The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระไตรปิฎกศึกษา 2 (รวม) (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

พระไตรปิฎกศึกษา 2 (รวม) (1)

พระไตรปิฎกศึกษา 2 (รวม) (1)

พพรระะไไตตรรปิปิปิ ฎ ปิ ฎกกศึศึศึ ก ศึ กษษาา ๒๒ ผศ.เตชทัต ปักสังสัขาเนย์


คำ นำ เอกสารประกอบการบรรยาย พระไตรปิฎกศึกษา ๒ รายวิชา BU๕๐๐๓ เล่มนี้ ได้จัดทำ ขึ้นเพื่อเป็นแนวทางการศึกษาค้นคว้าเบื้องต้น โดยเป็นรูปแบบออนไลน์ E-Book เพื่อง่ายต่อการศึกษา เรียนรู้ได้ พระไตรปิฎกศึกษา ๒ เป็นวิชาหนึ่งในหมดวิชาเฉพาะ กลุ่มวิชา พระพุทธศาสนา ที่กำ หนดให้นักศึกษาทุกชั้นปีต้อเรียนโครงสร้างภายใน มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของพระพุทธศาสนา โครงสรา้ง พระไตรปิฎก สาระสำ คัญในแต่ละพระสูตร บุคคลสำ คัญ หลักธรรมแนวทางการปฏิบัติ การตีความวิเคราะห์ การประยุกต์นำ มา ใช้ในสังคมปัจจุบัน สาระจากเอกสารตำ ราอื่นๆ เพิ่มเติม สอดคล้องกับ มหาวิทยาลัยกลุ่มที่ ๔ คือ กลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมตามหลัก ศาสนา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารประกอบการบรรยายเล่มนี้ จะเป็น ประโยชน์แก่ผู้ศึกษา หากมีส่วนที่ผิดพลาดด้านเนื้อหาผู้จะดทำ น้อมรับนำ ไปปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ต่อไป ผู้ช่วยศาสตราจารย์เตชทัต ปักสังขาเนย์


สารบัญ บั เรื่อรื่ง หน้าน้ ความรู้ต้รู้ต้นเกี่ยวกับพระไตรปิฎปิก 1 ลักษณะแห่งห่พุทธพจน์ 9 อย่าย่ง 8 ลำ ดับดัคัมภีร์ทร์างพระพุทธศาสนา 11 ประวัติวั ติพระพุทธโฆสะ 14 เหตุแตุห่งห่การแสดงพระไตรปิฏปิก 23 โครงสร้าร้งและคัมภีร์ใร์นพระสุตสุตันตปิฎปิก 25 คัมภีร์ทีร์ ทีฆนิกนิาย 29 คัมภีร์มัร์ชมัฌิมฌินิกนิาย 44 คัมภีร์สัร์งสัยุตตนิกนิาย 66 คัมภีร์อัร์ อังคุตคุตรนิกนิาย 98 คำ นำ ก


ศึกษาโครงสร้างและเนื้อหาของพระสุตตัน ตปิฎกการจัดหมวดหมู่ในพระสุตตันตปิฎก วิเคราะห์พระสูตร ที่สำ คัญและพระสูตรทีาแสดง หลักการสำ คัญของพระพุทธศาสนาหลักธรรมที่ เป็นหลักการสำ คัญของพระพุทธศาสนาอุดมคติ ทางพระพุทธศาสนาวิธีคิดและคุณลักษณะ พิเศษแห่งพระพุทธศาสนาพุทธจริยธรรมหลัก คิหิธรรมและการประยุกต์ใช้หลักธรรมในการ ดำ รงชีวิตและการแก้ปัญ ปั หาสังคม สัง สั เขปรายวิช วิ า


ความรู้รู้เ รู้เ รู้ บื้บื้ บื้ อ บื้ องต้ต้ ต้ น ต้ นเกี่กี่ กี่ ย กี่ กี่ ย กี่ วกักั กั บ กั บพระไตรปิปิปิ ฎ ปิ ฎก พระ+ไตร+ปิฎก BU5003 พระไตรปิฎกศึกศึษา 2 3 หน่วยกิต (3-0-6) หมวดวิชวิาพระพุทธศาสนา บังคับเรียรีน วัตวัถุประสงค์ เรียรีนรู้โรู้ครงสร้าร้งของพระไตรปิฎก ทำ ความเข้าข้ใจหมวดหมู่ขมู่องพระไตรปิฎก ศึกศึษาเรียรีนรู้หรู้ลักธรรมในพระสุตตันตปิฎก นำ หลักการ วิธีวิกธีารจากการศึกศึษามาปรับรั ประยุกยุต์ใช้ใช้นชีวิชีตวิประจำ วันวั ได้อย่าย่งเหมาะ สม กิจกรรมการเรียรีนการสอน ฟังฟับรรยาย อภิปราย คันคว้าว้งาน ทำ ใบงาน ทำ รายงาน ศึกศึษานอกสถานที่ การประเมินมิ 1


คำ ถาม..เพื่อพื่การศึกศึษา พระไตรปิฎกคืออะไร มีปมีระโยชน์และความสำ คัญอย่าย่งไร ทำ ไมต้องศึกศึษา เราจะได้อะไรจากการศึกศึษา ศึกษาโครงสร้างและเนื้อหาของพระสุตตันตปิฎกการจัด หมวดหมู่ในพระสุตตันตปิฎกวิเคราะห์พระสูตรที่สำ คัญและพระสูตร ที่แสดงหลักการสำ คัญของพระพุทธศาสนาหลักธรรมที่เป็นหลักการ สำ คัญของพระพุทธศาสนาอุดมคติทางพระพุทธศาสนาวิธีคิดและ คุณลักษณะพิเศษแห่งพระพุทธศาสนาพุทธจริยธรรมหลักคิหิธรรม และการประยุกต์ใช้หลักธรรมในการดำ รงชีวิตและการแก้ปัญหา สังคม ความรู้เรู้บื้อบื้งต้นเกี่ยกี่วกับพระไตรปิฎก พระวินัวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก กำ เนิดพระไตรรัตรัน์ การเกิดขึ้นขึ้ของพระพุทธเจ้า การเกิดขึ้นขึ้ของพระธรรม การเกิดขึ้นขึ้ของพระสงฆ์ สังสัเขปรายวิชวิา 2


ที่มที่าแห่งห่พระธรรมวินัวินัย มุขปาฐะ คำ สั่งสอนมิได้บันทึกเป็นลาย ลักษณ์อักษร ใช้วิธีการจด จำ เป็นหลัก ซึ่งเรียกว่า มุขปาฐะ พรหมจรรย์ ในขณะที่ยังทรงมีพระชนม์อยู่นั้น คำ สั่งสอนของพระองค์ เรียกว่า พรหมจรรย์ พระธรรม หรือ พรหมจรรย์ ตรัสรัธรรมที่ทำที่ทำ ให้จักรหมุ่นมุ่ กามสุขัลลิกานุโยค อัตตกิลมถานุโยค ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ๒ อย่างนี้ บุคคลต้องระวัง พระธรรมวินัวินัย พระธรรมวินัย จนกระทั่งมีการทำ สังคายนา คือมีการ ชำ ระตรวจสอบรวบรวมคำ สั่งสอนไว้เป็นหมวดหมู่แล้ว จึงเกิด พระไตรปิฎก ขึ้นในภายหลังต่อมา 3


พระอานนท์ ผู้เผู้ป็นป็พระอนุชา (ลูกพี่ลูพี่ลูกน้อง)และเป็นป็ผู้อุผู้อุปัฏฐปัากรับรั ใช้พช้ระพุทธเจ้า ในฐานะที่ทที่รง จำ พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก พระอุบาลี ผู้เผู้ชี่ยชี่วชาญพระวินัวินัย ในฐานะที่ทที่รงจำ พระวินัวินัยปิฎก พระโสณกุฏิกัณณะ ผู้เผู้คยท่องจำ บางส่วส่นแห่งพระสุตตันตปิฎก และกล่าวข้อข้ความนั้นแบบปาก เปล่า ในที่เที่ฉพาะพระพักพัตร์ขร์องพระพุทธเจ้า ได้รับรัสรรเสริญริว่าว่ทรงจำ ได้ดีมาก ทั้งสำ เนียงที่ กล่าวข้อข้ความออกมาก็ชัก็ดชัเจนแจ่มใส เป็นป็ตัวอย่าย่งแห่งการท่องจำ ในสมัยมัที่ยัที่งยัไม่มีม่กมีารจารึกรึ พระไตรปิฎกเป็นป็ตัวหนังสือสื พระมหากัสสปะ เป็นป็ผู้ริผู้เริริ่มริ่การทำ สังสัคายนาจัดระเบียบพระพุทธวจนะให้เป็นป็หมวดหมู่ ในข้อข้นี้ ย่อย่มโยงไปถึงพระพุทธเจ้า พระสารีบุรีบุตร และพระจุนจุทะน้องชายของพระสารีบุรีบุตร ซึ่งซึ่เคยเสนอ ให้เห็นห็ความสำ คัญของการทำ สังสัคายนา คือจัดระเบียบคำ สอนให้เป็นป็หมวดหมู่ ๑. ๒. ๓. ๔. พระเถระ ๔ รูปรูผู้มีผู้ส่มีวส่นเกี่ยกี่วข้อข้งกับความเป็น ป็ มาแห่งห่พระไตรปิฎก โครงสร้ร้า ร้ร้ งพระไตรปิปิปิปิ ฎก 4


5


6


พระไตรปิฎกศึก ศึ ษา 2 มี ๕ อย่า ย่ ง ได้แก่ นิกาย ๑) ทีฆนิกาย ๒) มัชฌิมนิกาย ๓) สังยุตตนิกาย ๔) อังคุตตรนิกาย ๕) ขุททกนิกาย 7


เคยยะ เป็นคำ สอนประเภทร้อยแก้วผสมร้อยกรอง หมายเอาพระสูตรที่มีคาถาทั้งหมดโดยเฉพาะสคาถวรรคสังยุต ตนิกาย เวยยากรณะ เป็นคำ สอนประเภทที่เป็นอรรถาธิบายโดย ละเอียดเป็นร้อยแก้วล้วนๆ เช่นพระอภิธรรมปิฎก พระสูตรที่ไม่มี คาถา และพระพุทธพจน์อื่นที่ไม่นับเข้าในองค์ ๘ ข้อที่ เหลือคาถา เป็นคำ สอนประเภทร้อยกรองล้วนเช่น ธรรมบท เถร คาถา เถรีคาถา และคาถาล้วนในสุตตนิบาตที่ไม่มีชื่อกากับ ว่า“สูตร” อุทาน เป็นคำ สอนประเภทที่เปล่งขึ้นจากแรงบันดาลใจ ของพระพุทธเจ้า และพระสาวกส่วนมากจะเป็นบทร้อยกรอง อิติวุตตกะ เป็นคำ สอนประเภทคำ อ้างอิง ที่ยกข้อความที่ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ มาอ้างเป็นตอนๆ ได้แก่ พระสูตรสั้นๆ ๑๑๐ สูตร ที่ขึ้นต้นด้วยคำ ว่า “วุตต เหตุ ภควตา” ชาตกะ (ชาดก) เป็นคำ สอนประเภทนิทานชาดกหรือเรื่อง ราวในชาติปางก่อนของพระพุทธเจ้าขณะเป็นพระโพธิสัตว์บา เพ็ญบารมีอยู่ สุตตะ เป็น ป็ คำ สอนประเภทร้อร้ยแก้วล้วน ในอรรถกถาอธิบธิาย ไว้ว่ว้าว่ ได้แก่ - อุภโตวิภัวิภังค์ (ปาติโมกข์ทั้ ข์ ทั้งสองฝ่าย) - ขันขัธกะ บริวริาร นิเทศ และพระสูตรในสุตตนิบาตรวมทั้งสูตรอื่นอื่ๆ ที่ ไม่มีม่ชื่มีชื่อชื่กำ กับว่าว่ ”สูตร” ด้วย ลักษณะแห่ง ห่ พุทธวจนะมี ๙ อย่า ย่ ง 8


อัพภูตธรรม เป็นคำ สอนประเภทเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับ พระพุทธเจ้า และพระสาวกทั้งหลาย เช่น พระพุทธ องค์สมัยอยู่ในพระครรภ์พระนางสิริมหามายา นั่ง สมาธิผินพระพักตร์ออกมาทางด้านหน้าพระอุทร ไม่ แปดเปื้อนด้วยมลทินพระครรภ์ เหมือนทารกธรรมดา ทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ เป็นต้น เวทัลละ เป็นคำ สอนประเภทคำ ถาม-คำ ตอบ แปลว่าได้ ความรู้ความปลื้มใจ หมายถึง ผู้ถามได้ความรู้ความ ปลื้มใจแล้ว ก็ถามต่อไปเรื่อยๆ มี ๘๔,๐๐๐ อย่าย่ง ได้แก่ พระธรรมขันขัธ์ ลักษณะแห่ง ห่ พุทธวจนะมี ๙ อย่า ย่ ง ลักษณะแห่งพุทธวจนะ คำ สอนของพระพุทธเจ้ากระจายอยู่ใยู่นพระไตรปิฎก พระอรรถกถาจารย์ไย์ ด้ประมวลลักษณะพุทธพจน์ไว้ ๑๖ ประการ คือ 9


ทำ ให้เกิดศรัทรัธา ทำ ให้เกิดปัญปัญา พร้อร้มด้วยอรรถกถา พร้อร้มด้วยพยัญยัชนะ มีบมีทง่าง่ย มีคมีวามหมายลึกซึ้งซึ้ สบายหู มีคมีวามหมายจับใจ ไม่ยม่กตน ไม่ข่ม่มข่ผู้อื่ผู้ อื่นอื่เยือยืกเย็นย็ด้วยกรุณรุา ผ่อผ่งแผ้วผ้ด้วยปัญปัญา เป็นป็ ไปตามหลักธรรม น่ารื่นรื่รมย์ น่าขบคิด ฟังฟัได้ง่าง่ย นำ ไปปฏิบัติบั ติได้ ลักษณะแห่ง ห่ พุทธวจนะ ลำ ดับคัมภีร์ท ร์ างพระพุทธศาสนา ความหมายของคำ ว่าคัมภีร์ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายของคำ ไว้ว่า “หนังสือตาราที่สำ คัญทางศาสนาหรือ โหราศาสตร์ เป็นต้น” 10


ธรรมและวินัวินัย ๒ อย่าย่ง นำ มาเก็บ ก็ รวบรวมจัดเป็น ป็ หมวดหมู่ใมู่หม่ แยกเป็น ป็ ๓ ปิฎก เรียรีกว่าว่ บาลีพระไตรปิฎก วินัย ได้แก่ ระเบียบข้อบังคับสำ หรับชีวิตและชุมชนของภิกษุ และภิกษุณี จัดไว้เป็นคัมภีร์หนึ่ง เรียกว่า พระวินัวินั ยปิฎก ธรรม จัดแยกเป็น ป็ ๒ คัมภีร์ ธรรมที่พที่ระพุทธเจ้าทรงแสดงให้เหมาะกับบุคคลสถานที่ เหตุการณ์ มีเมีรื่อรื่งอุทาหรณ์ประกอบ เรียรีกว่าว่ พระสุตตันตปิฎก ธรรมที่แที่สดงเป็น ป็ เนื้อหาหรือรืหลักวิชวิาล้วน ไม่เม่กี่ยกี่วกับด้วย บุคคลหรือรืเหตุการณ์ เรียรีกว่าว่ พระอภิธรรมปิฎก 11


พระไตรปิฎก ได้รับรัการท่องจำ และถ่ายทอดกันมา จารึกรึเป็น ภาษาบาลีมคธ ส่วน อรรถกถา ได้รับรัการท่องจำ สืบทอดกันมาและจารึกรึเป็น ภาษาสิงหล คำ อธิบธิายพุทธพจน์ คำ อธิบายพุทธพจน์หรือหลักพระธรรมวินัย หรือคำ อธิบายความในพระไตรปิฎกนั้น เรียกว่า อรรถกถา พระไตรปิฎก ช่ว ช่ ง พ.ศ. ๙๕๐ - ๑๐๐๐ พระพุทธโฆษาจารย์ พระธรรมปาละ เดินทางมาจากชมพู ทวีปวีมายังยัเกาะลังกา ได้แปลเรียรีบเรียรีง อรรถกถา กลับมาเป็น ป็ ภาษาบาลี อย่าย่งที่ใที่ช้ศึช้กศึษากันอยู่ใยู่นปัจปัจุบัจุนบัและแปลเป็น ป็ ภาษา ไทย คัมภีร์อ ร์ รรถกถาพระวินัวินั ยปิฎกผลงานของพระ พุทธโฆษาจารย์ มี ๒ คัมภีร์ อรรถกถาสมันมัตปาสาทิกา อรรถกถากังขาวิตวิรณี 12


คัมภีร์อ ร์ รรถกถาพระสุตตันตปิฎก คัมภีร์อ ร์ รรถกถาพระสุตตันตปิฎกก่อนสมัยพระพุทธ โฆษาจารย์ มี ๓ คัมภีร์ คือ เนตติปกรณ์ เปฏโกปเทสปกรณ์และ มิลินทปัญหา คัมภีร์อ ร์ รรถกถาพระสุตตันตปิฎก ผลงานของพระพุทธโฆษาจารย์ มี ๑๐ คัมภีร์ วิสุวิสุทธิมธิรรค ญาโณทัย ปริตัริตัถกถา สุมังมัคลวิลวิาสินีสินี ปปัญปัจสูทนี สารัตรัถปกาสินีสินีมโนรถปูรณี ธัมธัมปทัฏฐกถา ปรมัตมัถโชติกา ชาตกัฏฐกถา คัมภีร์อ ร์ รรถกถาพระอภิธรรมปิฎก ผลงานของพระพุทธโฆษาจารย์ มี ๗ คัมภีร์ อัฏอัฐสาลินี สัมสั โมหวิโวินทนี ปรมัตมัถทีปนี (อรรถกถาธาตุกถา) ปรมัตมัถทีปนี (อรรถกถาปุคคลบัญบัญัติญั ติ) ปรมัตมัถทีปนี (อรรถกถากถาวัตวัถุ) ปรมัตมัถทีปนี (อรรถกถายมก) ปรมัตมัถทีปนี (อรรถกถาปัฏปัฐาน 13


พระพุทธโฆสะ เป็น ป็ ชาวอินอิเดีย เกิด ณ หมู่บ้มู่ บ้านชื่อชื่ โฆสคาม ใกล้พุทธคยา สถานที่ตที่รัสรัรู้ขรู้องพระพุทธเจ้าเมื่อมื่พ.ศ. ๙๕๖ ได้ศึกศึษาจบไตรเพทตามธรรมเนียมพราหมณ์ก่อน ต่อมา เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาโดยการเผยแผ่ขผ่องพระเรวัตวัตเถระ ชื่อชื่ของท่านบางแห่งห่เรียรีกว่าว่ธรรมโฆสะ ก็มี ก็ มีและได้บรรพชา อุปสมบทกับพระเรวัตวัตะ เมื่อมื่บรรพชาอุปสมบทแล้วได้ศึกศึษาพระพุทธพจน์โดยเคารพ ประกอบด้วยอุตสาหะอย่าย่งยิ่งยิ่จนแตกฉานทั้งในพระไตรปิฏกและ อรรถกถา ได้แต่งปกรณ์ชื่อชื่ญาโณทัย ขึ้นขึ้คัมภีร์ห ร์ นึ่ง และกาลังปรารภ จะแต่งอรรถกถาพระอภิธรรมชื่อชื่อรรถกถาสาลินี และอรรถกถาปลีก ย่อย่ยอื่นอื่ๆ ท่านเรวัตวัตะผู้เผู้ป็น ป็ อุปัชปัฌายะจึงแนะนาว่าว่เมื่อมื่จะแต่งอรรถ กถาเหล่านี้ ก็ค ก็ วรเดินทางไปเกาะลังกา เพราะเวลานั้นอินอิเดียมีแมีต่ บาลีพระไตรปิฏกทั้งสิ้นสิ้ส่วส่นอรรถกถาทั้งหลายมีอมียู่ ณ เกาะลังกาเป็น ป็ ภาษาสิงสิหลซึ่งซึ่พระเถระมีพมีระสารีบุรีบุตร(ชาวลังกามิใมิช่พช่ระสารีบุรีบุตรอัคอัร สาวก) และพระมหินหิเทเถระได้รจนาไว้ ผู้รผู้จณาคัมภีร์พร์ระไตรปิฎก แบบอรรถาธิบธิาย 14


คัมภีร์ใร์ บลานสมัยมัรัตรันโกสินสิทร์ พระไตรปิฎกฉบับบัชาระ และ จารลงในใบลานด้วยอักอัษรขอม ปิด ทองทึบปกหน้าปกหลังและกรอบทั้ง สิ้นสิ้เรียรีกว่าว่ “ฉบับับ บั บ บั ทอง” การสังสัคายนาพระไตรปิฎก สมัยมัรัชรักาลที่ ๒ พระไตรปิฎกฉบับบัรดน้าแดง เพราะใบลานที่ทที่าปกเขียขีนลาย รดน้าพื้นพื้แดง คัมภีร์นิ ร์ นิสสัคสัคิยปาจิตติยวัณวัณนา (ทุติย) สมันมัตัปปาสาทิกา วินวิยัฎยัฐกถา ฉบับบัทองชุบชุไม้ปม้ระกับลายกามะลอ ในรัชรักาลพระบาท สมเด็จด็พระพุทธยอดฟ้าฟ้จุฬจุาโลก


ที่ที่ ที่ที่ บ ที่ รรจุคำ จุ คำ สอนเรีย รี กว่า ว่ บ ที่ รรจุคำ จุ คำ สอนเรีย รี กว่า ว่ “หอไตร” 16


การศึกศึษาให้รู้แรู้ละเข้าข้ใจในพระไตรปิฎก เป็นป็แนวทางการศึกศึษาใน ลำ ดับแรกคือ “ปริยัริติยั ติ” จากนั้นจึงควรนำ ไปกระทำ ตาม คือ “ปฏิบัติบั ติ” เพื่อพื่ให้ได้ผลแห่งห่การปฏิบัติบั ตินั้น คือ “ปฏิเวธ” ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าว่การ ศึกศึษาพระพุทธศาสนาให้ได้ผลดีที่สุที่สุด จึงควรทำ ให้ครบทั้ง ปริยัริติยั ติปฏิบัติบั ติ และ ปฏิเวธ นั่นเอง เข้าข้ใจภาพรวมทั้งหมดของพระไตรปิฎก และคัมภีร์อ ร์ รรถกถาว่าว่มี เนื้อหาอะไรบ้าง สามารถค้นหาข้อข้มูลในพระไตรปิฎกและคัมภีร์อ ร์ รรถกถาได้ง่าง่ย และรวดเร็วร็ขึ้นขึ้เนื่องจากเข้าข้ใจโครงสร้าร้งทั้งหมดแล้ว เปรียรีบเหมือมืนมีแมีผนที่นำที่นำทางในการศึกศึษาพระพุทธศาสนาต่อไป เพราะเข้าข้ใจในภาพรวมของพระวินัวินัยและหลักธรรมทั้งหมด รวม ถึงเป้าป้หมายในการศึกศึษาพระพุทธศาสนา ฝากทิ้งท้าย ประโยชน์ของการศึกศึษาโครงสร้า ร้ งพระไตรปิฎก 17


อรรถกถา คือ คำ อธิบธิายพุทธพจน์หรือรืหลักธรรมวินัวินัย คัมภีร์อ ร์ รรถ กถาอธิบธิายพระไตรปิฎก โดยอธิบธิายคำ ศัพศัท์ ความหมาย พร้อร้ม ทั้งชี้แชี้จ้งเหตุผล ที่พที่ระพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่อรื่งนั้น ๆ พุทธสังสัวัณวัณิตะ (พุทธสังสัวัณวัณนา หรือรืพุทธกถา) ได้แก่ คำ อธิบธิาย ของพระพุทธเจ้า ที่พที่ระองค์ทรงแสดงพระพุทธพจน์ โดยตรงด้วย พระองค์เอง อนุพุทธสังสัวัณวัณิตะ (อนุพุทธสังสัวัณวัณนา หรือรือนุพุทธ อรรถกถา) ได้แก่คำ อธิบธิายของพระสาวกทั้งหลาย นิยมเรียรีกอรรถกถาประเภท นี้ว่าว่สาวกภาษิต มคธอรรถกถา อรรถกถาที่แที่ต่งด้วยภาษามคธ (บาลี)ได้แก่ อรรถ กถา ที่มีที่มมีาตั้งแต่สมัยมัที่พที่ระพุทธเจ้ายังยัทรงพระชนม์อ ม์ ยู่ และ อรรถ กถาที่พที่ระมหินหิทเถระนามาสู่ปสู่ระเทศศรีลัรีลังกา ภายหลังสังสัคายนาครั้งรั้ที่ ๓ อรรถกถาที่ พระพุทธโฆษาจารย์ พระพุทธทัตตะ พระธรรมปาละ พระอุปเสนและพระมหานามะ เป็นป็ต้น แปลจากภาษาสิงสิหล สู่ภสู่าษามคธ คำ อธิบธิายพระไตรปิฎกโดยย่อ ย่ ของพระอรรถกถาจารย์ ประเภทของอรรถกถา อรรถกถาประเภทภาษา 18


อรรถกถาประเภทภาษา มคธอรรถกถา อรรถกถาที่แที่ต่งด้วยภาษามคธ (บาลี)ได้แก่ อรรถกถา ที่มีที่มมีาตั้งแต่สมัยมัที่พที่ระพุทธเจ้ายังยัทรงพระชนม์อ ม์ ยู่ และ อรรถกถาที่พที่ระมหินหิทเถระนามาสู่ปสู่ระเทศศรีลัรีลังกา ภายหลังสังสัคายนาครั้งรั้ที่ ๓ อรรถกถาที่ พระพุทธโฆษาจารย์ พระพุทธทัตตะ พระธรรมปาละ พระอุปเสนและพระมหานามะ เป็นป็ต้น แปลจากภาษาสิงสิหล สู่ภสู่าษามคธ ทำ ไมต้องเป็น ป็ ภาษามคธ เพราะเป็น ป็ ภาษาที่พที่ระพุทธเจ้าใช้ เพราะเป็น ป็ ภาษาที่เที่คยบันบัทึกพุทธพจน์ เพราะเป็น ป็ ภาษาที่ตที่ายตัวไม่สม่ามารถเปลี่ยลี่นแปลง เพราะมีคมีวามสละสลวยสวยงามตามภาษา สิงสิหลอรรถกถา สิงสิหลอรรถกถา คือ อรรถกถา ที่แที่ต่งด้วยภาษาสิงสิหล ได้แก่ ๑) มูลอรรถกถา นำ มาจากชมพูทวีปวี โดย พระมหินหิทเถระ ๒) มหาอรรถกถา หมายถึง อรรถกถาเก่า ที่พที่ระพุทธโฆษาจารย์ ถือเป็น ป็ แบบในการแต่งอภินวอรรถกถา 19


อรรถกถาตามยุค ยุ สมัย มั ความหมายพระสูตร ๖ อย่าย่ง • เพราะบ่งบ่ถึงประโยชน์ อตฺถาน สูจนโต • เพราะมีอมีรรถที่ตที่รัสรัไว้ดีว้ ดีแล้ว สุวุตฺวุ ตฺโต • เพราะผลิตประโยชน์ สวนโต • เพราะหลั่งประโยชน์ สูทนโต • เพราะป้อป้งกันด้วยดี สุตฺตาณา • เพราะมีส่มีวส่นเสมอด้วยเส้นส้ด้าย สุตฺตสภาคโต • โบราณอรรถกถา ได้แก่ อรรถกถารุ่นรุ่เก่า • อภินวอรรถกถา • วิตวิถารอรรถกถา คำ อธิบธิายพระสุตตันตปิฎก คำ อธิบธิายพระสุตตันตปิฎก ความหมายพระสูตร ๖ อย่าย่ง เพราะบ่งบ่ถึงประโยชน์ (อตฺถาน สูจนโต) คือ ชี้ใชี้ห้เห็น ห็ ประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่ผู้ อื่นอื่เพราะมีอมีรรถที่ตที่รัสรัไว้ดีว้ ดีแล้ว (สุวุตฺวุ ตฺโต) คือ ตรัสรัตามอุปนิสัยสัหรือรือัธอัยาศัยศัของเวไนยสัตสัว์ เพราะผลิตประโยชน์ (สวนโต) คือ ก่อให้เกิดผลดุจข้าข้วกล้าที่เที่จริญริ เติบโตแล้วผลิตรวงข้าข้ว 21


อรรถกถาตามยุค ยุ สมัย มั เพราะหลั่งประโยชน์ (สูทนโต) • คือ ทำ ให้ประโยชน์หลั่งไหลออกมาดุจแม่โม่คนมหลั่งน้ำ นมออกมา เพราะป้อป้งกันด้วยดี (สุตฺตาณา) • คือ รักรัษาประโยชน์ทั้งหลายไว้ไว้ด้ด้วยดี เพราะมีส่มีวส่นเสมอด้วยเส้นส้ด้าย (สุตฺตสภาคโต) • คือ ใช้เช้ป็น ป็ บรรทัดฐานในการประพฤติปฏิบัติบั ติของวิญวิญูชนดุจเส้นส้ บรรทัดของช่าช่งไม้ • โบราณอรรถกถา ได้แก่ อรรถกถารุ่นรุ่เก่า • อภินวอรรถกถา • วิตวิถารอรรถกถา คำ อธิบธิายพระสุตตันตปิฎก ความหมายพระสูตร ๖ อย่าย่ง 22


พระวินั วินั ยปิฎก การแสดงธรรมมีข้มีอข้บังบัคับมีบมีทลงโทษ การสอนตามความผิดผิหรือรืตามโทษนั้น คำ สอนว่าว่ด้วยการสำ รวมและไม่สำม่สำรวม ข้อข้ศึกศึษาเกี่ยกี่วกับศีลศีระดับสูง เครื่อรื่งละกิเลสอย่าย่งหยาบที่ทำที่ทำ ให้ละเมิดมิศีลศี


พระสุตตันตปิฎก • การแสดงธรรมที่เที่หมาะกับจริตริผู้ฟัง • การสอนอนุโลมตามจริตริผู้ฟัง • คำ สอนที่มุ่ที่มุ่งให้ผ่อนคลายทิฏฐิ • ข้อศึกษาเกี่ยกี่วกับสมาธิระดับสูง • เครื่อรื่งละกิเลสอย่างกลาง พระอภิธรรมปิฎก • การแสดงธรรมมุ่ง มุ่ ประโยชน์อย่า ย่ งยิ่งยิ่ • การสอนตามเนื้อหาแท้ๆของธรรม • คำ สอนที่มุ่ที่มุ่ ง มุ่ กำ หนดรูป รู นาม • ข้อ ข้ ศึกศึษาเกี่ยกี่วกับปัญปัญาระดับสูง • เครื่อรื่งละกิเลสอย่า ย่ งละเอียอีด 24


โครงสร้า ร้ งและคัมภีร์ใร์ น พระสุตตันตปิฎก 1 คัมภีร์ทีฆนิกาย มี 3 วรรค จำ นวน 34 สูตร 1.สีลสีขันขัธวรรค (เล่มที่ 9,13 สูตร) 2. มหาวรรค (เล่มที่ 10,10 สุตร) 3. ปาฏิกวรรค (เล่มที่ 11,11 สูตร 1.ปาฏกสูตร 2.อุทุมหริกริสูตร 3.จักกวัตวัติสูตร 4.อัคอัคัญญสูตร 9.อาฏานาฏิยสุตร 10. สังสัคีติสูตร 11. ทุสตตรสูตร 5.สัมสั ปสาทนียสูตร 6.ปาสาทิกสูตร 7. ลักขณสูตร 8.สิงสิคาลกสูตร 25


โครงสร้า ร้ งและคัมภีร์ใร์ น พระสุตตันตปิฎก 2 คัมภีร์มัฌิมนิกาย จำ นวน 5วรรค 50 สูตร มูลปริยริายวรรค ๑. มูลปริยริายสูตร ๒. สัพสัพาสวสังสัวรสูตร ๓. ธรรมทายาทสูตร ๔. ภยเภรวสูตร ๕. อนังคณสูตร ๖. อากังเขยยสูตร ๗. วัตวัถูปมสูตร ๘. สัลสัเลขสูตร ๙. สัมสัมาทิฏฐิสูฐิสูตร ๑๐. สติปัฏปัฐานสูตร สีหสีนาทวรรค ๑. จูฬจูสีหสีนาทสูตร ๒. มหาสีหสีนาทสูตร ๓. มหาทุกขักขัขันขัธสูตร ๔. จูฬจูทุกขักขัขันขัธสูตร ๕. อนุมานสูตร ๖. เจโตขีลขีสูตร ๗. วนปัตปัถสูตร ๘. มธุปิธุปิณฑิกสูตร ๙. เทวธาวิตัวิตักกสูตร ๑๐. วิตัวิตักกสัณสัฐานสูตร โอปัมปัมวรรค ๑. กกจูปจูมสูตร ๒. อลคัททูปมสูตร ๓. วัมวัมิกมิสูตร ๔. รถวินีวินีตสูตร ๕. นิวาปสูตร ๖. ปาสราสิสูสิสูตร ๗. จูฬจูหัตถิปโทปมสูตร ๘. มหาหัตถิปโทปมสูตร ๙. มหาสาโรปมสูตร ๑๐. จูฬจูสาโรปมสูต มหายมกวรรค ๑. จูฬจูโคสิงสิคสาลสูตร ๒. มหาโคสิงสิคสาลสูตร ๓. มหาโคปาลสูตร ๔. จูฬจูโคปาลสูตร ๕. จูฬจูสัจสัจกสูตร ๖. มหาสัจสัจกสูตร ๗. จูฬจูตัณหาสังสัขยสูตร ๘. มหาตัณหาสังสัขยสูตร ๙. มหาอัสอัสปุรสูตร ๑๐. จูฬจูอัสอัสปุรสูตร จูฬจูยมกวรรค ๑. สาเลยยกสูตร ๒. เวรัญรัชกสูตร ๓. มหาเวทัลลสูตร ๔. จูฬจูเวทัลลสูตร ๕. จูฬจูธรรมสมาทานสูตร ๖. มหาธรรมสมาทานสูตร ๗. วีมัวีงมัสกสูตร ๘. โกสัมสัพิยพิสูตร ๙. พรหมนิมันมัตนิกสูตร ๑๐. มารตัชชนียสูตร 26


27


28


คัคั คั มคั มภีภี ภี ร์ภี ร์ที ร์ ที ร์ ที ฆที ฆนินิ นิ กนิ กาย


พรหมชาลสูตร ว่า ว่ ด้วยศีลศี 3 ชั้นชั้ ศีล ศี ศีลศีคืออะไร ทำ ไมต้องมีศีมีลศี การรัก รั ษาศีลศีจะได้อะไร หากไม่มี ม่ ศีมีลศีจะเกิดอะไร เป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้ง เป็นบ่อเกิด แห่งคุณงามความดีทั้งหลาย และเป็นประธานแห่งธรรมทั้งปวง 30


31


ปาฏิหฏิาริย์ริ ย์3 ประการ อิทอิธิปธิาฏิหาริย์ริย์ เป็น ป็ ปาฏิหาริย์ริใย์ นเรื่อรื่งฤทธิ์ คือการ แสดงฤทธิ์หธิ์รือรืความเป็น ป็ ผู้วิผู้เวิศษ ดลบันบัดาลอะไร ต่าง ๆ เหาะเหินหิเดินอากาศ หูทิพย์ ตาทิพย์ เป็น ป็ ต้น อาเทศนาปาฏิหาริย์ริย์ปาฏิหาริย์ริคื ย์ คือการทายใจได้ อนุศาสนีปาฏิหาริย์ริย์ปาฏิหาริย์ริคื ย์ คือคำ สอนที่เที่ป็น ป็ อัศอัจรรย์ 32


33


มหานินินินิทานสูสูสู ต สู ตร กล่าวถึงหลักปฏิจจสมุปบาท สัตสัว์ย่ ว์ อย่มหมุนเวียวีนอยู่ใยู่นวัฏวัจักร มีคมีวามเกี่ยกี่ว เนื่องกันเหมือมืนลูกโซ่ ดังนี้ อวิชวิชา เป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี สังสัขาร สังสัขาร เป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี วิญวิญาณ นามรูปรูเป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี สฬายตนะ สฬายตนะ เป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี ผัสผัสะ 34


สัสัง สั ง สัสารวัวัฏ วั ฏ วั ผัสผัสะ เป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี เวทนา เวทนา เป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี ตัณหา ตัณหา เป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี อุปาทาน อุปาทาน เป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี ภพ ภพ เป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี ชาติ ชาติ เป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี ชรามรณะ ชรามรณะ เป็น ป็ ปัจปัจัยให้มี โสกะ , ปริเริทวะ 35


36 กำ เนิดที่ป ที่ รากฏในอัค อั คัญญสูตร เดรัจ รั ฉาน เปรตอสรุก รุ าย สัต สั ว์น ว์ รก พรหม เทวดา มนุษย์ สุข คติ ภูมิ ทุก คติ ภูมิ


37


แสดงความไม่ปม่ ระมาท ไม่ปม่ระมาทในชีวิชีตวิว่าว่จะยืนยืยาว ไม่ปม่ระมาทในวัยวัว่าว่ยังยัหนุ่มสาว ไม่ปม่ระมาทในสุขภาพ ว่าว่ยังยัแข็ง ข็ แรง ไม่ปม่ระมาทเวลา ว่าว่ยังยัมีอีมีกอีมาก ไม่ปม่ระมาทในธรรม ว่าว่เอาไว้ก่ว้ ก่อนวันวัหลังค่อยสนใจ 38


39


40


ทิศทั้ง 6 กรรมกิเลส คือกรรมเครื่อรื่งเศร้า ร้ หมอง 4 อย่า ย่ ง 1. ปาณาติบาต ทำ ชีวิชีตวิสัตสัว์ใว์ห้ตกล่วง. 2. อทินนาทาน ถือเอาของสิ่งสิ่ของที่เที่จ้าของไม่ไม่ด้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย. 3. กาเมสุ มิจมิฉาจาร ประพฤติผิดผิ ในกาม 4. มุสาวาท พูดเท็จท็ . 41


คัคั คั ม คั มภีภี ภี ร์ ภี ร์มั ร์ มั ร์ ช มั ช มั ฌิฌิม ฌิ ม ฌิ นินิ นินิ กาย


วิเ วิ คราะห์พ ห์ ระสูตร ทีฆนิกาย มูลปริยริายวรรค


44


45


46


47


Click to View FlipBook Version