกกกก 3.1 3.2.7 องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลทวีวัฒนา
กกกกกกก 3.1 3.2.8 เทศบาลตำบลไทรน้อย
กลา่ วโดยสรปุ อำเภอไทรนอ้ ยแบง่ เขตการปกครองออกเปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่
การปกครองสว่ นภูมิภาค มี 7 ตำบล 68 หม่บู ้าน และการปกครองส่วนท้องถน่ิ มีเทศบาลตำบล
1 แหง่ และองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบล 7 แหง่
เรอ่ื งท่ี 4 สภาพประชากร สภาพเศรษฐกิจ ด้านการศกึ ษา และดา้ นศาสนา
1 สภาพประชากร
4. จำนวนประชากรในอำเภอไทรนอ้ ย (ขอ้ มูลปี พ.ศ. 2561)
4.1 4.1.1 จำนวนหลงั คาเรอื น : 11,926 หลงั คาเรือน
4.1 4.1.1 จำนวนประชากร : 46,754 คน
4.1 4.1.1 จำนวนผสู้ ูงอายุ : 5,700 คน
4.1 4.1.1 จำนวนเดก็ แรกเกิด ถงึ 6 ปี : 2,970 คน
4.1 4.1.1 จำนวนผสู้ ูงอายุ ท่ีปว่ ยเปน็ โรคเรอื้ รัง : 2,849 คน
4.1 4.1.1 จำนวนสตรตี ง้ั ครรภ์ : 258 คน
4.1 4.1.1 จำนวนผูส้ งู อายุ ทช่ี ว่ ยตนเองไมไ่ ด้ : 146 คน
4.1 4.1.1 จำนวนสตรีอายุ 35 ปี ข้ึนไป : 12,144 คน
20
4.1 4.1.1 จำนวนผพู้ ิการ : 385 คนกกกกกกก
กล่าวโดยสรปุ ประชากรอำเภอไทรน้อย ข้อมูลปี พ.ศ. 2561 มีจำนวนประชากร 46,754 คน
ประกอบด้วยหลากหลายชาตพิ ันธุ์ แบ่งออกได้ 4 กลุ่ม ได้แก่ ชาวไทย ชาวไทยเชือ้ สายรามัญ (มอญ)
ชาวไทยมสุ ลมิ และชาวไทยเชื้อสายจีน
4.1 2. อาชพี ของประชากร ไดแ้ ก่
4.1 2 อาชพี หลัก ได้แก่ ทำนาการทำสวน ทำสวนผลไม้ ไม้ดอกไม้ประดับสวนผัก และมกี าร
เลี้ยงสัตว์บ้างเลก็ น้อย
4.1 2 อาชพี รอง ไดแ้ ก่ การคา้ ขาย และการรบั จ้างท่ัวไป
4.1 กล่าวโดยสรุป ประชากรประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก รองลงมาประกอบ
อาชีพการคา้ ขาย และการรับจ้างทวั่ ไป
4.1 3. สภาพเศรษฐกิจ เศรษฐกจิ ของอำเภอไทรนอ้ ยรายได้ของครัวเรือนส่วนใหญ่
มาจากการประกอบอาชพี เกษตรกรรม ได้แก่ การทำนา สถติ ิเม่อื ปี พ.ศ. 2557 ปรากฎวา่ มีรายได้
เฉล่ยี 200,664 บาท ตอ่ ครวั เรอื น พ.ศ. 2558 มีรายได้เฉลี่ย 299,221 บาท และ พ.ศ. 2559 มรี ายได้
เฉล่ีย 301,011 บาท ตามลำดบั (ขอ้ มูลโดยสำนักงานสถิตจิ ังหวัดนนทบรุ ี)
4.1 4. ด้านการศึกษา การศึกษาของอำเภอไทรนอ้ ย ประกอบด้วย
4.1 4. 4.1 โรงเรียนระดับประถมศกึ ษา ไดแ้ ก่ โรงเรียนคลองตาคลา้ ย โรงเรยี น
บา้ นคลองฝร่งั โรงเรียนชมุ ชนวดั ไทรนอ้ ย โรงเรยี นวัดไทรใหญ่ โรงเรยี นวดั เสนีวงศ์ โรงเรียน
บ้านราษฎรน์ ยิ ม จอประยูรอุปถัมป์ โรงเรียนวัดราษฎร์นิยม และโรงเรียนวัดยอดพระพิมล
4.1 4. 4.2 โรงเรยี นระดับมธั ยมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนปลายคลองขุนศรี
โรงเรียนไทรนอ้ ย โรงเรยี นราษฏร์นิยม โรงเรียนวัดสโมสร และศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย
อำเภอไทรนอ้ ย
4.1 4. 4.3ระดบั อุดมศกึ ษา ได้แก่ วิทยาลัยเทคโนโลยกี ารแพทย์ และวิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี
4.3 4.3.3 กลา่ วโดยสรปุ ดา้ นการศึกษาของอำเภอไทรนอ้ ย ประกอบด้วย โรงเรยี น
ระดบั ประถมศกึ ษา มที ั้งหมด 8 แห่ง โรงเรียนระดับมัธยมศกึ ษา มีทง้ั หมด 5 แหง่ และระดบั อุดมศกึ ษา
มีทัง้ หมด 2 แห่ง รวมมสี ถานศึกษา 15 แห่ง
4.1 5. ด้านศาสนา
4.1 5. 5.1 วดั ในอำเภอไทรนอ้ ย ได้แก่ วัดคลองขวาง วดั คลองขุนศรี วดั คลองเจ้า
วัดคลองตาคล้าย วัดไทรน้อย วัดไทรใหญ่ วัดปลายคลองขุนศรี วัดเพรางาย วัดมะสง วัดลากค้อน
วัดอว่ มออ่ งประชานฤมิต วัดยอดพระพิมล วัดราษฎร์นิยม วัดสโมสร วดั เสนวี งศ์ และสำนักสงฆ์มอญ
(รามญั )
4.1 5. 5.2 มัสยดิ ในอำเภอไทรน้อย ได้แก่ มัสยิดบญี าอลิ มุสลีมนี มัสยิดอัลฮุดาบ้าน
คลองโต๊ะนุย้
4.1 5. 5.2 กลา่ วโดยสรปุ วดั พทุ ธศาสนาในอำเภอไทรนอ้ ย มที ั้งหมด 15 แหง่
สำนักสงฆ์มอญ (รามญั ) 1 แหง่ และมสั ยดิ ทง้ั หมด 2 แหง่
21
บทที่ 5 บคุ คลสำคัญของอำเภอไทรนอ้ ย
กกก 5บคุ คลสำคญั ของอำเภอไทรนอ้ ยมี 6 คน ไดแ้ ก่ พระราชาภิมณฑ์ (เพง็ ) ขนุ ศรรี าษฎร์นยิ ม
(พร มณั ยานนท์) หม่อมแชม่ กฤดากร ณ อยุธยา พระครปู ระชาธรรมนาถ (แฉง่ ฐานังกโร)
นายปรชี า ลุประสงค์ และนายยวง เขียวนิล โดยมีความสำคัญดังนี้
กกก 51. พระราชาภิมณฑ์ เดิมชอ่ื เพ็ง เป็นบุตรหลวงพพิ ธิ ภษู า เกดิ เมือ่ พ.ศ. 2389 รชั สมัย
พระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกลา้ เจ้าอยูห่ ัว รบั ราชการตำแหน่งพนกั งานเคร่อื งเบ็ดเสร็จ ในกรมภูษามาลา
สมยั รชั กาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว เดมิ ไดด้ ำรงตำแหนง่ ปลัดเวรอย่กู รมภูษามาลา
จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นขุนทิพสมบัติ แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหมอ่ ม เลื่อนขนึ้ เป็น พระราชาภมิ ณฑ์ ได้รับพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์มงกฎสยาม
ชั้นที่ 4 ภัทราภรณ์ช้างเผือก ชั้นที่ 5 ทิพยาภรณ์เหรียญดุษฎีมาลาและเหรียญรัชฎาภิเศกมาลา
พระราชาภมิ ณฑ์ (เพ็ง) ถึงแกก่ รรมเมอ่ื วันท่ี 31 เดือน มนี าคม พ.ศ. 2440 รวมอายไุ ด้ 51 ปี
พระราชาภมิ ณฑ์ (เพง็ ) ได้ร่วมทุนกับคณะจัดตง้ั เป็นบริษัทดว้ ยเงินทุน 32,000 บาท
ขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าตขดุ คลองแยกจากคลองบางบัวทองไปทางทิศตะวันตก ผา่ นเข้าไป
ในป่ากระท่มุ มดื คลองกว้าง 6 เมตร ลึก 2.5 เมตร เป็นคลองสง่ น้ำและให้ราษฎรได้เข้าจับจองที่ดนิ
สองฝั่งคลอง เพื่อทำนาตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรง
กำหนดนโยบายขยายพ้ืนท่ีทำนาและใหร้ าษฎรไดท้ ำนา พระราชาภมิ ณฑ์ (เพ็ง) ไดด้ ำเนนิ การขุดคลอง
ตั้งแต่ พ.ศ. 2433 ครั้นถึง พ.ศ. 2440 พระราชาภิมณฑ์ (เพ็ง) ถึงแก่กรรม บริษัทขุดคลองท่ี
พระราชาภิมณฑ์ (เพ็ง) และคณะก่อตั้งขึ้น ได้ดำเนินการขุดคลองต่อมาจนถึง พ.ศ. 2442 ขุดถึง
บริเวณวัดยอดพระพิมล ในปัจจุบัน และยุติการขุดคลองเมื่อ พ.ศ. 2442 คลองที่พระราชาภิมณฑ์
(เพ็ง) ขุดขึ้นนี้ได้นำบรรดาศักดิ์ของพระราชาภมิ ณฑ์ (เพ็ง) มาเป็นชือ่ คลอง แต่ต่อมาภายหลงั ทาง
ราชการโดยกรมชลประทานมีการเขียนชื่อคลองว่าคลองพระราชาพิมล แต่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า
คลองพระพิมล
ปัจจุบันมีราษฎรที่ทำประโยชน์ที่ดินสองฝั่งคลองน้ีเป็นจำนวนมากเกิดเป็นชุมชนใหญ่
ตามคลองและบริเวณใกลเ้ คียง เปน็ ทต่ี ั้งอำเภอบางบวั ทอง และอำเภอไทรนอ้ ย จังหวดั นนทบรุ ี ตอ่ มา
มีการขุดคลองพระราชาพิมลไปบรรจบแม่น้ำท่าจีนที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม และขุดคลอง
ลากค้อนแยกจากคลองพระราชาพิมลไปบรรจบคลองพระยาบันลือ ที่อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัด
พระนครศรีอยธุ ยา ราษฎรทั้งในจังหวัดนนทบรุ ี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดพระนครศรอี ยุธยา ได้ใช้
ประโยชน์ทั้งการเกษตรและการคมนาคม ตั้งแต่ มีการขุดคลองจนถึงปัจจบุ ัน ผลงานของพระราชาภิ
มณฑ์ (เพ็ง) ได้สร้างประโยชน์อย่างมหาศาล แก่ผู้คนในอำเภอไทรน้อย อำเภอบางบัวทอง จังหวัด
นนทบุรี จังหวดั นครปฐม และจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา มาจนถงึ ปจั จบุ ันน้ี
กกกกกกก กล่าวโดยสรุป พระราชาภมิ ณฑ์ (เพ็ง) เปน็ ผู้ทที่ ำคุณประโยชน์แก่ประชาชนใน
อำเภอไทรน้อยเป็นอย่างมาก โดยได้ร่วมทุนกับคณะจัดตั้งเป็นบริษัทด้วยเงินทุน 32,000 บาท
ขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าตขดุ คลองแยกจากคลองบางบัวทอง ไปทางทิศตะวันตกผา่ น
ป่ากระทมุ่ มืด เป็นคลองสง่ น้ำให้ประชาชนเข้าไปจบั จองทดี่ นิ สองฝั่งคลองประกอบอาชีพเกษตรกรรม
จนขยายเปน็ ชุมชนเปน็ จำนวนมาก
22
2. ขนุ ศรีราษฎร์นยิ ม (พร มัณยานนท)์ เป็นชาวไทยเชอ้ื สายมอญ และเป็นผู้นำคนแรก
ของชมุ ชนปา่ กระทุ่มมืด ต่อมาในปี พ.ศ. 2445 ไดย้ กฐานะชมุ ชนทางทศิ ตะวันออกและทิศเหนือของ
ป่ากระทุ่มมืดเป็นตำบลไทรใหญ่ อยู่ในเขตปกครองของอำเภอบางบัวทอง ต่อมานายพร มัณยานนท์
ไดร้ บั การแต่งตั้งให้เปน็ กำนนั คนแรกของตำบลไทรใหญ่
นายพร มัณยานนท์ ได้รับราชการดว้ ยความขยันและทำประโยชน์แก่ราษฎรที่เข้าจับ
จองที่ดินที่ตำบลไทรใหญ่ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนศรีราษฎร์นิยม และเป็นต้นสกุล
มัณยานนท์ เพื่อเป็นอนุสรณ์คุณงามความดีของขุนศรีราษฎร์นิยม (พร มัณยานนท์) คลองที่
ขุนศรีราษฎร์นิยมได้ขุดเชื่อมคลองพระราชาพิมล และคลองพระยาบันลือ จึงใช้ชื่อว่า คลองขุนศรี
ส่วนคลองห้าร้อยที่ขุดต่อไปนั้นได้นำบรรดาศักดิ์ของขุนศรีราษฎร์นิยม เป็นชื่อคลองเรียกว่าคลอง
ราษฎร์นยิ ม เมอื่ มีการแยกพื้นที่บางสว่ นของตำบลไทรใหญ่ ยกฐานะเปน็ ตำบล ไดน้ ำบรรดาศักด์ิของ
ขุนศรรี าษฎรน์ ิยมเปน็ ชอ่ื ของตำบลท่ีต้งั ขนึ้ คือตำบลราษฎรน์ ิยมเช่นเดยี วกบั นามวัดในชุมชนท่ีเรียกว่า
วดั หา้ รอ้ ย ไดน้ ามวัดใหมว่ ่าวัดราษฎรน์ ิยม ตามบรรดาศักดิ์ของขนุ ศรรี าษฎร์นิยม (พร มณั ยานนท)์
กกกกกกก กล่าวโดยสรุป ขุนศรีราษฎร์นิยม (พร มัณยานนท์) ชาวไทยเชื้อสายมอญที่ได้เข้ามา
จบั จองทำประโยชนใ์ นทด่ี ินป่ากระท่มุ ต่อมานายพร มัณยานนท์ ไดร้ บั การแตง่ ตง้ั ให้เปน็ กำนันคนแรก
ของตำบลไทรใหญ่ และมีความขยันและทำประโยชน์แก่ราษฎรที่เข้าจับจองท่ีดินที่ตำบลไทรใหญ่
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนศรีราษฎร์นิยม และเป็นต้นสกุล มัณยานนท์ เพื่อเป็นอนุสรณ์
คุณงามความดีของขนุ ศรีราษฎรน์ ิยม
23
3 หมอ่ มแชม่ กฤดากร ณ อยธุ ยา
หมอ่ มแชม่ กฤดากร ณ อยุธยา (คนที่ 2 จากซ้าย)
หม่อมแช่ม กฤดากร ณ อยุธยา เป็นกุลสตรีที่ได้สร้างคุณประโยชน์แก่ประชาชนจำนวน
มากในอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี และอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เป็นผู้ที่ขุดคลองส่งน้ำ
ให้แก่ราษฎรในจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดนครปฐม ได้มีน้ำใช้ในการทำนามาตั้งแต่ประมาณ
พ.ศ. 2455 จนถงึ ปัจจุบนั
หม่อมแช่ม กฤดากร ณ อยุธยา เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญ เป็นบุตรีของนายแก้ว
นางทองอยู่ เกิดท่บี ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวดั สมทุ รสาคร เมอ่ื วนั พธุ เดอื น 4 ปีมะเมีย พ.ศ. 2413
กกกกกกก หม่อมแช่ม กฤดากร ณ อยุธยา เป็นผู้ที่มศี รัทธาในพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ปกติจะ
เป็นผู้เครง่ ครดั ในการปฏบิ ัติธรรม จงึ ได้บริจาคทรพั ย์เพอื่ ขดุ คลองเชอ่ื มคลองขนุ ศรี อำเภอไทรน้อย
จังหวัดนนทบุรี และคลองลำลาดสวาย ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
เมื่อประมาณ พ.ศ. 2445 เพื่อให้ผู้คนที่เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญจากจังหวัดสมุทรสาคร และจาก
อำเภอพระประแดง จงั หวัดสมทุ รปราการ ทไ่ี ดเ้ ขา้ มาจบั จองบกุ เบกิ ปา่ กระท่มุ มดื ได้มีน้ำเพยี งพอใน
การทำนา อีกทั้งได้ใช้ในการคมนาคมทางเรือด้วย เมื่อขุดคลองมีราษฎรอพยพตั้งหลักแหล่งทำ
ประโยชน์ในปา่ กระทุม่ มืดมากข้นึ จนเป็นชมุ ชนชาวไทยเช้ือสายมอญท่ีมขี นาดใหญ่ หม่อมแช่มจึงได้
บริจาคที่ดินริมคลองที่ขุดนั้น จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 15 ไร่ เพื่อสร้างวัดในชุมชนเมื่อ พ.ศ. 2445
ผู้คนในชุมชนบ้านกระทุ่มมืด บ้านบึงลาดสวาย บ้านคลองขุนศรี ทั้งราษฎรในจังหวัดนนทบุรี และ
จังหวัดนครปฐมได้รับประโยชน์มหาศาลจากคลองท่ีหมอ่ มแช่มไดข้ ุดข้นึ จงึ ได้นำช่ือของหมอ่ มแช่มมา
เป็นชื่อคลองเรียกว่าคลองหม่อมแช่ม ชาวบ้านเรียกว่าคลองหม่อม ส่วนวัดที่ได้สร้างขึ้นในที่ดินท่ี
หม่อมแช่มได้บริจาคไว้นั้น ได้ก่อสร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์อยู่ประจำที่วัด เป็นวัดใหญ่วัดหนึ่งในชุมชน
24
ชาวบ้านได้นำชื่อของหม่อมแช่มมาเป็นชื่อของวัดเช่นกันว่าวัดหม่อมแช่มหรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า
วดั หมอ่ ม ชมุ ชนท่ีอยู่สองฝงั่ คลองหม่อมแช่มเรียกว่าบา้ นคลองหม่อมแช่ม สมเด็จพระมหาสมณเจ้า
กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้เสด็จมาประกอบพิธียกช่อฟ้าศาลาการเปรียญและฉลองศาลาการ
เปรียญวัดหม่อมแชม่ เมื่อ พ.ศ. 2463 ทรงเห็นชาวไทยเชื้อสายมอญมาร่วมงานกันอย่างมากมายจงึ
ทรงประทานนามวัดให้ใหม่ว่าวัดสโมสรและได้ใช้เปน็ นามของวัดมาจนถึงทกุ วนั นี้
กกกกกกก หมอ่ มแชม่ กฤดากร ณ อยุธยา ได้ทำคุณประโยชนอ์ เนกอนันต์แก่ราษฎรใน
จังหวัดนนทบุรีและจังหวัดนครปฐม โดยเฉพาะอย่างยิ่งราษฎรในอำเภอไทรน้อยที่ได้รับประโยชน์
อยา่ งมากในการประกอบอาชีพการเกษตร ซ่งึ ในปจั จุบันนี้มีการปลกู พืช นอกจากการทำนา เชน่ การ
ปลูกกระเจี๊ยบมอญ ซึ่งชาวบ้านคลองหม่อมแช่มปลูกกันมาก และเป็นสินค้าส่งออกไปจำหน่ายท่ี
ประเทศญี่ปุ่น สร้างรายได้จำนวนมากให้กับชุมชนเป็น ทั้งนี้เพราะชาวบ้านได้อาศัยใช้น้ำที่มีอย่าง
เพียงพอตลอดปีจากคลองที่หม่อมแช่ม กฤดากร ณ อยุธยา ได้ให้ขุดไว้ นอกจากนั้น วัดหม่อมแช่ม
หรอื วดั สโมสรทีห่ มอ่ มแช่ม กฤดากร ณ อยธุ ยา ได้บรจิ าคที่ดินใหส้ รา้ งวดั และได้อุปถัมภใ์ นการสร้าง
วดั ข้ึนในชุมชนแห่งนี้ ได้เปน็ ศูนย์รวมจติ ใจของชาวบา้ นคลองหม่อมแชม่ เปน็ อย่างดียิง่ อีกท้งั ยังไดเ้ ป็น
แหล่งการศกึ ษาของเยาวชนในชมุ ชนให้ได้รับการศกึ ษาจากโรงเรยี นวัดสโมสร ที่สร้างขึน้ อีกดว้ ย
กกกกกกก กล่าวโดยสรุป หม่อมแช่ม กฤดากร ณ อยุธยา เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญ ได้ทำ
คุณประโยชน์อย่างมากแก่ราษฎรในจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดนครปฐม ในการประกอบอาชีพ
การเกษตร ซึ่งในปจั จุบนั นมี้ ีการปลกู พชื นอกจากการทำนา เชน่ การปลูกกระเจยี๊ บมอญ ซง่ึ ชาวบ้าน
คลองหม่อมแช่มปลูกกนั มาก เป็นสินค้าส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น สร้างรายได้จำนวนมาก
ให้กับชมุ ชน นอกจากนั้นได้บรจิ าคทีด่ ินใหส้ ร้างวดั และไดอ้ ุปถมั ภ์ในการสรา้ งวัดข้ึนในชมุ ชน อีกท้ังยงั
ไดเ้ ปน็ แหล่งการศกึ ษาของเยาวชนในชมุ ชนให้ไดร้ ับการศกึ ษาจากโรงเรยี นวัดสโมสรท่ีสรา้ งขึ้นอีกด้วย
กกกกกกก4. พระครปู ระชาธรรมนาถ (แฉง่ ฐานังกโร)
25
กกกกกกก พระครูประชาธรรมนาถ (แฉ่ง ฐานังกโร) นามเดิม แฉ่ง ห้วยฤทัย เกิดเมื่อวันที่ 24
กันยายน พ.ศ. 2457 ที่ตำบลท่าข้าม อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันเป็นแขวงท่าข้าม
เขตบางขนุ เทียน กรงุ เทพมหานคร) บรรพชาเปน็ สามเณรเม่อื วันท่ี 1 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2470
ขณะมีอายุ 14 ปี สอบได้นักธรรมเอกขณะที่ยังเป็นสามเณร อายุครบ 20 ปี พ.ศ. 2476 จึงได้
อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโคก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พระมหาอินทร์ วัดโคก เป็น
อุปัชฌาย์ พระมหาหยวก วัดโคก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการพวง จุฬาโร วัดราษฎร์นิยม
อำเภอไทรนอ้ ย จงั หวัดนนทบรุ ี เปน็ พระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ฐานังกโร
กกกกกกก พระครูประชาธรรมนาถ (แฉ่ง ฐานังกโร) เป็นพระเถระที่มวี ิสัยทัศนก์ ว้างไกล ในเรื่อง
การศึกษาของเยาวชน การพัฒนาชุมชนและการพัฒนาอาชีพของราษฎรในอำเภอไทรน้อย ผลงาน
ของพระครูประชาธรรมนาถ เปน็ ประโยชนม์ หาศาลแกผ่ คู้ นในอำเภอไทรนอ้ ยมาจนถงึ ปจั จบุ ัน ผลงาน
ที่สำคัญ คือ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมทีส่ ำนักเรียนวัดราษฎร์นิยม ตั้งแต่ขณะเป็นสามเณรจนถึง
พ.ศ. 2520 รวมระยะเวลาท่ีปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ครสู อนพระปริยัติธรรมประมาณ 47 ปี
กกกกกกก ผลงานด้านการสนับสนุนการศึกษาของเยาวชน วัดราษฎร์นิยมมีที่ดินจำนวน 150 ไร่
พระครปู ระชาธรรมนาถ ไดใ้ ห้ทางราชการ สรา้ งสถานศึกษาในทด่ี นิ ของวัด ดงั นี้
กกกกกกก พ.ศ. 2502 ให้ใชท้ ี่ดินจำนวน 12 ไร่ สรา้ งโรงเรียนชมุ ชนวัดราษฎร์นิยม สำหรับเด็กเล็ก
และนักเรยี นระดบั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1–6
กกกกกกก พ.ศ. 2519 ให้ใช้ทดี่ นิ จำนวน 40 ไร่ สร้างโรงเรียนมัธยมราษฎร์นิยม สำหรบั นักเรียน
ระดับมัธยมศึกษาปที ี่ 1–6
กกกกกกก พ.ศ. 2536 ใหใ้ ช้ท่ีดนิ จำนวน 57 ไร่ สรา้ งวทิ ยาลัยการอาชีพไทรน้อย ตอ่ มาเปลี่ยนชื่อ
เป็นวิทยาลัยเทคนิคนนทบรุ ี
กกกกกกก ผลงานทางด้านการพัฒนาชุมชน พระครูประชาธรรมนาถเป็นผู้นำในการพัฒนา
สาธารณูปโภคในตำบลราษฎร์นิยม เป็นประโยชน์แก่ผู้คนในอำเภอไทรน้อย ทั้งทางการประกอบ
อาชพี และความอยู่ดีมีความสขุ ของชาวบ้านจำนวนมากจนถึงปัจจุบนั น้ี ผลงานท่สี ำคัญในการพัฒนา
ชุมชน คือ การให้ชาวบา้ นเลิกทำนาหว่าน โดยให้เปลี่ยนเปน็ ทำนาดำแทน เนื่องจากการทำนาหวา่ น
ได้ผลผลิตต่ำ ทั้งมีหญ้าขึ้นแย่งอาหารข้าวในนาหว่านจำนวนมาก จึงได้แนะนำให้ชาวนา ทำนาดำ
แทนการทำนาหว่านเพราะข้าวนาดำให้ผลผลิตสูงกว่า และป้องกันการรบกวนของหญ้าได้ดีกว่า
แต่ต้องมนี ้ำเพยี งพอจึงต้องขดุ คลองส่งน้ำ
กกกกกกก โครงการขุดคลอง การทำนาดำต้องใช้น้ำจำนวนมาก พระครูประชาธรรมนาถจึงได้
ดำเนินการขุดคลองเพื่อให้น้ำจากคลองขุนศรีและคลองลากค้อนได้ไหลเข้าไปในชุมชนราษฎร์นิยม
ใหม้ ปี รมิ าณน้ำเพียงพอแกก่ ารทำนาดำ คลองท่ขี ดุ ข้นึ เพือ่ ประโยชน์ดังกลา่ วมี 3 คลอง คอื
คลองลดั ปน้ั ยอด คลองประกอบศรีราษฎร์ และคลองนาหมอน
กกกกกกก โครงการสูบน้ำเข้านา เมื่อราษฎรตำบลราษฎร์นิยมเปลี่ยนจากการทำนาหว่านมา
ทำนาดำ การทำนาดำได้แพรไ่ ปตลอดท้ังอำเภอไทรนอ้ ย ตอ่ มามกี ารทำนาปีละ 2 ครง้ั คอื การทำนาปี
และการทำนาปรัง ปรมิ าณนำ้ ท่ีตอ้ งใชท้ ำนามมี ากย่ิงขนึ้ โดยเฉพาะการทำนาปรังในช่วงต้น ชาวบ้าน
ได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่มีน้ำเพียงพอในการทำนา คลองราษฎร์นิยมและคลองอื่น ๆ
ท่มี อี ยู่ในตำบลคลองราษฎร์นิยมแห้ง ไมม่ ีนำ้ พระครปู ระชาธรรมนาถ ดำเนินการตงั้ เครื่องสบู น้ำ
26
ด้วยการสูบน้ำจากคลองลากค้อนและคลองขุนศรี ซึ่งเป็นคลองใหญ่มีน้ำพอสูบเข้าคลองเล็ก ๆ ได้
ชาวนาจะต้องช่วยค่าใช้จ่ายในการสูบ กำหนดเวลาและวิธีการในการสูบน้ำเข้านา เพื่อให้ชาวนา
ได้มีน้ำปลูกข้าวอย่างทั่วถึงและเสมอภาคกัน ชาวบ้านได้ประโยชน์จากการสูบน้ำ สามารถทำนา
ไดป้ ลี ะ 2 ครง้ั
กกกกกกก นำไฟฟา้ สชู่ มุ ชนราษฎรน์ ิยม ตำบลราษฎรน์ ยิ มเร่ิมมไี ฟฟ้าใช้ในหมู่บ้านตา่ ง ๆ
ดว้ ยความอุตสาหะของพระครูประชาธรรมนาถ ท่ีได้ประสานงานกับนายจำเนียร พรหมมา พฒั นากร
ตำบลราษฎร์นยิ ม อำเภอไทรน้อย เพอ่ื นำไฟฟ้าเข้าสหู่ ม่บู า้ นต่าง ๆ ในตำบลราษฎรน์ ิยม ชาวตำบล
ราษฎร์นยิ ม จงึ ไดม้ ีไฟฟ้าใชม้ าจนทกุ วันน้ี
กกกกกกก ทำถนนเข้าหมบู่ ้าน โครงการพฒั นาชุมชนในตำบลราษฎร์นยิ ม ไดด้ ำเนินการมาอย่าง
ต่อเน่อื ง ภายใตก้ ารดำเนินงานของพระครูประชาธรรมนาถ ได้ให้ชาวบา้ นหมู่ท่ี 3 ฝัง่ ตะวันตกทำถนน
ซงึ่ มีความยาวประมาณ 320 เมตร เจา้ ของทด่ี นิ ทุกรายได้ร่วมกันบรจิ าคท่ดี นิ ตามแนวที่ทำถนนผา่ น
และรว่ มทำสะพานขา้ มคลองลัดหลงั วดั ราษฎร์นิยม เพ่ือให้ชาวบ้านได้เดินทางมาทำบุญที่วัด
ราษฎร์นยิ ม ได้สะดวกยิ่งขน้ึ
กกกกกกก การผลติ ถังส้วม อา่ งล้างเท้า เพ่อื รณรงค์ให้ชาวบ้านได้มีสุขอนามัยที่ดี โดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งการรณรงคใ์ ห้ชาวบา้ นทุกครอบครัวมีสว้ ม พระครปู ระชาธรรมนาถ จึงไดใ้ หพ้ ระสงฆแ์ ละสามเณร
ในวดั ท่ีมีเวลาช่วยกันหล่อถงั สว้ มและอา่ งลา้ งเท้า ใหช้ าวบ้านซอื้ ไปใชใ้ นราคาถกู
กกกกกกก สร้างสถานีอนามัยเพ่อื ประโยชนข์ องชาวบ้าน พระครปู ระชาธรรมนาถไดร้ ับบรจิ าคทดี่ ิน
จากนายยุด นางครุ นามหอม จำนวน 5 ไร่ ในปี พ.ศ. 2518 ได้มอบให้กระทรวงสาธารณสุข
ดำเนินการสร้างสถานีอนามัยวดั ราษฎรน์ ยิ ม
สร้างประปาในหมู่บ้าน พระครูประชาธรรมนาถได้จ้างชา่ งเจาะน้ำบาดาล และสร้างถัง
เก็บนำ้ เพอ่ื แจกจา่ ยน้ำให้ชาวบา้ นไดใ้ ช้ทุกบ้านทีส่ ามารถส่งน้ำถงึ ได้
การส่งเสริมนิสัยประหยัดและการรู้จักออมเงิน พระครูประชาธรรมนาถ นอกจาก
สนับสนุนและแนะนำให้ชาวบ้านขยันทำการเกษตรเพื่อเพิ่มรายได้ในครัวเรือนแล้ว ยังได้แนะนำ
ชาวบ้านให้มีความประหยัดอดออมด้วย ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ชาวบ้านตั้งกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อให้
เป็นธนาคารของประชาชนและให้ชาวบ้านรูจ้ ักการประหยัดและช่วยเหลือกันตามหลักคิหิปฏิบัติใน
คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ให้พุทธศาสนิกชนได้บำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์แก่ตนเอง
และประโยชน์ตอ่ ผู้อ่นื ด้วย
ส่งเสริมชาวบ้านให้รู้จักตั้งฉางข้าวในชุมชน ผู้คนในตำบลราษฎร์นิยมเกือบทั้งหมด
เป็นชาวนา แต่ละปมี ผี ลผลิตขา้ วของชาวบา้ นจำนวนมาก ฉางเก็บขา้ วจงึ มีความจำเป็นทชี่ าวบ้านต้อง
ใช้เก็บข้าว พระครูประชาธรนาถจึงได้อนุญาตให้ชาวบ้านได้ใช้ที่ดินของวัดสร้างฉางข้าว
เพอื่ ประโยชน์ของชาวบ้าน
พระครูประชาธรรมนาถ นอกจากจะไดพ้ ฒั นาสง่ิ ที่เป็นสาธารณประโยชน์ทงั้ ท่วี ัด และ
ภายในชุมชนอย่างมากแลว้ การพฒั นาจติ ใจของชาวบ้านเป็นเรอ่ื งแรกที่ต้องทำ ดังนน้ั แนวความคิด
และวิสัยทัศน์ที่เด่นชัด คือ การพัฒนาคน โดยท่านมีแนวความคิดที่ชัดเจนว่า การพัฒนาคนต้องทำ
ก่อนการพัฒนาส่งิ อนื่ ใด
27
พระครปู ระชาธรรมนาถ มรณภาพเมอ่ื วันท่ี 9 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2538 อายุได้ 80 ปี
11 เดอื น 15 วนั พรรษา 60
กล่าวโดยสรุป พระครูประชาธรรมนาถ (แฉ่ง ฐานังกโร) ได้ทำคุณประโยชน์แก่ผู้คนใน
อำเภอไทรน้อย เช่น ด้านการสนับสนุนการศึกษาของเยาวชน ด้านการพัฒนาชุมชน โครงการ
ขุดคลอง โครงการสูบน้ำเข้านา นำไฟฟ้าสู่ชุมชนราษฎร์นิยม ทำถนนเข้าหมู่บ้าน การผลิตถังส้วม
อ่างลา้ งเท้า เพ่อื รณรงคใ์ ห้ชาวบ้านได้มีสุขอนามยั ที่ดี สรา้ งสถานอี นามัย เพอ่ื ประโยชน์ของชาวบ้าน
สร้างประปาในหมู่บ้าน การส่งเสริมนิสัยประหยัดและการรู้จักออมเงิน ส่งเสริมชาวบ้านให้รู้จักตั้ง
ฉางขา้ วในชุมชน และงานสาธารณะสงเคราะหอ์ ื่น ๆ
กกกกกกก5. นายปรชี า ลปุ ระสงค์
กกกกกกก นายปรีชา ลุประสงค์ เดิมชื่อทองใบ เกิดเมื่อวันที่ 6 เดือน เมษายน พ.ศ. 2446
คลอง 14 อำเภอหนองจอก จังหวัดมีนบุรี (ปัจจุบันเป็นเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร) เป็นบุตร
ของนายบัว นางสุ่น ลุประสงค์ เมื่อเยาว์วัยได้เรียนหนังสือที่วัดคลองหนองจอก จังหวัดมีนบุรี
อายุ 20 ปี ได้อุปสมบทที่วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เป็นเวลา 4 พรรษา เมื่ออายุ 26 ปี
ได้สมรสกับนางสาวผิน (ยุพิน) ศรีลาคำ ธิดาของผู้ใหญ่สุด ศรีลาคำ ผู้ใหญ่บ้านคนแรกของตำบล
ราษฎรน์ ยิ ม และได้ประกอบอาชีพทำนาทต่ี ำบลราษฎร์นยิ ม อำเภอไทรนอ้ ย (ขณะน้นั เปน็ อำเภอ
บางบัวทอง)
กกกกกกก นายปรีชา ลุประสงค์ เป็นเกษตรกรที่ศึกษาค้นคว้าพัฒนากรรมวิธีการปลูกข้าวเป็น
อย่างดี พ.ศ. 2481 ไดน้ ำขา้ วเขา้ ประกวดและได้รับรางวัลชนะเลิศของกระทรวงเกษตราธิการในนาม
นายทองใบ ลปุ ระสงค์ ซง่ึ เปน็ ชอื่ เดมิ รางวัลทไ่ี ดร้ บั เป็นขนั น้ำพานรอง พันธุข์ ้าวที่เข้าประกวดได้รับ
รางวัลชนะเลิศ คือพันธุ์ข้าวนางตานี ต่อมาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสหกรณ์การเกษตร
อำเภอไทรน้อย ต่ออีกจนมอี ายุ 80 ปี จึงลาออก เนื่องจากชราภาพ
28
กกกกกกก พ.ศ. 2510 นายปรีชา ลุประสงค์ ไดร้ บั การคัดเลือกจากกรมสง่ เสรมิ สหกรณใ์ หไ้ ปศึกษา
ดูงานการเกษตรที่ประเทศไต้หวัน ในนามของชาวนาจากประเทศไทย นายปรีชา ลุประสงค์
เป็นเกษตรกรรนุ่ แรก ๆ ในอำเภอไทรนอ้ ยที่ไดเ้ รมิ่ ทำนาปีละ 2 ครง้ั ซึง่ ได้ผลผลติ ดีและเป็นผู้ริเริ่มการ
ทำไรน่ าสวนผสม ซึง่ แตเ่ ดิมชาวนาจะไม่ปลูกไม้ผลอนื่ ๆ นอกจากทำนา
กกกกกกก นายปรีชา ลุประสงค์ ได้ทุ่มเทชวี ติ ของตนเปน็ เวลายาวนานกว่า 30 ปี เพื่อการพัฒนา
สหกรณ์การเกษตรของชาวอำเภอไทรน้อย ได้สร้างผลงานที่เป็นประโยชน์แก่เกษตรกรและงานของ
สหกรณ์เป็นอย่างมาก การใช้ชีวิตนอกจากงานการเกษตรและงานสหกรณ์แล้วนายปรีชา ลุประสงค์
ไดช้ ่วยเหลอื งานของวดั ราษฎร์นิยม เปน็ ครสู อนนกั ธรรมและเป็นกรรมการสอนนักธรรม วัด
ราษฎรน์ ิยม เป็นกรรมการสอบนักธรรมของพระภิกษุสามเณรวัดราษฎร์นิยม เปน็ ผทู้ ่ีเคร่งครัดปฏิบัติ
ตนยึดธรรมะของ พระบรมศาสดาสมั มาสัมพุทธเจ้าเป็นหลกั ในการดำเนนิ ชวี ิตตลอดเวลา จนถึงแก่
กรรมเม่อื วนั ท่ี 28 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2535 รวมอายุ 98 ปี 5 เดอื น 22 วัน
กกกกกกก กล่าวโดยสรุป นายปรีชา ลุประสงค์ เป็นชาวนาตำบลราษฎร์นิยม อำเภอไทรน้อย
จังหวัดนนทบุรี เป็นผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งในอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี โดยได้ทำ
คุณประโยชน์ด้านการเกษตรอย่างมากแก่ชาวนา ได้รับการคัดเลือกจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้ไป
ศึกษาดูงานการเกษตรที่ประเทศไต้หวันในนามของชาวนาจากประเทศไทย เป็นผู้ริเร่ิมในการปลูก
พืชผักที่จำเปน็ ต้องใชเ้ ปน็ อาหารประจำวนั และปลูกผลไมอ้ ืน่ ๆ และเป็นผู้จัดตงั้ โรงสขี ้าวของสหกรณ์
และได้รับความชว่ ยเหลอื จากรัฐบาลประเทศนิวซแี ลนด์
กกกกกกก6. นายยวง เขยี วนิล
กกกกกกก นายยวง เขยี วนิล ปราชญช์ าวบา้ นดเี ดน่ เกดิ วันที่ 8 เดือน มกราคม พ.ศ. 2495
ท่ีตำบลบางกระสอ อำเภอเมอื ง จังหวัดนนทบุรี สำเร็จการศึกษาระดับ ปวช. จากโรงเรยี นชา่ งกล
นนทบรุ ี ระดับ ปวส. จากวทิ ยาลัยเทคนิคนนทบรุ ี และระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาราชภัฏพระนคร
คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ สาขาพฒั นาชมุ ชน
29
กกกกกกก นายยวง เขยี วนลิ เคยทำงานรบั ราชการและรบั เหมากอ่ สร้าง แต่ไม่ประสบความสำเรจ็ จน
เกิดความเครียดและหลงผิดแก้ปญั หาด้วยการดม่ื สรุ าจนติดสรุ าเรือ้ รัง ในปี พ.ศ. 2537
นายยวง เขียวนิล ได้เข้ารับการรักษาจนสามารถเลิกสุราได้ จึงตัดสินใจใช้ชีวิตตามแนวพระราชดำริ
ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราชบรมนาถบพิต ด้วยการศึกษา
คน้ คว้าในเรื่องทฤษฎีใหม่ และดูงานโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำรหิ ลายแหง่ ใชห้ ลกั 3 ศาสตร์
มาประกอบการวางแผนและดำเนนิ กิจกรรมการเกษตรอย่างเป็นข้ันเป็นตอน ได้แก่ ศาสตร์พระราชา
ศาสตร์ภมู ิปัญญาและศาสตร์สากล ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการดำเนินชีวิต มาก
ว่า 20 ปี โดยวางแผนทำการเกษตร บนที่ดินของตนเอง ขยายพื้นที่ตามกำลังความพร้อมจนดำเนนิ
กิจกรรมเกษตรแบบผสมผสานเต็มพื้นที่ 44 ไร่ สร้างภูมิคุ้มกันโดยจัดแบ่งพื้นที่ทำการเกษตรตาม
หลกั การของเกษตรทฤษฎีใหม่ เพ่ือทำนา ขุดบ่อกักเกบ็ นำ้ และเล้ียงปลาหลายชนดิ ทำสวนผสมผสาน ปลูก
ผลไม้ และพืชผักสวนครัวหลากหลายที่ให้ผลผลิตสลับกันตลอดทั้งปี และสร้างที่อยู่อาศัยรวมถึงจุด
เรียนรู้ มีการจัดทำบัญชีครัวเรอื น เพ่ือควบคมุ ค่าใช้จ่ายและต้นทุนการผลิต จนสามารถปลดหน้ีสินได้ มีเงินออม
ไว้ใชย้ ามฉุกเฉินพึ่งพาตนเองได้ ครอบครัวอยู่ดีมสี ุข ลดความเส่ียงเรื่องผลผลติ ทางการเกษตร
กกกกกกก นายยวง เขียวนิล ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนิน
ชีวิตประจำวันและการทำการเกษตรทำให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และผ่าน
วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งเหตุอุทกภัยและวิกฤตภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง ลดผลกระทบจากความผันผวน
ทง้ั จากภัยธรรมชาตแิ ละราคาพืชผล โดยคดิ ค้นกจิ กรรมในการทำการเกษตรและประยุกต์ใช้ตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างหลากหลาย ได้แก่ การวางผังแปลง และทำ
การเกษตรแบบผสมผสาน การเลี้ยงกบคอนโด โดยใช้ยางรถยนต์ การประดิษฐ์อุปกรณ์ดักแมลงวันทองอย่างง่าย
การประดิษฐ์อุปกรณ์ห่อผลไม้จากท่อ PVC การใช้ประโยชน์จากสมุนไพรในการทำการเกษตร
จนสามารถเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติแก่ชมุ ชนและเกษตรกรโดยทั่วไป เนื่องจากเหน็ ผลลัพธ์เปน็ ท่ี
ประจักษ์ว่าการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสามารถไปปฏิบตั ิใช้ได้จริง ทำให้
เกษตรกรเกดิ การยอมรบั และหันมาปฏบิ ัติตาม
กกกกกกก นายยวง เขยี วนลิ ได้ทำการถา่ ยทอดประสบการณแ์ ละวธิ กี ารทำการเกษตรตามแนวของ
การพ่งึ พาตนเองตามทไ่ี ด้ทำการศึกษาและคิดค้น โดยสร้างฐานการเรยี นรู้ในพื้นทข่ี องตนเอง เพื่อเป็น
แหล่งเรียนรู้การทำการเกษตรตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นวิทยากรถ่ายทอด
ความรใู้ ห้กับเกษตรกร นักเรยี น นักศึกษา ทง้ั ชาวไทยและชาวตา่ งประเทศ เป็นอาสาสมัครให้กับส่วน
ราชการต่าง ๆ ช่วยถ่ายทอดความรู้โดยไม่หวังผลตอบแทน มีการรวมกลุ่มและสร้างเครือข่าย
เชื่อมโยงระหว่างชุมชนทั้งในจังหวัด และระหว่างจังหวัดเพื่อช่วยเหลือในการดำเนินกิจกรรมทาง
การเกษตร และยังมีการเผยแพรผ่ ลงานผ่านสอื่ ต่าง ๆ อกี จำนวนมาก
กกกกกกก นายยวง เขียวนลิ มีผลงานดเี ดน่ ได้รบั การประกาศเกยี รติคุณจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ อาทิ
พ.ศ. 2540 ไดร้ บั รางวัลเกษตรกรดีเดน่ สาขาไร่นาสวนผสม
พ.ศ. 2541 ได้รับรางวัลผนู้ ำอาสาพฒั นาชุมชนดเี ดน่
พ.ศ. 2542 ได้รับรางวลั สงิ หท์ อง หมอดินอาสาดีเดน่ และผู้นำอาชีพกา้ วหนา้
พ.ศ. 2549 ไดร้ ับรางวัลครบู ญั ชีดเี ด่นของกรมตรวจบญั ชสี หกรณ์ กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์
30
พ.ศ. 2550 ไดร้ ับรางวลั ท่ี 1 โครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดำริทฤษฎีใหม่
ของภาคกลาง
พ.ศ. 2551 ไดร้ ับรางวัลเศรษฐกิจพอเพียงจากสำนกั งานเกษตรจังหวัดนนทบรุ ี
พ.ศ. 2560 ปราชญเ์ กษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญเ์ กษตรเศรษฐกจิ พอเพยี ง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พ.ศ. 2562 ได้รบั รางวลั ศิษย์เกา่ ดีเด่นจากมหาวทิ ยาลัยราชภัฎพระนคร
พ.ศ. 2562 ไดป้ รญิ ญากิตตมิ ศกั ด์ิ ศิลปศาสตรม์ หาบญั ฑิต สาขาพฒั นาชุมชน
มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
กล่าวโดยสรปุ นายยวง เขียวนลิ ได้สรา้ งคณุ ประโยชน์แก่อำเภอไทรน้อยและประเทศ
คอื สร้างฐานการเรยี นรใู้ นพื้นท่ขี องตนเองเพ่อื เป็นแหล่งเรยี นรกู้ ารทำการเกษตรตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง และเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกร นักเรียน นักศึกษา ทั้งชาวไทย
และชาวต่างประเทศ เป็นอาสาสมัครให้กับส่วนราชการต่าง ๆ ช่วยถ่ายทอดความรู้โดยไม่หวังผลตอบแทน มีการ
รวมกลมุ่ และสร้างเครือข่ายเช่ือมโยงระหว่างชุมชนทง้ั ในจงั หวัดและระหว่างจังหวัดเพื่อช่วยเหลือในการดำเนิน
กจิ กรรมทางการเกษตร และยังมกี ารเผยแพร่ผลงานผา่ นสือ่ ตา่ ง ๆ อกี จำนวนมาก
31
กจิ กรรมทา้ ยบท
กกกกกกกกิจกรรมที่ 1
กกกกกกกคำชี้แจง ให้ผู้เรียนศึกษากิจกรรมที่ 1 แล้วเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว เขียน
คำตอบลงในกระดาษทแ่ี จกให้ หรือกระดาษเปล่าของผเู้ รยี น
กกกกกกก1. กิง่ อำเภอไทรนอ้ ย ไดแ้ บง่ พนื้ ทีม่ าจากอำเภอใด
ก. อำเภอปากเกร็ด จงั หวัดนนทบรุ ี
ข. อำเภอพทุ ธมณฑล จงั หวดั นครปฐม
ค. อำเภอบางบวั ทอง จงั หวัดนนทบุรี
ง. อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
กกกกกกก2. อาณาเขตทางด้านทิศใต้ของอำเภอไทรนอ้ ยติดตอ่ กับพนื้ ทใี่ ด
ก. ตำบลบา้ นใหม่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และตำบลคลองโยง อำเภอพทุ ธมณฑล
จังหวัดนครปฐม
ข. ตำบลบางครู ดั อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล
จังหวดั นครปฐม
ค. ตำบลหน้าไม้ อำเภอลาดหลมุ แกว้ จังหวัดประทุมธานี และตำบลบางคูรัดอำเภอบางบัวทอง.
จังหวดั นนทบุรี
ง. ตำบลคลองโยง อำเภอพทุ ธมณฑล จงั หวดั นครปฐม และตำบลหนา้ ไม้ อำเภอลาดหลมุ แก้ว
จังหวัดปทมุ ธานี
กกกกกกก3. ประชากรอำเภอไทรนอ้ ย แบ่งตามกลุม่ ชาติพนั ธ์ุ เปน็ กีก่ ลมุ่
ก. 1 กลุ่ม ข. 2 กลุ่ม
ค. 3 กลุ่ม ง. 4 กลุ่ม
กกกกกกก4. พนั ธุข์ า้ วในขอ้ ใดทนี่ ายปรีชา ลปุ ระสงค์ นำเข้ามาประกวดแลว้ ไดร้ างวัลชนะเลิศ ในปี พ.ศ. 2482
ก. ทองสุข
ข. นางตานี
ค. เขยี วนลิ
ง. รวงทอง
กกกกกกก5. บุคคลใด ทีไ่ ดร้ ับรางวัลสังห์ทอง หมอดินอาสาดเี ด่น และผู้นำอาชพี ก้าวหน้าในปี พ.ศ. 2542
ก. นายปรีชา ลุประสงค์
ข. พระครปู ระชาธรรมนาถ
ค. หม่อมแช่ม กฤดากร ณ อยุธยา
ง. นายยวง เขยี วนลิ
กกกกกกกกิจกรรมท่ี 2
กกกกกกกคำชแี้ จง ให้ผ้เู รยี นเตมิ คำหรือข้อความส้ัน ๆ ลงในชอ่ งวางใหถ้ ูกต้องสมบรู ณ์ ด้วยการเขียน
คำตอบลงในกระดาษที่แจกใหห้ รอื กระดาษเปลา่ ของผู้เรียน
กกกกกกก1. อำเภอไทรน้อย มีอาณาเขตด้านทิศตะวันออกตดิ กับตำบล..............................................
อำเภอ...................จงั หวดั ....................และตำบล.....................อำเภอ....................จังหวดั ...................
32
กกกกกกก2. อำเภอไทรน้อยแบ่งการปกครองออกเปน็ ....................ตำบล...............................หมบู่ า้ น
กกกกกกก3. ประชากรอำเภอไทรน้อยประกอบด้วยหลากหลายชาตพิ นั ธุ์ ไดแ้ ก่.......................................
กกกกกกก4. พระครูประชาธรรมนาถ (แฉ่ง ฐานงั กโร) มวี ิสัยทศั นใ์ นเร่ือง 1. .....................................
2. ............................................3. ....................................................
กกกกกกก5. นายปรีชา ลปุ ระสงค์ ได้รบั การคัดเลอื กจากกรมสง่ เสรมิ การเกษตรใหไปศึกษาดูงาน
ในปี พ.ศ………………………………………… ณ ประเทศ………………………………………..
กกกกกกกกิจกรรมที่ 3
กกกกกกกคำชแ้ี จง ใหผ้ เู้ รยี นศึกษากจิ กรรมที่ 3 ดว้ ยการจบั คขู่ องขอ้ ความหลงั ตัวเลขด้านซ้ายมือของ
กระดาษและข้อความหลงั ตวั อักษรจากขวามือของกระดาษทมี่ ีความสัมพันธ์กัน แล้วนำคำตอบท่ีได้ไป
เขยี นในกระดาษท่ีแจกให้ หรอื กระดาษเปล่าของผเู้ รยี น
……1 นายยวง เขยี วนลิ ก. ขอพระราชทาน พระบรมราชานุญาตขุดคลอง
……2 นายปรชี า ลุประสงค์ แยกจากคลองบางบวั ทอง
……3 หม่อมแช่ม กฤดากร ณ อยธุ ยา
ข. สรา้ งแหลง่ เรียนรูก้ ารทำการเกษตรตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ค. ผู้นำชาวบา้ นดำเนินการขดุ คลองขุนศรี
……4 พระราชาภิมณฑ์ ง. ผลติ ถงั ส้วม อ่างลา้ งเท้า เพือ่ รณรงค์ให้ชาวบ้าน
ไดม้ สี ขุ อนามัยทด่ี ี
……5 พระครูประชาธรรมนาถ (แฉง่ ฐานังกโร) จ. ไดร้ บั แตง่ ตงั้ ให้เป็นกำนันตำบลไทรใหญ่เป็นคนแรก
ฉ. บรจิ าคที่ดิน 1 แปลง เนอ้ื ท่ี 15 ไร่ เพ่ือสร้างวัด
ในชุมชน เม่อื ปี พ.ศ. 2445
ช. ผ้นู ำคนแรกของชุมชนปา่ กระทุ่มมดื
ซ. ผ้รู ิเริม่ ทำนาปีละ 2 ครั้ง และเปน็ ผู้ริเร่ิมทำไรน่ า
สวนผสม
33
บทท่ี 2
เรื่อง สถานทีส่ ำคญั และแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วในอำเภอไทรน้อย
สาระสำคัญ
กกกกกกก1. วดั ไทรใหญ่
กกกกกกก1. 1.1 ประวตั ิความเป็นมา และประวัติเจา้ อาวาสท่ีสำคัญ วัดไทรใหญ่ สร้างเม่อื
พ.ศ. 2410 โดยนางเง็ก แสงประภา เป็นผู้ถวายที่ดินสร้างวัดในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ชื่อ“วัดมหานิโครธาราม” แปลว่า “ไทรต้นใหญ่” ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น “วัดไทรใหญ”่
เมื่อมีการขุดคลองพระพิมลราชา ระหว่าง พ.ศ. 2433-2442 และขุดคลองทวีวัฒนา (คลองเจ้า)
ทางด้านทิศตะวันตกของวัด จึงมีราษฎรมาอาศัยอยู่ใกล้วัด และมาทำบุญมากขึ้น เป็นวัดเดียวใน
อำเภอไทรนอ้ ย ทเ่ี ดิมขนึ้ อยู่กับอำเภอบางบัวทอง
กกกกกกก1. เจ้าอาวาสท่สี ำคญั ได้แก่พระมงคลนนทเขต (วิชติ ปยิ ังกโร) อปุ สมบท เม่ือวนั ที่
15 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2483 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอไทรน้อยตั้งแต่ พ.ศ. 2503-2545 เป็น
พระราชาคณะชั้นสามัญ ฉายา พระมงคลนนทเขต ได้บริจาคทรัพย์สรา้ งอาคารเฉลิมพระเกียรตแิ ละ
อปุ กรณ์การแพทย์ใหแ้ กโ่ รงพยาบาลไทรน้อย ส่งเสริมการศกึ ษา สรา้ งถนน และจดั ต้ังมลู นิธสิ งเคราะห์
ตา่ ง ๆ อีกจำนวนมาก มรณภาพด้วยภาวะตดิ เช้อื ในกระแสโลหิต ณ โรงพยาบาลพระนงั่ เกลา้
เมอ่ื วนั ที่ 14 เดอื น กนั ยายน 2555 สริ อิ ายุ 90 ปี 70 พรรษา
1. 1.2 ทต่ี ง้ั วัดไทรใหญ่ต้งั ที่ เลขที่ 65 บา้ นไทรใหญ่ ถนนไทรน้อย-ต้นเชือก หม่ทู ่ี 5
ตำบลไทรนอ้ ย อำเภอไทรน้อย จงั หวดั นนทบรุ ี
1. 1.3 ความสำคญั ของวัดไทรใหญ่ เปน็ ศนู ย์กลางของพนื้ ที่อำเภอไทรนอ้ ย เป็นท่ี
ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ชาวไทรน้อยเคารพ สักการะ มีอุโมงค์ลอดโบสถ์
เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม และเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ญาติโยม อุบาสก และอุบาสิกาเข้ามาถือศีล
ปฏิบตั ธิ รรม
1. 1.4 วตั ถุ และสงิ่ ก่อสร้างภายในวดั ไทรใหญ่ ไดแ้ ก่ (1) พระอุโบสถหลังใหม่
(2) หลวงพ่อทองคำ และ (3) รปู ปั้นช้างเจา้ บญุ มา และนางกวัก
1. 1.5 กิจกรรมประเพณีที่สำคัญของวดั ไทรใหญ่ ได้แก่ ประเพณีตกั บาตรพระรอ้ ย
จัดข้นึ เปน็ ประจำ ในเทศกาลวนั ออกพรรษาตัง้ แต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 เป็นตน้ ไป ของทกุ ปี
2. วัดไทรนอ้ ย
1. 2.1 ประวัติความเป็นมา และประวัติเจ้าอาวาสที่สำคัญ วัดไทรน้อย ประวัติความเป็นมาของ
วัดไทรน้อย ประมาณ พ.ศ. 2430 ชาวมอญจากจังหวัดสมุทรสาคร ได้มาตั้งถิ่นฐานบริเวณชายป่ากระทุม่ มดื
ใกล้กับป่าหนองเพรางาย ต่อมาพระราชาภิมณฑ์ ได้ดำเนินการขุดคลองพระราชาภิมณฑ์ ทำให้กา
เดินทางสะดวกขน้ึ นายมะธไุ ด้บรจิ าคทดี่ นิ จำนวน 42 ไร่ 2 งาน เพอ่ื สรา้ งวัด และชาวบ้านได้ช่วยกัน
34
สร้างวัดสาลีมนุ ภี ิรมย์ หมายถึงวัดเปน็ ที่อุดมสมบูรณ์ดว้ ยพชื พนั ธ์ุธัญญาหาร โดยมีหลวงตาโจ๊ก พระ
มอญได้ร่วมดำเนินการ และพำนักทีว่ ัดนาน 30 ปี จนมรณภาพ ชาวบ้านพร้อมใจกนั นิมนต์พระมอญ
ชื่อพระอาจารย์เกร็บ จากวัดปรมัยยิกาวาส มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัด ในปี พ.ศ. 2495 ได้เปลี่ยนชื่อ
เป็น “วดั ไทรนอ้ ย”
1. 2.1 เจ้าอาวาสท่ีสำคัญ ได้แก่ พระครนู นทสทิ ธิการ (ประสทิ ธ์ิ สิทธิกาโร) มีความสำคัญ
คอื เป็นผูส้ ร้างความเจริญและพัฒนาวัดไทรน้อย เม่อื ปี พ.ศ. 2500 หลวงพ่อประสทิ ธิ์ ไดท้ ำการสร้าง
หอปริยัติธรรม ศาลาการเปรียญ กุฏิ และปี พ.ศ. 2502 อุโบสถชำรุด จึงสั่งรื้อ แล้วได้สร้างอุโบสถ
หลงั ใหม่โดยใช้เวลาสรา้ งประมาณ 5 ปี เมื่อ พ.ศ. 2507 จึงได้จดั งานฝงั ลกู นิมิต ได้กราบบงั คมทลู เชิญ
สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสด็จมาเปน็ องค์ประธานในพิธีตัดลูกนิมิตอุโบสถ
หลังใหม่ พระครูนนทสทิ ธกิ าร เป็นพระเกจิอาจารย์ชอื่ ดัง มรณภาพดว้ ยโรคปอดตดิ เช้ือท่โี รงพยาบาล
พระนงั่ เกลา้ จังหวดั นนทบรุ ี ด้วยอายุ 88 ปี 65 พรรษา
1. 2.2 ที่ต้งั วดั ไทรน้อย ต้ังอยูร่ ิมคลองพระราชาพิมลฝงั่ ทศิ เหนือ หมทู่ ่ี 1 ตำบลไทรนอ้ ย
อำเภอไทรน้อย จงั หวัดนนทบุรี
1. 2.3 ความสำคัญของวัดไทรน้อย วดั ไทรน้อยสนับสนุนการศึกษาของชาติ ให้การอปุ ถัมภ์
แกโ่ รงเรยี น เปน็ ศูนย์รวมจิตใจของชุมชนชาวมอญ และยังเป็นสถานท่ีปฏบิ ัติธรรมของชาวไทรน้อยอีกด้วย
1. 2.4 วัตถุ และส่งิ ก่อสร้างภายในวัดไทรน้อย ไดแ้ ก่ (1) มหาเจดยี ม์ ุนีภริ มย์ (2)วิหารจตุรมุข
ศาลาบำเพ็ญกุศล และฌาปนสถาน
1. 2.5 กจิ กรรมประเพณที ่สี ำคญั ของวดั ได้แก่ ประเพณีตกั บาตรดอกไม้กกกกกกก
3. วัดคลองขวาง
3. 3.1 ประวัตคิ วามเป็นมา และประวตั เิ จา้ อาวาสท่ีสำคัญ วดั คลองขวาง เมือ่ พ.ศ. 2430
ชาวบา้ นกล่มุ เลก็ ๆ มาตงั้ รกรากบริเวณป่ากระทุ่มมดื เพอื่ พักอาศยั และทำนา พระธุดงคผ์ า่ นมา
ชาวบ้านจึงชว่ ยกันสรา้ งท่ีพักสงฆ์ ในปี พ.ศ. 2534 นายแดง แซเ่ ลา้ ไดถ้ วายท่ดี ิน จำนวน 49 ไรเ่ ศษ
เพ่อื สร้างวัดราษฎร์ศรทั ธาธรรม แตช่ าวบ้านนยิ มเรียกวา่ “วัดคลองขวาง”
3. เจ้าอาวาสท่ีสำคัญ ไดแ้ ก่ พระครโู สภิตธรรมวสิ ทุ ธิ์ (วสิ ุทธ์ิ อังสธุ ัมโม) เกิดเมือ่ วนั ท่ี 12
ธนั วาคม พ.ศ. 2508 อุปสมบท 5 มถิ ุนายน พ.ศ. 2530 เป็นพระวิปสั สนาจารย์ผู้ฝกึ สอนกัมมัฏฐาน
ท่านมีความสนใจ และเห็นความสำคัญของการศึกษาปฏิบัติ และเผยแผธ่ รรมะอยา่ งแทจ้ รงิ ทัง้ ให้การ
สนับสนนุ การปฏบิ ตั ิวปิ สั สนากัมมัฏฐาน ด้านทนุ ด้านสถานท่ี ด้านบุคคลากร และยงั อบรมพระภิกษุ
หรอื บคุ คลท่ีเปน็ วิทยากรในสำนักมคี วามประพฤติดี สามารถปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี และปัจจบุ ัน
พระครโู สภิตธรรมวิสทุ ธิ์ (วิสุทธ์ิ อังสธุ ัมโม) ดำรงตำแหนง่ เจา้ อาวาสวัดคลองขวาง
3. 3.2 ทีต่ งั้ วัดคลองขวาง ตั้งอยู่ เลขท่ี 10 หมู่ 6 ตำบลคลองขวาง อำเภอไทรนอ้ ย
จังหวัดนนทบุรี
3. 3.3 ความสำคัญของวัดคลองขวาง ให้การสนับสนุนด้านการศึกษา เป็นสถานที่อบรม
สามเณร และปฏิบัติธรรมประจำจงั หวดั
3. 3.4 วตั ถุ และส่งิ กอ่ สรา้ งภายในวัด ไดแ้ ก่ (1) พระอโุ บสถ และ (2) ลายจำหลักประตู
ด้านหนา้ และดา้ นหลังอุโบสถวัดคลองขวาง
35
3.5 กจิ กรรมประเพณีที่สำคัญของวัด ได้แก่ (1) ประเพณีการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน
(2) การทำบญุ วนั สำคญั ทางศาสนา (3) ประเพณีการลอยกระทง และ (4) ประเพณสี งกรานต์
ddddddd4. วดั ราษฎร์นยิ ม
ddddddd4. 4.1 ประวตั คิ วามเป็นมา และประวัตเิ จ้าอาวาสท่ีสำคญั วดั ราษฎรน์ ยิ ม เดิมช่ือ
วัดหา้ ร้อย ต้ังวัดเม่อื วันท่ี 4 เดอื น เดือน เมษายน พ.ศ. 2459 ก่อตัง้ ขนึ้ เพ่อื ใช้เปน็ สำนกั สงฆ์ และให้
เป็นสถานทบ่ี ำเพ็ญกศุ ลของคนในชุมชน ขุนศรรี าษฎร์นิยม มีความเหน็ ในการท่ีจะให้มีวัดในชุมชน
จงึ จดั ท่ีดินจำนวน 100 ไร่ เพ่ือให้สร้างวัด ต่อมาพระครูประชาธรรมนาถ ไดร้ วบรวมเงนิ บริจาคจาก
ชาวบ้านซ้อื ท่ีดินเพ่ิมอกี 45 ไร่ และนางปรกี วลิ าวรรณ ได้ถวายท่ดี ินเพ่ิมอกี 5 ไร่ วดั ราษฎร์นิยม
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสมี าเม่ือวันท่ี 24 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2468
ddddddd4. เจ้าอาวาสที่สำคัญ ได้แก่ พระครูประชาธรรมนาถ (แฉ่ง ฐานังกโร) นามเดิม แฉ่ง ห้วยฤทัย
เกิดเม่อื วันท่ี 24 กันยายน พ.ศ. 2457 แขวงท่าขา้ ม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร บรรพชาเป็น
สามเณรเม่ือวนั ที่ 1 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2470 ขณะมอี ายุ 14 ปี สอบได้นกั ธรรมเอกขณะท่ี ยัง
เป็นสามเณร อายุครบ 20 ปี พ.ศ. 2476 จึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดโคก อำเภอเมืองปทุมธานี
จังหวัดปทุมธานี พระมหาอินทร์วัดโคก เป็นอุปัชฌาย์ พระมหาหยวก วัดโคก เป็นพระ
กรรมวาจาจารย์ พระอธิการพวง จุฬาโร เปน็ เจ้าอาวาสวัดราษฎรน์ ิยม ตง้ั แต่ปี พ.ศ.2481 และมรณภาพ
วันที่ 9 เดือน กันยายน พ.ศ. 2538 สิรอิ ายุรวม 81 ปี
ddddddd4. 4.2 ที่ต้งั วัดราษฎร์นยิ ม ตง้ั อยู่หมทู่ ี่ 6 บ้านราษฎร์นยิ ม ตำบลราษฎรน์ ยิ ม
อำเภอไทรน้อย จงั หวัดนนทบุรี 11150
ddddddd4. 4.3 ความสำคัญของวดั ราษฎร์นยิ ม ได้ใชเ้ ปน็ ท่ีสร้างสถานท่รี าชการ ดงั นี้ คือ
(1) โรงเรียนวัดราษฎร์นิยม สอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (2) โรงเรียน
ราษฎร์นิยม สอนในระดับมัธยมศึกษา (3) วิทยาลัยการอาชีพไทรน้อย (4) สถานีอนามัยตำบล
ราษฎร์นยิ ม และ (5) ท่ีทำการองค์การบรหิ ารส่วนตำบลราษฎร์นิยม
ddddddd4. 4.4 วัตถุ และส่ิงกอ่ สรา้ งภายในวดั ราษฎรน์ ยิ ม ได้แก่ (1) พระเจดยี ์ศรีราษฎร์นยิ ม
(2) อุโบสถ และ (3) หน้าบนั และลายรวงผ้งึ หน้าอโุ บสถ
ddddddd4. 4.5 กจิ กรรมประเพณที ่ีสำคญั ของวดั ราษฎร์นยิ ม ไดแ้ ก่ (1) ทำบุญในวนั สำคญั ทางพุทธ
ศาสนา (2) วันสงกรานต์ และ (3) บวชเณรภาคฤดูรอ้ น
ddddddd5. วดั สโมสร
ddddddd5. 5.1 ประวตั คิ วามเป็นมา และประวัตเิ จา้ อาวาสท่ีสำคัญ วดั สโมสร เดมิ ช่อื ว่า
วดั หม่อมแช่ม ซึง่ หม่อมแช่ม กฤดากร ได้ถวายที่ดิน 1 แปลง จำนวน 15 ไร่ เพอ่ื สรา้ งวัดน้อมถวายแก่
พระพทุ ธศาสนา และเพือ่ ใหช้ าวบ้านได้มสี ถานที่บำเพญ็ บญุ สร้างกศุ ลของตน
ddddddd5. เจ้าอาวาสท่ีสำคัญ ได้แก่ พระครปู ญั ญานนทคณุ หรอื หลวงปู่บาง ปัญญาทโี ป ท่านมีนาม
เดิมว่า บาง นามสกุล นุชสุภาพ เกิดเมื่อวันที่ 11 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2460 เมื่อวันที่ 5
เดือน มีนาคม พ.ศ. 2474 ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดกลางสวน อ.พระประแดง จังหวัด
สมุทรปราการ พอท่านมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดกลาง
ตำบลบางผ้ึง อำเภอพระประแดง จังหวดั สมุทรปราการ เมอ่ื วนั ท่ี 22 เดือน มถิ นุ ายน พ.ศ. 2482 เม่ือ
ท่านอุปสมบทเปน็ พระแล้ว ท่านกไ็ ดม้ าอยู่จำพรรษาทวี่ ัดสโมสร ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2492 ท่านจึงได้รับ
36
แตง่ ตัง้ ให้ดำรงตำแหนง่ เจ้าอาวาสวัดสโมสร เมือ่ วันท่ี 1 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2492 ท่านได้ละสังขาร
ลงอยา่ งสงบ เม่ือวันที่ 27 เดอื น ธันวาคม พ.ศ. 2548 สริ ิรวมอายุได้ 87 ปี พรรษา 66
5.2 ทตี่ ้งั วัดสโมสร ตง้ั อยหู่ มู่ที่ 9 ตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จงั หวัดนนทบุรี
5.3 ความสำคัญของวัดสโมสร เป็นวัดที่อยู่ในชุมชนชาวไทยเชื้อสายรามัญ (มอญ)
ในชุมชนตำบลไทรใหญ่ และพื้นที่ใกล้เคียง มีการจัดงานเพื่ออนุรักษ์ประเพณีสงกรานต์ไทยรามัญ
เป็นประจำทกุ ปี
5.4 วตั ถุ และส่งิ กอ่ สร้างภายในวดั สโมสร ได้แก่ (1) อุโบสถ (2) เสาหงส์
(3) เรือเก๋ง 4 แจว และ (4) ศาลเจ้าประจำวัด หรือตะละทาน
5.5 กิจกรรมประเพณีท่สี ำคญั ของวดั สโมสร ไดแ้ ก่ (1) การแห่หางหงส์ ธงตะขาบ
(2) การเลน่ สะบา้ มอญ และ (3) การแข่งสะบา้ ทอย
6. วัดเสนวี งศ์
6.1 ประวตั คิ วามเป็นมา และประวัติเจ้าอาวาสท่ีสำคญั วัดเสนวี งศ์เป็นวดั สงั กดั
มหานกิ าย รปู แบบการสรา้ งวดั ผสมผสานระหว่างไทย มอญ จนี เดิมในชมุ ชนปลายคลองมะสงไมม่ วี ดั
ตอ้ งเดินทางไปทำบญุ ไกลถึงวัดเพรางาย ต่อมานายงาม และนางเสง่ียม เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ได้บริจาค
ที่ดนิ 50 ไร่ เพอ่ื สร้างวัดในชุมชน ชาวบ้านจึงพรอ้ มใจต้ังช่ือวัดวา่ “วดั เสนวี งศ”์ ตามนามสกุลของ
ผสู้ รา้ ง
เจา้ อาวาสท่สี ำคญั ไดแ้ ก่ พระครธู ีรนนทคุณ ฐานธโี ร เกดิ เมอ่ื วนั ท่ี 29 เดอื น กรกฎาคม
2468 บรรพชา และอุปสมบทเมื่อวันที่ 10 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2498 อายุ 29 ปี ได้ดำรงตำแหน่ง
เจ้าอาวาสวัดเสนีวงศ์ ท่านได้ทำการก่อสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะในวัด เพื่อประโยชน์แก่
พระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านในการบำเพ็ญศาสนกิจ พระครูธีรนนทคุณ เริ่มมีอาการอาพาธ
เดือน มีนาคม พ.ศ.2545 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และท่านได้ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่
27 เดือน มนี าคม พ.ศ. 2545 รวมอายุ 77 ปี พรรษา 48 ด้วยโรคมะเร็งลำไสต้ ิดเชือ้
6.2 ท่ตี ัง้ วดั เสนีวงศ์ ตงั้ อยู่ท่ีปลายคลองมะสง หมทู่ ่ี 9 ตำบลหนองเพรางาย อำเภอ
ไทรน้อย จงั หวดั นนทบุรี
6.3 ความสำคัญของวัดเสนีวงศ์ ได้แก่ (1) สนบั สนุนด้านการศึกษา สรา้ งโรงเรียน
(2) สถานีอนามัย (3) ฉางขา้ วเพื่อเกษตรกร และ (4) ร่วมกบั กรมชลประทาน เพ่ือเปน็ แหล่งนำ้
ในการเกษตร
6.4 วัตถุและสง่ิ กอ่ สร้างภายในวัดเสนีวงศ์ ได้แก่ (1)อุโบสถ (2) เจดีย์สมปรารถนา(3) หอระฆังคู่
และ (4) สวนปา่ มหาชาติ
6.5 กจิ กรรมประเพณที ี่สำคญั ของวดั เสนีวงศ์ ได้แก่ (1) ทำบญุ ในวันสำคญั ทางพทุ ธ
ศาสนา และ (2) วนั สงกรานต์
7. ตลาดน้ำไทรน้อย
7. 7.1ประวตั คิ วามเปน็ มาของตลาดนำ้ ไทรนอ้ ย เปดิ ดำเนนิ กจิ กรรมอยูท่ ีบ่ รเิ วณริมคลอง
หนา้ วดั ไทรใหญ่บริเวณแพทจ่ี อดอยู่ในคลองพระพิมลราชา จำหนา่ ยอาหารเลิศรสต่าง ๆ มากมาย
สว่ นบรเิ วณชายน้ำริมคลองหน้าวัดไทรใหญเ่ ป็นแหล่งจำหนา่ ยผกั ผลไมท้ ีเ่ ป็นผลผลติ ของเกษตรกร
37
ในอำเภอไทรนอ้ ย และสินค้า OTOP จากชุมชนต่าง ๆ ในอำเภอไทรนอ้ ย ตลาดน้ำไทรนอ้ ยเปิด
บริการ วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวนั หยุดนักขัตฤกษ์
7. 7.2 ท่ีตั้ง ตงั้ อยู่รมิ คลองพระพมิ ลราชา ตดิ กับวัดไทรใหญ่ ตำบลไทรนอ้ ย อำเภอไทรนอ้ ย
จังหวดั นนทบุรี
7. 7.3 ความสำคญั ของตลาดน้ำไทรนอ้ ย คอื เป็นตลาดนำ้ ท่ีอยู่ใกล้กรงุ เทพมหานคร
ดำเนินชีวติ ตามแบบวิถีไทย เป็นศนู ย์รวมของอาหารคาว หวาน ผกั ผลไม้ หลายชนดิ ทช่ี าวบา้ นนำมา
จำหน่ายริมฝั่งคลอง มีรสชาตอิ ร่อย สะอาด ถูกหลักอนามยั และราคาถกู และมีรถนำเทยี่ วสวนเกษตร
7. 7.4 กจิ กรรมภายในตลาดนำ้ ไทรนอ้ ย ไดแ้ ก่ (1) การนั่งทานอาหารบนเรอื รมิ น้ำ
(2)กราบพระในโบสถ์ ไหว้หลวงพ่อทองคำ ให้จติ ใจสงบสุข (3) เดินชมสินคา้ (4) ให้อาหารปลา และ
(5) มีการแสดงของเยาวชน
ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั
กกกกกกก1. บอกและอธบิ ายสถานท่ีสำคัญและแหล่งทอ่ งเท่ยี วแต่ละแหง่ ในอำเภอไทรนอ้ ยได้
กกกกกกก2. ตอบกจิ กรรมท้ายบทสถานที่สำคัญและแหลง่ ท่องเท่ยี วแต่ละแห่งในอำเภอไทรน้อยได้
กกกกกกก3. ตระหนักถงึ ความสำคัญสถานท่สี ำคัญและแหล่งทอ่ งเทีย่ วแต่ละแหง่ ในอำเภอไทรนอ้ ย
ขอบขา่ ยเน้ือหา
กกกกกกกเร่ืองท่ี 1 วัดไทรใหญ่
กกกกกกกเร่ืองท่ี 2 วัดไทรน้อย
กกกกกกกเรอ่ื งที่ 3 วดั คลองขวาง
กกกกกกกเร่อื งที่ 4 วัดราษฎรน์ ิยม
กกกกกกกเรอ่ื งที่ 5 วัดสโมสร
กกกกกกกเรอื่ งที่ 6 วดั เสนวี งศ์
กกกกกกกเรอ่ื งท่ี 7 ตลาดนำ้ ไทรน้อย
สื่อประกอบการเรียน
กกกกกกก1. หนังสือวัดในอำเภอไทรน้อย ผ้แู ต่ง พศิ าล บญุ ผูก ปีท่ีพมิ พ์ 2551
บรษิ ทั อมรินทร์พริน้ ต้งิ แอนดพ์ บั ลชิ ชิ่ง จำกัด (มหาชน)
กกกกกกก2. สบื คน้ จาก Google.co.th หนังสอื ภูมนิ ามอำเภอไทรนอ้ ย ผู้แต่ง พิศาล บญุ ผูก
www.http://library.tcdc.or.th/record/view/b00023217
กกกกกกก3. ที่ว่าการอำเภอไทรน้อย เลขที่ 10/7 หมู่ท่ี 1 ถนนเทศบาล 2 ตำบลคลองขวาง
อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี
38
เรอื่ งท่ี 1. วดั ไทรใหญ่
วดั ไทรใหญ่
กกกกกกก1. ประวัตคิ วามเป็นมาของวัด และประวตั ิเจา้ อาวาสทีส่ ำคญั
กกกกกกก1. 1.1 ประวัติความเป็นมาของวัดไทรใหญ่ วัดไทรใหญ่ สร้างเมอื่ พ.ศ. 2410 ชว่ งสมัย
พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอย่หู วั รัชกาลท่ี 4 โดยมี นางเงก็ แสงประภา เป็นผ้ถู วายทด่ี นิ และ
ดำเนินการสร้างวัด เดิมช่ือ วัดมหานโิ ครธาราม ต่อมาชาวบ้านพากนั เรยี กช่อื วัดไทรใหญ่ เพราะแปล
ตามตวั คือ มหา แปลวา่ “ใหญ”่ นโิ คร แปลว่า “ไทร” วดั ไทรใหญ่ เปน็ วดั ในชุมชนหนองไทร ที่
ชาวบ้านเรมิ่ มาบุกเบิกท่ีดินชายปา่ กระทมุ่ มืด เมื่อมีการขุดคลองพระราชาพิมล ระหวา่ ง พ.ศ. 2433-
2442 ดา้ นหน้าวดั จงึ ติดกบั คลองพระราชาพมิ ล ต่อมามีการขดุ คลองทววี ฒั นา (คลองเจ้า) ติดดา้ น
ตะวันตกของวดั จงึ มรี าษฎรมาอาศัยอยใู่ กล้วดั มากยงิ่ ข้ึน
กกกกกกก1. นอกจากทต่ี งั้ วัดประมาณ20 ไรแ่ ล้ว นางเงก็ ยังได้ถวายท่ีดนิ เปน็ ที่ธรณีสงฆ์ อีกจำนวน 77 ไร่
72 ตารางวา และนางผนั คำจงจติ ไดถ้ วายทีด่ ินเปน็ ทธ่ี รณีสงฆ์ จำนวน 15 ไร่ 96 ตารางวา
วดั ไทรใหญ่ ได้รบั พระราชทานวิสงุ คามสมี า (อ่านวา่ วิ-สุง-คา-มะ-ส-ี มา) เมอื่ วนั ท่ี 10 เดอื น สิงหาคม
พ.ศ. 2491 ได้ทำพิธีผูกพทั ธสีมา เมอ่ื วันที่ 11 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498
กกกกกกก1. กล่าวโดยสรุป วัดไทรใหญ่ สร้างเมื่อ พ.ศ.2410 โดยนางเง็ก แสงประภา เป็นผู้ถวาย
ที่ดินสร้างวัดในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ชื่อ“วัดมหานิโครธาราม”
แปลว่า “ไทรตน้ ใหญ่” ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น “วดั ไทรใหญ”่ เม่อื มกี ารขดุ คลองพระพิมลราชา ระหว่าง
พ.ศ. 2433-2442 และขุดคลองทววี ฒั นา (คลองเจา้ ) ทางดา้ นทิศตะวันตกของวัด จงึ มรี าษฎรมาอาศัย
อยใู่ กล้วัด และมาทำบญุ มากข้ึน เป็นวัดเดียวในอำเภอไทรน้อย ท่ีเดิมขึ้นอยกู่ บั อำเภอบางบวั ทอง
39
กกกกกกก1.
พระมงคลนนทเขต ปยิ งฺกโร
กกกกกกก1. ประวตั เิ จ้าอาวาสท่ีสำคญั พระมงคลนนทเขต (หลวงพ่อวชิ ิต ปิยงกฺ โร) เกิดวันที่ 1 เดือน
ธนั วาคม พ.ศ. 2464 บรรพชา เม่ือวนั ที่ 15 มิถนุ ายน พ.ศ. 2483 และอปุ สมบท เมอื่ วันที่ 19 เดอื น
มิถุนายน พ.ศ. 2485 และดำรงตำแหนง่ เจา้ คณะอำเภอไทรนอ้ ยต้งั แต่ พ.ศ. 2503 จนถึง พ.ศ. 2545
ถา้ ไมน่ ับรวมถงึ 18 ปี ในเพศฆราวาส ก็อาจจะเรียกไดว้ า่ ตลอดชวี ิตของท่านไดถ้ วายตัวเปน็ พุทธบุตรโดย
แท้จริงดว้ ยวัย 91 ปี กบั อกี 70 พรรษา เป็นเคร่ืองยนื ยันถึงเจตนาอนั แนว่ แน่ เป็นท่ปี รกึ ษาเจา้ คณะ
อำเภอไทรนอ้ ย และเจ้าอาวาสวัดไทรใหญ่ ดำรงตำแหน่งเจา้ คณะอำเภอไทรน้อยองคแ์ รก และเป็น
พระราชาคณะช้นั สามัญ ได้สมณศักด์ิ พระมงคลนนทเขต เมอื่ วันที่ 5 เดอื น ธนั วาคม พ.ศ. 2544 และ
เมือ่ พ.ศ. 2538 พระมงคลนนทเขตได้บรจิ าคทรัพยส์ รา้ งอาคารเฉลมิ พระเกยี รตพิ ร้อมอุปกรณ์
การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลไทรน้อย ทง้ั ยังได้สรา้ งถนน มอบทุนการศกึ ษาแก่นักเรียนโรงเรียนต่าง ๆ
ในอำเภอไทรนอ้ ย และจัดกองทนุ มูลนธิ สิ งเคราะห์ต่าง ๆ อีกจำนวนมาก ผลงานของทา่ นทำประโยชน์
ใหแ้ กช่ าวไทรนอ้ ยอย่างมหาศาล
กกกกกกก1. กล่าวโดยสรุป พระมงคลนนทเขต (วิชิต ปิยังกโร) อุปสมบท เมื่อวันที่ 15 เดือน
มิถุนายน พ.ศ. 2483 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอไทรน้อยตั้งแต่ พ.ศ. 2503-2545 เป็นพระราชา
คณะชั้นสามัญ ฉายา พระมงคลนนทเขต ได้บริจาคทรัพย์สร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติและอุปกรณ์
การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลไทรน้อย สง่ เสริมการศกึ ษา สรา้ งถนน และจดั ตัง้ มลู นธิ ิสงเคราะห์ต่าง ๆ
อีกจำนวนมาก มรณภาพด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิต ณ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เมื่อวันท่ี 14
เดอื น กันยายน 2555 สริ ิอายุ 90 ปี 70 พรรษา
40
กกกกกกก2. ที่ตัง้ วัดไทรใหญ่ต้งั อยเู่ ลขที่ 65 บ้านไทรใหญ่ ถนนไทรนอ้ ย-ต้นเชอื ก หมทู่ ่ี 5 ตำบล
ไทรนอ้ ย อำเภอไทรน้อย จงั หวัดนนทบุรี
กกกกกกก3. ความสำคัญของวดั ไทรใหญ่
3 วัดไทรใหญ่ เป็นวัดที่ชาวไทรน้อยถือว่าเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของอำเภอไทรน้อย
เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ พระประธานในอุโบสถวัดไทรใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูป
ทช่ี าวไทรนอ้ ยเคารพ สักการะ และเป็นวดั ทีพ่ ระเถระชั้นผู้ใหญป่ กครองมาต้ังแต่ต้น วัดไทรใหญ่ตั้งอยู่
บนศูนยก์ ลางของพ้นื ท่อี ำเภอไทรน้อยทง้ั อำเภอ การคมนาคมสะดวกท้ังทางน้ำ และทางบก ท่านพระ
มงคลนนทเขตจึงดำริจัดตั้งศูนย์กลางวัฒนธรรม ปี พ.ศ. 2524 มีการจัดตั้งมูลนิธิวัดไทรใหญ่ข้ึน
และยังเปน็ สถานทป่ี ฏบิ ัตธิ รรมท่ีญาติโยม อุบาสก และอบุ าสกิ าเข้ามาถอื ศลี ปฏิบตั ิธรรมดว้ ย
3 กล่าวโดยสรุปความสำคัญของวัดไทรใหญ่ คือ เป็นศูนย์กลางของพื้นที่อำเภอ
ไทรน้อย เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ชาวไทรน้อยเคารพ สักการะ
มีอุโมงค์ลอดโบสถ์ เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม และยังเปน็ สถานที่ปฏิบัติธรรมที่ญาติโยม อุบาสก และ
อุบาสกิ าเขา้ มาถอื ศีล ปฏิบัติธรรม
กกกกกกก4. วัตถแุ ละส่ิงกอ่ สร้างภายในวดั ไทรใหญ่
กกกกกกก4. 4.1 พระอโุ บสถหลงั ใหมท่ ่ีวิจิตรสวยงาม
กกกกกกก4. พระอุโบสถหลังใหม่ สร้างเมื่อ วันที่ 11 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2551
มีความสำคัญ คือ เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจทางพุทธศาสนา มีการสร้างหลวงพ่อทองคำ
ประดิษฐานเป็นพระประธาน โดยประชาชนผูม้ จี ิตศัทธานำทองคำมาบริจาค เพือ่ หลอมเป็นหัวใจของ
หลวงพอ่ ทองคำองคใ์ หม่ มีทองคำน้ำหนกั ประมาณร้อยเจ็ดสบิ กว่าบาท
41
กกกกกกก4. 4.2 หลวงพอ่ ทองคำ
กกกกกกก4. หลวงพ่อทองคำเป็นพระประธานในอุโบสถหลักเกา่ ขนาดหน้าตักกว้าง1.69 เมตร
ปางมารวิชยั หล่อด้วยโลหะสัมฤทธ์ สรา้ งขึ้นสมยั อทู่ อง ฝีมือชา่ งหลวง มคี วามงดงาม อลงั การมาก
ชาวบา้ นทว่ั ไปเรียกขานวา่ “หลวงพอ่ ทองคำ” มกี ารบอกเล่ากนั มาวา่ ไดอ้ ญั เชญิ มาจากหัวเมอื งเหนือ
เปน็ พระพุทธรปู ท่มี ีความศกั ดิ์สิทธมิ์ าก ใครมาขอพร หรอื บนบานศาลกล่าวมักจะ
สมหวังเสมอ ประชาชนในอำเภอไทรน้อย และอำเภออนื่ ๆ ใหค้ วามเคารพสกั การะเปน็ อย่างมาก
42
กกกกกกก4. 4.3 รปู ป้นั ชา้ งเจ้าบุญมา และนางกวกั ทีแ่ สดงท่าถวายสกั การะหลวงพ่อทองคำ
หน้าอุโบสถ วดั ไทรใหญ่
กกกกกกก4. รูปปั้นช้างเจ้าบุญมา และนางกวักเป็นรูปปั้นจำลองของช้างคณะโรงลิเกที่
พระมงคลนนทเขตว่าจ้างมาแสดงประกอบเรื่องในงานเทศน์มหาชาติทรงเครื่อง เมื่อปี พ.ศ. 2514
โดยจดั งาน 3 วนั 3 คืน หลงั จากเสรจ็ งานแล้วเจา้ บญุ มาก็ไม่ยอมกลบั แม้ควาญช้างจะใชต้ ะขอสับมัน
จนเลอื ดสาด ด่าวา่ สารพัด ขู่วา่ จะเอางาไปทำด้ามมีดบ้าง ดา้ มปืนบ้างก็ไมย่ อมกลับ แต่ช้างเจ้าบุญมา
กลับเดินดุ่ม ๆ ไปที่หน้าโบสถ์ ช้างตัวเมียชื่อนางกวักเดนิ ตามมาติด ๆ พอมาถึงหน้าโบสถ์ ช้างทั้ง 2
เชือก ก็ใช้งวงหักกิ่งทองกวาวแล้วนั่งคุกเข่าลงกับพื้นดิน พร้อมกับชูงวงไหว้เพื่อลาหลวงพ่อทองคำ
ในโบสถ์
กกกกกกก4. กล่าวโดยสรุป วัตถุ และสิ่งก่อสร้างภายในวัดไทรใหญ่ ได้แก่ (1) พระอุโบสถหลังใหม่
(2) หลวงพอ่ ทองคำ และ (3) รูปป้นั ช้างเจา้ บญุ มา และนางกวัก
43
5 กจิ กรรมประเพณที ่ีสำคญั ของวดั ไทรใหญ่
กกกกกกก4. กจิ กรรมประเพณีทส่ี ำคญั ของวัดไทรใหญ่คอื ประเพณีตักบาตรพระร้อย เปน็ การทำบุญ
ตักบาตรขา้ วสารอาหารแห้ง โดยพระสงฆ์จะใชเ้ รือไปรับบิณฑบาตจากชาวบ้านทอ่ี ยู่ริมสองฝ่งั คลอง
วดั ไทรใหญ่ได้อนุรักษป์ ระเพณตี ักบาตรพระร้อยเป็นประจำในวนั ลอยกระทงของทุกปี มานานกวา่ 50ปี
ระยะทางจากหน้าวดั ไทรใหญ่ไปตามคลองพระพมิ ลราชาถึงหนา้ ที่ว่าการอำเภอไทรนอ้ ย
กกกกกกก4. กลา่ วโดยสรปุ กจิ กรรมประเพณที ี่สำคัญของวดั ไทรใหญ่ คือ ประเพณีตกั บาตรพระรอ้ ย
จัดข้ึนเปน็ ประจำ ในเทศกาลวันออกพรรษาตัง้ แตแ่ รม 1 คำ่ เดือน 11 เป็นตน้ ไป ของทุกปี