48
49
60
61
62
63
64
คัคัคัคั มมภีภีภีภี ร์ร์สัสัร์ร์ งงสัสั ยุยุตต ยุยุ ตตนินินินิ กกาายย
คั ม ภี ร์ สัร์ งสั ยุ ต ยุ ต นิ ก า ย 6 6
สังสัยุตยุตนิกาย คืออะไร สังสัยุตยุตนิกาย พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕-๑๙ รวม ๕ เล่ม คือ ชุมชุนุมพระสูตรที่จัที่จัดเข้าข้เป็นป็ กลุ่มๆ เรียรีกว่าว่สังสัยุตยุหนึ่งๆ ตามเรื่อรื่งที่เที่นื่องกัน หรือรืตามหัวหัข้อข้หรือรืบุคคลที่เที่กี่ยกี่วข้อข้ง รวม ๕๖ สังสัยุตยุมีพมีระสูตร(เท่าที่ปที่รากฏ) จำ นวน ๒,๗๕๒ สูตร (อรรถกถาพระวินัวินัยว่าว่มี ๗,๗๖๒ สูตร วิ.วิอ. ๑/๑๗ 67
ส่ว ส่ นประกอบของสัง สั ยุต ยุ ตนิกาย มี ๔ วรรคใหญ่ๆ ญ่ สคาถวรรค (เล่มที่ ๑๕) เป็น ป็ วรรคที่รที่วมคาถาภาษิตที่ ตรัสรัและกล่าวตอบบุคคลต่าง เช่นช่เทวดา มาร ภิกษุณี พราหมณ์ พระเจ้าโกศล เป็น ป็ ต้น จัดเป็น ป็ กลุ่มเรื่อรื่งตาม บุคคลและสถานที่ มี ๑๑ สังสัยุตยุ 68
หลักปฏิจจสมุปบาท 69
3.1 ขันขัธสังสัยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งขันขัธ์ เป็น ป็ พระสูตรที่ เกี่ยกี่วกับขันขัธ์ ๕ และธรรมที่ เกี่ยกี่วข้อ ข้ งกับขันขัธ์เ ธ์ หล่านี้ มี ๑๕๙ สูตร 3.2 ราธสังสัยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งพระราธะ เป็น ป็ พระ สูตรที่เที่กี่ยกี่วกับพระราธะ มี ๔๖ สูตร 3.3 ทิฏฐิสัฐิงสัยุต ยุ - ประมวลเรื่อรื่งทิฏฐิ อันอัเป็น ป็ ที่ รวบรวมพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับทิฏฐิ และลัทธิต่ธิต่ างๆ มี ๙๖ สูตร 3.4 โอกกันตสังสั ยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งผู้ก้ ผู้ ก้ าวลงสู่อ สู่ ริยริมรรค คือพระโสดาบันบัมี ๑๐ สูตร 71
3.5 อุปปาทสังสั ยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งความเกิดขึ้นขึ้แห่ง ห่ ธรรมต่างๆ อันอัก่อให้เกิดความ ทุกข์ มี ๑๐ สูตร 3.6 กิเลสสังสัยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งกิเลส รวมพระสูตร ที่เที่กี่ยกี่วกับกิเลส มี ๑๐ สูตร 3.7 สารีปุรีปุ ตตสังสั ยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งพระสารีบุรีบุ ตร รวม พระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับท่านพระสารี บุตร มี ๑๐ สูตร 3.8 นาคสังสัยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งนาค เป็น ป็ การรวม พระสูตรที่เที่กี่ยกี่ว กับนาค กำ เนิด นาค เหตุที่ทำที่ทำ ให้เกิดเป็น ป็ นาค มี ๕๐ สูตร 3.9 สุปัณปัณสังสัยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งครุฑ รุ เป็น ป็ การรวม เอาพระสูตรเกี่ยกี่วกับครุฑ รุ กำ เนิด ของครุฑ รุ เหตุที่ทำที่ทำ ให้เกิดเป็น ป็ ครุฑ รุ เป็น ป็ ต้น มี ๔๖ สูตร 3.10 คันธัพธัพกายสังสั ยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งเทพที่นัที่นับเนื่องอยู่ ในหมู่คั มู่ คันธัพธัพเทพ มี ๑๑๒ สูตร 3.11 วลาหกสังสัยุต ยุ - ประมวลเรื่อรื่งเทพวลาหก (ผู้ ทำ ให้เกิดเมฆ) มี ๕๗ สูตร 72
3.12 จฉโคตตสังสั ยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งวัจวัฉโคตตปริพริพา ชก ซึ่งซึ่ชอบ ทูลถามพระพุทธเจ้า ด้วย อันอัตคาหิกหิทิฏฐิ (ความเห็น ห็ ที่ ยึดยึถือที่สุที่สุ ด) มี ๕๕ สูตร 3.13 ฌานสังสัยุต ยุ - ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับฌาน ประเภทต่างๆ และวิธีวิปธีฏิบัติบั ติใน ฌาน (สมาธิ)ธิมี ๕๕ สูตร สุปัณ ปั ณสัง สั ยุต ยุ : เทวดาประจำ ทิศใต้ นาคสัง สั ยุต ยุ : เทวดาประจำ ทิศตะวัน วั ตก 73
พิษ พิ ของพญานาค ที่ลที่มหายใจ เป็นป็อากาศพิษพิเหมือมืนคมดาบคมหอก ที่ดที่วงตา เป็นป็ ไฟ ทำ ให้แข็งข็เหมือมืนท่อนไม้ ที่สัที่มสัผัสผัเกิดเน่าเปื่อย ที่ค ที่ มเขี้ยขี้ว กัดพิษพิจึงเข้า ข้ สู่ร่ สู่ า ร่ งกาย
75
4.1 สฬายตนสังสั ยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งอายตนะ ๖ เป็น ป็ การ รวมพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับอายตนะ ภายใน ๖ อายตนะ ภายนอก ๖ และธรรมที่เที่กี่ยกี่วข้อ ข้ งกับอายตนะ เหล่านี้ มี ๒๔๘ สูตร 4.2 เวทนาสังสัยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งเวทนา เป็น ป็ การรวม พระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับเวทนา ๓ คือ - สุขเวทนา (ความรู้สึ รู้ กสึสุข) - ทุกขเวทนา (ความรู้สึ รู้ กสึทุกข์)ข์ - อทุกขมสุขเวทนา (ความรู้สึ รู้ กสึ ทุกข์ก็ ข์ ไก็ ม่ใม่ ช่สุ ช่ สุ ขก็ไก็ ม่ใม่ ช่)ช่ และเวทนาทางใจ (ความรู้สึ รู้ กสึ ทางใจ) มี ๓๑ สูตร 4.3 มาตุคามสังสั ยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งมาตุคาม เป็น ป็ การ รวบรวมพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับ ลักษณะชีวิชีตวิความเป็น ป็ อยู่ ความ ปรารถนา และคติธรรมของ มาตุคาม มี ๓๔ สูตร 4.4 ชัมชัพุขาทก สังสัยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งชัมชัพุขาทกปริพริาชก ที่ถที่ามปัญปัหากับพระสารีบุรีบุ ตร มี ๑๖ สูตร
4.5 สามัณมัฑกสังสั ยุต ยุ - ประมวลเรื่อรื่งสามัณมัฑกปริพริาชก ที่ถที่ามปัญปัหากับพระสารีบุรีบุ ตร มี ๒ สูตร 4.6 โมคคัลลาน สังสัยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งพระโมคคัลลานะ มี ๑๑ สูตร 4.7 จิตตสังสัยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งจิตตคหบดี เป็น ป็ การ รวบรวมพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับจิตต คหบดี ชาวเมือมืงมัจมัฉิกาสณฑ์ แคว้น ว้ กาสี มี ๑๐ สูตร 4.8 คามณิสังสัยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งผู้ใผู้ หญ่บ้ ญ่ บ้ าน เป็น ป็ การ รวบรวมพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับผู้ใผู้ หญ่ บ้าน มี ๑๓ สูตร 4.9 อสังสัขตสังสั ยุต ยุ -ประมวลเรื่อรื่งอสังสัขตธรรม (ซึ่งซึ่ที่ ปัจปัจัยปรุง รุ แต่ง ไม่ไม่ ด้) ได้แก่ ความ สิ้นสิ้ราคะ โทสะ โมหะ และธรรมที่มีที่มี ลักษณะอย่า ย่ งเดียวกัน ที่เที่ป็น ป็ ไวพจน์ของนิพพาน มี ๔๔ สูตร 4.10 อัพอัยากตสังสั ยุต ยุ - ประมวลเรื่อรื่งอัพอัยากตปัญปัหา คือ ปัญปัหาที่พที่ระพุทธเจ้าไม่ท ม่ รง พยากรณ์ มี ๑๑ สูตร
มหาวารวรรค (เล่มที่ ๑๙) เป็น ป็ วรรคที่ว่ที่า ว่ ด้วยโพธิปัธิกปัขิยขิธรรม ๓๗ แต่เรียรีง ลำ ดับเป็น ป็ มรรคมีอมีงค์ ๘ โพชฌงค์ ๗ สติปัฏปัฐาน ๔ อินอิทรีย์รีย์๕ สัมสัมัปมั ปธาน ๔ พละ ๕ อิทอิธิบธิาท ๔ รวมทั้งเรื่อรื่ง ที่เที่กี่ยกี่วข้อ ข้ ง นิวรณ์ สังสัโยชน์ อริยริสัจสัจ์ ฌาน ตลอดถึงองค์ คุณของพระโสดาบันบัและอานิสงส์ข ส์ องการบรรลุโสดา ปัตปัติผล มี ๑๒ สังสัยุต ยุ คือ 5.1 มัคมัคสังสัยุต ยุ - ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับ อริยริมรรค มีอมีงค์ ๘ มี ๑๘๑ สูตร 5.2 โพชฌงคสังสั ยุต ยุ -ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับธรรม ที่เที่ป็น ป็ องค์แห่ง ห่ การตรัสรัรู้ มี ๑๘๔ สูตร 5.3 สติปัฏปัฐาน สังสัยุต ยุ -ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับสติปัฏปั ฐาน ๔ มี ๑๐๔ สูตร 5.4 อินอิทรียรีสังสั ยุต ยุ - ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับ อินอิทรีย์รีย์๒๒ มี๑มี๑๔ สูตร 78
5.5 สัมสัมัปมั ปธาน สังสัยุต ยุ -ประมวล เรื่อรื่งสัมสัมัปมั ปธาน (ความ เพียพีรชอบ) ๔ ประการ คือ เพียพีร ระวังวัเพียพีรละ เพียพีรเจริญริและ เพียพีรรักรัษา มี ๔๔ สูตร 5.7 พลสังสัยุต ยุ - ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับพละ ๕ มี ๕๖ สูตร โพธิปัธิ ก ปั ขิย ขิ ธรรม ๓๗ 79
5.7 อิทอิธิบธิาทสังสั ยุต ยุ -ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับอิทอิธิ บาท (คุณธรรม ที่นำที่นำ ไปสู่ค สู่ วาม สำ เร็จ ร็) ๔ มี ๕๔ สูตร 5.8 อนุรุท รุ ธสังสัยุต ยุ -ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับท่าน อนุรุท รุ ธะ มี ๒๔ สูตร 5.9 ฌานสังสัยุต ยุ -ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับฌาน ๔ มี ๒๒ สูตร 5.10 อานาปานสังสั ยุต ยุ -ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับอานา ปานสติ (สติกำ หนดลมหายใจเข้า ข้ ออก) ๑๖ ขั้นขั้มี ๒๐ สูตร 80
5.11 โสตาปัตปัติสังสั ยุต ยุ -ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับการถึง กระแสธรรม คือองค์เครื่อรื่งบรรลุ พระโสดาบันบัมี๗มี ๔ สูตร 5.12 สัจสัจสังสัยุต ยุ -ประมวลพระสูตรที่เที่กี่ยกี่วกับอริยริ สัจสัจ์ ๔ ประการ มี ๑๓๑ สูตร อิน อิ ทกสูตร สาระสำ คัญของเนื้อหาพระสูตร คือพัฒพันาการของ ร่า ร่ งกายมนุษย์ มีชีมีวิชีตวิหรือรือัตอัตา แม้แ ม้ ต่ร่า ร่ งกาย เลือด เนื้อก็เ ก็ กิดจากชีวชีะสังสัขารปรุง รุ แต่งขึ้นขึ้มา อันอัมี กลละ อัพอัพุทะ ฆนะ เปสิ และปัญปัจสาขา
ปัจ ปั จัยที่ทำ ที่ ทำ ให้สัต สั ว์เ ว์ กิด มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา มารดาบิดบิาอยู่ร่ยู่วร่มกัน มาตา จ อุตุนี มารดามีรมีะดู คันฺธัพธั โพ จ ปจฺจจฺปฏฺฐิฏฺโฐิต สัตสัว์ถื ว์ ถือปฏิสนธิ มนุษย์ม ย์ าจากไหน ในมหาสีหสีนาทสูตร กำ เนิดชีวิชีตวิสัต สั ว์ (โยนิ) มี ๔ ประเภท อัณ อั ฑชะ ชลาพุชะ สัง สั เสทชะ โอปปาติกะ 82
กลละ เป็น ป็ น้ำ ใส มีสีมีคสีล้ายเนยใสขนาดเท่าหยาด น้ำ มันมังาที่ติที่ติดอยู่ปยู่ลายเส้นส้ด้ายที่ทำที่ทำจากเส้นส้ขนสัตสัว์ ๓ เส้นส้กลละนี้พัฒพันาตัวเองอยู่ ๗ วันวั ในวันวัที่ ๘ ก็ จะกลายเป็น ป็ อัพอัพุทะ อัพอัพุทะ เป็น ป็ น้ำ ขุ่นขุ่ ข้นข้มีสีมีเสีหมือมืนน้ำ ล้างเนื้อ อัพอัพุทะนี้พัฒพันาอยู่ ๗ วันวั ในวันวัที่ ๘ ก็จ ก็ ะกลาย เป็น ป็ เปสิ เปสิ เป็น ป็ ชิ้นชิ้เนื้อที่เที่หลว ๆ มีสีมีแสีดงคล้ายก้อน ดีบุกเหลว เปสินี้สินี้จะพัฒพันาอยู่ ๗ วันวั ในวันวัที่ ๘ ก็จ ก็ ะ กลายเป็น ป็ ฆนะ ฆนะ เป็น ป็ ก้อนเนื้อ ขนาดเท่าไข่ไข่ก่ ฆนะนี้จะ พัฒพันาอยู่ ๗ วันวั ในวันวัที่ ๘ ก็จ ก็ ะกลายเป็น ป็ ปัญปัจสาขา ปัญปัจสาขา เป็น ป็ ปุ่ม (อวัยวัวะ) ๕ ปุ่ม คือ มือมื ๒ ข้าข้ง เท้า ๒ ข้าข้ง และศีรศีษะ ๑ สารัต รั ถปกาสินีสินีอรรถกถาของสัง สั ยุต ยุ ตนิ กาย แสดงไว้ว่ ว้ า ว่ ในลำ ดับทั้ง ๕ นี้ แต่ละลำ ดับจะ พัฒ พั นาอยู่ ๗ วัน วั ดังนี้ 83
ตารางที่ ๑ แสดงการเปรีย รี บเทียบพัฒ พั นาการของ ทารกในครรภ์มารดาทั้งจากพระพุทธ ศาสนาและวิทวิยาศาสตร์ สรุป รุ การเกิดมาเป็น ป็ มนุษย์ ยากลำ บาก พบพระพุทธศาสนาก็ย ก็ าก ได้ทำ บุญกุศลเป็น ป็ มงคลชีวิชีตวิ เรียรีนรู้ห รู้ ลักธรรมให้ขจัดกิเลส นั่นยาก เข้า ข้ใจจุด จุ หมายของการมีชีมีวิชีตวิ รู้คุ รู้ คุ ณของการใช้ชี ช้ วิชีตวิที่ไที่ม่สู ม่ สูญเปล่า 84
ขั นขั ธ ก สู ต ร ว่ า ว่ ด้ ว ย ก า ร พิ จ พิ า ร ณ า เ บ ญ จ ขั นขั ธ์ ๕ รู ป รู ขั นขั ธ์ = ร่ า ร่ ง ก า ย เ ว ท น า ขั นขั ธ์ = อ า ร ม ณ์ ที่ รั ที่ บรั สั ญสั ญ า ขั นขั ธ์ = จำ ไ ด้ ห ม า ย รู้ สั งสั ข า ร ขั นขั ธ์ = ป รุ ง รุ แ ต่ ง อ า ร ม ณ์ วิ ญ วิ ญ า ณ ขั นขั ธ์ = รั บรั รู้ อ รู้ า ร ม ร์ 8 5
การเป็น ป็ ผู้เ ผู้ จริญริ ให้มากในอริยริมรรค ๘ ทำ ให้มากซึ่งซึ่สัมสัมาทิฏฐิ ทำ ทำ ให้มากซึ่งซึ่สัมสัมาสังสักัปปะ ทำ ให้มากซึ่งซึ่สัมสัมาวาจา ทำ ให้มากซึ่งซึ่สัมสัมากัมมันมัตะ ทำ ให้มากซึ่งซึ่สัมสัมาอาชีวชีะ ทำ ให้มากซึ่งซึ่สัมสัมาวายามะ ทำ ให้มากซึ่งซึ่สัมสัมาสติ ทำ ให้มากซึ่งซึ่สัมสัมาสมาธิ กัลยาณมิต มิ ตสูตร สรุป รุ เพื่อพื่ให้เข้าข้ใจทางสายกลางอย่าย่งถูกต้อง เพื่อพื่นำ ไปปรับรั ใช้ไช้ด้ตามสถานะที่เที่ป็น ป็ อยู่ไยู่ด้ เพื่อพื่ให้เข้าข้ถึงหลักธรรมที่แที่ท้จริงริตามหลักคำ สอน ทางพระพุทธศาสนา ที่พึที่งพึของชีวิชีตวิที่มีที่สมีารประโยชน์ 86
ส่วส่นได้ผลน้อยคือ การบูชาด้วย อัศอัวเมธะ ฆ่าฆ่ม้าม้บูชา ปุริสริเมธะ ฆ่าฆ่คนบูชา สัมสัมาปาสะ โยนไม้ลม้อดบ่วบ่ง เพื่อพื่ทำ โรงพิธีพิธี วาชเปยยะ บูชาด้วยปสุสัตสัว์ ๑๗ ชนิด ผูกติดไม่มุม่มุตูม ๑๗ เสา นิรัครัคฬะ รวมทั้งหมดที่กที่ล่าวมา ยัญ ยั ญสูตร ว่า ว่ ด้วยการบูชายัญยัที่มีที่ผมีลมากและได้รับรัผลน้อย 87
ฉลาดในการทำ กสิกสิรรม รู้จั รู้ จั กใช้ค ช้ นทำ งาน สงเคราะหฺคนยากคนจน มีคำมีคำ กล่าวที่น่ ที่ น่ าฟังฟัมีน้ำมีน้ำ ใจไมตรีที่รีที่ดี ที่ดีต่อกัน พระราชต้องปกครองด้วยสัง สั คหวัต วั ถุ ๔ ว่า ว่ ด้วยการบูชายัญ ยั ที่มี ที่ ผมีลมากและได้รับ รั ผลน้อย เข้า ข้ใจจุด จุ มุ่ง มุ่ หมายของการบูชายัญยั หลักการประยุค ยุ ด้วยเหตุและผล ดำ เนินตามรอยธรรมแห่ง ห่ พระบรมศาสดา ส่ว ส่ นที่ไที่ ด้ผลมากคือ สรุป รุ แก่นธรรมในสังสัยุตยุตนิกาย สิ่งสิ่ที่เที่รียรีกว่าว่ “แก่น” หรือรื “หัวหัใจ” ของธรรมในสังสัยุตยุตนิกายทั้ง ๕ เล่ม พอจะประมวลได้ดังนี้ 88
ข้อข้นี้แสดงไว้ชัว้ดชั ในสคาถวรรค แสดงถึงมนุษย์ หรือรืเทวดาในกระแสโลก (โลกียะ) ย่อย่มจะเต็ม ต็ ไป ด้วยความสงสัยสัเรียรีกว่าว่พวกกถัง กถี ชอบถาม ปัญปัหา บางพวกก็ปก็ ระเภท สู่รู้สู่รู้อวดรู้ พระพุทธองค์ และพระสาวกซึ่งซึ่อยู่ใยู่นสภาวะที่อที่ยู่เยู่หนือกระแส (โลกุตตระ) จึงเป็น ป็ ผู้ตผู้อบปัญปัหาได้ชัดชัเพราะตัด ความสงสัยสั ได้แล้ว จึงเรียรีกว่าว่พวกอกถังกถี (ไม่มีม่ มี ปัญปัหา) ตัวอย่าย่งเทวดาสงสัยสัถามว่าว่ หมู่สัมู่ตสัว์ยุ่ ว์ งยุ่ทั้งภายใน ยุ่งยุ่ทั้งภายนอก ถูกความยุ่งยุ่ พาให้นุงนังแล้ว ท่านพระโคดม เพราะฉะนั้น ข้าข้ พระองค์ขอทูลถามพระองค์ว่าว่ ใครจะแก้ความยุ่งยุ่ นี้ได้ ?” พระพุทธองค์ตอบว่าว่ "นรชนผู้มีผู้ ปัมีญปัญา เห็น ห็ ภัยในสังสัสารวัฏวัดำ รงอยู่ใยู่น ศีลศีแล้ว เจริญริจิตและปัญปัญามีคมีวามเพียพีรมี ปัญปัญาเครื่อรื่งบริหริารนั้นพึงพึแก้ความยุ่งยุ่นี้ได้“ กกาารรคคลลาายยสสงงสัสัย สั ย สั (สํ.สํส. ๑๕/๒๓/๒๐ มจร.) 89
“ ปุพฺปุ พฺณฺเห ปิณฺฑปาตญฺจ ในเวลาเช้าเสด็จ บิณฑบาต สายณฺเห ธมฺมเทสนํ เวลาเย็นทรงแสดงพระธรรมเทศนา ปโทเส ภิกฺขุโอวาทํ เวลาย่ำ ค่ำ ทรงประทานโอวาทแก่ภิกษุ อฑฺฒรตฺเต เทวปญฺหนํ เที่ยที่งคืนทรงพยากรณ์ปัญปัหาแก่เทวดา ปจฺจูเสว คเต กาเล ภพฺพาภพฺเพ วิโลกนํ เวลาใกล้รุ่งทรงตรวจดูหมู่สัตว์ผู้ที่ พระองค์จะโปรดได้” ผู้รู้ ผู้ไ รู้ ด้เรียรีบเรียรีงพุทธกิจ ๕ ประการ ของพระพุทธเจ้าไว้ว่ ว้ า ว่ 90
อัง อั คุตตรนิกาย
เป็น ป็ นิกายที่ ๔ ในจำ นวน ๕ นิกายของพระสุตตันตปิฎก หมายถึงหมวดของพระสูตรที่พที่ระสังสัคีติกาจารย์ร ย์ วบรวมและ จัดลำ ดับเข้าข้ไว้ด้ว้ ด้วยกัน ตามจำ นวนหัวหัข้อข้ธรรมเป็น ป็ สำ คัญ โดยจัดแบ่งบ่พระสูตรจำ นวน ๗,๙๐๒ สูตร (อรรถกถา พระวินัวินัยกล่าวว่าว่มี ๙,๕๕๗ สูตร: วิ.วิอ. ๑/๒๕) ให้เหมาะสมกับ หัวหัข้อข้ธรรมไว้ใว้นแต่ละนิบาต (หมวดย่อย่ยของนิกาย) กล่าวคือ พระสูตรที่มีที่หัมีวหัข้อข้ธรรมจำ นวนเท่ากัน ท่านจัด ไว้ใว้นนิบาตเดียวกัน เริ่มริ่ตั้งแต่จัดพระสูตรที่มีที่จำมีจำนวน ๑ ข้อข้ ไว้ ในนิบาตหมวด ๑ ไปจนถึงจัดพระสูตรที่มีที่หัมีวหัข้อข้ธรรมจำ นวน ๑๑ ข้อข้ ไว้ใว้นนิบาตหมวด ๑๑ รวมเป็น ป็ ๑๑ นิบาต อัง อั คุตตรนิกาย เอกนิบาต การประชุมชุหัวหัข้อข้ธรรมเรื่อรื่งเดียว บุคคลที่ไที่ด้รับรัการยกย่อย่งว่าว่เป็นป็เลิศด้านต่างๆ ๘๐ ท่าน พระสาวก ๔๗ ท่าน พระสาวิกวิา ๑๓ ท่าน อุบาสก ๑๐ ท่าน อุบาสิกสิา ๑๐ ท่าน 92
ฝ่ายภิกษุณี ตัวอย่า ย่ ง พระอัญอัญาโกณทัญญะ เลิศทางรัตรัตัญญู พระสารีบุรีบุตร เลิศทางมีปัมีญปัญามาก พระโมคคัลลานะ เลิศทางมีฤมีทธิ์มธิ์าก พระอานนท์ เลิศทาง มีพมีหูสูต มีสมีติดี มีธิมีติธิติและยอดอุปัฏปัฐาก พระสีวสีลี เลิศทางมีลมีาภมาก พระนางปชาบดีโคตรมี เลิศทางรู้รั รู้ ตรัตัญญู พระนางเขมาเถรี เลิศทางมีปัมีญปัญามาก พระนางอุบลวรรณาเถรี เลิศทางมีฤมีทธิ์มธิ์าก พระนางปฎาจราเถรี เลิศทางทรงพระวินัวินัย ฝ่ายภิกษุ ฝ่ายอุบาสก ตปุสสะภัลลิกะ เลิศในทางรู้สรู้รณะก่อนผู้อื่ผู้ อื่นอื่ อนาถบิณบิฑิกเศรษฐี เลิศในทางถวายทาน หมอชีวชีกโกมาภัจ เลิศทางเลื่อมในตัวบุคคล เอกนิบาต 93
ตัวอย่า ย่ ง ฝ่ายอุบาสิกสิา นางสุชาดา เลิศถึงสรณะก่อน นางวิสวิาขา เลิศในทางถวายทาน พระนางสามาวดี เลิศมีปมีกติอยู่ด้ยู่ ด้วยเมตตา เอกนิบาต ทุกนิบาต คือประชุม ชุ หมวดข้อ ข้ ธรรม ๒ อย่า ย่ ง ภูมิขมิองคนดี รู้บุรู้ บุญคุณผู้อื่ผู้ อื่นอื่ (กตัญญุตา) ตอบแทนคุณผู้อื่ผู้ อื่นอื่ (กตเวทิตา) สิ่งสิ่ที่ทำที่ทำ ให้เดือดร้อร้น ๒ อย่าย่ง กายทุจริตริ วจีทุจริตริ มโนทุจริตริ 94
คนพาล ๒ จำ พวก ทำ ผิดผิแล้วไม่รู้ม่ว่รู้าว่ทำ ผิดผิ ทำ ผิดผิคนอื่นอื่ขอขมาไม่ยม่อมรับรั บุคคลที่กที่ระทำ ตอบแทนได้ ยาก ๒ จำ พวก มารดาบังบัเกิดเกล้า บิดบิาบังบัเกิดเกล้า สิ่งสิ่ที่หที่ญิงญิไม่อิ่ม่มอิ่ระอา ๒ อย่าย่ง เสพกามคุณ การคลอดบุตร ทุทุ ทุทุ กนินิ นินิ บาต ติกนิบาต คุณสมบัติ บั ติพ่อ พ่ ค้า ๓ อย่า ย่ ง ตาดี ฉลาด รู้จั รู้จักคนมาก 95
ติกนิบาต ไม่มี ม่ คมีวามอิ่มอิ่๓ อย่า ย่ ง การนอน การเสพสุราเมรัย รั การเสพเมถุนธรรม 96
คุณสมบัติ บั ติของมิตมิร ๓ อย่า ย่ ง ให้สิ่งสิ่ที่ใที่ ห้ได้ยาก ทำ สิ่งสิ่ที่ทำ ที่ทำ ได้ยาก อดทนกับสิ่งสิ่ที่ทำ ที่ทำ ได้ยาก คำ พูดของบุคคล ๓ อย่า ย่ ง คูถภาณี ปุปผภาณี มธุภ ธุ าณี ความเมา ๓ ประการ วัยวัหนุ่มสาว ไม่โม่ รคภัย ในชีวิชีตวิที่สุที่สุ ขสบาย ติกนิบาต 97
ผู้มี ผู้ ธ มี รรม ๔ ประการไม่เ ม่ สื่อ สื่ ม ศีลศี สำ รวมอินอิทรีย์รีย์ รู้ป รู้ ระมาณ เพียพีรพยายามตื่นอยู่เ ยู่ สมอ จตุกกนิบาต คู่สร้า ร้ งคู่สม ๔ ประการ ศรัท รั ธาเสมอกัน ศีลศีเสมอกัน จาคะเสมอกัน ปัญ ปั ญาเสมอกัน 98
สิ่ง สิ่ไม่ค ม่ วรคิด ๔ อย่า ย่ ง พุทธวิสั วิ ย สั ฌานวิสั วิ ย สั กัมมวิปวิ ากวิสั วิ ย สั โลกาจินตา บุคคล ๔ จำ พวก มืด มื มา มืด มื ไป มืด มื มาสว่า ว่ งไป สว่า ว่ งมา มืด มื ไป สว่า ว่ งมา สว่า ว่ งไป จตุกกนิบาต 99
การนอน ๔ แบบ เปตไสยา อย่า ย่ งคนตาย กามโภคีไสยา อย่า ย่ งคนบริโริภคกาม สีหสีไสยา นอนอย่า ย่ งราชสีห์สีห์ ตถาคตไสยา นอนอย่า ย่ งตถาคต จตุกกนิบาต 100
ฐานะที่ทุ ที่ ทุ กคนไม่พึ ม่ ง พึได้ในโลก อย่า ย่ แก่ อย่า ย่ เจ็บ จ็ อย่า ย่ ตาย อย่า ย่ สิ้นสิ้ไป อย่า ย่ ฉิบหาย คนหลับน้อยตื่นมาในราตรี สตรีคิรีคิดถึงบุรุษ รุ บุรุษ รุ คิดถึงสตรี โจรคิดมุ่ง มุ่ ลักทรัพรัย์ พระราชาบำ เพ็ญ พ็ ราชกิจ ภิกษุผู้มุ่ ผู้ มุ่ ง มุ่ ถึงธรรม ปัญ ปั จกนิบาต 101
อิณ อิ สูตร ทุกข์ข ข์ องผู้ค ผู้ รองเรือ รื น ๖ ประการ ยากจน กู้หนี้ ใช้ด ช้ อกเบี้ย บี้ ถูกทวงหนี้ ถูกติดตามทวงหนี้ จองจำ เพราะหนี ฉักกนิบาต 102
องค์ของมิต มิ รแท้ ๗ ประการ ให้ของทีให้ยาก รับ รั กิจที่ทำ ที่ ทำ ได้ยาก อดทนต่อถ้อยคำ ที่อ ที่ ดได้ยาก บอกความลับของคนอื่นอื่เพื่อพื่ประโยชน์ของ เพื่อพื่น ปิดความลับของเพื่อพื่น ไม่ล ม่ ะทิ้งในยามวิบัวิติ บั ติ เมื่อมื่เพื่อพื่นสิ้นสิ้โภคไม่ดู ม่ ดู หมิ่นมิ่ สัต สั ตกนิบาต 103
ด้วยรูป รู การยิ้มยิ้ คำ พูด ร้อ ร้ งเพลง ร้อ ร้ งไห้ อากัปปกิริยริา ของกำ นัล ผัส ผั สะ อัอัฏ อั ฏ อัฐฐกกนินิ นิ บนิ บาาตต หญิงญิผูกใจชาย ชายผูกใจหญิงญิด้วยอาการ ๘ อย่า ย่ ง 104
มีลมีาภ เสื่อสื่มลาภ มียมีศ เสื่อสื่มยศ สุข ทุกข์ สรรเสริญริ นินทา อัอัฏ อั ฏ อัฐฐกกนินิ นิ บนิ บาาตต 105
• หลับเป็น ป็ สุข • ตื่นเป็น ป็ สุข • ไม่ฝัม่ น ฝั ร้า ร้ ย • เป็น ป็ ที่รั ที่ ก รั ของมนุษย์ • เป็น ป็ ที่รั ที่ ก รั ของอมนุษย์ • เทวดารัก รั ษา • ไม่ถู ม่ ถู กทำ ร้า ร้ ยด้วย ภัย และ อาวุธ วุ ทั้งหลาย • จิตตั้งมั่น มั่ เร็ว ร็ • สีหสีน้าผ่อ ผ่ งใส • ไม่ห ม่ ลงลืมสติเมื่อมื่ตาย • มีสุมีสุ คติภูมิเมิป็น ป็ เบื้อบื้งหน้า เข้า ข้ ถึง พรหมโลก เเออกกาาททสสกกนินิ นิ บ นิ บาาตต เมตตาสูตร ๑๑ อย่า ย่ ง 106