The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by earthzabanma, 2021-04-28 05:25:14

วิชาประกันภัย

วิชาประกันภัย

1. ควำมรูเ้ บ้อื งตน้ เกย่ี วกับกำรขำยประกันชวี ิต

ตัวแทนประกันชวี ิตและนำยหน้ำประกนั ชีวิตตำมพระรำชบญั ญัติกำรประกนั ชีวิต
2535 การเป็นตวั แทนประกนั ชีวิตหรอื นายหน้าประกนั ชวี ติ จะต้องได้รบั อนุญาตจากนาย
ทะเบยี น โดยจะต้องขอรับใบอนญุ าตเป็นตวั แทนเสยี ก่อน ซง่ึ บคุ คลท่จี ะขออนญุ าตรับ
ใบอนญุ าต เป็นตวั แทนประกันชวี ติ ตามพระราชบญั ญัติประกันชีวิต 2535 ต้องมีคุณสมบตั ดิ งั นี้

1. บรรลนุ ิติภาวะ
2. มีภูมลิ าเนาในประเทศไทย
3. ไมเ่ ป็นคนวกิ ลจรติ หรอื จติ ฟนั เฟอื นไม่สมประกอบ
4. ไมเ่ คยต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถงึ ทสี่ ดุ ให้จาคุกในความผิดเกี่ยวกบั
ทรพั ยท์ ี่กระทาโดยทจุ ริต เว้นแตไ่ ด้พ้นโทษมาแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ห้าปกี ่อนวนั ขอรับใบอนุญาต

กลบั

1. ควำมรู้เบ้อื งต้นเกีย่ วกบั กำรขำยประกันชีวติ

5. ไมเ่ คยเป็นบคุ คลล้มละลาย
6. ไมเ่ ป็นนายหนา้ ประกนั ชีวิต
7. ไม่เคยถกู เพกิ ถอนใบอนุญาตเป็นตวั แทนประกันชีวิตหรือใบอนุญาตเป็นนายหน้า ประกัน
ชีวิตในระยะเวลาสามปีกอ่ นวนั ขอรับใบอนญุ าต
8. ได้รบั การศึกษาวิชาประกนั ชีวติ จากสถาบนั การศึกษาทีน่ ายทะเบียนประกาศกาหนดหรอื
สอบความรู้เก่ยี วกบั การประกันชวี ิตได้ตามหลกั สตู รและวิธกี ารทนี่ ายทะเบยี นประกาศกาหนด

บุคคลธรรมดา ซงึ่ จะขอรับใบอนญุ าตเป็นนายหน้าประกนั ชีวติ ต้องไมเ่ ป็นตวั แทน ประกนั ชีวติ หรือ
เป็นกรรมการ ผ้จู ดั การ พนกั งานหรือลกู จ้างของบริษัทใด โดยสามารถนํา คณุ สมบตั ิดงั กลา่ วข้างต้นทงั้ 8
ประการมายื่นขอรับใบอนญุ าตได้

กลบั

1. ควำมรู้เบอ้ื งต้นเกยี่ วกับกำรขำยประกนั ชีวติ

นติ บิ ุคคล อาจขอรับใบอนุญาตเปน็ นายหน้าประกนั ชีวติ ได้เมอ่ื
1. นิตบิ คุ คลนน้ั มีสานักงานใหญ่ในประเทศไทย
2. กิจการดงั กลา่ วอยใู่ นขอบวตั ถปุ ระสงค์ของนิติบคุ คลน้ัน
3. นิติบคุ คลน้นั มพี นกั งานหรอื ลกู จา้ งทไ่ี ด้รบั ใบอนญุ าตเป็นนายหนา้ ประกันชวี ิตตาม

พระราชบัญญตั ิเปน็ ผู้ทาการแทนนติ ิบุคคลดงั กล่าว
4. นิตบิ ุคคลนั้นตอ้ งไม่เคยถูกเพกิ ถอนใบอนญุ าตเป็นนายหนา้ ประกันชีวิตในระยะสามปี

ก่อนวนั ขอรบั ใบอนุญาต การเปน็ นายหน้าประกันชวี ติ ของบคุ คลธรรมดาและนติ บิ ุคคลต้อง ปฏบิ ัติ
ตามพระราชบญั ญัติประกันชีวิต 2535 มาตรา 74 - 83 ดังต่อไปน้ี

1. นายหน้าประกนั ชีวติ ท่ีเป็นนติ บิ คุ คลจะตอ้ งมีสานกั งานตามที่ระบไุ วใ้ นคาขอรบั
ใบ อนุญาตเปน็ นายหนา้ ประกนั ชวี ิต

กลบั

1. ควำมรเู้ บ้ืองตน้ เกี่ยวกบั กำรขำยประกันชีวติ

2. นายหนา้ ประกันชีวิตตอ้ งมีสานักงานตามที่ระบไุ วใ้ นคาขอรบั ใบอนญุ าตเป็นนายหนา้ ประกันชวี ติ ใน

กรณยี ้ายสานักงานต้องแจ้งต่อนายทะเบียนเป็นหนังสือภายใน 5 วัน นบั แต่วันท่ยี ้าย

3. ให้นายหน้าประกนั ชวี ติ จัดทาสมุดทะเบยี น สมดุ บัญชแี ละเอกสารเกยี่ วกบั ธุรกิจของตน ตามแบบและ

รายการทน่ี ายทะเบียนกาหนด

4. ให้นายหนา้ ประกันชวี ิตเกบ็ รักษาสมดุ ทะเบยี น สมุดบญั ชี และเอกสารเกยี่ วกับธุรกิจ ของตน รวมทง้ั

เอกสารประกอบการลงสมุดทะเบียนและสมดุ บญั ชไี ว้ท่ีสานักงานของตนไม่น้อยกวา่ 5 ปี นบั แตว่ นั ลงรายการคร้งั

สดุ ท้ายในสมุดทะเบยี นหรอื สมุดบัญชีนน้ั

5. ใบอนญุ าตเปน็ ตวั แทนประกนั ชีวติ และใบอนุญาตเปน็ นายหนา้ ประกันชีวติ ใหม้ ีอายุ หนง่ึ ปนี ับแต่วนั ท่ี

ออกใบอนญุ าต ถา้ ผรู้ บั ใบอนญุ าตดงั กล่าวประสงคจ์ ะขอต่ออายใุ บอนุญาต ใหย้ ืน่ 4 คาขอต่ออายใุ บอนญุ าตต่อนาย

ทะเบียนตามแบบท่นี ายทะเบียนกาหนดภายใน 2 เดอื นก่อนใบ อนญุ าตสน้ิ อายุ ถ้าผรู้ ับใบอนุญาตได้ตอ่ อายุ

ใบอนญุ าตครบสองคราวตดิ ตอ่ กนั แล้ว และต้องการ ยน่ื คารอ้ งขอต่ออายใุ บอนุญาตต่อไป ให้ใบอนญุ าตที่ออกใหใ้ น

คราวต่อไปนั้นมอี ายุ 5 ปี กลบั

1. ควำมรเู้ บือ้ งตน้ เกี่ยวกบั กำรขำยประกนั ชวี ติ

6. นายหนา้ ประกนั ชวี ติ ผูใ้ ดไดร้ ับแตง่ ต้ังให้เปน็ กรรมการผู้จดั การ พนักงานหรือลกู จ้าง นี้ ในบรษิ ัทให้
ใบอนุญาตเป็นนายหนา้ ประกนั ชีวติ นน้ั สิน้ สุดลง

7. นายทะเบียนมอี านาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกนั ชวี ติ หรอื ใบอนุญาต เป็นนายหน้า
ประกันชวี ิต เม่อื ปรากฏแก่นายทะเบยี นว่าตัวแทนประกนั ชีวิตหรือนายหนา้ ประกนั ชวี ิต มลี ักษณะดงั นี้

7.1 กระทาการอนั เป็นการฝ่าฝนื พระราชบญั ญัติการประกันชวี ิต
7.2 ขาดคณุ สมบัตกิ ารเปน็ ตวั แทน 8 ประการทก่ี ลา่ วมาแลว้ ขา้ งตน้
7.3 ดาเนินงานทาให้เกิดหรอื อาจทาใหเ้ กิดความเสียหายแก่ผูเ้ อาประกันภัย ผรู้ ับประโยชนต์ าม
กรมธรรมป์ ระกนั ภัยหรอื ประชาชน เมื่อนายทะเบยี นได้สง่ั เพกิ ถอนใบอนญุ าตแลว้ ให้แจง้ คาสั่งนัน้ ไปยังผูถ้ กู ส่ังเพิก
ถอนใบ อนุญาต ผูถ้ กู สั่งเพิกถอนใบอนุญาตมีสิทธอิ ทุ ธรณต์ อ่ รัฐมนตรภี ายใน 15 วัน นับแตว่ นั ทไ่ี ด้รบั คาสัง่

กลบั

2. ลักษณะของตวั แทนประกนั ชวี ิตทดี่ ี

ตวั แทนประกันชีวิต จะต้องมคี ุณลกั ษณะดงั นี้
1. มคี วำมรู้เกยี่ วกบั กำรประกนั ชวี ิตเป็นอย่ำงดี
2. มีควำมสำมำรถในกำรขำยและขยำยตลำด
3. มีนิสยั กำรทำงำนท่ดี ี
4. มีควำมรับผดิ ชอบต่อหนำ้ ท่ี ประกอบด้วยสงิ่ ต่อไปนี้
4.1 ขายสงิ่ ทม่ี คี ณุ ภาพสมบรู ณต์ อ่ ลกู คา้
4.2 ตอ้ งรบั ผิดชอบเก็บเงนิ จากลูกค้าใหไ้ ด้ตามเงอื่ นไขในกรมธรรม์
4.3 ต้องให้บริการลูกค้าอย่างสม่าเสมอ
4.4 ตอ้ งประชาสมั พนั ธธ์ รุ กิจและตนเอง
4.5 ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ

กลบั

2. ลกั ษณะของตัวแทนประกนั ชวี ิตทด่ี ี กลบั

จรรยำบรรณของตัวแทนประกันชีวติ ได้
ตัวแทนประกนั ชีวติ ควรปฏิบัตติ ำมจรรยำบรรณซง่ึ มี ดงั นี้
1. มีความซือ่ สัตยต์ ่อผู้เอาประกนั ภัย บรษิ ทั และเพอื่ นร่วมอาชพี เดียวกนั ดังนนั้ ตัวแทนขายจงึ

ควรปฏิบัติดงั นี้
1.1 ดูแลรกั ษาผลประโยชนข์ องผ้เู อาประกนั ภยั อย่างซื่อสตั ย์
1.2 นาเงนิ เบย้ี ประกนั ส่งเข้าบริษทั ทนั ที ไม่นาไปใช้สว่ นตัว
1.3 มอบใบเสร็จรับเงนิ ทกุ ครัง้ เมอ่ื มีการจ่ายเบยี้ ประกนั แก่ผู้เอาประกันภัย
1.4 ไม่ลงนามแทนผเู้ อาประกนั ภัยแมว้ ่าจะมีเจตนาดกี ็ตาม เพราะถอื เป็นการผิด

จรรยาบรรณและผิดกฎหมายดว้ ย
1.5 ไมป่ ลอมแปลงเอกสารสาคัญของผู้เอาประกันภัย
1.6 แนะนาและดูแลใหผ้ ู้เอาประกนั ภยั เคลมสินไหมทดแทนตามความเป็นจรงิ
1.7 ตรวจสอบข้อมูลของผ้ทู ่จี ะทาประกันชวี ติ ว่ามีคณุ สมบตั เิ หมาะสมทจี่ ะทาประกัน

ชวี ิตได้หรือไมไ่ มข่ ายประกนั ซ้าซ้อนกับเพอื่ นร่วมงาน

2. ลกั ษณะของตัวแทนประกันชวี ิตทด่ี ี

2. ตวั แทนขายควรให้บรกิ ารทด่ี ีอยา่ งสม่าเสมอ และต้องแจง้ ใหผ้ ู้เอาประกันภยั ทราบถึง สทิ ธิประโยชน์ กลบั
และหน้าท่เี พื่อรักษาสิทธปิ ระโยชน์ของผ้เู อาประกันภัย ดงั น้ี

2.1 ตวั แทนต้องอธิบายถึงสทิ ธิประโยชนแ์ ละเง่อื นไขต่างๆ ตามกรมธรรม์ท่ีผู้เอา ประกนั ภยั
ทาไว้อยา่ งละเอยี ด ถกู ต้อง และชดั เจน

2.2 ตัวแทนขายต้องให้บรกิ ารการเก็บเบ้ยี ประกันอยา่ งสม่าเสมอ
2.3 เมอื่ ผู้เอาประกันภัยจะเคลมสินไหมทดแทน ตวั แทนขายตอ้ งดาเนินการเรยี กรอ้ ง ค่า
สินไหมทดแทนโดยไม่หวังผลประโยชน์ใดจากผู้เอาประกนั ภยั
3. ตวั แทนขายต้องรักษาความลบั อนั มิควรเปิดเผยของผ้เู อาประกนั ภยั
4. ตัวแทนขายควรเปิดเผยและชี้แจงข้อความจรงิ ของผ้เู อาประกนั ภัยในสว่ นท่เี ปน็ สาระ สาคัญในทุกๆ
เรื่องทีไ่ ด้ระบไุ ว้ในใบคาขอ เพ่อื เป็นขอ้ มูลใหก้ บั บรษิ ทั พิจารณาในการรบั ประกัน และเพื่อความสมบรู ณ์แห่ง
กรมธรรม์
5. ตัวแทนขายไมค่ วรเสนอแนะผู้เอาประกันภัยเกินความสามารถในการชาระเบี้ยประกัน

2. ลกั ษณะของตัวแทนประกนั ชวี ติ ทดี่ ี

6. ตัวแทนขายไมค่ วรลดหรอื เสนอท่ีจะลดคา่ บาเหนจ็ ในรูปแบบอ่ืนๆ ให้กบั ผ้เู อาประกนั ภยั กลบั
7. ตวั แทนขายไมค่ วรแนะนาให้ผู้เอาประกนั ภยั สะสมกรมธรรม์เดิมเพื่อทาสญั ญาใหม่ หากทาใหผ้ ู้เอา
ประกันภัยเสียประโยชน์
8. ตัวแทนขายไม่ควรกล่าวใหร้ า้ ย ทับถมตวั แทนอืน่ หรือบรษิ ัทอื่น หรอื เปรียบเทียบ ฐานะทางการเงนิ และ
รายได้กับบรษิ ัทอนื่
9. ตวั แทนขายตอ้ งหม่นั ศกึ ษาหาความรู้เพ่อื พัฒนาวิชาชีพอยู่เสมอ
10. ควรประพฤตติ นอยู่ในศีลธรรมประเพณอี ันดีงาม ทัง้ ธารงไว้ซ่งึ เกยี รติ ศักด์ิศรีและคณุ ธรรมแห่ง
อาชวี ปฏิภาณ เช่น

- ไม่โกหก หลอกลวง
- ไม่นาเงินเบี้ยประกันไปใช้สว่ นตวั
- ไมเ่ สนอของแถมเพื่อจงู ใจใหเ้ อาประกันชวี ิตกับตน
- ถือประโยชนส์ ่วนตนเทา่ กบั ผลประโยชน์ของผเู้ อาประกนั ภยั ท่จี ะได้รับจากการบริการของตน
- ไมเ่ สนอใหผ้ ู้เอาประกันภัยทาประกันชวี ติ หรอื ซ้อื ความคมุ้ ครองต่างๆ เกินความจาเปน็

3. ปฏบิ ตั ิตำมกระบวนกำรขำยประกนั ชวี ติ ได้

กระบวนกำรขำยประกันชวี ิตกระทำเปน็ ขน้ั ตอน ดงั น้ี
1. กำรแสวงหำผ้มู ุ่งหวงั หรือลกู ค้ำ
กระบวนการขายประกันชีวิตข้ันแรกตวั แทนจะตอ้ งปฏิบัติ ดังนี้
1.1 แสวงหารายช่อื ผู้มุง่ หวังแหล่งท่ีจะแสวงหารายชือ่ ผมู้ งุ่ หวงั มดี ังตอ่ ไปน้ี
- ผู้เอาประกนั ภัยเดิม
- ญาติพ่ีนอ้ ง
- คนท่ีรูจ้ ัก
- โซ่ไรป้ ลาย
- ศนู ย์อิทธิพล
- การสงั เกตส่วนตวั

กลบั

3. ปฏิบตั ิตำมกระบวนกำรขำยประกนั ชีวติ ได้

1.2 การจาแนกกล่มุ ของผูม้ ่งุ หวัง หลงั จากทแี่ สวงหาลูกค้าจากแหล่งต่างๆ มาแล้ว ตวั แทนจะตอ้ งนารายชื่อ

ผ้มู ่งุ หวงั เหลา่ นน้ั มาจาแนกเป็น 3 กล่มุ ใหญ่ๆ ดงั น้ี

- ประเภทคนโสด

- ประเภทคนที่สมรสแล้ว ซงึ่ จะมที ้ังคนที่สมรสแลว้ แต่ยังไม่มีบุตร และสมรสแล้ว และมีบตุ รแลว้

- ประเภทคนทม่ี กี จิ การเป็นของตัวเอง

1.3 วเิ คราะหแ์ ละคดั เลือกรายชอื่ ผู้มงุ่ หวงั ผ้มู ุ่งหวังที่ดตี ้องมีคณุ สมบตั ิ ดังต่อไปนี้

- มีรายได้และมเี งนิ เกบ็ พอสมควร - มีอายุอยใู่ นเกณฑท์ จ่ี ะทาประกนั ได้

- มีอานาจตัดสินใจ - สามารถเข้าพบได้ไม่ยากนัก

- มคี วามจาเปน็ ตอ้ งทาประกนั ชีวติ

- มีสุขภาพแข็งแรง

1.4 การจัดทาบตั รผมู้ ุ่งหวงั

1.5 หารายช่อื ผมู้ ุง่ หวงั ตอ่ ไป

กลบั

3. ปฏิบัติตำมกระบวนกำรขำยประกันชวี ิตได้

2. กำรเตรียมตวั ก่อนเขำ้ พบ

ในขัน้ ตอนของการเข้าพบตวั แทนจะตอ้ งเตรียมสง่ิ ตา่ งๆ ดงั นี้

2.1 เตรียมบุคลกิ ภาพในการขาย บคุ ลกิ ภาพท่ีตัวแทนขายจะต้องเตรียม มีดังน้ี

- บคุ ลิกภาพภายนอก ได้แก่ การแต่งกาย การเดนิ การ ยนื การนงั่ การย้มิ การสนทนา การมี

มารยาททางสงั คม เป็นตน้

- บคุ ลกิ ภาพภายใน เช่น ต้องแสดงออกถงึ ความเป็นคนทมี่ ีมนุษยส์ มั พันธท์ ี่ดี เป็นคนที่มีความ

กระตอื รอื ร้น เปน็ คนใจเย็น เป็นคนซ่อื สัตยส์ ุจรติ เปน็ ตน้

ตวั แทนขายจะต้องเรียนรู้บคุ ลกิ ภาพทด่ี ีของพนักงานขาย วา่ จะต้องประกอบดว้ ยส่ิงต่อไปน้ี

1. ความกระตอื รือร้น 6. ความเป็นมิตร

2. ความจรงิ ใจ 7. ความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์

3. ความมีไหวพริบ 8. ความอดทนและความพยายาม

4. ความมีอชั ฌาสัย 9. ความจดจา

5. ความยม้ิ แยม้ แจ่มใส 10. ความสามารถในการนาไปใช้ กลบั

3. ปฏบิ ัติตำมกระบวนกำรขำยประกนั ชีวิตได้ กลบั

2.2 เตรียมและฝกึ บทสนทนา
2.3 การนดั หมายลกู ค้า การนัดลกู คา้ มี 3 วิธี ดงั น้ี

- การนดั โดยโทรศัพท์
- การนดั โดยจดหมาย
- การนัดโดยตัวแทนเอง
2.4 การเตรยี มตวั เพื่อสรา้ งความประทบั ใจ กระทาไดด้ งั น้ี
- ต้องขายตัวเองใหไ้ ดเ้ สยี ก่อน
- มีความคล่องแคลอ่ งวอ่ งไว
- สร้างความประทับใจด้วยน้าเสียงและถอ้ ยคา
- การแสดงความจริงใจ
- การวางทา่ ทางของตัวแทน เมื่ออยตู่ อ่ หน้าลกู ค้าตวั แทนจะตอ้ งไม่แสดงกริ ิยาท่ไี ม่
สมควรแสดงต่อหน้าผอู้ ืน่ ออกมา
- การแสดงความเช่อื ม่นั

3. ปฏิบตั ิตำมกระบวนกำรขำยประกันชีวิตได้ กลบั

นอกจำกกำรเตรยี มตัวตำ่ งๆ ท่กี ล่ำวมำแล้วข้ำงตน้ ตัวแทนจะตอ้ งเตรียมสิ่งอนื่ ๆ อีก ได้แก่
1. การวเิ คราะหห์ าสาเหตุในการซ้ือประกันชีวติ ของลกู ค้าแต่ละราย โดยสว่ นใหญ่

สาเหตุ ในการซื้อประกนั ชีวติ ของบุคคลสามารถจาแนกได้ ดงั น้ี
1.1 ไวใ้ ช้สาหรบั เป็นค่าใช้จา่ ยคร้ังสุดทา้ ยในชีวิต
1.2 เพอ่ื เป็นรายได้ของครอบครวั
1.3 เพ่ือเป็นเงินสารองจ่ายในยามฉกุ เฉนิ
1.4 เพ่ือเปน็ ค่าใชจ้ า่ ยในการศกึ ษาของบตุ ร
1.5 เพือ่ เป็นเงนิ ใชห้ นี้
1.6 เพ่ือเปน็ บาเหนจ็ บานาญ

2. การเตรยี มรายละเอียดในกรมธรรม์ประเภทต่างๆ ใหแ้ มน่ ยา เพื่อจะได้สามารถ นาเสนอต่อ
ลกู คา้ ไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ ซง่ึ จะสร้างความประทับใจให้เกดิ แก่ลูกคา้ ได้

3. เตรียมเอกสารตา่ งๆ ที่จาเป็น เชน่ ปากกา กระดาษ เครอื่ งคดิ เลข ปฏทิ ิน และ เครื่องมอื
อปุ กรณต์ ่าง ๆ ไว้ในกระเปา๋ เสมอ

3. ปฏิบตั ิตำมกระบวนกำรขำยประกนั ชีวิตได้ กลบั

3. กำรเข้ำพบเพอื่ เสนอขำย
หลักปฏบิ ัตใิ นกำรเข้ำพบลกู ค้ำมดี งั ตอ่ ไปนี้
- ตวั แทนควรมกี ารพิจารณาว่าจะเขา้ พบลูกค้าทบ่ี า้ น หรอื ท่ีทางาน
- ตวั แทนจะตอ้ งสรา้ งบรรยากาศแห่งความเปน็ มิตรในระหว่างการสนทนาเพอื่ ใหไ้ ดร้ ับ
การยอมรับจากลกู คา้ จากนั้นจงึ คอ่ ยๆ กล่าวถึงแนวความคิดทีละนอ้ ย
- ตัวแทนจะตอ้ งพยายามเสนอแนะและช้ใี ห้เหน็ ว่าหากในวนั ขา้ งหน้าลกู คา้ ตอ้ งประสบภยั
หรอื ประสบปัญหาด้านการเงนิ การประกันชีวิตเทา่ น้นั ทจี่ ะชว่ ยแกป้ ญั หาเหลา่ น้ไี ดเ้ ปน็ อยา่ งดี
-่ ตัวแทนจะต้องจงู ใจใหล้ กู ค้าตัดสนิ ใจซื้อประกนั ชีวิต
3.1 กลยุทธ์การเสนอขาย กลยุทธ์ ในการสัมภาษณ์ลกู คา้ น้นั มีขน้ั ตอนดงั ตอ่ ไปนี้
- สร้างความพอใจให้เกดิ แก่ลูกคา้
- กระตนุ้ เตอื น
- แนะวธิ ที างออก
- ปิดการขาย

3. ปฏิบตั ิตำมกระบวนกำรขำยประกันชีวิตได้

3.2 ยุทธวธิ เี ปิดหวั ใจลูกคา้ การขายประกันชีวิต ยทุ ธวิธีการเปดิ ใจลูกค้า มีดงั นี้
- โยงธรุ กจิ ของลูกคา้ ใหเ้ ขา้ กบั การประกันชวี ติ
- การขายด้วยภาพ
- การขายด้วยหลกั การ
- การขายโดยยกตัวอยา่ งเร่ืองจริง
- การขายแบบประกัน

3.3 ตัวอยา่ งการเสนอขายประกนั ชวี ติ สาหรบั บคุ คลประเภทตา่ งๆ
1. การเสนอขายสาหรับคนมีครอบครัว คนทม่ี ีครอบครวั แต่ละคนมคี วามแตกตา่ งกนั ดงั นนั้ ประเดน็ ใน

การขายจึงแตกต่างกัน ดังนี้
- การคุ้มครองรายไดห้ ลักของครอบครัว
- ทุนการศกึ ษา
- ภาระความรับผดิ ชอบ

กลบั

3. ปฏบิ ตั ิตำมกระบวนกำรขำยประกันชวี ติ ได้

2. การเสนอขายสาหรบั คนโสด ตวั แทนขายจะต้องเปดิ ประเดน็ การขายท่ีทาใหล้ กู คา้ คล้อย
ตามไดม้ ากท่สี ดุ ดังน้ี

- ภาระความรบั ผดิ ชอบ
- การเก็บเงนิ เพอ่ื ใชใ้ นยามฉุกเฉนิ
- การเก็บเงนิ เพอ่ื ใช้ยามชรา
- ภาระความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง

กลบั

4. กำรปฏบิ ตั ติ อ่ ข้อโตแ้ ย้ง

ลกู ค้ำตำหนหิ รือกำรโตแ้ ยง้ เก่ยี วกบั กำรประกันชวี ิต น้ันโดยส่วนใหญ่มี 3 ประเภท คือ
- โตแ้ ย้งเพ่ือบา่ ยเบ่ียงทจ่ี ะซื้อประกันชวี ติ
- โต้แย้งเพราะไม่แน่ใจ
- โต้แยง้ เพื่อให้ไดโ้ ตแ้ ยง้

เทคนคิ ในกำรปฏบิ ตั ติ อ่ ขอ้ โต้แย้ง
1. เทคนคิ ในการตอบข้อโตแ้ ย้งแบบนยั เดียว
2. การตอบข้อโต้แยง้ แบบหลายนยั
3. การตอบข้อโตแ้ ย้งโดยการโยนคาถามกลับไป
4. การตอบขอ้ โตแ้ ย้งโดยการไมต่ อบ
5. การตอบข้อโตแ้ ยง้ โดยวธิ ีชดเชย

กลบั

5. กำรปิดกำรขำย

การปดิ การขาย คือกลวธิ ีทีจ่ ะทาใหล้ กู คา้ ลงชอื่ ในใบคาขอเอาประกนั จ่ายเบ้ียประกนั และนดั ตรวจ
สุขภาพ โดยไมม่ กี ารบีบบังคับ กลวธิ ีในการปดิ การขายนน้ั มอี ยมู่ ากมาย มที ง้ั การ พลกิ แพลงหรือการใชศ้ ลิ ปะ
ของแต่ละคนอยา่ งไรกด็ ี เทคนคิ กำรปดิ กำรขำยทส่ี ำคัญมอี ยู่ 5 ประกำร ได้แก่

1. ให้ลกู คา้ ซอื้ ประกนั โดยไม่ร้ตู วั
2. ให้ลกู คา้ ตัดสนิ ใจในเรอื่ งตา่ งๆ โดยตวั แทนตัง้ คาถามเล็กๆ น้อยๆ ใหล้ กู คา้ ตอบเพ่ือ
นาไปสู่ความสาเร็จดา้ นการขาย
3. ชีใ้ ห้เหน็ ผลเสียของการไม่ทาประกนั ชวี ิต
4. เล่าเร่อื งทเ่ี ร้าใจ
5. กลวธิ กี ารเงยี บ

กลบั

6. กำรปฏิบัติเพ่อื บริกำรหลงั กำรขำย

การทีต่ วั แทนขายได้มีการบรกิ ารหลงั การขายแกล่ ูกคา้ นบั เป็นโอกาสดที ตี่ ัวแทนขาย จะไดพ้ บกบั ลกู ค้า
รายใหมส่ บื เน่ืองมาจากการใหบ้ รกิ ารที่ดี การบริการหลงั การขายของตวั แทน ขายทค่ี วรกระทามีดังตอ่ ไปนี้

กำรสง่ มอบกรมธรรม์ การส่งมอบกรมธรรมด์ ว้ ยตนเองมีประโยชน์ ดังนี้
1. ทาใหต้ ัวแทนได้ย้าถึงความจาเปน็ ของการทาประกันชวี ิต
2. ทาใหต้ วั แทนมโี อกาสกระตนุ้ ให้ผู้เอาประกนั ภัยซอื้ กรมธรรมฉ์ บบั ตอ่ ไป
3. ทาใหต้ ัวแทนมโี อกาสไดล้ ูกค้าเพ่ิม
4. ทาใหล้ ูกค้าสง่ เบ้ียประกนั อยา่ งสม่าเสมอ
5. ทาใหป้ ระเทศชาตมิ เี สถยี รภาพทม่ี น่ั คง

กลบั

6. กำรปฏิบตั ิเพื่อบริกำรหลังกำรขำย กลบั

กำรเตรยี มตัวก่อนสง่ มอบกรมธรรม์ ก่อนการสง่ มอบกรมธรรมต์ วั แทนจะต้องเตรียม พรอ้ มตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. ตรวจสอบข้อความในกรมธรรม์
2. บันทกึ รายละเอียดของกรมธรรมล์ งสมดุ
3. จัดทาบัตรสรุปรายละเอียดประโยชน์และเงื่อนไขในการทาประกันของผู้เอาประกนั ภัย
4. เตรียมแผนการในอนาคตใหผ้ ้เู อาประกนั ภยั
5. โทรศพั ท์นัดหมาย

กำรเข้ำพบเพื่อสง่ มอบกรมธรรม์ ในการเขา้ พบผ้เู อาประกันภยั เพือ่ ส่งมอบกรมธรรม์ มขี ้อควรปฏิบัติ ดังน้ี
1. แสดงความยินดกี ับผูเ้ อาประกันภัยวา่ ไดต้ ัดสนิ ใจถกู ตอ้ งแล้ว
2. อธิบายบตั รสรปุ ผลประโยชนแ์ ละเง่ือนไขใหผ้ ู้เอาประกันภัยเขา้ ใจ
3. การเริ่มกรมธรรม์ฉบบั ต่อไป
4. ขอรายช่อื ผู้มุง่ หวงั
5. ขายบรกิ าร
6. แสดงความยินดีอีกครง้ั

6. กำรปฏบิ ัติเพือ่ บริกำรหลังกำรขำย

การบริการเมอ่ื ลูกค้าประสบภัย เมื่อทราบวา่ ลกู คา้ ประสบภัยให้ตวั แทนเปดิ สมดุ บนั ทกึ ของตัวแทนวา่
ผเู้ อาประกันภยั รายน้ีซือ้ กรมธรรมว์ งเงินเท่าใด เบี้ยประกนั เท่าใด มีผลบังคับอะไร บา้ ง จากนน้ั จงึ นาใบแจง้ เหตุ
ตามแบบฟอรม์ ของบริษัทแลว้ ไปพบผูเ้ อาประกนั ภยั เพ่อื กรอก ขอ้ ความลงไปแล้วให้ผู้เอาประกนั ภยั ลงช่ือ
จากนน้ั ให้แพทย์ทท่ี าการรกั ษาลงชื่อรับรองวา่ ผเู้ อาประกันภยั มารักษาตวั ตง้ั แตว่ นั ทเี่ ท่าไร รวมทง้ั สาเหตขุ องการ
เกิดเหตุ การรักษา และการวนิ ิจฉัย ตามวนั เวลา ท่ผี ู้เอาประกันภัยจะหายจากการบาดเจ็บ แล้วส่งแบบฟอร์มให้
บรษิ ทั กรณีทผ่ี เู้ อา ประกันภัยเสียชวี ติ ตวั แทนจะตอ้ งบรกิ ารชว่ ยเหลอื ดังนี้

1. แจง้ เร่ืองมรณกรรมแกบ่ ริษทั พร้อมทัง้ ส่งเอกสารการพิสูจนก์ ารมรณกรรมด้วย
2. ช่วยดาเนินการเรื่องในมรณกรรม
3. เตือนให้ผ้รู บั ประโยชน์ดาเนนิ การเรอื่ งกฎหมาย
4. แนะนาผรู้ บั ประโยชน์ให้รวบรวมเอกสารสาคัญของตัวผู้รับประโยชน์เอง
5. อธบิ ายวธิ กี ารขอรบั ค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันชวี ิต
6. ช่วยในการตดิ ตามเร่ืองค่าสนิ ไหมทดแทนใหก้ บั ผรู้ ับประโยชน์

กลบั

หน่วยท่ี 7
กิจกำรประกันภยั

กลบั

1. ขอ้ กำหนดตำมพระรำชบญั ญัติกำรประกนั ชวี ติ 2535/พระรำชบญั ญตั กิ ำรประกนั
วินำศภยั 2535 กำรจดั ต้งั บริษทั ประกันภยั

การประกอบธุรกจิ การประกันภยั ตอ้ งต้ังขน้ึ ในรปู ของบรษิ ทั จากัดตามประมวลกฎหมาย แพง่ และพาณิชย์
หรือบรษิ ัทมหาชนจากดั วา่ ดว้ ยบริษัทมหาชนจากดั โดยได้รบั ใบอนุญาตประกอบ ธรุ กิจการประกันภยั จากรัฐมนตรี
โดยอนมุ ตั คิ ณะรฐั มนตรี การขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกนั ภยั และการออกใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ การ
ประกันภยั ให้เป็นไปตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการที่กาหนดในกฎ กระทรวง และในการอนุญาตรฐั มนตรีจะกาหนด
เงือ่ นไขไว้ดว้ ยก็ได้
กำรต้ังสำขำ

สำขำ หมายถงึ สานกั งานท่แี ยกออกจากสานกั งานใหญข่ องบริษัทไมว่ ่าจะเรียกช่อื อย่างใด และได้รบั เงนิ
ค่าใชจ้ ่ายจากบรษิ ัทไมว่ ่าโดยทางตรงหรือทางออ้ มบรษิ ทั ประกนั ภัยของต่างประเทศท่ีต้องการต้ังสาขาในประเทศ
ไทยต้องไดร้ ับอนญุ าตจาก รฐั มนตรีหรือโดยอนมุ ัติคณะรัฐมนตรี บริษัทประกันภัยต่างประเทศนีจ้ ะต้องปฏิบตั ิตาม
หลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารท่ีกาหนดไวใ้ นกฎกระทรวง ทกุ ประการ โดยรวมถึงจานวนของทรพั ยส์ ินที่ต้องดารงไว้ตามท่ี
รฐั มนตรกี าหนด และเมื่อไดต้ งั้ สาขาในประเทศไทยแล้วจะตงั้ เป็นสาขาอกี ไม่ได้

กลบั

กำรควบบริษทั
บรษิ ทั ทไ่ี ดร้ ับอนญุ าตให้ประกอบกจิ การประกนั ภัยแลว้ จะควบบริษัทกบั กิจการอน่ื ท่ีมใิ ช่ กจิ การประกนั ภัย

ด้วยกนั ไม่ได้ เม่อื ได้จดทะเบยี นควบบรษิ ัทเข้ากันตามกฎหมายแล้วบรษิ ทั ใหม่ที่ ควบเขา้ กันจะต้องขอรบั ใบอนุญาต
ประกอบธรุ กจิ ประกนั ภัยตามท่รี ัฐมนตรีกาหนด โดยจะตอ้ ง กระทาไม่เกนิ สามเดอื นนับแต่วนั จดทะเบยี นบริษทั ใหม่
นนั้ ระหวา่ งขอรบั ใบอนุญาตใหป้ ระกอบ ธุรกจิ ประกันภยั ไปพลางได้ หากไม่ดาเนินการขอรับใบอนุญาตตามเวลาท่ี
กาหนดให้ถอื วา่ ใบ อนญุ าตให้ควบบรษิ ัทนั้นสน้ิ อายุ
กำรจำ่ ยคำ่ ธรรมเนยี ม

นอกจากคา่ ธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกนั ภัยแล้ว บรษิ ทั จะตอ้ งเสียค่าธรรม เนียมรายปี
สาหรบั การประกอบกจิ การทกุ ปี เวน้ แตป่ ที ่อี อกใบอนุญาต หากบริษทั ไม่ชาระค่าธรรม เนียมภายในสามเดอื นนับแต่
วันสิน้ ปีปฏทิ ิน ใหใ้ บอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวนิ าศภัยนนั้ สนิ้ อายุและจะสง่ ผลใหบ้ รษิ ัทถูกส่ังเพกิ ถอน
ใบอนญุ าตประกอบกิจการดว้ ย

กลบั

กำรดำเนนิ ธรุ กิจประกนั ภัย
การดาเนนิ ธุรกจิ ประกันภัย จะตอ้ งอยูภ่ ายใต้พระราชบัญญตั ิ และประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณชิ ย์ ซึ่ง

เข้ามากาหนดหลกั เกณฑ์ในการกากบั ดแู ลธรุ กจิ ประกันภยั พอสรุปได้ดงั นี้
1. กำกับดแู ลควำมมั่นคงของบริษทั ประกันภยั
1.1 กากับดแู ลโดยการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวนิ าศภัย/ประกนั ชีวิต
1.2 การกากบั ดแู ลดา้ นขอ้ จากัดเรอ่ื งหนุ้
1.3 การกาหนดให้บรษิ ทั ต้องมีหลักทรัพย์ บริษัทต้องมหี ลักทรัพยว์ างไวก้ บั นาย ทะเบียนตามมลู

ค่าท่ีกาหนดในกฎกระทรวง
1.4 การกาหนดให้บริษัทตอ้ งจัดสรรเบย้ี ประกนั ไวเ้ ปน็ เงนิ สารองประกนั ภยั รอ้ ยละ 25 ของเงิน

ประกนั ภยั ทบ่ี รษิ ัทจดั สรรไดท้ ้ังหมดไวก้ ับนายทะเบยี น เงินสารองน้ี อาจเปน็ เงินสด พันธบตั รรฐั บาล หรือทรัพย์สนิ
อ่ืนๆ ตามที่รัฐมนตรกี าหนด

1.5 การดารงไวซ้ ่ึงกองทุน

กลบั

2. เพอ่ื กำรคุม้ ครองผบู้ รโิ ภค
2.1 คุ้มครองผู้บรโิ ภคก่อนเกิดสญั ญำประกนั ชวี ติ /สัญญำประกนั วินำศภัย สญั ญาประกัน

ชวี ติ /สัญญาประกันวนิ าศภัยเป็นสนิ คา้ ท่ีมีความแตกต่างจากสนิ ค้าอื่น จึงต้องอาศยั ผู้ที่มี 1 ความรู้ ความเข้าใจใน
รายละเอียดเป็นผู้ชีแ้ นะหรอื แนะนาใหผ้ ูบ้ รโิ ภคหรอื ผู้เอาประกันภัยมีความ

เขา้ ใจอย่างชัดเจน บุคคลที่เปน็ คนกลางทมี่ ีบทบาทในการชีแ้ นะหรือแนะนาน้ี ตาม
พระราชบญั ญัติ ประกนั ชวี ิต พ.ศ. 2535 และพระราชบญั ญัตปิ ระกนั วนิ าศภยั พ.ศ. 2535 ไดใ้ หค้ วามหมายไว้
ดงั ตอ่ ไปน้ี

“ตวั แทนประกนั ชวี ิต” หมายถงึ ผู้ซง่ึ บรษิ ทั มอบหมายให้ทาการชกั ชวนให้บุคคลทาสัญญา เอ
ประกนั ชีวิตกับบริษทั

“นำยหน้ำประกนั ชวี ติ ” หมายถงึ ผชู้ ชี้ ่องหรือจัดการใหบ้ คุ คลทาสญั ญาประกันชีวติ กับ ของ
บริษทั โดยกระทาเพอื่ บาเหน็จเน่ืองจากการนัน้ “ตัวแทนประกนั วนิ ำศภยั ” หมายถึง ผูซ้ ึ่งบริษทั มอบหมายใหท้ า
การชักชวนให้บคุ คลทา สญั ญาประกันวนิ าศภัยกบั บรษิ ทั

กลบั

“นำยหน้ำประกันวินำศภยั ” หมายถงึ ผ้ชู ้ีช่องหรอื จดั การให้บคุ คลทาสญั ญาประกนั วนิ าศภัย กับ
บรษิ ัทโดยกระทาเพอื่ บาเหนจ็ เนื่องจากการนัน้
บุคคลทจี่ ะมาเป็นตัวแทนประกนั ภัย หรือนายหนา้ ประกนั ภยั น้นั จะตอ้ งได้รับอนญุ าตจาก นายทะเบยี น โดย
จะตอ้ งมีการสมัครเพอื่ ทาการสอบเป็นตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์เสยี กอ่ น หลังจากท่ีสอบผ่านแลว้ ตัวแทน
หรือนายหนา้ ตอ้ งปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บทก่ี ระทรวงกาหนด

2.2 คมุ้ ครองผูบ้ ริโภคเมอื่ เกดิ สัญญำประกันชีวิต/สัญญำประกันวินำศภยั สัญญาประกันชีวติ และ
สัญญาประกันวนิ าศภัยจัดเป็นสญั ญาตา่ งตอบแทนทไ่ี ม่เทา่ เทยี มกัน กล่าวคือเปน็

สัญญาสาเรจ็ ท่ีฝ่ายของบรษิ ทั ผู้รบั ประกันเป็นผูเ้ ขียนดังนัน้ อาจจะเกิดความไมเ่ ทา่ เทยี มหรือ
ฝ่าย ของผู้เอาประกันภัยอาจเสียเปรียบ ดงั นนั้ เพื่อเป็นการคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภค พระราชบัญญตั กิ าร ประกนั ชวี ิต
พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญตั ิประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 จึงบัญญตั ิให้แบบและ ขอ้ ความแห่งกรมธรรม์
ประกนั ภยั และอตั ราเบี้ยประกันภัยทีจ่ ะเสนอขายแกป่ ระชาชนได้น้ันจะตอ้ ง เป็นแบบและขอ้ ความทไี่ ดร้ บั ความ
เหน็ ชอบจากนายทะเบยี น

กลบั

2.3 คุ้มครองผู้บริโภคภำยหลงั เกิดสัญญำประกันชวี ติ /สัญญำประกันวนิ ำศภยั หลงั ก จากการทา
สัญญาประกนั ภยั แลว้ และหากเกดิ ภยั ข้ึนแก่ผเู้ อาประกันภัย ตามพระราชบญั ญตั ิ กาหนดใหบ้ รษิ ทั ผู้รับประกนั
ปฏิบตั ดิ งั นี้

- การประวิงการใชเ้ งนิ ตามสัญญาประกนั ภัย ประกันทจ่ี ะต้องจา่ ยคนื แกผ่ ูเ้ อา
ประกันภัยหรือผูร้ บั ประโยชน์โดยไมม่ ีเหตผุ ล อันสมควรหรือกระทาไปโดยไม่
สุจรติ

- กาหนดให้มีหนว่ ยงานรับเรือ่ งร้องเรยี นที่มีหลกั เกณฑ์ขั้นตอนการพิจารณาเปน็
ลาดบั

กลบั

กำรเพกิ ถอนใบอนุญำตประกอบธรุ กิจประกันภัย
รฐั มนตรีมีอานาจส่งั เพกิ ถอนใบอนุญาตประกอบการธุรกิจประกนั ภัยเม่ือปรากฏวา่ บริษทั มีลกั ษณะ

ดงั น้ี
1. มหี น้สี นิ เกนิ กว่าทรัพย์สนิ หรือมฐี านะทางการเงินไม่มนั่ คงอนั อาจเกิดความเสียหายแก่ ผู้

เอาประกันภยั หรือประชาชน
2. ฝา่ ฝนื บทบัญญตั ิแห่งพระราชบัญญัติหรอื กฎกระทรวง
3. หยดุ ประกอบกจิ การโดยไมม่ เี หตุอันควร
4. ประวงิ การจ่ายเงินท่ีต้องใช้ตามกรมธรรม์ประกันภยั หรอื ประวงิ เวลาการคนื เบ้ยี ประกนั ที่

ต้องจ่ายหรอื คืนโดยไม่มีเหตอุ นั สมควร หรอื จ่ายหรือคนื โดยไมส่ ุจริต
5. หากประกอบกจิ การต่อไปจะทาให้เกิดความเสียหายแก่ผเู้ อาประกนั ภยั หรอื ประชาชน

กลบั

2. โครงสร้ำงของกจิ กำรประกันภัย

กจิ การประกนั ภยั มกั มกี ารกาหนดหนว่ ยงานที่จาเป็น เพอ่ื เปน็ องคป์ ระกอบใหก้ ารทางาน
ของหน่วยงานเป็นไปดว้ ยความราบร่ืน ฝ่ายต่างๆ ทจี่ าเป็นตอ่ หน่วยงานประกันภยั มีดังตอ่ ไปนี้

1. ฝ่ายขาย
2. ฝา่ ยการตลาด
3 ฝ่ายบุคลากร
4. ฝา่ ยบริการสนิ ไหมทดแทน
5. ฝ่ายคดั เลือกการประกันภยั
6. ฝ่ายบัญชี
7. ฝา่ ยกฎหมาย

กลบั

3. ประเภทของกจิ กำรประกนั ภัย

ประเภทของกิจกำรประกันภัยในประเทศไทย แบ่งออกไดด้ ังนี้
1. กิจการประกันวินาศภัย ประกันวินาศภัยในประเทศไทยแบง่ ออกเปน็ 4 ประเภท ดังน้ี
1.1 กิจการประกันอัคคภี ยั
1.2 กิจการประกนั ภยั ทางทะเล
1.3 กจิ การประกนั ภัยรถยนต์
1.4 กิจการประกนั ภัยเบด็ เตลด็
2. กิจการประกันชวี ติ การประกนั ชวี ติ ทาหน้าทชี่ ดเชยความสญู เสียท่เี กิดจากการเสยี ชีวิต

โดยการเสยี ชีวติ แบ่ง ออกไดด้ งั นี้
1. เสียชวี ติ กอ่ นวยั อันควร
2. เสยี ชวี ติ ในขณะทยี่ งั มีชวี ติ อยู่
3. เสยี ชวี ติ ทางเศรษฐกจิ หรอื ความชราภาพ

กลบั

4. ชนดิ ของกจิ กำรทค่ี วรเอำประกนั

กอ่ นทำประกนั วนิ ำศภัยกจิ กำรจะตอ้ งพจิ ำรณำเกยี่ วกับสงิ่ ตอ่ ไปน้ี
1. มคี วามจาเปน็ ทจี่ ะตอ้ งทาประกันวินาศภัยมากนอ้ ยเพียงใด
2. ภัยทีอ่ าจจะเกิดข้นึ น้ันถา้ เกิดแล้วจะกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายมากน้อยเพยี งใด
3. ตอ้ งพิจารณาทรัพยท์ ี่เอาประกันกับจานวนเงนิ ทีเ่ อาประกันซงึ่ จะตอ้ งมคี วามสมั พันธ์ กบั เบี้ย

ประกันด้วย
4. การตดิ ตามทวงถามเอากรมธรรมจ์ ากผู้รับประกนั ภยั
5. การพจิ ารณาตวั กรมธรรมใ์ หถ้ ูกต้องและครบถ้วนตามสัญญาและเป้าหมายของการเอาประกัน

วินาศภัยซง่ึ การตรวจความถูกต้องของกรมธรรม์นเ้ี ป็นหนา้ ที่หลักของผเู้ อาประกนั ภัยท่ีจะต้องกระทา

กลบั

หลกั พจิ ำรณำในกำรทำประกนั ภยั
ผู้ที่จะทำประกนั ภยั มกั มีหลักพิจำรณำในกำรตดั สนิ ใจดงั ตอ่ ไปนี้
1. หลกั ของความมีสว่ นไดส้ ่วนเสีย
2. หลกั ของความจาเปน็
3. มลู เหตขุ องความคุ้มครอง
4. การไดร้ ับการบรกิ าร
5. หลกั ของความเป็นกันเอง
6. หลักของการออม
7. หลักของการเวนคนื
8. การใหโ้ อกาสกู้ยมื และการจ่ายเงนิ ทดแทน
9. การขยายสาขาการบริการ

กลบั

5. หลกั เกณฑ์ในกำรเลอื กบรษิ ทั ประกนั ภยั

พจิ ำรณำในกำรตัดสนิ ใจเลือกบรษิ ัทประกนั ภยั มีดงั ตอ่ ไปน้ี
1. ความเชอ่ื มั่นตอ่ กจิ การ
2. เง่อื นไขของกรมธรรม์
3. ความสมั พันธร์ ะหว่างเบี้ยประกันและความคุ้มครอง
4. ความจาเป็นและความสามารถในการชาระเบ้ยี ประกนั
5. จานวนเบีย้ ประกันและจานวนผูเ้ อาประกนั ภัยของกจิ การ
6. ผลการดาเนนิ กจิ การ
7. การกาหนดความเส่ียงภัยของบริษทั
8. สถานภาพของบริษทั ประกนั ภัย
9. การใหบ้ รกิ ารของบริษัท
10. การหาผลประโยชน์ของบริษัท

กลบั

แหล่งขอ้ มูลเก่ียวกับบริษทั ประกนั ภยั
แหล่งข้อมลู ทผ่ี ูเ้ อำประกันภยั จะหำได้ นั้นมีดงั นี้
1. กรมการประกนั ภัย
2. ตัวแทนขายประกัน
3. นายหน้าประกันภัย

กลบั

6. วธิ กี ำรเอำประกนั ภยั

เมื่อตกลงวา่ จะทาประกนั ภยั ผเู้ อาประกันภัยมวี ธิ กี ารขอเอาประกันต่อผรู้ ับประกันภยั โดย แยกออกเปน็

การขอประกนั วินาศภยั และการขอประกนั ชีวิต ดังน้ี

กำรขอประกนั วนิ ำศภัย การขอเอาประกันวนิ าศภยั ตอ่ บริษัทผ้รู บั ประกนั มีดงั น้ี

1. แสดงความจานงขอเอาประกนั ภัยจากบริษทั ผู้รบั ประกนั ภยั โดยอาจแสดงความจานง โดยผา่ นตวั แทน

ประกนั ภยั

2. กรอกรายละเอยี ดของวัตถุทเ่ี อาประกันในแบบคาขอเอาประกนั จนครบถว้ น

3. กาหนดวงเงนิ ท่เี อาประกนั และระยะเวลาของการประกันใหช้ ัดเจน

4. ระบบุ ุคคลผรู้ บั ประโยชน์ใหช้ ดั เจน

5. ระบแุ บบของการเอาประกนั ภัย พร้อมท้ังเงอ่ื นไขตามท่ผี รู้ ับประกนั ภัยกาหนด

6. หากมกี ารเปลีย่ นแปลงใดๆ เกี่ยวกบั การประกันวนิ าศภยั จะต้องรบี แจง้ ให้บริษัทผูร้ ับ ประกนั ทราบ

โดยเรว็ การเปลย่ี นแปลงดังกลา่ ว เชน่ การเปลยี่ นช่อื ผ้รู บั ประโยชน์ การเปล่ียนชือ่ ทอ่ี ย่ขู องผู้เอาประกันภยั การ

เปลย่ี นแปลงมลู คา่ ของสงิ่ ทีเ่ อาประกัน การเปลย่ี นแปลงรายการ ทรพั ยส์ ิน หรือการเปลี่ยนแปลงท่อี ยขู่ องทรพั ยส์ ิน

เปน็ ต้น กลบั

กำรขอประกนั ชวี ิต กำรขอเอำประกันชีวติ มดี ังน้ี
1. ติดตอ่ ตัวแทนของบรษิ ัทประกันภัย โดยต้องเปน็ ตวั แทนที่ผา่ นการทดสอบของ กระทรวงพาณิชยอ์ ย่าง

ถกู ตอ้ ง
2. ฟังการอธบิ ายรายละเอียดตา่ งๆ จากตัวแทน พรอ้ มทง้ั อา่ นเงื่อนไขของผูร้ ับประกันที่ เสนอตอ่ ลกู ค้า

ใหเ้ ข้าใจ นอกจากนย้ี ังตอ้ งศึกษาเก่ียวกับการแถลงความจรงิ ตา่ งๆ เชน่ สุขภาพของ ผู้เอาประกันภัย ประวัตกิ าร
เจ็บปว่ ย การแจ้งอายุที่แท้จริง การมีโรคประจาตัว เป็นต้น

3. ศึกษาขอ้ ยกเว้นของผรู้ บั ประกันภยั ทีจ่ ะไมใ่ ห้ความค้มุ ครอง เช่น ภัยจากสงคราม ภยั จลาจล ภยั จาก
กบฏปฏิวตั ิรฐั ประหาร ซง่ึ หากความเสยี หายหรือเสียชวี ติ เกิดขน้ึ จากภัยดังกลา่ วจะ ไมไ่ ด้รบั คา่ สนิ ไหมทดแทนแตจ่ ะ
ไดร้ บั เบี้ยประกนั ที่สง่ ไปคืนเทา่ นั้น

4. กรณีของการเปลีย่ นตัวผ้รู บั ประโยชน์ หากเป็นผู้สืบสนั ดาน สามี หรอื ภรรยาเพียงแต่ แจ้งผรู้ บั
ประกนั ภยั ก็เพยี งพอแลว้ หากผู้รับประโยชน์เป็นบคุ คลอ่นื ที่ไม่ได้กล่าวข้างตน้ ต้องให้ผู้รับ ประกันภัยเห็นชอบด้วย

5. เมอ่ื ตัดสินใจทาประกันชวี ิต สิง่ สาคัญที่สุดทีจ่ ะต้องนามาพจิ ารณาคอื ความสามารถใน การสง่ เบ้ีย
ประกนั ระยะเวลาเอาประกัน ความคุ้มครอง เงือ่ นไขการจา่ ยเงินค่าสินไหมทดแทน และผลตอบแทนคา่ เวนคืน

กลบั

วิธกี ำรเรยี กร้องเอำประกันภัยตำมสญั ญำ
เม่อื ไดท้ าประกันวินาศภยั หรอื ประกนั ชีวิตแลว้ หากเกดิ ความเสยี หาย ทพุ พลภาพหรือ เสียชีวติ ข้นึ มา

ผรู้ ับประโยชน์หรือผู้เอาประกันภัยจะต้องรบี แจง้ เหตุให้ผรู้ บั ประกันภยั ทราบภายใน 15 วัน เพอ่ื เรียกร้องค่าสนิ ไหม
ทดแทน หากผู้รับประกนั ภัยไม่จ่ายเงนิ ให้ตามสัญญา ผรู้ บั ประโยชน์หรือผเู้ อาประกันภยั สามารถฟอ้ งรอ้ งได้ แต่
ตอ้ งกระทาภายใน 2 ปี นบั แต่วนั เกดิ เหตุ

กรณีของการเรียกรอ้ งสิทธขิ องผเู้ สียหายซึง่ เปน็ บคุ คลภายนอกทีเ่ สยี หาย โดยผู้เอา ประกันภัยเปน็ เหตุ
บุคคลภายนอกน้นั สามารถเรียกรอ้ งเอาจากผรู้ บั ประกันภัยแต่จะเป็นจานวน เทา่ กับที่ผู้รบั ประโยชนร์ ับผดิ ชอบ
หากความเสียหายนน้ั มมี ูลคา่ เกนิ ความรบั ผดิ ชอบของผูร้ บั ประกนั ภัย ผู้เสียหายตอ้ งเรยี กผเู้ อาประกันภัยเขา้ มาใน
คดีดว้ ย

กลบั


Click to View FlipBook Version